The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ปวส.

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นายวิจิตร พลเศษ, 2021-07-19 06:56:34

วิชาธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ปวส.

ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ปวส.

บันทกึ หลงั การสอน

ผลการใชแ้ ผนการเรยี นรู้

ความเหมาะสมของเวลา
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ

ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนการสอน
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรุง

……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………

ผลการเรียนของผู้เรยี น

ความต้ังใจของผ้เู รียน  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ
 ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรงุ
อุปกรณ์การสอน
 มาก  ดี

การเรียนรู้ของผู้เรยี น
 มาก  ดี

…………………………………………………………………………………………………………………………………….………

การสอนของครู

 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรงุ

กิจกรรมการสอนที่กาหนดไว้ในแผนการจดั การ

เรียนรู้  ตรงตามแผนการจัดการเรียนรู้  ไม่ตรงตามแผนการจัดการเรียนรู้

บนั ทกึ เพ่ิมเติม

.............................................................................................................................................................

………………………………………………
(นายวิจิตร พลเศษ)
ผู้บันทึกการสอน

แผนการจัดการเรยี นรู้ แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพ
และบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

รหสั วิชา 30200-0003 วิชา ธรุ กจิ และการเป็นผู้ประกอบการ
หน่วยที่ 9 ชอื่ หน่วย การประยกุ ตใ์ ชป้ รัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการเปน็
ชื่อเรือ่ ง การประยุกตใ์ ช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการเป็น จานวน 6 ช่ัวโมง สอนครั้งที่ 21,22

1. สาระสาคัญ

ผปู้ ระกอบการทพ่ี อเพยี งจะคานงึ ถงึ ความมนั่ คงและยงั่ ยนื ของการดาเนินธรุ กจิ มากกว่าการแสวงหา
ผลประโยชน์ ดงั นนั้ จงึ ตอ้ งมคี วามรอบรใู้ นธุรกจิ ทต่ี นดาเนนิ งานอยแู่ ละมกี ารศกึ ษาขอ้ มลู ขา่ วสารตลอดเวลา
เพ่อื ใหส้ ามารถทนั ต่อการเปลย่ี นแปลงต่างๆ มคี วามรอบคอบในการตดั สนิ ใจแต่ละครงั้ เพอ่ื ป้องกนั
ขอ้ บกพรอ่ งเสยี หายไมใ่ หเ้ กดิ ขน้ึ และมคี วามรอบคอบในการตดั สนิ ใจแต่ละครงั้ เพ่อื ป้องกนั ขอ้ บกพรอ่ งไมใ่ ห้
เกดิ ขน้ึ และตอ้ งมคี ุณธรรม คอื มคี วามซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ ในการประกอบอาชพี ไมผ่ ลติ หรอื ซอ้ื ขายสนิ คา้ ทก่ี ่อ
โทษหรอื สรา้ งปัญหาใหก้ บั คนในสงั คมและสงิ่ แวดลอ้ ม มคี วามขยนั หมนั่ เพยี ร อดทนในการพฒั นาธุรกจิ
ไมใ่ หบ้ กพรอ่ งและกา้ วหน้าไปอยา่ งต่อเน่อื ง โดยมกี ารพฒั นาประสทิ ธภิ าพ การผลติ ปรบั ปรงุ สนิ คา้ และ
คุณภาพใหท้ นั กบั ความตอ้ งการของตลาดและการเปลย่ี นแปลงในเทคโนโลยี ขณะเดยี วกนั ตอ้ งมคี วาม
รบั ผดิ ชอบต่อสงั คมและสง่ิ แวดลอ้ มทุกขนั้ ตอนของการดาเนนิ ธุรกจิ

2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรียนรู้

1. สามารถนาปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใชช้ วี ิตประจาวนั ได้
2. สามารถอธบิ ายการประยกุ ต์ใชป้ รชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งในการดาเนนิ ธรุ กิจ
3. สามารถทาบัญชคี รัวเรอื น และนาภมู ิปัญญาท้องถ่ินไทยไปประยุกต์ใชไ้ ด้

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

3.1 จดุ ประสงค์ท่ัวไป

3.1.1 มีความรแู้ ละเข้าใจเก่ยี วกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงประยกุ ตใ์ ชป้ รัชญาเศรษฐกจิ
พอเพียง

3.1.2 มีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับทาบัญชคี รวั เรอื น และนาภมู ิปญั ญาท้องถิน่ ไทย

3.2 จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
3.2.1.ประยกุ ต์ใชป้ รชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งในการดาเนนิ ธรุ กจิ ได้
3.2.2.เสนอแนะแนวทางการนาปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ติ ได้
3.2.3.แสดงความรู้เกีย่ วกบั การทาบญั ชคี รัวเรือนได้
3.2.4.แสดงความรู้เกยี่ วกับภูมิปัญญาท้องถ่ินไทยได้

3.2.5.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม ความมมี นษุ ยสมั พันธ์ ความมวี ินัย
ความรับผิดชอบ ความซอื่ สตั ย์สจุ ริต ความเชือ่ มน่ั ในตนเอง การประหยัด
ความสนใจใฝร่ ู้ การละเวน้ สง่ิ เสพติดและการพนนั ความรักสามคั คี

4. เน้ือหาสาระการสอน/การเรยี นรู้

4.1 ด้านความรู้
1.การประยกุ ตใ์ ช้ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งในการดาเนนิ ธรุ กิจ
2.แนวทางการนาปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใชใ้ นการดาเนินชีวิต
3.การทาบญั ชีครัวเรอื น
4.ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถิน่ ไทย

4.2 ดา้ นทกั ษะหรือการประยุกต์ใช้
1. สามารถนาปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปใชช้ วี ติ ประจาวนั ได้
2. สามารถอธิบายการประยกุ ต์ใชป้ รชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งในการดาเนนิ ธุรกจิ
3.สามารถทาบัญชีครวั เรือน
4.นาภูมปิ ัญญาท้องถิ่นไทยไปประยกุ ตใ์ ช้ได้

4.3 ดา้ นคุณธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงคแ์ ละบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจ
พอเพียง

ดา้ นคณุ ธรรม/ จรยิ ธรรม
1. มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มคี วามรับผดิ ชอบ

ดา้ นคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์และบูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. มุง่ ม่ันในการทางาน มีจติ สาธารณะ อยู่อยา่ งพอเพยี ง
2. นาความร้เู กี่ยวกบั หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปประยุกต์ใช้จรงิ ในการดาเนินชีวติ และการ

เรียน

5. กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรอื การเรียนรู้

ขั้นตอนการสอนหรอื กิจกรรมครู ข้นั ตอนการเรยี นหรอื กิจกรรมของผเู้ รยี น

ขั้นเตรียม(จานวน 30 นาที) 5.1 ผู้เรียนเข้าหอ้ งเรียน
5.1 นักเรยี นทาความเคารพครผู สู้ อน 5.2 ครผู สู้ อนตรวจสอบรายชอ่ื ผเู้ รียน
5.2 ครูผู้สอนทกั ทายผเู้ รยี นและสารวจรายช่อื ผเู้ รียน 5.3 ผเู้ รยี นรับใบความรู้ เรื่อง
5.3 ครูผสู้ อนแจกใบความรู้ หรือ เตรียมอุปกรณ์ การประยุกตใ์ ช้ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงฯ
5.4 รับใบงาน อธบิ ายการทา
ในการสอนให้พร้อม และใบงาน
5.4 ผเู้ รียนใบความรู้ เตรยี มตาราเรยี นและสมุด
5.5 ผ้สู อนการจดั ทาใบงานท่ีมอบหมาย (20 นาที)

ขน้ั การสอน(จานวน....30.......นาที)

5.6 ครูผสู้ อนแจกแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 5.5 ผู้เรยี นทดสอบก่อนเรยี น ( 10 นาที)

5.7 อธบิ ายการทาแบบทดสอบก่อนเรียน มจี านวน

10 ข้อ เวลาท่ใี ช้ 10 นาที (พร้อมสง่ ครบเวลา)

5.8 ครูผู้สอนใหผ้ ู้เรยี นศกึ ษาใบความรู้ หน่วยเนือ้ หา 5.6 ผู้เรียนศกึ ษาตาราเรียนหน่วยเน้ือหา ใบความรู้

ตาราเรียน การประยกุ ต์ใชป้ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งฯ

