The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by โบนัส ซัง, 2022-09-15 03:13:11

คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำ

คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำ

ขน้ั ที่ ๒ การอ่านเขยี นโดยการแจกลูกสะกดคาำ ทม่ี อี ักษรควบท่มี พี ยัญชนะต้นควบกับ
ร แบบมตี ัวสะกด

๒.๑ ใหน้ ักเรยี นฝึกอ่านคำาทมี่ ีอกั ษรควบทมี่ ีพยญั ชนะ ก ข ค ต ป พ ควบ ร ที่มตี วั สะกด
เช่น คำาว่า กราบ ขรึม แปรง คราด ตราด เป็นต้น โดยครูอ่านนำาให้นักเรียนอ่านตามพร้อม ๆ กัน
และอ่านเปน็ รายบคุ คล
๒.๒ ครูฝึกให้นักเรียนอ่านแจกลูกสะกดคำาที่มีอักษรควบที่มีพยัญชนะ ก ข ค ต ป พ
ควบกบั ร แบบมตี วั สะกด ถ้านกั เรียนอ่านสะกดคาำ ใดไม่ถกู ตอ้ งครอู ธิบายและแก้ไขทนั ที
๒.๓ ครฝู ึกให้นกั เรยี นผันวรรณยุกตค์ ำาทีม่ อี กั ษรควบทีม่ ีตวั สะกด
๒.๔ ครูฝึกให้นักเรียนเขียนสะกดคำาที่มีอักษรควบที่พยัญชนะต้นควบกล้ำากับ ร แบบไม่มี
ตัวสะกด โดยให้เขียนเรียงตามตัวอักษร เช่น คราด เขียนสะกดคำาว่า คอ ควาย รอ เรือ สระอา
ดอ เด็ก เปน็ ตน้

ขน้ั ที่ ๓ การอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำาท่ีมีอักษรควบท่ีพยัญชนะต้นควบกับ
ล แบบไม่มี และมีตวั สะกด

๓.๑ ครใู หน้ กั เรยี นสงั เกตการออกเสยี งคำาท่ีมพี ยัญชนะต้น ก ข ค ป ผ พ ควบกบั ล ไดแ้ ก่
กล ขล คล ปล ผล พล แล้วฝกึ ใหน้ ักเรยี นออกเสียงใหถ้ ูกตอ้ ง
๓.๒ ให้นักเรียนฝึกอ่านคำาที่มีอักษรควบท่ีมีพยัญชนะ ก ข ค ป ผ พ ควบกล้ำากับ ล
แบบไม่มตี ัวสะกดและมตี ัวสะกด เช่น คาำ วา่ ไกล คลา แปลก เพลนิ ผลาญ เป็นต้น โดยครูอ่านนาำ
และให้นักเรียนอ่านตามพรอ้ ม ๆ กัน และอา่ นเปน็ รายบุคคล
๓.๓ ครใู หน้ กั เรียนฝกึ อา่ นโดยการแจกลูกสะกดคำาทีม่ ีอักษรควบท่ีมีพยัญชนะ ก ข ค ป ผ
พ ควบกบั ล แบบไม่มีตัวสะกดและมีตวั สะกด
๓.๔ ครฝู กึ ให้นักเรยี นผนั วรรณยกุ ต์
๓.๕ ครูฝึกให้นักเรียนสะกดคำาท่ีมีอักษรควบที่พยัญชนะต้นมี ล ควบ แบบไม่มีและ
มตี ัวสะกด โดยให้เขยี นเรยี งตามตวั อักษร เชน่ กลว้ ย เขียนสะกดคำาวา่ กอ ไก ่ ลอ ลงิ วอ แหวน
ยอ ยกั ษ ์ ไมโ้ ท เปน็ ต้น

คมู่ ือการสอนอ่านเขยี น 245 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ข้ันท่ี ๔ การอ่านเขยี นโดยการแจกลูกสะกดคาำ ท่มี อี กั ษรควบที่มพี ยญั ชนะตน้ ควบกับ
ว แบบไม่มีตัวสะกดและมตี ัวสะกด โดยใหด้ ำาเนนิ การตามแบบขน้ั ที่ ๓

ขน้ั ที่ ๕ การอ่านเขยี นสะกดคำาทีม่ ีอกั ษรควบไม่แท้

๕.๑ ครใู หค้ วามรเู้ กยี่ วกบั คาำ ทม่ี อี กั ษรควบไมแ่ ทว้ า่ ม ี ๒ ลกั ษณะ คอื คาำ ทม่ี อี กั ษรควบไมแ่ ท้
ทอี่ อกเสยี งพยญั ชนะหนา้ เพยี งตวั เดยี ว ไดแ้ ก ่ จร สร ศร ซร และคาำ ทม่ี อี กั ษรควบไมแ่ ท ้ ทม่ี พี ยญั ชนะตน้
เป็น ทร แตอ่ า่ นออกเสยี งเป็น ซ ได้แก ่ ทราบ ทราม ทราย พทุ รา นนทร ี เปน็ ตน้
๕.๒ ให้นักเรียนฝึกการอ่านเขียนสะกดคำาที่มีอักษรควบไม่แท้ท่ีออกเสียงพยัญชนะหน้า
เพียงตัวเดยี ว ได้แก่ จร สร ศร ซร
๕.๓ ให้นักเรียนฝึกการอ่านเขียนสะกดคำาที่มีอักษรควบไม่แท้ท่ีมีพยัญชนะต้นเป็น ทร
แตอ่ า่ นออกเสียงเป็น ซ

คู่มือการสอนอ่านเขยี น 246 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

ตัวอย่างการนาำ แนวทางการจดั การเรยี นรู้ไปใช้ในห้องเรยี น
หนว่ ยที่ ๙ การแจกลกู สะกดคำาที่มีพยญั ชนะควบกล้ำา

จดุ ประสงค์การจัดการเรยี นร ู้ (๕ ชว่ั โมง)

๑. เพือ่ ให้นกั เรียนอ่านและเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำาทม่ี อี กั ษรควบได้

๒. เพื่อใหน้ ักเรยี นผันวรรณยุกต์คำาท่มี ีอักษรควบ

แนวทางการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๑ (๑ ชั่วโมง)
การอ่านและเขยี นโดยการแจกลูกสะกดคำาและผันวรรณยกุ ต์คำา
ท่พี ยญั ชนะต้นควบกับ ร แบบไม่มตี วั สะกด

แนวทางการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒ (๑ ชั่วโมง)
การอ่านและเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำาและผนั วรรณยุกต์คาำ
ที่พยญั ชนะตน้ ควบกับ ร แบบมตี วั สะกด

แนวทางการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓ (๑ ช่วั โมง)
การอ่านและเขยี นโดยการแจกลูกสะกดคำาและผันวรรณยกุ ตค์ ำา
ท่พี ยญั ชนะต้นควบกับ ล แบบไมม่ ตี ัวสะกดและมีตัวสะกด

แนวทางการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๔ (๑ ชั่วโมง)
การอา่ นและเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำาและผันวรรณยกุ ต์คาำ
ที่พยัญชนะต้นควบกับ ว แบบไม่มตี วั สะกดและมีตัวสะกด

แนวทางการจัดการเรียนรู้ท่ี ๕ (๑ ชว่ั โมง)
การอา่ นและเขียนสะกดคาำ ทีอ่ กั ษรควบไม่แท้

คู่มอื การสอนอ่านเขียน 247 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แนวการจดั การเรียนรู้ที่ ๑ การอ่านเขียนแจกลูกสะกดคำาท่ีมีอกั ษรควบกบั ร

แบบไม่มีตวั สะกด (๑ ช่ัวโมง)

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

๑. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นอา่ นและเขยี นโดยการแจกลกู สะกดคาำ และผนั วรรณยกุ ตค์ าำ ทม่ี อี กั ษรควบ
ท่ีพยัญชนะตน้ ควบกับ ร แบบไมม่ ีตัวสะกดได ้
๒. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นผนั วรรณยกุ ตค์ าำ ทมี่ อี กั ษรควบทพี่ ยญั ชนะตน้ ม ี ร ควบ ทไ่ี มม่ ตี วั สะกดได้

ขัน้ ตอนการจัดการเรยี นรู้

๑. ขั้นนาำ
๑.๑ ครเู ขียนพยญั ชนะต้นที่ควบกบั ร ไดแ้ ก่ กร ขร คร ตร ปร พร บนกระดานดาำ
ให้นักเรียนสังเกตคำาที่ท่ีครูเขียนว่ามีพยัญชนะอะไรบ้าง ครูออกเสียง ให้นักเรียนฟังพร้อมอธิบายว่า
พยญั ชนะทไี่ ดย้ นิ นั้นเมือ่ อา่ นออกเสียงจะออกเสียงท้ังสองตวั กลำา้ กึ่งกันพร้อมกนั เรียกวา่ คำาควบกลำา้
๑.๒ ครูให้นักเรียนฝึกออกเสียงพยัญชนะ ก ข ค ต ป พ ควบกับ ร พร้อมกัน
และเปน็ รายบุคคล

๒. ขัน้ สอน
๒.๑ เม่ือนักเรียนออกเสียงอักษรควบได้ถูกต้องแล้ว ครูเขียนคำาท่ีมีอักษรควบ
พยัญชนะ ก ข ค ต ป พ ควบกับ ร แบบไม่มีตัวสะกดบนกระดานดำา ให้นักเรียนฝึกออกเสียง
โดยครอู ่านนาำ ให้นกั เรยี นอา่ นตามพร้อม ๆ กัน นักเรยี นอา่ นพรอ้ ม ๆ กัน และอ่านเป็นรายบคุ คล ดงั น้ี

