12. หลกั การประเมินผลการเรียน
12.1 ก่อนเรียน
12.1.1 การประเมินการตรวจสอบรายช่อื ผ้เู ขา้ เรยี นในชว่ั โมง (ด้านจติ พิสัย)
12.1.2 การประเมินการเตรยี มความพร้อมในการเรยี นของผู้เรียน อปุ กรณก์ ารเรยี น ตาราเรียน
สมดุ ปากกา ไมบ้ รรทัด
12.1.3 การประเมนิ การทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เวลา 10 นาที 10 ข้อ 10 คะแนน
12.2 ขณะเรยี น
12.2.1 การประเมนิ การมสี ว่ นร่วมในการเรียนการสอน การตอบ-ถาม (แบบประเมิน
พฤติกรรม)
12.2.2 การประเมินการสนใจใฝเ่ รียนรู้ การปฏิบัติตน ขณะเรียน การทาแบบฝึกหดั ใบงาน
(แบบประเมินพฤตกิ รรม)
12.2.3 การประเมนิ ด้วยการทาแบบทดสอบหลงั เรียน เวลา 10 นาที 10 ข้อ 10 คะแนน
12.3 หลังเรยี น
12.3.1 การประเมนิ ผลการเรียนรแู้ ละสรปุ ผลการเรยี นรู้ แบบประเมินผล
แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียนรอ้ ยละ 50 หลังเรยี นร้อยละ 70
12.3.2 เม่ือไม่ผา่ นเกณฑ์ท่ีกาหนดให้มกี ารปรับปรุงแก้ไขต่อไป
12.3.3 มกี ารมอบหมายงาน ศึกษาเนื้อหาในหนว่ ยการเรียนถดั ไป และใบความรู้ (ถา้ มี)
12.3.4 มอบหมายงานศึกษาเนอื้ หาเพ่ิมเติมโดยการจดั ทารายงานกลมุ่ หรือรายบุคคคล
13. รายละเอียดการประเมนิ ผลการเรยี น
จดุ ประสงค์ข้อที่ 1 ………………………………………………………………………………....................................………
1. วธิ ีการประเมิน : ……………………………………………………...........................…………….
2. เครือ่ งการประเมิน : …………………………………………………………………............................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………............................
4. เกณฑ์การผ่าน : …………………………………………………………………...............
จุดประสงคข์ ้อที่ ……………………………………………………………………………………….....................................
1. วธิ กี ารประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
2. เครื่องการประเมิน : …………………………………………………………………...........................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...........................
14.,15. แบบทดสอบกอ่ นเรียนหลังเรยี น
หนว่ ยการสอนท่ี 7 ชอื่ หน่วยการสอน รปู แบบและการจดั ทาธุรกจิ
วตั ถุประสงค์ เพื่อ ทดสอบความร้เู บอ้ื งตน้ ของผเู้ รยี น หลงั การเรยี นการสอน
ขอ้ คาถาม
แบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรยี น
จงเลอื กคาตอบทถ่ี กู ต้องที่สุดเพียงข้อเดยี ว
1.“ลักษณะของธุรกิจเป็นธุรกิจกระบวนการขายไมย่ งุ่ ยากซับซ้อน ซึง่ จาหน่ายสินค้าแปรรูปสมนุ ไพรหลากหลาย
สะดวกตอ่ การใช้และเปน็ ท่ตี ้องการของลูกค้ารนุ่ ใหม่” หมายถึงข้อใด
1. บทสรปุ ผ้บู รหิ าร
2. แนวคิดและขอบเขตของธุรกจิ
3. โอกาสของธุรกิจ
4. กลุม่ ตลาดเปา้ หมาย
5. สภาวะการแขง่ ขนั
2.“กลมุ่ ผซู้ ือ้ เครือ่ งดื่มสมุนไพรทีเ่ นน้ คณุ ภาพสินคา้ เพอ่ื สขุ ภาพได้แก่
• หญงิ ทีม่ สี ถานภาพแต่งงาน 9 อายุ 20 ถงึ 49 ปี
• ขนาตครอบครวั ต้ังแต่ 3 คนขน้ึ ไป รายได้ / ครัวเรอื น 30,000 บาทตอ่ เดอื นข้ึนไป ”
จากขอ้ ความข้างตน้ มีความสอดคล้องกับข้อใด
1.โอกาสของธุรกจิ
2. คแู่ ขง่ ขนั
3. ตลาดเป้าหมาย
4.ขอบเขตของธุรกจิ
5. แนวคดิ ของธรุ กิจ
3.“ผู้บรโิ ภคใสใ่ จการดูแลสขุ ภาพมากข้นึ รัฐบาลสนบั สนุนอย่างเต็มท่ี จงึ สร้างยอดขายและเสริมสร้างรายได้
เพ่มิ ข้ึน ...” หมายถงึ ข้อใด
1. แผนการตลาด
2. แผนการผลติ
3. แนวโนม้ ทางการตลาด
4. จดุ แขง็ ของธุรกจิ
5. โอกาสของธุรกิจ
4.“สรา้ งรายไดแ้ ละความเขม้ แข็งให้ชมุ ชนมีผลตอบแทนการลงทุนสูง.” จากข้อความนีส้ ัมพันธก์ ับข้อใด
1. โอกาสทางธุรกิจ
2. จุดแข็งของธรุ กิจ
3. ความคมุ้ คา่ เชงิ ธรุ กิจ
4. การสรา้ งยอดขาย
5. การสร้างตลาดเปา้ หมาย
5 . ข้อใดเป็นปัจจยั ท่ีไม่สามารถควบคุมได้
1 . นโยบายของบรษิ ทั
2 . ผลิตภัณฑ์ ราคา สถานทจี่ ัดจา้ หน่าย
3. การสง่ เสริมการตลาด
4. ลกู ค้า คแู่ ขง่ ขนั
5 . การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์
6 . ขอ้ ใดเปน็ ปัจจัยทส่ี ามารถควบคุมได้
1 . กลุ่มลกู ค้าเปา้ หมาย
2 . การแขง่ ขัน
3 . คา่ นยิ มการใช้สินคา้ มยี ี่ห้อ
4 . สภาวะเศรษฐกจิ
5 . 4p's
7 . คากล่าวทวี่ า่ “ ฝนั ให้ไกส แลว้ ไปให้ถึง ” ตรงกับข้อใด
1 . แผนธรุ กิจ
2 . แผนการตลาด
3 . วิสยั ทศั น์
4 . พนั ธกจิ
5 . เปา้ หมาย
8 . ข้อใดเป็นการกาหนดกลยุทธผ์ ลติ ภัณฑ์
1 . มผี ลติ ภัณฑส์ ีเขียว เหลอื ง แดง ชมพู
2 . จาหน่ายสินค้าทีร่ า้ น 7 Eleven
3 . เป็นสปอนเซอร์ให้กบั การแข่งขันฟตุ บอล
4 . “ The Mall ลดกระหนา่ ” หรือ “ Central Midnight Sale ”
5 . “ เร่เข้ามา เรเ่ ข้ามา ของดรี าคาถูก ชดุ ละ 30 , 4 ชุด 100 ”
9 . ขอ้ ใดไม่ใช่วธิ ีการและกิจกรรมทใ่ี ช้ในการส่งเสริมการขาย
1 . “ เร่เข้ามา เรเ่ ข้ามา ของดีราคาถูก ชดุ ละ 30 , 4 ชดุ 100 ”
2 . “ สบ่สู มนุ ไพรขนาดใหม่ เพียง 29 บาทเท่านัน้ ”
3 . " The Mall ลดกระหนา่ " หรือ " Central Midnight Sale "
4 . เม่อื ซื้อสนิ ค้า 2 ช้นิ จะแถมให้ 1 ชนิ้
5 . จดั ทาป้ายโฆษณาบนทางด่วน หรือบนรถประจาทาง
10 . ถา้ กิจการสามารถทายอดขายได้ตามเปา้ หมาย แตเ่ กบ็ เงนิ จากลกู หน้ีไมไ่ ด้ จะสง่ ผลกระทบอยา่ งไร
1 . ทาให้เงนิ สดหมนุ เวียนขาดสภาพคล่อง
2 . ทาให้สินค้าผลิตไม่ทนั ตามคาสง่ั ซือ้ เน่ืองจากขาดแคลนวัตถุดบิ
3 . ทาให้มีสินคา้ ในคลังเหลอื มาก
4 . ทาให้มตี น้ ทนุ การผลิต / การจัดการสงู กว่าท่ีคาดไว้
5 . ทาให้เกดิ การชะงกั การเติบโตของท้ังอุตสาหกรรม
กระดาษคาตอบ กอ่ นเรียน – หลงั เรยี น
กิจกรรมการเรียนรู้
หนว่ ยท่ี 7 เร่อื ง รูปแบบและการจัดทาธรุ กจิ
กอ่ นเรยี น 5 หลงั เรยี น
ข้อ 1 2 3 4 ข้อ 1 2 3 4 5
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10
รวมคะแนน กอ่ นเรยี น รวมคะแนน หลงั เรียน
ช่ือ-สกลุ ...........................................................แผนก/หอ้ ง............เลขท.ี่ .............
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลงั เรยี น
กจิ กรรมการเรียนรู้
หน่วยท่ี 7 เร่อื ง รูปแบบและการจดั ทาธุรกจิ
กอ่ นเรยี น หลงั เรียน
ข้อ 1 2 3 4 5 ขอ้ 1 2 3 4 5
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10
รวมคะแนน กอ่ นเรียน 10 รวมคะแนน หลงั เรยี น 10
ชื่อ-สกุล...........................................................ผู้สอน/ผู้ตรวจ
(นายวิจติ ร พลเศษ)
หนว่ ยการสอนท่ี 7 ช่อื หนว่ ยการสอน รูปแบบแผนธรุ กิจ
ชอื่ หัวข้อเรอ่ื ง รปู แบบแผนธุรกิจ
16. ใบความรู้
แนวคิด
แผนธุรกจิ เป็นเครอ่ื งมอื ของธุรกจิ ทผ่ี ปู้ ระกอบการสามารถใชใ้ นการกาหนดขนั้ ตอน และวางแผนการดาเนินธุรกจิ
อย่างมรี ะบบ และมปี ระสทิ ธภิ าพ เพอ่ื ใหบ้ รรลุวสิ ยั ทศั น์ พนั ธกจิ และเป้าหมายตามทก่ี าหนดไว้ โดยแผนธุรกจิ ทด่ี นี นั้ ควรจะ
มคี วามถูกตอ้ ง ชดั เจนและกระชบั ครอบคลมุ เน้อื หาทส่ี าคญั งา่ ยต่อการเขา้ ใจ และตอ้ งมคี วามเป็นไปไดใ้ นการนาไปใชใ้ น
การดาเนนิ ธุรกจิ
ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั
1. บอกความหมายและความสาคญั ของแผนธรุ กจิ
2. บอกองค์ประกอบของแผนธุรกจิ
3. สามารถเขียนปกหน้า สารบญั และคานา
4. สามารถเขียนบทสรุปผบู้ ริหาร
5. สามารถเขียนประวัติกิจการ หรือภาพรวมของกิจการ
6. สามารถวิเคราะหส์ ถานการณ์
7. สามารถจดั ทาแผนการบริหารจดั การและแผนการดาเนินงาน
8. สามารถจัดทาแผนการผลิต
9. สามารถจัดทาแผนการเงนิ
10. สามารถจดั แผนฉุกเฉนิ
11. สามารถเขียนภาคผนวก
สาระการเรียนรู้
1. ความหมายและความสาคัญของแผนธุรกิจ
2. องคป์ ระกอบของแผนธุรกิจ
3. ปกหนา้ สารบญั และคานา
4. บทสรปุ ผ้บู รหิ าร
5. ประวัตกิ ิจการ หรอื ภาพรวมของกิจการ
6. การวิเคราะห์สถานการณ์
7. จดั ทาแผนการบรหิ ารจดั การและแผนการดาเนินงาน
8. จัดทาแผนการผลติ
9. แผนการเงิน
10. แผนฉกุ เฉิน
11. ภาคผนวก
1.ครูกล่าวถงึ แผนธุรกิจเปน็ แผนที่มีความสาคัญมากจะให้รายละเอยี ดเกยี่ วกับการเริ่มต้นธรุ กจิ ทาให้
ผปู้ ระกอบการมีเป้าหมายชัดเจน กาหนดแนวทางของความคดิ และชว่ ยให้ผู้ประกอบการมคี วามมัน่ คงต่อการใช้
ทรัพยากร และนาไปสเู่ ป้าหมาย
2.ครอู ภิปรายแผนธุรกิจว่าเป็นเครอ่ื งมอื ที่แสวงหาเงินทนุ จากผ้รู ่วมลงทุน จากกองทุนร่วมลงทุน จาก
สถาบนั การเงินต่างๆ
3.ผูเ้ รียนยกตวั อยา่ งใหร้ ายละเอียดของกจิ กรรมตา่ งๆ ได้แก่ การจัดหาเงนิ ทุน การพฒั นาผลติ ภณั ฑ์
การตลาดและอนื่ ๆ ในการบริหารกิจการ และใช้เพ่ือกาหนดการปฏิบตั งิ านท่ีต่อเน่ืองในอนาคตของกจิ การ
4.ครอู ธิบายความหมายและความสาคัญของแผนธุรกิจ โดยแผนธรุ กิจ (Business Plan) หมายถึง
