โคลงกลบทมธุรสอักษรา๒
อารยะ คชทีป
โคลงกลบทมธรุ สอกั ษรา๒
รวบรวมโดย อารยะ คชทีป
คุยกอ่ น
หลังจากท่ที าโคลงกลบทมธุรสอักษราเลม่ แรกออกไปแล้ว อยา่ งท่ีไมไ่ ด้
ต้งั ใจนัก เพราะเปน็ เพียงตอ้ งการบันทึกไวเ้ พ่ือดรู ปู แบบสาหรบั ตวั เองเท่านนั้ แต่เม่ือ
ครูเพชรมาเหน็ เข้าและไดพ้ ิมพแ์ จกกันในหมู่เพือ่ นพอ้ งเมอ่ื ปกี อ่ นน้ัน เพ่ือนๆ ทชี่ อบ
โคลงกลบทบางทา่ นจงึ ได้ร้จู กั และแสดงความขอบคณุ มา ทีจ่ ริงกม็ คี วามบกพร่องอยู่
ไมน่ อ้ ย อีกท้งั ไดเ้ ห็นกลบทอกี มากมายที่รูส้ กึ วา่ นา่ จะรวบรวมไว้ จึงไดด้ ารดิ งั ๆ
ออกมาให้มิตรสหายบางคนได้ยนิ เลยกลายเปน็ ความรบั ผดิ ชอบวา่ “ต้องทา” ข้นึ มา
อีกครัง้ ซง่ึ การทาหนงั สือนก้ี เ็ พยี งทาเป็นไฟล์พดี เี อฟไว้เทา่ นนั้ แตห่ ากใครเกดิ
อยากจะให้มันออกมาเปน็ เลม่ เพอ่ื จะดงู า่ ยๆ หรอื พมิ พ์แจกหมู่เพอ่ื นก็ทาไดต้ ามสะดวก
ไมต่ ้องขออนญุ าตแต่อย่างใด แต่ไมอ่ นุญาตใหพ้ มิ พ์ขายเพราะรูปแบบในหนงั สือนีก้ ็
เอาของเขามาทง้ั น้ัน สว่ นใหญก่ เ็ ป็นของบรรดาบรมครูแต่โบรา่ โบราณและเหล่านัก
โคลงร่นุ พ่ที ไี่ ดส้ ร้างสรรค์กนั ขน้ึ มา ที่นามาดดั แปลงเองมีเพียงไมก่ กี่ ลบท ทง้ั เปน็ การ
“ดดั แปลง” อกี ด้วย มแี ตบ่ ทโคลงตวั อย่างในแตล่ ะกลบททพี่ ยายามแตง่ ขึ้นมาเอง
อย่างยากเยน็ ดว้ ยความสามารถอนั มขี ดี จากดั ซ่งึ ถา้ จะเอาความสวยงามแห่งบทโคลง
นั้น คงไมอ่ าจหาไดใ้ นทน่ี ้ีเป็นแน่ เพราะต้องการเพียงใหเ้ ปน็ ตวั อย่างสาหรบั ผทู้ ่ี
ต้องการเขยี นกลบทตา่ งๆ เทา่ นนั้
ดงั ทร่ี กู้ ันดวี ่า กลบทโคลงน้นั แตเ่ ดิมมไี ม่มากนกั แตท่ ่มี มี ากขน้ึ นนั้ เพราะนกั
โคลงรุ่นหลังๆ ไดด้ ดั แปลงกนั ขน้ึ มาจากกลบทกลอนเปน็ ส่วนใหญ่ ซ่งึ แต่ละทา่ นตา่ งก็
คดิ ดดั แปลงกนั ขึ้นมาตามทีต่ นเหน็ วา่ ใกลเ้ คียงกบั กลบทกลอน ซ่ึงบางทกี อ็ อกมาไม่
เหมอื นกนั บ้าง ดดั แปลงออกมาแลว้ ไปตรงกบั กลบทอนื่ ๆ อกี กม็ ี ดงั น้นั รายชอื่ กล
บทต่างๆ นน้ั บางทา่ นอาจมองวา่ มนั ขดั หขู ดั ตากเ็ ป็นได้ แต่นนั่ ก็คดิ วา่ ไม่ใชป่ ระเด็น
สาคญั เพราะประเดน็ กค็ อื การไดฝ้ ึกเขียนโคลงใหเ้ ชย่ี วชาญยงิ่ ขน้ึ ซ่ึงการฝึกด้วยกล
บทนนั้ จะทาใหส้ ามารถคลอ่ งแคลว่ ขึน้ อย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะกลบททย่ี ากๆ
อยา่ งเชน่ บรรดากลบทตระกลู กบ หรืออย่าง ทวภิ าค ตรภี าค จตุรภาค เปน็ ต้น
โดยเฉพาะ ทวภิ าคแปลงสารนี่ บอกได้เลยวา่ จะทาให้การแตง่ โคลงมีความประณีต
ลกึ ซึง้ ในความหมายขน้ึ มาอยา่ งไมร่ ูต้ วั
โดยส่วนตวั จะมองเรื่องกลบทนเี้ ปน็ ของเลน่ ของนักโคลง แตเ่ ปน็ ของเลน่
ที่ทาใหข้ องจริงมีคณุ ภาพยงิ่ ข้นึ คือการแตง่ เปน็ เรอ่ื งราวหรอื ใชใ้ นการต่างๆ ทีถ่ อื วา่
เป็น “ของจรงิ ” น้ันไพเราะลกึ ซง้ึ ย่ิงขนึ้ ได้ และดงั ท่ีกล่าวแล้วว่าเป็นการชว่ ยให้
สามารถเรยี นรแู้ ละเชยี่ วชาญโคลงได้อย่างกา้ วกระโดด กลบทจึงเป็นอปุ กรณช์ ว่ ยฝึก
ช้ันดี และเมอ่ื กลบทต่างๆ เปน็ อปุ กรณช์ ่วยฝกึ หากจะมีรปู แบบซา้ กนั กด็ ี หรอื คดิ ค้น
ดัดแปลงมาแลว้ มรี ปู แบบที่ตา่ งกนั ออกไปมากก็ดี จงึ ไมค่ วรเปน็ ประเดน็ ท่ีจะถือเอา
ถกเถยี งกันวา่ นั่นผดิ น่ถี กู จนเกินควร เว้นแตเ่ พ่อื หาข้อสรปุ วา่ นา่ จะบันทึกเป็นแบบ
ไหนดเี ท่าน้ัน
ในเล่มน้ี เกือบท้งั หมดล้วนได้มาจากการคน้ ข้อมูลทางอนิ เตอรเ์ นต็ ท่ที ่าน
ผู้ร้หู ลายทา่ นไดส้ ร้างและบนั ทกึ ไว้ บางกลบทท่ที ราบชัดว่าใครเปน็ ผู้คิดคน้ หรอื
ดัดแปลงก็ใส่ชอ่ื ทา่ นเหล่านนั้ ไวบ้ า้ งก็มี ส่วนของเก่าและไม่ทราบชดั ก็ไมไ่ ดใ้ สช่ อื่ ไว้
ซ่งึ ต้องอภยั และขอขอบคณุ ทา่ นผทู้ รงคณุ วฒุ เิ หล่านนั้ ไว้ ณ ทนี่ ด้ี ว้ ย เพราะหากไมม่ ี
ท่านเหลา่ นนั้ ก็คงไม่สามารถหาขอ้ มูลมารวบรวมได้
ในสว่ นของกลอกั ษรน่าจะเปน็ ของเกา่ ท้ังหมด และเอามาเปน็ บางสว่ นท่ี
พอจะทารปู หนงั สือไดส้ ะดวกเทา่ นน้ั เพราะบางกลอกั ษรทเี่ ป็นภาพนัน้ บางกลบทยงั หา
ขอ้ สรุปสาหรบั การถอดโคลงไมไ่ ดก้ ็มี และเนอ่ื งจากตอ้ งการรวบรวมในสว่ นที่เปน็ การ
ฝกึ แต่งมากกวา่ จึงไม่คอ่ ยใหค้ วามสาคญั กบั บรรดากลอกั ษรมากนัก
สว่ นท่ีเปน็ โคลงคาผวน ต้องขอบคณุ คณุ นกโกก๊ และคณะที่ไดค้ ดิ คน้ ขน้ึ มา
เล่นกันเปน็ อยา่ งมาก และตอ้ งขออภยั ทไี่ ม่ไดต้ ดิ ต่อกบั ทา่ นเหล่านน้ั โดยตรงในการเอา
รปู แบบโคลงผวนเหล่านนั้ มารวบรวมไว้ แต่เช่อื ว่านักโคลงรนุ่ พ่ีเหล่านัน้ คงยนิ ดีทเี่ ห็น
รนุ่ นอ้ งๆ นารูปแบบทท่ี ่านทาไวเ้ อามาศกึ ษากนั ตอ่
ในหมวดโคลงอ่ืนๆ นน้ั เรยี งตามกลุ่ม ตามชนดิ มากกว่าเรยี งตามรายชอ่ื
และส่วนทา้ ยไดเ้ อาโคลงกระท้โู บราณ ที่เคยไดฝ้ ึกแตง่ ไวเ้ อามาใสด่ ว้ ย เผอื่ วา่ อาจเปน็
แรงบนั ดาลใจให้ผู้เห็นแล้วเกดิ อยากหดั แตง่ บา้ ง
ทสี่ าคัญทีส่ ดุ ขออยา่ ไดค้ ดิ วา่ ขอ้ มูลในหนงั สอื นจ้ี ะถกู ตอ้ งทง้ั หมด หากจะ
อ้างองิ ประการใดกข็ อใหค้ ้นคว้าขอ้ มลู จากแหลง่ ที่เชอ่ื ถือไดอ้ ยา่ งชดั เจนก่อน เพราะน้ี
เปน็ เพยี งรวบรวมไวเ้ พ่ือสะดวกในการค้นหามาฝกึ แต่งกนั เองเทา่ นั้น.
