The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ปวส.

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นายวิจิตร พลเศษ, 2021-07-19 06:56:34

วิชาธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ปวส.

ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ปวส.

2) งบแสดงฐานะการเงนิ สว่ นบุคคล
3. การบนั ทกึ รายการทรพั ยส์ นิ สว่ นบคุ คล

4.บนั ทกึ รายการเสยี ภาษี

5) บนั ทกึ หลกั ฐานกรรมสทิ ธใิ์ นทรพั ยส์ นิ ไมห่ มนุ เวยี น
6) บนั ทกึ หลกั ฐานการประกนั ภยั
7) บนั ทกึ หลกั ฐานการลงทุน
8) บนั ทกึ หลกั ฐานสาคญั อน่ื ๆ

10.ครอู ธบิ ายและสาธติ การทางบประมาณ (Budgeting) คอื การวางแผนการทค่ี าดวา่ จะตอ้ งจา่ ย โดยการคดิ
ลว่ งหน้าและแสดงขอ้ มลู ออกมาเป็นตวั เลขและอาจแสดงออกมาในรปู ของตวั เงนิ จานวนชวั่ โมงในการทางาน จานวน
ผลติ ภณั ฑจ์ านวนชวั่ โมงเครอ่ื งจกั ร คา่ สกึ หรอ คา่ โสหยุ้ เป็นตน้

11.ครสู าธติ การทางบประมาณสว่ นบคุ คล (Personal Budgets) หมายถงึ การวางแผนประมาณรายไดร้ ายจา่ ย
ลว่ งหน้า เพ่อื จดั สรรเงนิ ทม่ี อี ยอู่ ย่างจากดั ใหป้ ระสบความสาเรจ็ ตามเป้าหมาย โดยจดั ทางบประมาณรายไดแ้ ละค่าใชจ้ ่าย
ตามทไ่ี ดค้ าดการณ์ไว้ แลว้ จงึ นามาประกอบเป็นงบประมาณรายไดแ้ ละงบประมาณรายจา่ ย
รายเดอื นหรอื รายปี เพอ่ื ควบคุมคา่ ใชจ้ ่ายใหอ้ ยใู่ นกรอบของงบประมาณทไ่ี ดก้ าหนดกจ็ ะมเี งนิ เหลอื ใชเ้ งนิ สว่ นน้กี จ็ ะเป็นเงนิ
ออมในวนั ขา้ งหน้า

12.ครสู าธติ การทางบประมาณรายจา่ ยสว่ นบุคคล

19. แบบฝกึ หดั

1. การวางแผนทางการเงนิ หมายถึงอะไร และมลี ักษณะอยางไรบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. จงบอกวตั ถปุ ระสงคทางการเงนิ สวนบุคคล
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

3. วิธีการวางแผนทางการเงินสาหรบั ธรุ กิจมี 2 ลักษณะ คือ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

4. จงบอกวตั ถปุ ระสงคของการวางแผนทางการเงนิ สาหรบั ธุรกจิ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

5. การวางแผนทางการเงนิ ท่ีมปี ระสิทธิภาพมหี ลกั การอยางไรบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

6. ใครบางทม่ี ีสวนเกี่ยวของกับการวางแผนทางการเงิน
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

7. เหตใุ ดจึงตองมีการจดั การทางการเงนิ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

8. จงบอกขอบเขตการดาเนนิ งานการจดั การทางการเงิน ตอบ ขอบเขตการดาเนนิ งาน มีดงั นี้
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

9. จงบอกวตั ถุประสงคของการจัดการทางการเงนิ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

10. งบรายได-รายจาย และงบแสดงฐานะการเงนิ สวนบคุ คลแตกตางกันอยางไร
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

เฉลยแบบฝึกหัด

1. การวางแผนทางการเงนิ หมายถงึ อะไร และมีลักษณะอยางไรบาง
ตอบ การวางแผนทางการเงิน หมายถึง การกาหนดการใชจายเงนิ ตางๆ ใหสอดคลองกบั แผนงานท่จี ดั ทา

ขนึ้ และระบุถึงแหลงทม่ี าของเงนิ และการใชไปของเงนิ ในกิจกรรมตางๆ แบงได 2 ลักษณะ ไดแก
1. การวางแผนการเงินสวนบุคคล
2. การวางแผนการเงนิ สาหรับธรุ กจิ

2. จงบอกวัตถปุ ระสงคทางการเงินสวนบคุ คล
ตอบ วตั ถปุ ระสงคทางการเงินสวนบุคคล
1. รายจายประจาทตี่ องจายอยางสม่าเสมอ
2. เงินออมระยะสน้ั
3. เงนิ ออมระยะยาว

3. วิธกี ารวางแผนทางการเงนิ สาหรบั ธุรกิจมี 2 ลักษณะ คือ
ตอบ วิธกี ารวางแผนทางการเงินสาหรบั ธรุ กจิ มี 2 ลักษณะ คือ
1. การกาหนดเปาหมายรวมของธรุ กจิ
2. การพยากรณของแตละฝาย

4. จงบอกวัตถุประสงคของการวางแผนทางการเงนิ สาหรับธรุ กิจ
ตอบ วัตถปุ ระสงคของการวางแผนงานทางการเงินสาหรบั ธรุ กิจ เพ่อื ใหเกดิ ความคลองตัว (Liquidity)

และเพ่ือประโยชนในดานการทากาไร (Profi tability)

5. การวางแผนทางการเงนิ ท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพมหี ลกั การอยางไรบาง
ตอบ หลักในการวางแผนทางการเงินทมี่ ีประสทิ ธภิ าพมีดงั น้ี
1. การประเมินสถานการณ เปนการเกบ็ ขอมลู ตางๆ เก่ยี วกบั ตนเองและส่ิงแวดลอม เพราะจะชวย ให

สามารถประเมินรายรับ-รายจายได นอกจากน้ียังสามารถประเมินสนิ ทรัพยท่ีมีได
2. กาหนดเปาหมาย คือ การวางแผนการเงนิ โดยกาหนดใหอยูในรูปของตวั เงนิ ระยะเวลาเทาไร และเปา

หมายท่ีเปนไปได โดยใหสอดคลองกับรายรบั -รายจาย และหนส้ี ินท่ีมอี ยู ท้ังนี้การวางแผนการเงิน ควรแยกเปนเปา
หมายระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพอ่ื ใหปฏิบตั ิตามเปาหมายท่ีกาหนดไวอยางชัดเจน

3. การจดั ทาแผนทางการเงนิ ควรจัดทาแผนดวยความละเอียดและรอบคอบ เพื่อใหปฏิบัตไิ ดจริง และ
ถกู ตองตามแผนท่ีกาหนดไว

4. การนาแผนไปปฏบิ ัติ เปนการทาตามแผนท่กี าหนดไว โดยตองมีวินยั ในการปฏิบตั ิอยางเครงครัด
5. การวัดผลและการปรับปรงุ แกไข เปนสิ่งทีจ่ ะทาใหทราบวา แผนนัน้ สามารถปฏิบตั ิไดจริงตรงตาม เปาหมายหรอื
ไม และสามารถนาผลท่ีไดไปพฒั นาและปรบั ปรุงผลการปฏิบตั ิในอนาคตได
6. ใครบางทม่ี ีสวนเก่ยี วของกับการวางแผนทางการเงิน

ตอบ บคุ คลท่เี กี่ยวของกบั การวางแผนทางการเงนิ ไดแก
1. รัฐบาล (Government)
2. ธุรกิจ (Business)
3. ผบู ริโภค (Consumer)

7. เหตุใดจงึ ตองมีการจดั การทางการเงนิ
ตอบ เพราะการจดั การทางการเงิน เปนการวางแผนการจัดระเบยี บและการควบคุมกากับกิจกรรมทาง

การเงนิ เชน การจัดซ้ือและการใชประโยชนจากเงนิ ทุน ซึง่ ใชหลักทว่ั ไปของทรัพยากรทางการเงนิ ของธุรกจิ

8. จงบอกขอบเขตการดาเนินงานการจดั การทางการเงนิ ตอบ ขอบเขตการดาเนินงาน มีดงั นี้
1. การตดั สนิ ใจลงทุน เปนสวนหน่งึ ของการตัดสินใจลงทุนเรยี กวาการทางานดานการตัดสินใจ ลงทนุ และ

จะมีความสาคญั มากสาหรับธุรกจิ ท่ีมเี งินสดจานวนมากในแตละเดอื น หรือไตรมาส แตเปนเงนิ สด แบบหมุนเวียน
เร็ว การจดั การลงทุนระยะส้ันจะมคี วามสาคญั อยางมาก

2. การตัดสนิ ใจทางการเงนิ จะเปนการดาเนนิ งานเกี่ยวกับการระดมเงินทุนจากแหลงตางๆ ซ่งึ จะ ข้นึ อยู
กับการตัดสินใจเกีย่ วกับชนิดของแหลงเงนิ ทุนที่มีอยู และคาใชจายท่เี ปนตนทนุ ของเงนิ ทุนทีใ่ ชในการ บรหิ าร เชน
เงนิ กรู ะยะยาวหรือระยะสน้ั หรือผลตอบแทนจากการลงทุนทค่ี าดหวังจะไดรบั เปนตน

3. การตดั สินใจเกย่ี วกับผลตอบแทน ฝายการเงนิ มีหนาทต่ี ดั สินใจเก่ยี วกบั วิธีการกระจายการลงทุน และ
การบรหิ ารผลกาไรทเ่ี กดิ ขนึ้ จากเงินลงทนุ เหลานนั้ ซึง่ กาไรสุทธิแบงออกได 2 ลกั ษณะ

9. จงบอกวตั ถุประสงคของการจดั การทางการเงนิ
ตอบ วตั ถุประสงคของการจัดการทางการเงนิ สามารถแบงไดดงั น้ี
1. เพอ่ื ใหมีเงนิ ทุนเพยี งพอทจี่ ะดาเนนิ ธุรกิจไดอยางตอเน่ืองในระยะยาว
2. เพอ่ื ใหไดรับผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงการตางๆ หรอื เขาไปถือหุนในบริษทั ตางๆ ใน ตลาด

หลักทรพั ย ใหผลตอบแทนดานเงินปนผลทเ่ี พยี งพอและคุมคากบั การลงทนุ
3. เพอื่ ใหการลงทุนในโครงการตางๆ หรือกิจการตางๆ เปนไปอยางเหมาะสม และถูกตองตาม วัตถปุ ระ

สงคของการเบิกจายเงนิ ไปใช
4. เพือ่ ใหเงินทนุ ทีม่ ีอยูถูกใชในธรุ กรรมตางๆ อยางเหมาะสม และถูกตองตามมาตรฐานการลงทนุ ทาง

การเงนิ และไดผลตอบแทนตามทกี่ าหนดไวลวงหนา
5. เพอ่ื ใหแผนการลงทนุ ตางๆ ทไี่ ดวิเคราะหแลว ไดดาเนินการตามท่ีวางแผนไว และไดรับผลตอบแทน คุ

มกับการวางแผนไวลวงหนา มีความถูกตองแมนยา หรือมีความผดิ พลาดในสวนใด จะไดนากลบั มาแกไข ปรบั ปรุง
สาหรบั การวางแผนทางการเงินในครั้งตอไป

10. งบรายได-รายจาย และงบแสดงฐานะการเงนิ สวนบคุ คลแตกตางกนั อยางไร
ตอบ งบรายไดและรายจายสวนบคุ คล เปนงบสรปุ รายละเอยี ดรายไดและรายจายในชวงระยะเวลาหนึง่ ที่

ผานมา หรอื เปนรายงานทแี่ สดงทีม่ าของรายไดและท่ีไปของรายจาย เชน รายไดจากงานประจา งานพิเศษ รายได
จากการลงทุนในสนิ ทรพั ย บาเหนจ็ บานาญและสวสั ดกิ ารตางๆ และยงั เปนการจายเพื่อซื้อส่งิ ของตางๆ งบแสดง
ฐานะการเงินสวนบคุ คล เปนงบทแี่ สดงฐานะการเงนิ ของบุคคล ณ เวลาใดเวลาหน่งึ วามีสินทรัพย หนี้สิน และทนุ
จานวนเทาใด ประกอบดวยสินทรัพย หนี้ส้นิ และสวนของเจาของ

17. ใบงาน

หน่วยการสอนท่ี 5
ชอ่ื หน่วยการสอน การจัดหาและวางแผนทางการเงนิ
ชอ่ื หวั ข้อเรื่อง การจัดหาและวางแผนทางการเงิน

จดุ ประสงค์ เพอื่

1. สรา้ งความรูค้ วามจาใหก้ ับผู้เรยี น
2. เพม่ิ การฝึกปฏบิ ัติแก่ผู้เรยี น
3. สรา้ งความรบั ผดิ ชอบ ความอดทน ความสนใจใฝเ่ รียนรู้

ลาดบั กจิ กรรม/ลาดบั การปฏิบตั ิ

1. ผู้เรียนศกึ ษาเนื้อหาจากใบความรู้
2. ผู้เรยี นศึกษาหาความรู้จากตาราเรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การวางแผนเป้าหมายชีวิตด้วยวงจร

คุณภาพ 20001-1003 สานกั พิมพ์เอมพันธ์
3. หรือ ครผู สู้ อนบรรยายความรู้ เร่อื ง การวางแผนเป้าหมายชีวิตด้วยวงจรคณุ ภาพ
4. จดั ทาใบงานตามที่มอบหมาย (กาหนดเวลาจดั ทา 50 นาท)ี
5. สง่ งานใบงานทีม่ อบหมายกอ่ นหมดเวลาเรยี น (10 นาที หรอื เป็นการบ้าน)

เกณฑ์การพิจารณา

1. ส่งงานตรงเวลานัดหมาย
2. จัดทาครบทกุ ขอ้ ที่กาหนด
3. ทางานเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย

ใบงานที่ 5.1

เร่อื ง งบรายได้-รายจ่าย

ช่อื -สกลุ ............................................................................................เลขท่.ี ........ช้นั .............. ............

