The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ต้านทุจริต-ม.3 (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by beerlovely2517, 2019-09-07 02:22:24

ต้านทุจริต-ม.3 (1)

ต้านทุจริต-ม.3 (1)

- 98 -

กลมุ่ อาชีพ กิจกรรมที่มีความเส่ียงต่อปัญหาการเกดิ ผลประโยชน์ทับซอ้ น
จากการแปรญัตติไปดาเนินการในเขตพน้ื ทีข่ องตน

4. ประชาชน การเสนอให้คา่ น้าร้อนนา้ ชาให้แก่เจ้าหน้าที่เพือ่ แลกกับการลัดควิ รับบรกิ าร

- 99 -

ใบความรู้
เร่อื ง ตวั อย่างพฤติกรรมผลประโยชน์ทบั ซอ้ นท่ีพบเหน็ บ่อย
1.การนาทรัพยส์ ินของหน่วยงานมาใชป้ ระโยชน์ส่วนตวั เช่น ใช้โทรศัพท์ของหน่วยงานติดต่อธุระส่วน
ตัวนารถราชการไปใช้ในธรุ ะส่วนตัว เปน็ ต้น
2.การใช้อานาจหน้าท่ชี ่วยญาติหรือบคุ คลอน่ื ใหเ้ ขา้ ทางาน
3.การใช้ข้อมูลของหน่วยงานเพ่ือแสวงหาประโยชน์แก่ตนเองหรือพวกพ้อง เจ้าหน้าที่ของรัฐทราบ
มาตรฐาน (spec) วัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ในการประมูลแล้วให้ข้อมูลกับบริษัทเอกชนเพ่ือให้ได้เปรียบในการ
ประมลู
4.การรับงานนอกแล้วก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของตน เจ้าหน้าที่ของรัฐอาศัยตาแหน่ง
หน้าทท่ี างราชการรับจา้ งเป็นทปี่ รึกษาโครงการใหบ้ รษิ ทั เอกชน เจ้าหนา้ ทรี่ ัฐนาเวลาราชการไปทางานสว่ นตัว
5.การนาบคุ คลากรของหนว่ ยงานมาใช้เพ่อื ประโยชน์สว่ นตน
6.การรับสินบนหรือรับของขวัญในรูปของเงินหรือผลประโยชน์อ่ืนใด ส่งผลให้มีการตัดสินใจท่ีเอื้อ
ประโยชนแ์ กผ่ ู้ให้สินบนหรือบคุ คลอ่ืน
7.การเข้าทางานหลังออกจากงานเดิมโดยใช้ความรู้ ประสบการณ์ หรืออิทธิพลจากท่ีเคยดารง
ตาแหน่งมารับงาน หรือเอาประโยชน์ให้กับตนเองหรือพวกพ้อง เช่น เคยทางานเป็นผู้บริหารหน่วยงานกากับ
ดูแลกิจการโทรคมนาคม แลว้ ไปทางานในบรษิ ัทผใู้ ห้บริการโทรศัพท์
8.การลัดควิ ใหก้ บั ผใู้ ชบ้ ริการที่คนุ้ เคย
9.การส่งเสรมิ หรือสนบั สนนุ ให้ผูร้ ว่ มงานแสวงหาประโยชน์สว่ นตน
10.การใหข้ องขวัญหรือของกานลั เพื่อหวงั ความก้าวหนา้ หรอื หวงั ผลประโยชนท์ มี่ ชิ อบ
11.การซื้อขายตาแหน่ง การจ่ายผลประโยชน์ทั้งที่เป็นตัวเงินและประโยชน์รูปแบบอ่ืนเพื่อให้ได้มาซ่ึง
การเลื่อนระดบั ตาแหน่ง หรอื ความดคี วามชอบพิเศษ
12.การเพกิ เฉยต่อการรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม
13.การเรียกร้องผลตอบแทนจากการใช้อิทธิพลในตาแหน่งหน้าที่เพ่ือส่งผลท่ีเป็ นคุณแก่ฝ่ายใดฝ่าย
หนึง่ โดยไม่เป็นธรรม
14.การที่มีหน้าที่ดูแลหรือจัดการกิจการหรือโครงการใด แล้วเข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์ของ
ตนเอง หรือผอู้ ื่น
15.การใช้ตาแหน่งหนา้ ทหี่ าประโยชนใ์ หก้ ับตนเอง ครอบครวั หรือพวกพ้อง เช่น เจ้าหน้าที่ของรัฐ ใช้
อานาจหนา้ ท่ที าให้บริษัทของตนหรือครอบครัวได้งานรับเหมาของรัฐ เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซ้ือจัดจ้างทาสัญญาซื้อ
อปุ กรณส์ านกั งานจากบรษิ ัทของครอบครวั ตนเอง

- 100 -

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานของนักเรยี นเปน็ รายบุคคล

พฤตกิ รรม การแสดง การตอบ การยอมรับ ทางาน หมายเหตุ
ที่ ความสนใจ ความ คาถาม ฟงั คนอื่น ตามที่ได้รบั
มอบหมาย
ชื่อ-สกลุ คิดเหน็

43214321432143214321

เกณฑ์การวดั ผล ให้คะแนนระดับคณุ ภาพของแตล่ ะพฤตกิ รรมดังน้ี

ดมี าก = 4 สนใจฟัง ไมห่ ลบั ไม่พูดคยุ ในชัน้ มคี าถามท่ีดี ตอบคาถามถูกต้อง ทางานส่งครบตรง
เวลา

ดี = 3 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑ์ประมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑป์ ระมาณ 50%
ปรับปรงุ = 1 เขา้ ช้นั เรียน แตก่ ารแสดงออกน้อยมาก สง่ งานไม่ครบ ไม่ตรงเวลา

ลงชือ่ ……………………………….ผสู้ ังเกต
(……………………………….)
…………/…………/………..

- 101 -

แบบประเมนิ พฤติกรรมการทางานกลุม่

กลมุ่ ..........................................................................................................
สมาชิกในกลมุ่ 1. ......................................................................

2. ......................................................................
3. ......................................................................
4. ......................................................................
5. ......................................................................
6. ......................................................................

คาชแ้ี จง: ให้นกั เรียนทาเครือ่ งหมาย  ในชอ่ งทต่ี รงกบั ความเปน็ จรงิ

พฤติกรรมท่ีสังเกต คะแนน

32 1

1. มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็
2. มคี วามกระตอื รอื รน้ ในการทางาน
3. รับผิดชอบในงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย
4. มีข้นั ตอนในการทางานอย่างเป็นระบบ
5. ใช้เวลาในการทางานอยา่ งเหมาะสม

รวม

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

พฤตกิ รรมทที่ าเป็นประจา ให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมทีท่ าเปน็ บางครง้ั ให้ 2 คะแนน
พฤตกิ รรมทที่ านอ้ ยครัง้ ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
13-15 ดี
8-12
5-7 ปานกลาง
ปรบั ปรุง

- 102 -

แบบการประเมินผลการนาเสนอผลงาน
เร่อื ง ……………………………………………………………………….
วชิ า…………………………………………………….…………….ชัน้ ……………….
ชอื่ /กลุ่ม……………………………………………………….…………………………………………………..

ที่ รายการประเมนิ ผู้ประเมนิ รวม เกณฑ์การประเมนิ

1 เนือ้ หา ( 4 คะแนน ) ตนเอง เพ่ือน ครู
1. เนอ้ื หาครบถว้ นสมบรู ณ์
2. เนือ้ หาถูกต้อง คะแนน 4 : มีครบทกุ ขอ้
3. เนอ้ื หาตอ่ เนื่อง
4. มีการคน้ คว้าเพ่ิมเตมิ คะแนน 3 : มี 3 ขอ้ ขาด 1 ข้อ

2 กระบวนการทางาน(2คะแนน ) คะแนน 2 : มี 2 ขอ้ ขาด 2 ข้อ
1. มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ
2. การปฏิบัตติ ามแผน คะแนน 1 : มี 1 ขอ้ ขาด 3 ขอ้
3. ติดตามประเมนิ ผล
4. การปรบั ปรงุ พฒั นางาน คะแนน 2: มีครบทุกข้อ
คะแนน 1 : มี ไม่ครบ 4 ขอ้
3 การนาเสนอ ( 2 คะแนน ) คะแนน 0 : ไมป่ รากฏกระบวน
1. การใช้สานวนภาษาดถี ูกต้อง
2. การสะกดคาและไวยากรณ์ การทางานท่ชี ัดเจน
ถูกต้อง
3. รปู แบบนา่ สนใจ คะแนน 2 : มคี รบทุกขอ้
4. ความสวยงาม คะแนน 1.5: มี 3 ข้อ ขาด 1 ข้อ
คะแนน 1 : มี 2 ข้อ ขาด 2 ข้อ
4 คุณธรรม ( 2 คะแนน ) คะแนน 0.5 : มี 1 ขอ้ ขาด 3 ขอ้
1. ตรงต่อเวลา
2. ซ่อื สัตย์ คะแนน 2 : มีครบทกุ ข้อ
3. ความกระตอื รือร้น คะแนน 1.5: มี 3 ขอ้ ขาด 1 ขอ้
4. ความมนี า้ ใจ คะแนน1 : มี 2 ขอ้ ขาด 2 ข้อ
รวม คะแนน 0.5 :มี 1 ข้อ ขาด 3 ข้อ
เฉล่ยี
คะแนนเต็ม 10 คะแนน

ลงชอ่ื ผู้ประเมนิ …………………………….. ตนเอง
ลงชอ่ื ผปู้ ระเมนิ …………………………….. เพ่ือน
ลงชอ่ื ผู้ประเมิน…………………………….. ครู

- 103 -

แบบประเมนิ ชนิ้ งาน
ชื่อ - นามสกลุ .................................................................................. ช้ัน …………………........
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ................................ กิจกรรม ……………….………………......................

