The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนรายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 (โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jirapinya051041, 2022-12-14 01:11:52

แผนรายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 (โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ)

แผนรายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 (โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ)

หลักสตู รระดบั ชั้นเรยี น
โรงเรยี นองค์การบริหารสว่ นจงั หวัดเชียงราย

พทุ ธศักราช ๒๕6๕

(ฉบบั ปรับปรงุ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ัด พุทธศักราช 2560)

ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน
พทุ ธศกั ราช ๒๕5๑

รายโลกดาราศาสตร์ และอวกาศ รหัสวิชา ว30104
กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5

ชือ่ ครผู สู้ อน
นางสาวจิรภญิ ญา ยอดวงศ์

สำนักการศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
องค์การบริหารส่วนจังหวดั เชียงราย

กรมสง่ เสริมการปกครองทอ้ งถนิ่



โครงการสอน (Course Outline)
กลมุ่ สาระการเรียนรรู้ ายวิชา วิทยาศาสตร์ 4 (โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ) รหสั ว30104

ครูผสู้ อน นางสาว จริ ภญิ ญา ยอดวงศ์

ระดับชั้น ประถมศกึ ษาปที ี่ …….  มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2 / 2565

ลกั ษณะวิชา  สาระพื้นฐาน สาระเพิ่มเติม กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน อนื่ ๆ

1) คำอธิบายรายวิชา ( ภาคเรียนท่ี 2 )

ศึกษาความรู้เก่ียวกับ โลกและการเปล่ียนแปลงของโลก ธรณีภาค ธรณีประวตั ิกระบวนการเกดิ

ภูเขาไฟระเบิดแผ่นดินไหว และการเกิดสึนามิ ที่ส่งผลต่อส่ิงมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ออกแบบทางการเฝ้า

ระวังและการปฎิบัติตนให้ปลอดภัย อธิบายปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์การ

หมุนเวียนของอากาศตามเขตละติจดู และผลที่มีต่อภูมิอากาศการหมุนเวียนของน้ำผิวหน้าในมหาสมุทร

ลมฟา้ อากาศการเปล่ียนแปลงภมู ิอากาศของโลกนำข้อมลู สารสนเทศต่าง ๆ มาวางแผนการดำเนินชีวิตให้

สอดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศ เอกภพ ดาวฤกษ์ กำเนิดระบบสุริยะ และการแบ่งเขตบริวารของดวง

อาทิตยก์ ารเกิดลมสุรยิ ะ พายุสรุ ยิ ะการสำรวจอวกาศ โดยใชก้ ล้องโทรทรรศน์

โดยใชก้ ระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้น

ข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ และสามารถ

นำเสนอส่ือสารสิง่ ทเ่ี รียนรู้ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ

เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม

คณุ ธรรม และค่านิยมทเ่ี หมาะสม ตลอดจนมเี จตคตทิ ี่ดตี ่อวิชาวทิ ยาศาสตร์

2) ตัวช้วี ัดรายภาค ( ภาคเรยี นท่ี 2 ) ความสอดคลอ้ ง
กับหลกั สูตร
ตัวชี้วัดรายภาค แกนกลาง
ว 3.1 ม.5/1
1. อธิบายการกำเนดิ และการเปลย่ี นแปลงพลงั งานสสาร ขนาด อณุ หภมู ิของเอกภพหลงั เกิด
บิกแบงในชว่ งเวลาต่าง ๆ ตามวิวฒั นาการของเอกภพ ว 3.1 ม.5/2

2. อธิบายหลักฐานทสี่ นับสนนุ ทฤษฎบี กิ แบงจากความสัมพันธร์ ะหวา่ งความเรว็ กับระยะทางของกาแลก็ ซี ว 3.1 ม.5/3
รวมท้งั ข้อมูลการคน้ พบไมโครเวฟพืน้ หลังจากอวกาศ
ว 3.1 ม.5/4
3. อธิบายโครงสรา้ งและองคป์ ระกอบของกาแลก็ ซที างช้างเผอื ก และระบุตำแหน่งของระบบสรุ ิยะพร้อม
อธิบายเช่อื มโยงกบั การสังเกตเห็นทางช้างเผือกของคนบนโลก ว 3.1 ม.5/5

4. อธิบายกระบวนการเกิดดาวฤกษโ์ ดยแสดงการเปล่ยี นแปลงความดนั อณุ หภูมิขนาดจาก ว 3.1 ม.5/6
ดาวฤกษ์กอ่ นเกดิ จนเป็นดาวฤกษ์ ว 3.1 ม.5/7

5. ระบปุ จั จยั ท่สี ง่ ผลตอ่ ความสอ่ งสวา่ งของดาวฤกษ์และอธบิ ายความสมั พันธ์ระหวา่ งความส่องสวา่ งกับ
โชติมาตรของดาวฤกษ์

6. อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหว่างสอี ุณหภมู ผิ ิวและสเปกตรัมของดาวฤกษ์
7. อธบิ ายลำดับววิ ฒั นาการทส่ี ัมพันธก์ ับมวลต้งั ตน้ และวเิ คราะห์การเปล่ียนแปลงสมบัติบาง

ประการของดาวฤกษ์

8. อธิบายกระบวนการเกิดระบบสรุ ิยะ และการแบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตยแ์ ละลักษณะของดาว ว 3.1 ม.5/8
เคราะห์ท่เี ออ้ื ต่อการดำรงชวี ติ ว 3.1 ม.5/9
ว 3.1 ม.5/10
9. อธิบายโครงสรา้ งของดวงอาทติ ย์การเกดิ ลมสุรยิ ะ พายุสรุ ยิ ะ และสืบค้นขอ้ มลู วิเคราะห์ ว 3.2 ม.5/1
นำเสนอปรากฏการณห์ รอื เหตุการณ์ทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั ผลของลมสรุ ยิ ะ และพายสุ รุ ิยะที่มีตอ่ โลกรวมทั้ง
ประเทศไทย

10. สืบค้นข้อมลู อธบิ ายการสำรวจอวกาศ โดยใช้กลอ้ งโทรทรรศนใ์ นช่วงความยาวคล่นื ต่าง ๆ
ดาวเทียมยานอวกาศสถานีอวกาศและนำเสนอแนวคดิ การนำความรทู้ างดา้ นเทคโนโลยี
อวกาศมาประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวันหรือในอนาคต

11. อธบิ ายการแบ่งช้นั และสมบัติของโครงสร้างโลก พรอ้ มยกตัวอยา่ งขอ้ มูลท่สี นบั สนนุ

12. อธบิ ายหลักฐานทางธรณีวิทยาทส่ี นบั สนนุ การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี ว 3.2 ม.5/2
13. ระบสุ าเหตแุ ละอธบิ ายรูปแบบแนวรอยต่อของแผ่นธรณที ี่สมั พนั ธก์ บั การเคลือ่ นทขี่ องแผ่นธรณีพร้อม ว 3.2 ม.5/3

ยกตัวอยา่ งหลักฐานทางธรณวี ิทยาทพ่ี บ ว 3.2 ม.5/4
14. อธิบายสาเหตุกระบวนการเกดิ ภูเขาไฟระเบิดรวมทั้งสบื คน้ ข้อมลู พ้นื ที่เสี่ยงภยั ออกแบบและนำเสนอ
ว 3.2 ม.5/5
แนวทางการเฝ้าระวงั และการปฏบิ ัติตนให้ปลอดภยั
15. อธบิ ายสาเหตุกระบวนการเกดิ ขนาดและความรุนแรง และผลจากแผ่นดินไหว รวมทง้ั สืบคน้ ขอ้ มลู ว 3.2 ม.5/6

พื้นทีเ่ สี่ยงภัย ออกแบบและนำเสนอแนวทางการเฝ้าระวงั และการปฏิบัตติ นให้ปลอดภยั ว 3.2 ม.5/7
16. อธิบายสาเหตุกระบวนการเกดิ และผลจากสนึ ามริ วมท้งั สบื ค้นขอ้ มูลพน้ื ท่ีเส่ียงภัย ออกแบบและ ว 3.2 ม.5/8
ว 3.2 ม.5/9
นำเสนอแนวทางการเฝา้ ระวงั และการปฏิบตั ติ นใหป้ ลอดภยั ว 3.2 ม.5/10
17. อธบิ ายปัจจัยสำคญั ท่ีมผี ลต่อการได้รบั พลังงานจากดวงอาทติ ยแ์ ตกตา่ งกันในแตล่ ะบริเวณของโลก ว 3.2 ม.5/11
18. อธิบายการหมุนเวียนของอากาศ ท่เี ปน็ ผลมาจากความแตกต่างของความกดอากาศ
19. อธิบายทศิ ทางการเคลือ่ นทีข่ องอากาศ ทีเ่ ป็นผลมาจากการหมนุ รอบตัวเองของโลก ว 3.2 ม.5/12
20. อธิบายการหมุนเวยี นของอากาศตามเขตละตจิ ูด และผลทมี่ ตี ่อภมู ิอากาศ
21. อธิบายปัจจัยท่ีทำใหเ้ กิดการหมุนเวียนของน้ำผวิ หน้าในมหาสมทุ รและรปู แบบการหมุนเวยี นของน้ำ ว 3.2 ม.5/13

ผิวหน้าในมหาสมทุ ร ว 3.2 ม.5/14
22. อธบิ ายผลของการหมุนเวียนของอากาศและนำ้ ผวิ หน้าในมหาสมุทรทีม่ ตี อ่ ลกั ษณะภมู ิอากาศ ลมฟา้

อากาศ ส่งิ มีชวี ติ และสิง่ แวดลอ้ ม
23. อธบิ ายปจั จยั ท่ีมผี ลตอ่ การเปลย่ี นแปลงภูมิอากาศของโลก พรอ้ มท้ังนำเสนอแนวปฏิบตั เิ พอื่ ลดกจิ กรรม

ของมนุษยท์ ส่ี ่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก
24. แปลความหมายสัญลกั ษณล์ มฟา้ อากาศทีส่ ำคัญจากแผนท่ีอากาศ และนำขอ้ มลู สารสนเทศตา่ ง ๆ มา

วางแผนการดำเนินชีวติ ใหส้ อดคลอ้ งกับสภาพลมฟ้าอากาศ

3) เน้อื หาวชิ า เนอ้ื หาการสอน
ภาคเรียนที่ 2 1. โลกและการเปลี่ยนแปลง
- โครงสรา้ งโลก
ระยะเวลา - ปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา
เน้อื หาการเรยี นก่อนสอบกลางภาค– สอบกลางภาค 2. ธรณีภาค
- แผน่ ธรณภี าคและการเคล่ือนที่
เนื้อหาการเรยี นหลังสอบกลางภาค – สอบปลายภาค - หลกั ฐานและข้อมูลทางธรณีภาค
3. ธรณปี ระวตั ิ
- อายทุ างธรณีวทิ ยา
- ซากดึกดำบรรพ์
- การลำดับชั้นหิน
4. ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ
- การหมนุ เวยี นของระบบลมของโลกและการหมุนเวียน

ของนำ้ ในมหาสมทุ ร
- การแปลความหมายสญั ลักษณ์ลม ฟ้า อากาศ
1. เอกภพ
- กำเนิดเอกภพ
- กาแลก็ ซี
2. ดาวฤกษ์
- ววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์
- ความสวา่ งและอนั ดับความสว่างของดาวฤกษ์
- สแี ละอณุ หภมู ิผิวของดาวฤกษ์
- ระยะห่างของดาวฤกษ์
3. กำเนิดระบบสรุ ยิ ะ
- ทฤษฎกี ารกำเนดิ ของระบบสรุ ยิ ะ
- การแบ่งประเภทดาวเคราะห์
- ดาวเคราะหน์ ้อย
- อุกาบาตร ดาวหาง ดวงอาทติ ย์
4. เทคโนโลยีอวกาศ
- กล้องโทรทัศน์
- ดาวเทียมและยานอวกาศ
- ประโยชนแ์ ละความก้าวหน้าของการสำรวจอวกาศ
- ประเทศไทยกบั ประโยชน์ของการสำรวจอวกาศ

4) วธิ กี ารวัดผลประเมนิ ผล

สดั สว่ นคะแนนการวดั ผลประเมนิ ผล = คะแนนประเมนิ ตามสภาพจริง

( 80 คะแนน ) : คะแนนสอบ ( 20 คะแนน )

