3.2.2 เขยี นประโยคใหส้ มั พันธก์ บั สอื่ ท่ีไมใ่ ช่ความเรยี งที่อา่ น
3.3 ดา้ นเจตคต/ิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์/คุณธรรมจรยิ ธรรมท่ีสอดแทรก
3.3.1 ใฝ่เรียนรู้ : คน้ ควา้ หาความรจู้ ากแหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ
3.3.2 หม่นั พฒั นาตนเอง : ทบทวนในสงิ่ ที่เคยเรียน
4. สมรรถนะของผูเ้ รียน
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
4.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5. สาระการเรยี นรู้
- คำศพั ท์
-
- สำนวนภาษา
-
- หนา้ ทภ่ี าษา
- To talk about regrets and missed opportunities
- โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์
- Wish + Past Perfect
- Third Conditional
6. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
กจิ กรรม Grammar
1. แจ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้
- ครูบอกนกั เรยี นวา่ ในหน่วยการเรยี นรู้นน้ี กั เรียนจะได้เรยี นรกู้ ารใช้ Wish + Past Perfect และ Third
Conditional เพือ่ นำไปใช้พดู และสือ่ สารเก่ียวกบั ความเสียดายหรอื ความเสียใจทไ่ี ด้ทำหรอื ไม่ไดท้ ำในอดีต
CULTURE CORNER
- เพลงโปรดของนักรอ้ งที่มชี อ่ื เสยี งของฝรงั่ เศสชอ่ื เอดติ ปียัฟ (Edith Piaf) (1915-1963) คือเพลง Non, je ne
regretted rien ซ่งึ แปลวา่ “No, I regret nothing.”
2. นำเสนอการใช้ Wish + Past Perfect
- ครนู ำเข้าสู่บทเรยี นโดยครูบอกถงึ การกระทำหรอื ส่ิงทีเ่ กดิ ขนึ้ ในอดตี ท่ไี ม่พึงปรารถนาหรอื ไม่อยากให้
เกิดข้นึ เชน่
- I got up late this morning. I have no time to have breakfast.
- I forgot to bring my glasses today. I cannot work.
- It rained yesterday. I could not go to the market.
- ครสู มุ่ ถามนักเรียนถึงการกระทำหรือสิ่งทเ่ี กิดข้ึนในอดตี ที่ไม่พึงปรารถนาหรอื ไมอ่ ยากใหเ้ กดิ ข้นึ
คำถาม What event that happened to you and made you upset?
คำตอบท่อี าจได้ I forgot to bring my purse. I have no money.
I didn’t learn to swim. I cannot swim.
etc.
- ครูนำเสนอประโยค Wish + Past Perfect โดยครูพูดและเขยี นข้อความบนกระดานดงั นี้
- I got up late this morning. I had no time to have breakfast. And I have a stomach
ache now.
- I wish I had gotten up early this morning.
- I wish I had had lunch.
- I forgot my glasses. I cannot read and work.
- I wish I had not forgotten my glasses.
- ครถู ามนักเรียนวา่ Wish ตามดว้ ยรูปประโยค had + Past Participle ใชก้ บั เหตุการณ์อะไร
- ครูใหน้ กั เรียนอ่านกรอบ Grammar ในหนังสือเรยี น หนา้ 76 ในสว่ นแรกเพอื่ เฉลยคำตอบข้างต้น ครูสุ่ม
ถามความเข้าใจและอธบิ ายเพม่ิ เติมว่า เราใช้ Wish และตามดว้ ยประโยคในรปู had + Past Participle ใช้กบั
ความเสียดายหรือเสยี ใจกบั เหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ ขึ้น (หรอื ไมเ่ กิดขึ้น) เช่น I wish I had brought my umbrella,
but I didn’t bring my umbrella and now I’m wet from the rain. ให้นักเรียนเปรยี บเทียบกบั ประโยค
ที่มี wish ในหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 ดังตัวอย่าง
- I wish I had a camera to take a picture of this event.
(= The person doesn’t have a camera now but would like one.)
- I wish I had had a camera at your graduation.
(= The person didn’t have a camera at the graduation, which is now past.)
- ครูตรวจสอบความเข้าใจโดยใหน้ ักเรียนฝึกพดู ประโยคในรปู Wish + Past Perfect เก่ียวกับความ
เสยี ดายหรอื ความเสยี ใจทไี่ ดก้ ระทำกรยิ าหรือไมไ่ ด้กระทำในสปั ดาห์ท่ีแล้วหรอื เดือนทแ่ี ลว้ (Talk about one
thing that you wish you had done (but didn’t do) in the last week or last month.) ซ่งึ แนวคำตอบ
อาจเป็นดังนี้
- I wish I had participated in English camp last week.
- I wish I had bought a birthday present for my mother last month.
etc.
3. นำเสนอการใช้ Third Conditional
- ครนู ำเสนอประโยค Third Conditional โดยครพู ูดและเขยี นขอ้ ความบนกระดานและถามนกั เรียนดงั นี้
1) I got up late this morning. I had no time to have breakfast. And I have a stomach
ache now.
What could I have done if I had gotten up early this morning?
- You could have had breakfast if you had gotten up early this morning.
2) I forgot my glasses. I cannot read and work.
What could I have done if I had not forgotten my glasses?
- You could have worked if you had not forgotten your glasses.
- ครถู ามนักเรยี นจากประโยคตัวอย่างข้างต้นว่า ประโยคใดเปน็ ประโยคเงอ่ื นไขหรือประโยคสมมติ และ
ประโยคใดเปน็ ประโยคทเ่ี กดิ ข้นึ ตามมาถ้าประโยคเงื่อนไขเกดิ ข้นึ และทุกเหตกุ ารณ์ได้เกดิ ขนึ้ จรงิ หรอื ไม่ เพราะ
เหตใุ ด
- ครูให้นกั เรียนอ่านกรอบ Grammar ในหนังสือเรียน หน้า 76 ในสว่ นที่สองเพือ่ เฉลยคำตอบข้างตน้ ครู
สุ่มถามความเข้าใจและอธบิ ายเพ่มิ เติมวา่ เราใช้ Third Conditional สำหรบั พดู เกย่ี วกับเหตกุ ารณห์ รอื การ
กระทำท่ีมีเง่ือนไข คอื ถา้ มเี หตุการณห์ น่ึงเกดิ ขน้ึ ในอดตี ก็น่าจะมอี ีกเหตกุ ารณห์ นึง่ เกดิ ขึ้นในอดตี ตามมา
ดว้ ย และเปน็ การสมมติทไ่ี ม่มโี อกาสเกดิ ขึ้นได้จริงเพราะเป็นการสมมติย้อนกลับไปในอดีต ซ่งึ เหตกุ ารณ์ที่
เกิดขึน้ จรงิ จะตรงกันขา้ มกบั สิ่งทสี่ มมตขิ นึ้ สามารถสรุปโครงสร้างได้ดงั น้ี
Condition Result
If + past perfect (had + past participle), would/could/might + have + past
participle
If I had studied hard, I would have passed my exam
(= I didn’t study hard) (= and I didn’t pass my exam)
หรือ
Result Condition
would/could/might + have + past if + past perfect (had + past participle)
participle
I would have passed my exam If I had studied hard
(= I didn’t pass my exam) (= I didn’t study hard)
- ครใู ห้นกั เรียนชว่ ยกนั ดปู ระโยคตัวอย่างทุกประโยคในกรอบ Grammar ในหนงั สอื เรยี น หน้า 76 และ
ช่วยกนั บอกรายละเอียดของแต่ละประโยคตัวอย่างตามตารางสรุปโครงสรา้ งข้างบนว่าประโยคใดเป็นประโยค
เงอ่ื นไข ประโยคใดเปน็ ประโยคสมมติ และบอกความหมายของแต่ละประโยค
- ครตู รวจสอบความเขา้ ใจโดยเขยี นประโยคบนกระดาน ให้นักเรียนวาดตารางและเขยี นประโยคย่อย
พร้อมทงั้ เขยี นความหมายตามตัวอย่างตารางสรุปโครงสร้างข้างบน ประโยคทคี่ รเู ขยี นบนกระดานมดี ังนี้
- If I hadn’t taken my umbrella, I would have gotten wet.
- If it hadn’t rained, we would have gone on picnic.
- If I hadn’t missed the last question, I would have an A on the test.
4. ฝึกพูดและเขียน
- ครใู ห้นกั เรยี นฝกึ ใช้ประโยคในรปู Wish + Past Perfect และ Third Conditional โดยใหน้ กั เรยี นทำ
กิจกรรม Grammar A ถึง E ในหนงั สอื เรียน หน้า 76-77 ในแตล่ ะกจิ กรรมดำเนินการดงั นี้
กิจกรรม Grammar A
- ครูให้นกั เรยี นดกู จิ กรรม Grammar A ในหนงั สือเรยี น หน้า 76 อ่านออกเสยี งคำสัง่ และประโยค
สถานการณ์ในข้อ 1 แลว้ ถามนกั เรียนถึงความหมายของสถานการณเ์ พ่อื ให้แน่ใจวา่ นกั เรยี นเขา้ ใจ เช่น What
did you want to do? Did you do that? Why? What do you wish? ซง่ึ คำตอบอาจจะได้วา่ I wish I
hadn’t forgotten my camera.
- ครูให้นกั เรียนจับคู่กนั ทำในขอ้ ท่ีเหลอื
- ครูส่มุ นักเรียนอา่ นออกเสยี งประโยคท่สี มบรู ณ์ และให้นกั เรยี นชว่ ยกันเฉลยคำตอบ (ดเู ฉลยทา้ ยเลม่ ) ให้
นกั เรียนในหอ้ งอภปิ รายคำตอบของเพอื่ นโดยยอมรบั ประโยคท่ีถูกตอ้ งตามโครงสร้างไวยากรณ์และสอดคล้อง
กบั ประโยคสถานการณ์ทก่ี ำหนด ครูชว่ ยอธบิ ายและแกไ้ ขในกรณที เี่ หน็ ว่ายังไม่ถูกต้อง
- ครปู ระเมินการพูดตามสถานการณโ์ ดยใช้เกณฑ์การประเมนิ การพดู และใชเ้ กณฑ์ผา่ นระดับพอใช้
กิจกรรม Grammar B
- ครูให้นักเรยี นอ่านคำสง่ั กิจกรรม Grammar B ในหนงั สือเรยี น หนา้ 76
- ครทู บทวนโครงสรา้ งและความหมายของ Third Conditional:
If + past perfect (had + past + would/could/might + have + past
participle), participle
หรอื
would/could/might + have + past + if + past perfect (had + past
participle participle)
- อา่ นออกเสียงประโยคในขอ้ 1 ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เติมคำดว้ ยการเปลีย่ นรูปกริยาทีก่ ำหนดให้ในวงเล็บตาม
โครงสรา้ ง (have known – would have sent)
- ครใู หน้ ักเรียนจับคู่กนั ทำในข้อท่ีเหลือ
- ครูสุ่มนักเรียนอา่ นออกเสยี งประโยคท่ีสมบูรณ์และให้นกั เรยี นชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ (ดูเฉลยทา้ ยเลม่ )
- ครูชว่ ยอธบิ ายและแก้ไขในกรณที ีเ่ ห็นว่ายังไม่ถกู ต้อง
- ครูให้นักเรยี นเขียนความหมายของประโยคท่ี 1-6 ดงั ตวั อย่าง
1. I didn’t know that you were in the hospital, and so I didn’t send you flowers.
กจิ กรรม Grammar C
- ครใู ห้นกั เรียนดูกจิ กรรม Grammar C ในหนังสือเรียน หน้า 77 อา่ นออกเสยี งคำสง่ั และประโยคท่ี
กำหนดทกุ ข้อ แล้วถามนกั เรียนถงึ ความหมายของคำท่เี ชือ่ มประโยคคอื so หรอื because และช่วยกนั สรุปวา่
แต่ละประโยคบอกเหตุและผล ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันเขยี นประโยค If clause จากสถานการณ์ท่กี ำหนด โดยให้
ชว่ ยกนั สงั เกตว่าประโยคตามหลัง if เปน็ ประโยคทบ่ี อกเหตุ อกี ประโยคหนึ่ง (Main Clause with would)
เปน็ ประโยคท่ีบอกผล
- ครูใหน้ ักเรยี นจบั คูก่ นั ทำในขอ้ ทเี่ หลอื
- ครสู มุ่ นกั เรียนอา่ นออกเสยี งประโยคที่สมบรู ณ์และให้นกั เรียนชว่ ยกันเฉลยคำตอบ (ดเู ฉลยทา้ ยเลม่ ) ครู
ชว่ ยอธิบายและแก้ไขในกรณที ี่เห็นว่ายงั ไม่ถูกต้อง
- ครปู ระเมินการพูดตามสถานการณโ์ ดยใช้เกณฑ์การประเมนิ การพดู และใชเ้ กณฑ์ผา่ นระดบั พอใช้
กิจกรรม Grammar D
- ครใู ห้นักเรยี นอา่ นออกเสียงคำส่ังกจิ กรรม Grammar D ในหนังสอื เรยี น หนา้ 77
- ครูถามนักเรียนเกยี่ วกับรูปภาพเพอื่ ใหน้ กั เรียนเข้าใจวา่ อะไรคอื เหตุ และอะไรคือผล และบุคคลในรูป
น่าจะปรารถนา (Wish) อะไร ดังตัวอยา่ งในภาพที่ 1:
- What happened to this person?
- Why did it happen?
(He got a bad sunburn because he was in the sun too long.)
- What might he feel?
- What does he wish he had done?
(He wishes he had used some sunscreen. / He wished he had followed his friend’s
advice and sat in the shade for a while.)
- ครอู ่านประโยคตัวอยา่ งในข้อท่ี 1 และใหน้ กั เรียนช่วยกนั คดิ ประโยคอื่น ๆ ทีแ่ ตกต่างไปจากประโยค
ตวั อย่างเชน่
- If he had used some sunscreen.
- If he had followed his friend’s advice and sat in the shade for a while, he wouldn’t
be badly sunburned.
- ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละคนเขียนตอบในข้อที่เหลือ
- ครูส่มุ นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งประโยคทสี่ มบรู ณแ์ ละให้นักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบโดยยอมรับประโยคท่ี
ถูกต้องตามโครงสรา้ งไวยากรณแ์ ละสอดคลอ้ งกบั ประโยคสถานการณ์ทกี่ ำหนด ครชู ่วยอธิบายและแกไ้ ขใน
กรณที ่ีเห็นวา่ ยังไมถ่ ูกตอ้ ง (ดูเฉลยท้ายเล่ม)
กจิ กรรม Grammar E
- ครใู หน้ ักเรียนอ่านออกเสยี งคำสงั่ กิจกรรม Grammar E ในหนังสอื เรียน หนา้ 77
- ครถู ามนกั เรียนถึงการใช้ could have / might have ว่าใชใ้ นส่วนใดของ Conditional Sentence ใน
ส่วน Main Clause หรือ Conditional (main clause) ทง้ั นี้เพอ่ื บอกอะไร (possibility) พร้อมท้ังอ่านประโยค
ตัวอย่างและชว่ ยกันทำในขอ้ 1
- ครูให้นกั เรยี นจับคกู่ นั ทำในข้อที่เหลือ
- ครูสมุ่ นักเรียนอ่านออกเสียงประโยคที่สมบรู ณ์และให้นักเรยี นช่วยกนั เฉลยคำตอบ (ดเู ฉลยท้ายเล่ม) ครู
ชว่ ยอธิบายและแก้ไขในกรณีที่เหน็ วา่ ยังไมถ่ ูกตอ้ ง
5. ประเมนิ การเขียน
- ครูประเมินข้อเขียนบรรยายในรูปประโยค Wish + Past Participle, Third Conditional จาก
สถานการณ์ท่กี ำหนดและเขียนบรรยายความเสยี ดายโอกาสจากภาพท่กี ำหนดของนกั เรยี นโดยใช้เกณฑก์ าร
ประเมนิ การเขียน และใช้เกณฑผ์ า่ นระดับพอใช้
กจิ กรรมเสรมิ ทักษะ/ประสบการณ์ทางภาษา
- ครูอาจจะให้นกั เรียนนำสถานการณ์จากภาพในกิจกรรม Grammar D ไปแต่งบทสนทนาและแสดง
บทบาทสมมติ
- ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝกึ หัดใน ขอ้ A-F หนงั สอื แบบฝกึ หดั New World 6 หนา้ 49-51 (ดูเฉลยท้ายเลม่ )
7. ส่ือการเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี น New World 6 หนา้ 76-77
2. หนังสอื แบบฝึกหัด New World 6 หนา้ 49-51
3. สือ่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
- http://en.wikipedia.org/wiki/%C3%89dith_Piaf
8. แหล่งเรยี นรู้ -
9. การวดั และการประเมนิ ผล
มาตรฐานการเรียนรู้ ส่งิ ท่ตี อ้ งร้แู ละปฏิบัตไิ ด้ ผลงาน/ชิ้นงาน การวัดผลและประเมนิ ผล
และตัวช้ีวดั
พ ู ด แ ล ะ เ ข ี ย น แ ส ด ง ถ้อยคำพูดในรปู Wish + ป ร ะ เ ม ิ น ก า ร พ ู ด ต า ม
ต 1.2 ม.4-6/5
ค ว า ม ค ิ ด เ ห ็ น ข อ ง ต น Past Participle แ ล ะ สถานการณ์ที่กำหนดโดย
ต 1.1 ม.4-6/3
เ ก ี ่ ย ว ก ับ เ ร ื ่อ ง ต ่ าง ๆ Third Conditional ตาม ใช้เกณฑ์การประเมินการ
อยา่ งมีเหตุผล สถานการณ์ที่กำหนดใน พูด และใช้เกณฑ์ผ่าน
กิจกรรม Grammar A ระดับพอใช้
และ C
เขียนประโยคให้สัมพันธ์กับ ข้อเขียนบรรยายในรูป ประเมินการเขียนโดยใช้
ส่ือท่ีไมใ่ ช่ความเรยี งที่อา่ น Third Conditional ตาม เกณฑ์การประเมินการ
สถานการณ์ที่กำหนดใน เขียน และใช้เกณฑ์ผ่าน
กจิ กรรม Grammar D ระดบั พอใช้
10. การบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (3 หว่ ง 2 เงื่อนไข 4 มติ )ิ
- การบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3 ห่วง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2 เงอ่ื นไข
พอประมาณ เง่ือนไขความรู้
มเี หตผุ ล เงอ่ื นไขคุณธรรม
มภี ูมิคมุ้ กนั ในตัวท่ีดี
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4 มติ ิ
มติ ิเศรษฐกจิ มติ ิสงั คม มติ ิสิ่งแวดล้อม มติ วิ ัฒนธรรม
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 25
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
รายวชิ า ภาษาองั กฤษ รหัสวิชา อ 33102
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 10 If Only I’d Known จำนวน 5 ชั่วโมง
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 25 Wishful Thinking จำนวน 1 ชว่ั โมง
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมเี หตุผล
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/4 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็น
จากการฟังและ อ่านเรื่องที่เป็นสารคดี และบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่าง ประกอบ 2.
สาระสำคญั
หนว่ ยการเรียนรู้นี้มจี ุดมงุ่ หมายใหน้ ักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับคำกล่าวแสดงความเสียดายโอกาสหรือความ
เสียใจในสิ่งที่ทำไปแล้วหรือไม่ได้ทำในอดีตในบทเรียนและจากการศึกษาค้นคว้าและนำเสนอใน
หอ้ งเรยี น นกั เรียนจะได้พูดแสดงบทบาทสมมติ การสนทนาเกี่ยวกับความเสียดายหรือเสียใจ ฟงั บุคคลกล่าวให้
โอวาทในงานฉลองการจบการศึกษา เขียนบรรยายเกี่ยวกับความเสียดายหรือความเสียใจครั้งใหญ่ของตน และ
รายงานการศกึ ษาค้นคว้าเก่ียวกับคำคมภาษาอังกฤษต่าง ๆ ทเี่ ก่ยี วกับความเสียดายหรือความเสียใจ นอกจากนี้
ยังได้เรียนรู้คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งหน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ที่เป็น
พื้นฐานของกิจกรรมฟงั พดู อา่ น เขียนในหนว่ ยการเรียนรนู้ ้ี
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้
3.1.1 นักเรียนเข้าใจว่าการฝึกใช้คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับความเสียดายหรอื เสียใจ จะทำให้นักเรยี น
สนทนา อา่ น และเขยี นไดด้ ยี ิ่งขน้ึ
3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ
3.2.1 จบั ใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรปุ ความ ตคี วามบทความท่อี า่ น
3.3 ด้านเจตคต/ิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค/์ คุณธรรมจริยธรรมทีส่ อดแทรก
3.3.1 ใฝเ่ รียนรู้ : คน้ ควา้ หาความรจู้ ากแหล่งเรียนรตู้ า่ ง ๆ
3.3.2 หม่ันพัฒนาตนเอง : ทบทวนในส่งิ ทเี่ คยเรียน
4. สมรรถนะของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
4.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4.4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5. สาระการเรยี นรู้
- คำศัพท์
กจิ กรรม Reading
- quote (n.): written words from other people (in this context these words
can give us the right way of deeds (คำคม)
- dwell (v.): to think about something too long (คดิ มาก, หมกมุน่ )
- reverse (adj.): in the opposite way from usual, in this case, backward (ในทาง
กลับกนั )
- count (v.): to have value or importance (นบั ว่ามีค่า, มีคา่ )
- burden (v.): to trouble someone with something difficult or unpleasant
(ทำให้หนัก,
ทำให้รบั ภาระหนัก)
- remembrance (n.): memory (การจดจำ, ความทรงจำ)
- สำนวนภาษา
-
- หนา้ ทีภ่ าษา
- To talk about regret
- โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์
- Wish
- If clause
- As if
6. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
กจิ กรรม Reading
1. นำเข้าสบู่ ทเรยี น
- ครูเขยี นคำศัพท์ “quote” บนกระดาน และถามนกั เรยี นถงึ ความหมายของคำว่า “quote”
- ครูเขยี นคำคมต่อไปนี้บนกระดานและชกั ชวนนักเรียนพูดคยุ เก่ยี วกบั คำคมดงั นี้
คำคมท่ีเขียนบนกระดาน
“The only man who never makes mistakes is the man who never does anything."
(T. Roosevelt - คนท่ไี ม่เคยทำผดิ คือคนท่ไี มไ่ ดท้ ำอะไรเลย)
“He who loses money, loses much; He who loses a friend, loses more; He who loses
faith, loses all."
(Anonymous - เขา..ผู้สูญส้ินทรัพย์สินไป เขา..สูญเสียมากเหลือเกิน เขา..ผสู้ ูญสน้ิ เพ่ือนไป เขา..
สญู เสยี มากกว่า เขา..ผู้สญู สนิ้ ความศรัทธา เขา..ผู้นัน้ .. สูญเสยี ยง่ิ กว่าใคร ๆ)
"There is nothing either good or bad but thinking makes it so."
(W. Shakespeare - ไม่มีสิ่งใด ๆ ในโลกทีด่ ีหรือเลว มีแต่ความคิดของเราเท่าน้นั ทที่ ำให้เกดิ ความดแี ละความเลว)
CULTURE CORNER
ตัวอย่างคำคมของบุคคลทมี่ ชี อื่ เสียง
- The secret of creativity is knowing how to hide your sources.
(Albert Einstein - เคล็ดลับของความคิดสรา้ งสรรค์คอื การรู้วธิ ซี ่อนขอ้ มูลของคุณ)
- Patience is bitter, but its fruit is sweet.
(Aristotle - ความอดทนเป็นสิ่งทมี่ ีรสขม แต่ผลของมันชา่ งหวานหอมนัก)
- Stay Hungry, Stay Foolish (Steve Jobs - จงกระหายและทำตัวใหโ้ งต่ ลอดเวลา)
- Learn from the mistakes of others. You can’t live long enough to make them all yourself
(Anonymous - จงเรียนรู้จากความผิดพลาดของผู้อื่นเพราะเราไม่สามารถเรียนรู้ความผิดพลาดนั้นได้ทั้งหมด
ในช่วงชวี ิตของเราเอง)
- Forgive your enemies, but never forget their names.
(J.F. Kennedy - จงยกโทษให้แกศ่ ัตรูของคณุ แตอ่ ยา่ ลมื ช่ือของพวกเขาเปน็ อันขาด)
- If you can, help others; if you cannot do that, at least do not harm them
(Dalai Lama - ถา้ คณุ ทำได้ จงช่วยผูอ้ ่ืน ถา้ คณุ ทำไม่ได้อย่างน้อยจงอยา่ ทำรา้ ยผอู้ ื่น)
คำถามท่คี รูชักชวนนักเรยี นพดู คยุ เก่ยี วกับคำคม
1) These are some quotes. What does quote mean?
2) Who wrote it?
3) What does it mean?
4) Do you know any Thai quotes? Can you tell me some?
2. แจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- ครบู อกนักเรยี นว่าในหนว่ ยการเรยี นรนู้ ี้นักเรียนจะไดอ้ า่ นคำคมของบคุ คลทีม่ ีชื่อเสยี ง เมอ่ื อ่านแล้ว
นักเรียนจะทราบวา่ คำคมทอี่ ่านเกี่ยวขอ้ งกบั เรื่องอะไร สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับเรอื่ งที่อา่ นและแสดงความ
คดิ เห็นเกย่ี วกบั เรอื่ งทีอ่ ่านได้
กจิ กรรมก่อนอา่ น
1. ให้นกั เรียนเปิดหนังสือเรยี น หนา้ 78 ดรู ูปภาพและบอกว่าบุคคลในรูปภาพคือใคร นกั เรยี นเคยไดย้ นิ
ชื่อเสยี งของเขา หรอื ไม่ อยา่ งไร
กิจกรรมระหว่างอ่าน
1. อา่ นบทความ
- ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน อา่ นบทความและชว่ ยตอบคำถามทีค่ รเู ขยี นบนกระดานต่อไปนี้
Worksheet 3
Direction: Whose quote is similar to these following meanings?
1. Deeds in your life are more meaningful than age.
2. Sadness is the smallest because there are many interesting things in the world.
3. Do the best thing that you yourself want.
4. Today is the best. To be at the present.
5. Time is precious, don’t wait until tomorrow.
6. Mistakes are just experiences.
7. Everyone’s hope is no regrets.
8. Step forward; do not mention the unpleasantness in the past.
เฉลยคำตอบ 1. Abraham Lincoln’s, 2. Mercedes Lackey’s, 3. Ingrid Bergman’s, 4. Buddha’s,
5. Gandhi’s, 6. Jennifer Aniston’s, 7. Arthur Miller’s, 8. Jodi Picoult’s
- ครูส่มุ ตวั แทนแต่ละกลุ่มอ่านคำตอบ
- ใหน้ ักเรียนฟังซีดีบนั ทกึ เสียง CD 2 Track 26 กจิ กรรม Reading อ่านในใจตามและใหน้ กั เรียนตอบ
คำถามในกจิ กรรม About the Reading (A และ B) ในหนังสอื เรียน หนา้ 79
- ครปู ระเมนิ ผลจากจำนวนคำตอบที่ถูกตอ้ งโดยใชเ้ กณฑ์ผา่ นรอ้ ยละ 60
กจิ กรรมหลงั อ่าน
1. ตรวจสอบความเขา้ ใจบทอ่าน
- ครแู ละนกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคำตอบในกจิ กรรม About the Reading (ดูเฉลยท้าย
เลม่ )
2. ประเมนิ การอา่ น
- ครูประเมนิ ความเขา้ ใจบทอา่ นจากจำนวนคำตอบที่ถูกต้องในการทำกิจกรรม About the Reading โดย
ใช้เกณฑ์ผ่านร้อยละ 60
3. พฒั นาคำศัพท์
- ครใู ห้นกั เรียนอ่านบทความอกี ครั้ง ขีดเส้นใต้คำศัพทท์ น่ี ักเรยี นไม่ทราบความหมาย และให้นกั เรยี นจบั คู่
กนั เขียนความหมายคำศัพท์โดยดจู ากบริบทที่อ่าน
- ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมายคำศัพท์ที่เขียน คำศัพท์ใดที่นักเรียนเขียนความหมายไม่ได้ ครู
อธบิ ายเพม่ิ เติมหรือใหน้ กั เรียนคน้ หาจากพจนานกุ รม
4. ตรวจสอบความเข้าใจคำศพั ท์
- ครูใหน้ ักเรียนทำกจิ กรรม Vocabulary ในหนังสอื เรยี น หนา้ 79 และช่วยกนั เฉลยคำตอบ (ดเู ฉลยท้าย
เล่ม)
5. แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับเร่อื งทีอ่ า่ น
- ครูให้นกั เรยี นอภปิ รายวา่ อะไรเปน็ สง่ิ ทนี่ ่าสนใจทีส่ ุดหรอื น่าประหลาดใจที่สุดในบทอา่ น
- What is the most surprising or interesting in the Reading?
