Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์ by ณัฐวิภา วิริยา

150 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

Present Perfect Tense

Present Perfect Tense ใช้แสดงเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนในอดีตและยังด�ำเนินต่อมา
หรือส่งผลถึงปัจจุบัน หรือเป็นเหตุการณ์ท่ีเพ่ิงเกิดขึ้นและสิ้นสุดลงเม่ือไม่นานมาน้ี โดยมี
หลักการใช้ Present Perfect ดังรายละเอียดต่อไปน้ี

1 ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระท�ำท่ีได้เกิดข้ึนแล้วในอดีต และเหตุการณ์นั้น

ยังคงด�ำเนินต่อเน่ืองหรือส่งผลมาถึงปัจจุบัน มักมีการใช้ร่วมกับ Adverbs ได้แก่ since

(ต้ังแต่) และ for (เป็นระยะเวลา) เพื่อแสดงเวลา เช่น
Nola has lived in Prague for twelve years.
โนล่าได้อยู่ที่กรุงปรากมาสิบสองปีแล้ว
My lawyer has never lost a court case since 2001.
ทนายความของฉันไม่เคยแพ้คดีศาลตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา
Ryan has driven the same car for nine years.
ไรอันขับรถคันเดิมมาเก้าปีแล้ว
I have run this business since I was 18 years old.
ฉันด�ำเนินธุรกิจนี้มาตั้งแต่ตอนที่ฉันอายุ 18 ปี
Where have you been? I haven’t seen you for a long time.
คุณหายไปไหนมาเน่ีย ฉันไม่ได้เห็นคุณมาเป็นเวลานานแล้วนะ

การใช้ Since และ For
หลายคนอาจจะยังสับสนว่า since และ for ใช้แตกต่างกันอย่างไร เนื่องจาก
มีลักษณะคล้ายกันแต่ในความจริงแล้วแตกต่างกันมาก ในท่ีนี้จะสรุปหลักการใช้ดังนี้
1. Since มีความหมายว่า ตั้งแต่ เราจะใช้ since + จุดเริ่มต้นของเวลา เช่น
since 2004 (ตั้งแต่ปี 2004), since last month (ตั้งแต่เดือนที่แล้ว), since



บทท่ี 3 : Present Time 151

yesterday (ตั้งแต่เมื่อวานนี้) หรือสามารถตามด้วยวลี/ประโยคก็ได้ เช่น since
I was young (ตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็ก), since he got married (ตั้งแต่เขาแต่งงาน)
ดังตัวอย่างประโยคต่อไปน้ี
We have worked here since 2004.
เราท�ำงานที่น่ีมาตั้งแต่ปี 2004.
I have known Emma since I was young.
ฉันรู้จักเอมม่าตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็ก
2. For มีความหมายว่า เป็นเวลา เราใช้ for + ช่วงเวลา เช่น for 6 years
(เป็นเวลา 6 ปี), for 2 months (เป็นเวลา 2 เดือน), for an hour (เป็นเวลา 1
ชั่วโมง) ดังตัวอย่างประโยคต่อไปนี้
Jessie has waited for you for three hours.
เจซซ่ีรอคุณมาสามช่ัวโมงแล้ว
We haven’t heard from Thomas for 6 years.
เราไม่ได้ข่าวจากโธมัสมา 6 ปีแล้ว

2 ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระท�ำท่ีเกิดขึ้นซ�้ำ ๆ กันในอดีต และมีแนวโน้ม

จะเกิดข้ึนอีก มักมี Adverb เช่นค�ำว่า many times, several times, over and over

เพ่ือบอกว่าเป็นเวลาหลายๆ ครั้งอยู่ในประโยคด้วย เช่น
We have visited Seoul several times.
เราได้ไปเยี่ยมชมกรุงโซลหลายคร้ังแล้ว
My sister has read Moby Dick over and over.
น้องสาวของฉันอ่านเร่ืองโมบี้ ด้ิกซ�้ำแล้วซ้�ำเล่า
I have told you many times not to sit on the desk.
ฉันบอกคุณกี่คร้ังก่ีหนแล้วว่าอย่าน่ังบนโต๊ะ



152 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

Your parents have called me many times this week.
พ่อแม่ของคุณได้โทรหาฉันหลายคร้ังเลยในสัปดาห์นี้
Your cell phone has rung four times since lunchtime.
โทรศัพท์มือถือของคุณดังมาสี่คร้ังแล้วต้ังแต่ตอนพักเท่ียง

3 ใช้กับเหตุการณ์ท่ีต้องการแสดงว่าเคยท�ำหรือไม่เคยท�ำในอดีต หรือเป็น

เหตุการณ์ท่ีไม่ได้มีการระบุเวลาที่ชัดเจนไว้ เน่ืองจากไม่ใช่ประเด็นส�ำคัญหรือไม่ทราบเวลา
ที่แน่ชัด มักมี Adverb เช่นค�ำว่า ever, never, once, twice อยู่ในประโยค ดังตัวอย่าง
ประโยคต่อไปนี้
Have you ever fallen in love?
คุณเคยตกหลุมรักบ้างหรือเปล่า
Leo has never respected other people’s opinions.
ลีโอไม่เคยเคารพความคิดเห็นของบุคคลอ่ืนเลย
I have had a car accident once.
ฉันเคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์คร้ังหน่ึง
They have watched the same movie twice.
พวกเขาดูหนังเร่ืองเดียวกันสองคร้ังแล้ว
We have never had an argument.
พวกเราไม่เคยโต้เถียงกันเลย

4 ใช้กับเหตุการณ์ท่ีเพิ่งเสร็จสิ้นไปเม่ือไม่นานมานี้ มักมี Adverb เช่น recently,

eventually, finally, already, yet โดยเฉพาะ just อยู่ในประโยคด้วย ดังตัวอย่างประโยค
ต่อไปนี้
Scarlet has just left the house.
สการ์เล็ตเพิ่งออกจากบ้านไป
Scientists have recently discovered Stem Cell.
นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบสเต็มเซลล์เมื่อไม่นานมาน้ี



บทท่ี 3 : Present Time 153

The manager has already received your resignation letter.
ผู้จัดการได้รับจดหมายลาออกของคุณเรียบร้อยแล้ว
My dreams have eventually come true.
ในท่ีสุดความฝันของฉันก็กลายเป็นจริง
We have finally found a way to survive.
ในท้ายท่ีสุดเราหาวิธีการอยู่รอดได้

5 ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนในอดีต แต่ผลของการกระท�ำยังส่งผล หรือ

ความส�ำคัญอยู่ในขณะที่พูด เชน่

We can’t get in the office. We have lost our keys.
เราไม่สามารถเข้าส�ำนักงานได้ เราท�ำกุญแจหาย
The police are looking for a suspect. He has escaped last week.
ต�ำรวจก�ำลังหาตัวผู้ต้องสงสัย เขาได้หนีไปเม่ือสัปดาห์ท่ีแล้ว
I’m happy now. I have finished the project yesterday.
ตอนน้ีฉันมีความสุขจัง ฉันท�ำโครงงานเสร็จแล้วเมื่อวานนี้
The train has arrived. Joyce should be around here.
รถไฟมาถึงแล้ว จอยซ์น่าจะอยู่แถว ๆ นี้
Mac has closed the door. It’s very hot right now.
แม็คปิดประตู ตอนน้ีอากาศเลยร้อนมาก

Present Perfect Tense มีโครงสร้างการใช้งานดังต่อไปนี้

Subject + Auxiliary Have + Past Participle
(ประธาน) (has / have) (กริยาช่องท่ี 3)



154 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

เมื่อเราเขียนประโยค Present Perfect เราต้องผันกริยาช่วย have ให้สอดคล้อง
กับประธานของประโยค ดังโครงสร้างต่อไปนี้

Subject Auxiliary Have Past Participle
(ประธาน) (กริยาช่วย Have) (กริยาช่องท่ี 3)

I have
You driven.
We
They has

He
She
It

เราสามารถย่อรูปประธาน + Auxiliary Have เข้าด้วยกันได้ ดังนี้

I have I’ve
you have you’ve
we have we’ve
they have they’ve
he has he’s
she has she’s
it has it’s

ตัวอย่างประโยค
I have been stuck in a difficult situation at my workplace for years.
I’ve been stuck in a difficult situation at my workplace for years.
ฉันติดอยู่ในสถานการณ์ที่ยากล�ำบากในที่ท�ำงานมาหลายปีแล้ว
You have promised me several times. You have to keep your words.
You’ve promised me several times. You have to keep your words.
คุณสัญญากับฉันหลายคร้ังแล้ว คุณต้องรักษาค�ำพูด



บทท่ี 3 : Present Time 155

We have eaten his hamburger. We will buy him a new one.
We’ve eaten his hamburger. We will buy him a new one.
เรากินแฮมเบอร์เกอร์ของเขาไป เดี๋ยวเราจะซ้ืออันใหม่ให้เขา
They have just bought a new apartment last week.
They’ve just bought a new apartment last week.
พวกเขาเพิ่งจะซ้ืออพาร์ตเมนต์ใหม่เม่ือสัปดาห์ท่ีแล้ว
He has driven so fast. I still get excited.
He’s driven so fast. I still get excited.
เขาขับรถเร็วมาก ฉันยังรู้สึกต่ืนเต้นอยู่เลยเน่ีย

Hurry up! It has started to rain.
Hurry up! It’s started to rain.
เร็ว ๆ เข้า ฝนเร่ิมตกแล้ว
การเปล่ียนประโยคบอกเล่าเป็นประโยคค�ำถามในกาล Present Perfect Tense
มีรูปแบบคล้ายกับ Tense อ่ืนๆ คือให้เราน�ำกริยาช่วยไปวางไว้หน้าประธาน ดังโครงสร้าง
ต่อไปนี้

