คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำ

๕. อ่านเปน็ คาำ แจกลกู สระ ดังนี ้ กะ กา กิ กี กึ กือ ก ุ กู

ตะ ตา ต ิ ตี ต ึ ตือ ต ุ ตู

บะ บา บ ิ บี บ ึ บอื บ ุ บู

(ครูให้ความรู้เรอ่ื ง อ เคยี ง ในคาำ สระอือท่ีไม่มีตัวสะกด)

ข้ันที่ ๕ การเขยี นสะกดคำา ในแม่ ก กา
จุดประสงค์การเรยี นรู้

เพือ่ ให้นกั เรยี นสามารถเขียนคาำ ในแม่ ก กา ได้

กิจกรรม

๑. การสะกดคำาเพอ่ื เขยี น เปน็ การเขียนสะกดคำาเพอ่ื เขียนคาำ ใหถ้ กู ตอ้ ง โดยบอกตัวอักษร
เรยี งตามรปู ตัวอกั ษรท่ปี ระกอบกนั เปน็ คำานั้น เชน่ คำาว่า

ฉายา เขยี นสะกดคาำ (บอกเรียงตวั อกั ษรเพอ่ื การเขยี น) วา่ ฉอฉิง่ สระอา ยอยกั ษ์ สระอา
มะเขือ เขียนสะกดคาำ มอ ม้า สระอะ สระเอ ขอ ไข่ สระอือ อออ่าง
ดเู บา เขียนสะกดคำา ดอ เดก็ สระอู สระเอ ขอ ไข ่ สระอา

การสอนสะกดคำาเพ่ือเขียนสำาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนต้นนี้ ครูสามารถ
สอนให้นักเรียนเขียน “ตัวอักษร” ทีละตัว เรียงตามลำาดับไปได้ เพ่ือไม่ให้เกิดความสับสน และเมื่อ
เขียนคาำ เสร็จแล้ว ให้นกั เรียนอ่านคำาดงั กลา่ วอีกทีหน่งึ
กรณที น่ี กั เรยี นจดจาำ รปู และตาำ แหนง่ ของสระในคาำ ไดแ้ มน่ ยาำ แลว้ ครสู ามารถสอนใหน้ กั เรยี น
เขียนสะกดคาำ แบบเดียวกับการสะกดคำาเพ่ืออา่ นได้
๒. ครูนำาเสนอคำาที่หลากหลายหรือคำาที่เห็นในชีวิตประจำาวันมาฝึกเขียนสะกดคำา เพ่ือให้
นักเรียนคุ้นเคยกับส่วนประกอบของคำาและสามารถอ่านเรียงตัวอักษรของคำาได้ถูกต้อง และนำาไปสู่
การเขียนคาำ ท่ีถูกต้อง การเขียนสะกดคาำ จะเป็นประโยชน์สาำ หรับนักเรียนในเร่ืองการวางตาำ แหน่งของ
พยญั ชนะตน้ และการวางตำาแหนง่ สระ เปน็ การทบทวนการวางตำาแหนง่ ของตวั อกั ษรของคำาอกี วธิ หี นง่ึ
การจดั กจิ กรรมการเขยี นสะกดคาำ ควรจดั ทกุ ครงั้ หลงั จากฝกึ การอา่ นสะกดคาำ และแจกลกู คาำ เปน็ การยา้ำ
ซ้าำ ทวน การอ่านคาำ

คู่มอื การสอนอา่ นเขยี น 95 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

ขน้ั ท่ี ๖ การฝกึ อ่านและเขียนโดยใชก้ ารแจกลกู สะกดคาำ
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นเกดิ ความเข้าใจและเกดิ ทักษะในการอ่านคาำ ในแม่ ก กา

กจิ กรรม

การสอนแจกลกู สะกดคำา เ–ะ และการเขียนสะกดคำาเพมิ่ เติมในขน้ั น้ ี เป็นการฝกึ เพื่อให้
นกั เรยี นอ่านและเขียนคาำ ทส่ี ะกดด้วยสระทมี่ ตี ัวอกั ษรมากกวา่ ๑ ตัว เชน่ สระเอะ (เ-ะ) สระเอยี (เ- ีย)
เพื่อใหอ้ า่ นและเขียนได้คลอ่ งข้นึ
๑. ครูใช้บัตรสระเอะ แล้วให้บอกว่า ในบัตรคำาน้ีประกอบด้วยสระอะไรบ้าง เม่ือบอกรูป
สระทุกตัวแล้ว ครูแนะนำาว่าสระรูปน้ีประกอบด้วยรูปสระหลายรูปออกเสียงว่า สระเอะ ให้นักเรียน
ออกเสยี งสระตามคร ู เสียงดังและชดั เจน
๒. ครูนาำ พยัญชนะต้นมาประสมกับสระเอะ แล้วใหน้ ักเรียนฝึกอ่าน

พยัญชนะตน้ ก ต จ ข ส ผ ช พ ฟ
เกะ เตะ เจะ เขะ เสะ เผะ เชะ เพะ เฟะ

๓. เมอ่ื ครเู หน็ วา่ นกั เรยี นอา่ นไดแ้ ลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั แยกสว่ นประกอบของโครงสรา้ งคำา
และสะกดคำา พร้อมอา่ นแจกลูก เชน่

เกะ พยญั ชนะต้น กอ สระเอะ สะกดว่า กอ - เอะ เกะ

เตะ พยญั ชนะต้น ตอ สระเอะ สะกดวา่ ตอ - เอะ เตะ

เจะ พยญั ชนะต้น จอ สระเอะ สะกดวา่ จอ - เอะ เจะ

เขะ พยญั ชนะต้น ขอ สระเอะ สะกดวา่ ขอ - เอะ เขะ

คู่มอื การสอนอ่านเขยี น 96 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

เสะ พยัญชนะตน้ สอ สระเอะ สะกดว่า สอ - เอะ เสะ
เผะ พยญั ชนะตน้ ผอ สระเอะ สะกดวา่ ผอ - เอะ เผะ
เชะ พยัญชนะต้น ชอ สระเอะ สะกดว่า ชอ - เอะ เชะ
เพะ พยัญชนะต้น ออ สระเอะ สะกดว่า พอ - เอะ เพะ
เฟะ พยัญชนะต้น ฟอ สระเอะ สะกดวา่ ฟอ - เอะ เฟะ
๔. เมอ่ื นกั เรียนสะกดคำาเพอื่ อา่ นไดแ้ ลว้ ใหน้ ักเรียนอา่ นคาำ โดยใช้การแจกลูกแบบสระคงท่ี
พยัญชนะต้นเปลี่ยนไป (สระเป็นแม่ แจกไปลูกพยัญชนะ) ดังน้ี เกะ เตะ เจะ เขะ เสะ เผะ เชะ
เพะ เฟะ
๕. เม่ือนักเรียนอ่านแจกลูกสะกดคำาได้แล้ว ครูให้นักเรียนสังเกตคำาท่ีกำาหนดว่าแต่ละคำา
ประกอบดว้ ยอักษรใดบ้าง โดยให้อา่ นเรยี งตัวอกั ษร ดงั น้ี

มะระ เขียนสะกดคำา มอ มา้ สระอะ รอ เรือ สระอะ
ฝาช ี เขียนสะกดคาำ ฝอ ฝา สระอา ชอ ช้าง สระอี
มีชา เขยี นสะกดคาำ มอ ม้า สระอ ี ชอ ชา้ ง สระอา

คมู่ อื การสอนอา่ นเขยี น 97 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ขั้นท่ี ๗ ฝึกอ่านประโยคสนั้ ๆ คาำ ในแม่ ก กา
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

เพือ่ ให้นักเรียนอ่านคาำ ในแม ่ ก กา เป็นประโยคสนั้ ๆ ได้

กจิ กรรม

เมอื่ นกั เรยี นสามารถอา่ นคำา ในแม ่ ก กา ไดแ้ ลว้ ครอู าจนาำ คาำ ในแม ่ ก กา มาสรา้ งเปน็ กลมุ่ คำา
และให้นกั เรยี นฝกึ อ่านแบบสะกดคาำ อ่านเปน็ คาำ อา่ นในรูปประโยคง่าย ๆ ดังน้ี
๑. ฝึกอ่านคำา ครูให้นักเรียนอ่านสะกดคำา อ่านแจกลูก และอ่านเป็นคำา จากคำาที่ครู
เขียนบนกระดานดำา ครูอาจให้นักเรียนนำาเสนอคำาในแม่ ก กา แล้วเขียนบนกระดานดำา เพ่ือฝึกให้
นักเรยี นอ่านคล่อง

มะ ละ ยะ ระ ชะ นะ อะ จะ ตะ
ตา พา อา ยา ทา มา สา คา ถา
นาำ สาำ รำา ตำา ทาำ ขำา ยำา ลำา คาำ
ไป ไอ ไร ใจ ไว ไฟ ไย ไล ใส