กจิ กรรมเสรมิ ทกั ษะ/ประสบการณ์ทางภาษา
- ใหน้ กั เรยี นทำกิจกรรม Quotations โดยใหน้ ักเรยี นทำงานศกึ ษา ค้นควา้ รวบรวมเก่ียวกับคำคม โดยให้
แตล่ ะกลมุ่ เลือกคำคมในขอบขา่ ยทตี่ นสนใจ เช่น ambitions, success, money, honesty, friendship และ
เลือกคำคมที่ตนคิดว่าดที ี่สุดเขียนลงในโปสเตอร์และนำเสนอหนา้ ชัน้ เรยี น
- ให้นกั เรียนทำงานกล่มุ ศึกษาค้นคว้าเกย่ี วกับบคุ คลเจา้ ของคำคมในกิจกรรม Reading ในหนงั สือเรียน
หนา้ 78 ว่าอาศยั อยู่ที่ใด เมือ่ ไร ทำไมจงึ มีช่ือเสียงและนำเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
7. สือ่ การเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี น New World 6 หนา้ 78-79
2. ซีดบี ันทกึ เสียง
3. เคร่ืองเล่นซดี ี
4. Worksheet 3
5. สอ่ื อิเลก็ ทรอนกิ ส์
- www.jigabelle.com/2011/07/famouse-quote.html
- www.jexep.net/business/steve-jobs-quote-in-thai/
- www.gotoknow.org/posts/496744
8. แหล่งเรยี นรู้ -
9. การวัดและการประเมินผล
มาตรฐานการเรียนรู้ สิง่ ทตี่ อ้ งร้แู ละปฏิบัตไิ ด้ ผลงาน/ชิ้นงาน การวดั ผลและ
และตวั ชี้วดั ประเมนิ ผล
ต 1.1 ม.4-6/4 จ ั บ ใ จ ค ว า ม ส ำ คั ญ คำตอบที่นักเรียนแต่ละ ประเมินผลจากจำนวน
วิเคราะห์ความ สรุปความ กลุ่มตอบใน Worksheet คำตอบที่ถูกต้องโดยใช้
ตคี วามบทความที่อ่าน 3 เกณฑ์ผา่ นรอ้ ยละ 60
ต 1.1 ม.4-6/4 จ ั บ ใ จ ค ว า ม ส ำ คั ญ คำตอบที่นักเรียนได้ทำใน ประเมนิ ความเขา้ ใจบท
วิเคราะห์ความ สรปุ ความ ก ิ จ ก ร ร ม About the อา่ นจากจำนวนคำตอบ
ตีความบทความท่อี า่ น Reading ที่ถูกต้องโดยใช้เกณฑ์
ผา่ นรอ้ ยละ 60
10. การบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (3 หว่ ง 2 เงอ่ื นไข 4 มิต)ิ
- การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 หว่ ง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2 เงอ่ื นไข
พอประมาณ เงื่อนไขความรู้
มเี หตผุ ล เง่ือนไขคุณธรรม
มีภูมคิ ุม้ กันในตวั ท่ีดี
มิติสง่ิ แวดลอ้ ม มติ ิวัฒนธรรม
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4 มิติ
มิตเิ ศรษฐกจิ มติ ิสังคม
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 26
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 6
รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหสั วิชา อ 33102
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 10 If Only I’d Known จำนวน 5 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 26 Wishful Thinking จำนวน 1 ชั่วโมง
1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพเหตุผล
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/5 พูดและเขียนบรรยายความรูส้ ึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกีย่ วกับเรื่อง
ต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และ ข่าว/เหตุการณอ์ ยา่ งมีเหตุผล
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษากับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 อธบิ าย/เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน
ค าพังเพย สุภาษิตและบทกลอนของ ภาษา ต่างประเทศและภาษาไทย
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็น
พ้ืนฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 ค้นคว้า/สืบค้น บันทึก สรุป และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับข้อมูลทีเ่ กี่ยวข้อง
กับกล่มุ สาระการ เรียนร้อู ื่น จากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ งๆ และ นำเสนอด้วยการพดู และการเขยี น
2. สาระสำคัญ
หน่วยการเรียนรนู้ ี้มจี ุดมงุ่ หมายให้นกั เรียนเรียนรู้เกี่ยวกับคำกล่าวแสดงความเสียดายโอกาสหรือความ
เสียใจในสิ่งที่ทำไปแล้วหรือไม่ได้ทำในอดีตในบทเรียนและจากการศึกษาค้นคว้าและนำเสนอใน
ห้องเรยี น นกั เรยี นจะได้พูดแสดงบทบาทสมมติ การสนทนาเก่ียวกับความเสียดายหรือเสียใจ ฟงั บุคคลกล่าวให้
โอวาทในงานฉลองการจบการศึกษา เขียนบรรยายเกี่ยวกับความเสียดายหรือความเสียใจครั้งใหญข่ องตน และ
รายงานการศกึ ษาค้นคว้าเกี่ยวกับคำคมภาษาอังกฤษต่าง ๆ ท่เี กี่ยวกับความเสียดายหรือความเสียใจ นอกจากน้ี
ยังได้เรียนรู้คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งหน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ที่เป็น
พ้นื ฐานของกิจกรรมฟัง พดู อา่ น เขยี นในหนว่ ยการเรียนรนู้ ี้
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ดา้ นความรู้
3.1.1 นักเรียนเข้าใจว่าการฝึกใช้คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับความเสียดายหรอื เสียใจ จะทำให้นักเรยี น
สนทนา อ่าน และเขยี นไดด้ ยี งิ่ ขึน้
3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ
3.2.1 พูดแสดงความคิดเห็นของตนเก่ยี วกับเรอื่ งตา่ ง ๆ อย่างมเี หตุผล
3.2.2 เขียนบรรยายความรู้สึกแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั ประสบการณอ์ ยา่ งมเี หตผุ ล
3.2.3 ค้นคว้า/สืบค้น บันทกึ สรุป และแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั ข้อมูลทเ่ี กย่ี วข้องกับกลมุ่ สาระการ
เรยี นรอู้ ื่นจากแหลง่ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ และนำเสนอด้วยการพดู และเขยี น
3.3 ดา้ นเจตคติ/คุณลกั ษณะอันพึงประสงค/์ คุณธรรมจรยิ ธรรมท่ีสอดแทรก
3.3.1 ใฝเ่ รยี นรู้ : คน้ ควา้ หาความรูจ้ ากแหลง่ เรียนรู้ต่าง ๆ
3.3.2 หม่นั พฒั นาตนเอง : ทบทวนในสงิ่ ทีเ่ คยเรยี น
4. สมรรถนะของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
4.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5. สาระการเรยี นรู้
- คำศัพท์
-
- สำนวนภาษา
-
- หน้าทีภ่ าษา
- To talk about regrets and missed opportunities
- To discuss quotes
- โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์
- Wish + Past Perfect
- Third Conditional
6. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
กจิ กรรม Speaking
1. แจง้ จุดประสงค์การเรียนรู้
- ครูบอกนักเรียนวา่ ในหนว่ ยการเรยี นรนู้ ้นี กั เรยี นจะได้พูดแลกเปลย่ี นประสบการณเ์ ก่ยี วกบั ความเสียใจ
หรือความเสยี ดายโอกาส
2. พูดแสดงความคิดเหน็ และรายงาน
- ครใู หน้ กั เรยี นทำกจิ กรรม Speaking ในหนงั สือเรียน หน้า 79
- สุ่มนกั เรียน 1 คนอ่านออกเสยี งประโยคคำสัง่ ในกิจกรรม Speaking ในหนังสือเรียน หน้า 79
- ให้นกั เรยี นจับค่ถู าม-ตอบแลกเปลย่ี นประสบการณโ์ ดยตอบคำถามในกจิ กรรม Speaking
- ใหน้ ักเรียนแบ่งกลมุ่ กล่มุ ละ 4 คน ถาม-ตอบแลกเปลย่ี นประสบการณก์ นั ภายในกล่มุ
- แตล่ ะกลมุ่ รวบรวมความคิดเหน็ ของสมาชกิ ทน่ี ่าสนใจ รายงานในชนั้ เรยี น
- นำหวั ข้อท่มี ีคำตอบคล้าย ๆ กนั และแตกตา่ งกนั มาอภปิ รายในชั้นเรียน
3. ประเมนิ การพูดอภิปรายและการพูดนำเสนอข้อมลู
- ครูประเมินการพูดอภปิ รายโดยใช้เกณฑก์ ารประเมนิ การอภปิ รายกลุ่ม และใช้เกณฑผ์ ่านระดบั พอใช้
- ครปู ระเมินการพูดนำเสนอข้อมลู โดยใช้เกณฑก์ ารประเมินการพูด และใชเ้ กณฑ์ผ่านระดบั พอใช้
กจิ กรรม Writing
1. นำเข้าสบู่ ทเรียน
- ครใู หน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงคำสั่งในกจิ กรรม Writing ในหนังสือเรยี น หน้า 79
2. แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
- ครบู อกนกั เรยี นวา่ ในหน่วยการเรยี นรู้น้ีนักเรียนจะไดฝ้ ึกเขียนข้อความบรรยายประสบการณเ์ ก่ยี วกับ
ความเสยี ใจหรอื เสยี ดายโอกาสครงั้ ยิ่งใหญ่ท่ีสุดในชวี ติ
กจิ กรรมก่อนเขยี น
1. ครทู บทวนถึงความเสยี ใจหรอื ความเสยี ดายโอกาสทีม่ คี ำตอบคลา้ ย ๆ กันและแตกต่างกันที่นกั เรยี นได้
อภิปรายไวใ้ นกจิ กรรม Speaking
2. ครูสุม่ ถามใหน้ กั เรียนพดู สน้ั ๆ เก่ียวกับความเสยี ใจหรือเสยี ดายโอกาสครั้งยงิ่ ใหญท่ สี่ ุดในชีวิตดังนี้
- What was the biggest regret you have in life?
- What happened to you? When? How?
- How do you feel?
- What do you wish now? What would you have done if you had…………….?
- What do you learn from this?
กจิ กรรมการเขยี น
1. ครใู หน้ ักเรียนแตล่ ะคนเขยี นข้อความบรรยายประสบการณเ์ กี่ยวกบั ความเสยี ใจหรือเสยี ดายโอกาสครั้ง
ยิง่ ใหญท่ ่ีสดุ ในชวี ติ โดยใช้แนวคำถามของครขู า้ งตน้ เป็นแนวทาง
2. นักเรยี นจบั คกู่ ับเพื่อนแลกกนั อา่ นงานเขียนของกนั และกัน และให้ขอ้ เสนอแนะในการปรับปรงุ ตามที่
เหน็ สมควร
3. นักเรียนปรับปรงุ งานเขยี น
กจิ กรรมหลงั เขยี น
1. ประเมินการเขียนบรรยาย
- ครปู ระเมินการเขยี นบรรยายโดยใช้เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี น และใชเ้ กณฑผ์ า่ นระดบั พอใช้
2. นำเสนองานเขียน
- ครสู ุ่มนักเรยี น 2-3 คน อ่านงานเขียนของตนเองให้เพื่อนฟังในชน้ั เรยี น
- ครใู ห้นักเรียนตดิ งานเขียนของตนท่ีบอรด์ ในห้องเรียนเพ่ือให้เพือ่ นอา่ น
กจิ กรรม World Link
1. คน้ ควา้ ข้อมูลเกี่ยวกบั คำคมของประเทศกล่มุ อาเซยี น
- ใหน้ กั เรยี นอา่ นคำส่งั ในกิจกรรม World Link ในหนงั สอื เรียน หนา้ 79
- ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับคำคมของประเทศในกลุ่มอาเซียน พร้อมท้ัง
เปรียบเทียบกับคำคมในภาษาไทยที่มีความหมายใกล้เคียงกัน (ถ้าเป็นไปได้ให้กล่าวถึงเจ้าของคำคม
โดยยอ่ พรอ้ มรปู ภาพ) โดยอาจจะจบั ฉลากหรือเลอื กตามความสนใจ
2. นำเสนอขอ้ มูล
- ให้นกั เรียนแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ที่ได้จากการค้นควา้ โดยรายงานหนา้ ชน้ั เรยี น
- ให้นักเรียนสรุปเปรียบเทียบคำคมที่มีความหมายคล้ายกันและช่วยกันเลือกคำคมที่เป็นข้อเตือนใจท่ี
นักเรยี นชอบมากท่ีสดุ มา 2-3 ขอ้ ความ
3. ประเมนิ การค้นควา้
- ครูประเมินการค้นคว้าของนักเรียนแต่ละกลุ่มโดยใช้เกณฑ์การประเมินการเขียน และใช้เกณฑ์ผ่าน
ระดับพอใช้
- ประเมินการเขยี นอธิบาย/เปรยี บเทยี บจากความถกู ต้องของภาษาทีใ่ ช้กับประเดน็ และความเปน็ เหตุเป็นผล
ของเปรียบเทยี บโดยใชแ้ บบประเมนิ การเขยี นเปรียบเทียบ และใช้เกณฑ์ผ่านระดบั พอใช้
นกั เรยี นประเมนิ ตนเอง
- นกั เรียนทำแบบประเมนิ Self-Evaluation เพ่ือประเมนิ ตนเองเก่ียวกับเน้อื หาท่ีได้เรียนไปแลว้ (แบบ
ประเมนิ Unit 10 Self-Evaluation ท้ายคมู่ อื คร/ู ทา้ ยหนงั สือแบบฝึกหดั )
กจิ กรรมเสรมิ ทักษะ/ประสบการณท์ างภาษา
- ใหน้ กั เรยี นทำงานกล่มุ โดยแตง่ บทละครสั้นและแสดงบทบาทสมมติ และโดยเฉพาะเหตกุ ารณ์ท่ีตอบ
คำถามขอ้ 2 และ 3 ในกจิ กรรม Speaking
- ครูใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหัด ข้อ G-I ในหนงั สอื แบบฝกึ หดั New World 6 หน้า 52
7. ส่ือการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรียน New World 6 หนา้ 79
2. หนังสอื แบบฝกึ หดั New World 6 หนา้ 52
8. แหลง่ เรียนรู้ -
9. การวัดและการประเมนิ ผล
มาตรฐานการเรยี นรู้ ส่ิงทีต่ อ้ งรูแ้ ละปฏิบัตไิ ด้ ผลงาน/ช้นิ งาน การวดั ผลและประเมินผล
และตัวชี้วดั พูดแสดงความคิดเห็นของ - ถ้อยคำพูดอภิปราย - ประเมินการพูดอภิปรายโดย
ต 1.2 ม.4-6/5
ตนเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับความเสียดาย ใช้เกณฑ์การประเมินการ
ต 1.2 ม.4-6/5
ต 3.1 ม.4-6/1 อย่างมีเหตผุ ล หรือความเสยี ใจ อภิปรายกลุ่ม และใช้เกณฑ์
ต 2.2 ม.4-6/1 - ถ้อยคำพูดนำเสนอ ผา่ นระดับพอใช้
ข้อมูลเกี่ยวกับความ - ประเมินการพดู นำเสนอข้อมูล
เสียดายหรือความ โดยใช้เกณฑ์การประเมินการ
เสยี ใจ พูด และใช้เกณฑ์ผ่านระดับ
พอใช้
เขียนบรรยายความรู้สึก ขอ้ เขียนบรรยายเกี่ยวกับ ประเมินข้อเขยี นบรรยายโดยใช้
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ค ว า ม เ ส ี ย ด า ย ห รื อ เกณฑ์การประเมินการเขียน
ประสบการณอ์ ย่างมเี หตุผล ความเสียใจคร้ังใหญข่ อง และใช้เกณฑผ์ ่านระดบั พอใช้
ตนเอง
ค้นคว้า/สืบค้น บนั ทึก สรุป การค้นคว้าและรายงาน ประเมนิ การค้นคว้าและรายงาน
และแสดงความคิดเห็น ข้อมูลเกี่ยวกับคำคมของ ข้อมูลโดยใช้เกณฑ์การประเมิน
เกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้อง กลุม่ ประเทศอาเซยี น การเขียน และใช้เกณฑ์ผ่าน
กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่ ระดับพอใช้
จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ
และนำเสนอด้วยการพูด
และเขยี น
อธิบาย/เปรียบเทียบความ ข ้ อ เ ข ี ย น อ ธ ิ บ า ย / ประเมินการเขียนอธิบาย/
แตกต่างระหว่างข้อความ เ ป ร ี ย บ เ ท ี ย บ เปรียบเทียบจากความถูกต้อง
สำนวน คำพังเพยขอ ง ความแตกต่างระหว่างคำ ของภาษาที่ใช้โดยใช้แบบ
ภาษาต่างประเทศและ คมขอภาษาต่างประเทศ ประเมินการเขียนเปรียบเทียบ
ภาษาไทย กบั คำคมของภาษาไทย และใชเ้ กณฑ์ผา่ นระดบั พอใช้
10. การบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (3 ห่วง 2 เง่ือนไข 4 มติ )ิ
- การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 หว่ ง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2 เงอ่ื นไข
พอประมาณ เงื่อนไขความรู้
มเี หตผุ ล เง่ือนไขคุณธรรม
มีภูมคิ ุม้ กันในตวั ท่ีดี
มิติสง่ิ แวดลอ้ ม มติ ิวัฒนธรรม
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4 มิติ
มิตเิ ศรษฐกจิ มติ ิสังคม
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 27
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6
รายวชิ า ภาษาอังกฤษ รหัสวชิ า อ 33102
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 11 Natural Phenomena จำนวน 5 ช่วั โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 27 Weather จำนวน 1 ชว่ั โมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมีเหตผุ ล
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/2 อ่านออกเสียง ข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสน้ั
(skit) ถกู ต้อง ตามหลกั การอ่าน
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/4 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็น
จากการฟงั และ อ่านเร่อื งทเี่ ปน็ สารคดี และบนั เทิงคดี พร้อมทง้ั ให้เหตุผลและยกตวั อย่าง ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 ทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพเหตุผล
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว
ประสบการณ์ สถานการณ์ ขา่ ว/ เหตุการณ์ ประเด็น ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่อง
และเหมาะสม
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 ใช้ภาษาสื่อสาร ในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลอง ที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรยี น
สถานศึกษา ชุมชน และสังคม
2. สาระสำคญั
หน่วยการเรียนรู้นี้มีจดุ มุ่งหมายให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติในบทเรียนและจาก
การศึกษาค้นคว้าและนำเสนอในห้องเรียน นักเรียนจะได้พูดแสดงบทบาทสมมติ การสนทนาเกี่ยวกับ
ปรากฏการณธ์ รรมชาติ ฟังบคุ คลกลา่ วให้คำแนะนำการป้องกนั ตัวเองจากฟ้าผ่า เขียนบรรยายเก่ียวกับธรรมชาติ
ที่นักเรียนประทับใจ และรายงานการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้
คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งหน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ที่เป็นพื้นฐานของ
กจิ กรรมฟงั พดู อา่ น เขยี นในหน่วยการเรียนรู้นี้
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้
3.1.1 นักเรียนเข้าใจว่าการฝึกใช้คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ จะทำให้นักเรียน
สนทนา อ่าน และเขียนไดด้ ียิ่งขึ้น
3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ
3.2.1 สนทนาโต้ตอบขอ้ มูลเก่ียวกับตนเองและเรื่องตา่ ง ๆ ใกล้ตวั ในสถานการณจ์ ำลองที่เกิดขึน้ ใน
หอ้ งเรียน
3.2.2 อา่ นออกเสียงคำ ข้อความถูกตอ้ งตามหลักการอา่ น
3.3 ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คณุ ธรรมจริยธรรมทีส่ อดแทรก
3.3.1 ใฝเ่ รยี นรู้ : คน้ ควา้ หาความรจู้ ากแหลง่ เรียนรูต้ ่าง ๆ
3.3.2 รทู้ นั โลก : เรยี นรกู้ ารปรบั ตวั และรบั ข่าวสารใหม่ ๆ อยู่เสมอ
4. สมรรถนะของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
4.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5. สาระการเรยี นรู้
- คำศัพท์
กิจกรรม New Language
- natural phenomena (n.): violent or unusual things in nature (ปรากฏการณท์ าง
ธรรมชาตทิ ่มี หศั จรรย์)
- lightning (n.): flash of bright light produced by natural electricity in the sky
with thunder (ฟ้าแลบ)
- rainbow (n.): a curved band of different colors that appears in the sky when
the sun shines through rain (รุ้งกนิ นำ้ )
- tornado (n.): a very strong wind that goes quickly round in a circle or
tunnel
(พายทุ อรน์ าโด)
- wreck (v.): to totally break or destroy something (ทำลาย)
- violently (adv.): strongly and dangerously (อยา่ งนา่ กลวั และอนั ตราย)
- geyser (n.): a natural spring sending up at intervals a column of hot
water or steam (น้ำพรุ อ้ น)
- shoot (v.): to go very fast (พ่งุ ออก)
- สำนวนภาษา
-
- หนา้ ทภี่ าษา
- To talk about natural phenomena
- โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์
- Adverbs
- Phrases with Past Participles
- Relative Clause
6. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
กจิ กรรม New Language
1. นำเขา้ ส่บู ทเรยี น
- ครูชกั ชวนนกั เรยี นพูดคุยเกีย่ วกบั ความรุนแรงของธรรมชาตทิ ี่นักเรียนเคยประสบพบเหน็ โดยใช้แนว
คำถามดังน้ี
- Have you ever seen a frightening natural event? What was it?