********************
สารบัญ
โคลงสส่ี ุภาพ ..................................................๑
กลบททัว่ ไป
กลบท กบเตน้ กลางสระบวั .....๔ กลบท จตรุ งคประดับ .....๒๐
กลบท กบเตน้ ต่อยหอย .....๕ กลบท จตรุ งคยมก .....๒๑
กลบท กบเตน้ สลกั เพชร .....๖ กลบท เจา้ เซนเตน้ ตา้ บุด .....๒๒
กลบท กบเตน้ สามตอน .....๗ กลบท ช้างชงู วง .....๒๓
กลบท กระแตไตไ่ ม้ .....๘ กลบท ช้างประสานงา .....๒๔
กลบท กลอนกระแทกสวนทวารโคลง.....๙ กลบท ดวงเดอื นประดบั ดาว .....๒๕
กลบท ก้านต่อดอก แบบท่ี๑ .....๑๐ กลบท ดอกไม้พวงพ่รู ้อย .....๒๖
กลบท ก้านตอ่ ดอก แบบที่๒ .....๑๑ กลบท ดาเนิรนางสระ .....๒๗
กลบท กาจายนะมณฑล .....๑๒ กลบท ตรีประดบั .....๒๘
กลบท กินนรเก็บบวั .....๑๓ กลบท ตรีพิธพรรณ .....๒๙
กลบท กนิ นรรา .....๑๔ กลบท ตรเี พชรพวง .....๓๐
กลบท คมในฝกั .....๑๕ กลบท ตรยี มก .....๓๑
กลบท ครอบจกั รวาล .....๑๖ กลบท ตลบนกกลางหาว .....๓๒
กลบท โคลงสกั วา .....๑๗ กลบท ตะเขบ็ ไตข่ อน .....๓๓
กลบท งูกระหวดั หาง .....๑๘ กลบท ทวาตรึงประดับ .....๓๔
กลบท งูกลืนหาง .....๑๙ กลบท ทวารประดบั .....๓๕
กลบท ทศประวตั ิ .....๓๖ กลบท พยคั ฆฉนั ทลรรโลง .....๕๗
กลบท เทพชุมนมุ .....๓๗ กลบท พระจนั ทร์ดัน้ เมฆ .....๕๘
กลบท ธงนารว้ิ .....๓๘ กลบท พระจันทร์ทรงกลด .....๕๙
กลบท นกกางปกี แบบที่๑ .....๓๙ กลบท พระจันทร์เส้ยี ว .....๖๐
กลบท นกกางปกี แบบท่ี๒ .....๔๐ กลบท พวงแกว้ กุดนั่ .....๖๑
กลบท นาคเกยี่ วกระหวดั .....๔๑ กลบท พันธตงิ สตกิ าร .....๖๒
กลบท นาคบริพันธ์ แบบท๑ี่ .....๔๒ กลบท พันธวีสตกิ าร .....๖๓
กลบท นาคบรพิ นั ธ์ แบบท่ี๒.....๔๓ กลบท พิณประสานสาย .....๖๔
กลบท นาคราชแผลงฤทธิ์ .....๔๔ กลบท ภุมรนิ เชยทราบเกสร .....๖๕
กลบท นารายณก์ างกรณ์ .....๔๕ กลบท มธุรสวาที .....๖๖
กลบท นารายณ์ทรงเครอ่ื ง .....๔๖ กลบท เมขลาโยนแกว้ .....๖๗
กลบท นารายณ์ประลองศลิ ป.์ ....๔๗ กลบท ยมก .....๖๘
กลบท บวรโตฎก .....๔๘ กลบท ยัตภิ งั ค์ .....๖๙
กลบท บัวบานกลบี ขยาย .....๔๙ กลบท ระลอกแก้วกระทบฝง่ั .....๗๐
กลบท บาทเลอ่ื นลา้ .....๕๐ กลบท ร่ืนกระแสสนิ ธุ์ .....๗๑
กลบท บุปผชาตดิ าษดา .....๕๑ กลบท ลน้ิ ตะกวดคะนอง .....๗๒
กลบท บุษบงแย้มผกา .....๕๒ กลบท เลวงวางกรวด .....๗๓
กลบท บษุ บารกั รอ้ ย .....๕๓ กลบท ววั พนั หลกั .....๗๔
กลบท เบญจพรรณหา้ สี .....๕๔ กลบท วติ ิมาลนิ ี .....๗๕
กลบท พจนพ์ รรณราย .....๕๕ กลบท วสิ ูตรสองไข .....๗๖
กลบท พยคั ฆ์ขา้ มห้วย .....๕๖ กลบท สกัดกระทู้ .....๗๗
กลบท สถติ อัษฎาพรหม .....๗๘ กลบท อักขระโกศล .....๙๑
กลบท สรอ้ ยคสู่ ะคราญ .....๗๙ กลบท อกั ษรตาย .....๙๒
กลบท สร้อยสน .....๘๐ กลบท อกั ษรล้วน .....๙๓
กลบท สะบัดสะบิ้ง .....๘๑ กลบท อักษรสลบั .....๙๔
กลบท สายไหม .....๘๒ กลบท อกั ษรสลบั ล้วน แบบที่๑ ..๙๕
กลบท สารถขี บั รถ .....๘๓ กลบท อกั ษรสลบั ล้วน แบบที่๒ ..๙๖
กลบท สงิ โตเล่นหาง แบบที่๑ ...๘๔ กลบท อักษรสามหมู่ .....๙๗
กลบท สงิ โตเลน่ หาง แบบท่ี๒ ...๘๕ กลบท อารยะประดษิ ฐ์ .....๙๘
กลบท สีหตกิ ากาม .....๘๖ กลบท ทวภิ าค .....๙๙
กลบท สุรางคร์ ะบา .....๘๗ กลบท ทวิภาคแปลงสาร .....๑๐๐
กลบท เสอื ซอ่ นเล็บ .....๘๘ กลบท ตรีภาค .....๑๐๑
กลบท หงสค์ าบพวงแก้ว .....๘๙ กลบท จตรุ ภาค .....๑๐๒
กลบท อรรคอกั ษร .....๙๐
กลบทที่เป็นกลอกั ษร
กลบท กาโกโลกนยั น์ .....๑๐๔ กลบท ไทยนับ๕ .....๑๑๑
กลบท ชา้ งกระหมวดหญา้ .....๑๐๕ กลบท ไทหลง .....๑๑๓
กลบท ไชยกงั เวยี ร .....๑๐๖ กลบท ประดษิ ฐเ์ ดก็ เล่น ...๑๑๔
กลบท ตนั ตะนยั .....๑๐๗ กลบท พยคั ฆานอนซอ่ นเลบ็ ...๑๑๖
กลบท ถอยหลงั เข้าคลอง .....๑๐๘ กลบท พรางขบวน .....๑๑๗
กลบท ไทยนบั ๓ .....๑๐๙ กลบท ม้าลาพอง .....๑๑๘
กลบท ฤษีแปลงสาร .....๑๑๙ กลบท อักษรซอ่ นกล .....๑๒๒
