The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ปวส.

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นายวิจิตร พลเศษ, 2021-07-19 06:56:34

วิชาธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ปวส.

ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ปวส.

แบบสรปุ คะแนน

ชุดที่ 1
รายวิชา การวางแผนเปา้ หมายชวี ติ ดว้ ยวงจรคุณภาพ

คะแนน กจิ กรรมที่ ใบงานที่ แบบทดสอบ แบบทดสอบ คะแนน
ก่อนเรยี น หลงั เรยี น ระหว่าง
123 1 เรยี น

คะแนนเต็ม  5 10 10 15

คะแนนที่ได้
คิดเป็นร้อย
ละ

หมายเหตุ :  = ผา่ นกจิ กรรม  = ไม่ผ่านกจิ กรรม

(ลงชือ่ ) ....................................... ผปู้ ระเมนิ
(นายวจิ ติ ร พลเศษ)

ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครชู านาญการ

เกณฑ์การประเมินแบบทดสอบกอ่ นเรียนและแบบทดสอบหลงั เรียน

ระดับคุณภาพ หมายถงึ ดี
ระดับ 4 9 - 10 คะแนน หมายถึง ปานกลาง
ระดบั 3 7 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้
ระดับ 2 5 - 6 คะแนน

15. แบบทดสอบหลงั เรียน

หน่วยการสอนท่ี 1 ช่ือหน่วยการสอน การวางแผนเปา้ หมายชีวติ ด้วยวงจรคุณภาพ
วัตถุประสงค์ เพ่ือ ทดสอบความรูเ้ บื้องตน้ ของผเู้ รยี น หลังการเรียนการสอน
ข้อคาถาม

แบบทดสอบหลังเรียน

จงเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดยี ว

1 . ข้อใดเปน็ เป้าหมายชวี ติ ทีเ่ ป็นตวั เงินท้ังหมด
1 . แอนซอ้ื ตั๋วเคร่ืองบินไปญี่ปนุ่
2 . สมท่าประกนั ชวี ิต
3 . อ้อมนาหนังหนังสือไปถวายพระ
4 . เอมแตง่ งานกบั เศรษฐเี ยอรมัน
5 มอมแมมไหวพ้ ่อแม่ก่อนไปในโรงเรยี น

2 . ขอ้ ใดไมใ่ ช่เปา้ หมายชีวติ ทเ่ี ป็นตวั เปน็
1 . ซ่อมผกาซื้อพนั ธบตั รรัฐบาล
2 .คุณย่ิงลกั ษณซ์ ื้อห้นุ สามญั ของ ปตท.
3 . สุภาวดที าประกนั สังคม
4 . ลีน่าจังจะสมัครผู้ว่าฯ กทม.
5 . มิตซโู อะไปขดุ ทองท่ีกาญจนบุรี

3 . หารวางแผนเปา้ หมายในวัยใด จะอยู่ระหว่างการเริ่มสร้างครอบครวั
1 .อายุ 20 ปี
2.อายุ 21 - 30 ปี
3 .31 - 115 ปี
4 .46 - 50 ปี
5 . 51 ปขี ้นึ ไป

4 .“ถา้ การกาหนดเป้าหมายว่าอกี 3 ปี ถา้ เรียนจบ ปวช.3 แลว้ จะทางานเพือ่ เล้ยี งตนเองและครอบครัว
สอดคลอ้ งกับการวางแผนเป้าหมายชีวติ ในขอ้ ใด

1. Specific
2. Measurable
3. Acceptable
4. Realistic
5 .Timely

5 . " R = Realistic หมายถงึ ข้อใด
1.มีความชดั เจน และเฉพาะเจาะจง
2 . วดั ผลและประเมินผลได้
3 . สามารถยอมรับได้
4 .เปา้ หมายต้องอยบู่ นพื้นฐานความเป็นจริง
5 . เป้าหมายนั้นต้องมีการกาหนดเวลาแนน่ อน

6.การกาหนดเป้าหมายชีวิตนน้ั ถ้าไม่มีระยะเวลาแนน่ อนจะทาให้ความมุง่ มัน่ ลดลง หมายถงึ ข้อใด
1 .A =Acceptable
2. S =Specific
3. M=Measurable
4.T = Timely
5 R=Rewarding

7 . ขอ้ ใดสอดคล้องกับ R – Rewarding
1 . ความค้มุ ค่ากบั การปฏบิ ัติ
2 . เป็นการเพมิ่ ศกั ยภาพของผู้ปฏิบตั ิ
3 . ความชัดเจน และเฉพาะเจาะจง
4 . วดั ผลและประเมนิ ผลได้
5 . ยอมรับได้

8 .เปน็ การตรวจสอบจากเป้าหมายท่กี าหนดไว้ ” จากขอ้ ความนี้สอดคล้องกับขอ้ ใด
1 .P 2 .D
3 .C 4. A
5.R

9 . ข้อใดไม่ใช่ประโยชนข์ องการตรวจสอบในวงจร PDCA
1 . ตรวจสอบจากเปา้ หมายท่ีกาหนดไว้
2 . มเี คร่อื งมือทเ่ี ช่ือถือได้
3 . มีเกณฑ์การตรวจสอบทชี่ ัดเจน
4 . มเี วลาตรวจสอบแน่นอนและชัดเจน
5 . ผทู้ ตี่ รวจสอบตอ้ งเป็นบคุ คลภายนอก

10 . ข้อใดไม่ใช่ประโยชนข์ องการวางแผน
1. การศึกษาข้อมลู
2.การเตรียมงาน
3 . การดาเนินงาน
4 .การประเมินผล 5. มเี ครอื่ งมอื ท่ีเช่อื ถือได้

กระดาษคาตอบ กอ่ นเรยี น – หลงั เรยี น

กิจกรรมการเรยี นรู้
หนว่ ยท่ี 1 เรอื่ ง การวางแผนเปา้ หมายชีวติ ดว้ ยวงจรคณุ ภาพ

กอ่ นเรยี น 5 หลงั เรยี น
ขอ้ 1 2 3 4 ข้อ 1 2 3 4 5
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10

รวมคะแนน กอ่ นเรยี น รวมคะแนน หลังเรียน

ชอ่ื -สกลุ ...........................................................แผนก/ห้อง............เลขท.ี่ .............
วทิ ยาลยั การอาชีพสว่างแดนดิน

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น – หลงั เรยี น

กจิ กรรมการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 เรอื่ ง การวางแผนเปา้ หมายชวี ติ ด้วยวงจรคุณภาพ

กอ่ นเรียน หลงั เรียน
ขอ้ 1 2 3 4 5 ขอ้ 1 2 3 4 5
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10

รวมคะแนน ก่อนเรยี น 10 รวมคะแนน หลงั เรยี น 10

ชื่อ-สกุล...........................................................ผู้สอน/ผ้ตู รวจ
(นายวจิ ิตร พลเศษ)

วิทยาลยั การอาชีพสว่างแดนดิน

20. บันทึกผลหลงั การจดั การเรียนร้แู บบมุ่งเนน้ สมรรถนะอาชพี และบูรณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ

พอเพียง

20.1 สรุปผลการจดั การเรยี นรู้

รายการ ระดับการปฏบิ ัติ
5432 1

ดา้ นการเตรียมการสอน

1. จัดหนว่ ยการเรียนรไู้ ด้สอดคล้องกับวตั ถุประสงค์การเรียนรู้

2. กาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ครอบคลุมท้ังดา้ นความรู้ ด้านทกั ษะ และด้านจติ พสิ ัย

3. เตรียมวสั ดุ-อปุ กรณ์ สื่อ นวตั กรรม กิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรกู้ ่อนเข้าสอน

ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้

4. มีวธิ กี ารนาเขา้ สูบ่ ทเรยี นท่ีน่าสนใจ

5. มีกิจกรรมท่ีหลากหลาย เพื่อช่วยใหผ้ เู้ รยี นเกดิ การเรียนรู้ ความเขา้ ใจ

6. จัดกิจกรรมทส่ี ่งเสริมให้ผู้เรียนคน้ คว้าเพ่ือหาคาตอบด้วยตนเอง

7. นักเรยี นมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

8. จัดกิจกรรมทเ่ี นน้ กระบวนการคดิ ( คิดวิเคราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ )

9. กระต้นุ ให้ผู้เรียนแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี

10. จดั กิจกรรมการเรียนรทู้ เ่ี ช่ือมโยงกบั ชีวิตจรงิ โดยนาภมู ิปัญญา/บรู ณาการเขา้ มามีสว่ นร่วม

11. จดั กิจกรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม

12. มีการเสริมแรงเมอื่ นักเรียนปฏบิ ตั ิ หรือตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รียน

14. เอาใจใสด่ แู ลผู้เรยี น อย่างท่ัวถึง

15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาทกี่ าหนด

ด้านสือ่ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้

16. ใชส้ อ่ื ท่เี หมาะสมกบั กจิ กรรมและศักยภาพของผู้เรยี น

17. ใช้ส่ือ แหล่งการเรียนร้อู ย่างหลากหลาย เช่น บุคคล สถานที่ ของจริง เอกสาร

สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ และอนิ เทอร์เนต็ เป็นตน้

ด้านการวดั และประเมนิ ผล

18. ผ้เู รียนมีสว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล

19. ประเมินผลอยา่ งหลากหลายและครบท้ังด้านความรู้ ทักษะ และจติ พิสยั

20. ครู ผ้เู รยี น ผู้ปกครอง หรือ ผูท้ ีเ่ ก่ยี วข้องมสี ว่ นรว่ ม ในการประเมนิ

หมายเหตุ ระดบั การปฏบิ ตั ิ 5 = ปฏิบตั ดิ เี ยย่ี ม 4 = ปฏบิ ัติดี 3 = ปฏบิ ัตพิ อใช้ รวม
2 = ควรปรบั ปรุง 1 = ไมม่ กี ารปฏิบัติ คา่ เฉลี่ย

20.2 ปญั หาท่ีพบ และแนวทางแก้ปัญหา แนวทางแกป้ ญั หา
ปญั หาที่พบ
.....................................................................................
ด้านการเตรยี มการสอน .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................

ด้านการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................

ดา้ นสอ่ื นวัตกรรม แหลง่ การเรยี นรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................

ดา้ นการวัดและประเมินผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นอน่ื ๆ (โปรดระบุเป็นข้อๆ) .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................

ลงชื่อ ........................................................................ ครผู ู้สอน
(....................................................................)

ตาแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................

21. บนั ทึกการนิเทศและตดิ ตาม

วนั -เดอื น-ปี เวลา รายการนเิ ทศและติดตาม ชื่อ-สกลุ ผนู้ เิ ทศ ตาแหนง่

บันทกึ หลงั การสอน

ผลการใชแ้ ผนการเรยี นรู้

ความเหมาะสมของเวลา
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรงุ

ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนการสอน
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรงุ

……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………

ผลการเรียนของผู้เรยี น

ความต้ังใจของผ้เู รียน  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรงุ
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ
 ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ
อุปกรณ์การสอน
 มาก  ดี

การเรียนรู้ของผู้เรียน
 มาก  ดี

…………………………………………………………………………………………………………………………………….………

การสอนของครู

 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรุง

กิจกรรมการสอนที่กาหนดไว้ในแผนการจดั การ

เรียนรู้  ตรงตามแผนการจัดการเรียนรู้  ไมต่ รงตามแผนการจดั การเรียนรู้

บนั ทกึ เพ่ิมเติม

............................................................................................................................. ................................

………………………………………………
(นายวจิ ิตร พลเศษ)
ผูบ้ ันทึกการสอน

แผนการจดั การเรียนรู้ แบบมุ่งเนน้ สมรรถนะอาชีพ
และบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

รหัสวชิ า 30200-0003 วิชา ธรุ กจิ และการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ
หนว่ ยที่ 2 ชอ่ื หน่วย การออม

ช่อื เรอื่ ง การออม จานวน 4 ชว่ั โมง สอนครง้ั ท่ี 3-4

1. สาระสาคญั

การออมเป็นการเก็บสะสมเงินรายได้ในสว่ นตา่ ง ๆ ไว้ใชจ้ ่ายในอนาคตรวมถึงการสะสมส่ิงที่มีค่า
เปน็ ตวั เงินและมปี ระโยชน์ต่อครอบครัว ซงึ่ เป็นการสรา้ งหลักประกันความมน่ั คงให้กับตนเอง และกอ่ ใหเ้ กิด
เสถยี รภาพทางเศรษฐกิจ การออมจึงมคี วามสาคญั ต่อระบบเศรษฐกจิ เพราะมีความสาคัญตอ่ ความเป็นอยู่ของ
ประชาชน ครอบครัวและชมุ ชน จงึ ถอื วา่ การออมเป็นส่งิ จาเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรียนรู้

1. สามารถวางแผนการออมเงนิ เพอื่ ใช้ในอนาคต
2. สามารถบอกการออมเพื่อการเกษียณได้

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

3.1 จดุ ประสงค์ท่ัวไป

3.1.1 รู้และเขา้ ใจเก่ยี วกบั การออม
3.1.2 รู้และเข้าใจเกี่ยวกับการวางแผนการออมเพ่อื วัยเกษียณ

3.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
3.2.1 อธิบายความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของการออม
3.2.2 บอกเปา้ หมายในการออม
3.2.3 บอกปจั จัยสาคญั ในการออม
3.2.4 บอกการวางแผนการออม
3.2.5 อธบิ ายการออมเพอ่ื เกษียณอายุในประเทศไทย
3.2.6 อธบิ ายรูปแบบการออมเพ่ือการเกษยี ณของประเทศไทย
3.2.7 มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม ความมีมนุษยสัมพนั ธ์ ความมวี นิ ัย ความ