Auxiliary Have Subject Past Participle
(กริยาช่วย Have) (ประธาน) (กริยาช่องท่ี 3)

Have I arrived?
Has you
we
they

he
she
it



156 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

ตัวอย่างประโยค
Have I sent you a copy of the report?
ฉันได้ส่งส�ำเนารายงานให้คุณแล้วหรือยัง
Have you ever thought of me?
คุณเคยนึกถึงฉันบ้างไหม
Have we ever met before?
เราเคยเจอกันมาก่อนหน้านี้ไหม
Have they found a cure for cancer?
พวกเขาค้นพบวิธีการรักษามะเร็งแล้วหรือยัง
Has Eddy arrived home yet?
เอ็ดด้ีกลับมาถึงบ้านหรือยัง
Has the film started?
หนังเร่ิมแล้วหรือยัง
ในกรณีท่ีเราสร้างประโยคค�ำถามแบบ Wh-Questions ให้เราน�ำ Question Words
เช่น what, where, who, when, why, which, how วางไว้หน้าประโยค ตามด้วย
Auxiliary have เช่น
This is a mess. What have you done?
น่ีมันยุ่งเหยิงมากเลยนะ คุณท�ำอะไรลงไป
How long has Bobby studied in Germany?
บ็อบบ้ีเรียนที่เยอรมนีมานานแค่ไหนแล้ว
When has Liz met your family?
ลิซมาพบกับครอบครัวของคุณตั้งแต่เม่ือไร
Why has Matt lied about his age?
ท�ำไมแมตต้องโกหกเร่ืองอายุของเขาด้วย
Where have all the students gone?
นักเรียนทั้งหมดหายไปไหน



บทท่ี 3 : Present Time 157

เม่ือเราเปลี่ยนเป็นประโยคปฏิเสธใน Present Perfect Tense ให้เราเติม not
ไว้หลัง Auxiliary have ดังโครงสร้างต่อไปนี้

Subject Auxiliary Have + Not Past Participle
(ประธาน) (กริยาช่องที่ 3)

I have not seen.
you has not
we
they

he
she
it

เราสามารถย่อรูป Auxiliary have + not เข้าด้วยกันได้ ดังน้ี

have not haven’t
has not hasn’t

ตัวอย่างประโยค
I have not been on a diet for two months.
I haven’t been on a diet for two months.
ฉันไม่ได้ควบคุมอาหารมาสองเดือนแล้ว
You have not asked me for permission.
You haven’t asked me for permission.
คุณไม่ได้ขออนุญาตจากฉัน



158 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

We have not seen each other for a long time.
We haven’t seen each other for a long time.
เราไม่ได้เจอกันเป็นเวลานานมาก
They have not followed the instruction test.
They haven’t followed the instruction test.
พวกเขาไม่ปฏิบัติตามค�ำส่ังในแบบทดสอบ
He has not given his workers opportunities to participate
in decisions.
He hasn’t given his workers opportunities to participate
in decisions.
เขาไม่ให้โอกาสพนักงานของเขามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
She has not supported her children enough.
She hasn’t supported her children enough.
หล่อนไม่ได้สนับสนุนลูก ๆ ของหล่อนอย่างเพียงพอ
It has not proven* yet.
It hasn’t proven* yet.
มันยังไม่ได้พิสูจน์เลย
* หมายเหตุ กริยาช่องท่ี 3 ของ prove สามารถใช้ได้ 2 รูปคือ proved และ proven



บทที่ 3 : Present Time 159

Complete the following sentences with for or since.

1 Susie and I have the flu. We haven’t gone to school ................... a week.
2 Nikki has taken work home to complete ................... a couple of years.
3 I’ve admired Margaret ................... I first met her.
4 Rose and Peter have been together ................... a year and a half.
5 We haven’t cleaned the house ................... last week.
6 Rita has not taken a sick day or personal day ................... years.
7 My family complains that I’ve never made time for them ...................
I worked here.
8 Vanessa has taught at the college level ................... more than 15 years.
9 Jeremy has performed magic tricks ................... 2011.
10 I’m really tired. My children have played hide-and-seek with me ...................
three hours.

เฉลย

1. for 2. for 3. since 4. for 5. since
6. for 7. since 8. for 9. since 10. for



160 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

Rewrite the following sentences in Present Perfect Tense. Use contractions
where possible.

1 I learn how to perform my job well.
2 Do you ever take a flight on a hot-air balloon?
3 The family financial problems don’t happen overnight.
4 Pauline doesn’t prepare a meal and serve it to her husband.
5 A good relationship doesn’t just happen.
6 We just have a family house party last week.
7 Do you focus on work too much?
8 When does his wife leave him?
9 Where are you?
10 It’s always best to turn a deaf ear to gossips and rumors.



บทที่ 3 : Present Time 161

เฉลย

1. I’ve learned / learnt* how to perform my job well.
2. Have you ever taken a flight on a hot-air balloon?
3. The family financial problems haven’t happened overnight.
4. Pauline hasn’t prepared a meal and has served it to her
husband.
5. A good relationship hasn’t just happened.
6. We’ve just had a family house party last week.
7. Have you focused on work too much?
8. When has his wife left him?
9. Where have you been?
10. It’s always been best to turn a deaf ear to gossips and
rumors.

* หมายเหตุ คำ� วา่ learn เปล่ียนรปู กริยาในช่องที่ 2 (Past Tense) และชอ่ งท่ี 3 (Past Participle)
ได้ 2 รูป คือ learned และ learnt โดยใช้ได้ท้ังในภาษาอังกฤษแบบ British English
และ American English แต่ค�ำว่า learnt มักนิยมใช้ในภาษาอังกฤษแบบ British
English มากกว่า



162 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

Present Perfect Continuous Tense

Present Perfect Continuous Tense มีหลักการใช้คล้ายกับ Present Perfect
Tense คือแสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และเหตุการณ์นั้นยังด�ำเนินต่อเนื่องมาจนถึง
ปัจจุบัน แต่มีความแตกต่างกันตรงที่ Present Perfect Continuous Tense เน้นว่าเป็น
การกระท�ำท่ีต่อเน่ืองมาตลอดและมีแนวโน้มที่จะด�ำเนินต่อไปอีกในอนาคต ส่วน Present
Perfect Tense จะไม่เน้นการต่อเนื่องไปยังอนาคต ดังมีรายละเอียดการใช้ดังต่อไปนี้

1 ใช้เมื่อต้องการเน้นช่วงเวลาของเหตุการณ์หรือการกระท�ำนั้น ๆ แต่ไม่

เน้นผล กริยาท่ีใช้กับ Present Perfect Continuous Tense น้ันจะเป็นกริยาที่แสดงความ

ต่อเนื่อง หรือใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน เช่น
Victor has been waiting for his friend for two hours.
วิคเตอร์รอเพื่อนของเขามาสองช่ัวโมงแล้ว
We have been washing the dishes since you left.
เราล้างจานมาตลอดเลยต้ังแต่คุณออกไป
They have been talking since the early morning today.
พวกเขาคุยกันมาตั้งแต่เช้าตรู่วันนี้แล้ว
Wendy has been sleeping for two days.
เวนดี้นอนหลับไปเป็นเวลาสองวัน
That man has been standing in the dark since we came home.
ผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ในที่มืดตั้งแต่เรากลับมาบ้าน

2 ส่วนใหญ่เราจะใช้กับเหตุการณ์ท่ียังไม่เสร็จสิ้น และยังด�ำเนินต่อเน่ืองมา

จนถึงปัจจุบัน เป็นเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนในช่วงเวลาอดีตและขณะท่ีพูดอยู่เหตุการณ์นั้น ๆ

ก็ยังด�ำเนินอยู่ มักมีการระบุระยะเวลา เช่น
Your children have been playing football all morning.
ลูก ๆ ของคุณเล่นฟุตบอลมาตลอดช่วงเช้าเลย



บทที่ 3 : Present Time 163

Mario and his sister have been practicing the piano for hours.
มาริโอ้และน้องสาวของเขาฝึกเล่นเปียโนมาเป็นชั่วโมง ๆ แล้ว
We have been looking for our dog since last night.
เรามองหาสุนัขของพวกเรามาต้ังแต่เม่ือคืนแล้ว
I have been doing this assignment for two days.
ฉันท�ำงานที่ได้รับมอบหมายชิ้นน้ีมาสองวันแล้ว
Those women have been gossiping about their manager
for many hours.
ผู้หญิงพวกน้ันนินทาผู้จัดการของพวกหล่อนมาหลายช่ัวโมงแล้ว

3 ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระท�ำที่จบลงไปแล้วในอดีต แต่ผลของเหตุการณ์

น้ัน ๆ ยังส่งผลมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเหตุการณ์ที่ด�ำเนินสิ้นสุดลงแล้ว แต่ยังส่งผลมาจนถึง

ปจั จุบนั เชน่
‘Roger looks tired.’ ‘Of course, he has been travelling for
eight hours.’
‘โรเจอร์ดูเหน่ือย ๆ นะ’ ‘แน่นอนสิ เขาเดินทางมาแปดชั่วโมงนะ’
Nancy is going home. She has been working all night.
แนนซี่ก�ำลังจะกลับบ้าน หล่อนท�ำงานมาตลอดท้ังคืน
‘I don’t accept your offer.’ ‘I have been reading the contract
for the whole week.’
ฉันไม่รับข้อเสนอของคุณ ฉันได้อ่านสัญญามาตลอดท้ังสัปดาห์
Annie can’t do her homework now. She has not been paying
attention to a lecture.
แอนน่ีท�ำการบ้านของหล่อนไม่ได้ หล่อนไม่ได้สนใจฟังการบรรยายเลย