๒. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรา้ งกลมุ่ คาำ จากคาำ ทไ่ี ดอ้ า่ นไปแลว้ หรอื จากคาำ ทน่ี กั เรยี นนาำ เสนอ
เช่น

คาถา ลำาไย มะไฟ มะระ มะล ิ ระบำา คำานาำ ชะน ี สำาล ี มีไฟ
ดใี จ จอแจ งอแง รปู ู เกเร โซเซ มะละกอ ตาทายา ทำาอะไร

คู่มอื การสอนอ่านเขียน 98 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

๓. ครูและนักเรียนนำากลุ่มคำาในแม่ ก กา ที่อ่านไปแล้ว มาแต่งประโยคส้ัน ๆ และอ่าน
ประโยค ทง้ั แบบอา่ นสะกดคำาและอ่านเปน็ คาำ เชน่

ตา มี มะละกอ สะกดว่า ตอ - อา ตา มอ - อี มี มอ - อะ มะ

ลอ - อะ ละ กอ - ออ กอ

อ่านวา่ ตา ม ี มะละกอ

อา ม ี ลำาไย สะกดวา่ ออ - อา อา มอ - อี มี

ลอ - อาำ ลำา ยอ - ไอ ไย

อ่านว่า อา ม ี ลาำ ไย

ชะนี ม ี มะไฟ สะกดวา่ ชอ - อะ ชะ นอ - อี น ี มอ - อี มี

มอ - อะ มะ ฟอ - ไอ ไฟ

อา่ นว่า ชะน ี ม ี มะไฟ

ป ู นา ขา เก สะกดว่า ปอ - อ ู ป ู นอ - อา นา ขอ - อา ขา

กอ - เอ เก

อา่ นวา่ ป ู นา ขา เก

ชะน ี ตัว โต สะกดวา่ ชอ - อะ ชะ นอ - อี น ี ตอ - อัว ตัว

ตอ - โอ โต

อ่านวา่ ชะน ี ตวั โต

ตา ดู ระบาำ สะกดว่า ตอ - อา ตา ดอ - อ ู ดู

รอ - อะ ระ บอ - อาำ บำา

อ่านวา่ ตา ดู ระบาำ

๔. เม่ือนักเรียนอ่านประโยคคล่องแล้ว ให้นักเรียนฝึกเขียนประโยค และแต่งประโยค
จากคาำ ทีก่ ำาหนดให ้ หรือจากคำาทีน่ ักเรยี นนำาเสนอ

คมู่ ือการสอนอ่านเขียน 99 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ตวั อย่างการนาำ แนวทางการจัดการเรยี นรูไ้ ปใชใ้ นห้องเรยี น
หนว่ ยที่ ๔ การแจกลกู สะกดคำาในแม่ ก กา

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ของหนว่ ย (๘ ชั่วโมง)
๑. เพอ่ื ให้นกั เรยี นอ่านสะกดคำา ในแม่ ก กา ได้
๒. เพอ่ื ใหน้ ักเรียนอา่ นแจกลูกคำา ในแม ่ ก กา ได้ (๑ ชั่วโมง)
๓. เพ่ือให้นกั เรยี นเขียนคำา ในแม ่ ก กา ได้
๔. เพอื่ ให้นกั เรยี นอ่านประโยคส้นั ๆ ทม่ี ีคำา ในแม ่ ก กา ได้ (๑ ชว่ั โมง)
(๑ ชว่ั โมง)
แนวทางการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑ (๑ ชว่ั โมง)
ทบทวนรูปและเสยี งพยญั ชนะและสระ (๑ ชัว่ โมง)
(ตามแนวทางการจดั การเรียนรู้ขั้นตอนท ี่ ๑ และ ๒) (๑ ชว่ั โมง)
(๑ ชว่ั โมง)
แนวทางการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ (๑ ช่ัวโมง)
การสะกดคาำ เพอื่ อ่านและเขียน: พยญั ชนะตน้ อักษรกลาง

แนวทางการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๓
การสะกดคาำ เพื่ออา่ นและเขียน: พยญั ชนะตน้ อักษรต่าำ

แนวทางการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๔
การสะกดคำาเพื่ออ่านและเขียน: พยัญชนะตน้ อักษรสูง

แนวทางการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๕
การอา่ นแจกลกู คาำ โดยใช้พยัญชนะตน้ คงที่

แนวทางการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๖
การอ่านแจกลูกคาำ โดยใชส้ ระคงที่

แนวทางการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๗
การฝกึ อ่านและเขียนโดยใช้การแจกลูกสะกดคาำ

แนวทางการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๘
การฝกึ อา่ นประโยคส้ัน ๆ

คู่มอื การสอนอา่ นเขียน 100 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แนวทางการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑ การสะกดคาำ เพอื่ อ่านและเขยี น: (๑ ชั่วโมง)
พยญั ชนะตน้ อักษรกลาง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

เพอ่ื ใหน้ กั เรียนอ่านและเขียนสะกดคำาท่ีมีพยัญชนะต้นอักษรกลาง ในแม่ ก กา ได้

ขน้ั ตอนการจัดการเรียนรู้

๑. ขั้นนาำ
๑.๑ ครเู ขยี นบทร้อยกรอง กา เอย๋ กา บนกระดานดำา ดงั น ี้

กา เอ๋ย กา

(ไมท่ ราบนามผแู้ ตง่ )

กา เอ๋ย กา บนิ มา ไว ไว

จับ ต้น โพ โผ มา ตน้ ไทร

๑.๒ ครอู ่านบทร้อยกรอง ให้นักเรียนอา่ นตาม
๑.๓ ครูเขียนคำาจากบทร้อยกรองบนกระดานดำา เช่น กา ครูถามนักเรียนว่า คำานี้
ประกอบด้วย พยัญชนะอะไร สระอะไร ครูแนะนำาว่า คำานีป้ ระกอบด้วย พยญั ชนะตน้ กอ และสระอา
๑.๔ ครูนำาคำาท่ีปรากฏในบทร้อยกรองมาถามนักเรียนอีก เช่น มา ไว โพ โผ
โดยถามว่า คำาน้ีประกอบด้วยพยัญชนะต้นและสระอะไร เพื่อให้นักเรียนบอกพยัญชนะต้นและสระ
ของคำานนั้ ๆ
๑.๕ สรปุ ให้นกั เรียนทราบส่วนประกอบของคาำ ว่าประกอบดว้ ย พยญั ชนะตน้ และสระ

คมู่ ือการสอนอ่านเขียน 101 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

๒. ขน้ั สอน
๒.๑. ครูแนะนำาอักษรกลาง โดยเขียนอักษรกลาง ก จ ด ต บ ป อ บนกระดานดำา
และให้นักเรยี นอ่านออกเสียงพยัญชนะอกั ษรกลางทุกตวั
๒.๒ ครูสอนเร่ืองการอ่านสะกดคำา โดยให้เรียนรู้คำาท่ีประกอบด้วยพยัญชนะต้น
อกั ษรกลาง + สระ เช่น คาำ วา่

กา พยญั ชนะต้น ก ออกเสยี งว่า กอ สระ -า ออกเสียง อา
ก ี พยญั ชนะต้น ก ออกเสียงว่า กอ สระ -ี ออกเสียง อี

ครูนำาคำาท่พี ยญั ชนะตน้ เป็นอักษรกลาง ในแม่ ก กา ให้นกั เรียนฝกึ สะกดคาำ จนคล่อง
๒.๓ ครูสอนเรื่องการอ่านสะกดคำาในแม่ ก กา โดยแยกแยะส่วนประกอบของคำา
ว่าคำานั้นประกอบด้วยพยัญชนะและสระอะไร ครูให้นักเรียนอ่านสะกดคำาอักษรกลาง ในแม่ ก กา
ที่ครเู ขียนบนกระดานดำาตามคร ู เช่น

กา สะกดวา่ กอ - อา กา
อา สะกดว่า ออ - อา อา
ด ี สะกดว่า ดอ - อี ดี
แก สะกดว่า กอ - แอ แก

๒.๔ ครอู า่ นสะกดคำา ในแม ่ ก กา จากแผนภูมิใหน้ ักเรียนอา่ นตาม

คู่มอื การสอนอ่านเขยี น 102 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

การสะกดคำาอักษรทปี่ ระสมดว้ ยสระอะ และสระอา

กา กอ - อา กา ตา ตอ - อา ตา บา บอ - อา บา
จา จอ - อา จา ดา ดอ - อา ดา ปา ปอ - อา ปา
กะ กอ - อะ กะ ตะ ตอ - อะ ตะ บะ บอ - อะ บะ
จะ จอ - อะ จะ ดะ ดอ - อะ ดะ ปะ ปอ - อะ ปะ