การวดั ตัวช้ีวดั รายภาค

ภาคเรยี นที่ ตัวชวี้ ัดรายภาคทีต่ อ้ งการวัด (ข้อท)่ี

2 ว 3.1 ม.5/1, ม.5/2, ม.5/3, ม.5/4, ม.5/5, ม.5/6,

ม.5/7, ม.5/8, ม.5/9, ม.5/10

ว 3.2 ม.5/1, ม.5/2, ม.5/3, ม.5/4, ม.5/5, ม.5/6,

ม.5/7, ม.5/8, ม.5/9, ม.5/10, ม.5/11,

ม.5/12, ม.5/13, ม.5/14

5) รายละเอียดการเกบ็ คะแนน
ภาคเรยี นท่ี 2
การเก็บคะแนนกอ่ นสอบกลางภาค (ประเมนิ ตามสภาพจริง) : 35 คะแนน

ตัวช้ีวัดรายภาคที่ต้องการวัด วิธีการวัด คะแนน
(ขอ้ ท)ี่ 5
ใบงาน เรอ่ื ง โครงสร้างโลก 10
ว 3.2 ม5/1 ใบงาน เร่ือง เปล่ยี นแปลงทางธรณีภาค 5
ว 3.2 ม5/2,ว 3.2 ม5/3 5
ของโลก 5
ว 3.2 ม5/4, ใบงาน เรื่อง การเกิดภเู ขา รอยเลอื่ น 5
รอยคดโค้ง แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด
ว 3.2 ม5/5 ใบงาน เร่ือง แผ่นดินไหว ภเู ขาไฟ

ว 3.2 ม5/6 ระเบดิ ,สึนามิ
ใบงาน เร่ือง ลำดบั ชั้นหนิ ซากดึกดำ
ว 3.2 ม5/8,ว 3.2 ม5/9,ว 3.2 ม5/10,ว
3.2 ม5/11,ว 3.2 ม5/12,ว 3.2 ม5/13,ว บรรพ์
ใบงาน เรอื่ ง ปรากฏการณ์ทาง
3.2 ม5/14
ธรรมชาติ

การเก็บคะแนนหลงั สอบกลางภาค (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ) : 35 คะแนน

ตัวช้วี ดั รายภาคทีต่ อ้ งการวัด วิธกี ารวดั คะแนน
(ข้อท)่ี 5
ใบงาน เร่อื ง เอกภพ 5
ว 3.1 ม5/1,ว 3.1 ม5/2 ใบงาน เร่อื ง กาแลก็ ซแี ละเอกภพ 8
ว 3.1 ม5/3 5
โมเดล กาแลก็ ซีและเอกภพ 4
ว 3.1 ม5/4,ว 3.1 ม5/5,ว 3.1 ม5/6,ว ใบงาน เรอ่ื ง ดาวฤกษ์ 3
3.1 ม5/7 5
ใบงาน เรอ่ื ง ระบบสรุ ยิ ะ
ว 3.1 ม5/8,ว 3.1 ม5/9 ใบงาน เร่อื ง คำนวณความเรว็ ในการ คะแนน
ว 3.1 ม5/10
โคจรของดาวเทยี ม 10
ว 3.1 ม5/10 ใบงานเรอ่ื ง ยานอวกาศและสถานี
คะแนน
อวกาศ
20
การเกบ็ คะแนนจติ พสิ ยั : 10 คะแนน

ตัวชีว้ ัดรายภาคที่ตอ้ งการวดั วธิ กี ารวัด
(ขอ้ ท)่ี
- การสง่ งาน
1-24 - วินัยในการเข้าเรียน
- การตรงตอ่ เวลา
- การต้ังใจเรียน
- แบบสงั เกตพฤตกิ รม

การเกบ็ คะแนนสอบปลายภาค (ประเมินตามสภาพจรงิ ) : 20 คะแนน

ตวั ชีว้ ัดรายภาคท่ีต้องการวดั วิธกี ารวดั
(ข้อที่)
สอบวดั ผลการเรยี นรู้
ว 3.1 ม5/3, ม5/4, ม5/5, ม5/6, ม5/7,
ม5/8, ม5/9, ม5/10

คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน

ว30104 วิทยาศาสตร์ 4 (โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศึกษาวิเคราะห์หลักการการแบ่งชั้นและสมบัติของโครงสร้างโลกอธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยาที่
สนับสนุน การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีรูปแบบแนวรอยต่อของแผ่นธรณีที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ของแผ่น
ธรณีวิทยากระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบิดแผ่นดินไหว และการเกิดสึนามิ ที่ส่งผลต่อสิ่งมี ชีวิตและสิ่งแวดล้อม
ออกแบบทางการเฝ้าระวังและการปฎิบัติตนให้ปลอดภัย อธิบายปัจจยั สำคัญที่มีผลต่อการได้รับพลังงานจากดวง
อาทิตย์การหมุนเวียนของอากาศตามเขตละติจูด และผลที่มีต่อภูมิอากาศการหมุนเวียนของน้ำผิวหน้าใน
มหาสมทุ รลมฟ้าอากาศการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลกนำข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ มาวางแผนการดำเนินชีวิต
ให้สอดคลอ้ งกบั สภาพลมฟ้าอากาศการกำเนดิ และการเปลยี่ นแปลงพลังงานสสาร ขนาด อุณหภูมขิ องเอกภพหลัง
เกิดบิกแบงในช่วงเวลา ต่าง ๆ ตามวิวัฒนาการของเอกภพหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎบี ิกแบงองค์ประกอบของ
กาแล็กซีทางช้างเผือกการเกิดดาวฤกษ์ความส่องสว่างของดาวฤกษ์โชติมาตรของดาวฤกษ์ สีอุณหภูมิผิวและ
สเปกตรัมของดาวฤกษ์วิวัฒนาการของดาวฤกษ์การเกิดระบบสุริยะ และการแบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตย์การ
เกดิ ลมสรุ ยิ ะ พายสุ ุริยะการสำรวจอวกาศ โดยใช้กลอ้ งโทรทรรศน์

โดยใช้กระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล
บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปรายเพือ่ ให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ และสามารถนำเสนอสื่อสารสิ่งท่ี
เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ

เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม
และคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม ตลอดจนมีเจตคติทด่ี ีตอ่ วิชาวทิ ยาศาสตร์

ตัวชวี้ ัด
ว 3.1 ม5/1, ม5/2, ม5/3, ม5/4, ม5/5, ม5/6, ม5/7, ม5/8, ม5/9, ม5/10
ว 3.2 ม5/1, ม5/2, ม5/3, ม5/4, ม5/5, ม5/6, ม5/7, ม5/8, ม5/9, ม5/10, ม5/11, ม5/12, ม5/13, ม5/14

รวมท้ังหมด 24 ตวั ชวี้ ดั

โครงสรา้ งรายวชิ าพนื้ ฐาน

รายวิชา ว30104 วิทยาศาสตร์ 4 (โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ)

ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

อัตราส่วนคะแนน 80 : 20

ลำดบั ท่ี ชือ่ หน่วย มาตรฐานการเรยี นร/ู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก ภาระงาน/
การเรยี นรู้ ตวั ช้ีวดั (ช่ัวโมง) คะแนน ช้นิ งาน

1 โลกและการ ว 3.2 ม.5/1, - โลกเกิดข้นึ ได้ 14 17 - เคร่อื งมือ
เปลยี่ นแปลง ม.5/2, ม.5/3, อย่างไร การสอนคิด

ม.5/4, ม.5/5, - ทฤษฎีกำเนดิ โลก

ม.5/6, ม.5/7 - โครงสร้างโลก

- วฐั จักร ดิน

- ปรากฏการณ์

2 ลมฟา้ อากาศ ว 3.2 ม.5/8, - ฤดกู าล 4 12 - เครอ่ื งมือ
ม.5/9, ม.5/10, - เมฆ การสอนคิด

ม.5/11, ม.5/12, - การเกิดฝน, ลม, พายุ

ม.5/13, ม.5/14 - พยากรณ์อากาศ

3 กำเนดิ เอกภพและ ว 3.1 ม.5/1 - ซูปเปอร์โนวา 14 34 - เครื่องมือ
- ทฤษฎีบิกแบง การสอนคิด
ระบบสรุ ิยะ ม.5/2, ม.5/3,

ม.5/4, ม.5/5, - เนบวิ ลา่

ม.5/6, ม.5/7, - หลุมดำ

ม.5/8, ม.5/9 - กำเนิดและทม่ี าของกา
แล็กซ่ี

- ลกั ษณะของกาแลก็ ซี่
ตา่ ง ๆ ท่สี ำคญั

- ประเภทของกาแล็กซี่

- กาแล็กซี่

ทางชา้ งเผอื ก

ลำดบั ท่ี ช่อื หน่วย มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก ภาระงาน/
การเรียนรู้ ตวั ชว้ี ดั (ชว่ั โมง) คะแนน ช้นิ งาน
- กำเนดิ ดาวฤกษ์
4 เทคโนโลยอี วกาศ ว 3.1 ม.5/10 - จุดจบของดาวฤกษ์ 8 17 - เคร่ืองมือ
ดาวเทยี ม และ - อันดบั ความสวา่ ง การสอนคิด
ยานอวกาศ และโชตมิ าตราของ
ดาวฤกษ์ 38 80
รวม - สีและอณุ หภูมิของ 2 20
ปลายภาค ดาวฤกษ์ 40 100
รวมทงั้ หมด - กำเนดิ ระบบสรุ ยิ ะ
- ดาวในระบบสรุ ยิ ะ
- เทคโนโลยีอวกาศ
- ดาวเทียม
- จรวด
- กระสวยอวกาศ
- การดำรงชีวิตในยาน
อวกาศ

- เทคโนโลยอี วกาศ - โลกเกดิ ข้นึ ได้อย่างไร
- ดาวเทยี ม - ทฤษฎีกำเนดิ โลก
- จรวด - โครงสรา้ งโลก
- กระสวยอวกาศ - วัฏจักร ดิน
- การดำรงชวี ติ ในยานอวกาศ - ปรากฏการณ์

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1
เทคโนโลยอี วกาศ โลกและการเปล่ียนแปลง

ว30104 วทิ ยาศาสตร์ 4 ( โลก ดาราศาสตร์ อวกาศ )
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5

เวลา 40 ช่วั โมง 1.0 หนว่ ยกติ

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2
กำเนดิ เอกภพและระบบสุรยิ ะ ลม ฟา้ อากาศ

- ซูปเปอร์โนวา - ฤดูกาล
- ทฤษฎบี กิ แบง - เมฆ
- เนบวิ ล่า - การเกิดฝน, ลม, พายุ
- หลุมดำ - พยากรณ์อากาศ
- กำเนดิ และท่มี าของกาแลก็ ซ่ี
- กำเนดิ ดาวฤกษ์
- จุดจบของดาวฤกษ์
- อนั ดบั ความสวา่ งและโชติ

มาตราของดาวฤกษ์
- สีและอุณหภูมิขิงดาวฤกษ์
- กำเนดิ ระบบสรุ ิยะ
- ดาวในระบบสรุ ยิ ะ

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 1 หนว่ ยย่อยที่ 1
ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ โลกและการเปลย่ี นแปลง เวลา 2 ช่ัวโมง
เรอ่ื ง กำเนดิ โลก ผู้สอน นางสาวจริ ภญิ ญา ยอดวงศ์
วันทีท่ ำการสอน...................เดือน....................................พ.ศ. ……………....