เครื่องมอื ที่ผปู้ ระกอบการใช้กาหนดข้นั ตอน และวางแผนการดาเนินธรุ กจิ อย่างมรี ะบบ และมปี ระสิทธิภาพ เพ่ือให้
บรรลุวตั ถุประสงค์ตามทก่ี าหนดไว้ ได้แก่ กาไรหรอื อ่นื ๆ ที่คาดหวงั เอาไว้ สามารถใช้เป็นเครอ่ื งมอื ในการนาเสนอ
ต่อหุน้ ส่วน หรอื สถาบันการเงินตา่ งๆ เพ่ือประโยชนใ์ นการพจิ ารณารว่ มลงทนุ หรือการพจิ ารณาเงินกู้
5.ผูเ้ รียนบอกลกั ษณะของแผนธรุ กิจท่ีดีควรมีลักษณะดังนี้
1) มคี วามถูกต้อง ชดั เจนและกระชับ
2) ครอบคลุมเนื้อหาทีส่ าคัญ
3) เนอื้ หาง่ายตอ่ การเข้าใจ
4) มคี วามเป็นไปได้จริงต่อการปฏบิ ัติตามแผน
6.ครบู อกองคป์ ระกอบของแผนธุรกจิ ผ้ปู ระกอบการจะต้องคานึงถึง “แผนธุรกจิ ” เป็นอันดบั แรกซึ่งจะ
เป็นประโยชน์ต่อการดาเนินงานในอนาคตของตนเอง สถาบันการเงนิ และผู้ลงทนุ ภายนอกทจี่ ะเปน็ แหล่งเงนิ ทนุ
ใหแ้ ก่กิจการได้ โดยแผนธุรกจิ จะบอกใหท้ ราบวา่ ปจั จุบันธุรกจิ อยตู่ รงไหน และในอนาคตจะเปน็ อย่างไรบ้าง ตาม
องค์ประกอบดงั น้ี
1) ปกหนา้ สารบัญ และคานา
2) บทสรุปผบู้ ริหาร
3) ประวัติกิจการ หรือภาพรวมของกิจการ
4) การวเิ คราะหส์ ถานการณ์
5) แผนการตลาด
6) แผนการบริหารจัดการและแผนการดาเนินงาน
7) แผนการผลิต
8) แผนการเงิน
9) แผนฉกุ เฉิน
10) ภาคผนวก
7.ครอู ธบิ ายและแสดงตัวอย่างของปกหน้า สารบญั และคานา
ปกหนา้ เป็นสง่ิ แรกทผ่ี ู้อ่านแผนธุรกจิ จะเหน็ จึงควรมีชื่อของธุรกจิ รวมท้ังท่ีอยู่ หมายเลขโทรศัพท์
หมายเลขโทรสาร สัญลักษณ์ของธุรกจิ นอกจากน้ันอาจจะมชี ื่อท่ีอยูแ่ ละหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ประกอบการอยู่
ดว้ ย เพื่อความสะดวกในการตดิ ตอ่ กลับ
สารบญั มไี ว้เพ่ือความสะดวกในการคน้ หารายละเอยี ดของแผนธุรกิจไดเ้ ร็วขึ้น ซงึ่ จะมปี ระโยชน์
ในการเจรจาต่อรองกับบุคคลภายนอก เพราะยืนยันข้อมูลโดยอา้ งองิ เอกสารซ่งึ กนั และกันไดง้ า่ ยข้นึ
คานา เปน็ สว่ นที่อยู่ถดั จากหนา้ ปกใน ผู้เขยี นรายงานแผนธุรกิจจะเป็นผเู้ ขียนเอง โดยกลา่ วถงึ
วัตถปุ ระสงค์และขอบเขต รวมถงึ ปญั หาอปุ สรรคในการจดั ทาแผนธุรกจิ ตลอดจนคาขอบคุณผูท้ ีใ่ ห้ความชว่ ยเหลือ
ในการรวบรวมข้อมูลหรือการเขยี นแผนธรุ กจิ (ถา้ มี) โดยให้ลงทา้ ยด้วยช่ือผู้จดั ทาแผนธรุ กจิ และวนั ที่กากบั
8.ผู้เรยี นฝึกเขียนปกหน้า สารบญั และคานา
9.ครูอธบิ ายและยกตวั อยา่ งของบทสรุปผบู้ ริหาร ซง่ึ เป็นสว่ นท่ีมคี วามสาคญั ท่ีสดุ เพราะเปน็ การสรุป
รายละเอียดส้ันๆ ของแผนธรุ กิจท้ังหมดที่ไดด้ าเนนิ การ และเป็นเอกสารทส่ี มบรู ณ์ ซึง่ ชี้ใหเ้ ห็นว่ามโี อกาสเกดิ ขนึ้
จริงได้ สามารถใช้โอกาสในตลาดให้เป็นประโยชนไ์ ด้อย่างไร ดังนั้น จงึ มคี วามจาเป็นต้องเขยี นให้เกดิ ความนา่ เชอ่ื
มคี วามเปน็ ไปได้ “บทสรปุ ผู้บริหาร” ควรเขียนให้ส้ัน และกะทัดรัด ถึงแมว้ ่าบทสรุปผู้บริหารจะจัดไวอ้ นั ดับแรก
แต่ใหเ้ ขยี นเปน็ อนั ดบั สุดท้ายในการเขียนแผนทั้งหมด ดงั น้ี
1) แนวคิดและขอบเขตของธุรกิจ
2) โอกาสของธรุ กจิ
3) กลุม่ ตลาดเป้าหมาย
4) สภาวะการแข่งขัน
5) ความคุ้มคา่ เชงิ ธรุ กิจ (ผลกาไร)
6) ทมี ผู้บรหิ าร
7) ข้อเสนอแนะ
10.ผู้เรียนฝกึ เขียนบทสรปุ ผบู้ รหิ าร
11.ครูอธิบายการเขียนประวัติกิจการ หรอื ภาพรวมของกจิ การ โดยประวัติกิจการ หรือภาพรวมของ
กจิ การ (Company Profile) ใหร้ ะบขุ ้อมลู เบ้ืองต้นเก่ยี วกับประวตั คิ วามเป็นมาของการก่อต้งั ในด้านรูปแบบการ
จดั ต้ังหรือจดทะเบยี น ตลอดจนแนวคดิ และท่ีมาของการมองเห็นโอกาสทางการตลาด การคดิ ค้นและพัฒนาสินคา้ /
บริการท่ีต้องการนาเสนอให้กับลูกค้ากลมุ่ เปา้ หมายควรให้ข้อมลู เกีย่ วกับเป้าหมายทีต่ ้องการใหเ้ ป็นประโยชน์ใน
อนาคตและอืน่ ๆ ที่เกยี่ วข้อง เช่น ผู้ก่อตั้งปีท่ีกอ่ ตั้ง ทุนจดทะเบียน ทนุ ทช่ี าระแลว้ และประวตั คิ วามเปน็ มาของ
การดาเนินงานตั้งแต่อดตี จนถึงปัจจบุ นั และกจิ กรรมที่เกิดข้ึน เชน่ เพิ่มทนุ ลงทุน ขยายธรุ กิจ เป็นตน้
12.ผ้เู รียนฝกึ เขียนประวัติกจิ การ หรือภาพรวมของกิจการ
3.ครูอธิบายความหมายการวิเคราะห์สถานการณ์ โดยการวิเคราะหส์ ถานการณ์ (Current Situation
Analysis) หรอื “SWOT ANALYSIS” คือ การวิเคราะห์ความเป็นไปไดข้ องธุรกจิ แบ่งออก 2 สว่ น ไดแ้ ก่
3.1 การวเิ คราะห์สถานการณ์ภายใน (Internal Situation Analysis) เปน็ การตรวจสอบ
ความสามารถ ความพร้อมของกิจการดา้ นตา่ งๆ ท่เี ป็นจดุ แข็ง (Strengths) และจุดอ่อน (Weaknesses)
เปน็ การศึกษาวเิ คราะห์ปัจจัยที่เกิดขน้ึ จากการกระทากิจการเอง ซ่งึ ก่อใหเ้ กดิ ผลกระทบต่อการดาเนินงาน
ทั้งด้านบวกเรียกว่า “จุดแขง็ ” หรอื ดา้ นลบเรียกวา่ “จดุ อ่อน” เป็นปจั จัยทสี่ ามารถควบคมุ ได้ เน่ืองจาก
ทราบปัญหาทเ่ี กิดขึน้ อย่างดี หากมกี ารวางแผนบริหารจัดการที่เป็นระบบและมปี ระสทิ ธิภาพ ก็สามารถ
เสรมิ สรา้ งความเข้มแขง็ ของธุรกิจได้
3.2 การวิเคราะหส์ ถานการณ์ภายนอก เป็นการประเมินสภาพแวดล้อมทผ่ี ้ปู ระกอบการไม่สามารถ
ควบคมุ หรอื เปลย่ี นแปลงได้ ในลักษณะทเี่ ปน็ โอกาส (Opportunities) หรืออปุ สรรค (Threats) ในปจั จบุ นั
ผูป้ ระกอบการควรจะเรม่ิ วิเคราะห์ปจั จยั ภายนอกซ่งึ เป็นปัจจัยทไ่ี ม่สามารถควบคุมได้ ได้แก่
3.2.1 กลุม่ ลูกคา้ เป้าหมายหรือตลาดเป้าหมาย (Target Group หรือ Market Group)
3.2.2 การแข่งขัน (Competition)
3.2.3 คา่ นยิ มทางวฒั นธรรมของสังคม เช่น การใชส้ นิ คา้ ท่ีมียหี่ ้อ
3.2.4 เทคโนโลยี (Technology)
3.2.5 เศรษฐกิจ (Economic)
3.2.6 กฎหมาย กฎ และระเบียบต่างๆ (Political & Legal)
3.2.7 กลมุ่ ผจู้ าหนา่ ยวัตถุดิบ กลมุ่ ผผู้ ลติ (Suppliers)
เปน็ การวิเคราะห์ปัจจยั ภายนอกที่ส่งผลกระทบตอ่ ธุรกิจทกี่ าลงั ดาเนินงานอยู่ในดา้ นบวก
เรยี กวา่ “โอกาส” และดา้ นลบเรยี กว่า “อปุ สรรค” กิจการสามารถกาหนดกลยุทธเ์ พ่ือให้ปรบั ตวั เขา้ กับ
สถานการณ์ความเปลีย่ นแปลงภายนอกที่เกิดข้ึนได้ เพอื่ ใหก้ ิจการสามารถดารงอยไู่ ด้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพได้แก่
13.ผเู้ รียนฝึกวิเคราะห์ SWOT ดงั นี้
14.ครูและผเู้ รียนสรปุ โดยการฝกึ เขยี นการวิเคราะหส์ ถานการณ์
15.ครอู ธบิ ายการเขยี นแผนการตลาด โดยแผนการตลาด (Marketing Plan) คอื การกาหนดแนวทางและ
ทศิ ทางในการดาเนินงานทางการตลาดใหเ้ ปน็ ไปตามวตั ถุประสงค์ และสมั พันธ์กับกลยทุ ธท์ างการตลาดท่ีกาหนดไว้
โดยตรวจสอบและประเมนิ ผลกิจกรรมทางการตลาดไวล้ ่วงหน้าได้ สิง่ สาคัญทสี่ ดุ ในการทาธรุ กจิ คือการมองดา้ น
การตลาด ผู้ประกอบการตอ้ งมองให้ออกวา่ ผบู้ ริโภคตอ้ งการอะไร แลว้ ผลิตสินค้าหรือบริการเพ่ือสนองความ
ต้องการนัน้ กาไรทเ่ี กดิ ขึน้ น้นั คือผลงานจากการทาให้ผบู้ ริโภคไดร้ ับความพึงพอใจสูงสุด
16.ผ้เู รยี นเขยี นวสิ ยั ทศั น์ (Vision) ซึ่งหมายถึง ภาพรวมของกิจการทตี่ ้องการจะเป็นในอนาคต โดยมี
พ้ืนฐานอยูบ่ นความเป็นจริงในปัจจบุ ัน โดยจะนาเสนอจดุ มุ่งหมายของผ้ปู ระกอบการเก่ยี วกบั การทาธุรกจิ ซง่ึ
ประกอบดว้ ยจดุ มุ่งหมายท่เี ฉพาะเจาะจง สามารถวัดคา่ ได้ ดาเนนิ การให้บรรลผุ ลได้ เปน็ เหตเุ ปน็ ผลและตั้งอย่บู น
พื้นฐานของความเป็นจรงิ และมีกรอบระยะเวลาเป็นเคร่ืองกาหนด ดังคาสุภาษติ ที่วา่ “ฝนั ใหไ้ กล แลว้ ไปให้ถงึ ”
17.ครูอธิบายและใหผ้ ู้เรียนเขียนพนั ธกจิ (Mission) หมายถึง งานทีต่ อ้ งทาเพอ่ื ให้บรรลุวิสัยทศั นข์ อง
กจิ การ โดยจะอธิบายความเป็นไปได้ของธรุ กจิ /โครงการ ซ่ึงครอบคลุม 5 ประการ คือ
1) สนิ คา้ และบริการของกจิ การคอื อะไร
2) ลกู คา้ ของกิจการเปน็ ใคร
3) คณุ คา่ ที่กจิ การมอบให้แกล่ ูกคา้ เปน็ อยา่ งไร
4) ขณะน้กี ิจการเปน็ อย่างไร
5) ตอ่ ไปกิจการควรจะเป็นอย่างไร
18.ครอู ธบิ ายและให้ผเู้ รียนเขียนเป้าหมาย (Goal) คอื การกาหนดผลลพั ธท์ ตี่ ้องการจากพันธกิจของ
กิจการ โดยเขยี นเป็นข้อๆ แบ่งเป็นเปา้ หมายระยะสั้น (1 ปี) ระยะปานกลาง (3-5 ปี) และระยะยาว (5 ปีขึน้ ไป)
ซง่ึ เปา้ หมายแต่ละระยะเวลาควรสอดคลอ้ งกนั สามารถวดั ผลได้และระบเุ วลาทีแ่ ลว้ เสรจ็ อยา่ งชัดเจน
19.ผูเ้ รยี นเขียนแผนการตลาด โดยผู้ประกอบการต้องทราบและเข้าใจเรอื่ งดังต่อไปนี้
1) เปา้ หมายทางการตลาดทีต่ ้องการคอื เรื่องอะไรบ้าง
2) ใครคือลกู คา้ กลุ่มเป้าหมาย
3) จะนาเสนอสนิ ค้า/บรกิ ารอะไรให้กลุม่ เป้าหมาย ในราคาเทา่ ใด และวธิ ีการใด
4) จะสร้างและรักษาความพึงพอใจให้กับกลมุ่ เปา้ หมายไดด้ ้วยวธิ กี ารใดบ้าง
5) ถา้ สถานการณ์ไมเ่ ปน็ ไปตามท่คี าดหวงั ไว้ จะแก้ไขอยา่ งไร
20.ผู้เรยี นวางแผนด้านการตลาด “STP&4P’s” โดยมขี นั้ ตอนดงั นี้
1) การแบ่งส่วนตลาด (Segmentation)