กลบท หกสวนขวญั .....๑๒๐ กลบท อกั ษรซ่อนเงือ่ น .....๑๒๓
กลบท อักษรจองถนน .....๑๒๑ กลบท อักษรรวนสมุทร .....๑๒๔
โคลงผวนคำ
โคลงผวนคา .....๑๒๖ พยคั ฆ์ซิกแซกทาง .....๑๔๑
ตลบม้งุ .....๑๒๗ พยคั ฆ์ย่องขยม่ ขวญั .....๑๔๒
ตลบมุง้ กลางหอ้ ง .....๑๒๘ พยคั ฆย์ ่องเขยา่ ขวัญ .....๑๔๓
ตลบมงุ้ โดมโิ น .....๑๒๙ พยัคฆย์ อ่ งตลบม้งุ .....๑๔๔
นอนกางมุ้ง .....๑๓๐ พยัคฆย์ อ่ งตลบมุ้งกลางหอ้ ง ..๑๔๕
นางพญาทาบขนานทาง .....๑๓๑ พยัคฆย์ ่องตลบหลงั .....๑๔๖
นางพญานาฏลลี า .....๑๓๒ พยัคฆย์ ่องยามสาม .....๑๔๗
นางสงิ หข์ ม่ พยคั ฆา .....๑๓๓ พยคั ฆ์ย่องหาคู่ .....๑๔๘
นางสงิ หย์ อ่ งยามเผลอ .....๑๓๔ พยคั ฆย์ ้อนรอยพราน .....๑๔๙
นางสงิ หว์ างหมากรกุ .....๑๓๕ พยัคฆ์ย่างสามขุม .....๑๕๐
ผวนหวั สะบดั หาง .....๑๓๖ พยคั ฆย์ า่ งสงิ ขร .....๑๕๑
พยคั ฆค์ รวญเลอื กคู่ .....๑๓๗ พยคั ฆ์ลาพอง๑ .....๑๕๒
พยคั ฆค์ รวญหาคู่ .....๑๓๘ พยัคฆล์ าพอง๒ .....๑๕๓
พยัคฆค์ ขู่ วญั หาย .....๑๓๙ พยัคฆเ์ อ้ียวมองหลงั .....๑๕๔
พยัคฆค์ คู่ รองขวญั .....๑๔๐ รีรขี า้ วสาร .....๑๕๕
ผะหมี คาเดี่ยว การเลน่ ผะหมี .....๑๖๔
ผะหมี คาผวน .....๑๖๕
ผะหมี คาพงั เพย .....๑๕๘ ผะหมี พอ้ งกลาง .....๑๖๖
ผะหมี ช่อื บคุ คล .....๑๕๙ ผะหมี พอ้ งหนา้ .....๑๖๗
ผะหมี ชอ่ื สถานที่ .....๑๖๐ ผะหมี พอ้ งหลงั .....๑๖๘
ผะหมี ผนั วรรณยกุ ต์ .....๑๖๑ ผะหมี ลูกโซ่
.....๑๖๒ ผะหมี อะไรเอย่
.....๑๖๓
โคลงจัตวาทัณฑี โคลงชนดิ อ่ืนๆ .....๑๘๑
โคลงตรีเพชรทัณฑี .....๑๘๒
โคลงขบั ไม้ .....๑๗๐ โคลงสนิ ธุมาลี .....๑๘๓
โคลงสดี่ ัน้ บาทกุญชร .....๑๗๑ โคลงจติ รมาลี .....๑๘๔
โคลงสดี่ ้ัน ววิ ิธมาลี .....๑๗๒ โคลงมุกตะมาลี .....๑๘๕
โคลงสดี่ ้ัน สินธมุ าลา .....๑๗๓ โคลงรัตนะมาลี .....๑๘๖
โคลงทีฆปักข์ .....๑๗๔ โคลงวชริ มาลี .....๑๘๗
โคลงรสั สปักข์ .....๑๗๕ โคลงสองสภุ าพ .....๑๘๘
โคลงจติ รลดา .....๑๗๖ โคลงสองดนั้ .....๑๘๙
โคลงนนั ททายี .....๑๗๗ โคลงสามสุภาพ .....๑๙๐
โคลงวชิ ชมุ าลี .....๑๗๘ โคลงสามด้นั
.....๑๗๙ โคลงห้า (พัฒนา)
.....๑๘๐
โคลงกระทู้โบราณ .....๑๙๒
.....๑๙๓
ทะล่มุ ปุ่มปู - ทุสุมุดุ – อุสานารี - โกวาปาเปิด - จกจรี้ ้ไี ร .....๑๙๔
ไรรี้จ้ีจก - เปิดปาวาโก - รนี าสาอุ - ดุมุสุทุ - ปปู ่มุ ลมุ่ ทะ .....๑๙๕
ทะลุ่มปมุ่ ปู - ล่มุ ปุม่ ปูทะ - ปุ่มปทู ะล่มุ - ปูทะลุ่มป่มุ .....๑๙๖
ปูปมุ่ ล่มุ ทะ - ปุม่ ลมุ่ ทะปู - ลมุ่ ทะปูปมุ่ - ทะปูปมุ่ ลมุ่ .....๑๙๗
ทสุ มุ ดุ ุ - สุมุดุทุ - มดุ ทุ ุสุ - ดทุ ุสุมุ .....๑๙๘
ดมุ ุสทุ ุ - มสุ ทุ ดุ ุ - สุทดุ ุมุ - ทดุ ุมุสุ .....๑๙๙
อสุ านารี - สานารอี ุ - นารีอสุ า - รอี สุ านา .....๒๐๐
รนี าสาอุ - นาสาอุรี - สาอรุ ีนา - อรุ นี าสา .....๒๐๑
โกวาปาเปดิ - วาปาเปิดโก - ปาเปิดโกวา - เปิดโกวาปา .....๒๐๒
เปดิ ปาวาโก - ปาวาโกเปิด - วาโกเปดิ ปา - โกเปิดปาวา .....๒๐๓
จกจีร้ ไ้ี ร - จี้ร้ีไรจก - รี้ไรจกจ้ี - ไรจกจี้รี้
ไรร้ีจี้จก - รี้จ้ีจกไร - จจี้ กไรรี้ - จกไรร้ีจี้
********************
๏ เอกเจด็ โทส่นี ้ัน ผงั โคลง
ตาแหน่งสัมผัสโยง ต่อไว้
ขอเชิญรว่ มจรรโลง สานต่อ
บทแหง่ ภาคภมู ใิ ห้ รุ่งเรือ้ งกวศี ิลป์ ๚ะ๛
โคลงกลบทมธุรสอกั ษรา ๑
โคลงสส่ี ภุ าพ มีลกั ษณะบงั คบั ดงั นี ้
๑. ใน ๑ บทมี ๔ บาท บาทละ ๒ วรรค
๒. วรรคหน้ามี ๕ คา วรรคหลงั มี ๒ คา
๓. เฉพาะบาทที่ ๔ วรรคหลงั จะมี ๔ คา
๔. บงั คบั คาเอก ๗ แหง่ คาโท ๔ แหง่
๕. อาจมีคาสร้อยท้ายบาทท่ี ๑, ๓ หรือ ๔ ก็ได้
๒ อารยะ คชทปี จารจด
ก่อนก้ี
๏ รวมโคลงตา่ งตา่ งไว้ อักษ- ราเฮย
สารพัดกลบท เพื่อใชช้ ่วยจา ฯ
โคลงกลบทมธุรส
เปน็ ชอ่ื หนงั สือน้ี กนั หลง ลืมนอ
ชว่ ยได้
๏ นามารวมเลม่ ไว้ ยามแตง่
เมอ่ื แบบมมี ัน่ คง คอ่ ยทิ้งตารา ฯ
ตรวจทานดง่ั ประสงค์
หากแม่นยาแล้วไซร้ แขง่ ดี
เกง่ กล้า