5.9 ครผู ้สู อน ตงั้ คาถามเกี่ยวกบั การวางแผนฯและ 5.7 ผู้เรยี นร่วมตอบคาถาม

(ผเู้ รียนตอบคาถาม) 5.8 ผเู้ รียนรบั ฟังการบรรยาย เกี่ยวกบั เนื้อหา

5.10 ครูผู้สอน อธบิ ายเนื้อหา ใบความรู้ เน้ือหาใน การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งฯ

หน่วยการเรียนรู้ (เวลา 100 นาท)ี 5.9 ผู้เรียนจัดทาใบงานทม่ี อบหมาย (200 นาที)

5.11 ครูผู้สอนมอบหมายการทาใบงาน แบบฝึกหดั

(เวลา 200 นาท)ี

ขัน้ สรปุ (จานวน 30 นาที) 5.10 ผู้เรยี นรว่ มสรุปเนอื้ หา ใบความรู้ เนอื้ หาหนว่ ย
5.12 ครูผสู้ อนและผูเ้ รยี นสรุปเนื้อหา หวั ข้อ การเรยี นรู้ ตาราเรยี น
การประยุกต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เปน็ ข้อ
5.13 ครผู สู้ อนแจกแบบทดสอบหลังเรียน หวั ขอ้ 5.11 ผู้เรยี นจัดทาแบบทดสอบหลังเรียน 10 ขอ้
(เวลา 10 นาที)
การประยุกต์ใชป้ รชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงฯ
10ข้อ (10 นาที) 5.12 มอบหมายงาน การจดั ทารายงาน รายบคุ คล
รายกลมุ่ 3-5 คน รายงานหนา้ ชั้นเรยี น

6. สอ่ื การสอน

สอ่ื สิง่ พมิ พ์

1. ตาราเรียน หนงั สอื ประกอบการเรยี นการสอนวชิ า ธรุ กิจและการเป็นผ้ปู ระกอบการ 20001-1003
อ.เพญ็ ศรี เลิศเกยี รติวิทยา สานกั พิมพ์เอมพันธ์

2. เอกสารประกอบการสอน ใบความรู้

ส่ือโสตทศั น์ (ถ้าม)ี

1. power point ธรุ กิจและการเปน็ ผูป้ ระกอบการ 20001-1003 การประยุกตใ์ ช้ปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง

2. VDO สื่อการสอน ประจาวิชา ธรุ กิจและการเป็นผูป้ ระกอบการ 20001-1003
3. ...................................................................................................

หนุ่ จาลองหรือของจรงิ (ถ้ามี)

1. ............................................................................................................................. ......

เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)

1. แบบทดสอบก่อนเรยี น
2. ใบความรู้ ใบงาน (ใบมอบหมายงาน ถ้ามี)
3. แบบทดสอบหลงั เรยี น

แหล่งเรียนรู้
เรียนรู้

1. ห้องสมดุ วิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดิน (ตาราเรียน)
2. ห้องอินเทอรเ์ นต็ วิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดิน การสบื ค้นขอ้ มลู
3. Google แหล่งเรยี นรอู้ อนไลน์ จากโทรศัพท์มือถือ
การบรู ณาการ/ความสมั พันธ์กับวชิ าอ่ืน

1. วชิ าภาษาไทย การอ่านและทาความเข้าใจในเน้ือหาหนว่ ยการเรยี นรู้ ใบความรู้ ตีความ
2. วชิ าสงั คมศึกษา การอยู่ในสงั คม การคบเพ่ือน
3. วิชาภาษาองั กฤษ เรื่องศัพทเ์ ฉพาะในหนว่ ยการเรยี นการสอน

8. งานทมี่ อบหมาย

8.1 กอ่ นเรียน

1. จัดเตรยี มห้องเรยี นให้เรียบร้อยเป็นระเบยี บ รักษาความสะอาด (แบง่ เวร)
2. จดั เตรียมอปุ กรณก์ ารเรยี นให้พรอ้ ม กอ่ นการเรียนการสอน
3. จัดทาแบบทดสอบก่อนเรยี น และสง่ ตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน

8.2 ขณะเรียน
1. จัดทาใบงานท่ีมอบหมายตามกาหนดเวลาสง่ ที่กาหนดไว้
2. จดั ทาแบบทดสอบหลงั เรียน และส่งตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน
3. ปฏิบัตติ นในการเรยี นร้อู ย่างเหมาะสมในช้นั เรยี น

8.3 หลงั เรียน
1. การศกึ ษาเน้ือหากอ่ นล่วงหนา้
2. มอบหมายงานแบบฝกึ หัดทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรู้ ใบงาน

9. ผลงาน/ช้ินงาน ทเ่ี กดิ จากการเรยี นรขู้ องผูเ้ รยี น

1. ใบงานที่มอบหมาย
2. สมดุ ในการทาแบบฝึกหัด แบบฝึกปฏิบตั ิทา้ ยหน่วย
3. สรปุ ผลการทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียน
4. สรปุ ผลการสง่ งานทม่ี อบหมาย

10. เอกสารอา้ งอิง

1. บันทึกการสอนของครู
2. ใบเช็ครายช่อื
3. แผนการจดั การเรยี นรู้
4. ใบความรู้ เนื้องานในหนงั สือเรยี น
5. แบบทดสอบก่อนเรยี น หลังเรียน

11. การบูรณาการ/ความสมั พันธก์ บั รายวิชาอน่ื

1. รายวิชาภาษาไทย เพ่อื อ่าน ฟัง พดู เขียน และตคี วามหมาย แปลความหมาย
2. รายวชิ าสงั คมศึกษา สังคมไทย เพ่ือการอยูร่ ว่ มกันในสังคม ในห้องเรยี น
3. รายวชิ าภาษาอังกฤษ ที่มีภาษาอังกฤษในหนว่ ยการเรียนการสอน

12. หลกั การประเมนิ ผลการเรียน

12.1 ก่อนเรียน

12.1.1 การประเมินการตรวจสอบรายชอ่ื ผู้เข้าเรยี นในชัว่ โมง (ดา้ นจิตพสิ ยั )
12.1.2 การประเมินการเตรยี มความพร้อมในการเรียนของผู้เรยี น อุปกรณก์ ารเรยี น ตาราเรยี น

สมดุ ปากกา ไมบ้ รรทดั
12.1.3 การประเมนิ การทาแบบทดสอบก่อนเรียน เวลา 10 นาที 10 ข้อ 10 คะแนน

12.2 ขณะเรียน
12.2.1 การประเมนิ การมสี ว่ นรว่ มในการเรยี นการสอน การตอบ-ถาม (แบบประเมิน
พฤติกรรม)
12.2.2 การประเมินการสนใจใฝ่เรยี นรู้ การปฏิบัตติ น ขณะเรยี น การทาแบบฝกึ หดั ใบงาน
(แบบประเมินพฤตกิ รรม)
12.2.3 การประเมนิ ดว้ ยการทาแบบทดสอบหลงั เรียน เวลา 10 นาที 10 ขอ้ 10 คะแนน

12.3 หลังเรียน

12.3.1 การประเมนิ ผลการเรียนรูแ้ ละสรุปผลการเรียนรู้ แบบประเมนิ ผล
แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรยี นร้อยละ 50 หลังเรยี นรอ้ ยละ 70

12.3.2 เมือ่ ไม่ผา่ นเกณฑ์ท่ีกาหนดใหม้ ีการปรับปรุงแก้ไขต่อไป
12.3.3 มีการมอบหมายงาน ศกึ ษาเนื้อหาในหน่วยการเรียนถัดไป และใบความรู้ (ถา้ มี)
12.3.4 มอบหมายงานศึกษาเนื้อหาเพิ่มเติมโดยการจัดทารายงานกลุ่ม หรือรายบุคคคล

13. รายละเอียดการประเมนิ ผลการเรยี น

จดุ ประสงคข์ ้อที่ 1 ………………………………………………………………………………....................................………
1. วิธีการประเมิน : ……………………………………………………...........................…………….
2. เครือ่ งการประเมิน : …………………………………………………………………............................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………............................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...............

จุดประสงค์ข้อท่ี ……………………………………………………………………………………….....................................
1. วธิ กี ารประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
2. เครื่องการประเมิน : …………………………………………………………………...........................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...........................