2) การกาหนดลกู ค้าเปา้ หมายว่ากลุ่มไหนทจี่ ะเลือก (Targeting)
3) การสร้างภาพพจนใ์ นใจของลกู คา้ (Positioning)
4) ส่วนประสมทางการตลาด (4 P’s) ไดแ้ ก่ สินคา้ หรอื บริการ (Product) ราคา (Price)
ชอ่ งทางการจาหน่าย (Place) และการส่งเสริมทางการตลาด (Promotion)
5) ส่วนประสมทางการตลาดยุคใหม่ (4 C’s) เปน็ การมองด้านความต้องการของผู้บริโภคและควร
นามาใชใ้ นแผนปฏบิ ัติการทางการตลาดดว้ ย ดงั น้ี
5.1 Consumer Need คอื ขายสินคา้ ตามความตอ้ งการของลูกค้า
5.2 Customer Benefits คือ ประโยชนท์ ล่ี กู คา้ จะไดร้ บั
5.3 Convenience คือ เปน็ สนิ คา้ ท่ีสะดวก
5.4 Communication คือ การรบั รู้ข่าวสารสนิ คา้
21.ครูกล่าวถงึ แผนการบรหิ ารจดั การและแผนการดาเนินงาน ซง่ึ เป็นการกาหนดโครงสร้างองคก์ ร และ
ผบู้ รหิ ารทส่ี อดคล้องกับแผนการดาเนินธุรกิจด้านอน่ื ๆของกิจการ มีแผนดา้ นทรัพยากรบุคคลทด่ี ี
22.ครอู ภปิ รายถึงองคป์ ระกอบของแผนการบริหารจดั การและแผนการดาเนนิ งาน ไดแ้ ก่
1) สถานทต่ี งั้
2) รปู แบบธุรกจิ
3) โครงสรา้ งองค์กร และผังบริหาร
4) ทีมผู้บรหิ ารและหลกั การบริหารงาน
5) แผนด้านบคุ ลากร จานวน เวลาทางาน ค่าตอบแทน ความรู้ ความสามารถ ทกั ษะ
6) เครอ่ื งมือ เครอ่ื งจกั ร อปุ กรณ์ (ซอ้ื เชา่ หรอื เช่าซ้อื )
23.ครอู ธิบายแผนการบริหารจัดการและแผนการดาเนินงาน โดยเปดิ สอื่ VDO และสือ่ PowerPoint ให้
ผเู้ รียนไดพ้ จิ ารณาแผนการบริหารจดั การและแผนการดาเนินงาน ประกอบด้วย
23.1 ทมี งานบรหิ าร ประกอบดว้ ยผู้จัดการ พนักงาน ที่มสี าคัญต่อการดาเนินงาน และความสามารถ
ในดา้ นการบริหารที่นาธุรกจิ ไปส่คู วามสาเรจ็ ทีมงานท่ีดีควรมผี ูบ้ รหิ ารครบในแต่ละดา้ น สาหรบั ธรุ กจิ ทีเ่ รมิ่ ตน้
ทีมงานผู้บรหิ ารอาจประกอบไปด้วยคนจานวนน้อย หรอื เพียงคนเดียวทางานเกือบทุกหน้าทีก่ ารเร่มิ ตน้ ธรุ กจิ
ผู้บริหารจะเน้นด้านการตลาดในชว่ งกาลังก่อตั้ง ทมี งานผูบ้ รหิ ารแบบหา้ งหุน้ สว่ น จะมผี ู้ที่มีความแตกตา่ งกันแต่ละ
ดา้ น จะเป็นการสรา้ งทมี งานทดี่ ไี ดเ้ ช่นเดยี วกนั หลายคน เช่น พนักงานบญั ชีและการเงิน กค็ วรจะเป็นคนละคนกนั
เพ่ือป้องกนั การทุจริต รายละเอยี ดทมี งานควรจะระบุถึง
1.1 โครงสรา้ งองค์กรและตาแหน่งบริหารหลักโดยระบผุ ้รู ับผิดชอบงานแตล่ ะด้าน
1.2 ผลตอบแทนท่ีใหแ้ กผ่ ู้บริหารทง้ั ในรปู ของเงนิ เดอื น ส่วนแบ่งกาไร และสวัสดกิ าร
1.3 ผูร้ ่วมลงทุนทไ่ี ม่ใช่ผบู้ รหิ ารและผลตอบแทนทใี่ ห้
1.4 ทป่ี รกึ ษาและบริการดา้ นวชิ าชพี ท่ีตอ้ งการใช้
23.2 แผนผังองคก์ ร (Organization Chart) อาจจะรวมอยู่ในประวัติกจิ การ หรือภาพรวมของกจิ การที่
กล่าวมาแลว้ ขา้ งต้นก็ได้
3.3 กาหนดหน้าท่ีตา่ งๆ ของกรรมการตาแหน่งต่างๆ
3.4 แผนดาเนินงานขององค์กร เชน่ การประชุม การอบรมพนกั งาน การศึกษาดูงาน เป็นตน้
3.5 สรุปค่าใชจ้ า่ ยในการบรหิ ารจดั การ
24.ผูเ้ รยี นเขียนแผนปฏิบัติการ (Action Plan) คอื การกาหนดระยะเวลาของกิจกรรมที่จะดาเนินการตาม
แผนธรุ กิจทวี่ างไว้ เพ่ือตรวจสอบวา่ ไดป้ ฏิบัตติ ามระยะเวลาทก่ี าหนดหรอื ไม่ เชน่
25.ครแู ละผู้เรยี นอธบิ ายและเขียนแผนการผลิต โดยการจดั ทาแผนธรุ กจิ ต้องคานงึ ถงึ กิจกรรมทัง้ หมดที่
เกี่ยวกับการเปลย่ี นแปลงวัตถุดิบเปน็ สินคา้ สาเรจ็ รูป แผนการผลติ ตอ้ งเชอ่ื มโยงและสอดคล้องกับแผนอ่นื ๆ เชน่
แผนการตลาด แผนการบรหิ ารและจัดการบุคลากรและแผนการเงิน ในการวางแผนการผลิตต้องพจิ ารณาคุณภาพ
การออกแบบสนิ คา้ และบริการ กระบวนการผลิต การออกแบบระบบงาน การวางแผนกาลงั คน การจดั สง่ สนิ คา้
สนิ ค้าคงคลงั กาหนดการผลติ และปฏบิ ัติการ การดูแลรกั ษาเครอื่ งจักร แผนการผลติ ท่ีดีจะต้องสะท้อน
ความสามารถของกิจการในการจดั การกระบวนการผลิตให้มปี ระสทิ ธิภาพและประสิทธิผล เพอื่ เพิม่ ศักยภาพใน
การแขง่ ขันใหก้ ับธุรกจิ โดยเน้นการจัดการกระบวนการแปลงสภาพวัตถุดบิ และทรัพยากรการผลติ ใหเ้ ปน็ ผลผลติ
ซง่ึ วัตถดุ บิ และทรัพยากร หมายถงึ ปริมาณวัตถดุ ิบทีใ่ ช้ชว่ั โมงแรงงานท่ผี ลิตหรือค่าใชจ้ ่ายรวมของทรัพยากรทุก
อยา่ งท่ีใช้ ได้แก่ ค่าวตั ถุดิบ ค่าแรงงาน เงนิ ลงทนุ และอืน่ ๆ สว่ นกระบวนการผลิต หมายถึง กระบวนการแปลง
สภาพวตั ถุดบิ และทรพั ยากรการผลิตให้เปน็ ผลผลติ และผลผลิต หมายถงึ จานวนหรือมูลค่าของสนิ ค้าและบริการท่ี
ผลิตได้
26.ผูเ้ รยี นบอกข้ันตอนการผลิตสินคา้
27.ผู้เรยี นบอกวัสดหุ รืออปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นการผลติ
17. ใบงาน
หนว่ ยการสอนที่ 7
ชอ่ื หน่วยการสอน รูปแบบแผนธรุ กจิ
จุดประสงค์ เพอ่ื
1. สร้างความร้คู วามจาให้กบั ผู้เรียน
2. เพ่มิ การฝึกปฏิบัติแกผ่ ู้เรยี น
3. สร้างความรบั ผดิ ชอบ ความอดทน ความสนใจใฝเ่ รยี นรู้
ลาดับกิจกรรม/ลาดบั การปฏิบตั ิ
1. ผู้เรยี นศึกษาเน้อื หาจากใบความรู้
2. ผเู้ รียนศกึ ษาหาความรูจ้ ากตาราเรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ รปู แบบแผนธุรกจิ
คุณภาพ 20001-1003 สานกั พมิ พ์เอมพันธ์
3. หรือ ครูผสู้ อนบรรยายความรู้ เร่อื ง รูปแบบแผนธุรกิจ
4. จดั ทาใบงานตามท่ีมอบหมาย (กาหนดเวลาจัดทา 50 นาท)ี
5. สง่ งานใบงานที่มอบหมายกอ่ นหมดเวลาเรียน (10 นาที หรือเปน็ การบ้าน)
เกณฑ์การพจิ ารณา
1. สง่ งานตรงเวลานัดหมาย
2. จัดทาครบทุกขอ้ ทกี่ าหนด
3. ทางานเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย
ใบงานที่ 7.1
เรือ่ ง แนวคิดธุรกจิ
ชื่อ-สกลุ ............................................................................................เลขที่.........ชน้ั .............. ............
คาช้ีแจง ให้เขยี นแนวคิดธุรกิจมาประมาณ 3 กิจการ (บางส่วน)
………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………………
………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………
………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………..……
…………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………
…………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………
…………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………..………
ใบงานที่ 7.2
เรอื่ ง โอกาสของธุรกจิ
ชือ่ -สกลุ ............................................................................................เลขท.่ี ........ชน้ั ..........................
คาชแ้ี จง ใหล้ องเขียนโอกาสของธุรกจิ มาประมาณ 5 ข้อ
………………………………………………………………….……………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบงานที่ 7.3
เรอื่ ง ตลาดเปา้ หมาย
ชื่อ-สกลุ ............................................................................................เลขท่.ี ........ช้นั ..........................
คาชแ้ี จง ใหล้ องเขยี นกลุ่มตลาดเปา้ หมายในธุรกิจมาประมาณ 3 ธุรกจิ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
ใบงานที่ 7.4
เร่อื ง ข้อไดเ้ ปรียบและข้อเสียเปรียบในการแขง่ ขันของธุรกจิ
ชอ่ื -สกลุ ............................................................................................เลขท่ี.........ชั้น..........................
คาชีแ้ จง ให้เขียนข้อไดเ้ ปรียบและข้อเสยี เปรยี บของธรุ กจิ โดยเลอื กธรุ กิจทตี่ นเองรกั และชอบมา 1 ธุรกจิ
ขอ้ ได้เปรยี บ: ลองพิจารณาดูว่าธุรกิจมีจุดเด่น (เมอ่ื เปรยี บเทียบกบั คู่แข่ง) ในดา้ นใด เชน่ สนิ คา้ หรือ
บริการมีอะไรพเิ ศษ สามารถดึงดูดใจลกู ค้า ความสามารถและความชานาญของลูกจ้าง เทคนิคในขบวนการขาย
ท่ีตงั้ ของธรุ กิจอยู่ในจุดได้เปรียบอย่างไร เป็นต้น
……………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………
………..…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………
………………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………
ข้อเสียเปรียบ: ลองค้นหาวา่ ธรุ กจิ มีขอ้ เสียใดบา้ ง เชน่ ข้อเสียด้านการเงิน ตาแหน่งทตี่ ้ัง คุณภาพสินค้า
การบริการ การส่งมอบไมต่ รงเวลา สินคา้ ที่นามาจาหนา่ ยไม่มีการพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ เปน็ ต้น
……………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………
………..…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………
………………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………
ใบงานที่ 7.5
เรื่อง โครงสรา้ งองคก์ รและทีมผบู้ ริหารในธรุ กจิ
ชือ่ -สกลุ ............................................................................................เลขท่.ี ........ชัน้ .............. ............