๒.๕ ครใู ห้นกั เรียนอ่านคำาจากแผนภมู ติ ามตัวอยา่ งเป็นกลมุ่ และรายบุคคล
การสะกดคำาอกั ษรกลางประสมดว้ ยสระอิ และสระอี

ก ิ กอ - อ ิ กิ ต ิ ตอ - อ ิ ติ บ ิ บอ - อ ิ บิ

จิ จอ - อ ิ จิ ด ิ ดอ - อ ิ ด ิ ป ิ ปอ - อ ิ ปิ

๒.๖ ครใู ห้นักเรยี นทำาแบบฝึกท ่ี ๑ แลว้ ชว่ ยกนั ตรวจสอบคาำ ตอบ

๓. ข้นั สรุป

๓.๑ ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปการอ่านสะกดคำา โดยครูยกบัตรคำาให้นักเรียนดู
แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกส่วนประกอบวา่ คาำ ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง สรปุ คอื พยัญชนะต้น + สระ และ
การอา่ นสะกดคาำ ตอ้ งอา่ นเสียงพยญั ชนะต้นก่อนแล้วจึงอ่านสระ
๓.๒ ครยู กตวั อยา่ งคำา ในแม่ ก กา แล้วใหน้ ักเรียนอ่านแบบสะกดคาำ เชน่ ปี สะกดว่า
ปอ - อี ปี อ่านว่า ปี ครูให้นักเรียนฝึกอ่านสะกดคำาจากบัตรคำา ประมาณ ๑๐ - ๑๕ คำา แล้ว
สรุปการอ่านสะกดคำาให้นักเรียนฟังอีกคร้ัง จากนั้นให้นักเรียนทำาแบบฝึกท่ี ๒ ขณะนักเรียนทำา
แบบฝกึ ครูเดนิ สังเกตการทำางานของนกั เรยี นและให้คำาแนะนาำ

คู่มอื การสอนอ่านเขยี น 103 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

สือ่ การสอน

๑. บทรอ้ ยกรอง กา เอย๋ กา
๒. บัตรคาำ
๓. แผนภมู ิอา่ นสะกดคาำ
๔. แบบฝึก

การวัดและประเมนิ ผล

การตรวจแบบฝกึ

คมู่ ือการสอนอ่านเขยี น 104 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แบบฝึกที่ ๑ การเขยี นส่วนประกอบของคำา

คาำ ชีแ้ จง
ใหน้ ักเรยี นเขยี นสว่ นประกอบของคาำ ท่กี าำ หนดให ้

ข้อที่ คำา สะกดคำา พยญั ชนะต้น สระ อา่ นว่า
ตัวอยา่ ง ตา สะกดวา่ ตอ อา ตา
๑. บา สะกดว่า
๒. ปา สะกดวา่
๓. ดี สะกดว่า
๔. ดู สะกดวา่
๕. ปี สะกดว่า
๖. บู สะกดวา่
๗. อา สะกดว่า
๘. ปู สะกดว่า
๙. อู สะกดว่า
๑๐. โบ สะกดว่า

คูม่ อื การสอนอา่ นเขยี น 105 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

เฉลยคาำ ตอบ

ขอ้ ที่ คำา สะกดคาำ พยัญชนะต้น สระ อา่ นว่า
๑. บา สะกดวา่ บอ อา บา
๒. ปา สะกดวา่ ปอ อา ปา
๓. ด ี สะกดว่า ดอ อี ด ี
๔. ด ู สะกดว่า ดอ อ ู ดู
๕. ปี สะกดวา่ ปอ อี ปี
๖. บ ู สะกดว่า บอ อ ู บ ู
๗. อา สะกดวา่ ออ อา อา
๘. ปู สะกดวา่ ปอ อ ู ปู
๙. อ ู สะกดวา่ ออ อ ู อู
๑๐. โบ สะกดวา่ บอ โอ โบ

คมู่ อื การสอนอ่านเขียน 106 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบบนั ทึกผลการเขียนส่วนประกอบคาำ

ขอ้ ท่ี ผลการ
รวม ประเมนิ
ท่ี ชื่อ -สกลุ
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ คะแนน* ไม่
ผ่าน ผา่ น

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพ่ือให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรับปรุงและพฒั นานักเรียน
๒. วธิ ีการบันทกึ ถ้าทำาถกู ตอ้ งใหใ้ ส่เครื่องหมาย √ ถา้ ทาำ ผดิ ให้ใส่เครอ่ื งหมาย X (เครอ่ื งหมาย √ เทา่ กบั

๑ คะแนน เครือ่ งหมาย X เท่ากับ ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรบั ปรุง และพัฒนานกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของช้ันเรียน

เพือ่ นาำ ไปใชใ้ นการปรับปรงุ และพัฒนาการจัดการเรียนการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนักเรยี นเขียนได้

คมู่ ือการสอนอ่านเขยี น 107 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบฝกึ ท่ี ๒ การอา่ นสะกดคำา

คาำ ชีแ้ จง

๑. ใหน้ ักเรียนอา่ นสะกดคำา ภายในเวลา ๑๐ นาที
๒. ครยู กตวั อยา่ งการอา่ นสะกดคาำ คาำ วา่ “ตี” กอ่ นจับเวลา

ตัวอย่าง การอ่านสะกดคาำ
ตี สะกดวา่ ตอ - อี ตี

๑. ด ู ๖. เบือ
๒. แบ ๗. โต
๓. จาำ ๘. เก
๔. ใจ ๙. บวั
๕. เจอ ๑๐. เปยี

คมู่ ือการสอนอา่ นเขียน 108 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

เฉลยคาำ ตอบ คาำ อา่ นสะกดคำา
ดู ดอ - อ ู ดู
ข้อที่ แบ บอ - แอ แบ
๑. จำา จอ - อาำ จาำ
๒. ใจ จอ - ไอ ใจ
๓. เจอ จอ - เออ เจอ
๔. เบือ บอ - เอือ เบือ
๕. โต ตอ - โอ โต
๖. เก กอ - เอ เก
๗. บวั บอ - อัว บัว
๘. เปีย ปอ - เอีย เปีย
๙.
๑๐.

คู่มอื การสอนอ่านเขียน 109 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แบบบนั ทึกผลการอ่านสะกดคำา

ข้อที่ ผลการ
รวม ประเมนิ
ท่ี ชอื่ -สกุล
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ คะแนน* ไม่
ผ่าน ผ่าน

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพื่อให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรับปรงุ และพฒั นานกั เรยี น
๒. วธิ กี ารบันทึก ถา้ อ่านถูกต้องให้ใส่เคร่อื งหมาย √ ถ้าอ่านผิดให้ใสเ่ คร่ืองหมาย X (เครือ่ งหมาย √ เท่ากับ

๑ คะแนน เครือ่ งหมาย X เท่ากับ ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรบั ปรงุ และพฒั นานกั เรยี นเปน็ รายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของชั้นเรียน

เพอื่ นาำ ไปใชใ้ นการปรับปรุงและพฒั นาการจดั การเรยี นการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีท่ีนักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนักเรยี นเขียนได้

คมู่ อื การสอนอ่านเขียน 110 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

สว่ นท่ี ๓ แนวทางการวัดและประเมนิ ผลประจำาหนว่ ย

ฉบบั ท่ี ๑ การอา่ นสะกดคาำ

คาำ ช้แี จง
๑. ให้นกั เรียนอา่ นสะกดคำา ๑๐ คาำ ภายในเวลา ๕ นาที
๒. ครยู กตวั อย่างการอ่านสะกดคาำ คาำ วา่ “มะล”ิ ก่อนจับเวลา

ตวั อย่างการอา่ นสะกดคาำ
มะล ิ สะกดวา่ มอ - อะ มะ ลอ - อิ ลิ มะลิ

๑. เมา ๖. ไพเราะ

๒. ศาลา ๗. ชมู อื

๓. เสาไฟ ๘. วิชา

๔. กำาไล ๙. ราชนิ ี

๕. หัวเราะ ๑๐. พิธี

คูม่ ือการสอนอา่ นเขียน 111 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

เฉลยคาำ ตอบ

ข้อ คาำ อ่านสะกดคำา
๑. มอ - เอา เมา
๒. เมา ศอ - อา สา ลอ - อา ลา ศาลา
๓. ศาลา สอ - เอา เสา ฟอ - ไอ ไฟ เสาไฟ
๔. เสาไฟ กอ - อำา กำา ลอ - ไอ ไล กำาไล
๕. กาำ ไล หอ - อัว หวั รอ - เอาะ เราะ หวั เราะ
๖. หวั เราะ พอ - ไอ ไพ รอ - เอาะ เราะ ไพเราะ
๗. ไพเราะ ชอ - อู ชู มอ - อือ มอื ชมู ือ
๘. ชมู ือ วอ - อ ิ ว ิ ชอ - อา ชา วชิ า
๙. วชิ า รอ - อา รา ชอ - อ ิ ช ิ นอ - อ ี น ี ราชนิ ี
๑๐. ราชนิ ี พอ - อิ - พิ ธอ - อี - ธ ี พธิ ี
พิธี

