14. แบบทดสอบก่อนเรียน/ 15 แบบทดสอบหลังเรียน
หนว่ ยการสอนที่ 3 ชอื่ หน่วยการสอน การลงทุน
วตั ถุประสงค์ เพ่ือ ทดสอบความรเู้ บื้องต้นของผู้เรยี น หลงั การเรยี นการสอน
ข้อคาถาม
แบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรยี น
จงเลอื กคาตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดยี ว
1 . ข้อใดเปน็ ลกั ษณะของการลงทุน
1 . ชดช้อยนาเงินไปซื้อบ้านและทีด่ นิ เพื่อขายต่อ
2 . กิ่งแก้วซ้อื ทองคาใหล้ ูกๆ เกบ็ ไว้เป็นมรดก
3 . มารตซี อ้ื หุน้ ในตลาดหลักทรพั ยข์ องบริษัทมหาชนแหง่ หน่ึง
4 . ชวนชมให้ลูกยืมเงนิ จานวนหนง่ึ ไปลงทนุ เปิดร้านค้า
5 . ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง
2 . ข้อใดเปน็ การลงทุนท่ีไมม่ ีตัวตน
1 . คุณปวรรจุ ซื้อคอมพิวเตอรม์ าใชง้ าน
2 . คณุ ธราธรซอื้ รถยนตม์ ยี ีห่ ้อมาใช้
3 . คุณพุฒภิ ทั รซื้อหุ้นสามญั ในตลาดหลักทรัพย์ของบรษิ ัทชพี ฯ
4 . คณุ ชชั วรี ์ซอ้ื ทด่ี นิ เพื่อลงทุนปลกู พชื ผัก และผลไม้
5 . คณุ รณพีรซ์ ้ือเคร่ืองบินเล็กมาขบั เลน่
3 . ข้อใดเป็นผลตอบแทนในรปู แบบของรายได้ตามปกติ
1 . คา่ เช่าคอนโดมิเนยี ม
2 . ดอกเบ้ยี เงินฝากธนาคาร
3 . กาไรจากการขายสินค้า
4 . สทิ ธิในการออกเสียงโนบรษิ ัท
5 . สทิ ธิในการซอ้ื ขายห้นุ ใหม่
4 . ข้อใดหมายถงึ ดอกเบ้ยี ทบตน้
1 . ดอกเบย้ี ของดอกเบ้ยี
2 . ดอกเบี้ยเงนิ ฝากประจา
3 . ตอกเบยี้ เงนิ ก้แู บบคงท่ี
4 . ดอกเบี้ยแบบลอยตัว
5 . ดอกเบย้ี เงนิ ก้แู บบลดต้นลดดอก
5 . หลกั เกณฑ์ 1 ปี ที่ใช้คานวณดอกเบยี้ น้ันโดยท่ัวไปมีกว่ี นั
1 . 90 วัน 2 . 180 วัน
3 . 366 วนั 4 365 วัน
5 . ข้อ 3 - 4 ถูก ( ปีอธกิ สุรทินเดือนกุมภาพนั ธม์ ี 29 วัน )
6 . ตอกเบ้ยี เงนิ ฝากแบบข้นั บันไดคือข้อใด
1 . ดอกเบี้ยจะเพมิ่ ขน้ึ ตามระยะเวลาของการฝาก
2 . ดอกเบี้ยทผ่ี กู้ ู้จ่ายใหแ้ ก่สถาบันการเงินในอตั ราคงท่ี
3 . ดอกเบยี้ เงนิ กูท้ ีผ่ กู้ ูต้ ้องจ่ายให้แก่สถาบนั การเงนิ ตามต้นทุนของสถาบันการเงนิ
4 . ดอกเบย้ี ที่ผ้กู ู้เปน็ บุคคลธรรมดาขอกเู้ งินจากธนาคารพาณิชย์
5 . เป็นไปได้ทุกกรณี
7.ขอ้ ใดเปน็ ตราสารหน้ี
1 . ใบสาคญั แสดงสิทธิ
2 . หน่วยลงทุนในกองทนุ ตราสารแห่งทุน
3 . ตราสารแสดงสิทธใิ นพนั ธะทม่ี ีหลกั ทรัพย์อา้ งองิ เป็นหนุ้
4 . ตว๋ั สญั ญาใชเ้ งนิ
5 . ห้นุ สามัญและหุน้ บุริมสิทธิ์
8 . ขอ้ ใดเปน็ ตราสารทุน
1 . พันธบตั รรฐั บาล
2 . ตัวเงนิ คลงั
3 . ต๋วั แลกเงนิ
4 . หนุ้ สามัญและหนุ้ บรุ มิ สทิ ธิ์
5 . ตว๋ั สญั ญาใช้เงนิ
9 . ขอ้ ใดเปน็ บคุ คลท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การประกันชีวิต
1 . ผ้ใู ห้ประกัน “ ผเู้ อาประกัน “ ผรู้ ับประกัน
2 . ลกู จา้ ง + นายจ้าง - รัฐบาล
3 . สถาบันการเงิน “ ผ้ฝู าก
4 . นายจา้ ง + บรษิ ัทจัดการ + ลกู จา้ ง
5 . นายจา้ ง - ลูกจา้ ง + สหภาพแรงงาน
10 . ข้อใดไมใ่ ช่ปัจจยั การผลิต
1 . แรงงาน ( Laber )
2 . เงินทุน ( Capital )
3 . ผู้ประกอบการ ( Entrepreneurs )
4 . ทรพั ยากร ( Resources )
5 . การตลาด ( Marketing )
กระดาษคาตอบ กอ่ นเรยี น – หลังเรียน
กจิ กรรมการเรยี นรู้
หนว่ ยท่ี 3 เรื่อง การลงทนุ
ก่อนเรียน 5 หลังเรยี น
ขอ้ 1 2 3 4 ข้อ 1 2 3 4 5
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10
รวมคะแนน กอ่ นเรียน รวมคะแนน หลงั เรียน
ชอื่ -สกุล...........................................................แผนก/ห้อง............เลขท.่ี .............
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลงั เรียน
กิจกรรมการเรยี นรู้
หน่วยที่ 3 เร่อื ง การลงทุน
กอ่ นเรียน หลงั เรยี น
ขอ้ 1 2 3 4 5 ข้อ 1 2 3 4 5
1x 1
2x 2
3x 3
4x 4
5x 5
6x 6
7x 7
8x 8
9x 9
10 x 10
รวมคะแนน กอ่ นเรียน 10 รวมคะแนน หลงั เรยี น 10
ชอ่ื -สกุล...........................................................ผ้สู อน/ผู้ตรวจ
(นายวิจิตร พลเศษ)
20. บันทึกผลหลงั การจดั การเรียนร้แู บบมุง่ เน้นสมรรถนะอาชพี และบูรณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพยี ง
20.1 สรุปผลการจดั การเรยี นรู้
รายการ ระดับการปฏบิ ัติ
5432 1
ด้านการเตรียมการสอน
1. จัดหนว่ ยการเรียนรไู้ ด้สอดคล้องกับวตั ถุประสงค์การเรียนรู้
2. กาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ครอบคลุมท้ังด้านความรู้ ด้านทักษะ และดา้ นจติ พสิ ัย
3. เตรียมวสั ดุ-อปุ กรณ์ สอ่ื นวตั กรรม กิจกรรมตามแผนการจดั การเรียนรู้ก่อนเข้าสอน
ดา้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
4. มีวธิ กี ารนาเขา้ สูบ่ ทเรยี นท่ีน่าสนใจ
5. มีกิจกรรมท่ีหลากหลาย เพื่อช่วยใหผ้ เู้ รยี นเกิดการเรียนรู้ ความเข้าใจ
6. จัดกิจกรรมทส่ี ่งเสริมให้ผู้เรียนคน้ คว้าเพ่ือหาคาตอบด้วยตนเอง
7. นักเรยี นมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
8. จัดกิจกรรมทเ่ี นน้ กระบวนการคดิ ( คิดวิเคราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )
9. กระตุ้นให้ผู้เรียนแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี
10. จัดกิจกรรมการเรียนรทู้ เี่ ช่ือมโยงกบั ชีวิตจรงิ โดยนาภูมปิ ัญญา/บูรณาการเข้ามามสี ว่ นร่วม
11. จดั กิจกรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม
12. มีการเสริมแรงเมอื่ นักเรยี นปฏบิ ตั ิ หรอื ตอบถูกต้อง
13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รียน
14. เอาใจใสด่ แู ลผู้เรยี น อย่างท่ัวถึง
15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาทกี่ าหนด
ด้านสือ่ นวัตกรรม แหลง่ การเรยี นรู้
16. ใชส้ อ่ื ท่เี หมาะสมกบั กิจกรรมและศักยภาพของผเู้ รยี น
17. ใช้ส่อื แหล่งการเรียนรูอ้ ย่างหลากหลาย เชน่ บุคคล สถานที่ ของจริง เอกสาร
สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ และอนิ เทอร์เนต็ เป็นตน้
ด้านการวดั และประเมนิ ผล
18. ผ้เู รียนมีสว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล
19. ประเมินผลอยา่ งหลากหลายและครบท้ังด้านความรู้ ทักษะ และจิตพสิ ัย
20. ครู ผ้เู รยี น ผู้ปกครอง หรือ ผูท้ ีเ่ ก่ยี วข้องมีสว่ นรว่ ม ในการประเมิน
หมายเหตุ ระดบั การปฏบิ ตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดเี ยย่ี ม 4 = ปฏบิ ัติดี 3 = ปฏบิ ัตพิ อใช้ รวม
2 = ควรปรบั ปรุง 1 = ไม่มีการปฏิบัติ คา่ เฉลี่ย
20.2 ปญั หาท่ีพบ และแนวทางแก้ปัญหา แนวทางแก้ปัญหา
ปญั หาท่ีพบ
.....................................................................................
ด้านการเตรยี มการสอน .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
ด้านการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ด้านส่อื นวตั กรรม แหลง่ การเรยี นรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
ดา้ นการวดั และประเมนิ ผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ดา้ นอืน่ ๆ (โปรดระบเุ ป็นข้อๆ) .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
ลงชือ่ ........................................................................ ครผู สู้ อน
(....................................................................)
ตาแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................
บันทกึ หลงั การสอน
ผลการใชแ้ ผนการเรยี นรู้
ความเหมาะสมของเวลา
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรงุ
ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรียนการสอน
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรุง
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………
ผลการเรยี นของผเู้ รยี น
ความตัง้ ใจของผ้เู รียน ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรุง
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรงุ
อุปกรณ์การสอน
มาก ดี
การเรยี นรขู้ องผูเ้ รยี น
มาก ดี
…………………………………………………………………………………………………………………………………….………
การสอนของครู
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรงุ
กิจกรรมการสอนท่ีกาหนดไว้ในแผนการจดั การ
เรียนรู้ ตรงตามแผนการจัดการเรียนรู้ ไมต่ รงตามแผนการจัดการเรยี นรู้
บนั ทกึ เพิม่ เตมิ
............................................................................................................................. ................................