คาชี้แจง ใหเ้ ขียนโครงสร้างองค์กร และหน้าท่ีความรบั ผิดชอบของทีมผบู้ ริหารในธุรกจิ (เลือกธุรกิจทต่ี นเองรัก
และชอบมา 1 ธรุ กจิ )
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เฉลยใบงานที่ 1-5
(ดลุ พินิจของผอู้ น)
แบบสรปุ คะแนน
ชุดที่ 1
รายวชิ า รปู แบบแผนธุรกิจ
คะแนน กจิ กรรมท่ี ใบงานที่ แบบทดสอบ แบบทดสอบ คะแนน
ก่อนเรยี น หลงั เรยี น ระหว่าง
123 1 เรียน
คะแนนเต็ม 5 10 10 15
คะแนนที่ได้
คดิ เป็นรอ้ ย
ละ
หมายเหตุ : = ผ่านกจิ กรรม = ไมผ่ ่านกจิ กรรม
(ลงชอ่ื ) ....................................... ผปู้ ระเมิน
(นายวิจิตร พลเศษ)
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชานาญการ
เกณฑ์การประเมินแบบทดสอบกอ่ นเรียนและแบบทดสอบหลังเรยี น
ระดบั คุณภาพ หมายถึง ดี
ระดบั 4 9 - 10 คะแนน หมายถึง ปานกลาง
ระดบั 3 7 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้
ระดับ 2 5 - 6 คะแนน
20. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรแู้ บบมงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชพี และบรู ณาการตามหลักปรชั ญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
20.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้
รายการ ระดับการปฏิบัติ
5432 1
ด้านการเตรยี มการสอน
1. จัดหน่วยการเรยี นรู้ได้สอดคลอ้ งกับวัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้
2. กาหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ด้านทกั ษะ และดา้ นจิตพสิ ยั
3. เตรยี มวสั ดุ-อุปกรณ์ ส่ือ นวตั กรรม กจิ กรรมตามแผนการจัดการเรียนรูก้ ่อนเขา้ สอน
ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
4. มีวธิ กี ารนาเข้าสู่บทเรยี นที่นา่ สนใจ
5. มีกจิ กรรมทีห่ ลากหลาย เพ่ือช่วยให้ผู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ ความเข้าใจ
6. จดั กจิ กรรมที่ส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี นคน้ คว้าเพ่ือหาคาตอบดว้ ยตนเอง
7. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
8. จัดกจิ กรรมท่ีเนน้ กระบวนการคดิ ( คิดวเิ คราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )
9. กระตุ้นใหผ้ ูเ้ รยี นแสดงความคดิ เห็นอย่างเสรี
10. จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ีเ่ ชื่อมโยงกบั ชวี ิตจรงิ โดยนาภูมิปญั ญา/บรู ณาการเข้ามามีสว่ นร่วม
11. จัดกิจกรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม
12. มกี ารเสริมแรงเมือ่ นักเรยี นปฏิบัติ หรอื ตอบถูกต้อง
13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผู้เรียน
14. เอาใจใส่ดแู ลผเู้ รียน อย่างทั่วถงึ
15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่ีกาหนด
ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้
16. ใช้สือ่ ทเี่ หมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผเู้ รยี น
17. ใชส้ ่อื แหล่งการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เชน่ บคุ คล สถานท่ี ของจริง เอกสาร
ส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์ และอนิ เทอรเ์ น็ต เปน็ ต้น
ด้านการวดั และประเมินผล
18. ผู้เรียนมสี ว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล
19. ประเมนิ ผลอยา่ งหลากหลายและครบทั้งดา้ นความรู้ ทกั ษะ และจติ พิสยั
20. ครู ผเู้ รยี น ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ เ่ี ก่ยี วข้องมสี ว่ นรว่ ม ในการประเมิน
หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดเี ยีย่ ม 4 = ปฏิบตั ดิ ี 3 = ปฏิบตั พิ อใช้ รวม
2 = ควรปรับปรงุ 1 = ไม่มีการปฏบิ ตั ิ คา่ เฉลยี่
20.2 ปญั หาที่พบ และแนวทางแก้ปัญหา แนวทางแกป้ ัญหา
ปัญหาที่พบ
.....................................................................................
ด้านการเตรียมการสอน .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
ด้านสื่อ นวัตกรรม แหล่งการเรียนรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
ดา้ นการวดั และประเมินผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ดา้ นอืน่ ๆ (โปรดระบุเป็นข้อๆ) .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
ลงชอื่ ........................................................................ ครูผู้สอน
(....................................................................)
ตาแหนง่ .......................................................................
............../.................................../....................
บันทกึ หลงั การสอน
ผลการใชแ้ ผนการเรยี นรู้
ความเหมาะสมของเวลา
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรุง
ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนการสอน
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรุง
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………
ผลการเรียนของผู้เรยี น
ความต้ังใจของผ้เู รียน ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรงุ
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
ปานกลาง พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
อุปกรณ์การสอน
มาก ดี
การเรียนรู้ของผู้เรียน
มาก ดี
…………………………………………………………………………………………………………………………………….………
การสอนของครู
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
กิจกรรมการสอนที่กาหนดไว้ในแผนการจดั การ
เรียนรู้ ตรงตามแผนการจัดการเรียนรู้ ไมต่ รงตามแผนการจดั การเรยี นรู้
บนั ทกึ เพ่ิมเติม
............................................................................................................................. ................................
………………………………………………
(นายวจิ ิตร พลเศษ)
ผูบ้ ันทกึ การสอน
แผนการจัดการเรยี นรู้ แบบม่งุ เน้นสมรรถนะอาชพี
และบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
รหสั วิชา 30200-0003 วิชา ธรุ กิจและการเป็นผู้ประกอบการ
หนว่ ยท่ี 8 ชอ่ื หนว่ ย ชื่อหน่วย/เรอื่ ง หลักเบื้องต้นในการบรหิ ารงาน คุณภาพและเพ่มิ ผลผลิตในองคก์ ร
ช่อื เร่อื งช่ือหน่วย/เรื่อง หลักเบือ้ งตน้ ในการบรหิ ารงาน คณุ ภาพและเพมิ่ ผลผลิตในองค์กร จานวน 6 ชวั่ โมง
สอนครงั้ ท่ี 19,20
1. สาระสาคญั
การบริหารงานคุณภาพในองค์กรเปน็ กระบวนการบริหารงานทปี่ ระกอบดว้ ยนโยบาย
วตั ถุประสงค์ การวาแผนงาน ระบบการบริหารจดั การ ระบบการตรวจสอบหรอื การประเมินผล และการปรับปรงุ
อย่างต่อเน่ือง เพื่อตอบสนองความตอ้ งการของลูกค้า พนักงานและของสังคม ทาให้เข้าใจเก่ียวกับหลกั การ
บรหิ ารงานคณุ ภาพและเพม่ิ ผลผลิตเบ้ืองตน้ และประยุกต์ใช้หลักการบริหารงานคุณภาพและเพิ่มผลผลติ
2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้
1. สามารถบอกการบรหิ ารงานคุณภาพการเพ่มิ ผลผลิตเบือ้ งตน้
2. นาความรู้หลักการบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพิ่มผลผลติ ในการวางแผนและดาเนนิ งานประยกุ ตใ์ ช้
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 จดุ ประสงค์ท่ัวไป
3.1.1 มคี วามรู้และเขา้ ใจเกย่ี วกบั การบรหิ ารงานคุณภาพการเพ่ิมผลผลติ เบือ้ งต้น
3.1.2 มีความรูแ้ ละเข้าใจเก่ยี วกบั ประยกุ ต์ใชห้ ลกั การบริหารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลิตในการ
วางแผนและดาเนินงาน
3.2 จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
3.2.1. ความรู้เก่ยี วกับการบริหารงานคณุ ภาพเบ้อื งต้น
3.2.2. ความรเู้ กย่ี วกับการเพิ่มผลผลิตเบื้องต้น
3.2.3. ประยกุ ตใ์ ชห้ ลักการบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพ่มิ ผลผลติ ในการวางแผนและดาเนินงาน
3.2.4 มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม ความมีมนุษยสมั พนั ธ์ ความมวี นิ ยั ความ
รบั ผิดชอบ ความซอ่ื สตั ย์สจุ ริต ความเช่ือมนั่ ในตนเอง การประหยดั ความสนใจใฝ่รู้ การละเวน้ ส่ิงเสพตดิ
และการพนนั ความรักสามคั คี
4. เนอื้ หาสาระการสอน/การเรียนรู้
4.1 ดา้ นความรู้
1. การบรหิ ารงานคณุ ภาพเบ้ืองตน้
2. การเพิม่ ผลผลิตเบ้อื งต้น
3. การประยกุ ต์ใชห้ ลักการบริหารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลิต
4.2 ดา้ นทักษะหรือการประยุกตใ์ ช้
1. สามารถอธิบายการบรหิ ารงานคุณภาพเบอ้ื งต้น
2. สามารถบอกการเพ่ิมผลผลิตเบื้องตน้
3. อธิบายการประยุกตใ์ ช้หลักการบริหารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลติ
4.3 ดา้ นคณุ ธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงคแ์ ละบูรณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ
พอเพยี ง
ด้านคุณธรรม/ จรยิ ธรรม
1. มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ มีความรับผดิ ชอบ
ดา้ นคุณลักษณะที่พงึ ประสงค์และบรู ณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
1. มุ่งมั่นในการทางาน มีจิตสาธารณะ อยู่อย่างพอเพยี ง
2. ด้านการประหยัด อดออม
5. กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้
ข้ันตอนการสอนหรือกิจกรรมครู ข้นั ตอนการเรียนหรอื กิจกรรมของผู้เรยี น
ขั้นเตรียม(จานวน 30 นาที) 5.1 ผเู้ รียนเข้าห้องเรียน
5.1 นกั เรียนทาความเคารพครูผู้สอน 5.2 ครูผู้สอนตรวจสอบรายชื่อผ้เู รยี น
5.2 ครูผู้สอนทักทายผูเ้ รียนและสารวจรายช่ือผ้เู รยี น 5.3 ผเู้ รยี นรบั ใบความรู้ เรื่อง หลักเบอ้ื งตน้ ในการ
5.3 ครผู ูส้ อนแจกใบความรู้ หรอื เตรียมอปุ กรณ์
บรหิ ารงานคุณภาพและเพิม่ ผลผลิตในองคก์ ร
ในการสอนให้พร้อม และใบงาน 5.4 รับใบงาน อธิบายการทา
5.4 ผู้เรยี นใบความรู้ เตรียมตาราเรยี นและสมุด
5.5 ผูส้ อนการจัดทาใบงานที่มอบหมาย ( 20 นาที)
ขน้ั การสอน(จานวน....300.......นาท)ี
5.6 ครผู ู้สอนแจกแบบทดสอบก่อนเรยี น 5.5 ผู้เรียนทดสอบก่อนเรยี น ( 10 นาที)
5.7 อธบิ ายการทาแบบทดสอบก่อนเรียน มจี านวน
10 ขอ้ เวลาที่ใช้ 10 นาที (พร้อมส่งครบเวลา)
5.8 ครูผสู้ อนใหผ้ ้เู รียนศกึ ษาใบความรู้ หนว่ ยเน้อื หา 5.6 ผู้เรียนศกึ ษาตาราเรยี นหนว่ ยเนื้อหา ใบความรู้
ตาราเรยี น หลกั เบอ้ื งต้นในการบริหารงานคุณภาพและเพ่ิมฯ
5.9 ครผู สู้ อน ตง้ั คาถามเกี่ยวกับ การวางแผนฯและ 5.7 ผู้เรียนร่วมตอบคาถาม
(ผูเ้ รยี นตอบคาถาม) 5.8 ผู้เรียนรับฟงั การบรรยาย เก่ยี วกบั เนื้อหา
5.10 ครูผสู้ อน อธิบายเนื้อหา ใบความรู้ เนื้อหาใน หลักเบ้อื งต้นในการบริหารงานคุณภาพและเพมิ่
ผลผลิตในองคก์ ร
หนว่ ยการเรียนรู้ (เวลา 100 นาท)ี 5.9 ผู้เรียนจดั ทาใบงานท่ีมอบหมาย (200 นาที)
5.11 ครูผู้สอนมอบหมายการทาใบงาน แบบฝึกหดั
(เวลา 200 นาท)ี
ข้นั สรปุ (จานวน 30 นาที)
5.12 ครูผ้สู อนและผู้เรยี นสรุปเนอ้ื หา หัวขอ้ บุคคล 5.10 ผู้เรยี นรว่ มสรปุ เนอ้ื หา ใบความรู้ เน้ือหาหน่วย
ธรรมดา และนิตบิ ุคคล เปน็ ข้อ การเรียนรู้ ตาราเรียน
5.13 ครูผสู้ อนแจกแบบทดสอบหลังเรียน หัวขอ้ 5.11 ผูเ้ รียนจัดทาแบบทดสอบหลงั เรียน 10 ขอ้
หลักเบ้อื งตน้ ในการบริหารงานคณุ ภาพและเพ่ิม (เวลา 10 นาที)
ผลผลิตในองคก์ ร
10ข้อ (10 นาที) 5.12 มอบหมายงาน การจัดทารายงาน รายบุคคล
รายกลุ่ม 3-5 คน รายงานหนา้ ชั้นเรยี น
6. สอ่ื การสอน
สอ่ื สงิ่ พมิ พ์
1. ตาราเรยี น หนงั สอื ประกอบการเรยี นการสอนวชิ า ธรุ กิจและการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ 20001-1003
อ.เพ็ญศรี เลิศเกียรตวิ ิทยา สานกั พิมพเ์ อมพันธ์
2. เอกสารประกอบการสอน ใบความรู้
ส่ือโสตทศั น์ (ถา้ มี)
1. power point ธรุ กจิ และการเป็นผูป้ ระกอบการ 20001-1003 บริหารงานคุณภาพและเพม่ิ
ผลผลติ ในองคก์ ร
2. VDO ส่อื การสอน ประจาวิชา ธรุ กิจและการเป็นผ้ปู ระกอบการ 20001-1003
3. ...................................................................................................