คมู่ อื การสอนอ่านเขียน 112 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบบนั ทึกผลการอ่านสะกดคำา

ข้อที่ ผลการ
รวม ประเมนิ
ท่ี ชอ่ื -สกุล
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ คะแนน* ไม่
ผ่าน ผ่าน

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพื่อให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรบั ปรุงและพฒั นานกั เรยี น
๒. วิธีการบนั ทึก ถ้าอา่ นถกู ตอ้ งให้ใส่เคร่อื งหมาย √ ถ้าอ่านผิดให้ใสเ่ คร่ืองหมาย X (เครือ่ งหมาย √ เท่ากับ

๑ คะแนน เครือ่ งหมาย X เทา่ กับ ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรับปรงุ และพฒั นานกั เรยี นเปน็ รายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของชั้นเรียน

เพือ่ นาำ ไปใช้ในการปรับปรงุ และพฒั นาการจดั การเรยี นการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีท่ีนักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนกั เรียนเขียนได้

คู่มือการสอนอ่านเขียน 113 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

ฉบบั ที่ ๒ การอ่านคำา

คาำ ชแ้ี จง
๑. ให้นักเรียนอา่ นออกเสยี งคำา ๒๐ คำา ภายในเวลา ๕ นาที
๒. ครูยกตวั อยา่ งการอา่ นคาำ คำาว่า “งอแง” กอ่ นจับเวลา

ตัวอย่าง งอแง อ่านว่า งอ - แง

๑. กำายาำ ๑๑. ไวไฟ

๒. โมโห ๑๒. ในนา

๓. ตวั โต ๑๓. ศาลา

๔. โยเย ๑๔. จาำ ใจ

๕. ดารา ๑๕. ดาำ ขาำ

๖. โซเซ ๑๖. นะคะ

๗. ดูดี ๑๗. ระยะ

๘. จอแจ ๑๘. งอมือ

๙. รปู ู ๑๙. ใบบวั

๑๐. สสู ี ๒๐. ลาำ นาำ

คู่มือการสอนอ่านเขียน 114 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

เฉลยคาำ ตอบ อ่านวา่

ข้อ คำา กาำ - ยาำ
๑. กำายำา โม - โห
๒. โมโห ตัว - โต
๓. ตวั โต โย - เย
๔. โยเย ดา - รา
๕. ดารา โซ - เซ
๖. โซเซ ด ู - ดี
๗. ดดู ี จอ - แจ
๘. จอแจ รู - ปู
๙. รปู ู ส ู - สี
๑๐. สสู ี ไว - ไฟ
๑๑. ไวไฟ ใน - นา
๑๒. ในนา สา - ลา
๑๓. ศาลา จำา - ใจ
๑๔. จาำ ใจ ดาำ - ขาำ
๑๕. ดาำ ขำา นะ - คะ
๑๖. นะคะ ระ - ยะ
๑๗. ระยะ งอ - มือ
๑๘. งอมือ ใบ - บัว
๑๙. ใบบวั ลาำ - นาำ
๒๐. ลาำ นาำ

คู่มือการสอนอ่านเขยี น 115 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบบันทึกผลการอา่ นคาำ

ขอ้ ท่ี ผลการ
รวม ประเมนิ
ที่ ชอ่ื -สกุล
๒๐ คะแนน* ไม่
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ผ่าน ผ่าน

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพื่อให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้ในการ

ปรับปรุงและพฒั นานกั เรียน
๒. วธิ ีการบนั ทึก ถ้าอ่านถูกตอ้ งใหใ้ ส่เครอ่ื งหมาย √ ถ้าอ่านผิดใหใ้ สเ่ ครื่องหมาย X (เครอ่ื งหมาย √ เทา่ กับ

๑ คะแนน เคร่ืองหมาย X เทา่ กบั ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรับปรุง และพัฒนานกั เรียนเปน็ รายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของชั้นเรียน

เพอ่ื นาำ ไปใช้ในการปรับปรงุ และพัฒนาการจดั การเรียนการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนกั เรียนเขียนได้

คมู่ อื การสอนอ่านเขยี น 116 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ฉบบั ที่ ๓ การเขียนคำา

คาำ ชแ้ี จง
๑. ใหน้ กั เรยี นเขียนตามคำาบอก ใช้เวลา ๒๐ นาที
๒. ครูอ่านคำาให้นักเรียนฟัง คำาละ ๒ ครั้ง โดยเว้นเวลาให้นักเรียนเขียน ก่อนบอกคำา
ในขอ้ ตอ่ ไป

ขอ้ ท่ี คำาทีเ่ ขยี น ขอ้ ท่ี คำาที่เขียน
๑ . ............................................................ .......................................................... ๑๑ . ...........................................................
๒ . ............................................................ .......................................................... ๑๒ . ...........................................................
๓ . ............................................................ .......................................................... ๑๓ . ...........................................................
๔ . ............................................................ .......................................................... ๑๔ . ...........................................................
๕ . ............................................................ .......................................................... ๑๕ . ...........................................................
๖ . ............................................................ .......................................................... ๑๖ . ...........................................................
๗ . ............................................................ .......................................................... ๑๗ . ...........................................................
๘ . ............................................................ .......................................................... ๑๘ . ...........................................................
๙ . ............................................................ .......................................................... ๑๙ . ...........................................................
๑๐ . ............................................................ .......................................................... ๒๐ . ...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................

คมู่ อื การสอนอ่านเขยี น 117 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

คำาที่กำาหนดใหเ้ ขยี น ๑๑. นาฬิกา
๑๒. ทำาเล
๑. กาแฟ ๑๓. ไถนา
๒. ระกำา ๑๔. ใบบวั
๓. กะท ิ ๑๕. ตัวโต
๔. เกเร ๑๖. ทายา
๕. เขา ๑๗. มะละกอ
๖. คอ ๑๘. มะเขือ
๗. ตำา ๑๙. มอื ถอื
๘. จำาป ี ๒๐. เวลา
๙. คำา
๑๐. ชะนี

คมู่ ือการสอนอ่านเขยี น 118 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบบันทึกผลการเขยี นคำา

ข้อที่ ผลการ
รวม ประเมิน
ที่ ชอื่ -สกลุ
๒๐ คะแนน* ไม่
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ผ่าน ผ่าน

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพ่ือให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรับปรุงและพัฒนานกั เรยี น
๒. วธิ ีการบันทึก ถ้าเขียนถกู ตอ้ งให้ใสเ่ ครอ่ื งหมาย √ ถ้าเขียนผดิ ให้ใส่เครอ่ื งหมาย X (เครอ่ื งหมาย √ เทา่ กับ

๑ คะแนน เครื่องหมาย X เท่ากับ ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรบั ปรุง และพฒั นานกั เรียนเป็นรายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของชั้นเรียน

เพื่อนำาไปใชใ้ นการปรบั ปรุงและพัฒนาการจดั การเรยี นการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนักเรยี นเขียนได้

คมู่ อื การสอนอา่ นเขียน 119 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ตวั อย่างสรุปผลการประเมนิ การแจกลูกสะกดคำาในแม่ ก กา

ผลการประเมนิ รวม สรุปผลการประเมิน

ท่ี ชื่อ - สกุล ฉบบั ท่ี ๑ ฉบบั ท่ี ๒ ฉบบั ที่ ๓ คะแนน ผ่าน ไมผ่ า่ น
(๑๐ คะแนน) (๒๐ คะแนน) (๒๐ คะแนน) (๕๐ คะแนน)

หมายเหตุ
๑. ถา้ รวมคะแนนไดร้ ้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไป และคะแนนรายแบบประเมินได้ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป ทกุ แบบประเมิน

ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
๒. ถ้ารวมคะแนนได้ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป แต่คะแนนรายแบบประเมินบางแบบประเมินได้ไม่ถึงร้อยละ ๘๐

ถือว่าผ่านเกณฑ์ แตใ่ ห้ซ่อมเสรมิ สว่ นทไ่ี ม่ถงึ รอ้ ยละ ๘๐
๓. ถ้ารวมคะแนนได้ไม่ถึงร้อยละ ๘๐ ถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์ให้สอนซ่อมเสริม ในกรณีท่ีนักเรียนได้คะแนน

บางแบบประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป ไมต่ อ้ งซอ่ มเสรมิ สว่ นนัน้