………………………………………………
(นายวจิ ิตร พลเศษ)
ผูบ้ ันทกึ การสอน
แผนการจดั การเรียนรู้ แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชพี
และบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
รหสั วชิ า 30200-0003 วิชา ธุรกจิ และการเป็นผู้ประกอบการ
หน่วยท่ี 4 ชอื่ หน่วย ธรุ กิจและการเป็นผ้ปู ระกอบการ
ช่อื เรื่อง ธรุ กจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ จานวน 6 ชั่วโมง สอนคร้ังที่ 8-9-10
1. สาระสาคญั
การประกอบธุรกิจใด ๆ ก็ตามต้องมีจุดมงุ่ หมายดว้ ยกนั ทงั้ นั้น ธรุ กิจจงึ มคี วามสาคัญต่อการดาเนนิ ชวี ิตมาก
เพราะเป็นทผี่ ลติ สนิ คา้ หรอื บริการท่เี ป็นปจั จัยพนื้ ฐานในการดาเนินชวี ิต และผลติ สง่ิ อานวยความสะดวกอกี ดว้ ย
การผลิตของธุรกิจถือเป็นการพัฒนาคณุ ภาพชีวิตมนุษย์ และมผี ลตอ่ ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศ
ผ้ปู ระกอบการเปน็ ผู้ที่คดิ รเิ ร่มิ จัดตง้ั ธุรกิจขึ้นมาเป็นของตนเอง มกี ารวางแผนการดาเนนิ งาน และดาเนิน
ธุรกจิ ดว้ ยตนเอง โดยมองเห็นโอกาสทางธุรกจิ และยอมรบั ความเส่ียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อหวังผลกาไรทเ่ี กิดจากผล
การดาเนินงานธรุ กิจ ดังน้ันผู้ประกอบการจึงตอ้ งศกึ ษาหาความรูเ้ พ่ิมเตมิ เกย่ี วกับการเป็นผ้ปู ระกอบการเพม่ิ เติม
เพอ่ื ใหธ้ ุรกิจดาเนนิ ไปตามจดุ มงุ่ หมายที่ตนเองได้กาหนดไว้
2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้
1. สามารถบอกรปู แบบธรุ กจิ และประเภทธรุ กิจที่มีอยู่ในปัจจบุ นั
2. สามารถบอกเก่ียวกับการเปน็ ผู้ประกอบธุรกจิ ในปัจจบุ ัน
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1 จุดประสงคท์ ั่วไป
3.1.1 มคี วามรู้และเขา้ ใจเกยี่ วกับประเภทธุรกจิ และรูปแบบการดาเนินธุรกจิ
3.1.2 มคี วามรูแ้ ละเข้าใจเก่ยี วกบั ผปู้ ระกอบการ
3.2 จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
3.2.1 สามารถบอกความหมายและความสาคญั ของธุรกิจ
3.2.2 สามารถบอกวัตถปุ ระสงคแ์ ละประโยชนใ์ นการประอบธุรกิจ
3.2.3 บอกปัจจัยในการประกอบธรุ กจิ
3.2.4 อธบิ ายโครงสรา้ งระบบธรุ กจิ
3.2.5 บอกประเภทธรุ กิจ และรูปแบบการดาเนนิ ธรุ กิจ
3.2.6 บอกความหมายของผ้ปู ระกอบการ
3.2.7 อธิบายคณุ ลกั ษณะพืน้ ฐานของผปู้ ระกอบการ
3.2.8 บอกแนวทางในการเป็นผปู้ ระกอบการ
3.2.9 อธิบายการวเิ คราะหก์ ารเปน็ ผู้ประกอบการ
3.2.10 บอกแนวทางการหารายไดจ้ ากการเปน็ ผู้ประกอบการ
3.2.11 มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม ความมมี นษุ ยสมั พันธ์ ความมวี นิ ัย ความ
รับผดิ ชอบ ความซอ่ื สัตยส์ จุ ริต ความเชอ่ื มัน่ ในตนเอง การประหยดั ความสนใจใฝ่รู้ การละเว้นส่ิงเสพตดิ และการ
พนัน ความรกั สามัคคี
4. เนอ้ื หาสาระการสอน/การเรยี นรู้
4.1 ดา้ นความรู้
1. ความหมายและความสาคัญของธุรกจิ
2. วัตถปุ ระสงคแ์ ละประโยชน์ในการประกอบธุรกิจ
3. ปัจจัยในการประกอบธรุ กิจ
4. โครงสรา้ งระบบธุรกิจ
5. ประเภทธุรกิจ และรปู แบบการดาเนนิ ธรุ กจิ
6. ความหมายของผู้ประกอบการ
7. คุณลกั ษณะพืน้ ฐานของผู้ประกอบการ
8. แนวทางในการเป็นผปู้ ระกอบการ
9. การวิเคราะห์การเปน็ ผู้ประกอบการ
10. แนวทางการหารายได้จากการเป็นผู้ประกอบการ
11. หน้าทีข่ องผู้ประกอบการในการดาเนนิ ธรุ กจิ
4.2 ด้านทกั ษะหรือการประยุกต์ใช้
1. สามารถบอกความหมายและความสาคัญของธรุ กจิ
2. สามารถบอกวตั ถุประสงค์และประโยชน์ในการประอบธรุ กิจ
3. บอกปจั จยั ในการประกอบธุรกิจ
4. อธบิ ายโครงสร้างระบบธรุ กิจ
5. บอกประเภทธรุ กจิ และรูปแบบการดาเนนิ ธรุ กจิ
6. บอกความหมายของผปู้ ระกอบการ
7. อธิบายคุณลกั ษณะพ้นื ฐานของผู้ประกอบการ
8. บอกแนวทางในการเป็นผ้ปู ระกอบการ
9. อธิบายการวเิ คราะหก์ ารเป็นผ้ปู ระกอบการ
10. บอกแนวทางการหารายไดจ้ ากการเปน็ ผู้ประกอบการ
11. บอกหน้าที่ของผปู้ ระกอบการในการดาเนินธรุ กิจ
4.3 ดา้ นคณุ ธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์และบูรณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ
พอเพยี ง
ด้านคุณธรรม/ จริยธรรม
1. มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ มีความรับผิดชอบ
ดา้ นคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์และบรู ณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
1. ม่งุ มั่นในการทางาน มีจิตสาธารณะ อยู่อย่างพอเพียง
5. กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรือการเรียนรู้ ข้นั ตอนการเรยี นหรอื กิจกรรมของผเู้ รยี น
ขัน้ ตอนการสอนหรือกจิ กรรมครู
5.1 ผูเ้ รียนเข้าหอ้ งเรยี น
ขั้นเตรียม(จานวน 10 นาที) 5.2 ครูผสู้ อนตรวจสอบรายช่ือผูเ้ รียน
5.1 นกั เรียนทาความเคารพครผู ู้สอน 5.3 ผู้เรียนรบั ใบความรู้ เร่ือง การวางแผนเปา้ หมาย
5.2 ครูผสู้ อนทักทายผ้เู รียนและสารวจรายช่ือผเู้ รยี น
5.3 ครผู ู้สอนแจกใบความรู้ หรือ เตรียมอุปกรณ์ ชวี ติ ดว้ ยวงจรคุณภาพ
5.4 รับใบงาน อธบิ ายการทา
ในการสอนใหพ้ ร้อม และใบงาน
5.4 ผู้เรียนใบความรู้ เตรยี มตาราเรยี นและสมดุ
5.5 ผู้สอนการจัดทาใบงานที่มอบหมาย
ขนั้ การสอน(จานวน....90..........นาท)ี
5.6 ครผู ู้สอนแจกแบบทดสอบกอ่ นเรียน 5.5 ผเู้ รียนทดสอบก่อนเรียน ( 10 นาท)ี
5.7 อธบิ ายการทาแบบทดสอบก่อนเรียน มีจานวน
10 ข้อ เวลาทใี่ ช้ 10 นาที (พร้อมสง่ ครบเวลา)
5.8 ครูผู้สอนให้ผเู้ รียนศึกษาใบความรู้ หนว่ ยเนื้อหา 5.6 ผเู้ รียนศกึ ษาตาราเรียนหนว่ ยเน้ือหา ใบความรู้
ตาราเรียน การวางแผนเปา้ หมายชวี ติ ดว้ ยวงจรคุณภาพ
5.9 ครูผู้สอน ตงั้ คาถามเกี่ยวกับ การวางแผนฯและ 5.7 ผเู้ รียนร่วมตอบคาถาม
(ผเู้ รียนตอบคาถาม) 5.8 ผู้เรียนรับฟงั การบรรยาย เกยี่ วกับเนื้อหา
5.10 ครูผู้สอน อธิบายเนื้อหา ใบความรู้ เนือ้ หาใน การวางแผนเป้าหมายชีวิตดว้ ยวงจรคุณภาพ
หนว่ ยการเรียนรู้ (เวลา 40 นาท)ี 5.9 ผูเ้ รียนจดั ทาใบงานท่ีมอบหมาย ( นาที)
5.11 ครผู สู้ อนมอบหมายการทาใบงาน แบบฝึกหัด
(เวลา 40 นาท)ี
ข้นั สรุป (จานวน 20 นาที) 5.10 ผ้เู รยี นร่วมสรุปเนอื้ หา ใบความรู้ เนือ้ หาหน่วย
5.12 ครูผู้สอนและผเู้ รยี นสรุปเน้อื หา หัวข้อ บุคคล การเรียนรู้ ตาราเรยี น
ธรรมดา และนิตบิ คุ คล เปน็ ขอ้ 5.11 ผู้เรยี นจัดทาแบบทดสอบหลังเรยี น 10 ข้อ
5.13 ครผู ู้สอนแจกแบบทดสอบหลงั เรียน หวั ขอ้ (เวลา 10 นาที)
การวางแผนเปา้ หมายชวี ติ ด้วยวงจรคุณภาพ 5.12 มอบหมายงาน การจัดทารายงาน รายบคุ คล
10ข้อ (10 นาที) รายกลุม่ 3-5 คน รายงานหนา้ ชน้ั เรียน
6. สื่อการสอน
ส่ือสงิ่ พิมพ์
1. ตาราเรียน หนงั สือประกอบการเรียนการสอนวชิ า ธุรกจิ และการเป็นผู้ประกอบการ 20001-1003
อ.เพญ็ ศรี เลศิ เกียรตวิ ทิ ยา สานักพิมพเ์ อมพันธ์
2. เอกสารประกอบการสอน ใบความรู้
สือ่ โสตทัศน์ (ถ้าม)ี
1. power point ธรุ กจิ และการเป็นผู้ประกอบการ 20001-1003 เร่ือง ธรุ กิจและการเป็น
ผู้ประกอบการ
2. VDO สอื่ การสอน ประจาวชิ า ธรุ กจิ และการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ 20001-1003
3. ...................................................................................................
ห่นุ จาลองหรือของจริง (ถา้ มี)
1. ............................................................................................................................. ......
เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)
1. แบบทดสอบก่อนเรียน
2. ใบความรู้ ใบงาน (ใบมอบหมายงาน ถา้ มี)
3. แบบทดสอบหลงั เรียน
แหล่งเรียนรู้
เรียนรู้
1. หอ้ งสมุดวทิ ยาลัยการอาชีพสวา่ งแดนดนิ (ตาราเรียน)
2. หอ้ งอินเทอรเ์ น็ตวิทยาลยั การอาชีพสว่างแดนดนิ การสบื ค้นขอ้ มูล
3. Google แหล่งเรียนรูอ้ อนไลน์ จากโทรศัพท์มือถือ
การบรู ณาการ/ความสัมพันธ์กับวิชาอื่น
1. วชิ าภาษาไทย การอา่ นและทาความเขา้ ใจในเน้ือหาหน่วยการเรียนรู้ ใบความรู้ ตีความ
2. วิชาสังคมศึกษา การอยู่ในสังคม การคบเพื่อน
3. วิชาภาษาองั กฤษ เร่ืองศัพทเ์ ฉพาะในหน่วยการเรียนการสอน
8. งานทมี่ อบหมาย
8.1 กอ่ นเรยี น
1. จัดเตรยี มหอ้ งเรยี นให้เรยี บร้อยเป็นระเบยี บ รักษาความสะอาด (แบง่ เวร)
2. จดั เตรยี มอปุ กรณก์ ารเรยี นให้พร้อม กอ่ นการเรียนการสอน
3. จัดทาแบบทดสอบก่อนเรียน และสง่ ตามกาหนดเวลา 10 ขอ้ 10 นาที 10 คะแนน
8.2 ขณะเรียน
1. จัดทาใบงานท่ีมอบหมายตามกาหนดเวลาส่งที่กาหนดไว้
2. จดั ทาแบบทดสอบหลังเรียน และส่งตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน
3. ปฏบิ ัตติ นในการเรยี นรอู้ ย่างเหมาะสมในช้นั เรยี น
8.3 หลงั เรยี น
1. การศกึ ษาเน้ือหากอ่ นลว่ งหนา้
2. มอบหมายงานแบบฝึกหัดทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรู้ ใบงาน
9. ผลงาน/ช้ินงาน ท่ีเกดิ จากการเรยี นร้ขู องผู้เรยี น
1. ใบงานที่มอบหมาย
2. สมดุ ในการทาแบบฝึกหัด แบบฝกึ ปฏิบตั ิทา้ ยหน่วย
3. สรปุ ผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
4. สรปุ ผลการสง่ งานท่ีมอบหมาย
10. เอกสารอา้ งอิง
1. บันทึกการสอนของครู
2. ใบเชค็ รายช่อื
3. แผนการจดั การเรยี นรู้
4. ใบความรู้ เนื้องานในหนงั สือเรียน
5. แบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรยี น
11. การบูรณาการ/ความสัมพันธก์ บั รายวิชาอน่ื
1. รายวิชาภาษาไทย เพอื่ อ่าน ฟัง พดู เขยี น และตีความหมาย แปลความหมาย
2. รายวชิ าสงั คมศึกษา สังคมไทย เพ่ือการอยรู่ ว่ มกนั ในสังคม ในห้องเรียน
3. รายวิชาภาษาอังกฤษ ที่มีภาษาองั กฤษในหนว่ ยการเรยี นการสอน
12. หลกั การประเมนิ ผลการเรียน
12.1 ก่อนเรียน
12.1.1 การประเมินการตรวจสอบรายชอ่ื ผเู้ ขา้ เรียนในช่วั โมง (ดา้ นจิตพิสยั )
12.1.2 การประเมินการเตรยี มความพร้อมในการเรียนของผู้เรยี น อุปกรณก์ ารเรียน ตาราเรียน
สมดุ ปากกา ไมบ้ รรทัด
12.1.3 การประเมนิ การทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เวลา 10 นาที 10 ข้อ 10 คะแนน
12.2 ขณะเรียน
12.2.1 การประเมนิ การมสี ว่ นร่วมในการเรยี นการสอน การตอบ-ถาม (แบบประเมนิ
พฤติกรรม)
12.2.2 การประเมินการสนใจใฝเ่ รียนรู้ การปฏิบัตติ น ขณะเรยี น การทาแบบฝึกหัด ใบงาน
(แบบประเมินพฤตกิ รรม)
12.2.3 การประเมนิ ดว้ ยการทาแบบทดสอบหลงั เรยี น เวลา 10 นาที 10 ขอ้ 10 คะแนน
12.3 หลังเรียน
12.3.1 การประเมนิ ผลการเรียนรแู้ ละสรปุ ผลการเรียนรู้ แบบประเมนิ ผล
แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียนรอ้ ยละ 50 หลังเรียนรอ้ ยละ 70
12.3.2 เมือ่ ไม่ผา่ นเกณฑ์ท่ีกาหนดใหม้ กี ารปรับปรุงแก้ไขต่อไป
12.3.3 มีการมอบหมายงาน ศึกษาเนื้อหาในหนว่ ยการเรียนถัดไป และใบความรู้ (ถา้ มี)
12.3.4 มอบหมายงานศึกษาเนอื้ หาเพิ่มเติมโดยการจดั ทารายงานกลุ่ม หรอื รายบคุ คคล
13. รายละเอียดการประเมนิ ผลการเรยี น
จดุ ประสงคข์ ้อที่ 1 ………………………………………………………………………………....................................………
1. วิธีการประเมิน : ……………………………………………………...........................…………….
2. เครือ่ งการประเมิน : …………………………………………………………………............................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………............................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...............
จุดประสงค์ข้อท่ี ……………………………………………………………………………………….....................................
1. วธิ กี ารประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
2. เครื่องการประเมิน : …………………………………………………………………...........................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...........................
14. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 15. แบบทดสอบหลงั เรยี น
หนว่ ยการสอนที่ 4 ชือ่ หน่วยการสอน ธรุ กิจและการเปนผูประกอบการ
วตั ถุประสงค์ เพื่อ ทดสอบความรูเ้ บอื้ งตน้ ของผู้เรยี น ก่อนการเรยี นการ
หน่วยการสอนที่ 4 ชือ่ หน่วยการสอน ธุรกิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ
วตั ถุประสงค์ เพื่อ ทดสอบความรเู้ บอื้ งต้นของผูเ้ รียน หลงั การเรียนการสอน
ข้อคาถาม
แบบทดสอบกอ่ น/หลังเรยี น
จงเลือกคาตอบท่ถี กู ต้องที่สุดเพยี งข้อเดยี ว
1.ข้อใดเปน็ คุณลักษณะพื้นฐานของผ้ปู ระกอบการโดยเนน้ การใช้นวัตกรรม
1 . นาแนวความคิดใหมจ่ ากสิ่งที่มีอยู่เดิมมาใชใ้ นรปู แบบใหม่
2 . การคิดประดิษฐ์คน้ สงิ่ ใหม่ๆ
3 . เน้นประสิทธภิ าพของผูป้ ระกอบการ
4 . เน้นการตลาดภายในประเทศและตลาดตา่ งประเทศ
5 . เน้นการมีอัตราการขยายตวั ของอตุ สาหกรรมทีด่ ี
2 . ข้อใดเปน็ แนวทางในการเป็นผู้ประกอบการด้านการรจู้ ักตนเอง
1 . สารวจความต้องการสนิ ค้าหรือบรกิ าร
2 . ศกึ ษาวธิ กี ารขาย การตลาด
3 . ศกึ ษาการโฆษณา การกระจายสินค้า การสง่ เสริมการตลาด
4 . สารวจการสนับสนนุ การขาย
5 . สารวจฐานะทางการเงนิ
3 . ขอ้ ใดไม่ใช่การวิเคราะหต์ นเองของผ้ปู ระกอบการ
1 . จัดทาการสารวจตลาด
2 . ความร้คู วามสามารถและประสบการณ์
3 . เงนิ ลงทนุ
4 . จดุ แข็งและจุดอ่อนของตนเอง
5 . ทศั นคติในการประกอบธุรกิจ
4 . ข้อใดไมใ่ ช่การวิเคราะห์ธรุ กิจทีจ่ ะดาเนินการของผปู้ ระกอบการ
1 . สภาพแวดล้อม โอกาสและสถานการณข์ องธรุ กจิ ที่จะดาเนินการ
2 . สนิ ค้า / ผลิตภณั ฑ์ มีความแตกต่างและมีความเปน็ อยา่ งไร ทาใหเ้ หนือกว่าคู่แขง่ ขนั ไดห้ รอื ไม่
3 . หาที่ตัง้ ของธรุ กิจ และเลอื กทาเลท่ีเหมาะ
4 . จดุ แข็งและจุดออ่ นของตนเอง
5 . การดาเนนิ การดา้ นธรุ กจิ
5 . กิจการรูปแบบใดทจ่ี ัดต้ังด้วยการแบง่ ทุนเป็นหนุ้ มีมลู ค่าเทา่ ๆ กัน
1 . เจา้ ของคนเดียว 2 . ห้างหุน้ สว่ น
3 . บริษัทจากดั 4 . ร้านค้าปลกี
5 . ถูกทกุ ข้อ
6. ข้อใดไมใ่ ช่คุณสมบัตขิ องผู้ประกอบการ
1 . มคี วามมงุ่ มั่นทจ่ี ะประสบความสาเร็จ
2 . มคี วามมน่ั ใจในการมีเงินทุนของตนเอง
3 . มีแนวคดิ เกี่ยวกบั ธรุ กจิ ของตนเองชดั เจน
4 . มแี ผนธรุ กจิ ทเี่ ป็นระบบ
5.มคี วามสามารถในการแข่งขันได้
7 . ขอ้ ใดไมใ่ ช่ตน้ ทุนการผลติ ( Cost of Production ) แรงงาน ( Labor )
1 . ที่ดิน ( Land )
2.แรงงาน(labor)
3 . เงนิ ทนุ ( Capital )
4.ผู้ประกอบการ ( Entrepreneur )
5 . ส่วนประสมทางการตลาด ( Marketing Mix )
8 . ส่วนประสมทางการตลาด ( Marketing Mix = 4P ' s ) คอื ข้อใด
1 . สินค้า ราคา การจัดจาหน่ายและการสง่ เสริมการตลาด
2 . การส่งเสรมิ การขาย การโฆษณา การประชาสัมพนั ธแ์ ละการขายโดยพนักงานขาย
3 . สนิ คา้ ราคา การจดั จาหน่ายและการส่งเสริมการขาย
4 . สินคา้ ราคา กาไร และคุณภาพ
5 . การสง่ เสริมการขาย การโฆษณา กาไรและยอดขาย
9 . ขอ้ ใดไมใ่ ช่หนา้ ท่ีการผลิต
1 การเลือกทาเลท่ตี ั้ง
2 . การวางผงั โรงงาน
3 . การออกแบบสินค้า
4 . การสรรหากาลงั คน
5 . การตรวจสอบสินค้า
10 . คากล่าวทีว่ า่ “ Put the right man on the right job ” สอดคล้องกับข้อใด
1 . การบริหารการผลติ
2 . การบริหารการตลาด
3 . การบรหิ ารทรัพยากรบคุ คล
4 . การบรหิ ารการเงนิ 5 . การบรหิ ารเทคโนโลยสี ารสนเทศ
กระดาษคาตอบ กอ่ นเรยี น – หลังเรียน
กจิ กรรมการเรียนรู้
หนว่ ยท่ี 4 เรือ่ ง ธรุ กจิ และการเป็นผู้ประกอบการ
กอ่ นเรยี น 5 หลังเรียน
ขอ้ 1 2 3 4 ขอ้ 1 2 3 4 5
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10
รวมคะแนน กอ่ นเรยี น รวมคะแนน หลงั เรียน
ช่อื -สกลุ ...........................................................แผนก/หอ้ ง............เลขท่ี..............
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน – หลงั เรียน
กจิ กรรมการเรียนรู้
หน่วยที่ 4 เร่อื ง ธุรกิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ
ก่อนเรยี น หลงั เรยี น
ข้อ 1 2 3 4 5 ข้อ 1 2 3 4 5
1x 1
2x 2
3x 3
4x 4
5x 5
6x 6
7x 7
8x 8
9x 9
10 x 10
รวมคะแนน กอ่ นเรียน 10 รวมคะแนน หลงั เรยี น 10
ชอื่ -สกลุ ...........................................................ผสู้ อน/ผตู้ รวจ
(นายวจิ ติ ร พลเศษ)
หนว่ ยการสอนที่ 4 ช่ือหนว่ ยการสอน ธรุ กจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ
ชือ่ หัวข้อเรอ่ื ง ธรุ กิจและการเป็นผปู้ ระกอบการ
16. ใบความรู้
แนวคิด
การประกอบธุรกิจใด ๆ ก็ตามต้องมจี ดุ มุ่งหมายด้วยกนั ทง้ั น้ัน ธรุ กจิ จึงมีความสาคัญต่อการดาเนินชวี ติ มาก
เพราะเป็นทผ่ี ลติ สินคา้ หรอื บริการทีเ่ ปน็ ปัจจัยพ้นื ฐานในการดาเนนิ ชีวติ และผลิตส่งิ อานวยความสะดวกอกี ดว้ ย
การผลิตของธุรกจิ ถือเป็นการพัฒนาคุณภาพชวี ิตมนุษย์ และมผี ลต่อระบบเศรษฐกจิ ของประเทศ
ผู้ประกอบการเป็นผู้ท่ีคิดริเร่ิมจัดต้งั ธุรกจิ ขน้ึ มาเปน็ ของตนเอง มีการวางแผนการดาเนนิ งาน และดาเนนิ
ธรุ กิจดว้ ยตนเอง โดยมองเหน็ โอกาสทางธุรกจิ และยอมรับความเส่ียงท่ีอาจเกดิ ขนึ้ ได้ เพ่ือหวังผลกาไรท่ีเกิดจากผล
การดาเนินงานธุรกจิ ดังน้ันผู้ประกอบการจึงต้องศกึ ษาหาความรู้เพม่ิ เติมเกี่ยวกับการเป็นผู้ประกอบการเพิม่ เติม
เพอ่ื ใหธ้ ุรกิจดาเนนิ ไปตามจุดมงุ่ หมายท่ีตนเองได้กาหนดไว้
ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวงั
1.อธิบายความหมายและความสาคัญของธรุ กจิ ได้
2.บอกวตั ถุประสงค์และประโยชนใ์ นการประกอบธรุ กิจได้
3.บอกปัจจยั ในการประกอบธุรกิจได้
4.อธิบายโครงสรา้ งระบบธรุ กิจได้
5.บอกประเภทธรุ กจิ และรปู แบบการดาเนนิ ธรุ กจิ ได้
6.มีการพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ความมีมนุษยสัมพันธ์ ความสนใจใฝ่รู้ ความมวี ินยั การละเว้นสงิ่ เสพติด
และการพนัน ความรับผิดชอบ ความรักสามคั คี
สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายและความสาคัญของธรุ กจิ
2. วัตถุประสงค์และประโยชน์ในการประกอบธรุ กจิ
3. ปจั จยั ในการประกอบธรุ กิจ
4. โครงสรา้ งระบบธุรกจิ
5. ประเภทธุรกิจ และรปู แบบการดาเนินธรุ กจิ
การเรยี นการสอน
1.ครูและผเู้ รียนสนทนากนั วา่ ธุรกิจ (Business) เป็นกจิ กรรมตา่ ง ๆ ที่ก่อให้เกดิ การผลิตสนิ ค้าและบริการ
โดยมีการซือ้ ขายแลกเปล่ยี นกัน และมวี ตั ถุประสงค์เพ่อื ต้องการประโยชน์ หรือกาไรจากการกระทากจิ กรรมน้ัน
2.ครูเลา่ เร่อื งผปู้ ระกอบการที่ประสบความสาเร็จในการประกอบอาชีพในลกั ษณะตา่ ง ๆ และให้ผู้เรียน
แสดงความคดิ เห็น เพ่ือเชื่อมโยงเขา้ สู่เนอ้ื หา
3.ครแู สดงรูปภาพเกี่ยวกบั ธรุ กจิ
ข้ันสอน
3.ครูผสู้ อนใชเ้ ทคนิคโดยการอธบิ ายความหมายและความสาคญั ของธรุ กิจ พร้อมแสดงรูปภาพประกอบ เพ่อื
สอ่ื ความรู้ ความเข้าใจ และสามารถฝกึ ทักษะการเรียนรู้ในเร่อื งตอ่ ไปนี้ไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ โดยความต้องการ
ขัน้ พ้ืนฐานของ Maslow’s Hierarchy of Needs
4.ครูและผเู้ รียนอธิบายวัตถุประสงคแ์ ละประโยชน์ในการประกอบธุรกจิ พร้อมใชส้ ่ือ Power Point
ประกอบการเรยี น โดยการประกอบธรุ กจิ ต่าง ๆ ไม่วา่ จะเป็นธุรกจิ ประเภทใดก็ตาม สิง่ ท่ีผปู้ ระกอบธุรกิจตอ้ งการ
คอื กาไรและยังมีสงิ่ อ่ืนอีกท่ีธุรกจิ จะต้องคานึงถงึ เชน่ ความรบั ผิดชอบต่อผู้บริโภค ความรับผิดชอบตอ่ สังคม ความ
รบั ผิดชอบต่อลูกจา้ งพนักงาน ฯลฯ
5.ครูและผ้เู รยี นรว่ มกนั อธบิ ายปจั จัยในการประกอบธุรกจิ โดยใช้สือ่ Power Point ประกอบการเรยี น
6.ครแู ละผู้เรียนใชส้ ื่อ Power Point ประกอบเพ่ือเรียนเร่ืองโครงสร้างระบบธรุ กิจ โดยการจัดการธุรกจิ เพื่อ
ใชป้ จั จัยการผลิตต่างๆ ผลิตสนิ คา้ และบริการเพ่ือท่ีจะจดั จาหน่ายให้กับผูบ้ ริโภคทเ่ี ป็นเป้าหมายจะได้รายได้ เขา้ มา
ในองค์การธุรกิจธุรกจิ จะทารายไดน้ น้ั มาจัดสรรให้กบั เจ้าของปัจจยั การผลิตตา่ ง ๆ และอีกส่วนหน่ึงจะนาไปลงทนุ
ตอ่ เพ่ือการขยายกิจการภายใต้ส่งิ แวดล้อมภายในและภายนอกองค์กร ซง่ึ จะครบวงจรของธุรกจิ อย่างง่าย ๆ
เพอื่ นำไปจำหน่ำย รำยได้ จดั สรรรำยได้
(กำรตลำด วธิ ีกำร) Income
สิง่ แวดลอ้ มภายใน (Internal Environment)
สิ่งแวดล้อมภายนอก (External Environment)
7.ครูและผู้เรียนร่วมกนั อธบิ ายประเภทธรุ กิจ และรูปแบบการดาเนนิ ธรุ กจิ โดยใชส้ ือ่ Power Point และรปู ภาพ
ประกอบ โดยการแบง่ ประเภทของธุรกิจแบ่งได้หลายลกั ษณะ เช่น แบ่งตามลกั ษณะการดาเนนิ งาน แบง่ ตาม
ลกั ษณะความเป็นเจ้าของ แบง่ ตามลกั ษณะของการประกอบการ หรือแบ่งตามลกั ษณะการจดั จาหน่าย ฯลฯ ซง่ึ แต่
ละประเภทตา่ งกม็ ีแนวคดิ เหน็ ท่ีแตกต่างกนั ออกไป
19. แบบฝกึ หัด
1. จงบอกแนวคดิ ในการดาเนินธุรกิจเพื่อใหเปาหมายไปสูผูบริโภคมาใหเขาใจ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………..
2. จงบอกแนวทางในการเปนผูประกอบการในแตละดานมีอะไรบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………..
3. การวเิ คราะหการเปนผูประกอบการในดานการศกึ ษาตนเองน้นั ควรจะวิเคราะหส่งิ ใดบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………..
4. การศึกษาธุรกจิ ที่จะดาเนินการนน้ั ควรจะศึกษาเรื่องใดบาง
ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………………
5. รปู แบบของกิจการเจาของคนเดยี วมลี กั ษณะอยางไรบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………..
6. รูปแบบของกจิ การหางหุนสวนมีลักษณะอยางไรบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………..
7. จงบอกคุณสมบตั ิของผูประกอบการ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………..
8. หลงั จากตรวจสอบคณุ สมบัตติ างๆ ทผี่ ูประกอบการควรมีแลว ควรจะเรมิ่ ตนธรุ กิจอยางไรบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………..
9. ตนทุนการผลิต (Cost of Production) ประกอบดวยสิง่ ใดบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………..
10. จงบอกหนาท่ขี องผูประกอบการในการดาเนนิ ธุรกจิ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………..