หนุ่ จาลองหรือของจริง (ถา้ มี)
1. ............................................................................................................................. ......
เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)
1. แบบทดสอบก่อนเรยี น
2. ใบความรู้ ใบงาน (ใบมอบหมายงาน ถ้ามี)
3. แบบทดสอบหลงั เรยี น
แหลง่ เรียนรู้
เรียนรู้
1. หอ้ งสมุดวทิ ยาลัยการอาชีพสวา่ งแดนดิน (ตาราเรียน)
2. หอ้ งอินเทอรเ์ นต็ วิทยาลัยการอาชีพสวา่ งแดนดิน การสบื ค้นขอ้ มูล
3. Google แหลง่ เรยี นรอู้ อนไลน์ จากโทรศัพท์มือถือ
การบรู ณาการ/ความสัมพันธ์กับวชิ าอืน่
1. วชิ าภาษาไทย การอ่านและทาความเขา้ ใจในเน้อื หาหน่วยการเรยี นรู้ ใบความรู้ ตคี วาม
2. วชิ าสังคมศึกษา การอยูใ่ นสงั คม การคบเพ่ือน
3. วิชาภาษาอังกฤษ เรื่องศัพทเ์ ฉพาะในหนว่ ยการเรยี นการสอน
8. งานทมี่ อบหมาย
8.1 กอ่ นเรยี น
1. จัดเตรยี มห้องเรยี นให้เรียบร้อยเป็นระเบยี บ รักษาความสะอาด (แบง่ เวร)
2. จดั เตรียมอปุ กรณก์ ารเรยี นให้พรอ้ ม กอ่ นการเรียนการสอน
3. จัดทาแบบทดสอบก่อนเรยี น และสง่ ตามกาหนดเวลา 10 ขอ้ 10 นาที 10 คะแนน
8.2 ขณะเรียน
1. จัดทาใบงานท่ีมอบหมายตามกาหนดเวลาส่งที่กาหนดไว้
2. จดั ทาแบบทดสอบหลงั เรียน และส่งตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน
3. ปฏิบัตติ นในการเรยี นร้อู ย่างเหมาะสมในช้นั เรยี น
8.3 หลงั เรยี น
1. การศกึ ษาเน้ือหากอ่ นล่วงหนา้
2. มอบหมายงานแบบฝึกหัดทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรู้ ใบงาน
9. ผลงาน/ช้ินงาน ทเ่ี กดิ จากการเรยี นรขู้ องผูเ้ รยี น
1. ใบงานที่มอบหมาย
2. สมดุ ในการทาแบบฝึกหัด แบบฝึกปฏิบตั ิทา้ ยหน่วย
3. สรปุ ผลการทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียน
4. สรปุ ผลการสง่ งานทม่ี อบหมาย
10. เอกสารอา้ งอิง
1. บันทึกการสอนของครู
2. ใบเชค็ รายช่อื
3. แผนการจดั การเรยี นรู้
4. ใบความรู้ เนื้องานในหนงั สือเรียน
5. แบบทดสอบก่อนเรยี น หลังเรยี น
11. การบูรณาการ/ความสมั พันธก์ บั รายวิชาอน่ื
1. รายวิชาภาษาไทย เพ่อื อ่าน ฟัง พดู เขียน และตีความหมาย แปลความหมาย
2. รายวชิ าสังคมศึกษา สังคมไทย เพ่ือการอยรู่ ว่ มกนั ในสังคม ในห้องเรียน
3. รายวชิ าภาษาอังกฤษ ที่มีภาษาอังกฤษในหนว่ ยการเรียนการสอน
12. หลกั การประเมินผลการเรยี น
12.1 ก่อนเรียน
12.1.1 การประเมินการตรวจสอบรายช่อื ผู้เขา้ เรยี นในชว่ั โมง (ด้านจิตพิสัย)
12.1.2 การประเมินการเตรยี มความพร้อมในการเรยี นของผ้เู รียน อุปกรณ์การเรียน ตาราเรียน
สมดุ ปากกา ไมบ้ รรทัด
12.1.3 การประเมนิ การทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เวลา 10 นาที 10 ข้อ 10 คะแนน
12.2 ขณะเรยี น
12.2.1 การประเมนิ การมสี ว่ นร่วมในการเรียนการสอน การตอบ-ถาม (แบบประเมิน
พฤติกรรม)
12.2.2 การประเมินการสนใจใฝเ่ รียนรู้ การปฏิบตั ิตน ขณะเรียน การทาแบบฝกึ หดั ใบงาน
(แบบประเมินพฤตกิ รรม)
12.2.3 การประเมนิ ดว้ ยการทาแบบทดสอบหลงั เรียน เวลา 10 นาที 10 ข้อ 10 คะแนน
12.3 หลังเรียน
12.3.1 การประเมนิ ผลการเรียนรูแ้ ละสรปุ ผลการเรยี นรู้ แบบประเมนิ ผล
แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียนรอ้ ยละ 50 หลังเรยี นร้อยละ 70
12.3.2 เมือ่ ไม่ผา่ นเกณฑ์ท่ีกาหนดให้มกี ารปรับปรุงแก้ไขต่อไป
12.3.3 มกี ารมอบหมายงาน ศึกษาเนื้อหาในหนว่ ยการเรียนถดั ไป และใบความรู้ (ถ้ามี)
12.3.4 มอบหมายงานศึกษาเนอื้ หาเพ่ิมเตมิ โดยการจดั ทารายงานกล่มุ หรือรายบคุ คคล
13. รายละเอียดการประเมนิ ผลการเรยี น
จดุ ประสงคข์ ้อท่ี 1 ………………………………………………………………………………....................................………
1. วิธีการประเมิน : ……………………………………………………...........................…………….
2. เครือ่ งการประเมิน : …………………………………………………………………............................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………............................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...............
จุดประสงค์ข้อท่ี ……………………………………………………………………………………….....................................
1. วธิ กี ารประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
2. เครื่องการประเมิน : …………………………………………………………………...........................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...........................
14. แบบทดสอบก่อนเรยี น 15 แบบทดสอบหลงั เรยี น
หน่วยการสอนที่ 8 ชื่อหน่วยการสอน หลักเบ้ืองต้นในการบริหารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลิตในองคก์ ร
วัตถุประสงค์ เพ่ือ ทดสอบความรเู้ บ้ืองตน้ ของผูเ้ รยี น หลงั การเรียนการสอน
ขอ้ คาถาม
แบบทดสอบ/กอ่ น/หลังเรียน
จงเลอื กคาตอบทถ่ี ูกต้อง
1 . ขอ้ ใดไม่ใช่สว่ นท่เี กย่ี วข้องกับคาวา่ “ คุณภาพ ”
1 . เหมาะสมกบั มาตรฐาน
2 . เหมาะสมกับประโยชน์ใช้สอย
3 . เหมาะสมกับตน้ ทนุ
4 . เหมาะสมกับความต้องการท่แี ฝงเรน้
5 . เหมาะสมกบั ราคาสนิ คา้ และบรกิ าร
2 . คุณภาพของผลิตภัณฑ์ สามารถพิจารณาได้จากข้อใด
1 . ความเข้าใจลกู ค้า
2 . ความสุภาพ
3 . ความนา่ เช่ือถือ
4 . การเขา้ ถึงได้
5 . ความสวยงามและทนทาน
3 . คณุ ภาพของงานบริการ สามารถพจิ ารณาได้จากข้อใด
1 . สมรรถนะ
2 . ลักษณะเฉพาะ
3 . ความทนทาน
4 . ความสวยงาม
5 . การรับร้คู ุณภาพ หรือชื่อเสยี งของสนิ ค้า
4 . คากล่าวท่วี ่า “ เมื่อหัวนา หางกต็ ้องตาม ” สอดคล้องกับหลักการบริหารงานคณุ ภาพข้อใด
1 . การใหค้ วามสาคัญกบั ลูกค้า
2 . ความเป็นผนู้ า
3 . การมีส่วนร่วมของบุคลากร
4 . กระบวนการดาเนนิ งาน
5 . การบริหารทีเ่ ป็นระบบ
5 . ข้อใดเป็นการประยุกตใ์ ช้หลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพที่ใหค้ วามสาคัญกบั ลกู คา้
1 . กาหนดกระบวนการบรหิ ารงานใหเ้ กดิ ผลตามเป้าหมาย
2 . กาหนดจดุ เชอื่ มโยงหรอื ประสานงานระหว่างหน่วยงาน
3 . ฝกึ อบรมและพัฒนาทักษะของพนักงาน
4 . กาหนดนโยบายเพ่ือตอบสนองความพงึ พอใจของลูกค้า
5 . สร้างแรงจงู ใจให้บคุ ลากรมีสว่ นรว่ ม
6 . “ วิสัยทศั น์ : การท่องเที่ยวพักผอ่ นเป็นสว่ นหน่งึ ในชวี ิต ขณะท่กี ารทาธุรกิจท่บี า้ นผ่านเครอื ข่าย
อินเทอร์เน็ต มแี นวโน้มท่ีสูงข้ึนและมีประสทิ ธิภาพมากขนึ้ ” จากข้อความนส้ี อดคล้องกับหลกั การบรหิ ารงาน
คุณภาพ ข้อใด
1 . การให้ความสาคญั กบั ลูกค้า
2 . ความเปน็ ผู้นา
3 . การมีสว่ นรว่ มของบคุ ลากร
4 . การตัดสนิ ใจบนพ้ืนฐานของความเปน็ จริง
5 . กระบวนการดาเนนิ งาน
7 . การประยกุ ต์ใช้หลกั การบริหารงานคณุ ภาพท่เี น้นการมีส่วนรว่ มของบุคลากรคอื ขอ้ ใด
1 . สรา้ งการยอมรบั ใหเ้ ปน็ ส่วนหน่ึงขององคก์ ร
2 . กาหนดกระบวนการบรหิ ารงานให้เกดิ ผลตามเปา้ หมาย
3 . ถา้ หนดแผนการประเมินผลงาน และเกณฑ์การประเมินผลที่ชดั เจน
4 . มีการวิเคราะห์ข้อมลู โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทถี่ ูกต้องและเช่ือถือได้
5 . การตดั สนิ ใจควรใชข้ อ้ มูลจากการวิเคราะห์ ประสบการณ์และสัญชาตญาณ
8 . ขอ้ ใดไมใ่ ชป่ ัจจยั ในการเพ่ิมผลผลติ
1 . นโยบายสาธารณูปโภค ฐานภาษี
2 . ทรพั ยากรธรรมชาติ และทรพั ยากรบุคคล
3 . คา่ นยิ มการใชส้ นิ คา้ ภายในประเทศ
4 . การตรงตอ่ เวลา
5 . การสรา้ งความเปน็ ธรรมให้องค์กร
9 . ขอ้ ใดไมใ่ ช่องค์ประกอบในการเพิ่มผลผลติ
1 . คณุ ภาพ และต้นทนุ
2 . การส่งมอบ และความปลอดภัยในการทางาน
3 . ขวญั กาลังใจและส่ิงแวดลอ้ มในการทางาน
4 . ทุน แรงงาน วิธปี ฏิบัตกิ าร
5 . จรรยาบรรณในการดาเนินการทางธรุ กจิ
10 . ถ้าใช้คนทมี่ ีความรู้ความสามารถทางานในสิง่ ทช่ี อบและมคี วามถนดั จะทาใหง้ านนัน้ มปี ระสทิ ธิภาพ และมี
ความพร้อมทจี่ ะทางานที่ไดอ้ ยา่ งเตม็ ที่ สอดคล้องกับข้อใดมากทสี่ ุด
1 . Right Man
2. Right Job
3. Right Tool
4 . Right Time
5. Right Time
กระดาษคาตอบ ก่อนเรียน – หลังเรยี น
กจิ กรรมการเรียนรู้
หน่วยที่ 8 เร่อื ง หลักเบื้องต้นในการบริหารงานคณุ ภาพและเพ่มิ ผลผลิตในองค์กร
ก่อนเรียน 5 หลังเรยี น 4 5
ขอ้ 1 2 3 4 ขอ้ 1 2 3
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10
รวมคะแนน ก่อนเรียน รวมคะแนน หลังเรียน
ชื่อ-สกลุ ...........................................................แผนก/หอ้ ง............เลขท.ี่ .............
