The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by โบนัส ซัง, 2022-09-15 03:13:11

คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำ

คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำ

หนว่ ยท่ี ๒ รปู และเสยี งสระ

ส่วนท่ี ๑ ความรสู้ าำ หรบั ครู

หนังสือคู่มือน้ีอธิบายรูปและเสียงพยัญชนะตามเนื้อหาในหนังสือหลักภาษาไทย: เร่ืองท่ี
ครภู าษาไทยตอ้ งรู้ ซึง่ กล่าวถึงรปู สระในภาษาไทยวา่ ม ี ๓๘ รปู ใชแ้ ทนจำานวนเสยี ง ๒๑ เสยี ง เสียงใน
ภาษาไทยแบง่ เป็น ๒ ประเภท คอื สระเด่ยี วและสระประสม รวม ๒๑ เสียง

สระเด่ียว คอื สระทีอ่ อกเสยี งโดยอวยั วะในช่องปากอยูใ่ นตำาแหนง่ เดียวตลอดเสียง

หน่วยเสยี งสระเด่ยี ว สระเสยี งสั้น สระเสยี งยาว
/อะ/ /อา/
/อิ/ /อ/ี
/อ/ึ /ออื /
/อ/ุ /อู/
/เอะ/ /เอ/
/แอะ/ /แอ/
/โอะ/ /โอ/
/เอาะ/ /ออ/
/เออะ/ /เออ/


คูม่ ือการสอนอ่านเขยี น 45 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

สระประสม คือ สระที่ออกเสียงโดยอวัยวะอยู่ในตำาแหน่งหน่ึงแล้วเปลี่ยนไปอยู่ในอีก
ตาำ แหน่งหน่งึ ทำาให้เป็นสระประสม ๒ เสยี ง

สระ/อิ/ + /อะ/ เป็น /เอียะ/ สระ/อี/ + /อะ/ เปน็ /เอีย/
สระ/อ/ึ + /อะ/ เปน็ /เออื ะ/ สระ/อื/ + /อะ/ เปน็ /เอือ/
สระ/อุ/ + /อะ/ เปน็ /อัวะ/ สระ/อู/ + /อะ/ เป็น /อัว/
เสยี งสระประสมในภาษาไทย ๖ เสียง จดั เป็น ๓ หนว่ ย ได้แก ่ /เอยี /เอือ/อัว

การสอนแจกลูกสะกดคำาเพื่อการอ่านการเขียน เพ่ือมิให้ซับซ้อนครูควรสอนสระ โดยสอน
ใหน้ ักเรียนร้จู ักสระบางตัว ดงั น ี้
๑. รปู สระแทนเสียงสระเดยี่ ว ไดแ้ ก ่ อะ อา อ ิ อี อึ อ ื อุ อ ู เอะ เอ แอะ แอ
โอะ โอ เอาะ ออ เออะ เออ
๒. รูปแทนเสียงสระประสม ได้แก่ เอยี ะ เอยี เออื ะ เออื อัวะ อัว ครคู วรสอนเน้น
สระประสมเสียงยาว ไดแ้ ก่ เอยี เอือ อัว มากกว่าสระประสมเสียงส้นั ไดแ้ ก่ เอียะ เอือะ อัวะ
และเราจะพบวา่ ในภาษาไทยมีคาำ ทใ่ี ช้ประสมสระเสยี งส้นั น้อยมาก
๓. รูปสระแทนเสยี ง สระอะ ท่มี ีเสยี งพยัญชนะท้าย ได้แก่ อาำ ใอ ไอ ไอย เอา อาจสอน
โดยให้นักเรียนสังเกตการอ่านออกเสียงคำาที่ใช้สระเหล่าน้ี และมีตัวอย่างคำาที่ใช้สระและมีตัวสะกด
มาเทยี บเคียงให้เห็นความแตกตา่ ง เช่น สำา - สัม/ ไว - วยั / ไท - ทัย - ไทย/ ยวิ - เยา/ หิว - เหา
๔. สระบางรูปจะเปลี่ยนรูปเมื่อมีตัวสะกด ครูควรอธิบายให้นักเรียนเข้าใจท่ีมาและ
การเปล่ยี นแปลงน้นั เช่น

ค่มู อื การสอนอ่านเขียน 46 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

สระอะ ไม่มตี วั สะกดวางไวท้ า้ ยพยญั ชนะต้น เช่น กะ จะ ปะ ขะ ผะ สะ คะ นะ ระ
มีตวั สะกด เปลีย่ นรปู เปน็ ไม้หันอากาศวางไวท้ า้ ยพยัญชนะต้น
กัน จับ ปดั ขัง ผัน สกั คนั นกั รบั
สระออื ไมม่ ตี ัวสะกดมี อ เคียงรปู – ื วางไวท้ ้ายพยัญชนะต้น เชน่ จอื ดือ ออื ถอื

ผือ สือ คือ มอื ลอื
มีตวั สะกด ไมม่ ี อ เคยี ง จืด ตดื ปนื ฝนื ฝืด สืบ คนื มดื ยืน
สระเอะ ไม่มตี วั สะกด เชน่ เกะ เตะ เปะ เขะ เผะ เละ
มีตัวสะกด สระอะ จะเปลยี่ นรปู เป็นไมไ้ ตค่ ู้ ใชร้ ปู เ -็ เชน่ เก็ง เตง็ เป็น เขม็

เห็น เลง็ เล็ก เม็ด เล็บ
สระแอะ ไม่มีตัวสะกด เชน่ แกะ แตะ แปะ แยะ และ
มตี วั สะกด สระอะ จะเปล่ยี นรูปเปน็ ไม้ไต่ค ู้ ใช้รปู เเ - ็ เชน่ แกรน็ แขง็ แผล็บ

แผลว็
สระเออ ไม่มตี วั สะกด เชน่ เจอ เผอ เหอ เรอ เออ
มตี วั สะกด อ จะเปล่ียนเปน็ สระ อ ิ เช่น เจิม เดนิ เปดิ เอิก เชดิ
มีตวั สะกด ยกเวน้ คาำ ท่สี ะกดดว้ ย แมเ่ กอ อ จะหายไปเทา่ นั้น เช่น เกย เตย

เอย เขย เฉย เผย
สระเอาะ ไมม่ ีตวั สะกด เชน่ เกาะ เดาะ เบาะ เฉาะ เสาะ เคาะ เงาะ
มีตัวสะกด รูปสระท้ังหมดจะเปล่ียนไป โดยใช้รูป -็อ เช่น ช็อก ล็อก (คำาว่า

ก็เปน็ คาำ พเิ ศษ เสยี งสระ คือ /เอาะ/)
สระโอะ ไม่มตี ัวสะกด เช่น โกะ โจะ โดะ โผะ โงะ โชะ โนะ
มีตวั สะกด รปู สระจะหายไป เช่น กบ จง อม ขด สม ถก งก คด นบ
สระอวั ไม่มตี ัวสะกด เช่น ตัว บวั ถัว สวั หัว มวั รวั
มีตวั สะกด ไมห้ ันอากาศจะหายไป เชน่ กวน ตวง บวม ขวบ สวม หวด งวง

มวน รวย

คู่มอื การสอนอา่ นเขียน 47 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

๕. การพจิ ารณารปู สระท่ีใชเ้ ปน็ เรอื่ งสำาคญั และต้องสงั เกตเสียงของคำาว่า เปน็ สระเสียงสน้ั
หรือเสียงยาว จึงจะแยกได้ว่า คำาน้ันใช้รูปสระใด ออกเสียงเป็นเสียงสระใด รูปสระต้องใช้ตามที่
กาำ หนด สว่ นเสยี งสระตอ้ งฟงั ใหช้ ดั เนอ่ื งจากไมต่ รงตามรปู สระกไ็ ด ้ เชน่ แตง่ รปู เปน็ แอ เสยี งเปน็ แอะ
(เสยี งสั้น)
๖. การสอนอา่ นเขียนสระ สามารถจดั ลาำ ดับการสอน ดังนี้
๖.๑ การสอนสระเรยี งตามลำาดับก่อนหลงั เปน็ ชดุ ๆ

ชดุ ท ่ี ๑ -ะ -า -ิ - ี - ึ - ื -ุ - ู
ชดุ ท ี่ ๒ เ-ะ เ- แ-ะ แ- โ-ะ โ- เ-าะ -อ
ชุดท ่ี ๓ - วั ะ -วั -าำ ใ- ไ- เ-า
ชดุ ท ่ี ๔ เ-อะ เ-อ เ- ียะ เ- ีย เ- อื ะ เ- อ
ชุดท ่ี ๕ ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ

๖.๒ สอนจากการวางตาำ แหนง่ ของสระ เปน็ กลมุ่ ๆ ดงั น ้ี

กลมุ่ ท ่ี ๑ สระทม่ี ตี ำาแหน่งอยู่ขา้ งหลงั ม ี ๓ ตัว คอื -ะ -า -อ
กลุ่มท่ ี ๒ สระทมี่ ตี ำาแหนง่ อยู่ข้างหนา้ ม ี ๕ ตัว คือ เ- แ- โ- ใ- ไ-
กล่มุ ที่ ๓ สระทม่ี ตี ำาแหนง่ อยขู่ ้างบน ม ี ๔ ตวั คอื -ิ - ี - ึ - ื
กล่มุ ที ่ ๔ สระที่มีตำาแหน่งอยขู่ ้างลา่ ง มี ๒ ตัว คอื - ุ - ู
กลมุ่ ท ่ี ๕ สระทม่ี ีตำาแหนง่ อยขู่ า้ งหนา้ ขา้ งบน และขา้ งหลัง มี ๑๑ ตวั คือ เ-ะ แ-ะ โ-ะ
เ-าะ เ-า เ-อะ เ-อ เ- ียะ เ- ยี เ- อื ะ เ- อื
กลุ่มที่ ๖ สระทีม่ ีตำาแหนง่ อยู่ขา้ งบนและข้างหลงั มี ๓ ตวั คือ -ัวะ -วั -ำา