ไกร สะกดวา่ กอ - รอ - ไอ ไกรฺ
ขรวั สะกดวา่ ขอ - รอ - อวั ขฺรวั
คร ู สะกดว่า คอ - รอ - อู คฺรู
ตรี สะกดว่า ตอ - รอ - อ ี ตฺรี
ประ สะกดวา่ ปอ - รอ - อะ ปรฺ ะ
พระ สะกดวา่ พอ - รอ - อะ พฺระ

ค่มู ือการสอนอา่ นเขียน 248 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

๒.๒ ให้นักเรียนฝึกอ่านสะกดคำาท่ีมีพยัญชนะ ก ข ค ต ป พ ควบกับ ร แบบไม่มี
ตัวสะกดที่ครูเตรียมมาประมาณ ๕- ๖ คำา ถ้านักเรียนอ่านสะกดคำาใดไม่ถูกต้องครูอธิบายและแก้ไข
ทนั ที
๒.๓ นักเรียนทำาแบบฝึกที่ ๑ ขณะที่นักเรียนทำาแบบฝึกหัดครูตรวจความถูกต้อง
และใหข้ อ้ เสนอแนะ หากพบวา่ นกั เรียนคนใดอา่ นผดิ ใหแ้ กไ้ ขทันท ี
๒.๔ เมือ่ นักเรียนฝึกอ่านสะกดคำาทมี่ อี กั ษรควบพยัญชนะ ก ข ค ต ป พ ควบกับ ร
ไดค้ ล่องแลว้ ครใู หน้ กั เรียนดแู ผนผังแจกลูกสะกดคำาที่มีอักษรควบพยัญชนะ ก ข ค ต ป พ ควบกับ ร
บนกระดาน แล้วครูอ่านนำาให้นักเรียนอ่านตามพร้อม ๆ กัน และอ่านเป็นรายบุคคลจนคล่อง
จากนั้นให้ฝึกเขียนโดยการแจกลูก ดงั น้ี

อักษรควบ สระอา (-า) สระ อี ( –ี ) สระอู ( –ู )

กร กรา กร ี กรู

ขร ขรา ขร ี ขรู

คร ครา ครี ครู

ตร ตรา ตร ี ตรู

ปร ปรา ปรี ปรู

พร พรา พร ี พรู

๒.๕ ครทู บทวนเรอื่ งการผนั วรรณยกุ ตท์ นี่ กั เรยี นเคยเรยี นมา จากนนั้ นาำ คาำ ทม่ี อี กั ษรควบ
มาให้นักเรยี นฝึกผันวรรณยุกต์ ดังน ี้

อกั ษรควบ เสยี งวรรณยกุ ต์
สามัญ เอก ( -่ ) โท ( -้ ) ตรี ( -๊ ) จตั วา ( -๋ )
(อักษรกลาง) กร
(อักษรต่าำ ) คร กรา กรา่ กรา้ กร๊า กรา๋
(อักษรสูง) ขร
ครืน - ครน่ื คร้ืน -

ขรวั ขรว่ั ขรว้ั - -

ค่มู ือการสอนอา่ นเขยี น 249 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

๒.๖ ครูให้นักเรียนฝึกผันวรรณยุกต์คำาที่มีอักษรควบที่พยัญชนะต้นควบกับ ร
และไม่มตี ัวสะกดทค่ี รเู ตรียมมา อยา่ งน้อย ๔ - ๕ คำา ถา้ นักเรยี นผันไม่ถูกต้อง ครอู ธบิ ายและแก้ไข
ให้ถกู ต้องทนั ที
๒.๗ ครูเขียนตัวอย่างการสะกดคำาที่พยัญชนะต้นควบกับ ร แบบไม่มีตัวสะกด
ให้นกั เรียนฝึกสะกดเรียงตามลาำ ดับอกั ษร จากน้ันครอู า่ นนาำ ให้นักเรียนอ่านตามพรอ้ ม ๆ กัน และอา่ น
เปน็ รายบคุ คลจนคลอ่ ง ดังน ้ี
ไกร เขยี นสะกดวา่ สระ ไอ ไม้มลาย กอ ไก่ รอ เรอื
ขรัว เขียนสะกดวา่ ขอ ไข ่ รอ เรือ สระอวั
คร ู เขยี นสะกดว่า คอ ควาย รอ เรอื สระอู
ตร ี เขยี นสะกดวา่ ตอ เต่า รอ เรอื สระอี
ประ เขยี นสะกดวา่ ปอ ปลา รอ เรอื สระอะ
พระ เขยี นสะกดวา่ พอ พาน รอ เรือ สระอะ
๒.๘ ครใู หน้ ักเรยี นฝึกสะกดคำาเพ่อื การเขียนเพมิ่ เตมิ
๒.๙ ใหน้ กั เรยี นทำาแบบฝกึ ที่ ๒ จากนน้ั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
ถ้ามนี กั เรียนคนใดเขียนสะกดผดิ ให้ชว่ ยกันแกไ้ ขทนั ท ี
๒.๑๐ ให้นักเรียนหาคำาที่มีพยัญชนะ ก ข ค ต ป พ ควบกับ ร ไม่มีตัวสะกด
จากหนงั สือเรียน จำานวน ๕ คาำ

๓. ขัน้ สรปุ
ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปวิธีการอ่านเขียนแจกลูกสะกดคำาและผันวรรณยุกต์คำาที่มี
อกั ษรควบทพ่ี ยญั ชนะต้นควบกบั ร แบบไม่มตี ัวสะกด

คมู่ ือการสอนอ่านเขยี น 250 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

สอื่ การสอน

๑. แผนผงั การแจกลกู สะกดคำาท่มี ีอักษรควบ
๒. แบบฝกึ

การวดั ผลประเมินผล

การตรวจแบบฝึก

คู่มอื การสอนอา่ นเขียน 251 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แบบฝึกที่ ๑ การอ่านสะกดคำาทีม่ ีอกั ษรควบท่มี พี ยญั ชนะ ก ข ค ต ป พ
ควบกบั ร ที่ไมม่ ตี ัวสะกด

คาำ ชี้แจง
ใหน้ ักเรียนอ่านสะกดคำาทก่ี ำาหนดให ้ ภายในเวลา ๕ นาที

ตัวอย่าง ขรวั อา่ นสะกดว่า ขอ - รอ - อวั ขรัว
๑. ตรี
๒. พระ
๓. เขรอะ
๔. ครู
๕. ใคร
๖. กรอ
๗. ตรา
๘. ไตร
๙. ประ
๑๐. พรำา

คู่มอื การสอนอ่านเขียน 252 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

เฉลยคำาตอบ

ข้อที่ คาำ เขยี นสะกดวา่
๑. ตร ี ตอ - รอ - อี ตฺร ี
๒. พระ พอ - รอ - อะ พฺระ
๓. เขรอะ ขอ - รอ - เออะ เขฺรอะ
๔. คร ู คอ - รอ - อู คฺรู
๕. ใคร คอ - รอ - ไอ ใคฺร
๖. กรอ กอ - รอ - ออ กฺรอ
๗. ตรา ตอ - รอ - อา ตฺรา
๘. ไตร ตอ - รอ - ไอ ไตฺร
๙. ประ ปอ - รอ - อะ ปรฺ ะ
๑๐. พรำา พอ - รอ - อำา พรฺ าำ

คมู่ ือการสอนอ่านเขียน 253 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แบบบันทึกผลการอ่านสะกดคำาทม่ี ีอกั ษรควบพยัญชนะ ก ข ค ต ป พ
ควบกบั ร ที่ไมม่ ีตัวสะกด

ข้อที่ ผลการ
รวม ประเมนิ
ที่ ชือ่ -สกุล
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ คะแนน* ไม่
ผ่าน ผา่ น

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพ่ือให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรับปรงุ และพฒั นานกั เรยี น
๒. วิธกี ารบันทึก ถ้าอ่านถูกตอ้ งใหใ้ สเ่ ครอื่ งหมาย √ ถา้ อา่ นผดิ ใหใ้ ส่เคร่ืองหมาย X (เครอื่ งหมาย √ เทา่ กับ

๑ คะแนน เคร่อื งหมาย X เท่ากับ ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรับปรุงและพัฒนานกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของชั้นเรียน

เพอื่ นาำ ไปใช้ในการปรบั ปรงุ และพฒั นาการจัดการเรยี นการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีท่ีนักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนกั เรียนอ่านได้

คูม่ อื การสอนอ่านเขียน 254 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แบบฝึกท่ี ๒ การเขยี นคาำ ที่มอี กั ษรควบทม่ี ีพยญั ชนะ ก ข ค ต ป พ
ควบกบั ร ท่ไี ม่มตี วั สะกด

คาำ ชีแ้ จง
๑. ใหน้ ักเรยี นเขียนตามคาำ บอก โดยใช้เวลา ๕ นาที
๒. ให้ครูอ่านคำาให้นักเรียนฟังคำาละ ๒ คร้ัง โดยเว้นเวลาให้นักเรียนเขียนก่อนบอกคำา
ในข้อตอ่ ไป

คำาท่ีกาำ หนดให้เขยี น ๖. กรู
๗. ประ
๑. ไกร ๘. ตรา
๒. ขรวั ๙. ใคร
๓. ไตร ่ ๑๐ ตริ
๔. คร ู
๕. พระ