1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด
การศึกษาโครงสร้างโลกใช้ข้อมูลหลายด้านเช่น ว 3.2 ม.5/1 อธบิ ายการแบ่งช้นั และสมบัติของโครงสรา้ งโลก พร้อม
ยกตัวอย่างข้อมูลท่ีสนบั สนนุ
องค์ประกอบทางเคมขี องหินและแร่องค์ประกอบทางเคมีของอกุ
กาบาต ข้อมูลคลื่นไหวสะเทือนที่เคลื่อนที่ผ่านโลกจึงสามารถ
แบ่งชั้น โครงสร้างโลกได้๒แบบ คือโครงสร้างโลกตาม
องคป์ ระกอบทางเคมี และ โครงสร้างโลกตามสมบตั ิเชงิ กล

3. สาระการเรียนรู้ 4. ช้นิ งาน/ภาระงาน
- กำเนิดโลก - ใบงาน Mind Mapping เรื่อง กำเนดิ โลก
- ใบงานเรอื่ งโครงสร้างของโลก (ตามแนวPISA)

5. สมรรถนะของผู้เรียน 6. เครือ่ งมือการคดิ
- ความสามารถในการคดิ - Mind Mapping
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - six thinking hats (White Hat)

กจิ กรรมการเรยี นรู้

7. ข้ันของกิจกรรม 8.ส่ือ 9.วธิ ีการวดั ผล

Do Now (3 นาท)ี - ใบงาน Mind - ประเมินใบงาน

“บอกสิง่ ทีเ่ ห็นบนท้องฟา้ คนละ 1 อยา่ งโดยไมซ่ ำ้ กัน” Mapping เร่อื ง กำเนดิ Mind Mapping

Purpose (2 นาท)ี โลก เรอื่ ง กำเนิดโลก

“เราจะเรียนเร่ืองการกำเนิดโลกของเรา เพื่อให้นกั เรียนสืบค้นและอธิบายทีม่ าของการ

กำเนดิ โลกการแบ่งชน้ั และสมบัติของโครงสรา้ งโลก ได้” - วดี โี อเรอ่ื งโลก - ประเมินใบงาน

Work mode (110 นาท)ี https://www.youtub เรื่องโครงสร้างของ

1. ครูใหน้ กั เรียนจับกลมุ่ 3-5 คน แล้วให้นักเรยี นดูคลิปวดิ โี อเรื่อง การกำเนิดโลก (10 e.com/watch?v=8cA โลก (ตามแนวPISA)

นาที) zSdUIq5E

2. นักเรยี นตอบคำถามดังนี้ “โลกมาจากไหน” (ตามทฤษฏีบิกแบง ในยคุ เริม่ แรก

จกั รวาลมีขนาดเล็ก เมือ่ จกั รวาลเย็นตัวลงจนกลายเปน็ โลก) - สื่อการสอนPower

(White Hat) (5 นาที) point เรอื่ ง กำเนดิ โลก

3. นักเรียนฟังครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ เรื่อง กำเนดิ โลก โดยใช้สอ่ื Power point (15 นาท)ี

4. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ สบื คน้ และศกึ ษาขอ้ มลู เรื่อง การกำเนิดโลก จาก หนงั สอื และจาก

แหล่งข้อมูลตา่ งๆ และสรุปความรใู้ นรปู แบบผังมโนทศั นล์ งในใบงาน Mind

mapping เรอ่ื ง การกำเนดิ โลก (คดิ 9 : คิดเชงิ มโนทัศน์) (สมรรถนะ 4) (พอเพียง 3

การมีภมู คิ ุม้ กันท่ดี ีในตัว) (25 นาที) - ใบงานเรอ่ื งโครงสรา้ ง
5. นกั เรยี น(ตัวแทนโดยการสุ่ม)ออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรียน และอภปิ ราย ของโลก (ตามแนวPISA)

ผลงานร่วมกัน เรื่อง การกำเนดิ โลก (คดิ 3 : คดิ วพิ ากย์) (สมรรถนะ 3) (10นาที)

6. นักเรยี นทำ ใบงาน เรื่อง โครงสรา้ งของโลก (ตามแนวPISA) (20 นาท)ี
7. นักเรยี นแตล่ ะ่ กลุ่มนำเสนอผลงานของตนเอง (10 นาที)
8. นักเรียนตอบคำถาม “ความแตกตา่ งของเปลอื กโลกที่ปกคลมุ มหาสมุทรและทวปี

พิจารณาจากตวั บ่งชี้อะไรบา้ ง” (ตวั บ่งชีค้ วามแตกตา่ งของเปลือกโลกทงั้ 2 สว่ น
พิจารณาจากอายุ ความหนา ความหนาแน่น และส่วนประกอบ) (10 นาที)
9. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั อภิปรายเรอ่ื ง โลก และการกำเนิดโลก (5 นาที)

Reflective Thinking (5 นาท)ี
1. บอก 1 สง่ิ ท่ีนักเรยี นไดร้ บั ความรูอ้ ะไรบา้ งจากคาบน้ี (2 นาที)
2. ขอ้ สอบ pre o-net (3 นาที)

ข้อสอบ pre o-net 2553

1. บรรยากาศของโลกมีก๊าซใดมากท่ีสุด
1. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
2. แกส๊ ไนโตรเจน
3. แก๊สออกซเิ จน
4. แก๊สอาร์กอน

2. นักวิทยาศาสตรส์ ามารถแบ่งชนั้ บรรยากาศของโลกไดเ้ ป็นกี่ชัน้

1. 6 ชน้ั
2. 5 ชน้ั
3. 4 ชน้ั
4. 3 ชน้ั

ข้อสอบ pre o-net 2553 อ้างองิ อ้างอิง https://campus.campus-star.com/onet/28122.html

ใบงาน Mind mapping เร่อื ง การกำเนดิ โลก

แบบประเมนิ ใบงาน Mind mapping

คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมิน
กำหนดตามตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Mind mapping

ชอ่ื -สกุล รปู แบบ เนอื้ หา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรปุ ผลการ
ลำดับที่ ของผ้รู ับการ (4) (4) (4) สวยงาม เวลา 20 คะแนน ประเมิน ผ่าน/
(4)
ประเมนิ (4) ไมผ่ า่ น

ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

18 - 20 ดีมาก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ำกวา่ 10 ปรบั ปรุง

นักเรียนได้ระดับคณุ ภาพที่ พอใช้ ข้นึ ไปถือว่า ผ่าน

ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน Mind mapping

เกณฑ์การ ระดบั การประเมิน

ประเมนิ 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง)

รปู แบบ - เขียนความคดิ รวบยอดหลัก - เขยี นความคดิ รวบยอด - เขียนความคดิ รวบยอดหลัก - เขียนความคิดรวบยอดหลกั

ไว้ตรงกลาง หลักไวต้ รงกลาง ไวต้ รงกลาง ไวต้ รงกลาง

- มกี ง่ิ แกว้ กงิ่ ก้อย และกิ่ง - มกี ่งิ แก้ว กิ่งก้อย และก่ิง - มีกง่ิ แก้ว กิง่ กอ้ ย และกง่ิ - มีก่งิ แก้ว ขาดก่ิงก้อย แต่

ยอ่ ยตามลำดับ ยอ่ ยตามลำดับ ย่อยตามลำดบั ขาดกิ่งยอ่ ย

- ตวั หนังสอื อยูบ่ นเส้น - ตวั หนังสืออย่บู นเสน้ - ใชส้ ีสนั ท่ัวแผ่น - ใชส้ สี นั ไม่ท่วั แผน่

- ใชค้ ำสำคัญตรงประเด็น - ใช้คำสำคัญตรงประเดน็

- ใชส้ ัญลักษณห์ รือภาพสื่อ - ใช้สสี ันทวั่ แผ่น

ความหมาย

- ใชส้ ีสนั ทัว่ แผน่

เนอ้ื หา - เนือ้ หาครบถ้วนตามสาระท่ี - เนื้อหาถกู ต้องตามสาระท่ี - เนื้อหาถูกตอ้ งตามสาระที่ - เน้ือหาถกู ตอ้ งตามสาระที่

กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดต่ำว่า 59%

- เขียนถูกต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถกู ต้องตามหลักภาษา - เขยี นถูกต้องตามหลักภาษา - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา

100% 80-99% 60-79% ตำ่ ว่า 59%

- ลำดบั หวั ขอ้ เน้ือหาชดั เจน - ลำดับหวั ข้อเนือ้ หาชัดเจน - มีการสรุปได้อย่าง - มีการสรุปไมส่ มเหตสุ มผล

- มีการสรปุ ไดอ้ ยา่ ง - มกี ารสรปุ ไดอ้ ยา่ ง สมเหตสุ มผล 60-79% ต่ำว่า 59%

สมเหตสุ มผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%

การนำเสนอ - พดู ชัดเจนเสยี งดังฟงั ชัด - พูดชดั เจนเสยี งดังฟังชัด - การพดู เหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้

- ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ ง

อกั ขระ100% อกั ขระ80-99% อักขระ60-79% ตามอักขระต่ำวา่ 59%

- บุคลิกภาพดแี ละมคี วาม - บคุ ลิกภาพดี - บุคลิกภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม

ม่ันใจ - ความพรอ้ มในการนำเสนอ

- มีการใชส้ ื่อประกอบการ ไดบ้ างส่วน

นำเสนอ

- ความพรอ้ มในการนำเสนอ

ความสวยงาม - ใช้สีสันสวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงามและมคี วาม - ใช้สสี ันสวยงามหรอื เป็นไป

- มีความสะอาด - มีความสะอาด สะอาด ตามเกณฑอ์ ย่างใดอย่าง

- มีความคดิ สร้างสรรค์ - มคี วามคิดสร้างสรรค์ หนึง่

- ความเป็นระเบียบอ่านง่าย

การตรงตอ่ ส่งผลงานครบถ้วน ตรงตาม สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้ กว่า สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ ้ากวา่ ส่งผลงานครบถว้ น แต่ช้ากว่า

เวลา เวลาทก่ี ำหนด เวลาท่กี ำหนด 5 นาที เวลาทก่ี ำหนด 10 นาที เวลาท่ีกำหนด 15 นาที

ใบงานเรื่องโครงสร้างของโลก (ตามแนวPISA)
อา่ นถ้อยความตอ่ ไปนแี้ ล้วตอบคำถาม

คำถามท่ี 1 (2 คะแนน) คำตอบ
โลกชน้ั ใดมีความหนามากที่สุด คำตอบ
1. น้ำทเ่ี ป็นน้ำแข็งละลายหินทร่ี อ้ น
2. น้ำทำใหห้ ินเช่อื มตดิ กนั
3. นำ้ แขง็ ขดั ผวิ หน้าหนิ ของใหร้ าบเรียบ
4. นำ้ ทีก่ ำลังแข็งตัวจะขยายตวั ในรอยแตกของหิน
ขอ้

(สมรรถนะ : การอธิบายปรากฎการเชงิ วิทยาศาสตร์)
คำถามท่ี 2 (2 คะแนน)

หากเปลือกโลกมหาสมทุ รมดุ ตวั ลงใต้เปลอื กโลก
1. ภเู ขาไฟและแผ่นดนิ ไหว
2. แผ่นดนิ ไหว
3. สนึ ามิ
4. พายุหมุน

ขอ้

(สมรรถนะ : การอธิบายปรากฎการเชิงวทิ ยาศาสตร์
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน / แนวคำตอบ

คำถามที่ 1 (2 คะแนน)
ข้อ คำตอบ
3 น้ำแขง็ ขัดผิวหนา้ หนิ ของใหร้ าบเรยี บ

คำถามท่ี 2 (2 คะแนน)

ขอ้ คำตอบ
1 ภูเขาไฟและแผ่นดินไหว

เกณฑก์ ารให้คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ

4 ดีมาก

3 ดี

2 พอใช้

0-1 ปรับปรุง

นักเรียนได้ระดบั คุณภาพ พอใช้ ขึ้นไปถือว่า ผา่ น

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 หนว่ ยย่อยท่ี 1
ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ โลกและการเปลี่ยนแปลง เวลา 2 ชั่วโมง
เร่ือง แผน่ ธรณภี าคและการเคลอ่ื นที่ ผูส้ อน นางสาวจริ ภิญญา ยอดวงศ์
วันทท่ี ำการสอน...................เดือน....................................พ.ศ. ……………....