คู่มอื การสอนอา่ นเขียน 48 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

๖.๓ การสอนตามเสียงสระเสียงยาว - สั้น โดยเร่ิมจากสระเสียงยาวก่อน แล้วจึง
ตามดว้ ยสระเสียงสัน้

สระเสยี งยาว สระเสยี งสั้น

-า -ะ
- ี -ิ
-ื - ึ
- ู -ุ
เ- เ-ะ
แ- แ-ะ
โ- โ-ะ
-อ เ-าะ
เ-อ เ-อะ
เ- ีย เ- ียะ
เ-อื เ- ือะ
-ัว - ัวะ
ใ- ( ไ- ) -ำา
เ-า

คมู่ ือการสอนอา่ นเขียน 49 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

สว่ นท่ี ๒ แนวทางการจดั การเรียนรู้

การสอนแจกรูปสะกดคำาเพ่ือการอ่านออกเขียนได้น้ัน ครูต้องสอนนักเรียนให้รู้จัก “รูป”
และ “เสียง” ของสระแต่ละตัว เพ่ือการเตรียมไปสู่การอ่านและการเขียนสะกดคาำ ข้ันตอนการสอน
ท่ีสาำ คญั ม ี ๓ ขนั้ ตอน ได้แก่ ขนั้ ที่ ๑ สอนให้เหน็ รูปสระ ขน้ั ท่ี ๒ สอนใหร้ จู้ ักเสยี งสระ และขนั้ ท ี่ ๓
สอนให้เขียนรูปสระ รายละเอียดดงั น ้ี

ข้ันที่ ๑ สอนใหเ้ หน็ รูปสระ

ครูใช้บตั รสระเป็นรายตวั ใหน้ ักเรียนไดเ้ ห็นรปู ร่างลกั ษณะของพยญั ชนะแต่ละตัว

-ะ -า เ-

ขน้ั ที่ ๒ สอนใหร้ ู้จกั เสียงสระ

ขณะทีน่ าำ บัตรให้นักเรียนดูรปู สระ ตอ้ งให้นกั เรยี นได้รู้จักเสียงของสระตวั นนั้ ๆ โดย
๒.๑ ครอู อกเสียงสระใหฟ้ ังอยา่ งชัดเจน
-ะ ออกเสยี งวา่ “อะ” อยา่ ออกเสยี งว่า “สระอะ”
-า ออกเสียงวา่ “อา” อย่าออกเสยี งว่า “สระอา”
เ- ออกเสียงวา่ “เอ” อย่าออกเสยี งวา่ “สระเอ”

คู่มือการสอนอา่ นเขยี น 50 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

๒.๒ ใหน้ ักเรยี นดูรปู สระทีละตัว แลว้ อา่ นออกเสียงตามคร ู โดยออกเสียงดัง ๆ และชดั เจน
๒.๓ ให้นักเรียนดูรูปแล้วอ่านออกเสียงเอง โดยเร่ิมจากอ่านออกเสียงพร้อมกันทั้งชั้น
อา่ นออกเสยี งพรอ้ มกนั เป็นรายกลมุ่ และอ่านออกเสยี งรายบุคคล
๒.๔ ครตู อ้ งสงั เกต ตรวจสอบ หรอื ทดสอบการอา่ นออกเสยี งสระของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล
หากพบว่านักเรียนคนใดยังอ่านออกเสียงไม่ได้หรือไม่ชัดเจน ต้องแก้ไขทันทีก่อนท่ีจะให้อ่านสระตัว
ตอ่ ไป

ข้ันท่ี ๓ สอนให้เขียนรูปสระ

เม่ือนักเรยี นอา่ นออกเสยี งสระไดแ้ ลว้ ครสู อนให้เขยี นรูปสระ โดยมขี นั้ ตอนดังน้ี
๓.๑ ครเู ขยี นรปู สระในกระดานดำา โดยคดั ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั และลากเสน้ ใหถ้ กู ตอ้ งตาม
หลกั การเขียนสระ ครลู ากเสน้ ชา้ ๆ ใหน้ ักเรยี นดแู ละอ่านออกเสยี งสระตัวนน้ั ไปพร้อมกัน
๓.๒ ใหน้ กั เรยี นเขยี นรปู สระตามครู ขณะเขียนให้อ่านออกเสยี งสระไปด้วย
๓.๓ ใหน้ กั เรยี นคดั รปู สระแตล่ ะตวั ดว้ ยตวั บรรจงเตม็ บรรทดั ใหส้ วยงามลงในสมดุ หลาย ๆ ครงั้
หลาย ๆ เทยี่ ว
๓.๔ ครูต้องสังเกต ตรวจสอบ หรือทดสอบการเขียนรูปสระของนักเรียนเป็นรายบุคคล
หากพบว่านักเรียนคนใดยังอ่านไม่ได้หรือเขียนไม่ถูกต้อง ต้องแก้ไขในทันทีก่อนที่จะให้เขียนสระตัว
ตอ่ ไป

คู่มือการสอนอ่านเขยี น 51 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

ตัวอยา่ งการนาำ แนวทางการจดั การเรียนรู้ไปใชใ้ นห้องเรียน
หน่วยที่ ๒ รปู และเสียงสระ

จุดประสงค์การเรียนร้ขู องหน่วย (๖ ช่ัวโมง) (๑ ช่วั โมง)
เพ่ือให้นักเรียนอ่านและเขยี นรูปสระได้ (๑ ชวั่ โมง)
(๑ ชั่วโมง)
แนวทางการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๑
สระทมี่ ีตำาแหนง่ อยขู่ ้างบนพยญั ชนะต้น (๑ ชว่ั โมง)
(๑ ช่วั โมง)
แนวทางการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒
สระทมี่ ตี ำาแหน่งอยู่ขา้ งลา่ งพยญั ชนะตน้ (๑ ช่ัวโมง)

แนวทางการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓
สระที่มีตำาแหนง่ อยู่ขา้ งหลังพยญั ชนะต้น: -ะ -า -อ

และสระทม่ี ตี ำาแหน่งอยขู่ า้ งหน้า: เ- แ- โ- ใ- ไ-
แนวทางการจดั การเรียนรู้ที่ ๔

สระทีม่ ีตำาแหน่งอยขู่ า้ งบนและข้างหลงั พยญั ชนะต้น: -ัวะ -วั -าำ
แนวทางการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๕

สระที่มตี ำาแหนง่ อยขู่ ้างหน้าและข้างหลงั พยัญชนะต้น:
เ-ะ แ-ะ โ-ะ เ-าะ เ-า
แนวทางการจดั การเรียนรู้ที่ ๖

สระท่มี ีตำาแหน่งอยู่ข้างหนา้ ขา้ งหลัง และขา้ งบนพยัญชนะตน้ :
เ-อะ เ-อ เ-ียะ เ-ยี เ-ือะ เ-อื

คมู่ อื การสอนอา่ นเขียน 52 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แนวทางการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๑ สระทมี่ ีตำาแหนง่ อยขู่ ้างบน -ิ -ี -ึ -ื (๑ ช่วั โมง)
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

๑. เพอ่ื ใหน้ ักเรียนบอกรปู และอ่านออกเสยี งสระ – ิ –ี – ึ –ื ได้
๒. เพอ่ื ใหน้ ักเรียนบอกตำาแหน่งสระและเขียนสระ –ิ –ี –ึ –ื ได้

ข้ันตอนการจัดการเรียนรู้

๑. ข้ันนาำ
๑.๑ ครูนำาบัตรคาำ ตดิ บนกระดานดำาให้นกั เรยี นดูและสนทนาดังนี้

ต ิ ด ี อ ึ มอื

๑.๒ ครใู หน้ กั เรยี นสงั เกตและสนทนาเกยี่ วกบั ตวั อกั ษรในบตั รคาำ ทตี่ ดิ ไวโ้ ดยครตู ง้ั คาำ ถาม
เชน่ จากบตั รคาำ นนี้ กั เรียนเหน็ อะไรบา้ ง (ต ด อ ม อ –ิ – ี – ึ – ื )
๑.๓ ครูบอกใหน้ ักเรียนร้วู ่าจะอ่านและเขยี นสระที่อยู่บนพยัญชนะ

๒. ขั้นสอน
๒.๑ ครูให้นักเรียนดูบัตรสระและให้สังเกตรูปร่างของสระ เพื่อให้เห็นความแตกต่าง
ของสระ โดยต้ังคำาถาม เช่น สระอิ กับ สระอ ี สระอ ึ สระออื มีสิ่งใดท่เี หมอื นและแตกต่างกันบา้ ง

–ิ –ี –ึ –ื

คูม่ อื การสอนอา่ นเขยี น 53 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

๒.๒ ครูแนะนำาชื่อสระให้นักเรียนรู้จักพร้อมทั้งการออกเสียงท่ีถูกต้อง จากน้ันให้
นักเรียนทาำ แบบฝึกท ่ี ๑ การอ่านสระ – ิ –ี –ึ –ื

–ิ คือ สระ - ิ ออกเสียงวา่ อิ
–ี คือ สระ - ี ออกเสยี งว่า อี
–ึ คือ สระ - ึ ออกเสยี งวา่ อึ
–ื คือ สระ - ื ออกเสยี งวา่ อือ

๒.๓ ครแู จกบตั รสระ – ิ – ี – ึ – ื ใหน้ กั เรยี นคนละหนง่ึ สระ (บตั รสระคละกนั ) จดั กจิ กรรม
หรอื เลน่ เกมเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นรวู้ า่ บตั รสระทไ่ี ดร้ บั เปน็ สระใด ใหน้ กั เรยี นทมี่ สี ระนนั้ ออกมายนื หนา้ ชนั้ เรยี น
เพ่อื น ๆ ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง เช่น ครูใช้ท่องบทร้องเลน่

เจ้าออื เจ้าอือ ฮือ ฮือ ร้องไห้
สองขีด อนั ใหญ ่ หลน่ ใส ่ ท้ายร่ม

นกั เรยี นทถ่ี อื บตั รสระออื ออกมายนื หนา้ ชน้ั เรยี น ชบู ตั รขนึ้ ใหเ้ พอ่ื น ๆ ชว่ ยตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ ง ครูใหค้ วามร้วู า่ สระ – ิ –ี –ึ –ื จะวางอยบู่ นพยัญชนะ