14. แบบทดสอบก่อนเรยี น 15 แบบทดสอบหลงั เรียน

หน่วยการสอนท่ี 9 ชอื่ หน่วยการสอน การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษกจิ พอเพียงในธรุ กิจและการเปน็
ผ้ปู ระกอบการ
วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือ ทดสอบความรูเ้ บ้อื งตน้ ของผเู้ รียน หลังการเรียนการสอน
ขอ้ คาถาม

แบบทดสอบก่อน/หลงั เรียน

จงเลือกคาตอบทถี่ กู ต้องที่สุดเพยี งข้อเดยี ว

1.เศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ ปรชั ญาทเ่ี นน้ ในเรื่องใดมากท่สี ุด
1. การประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตนเป็นคนดี
2. การดาเนนิ ไปบนทางสายกลาง
3. ความสามารถในการพึ่งตนเอง
4. ความมีความรู้ และการมีคุณธรรม
5. ความรอบรู้และมีภูมคิ ุ้มกันตนเอง

2ข้อใดไมใ่ ช่การพิจารณาจากความสามารถในการพ่ึงตนเอง
1. พอประมาณ
2. มเี หตุผลและภูมิคุ้มกัน
3. รอบคอบ ระมดั ระวงั
4. ความพอดี
5. รักษาความสตั ย์ อดทนอดกลัน้

3. คณุ ธรรมท่ีทุกคนควรจะศกึ ษาและนามาปฏิบตั ไิ ด้แก่ขอ้ ใด
1. การรกั ษาความสตั ย์
2. การรูจ้ กั ขม่ ใจตนเอง
3. ความอดทน อดกลน้ั และอดออม
4. รจู้ กั ละวางความชัว่ และรจู้ ักเสยี สละ
5. ถกู ทกุ ขอ้

4. ข้อใดไมใ่ ช่หลกั เกณฑใ์ นการประกอบธรุ กิจแบบเศรษฐกิจพอเพียง
1. มีตลาดทีห่ ลากหลายเพื่อลดความเสย่ี ง
2. ใหค้ วามสาคญั กับการสร้างกาไรสงู สุด
3. การดาเนนิ ธุรกิจทตี่ นเองมีความรจู้ ริง
4. มีเหตุผลในการขยายตลาด
5. มคี วามซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ ในการประกอบการ

5. ขอ้ ใดไม่ใช่การบริหารจดั การดว้ ยความพอเพยี งนั้นจะต้องเริม่ ท่ีเปา้ หมาย

1. ความสามารถบริหารงาน

2. ต้องแสวงหาความรู้กบั สรา้ งความเข้มแข็ง

3. การมีเป้าหมายด้านคุณภาพชวี ิต

4. ต้องรูจ้ ักพึ่งตนเอง

5. ขอ้ 1 - 2 - 4 ถูกต้อง

6. ขอ้ ใดที่แสดงใหเ้ ห็นวา่ เป็นการร้จู ักใชเ้ งินใหเ้ หมาะสม

1. รายได้จากการประกอบการธุรกจิ

2. เลือกประกอบอาชีพเพ่ือหารายได้

3. การบรโิ ภคปจั จยั สอื่ ย่างเหมาะสม

4. ไม่ด่ืมน้าเมา เทย่ี วกลางคืน เลน่ การพนัน

5. การทาบญั ชคี รัวเรอื น

7. ขอ้ ใดไม่ใช่ประโยชนข์ องการทาบญั ชีรายรบั - รายจา่ ย

1. ทาใหท้ ราบวา่ มที รัพยส์ นิ หนีส้ ิน และทนุ จานวนเท่าใด

2. เป็นหลกั ฐานในการตรวจสอบตวั เงนิ สดกับยอดบัญชีว่าถูกต้องหรือไม่

3. ชว่ ยใหม้ กี ารบริหาร ควบคมุ การทางบประมาณอย่างถูกต้อง

4. ช่วยเปน็ หลกั ฐานในการบรหิ ารงาน เพ่ือป้องกันความผดิ พลาดที่เกิดขนึ้ อกี

5. ช่วยคานวณผลการดาเนนิ งานว่ามกี าไรหรือขาดทุนอย่างไร

8 . ขอ้ ใดเป็นภมู ิปัญญา ประเภทงานศิลปวฒั นธรรมพืน้ บา้ น

1 . ผลติ ภณั ฑจ์ ากสมนุ ไพร

2 . การผลิตผลติ ภณั ฑ์จากไม้ หิน โลหะ

3 . การผลติ ผลติ ภัณฑจ์ ากเซรามิก

4 . การฟอ้ นราพ้นื บา้ น ละครพน้ื บ้าน

5 . การผลติ ผลติ ภณั ฑจ์ ากวัสดเุ หลือใช้

9 . ข้อใดเป็นการเลอื กสรรภูมิปัญญาทสี่ ูญหายไปแลว้ มาทาใหม้ ีคณุ ค่าและสาคญั ต่อการดาเนนิ ชีวติ ในท้องถ่นิ

1 . การค้นคว้าวจิ ยั 2 . การอนุรักษ์

3 . การฟื้นฟู 4 . การพฒั นา 5 . การถ่ายทอด

10 . ขอ้ ใดสอดคล้องกับคาว่า “ การถา่ ยทอด ”

1 . ศกึ ษาและเกบ็ รวบรวมข้อมลู ภูมิปญั ญาของไทยด้านต่างๆของทอ้ งถน่ิ

2 . ปลกู จติ สานกึ ให้คนในทอ้ งถ่ินตระหนักถึงคุณคา่ และความสาคญั ของภูมิปัญญาท้องถิ่น

3 . เลือกสรรภูมิปัญญาท่ีสญู หายแลว้ มาทาให้มีคุณค่าและสาคัญตอ่ การดาเนนิ ชวี ิตในท้องถน่ิ

4 . ริเรมิ่ สร้างสรรค์และปรบั ปรงุ ภูมิปัญญาใหเ้ หมาะสมและเกดิ ประโยชน์

5 . น้าภูมิปัญญามาเลือกสรรกลั่นกรองด้วยเหตุและผลอย่างรอบคอบแล้วสื่อสารให้คนได้รับรู้เกิดความ

เข้าใจ

กระดาษคาตอบ กอ่ นเรียน – หลงั เรียน

กจิ กรรมการเรียนรู้

หนว่ ยที่ 9 เร่อื ง การประยกุ ต์ใช้ปรชั ญาของเศรษกิจพอเพียงในธุรกิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ

ก่อนเรียน 5 หลงั เรยี น 4 5
ขอ้ 1 2 3 4 ขอ้ 1 2 3
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10

รวมคะแนน กอ่ นเรยี น รวมคะแนน หลงั เรยี น

ชื่อ-สกุล...........................................................แผนก/หอ้ ง............เลขท.ี่ .............

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลังเรียน

กิจกรรมการเรยี นรู้

หน่วยท่ี 9 เร่ือง การประยกุ ต์ใช้ปรัชญาของเศรษกิจพอเพียงในธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ

กอ่ นเรยี น หลงั เรยี น 4 5
ขอ้ 1 2 3 4 5 ขอ้ 1 2 3
1x 1
2x 2
3x 3
4x 4
5x 5
6x 6
7x 7
8x 8
9x 9
10 x 10

รวมคะแนน ก่อนเรียน 10 รวมคะแนน หลังเรียน 10

ช่ือ-สกลุ ...........................................................ผูส้ อน/ผู้ตรวจ
(นายวิจิตร พลเศษ)

หนว่ ยการสอนที่ 9 ชื่อหนว่ ยการสอน การประยุกต์ใชป้ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการเป็น
ช่ือหัวข้อเรอ่ื ง การประยุกตใ์ ช้ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการเปน็

16. ใบความรู้

แนวคิด

ผปู้ ระกอบการทพ่ี อเพยี งจะคานงึ ถงึ ความมนั่ คงและยงั่ ยนื ของการดาเนินธรุ กจิ มากกว่าการแสวงหา
ผลประโยชน์ ดงั นนั้ จงึ ตอ้ งมคี วามรอบรใู้ นธรุ กจิ ทต่ี นดาเนนิ งานอยแู่ ละมกี ารศกึ ษาขอ้ มลู ขา่ วสารตลอดเวลา
เพ่อื ใหส้ ามารถทนั ต่อการเปลย่ี นแปลงต่างๆ มคี วามรอบคอบในการตดั สนิ ใจแต่ละครงั้ เพ่อื ป้องกนั
ขอ้ บกพรอ่ งเสยี หายไมใ่ หเ้ กดิ ขน้ึ และมคี วามรอบคอบในการตดั สนิ ใจแต่ละครงั้ เพ่อื ป้องกนั ขอ้ บกพรอ่ งไมใ่ ห้
เกดิ ขน้ึ และตอ้ งมคี ณุ ธรรม คอื มคี วามซ่อื สตั ยส์ จุ รติ ในการประกอบอาชพี ไมผ่ ลติ หรอื ซอ้ื ขายสนิ คา้ ทก่ี ่อ
โทษหรอื สรา้ งปัญหาใหก้ บั คนในสงั คมและสง่ิ แวดลอ้ ม มคี วามขยนั หมนั่ เพยี ร อดทนในการพฒั นาธรุ กจิ
ไมใ่ หบ้ กพรอ่ งและก้าวหน้าไปอยา่ งต่อเน่อื ง โดยมกี ารพฒั นาประสทิ ธภิ าพ การผลติ ปรบั ปรงุ สนิ คา้ และ
คุณภาพใหท้ นั กบั ความตอ้ งการของตลาดและการเปลย่ี นแปลงในเทคโนโลยี ขณะเดยี วกนั ตอ้ งมคี วาม
รบั ผดิ ชอบต่อสงั คมและสงิ่ แวดลอ้ มทกุ ขนั้ ตอนของการดาเนินธุรกจิ

ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวัง

1. สามารถนาปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปใชช้ ีวิตประจาวนั ได้
2. สามารถอธิบายการประยกุ ต์ใช้ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในการดาเนนิ ธรุ กิจ
3. สามารถทาบัญชีครัวเรือน
4. นาภมู ิปัญญาท้องถ่ินไทยไปประยุกต์ใช้ได้

สาระการเรียนรู้
1. การประยกุ ต์ใชป้ รชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งในการดาเนนิ ธรุ กิจ
2. แนวทางการนาปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ติ
3. การทาบญั ชคี รัวเรอื น
4. ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ไทย

1.ครูกล่าวถงึ เศรษฐกิจพอเพยี ง เปน็ ปรัชญาท่ชี ้ถี งึ การดารงและปฏิบัติตนของประชาชนในทกุ ระดับต้ังแต่
ระดับบคุ คล ระดับครอบครวั ระดบั ชมุ ชนจนถึงระดับรฐั ทง้ั ในการพฒั นาและการบรหิ ารประเทศใหด้ าเนนิ
ไปบนทางสายกลาง โดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกิจเพ่ือให้ก้าวทันตอ่ โลกยคุ โลกาภวิ ัตน์ ซึ่งเป็นเศรษฐกจิ
ของทกุ คนและทุกอาชพี ซง่ึ การนาไปปฏบิ ตั ิก็ต้องเหมาะสมกับอาชีพของตนเองดว้ ย

2.ครูแนะนาให้ผ้เู รยี นทเ่ี ปน็ ผู้ประกอบการจึงควรจะดาเนินธรุ กจิ แบบเศรษฐกจิ พอเพียง ซึง่ เป็น
แนวความคดิ ที่มากกวา่ การมุ่งเน้นธุรกจิ และสังคม เพราะเป็นแนวความคิดท่ีคานงึ ถึงความมสี านึกในคุณธรรม
ความซอ่ื สัตยส์ ุจรติ ความรอบคอบ ให้เกิดความสมดลุ และพรอ้ มต่อการรองรับการเปลยี่ นแปลง ทงั้ ด้านวตั ถุ สังคม
ส่งิ แวดล้อมและวัฒนธรรมจากโลกภายนอก

3.ครูอธิบายการประยกุ ตใ์ ช้ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งในการดาเนินธรุ กจิ สามารถพจิ ารณาได้ดังต่อไปน้ี
1) พจิ ารณาจากความสามารถในการพึง่ ตนเอง ท่ีเนน้ ความสมดลุ ท้ัง 3 คุณลักษณะ คือพอประมาณ มเี หตุมี
ผลและมภี มู คิ ้มุ กัน มาประกอบการตัดสนิ ใจเรอ่ื งตา่ งๆ อยา่ งเป็นขั้นเป็นตอน รอบคอบ ระมัดระวัง พจิ ารณาถึง
ความพอดี พอเหมาะ พอควรและพร้อมรับการเปลย่ี นแปลงที่ครอบคลมุ ทั้ง 5 ประการ คือ
1.1 ดา้ นจติ ใจ มจี ติ ใจเข้มแข็ง ฝกึ ฝนตนเองได้ มจี ติ สานกึ ที่ดี เอ้อื อาทร ประนปี ระนอมและนกึ ถงึ ประโยชน์
สว่ นรวมเป็นหลกั
1.2 ดา้ นสงั คม มีความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน รู้รกั สามัคคี สร้างความเข้มแข็งให้ครอบครวั และชุมชน ร้จู ักผนึก
กาลัง มกี ระบวนการเรียนรทู้ ี่เกิดจากรากฐานทม่ี ัน่ คงแขง็ แรง
1.3 ด้านเศรษฐกิจ ดารงชวี ิตอยอู่ ย่างพอดี พอมี พอกนิ สมควรตามอัตภาพ และฐานะของตนประกอบ
อาชีพสุจริต (สัมมาอาชีวะ) ด้วยความขยันหม่ันเพยี ร อดทนใชช้ ีวิตเรียบงา่ ย โดยไมเ่ บียดเบยี นตนเองและผอู้ ่ืน มี
รายได้สมดลุ กบั รายจ่าย รูจ้ ักการใชจ้ ่ายของตนเองและครอบครัวอย่างมเี หตุผลเทา่ ทจี่ าเป็น ประหยดั รู้จักการเกบ็
ออมเงินและแบง่ ปนั ผู้อ่ืน
1.4 ด้านเทคโนโลยี ร้จู กั ใช้เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม สอดคลอ้ งกับความต้องการและภูมินิเวศ พัฒนา
เทคโนโลยจี ากภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ มาใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ตอ่ ตนเองและสังคม
1.5 ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม รจู้ ักใชแ้ ละจดั การอย่างฉลาดและรอบคอบสามารถเลือกใช้
ทรัพยากรทม่ี ีอยใู่ หเ้ กิดความย่ังยนื สูงสุด
2) พจิ ารณาความรคู้ ู่คุณธรรม มีการศึกษาเรียนรูแ้ ละพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเนอ่ื ง (ทง้ั ทฤษฎีและการปฏิบตั ิ
จริง) ในวิชาการตา่ งๆ ที่เกี่ยวกับการดารงชวี ติ โดยใช้สติปญั ญาในการตัดสนิ ใจตา่ งๆ อย่างรอบรู้ รอบคอบ และมี
เหตุผลทจี่ ะนาความรู้ต่างๆ มาปรับใชอ้ ยา่ งมีขน้ั ตอนและระมดั ระวัง ในการปฏบิ ัติ มคี วามตระหนักในคุณธรรม มี
ความซอื่ สตั ยส์ จุ ริต มีความเพียรความอดทน และใช้สติปัญญาอย่างชาญฉลาดในการดาเนินชวี ิตบนทางสายกลาง
4.ครอู ธิบายการประยกุ ต์ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการวางแผนและดาเนินงานพอประมาณ มี
เหตุผล สรา้ งภมู ิคมุ้ กนั และมีบทบาทในการชว่ ยเหลือกันภายในประเทศ การบริหารจดั การดว้ ยความพอเพยี งนนั้
จะตอ้ งเรมิ่ ที่เปา้ หมาย ไดแ้ ก่
1) ความสามารถในการบรหิ ารงาน โดยต้องสอดคล้องกับโลกภายนอกโดยไมข่ ยายตวั เกินกวา่ กาลังที่มีอยู่
หรือต้องมปี ระสิทธผิ ลในทางการตลาดหรือการตามทนั กบั การเปลี่ยนแปลงทเ่ี กิดขึ้นซึ่งต้องมสี ตแิ ละความรู้

2) ต้องแสวงหาความรู้กับสรา้ งความเข้มแข็งหรือเพิม่ ความขยันขนั แข็งในการทางานโดยมีการติดตาม
เทคนคิ วทิ ยาการ แลว้ รูจ้ ักเลอื กใช้เทคโนโลยีและเอามาประยกุ ตใ์ ชเ้ พ่ือประโยชน์ในการผลิตและการทางานให้มี
ประสทิ ธภิ าพดขี ้นึ หรือก็คือการเพม่ิ ผลผลิตอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ

3) การมเี ป้าหมายด้านคุณภาพชีวติ คือการรู้จักใช้จ่ายบริโภคตามความจาเป็นและอย่างมีเหตุผลเพือ่ ชวี ิตที่
อยดู่ ีมีสุข ใชช้ ีวิตอยา่ งมีคุณคา่ มกี ารเรียนรู้ โดยมีความสุขสมดลุ ท้ังกายและใจพร้อมกับมีการออมเพื่อความ
ปลอดภยั ด้วย