รบั ผิดชอบ ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ ความเชือ่ มั่นในตนเอง การประหยดั ความสนใจใฝร่ ู้ การละเว้นสิ่ง
เสพตดิ และการพนัน ความรักสามคั คี

4. เน้ือหาสาระการสอน/การเรียนรู้

4.1 ดา้ นความรู้
1. ความสาคญั ของการออม
2. ประโยชนข์ องการออม
3. เปา้ หมายของการออม
4. ปัจจยั สง่ เสริมการออม
5. การวางแผนการออม
6. การออมเพื่อเกษยี ณอายใุ นประเทศไทย รฐั บาล เอกชน

4.2 ดา้ นทักษะหรือการประยุกตใ์ ช้
1. เตรยี มเอกสารเก่ียวกับการออมเงนิ
2. สามารถทารายการรายรบั รายจ่ายเพื่อการออม
3. สามารถวางแผนการออมในอนาคตได้

4.3 ด้านคุณธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์และบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ
พอเพียง

ด้านคุณธรรม/ จริยธรรม
1. มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ มคี วามรับผดิ ชอบ

ดา้ นคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์และบูรณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
1. มงุ่ ม่ันในการทางาน มีจติ สาธารณะ อยู่อย่างพอเพยี ง
2. การรจู้ กั ประหยดั อดออม การออมอย่างเปน็ ระบบ

5. กิจกรรมการเรียนการสอนหรอื การเรียนรู้

ขัน้ ตอนการสอนหรือกิจกรรมครู ขน้ั ตอนการเรียนหรือกจิ กรรมของผเู้ รยี น

ขน้ั เตรยี ม(จานวน 10 นาที) 5.1 ผเู้ รยี นเขา้ หอ้ งเรียน
5.1 นักเรยี นทาความเคารพครผู ู้สอน 5.2 ครผู ู้สอนตรวจสอบรายชื่อผ้เู รียน
5.2 ครูผสู้ อนทักทายผเู้ รยี นและสารวจรายช่อื ผูเ้ รยี น 5.3 ผู้เรยี นรบั ใบความรู้ เรอื่ ง การวางแผนเป้าหมาย
5.3 ครูผู้สอนแจกใบความรู้ หรือ เตรียมอปุ กรณ์
ชีวติ ดว้ ยวงจรคุณภาพ
ในการสอนใหพ้ ร้อม และใบงาน 5.4 รบั ใบงาน อธบิ ายการทา
5.4 ผเู้ รยี นใบความรู้ เตรียมตาราเรียนและสมดุ
5.5 ผู้สอนการจัดทาใบงานท่ีมอบหมาย

ขน้ั การสอน(จานวน....210..........นาท)ี

5.6 ครผู ู้สอนแจกแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 5.5 ผู้เรียนทดสอบก่อนเรียน ( 10 นาที)

5.7 อธิบายการทาแบบทดสอบก่อนเรียน มีจานวน

10 ขอ้ เวลาทใ่ี ช้ 10 นาที (พร้อมสง่ ครบเวลา)

5.8 ครผู สู้ อนให้ผเู้ รยี นศกึ ษาใบความรู้ หน่วยเน้ือหา 5.6 ผ้เู รยี นศึกษาตาราเรยี นหนว่ ยเน้อื หา ใบความรู้

ตาราเรียน การออม

5.9 ครูผสู้ อน ต้ังคาถามเกยี่ วกบั การออม 5.7 ผ้เู รียนรว่ มตอบคาถาม

(ผเู้ รียนตอบคาถาม) 5.8 ผู้เรยี นรับฟังการบรรยาย เกย่ี วกับเน้ือหา

5.10 ครูผู้สอน อธบิ ายเน้ือหา ใบความรู้ เนอ้ื หาใน การออม

หนว่ ยการเรียนรู้ (เวลา 100 นาที) 5.9 ผูเ้ รียนจัดทาใบงานทม่ี อบหมาย ( 100 นาที)

5.11 ครูผู้สอนมอบหมายการทาใบงาน แบบฝึกหดั

(เวลา 100 นาที)

ข้นั สรปุ (จานวน 20 นาที) 5.10 ผู้เรียนร่วมสรุปเนือ้ หา ใบความรู้ เนอ้ื หาหน่วย
5.12 ครผู สู้ อนและผู้เรียนสรุปเนอ้ื หา หวั ข้อ การเรียนรู้ ตาราเรียน

การออม (10 นาที) 5.11 ผู้เรยี นจดั ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น 10 ขอ้
5.13 ครูผู้สอนแจกแบบทดสอบหลงั เรยี น หวั ขอ้ (เวลา 10 นาท)ี

การวางแผนเปา้ หมายชวี ติ ดว้ ยวงจรคณุ ภาพ 5.12 มอบหมายงาน การจดั ทารายงาน รายบุคคล
10ข้อ (10 นาที) รายกลุ่ม 3-5 คน รายงานหนา้ ช้นั เรยี น

6. ส่ือการสอน

ส่ือสง่ิ พมิ พ์

1. ตาราเรียน หนงั สอื ประกอบการเรียนการสอนวิชา ธรุ กจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ 20001-1003
อ.เพญ็ ศรี เลิศเกียรตวิ ทิ ยา สานกั พมิ พเ์ อมพันธ์

2. เอกสารประกอบการสอน ใบความรู้

สอ่ื โสตทศั น์ (ถา้ มี)

1. power point ธุรกิจและการเป็นผปู้ ระกอบการ 20001-1003 เร่ือง การออม
2. VDO สอ่ื การสอน ประจาวชิ า ธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ 20001-1003
3. ...................................................................................................
4. ...................................................................................................

หุน่ จาลองหรอื ของจรงิ (ถา้ มี)

1. ............................................................................................................................. ......

เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)

1. แบบทดสอบก่อนเรยี น
2. ใบความรู้ ใบงาน (ใบมอบหมายงาน ถ้ามี)
3. แบบทดสอบหลังเรียน

แหลง่ เรียนรู้
เรียนรู้

1. ห้องสมุดวทิ ยาลยั การอาชีพสวา่ งแดนดนิ (ตาราเรียน)
2. ห้องอนิ เทอรเ์ น็ตวิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดิน การสืบค้นขอ้ มลู
3. Google แหล่งเรียนรอู้ อนไลน์ จากโทรศัพท์มือถือ
การบรู ณาการ/ความสัมพันธ์กบั วิชาอืน่

1. วิชาภาษาไทย การอา่ นและทาความเขา้ ใจในเนอื้ หาหน่วยการเรียนรู้ ใบความรู้ ตีความ
2. วชิ าสงั คมศึกษา การอยใู่ นสงั คม การคบเพื่อน
3. วิชาภาษาองั กฤษ เร่ืองศัพท์เฉพาะในหนว่ ยการเรียนการสอน

8. งานทมี่ อบหมาย

8.1 กอ่ นเรยี น

1. จัดเตรยี มห้องเรยี นให้เรียบร้อยเป็นระเบยี บ รักษาความสะอาด (แบง่ เวร)
2. จดั เตรียมอปุ กรณก์ ารเรยี นใหพ้ ร้อม กอ่ นการเรียนการสอน
3. จัดทาแบบทดสอบก่อนเรยี น และสง่ ตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน

8.2 ขณะเรียน
1. จัดทาใบงานท่ีมอบหมายตามกาหนดเวลาสง่ ที่กาหนดไว้
2. จดั ทาแบบทดสอบหลงั เรียน และส่งตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน
3. ปฏิบัตติ นในการเรยี นร้อู ย่างเหมาะสมในชนั้ เรียน

8.3 หลงั เรยี น
1. การศกึ ษาเน้ือหากอ่ นล่วงหน้า
2. มอบหมายงานแบบฝึกหัดทา้ ยหน่วยการเรียนรู้ ใบงาน

9. ผลงาน/ช้ินงาน ทเ่ี กดิ จากการเรยี นรขู้ องผู้เรยี น

1. ใบงานที่มอบหมาย
2. สมดุ ในการทาแบบฝึกหัด แบบฝึกปฏบิ ัติท้ายหน่วย
3. สรปุ ผลการทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น
4. สรปุ ผลการสง่ งานทม่ี อบหมาย

10. เอกสารอา้ งอิง

1. บันทึกการสอนของครู
2. ใบเชค็ รายช่อื
3. แผนการจดั การเรยี นรู้
4. ใบความรู้ เนื้องานในหนงั สือเรียน
5. แบบทดสอบก่อนเรยี น หลังเรยี น

11. การบูรณาการ/ความสมั พันธก์ บั รายวชิ าอนื่

1. รายวิชาภาษาไทย เพ่อื อ่าน ฟัง พูด เขยี น และตคี วามหมาย แปลความหมาย
2. รายวชิ าสงั คมศึกษา สังคมไทย เพ่ือการอยรู่ ว่ มกนั ในสังคม ในห้องเรยี น
3. รายวชิ าภาษาอังกฤษ ที่มีภาษาอังกฤษในหน่วยการเรยี นการสอน

12. หลักการประเมนิ ผลการเรยี น

12.1 กอ่ นเรียน

12.1.1 การประเมนิ การตรวจสอบรายชอื่ ผเู้ ขา้ เรยี นในช่วั โมง (ดา้ นจติ พสิ ัย)
12.1.2 การประเมินการเตรียมความพร้อมในการเรียนของผเู้ รียน อปุ กรณก์ ารเรียน ตาราเรยี น

สมดุ ปากกา ไมบ้ รรทัด
12.1.3 การประเมินการทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เวลา 10 นาที 10 ข้อ 10 คะแนน

12.2 ขณะเรียน
12.2.1 การประเมนิ การมสี ว่ นรว่ มในการเรยี นการสอน การตอบ-ถาม (แบบประเมนิ
พฤติกรรม)
12.2.2 การประเมนิ การสนใจใฝเ่ รยี นรู้ การปฏิบัติตน ขณะเรยี น การทาแบบฝกึ หดั ใบงาน
(แบบประเมนิ พฤตกิ รรม)
12.2.3 การประเมินด้วยการทาแบบทดสอบหลังเรียน เวลา 10 นาที 10 ขอ้ 10 คะแนน

12.3 หลังเรยี น

12.3.1 การประเมนิ ผลการเรียนรแู้ ละสรุปผลการเรียนรู้ แบบประเมินผล
แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี นร้อยละ 50 หลังเรยี นร้อยละ 70

12.3.2 เมือ่ ไม่ผ่านเกณฑ์ที่กาหนดให้มกี ารปรับปรุงแก้ไขต่อไป
12.3.3 มีการมอบหมายงาน ศกึ ษาเนื้อหาในหนว่ ยการเรยี นถดั ไป และใบความรู้ (ถา้ มี)
12.3.4 มอบหมายงานศึกษาเน้ือหาเพิ่มเตมิ โดยการจดั ทารายงานกลมุ่ หรือรายบคุ คคล

13. รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรียน

จุดประสงค์ข้อท่ี 1 ………………………………………………………………………………....................................………
1. วธิ ีการประเมนิ : ……………………………………………………...........................…………….
2. เครอื่ งการประเมนิ : …………………………………………………………………............................
3. เกณฑ์การประเมิน : …………………………………………………………………............................
4. เกณฑ์การผา่ น : ……………………………………………………………………………...............

จดุ ประสงคข์ ้อท่ี 2 …………………………………………………………………………………….....................................
1. วิธีการประเมิน : …………………………………………………………………...........................
2. เครือ่ งการประเมิน : …………………………………………………………………...........................
3. เกณฑ์การประเมิน : …………………………………………………………………...........................
4. เกณฑ์การผา่ น : ……………………………………..…………………………...........................