คู่มือการสอนอ่านเขียน 54 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

๒.๔ นำาบตั รสระตดิ บนกระดานดาำ ครเู ขียนรปู สระใหน้ ักเรยี นสังเกตวธิ ีเขยี นดังนี้

๒.๕ ครูให้นักเรียนฝึกเขียนสระตามขั้นตอน โดยใช้ดินสอลากบนกระดาษ
เร่ิมทีละสระ –ิ –ี –ึ –ื ฝึกปฏิบัติหลายครั้ง ครูคอยดูผลงานของนักเรียน และแก้ไขทันที
เมอื่ นกั เรยี นเขียนผดิ
๒.๖ นักเรยี นฝกึ เขยี นสระในแบบฝึกท่ี ๒ การเขยี นสระ –ิ –ี –ึ – ื

๓. ข้นั สรปุ
๓.๑ นักเรียนและครูรว่ มกันสรปุ ดงั น้ี
๓.๑.๑ รปู ร่างของสระ – ิ – ี –ึ –ื
๓.๑.๒ การออกเสียงของสระ – ิ – ี – ึ –ื
๓.๑.๓ การเขยี นสระ – ิ –ี –ึ – ื
๓.๑.๔ ตำาแหน่งท่อี ยขู่ องสระ – ิ –ี –ึ – ื
๓.๒ นกั เรยี นทอี่ า่ นออกเสยี งและเขยี นสระ – ิ – ี – ึ – ื ไดถ้ กู ตอ้ งกอ่ นเพอื่ น ครอู าจใหท้ าำ
กจิ กรรมวาดรปู หรอื ระบายสรี ปู สระตามจนิ ตนาการ และระบายสใี นรปู สระไดต้ ามความตอ้ งการ

สอ่ื การสอน

๑. บทรอ้ งเลน่ สระ
๒. บัตรคำา
๓. บตั รสระ
๔. สไี ม้/สเี ทยี น
๕. แบบฝกึ

การวดั และประเมินผล

การตรวจแบบฝึก

ค่มู อื การสอนอา่ นเขียน 55 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบฝึกที่ ๑ การอ่านสระ –ิ –ี –ึ –ื

คาำ ชี้แจง
ให้นกั เรียนออกเสียงสระที่กำาหนดให้

–ิ ๑.
–ี ๒.
–ึ ๓.
–ื ๔.

เฉลยคาำ ตอบ –ิ ออกเสยี งวา่ อิ
๑. –ี ออกเสียงว่า อี
๒. –ึ ออกเสยี งว่า อึ
๓. –ื ออกเสยี งวา่ อื
๔.

คู่มอื การสอนอ่านเขยี น 56 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แบบบันทึกผลการออกเสยี งสระ –ิ –ี –ึ –ื

ท่ี ช่ือ - สกุล ขอ้ ที่
๑ ๒ ๓ ๔ รวมคะแนน*

คะแนนรวม*

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพ่ือให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้ในการ

ปรับปรุงและพฒั นานักเรยี น
๒. วิธีการบันทกึ ถ้าอา่ นถูกต้องให้ใสเ่ ครือ่ งหมาย √ ถ้าอ่านผิดใหใ้ สเ่ ครอื่ งหมาย X (เคร่อื งหมาย √ เทา่ กับ

๑ คะแนน เคร่อื งหมาย X เทา่ กับ ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรบั ปรงุ และพฒั นานักเรยี นเป็นรายบคุ คล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของชั้นเรียน

เพอ่ื นาำ ไปใชใ้ นการปรบั ปรงุ และพัฒนาการจัดการเรยี นการสอน
๕. นักเรียนต้องอ่านได้ถูกต้องทุกข้อ จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีท่ีนักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึกจนนักเรียน

อา่ นได้

คมู่ ือการสอนอา่ นเขียน 57 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบฝกึ ท่ี ๒ การเขียนสระ –ิ –ี –ึ –ื

คาำ ชีแ้ จง
ใหน้ ักเรียนเขยี นสระท่กี ำาหนดให้

–ิ ๑.
–ี ๒.
–ึ ๓.
–ื ๔.

คูม่ อื การสอนอ่านเขยี น 58 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบบนั ทึกผลการเขยี นสระ –ิ –ี –ึ –ื

ที่ ชือ่ - สกลุ ขอ้ ที่
๑ ๒ ๓ ๔ รวมคะแนน*

คะแนนรวม*

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพ่ือให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้ในการ

ปรบั ปรงุ และพัฒนานกั เรยี น
๒. วิธกี ารบนั ทึก ถ้าเขียนถกู ตอ้ งให้ใส่เครือ่ งหมาย √ ถ้าเขยี นผดิ ให้ใส่เครื่องหมาย X (เครอ่ื งหมาย √ เท่ากับ

๑ คะแนน เครือ่ งหมาย X เทา่ กบั ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรับปรงุ และพัฒนานักเรียนเปน็ รายบคุ คล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของชั้นเรียน

เพอ่ื นำาไปใช้ในการปรับปรุงและพฒั นาการจดั การเรยี นการสอน
๕. นักเรียนต้องเขียนได้ถูกต้องทุกข้อ จึงจะผ่านเกณฑ ์ กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ ์ ครูต้องฝึกจนนักเรียน

เขยี นได้

คมู่ อื การสอนอ่านเขยี น 59 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

สว่ นท่ี ๓ แนวทางการวัดและประเมินผลประจำาหน่วย

ฉบบั ที่ ๑ การอา่ นสระ รูปสระ

คาำ ชแ้ี จง -ัวะ
ให้นักเรียนอ่านออกเสียงสระที่กำาหนดให้ –วั
–ำา
ขอ้ ที่ รูปสระ ขอ้ ท่ี เ–ะ
แ–ะ
๑. – ิ ๑๕. โ–ะ
๒. – ี ๑๖. เ–าะ
๓. – ึ ๑๗. เ–า
๔. – ื ๑๘. เ–อะ
๕. – ุ ๑๙. เ–อ
๖. – ู ๒๐. เ–ียะ
๗. –ะ ๒๑. เ–ีย
๘. –า ๒๒. เ–อื ะ
๙. –อ ๒๓. เ–อื
๑๐. เ– ๒๔.
๑๑. แ– ๒๕.
๑๒. โ– ๒๖.
๑๓. ใ– ๒๗.
๑๔. ไ– ๒๘.

คูม่ อื การสอนอา่ นเขียน 60 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

เฉลยคาำ ตอบ

ขอ้ ที่ รูปสระ ออกเสียงวา่ ข้อท่ี รูปสระ ออกเสียงวา่

๑. – ิ อิ ๑๕. -ัวะ อัวะ

๒. – ี อี ๑๖. –ัว อวั

๓. – ึ อึ ๑๗. –ำา อำา

๔. – ื อื ๑๘. เ–ะ เอะ

๕. – ุ อุ ๑๙. แ–ะ แอะ

๖. – ู อู ๒๐. โ–ะ โอะ

๗. –ะ อะ ๒๑. เ–าะ เอาะ

๘. –า อา ๒๒. เ–า เอา

๙. –อ ออ ๒๓. เ–อะ เออะ

๑๐. เ– เอ ๒๔. เ–อ เออ

๑๑. แ– แอ ๒๕. เ–ยี ะ เอียะ

๑๒. โ– โอ ๒๖. เ–ยี เอีย

๑๓. ใ– ใอ ๒๗. เ–ือะ เอือะ

๑๔. ไ– ไอ ๒๘. เ–อื เออื

คมู่ อื การสอนอ่านเขียน 61 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

คมู่ ือการสอนอา่ นเขียน 62 โดยการแจกลกู สะกดคาำ แบบบันทึกผลการอา่ นออกเสียงสระ

ท่ี ช่ือ-สกลุ พยัญชนะ รวม
คะแนน*
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑ ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ ๒๖ ๒๗ ๒๘

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บนั ทกึ คะแนนของนกั เรียนเป็นรายข้อ เพอ่ื ให้รู้ว่านักเรยี นมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้ในการปรับปรุงและพฒั นานกั เรียน
๒. วิธกี ารบันทกึ ถ้าอา่ นถกู ต้องใหใ้ สเ่ คร่อื งหมาย √ ถ้าอา่ นผิดให้ใส่เครอ่ื งหมาย X (เครื่องหมาย √ เท่ากบั ๑ คะแนน เครอ่ื งหมาย X เท่ากบั ๐ คะแนน)
๓. ใช ้ รวมคะแนน* เพอ่ื ประโยชนใ์ นการวนิ จิ ฉัยข้อบกพร่องของนกั เรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใชใ้ นการปรบั ปรงุ และพัฒนานักเรียนเปน็ รายบคุ คล
๔. ใช ้ คะแนนรวม** เพอื่ ประโยชนใ์ นการวนิ จิ ฉยั วา่ ขอ้ บกพรอ่ งของนกั เรยี นในภาพรวมของชนั้ เรยี น เพอื่ นาำ ไปใชใ้ นการปรบั ปรงุ และพฒั นาการจดั การเรยี น

การสอน
๕. นกั เรียนต้องอา่ นพยญั ชนะถูกต้องทุกตัว จงึ ผา่ นเกณฑ ์ กรณีทน่ี ักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑ ์ ครูต้องฝกึ จนนักเรยี นอา่ นได้

ฉบับที่ ๒ การเขยี นสระ

คาำ ชีแ้ จง
๑. ให้นกั เรียนเขียนสระตามคำาบอก ใชเ้ วลา ๒๐ นาที (เขียนสระ ๒๘ ตวั ตามฉบับท่ี ๑)
๒. ใหค้ รอู ่านสระให้นกั เรยี นฟงั สระละ ๒ คร้ัง โดยเว้นเวลาใหน้ ักเรียนเขยี นก่อนบอกสระ
ในขอ้ ต่อไป

ขอ้ ที่ รูปสระ ขอ้ ท่ี รูปสระ
๑ ............................................................ .......................................................... ๑ ๕ ...........................................................
๒ ............................................................ .......................................................... ๑ ๖ ...........................................................
๓ ............................................................ .......................................................... ๑ ๗ ...........................................................
๔ ............................................................ .......................................................... ๑ ๘ ...........................................................
๕ ............................................................ .......................................................... ๑ ๙ ...........................................................
๖ ............................................................ .......................................................... ๒ ๐ ...........................................................
๗ ............................................................ .......................................................... ๒ ๑ ...........................................................
๘ ............................................................ .......................................................... ๒ ๒ ...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................