๏ มิใช่มาอวดอา้ ง เคร่ืองช่วย จาแฮ
ขา้ ฯ บ่ไดเ้ รอื งศรี เผื่อไวต้ รวจทาน ฯ
เพยี งแตอ่ ยากให้มี
จึงรวบรวมเลม่ หน้า โปรดอภยั
ผิดแล้ว
๏ หากงานบกพร่องน้ัน ให้ถกู
ทา่ นพบว่าสงิ่ ใด พลาดพลั้งธรรมดา ๚ะ๛
ชว่ ยบอกจักแก้ไข
เชื่อวา่ คงไมแ่ คลว้
กลบททั่วไป
๔ อารยะ คชทีป
กลบท กบเต้นกลางสระบัว
๏ ปกผองปูองผดิ ให๎ คุม๎ ปก
ปอู งพรากปากภยั รก อกปอู ง
ลกู ปวดรวดปานยก จากลูก
ใจย่ิงจริงใหญํจอ๎ ง หํวงเจ๎ายาใจ ๚ะ๛
ผงั กลบท
กขกข๐ ๐ก
ชฌชฌ๐ ๐ชฌช
ข้อบงั คบั
๑. ซา้ อกั ษรสองคตู่ รงต้นบาท และปิ ดท้ายบาทด้วยการซา้ คาด้วยคาแรกทกุ บาท
(บาทสดุ ท้ายคาท่ี ๗-๘ ซา้ อกั ษรกบั คตู่ ้นบาทด้วย)
๒. เน้นสมั ผสั สระคาที่ ๒-๓ ทกุ บาท
* เจ้าคณุ อู๋ ดดั แปลงจากกลอนกลบทช่ือเดียวกนั
** คล้ายกลบทระลอกแก้วกระทบฝ่ัง ซงึ่ ระลอกแก้วฯ ไมม่ สี มั ผสั สระ และไมซ่ า้ คา
ต้นบาทกบั ท้ายบาท
โคลงกลบทมธุรสอกั ษรา ๕
กลบท กบเตน้ ต่อยหอย
๏ กลตบกบเตน๎ ตอํ ย หอยบท
เสพพรา่ สัมผสั พจน๑ รสพร้ิง
สองกลบั ศัพท๑กา่ หนด จดคํู อกั ษรา
ยอคําอยําขว๎างทง้ิ กง่ิ แก๎วโคลงกล ๚ะ๛
ผงั กลบท
กขกข๐ ๐๐
ชฌชฌ๐ ๐๐๐๐
ข้อบงั คบั
๑. ซา้ อกั ษร ๒ ชดุ หน้าในแตล่ ะบาท
๒. คล้ายระลอกแก้วกระทบฝั่ง แตต่ ้องมีสมั ผสั สระในคาที่ ๒-๓ และ ๕-๖ ด้วย
อยา่ งเคร่งครัด
* เจ้าคณุ อู๋ ดดั แปลงจากกลอนกลบทช่ือเดียวกนั
๖ อารยะ คชทปี
กลบท กบเต้นสลกั เพชร
๏ ทาํ มดงหมอกดอก ไม๎ ไดม๎ อง
เพลินเพลดิ ลางพลางลอง ผํองล่้า
ทกุ ข๑เคยตดิ คิดตรอง ข๎องแตก
หากพศิ อยํูผู๎ย่้า พรา่ เยย๎ เผยยาม ๚ะ๛
๐กขกข ผงั กลบท
๐ชฌชฌ กข
ชฌชฌ
ข้อบงั คบั
๑. ซา้ อกั ษรสามคทู่ ่ี ๒-๓, ๔-๕ และ ๖-๗ บาทสดุ ท้าย ๘-๙ ด้วย
๒. เน้นสมั ผสั สระท่ี ๓-๔, ๕-๖ และ ๗-๘
* คล้ายกลบทสรุ างค์ระบา ซง่ึ สรุ างค์ระบาไมต่ ้องสมั ผสั สระ
โคลงกลบทมธรุ สอักษรา ๗
กลบท กบเตน้ สามตอน
๏ แปลกกานทป๑ านกบเต๎น เป็นกจิ
สามคสูํ ํูค่าคดิ สทิ ธ์ิคลอ๎ ง
ใครตรึกคึกตามนดิ คดิ แตํง
จังหวะจะวางตอ๎ ง จบั ไว๎ใจวาง ๚ะ๛
ผงั กลบท
กขกข๐ กข
ชฌชฌ๐ ชฌชฌ
ข้อบงั คบั
๑. ซา้ อกั ษร ๒ ชดุ หน้าและ ๑ ชดุ หลงั ในแตล่ ะบาท เฉพาะบาทสดุ ท้ายเพมิ่ เป็ น
สองชดุ
๒. เน้นสมั ผสั เสยี งสระ ๒-๓ และ ๕-๖ แตไ่ มเ่ คร่งครัด
* เจ้าคณุ อู๋ ดดั แปลงจากกลอนกลบทชื่อเดียวกนั
** คล้ายกลบทอกั ษรสลบั
๘ อารยะ คชทปี
กลบท กระแตไต่ไม้
๏ สามค่าเรม่ิ ใชเ๎ ร่มิ สามค่า
ยา๎ ยผอํ นตามแบบนา่ ผอํ นยา๎ ย
บาทถัดลดหล่นั จ่า เรยี งบาท
สองหนงึ่ ย๎อนสลบั ท๎าย เมือ่ ย๎อนหนง่ึ สอง ฯ
๏ ครบสามตอ๎ งหยดุ ยั้ง สามครบ
ตัง้ ใหมทํ สี่ พ่ี บ เร่ิมตัง้
ถัดเรียงทบแลว๎ ทบ เรียงถัด
วางสลับอยําพลาดพลัง้ แตํงให๎สลับวาง ๚ะ๛
ผงั กลบท
๑๒๓๐๓ ๒๑
๑๒๐๐๐ ๒๑
๑๐๐๐๐ ๐๑
๑๒๓๐๐ ๐๓๒๑
ข้อบงั คบั
๑. บาทที่ ๑ นาสามคาต้นบาท มาถอยหลงั เป็ นสามคาท้ายบาท
๒. บาทท่ี ๒ นาสองคาต้นบาท มาถอยหลงั เป็ นสองคาท้ายบาท
๓. บาทที่ ๓ นาหนงึ่ คาบาท มาซา้ เป็ นคาท้ายบาท
๔. บาทท่ี ๔ เวยี นกลบั ไปเหมือนบาทแรก และบาทท่ี ๕ เป็ นต้นไปก็ไตเ่ รียงลาดบั
ตามรูปแบบท่กี าหนดไปเรื่อยๆ จนจบสานวนโคลงนนั้ ๆ
โคลงกลบทมธรุ สอกั ษรา ๙
กลบท กลอนกระแทกสวนทวารโคลง
โคลงสส่ี ภุ าพ
๏ แสงสลบั นบั เวิ้ง ใหน๎ ภา
ยื่นรบั มาใหต๎ า ผํองแผว๎
เชญิ ชวนสดบั นกกา คราเพริศ ผํองแล
สูรยส๑ อํ งแสงแววแพร๎ว เพริศหล๎าเรืองอรุณ ๚ะ๛
กลอนสภุ าพ
๏ อรุณเรืองหลา๎ เพรศิ แพร๎ว แววแสงสอํ ง
สูรย๑แลผํอง เพรศิ ครา กานกสดบั
ชวนเชิญแผ๎ว ผํองตา ใหม๎ ารับ
ยืน่ นภาให๎ เวงิ้ นบั สลบั แสง ๚ะ๛
ข้อบงั คบั
แตง่ ให้เป็ นทงั้ โคลงและกลอน เชน่ เดยี วกบั กลบททวภิ าค แตต่ า่ งกนั ตรงท่เี ม่อื
อา่ นเป็ นกลอน ต้องอา่ นย้อนกลบั หลงั คืออา่ นเรียงจากคาท้ายสดุ มาจบทคี่ าแรก
สดุ ของโคลง เหมอื นกบั สวนย้อนขนึ ้ ไป จงึ เรียกวา่ สวนทวารโคลง
๑๐ อารยะ คชทีป
กลบท ก้านตอ่ ดอก แบบที่๑
๏ ก๎านตํอดอกหยาดย๎อย ยลกล