5.ครแู ละผเู้ รียนบอกแนวทางการนาปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใชใ้ นการดาเนินชวี ิต โดยการดาเนนิ ชวี ิต
ของแตล่ ะบคุ คลย่อมต้องอาศัยหลกั และแนวคดิ เพ่ือใหก้ ารดาเนินชวี ิตเป็นไปอย่างราบรื่น ซง่ึ อาจจะไดร้ บั การ
ปลกู ฝงั มาจากสถาบนั ครอบครวั (ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม)่ สถาบันการศกึ ษา สถาบันทางสังคม เป็นต้น

6.ครอู ธบิ ายและแสดงการทาบัญชีครัวเรือน โดยการทาบัญชีครัวเรอื น คือ การจดบนั ทกึ ขอ้ มลู เก่ียวกบั
เงอื่ นไขปัจจยั ในการดารงชีวิตของตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศ ขอ้ มูลที่ไดจ้ ากการบันทึกจะเปน็ ตัวบ่งชี้
อดีต ปัจจบุ ัน และอนาคตของชวี ติ สามารถนาขอ้ มูลอดตี มาบอกปจั จุบนั และอนาคตได้ ขอ้ มลู ที่ไดท้ ี่บันทกึ ไว้ จะ
เป็นประโยชน์ต่อการวางแผนชีวติ และกจิ กรรมต่างๆ ในชีวติ ครอบครวั ชุมชน และประเทศได้

7.ครูอธิบายรูปแบบการบนั ทึกการทางานหรอื ทาบญั ชีรายรับ-รายจา่ ย อาจแตกต่างกนั ไปขนึ้ อยู่กับสภาพ
ความเปน็ อยู่ของแตล่ ะบุคคล ทัง้ น้ีไม่ได้กาหนดรปู แบบทตี่ ายตวั ใหย้ ดื หยุ่นได้ตามสภาพความเป็นอยู่ที่เหมาะสม
และการใช้งานนนั้ ซง่ึ อาจบนั ทึกในรูปแบบและหวั ข้อต่อไปนี้

1) การบนั ทึกเก่ียวกบั การใช้เครอ่ื งมือและวสั ดอุ ปุ กรณ์ เพือ่ จะได้ทราบวา่ ในการทางานจาเปน็ ตอ้ งใช้
เครอ่ื งมืออะไรบา้ ง จานวนเท่าใด ถ้าจาเปน็ จะต้องซอ้ื จะเสียคา่ ใชจ้ า่ ยมากนอ้ ยเพยี งใด

2) การบนั ทึกการปฏบิ ัติงาน เปน็ การบันทึกข้อมลู ในการปฏบิ ตั ิงาน เพ่ือจะไดท้ ราบวา่ การปฏบิ ตั งิ านในแต่ละวัน
หรอื แตล่ ะสัปดาห์มงี านอะไรบา้ ง มีปญั หาในการดาเนินงานอย่างไร และไดแ้ ก้ปัญหานั้นอยา่ งไรควรมกี ารลงชื่อ
ผปู้ ฏบิ ัติงานดว้ ย

3) การบนั ทึกบัญชรี ายรับ-รายจา่ ย มีความสาคญั มาก เนื่องจากเป็นแหล่งข้อมูลท่ตี ้องการใช้
ในการกาหนดรายได้-รายจา่ ย การจดั ทาแผนงบประมาณและอ่นื ๆ ท่เี กย่ี วข้อง

8.ครอู ธิบายภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ ไทย โดยภมู ปิ ัญญาท้องถิน่ ไทย (Wisdom) คอื ความรูค้ วามชานาญ วธิ ีการ
หรือเทคโนโลยีท่มี ีการสบื ทอดต่อกันมาจากอดตี ส่ปู จั จบุ ัน รวมท้ังงานสร้างสรรค์ของกล่มุ คนในชุมชนบนพนื้ ฐาน
วัฒนธรรม และสรา้ งสรรค์ข้นึ เพ่ือประโยชนข์ องกลุ่ม โดยสะท้อนความคิดและความคาดหวังของชุมชนนั้น ดว้ ย
เปน็ การแสดงออกซงึ่ เอกลักษณ์ทางสงั คมและวัฒนธรรม มาตรฐานและคุณค่าของชมุ ชน อาจใชภ้ าษาหรือไมใ่ ช้
ภาษาหรือผสมผสานระหว่างใช้ภาษาและไมใ่ ชภ้ าษาเป็นส่ือ

9.ครบู อกประเภทของภูมิปัญญาท้องถ่ินไทย เปน็ องคค์ วามรู้ของกลุม่ บุคคลในท้องถิน่ รวมถงึ งาน
ศลิ ปวัฒนธรรมพนื้ บา้ นที่มีอยู่ในทกุ ภาคของประเทศ ภมู ิปัญญาท้องถนิ่ สามารถแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท

1) ภมู ปิ ญั ญาประเภทองค์ความรขู้ องกลมุ่ บุคคลท้องถิน่ เชน่ การผลิตอาหารและเคร่ืองดื่ม การผลติ
ผลติ ภณั ฑจ์ ากสมุนไพร การผลติ ผลติ ภณั ฑจ์ ากวสั ดเุ หลอื ใช้ และการผลิตผลิตภณั ฑจ์ ากไม้ หนิ โลหะ แก้ว เซรามิก
ดนิ เผา เครอื่ งหนงั เป็นต้น
2) ภมู ปิ ญั ญาประเภทงานศลิ ปวัฒนธรรมพืน้ บ้าน เช่น เร่ืองเล่าพ้นื บา้ น กวีนพิ นธ์พ้นื บ้าน ปรศิ นาพนื้ บา้ น เพลง
พ้ืนบ้าน ดนตรพี ้ืนบ้าน ละครพนื้ บ้าน จิตรกรรมพน้ื บา้ น ประตมิ ากรรมพืน้ บา้ น หัตถกรรมพืน้ บา้ น เครือ่ งแต่งกาย
พื้นบา้ น เปน็ ต้น

19. แบบฝกึ หัด

1. จงอธิบายการประยุกตใชปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงในการดาเนินธุรกจิ โดยการพจิ ารณาจากความสามารถ
ในการพ่ึงตนเอง วามีลักษณะอยางไรบาง

ตอบ............................................................................................................................. ........................

2. ผปู ระกอบการควรนาคุณธรรมมาใชในการดาเนนิ ธุรกิจตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งอยางไรบาง
ตอบ............................................................................................................................. ........................

3. หลักเกณฑในการประกอบธุรกจิ แบบเศรษฐกิจพอเพยี ง มีลักษณะอยางไรบาง
ตอบ............................................................................................................................. ........................

4. ผปู ระกอบการสามารถปรับตัวเองใหเขากบั สภาพแวดลอมท่ีเปลี่ยนแปลงไปไดอยางไรบาง
ตอบ............................................................................................................................. ........................

5. การประกอบอาชพี แบบเศรษฐกจิ พอเพียงสามารถทาไดอยางไรบาง
ตอบ............................................................................................................................. ........................

6. การบริหารจัดการดวยความพอเพยี งนน้ั จะตองเริ่มทเ่ี ปาหมายใดบาง
ตอบ............................................................................................................................................ .........

7. ผปู ระกอบการสามารถนาแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใชในการจัดการกับชวี ิตไดอยางไรบาง
ตอบ.....................................................................................................................................................

8. การทาบญั ชีครวั เรอื นหมายถึงอะไร จงอธบิ าย
ตอบ......................................................................................... ............................................................

9. ภมู ปิ ญญาทองถ่นิ ไทย (Wisdom) หมายถงึ อะไร
ตอบ............................................................................................................................. ........................

10. ภมู ิปญญาทองถิ่นไทยแบงออกเปนก่ีประเภท อะไรบาง
ตอบ............................................................................................................................. ........................