14. แบบทดสอบก่อนเรียน

หนว่ ยการสอนที่ 2 ชอ่ื หน่วยการสอน การออม
วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือ ทดสอบความรู้เบ้อื งต้นของผู้เรยี น หลังการเรยี นการสอน
ข้อคาถาม

แบบทดสอบก่อนเรยี น

จงเลือกคาตอบทถี่ ูกต้องที่สุดเพยี งข้อเดียว

1 . วิไรรัมภามเี งนิ เดือน 22 , 000 บาท จ่ายค่าเชา่ บา้ น 5 , 000 บาท ค่าผ่อนรถยนต์ 7,000 บาท และคา่ ใชจ้ ่าย
อ่นื อีก4,000 บาท อยากทราบวา่ เธอจะมเี งินออมอย่เู ทา่ ใด

1 .22 , 000 บาท
2 . 6 , 000 บาท
3 . 10 , 000 บาท
4 .18 , 000 บาท
5 .11 , 000 บาท
2. ประชาชนโดยทวั่ ไปมกั จะนยิ มสะสมส่ิงตา่ งๆ ไว้เป็นเงนิ ออมตามขอ้ ใด
1 . จนั ทรก์ ระพ้อชอบสะสมทองคา และถ้วยชามสังคโลก
2 . เพยี งขวัญชอบสะสมพระเครอื่ ง และทด่ี นิ
3 . มารตีชอบสะสมทองคาและท่ดี ิน
4 . กรองแก้วชอบสะสมเงนิ สดและเสื้อผา้ แฟช่นั
5 . สรอ้ ยฟ้าขอบสะสมปืนและเพชร
3 . ขอ้ ใดไม่ใช่ความสาคญั ของการออม
1 . สรา้ งหลกั ประกันความม่ันคงให้กับญาตพิ น่ี ้อง
2 . มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
3 . ทาให้มกี ารพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
4 . สร้างความเป็นอยขู่ องประชาชน ครอบครัวและชุมชนใหด้ ขี ึ้น
5 . เป็นไปไดท้ ุกกรณี
4 . ขอ้ ใดเปน็ ประโยชนข์ องการออมด้านสงั คม
1 .ปรุงฉตั รน้าเงนิ เดอื นสว่ นหน่ึงไปผอ่ นบา้ น
2 . รสรนิ ออมเงนิ วันละ 1 บาท เพื่อนาไปชว่ ยเหลอื คนพกิ าร
3.รณพีร์คิดประดิษฐล์ วดลายเทียนเข้าพรรษาในปีน้ี
4 .พุฒิพัฒน์เก็บเงินวนั ละ 20 บาท เพอ่ื นาไปจ่ายค่าอปุ กรณ์การเรียน
5 .จันทรามีความซ่ือสัตย์ และจริงใจต่อเพื่อนทุกคน

5 . ขอ้ ใดเปน็ เป้าหมายของการออม

1 พลอยต้องการเกบ็ เงนิ บางส่วนไวใ้ ช้จา่ ยในวยั เกษียณ

2 . เพลงตอ้ งการเกบ็ เงินไวใ้ ช้ในด้านการศึกษา

3 . แพทต้องการสร้างหลกั ประกันชวี ิตใหต้ นเองด้วยการออมเงิน

4 . พรซ์ ือ้ พนั ธบตั รรัฐบาล เพื่อไว้เปน็ มรดกใหล้ กู หลาน

5 . เป็นไปไดท้ ุกกรณีทกี่ ล่าวมา

6. ข้อใดไม่ใช่ปญั หาในการออม

1 . เอมมซี ื้อสิ่งของทุกอย่างท่ีอยากได้

2 . ช่วงนี้มภี าวะเงนิ เฟ้อทาให้กระต่ายซื้อรถยนตไ์ ม่ได้

3 . ใบเตยปว่ ยกะทนั หันจงึ ถอนเงินฝากประจามาใชจ้ ่ายก่อน

4 . กระแตตกบนั ไดจงึ นาเงินท่เี ก็บไว้ในกรณีฉุกเฉินมาใช้จ่าย

5 . เป็นไปไดท้ ุกกรณี

7.ขอ้ ใดเป็นการออมเพื่อความมัน่ คง

1 .นัฐนาเงนิ ทเ่ี ก็บไว้มาใช้จ่ายซ่อมแซมบา้ น

2. หนุ่มนาเงินท่เี ก็บไวไ้ ปซ้ือหุ้นของ ปตท.

3 . เจมสน์ าเงนิ ทเ่ี กบ็ ไว้ไปซ้ือพันธบตั รรัฐบาล

4 . ภูรินาเงินท่เี กบ็ ไว้ไปซื้อทองคา

5. นา้ ฝนนาเงนิ ทเ่ี กบ็ ไวไ้ ปใชจ้ ่ายในวัยชรา

8 . ขอ้ ใดให้คาจากดั ความคาว่า “ เกษยี ณ ” ไดถ้ ูกตอ้ ง

1. สิ้นไป

2 . ครบกาหนดอายรุ ับราชการ

3 . สน้ิ กาหนดเวลารับราชการ

4 . เออร์สรไี ทร์ ( Early Retired )

5 . ขอ้ 1 - 2 - 3 ถูกต้อง

9. จากข้อมูลสานักงานสถติ ิแห่งชาติระบุว่าหลงั เกษียณอายุซายไทยจะมีชีวติ โดยเฉล่ียอยไู่ ด้อีกกี่ปี

1 . 3 - 5 ปี

2 . 5 - 7 ปี

3 . 7 - 10 ปี

4 . 10 - 15 ปี

5 .15 - 20 ปี

10.จากข้อมลู สานกั งานสถติ ิแหง่ ชาติ ระบวุ า่ หลงั เกษียณอายหุ ญิงไทยจะมชี วี ิตโดยเฉลี่ยอยู่ไปได้อกี ประมาณก่ปี ี

1 . 15 - 20 ปี 2 . 10 - 15 ปี

3 . 7 - 10 ปี 4 . 5 - 7 ปี

5. 2 - 5 ปี

กระดาษคาตอบ ก่อนเรียน – หลงั เรียน

กิจกรรมการเรียนรู้
หนว่ ยที่ 2 เรือ่ ง การออม

ก่อนเรยี น 5 หลังเรยี น
ขอ้ 1 2 3 4 ข้อ 1 2 3 4 5
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10

รวมคะแนน กอ่ นเรยี น รวมคะแนน หลงั เรียน

ช่ือ-สกุล...........................................................แผนก/ห้อง............เลขท.่ี .............
วทิ ยาลัยการอาชีพสวา่ งแดนดิน

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น – หลงั เรียน

กิจกรรมการเรยี นรู้
หนว่ ยท่ี 2 เรื่อง การออม

กอ่ นเรยี น หลังเรียน
ขอ้ 1 2 3 4 5 ข้อ 1 2 3 4 5
1x 1
2x 2
3x 3
4x 4
5x 5
6x 6
7x 7
8x 8
9x 9
10 x 10

รวมคะแนน กอ่ นเรียน 10 รวมคะแนน หลังเรียน 10

ชื่อ-สกุล...........................................................ผ้สู อน/ผตู้ รวจ
(นายวจิ ติ ร พลเศษ)

หน่วยการสอนที่ 2 ช่อื หนว่ ยการสอน การออม
ชอ่ื หัวขอ้ เร่อื ง การออม

16. ใบความรู้

แนวคดิ

การออมเป็นการเก็บสะสมเงินรายไดใ้ นส่วนต่าง ๆ ไว้ใชจ้ า่ ยในอนาคตรวมถึงการสะสมส่ิงท่มี คี ่า
เป็นตวั เงินและมปี ระโยชน์ต่อครอบครัว ซึ่งเป็นการสร้างหลักประกนั ความมน่ั คงให้กบั ตนเอง และกอ่ ให้เกิด
เสถยี รภาพทางเศรษฐกจิ การออมจงึ มคี วามสาคัญต่อระบบเศรษฐกจิ เพราะมีความสาคัญตอ่ ความเปน็ อยู่ของ
ประชาชน ครอบครัวและชมุ ชน จึงถือว่าการออมเปน็ ส่งิ จาเป็นตอ่ การพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวัง

1.แสดงความรู้เกย่ี วกับความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของการออม
2.แสดงความร้เู กย่ี วกับเปา้ หมายในการออม
3.แสดงความรู้เกยี่ วกับปัจจยั สาคญั ในการออม
4.แสดงความรเู้ กยี่ วกับการวางแผนการออม
5.แสดงความรเู้ ก่ียวกับการออมเพ่ือเกษยี ณอายใุ นประเทศไทย
6.แสดงความรเู้ กี่ยวกบั รปู แบบการออมเพือ่ การเกษยี ณของประเทศไทย
7. มีการพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม ความสนใจใฝ่เรียนรู้ ความสามัคคี ความประหยดั

สาระการเรียนรู้

1. ความสาคัญของการออม
2. ประโยชนข์ องการออม
3. เปา้ หมายของการออม
4. ปจั จยั ส่งเสริมการออม
5. การวางแผนการออม
6. การออมเพื่อเกษียณอายใุ นประเทศไทย รัฐบาล เอกชน

1. ครูอธบิ ายความหมาย ความสาคัญ และประโยชน์ของการออม โดยใช้สื่อ PowerPoint ประกอบ

2.ผู้เรยี นแตล่ ะคนบอกประโยชนข์ องการออม
3.ครอู ธิบายเป้าหมายในการออม และใหผ้ เู้ รียนกาหนดเปา้ หมายในการออมของตนเอง

4. ครูแสดงตารางกาหนดเปา้ หมายในการออกให้ผเู้ รยี นดู

5. ครูอธบิ ายให้ผเู้ รยี นฟังว่าเม่ือกาหนดเปา้ หมายในการออมเรยี บรอ้ ยแล้ว กต็ อ้ งกาหนดจานวนเงินท่ีจะออม ซ่งึ มวี ธิ คี านวณแบบ
ง่ายๆ คือ นารายจา่ ยหกั ออกจากรายรบั

6. ผ้เู รียนเขยี นตารางแสดงรายรับ-รายจา่ ยตามตารางดังน้ี

7.ผูเ้ รียนแตล่ ะคนบอกปัจจัยสาคญั ในการออม ซ่ึงโดยทว่ั ไปการออมจะเกดิ ขนึ้ ก็ตอ่ เมอื่ บุคคลนั้นมรี ายได้มากกวา่ การจา่ ย และต้อง
อาศัยปัจจยั สาคญั ในการออม ดงั น้ี

7.1 ผลตอบแทนทไ่ี ดร้ บั ถ้าผลตอบแทนในการออมเพมิ่ ข้นึ ก็จะจูงใจให้บุคคลมกี ารออมเพิ่มมากข้นึ
7.2 มูลคา่ ของอานาจซอื้ ของเงินในปัจจุบนั ผู้ออมจะตัดสนิ ใจออมเงนิ มากขึน้ หลงั จากพิจารณา
ถงึ อานาจซอ้ื ของเงินทีม่ ีอยูใ่ นปัจจุบนั วา่ จะมีความแตกตา่ งจากมูลคา่ ของเงินในอนาคต
7.3 รายไดส้ ่วนบคุ คลสทุ ธิ ผทู้ ่ีมีรายไดแ้ นน่ อนทกุ เดือนในจานวนทไี่ มส่ ูงมาก จานวนเงนิ ออมท่ีกนั ไว้
อาจเปน็ เพยี งจานวนน้อยตามอัตราส่วนของรายไดท้ ่ีมอี ยู่
7.4 ความแนน่ อนของจานวนรายได้ในอนาคตหลังเกษยี ณอายุ ถา้ ทุกคนทราบวา่ เมื่อใดกต็ าม
ทแี่ ต่ละบุคคลไม่มคี วามสามารถหารายได้ตอ่ ไป กจ็ ะไม่มีปญั หาการเงนิ เกิดข้ึน เนื่องจากหนว่ ยงานที่
ทางานอยอู่ าจมีนโยบายชว่ ยเหลอื ในวยั ชราหลังเกษียณอายุ หรือภายหลงั ออกจากงานกอ่ นกาหนด

8. ครบู อกปัญหาในการออมเป็นปญั หาทสี่ าคญั อยา่ งหนึ่งของประเทศ เนอื่ งจากชาวไทยจานวนมากจะมี
อายยุ ืนประมาณ 80-90 ปี แต่ส่วนมากกย็ ังไมม่ กี ารออมอยา่ งเพยี งพอเพราะแตล่ ะคนก็จะมีปญั หาเรอ่ื ง
การออม และท้อแท้ที่จะพยายามออมตอ่ ไป ปัญหาในการออมเงนิ ทเี่ หน็ ไดช้ ดั เจนกค็ ือการไมต่ ัง้ ใจ หรอื ไม่มี
ความอดทนเพยี งพอของแต่ละบุคคล จึงทาให้ไมส่ าเร็จตามเป้าหมายท่กี าหนดไว้ ซง่ึ สามารถสรปุ ไดด้ งั นี้

ปัญหา
ในการออม

9. ผู้เรียนวางแผนในการออม ซ่ึงการวางแผนการออม (Saving Plan) เป็นกลยทุ ธ์ท่ชี ว่ ยให้บุคคลประสบความสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย
ในชวี ติ ซึง่ แต่ละบคุ คลควรจดั สรรรายไดข้ องตนเองเพ่ือเป็นคา่ ใชจ้ ่ายปัจจุบัน และเป็นเงนิ ออมในอนาคตเปน็ จานวนเท่าใด สิ่งที่
สาคัญในการวางแผนการออมคือการประมาณรายได้และรายจ่าย เชน่
บคุ คลต้องการซือ้ บา้ นจะตอ้ งวางแผนการออมโดยกาหนดจานวนเงินและระยะเวลาทส่ี ะสมเงินออมเพอ่ื ใหไ้ ด้ตามจานวนทต่ี ้องการ
เงนิ ออมยงั ช่วยบรรเทาความเดอื ดรอ้ นทางการเงนิ ในยามฉกุ เฉนิ แสดงใหเ้ ห็นวา่ การออมเปน็ รปู แบบของการลงทนุ อยา่ งหน่งึ ทกุ
คนจงึ ควรบริหารเงินออมอยา่ งรอบคอบ
10. ครูอธิบายรปู แบบของการวางแผนการออม ดังน้ี

1. การฝากเงินกับธนาคาร (Deposit)
2. การประกนั ชีวิต (Life Insurance)
3. การออมทรัพย์กับสหกรณ์
4. การซือ้ พนั ธบตั รรฐั บาล
5. กองทนุ สารองเลยี้ งชพี (Provident Fund: PVD)
11. ผเู้ รยี นทดลองเลือกรูปแบบของการวางแผนการออม แล้วเขียนเปน็ ความเรยี งถงึ เหตผุ ลในการเลอื กนน้ั
12. ครผู ู้สอนอธบิ ายการออมเพื่อเกษยี ณอายใุ นประเทศไทย โดยใชส้ ือ่ PowerPoint

13. ครูและผเู้ รียนแสดงการคานวณเงนิ ออมเพอ่ื เกษียณอายุ ซึ่งทกุ คนควรเตรยี มความพรอ้ มในอนาคตดว้ ยตนเอง จึงตอ้ งมีเงนิ ออม
ไวจ้ านวนหนงึ่ เพือ่ ใชจ้ า่ ย จึงต้องสารวจตนเองวา่ ปัจจุบนั อายเุ ท่าไร สุขภาพเป็นอย่างไร พฤติกรรมการใชจ้ ่ายเป็นอย่างไร มรี ายได้
ตอ่ เดือนเท่าไหร่ ซ่งึ จะเป็นปจั จัยทจี่ ะนามาพิจารณาวางแผนว่าในอนาคตต้องมีเงินออมจานวนเทา่ ใดจึงจะพอใช้ ซึง่ ไมม่ ีสตู รที่
แนน่ อน แตก่ ็พอประมาณได้ดงั นี้