ค่มู อื การสอนอา่ นเขยี น 255 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แบบบนั ทึกผลการเขยี นคำาท่ีมีอกั ษรควบท่ีมพี ยญั ชนะ ก ข ค ต ป พ
ควบกับ ร ท่ีไมม่ ีตัวสะกด

ข้อที่ ผลการ
รวม ประเมนิ
ท่ี ชือ่ -สกลุ
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ คะแนน* ไม่
ผ่าน ผา่ น

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพ่ือให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรบั ปรุงและพฒั นานักเรยี น
๒. วิธกี ารบันทกึ ถ้าเขยี นถกู ตอ้ งใหใ้ ส่เครื่องหมาย √ ถา้ เขียนผดิ ใหใ้ ส่เครื่องหมาย X (เครอื่ งหมาย √ เท่ากับ

๑ คะแนน เคร่ืองหมาย X เท่ากับ ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรบั ปรงุ และพัฒนานักเรยี นเป็นรายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของช้ันเรียน

เพ่อื นาำ ไปใชใ้ นการปรับปรุงและพฒั นาการจัดการเรยี นการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนกั เรยี นเขียนได้

คมู่ ือการสอนอา่ นเขียน 256 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

สว่ นที่ ๓ แนวทางการวดั และประเมนิ ผลประจำาหนว่ ย

ฉบับท่ี ๑ การอา่ นสะกดคาำ

คาำ ช้แี จง
ใหน้ กั เรียนอ่านสะกดคำาทกี่ ำาหนดให ้ ภายในเวลา ๕ นาที
ตัวอยา่ ง
เกวียน สะกดวา่ กอ - วอ - เอยี - นอ เกวียน
๑. กรอบ
๒. แขวน
๓. คลอง
๔. ตรง
๕. กลมุ่
๖. แตงกวา
๗. เกรงกลัว
๘. กระโปรง
๙. ปลอดโปร่ง
๑๐. เพลิดเพลิน

คู่มือการสอนอ่านเขยี น 257 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

เฉลยคำาตอบ

ขอ้ ท่ี คาำ อ่านสะกดคาำ
๑. กรอบ กอ - รอ - ออ - บอ กรอบ
๒. แขวน ขอ - วอ - แอ - นอ แขว น
๓. คลอง คอ - ลอ - ออ - งอ คล อง
๔. ตรง ตอ - รอ - โอะ - งอ ตร ง
๕. กลุ่ม กอ - ลอ - อ ุ - มอ - กล มุ - กลมุ - ไม้เอก กลุม่
๖. แตงกวา ตอ - แอ - งอ - แตง - กอ - วอ - อา - กวา แตง กว า
๗. เกรงกลวั กอ - รอ - เอ - งอ - เกรง - กอ - ลอ - อวั - กลัว เกร ง กล ัว
๘. กระโปรง กอ - รอ - อะ - กระ - ปอ - รอ - โอ - งอ - โปร ง กระ โปรง
๙. ปลอดโปร่ง ปอ - ลอ - ออ - ดอ - ปล อด ปอ - รอ - โอ - งอ - โปร ง -
โปร ง - ไมเ้ อก - โปร ง่ ปล อด โปรง่
๑๐. เพลดิ เพลนิ พอ - ลอ - เออ - ดอ - เพล ดิ พอ - ลอ - เออ - นอ - เพล ิน
เพล ิด เพลิน

คู่มือการสอนอา่ นเขยี น 258 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แบบบนั ทกึ ผลการอา่ นสะกดคำา

ขอ้ ที่ ผลการ
รวม ประเมิน
ท่ี ชอื่ -สกลุ
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ คะแนน* ไม่
ผา่ น ผา่ น

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพื่อให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรบั ปรงุ และพัฒนานกั เรยี น
๒. วิธีการบนั ทึก ถา้ อา่ นถกู ต้องใหใ้ สเ่ ครือ่ งหมาย √ ถ้าอ่านผิดให้ใส่เครือ่ งหมาย X (เคร่อื งหมาย √ เทา่ กบั

๑ คะแนน เคร่อื งหมาย X เทา่ กับ ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรับปรุงและพัฒนานักเรยี นเปน็ รายบคุ คล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของช้ันเรียน

เพือ่ นาำ ไปใช้ในการปรับปรงุ และพฒั นาการจัดการเรียนการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีท่ีนักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนกั เรยี นอา่ นได้

คมู่ อื การสอนอ่านเขยี น 259 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ฉบบั ท่ี ๒ การอา่ นคำา

คำาชแ้ี จง
ใหน้ กั เรียนอา่ นคาำ ทก่ี ำาหนดให้ ภายในเวลา ๕ นาที
ตัวอย่าง กลอ่ มเกลา อ่านว่า กล อ่ ม - เกลา

๑. กล่อง ๑๑. ทรวง
๒. กลม ๑๒. เกล้ยี ง
๓. กล้วย ๑๓. เคลด็
๔. กลมุ่ ๑๔. คน้ ควา้
๕. ครก ๑๕. เปลย่ี นแปลง
๖. คลาน ๑๖. กว้างขวาง
๗. กวาง ๑๗. ครบครนั
๘. กวาด ๑๘. โปรดปราน
๙. เพลนิ ๑๙. ทรุดโทรม
๑๐. ทราย ๒๐. พร้อมเพรยี ง

ค่มู ือการสอนอา่ นเขียน 260 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

เฉลยคำาตอบ

ขอ้ ท่ี คาำ อ่านว่า
๑. กลอ่ ง
๒. กลม กฺลอ่ ง
๓. กลว้ ย กลฺ ม
๔. กลมุ่ กลฺ ว้ ย
๕. ครก กลฺ ุม่
๖. คลาน คฺรก
๗. กวาง คฺลาน
๘. กวาด กวฺ าง
๙. เพลนิ กฺวาด
๑๐. ทราย เพฺลิน
๑๑. ทรวง ซาย
๑๒. เกลี้ยง ซวง
๑๓. เคล็ด เกฺล้ียง
๑๔. คน้ คว้า เคลฺ ็ด
๑๕. เปลย่ี นแปลง ค้น - ควฺ ้า
๑๖. กวา้ งขวาง เปฺลีย่ น - แปฺลง
๑๗. ครบครัน กวฺ ้าง - ขวฺ าง
๑๘. โปรดปราน คฺรบ - คฺรัน
๑๙. ทรดุ โทรม โปรฺ ด - ปรฺ าน
๒๐. พรอ้ มเพรียง ซดุ - โซม
พรฺ ้อม - เพฺรยี ง

คมู่ อื การสอนอา่ นเขยี น 261 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แบบบันทึกผลการอ่านคาำ

ขอ้ ท่ี ผลการ
รวม ประเมนิ
ท่ี ช่ือ -สกุล
๒๐ คะแนน* ไม่
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ผา่ น ผา่ น

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพ่ือให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรับปรุงและพฒั นานกั เรียน
๒. วธิ ีการบันทกึ ถ้าอ่านถกู ต้องให้ใส่เครอ่ื งหมาย √ ถ้าอา่ นผิดให้ใสเ่ ครอ่ื งหมาย X (เครื่องหมาย √ เท่ากบั

๑ คะแนน เครอ่ื งหมาย X เทา่ กบั ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรบั ปรุงและพฒั นานกั เรียนเปน็ รายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของชั้นเรียน

เพ่อื นำาไปใช้ในการปรับปรงุ และพฒั นาการจัดการเรยี นการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนกั เรียนอ่านได้

คู่มอื การสอนอา่ นเขียน 262 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ตวั อย่างสรปุ ผลการประเมนิ การแจกลกู สะกดคำาท่มี อี ักษรควบ

ท่ี ชอ่ื - สกุล ผลการประเมิน รวม สรปุ ผลการประเมนิ

ฉบบั ท่ี ๑ ฉบบั ที่ ๒ คะแนน ผ่าน ไมผ่ า่ น
(๑๐ คะแนน) (๒๐ คะแนน) (๓๐ คะแนน)

หมายเหตุ
๑. ถา้ รวมคะแนนได้ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป และคะแนนรายแบบประเมินได้รอ้ ยละ ๘๐ ข้นึ ไป ทุกแบบประเมนิ

ถือว่าผา่ นเกณฑ์
๒. ถ้ารวมคะแนนได้ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป แต่คะแนนรายแบบประเมินบางแบบประเมินได้ไม่ถึง

ร้อยละ ๘๐ ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ แต่ใหซ้ อ่ มเสรมิ สว่ นทไ่ี ม่ถึงรอ้ ยละ ๘๐
๓. ถา้ รวมคะแนนไดไ้ มถ่ งึ รอ้ ยละ ๘๐ ถอื วา่ ไมผ่ า่ นเกณฑใ์ หส้ อนซอ่ มเสรมิ ในกรณที น่ี กั เรยี นไดค้ ะแนน

บางแบบประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขึน้ ไป ไม่ตอ้ งซอ่ มเสริมส่วนนน้ั