164 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

ห ม า ย เ ห ตุ

1. เราไม่ใช้ Present Perfect Continuous Tense กับ Stative Verbs เช่นเดียว
กับ Present Continuous Tense (สามารถย้อนกลับไปดูท่ีข้อควรระวังใน Present
Continuous Tense) เช่น know, understand, owe, possess, like, seem. belong,
love, like, hate, prefer เป็นต้น
2. ค�ำกริยาท่ีใช้ใน Present Perfect Continuous Tense น้ัน โดยมากมักเป็น
กริยาที่แสดงความต่อเน่ือง กล่าวคือ เป็นกริยาที่ใช้ระยะเวลาที่นาน เช่น wait, live,
work, sleep, rest, play, sit, watch เป็นต้น

Present Perfect Continuous Tense มีโครงสร้างประโยคดังต่อไปน้ี

Subject + Auxiliary Have + Auxiliary Be + Present Participle
ประธาน (has / have) (Past Participle) (กริยาเติม -ing)

เม่ือเราเขียนประโยค Present Perfect Continuous Tense เราต้องผันกริยา
ช่วย have ให้สอดคล้องกับประธานของประโยค เช่นเดียวกับ Present Perfect Tense
ดังโครงสร้างต่อไปนี้

Subject Auxiliary Have Auxiliary Be Present Participle
(ประธาน) (กริยาช่วย Have) (Verb to be ช่องท่ี 3) (กริยาเติม -ing)

I have
You been waiting.
We
They has

He
She
It



บทที่ 3 : Present Time 165

เราสามารถย่อรูปประธาน + Auxiliary Have เข้าด้วยกันได้ เช่นเดียวกับ Present
Perfect Tense ดังนี้

I have been waiting I’ve been waiting

you have been waiting you’ve been waiting

we have been waiting we’ve been waiting

they have been waiting they’ve been waiting

he has been waiting he’s been waiting

she has been waiting she’s been waiting

it has been waiting it’s been waiting

ตัวอย่างประโยค

I haven’t seen you for a year. Please tell me what have you
been doing?
ฉันไม่ได้เห็นคุณมาหนึ่งปีแล้ว กรุณาบอกฉันหน่อยว่าที่ผ่านมาคุณท�ำอะไรอยู่
Carol has been comparing her husband with another man since
she got married.
แครอลเปรียบเทียบสามีของหล่อนกับผู้ชายคนอ่ืนมาตั้งแต่หล่อนแต่งงาน
David has been getting less attention from his girlfriend since
last month.
เดวิดได้รับความสนใจจากแฟนสาวของเขาน้อยลงตั้งแต่เดือนที่แล้ว
That dog has been barking for the whole day.
สุนัขตัวนั้นเห่าท้ังวันเลย
We have been helping Jessie find her purse all night.
เราช่วยเจสซ่ีหากระเป๋าเงินของหล่อนท้ังคืนเลย



166 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

การเปลี่ยนประโยคบอกเล่าเป็นประโยคค�ำถามในกาล Present Perfect Tense
มีรูปแบบคล้ายกับ Tense อื่น ๆ คือให้เราน�ำกริยาช่วยไปวางไว้หน้าประธาน ดังโครงสร้าง
ต่อไปนี้

Auxiliary Have Subject Auxiliary Be Present Participle
(กริยาช่วย Have) (ประธาน) (Verb to be ช่องที่ 3) (กริยาเติม -ing)

Have I been sleeping?
you
Has we
they
he
she
it

ตัวอย่างประโยค
Have I been using your computer?
ฉันได้ใช้คอมพิวเตอร์ของคุณอยู่หรือเปล่า
Have you been working since this morning?
คุณได้ท�ำงานมาตั้งแต่เช้าเลยหรือ
Have we been worrying about work too much?
เราได้วิตกเรื่องงานมากเกินไปหรือเปล่า
Have they been listening to music since we arrived?
พวกเขาฟังดนตรีมาต้ังแต่พวกเรามาถึงเลยหรือ
Has Jason been watching TV since his parents left?
เจสันดูทีวีต้ังแต่พ่อแม่ของเขาออกไปหรือเปล่า



บทที่ 3 : Present Time 167

Has Cindy been reading my diary all morning?
ซินด้ีได้อ่านบันทึกของฉันตลอดท้ังเช้าเลยหรือเปล่า
Has it been snowing all day?
หิมะตกทั้งวันเลยหรือเปล่า

หากเราต้องการสร้างประโยคค�ำถามเป็น Wh-Questions มีหลักการเรียงประโยค
เช่นเดียวกับ Present Perfect Tense คือให้เราน�ำ Question Words เช่น what, who,
when, where, why, how วางไว้หน้าสุดของประโยค แล้วจึงตามด้วย Auxiliary have
ตามล�ำดับ เช่น
What has my husband been doing since I left?
สามีของฉันท�ำอะไรตั้งแต่ตอนที่ฉันออกไป
How long have you been waiting for me?
คุณรอฉันมานานแค่ไหนแล้ว
Why has June been talking on the phone for many hours?
ท�ำไมจูนถึงได้คุยโทรศัพท์เป็นเวลาหลาย ๆ ช่ัวโมง
เม่ือเราต้องการเปลี่ยนประโยคบอกเล่าเป็นประโยคปฏิเสธใน Present Perfect
Continuous Tense ให้เราวางค�ำว่า not ไว้หลัง Auxiliary have ดังโครงสร้างต่อไปนี้

Subject Auxiliary Have Auxiliary Be Present Participle
(ประธาน) + Not (Verb to be ช่องท่ี 3) (กริยาเติม -ing)

I have not been working.
You has not
We
They

He
She
It



168 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

เราสามารถย่อรูป Auxiliary have + not เข้าด้วยกันได้ ดังนี้
have not been haven’t been
has not been hasn’t been

ตัวอย่างประโยค
I haven’t been dreaming lately.
เม่ือเร็ว ๆ น้ี ฉันไม่ได้ฝันเลย
You haven’t been waiting for me as you said.
คุณไม่ได้รอฉันอย่างที่คุณพูด
We haven’t been crying since we grew up.
เราไม่ได้ร้องไห้ตั้งแต่เราโตข้ึน
They haven’t been doing their homework for a month.
พวกเขาไม่ท�ำการบ้านมาเป็นเวลาหน่ึงเดือนแล้ว
Ethan hasn’t been discussing this project since the manager
walked out.
อีธานไม่อภิปรายโครงการน้ีตั้งแต่ผู้จัดการเดินออกไป
Stacy hasn’t been complaining for several days.
สเตซ่ีไม่ได้บ่นมาหลายวันแล้ว
It hasn’t been raining for a year.
ฝนไม่ได้ตกมาหน่ึงปีแล้ว



บทที่ 3 : Present Time 169

Complete the following sentences by putting the verbs into Present
Perfect Continuous Tense.

1 We are late. The seminar ................... (start) for two hours.
2 We ................... (spend) time apart since our father died.
3 Luke ................... (create) social world after his marriage ended up
with divorce.
4 My parents ................... (work) for ten years to support my study.
5 The singer ................... (practice) for his concert since last two months.
6 ................... Thomas ................... (cook) in the kitchen for three hours?
7 Nicolas ................... (try) to fix the broken marriage for six months.
8 Our teachers ................... (teach) in the college for twelve years.
9 Rosy ................... (listen / not) to her parents since she was eleven.
10 His nephew ................... (play) computer games all night.



170 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

เฉลย

1. We are late. The seminar has been starting for two hours.
2. We have been spending time apart since our father died.
3. Luke has been creating social world after his marriage ended
with divorce.
4. My parents have been working for ten years to support my study.
5. The singer has been practicing for his concert since last
two months.
6. Has Thomas been cooking in the kitchen for three hours?
7. Nicolas has been trying to fix the broken marriage for six months.
8. Our teachers have been teaching in the college for twelve years.
9. Rosy hasn’t been listening to her parents since she was eleven.
10. His nephew has been playing computer games all night.