คมู่ ือการสอนอ่านเขียน 120 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

หนว่ ยที่ ๕ การผันวรรณยุกต์ในแม่ ก กา

ส่วนที่ ๑ ความร้สู าำ หรับครู

การสอนผันวรรณยุกตค์ ำาในแม่ ก กา ครูควรมีความรูค้ วามเข้าใจในสว่ นทเี่ ป็นเนื้อหาสาระ
และแนวคิดพ้นื ฐานที่เกย่ี วข้องทสี่ าำ คัญ เพื่อเช่ือมโยงสู่การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ดงั น ี้

๑. การผนั วรรณยกุ ต์ คอื การเปลยี่ นระดบั เสยี งสงู ตา่ำ ของพยางคต์ ามรปู วรรณยกุ ตท์ กี่ ำากบั อยู่
๒. รปู และเสียงวรรณยกุ ต์
รปู วรรณยกุ ต์ มี ๔ รปู คือ -่ (ไมเ้ อก) - ้ (ไม้โท) - ๊ (ไมต้ รี) -๋ (ไมจ้ ตั วา)
เสียงวรรณยกุ ต ์ มี ๕ เสยี ง คอื สามญั เอก โท ตร ี และจตั วา ทกุ พยางคม์ เี สียงวรรณยกุ ต์
แมว้ า่ จะไมม่ ีรูปวรรณยกุ ตก์ ำากบั กต็ าม เชน่

กา มีเสียงวรรณยุกต์สามญั
จะ มเี สยี งวรรณยุกตเ์ อก
คาด มเี สยี งวรรณยกุ ต์โท
คัด มีเสียงวรรณยุกตต์ รี
หา มีเสียงวรรณยกุ ต์จตั วา

๓. ระดับเสียงของคำา พยางค์และคาำ ในภาษาไทยมีเสียงวรรณยุกต์แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับ
พยัญชนะตน้ ตามไตรยางศ ์ ลักษณะของพยางค์ทเี่ ป็นคาำ เป็น หรือคาำ ตาย
คาำ เป็น หมายถงึ คำาที่มีเสียงพยัญชนะท้ายหรือตัวสะกดในแม ่ กง กน กม เกย
หรอื เกอว และคาำ ที่ประสมสระเสียงยาวไมม่ ตี ัวสะกด
คาำ ตาย หมายถึง คาำ ทีม่ ีเสียงพยัญชนะท้ายหรือตัวสะกดในแม ่ กก กด หรือ กบ
และคาำ ท่ปี ระสมสระเสียงส้นั ไมม่ ีตัวสะกด

คู่มอื การสอนอ่านเขยี น 121 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

๔. ไตรยางศ์ แบง่ พยญั ชนะออกเปน็ ๓ พวก ดังน้ี

อักษรกลาง คอื ตัวพยญั ชนะท่มี พี ื้นเสียงเป็นเสียงสามญั ม ี ๙ ตัว ไดแ้ ก่
ก จ ฎ ฏ ด ต บ ป อ
อกั ษรสูง คอื ตวั พยญั ชนะท่ีมพี ้ืนเสยี งเป็นเสยี งจัตวา ม ี ๑๑ ตวั ได้แก่
ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ษ ส ห
อักษรต่าำ คือ ตวั พยญั ชนะทมี่ พี น้ื เสียงเปน็ เสยี งสามญั มี ๒๔ ตัว ได้แก่
ค ฅ ฆ ง ช ซ ฌ ญ ฑ ฒ ณ ท
ธ น พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ฬ ฮ

อักษรตำ่า แบง่ เป็น อกั ษรต่ำาคู่ กับ อกั ษรต่าำ เด่ยี ว
อกั ษรต่ำาคู่ คอื อกั ษรต่าำ ท่ีมีเสยี งคูก่ ับอกั ษรสงู ๑๔ ตัว ไดแ้ ก่

อกั ษรตาำ่ อกั ษรสูง

ค ฅ ฆ ข ฃ

ช ฌ ฉ

ซ ศ ษ ส

ฑ ฒ ท ธ ฐ ถ

พ ภ ผ

ฟ ฝ

ฮ ห

อักษรต่ำาเด่ียว คือ อักษรต่ำาท่ีไม่มีเสียงคู่กับอักษรสูง มี ๑๐ ตัว ได้แก่ ง ญ ณ น ม ย
ร ล ว ฬ
ท้ังน้ี อักษรตำ่าเด่ียวที่สามารถใช ้ ห นาำ เป็นพยญั ชนะต้นได้ ๘ ตวั คือ หง หญ หน หม หย
หร หล หว ผันเสยี งวรรณยกุ ต์เช่นเดียวกับอกั ษรสูง

คมู่ อื การสอนอา่ นเขียน 122 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

๕. การผันวรรณยกุ ตค์ ำาเปน็ และคาำ ตาย เสยี งวรรณยกุ ต์ของคำาเปน็ และคาำ ตายมีดังนี้

ตารางการผนั วรรณยุกต์

ลกั ษณะพยางค์/คาำ สามัญ เสยี งวรรณยุกต์ จัตวา
กา เอก โท ตรี ก๋า
อกั ษรกลาง คาำ เปน็ จี กา่ ก้า ก๊า จ๋ี
พ้นื เสยี งเป็นเสียงสามญั ป ู จ่ ี จ ้ี จ๊ี ปู๋
ผันได ้ ๕ เสียง - ป ู ป ู้ ปู๊
- -
อักษรกลาง คาำ ตาย - จะ จะ้ จ๊ะ -
พืน้ เสียงเปน็ เสยี งเอก ติ ต ้ิ ต ิ๊ -
ผนั ได ้ ๓ เสียง - อุ อ ุ้ อ๊ ุ
- ขา
อกั ษรสงู คำาเปน็ - ขา่ ขา้ - โห
พืน้ เสยี งเปน็ เสยี งจตั วา โห ่ โห ้ - แส
ผนั ได ้ ๓ เสยี ง - แส่ แส้ -
- -
อกั ษรสูง คำาตาย ขะ ข้ะ - -
พื้นเสียงเปน็ เสียงเอก คา ผ ุ ผ้ ุ -
ผนั ได ้ ๒ เสยี ง รอ
ง ู - คา่ คา้ -
อกั ษรต่ำา คำาเปน็ - รอ่ รอ้ -
พื้นเสียงเปน็ เสียงสามญั - - ง ู่ งู้ -
ผันได ้ ๓ เสียง -
- คะ่ คะ -
อกั ษรตา่ำ คาำ ตาย สระเสียงสนั้ คา - นะ่ นะ -
พ้นื เสียงเป็นเสยี งตรี โซ
ผันได ้ ๒ เสยี ง ที ข่า ค่า/ข้า ค้า ขา
โส่ โซ/่ โส ้ โซ้ โส
อักษรตำ่าและอักษรสงู ถ ี่ ท่/ี ถี้ ท ้ี ถี
ที่เป็นอกั ษรคกู่ ัน และเป็นคำาเปน็
สามารถผนั ไดค้ รบ ๕ เสยี ง

คมู่ อื การสอนอา่ นเขียน 123 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

สว่ นที่ ๒ แนวทางการจดั การเรยี นรู้

การสอนผนั วรรณยกุ ตค์ ำาในแม่ ก กา มีขน้ั ตอนการจดั การเรยี นรู้ ดงั นี้

ขัน้ ที่ ๑ สอนให้รู้จักรูปและเสียงวรรณยุกต์ โดยทบทวนรูปและเสียงวรรณยุกต์
ดว้ ยบัตรภาพ บัตรคำา หรอื เขยี นรปู บนกระดานกไ็ ด้

รูปวรรณยุกต์ ม ี ๔ รปู คอื - ่ ไมเ้ อก
-้ ไมโ้ ท
-๊ ไมต้ รี
-๋ ไมจ้ ัตวา
เสยี งวรรณยกุ ต์ม ี ๕ เสียง คอื เสียงสามัญ
เสียงเอก
เสยี งโท
เสยี งตรี
เสียงจัตวา

ขนั้ ที่ ๒ สอนผันวรรณยุกต์ คำาที่มีพยัญชนะต้นเป็น อักษรกลาง ๗ ตัว ก่อน คือ ก จ
ด ต บ ป อ และประสมด้วยสระเสยี งยาว โดยสอนแบบอ่านสะกดคาำ ก่อน เช่น

ก - า (กอ - อา กา)

กา - -่ - กา่ (กา - เอก กา่ )

กา - - ้ - ก้า (กา - โท ก้า)

กา - - ๊ - ก๊า (กา - ตร ี กา๊ )

กา - - ๋ - กา๋ (กา - จตั วา ก๋า)

คูม่ ือการสอนอา่ นเขยี น 124 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

จากนั้นจึงสอนใหผ้ นั เสยี งแบบแจกลกู โดยยึดพยญั ชนะตน้ และสระเป็นแม่ แจกใหล้ กู ท่เี ปน็
วรรณยุกต์ตามลำาดับ โดยครูออกเสียงอ่านนำา แล้วให้นักเรียนอ่านออกเสียงตามครูช้า ๆ ออกเสียง
พร้อมกนั เปน็ กลมุ่ และออกเสยี งเปน็ รายคน ออกเสียงใหช้ ดั เจน แล้วฝกึ ซา้ำ ๆ เพื่อใหเ้ กิดความแมน่ ยำา
เชน่