คาชแ้ี จง จงแสดงงบรายได้-รายจ่ายสว่ นบคุ คล ตามข้อมูลต่อไปน้ี

คณุ สมหวงั และคณุ สมหญงิ เป็นสามภี รรยากันและไม่มีบุตร ซ่งึ คณุ สมหวังทางานในโรงงานมีรายได้จาก

เงินเดือนปลี ะ 300,000 บาท ส่วนคุณสมหญงิ ทางานเป็นลูกจ้างในบรษิ ัทมีรายได้ปีละ 170,000 บาท ขณะทีค่ ุณ

สมหญิงมกี ารฝึกอบรมเป็นระยะเพ่ือพัฒนาตนเอง ซง่ึ มีค่าใชจ้ า่ ยเกดิ ขน้ึ ปีละ 30,000 บาท ทง้ั สองคนไดจ้ ดบนั ทึก

รายไดแ้ ละคา่ ใชจ้ า่ ยในปี 2557 ดังน้ี

คา่ ผอ่ นบา้ น 20,000 บาท คา่ เบย้ี ประกันชีวติ 48,000 บาท

ค่าผอ่ นรถยนต์ 15,000 บาท คา่ เบ้ยี ประกันรถยนต์ 12,000 บาท

ค่าอาหาร 60,000 บาท ค่าเคร่ืองนงุ่ หม่ 70,000 บาท

ค่าใช้จ่ายส่วนตวั อื่น ๆ 30,000 บาท ค่าทอ่ งเทยี่ ว 50,000 บาท

ภาษีเงนิ ได้-คุณปญั ญา 50,000 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยอื่น ๆ 5,000 บาท

-คุณเหมือนฝัน 30,000 บาท

ให้ทา จงแสดงงบรายได้-รายจ่าย ในปี พ.ศ. 2557 ตามช่องวา่ งข้างลา่ งนี้

.............................................................................

...............................................................................

.................................................................................

........................................................................................................................................................ .................

................................................................................................................. ........................................................

............................................................................................................................. ............................................

.......................................................................................................................................................... ...............

................................................................................................................... ......................................................

............................................................................................................................. ............................................

............................................................................................................................................................ .............

..................................................................................................................... ....................................................

............................................................................................................................. ............................................

.............................................................................................................................................................. ...........

....................................................................................................................... ..................................................

ใบงานที่ 5.2

เร่ือง งบแสดงฐานะการเงิน

ชอ่ื -สกลุ ............................................................................................เลขท่ี.........ชั้น.............. ............

คาช้แี จง ใหเ้ ขยี นข้อมลู สว่ นตวั ในรปู ของงบแสดงฐานะการเงนิ ส่วนบุคคลดังต่อไปนี้

นางรุ่งฤดมี ีเงินสด 18,000 บาท เครอื่ งตกแต่งตรี าคาตลาดได้ 12,000 บาท เงินฝากธนาคาร 11,000

บาท รถยนต์ 300,000 บาท ก้เู งินจากนายมานะ 20,000 บาท และค้างชาระค่าไฟฟ้าอีก 1,500 บาท จงแสดง

ฐานะการเงินของนางสาวรุง่ ฤดี

………………………………..

………………………………..

…………………………………….

สินทรพั ย์ หน้สี ินและส่วนของเจา้ ของ

....................................................................... ..................................................................

....................................................................... ..................................................................

....................................................................... ..................................................................

....................................................................... ..................................................................

....................................................................... ..................................................................

ขอ้ เสนอแนะ

............................................................................................................................. ............................................

....................................................................................................................................................................... ..

............................................................................................................................. ............................................

............................................................................................................................. ............................................

............................................................................................................................. ............................................

...................................................................................... ...................................................................................

ใบงานท่ี 5.3

เรื่อง การวางแผนทางการเงิน

ชื่อ-สกลุ ............................................................................................เลขท.่ี ........ช้ัน..........................

คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนวางแผนด้านการเงินของตนเองและครอบครวั ดังนี้

การวางแผนทางการเงิน

ของ......................................................................................

1.มีหลกั การวางแผนทางการเงนิ อย่างไรบ้าง

……………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

2.มีการจัดการทางการเงนิ อย่างไรบ้าง

……………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

3.มีการจดั การเงนิ สดและสนิ ทรัพย์สภาพคล่องอย่างไรบา้ ง

……………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………..

เฉลยใบงานท่ี 1

(ดุลพนิ ิจของผูส้ อน)

แบบสรปุ คะแนน

ชดุ ท่ี 1
รายวิชา การจดั หาและวางแผนทางการเงิน

คะแนน กิจกรรมท่ี ใบงานท่ี แบบทดสอบ แบบทดสอบ คะแนน
กอ่ นเรียน หลังเรียน ระหว่าง
123 1 เรยี น

คะแนนเต็ม  5 10 10 15

คะแนนทไ่ี ด้
คิดเป็นร้อย
ละ

หมายเหตุ :  = ผา่ นกิจกรรม  = ไม่ผา่ นกจิ กรรม

(ลงชือ่ ) ....................................... ผปู้ ระเมิน
(นายวจิ ติ ร พลเศษ)

ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะครชู านาญการ

เกณฑก์ ารประเมนิ แบบทดสอบกอ่ นเรียนและแบบทดสอบหลงั เรยี น

ระดับคณุ ภาพ หมายถึง ดี
ระดับ 4 9 - 10 คะแนน หมายถึง ปานกลาง
ระดบั 3 7 - 8 คะแนน หมายถึง พอใช้
ระดบั 2 5 - 6 คะแนน

20. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรแู้ บบมุง่ เนน้ สมรรถนะอาชพี และบูรณาการตามหลักปรชั ญา

ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

20.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้

รายการ ระดับการปฏิบัติ
5432 1

ด้านการเตรยี มการสอน

1. จัดหน่วยการเรยี นรู้ได้สอดคลอ้ งกับวตั ถุประสงคก์ ารเรียนรู้

2. กาหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมทงั้ ดา้ นความรู้ ด้านทักษะ และดา้ นจิตพสิ ยั

3. เตรยี มวสั ดุ-อุปกรณ์ ส่ือ นวตั กรรม กิจกรรมตามแผนการจัดการเรยี นรูก้ ่อนเขา้ สอน

ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

4. มีวธิ กี ารนาเข้าสู่บทเรยี นที่นา่ สนใจ

5. มีกจิ กรรมทีห่ ลากหลาย เพ่ือช่วยใหผ้ ู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ ความเขา้ ใจ

6. จดั กจิ กรรมที่ส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี นคน้ คว้าเพ่ือหาคาตอบดว้ ยตนเอง

7. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

8. จัดกจิ กรรมท่ีเนน้ กระบวนการคดิ ( คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )

9. กระตุ้นใหผ้ ูเ้ รยี นแสดงความคิดเหน็ อย่างเสรี

10. จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ีเ่ ชื่อมโยงกับชีวติ จรงิ โดยนาภูมิปญั ญา/บรู ณาการเข้ามามีสว่ นร่วม

11. จัดกิจกรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม

12. มกี ารเสริมแรงเมือ่ นักเรยี นปฏิบัติ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผู้เรียน

14. เอาใจใส่ดแู ลผเู้ รียน อย่างทั่วถงึ

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่ีกาหนด

ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้

16. ใช้สือ่ ทเี่ หมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผเู้ รยี น

17. ใชส้ ่อื แหล่งการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เชน่ บุคคล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

ส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์ และอนิ เทอรเ์ นต็ เป็นตน้

ด้านการวดั และประเมินผล

18. ผู้เรียนมสี ว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล

19. ประเมนิ ผลอยา่ งหลากหลายและครบท้ังด้านความรู้ ทกั ษะ และจติ พิสยั

20. ครู ผเู้ รยี น ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ เ่ี กยี่ วข้องมสี ว่ นร่วม ในการประเมิน

หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดเี ยย่ี ม 4 = ปฏบิ ัตดิ ี 3 = ปฏิบตั พิ อใช้ รวม
2 = ควรปรับปรงุ 1 = ไมม่ ีการปฏบิ ตั ิ คา่ เฉลยี่

20.2 ปญั หาทีพ่ บ และแนวทางแก้ปัญหา แนวทางแกป้ ัญหา
ปัญหาที่พบ
.....................................................................................
ดา้ นการเตรียมการสอน .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................

ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................

ด้านสื่อ นวตั กรรม แหล่งการเรียนรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................

ด้านการวัดและประเมนิ ผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นอน่ื ๆ (โปรดระบุเปน็ ข้อๆ) .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................

ลงชอื่ ........................................................................ ครูผู้สอน
(....................................................................)

ตาแหนง่ .......................................................................
............../.................................../....................

บันทกึ หลงั การสอน

ผลการใชแ้ ผนการเรยี นรู้

ความเหมาะสมของเวลา
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรุง

ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนการสอน
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรุง

……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………

ผลการเรียนของผู้เรยี น

ความต้ังใจของผ้เู รียน  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรงุ
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ
 ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ
อุปกรณ์การสอน
 มาก  ดี

การเรียนรู้ของผู้เรียน
 มาก  ดี

…………………………………………………………………………………………………………………………………….………

การสอนของครู

 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ

กิจกรรมการสอนที่กาหนดไว้ในแผนการจดั การ

เรียนรู้  ตรงตามแผนการจัดการเรียนรู้  ไมต่ รงตามแผนการจดั การเรยี นรู้

บนั ทกึ เพ่ิมเติม

............................................................................................................................. ................................

………………………………………………
(นายวจิ ิตร พลเศษ)
ผูบ้ ันทกึ การสอน

แผนการจัดการเรยี นรู้ แบบมุง่ เน้นสมรรถนะอาชีพ
และบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

รหัสวชิ า 30200-0003 วิชา ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ
หน่วยที่ 6 กฎหมายทเ่ี กี่ยวกบั ธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ
ช่ือเรื่องกฎหมายทเี่ ก่ียวกบั ธุรกจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ จานวน 6 ช่ัวโมง สอนครัง้ ท่ี 13-14

1. สาระสาคัญ

การประกอบธรุ กิจนั้นสิ่งทีม่ คี วามสาคญั มากต่อผู้ประกอบการอีกอย่างหนง่ึ ก็คือผู้ประกอบการควรจะมี
ความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั กฎหมายทีเ่ ก่ยี วข้องกบั ผปู้ ระกอบการ เน่ืองจากต้องปฏิบตั ิตามข้อบังคับทางกฎหมายที่
ระบุไว้ใหป้ ฏบิ ัติตาม ซงึ่ กฎหมายที่มคี วามเก่ียวข้องโดยตรงนนั้ มีหลายฉบับด้วยกนั เชน่ กฎหมายแรงงาน เพราะ
เปน็ กฎหมายทบี่ ญั ญัติถงึ สิทธิและหนา้ ที่ของนายจ้าง ลูกจ้าง องค์การของนายจา้ ง และองค์กรของลูกจ้าง รวมทง้ั
มาตรการที่กาหนดใหน้ ายจ้าง ลูกจ้างและองค์กรดงั กลา่ วปฏบิ ตั ิตอ่ กนั และรฐั ทั้งนี้เพื่อให้การจา้ งงาน และการใช้
งาน การประกอบกิจการและความสัมพันธ์ระหว่างนายจา้ งและลูกจ้างเป็นไปโดยเหมาะสม นอกจากน้ียงั มี
กฎหมายฉบบั อื่น ๆ ท่ีเก่ยี วข้องอีก

2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้

1. สามารถอธิบายเกี่ยวกับกฎหมายเกย่ี วกับการจดั ตงั้ ธรุ กิจและกฎหมายทเ่ี กี่ยวข้อง

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

3.1 จดุ ประสงค์ทั่วไป

3.1.1 มคี วามร้แู ละเข้าใจเก่ยี วกับกฎหมายเกย่ี วกับการจัดตงั้ ธรุ กิจและกฎหมายทเ่ี กี่ยวข้องได้

3.2 จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
3.2.1 สามารถบอกการจดทะเบียนจัดตง้ั ธรุ กิจ
3.2.2 อธิบายกฎหมายภาษีตามประมวลรษั ฎากร
3.2.3 สามารถบอกกฎหมายอื่น ๆ ทีเ่ กย่ี วข้อง
3.2.4 อธบิ ายการจดทะเบยี นสิทธบิ ตั ร
3.2.5 บอกเครื่องหมายการค้าได้
3.2.6 บอกกฎหมายประกนั สังคมได้
3.2.7 มีการพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม ความมมี นุษยสัมพนั ธ์ ความมีวินยั ความ