1. สาระสำคญั 2. มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
นักธรณีวิทยาได้แบ่งโลกออกเป็น 3 ส่วน และเชื่อว่าพ้ืน ว 3.2 ม.5/2 อธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยาที่สนับสนุน การ
แผ่นดินในอดีตเคยรวมกันเป็นแผ่นเดียว เรียกว่า เคลอ่ื นที่ของแผน่ ธรณี
พันเจีย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาค จึงทำให้ ว 3.2 ม.5/3 ระบุสาเหตุและอธิบายรูปแบบแนวรอยต่อของแผ่น
แผน่ ดินแยกกนั เปน็ ทวีปต่างๆ ธรณีที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีพร้อมยกตัวอย่าง
หลักฐานทางธรณวี ทิ ยาทพ่ี บ

3. สาระการเรียนรู้ 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน
- แผน่ ธรณภี าคและการเคล่อื นท่ี - ใบงาน KWL เร่ือง แผน่ ธรณภี าคและการเคลือ่ นท่ี
- เกม ทฤษฎีการแบ่งสณั ฐานแผน่ ธรณี

5. สมรรถนะของผ้เู รยี น 6. เคร่อื งมือการคิด
- ความสามารถในการคดิ - KWL
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรียนรู้

7. ขั้นของกจิ กรรม 8.ส่อื 9.วธิ กี ารวัดผล

Do Now (3 นาท)ี - ใบงาน KWL เรอ่ื ง - ประเมนิ ใบงาน KWL

“บอกช่ือทวีปทน่ี กั เรียนรู้จกั คนละ 1 ทวปี ” แผน่ ธรณภี าคและการ เรื่อง แผ่นธรณีภาค

Purpose (2 นาท)ี เคล่อื นที่ และการเคลอ่ื นที่

“เราจะเรียนเรื่อง แผ่นธรณีภาคและการเคลื่อนท่ี เพื่อให้นักเรียนสามารถระบุสาเหตุ

และอธิบาย การเล่ือนตวั ของแผ่นธรณภี าคได้” - สื่อการสอน Power - ประเมินผลงานการ

Work mode (110 นาท)ี แผ่นธรณีภาคและการ นำเสนอผลงานกลุ่ม

1. นักเรียนทำใบงาน KWL เรื่อง แผ่นธรณีภาคและการเคลื่อนท่ี แล้วตอบคำถาม “นัก เคล่อื นท่ี เกม ทฤษฎีการแบ่ง

เรยี นรอู้ ะไรบ้างเกยี่ วกับ แผน่ ธรณภี าคและการเคลอื่ นท่ี” ใส่ลงในช่อง K (15 นาที) สณั ฐานแผน่ ธรณี

2. นักเรียนทำใบงาน KWL เรื่อง แผ่นธรณีภาคและการเคลื่อนที่ แล้วตอบคำถาม

“นักเรียนอยากทราบอะไรเกี่ยวกับแผ่นธรณีภาคและการเคลื่อนท่ี”ใส่ลงในช่อง W

(พอเพยี ง 2 ความมีเหตผุ ล) (15 นาที)

3. นกั เรียนฟังครูใหค้ วามรู้เร่ืองแผ่นธรณีภาคและการเคล่ือนท่ี โดยใชส้ ่ือ Power point

เรื่อง แผน่ ธรณภี าคและการเคลอ่ื นที่ (15 นาที) - เกม ทฤษฎกี ารแบง่
4. นักเรียนเลน่ เกม ทฤษฎกี ารแบง่ สณั ฐานแผ่นธรณี โดยครจู ะมอบภาพแผนท่ีของทวีป สณั ฐานแผ่นธรณี

ต่าง ๆ ให้กับนักเรียนแตล่ ะกลุ่ม โดยมีกตกิ าว่า ให้นักเรียนตดั และนำภาพแผนที่ของ

ทวีปต่างๆ ที่กำหนด มาต่อกันแบบจิกซอว์ให้ถูกต้อง ภายในเวลา 5 นาที กลุ่มใด

เรียงได้ถูกต้องมากที่สุดและเร็วที่สุดจะเป็นกลุ่มที่ชนะ (คิด 5 คิดแก้ปัญหา)
(สมรรถนะ 4) (25 นาที)
5. นกั เรยี น(ตัวแทนโดยการสุม่ )ออกมานำเสนอผลงานหน้าช้นั เรยี น และอภิปรายผลงาน
ร่วมกนั เรื่อง เกมทฤษฎกี ารแบ่งสัณฐานแผ่นธรณี (คิด 3 : คดิ วพิ ากย)์ (สมรรถนะ 3)
(25 นาที)
6. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปว่า “ได้รับความรู้อะไรบ้างจากการเรียนการสอนใน
วนั น”ี้ ลงในช่อง L ของใบงาน KWL เรอ่ื ง แผ่นธรณีภาคและการเคล่อื นท่ี (15 นาที)
ReflectiveThinking (5นาที)
1. บอก 1 สิ่งที่นักเรยี นไดร้ ับจากการเรยี นในชั่วโมงน้ี (2 นาที)
2. ข้อสอบ O-NET ปี 2550 จำนวน 2 ขอ้ (3 นาที)

ขอ้ สอบ O-NET 2553

1.ตามทฤษฏที วีปเลื่อน ผนื แผนดนิ ทงั้ หมดบนโลกเดิมเปน็ แผ่นเดยี วกัน มชี ื่อเรยี กวา่ อะไร
1. ทวปี
2. ธรณภี าค
3. ยูเรเชีย
4. พันเจีย

2. ตามทฤษฏที วีปเลื่อน มหาสมุทรท่ีลอ้ มรอบพันเจยี มชี อ่ื เรยี กว่าอะไร
1.โอเช่ียน
2.พันทาลสั ซา
3.กอนดว์ านา
4.แอนตาร์กติกา

ทมี่ า : ขอ้ สอบ O-NET 2553 อา้ งองิ อา้ งองิ https://campus.campus-star.com/onet/28122.html

ใบงาน KWL

เรือ่ ง แผน่ ธรณีภาคและการเคล่อื นท่ี ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี.................

ชือ่ ..................................................สกลุ ..........................................ชนั้ .........................เลขท่.ี ....................

คำชี้แจง นักเรยี นบันทกึ ความรทู้ ี่ได้ ลงในตารางต่อไปนี้พรอ้ มทง้ั เขียนสรุปความ ลงในบรรทัดที่วา่ งขา้ งล่าง
ของแบบบนั ทกึ

K(นกั เรยี นรู้อะไร) W(นักเรียนต้องการรู้อะไร) L(นกั เรียนได้เรียนรูอ้ ะไร)

…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………………………………………...

แบบประเมนิ ผลงานใบงาน KWL

คำชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี น ใหท้ ำเครื่องหมาย✓ลงในช่องรายการประเมนิ กำหนด

ลำดับที่ ชอ่ื -สกุล การแสดง ครอบคลมุ ผลสำเร็จ ตรงต่อเวลา ความ สรุปผล
ของผู้รบั การประเมนิ ความคิดเหน็ เนอื้ หา ของงาน สะอาด รวม การ
เรยี บร้อย 20 ประเมนิ
ถกู ต้อง คะแนน ผา่ น/ไม่
ชดั เจน

4321 4321 432 14321 4321 ผา่ น

ลงชื่อ .................................................... ผปู้ ระเมิน
................/................/................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 4 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดีมาก
ให้ 1 คะแนน
14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ตำ่ กวา่ 10 ปรบั ปรุง

นกั เรียนได้ระดบั คณุ ภาพที่ พอใช้ ข้ึนไปถอื วา่ ผา่ น

ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน KWL

เกณฑ์การ ระดบั การประเมิน
ประเมนิ
4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
การแสดง
ความคดิ เห็น - แสดงความคดิ เห็นในช่อง K - แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง K - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง K - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง K
ได้ 10 ข้อคำถามข้ึนไป ได้ 9-10 ข้อคำถาม ได้ 7-8 ข้อคำถาม ได้ นอ้ ยกวา่ 7 ขอ้

- แสดงความคิดเห็นในช่อง - แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง - แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง
W ได้ 10 ข้อคำถามข้นึ ไป W ได้ 9-10 ข้อคำถาม W ได้ 7-8 ข้อคำถาม W ได้ น้อยกวา่ 7 ข้อ

- แสดงความคิดเหน็ ในช่อง L - แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง L - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง L - แสดงความคิดเหน็ ในช่อง L
ได้ 10 ขอ้ คำถามข้นึ ไป ได้ 9-10 ข้อคำถาม ได้ 7-8 ขอ้ คำถาม ได้ น้อยกวา่ 7 ข้อ

เนอื้ หา - เนื้อหาครบถว้ นตามสาระที่ - เน้ือหาถูกตอ้ งตามสาระท่ี - เน้ือหาถูกต้องตามสาระที่ - เน้อื หาถูกตอ้ งตามสาระที่

กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดต่ำว่า 59%

- เขียนถกู ตอ้ งตามหลักภาษา - เขยี นถกู ต้องตามหลกั ภาษา - เขียนถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลักภาษา

100% 80-99% 60-79% ต่ำว่า 59%

- ลำดับหัวข้อเน้อื หาชัดเจน - ลำดบั หวั ข้อเนื้อหาชัดเจน - มีการสรุปได้อยา่ ง - มกี ารสรปุ ไมส่ มเหตสุ มผล

- มกี ารสรุปไดอ้ ยา่ ง - มีการสรปุ ได้อยา่ ง สมเหตสุ มผล 60-79% ต่ำว่า 59%

สมเหตสุ มผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%

การนำเสนอ - พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟังชัด - พดู ชัดเจนเสียงดงั ฟงั ชัด - การพดู เหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้

- ใชภ้ าษาทางการถูกต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง

อกั ขระ100% อกั ขระ80-99% อักขระ60-79% ตามอกั ขระต่ำวา่ 59%

- บุคลิกภาพดแี ละมีความ - บคุ ลิกภาพดี - บคุ ลิกภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม

มั่นใจ - ความพร้อมในการนำเสนอ

- มีการใชส้ อ่ื ประกอบการ ไดบ้ างส่วน

นำเสนอ

- ความพรอ้ มในการนำเสนอ

ความสวยงาม - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใช้สสี นั สวยงามและมคี วาม - ใชส้ ีสันสวยงามหรอื เป็นไป

- มคี วามสะอาด - มีความสะอาด สะอาด ตามเกณฑอ์ ยา่ งใดอย่าง

- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ - มีความคิดสร้างสรรค์ หนงึ่

- ความเปน็ ระเบยี บอ่านงา่ ย

การตรงต่อ สง่ ผลงานครบถว้ น ตรงตาม ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ ้ากวา่ สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ช้ากวา่ ส่งผลงานครบถ้วน แต่ช้ากวา่

เวลา เวลาทีก่ ำหนด เวลาที่กำหนด 5 นาที เวลาท่กี ำหนด 10 นาที เวลาทก่ี ำหนด 15 นาที

ใหน้ กั เรยี นตัดแผนที่ตอ่ ไปนี้ แลว้ นำมาตอ่ กนั แบบจิกซอว์ ตามหลักทฤษฎกี ารแบง่ สณั ฐานแผน่ ธรณี สกั
เกตดูว่า ตำแหน่งใดทตี่ ่อกันไดส้ นดิ พอดี



เม่อื ต่อกนั เสร็จจะไดภ้ าพดงั น้ี

แบบประเมินผลงานการนำเสนอผลงานกลุ่ม

ชือ่ สมาชิกกลุ่ม
1....................................................................................................ชนั้ ....................เลขท.ี่ ...........................
2....................................................................................................ช้นั ....................เลขท.่ี ...........................
3....................................................................................................ชั้น ....................เลขท่.ี ...........................
4....................................................................................................ช้นั ....................เลขท.ี่ ...........................
5....................................................................................................ชั้น ....................เลขท่ี............................

คำชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมนิ การนำเสนอผลงานตามรายการทีก่ ำหนด แล้วขดี ✓ ลงในช่องท่ตี รงกับระดบั

คะแนน

ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
4321

1 เน้ือหา
2 ส่อื สวยงาม น่าสนใจ
3 การแบง่ หน้าท่ีภายในกลุ่ม
4 การตอบคำถาม
5 การนำเสนองาน

รวม

ลงช่ือ .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน 18 – 20 คะแนน ระดบั คุณภาพ ดมี าก
ชว่ งคะแนน 14 – 17 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ ดี
ช่วงคะแนน 10 – 13 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ชว่ งคะแนน 5 – 9 คะแนน ระดับคณุ ภาพ ปรับปรงุ

เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน
นกั เรยี นไดร้ ะดับคณุ ภาพท่ี พอใช้ ข้ึนไป ผา่ น

เกณฑก์ ารให้คะแนน

เกณฑก์ าร เกณฑ์การใหค้ ะแนน

ประเมนิ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรงุ )

เน้อื หา - เน้อื หาครบถ้วนตามสาระที่ - เนื้อหาถกู ตอ้ งตามสาระที่ - เนอื้ หาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระท่ี

กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดต่ำวา่ 59%

- เขียนถูกตอ้ งตามหลักภาษา - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั - เขยี นถูกต้องตามหลกั - เขียนถูกตอ้ งตามหลกั

100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตำ่ ว่า 59%

- ลำดับหวั ข้อเนอื้ หาชัดเจน - ลำดบั หัวขอ้ เนอ้ื หาชดั เจน - มีการสรุปได้อย่าง - มีการสรปุ ไม่
สมเหตสุ มผลตำ่ วา่
- มกี ารสรปุ ได้อย่าง - มกี ารสรุปไดอ้ ย่าง สมเหตสุ มผล 60-79%

สมเหตสุ มผล สมเหตสุ มผล 80-99% 59%
100%

สอ่ื สวยงาม สือ่ สวยงาม น่าสนใจ สื่อสวยงาม ไม่น่าสนใจ สอ่ื สวยงาม ไม่นา่ สนใจ มี สอื่ ไมส่ วยงาม ไม่น่าสนใจ

น่าสนใจ ตวั หนังสอื อ่านง่าย และมี ตวั หนังสอื อา่ นง่าย และมี ตวั หนงั สอื จำนวนมาก และมี มีตัวหนงั สอื จำนวนมาก

รูปภาพประกอบ รูปภาพประกอบ รูปภาพประกอบ และไมม่ รี ูปภาพประกอบ

การแบง่ หน้าท่ี มีการแบ่งหน้าทก่ี นั อย่าง มีการแบ่งหนา้ ท่กี ันอย่าง มีการแบง่ หน้าทีก่ นั อยา่ ง ไม่มกี ารแบ่งหน้าทกี่ ันอย่าง

ภายในกล่มุ ชัดเจนมีความรบั ผดิ ชอบงาน ชัดเจนมคี วามรบั ผดิ ชอบ ชดั เจนไมร่ ับผดิ ชอบงานตาม ชดั เจนไมร่ ับผดิ ชอบงาน

ตามบทบาทหน้าที่ งานตามบทบาทหน้าท่เี ป็น บทบาทหน้าที่ ตามบทบาทหนา้ ที่

สว่ นใหญ่

การตอบคำถาม สามารถตอบคำถามได้ สามารถตอบคำถามได้ สามารถตอบคำถามได้ สามารถตอบคำถามได้

ถกู ต้องมากกวา่ 8 ขอั ขนึ้ ไป ถูกต้อง 5-7 ขัอ ถกู ต้อง 3-4 ขัอ ถกู ต้อง 1-2 ขัอ

การนำเสนอ - พูดชัดเจนเสยี งดงั ฟังชัด - พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟงั ชัด - การพดู เหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้
- ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ ง

ตามอกั ขระ100% ตามอกั ขระ80-99% ตามอกั ขระ60-79% ตามอกั ขระต่ำว่า 59%
- บุคลกิ ภาพดแี ละมีความ - บุคลิกภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม

ม่ันใจ - ความพร้อมในการ
- มีการใชส้ ื่อประกอบการ นำเสนอไดบ้ างส่วน

นำเสนอ
- ความพรอ้ มในการ

นำเสนอ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 หนว่ ยย่อยที่ 1
ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ โลกและการเปลยี่ นแปลง เวลา 2 ชว่ั โมง
เร่ือง หลักฐานและข้อมลู ทางธรณี ผสู้ อน นางสาวจริ ภญิ ญา ยอดวงศ์
วนั ที่ทำการสอน...................เดอื น....................................พ.ศ. ……………....

1. สาระสำคญั 2. มาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั
จากข้อมูลทางธรณีวิทยาในด้านต่างๆ จากหลักฐานการ ว 3.2 ม.5/2 อธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยาที่สนับสนุน การ
เปลีย่ นแปลงทางธรณภี าค และการค้นพบซากดกึ ดำบรรพ์ของ เคลอ่ื นทขี่ องแผ่นธรณี
พืชและสัตว์ชนิดเดียวกันและอายุเดียวกันในทวีปต่างๆ ที่อยู่
ห่างไกลกัน ทำให้เชื่อว่าทวีปต่างๆ ในปัจจุบันแต่เดิมเป็น
แผ่นดินผืนเดียวกันแล้วค่อยๆ แยกออกจากกัน นักเรียนจะได้
ศึกษาแนวความคดิ ของนกั ธรณีวทิ ยาเกี่ยวกับหลกั ฐานต่างๆ

3. สาระการเรียนรู้ 4. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- หลกั ฐานและข้อมลู ทางธรณี - ใบงาน Diagram เรอื่ ง หลกั ฐานและข้อมลู ทางธรณี
- ใบงานเรื่องการแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี (ตามแนวPISA)

5. สมรรถนะของผู้เรียน 6. เคร่ืองมือการคดิ
- ความสามารถในการคดิ - Diagram
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

กิจกรรมการเรียนรู้

7. ขั้นของกจิ กรรม 8.สือ่ 9.วธิ กี ารวดั ผล

Do Now (3 นาท)ี - ใบงาน Diagram เร่ือง - ประเมนิ ใบงาน

“บอกวธิ ีทีส่ ามารถทราบอายุของซากดึกดำบรรพได้คนละ 1 อยา่ งหา้ มซำ้ กนั ” หลกั ฐานและข้อมลู ทาง Diagram เรือ่ ง

Purpose (2 นาท)ี ธรณี หลกั ฐานและ

“เราจะเรียนเรื่อง หลักฐานและข้อมูลทางธรณี เพื่อให้นักเรียนอธิบายถึงหลักฐานและ ขอ้ มลู ทางธรณี

ขอ้ มลู ทางธรณีได้” - วีดีโอเรื่องหลักฐาน

Work mode (110 นาท)ี และข้อมูลทางธรณี - ประเมนิ ใบงาน

1. นกั เรียนดูวดี โี อเรื่องหลกั ฐานและขอ้ มลู ทางธรณี (15 นาที) https://www.youtub เรือ่ งการแปร

2. นกั เรยี นตอบคำถาม “ เราจะรไู้ ดอ้ ยา่ งไรว่าผนื แผ่นเดนิ เคยเป็นแผน่ ดินเดยี วกนั มา e.com/watch?v=3Vo สณั ฐานของแผน่

ก่อน” (จากขอ้ มลู ทางธรณวี ทิ ยาในด้านตา่ งๆ จากหลักฐานการเปลยี่ นแปลงทางธรณี pQ4kb5i4 ธรณี (ตามแนว

ภาค และการค้นพบซากดกึ ดำบรรพ์ของพชื และสัตว์ชนิดเดยี วกันและอายุเดียวกนั ใน PISA)

ทวีปตา่ งๆ (10 นาที)

3. นักเรยี นฟงั ครูให้ความรเู้ รื่องแผ่นธรณภี าคและการเคลอื่ นท่ี โดยใชส้ อื่ Power point

เรอื่ ง หลักฐานและขอ้ มูลทางธรณี (10 นาที)

4. นกั เรยี นทำกิจกรรมกลมุ่ ศกึ ษาข้อมูลความรเู้ รอื่ ง หลกั ฐานและข้อมลู ทางธรณี โดยจะ

มีหวั ข้อ 1) รอยตอ่ ของแผ่นทวปี 2) รอยแยกของแผ่นธรณภี าคและอายหุ ินบนเทือกเขา

กลางมหาสมทุ ร 3) การคน้ พบซากดกึ ดำบรรพ์ 4) หลักฐานอืน่ ๆ จากแหลง่ ข้อมูลตา่ งๆ

ตามหวั ข้อท่ีไดร้ บั มอบหมาย (สมรรถนะ 4) (พอเพยี ง 3 การมีภูมคิ ้มุ กันที่ดใี นตวั ) - สื่อการสอน Power

(15 นาที ) point เรอ่ื ง หลกั ฐาน

5. นกั เรยี น สรุปความรใู้ นรปู แบบแผนผัง ลงในใบงาน Diagram เรอ่ื ง หลกั ฐานและข้อมูล และข้อมลู ทางธรณี

ทางธรณี (คิด 9 : คิดเชงิ มโนทัศน์) (25 นาที)

6. นักเรยี นนำเสนอผลงาน Diagram เรอ่ื ง หลักฐานและข้อมูลทางธรณี (สมรรถนะ 3)

(15 นาที)

7. นกั เรียนทำใบงาน เร่ือง การแปรสณั ฐานของแผ่นธรณี (ตามแนวPISA) (10 นาที)

8. นกั เรียนและครรู ว่ มกันอภปิ รายความรู้เรอื่ ง หลักฐานและขอ้ มลู ทางธรณี

(10 นาที) - ใบงานเรอื่ งการแปร
ReflectiveThinking (5 นาที) สัณฐานของแผ่นธรณี
1. บอก 1 สง่ิ ท่ีนักเรียนไดร้ บั (2 นาที) (ตามแนวPISA)
2. ข้อสอบ O-NET ปี 2550 จำนวน 2 ข้อ (3 นาที)

ขอ้ สอบ O-NET 2553

1. หลกั ฐานใดตอ่ ไปนี้ทีไ่ ม่สนบั สนุนแนวคดิ เกีย่ วกบั การเชอ่ื มต่อของแผ่นดนิ ในส่วนทเ่ี รียกว่า ลอเรเซีย
1. ซากดกึ ดําบรรพ์กลอสโชพเทรสี
2. อายยุ าวเทือกเขาแอปพาเลเชยี น
3. หนิ ตะกอนท่เี กดิ จากตวั กลางทเี่ ปน็ ธารน้ำแข็ง
4. รอยต่อระหว่างชายฝง่ั ตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้กับชายฝงั่ ตะวันตกของทวีปแอฟริกา

2. การคน้ พบหนิ ทีเ่ กดิ จากตะกอนธารน้ำแขง็ บริเวณทะเลทางตอนใตข้ องแอฟริกาและอนิ เดยี ทำใหไ้ ดข้ อ้ สรปุ วา่
อยา่ งไร
1. แอฟริกาและอินเดยี เคยอยทู่ ีบ่ รเิ วณข้ัวโลกเหนอื
2. แอฟริกาและอนิ เดียเคยอยู่บริเวณขว้ั โลกใต้
3. หนิ ตะกอนจากธารนำ้ แข็งถูกกระแสนำ้ และลมพดั ออกมาจากบริเวณข้ัวโลก
4. ขอ้ มลู ไมเ่ พยี งพอ

อา้ งอิง https://campus.campus-star.com/onet/28122.html

ใบงานเร่อื งการแปรสัณฐานของแผน่ ธรณี (ตามแนวPISA)
อ่านถอ้ ยความต่อไปนี้แลว้ ตอบคำถาม

คำถามที่ 1 (2 คะแนน)
ทกุ ๆปีมีคนประมาณหา้ ล้านคนไปเทย่ี วอุทยานแหง่ ชาติแกรนด์แคนยอน มีความกังวลกันวา่ จะมีความ

เสียหายทีเ่ กิดกบั อทุ ยานเน่ืองจากมีคนไปเท่ียวจำนวนมาก
ข้อความใดเปน็ จรงิ ให้เขียนเคร่ืองหมาย X ในชอ่ ง “ใช่”
ข้อความใดไมเ่ ปน็ จริง ให้เขยี นเคร่อื งหมาย X ในช่อง “ไม่ใช่”

ขอ้ ท่ี ขอ้ ความ ใช่ ไมใ่ ช่
1 การกัดกร่อนที่เกดิ ขึน้ จากการใชเ้ สน้ ทางเดนิ มีมากน้อยเท่าใด
2 พน้ื ท่ีของอุทยานมคี วามสวยงามเท่ากับเมื่อ 100 ปีก่อนหรือไม่
3 การศึกษาฟอสซลิ อย่าไงเป็นระบบเป็นเร่อื งสำคญั
4 การศกึ ษาทาไงวทิ ยาศาสตรเ์ ก่ยี วกบั ชน้ั หินเปน็ เรื่องสำคัญ
(สมรรถนะ : การระบปุ ัญหาเชิงวทิ ยาศาสตร)์

คำถามที่ 2 (1 คะแนน)
อุณหภูมิในแกรนด์แคนยอนอยู่ในช่วงตั้งแต่ต่ำกว่า 0 ℃ จนถึงสูงกว่า 40℃ แม้ว่าจะเป็นบริเวณ

ทะเลทราย บางครั้งรอยแตกของหินก็กักเก็บน้ำไว้ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและน้ำในรอยแตกของหินไป
เรง่ การแตกร้าวของหนิ ไดอ้ ยา่ งไร

1. น้ำทเ่ี ปน็ นำ้ แขง็ ละลายหินที่ร้อน
2. น้ำทำใหห้ นิ เชอื่ มติดกัน
3. น้ำแข็งขัดผิวหน้าหินของให้ราบเรียบ
4. นำ้ ทีก่ ำลงั แขง็ ตัวจะขยายตวั ในรอยแตกของหิน

