The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chaimath2514, 2021-11-09 03:46:44

ภาษาอังกฤษ 6 อ 33102

แผนอังกฤษ ม.6

- Wipa is going to Mandalay tomorrow. The flight will depart Bangkok at 10.50 and
arrive in Mandalay at 12.15. So she will be sitting in the plane at 12.00 tomorrow.

- ครูถามนกั เรียน
- What will Wipa be doing at 12.00 tomorrow? (She will be sitting in the plane)

- ครูให้นกั เรยี นตอบคำถามเก่ยี วกับตวั เองดงั น้ี
- What will you be doing at 12 tonight?
- What will you be doing at 8 tomorrow?
- What will you be doing at 9 next Sunday?

- ครูถามนกั เรียนว่าคำทข่ี ีดเสน้ ใต้ คอื will + be + Present Participle เรียกว่า tense อะไร ใชก้ บั
เหตกุ ารณ์อยา่ งไร

- ครูให้นกั เรียนอ่านกรอบ Grammar ในหนงั สือเรียน หนา้ 64 ในส่วนแรกเพอ่ื เฉลยคำตอบขา้ งต้น ครสู ุ่ม
ถามความเขา้ ใจและอธิบายเพ่ิมเตมิ วา่ เราใช้ Future Progressive ซึ่งมีรูปกริยา will + be + Present
Participle ใชพ้ ดู เกยี่ วกบั เหตุการณห์ รอื การกระทำทก่ี ำลังดำเนินอยูใ่ นเวลาท่ีแน่นอนในอนาคต

- ครูตรวจสอบความเข้าใจโดยให้นกั เรยี นฝึกพดู ประโยคในรูป Future Progressive โดยครเู ขียนประโยค
คำถามบนกระดานใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนรายงานคำตอบในชน้ั เรียนดงั น้ี

- What will you be doing at 8 a.m. tomorrow morning?
- What will you be doing at 8 p.m. Friday evening?
- What will you be wearing to the next party?
3. นำเสนอการใช้ Future Perfect
- ครูนำเขา้ สู่บทเรยี นโดยถามนักเรียนถึงเหตุการณ์ท่ไี ด้ทำเสร็จสมบรณู ์ในตอนนแ้ี ละจะได้ทำเสร็จสมบูรณ์
ณ เวลาใดเวลาหน่งึ ในอนาคต ดงั นี้
- What have you just done? (I have just had breakfast)
- What will you have done by this time tomorrow?
- What will you have done by 10 tonight?
- ครนู ำเสนอประโยค Future Perfect โดยครูพดู และเขียนข้อความบนกระดานดงั นี้
- Wipa is going to Mandalay tomorrow. The flight will depart Bangkok at 10.50 and
arrive in Mandalay at 12.15. So she will have arrived at Mandalay Airport by 12.30 tomorrow.
- ครถู ามนกั เรยี น
- What time will Wipa have arrived at Mandalay Airport? (She will have arrived at
Mandalay Airport by 12.30 tomorrow.)
- ครถู ามนักเรยี นวา่ คำที่ขีดเสน้ ใต้ คือ will + have + Past Participle เรยี กวา่ tense อะไร ใช้กับ
เหตุการณ์อย่างไร
- ครใู ห้นักเรยี นอ่านกรอบ Grammar ในหนังสอื เรยี น หน้า 64 ในส่วนทส่ี องเพ่อื เฉลยคำตอบข้างต้น ครู
สุม่ ถามความเขา้ ใจและอธิบายเพ่ิมเตมิ วา่ เราใช้ Future Perfect ซึ่งมีรูปกริยา will + have + Past
Participle ใชพ้ ดู เกยี่ วกับเหตุการณห์ รือการกระทำจะเสรจ็ สมบูรณก์ อ่ นจุดเวลาใดเวลาหน่ึงในอนาคต โดย
อาจจะเขียน timeline ประกอบดังนี้

NOW (2014)

Past

Future

by the time….

Action completed

I will have completed college by 2020

- ครตู รวจสอบความเข้าใจโดยให้นกั เรยี นฝึกพดู ประโยคในรูป Future Perfect โดยครเู ขยี นประโยคคำถาม
บนกระดานใหน้ ักเรยี นเขียนคำตอบคนละ 2 ประโยคและอ่านให้เพอ่ื นฟงั ในชน้ั เรียนดงั นี้

- What will you have done by the beginning of the next year?
- ครใู ห้นกั เรียนดปู ระโยคในกรอบไวยากรณท์ อี่ ยู่ในรูป the passive voice form of the future
perfect และอธบิ ายเพ่ิมเติมว่า โครงสรา้ งของ passive ในรูปของ tense นีก้ ็เหมือนกบั passive ทว่ั ไป
กล่าวคือ เน้นท่ีการกระทำมากกวา่ ผู้กระทำเพราะวา่ ไมร่ ้วู า่ ใครทำหรอื ผทู้ ำไม่ใชส่ ่ิงสำคัญ เชน่ The bridge
will have been built by the end of this year. เราไม่สนใจวา่ ใครเปน็ คนทำสะพาน (อาจจะทำโดย
คนงาน) แต่สนใจที่การสร้างมากกวา่
4. ฝกึ พดู และเขียน
- ครูให้นักเรยี นฝึกใช้ประโยคในรปู Future Progressive และ Future Perfect โดยให้นกั เรียนทำ
กจิ กรรม Grammar A ถงึ D ในหนงั สือเรียน หนา้ 64-65 ในแต่ละกิจกรรมดำเนินการดงั นี้
กจิ กรรม Grammar A
- ครใู หน้ ักเรียนดกู จิ กรรม Grammar A ในหนงั สอื เรียน หน้า 64 อ่านออกเสยี งคำสง่ั และคำศพั ท์ที่อยูใ่ น
แบบฝกึ หัด แลว้ ชว่ ยกันอธบิ ายความหมายของคำศัพทบ์ างคำ เชน่ climate change, drought, refugee,
conservation (ดขู อ้ มูลด้านคำศัพท)์
- ให้นักเรยี นอ่านออกเสยี งประโยคตัวอยา่ ง ครใู ห้นักเรยี นดูรูปของกรยิ าในประโยคตวั อย่างซง่ึ สว่ นหน้า
เป็น the passive voice form of the future perfect สว่ นหลงั อยู่ในรูป active ครูให้นักเรยี นแตล่ ะคน
เลอื กใช้ส่วนหนา้ หรือส่วนหลัง (การทำนายเหตุการณ์ในอนาคตวา่ ปญั หาต่าง ๆ ตามทกี่ ำหนดจะได้รับการแก้ไข
หรืออาจจะกลบั มีมากข้ึน) กับคำศพั ท์ที่กำหนด ครสู ุ่มถามในหอ้ งเรยี น
- ใหน้ กั เรยี นจบั คกู่ ันพดู แสดงความคิดเห็น โดยให้เหตุผลประกอบการทำนายเหตุการณใ์ นอนาคต ดัง
ตวั อย่าง

- Hunger - Hunger will have disappeared. People will be growing more crops, and they
will be destroying them better.

- ครูเดินสังเกตการพดู แสดงความคดิ เหน็ ของนกั เรยี น และประเมนิ การพูดแสดงความคดิ เห็นโดยใช้เกณฑ์
การประเมนิ การพดู และใชเ้ กณฑ์ผา่ นระดบั พอใช้

- ครสู ุ่มนกั เรยี นออกมาพดู เหตผุ ลประกอบคำทำนายของตน
- ครูใหน้ กั เรยี นช่วยเลอื กคำนายและเหตุผลประกอบทีน่ ่าสนใจ และขอ้ ท่ีมีเหตุผลขัดแยง้ กันมาอภปิ ราย
ในชั้นเรียน
กจิ กรรม Grammar B
- ครูใหน้ ักเรียนอ่านคำสัง่ กจิ กรรม Grammar B ในหนังสือเรียน หน้า 64
- ใหน้ กั เรียนอ่านประโยค และคำบอกเวลาท่กี ำหนดในข้อ 1 ครถู ามนกั เรียนเพื่อให้นักเรียนคิดและทำ
ความเข้าใจซึง่ จะทำใหน้ กั เรียนสามารถเลอื กเตมิ ประโยคในรปู Future Progressive หรอื Future Prefect
ตามสถานการณ์และเวลาท่ีกำหนด

- What time does the exam finish tomorrow?
- At 12 o’clock, will I still be working on the exam?
- ครูใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั ทำในขอ้ ที่เหลือ
- ครสู ุ่มนักเรียนอา่ นออกเสียงประโยคที่สมบูรณ์ และใหน้ ักเรียนช่วยกนั เฉลยคำตอบ (ดูเฉลยท้ายเล่ม) ครู
ชว่ ยอธบิ ายและแก้ไขในกรณีท่เี หน็ ว่ายังไม่ถูกตอ้ ง
กิจกรรม Grammar C
- ครูให้นกั เรยี นอ่านออกเสยี งคำสงั่ กจิ กรรม Grammar C ในหนงั สือเรียน หนา้ 65
- อา่ นออกเสียงคำทก่ี ำหนดในข้อ 1 (dancing) ครูถามนกั เรยี นและให้นักเรยี นเขียนประโยคตามความ
จริง คำถามท่ใี ช้ถามนกั เรยี นคือ
- Who will be dancing this coming Saturday night?

(I will be dancing.. / I won’t be dancing..)
- ครูใหน้ กั เรยี นเขยี นประโยคเตมิ ลงในขอ้ ทเ่ี หลอื จับคู่แลกเปล่ยี นข้อความของตนเอง
- ครูสุม่ นกั เรียนบอกส่งิ ทีค่ ู่ของตนวางแผนจะทำในวันหยดุ สดุ สัปดาห์
กจิ กรรม Grammar D
- ครใู หน้ กั เรยี นดูกจิ กรรม Grammar D ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 65 และอา่ นออกเสียงคำส่งั ครูบอก
นกั เรียนวา่ ใน แบบฝกึ หดั น้ีเราจะใช้ Future Perfect เพอ่ื บอกเหตกุ ารณท์ ีจ่ ะเสรจ็ สมบรู ณก์ ่อนเวลาใดเวลา
หนง่ึ ในอนาคต
- อา่ นออกเสียงคำทกี่ ำหนดในขอ้ 1 (graduate) ครูและนกั เรียนชว่ ยกนั เขียนประโยคตามท่ีคิดว่าจะเป็น
ความจรงิ ดงั น้ี

Graduate – Ten years from now, I will have graduated from college. /
Ten years from now, I won’t have graduated from college.

- ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะคนเขยี นตอบในข้อท่ีเหลอื

- ครสู มุ่ นกั เรียนอา่ นออกเสยี งประโยคท่สี มบรู ณ์และใหน้ กั เรียนช่วยกันเฉลยคำตอบ ครชู ่วยอธิบายและ

แก้ไขในกรณที ่ีเห็นว่ายงั ไมถ่ ูกต้อง

- ครูใหน้ กั เรยี นช่วยเลอื กคำตอบท่นี ่าสนใจมาเป็นหวั ขอ้ ในการอภปิ ราย

5. เขยี นบอกเกย่ี วกบั แผนการของตนเอง

- ครใู ห้นักเรียนเขียนบอกเก่ียวกับแผนการของตนเองโดยให้นกั เรยี นเขยี นส่ิงทีจ่ ะเสรจ็ หรือไมเ่ สรจ็

สมบูรณ์ และให้นักเรยี นคิดเหตกุ ารณ์เอง เชน่ visit the U.S./Paris, go skydiving, learn to design
websites
6. ประเมินงานเขยี น

- ครูประเมนิ ขอ้ เขียนเก่ยี วกับแผนการของนักเรยี นโดยใช้เกณฑ์การประเมินการเขยี น และใช้เกณฑผ์ า่ น

ระดับพอใช้

กจิ กรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณท์ างภาษา

- ครูเขียนสถานการณ์ต่อไปนีบ้ นกระดาน ให้นักเรยี นเขียนประโยคโดยเลือกใช้ Future Progressive หรือ
Future Perfect ดังนี้

- in 60 years / we / use up / all the world’s oil
- in 50 years / people / live / on Mars
- in 100 years / people / drive cars run by gas
- in 100 years / people / use / only alternative fuels
- ครูให้นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั ข้อ A-F ในหนังสือแบบฝึกหัด New World 6 หน้า 41-43 (ดเู ฉลยท้ายเล่ม)
7. ส่ือการเรยี นรู้

1. หนังสือเรียน New World 6 หนา้ 64-65
2. หนังสือแบบฝึกหดั New World 6 หนา้ 41-43
8. แหลง่ เรียนรู้ -
9. การวดั และการประเมนิ ผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สงิ่ ทีต่ อ้ งรแู้ ละปฏบิ ัตไิ ด้ ผลงาน/ช้ินงาน การวัดผลและประเมนิ ผล
และตวั ชว้ี ดั

ต 1.2 ม.4-6/5 พูดและเขียนแสดงความ ถ ้ อ ย ค ำ พ ู ด แ ส ด ง ประเมินการพูดแสดง
คิดเห็นของตนเกี่ยวกับ คว ามคิดเห็น โ ดย ให้ คว ามคิดเห็น โ ดยใช้
เรื่องต่าง ๆ อย่างมี เหต ุ ผลปร ะ ก อ บการ เกณฑ์การประเมินการ
เหตุผล ทำนายเหตุก าร ณ ์ ใ น พูด และใช้เกณฑ์ผ่าน

อ น า ค ต ใ น ก ิ จ ก ร ร ม ระดบั พอใช้
Grammar A

ต 1.3 ม.4-6/1 เขียนข้อมูลเกี่ยวกับ ข้อเขียนบอกแผนการ ประเมินการเขียนโดยใช้

ตนเอง ของตนเองในกิจกรรม เกณฑ์การประเมินการ

Grammar D เขียน และใช้เกณฑ์ผ่าน
ระดบั พอใช้

10. การบูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (3 ห่วง 2 เงือ่ นไข 4 มติ )ิ
- การบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3 หว่ ง ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2
เงือ่ นไข
เงอ่ื นไขความรู้
พอประมาณ เงื่อนไขคณุ ธรรม
มเี หตผุ ล
มภี มู ิค้มุ กนั ในตัวท่ีดี มิติสิง่ แวดลอ้ ม มติ วิ ัฒนธรรม
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4 มติ ิ
มติ เิ ศรษฐกจิ มติ ิสังคม

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 16

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6

รายวชิ า ภาษาองั กฤษ รหสั วชิ า อ 33102

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 9 Natural Resources and Energy จำนวน 6 ชั่วโมง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 16 Energy จำนวน 1 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมีเหตุผล

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/4 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็น

จากการฟังและ อา่ นเรอ่ื งท่เี ป็นสารคดี และบันเทงิ คดี พร้อมทั้งใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง ประกอบ

2. สาระสำคัญ

หน่วยการเรียนรู้นี้มีจุดมุ่งหมายให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานและนาโนเทคโนโลยีในบทอ่านและจาก
การศึกษาค้นคว้าและนำเสนอในห้องเรียน นักเรียนจะได้พูดแสดงบทบาทสมมติ การสนทนาเกี่ยวกับ
พลังงาน ฟังบุคคลให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของเชื้อเพลิงชีวภาพ อ่านออกเสียงบทสนทนา เขียน
บรรยายเกี่ยวกับปัญหาและการแก้ปัญหาพลังงานโลก และรายงานการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคำพูด
ภาษาอังกฤษต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทางเลือก นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้คำศัพท์ที่เก่ียวข้องกับเหตุการณ์
ดังกล่าว รวมทั้งหน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ที่เป็นพื้นฐานของกิจกรรมฟัง พูด อ่าน เขียนใน
หน่วยการเรียนรู้น้ี
3. จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 ด้านความรู้