- Have you ever seen a natural event? What was it?
(volcanoes / flood / tsunami / lightning)
- When did you see it? Where?
2. แจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- ครูบอกนักเรยี นว่าในหนว่ ยการเรยี นรนู้ ้ีนักเรยี นจะไดเ้ รียนร้คู วามหมายของคำศพั ท์และอา่ นข้อความ
สั้น ๆ เกย่ี วกบั ปรากฏการณท์ างธรรมชาติท่นี ่ามหศั จรรย์ และฝกึ พดู บทสนทนาสน้ั ๆ เกย่ี วกับปรากฏการณ์
ทางธรรมชาติ
3. ทำความเขา้ ใจคำศัพทจ์ ากภาพและอ่านข้อความ
- ครูใหน้ ักเรยี นเปิดหนังสือเรียน หนา้ 80 กิจกรรม New Language ให้นักเรยี นอ่านออกเสียงช่ือหน่วย
การเรยี นรู้Natural Phenomena
- ให้นกั เรียนดูภาพในหนังสือเรยี น หนา้ 80 และถามนกั เรยี นวา่ เห็นอะไรบ้าง ใหน้ กั เรียนอ่านข้อความและ
ชว่ ยกนั บอกความหมายของคำศพั ท์ต่อไปนี้
1) phenomena
2) lighting
3) rainbow
4) tornado
5) wreck
6) violently
7) geyser
- ครใู ห้นักเรยี นอา่ นข้อความอกี ครั้งใชเ้ วลา 3-4 นาที แลว้ ปดิ หนงั สือเรยี นชว่ ยกนั หาคำกรยิ ามาเติมคำใน
ชอ่ งวา่ งประโยคทค่ี รูเขียนบนกระดานดงั น้ี
1. The Strokkur geyser, _lo_c_a_te_d________ in Icelasnhodo, t_s__________ water every ten minutes.
2. The tornado thwarteck_e_d__________ tmhoevehdouse __________ violently across the
countryside.
3. The lightning bolt that _h_it__________ thperotdouwcned___________ high electricity.
4. The rainbow whfiocrhmed_____________ in the sky dwireacstly after the rain
____________beautiful.
4. ประเมนิ ความเข้าใจคำศพั ทแ์ ละข้อความทีอ่ า่ น
- ครูสุม่ ถามนกั เรียนและให้นักเรียนช่วยกนั เฉลยคำตอบ
- ครปู ระเมนิ ความเข้าใจคำศัพทจ์ ากภาพจากจำนวนคำตอบท่ีถกู ต้อง โดยใช้เกณฑผ์ ่านร้อยละ 60
5. อา่ นออกเสยี ง
- ครเู ปิดซดี ีบันทึกเสยี ง CD 2 Track 27 กจิ กรรม New Language ให้นกั เรียนฟัง
- ครูเปิดซดี ีบนั ทกึ เสียงอกี ครง้ั เพื่อให้นักเรียนออกเสียงตาม
6. แสดงความคิดเห็นและพดู อภิปราย
- ใหน้ ักเรยี นอ่านออกเสยี งคำส่ังในกจิ กรรม New Language
- ครูใหน้ กั เรียนจบั คถู่ าม-ตอบและอภิปราย ครูสมุ่ ถามนักเรยี นบางคู่
7. ใหค้ วามรูด้ า้ นภาษา
- ครใู หน้ กั เรียนสังเกตข้อความท่ีตามหลงั คำนามทีเ่ ปน็ ปรากฏการณธ์ รรมชาตคิ ือ lightning, rainbow,
tornado, และ geyser ซงึ่ 3 คำแรกจะตามด้วย Relative Clauses (ดังทเ่ี รียนไปแลว้ ในหนังสือเรยี น New
World 4) สว่ นคำสุดท้ายจะตามดว้ ย Participle Phrase ซ่งึ นกั เรยี นจะไดเ้ รยี นเร่อื งนี้อกี ครง้ั ในชัว่ โมงตอ่ ไป
กิจกรรม Practice
1. อ่านบทสนทนา
- ครเู ปิดซดี บี นั ทึกเสยี ง CD 2 Track 28 ให้นกั เรียนฟังบทสนทนาในกจิ กรรม Practice ในหนงั สือเรยี น
หน้า 80
2. พูดบทสนทนา
- ครูเปดิ ซีดบี นั ทึกเสยี งอีกครัง้ ใหน้ ักเรียนพูดตามบทสนทนา
- ใหน้ กั เรยี นจับคู่พูดบทสนทนาโดยสลับกันเป็น A และ B ครูเดินสังเกตเพ่ือใหแ้ นใ่ จว่านกั เรียนสามารถ
พูดไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
- ครูใหน้ ักเรียนจับคกู่ นั เขียนบทสนทนาถาม-ตอบโดยใชข้ อ้ มูลในกิจกรรม New Language ซึง่ อาจใช้แนว
คำถามดงั น้ี
- When did the rainbow form?
- Which tornado moved violently?
- What produced 100 million to 1 billion volts of electricity?
- นักเรยี นจบั คพู่ ดู บทสนทนาทเ่ี ขยี นขน้ึ ครูสมุ่ นกั เรียนบางคู่พูดบทสนทนา
- ครปู ระเมนิ การพดู สนทนาโดยใช้แบบประเมินการสนทนากจิ กรรมคู่ และใชเ้ กณฑ์ผ่านระดับพอใช้
กจิ กรรม Pronunciation
1. การออกเสยี ง –ly ending
- ครูให้นักเรยี นทำกิจกรรม Pronunciation ในหนังสือเรยี น หน้า 80 ครูเปิดซีดบี นั ทกึ เสียง CD 2 Track
29 ครใู หน้ กั เรยี นชีค้ ำที่ไดย้ นิ และออกเสียงตาม
- ให้นกั เรยี นฟงั ซีดบี ันทึกเสียงอกี ครัง้ และพดู ออกเสียงตาม ครูเดนิ สังเกตเพอ่ื ให้แนใ่ จว่านักเรยี นสามารถ
ออกเสียงไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
- ครแู ละนักเรยี นช่วยกนั สรุปวา่ เราออกเสยี งคำที่ลงทา้ ยด้วย –ly โดยไมล่ งเสียงหนักออกเป็นเสยี ง /lɪ/
ซ่ึงคำท่ลี งทา้ ยด้วย –ly มาจากคำคุณศัพท์เติม –ly และนกั เรยี นจะได้เรยี นตอ่ ไปในหนว่ ยการเรียนร้นู ี้
- ครูให้นักเรยี นผลดั กนั อ่านประโยคท่ีมี rainbow และ tornado ในกจิ กรรม New Language
- ครูให้นกั เรยี นจบั คอู่ า่ นออกเสียงประโยค ครูเดนิ สังเกตเพื่อใหแ้ น่ใจวา่ นักเรยี นสามารถออกเสยี งได้อย่าง
ถกู ต้อง
- ครูประเมนิ การอา่ นออกเสียงโดยใชแ้ บบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง และใช้เกณฑผ์ ่านระดบั พอใช้
กจิ กรรมเสรมิ ทกั ษะ/ประสบการณท์ างภาษา
-
7. ส่ือการเรยี นรู้
1. หนังสือเรยี น New World 6 หน้า 80
2. ซีดบี นั ทกึ เสียง
3. เครอื่ งเล่นซดี ี
8. แหลง่ เรียนรู้ -
9. การวัดและการประเมนิ ผล
มาตรฐานการเรยี นรู้ สง่ิ ทตี่ ้องรูแ้ ละปฏบิ ัติได้ ผลงาน/ชิน้ งาน การวดั ผลและ
และตวั ชี้วดั ประเมนิ ผล
ต 1.1 ม.4-6/4 จับใจความสำคัญ สรุปความ คำอธิบายความหมาย ประเมินความเข้าใจจาก
ตคี วามจากข้อความทอ่ี ่าน ค ำ ศ ั พ ท ์ ใ น ข ้ อ ค ว า ม ภาพจากจำนวนคำตอบ
กจิ กรรม New Language ที่ถูกต้องโดยใช้เกณฑ์
ผา่ นรอ้ ยละ 60
ต 1.2 ม.4-6/1, สนทนาโตต้ อบข้อมลู เก่ียวกับ ถ้อยคำพูดสนทนาเกี่ยวกับ ประเมินการพูดสนทนา
ต 4.1 ม.4-6/1
ตนเองและเรื่องต่าง ๆ ใกล้ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ โ ดยใช้แบบปร ะ เ มิ น
ตัวในสถานการณ์จำลอง การสนทนากิจกรรมคู่
ทเี่ กิดขึน้ ในห้องเรยี น และใช้เกณฑ์ผ่านระดับ
พอใช้
ต 1.1 ม.4-6/2 อ่านออกเสียงคำ ข้อความ การไม่ลงเสียงหนักที่ –ly ประเมินการอ่านออก
ถูกต้องตามหลกั การอ่าน ในคำที่กำหนดในกิจกรรม เสียงโดยใช้แบบประเมิน
Pronunciation การอ่านออกเสียง และ
ใช้เกณฑ์ผา่ นระดบั พอใช้
10. การบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (3 หว่ ง 2 เงื่อนไข 4 มติ )ิ
- การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 ห่วง ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2 เงื่อนไข
พอประมาณ เงอ่ื นไขความรู้
มีเหตุผล เง่ือนไขคณุ ธรรม
มีภูมิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4 มติ ิ มิติส่งิ แวดล้อม มิติวัฒนธรรม
มติ ิเศรษฐกิจ มิตสิ งั คม
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 28 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ
รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวชิ า อ 33102
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 11 Natural Phenomena จำนวน 5 ช่วั โมง
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 28 Weather จำนวน 1 ชว่ั โมง
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ัด
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/2 อ่านออกเสียง ข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครส้นั
(skit) ถกู ต้อง ตามหลักการอ่าน
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/4 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็น
จากการฟงั และ อา่ นเรอื่ งทเ่ี ปน็ สารคดี และบันเทิงคดี พรอ้ มท้ังให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง ประกอบ
2. สาระสำคัญ
หน่วยการเรียนรู้นี้มีจุดมุ่งหมายให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติในบทเรียนและจาก
การศึกษาค้นคว้าและนำเสนอในห้องเรียน นักเรียนจะได้พูดแสดงบทบาทสมมติ การสนทนาเกี่ยวกับ
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ฟังบุคคลกลา่ วให้คำแนะนำการป้องกันตัวเองจากฟ้าผ่า เขียนบรรยายเก่ียวกับธรรมชาติ
ที่นักเรียนประทับใจ และรายงานการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้
คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งหน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ที่เป็นพื้นฐานของ
กิจกรรมฟงั พูด อ่าน เขียนในหนว่ ยการเรียนรู้นี้
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้
3.1.1 นักเรียนเข้าใจว่าการฝึกใช้คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ จะทำให้นักเรียน
สนทนา อ่าน และเขียนไดด้ ียง่ิ ข้ึน
3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ
3.2.1 ออกเสียงบทสนทนาถูกต้องตามหลักการอา่ น
3.3 ดา้ นเจตคติ/คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์/คุณธรรมจรยิ ธรรมทส่ี อดแทรก
3.3.1 ใฝเ่ รยี นรู้ : คน้ ควา้ หาความร้จู ากแหล่งเรยี นรูต้ า่ ง ๆ
3.3.2 รทู้ ันโลก : เรียนรู้การปรับตัว และรับข่าวสารใหม่ ๆ อย่เู สมอ
4. สมรรถนะของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
4.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
4.4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. สาระการเรยี นรู้
- คำศพั ท์
กจิ กรรม Conversation
- porch (n.): a small area at the entrance to a building (ทางเขา้ บ้าน)
- awesome (adj.): causing fear (น่าสะพรงึ กลัว)
- funnel (n.): a tube where smoke comes out of (ปลอ่ งควนั )
- cellar (n.): an underground room often used for storing things (หอ้ งใต้ดนิ )
- pitch black (adj.): completely black or dark (มดื มิด)
- rumbling (n.): a deep heavy continuous sound (เสียงดังครนื ดังต่อเน่ือง)
กจิ กรรม Listening
- lightning rod* (n.): a metal rod fixed on top of high buildings and connected with
the earth to prevent damage by lightning (สายล่อฟา้ )
- circuit* (n.): a continuous path of an electric current (วงจรไฟฟา้ )
Note: * = see in audioscript
- สำนวนภาษา
กิจกรรม Conversation
- Good heavens! หมายถึง ตายจรงิ !, คณุ พระชว่ ย! ใช้พดู เพื่อแสดงความประหลาดใจ คำว่า
Heavens ในที่นห้ี มายถึง พระเจ้า ไม่ใช่ สวรรค์
- That’s unbelievable! หมายถงึ ไมน่ า่ เชือ่ !, เหลอื เช่อื ! ใชพ้ ูดเพอื่ แสดงความประหลาดใจต่อสิ่งที่
เกิดขน้ึ
- Thank goodness หมายถึง ขอบคณุ พระเจา้ เป็นคำท่ีแสดงออกถงึ ความโลง่ ใจ เม่อื สง่ิ ทเ่ี กิดขนึ้ ไม่ได้
เลวร้ายมากนัก ‘Goodness’ เปน็ คำท่ีใช้แทนคำว่า ‘God’ เพอื่ ลดความขงึ ขังลง
- หน้าที่ภาษา
- To talk about frightening experience
- โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์
- Phrases with -ing
6. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
กิจกรรม Conversation
1. นำเข้าสู่บทเรยี น
- ครชู ักชวนนักเรยี นพูดคุยเก่ยี วกบั ประสบการณ์จริงของนกั เรียนที่ได้รับความเสียหายอันเนือ่ งมาจากภัย
ธรรมชาติ เชน่ ลมพายุ น้ำทว่ ม สึนามิ โดยอาจใช้แนวคำถามดงั น้ี
- Have you ever got any troubles because of natural disasters?