วิธีท่ี 1 พิจารณาจากเงินออมที่มอี ยู่ในมอื ปัจจบุ ัน ซ่งึ จะมีจานวนไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 10 ของเงนิ ได้ทัง้ ปี คณู ดว้ ยอายใุ น
ปัจจุบนั ของตนเอง

วิธที ่ี 2 พิจารณาจากเงนิ ออมท่มี ี ณ วันทเี่ กษยี ณอายุ โดยใหน้ าจานวนปีทม่ี ีชวี ิตอย่หู ลังเกษียณคณู ด้วยค่าใช้จา่ ยต่อเดอื น

14. ครูอธิบายบทบาทของการวางแผนเกษียณอายุ โดยการวางแผนเกษียณอายุ มเี ป้าหมายที่จะแสดงถึงความ
ม่นั คงทางการเงนิ ความสะดวกสบายและมาตรฐานการดารงชีวติ ทดี่ ีท้งั ปจั จุบนั และอนาคต ผทู้ จ่ี ะประสบ
ความสาเรจ็ ในชีวิตไดน้ ัน้ ก็คือผทู้ ม่ี ีการวางแผนไวอ้ ยา่ งรอบคอบซึ่งเป็นการเพมิ่ ความมั่นคงใหก้ ับตนเองและ
ครอบครวั ซง่ึ ขน้ั ตอนของการวางแผนมดี ังน้ี

14.1 กาหนดเปา้ หมายหรือส่ิงทต่ี ้องการหลงั เกษียณอายุแล้ว เชน่ รายได้ท่ไี ดร้ บั บา้ น รถยนต์ เป็นต้น ซง่ึ
จะเป็นแนวทางวางแผนวัยเกษียณและอาจจะเปลย่ี นไปตามความเหมาะสมท่ีเปลย่ี นแปลง

14.2 กาหนดจานวนเงนิ สะสมท่ีต้องการเพ่อื เป็นค่าใชจ้ า่ ยภายหลังเกษียณอายุ และเป็นแนวทางทีจ่ ะนาไปสู่
ความสาเรจ็ ตามเป้าหมายได้เงินตามทีต่ ้องการ

14.3 การจดั ทาโครงการลงทุนทส่ี ร้างเงนิ ทนุ ที่ได้สะสมไวใ้ หม้ คี รบตามจานวนท่ีต้องการ และควรพิจารณา
วา่ ควรนาเงินออมเหล่าน้ไี ปลงทุนอะไรได้บา้ งเพ่อื ใหเ้ งินที่มีอยเู่ พม่ิ มากข้นึ

15. ครูและผู้เรยี นแสดงวธิ วี างแผนทางการเงินสาหรบั การเกษยี ณอายุ โดยมหี ลกั ในการคานวณดงั นี้
1) ตัง้ เป้าหมาย
2) คานวณเงินรวม
3) ตรวจสอบปรมิ าณเงินออมในปจั จุบัน
4) ศกึ ษาวธิ ีเตรียมเงนิ ออมสาหรบั เกษยี ณ

16. ครูบอกหลักวางแผนเกษียณอายุ ดังนี้
1) การหาระยะเวลาแหง่ ชว่ งชีวติ ในปจั จุบันชว่ งชวี ติ โดยเฉล่ียของผู้ชายคือ 72 ปี และของผหู้ ญงิ

คือ 75 ปี แต่ดว้ ยเทคโนโลยีทางการแพทย์ท่ีก้าวหน้าขนึ้ สามารถยืดอายขุ องคนไปได้อีก 20 ปี จากค่าเฉล่ียนน้ั
2) ระดบั เงนิ เฟ้อทีม่ ีแนวโนม้ หรอื คาดว่าน่าจะเป็นไปในช่วงเวลาของการเกษยี ณอายุ ซง่ึ ทาให้

เงินออมท่หี ามาได้ในแต่ละปดี ้อยคา่ ไป
3) คา่ ใช้จา่ ยเก่ยี วกบั สขุ ภาพท่ีเพิ่มมากข้นึ เม่ือเริ่มอายุมาก โดยท่ัวไปทุกคนต้องการเงินประมาณ

70–75% ของรายไดก้ ่อนการเกษียณอายุ เพือ่ เอาไว้ใชจ้ ่ายเมอ่ื ยามเกษียณอายุ ซึง่ อาจแตกตา่ งกันไปขึ้นอยู่กบั วิถี
ชวี ติ ของแตล่ ะคนที่วางแผนเอาไว้
17. ครูบอกปัญหาในการวางแผนเกษยี ณอายดุ ังน้ี

1) เร่ิมต้นวางแผนเกษียณอายุชา้ เกินไป
2) จานวนเงนิ ที่สะสมแต่ละปีกอ่ นเกษยี ณน้อยเกนิ ไปไม่พอกับคา่ ใชจ้ ่ายท่เี กดิ ข้ึนหลงั เกษียณ
3) นาเงนิ ทนุ ท่ีไดส้ ะสมไวน้ ี้ไปลงทุนท่ีไม่ก่อให้เกิดประโยชนส์ ูงสุด
18. ครูอธบิ ายการประมาณรายไดแ้ ละรายจ่ายเพื่อเกษียณอายุ ซ่งึ บคุ คลทีม่ ีการวางแผนเงนิ ไวล้ ว่ งหนา้ เพ่ือเป็นทุน
สารองไวใ้ ช้จ่ายในวัยชราเกษียณ ย่อมจะได้รับความสะดวกสบาย จึงควรวางแผนการเงินไวอ้ ยา่ งรอบคอบเพ่อื
เกษียณอายุ ประกอบด้วย
1) การกาหนดความต้องการใชเ้ งินหลงั เกษียณ
2) การประมาณรายได้หลงั วยั เกษยี ณอายุ
3) การจดั หาเงินสารองไว้สาหรับสว่ นที่ขาด
4) แหล่งทมี่ าของรายไดห้ ลังเกษียณอายุ
19. ผู้เรียนแนวทางในการแก้ปญั หาหลังการเกษียณอายุ
1) รายได้และรายจ่าย เมือ่ เกษียณแลว้ รายไดต้ ่างๆ ก็ลดน้อยลง มแี ต่รายไดท้ ่เี กิดจากเงินออม เงิน
ประกนั สงั คมและอื่น ๆ หากไม่วางแผนการใชจ้ ่ายใหด้ ี หรือยงั ตดิ ยดึ อยู่กบั ตาแหน่งฐานะเดิม แม้เกษียณแลว้ ก็
พยายามทาตนให้เหมือนเดิมอยู่ ก็ยอ่ มจะก่อให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจได้ ดังนั้นผเู้ กษยี ณจึงต้องทาใจ อย่ายอมให้
สงั คมมาเปน็ ผู้กาหนด หรืออย่านาตัวไปเปรยี บเทยี บกับผู้อืน่
แนวทางในการแก้ปัญหา ตอ้ งมีการวางแผนการเงนิ ไว้ลว่ งหน้า ดรู ายรับรายจ่ายให้สมดุลกัน ร้จู ักทาบัญชี
หรอื ควบคมุ ค่าใชจ้ า่ ยให้รดั กมุ รู้จกั ประหยัด ไม่ฟ่มุ เฟือยใช้จ่ายในสิง่ ทจี่ าเปน็ เช่น เส้อื ผา้ เครอื่ งสาอาง อาหารบาง
ชนิด เหลา้ บหุ รี่ หรือการเที่ยว เปน็ ต้น หากตอ้ งส่งเสียลกู เรียน ต้องผอ่ นบ้านหรือผอ่ นรถ เป็นต้น กค็ วรมีการ
วางแผนตั้งแตก่ ่อนเกษยี ณ เพื่อมิใหเ้ กิดความเครยี ดจนกลายเป็นปญั หาครอบครัว ควรปรึกษาสมาชิกในครอบครวั
ตั้งแตเ่ ริ่มต้น วา่ จะทาอะไรต่อไปหลงั เกษียณแล้ว

2) เวลา เม่อื ออกจากงานจะทาใหม้ ีเวลาวา่ งมากขึ้น จงึ เปน็ โอกาสทจี่ ะใช้เวลาทาในส่ิงท่ตี นเองอยากทา
อย่าปลอ่ ยให้วา่ งเพราะอาจจะก่อใหเ้ กิดความสูญเสยี หลายอย่าง ท้งั จติ ใจและรายได้

แนวทางในการแกป้ ญั หา ตอ้ งรูจ้ ักเลอื กใชเ้ วลาใหเ้ กิดประโยชน์
3).สภาพจิตใจ การเกษยี ณอายุจะทาให้บุคคลไดร้ ับความกระทบกระเทือนด้านจติ ใน เน่ืองจากรายได้
ลดลงอยา่ งรวดเร็ว เงินบาเหน็จบานาญ เงนิ สะสม เงนิ เลยี้ งชีพ จะช่วยใหส้ ภาพจติ ใจดขี ึน้ ได้ การเปล่ียนแปลงด้าน
จติ ใจอารมณ์ของผสู้ งู อายุ อาจเกดิ จากมีเวลาว่างมากเกนิ ไป เพราะเกษยี ณอายุจากการทางานแลว้ จึงร้สู กึ ว่าตวั เอง
ถูกลดคุณค่าลง ความสัมพันธ์ระหวา่ งคนในครอบครัวเริม่ มีนอ้ ยลง ทาใหร้ ู้สึกโดดเด่ียวและเศร้าซึม อาจเปน็ ผลมา
จากความเจ็บป่วยและการเสื่อมของระบบตา่ ง ๆ ของร่างกาย ทาให้มีอารมณ์แปรปรวนง่าย หงุดหงิด ใจนอ้ ย โกรธ
งา่ ย เป็นตน้
แนวทางในการแก้ปัญหา ไมค่ วรแยกตัวออกจากสงั คม หรือเกบ็ ตัวเงียบอยู่แต่ในบา้ น ควรใชเ้ วลาว่างไป
ทางานอดเิ รกที่ชอบ หัดเต้นรา ฝกึ ใช้คอมพวิ เตอร์ เปน็ อาจารย์สอนพิเศษ เปน็ ตน้ อาจนาไปสูก่ ารเปลยี่ นแปลงวถิ ี
ชวี ิตอาชีพและใหป้ ระสบการณ์ใหม่อยา่ งที่ไมเ่ คยทามาก่อน
4) สภาพรา่ งกาย เมื่อเขา้ ส่วู ัยเกษยี ณสุขภาพย่อมทรดุ โทรมลง ควรรกั ษาสุขภาพให้ดีอาจทาประกัน
สขุ ภาพไว้ก็ได้
แนวทางในการแกป้ ญั หา ผู้เกษยี ณอายุควรหม่ันออกกาลังกายสมา่ เสมอ โดยอาจจะไปตามฟิตเน็ต
ศูนย์การค้าหรือสวนสาธารณะ การไปออกกาลังกายจะทาให้ร่างกายแข็งแรง ไมค่ ่อยเจบ็ ปว่ ย จิตใจแจ่มใส รสู้ กึ ดี
และทาให้ไดเ้ พ่อื นใหมๆ่ หากเป็นวัยเดยี วกนั กพ็ ดู คยุ ปรกึ ษาปัญหาท่คี ลา้ ยกันได้ เพียงแต่ตอ้ งยอมรบั ซึ่งกนั และกนั
เพราะเพ่ือนแต่ละสถานที่ ก็จะมีบคุ ลิกลกั ษณะแตกต่างกันไป แตถ่ ้าชอบสมาคมก็จะมีความสนุกสนาน เพลิดเพลนิ
ซ่งึ เพ่ือนกลมุ่ ออกกาลังกาย หลายคนกก็ ลายมาเป็นเพอ่ื นเท่ียวได้ ผูเ้ กษียณอายคุ วรดูแลความสะอาดและควร
แตง่ ตวั ใหส้ วยงามและเหมาะสม จะทาให้ได้รบั การยอมรับ ทาให้จติ ใจสดช่นื สบายใจ เป็นการสรา้ งขวญั และ
กาลังใจให้ตนเองได้
20. ครูอธิบายรปู แบบการออมเพ่ือการเกษยี ณของประเทศไทย โดยธนาคารโลก (World Bank) ไดน้ าเสนอ
แนวคิดเกี่ยวกับระบบการออมเพื่อเกษียณอายุหรอื ระบบบาเหน็จบานาญ เพ่ือใหเ้ กิดความมั่นคงทางสงั คมของ
ประเทศท่ีเรยี กวา่ “สามเสาหลกั ของระบบเงนิ ออมเพื่อวัยเกษียณ” (Three Pillars หรือ The Multi Pillar of
Old Age Security) โดยยดึ หลกั การสรา้ งระบบบานาญสมดลุ และรองรับภาระในอนาคตทจ่ี ะต้องเล้ียงดผู ู้
เกษียณอายุได้ในระดับทีเ่ หมาะสมและไม่เพม่ิ ภาระภาษใี ห้กับประชาชนของประเทศ ขณะเดยี วกนั ช่วยสรา้ งรายได้
ของประเทศโดยใชเ้ งนิ ออมของคนในประเทศเป็นตวั ขบั เคล่ือนการขยายตัวทางเศรษฐกจิ และการลงทนุ
รปู แบบการออมเพ่ือการเกษยี ณของประเทศไทยปัจจุบัน ได้ขยายขอบเขตความคุ้มครองครอบคลมุ
ประชากรโดยทว่ั ไปนอกเหนือจากขา้ ราชการ เพอ่ื สร้างความสามารถในการพ่ึงพอตนเองในวัยเกษยี ณใหแ้ ก่
ประชาชน ตามทฤษฎรี ะบบเงินออมของธนาคารโลก โดยเฉพาะกลมุ่ ข้าราชการซ่งึ สามารถเขา้ ถึงระบบบานาญท่ี
เปน็ หลกั ประกันได้ทั้ง 3 เสาหลักไดแ้ ก่
เสาหลักที่ 1 รฐั จดั ให้ เปน็ ระบบบานาญภาคบงั คับทีร่ ัฐบาลของแต่ละประเทศจัดใหแ้ ก่ประชาชน เรยี กว่า
Pay-as-you-go (PAYG) ซ่งึ จะกาหนดผลประโยชนท์ ่ีจะจ่ายใหแ้ ก่สมาชกิ แนน่ อน (Defined Benefit) จนกระท่งั
เสยี ชีวติ โดยจา่ ยจากเงินภาษีทีเ่ กบ็ จากประชาชนมาจดั สรรเป็นงบประมาณ เพ่ือสรา้ งหลักประกันเพื่อการชราภาพ