เฉลยแบบฝึกหดั

1. จงอธิบายการประยุกตใชปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดาเนินธรุ กจิ โดยการพจิ ารณาจากความสามารถ
ในการพง่ึ ตนเอง วามลี ักษณะอยางไรบาง

ตอบ การพจิ ารณาจากความสามารถในการพึ่งตนเองท่ีเนนความสมดุลทั้ง 3 คุณลักษณะ คือ พอประมาณ
มีเหตุมผี ลและมีภมู ิคุมกัน มาประกอบการตัดสินใจเรือ่ งตางๆ อยางเปนข้นั เปนตอน รอบคอบ ระมดั ระวงั
พจิ ารณาถึงความพอดี พอเหมาะ พอควร และพรอมรบั การเปลย่ี นแปลงทีค่ รอบคลมุ ทั้ง 5 ประการ คือ

1. ดานจิตใจ มจี ิตใจเขมแขง็ ฝกฝนตนเองได มจี ติ สานึกที่ดี เออ้ื อาทร ประนปี ระนอมและนกึ ถงึ
ประโยชนสวนรวมเปนหลัก

2. ดานสังคม มีความชวยเหลอื เก้ือกลู กนั รูรักสามัคคี สรางความเขมแข็งใหครอบครัวและชมุ ชน
รจู ักผนกึ กาลัง มีกระบวนการเรียนรูท่เี กดิ จากรากฐานที่มัน่ คงแขง็ แรง

3. ดานเศรษฐกิจ ดารงชีวติ อยูอยางพอดี พอมี พอกิน สมควรตามอตั ภาพ และฐานะของตน
ประกอบอาชีพสจุ รติ (สมั มาอาชีวะ) ดวยความขยนั หม่ันเพียร อดทนใชชวี ติ เรยี บงาย โดยไมเบียดเบยี น
ตนเองและผูอืน่ มีรายไดสมดุลกับรายจาย รูจักการใชจายของตนเองและครอบครวั อยางมเี หตุผลเทาท่ีจาเปน
ประหยัด รูจกั การเกบ็ ออมเงินและแบงปนผูอ่นื

4. ดานเทคโนโลยี รจู กั ใชเทคโนโลยที เี่ หมาะสม สอดคลองกับความตองการและภมู ินิเวศ พัฒนา
เทคโนโลยจี ากภมู ิปญญาทองถ่นิ มาใชใหเกดิ ประโยชนตอตนเองและสงั คม

5. ดานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอม รูจกั ใชและจดั การอยางฉลาดและรอบคอบ สามารถเลอื ก
ใชทรพั ยากรที่มีอยูใหเกิดความยงั่ ยนื สูงสุด

2. ผปู ระกอบการควรนาคุณธรรมมาใชในการดาเนินธุรกิจตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งอยางไรบาง
ตอบ พิจารณาความรูคูคณุ ธรรม มกี ารศึกษาเรยี นรูและพฒั นาตนเองอยางตอเน่ืองในวชิ าการตางๆ ที่

เก่ยี วกบั การดารงชีวิต โดยใชสตปิ ญญาตดั สนิ ใจอยางรอบรู รอบคอบ และมเี หตผุ ลทีจ่ ะนาความรูตางๆ มาปรบั ใช
อยางมีข้นั ตอนและระมัดระวังในการปฏบิ ตั ิ มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซ่ือสัตยสจุ ริต มีความเพยี ร
ความอดทน และใชสติปญญาอยางชาญฉลาดในการดาเนนิ ชวี ิตในทางสายกลาง คุณธรรมท่ีทุกคนควรจะศกึ ษา
และนามาปฏิบัติมีดังน้ี

1. การรกั ษาความสัตย ความจริงใจตอตนเองท่ีประพฤติปฏิบตั สิ ่ิงทม่ี ปี ระโยชนและเปนธรรม
2. การรจู ักขมใจตนเอง ฝกใจตนเองใหประพฤติปฏิบตั อิ ยูในสจั จะความดนี น้ั
3. ความอดทน อดกล้นั และอดออมท่ีจะไมประพฤติลวงความสัตยสุจริตไมวาดวยเหตใุ ด
4. การรจู ักละวางความช่วั ความทุจรติ และรจู ักสละประโยชนสวนนอยของตนเพื่อบานเมอื ง

3. หลักเกณฑในการประกอบธุรกจิ แบบเศรษฐกิจพอเพียง มลี กั ษณะอยางไรบาง
ตอบ หลกั เกณฑในการประกอบธรุ กจิ แบบเศรษฐกิจพอเพียง มีดงั นี้
1. การบรหิ ารความเสี่ยงทางการตลาดท่ีชดั เจน โดยมคี วามรูจรงิ ในการทาตลาด และมีตลาดท่ี

หลากหลายเพ่อื ลดความเส่ยี ง
2. ไมใหความสาคัญกบั การสรางกาไรสูงสดุ เพือ่ เพ่มิ มูลคาใหกับผูถอื หุนแตเพียงอยางเดยี ว

แตคานึงถึงผทู เี่ ก่ียวของท้งั หมดของธุรกิจ
3. การดาเนนิ ธรุ กจิ ทตี่ นเองมีความรูจรงิ ไมแขงขนั ในตลาดท่ีตนเองไมมีความชานาญ
4. มีเหตผุ ลในการขยายตลาด แบบคอยเปนคอยไป รูจกั วางแผนอยางรอบคอบ
5. มคี วามซอื่ สตั ยสุจรติ ในการประกอบการ ไมเอารัดเอาเปรียบผูบริโภคและผูใชแรงงาน
6. การใหบริการลูกคาอยางจรงิ ใจและโปรงใส อยางสม่าเสมอ
7. ไมมีความโลภมากเกนิ ไป และไมเนนกาไรในระยะสั้นเปนหลกั

4. ผปู ระกอบการสามารถปรับตัวเองใหเขากบั สภาพแวดลอมทเี่ ปลย่ี นแปลงไปไดอยางไรบาง
ตอบ ผูประกอบการสามารถปรบั ตวั เองใหเขากบั สภาพแวดลอมทเี่ ปล่ียนแปลงไปไดดงั น้ี
1. การปฏบิ ัติตอผูเกี่ยวของอยางเปนธรรม ผูที่เก่ียวของประกอบดวยเจาของธรุ กจิ หุนสวน และ
ประชาชนในฐานะผูบรโิ ภค ทกุ คนที่เก่ียวของควรไดรับความเปนธรรมจากการดาเนนิ ธรุ กิจ
2. มีการกาหนดนโยบายท่ีมคี วามชัดเจน และดาเนนิ การตามนโยบายทีก่ าหนดไว ซึ่งสะทอนใหเหน็

ถงึ ประสทิ ธิภาพในการดาเนนิ งานของบริษทั
3. ดาเนินงานอยางโปรงใส ควรเปดเผยขอมลู อยางถูกตองสม่าเสมอ ทันเวลา และมรี ะบบ

ทต่ี รวจสอบขอมูลได ซ่ึงจะสงผลใหผูถือหุน ลูกคา คูคา สถาบันการเงนิ และนกั ลงทุน มีความเชอ่ื ถือมากข้นึ
องคการสามารถหาพนั ธมติ รธุรกจิ ไดงาย สงผลตอการเพ่มิ ศักยภาพการแขงขันทางธรุ กจิ ได

4. ดาเนินธุรกิจแบบมีวิสยั ทศั น โดยการคดิ แบบกวางไกล มองการณไกล จะชวยใหธุรกจิ เติบโตและ
ขยายตวั ไปอยางมีทิศทางมเี ปาหมายทาใหธรุ กจิ ดาเนินงานไปไดอยางมน่ั คงและย่งั ยืน

5. การประกอบอาชพี แบบเศรษฐกิจพอเพยี งสามารถทาไดอยางไรบาง
ตอบ การประกอบอาชีพแบบเศรษฐกจิ พอเพียงสามารถทาได ดงั น้ี
1. ทาไรทานาสวนผสมผสาน เพือ่ เปนจดุ เริ่มตนเศรษฐกิจพอเพียง
2. ปลูกผักสวนครวั เพื่อลดรายจายดานอาหารในครอบครัว
3. ใชปุยคอกและทาปุยหมักใชรวมกบั ปุยเคมี เพอ่ื ลดรายจายและชวยปรบั ปรุงบารุงดนิ
4. เพาะปลูกเห็ดฟางจากฟางขาวและเศษวสั ดุเหลือใชในไรนา
5. ปลูกผลไมสวนหลงั บานและปลกู ตนไมใชสอย
6. ปลูกพชื สมุนไพรชวยสงเสริมสุขภาพอนามยั
7. เลยี้ งปลาในรองสวน ในนาขาวและสระน้า เพอ่ื เปนอาหารและรายไดเสรมิ
8. เล้ียงไกพ้ืนเมืองและไกไข เพอื่ เปนอาหารโปรตีนและรายไดเสริมโดยใชขาวเปลือกราปลายขาว

จากการทานา ขาวโพดเลย้ี งสัตวจากการปลูกพืชไร พืชผักจากการปลกู ในสวน
9. ทากาซชวี ภาพจากมลู สุกรหรอื ววั เพอ่ื ใชเปนพลงั งานในครัวเรอื น
10. ทาสารสกัดชีวภาพจากเศษพืชผักผลไม และพืชสมุนไพรทใ่ี ชในไรนา