รบั ผดิ ชอบ ความซอ่ื สัตยส์ จุ ริต ความเชื่อมั่นในตนเอง การประหยดั ความสนใจใฝร่ ู้ การละเว้นสงิ่ เสพติดและการ
พนนั ความรกั สามัคคี

4. เนื้อหาสาระการสอน/การเรียนรู้

4.1 ด้านความรู้
1. การจดทะเบยี นจัดตงั้ ธรุ กจิ
2. กฎหมายภาษีตามประมวลรัษฎากร
3. กฎหมายอื่น ๆ ที่เกยี่ วขอ้ ง
4. การจดทะเบียนสิทธบิ ตั ร
5. เคร่ืองหมายการค้า
6. กฎหมายประกนั สงั คม

4.2 ด้านทกั ษะหรือการประยุกต์ใช้
1. สามารถบอกการจดทะเบียนจดั ตงั้ ธุรกิจ
2. อธิบายกฎหมายภาษตี ามประมวลรัษฎากร
3. สามารถบอกกฎหมายอ่นื ๆ ท่ีเกีย่ วข้อง
4. อธบิ ายการจดทะเบียนสทิ ธบิ ตั ร
5. บอกเครื่องหมายการค้าได้
6. บอกกฎหมายประกันสงั คมได้

4.3 ด้านคุณธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคุณลักษณะทพ่ี ึงประสงคแ์ ละบรู ณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ
พอเพียง

ดา้ นคุณธรรม/ จรยิ ธรรม
1. มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มีความรับผดิ ชอบ

ดา้ นคณุ ลักษณะที่พึงประสงค์และบรู ณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
1. มุ่งมัน่ ในการทางาน มจี ิตสาธารณะ อยู่อยา่ งพอเพยี ง

5. กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้

ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมครู ข้นั ตอนการเรียนหรอื กิจกรรมของผู้เรียน

ขน้ั เตรียม(จานวน 30 นาที) 5.1 ผู้เรยี นเขา้ ห้องเรียน
5.1 นกั เรยี นทาความเคารพครูผูส้ อน 5.2 ครผู สู้ อนตรวจสอบรายชือ่ ผู้เรียน
5.2 ครผู สู้ อนทกั ทายผูเ้ รยี นและสารวจรายชื่อผเู้ รียน 5.3 ผู้เรียนรับใบความรู้ เร่ือง กฎหมายท่เี ก่ียวกับ
5.3 ครูผสู้ อนแจกใบความรู้ หรือ เตรียมอุปกรณ์
ธุรกิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ
ในการสอนให้พร้อม และใบงาน 5.4 รับใบงาน อธิบายการทา
5.4 ผ้เู รียนใบความรู้ เตรยี มตาราเรยี นและสมุด
5.5 ผู้สอนการจดั ทาใบงานที่มอบหมาย (20 นาที)

ขน้ั การสอน(จานวน....300.........นาท)ี

5.6 ครผู ูส้ อนแจกแบบทดสอบก่อนเรยี น 5.5 ผ้เู รยี นทดสอบก่อนเรียน ( 10 นาท)ี

5.7 อธบิ ายการทาแบบทดสอบก่อนเรียน มีจานวน

10 ขอ้ เวลาทใ่ี ช้ 10 นาที (พร้อมสง่ ครบเวลา)

5.8 ครูผ้สู อนให้ผูเ้ รยี นศึกษาใบความรู้ หนว่ ยเนื้อหา 5.6 ผเู้ รียนศึกษาตาราเรียนหน่วยเนอื้ หา ใบความรู้

ตาราเรียน การวางแผนเป้าหมายชวี ติ ดว้ ยวงจรคณุ ภาพ

5.9 ครูผสู้ อน ตั้งคาถามเก่ยี วกับ การวางแผนฯและ 5.7 ผ้เู รียนร่วมตอบคาถาม

(ผ้เู รยี นตอบคาถาม) 5.8 ผู้เรียนรับฟังการบรรยาย เกีย่ วกับเนอ้ื หา

5.10 ครผู สู้ อน อธบิ ายเนื้อหา ใบความรู้ เนอ้ื หาใน การวางแผนเปา้ หมายชวี ิตด้วยวงจรคุณภาพ

หนว่ ยการเรยี นรู้ (เวลา 100 นาที) 5.9 ผู้เรียนจดั ทาใบงานทมี่ อบหมาย ( 200 นาที)

5.11 ครูผู้สอนมอบหมายการทาใบงาน แบบฝึกหดั

(เวลา 200 นาท)ี

ขั้นสรปุ (จานวน 20 นาที) 5.10 ผู้เรยี นร่วมสรุปเน้อื หา ใบความรู้ เนอ้ื หาหน่วย
5.12 ครผู ู้สอนและผเู้ รยี นสรุปเนื้อหา หัวขอ้ บุคคล การเรยี นรู้ ตาราเรยี น

ธรรมดา และนิติบุคคล เป็นข้อ 5.11 ผู้เรยี นจัดทาแบบทดสอบหลงั เรียน 10 ข้อ
5.13 ครผู สู้ อนแจกแบบทดสอบหลงั เรยี น หัวขอ้ (เวลา 10 นาที)
กฎหมายทเ่ี กีย่ วกับธรุ กจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ
5.12 มอบหมายงาน การจดั ทารายงาน รายบุคคล
10ขอ้ (10 นาที) รายกลุม่ 3-5 คน รายงานหน้าช้ันเรยี น

6. สือ่ การสอน

สอื่ สงิ่ พมิ พ์

1. ตาราเรยี น หนงั สือประกอบการเรียนการสอนวิชา ธุรกจิ และการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ 20001-1003
อ.เพญ็ ศรี เลศิ เกียรตวิ ทิ ยา สานกั พิมพเ์ อมพันธ์

2. เอกสารประกอบการสอน ใบความรู้

สื่อโสตทัศน์ (ถ้าม)ี

1. power point ธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ 20001-1003 เรื่อง กฎหมายที่เกยี่ วกบั ธรุ กิจ
และการเป็นผู้ประกอบการ

2. VDO สือ่ การสอน ประจาวชิ า ธรุ กิจและการเป็นผูป้ ระกอบการ 20001-1003
3. ...................................................................................................

หุ่นจาลองหรือของจริง (ถ้ามี)

1. ............................................................................................................................. ......

เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)

1. แบบทดสอบก่อนเรยี น
2. ใบความรู้ ใบงาน (ใบมอบหมายงาน ถา้ มี)
3. แบบทดสอบหลงั เรียน

แหลง่ เรียนรู้
เรียนรู้

1. หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั การอาชีพสว่างแดนดิน (ตาราเรยี น)
2. หอ้ งอินเทอรเ์ น็ตวิทยาลยั การอาชีพสว่างแดนดิน การสืบค้นข้อมลู
3. Google แหลง่ เรยี นรู้ออนไลน์ จากโทรศพั ท์มือถือ
การบูรณาการ/ความสัมพนั ธ์กับวชิ าอื่น

1. วิชาภาษาไทย การอา่ นและทาความเข้าใจในเนือ้ หาหนว่ ยการเรยี นรู้ ใบความรู้ ตคี วาม
2. วชิ าสงั คมศึกษา การอยู่ในสังคม การคบเพ่ือน
3. วิชาภาษาองั กฤษ เร่ืองศัพท์เฉพาะในหนว่ ยการเรยี นการสอน

8. งานทมี่ อบหมาย

8.1 กอ่ นเรยี น

1. จัดเตรยี มห้องเรียนให้เรียบร้อยเป็นระเบยี บ รักษาความสะอาด (แบง่ เวร)
2. จดั เตรียมอุปกรณก์ ารเรยี นใหพ้ ร้อม กอ่ นการเรียนการสอน
3. จัดทาแบบทดสอบก่อนเรยี น และสง่ ตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน

8.2 ขณะเรียน
1. จัดทาใบงานท่ีมอบหมายตามกาหนดเวลาสง่ ที่กาหนดไว้
2. จดั ทาแบบทดสอบหลงั เรียน และส่งตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน
3. ปฏิบัตติ นในการเรยี นร้อู ย่างเหมาะสมในชั้นเรียน

8.3 หลงั เรยี น
1. การศกึ ษาเน้ือหากอ่ นล่วงหน้า
2. มอบหมายงานแบบฝึกหัดทา้ ยหน่วยการเรยี นรู้ ใบงาน

9. ผลงาน/ช้ินงาน ทเ่ี กดิ จากการเรยี นรขู้ องผู้เรยี น

1. ใบงานที่มอบหมาย
2. สมดุ ในการทาแบบฝึกหดั แบบฝึกปฏบิ ัติท้ายหนว่ ย
3. สรปุ ผลการทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น
4. สรปุ ผลการสง่ งานทม่ี อบหมาย

10. เอกสารอา้ งอิง

1. บันทึกการสอนของครู
2. ใบเชค็ รายช่อื
3. แผนการจดั การเรยี นรู้
4. ใบความรู้ เนื้องานในหนงั สือเรียน
5. แบบทดสอบก่อนเรยี น หลังเรยี น

11. การบูรณาการ/ความสมั พันธก์ บั รายวชิ าอนื่

1. รายวิชาภาษาไทย เพ่อื อ่าน ฟัง พูด เขยี น และตีความหมาย แปลความหมาย
2. รายวชิ าสงั คมศึกษา สังคมไทย เพ่ือการอยรู่ ่วมกันในสังคม ในห้องเรยี น
3. รายวชิ าภาษาอังกฤษ ท่ีมีภาษาอังกฤษในหน่วยการเรยี นการสอน

12. หลกั การประเมนิ ผลการเรียน

12.1 ก่อนเรียน

12.1.1 การประเมินการตรวจสอบรายชอ่ื ผูเ้ ขา้ เรยี นในช่วั โมง (ด้านจติ พสิ ยั )
12.1.2 การประเมินการเตรียมความพร้อมในการเรยี นของผู้เรยี น อุปกรณก์ ารเรยี น ตาราเรยี น

สมดุ ปากกา ไม้บรรทัด
12.1.3 การประเมนิ การทาแบบทดสอบก่อนเรียน เวลา 10 นาที 10 ข้อ 10 คะแนน

12.2 ขณะเรียน
12.2.1 การประเมนิ การมีสว่ นร่วมในการเรียนการสอน การตอบ-ถาม (แบบประเมนิ
พฤติกรรม)
12.2.2 การประเมินการสนใจใฝเ่ รยี นรู้ การปฏบิ ตั ติ น ขณะเรยี น การทาแบบฝกึ หัด ใบงาน
(แบบประเมนิ พฤติกรรม)
12.2.3 การประเมนิ ด้วยการทาแบบทดสอบหลงั เรยี น เวลา 10 นาที 10 ขอ้ 10 คะแนน

12.3 หลังเรียน

12.3.1 การประเมนิ ผลการเรียนรแู้ ละสรุปผลการเรียนรู้ แบบประเมินผล
แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี นร้อยละ 50 หลังเรียนรอ้ ยละ 70

12.3.2 เมือ่ ไม่ผา่ นเกณฑ์ท่ีกาหนดใหม้ กี ารปรบั ปรุงแก้ไขต่อไป
12.3.3 มีการมอบหมายงาน ศกึ ษาเนื้อหาในหน่วยการเรียนถดั ไป และใบความรู้ (ถ้ามี)
12.3.4 มอบหมายงานศึกษาเนอ้ื หาเพิ่มเติมโดยการจดั ทารายงานกลุม่ หรอื รายบุคคคล

13. รายละเอียดการประเมนิ ผลการเรียน

จดุ ประสงคข์ ้อที่ 1 ………………………………………………………………………………....................................………
1. วิธีการประเมิน : ……………………………………………………...........................…………….
2. เครือ่ งการประเมิน : …………………………………………………………………............................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………............................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...............

จุดประสงค์ข้อท่ี ……………………………………………………………………………………….....................................
1. วธิ กี ารประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
2. เครื่องการประเมิน : …………………………………………………………………...........................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...........................

14. แบบทดสอบก่อนเรยี น 15 แบบทดสอบหลงั เรยี น

หน่วยการสอนที่ 6 ชือ่ หน่วยการสอน กฎหมายท่ีเกย่ี วกับธรุ กิจและการเป็นผูป้ ระกอบการ
วัตถปุ ระสงค์ เพื่อ ทดสอบความรู้เบ้ืองตน้ ของผู้เรยี น หลงั การเรยี นการสอน
ขอ้ คาถาม

แบบทดสอบก่อน/หลังเรยี น

จงเลือกคาตอบทถ่ี กู ต้องที่สดุ เพียงข้อเดียว

1.ผปู้ ระกอบการต้องจดทะเบียนพาณชิ ยต์ ัง้ ใหมภ่ ายในกว่ี ันนับแต่วนั เรมิ่ ประกอบพาณชิ ยกจิ :
1. 7วนั
2 .15 วนั
3 . 30 วนั
4 . 60 วัน
5 . 90 วัน ๆ

2.ถ้าผู้ประกอบการไม่จดทะเบียนพาณิชยต์ ามกฎหมายจะมคี วามผิดอย่างไรบ้าง
1 . ปรับไมเ่ กนิ 1 , 000 บาท
2 . ปรบั ไม่เกนิ 2000 บาท
3 . ปรบั ไม่เกนิ 3 , 000 บาท
4 . ปรบั ไม่เกนิ 5 , 000 บาท
5 . ปรบั ไมเ่ กนิ 10 , 000 บาท

3 . ตามกฏหมายเงนิ ได้ทตี่ ้องเสยี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเรยี กว่าอะไร
1 . เงินได้พงึ ประเมนิ
2 . เงินได้บคุ คลธรรมดา
3 . เงนิ ไดน้ ิติบุคคล
4 . เงนิ ไดส้ ุทธ์ิ
5 . เงนิ ได้ประจา

4 . ข้อใดเป็นเงนิ ได้ประเภทท่ี 1
1 . เงินเดอื น คา่ จา้ ง
2 . เบี้ยประชุม โบนสั
3 . ดอกเบี้ย เงินปันผล
4 . เงินได้จากการรับเหมา
5 . เงนิ ได้จากการธรุ กิจ การพาณชิ ย์

5 . ในกรณีทีผ่ ู้มเี งินได้พึงประเมินทุกประเภท ควรจะยนื่ แสดงรายการแบบใด

1 . ภ . ง . ด . 90

2 . ภ . ง . ด . 91

3 . ภ . ง . ด . 93

4 . ภ . ง . ด . 94

5 . ภ . ง . ด . 50 6 .