คู่มอื การสอนอ่านเขียน 263 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

หนว่ ยที่ ๑๐ การแจกลูกสะกดคาำ ทมี่ ีอกั ษรนำา

สว่ นที่ ๑ ความร้สู าำ หรบั ครู

อักษรนำา คือ พยัญชนะต้น ๒ ตัวเรียงกัน ประสมสระเด่ียว แต่ออกเสียงเป็น ๒ พยางค์
คือ พยางคต์ น้ เหมอื นมสี ระประสมอยู่ พยางคท์ ่ี ๒ ออกเสยี งตามสระประสมอยู่ และพยางค์ท ่ี ๒ น ี้
ถ้าเป็นอักษรเดี่ยว ต้องออกเสียงวรรณยุกต์และผันตามตัวหน้าด้วย เช่น แสม อ่าน สะ - แหม
เวน้ แต่ตวั ห นำา อักษรเดีย่ ว หรือ ตัว อ นาำ ตวั ย ไม่ตอ้ งออกเสียง ห และ อ เปน็ แต่ออกเสียงและผนั
ตวั หลงั ตามตวั ห และ ตวั อ เท่าน้นั เช่น หงอ หญา้ ไหน อย่า อยู่ เปน็ ตน้ ถา้ ตวั หน้าเปน็ อักษรตาำ่ กด็ ี
หรือตัวหลังไม่ใช่อักษรเด่ียวก็ดี ก็ไม่เปล่ียนแปลงเสียงวรรณยุกต์ ปรากฏแต่รูปเป็นอักษรนำาเท่านั้น
แต่อ่านอย่างเดียวกับคำาเรียงพยางค์ เช่น พยาธิ อ่าน พะ - ยา - ทิ มัธยม อ่าน มัด - ทะ - ยม
เปน็ ตน้
นอกจากน้ัน หนังสือหลักภาษาไทย: เรื่องท่ีครูภาษาไทยต้องรู้ อธิบายว่า อักษรนำา
คือ พยัญชนะตัวท่ีหนึ่งมีอิทธิพลนำาเสียงวรรณยุกต์ของพยัญชนะตัวท่ีตามมา พยัญชนะตัวท่ีหน่ึง
จะเป็นอักษรสูงหรืออักษรกลาง สว่ นพยญั ชนะตัวท่ตี ามมาเป็นอกั ษรตำ่าเด่ยี วเท่าน้ัน
การอ่านออกเสียงคำาท่ีมีอักษรนำาทำาได้ ๒ แบบ คือ อ่านออกเสียงเป็นพยางค์เดียว
และอา่ นออกเสยี งเป็นคาำ ๒ พยางค ์

ประเภทของคำาทม่ี อี ักษรนำา

คาำ ที่มีอักษรนาำ แบ่งตามหลกั การอา่ นออกเสยี งได ้ ดังนี้
๑. คาำ ทม่ี ีอกั ษรนาำ ทอ่ี ่านออกเสียงเปน็ พยางคเ์ ดยี ว เมือ่ ห นำา อักษรต่าำ เด่ยี ว หรือ อ นาำ ย
เสยี งวรรณยกุ ต์ของพยางค ์ ตามเสยี ง ตัว ห หรือ อ ท่นี าำ แต่ไมอ่ อกเสยี งตวั ห หรือ อ ดังน้ี

คูม่ อื การสอนอ่านเขียน 264 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

๑.๑ อ นำา ย ม ี ๔ คาำ คือ อย่า อยู ่ อยา่ ง อยาก
๑.๒ ห นำาอกั ษรตำ่าเดย่ี ว อกั ษรตำ่าเดยี่ ว ได้แก่ ง ญ น ม ย ร ล ว

คำาที่มี ห นำาอักษรต่าำ เด่ยี ว ไดแ้ ก่
ห นำา ง เชน่ เหงา หงอน หงอก หงกิ แหงน
ห นาำ ญ เชน่ หญงิ หญ้า ใหญ่
ห นำา น เชน่ หน ู แหน หนี หนา หน้า เหนอื ไหน หนอน หนอง หนาว
หนาม หนอ่ ย หนกั
ห นำา ม เชน่ หมู หมู่ หมา หม ี หมวก หมอ หม้อ หมอน เหมน็ หมอก หมอบ
แหม หมาย
ห นาำ ย เชน่ หยดุ แหย แหย่ หยอก หยอด เหยยี่ ว หยิก หยกั หยาม หยี
ห นาำ ร เช่น หรี่ หรอก หรหู รา
ห นาำ ล เช่น ไหล แหละ โหล หลาย หลา หลวง หลอ หล่อ หลับ หลาน
หลอก หลดุ หลงใหล
ห นาำ ว เช่น หวี หวาน หวา่ น ไหว ไหว้ หวัง หวดั แหวน แหวก

๒. คาำ ท่มี ีอกั ษรนาำ ที่อ่านออกเสยี งเปน็ ๒ พยางค ์ พยางคแ์ รกออกเสียงพยัญชนะตัวท่ี ๑
ประสมกับ สระอะ ครึ่งเสียง พยางค์หลังออกเสียงพยัญชนะตัวที่ ๒ ประสมกับสระ และ
พยัญชนะสะกด ตามที่ปรากฏ ส่วนวรรณยุกต์ ออกเสียงตามพยัญชนะตัวท่ี ๑ ลักษณะคล้ายกับมี
ห นำาอย่ ู และออกเสียงเหมือน ห นาำ ดงั นี้
๒.๑ อักษรสูง นำาอักษรต่ำาเดี่ยว อักษรสูง ได้แก่ ข ฉ ถ ผ ฝ ส นำาอักษรตำ่าเด่ียว
ไดแ้ ก่ ง ณ น ม ย ร ล ว

คู่มอื การสอนอา่ นเขยี น 265 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

คำาอักษรสงู นำาอกั ษรตำ่าเด่ียว ไดแ้ ก่
ข นำา ณ เชน่ ขณะ
ข นำา น เชน่ ขนม ขนุน
ข นำา ม เช่น ขมวด เขม็ง ขมขี มนั
ข นำา ย เชน่ ขยะ ขยับ ขยนั ขยำา ขย้าำ ขย ้ี เขยบิ เขย้อื น โขยง

ฉ นำา ง เชน่ ฉงน
ฉ นำา น เช่น ไฉน ฉนวน
ฉ นำา ม เช่น ฉมวก ฉมัง
ฉ นำา ล เช่น ฉลาด ฉลาม ฉลอง เฉลย ฉลู ฉลาก

ถ นำา น เช่น ถนน ถนัด ถวาย เถลไถล

ผ นาำ ง เช่น ผงก ผงะ ผงาด
ผ นำา น เชน่ ผนงั ผนกึ แผนก
ผ นำา ย เช่น ผยอง เผยอ
ผ นาำ ล เช่น ผลิต
ผ นาำ ว เช่น ผวา

ฝ นำา ร เชน่ ฝร่งั หญา้ ฝรั่น

ส นำา ง เช่น สงา่ สงบ สงวน
ส นาำ น เชน่ สนุก สนาน สนาม เสนอ
ส นำา ม เช่น สมุด สมาน เสมอ สมอง สมุย สมอ
ส นาำ ย เชน่ สยาย แสยะ สยาม
ส นำา ร เช่น สระ
ส นาำ ล เช่น สลาย สลับ สลาก สลวั สลิด
ส นำา ว เชน่ สวาย สวิง

คูม่ อื การสอนอ่านเขียน 266 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

๒.๒ อกั ษรกลาง นาำ อักษรต่ำาเดี่ยว อกั ษรกลาง ไดแ้ ก ่ ก จ ต บ ป อ นาำ อักษรต่าำ เดย่ี ว
ไดแ้ ก ่ ง น ร ล ว

คำาอกั ษรกลางนำาอักษรตำา่ เดี่ยว ได้แก่
ก นาำ น เชน่ กนก
จ นาำ ม เชน่ จมูก
จ นาำ ร เชน่ จรวด
จ นำา ว เช่น จวัก
ต นาำ น เชน่ ตนุ โตนด
ต นาำ ล เช่น ตลก ตลับ ตลาด ตลิง่ เตลดิ
ต นาำ ว เชน่ ตวาด
ป นำา ร เชน่ ปรอด ปรอท
ป นำา ล เช่น ปลัด
อ นำา ง เชน่ องนุ่
อ นาำ น เชน่ อนาถ
อ นาำ ร เช่น อรอ่ ย

คมู่ อื การสอนอา่ นเขียน 267 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

สว่ นที่ ๒ แนวทางการจดั การเรยี นรู้

การจดั การเรยี นรูค้ ำาท่มี อี กั ษรนำา ควรจดั ลาำ ดับเน้ือหา ดงั น้ี
๑. คาำ อ นาำ ย ม ี ๔ คาำ ไดแ้ ก ่ อยา่ อย ู่ อยา่ ง อยาก
๒. คำา ท่มี ี ห เปน็ อักษรนาำ แบง่ เป็น

๒.๑ คาำ ท่ีมี ห เปน็ อักษรนำา ในแม ่ ก กา ได้แก่ หนา หมา หลา หนี หม ี หย ี หวี หนู
หม ู หร ู แหม แหย แหน แหละ แหล โหล หงอ หนอ หมอ หรอ หลอ หวอ ไหน ไหม ไหว ไหล เหงา
เหมา เหลา เหนอื เหลือ ฯลฯ
๒.๒ คำา ทม่ี ี ห เป็นอักษรนาำ ในแม ่ ก กา ทีม่ ีรูปวรรณยุกต์ ไดแ้ ก ่ หนา้ หญา้ หร่ี หมู่
แหย่ หม้อ หล่อ ไหว ้ ใหญ่ ฯลฯ
๒.๓ คาำ ท่ีม ี ห เป็นอกั ษรนาำ ทม่ี ตี วั สะกด ไดแ้ ก ่ หนัก หลบั หวงั หวดั หนาว หนาม
หลาย หมาย หลาน หวาน หวา่ น หยกิ หญงิ หวดี หยุด หลดุ เหม็น แหวน แหวก หลง เหยีย่ ว หมอน
หมอก หมอบ หยอก หยอด หรอก หลอก หนอน หมวก หลวง ฯลฯ