กา - ก่า - ก้า - กา๊ - ก๋า
จี - จ่ี - จี้ - จ ี๊ - จี๋
ด ู - ด ู่ - ด ู้ - ดู๊ - ดู๋

ขั้นท่ี ๓ เมื่อนักเรียนผันเสียงวรรณยุกต์คำาที่มีพยัญชนะต้นเป็นอักษรกลาง ประสมด้วย

สระเสียงยาวได้คล่องแล้ว จึงสอนผันวรรณยุกต์คำาที่มีพยัญชนะต้นเป็นอักษรต่ำาและอักษรสูง
ประสมด้วยสระเสียงยาว เป็นลาำ ดับถัดมา โดยสอนแบบอ่านสะกดคาำ ก่อน (ยังไม่ต้องสอนพยัญชนะ
ท่ีไม่มีรูปวรรณยกุ ต์ปรากฏในคาำ ทีส่ ะกดโดยใช้พยญั ชนะเหล่านีเ้ ป็นพยญั ชนะตน้ ได้ เชน่ ฐ ฑ ฒ ฎ ฏ
ณ ฬ) เช่น
ม - า มา (มอ - อา มา)
มา - -่ มา่ (มา - เอก มา่ )
มา - -้ ม้า (มา - โท มา้ )

จากนนั้ จึงสอนให้ผนั เสยี งแบบแจกลูก เช่น
มา ม่า ม้า
น ี นี่ น้ี
ขา ขา่ ขา้
สือ สอ่ื สือ้
ครูออกเสียงอ่านนำา แล้วให้นักเรียนอ่านออกเสียงตามช้า ๆ ออกเสียงพร้อมกัน
เป็นกลุ่ม และออกเสียงเป็นรายคน ออกเสียงให้ชัดเจน และฝึกซำ้า ๆ เพื่อให้เกิดความแม่นยำา ท้ังนี้
ควรเลอื กคาำ ทม่ี ีความหมาย และไมเ่ ปน็ คาำ หยาบคายมาใหน้ กั เรยี นฝกึ อา่ นสะกดคาำ

คูม่ ือการสอนอา่ นเขยี น 125 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

การสอนผันเสียงวรรณยุกต์ในระดับน้ี ยังไม่ต้องนำาคำาตายมาผันเสียงวรรณยุกต์ เน่ืองจาก
เมอ่ื ใส่รูปวรรณยกุ ต์แล้ว มักเปน็ คำาทีไ่ มม่ คี วามหมาย

ขอ้ เสนอแนะ

๑. ครูต้องฝึกให้นักเรียนเห็นรูป ให้อ่านออกเสียง เขียนรูปคำา และฝึกแต่งประโยค
ไปพรอ้ ม ๆ กัน เพอื่ ให้นักเรียนสามารถอา่ นออกเขยี นได้อย่างแมน่ ยำา
๒. กรณีที่เด็กยังไม่สามารถอ่านหรือผันเสียงวรรณยุกต์ได้ ให้เร่ิมต้นอ่านแบบสะกดคำา
จนแม่นยำา แล้วจึงคอ่ ยให้อ่านผันเสียงซ้ำาหลาย ๆ ครัง้ เพื่อให้เกิดความแมน่ ยำา

คมู่ อื การสอนอ่านเขียน 126 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ตัวอย่างการนาำ แนวทางการจัดการเรยี นรู้ไปใชใ้ นหอ้ งเรียน
หนว่ ยที่ ๕ การผนั วรรณยกุ ตค์ ำาในแม่ ก กา

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ของหนว่ ย (๓ ช่วั โมง)
เพอื่ ให้นักเรียนอ่านและเขยี นคำาที่ผันวรรณยกุ ต์ในแม่ ก กา ได้ (๑ ชัว่ โมง)
(๑ ชั่วโมง)
แนวทางการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๑ (๑ ชว่ั โมง)
การผนั วรรณยกุ ต์คาำ เพ่อื อ่านและเขยี น:
พยัญชนะตน้ อกั ษรกลาง สระเสยี งยาว

แนวทางการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๒
การผนั วรรณยุกตค์ ำาเพื่ออ่านและเขียน:
พยญั ชนะตน้ อักษรตำา่ สระเสยี งยาว

แนวทางการจัดการเรียนรู้ท่ี ๓
การผนั วรรณยุกตค์ ำาเพือ่ อา่ นและเขยี น:
พยญั ชนะตน้ อกั ษรสงู สระเสยี งยาว

แนวทางการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๑ การผนั วรรณยกุ ตค์ าำ เพือ่ อ่านและเขียน:
พยญั ชนะตน้ อักษรกลาง สระเสียงยาว (๑ ชัว่ โมง)

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

๑. เพ่อื ใหน้ กั เรียนอ่านคำาที่ผันวรรณยกุ ตใ์ นแม่ ก กา อกั ษรกลาง สระเสียงยาว ได้
๒. เพ่ือใหน้ กั เรียนเขยี นคาำ ทผี่ นั วรรณยุกต์ในแม่ ก กา อกั ษรกลาง สระเสยี งยาว ได้

ค่มู ือการสอนอ่านเขียน 127 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้

๑. ขั้นนาำ
ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกับพยัญชนะไทย ทั้ง ๔๔ ตัว จากแผนภูมิพยัญชนะไทย
โดยให้นักเรียนอ่านออกเสียงพยัญชนะพร้อมกัน จากน้ันครูอธิบายว่าพยัญชนะไทยท้ัง ๔๔ ตัวนี้
แบ่งเปน็ ๓ กลุม่ ไดแ้ ก ่ อกั ษรกลาง อักษรสูง และอักษรตำา่ จากนน้ั ทบทวนอกั ษร ๓ หมู่ ดงั น้ี

อักษรกลาง คือ ตวั พยัญชนะที่มพี ื้นเสียงเปน็ เสยี งสามัญ ม ี ๙ ตัว ไดแ้ ก่

ก จ ฎ ฏ ด ต บ ป อ

อักษรสูง คือ ตัวพยัญชนะที่มพี นื้ เสยี งเปน็ เสยี งจตั วา ม ี ๑๑ ตัว ได้แก่

ข (ฃ) ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ษ ส ห

อกั ษรตำ่า คือ ตวั พยัญชนะที่มีพ้นื เสยี งเปน็ เสียงสามัญ มี ๒๔ ตวั ไดแ้ ก่

ค (ฅ) ฆ ง ช ซ ฌ ญ ฑ ฒ ณ ท

ธ น พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ฬ ฮ

(อธิบายว่า (ฃ) และ (ฅ) ไม่มีใช้แลว้ ในปจั จุบัน)

๒. ขน้ั สอน

๒.๑ ครูให้นักเรียนออกเสียงกลุ่มพยัญชนะอักษรกลาง ได้แก่ ก จ ด ต บ ป อ
แลว้ อธบิ ายใหเ้ ห็นว่า เป็นพยัญชนะที่มรี ะดบั เสียงเดียวกนั (ในภาษาไทย ไม่มคี ำาทใ่ี ชอ้ กั ษร ฎ และ ฏ
เปน็ พยัญชนะตน้ แลว้ มรี ปู วรรณยกุ ต์ปรากฏ จงึ ไมต่ อ้ งนำามาสอนในชั่วโมงนี)้ ครสู ามารถให้นกั เรียน
ฝึกออกเสยี ง ก จ ด ต บ ป อ โดยอาจใหท้ ่องว่า ไก่ (ก) จิก (จ) เดก็ (ด) ตก (ต) บน (บ) ปาก (ป)
โอ่ง (อ) เพ่อื ให้จดจำาได้ง่าย
๒.๒ ครูทบทวนการสะกดคำาเพื่ออ่านและเขียนคำาใน แม่ ก กา พร้อมอธิบาย
ลักษณะของคำาด้วย ว่าเป็นคำาที่ประสมด้วยพยัญชนะต้นและสระ โดยไม่มีตัวสะกด เช่น กา มี ปู
เปน็ ตน้ จากนัน้ ใหน้ กั เรียนฝึกอ่านแจกลูกสะกดคำา แม ่ ก กา จากแผนผังดังนี้ ทลี ะชดุ

คู่มือการสอนอ่านเขยี น 128 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

ชุดที่ ๑ แจกลูกสระอา ชดุ ท่ี ๑ แจกลกู สระอี ชุดท่ี ๑ แจกลูกสระโอ ชดุ ท่ี ๑ แจกลกู สระ อู