6.ผู้ประกอบการที่มีรายรบั จากการขายสินคา้ หรอื ใหบ้ ริการไมเ่ กนิ จานวนเทา่ ใดท่ีต้องจดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพม่ิ

1 . 150,000 บาทต่อปี

2 . 180,000 บาทต่อปี

3 . 1,000,000 บาทต่อปี

4 . 1,500,000 บาทตอ่ ปี

5 , 1,800,000 บาทต่อปี

7.อัตราภาษีมลู ค่าเพ่ิมท่ีจัดเก็บในปัจจุบนั คือข้อใด

1 . ร้อยละ 1

2 . รอ้ ยละ 2

3 . ร้อยละ 5

4 . รอ้ ยละ 7

5 . รอ้ ยละ 10

8. กิจการใดไม่ต้องเสยี ภาษีธุรกจิ เฉพาะ

1 . ธนาคารไทยพาณิชย์

2 . โรงรบั จานาเม้งหงวน

3 . บรษิ ัทไทยประกนั ชวี ติ

4 . บริษทั ในเครอื เจรญิ โภคภณั ฑ์

5 . บริษัทแลนด์แอนดเ์ ฮ้าส์ ( บา้ นและท่ีดิน )

9 . กฎหมายกาหนดให้ลูกจ้างทางานตามปกติ โดยทัว่ ไปไม่เกินกีช่ ่วั โมงต่อวัน

1 . 6 ช่ัวโมง 2 . 7 ชว่ั โมง

3 . 8 ช่วั โมง 4 . 9 ช่ัวโมง

5 . 10 ช่ัวโมง

10. กรณใี ห้ลูกจ้างทางานล่วงเวลาตอ่ จากเวลาทางานปกติไม่น้อยกว่า 2 ชวั่ โมง ตอ้ งจดั ให้ลูกจ้างพักก่อน เร่ิม

ทางานล่วงเวลาไมน่ ้อยกวา่ ก่ีนาที

1. 5 นาที 2. 10 นาที

3. 15 นาที 4 .20 นาที

5 .30 นาที

กระดาษคาตอบ กอ่ นเรยี น – หลงั เรยี น

กจิ กรรมการเรยี นรู้
หนว่ ยที่ 6 เรอ่ื ง กฎหมายท่ีเกย่ี วกบั ธรุ กกิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ

กอ่ นเรยี น 5 หลงั เรียน
ขอ้ 1 2 3 4 ขอ้ 1 2 3 4 5
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10

รวมคะแนน กอ่ นเรียน รวมคะแนน หลังเรยี น

ช่ือ-สกุล...........................................................แผนก/ห้อง............เลขท.ี่ .............

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลงั เรียน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
หน่วยท่ี 6 เรอื่ ง กฎหมายท่ีเก่ียวกับธรุ กกิจและการเป็นผปู้ ระกอบการ

ก่อนเรยี น หลังเรียน
ข้อ 1 2 3 4 5 ข้อ 1 2 3 4 5
1x 1
2x 2
3x 3
4x 4
5x 5
6x 6
7x 7
8x 8
9x 9
10 x 10

รวมคะแนน ก่อนเรยี น 10 รวมคะแนน หลังเรยี น 10

ชอ่ื -สกุล...........................................................ผ้สู อน/ผู้ตรวจ
(นายวิจิตร พลเศษ)

หน่วยการสอนท่ี 6 ชื่อหนว่ ยการสอน กฎหมายที่เกย่ี วกับธรุ กจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ
ชอื่ หัวข้อเรอื่ ง กฎหมายที่เกีย่ วกับธรุ กิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ

16. ใบความรู้

แนวคิด

การประกอบธุรกจิ น้ันส่งิ ทม่ี คี วามสาคญั มากต่อผูป้ ระกอบการอีกอยา่ งหน่ึง ก็คือผู้ประกอบการควรจะมี
ความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับกฎหมายทีเ่ กยี่ วข้องกับผปู้ ระกอบการ เนอื่ งจากต้องปฏบิ ัตติ ามขอ้ บงั คบั ทางกฎหมายที่
ระบุไวใ้ ห้ปฏบิ ัติตาม ซ่ึงกฎหมายท่มี คี วามเกย่ี วข้องโดยตรงนัน้ มหี ลายฉบบั ด้วยกัน เช่น กฎหมายแรงงาน เพราะ
เปน็ กฎหมายทีบ่ ญั ญัติถึงสทิ ธิและหน้าท่ขี องนายจ้าง ลูกจ้าง องค์การของนายจ้าง และองค์กรของลูกจ้าง รวมทง้ั
มาตรการท่ีกาหนดให้นายจ้าง ลูกจา้ งและองค์กรดงั กล่าวปฏิบัตติ ่อกันและรัฐ ทั้งนเี้ พ่ือให้การจ้างงาน และการใช้
งาน การประกอบกจิ การและความสัมพันธร์ ะหวา่ งนายจา้ งและลกู จ้างเป็นไปโดยเหมาะสม นอกจากนี้ยงั มี
กฎหมายฉบับอน่ื ๆ ท่เี กีย่ วข้องอีก

ผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวัง
1. สามารถบอกการจดทะเบยี นจัดตัง้ ธรุ กจิ
2. อธบิ ายกฎหมายภาษีตามประมวลรษั ฎากร
3. สามารถบอกกฎหมายอ่นื ๆ ทเี่ กีย่ วข้อง
4. อธบิ ายการจดทะเบยี นสทิ ธบิ ตั ร
5. บอกเคร่ืองหมายการค้าได้
6. บอกกฎหมายประกันสังคมได้

สาระการเรยี นรู้

1. การจดทะเบยี นจัดต้งั ธุรกจิ
2. กฎหมายภาษีตามประมวลรัษฎากร
3. กฎหมายอ่นื ๆ ทีเ่ กีย่ วข้อง
4. การจดทะเบยี นสิทธบิ ัตร
5. เคร่อื งหมายการค้า
6. กฎหมายประกนั สังคม

1. ครูกล่าวถงึ การประกอบกจิ การของรา้ นค้าปลีกท่วั ไปที่ดาเนนิ โดยกิจการเจ้าของคนเดียวที่มีอยู่ทัว่ ไป
ของประเทศไทย จาเป็นตอ้ งจดทะเบยี นพาณชิ ยต์ ามกฎหมายทกี่ รมพัฒนาธรุ กิจการคา้ กาหนด

2. ครูกล่าวถงึ ผมู้ หี นา้ ทจี่ ดทะเบียนพาณิชย์ คือ บคุ คลธรรมดาคนเดยี วหรือหลายคน (ห้างหนุ้ สว่ น
สามญั ) หรือนิตบิ คุ คล รวมทง้ั นติ ิบคุ คลท่ตี ้ังข้นึ ตามกฎหมายต่างประเทศท่ีมาตงั้ สานกั งานสาขาในประเทศไทย
ซ่งึ ประกอบกิจการอนั เป็นพาณชิ ยกจิ ตามทีก่ ระทรวงพาณิชยก์ าหนด

3.ครอู ธบิ ายการจดทะเบียนพาณิชยข์ องผูป้ ระกอบการโดยใช้ส่อื PowerPoint ประกอบ
4.ครบู อกขั้นตอนการจดทะเบียนจัดต้ังธุรกจิ ดงั น้ี

5.ครูอธบิ ายถงึ ผปู้ ระกอบการดงั ต่อไปนี้ ตอ้ งจดทะเบยี นพาณชิ ยด์ ังนี้
1) ผูป้ ระกอบกิจการโรงสขี ้าวและโรงเลื่อยทใ่ี ชเ้ ครอ่ื งจักร
2) ผปู้ ระกอบกิจการขายสินค้าไม่ว่าอย่างใดๆ อย่างเดียวหรือหลายอย่าง คดิ รวมท้ังสิน้ ในวนั หนงึ่ ขาย

ได้เป็นเงนิ ต้ังแต่ 20 บาทข้นึ ไป หรอื มสี ินค้าไวเ้ พื่อขายมีคา่ รวมท้งั ส้ินเปน็ เงินต้ังแต่ 500 บาทข้นึ ไป
3) นายหนา้ หรอื ตัวแทนคา้ ตา่ งซึ่งทาการเกยี่ วกบั สนิ คา้ ไมว่ า่ อย่างใดๆ อย่างเดียวหรอื

หลายอยา่ งกต็ าม และสนิ คา้ น้นั มคี า่ รวมท้ังสน้ิ ในวันหนงึ่ วนั ใดเป็นเงินต้ังแต่ 20 บาทข้นึ ไป
4) ผปู้ ระกอบกจิ การหัตถกรรมหรืออุตสาหกรรมไมว่ า่ อย่างใดๆ อยา่ งเดียวหรือหลายอย่างก็ตาม

และขายสินค้าทผี่ ลิตได้ คิดราคารวมทัง้ สิน้ ในวันหนึง่ วันใดเปน็ เงนิ ต้งั แต่ 20 บาทขน้ึ ไป หรอื ในวนั หนง่ึ วนั ใดมี
สินค้าท่ีผลติ ไดม้ ีราคารวมท้ังสน้ิ ตัง้ แต่ 500 บาทขึ้นไป

5) ผู้ประกอบกิจการขนส่งทางทะเล การขนส่งโดยเรือกลไฟหรือเรือยนตป์ ระจาทาง การขนสง่
โดยรถไฟ การขนสง่ โดยรถราง การขนส่งโดยรถยนตป์ ระจาทาง การขายทอดตลาด การรบั ซอ้ื ขายท่ดี ิน
การใหก้ ้ยู ืมเงนิ การรบั แลกเปลยี่ น หรือซื้อขายเงินตราตา่ งประเทศ การซ้ือหรอื ขายตวั๋ เงิน การธนาคาร
การโพยกว๊ น การทาโรงรบั จานา และการทาโรงแรม

6) ขาย ให้เช่า ผลติ หรือรบั จ้างผลิต แผ่นซดี ี แถบบันทึก วดี ิทัศน์ แผ่นวีดิทัศน์ ดีวดี ี หรอื แผน่ วดี ิ
ทศั น์ระบบดิจทิ ลั เฉพาะท่ีเก่ยี วกบั การบันเทงิ

7) ขายอญั มณี หรือเครื่องประดบั ซ่งึ ประดบั ด้วยอัญมณี
8) ซ้ือขายสินค้าหรือบรกิ ารโดยวิธใี ช้ส่ืออเิ ลก็ ทรอนิกสผ์ ่านระบบเครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ต บริการ

อินเทอร์เนต็ ใหเ้ ชา่ พ้ืนที่ของเครือ่ งคอมพิวเตอร์แม่ข่ายบริการเปน็ ตลาดกลางในการซ้ือขายสินค้าหรือบริการ โดย
วธิ ีการใชส้ ือ่ อิเล็กทรอนิกสผ์ ่านระบบเครือขา่ ยอินเทอรเ์ นต็

9) การใหบ้ ริการเคร่ืองคอมพิวเตอรเ์ พ่ือใชอ้ ินเทอรเ์ น็ต
10) การใหบ้ รกิ ารฟงั เพลงและร้องเพลงโดยคาราโอเกะ
11) การให้บริการเคร่ืองเล่นเกม
12) การใหบ้ ริการตเู้ พลง
13) โรงงานแปรสภาพ แกะสลกั และหัตถกรรมจากงาชา้ ง การค้าปลีก การคา้ ส่งงาช้างและผลติ ภัณฑ์
จากงาช้าง
6.ครอู ธิบายกฎหมายภาษตี ามประมวลรษั ฎากร ไดแ้ ก่
6.1 ภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา คือ ภาษที จ่ี ัดเก็บจากบุคคลท่วั ไป หรอื จากหน่วยภาษีท่มี ลี ักษณะ
พเิ ศษตามที่กฎหมายกาหนดและมีรายได้เกดิ ขึ้นตามเกณฑ์ที่กาหนด โดยปกติจัดเกบ็ เป็นรายปี รายได้ท่ีเกดิ ขนึ้ ในปี
ใดๆ ผูม้ รี ายได้มีหน้าทีต่ ้องนาไปแสดงรายการตนเองตามแบบแสดงรายการภาษีท่กี าหนดภายในเดือนมกราคมถึง
มีนาคมของปีถดั ไป สาหรบั ผมู้ เี งินได้บางกรณีกฎหมายยงั กาหนดใหย้ น่ื แบบฯ เสียภาษีตอนครงึ่ ปี สาหรบั รายได้ ที่
เกิดข้ึนจรงิ ในช่วงครึ่งปีแรก เพือ่ เป็นการบรรเทาภาระภาษีที่ต้องชาระและเงินได้บางกรณี กฎหมายกาหนดให้ ผู้
จ่ายทาหน้าทีห่ กั ภาษี ณ ทีจ่ า่ ยจากเงินได้ทีจ่ า่ ยบางส่วน เพื่อใหม้ ีการทยอยชาระภาษีขณะท่มี ีเงนิ ได้เกิดขึน้ อกี ด้วย