๓. คำาอักษรสงู นาำ อกั ษรต่าำ เดย่ี ว แบง่ เปน็
๓.๑ คาำ อักษรสงู นำาอกั ษรต่ำาเด่ียว ในแม ่ ก กา ได้แก่ ขณะ ขยะ ขยาำ ขยา้ำ ขย้ี ไฉน ฉล ู
สง่า เถลไถล ผวา เสนอ เสมอ สมอ แสยะ สระ สลวั
๓.๒ คำาอกั ษรสงู นำาอักษรตำา่ เดีย่ ว ทีม่ ีตวั สะกด ได้แก่ ขนม ขนนุ ขมวด เขม็ง ขมีขมนั
ขยับ ขยัน เขยบิ เขยือ้ น โขยง ฉงน ฉนวน ฉมวก ฉมงั ฉลาด ฉลาม ฉลอง เฉลย ฉลาก สงบ สงวน ถนน
ถนัด ถวาย ผงก ผงาด ผนัง ผนึก แผนก ผยอง ผลติ ฝรง่ั สนุก สนาน สมุด สมัย สมาน สมอง สมุย
สยาย สยาม สลาย สลับ สลาก สลิด สวา่ ง สวาย สวงิ ฯลฯ

๔. คาำ อกั ษรกลางนาำ อกั ษรตา่ำ เดี่ยว ได้แก ่ กนก จมกู จรวด จวัก ตน ุ โตนด ตลก ตลบั
ตลาด ตลง่ิ ตวาด ปรอด ปรอท ปลดั อรอ่ ย ฯลฯ
ครูอาจเลือกสอนคาำ อกั ษรนำาให้เหมาะสมกับระดบั ช้นั และความพร้อมของนกั เรียน

คู่มือการสอนอา่ นเขยี น 268 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

การสอนอ่านสะกดคำาท่มี อี ักษรนำา

การอ่านสะกดคำาเป็นการอ่านออกเสียงตัวอักษรท่ีประกอบกันเป็นคำา โดยอ่านออกเสียง
พยญั ชนะต้น สระ ตวั สะกด และวรรณยกุ ต์ ตามลาำ ดับ เชน่

๑. คำาทม่ี ี อ นาำ ย
อย่า อา่ นสะกดคาำ วา่ ออ - ยอ - อา - ยา - ยา - เอก หฺย่า

๒. คำาทมี่ ี ห เปน็ อักษรนำา
หมา อา่ นสะกดคำาว่า หอ - มอ - อา หมฺ า
หนา้ อา่ นสะกดคำาวา่ หอ - นอ - อา - หนา - หนา - โท หนฺ า้
หลับ อ่านสะกดคาำ ว่า หอ - ลอ - อะ - บอ หฺลับ

๓. คำาทีม่ อี กั ษรสงู นำา อักษรตาำ่ เดี่ยว

สมอง อา่ นสะกดคาำ วา่ สอ - มอ - ออ - งอ สะหมอง

สวา่ ง อ่านสะกดคาำ วา่ สอ - วอ - อา - งอ - สะ - หวาง -

สะ - หวาง - เอก สะหวา่ ง

๔. คำาท่มี ีอักษรกลางนำา อกั ษรตา่ำ เด่ียว

ตลก อ่านสะกดคาำ วา่ ตอ - ลอ - โอะ - กอ ตะ - หลก

ตลงิ่ อา่ นสะกดคาำ วา่ ตอ - ลอ - อ ิ - งอ - ตะ - ลิง -

ตลิง - เอก ตะ - หลง่ิ

คู่มือการสอนอ่านเขยี น 269 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

การสอนเขียนสะกดคำา

เป็นการสะกดเพ่ือเขียนคำาให้ถูกต้อง จะสะกดคำาตามรูปตัวอักษรท่ีประกอบกันเป็นคำา
โดยสะกดเรยี งลาำ ดับตามรปู ตวั อักษรทป่ี รากฏอย่ใู นคาำ นน้ั ๆ เชน่

๑. คาำ ทม่ี ี อ นำา ย
อยาก เขยี นเรยี งลำาดบั ตัวอกั ษรเป็น ออ อ่าง ยอ ยักษ์ สระอา กอ ไก่
๒. คาำ ทีม่ ี ห เป็นอกั ษรนำา
เหลา เขียนเรยี งลำาดบั ตวั อักษรเปน็ สระเอ หอ หบี ลอ ลงิ สระอา
หมอ้ เขียนเรยี งลำาดับตัวอักษรเปน็ หอ หีบ มอ มา้ ไมโ้ ท ออ อ่าง
หลาน เขียนเรยี งลำาดับตัวอกั ษรเป็น หอ หบี ลอ ลงิ สระอา นอ หน ู
๓. คาำ ท่มี อี กั ษรสูงนาำ อกั ษรตา่ำ เดย่ี ว
ขยี ้ เขียนเรยี งลำาดับตัวอกั ษรเปน็ ขอ ไข่ ยอ ยักษ์ สระอ ี ไม้โท
ถวาย เขยี นเรียงลำาดบั ตวั อักษรเป็น ถอ ถงุ วอ แหวน สระอา ยอ ยกั ษ์
๔. คำาท่มี ีอักษรกลางนาำ อักษรต่าำ เดีย่ ว
จมูก เขยี นเรียงลำาดับตัวอักษรเป็น จอ จาน มอ ม้า สระอู กอ ไก่
อรอ่ ย เขยี นเรียงลำาดับตัวอักษรเปน็ ออ อ่าง รอ เรือ ไม้เอก ออ อา่ ง

ยอ ยักษ์

คมู่ ือการสอนอา่ นเขยี น 270 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ตัวอยา่ งการนาำ แนวทางการจัดการเรียนรู้ไปใชใ้ นหอ้ งเรยี น
หน่วยท่ี ๑๐ การแจกลกู สะกดคำาทีม่ ีอักษรนำา

จุดประสงค์การจัดการเรยี นร ู้ (๗ ช่ัวโมง)
๑. เพอื่ ใหน้ ักเรียนอ่านและเขยี นแจกลกู สะกดคำาที่มีอักษรนำาได้
๒. เพ่อื ให้นักเรียนอ่านและเขียนคำาท่ีมีอักษรนำาได้ (๑ ชว่ั โมง)
(๑ ชั่วโมง)
แนวทางการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑ (๑ ชวั่ โมง)
คำา อ นาำ ย (๑ ชว่ั โมง)
(๑ ชว่ั โมง)
แนวทางการจัดการเรยี นรู้ที่ ๒ (๑ ชั่วโมง)
คาำ ที่มี ห เปน็ อกั ษรนำาในแม ่ ก กา (๑ ชั่วโมง)

แนวทางการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๓
คาำ ทม่ี ี ห เปน็ อกั ษรนำาในแม ่ ก กา ที่มรี ูปวรรณยุกต์

แนวทางการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๔
คาำ ท่ีมี ห เป็นอักษรนำาทม่ี ตี ัวสะกด

แนวทางการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๕
คำาอักษรสงู นำาอกั ษรตำ่าเดีย่ วในแม ่ ก กา

แนวทางการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๖
คำาอกั ษรสงู นาำ อกั ษรตำ่าเด่ยี วทมี่ ีตัวสะกด

แนวทางการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๗
คาำ อักษรกลางนาำ อักษรต่าำ เดย่ี ว

คู่มือการสอนอ่านเขยี น 271 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แนวการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๑ คำา อ นำา ย (๑ ชั่วโมง)
จดุ ประสงคข์ องการจดั การเรยี นรู้

๑. เพือ่ ให้นกั เรียนอ่านสะกดคำา อ นำา ย ได้
๒. เพ่อื ให้นักเรียนอ่านและเขยี นคำา อ นาำ ย ได้

ขั้นตอนการจดั การเรยี นรู้

๑. ขนั้ นำา
๑.๑ ครูร้องเพลงที่มีคำาอักษรนำา เช่น เพลงในหมู่ลูกเสือ โดยติดเนื้อเพลง
บนกระดานดาำ หรือป้ายสำาลี

เพลงในหมู่ลูกเสือ

คาำ ร้อง ทำานอง ไมท่ ราบนามผแู้ ต่ง

ในหมลู่ ูกเสอื เม่อื มารว่ มอยู่
ตา่ งคนตา่ งรกู้ นั ดีวา่ หนา้ ท่ที ุกอยา่ ง
ตอ้ งช่วยกันทาำ กนั ไม่เวน้ วา่ ง
งานทกุ อยา่ ง งานทกุ อยา่ ง จะเสรจ็ โดยงา่ ยดาย

๑.๒ ครอู า่ นเนอ้ื เพลงใหน้ กั เรยี นฟงั นกั เรยี นอา่ นตามครู หลงั จากนนั้ รว่ มกนั รอ้ งเพลง
และนาำ สนทนาถงึ ความหมายของเพลง
๑.๓ ให้นักเรียนสังเกตคำาจากเนื้อเพลง และหาว่ามีคำาใดบ้างท่ีมีพยัญชนะต้นสองตัว
ครเู ขยี นคาำ ทน่ี ักเรียนตอบบนกระดาน เช่น หม ู่ อย ู่ หนา้ อย่าง แลว้ เช่ือมโยงสกู่ ารเรียนเร่ืองการอา่ น
คำาทม่ี ีอกั ษรนำา

คู่มือการสอนอา่ นเขยี น 272 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