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลังเรียน
กิจกรรมการเรยี นรู้
หน่วยที่ 8 เร่อื ง หลกั เบื้องต้นในการบริหารงานคุณภาพและเพมิ่ ผลผลิตในองค์กร
ก่อนเรยี น หลงั เรยี น 4 5
ข้อ 1 2 3 4 5 ขอ้ 1 2 3
1x 1
2x 2
3x 3
4x 4
5x 5
6x 6
7x 7
8x 8
9x 9
10 x 10
รวมคะแนน ก่อนเรยี น 10 รวมคะแนน หลังเรยี น 10
ชอ่ื -สกุล...........................................................ผ้สู อน/ผตู้ รวจ
(นายวิจิตร พลเศษ)
หน่วยการสอนท่ี 8 ชื่อหน่วยการสอน หลักเบื้องต้นในการบริหารงาน คณุ ภาพและเพิม่ ผลผลิตในองค์กร
ชือ่ หัวข้อเร่อื ง หลักเบ้ืองต้นในการบริหารงาน คุณภาพและเพิม่ ผลผลติ ในองคก์ ร
16. ใบความรู้
แนวคิด
การบริหารงานคุณภาพในองคก์ รเปน็ กระบวนการบรหิ ารงานท่ีประกอบดว้ ยนโยบาย
วัตถุประสงค์ การวาแผนงาน ระบบการบรหิ ารจดั การ ระบบการตรวจสอบหรือการประเมนิ ผล และการปรับปรงุ
อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความตอ้ งการของลูกคา้ พนักงานและของสังคม ทาให้เขา้ ใจเก่ียวกับหลักการ
บริหารงานคณุ ภาพและเพม่ิ ผลผลิตเบ้อื งตน้ และประยกุ ต์ใช้หลกั การบริหารงานคุณภาพและเพิ่มผลผลิต
ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวัง
1. สามารถอธบิ ายการบริหารงานคุณภาพเบอ้ื งตน้
2. สามารถบอกการเพิ่มผลผลิตเบอื้ งตน้
3. อธบิ ายการประยุกต์ใชห้ ลักการบริหารงานคณุ ภาพและเพิ่มผลผลติ
สาระการเรยี นรู้
1. การบรหิ ารงานคณุ ภาพเบื้องต้น
2. การเพมิ่ ผลผลติ เบ้อื งต้น
3. การประยุกต์ใช้หลักการบริหารงานคุณภาพและเพิม่ ผลผลติ
1.ครกู ล่าวถงึ “คุณภาพ” ตามพจนานกุ รมฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หมายถึง ลกั ษณะเดน่ ของ
บคุ คลหรอื สิง่ ของ จากความหมายน้ีสรปุ ไดว้ า่ คณุ ภาพ (Quality) หมายถึง การดาเนนิ งานท่มี ีประสทิ ธภิ าพเปน็ ไป
ตามข้อกาหนดทตี่ อ้ งการ โดยสินค้าหรือบรกิ ารนนั้ ต้องสรา้ งความพึงพอใจให้ลูกคา้ และมีต้นทนุ การผลติ ที่
เหมาะสม เชน่ คุณภาพของสินค้า ไดแ้ ก่ รูปรา่ งสวยงาม เชือ่ ถือได้ ทนทาน เหมาะสมกับการใช้งานและชื่อเสยี ง
ของสนิ ค้า ส่วนคุณภาพการบริการ ไดแ้ ก่ การสร้างความประทับใจใหล้ ูกค้าท่ีมาใช้บริการ เปน็ ตน้ แบ่งได้ดังน้ี
1) เหมาะสมกับมาตรฐาน 2) เหมาะสมกับประโยชน์ใชส้ อย
3) เหมาะสมกบั ตน้ ทุน 4) เหมาะสมกับความตอ้ งการท่ีแฝงเร้น
2.ผู้เรียนยกตัวอย่างธรุ กิจท่ีได้รบั คุณภาพ
3.ครูอธิบายการบรหิ ารงานคุณภาพเบ้ืองต้น โดยคุณสมบัติของคณุ ภาพ สามารถพิจารณาไดด้ ังนี้
3.1 คุณภาพของผลติ ภัณฑ์ สามารถพจิ ารณาไดด้ ังนี้
a สมรรถนะ a ลักษณะเฉพาะ
a ความเช่อื ถือได้ a ความสอดคล้องตามทก่ี าหนด
a ความทนทาน a ความสามารถในการให้บริการ
a ความสวยงาม a การรับรคู้ ุณภาพ หรือชอื่ เสียงของสินคา้
3.2 คณุ ภาพของงานบรกิ าร สามารถพจิ ารณาได้ดงั น้ี
a ความเช่อื ถือได้ a การตอบสนองความต้องการ
a ความสามารถ a การเขา้ ถึงได้
a ความสุภาพ a การตดิ ต่อสื่อสาร
a ความนา่ เช่ือถือ a ความปลอดภัย
a ความเขา้ ใจลกู ค้า a สามารถร้สู กึ ได้ในบรกิ าร
4.ครอู ธบิ ายเพิ่มเติมการบรหิ ารคณุ ภาพ (Quality Management) หมายถึง การบรหิ ารงานท่เี กี่ยวกับ
การจัดการทุกอยา่ งในองค์กรใหม้ คี ุณภาพตามนโยบายคณุ ภาพขององค์กร รวมถึงโครงสรา้ งองค์กร ความ
รบั ผดิ ชอบ วธิ กี าร กระบวนการ กจิ กรรม แผนงานและทรัพยากรทจ่ี ะนามาใชใ้ นองค์กร เพื่อสร้างความมั่นใจวา่
สนิ คา้ หรอื บรกิ ารที่ผลิตออกมาจะมีคุณภาพสอดคล้องกับข้อกาหนดและความต้องการของลูกคา้ และใหม้ ี
ผลตอบแทนตามเป้าหมายการลงทนุ ขององค์กร
5.ผู้เรียนแสดงสญั ลักษณ์คณุ ภาพ เชน่
6.ครบู อกหลักการพนื้ ฐานของการบริหารงานคุณภาพท่สี าคัญ ได้แก่
6.1 การใหค้ วามสาคัญกับลูกคา้ ธรุ กิจทุกประเภทจาเป็นต้องทาความเข้าใจกบั ความตอ้ งการของลูกคา้ และ
ดาเนินการให้บรรลุความต้องการของลูกค้า รวมทั้งพยายามทาใหเ้ หนือความคาดหวงั ของลูกค้า โดยมหี ลกั การวา่
อะไรคือสิง่ ทีล่ กู คา้ ต้องการและคาดหวงั ซึ่งต้องตอบสนองส่ิงทีล่ ูกคา้ ต้องการใหด้ ีที่สดุ เชน่ การประกนั สินคา้ การ
ร้องเรยี น เปน็ ตน้
6.2 ความเปน็ ผนู้ า ผนู้ าจะต้องแสดงความมุ่งมน่ั ที่จะพัฒนาองค์กรอยา่ งชัดเจน ตอ้ งมภี าวะผู้นาและสรา้ ง
บรรยากาศในการทางานที่จะเอื้ออานวยใหบ้ ุคลากรมสี ่วนร่วมในการดาเนินงาน เพื่อให้บรรลผุ ลตามเป้าหมาย โดย
ภาวะผ้นู ากค็ อื ความสามารถในการชกั นา โนม้ น้าวให้คนคลอ้ ยตาม มเี ปา้ หมายที่ชดั เจนและสามารถนาคนให้
ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมใหล้ ุล่วงได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและประสิทธผิ ล โดยมีหลกั การเน้นใหผ้ นู้ าองค์กรมภี าวะผนู้ า แสดง
การเป็นผนู้ าในการทางาน
6.3 การมีส่วนร่วมของบุคลากร การทบ่ี ุคลากรมีสว่ นร่วมในองค์กร จะทาใหท้ กุ คนได้ใช้ความสามารถให้
เกิดประโยชน์ต่อสว่ นรวมมากทีส่ ดุ บคุ ลากรต้องเอาใจใส่ในงานท่ตี นไดร้ ับมอบหมายไว้ โดยมีหลักการคอื เนน้ ท่ี
พนักงานทุกฝ่ายจะต้องอาศัยความรว่ มมอื ทกุ ระดับ และต้องมีการพฒั นาความสามารถอยา่ งสมา่ เสมอ
6.4 กระบวนการดาเนนิ งาน หมายถึง การนาเอาทรพั ยากรหรือปจั จัยการผลติ ปอ้ นเขา้ สู่ระบบการทางาน
เพอ่ื ให้บรรลเุ ป้าหมาย โดยมหี ลักการท่ีเน้นให้มองงาน กระบวนการและกจิ กรรมต่างๆ ที่ก่อใหเ้ กิดมูลค่าเพิ่มแก่
สินค้าหรอื เป็นกระบวนการสนบั สนุน จะอยใู่ นรูปของกระบวนการท่มี ที ้งั ปจั จยั นาเขา้ (Input) และปจั จัยนาออก
(ผลผลติ = Output)
6.5 การบรหิ ารทีเ่ ป็นระบบ การจดั การกระบวนการตา่ งๆ อย่างเป็นระบบ จะช่วยให้องคก์ รบรรลุ
เป้าหมายอยา่ งมปี ระสทิ ธิผลและประสิทธิภาพ โดยนากระบวนการตา่ งๆ มาเรียงลาดับและสัมพนั ธก์ ันซ่ึงจะ
กอ่ ให้เกดิ เป็นระบบ โดยหลกั การคือการกาหนดระบบความสมั พนั ธ์ของปัจจยั และกระบวนการดาเนินงานเพ่อื ให้
องค์กตอบสนองความตอ้ งการของลกู ค้าได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
6.6 การปรับปรงุ อย่างตอ่ เน่อื ง เป็นกระบวนการทเ่ี กดิ วงจรบริหารงานระบบคุณภาพ PDCA ได้แก่ การ
วางแผนการดาเนินงาน การดาเนนิ งาน การปรบั ปรงุ แกไ้ ข และการปรับปรุงอยา่ งต่อเน่ือง ทาให้เพ่ิมประสิทธภิ าพ
ข้นึ ซ่ึงควรถือเป็นเป้าหมายถาวรขององค์กร
6.7 การตดั สินใจบนพน้ื ฐานของความเปน็ จริง การตดั สนิ ใจทถ่ี ูกต้อง และเกิดประสทิ ธิภาพต่อการ
บรหิ ารงานต้องต้ังอย่บู นพ้นื ฐานของความจรงิ ที่ถูกต้องและการวิเคราะห์ขอ้ มูลทเ่ี ปน็ ระบบตอ้ งมีขอ้ มลู หรือ
ข้อเท็จจริงสนบั สนุน ซงึ่ ขอ้ มูลได้จากการเก็บและนามาวิเคราะห์ทางสถติ ิ เพ่ือใช้เป็นเครื่องมอื การตดั สินใจบน
พื้นฐานของความเป็นจริง การตัดสินใจที่ถกู ต้อง และเกิดประสิทธิภาพตอ่ การบริหารงานตอ้ งต้งั อยบู่ นพ้นื ฐานของ
ความจรงิ ทีถ่ ูกต้องและการวเิ คราะหข์ ้อมูลที่เปน็ ระบบต้องมขี อ้ มูลหรือข้อเท็จจริงสนับสนุน ซึ่งขอ้ มูลไดจ้ ากการ
เกบ็ และนามาวิเคราะห์ทางสถิติ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือ
6.8 ความสัมพันธก์ บั ผู้ขายเพ่ือประโยชนร์ ว่ มกัน การสรา้ งสมั พนั ธภาพกับผสู้ ่งมอบควรอยบู่ นพน้ื ฐานของ
ความเสมอภาคด้านผลประโยชน์ เพราะต่างต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน ถา้ องคก์ รและผู้ส่งมอบมีความเข้าใจ และมี
ความสมั พันธ์อันดีตอ่ กัน ยอ่ มส่งผลใหเ้ กิดประโยชน์รว่ มกัน และจะชว่ ยเพิม่ ความสามารถในการสรา้ งคณุ ค่า
รว่ มกันของท้งั สองฝ่าย โดยมีหลักการทเ่ี น้นการไดร้ ับผลประโยชน์ร่วมกนั ทุกฝ่าย
7.ครูอธบิ ายการเพมิ่ ผลผลิตเบือ้ งตน้ โดยการเพ่ิมผลผลิต (Productivity) หมายถงึ กระบวนการในการ
ปฏบิ ตั ิงานให้ได้ผลผลติ ซง่ึ อาจเป็นสนิ คา้ หรอื บรกิ าร หรืองานทมี่ คี ุณภาพตรงตามความต้องการของลกู ค้า ดว้ ย
วธิ กี ารในการลดตน้ ทุนลดการสญู เสยี ทกุ รปู แบบ การใช้ทรัพยากรอยา่ งคุ้มคา่ การใช้เทคโนโลยที ่เี หมาะสม การ
พฒั นาศักยภาพของคนและการใชเ้ ทคนิควธิ กี ารทางานตา่ งๆ เข้ามาชว่ ยประสิทธิผล (Efficiency) หมายถึง
ความสามารถการบรรลจุ ดุ มุ่งหมายโดยใช้ทรพั ยากรต่าสุด คือ ใช้วิธกี ารให้เกิดการจดั สรรทรพั ยากรทสี่ ิน้ เปลอื ง
นอ้ ยที่สุด โดยมเี ปา้ หมายคือ ประสิทธิผล
8.ครกู ลา่ วถงึ การประยุกต์ใชห้ ลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพิ่มผลผลติ ในการวางแผนและดาเนินงาน
ควรจะอาศยั เทคนคิ และเครื่องมอื พ้ืนฐานเพอ่ื ช่วยในการเพมิ่ ผลผลติ ในองค์กร
9.ผู้เรียนบอกกจิ กรรมท่ีมีการประยุกตใ์ ช้หลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลิต ได้แก่
9.1 กิจกรรมเพ่อื ความปลอดภยั หมายถึง กิจกรรมเสริมสรา้ งความรแู้ ละทศั นคตเิ กยี่ วกับความ