คู่มือการสอนอา่ นเขียน 63 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ข้อที่ รูปสระ ขอ้ ท่ี รูปสระ
๙ ............................................................ .......................................................... ๒ ๓ ...........................................................
๑ ๐ ............................................................ .......................................................... ๒ ๔ ...........................................................
๑ ๑ ............................................................ .......................................................... ๒ ๕ ...........................................................
๑ ๒ ............................................................ .......................................................... ๒ ๖ ...........................................................
๑ ๓ ............................................................ .......................................................... ๒ ๗ ...........................................................
๑ ๔ ............................................................ .......................................................... ๒ ๘ ...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................

คูม่ ือการสอนอา่ นเขียน 64 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

คมู่ ือการสอนอา่ นเขียน 65 โดยการแจกลกู สะกดคาำ แบบบันทกึ ผลการเขียนสระ

ท่ี ชอ่ื -สกุล พยัญชนะ รวม
คะแนน*
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑ ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ ๒๖ ๒๗ ๒๘

คะแนนรวม**

หมายเหตุ

๑. ให้บันทกึ คะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพอ่ื ให้รู้วา่ นักเรยี นมีขอ้ บกพร่องใด สำาหรับนำาไปใชใ้ นการปรบั ปรุงและพัฒนานักเรียน
๒. วธิ กี ารบนั ทึก ถ้าเขียนถกู ตอ้ งใหใ้ ส่เครอ่ื งหมาย √ ถ้าเขยี นผดิ ให้ใสเ่ คร่อื งหมาย X (เครอ่ื งหมาย √ เทา่ กบั ๑ คะแนน เครอื่ งหมาย X เทา่ กบั ๐ คะแนน)
๓. ใช ้ รวมคะแนน* เพอ่ื ประโยชนใ์ นการวินิจฉยั ขอ้ บกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้ในการปรับปรงุ และพัฒนานกั เรียนเปน็ รายบุคคล
๔. ใช ้ คะแนนรวม** เพอ่ื ประโยชนใ์ นการวนิ จิ ฉยั วา่ ขอ้ บกพรอ่ งของนกั เรยี นในภาพรวมของชนั้ เรยี น เพอ่ื นาำ ไปใชใ้ นการปรบั ปรงุ และพฒั นาการจดั การเรยี น

การสอน
๕. นกั เรียนเขยี นพยญั ชนะถกู ตอ้ งทกุ ตวั จงึ ผา่ นเกณฑ์ กรณีท่ีนกั เรียนไม่ผ่านเกณฑ ์ ครตู อ้ งฝกึ จนนักเรยี นเขียนได้

ตัวอยา่ งสรปุ ผลการประเมินรูปและเสียงสระ

ที่ ชื่อ - สกุล ผลการประเมิน รวม สรปุ ผลการประเมนิ

ฉบับที่ ๑ ฉบับที่ ๒ คะแนน ผ่าน ไม่ผา่ น
(๒๘ คะแนน) (๒๘ คะแนน) (๕๖ คะแนน)

หมายเหตุ
นักเรียนต้องได้คะแนนผ่านเกณฑ์ทุกฉบับจึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์
ให้สอนซอ่ มเสรมิ

คมู่ อื การสอนอ่านเขียน 66 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

หนว่ ยที่ ๓ รูปและเสยี งวรรณยุกต์
สว่ นที่ ๑ ความรู้สาำ หรบั ครู

วรรณยุกตป์ ระกอบดว้ ย รปู วรรณยกุ ตแ์ ละเสยี งวรรณยุกต์
รูปวรรณยุกต์ เขียนบนพยัญชนะต้น เพ่ือบอกระดับเสียงของคำา ทำาให้คำามีความหมาย

ต่างกนั

๑. วรรณยกุ ตม์ ี ๔ รูป คอื

- ่ เรยี กว่า ไมเ้ อก
- ้ เรยี กวา่ ไมโ้ ท
-๊ เรียกว่า ไมต้ รี
- ๋ เรียกว่า ไมจ้ ตั วา

คำาบางคาำ มีรูปวรรณยกุ ต์ และคาำ บางคาำ ไม่มรี ปู วรรณยกุ ต์
๒. วิธเี ขียนรูปวรรณยกุ ต์ ๔ รูป

๑๒

ไม้เอก ไมโ้ ท ไม้ตร ี ไมจ้ ัตวา

คมู่ ือการสอนอ่านเขียน 67 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

๓. ตาำ แหนง่ ของวรรณยุกต์ จะเขียนอยู่บนพยัญชนะตน้ ขนาดเล็กกวา่ พยัญชนะ ๑ ใน ๔
เชน่

กา กา กา กา

๔. การวางตำาแหน่งรูปวรรณยุกต์ เขียนบนตัวพยัญชนะ ให้ตรงกับเส้นหลัง หรือค่อน
ไปทางด้านท้ายของตัวพยัญชนะ โดยส่วนขวาสุดของวรรณยุกต์อยู่ตรงกับเส้นขวาสุดของพยัญชนะ
ทีเ่ กาะ ยกเวน้ ทีอ่ ยู่กับพยญั ชนะทม่ี หี าง ไดแ้ ก่ ป ฝ ฟ ใหเ้ ขยี นวรรณยกุ ต์เย้ืองมาขา้ งหนา้ ไมท่ บั หาง
พยัญชนะ เชน่

คูม่ อื การสอนอา่ นเขียน 68 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

พยัญชนะทมี่ หี าง ไดแ้ ก่ ป ฝ ฟ ใหเ้ ขยี นวรรณยกุ ต์เยือ้ งมาขา้ งหนา้ ไมท่ ับหางพยญั ชนะ เชน่

้ ๊ ๋
้ ่ ้

พยัญชนะต้นมตี วั อักษร ๒ ตวั รปู วรรณยกุ ตจ์ ะวางอยูบ่ นตวั ท ี่ ๒ เช่น

้ ๋

พยางค์ใดมีรูปสระอยู่บนตัวพยัญชนะแล้ว ให้เขียนรูปวรรณยุกต์ไว้บนรูปสระอีกช้ันหน่ึง
เช่น

้ ๊

คูม่ ือการสอนอา่ นเขยี น 69 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

เสียงวรรณยุกต์ หมายถึง ระดับสูงตำ่าของเสียงที่ปรากฏในพยางค์หรือคำา และทำาให้คำา
มคี วามหมายแตกต่างกัน
วรรณยุกต์ มที ั้งหมด ๕ เสียง คือ

รูป – ่ ้ ๊ ๋

เสียง สามญั เอก โท ตร ี จัตวา

ข้อสังเกต คำาทุกคำามีเสียงวรรณยุกต์ โดยบางคำามีรูปและเสียงวรรณยุกต์ แต่บางคำามี
รูปวรรณยุกต์ไม่ตรงกับเสียงวรรณยุกต์ ขึ้นอยู่กับพยัญชนะต้นตามไตรยางศ์ เสียงสั้นยาวของสระ
และมาตราตัวสะกด

พยางคท์ ุกพยางคม์ ีพื้นเสียงวรรณยกุ ตอ์ ยูแ่ ลว้ โดยไมต่ ้องมีรปู วรรณยุกต์ เชน่

กา มีเสียงวรรณยกุ ตส์ ามญั กัด มีเสยี งวรรณยุกตเ์ อก

คาด มเี สียงวรรณยกุ ต์โท คัด มเี สียงวรรณยกุ ต์ตรี

ขา มีเสียงวรรณยุกตจ์ ัตวา

เสียงวรรณยุกต์สามัญ เป็นเสียงวรรณยุกต์ระดับกลาง เช่น เสียงวรรณยุกต์ในคำาว่า
มา ดู นาง พลาง เรอื น จาน ลืม ดาว พราย เดยี ว เป็นตน้

เสียงวรรณยุกต์เอก เป็นเสยี งวรรณยุกต์ระดับตำา่ เชน่ เสยี งวรรณยุกตใ์ นคำาว่า ป่า ขา่ ป ู่
ข่าย อยา่ เปน็ ต้น กล่มุ คำาตอ่ ไปนมี้ เี สยี งวรรณยกุ ต์เอก แต่ไมม่ รี ปู วรรณยุกตเ์ อก กำากับ เชน่ ปะ ขาด
เหยอื ก ปกั เปียก ผดั บีบ เปน็ ต้น

เสียงวรรณยุกต์โท เป็นเสียงวรรณยุกต์เปลี่ยนระดับจากสูงลงมาตำ่า เช่น เสียงวรรณยุกต์
ในคำาวา่ ปา้ กอ้ น ข้า ค่า ใคร ่ กลมุ่ คาำ ตอ่ ไปน้มี เี สยี งวรรณยุกตโ์ ท แต่ไมม่ รี ูปวรรณยุกตโ์ ท กำากับ เชน่
นาบ ทาก ชาต ิ เลอื ด เรียบ เปน็ ต้น

เสียงวรรณยุกต์ตรี เปน็ วรรณยุกตร์ ะดบั สูง เช่น วรรณยุกตใ์ นคาำ ว่า กง๊ กุ๊ย น้า น้อง คา้ ง
กล่มุ คาำ ต่อไปน้ีมเี สียงวรรณยกุ ต์ตรี แตไ่ ม่มีรูปวรรณยุกต์ตรี กาำ กบั เชน่ นึก รกั ริบ วับ เปน็ ตน้