๒. ข้นั สอน
๒.๑ ครูแยกสว่ นประกอบของคาำ ท่ขี ึ้นกระดานดาำ ไว้ ดังน้ี

หม ู่ ประกอบด้วย หม + -ู + - ่ อา่ นว่า หมู่

ครนู ำาสนทนาวา่ หม เป็นพยญั ชนะตน้ สองตวั ไมอ่ ่านออกเสียง ห แตอ่ ่านออก
เสียง ม ตัวเดียว แตอ่ อกเสยี งวรรณยกุ ตเ์ ปน็ เสยี งเอกตามกฎการผันวรรณยุกต์ของพยัญชนะ ห
ครอู ธบิ ายเพิม่ เตมิ วา่ คาำ ลกั ษณะนี ้ เรยี กวา่ คาำ ทมี่ ี ห เปน็ อักษรนาำ
๒.๒ ครูนำา คำา อ นำา ย เช่น อยู่ อย่าง มาสอนด้วยวิธีตามข้อ ๑.๓ แล้วสรุปว่า
อยู ่ อย่า มอี ักษร อ นาำ ย เปน็ คำาอักษรนำา
๒.๓ ครูทบทวนไตรยางศ์ โดยติดเน้ือหาสาระ อักษรกลาง อักษรสูง อักษรตำ่า
และอักษรตำ่าเดี่ยว บนกระดานดำา ให้นักเรียนอ่านและช้ีให้นักเรียนดูว่า อักษรสูงที่เป็นอักษรนำา
ได้แก่ ข ฉ ถ ผ ฝ ส อักษรกลาง ท่ีเป็นอักษรนำา ได้แก่ ก จ ต บ ป อ ส่วนอักษรต่ำาเด่ียว
ไดแ้ ก ่ ง ณ น ม ย ร ล ว
๒.๔ ครสู รปุ เขยี นบนกระดานดาำ ใหน้ กั เรียนอา่ น ดงั นี้
อักษรสงู ทเ่ี ปน็ อกั ษรนำา ได้แก ่ ข ฉ ถ ผ ฝ ส
อักษรกลางทีเ่ ป็นอักษรนำา ได้แก ่ ก จ ต บ ป อ
ส่วนอกั ษรตำ่าเด่ียวที่เปน็ ตัวตาม ได้แก่ ง ณ น ม ย ร ล ว
ใหน้ กั เรยี นเขยี นขอ้ ความบนกระดานดำาลงในสมดุ ครดู แู ลการเขยี นใหค้ ำาแนะนำา
และตรวจแกไ้ ขให้ถกู ตอ้ ง
๒.๕ ครูนำาสรุปความหมายของอักษรนำาว่า อักษรนำา หมายถึง พยัญชนะต้น ๒ ตัว
เรียงกัน และตัวหน้าเป็นตัวนำาเสียงวรรณยุกต์ของตัวตาม ตัวหน้าเป็นอักษรสูงหรืออักษรกลาง
ตัวที่ตามมาเป็นอกั ษรตำ่าเดีย่ วเทา่ นน้ั
๒.๖ ครูนาำ บตั รคาำ อยาก ตดิ บนกระเป๋าผนัง คาำ วา่ อยาก ประกอบดว้ ย พยัญชนะ
สองตวั ไดแ้ ก ่ อย สระ อา ตวั สะกด ก ครอู ่านคาำ อยาก ใหน้ กั เรยี นฟัง เปรียบเทียบกับ คาำ ว่า ยาก
เช่น อยาก ยาก คำาวา่ อยาก อา่ นตามเสยี ง อ ท่ีเป็นตัวนาำ

ค่มู อื การสอนอ่านเขยี น 273 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

สรุปว่า อ นำา ย เป็น อักษรนำา โดย อ เป็นพยัญชนะตัวหน้า จะมีอิทธิพล
นำาเสียงวรรณยุกต์ของตัว ย ท่ีตามมา เม่ือ โดยอ่านออกเสียงเป็นพยางค์เดียว โดยเสียงวรรณยุกต์
ของ ย จะตามเสยี ง อ ท่ีนำา แตไ่ ม่ออกเสียงตัว อ คาำ อ นำา ย มี ๔ คำา ไดแ้ ก่ อยา่ อยู ่ อยา่ ง อยาก
๒.๗ ครูเขียนขอ้ ความบนกระดานดาำ ดงั น้ี

วนั น้พี ่อไปทาำ งาน มานะอยู่บา้ นกับแม่
มานะอยากกินข้าวสวย
แมห่ งุ ข้าวสวยและทาำ กบั ข้าวสองอยา่ ง
แมบ่ อกมานะวา่ ใหก้ ินชา้ ๆ อย่าทาำ อาหารหกเลอะเทอะ

ครูอ่านข้อความให้นักเรียนฟัง นักเรียนอ่านตาม ให้นักเรียน หาคำา อ นำา ย
จากข้อความได้แก ่ อย ู่ อยาก อยา่ ง อย่า แลว้ เขยี นในสมดุ
เมื่อนักเรียนเขียนคำาเสร็จแล้ว ครูและเพ่ือนตรวจผลงานการเขียน เม่ือเขียน
ไม่ถูกตอ้ งใหแ้ ก้ไขจนถูกตอ้ ง
๒.๘ ครูอ่านออกเสียงสะกดคำาทีละคำาให้นักเรียนฟัง แล้วให้นักเรียนอ่านตามครู
ดว้ ยเสยี งดงั ชัดเจนพรอ้ มกนั โดยครูอาจสุ่มใหน้ ักเรยี นอ่านรายบคุ คล
คาำ ว่า “อย่า” สะกดว่า ออ - ยอ - อา - ไมเ้ อก หยา่
คาำ วา่ “อยู่” สะกดวา่ ออ - ยอ - อ ู - ไม้เอก หยู่
คาำ ว่า “อย่าง” สะกดวา่ ออ - ยอ - อา - งอ - ไม้เอก หย่าง
คาำ วา่ “อยาก” สะกดวา่ ออ - ยอ - อา - กอ หยาก
เมื่อนักเรียนอ่านสะกดคำาคล่องแล้ว ให้นักเรียนฝึกเขียนสะกดคำา อ นำา ย
ตามแบบฝึกท ่ี ๑ เป็นรายบุคคล โดยครคู อยดูแลใหค้ าำ แนะนาำ

คู่มือการสอนอา่ นเขียน 274 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

๒.๙ เมื่อนักเรียนอ่านสะกดคำาได้คล่องแล้ว ครูฝึกทักษะการอ่านเป็นคำา ประโยค
ข้อความ หรือบทร้อยกรอง โดยเลือกคำา อ นำา ย มาให้อ่านทบทวน ซ่ึงสามารถหาบทร้อยกรอง
หรอื ข้อความอื่น ๆ ทีม่ ีคาำ อ นำา ย (เลอื กเพยี ง ๑ เพลง) ดงั น้ี

อยา่ อยา่ ว่งิ อยา่ ไป
อย ู่ อยบู่ ้าน น่าอยู่
อยา่ ง ตวั อย่าง อย่างดี
อยาก อยากเลน่ อยากกิน
ตา ห้าม วา่ อย่า วิง่ เลน่ บน สะพาน
เดก็ ๆ อยาก เลน่ ฟตุ บอล

อยากอยอู่ ยา่ งสบาย

อยากอย่อู ยา่ งสบาย สุขกายสุขใจ

อยา่ เกเรใคร เพ่อื น ๆ ของเรา

อยอู่ ย่างเปน็ สุข เล่นสนุกกบั เขา

ทั้งเพื่อนและเรา ไมร่ งั แกกนั

๒.๑๐ ครูฝึกการสะกดคำาเพ่ือเขียนควบคู่กับการสะกดคำาเพ่ืออ่าน ดังตัวอย่าง
ตอ่ ไปนี้

คาำ วา่ “อย่า” สะกดวา่ ออ - ยอ - อา - ไมเ้ อก หยา่
แต่เขียนเรียงลาำ ดบั ตวั อกั ษรเป็น ออ อา่ ง ยอ ยกั ษ ์ สระอา ไมเ้ อก อยา่

คมู่ อื การสอนอ่านเขยี น 275 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

คาำ วา่ “อย่”ู สะกดว่า ออ - ยอ - อู - ไมเ้ อก หยู่
แต่เขยี นเรยี งลาำ ดบั ตวั อกั ษรเปน็ ออ อ่าง ยอ ยักษ์ สระอู ไม้เอก อย ู่

คาำ ว่า “อยา่ ง” สะกดว่า ออ - ยอ - อา - งอ - ไมเ้ อก หย่าง
แตเ่ ขยี นเรยี งลาำ ดับตัวอกั ษรเป็น ออ อ่าง ยอ ยักษ์ ไม้เอก
สระ อา - งอ ง ู อยา่ ง

คาำ ว่า “อยาก” สะกดวา่ ออ - ยอ - อา - กอ หยาก
แตเ่ ขยี นเรียงลาำ ดบั ตวั อักษรเปน็ ออ อา่ ง ยอ ยักษ์ สระอา กอ ไก่ อยาก

๒.๑๑ ให้นักเรียนฝึกเขียนสะกดคำาตามแบบฝึกท่ี ๒ ครูดูแลและสังเกตการเขียน
ใหค้ ำาแนะนาำ ถา้ นกั เรียนเขียนไม่ถกู ต้อง ใหแ้ กไ้ ขจนถกู ต้อง ครูบนั ทกึ คะแนนการเขยี นในแบบบนั ทกึ
คะแนน

๓. ขั้นสรปุ
ครนู าำ สรปุ สาระสำาคัญของคาำ อ นำา ย วา่ มี ๔ คำา ได้แก่ อย่า อยู่ อยา่ ง อยาก ออกเสยี ง
วรรณยุกต์เอกท้งั หมด โดยครูสามารถใชเ้ พลง อยา่ อยู่ อยา่ ง อยาก ได้

อย่า อยู่ อยา่ ง อยาก

เน้ือรอ้ ง ไม่ทราบนามผ้แู ตง่
ทำานอง Are you sleeping?