- How did you feel?
- What was your trouble?
2. แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
- ครูบอกนกั เรียนว่าในหน่วยการเรียนรู้นี้นักเรยี นจะได้ฝึกการออกเสยี งบทสนทนา ฟงั บุคคลสนทนาเก่ียวกบั
ประสบการณท์ ไ่ี ดร้ บั จากพายุทอรน์ าโด และนกั เรยี นจะได้ฝกึ อา่ นออกเสียงบทสนทนาใหถ้ กู ต้องตามหลกั การ
อา่ นและสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับบทสนทนาได้
FACT FILE
ความจริงเก่ียวกบั พายทุ อรน์ าโด คือ
1) เป็นพายหมุนที่มีความเร็วสูงทั้งภาคพื้นดินและบนเมฆ ส่วนใหญ่พายุหมุนประเภทนี้จะอ่อนกำลังลงหลังจาก
พายุเคลอื่ นทไ่ี ปได้ 2-3 ไมล์
2) ในแถบซีกโลกใต้ โดยปกติพายุทอร์นาโดจะหมุนตามเข็มนาฬิกา และในแถบซีกโลกเหนือ พายุทอร์นาโด
จะหมุนทวนเขม็ นาฬิกา
3) ประเทศสหรัฐอเมรกิ าเกิดพายุทอร์นาโดมากที่สุด โดยเฉลี่ยปีละ 1,200 ครั้ง และจะเกิดในบริเวณที่เรียกว่า
“Tornado Alley” ทอี่ ยู่ตอนกลางของประเทศ
3. ฟงั และอา่ นบทสนทนา
- ครูใหน้ กั เรียนดรู ูปภาพกจิ กรรม Conversation ในหนังสือเรยี น หน้า 81 และช่วยกนั ทายว่าเปน็ ภาพ
เกยี่ วกับอะไร ครูอธบิ ายเพ่มิ เติมวา่ เป็นภาพทางเขา้ ที่หลบพายุซึง่ ขดุ ไวใ้ ตด้ นิ สำหรับเขา้ ไปอย่ใู นช่วงทีเ่ กิดพายุ
ทอรน์ าโด
- ครูเปดิ ซีดบี ันทกึ เสียง CD 2 Track 30 กิจกรรม Conversation (ให้นกั เรยี นปดิ หนังสือเรียน) ใหน้ กั เรียน
ช่วยกันบอกว่าบทสนทนาเป็นเร่ืองเกีย่ วกับอะไร โดยใหช้ ว่ ยกนั ตอบคำถามดงั นี้
- What is the conversation about?
- How many people are talking? Who are they?
- What happened to them?
- ครเู ปดิ ซีดีบันทึกเสียง CD 2 Track 30 อีกครงั้ ให้นกั เรียนทำกิจกรรม About the Conversation ใน
หนังสือเรียน หนา้ 82
- ครแู ละนกั เรียนช่วยกันเฉลยคำตอบ (ดูเฉลยท้ายเล่ม) ครอู ธิบายเพม่ิ เติมในกรณีท่นี ักเรียนยังตอบไม่
ถกู ตอ้ ง
4. อ่านออกเสียง
- ครเู ปิดซีดีบนั ทกึ เสียง CD 2 Track 30 ใหน้ ักเรยี นฟัง หยดุ ซดี ีบนั ทึกเสยี งเมือ่ จบคำพดู ของบคุ คลเพือ่ ให้
นักเรยี นออกเสียงตาม
- ครใู ห้นักเรียนจบั คฝู่ ึกอา่ นบทสนทนาในหนังสอื เรยี น หน้า 81 ครูอาจสมุ่ นกั เรียนบางคอู่ ่านในหอ้ งเรยี น
พรอ้ มกับทำทา่ ทางประกอบ
- ครปู ระเมนิ การอ่านออกเสยี งโดยใชแ้ บบประเมนิ การอา่ นออกเสียง และใชเ้ กณฑ์ผา่ นระดบั พอใช้
5. พัฒนา Conversation Strategy
- ครใู ห้นักเรยี นดกู ิจกรรม Conversation Strategy ในหนงั สอื เรียน หนา้ 81 พร้อมท้ังใหน้ ักเรียนอ่านคำ
ในแถบสีฟา้ ให้นักเรียนชว่ ยกันดปู ระโยคก่อนหนา้ และขอ้ ความต่อจากคำพูดเหล่านถี้ ามนกั เรียนวา่ คำพดู
เหล่านใี้ ชเ้ พอ่ื อะไร ใชเ้ มอื่ ไร แล้วครูสรปุ ใหน้ กั เรียนฟังวา่ สำนวนทง้ั สามใช้อย่างไร กลา่ วคอื Good heavens!
และ That’s unbelievable! ใช้พดู เพ่อื แสดงความประหลาดใจ และ Thank goodness… ใช้แสดงความโลง่
ใจ
กิจกรรม Listening
1. นำเข้าส่บู ทเรยี น
- ครชู กั ชวนนกั เรียนพูดคุยถึงการปอ้ งกันตวั เองให้ปลอดภัยจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ โดยอาจใช้แนว
คำถามดังน้ี
- What can people do to protect themselves from the natural disasters?
(flooding – move to high place, tsunami – observe the going off water, cyclones – build a
cellar and stay there)
etc.
2. แจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- ครูบอกนักเรียนวา่ ในหนว่ ยการเรียนร้นู นี้ ักเรียนจะไดฟ้ ังนักวทิ ยาศาสตรพ์ ูดคุยเก่ียวกบั เรื่องฟ้าแลบ ฟา้
ร้อง และวิธีการปฏิบตั ติ วั ใหร้ อดปลอดภยั ขณะเกิดพายฝุ นฟ้าคะนอง หลงั จากฟงั แล้วนกั เรียนจะได้สรุป
ใจความและตอบคำถามเกยี่ วกับเรอ่ื งทอ่ี ่าน
3. ครใู หน้ ักเรยี นชว่ ยกันนึกถึงวิธกี ารปฏบิ ตั ติ วั ใหร้ อดปลอดภัยขณะเกดิ พายุฝนฟา้ คะนอง และเขียนรายการ
หรอื กจิ กรรมบนกระดาน ในขนั้ ตอนน้ีนักเรยี นอาจจะใช้คำศพั ท์ไมถ่ ูกตอ้ งครชู ่วยแกไ้ ข ซึ่งเปน็ การเตรียมความ
พรอ้ มกอ่ นฟัง แนวคำตอบอาจเปน็ ดังน้ี
- Do not stand outside. / Stay indoors.
- Do not put on metal necklace, etc.
- Turn off electricity devices.
etc.
4. ฟังบทสนทนา
- ครใู ห้นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ครเู ปดิ ซีดีบันทกึ เสยี ง CD 2 Track 31 กจิ กรรม Listening ให้
นกั เรียนฟัง 2 รอบ แตล่ ะรอบครอู าจจะหยุดซีดบี นั ทึกเสียงเปน็ ช่วง ๆ ตามที่ครเู หน็ วา่ เหมาะสมกับระดบั
ความสามารถของนักเรยี น
- ใหน้ ักเรียนบอกวิธีป้องกนั ตวั เองอยา่ งนอ้ ยกลมุ่ ละ 3 รายการ และสมุ่ นกั เรียนบางกลมุ่ เพ่อื ชว่ ยกนั เฉลย
คำตอบ
- ให้นกั เรยี นอ่านคำส่ังในกจิ กรรม Listening ในหนังสอื เรยี น หน้า 81
- ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มเขยี น T หรือ F ลงหน้าประโยคในกิจกรรม Listening
- สุ่มถามคำตอบนักเรียน
- ครูเปดิ ซีดีบันทึกเสยี งใหน้ กั เรียนฟงั อีกครั้งเพอื่ ใหน้ กั เรียนแน่ใจในคำตอบ (ดูเฉลยท้ายเล่ม)
- ครใู ห้นักเรยี นช่วยกันบอกวา่ ขอ้ แนะนำใดทนี่ ักเรียนไม่เคยทราบมาก่อน
5. ประเมนิ การฟงั
- ครูประเมินการฟังเพื่อจับใจความสำคัญจากจำนวนคำตอบที่ถูกต้องในการทำกิจกรรม Listening ใน
หนงั สือเรยี น หนา้ 81 โดยใชเ้ กณฑ์ผา่ นรอ้ ยละ 60
กิจกรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณท์ างภาษา
- ให้นักเรียนเขียนบทสนทนาสัมภาษณ์ความจริงโดยใช้ชื่อว่า “Natural Disasters” โดยมีคำ
วา่ Good heaven!, That’s unbelievable! และ Thank goodness…
7. สอ่ื การเรยี นรู้
1. หนังสอื เรียน New World 6 หน้า 81
2. ซีดบี นั ทึกเสียง
3. เครอื่ งเล่นซดี ี
4. สือ่ อิเล็กทรอนิกส์
http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_youtube.php?youtube_id=198
http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=56545
http://www.rukenglish.com/others/others/คำอุทาน, 9-18-48/
http://www.oknation.net/blog/nuiblog/2011/03/08/entry-3
http://www.bkkonline.com/scripts/everyday/index.aspx?id26
8. แหล่งเรยี นรู้ -
9. การวดั และการประเมนิ ผล
มาตรฐานการเรียนรู้ สิ่งท่ตี ้องรู้และปฏบิ ัติได้ ผลงาน/ชิ้นงาน การวดั ผลและประเมินผล
และตัวช้ีวดั
ต 1.1 ม.4-6/2 ออกเสยี งบทสนทนาถูกตอ้ ง การอ่านออกเสียงบท ประเมินการอ่านออกเสียง
ตามหลักการอา่ น สนทนา ในกิจกรรม โดยใช้แบบประเมินการ
Conversation อ่านออกเสียง และใช้
เกณฑผ์ ่านระดบั พอใช้
ต 1.1 ม.4-6/4 จ ั บ ใ จ ค ว า ม ส ำ คั ญ คำตอบจากกิจกร ร ม ประเมินการฟังจากจำนวน
สรปุ ความจากการฟัง Listening คำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้
เกณฑผ์ ่านร้อยละ 60
10. การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (3 ห่วง 2 เง่อื นไข 4 มติ )ิ
- การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 ห่วง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2 เงื่อนไข
พอประมาณ เง่อื นไขความรู้
มีเหตผุ ล เงื่อนไขคณุ ธรรม
มภี ูมคิ ้มุ กนั ในตัวทด่ี ี
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4 มิติ มติ ิส่งิ แวดลอ้ ม มติ วิ ัฒนธรรม
มติ เิ ศรษฐกิจ มิตสิ งั คม
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 29 ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 6
รหัสวชิ า อ 33102
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ จำนวน 5 ช่ัวโมง
รายวิชา ภาษาอังกฤษ
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 11 Natural Phenomena
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 29 Weather จำนวน 1 ชว่ั โมง
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคิดเห็นอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพเหตุผล
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว
ประสบการณ์ สถานการณ์ ขา่ ว/ เหตุการณ์ ประเดน็ ท่ีอยู่ในความสนใจของสังคม และสอื่ สารอย่างต่อเนื่อง
และเหมาะสม
2. สาระสำคัญ
หน่วยการเรียนรู้นี้มีจดุ มุ่งหมายให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติในบทเรียนและจาก
การศึกษาค้นคว้าและนำเสนอในห้องเรียน นักเรียนจะได้พูดแสดงบทบาทสมมติ การสนทนาเกี่ยวกับ
ปรากฏการณธ์ รรมชาติ ฟังบุคคลกลา่ วให้คำแนะนำการป้องกนั ตัวเองจากฟ้าผา่ เขยี นบรรยายเกี่ยวกับธรรมชาติ
ที่นักเรียนประทับใจ และรายงานการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้
คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งหน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ที่เป็นพื้นฐานของ
กิจกรรมฟัง พดู อ่าน เขยี นในหนว่ ยการเรียนรู้น้ี
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้
3.1.1 นักเรียนเข้าใจว่าการฝึกใช้คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ จะทำให้นักเรียน
สนทนา อา่ น และเขียนได้ดยี งิ่ ข้นึ
3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ
3.2.1 เขียนข้อมลู เก่ียวกบั ตนเอง
3.3 ด้านเจตคต/ิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์/คุณธรรมจรยิ ธรรมท่สี อดแทรก
3.3.1 ใฝเ่ รียนรู้ : ค้นควา้ หาความรจู้ ากแหลง่ เรียนรู้ตา่ ง ๆ
3.3.2 ร้ทู ันโลก : เรียนรู้การปรับตัว และรบั ข่าวสารใหม่ ๆ อยูเ่ สมอ
4. สมรรถนะของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. สาระการเรยี นรู้
- คำศัพท์
-
- สำนวนภาษา
-
- หน้าทภ่ี าษา
- To give more details about person and things
- โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์
- Adverbs
- Phrases with –ing
- Phrases with Past Participles
- Relative Clauses
6. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
กิจกรรม Grammar
1. แจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- ครบู อกนักเรยี นวา่ ในหน่วยการเรียนรนู้ ีน้ กั เรยี นจะได้เรียนรูก้ ารใช้ Adverbs, Phrases with –ing,
Phrases with Past Participles และ Relative Clauses เพ่อื นำไปใชพ้ ดู และสื่อสารเก่ยี วกบั การขยาย
คำกรยิ า ขยายคำนามด้วยวลหี รอื ประโยค
2. นำเสนอการใช้ Adverbs
- ครนู ำเข้าส่บู ทเรียนโดยครเู ขียนประโยคท่ีมีคำคณุ ศัพท์และคำกริยาวเิ ศษณ์บนกระดาน ให้นักเรยี นดูคำ
ท่ขี ีดเส้นใตแ้ ละบอก Part of Speech
- My brother often cries loudly in the morning.