เสยี งวรรณยกุ ตจ์ ตั วา เปน็ เสยี งวรรณยกุ ตเ์ ปลย่ี นระดบั จากตา่ำ ขน้ึ ไปสงู เชน่ เสยี งวรรณยกุ ต ์
ในคำาว่า ป๋า เดี๋ยว ขา กลุ่มคำาต่อไปน้ีมีเสียงวรรณยุกต์จัตวา แต่ไม่มีรูปวรรณยุกต์จัตวา กำากับ
เชน่ ผง ขน ผม ขัน สาว หวิ หนาม เป็นตน้

คู่มือการสอนอา่ นเขียน 70 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ส่วนที่ ๒ แนวทางการจดั การเรียนรู้

สอนใหร้ ูจ้ ักรูปและเสียงวรรณยุกต์
๑. สอนให้รูจ้ ักรปู วรรณยุกต์ โดยใช้บตั รคาำ รปู วรรณยุกต ์ หรอื แผนภมู ิรูปวรรณยุกต์
๒. ฝกึ เขยี นและอ่านรปู วรรณยุกต์

คมู่ อื การสอนอา่ นเขยี น 71 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ตวั อยา่ งการนาำ แนวทางการจดั การเรยี นรไู้ ปใช้ในหอ้ งเรียน
หน่วยท่ี ๓ รปู และเสยี งวรรณยกุ ต์

จุดประสงค์การเรยี นรขู้ องหน่วย (๑ ชวั่ โมง)
เพือ่ ให้นกั เรียนอา่ นและเขียนรูปวรรณยกุ ต์ได้ (๑ ชั่วโมง)

แนวทางการจดั การเรียนรู้ การอา่ นและเขยี นวรรณยกุ ต ์

แนวทางการจัดการเรยี นรู้ การอา่ นและเขียนวรรณยกุ ต์ (๑ ชวั่ โมง)
จุดประสงค์การเรียนรู้

เพ่ือใหน้ ักเรยี นอ่านและเขยี นรูปวรรณยุกต์ได้

ข้นั ตอนการจัดการเรยี นรู้

๑. ขน้ั นำา เตรียมความพรอ้ ม
๑.๑ ครูและนักเรียนร่วมกันร้องเพลงกระต่ายน้อย และทำาท่าประกอบบทเพลง
(ครูอาจหาหรือแต่งเพลงท่มี ีรูปวรรณยุกตอ์ ื่นได)้

เพลง กระตา่ ยนอ้ ย (ไม่ทราบนามผ้แู ตง่ )

ฉันเป็นกระตา่ ยตวั นอ้ ยมีหางเดียว
สองหูยาว ส่นั กระดกุ๊ กระดกุ๊ กระดก๊ิ
กระโดดส่ขี า ทาำ ท่ากระตุก๊ กระต๊ิก
เพือ่ นที่รัก ของฉนั น้นั คอื เธอ

คูม่ อื การสอนอา่ นเขียน 72 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

๑.๒ ครูทำาเคร่ืองหมายวงกลมรอบวรรณยุกต์หรือใช้สีเน้นรูปวรรณยุกต์บนพยัญชนะ
ในแผนภูมเิ พลงกระตา่ ยน้อย
๑.๓ ครูบอกจุดประสงค์การเรียนรู้ของการอ่านและเขียนวรรณยุกต ์ เพื่อให้นักเรียนรู้
เปา้ หมายในการเรยี น

๒. ขัน้ สอน
๒.๑ ครูใช้ “บัตรวรรณยุกต์” ๔ รูป ติดบนกระดานดำา ให้นักเรียนได้เห็นรูปร่าง
ลักษณะของวรรณยุกต์แต่ละตัว พร้อมอธิบายว่า วรรณยุกต์มี ๔ รูป คือ ไม้เอก ( -่ ) ไม้โท ( -้ )
ไม้ตร ี ( -๊ ) และไมจ้ ัตวา ( -๋ ) ครูอธิบายว่า รปู วรรณยุกตจ์ ะวางอย่บู นพยญั ชนะ

ตัวอยา่ งบตั รรูปวรรณยุกต์

๒.๒ ครูนำาแผนภูมิวิธีการเขียนรูปวรรณยุกต์บนกระดานดำา และอธิบายวิธีเขียน
รปู วรรณยุกต ์ โดยลากเส้นชา้ ๆ ใหน้ ักเรยี นดแู ละอา่ นออกเสยี ง วรรณยุกตต์ วั นน้ั ไปพรอ้ ม ๆ กนั
ตัวอยา่ งแผนภมู ิวธิ กี ารเขยี นรูปวรรณยุกต์




ไมเ้ อก ไมโ้ ท ไมต้ ร ี ไม้จัตวา

คู่มอื การสอนอา่ นเขยี น 73 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

๒.๓ ครูให้นักเรียนฝึกเขียนรูปวรรณยุกต์ ขณะที่นักเรียนเขียนวรรณยุกต์แต่ละตัว
ให้ออกเสียงวรรณยุกต์ตามไปด้วย ครูอาจเดินสังเกตการเขียนรูปวรรณยุกต์ของนักเรียน และตรวจ
การเขียน หากพบว่านักเรียนคนใดยังเขียนไม่ได้หรือเขียนไม่ถูกต้อง ให้แก้ไขทันที โดยให้ฝึกซ้ำา ๆ
หรือถ้านักเรยี นคนใดเขา้ ใจดีแล้ว ให้นกั เรียนทำาแบบฝกึ เสริมอื่น ๆ ซ่ึงครสู ามารถนำามาเพิม่ เติมได้
๒.๔ ครูนำาเสนอบัตรคำาที่มีรูปวรรณยุกต์จากบทเพลงที่ร้องในขั้นนำา พร้อมช้ีแจง
และอธิบายตาำ แหนง่ ที่ถูกต้องของการเขียนวรรณยกุ ตแ์ ต่ละตัว
กระตา่ ย นอ้ ย สั่น กระดกุ๊ กระดก๊ิ ส่ ี ท่า
กระตุ๊ก กระตก๊ิ เพ่ือน ที่ นน้ั
ครูยกตัวอย่างคำาอ่ืน ๆ และอธิบายการเขียนและการวางรูปวรรณยุกต์ให้นักเรียนดู
อกี ครง้ั เช่น
กา กา่ กา้ กา๊ ก๋า
จา จา่ จา้ จา๊ จา๋
๒.๕ ครนู าำ บตั รรปู วรรณยกุ ตช์ ขู น้ึ ทลี ะใบ แลว้ ใหน้ กั เรยี นบอกเสยี งวรรณยกุ ตต์ ามบตั ร
รูปวรรณยกุ ตท์ ี่ครูชูข้ึน ในข้ันตอนนีค้ รูใหน้ กั เรียนตอบพร้อมกนั หรือตอบเปน็ รายกลุ่ม หรือตอบเป็น
รายบคุ คล
ตัวอย่างบตั รรูปวรรณยุกต์

คูม่ อื การสอนอ่านเขยี น 74 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

๒.๕ ครูอธิบายวิธีการเขียนรูปวรรณยุกต์บนพยัญชนะต้นท่ีถูกต้อง พร้อมยกตัวอย่าง
การเขยี นรปู วรรณยกุ ตบ์ นพยัญชนะ คำา หรอื พยางค ์ ทถ่ี ูกต้องให้นักเรียนด ู
๒.๖ ครูให้นักเรียนฝึกเขียนรูปวรรณยุกต์บนพยัญชนะ ครูต้องสังเกตตรวจสอบ
การเขียนวรรณยุกต์และการอ่านออกเสียงตามรูปภาพของนักเรียนเป็นรายคน หากพบว่านักเรียน
คนใดยงั เขยี นไม่ได้หรือเขยี นไม่ถกู ต้องแกไ้ ขทันที โดยใหท้ ำาแบบฝกึ ซำ้า ๆ หรือถา้ นกั เรียนคนใดเข้าใจ
ดแี ล้ว ให้นักเรยี นทาำ แบบฝกึ เสรมิ อ่นื ๆ

๓. ขั้นสรปุ
ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ การอ่านและเขยี นรูปวรรณยุกต์

สอื่ การสอน

๑. บตั รวรรณยกุ ต์
๒. บัตรคาำ
๓. แผนภูมิเพลงกระต่ายนอ้ ย
๔. แผนภมู วิ ธิ กี ารเขียนรูปวรรณยกุ ต์
๕. สมุดบรรทดั ๕ เสน้ หรอื ครูทำาบรรทดั ๕ เสน้ ลงในกระดาษ
๖. แบบฝกึ

การวดั และประเมนิ ผล

การตรวจแบบฝกึ

คมู่ อื การสอนอา่ นเขียน 75 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

สว่ นท่ี ๓ แนวทางการวัดและประเมนิ ผลประจำาหนว่ ย

ฉบับท่ี ๑ การอา่ นรูปวรรณยุกต์

คาำ ช้ีแจง
ให้นักเรียนอา่ นรปู วรรณยกุ ตท์ ี่กำาหนดให ้
๑. -่
๒. -้
๓. -๊
๔. - ๋
เฉลยคาำ ตอบ
๑. -่ อา่ นวา่ ไม้เอก
๒. - ้ อา่ นวา่ ไมโ้ ท
๓. - ๊ อ่านวา่ ไมต้ รี
๔. -๋ อา่ นว่า ไมจ้ ตั วา

ค่มู ือการสอนอา่ นเขยี น 76 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แบบบันทึกผลการอา่ นรูปวรรณยกุ ต์

ที่ ชือ่ - สกุล ข้อที่
๑ ๒ ๓ ๔ รวมคะแนน*

คะแนนรวม*

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพ่ือให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้ในการ

ปรับปรงุ และพฒั นานักเรียน
๒. วิธีการบนั ทึก ถ้าอ่านถกู ตอ้ งใหใ้ ส่เครือ่ งหมาย √ ถ้าอ่านผดิ ให้ใส่เครอื่ งหมาย X (เครอื่ งหมาย √ เทา่ กบั

๑ คะแนน เครอื่ งหมาย X เทา่ กบั ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรับปรงุ และพัฒนานักเรยี นเป็นรายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของชั้นเรียน

เพอ่ื นาำ ไปใช้ในการปรับปรุงและพฒั นาการจดั การเรียนการสอน
๕. นักเรียนต้องอ่านได้ถูกต้องทุกข้อ จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึกจนนักเรียน

อา่ นได้

คู่มือการสอนอ่านเขยี น 77 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

ฉบบั ท่ี ๒ การเขยี นรปู วรรณยกุ ต์

คาำ ชี้แจง
ให้นักเรียนเขียนรปู วรรณยุกต์ ลงในช่องท่ีกาำ หนด
๑.