คาชแ้ี จง: ให้ผ้ปู ระเมินขดี  ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน

ประเด็นที่ประเมิน ผปู้ ระเมนิ

ตนเอง เพือ่ น ครู
432143214321

1. ตรงจดุ ประสงคท์ กี่ าหนด
2. มีความถูกต้องสมบูรณ์
3. มคี วามคิดสร้างสรรค์
4. มีความเป็นระเบยี บ

รวม
รวมทุกรายการ

เฉล่ยี

ผ้ปู ระเมิน ...........................................................(ตนเอง)
ผู้ประเมนิ .......................................................... (เพอื่ น)
ผปู้ ระเมนิ ................................................................ (ครู)

- 104 -

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน

ประเดน็ ที่ประเมิน คะแนน
1. ผลงานตรงกับ
4 321
จดุ ประสงคท์ ก่ี าหนด
ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคล้อง ผลงานไม่
2. ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง
สมบรู ณ์ กับจุดประสงค์ กบั จุดประสงค์ กับจุดประสงค์ สอดคลอ้ งกับ

3. ผลงานมคี วามคิด ทกุ ประเดน็ เป็นส่วนใหญ่ บางประเดน็ จุดประสงค์
สรา้ งสรรค์
เน้ือหาสาระของ เน้อื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนือ้ หาสาระของ
4. ผลงานมีความเปน็
ระเบียบ ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานไม่ถูกต้อง

ครบถ้วน เป็นส่วนใหญ่ บางประเด็น เป็นส่วนใหญ่

ผลงานแสดงออก ผลงานมีแนวคิด ผลงานมีความ ผลงานไม่แสดง

ถึงความคดิ แปลกใหม่แต่ยัง น่าสนใจ แต่ยัง ไม่ แนวคิดใหม่

สร้างสรรค์ ไมเ่ ป็นระบบ มีแนวคดิ แปลก

แปลกใหม่ ใหม่

และเป็นระบบ

ผลงานมีความเปน็ ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่

ระเบยี บแสดงออก ความเปน็ เป็นระเบยี บแต่มี ไมเ่ ป็นระเบยี บ

ถงึ ความประณีต ระเบียบแต่ยงั มี ข้อบกพร่อง และมีข้อ

ขอ้ บกพร่อง บางสว่ น บกพร่องมาก

เล็กนอ้ ย

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
นักเรยี นไดค้ ะแนน 13 คะแนนข้ึนไป หรอื ร้อยละ 80 ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

- 112 -

หนว่ ยท่ี ๒

ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ

- 113 -

แผนการจดั การเรียนรู้

หนว่ ยท่ี ๒ ชื่อหนว่ ย ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง การทาการบ้าน/ชิ้นงาน เวลา ๑ ชว่ั โมง

๑. ผลการเรียนรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับความไมท่ นและความละอายต่อการทุจริต
๑.๒ ปฏิบตั ติ นเปน็ ผ้ไู ม่ทนและละอายตอ่ การทจุ รติ ทกุ รปู แบบ
๑.๓ ตระหนกั และเหน็ ความสาคัญของการตอ่ ต้านและป้องกนั การทุจริต

๒.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
2.1 นักเรียนสามารถมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกับความไมท่ นและความละอายต่อการทุจรติ ในการ
ทาการบ้าน/ชน้ิ งาน
2.2 นักเรยี นสามารถคิดวเิ คราะหถ์ ึงผลเสยี จากการทจุ รติ ในการทาการบ้าน/ชนิ้ งาน
2.3 นกั เรยี นสามารถตระหนกั และเห็นความสาคัญของการต่อต้านและป้องกนั การทุจริต

๓. สาระการเรียนรู้
3.1 ความรู้
๑) ตัวอย่างความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ
๒) ผลเสยี จากการทุจรติ ในการไมท่ าการบา้ น/ชิ้นงานดว้ ยตนอง
๓) ความสาคญั ของการตอ่ ต้านและป้องกันการทุจริต
3.2 ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่เี กดิ )
1) ความสามารถในการคดิ
2) ความสามารถในการสือ่ สาร
3) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

3.3 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ / ค่านิยม
- ใฝ่เรียนรู้

๔. กิจกรรมการเรียนรู้
4.1 ขัน้ ตอนการเรียนรู้

ชวั่ โมงท่ี 1
1) ครอู ่านกรณีตวั อยา่ งความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริต ในประเทศเกาหลีใต้ ให้นกั เรยี นฟงั
2) สนทนา อภิปราย ร่วมกันจากเหตกุ ารณ์ตวั อย่างความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจริตใน

ประเทศเกาหลีใต้ โดยช้ีให้เห็นถงึ ผลเสียที่เกดิ จากการทุจริต และความรบั ผิดชอบท่ีต้องรบั จากผล
ของการกระทา
3) ชมคลิปวีดีโอ เรอื่ ง น้องใหมร่ ้ายบริสุทธิ์ - ตอน เกรด 4 วิชาลอก ซ่งึ มีเนอ้ื หาเก่ยี วกบั การวางแผน
การทุจริตในการสอบ
(ท่ีมาของคลปิ วดี ิโอhttps://www.youtube.com/watch?v=Wf1XMWcU72g)
4) สนทนา อภิปราย คลปิ วดี โี อ เรอื่ ง นอ้ งใหม่ร้ายบริสุทธ์ิ - ตอน เกรด 4 วชิ าลอก เพื่อชใี้ หน้ ักเรียน
ได้ เลง็ เหน็ และตระหนักถงึ การทจุ รติ เป็นสง่ิ ท่ีไมด่ ี โดยอาจใชป้ ระเดน็ ต่อไปน้ี
 นักเรียนมคี วามคดิ เหน็ อยา่ งไรกบั เหตุการณท์ ี่เกิดข้นึ ในคลิปวีดโี อ

- 114 -

 นักเรยี นคดิ ว่าสาเหตใุ ดบ้างท่ีทาให้ลอกข้อสอบ (ครูพยายามชใี้ หเ้ หน็ วา่ สว่ นหนงึ่ มาจาก
สาเหตุการไม่ทาการบ้าน/ชิน้ งานเอง)

 นักเรียนคิดวา่ เราจะมีวิธกี ารแกไ้ ขปัญหาดังกล่าวได้อย่างไร
5) กจิ กรรมระดมสมอง โดยใหน้ ักเรียนช่วยกันคิดวา่ ผลเสยี ของการไมท่ าการบ้าน/ช้นิ งานเอง ส่งผล

อยา่ งไรบ้าง ลงบนกระดาษชาร์ต
6) สนทนา อภปิ ราย โดยครเู ป็นผทู้ ่กี ระตุน้ ให้นกั เรียนเกดิ ตระหนักและเห็นความสาคญั ของการ

ตอ่ ต้านและป้องกนั การทจุ รติ โดยการเริม่ ต้นจากการการบ้าน/ชน้ิ งานเอง
7) แจกใบงาน เร่ือง ไม่ทาการบ้าน/ชนิ้ งานเองน้ันมผี ลเสยี มากกวา่ ผลดี

4.2 สือ่ การเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้
1) นอ้ งใหมร่ า้ ยบรสิ ุทธ์ิ - ตอน เกรด 4 วชิ าลอก

https://www.youtube.com/watch?v=Wf1XMWcU72g
๒) กรณีตัวอยา่ งความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ ริต ในประเทศเกาหลีใต้
๓) กระดาษชารต์
๔) ใบงาน เรอ่ื ง ไม่ทาการบ้าน/ชิน้ งานเองนัน้ มีผลเสียมากกวา่ ผลดี
๕. การประเมินผลการเรียนรู้
5.1 วิธกี ารประเมิน

๑) ใบงาน เร่อื ง ไม่ทาการบา้ น/ชน้ิ งานเองนนั้ มผี ลเสยี มากกวา่ ผลดี
๒) สังเกตพฤติกรรมการทางานของผ้เู รยี นเป็นรายบุคคล
๕.๒ เครอื่ งมือทีใ่ ช้ในการประเมนิ
1) แบบประเมินใบงาน
๒) แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานของผู้เรียนเปน็ รายบุคคล

๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ
- นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินระดบั ดีขนึ้ ไป ถือว่าผ่าน

บนั ทึกหลังสอน
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................................ ......
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอ่ื ................................................ ครูผู้สอน
(.................................................)

- 115 -

ช่ือ ......................................................สกุล ................................................ช้ัน................ เลขท่ี…….
โรงเรยี น ............................................................................
ใบงาน
เรือ่ ง ไม่ทาการบ้าน/ชิ้นงานเองนน้ั มีผลเสียมากกว่าผลดี

คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นระบุผลดผี ลเสียเกี่ยวกับการทาการบ้าน/ช้นิ งาน

ผลดี ผลเสีย
ทาการบา้ น/ชิ้นงานเอง ไม่ทาการบ้าน/ชน้ิ งานเอง

- 116 -

กรณีตวั อย่างความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ ในประเทศเกาหลีใต้

เกาหลีใตถ้ ือเป็นประเทศหนง่ึ ท่ีประสบความสาเร็จในด้านของการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แต่ก็ยังคงมี

ปัญหาการทุจริตเกิดขนึ้ อย่บู ้าง เช่น

เม่ือปี พ.ศ. 2559 มีข่าวกรณีของประธานาธิบดีถูกปลดออกจากตาแหน่งเพราะเข้าไปมีส่วน

เก่ียวข้องในการเอ้ือประโยชน์ให้พวกพ้อง โดยการถูก

กล่าวหาวา่ ให้เพ่ือนสนิทของครอบครัวเข้ามาแทรกแซง

การบริหารประเทศรวมถึงใช้ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ

ประธานาธิบดีแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว ผลที่เกิดข้ึนคือ

ถูกดาเนินคดีและตั้งข้อหาว่าพัวพันการทุจริตและใช้

อานาจหน้าท่ีในทางมิชอบเพื่อเอ้ือผล ประโยชน์ให้แก่

พวกพ้อง กรณีที่เกิดขึ้นนี้ประชาชนเกาหลีใต้ได้มีการ

รวมตัวกันประท้วงกว่าพันคนเรียกร้องให้ประธานาธิบดี

คนดังกล่าวลาออกจากตาแหน่งหลังมีเหตุอือ้ ฉาวทางการเมือทง่ีมา : http://www.bbc.com/thai/international-39227441
อีกกรณที ีจ่ ะกลา่ วถงึ เพอื่ เป็นตวั อย่างการต่อต้านการกระทาท่ีไม่ถูกต้อง คือ การที่นักศึกษาคนหน่ึงได้

เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยทั้งท่ีผลคะแนนที่เรียนมานั้น

ไม่ได้สูง และการท่ีคุณสมบัติของนักศึกษาดังกล่าวมี

คุณสมบัติ ไม่ตรงกับการคัดเลือกโควต้า

นักกีฬาทีก่ าหนดไวว้ า่ จะต้องผ่านการแข่งขันประเภท

เด่ยี ว แต่นกั ศกึ ษาคนดังกล่าวผ่านการแข่งขันประเภท

ทีม เทา่ กบั วา่ คณุ สมบัติไม่ถูกต้องแต่ได้รับเข้าเรียนใน

มหาวิทยาลัยดังกล่าว การกระทาเช่นนี้จึงเป็นสาเหตุ

หนึ่งของการนาไปสู่การประท้วง ต่อต้านจาก

นักศึกษาและอาจารย์ของมหาวิทยาลัยดังกล่าว ซึ่ง

ทีม่ า : https://teen.mthai.com/education ทางมหาวทิ ยาลัย ก็ไมส่ ามารถให้คาตอบท่ชี ดั เจนแก่กลุม่

ผู้ประทว้ งได้ จนในที่สุด ประธานของมหาวิทยาลัย
/ ดังกล่าวจึงลาออกจากตาแหน่ง
119903.html

- 117 -

แบบประเมนิ ใบงาน

เรอื่ ง .......................................................................... ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ……..
วนั ท่ี.....................เดอื น........................................................พ.ศ. ..................................

ท่ี ประเด็นคะแนน ความต้ังใจ ความ เสร็จตาม รวม ระดับ
ชือ่ - สกลุ ปฏบิ ตั ิงาน ถกู ตอ้ ง กาหนด ๑๕ คุณภาพ
คะแนน
๕ ๕ ๕



















๑๐

เกณฑก์ ารประเมนิ และระดบั คุณภาพ

คะแนน ๑๓ - ๑๕ คะแนน หมายถึง ดมี าก

คะแนน ๙ – ๑๒ คะแนน หมายถงึ ดี

คะแนน ๕ – ๘ คะแนน หมายถงึ พอใช้

คะแนน ๑ – ๔ คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง

จานวนคนทผ่ี า่ นระดับคณุ ภาพ......................คน ร้อยละ...............