เฉลยแบบฝึกหดั
1. จงบอกแนวคดิ ในการดาเนินธุรกจิ เพื่อใหเปาหมายไปสูผูบรโิ ภคมาใหเขาใจ
ตอบ แนวคิดในการดาเนนิ ธุรกจิ เพื่อใหเปาหมายไปสูผูบริโภค มดี ังน้ี
1. ยึดม่ันหลกั การความตองการผูบรโิ ภค (Consumer Command) และความตองการสินคา (Product
Command) โดยศกึ ษาสนิ คาเกษตรท่ีมีโอกาสเพม่ิ มลู คาดวยการแปรรูปเปนผลติ ภณั ฑ
2. ศึกษากลุมสินคาในตลาดท่ีมยี อดจาหนายไมมากและมีคูแขงขันนอย เพ่ือสรางตลาดเฉพาะ (Niche
Market) ใหกับสินคาท่ีจะอยูไดนานและขยายตัวไดดี
3. คัดเลอื กและพัฒนาสินคาที่ใหโอกาสกับผูบรโิ ภคและมตี าแหนงทางการตลาดทดี่ ี
4. พัฒนาคณุ ภาพและมาตรฐานสนิ คาตามเง่ือนไขของหนวยงานราชการและมาตรฐานระหวาง ประเทศ
5. การใชความรูทางวชิ าการเพือ่ พฒั นาผลิตภัณฑไดอยางตอเน่ือง เชน ผลิตภณั ฑเนื้อจระเขท่ีให คุณคา
ดานอาหารและยาพรอมกันในการปองกันโรคหอบหืด เปนตน
2. จงบอกแนวทางในการเปนผูประกอบการในแตละดานมีอะไรบาง
ตอบ แนวทางในการเปนผูประกอบการในแตละดานไดแก
1. รจู กั ตน
2. รขู อมูลของลูกคา
3. รขู อมูลของคูแขง
4. รนู โยบายสงเสรมิ จากภาครฐั บาล
5. วางแผนการเงินในระยะยาว
6. การทาบัญชี
7. การบรหิ ารที่มีประสิทธภิ าพ
8. ขายสนิ คาหรอื บริการที่มีคุณภาพ
9. จางบุคลากรทเ่ี หมาะสม
10. เลือกทาเลท่ีต้ังทเี่ หมาะสมกับสนิ คาหรือบริการ
3. การวเิ คราะหการเปนผูประกอบการในดานการศกึ ษาตนเองนั้น ควรจะวิเคราะหสิง่ ใดบาง
ตอบ การวิเคราะหการเปนผูประกอบการในดานการศกึ ษาตนเองนน้ั ควรจะวิเคราะหดังน้ี
1. ความรูความสามารถและประสบการณ
2. เงินลงทุน
3. ผรู วมงานหรอื ผูรวมลงทนุ
4. จุดแขง็ และจุดออนของตนเอง
5. นสิ ัยรกั การทางาน
6. ทัศนคตใิ นการประกอบธรุ กิจ
7. อื่นๆ เชน ความรอบรูในเทคโนโลยที ใี่ ช แบบแผนกระบวนการของการประกอบธรุ กิจ
4. การศึกษาธุรกจิ ท่ีจะดาเนินการนั้น ควรจะศึกษาเร่ืองใดบาง
ตอบ การศกึ ษาธุรกจิ ท่จี ะดาเนนิ การ ส่งิ ท่ตี องศึกษามีดังนี้
1. สภาพแวดลอม โอกาสและสถานการณของธุรกจิ ทจ่ี ะดาเนนิ การวามีปจจยั ใดทีเ่ อื้ออานวยเพ่ือ สรปุ หา
โอกาสและความเปนไปได
2. ประเภทของธรุ กจิ นัน้ เปนแบบอุตสาหกรรมการผลติ การบรกิ าร หรือการคาสงคาปลกี
3. สินคา/ผลติ ภัณฑ มีความแตกตางและมีความเดนอยางไร ทาใหเหนือกวาคูแขงขันไดหรอื ไม
4. การหาทต่ี ้ังของธุรกจิ และเลอื กทาเลท่ีเหมาะสม
5. การวางแผนการเงนิ และการหาแหลงเงนิ ทนุ เพิม่ เติม
6. การดาเนินการดานธรุ กิจ
7. แผนการตลาด ตองพจิ ารณาวาตลาดอยูที่ใด พฤติกรรมของผูบริโภคเปนอยางไร ใครคอื ลกู คา
8. แผนการผลติ มเี ทคโนโลยีการผลติ อยางไร กระบวนการจะออกแบบไดอยางไร
9. แผนการจดั การดานงานบุคคล ขดี ความสามารถและขอจากดั ของบุคลากรทีต่ องการ
10. โอกาส การสงเสริมจากภาครฐั ตลอดจนขอจากัดตางๆ ทีเ่ ปนรปู ธรรม
11. การจดทะเบยี นธรุ กจิ
12. การหาวธิ ีบรหิ ารจัดการ
13. อ่ืนๆ เชน การทบทวนแผนการ ระยะเวลาทใ่ี ชดาเนนิ การจนถึงการเริ่มตนธรุ กิจที่แทจรงิ ได
5. รูปแบบของกิจการเจาของคนเดยี วมลี กั ษณะอยางไรบาง
ตอบ กจิ การเจาของคนเดียวมีขอดี คือ มีอิสระในการตดั สินใจไดอยางเต็มท่ี
ลกั ษณะการดาเนินงาน โดยบุคคลคนเดยี วเปนผูรบั ผิดชอบในหนาทีก่ ารงานตางๆ ของธรุ กิจ เพยี งผูเดียว
และไดรับผลตอบแทนแตเพียงผูเดียวไมวาจะกาไรหรือขาดทนุ
ความรับผดิ ชอบในหนสี้ ิน ไมจากัดจานวน
กรณีทเ่ี จาของกจิ การตาย ลมละลาย ถึงแมวาจะมีทายาทดาเนินงานตอก็ตาม จะตองเลิกกิจการ
เนือ่ งจากตามกฎหมายถือไดวาเปนผูประกอบการรายใหม
6. รูปแบบของกิจการหางหุนสวนมลี กั ษณะอยางไรบาง
ตอบ หางหุนสวนมลี ักษณะการดาเนินงาน เปนกิจการทมี่ ีหุนสวนอยางนอย 2 คน โดยหุนสวนทง้ั หมดจะ
ตองมสี ญั ชาติไทยซ่ึงมักจะเปนคนรูจกั กันเอง ไมเปดขายตอสาธารณะ
ความรบั ผดิ ชอบในหน้สี ิน หางหุนสวน จะมีหุนสวนอยู 2 จาพวก คือ
1) หนุ สวนจากัดความ รบั ผดิ ชอบ จะรับผิดชอบไมเกินจานวนเงินท่ตี นตกลง และ
2) หนุ สวนไมจากัดความรับผิดชอบ จะรับผิดชอบ ในหนีส้ ินของหางโดยไมจากัดจานวน
การเลิกกจิ การ เลกิ โดยผลของกฎหมายสญั ญา กาหนดระยะเวลา หรอื ถาหุนสวนคนใดคนหนึ่ง ตาย
ลมละลาย หรอื เปนผูไรความสามารถก็ถือวาหุนสวนนน้ั เลิกไป
7. จงบอกคุณสมบตั ิของผูประกอบการ
ตอบ คุณสมบตั ขิ องผูประกอบการทีด่ ตี องพิจารณาคุณสมบตั ิดงั นี้
1. มีความมุงมนั่ ท่ีจะประสบความสาเรจ็
2. มคี วามม่นั ใจในตนเอง
3. มีแนวคดิ เก่ยี วกับธุรกิจของตนเองชัดเจน
4. มีแผนงานท่ีเปนระบบ หรือแผนธรุ กิจ
5. มีความสามารถบรหิ ารการเงนิ
6. มีความสามารถทางการตลาด
7. มีความสามารถในการแขงขนั ได
8. มีแหลงสนับสนุนท่ดี ี
9. มีทักษะประสานงาน
10. มีการจัดองคกรท่ีเหมาะสม
8. หลงั จากตรวจสอบคณุ สมบัตติ างๆ ทผ่ี ูประกอบการควรมีแลว ควรจะเร่มิ ตนธรุ กิจอยางไรบาง
ตอบ หลงั จากตรวจสอบคณุ สมบตั ติ างๆ ทีผ่ ูประกอบการควรมแี ลว กจ็ ะเริ่มตนทาธรุ กจิ ดังนี้
ข้นั ที่ 1 เลือกธุรกจิ ทเ่ี หมาะสมและมีความพรอมรวมถงึ พิจารณาความเปนไปไดในการดาเนนิ การ
ขัน้ ท่ี 2 จัดสรรบทบาท แบงหนาท่ีและความรับผิดชอบแตละบคุ คลใหชดั เจนเพ่ือใหดาเนินงานสะดวก
ขั้นที่ 3 วางแผนการดาเนนิ การ กอนทีจ่ ะวางแผนการดาเนินงานไดนั้น จะตองทราบขอมูลเก่ยี วกบั
ผลสารวจตลาดวาใครเปนผูซื้อ ซอ้ื อยางไร ซือ้ ทไ่ี หน ราคาเทาไร มีผูซ้ือมากนอยแคไหน ซ้ื
อมากเทาใด
ขอมูลคูแขงขัน คแู ขงสาคัญคือใคร จุดออนจดุ แข็งคืออะไร ใชวิธกี ารขายอยางไร
วิธีจดั การกบั ตนทุน
การดาเนนิ การดานธรุ กรรมการเงิน
ข้ันท่ี 4 การวางแผนธุรกจิ ในกระบวนการวางแผนธุรกจิ พงึ คานึงถงึ สง่ิ สาคัญตอไปน้ี
เลอื กธุรกิจท่ีมเี อกลกั ษณเฉพาะ มุงเนนความสนใจที่ธรุ กิจที่ตนเองมคี วามรู ความชานาญ
ทาในสงิ่ ที่ทาไดดีทส่ี ุด
รจู กั ความพอดี
9. ตนทนุ การผลติ (Cost of Production) ประกอบดวยส่งิ ใดบาง
ตอบ ตนทนุ การผลิต คอื ปจจัยพ้นื ฐานสาคญั ในการผลติ สินคาหรือบริการปอนสูตลาด ประกอบดวย
ทดี่ นิ (Land) แรงงาน (Labor) เงินทนุ (Capital) ความรูความชานาญของผูประกอบธุรกิจ
(Entrepreneurial Ability) 22
10. จงบอกหนาท่ขี องผูประกอบการในการดาเนินธรุ กจิ
ตอบ หนาที่ของผูประกอบการในการดาเนินธุรกจิ มดี ังนี้
1. การผลติ (Production)
2. การจัดหาเงินทนุ (Capital)
3. การจดั หาทรัพยากรบุคคล 4. การบรหิ ารการตลาด
17. ใบงาน
หนว่ ยการสอนท่ี 4
ชื่อหน่วยการสอน ธุรกิจและการเป็นผปู้ ระกอบการ
จุดประสงค์ เพอ่ื
1. สร้างความรู้ความจาใหก้ ับผู้เรียน
2. เพ่มิ การฝึกปฏบิ ตั ิแก่ผู้เรยี น
3. สร้างความรับผดิ ชอบ ความอดทน ความสนใจใฝเ่ รยี นรู้
ลาดับกิจกรรม/ลาดบั การปฏบิ ัติ
1. ผู้เรยี นศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้
2. ผเู้ รียนศกึ ษาหาความรู้จากตาราเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 การวางแผนเป้าหมายชีวิตดว้ ยวงจร
คุณภาพ 20001-1003 สานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์
3. หรือ ครูผสู้ อนบรรยายความรู้ เรื่อง การวางแผนเป้าหมายชีวติ ด้วยวงจรคุณภาพ
4. จดั ทาใบงานตามที่มอบหมาย (กาหนดเวลาจดั ทา 50 นาท)ี
5. สง่ งานใบงานที่มอบหมายกอ่ นหมดเวลาเรยี น (10 นาที หรอื เปน็ การบา้ น)
เกณฑ์การพจิ ารณา
1. สง่ งานตรงเวลานัดหมาย
2. จัดทาครบทุกข้อทีก่ าหนด
3. ทางานเป็นระเบยี บเรียบร้อย
ใบงานท่ี 4.1
เรื่อง กรณีศกึ ษาร้านขนมปงั สังขยา
ช่ือ-สกลุ ............................................................................................เลขท่.ี ........ช้ัน.............. ............