๒.

คูม่ อื การสอนอ่านเขียน 78 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

๓.
๔.

คมู่ อื การสอนอา่ นเขียน 79 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบบันทึกผลการเขียนรปู วรรณยกุ ต์

ท่ี ชอ่ื - สกุล ขอ้ ท่ี
๑ ๒ ๓ ๔ รวมคะแนน*

คะแนนรวม*

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพ่ือให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรับปรงุ และพัฒนานกั เรยี น
๒. วิธีการบันทึก ถ้าเขียนถูกต้องให้ใส่เครื่องหมาย √ ถ้าเขียนผิดให้ใส่เครื่องหมาย X (เคร่ืองหมาย

√ เท่ากับ ๑ คะแนน เคร่อื งหมาย X เท่ากับ ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรับปรุง และพัฒนานกั เรียนเปน็ รายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของชั้นเรียน

เพอ่ื นาำ ไปใชใ้ นการปรบั ปรุงและพฒั นาการจัดการเรยี นการสอน
๕. นกั เรยี นตอ้ งเขียนไดถ้ กู ตอ้ งทกุ ขอ้ จึงจะผา่ นเกณฑ์ กรณที ีน่ ักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑ ์ ครตู อ้ งฝึกจนนักเรียน

เขียนได้

คูม่ ือการสอนอา่ นเขียน 80 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ตัวอยา่ งสรปุ ผลการประเมินรปู และเสียงวรรณยุกต์

ที่ ชือ่ - สกลุ ผลการประเมิน รวม สรปุ ผลการประเมนิ

ฉบบั ที่ ๑ ฉบบั ที่ ๒ คะแนน ผา่ น ไมผ่ ่าน
(๔ คะแนน) (๔ คะแนน) (๘ คะแนน)

หมายเหตุ
นักเรียนต้องได้คะแนนผ่านเกณฑ์ทุกฉบับจึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์
ให้สอนซ่อมเสริม

ค่มู ือการสอนอา่ นเขยี น 81 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

หนว่ ยท่ี ๔ การแจกลูกสะกดคาำ ในแม่ ก กา
ส่วนที่ ๑ ความร้สู าำ หรบั ครู

หน่วยการเรียนรู้น้ี เสนอเน้ือหาสาระ แนวทางการจัดการเรียนรู้ และตัวอย่างการจัดการ
เรยี นรูก้ ารอ่านเขียน โดยการแจกลกู สะกดคาำ ในแม่ ก กา ที่ไม่มรี ูปวรรณยุกต์ โดยเลอื กสระบางกลมุ่
พยัญชนะบางตัว เพือ่ เป็นแนวทางในการจัดการเรยี นรแู้ กค่ รูในขัน้ การสอนคาำ อื่น ๆ ต่อไป
การสอนแจกลกู สะกดคาำ ในแม ่ ก กา ควรมีลำาดับขน้ั ตอนในการสอน ดงั น้ี
๑. สอนใหร้ ู้จกั ไตรยางศ ์
๒. สอนให้ร้จู ักสระเสยี งส้ัน - ยาว
๓. สอนให้สะกดคาำ แจกลกู ในแม ่ ก กา

๑. ไตรยางศ์

ไตรยางศ ์ คือ การแบ่งพยญั ชนะในภาษาไทยเปน็ ๓ หมู่ ตามระดับเสียง ไดแ้ ก่

อักษรกลาง ๙ ตวั ประกอบดว้ ย ก จ ด ต ฎ ฏ บ ป อ

อักษรสงู ๑๑ ตวั ประกอบด้วย ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ษ ส ห

อกั ษรตำา่ ๒๔ ตวั ประกอบดว้ ย ค ฅ ฆ ง ช ซ ฌ ญ ฑ ฒ ณ ท ธ น

พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ฬ ฮ

เน่ืองจากพยัญชนะในแต่ละหมู่ มีผลต่อการสอนแจกลูกสะกดคำาให้นักเรียนเข้าใจง่าย-ยาก

แตกต่างกัน จงึ ขอจัดลำาดบั การใชพ้ ยญั ชนะนำามาสอนกอ่ นหลงั ดังนี้

คมู่ ือการสอนอ่านเขยี น 82 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

ชุดท ี่ ๑ ก จ ด ต บ ป อ
ชดุ ท ่ี ๒ ค ง ช ซ ท น
ชุดท ่ี ๓ พ ฟ ม ย ร ล ว ฮ
ชุดท ี่ ๔ ข ฉ ถ ผ ฝ ส ห
ชุดท ี่ ๕ ฆ ฑ ธ ภ ศ ษ
ชุดท ี่ ๖ ฌ ญ ฎ ฏ ฐ ฒ ณ

อกั ษรชุดท่ี ๕ และ ๖ เปน็ อักษรที่ใชใ้ นคาำ ยืมจากภาษาต่างประเทศ จงึ นาำ มาสอนหลัง
จากนกั เรียนได้เรยี นรแู้ ละฝึกอา่ นเขยี นคำาท่ีสะกดโดยมพี ยญั ชนะตน้ ในชุดท่ี ๑ - ๔ คล่องแลว้
* ในกรณีน ้ี ไม่จำาเปน็ ตอ้ งนาำ ฃ และ ฅ มาสอน เนื่องจากไมม่ ที ีใ่ ชใ้ นภาษาไทย

๒. คาำ ในแม่ ก กา

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ได้อธิบายความหมายของ ก กา ไว้ว่า
น. เรียกแม่บทแจกลูกพยัญชนะต้นกับสระโดยไม่มีตัวสะกดว่ามาตรา ก กา หรือ แม่ ก กา
ดงั นน้ั คาำ ในแม ่ ก กา คอื คาำ ทมี่ พี ยญั ชนะตน้ ประสมสระ โดยไมม่ ตี วั สะกด ซง่ึ อาจมรี ปู วรรณยกุ ตก์ าำ กบั
หรือไมม่ กี ็ได้ ดงั คาำ ในบทร้อยกรองต่อไปน้ี

แมไ่ กอ่ ยูใ่ นตะกร้า ไข่ไขม่ าส่ีหา้ ใบ

อีแมก่ าก็มาไล ่ อีแมไ่ กไ่ ล่ตกี า

หมาใหญ่ก็ไล่เหา่ หมใู นเลา้ แลดูหมา

ปแู สมแลปูนา กะปมู ้าปทู ะเล

เต่านาแลเต่าดาำ อยใู่ นนำ้ากะจระเข้

ปลาทอู ยทู่ ะเล ปลาขเ้ี หรไ่ มส่ ู้ดี

(ประถม ก กา ฉบับหอสมุดแห่งชาติ)

ค่มู อื การสอนอา่ นเขียน 83 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ส่วนท่ี ๒ แนวทางการจัดการเรียนรู้

ในหน่วยนี้ นาำ เสนอแนวทางการจดั การเรยี นรู้ตามข้นั ตอน ดงั นี้

ขั้นท่ี ๑ ทบทวนรปู และเสยี งพยญั ชนะ
จดุ ประสงคก์ ารเรียน

เพ่ือให้นักเรียนจดจำารูปและออกเสียงของพยญั ชนะได้ถูกตอ้ ง

กจิ กรรม

๑. ครูให้นักเรียนดูบัตรพยัญชนะและอ่านออกเสียงพยัญชนะทั้ง ๔๔ ตัว โดยให้อ่าน
ออกเสียงพรอ้ มกันทัง้ หอ้ งและอา่ นเป็นรายบุคคล เชน่

ง อ่านออกเสยี งว่า งอ

๒. ครูแนะนำาให้นักเรียนบอกช่ือพยัญชนะ รูปพยัญชนะ และเสียงพยัญชนะตามตาราง
ดงั ตวั อยา่ ง

รปู พยัญชนะ เสยี งพยัญชนะ

ก กอ
ต ตอ
บ บอ
ข ขอ
ส สอ
ถ ถอ
ง งอ
ม มอ
ย ยอ

คมู่ อื การสอนอ่านเขยี น 84 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

๓. ครูนำาเสนอวิธีการเขียนพยัญชนะที่ถูกต้องทีละตัว โดยเลือกเอากลุ่มพยัญชนะ
ชดุ ท ี่ ๑ อักษรกลาง ๗ ตัว คือ ก จ ด ต บ ป อ (ฎ และ ฏ ปรากฏใช้ในคำายืมเทา่ นัน้ จงึ ยังไม่นำามาสอน
ในขั้นนี้)
การนำาพยัญชนะชดุ ท ี่ ๑ มาสอนกอ่ น เพราะพยัญชนะชุดที่ ๑ เปน็ อักษรกลาง เสียงของ
อกั ษรกลางมพี นื้ เสยี งเปน็ เสยี งสามญั ซงึ่ งา่ ยตอ่ การออกเสยี ง เมอ่ื ครฝู กึ นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งพยญั ชนะ
ทก่ี าำ หนดให้จนชำานาญแลว้ ตอ่ จากนน้ั จึงสอนวิธีเขยี นพยญั ชนะในชุดท ่ี ๒ - ๔ ต่อไป ตามลำาดบั

ขน้ั ที่ ๒ ทบทวนรปู และเสยี งสระ

จุดประสงค์การเรยี นรู้

เพ่อื ให้นักเรยี นจดจาำ รูปและออกเสยี งของสระไดถ้ ูกตอ้ ง

กจิ กรรม

๑. ครูควรนำาเสนอรูปและเสียงสระที่ประกอบด้วยสระเสียงสั้นและสระเสียงยาว ดังน้ี
-ะ -า -ิ - ี - ึ -ื - ุ - ู เพ่ือให้นกั เรยี นได้ฝึกการอา่ นคำา แม่ ก กา ท่ีประสมทงั้ สระเสียงสน้ั และสระเสยี งยาว
ซึ่งเมื่อนักเรียนได้ฝึกอ่านมาก ๆ จนชำานาญ นักเรียนจะสามารถสังเกตเสียงสั้นยาวของเสียงสระได้
แล้วใหอ้ อกเสียงสระทลี ะตัว โดยครูควรใช้บตั รคาำ เสนอสระทลี ะตวั ดงั นี้