6.2 ภาษีเงนิ ได้นติ ิบุคคล โดยผู้มีหน้าท่ีเสียภาษีเงินได้นติ บิ ุคคล ไดแ้ ก่ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนติ ิบุคคลที่
จดทะเบยี นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์รวมถึงนิติบุคคลอืน่ ๆ ที่ไมไ่ ดจ้ ดทะเบยี นตามประมวลกฎหมาย
แพง่ และพาณิชย์

6.3 ภาษีมูลคา่ เพิ่ม ผู้ประกอบการที่ขายสนิ คา้ หรือให้บรกิ ารในทางธุรกจิ หรือวิชาชีพเปน็ ปกติธุระ ไมว่ ่าจะ
ประกอบกิจการในรปู ของบุคคลธรรมดา คณะบุคคลหรือห้างหนุ้ ส่วนสามัญท่ีมิใช่นิตบิ ุคคล หรอื นติ บิ ุคคลใดๆ หาก
มรี ายรบั จากการขายสนิ คา้ หรือให้บริการเกินกวา่ 1.8 ลา้ นบาทต่อปี ตอ้ งย่นื คาขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
โดยคานวณภาษีท่ีต้องเสยี จากภาษขี ายหักดว้ ยภาษีซื้อ

6.4 ภาษธี รุ กิจเฉพาะ เปน็ ภาษตี ามประมวลรัษฎากร ทจ่ี ดั เก็บจากการประกอบกิจการเฉพาะอย่าง
แทนภาษกี ารค้าที่ถูกยกเลกิ ภาษีธุรกจิ เฉพาะเรมิ่ ใช้บงั คบั ใน พ.ศ. 2535 พร้อมกนั กับภาษีมลู คา่ เพิ่ม

7.ครแู ละผ้เู รียนร่วมกนั อธบิ าย วิเคราะหภ์ าษากฎหมายอ่นื ๆ ทเ่ี กย่ี วข้อง นอกจากการจดทะเบยี นจดั ตั้ง

ธรุ กิจ และกฎหมายภาษตี ามประมวลรัษฎากรแลว้ ผูป้ ระกอบการจาเป็นตอ้ งศึกษากฎหมายอื่นๆ ทเี่ ก่ยี วข้อง เช่น
ภาษเี งนิ ได้ ณ ที่จ่าย ภาษีปา้ ย อากรแสตมป์ รวมท้งั การคุ้มครองทรพั ย์สนิ ทางปัญญาต่างๆ อีกด้วย

8.ครูอธบิ ายการจดทะเบียนสิทธิบตั ร โดยสทิ ธบิ ตั ร คือหนังสอื สาคัญที่ออกให้เพอ่ื คุม้ ครองการประดิษฐ์
หรือการออกแบบผลติ ภณั ฑ์การประดษิ ฐ์ คือ ผลงานสร้างสรรค์ เกย่ี วกบั การผลติ ผลิตภณั ฑ์ ซง่ึ มี 2 ลกั ษณะ ดังนี้

8.1 ผลติ ภณั ฑ์ ได้แก่ ส่วนประกอบกนั เป็นสิ่งของเครื่องใช้ตา่ งๆ และส่วนผสมทางเคมี
8.2 กรรมวธิ ี ได้แก่ วธิ ีการผลติ การเก็บรักษา หรือการใช้ผลิตภณั ฑ์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ คือผลงาน
สรา้ งสรรคเ์ กย่ี วกบั ลกั ษณะของผลิตภณั ฑ์ เชน่ รปู ร่าง ลวดลาย หรือสี
โดยสทิ ธบิ ตั รการประดิษฐ์ มอี ายุ 20 ปี นับแตว่ ันย่นื ขอรับสิทธบิ ัตรและสิทธิบัตรการออกแบบผลติ ภณั ฑ์
มอี ายุ 10 ปี นบั แต่วนั ย่นื ขอ
ผู้ทรงสิทธบิ ตั รตอ้ งชาระคา่ ธรรมเนียมรายปตี ้งั แต่ปีที่ 5 เป็นตน้ ไปโดยใหช้ าระภายใน 60 วัน
หลงั จากสน้ิ ปที ่ี 4 หากการออกสทิ ธบิ ตั รใช้ระยะเวลาเกินกว่า 4 ปี ใหช้ าระค่าธรรมเนียมรายปีภายใน 60
วนั นับแต่วันที่มีการออกสิทธบิ ัตรให้
สถานทีย่ นื่ คาขอ สว่ นบริหารงานจดทะเบยี น สานกั สิทธบิ ัตร กรมทรัพยส์ นิ ทางปัญญาหรอื สานกั งาน
พาณิชย์จงั หวดั

9.ผเู้ รยี น Download แบบพิมพ์ (ทพ.) ที่ www.dbd.go.th แลว้ นามากรอกข้อมลู เพื่อฝึกทกั ษะในการ
จดทะเบียนพาณชิ ย์ของผู้ประกอบการ ตามคาแนะนาของเอกสาร

10.ผ้เู รยี นอา่ นกรณี “แพนดา้ พาโชค” แลว้ แสดงความคดิ เห็นว่าเหตกุ ารณ์น้ีเหมาะสมหรอื ไม่ อย่างไรบา้ ง
11. ครูอธบิ ายและแสดงตวั อย่างรปู ภาพเคร่อื งหมายการคา้ ให้ผู้เรียนดู โดยเคร่ืองหมายการค้า หมายถงึ
เครอ่ื งหมายที่ใชห้ รือจะใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับสินค้าเพ่ือแสดงวา่ สนิ ค้าท่ีใช้เครื่องหมายของเจ้าของ
เคร่อื งหมายน้ันแตกต่างกับสินค้าท่ใี ช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอนื่ ซึ่งเครื่องหมายการคา้ อาจจะเป็นภาพถ่าย
ภาพวาด ภาพประดิษฐ์ ตรา ชื่อ คา ขอ้ ความตัวหนังสือ ตวั เลข ลายมอื ชอื่ กล่มุ ของสี รูปร่าง หรอื รปู ทรงของวตั ถุ
หรือสิง่ เหลา่ น้ีอยา่ งใดหนึง่ หรือหลายอยา่ งรวมกนั

12. ครบู อกประเภทเครอ่ื งหมายการค้ามี 3 ประเภท ไดแ้ ก่
1) เครอื่ งหมายบริการ หมายถงึ เคร่ืองหมายท่ีใชห้ รือจะใชเ้ ปน็ ท่ีหมายหรอื เก่ียวข้องกบั บริการเพ่ือแสดงวา่
บริการทีใ่ ช้เคร่ืองหมายของเจ้าของบริการน้ันแตกต่างกบั บริการท่ใี ช้เครื่องหมายบริการของบคุ คลอน่ื
2) เคร่อื งหมายรับรอง หมายถึง เครื่องหมายท่ีเจ้าของเคร่ืองหมายรบั รองใชห้ รือจะใช้เปน็ ทห่ี มายหรือ
เกย่ี วขอ้ งกบั สินคา้ หรือบรกิ ารของบุคคลอ่ืน เพื่อเป็นการรบั รอง แหล่งกาเนดิ สว่ นประกอบ/วิธกี ารผลติ คณุ ภาพ
หรือคณุ ลักษณะสินคา้ น้นั หรือเพ่ือรบั รองภาพ คุณภาพ ชนิด หรือคุณลักษณะอนื่ ใดของบริการนั้น
3) เครอ่ื งหมายร่วม หมายถึง เครือ่ งหมายการคา้ หรอื เครื่องหมายบริการท่ีใช้หรอื จะใชโ้ ดยบรษิ ัทหรอื
วิสาหกจิ ในกลุม่ เดยี วกัน หรอื โดยสมาชกิ ของสมาคม สหกรณ์ สหภาพ สมาพนั ธ์ กลุ่มบคุ คลหรือองค์กรอน่ื ใดของ
รัฐหรอื เอกชน
13. ครอู ธบิ ายกฎหมายประกันสงั คม คือการสร้างหลกั ประกนั สงั คมในการดารงชีวิตในกล่มุ ของสมาชิก
ที่มรี ายได้และจา่ ยเงินสมทบเขา้ กองทุนประกันสงั คมเพ่อื รับผดิ ชอบในการเฉล่ียความเสี่ยงทอี่ าจจะเกดิ ขนึ้ จากการ
เจบ็ ป่วยคลอดบตุ ร ทพุ พลภาพ ตาย สงเคราะหบ์ ุตร ชราภาพและการวา่ งงานเพื่อใหไ้ ด้รับการรกั ษาพยาบาล และ
มีการทดแทนรายได้อยา่ งต่อเน่ือง
14.ครอู ธิบายผ้ปู ระกันตน หมายถึง ลูกจา้ งท่มี ีอายุไม่ตา่ กวา่ 15 ปบี ริบรู ณ์ และไมเ่ กิน 60 ปีบรบิ รู ณ์ ในวัน
เขา้ ทางานและทางานอยู่ในสถานประกอบการที่มลี ูกจ้างต้ังแต่ 1 คนขึน้ ไป นายจ้างตอ้ งแจ้งขึ้นทะเบยี นลกู จ้างเป็น
ผู้ประกันตนภายใน 30 วนั นับแตว่ นั ที่รับลูกจา้ งเขา้ ทางาน มิฉะนนั้ จะมคี วามผิดต้องระวางโทษจาคุก
ไมเ่ กิน 6 เดือน หรอื ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทัง้ จาทั้งปรับ
15.ครูอธิบายเงินสมทบกองทุนประกันสงั คม หมายถึง เงนิ ทน่ี ายจ้าง ลูกจ้าง จะตอ้ งนาสง่ เข้ากองทนุ
ประกันสงั คมทุกเดือน โดยคานวณจากค่าจา้ งจริงทลี่ กู จา้ งไดร้ ับ ตามบัญชีดงั นี้

16.ครูบอกสทิ ธิประโยชน์ ผทู้ ี่ทางานเป็นลกู จา้ งจะจ่ายเงินสมทบในกองทุนประกนั สังคมทุกเดือน ในกรณที ี่
นายจา้ งมลี กู จา้ งตั้งแต่ 1 คนข้ึนไป ตอ้ งมีหนา้ ท่ีขึ้นทะเบยี นผปู้ ระกันตนให้ครบทกุ คนภายใน 30 วัน และส่งเงิน
สมทบใหค้ รบท้ังส่วนของนายจา้ งและลกู จ้าง ทาให้ลกู จา้ งไดร้ ับสทิ ธิประโยชนจ์ ากกองทุนประกันสังคมที่ตน
ได้ร่วมจา่ ยเงนิ สมทบ ซง่ึ ในท่ีน้จี ะเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (ผ้ปู ระกนั ตนตามมาตรา 33 หมายถงึ ใหล้ ูกจา้ ง
อายุไม่ตา่ กวา่ 50 ปีบรบิ ูรณ์ และไม่เกนิ 60 ปีบรบิ ูรณ์ เปน็ ผ้ปู ระกันตน ถ้าอายุครบ 60 ปีบริบรู ณแ์ ลว้ เป็นลกู จ้าง
อยู่ใหถ้ ือวา่ เป็นผูป้ ระกนั ตนต่อไป ซงึ่ ความส้นิ สุดของผูป้ ระกันตนคือ (1) ตาย (2) สน้ิ สภาพการเป็นลูกจา้ ง)

16.ผเู้ รยี นบอกหลกั เกณฑ์และสิทธิประโยชนใ์ นการรักษาพยาบาล

17.ผู้เรยี น Download แบบพิมพ์ (ทพ.) ที่ www.dbd.go.th แลว้ นามากรอกข้อมลู เพ่ือฝึกทักษะในการ
จดทะเบยี นพาณชิ ย์ของผู้ประกอบการ ตามคาแนะนาของเอกสาร

18.ผู้เรียนบอกสทิ ธิประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั จากกองทุนประกนั สงั คม โดยยกตวั อยา่ งคานวณจากฐานค่าจ้างที่
ลูกจ้างไดร้ บั เช่น การคานวณเงนิ สมทบสาหรบั ผู้ประกันสงั คมทีม่ ีรายได้ 15,000 บาทต่อเดอื นข้ึนไป (อ้างอิงอัตรา
เงินสมทบปี 2556 ตามประกาศกฎกระทรวง)

19.ผเู้ รยี นอ่านกรณี “แพนด้าพาโชค” แลว้ แสดงความคดิ เห็นว่าเหตุการณ์นี้เหมาะสมหรอื ไม่ อยา่ งไรบา้ ง

19. แบบฝกึ หดั

1. ผมู หี นาทจี่ ดทะเบียนพาณิชยไดแกใครบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. ผปู ระกอบการประเภทใดบางท่ไี ดรับการยกเวนไมตองจดทะเบียนพาณิชย
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

3. ผมู ีหนาที่ตองเสยี ภาษเี งนิ ไดบุคคลธรรมดา ไดแกใครบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

4. นิติบคุ คลประเภทใดบางท่ีไมตองเสียภาษีเงินได
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

5. ผปู ระกอบการที่จดทะเบยี นภาษีมลู คาเพ่ิม มหี นาที่อยางไรบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

6. สทิ ธบิ ตั รหมายถงึ อะไร และมีลกั ษณะอยางไรบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

7. เครอื่ งหมายการคาหมายถึงอะไร และแบงออกเปนกี่ประเภท ไดแกอะไรบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

8. กฎหมายแรงงานมลี ักษณะอยางไรบาง
ตอบ กฎหมายแรงงาน หมายถงึ กฎหมายท่ีบัญญัติถึงสิทธิและหนาทขี่ องนายจาง ลูกจาง องคกรของ

นายจางและองคกรของลูกจาง รวมท้งั มาตรการที่กาหนดใหปฏิบตั ิตอกนั เพ่อื ใหการจางงานและการใชงาน การ
ประกอบกิจการและความสมั พันธระหวางนายจางและลกู จางเปนไปโดยเหมาะสม

9. จงใหคาจากัดความคาวา “การประกันสังคม ผูประกันตน และเงนิ สมทบกองทุนประกนั สังคม” มาใหเขาใจ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

10. จงสรุปสาระสาคญั ของสิทธปิ ระโยชนที่จะไดรบั จากกองทุนประกนั สงั คมมาใหเขาใจ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….