- My father often speaks in a loud voice.
- ครนู ำเสนอประโยคทีม่ ี Adverb (–ly) โดยเขยี นประโยคทีม่ ีคำคุณศัพท์ และใหน้ ักเรยี นชว่ ยเติม Adverb
ในประโยคทค่ี ่กู นั ดงั ตวั อยา่ ง
- Nid is a careful driver. She drives _____________. (carefully)
- Jo is a quick runner. He runs ______________. (quickly)
- Wipa is a graceful dance. She dances _________________. (gracefully)
etc.
- ครูถามนักเรียนว่า careful กับ carefully คอื คำชนิดใด ใชต้ ่างกนั อยา่ งไร และจะลงทา้ ยด้วย –ly ทุกคำ
หรือไม่
- ครใู ห้นกั เรียนอ่านกรอบ Grammar ในหนังสอื เรยี น หน้า 82 ในสว่ นแรกเพ่อื เฉลยคำตอบข้างตน้ ครู
สุม่ ถามความเขา้ ใจและอธบิ ายเพิม่ เติมวา่ คำคณุ ศัพท์ (Adjectives) ใช้ขยายคำนาม คำกรยิ า
วิเศษณ์ (Adverbs) ใชข้ ยายคำกริยา คำกริยาวิเศษณม์ ีหลายประเภท เชน่
Adverbs of Frequency, Adverbs of Degree แต่ประเภทท่ปี รากฏอยใู่ นกรอบไวยากรณ์
เรยี กวา่ Adverbs of Manner ซึ่งจะเปลย่ี นรูปมาจากคำคณุ ศพั ท์ เติม –ly ซ่งึ มกี ฎการเติมดังนี้
(1) เติม –ly ที่คำคุณศัพท์ทัว่ ไป
(2) คำคุณศัพท์ทม่ี ี 2 พยางค์และลงทา้ ยดว้ ย y ให้เปล่ียน y เป็น i แลว้ เตมิ –ly คำคณุ ศพั ทท์ ี่ลงทา้ ยดว้ ย
–le ใหเ้ ปลี่ยน e เปน็ i แลว้ เติม –ly เช่น terrible เปน็ terribly แต่ Adverbs of Manner ไมไ่ ด้ลง
ท้ายด้วย –ly เสมอไป บางคร้งั คำคณุ ศพั ท์ และคำกรยิ าวเิ ศษณเ์ ปน็ รปู เดียวกัน เชน่ early, straight, fast,
hard, long เช่น
- Golf is not a very fast game. (Adjective)
- We had to think of solution fast. (Adverb)
- ครูตรวจสอบความเข้าใจโดยเขียนประโยคบนกระดาน ใหน้ กั เรียนบอกว่าคำท่ขี ีดเสน้ ใต้
เปน็ Adjective หรือ Adverb ประโยคทีค่ รเู ขียนบนกระดานมดี งั นี้
- Lisa has long, straight hair. (Adjective)
- I stayed too long in the sun. (Adverb)
- You’ve been working very hard recently. (Adverb)
- I had a very hard day. (Adjective)
3. นำเสนอการใช้ Phrases with –ing
- ครแู สดงรปู ภาพครอบครัวและถามนักเรยี น ใหน้ ักเรยี นช่วยกนั ตอบ ครอู าจช่วยแกไ้ ขประโยคท่ีนักเรียน
ตอบให้ถูกต้องและเขยี นประโยคบนกระดานดังนี้
ตัวอย่างคำถาม - Which is my father?
- Which is my mother?
ตวั อย่างคำตอบ - My father is the man wearing glasses.
- My mother is the woman sitting next to me.
etc.
- ครูถามนกั เรยี นว่าคำที่ขีดเส้นใต้ในประโยคขา้ งตน้ คือคำอะไร ทำหนา้ ที่อะไร มีความหมายอย่างไร
- ครใู หน้ กั เรยี นอ่านกรอบ Grammar ในหนังสือเรียน หนา้ 82 ในส่วนท่ี 2 เพื่อเฉลยคำตอบข้างต้น ครู
สุม่ ถามความเขา้ ใจและอธบิ ายเพ่ิมเติมวา่ Phrases with –ing เปน็ วลีหรือกลมุ่ คำทขี่ ้นึ ต้นดว้ ย กรยิ า –ing ใช้
ขยายคำนาม (คน, สิ่งของ) เพ่ือบอกวา่ คำนามนน้ั กำลังทำกรยิ าหรือทำหน้าที่นั้น ๆ อยู่ ซง่ึ มคี วามหมาย
เหมอื นกับ Relative Clause ดังนี้
- The woman playing the position of goalie is very good.
= The woman who is playing the position of goalie is very good.
- ครตู รวจสอบความเข้าใจโดยเขยี นประโยคบนกระดาน ใหน้ ักเรียนขดี เสน้ ใต้ท่ี Relative Clause และ
เขยี นประโยคใหม่โดยลดรปู Relative Clause ให้เหลอื Phrases with –ing ดงั น้ี
- The guy who is wearing sunglasses is my boyfriend.
= The guy wearing sunglasses is my boyfriend.
4. นำเสนอการใช้ Relative Clauses
- ครูถามนกั เรยี นให้บอกคำจำกดั ความเกี่ยวกบั อาชีพหรอื สิง่ ของท่ีเราพบเห็นอยู่ในชีวติ ประจำวัน ให้
นักเรียนพดู หรอื เขยี นประโยคคำตอบบนกระดาน ครูชว่ ยแก้ไขถา้ ประโยคยังไมถ่ ูกต้อง ดงั นี้
- What is a TV?
A TV is a device that/which/- we can watch.
- What are shoes?
Shoes are things that/which/- we put on to protect our feet.
- What is a parrot?
A parrot is an animal that/which can speak.
- Who is a shoe-maker?
A shoe-maker is a person who/that makes shoes.
- ครูถามนักเรยี นว่าข้อความทีข่ ีดเสน้ ใต้ในประโยคข้างตน้ คอื อะไร ทำหนา้ ท่ีอะไร มคี วามหมายอยา่ งไร
- ครใู ห้นกั เรียนอ่านกรอบ Grammar ในหนังสือเรียน หนา้ 82 ในสว่ นท่ี 4 เพอื่ เฉลยคำตอบขา้ งต้น ครู
สมุ่ ถามความเข้าใจและอธบิ ายเพิ่มเติมว่านักเรียนเคยเรยี น Relative Clauses มาแลว้
ว่า Relative Clauses คอื ประโยคยอ่ ยทมี่ าขยายคำนามซ่ึงอาจจะเป็นคนหรอื ส่งิ ของ ใช้ who หรือ that เม่อื
คำนามน้ันเปน็ คน ใช้ which หรอื that เมอ่ื คำนามนน้ั เปน็ ส่ิงของ คำวา่ who, that, which เรา
เรียกวา่ Relative Pronoun ซ่งึ คำนามท่ี Relative Pronoun ไปแทนอาจจะทำหนา้ ท่ีเปน็ ประธานหรือกรรม
ถ้าเปน็ กรรมเราสามารถละ Relative Pronoun ได้
- ครตู รวจสอบความเข้าใจโดยเขียนประโยคตอ่ ไปน้บี นกระดาน ใหน้ ักเรียนช่วยกนั ขีดเส้นใตท้ ี่ Relative
Clauses และขีด Relative Pronoun รวมทัง้ กรณีที่สามารถละได้
- I want to see the new movie that is about a tsunami.
- The woman who is waving at us is my neighbor.
- The restaurant which just opened has great food.
- I did the assignment that the teacher gave us today.
- The keys that I found belonged to the teacher.
5. ฝกึ พดู และเขยี น
- ครใู หน้ กั เรยี นฝึกใช้ Adverbs, Phrases with –ing, Phrases with Past Participles และ Relative
Clauses โดยใหน้ ักเรยี นทำกจิ กรรม Grammar A ถงึ D ในหนงั สือเรยี น หน้า 82-83 ในแตล่ ะกจิ กรรม
ดำเนินการดงั น้ี
กจิ กรรม Grammar A
- ครูให้นักเรียนดกู ิจกรรม Grammar A ในหนงั สอื เรียน หน้า 82 อ่านออกเสียงคำสัง่ และถามทบทวนถึงกฎ
การเติม –ly
- ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงประโยคในขอ้ 1 แล้วชว่ ยกนั หาคำ Adverb มาเติมโดยใหม้ ีความหมายสอดรบั
กับประโยคทก่ี ำหนด (recklessly)
- ครูให้นักเรียนจบั ค่กู ันทำในขอ้ ที่เหลือ
- ครสู มุ่ นักเรยี นอ่านออกเสยี งประโยคทส่ี มบูรณแ์ ละใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ (ดเู ฉลยทา้ ยเลม่ ) ครู
ชว่ ยอธบิ ายและแก้ไขในกรณีที่เห็นวา่ ยงั ไมถ่ ูกต้อง
กจิ กรรม Grammar B
- ครูใหน้ ักเรยี นอา่ นคำสัง่ กจิ กรรม Grammar B ในหนงั สือเรยี น หนา้ 83
- อ่านออกเสียงประโยคในข้อ 1 ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เตมิ ขอ้ ความ ซง่ึ สามารถเติมได้หลากหลายเชน่ were
friendly, came from New York, knew my cousin, etc.
- ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะคนทำในขอ้ ทีเ่ หลอื
- ครสู ุ่มนกั เรียนอ่านออกเสียงประโยคทีส่ มบูรณ์ ครูช่วยอธิบายและแก้ไขในกรณีทีเ่ หน็ ว่ายังไม่ถูกตอ้ ง
และชว่ ยกันขีดเส้นใต้ Relative Clause
กจิ กรรม Grammar C
- ครูให้นกั เรยี นอ่านออกเสยี งคำส่งั กจิ กรรม Grammar C ในหนงั สือเรียน หน้า 83
- ให้นกั เรียนดูท่ีประโยคตัวอยา่ งซง่ึ ได้นำเอาประโยคแรกมาอยู่ตอนท่ี 2 โดยเขยี นขั้นตอนใหน้ กั เรยี นดูบน
กระดานดังน้ี
- I saw a movie about the gorillas in Rwanda. The movie was interesting.
- The movie (that) I saw about the gorillas in Rwanda was interesting.
ถามนักเรยี นวา่ movie เป็นประธานหรอื กรรมของคำวา่ saw ฉะน้นั เราสามารถละ Relative Pronoun ได้
หรือไม่
- ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกนั ทำประโยคในข้อ 2 ซึ่งในประโยคนีป้ ระโยคที่ 2 จะอย่ใู นประโยคแรกซง่ึ สามารถ
เขยี นข้ันตอนการทำได้ดังนี้
- My sister is going to marry a singer. She met him in Ireland.
- My sister is going to marry a singer (that) she met in Ireland. (ใหน้ กั เรียนสงั เกตว่าไมม่ ี
him) ถามนกั เรียนวา่ singer เปน็ ประธานหรือกรรมของคำว่า met ฉะนน้ั เราสามารถละ Relative Pronoun ได้
หรอื ไม่
- ครใู หน้ กั เรยี นจบั คูก่ ันทำในขอ้ ท่เี หลือ
- ครสู ุ่มนักเรียนอา่ นออกเสยี งประโยคแตล่ ะขอ้ ให้นักเรยี นอา่ นออกเสยี งและถามยำ้ นักเรยี น
ว่า Relative Pronoun ในแตล่ ะข้อเป็นประธานหรือกรรมละไดห้ รอื ไม่ (ข้อ 3 ละไมไ่ ด)้ และใหน้ กั เรียนช่วยกัน
เฉลยคำตอบ (ดเู ฉลยทา้ ยเล่ม) ครชู ว่ ยอธบิ ายและแก้ไขในกรณีทเี่ หน็ ว่ายงั ไม่ถกู ต้อง
กจิ กรรม Grammar D
- ครใู หน้ กั เรียนอ่านออกเสยี งคำสงั่ กิจกรรม Grammar D ในหนงั สือเรียน หนา้ 83
- ครูถามนกั เรยี นในขอ้ 1 วา่ จะเติม Participle ในรูป –ing หรอื Past Participle โดยให้นกั เรียนชว่ ยกนั
พิจารณาจากบรบิ ทวา่ น่าจะอยูร่ ูป active หรอื passive (ถกู กระทำ – injured)
- ครถู ามนักเรียนในข้อที่ 2 ว่าจะเตมิ Participle ในรูป –ing หรอื Past Participle โดยให้นักเรียนชว่ ยกนั
พจิ ารณาจากบรบิ ทว่าน่าจะอยู่รูป active หรือ passive (กำลงั กระทำกริยานั้น ๆ อยู่ – was carrying =
carrying)
- ครูให้นักเรยี นจบั คเู่ ขียนตอบในขอ้ ท่เี หลือ
- ครูส่มุ นักเรยี นอา่ นออกเสียงประโยคทีส่ มบูรณ์ ครชู ว่ ยอธิบายและแกไ้ ขในกรณีทีเ่ หน็ วา่ ยงั ไมถ่ กู ต้อง
6. พดู และเขียนในหวั ขอ้ “What I usually do”
- ครูบอกให้นักเรียนทายถงึ สง่ิ ทค่ี รูทำในชีวติ ประวันจำวันท่เี กี่ยวข้องกบั ส่งิ ตอ่ ไปนี้ คอื clothes, hotel, film,
place, food, novel, TV programme, watch, etc. โดยครูอาจใช้คำถามดังนี้
- Do you know about the clothes I usually wear?
I usually wear the clothes made in Thailand?
- Do you know about the hotel I usually stay?
I usually stay in the hotel located in a big city.
- Do you know about the film I watch?
I watch the film produced by Hollywood.
etc.