จานวนคนทไี่ ม่ผา่ นระดบั คุณภาพ..................คน รอ้ ยละ...............

ลงช่อื .................................... ผปู้ ระเมนิ
(...................................................)

- 118 -

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานของผเู้ รยี นเปน็ รายบุคคล

พฤตกิ รรม การแสดง การตอบ การยอมรบั ทางาน หมายเหตุ
ที่ ความสนใจ ความ คาถาม ฟังคนอ่นื ตามทีไ่ ด้รบั
มอบหมาย
ชือ่ -สกุล คิดเห็น

43214321432143214321

เกณฑ์การวัดผล ให้คะแนนระดับคุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดังนี้

ดมี าก = 4 สนใจฟัง ไม่หลบั ไมพ่ ดู คุยในชน้ั มคี าถามที่ดี ตอบคาถามถูกต้อง ทางานส่งครบตรง
เวลา

ดี = 3 การแสดงออกอยู่ในเกณฑป์ ระมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑ์ประมาณ 50%
ปรับปรุง = 1 เขา้ ชัน้ เรียน แตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไม่ครบ ไมต่ รงเวลา

ลงช่อื ……………………………….ผู้สงั เกต
(……………………………….)
…………/…………/………..

- 119 -

แผนการจดั การเรยี นรู้ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓
เวลา ๑ ชัว่ โมง
หนว่ ยท่ี ๒ ช่ือหน่วย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๒ เรอื่ ง การทาเวร/การทาความสะอาด

๑.ผลการเรียนรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับความไม่ทนและความละอายตอ่ การทุจริต
๑.๒ ปฏบิ ตั ติ นเป็นผไู้ มท่ นและละอายต่อการทุจริตทุกรูปแบบ
๑.๓ ตระหนกั และเห็นความสาคัญของการต่อต้านและป้องกันการทุจริต

๒.จุดประสงค์การเรยี นรู้
2.1 นกั เรยี นสามารถมีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับความไมท่ นและความละอายต่อการทจุ รติ ในการ
ทาเวร/การทาความสะอาด
2.2 นักเรยี นสามารถคิดวเิ คราะหถ์ ึงผลเสียจากการทจุ ริตในการทาเวร/การทาความสะอาด
2.4 นักเรียนสามารถตระหนกั และเห็นความสาคัญของการตอ่ ตา้ นและป้องกันการทจุ ริต

๓. สาระการเรียนรู้
3.1 ความรู้
๑) ตัวอย่างความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต
๒) ผลเสียจากการทจุ รติ ในการไมก่ ารทาเวร/การทาความสะอาด
๓) ความสาคัญของการตอ่ ต้านและป้องกันการทุจรติ
3.2 ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กิด)
1) ความสามารถในการคิด
2) ความสามารถในการสอ่ื สาร
3) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
3.3 คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ / ค่านิยม
๑) มีวินยั

๔. กิจกรรมการเรยี นรู้
4.1 ขั้นตอนการเรียนรู้
1) ครอู ่านกรณตี ัวอย่างความละอายและความไมท่ นต่อการทุจรติ ในประเทศเกาหลีใต้ ให้นกั เรยี นฟงั
2) สนทนา อภิปราย ร่วมกนั จากเหตกุ ารณ์ตัวอย่างความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจริตใน
ประเทศเกาหลใี ต้ โดยชี้ใหเ้ ห็นถึงผลเสียทีเ่ กดิ จากการทุจริต และความรับผิดชอบทต่ี ้องรับจากผล
ของ การกระทา
3) ชมคลปิ วดี ีโอ เรื่อง ครูทป่ี รึกษาทาเวรแทนนักเรียน | 22-01-59 | เช้าขา่ วชดั โซเชียล |
ThairathTV โดยมที ่ีมาจาก https://www.youtube.com/watch?v=nJYXPHtWzyc
4) สนทนา อภปิ ราย คลปิ วีดโี อ เร่อื ง ครูทีป่ รึกษาทาเวรแทนนักเรียน | 22-01-59 | เชา้ ขา่ วชดั โซ
เชยี ล | ThairathTV เพือ่ ช้ใี ห้นกั เรียนได้ เลง็ เห็น และตระหนักถงึ บทบาท หน้าที่ของนักเรยี นใน
การทาเวร/การทาความสะอาด โดยอาจใช้ประเดน็ ต่อไปน้ี

- 120 -

 นักเรียนมีความคิดเห็นอยา่ งไรกบั เหตุการณ์ทเ่ี กิดขน้ึ ในคลิปวดี โี อ
 นักเรยี นคดิ ว่าสาเหตใุ ดบ้างที่ทาให้ต้องมีการทาเวร/การทาความสะอาด (ครูพยายามชใ้ี ห้เหน็

วา่ สว่ นหนง่ึ มาจากสาเหตขุ าดวินยั )
 นักเรยี นคดิ ว่าเราจะมีวิธีการแกไ้ ขปัญหาดังกล่าวไดอ้ ย่างไร
 การทาเวร/การทาความสะอาดเปน็ บทบาทหน้าทขี่ องนักเรียน โดยครูพยายามช้ใี หเ้ ห็นว่าถ้า

เรามีการทาเวร/การทาความสะอาด ไม่หลบหนี หรอื ไม่เอาเปรียบเพอื่ นถือวา่ มีความละอาย
ตอ่ การทจุ ริต
5) กจิ กรรมระดมสมอง โดยให้นักเรียนช่วยกันคิดว่าผลดี ผลเสยี ของการทาเวร/การทาความสะอาด
มอี ะไรบา้ ง สง่ ผลอย่างไรบา้ ง ลงบนกระดาษชาร์ต
6) สนทนา อภิปราย โดยครเู ปน็ ผ้ทู ี่กระตนุ้ ให้นักเรียนเกิดตระหนักและเหน็ ความสาคัญของการทา
เวร/การทาความสะอาด วา่ เกี่ยวขอ้ งกบั การต่อตา้ นและปอ้ งกนั การทุจรติ
7) ใหน้ กั เรยี นแต่งคาขวัญ รณรงคเ์ รอื่ ง การทาเวร/การทาความสะอาด

4.2 สื่อการเรียนรู้ / แหลง่ การเรียนรู้
1) คลปิ วีดโี อ เร่ือง ครูท่ีปรึกษาทาเวรแทนนักเรยี น | 22-01-59 | เชา้ ขา่ วชัดโซเชียล | ThairathTV

โดยมีทมี่ าจาก https://www.youtube.com/watch?v=nJYXPHtWzyc
๒) กรณีตวั อย่างความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจริต ในประเทศบราซลิ

๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5.1 วธิ ีการประเมนิ
๑) การแต่งคาขวัญ
๒) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานของผเู้ รียนเปน็ รายบุคคล
๕.๒ เครอ่ื งมือทีใ่ ชใ้ นการประเมิน
1) แบบประเมินการแต่งคาขวญั
๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานของผ้เู รยี นเปน็ รายบุคคล

๕.๓ บนั ทึกหลังสอน
............................................................................................................................. ............................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ................................................ ครูผู้สอน
(.................................................)

- 121 -
กรณีตวั อย่างความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต ในประเทศบราซิล
ประเทศบราซลิ ปลายปี พ.ศ. 2559 ประชาชนในประเทศบราซิลได้มีการชุมนุมประท้วงการทุจริตที่
เกิดขึ้น เป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อวัฒนธรรม การโกงของระบบราชการของประเทศ โดยมีประชาชน
จานวนหลายหม่ืนคนเข้าร่วมการชุมนุมในคร้ังน้ี และมีการแสดงภาพหนูเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการประณามต่อ
นักการเมืองที่ทุจรติ การประทว้ งดังกล่าวยงั ถอื ว่ามขี นาดเล็กกว่าครั้งก่อน เพราะท่ีผ่านมาได้มีการทุจริตเกิดขึ้น
และมกี ารประทว้ ง จนในทสี่ ดุ ประธานาธบิ ดไี ดถ้ กู ปลดจาตาแหน่ง เนื่องจากการกระทาท่ีละเมิดต่อกฎระเบียบ
เรือ่ งงบประมาณ

ทีม่ า : https://www.dailynews.co.th/ foreign/540734

- 122 -

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานของผเู้ รยี นเปน็ รายบุคคล

พฤตกิ รรม การแสดง การตอบ การยอมรบั ทางาน หมายเหตุ
ที่ ความสนใจ ความ คาถาม ฟังคนอ่นื ตามทีไ่ ด้รบั
มอบหมาย
ชือ่ -สกุล คิดเห็น

43214321432143214321

เกณฑ์การวัดผล ให้คะแนนระดับคุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดังนี้

ดมี าก = 4 สนใจฟัง ไม่หลบั ไมพ่ ดู คุยในชน้ั มคี าถามที่ดี ตอบคาถามถูกต้อง ทางานส่งครบตรง
เวลา

ดี = 3 การแสดงออกอยู่ในเกณฑป์ ระมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑ์ประมาณ 50%
ปรับปรุง = 1 เขา้ ชัน้ เรียน แตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไม่ครบ ไมต่ รงเวลา

ลงช่อื ……………………………….ผู้สงั เกต
(……………………………….)
…………/…………/………..

- 123 -

แบบประเมินการแต่งคาขวัญ

คาช้ีแจง เขยี นเคร่ืองหมาย / ตรงกับพฤติกรรมของนักเรยี นตามรายการที่สงั เกต

รายการประเมนิ

ชอ่ื -สกลุ เนอ้ื หาสาระ การใช้ อกั ขรวิธี ความคิด ความสะอาด รวมคะแนน
3 ภาษา 3 สร้างสรรค์ เรยี บรอ้ ย 15

3 33

เกณฑ์การให้คะแนน

ประเด็นการประเมนิ 3 พฤตกิ รรม/ระดบั คะแนน 1
เนอ้ื หาสาระ ไม่ชดั เจนและน่าสนใจ
การใช้ภาษา ถูกต้องชดั เจน 2
อกั ขรวธิ ี นา่ สนใจมาก ใช้ภาษาถ้อยคาบกพร่องอยบู่ ้าง
ถกู ต้องชัดเจน
ใช้ภาษาถอ้ ยคาไดถ้ ูกต้อง นา่ สนใจพอใช้ ไม่ถูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี
ตามหลักวชิ าการ 3 คาขนึ้ ไป
ใชภ้ าษาถอ้ ยคาได้ถกู ตอ้ งแต่
ถูกต้องตามอกั ขรวธิ ี ไมเ่ ปน็ ไปตามหลักวชิ าการ
ทกุ คา
ไมถ่ ูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี
1-2 คา