สระคํูสองยล ย่าซา้่
ค่าทห่ี กเจ็ดปน แปลงแตงํ
ทุกบาทตาํ งล๎วนค้า่ คํชู ู ๚ะ๛
ผงั กลบท
๐๐๐๐๐ กก
๐๐๐๐๐ ขข
๐๐๐๐๐ คค
๐๐๐๐๐ งง
ข้อบงั คบั
๑. แตง่ เป็ นโคลงดนั้ (บาทท้ายวรรคสม่ี ี ๒ คา)
๒. ให้สองคาท้ายบาทสมั ผสั สระกนั ไมร่ วมสร้อย
* กรมสมเดจ็ พระปรมานชุ ิตชิโนรส ทรงเน้นเลน่ สมั ผสั อกั ษรคาที่ ๕-๖
** โคลงกลบทนมี ้ ีปรากฏทม่ี าในตารากลบท "จารึกวดั พระเชตพุ นฯ" โดยกรมสมเดจ็
พระปรมานชุ ิตชิโนรส ในหมวดประวตั ิวดั แตง่ เป็ นโคลงดนั้ ปฏิสงั ขรณ์วดั พระเช
ตพุ นฯ
โคลงกลบทมธรุ สอักษรา ๑๑
กลบท กา้ นตอ่ ดอก แบบท๒่ี , อกั ษรสงั วาส
๏ สระชดิ คทํู ้ัง สองมอง
กรอบขอบซา๎ ยขวาจอง แนํวแลว๎
ทีนีค้ อํ ยคดิ ตรอง จับศพั ท๑
แปลงแตํงให๎เพริศแพรว๎ เสนาะพร้ิง เพลนิ เพลนิ ๚ะ๛
ผงั กลบท
๑๑๐๐๐ ๒๒
๗๗๐๐๐ ๐๐๘๘
ข้อบงั คบั
แตง่ ให้มีสมั ผสั สระชิดเสยี งเดียวกนั ๒ คู่ โดยคแู่ รกอยทู่ ี่ ต้นวรรค และคทู่ ี่สอง
อยทู่ ่ี ปลายวรรค ของทกุ วรรค
* ก้านตอ่ ดอก แบบท่ี๒ ท่เี จ้าคณุ อดู๋ ดั แปลงขนึ ้ จากกลบทกลอนก้านตอ่ ดอก
๑๒ อารยะ คชทปี
กลบท กำจายนะมณฑล
๏ ให๎บาทแรกเรม่ิ ด๎วย อักษร สูงนา
บาททส่ี องสามวอน เปลย่ี นช้นั
ใชเ๎ สยี งอักษรทอน กลางต่า
ข้นึ ศัพท๑แรกเทาํ น้ัน สลบั ร๎อยเวยี นวน ๚ะ๛
ผงั กลบท
ส๐๐๐๐ ๐๐
ก๐๐๐๐ ๐๐
ต๐๐๐๐ ๐๐
ส๐๐๐๐ ๐๐๐๐
ข้อบงั คบั
ใช้อกั ษรสงู นาหน้าบาทแรก บาทท่ีสองใช้อกั ษรกลางนา บาททส่ี ามใช้อกั ษรต่า
นา พอบาททส่ี ก่ี ็เวียนกลบั ไปใช้อกั ษรสงู อกี ซงึ่ ถ้ามบี ทตอ่ ไป บาทแรกของบท
ตอ่ ไปก็เริ่มด้วยอกั ษรกลาง คอื เวยี นสลบั อยา่ งนไี ้ ปเรื่อยๆ จนจบบท
* ดดั แปลงจากกลบทกลอนช่ือเดยี วกนั
โคลงกลบทมธุรสอกั ษรา ๑๓
กลบท กนิ นรเก็บบวั
๏ ทําเหยาะทาํ ยาํ งนัน้ กินนร
เลาะเกบ็ บัวเกบ็ บอน เลํนน้า่
เอาใสํบทใสกํ ลอน ทรงคาํ
เปน็ คูศํ พั ทค๑ ูํยา่้ แตงํ ไว๎แตํงกล ๚ะ๛
ผงั กลบท
๐ก๐ก๐ ๐๐
ค๐ค๐๐ ๐๐๐๐
ข้อบงั คบั
๑. ซา้ คา ๑ คใู่ นแตล่ ะบาท ตาแหนง่ ใดก็ได้
๒. การซา้ คาต้องมคี าอื่นมาคน่ั กลางหนงึ่ คาเสมอ เช่น (ดจุ มิ่งดจุ ขวญั )
* บาทสดุ ท้ายเพิ่มคาซา้ ๖-๘ หรือ ๗-๙ ก็ยงิ่ ดี
** คล้ายกลบทอกั ขระโกศล ซงึ่ อกั ขระโกศลคาทคี่ กู่ บั ซา้ คานนั้ ต้องสมั ผสั อกั ษรด้วย
๑๔ อารยะ คชทีป
กลบท กนิ นรรำ
๏ จะฝกึ ฝนจะดน๎ ดิบ กระพรบิ พจน๑
จะรีบเรํงเลบงบท พยศย้ือ
แสวงหวานสราญรส จรดเร่ือง
สมองหม่ันสิดนั ดื้อ จะขอื่ ข๎องผยองยนื ๚ะ๛
ผงั กลบท
๑ก ก ๑ข ข ๑ค ค
ข้อบงั คบั
๑. พยางค์ที่ ๑,๔,๗ (และท่ี ๑๐ ในบาทสดุ ท้ายด้วย) เป็ นคาลหุ (๑)
๒. ซา้ อกั ษร ๓ คู่ คอื พยางค์ที่ ๒-๓, ๕-๖, ๘-๙ (และ ๑๑-๑๒ ในบาทสดุ ท้ายด้วย)
๓. สมั ผสั เสยี งสระ ๒ คู่ คอื คาท่ี ๓-๕, ๖-๘ (และ ๙-๑๑ ในบาทสดุ ท้ายด้วย)
(ก-ข,ข-ค)
โคลงกลบทมธุรสอักษรา ๑๕
กลบท คมในฝกั
๏ บทกลกลบทน้ี กลบั คา่
สองหนง่ึ หน่ึงสองน่า อกี ครั้ง
สามส่สี สี่ ามจา่ กา่ หนด
วางแตํงแตํงวางต้ัง เรียบรอ๎ ยงามตา ๚ะ๛
ผงั กลบท
กขขก๐ ๐๐
ชฌฌช๐ ๐๐๐๐
ข้อบงั คบั
นาคาท่ี ๑-๒ มาสลบั วางในคาที่ ๓-๔
* เจ้าคณุ อู๋ ดดั แปลงจากกลอนกลบทช่ือเดยี วกนั
** ตา่ งจากกลบทนกกางปี ก ตรงทน่ี กกางปี กจะถอยหลงั ตาแหนง่ ไหนก็ได้ในแตล่ ะ
บาท
*** คล้ายกลบทพรางขบวนมาก เพียงแตพ่ รางขบวนมขี ้อบงั คบั มากกวา่
๑๖ อารยะ คชทปี
กลบท ครอบจกั รวาล
๏ วางคา่ แรกท่ีท๎าย บาทวาง
ซ่า้ จดจ่าอยาํ จาง จุดซ่้า
ศพั ท๑ตน๎ และทา๎ ยหาง วางศพั ท๑
กลบทนี้เพยี งย่้า ครอบแล๎วเป็นกล ๚ะ๛
ผงั กลบท
ก๐๐๐๐ ๐ก
ง๐๐๐๐ ๐๐๐ง
ข้อบงั คบั
คาแรกและคาสดุ ท้ายในแตล่ ะบาทเป็ นคาเดยี วกนั
* คล้ายกลบททวาตรึงประดบั ซง่ึ ทวาตรึงประดบั ข้างหน้าต้องเป็ นกระทู้ อา่ นลง
ต้องมคี วามหมาย
โคลงกลบทมธุรสอกั ษรา ๑๗
กลบท โคลงสกั วา
๏ สกั วาลองแตงํ บา๎ ง โคลงกล
ไพเราะเพราะพร้ิงยล อาจได๎
ฤๅอาจบเํ ปน็ ผล เรียงเลํน
ให๎เกิดเป็นบทไว๎ เพือ่ ร๎กู ลโคลง ๚ะ๛
๏ สักวาลองแตํงบา๎ งสรา๎ งโคลงกล