ปลอดภยั ในการทางานให้กับพนักงาน
9.2 กิจกรรม 5 ส หมายถึง กิจกรรมเพื่อสรา้ งความเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ยในสถานท่ที างาน
2.3 วงจร PDCA คอื วงจรเพ่ือการบรหิ ารและการปรับปรงุ งานอย่างต่อเนื่อง
9.4 กจิ กรรมข้อเสนอแนะ คอื กิจกรรมทเี่ ปิดโอกาสให้พนกั งานมีส่วนรว่ มในการเสนอความคิด
ใหมๆ่ ซึง่ สามารถปฏิบัตไิ ด้ และเป็นประโยชนต์ ่อการปรับปรุงงานทปี่ ฏบิ ัตอิ ยู่แลว้ ใหด้ ขี ้ึน
9.5 กจิ กรรมกลุ่มยอ่ ย (QCC = Quality Control Cycle) คือ กิจกรรมเพ่อื การแก้ปัญหาและ
ปรบั ปรุงงานอยา่ งเป็นระบบ โดยการรวมกลมุ่ ของผู้ปฏิบตั งิ านประมาณ 3-10 คน
10.ครผู ู้สอนอธิบายการประยุกต์ใช้หลกั การบริหารงานคณุ ภาพและเพิ่มผลผลติ
11.ครอู ธบิ ายกจิ กรรมเพื่อความปลอดภัย (Safety Control Circles=SCC) หมายถึง การรว่ มกนั ทา
กิจกรรมเพื่อการค้นหาภัยอนั ตรายและแกไ้ ขป้องกันอบุ ตั ิเหตุ และการสร้างเสริมความปลอดภัยในการทางาน
12.ผูเ้ รยี นวางแผนและดาเนินงานโดยใช้กจิ กรรม 5 ส
13.ครูและผู้เรียนวางแผนและดาเนินงานโดยใชเ้ ทคนิค PDCA คือ วงจรคณุ ภาพท่ีใชใ้ นการบรหิ าร การ
วางแผน และการปฏบิ ตั ิเพือ่ ใหเ้ กดิ การปรับปรงุ การทางานอย่างต่อเนอื่ ง ทาให้ทุกคนรูจ้ ักการวางแผนกอ่ นท่จี ะ
นาไปปฏบิ ตั ิ เม่ือปฏิบัติแล้ว ต้องมีการตรวจสอบหาข้อบกพร่องเพื่อนาไปปรบั ปรุงแกไ้ ขต่อไป
14.ครูและผู้เรียนวางแผนและดาเนินงานกจิ กรรมข้อเสนอแนะ (Suggest System) คอื การเปิดโอกาสให้
พนกั งานทุกระดับมารว่ มกนั ในการบริหาร โดยนาเสนอความคดิ เห็นของตนเองต่อฝ่ายบริหาร ซึ่งมี 2 ลกั ษณะ คอื
1. แนวคิดหรือวธิ กี ารแก้ไขปัญหา และ 2. ชใี้ ห้เหน็ ปัญหาหรอื จุดอ่อนของการทางาน
15.ครูและผเู้ รียนวางแผนและดาเนินงานโดยใชเ้ ทคนิค QCC (Quality Control Cycle) หมายถงึ การ
ควบคุมคุณภาพดว้ ยกจิ กรรมกลุ่ม โดยการควบคุมคณุ ภาพ คอื การบรหิ ารงานดา้ นวัตถุดิบ กระบวนการผลติ และ
ผลผลติ ใหไ้ ด้คุณภาพตามความตอ้ งการของลูกคา้ ผเู้ กีย่ วขอ้ งหรอื ข้อกาหนดตามมาตรฐานท่ีตัง้ ไว้ เพอ่ื ป้องกนั และ
ลดปัญหาการสูญเสียวัตถุดิบ ตน้ ทุนผลิต เวลาการทางาน และผลผลิต
16.ครอู ธบิ าย และผูเ้ รยี นวางแผนและดาเนนิ งานกจิ กรรมการบริหารงานโดยยึดวัตถปุ ระสงค์
Management by Objective (MBO) เทคนิคการบริหารงานทีใ่ ห้โอกาสสมาชิกทุกคนมีสว่ นร่วมในการกาหนด
วัตถุประสงค์ของ
องค์กรและใหท้ กุ คนปฏบิ ตั ิงานโดยยดึ วตั ถปุ ระสงค์และเป้าหมายขององค์กรเป็นหลัก
17. ใบงาน
หน่วยการสอนที่ 8
ชื่อหนว่ ยการสอน หลกั เบ้อื งตน้ ในการบริหารงาน คุณภาพและเพม่ิ ผลผลิตในองค์กร
จุดประสงค์ เพอ่ื
1. สรา้ งความรูค้ วามจาใหก้ บั ผู้เรียน
2. เพิ่มการฝึกปฏบิ ัติแก่ผเู้ รยี น
3. สร้างความรับผดิ ชอบ ความอดทน ความสนใจใฝ่เรียนรู้
ลาดับกจิ กรรม/ลาดับการปฏบิ ตั ิ
1. ผ้เู รยี นศกึ ษาเนือ้ หาจากใบความรู้
2. ผู้เรียนศกึ ษาหาความรูจ้ ากตาราเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 8 หลกั เบ้ืองตน้ ในการบริหารงาน คุณภาพ
และเพ่ิมผลผลติ ในองค์กร 20001-1003 สานักพิมพเ์ อมพันธ์
3. หรือ ครูผสู้ อนบรรยายความรู้ เรอ่ื ง 8 หลกั เบอ้ื งต้นในการบริหารงาน คุณภาพและเพ่ิมผลผลิตใน
องค์กร
4. จัดทาใบงานตามที่มอบหมาย (กาหนดเวลาจดั ทา 50 นาท)ี
5. ส่งงานใบงานท่มี อบหมายกอ่ นหมดเวลาเรยี น (10 นาที หรือเปน็ การบา้ น)
เกณฑ์การพิจารณา
1. ส่งงานตรงเวลานัดหมาย
2. จัดทาครบทกุ ขอ้ ท่ีกาหนด
3. ทางานเป็นระเบียบเรียบร้อย
ใบงานที่ 8.1
เรอื่ ง การให้บรกิ ารอย่างมีคุณภาพ
ชอื่ -สกลุ ............................................................................................เลขท่ี.........ชน้ั .............. ............
คาชีแ้ จง ให้ผเู้ รยี นอ่านกรณีศกึ ษาเร่อื งนโยบำยของกิจกำรไม่ชัดเจน
การทาหน้าที่ใหบ้ ริการลูกคา้ ตามนโยบายของบริษัทตามเปา้ หมายทก่ี าหนดไว้ ถือเป็นแรงกดดันให้กับ
พนักงานทใ่ี หบ้ ริการลกู ค้ามาก เพราะอาจจะขัดแยง้ กับการใหบ้ รกิ าร ถา้ ให้บริการมากจนเกินไปก็จะทาใหต้ น้ ทุน
สูงข้ึน แตถ่ า้ ให้บริการน้อยจนเกนิ ไปกจ็ ะทาให้ลูกคา้ ไมพ่ อใจ เช่น
นโยบายของบรษิ ัทมีการเปล่ยี นของภายใน 7 วนั ถ้าลูกค้าจะเปลีย่ นเป็น 8 หรอื 9 วัน จะได้หรือไม่
ลกู คา้ ต้องมีใบเสร็จมาดว้ ยเทา่ นัน้ จงึ จะเปล่ียนได้ ถ้าลกู ค้าจะสง่ ใบเสร็จใหภ้ ายหลงั ไดห้ รือไม่
ลกู ค้าไม่สะดวกรบั ของตอนเย็นขอเปน็ 3 ทุ่ม พนักงานควรจะรอสง่ หรอื ไม่
ลกู ค้าคิดว่าของมตี าหนิแต่ไมร่ ู้เกิดตอนไหน พนักงานจะตัดสินใจอยา่ งไรดี
คณุ สรอ้ ยฟา้ ทางานเปน็ พนักงานใหบ้ รกิ ารทด่ี ีของบรษิ ัทแห่งหนึง่ และลกู คา้ กช็ อบมาก เพราะเหน็
ความสาคัญในความต้องการของลูกค้าเป็นที่สดุ แต่กไ็ ดร้ บั คาเตอื นจากหวั หน้างานบ่อยคร้ังวา่ อยา่ ใจดีกับลูกคา้
จนเกินไป จึงทาใหน้ ้อยใจอยูเ่ สมอ ผู้เรยี นคิดวา่ คุณสรอ้ ยฟ้าควรจะทาอยา่ งไรเพ่ือใหเ้ กดิ ความเหมาะสมและความ
พอดี
แนวทางทค่ี ุณสรอ้ ยฟา้ ควรจะปฏิบตั ติ อ่ ไป ไดแ้ ก่
.................................................................................................. .......................................................................
............................................................................................................................. ............................................
........................................................................................................................................... ..............................
.................................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................................. ............................
...................................................................................................... ...................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................................... ..........................
........................................................................................................ .................................................................
............................................................................................................................. ............................................
................................................................................................................................................. ........................
.......................................................................................................... ...............................................................
ใบงานที่ 8.2
เรื่อง การบรหิ ารงานอยา่ งมีคุณภาพ
ชอ่ื -สกลุ ............................................................................................เลขท.ี่ ........ชน้ั .............. ............
คาชแ้ี จง อ่านกรณีศึกษาการบรหิ ารงานอยา่ งมีคณุ ภาพต่อไปน้ี
คณุ สอ่ งหล้าเป็นพนักงานในบรษิ ัททม่ี ชี ่ือเสียงแห่งหนึง่ ในกรุงเทพฯ ซึ่งในปัจจบุ นั พนักงานทุกคนก็มกั จะมี
ปัญหาสว่ นตัวอยา่ งมาก เช่น รายไดไ้ มพ่ อกับคา่ ใช้จ่าย ทะเลาะกับแฟน บรษิ ัทบตั รเครดิตตามทวงเงิน ป่วย เครยี ด
กับปญั หาตา่ ง ๆ อีกมากมาย โดยปกตคิ ุณส่องหลา้ เปน็ ผทู้ ี่ทาหนา้ ที่ให้บรกิ ารลูกคา้ เป็นอย่างดี เป็นคนสนกุ สนาน
ทางานกับบุคคลอ่ืนไดด้ ี มกี ริ ิยาวาจาสุภาพ สรา้ งความพึงพอใจให้กบั ลูกคา้ ไดด้ ีมาก ตอ่ มาคุณส่องหลา้ เปลีย่ นไป
จากเดมิ หัวหนา้ งานจึงเรยี กเข้าไปพบ และสอบถามว่าเป็นอะไรจึงปฏิบตั หิ น้าที่ไม่ดีเทา่ กับท่ผี ่านมา หวั หนา้ งานจึง
ไดท้ ราบวา่ เธอมปี ัญหาส่วนตัว และได้ตักเตือนไปว่าใหเ้ ธอแยกเรอื่ งงานกับเร่ืองส่วนตัวออกจากกัน เพราะจะสง่ ผล
กระทบกับงานอาชีพนั้น ซึ่งเธอกเ็ ขา้ ใจดแี ละรับปากว่าต่อไปน้จี ะปรบั ปรงุ ตวั เองใหม่ให้ดีกว่าเดมิ
อยำกทรำบว่ำคุณส่องหล้ำ ควรจะดำเนนิ กำรอย่ำงไรเพ่ือใหก้ ำรปฏบิ ตั ิงำนดเี หมือนเดมิ หรือดีกวำ่ เดมิ
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
ใบงานท่ี 8.3
เรื่อง การบรหิ ารงานอาชีพ
ช่อื -สกลุ ............................................................................................เลขท.่ี ........ชั้น..........................