ความคิดสร้างสรรค์ มคี วามคดิ สร้างสรรค์ในการ มคี วามคิดสร้างสรรคใ์ นการ มีการปรับปรงุ การอ่านจาก
อ่านที่แปลกใหม่ไมเ่ หมือน อา่ นแตกตา่ งจากคนทัว่ ไป การอ่านทัว่ ไป และสรา้ งสรรค์
ความสะอาด
เรียบร้อย ใคร สะอาดไม่มีรอยขีดฆ่า มรี อย เพิม่ เติมใหด้ ขี ึ้นเล็กน้อย
ลบ 1-2 แหง่
สะอาดไมม่ ีรอยขูดขดี ฆา่ สะอาดไม่มรี อยขีดฆา่
และรอบคอบ มรี อยมากกว่า 2 แหง่

- 124 -

แผนการจัดการเรยี นรู้ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๓
เวลา ๒ ชัว่ โมง
หนว่ ยท่ี ๒ ช่ือหนว่ ย ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๓ เร่ือง การสอบ

๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความไมท่ นและความละอายตอ่ การทุจริต
๑.๒ ปฏิบัติตนเป็นผูไ้ มท่ นและละอายต่อการทจุ ริตทกุ รปู แบบ
๑.๓ ตระหนักและเหน็ ความสาคัญของการต่อต้านและป้องกนั การทจุ ริต

๒.จุดประสงค์การเรยี นรู้
2.1 นกั เรียนสามารถมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับความไม่ทนและความละอายต่อการทุจรติ ในการ
สอบ
2.2 นกั เรยี นสามารถคดิ วิเคราะห์ถงึ ผลเสียจากการทจุ รติ ในการสอบ
2.5 นกั เรยี นสามารถตระหนกั และเหน็ ความสาคัญของการตอ่ ต้านและป้องกนั การทจุ รติ

๓. สาระการเรียนรู้
3.1 ความรู้
๑) ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต
๒) ผลเสยี จากการทจุ รติ ในการสอบ
๓) ความสาคัญของการตอ่ ต้านและป้องกันการทุจรติ
3.2 ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเี่ กิด)
1) ความสามารถในการคิด
1).ทักษะการสังเกต
2).ทกั ษะการระบุ
2) ความสามารถในการสอื่ สาร
(อ่าน ฟัง พูด เขยี น)
3) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
(วิเคราะห์ จดั กลุ่ม สรุป)

3.3 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ / คา่ นิยม
๑) ใฝเ่ รียนรู้
2) ซ่ือสัตย์สจุ ริต

๔. กจิ กรรมการเรียนรู้
4.1 ขนั้ ตอนการเรยี นรู้

ชว่ั โมงท่ี ๑
1) ครใู ห้นักเรียนดรู ูปภาพการสอบ
2) สนทนา อภปิ ราย รว่ มกนั จากรูปภาพการสอบ โดยช้ใี หเ้ หน็ ถึงผลเสียท่เี กิดจากการทุจรติ ในการ
สอบและความรับผดิ ชอบทต่ี ้องรับจากผลของการกระทาผิดจากการทจุ รติ ในการสอบ

- 125 -

3) ชมคลิปวดี ีโอ เร่อื ง เทคนคิ การ "สอบ" ให้ได้คะแนนเยอะกว่าเดมิ | how to get better score in
your exam ท่ีมาของคลิปวีดโี อ https://www.youtube.com/watch?v=aZXf4MHdo5w

4) สนทนา อภิปราย คลิปวีดโี อ เร่อื ง เทคนิคการ "สอบ" ให้ได้คะแนนเยอะกว่าเดิม | how to get
better score in your exam เพ่อื ชี้ใหน้ ักเรยี นได้ เลง็ เห็น และตระหนักถึงการทจุ ริตเป็นส่งิ ท่ไี ม่
ดี ไมจ่ าเป็นต้องลอกข้อสอบ แตม่ วี ิธกี ารทีจ่ ะสอบให้ได้คะแนนหลายวิธี โดยอาจใชป้ ระเดน็
ตอ่ ไปน้ี
 นกั เรียนมีความคิดเห็นอยา่ งไรกบั เหตกุ ารณ์ทเี่ กิดข้ึนในคลิปวดี ีโอ
 นักเรียนคดิ วา่ สาเหตใุ ดบ้างที่ทาใหล้ อกข้อสอบ และจะแก้ปัญหาน้ันอยา่ งไร (ครูพยายาม
ชีใ้ หเ้ ห็นว่าการลอกข้อสอบไม่ดี)

5) กจิ กรรม “ชว่ ยกันระดมสมองตอ่ ต้านการลอกขอ้ สอบดีกวา่ ” โดยให้นักเรียนช่วยกนั คิดว่าจะทา
อย่างไรบ้างใหเ้ กดิ พฤตกิ รรมในการลอกขอ้ สอบ c]h;g-upoลงบนกระดาษชารต์

6) สนทนา อภปิ ราย โดยครเู ป็นผ้ทู ีก่ ระตนุ้ ให้นักเรยี นเกิดตระหนักและเห็นความสาคญั ของการ
ตอ่ ตา้ นและปอ้ งกนั การทจุ รติ โดยการเร่มิ จากการไมล่ อกข้อสอบ

ชว่ั โมงที่ ๒
7) แบ่งกลมุ่ นักเรยี นออกเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ ๔ – ๕ คน
8) ให้แตล่ ะกลุ่มออกแบบโปสเตอรร์ ณรงค์การต่อตา้ นการลอกขอ้ สอบ
9) แตล่ ะกลุม่ นาเสนอผลงาน

4.2 สอ่ื การเรียนรู้ / แหลง่ การเรียนรู้
1) คลปิ วดี โี อ เรื่อง เทคนิคการ "สอบ" ใหไ้ ด้คะแนนเยอะกว่าเดมิ | how to get better score in

your exam ทม่ี าของคลิปวีดโี อ https://www.youtube.com/watch?v=aZXf4MHdo5w
๒) รปู ภาพการสอบ
๓) กระดาษชารต์
๔) กระดาษโปสเตอร์
๕) สี

๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
5.1 วิธีการประเมนิ
๑) ชิน้ งานการออกแบบโปสเตอรร์ ณรงค์การต่อตา้ นการลอกข้อสอบ
๒) สงั เกตพฤติกรรมการทางานของผู้เรียนเป็นรายบุคคล
๓) สังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่
๔) การนาเสนอผลงาน
๕.๒ เคร่อื งมอื ท่ีใชใ้ นการประเมนิ
1) แบบประเมินชิ้นงาน
๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานของผู้เรียนเป็นรายบุคคล
๓) แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
๔) แบบการประเมนิ ผลการนาเสนอผลงาน
๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสิน
นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ประเมินระดบั ดขี ึน้ ไป ถอื วา่ ผ่าน

- 126 -

6.บนั ทึกหลงั สอน
........................................................................................................................................... .....................

.......................................................................................... ....................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชื่อ ................................................ ครผู ูส้ อน
(.................................................)

- 127 -
รปู ภาพ การสอบ

ทีม่ าของรปู ภาพ
http://www.eng.ubu.ac.th/home/academic/%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A9%E0%
B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%88%E0%B8%A3
%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8
%AD%E0%B8%9A/

- 128 -

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานของผ้เู รียนเปน็ รายบุคคล

พฤตกิ รรม การแสดง การตอบ การยอมรบั ทางาน หมายเหตุ
ที่ ความสนใจ ความ คาถาม ฟงั คนอืน่ ตามที่ได้รับ
มอบหมาย
ชื่อ-สกุล คดิ เหน็

43214321432143214321

เกณฑ์การวัดผล ให้คะแนนระดับคณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรมดังนี้

ดมี าก = 4 สนใจฟัง ไมห่ ลับ ไม่พูดคุยในชนั้ มคี าถามท่ีดี ตอบคาถามถูกต้อง ทางานส่งครบตรง
เวลา

ดี = 3 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑป์ ระมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑป์ ระมาณ 50%
ปรับปรงุ = 1 เข้าช้ันเรยี น แตก่ ารแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไม่ครบ ไมต่ รงเวลา

ลงชือ่ ……………………………….ผสู้ ังเกต
(……………………………….)
…………/…………/………..

- 129 -

แบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่ม

กลมุ่ ..........................................................................................................
สมาชกิ ในกลุ่ม 1. ......................................................................

2. ......................................................................
3. ......................................................................
4. ......................................................................
5. ......................................................................
6. ......................................................................

คาช้ีแจง: ให้นักเรียนทาเคร่อื งหมาย  ในชอ่ งทตี่ รงกบั ความเปน็ จรงิ

พฤติกรรมทส่ี ังเกต คะแนน

32 1

1. มีส่วนรว่ มในการแสดงความคิดเห็น
2. มคี วามกระตอื รอื ร้นในการทางาน
3. รบั ผดิ ชอบในงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย
4. มีข้ันตอนในการทางานอยา่ งเปน็ ระบบ
5. ใช้เวลาในการทางานอย่างเหมาะสม

รวม

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

พฤตกิ รรมทท่ี าเป็นประจา ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมทีท่ าเปน็ บางครั้ง ให้ 2 คะแนน
พฤตกิ รรมที่ทาน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารประเมนิ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
13-15 ดี
8-12
5-7 ปานกลาง
ปรบั ปรุง

- 130 -

แบบการประเมินผลการนาเสนอผลงาน
เร่อื ง ……………………………………………………………………….
วชิ า…………………………………………………….…………….ชัน้ ……………….
ช่ือ/กลุ่ม……………………………………………………….…………………………………………………..

ที่ รายการประเมนิ ผู้ประเมนิ รวม เกณฑ์การประเมนิ

1 เนือ้ หา ( 4 คะแนน ) ตนเอง เพ่ือน ครู
5. เนอ้ื หาครบถว้ นสมบรู ณ์
6. เนือ้ หาถูกต้อง คะแนน 4 : มีครบทกุ ขอ้
7. เนอ้ื หาตอ่ เนื่อง
8. มกี ารคน้ คว้าเพ่ิมเตมิ คะแนน 3 : มี 3 ขอ้ ขาด 1 ข้อ

2 กระบวนการทางาน(2คะแนน ) คะแนน 2 : มี 2 ขอ้ ขาด 2 ข้อ
5. มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ
6. การปฏิบัตติ ามแผน คะแนน 1 : มี 1 ขอ้ ขาด 3 ขอ้
7. ตดิ ตามประเมนิ ผล
8. การปรบั ปรงุ พฒั นางาน คะแนน 2: มีครบทุกข้อ
คะแนน 1 : มี ไม่ครบ 4 ขอ้
3 การนาเสนอ ( 2 คะแนน ) คะแนน 0 : ไมป่ รากฏกระบวน
4. การใช้สานวนภาษาดถี ูกต้อง
5. การสะกดคาและไวยากรณ์ การทางานท่ชี ัดเจน
ถูกต้อง
6. รปู แบบนา่ สนใจ คะแนน 2 : มคี รบทุกขอ้
4. ความสวยงาม คะแนน 1.5: มี 3 ข้อ ขาด 1 ข้อ
คะแนน 1 : มี 2 ข้อ ขาด 2 ข้อ
4 คุณธรรม ( 2 คะแนน ) คะแนน 0.5 : มี 1 ขอ้ ขาด 3 ขอ้
5. ตรงต่อเวลา
6. ซ่ือสัตย์ คะแนน 2 : มีครบทกุ ข้อ
7. ความกระตอื รือร้น คะแนน 1.5: มี 3 ขอ้ ขาด 1 ขอ้
8. ความมนี า้ ใจ คะแนน1 : มี 2 ขอ้ ขาด 2 ข้อ
รวม คะแนน 0.5 :มี 1 ข้อ ขาด 3 ข้อ
เฉล่ยี
คะแนนเต็ม 10 คะแนน

ลงชอ่ื ผู้ประเมนิ …………………………….. ตนเอง
ลงชอ่ื ผปู้ ระเมนิ …………………………….. เพ่ือน
ลงชอ่ื ผู้ประเมิน…………………………….. ครู

- 131 -

แบบประเมนิ ช้นิ งาน
ช่ือ - นามสกุล .................................................................................. ชั้น …………………........
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ................................ กิจกรรม ……………….………………......................