คาช้แี จง อ่านกรณศี ึกษาดังต่อไปน้ี แลว้ สรุปสาระสาคัญของความเปน็ ผ้ปู ระกอบการที่ประสบความสาเร็จ
รา้ นขนมปังเป็นธรุ กจิ ที่เรม่ิ ตน้ จากป้าเสรมิ สขุ เปน็ ลูกจ้างร้านขนมปงั มาก่อน 10 ปี ได้ลาออกมาเปดิ รา้ น
ขายของตนเอง ตอนแรกใช้รถเข็นขายเพราะมที ุนไม่พอ จงึ เพิ่มสินค้าทขี่ ายให้มากขึ้น แตม่ ีปญั หาถูกเทศกิจจบั
หลายครง้ั จงึ หาทาเลเปดิ รา้ นขายแทนเมื่อปี 2540 บริเวณข้างหา้ งสรรพสนิ คา้ แหง่ หนึง่ โดยมีอาหารเพิ่มขนึ้ เร่ือยๆ
เช่น ขนมปงั มหี นา้ ใหเ้ ลือกหลายมากข้นึ สังขยา โรยน้าตาล ราดนม เป็นตน้ ตอนแรกกจิ การไม่ค่อยดีนกั เน่ืองจาก
เศรษฐกิจถดถอย ตอ่ มาเรม่ิ มีชอื่ เสียงแพร่กระจายไปยงั ลูกคา้ ต่างๆ ในกรุงเทพฯ เน่ืองจากลกู คา้ มีการบอกกนั ปาก
ต่อปากกิจการจึเติบโตขนึ้ รวดเรว็ ตอ่ มาทางรา้ นกถ็ ูกเจา้ ของห้องเชา่ ขอคนื ท่ี จึงหาทาเลใหมอ่ กี คร้งั และมรี า้ นเปน็
ของตนเองโดยกู้เงนิ จากธนาคารมาซ้ืออาคารพาณิชย์ 4 ล้านบาท ในบรเิ วณใกลเ้ คยี งและตกแตง่ ร้านให้มีรปู ลักษณ์
ใหม่ ซึง่ มีการปฏิบัตดิ ังน้ี
ปรบั ปรงุ ภำพลักษณ์ใหม่ให้ดีกว่ำเดิม เมื่อจะเปิดรา้ นจงึ มีแนวคดิ ที่จะพฒั นา เปลี่ยนแปลง ภาพลักษณ์
ของกจิ การใหด้ ีข้นึ จึงตกแต่งรา้ นใหส้ มัย สะอาดตา หรูหรา ซ่งึ ไดผ้ ลตอบรับท่ีดีมาก ในวนั เปดิ ร้านวันแรกก็มีลกู ค้า
จานวนมากเข้ามาในรา้ นจนเต็มร้านซึ่งทาให้ประทับใจให้กับผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก
ใหค้ วำมสำคญั กับกำรพัฒนำสนิ คำ้ และควบคมุ คุณภำพ รายการอาหารจะทาการปรับปรงุ เพมิ่ ขึน้ เรือ่ ยๆ
และได้เพ่มิ เบเกอร่แี ละเคร่ืองดืม่ เพิม่ เขา้ มา ในการพฒั นาสินคา้ ใหมจ่ ะใช้วธิ ไี ปทดลองชิมที่รา้ นอน่ื ๆ ที่มชี ือ่ เสียง
แลว้ นามาปรบั ปรงุ รสชาติและราคาให้เหมาะสมกับร้าน เพ่ือให้รองรับต่อความต้องการของลกู คา้ ได้ดขี ้ึน สาหรับ
รายการอาหารทข่ี ายดีทส่ี ดุ ในร้านก็ยงั คงเป็น นมสดและสงั ขยา ซ่ึงทางร้านมีจาหนา่ ยและสร้างชื่อเสยี งให้กบั รา้ น
มานานแลว้ ทางดา้ นการผลิตมีการคัดเลือกวตั ถดุ บิ ทม่ี ีคุณภาพอยา่ งเขม้ งวด และทางรา้ นจะไม่ใส่สารกนั บดู ใน
อาหาร โดยอาหารทจ่ี าหน่ายต้องผลิตใหม่ๆ สดๆ อย่เู สมอ และจะเข้าควบคุมการผลติ ทุกขนั้ ตอน
เน้นทคี่ ุณภำพ ไม่เนน้ ปริมำณ จะเปิดสาขาในกรุงเทพ 2-3 สาขาเท่านัน้ เพราะไม่ต้องการใหร้ ้สู กึ ว่าเหน็
รา้ นจนเคยชิน แตต่ ้องการให้ลูกค้าร้สู กึ ว่าต้องมากินให้ถึงท่ีจึงจะคุม้ คา่ และให้ความรู้สึกประทับใจกบั ลกู ค้าได้
ดีกวา่
ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ร้านไม่มีนโยบายทีจ่ ะเปิดแฟรนไชส์ เน่ืองจากไมพ่ ร้อมเพราะต้องอาศยั การดูแล
การควบคุมคณุ ภาพและรสชาตมิ าตรฐาน โดยมีเทคนิคการทาธรุ กิจวา่ จะทาอะไรต้องทาแบบค่อยเปน็ ค่อยไป
เพื่อให้มีความมนั่ คงจะไดไ้ ม่มีปญั หา
กำรบรหิ ำรบคุ ลำกร ป้าเสริมสุขใช้ประสบการณ์ท่ีทางานเปน็ ลกู จ้างมา 10 ปี นามาประยกุ ต์ใช้ในการ
บรหิ ารแบบครอบครวั เนน้ ให้ทุกคนมีความซื่อสตั ย์ รกั ษาความสะอาด ให้บรกิ ารลูกค้าด้วยความจรงิ ใจและสนุก
กบั งานที่ทา
ปจั จัยควำมสำเรจ็ การทีร่ ้านปา้ เสริมสุขดาเนนิ กิจการจนประสบความสาเร็จ นอกจากความอร่อยและ
คุณภาพการผลิตไวไ้ ด้แล้วกค็ ือ สามารถสรา้ งตราสนิ ค้าให้อยู่ในใจของผบู้ รโิ ภคไดส้ าเรจ็ ซง่ึ ต้องใช้เวลามานาน
ผนวกกบั ความขยันอดทน มมุ านะ ต้ังใจทางานและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค
ให้สรุปสาระสาคญั ว่าปจั จัยแห่งความสาเรจ็ ของผู้ประกอบการรายนี้ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง
............................................................................................................................. ............................................
...แ...น..ว..ต...อ..บ..ส...ร.ป.ุ ..ส..า..ร..ะ..ส..า..ค..ญั...ว..่า..ป..ัจ..จ..ย.ั ..แ..ห..่ง..ค..ว..า..ม..ส...า.เ..ร..จ็ ..ข..อ..ง..ผ..้ปู...ร.ะ..ก...อ..บ..ก...า.ร..ร..า..ย..น..ี.้ไ.ด...้แ..ก..่...............................................
...เ..ป..ิด..ร..า้ .น..ข...น้ึ จ..มา..กา..จค..าว.น.า.ว.ม.น.น..มิย..าม.ก.ใ..น.จ.ก.งึ .าแ..รข.บ.ง่..รข.โิ.นั.ภ.ก.ค.นั.อ.อ.า.ย.ห..า่า.ง.ร.รป..นุ .ร.แะ..รเ.ภง..ท.แ..ขล..นะ..กม..ม็ป..ผีั.ง.ทู้ส..งัล่.ี .ขม้..ย.เ.ลา..ทกิ ..กม่ี..จิมี..กา..าก..รข.ไ.น้ึ.ป..จ.ท.า.า.น.ใ.หว..นผ้..มปู้..า.รก.ะ.ก.ส.อ.ง.่ิ บ.ท..กจ่ี..าะ.ร.ท.ห.า.ล.ใ.หา..ยก.้ .ร.จิ .าก.ย..าใ.ร.ห.ส.ค้.า.ว.ม.า.า.มร..สถ..นย..ในื.จ
...ห...ย..ดั..อ..ย..ู่ไ.ด...ใ้ .น..ธ..รุ..ก..จิ ...ใ.น..ก..ร..ณ...ีศ..กึ..ษ...า.น...้ี .......................................................................... ............................................
.................1...ต..อ้..ง..ส..ร.า.้ .ง..ช..่อื..เ.ส..ยี..ง...ภ..า..พ..ล..กั..ษ...ณ..์..แ..ล..ะ.ต..ร..า..ส..นิ ..ค..า้..ใ.ห..ส้..า..ม..า..ร.ถ...ค..ร.อ..ง..ใ.จ..ข..อ..ง..ผ..บู้..ร..โิ.ภ...ค...............................................
.................2....ม..สี..ตู..ร..อ..า..ห..า..ร.เ.ฉ...พ..า..ะ.ต...วั .ท...อ่ี ..ร.อ่..ย..ไ..ม..เ่.ห...ม..อื ..น..ใ.ค..ร................................................ ............................................
.................34.....ปค..วร..บบั..ปค..มุ.ร.งุ.ค.พ.ณุ .ฒ.ั .ภ.น.า.า.พ.ส.ก.นิ.า.ค.ร.า.้ผ.ใ.ลห..ติ .ม.ท.ๆ่ .กุ..ขอ..ยน.ั้ .เู่.ต.ส.อ.ม.น.อ..เ.เพ.พ..่อื.อ่ื .ใ.ให.ห.ร.้ส้.ส.อ.ช.ด.า.ค.ต.ล.คิ.อ้.ง.ง.ท.ก.ไ่ี.บั.ด.ค.ม้ .ว.า.า.ต.ม.ร.ตฐ..าอ้..นง..กถ..ากู..รใ.ข.จ.อล..งูก..ก.ค.ลา้.มุ่.ม..ลา..ูกเ.ป.ค.็น.า้ .เเ.ว.ป.ล.้า.า.ห.น.ม.า.า.น.ย.....................
5.มกี ารพฒั นารปู แบบของรา้ นใหท้ นั สมยั ปรบั ปรงุ อุปกรณ์การผลติ บรรจภุ ณั ฑใ์ หส้ วยงาม
6.มตี ราสญั ลกั ษณ์รา้ นเป็นของตนเอง บรรจภุ ณั ฑจ์ ะมตี ราสญั ลกั ษณ์รา้ นตดิ อยู่ ทาใหล้ ูกคา้ จดจางา่ ย และสามารถ
สรา้ งภาพลกั ษณ์และตราสนิ คา้ ไดส้ าเรจ็
7.สรา้ งความประทบั ใจในการบรกิ าร พนักงานซ่อื สตั ย์ สะอาด บรกิ ารลกู คา้ อยา่ งจรงิ ใจและสนุกกบั งานทท่ี า
ใบงานท่ี 4.2
เรอื่ ง คุณลักษณะพน้ื ฐานของผ้ปู ระกอบการ
ชอ่ื -สกลุ ............................................................................................เลขท่.ี ........ช้นั .............. ............
คาชแี้ จง ให้พิจารณารปู ภาพข้างลา่ งน้ี แลว้ คิดว่าผู้ประกอบการควรนาคุณลกั ษณะพื้นฐานด้านใดมาใชบ้ า้ ง
............................................................................................................................. ..........................................
.......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................
............................................................................................................................. ............................................
.......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ..........................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
ใบงานท่ี 4.3
เรอ่ื ง คณุ ลกั ษณะพน้ื ฐานของผู้ประกอบการ
ชื่อ-สกลุ ............................................................................................เลขท.่ี ........ช้นั .............. ............
คาช้แี จง ใหพ้ จิ ารณารูปภาพศลิ ปะจากกอ้ นดนิ .ดอกไมป้ ระดิษฐจ์ ากบา้ นสวน
สม้ ‘กล่มุ สตรแี มบ่ ้านดอกไม้ประดษิ ฐ์’ จังหวดั สมุทรสาคร
คาถาม: จากรปู ภาพ แสดงว่าผปู้ ระกอบการ มีคณุ สมบตั ิหรือคณุ ลักษณะอยา่ งไรบ้าง
..................................................................................................................... ....................................................
............................................................................................................................. ............................................
ใบงานที่ 4.4
เรื่อง การวเิ คราะห์ตนเองเพอื่ เป็นผู้ประกอบการ
ชอ่ื -สกลุ ............................................................................................เลขท่ี.........ชั้น.............. ............
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเลือกธุรกิจทีต่ นเองรักและชอบมากท่สี ุดมา 1 ประเภท โดยคาดว่าเม่ือจบการศึกษาแลว้
จะต้องทาให้ประสบความสาเรจ็ แลว้ ใหว้ เิ คราะหต์ นเองเพ่ือเปน็ ผปู้ ระกอบการในธรุ กิจน้ัน
ชื่อธรุ กจิ ..................................................
การวิเคราะห์ตนเองเพ่อื เปน็ ผ้ปู ระกอบการ
จดุ แขง็ จดุ อ่อน
โอกาส อปุ สรรค
ใบงาน 4.5
เรือ่ งธุรกิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ
ชื่อ-สกลุ ………………………………………………………………………..เลขที่………..ชนั้ …………
คาชี้แจง ให้ผเู้ รียนปฏิบตั กิ จิ กรรม ดงั ต่อไปนี้
1.อ่านกรณีศกึ ษา “ตลาดนัดสวนจตุจกั ร”
2.ใหเ้ ลอื กธรุ กิจ 1 ชนิด เพ่ือประกอบธุรกิจในตลาดนดั สวนจตจุ กั ร
3.จงบอกวตั ถปุ ระสงค์และประโยชน์ในการประกอบธุรกิจท่ีเลอื กนี้
4.กาหนดปัจจัยในการประกอบธรุ กิจที่เลือก
5.ใหก้ าหนดประเภทธรุ กิจ และรูปแบบการดาเนินธรุ กิจ
6.เขียนโครงสร้างระบบธรุ กจิ ของตนเอง
7.วิเคราะหก์ ารเปน็ ผปู้ ระกอบการ
กรณศี กึ ษา “ตลาดนดั สวนจตุจักร”
ตลาดนดั จตุจักร หรือ “JJ“ เป็นตลำดนัดท่ีรวบรวมสนิ ค้ำมำกมำย ไดแ้ ก่ ผักและผลไม้ เสอื้ ผ้ำ เครื่องแต่ง
กำยแฟชน่ั เครื่องประดับ เคร่ืองใช/้ ตกแตง่ บ้ำน สนิ ค้ำหตั ถกรรม ควำมงำม/สขุ ภำพ งำนศลิ ป์ ของเกำ่ /ของสะสม
เซรำมคิ เบญจรงค์ สตั วเ์ ลย้ี ง/อุปกรณ/์ ยำ ต้นไม้และอุปกรณส์ วน หนังสอื เก่ำและใหม่ อำหำรปรุง อำหำรสำเร็จรูป
อำหำรสด เครื่องดมื่ และสนิ ค้ำเบ็ดเตล็ด อีกท้งั กำรแสดงต่ำงๆ ทผ่ี ลัดเปล่ียนหมนุ เวยี นกันมำแสดงควำมสำมำรถ
ใหแ้ กผ่ ู้เยอื นได้ชน่ื ชมกันอย่ำงเพลินตำ ตลำดนมี้ ีอำยุนำนกว่ำ 60 ปี ปจั จุบนั กำรรถไฟแห่งประเทศไทยเปน็ ผ้ดู ูแล มี
หอนำฬิกำเปน็ จดุ นดั พบยอดนยิ ม
กำรตัง้ รำคำจะแบ่งตำมประเภทสนิ คำ้ ในรำคำตลำดและค่อนข้ำงต่ำ ถำ้ ซื้อสินคำ้ หลำยชิ้นจะมีสว่ นลดตำม
ปรมิ ำณกำรซ้อื จะเน้นรำคำเลขคี่ที่ลงท้ำยด้วย 9 เช่น 99, 199, 299 เปน็ ต้น จะแบง่ ร้ำนเป็นล็อค ซึ่งเปดิ ให้เช่ำซ้อื
หรอื ซอ้ื ขำด ซึ่งมรี ้ำนค้ำกวำ่ เกำ้ พันร้ำนใน 27 โครงกำร จะมกี ำรสง่ เสริมกำรตลำดโดยพนักงำนขำยจะเปน็ ผูต้ ระ
โกนเรยี กลูกคำ้ และใช้เครื่องเสียงช่วยเพื่อเชิญชวนให้มำซือ้ สนิ คำ้ โดยต่อรองรำคำได้และจะลดรำคำชว่ ง 18.00 น.
ลกู ค้ำมักจะถูกมิจฉำชีพลว้ งกระเป๋ำ ตลำดจตุจกั รจะมีเวลำเปิด-ปิดในวนั พธุ -วันพฤหสั สบดี ตลำดนัดต้นไมเ้ วลำ
05.00-18.00 น. วันศกุ ร์ ตลำดนดั เซรำมิคเวลำ 08.00-21.00 น. และวนั เสำร์–อำทิตย์ ตลำดนดั ท่วั ไปเวลำ
08.00-21.00 น. ลูกคำ้ สว่ นมำกจะเปน็ กลมุ่ คนวัยทำงำนที่มำซือ้ สนิ ค้ำหลำยประเภทได้ครบถ้วนภำยในวันเดียว
และมีกลุ่มทวั ร์หลำยกล่มุ และกลมุ่ ท่ีมีรำยไดป้ ำนกลำง นอกจำกน้ยี งั มปี ัญหำเร่ืองอำกำศรอ้ น หอ้ งน้ำน้อยไม่
สะอำด ทำงเดินแออัดคับแคบ สถำนทไี่ มส่ ะอำด ดว้ ยควำมหลำกหลำยของสินค้ำและควำมใหญ่ของตลำดทำให้
ลูกคำ้ เกิดควำมสับสนหำสินค้ำหรือหำรำ้ นค้ำไม่
บริการตา่ งๆ ภายในตลาดนดั จตจุ ักร
ประชำสัมพนั ธ์ ตำมหำญำติ ถำมร้ำนคำ้ ของสูญ ธนำคำร ได้แก่ ทหำรไทย กรุงเทพ ออมสนิ ไทย
หำย เปิดวันพุธถงึ อำทิตย์ เวลำ 8.00-20.00 น. พำณชิ ย์ กสกิ รไทย
ประชำสัมพนั ธป์ ระตู 1 สอบถำมร้ำนค้ำ แผนท่ี รถไฟฟ้ำว่ิงรอบๆ ภำยในตลำดนดั จตุจกั รวัน
ตลำดนัด เปิดเสำร์ - อำทิตยเ์ วลำ 10.00-17.00 น. เสำร์-อำทติ ย์ เวลำ 10.00-17.00 น.