เพราะพริ้งยลอาจไดส๎ บายหู
ฤๅอาจบเํ ปน็ ผลเชนํ กลครู
แตํเพื่อร๎กู ลโคลงจรรโลงใจ
๏ หวงั เพอ่ื เกิดบทเพราะเสนาะจติ
ฝึกความคิดเรยี งเลํนเป็นไฉน
เพ่ือสืบเนือ่ งโคลงบทพจนพ๑ ิไล
ลองแตงํ ไว๎อาจเสนาะเพราะพริ้งเอย ๚ะ๛
ข้อบงั คบั
เขียนโคลงขนึ ้ มากอ่ นตามปกติหนง่ึ บท แล้วนาคาในโคลงมาแยกหรือซอ่ นไว้ใน
“กลอนสกั วา สองบท”
* หรือเขียนกลอนสกั วาขนึ ้ มาก่อน แล้วนาคาไปถอดเป็ นโคลงหนงึ่ บท ซง่ึ อาจถอด
ได้ความตา่ งๆ กนั ไป
๑๘ อารยะ คชทีป
กลบท งูกระหวดั หาง
๏ กลบทงหู นึ่งน้นั กระหวัดหาง
หวนหนงึ่ อักษรทาง จากทา๎ ย
ทบี่ าทตํอไปวาง ต๎นศพั ท๑
ซ่้าอักษรกลคลา๎ ย อกี หอ๎ งวัวพัน ๚ะ๛
ผงั กลบท
๐๐๐๐๐ ๐ก
ก๐๐๐๐ ๐ข
ข้อบงั คบั
เขยี นโดยนาอกั ษรสดุ ท้ายของบาท ไปซา้ อกั ษรคาแรกในบาทตอ่ ไป ถ้ามีบท
ตอ่ ไปก็ซา้ อกั ษรในลกั ษณะเดยี วกนั ไปตลอด
* เจ้าคณุ อู๋ ดดั แปลงจากกลอนกลบทช่ือเดียวกนั
** ตา่ งจากววั พนั หลกั ตรงท่ี ววั พนั หลกั นนั้ “ซา้ คา”
โคลงกลบทมธรุ สอักษรา ๑๙
กลบท งกู ลนื หาง, สารถชี ักรถ
๏ งกู ลืนหางหดม๎วน กลืนหาง
เอาศพั ท๑ซ่้าจบั วาง ศพั ทซ๑ ้่า
ให๎ตา่ แหนํงถูกทาง ตา่ แหนงํ
ดจุ กลับกลืนหางย้า่ วกยอ๎ นกลบั กลืน ๚ะ๛
ผงั กลบท
๐กข๐๐ กข
๐ ช ฌ ๐ ๐ ช ฌ ๐ ๐ (๐ ๐ ช ฌ)
ข้อบงั คบั
๑. ในแตล่ ะบาท เขยี นคาที่ ๖ และ ๗ ให้ซา้ คากบั คาท่ี ๒ และ ๓
๒. เฉพาะบาทสดุ ท้ายจะซา้ คาท่ี ๘-๙ แทน ๖-๗ ก็ได้
* เจ้าคณุ อู๋ ดดั แปลงจากกลอนกลบทชื่อเดยี วกนั
หมายเหตุ : บางทา่ นแปลงกลบทกลอนสารถีชกั รถมาเป็ นแบบเดียวกบั งกู ลนื หาง
คือซา้ คาและย้ายตาแหนง่ มาท่ี ๒-๓ สว่ นบางทา่ นก็แปลงออกมาเป็ นแบบสารถี
ขบั รถ คือวางสลบั กนั จงึ เป็ นเหตใุ ห้คดิ วา่ กลบททงั้ สองนตี ้ า่ งกนั เพียงช่ือ ซงึ่
โครงสร้างของสารถีชกั รถกบั สารถีขบั รถ แตกตา่ งกนั ชดั เจนทกี่ ารวางซา้ กบั วาง
สลบั ดงั นนั้ ลกั ษณะของสารถชี กั รถเม่อื ดดั แปลงเป็ นกลบทโคลง จงึ ควรเหมือน
งกู ลนื หางมากกวา่ เพราะวางศพั ท์ในรูปเดมิ เหมอื นกนั ในที่นจี ้ งึ เรียกงกู ลนื หาง
วา่ เป็ นสารถีชกั รถด้วย
๒๐ อารยะ คชทปี
กลบท จตุรงคประดบั
๏ จตุ รงคประดบั นี้ ดา่ เนนิ
จตุ บาทแตงํ เพลนิ แตํงพ๎อง
จตุ ศัพท๑ท๎ายเทนิ เทียบทํวง
จตุ คา่ รํวมคล๎อง ราํ งคลา๎ ยบัวบาน ๚ะ๛
ผงั กลบท
กข๐๑๒ ๑๒
กข๐๓๔ ๓๔
กข๐๕๖ ๕๖
กข๐๗๘ ๗๘๐๐
ข้อบงั คบั
๑. ใช้กระท้สู องคาต้นบาททกุ บาท (เหมือนบวั บานกลบี ขยาย)
๒. ให้คาท่ี ๔-๕ กบั ๖-๗ เลน่ สมั ผสั อกั ษรกนั คือคาท่ี ๔ กบั ๖ และคาท่ี ๕
กบั ๗ ใช้อกั ษรตวั เดียวกนั
* ดดั แปลงจากกลบทกลอนช่ือเดยี วกนั
** คล้ายพยคั ฆฉนั ทลรรโลง และบวั บานกลบี ขยาย
โคลงกลบทมธุรสอกั ษรา ๒๑
กลบท จตรุ งคยมก
๏ น่าอักษรต๎นบาท สามคา่
เน่ืองอกี สกั บาทนา่ แตํงไว๎
บาทสามสี่เปลยี่ นท่า เสยี งใหมํ
เบือนศัพท๑แสงแสดงให๎ รวํ มใช๎อกั ษร ๚ะ๛
ผงั กลบท
กขค๐๐ ๐๐
กขค๐๐ ๐๐
งจฉ๐๐ ๐๐
งจฉ๐๐ ๐๐๐๐
ข้อบงั คบั
๑. ให้ ๓ คาต้นบาทที่ ๑ กบั ท่ี ๒ สมั ผสั อกั ษรกนั
๒. ให้ ๓ คาต้นบาทที่ ๔ กบั ท่ี ๕ สมั ผสั อกั ษรกนั
* ดดั แปลงจากกลบทกลอนช่ือเดยี วกนั
๒๒ อารยะ คชทีป
กลบท เจ้าเซนเตน้ ต้าบุด
๏ รํวมเสยี งเริงสํูรอ๎ ย เสรมิ รอย
เหยาะทํองยาํ งทยอย ทํวงย๎าย
เสียงข้ันสํูค่าสอย เคยี งศัพท๑
ทวนจบทบั จวบทา๎ ย จดั ถ๎อยจงทา่ ๚ะ๛
ผงั กลบท
กขกขก ขก
ข้อบงั คบั
เขียนสลบั อกั ษรเป็ นคู่ ในแตล่ ะบาท
* ตา่ งจากกลบทอกั ษรสลบั ตรงทไี่ มต่ ้องมีสมั ผสั สระชิดในแตล่ ะบาท
โคลงกลบทมธุรสอกั ษรา ๒๓
กลบท ช้างชูงวง
๏ ซ้่าสระคํอู ยํูให๎ ไดส๎ อง คูนํ า
สามสีน่ ัน้ มน่ั มอง สํองร๎ู
หา๎ หกเก่ยี วเหน่ียวปอง ขอ๎ งสระ
เพียงแคํนี้พ่สี ๎ู คํแู ทส๎ องเสยี ง ๚ะ๛
ผงั กลบท
๐๐๑๑๒ ๒๐
ข้อบงั คบั
สมั ผสั สระ ๒ คู่ คือคาท่ี ๓-๔ คหู่ นงึ่ กบั ๕-๖ อีกคหู่ นงึ่
* ดดั แปลงจากกลบทกลอนช่ือเดยี วกนั