คาชแี้ จง: ให้ผ้ปู ระเมนิ ขีด  ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน

ประเดน็ ท่ปี ระเมิน ผูป้ ระเมิน

ตนเอง เพอ่ื น ครู
432143214321

1. ตรงจุดประสงคท์ ีก่ าหนด
2. มีความถกู ต้องสมบรู ณ์
3. มคี วามคิดสรา้ งสรรค์
4. มีความเป็นระเบยี บ

รวม
รวมทกุ รายการ

เฉลี่ย

ผู้ประเมิน ................................................(ตนเอง) ผ้ปู ระเมิน .........................................
(เพื่อน)

ผ้ปู ระเมนิ ................................................................ (คร)ู

- 132 -

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน

ประเดน็ ที่ประเมิน คะแนน
1. ผลงานตรงกับ
4 321
จดุ ประสงคท์ ก่ี าหนด
ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคล้อง ผลงานไม่
2. ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง
สมบรู ณ์ กับจุดประสงค์ กบั จุดประสงค์ กับจุดประสงค์ สอดคลอ้ งกับ

3. ผลงานมคี วามคิด ทกุ ประเดน็ เป็นส่วนใหญ่ บางประเดน็ จุดประสงค์
สรา้ งสรรค์
เน้ือหาสาระของ เน้อื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เน้อื หาสาระของ
4. ผลงานมีความเปน็
ระเบียบ ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานไม่ถูกต้อง

ครบถ้วน เป็นส่วนใหญ่ บางประเด็น เปน็ ส่วนใหญ่

ผลงานแสดงออก ผลงานมีแนวคิด ผลงานมีความ ผลงานไม่แสดง

ถึงความคดิ แปลกใหม่แต่ยัง น่าสนใจ แต่ยัง ไม่ แนวคิดใหม่

สร้างสรรค์ ไมเ่ ป็นระบบ มีแนวคดิ แปลก

แปลกใหม่ ใหม่

และเป็นระบบ

ผลงานมีความเปน็ ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่

ระเบยี บแสดงออก ความเปน็ เป็นระเบยี บแต่มี ไม่เป็นระเบยี บ

ถงึ ความประณีต ระเบียบแต่ยงั มี ข้อบกพร่อง และมีข้อ

ขอ้ บกพร่อง บางสว่ น บกพร่องมาก

เล็กนอ้ ย

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
นักเรยี นไดค้ ะแนน 13 คะแนนข้ึนไป หรอื ร้อยละ 80 ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

- 133 -

แผนการจัดการเรียนรู้

หน่วยท่ี ๒ ชื่อหนว่ ย ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๔ เร่อื ง การแต่งกาย/การเข้าแถว เวลา ๒ ชวั่ โมง

๑. ผลการเรียนรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความไมท่ นและความละอายต่อการทจุ ริต
๑.๒ ปฏบิ ัตติ นเป็นผ้ไู ม่ทนและละอายตอ่ การทุจรติ ทุกรปู แบบ

๑.๓ ตระหนักและเหน็ ความสาคญั ของการต่อต้านและป้องกนั การทจุ รติ
๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

2.1 นกั เรยี นสามารถบอกวิธีการแต่งกายและการเข้าแถวท่ีถูกต้องได้

2.2 นกั เรียนสามารถปฏิบตั ิตามกฎระเบียบของสงั คมได้

๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ ความรู้
บทบาทและหน้าท่ขี องเยาวชนทมี่ ตี ่อสงั คม
 เคารพกตกิ าของสังคม
 ปฏบิ ตั ติ นตามกฎระเบียบของสงั คม
 มรี ะเบียบวินยั
 มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะที่เกิด)
๑) ความสามารถในการสื่อสาร
(อ่าน ฟัง พูด เขยี น)
๒) ความสามารถในการคิด
(วิเคราะห์ จัดกลุ่ม สรปุ )
๓) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
๓.๓ คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / คา่ นยิ ม
๑) มีวินยั

- 134 -

๔. กจิ กรรมการเรียนรู้
รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ แบบโฟรแ์ มทซสิ เต็ม (4 MAT’S Learning)
๔.๑ ขั้นตอนการเรยี นรู้
ชวั่ โมงที่ ๑
1) ครูนาวีดีโอ เรือ่ ง เคารพสทิ ธิผอู้ ่ืน ให้นักเรียนชม และให้นักเรียนตอบคาถาม

 นักเรียนมีความคิดเห็นย่างไรต่อเร่ืองที่ชม ( เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการกระทาเหล่านั้น
เพราะอะไร)

 ถ้านักเรียนเป็นเจ้าของกระถางต้นไม้ นักเรียนจะวางกระถางต้นไม้บนกาแพงระหว่างบ้าน
หรือไม่ เพราะเหตใุ ด
2) ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับเนื้อหาในวีดีโออีกครั้งเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าการกระทา
ดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่อย่างไร
3) แบ่งกลุ่มนักเรียน ออกเป็นกลุ่มละ 5-7 คน ให้แต่ละกลุ่มช่วยกันเสนอแนวทางในการแก้ไข
ปญั หาท่เี กดิ ขึ้น (จากการชมคลิปวิดีโอ เคารพสิทธผิ ูอ้ นื่ ) แล้วสรปุ ลงในสมุด เรื่อง เคารพสิทธิผู้อื่น
พรอ้ มสง่ ตัวแทนออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน
4) ครบู นั ทึกแนวทางการแก้ไขปัญหาของแต่ละกลุ่ม เพื่อเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ว่าแต่ละแนวทาง
สามารถนาไปปฏบิ ตั ิ และมผี ลดีผลเสยี มากน้อยเพยี งใด
5) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ แนวทางในการแก้ไขปัญหา เช่น การปรบั ทัศนคติ

ชัว่ โมงท่ี 2
6) นกั เรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-7 คน ให้ศึกษาใบความรู้ เร่ือง การปฏิบัติตนตามข้อตกลง

ของครอบครัว โรงเรียน และสังคม แล้วให้แต่ละกลุ่มช่วยกันทาใบงาน เร่ือง ปฏิบัติตามระเบียบ
กฎเกณฑ์ ของโรงเรียน ขอ้ ตกลงของห้องเรยี น เกยี่ วกบั การแต่งกายและการเข้าแถว
7) นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอในประเดน็ ตอ่ ไปนี้

- สาเหตทุ ่ีปฏบิ ตั ิตาม ระเบียบ กฎเกณฑ์ ของโรงเรียน และ ข้อตกลงของห้องเรียน เกี่ยวกับ
การแตง่ กายและการเขา้ แถว

- สาเหตุทไ่ี ม่ปฏบิ ัตติ าม ระเบียบ กฎเกณฑ์ ของโรงเรยี น และขอ้ ตกลงของห้องเรียน เกี่ยวกับ
การแต่งกายและการเข้าแถว
- หากนักเรียนไม่ปฏิบัติตามระเบียบ กฎเกณฑ์ ของโรงเรียน และข้อตกลงของห้องเรียน
เกีย่ วกับการแตง่ กายและการเข้าแถว จะทาให้เกดิ ผลเสยี อยา่ งไร

- 135 -

- หากนักเรียนปฏิบัติตามระเบียบ กฎเกณฑ์ ของโรงเรียน และข้อตกลงของห้องเรียน
เกีย่ วกบั การแต่งกายและการเข้าแถว จะทาใหเ้ กดิ ดีอยา่ งไร

- ผลกระทบทีเ่ กิดข้นึ จากการขาดระเบยี บวนิ ยั เรื่องเก่ยี วกับการแตง่ กายและการเข้าแถว

- แนวทางในการแกไ้ ขปัญหาเก่ยี วกบั เร่อื งการแต่งกายและการเข้าแถว

- ผลทีเ่ กิดข้นึ หลังจากการแกไ้ ขปัญหาเกี่ยวกบั เรือ่ งการแตง่ กายและการเข้าแถว

8) นกั เรยี นอภปิ รายรว่ มกนั เกย่ี วกับการเขา้ แถวรบั บรกิ ารตา่ งๆภายในโรงเรียน ว่าเป็นการปฏิบัติตน
ตามหน้าท่ีพลเมือง และมีความรับผิดชอบต่อสังคม ทาให้เกิดความมีระเบียบวินัย สานึกใน
หน้าที่ อดทน อดกลั้น ท้ังน้ีเพื่อนาไปสู่การแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมและความรับผิดชอบใน
สงั คมการดารงชวี ิตของมนุษย์

9) ครอู ธบิ ายให้นกั เรยี นเข้าใจถึงบทบาทหน้าท่ีของเยาวชนที่มีต่อสังคมและให้นักเรียนแบ่งออกเป็น
กลุ่ม กลุ่มละ 5-7 คน ช่วยกันศึกษาค้นคว้า หาแนวทางการปฏิบัติตนของเยาวชนต่อสังคม โดย
เนน้ จิตสาธารณะ กลา่ วคือ การกระทาต่างๆ ตอ้ งคานกึ ถึงประโยชนข์ องส่วนรวม เชน่

- เคารพกติกาของสงั คม

- มรี ะเบยี บวนิ ยั

- มีจิตสาธารณะ

10)ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มให้ความรู้หรือคาแนะนาในการเข้าแถวรับบริการให้เป็นระเบียบและการ
แต่งกายท่ีถูกต้องกับห้องเรียนชั้นอื่นๆ เพื่อเป็นการฝึกระเบียบวินัยให้กับเพ่ือนนักเรียน และฝึก
ตนเองให้เป็นผู้มีจิตอาสา ( นักเรียนต้องคอยสังเกตและบันทึกข้อมูลของแต่ละห้องหลังจากให้
ความรู้หรือคาแนะนา ว่ามีระเบียบวินยั ในการเข้าแถวมากขึ้นหรือไม่)

11)นักเรียนแต่ละกลุ่มนาผลการสังเกตและข้อมูลมาอภิปรายร่วมกันเกี่ยวกับการเข้าแถวรับบริการ
ของแต่ละระดบั ช้นั

- นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปแนวทางการทาตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์ตอ่ สงั คม

1) หากปฏิบัติตาม ระเบียบ กฎเกณฑ์ ของโรงเรียน และ ข้อตกลงของห้องเรียน เก่ียวกับ
การแตง่ กายและการเขา้ แถวนนั้ จะไม่เกดิ ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต

2) หากนักเรียนไม่ปฏิบัติตามระเบียบ กฎเกณฑ์ ของโรงเรียน และข้อตกลงของห้องเรียน
เก่ียวกับการแต่งกายและการเขา้ แถวนนั้ จะเกดิ ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต
และจะทาใหเ้ กิดผลเสยี ต่อสงั คมสาวนรวม

๔.๒ ส่อื การเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้

๑) วีดโี อ เรื่อง เคารพสิทธิผู้อ่ืน

- 136 -

๒) ใบงาน เร่ือง ปฏิบตั ติ ามระเบียบ กฎเกณฑ์ ของโรงเรียน ข้อตกลงของห้องเรียน เก่ียวกับ
การแตง่ กายและการเขา้ แถว
3) ใบความรเู้ รื่องการปฏบิ ัตติ นตามข้อตกลงของครอบครวั โรงเรียน และสงั คม
4) อนิ เทอรเ์ นต็
5) ห้องสมุด
๕. การประเมินผลการเรยี นรู้
๕.๑ วิธีการประเมิน
1) การสังเกต

- สงั เกตการณ์ปฏิบตั ติ ามกฎระเบยี บการแต่งกายและการเข้าแถวของนกั เรยี น
๒) ตรวจใบงาน

๕.๒ เครอื่ งมือทีใ่ ชใ้ นการประเมิน
1.) แบบสังเกตการตรวจเครื่องแตง่ กายและการเขา้ แถวของนกั เรียน
2.) แบบใหค้ ะแนนการตรวจใบงาน

๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสิน
1.) นักเรียนผา่ นการประเมินระดบั ดี ข้นึ ไปถือว่าผ่าน
2.) นกั เรยี นผ่านการประเมินใบงานระดับดขี ึ้นไป

6.บนั ทกึ หลงั สอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื .........................................................ครผู ู้สอน
(.............................................................)

- 137 -

ใบความรู้
เรื่อง การปฏิบตั ิตนตามข้อตกลงของครอบครัวโรงเรยี น และสังคม

การอยูร่ ว่ มกันในสังคมได้อย่างมีความสุขน้ัน.สมาชิกในสังคมต้องปฏิบัติตนตามข้อตกลงในสังคม.โดย
เร่ิมตั้งแต่การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ีดีต่อครอบครัวและโรงเรียนในวัยเด็ก .ซ่ึงเป็นพื้นฐานในการใช้ชีวิตใน
อนาคตต่อไป.นักเรียนทุกคนมีความสามารถในแต่ละด้านแตกต่างกันไป.การใช้ความสามารถในด้านที่ตนมีอยู่
เพ่ือกระทาความดี.จะส่งผลให้ตนเองเป็นผู้มีจิตใจท่ีดี.เป็นท่ีชื่นชมของผู้อ่ืน.และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมี
ความสขุ

1..การปฏิบตั ิตนตามข้อตกลง.กฎระเบียบ.ข้อบงั คบั .ของครอบครัว.โรงเรียน.และสังคม
1.1.การปฏิบัติตนตามข้อตกลง.ของครอบครัว.ในครอบครัวประกอบด้วยสมาชิกที่สาคัญ

ได้แก่ พ่อ แม่ และลูก ในบางครอบครัวจะมีคนอ่ืนๆ อยู่ร่วมด้วย เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย เมื่อเราอยู่ร่วมกันหลาย
คนในครอบครัวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ในสถานะสมาชิกที่ดีขอ งครอบครัวแล้ว.ทุกคนควร
ปฏิบัติตามข้อตกลงร่วมกันของครอบครัวเพื่อความสัมพันธ์ท่ีดีต่อกัน และอยู่ร่วมกันในครอบครัวอย่างมี
ความสุขในฐานะลูกท่ีควรปฏิบัติต่อพ่อแม่.เช่น.ช่วยแบ่งเบาภาระของ พ่อแม่ ต้ังใจศึกษาเล่าเรียน.เคารพ
เชือ่ ฟงั พอ่ แม่

1.2.การปฏบิ ัติตนตามกฎระเบียบ.ขอ้ บงั คับของโรงเรียน.การที่นักเรียนมาอยู่ในโรงเรียนเป็น
จานวนมากมาย.ทุกคนมาจากครอบครัวที่แตกตา่ งกนั แต่เมื่อมาอย่ดู ้วยกนั แลว้ ทกุ คนจะต้องปฏิบัติตามระเบียบ
ข้อบงั คบั ของโรงเรียน.เพอ่ื เราจะได้อยรู่ ่วมกนั อย่างมีความสขุ และเกิดความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย เชน่

-.เมือ่ มาโรงเรียน.เราตอ้ งปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บของโรงเรียน.เช่น.การแต่งกายให้ ถูกระเบียบ.
มาโรงเรยี นให้ทันเขา้ แถวเคารพธงชาติ.เขา้ แถวเป็นระเบียบ.ทาความเคารพถูกตอ้ งตามระเบยี บ

-.เม่ืออยู่ในโรงเรียน.ปฏิบัติตามข้อตกลงของห้องเรียน.เราต้องช่วยกันรักษาความสะอาด
ห้องเรยี น.และบรเิ วณตา่ งๆของโรงเรียน.ท้งิ ขยะลงในถงั ขยะท่โี รงเรียนจัดให้การเข้า.-.ออกบริเวณโรงเรียนตาม
ระเบยี บ ไมเ่ ลน่ การพนัน ไม่กอ่ การทะเลาะวิวาท.ไม่หมกมนุ่ กบั สิง่ ลามกอนาจาร

-.ปฏิบัติตามกฎระเบยี บของหอ้ งพิเศษ.เช่น.หอ้ งสมดุ .ห้องคอมพวิ เตอร์ หอ้ งปฏบิ ัติการต่างๆ
-.ให้ความเคารพเชื่อฟังครูต้ังใจเรียนหนังสือ.รวมทั้งงานต่างๆท่ีครูมอบหมายด้วยความต้ังใจ
และเอาใจใส่.ส่งงานตรงเวลา.นอกจากนี้นักเรียนควรปฏิบัติตนให้เป็นสมาชิกที่ดีของห้องเรียนและโรงเรียน
เชน่
-.ปฏิบัติในการเป็นผู้นาและผู้ตามที่ดี.ต้องรู้ว่าเมื่อเราเป็นผู้นาในการทากิจกรรมต่างๆควร
ปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร และเม่ือเป็นผ้ตู ามควรปฏิบตั ิอยา่ งไร
- รู้จักแสดงความคิดเห็นตามสิทธิของตนเอง รวมทั้งรู้จักรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน และ
เคารพขอ้ ตกลงของคนส่วนใหญ่
- ถ้าเกิดความขัดแย้งกัน.ให้แก้ปัญหาด้วยหลักเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์และพละกาลังในการ
แก้ปญั หา.เพราะไม่ใช่วิธแี ก้ทถ่ี กู ต้อง.แตก่ ลบั จะทาใหเ้ กดิ ปัญหาอ่ืนๆตามมา
-.ในการแขง่ ขนั ทากจิ กรรมตา่ งๆ.ของโรงเรียน.เช่น.การแข่งขันกีฬา.การประกวด ในด้าน
ต่างๆตอ้ งฝกึ ฝนตนเองใหเ้ ปน็ ผ้รู ูจ้ กั แพ้.รูช้ นะ.และรูจ้ ักให้อภยั .รวมทัง้ ยอมรบั ในคาตดั สินของคณะกรรมการ
1.3.การปฏิบัติตนตามข้อตกลง.กฎระเบียบ.ข้อบังคับของชุมชนและสังคม.เช่น ปฏิบัติตาม
กฎจราจร.โดยข้ามตรงทางม้าลาย.หรือสะพานลอย.ไม่ว่ิงข้ามถนนตัดหน้ารถ.ไม่ทิ้งขยะลงในท่ีสาธารณะ.ไม่
ทาลายสิ่งของที่เป็นสาธารณะ.และทรัพย์สินส่วนตัวของผู้อื่นให้ได้รับความเสียหายเพราะความสนุกสนานของ

- 138 -

ตนเอง นอกนอกจากการปฏิบัติตามกฎระเบียบของชุมชนแล้ว.นักเรียนควรปฏิบัติตนให้เป็นสมาชิกที่ดีของ
ชุมชนและสงั คมได้ เชน่

-.การเข้าร่วมกิจกรรมของชุมชน.เพอ่ื ชว่ ยรักษาและเผยแพร่วัฒนธรรม.ประเพณี ของชุมชน
ไว้ในแต่ละชุมชนจะมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมา.เช่น.ประเพณีการทาบุญเม่ือถึงวันสาคัญ
ทางศาสนา.ประเพณีวันสงกรานต์.ประเพณวี นั ลอยกระทง

-.บาเพ็ญประโยชน์ต่อชุมชน.เช่น.ช่วยเก็บเศษขยะที่พบเห็นบริเวณต่างๆ.ช่วยดูแลต้นไม้
ดอกไม้ในสวนสาธารณะของชมุ ชน

-.ร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในชุมชน โดยให้ทุกคนในชุมชนมี
จิตสานึกในการรักษาสงิ่ แวดลอ้ ม

- 139 -

ใบงานท่ี 2
เรอ่ื ง การปฏบิ ตั ติ นตามระเบียบ กฎเกณฑ์ ของโรงเรียน ข้อตกลงของห้องเรียน

เรอ่ื งการแตง่ กายและการเขา้ แถวของนักเรียน

ชือ่ กลมุ่ .......................................................................

รายชื่อสมาชกิ ในกลุม่ 1. ................................................................ 2. .........................................................

3. ................................................................ 4. .........................................................

5. ................................................................ 6. .........................................................

7. ................................................................ 8. .........................................................

คาชแ้ี จง นักเรียนศกึ ษาระเบียบ กฎเกณฑ์ ข้อตกลงในโรงเรียน.แลว้ ปฏบิ ตั ดิ งั น้ี

- สารวจตนเองว่า.เคยปฏิบตั ิตามระเบยี บ กฎเกณฑ์ ของโรงเรยี น ข้อตกลงของหอ้ งเรยี น หรอื ไม่.

เพราะเหตุใด

ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ของโรงเรยี น เคยทา ไมเ่ คยทา เหตุผล

ข้อตกลงของห้องเรียน

- 140 -

1. หากนักเรยี นไมป่ ฏิบตั ติ ามระเบยี บ กฎเกณฑ์ ของโรงเรยี น ขอ้ ตกลงของห้องเรียน จะทาใหเ้ กดิ ผลเสีย
อยา่ งไร
........................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................................ ........
........................................................................................................................... .....................................

2. หากนกั เรยี นปฏิบัติตามระเบียบ กฎเกณฑ์ ของโรงเรยี น ข้อตกลงของห้องเรียน จะทาใหเ้ กดิ ดอี ยา่ งไร
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.............................................................................................................................. ..................................

3. ผลกระทบที่เกดิ ข้นึ จากการขาดระเบียบ กฎเกณฑ์ ของโรงเรียน ขอ้ ตกลงของหอ้ งเรียน

................................................................................................................................................ ................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

4. แนวทางในการแกไ้ ขปญั หา

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................... .........................
................................................................................................................................................................