- ครบู อกใหน้ ักเรยี นสังเกตคำที่ขดี เส้นใตข้ ้างตน้ วา่ เป็น Phrases with –ing, Phrases with Past
Participles หรือ Relative Clauses
- ครใู หน้ กั เรยี นเขียนประโยค 5-6 ประโยค ท่ีมีลกั ษณะคลา้ ยกบั ประโยคข้างตน้ ในหวั ข้อ “What I
usually do”
- ใหน้ ักเรียนจับคู่อ่านประโยคทเ่ี ขยี นให้เพื่อนฟงั ครสู ่มุ นักเรียนอา่ นให้เพ่อื นฟงั ในช้นั เรยี น
7. ประเมนิ การเขยี น
- ครปู ระเมนิ การเขียนในหวั ข้อ What I usually do โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ การเขยี น และใชเ้ กณฑ์ผ่าน
ระดบั พอใช้
กจิ กรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณ์ทางภาษา
- ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัด ขอ้ A-F ในหนงั สือแบบฝึกหดั New World 6 หนา้ 53-55 (ดเู ฉลยทา้ ยเล่ม)
7. สอื่ การเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี น New World 6 หน้า 82-83
2. หนังสอื แบบฝึกหดั New World 6 หนา้ 53-55
8. แหลง่ เรียนรู้ -
9. การวดั และการประเมนิ ผล
มาตรฐานการเรยี นรู้ สิ่งท่ตี ้องรู้และปฏิบัติได้ ผลงาน/ช้นิ งาน การวัดผลและประเมินผล
และตัวชีว้ ดั
ต 1.2 ม.4-6/1 เขียนข้อมูลเกี่ยวกับ ข้อ เขียน ใน กิจกรรม ประเมินการเขียนโดยใช้
ตนเอง What I usually do เกณฑ์การประเมินการ
เขียน และใช้เกณฑ์ผ่าน
ระดับพอใช้
10. การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (3 หว่ ง 2 เง่อื นไข 4 มติ )ิ
- การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 3 หว่ ง ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2 เงื่อนไข
พอประมาณ เงอ่ื นไขความรู้
มีเหตผุ ล เงื่อนไขคณุ ธรรม
มีภมู ิค้มุ กันในตวั ทดี่ ี
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4 มิติ มิติสิ่งแวดล้อม มติ ิวัฒนธรรม
มติ ิเศรษฐกิจ มิตสิ ังคม
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 30 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6
รหัสวชิ า อ 33102
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ จำนวน 5 ช่ัวโมง
รายวิชา ภาษาอังกฤษ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 11 Natural Phenomena จำนวน 1 ชวั่ โมง
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 30 Weather
1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมเี หตุผล
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/4 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็น
จากการฟังและ อ่านเรื่องที่เป็นสารคดี และบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่าง ประกอบ 2.
สาระสำคัญ
หน่วยการเรียนรู้นี้มีจุดมุ่งหมายให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติในบทเรียนและจาก
การศึกษาค้นคว้าและนำเสนอในห้องเรียน นักเรียนจะได้พูดแสดงบทบาทสมมติ การสนทนาเกี่ยวกับ
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ฟังบคุ คลกล่าวให้คำแนะนำการป้องกันตัวเองจากฟ้าผ่า เขียนบรรยายเก่ียวกับธรรมชาติ
ที่นักเรียนประทับใจ และรายงานการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ นอกจากน้ียังได้เรียนรู้
คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งหน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ที่เป็นพื้นฐานของ
กิจกรรมฟัง พดู อา่ น เขียนในหนว่ ยการเรียนรู้น้ี
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ดา้ นความรู้
3.1.1 นักเรียนเข้าใจว่าการฝึกใช้คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ จะทำให้นักเรียน
สนทนา อา่ น และเขียนได้ดยี ิ่งข้ึน
3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ
3.2.1 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตคี วามบทความทอ่ี า่ น
3.3 ดา้ นเจตคต/ิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์/คณุ ธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก
3.3.1 ใฝ่เรยี นรู้ : ค้นคว้าหาความร้จู ากแหลง่ เรียนรูต้ า่ ง ๆ
3.3.2 รทู้ ันโลก : เรยี นรู้การปรับตวั และรบั ขา่ วสารใหม่ ๆ อยูเ่ สมอ
4. สมรรถนะของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
4.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. สาระการเรยี นรู้
- คำศพั ท์
กิจกรรม Reading
- gravity (n.): the force in nature that makes objects fall to the ground (แรง
โน้มถ่วง)
- phenomenon (n.): remarkable or unusual person or thing (ปรากฏการณ์, สง่ิ ประหลาด
, คนหรอื สตั วท์ ีพ่ สิ ดาร)
- theory (n.): (explanation of) general principles of an art or science (ทฤษฎี)
- evidence (n.): facts or physical signs that help to prove something (หลักฐาน,
รอ่ งรอย, ตวั บ่งชี้)
- arid (adj.): very dry, having little rain or water (พนื้ ดนิ ) แห้งแลง้
- whip up (phrv.): to make something move in a swirling (or circular) motion (สาด
, ซัด, เฆ่ียน)
- cope with (phrv.): to handle something successfully (จดั การ, รบั มอื )
- algae (n.): small plants that live near water (สาหร่าย)
- organism (n.): living being with parts which work together (อนิ ทรีย์, สัตวห์ รอื พชื
, สิ่งมชี ีวติ )
- swarm (n.): a large group that move together (กลมุ่ , หมู่, ฝงู )
- unicellular (adj.): a unicellular living thing consists of one cell only (ท่ี
ประกอบด้วยเซลล์เดยี ว)
- illuminated (adj.): lit up by lights (ทีส่ วา่ งไสว)
- dart (v.): to move quickly in different directions (พงุ่ , เผ่น, กระโจน)
- สำนวนภาษา
-
- หน้าที่ภาษา
- To talk about natural phenomena
- To discuss unusual natural phenomena
- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
- Phrases with –ing
- Relative Clauses
6. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
กจิ กรรม Reading
1. นำเข้าสบู่ ทเรียน
- ครูให้นักเรยี นดรู ูปภาพในกิจกรรม Reading ในหนงั สือเรียน หนา้ 84 และจบั คู่ทายวา่ ในแตล่ ะภาพเป็น
ภาพเกีย่ วกับอะไร
- ครใู หอ้ าสาสมัครบอกเกี่ยวกับรปู ภาพตามความคิดของตน
- ครูให้นกั เรียนคนอืน่ ๆ แสดงความคิดเหน็ เพอ่ื ดวู า่ นักเรยี นมีความเหน็ เกี่ยวกับแตล่ ะภาพตรงกันหรือไม่
- ครใู ห้นกั เรียนอา่ นออกเสียงหัวเรื่อง Unusual Natural Phenomena พร้อมท้ังให้นกั เรียนช่วยกนั บอก
ตัวอยา่ งของ Unusual Natural Phenomena และเขียนบนกระดานซงึ่ อาจจะได้คำตอบดงั น้ี
- rainbow, aurora, borealis, comets, tidal waves, volcanoes
2. แจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
- ครูบอกนักเรียนว่าในหน่วยการเรียนรนู้ นี้ ักเรียนจะได้อ่านเก่ียวกับปรากฏการณ์ที่แปลกพสิ ดาร เมือ่ อา่ น
แลว้ นกั เรียนจะบอกไดว้ ่าแตล่ ะหัวขอ้ คือปรากฏการณอ์ ะไรและแปลกประหลาดอยา่ งไร พร้อมท้ังสามารถ
แสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับเร่อื งที่อ่าน
กจิ กรรมก่อนอ่าน
1. ใหน้ ักเรียนเดาความหมายของหวั เรอ่ื งยอ่ ยจากภาพไดแ้ ก่ Moving Rocks, Sandstorms และ Sea sparkle
วา่ คืออะไร แต่ละอยา่ งมคี วามแปลกอย่างไร
กจิ กรรมระหวา่ งอา่ น
1. อา่ นบทความ
- ครใู ห้นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ กล่มุ ละ 4 คน ใชเ้ วลาประมาณ 10-15 นาทีแลว้ แตร่ ะดับความสามารถของ
นกั เรยี นอ่านบทความและชว่ ยกนั บอกวา่ แต่ละเรอื่ งแปลกอยา่ งไรโดยเขยี นลงในตารางใน Worksheet 1
Worksheet 1
Directions: Read the article then tell the strange thing in each topic.
Moving Rocks Sandstorms Sea sparkle
(How rocks weighing up to (Every year millions of (The creatures in the sea
several hundreds of tons of give off a burst of
kilograms moved as far dust are carried from the phosphorescent
as 458 meters.) Sahara Desert to the blue light. So it is
Amazon basin.) fascinating to watch fish.)
- ใหน้ ักเรียนฟังซีดบี ันทกึ เสยี ง CD 2 Track 32 กจิ กรรม Reading อ่านในใจตาม และใหน้ ักเรียนสรปุ
ใจความสำคญั เพ่อื ตอบคำถามในกิจกรรม About the Reading ในหนังสือเรยี น หนา้ 85
กิจกรรมหลังอา่ น
1. ตรวจสอบความเขา้ ใจบทอ่าน
- ครูและนักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้องของคำตอบในกจิ กรรม About the Reading
2. ประเมินการอ่าน
- ครปู ระเมินความเข้าใจบทอ่านจากจำนวนคำตอบท่ีถูกต้องในการทำกจิ กรรม About the Reading และ
จากการตอบคำถามใน Worksheet 1 โดยใช้เกณฑ์ผ่านรอ้ ยละ 60
3. พัฒนาคำศัพท์
- ครูใหน้ ักเรยี นอา่ นบทอ่านอีกครั้ง ขดี เส้นใต้คำศพั ท์ท่ีนกั เรียนไม่ทราบความหมาย และให้นักเรียนจับคู่
กนั เขยี นความหมายคำศพั ท์โดยดูจากบริบททอ่ี า่ น
- ครใู หน้ ักเรียนช่วยกันบอกความหมายคำศัพทท์ ีเ่ ขียน คำศัพท์ใดทีน่ ักเรยี นเขยี นความหมายไม่ได้ ครู
อธิบายเพิม่ เตมิ หรือให้นกั เรียนค้นหาจากพจนานุกรม
4. ตรวจสอบความเขา้ ใจคำศพั ท์
- ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม Content Vocabulary ในหนังสอื เรยี น หนา้ 85 และชว่ ยกันเฉลยคำตอบ (ดู
เฉลยท้ายเลม่ )
5. แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกบั เรือ่ งท่ีอา่ น
- ครูใหน้ ักเรียนอภิปรายวา่ อะไรเป็นสงิ่ ท่ีนา่ สนใจทีส่ ุดหรือน่าประหลาดใจที่สดุ ในบทอา่ น
- What is the most surprising or interesting in the Reading? Why?
6. สำรวจความคิดเห็น
- ครใู ห้นักเรยี นลงมติวา่ ใน 3 เหตกุ ารณ์นน้ั เหตุการณ์ใดที่นักเรยี นคดิ วา่ ประหลาดทีส่ ดุ และเหตุการณ์ใด
ท่ีนกั เรียนอยากไปพบเหน็ มากท่สี ดุ
กิจกรรมเสริมทักษะ/ประสบการณท์ างภาษา
- ครูใหน้ กั เรียนทำงานกลมุ่ เขียนบทสนทนาสมั ภาษณ์ผู้เช่ยี วชาญหรอื นักวิทยาศาสตร์
เก่ียวกับ 3 เหตุการณ์ในบทอ่านและแสดงบทบาทสมมติ
- ให้นักเรยี นใช้บทความในบทอา่ นเป็นตน้ แบบในการเขียนข้อมูลเกย่ี วกับปรากฏการณ์ท่นี กั เรยี นสนใจ
- ให้นักเรียนทำกจิ กรรม Natural Phenomena in My Country โดยใหน้ กั เรียนทำงาน
ศกึ ษา ค้นควา้ รวบรวม ทำรายงาน และเขยี นโปสเตอร์เกี่ยวกบั ปรากฏการณ์แปลกประหลาดในประเทศ
7. สอ่ื การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี น New World 6 หน้า 84-85
2. ซดี บี นั ทึกเสยี ง
3. เคร่อื งเล่นซดี ี
4. Worksheet 1
8. แหล่งเรยี นรู้ -
9. การวดั และการประเมนิ ผล
มาตรฐานการเรยี นรู้ ส่งิ ท่ตี อ้ งรู้และปฏิบัตไิ ด้ ผลงาน/ชน้ิ งาน การวดั ผลและ
และตวั ชี้วัด ประเมนิ ผล
ต 1.1 ม.4-6/4 จ ั บ ใ จ ค ว า ม ส ำ คั ญ คำตอบทน่ี กั เรยี นได้จากการ ประเมินผลจากจำนวน
วิเคราะห์ความ สรุปความ ท ำ ก ิ จ ก ร ร ม About the คำตอบที่ถูกต้องโดยใช้
ตคี วามบทความที่อา่ น Reading เกณฑผ์ ่านร้อยละ 60
ต 1.1 ม.4-6/4 จ ั บ ใ จ ค ว า ม ส ำ คั ญ คำตอบที่นักเรียนแตล่ ะกล่มุ ประเมินผลจากจำนวน
วิเคราะห์ความ สรุปความ ตอบใน Worksheet 1 คำตอบที่ถูกต้องโดยใช้
ตคี วามบทความทอ่ี ่าน เกณฑผ์ ่านรอ้ ยละ 60
10. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (3 ห่วง 2 เงือ่ นไข 4 มติ )ิ
- การบูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 3 หว่ ง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2 เงอ่ื นไข
พอประมาณ เงอ่ื นไขความรู้
มีเหตผุ ล เง่ือนไขคุณธรรม
มีภูมคิ มุ้ กนั ในตวั ท่ดี ี
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4 มิติ
มติ ิเศรษฐกิจ มิตสิ งั คม มติ ิส่ิงแวดล้อม มติ วิ ัฒนธรรม
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 31 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6
รหสั วชิ า อ 33102
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ จำนวน 5 ชว่ั โมง
รายวชิ า ภาษาองั กฤษ
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 11 Natural Phenomena จำนวน 1 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 31 Weather
1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้วี ดั
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพเหตุผล
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่อง
ต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และ ข่าว/เหตกุ ารณอ์ ย่างมเี หตผุ ล
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็น
พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 ค้นคว้า/สืบค้น บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
กับกลุ่มสาระการ เรียนรู้อน่ื จากแหล่งเรียนรตู้ า่ งๆ และ นำเสนอดว้ ยการพูดและการเขยี น
2. สาระสำคญั
หน่วยการเรียนรู้นี้มีจุดมุ่งหมายให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติในบทเรียนและจาก
การศึกษาค้นคว้าและนำเสนอในห้องเรียน นักเรียนจะได้พูดแสดงบทบาทสมมติ การสนทนาเกี่ยวกับ
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ฟงั บุคคลกลา่ วให้คำแนะนำการป้องกันตัวเองจากฟ้าผ่า เขยี นบรรยายเก่ียวกับธรรมชาติ
ที่นักเรียนประทับใจ และรายงานการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้
คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งหน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ที่เป็นพื้นฐานของ
กิจกรรมฟัง พดู อา่ น เขยี นในหน่วยการเรียนรู้น้ี
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้
3.1.1 นักเรียนเข้าใจว่าการฝึกใช้คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ จะทำให้นักเรียน
สนทนา อา่ น และเขียนไดด้ ียิ่งข้นึ