กา กี โก กู
จู
จา จ ี โจ ดู
ตู
ดา ด ี โด บู
ปู
–า ตา –ี ต ี โ– โต –ู อู

บา บี โบ

ปา ปี โป

อา อ ี โอ

แผนภมู ิการแจกลกู แม่ ก กา อักษรกลาง

๒.๓ ครูทบทวนเรอื่ งรปู และเสยี งวรรณยกุ ต์ โดยใช้ตารางแสดงรูปและเสียงวรรณยุกต์
ดังน้ี

รูปวรรณยกุ ต์ เสยี งวรรณยกุ ต์

สามัญ

-่ เอก

- ้ โท

-๊ ตรี

- ๋ จัตวา

คมู่ อื การสอนอ่านเขียน 129 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

๒.๔ ครูเลือกคำาจากชุดคำาในข้อ ๒.๒ มาเขียนบนกระดานดำา แล้วเติมรูปวรรณยุกต์
ใหค้ รบ ตัวอยา่ งเช่น

กา ก่า กา้ กา๊ ก๋า

แล้วให้นักเรียนอ่านสะกดคำา โดยครูออกเสียงอ่านนำา และนักเรียนอ่านตาม
ทีละคาำ ดังน้ี
กา สะกดว่า กอ - อา กา
ก่า สะกดว่า กา - เอก ก่า
ก้า สะกดวา่ กา - โท ก้า
กา๊ สะกดวา่ กา - ตรี กา๊
ก๋า สะกดว่า กา - จัตวา กา๋
จากน้นั ใหอ้ า่ นผันวรรณยกุ ต์คาำ ดังนี้

กา ก่า ก้า กา๊ ก๋า

ครูให้นักเรียนอ่านพร้อมกันท้ังช้ัน เป็นรายกลุ่ม หรือรายบุคคล เมื่อนักเรียน
อ่านผนั ไดถ้ ูกตอ้ งแลว้ ครกู ็เปล่ียนชดุ คาำ อืน่ ๆ ตามที่เห็นสมควร และฝึกแบบเดียวกันอีกหลาย ๆ ครั้ง

คูม่ ือการสอนอา่ นเขียน 130 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

๒.๕ นักเรียนฝึกการผันวรรณยุกต์ ตามแบบฝึกท ี่ ๑ และให้นักเรียนฝึกอ่านสะกดคาำ
ทีละคาำ จนครบทุกคำา
๒.๖ นักเรียนอ่านบทอ่านจากคำาคล้องจอง ป้า ปู เป่า ป่ี โดยให้นักเรียนปรบมือ
หรือเคาะจงั หวะประกอบการอา่ นด้วยเพ่ือให้เกิดความสนกุ และจำาได้

ป้า ปู เป่า ปี่ ตา ดี ดู เต่า
เก้า อี้ ตัว เก่า ปา เปา้ เก้า กอ

(ครูอาจเลือกบทอ่านจากแบบเรียนหรือสอ่ื อ่ืน ๆ ท่ีสอดคลอ้ งกบั เร่อื งท่ีเรียนแทนก็ได้)
๒.๗ นักเรียนเลือกคำาจากบทอ่านมาเขียนผันวรรณยุกต์ลงในตาราง พร้อมวงกลม
รอบคำาที่เลอื ก จาำ นวน ๕ คำา
๒.๘ เล่นเกมจับคู่คำากับรูปวรรณยุกต์ โดยแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่ม ๓ - ๔ คน
ครแู จกบตั รคำาแม่ ก กา อกั ษรกลาง เสียงยาว แล้วใหน้ ักเรียนอา่ นบตั รคาำ ตามคร ู

ตวั อยา่ งบัตรคำา

เกา่ แก่ ดูดี อูอ้ ้ี จู๋จี๋ เจา้ จอ

ใบบัว บา้ ใบ้ ไก่ป่า อ๋ีออ๋ ใต้ตู้

๒.๙ ครูทบทวนเร่ืองพยัญชนะต้นและสระเสียงยาว แล้วให้นักเรียนทำาแบบฝึกท่ี ๒
พรอ้ มอา่ นให้เพ่อื นและครฟู ัง

คู่มือการสอนอ่านเขียน 131 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

๓. ขนั้ สรุป
ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ วา่ อกั ษรกลางเมอ่ื ประสมกบั สระเสยี งยาวจะมเี สยี งเปน็ เสยี ง
สามัญสามารถผนั วรรณยุกต์ได ้ ๕ เสยี ง ไดแ้ ก่ เสียงสามญั เสียงเอก เสยี งโท เสียงตร ี และเสยี งจตั วา
โดยเสียงและรปู วรรณยกุ ตต์ รงกัน

สื่อการสอน

๑. แผนภมู กิ ารแจกลูกแม ่ ก กา อักษรกลาง
๒. ตารางแสดงรปู และเสียงวรรณยุกต์
๓. ตารางผันวรรณยุกต์คำา
๔. บทอา่ นคาำ คลอ้ งจอง ปา้ ปู เป่า ปี่
๕. แบบฝึก

การวัดและประเมินผล

การตรวจแบบฝึก

คู่มอื การสอนอ่านเขยี น 132 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบฝึกที่ ๑ การผันคำาท่ีมพี ยัญชนะตน้ อกั ษรกลาง สระเสียงยาว

คาำ ช้ีแจง
ใหน้ ักเรยี นผันวรรณยกุ ตค์ ำาทก่ี าำ หนด

ขอ้ ที่ คาำ สามัญ เอก โท ตรี จัตวา
-่ -้ - -

ตัวอยา่ ง กา กา กา่ กา้ ก๊า ก๋า

๑. จา

๒. ป ี

๓. โต

๔. โอ

๕. ปู

๖. อา

๗. ด ู

๘. โบ

๙. จอ

๑๐. เกา

คู่มือการสอนอ่านเขียน 133 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

เฉลยคาำ ตอบ

ขอ้ ท่ี คำา สามญั เอก โท ตรี จัตวา
-่ -้ - -

๑. จา จา จา่ จ้า จา๊ จ๋า

๒. ปี ปี ป ่ี ป้ี ปี๊ ปี๋

๓. โต โต โต่ โต ้ โต ๊ โต๋

๔. โอ โอ โอ ่ โอ ้ โอ ๊ โอ๋

๕. ป ู ปู ปู่ ปู ้ ป ู๊ ปู๋

๖. อา อา อา่ อ้า อ๊า อ๋า

๗. ด ู ด ู ดู่ ดู ้ ดู ๊ ดู๋

๘. โบ โบ โบ ่ โบ้ โบ๊ โบ๋

๙. จอ จอ จ่อ จอ้ จ๊อ จอ๋

๑๐. เกา เกา เก่า เก้า เกา๊ เก๋า

คู่มอื การสอนอ่านเขียน 134 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบบันทึกผลการผนั คาำ ท่มี พี ยัญชนะตน้ อักษรกลาง สระเสยี งยาว

ขอ้ ท่ี ผลการ
รวม ประเมนิ
ที่ ชอ่ื -สกุล
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ คะแนน* ไม่
ผ่าน ผา่ น

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพื่อให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรบั ปรงุ และพฒั นานักเรียน
๒. วิธีการบันทึก ถา้ ทำาถูกตอ้ งให้ใส่เคร่อื งหมาย √ ถ้าทาำ ผดิ ให้ใส่เครือ่ งหมาย X (เครอ่ื งหมาย √ เทา่ กบั

๑ คะแนน เครือ่ งหมาย X เท่ากับ ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรบั ปรงุ และพัฒนานกั เรียนเปน็ รายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของช้ันเรียน

เพอื่ นาำ ไปใชใ้ นการปรบั ปรงุ และพัฒนาการจัดการเรยี นการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีท่ีนักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนักเรียนเขียนได้

คู่มอื การสอนอา่ นเขียน 135 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แบบฝกึ ที่ ๒ การอ่านสะกดคำา

คาำ ช้แี จง
๑. ใหน้ กั เรยี นอา่ นสะกดคำาทกี่ าำ หนดให้ ภายในเวลา ๕ นาที
๒. ครูยกตวั อย่างการอ่านสะกดคาำ ว่า “ใบ”้ กอ่ นจับเวลา

ตวั อย่าง การอ่านสะกดคำา

ใบ ้ สะกดวา่ บอ - ไอ - ใบ - ใบ - โท ใบ้ หรอื
บอ - ไอ - ใบ - ใบ - ไม้โท ใบ้

๑. ป๊า ๖. โอ้
๒. จ๋า ๗. ปู่
๓. ดี๋ ๘. โบ๋
๔. ป่ ี ๙. เก่า
๕. โต๋ ๑๐. ไต่

คู่มอื การสอนอ่านเขียน 136 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

เฉลยคาำ ตอบ

ขอ้ ท่ี คำา อา่ นสะกดคำา ป๊า
ป๊า
๑. ปา๊ ปอ - อา - ปา - ปา - ตรี
หรอื
ปอ - อา - ปา - ปา - ไมต้ ร ี