Past Time 4LESSON

เราใช้ Past Time หรือ อดีตกาล เพ่อื แสดงถึงเหตุการณ์หรือการกระทำ� ท่เี กิดข้ึนแลว้
ในอดีตและเหตุการณ์น้ันๆ ได้ด�ำเนินผ่านไปแล้ว เช่น
We just argued for the hundredth time about whose turn it was to
wash the dishes.
เราเพ่ิงเถียงกันคร้ังที่ร้อยเรื่องถึงคราวใครท่ีจะเป็นคนล้างจาน
I didn’t get enough sleep last night.
ฉันนอนไม่เพียงพอเม่ือคืนน้ี
Eric flirted with other girls to get your attention.
อีริคจีบผู้หญิงคนอ่ืน ๆ เพ่ือเรียกร้องความสนใจจากคุณ
Many things at work were beyond her control, so she quit the job.
หลายส่ิงหลายอย่างที่ท�ำงานอยู่นอกเหนือการควบคุมของหล่อน ดังนั้น
หล่อนจึงลาออกจากงาน
Fiona had just finished cleaning the house when her husband
arrived.
ฟิโอนาเพิ่งจะท�ำความสะอาดบ้านเสร็จ ตอนท่ีสามีของหล่อนกลับมาถึง
While Andy was waiting for the bus, he saw his ex-girlfriend.
ในขณะที่แอนด้ีก�ำลังรอรถประจ�ำทาง เขาเห็นแฟนเก่าของเขา
Karina met her husband at the right place and time.
คาริน่าเจอสามีของหล่อนในสถานที่และเวลาที่เหมาะสม

171



172 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

จากตัวอย่างประโยคข้างต้น จะเห็นว่า Tense ที่ใช้ในอดีตมีหลายชนิดและมีการใช้
ที่แตกต่างกัน ซึ่งเราสามารถแบ่งแยกย่อยออกเป็น 4 Tense ตามลักษณะการเกิดของ
เหตุการณ์ได้ดังน้ี
1. Past Simple Tense
2. Past Continuous Tense
3. Past Perfect Tense
4. Past Perfect Continuous Tense
ในบทนี้จะอธิบายถึงหลักการใช้โครงสร้างในการเขียน พร้อมทั้งยกตัวอย่างของ
Tense ในอดีตท้ัง 4 โดยละเอียดดังต่อไปน้ี

Past Simple Tense

Past Simple Tense เป็นอดีตกาลท่ีใช้แสดงเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วว่าเป็นส่ิงที่
เกิดขึ้นในอดีตและส้ินสุดแล้วในอดีต โดยมีหลักการใช้ดังต่อไปนี้

1 ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระท�ำที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตและเหตุการณ์นั้น

ได้จบลงสมบูรณ์แล้ว มักมีค�ำหรือวลีที่บอกเวลาในอดีต แสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์นั้นๆ

ได้ด�ำเนินผ่านมาแล้ว เช่น ค�ำว่า yesterday, ago, last week, last night เป็นต้น
ดังตัวอย่างประโยคต่อไปนี้
Patrick said sorry for what he did yesterday.
แพทริคกล่าวขอโทษในส่ิงที่เขาท�ำเม่ือวานนี้
We tried and failed repeatedly to start our business two years ago.
เราพยายามและล้มเหลวซ�้ำแล้วซ้�ำเล่าเพื่อเริ่มต้นท�ำธุรกิจของพวกเรา
เมื่อสองปีท่ีแล้ว
Henry took a road trip with his family last week.
เฮนร่ีขับรถไปเท่ียวกับครอบครัวของเขาเม่ือสัปดาห์ที่แล้ว



บทท่ี 4 : Past Time 173

Laura saw his boyfriend with another girl at the party last night.
ลอร่าเห็นแฟนของหล่อนกับผู้หญิงคนอ่ืนท่ีงานเล้ียงเม่ือคืนนี้
What did I do wrong to lose her?
ฉันท�ำอะไรผิดถึงได้สูญเสียหล่อนไป
Three years ago, I ever thought you were the one.
เมื่อสามปีท่ีแล้ว ฉันเคยคิดนะว่าคุณคือคนท่ีใช่

2 ใช้กับเหตุการณ์ที่ท�ำเป็นประจ�ำหรือเป็นนิสัยในอดีต แต่ในปัจจุบันไม่ได้ท�ำ

เหตุการณ์น้ันๆ อีกแล้ว เราอาจใช้ Adverb of Frequency บอกความถี่ของเหตุการณ์

ที่กระท�ำในอดีตระบุลงในประโยคด้วยได้ เช่น always, often, usually, sometimes และ
ใช้ค�ำหรือวลีที่บอกเวลาในอดีตที่ชัดเจนร่วมด้วยได้ เช่น when I was young, when he
was a child เป็นต้น ดังตัวอย่างประโยคต่อไปน้ี
When Sandy was a teenager, she often kept secrets from her
parents.
ตอนที่แซนด้ีเป็นวัยรุ่น หล่อนมักเก็บความลับไม่ให้พ่อแม่รู้
I was easily discouraged when I was a child.
ฉันรู้สึกท้อแท้ง่ายตอนท่ีฉันเป็นเด็ก
Nicolas usually worked late a couple years ago.
นิโคลัสท�ำงานดึกเป็นประจ�ำเมื่อสองสามปีที่แล้ว
Max always paid attention to the little things when he was young.
แมกซ์ให้ความใส่ใจกับสิ่งเล็ก ๆ น้อยเสมอตอนท่ีเขายังเยาว์วัย
When Lena was fifteen, she spent all her time and her energy
gossiping.
ตอนท่ีลีน่าอายุ 15 หล่อนใช้เวลาและพลังงานท้ังหมดไปกับการนินทา
Last two years, Joe was addicted to other person and was afraid
to be alone.
เมื่อสองปีที่แล้ว โจเป็นคนท่ีติดคนอ่ืนและกลัวท่ีจะอยู่คนเดียว



174 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

ข้ อ สั ง เ ก ต

เราสามารถใช้ used to ที่มีความหมายว่า เคย เพื่อแสดงส่ิงท่ีเคยท�ำในอดีต
แต่ตอนนี้ไม่ได้ท�ำเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว มีโครงสร้างและตัวอย่างประโยคต่อไปนี้

Used to + Verb Infinitive
(กริยาช่องท่ี 1)

When I was younger, I used to worry too much what others
thought of me.
ตอนสมัยที่ฉันเด็กกว่านี้ ฉันเคยกังวลมากเกินไปว่าคนอื่นจะคิดกับฉันอย่างไร
Tracy used to love me but now she doesn’t. She’s going to get
married.
เทรซี่เคยรักฉันนะ แต่ตอนน้ีหล่อนไม่รักฉันแล้ว หล่อนก�ำลังจะแต่งงาน
Dan used to stalk his ex on Facebook every day after a breakup.
แดนเคยติดตามส่องเฟซบุ๊กของแฟนเก่าเขาทุกวันหลังเลิกกัน
My wife used to believe that we will eventually get back together.
ภรรยาของฉันเคยเช่ือว่าในท้ายท่ีสุดเราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน
My children used to play the guitar when they were twelve.
ลูก ๆ ของฉันเคยเล่นกีตาร์ตอนท่ีพวกเขาอายุ 12 ขวบ



บทท่ี 4 : Past Time 175

ข้ อ ค ว ร ร ะ วั ง

อย่าสับสนกับ be used to ที่มีความหมายว่า คุ้นเคย หรือ เคยชิน โดยมี
โครงสร้างการใช้แตกต่างกับ used to ท่ีหมายถึง เคยกระท�ำ ดังน้ี

Verb to be + used to + Gerund
(กริยาเติม -ing)

Racheal is used to relying on her boyfriend to make her happy.
ราเชลเคยชินกับการพ่ึงพาแฟนของหล่อนเพ่ือท�ำให้ตัวเองมีความสุข
I’m not used to comparing myself to others.
ฉันไม่เคยชินกับการเปรียบเทียบตัวเองกับใคร
Our children are used to reading before going to bed.
ลูก ๆ ของพวกเราเคยชินกับการอ่านหนังสือก่อนเข้านอน
Tommy is used to using his cell phone as an alarm clock.
ทอมม่ีเคยชินกับการใช้โทรศัพท์มือถือของเขาเป็นนาฬิกาปลุก
Most customers are used to getting the cheapest price.
ลูกค้าส่วนใหญ่เคยชินกับการได้ราคาที่ถูกท่ีสุด
Eddie is used to being independent and single.
เอ็ดดี้เคยชินกับการเป็นอิสระและเป็นโสด

3 ใช้กับเหตุการณ์ท่ีด�ำเนินต่อเน่ืองกันหลาย ๆ เหตุการณ์ในอดีต กริยาท่ีใช้จะ

ต้องเป็น Past Simple Tense ทุกตัว เช่น
The customer stood up, talked to the receptionist, and walked
around the office in this morning.
ลูกค้าลุกขึ้นยืน คุยกับพนักงานต้อนรับ และเดินไปรอบ ๆ ส�ำนักงานเม่ือเช้าน้ี



176 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

Before the death of my father, I expected people to be perfect,
then got mad when their behavior didn’t exactly accord with my
imagination.
ก่อนท่ีพ่อของฉันจะเสียชีวิต ฉันคาดหวังว่าคนจะต้องสมบูรณ์แบบ จากนั้น
ก็โกรธเมื่อพฤติกรรมของพวกเขาไม่เป็นไปอย่างท่ีฉันวาดไว้
Last Saturday, I woke up early, fed the cats, and went to the market.
วันเสาร์ท่ีแล้ว ฉันตื่นเช้า ให้อาหารแมว และออกไปตลาด
Johnny skipped breakfast, met up with his friends, and went
shopping yesterday.
จอห์นนี่ไม่ทานอาหารเช้า ออกไปพบเพ่ือน ๆ ของเขา และไปซื้อของเม่ือวานน้ี
A few days ago, we arranged to meet in the evening, so I went
home and changed my clothes.
เมื่อสองสามวันท่ีแล้ว เรานัดหมายกันว่าจะเจอกันตอนเย็น ดังนั้น ฉันเลย
กลับบ้านและเปลี่ยนเส้ือผ้า
โครงสร้างในการเขียนประโยค Past Simple Tense มีดังต่อไปนี้

ประธาน + กริยาช่องท่ี 2
ในประโยค Past Simple Tense น้ัน ไม่ว่าประธานของประโยคจะเป็นบุรุษหรือ
เป็นพจน์ใด กริยาจะมีรูป Past Simple หรือกริยาช่องท่ี 2 ซ่ึงจะไม่มีการเปลี่ยนรูปใดๆ
ตามประธาน โดยมีหลักการเปล่ียนรูปกริยาช่องที่ 1 เป็นกริยาช่องที่ 2 ดังนี้
1 หากกริยาเป็นกริยาปกติ (Regular Verb) คือ กริยาที่ผันตามปกติ เม่ือ
เปล่ียนจาก Base Form (กริยาช่องท่ี 1) ไปเป็น Past Simple (กริยาช่องที่ 2) ก็สามารถ
เติม –ed ลงไปได้เลย โดยมีหลักการเติม –ed ดังนี้