6. การบรหิ ารจดั การดวยความพอเพียงน้นั จะตองเร่ิมทเี่ ปาหมายใดบาง
ตอบ การบริหารจดั การดวยความพอเพยี งนน้ั จะตองเร่ิมท่เี ปาหมายดงั น้ี
1. ความสามารถบริหารงาน โดยตองสอดคลองกบั โลกภายนอกโดยไมขยายตัวเกนิ กวากาลงั

ท่ีมอี ยู หรือตองมปี ระสิทธิผลในทางการตลาดหรือการตามทันกับการเปลย่ี นแปลงท่เี กิดข้ึน ซ่งึ ตองมสี ติความรู
2. ตองแสวงหาความรูกบั สรางความเขมแข็งหรือเพม่ิ ความขยันขนั แข็งในการทางาน โดยมีการ

ติดตาม เทคนิควิทยาการ แลวรูจักเลือกใชเทคโนโลยกี บั นาเอามาประยกุ ตใชเพ่ือประโยชนในการผลิตและ
การทางานใหมปี ระสิทธภิ าพดีขึน้ ซงึ่ ก็คอื การเพิม่ ผลผลิตอยางมีประสิทธภิ าพ

3. การมเี ปาหมายดานคณุ ภาพชีวติ คือการรูจักใชจายบริโภคตามความจาเปนและอยางมีเหตผุ ล
เพือ่ ชีวติ ท่ีอยูดีมีสุข ใชชวี ิตอยางมคี ุณคา มีการเรยี นรู โดยมีความสขุ สมดลุ ทง้ั กายและใจ

7. ผปู ระกอบการสามารถนาแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงไปใชในการจัดการกับชีวติ ไดอยางไรบาง
ตอบ ผูประกอบการสามารถนาแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใชในการจัดการกับชวี ติ ไดดังนี้
1. รจู กั ใชเงินใหเหมาะสม ในการหารายไดของบุคคลมที ่ีมา 4 ดาน ดงั นี้
1.1 รายไดจากการเปนลูกจาง
1.2 รายไดจากการประกอบอาชีพอิสระ
1.3 รายไดจากการเปนผูประกอบการธรุ กจิ
1.4 รายไดจากการลงทุน
2. รจู กั เลือกใหเหมาะสม
3. รจู กั การบรโิ ภคที่เหมาะสม
4. หลีกเล่ียงอบายมุข

8. การทาบญั ชีครวั เรอื นหมายถึงอะไร จงอธิบาย
ตอบ การทาบญั ชคี รวั เรือน คือ การจดบันทึกขอมลู เก่ียวกับเงื่อนไขปจจัยในการดารงชวี ิตของตนเอง

ครอบครัว ชมุ ชน และประเทศ ขอมูลทไี่ ดจากการบนั ทึกจะเปนตัวบงชอ้ี ดตี ปจจบุ นั และอนาคตของชวี ิต
สามารถนาขอมลู อดีตมาบอกปจจบุ นั และอนาคตได ขอมลู ที่ไดบันทึกไว จะเปนประโยชนตอการวางแผนชีวิต
และกิจกรรมตางๆ ในชวี ติ ครอบครัว ชุมชน และประเทศได

9. ภูมิปญญาทองถิ่นไทย (Wisdom) หมายถงึ อะไร
ตอบ ภมู ิปญญาทองถิน่ ไทย (Wisdom) คือ ความรูความชานาญ วิธกี ารหรอื เทคโนโลยที ีม่ กี ารสบื ทอด

ตอกนั มาจากอดีตสูปจจบุ นั รวมทั้งงานสรางสรรคของกลุมคนในชมุ ชนบนพน้ื ฐานวฒั นธรรม และสรางสรรค
ข้นึ เพ่ือประโยชนของกลุม โดยสะทอนความคดิ และความคาดหวังของชมุ ชนนนั้ ดวยเปนการแสดงออกซึ่ง
เอกลกั ษณทางสังคมและวฒั นธรรม มาตรฐานและคุณคาของชุมชน อาจใชภาษาหรือไมใชภาษาหรอื ผสม
ผสานระหวางใชภาษาและไมใชภาษาเปนส่ือ

10. ภมู ปิ ญญาทองถน่ิ ไทยแบงออกเปนก่ีประเภท อะไรบาง
ตอบ ภมู ปิ ญญาทองถน่ิ สามารถแบงออกเปน 2 ประเภท ไดแก
1. ภมู ปิ ญญาฯประเภทองคความรูของกลุมบุคคลทองถ่ิน เชน การผลิตอาหารและเคร่ืองดม่ื

การผลติ ผลติ ภณั ฑจากสมนุ ไพร การผลติ ผลติ ภัณฑจากวัสดุเหลอื ใช และการผลติ ผลิตภัณฑจากไม หนิ โลหะ
แกว เซรามกิ ดนิ เผา เครื่องหนงั เปนตน

2. ภมู ปิ ญญาฯประเภทงานศิลปวัฒนธรรมพ้ืนบาน เชน เรอื่ งเลาพื้นบาน กวีนิพนธพนื้ บาน
ปรศิ นาพนื้ บาน เพลงพ้ืนบาน ดนตรีพน้ื บาน การฟอนราพ้ืนบาน ละครพนื้ บาน จิตรกรรมพ้นื บาน ประติมากรรม
พื้นบาน หตั ถกรรมพน้ื บาน เครื่องแตงกายพื้นบาน และสง่ิ ทอพ้ืนบาน เปนตน

17. ใบงาน

หนว่ ยการสอนท่ี 9
ชอ่ื หน่วยการสอน การประยุกต์ใชป้ รชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการเป็น

จุดประสงค์ เพ่ือ

1. สร้างความร้คู วามจาใหก้ ับผู้เรียน
2. เพิม่ การฝกึ ปฏบิ ตั ิแกผ่ ู้เรยี น
3. สรา้ งความรบั ผดิ ชอบ ความอดทน ความสนใจใฝ่เรียนรู้

ลาดับกิจกรรม/ลาดับการปฏบิ ัติ

1. ผู้เรยี นศกึ ษาเนอื้ หาจากใบความรู้
2. ผูเ้ รยี นศึกษาหาความร้จู ากตาราเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ การประยุกตใ์ ชป้ รชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพียง 20001-1003 สานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์
3. หรอื ครูผสู้ อนบรรยายความรู้ เร่อื ง การประยกุ ต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการเป็น
4. จัดทาใบงานตามทมี่ อบหมาย (กาหนดเวลาจัดทา 50 นาท)ี
5. สง่ งานใบงานท่ีมอบหมายก่อนหมดเวลาเรียน (10 นาที หรอื เป็นการบา้ น)

เกณฑ์การพจิ ารณา

1. ส่งงานตรงเวลานัดหมาย
2. จดั ทาครบทกุ ขอ้ ทกี่ าหนด
3. ทางานเป็นระเบียบเรียบร้อย

ใบงานท่ี 9.1

เรอื่ ง การประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการวางแผนและดาเนนิ งาน
ชอ่ื -สกลุ ............................................................................................เลขท่ี.........ช้ัน.............. ............
คาชี้แจง นักเรียนสามารถนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้ในการวางแผนและดาเนนิ งานของ
ธรุ กจิ ไดอ้ ย่างไรบ้าง
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................... .........................................
.......................................................................................... ....................................

ใบงานที่ 9.2

เรือ่ ง การประยกุ ตใ์ ช้ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดาเนนิ ธรุ กจิ
ช่ือ-สกลุ ............................................................................................เลขท.่ี ........ชั้น.............. ............
คาชแ้ี จง ให้นาขอ้ มูลเกย่ี วกบั เศรษฐกจิ พอเพียงจากสือ่ อนิ เทอรเ์ น็ต/หนังสือพมิ พ์/สงิ่ ตีพมิ พอ์ ่นื ๆ มาคนละ
3 เรอ่ื ง โดยปฏบิ ัตดิ ังนี้

เรื่องที่ 1.................................................................................................................................
อา้ งอิงแหลง่ ทม่ี า............................................................................................................................. ...
1.เรื่องทศ่ี ึกษามคี วามสมั พนั ธ์กบั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งอย่างไร
......................................................................................................................................................... ..
2.แนวคิดท่ีไดจ้ ากการศึกษา.................................................................................................................
............................................................................................................................. ..............................

เรอ่ื งที่ 2.................................................................................................................................
อา้ งอิงแหล่งที่มา............................................................................................................................. ..
1.เรอื่ งท่ศี ึกษามคี วามสมั พันธ์กับปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงอย่างไร
............................................................................................................................. ..............................
2.แนวคิดทไี่ ด้จากการศกึ ษา.................................................................................................................
............................................................................................................................. ..............................