ข้อ คำตอบ

(สมรรถนะ : การอธิบายปรากฎการเชิงวทิ ยาศาสตร์)

คำถามท่ี 3 (1 คะแนน)
มีฟอสซิลของซากสัตว์ทะเลหลายชนิด เช่น หอยกาบ ปลา และปะการัง อยู่ในชั้นหินปูน A ของแก

รนด์แคนยอน มีอะไรเกิดข้ึนเม่ือหลายลา้ นปีกอ่ นท่ีอธบิ ายวา่ ทำไมฟอสซิลเหลา่ นจ้ี ึงถูกพบทนี่ ้นั
1. ในสมยั โบราณ ผคู้ นนำอาหารทะเลจากมหาสมุทรเข้ามาในบริเวณน้ี
2. ครั้งหนึง่ มหาสมทุ รมีคลืน่ รุ่นแรงมากและคลืน่ ยกั ษ์พัตพาสง่ิ มชี วี ิตในทะเลขน้ึ มาบนบก
3. ในสมยั ก่อนบรเิ วณทมี่ มี หาสมุทรปกคลมุ และไดเ้ หีอดแหง้ ไปในตอนหลงั
4. สัตวท์ ะเลบางชนิดคร้ังหนง่ึ มชี วี ิตอย่บู นบกกอ่ นทจ่ี ะอพยพลงสทู่ ะเล
ขอ้ คำตอบ

(สมรรถนะ : การอธิบายปรากฎการเชงิ วิทยาศาสตร์)

เกณฑ์การให้คะแนน / แนวคำตอบ

คำถามที่1 (2 คะแนน)

ข้อท่ี ข้อความ ใช่ ไม่ใช่

1 การกัดกรอ่ นท่ีเกดิ ขึ้นจากการใช้เสน้ ทางเดนิ มีมากนอ้ ยเทา่ ใด X

2 พ้นื ทขี่ องอทุ ยานมีความสวยงามเท่ากับเมื่อ 100 ปีกอ่ นหรือไม่ X

3 การศกึ ษาฟอสซลิ อยา่ ไงเปน็ ระบบเปน็ เรือ่ งสำคัญ X

4 การศกึ ษาทางวทิ ยาศาสตร์เกี่ยวกบั ชนั้ หินเปน็ เรือ่ งสำคญั X

คะแนนเต็ม 2 คะแนน คะแนนเต็ม 1 คะแนน ไม่มีคะแนน
ตอบถูกทั้ง 4 ข้อ : ใช่ ใช่ ไม่ใช่ ตอบถูก 3 ข้อ ตอบถูก 2-0 ข้อ
ใช่

คำถามที่ 2 (1 คะแนน) คำตอบ
ขอ้ น้ำที่กำลงั แข็งตัวจะขยายตวั ในรอยแตกของหิน
4

คำถามท่ี 3 (1 คะแนน)

ขอ้ คำตอบ
3 ในสมยั ก่อนบรเิ วณทมี่ ีมหาสมุทรปกคลมุ และได้

เหอี ดแหง้ ไปในตอนหลัง

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

4 ดมี าก

3 ดี

2 พอใช้

0-1 ปรับปรุง

นักเรียนได้ระดบั คุณภาพ พอใช้ ขนึ้ ไปถือว่า ผ่าน

แบบประเมินใบงาน Diagram

คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี น โดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมิน
กำหนดตามตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Diagram

ช่อื -สกุล รปู แบบ เนื้อหา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรปุ ผลการ
ลำดบั ที่ ของผรู้ ับการ (4) (4) (4) สวยงาม เวลา 20 คะแนน ประเมิน ผ่าน/
(4)
ประเมนิ (4) ไม่ผา่ น

ลงชอื่ ....................................................ผู้ประเมิน
................/................/................

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดีมาก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง

นักเรยี นไดร้ ะดบั คณุ ภาพท่ี พอใช้ ขน้ึ ไปถอื วา่ ผ่าน

ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน Diagram

เกณฑก์ าร ระดับการประเมนิ

ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)

รปู แบบ - มหี วั ข้อท่ีชดั เจน - มีหวั ขอ้ ทีช่ ัดเจน - มหี ัวข้อที่ชดั เจน - มหี ัวขอ้ ที่ชัดเจน

- เขียนอยู่ในกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ - เขียนอยใู่ นกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ

- ใช้คำสำคัญตรงประเดน็ - ใช้คำสำคญั ตรงประเดน็ - ใช้คำสำคัญตรงประเด็น

- ใชส้ ัญลักษณ์หรอื ภาพสอ่ื - ใชส้ ัญลกั ษณ์หรือภาพสอ่ื

ความหมาย ความหมาย

- ใช้สสี นั ทั่วแผน่

เนื้อหา - เน้ือหาครบถว้ นตามสาระที่ - เนื้อหาถกู ต้องตามสาระที่ - เนื้อหาถูกต้องตามสาระท่ี - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระท่ี

กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ ว่า 59%

- เขียนถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกตอ้ งตามหลักภาษา

100% 80-99% 60-79% ต่ำว่า 59%

- ลำดบั หวั ข้อเนอ้ื หาชดั เจน - ลำดบั หวั ขอ้ เนอื้ หาชัดเจน - มีการสรุปไดอ้ ย่าง - มีการสรุปไมส่ มเหตสุ มผล

- มีการสรุปไดอ้ ยา่ ง - มีการสรุปได้อยา่ ง สมเหตุสมผล 60-79% ต่ำว่า 59%

สมเหตสุ มผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%

การนำเสนอ - พูดชดั เจนเสยี งดังฟังชดั - พดู ชดั เจนเสยี งดงั ฟังชัด - การพดู เหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้

- ใชภ้ าษาทางการถูกต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ต้องตาม - ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ ง

อักขระ100% อักขระ80-99% อักขระ60-79% ตามอกั ขระต่ำวา่ 59%

- บคุ ลกิ ภาพดแี ละมคี วาม - บุคลกิ ภาพดี - บุคลกิ ภาพเหมาะสม - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม

มัน่ ใจ - ความพรอ้ มในการนำเสนอ

- มกี ารใช้สือ่ ประกอบการ ได้บางส่วน

นำเสนอ

- ความพร้อมในการนำเสนอ

ความสวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงาม - ใช้สสี ันสวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงามและมีความ - ใชส้ ีสันสวยงามหรือเปน็ ไป

- มคี วามสะอาด - มคี วามสะอาด สะอาด ตามเกณฑอ์ ย่างใดอย่าง

- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ - มีความคิดสร้างสรรค์ หนึ่ง

- ความเป็นระเบยี บอ่านงา่ ย

การตรงตอ่ ส่งผลงานครบถว้ น ตรงตาม ส่งผลงานครบถ้วน แต่ชา้ กว่า ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กว่า สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กวา่

เวลา เวลาท่ีกำหนด เวลาท่ีกำหนด 5 นาที เวลาท่กี ำหนด 10 นาที เวลาท่ีกำหนด 15 นาที

รอยตอ่ ของแผน่ ทวีป ใบงาน Diagram เรอ่ื ง หล

หลกั ฐานและข

รอยแยกของแผ่นธรณีภาคและ
อายุหนิ บนเทือกเขากลาง
มหาสมทุ ร

ลักฐานและข้อมูลทางธรณี หลกั ฐานอ่นื ๆ

ข้อมลู ทางธรณี

การคน้ พบซากดกึ ดำ
บรรพ์

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 4 หนว่ ยยอ่ ยท่ี 1
ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ โลกและการเปลีย่ นแปลง เวลา 2 ชว่ั โมง
เรอ่ื ง ธรณปี ระวัติ ผสู้ อน นางสาวจริ ภญิ ญา ยอดวงศ์
วันท่ีทำการสอน...................เดอื น....................................พ.ศ. ……………....

1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ัด
การศึกษาเกี่ยวกับโลก ทำให้ทราบกระบวนการ ว 3.2 ม.5/2 อธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยาที่สนับสนุน การ
เปลี่ยนแปลงทางธรณีภาคของโลก และวิวัฒนาการของ เคลือ่ นทข่ี องแผน่ ธรณี
สิ่งมีชีวิตบนโลกในอดีต จนกระทั่งปัจจุบัน ทำให้นักธรณีวิทยา
ส า ม า ร ถ แ บ ่ ง ช ่ ว ง เ ว ล า ใ น ก า ร เ ป ล ี ่ ย น แ ป ล ง ด ั ง ก ล ่ า ว เ ป็ น 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน
มหายคุ เปน็ ยคุ และสมัย - ใบงาน Diagram เร่อื ง ธรณปี ระวตั ิ

3. สาระการเรยี นรู้
- ธรณีประวัติ

5. สมรรถนะของผู้เรยี น 6. เคร่อื งมือการคิด
- Diagram
- ความสามารถในการคดิ
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

กิจกรรมการเรียนรู้

7. ขนั้ ของกจิ กรรม 8. สอ่ื 9. วิธกี ารวดั ผล

Do Now (3 นาท)ี - ใบงาน Diagram เรอื่ ง - ประเมนิ ใบงาน

“บอกประโยชน์ของดินมาคนละ 1 อย่าง” ธรณีประวัติ Diagram เรอ่ื ง ธรณี

Purpose (2 นาท)ี - สือ่ วิดีโอ เรอื่ ง ธรณี ประวัติ

เราจะเรียนเรื่อง ธรณีประวัติเพื่อให้นักเรียนอธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยาที่ ประวัติ

สนับสนนุ การเคลอื่ นที่ของแผ่นธรณีได้ https://www.youtube

Work mode (110 นาท)ี .com/watch?v=3Vop

1. นักเรียนตอบปญั หาเกย่ี วกับเรอ่ื ง เร่ือง ธรณีประวัติ ดังต่อไปน้ี Q4kb5i4&t=659s

- อายุทางธรณีเริ่มนับต้ังแต่ ชว่ งใดถึงช่วงใด (เริ่มนบั ตงั้ แต่กำเนิดโลกเมอ่ื

ประมาณ 4600 ล้านปกี ่อน จนถงึ ปจั จุบนั ) - สอ่ื Power pointเร่อื ง

- ทำอย่างไรจึงจะทราบวา่ ชน้ั ดนิ หรือชน้ั หนิ หรอื ซากดึกดำบรรพเ์ หล่านีม้ ี ธรณีประวตั ิ

อายุเทา่ ใด (10 นาที)

2. ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ3-5 คน แล้วให้นักเรียนดูคลปิ วดิ โี อ เรอ่ื ง

ธรณปี ระวตั ิ (10 นาที)

3. นักเรยี นเขียนสงี่ ทไ่ี ดจ้ ากการดูคลปิ วิดโี อ เรือ่ ง ธรณปี ระวตั ิ ลงในกระดาษคน

ละ 5 ขอ้ (15 นาท)ี

4. นักเรียนฟงั ครูอธบิ ายเพิม่ เตมิ เรือ่ ง ธรณปี ระวตั ิ โดยใช้สอ่ื Power point - ใบความรู้เรอื่ ง ธรณี
(15 นาท)ี ประวัติ

5. นักเรียนสบื คน้ ข้อมูลเกยี่ วกับ ธรณปี ระวตั ิ โดยศกึ ษา จากอนิ เตอร์เนต็ และใบ
ความรู้ (พอเพยี ง 3 การมภี ูมิคมุ้ กนั ทด่ี ใี นตัว) (10 นาที)

6. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ สรุปความร้ใู นรปู แบบแผนผงั ลงในใบงาน Diagram เร่อื ง
ธรณปี ระวตั ิ (คิด 9 : คิดเชงิ มโนทศั น์) (สมรรถนะ 4) (25 นาท)ี

7. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลงานหน้าชน้ั เรียน และอภปิ รายผลงานร่วมกนั
(คิด 3 : คิดวพิ ากย)์ (สมรรถนะ 3) ( 15 นาท)ี

8. นักเรยี นและครรู ่วมกันอภิปราย เรอ่ื ง ธรณีประวตั ิ (10 นาที)
ReflectiveThinking(5 นาท)ี
1. 1 สิ่งทีน่ กั เรียนได้รับ (2 นาที)
2. ข้อสอบ O-NET ปี 2550 จำนวน 1 ขอ้ (3 นาที)