ข้ันพน้ื ฐานของประเทศ ซ่ึงกาหนดผลประโยชน์ขน้ั ตา่ ของรายไดใ้ ห้เพียงพอแก่การยังชพี ทคี่ วรจะต้องไม่ต่ากวา่
เส้นความยากจน (Poverty Line)

เสาหลกั ท่ี 2 ภาคบงั คับ เป็นระบบเงินออมภาคบงั คับ (Mandatory System) ทีร่ ฐั บาลบังคับให้
ประชาชนออมขณะทางาน อาจบรหิ ารโดยเอกชนหรอื หน่วยงานอิสระของรฐั มเี งินกองทุนและมีการสง่ เงนิ สะสม
ของสมาชิก และมีการสมทบจากนายจา้ งเข้ากองทนุ ในบญั ชขี องสมาชกิ แตล่ ะคน ส่วนใหญ่จะกาหนดให้มีการนาส่ง
เงนิ สะสมเขา้ กองทนุ ในอตั ราทแี่ นน่ อน ซงึ่ มีวตั ถปุ ระสงคท์ ี่จะยกระดับรายไดข้ องผู้เกษยี ณให้สงู กว่าเสน้ ความ
ยากจนเพ่ือใหม้ รี ายได้ท่ีดีขึ้นตามมาตรฐานการดารงชีวิตอย่างปกติ

เสาหลักท่ี 3 ภาคสมคั รใจ เป็นระบบการออมภาคสมัครใจ (Voluntary System) และรัฐบาลใหก้ าร
ส่งเสริม ซ่งึ มีการบริหารโดยภาคเอกชน มเี งินกองทุนและมีการส่งเงินสะสมของสมาชกิ ในจานวนทแี่ นน่ อน ในบาง
กรณีอาจมเี งินสมทบจากนายจ้างเข้ากองทุนในบัญชีของแต่ละคน โดยมีวตั ถุประสงค์ให้ผู้ออมมที างเลอื กในการ
ออมเงินไว้ใชใ้ นยามเกษียณมากขน้ึ มีความเพียงพอของเงินออมในการดารงชีวิตในอนาคต ในการเข้าถงึ ความ
สะดวกสบายและการดแู ลรักษาพยาบาลท่ีสูงกว่ามาตรฐาน
21. ครอธิบายถงึ ระบบการออมเพื่อการเกษยี ณ หรอื ระบบบานาญ คือ ระบบการจัดการเพ่ือจา่ ยเงินสาหรับวยั
เกษยี ณให้แกผ่ ูม้ ีสิทธิรบั เงนิ เม่ือครบอายุเกษียณ และมวี ัตถุประสงค์อยา่ งชัดเจนเพื่อสรา้ งความมัน่ คงด้าน
รายได้ใหแ้ ก่ผ้สู งู อายหุ ลังเกษียณ มิใหม้ ีมาตรฐานการดารงชีพท่ตี กต่าเมือ่ เข้าสู่ภาวะที่ไม่มรี ายได้ นอกจากนี้
ยังอาจรวมถงึ การจัดสทิ ธปิ ระโยชน์อ่นื เพม่ิ เตมิ ด้วย เช่น เงินช่วยเหลอื กรณที ุพพลภาพ เจบ็ ปว่ ย และเงนิ
ชว่ ยเหลือทายาทในกรณีผมู้ ีสิทธริ ับบานาญเสยี ชวี ิต เปน็ ตน้ ทง้ั นี้กองทนุ การออมเพ่อื การเกษยี ณของ
ประเทศไทย มีดังน้ี

1) กองทุนประกนั สังคม (Social Security Fund
2) กองทนุ บาเหน็จบานาญข้าราชการ (Government Pension Fund)
3) กองทุนสารองเลย้ี งชีพ (Provident Fund)
4) กองทนุ เพอื่ การเลย้ี งชีพ (Retirement Mutual Fund)
5) กองทุนการออมแห่งชาติ (National Savings Fund)
22. ผูเ้ รยี นกรอกขอ้ มลู ของตนเองเพือ่ วางแผนเกษยี ณอายุตามแบบฟอรม์ ท่คี รูกาหนดให้เก่ยี วกับการวางแผน
เกษียณอายุ
23. ผูเ้ รียนวางแผนชีวติ ของตนเองอย่างไรบา้ งในแต่ละช่วงชวี ิต
24. ผเู้ รยี นวางแผนการออมสาหรับการเกษยี ณอายุของตนเอง
25. ผเู้ รยี นกาหนดเปา้ หมายการออมของแต่ละคน และอปุ สรรคต่อปจั จัยการออม

19. แบบฝึกหดั

1. สามเสาหลักของระบบเงนิ ออมเพื่อวัยเกษียณ (Three Pillars) ประกอบดวยอะไรบาง
ตอบ ........................................................................................................................................................

2. ปจจุบันนายจริ ายอุ ายุ 27 ป เงินเดอื น เดือนละ 25,000 บาท หรอื คิดเปนรายไดตอปจะเทากบั 300,000 บาท
ใหคานวณหาเงินออมโดยพิจารณาจากเงนิ ออมท่ีมีอยูในปจจุบนั ซึง่ จะมีจานวนไมนอยกวารอยละ 10 ของเงนิ ได
ทง้ั ปคูณดวยอายุในปจจบุ ันของตนเอง

ตอบ ............................................................................................................................. .........................
4. ถาหลงั เกษียณอายุแลวมปี ญหารายไดและรายจายไมสมดุลกัน ควรจะมแี นวทางแกไขอยางไรบาง

ตอบ ............................................................................................................................. ...........................

5. เมอื่ เกษียณอายแุ ลวก็จะทาใหมีเวลาเพม่ิ มากข้นึ อาจจะกอใหเกิดปญหาตอจิตใจของผูทเี่ กษยี ณอายุแลว ดังนนั้
ควรจะมีแนวทางในการแกปญหาอยางไรบาง

ตอบ ......................................................................................................................................................
6. จงอธบิ ายลกั ษณะของกองทนุ ประกันสงั คม (Social Security Fund) โดยสรุป

ตอบ ........................................................................................................................................................
7. จงอธิบายลักษณะของกองทุนสารองเล้ยี งชพี (Provident Fund)

ตอบ ............................................................................................................................. ...........................
8. จงบอกปญหาในการออมที่ทาใหไมสาเร็จตามเปาหมายท่ีกาหนดไว

ตอบ ............................................................................................................................. ...........................

9. กองทุนเพื่อการเล้ียงชีพ (Retirement Mutual Fund) มีลักษณะอยางไรบาง จงอธบิ าย
ตอบ ............................................................................................................................. ...........................

10. กองทนุ การออมแหงชาติ (National Savings Fund) มลี กั ษณะอยางไรบาง จงอธบิ าย
ตอบ ............................................................................................................................. ...........................

เฉลยแบบฝกึ หัด

1. สามเสาหลกั ของระบบเงินออมเพ่ือวยั เกษียณ (Three Pillars) ประกอบดวยอะไรบาง
ตอบ สามเสาหลกั ไดแก เสาหลกั ท่ี 1 รัฐจัดให เปนระบบบานาญภาคบังคับที่รัฐบาลแตละประเทศจัดให

แกประชาชนเรียกวา Pay-as-you-go (PAYG) จะจายใหแกสมาชกิ จนเสยี ชวี ติ โดยจายจากเงินภาษซี ึง่ กาหนดผล
ประโยชนขนั้ ตา่ ของรายไดใหเพียงพอแกการยังชพี ที่ควรจะตองไมตา่ กวาเสนความยากจน

เสาหลักที่ 2 ภาคบังคบั ทร่ี ัฐบงั คบั ใหประชาชนออมขณะทางาน บรหิ ารโดยเอกชนหรือหนวยงาน อิสระ
ของรฐั มีเงนิ กองทุนและมีการสงเงนิ สะสมของสมาชิก และมกี ารสมทบจากนายจางเขากองทุนในบญั ชี ของสมาชิก
แตละคน จะกาหนดใหนาสงเงนิ สะสมเขากองทนุ ในอตั ราแนนอน ซึง่ มวี ตั ถปุ ระสงคท่จี ะยกระดับ รายไดของผู
เกษยี ณใหสูงกวาเสนความยากจนเพ่ือใหมรี ายไดทดี่ ีขึน้ ตามมาตรฐานการดารงชีวิตอยางปกติ

เสาหลกั ที่ 3 ภาคสมัครใจ ซึ่งมีการบรหิ ารโดยเอกชน มีเงินกองทุนและมกี ารสงเงนิ สะสมของสมาชิก ใน
จานวนทีแ่ นนอน บางกรณีอาจมีเงินสมทบจากนายจางเขากองทุนในบญั ชีของแตละคน โดยใหผูออมมี ทางเลือก
ในการออมเงนิ ไวใชในยามเกษยี ณมากข้ึน มีความเพยี งพอของเงนิ ออมในการดารงชวี ติ ในอนาคต ในการเขาถึง
ความสะดวกสบายและการดูแลรกั ษาพยาบาลทส่ี ูงกวามาตรฐาน

2. ปจจบุ ันนายจริ ายุอายุ 27 ป เงินเดอื น เดือนละ 25,000 บาท หรอื คดิ เปนรายไดตอปจะเทากับ 300,000 บาท
ใหคานวณหาเงนิ ออมโดยพิจารณาจากเงนิ ออมท่ีมอี ยูในปจจุบนั ซ่ึงจะมจี านวนไมนอยกวารอยละ 10 ของเงิน ได
ทงั้ ปคณู ดวยอายใุ นปจจุบนั ของตนเอง

ตอบ การคานวณ
นายจริ ายุมเี งนิ ออมอยูในมอื (25,000 x 12) = 300,000 บาท อตั ราเงินออม = 10% อายุปจจบุ นั ของ
นายจิรายุ = 27 ป ดงั นัน้ นายจริ ายุจะมีเงนิ ออมเม่ือเกษยี ณอายุ = (10/100) x 300,000 x 27 = 810,000 บาท
หมายเหตุ นายจิรายคุ วรจะมีเงนิ ออมเพิ่มขึน้ ตามอายุทสี่ ูงขึ้นทุกป
3. นายเทพสขุ คาดวาเม่ืออายุ 60 ป หลงั จากเกษียณแลวจะมีชีวติ อยูตอไปจนถงึ 80 ป ชวงเวลา 20 ปนีจ้ ะเปน
ชวงท่ีนายเทพสุขไมมรี ายได แตมีคาใชจายประจาวันและคารกั ษาพยาบาล 40,000 บาทตอเดือน ใหคานวณวา
นายเทพสขุ ตองมเี งินเก็บไวจานวนเทาใดหลงั เกษยี ณ หากในปจจบุ ันยงั ใชจายเทาเดิม โดยใหพิจารณา จากเงนิ
ออมทมี่ ี ณ วนั ทีเ่ กษียณอายุ โดยใหนาจานวนปทม่ี ชี วี ติ อยูหลงั เกษยี ณคณู ดวยคาใชจายตอเดอื น
ตอบ การคานวณ นายเทพสขุ ใชจายเดอื นละ = 40,000 บาท ผลตางของชวงอายุ (80-60) = 20 ป
นายเทพสุขจะตองมีเงนิ เกบ็ ไวใชจายในวัยเกษียณ = 40,000x12x20 = 9,600,000 บาท หมายเหตุ หากบุคคลใด
ท่ีมีรางกายไมแข็งแรง ก็อาจจะบวกเพ่ิมเงนิ สวนนเี้ ขาไปอีกกไ็ ด

4. ถาหลังเกษียณอายุแลวมีปญหารายไดและรายจายไมสมดุลกัน ควรจะมีแนวทางแกไขอยางไรบาง
ตอบ แนวทางในการแกปญหา ตองมีการวางแผนการเงนิ ไวลวงหนา ดูรายรบั รายจายใหสมดลุ กัน รูจกั ทา

บัญชหี รือควบคมุ คาใชจายใหรดั กุม รูจักประหยดั ไมฟมุ เฟอย ใชจายในส่งิ ทจี่ าเปน เชน เสื้อผา เคร่อื งสาอาง
อาหารบางชนดิ เหลา บหุ ร่ี หรือการทองเที่ยว เปนตน หากตองสงเสียลูกเรียน ตองผอนบานหรอื ผอนรถ เปนตน
ก็ควรมกี ารวางแผนตั้งแตกอนเกษยี ณ เพ่ือมใิ หเกิดความเครียดจนกลายเปนปญหาครอบครัว ควรปรึกษา สมาชกิ
ในครอบครัวตงั้ แตเร่ิมตน วาจะทาอะไรตอไปหลงั เกษียณแลว