บทท่ี 4 : Past Time 177

1.1 กริยาที่เป็นปกติทั่วไป ให้เราเติม –ed ลงไปได้เลย เช่น

look - looked มองดู

reach - reached เอื้อมถึง

punish - punished ลงโทษ

laugh - laughed หัวเราะ

interrupt - interrupted ขัดจังหวะ

1.2 กริยาท่ีลงท้ายด้วย –e อยู่แล้ว ให้เราเติม –d ลงไปได้เลย เช่น

notice - noticed สังเกตเห็น

announce - announced ประกาศ, แจ้ง

arrive - arrived มาถึง

force - forced บังคับ, ฝืน

whine - whined บ่นคร�่ำครวญ

1.3 กริยาท่ีลงท้ายดว้ ย –y และหน้า –y เปน็ พยัญชนะ ให้เราเปลยี่ น –y เปน็ –i
แล้วเติม –ed เช่น

worry - worried วิตกกังวล
apply - applied น�ำมาใช้, สมัคร

modify - modified ดัดแปลง

study - studied เรียน

try - tried พยายาม

1.4 กริยาที่ลงท้ายด้วย –y และหน้า –y เป็นสระ ให้เราเติม –ed ลงไปท้าย –y
เลย โดยไม่ต้องเปลี่ยนอะไร เช่น

play - played เล่น

enjoy - enjoyed เพลิดเพลิน

destroy - destroyed ท�ำลาย

employ - employed จ้างงาน

delay - delayed ท�ำให้ล่าช้า



178 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

1.5 กริยาที่มีพยางค์เดียว มีสระตัวเดียวและลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นตัวสะกด
เพียงตัวเดียว ให้เราเพ่ิมพยัญชนะตัวสุดท้ายอีกครั้ง แล้วจึงเติม –ed เช่น

stop - stopped หยุด

plan - planned วางแผน

clap - clapped ปรบมือ

beg - begged ขอร้อง

rob - robbed ปล้น

ยกเว้น กริยาท่ีลงท้ายด้วย –x ให้เติม –ed ไปได้เลย ไม่ต้องใส่ –x ซ้�ำอีกตัว เช่น

mix - mixed ผสม

box - boxed ใส่กล่อง

tax - taxed เก็บภาษี

fax - faxed ส่งแฟกซ์

1.6 กริยาท่ีมีสองพยางค์ขึ้นไป มีสระตัวเดียวและลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็น
ตัวสะกดเพียงตัวเดียว มีการลงเสียงหนักท่ีพยางค์หลัง ให้เติมพยัญชนะตัวสุดท้ายนั้นซ้�ำ
อีกคร้ังแล้วจึงเติม –ed เช่น

refer - referred อ้างถึง

permit - permitted อนุญาต

prefer - preferred ชอบมากกว่า

occur - occurred เกิดข้ึน

control - controlled ควบคุม

ยกเว้น กริยาท่ีลงเสียงหนักที่พยางค์แรก ให้เติม –ed เลยโดยที่ไม่ต้องใส่พยัญชนะ
ตัวสุดท้ายก่อน เช่น

happen - happened เกิดข้ึน

suffer - suffered เจ็บปวด

open - opened เปิด

visit - visited เยี่ยมชม

target - targeted ตั้งเป้าหมาย



บทที่ 4 : Past Time 179

2 หากกริยาเป็นกริยาไม่ปกติ (Irregular Verb) คือกริยาที่มีการผันไม่ปกติ
มีการเปลี่ยนรูปใหม่แตกต่างไปจากเดิม ผู้เรียนต้องศึกษาเพ่ิมเติมเป็นพิเศษเน่ืองจากไม่มี
กฎเกณฑ์ในการเปล่ียนรูปที่แน่นอนชัดเจน แต่เราสามารถแบ่งรูปแบบตามลักษณะการ
เปลี่ยนรูปออกได้เป็น 3 แบบ ดังน้ี
2.1 กริยาที่มีการเปล่ียนรูปเป็น Past Simple (กริยาช่องท่ี 2) และ Past
Participle (กริยาช่องท่ี 3) เหมือนกัน เช่น

Base Form Past Simple Past Participle ความหมาย

say said said กล่าว

build built built สร้าง

meet met met พบ

think thought thought คิด

pay paid paid จ่ายเงิน

2.2 กริยาท่ีมีการเปล่ียนรูปแตกต่างกันทั้ง 3 ช่อง ได้แก่ Base Form (กริยา
ชอ่ งที่ 1), Past Simple (กริยาช่องท่ี 2) และ Past Participle (กริยาช่องท่ี 3) เช่น

Base Form Past Simple Past Participle ความหมาย

go went gone ไป
speak spoke spoken พูด
begin began begun เร่ิมต้น
forget forgot forgotten ลืม
hide hid hidden ซอ่ น



180 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

2.3 กริยาที่ไม่มีการเปล่ียนรูปเลย ได้แก่ กริยาที่มีรูปเหมือนกันท้ัง 3 ช่อง
ได้แก่ Base Form (กริยาช่องที่ 1), Past Simple (กริยาช่องท่ี 2) และ Past Participle
(กริยาช่องที่ 3) เช่น

Base Form Past Simple Past Participle ความหมาย

put put put วาง

hurt hurt hurt ท�ำให้เจ็บปวด

cut cut cut ตัด

hit hit hit ตี

shut shut shut ปิด

ตัวอย่างประโยค

After a breakup, I decided to take my life and happiness into
my own hands.
หลังเลิกรากัน ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะเอาชีวิตและความสุขไว้ในมือของฉันเอง
The cyberstalking destroyed people’s lives.
การเกาะติดชีวิตออนไลน์ท�ำลายชีวิตคนอ่ืน
Jack had the secret hope that everything would be as it was
before.
แจ็กแอบหวังว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมท่ีเคยเป็น
It went wrong before it even began.
มันผิดพลาดตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นด้วยซ�้ำไป
When I was with Natalie, she expected people to change for her.
ตอนที่ฉันอยู่กับนาตาลี หล่อนคาดหวังว่าคนอ่ืนจะเปลี่ยนแปลงเพื่อหล่อน



บทท่ี 4 : Past Time 181

It was solely his fault that the relationship ended.
มันเป็นความผิดของเขาคนเดียวท่ีท�ำให้ความสัมพันธ์จบลง
Before getting married, Jake often worked long hours at the
office, even when not needed.
ก่อนแต่งงาน เจคมักจะใช้เวลาท�ำงานที่ส�ำนักงานนาน ๆ
ถึงแม้จะไม่จ�ำเป็นก็ตาม

การสร้างประโยคค�ำถามใน Past Simple Tense ก็เช่นเดียวกับ Present Simple
Tense ท่ีเราไม่สามารถวาง not ไว้เพียงล�ำพังโดดๆ ได้ แต่ต้องใช้กริยาช่วย Verb to do
(did) มาพยุง not ไว้ แต่หากในประโยคมีกริยาช่วยหรือ Verb to be อยู่แล้ว ให้เติม not
ข้างหลังได้เลย ดังมีวิธีการดังต่อไปน้ี

1 หากในประโยคมีกริยา Verb to be (was, were) ให้เราเอาไปวางไว้หน้า
ประธานของประโยค เช่น

Betty was very busy this morning. Was Betty very busy this morning?
เบตต้ียุ่งมากเมื่อเช้านี้ เบตตี้ยุ่งมากไหมเม่ือเช้าน้ี

We were shocked at the news Were we shocked at the news
of her death. of her death?
เรารู้สึกตกใจกับข่าวการตายของหล่อน เรารู้สึกตกใจกับข่าวการตายของหล่อนไหม

I was able to go to my ex’s Was I able to go to my ex’s
wedding? wedding?
ฉันสามารถไปงานแต่งงานของแฟนเก่า ฉันสามารถไปงานแต่งงานของแฟนเก่า
ของฉันได้ ของฉันได้ไหม

Ted was interested in wild Was Ted interested in wild
animal life. animal life?
เท็ดสนใจเร่ืองชีวิตสัตว์ป่า เท็ดสนใจเร่ืองชีวิตสัตว์ป่าไหม

They were the perfect couple. Were they the perfect couple?
พวกเขาเป็นคู่ท่ีสมบูรณ์แบบ พวกเขาเป็นคู่ท่ีสมบูรณ์แบบไหม



182 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

หากเป็นประโยคค�ำถามปลายเปิดที่จัดอยู่ในกลุ่ม Wh-Question ให้วาง Question
Word ไว้ต้นประโยค แล้วจึงตามด้วย Verb to be (was/were) เช่น
How far was I from the truth?
ฉันอยู่ห่างจากความจริงมากแค่ไหน
When were you ready to have your first child?
คุณพร้อมมีลูกคนแรกเมื่อไร
Where were you yesterday?
เม่ือวานคุณไปอยู่ที่ไหนมา
What was important to Bob when he was alone?
อะไรท่ีส�ำคัญกับบ็อบเมื่อเขาอยู่ตามล�ำพัง
When was the last time you were truly happy?
คร้ังสุดท้ายท่ีคุณมีความสุขจริง ๆ คือเม่ือไร

2 หากในประโยคไม่มีกริยาช่วย แต่มีเฉพาะกริยาแท้ ให้เราใช้ Verb to do (did)
มาช่วยสร้างประโยคค�ำถาม โดยวางไว้หน้าประธานของประโยค ดังโครงสร้างต่อไปนี้