๒. จา๋ จอ - อา - จา - จา - จัตวา จ๋า
หรือ จา๋
จอ - อา - จา - จา - ไมจ้ ัตวา

๓. ด๋ ี ดอ - อ ี - ดี - ดี - จตั วา ดี๋
หรอื ดี๋
ดอ - อ ี - ดี - ดี - ไมจ้ ตั วา

๔. ป ่ี ปอ - อ ี - ปี - ป ี - เอก ป่ี
หรือ ปี่
ปอ - อ ี - ปี - ป ี - ไมเ้ อก

๕. โต ๋ ตอ - โอ - โต - โต - จัตวา โต๋
หรือ โต๋
ตอ - โอ - โต - โต - ไม้จตั วา

๖. โอ ้ ออ - โอ - โอ - โอ - โท โอ้
หรอื โอ ้
ออ - โอ - โอ - โอ - ไม้โท

๗. ป่ ู ปอ - อ ู - ปู - ป ู - เอก ปู่
หรอื ป ู่
ปอ - อ ู - ปู - ป ู - ไมเ้ อก

คมู่ อื การสอนอ่านเขยี น 137 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

ขอ้ ที่ คาำ อ่านสะกดคำา
๘. โบ๋
บอ - โอ - โบ - โบ - จัตวา โบ๋
หรอื โบ๋
บอ - โอ - โบ - โบ - ไม้จัตวา
๙. เกา่
กอ - เอา - เกา - เกา - เอก เกา่
หรอื เก่า
กอ - เอา - เกา - เกา - ไม้เอก
๑๐. ไต ่
ตอ - ไอ - ไต - ไต - เอก ไต่
หรือ ไต่
ตอ - ไอ - ไต - ไต - ไมเ้ อก

คู่มือการสอนอ่านเขยี น 138 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แบบบนั ทึกผลการอ่านสะกดคำา

ข้อท่ี ผลการ
รวม ประเมิน
ที่ ชื่อ -สกลุ
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ คะแนน* ไม่
ผ่าน ผ่าน

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพื่อให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรบั ปรุงและพฒั นานักเรยี น
๒. วธิ กี ารบนั ทึก ถ้าอา่ นถูกต้องใหใ้ สเ่ คร่ืองหมาย √ ถ้าอ่านผดิ ใหใ้ ส่เครอ่ื งหมาย X (เครือ่ งหมาย √ เทา่ กบั

๑ คะแนน เครือ่ งหมาย X เทา่ กับ ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรบั ปรงุ และพฒั นานักเรยี นเปน็ รายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของชั้นเรียน

เพอ่ื นาำ ไปใชใ้ นการปรับปรงุ และพัฒนาการจดั การเรียนการสอน
๕. นักเรยี นตอ้ งได้คะแนนรอ้ ยละ ๘๐ ข้ึนไป จงึ จะผา่ นเกณฑ ์ กรณีท่ีนกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑ ์ ครตู ้องฝึกจน

นักเรยี นเขียนได้

คมู่ ือการสอนอา่ นเขยี น 139 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

สว่ นที่ ๓ แนวทางการวดั และประเมินผลประจำาหนว่ ย

ฉบบั ที่ ๑ การอา่ นคำา

คาำ ชีแ้ จง
๑. ให้นกั เรยี นอ่านคำาทกี่ ำาหนดให ้ ภายในเวลา ๕ นาที
๒. ครูยกตัวอยา่ งการอา่ นคาำ วา่ “แม่นำ้า” กอ่ นจับเวลา

ตวั อยา่ งการอ่านคาำ
แมน่ าำ้ อ่านว่า แม ่ - นาำ้

๑. ไก่แจ้ ๙. ผีเส้อื
๒. จาำ ปี ๑๐. เผ่อื แผ่
๓. อจี ู้ ๑๑. เฮฮา
๔. ปจู่ า๋ ๑๒. ที่น่ี
๕. โอ่อา่ ๑๓. ไฟฟา้
๖. ซูซ่ า่ ๑๔. พ่อแม่
๗. ขาเป๋ ๑๕. ไม้เท้า
๘. เห่า

คู่มือการสอนอ่านเขียน 140 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

เฉลยคาำ ตอบ

ข้อ คำา อา่ นวา่
๑. ไกแ่ จ ้
๒. จำาปี ไก ่ - แจ้
๓. อีจู้ จาำ - ปี
๔. ปจู่ า๋ อี - จู้
๕. โอ่อ่า ปู่ - จ๋า
๖. ซ่ซู ่า โอ่ - อา่
๗. ขาเป๋ ซู่ - ซา่
๘. เหา่ ขา - เป๋
๙. ผีเส้ือ เหา่
๑๐. เผอื่ แผ ่ ผ ี - เสอ้ื
๑๑. เฮฮา เผอื่ - แผ่
๑๒. ทนี่ ี่ เฮ - ฮา
๑๓. ไฟฟ้า ท่ี - น่ี
๑๔. พ่อแม ่ ไฟ - ฟา้
๑๕. ไม้เท้า พ่อ - แม่
ไม้ - เทา้

คู่มือการสอนอ่านเขยี น 141 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

แบบบนั ทกึ ผลการอา่ นคาำ

ขอ้ ที่ ผลการ
รวม ประเมิน
ที่ ชอื่ -สกุล
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ คะแนน* ผ่าน ไม่
ผ่าน

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพื่อให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรบั ปรงุ และพฒั นานกั เรยี น
๒. วิธีการบนั ทึก ถ้าอ่านถกู ตอ้ งใหใ้ สเ่ ครื่องหมาย √ ถา้ อา่ นผดิ ใหใ้ ส่เครื่องหมาย X (เครื่องหมาย √ เทา่ กบั

๑ คะแนน เครื่องหมาย X เท่ากับ ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรบั ปรุง และพฒั นานกั เรยี นเป็นรายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพ่ือประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของชั้นเรียน

เพอื่ นาำ ไปใช้ในการปรับปรงุ และพัฒนาการจัดการเรยี นการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนักเรียนเขยี นได้

คู่มอื การสอนอ่านเขียน 142 โดยการแจกลูกสะกดคาำ

ฉบบั ที่ ๒ เขยี นตามคาำ บอก

คาำ ช้แี จง

๑. ใหน้ ักเรียนเขยี นตามทีค่ รูบอก โดยใช้เวลาในการเขยี น ๕ นาท ี
๒. ครูอ่านคำาให้นักเรียนฟังทีละคาำ คำาละ ๒ ครั้ง โดยเว้นเวลาให้นักเรียนเขียนก่อนบอก
คาำ ในข้อต่อไป

คำาทกี่ ำาหนดให้เขียน ๙. ใสเ่ สือ้
๑. ใจดี ๑๐. ฉฉู่ ่ี
๒. ตาบัว ๑๑. ในนา
๓. เก่าแก่ ๑๒. ทา่ นำา้
๔. เปา่ ป่ี ๑๓. แมค่ า้
๕. เกา้ อ้ี ๑๔. เร่ยี ไร
๖. ถ้ำา ๑๕. ลา่ ช้า
๗. ไฝฝ้า
๘. หาเหา

คู่มอื การสอนอ่านเขียน 143 โดยการแจกลกู สะกดคาำ

แบบบนั ทกึ ผลการเขยี นตามคาำ บอก

ข้อท่ี ผลการ
รวม ประเมนิ
ท่ี ชอ่ื -สกุล
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ คะแนน* ผา่ น ไม่
ผา่ น

คะแนนรวม**

หมายเหตุ
๑. ให้บันทึกคะแนนของนักเรียนเป็นรายข้อ เพื่อให้รู้ว่านักเรียนมีข้อบกพร่องใด สำาหรับนำาไปใช้

ในการปรับปรุงและพัฒนานักเรียน
๒. วธิ กี ารบันทึก ถ้าเขียนถูกตอ้ งใหใ้ สเ่ คร่อื งหมาย √ ถ้าเขียนผดิ ใหใ้ ส่เคร่ืองหมาย X (เครื่องหมาย √ เท่ากับ

๑ คะแนน เครื่องหมาย X เท่ากับ ๐ คะแนน)
๓. ใช้ รวมคะแนน* เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล และนำาไปใช้

ในการปรบั ปรุง และพัฒนานักเรยี นเป็นรายบุคคล
๔. ใช้ คะแนนรวม** เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าข้อบกพร่องของนักเรียนในภาพรวมของช้ันเรียน

เพื่อนำาไปใชใ้ นการปรับปรงุ และพฒั นาการจดั การเรยี นการสอน
๕. นักเรียนต้องได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป จึงจะผ่านเกณฑ์ กรณีท่ีนักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ครูต้องฝึก

จนนักเรียนเขยี นได้

คมู่ อื การสอนอ่านเขียน 144 โดยการแจกลกู สะกดคาำ