เฉลยแบบฝึกหดั

1. ผมู ีหนาทจ่ี ดทะเบยี นพาณิชยไดแกใครบาง
ตอบ ผูมีหนาทจี่ ดทะเบยี นพาณชิ ย คือ บคุ คลธรรมดาคนเดียวหรือหลายคน (หางหุนสวนสามัญ) หรือ นติ ิ

บคุ คล รวมท้ังนติ ิบุคคลท่ีตั้งข้ึนตามกฎหมายตางประเทศที่มาตงั้ สานกั งานสาขาในประเทศไทย ซึ่งประกอบ
กจิ การอนั เปนพาณิชยกิจตามที่กระทรวงพาณิชยกาหนด

2. ผปู ระกอบการประเภทใดบางที่ไดรับการยกเวนไมตองจดทะเบยี นพาณิชย
ตอบ ผูประกอบการที่ไดรบั การยกเวนไมตองจดทะเบยี นพาณชิ ย ไดแก
1. การคาเร การคาแผงลอย
2. พาณชิ ยกจิ เพ่อื การบารุงศาสนาหรอื เพื่อการกศุ ล
3. พาณิชยกิจของนติ ิบุคคลซึ่งไดมีพระราชบัญญัติ หรือพระราชกฤษฎีกาจดั ตง้ั ข้ึน
4. พาณิชยกิจของกระทรวง ทบวง กรม
5. พาณิชยกจิ ของมูลนิธิ สมาคม สหกรณ
6. พาณชิ ยกจิ ซึง่ รฐั มนตรีไดประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ไดแก พาณชิ ยกจิ ซึ่งผูประกอบพาณิชยกิจเปน

บริษทั จากดั หางหุนสวนจากัด หางหุนสวนสามญั จดทะเบียนท่เี ปนนิตบิ ุคคล ตามประมวลกฎหมายแพงและ
พาณชิ ยวาดวยหุนสวนและบริษทั และไดยืน่ แบบแสดงรายการเก่ียวกบั การประกอบธุรกิจของหางหุนสวนบรษิ ัทไว
แลวตอนายทะเบยี นหุนสวนบรษิ ัท ยกเวนกิจการทีเ่ ปนบริษัทจากัด หางหุนสวนจากัด และหางหุนสวนสามัญจด
ทะเบยี น

3. ผมู ีหนาที่ตองเสยี ภาษเี งินไดบุคคลธรรมดา ไดแกใครบาง
ตอบ ผูมหี นาท่ีเสียภาษีเงินไดบคุ คลธรรมดา ไดแก ผูทมี่ ีเงนิ ไดเกิดขึ้นระหวางปทีผ่ านมาโดยมสี ถานะ

อยางหนงึ่ อยางใด ดังน้ี
1. บคุ คลธรรมดา
2. หางหุนสวนสามัญหรอื คณะบคุ คลท่ีมิใชนติ บิ ุคคล
3. ผถู ึงแกความตายระหวางปภาษี
4. กองมรดกทย่ี งั ไมไดแบง
5. วิสาหกจิ ชมุ ชน ตามกฎหมายวาดวยการสงเสรมิ วสิ าหกจิ ชมุ ชน เฉพาะที่เปนหางหุนสวนสามญั หรือ

คณะบุคคลที่มใิ ชนติ บิ ุคคล

4. นิติบคุ คลประเภทใดบางที่ไมตองเสยี ภาษีเงินได
ตอบ นติ ิบคุ คลท่ีไมตองเสียภาษีเงินได นติ ิบุคคลอน่ื ๆ นอกจากทกี่ ลาวมา และเฉพาะทีต่ ง้ั ขน้ึ ตามกฎหมาย

ไทย เชน กระทรวง ทบวง กรม องคการของรฐั บาลหรอื สหกรณ ไมมหี นาทต่ี องเสยี ภาษีเงนิ ไดนิติบคุ คลแตอยางใด
อยางไรก็ตาม ยังมนี ติ บิ ุคคลอีกบางประเภททเ่ี ขาลักษณะตองเสยี ภาษเี งนิ ไดนิติบุคคลตามประมวลรษั ฎากร แตได
รบั การยกเวนตามบทบญั ญตั ิของกฎหมายตางๆ ไดแก

1. บรษิ ัทหรอื หางหุนสวนนติ ิบุคคลตามขอผูกพันท่ีประเทศไทยมีอยูตามสญั ญาวาดวยความรวมมือ ทาง
เศรษฐกจิ หรือทางเทคนิคระหวางรัฐบาลไทยกบั รฐั บาลตางประเทศ

2. บริษัทจากดั ที่ไดรบั การยกเวนภาษเี งนิ ไดตามกฎหมายวาดวยการสงเสริมการลงทนุ
3. บรษิ ทั จากดั และนิตบิ คุ คลทมี่ ีสภาพเชนเดียวกบั บริษัทจากดั ซงึ่ ต้ังขึ้นตามกฎหมายไทยหรอื กฎหมายต
างประเทศไดรบั การยกเวนภาษีเงนิ ไดนิติบคุ คลตามพระราชบัญญตั ภิ าษเี งินไดปโตรเลยี ม
4. บรษิ ัทหรือหางหุนสวนนิติบคุ คลท่ีอยูในประเทศที่มีอนสุ ญั ญาวาดวยการเวนการเกบ็ ภาษซี อน กบั
ประเทศไทย ตามเงื่อนไขท่ีกาหนดในอนสุ ัญญา

5. ผปู ระกอบการท่ีจดทะเบียนภาษีมลู คาเพ่ิม มหี นาที่อยางไรบาง
ตอบ หนาท่ีของผูประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิม่
1. เรยี กเก็บภาษีมูลคาเพิ่มจากผูซ้ือสินคาหรือผูรับบริการ และออกใบกากบั ภาษเี พอื่ เปนหลกั ฐาน ในการ

เรยี กเกบ็ ภาษีมูลคาเพม่ิ
2. จดั ทารายงานตามทีก่ ฎหมายกาหนด ซึง่ ไดแก
2.1 รายงานภาษีซื้อ
2.2 รายงานภาษขี าย
2.3 รายงานสินคาและวัตถุดิบ
3. ย่นื แบบแสดงรายการเพ่ือเสียภาษตี ามแบบ ภ.พ.30

6. สิทธบิ ัตรหมายถงึ อะไร และมีลักษณะอยางไรบาง
ตอบ สิทธบิ ตั ร คอื หนังสอื สาคัญท่ีออกใหเพ่ือคมุ ครองการประดษิ ฐ หรอื การออกแบบผลติ ภัณฑการ

ประดิษฐ คอื ผลงานสรางสรรคเกีย่ วกับการผลติ ผลติ ภณั ฑ มี 2 ลกั ษณะ ดงั นี้
1. ผลติ ภณั ฑ ไดแก โครงสรางหรอื สวนประกอบกนั เปนสิง่ ของเครือ่ งใชตางๆ และสวนผสม ทางเคมี
2. กรรมวธิ ี ไดแก วิธใี นการผลิต การเก็บรกั ษา หรอื การใชผลติ ภณั ฑ การออกแบบผลิตภัณฑ คอื ผลงาน

สรางสรรคเกี่ยวกบั ลักษณะภายนอกของผลิตภณั ฑ เชน รปู ราง ลวดลาย หรือสีของผลิตภณั ฑ
7. เคร่ืองหมายการคาหมายถึงอะไร และแบงออกเปนก่ีประเภท ไดแกอะไรบาง

ตอบ เคร่ืองหมายการคา หมายถงึ เคร่อื งหมายที่ใชหรือจะใชเปนท่ีหมายหรือเกย่ี วของกับสินคาเพื่อแสดง
วาสินคาทใี่ ชเคร่ืองหมายของเจาของเครอ่ื งหมายนน้ั แตกตางกับสินคาที่ใชเครือ่ งหมายการคาของบุคคลอ่นื ซง่ึ
เครื่องหมายการคา อาจจะเปนภาพถาย ภาพวาด ภาพประดษิ ฐ ตรา ช่ือ คาขอความตัวหนงั สอื ตัวเลข ลายมอื ชอ่ื
กลมุ ของสี รูปราง หรอื รูปทรงของวตั ถุ หรือสิง่ เหลานี้อยางใดอยางหน่ึงหรือหลายอยางรวมกัน เครอ่ื งหมาย
การคามี 3 ประเภท ไดแก

1. เครอื่ งหมายบริการ หมายถึง เครอื่ งหมายท่ีใชหรือจะใชเปนท่ีหมายหรอื เกี่ยวของกับบรกิ ารเพ่ือ
แสดงวาบรกิ ารที่ใชเคร่ืองหมายของเจาของบริการนัน้ แตกตางกบั บรกิ ารทใ่ี ชเคร่ืองหมายบริการของบุคคลอน่ื

2. เคร่อื งหมายรบั รอง หมายถงึ เครื่องหมายที่เจาของเคร่ืองหมายรับรองใชหรือจะใชเปนทีห่ มาย หรอื
เก่ียวของกบั สินคาหรือบรกิ ารของบุคคลอน่ื เพ่ือเปนการรบั รอง แหลงกาเนิด สวนประกอบ/วิธีการผลิต คณุ ภาพ
หรือคุณลักษณะสนิ คานัน้ หรือเพื่อรับรองภาพ คุณภาพ ชนดิ หรือคุณลกั ษณะอนื่ ใดของบรกิ ารนัน้

3. เคร่ืองหมายรวม หมายถงึ เคร่ืองหมายการคาหรอื เคร่ืองหมายบรกิ ารที่ใชหรอื จะใชโดยบรษิ ัท หรอื
วิสาหกิจในกลุมเดียวกนั หรือโดยสมาชิกของสมาคม สหกรณ สหภาพ สมาพันธ กลมุ บุคคลหรือองคกร อ่ืนใดของ
รัฐหรือเอกชน
8. กฎหมายแรงงานมีลักษณะอยางไรบาง

ตอบ กฎหมายแรงงาน หมายถงึ กฎหมายที่บัญญตั ถิ ึงสทิ ธแิ ละหนาท่ีของนายจาง ลูกจาง องคกรของ
นายจางและองคกรของลกู จาง รวมทง้ั มาตรการท่ีกาหนดใหปฏิบตั ิตอกนั เพื่อใหการจางงานและการใชงาน การ
ประกอบกิจการและความสมั พันธระหวางนายจางและลกู จางเปนไปโดยเหมาะสม
9. จงใหคาจากัดความคาวา “การประกันสงั คม ผูประกนั ตน และเงนิ สมทบกองทนุ ประกันสงั คม” มาใหเขาใจ