Verb to do Subject Base Form of Verb
(Did) (ประธาน) (กริยาช่องท่ี 1)
Did know?
I
you
we
they
he
she
it



บทที่ 4 : Past Time 183

เม่ือเราใช้ did เข้ามาช่วยสร้างประโยคค�ำถาม กริยาแท้ในประโยคจะต้องกลับไปอยู่
ในรูป Base Form หรือ กริยาช่องที่ 1 เท่านั้น ไม่มีการเปล่ียนรูปใดๆ ดังตัวอย่างประโยค
ต่อไปนี้
Did you know that I ever hated you?
คุณรู้หรือไม่ว่าฉันเคยเกลียดคุณ
Did he beg Alice to give him another chance?
เขาได้ขอร้องอลิซให้โอกาสเขาอีกสักคร้ังหนึ่งหรือเปล่า
Did Simon make the same mistake twice?
ไซมอนท�ำพลาดแบบเดิมสองครั้งซ้อนแล้วใช่ไหม
Did you hear anything negative about us in the meeting
yesterday?
คุณได้ยินอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับเราในการประชุมเม่ือวานนี้บ้างไหม
Did the boss realize that everyone had their breaking point?
เจ้านายได้ตระหนักบ้างไหมว่าทุกคนต่างมีจุดแตกหัก
Did Mary leave you two weeks before the wedding?
แมรี่เลิกกับคุณก่อนวันแต่งงานสองสัปดาห์ใช่ไหม
หากเปน็ ประโยคค�ำถามแบบ Wh-Question เราจะวาง Question Word ไวต้ ้นประโยค
แล้วจึงตามด้วยกริยาช่วย did เช่น
What did you learn from the past?
คุณได้เรียนรู้อะไรบ้างจากอดีต
Why did you make me feel worse about myself?
ท�ำไมคุณถึงท�ำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองแย่ลงกว่าเดิมด้วย
Where did Frank sleep last night?
แฟรงก์ไปนอนท่ีไหนเมื่อคืนน้ี



184 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

How did Marcus know the truth?
มาร์คัสรู้ความจริงได้อย่างไร
When did your daughter graduate?
ลูกสาวของคุณเรียนจบต้ังแต่เม่ือไร
เม่ือเป็นประโยคปฏิเสธ เราใช้หลักการเดียวกับการท�ำเป็นประโยคค�ำถามคือใช้
กริยาช่วย Verb to do (did) เข้ามาช่วยในประโยค แต่หากในประโยคท่ีมี Verb to be
(was/were) อยู่ในประโยคอยู่แล้ว ให้เราใส่ not ไว้ข้างหลัง Verb to be ได้เลย ดังโครงสร้าง
และตัวอย่างประโยคต่อไปน้ี

Subject Past of be + Not
(ประธาน) was not
or
I wasn’t
He were not
She or
It weren’t
You
We
They

It was too late to start over. It was not too late to start over.
มันสายเกินไปท่ีจะเริ่มต้นใหม่ มันไม่สายเกินไปท่ีจะเร่ิมต้นใหม่
I was left alone last night. I was not left alone last night.
ฉันถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเม่ือคืนนี้ ฉันไม่ได้ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเมื่อคืนน้ี
Helen was madly in love with Helen wasn’t madly in love with
her husband. her husband.
เฮเลนรักสามีของหล่อนอย่างเป็นบ้า เฮเลนไม่ได้รักสามีของหล่อนอย่างเป็นบ้า
เป็นหลัง เป็นหลัง



บทท่ี 4 : Past Time 185

My students were sleepy this My students were not sleepy this
morning. morning.
นักเรียนของฉันรู้สึกง่วงนอนเมื่อเช้าน ี้ นักเรียนของฉันไม่ได้รู้สึกง่วงนอนเมื่อเช้านี้

The employees were tired after The employees weren’t tired after
the seminar. the seminar.
พนักงานรู้สึกเหน็ดเหน่ือยหลังงานสัมมนา พนักงานไม่ได้รู้สึกเหน็ดเหนื่อยหลังงานสัมมนา

Subject Verb to do + Not Base Form of Verb
(ประธาน) (กริยาช่องท่ี 1)

I did not change.
You or
We
They didn’t
He
She
It

Things changed after you said Things did not change after you said
that word. that word.
สิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนแปลงไปหลังจากท่ี ส่ิงต่าง ๆ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปหลังจาก
คุณเอ่ยค�ำนั้น คุณเอ่ยค�ำน้ัน



186 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

I did lots of crazy things I did not do lots of crazy things
yesterday. yesterday.
ฉันท�ำเรื่องบ้าๆ ตั้งมากมายเม่ือวานนี้ ฉันไม่ได้ท�ำเรื่องบ้าๆ ตั้งมากมายเมื่อวานน้ี
Justin called his girlfriend Justin didn’t call his girlfriend
50 times last night. 50 times last night.
จัสตินโทรหาแฟนสาวของเขา จัสตินไม่ได้โทรหาแฟนสาวของเขา
50 ครั้งเมื่อคืนนี้ 50 คร้ังเมื่อคืนน้ี
Carol gave up the idea of Carol didn’t give up the idea of
having future with him. having future with him.
แครอลล้มเลิกความคิดท่ีจะมีอนาคต แครอลไม่ล้มเลิกความคิดท่ีจะมีอนาคต
ร่วมกันกับเขา ร่วมกันกับเขา
You had to go on living You didn’t have to go on living
without her. without her.
คุณต้องก้าวต่อไปโดยไม่มีหล่อน คุณไม่จ�ำเป็นต้องก้าวต่อไปโดยไม่มีหล่อน
Amy became super confident Amy didn’t become super confident
and strong after a divorce. and strong after a divorce.
เอม่ีกลายเป็นคนที่ม่ันใจอย่างมากและ เอมี่ไม่ได้กลายเป็นคนที่มั่นใจอย่างมาก
เข้มแข็งหลังการหย่าร้าง และเข้มแข็งหลังการหย่าร้าง



บทท่ี 4 : Past Time 187

Write the correct form of the following verbs in Past Simple Tense.

1 Joyce and Charles ................ (get) married and ................. (have) a beautiful
baby last year.
2 When I ................... (go) through depression, I ................... (find) it very difficult
to get sleep.
3 The lawyer finally ................... (break) the silence and ................... (tell) me what
................... (be) on his mind.
4 If you ............... (be / not) happy with yesterday, try something different today.
5 Ashley finally ................... (understand) what ................... (go) wrong.
6 The pain ................... (make) you stronger and happier.
7 Danial once ................... (break) up with a woman he ................... (love).
8 ................... (be) all your decisions really your own?
9 How................... you ................... (stop) smoking and drinking?
10 Andrew ................... (do) lots of stupid things which only ................... (lead) him to
more pain.

เฉลย 6. made
7. broke / loved
1. got / had 8. Were
2. went / found 9. did / stop
3. broke / told / was 10. did / led
4. weren’t
5. understood / went



188 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

Past Continuous Tense

Past Continuous Tense ใช้แสดงเหตุการณ์หรือการกระท�ำท่ีก�ำลังด�ำเนินอยู่
ในอดีตและเหตุการณ์นั้นยังไม่สมบูรณ์ เพราะหากเหตุการณ์ในอดีตท่ีเกิดขึ้นสมบูรณ์
เรียบร้อยแล้ว เราจะใช้ Past Simple Tense โดยเรามีหลักการใช้ Past Continuous Tense
ดังต่อไปนี้

1 ใช้กับเหตุการณ์ท่ีก�ำลังเกิดขึ้นหรือก�ำลังด�ำเนินอยู่ในอดีต มักมีการ

ระบุเวลาที่เกิดข้ึนในอดีตไว้ชัดเจน เช่น at nine o’clock in the morning, at midnight,
at eleven a.m. yesterday เป็นต้น ดังตัวอย่างประโยคต่อไปน้ี
What were you doing at nine o’clock in the morning?
คุณก�ำลังท�ำอะไรอยู่ตอนเวลา 9 โมงเมื่อเช้าน้ี
I was taking an exam at 10.30 a.m. yesterday.
ฉันก�ำลังสอบอยู่ตอนเวลา 10.30 น. เมื่อวานนี้
Patty was swimming in the river at noon yesterday.
แพตต้ีก�ำลังว่ายน้�ำอยู่ในแม่น�้ำตอนเวลาเท่ียงเม่ือวานน้ี
We were dancing in a pub at midnight a few days ago.
พวกเราก�ำลังเต้นอยู่ในผับตอนเท่ียงคืนเม่ือสองสามวันท่ีแล้ว
At seven o’clock last night, my parents were having an argument.
เม่ือเวลา 1 ทุ่มของคืนที่ผ่านมา พ่อแม่ของฉันก�ำลังมีปากเสียงกันอยู่
Someone was hitting my car window at this time a couple days ago.
มีใครบางคนทุบกระจกรถของฉันในเวลาน้ีเม่ือสองสามวันท่ีผ่านมา

2 ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตท่ีเกิดซ้อนกันสองเหตุการณ์ โดยเหตุการณ์ที่ก�ำลัง

ด�ำเนินอยู่จะใช้ Past Continuous Tense และเหตุการณ์ที่เข้ามาแทรกให้ใช้ Past Simple
Tense เรามกั ใช้ค�ำว่า when และ while เพอ่ื เชอื่ มเหตุการณ์ท้ังสองเข้าด้วยกัน ดังตัวอย่าง
ประโยคต่อไปนี้
While you were speaking on the stage, I just arrived.
ในขณะที่คุณก�ำลังพูดอยู่บนเวที ฉันเพ่ิงมาถึง