5. เมอ่ื เกษียณอายุแลวกจ็ ะทาใหมเี วลาเพ่ิมมากข้ึน อาจจะกอใหเกิดปญหาตอจิตใจของผูทเ่ี กษยี ณอายุแลว ดงั นน้ั
ควรจะมแี นวทางในการแกปญหาอยางไรบาง

ตอบ แนวทางในการแกปญหา ตองรูจกั เลือกใชเวลาใหเกดิ ประโยชน

6. จงอธิบายลักษณะของกองทุนประกันสงั คม (Social Security Fund) โดยสรปุ
ตอบ กองทุนประกันสงั คม (Social Security Fund) เปนระบบการออมเพื่อวัยเกษยี ณแรกของ ประเทศ

ที่จัดตงั้ ข้นึ ภายใตพระราชบญั ญัติประกันสงั คม พ.ศ. 2533 กระทรวงแรงงานและสวัสดกิ ารสังคม โดยครอบคลมุ
กรณีชราภาพ เปนการออมภาคบงั คบั แบบกาหนดวงเงินผลประโยชนท่ีจะไดรบั ไวแนนอน 9 บริหารโดยสานกั งาน
ประกันสงั คม โดยเรมิ่ ใหความคุมครองและเก็บเงินสะสมจากผูประกันตนครั้งแรกใน พ.ศ. 2542 เงินบานาญชรา
ภาพทผี่ ูประกนั ตนไดรบั จะไดรับการยกเวนภาษี และผูประกนั ตนจะมสี ิทธไิ ดรับ เงนิ บานาญชราภาพเตม็ จานวนต
อเมื่ออายุ 55 ปบรบิ รู ณ และเกษียณออกจากงานแลว รวมท้งั จะตองจายเงนิ สะสมแลวไมตา่ กวา 180 เดือน ไมว
าระยะเวลา 180 เดือน จะตดิ ตอกันหรือไมกต็ าม ลกั ษณะของกองทุน เปนกองทนุ ท่ีใหหลักประกันแกลกู จางกรณี
ประสบอันตราย หรือเจบ็ ปวยดวยโรคอันเน่อื งมาจากการทางาน ทพุ พลภาพ และตาย ท้ังนเ้ี นือ่ งและไมเนื่องจาก
การทางาน รวมไปถงึ การคลอดบตุ ร สงเคราะหบุตร ชราภาพ และการวางงาน

อตั ราเงนิ สะสม/เงินสมทบ ลกู จางจายเขากองทนุ รอยละ 5 ของคาจางของผูประกันตน
นายจางจายเขากองทุนรอยละ 5 ของคาจางของผูประกนั ตน
รัฐบาลจายเขากองทนุ รอยละ 2.75 ของคาจางของผูประกันตน

7. จงอธิบายลกั ษณะของกองทุนสารองเล้ียงชพี (Provident Fund)
ตอบ กองทุนสารองเลีย้ งชพี จดั ต้ังขึ้นตามพระราชบัญญตั ิกองทุนสารองเลย้ี งชีพ พ.ศ. 2530

กระทรวงการคลงั เปนการออมภาคสมัครใจและออมรวมกันระหวางนายจางและลูกจางเพื่อใหลูกจางได ออมเงิน
ไวเพื่อการเกษยี ณ กองทนุ มสี ถานะเปนนิติบุคคลแยกจากนายจาง โดยท้งั นายจางและลูกจางจะรวมกนั แตงตั้ง
คณะกรรมการกองทุนประกอบดวยตัวแทนจากนายจางและลูกจาง คณะกรรมการจะเลือกผูจัดการ กองทนุ เงิน
สะสมจากลกู จางตองไมตา่ กวารอยละ 2 ของเงนิ เดือนและไมเกนิ รอยละ 15 ของเงนิ เดือน สวน เงนิ สมทบจาก
นายจางตองไมต่ากวาเงนิ สะสมของลูกจาง และลูกจางจะไดรับเงินกอนเมอ่ื ออกจากงานหรอื เกษียณโดยเงินสะสม

ของลูกจางและเงนิ สมทบจากนายจางสามารถนาไปลดหยอนภาษไี ด และผลประโยชน ที่จายใหน้นั กไ็ มเสียภาษี ป
จจุบันมีกองทนุ สารองเลีย้ งชพี จดทะเบียนเพ่ิมเตมิ ไดแก

1. กองทุนสารองเลย้ี งชีพสาหรับพนกั งานรัฐวสิ าหกิจ
2. กองทุนสารองเล้ียงชีพสาหรับลูกจางประจา
3. กองทุนสงเคราะหครใู หญและครโู รงเรียนเอกชน ลักษณะกองทุน เปนกองทุนที่ลกู จางและนายจางรวม
กนั จดั ต้งั ขึ้นโดยความสมัครใจ ประกอบดวย เงินทลี่ ูกจางจายสะสมและเงินที่นายจางจายสมทบ เพื่อเป
นหลกั ประกนั แกลูกจางเม่ือเกษยี ณหรือออกจากงาน

8. จงบอกปญหาในการออมที่ทาใหไมสาเรจ็ ตามเปาหมายที่กาหนดไว
ตอบ ปญหาในการออมที่ทาใหไมสาเร็จตามเปาหมายที่กาหนดไว 1. ความโลภ (Greedy) คอื ความตอง

การอยากไดทกุ อยางที่พบเหน็ จงึ ใชจายอยางสุรุยสรุ าย ไมคานงึ ถึงอนาคตวาจะมีเงนิ เกบ็ เหมอื นท่ีต้ังใจไวหรือไม
ทาใหการวางแผนออมเงินไมประสบความสาเรจ็ 2. ภาวะเงนิ เฟอ (Infl ation) หมายถึง ชวงเศรษฐกจิ ที่อยูใน
ระดบั ราคาของสนิ คาหรอื บริการมี มลู คาเพมิ่ ข้ึน ทาใหอานาจซือ้ และมูลคาของเงนิ ออมลดลง จึงเปนอปุ สรรคท่ีไม
สามารถควบคุมได 10 ใบงานท่ี 2.1 (ขนึ้ อยูกบั ดุลยพินิจของผูสอน) 3. เหตกุ ารณฉกุ เฉิน (Emergency) เปนเหตุกา
รณทจี่ ะเกิดข้ึนโดยไมคาดฝน แตเปนเหตกุ ารณ ที่อาจเกิดข้ึนไดทกุ เวลา จะสงผลตอการนาเงินที่ออมอยูมาใช
ดังนน้ั ควรวางแผนปองกนั ไวกอนลวงหนา

9. กองทนุ เพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund) มลี กั ษณะอยางไรบาง จงอธบิ าย
ตอบ กองทุนเพ่ือการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund) จัดต้ังข้ึนเมอ่ื เดือนมีนาคม พ.ศ. 2544 โดยมี

วตั ถปุ ระสงคสงเสรมิ การออมภาคสมัครใจใหกับลูกจางทีน่ ายจางไมมีกองทุนสารองเล้ยี งชีพ หรือ ลูกจางท่ีตองการ
จะออมเงนิ เพมิ่ ข้ึน บรษิ ัทหลักทรัพยจดั การกองทุนรวมจะเสนอกองทุนรวมในแบบความ เส่ียงตางๆ กนั ผูลงทุน
สามารถสับเปลีย่ นแผนการลงทุนจากกองทุนหน่ึงไปยงั อีกกองทุนหน่ึง หรือจะเปลยี่ น ไปทีผ่ ูจัดการกองทุนอนื่ ก็ได
หากผูลงทุนนัน้ จะไถถอนหนวยลงทนุ กอนอายุครบ 55 ป จะตองเสียภาษี 5 ป กอนวันไถถอน

10. กองทุนการออมแหงชาติ (National Savings Fund) มีลักษณะอยางไรบาง จงอธิบาย
ตอบ กองทนุ การออมแหงชาติ (National Savings Fund) เปนระบบการออมแบบสมัครใจและเลอื กออม

เปนรายเดอื นหรือรายงวดได ท้งั นม้ี ีวัตถุประสงคเพื่อสรางหลกั ประกนั ยามชราภาพในรูปแบบบานาญ สราง ความ
เทาเทยี มและเปนธรรมแกประชาชน โดยเฉพาะแรงงานท่ีอยูนอกระบบ ซึ่งผูมีสทิ ธิเปนสมาชิกจะตอง เปนบุคคล
สัญชาตไิ ทยซง่ึ มีอายุไมต่ากวา 15 ปบรบิ ูรณ และไมเกนิ 60 ปบรบิ รู ณ และไมเปนสมาชกิ ของกองทุน เพ่อื การชรา
ภาพใดๆ ทม่ี ีการสมทบเงนิ จากรฐั หรือนายจาง

17. ใบงาน

หนว่ ยการสอนที่ 2
ช่อื หน่วยการสอน การออม

จุดประสงค์ เพอ่ื

1. สรา้ งความรู้ความจาให้กับผู้เรยี น
2. เพม่ิ การฝึกปฏบิ ตั ิแกผ่ ูเ้ รยี น
3. สร้างความรับผิดชอบ ความอดทน ความสนใจใฝเ่ รยี นรู้

ลาดับกจิ กรรม/ลาดับการปฏิบตั ิ

1. ผูเ้ รยี นศึกษาเนอ้ื หาจากใบความรู้
2. ผู้เรยี นศึกษาหาความร้จู ากตาราเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 การวางแผนเปา้ หมายชีวติ ดว้ ยวงจร

คณุ ภาพ 20001-1003 สานักพมิ พเ์ อมพันธ์
3. หรอื ครผู ู้สอนบรรยายความรู้ เรอื่ ง การวางแผนเป้าหมายชีวติ ดว้ ยวงจรคณุ ภาพ
4. จดั ทาใบงานตามทีม่ อบหมาย (กาหนดเวลาจดั ทา 50 นาท)ี
5. สง่ งานใบงานทม่ี อบหมายก่อนหมดเวลาเรียน (10 นาที หรอื เป็นการบ้าน)

เกณฑก์ ารพิจารณา

1. ส่งงานตรงเวลานดั หมาย
2. จัดทาครบทุกขอ้ ทกี่ าหนด
3. ทางานเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย

ใบงานที่ 2.1

เร่ือง การวางแผนเกษยี ณอายุ

ช่ือ-สกลุ ............................................................................................เลขที่.........ชัน้ .............. ............

คาชี้แจง ใหก้ รอกข้อมลู ของตนเองเพ่ือวางแผนเกษียณอายุตามแบบฟอรม์ น้ี

1.นักเรยี นตงั้ เป้าหมายหลงั เกษยี ณอายไุ ว้ว่า...................................................................................

................................................................................................. .....................................................

2.ใหค้ านวณเงินออมของตนเอง

2.1 อายุทน่ี ักเรยี นตงั้ ใจจะเกษยี ณ..........ปี(โดยทวั่ ไป 60 ปแี ต่จะเกษียณก่อนกไ็ ด้)

2.2อายุท่ีนักเรยี นคาดหวังไวว้ ่าจะมชี ีวิตอยู่...............ป(ี อายุทว่ั ไป 72-75 ปีบวกเพิ่มได้อกี 20 ปี)

2.3จานวนปขี องชวี ิตหลังเกษียณ =..............................ปี(อายุเฉลีย่ - อายทุ ต่ี ัง้ ใจจะเกษียณ)

2.4 จานวนเงนิ ที่คาดว่าจะใช้หลังเกษยี ณ = .............................บาทต่อเดือน(เงินเดือนคูณดว้ ย 12 หรือ 75%

ของรายได้ต่อเดอื นก่อนเกษยี ณ) =...............................................บาทตอ่ ปี

รวมจานวนเงินทั้งส้นิ ตอ้ งใช้หลงั เกษียณ =............................X..............=...........................บาท

3.ตรวจสอบเงินออมปจั จบุ ันท่ีนักเรยี นมีทั้งหมดจากรายการดังนี้(ใสจ่ านวนตามท่อี อมไวถ้ ้ามี)

3.1 กองทนุ สารองเลยี้ งชีพที่อายคุ รบตามข้อ2.1 =........ปี เป็นเงิน............................................บาท

3.2 กรมธรรมป์ ระกันชีวิตหากครบสัญญาทง้ั ........ฉบบั เป็นเงิน............................................บาท

3.3 เงินฝากธนาคาร พนั ธบัตร ตราสารต่างๆ เป็นเงิน............................................บาท

รวมเงินออม ณ ปัจจุบนั เป็นเงนิ ..............................................บาท

ดงั น้นั นักเรียนต้องเตรยี มเงินเพิ่มอีก (ยอดรวมข้อ  -) =...................................................บาท

สรุปกำรวำงแผนเพ่ือเกษียณอำยุ ................................................................................................

............................................................................................................................. ..........................

............................................................................................................................. ..........................

.......................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ..........................

ข้อเสนอแนะในกำรวำงแผนเพื่อเกษียณอำยุ ..............................................................................

............................................................................................................................. ..........................

............................................................................................................................. ..........................

............................................................................................ ...........................................................

ใบงานท่ี 2.2

เร่ือง การวางแผนการออม

ชอ่ื -สกลุ ............................................................................................เลขที่.........ช้นั .............. ............