เบอร์โทร Call Center : 1690 กด 6 หอ้ งนำ้ ห้องพยำบำล
สถานทใี่ กลเ้ คยี ง
จตุจักรพลำซำ่ รำ้ นอำหำร ชมรมมงั สวริ ตั ิ ซันเดย์ มอลล์
จตจุ ักรตลำดนดั ติดแอร์ (JJ จตจุ กั ร พพิ ิธภัณฑเ์ ด็ก กรุงเทพมหำนคร
Mall) ตลำด อ.ต.ก. สวนจตุจักร
จตุจกั ร เดย์ แอนด์ ไนท์ สวนวชริ เบญจทัศ สถำนีขนสง่ หมอชติ
สวนสมเด็จพระนำงเจ้ำสริ ิกิตฯิ์ ลำนจอดรถ Park & Ride ศนู ย์กำรค้ำ อนิ สแควร์
จตจุ ักร สแควร์
การเดนิ ทางมาตลาดนัดสวนจตจุ ักร มีดงั น้ี
1.รถไฟฟา้ BTS / รถไฟฟา้ ใต้ดนิ
2.รถโดยสารประจาทาง
รถธรรมดำ: 3, 8, 26, 27, 28, 29, 34, 38, 39, 44, 52, 59, 63, 77, 90, 96, 104, 108, 122, 126,
134, 136, 138, 145, 182, 188
รถปรับอำกำศ 3, 28, 29, 34, 39, 44, 59, 63, 77, 104, 126, 134, 138, 145, 157, 177, 502, 503,
509, 510, 512, 517, 524, 529
3.รถส่วนตัว มีทจี่ อดรถนอ้ ย สำมำรถจอดรถได้ 7 จุด คือ
1.บรเิ วณรอบตลำด อ.ต.ก (คิดค่ำจอด) 5.PARK & RIDE (คิดค่ำจอด)
2.ตรงขำ้ มเยื้องกบั ตลำดนดั จตจุ กั รพลำซ่ำ (คิดค่ำจอด) 6.สวนจตจุ กั ร (ฟรี)
3.ภำยในตลำดนดั จตจุ ักรพลำซ่ำ (คดิ ค่ำจอด) 7.ลำนจอดรถขำ้ งสถำนรี ถไฟฟำ้ BTS (ฟรี)
4.พพิ ธิ ภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหำนคร (จอดฟร)ี
ท่ีมา http://www.painaidii.com/business
เฉลยใบงานท่ี 1
(อยใู่ นดลุ พินิจของผู้สอน)
แบบสรุปคะแนน
ชดุ ที่ 1
รายวชิ า ธรุ กจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ
คะแนน กจิ กรรมที่ ใบงานที่ แบบทดสอบ แบบทดสอบ คะแนน
กอ่ นเรยี น หลงั เรียน ระหวา่ ง
123 1 เรยี น
คะแนนเตม็ 5 10 10 15
คะแนนที่ได้
คดิ เปน็ ร้อย = ไมผ่ า่ นกิจกรรม
ละ
หมายเหตุ : = ผา่ นกิจกรรม
(ลงช่ือ) ....................................... ผปู้ ระเมนิ
(นายวจิ ิตร พลเศษ)
ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครชู านาญการ
เกณฑก์ ารประเมนิ แบบทดสอบก่อนเรยี นและแบบทดสอบหลงั เรยี น
ระดับคณุ ภาพ หมายถึง ดี
ระดบั 4 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ปานกลาง
ระดับ 3 7 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้
ระดับ 2 5 - 6 คะแนน
20. บันทึกผลหลงั การจดั การเรียนร้แู บบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชพี และบูรณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพียง
20.1 สรุปผลการจดั การเรยี นรู้
รายการ ระดับการปฏบิ ัติ
5432 1
ดา้ นการเตรียมการสอน
1. จัดหนว่ ยการเรียนรไู้ ด้สอดคล้องกับวตั ถุประสงคก์ ารเรียนรู้
2. กาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ครอบคลุมท้ังดา้ นความรู้ ด้านทักษะ และดา้ นจติ พสิ ัย
3. เตรียมวสั ดุ-อปุ กรณ์ สื่อ นวตั กรรม กิจกรรมตามแผนการจดั การเรียนรู้ก่อนเข้าสอน
ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
4. มีวธิ กี ารนาเขา้ สูบ่ ทเรยี นท่ีน่าสนใจ
5. มีกิจกรรมท่ีหลากหลาย เพื่อช่วยใหผ้ เู้ รยี นเกิดการเรียนรู้ ความเข้าใจ
6. จัดกิจกรรมทส่ี ่งเสริมให้ผู้เรียนคน้ คว้าเพ่ือหาคาตอบด้วยตนเอง
7. นักเรยี นมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
8. จัดกิจกรรมทเ่ี นน้ กระบวนการคดิ ( คิดวิเคราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )
9. กระต้นุ ให้ผู้เรยี นแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี
10. จดั กิจกรรมการเรียนรทู้ เ่ี ช่ือมโยงกับชีวิตจรงิ โดยนาภมู ปิ ัญญา/บูรณาการเข้ามามสี ว่ นร่วม
11. จดั กิจกรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม
12. มีการเสริมแรงเมอื่ นักเรียนปฏบิ ตั ิ หรือตอบถูกต้อง
13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รียน
14. เอาใจใสด่ แู ลผู้เรยี น อย่างท่ัวถึง
15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาทกี่ าหนด
ด้านสือ่ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้
16. ใชส้ อ่ื ท่เี หมาะสมกบั กจิ กรรมและศักยภาพของผเู้ รยี น
17. ใช้ส่ือ แหล่งการเรียนร้อู ย่างหลากหลาย เช่น บุคคล สถานที่ ของจริง เอกสาร
สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ และอนิ เทอร์เนต็ เปน็ ตน้
ด้านการวดั และประเมนิ ผล
18. ผ้เู รียนมีสว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล
19. ประเมินผลอยา่ งหลากหลายและครบท้ังด้านความรู้ ทักษะ และจติ พสิ ัย
20. ครู ผ้เู รยี น ผู้ปกครอง หรือ ผูท้ ีเ่ ก่ยี วข้องมสี ว่ นร่วม ในการประเมิน
หมายเหตุ ระดบั การปฏบิ ตั ิ 5 = ปฏิบตั ดิ เี ยย่ี ม 4 = ปฏบิ ัตดิ ี 3 = ปฏบิ ัตพิ อใช้ รวม
2 = ควรปรบั ปรุง 1 = ไมม่ ีการปฏิบัติ ค่าเฉลี่ย
20.2 ปญั หาท่ีพบ และแนวทางแกป้ ัญหา
ปัญหาท่ีพบ แนวทางแกป้ ัญหา
ด้านการเตรยี มการสอน
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ด้านการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
ด้านส่อื นวตั กรรม แหลง่ การเรียนรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
ดา้ นการวดั และประเมินผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ดา้ นอืน่ ๆ (โปรดระบเุ ปน็ ข้อๆ) .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
ลงชือ่ ........................................................................ ครผู ู้สอน
(....................................................................)
ตาแหนง่ .......................................................................
............../.................................../....................
บันทกึ หลงั การสอน
ผลการใชแ้ ผนการเรยี นรู้
ความเหมาะสมของเวลา
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรงุ
ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรียนการสอน
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรุง
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………
ผลการเรยี นของผเู้ รยี น
ความตัง้ ใจของผ้เู รียน ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรุง
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรงุ
อุปกรณ์การสอน
มาก ดี
การเรยี นรขู้ องผูเ้ รยี น
มาก ดี
…………………………………………………………………………………………………………………………………….………
การสอนของครู
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรงุ
กิจกรรมการสอนท่ีกาหนดไว้ในแผนการจดั การ
เรียนรู้ ตรงตามแผนการจัดการเรียนรู้ ไมต่ รงตามแผนการจัดการเรยี นรู้
บนั ทกึ เพิม่ เตมิ
............................................................................................................................. ................................
………………………………………………
(นายวจิ ิตร พลเศษ)
ผูบ้ ันทกึ การสอน
แผนการจดั การเรียนรู้ แบบมุ่งเนน้ สมรรถนะอาชีพ
และบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
รหสั วชิ า 30200-0003 วิชา ธุรกจิ และการเปน็ ผูป้ ระกอบการ
หน่วยที่ 5 ชื่อหนว่ ย การจดั หาและการวางแผนทางการเงนิ
ช่อื เรอ่ื ง การจดั หาและการวางแผนทางการเงิน จานวน 6 ชว่ั โมง สอนคร้งั ที่ 11-12
1. สาระสาคัญ
บุคคลแต่ละคนย่อมมีเปา้ หมายในชีวิตแตกต่างกัน ดังนั้น จึงมีการวางแผนและการจัดการทาง
การเงินท่ีแตกต่างกันไปดว้ ย โดยตงั้ เป้าหมายใหส้ อดคล้องกับตนเองและสิ่งแวดล้อมทเ่ี หมาะสม ซึ่งการวางแผน
ทางการเงนิ เป็นการจัดเตรยี มขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ดา้ นการเงนิ ที่คาดวา่ จะเกดิ ขึน้ ในอนาคต แล้วนามากาหนดเพื่อเป็น
แนวทางในการดาเนินงาน ประสานข้อมลู ต่าง ๆ ให้สัมพนั ธ์กนั และมีประสิทธิผลมากทสี่ ดุ
2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรียนรู้
1. สามารถการวางแผนทางด้านการเงิน
2. สามารถอธบิ ายหลักการวางแผนทางการเงินและจดั การทางด้านการเงินของตนเอง
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 จุดประสงคท์ ั่วไป
3.1.1 มีความรแู้ ละเข้าใจเกี่ยวกบั การวางแผนทางดา้ นการเงิน
3.1.2 มีความรแู้ ละเขา้ ใจเก่ยี วกบั หลกั การวางแผนทางการเงินและจัดการทางด้านการเงินได้
3.2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม
3.2.1 สามารถการวางแผนทางการเงนิ
3.2.2 สามารถบอกหลักการวางแผนทางการเงิน
3.2.3 สามารถบอกการจัดการทางการเงิน
3.2.4 สามารถจัดการเงนิ สดและสนิ ทรัพย์สภาพคลอ่ งของตนเองได้
3.2.5 มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม ความมมี นุษยสัมพันธ์ ความมีวินัย ความ
รับผิดชอบ ความซ่ือสัตยส์ ุจริต ความเช่ือม่ันในตนเอง การประหยดั ความสนใจใฝร่ ู้ การละเวน้ สิ่งเสพติดและการ
พนนั ความรกั สามัคคี
4. เนื้อหาสาระการสอน/การเรยี นรู้
4.1 ด้านความรู้
1. การวางแผนทางการเงิน
2. หลักการวางแผนทางการเงิน
3. การจัดการทางการเงิน
4. การจดั การเงินสดและสนิ ทรพั ย์สภาพคล่อง
4.2 ด้านทกั ษะหรือการประยุกต์ใช้
1. สามารถการวางแผนทางการเงนิ
2. สามารถบอกหลักการวางแผนทางการเงิน
3. สามารถบอกการจัดการทางการเงนิ
4. สามารถจัดการเงนิ สดและสินทรัพยส์ ภาพคล่องของตนเองได้
4.3 ด้านคณุ ธรรม/ จริยธรรม/ และคุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงคแ์ ละบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ
พอเพียง
ดา้ นคุณธรรม/ จรยิ ธรรม
1. มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ มคี วามรับผิดชอบ
ดา้ นคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์และบูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
1. ม่งุ ม่นั ในการทางาน มจี ติ สาธารณะ อยู่อย่างพอเพียง
5. กิจกรรมการเรียนการสอนหรอื การเรียนรู้
ขั้นตอนการสอนหรือกจิ กรรมครู ขั้นตอนการเรยี นหรอื กจิ กรรมของผ้เู รียน
ข้ันเตรยี ม(จานวน 30 นาที) 5.1 ผู้เรยี นเขา้ หอ้ งเรียน
5.1 นักเรียนทาความเคารพครูผูส้ อน 5.2 ครผู ู้สอนตรวจสอบรายชือ่ ผเู้ รียน
5.2 ครผู สู้ อนทักทายผ้เู รียนและสารวจรายชอ่ื ผ้เู รียน 5.3 ผูเ้ รยี นรับใบความรู้ เรอื่ ง การจดั หาและ
5.3 ครูผูส้ อนแจกใบความรู้ หรือ เตรียมอุปกรณ์
การว่างแผนทางการเงิน
ในการสอนใหพ้ ร้อม และใบงาน 5.4 รับใบงาน อธบิ ายการทา
5.4 ผเู้ รยี นใบความรู้ เตรียมตาราเรียนและสมดุ
5.5 ผ้สู อนการจดั ทาใบงานท่ีมอบหมาย (20 นาที)
ขั้นการสอน(จานวน...300........นาที)
5.6 ครูผู้สอนแจกแบบทดสอบกอ่ นเรียน 5.5 ผู้เรียนทดสอบก่อนเรยี น ( 10 นาท)ี
5.7 อธิบายการทาแบบทดสอบก่อนเรยี น มีจานวน
10 ขอ้ เวลาทใ่ี ช้ 10 นาที (พร้อมสง่ ครบเวลา)
5.8 ครผู สู้ อนใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาใบความรู้ หน่วยเน้อื หา 5.6 ผู้เรียนศึกษาตาราเรียนหน่วยเน้อื หา ใบความรู้
ตาราเรียน การวางแผนเปา้ หมายชีวติ ด้วยวงจรคณุ ภาพ
5.9 ครผู ูส้ อน ต้งั คาถามเกย่ี วกบั การวางแผนฯและ 5.7 ผู้เรยี นรว่ มตอบคาถาม
(ผเู้ รยี นตอบคาถาม) 5.8 ผเู้ รยี นรับฟังการบรรยาย เกีย่ วกบั เนือ้ หา
5.10 ครูผู้สอน อธบิ ายเน้ือหา ใบความรู้ เนอื้ หาใน การวางแผนเปา้ หมายชวี ิตด้วยวงจรคณุ ภาพ
หนว่ ยการเรียนรู้ (เวลา 100 นาท)ี 5.9 ผเู้ รียนจดั ทาใบงานที่มอบหมาย ( 200 นาที)
5.11 ครูผสู้ อนมอบหมายการทาใบงาน แบบฝึกหดั
(เวลา 200 นาที)
ขนั้ สรุป (จานวน 30 นาท)ี 5.10 ผู้เรียนร่วมสรปุ เน้ือหา ใบความรู้ เนอื้ หาหนว่ ย
5.12 ครูผ้สู อนและผู้เรยี นสรุปเน้อื หา หัวขอ้ การเรยี นรู้ ตาราเรียน
การจดั หาและการวางแผนทางการเงิน 5.11 ผูเ้ รยี นจัดทาแบบทดสอบหลงั เรียน 10 ข้อ
5.13 ครผู ู้สอนแจกแบบทดสอบหลงั เรียน หัวข้อ (เวลา 10 นาท)ี
การจดั หาและการวางแผนทางการเงิน 5.12 มอบหมายงาน การจัดทารายงาน รายบคุ คล
10ข้อ (10 นาที) รายกลุม่ 3-5 คน รายงานหนา้ ชั้นเรียน
6. สอื่ การสอน
สอ่ื สิง่ พิมพ์
1. ตาราเรยี น หนงั สอื ประกอบการเรยี นการสอนวิชา ธุรกิจและการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ 20001-1003
อ.เพญ็ ศรี เลศิ เกียรตวิ ทิ ยา สานักพิมพเ์ อมพนั ธ์
2. เอกสารประกอบการสอน ใบความรู้
ส่ือโสตทศั น์ (ถา้ มี)
1. power point ธุรกจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ 20001-1003 เรื่อง การจัดหาและการวางแผน
ทางการเงนิ
2. VDO ส่ือการสอน ประจาวิชา ธุรกิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ 20001-1003
3. ...................................................................................................