บทท่ี 4 : Past Time 189

When Annie met her husband, she was having trouble getting
over the past.
ตอนท่ีแอนนี่เจอสามีของหล่อน หล่อนก�ำลังมีปัญหาในการก้าวพ้นจากอดีต
Kevin was walking with another girl when I saw him.
เควินก�ำลังเดินอยู่กับผู้หญิงคนอื่นตอนที่ฉันเห็นเขา
Sophie was checking her boyfriend’s phone when he came.
โซฟีก�ำลังเช็กโทรศัพท์แฟนของหล่อนอยู่ตอนที่เขาเข้ามา
The manager called him while he was napping at work.
ผู้จัดการโทรหาเขาในขณะท่ีเขาก�ำลังงีบหลับอยู่ที่ท�ำงาน
While I was knocking the door, I heard a girl in his room.
ตอนท่ีฉันก�ำลังเคาะประตูห้อง ฉันได้ยินเสียงผู้หญิงในห้องของเขา

3 ใช้กับเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ท่ีก�ำลังเกิดอยู่หรือด�ำเนินอยู่ไปพร้อม ๆ กัน

ในช่วงเวลาเดียวกันในอดีต เราใช้ Past Continuous Tense กับทุกเหตุการณ์ เช่น

Robert was reading a cartoon while I was cooking.
โรเบิร์ตก�ำลังอ่านการ์ตูนในขณะที่ฉันก�ำลังท�ำกับข้าว
Lydia was carrying the past with her while her husband was moving
forward.
ลิเดียยึดถืออดีตไว้กับตัวในขณะที่สามีของหล่อนก�ำลังก้าวต่อไปข้างหน้า
Jasmine was trying to get a promotion while Alex was cheating
on her.
จัสมินก�ำลังพยายามท่ีจะเล่ือนต�ำแหน่งในขณะเดียวกันอเล็กซ์ก็ก�ำลังนอกใจหล่อน
While the director was speaking in the meeting, Jeff was
surreptitiously checking his cellphone.
ในขณะท่ีผู้อ�ำนวยการก�ำลังพูดอยู่ในท่ีประชุม เจฟก็ก�ำลังแอบเช็กโทรศัพท์มือถือ
ของเขาอยู่



190 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

Emma was preparing dinner while her children were playing in
the yard.
เอ็มม่าก�ำลังเตรียมอาหารมือเย็น ในขณะที่ลูก ๆ ของหล่อนก�ำลังเล่นอยู่ท่ีสนาม
While I was working so hard, my boyfriend was flirting with
another girl.
ในขณะที่ฉันก�ำลังท�ำงานอย่างหนัก แฟนหนุ่มของฉันก็ก�ำลังจีบเด็กสาวคนอ่ืนอยู่

Past Continuous Tense มีโครงสร้างดังต่อไปนี้

Subject + Verb to be + Verb + ing
(ประธาน) (was / were) (กริยาเติม -ing)

เม่ือเขียนประโยคใน Past Continuous Tense ให้เปล่ียนรูป Verb to be (was/
were) ไปตามประธานของประโยค ดังโครงสร้างต่อไปน้ี

ประธาน Verb to be กริยา (Verb)
(Subject) was + ing
were sleeping.
I
He
She
It

You
We
They

ตัวอย่างประโยค
While you were sleeping, I accepted his offer.
ในขณะท่ีคุณก�ำลังหลับอยู่ ฉันตอบรับข้อเสนอของเขาไปแล้ว



บทที่ 4 : Past Time 191

Jim was forcing his daughter to change when she ran away
from home.
จิมก�ำลังบังคับให้ลูกสาวเปลี่ยนแปลงตัวเองตอนท่ีหล่อนหนีออกจากบ้าน
While some conflicts were going unresolved, Leo decided to
go abroad last month.

ในขณะท่ีปัญหาบางอย่างด�ำเนินไปอย่างไม่ได้แก้ไข ลีโอก็ตัดสินใจไป
ต่างประเทศเม่ือเดือนที่แล้ว
Our customer was complaining when Miranda suddenly walked out.
ลูกค้าของเราก�ำลังต�ำหนิติเตียนอยู่ ทันใดน้ันมิแรนด้าก็เดินออกไปทันที
They were doing their important project at 10 o’clock yesterday.
พวกเขาก�ำลังท�ำโปรเจกต์ส�ำคัญอยู่ตอน 10 โมงเมื่อวานน้ี
The dog was barking at the guests when I walked down.
สุนัขก�ำลังเห่าแขกอยู่ตอนที่ฉันเดินลงมา
Beth was going on a first date with a guy she met online.
เบธออกเดทคร้ังแรกกับผู้ชายท่ีหล่อนเจอในโลกออนไลน์

การเปล่ียนประโยคบอกเล่าเป็นประโยคค�ำถามในประโยค Past Continuous Tense
ใช้หลักการเดียวกับ Present Continuous Tense คือน�ำ Verb to be ไปวางไว้หน้าประธาน
ดังโครงสร้างต่อไปนี้

Verb to be ประธาน กริยา (Verb)
Was (Subject) + ing
Were washing?
I
he
she
it
you
we
they



192 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

ตัวอย่างประโยค
Was I washing the car when you came in?
ฉันก�ำลังล้างรถอยู่หรือเปล่าตอนที่คุณเข้ามา
At the conference yesterday, were you explaining whether
the system was safe?
ท่ีงานประชุมเม่ือวานน้ี คุณได้อธิบายถึงความปลอดภัยของระบบหรือเปล่า
Was Lucy hanging around and waiting for the world to make
her happy at that time?
ในช่วงเวลาน้ัน ลูซี่ก�ำลังเดินเตร็ดเตร่ไปมาและรอคอยให้โลกท�ำให้หล่อน
มีความสุขอยู่ใช่ไหม
Was Marty studying English at 8 o’clock yesterday morning?
มาร์ต้ีก�ำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่ตอนแปดโมงเช้าเม่ือวานน้ีหรือเปล่า
Were the birds singing when you woke up?
นกก�ำลังร้องเพลงอยู่หรือเปล่าตอนคุณตื่นนอน
หากเป็นค�ำถามแบบ Wh-Question ให้วาง Question Word ไว้หน้าประโยค
แล้วจึงตามด้วยกริยาช่วย Verb to be (was / were) ดังตัวอย่างต่อไปน้ี
What were you talking about?
คุณก�ำลังพูดถึงเรื่องอะไรเน่ีย
What was I doing here?
ฉันก�ำลังท�ำอะไรอยู่ท่ีน่ี
Why was Allen asking me like that?
ท�ำไมอัลเลนถึงได้ถามฉันแบบน้ันล่ะ
Where was Kathy travelling during the summer?
เคธี่ก�ำลังเดินทางไปท่ีไหนระหว่างช่วงฤดูร้อน
When was Jimmy leaving this morning?
เม่ือเช้าน้ีจิมม่ีออกไปตอนไหน



บทท่ี 4 : Past Time 193

ในการท�ำเป็นประโยคปฏิเสธของ Past Continuous Tense นั้นไม่ซับซ้อน เพียงเติม
ค�ำว่า not วางไว้หลัง Verb to be (was / were) ได้เลย ดังโครงสร้างต่อไปนี้

ประธาน Verb to be + Not กริยา (Verb)
(Subject) + ing
was not laughing.
I or
He
She wasn’t
It were not
You
We or
They weren’t

ตัวอย่างประโยค
Brian was not playing online game at 9’oclock yesterday.
ฉันไม่ได้เล่นเกมอยู่ตอนเวลา 9 โมงเม่ือวานน้ีนะ
You weren’t recently dating a single man as you said.
เม่ือไม่นานมาน้ี คุณไม่ได้คบหากับชายโสดอย่างท่ีคุณพูด
I wasn’t relying on other people to make me happy.
ฉันไม่ได้พึ่งพาคนอื่นอยู่ในการท�ำให้ตัวเองมีความสุข
Alisa wasn’t blaming her children when her car crashed into
a tree.
เอลิซ่าไม่ได้ก�ำลังต�ำหนิลูก ๆ ของหล่อนอยู่ตอนท่ีรถของหล่อนชนต้นไม้
They weren’t repeating the same mistakes at the meeting
a few days ago.
พวกเขาไม่ได้ท�ำความผิดเดิม ๆ ในการประชุมสองสามวันท่ีผ่านมา
We were not focusing on what we had but trying to change the past.
เราไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่เรามีอยู่แต่กลับพยายามเปล่ียนแปลงอดีต



194 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

Write the correct form of the following verbs in Past Simple Tense or
Past Continuous Tense.

1 While Ryder ................... (drive) his car, he ................... (see) a car accident.
2 Why ................... (you / stand) on the table when I ................... (come) into the
living room?
3 Aiden .................... (compare / not) himself to others. He only looked at his
progress.
4 A few days ago, Lilian ............. (say) she never ............. (want) to see or speak
to me again.
5 In the past, both of them ................... (make) mistakes and now they have
learned from them.
6 ................... (your relationship / end) on good terms?
7 What ................... (Jean / do) when I ................... (call) him yesterday?
8 Why ................... (he / break) up with your sister?
9 His wife ................... (block) him and ...................(change) her number which
absolutely ................... (destroy) his heart.
10 ................... (the students / take) a final exam at 10.30 yesterday?