ตอบ การประกนั สังคม คือการสรางหลักประกันสงั คมในการดารงชวี ิตในกลุมของสมาชิกท่ีมรี ายไดและ
จายเงนิ สมทบเขากองทุนประกนั สงั คมเพื่อรบั ผิดชอบในการเฉลี่ยความเสยี่ งที่อาจจะเกิดขนึ้ จากการเจ็บปวย
คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะหบุตร ชราภาพและการวางงาน เพ่ือใหไดรบั การรักษาพยาบาล และ มีการ
ทดแทนรายไดอยางตอเน่อื ง ผูประกนั ตน หมายถึง ลกู จางทม่ี อี ายุไมต่ากวา 15 ปบรบิ ูรณ และไมเกิน 60 ป
บรบิ ูรณในวันเขาทางาน และทางานอยูในสถานประกอบการทมี่ ีลูกจางตั้งแต 1 คนขนึ้ ไป นายจางตองแจงข้ึน
ทะเบยี นลกู จางเปน ผปู ระกันตนภายใน 30 วนั นบั แตวันทรี่ บั ลูกจางเขาทางาน มฉิ ะนน้ั จะมีความผดิ ตองระวาง
โทษจาคกุ ไมเกนิ 6 เดอื น หรือปรบั ไมเกนิ 20,000 บาท หรอื ท้งั จาทั้งปรบั เงินสมทบกองทนุ ประกนั สังคม
หมายถึง เงนิ ท่นี ายจาง ลกู จาง จะตองนาสงเขากองทุนประกนั สังคม ทุกเดือน โดยคานวณจากคาจางจริงทลี่ กู จาง
ไดรบั
10. จงสรุปสาระสาคญั ของสิทธปิ ระโยชนท่จี ะไดรับจากกองทุนประกนั สงั คมมาใหเขาใจ

ตอบ สิทธปิ ระโยชนทีไ่ ดรับจากกองทนุ ประกนั สังคมโดยสรปุ มีดังนี้ ผทู ท่ี างานเปนลูกจางจะจายเงินสมทบ
เขากองทนุ ประกนั สงั คมทุกเดือน ในกรณีทนี่ ายจางมลี กู จางตง้ั แต 1 คนขึน้ ไป ตองมีหนาทข่ี ้นึ ทะเบยี นผูประกนั
ตนใหครบทุกคนภายใน 30 วัน และสงเงินสมทบใหครบทงั้ สวน ของนายจางและลกู จาง ทาใหลกู จางไดรับสทิ ธิ
ประโยชนจากกองทุนประกันสังคมท่ตี นไดรวมจายเงินสมทบ ซ่ึงในทนี่ ้ีจะเปนผูประกันตนตามมาตรา 33 (ผูประกัน
ตนตามมาตรา 33 หมายถึง ลกู จางอายุไมต่ากวา 15 ปบริบูรณและไมเกิน 60 ปบริบรู ณเปนผูประกันตน ถาอายุ
ครบ 60 ปบรบิ รู ณแลวยงั เปนลกู จางอยูใหถอื วา เปนผูประกนั ตนตอไป ซงึ่ ความสนิ้ สดุ ของผูประกนั ตนคือ (1) ตาย
(2) ส้นิ สภาพการเปนลูกจาง) สาหรับผูทท่ี างานถือวาเปนผูประกนั ตนตามมาตรา 33 ซึง่ ทง้ั นายจางและลกู จาง
มหี นาทีส่ งเงินเขา กองทุนประกนั สงั คมทุกเดอื น โดยคานวณจากฐานคาจางท่ลี กู จางไดรับ เชน การคานวณเงนิ
สมทบสาหรับ ผูประกันสงั คมทมี่ รี ายได 15,000 บาทตอเดือนข้นึ ไป (อางองิ อัตราเงนิ สมทบป 2556 ตามประกาศ
กฎกระทรวง)

17. ใบงาน

หน่วยการสอนท่ี 6
ชอ่ื หน่วยการสอน กฎหมายทีเ่ กย่ี วกับธุรกจิ และการเป็นผู้ประกอบการ

จุดประสงค์ เพ่ือ

1. สร้างความรคู้ วามจาให้กบั ผเู้ รยี น
2. เพิม่ การฝกึ ปฏิบตั ิแก่ผ้เู รียน
3. สรา้ งความรบั ผดิ ชอบ ความอดทน ความสนใจใฝ่เรยี นรู้

ลาดับกจิ กรรม/ลาดับการปฏบิ ัติ

1. ผู้เรยี นศกึ ษาเน้ือหาจากใบความรู้
2. ผเู้ รียนศึกษาหาความรจู้ ากตาราเรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 การวางแผนเป้าหมายชีวิตด้วยวงจร

คุณภาพ 20001-1003 สานักพมิ พ์เอมพันธ์
3. หรือ ครูผสู้ อนบรรยายความรู้ เร่อื ง การวางแผนเป้าหมายชวี ิตด้วยวงจรคณุ ภาพ
4. จัดทาใบงานตามท่มี อบหมาย (กาหนดเวลาจดั ทา 50 นาที)
5. ส่งงานใบงานท่ีมอบหมายก่อนหมดเวลาเรยี น (10 นาที หรือเป็นการบา้ น)

เกณฑก์ ารพิจารณา

1. ส่งงานตรงเวลานัดหมาย
2. จัดทาครบทุกข้อที่กาหนด
3. ทางานเป็นระเบยี บเรยี บร้อย

ใบงานท่ี 6.1

เรอ่ื ง การจดทะเบยี นพาณชิ ยข์ องผู้ประกอบการ
ช่อื -สกลุ ............................................................................................เลขท่.ี ........ชัน้ ..........................
คาชี้แจง ให้ Download แบบพมิ พ์ (ทพ.) ที่ www.dbd.go.th แลว้ นามากรอกข้อมูล เพื่อฝึกทักษะใน
การจดทะเบยี นพาณชิ ยข์ องผู้ประกอบการ ตามคาแนะนาของเอกสาร

ใบงานที่ 6.2

เร่ือง สิทธปิ ระโยชนท์ ีไ่ ดร้ ับจากกองทุนประกันสังคม

ชือ่ -สกลุ ............................................................................................เลขที่.........ช้นั .............. ............

คาชแ้ี จง ให้บอกสทิ ธปิ ระโยชน์ท่ไี ด้รบั จากกองทุนประกนั สังคม โดยยกตัวอย่างคานวณจากฐานค่าจ้างท่ี

ลกู จ้างไดร้ บั เชน่ การคานวณเงนิ สมทบสาหรบั ผปู้ ระกนั สังคมทม่ี รี ายได้ 15,000 บาทต่อเดอื นขึน้ ไป (อ้างอิงอตั รา

เงินสมทบปี 2556 ตามประกาศกฎกระทรวง)

เงนิ สมทบ

สทิ ธิประโยชน์ ลูกจา้ ง นายจา้ รฐั บาล สทิ ธจิ ะได้รบั



1.ประสบ

อนั ตราย

เจบ็ ป่วย

2.ทุพพลภาพ 

3.ตาย
4.คลอดบุตร
5.สงเคราะห์
บตุ รชราภาพ
6.การว่างงาน

รวม

ใบงานท่ี 6.3

เร่ือง แพนดา้ พาโชค

ชื่อ-สกลุ ............................................................................................เลขท.่ี ........ชน้ั ..........................

คาชแ้ี จง ให้อ่านกรณี “แพนด้าพาโชค” แลว้ แสดงความคิดเหน็ ว่าเหตุการณน์ ้ีเหมาะสมหรือไม่ อยา่ งไรบา้ ง

หลังจากนอ้ งปลายฟ้าเปน็ ผโู้ ชคดีได้รบั รางวลั เงนิ สด 1 ลา้ น รถเก๋ง

ฮอนด้าแจส๊ 1 คัน และแพคเกจทอ่ งเท่ยี วประเทศจีนอีก 3 วัน 4 คนื น้อง ปลาย

ฟ้าและคุณยายกต็ ้องทุกข์ใจกับภาษีทต่ี ้องชาระให้สรรพากรตงั้ แตว่ นั ทร่ี บั

รางวัล สรรพากรชแ้ี จงว่ารางวลั ทไ่ี ดต้ อ้ งหักภาษี ณ ทีจ่ ่าย 5% ทาให้เงนิ ที่ได้ เหลือ

เพยี ง 9 แสนกวา่ และนาไปฝากธนาคาร หลงั จากนน้ั สรรพากรทอ้ งทกี่ ็มาแจ้ง วา่

ตอ้ งเสยี ภาษีเพ่มิ เติมในส้ินปอี ีกประมาณ 2 แสนบาท คณุ ยายไม่เข้าใจในการ เสยี

ภาษีและไม่รู้เร่อื งอีกท้ังมีขา่ วทางสอ่ื อย่างแพร่หลายในลักษณะต่าง ๆ ทานองวา่ เป็นการรังแกคุณยายกบั หลาน

และได้ร้องเรยี นกบั รฐั มนตรผี เู้ ก่ยี วข้อง และสอื่ ต่าง ๆ ใหเ้ ขา้ มาดูแล แต่ก็ไม่ไดผ้ ลในที่สุดคุณยายและน้องปลายก็

ตอ้ งจา่ ยภาษีตามท่ีรฐั เรยี กร้องโดยกรมสรรพากร จากกรณีศกึ ษานี้ ใหน้ ักเรียนแสดงความคิดเหน็

................................................................................................................. ........................................................

............................................................................................................................. .............................................

......................................................................................................................................................... .................

................................................................................................................. .........................................................

............................................................................................................................. .............................................

........................................................................................................................................................ ..................

................................................................................................................ ..........................................................

............................................................................................................................. .............................................

....................................................................................................................................................... ...................

เฉลยใบงานที่

(ดุลพินิจของผสู้ อน)

แบบสรปุ คะแนน
ชดุ ที่ 1

รายวิชา กฎหมายทีเ่ กี่ยวกับธุรกจิ และการเป็นผู้ประกอบการ

คะแนน กิจกรรมท่ี ใบงานท่ี แบบทดสอบ แบบทดสอบ คะแนน
ก่อนเรยี น หลงั เรยี น ระหว่าง
123 1 เรยี น

คะแนนเต็ม  5 10 10 15

คะแนนท่ไี ด้
คดิ เป็นรอ้ ย
ละ

หมายเหตุ :  = ผา่ นกิจกรรม  = ไมผ่ า่ นกจิ กรรม

(ลงชอ่ื ) ....................................... ผปู้ ระเมนิ
(นายวจิ ิตร พลเศษ)

ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครูชานาญการ

เกณฑก์ ารประเมินแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและแบบทดสอบหลงั เรียน

ระดบั คุณภาพ หมายถงึ ดี
ระดับ 4 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ปานกลาง
ระดับ 3 7 - 8 คะแนน หมายถึง พอใช้
ระดบั 2 5 - 6 คะแนน

20. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรแู้ บบมงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชีพและบรู ณาการตามหลักปรชั ญา

ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

20.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้

รายการ ระดับการปฏิบัติ
5432 1

ด้านการเตรยี มการสอน

1. จัดหน่วยการเรยี นรู้ไดส้ อดคลอ้ งกับวัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้

2. กาหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ด้านทกั ษะ และดา้ นจิตพิสัย

3. เตรยี มวสั ดุ-อุปกรณ์ ส่ือ นวตั กรรม กจิ กรรมตามแผนการจัดการเรยี นรกู้ ่อนเข้าสอน

ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

4. มีวธิ กี ารนาเข้าสู่บทเรยี นที่นา่ สนใจ

5. มีกจิ กรรมทีห่ ลากหลาย เพ่ือช่วยให้ผู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ ความเข้าใจ

6. จดั กจิ กรรมที่ส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี นคน้ คว้าเพ่ือหาคาตอบดว้ ยตนเอง

7. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

8. จัดกจิ กรรมท่ีเนน้ กระบวนการคดิ ( คิดวเิ คราะห์ คิดสังเคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ )

9. กระตุ้นใหผ้ ูเ้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี

10. จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ีเ่ ชื่อมโยงกบั ชวี ิตจรงิ โดยนาภูมิปญั ญา/บรู ณาการเขา้ มามสี ว่ นร่วม

11. จัดกิจกรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม

12. มกี ารเสริมแรงเมือ่ นักเรยี นปฏิบัติ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผู้เรียน

14. เอาใจใส่ดแู ลผเู้ รียน อย่างทั่วถงึ

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่ีกาหนด

ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้

16. ใช้สือ่ ทเี่ หมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผเู้ รยี น

17. ใชส้ ่อื แหล่งการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เชน่ บคุ คล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

ส่อื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ และอนิ เทอรเ์ น็ต เปน็ ต้น

ด้านการวดั และประเมินผล

18. ผู้เรียนมสี ว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล

19. ประเมินผลอยา่ งหลากหลายและครบทั้งด้านความรู้ ทกั ษะ และจิตพิสัย

20. ครู ผเู้ รียน ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ เ่ี ก่ยี วข้องมีส่วนรว่ ม ในการประเมิน

หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดเี ยีย่ ม 4 = ปฏิบัตดิ ี 3 = ปฏบิ ัตพิ อใช้ รวม
2 = ควรปรับปรงุ 1 = ไม่มีการปฏบิ ตั ิ ค่าเฉลี่ย

20.2 ปญั หาท่ีพบ และแนวทางแกป้ ัญหา แนวทางแก้ปัญหา
ปญั หาท่ีพบ
.....................................................................................
ด้านการเตรยี มการสอน .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................

ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................

ดา้ นส่อื นวัตกรรม แหลง่ การเรียนรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................

ดา้ นการวดั และประเมินผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านอืน่ ๆ (โปรดระบุเป็นข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ลงช่อื ........................................................................ ครผู ้สู อน
(....................................................................)

ตาแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................