หนุ่ จาลองหรอื ของจริง (ถ้ามี)
1. ............................................................................................................................. ......
เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)
1. แบบทดสอบก่อนเรียน
2. ใบความรู้ ใบงาน (ใบมอบหมายงาน ถา้ มี)
3. แบบทดสอบหลังเรยี น
แหล่งเรียนรู้
เรียนรู้
1. ห้องสมดุ วทิ ยาลยั การอาชพี สวา่ งแดนดิน (ตาราเรียน)
2. หอ้ งอนิ เทอรเ์ นต็ วทิ ยาลัยการอาชีพสวา่ งแดนดิน การสบื คน้ ข้อมูล
3. Google แหลง่ เรียนรู้ออนไลน์ จากโทรศัพท์มือถือ
การบรู ณาการ/ความสมั พันธ์กับวชิ าอืน่
1. วิชาภาษาไทย การอ่านและทาความเข้าใจในเนอื้ หาหน่วยการเรียนรู้ ใบความรู้ ตีความ
2. วชิ าสงั คมศกึ ษา การอยู่ในสังคม การคบเพื่อน
3. วชิ าภาษาอังกฤษ เรื่องศัพท์เฉพาะในหนว่ ยการเรยี นการสอน
8. งานทมี่ อบหมาย
8.1 กอ่ นเรยี น
1. จัดเตรยี มห้องเรยี นให้เรียบร้อยเป็นระเบยี บ รักษาความสะอาด (แบง่ เวร)
2. จดั เตรียมอปุ กรณก์ ารเรยี นใหพ้ ร้อม กอ่ นการเรียนการสอน
3. จัดทาแบบทดสอบก่อนเรยี น และสง่ ตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน
8.2 ขณะเรียน
1. จัดทาใบงานท่ีมอบหมายตามกาหนดเวลาสง่ ที่กาหนดไว้
2. จดั ทาแบบทดสอบหลงั เรียน และส่งตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน
3. ปฏิบัตติ นในการเรยี นร้อู ย่างเหมาะสมในชนั้ เรียน
8.3 หลงั เรยี น
1. การศกึ ษาเน้ือหากอ่ นล่วงหน้า
2. มอบหมายงานแบบฝึกหัดทา้ ยหน่วยการเรียนรู้ ใบงาน
9. ผลงาน/ช้ินงาน ทเ่ี กดิ จากการเรยี นรขู้ องผู้เรยี น
1. ใบงานที่มอบหมาย
2. สมดุ ในการทาแบบฝึกหัด แบบฝึกปฏบิ ัติท้ายหน่วย
3. สรปุ ผลการทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น
4. สรปุ ผลการสง่ งานทม่ี อบหมาย
10. เอกสารอา้ งอิง
1. บันทึกการสอนของครู
2. ใบเชค็ รายช่อื
3. แผนการจดั การเรยี นรู้
4. ใบความรู้ เนื้องานในหนงั สือเรียน
5. แบบทดสอบก่อนเรยี น หลังเรยี น
11. การบูรณาการ/ความสมั พันธก์ บั รายวชิ าอนื่
1. รายวิชาภาษาไทย เพ่อื อ่าน ฟัง พูด เขยี น และตคี วามหมาย แปลความหมาย
2. รายวชิ าสงั คมศึกษา สังคมไทย เพ่ือการอยรู่ ว่ มกนั ในสังคม ในห้องเรยี น
3. รายวชิ าภาษาอังกฤษ ที่มีภาษาอังกฤษในหน่วยการเรยี นการสอน
12. หลกั การประเมนิ ผลการเรียน
12.1 ก่อนเรียน
12.1.1 การประเมินการตรวจสอบรายชอ่ื ผู้เขา้ เรียนในช่วั โมง (ด้านจติ พสิ ยั )
12.1.2 การประเมินการเตรยี มความพร้อมในการเรยี นของผู้เรยี น อปุ กรณก์ ารเรยี น ตาราเรยี น
สมดุ ปากกา ไมบ้ รรทัด
12.1.3 การประเมนิ การทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เวลา 10 นาที 10 ข้อ 10 คะแนน
12.2 ขณะเรียน
12.2.1 การประเมนิ การมสี ว่ นร่วมในการเรยี นการสอน การตอบ-ถาม (แบบประเมิน
พฤติกรรม)
12.2.2 การประเมินการสนใจใฝเ่ รียนรู้ การปฏบิ ัตติ น ขณะเรยี น การทาแบบฝกึ หดั ใบงาน
(แบบประเมินพฤตกิ รรม)
12.2.3 การประเมนิ ดว้ ยการทาแบบทดสอบหลังเรยี น เวลา 10 นาที 10 ขอ้ 10 คะแนน
12.3 หลังเรียน
12.3.1 การประเมนิ ผลการเรียนรแู้ ละสรปุ ผลการเรียนรู้ แบบประเมนิ ผล
แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียนร้อยละ 50 หลงั เรียนรอ้ ยละ 70
12.3.2 เมือ่ ไม่ผา่ นเกณฑ์ท่ีกาหนดใหม้ กี ารปรบั ปรุงแก้ไขต่อไป
12.3.3 มีการมอบหมายงาน ศึกษาเนื้อหาในหน่วยการเรยี นถัดไป และใบความรู้ (ถา้ มี)
12.3.4 มอบหมายงานศึกษาเนอื้ หาเพิ่มเตมิ โดยการจดั ทารายงานกลุม่ หรือรายบุคคคล
13. รายละเอียดการประเมนิ ผลการเรยี น
จดุ ประสงคข์ ้อที่ 1 ………………………………………………………………………………....................................………
1. วิธีการประเมิน : ……………………………………………………...........................…………….
2. เครือ่ งการประเมิน : …………………………………………………………………............................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………............................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...............
จุดประสงค์ข้อท่ี ……………………………………………………………………………………….....................................
1. วธิ กี ารประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
2. เครื่องการประเมิน : …………………………………………………………………...........................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...........................
14. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 15 แบบทดสอบหลงั เรียน
หนว่ ยการสอนท่ี 5 ชื่อหน่วยการสอน การจดั หาและการวางแผนทางการเงิน
วัตถุประสงค์ เพ่ือ ทดสอบความรูเ้ บ้ืองตน้ ของผู้เรยี น หลงั การเรียนการสอน
ขอ้ คาถาม
แบบทดสอบกอ่ น/หลังเรยี น
จงเลือกคาตอบทถ่ี ูกต้องท่ีสดุ เพียงข้อเดียว
1. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของรฐั บาลในการวางแผนทางการเงนิ
1. เป็นแหล่งผลติ สินค้าเพือ่ ความเปน็ อยู่ท่ดี ีขึน้ ของประชาชน
2. เป็นแหลง่ ค่าจา้ งของผู้บริโภค
3. จดั เก็บภาษจี ากบุคคล ภาษกี ารคา้ และภาษีทรพั ยส์ ิน
4.กาหนดกฎระเบยี บขอ้ บงั คับเพื่อคุม้ ครองความเป็นอยขู่ องประชาชน
5. เป็นแหล่งทมี่ าของรายไดข้ องธรุ กจิ
2.ข้อใดทีไ่ ม่มบี ทบาทเกยี่ วกับการวางแผนทางการเงิน
1.กรมสรรพากร
2. ลูกคา้ ของธรุ กิจ
3.บรษิ ัทเจรญิ โภคภณั ฑ์ จากัด
4. หา้ งหนุ้ ส่วนสยามเมืองยมิ้ จากัด
5.มูลนิธคิ ุ้มครองผบู้ รโิ ภค
3. ข้อใดไม่เปน็ ขอบเขตการดาเนินงานในการวางแผนภาษี
1. การตัดสนิ ใจทาประกันชีวติ
2. การตัดสนิ ใจกเู้ งินจากธนาคาร
3. การตัดสินใจลงทุนซื้อหนุ้ สามญั
4. การตัดสนิ ใจซื้อพนั ธบัตร
5. การตัดสินใจทาสวนทเุ รียนและสม
4. ขอ้ ใดเปน็ การตดั สินใจเกี่ยวกับผลตอบแทนจากการวางแผนทางการเงนิ
1. คา่ เชา่
2. ตอกเบย้ี จ่าย
3.เงินปนั ผล
4. กาไรสะสม
5. ขอ้ 3 และ 4 ถกู ต้อง
5. ขอ้ ใดไมใ่ ช่หนา้ ที่ของการจัดการทางการเงิน
1. การพยากรณผ์ ลตอบแทนครวั เรือน
2. ความมงุ่ ม่นั ในการลงทนุ
3 แหลง่ ทีม่ าของเงนิ ทุน
4. แผนการลงทนุ
5. การควบคุมทางการเงิน
6. วธิ กี ารจดั การด้านการเงนิ เพอื่ ความคล่องตัว ควรดาเนินการอยา่ งไร
1. พยากรณ์การเคลื่อนไหวเงินสต
2. การจดั หาเงินทุน
3. การบรหิ ารเงินทนุ หมนุ เวียน
4. ข้อ 1 และ 2 ถกู
5. ขอ้ 1 - 2 - 3 ถูก
7.ข้อใดไมใ่ ช่ปัจจยั ที่กาหนดรายได้ของบุคคล
1 . อายุ 2 . วัฒนธรรม
3 . อาชีพ 4 . คณุ สมบัติเฉพาะตวั
5 . การศกึ ษา
8 . การวดั รายได้ส่วนบคุ คล สามารถทาได้ตามข้อใด
1 . ปรับรายได้ประชาชาตใิ ห้เปน็ รายได้สว่ นบคุ คล
2 . วดั รายได้ส่วนบุคคลโดยตรง
3 . วดั ผลรวมของรายได้ที่ครัวเรือนได้รับรวมกบั เงนิ โอนท่ีไดร้ บั ในปนี ้นั
4 . ขอ้ 1 และ 2 ถูก
5 . ขอ้ 1 - 2 - 3 ถกู
9. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ปัจจัยที่มีผลตอ่ รายจา่ ย
1 . จานวนรายไดข้ องครอบครวั ทัง้ หมด
2 . อายุของสมาชกิ ในครอบครวั
3 . รปู แบบและประเภทอาหารที่รบั ประทาน
4 . ระดบั ราคาและการวางแผนซอื้ อาหาร
5 . ระดบั การศึกษาและการดาเนนิ ชีวติ
10 . ขอ้ ใดไมใ่ ช่สว่ นประกอบของงบแสดงฐานะการเงินสว่ นบคุ คล
1. รายได้และค่าใชจ้ า่ ย
2. สินทรัพย์
3. หน้สี ิน
4. ส่วนของเจ้าของ
5. ทุน
กระดาษคาตอบ กอ่ นเรยี น – หลังเรยี น
กิจกรรมการเรียนรู้
หน่วยท่ี 5 เรอ่ื ง การจัดหาและการวางแผนทางการเงิน
ก่อนเรียน 5 หลงั เรยี น
ข้อ 1 2 3 4 ข้อ 1 2 3 4 5
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10
รวมคะแนน ก่อนเรียน รวมคะแนน หลังเรียน
ชอื่ -สกุล...........................................................แผนก/ห้อง............เลขท.ี่ .............