ขอ้ สอบ O-NET

1. อายุเปรียบเทียบ คืออะไร
ก.วธิ ีการหาอายขุ องหิน และกล่มุ ของหิน
ข.วธิ ีการหาอายุของสง่ิ มีชีวิตและซากดึกดำบรรพ์
ค.วธิ ีการหาอายุของการเกดิ คดคี วามต่าง ๆ
ง.วิธกี ารหาอายขุ องโครงกระดกู ไดโนเสาร์

อา้ งอิงจาก http://room4group4.o-netปี2555.blogspot.com/2011/07/

ใบความรู้ เร่อื ง ธรณปี ระวัติ

ธรณีประวตั ิ คือประวตั ิศาสตรท์ างธรณีวทิ ยาของโลกท่จี ะบอกเลา่ ความเปน็ มาและสภาพเหตกุ ารณท์ ี่เกดิ ข้นึ ในอดีตไม่วา่ จะ
เปน็ การเปลยี่ นแปลงสภาพทางภมู ิศาสตรต์ ลอดจนววิ ัฒนาการของสง่ิ มชี วี ิต
ข้อมลู ทางธรณวี ิทยา เปน็ ขอ้ มลู ทใ่ี ช้สำหรบั ศึกษาธรณีประวตั ิซึง่ ไดแ้ ก่

1.อายทุ างธรณวี ิทยา
2.ซากดึกดําบรรพ์
3.โครงสรา้ งทางธรณีวิทยา
4.การลาํ ดบั ชัน้ หิน
อายทุ างธรณีวทิ ยา
อายุทางธรณีวิทยาเปน็ เวลาทีเ่ ร่มิ นับต้ังแตก่ ำเนิดโลกเมื่อประมาณ 4600 ล้านปที ่แี ล้วจนถึงปัจจุบัน
มาตราธรณีกาล
มาตราธรณีกาลเป็นการแบ่งอายทุ างธรณีวิทยาออกเป็นชว่ งชว่ งเรียงลำดับจากชว่ งอายุมากไปหาชว่ งอายนุ อ้ ยโดย
ช่วงอายดุ งั กลา่ วจะถูก แบง่ ออกเปน็ บรมยุค มหายุทธ์ ยคุ และสมยั ตามลำดบั และแตล่ ะช่วงอายุก็จะมีเวลาจำกัดไวเ้ ป็น
จำนวนปีเช่น
มหายคุ ซโี นโซอิกแบ่งออกเปน็ 2 ยุค คอื ยุคเทอรเ์ ชยี รี กับ ยุคควอเทอรน์ ารี
ในขณะที่ยุคเทอรเ์ ชียรี ก็แบง่ ยอ่ ยไดอ้ กี เป็น 5 สมยั คอื สมยั พาลโี อซนี สมยั อีโอซนี สมัยโอลิโกซีน สมยั ไมโอซีน และสมยั ไพล
โอซนี
ส่วนยุคควอเทอรน์ ารี จะแบ่งย่อยด้อกี เป็น 2 สมยั คอื สมยั ไพลสโตซีน กบั สมัยโฮโลซีน(สมัยปัจจบุ นั )

สงิ่ ทีค่ วรรู้
โดยทัว่ ไปการเร่มิ ตน้ และการสิน้ สดุ ของแต่ละมหายคุ จะขน้ึ กับการเปล่ยี นแปลงทส่ี ำคญั สำคญั ในช่วงเวลานั้นๆเชน่

• การเปลย่ี นแปลงชนิดและลักษณะของส่งิ มีชวี ติ
• การเปลย่ี นแปลงสภาพแวดล้อม
• การเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาตติ ่างๆ
การบอกอายุทางธรณีวิทยาสามารถทำได้ 2 แบบคือ
1.อายเุ ปรยี บเทยี บ
แปง้ อายขุ องหินในเชงิ เปรียบเทียบการหาอายุของถึงโดยวิธีนีจ้ ะบอกไดแ้ ค่เพียงช่วงอายุโดยประมาณของหนิ หรอื บอกไดแ้ ค่ว่า
เห็นชดุ ใดมีอายมุ ากหรอื นอ้ ยกว่ากนั เท่านั้นอายเุ ปรยี บเทยี บหาไดโ้ ดยอาศยั ข้อมลู จาก
• ซากดึกดาํ บรรพ์ท่ที ราบอายแุ นน่ อนแลว้
• ลกั ษณะการลำดบั ชั้นของหินชนิดต่างๆ
• ลักษณะโครงสรา้ งทางธรณวี ิทยาของหิน

ตวั อย่างท่ี 1
ถ้าพบซากดกึ ดำบรรพ์ฟวิ ซูลินดิ ในหนิ ชนดิ หนงึ่
เมอ่ื ไปเปดิ มาตราธรณีกาลเพอ่ื เปรยี บเทียบอายุของฟิวซลู นิ ดิ เรากจ็ ะบอกไดว้ า่ หินชนดิ นี้มีอายปุ ระมาณ 251- 359 ล้านปี

ตวั อยา่ งที่ 2
ถา้ นำหนิ มาจากสองบริเวณโดยหนิ บริเวณท่ี 1 มซี ากดึกดำบรรพไ์ ดโนเสารป์ รากฏอยูส่ ว่ นหนิ บรเิ วณที่ 2 มซี ากดกึ ดำบรรพ์
ไทรโลไบต์ปรากฏอยู่
เม่ือไปเปดิ มาตราธรณีกาลเพอื่ เปรยี บเทยี บอายุของไดโนเสาร์กับอายขุ องไทรโลไบต์ เราก็จะบอกไดว้ า่ หนิ บริเวณที่ 2 มีอายุ
มากกว่าเห็นบรเิ วณท่ี 1 เพราะไทโลไบคม์ อี ายมุ ากกว่านน้ั เอง

ตัวอยา่ งที่ 3
ถา้ พบหินตะกอนท่ีมีการวางตัวเรยี งกันเป็นช้ัน
เมื่อทำการเปรียบเทยี บจากลกั ษณะการเรยี งลำดบั ของช้นั หนิ เราก็จะบอกไดว้ า่ หินท่ีอยู่ชน้ั ลา่ งมีอายมุ ากกวา่ หินทีอ่ ย่ชู น้ั บน

2.อายุสัมบรู ณ์
เปน็ อายุของหนิ หรือซากดึกดาํ บรรพท์ ่สี ามารถบอกออกมาเปน็ จำนวนปที คี่ อ่ นขา้ งแน่นอนวา่ เป็นเท่าไหร่

การหาอายสุ ัมบรู ณ์จะใช้วธิ ีการคำนวณจากครึง่ ชีวิตของธาตกุ มั มนั ตรังสที ่อี ยใู่ นหินหรอื ในซากดกึ ดาํ บรรพ์ท่ีเรากำลังศึกษาอยู่
นั้นโดยธาตุกมั มันตรังสที ่นี ิยมนำมาหาอายสุ มั บูรณ์ได้แกค่ าร์บอน-14 โพแทสเซียม-40, รบู เิ ดียม-87 ,เรเดยี ม -226 และ
ยเู รเนยี ม -238

สงิ่ ท่ีควรรู้
การหาอายสุ มั บรู ณ์มกั ใช้กับหนิ ทมี่ ีอายุมากๆเปน็ แสนเปน็ ล้านปเี ช่นหินแกรนิตบรเิ วณฝั่งตะวนั ตกของเกาะภูเกต็ มี

อายุสัมบรู ณ์ประมาณ 100 ลา้ นปเี มอ่ื คำนวณจากครง่ึ ชวี ิตของธาตรุ บู เิ ดยี ม -87
ซากดกึ ดำบรรพท์ ่มี ีอายุนอ้ ยกวา่ 70000 ปมี ักจะใช้วธิ ีคำนวณหาอายสุ ัมบรู ณจ์ ากคร่ึงชวี ิตของธาตุคารบ์ อน- 14 ที่

อยู่ในซากนน้ั

ซากดึกดำบรรพ์(ฟอสซลิ )
ซากดกึ ดำบรรพ์ คือ ซากหรอื ร่องรอยของส่งิ มีชีวิตทง้ั พืชและสตั ว์ในอดีตซ่ึงถกู เก็บรักษาไว้ในหนิ หรอื ชน้ั หนิ โดย

กระบวนการตา่ งๆทางธรณีวิทยา
ซากดกึ ดำบรรพส์ ามารถพบไดต้ ามชนั้ หินตะกอนเป็นส่วนใหญ่เพราะปจั จยั ทางธรรมชาติในการเกิดหนิ ตะกอนจะมี

สภาพเหมาะสมในการเกิดซากดกึ ดำบรรพม์ ากกว่าหินชนดิ อน่ื
ซากดึกดาํ บรรพส์ ามารถพบได้บา้ งตามหินภเู ขาไฟบางชนดิ แตไ่ มม่ ากและไม่ชดั เจนเหมือนหินตะกอนเราจะไมพ่ บ

ซากดึกดำบรรพใ์ นหนิ อัคนแี ละหนิ แปรเนอื่ งจากความร้อนในระหว่างทเ่ี กิดหินเหลา่ นี้ทำให้ซากดกึ ดำบรรพส์ ลายไป

ซากดึกดำบรรพ์นอกจากจะถูกนำมาตรวจสอบหาอายแุ ล้วยงั สามารถใช้เปน็ ข้อมูลสำหรับ
• บอกเลา่ ถึงประวตั ิความเปน็ มาในอดตี ของพื้นทีท่ พ่ี บซากดึกดำบรรพ์น้นั
• บอกชว่ งอายุของหนิ ชนดิ อ่นื ท่ีอย่รู ่วมกับหินตะกอนทพ่ี บซากดกึ ดำบรรพ์น้นั

ลักษณะของซากดกึ ดำบรรพท์ มี่ กี ารค้นพบกนั ในปจั จุบนั
ซากดึกดำบรรพ์สว่ นใหญจ่ ะเปน็ ซากของสิง่ มชี ีวติ ท่ตี ายลงแล้วถูกทบั ถมและฝังตวั อยใู่ นชั้นหนิ ตะกอน
ซากดึกดาํ บรรพ์ที่พบในหินตะกอนมักจะเปน็ โครงร่างส่วนทีแ่ ข็งของสง่ิ มชี วี ติ นั้นเชน่ โครงกระดกู ฟนั และลำต้นของ

ตน้ ไมเ้ พราะส่วนทีเ่ ปน็ เน้ือเย่อื จะสลายตวั ได้รวดเร็วมากทำให้เหลือแต่เพยี งโครงร่างส่วนท่แี ขง็ เท่านนั้ ต่อมาเมอ่ื ตะกอนถูกพัด
พามาทบั ถมอยดู่ า้ นบนสารละลายของแร่ธาตตุ ่างๆซงึ่ อยู่ในตะกอนทที่ บั ถม เชน่ แคลไซต์ โดโลมต์ ซิลกิ าและสว่ นประกอบ
เหลก็ บางชนดิ เชน่ ฮีมาไทตจ์ ะแทรกซึมประสานเขา้ ไปในชอ่ งว่างของโครงร่างที่เหลืออยนู่ ั้นจนกระทั่งโครงรา่ งเหล่าน้ันแข็งตัว
เปน็ หินกลายเปน็ ซากดกึ ดำบรรพอ์ ยู่ในชนั้ ของหินตะกอนทีท่ ับถมมันไว้

ซากดึกดําบรรพท์ พ่ี บมากท่ีสดุ เปน็ ซากดกึ ดำบรรพข์ องสัตวท์ ะเลเพราะเมอ่ื สตั ว์ทะเลทรายลงซากของมนั จะจมลงสู่
กน้ ทะเลถูกโคลนและตะกอนเมด็ ละเอียดในนำ้ ฝังกลบอยา่ งรวดเร็วการฝังกลบอยา่ งรวดเรว็ ๆนี้ทำใหซ้ ากของสงิ่ มชี ีวิตสามารถ
ชะลอการสลายตัวลงได้ดงั นน้ั ซากดึกดําบรรพ์ทเ่ี กดิ ในนำ้ ทะเลมกั จะเปน็ ซากดึกดำบรรพท์ ่ยี งั คงรปู อยไู่ ด้อย่างสมบรู ณ์ เช่น
ซากดกึ ดำบรรพ์จำพวกหอยตะเกยี งและ ปะการงั ในหนิ ปนู