** บางทา่ นเคยดดั แปลงไว้ โดยให้คสู่ ระหลงั อยทู่ ่ี ๖-๗ แตเ่ ม่ือเทยี บกบั กลบทกลอน
แล้ว เหน็ วา่ ลกั ษณะนใี ้ กล้เคยี งกวา่ จงึ นารูปแบบนมี ้ าบนั ทกึ ไว้
๒๔ อารยะ คชทปี
กลบท ชา้ งประสานงา (อกั ษรบริพนั ธ)์
๏ สองอกั ษรที่ซ่า้ ภาษา
พาสูํบาทตอํ มา ชวํ งชั้น
ชือ่ ช๎างประสานงา จ่างาํ ย
จงงดั ค่าดน๎ ด้ัน แตํงใหไ๎ ดค๎ วาม ๚ะ๛
ผงั กลบท
๐๐๐๐๐ กข
กข๐๐๐ คง
คง๐๐๐ จฉ
ชฌ๐๐๐ ๐๐ญฎ
ข้อบงั คบั
ซา้ อกั ษรสองคคู่ ือ สองคาสดุ ท้ายของแตล่ ะบาท ไปซา้ อกั ษรคแู่ รกในบาทตอ่ ไป
* คล้ายกลบทนาคบริพนั ธ์ทงั้ สองแบบ คือนาคบริพนั ธ์แบบที่ ๑ ใช้ซา้ อกั ษร ๓ คู่
คือคาที่ ๔-๕ ด้วย และนาคบริพนั ธ์แบบท่ี ๒ ซา้ อกั ษร ๒ คู่ ซงึ่ คาแรกซา้ คา
ด้วย
** คล้ายกลบทงกู ระหวดั หาง ทใี่ ช้ซา้ อกั ษรเพียงอกั ษรเดียว
โคลงกลบทมธุรสอกั ษรา ๒๕
กลบท ดวงเดือนประดับดาว
๏ แสงสรวงดวงเดนํ ล้่า เรอื งรอง
วาววบั ดบั ดาวผอง ผอํ งแผว๎
ไขแขแผํผนื ทอง ทางทาํ ม
รงุํ โรจน๑โชติเชํนแก๎ว กอํ งกลา๎ คราคนื ๚ะ๛
ผงั กลบท
กกขขค คค
ฏฏฐฐฑ ฑฑฒฒ
ข้อบงั คบั
๑. สมั ผสั อกั ษรในคาท่ี ๑-๒, ๓-๔ และ ๕-๖-๗
๒. สมั ผสั สระในคาที่ ๒-๓ ทกุ บาท
* สองคาสดุ ท้ายในบาทที่ ๔ ใช้อกั ษรอน่ื อกี คหู่ นง่ึ ก็ได้
** คล้ายกลบทดาเนริ นางสระ ตา่ งท่ดี าเนิรนางสระไมต่ ้องสมั ผสั สระ และคาที่ ๕
เป็ นคาเด่ยี ว
*** เพ่ิมเติมสมั ผสั สระจากทีเ่ จ้าคณุ อู๋ ดดั แปลงจากกลอนกลบทช่ือเดียวกนั
๒๖ อารยะ คชทีป
กลบท ดอกไมพ้ วงพู่ร้อย หรือดอกไมพ้ วงคำนอ้ ง
๏ พวงพํูแหงํ ดอก ไม๎ รายเรยี ง
พวงพแูํ หํงดอก เคียง รํวมร๎อย
พวงพแูํ หํงดอก เพยี ง ค่าส่ี
พวงพูํแหํงดอก สร๎อย สบื สรา๎ งวรรณศิลป์ ๚ะ๛
ผงั กลบท
๑๒๓๔๐ ๐๐
ข้อบงั คบั
๑. เขียนเป็ นกระท้ยู น่ื “ซา้ คา” สพี่ ยางค์ทกุ ต้นบาท
๒. เปลย่ี นกระท้ใู หมเ่ มอื่ ขนึ ้ บทใหม่
* เจ้าคณุ อู๋ ดดั แปลงจากกลอนกลบทช่ือเดยี วกนั
** คล้ายกลบททศประวตั ิ
โคลงกลบทมธรุ สอักษรา ๒๗
กลบท ดำเนิรนางสระ
๏ ไหลรินถิ่นเถอื่ นร๎าง ชมุ ชน
ซึมซับนบั เนอ่ื งฝน แกํกล๎า
ชมุ ชุกทว่ั ไทยหน ชลฉ่า
อาบเอบิ ทวํ มทน๎ หล๎า ครคูํ ร้ังพังภินท๑ ๚ะ๛
ผงั กลบท
กกขข๐ คค
ข้อบงั คบั
ซา้ อกั ษรสามคคู่ ือ ๑-๒, ๓-๔ และ ๖-๗ บาทสดุ ท้ายเพิม่ ๘-๙ ด้วย
* เจ้าคณุ อู๋ ดดั แปลงจากกลอนกลบทช่ือเดยี วกนั
** คล้ายกลบทดวงเดอื นประดบั ดาว
๒๘ อารยะ คชทปี
กลบท ตรีประดับ
๏ ฝกึ ผนั คา่ คา่ ค่า้ ค่าผัน
โถโถํโถ๎นานวนั กวาํ ได๎
งงงนุ งุํนง๎ุนงัน เงอะโงํ
สสู สํู ู๎ฝกึ ให๎ เกํงลา่้ ค่าโคลง ๚ะ๛
ข้อบงั คบั
ภายใน ๑ บาท ให้มกี ารเรียงคา ๓ คาในลกั ษณะการผนั วรรณยกุ ต์ โดยเรียง
จาก "สามญั เอก โท" หรือจะสลบั "โท เอก สามญั " ก็ได้ เชน่ คาคา่ คา้ เป็ นต้น
* ดดั แปลงจากกลบทกลอนช่ือเดยี วกนั
** คล้ายกลบทตรีเพชรพวง ตา่ งท่ีตรีเพชรพวงไมต่ ้องผนั เรียงก็ได้ และคล้ายกลบท
อกั ษรสามหมู่ ซง่ึ อกั ษรสามหมใู่ ช้เสยี งสระอื่นก็ได้
โคลงกลบทมธรุ สอกั ษรา ๒๙
กลบท ตรีพธิ พรรณ
๏ สามค่าสามแคนํ ั้น เพยี งสาม
ตามย่าตามยา่้ ตาม อีกไว๎
ใหอ๎ าํ นบทอํานความ ยามอําน
รเ๎ู รื่องร๎ูราวได๎ ยํอมรใ๎ู จความ ๚ะ๛
ข้อบงั คบั
ให้แตง่ ซา้ คา โดยอาจซา้ รูปหรือซา้ เสยี งกนั บาทละ ๓ คา โดยไมก่ าหนด
ตาแหนง่ ภายในวรรค แล้วแตค่ วามเหมาะสม
* ดดั แปลงจากกลบทกลอนช่ือเดยี วกนั
** คล้ายกลบทตรียมก
๓๐ อารยะ คชทีป
กลบท ตรเี พชรพวง
๏ เลอื กผันคดิ ดัน่ ดั้น ดนั หา
คดิ ยุงํ ยงุ ยุ๎งพา วนุํ แท๎
อยากย่้าย่าย่ายา ยุงแหลก
คนคนํ ค๎นคิดแก๎ ยุํงแทจ๎ ริงยงุ ๚ะ๛
ข้อบงั คบั
ภายใน ๑ บาท ให้มีคาเรียงชิดกนั ๓ คาในลกั ษณะการผนั วรรณยกุ ต์ แตไ่ ม่
จาเป็ นต้องเรียงกนั ตามลาดบั เสยี ง สามารถเรียงสลบั กนั ได้ เช่น สามญั -โท-เอก /
เอก-โท-สามญั
* ดดั แปลงจากกลบทกลอนชื่อเดยี วกนั
** คล้ายกลบทตรีประดบั ตา่ งทต่ี รีประดบั ต้องผนั เรียงอยา่ งเคร่งครัด และคล้ายกล
บทอกั ษรสามหมู่ ซง่ึ อกั ษรสามหมใู่ ช้เสยี งสระอนื่ ก็ได้