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลงั เรียน
กิจกรรมการเรียนรู้
หน่วยท่ี 5 เรือ่ ง การจัดหาและการวางแผนทางการเงิน
ก่อนเรียน หลงั เรียน
ข้อ 1 2 3 4 5 ขอ้ 1 2 3 4 5
1x 1
2x 2
3x 3
4x 4
5x 5
6x 6
7x 7
8x 8
9x 9
10 x 10
รวมคะแนน ก่อนเรยี น 10 รวมคะแนน หลังเรียน 10
ช่ือ-สกลุ ...........................................................ผสู้ อน/ผ้ตู รวจ
(นายวจิ ิตร พลเศษ)
หน่วยการสอนที่ 5 ช่ือหน่วยการสอน การจัดหาและวางแผนทางการเงนิ
ชอ่ื หัวข้อเร่อื ง การจดั หาและวางแผนทางการเงิน
16. ใบความรู้
แนวคิด
บคุ คลแต่ละคนย่อมมเี ป้าหมายในชวี ติ แตกต่างกนั ดงั นนั้ จงึ มกี ารวางแผนและการจดั การทางการเงนิ ท่ี
แตกต่างกนั ไปดว้ ย โดยตงั้ เป้าหมายใหส้ อดคลอ้ งกบั ตนเองและสงิ่ แวดลอ้ มทเ่ี หมาะสม ซง่ึ การวางแผนทางการเงนิ เป็นการ
จดั เตรยี มขอ้ มลู ต่าง ๆ ดา้ นการเงนิ ทค่ี าดว่าจะเกดิ ขน้ึ ในอนาคต แลว้ นามากาหนดเพ่อื เป็นแนวทางในการดาเนินงาน
ประสานขอ้ มลู ต่าง ๆ ใหส้ มั พนั ธก์ นั และมปี ระสทิ ธผิ ลมากทส่ี ดุ
ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั
1. แสดงความร้เู กี่ยวกับการวางแผนทางการเงนิ
2. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลักการวางแผนทางการเงิน
3. แสดงความรู้เกยี่ วกบั การจัดการทางการเงนิ
4. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผ้สู าเรจ็ การศกึ ษาสานักงาน
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ท่คี รสู ามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเรือ่ ง
4.1 ความมมี นุษยสัมพนั ธ์
4.2 ความมวี ินัย
4.3 ความรับผิดชอบ
4.4 ความซอื่ สัตย์สจุ ริต
4.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง
4.6 การประหยดั
4.7 ความสนใจใฝ่รู้
สาระการเรยี นรู้
1.การวางแผนทางการเงิน
2.หลกั การวางแผนทางการเงิน
3.การจดั การทางการเงนิ
1.ครกู ล่าวถงึ การวางแผนทางการเงนิ เป็นการจดั เตรยี มขอ้ มลู ต่างๆ ทางดา้ นการเงนิ ทค่ี าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ ในอนาคต
นามากาหนดเพ่อื เป็นแนวทางในการดาเนนิ งาน การประสานขอ้ มลู ต่างๆ ใหม้ คี วามสมั พนั ธก์ นั อย่างต่อเน่อื งและคาดว่าสง่ิ
ทไ่ี ดร้ บั จะมปี ระสทิ ธผิ ลมากทส่ี ดุ
2.ผเู้ รยี นบอกวตั ถุประสงคใ์ นการวางแผนการเงนิ ของแต่ละคน
3.ครอู ธบิ ายการวางแผนทางการเงนิ พรอ้ มสอ่ื PowerPiont ซง่ึ หมายถงึ การกาหนดการใชจ้ า่ ยเงนิ ต่างๆ ให้
สอดคลอ้ งกบั แผนงานทจ่ี ดั ทาขน้ึ และระบถุ งึ แหลง่ ทม่ี าของเงนิ และการใชไ้ ปของเงนิ ในกจิ กรรมต่างๆ
การวางแผนทางการเงนิ สามารถแบง่ ออกได้ 2 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่
1) การวางแผนการเงนิ สว่ นบุคคล
2) การวางแผนการเงนิ สาหรบั ธรุ กจิ
4.ครบู อกหลกั การวางแผนทางการเงนิ โดยการเปลย่ี นแปลงทางสงั คม วฒั นธรรมและวถิ ชี วี ติ ทาใหม้ คี วาม
จาเป็นตอ้ งวางแผนการเงนิ อยา่ งรอบคอบ และไมป่ ระมาทในการใชช้ วี ติ ดงั นนั้ หลกั ในการวางแผนทางการเงนิ ทม่ี ี
ประสทิ ธภิ าพมดี งั น้ี
1) การประเมนิ สถานการณ์ เป็นการเกบ็ ขอ้ มลู ต่างๆ เกย่ี วกบั ตนเองและสง่ิ แวดลอ้ ม เพราะจะชว่ ยใหส้ ามารถ
ประเมนิ รายรบั -รายจา่ ยได้ นอกจากน้ยี งั สามารถประเมนิ สนิ ทรพั ยท์ ม่ี ี เชน่ เงนิ สด อาคารหรอื ทด่ี นิ รวมถงึ หน้สี นิ ต่างๆ
เพอ่ื นาไปประมาณการและวางแผนทางการเงนิ ต่อไป
2) กาหนดเป้าหมาย คอื การวางแผนการเงนิ โดยกาหนดใหอ้ ยใู่ นรปู ของตวั เงนิ ระยะเวลาเทา่ ไรและเป้าหมายท่ี
เป็นไปได้ โดยใหส้ อดคลอ้ งกบั รายรบั -รายจ่าย และหน้สี นิ ทม่ี อี ยู่ ทงั้ น้ีการวางแผนการเงนิ
ควรแยกเป็นเป้าหมายระยะสนั้ ระยะกลางและระยะยาว เพ่อื ใหป้ ฏบิ ตั ติ ามเป้าหมายทก่ี าหนดไวอ้ ย่างชดั เจน
3) การจดั ทาแผนทางการเงนิ การวางแผนทางการเงนิ นนั้ ควรจดั ทาแผนดว้ ยความละเอยี ดและรอบคอบ โดย
คานึงถงึ บุคคลและทรพั ยากรทเ่ี กย่ี วขอ้ ง และจดั ลาดบั ความสาคญั ว่าอะไรควรทากอ่ นหรอื หลงั เพอ่ื ใหป้ ฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ และ
ถกู ตอ้ งตามแผนทก่ี าหนดไว้
4) การนาแผนไปปฏบิ ตั ิ เป็นการทาตามแผนทก่ี าหนดไว้ โดยตอ้ งมวี นิ ยั ในการปฏบิ ตั อิ ยา่ งเครง่ ครดั
5) การวดั ผลและการปรบั ปรงุ แกไ้ ข เป็นสง่ิ ทจ่ี ะทาใหท้ ราบว่า แผนนนั้ สามารถปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ ตรงตามเป้าหมาย
หรอื ไม่ และสามารถนาผลทไ่ี ดไ้ ปพฒั นาและปรบั ปรุงผลการปฏบิ ตั ใิ นอนาคตได้
5.ครอู ธบิ ายการจดั การทางการเงนิ หมายถงึ การวางแผนการจดั ระเบยี บและการควบคุมกากบั กจิ กรรมทางการเงนิ
เชน่ การจดั ซอ้ื และการใชป้ ระโยชน์จากเงนิ ทนุ ซง่ึ ใชห้ ลกั ทวั่ ไปของทรพั ยากรทางการเงนิ ของธรุ กจิ
6.ครบู อกขอบเขตของการดาเนินธรุ กจิ มดี งั น้ี
1) การตดั สนิ ใจลงทุน เป็นสว่ นหน่งึ ของการทางานดา้ นการตดั สนิ ใจลงทนุ และจะมคี วาม
สาคญั มากสาหรบั ธรุ กจิ ทม่ี เี งนิ สดจานวนมากในแต่ละเดอื นหรอื ไตรมาส แต่เป็นเงนิ สดแบบหมนุ เวยี นเรว็
การจดั การงานลงทุนระยะสนั้ จะมคี วามสาคญั อยา่ งมาก
2) การตดั สนิ ใจทางการเงนิ จะเป็นการดาเนินงานเกย่ี วกบั การระดมเงนิ ทนุ จากแหลง่ ต่างๆ ซง่ึ จะ
ขน้ึ อยกู่ บั การตดั สนิ ใจเกย่ี วกบั ชนิดของแหลง่ เงนิ ทนุ ทม่ี อี ยู่ และค่าใชจ้ ่ายทเ่ี ป็นตน้ ทุนของเงนิ ทนุ ทใ่ี ชใ้ นการ
บรหิ าร เช่น เงนิ กรู้ ะยะยาวหรอื ระยะสนั้ หรอื ผลตอบแทนจากการลงทนุ ทค่ี าดหวงั ทจ่ี ะไดร้ บั เป็นตน้
3) การตดั สนิ ใจเกย่ี วกบั ผลตอบแทน ฝ่ายการเงนิ มหี น้าทต่ี ดั สนิ ใจเกย่ี วกบั วธิ กี ารกระจายการ
ลงทุน และการบรหิ ารผลกาไรทเ่ี กดิ ขน้ึ จากเงนิ ลงทนุ เหลา่ นนั้ ซง่ึ กาไรสทุ ธแิ บง่ ออกได้ 2 ลกั ษณะ
3.1 เงนิ ปันผลทจ่ี า่ ยใหผ้ ถู้ อื หุน้ และอตั ราการจา่ ยเงนิ ปันผลตอ้ งพจิ ารณาอยา่ งรอบคอบ
และเป็นธรรม
3.2 กาไรสะสม จะตอ้ งพจิ ารณาใหม้ ปี รมิ าณทเ่ี หมาะสม และเพยี งพอสาหรบั การวางแผนการขยาย
งานในอนาคตของธุรกจิ โดยตอ้ งมกี ารพจิ ารณารว่ มกบั ฝ่ายการตลาด ฝ่ายการผลติ และผบู้ รหิ ารระดบั สงู
7.ครอู ธบิ ายรายไดบ้ คุ คล หมายถงึ รายไดท้ งั้ หมดทค่ี รวั เรอื นไดร้ บั จากแหล่งต่างๆ ในรอบปี
ซง่ึ อาจจะไดม้ าจากเงนิ เดอื น คา่ จา้ งแรงงาน รายไดจ้ ากงานสว่ นตวั โบนสั ค่านายหน้า ดอกเบย้ี เงนิ ปันผล
ผลทไ่ี ดจ้ ากเงนิ ออมและการลงทนุ การจาหน่ายสนิ ทรพั ย์ และรายไดอ้ น่ื ๆ ซง่ึ รวมทงั้ หมดแลว้ จะเป็น
รายไดจ้ รงิ ทจ่ี ะได้ ไมใ่ ช่รายไดท้ ค่ี าดวา่ จะได้ และเป็นรายไดก้ ่อนหกั ภาษเี งนิ ได้ ปัจจยั ทก่ี าหนดรายไดข้ องบุคคล
1) อายุ มคี วามสมั พนั ธต์ ่อการหารายไดข้ องบุคคล บุคคลทส่ี งู วยั และหนุ่มสาวเม่อื เรม่ิ ทางานก็
จะมรี ายไดไ้ ม่สงู มาก เม่อื เทยี บกบั ผทู้ อ่ี ยใู่ นวยั กลางคน ซง่ึ มอี ายรุ ะหวา่ ง 35- 55 ปี โดยทวั่ ไปในวยั น้จี ะมี
ความสามารถในการหารายไดส้ งู เน่อื งจากอยใู่ นวยั ทม่ี รี า่ งกายแขง็ แรงในการทางาน
2) การศกึ ษา จะเป็นเคร่อื งกาหนดรายไดข้ องบคุ คล ผทู้ ส่ี าเรจ็ การศกึ ษาสงู ย่อมมรี ายไดส้ งู กว่า
ผมู้ กี ารศกึ ษาต่าหรอื ไมไ่ ดร้ บั การศกึ ษา
3) อาชพี การเลอื กอาชพี มคี วามสมั พนั ธก์ บั การศกึ ษาของบคุ คล อาชพี บางอยา่ งจะตอ้ งผ่านการ
ศกึ ษาเฉพาะดา้ น เชน่ แพทย์ นกั กฎหมาย สถาปนกิ วศิ วกร เป็นตน้ แต่บางอาชพี ถงึ แมจ้ ะไมเ่ รยี นมา
โดยตรง กน็ าความรมู้ าประยุกตใ์ ชท้ างานได้ เชน่ ผทู้ เ่ี รยี นสงั คมศาสตร์ อาจจะประกอบอาชพี ไดห้ ลายอยา่ ง
ไดแ้ ก่ อาจารย์ พนกั งาน พนกั งานของรฐั บาล รฐั วสิ าหกจิ ตลอดจนธุรกจิ เอกชนต่างๆ
4) คณุ สมบตั เิ ฉพาะตวั บคุ คลแต่ละคนจะแตกต่างกนั โดยเฉพาะในสว่ นทเ่ี ป็นคุณสมบตั เิ ฉพาะตวั
เชน่ ความสามารถ (Abilities) ความชานาญ (Skills) บุคลกิ ภาพ (Personality) แรงกระตุน้ (Drive)
ทศั นคติ (Aptitudes) ขวญั และกาลงั ใจ (Motivation) และคา่ นยิ มต่างๆ (Value) ซง่ึ จะมอี ทิ ธพิ ลต่อการ
กาหนดระดบั รายไดข้ องบุคคลทงั้ สน้ิ
5) แหลง่ รายไดต้ ่างๆ ของบุคคล การทางานแต่ละอาชพี ยอ่ มมผี ลตอบแทน ไดแ้ ก่ เงนิ เดอื น คา่ จา้ ง
และสวสั ดกิ ารต่างๆ ในการพจิ ารณารายไดข้ องบุคคล นอกจากจะคานึงถงึ รายไดท้ เ่ี ป็นตวั เงนิ แลว้ ยงั ตอ้ ง
คานงึ ถงึ สวสั ดกิ ารหรอื ผลประโยชน์อ่นื ๆ ทค่ี วรจะไดร้ บั ดว้ ย
8.ครแู สดงการวดั รายไดส้ ว่ นบคุ คล สามารถทาได้ 2 วธิ ี ดงั น้ี
1) วธิ กี ารปรบั รายไดป้ ระชาชาตใิ หเ้ ป็นรายไดส้ ว่ นบคุ คล
2) วธิ กี ารวดั รายไดส้ ว่ นบุคคลโดยตรง เป็นการวดั ผลรวมของรายไดเ้ ฉพาะทค่ี รวั เรอื นไดร้ บั รวม
กบั เงนิ โอนทค่ี รวั เรอื นไดร้ บั ในรอบปีนนั้ ๆ
9.ครสู าธติ การจดั ทางบการเงนิ สว่ นบุคคล เป็นงบสรุปผลการใชจ้ า่ ยเงนิ และช่วยวางแผนทางการเงนิ ในอนาคตซง่ึ
ประกอบดว้ ย งบแสดงฐานะการเงนิ งบรายไดร้ ายจา่ ยและบนั ทกึ ต่างๆ เป็นรปู แบบทป่ี ระชาชนทวั่ ไป
สามารถจดั ทาเองไดง้ า่ ย โดยจะไมก่ ล่าวถงึ รายละเอยี ดทส่ี มบรู ณ์ของงบการเงนิ ตามมาตรฐานการบญั ชี
ฉบบั ท่ี 1 (ฉบบั ปรบั ปรงุ 2552) งบการเงนิ สว่ นบคุ คลทน่ี ามาใชบ้ นั ทกึ รายการ มดี งั น้ี
1) งบรายไดแ้ ละรายจ่ายสว่ นบคุ คล (Income Statement)