เร่ืองที่ 3.................................................................................................................................
อา้ งอิงแหลง่ ทีม่ า............................................................................................................................. ..
1.เรอ่ื งท่ีศึกษามคี วามสัมพันธ์กับปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงอย่างไร
............................................................................................................................. ..............................
2.แนวคิดทไ่ี ด้จากการศึกษา.................................................................................................................
............................................................................................................................. ..............................

ใบงานท่ี 9.3

เร่ือง การทาบญั ชคี รวั เรอื น

ชือ่ -สกลุ ............................................................................................เลขที.่ ........ชั้น.............. ............

คาชแี้ จง ใหบ้ นั ทกึ รายรบั -รายจ่ายในครัวเรือนของตนเอง ตลอดภาคเรียนนตี้ ามแบบฟอร์มท่กี าหนดให้

สมดุ บนั ทึก รายรบั -รายจ่าย ในครัวเรอื น

ของนาย/นาง/นางสาว.......................................................

ประจาภาคเรียนท่ี.../........ระหวา่ งเดอื น..................ถงึ เดือน................พ.ศ. ........

วนั เดือน ปี รายการ รายรับ รายจา่ ย คงเหลอื

หมายเหตุ: 1.ถ้าไม่พอใหใ้ ชก้ ระดาษ A-4 ตแี บบฟอรม์ เพมิ่ เติมได้
2.ครผู ้สู อนอาจใหบ้ ันทึกเปน็ วัน/อาทิตย/์ เดือนแลว้ สรุปเปน็ ภาคเรยี น.../....กไ็ ด้

สรปุ ................................................................................................................................... .................
................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...............................
ข้อเสนอแนะ......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
...................................................................................................................................... ......................

ใบงานที่ 9.4

เร่ือง แนวทางการนาปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้ในการประกอบธรุ กิจ
ชอ่ื -สกลุ ............................................................................................เลขท่.ี ........ชัน้ ..........................
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กธรุ กิจทีต่ นเองรกั และสนใจท่จี ะประกอบอาชพี เม่อื จบการศึกษามา 1 อาชพี
แลว้ กาหนดแนวทางการนาปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้ในการประกอบธุรกิจ โดยวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน โดย
ใหศ้ ึกษาความเปน็ ไปไดข้ องธุรกิจน้ัน ๆ ใหร้ อบคอบและสามารถปฏิบตั ิได้จริง
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................... .....................
.............................................................................................................. ......................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................... .................................................
.................................................................................. ..................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................................... .
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ใบงานท่ี 9.5
เรอ่ื ง การวางแผนและการดาเนนิ งานท่ีสอดคล้องกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
ช่อื -สกลุ ............................................................................................เลขท่.ี ........ชั้น.............. ............
คาชแ้ี จง ใหเ้ ลอื กประกอบธรุ กิจมา 1 ชนิด โดยให้วางแผนและดาเนินงานให้สอดคล้องกบั ปรชั ญา
เศรษฐกิจพอเพยี ง ตามตารางขา้ งนี้

การวางแผนและการดาเนินงานท่สี อดคล้องกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
ความพอประมาณ

ความมีเหตุผล

การมีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ท่ีดี

เง่อื นไขความรู้

เงอื่ นไขคุณธรรม

เฉลยใบงานท่ี 1-5

(ดุลพนิ ิจของผสู้ อน)

แบบสรุปคะแนน

ชดุ ท่ี 1
รายวชิ า การประยกุ ตใ์ ช้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการเป็ น

คะแนน กิจกรรมที่ ใบงานที่ แบบทดสอบ แบบทดสอบ คะแนน
ก่อนเรียน หลงั เรียน ระหว่าง
123 1 เรยี น

คะแนนเต็ม  5 10 10 15

คะแนนท่ีได้
คิดเปน็ ร้อย
ละ

หมายเหตุ :  = ผา่ นกิจกรรม  = ไม่ผ่านกิจกรรม

(ลงชือ่ ) ....................................... ผปู้ ระเมิน
(นายวิจติ ร พลเศษ)

ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครูชานาญการ

เกณฑก์ ารประเมินแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและแบบทดสอบหลังเรยี น

ระดับคุณภาพ หมายถึง ดี
ระดับ 4 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ปานกลาง
ระดบั 3 7 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้
ระดบั 2 5 - 6 คะแนน

20. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรแู้ บบมงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชีพและบรู ณาการตามหลักปรชั ญา

ของเศรษฐกจิ พอเพียง

20.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้

รายการ ระดับการปฏิบัติ
5432 1

ด้านการเตรยี มการสอน

1. จดั หน่วยการเรยี นรู้ได้สอดคลอ้ งกับวัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้

2. กาหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ด้านทกั ษะ และดา้ นจิตพิสัย

3. เตรียมวสั ดุ-อุปกรณ์ ส่ือ นวตั กรรม กจิ กรรมตามแผนการจัดการเรยี นรกู้ ่อนเข้าสอน

ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

4. มีวธิ กี ารนาเข้าสู่บทเรยี นที่นา่ สนใจ

5. มกี ิจกรรมทีห่ ลากหลาย เพ่ือช่วยให้ผู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ ความเข้าใจ

6. จดั กจิ กรรมที่ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นคน้ คว้าเพ่ือหาคาตอบดว้ ยตนเอง

7. นักเรียนมสี ่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

8. จดั กิจกรรมท่ีเนน้ กระบวนการคดิ ( คิดวเิ คราะห์ คิดสังเคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ )

9. กระตุ้นใหผ้ ูเ้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี

10. จัดกิจกรรมการเรียนร้ทู ีเ่ ชื่อมโยงกบั ชวี ิตจรงิ โดยนาภมู ิปญั ญา/บรู ณาการเขา้ มามสี ว่ นร่วม

11. จัดกิจกรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม

12. มีการเสริมแรงเมือ่ นักเรยี นปฏิบัติ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผู้เรียน

14. เอาใจใส่ดแู ลผเู้ รยี น อย่างทั่วถงึ

15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่ีกาหนด

ดา้ นส่อื นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้

16. ใช้สือ่ ทเี่ หมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผเู้ รยี น

17. ใชส้ ่อื แหล่งการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เชน่ บคุ คล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

ส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์ และอนิ เทอรเ์ น็ต เป็นต้น

ด้านการวดั และประเมินผล

18. ผู้เรียนมสี ว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล

19. ประเมนิ ผลอยา่ งหลากหลายและครบทั้งดา้ นความรู้ ทกั ษะ และจิตพิสัย

20. ครู ผเู้ รยี น ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ ่ีเก่ยี วข้องมสี ว่ นรว่ ม ในการประเมิน

หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดเี ยีย่ ม 4 = ปฏิบตั ดิ ี 3 = ปฏบิ ัตพิ อใช้ รวม
2 = ควรปรับปรงุ 1 = ไม่มีการปฏบิ ตั ิ ค่าเฉลี่ย

20.2 ปญั หาทพ่ี บ และแนวทางแกป้ ัญหา แนวทางแกป้ ัญหา
ปัญหาท่ีพบ
.....................................................................................
ด้านการเตรียมการสอน .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................

ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .................................................................................... .
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................

ด้านสอื่ นวัตกรรม แหลง่ การเรียนรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................

ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านอื่นๆ (โปรดระบเุ ปน็ ข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ลงช่อื ........................................................................ ครผู ู้สอน
(....................................................................)

ตาแหนง่ .......................................................................
............../.................................../....................

บันทกึ หลงั การสอน

ผลการใชแ้ ผนการเรยี นรู้

ความเหมาะสมของเวลา
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรุง

ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนการสอน
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรุง

……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………

ผลการเรียนของผู้เรยี น

ความต้ังใจของผ้เู รียน  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรงุ
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ
 ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ
อุปกรณ์การสอน
 มาก  ดี

การเรียนรู้ของผู้เรียน
 มาก  ดี

…………………………………………………………………………………………………………………………………….………

การสอนของครู

 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ

กิจกรรมการสอนที่กาหนดไว้ในแผนการจดั การ

เรียนรู้  ตรงตามแผนการจัดการเรียนรู้  ไมต่ รงตามแผนการจดั การเรยี นรู้

บนั ทกึ เพ่ิมเติม

............................................................................................................................. ................................

………………………………………………
(นายวจิ ิตร พลเศษ)
ผูบ้ ันทกึ การสอน


Click to View FlipBook Version