3.1.1 นักเรียนเข้าใจว่าการฝึกใช้คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับพลังงานและนาโนเทคโนโลยี จะทำให้

นกั เรยี นสนทนา อ่าน และเขียนได้ดียง่ิ ขนึ้

3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ

3.2.1 จับใจความสำคัญ วเิ คราะหค์ วาม สรปุ ความ ตีความบทความท่ีอา่ น

3.3 ดา้ นเจตคต/ิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค/์ คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก

3.3.1 ใฝ่เรยี นรู้ : คน้ คว้าหาความรู้จากแหลง่ เรยี นรูต้ ่าง ๆ

3.3.2 อยู่อย่างพอเพียง : ใชท้ รพั ยากรตา่ ง ๆ อย่างคมุ้ คา่

4. สมรรถนะของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร

4.2 ความสามารถในการคดิ

4.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา

4.4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. สาระการเรยี นรู้

- คำศพั ท์

กิจกรรม Reading

- manipulation (n.): the process of skillfully handling, controlling, or using

something (การควบคุมหรือการใช้)

- matter (n.): the material that universe is made of (วัตถุ, สสาร)

- pathogen (n.): something that produce disease like bacteria (เชื้อโรค)

- filthy (adj.): very dirty (ทส่ี กปรก, ท่ีโสโครก)

- sterile (adj.): completely clean and not containing any bacteria (ปราศจาก

เชือ้ โรค)

- contaminated (adj.): containing dangerous or poisonous substances (ทำให้เน่า, ทำให้

มเี ช้ือโรค)

- foul-tasting (n.): tasting bad (รสชาติไมด่ )ี

- distressed (adj.): upset (โศกเศร้าเสียใจ)

- prototype (n.): a model of an invention used to test its design before it is

produced (ตน้ แบบ, แบบฉบับ)

- disposable (adj.): able to be thrown out (ท่ีใช้แลว้ ทิ้ง, ทิ้งไดเ้ ลย)

- filter (n.): something that gas or a liquid is put through to remove

unwanted substances (เครือ่ งกรอง)

- สำนวนภาษา

-

- หนา้ ที่ภาษา

- To talk about technology

- โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์

- The passive form of the future perfect
6. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

กิจกรรม Reading

1. นำเข้าสู่บทเรยี น
- ครใู ห้นักเรียนดรู ปู ภาพประกอบกิจกรรม Reading ในหนังสือเรียน หนา้ 66 ชกั ชวนนักเรียนพูดคุย

เก่ียวกบั รูปภาพโดยใชแ้ นวคำถามดงั นี้
- What can you see?
- Are there water shortages in some areas?

2. แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
- ครูบอกนกั เรยี นว่าในหน่วยการเรียนรูน้ ี้นักเรยี นจะไดอ้ ่านบทความเกีย่ วกบั นาโน

เทคโนโลยี (nanotechnology) เม่อื อา่ นแล้วนกั เรยี นจะทราบถงึ วิธกี ารและประโยชน์ของนาโน
เทคโนโลยี และสามารถแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั เรอ่ื งที่อ่าน

FACT FILE

- บุคคลที่ได้รับยกย่องให้เป็นบิดาของนาโนเทคโนโลยี คือ ริชาร์ด ฟายน์แมน (Richard Feynaman) ซึ่งเป็นผู้
เปิดความคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ โดยเขาได้กล่าวไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1959 ว่า “ใน
อนาคตข้างหน้ามนุษย์จะสามารถสร้างสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยการจัดเรียงอะตอมได้ในระดับที่แม่นยำ ซึ่ง ณ วันนี้ยัง
ไม่มีกฎฟิสิกส์ใด ๆ หรือรวมถึงกฎแห่งความไม่แน่นอนใด ๆ มาขัดขวางความเป็นไปได้นี้” จากนั้นจนถึงปัจจุบัน
จึงมกี ารพฒั นาอย่างสืบเน่อื งเป็นลำดบั

กิจกรรมก่อนอ่าน
1. ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสยี งคำถามในกิจกรรม Reading และชว่ ยกนั อภิปรายและตอบคำถามดงั น้ี

- Is safe drinking water easily available in your town or country?
- What is done to preserve water?
2. ครนู ำเสนอคำศพั ทโ์ ดยดำเนนิ กจิ กรรมดงั นี้
- ครใู ห้นักเรยี นทำงานเปน็ กล่มุ กลมุ่ ละ 4 คน ใช้เวลา 5 นาที ระดมสมองคิดคำศพั ท์ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั
unclean water และ safe drinking water ลงในตาราง โดย 2-3 คำแรกครูอาจจะช่วยเพื่อใหน้ กั เรียนเห็น
แนวทาง

unclean water safe drinking water
dirty / filthy / contaminated filtration
bacteria sterile
viruses
parasites
pathogens

- ครูให้นักเรยี นที่เปน็ ตวั แทนแต่ละกลุม่ เตมิ คำในตาราง ครชู ว่ ยเพม่ิ เติมและอธบิ ายความหมายบาง
คำ เช่น filthy, contaminated, pathogens, filtration, sterile (ดขู อ้ มูลด้านคำศพั ท์)
กจิ กรรมระหวา่ งอ่าน
1. อา่ นบทความ

- ครใู หน้ กั เรียนกลุม่ เดมิ ใชเ้ วลา 15 นาที อ่านบทความและช่วยตอบคำถามทค่ี รเู ขียนบนกระดานต่อไปน้ี
1) Who created how to make safe drinking water?
2) What was the cause of his presentation?
3) What was the lifesaver bottle?
4) What is the nanotechnology used in the filtration system?

- ครสู ุม่ ตวั แทนแต่ละกลมุ่ อา่ นคำตอบ
- ให้นักเรยี นฟังซีดบี ันทึกเสยี ง CD 2 Track 19 กจิ กรรม Reading อ่านตามและตอบคำถามใน
กจิ กรรม About the Reading ในหนงั สือเรียน หน้า 67
กิจกรรมหลงั อา่ น
1. ตรวจสอบความเข้าใจบทอ่าน
- ครูและนกั เรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคำตอบในกจิ กรรม About the Reading (ดเู ฉลยท้าย
เลม่ )
2. ประเมนิ การอ่าน
- ครูประเมนิ ความเข้าใจบทอ่านจากจำนวนคำตอบท่ีถกู ต้องในการทำกจิ กรรม About the Reading โดย
ใชเ้ กณฑ์ผา่ นรอ้ ยละ 60
3. พฒั นาคำศัพท์
- ครใู ห้นักเรยี นอา่ นบทความอีกคร้ัง ขดี เส้นใต้คำศัพทท์ ี่นักเรยี นไมท่ ราบความหมาย และใหน้ กั เรยี นจับคู่
กันเขยี นคำหมายคำศัพทโ์ ดยดูจากบรบิ ททอี่ า่ น
- ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกันบอกความหมายคำศพั ท์ทีเ่ ขียน คำศพั ท์ใดที่นักเรยี นเขยี นความหมายไม่ได้ครู
อธบิ ายเพมิ่ เตมิ หรอื ให้นกั เรียนคน้ หาจากพจนานุกรม
4. ตรวจสอบความเข้าใจคำศัพท์
- ครูใหน้ กั เรียนทำกิจกรรม Content Vocabulary ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 67 และชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ (ดู
เฉลยท้ายเลม่ )
5. แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเรือ่ งท่อี ่าน
- ครใู ห้นกั เรยี นอภิปรายว่าอะไรเป็นส่งิ ที่นา่ สนใจทส่ี ุดหรอื นา่ ประหลาดใจที่สุดในบทอ่าน

- What is the most surprising or interesting in the Reading?
กจิ กรรมเสรมิ ทักษะ/ประสบการณท์ างภาษา

- ให้นกั เรยี นทำงานกล่มุ โดยให้เขยี นบทโฆษณา The Lifesaver bottle โดยมีขอ้ ความและภาพประกอบ

7. สือ่ การเรยี นรู้
1. หนังสือเรียน New World 6 หนา้ 66-67

2. ซีดีบันทึกเสียง
3. เครื่องเล่นซดี ี
4. สื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์

- http://library.dip.go.th/Industrial%20Innovation/www/inno2-01.html
- http://bigworakarn.blogspot.com/2013_02_01_archive.html
8. แหลง่ เรียนรู้ -

9. การวดั และการประเมินผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สิ่งทีต่ อ้ งรู้และปฏิบัตไิ ด้ ผลงาน/ชิ้นงาน การวัดผลและประเมนิ ผล
และตัวชี้วดั

ต 1.1 ม.4-6/4 จ ั บ ใ จ ค ว า ม ส ำ คั ญ ค ำ ต อ บ จ า ก ก า ร ท ำ ประเมินผลจากจำนวน

วิเคราะห์ความ สรุป ก ิ จ ก ร ร ม About the คำตอบที่ถูกต้องโดยใช้

ความ ตีความบทความที่ Reading เกณฑ์ผา่ นรอ้ ยละ 60

อ่าน

10. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (3 ห่วง 2 เงื่อนไข 4 มิต)ิ

- การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 3 หว่ ง ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 2

เงือ่ นไข

พอประมาณ เงื่อนไขความรู้

มเี หตุผล เงอ่ื นไขคุณธรรม

มภี ูมคิ ุม้ กนั ในตวั ที่ดี

ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4 มิติ

มิตเิ ศรษฐกิจ มติ สิ ังคม มิติสิง่ แวดล้อม มิตวิ ัฒนธรรม

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

รายวชิ า ภาษาอังกฤษ รหสั วชิ า อ 33102

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 9 Natural Resources and Energy จำนวน 6 ชั่วโมง

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 17 Energy จำนวน 1 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเหน็ อยา่ งมีประสิทธภิ าพเหตผุ ล

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกีย่ วกับเรื่อง

ต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และ ข่าว/เหตุการณ์อยา่ งมีเหตผุ ล

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการ

พดู และการเขียน

ตัวชว้ี ดั ที่ ม.4-6/1 พดู และเขยี นนำเสนอขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง/ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ เร่ือง

และประเด็น ตา่ งๆ ตามความสนใจของสังคม

2. สาระสำคัญ

หน่วยการเรียนรู้นี้มีจุดมุ่งหมายให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานและนาโนเทคโนโลยีในบทอ่านและจาก
การศึกษาค้นคว้าและนำเสนอในห้องเรียน นักเรียนจะได้พูดแสดงบทบาทสมมติ การสนทนาเกี่ยวกับ
พลังงาน ฟังบุคคลให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของเชื้อเพลิงชีวภาพ อ่านออกเสียงบทสนทนา เขียน
บรรยายเกี่ยวกับปัญหาและการแก้ปัญหาพลังงานโลก และรายงานการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคำพูด
ภาษาอังกฤษตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวข้องกบั พลังงานทางเลือก นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์
ดังกล่าว รวมทั้งหน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ที่เป็นพื้นฐานของกิจกรรมฟัง พูด อ่าน เขียนใน

หนว่ ยการเรยี นรูน้ ้ี
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

3.1 ด้านความรู้

3.1.1 นักเรียนเข้าใจว่าการฝึกใช้คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับพลังงานและนาโนเทคโนโลยี จะทำให้

นักเรยี นสนทนา อ่าน และเขียนไดด้ ียิ่งข้นึ

3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ

3.2.1 พดู แสดงความคิดเห็นของตนเกย่ี วกบั เรือ่ งต่าง ๆ อย่างมีเหตุผล

3.2.2 พดู และเขียนนำเสนอขอ้ มูล เหตกุ ารณ์ เร่ือง ตามความสนใจของสังคม

3.3 ด้านเจตคติ/คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค/์ คณุ ธรรมจรยิ ธรรมทส่ี อดแทรก
3.3.1 ใฝเ่ รยี นรู้ : คน้ คว้าหาความรู้จากแหลง่ เรียนรู้ต่าง ๆ
3.3.2 อยู่อย่างพอเพียง : ใช้ทรพั ยากรตา่ ง ๆ อย่างคุ้มค่า

4. สมรรถนะของผูเ้ รียน

4.1 ความสามารถในการสื่อสาร

4.2 ความสามารถในการคิด

4.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา

4.4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. สาระการเรยี นรู้

- คำศัพท์
-

- สำนวนภาษา
-

- หนา้ ทภี่ าษา
- To talk about energy problem and solution

- โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์
- Future Perfect Passive

6. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรม Speaking

1. แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
- ครบู อกนักเรียนวา่ ในหน่วยการเรียนรนู้ นี้ ักเรยี นจะได้พูดอภปิ ราย แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับนำ้

เชื้อเพลิง พลังงาน และเทคโนโลยีท่ที นั สมยั
2. พดู แสดงความคิดเหน็ และรายงาน

- ครูใหน้ กั เรยี นทำกิจกรรม Speaking ในหนงั สอื เรียน หน้า 67 โดยแบง่ นกั เรียนเป็นกลุม่ กล่มุ ละ 4 คน
- สุ่มนักเรยี น 1 คนอา่ นออกเสียงประโยคคำถามในกจิ กรรม Speaking ในหนังสอื เรยี น หนา้ 67
- ให้สมาชกิ ในแตล่ ะกลมุ่ แสดงความคดิ เห็น อภิปราย และตอบคำถามในกิจกรรม Speaking บางขอ้
นกั เรียนอาจต้องคน้ ควา้ เพิม่ เตมิ
- แตล่ ะกลุม่ รวบรวมความคดิ เห็นของสมาชิกรายงานในชน้ั เรยี น
- นำหวั ข้อทม่ี ีคำตอบไม่ตรงกันมาอภิปรายในช้ันเรยี น
3. ประเมินการอภปิ รายและการพดู นำเสนอข้อมูล
- ครปู ระเมนิ การพดู อภปิ รายโดยใช้เกณฑ์การประเมินการอภิปรายกลมุ่ และใช้เกณฑผ์ ่านระดบั พอใช้
- ครูประเมนิ การพูดนำเสนอข้อมลู โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ การพดู และใช้เกณฑ์ผ่านระดบั พอใช้

กจิ กรรม Writing

1. นำเข้าสบู่ ทเรยี น
- ครูให้นักเรียนอา่ นออกเสยี งคำสง่ั ในกจิ กรรม Writing ในหนังสือเรยี น หน้า 67

2. แจง้ จุดประสงค์การเรยี นรู้
- ครูบอกนกั เรียนว่าในหนว่ ยการเรียนรู้นนี้ ักเรียนจะได้ฝึกเขยี นขอ้ ความบรรยายปญั หา และการแกไ้ ข

ปัญหาเกีย่ วกับพลังงาน
กิจกรรมกอ่ นเขยี น
1. ครชู ักชวนนักเรยี นพูดคยุ เกยี่ วกบั ปัญหาด้านพลังงานในระดับโลกวา่ มอี ะไรบา้ ง พรอ้ มทัง้ เขียนรายการบน
กระดาน เชน่

- using up of oil / coal reserves
- pollution from fossil fuels
- nuclear waste
- small number of wind farms or solar panels, gasoline car engines

etc.
กิจกรรมการเขยี น
1. ให้นักเรยี นเลอื กหัวข้อปญั หาขา้ งต้นมา 1 ขอ้ หรือนกั เรียนอาจจะคิดหัวขอ้ ปัญหาของนักเรียนเองกไ็ ด้
2. ใหน้ กั เรียนหาข้อมลู เกี่ยวกบั ปัญหาและแนวทางแกไ้ ข และเขียนร่างขอ้ ความบรรยายตามคำสั่งใน
กจิ กรรม Writing ในหนงั สือเรยี น หนา้ 67
3. นกั เรยี นจบั คกู่ ับเพอื่ นแลกกันอา่ นงานเขียนของกนั และกัน และใหข้ อ้ เสนอแนะในการปรบั ปรงุ ตามที่
เห็นสมควร
4. นกั เรยี นปรบั ปรุงงานเขยี น
กิจกรรมหลังเขยี น
1. ประเมินการเขียนข้อความ