เฉลย 6. Did your relationship end
7. was Jean doing / called
1. was driving / saw 8. did he break
2. were you standing / came 9. blocked / change / destroyed
3. didn’t compare 10. Were the students taking
4. said / wanted
5. made



บทท่ี 4 : Past Time 195

Past Perfect Tense

Past Perfect Tense เป็นอดีตที่จบลงสมบูรณ์แล้วหรือส้ินสุดแล้วอย่างสิ้นเชิง
ไม่มีผลต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ต่างกับ Present Perfect Tense ตรงท่ี Present Perfect
Tense จะใช้กับเหตุการณ์ท่ีมีผลมาถึงปัจจุบันและมีแนวโน้มว่าจะด�ำเนินต่อไปในอนาคต
ดังมีหลักการใช้ดังต่อไปนี้

1 ใช้กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่เกิดข้ึนในช่วงเวลาไม่พร้อมกันในอดีต ซ่ึงท้ัง

2 เหตุการณ์ได้จบลงสมบูรณ์แล้วในอดีต โดยเหตุการณท์ เ่ี กดิ กอ่ นใช้ Past Perfect Tense

และเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนทีหลังใช้ Past Simple Tense ดังตัวอย่างต่อไปนี้

ตัวอย่างท่ี 1
After Nancy had been married for nearly ten years, she just got
pregnant a few months ago.
หลังจากท่ีแนนซี่แต่งงานมาแล้วเกือบ 10 ปี หล่อนเพิ่งต้ังครรภ์เมื่อ
สองสามเดือนที่แล้วนี้เอง

จากตัวอย่างข้างต้น จะเห็นได้ว่ามี 2 เหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้นในอดีต ได้แก่
1. เหตุการณ์แรกที่เกิดก่อน เราใช้ Past Perfect Tense คือ แนนซี่แต่งงานมาแล้ว
เกือบ 10 ปี (Nancy had been married for nearly ten years)
2. เหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนตามมา เราใช้ Past Simple Tense คือ แนนซ่ีเพิ่งจะ
ตั้งครรภ์เมื่อไม่ก่ีเดือนที่ผ่านมา (she just got pregnant a few months
ago)



196 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

ตัวอย่างที่ 2
Greta had flirted with other guys in front of her boyfriend
before he left her.
เกรต้าเกี้ยวพาราสีผู้ชายคนอื่นต่อหน้าแฟนของหล่อนเองก่อนที่เขาจะเลิกกับหล่อน

เราจะพบว่าประโยคข้างต้นมี 2 เหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้นแล้วและสิ้นสุดลงแล้วในอดีต ได้แก่
1. เหตุการณ์แรกที่เกิดก่อน เราใช้ Past Perfect Tense คือ เกรต้าเก้ียวพาราสี
ผู้ชายคนอื่นต่อหน้าแฟนของหล่อน (Greta had flirted with other guys in
front of her boyfriend)
2. เหตุการณ์ท่ีสองเกิดหลังจากเหตุการณ์แรกจบลง เราใช้ Past Simple Tense
คือ แฟนของหล่อนเลิกกับหล่อน (he left her)

ตัวอย่างที่ 3
Albert asked for a divorce after he had kept his distance from
his wife for several years.
อัลเบิร์ตขอหย่าหลังจากที่เขาตีตัวออกห่างจากภรรยาของเขามาหลายปีแล้ว

จากประโยคข้างต้น เราจะเห็นว่ามี 2 เหตุการณ์เกิดข้ึนไม่พร้อมกันในอดีต ได้แก่
1. เหตุการณ์ท่ีเกิดก่อน เราใช้ Past Perfect Tense คือ เขาตีตัวออกห่างจาก
ภรรยาของเขามาหลายปีแล้ว (he had kept his distance from his
wife for several years)
2. เหตุการณ์ท่ีเกิดหลังจากเหตุการณ์แรก เราใช้ Past Simple Tense คือ อัลเบิร์ต
ขอหย่า (Albert asked for a divorce)



บทท่ี 4 : Past Time 197

2 ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาแล้วกับ Indirect Speech หรือ Reported

Speech ท่ีเป็นการน�ำค�ำพูดของผู้อื่นมาเรียบเรียงใหม่ให้เป็นค�ำพูดของตัวเอง มีหลักใน

การสังเกตคือจะมีค�ำจ�ำพวก said, indicated, told, thought, asked อยู่ในประโยค เช่น

ตัวอย่างที่ 1

Direct Speech David said, “I lied to you.”

Past Simple Tense เดวิดพูดว่า “ผมโกหกคุณ”

Indirect Speech David said that he had lied to me.
Past Perfect Tense เดวิดพูดว่าเขาได้โกหกฉัน

ตัวอย่างท่ี 2

Direct Speech My mom said, “It didn’t work out.”

Past Simple Tense แม่ของฉันพูดว่า “มันไม่ได้ผลหรอก”

Indirect Speech My mom said that it had not worked out.
Past Perfect Tense แม่ของฉันพูดว่ามันไม่ได้ผลหรอก

ตัวอย่างท่ี 3

Direct Speech Pauline asked her son, “When did you arrive?”

Past Simple Tense พอลลีนถามลูกชายของหล่อนว่า “เธอกลับมาถึงตอนไหน”

Indirect Speech Pauline asked her son when he had arrived.
Past Perfect Tense พอลลีนถามลูกชายของหล่อนว่าเขาได้มาถึงตอนไหน



198 Grammar ภาษาอังกฤษ ฉบับสมบูรณ์

3 ใช้กับประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3 (Third Conditional Sentence) ที่แสดง

เหตุการณ์ท่ีตรงข้ามความจริงในอดีต เป็นการสมมติเหตุการณ์ในอดีตที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
ให้เกิดข้ึนในจินตนาการ ซ่ึงมีโครงสร้างดังน้ี

If Clause + Main Clause
(If + Past Perfect Tense) (Subject + would have + Past Participle)

ตัวอย่างท่ี 1

If I had only told Gina, she would have still stayed with me.
ถ้าเพียงแค่ฉันบอกจีน่า หล่อนคงจะยังอยู่กับฉัน

จากตัวอย่างข้างต้น เราจะพบว่ามี 2 Clause อยู่ในประโยคนี้ ได้แก่
1. If Clause เป็นประโยคทีแ่ สดงเงื่อนไข เราจะใช้ If ตามด้วย Past Perfect Tense
คอื ถ้าเพยี งแคฉ่ ันบอกจีน่า (If I had only told Gina)
2. Main Clause เป็นประโยคแสดงผลที่คาดคิดไว้ แต่เหตุการณ์น้ันไม่ได้เกิดข้ึนจริง
จากตัวอยา่ งคือ หล่อนคงจะยงั อยกู่ ับฉนั (she would have still stayed with
me) แต่ในความเป็นจริงคือ หล่อนไม่ได้อยู่กับฉันอีกต่อไปแล้ว จะเห็นว่าโครงสร้าง
ของประโยคจะใช้ would have ตามด้วย Past Participle หรือกริยาช่องท่ี 3

ตัวอย่างท่ี 2

If his father had not died, Jerry would have graduated with a
bachelor’s degree.
ถ้าพ่อของเขายังไม่ตาย เจอร่ีคงได้เรียนจบระดับปริญญาตรี

เราจะเห็นไดว้ า่ ในประโยคนี้ มี 2 Clause ไดแ้ ก่
1. Clause แสดงเงื่อนไข คอื ถา้ พ่อของเขายงั ไม่ตาย (If his father had not died)
ซงึ่ เปน็ การสมมตเิ หตกุ ารณใ์ นอดตี ขน้ึ มา ความจรงิ ในปจั จบุ นั คอื พอ่ ของเขาตายไปแลว้
2. Clause ที่ 2 แสดงผลทเ่ี กดิ จากการสมมตใิ นอดีตวา่ เจอร่คี งได้เรียนจบปรญิ ญาตรี
(Jerry would have graduated with a bachelor’s degree) แต่ในความ
เปน็ จริงคอื พ่อของเจอร่ตี าย และผลก็คอื เจอร่ีไมไ่ ด้เรยี นจบปรญิ ญาตรี



บทที่ 4 : Past Time 199

ตัวอย่างที่ 3

You wouldn’t have lost your husband if you had noticed the
warning signs of an affair.
คุณคงไม่สูญเสียสามีของคุณไป ถ้าคุณสังเกตเห็นสัญญาณเตือนว่าเขามีคนอ่ืน

ประโยคนี้ก็เช่นเดียวกับตัวอย่างข้างต้น กล่าวคือประกอบด้วย 2 Clause ได้แก่
1. If Clause คอื ถ้าคณุ สงั เกตเหน็ สัญญาณเตอื นวา่ เขามคี นอ่นื (if you had noticed
the warning signs of an affair) แต่ในความจริงท่ีเป็นคือ คุณไม่ได้สังเกตเห็น
สัญญาณเตือนน้ัน ๆ
2. Clause แสดงผลในส่ิงท่ีจินตนาการเอาไว้ คือ คุณคงไม่สูญเสียสามีของคุณไป
(You wouldn’t have lost your husband) ซ่ึงในความเป็นจริงคือ คุณเสีย
สามีของคุณไปแลว้

โครงสร้างของประโยค Past Perfect Tense มีดังต่อไปน้ี

ประธาน Auxiliary Verb Past Participle
(Subject) (Have) (กริยาช่องท่ี 3)

I had seen.
You
We
They
He
She
It

ตัวอย่างประโยค
If you had looked for the hidden benefits, you would not have
regretted the past.
ถ้าคุณได้มองเห็นถึงข้อดีท่ีซ่อนอยู่ คุณคงจะไม่เสียใจกับอดีต