3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ
3.2.1 พูดแสดงความคิดเห็นของตนเกีย่ วกับเรอื่ งต่าง ๆ อย่างมีเหตผุ ล
3.2.2 เขียนบรรยายความร้สู กึ แสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั ประสบการณอ์ ยา่ งมีเหตผุ ล
3.3 ดา้ นเจตคต/ิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค/์ คุณธรรมจรยิ ธรรมทส่ี อดแทรก
3.3.1 ใฝ่เรียนรู้ : คน้ ควา้ หาความรู้จากแหล่งเรยี นร้ตู า่ ง ๆ
3.3.2 รูท้ นั โลก : เรยี นรกู้ ารปรบั ตัว และรบั ขา่ วสารใหม่ ๆ อยู่เสมอ
4. สมรรถนะของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
4.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5. สาระการเรียนรู้
- คำศัพท์
-
- สำนวนภาษา
-
- หนา้ ทภ่ี าษา
- To talk about natural phenomena
- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
- Adverbs
- Phrases with –ing
- Phrases with Past Participles
- Relative Clauses - โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์
- Phrases with –ing
- Relative Clauses
6. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
กจิ กรรม Speaking
1. แจ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
- ครูบอกนกั เรียนว่าในหน่วยการเรยี นรู้นนี้ ักเรยี นจะไดพ้ ูดแลกเปลีย่ นประสบการณเ์ ก่ียวกบั ปรากฏการณ์
ทางธรรมชาติ
2. พูดแสดงความคิดเห็นและรายงาน
- ครใู หน้ ักเรยี นทำกิจกรรม Speaking ในหนังสือเรียน หนา้ 85
- สุ่มนกั เรียน 1 คนอ่านออกเสียงประโยคคำถามในกิจกรรม Speaking ในหนงั สอื เรียน หน้า 85
- ให้นักเรียนจบั คถู่ าม-ตอบแลกเปล่ียนประสบการณ์ โดยตอบคำถามในกจิ กรรม Speaking
- ให้นักเรียนแบ่งกล่มุ กล่มุ ละ 4 คน ถาม-ตอบแลกเปลีย่ นประสบการณ์กันภายในกลมุ่
- แต่ละกลุม่ รวบรวมความคดิ เห็นของสมาชกิ ท่นี ่าสนใจและรายงานในช้นั เรียน
- นำหวั ข้อท่มี ีคำตอบคลา้ ย ๆ กนั และแตกตา่ งกนั มาอภปิ รายในช้นั เรยี น
3. ประเมินการพดู นำเสนอขอ้ มูล
- ครูประเมนิ การพดู แสดงความคดิ เห็นโดยใช้เกณฑ์การประเมนิ การพูด และใช้เกณฑผ์ ่านระดับพอใช้
4. สำรวจความคิดเห็นและอภิปราย
- ใหน้ ักเรียนลงมตวิ า่ คำตอบใดในคำถามข้อ 1 ทีน่ ักเรียนตอบตรงกันมากทส่ี ดุ
- ใหน้ ักเรยี นเขยี นรายการคำตอบในคำถามข้อ 3 และรายการใดทน่ี ักเรียนเคยพบเห็นแลว้ และรายการใด
ทน่ี กั เรยี นอยากเห็นมากทส่ี ุด และอภิปรายแสดงความคิดเหน็ ถงึ เหตุผล
กจิ กรรม Writing
1. นำเขา้ ส่บู ทเรยี น
- ครูใหน้ ักเรยี นอา่ นออกเสียงคำส่ังในกิจกรรม Writing ในหนังสือเรียน หน้า 85
2. แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
- ครูบอกนักเรยี นวา่ ในหน่วยการเรยี นรูน้ ้ีนักเรียนจะได้ฝึกเขยี นเล่าประสบการณ์เก่ยี วกับธรรมชาติท่ี
นกั เรยี นประทับใจ
กิจกรรมกอ่ นเขยี น
1. ครูถามถึงธรรมชาตทิ ี่นักเรยี นประทับใจมอี ะไรบ้าง และช่วยบอกเหตุผล ซึ่งอาจไดค้ ำตอบดังนี้
- What nature has impressed you? Why? (…..waterfall, ..…mountain,)
กจิ กรรมการเขียน
1. ครใู ห้นักเรียนแต่ละคนเขียนขอ้ ความบรรยายตามคำสง่ั ในกิจกรรม Writing โดยกำหนดขอบข่ายดงั นี้
- the situation in which you first saw the phenomenon
- describe what it looked/was like
- explain the science behind the phenomenon
- describe how it affected you emotionally
2. นักเรียนจบั คู่กับเพ่อื นแลกกนั อา่ นงานเขยี นของกนั และกัน และใหข้ ้อเสนอแนะในการปรบั ปรงุ ตามท่ี
เหน็ สมควร
3. นักเรยี นปรับปรงุ งานเขยี น
กิจกรรมหลงั เขยี น
1. ประเมนิ การเขียนเลา่ ประสบการณ์
- ครปู ระเมินข้อเขียนของนักเรยี นโดยใช้เกณฑ์การประเมินการเขยี น และใชเ้ กณฑ์ผา่ นระดบั พอใช้
2. นำเสนองานเขียน
- ครูสุม่ นกั เรียน 2-3 คน อ่านงานเขยี นของตนเองให้เพ่ือนฟงั ในชน้ั เรียน
- ครูให้นักเรียนติดงานเขยี นของตนทบ่ี อรด์ ในหอ้ งเรยี นเพ่อื ใหเ้ พอ่ื นอ่าน และช่วยกันดวู า่ มีหัวข้อใดท่ีซ้ำ
กนั บ้าง
กจิ กรรม World Link
1. คน้ ควา้ ขอ้ มลู เกยี่ วกบั Unusual Natural Phenomena ของประเทศกลุ่มอาเซยี น
- ให้นักเรียนอา่ นคำส่ังในกิจกรรม World Link ในหนังสอื เรียน หน้า 85
- ให้นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ค้นควา้ ขอ้ มูลเก่ยี วกับ Unusual Natural Phenomena ของประเทศ
ในกลุ่มอาเซยี น ซ่งึ อาจค้นคว้าทางอินเทอร์เน็ตโดยใชค้ ำวา่ Unusual Natural Phenomena ในการ
สืบคน้ ให้นักเรยี นหาข้อมูลตามหวั ขอ้ ดังน้ี
- the scientific reasons for the phenomenon (how it occurs)
- where and when it occurs
- when it occurs
2. นำเสนอข้อมลู
นักเรียนประเมินตนเอง
- นกั เรยี นทำแบบประเมนิ Self-Evaluation เพอ่ื ประเมินตนเองเกี่ยวกับเน้ือหาที่ไดเ้ รียนไปแล้ว (แบบ
ประเมนิ Unit 11 Self-Evaluation ทา้ ยคูม่ ือคร/ู ท้ายหนังสอื แบบฝกึ หัด)
7. สื่อการเรยี นรู้
1. หนังสือเรียน New World 6 หนา้ 85
2. หนงั สอื แบบฝกึ หัด New World 6 หน้า 56
8. แหลง่ เรียนรู้ -
9. การวดั และการประเมินผล
มาตรฐานการเรียนรู้ ส่ิงที่ต้องรแู้ ละปฏิบตั ไิ ด้ ผลงาน/ชิ้นงาน การวัดผลและ
และตัวชี้วดั ประเมินผล
ต 1.2 ม.4-6/5 พดู แสดงความคดิ เห็นของ ถอ้ ยคำพูดแสดงความคิดเห็น ประเมินการพูดแสดง
ต 1.2 ม.4-6/5
ต 3.1 ม.4-6/1 ตนเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับปรากฏการณ์ทาง ความคิดเห็นโดยใช้
อยา่ งมีเหตผุ ล ธรรมชาติ เกณฑ์การประเมิน
การพูด และใช้เกณฑ์
ผา่ นระดบั พอใช้
เขียนบรรยายความรู้สึก ข้อเขียนเล่าประสบการณ์ ประเมินข้อเขียนเล่า
แ ส ด ง ค ว า ม ค ิ ด เ ห็ น เกี่ยวกับธรรมชาติที่นักเรียน ประสบการณ์โดยใช้
เกี่ยวกับประสบการณ์ ประทับใจ เกณฑ์การประเมิน
อย่างมีเหตผุ ล การเขียน และเกณฑ์
ผา่ นระดับพอใช้
ค้นคว้า/สืบค้น บันทึก การค้นคว้าและรายงาน ประเมินการค้นคว้า
สรุป และแสดงคว าม ข้อมูลเกี่ยวกับปรากฏการณ์ และรายงานข้อมูล
คิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลท่ี ท า ง ธ ร ร มช า ต ิข อ ง ก ลุ่ม โ ดยใช้เก ณฑ ์ก า ร
เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระ ประเทศอาเซยี น ประเมินการเขียน
การเรียนรู้อื่นจากแหล่ง และใช้เกณฑ์ผ่าน
การเรียนรู้ต่าง ๆ และ ระดับพอใช้
นำเสนอด้วยการพูดและ
เขยี น
10. การบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (3 หว่ ง 2 เงอ่ื นไข 4 มิต)ิ
- การบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 3 ห่วง ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2 เงอื่ นไข
พอประมาณ เง่ือนไขความรู้
มีเหตผุ ล เงอ่ื นไขคุณธรรม
มภี มู ิค้มุ กนั ในตัวทด่ี ี
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4 มิติ
มิตเิ ศรษฐกจิ มติ สิ งั คม มติ ิสิ่งแวดลอ้ ม มิตวิ ัฒนธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 32
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6
รายวชิ า ภาษาองั กฤษ รหัสวิชา อ 33102
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 12 As the Saying Goes จำนวน 5 ช่วั โมง
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 32 Figurative Language จำนวน 1 ช่วั โมง
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตุผล
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/2 อ่านออกเสียง ข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสัน้
(skit) ถกู ตอ้ ง ตามหลกั การอา่ น
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/4 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็น
จากการฟงั และ อ่านเรื่องท่ีเปน็ สารคดี และบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตผุ ลและยกตัวอย่าง ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 ทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพเหตผุ ล
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว
ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/ เหตกุ ารณ์ ประเด็น ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม และสื่อสารอย่างต่อเน่ือง
และเหมาะสม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ม.4-6/2 อธบิ าย/อภปิ รายวิถีชีวติ ความคดิ ความเชอ่ื และท่ีมาของขนบธรรมเนียม และ
ประเพณีของ เจ้าของภาษา
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษากบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และน ามาใช้อย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม
ตัวชี้วัดท่ี ม.4-6/1 อธบิ าย/เปรยี บเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ขอ้ ความ สำนวน
คำพงั เพย สภุ าษิตและบทกลอนของ ภาษา ต่างประเทศและภาษาไทย
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 ใช้ภาษาสื่อสาร ในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลอง ที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรยี น
สถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
2. สาระสำคญั
หน่วยการเรียนรู้นี้มีจุดมุ่งหมายให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับสำนวนภาษา สุภาษิตในบทเรียนและจาก
การศึกษาค้นคว้าและนำเสนอในห้องเรียน นักเรียนจะได้พดู แสดงบทบาทสมมติ การสนทนาที่กล่าวถึงสำนวน
ภาษาและสุภาษิต ฟังบุคคลสนทนาเกี่ยวกับการซุบซิบนินทา เขียนบรรยายเหตุการณ์ สถานการณ์ที่มีถ้อยคำ
สำนวนภาษาและสุภาษิต และรายงานการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสำนวนภาษา สุภาษิต นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้
คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งหน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ที่เป็นพื้นฐานของ
กจิ กรรมฟัง พดู อ่าน เขียนในหน่วยการเรียนรนู้ ้ี
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้
3.1.1 นักเรียนเข้าใจวา่ การฝึกใช้คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับสำนวนภาษาและสุภาษิต จะทำให้นักเรยี น
สนทนา อา่ น และเขียนได้ดยี งิ่ ขนึ้
3.1.2 อธบิ ายความแตกตา่ งระหว่างคำพงั เพย สุภาษติ อธบิ ายความเหมือนความแตกต่างระหว่างวิถี
ชวี ิต ความเชือ่ วฒั นธรรมของไทยและของเจ้าของภาษา
3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ
3.2.1 สนทนาโต้ตอบขอ้ มูลเกีย่ วกับตนเองและเร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั ในสถานการณจ์ ำลองท่เี กิดขึ้นใน
ห้องเรียน
3.2.2 อ่านออกเสยี งคำ ขอ้ ความถกู ต้องตามหลักการอา่ น
3.3 ดา้ นเจตคติ/คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์/คุณธรรมจรยิ ธรรมทสี่ อดแทรก
3.3.1 ใฝเ่ รยี นรู้ : ค้นคว้าหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ
3.3.2 รู้ทันโลก : เรียนรกู้ ารปรบั ตวั และรบั ข่าวสารใหม่ ๆ อยูเ่ สมอ
4. สมรรถนะของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. สาระการเรียนรู้
- คำศัพท์
กจิ กรรม New Language
- proverbs (n.): wise sayings (สุภาษิต)
- สำนวนภาษา
กิจกรรม New Language
- As the saying Goes เปน็ สำนวนทใ่ี ช้เกรน่ิ นำกอ่ นท่จี ะมีการกล่าวอ้างถงึ สภุ าษติ คำพงั เพย
- หน้าทีภ่ าษา
- To discuss proverbs and sayings
- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
- Adverb Clauses
6. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
กจิ กรรม New Language
1. นำเขา้ สู่บทเรยี น
- ครูเขยี นประโยคสุภาษติ ทไี่ มส่ มบูรณบ์ นกระดานให้นกั เรยี นช่วยกันเตมิ คำดังนี้
- Speech is silver, silence is __________. (gold)
- When in Rome, ________ as the Roman do. (do)
- Who lives by the sword shall ________ by the sword. (die)
- ครถู ามนักเรียนวา่ เราเรียกประโยคข้างตน้ วา่ อะไร และในภาษาไทยคำกล่าวทเ่ี ทียบเคยี งกบั คำกลา่ ว
ข้างตน้ คอื อะไร
- What do we call these sayings? (proverbs)
- What is a proverb?
- What Thai proverb is similar to it?
- ครูบอกนกั เรียนวา่ คำเหล่านีเ้ รียกว่า proverb = wise saying (สภุ าษิต) ซงึ่ จะแตกต่างกนั ไปตาม
วัฒนธรรมของแต่ละประเทศ และใหน้ ักเรยี นจบั คู่คำสุภาษิตให้ตอนต้นกบั ตอนทา้ ยตอ่ กันดังนี้
1. When the cat’s away….. a. there’s fire
2. Where there’s smoke….. b. is in the eating
3. Don’t bite the hand….. c. the mice will play
4. The proof of the pudding ….. d. that feeds you
Answers:1. c - People misbehave when the person in authority is absent.
2. a - Where there is some evidence that something may be wrong, something
will be wrong.
3. d - Don’t offend someone who is helping you.
4. b - To fully test something you need to experience it yourself.
CULTURE CORNER
- คำว่า Proverb หรือสุภาษิต มาจากคำภาษาละตินคือ proverbium ซึ่งมีความหมายคล้ายกับคำกล่าวสั้น ๆ ที่
นิยมพูดทั่วไป ปกติจะไม่ทราบแหล่งที่มาแต่จะบอกความจริงหรือข้อคิดทีม่ ีประโยชน์ ศัพท์เฉพาะของวิชาที่ศึกษา
เกย่ี วกับสุภาษติ เรยี กวา่ paremiology
- สุภาษิตที่มคี วามหมายตรงกบั ของไทย
The early bird catches the worm – นกออกหากินแตเ่ ช้าย่อมไดห้ นอนตัวโต
2. แจ้งBจeดุ tปteรrะlaสtงeคtก์ hาaรnเรnยี eนveรrู้ – มาสายดีกวา่ ไมม่ า
- คDรoบูn’อtกcนoักunเรtยี yนoวu่าrใcนhหicนkeว่ nยsกbาeรfเoรrยี eนtรhนู้ey้ีนักhเaรtcยี hนจ–ะไไมดเ่ ห้อน็ ่านนำ้ ขออ้ ยค่าตวดัากมรสะ้นั บอๆกไทมม่ีเหีเหน็ กตรุกะารรอณกอ์สยอ่าดโกคง่ ลหอ้ นง้ากไมบั ้
สุภาษติ และฝึกพดู บทสนทนาสน้ั ๆ เก่ียวกบั เหตกุ ารณ์ในภาพ
3. อ่านขอ้ ความ