5. ผลทเ่ี กิดขนึ้ หลงั จากการแกไ้ ขปัญหา

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................... .............................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................... ..........................

- 141 -

แบบประเมนิ ใบงาน
เรอ่ื ง การปฏิบัตติ นตามระเบยี บ กฎเกณฑ์ ของโรงเรยี น ข้อตกลงของห้องเรียน

ชือ่ กลมุ่ ……………………………………………….

ลาดับท่ี รายการประเมนิ ๕ คณุ ภาพผลงาน ๑
๔๓๒

๑. หากนักเรยี นไมป่ ฏิบัติตามระเบียบ กฎเกณฑ์ ของโรงเรียน ข้อตกลง
ของห้องเรียน จะทาใหเ้ กดิ ผลเสียอยา่ งไร

หากนกั เรยี นปฏบิ ตั ิตามระเบียบ กฎเกณฑ์ ของโรงเรยี น ข้อตกลงของ
๒. ห้องเรยี น จะทาใหเ้ กิดดอี ย่างไร

ผลกระทบท่ีเกิดข้ึนจากการขาดระเบียบ กฎเกณฑ์ ของโรงเรียน
๓. ข้อตกลงของหอ้ งเรยี น

๔. แนวทางในการแก้ไขปัญหา
๕. ผลทีเ่ กดิ ขนึ้ หลงั จากการแกไ้ ขปัญหา

รวม

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมิน
............../.................../................

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

เกณฑก์ ารให้คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

ดมี าก = ๕ ๒๒-๒๕ ดีมาก

ดี = ๔ ๑๘-๒๑ ดี

เกือบดี = ๓ ๑๔-๑๗ พอใช้

พอใช้ = ๒ ตา่ กวา่ ๑๓ ปรบั ปรุง

ปรบั ปรุง =๑

- 142 -

แบบบันทึกการตรวจเคร่ืองแตง่ กาย และการเข้าแถวของนักเรียน
ให้ทาเคร่ืองหมาย X ในช่องที่นักเรียนทาผิดระเบยี บ แล้วตดิ ตามนักเรยี นให้แก้ไขให้ถกู ต้อง

เคร่ืองแต่งกาย การเข้าแถว

เลขที่ ช่ือ – สกุล ถงุ รอง เสื้อ กระโป ตรงเวลา เข้าแถวรับ รวม

เทา้ เท้า รง- บริการ
กางเก



- 143 -

แผนการจัดการเรียนรู้ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓
เวลา ๑ ช่วั โมง
หนว่ ยท่ี ๒ ช่ือหนว่ ย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๕ เรือ่ ง การเลือกต้ัง

๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับความไมท่ นและความละอายตอ่ การทจุ รติ
๑.๒ ปฏิบัตติ นเป็นผไู้ มท่ นและละอายต่อการทจุ รติ ทุกรูปแบบ
๑.๓ ตระหนักและเหน็ ความสาคัญของการตอ่ ต้านและป้องกนั การทจุ รติ

๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
2.1 นักเรยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับการเลือกต้ังตามระบอบประชาธปิ ไตย
2.2 นักเรียนสามารถคิดวเิ คราะห์ถึงความเหมาะสมเกยี่ วกบั การเลือกตัง้ ตามระบอบประชาธิปไตย
๒.๓ นกั เรียนตระหนักและเห็นความสาคัญของการต่อตา้ นและป้องกันการทุจรติ

๓. สาระการเรียนรู้
3.1 ความรู้
๑) ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต
2) การเลือกต้งั ในระดบั ต่างๆ ตามระบอบประชาธปิ ไตย
3) ความสาคญั ของการต่อต้านและป้องกันการทจุ ริต
3.2 ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่เี กิด)
1) ความสามารถในการคดิ
1).ทักษะการสงั เกต
2).ทกั ษะการระบุ
2) ความสามารถในการสือ่ สาร
(อ่าน ฟัง พูด เขยี น)
๓) ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
(วเิ คราะห์ จดั กลุ่ม สรุป)
3.3 คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ / ค่านยิ ม
๑) มีวินัย
๒) ซ่อื สตั ยส์ ุจริต

๔. กิจกรรมการเรยี นรู้
4.1 ข้ันตอนการเรยี นรู้
ช่วั โมงที่ 1
๑) ชมคลปิ วดี โี อ เรื่อง ประชาธิปไตย คืออะไร ที่มาของคลิปวดี ีโอ
https://www.youtube.com/watch?v=_K_VxvOmOKk
2) สนทนา อภิปราย ซักถาม จากการชมคลปิ วดี ีโอ เรอ่ื ง ประชาธิปไตย คอื อะไร โดยใช้คาถาม เชน่

- 144 -

จากการรับชมคลปิ วีดีโอ นักเรียนเข้าใจวา่ ประชาธปิ ไตย คืออะไร
กิจกรรมอะไรบา้ งท่ีแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความเปน็ ประชาธิปไตย โดยครเู ชอื่ มโยงใหผ้ เู้ รยี นสะทอ้ นให้

เห็นถงึ การเลือกตง้ั
๓) ชมคลปิ วีดีโอ เรอ่ื ง ประชาธปิ ไตยวนั ละคาเสนอคาว่า "การเลอื กต้งั " : Think ต่างการเมือง

ที่มาของคลิปวดี ีโอ https://www.youtube.com/watch?v=2mkG7uWfd00
4) สนทนา อภิปราย ซกั ถาม จากการชมคลปิ วดี ีโอ เรื่อง ประชาธปิ ไตย คอื อะไร โดยประเดน็ การสนทนา
เปน็ ประเด็นเพ่ือใหน้ ักเรียนเข้าใจในความเปน็ ประชาธิปไตย
๕) นักเรียนยกตวั อย่างกิจกรรมทีส่ ่งเสริมประชาธิปไตย แล้วหาอาสาสมคั รนักเรยี นออกมาเขียน
รวบรวม

บนกระดาน
๖) ใหน้ ักเรียนท่ีมีประสบการณใ์ นการมีส่วนร่วมในกจิ กรรมประชาธปิ ไตยออกมาเล่าให้เพื่อนฟังท่ี

หนา้ ช้ันเรยี น และบอกประโยชน์ท่ีไดร้ บั จากการเข้าร่วมกจิ กรรม
๗) ครชู แ้ี จงใหน้ กั เรียนทราบวา่ กจิ กรรมที่ส่งเสริมประชาธิปไตยมีหลายรูปแบบ นักเรยี นควรรู้จัก

การมสี ่วนร่วมในกิจกรรมตา่ งๆ อยา่ งเหมาะสม
๘) ชมคลิปวดี ีโอ เรือ่ ง เอนเิ มช่ันการเลอื กตงั้ (กกต.)

ทม่ี าของคลิปวดี โี อ https://www.youtube.com/watch?v=BQ0-iGy4JX4
๙) สนทนา อภปิ ราย วา่ หากการเลือกตั้งมีการทจุ รติ คอรปั ชัน จะเกิดผลเสียอยา่ งไร และท่ถี ูกต้องควร
เป็น

เชน่ ไร
10) ให้นักเรียนทาใบงาน เรือ่ ง กิจกรรมทส่ี ง่ เสรมิ ประชาธิปไตย

4.2 ส่อื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้
1) คลิปวิดีโอ เรือ่ ง ประชาธปิ ไตย คืออะไร ท่ีมาของคลิปวดี ีโอ
https://www.youtube.com/watch?v=_K_VxvOmOKk
๒) คลปิ วิดโี อ เรื่อง ประชาธปิ ไตยวนั ละคาเสนอคาวา่ "การเลอื กตง้ั " : Think ต่างการเมือง
https://www.youtube.com/watch?v=2mkG7uWfd00
๓) คลปิ วิดีโอ เร่ือง เอนเิ มช่ันการเลือกตง้ั (กกต.)
https://www.youtube.com/watch?v=BQ0-iGy4JX4
๔) ใบงาน เรอ่ื ง กิจกรรมที่ส่งเสรมิ ประชาธปิ ไตย

๕. การประเมินผลการเรียนรู้
5.1 วธิ กี ารประเมิน
๑) ใบงาน เร่อื ง กจิ กรรมท่สี ่งเสริมประชาธปิ ไตย
๒) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานของผเู้ รยี นเป็นรายบุคคล
๕.๒ เครอื่ งมือทใ่ี ชใ้ นการประเมิน
1. แบบประเมนิ ใบงาน
๒. แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานของผู้เรยี นเปน็ รายบุคคล

- 145 -

๕.3 เกณฑก์ ารตัดสิน
นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดับดีข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น

6. บนั ทกึ หลงั สอน

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ ................................................ ครูผู้สอน
(.................................................)

- 146 -

แบบประเมนิ ใบงาน

เร่ือง .......................................................................... ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ……..
วนั ท.่ี ....................เดอื น........................................................พ.ศ. ..................................

ที่ ประเดน็ คะแนน ความตั้งใจ ความ เสร็จตาม รวม ระดบั
ชื่อ - สกลุ ปฏิบตั ิงาน ถกู ต้อง กาหนด ๑๕ คณุ ภาพ
คะแนน
๕ ๕ ๕



















๑๐

เกณฑ์การประเมนิ และระดบั คณุ ภาพ

คะแนน ๑๓ - ๑๕ คะแนน หมายถงึ ดมี าก

คะแนน ๙ – ๑๒ คะแนน หมายถงึ ดี

คะแนน ๕ – ๘ คะแนน หมายถงึ พอใช้

คะแนน ๑ – ๔ คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง

จานวนคนท่ผี ่านระดบั คณุ ภาพ......................คน รอ้ ยละ...............

จานวนคนทไี่ ม่ผา่ นระดับคุณภาพ..................คน รอ้ ยละ...............

ลงชอื่ .................................... ผปู้ ระเมนิ
(...................................................)

- 147 -

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานของผ้เู รียนเปน็ รายบุคคล

พฤตกิ รรม การแสดง การตอบ การยอมรบั ทางาน หมายเหตุ
ที่ ความสนใจ ความ คาถาม ฟงั คนอืน่ ตามที่ได้รบั
มอบหมาย
ชื่อ-สกุล คดิ เหน็

43214321432143214321

เกณฑ์การวดั ผล ให้คะแนนระดับคณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรมดังนี้

ดมี าก = 4 สนใจฟัง ไมห่ ลับ ไม่พูดคุยในชนั้ มคี าถามท่ีดี ตอบคาถามถูกต้อง ทางานส่งครบตรง
เวลา

ดี = 3 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑป์ ระมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑป์ ระมาณ 50%
ปรับปรงุ = 1 เข้าช้ันเรยี น แตก่ ารแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไม่ครบ ไมต่ รงเวลา

ลงชือ่ ……………………………….ผสู้ ังเกต
(……………………………….)
…………/…………/………..

- 148 -

ชอ่ื .............................................................สกลุ ...................................................ช้นั ................เลขที่ ......
โรงเรียน.................................................................................................