โคลงกลบทมธุรสอกั ษรา ๓๑
กลบท ตรียมก
๏ สามค่าสามคซํู อ๎ น สามเคียง
เกีย่ วติดเก่ียวตามเพียง เกยี่ วตงั้
จา่ เรอ่ื งกอํ นจา่ เรียง จา่ รําย
สามชํวงสอดชํวงทงั้ ใสํซ่้าชวํ งกล ๚ะ๛
ผงั กลบท
๑ก๑ก๐ ๑ก
ง๔ง๔๐ ๐ง๔๐
ข้อบงั คบั
๑. แตง่ เลน่ ล้อสมั ผสั อกั ษรภายในวรรค ๓ คู่ โดยวางตาแหนง่ ไหนก็ได้
๒. แตล่ ะคใู่ ห้มคี าซา้ กนั ๑ คา เชน่ (สามคา, สามค,ู่ สามเคยี ง) หรือ (สามชว่ ง,
สอดชว่ ง, ซา้ ชว่ ง)
* ดดั แปลงจากกลบทกลอนชื่อเดยี วกนั
** คล้ายกลบทตรีพิธพรรณ
๓๒ อารยะ คชทปี
กลบท ตลบนกกลางหาว
๏ วางแถวน้นั หนึ่งขา๎ ง กลบั สลบั สแ่ี ล
อกี คกํู ลบั หนั พบั เปล่ยี นบ๎าง
บ๎างเปลยี่ นพับหันกลบั คํูอีก
แลสสี่ ลบั กลบั ข๎าง หนึ่งนัน้ แถววาง ๚ะ๛
ผงั กลบท
๑๒๓๔๕ ๖๗ ๘๙
กขคงจ ฉช
ชฉจงค ขก
๙๘๗๖๕ ๔๓๒๑
ข้อบงั คบั
ใช้ทกุ คาของบาทท่ี ๑ มาวางสลบั คาในบาทสดุ ท้าย และใช้ทกุ คาในบาทที่ ๒ มา
วางสลบั คาในบาทท่ี ๓
* คล้ายกลบทถอยหลงั เข้าคลอง
โคลงกลบทมธุรสอักษรา ๓๓
กลบท ตะเข็บไตข่ อน
๏ ประพันธต๑ ะเขบ็ ขยับเขยื้อน จะไตขํ อน
สลับแสดงกระจายสลอน ตลอดหนา๎
และท๎ายเชลงกระเด๎งกระดอน ประดิษฐห๑ น่ึง
สะดดุ สดบั จะนบั ก็ห๎า สลักสล๎างกวีศิลป์ ๚ะ๛
ผงั กลบท ะ๐ ๐
ะ๐ ะ๐ ะ๐ ะ๐ ะ๐
ข้อบงั คบั
ใช้สระเสยี งสนั้ สลบั ยาว (ลห-ุ ครุ) ๕ คู่ (วรรคหน้า ๔ คู่ วรรคหลงั ๑ ค)ู่ โดย
จะใช้เสยี งพยญั ชนะเดยี วกนั สลบั หรือไมก่ ็ได้
๓๔ อารยะ คชทปี
กลบท ทวาตรงึ ประดับ, สกดั แคร่
(วางไว้ใสค่ า)
๏ วาง คา่ แรกสุดท๎าย อกี วาง
ไว๎ ทุกบาทในทาง แตํง ไว๎
ใสํ แลว๎ ทกุ พยางค๑ ที่ ใสํ
ค่า อํานลงตอ๎ งได๎ บทเน้อื ความ คา่ ๚ะ๛
ผงั กลบท
ก๐๐๐๐ ๐ก
ข๐๐๐๐ ๐ข
ค๐๐๐๐ ๐ค
ง๐๐๐๐ ๐๐๐ง
ข้อบงั คบั
๑. ซา้ คาแรกทท่ี ้ายบาททกุ คา
๒. คาทซี่ า้ เมอื่ อา่ นเรียงลงแล้วมคี วามหมาย
* คล้ายกลบทครอบจกั รวาล ตา่ งเพียงครอบจกั รวาลไมต่ ้องมคี วามหมาย และ
คล้ายวติ ิมาลนิ ี ซง่ึ วติ ิมาลนิ ใี ช้กระท้หู น้าเพยี งอยา่ งเดียว
โคลงกลบทมธรุ สอักษรา ๓๕
กลบท ทวารประดับ (มังกรคาบแก้ว, มังกรคายแกว้ )
๏ สองหน่ึง แตํงอกี คร้ัง หนง่ึ สอง
ตน๎ สลับ เวียนจับจอง สลับต๎น
กลบั หวน แตเํ กีย่ วดอง หวนกลบั
มีแผก สารถีค๎น ตํางแท๎ แผกมี ๚ะ๛
ผงั กลบท
กข๐๐๐ ขก
ชฌ๐๐๐ ๐๐ฌช
ข้อบงั คบั
นาสองคาต้นบาทมาสลบั วางไว้ท่ีท้ายบาททกุ บาท แผกจากสารถีขบั รถตรงที่
สารถีขบั รถมีสมั ผสั อกั ษรในคาที่ ๕-๖ ด้วยเทา่ นนั้
* คล้ายกลบทสารถชี บั รถ, พระจนั ทร์ทรงกลด, กลบทอกั ษรจองถนน, กลบทช้าง
กระหมวดหญ้า
๓๖ อารยะ คชทปี
กลบท ทศประวตั ิ
๏ ทศประวตั ิ ช่อื นี้ งดงาม
ทศประวัติ ยนื ตาม บาทตน๎
ทศประวัติ ถอื สาม ศพั ท๑แรก ซา่้ นา
ทศประวตั ิ ทํานค๎น คิดไว๎ในโคลง ๚ะ๛
ผงั กลบท
กขค๐๐ ๐๐
ข้อบงั คบั
เขยี นเป็ นกระท้ยู ืน่ “ซา้ คา” สามพยางค์หน้าทกุ ต้นบาท เม่อื เปลย่ี นบทจึงขนึ ้
กระท้ใู หม่
* คล้ายบวั บานกลบี ขยาย และดอกไม้พวงพรู่ ้อย
โคลงกลบทมธุรสอกั ษรา ๓๗
กลบท เทพชมุ นุม
๏ ยามลมพรมหํมออ๎ ม ล๎อมรมุ
หอมทํวมรํวมรวมสมุ ชมํุ แยม๎
ชมงามทาํ มชมุ นมุ กรุม๎ กร่ิม
ยม้ิ อ่มิ ปร่มิ เต็มแกม๎
แชมํ ปล้มื เตมิ มาน ๚ะ๛
ข้อบงั คบั
๑. ในแตล่ ะบทต้องใช้แม่ ก.กา ตลอดบท หรือถ้าเป็ นมาตราตวั สะกดอน่ื ก็ต้องเป็ น
ตวั สะกดเดยี วกนั ตลอดทงั้ บท เช่น ถ้าใช้แมก่ นกต็ ้องใช้แมก่ น ไปตลอดทงั้ บท
ยกเว้นคาสดุ ท้ายของบท สามารถใช้มาตราอื่น เพื่อเช่ือมโยงไปยงั บทตอ่ ไปได้
๒. อนโุ ลมให้ใช้คา “ลห”ุ ทดแทนหรือแทรกได้
๓. เน้นสมั ผสั สระตรงตาแหนง่ ท่ี ๒-๓ และ ๕-๖
๓๘ อารยะ คชทปี
กลบท ธงนำรวิ้
๏ ปลวิ ปลิว ธงน่าร้ิว ลว่ิ ลม
ทกุ ทกุ บาทนิยม ยา่ ซา่้
วางวาง ศพั ท๑เหมาะสม คํแู รก
แตงํ แตํง เพียงแคยํ ้่า ชํวงหน๎าบาทโคลง ๚ะ๛
ผงั กลบท
กก๐๐๐ ๐๐
ข้อบงั คบั
ซา้ คาคแู่ รกทกุ บาท
* เจ้าคณุ อู๋ ดดั แปลงจากกลอนกลบทชื่อเดียวกนั