ตวั อย่าง -ะ ออกเสียงวา่ อะ

ชือ่ สระ รปู สระ เสยี งสระ
-ะ อะ
-า อา
-ิ อิ
-ี อี
-ึ อึ
-ื อื
-ุ อุ
-ู อู

ค่มู ือการสอนอ่านเขียน 85 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

๒. เม่ือนักเรียนได้ทบทวนเร่ืองรูปและเสียงของสระแล้ว ครูจึงสอนให้นักเรียนฝึกอ่าน
สะกดคาำ ทปี่ ระสมสระท่ไี ด้ทบทวนน้ัน โดยแบง่ กลุ่มสระเสยี งส้ันและสระเสยี งยาว
ครูควรอธิบายเพิ่มเติมว่า เสียงสั้นยาวของสระทำาให้คำาออกเสียงวรรณยุกต์ต่างกัน
และให้นักเรียนสังเกตเสียงวรรณยุกต์ของคำาด้วย การสอนให้นักเรียนสะกดคำา ควรสอนคำาท่ีประสม
สระเสียงยาวก่อน แล้วจึงสอนสระเสียงส้ัน เมื่ออ่านได้แล้วจะฝึกอ่านสระเป็นคู่ตามเสียงสั้นยาว
ก็จะทาำ ให้นักเรยี นอ่านคาำ ได้คล่อง

ครูสามารถใช้ตารางการแจกลกู คำาท่ีใชส้ ระเป็นลูกประกอบการอธบิ าย

สระ -ะ -า - ิ - ี - ึ - ื -ุ -ู
พยญั ชนะ
กะ กา กิ ก ี กึ กอื กุ กู
ก ตะ ตา ติ ตี ต ึ ตอื ต ุ ตู
ต บะ บา บิ บ ี บึ บอื บ ุ บู


๓. ครูนำาอักษรต่ำา ง ม ย และอักษรสูง ข ส ถ มาฝึกเช่นเดียวกับอักษรกลาง จากน้ัน
จึงแบ่งกลุ่มเสียงสระสั้นยาว โดยครูและนักเรียนร่วมกันสังเกตและสรุปว่าเสียงสระใดเสียงสั้น
เสยี งสระใดเสยี งยาว และออกเสยี งวรรณยกุ ตใ์ ด จากนนั้ จงึ ใหน้ กั เรยี นฝกึ อา่ นคำาทป่ี ระสมสระเสยี งยาว
เสียงสน้ั

คมู่ ือการสอนอ่านเขยี น 86 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

อกั ษรกลาง เสยี งยาว กา ก ี กือ ก ู เสยี งสามญั

เสยี งสน้ั กะ กิ กึ กุ เสียงเอก

เสียงยาว ตา ต ี ตอื ต ู เสียงสามัญ

เสียงสน้ั ตะ ต ิ ตึ ต ุ เสียงเอก

เสยี งยาว บา บ ี บือ บ ู เสียงสามญั

เสยี งสั้น บะ บิ บ ึ บ ุ เสยี งเอก

อกั ษรต่าำ เสียงยาว งา ง ี งือ ง ู เสียงสามญั

เสยี งส้นั งะ ง ิ ง ึ ง ุ เสียงตรี

เสยี งยาว มา มี มือ ม ู เสียงสามัญ

เสียงสน้ั มะ ม ิ ม ึ ม ุ เสียงตรี

เสียงยาว ยา ยี ยือ ย ู เสยี งสามญั

เสียงสัน้ ยะ ยิ ย ึ ย ุ เสยี งตรี

อักษรสงู เสยี งยาว ขา ข ี ขือ ข ู เสียงจัตวา

เสยี งสน้ั ขะ ข ิ ข ึ ข ุ เสยี งเอก

เสยี งยาว สา ส ี สอื ส ู เสียงตรี

เสียงส้ัน สะ ส ิ ส ึ ส ุ เสียงเอก

เสียงยาว ถา ถ ี ถอื ถ ู เสียงตรี

เสียงสน้ั ถะ ถ ิ ถ ึ ถ ุ เสียงเอก

ขอ้ เสนอแนะ

สำาหรับการทบทวนรูปและเสียงสระอื่น ๆ อาจใช้วิธีเดียวกันจนครบทุกสระที่ต้องการสอน
ก็ได ้ ให้อย่ใู นดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน

คมู่ ือการสอนอ่านเขยี น 87 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

๔. เม่ือสอนรูปและเสียงสระจนนักเรียนสามารถอ่านคำาได้แล้ว ให้นักเรียนสังเกตตำาแหน่ง
ของสระในแต่ละคำาว่าอยู่ในตำาแหน่งใด จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันสรุปตำาแหน่งของสระว่า
อยู่ในตาำ แหน่งใดบา้ ง เชน่
กะ อ่านว่า กะ มีส่วนประกอบอะไรบ้าง (ครูแนะนำาว่าพยัญชนะตัวแรก เราเรียกว่า
พยญั ชนะตน้ )
พยญั ชนะตน้ คือ ก ประสมสระ -ะ อา่ นวา่ กะ สระ -ะ อย่.ู .....(หลงั )....พยัญชนะ

พยญั ชนะต้น คือ ก ประสมสระ -า อ่านวา่ กา สระ -า อย่.ู .....(หลัง)....พยัญชนะ

พยญั ชนะต้น คือ ก ประสมสระ -ี อา่ นวา่ กี สระ -ี อย.ู่ .....(บน)....พยัญชนะ

พยญั ชนะต้น คอื ก ประสมสระ -ึ อา่ นวา่ กึ สระ -ึ อย.ู่ .....(บน)....พยัญชนะ

(นกั เรียนรว่ มกันบอกตาำ แหนง่ ของสระจนครบทุกคาำ ) จากนัน้ นาำ สระทีม่ ตี ำาแหน่งตา่ ง ๆ กัน
มาจดั หมวดหม ู่ ดังน้ี
กลุ่มสระทม่ี ีตาำ แหนง่ อยขู่ า้ งหลงั คอื -ะ -า
กลุม่ สระท่มี ีตำาแหนง่ อย่ขู า้ งบน คือ -ิ - ี -ึ -ื
กลมุ่ สระทม่ี ตี าำ แหน่งอยู่ขา้ งล่าง คือ - ุ -ู

ครคู วรจัดกจิ กรรมจดั หมวดหมสู่ ระในรปู สระอน่ื ๆ เพือ่ ใหน้ กั เรยี นไดร้ ู้จกั ตาำ แหน่งของ
สระครบทุกตาำ แหน่ง โดยใช้วิธีการจดั กิจกรรมในลักษณะดังกล่าวขา้ งต้น หรือวิธีอื่นท่ีเห็นว่าสามารถ
จดั หมวดหมู่ตาำ แหน่งของสระได้ การสอนใหน้ กั เรียนรจู้ กั และจาำ ตำาแหน่งของสระ จะทำาใหน้ ักเรยี น
สามารถเขียนสะกดคาำ ได้ง่าย เมื่อถึงขัน้ ตอนการเขียนสะกดคำา

คูม่ อื การสอนอ่านเขยี น 88 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

๕. เมื่อสอนรปู เสยี ง และการวางตาำ แหนง่ ของสระ จนนักเรียนสามารถจาำ รปู สระ ตำาแหนง่
ของสระ และอ่านเสียงสระได้แล้ว ให้ครูนำาคำาที่สอนมาแยกส่วนประกอบตามโครงสร้างของคำา
เช่น
ตา มีสว่ นประกอบอะไรบ้าง
พยญั ชนะต้น คอื ต และ สระ -า

ตี มีสว่ นประกอบ คือ พยัญชนะตน้ คือ ต และ สระ -ี
งู มีสว่ นประกอบ คือ พยญั ชนะต้น คอื ง และ สระ -ู
๖. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่วนประกอบของคำา ประกอบด้วย พยัญชนะต้น + สระ
ครูอาจนำาคำาอ่ืน ๆ ท่ีมีอยู่ในแบบเรียนหรือคำาท่ีนักเรียนคุ้นเคย โดยใช้คำาที่ไม่มีรูปวรรณยุกต์
และไม่มีตวั สะกดมาใหน้ ักเรยี นฝึก

ขน้ั ท่ี ๓ การอ่านสะกดคาำ ในแม่ ก กา
จุดประสงค์การเรียนรู้

เพื่อให้นักเรยี นอา่ นสะกดคำาในแม ่ ก กา ได้

กจิ กรรม

๑. ใหน้ กั เรยี นดูบตั รคำาในแม ่ ก กา เช่น กา ตา แล้วให้บอกว่า ในบตั รคำา
ประกอบด้วย พยัญชนะ และสระอะไร และให้นักเรียนออกเสียงพยัญชนะและเสียงสระตามครู
เชน่