- ครูประเมนิ การเขยี นบรรยายปญั หาและการแก้ไขเกยี่ วกบั พลงั งานโลกโดยใช้เกณฑ์การประเมนิ การ
เขยี น และใชเ้ กณฑผ์ า่ นระดบั พอใช้
2. นำเสนองานเขยี น

- ครูสุ่มนกั เรยี น 2-3 คน อ่านงานเขยี นของตนเองให้เพอ่ื นในชั้นเรียนฟัง
- ครใู ห้นกั เรยี นตดิ งานเขียนของตนทบ่ี อรด์ ในหอ้ งเรียนเพอ่ื ให้เพ่ือนอ่านและชว่ ยกนั ลงมตวิ า่ ปัญหาใดที่
เขยี นซ้ำกันมากทีส่ ุด
3. อภปิ ราย
- ใหน้ กั เรียนนำปญั หาทเี่ ขียนซำ้ กนั มากที่สุดมาประมวลผลเพอ่ื สรุปแนวทางแกไ้ ขของช้ันเรียน

กจิ กรรมเสริมทักษะ/ประสบการณ์ทางภาษา

- ใหน้ ักเรียนทำงานกลมุ่ เขียนออกแบบและรา่ งโครงการเสนอ (Proposals) เกย่ี วกับการใช้พลังงานที่นำ
กลับมาใช้ใหม่ที่ประหยดั และสะอาดสำหรับในบ้านเรอื นหรอื โรงเรยี น พรอ้ มท้ังนำเสนอภาพ แผนภาพ
(diagrams) และรูปแบบการวดั (scale models) และอนื่ ๆ ท่ีจำเปน็

- ให้นักเรียนทำงานกลุ่มกิจกรรม Saving Energy พร้อมทัง้ รณรงค์ให้ทุกคนช่วยกันประหยัดพลังงานโดย
แสดงให้เหน็ ถึงผลเสียของการใช้พลังงานเกนิ จำเป็นในปัจจุบนั และเสนอแนะทางอนุรักษ์แหล่งธรรมชาติ และ
เขียนลงในโปสเตอร์

- ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบฝึกหดั ขอ้ G-H ในหนงั สือแบบฝกึ หัด New World 6 หนา้ 44 (ดูเฉลยทา้ ยเล่ม)
7. ส่ือการเรยี นรู้

1. หนังสือเรยี น New World 6 หน้า 67

2. หนังสอื แบบฝกึ หัด New World 6 หน้า 44
8. แหลง่ เรยี นรู้ -
9. การวดั และการประเมนิ ผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สิ่งทต่ี อ้ งรแู้ ละปฏบิ ัตไิ ด้ ผลงาน/ชน้ิ งาน การวัดผลและประเมนิ ผล
และตัวช้ีวดั

ต 1.2 ม.4-6/5 พดู แสดงความคดิ เหน็ - ถ้อยคำพูดอภิปราย - ป ร ะ เ ม ิ น ก า ร พู ด

ของตนเกี่ยวกับเรื่อง เกี่ยวกับน้ำ เชื้อเพลิง อภิปรายเกี่ยวกับน้ำ

ต่าง ๆ อย่างมีเหตผุ ล พลังงาน แลเทคโนโลยี เชอื้ เพลิง พลังงาน และ

ที่ทนั สมัย เ ท ค โ น โ ล ยี ท ี ่ ท ั น ส มั ย

- ถ้อยคำพูดนำเสนอ โดยใช้เกณฑ์การ

ข้อมูลเกี่ยวกับ น้ ำ ประเมินการอภิปราย

เชื้อเพลิงพลังงานและ กลุ่ม และใช้เกณฑ์ผ่าน

เทคโนโลยีท่ีทนั สมัย ระดับพอใช้

- ป ร ะ เ ม ิ น ก า ร พู ด

นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ

น้ำ เชื้อเพลิง พลังงาน

แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ย ี ที่

ทันสมัยโดยใช้เกณฑ์

ก า ร ป ร ะ เ ม ิ น ก า ร พู ด

และใช้เกณฑ์ผ่านระดับ

พอใช้

ต 1.3 ม.4-6/1 พูดและเขียนนำเสนอ ข้อเขียนบรรยายปัญหา ป ร ะ เ ม ิ น ก า ร เ ข ี ย น

ข้อมูล เหตุการณ์ เรื่อง และการแก้ไขเกี่ยวกับ บรรยายปัญหาและการ

ตามความสนใจของสังคม พลงั งานโลก แก้ไขเกี่ยวกับพลังงาน

โลกโดยใช้เกณฑ์การ

ประเมนิ การเขียน และใช้

เกณฑ์ผา่ นระดับพอใช้

10. การบูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (3 หว่ ง 2 เงอ่ื นไข 4 มิต)ิ
- การบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3 หว่ ง ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2
เงือ่ นไข
เงอ่ื นไขความรู้
พอประมาณ เงื่อนไขคณุ ธรรม
มเี หตผุ ล
มภี มู ิค้มุ กนั ในตัวท่ีดี มิติสิง่ แวดลอ้ ม มติ วิ ัฒนธรรม
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4 มติ ิ
มติ เิ ศรษฐกจิ มติ ิสังคม

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 18

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 6

รายวชิ า ภาษาอังกฤษ รหัสวชิ า อ 33102

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 9 Natural Resources and Energy จำนวน 6 ชัว่ โมง

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 18 Energy จำนวน 1 ช่วั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ัด

มาตรฐาน ต 2.1 มีเขา้ ใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้

อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตวั ชีว้ ัดท่ี ม.4-6/3 เขา้ รว่ ม แนะนำ และจดั กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอยา่ งเหมาะสม

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็น

พนื้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 ค้นคว้า/สืบค้น บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

กับกลมุ่ สาระการ เรยี นรอู้ ่ืน จากแหลง่ เรียนรตู้ ่างๆ และ นำเสนอดว้ ยการพดู และการเขียน

2. สาระสำคญั

หน่วยการเรียนรู้นี้มีจุดมุ่งหมายให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานและนาโนเทคโนโลยีในบทอ่านและจาก

การศึกษาค้นคว้าและนำเสนอในห้องเรียน นักเรียนจะได้พูดแสดงบทบาทสมมติ การสนทนาเกี่ยวกับ
พลังงาน ฟังบุคคลให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของเชื้อเพลิงชีวภาพ อ่านออกเสียงบทสนทนา เขียน
บรรยายเกี่ยวกับปัญหาและการแก้ปัญหาพลังงานโลก และรายงานการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคำพูด
ภาษาอังกฤษต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกบั พลังงานทางเลือก นอกจากนีย้ ังได้เรียนรู้คำศัพท์ทีเ่ กี่ยวข้องกับเหตุการณ์
ดังกล่าว รวมทั้งหน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ที่เป็นพื้นฐานของกิจกรรมฟัง พูด อ่าน เขียนใน
หน่วยการเรยี นร้นู ี้
3. จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 ด้านความรู้

3.1.1 นักเรียนเข้าใจว่าการฝึกใช้คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับพลังงานและนาโนเทคโนโลยี จะทำให้

นกั เรยี นสนทนา อา่ น และเขียนไดด้ ียง่ิ ขึ้น

3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ

3.2.1 ค้นควา้ /สบื ค้น บันทกึ สรปุ และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับขอ้ มูลท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการ

เรียนร้อู ่นื จากแหล่งการเรยี นร้ตู ่าง ๆ และนำเสนอดว้ ยการพดู และเขียน

3.2.2 เขา้ รว่ มและจัดกจิ กรรมทางภาษาอย่างเหมาะสม

3.3 ดา้ นเจตคติ/คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก
3.3.1 ใฝ่เรยี นรู้ : คน้ ควา้ หาความรจู้ ากแหล่งเรยี นร้ตู ่าง ๆ
3.3.2 อยู่อย่างพอเพียง : ใช้ทรัพยากรตา่ ง ๆ อยา่ งคุ้มค่า

4. สมรรถนะของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
4.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. สาระการเรยี นรู้
- คำศัพท์
-
- สำนวนภาษา
-
- หนา้ ท่ภี าษา
- To talk about type of alternative energy
- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
- Present Simple Tense
- Future Perfect Tense
- Future Progressive Tense

6. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
กจิ กรรม World Link

1. ค้นควา้ ขอ้ มูลเก่ียวกับแหลง่ พลงั งานทางเลอื กของประเทศกล่มุ อาเซียน
- ใหน้ ักเรยี นอา่ นคำส่ังในกิจกรรม World Link ในหนงั สอื เรียน หน้า 67
- ให้นักเรยี นช่วยกันเขียนรายการแหลง่ พลังงานหลกั ของประเทศกลุม่ อาเซยี น
- ใหน้ กั เรียนช่วยกันเขยี นรายการพลังงานทางเลอื ก เช่น wind, solar, geothermal energy, hydroelectric
power, hydrogen
- ใหน้ กั เรียนทำงานเป็นกลุ่ม กล่มุ ละ 4 คน คน้ คว้าขอ้ มลู เกยี่ วกบั พลงั งานทางเลอื กจากรายการขา้ งบน
หรือทางเลอื กอนื่ ๆ ท่นี ่าสนใจของประเทศกลุ่มอาเซียน

2. นำเสนอขอ้ มูล
- ให้นักเรียนแลกเปลีย่ นข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการค้นคว้าโดยรายงานหน้าชั้นเรยี น
- ถ้ามีกรณีได้ตวั อยา่ งซ้ำกนั ให้อภปิ รายถงึ ความแตกตา่ งในรายละเอยี ดของข้อมูล

3. ประเมนิ การค้นคว้า
- ครูประเมินการค้นคว้าและรายงานข้อมูลของนักเรียนแต่ละกลุ่มโดยใช้เกณฑ์การประเมินการเขียน
และใชเ้ กณฑ์ผ่านระดับพอใช้

4. จัดกิจกรรมแข่งขันตอบคำถามภาษาอังกฤษ (English Quiz)
- ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ กลุ่มละ 10 คน ให้นักเรียนจัดการแข่งขันตอบคำถามเกี่ยวกบั
ความรู้ที่ได้เรยี นมาแล้วทั้งหมด (กิจกรรมนี้ครแู บ่งหน้าที่และให้นักเรียนเตรียมตวั ลว่ งหน้าอย่างน้อย2
สัปดาห)์ โดยอาจจะให้นกั เรยี นจบั ฉลาก A-D และทำหน้าทด่ี งั นี้
- กลมุ่ A เป็นกรรมการจดั การแขง่ ขัน โดยอาจจะต้งั ชอื่ เปน็ Grammar Quiz หรอื Reading Quiz
หรือ Vocabulary Quiz หรือ Miscellaneous Quiz กลุ่มนี้จะดำเนินการตั้งชื่อการแข่งขัน
ตั้งคำถาม ทำฉลาก ตั้งกติกาการแข่งขัน เตรียมพิธีกร รวมคะแนน ตัดสิน ทำรางวัลหรือ
เกียรตบิ ัตรให้แก่ผชู้ นะเลศิ
- กลุ่ม B-D เป็นทีมที่เข้าตอบปัญหาชิงรางวัล ให้ช่วยกันเตรียมตัวทบทวนความรู้ตามขอบข่ายท่ี
กรรมการกำหนด
- ใหน้ ักเรยี นจดั และเข้าร่วมการแขง่ ขันตามท่เี ตรียมการ
- ครูประเมินการจัดและการเข้าร่วมการแข่งขันจากความสนใจ ความกระตือรือร้น และความสำเร็จ
ของการแขง่ ขันโดยใช้เกณฑก์ ารประเมินการทำงานกลมุ่ และใช้เกณฑผ์ ่านระดับพอใช้

นักเรยี นประเมินตนเอง

- นักเรียนทำแบบประเมนิ Self-Evaluation เพอื่ ประเมินตนเองเกยี่ วกับเนอ้ื หาท่ไี ด้เรียนไปแลว้ (แบบ
ประเมนิ Unit 9Self-Evaluation ท้ายคมู่ อื ครู/ท้ายหนังสือแบบฝึกหัด)

กิจกรรมเสรมิ ทักษะ/ประสบการณท์ างภาษา

-
7. สอื่ การเรียนรู้

1. หนังสอื เรยี น New World 6 หน้า 67
8. แหลง่ เรียนรู้ -

9. การวดั และการประเมนิ ผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สง่ิ ท่ตี อ้ งรูแ้ ละปฏิบัติได้ ผลงาน/ชน้ิ งาน การวดั ผลและประเมนิ ผล
และตวั ชีว้ ัด

ต 3.1 ม.4-6/1 ค้นคว้า/สืบค้น บันทึก การค้นคว้าและรายงาน ประเมินการค้นคว้าและ

สรุป และแสดงความ ข้อมูลพลังงานทางเลือก รายงานข้อมูลพลังงาน

คิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่ ของกลุ่มประเทศอาเซียน ท า ง เ ล ื อ ก ข อ ง ก ลุ่ ม

เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระ ประเทศอาเซียนโดยใช้

การเรียนรู้อื่นจากแหล่ง เกณฑ์การประเมินการ

การเรียนรู้ต่าง ๆ และ เขียน และใช้เกณฑ์ผ่าน

นำเสนอด้วยการพูดและ ระดับพอใช้

เขียน

ต 2.1 ม.4-6/3 เข้าร่วมและจัดกิจกรรม การดำเนินการจัดและ ประเมินการดำเนินการ

ทางภาษาอย่างเหมาะสม เข้าร่วมแข่งขัน ขั้นตอน จัดและเข้าร่วมแข่งขัน

อุปกรณ์คำพูดของพิธีกร โดยใช้เกณฑก์ ารประเมิน

จนถึงการประกาศผล การทำงานกลุ่ม และใช้

การแขง่ ขัน เกณฑ์ผ่านระดับพอใช้

10. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (3 ห่วง 2 เง่ือนไข 4 มิต)ิ

- การบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 3 ห่วง ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2

เง่ือนไข

พอประมาณ เงือ่ นไขความรู้

มีเหตผุ ล เงื่อนไขคุณธรรม

มีภมู คิ ุ้มกนั ในตวั ทีด่ ี

ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 4 มิติ

มิติเศรษฐกจิ มิตสิ ังคม มิติสิ่งแวดล้อม มติ ิวัฒนธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 19

กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6

รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหสั วชิ า อ 33102

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 9 Review 3 จำนวน 3 ชว่ั โมง

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 19 Review 3 จำนวน 1 ช่ัวโมง

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชีว้ ัด

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมเี หตผุ ล

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/2 อ่านออกเสียง ข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสน้ั

(skit) ถกู ต้อง ตามหลักการอา่ น

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/4 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็น

จากการฟังและ อา่ นเร่อื งทเ่ี ป็นสารคดี และบนั เทงิ คดี พร้อมทงั้ ใหเ้ หตผุ ลและยกตัวอยา่ ง ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 ทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเห็นอยา่ งมปี ระสิทธิภาพเหตุผล

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว

ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/ เหตุการณ์ ประเด็น ทอ่ี ย่ใู นความสนใจของสังคม และส่ือสารอย่างต่อเน่ือง

และเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการ

พดู และการเขียน

ตวั ชว้ี ัดที่ ม.4-6/1 พดู และเขียนนำเสนอขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง/ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ์ เรื่อง

และประเดน็ ต่างๆ ตามความสนใจของสงั คม

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 ใช้ภาษาสื่อสาร ในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลอง ที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรยี น

สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม

2. สาระสำคญั

หน่วยการเรียนรู้นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทบทวนและประเมินความสามารถของนักเรียนในการใช้

คำศัพท์ หนา้ ทีภ่ าษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ทีเ่ รียนมาแลว้ ในหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7-9 เสรมิ ศักยภาพในการ

ฟัง พูด อ่าน เขียน รวมทั้งการทำกิจกรรมทางภาษาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอันได้แก่ การพูดแสดงความคิดเห็น การ

อภิปราย การศกึ ษาค้นคว้าและการนำเสนอข้อมูล

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

3.1 ด้านความรู้

3.1.1 นักเรียนเข้าใจว่าการฝึกและทบทวนความรู้ด้านคำศัพท์ ไวยากรณ์ การฝึกอ่านและเขียน

ตลอดจนการทดสอบทางภาษา การได้รับข้อมูลย้อนกลับ จะช่วยทำให้การใช้ภาษาของนักเรียนมีความ

คงทน สามารถใชภ้ าษาในการสอ่ื สารได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ

3.2.1 พดู นำเสนอขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง/ประสบการณ์ ตามความสนใจ

3.2.2 สนทนาโต้ตอบข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเองและเร่ืองต่าง ๆ ใกล้ตัวในสถานการณ์จำลองท่เี กดิ ขึ้นใน

ห้องเรยี น

3.2.3 อา่ นออกเสียงข้อความถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

3.3 ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์/คณุ ธรรมจรยิ ธรรมที่สอดแทรก

3.3.1 ใฝเ่ รยี นรู้ : คน้ คว้าหาความรจู้ ากแหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ

3.3.2 หมน่ั พฒั นาตนเอง : ทบทวนในสง่ิ ที่เคยเรยี น

4. สมรรถนะของผเู้ รียน

4.1 ความสามารถในการส่อื สาร

4.2 ความสามารถในการคิด

4.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา

4.4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. สาระการเรยี นรู้

- คำศัพท์

กจิ กรรม Review 3

- leftover (n.): food which has not been eaten (ของเหลอื )

- สำนวนภาษา

- หน้าทภี่ าษา

- To talk about a connection action with the present

- To give more detail of the main verb

- To talk about activities of a schedule in the future time

- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์

- Present Perfect Simple, Present Perfect Progressive

- Verb + Infinitive or Gerund

- Either …or / Neither …nor

- Future Progressive, Future Perfect

6. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

ทบทวนโครงสร้างไวยากรณ์

1. ทบทวน Verb + Infinitive or Gerund
แบบฝึกหดั A
- ครเู ขียนประโยคบนกระดาน ให้นกั เรียนเติมคำในรูป Infinitive หรอื Gerund ประโยคให้สมบรู ณ์
- Remember _______ (take out) the garage when you go out. (to take out)
- I can’t remember ________(take out) the garage when I went out. I think I forgot to do
so. (taking out)
- We continued __________ (play) despite the rain. (to play / playing)
- ครถู ามนักเรียนเพือ่ ทบทวนการใช้ Infinitive และ Gerund ท่ีตามหลังกริยาเฉพาะ เชน่ remember

สามารถตามหลงั ไดท้ ้ัง Infinitive และ Gerund แต่ความหมายไม่เหมือนกนั ถ้าตามด้วย Infinitive หมายถึง
remember เกิดก่อน กริยาในรปู Infinitive ถ้าตามดว้ ย Gerund หมายถงึ remember เกิดหลังกรยิ าในรปู
Gerund

- ใหน้ กั เรียนดูกรอบไวยากรณใ์ นหนงั สือเรยี น หนา้ 58 หวั ขอ้ Verb + Infinitive or Gerund
- ครอู ่านออกเสียงประโยคในขอ้ 1 แบบฝึกหัด A ในหนังสือเรียน หน้า 68 ใหน้ กั เรียนชว่ ยกันเติมคำในรูป
Infinitive หรือ Gerund
- ครูให้นกั เรยี นจับคู่กันทำแบบฝกึ หัด A ในหนงั สือเรยี น หน้า 68 ข้อ 2-8
- ครูตรวจสอบโดยสมุ่ นกั เรยี นบางคู่อ่านประโยคทสี่ มบูรณ์ (ดูเฉลยท้ายเลม่ )
2. ทบทวน Either …or, Neither ….nor
แบบฝึกหัด B
- ครทู บทวนโดยเขียนประโยคทม่ี ี Either …or และถามความหมายดงั ตัวอย่าง

- You can either eat yesterday’s leftovers, or you can make yourself a salad for dinner.
คำถาม: What are the person’s choices? (eat leftovers / make a salad)
Can person do both eat leftovers and eat a salad? (no)

- ให้นักเรียนดกู รอบไวยากรณ์ในหนงั สอื เรยี น หน้า 58 หวั ขอ้ Either …or / Neither …nor
- ครอู ่านออกเสียงประโยคในขอ้ 1 แบบฝกึ หดั B ในหนงั สอื เรียน หนา้ 68 และให้นักเรียนช่วยกนั คิดว่า
ใครนา่ จะเป็นผู้พูดประโยคน้ี (a parent, a teacher, etc.)
- ครูให้นกั เรยี นจับคู่กนั ทำแบบฝึกหัด B ในหนังสอื เรยี น หนา้ 68 ในขอ้ ทีเ่ หลอื
- ครใู ห้นกั เรยี นจบั คู่แลกเปลีย่ นและเปรยี บเทียบคำตอบ
- ครตู รวจสอบโดยสมุ่ นักเรียนบางคูอ่ ่านประโยคทสี่ มบูรณ์ และอภิปรายประโยคคำตอบทนี่ ่าสนใจ
แบบฝกึ หดั C
- ครูทบทวนโดยเขียนประโยคที่มี Neither …nor และถามความหมายดงั ตวั อย่าง

- Neither Lisa nor Lucy can play the piano.
คำถาม: Who can play the piano? Can Lisa play the piano? (no) Can Lucy play the

piano? (no)
- ครูทบทวนความหมายของ Neither …nor = not one and not the other one, of two or none
of the two
- ใหน้ กั เรยี นอ่านออกเสยี งประโยคในขอ้ 1 แบบฝกึ หดั C ในหนงั สือเรยี น หน้า 68 ให้นักเรยี นจับคู่กัน

เขยี นประโยคทกี่ ำหนดให้ใหม่ด้วย Neither …nor
- ครตู รวจสอบโดยสุม่ นักเรยี นบางคอู่ ่านประโยคทส่ี มบรู ณ์ (ดเู ฉลยท้ายเลม่ )

3. ทบทวน Present Perfect Simple และ Present Perfect Progressive
แบบฝึกหัด D
- ครูเขยี นประโยคบนกระดาน ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั บอกว่าประโยคนีค้ วรใช้ tense อะไรจึงจะถูกตอ้ ง
- I see the movie six times and I want to see it again.
(I have seen…..)
- I am writing my report for four hours, and I still haven’t finished yet.
( have been writing my report for four hours……)
- ให้นักเรียนดกู รอบไวยากรณใ์ นหนงั สอื เรยี น หนา้ 52 เพอื่ ตรวจคำตอบ
- ครอู ่านออกเสียงประโยคในข้อ 1 แบบฝึกหดั D ในหนงั สอื เรียน หนา้ 69 ให้นกั เรียนชว่ ยกันดวู า่ ประโยคใน

ข้อนี้ถกู ตอ้ งตามหลักไวยากรณ์หรือไม่ พรอ้ มท้ังชว่ ยแก้ไขให้
ถกู ตอ้ ง (Debbie has worn glasses since she was a little girl.)

- ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ะคนทำแบบฝึกหดั D ในหนังสือเรยี น หนา้ 69 ในขอ้ ท่เี หลอื และใหน้ ักเรียนจบั คู่
แลกเปล่ียนคำตอบ (อาจจะมบี างขอ้ ถกู ต้องแลว้ ไม่ตอ้ งแกไ้ ข)

- ครสู ุ่มนกั เรียนบางคนอ่านประโยคทสี่ มบรู ณ์ (ดเู ฉลยทา้ ยเลม่ )
4. ทบทวน Future Progressive และ Future Perfect

แบบฝึกหดั E
- ครูเขียนประโยคบนกระดาน ใหน้ กั เรียนชว่ ยกันอธบิ ายความหมายและความแตกต่างของประโยคดงั นี้

- What will people be using for transportation in 50 years? Will cars run on gasoline
have disappeared?

- ให้นกั เรียนอาสาสมัครบอกชือ่ tense ของคำกรยิ าทีข่ ีดเสน้ ใต้ และอธบิ ายความหมาย
- ให้นักเรียนดกู รอบไวยากรณ์ในหนงั สอื เรยี น หน้า 52 เพอ่ื ตรวจคำตอบ
- ครใู ห้นักเรียนอ่านออกเสยี งคำส่ังแบบฝึกหดั E ในหนงั สอื เรียน หนา้ 69
- ใหน้ กั เรยี นดรู ูปภาพในแบบฝกึ หัดและตารางเวลาการทำกิจกรรมในสมดุ บันทกึ ประจำวันของบคุ คลใน
ชว่ งเวลา 1 สัปดาห์ ครถู ามนกั เรยี นเพ่อื ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนเก่ยี วกบั กิจกรรมดงั น้ี

- When is Matt’s appointment with the dentist?
- Who is having a party on Saturday?
- ครอู า่ นออกเสยี งประโยคในข้อ 1 แบบฝกึ หัด E ในหนังสือเรียน หน้า 69 ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันเติมขอ้ ความ
โดยใช้กริยาในรปู Future Perfect หรอื Future Progressive (will be paying basketball) ครเู พ่มิ เติมว่าถา้
การกระทำอยูใ่ นช่วงเวลาท่ีกำหนดใช้ Future Progressive ถา้ การกระทำเลยเวลาท่ีกำหนดแสดงว่านา่ จะเสร็จ
สมบูรณใ์ ช้ Future Perfect
- ครูใหน้ ักเรียนจบั ค่กู ันทำแบบฝกึ หัด E ในหนังสอื เรยี น หนา้ 69 ในข้อทีเ่ หลอื
- ครูตรวจสอบโดยสุ่มนักเรยี นบางคอู่ ่านประโยคท่สี มบูรณ์ (ดเู ฉลยท้ายเลม่ ) และใหน้ กั เรียนบอกเหตผุ ล
ของการใช้ tense ในขอ้ น้ัน ๆ

กิจกรรมเสริมทักษะ/ประสบการณ์ทางภาษา

- ให้นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด ขอ้ A-G ในหนงั สอื แบบฝึกหดั New World 6 หน้า 45-48 (ดูเฉลยท้ายเลม่ )

7. สอื่ การเรียนรู้
1. หนังสือเรียน New World 6 หน้า 68-69

2. หนงั สอื แบบฝกึ หดั New World 6 หนา้ 45-48
8. แหลง่ เรียนรู้ -
9. การวัดและการประเมินผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สงิ่ ท่ตี อ้ งรู้และปฏบิ ัติได้ ผลงาน/ชนิ้ งาน การวัดผลและประเมนิ ผล
และตัวชี้วัด

ต 1.1 ม.4-6/4 จ ั บ ใ จ ค ว า ม ส ำ คั ญ คำตอบที่ถูกต้องจากการ ประเมินความเข้าใจ

จากข้อความทอ่ี า่ น อ่านข้อความในกิจกรรม ข้อ คว ามที่อ ่าน จ า ก

New Language จำนวนคำตอบที่ถูกต้อง

(Worksheet 1) โดยใช้เกณฑ์ผ่านร้อยละ

60

ต 1.3 ม.4-6/1 พูดนำเสนอข้อมลู ถ้อยคำพูดนำเสนอข้อมูล ประเมินการพูดนำเสนอ
เกย่ี วกับตนเอง/ ที่น่าสนใจของสมาชิกใน ข้อมูลโดยใช้เกณฑ์การ
ประสบการณ์ กลุ่ม เกี่ยวกับเสื้อผ้าใน ประเมินการพูด และใช้
ตามความสนใจ สมัยนิยมและเสื้อผ้าที่ เกณฑผ์ ่านระดบั พอใช้
ชอบใส่

ต 1.2 ม.4-6/1, สนทนาโต้ตอบข้อมูล ถ ้ อ ย ค ำ พ ู ด ส น ท น า ประเมินการพูดสนทนา
ต 4.1 ม.4-6/1
เกี่ยวกับตนเองและเรื่อง เกี่ยวกับช่วงเวลาหรือ โดยใช้แบบประเมินการ

ต ่ า ง ๆ ใ ก ล ้ ต ั ว ใ น จุดเริ่มต้นที่มีหรือสวมใส่ สนทนากจิ กรรมคู่ และใช้

สถานการณ์จำลองท่ี เส้อื ผ้า เกณฑ์ผ่านระดบั พอใช้

เกิดข้นึ ในหอ้ งเรยี น

10. การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (3 ห่วง 2 เง่ือนไข 4 มิต)ิ

- การบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3 หว่ ง ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2 เงื่อนไข

พอประมาณ เง่อื นไขความรู้

มีเหตุผล เงื่อนไขคณุ ธรรม

มีภมู คิ มุ้ กนั ในตวั ทีด่ ี

ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4 มติ ิ

มติ ิเศรษฐกิจ มติ สิ งั คม มิติสง่ิ แวดลอ้ ม มติ วิ ัฒนธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 20

กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6

รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวชิ า อ 33102

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 9 Review 3 จำนวน 3 ชั่วโมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 20 Review 3 จำนวน 1 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชีว้ ัด

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมเี หตผุ ล

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/2 อ่านออกเสียง ข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครส้ัน

(skit) ถกู ต้อง ตามหลกั การอา่ น

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/4 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็น

จากการฟังและ อา่ นเรอื่ งทเ่ี ป็นสารคดี และบนั เทงิ คดี พร้อมทงั้ ให้เหตผุ ลและยกตัวอยา่ ง ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 ทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเห็นอยา่ งมปี ระสิทธิภาพเหตุผล

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว

ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/ เหตุการณ์ ประเด็น ทอ่ี ย่ใู นความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเน่ือง

และเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการ

พดู และการเขียน

ตวั ชว้ี ัดที่ ม.4-6/1 พดู และเขียนนำเสนอขอ้ มลู เกี่ยวกับตนเอง/ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เร่ือง

และประเดน็ ต่างๆ ตามความสนใจของสงั คม

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 ใช้ภาษาสื่อสาร ในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลอง ที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรยี น

สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม

2. สาระสำคญั

หน่วยการเรียนรู้นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทบทวนและประเมินความสามารถของนักเรียนในการใช้

คำศัพท์ หนา้ ทีภ่ าษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ทเ่ี รียนมาแลว้ ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 7-9 เสรมิ ศกั ยภาพในการ

ฟัง พูด อ่าน เขียน รวมทั้งการทำกิจกรรมทางภาษาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอันได้แก่ การพูดแสดงความคิดเห็น การ

อภิปราย การศกึ ษาค้นคว้าและการนำเสนอข้อมูล

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

3.1 ด้านความรู้
3.1.1 นักเรียนเข้าใจว่าการฝึกและทบทวนความรู้ด้านคำศัพท์ ไวยากรณ์ การฝึกอ่านและเขียน
ตลอดจนการทดสอบทางภาษา การได้รับข้อมูลย้อนกลับ จะช่วยทำให้การใช้ภาษาของนักเรียนมีความ
คงทน สามารถใช้ภาษาในการสือ่ สารได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ

3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ

3.2.1 พดู นำเสนอขอ้ มูลเก่ยี วกับตนเอง/ประสบการณ์ ตามความสนใจ
3.2.2 สนทนาโต้ตอบข้อมูลเก่ยี วกับตนเองและเร่ืองต่าง ๆ ใกล้ตัวในสถานการณ์จำลองท่เี กดิ ขนึ้ ใน
ห้องเรียน

3.2.3 อ่านออกเสียงขอ้ ความถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน

3.3 ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์/คุณธรรมจรยิ ธรรมที่สอดแทรก

3.3.1 ใฝ่เรยี นรู้ : ค้นควา้ หาความรจู้ ากแหลง่ เรียนรูต้ า่ ง ๆ

3.3.2 หมน่ั พัฒนาตนเอง : ทบทวนในสง่ิ ท่ีเคยเรยี น

4. สมรรถนะของผู้เรยี น

4.1 ความสามารถในการสื่อสาร

4.2 ความสามารถในการคดิ

4.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา

4.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. สาระการเรยี นรู้

- คำศัพท์
กิจกรรม Focus on the World
- economy (n.): way that a country spends its money, uses its goods and workers,
etc. (วถิ ีทางเศรษฐกิจ)
- free trade (n.): trade between counties free from government restrictions or
duties (taxes) (การค้าเสรี)
- network (n.): complex system of lines that cross (เครอื ข่าย)
- assimilate (v.): to accept the customs and ideas of a different group (ซมึ ซบั )

- expose (v.): to find out about something that has been hidden or kept secret
- uniform (adj.): (เปดิ , เปดิ โปง)
the same (ทเี่ ป็นแบบเหมือนกัน)

- สำนวนภาษา
-

- หนา้ ทภี่ าษา
-

- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
-

6. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

กิจกรรม Focus on the World

1. นำเข้าสบู่ ทเรียน
- ครูเขียนคำศัพท์ globe บนกระดานและถามนักเรียนใหช้ ่วยกันบอกความหมาย
- What is a globe? (a round object shaped like a ball)
- What does it refer to? (the earth, which is shaped like ball)
- ครเู ขยี นคำศพั ท์ globalization บนกระดานและใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั เดาความหมาย

2. แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
- ครูบอกนกั เรียนว่าในหนว่ ยการเรยี นรนู้ น้ี กั เรียนจะไดอ้ า่ นบทความเกี่ยวกบั โลกาภิวัตน์ (Globalization)

เมอื่ อ่านแลว้ นกั เรยี นจะทราบว่า โลกาภิวัตน์คอื อะไร มอี ทิ ธิพลตอ่ พลเมืองโลกอย่างไร
กจิ กรรมกอ่ นอ่าน
1. ครูให้นกั เรียนอ่านคำถามบนหัวเร่ืองของกิจกรรม Reading ในหนังสือเรยี น หนา้ 70 ใหน้ ักเรียนแบ่งกลมุ่
กลุม่ ละ 4 คน ช่วยกนั เดาคำตอบและเขยี นลงใน Worksheet 1

Worksheet 1:
What do you know about globalization?

Questions Your guess
1. What causes globalization?

2. What may be influence a because of
globalization?

- culture

- job
- styles clothing

เฉลยคำตอบ

Questions Your guess
1. What causes globalization? - contacting/communicating
between people in the world

2. What may be influence a because of

globalization?

- culture - people will learn and know more

other cultures

- people will adapt ways of their
lives to other Cultures and
technology

- job - more foreigners will work in our
country.

- styles clothing - we must learn to speak many
languages to get good salary
- There will be many styles of

clothes.

กิจกรรมระหวา่ งอ่าน
1. อา่ นบทความ

- ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะคนอา่ นบทความในหนงั สอื เรยี น หนา้ 70 อยา่ งรวดเร็วโดยใชเ้ วลา 7-8 นาที ถาม
นกั เรียนว่าในบทความกล่าวถงึ เรอ่ื งอะไรบา้ ง

- ใหน้ ักเรยี นฟังซดี บี นั ทกึ เสยี ง CD 2 Track 20 กิจกรรม Focus on the World และอา่ นตาม
- ใหน้ กั เรียนดคู ำตอบทนี่ ักเรียนเขยี นไว้ใน Worksheet 1 วา่ ตรงกบั เรื่องทอ่ี า่ นหรอื ไม่
- ใหน้ ักเรียนตอบคำถามในกจิ กรรม About the Reading ในหนงั สือเรยี น หน้า 71
กิจกรรมหลงั อ่าน
1. ตรวจสอบความเข้าใจบทอา่ น
- ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งของคำตอบในกจิ กรรม About the Reading (ดเู ฉลยท้าย
เลม่ )
2. พฒั นาคำศัพท์
- ครใู หน้ ักเรียนอ่านบทความอกี ครง้ั ขดี เส้นใต้คำศพั ท์ท่ีนักเรียนไม่ทราบความหมาย และใหน้ ักเรียน

เขียนคำศพั ท์ท่ีไม่ทราบความหมายบนกระดาน
- ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกความหมายคำศพั ท์บนกระดาน คำศพั ท์ใดทีน่ ักเรยี นไม่รู้ ครูให้นกั เรียนช่วยกันเดา

ความหมายจากบริบทและอธิบายคำศพั ทย์ ากเพ่ิมเตมิ (ดขู อ้ มูลด้านคำศพั ท์)
- ให้นักเรียนช่วยเตมิ คำศัพทใ์ นกจิ กรรม Academic Vocabulary ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 71 แลว้ ช่วยกัน

เฉลยคำตอบ (ดเู ฉลยท้ายเลม่ ) ครูอธิบายเพ่มิ เตมิ ในข้อทีน่ กั เรยี นตอบไมถ่ ูกต้อง

กจิ กรรม Speaking
1. แจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

- ครูบอกนกั เรยี นว่าในหน่วยการเรียนรูน้ ้นี กั เรยี นจะได้พูดแสดงความคดิ เห็น อภปิ รายเก่ยี วกบั ขอ้ ดีและ
ขอ้ เสยี ของโลกาภิวัตน์
2. พดู แสดงความคิดเหน็ และรายงาน

- สุ่มนกั เรยี น 1 คนอา่ นออกเสียงคำสงั่ ในกจิ กรรม Speaking ในหนังสอื เรียน หน้า 71
- ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม Speaking ในหนังสอื เรียน หน้า 71 โดยแบ่งนกั เรียนออกเปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 4
คน
- ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ตอบคำถามในกิจกรรม Speaking อภิปราย แสดงความคิดเหน็ ว่ามีข้อดีขอ้ เสีย
อยา่ งไร เขยี นสรุปเป็นขอ้ ความและรายงาน
- ให้ตวั แทนแต่ละกลุม่ นำเสนอขอ้ มลู ทีไ่ ด้จากการอภปิ ราย
- ใหน้ ักเรียนโตว้ าที (debate) ในหวั ข้อ Globalization makes more cons than pros? โดยให้นกั เรยี น
เลอื กฝา่ ยและส่งตวั แทนโต้วาที และแต่งตั้งกรรมการเพอื่ เป็นผู้ตัดสิน

กิจกรรม Writing
1. ครูให้นักเรยี นอา่ นออกเสียงคำส่งั ในกจิ กรรม Writing ในหนงั สอื เรียน หนา้ 71
2. ครพู ดู คยุ กบั นักเรยี นเกีย่ วกับโลกาภิวัตนท์ ่ีสง่ ผลเสยี ต่อประเทศของตนเอง ครกู ับนกั เรียนชว่ ยกันยกตวั อย่าง
เพ่ือใหไ้ ดหัวข้อทใี่ ชเ้ ปน็ แนวทางในการเขยี นดังน้ี

- People pay more money to buy high technology.
- Children read less.
- People’s way of life is changed quickly.

etc.
3. ครูใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรม Writing ในหนังสอื เรยี น หนา้ 71 โดยใหน้ กั เรียนเขียนขอ้ ความแสดงความ
คดิ เห็นในหวั ข้อต่อไปนี้ 1) economy 2) products 3) clothing 4) culture like music and movies
4. นกั เรียนจับคกู่ ับเพ่อื นแลกกันอ่านงานเขียนของกนั และกนั และให้ขอ้ เสนอแนะในการปรับปรงุ ตามที่เ
หน็ สมควร
5. นักเรยี นปรับปรุงงานเขียนและเขียนร่างสุดท้ายส่งครู ติดผลงานท่ีป้ายนิเทศ
6. นักเรยี นเดนิ ดูและเขียนขอ้ แนะนำติดไว้ข้างล่างทผี่ ลงานของเพอ่ื น

กิจกรรม World Link

1. ศึกษาคน้ ควา้ เกย่ี วกับ products ในประเทศของตน
- ให้นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งคำสง่ั ในกจิ กรรม World Link ในหนังสือเรยี น หน้า 71
- ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับผลิตผลสำคัญของประเทศไทยหรือประเทศ
ในกลุ่มอาเซียนที่ส่งออกขายทั่วโลกได้แก่อะไรบ้าง และประเทศของเรามีวิธีการปรับระบบเศรษฐกิจ
ของประเทศใหเ้ ข้ากับระบบเศรษฐกจิ โลกได้อยา่ งไร

2. นำเสนอข้อมูล
- ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุม่ นำเสนอข้อมลู ทไ่ี ดจ้ ากการศึกษาคน้ ควา้
- ให้นักเรียนอภิปรายว่าขอ้ มลู ใดทน่ี กั เรยี นได้ประโยชนท์ สี่ ดุ จากศกึ ษาค้นควา้ และการรายงานของเพ่อื น

กิจกรรมเสรมิ ทกั ษะ/ประสบการณท์ างภาษา
- ให้นกั เรียนทำงานกลุ่มทำแผนภมู ิแสดงผลผลิต สินค้าที่สง่ ออก และนำเข้าของประเทศไทย

7. สอื่ การเรยี นรู้
1. หนังสือเรียน New World 6 หนา้ 70-71
2. ซีดบี นั ทกึ เสยี ง
3. เคร่อื งเลน่ ซีดี
4. Worksheet 1

8. แหล่งเรียนรู้ -

9. การวัดและการประเมนิ ผล

มาตรฐานการเรียนรู้ ส่ิงทีต่ อ้ งรู้และปฏิบัติได้ ผลงาน/ชิ้นงาน การวดั ผลและประเมินผล
และตัวชวี้ ดั

ต 1.1 ม.4-6/4 จ ั บ ใ จ ค ว า ม ส ำ คั ญ คำตอบที่ถูกต้องจากการ ประเมินความเข้าใจ

จากขอ้ ความท่ีอ่าน อ่านข้อความในกิจกรรม ข้อ คว ามที่อ ่าน จ า ก

New Language จำนวนคำตอบที่ถูกต้อง

(Worksheet 1) โดยใช้เกณฑ์ผ่านร้อยละ

60

ต 1.3 ม.4-6/1 พดู นำเสนอข้อมลู ถ้อยคำพูดนำเสนอข้อมูล ประเมินการพูดนำเสนอ

เกี่ยวกับตนเอง/ ที่น่าสนใจของสมาชิกใน ข้อมูลโดยใช้เกณฑ์การ

ประสบการณ์ กลุ่ม เกี่ยวกับเสื้อผ้าใน ประเมินการพูด และใช้

ตามความสนใจ สมัยนิยมและเสื้อผ้าท่ี เกณฑผ์ า่ นระดับพอใช้

ชอบใส่

ต 1.2 ม.4-6/1, สนทนาโต้ตอบข้อมูล ถ ้ อ ย ค ำ พ ู ด ส น ท น า ประเมินการพูดสนทนา

ต 4.1 ม.4-6/1 เกี่ยวกับตนเองและเรื่อง เกี่ยวกับช่วงเวลาหรือ โดยใช้แบบประเมินการ
ต ่ า ง ๆ ใ ก ล ้ ต ั ว ใ น จุดเริ่มต้นที่มีหรือสวมใส่ สนทนากจิ กรรมคู่ และใช้

สถานการณ์จำลองท่ี เสือ้ ผ้า เกณฑ์ผา่ นระดบั พอใช้

เกิดข้ึนในห้องเรียน

10. การบูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (3 หว่ ง 2 เง่อื นไข 4 มิต)ิ

- การบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3 ห่วง ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2 เงอ่ื นไข

พอประมาณ เง่อื นไขความรู้

มเี หตุผล เงือ่ นไขคณุ ธรรม

มีภมู ิค้มุ กันในตัวท่ีดี

ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4 มติ ิ

มติ เิ ศรษฐกจิ มิติสงั คม มิติสิ่งแวดล้อม มิติวัฒนธรรม

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 21

กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6

รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหสั วิชา อ 33102

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 9 Review 3 จำนวน 3 ชว่ั โมง

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 21 Review 3 จำนวน 1 ชว่ั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชีว้ ัด

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมเี หตผุ ล

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/2 อ่านออกเสียง ข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครส้ัน

(skit) ถกู ต้อง ตามหลักการอา่ น

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/4 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็น

จากการฟังและ อา่ นเร่อื งทเ่ี ป็นสารคดี และบนั เทงิ คดี พร้อมทงั้ ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 ทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเห็นอยา่ งมปี ระสิทธิภาพเหตุผล

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว

ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/ เหตุการณ์ ประเด็น ทอ่ี ย่ใู นความสนใจของสังคม และสอ่ื สารอย่างต่อเน่ือง

และเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการ

พดู และการเขียน

ตวั ชว้ี ัดที่ ม.4-6/1 พดู และเขียนนำเสนอขอ้ มลู เกี่ยวกับตนเอง/ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ์ เร่ือง

และประเดน็ ต่างๆ ตามความสนใจของสงั คม

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 ใช้ภาษาสื่อสาร ในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลอง ที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรยี น

สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม

2. สาระสำคญั

หน่วยการเรียนรู้นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทบทวนและประเมินความสามารถของนักเรียนในการใช้

คำศัพท์ หนา้ ทีภ่ าษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ทีเ่ รียนมาแลว้ ในหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 7-9 เสริมศกั ยภาพในการ

ฟัง พูด อ่าน เขียน รวมทั้งการทำกิจกรรมทางภาษาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอนั ได้แก่ การพูดแสดงความคิดเห็น การ

อภิปราย การศกึ ษาค้นคว้าและการนำเสนอข้อมูล

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 ด้านความรู้

3.1.1 นักเรียนเข้าใจว่าการฝึกและทบทวนความรู้ด้านคำศัพท์ ไวยากรณ์ การฝึกอ่านและเขียน

ตลอดจนการทดสอบทางภาษา การได้รับข้อมูลย้อนกลับ จะช่วยทำให้การใช้ภาษาของนักเรียนมีความ

คงทน สามารถใชภ้ าษาในการส่อื สารได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ

3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ

3.2.1 พดู นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง/ประสบการณ์ ตามความสนใจ

3.2.2 สนทนาโตต้ อบข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเองและเร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ ัวในสถานการณ์จำลองที่เกิดข้นึ ใน

หอ้ งเรียน

3.2.3 อ่านออกเสยี งข้อความถกู ต้องตามหลักการอา่ น

3.3 ดา้ นเจตคติ/คุณลกั ษณะอันพึงประสงค/์ คุณธรรมจริยธรรมท่ีสอดแทรก

3.3.1 ใฝเ่ รยี นรู้ : คน้ คว้าหาความรู้จากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ

3.3.2 หมนั่ พัฒนาตนเอง : ทบทวนในสิ่งทเ่ี คยเรยี น

4. สมรรถนะของผูเ้ รียน

4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร

4.2 ความสามารถในการคิด

4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา

4.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. สาระการเรียนรู้

- คำศัพท์

กิจกรรม Vocabulary Builder

- collocations (n.): combinations of words that are often found together in

English

(คำทไ่ี ปด้วยกัน)

- สำนวนภาษา

-

- หน้าทภี่ าษา

-

- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์

-

6. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรม Vocabulary Builder

1. แบบฝึกหดั A
- ครูใหน้ ักเรยี นอา่ นคำสั่งแบบฝึกหดั A ในหนงั สอื เรยี น หน้า 72
- ครพู ดู ใหค้ ำอธิบายสนั้ ๆ เก่ียวกับคำที่ใชด้ ้วยกนั (collocations) โดยครเู ขยี นคำวา่ solar บนกระดาน

และถามวา่ คำว่า solar มักจะใชก้ บั คำว่าอะไรบา้ ง เช่น solar panel, solar energy เป็นตน้
- ครใู หน้ ักเรียนอ่านออกเสียงคำในข้อท่ี 1 คือ fossil ครูถามนักเรียนถึงความหมายของ fossil (= an

ancient animal or plant that is preserved in rock) ใหน้ กั เรียนดคู ำด้านขวามือ ว่าคำใดทจี่ ะใช้ค่กู ับ fossil
นนั่ คือ a fossil fuel = ancient fossils

- ให้นกั เรียนจับคู่กันเลือกคำศัพท์ในขอ้ ที่เหลือ
- ครูตรวจสอบคำตอบโดยสมุ่ ให้นกั เรยี นอ่านคำตอบท่นี ักเรียนเลือกตอบทีละคน (ดเู ฉลยท้ายเล่ม)
2. แบบฝกึ หดั B
- ครูใหน้ กั เรยี นอา่ นคำสง่ั แบบฝกึ หดั B ในหนังสอื เรียน หน้า 72
- ให้นกั เรียนแตล่ ะคนเขยี นประโยค 5 ประโยคโดยใชค้ ำท่นี ักเรียนจบั คใู่ นแบบฝกึ หดั A นักเรียนสามารถ
เปดิ ย้อนไปดใู นกจิ กรรม Reading หรือเปดิ พจนานุกรมได้
- ให้นกั เรยี นจับค่อู ่านประโยคใหก้ ันฟงั และเปรียบเทียบประโยค
- ครสู มุ่ ใหน้ ักเรียนอ่านประโยคของตนให้เพือ่ นในชนั้ เรียนฟงั
- ใหน้ กั เรียนจบั ค่แู ละเปิดหนงั สือเรยี นหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 9 ให้นกั เรยี นหาคำศัพทท์ ี่ใชด้ ว้ ยกนั 10 คำ เชน่
arable land, hot springs, sea tides, wind energy, oil reserves, renewable fuels เป็นตน้
3. แบบฝกึ หัด C
- ครใู ห้นกั เรียนอ่านคำสั่งแบบฝกึ หัด C ในหนังสอื เรยี น หนา้ 72
- ใหน้ ักเรียนอ่านคำในขอ้ 1 คอื multipurpose ครถู ามความหมายของคำ (= with several purposes,
or ways to be used) multi เปน็ prefix ซงึ่ สามารถนำไปเติมขา้ งหน้าคำอื่นไดเ้ ช่น multinational, multi
= many, much, several นอกจากข้อที่ 1 แลว้ ยงั มีขอ้ ที่ 8 ทีม่ ี prefix คือ anti = against
- ครูอธบิ ายในขอ้ ทีเ่ หลอื วา่ เปน็ คำท่ีมี 2 คำมาประกอบกนั
- ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะคนเติมความหมายของคำในข้อทเ่ี หลอื และใหน้ ักเรยี นเปรียบเทยี บคำตอบกับ
เพอื่ น อภปิ รายในขอ้ ท่ีมคี วามหมายไม่ตรงกัน ตรวจสอบดว้ ยการเปดิ พจนานุกรม และช่วยกนั เฉลยในชนั้ เรียน
4. แบบฝกึ หดั D
- ครใู หน้ ักเรียนอ่านคำสงั่ แบบฝึกหดั D ในหนงั สือเรียน หน้า 72
- ให้นักเรยี นแตล่ ะคนเขยี นประโยค 5 ประโยคโดยใช้คำหรือวลีทอ่ี ยู่ในแบบฝึกหดั C ให้นักเรียนจบั คู่อา่ น
ประโยคให้กันฟงั และเปรียบเทยี บประโยค
- ครสู มุ่ ใหน้ ักเรียนอ่านประโยคของตนใหเ้ พ่ือนในชน้ั เรยี นฟงั

กจิ กรรม Self-Test

- ครูถามนกั เรยี นว่านกั เรียนไดเ้ รียนอะไรบา้ งในหน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 ถึง 9 แลว้ ใหน้ ักเรยี นเปิดหนงั สือเรยี น
เพื่อตรวจสอบคำตอบ

- ครูบอกนักเรยี นว่าจะทดสอบความร้ใู นหนว่ ยการเรยี นรู้ทไี่ ดเ้ รียนไปแล้วเพื่อใหน้ ักเรยี นทราบถึง
ความก้าวหน้าของตนเอง

- ครถู ามนักเรียนว่าต้องการจะทบทวนเรอื่ งใดก่อนทดสอบหรอื ไม่
- ครูใหน้ กั เรียนเปิดหนังสอื เรยี นเพื่อทบทวนบทเรียนในหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 7 ถึง 9 ดังนี้

- ทบทวนคำศัพทแ์ ละสำนวนโดยดจู ากกจิ กรรม New Language ในตอนเริ่มต้นของแตล่ ะหน่วยการ
เรียนรู้ และ Vocabulary List ในตอนท้ายของหนังสอื เรยี น

- ทบทวน Useful language โดยดูจากคำถามและคำตอบในกจิ กรรม Practice
- ทบทวนไวยากรณโ์ ดยดจู ากกรอบไวยากรณ์ของแตล่ ะหนว่ ยการเรยี นรู้
- ทบทวนคำพูดทใ่ี ช้ในการสนทนาจากกจิ กรรม Conversation
- ใหน้ กั เรียนทำกจิ กรรม Self-Test ในหนงั สือเรยี น หนา้ 73 โดยใหเ้ วลานกั เรยี น 10-15 นาทีตามระดับ
ความสามารถของนักเรยี น
- ให้นักเรียนตรวจให้คะแนนตนเองโดยตรวจสอบจากเฉลยคำตอบในตอนท้ายของหนังสือเรียน และให้
นักเรียนแปลความหมายของคะแนนที่ได้โดยเปรียบเทียบกบั เกณฑ์คะแนนในหน้า 73 ดา้ นล่าง
- ให้นกั เรยี นทบทวนเพอื่ ทำความเข้าใจให้ถกู ต้องในกรณตี ่อไปน้ี
- Self-Test A เม่อื นกั เรยี นตอบผิดตัง้ แต่ 2 ข้อขนึ้ ไป ให้กลับไปทบทวนกิจกรรมตอนต้นและกจิ กรรม
Conversation ของแต่ละหนว่ ยการเรยี นรู้
- Self-Test B เมอ่ื นักเรยี นตอบผิดตัง้ แต่ 2 ข้อขน้ึ ไป ให้กลับไปทบทวนกรอบไวยากรณ์ในหนว่ ยกา
เรียนรู้ที่ 8 และ 9 เร่ือง Verb + Infinitive or Gerund และ Future Progressive and Future Perfect
- Self-Test C เมอ่ื นกั เรียนตอบผดิ ต้งั แต่ 2 ขอ้ ขนึ้ ไป ให้กลบั ไปทบทวนกรอบไวยากรณ์ในหน่วยการ
เรยี นรู้ที่ 7เร่ือง Present Perfect Simple or Present Perfect Progressive

กิจกรรมเสริมทักษะ/ประสบการณ์ทางภาษา

- ใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหัด ข้อ H-I ในหนังสือแบบฝึกหดั New World 6 หน้า 48 (ดูเฉลยท้ายเล่ม)
7. สื่อการเรียนรู้

1. หนังสอื เรยี น New World 6 หน้า 72-73

2. หนังสอื แบบฝกึ หดั New World 6 หน้า 48

8. แหลง่ เรียนรู้ -

9. การวัดและการประเมนิ ผล

มาตรฐานการเรียนรู้ ส่ิงทีต่ อ้ งรู้และปฏิบัติได้ ผลงาน/ชิ้นงาน การวดั ผลและประเมินผล
และตัวชว้ี ดั

ต 1.1 ม.4-6/4 จ ั บ ใ จ ค ว า ม ส ำ คั ญ คำตอบที่ถูกต้องจากการ ประเมินความเข้าใจ

จากขอ้ ความท่ีอ่าน อ่านข้อความในกิจกรรม ข้อ คว ามที่อ ่าน จ า ก

New Language จำนวนคำตอบที่ถูกต้อง

(Worksheet 1) โดยใช้เกณฑ์ผ่านร้อยละ

60

ต 1.3 ม.4-6/1 พดู นำเสนอข้อมลู ถ้อยคำพูดนำเสนอข้อมูล ประเมินการพูดนำเสนอ

เกี่ยวกับตนเอง/ ที่น่าสนใจของสมาชิกใน ข้อมูลโดยใช้เกณฑ์การ

ประสบการณ์ กลุ่ม เกี่ยวกับเสื้อผ้าใน ประเมินการพูด และใช้

ตามความสนใจ สมัยนิยมและเสื้อผ้าท่ี เกณฑผ์ า่ นระดับพอใช้

ชอบใส่

ต 1.2 ม.4-6/1, สนทนาโต้ตอบข้อมูล ถ ้ อ ย ค ำ พ ู ด ส น ท น า ประเมินการพูดสนทนา

ต 4.1 ม.4-6/1 เกี่ยวกับตนเองและเรื่อง เกี่ยวกับช่วงเวลาหรือ โดยใช้แบบประเมินการ
ต ่ า ง ๆ ใ ก ล ้ ต ั ว ใ น จุดเริ่มต้นที่มีหรือสวมใส่ สนทนากจิ กรรมคู่ และใช้

สถานการณ์จำลองท่ี เสอ้ื ผา้ เกณฑ์ผา่ นระดบั พอใช้

เกิดข้ึนในห้องเรียน

10. การบูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (3 หว่ ง 2 เง่อื นไข 4 มติ )ิ

- การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3 ห่วง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2 เงอ่ื นไข

พอประมาณ เง่อื นไขความรู้

มีเหตุผล เงอ่ื นไขคณุ ธรรม

มีภมู ิค้มุ กันในตัวท่ีดี

ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4 มติ ิ

มิตเิ ศรษฐกจิ มิติสงั คม มิติส่งิ แวดลอ้ ม มิตวิ ัฒนธรรม

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 22

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6

รายวิชา ภาษาองั กฤษ รหัสวชิ า อ 33102

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 10 If Only I’d Known จำนวน 5 ชัว่ โมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 22 Wishful Thinking จำนวน 1 ช่ัวโมง

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ัด

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมีเหตผุ ล

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/2 อ่านออกเสียง ข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสัน้

(skit) ถกู ต้อง ตามหลกั การอา่ น

ตวั ชี้วดั ที่ ม.4-6/3 อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สัมพันธก์ ับสื่อทไี่ ม่ใช่ความเรียงรูปแบบ

ตา่ งๆ ที่อา่ น รวมทัง้ ระบแุ ละเขยี นสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรปู แบบต่างๆ ใหส้ ัมพันธก์ ับประโยค และข้อความท่ีฟัง

หรอื อ่าน

มาตรฐาน ต 1.2 ทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคดิ เห็นอยา่ งมีประสิทธภิ าพเหตุผล

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว

ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/ เหตกุ ารณ์ ประเด็น ทีอ่ ยู่ในความสนใจของสงั คม และส่อื สารอย่างต่อเน่ือง

และเหมาะสม

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/1 ใช้ภาษาสื่อสาร ในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลอง ที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรยี น

สถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม

2. สาระสำคัญ

หน่วยการเรียนรู้นี้มจี ุดม่งุ หมายใหน้ ักเรียนเรียนรู้เก่ียวกับคำกล่าวแสดงความเสียดายโอกาสหรือความ

เสียใจในสิ่งที่ทำไปแล้วหรือไม่ได้ทำในอดีตในบทเรียนและจากการศึกษาค้นคว้าและนำเสนอใน

หอ้ งเรยี น นักเรยี นจะไดพ้ ูดแสดงบทบาทสมมติ การสนทนาเกี่ยวกับความเสียดายหรือเสียใจ ฟังบุคคลกล่าวให้

โอวาทในงานฉลองการจบการศึกษา เขียนบรรยายเกี่ยวกับความเสียดายหรือความเสียใจครั้งใหญ่ของตน และ

รายงานการศกึ ษาค้นคว้าเกี่ยวกับคำคมภาษาองั กฤษต่าง ๆ ท่เี กย่ี วกบั ความเสียดายหรือความเสียใจ นอกจากนี้
ยังได้เรียนรู้คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งหน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ที่เป็น
พืน้ ฐานของกจิ กรรมฟงั พูด อา่ น เขียนในหน่วยการเรียนรูน้ ี้

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

3.1 ดา้ นความรู้

3.1.1 นักเรียนเข้าใจว่าการฝึกใช้คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับความเสียดายหรือเสียใจ จะทำให้นักเรยี น

สนทนา อา่ น และเขยี นไดด้ ยี ิง่ ขึน้

3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ

3.2.1 สนทนาโต้ตอบข้อมูลเกีย่ วกบั ตนเองและเร่ืองตา่ ง ๆ ใกล้ตัวในสถานการณ์จำลองที่เกดิ ขึน้ ใน

ห้องเรยี น

3.2.2 อธิบายประโยคใหส้ มั พนั ธ์กับสือ่ ทีไ่ มใ่ ชค่ วามเรียงรปู แบบตา่ ง ๆ

3.2.3 อ่านออกเสียงข้อความถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน

3.3 ดา้ นเจตคต/ิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์/คณุ ธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก

3.3.1 ใฝเ่ รียนรู้ : คน้ คว้าหาความรจู้ ากแหลง่ เรียนรู้ตา่ ง ๆ

3.3.2 หม่ันพัฒนาตนเอง : ทบทวนในสง่ิ ท่ีเคยเรยี น

4. สมรรถนะของผเู้ รียน

4.1 ความสามารถในการส่อื สาร

4.2 ความสามารถในการคดิ

4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา

4.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. สาระการเรยี นรู้

- คำศัพท์

กจิ กรรม New Language

- soaked (adj.): very wet (เปียกโชก)

- fail (v.): not pass the exam (สอบตก, ผดิ พลาด)

- indigestion (n.): (pain from) difficulty in digesting food (อาการอาหารไมย่ อ่ ย)

- argue (v.): to disagree with someone in words, often in an angry way (โต้แยง้ )

- สำนวนภาษา

กิจกรรม New Language

- หลักการใช้ If only

การใช้ If only…! จะเหมอื นกบั การใช้ I wish เป็นการแสดงความปรารถนากบั สง่ิ ที่ตรงขา้ มกับความ

จริง

ในอดตี แสดงความปรารถนา ในอนาคต เวลา
Had + V3
ในปัจจบุ ัน Would + V1
V2 หรอื

Was/were +

1. ใชแ้ สดงความปรารถนาในอดีต (Earlier tVimineg) [Had + V3]
ตัวอยา่ ง
- If only I had known you were coming! ขอเพยี งแค่ฉันรูว้ ่าคุณกำลงั มา (ตอนน้ันฉันไมร่ วู้ ่า
คุณกำลังมา)
- If only she hadn’t told the police! ขอเพียงแค่เธอไม่ได้ไปบอกตำรวจ (ตอนนั้นเธอบอก
ตำรวจไปแล้ว)

2. ใชแ้ สดงความปรารถนาในปจั จุบัน (Same time) [V2, was/were + Ving]
ตวั อย่าง
- If only she knew! - ขอเพียงแคเ่ ธอรู้ (ปัจจุบันเธอไม่ร)ู้
- If only you were here! - ขอเพยี งแค่เธออยู่ที่น่ี (ปัจจุบนั เธอไมไ่ ด้อยู่ทีน่ )่ี
- If only I was better-looking! - ขอเพียงแคฉ่ นั ดดู ีขน้ึ (ปจั จบุ ันฉนั ดูไม่ดเี ท่าไหร)่

3. ใช้แสดงความปรารถนาในอนาคต (Later time) [Would + V1]
ตวั อยา่ ง
- If only someone would smile! - ขอเพยี งแค่ใครบางคนย้ิม (ตอนน้ีไมม่ ีใครสักคนย้มิ เลย)

- หน้าท่ภี าษา
- To talk about regrets and missed opportunities

- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
- Wish + Past Perfect
- Third Conditional

6. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

กิจกรรม New Language

1. นำเขา้ สู่บทเรียน
- ครูชักชวนนกั เรียนพูดคุยเกย่ี วกบั ส่ิงท่ีนกั เรียนทำผิดพลาดหรอื ส่งิ ทไ่ี มค่ วรทำในสมยั เยาวว์ ยั โดยอาจใช้

แนวคำถามดังน้ี
- Have you ever made a mistake? What was it?