อย่า อย ู่ อยา่ ง อยาก อย่า อยู ่ อยา่ ง อยาก

อ นาำ ยอ อ นำา ยอ

จาำ ไวห้ นอมีส่คี าำ (ซ้าำ ) จาำ ให้ด ี มสี ค่ี าำ

คู่มือการสอนอ่านเขียน 276 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

สือ่ การสอน

๑. เพลง
๒. กระเปา๋ ผนงั
๓. แบบฝกึ

การวดั และประเมินผล

การตรวจแบบฝึก

คู่มอื การสอนอ่านเขยี น 277 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบฝึกที่ ๑ การอ่านสะกดคำา

คาำ ชแ้ี จง
๑. ใหน้ ักเรียนอ่านสะกดคำาทกี่ ำาหนดให ้ ภายในเวลา ๓ นาที
๒. ครูยกตัวอยา่ งการอา่ นสะกดคาำ ทมี่ อี ักษรนาำ

ตวั อยา่ ง
อย ู่ สะกดว่า ออ - ยอ - อ ู - ไมเ้ อก - หยู่

ข้อท่ี คาำ
๑. อยาก
๒. อยา่
๓. อย่าง

เฉลยคำาตอบ สะกดว่า ออ - ยอ - อา - กอ หยฺ าก
สะกดว่า ออ - ยอ - อา - ไม้เอก หฺยา่
๑. อยาก สะกดวา่ ออ - ยอ - อา - งอ - ไมเ้ อก หฺย่าง
๒. อยา่
๓. อย่าง

คมู่ อื การสอนอ่านเขยี น 278 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบบนั ทกึ ผลการอา่ นสะกดคำา

ท่ี ช่อื -สกลุ ๑ ข้อที่ ๓ รวม ผลการประเมิน
๒ คะแนน* ผ่าน ไม่ผ่าน

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพ่ือให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรับปรุงและพฒั นานักเรียน
๒. วธิ ีการบันทึก ถา้ อ่านถกู ตอ้ งให้ใส่เครอ่ื งหมาย √ ถ้าอ่านผดิ ให้ใส่เครือ่ งหมาย X (เครือ่ งหมาย √ เทา่ กับ

๑ คะแนน เครือ่ งหมาย X เท่ากับ ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรับปรงุ และพฒั นานักเรียนเป็นรายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของชั้นเรียน

เพือ่ นำาไปใช้ในการปรบั ปรุงและพฒั นาการจัดการเรยี นการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนักเรยี นอ่านได้

คู่มอื การสอนอา่ นเขียน 279 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แบบฝกึ ท่ี ๒ การเขยี นคาำ ท่ีมี อ นาำ ย

คำาชี้แจง
๑. ใหน้ กั เรยี นเขยี นตามคำาบอก โดยใชเ้ วลา ๓ นาที
๒. ให้ครูอ่านคำาให้นักเรียนฟังคำาละ ๒ ครั้ง โดยเว้นเวลาให้นักเรียนเขียนก่อนบอกคำา
ในข้อต่อไป

คำาทก่ี ำาหนดใหเ้ ขยี น
๑. อย่าง
๒. อยาก
๓. อยู่
๔. อยา่

ค่มู ือการสอนอา่ นเขียน 280 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แบบบนั ทกึ ผลการเขียนคำาที่มี อ นาำ ย

ท่ี ชื่อ -สกุล ๑ ข้อที่ รวม ผลการประเมิน
๒๓ ๔ คะแนน* ผา่ น ไม่ผ่าน

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพื่อให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรบั ปรงุ และพฒั นานกั เรยี น
๒. วิธีการบนั ทกึ ถา้ เขยี นถกู ตอ้ งให้ใสเ่ ครอ่ื งหมาย √ ถา้ เขียนผิดให้ใส่เครอ่ื งหมาย X (เคร่อื งหมาย √ เท่ากับ

๑ คะแนน เคร่อื งหมาย X เทา่ กบั ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรับปรุงและพัฒนานกั เรียนเปน็ รายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของชั้นเรียน

เพอ่ื นำาไปใช้ในการปรบั ปรงุ และพฒั นาการจัดการเรยี นการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนกั เรยี นอา่ นได้

ค่มู อื การสอนอ่านเขยี น 281 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ส่วนที่ ๓ แนวทางการวัดและประเมนิ ผลประจำาหนว่ ย

ฉบบั ที่ ๑ การสะกดคำาเพอ่ื อ่านคำาที่มอี ักษรนำา

คาำ ชแ้ี จง
๑. ให้นักเรยี นอ่านคาำ ท่ีกำาหนดให้ ภายในเวลา ๕ นาที
๒. ครยู กตวั อย่างการอา่ นสะกดคาำ ทมี่ ีอกั ษรนำา

ตัวอย่าง
หลบั อา่ นสะกดคาำ ว่า หอ - ลอ - อะ - บอ - หลับ

๑. หมู
๒. หน้า
๓. แหวน
๔. หมอน
๕. อย่า
๖. ผวา
๗. ถนน
๘. สมัย
๙. ฝร่ัง
๑๐. อง่นุ

คูม่ ือการสอนอา่ นเขียน 282 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

เฉลยคาำ ตอบ

ขอ้ ท่ี คาำ อา่ นสะกดคาำ อา่ นว่า
๑. หมู หอ - มอ - อ ู หมฺ ู
๒. หน้า หอ - นอ - อา - หนา - ไม้โท หฺน้า
๓. แหวน หอ - วอ - แอ - นอ แหฺวน
๔. หมอน หอ - มอ - ออ - นอ หฺมอน
๕. อย่า ออ - ยอ - อา - ยา - ไมเ้ อก หฺย่า
๖. ผวา ผอ - วอ - อา ผฺวา
๗. ถนน ถอ - นอ - โอะ - นอ ถฺนน
๘. สมยั สอ - มอ - อะ - ยอ สฺมัย
๙. ฝร่ัง ฝอ - รอ - อะ - งอ - ฝะ - หรงั - ไม้เอก ฝรฺ ่งั
๑๐. องุ่น ออ - งอ - อุ - นอ - ไม้เอก องฺ ุ่น

คู่มือการสอนอ่านเขยี น 283 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบบนั ทกึ ผลการอา่ นสะกดคำาที่มอี กั ษรนำา

ขอ้ ที่ ผลการ
รวม ประเมนิ
ท่ี ชื่อ -สกลุ
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ คะแนน* ไม่
ผา่ น ผ่าน

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพ่ือให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรบั ปรงุ และพฒั นานกั เรยี น
๒. วิธีการบนั ทกึ ถ้าอ่านถกู ต้องใหใ้ ส่เครือ่ งหมาย √ ถ้าอา่ นผดิ ใหใ้ ส่เครอ่ื งหมาย X (เครอื่ งหมาย √ เท่ากับ

๑ คะแนน เครอ่ื งหมาย X เทา่ กบั ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรับปรุงและพฒั นานกั เรยี นเปน็ รายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของช้ันเรียน

เพอ่ื นาำ ไปใช้ในการปรับปรงุ และพฒั นาการจดั การเรยี นการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีท่ีนักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนักเรยี นอ่านได้

คู่มือการสอนอา่ นเขียน 284 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

ฉบับที่ ๒ การอา่ นคำาท่ีมีอักษรนำา

คาำ ชแ้ี จง
๑. ใหน้ กั เรียนอ่านท่กี ำาหนดให ้ ภายในเวลา ๕ นาที
๒. ครูยกตัวอยา่ งการอา่ นคาำ คาำ ว่า “ฉลอง” กอ่ นจบั เวลา

ตัวอย่าง
ฉลอง อ่านวา่ ฉะ - หลอง
๑. โหล
๒. ใหญ่
๓. หยุด
๔. หนาว
๕. ขนม
๖. สมดุ
๗. ฉลาม
๘. อรอ่ ย
๙. ตลาด
๑๐. อยาก

คู่มือการสอนอ่านเขียน 285 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

เฉลยคาำ ตอบ

ขอ้ ท่ี คาำ อา่ นวา่
๑. โหล
๒. ใหญ ่ โหฺล
๓. หยุด ใหฺญ่
๔. หนาว หยฺ ดุ
๕. ขนม หฺนาว
๖. สมดุ ขะ - หนฺ ม
๗. ฉลาม สะ - หมฺ ดุ
๘. อรอ่ ย ฉะ - หลฺ าม
๙. ตลาด อะ - หรฺ ่อย
๑๐. อยาก ตะ - หฺลาด
หยฺ าก

คูม่ ือการสอนอ่านเขียน 286 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบบันทึกผลการอา่ นคาำ ที่มอี ักษรนำา

ข้อที่ ผลการ
รวม ประเมนิ
ท่ี ช่อื -สกุล
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ คะแนน* ไม่
ผา่ น ผ่าน

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพื่อให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรบั ปรงุ และพฒั นานักเรยี น
๒. วิธีการบนั ทกึ ถ้าอ่านถูกต้องให้ใสเ่ ครือ่ งหมาย √ ถา้ อ่านผดิ ให้ใส่เคร่ืองหมาย X (เครอื่ งหมาย √ เทา่ กับ