คาชี้แจง ในช่วงชีวติ ตอ่ ไปน้ี ควรจะวางแผนชวี ติ ของตนเองอย่างไรบ้าง

ช่วงเวลาของอายุ จะวางแผนทาอะไร คานวณเป็นตวั เงนิ (บาท)

15-24 ปี

25-60 ปี

หลัง 60 ปีเป็นต้นไป

ใบงานท่ี 2.3

เร่อื ง การวางแผนการออมเพอ่ื เกษียณอายุ

ชอ่ื -สกลุ ............................................................................................เลขท่.ี ........ชั้น..........................

คาชแ้ี จง ให้นักเรียนวางแผนการออมสาหรับการเกษียณอายุของตนเอง ดังนี้

ตั้งเปา้ หมาย จานวนเงนิ ระบุวธิ อี อม
(อายคุ าดหวงั -อายุเกษียณ)

เฉลยใบงานท่ี 1-3

(ใช้ดจุ พนิ ิจของผสู้ อน)

แบบสรุปคะแนน

ชดุ ที่ 1

รายวชิ า การออม

คะแนน กิจกรรมที่ ใบงานท่ี แบบทดสอบ แบบทดสอบ คะแนน
กอ่ นเรยี น หลงั เรยี น ระหวา่ ง
123 1 เรยี น

คะแนนเต็ม  5 10 10 15

คะแนนที่ได้
คดิ เปน็ ร้อย
ละ

หมายเหตุ :  = ผ่านกิจกรรม  = ไมผ่ า่ นกจิ กรรม

(ลงช่อื ) ....................................... ผูป้ ระเมนิ
(นายวิจติ ร พลเศษ)

ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชานาญการ

เกณฑก์ ารประเมนิ แบบทดสอบกอ่ นเรียนและแบบทดสอบหลังเรยี น

ระดับคณุ ภาพ หมายถึง ดี
ระดับ 4 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ปานกลาง
ระดบั 3 7 - 8 คะแนน หมายถึง พอใช้
ระดบั 2 5 - 6 คะแนน

15. แบบทดสอบหลงั เรยี น

หนว่ ยการสอนที่ 2 ชือ่ หน่วยการสอน การออม
วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือ ทดสอบความรู้เบ้อื งต้นของผ้เู รยี น หลงั การเรยี นการสอน
ข้อคาถาม

แบบทดสอบหลังเรียน

จงเลือกคาตอบทถี่ ูกต้องท่ีสุดเพยี งข้อเดียว

1 . วิไรรัมภามเี งนิ เดือน 22 , 000 บาท จ่ายค่าเชา่ บา้ น 5 , 000 บาท ค่าผ่อนรถยนต์ 7,000 บาท และคา่ ใชจ้ ่าย
อ่นื อีก4,000 บาท อยากทราบวา่ เธอจะมเี งินออมอย่เู ท่าใด

1 .22 , 000 บาท
2 . 6 , 000 บาท
3 . 10 , 000 บาท
4 .18 , 000 บาท
5 .11 , 000 บาท
2. ประชาชนโดยทวั่ ไปมกั จะนยิ มสะสมส่ิงตา่ งๆ ไว้เป็นเงนิ ออมตามขอ้ ใด
1 . จนั ทรก์ ระพ้อชอบสะสมทองคา และถ้วยชามสงั คโลก
2 . เพยี งขวัญชอบสะสมพระเครอื่ ง และท่ีดิน
3 . มารตชี อบสะสมทองคาและท่ดี ิน
4 . กรองแก้วชอบสะสมเงนิ สดและเสื้อผา้ แฟชั่น
5 . สรอ้ ยฟ้าขอบสะสมปืนและเพชร
3 . ขอ้ ใดไม่ใช่ความสาคญั ของการออม
1 . สรา้ งหลกั ประกนั ความม่ันคงให้กับญาติพนี่ ้อง
2 . มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
3 . ทาให้มกี ารพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
4 . สร้างความเป็นอยขู่ องประชาชน ครอบครัวและชมุ ชนใหด้ ขี ึ้น
5 . เป็นไปได้ทุกกรณี
4 . ขอ้ ใดเปน็ ประโยชน์ของการออมด้านสงั คม
1 .ปรุงฉตั รนา้ เงนิ เดือนสว่ นหน่ึงไปผอ่ นบา้ น
2 . รสรนิ ออมเงนิ วนั ละ 1 บาท เพื่อนาไปช่วยเหลือคนพกิ าร
3.รณพีร์คิดประดษิ ฐล์ วดลายเทียนเข้าพรรษาในปีน้ี
4 .พุฒิพัฒน์เก็บเงินวนั ละ 20 บาท เพอ่ื นาไปจา่ ยค่าอุปกรณ์การเรียน
5 .จันทรามีความซ่ือสัตย์ และจริงใจต่อเพื่อนทุกคน

5 . ขอ้ ใดเปน็ เปา้ หมายของการออม

1 พลอยต้องการเกบ็ เงนิ บางส่วนไว้ใชจ้ ่ายในวัยเกษียณ

2 . เพลงตอ้ งการเกบ็ เงินไว้ใช้ในดา้ นการศึกษา

3 . แพทต้องการสร้างหลกั ประกนั ชีวติ ให้ตนเองด้วยการออมเงิน

4 . พรซ์ อื้ พนั ธบตั รรัฐบาล เพ่ือไว้เปน็ มรดกให้ลูกหลาน

5 . เปน็ ไปไดท้ ุกกรณีทกี่ ล่าวมา

6. ข้อใดไม่ใช่ปญั หาในการออม

1 . เอมมีซื้อสิ่งของทุกอย่างท่ีอยากได้

2 . ช่วงน้มี ีภาวะเงนิ เฟ้อทาให้กระตา่ ยซื้อรถยนต์ไม่ได้

3 . ใบเตยปว่ ยกะทนั หันจงึ ถอนเงินฝากประจามาใชจ้ ่ายก่อน

4 . กระแตตกบนั ไดจงึ นาเงินท่ีเกบ็ ไว้ในกรณีฉุกเฉินมาใช้จ่าย

5 . เปน็ ไปไดท้ ุกกรณี

7.ขอ้ ใดเป็นการออมเพื่อความมัน่ คง

1 .นฐั นาเงนิ ทเ่ี ก็บไว้มาใช้จ่ายซอ่ มแซมบ้าน

2. หนุ่มนาเงินท่เี ก็บไวไ้ ปซื้อหุ้นของ ปตท.

3 . เจมสน์ าเงนิ ทเ่ี กบ็ ไว้ไปซ้ือพันธบัตรรฐั บาล

4 . ภรู นิ าเงินท่เี กบ็ ไว้ไปซื้อทองคา

5. นา้ ฝนนาเงนิ ทเ่ี กบ็ ไวไ้ ปใช้จ่ายในวยั ชรา

8 . ขอ้ ใดใหค้ าจากดั ความคาว่า “ เกษียณ ” ไดถ้ ูกต้อง

1.สนิ้ ไป

2 . ครบกาหนดอายรุ ับราชการ

3 . สิ้นกาหนดเวลารับราชการ

4 . เออร์สรไี ทร์ ( Early Retired )

5 . ข้อ 1 - 2 - 3 ถูกต้อง

9. จากข้อมูลสานกั งานสถติ ิแห่งชาตริ ะบุวา่ หลงั เกษยี ณอายุซายไทยจะมีชีวติ โดยเฉล่ียอยไู่ ด้อีกกี่ปี

1 . 3 - 5 ปี

2 . 5 - 7 ปี

3 . 7 - 10 ปี

4 . 10 - 15 ปี

5 .15 - 20 ปี

10.จากข้อมลู สานกั งานสถติ ิแหง่ ชาติ ระบวุ ่าหลงั เกษียณอายหุ ญิงไทยจะมชี วี ิตโดยเฉลี่ยอยู่ไปได้อกี ประมาณก่ปี ี

1 . 15 - 20 ปี 2 . 10 - 15 ปี

3 . 7 - 10 ปี 4 . 5 - 7 ปี

5. 2 - 5 ปี

กระดาษคาตอบ กอ่ นเรยี น – หลังเรียน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
หน่วยท่ี 2 เร่ือง การออม

กอ่ นเรยี น 5 หลงั เรยี น
ข้อ 1 2 3 4 ข้อ 1 2 3 4 5
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10

รวมคะแนน กอ่ นเรียน รวมคะแนน หลังเรยี น

ชื่อ-สกุล...........................................................แผนก/ห้อง............เลขท.ี่ .............

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรยี น

กิจกรรมการเรียนรู้

หน่วยที่ 2 เรอ่ื ง การออม

กอ่ นเรยี น หลังเรียน

ข้อ 1 2 3 4 5 ขอ้ 1 2 3 4 5

11

22

33

44

55

66

77

88

99

10 10

รวมคะแนน ก่อนเรียน 10 รวมคะแนน หลงั เรยี น 10

ช่ือ-สกลุ ...........................................................ผสู้ อน/ผู้ตรวจ
(นายวจิ ติ ร พลเศษ)

20. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรแู้ บบมงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชีพและบรู ณาการตามหลักปรชั ญา

ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

20.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้

รายการ ระดับการปฏิบัติ
5432 1

ด้านการเตรยี มการสอน

1. จัดหน่วยการเรยี นรู้ได้สอดคลอ้ งกับวัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้

2. กาหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ด้านทกั ษะ และดา้ นจิตพิสัย

3. เตรยี มวัสดุ-อุปกรณ์ ส่ือ นวตั กรรม กจิ กรรมตามแผนการจัดการเรยี นรกู้ ่อนเข้าสอน

ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

4. มีวธิ กี ารนาเข้าสู่บทเรยี นที่นา่ สนใจ

5. มีกจิ กรรมทีห่ ลากหลาย เพ่ือช่วยให้ผู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ ความเข้าใจ

6. จดั กจิ กรรมที่ส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี นคน้ คว้าเพ่ือหาคาตอบดว้ ยตนเอง

7. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

8. จัดกจิ กรรมท่ีเนน้ กระบวนการคดิ ( คิดวเิ คราะห์ คิดสังเคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ )

9. กระตุ้นใหผ้ ูเ้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี

10. จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ีเ่ ชื่อมโยงกบั ชวี ิตจรงิ โดยนาภมู ิปญั ญา/บรู ณาการเขา้ มามสี ว่ นร่วม

11. จัดกิจกรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม

12. มกี ารเสริมแรงเมือ่ นักเรยี นปฏิบัติ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผู้เรียน

14. เอาใจใส่ดแู ลผู้เรยี น อย่างทั่วถงึ

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่ีกาหนด

ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้

16. ใช้สือ่ ทเี่ หมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผเู้ รยี น

17. ใชส้ ่อื แหล่งการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เชน่ บคุ คล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

ส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ และอนิ เทอรเ์ น็ต เป็นต้น

ด้านการวดั และประเมินผล

18. ผู้เรียนมสี ว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล

19. ประเมนิ ผลอยา่ งหลากหลายและครบทั้งดา้ นความรู้ ทกั ษะ และจิตพิสัย

20. ครู ผเู้ รยี น ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ เ่ี ก่ียวข้องมสี ว่ นรว่ ม ในการประเมิน

หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดเี ยีย่ ม 4 = ปฏิบตั ดิ ี 3 = ปฏบิ ัตพิ อใช้ รวม
2 = ควรปรับปรงุ 1 = ไม่มีการปฏบิ ตั ิ ค่าเฉลี่ย

20.2 ปญั หาทีพ่ บ และแนวทางแกป้ ัญหา แนวทางแกป้ ญั หา
ปญั หาท่ีพบ
.....................................................................................
ด้านการเตรยี มการสอน .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................

ด้านการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................

ด้านส่อื นวตั กรรม แหล่งการเรียนรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................

ดา้ นการวดั และประเมินผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นอืน่ ๆ (โปรดระบเุ ป็นข้อๆ) .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................

ลงชอื่ ........................................................................ ครูผู้สอน
(....................................................................)

ตาแหนง่ .......................................................................
............../.................................../....................

21. บนั ทึกการนิเทศและตดิ ตาม

วนั -เดอื น-ปี เวลา รายการนเิ ทศและติดตาม ชื่อ-สกลุ ผนู้ เิ ทศ ตาแหนง่

บันทกึ หลงั การสอน

ผลการใชแ้ ผนการเรยี นรู้

ความเหมาะสมของเวลา
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรุง

ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนการสอน
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรุง

……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………

ผลการเรียนของผู้เรยี น

ความต้ังใจของผ้เู รียน  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรงุ
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ
 ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ
อุปกรณ์การสอน
 มาก  ดี

การเรียนรู้ของผู้เรียน
 มาก  ดี

…………………………………………………………………………………………………………………………………….………

การสอนของครู

 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ

กิจกรรมการสอนที่กาหนดไว้ในแผนการจดั การ

เรียนรู้  ตรงตามแผนการจัดการเรียนรู้  ไมต่ รงตามแผนการจดั การเรยี นรู้

บนั ทกึ เพ่ิมเติม

............................................................................................................................. ................................