คาชแ้ี จง อ่านกรณีศกึ ษาการบรหิ ารงานอาชพี ต่อไปนี้
บริษทั มง่ิ เมือง จากดั จดั ต้งั ในปี พ.ศ.2541 มีนายไชโยเป็นเจา้ ของและมีพนกั งานทง้ั หมด 5 คน แตใ่ น
ปจั จุบนั (พ.ศ.2556) มีพนักงาน 30 คน เนอ่ื งจากกิจการเจรญิ เตมิ โตข้นึ อย่างชา้ ๆ แต่มีกาไรสทุ ธิในแต่ละปที ผี่ า่ น
มาสูงมาก ส่วนคุณไชโยก็เปน็ กันเองกบั พนักงานทุกคนมีบคุ ลิกเปน็ คนคิดเรว็ และทาเรว็ ทาใหก้ ารทางานราบรืน่ ถา้
มปี ญั หาก็พูดคยุ กนั และแก้ไขปญั หาได้ดี เม่ือมีการประชุมกันภายในบรษิ ัทก็มพี นักงานสว่ นหนง่ึ ไดแ้ สดงความ
คิดเห็นและถามประธานบรษิ ัท (คุณไชโย) ดงั น้ี
ทศิ ทางของบรษิ ทั ในอนาคตจะเป็นอย่างไร พันธกจิ ของบรษิ ัทคืออะไร
เปา้ หมาย และวตั ถปุ ระสงค์จะเปน็ อยา่ งไรกลยทุ ธ์ทีจ่ ะใชใ้ นการดาเนินธรุ กจิ ได้แก่อะไรบา้ ง
โครงสร้างองค์กรทชี่ ดั เจนเป็นอย่างไร เรอ่ื งอนื่ ๆ ท่เี ก่ียวข้องกับบริษทั
ทงั้ น้ี คุณไชไยกลับไม่สนใจในการแสดงความคดิ เหน็ ของพนักงาน ต่อมาเร่ิมรู้สกึ วา่ พนกั งานไม่ได้ทางาน
อยา่ งเตม็ ความสามารถ พนักงานมีปญั หาขัดแยง้ กันเสมอ บางครั้งก็ทะเลาะกันในระหว่างทางาน ขาดความสามัคคี
กนั ซ่งึ คุณไชโยจะเป็นผแู้ กป้ ัญหาและตัดสนิ ใจในปัญหาทุกอย่างด้วยตัวเอง
ใหผ้ ้เู รยี นชว่ ยแนะนาคณุ ไชโยว่าเขาควรจะเปล่ียนแปลงตวั เองในเร่ืองใดบ้าง เพื่อให้บคุ ลากรในบริษัทของ
เขามีการทางานเป็นทีมงาน มีความชดั เจนในการทางานมากขน้ึ
ปัญหำท่ีเกิดขึน้ ไดแ้ ก่
1....................................................................................................... .....................................................
2............................................................................................................................ ................................
3............................................................................................................................................................
เทคนิคกำรแกป้ ัญหำ ไดแ้ ก่
1............................................................................................................... .............................................
2............................................................................................................................ ................................
3............................................................................................................................................................
แนวทำงในกำรดำเนนิ งำนท่จี ะนำไปปฏิบตั ิ ไดแ้ ก่
..................................................................................................... .........................................................
............................................................................................................................. .................................
..............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................
............................................................................................................................. .................................
..............................................................................................................................................................
ใบงานท่ี 8.4
เรื่อง การเพิม่ ผลผลติ
ชอื่ -สกลุ ............................................................................................เลขท่.ี ........ชัน้ ..........................
คาชี้แจง อา่ นกรณศี กึ ษาบริษัท น้าพริกไทย จากดั
คุณยินดเี ป็นผู้จดั การของบริษัท น้าพรกิ ไทย จากัด ตรา “นา้ พริกไทย” โดยมนี โยบายให้เพ่มิ ปรมิ าณการ
ผลิตต่อวันให้มากข้นึ เน่ืองจากมีคาสัง่ ซ้ือเข้ามาจานวนมาก แตบ่ รษิ ัทไมส่ ามารถตอบสนองต่อคาส่งั ซ้ือไดท้ ั้งหมด
คณะกรรมการให้เพิม่ การบรรจภุ ณั ฑ์ให้ได้ 20%ภายใน 2 สัปดาห์ บรษิ ทั เปน็ ผ้ผู ลิตน้าพริกสาเร็จรปู รายย่อยใน
ประเทศไทย ตง้ั อยใู่ นกรงุ เทพฯ และขายนา้ พรกิ โดยส่งไปจาหนา่ ยตามโมเดิลเทรดต่างๆ เน่อื งจากการเจรญิ เตบิ โต
ของตลาดน้าพริกสาเร็จรูปในประเทศเป็นสนิ คา้ ที่อยใู่ นระดับสนิ คา้ คุณภาพสงู เป็นท่ีต้องการของผบู้ ริโภคจานวน
มาก จงึ ทาให้ได้รบั คาสั่งซ้ือจานวนมาก จนในปัจจบุ ันบริษทั พบว่าไม่สามารถตอบสนองต่อคาสง่ั ซ้ือของลูกคา้ ได้
ทั้งหมด ซงึ่ นอกจากจะทาใหบ้ รษิ ทั เสียโอกาสทางการค้าแล้ว ยังทาใหข้ าดความน่าเชื่อถือของบริษัท ทจ่ี ะ
ตอบสนองต่อตลาดลดต่าลงด้วย จะสง่ ผลตอ่ ภาพลกั ษณ์และชือ่ เสยี งของบริษัทต่อโมเดิลเทรดต่างๆ
บริษทั มีกระบวนกำรบรรจุโดยใชเ้ ครือ่ งบรรจุอตั โนมัติ โดยนาเขา้ เคร่ืองบรรจุจากญีป่ นุ่ ซ่ึงมีราคาแพงมาก
โดยนาวตั ถุดิบมาจากแหล่งผู้จดั จาหน่ายผ่านการล้าง ฆ่าเช้ือตา่ ง ๆ ก่อนป้อนเขา้ ส่เู คร่ืองอัตโนมัติ เมอื่ ถูกป้อนเข้า
เครอ่ื งอัตโนมัตแิ ล้วและถูกลาเลยี งตอ่ ไปผา่ นขนั้ ตอนการฆ่าเชือ้ ด้วยแสงยวู แี ละถูกลาเลียงผา่ นต่อไปทขี่ ้ันตอนการ
บรรจลุ งบรรจภุ ัณฑ์ตอ่ ไป ปญั หำของกระบวนกำรผลิตและบรรจุภัณฑ์คือการเพมิ่ เติมรสชาติ สี กลนิ่ รส จะส่งผล
ใหม้ ีโอกาสสงู มากที่น้าพริกสาเรจ็ รปู จะด้อยคณุ ภาพ จะถูกส่งไปขายให้ลูกค้าและส่งผลต่อช่ือเสียงของบริษัทมาก
ปัญหาท่สี าคญั อีกประการคอื กระบวนการบรรจุภัณฑ์ของบริษทั ไม่สามารถบรรจุได้ตามความสามารถท่แี ทจ้ รงิ ของ
เครอ่ื งบรรจุอตั โนมัติ กล่าวคือตามขอ้ กาหนดของเครือ่ งบรรจไุ ขไ่ ก่อัตโนมตั ิ เมอื่ ผู้จัดการใหเ้ พิม่ ผลผลติ ตอ่ วนั ให้ได้
ซึ่งตามปกติเคร่ืองจักรต้องผลิตสนิ คา้ ไดต้ ามเป้าหมาย แต่ข้อมูลปจั จบุ นั พบวา่ ผลผลติ ทีไ่ ดย้ ังไม่เป็นไปตาม
เป้าหมาย และบริษัทกาลงั ประสบปญั หาการส่งสินคา้ ไม่ทันคาสัง่ ซือ้ ของลกู คา้ ผ้จู ัดการทราบดีว่ากระบวนการผลิต
สามารถปรบั ปรงุ ได้ แต่ปจั จบุ ันยังไม่ทราบวา่ จะปรบั ปรงุ หรือพัฒนาจุดใดก่อน จากข้อมลู ของฝา่ ยผลิตทราบว่า
เครอ่ื งจักรอตั โนมัติกเ็ ดินเคร่อื งอัตโนมตั ทิ ่ีความเรว็ ที่ตงั้ ไวต้ ลอดทัง้ 8 ช่วั โมงแล้ว และมกี ารบารุงรักษาเครอื่ งจักร
นอกเหนือจากเวลาบรรจุ 8 ชั่วโมง จงึ ไมส่ ามารถเพิ่มความเร็วในการเดินเคร่ืองได้ ผจู้ ดั การจงึ คิดว่าถา้ ต้องการเพ่มิ
ผลผลติ แนวทางท่ีงา่ ยทีส่ ุด คือ การกาหนดใหเ้ คร่ืองอัตโนมัตนิ ีท้ างานล่วงเวลานานขน้ึ ซ่ึงกส็ ามารถทาได้เลย แต่ก็
กงั วลว่าแนวทางแก้ไขปัญหาน้ีจะไดร้ ับการยอมรับจากคณะกรรมการได้อย่างไร เพราะสาเหตุท่แี ทจ้ ริงของปัญหา
ยงั ไม่ได้รบั แก้ไข ผู้จดั การจึงตัดสนิ ใจใหเ้ จ้าหน้าท่ฝี ่ายผลิตบันทึกภาพของเครือ่ งจกั รอัตโนมัติตลอดท้ังกระบวนการ
และนามาเขา้ ทปี่ ระชมุ ฝา่ ยผลติ โดยวางแผนจะใหเ้ กิดการระดมสมองเพอื่ หวงั วา่ จะหามาตรการเพิ่มผลผลิตที่ดีและ
นาไปชแี้ จงกับคณะกรรมการได้
จากกรณีศึกษานี้จงหาสาเหตขุ องปัญหาและแนวทางแกไ้ ข
............................................................................................................................. .................................
จากกรณีศึกษาน้ี ผจู้ ดั การมีการตดั สนิ ใจอย่างไร
....................................................................................................................................................... ....
เฉลยใบงานท่ี 1-4
(ใช้ดลุ พินจิ ของผสู้ อน)
แบบสรปุ คะแนน
ชุดที่ 1
รายวิชา การวางแผนเปา้ หมายชวี ติ ดว้ ยวงจรคณุ ภาพ 20001 1003
คะแนน กิจกรรมที่ ใบงานท่ี แบบทดสอบ แบบทดสอบ คะแนน
ก่อนเรยี น หลงั เรียน ระหวา่ ง
123 1 เรยี น
คะแนนเตม็ 5 10 10 15
คะแนนทีไ่ ด้
คดิ เปน็ ร้อย
ละ
หมายเหตุ : = ผ่านกิจกรรม = ไมผ่ า่ นกิจกรรม
(ลงชอ่ื ) ....................................... ผ้ปู ระเมิน
(นายวจิ ติ ร พลเศษ)
ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครชู านาญการ
เกณฑก์ ารประเมนิ แบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลังเรียน
ระดับคณุ ภาพ หมายถึง ดี
ระดบั 4 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ปานกลาง
ระดับ 3 7 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้
ระดับ 2 5 - 6 คะแนน
20. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้แบบมงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชีพและบรู ณาการตามหลักปรชั ญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
20.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้
รายการ ระดับการปฏิบัติ
5432 1
ด้านการเตรยี มการสอน
1. จัดหน่วยการเรยี นรู้ได้สอดคลอ้ งกับวัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้
2. กาหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ด้านทกั ษะ และดา้ นจิตพิสัย
3. เตรยี มวสั ดุ-อุปกรณ์ ส่ือ นวตั กรรม กจิ กรรมตามแผนการจัดการเรยี นรกู้ ่อนเข้าสอน
ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
4. มีวธิ กี ารนาเข้าสู่บทเรยี นที่นา่ สนใจ
5. มีกจิ กรรมทีห่ ลากหลาย เพ่ือช่วยให้ผูเ้ รียนเกดิ การเรียนรู้ ความเข้าใจ
6. จดั กจิ กรรมที่ส่งเสริมใหผ้ ู้เรียนคน้ คว้าเพ่ือหาคาตอบดว้ ยตนเอง
7. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
8. จัดกจิ กรรมท่ีเนน้ กระบวนการคดิ ( คิดวเิ คราะห์ คิดสังเคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ )
9. กระตุ้นใหผ้ ูเ้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี
10. จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ีเ่ ชื่อมโยงกบั ชีวติ จรงิ โดยนาภูมปิ ญั ญา/บรู ณาการเขา้ มามสี ว่ นร่วม
11. จัดกิจกรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม
12. มกี ารเสริมแรงเมือ่ นักเรยี นปฏิบัติ หรอื ตอบถูกต้อง
13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผู้เรียน
14. เอาใจใส่ดแู ลผเู้ รียน อย่างท่ัวถงึ
15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่ีกาหนด
ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้
16. ใช้สือ่ ที่เหมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผเู้ รยี น
17. ใชส้ ่อื แหล่งการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เชน่ บคุ คล สถานท่ี ของจริง เอกสาร
ส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์ และอนิ เทอร์เน็ต เปน็ ต้น
ด้านการวดั และประเมินผล
18. ผู้เรียนมสี ว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล
19. ประเมนิ ผลอยา่ งหลากหลายและครบทั้งดา้ นความรู้ ทกั ษะ และจิตพิสัย
20. ครู ผเู้ รยี น ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ เ่ี กย่ี วข้องมสี ว่ นรว่ ม ในการประเมิน
หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดเี ย่ียม 4 = ปฏิบตั ดิ ี 3 = ปฏบิ ัตพิ อใช้ รวม
2 = ควรปรับปรงุ 1 = ไม่มีการปฏบิ ตั ิ ค่าเฉลี่ย
20.2 ปญั หาท่ีพบ และแนวทางแกป้ ัญหา
ปัญหาท่ีพบ แนวทางแกป้ ญั หา
ด้านการเตรียมการสอน
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
ด้านสอ่ื นวัตกรรม แหลง่ การเรียนรู้ .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
ด้านการวดั และประเมินผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ดา้ นอื่นๆ (โปรดระบเุ ปน็ ข้อๆ) .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
.....................................................................................
ลงช่อื ........................................................................ ครูผสู้ อน
(....................................................................)
ตาแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................