(I told lies. / I bought some stupid things. / I skipped from class. / I forgot to do my homework.)
- Why did you do that?

2. แจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
- ครบู อกนกั เรียนว่าในหนว่ ยการเรียนรูน้ น้ี กั เรียนจะได้เรียนรูค้ วามหมายของคำศัพทเ์ กยี่ วกบั ปญั หาใน

ชีวติ ประจำวนั และการพูดบทสนทนาสน้ั ๆ เก่ียวกับความเสียใจหรือความเสียดายในส่งิ ที่ได้ทำไปแลว้ หรือไมไ่ ด้
ทำตามสถานการณ์ที่กำหนด

3. ทำความเข้าใจคำศัพท์จากภาพ
- ครูให้นกั เรียนเปิดหนงั สือเรยี น หน้า 74 กิจกรรม New Language ใหน้ ักเรยี นอา่ นออกเสียงชือ่ หน่วย

การเรียนรู้ If Only I’d Known และใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกความหมายและยกตัวอยา่ งสถานการณท์ ี่ใช้คำพูด
ในทำนองน้ี

- ให้นกั เรยี นดูรูปภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 74 และถามนกั เรยี นว่าเหน็ อะไรบา้ ง ใหน้ กั เรยี นจับคู่คำศัพทก์ ับ
ความหมายใน Worksheet 1

Worksheet 1

Direction: Match the meaning in column B to the word in column A.

Column A Column B

_____ 1. soaked a. (pain from) difficulty in digesting food

_____ 2. indigestion b. to disagree with someone in

words, often in an angry way

_____ 3. argue c. not pass the exam

_____ 4. fail d. very wet

เฉลยคำตอบ 1. d 2.a 3. b 4. c

4. ประเมินความเข้าใจคำศัพท์
- ครสู ุ่มถามนกั เรียนและใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันเฉลยคำตอบ
- ครูประเมินความเขา้ ใจคำศัพทจ์ ากภาพจากจำนวนคำตอบทีถ่ กู ต้องโดยใช้เกณฑ์ผ่านร้อยละ 60

5. อ่านออกเสียง
- ครูเปดิ ซดี ีบันทึกเสยี ง CD 2 Track 21 กิจกรรม New Language ใหน้ ักเรียนฟัง
- ครเู ปดิ ซีดีบนั ทึกเสยี งอีกครง้ั เพ่อื ให้นักเรียนออกเสยี งตาม
- ใหน้ ักเรียนจับค่กู ันอา่ นออกเสยี งคำศัพท์

6. แสดงความคิดเหน็ และพดู อภิปราย
- ให้นักเรียนอ่านออกเสยี งคำสั่งในกจิ กรรม New Language
- ครูใหน้ ักเรยี นจับคูถ่ าม-ตอบคำถามโดยเทยี บเคียงกบั ภาพในกิจกรรม New Language
ตัวอย่าง A: Have you ever failed an exam?
B: Yes, once.
A: How did you feel?
B: I felt upset.
- ครูสมุ่ ถามนกั เรียนบางคน

กจิ กรรม Practice

1. อา่ นบทสนทนา
- ครเู ปดิ ซดี ีบันทึกเสยี ง CD 2 Track 22 ให้นกั เรียนฟังบทสนทนาในกิจกรรม Practice A ในหนงั สือเรียน

หน้า 74
- ครอู ่านออกเสยี งคำสั่งกจิ กรรม Practice A บอกนกั เรียนว่าขอ้ 1-4 เปน็ คำพูดของบคุ คลในแตล่ ะภาพท่ี

บอกถงึ การกระทำที่ถ้าตนไดท้ ำ (หรือไม่ได้ทำ) แลว้ จะทำให้ไมเ่ กดิ เหตุการณด์ งั ภาพ ใหน้ กั เรยี นจับคู่คำพดู ใน
ข้อ 1-4 กับรปู ภาพ

- ครูตรวจสอบคำตอบโดยสมุ่ ถามนกั เรยี นบางคน (ดูเฉลยท้ายเลม่ )
2. พูดบทสนทนา

- ครูเปิดซีดีบันทึกเสยี ง CD 2 Track 22 ใหน้ กั เรยี นฟงั บทสนทนาในกิจกรรม Practice B ในหนงั สือเรียน
หน้า 74

- ครถู ามนักเรียนถงึ ความหมายของประโยคทอ่ี ยู่ในบทสนทนาคือ I wish I’d studied harder. โดยครู
บอกนกั เรยี นวา่ นักเรยี นเคยเรียนการใช้ wish มาก่อนแล้ววา่ กรยิ าท่ีอยใู่ นประโยคหลงั wish เป็น Past tense
แตใ่ นบทนี้เป็น Past Perfect ให้นักเรียนสงั เกตจากบริบทว่าทำไมจึงใชไ้ ม่เหมือนกัน และครูถามถึงความหมาย
ของประโยค I would have checked the weather forecast. และบอกนักเรยี นวา่ เปน็ ประโยคทพี่ ูดแสดงถงึ
ความเสียใจหรือเสียดายโอกาส ซง่ึ นกั เรียนจะได้เรยี นเรือ่ งน้ีอีกคร้ังในบทเรียนตอ่ ไป

- ให้นักเรยี นจบั ค่กู ันเขียนบทสนทนาตามแนวทางกิจกรรม Practice B
- ให้นักเรยี นจับคพู่ ดู บทสนทนาโดยสลบั กนั เปน็ A และ B ครเู ดินสังเกตเพอื่ ใหแ้ น่ใจวา่ นักเรียนสามารถ
พูดได้อย่างถกู ตอ้ ง
- ครปู ระเมินการพดู บทสนทนาโดยใช้แบบประเมนิ การสนทนากิจกรรมคู่ และใชเ้ กณฑ์ผา่ นระดบั พอใช้

กิจกรรม Pronunciation

1. การออกเสียง have หลัง could, should และ would
- ครใู ห้นักเรียนทำกจิ กรรม Pronunciation ในหนังสือเรยี น หนา้ 74 ครูเปดิ ซีดี

บันทกึ เสยี ง CD 2 Track 23 ใหน้ กั เรียนช้ีคำทไี่ ดย้ ินและออกเสยี งตาม
- ใหน้ กั เรียนฟงั ซดี บี ันทึกเสยี งอกี คร้ังและพดู ออกเสยี งตาม ครูเดินสังเกตเพ่ือให้แนใ่ จวา่ นักเรยี นสามารถ

ออกเสยี งได้อย่างถูกตอ้ ง
- ครูและนกั เรียนชว่ ยกันสรปุ ว่า เราลดเสยี ง have เปน็ /əv/ เมื่อ have อยู่

หลัง could, should และ would เสียง /d/ ท่อี ยูห่ ลงั คำ could, should และ would เช่อื ม (link) กับ
- ครูให้นกั เรยี นจับคอู่ ่านออกเสยี งประโยค ครเู ดินสังเกตเพอื่ ใหแ้ นใ่ จว่านักเรยี นสามารถออกเสยี งได้อยา่ ง

ถกู ตอ้ ง
- ครูประเมินการอา่ นออกเสียงโดยใชแ้ บบประเมนิ การอ่านออกเสยี ง และใชเ้ กณฑ์ผา่ นระดับพอใช้

กจิ กรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณ์ทางภาษา -

7. ส่ือการเรียนรู้

1. หนังสือเรียน New World 6 หนา้ 74

2. ซดี ีบนั ทกึ เสยี ง

3. เคร่ืองเลน่ ซีดี

4. Worksheet 1

5. สอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์

- http://eazyclass.com/2010/08/25/if-only/

8. แหลง่ เรยี นรู้ -

9. การวดั และการประเมนิ ผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ ส่งิ ทีต่ อ้ งรแู้ ละปฏบิ ตั ิได้ ผลงาน/ชิ้นงาน การวดั ผลและประเมนิ ผล
และตัวช้วี ัด

ต 1.1 ม.4-6/3 อ ธ ิ บ า ย ป ร ะ โ ย ค ใ ห้ จับคู่ขอ้ ความท่เี ป็นคำพูด ประเมินผลจากจำนวน

สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ ของการแสดงการเสียใจ คำตอบที่ถูกต้องโดยใช้

ความเรยี งรูปแบบต่าง ๆ หรือการเสียดายในสิ่งที่ เกณฑ์ผ่านร้อยละ 60

ได้ทำไปแล้วหรือไมไ่ ด้ทำ

ของบุคคลกับภาพใน

กจิ กรรม NewLanguage

ต 1.2 ม.4-6/1, สนทนาโต้ตอบข้อมูล ถ ้ อ ย ค ำ พ ู ด ส น ท น า ประเมินการพูดสนทนา

ต 4.1 ม.4-6/1 เกี่ยวกับตนเองและเรื่อง เกี่ยวกับความเสียใจหรือ โดยใช้แบบประเมินการ
ต ่ า ง ๆ ใ ก ล ้ ต ั ว ใ น ความเสียดายในสิ่งที่ได้ สนทนากจิ กรรมคู่ และใช้

สถานการณ์จำลองท่ี ทำไปแล้วหรือไม่ได้ทำ เกณฑผ์ า่ นระดับพอใช้

เกดิ ขึ้นในห้องเรยี น ตามสถานการณใ์ นภาพ

ต 1.1 ม.4-6/2 อ ่ า น อ อ ก เ ส ี ย ง ค ำ การออกเสียง have หลัง ประเมินการอ่านออก

ข้อความถูกต้องตาม could, should แ ล ะ เสียงโดยใช้แบบประเมิน

หลกั การอ่าน would ใ น ข ้ อ ค ว ามท่ี การอ่านออกเสียง และ

ก ำ ห น ด ใ น ก ิ จ ก ร ร ม ใชเ้ กณฑ์ผ่านระดับพอใช้

Pronunciation

10. การบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (3 หว่ ง 2 เงือ่ นไข 4 มติ )ิ

- การบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 3 หว่ ง ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2 เงอ่ื นไข

พอประมาณ เง่ือนไขความรู้

มีเหตุผล เงอ่ื นไขคุณธรรม

มภี มู คิ ุ้มกนั ในตวั ทดี่ ี

ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 4 มิติ

มติ เิ ศรษฐกจิ มิตสิ งั คม มิติสง่ิ แวดลอ้ ม มติ วิ ัฒนธรรม

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 23

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6

รายวิชา ภาษาองั กฤษ รหสั วิชา อ 33102

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 10 If Only I’d Known จำนวน 5 ชวั่ โมง

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 23 Wishful Thinking จำนวน 1 ช่วั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น

อยา่ งมีเหตผุ ล

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/2 อ่านออกเสียง ข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครส้ัน

(skit) ถูกตอ้ ง ตามหลักการอ่าน

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/4 จับใจความส าคัญ วิเคราะหค์ วาม สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็น

จากการฟงั และ อา่ นเรอื่ งทีเ่ ปน็ สารคดี และบนั เทงิ คดี พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตวั อย่าง ประกอบ

2. สาระสำคญั

หนว่ ยการเรียนรู้น้ีมจี ุดม่งุ หมายให้นักเรียนเรียนรู้เก่ียวกับคำกล่าวแสดงความเสียดายโอกาสหรือความ
เสียใจในสิ่งที่ทำไปแล้วหรือไม่ได้ทำในอดีตในบทเรียนและจากการศึกษาค้นคว้าและนำเสนอใน
ห้องเรยี น นกั เรียนจะไดพ้ ูดแสดงบทบาทสมมติ การสนทนาเกี่ยวกับความเสียดายหรือเสียใจ ฟงั บุคคลกล่าวให้
โอวาทในงานฉลองการจบการศึกษา เขียนบรรยายเกี่ยวกับความเสียดายหรือความเสียใจครั้งใหญ่ของตน และ
รายงานการศกึ ษาคน้ คว้าเก่ียวกับคำคมภาษาองั กฤษต่าง ๆ ท่ีเก่ยี วกับความเสียดายหรือความเสียใจ นอกจากนี้
ยังได้เรียนรู้คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งหน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ที่เป็น
พน้ื ฐานของกจิ กรรมฟงั พดู อา่ น เขยี นในหนว่ ยการเรียนรนู้ ี้
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

3.1 ด้านความรู้

3.1.1 นักเรียนเข้าใจว่าการฝึกใช้คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับความเสียดายหรือเสียใจ จะทำให้นักเรยี น

สนทนา อา่ น และเขียนไดด้ ยี ่งิ ข้นึ

3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ

3.2.1 ออกเสยี งบทสนทนาถูกต้องตามหลกั การอ่าน

3.2.2 จับใจความสำคัญ สรปุ ความจากการฟงั

3.3 ด้านเจตคต/ิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค/์ คณุ ธรรมจริยธรรมทส่ี อดแทรก

3.3.1 ใฝเ่ รยี นรู้ : คน้ คว้าหาความรจู้ ากแหล่งเรยี นรตู้ า่ ง ๆ

3.3.2 หมั่นพัฒนาตนเอง : ทบทวนในสง่ิ ท่ีเคยเรยี น

4. สมรรถนะของผ้เู รยี น

4.1 ความสามารถในการส่ือสาร

4.2 ความสามารถในการคิด

4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา

4.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ

4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. สาระการเรยี นรู้

- คำศัพท์

กจิ กรรม Conversation

- adult (n.): people grown to full size and strength (ผู้ใหญ)่

- pick up (phrv.): to learn languages easily (เรียนรู้ได้โดยง่าย)

กิจกรรม Listening

- career* (n.): way of earning a living (อาชพี , การงาน)

- portray* (v.): to make a picture of, describe vividly in words (บรรยายภาพ,

พรรณนา)

- administrative work* (n.): controlling or managing a business, office, etc. (งานที่

เกีย่ วกับการบริหาร)

- medical school* (n.): school that students study about diseases (โรงเรยี นแพทย)์

- treat* (v.): to deal with (ปฏิบัติตอ่ )

- trainee* (n.): person receiving training (ผู้ได้รับการฝกึ )

- put off* (phrv.): to arrange for something to take place later (เลือ่ นไป)

- underestimate* (v.): to form a judgment in under possible level (ประเมนิ ต่ำไป)

- potential* (n.): that can or may come into existence or action (ศักยภาพ,

ความสามารถสงู สดุ )

- a breed* (n.): sort or group of animals (พันธ)ุ์

Note: * = see in audioscript

- สำนวนภาษา

กจิ กรรม Conversation

- It’s no use crying over spilled milk. หมายถึง อย่ามวั คร่ำครวญถึงเรื่องทผี่ ่านไปแลว้

- คำพูดท่ีใชส้ ำหรับเริม่ ต้นหัวขอ้ ในการสนทนามีดงั นี้

- Is there anything that you regret …? (คุณมีอะไรทเี่ สียใจ/เสียดายไหม…)

- By the way…, (อนึ่ง: ใช้สำหรับเปลย่ี นหัวข้อสนทนา)

- หน้าที่ภาษา

- To talk about regrets and missed opportunities
- โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์

- Wish + Past Perfect
- Third Conditional
6. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

กิจกรรม Conversation

1. นำเขา้ สู่บทเรยี น
- ครูชกั ชวนนกั เรียนพดู คยุ เกย่ี วกบั ความเสยี ใจหรือความเสยี ดายในส่ิงท่ไี ดท้ ำไปแล้วหรือไม่ได้ทำ (สิ่งที่ทำ

ไปแลว้ แต่ไมน่ า่ ทำ และสง่ิ ที่นา่ จะทำแต่ไมไ่ ดท้ ำ) โดยอาจใชแ้ นวคำถามดังน้ี
- What did you (your sister / your mother / your close friend) regret doing?
(not learning to swim, playing computer games a lot, etc.)

2. แจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้
- ครูบอกนกั เรยี นว่าในหน่วยการเรียนรู้น้ีนักเรียนจะได้ฝกึ การออกเสยี งบทสนทนา ฟงั บคุ คลสนทนา

เก่ียวกับความเสียใจหรือความเสยี ดายในส่งิ ที่ได้ทำไปแล้วหรือไม่ไดท้ ำ นักเรยี นจะไดฝ้ กึ อา่ นออกเสียงบท
สนทนาให้ถูกต้องตามหลักการอา่ น และสามารถตอบคำถามเกีย่ วกับบทสนทนาได้
3. ฟงั และอา่ นบทสนทนา

- ครใู หน้ ักเรยี นดรู ปู ภาพกจิ กรรม Conversation ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 75 และชว่ ยกันทายว่าความเสียใจ
หรอื ความเสียดายในส่งิ ที่ไดท้ ำไปแล้วหรอื ไม่ได้ทำของบุคคลท่ีสนทนากันคืออะไร (not learning to cook
special dishes)

- ครูเปิดซีดบี นั ทึกเสยี ง CD 2 Track 24 กิจกรรม Conversation ให้นักเรียนปิดหนงั สือเรียน ฟังบท
สนทนาแลว้ ช่วยกนั บอกวา่ บทสนทนาเปน็ เรอื่ งเกยี่ วกับอะไร โดยใหช้ ่วยกันตอบคำถามดงั นี้

- What is the conversation about?
- How many people are talking? Who are they?
- What events do they regret? Why?
- ครูเปิดซดี บี นั ทึกเสยี ง CD 2 Track 24 อกี ครง้ั ให้นกั เรยี นทำกจิ กรรม About the Conversation ใน
หนงั สอื เรยี น หน้า 75
- ใหน้ กั เรียนเปดิ หนงั สือเรียน หนา้ 75 และใหน้ ักเรยี นจบั คกู่ ันอา่ นบทสนทนา และหาคำตอบในกจิ กรรม
About the Conversation
- ครแู ละนกั เรยี นช่วยกันเฉลยคำตอบ (ดเู ฉลยท้ายเล่ม) ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ในกรณที ี่นักเรยี นยงั ตอบไม่
ถกู ตอ้ ง
4. อา่ นออกเสียง
- ครูเปิดซดี ีบันทึกเสยี ง CD 2 Track 24 ให้นักเรยี นฟัง ครูหยดุ ซดี ีบันทึกเสยี งเม่ือจบคำพูดของบคุ คล
เพอ่ื ใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม
- ครใู ห้นกั เรียนจับคฝู่ ึกอ่านบทสนทนาในหนงั สอื เรียน หน้า 75 ครูอาจสุ่มนกั เรียนบางคู่อา่ นในช้ันเรียน
พรอ้ มกับทำทา่ ทางประกอบ
- ครูประเมนิ การอ่านออกเสยี งโดยใชแ้ บบประเมินการอา่ นออกเสียง และใช้เกณฑ์ผา่ นระดับพอใช้
5. พัฒนา Conversation Strategy
- ครใู ห้นักเรยี นดกู ิจกรรม Conversation Strategy ในหนงั สือเรียน หน้า 75 พรอ้ มท้งั ให้นักเรียนอ่านคำ

ในแถบสฟี ้า ใหน้ กั เรียนช่วยกันดูประโยคกอ่ นหน้าและข้อความตอ่ จากคำพูดเหล่านี้ ถามนกั เรียนว่า คำพูด
เหลา่ นใี้ ชเ้ พ่อื อะไร ใช้เมอ่ื ไร แลว้ ครสู รุปให้นกั เรียนฟังวา่ สำนวนท้งั สองใชอ้ ย่างไร กล่าวคอื คำทง้ั สองใชส้ ำหรับ
เร่ิมตน้ หวั ขอ้ สนทนาซึง่ Is there anything that you regret ….? เป็นรปู คำถามซึ่งใช้กันทั่วไปสำหรบั เริม่ บท
สนทนาในหวั ขอ้ ใหม่ และ By the way …..ใช้เมื่อเปลยี่ นหัวขอ้ สนทนาเปน็ เรือ่ งอื่น

กจิ กรรม Listening

1. นำเขา้ สู่บทเรยี น
- ครชู ักชวนนักเรียนพดู คยุ ถึงงานฉลองการจบการศกึ ษาหรอื แจกประกาศนียบัตรทโ่ี รงเรยี นจดั เป็น

ประจำทุกปที ี่นกั เรยี นเคยเห็นหรือไดย้ ินไดฟ้ ังวา่ ถา้ เปน็ นักเรยี นจะเตรยี มตัวอย่างไรบ้างในวนั นัน้ โดยอาจใช้
แนวคำถามดงั น้ี

- What month do we have a graduation ceremony? (on the last day of March)
- What cloth do the students wear on that day? (school uniforms)
- Which word do the teachers say to the students? (Congratulations!)

etc.

CULTURE CORNER

- โรงเรียนระดับ high school ในประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีประเพณีการฉลองวันจบการศึกษา (Graduation
Ceremony) ของนักเรียน ซึ่งส่วนใหญ่มีการทำแหวนรุ่น (a class ring) และทำหนังสืออนุสรณ์ (a year book)
มีพธิ มี อบประกาศนยี บัตรและการกล่าวสนุ ทรพจน์

2. แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้
- ครบู อกนักเรยี นว่าในหน่วยการเรียนรนู้ นี้ กั เรยี นจะไดฟ้ ังแพทย์ผ้ทู ไี่ ด้รับการยอมรบั และนบั ถอื กลา่ วให้

โอวาทในงานฉลองการจบการศึกษาของนักเรยี นในโรงเรยี นแหง่ หน่ึง หลังจากฟงั แลว้ นกั เรยี นจะไดฝ้ ึกสรุป
ใจความและเตมิ ข้อมูลในตารางได้
3. ครใู ห้นักเรียนชว่ ยกันนกึ ถงึ กิจกรรมที่ทำในวนั ฉลองการจบการศึกษาประจำปีของโรงเรียน และเขยี นรายการ
หรอื กจิ กรรมบนกระดาน ในข้ันตอนนน้ี ักเรียนอาจจะใชค้ ำศัพทไ์ มถ่ ูกตอ้ งให้ครูชว่ ยแก้ไข ซงึ่ เป็นการเตรยี ม
ความพรอ้ มกอ่ นฟงั แนวคำตอบอาจเป็นดงั นี้

- hand out diplomas
- take photograph
- Congratulations
- Formal speech’s the principal / respected person

etc.
4. ฟงั บทสนทนา

- ครใู หน้ ักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ครูเปิดซดี ีบันทึกเสยี ง CD 2 Track 25 กิจกรรม Listening ให้
นักเรียนฟัง 2 รอบ แตล่ ะรอบครอู าจจะหยดุ ซดี บี ันทกึ เสยี งเป็นช่วง ๆ ตามที่ครูเห็นวา่ เหมาะสมกบั ระดับ
ความสามารถของนกั เรียน

- ให้นกั เรียนทำ Worksheet 2 และสุ่มนักเรียนบางกลมุ่ เพอื่ ชว่ ยกันเฉลยคำตอบ

Worksheet 2

Direction: Choose the correct answer according to the listening text.

1. How long has the speaker been a doctor?

a. five years b. ten years

2. Is being a doctor the way it’s portrayed on TV?

a. yes b. no

3. What has he mainly done in his actual work?

a. taking care of patient b. administrative work

4. Why did he have to go back to college to take a business course?

a. he changed his work b. he was not taught about it at the medical

school

5. What did he and other people regret doing when he was in high school?

a. learning experience b. not working hard

6. What did he tell the students at last?

a. “Think that you can do as the other do.” b. “Only extra people are

successful.”

เฉลยคำตอบ 1. b 2. b 3. b 4. b 5. a 6.a

- ใหน้ ักเรียนดูคำส่งั และแผนผงั ในกจิ กรรม Listening ในหนังสอื เรียน หนา้ 75
- ครใู หน้ กั เรียนแต่ละกล่มุ เขยี นข้อสรุปในแต่ละประเด็นท่ฟี งั ลงในตาราง หน้า 75
- สุ่มถามคำตอบนกั เรยี น
- ครูเปดิ ซีดีบนั ทึกเสยี งให้นักเรยี นฟังอกี ครัง้ เพอ่ื ใหน้ กั เรียนแน่ใจในคำตอบ (ดูเฉลยท้ายเลม่ )
5. ประเมินการฟงั
- ครปู ระเมินการฟงั เพอ่ื จบั ใจความสำคัญจากจำนวนคำตอบที่ถูกตอ้ งในการทำกจิ กรรม Listening ใน
หนังสือเรียน หน้า 75 โดยใชเ้ กณฑ์ผา่ นร้อยละ 60

กจิ กรรมเสริมทักษะ/ประสบการณท์ างภาษา

- ให้นักเรียนจบั คู่พดู บทสนทนาเก่ียวกับความเสียดายหรอื ความเสียใจเกย่ี วกับสิง่ ทไี่ ดท้ ำและไมไ่ ด้ทำใน
อดตี โดยใชค้ ำถามเริ่มหวั ขอ้ สนทนาคล้ายกับบทสนทนาในกิจกรรม Conversation ในหนงั สอื เรยี น หน้า 75

7. ส่ือการเรยี นรู้
1. หนังสือเรยี น New World 6 หนา้ 75

2. ซีดบี ันทึกเสยี ง

3. เครือ่ งเล่นซดี ี

4. Worksheet 2

5. สอื่ อิเลก็ ทรอนิกส์

- www.theholidayspot.com/graduation/what_is_graduation_day.htm

- www.brownielocks.com/graduation.html

- www.cnynews.com/graduation_ceremony-traditions-and-history/

8. แหล่งเรยี นรู้ -

9. การวัดและการประเมนิ ผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สง่ิ ทีต่ อ้ งรูแ้ ละปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงาน/ชิน้ งาน การวดั ผลและประเมินผล
และตัวช้ีวดั

ต 1.1 ม.4-6/2 ออกเสียงบทสนทน า ก า ร อ ่ า น อ อ ก เ ส ี ย ง ประเมินการอ่านออกเสียง

ถกู ต้องตามหลักการอ่าน บทสนทนาในกิจกรรม โดยใช้แบบประเมินการ

Conversation อ่านออกเสียง และใช้

เกณฑ์ผ่านระดับพอใช้

ต 1.1 ม.4-6/4 จ ั บ ใ จ ค ว า ม ส ำ คั ญ คำตอบที่เติมลงในตาราง ประเมินการฟงั จากจำนวน

สรุปความจากการฟงั ในกจิ กรรม Listening คำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้

เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 60

10. การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (3 หว่ ง 2 เงอื่ นไข 4 มิต)ิ

- การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3 ห่วง ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2 เงอ่ื นไข

พอประมาณ เงอ่ื นไขความรู้

มเี หตผุ ล เงอื่ นไขคณุ ธรรม

มีภูมิคุ้มกนั ในตวั ที่ดี

ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 4 มิติ

มิตเิ ศรษฐกิจ มติ สิ งั คม มิติสงิ่ แวดลอ้ ม มิตวิ ัฒนธรรม

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 24

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 6

รายวิชา ภาษาองั กฤษ รหสั วิชา อ 33102

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 10 If Only I’d Known จำนวน 5 ชั่วโมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 24 Wishful Thinking จำนวน 1 ช่วั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วัด

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น

อยา่ งมีเหตุผล

ตวั ช้ีวัดที่ ม.4-6/3 อธบิ ายและเขยี นประโยคและข้อความให้สัมพนั ธก์ บั ส่อื ที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบ

ตา่ งๆ ทอี่ ่าน รวมทั้งระบุและเขียนส่ือท่ไี ม่ใช่ความเรียงรปู แบบตา่ งๆ ใหส้ มั พันธก์ ับประโยค และข้อความที่ฟัง

หรืออ่าน

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเห็นอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพเหตุผล

ตัวชี้วัดที่ ม.4-6/5 พูดและเขียนบรรยายความรูส้ ึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกีย่ วกับเรื่อง

ตา่ งๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และ ข่าว/เหตกุ ารณอ์ ยา่ งมีเหตุผล

2. สาระสำคญั

หน่วยการเรียนรู้น้ีมีจุดมงุ่ หมายให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับคำกล่าวแสดงความเสียดายโอกาสหรือความ

เสียใจในสิ่งที่ทำไปแล้วหรือไม่ได้ทำในอดีตในบทเรียนและจากการศึกษาค้นคว้าและนำเสนอใน

ห้องเรยี น นกั เรียนจะไดพ้ ูดแสดงบทบาทสมมติ การสนทนาเกี่ยวกับความเสียดายหรือเสียใจ ฟังบุคคลกล่าวให้

โอวาทในงานฉลองการจบการศึกษา เขียนบรรยายเกี่ยวกับความเสียดายหรือความเสียใจครั้งใหญ่ของตน และ

รายงานการศึกษาคน้ คว้าเกี่ยวกับคำคมภาษาองั กฤษต่าง ๆ ทเ่ี ก่ียวกับความเสียดายหรือความเสียใจ นอกจากนี้

ยังได้เรียนรู้คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งหน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ที่เป็น

พนื้ ฐานของกิจกรรมฟงั พดู อ่าน เขยี นในหนว่ ยการเรียนรูน้ ี้

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

3.1 ด้านความรู้

3.1.1 นักเรียนเข้าใจว่าการฝึกใชค้ ำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับความเสียดายหรอื เสียใจ จะทำให้นักเรยี น

สนทนา อ่าน และเขยี นได้ดยี ิ่งขน้ึ

3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ
3.2.1 พดู และเขียนแสดงความคิดเห็นของตนเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ อย่างมีเหตุผล


Click to View FlipBook Version