………………………………………………
(นายวจิ ิตร พลเศษ)
ผูบ้ ันทกึ การสอน

แผนการจดั การเรยี นรู้ แบบมุ่งเนน้ สมรรถนะอาชพี
และบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

รหสั วชิ า 30200-0003 วิชา ธุรกจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ
หนว่ ยท่ี 3 ชื่อหน่วย การลงทุน

ชอื่ เร่อื ง การลงทนุ จานวน 6 ชั่วโมง สอนครง้ั ที่ 5-6-7

1. สาระสาคญั

การลงทุน เป็นการใชท้ รพั ยากรในลักษณะต่างๆ โดยหวังจะได้รบั ผลตอบแทนกลับคนื มา มากกว่าที่ลงทุน
ไปในอัตราที่พอใจภายใต้ความเสย่ี งทเ่ี หมาะสม โดยท่วั ไปหมายถงึ การใช้เงนิ ลงทุน เช่น การลงทุนในการประกอบ
อาชีพ การลงทุนในตลาดหลักทรพั ย์ การลงทนุ ในบา้ นและที่ดนิ การลงทุนทองคา ฯลฯ
โดยมีวัตถปุ ระสงค์ของการลงทนุ เพือ่ จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทนุ ในรปู แบบตา่ ง ๆ โดยเงนิ ท่ีนามาลงทุน

น้ันอาจจะไดม้ าจากสถาบนั การเงินหรือแหล่งเงนิ ทนุ อืน่ ๆ ท่ผี ้ปู ระกอบการมีความสามารถจะหามาได้

2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรียนรู้

1. สามารถอธบิ ายรูปแบบต่าง ๆ ของการลงทนุ และผลตอบแทน จากการลงทนุ

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

3.1 จดุ ประสงคท์ ่ัวไป

3.1.1 มีความรู้และเขา้ ใจเกีย่ วกับการลงทุนและผลตอบแทนจาการลงทนุ รูปแบบต่าง ๆ

3.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
3.2.1 อธบิ ายเกี่ยวกับการลงทนุ
3.2.2 บอกลกั ษณะของการลงทุน
3.2.3 บอกผลตอบแทนจากการลงทุน
3.2.4 อธิบายเกย่ี วกบั การลงทุนโดยการฝากธนาคาร
3.2.5 สามารถบอกเกี่ยวกบั การลงทนุ โดยการประกันชวี ติ
3.2.6 สามารถบอการลงทุนในกองทุน และการประกอบธรุ กิจได้ 3.2.5.มกี ารพัฒนาคุณธรรม

จรยิ ธรรม ค่านยิ ม ความมมี นุษยสมั พันธ์ ความมีวนิ ยั ความรับผดิ ชอบ ความซอ่ื สัตย์สจุ ริต ความเชือ่ มัน่ ในตนเอง
การประหยดั ความสนใจใฝ่รู้ การละเว้นสิ่งเสพติดและการพนนั ความรักสามัคคี

4. เนื้อหาสาระการสอน/การเรียนรู้

4.1 ด้านความรู้
1. ความหมายของการลงทนุ
2. ลกั ษณะของการลงทุน
3. ผลตอบแทนจากการลงทุน
4. หลักการลงทนุ
5. การฝากเงินกับธนาคาร
6. การลงทุนโดยการประกันชีวติ
7. การลงทนุ ในกองทุน
8. การลงทุนประกอบธุรกิจ

4.2 ด้านทกั ษะหรือการประยุกตใ์ ช้
1. อธิบายเกี่ยวกับการลงทนุ
2. บอกลักษณะของการลงทนุ
3. บอกผลตอบแทนจากการลงทนุ
4. อธิบายเกี่ยวกับการลงทุนโดยการฝากธนาคาร
5. สามารถบอกเก่ียวกับการลงทนุ โดยการประกนั ชวี ิต
6. สามารถบอการลงทุนในกองทนุ และการประกอบธุรกิจได้

4.3 ดา้ นคณุ ธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์และบรู ณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ
พอเพียง

ด้านคุณธรรม/ จรยิ ธรรม
1. มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ มคี วามรับผิดชอบ

ดา้ นคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์และบูรณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. มุ่งมั่นในการทางาน มจี ติ สาธารณะ อยู่อย่างพอเพยี ง
2. การประหยัด เพ่ือการออม และการลงทนุ เพ่ือเพิ่มดอกผล และใชใ้ นยามเกษียณ

5. กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรือการเรียนรู้

ขั้นตอนการสอนหรือกจิ กรรมครู ข้นั ตอนการเรยี นหรอื กิจกรรมของผเู้ รยี น

ขั้นเตรยี ม(จานวน 10 นาที) 5.1 ผูเ้ รียนเข้าหอ้ งเรยี น
5.1 นกั เรยี นทาความเคารพครผู ู้สอน 5.2 ครูผสู้ อนตรวจสอบรายช่ือผูเ้ รียน
5.2 ครูผสู้ อนทกั ทายผ้เู รียนและสารวจรายช่ือผเู้ รยี น 5.3 ผู้เรียนรบั ใบความรู้ เร่ือง การวางแผนเปา้ หมาย
5.3 ครูผู้สอนแจกใบความรู้ หรือ เตรียมอุปกรณ์
ชวี ติ ดว้ ยวงจรคุณภาพ
ในการสอนใหพ้ ร้อม และใบงาน 5.4 รับใบงาน อธบิ ายการทา
5.4 ผู้เรยี นใบความรู้ เตรยี มตาราเรยี นและสมดุ
5.5 ผู้สอนการจัดทาใบงานที่มอบหมาย

ขนั้ การสอน(จานวน....90..........นาท)ี

5.6 ครผู ้สู อนแจกแบบทดสอบกอ่ นเรียน 5.5 ผเู้ รียนทดสอบก่อนเรียน ( 10 นาท)ี

5.7 อธิบายการทาแบบทดสอบก่อนเรียน มีจานวน

10 ข้อ เวลาทใี่ ช้ 10 นาที (พร้อมสง่ ครบเวลา)

5.8 ครูผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาใบความรู้ หนว่ ยเนื้อหา 5.6 ผเู้ รียนศึกษาตาราเรียนหนว่ ยเน้ือหา ใบความรู้

ตาราเรียน การวางแผนเปา้ หมายชวี ติ ดว้ ยวงจรคุณภาพ

5.9 ครูผู้สอน ตงั้ คาถามเกี่ยวกับ การวางแผนฯและ 5.7 ผเู้ รียนร่วมตอบคาถาม

(ผ้เู รยี นตอบคาถาม) 5.8 ผู้เรยี นรบั ฟงั การบรรยาย เกยี่ วกับเนื้อหา

5.10 ครผู ู้สอน อธิบายเนื้อหา ใบความรู้ เนือ้ หาใน การวางแผนเป้าหมายชีวิตดว้ ยวงจรคุณภาพ

หนว่ ยการเรียนรู้ (เวลา 40 นาที) 5.9 ผูเ้ รียนจดั ทาใบงานท่ีมอบหมาย ( นาที)

5.11 ครผู สู้ อนมอบหมายการทาใบงาน แบบฝึกหัด

(เวลา 40 นาท)ี

ข้นั สรุป (จานวน 20 นาที) 5.10 ผ้เู รยี นร่วมสรุปเนอื้ หา ใบความรู้ เนือ้ หาหน่วย
5.12 ครูผูส้ อนและผเู้ รยี นสรุปเน้อื หา หัวข้อ บุคคล การเรยี นรู้ ตาราเรยี น

ธรรมดา และนิตบิ คุ คล เปน็ ขอ้ 5.11 ผู้เรยี นจัดทาแบบทดสอบหลังเรยี น 10 ข้อ
5.13 ครูผู้สอนแจกแบบทดสอบหลงั เรียน หวั ขอ้ (เวลา 10 นาที)

การวางแผนเปา้ หมายชวี ติ ด้วยวงจรคุณภาพ 5.12 มอบหมายงาน การจัดทารายงาน รายบคุ คล
10ขอ้ (10 นาที) รายกลุ่ม 3-5 คน รายงานหนา้ ชน้ั เรียน

6. ส่อื การสอน

ส่ือส่ิงพมิ พ์

1. ตาราเรียน หนงั สอื ประกอบการเรยี นการสอนวชิ า ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ 20001-1003
อ.เพญ็ ศรี เลิศเกยี รติวิทยา สานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์

2. เอกสารประกอบการสอน ใบความรู้

สอื่ โสตทัศน์ (ถา้ ม)ี

1. power point ธรุ กจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ 20001-1003 เร่ือง การวางแผนเป้าหมายดว้ ย
วงจรคณุ ภาพ

2. VDO สือ่ การสอน ประจาวชิ า ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ 20001-1003
3. ...................................................................................................

หุ่นจาลองหรือของจริง (ถา้ มี)

1. ............................................................................................................................. ......

เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)

1. แบบทดสอบก่อนเรยี น
2. ใบความรู้ ใบงาน (ใบมอบหมายงาน ถา้ มี)
3. แบบทดสอบหลังเรียน

แหลง่ เรียนรู้
เรียนรู้

1. หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั การอาชีพสวา่ งแดนดิน (ตาราเรยี น)
2. หอ้ งอินเทอรเ์ น็ตวิทยาลยั การอาชีพสวา่ งแดนดิน การสืบค้นข้อมูล
3. Google แหล่งเรยี นร้อู อนไลน์ จากโทรศัพทม์ ือถือ
การบูรณาการ/ความสมั พนั ธ์กบั วิชาอนื่

1. วิชาภาษาไทย การอ่านและทาความเข้าใจในเนือ้ หาหน่วยการเรยี นรู้ ใบความรู้ ตีความ
2. วชิ าสงั คมศึกษา การอยูใ่ นสงั คม การคบเพื่อน
3. วชิ าภาษาอังกฤษ เร่ืองศัพท์เฉพาะในหนว่ ยการเรียนการสอน

8. งานทมี่ อบหมาย

8.1 กอ่ นเรยี น

1. จัดเตรยี มห้องเรยี นให้เรียบร้อยเป็นระเบยี บ รักษาความสะอาด (แบง่ เวร)
2. จดั เตรียมอปุ กรณก์ ารเรยี นให้พรอ้ ม กอ่ นการเรียนการสอน
3. จัดทาแบบทดสอบก่อนเรยี น และสง่ ตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน

8.2 ขณะเรียน
1. จัดทาใบงานท่ีมอบหมายตามกาหนดเวลาส่งที่กาหนดไว้
2. จดั ทาแบบทดสอบหลงั เรียน และส่งตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน
3. ปฏิบัตติ นในการเรยี นร้อู ย่างเหมาะสมในช้นั เรยี น

8.3 หลงั เรยี น
1. การศกึ ษาเน้ือหากอ่ นล่วงหนา้
2. มอบหมายงานแบบฝึกหัดทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรู้ ใบงาน

9. ผลงาน/ช้ินงาน ทเ่ี กิดจากการเรยี นรขู้ องผูเ้ รยี น

1. ใบงานที่มอบหมาย
2. สมดุ ในการทาแบบฝึกหัด แบบฝึกปฏิบตั ิทา้ ยหน่วย
3. สรปุ ผลการทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียน
4. สรปุ ผลการสง่ งานทม่ี อบหมาย

10. เอกสารอา้ งอิง

1. บันทึกการสอนของครู
2. ใบเชค็ รายช่อื
3. แผนการจดั การเรยี นรู้
4. ใบความรู้ เนื้องานในหนงั สือเรียน
5. แบบทดสอบก่อนเรยี น หลังเรยี น

11. การบูรณาการ/ความสมั พันธก์ บั รายวิชาอื่น

1. รายวิชาภาษาไทย เพ่อื อ่าน ฟัง พดู เขยี น และตีความหมาย แปลความหมาย
2. รายวชิ าสงั คมศึกษา สังคมไทย เพ่ือการอยรู่ ว่ มกนั ในสังคม ในห้องเรยี น
3. รายวชิ าภาษาอังกฤษ ที่มีภาษาอังกฤษในหนว่ ยการเรียนการสอน

12. หลกั การประเมนิ ผลการเรียน

12.1 ก่อนเรียน

12.1.1 การประเมินการตรวจสอบรายชอ่ื ผูเ้ ขา้ เรยี นในช่วั โมง (ด้านจติ พสิ ยั )
12.1.2 การประเมินการเตรยี มความพร้อมในการเรยี นของผู้เรยี น อุปกรณก์ ารเรยี น ตาราเรยี น

สมดุ ปากกา ไมบ้ รรทัด
12.1.3 การประเมนิ การทาแบบทดสอบก่อนเรียน เวลา 10 นาที 10 ข้อ 10 คะแนน

12.2 ขณะเรียน
12.2.1 การประเมนิ การมสี ว่ นร่วมในการเรียนการสอน การตอบ-ถาม (แบบประเมนิ
พฤติกรรม)
12.2.2 การประเมินการสนใจใฝเ่ รียนรู้ การปฏบิ ตั ติ น ขณะเรยี น การทาแบบฝึกหดั ใบงาน
(แบบประเมินพฤตกิ รรม)
12.2.3 การประเมนิ ดว้ ยการทาแบบทดสอบหลงั เรยี น เวลา 10 นาที 10 ข้อ 10 คะแนน

12.3 หลังเรียน

12.3.1 การประเมนิ ผลการเรียนรแู้ ละสรุปผลการเรียนรู้ แบบประเมินผล
แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี นร้อยละ 50 หลังเรียนรอ้ ยละ 70

12.3.2 เมือ่ ไม่ผา่ นเกณฑ์ท่ีกาหนดใหม้ กี ารปรบั ปรุงแก้ไขต่อไป
12.3.3 มีการมอบหมายงาน ศึกษาเนื้อหาในหน่วยการเรียนถัดไป และใบความรู้ (ถ้ามี)
12.3.4 มอบหมายงานศึกษาเนอื้ หาเพิ่มเติมโดยการจดั ทารายงานกลุ่ม หรอื รายบุคคคล

13. รายละเอียดการประเมนิ ผลการเรยี น

จดุ ประสงคข์ ้อที่ 1 ………………………………………………………………………………....................................………
1. วิธีการประเมิน : ……………………………………………………...........................…………….
2. เครือ่ งการประเมิน : …………………………………………………………………............................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………............................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...............

จุดประสงค์ข้อท่ี ……………………………………………………………………………………….....................................
1. วธิ กี ารประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
2. เครื่องการประเมิน : …………………………………………………………………...........................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...........................


Click to View FlipBook Version