๑ คะแนน เคร่ืองหมาย X เท่ากับ ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรับปรุงและพัฒนานักเรยี นเปน็ รายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของช้ันเรียน

เพอ่ื นาำ ไปใช้ในการปรับปรงุ และพฒั นาการจัดการเรียนการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนกั เรยี นอา่ นได้

คูม่ ือการสอนอ่านเขยี น 287 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

ฉบบั ท่ี ๓ การสะกดคำาเพ่อื เขยี นคำาทีม่ อี กั ษรนำา

คาำ ชแ้ี จง
๑. ให้นักเรยี นสะกดคำาเพือ่ เขยี น โดยใชเ้ วลา ๕ นาที
๒. ครยู กตวั อยา่ งการสะกดคาำ เพ่ือเขยี นทม่ี ีอกั ษรนำา

ตัวอย่าง
สยาย สะกดวา่ สอ เสอื ยอ ยักษ ์ สระอา ยอ ยักษ ์

คาำ ทีก่ ำาหนดใหเ้ ขยี น ๖. ฉลู
๗. ขยาำ
๑. หมอ ๘. ขยนั
๒. ไหว้ ๙. สนาม
๓. หนอน ๑๐. ลดั
๔. หมาย
๕. หลาน

ค่มู ือการสอนอา่ นเขยี น 288 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

เฉลยคาำ ตอบ

ขอ้ ท่ี คำา เขียนสะกดคำา
๑. หมอ หอ หีบ มอ ม้า อ อ่าง
๒. ไหว ้ สระไอไมม้ ลาย หอ หบี วอ แหวน ไม้โท
๓. หนอน หอ หีบ นอ หน ู ออ อา่ ง นอ หนู
๔. หมาย หอ หีบ มอ ม้า สระอา ยอ ยกั ษ์
๕. หลาน หอ หบี ลอ ลิง สระอา นอ หนู
๖. ฉล ู ฉอ ฉ่งิ ลอ ลิง สระ อู
๗. ขยาำ ขอ ไข่ ยอ ยกั ษ์ สระอำา
๘. ถนดั ถอ ถงุ นอ หน ู ไมห้ ันอากาศ ดอ เด็ก
๙. สนาม สอ เสือ นอ หนู สระอา มอ มา้
๑๐. ปลดั ปอ ปลา ลอ ลิง ไม้หันอากาศ ดอ เด็ก

คมู่ อื การสอนอ่านเขียน 289 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แบบบนั ทึกผลการสะกดคำาเพื่อเขยี นคำาท่มี ีอักษรนำา

ข้อที่ ผลการ
รวม ประเมนิ
ที่ ชื่อ -สกลุ
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ คะแนน* ไม่
ผา่ น ผา่ น

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพื่อให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรับปรงุ และพฒั นานักเรียน
๒. วธิ กี ารบันทึก ถ้าเขียนถูกตอ้ งให้ใส่เครือ่ งหมาย √ ถ้าเขยี นผดิ ใหใ้ สเ่ ครอ่ื งหมาย X (เครอ่ื งหมาย √ เท่ากับ

๑ คะแนน เคร่อื งหมาย X เท่ากบั ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรับปรุงและพัฒนานกั เรียนเป็นรายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของช้ันเรียน

เพ่ือนาำ ไปใช้ในการปรบั ปรงุ และพัฒนาการจดั การเรียนการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนักเรยี นเขยี นได้

ค่มู ือการสอนอา่ นเขยี น 290 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

ฉบบั ที่ ๔ การเขยี นคำาท่ีมอี ักษรนำา

คาำ ช้ีแจง
๑. ให้นกั เรยี นเขยี นตามคำาบอก โดยใชเ้ วลา ๕ นาที
๒. ให้ครูอ่านคำาให้นักเรียนฟังคำาละ ๒ คร้ัง โดยเว้นเวลาให้นักเรียนเขียนก่อนบอกคำา
ในข้อต่อไป

คำาที่กำาหนดให้เขยี น
๑. หวี
๒. หมอ้
๓. หวาน
๔. หลอก
๕. ขยะ
๖. ถนน
๗. สมุด
๘. จมกู
๙. ตลก
๑๐. อยู่

คมู่ อื การสอนอ่านเขียน 291 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบบันทกึ ผลการเขยี นคำาท่ีมอี กั ษรนาำ

ขอ้ ที่ ผลการ
รวม ประเมิน
ที่ ชอื่ -สกุล
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ คะแนน* ไม่
ผา่ น ผา่ น

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพื่อให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรับปรุงและพฒั นานักเรยี น
๒. วธิ กี ารบนั ทึก ถ้าเขยี นถกู ตอ้ งให้ใส่เครื่องหมาย √ ถ้าเขยี นผดิ ใหใ้ สเ่ ครอื่ งหมาย X (เคร่อื งหมาย √ เท่ากบั

๑ คะแนน เคร่ืองหมาย X เทา่ กับ ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรบั ปรงุ และพัฒนานกั เรียนเป็นรายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของชั้นเรียน

เพ่อื นาำ ไปใชใ้ นการปรบั ปรงุ และพัฒนาการจัดการเรยี นการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนักเรยี นเขียนได้

คูม่ ือการสอนอ่านเขียน 292 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ตัวอย่างสรปุ ผลการประเมินการแจกลกู สะกดคำาทีม่ อี ักษรนำา

ที่ ช่อื - สกลุ ผลการประเมิน รวม สรุปผลการประเมนิ

ฉบบั ที่ ๑ ฉบับที่ ๒ ฉบับท่ี ๓ ฉบบั ท่ี ๔ คะแนน ผา่ น ไม่ผา่ น
(๑๐ คะแนน) (๑๐ คะแนน) (๑๐ คะแนน) (๑๐ คะแนน) (๔๐ คะแนน)

หมายเหตุ
๑. ถา้ รวมคะแนนได้ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป และคะแนนรายแบบประเมนิ ได้รอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ทุกแบบประเมิน

ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
๒. ถ้ารวมคะแนนได้ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป แต่คะแนนรายแบบประเมินบางแบบประเมินได้ไม่ถึง

ร้อยละ ๘๐ ถอื ว่าผา่ นเกณฑ ์ แต่ให้ซอ่ มเสรมิ ส่วนที่ไมถ่ ึงร้อยละ ๘๐
๓. ถา้ รวมคะแนนไดไ้ มถ่ งึ รอ้ ยละ ๘๐ ถอื วา่ ไมผ่ า่ นเกณฑใ์ หส้ อนซอ่ มเสรมิ ในกรณที นี่ กั เรยี นไดค้ ะแนน

บางแบบประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ไมต่ อ้ งซอ่ มเสรมิ สว่ นนนั้

คู่มือการสอนอา่ นเขยี น 293 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

กาำ ชัย ทองหล่อ. (๒๕๓๗). หลกั ภาษาไทย. กรงุ เทพฯ: รวมสาสน์.

ปติ นิ ันธ ์ สทุ ธสาร. (๒๕๕๙). สอนอย่างไรให้อา่ นออก อ่านคลอ่ ง และอ่านเปน็ สำาหรับนักเรยี นระดับ
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑-๓. เอกสารประกอบคำาบรรยาย. กรุงเทพฯ: สำานักวิชาการ
และมาตรฐานการศกึ ษา. อดั สาำ เนา

พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ เปรียญ). (๒๕๓๙). หลักภาษาไทย (อักขรวิธี วจีวิภาค
วากยสัมพันธ์ ฉันทลกั ษณ)์ . กรงุ เทพฯ: ไทยวัฒนาพานชิ .

ราชบัณฑิตยสถาน. (๒๕๕๖). พจนานกุ รมฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ เฉลิมพระเกยี รติ
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เนอ่ื งในโอกาสพระราชพธิ มี หามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา
๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔. กรงุ เทพฯ: ศริ วิ ัฒนาอนิ เตอรพ์ ร้ินท.์

สาำ นกั ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน. (๒๕๕๘). สรุปผลการดาำ เนนิ งานการอา่ น
การเขียนของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑. กรุงเทพฯ: สำานักติดตามและประเมินผล
การจดั การศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน.

สำานักทดสอบทางการศึกษา. (๒๕๔๔). สรุปผลการประเมินการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียน
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๑ ปลายภาคเรยี นที่ ๑. กรงุ เทพฯ: สาำ นักทดสอบทางการศึกษา.

สาำ นกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา. (๒๕๕๕). บรรทดั ฐานภาษาไทย เลม่ ๑: ระบบเสยี ง อกั ษรไทย
การอ่านคาำ และการเขียนสะกดคาำ . พมิ พ์คร้งั ที่ ๒. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ ์ สกสค. ลาดพร้าว.

. (๒๕๕๗). สรุปผลการติดตามดำาเนินงานพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย.
กรุงเทพฯ: สาำ นกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา.

. (๒๕๕๔). สรุปผลการประเมินการอา่ นการเขยี นของนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑-๖.
กรุงเทพฯ: สำานักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา.

. (๒๕๕๘). หนังสือคู่มือการดำาเนินงานอ่านออกเขียนได้ อ่านคล่องเขียนคล่อง
และสอ่ื สารได้. กรุงเทพฯ: โรงพิมพช์ มุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

คูม่ ือการสอนอา่ นเขยี น 294 โดยการแจกลูกสะกดคาำ


Click to View FlipBook Version