ใบงาน
เร่อื ง กจิ กรรมที่ส่งเสรมิ ประชาธปิ ไตย

คาชแี้ จง นักเรยี นหาภาพกิจกรรมท่ีเปน็ การสง่ เสริมประชาธิปไตยมาตดิ ลงในกรอบ
แล้วเขียนอธบิ ายโดยสังเขป

ภาพนี้ คือ ........................................................

เป็นการส่งเสรมิ ประชาธิปไตย เพราะ

- 149 -

แผนการจดั การเรียนรู้ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๓
เวลา ๑ ช่วั โมง
หน่วยที่ ๒ ชอ่ื หน่วย ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๖ เร่อื ง การรวมกลุ่มเพื่อสร้างสรรคต์ ้านทจุ ริต

๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความไมท่ นและความละอายตอ่ การทจุ ริต
๑.๒ ปฏิบัตติ นเปน็ ผไู้ ม่ทนและละอายต่อการทจุ ริตทุกรูปแบบ
๑.๓ ตระหนกั และเห็นความสาคญั ของการต่อต้านและป้องกันการทุจรติ

๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
2.1 นักเรียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับการต่อต้านการทุจริตในรปู แบบตา่ งๆ
2.3 นกั เรยี นสามารถรวมกลุ่มคิดวเิ คราะห์ถงึ วิธีการต่อต้านการทุจริตในรูปแบบตา่ งๆ
๒.๓ นักเรยี นสามารถตระหนักและเหน็ ความสาคัญของการต่อต้านและป้องกันการทจุ ริต

๓. สาระการเรยี นรู้
3.1 ความรู้
๑) ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ
2) การทุจรติ ในรูปแบบตา่ งๆ
๓) ความสาคญั ของการตอ่ ต้านและป้องกันการทุจรติ
3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กิด)
1) ความสามารถในการคดิ
1).ทกั ษะการสังเกต
2).ทักษะการระบุ
2) ความสามารถในการส่ือสาร
(อา่ น ฟัง พูด เขียน)
๓) ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
(วเิ คราะห์ จัดกลุ่ม สรุป)
3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ / คา่ นิยม
๑) ซ่ือสัตย์สจุ รติ
๒) ม่งุ มนั่ ในการทางาน

๔. กิจกรรมการเรยี นรู้
4.1 ขั้นตอนการเรยี นรู้
ชั่วโมงท่ี 1
1) ชมคลปิ วดี ีโอ เรื่อง ปัญหาการทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ไมใ่ ช่เร่ืองไกลตัว โดยมีทม่ี าของคลิป
https://www.youtube.com/watch?v=f2oscZsL3ZM&t=14s
2) สนทนา อภปิ ราย ซักถาม จากการชมคลปิ วีดโี อ เรอื่ ง ปญั หาการทจุ รติ คอร์รัปชนั ไม่ใช่เรื่องไกลตวั
โดยใช้คาถาม เช่น

- 150 -

นักเรียนรสู้ กึ อย่างไรจากการรับชมคลปิ วีดโี อ
การคอรัปชนั ดหี รือไม่ อยา่ งไร
นกั เรยี นพบเห็นการคอรปั ชนั ท่ีอยใู่ กล้ๆตัว นักเรยี นเชน่ เรอื่ งใดบา้ ง นักเรยี นเกดิ ความรสู้ ึก

อยา่ งไร และนกั เรยี นจะแกไ้ ขอย่างไร ฯลฯ
3) ชมคลิปวีดโี อ เร่อื ง พูดตอ่ ตา้ นการทุจริต รางวลั ชนะเลศิ ปี 2559 โดยมที ีม่ าของคลิ
https://www.youtube.com/watch?v=GnhRyr9lTZ8
4) สนทนา อภปิ ราย ซกั ถาม จากการชมคลปิ วีดโี อ

5) แบง่ นกั เรียนออกเป็นกล่มุ กลุ่มละ 4-5 คน คดิ กิจกรรมทีจ่ ะร่วมกนั ต่อตา้ นการทุจรติ ตาม
ประเด็น ดงั ต่อไปนี้
ช่ือหวั ข้อการตอ่ ต้านการทุจริต
 สมาชกิ
 วัตถุประสงค์ของการตั้งกลุ่ม
วธิ ีการรณรงคก์ ารต่อตา้ นการทจุ รติ
ผลทีค่ าดวา่ จะไดร้ ับ
โดยจัดทาเป็นแผ่นป้ายรณรงค์ พรอ้ มนาเสนอ และนาผลงานไปติดประชาสัมพนั ธต์ ามบรเิ วณ

ตา่ งๆ เพื่อเผยแพร่
4.2 ส่อื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้
1) คลปิ วดี โี อ เรอื่ ง ปญั หาการทุจริตคอร์รัปชนั ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งไกลตวั โดยมที ี่มาของคลปิ
https://www.youtube.com/watch?v=f2oscZsL3ZM&t=14s
๒) คลิปวดี โี อ เรอื่ ง พดู ต่อตา้ นการทจุ รติ รางวลั ชนะเลิศ ปี 2559 โดยมที ี่มาของคลปิ
https://www.youtube.com/watch?v=GnhRyr9lTZ8
๓) กระดาษโปสเตอร์
๔) สี

๕. การประเมินผลการเรียนรู้
5.1 วธิ กี ารประเมิน
๑) ชนิ้ งานการออกแบบแผน่ ปา้ ยรณรงค์การต่อต้านการทุจรติ
๒) สังเกตพฤติกรรมการทางานของผเู้ รียนเปน็ รายบุคคล
๓) สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม
๔) การนาเสนอผลงาน
๕.๒ เคร่ืองมือทีใ่ ชใ้ นการประเมนิ
1) แบบประเมนิ ชน้ิ งาน
๒) แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานของผู้เรียนเป็นรายบุคคล
๓) แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
๔) แบบบันทึกการนาเสนอผลงาน

๕.3 เกณฑ์การตัดสิน
นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินระดับดีขึน้ ไป ถือว่าผา่ น

- 151 -

๖. บนั ทกึ หลังสอน
............................................................................................................................. ............................

................................................................................................................................................. .............................
...................................................................................................... ........................................................................
............................................................................................................................. .................................................
....................................................................................................................................... .......................................
............................................................................................ ..................................................................................

ลงชื่อ ................................................ ครูผสู้ อน
(.................................................)

- 152 -

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานของผ้เู รียนเปน็ รายบุคคล

พฤตกิ รรม การแสดง การตอบ การยอมรบั ทางาน หมายเหตุ
ที่ ความสนใจ ความ คาถาม ฟงั คนอืน่ ตามที่ได้รับ
มอบหมาย
ชื่อ-สกุล คดิ เห็น

43214321432143214321

เกณฑ์การวดั ผล ให้คะแนนระดบั คณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรมดังนี้

ดมี าก = 4 สนใจฟงั ไมห่ ลับ ไมพ่ ดู คุยในชนั้ มคี าถามท่ีดี ตอบคาถามถูกต้อง ทางานส่งครบตรง
เวลา

ดี = 3 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยูใ่ นเกณฑป์ ระมาณ 50%
ปรับปรงุ = 1 เข้าชนั้ เรียน แตก่ ารแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไม่ครบ ไมต่ รงเวลา

ลงชือ่ ……………………………….ผู้ประเมิน
(……………………………….)
…………/…………/………..

- 153 -

แบบประเมนิ พฤติกรรมการทางานกล่มุ

กลุ่ม ..........................................................................................................
สมาชกิ ในกลุ่ม 1. ......................................................................

2. ......................................................................
3. ......................................................................
4. ......................................................................
5. ......................................................................
6. ......................................................................

คาชแ้ี จง: ใหน้ กั เรียนทาเครอื่ งหมาย  ในช่องท่ตี รงกับความเป็นจริง

พฤติกรรมท่สี ังเกต คะแนน

32 1

1. มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็
2. มคี วามกระตอื รือร้นในการทางาน
3. รบั ผิดชอบในงานที่ได้รบั มอบหมาย
4. มีขนั้ ตอนในการทางานอย่างเปน็ ระบบ
5. ใช้เวลาในการทางานอยา่ งเหมาะสม

รวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

พฤติกรรมท่ีทาเปน็ ประจา ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมท่ที าเป็นบางครั้ง ให้ 2 คะแนน
พฤตกิ รรมทีท่ านอ้ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
13-15 ดี
8-12
5-7 ปานกลาง
ปรับปรุง

- 154 -

แบบการประเมนิ ผลการนาเสนอผลงาน
เรอ่ื ง ……………………………………………………………………….
วิชา…………………………………………………….…………….ช้นั ……………….
ช่ือ/กลุ่ม……………………………………………………….…………………………………………………..

ท่ี รายการประเมิน ผู้ประเมิน รวม เกณฑก์ ารประเมนิ

1 เนอื้ หา ( 4 คะแนน ) ตนเอง เพอ่ื น ครู
9. เนอื้ หาครบถ้วนสมบูรณ์
10.เนือ้ หาถูกต้อง คะแนน 4 : มีครบทกุ ขอ้
11.เน้ือหาตอ่ เน่อื ง
12.มกี ารค้นควา้ เพม่ิ เตมิ คะแนน 3 : มี 3 ข้อ ขาด 1 ข้อ

2 กระบวนการทางาน(2คะแนน ) คะแนน 2 : มี 2 ข้อ ขาด 2 ขอ้
9. มีการวางแผนอย่างเปน็ ระบบ
10.การปฏิบตั ิตามแผน คะแนน 1 : มี 1 ขอ้ ขาด 3 ขอ้
11.ตดิ ตามประเมนิ ผล
12.การปรับปรุงพฒั นางาน คะแนน 2: มคี รบทุกข้อ
คะแนน 1 : มี ไม่ครบ 4 ข้อ
3 การนาเสนอ ( 2 คะแนน ) คะแนน 0 : ไมป่ รากฏกระบวน
7. การใชส้ านวนภาษาดถี กู ต้อง
8. การสะกดคาและไวยากรณ์ การทางานท่ชี ัดเจน
ถูกต้อง
9. รูปแบบน่าสนใจ คะแนน 2 : มคี รบทกุ ข้อ
4. ความสวยงาม คะแนน 1.5: มี 3 ขอ้ ขาด 1 ขอ้
คะแนน 1 : มี 2 ข้อ ขาด 2 ข้อ
4 คณุ ธรรม ( 2 คะแนน ) คะแนน 0.5 : มี 1 ข้อขาด 3 ขอ้
9. ตรงตอ่ เวลา
10.ซอ่ื สตั ย์ คะแนน 2 : มีครบทุกข้อ
11.ความกระตือรือร้น คะแนน 1.5: มี 3 ขอ้ ขาด 1 ขอ้
12.ความมีนา้ ใจ คะแนน1 : มี 2 ข้อ ขาด 2 ข้อ
รวม คะแนน 0.5 :มี 1 ข้อ ขาด 3 ขอ้
เฉลี่ย
คะแนนเต็ม 10 คะแนน

ลงชอ่ื ผูป้ ระเมนิ …………………………….. ตนเอง
ลงชอื่ ผ้ปู ระเมิน…………………………….. เพ่ือน
ลงชอ่ื ผปู้ ระเมนิ …………………………….. ครู


Click to View FlipBook Version