บนั ทกึ หลงั การสอน

ผลการใช้แผนการเรยี นรู้

ความเหมาะสมของเวลา
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรุง

ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรยี นการสอน
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ

……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………

ผลการเรียนของผเู้ รยี น

ความต้ังใจของผเู้ รยี น  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรงุ
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ
 ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
อปุ กรณ์การสอน
 มาก  ดี

การเรียนร้ขู องผเู้ รียน
 มาก  ดี

…………………………………………………………………………………………………………………………………….………

การสอนของครู

 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรุง

กิจกรรมการสอนท่ีกาหนดไว้ในแผนการจดั การ

เรียนรู้  ตรงตามแผนการจัดการเรียนรู้  ไมต่ รงตามแผนการจดั การเรยี นรู้

บนั ทกึ เพ่ิมเตมิ

.......................................................................................................................................................... ...

………………………………………………
(นายวจิ ติ ร พลเศษ)
ผบู้ ันทกึ การสอน

แผนการจดั การเรยี นรู้ แบบมุ่งเนน้ สมรรถนะอาชีพ
และบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รหสั วิชา 30200-0003 วชิ า ธรุ กิจและการเป็นผู้ประกอบการ
หนว่ ยท่ี 7 ชือ่ หนว่ ย รูปแบบแผนธุรกิจ

ชอ่ื เรอื่ ง รูปแบบแผนธุรกิจ จานวน 12 ชั่วโมง สอนครง้ั ที่ 15,16,17,18

1. สาระสาคญั

แผนธุรกจิ เปน็ เครอื่ งมอื ของธุรกิจที่ผู้ประกอบการสามารถใช้ในการกาหนดขน้ั ตอน และวางแผนการ
ดาเนนิ ธรุ กิจอย่างมีระบบ และมปี ระสทิ ธิภาพ เพื่อให้บรรลุวสิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจและเป้าหมายตามท่ีกาหนดไว้ โดย
แผนธุรกิจที่ดีนนั้ ควรจะมีความถูกต้อง ชดั เจนและกระชับ ครอบคลุมเน้ือหาที่สาคญั ง่ายต่อการเข้าใจ และต้องมี
ความเป็นไปได้ในการนาไปใชใ้ นการดาเนินธุรกิจ

2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้

1. สามารถเขยี นแผนธุรกจิ ตามรปู แบบแผนธรุ กิจ

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

3.1 จดุ ประสงคท์ ั่วไป

3.1.1 มคี วามรูแ้ ละเขา้ ใจเกี่ยวกบั รปู แบบของแผนธรุ กิจ

3.2 จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
3.2.1. อธิบายความหมายและความสาคัญของแผนธุรกิจ
3.2.2. แสดงความรู้เกยี่ วกบั องค์ประกอบของแผนธรุ กจิ
3.2.3. จดั ทาปกหน้า สารบัญ และคานา
3.2.4. จัดทาบทสรุปผูบ้ ริหาร
3.2.5. จัดทาประวัติกิจการ หรือภาพรวมของกจิ การ
3.2.6. วิเคราะหส์ ถานการณ์
3.2.7. จัดทาแผนการตลาด
3.2.8. จัดทาแผนการบรหิ ารจัดการและแผนการดาเนินงาน
3.2.9. จัดทาแผนการผลิต
3.2.10. จัดทาแผนการเงนิ
3.2.11. จัดทาแผนฉกุ เฉนิ
3.2.12. แสดงความร้เู กีย่ วกบั ภาคผนวก

3.2.13 มกี ารพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรมคา่ นยิ ม ความมีมนษุ ยสัมพันธ์ ความมีวนิ ยั ความ
รบั ผดิ ชอบ ความซื่อสัตยส์ จุ ริต ความเช่อื ม่ันในตนเอง การประหยดั ความสนใจใฝ่รู้ การละเว้นสิ่ง
เสพติดและการพนัน ความรักสามคั คี

4. เน้อื หาสาระการสอน/การเรียนรู้

4.1 ดา้ นความรู้
1. ความหมายและความสาคัญของแผนธรุ กจิ
2. องคป์ ระกอบของแผนธุรกจิ
3. ปกหนา้ สารบญั และคานา
4. บทสรปุ ผู้บรหิ าร
5. ประวัติกิจการ หรือภาพรวมของกิจการ
6. การวิเคราะหส์ ถานการณ์
7. จดั ทาแผนการบรหิ ารจัดการและแผนการดาเนินงาน
8. จัดทาแผนการผลิต
9. แผนการเงนิ
10. แผนฉกุ เฉิน
11. ภาคผนวก

4.2 ด้านทักษะหรือการประยุกตใ์ ช้
1. บอกความหมายและความสาคัญของแผนธรุ กจิ
2. บอกองคป์ ระกอบของแผนธุรกจิ
3. สามารถเขยี นปกหน้า สารบัญ และคานา
4. สามารถเขียนบทสรปุ ผ้บู รหิ าร
5. สามารถเขียนประวัตกิ จิ การ หรือภาพรวมของกจิ การ
6. สามารถวเิ คราะห์สถานการณ์
7. สามารถจดั ทาแผนการบรหิ ารจดั การและแผนการดาเนนิ งาน
8. สามารถจัดทาแผนการผลิต
9. สามารถจัดทาแผนการเงิน
10. สามารถจดั แผนฉุกเฉิน
11. สามารถเขยี นภาคผนวก

4.3 ด้านคุณธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงคแ์ ละบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ
พอเพียง

ดา้ นคุณธรรม/ จริยธรรม
1. มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ มีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา

ดา้ นคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์และบรู ณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
1. มุ่งมัน่ ในการทางาน มจี ิตสาธารณะ อยู่อยา่ งพอเพยี ง
2. เขียนแผนโดยประยุกต์เศรษฐกจิ พอเพยี งได้อยา่ งเหมาะสม

5. กิจกรรมการเรียนการสอนหรอื การเรยี นรู้

ข้ันตอนการสอนหรอื กจิ กรรมครู ขั้นตอนการเรียนหรือกิจกรรมของผเู้ รยี น

ขน้ั เตรยี ม(จานวน 30 นาที) 5.1 ผูเ้ รียนเขา้ ห้องเรียน
5.1 นกั เรียนทาความเคารพครูผู้สอน 5.2 ครูผู้สอนตรวจสอบรายช่ือผู้เรยี น
5.2 ครูผู้สอนทกั ทายผู้เรยี นและสารวจรายช่ือผ้เู รียน 5.3 ผู้เรยี นรับใบความรู้ เร่อื ง รปู แบบและการจัดทา
5.3 ครผู สู้ อนแจกใบความรู้ หรอื เตรียมอปุ กรณ์
แผนธรุ กิจ
ในการสอนใหพ้ รอ้ ม และใบงาน 5.4 รบั ใบงาน อธบิ ายการทา
5.4 ผู้เรียนใบความรู้ เตรยี มตาราเรียนและสมุด
5.5 ผสู้ อนการจัดทาใบงานที่มอบหมาย (20 นาที)

ขั้นการสอน(จานวน....660........นาท)ี

5.6 ครูผสู้ อนแจกแบบทดสอบก่อนเรยี น 5.5 ผู้เรียนทดสอบก่อนเรียน ( 10 นาท)ี

5.7 อธบิ ายการทาแบบทดสอบก่อนเรยี น มีจานวน

10 ขอ้ เวลาท่ใี ช้ 10 นาที (พร้อมส่งครบเวลา)

5.8 ครผู ู้สอนใหผ้ ู้เรยี นศึกษาใบความรู้ หนว่ ยเนื้อหา 5.6 ผเู้ รยี นศกึ ษาตาราเรยี นหนว่ ยเน้อื หา ใบความรู้

ตาราเรียน รปู แบบและการจัดทาแผนธุรกจิ

5.9 ครผู สู้ อน ตั้งคาถามเกยี่ วกบั การวางแผนฯและ 5.7 ผูเ้ รียนรว่ มตอบคาถาม

(ผู้เรยี นตอบคาถาม) 5.8 ผเู้ รียนรับฟังการบรรยาย เกย่ี วกบั เน้ือหา

5.10 ครผู ู้สอน อธิบายเน้ือหา ใบความรู้ เนอ้ื หาใน รปู แบบและการจัดทาแผนธรุ กิจ

หนว่ ยการเรยี นรู้ (เวลา 240 นาท)ี 5.9 ผูเ้ รียนจัดทาใบงานทม่ี อบหมาย ( 420 นาที)

5.11 ครผู ู้สอนมอบหมายการทาใบงาน แบบฝึกหดั

(เวลา 420 นาที)

ข้นั สรุป (จานวน 30 นาที) 5.10 ผเู้ รยี นร่วมสรุปเนอ้ื หา ใบความรู้ เนื้อหาหนว่ ย
5.12 ครูผสู้ อนและผูเ้ รียนสรุปเนื้อหา หวั ข้อ บุคคล การเรียนรู้ ตาราเรยี น

ธรรมดา และนติ ิบุคคล เป็นขอ้ 5.11 ผเู้ รียนจัดทาแบบทดสอบหลังเรยี น 10 ขอ้
5.13 ครผู ูส้ อนแจกแบบทดสอบหลงั เรียน หัวข้อ (เวลา 10 นาท)ี

10ขอ้ (10 นาที) 5.12 มอบหมายงาน การจัดทารายงาน รายบคุ คล
รายกลมุ่ 3-5 คน รายงานหน้าชั้นเรียน

6. ส่อื การสอน

ส่ือสง่ิ พมิ พ์

1. ตาราเรยี น หนงั สือประกอบการเรยี นการสอนวชิ า ธุรกิจและการเป็นผูป้ ระกอบการ 20001-1003
อ.เพญ็ ศรี เลศิ เกียรติวิทยา สานักพิมพเ์ อมพนั ธ์

2. เอกสารประกอบการสอน ใบความรู้

สอ่ื โสตทัศน์ (ถา้ มี)

1. power point ธุรกจิ และการเป็นผู้ประกอบการ 20001-1003 รปู แบบและการจัดทาแผนธรุ กจิ
2. VDO สอื่ การสอน ประจาวิชา ธุรกิจและการเป็นผปู้ ระกอบการ 20001-1003
3. ...................................................................................................

หุน่ จาลองหรอื ของจรงิ (ถ้ามี)

1. ............................................................................................................................. ......

เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)

1. แบบทดสอบก่อนเรยี น
2. ใบความรู้ ใบงาน (ใบมอบหมายงาน ถา้ มี)
3. แบบทดสอบหลังเรียน

แหลง่ เรียนรู้
เรียนรู้

1. ห้องสมดุ วิทยาลยั การอาชีพสวา่ งแดนดิน (ตาราเรียน)
2. ห้องอินเทอรเ์ นต็ วทิ ยาลยั การอาชีพสว่างแดนดนิ การสืบคน้ ข้อมลู
3. Google แหลง่ เรียนรอู้ อนไลน์ จากโทรศพั ท์มือถือ
การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธ์กับวิชาอ่นื

1. วชิ าภาษาไทย การอา่ นและทาความเขา้ ใจในเนอื้ หาหน่วยการเรยี นรู้ ใบความรู้ ตีความ
2. วชิ าสังคมศกึ ษา การอยใู่ นสงั คม การคบเพ่ือน
3. วิชาภาษาอังกฤษ เร่ืองศัพทเ์ ฉพาะในหน่วยการเรยี นการสอน

8. งานทมี่ อบหมาย

8.1 กอ่ นเรยี น

1. จัดเตรยี มหอ้ งเรยี นให้เรียบร้อยเป็นระเบยี บ รักษาความสะอาด (แบง่ เวร)
2. จดั เตรยี มอปุ กรณก์ ารเรยี นให้พรอ้ ม กอ่ นการเรียนการสอน
3. จัดทาแบบทดสอบก่อนเรยี น และสง่ ตามกาหนดเวลา 10 ขอ้ 10 นาที 10 คะแนน

8.2 ขณะเรียน
1. จัดทาใบงานท่ีมอบหมายตามกาหนดเวลาส่งที่กาหนดไว้
2. จดั ทาแบบทดสอบหลงั เรียน และส่งตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน
3. ปฏิบัตติ นในการเรยี นร้อู ย่างเหมาะสมในช้นั เรยี น

8.3 หลงั เรยี น
1. การศกึ ษาเน้ือหากอ่ นล่วงหนา้
2. มอบหมายงานแบบฝึกหัดทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรู้ ใบงาน

9. ผลงาน/ช้ินงาน ทเ่ี กดิ จากการเรยี นรขู้ องผูเ้ รยี น

1. ใบงานที่มอบหมาย
2. สมดุ ในการทาแบบฝึกหัด แบบฝึกปฏิบตั ิทา้ ยหน่วย
3. สรปุ ผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
4. สรปุ ผลการสง่ งานท่ีมอบหมาย

10. เอกสารอา้ งอิง

1. บันทึกการสอนของครู
2. ใบเชค็ รายช่อื
3. แผนการจดั การเรยี นรู้
4. ใบความรู้ เนื้องานในหนงั สือเรียน
5. แบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรยี น

11. การบูรณาการ/ความสัมพันธก์ บั รายวิชาอน่ื

1. รายวิชาภาษาไทย เพอื่ อ่าน ฟัง พดู เขียน และตีความหมาย แปลความหมาย
2. รายวชิ าสงั คมศึกษา สังคมไทย เพ่ือการอยรู่ ว่ มกนั ในสังคม ในห้องเรียน
3. รายวชิ าภาษาอังกฤษ ท่ีมีภาษาอังกฤษในหนว่ ยการเรยี นการสอน


Click to View FlipBook Version