ซากดกึ ดำบรรพบ์ างชนดิ อาจไมไ่ ดก้ ลายเป็นหนิ กไ็ ดเ้ ชน่ สรา้ งของแมลงทีถ่ กู ห่อห้มุ อยใู่ นยางไม้หรืออำพนั และซาก
ของช้างแมมมอธท่ถี ูกแชแ่ ข็งอย่ใู นธารน้ำแข็ง

รอ่ งรอยบางอย่างของส่งิ มีชวี ิตทพ่ี ิมพล์ อยอยู่ในตะกอนท่ีแขง็ ตวั เปน็ หินก็จัดเปน็ ซากดึกดำบรรพไ์ ดเ้ ชน่ กัน เชน่
รอยเท้าของสตั ว์ และ รอยประทบั ของเปลอื กหอย

ซากดกึ ดำบรรพ์ดชั นี
ซากดกึ ดำบรรพด์ ัชนเี ป็นซากดกึ ดำบรรพท์ ี่สามารถบอกชว่ งอายอุ อกมาไดแ้ น่นอนลักษณะทสี่ ำคญั ของซากดกึ ดำ

บรรพ์ดชั นคี อื
1.เปน็ ซากดกึ ดำบรรพ์ของสงิ่ มชี ีวติ ทมี่ ีการกระจายตวั ไปทั่วโลก
2.เปน็ ซากดกึ ดำบรรพข์ องสงิ่ มชี ีวติ ที่มวี วิ ฒั นาการทางโครงสร้างและรปู รา่ งอยา่ งรวดเรว็
3.เปน็ ซากดึกดำบรรพข์ องสิ่งมีชวี ติ ทม่ี คี วามแตกต่างในแตล่ ะชว่ งอายุอย่างเห็นได้ชดั
4.เปน็ ซากดึกดำบรรพข์ องสิง่ มีชีวติ ท่ีมชี วี ติ อยู่เพยี งช่วงเวลาหน่ึงจากน้ันกส็ ญู พันธ์ไุ ปเลย

ตัวอยา่ งของซากดกึ ดำบรรพด์ ชั นีเช่น ไทรโลไบต์ แกรปโตไลต์ ฟิวซูลินิด โคโนดอนต์และไดโนเสาร์ ชนิดต่างๆ
• ไทรโลไบต์ เปน็ สตั วท์ ะเลท่ีมีรปู รา่ งคลา้ ยแมงดาทะเลพบมากในยุคแคมเบรยี น และยคุ ออรโ์ ดวเิ ชยี น
• แกรปโตไลต์ เปน็ สตั วท์ ะเลขนาดเล็กทลี่ อยอยู่บนผิวนำ้ พบมากในยคุ ออรโ์ ดวเิ ชียน ยคุ ไซลเู รยี น และยคุ ดโี วเนยี น
• ฟิวซลู นิ ดิ เปน็ สิง่ มชี ีวติ เซลลเ์ ดียวอาศัยในทะเลพบมากในยคุ เพอรเ์ นียน
• โคโนดอนต์ เป็นสตั ว์ทะเลขนาดเลก็ มากพบมากในยุคแคมเบรียน ยคุ ออรโ์ ดวิเชียน และยุคดีโวเนยี น
• ไดโนเสาร์ ชนดิ ต่างๆพบมากในยุคจแู รสซิกและยคุ ครเี ทเชยี ส

ส่งิ ท่คี วรรู้
ซากดกึ ดำบรรพด์ ัชนสี ามารถใชเ้ ปน็ หลักฐานในการลำดับชนั้ หินเพอ่ื ใช้หาอายเุ ปรยี บเทียบของชั้นหินตา่ งๆไดเ้ ช่น

• ถ้าพบซากดกึ ดำบรรพด์ ัชนีในชั้นหนิ 2 แหล่ง ชนั้ หนิ ทม่ี ซี ากดึกดำบรรพ์ดัชนอี ายมุ ากกว่าจะมอี ายุมากกวา่ ฉนั เห็นอกี
แหล่งหน่งึ

• ถ้าพบช้นั หิน 2 แหล่งทีม่ ีลกั ษณะคลา้ ยคลึงกนั และมีซากดกึ ดำบรรพด์ ชั นชี นดิ เดยี วกนั ปรากฏอยู่เราจะถือไดว้ า่ ชัน้
หนิ ทั้งสองแหลง่ นเ้ี กดิ ข้นึ ในช่วงอายุเดียวกัน

ซากดึกดําบรรพ์ในประเทศไทย
ในประเทศไทยมีการคน้ พบซากดกึ ดำบรรพไ์ ดโนเสาร์ทจ่ี ังหวดั ตา่ งๆทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเชน่ ชยั ภมู ิ

สกลนคร ขอนแกน่ กาฬสินธ์ุ อุดรธานี อุบลราชธานี และ นครราชสมี า โดยจะพบซากเหลา่ นีอ้ ย่ใู นชน้ั หินทราย หินทรายแป้ง
ซงึ่ เปน็ หนิ อยู่ในยคุ ไทรแอสซกิ ตอนปลายถึงยุคครีเทเชยี สตอนกลางชว่ งอายุ 100- 200 ลา้ นปีทแี่ ลว้ สวนซากดึกดำบรรพพ์ ชื ท่ี
มีการคน้ พบในประเทศไทยไดแ้ ก่ ใบไม้ ละอองเรณู สปอร์ สาหร่ายทะเล และ ไม้กลายเปน็ หิน

โครงสร้างทางธรณวี ทิ ยา
ลักษณะโครงสรา้ งทางธรณวี ทิ ยาเป็นรปู แบบการวางตวั ของหินหรือช้ันหินแบบตา่ งๆเชน่ การวางตัวของหินเปน็ ช้นั

การเกิดชั้นหนิ คดโค้ง และ การเกดิ รอยเลอ่ื นของช้นั หินเปน็ ตน้
รูปแบบของชนั้ หินที่นอนควรรู้จักมดี ังน้ี

โดยปกตถิ ้าไมม่ ีการเปล่ยี นแปลงของเปลือกโลกหินตะกอนจะสะสมตัวเป็นชัน้ ช้นั อยูใ่ นแนวขนานกบั พ้ืนโลกชน้ั ของ
หนิ ตะกอนทอ่ี ยู่ด้านล่างจะมีอายุมากกว่าช้นั หนิ ตะกอนท่ีอยดู่ า้ นบน

ในกรณีทเี่ กดิ การเปล่ยี นแปลงของเปลือกโลกอันเนือ่ งมาจากการเคลอ่ื นทขี่ องแผน่ ธรณแี ผน่ ดินไหวหรอื ภูเขาไฟ
ระเบดิ อาจทำใหช้ ัน้ หินทีอ่ ยใู่ นแนวราบเกิดการเอยี งเท

เมอ่ื แผน่ ธรณี 2 แผ่นเคลอ่ื นที่เขาชนกนั หนิ ทอี่ ย่ใู นบริเวณแนวรอยตอ่ ของแผน่ ธรณีจะถูกบบี อดั จนเกิดเป็นชั้นหินคด
โค้ง

เมอ่ื หนิ ไม่สามารถทนรบั แรงต่างๆทม่ี ากระทำกบั มนั ไดจ้ ะทำใหเ้ กดิ การแตกเปน็ รอยในชั้นหินทเี่ ราเรียกวา่ รอยเล่อื น

ถ้ามีหนิ อคั นีแทรกดันตัดผา่ นช้ันหินตะกอนชัน้ หนิ ตะกอนที่ถกู หินอคั นแี ทรกจะมีอายมุ ากกวา่ หนิ อคั นชี ดุ นน้ั เสมอ
รอยชน้ั ไมต่ อ่ เน่ืองเกดิ ขึ้นเนื่องจากฉันเหน็ ทอ่ี ยขู่ ้างล่างเกิดการสกึ กรอ่ นเป็นระยะเวลานานก่อนทจี่ ะมกี ารทับถมของ
ตะกอนทมี่ อี ายุน้อยกว่า

การลาํ ดับชัน้ หนิ
การลำดบั ช้ันหนิ เป็นการรวบรวมข้อมลู ทางธรณีวิทยาตา่ งๆของพ้ืนทที่ ก่ี ำลงั ศกึ ษามาใช้หาความสมั พนั ธข์ องชัน้ หิน

โดยจดั เลยี้ งช้ันหนิ ตามลำดับตำแหน่งและอายุการเกิด
ในการลำดับชนั้ หินน้นั จะมกี ารแบง่ หนิ ทกี่ ำลงั ศึกษาออกเปน็ หน่วยหนิ จากหนว่ ยใหญไ่ ปหาหนว่ ยเลก็ เรยี งตามลำดบั

ได้ดังน้กี ล่มุ หนิ หมวดหิน หมู่หนิ และ ชน้ั หนิ โดยท่ี
o กลุ่มหนิ ประกอบไปด้วยมวลหินต้ังแต่ 2 หมวดขนึ้ ไป
o หมวดหนิ ประกอบไปด้วยหมหู่ นิ ตง้ั แต่ 2 หมู่ขนึ้ ไป
o หมู่หนิ ประกอบไปดว้ ยชนั้ หนิ ตง้ั แต่ 2 ชน้ั ขน้ึ ไป
o ชั้นหนิ เป็นหน่วยทเี่ ล็กทสี่ ุดของการลำดบั ชนั้ หิน

ประโยชน์ท่ีได้จากการลำดับชัน้ หนิ
1. นำไปใช้วางแผนสำรวจหาทรัพยากรธรณตี า่ งๆเช่นแหลง่ แร่ แหลง่ หนิ แหล่งน้ำบาดาลปโิ ตรเลียมถ่านหนิ
2. นำไปใชว้ างแผนพัฒนาและจดั การพ้ืนทีต่ ่างๆให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมเชน่ การวางผงั เมืองการจดั การพ้ืนที่
เกษตรกรรม

ทบทวนความรเู้ กีย่ วกบั เรือ่ งหิน
ในวิชาธรณวี ทิ ยาไดแ้ บง่ หินออกเปน็ 3 กลมุ่ ใหญๆ่ คอื
1. หินอคั นี แบง่ ย่อยไดอ้ ีกเป็น 2 กลมุ่ คอื

1.1หินอคั นีแทรกซอน เกิดจากการเย็นตัวอยา่ งชา้ ๆของหนิ หนดื ภายใต้พน้ื ผิวโลกจึงเปน็ หินทมี่ ผี ลึกขนาดใหญเ่ ชน่
หินแกรนติ หนิ แกบโบร

1.2หินอัคนีพุ หนิ ภูเขาไฟ เกดิ จากการเย็นตวั อยา่ งรวดเร็วของหินหนืดท่ีออกมาอยูน่ อกพ้ืนผิวโลกจึงเป็นหนิ ที่มคี อื
ขนาดเลก็ เชน่ หินบะซอลต์ หินไรโอไลต์ หนิ พับมิซ
2. หนิ ตะกอน เกิดจากการสะสมตวั และทบั ถมกันเปน็ เวลานานของเศษหนิ ดนิ ทรายซ่งึ ถกู พดั พามาโดยการกระทำของ
ธรรมชาตคิ ลืน่ กระแสลม กระแสนำ้ ตวั อย่างของหนิ ตะกอนเช่น หินดนิ ดาน หินปูนหินกรวดมน หนิ ทราย
3. หนิ แปร เกดิ จากการแปรสภาพของหนิ เดมิ อันเนื่องมาจากความรอ้ นและความดนั ตวั อยา่ งของหนิ แปรเช่นหินชนวน หิน
ไนส์ หินออ่ น หนิ ควอรต์ ไซต์

หนิ ชนวน แปรสภาพมาจาก หินดนิ ดาน
หนิ ไนส์ แปรสภาพมาจาก หนิ แกรนติ
หินอ่อน แปรสภาพมาจาก หินปนู
หนิ ควอร์ตไซต์ แปรสภาพมาจาก หินทราย

แบบประเมินใบงาน Diagram

คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี น โดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมิน
กำหนดตามตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Diagram

ช่อื -สกุล รปู แบบ เนื้อหา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรปุ ผลการ
ลำดบั ที่ ของผรู้ ับการ (4) (4) (4) สวยงาม เวลา 20 คะแนน ประเมิน ผ่าน/
(4)
ประเมนิ (4) ไม่ผา่ น

ลงชอื่ ....................................................ผู้ประเมิน
................/................/................

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดีมาก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง

นักเรยี นไดร้ ะดบั คณุ ภาพท่ี พอใช้ ขน้ึ ไปถอื วา่ ผ่าน


Click to View FlipBook Version