พยัญชนะตน้ อกั ษรกลาง + สระเสยี งยาว เสยี งวรรณยุกตส์ ามญั

กา ตา
ก ออกเสียงว่า กอ ต ออกเสยี งว่า ตอ
า ออกเสยี งวา่ อา า ออกเสยี งว่า อา

คู่มอื การสอนอ่านเขยี น 89 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

พยัญชนะตน้ อักษรตำ่า + สระเสียงยาว เสยี งวรรณยกุ ตส์ ามัญ

คา มา
ค ออกเสยี งวา่ คอ ม ออกเสยี งว่า มอ
า ออกเสียงว่า อา า ออกเสยี งวา่ อา

พยญั ชนะตน้ อกั ษรสูง + สระเสียงยาว เสียงวรรณยุกตจ์ ัตวา

สา ขา
ส ออกเสยี งวา่ สอ ข ออกเสยี งวา่ ขอ
า ออกเสียงว่า อา า ออกเสยี งว่า อา

พยัญชนะตน้ อักษรกลาง + สระเสียงสน้ั เสียงวรรณยุกต์เอก

กะ ตะ
ก ออกเสยี งว่า กอ ต ออกเสียงว่า ตอ
ะ ออกเสียงวา่ อะ ะ ออกเสียงวา่ อะ

พยญั ชนะตน้ อกั ษรต่ำา + สระเสยี งส้ัน เสียงวรรณยกุ ต์ตรี

คะ มะ
ค ออกเสียงว่า คอ ม ออกเสยี งว่า มอ
ะ ออกเสยี งวา่ อะ ะ ออกเสยี งวา่ อะ

พยัญชนะต้นอกั ษรสงู + สระเสียงสัน้ เสยี งวรรณยกุ ต์เอก

สะ ขะ
ส ออกเสียงวา่ สอ ข ออกเสยี งวา่ ขอ
ะ ออกเสียงวา่ อะ ะ ออกเสยี งว่า อะ

ขอ้ เสนอแนะ

ขน้ั ตอนน ้ี ครสู ามารถนาำ คาำ ทสี่ ะกดดว้ ยพยญั ชนะตน้ ทป่ี ระสมกบั สระอนื่ ๆ ทนี่ กั เรยี นไดเ้ รยี น
มาแล้วมาฝึกเพิ่มอกี เพื่อให้นักเรียนอ่านสะกดคำาไดค้ ล่องข้ึน

คมู่ อื การสอนอา่ นเขียน 90 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

๒. เมื่อนักเรียนอ่านออกเสียงสระและเสียงพยัญชนะคล่องแล้ว ครูจึงจะนาำ เสนอหลักการ
อา่ นสะกดคาำ โดยครูทบทวนวา่ คำาประกอบด้วย พยัญชนะตน้ + สระ เช่น คาำ ว่า กา พยัญชนะต้น ก
ออกเสยี งว่า กอ สระ -า ออกเสยี ง อา (ในหน่วยการจัดการเรียนร้นู ีจ้ ะยังไมม่ ีสว่ นประกอบของคาำ ท่มี ี
รปู วรรณยุกต ์ ซ่งึ จะเรียนรูใ้ นเรื่องการผนั วรรณยุกต)์ ครสู ามารถนำาเสนอคาำ อื่น ๆ แบบคละคาำ ที่สะกด
ด้วยพยัญชนะตน้ ตามไตรยางศ์และสระเสียงสั้น - ยาว เพอื่ ให้นกั เรยี นไดฝ้ กึ อ่านคำาต่าง ๆ อยา่ งเปน็
ธรรมชาตขิ ึน้

การสะกดคำาท่ีประสมดว้ ยสระอะ และ สระ อา
กา กอ - อา กา ตา ตอ - อา ตา บา บอ - อา บา
คา คอ - อา คา มา มอ - อา มา งา งอ - อา งา
ขา ขอ - อา ขา สา สอ - อา สา ยา ยอ - อา ยา
กะ กอ - อะ กะ ตะ ตอ - อะ ตะ บะ บอ - อะ บะ
คะ คอ - อะ คะ มะ มอ - อะ มะ งะ งอ - อะ งะ
ขะ ขอ - อะ ขะ สะ สอ - อะ สะ ยะ ยอ - อะ ยะ

คมู่ อื การสอนอ่านเขียน 91 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

การสะกดคำาท่ีประสมดว้ ยสระอิ และ สระ อี

ก ิ กอ - อ ิ กิ ติ ตอ - อิ ต ิ บ ิ บอ - อิ บิ

คิ คอ - อ ิ คิ ม ิ มอ - อ ิ มิ ง ิ งอ - อิ งิ

ข ิ ขอ - อ ิ ขิ ส ิ สอ - อ ิ ส ิ ยิ ยอ - อิ ยิ

กี กอ - อ ี ก ี ตี ตอ - อ ี ต ี บี บอ - อี บี

ค ี คอ - อี คี ม ี มอ - อ ี มี ง ี งอ - อี งี

ขี ขอ - อี ขี ส ี สอ - อ ี ส ี ยี ยอ - อ ี ย ี

การสอนอา่ นสะกดคาำ ทน่ี าำ เสนอในครง้ั น ี้ นาำ เสนอ สระอะ สระอา สระอ ิ สระอ ี สว่ นสระอนื่ ๆ
ใช้รูปแบบเดียวกัน และควรนำาคำาที่มาจากอักษรไตรยางศ์ท้ังสามหมู่มาสร้างคำาให้หลากหลาย
เพื่อนักเรียนจะได้ออกเสียงพยัญชนะครบทุกหมู่ เม่ือนักเรียนอ่านสะกดคำาที่ครูกำาหนดให้ได้แล้ว
ครูอาจนำาคำาที่ใช้ในชีวิตประจำาวันและประสมกับสระอื่น เช่น ตา หู ดู ดี เก เร เข หา ยา ทำา นา
แพ แล เสือ เรือ เปน็ ต้น แตค่ วรเป็นคำาทป่ี ระสมกับสระท่นี ักเรียนได้เรยี นรูไ้ ปแลว้

คมู่ อื การสอนอ่านเขยี น 92 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ขนั้ ท่ี ๔ การอ่านแจกลูกคำา ในแม่ ก กา

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

เพ่ือให้นกั เรยี นอ่านแจกลกู คาำ ในแม่ ก กา ได้

กจิ กรรม

๑. ครสู ามารถใหน้ ักเรยี นฝึกอา่ นโดยการแจกลกู หลงั จากอา่ นสะกดคำาได้แล้ว หรือควบคู่
ไปกับการอา่ นสะกดคำา เพื่อให้นักเรยี นฝึกประสมคำา ให้เกดิ ความคล่องในการอา่ น การอ่านแจกลูกคำา
ในแม่ ก กา อา่ นได ้ ๒ แบบ

แบบท่ี ๑ การอ่านแจกลูกแบบสระคงท่ี พยัญชนะต้นเปลี่ยนไป โดยใช้สระเป็นแม่
และแจกให้ลกู ซึ่งเป็นพยญั ชนะ
การจัดกิจกรรมการอ่านแจกลูกท่ีจะขอนำาเสนอเป็นตัวอย่างครั้งน้ี กำาหนดให้สระอา
เป็นแม ่ และกาำ หนดให้พยญั ชนะ ก ต บ ค ม ง ข ส ย เป็นลกู โดยดำาเนินการดงั น้ี
๑.๑ ครูเขียนพยัญชนะท่ีต้องการแจกลูกบนกระดานดำา ในที่นี้ขอนำาเสนอพยัญชนะ
ก ต บ ค ง ม ข ส ย ให้นักเรียนดูซ่ึงพยัญชนะบนกระดานดำา (พยัญชนะท่ีนำาเสนอน้ีเป็นอักษร
จากไตรยางศ์สามหม)ู่ และนักเรยี นฝกึ อ่านออกเสยี งพยัญชนะทกุ ตัว
๑.๒ ครูเขยี นสระอา และใหน้ กั เรยี นออกเสียงสระอา
๑.๓ เมื่อนักเรียนอ่านเสียงพยัญชนะครบทุกตัวและอ่านเสียงสระแล้ว ครูให้นักเรียน
อา่ นแบบสะกดคาำ ตามลกู ศร ดังภาพ และอา่ นดงั น ี้

การอา่ นแจกลูกโดยยดึ สระเปน็ แม่ แจกไปยงั ลูกท่เี ปน็ พยัญชนะ

ก –า กา
ต ตา
บ บา
ค คา
ม มา
ง งา
ข ขา
ส สา
ย ยา

คู่มอื การสอนอ่านเขียน 93 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

กอ - อา กา
ตอ - อา ตา เป็นตน้
๑.๔ เมือ่ นักเรียนอา่ นเปน็ คาำ ครบแล้ว ครเู ขียนคาำ นัน้ ไวบ้ นกระดานดาำ
กา ตา บา คา มา งา ขา สา ยา
๑.๕ ใหน้ กั เรียนอา่ นเป็นคาำ เรียงจากคำาทอี่ ่านคาำ แรกจนถึงคาำ สดุ ทา้ ย
กา ตา บา คา มา งา ขา สา ยา

แบบที่ ๒ การอ่านแจกลูกแบบพยัญชนะต้นคงที่ สระเปลี่ยนไป โดยใช้พยัญชนะ
เป็นแม ่ และแจกใหล้ กู ซงึ่ เปน็ สระ การจดั กจิ กรรมการอ่านแจกลูกแบบที่ ๒ น ี้ กาำ หนดให้พยญั ชนะ ก
เปน็ แม ่ และกาำ หนดให้สระ -ะ -า - ิ - ี - ึ - ื -ุ - ู เป็นลูก โดยดำาเนินการ ดงั นี้
๑. ครูเขียนสระทีต่ อ้ งการแจกลูกบนกระดานเรียงตามลำาดับ
๒. ให้นักเรยี นอ่านออกเสยี งสระทคี่ รเู ขียนบนกระดานทุกตวั
๓. ครเู ขียนพยัญชนะ ก และให้นกั เรียนออกเสียงพยญั ชนะ
๔. เมอ่ื นกั เรยี นอา่ นเสยี งสระครบทกุ ตวั และอา่ นเสยี งพยญั ชนะแลว้ ครใู หน้ กั เรยี นอา่ น
แบบสะกดคำา เรยี งตามรูปสระ และอ่านดังน ี้

กอ - อะ กะ
กอ - อา กา
กอ - อ ิ กิ
กอ - อ ี กี
กอ - อ ุ ก ุ
กอ - อู ก ู

สระ -ะ -า - ิ - ี - ึ - ื -ุ -ู
พยัญชนะ
กะ กา กิ กี ก ึ กอื กุ กู
ก ตะ ตา ติ ตี ต ึ ตอื ต ุ ตู
ต บะ บา บ ิ บี บึ บอื บ ุ บู


ค่มู อื การสอนอ่านเขียน 94 โดยการแจกลกู สะกดคาำ


Click to View FlipBook Version