The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เล่มแผนการจัดการเรียนรู้ วิชาชีววิทยา เทอม2 นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ 63040111101

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2024-01-22 22:15:14

เล่มแผนการจัดการเรียนรู้ วิชาชีววิทยา เทอม2

เล่มแผนการจัดการเรียนรู้ วิชาชีววิทยา เทอม2 นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ 63040111101

รายวิวิช วิวิ าชีชี ชีชี ววิวิท วิวิ ยา แผนการจัด จั การเรีย รี นรู้ ชั้ชั้ ชั้ชั้ นมัมัธ มัมั ยมศึศึ ศึศึ กษาปีปีปีปี ที่ที่ ที่ที่4 นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ สาขาวิทยาศาสตร์ทั่วไปและชีววิทยา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุรธานี นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิช วิ าชีพครู ภาคเรีรีย รีรี นที่ที่ ที่ที่2 ปีปีปีปี การศึศึ ศึศึ กษา 2566 รหัสนักศึกษา 63040111101 โรงเรีรีย รีรี นอุอุด อุอุ รพิพิท พิพิ ยานุนุ นุนุ กูกูล กูกู


ก คำนำ การจัดการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เพื่อให้ สอดคล้องกับหลักการและบรรลุตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) จำเป็นต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่าง และการ จัดทำหลักสูตรระดับ รายวิชาเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญ ที่เป็นกรอบในการจัดการศึกษาให้ สามารถพัฒนาและยกระดับ คุณภาพของผู้เรียนให้ดีขึ้น และช่วยให้ครูผู้สอนได้ศึกษาหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเข้าใจ และส่งผลให้สามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ หลักสูตรรายวิชา วิทยาศาสตร์กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 ฉบับนี้ ประกอบด้วย ความเป็นมาและความสำคัญ สมรรถนะ คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ คำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา และหน่วยการเรียนรู้ สำหรับการจัดทำหลักสูตร รายวิชาฉบับนี้ ผู้จัดทำได้ศึกษาและวิเคราะห์จากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) หลักสูตรสถานศึกษาและเอกสารที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หลักสูตรรายวิชา วิทยาศาสตร์กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ โดยเฉพาะผู้ที่มีส่วน เกี่ยวข้องที่ช่วยให้การจัดการศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป กฤษณวงศ์ รอบรู้


ข สารบัญ หน้า คำนำ ก สารบัญ ข หลักสูตรฯ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 1 ผลการเรียนรู้และสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม สาระชีววิทยา 3 คำอธิบายรายวิชา ชีววิทยา ม.4 เล่ม 1 7 โครงสร้างรายวิชา ชีววิทยา ม.4 เล่ม 1 9 Pedagogy 10 โครงสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ชีววิทยา ม.4 เล่ม 1 11 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต 16 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 โครโมโซม 16 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 การค้นพบสารพันธุกรรม 25 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 องค์ประกอบทางเคมีของ DNA 34 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 โครงสร้างของดีเอ็นเอ 42 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 การจำลองดีเอ็นเอ 50 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 การแปลรหัส 59 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 มิวเทชันระดับ 68 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 มิวเทชันระดับโครโซม 77 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 การศึกษาพันธุกรรมของเมนเดล 86 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 กฎการแยก 95 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 กฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระของเมนเดล 104 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม 113 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 ความน่าจะเป็นกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม 122 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม 131 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 การโคลนยีนโดยใช้พลาสมิดของแบคทีเรีย 146 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 การถ่ายดีเอ็นเอคอมบิแนนท์ 154 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 การเพิ่มจำนวน DNA ด้วยเทคนิค PCR 162 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18 การหาขนาดของ DNA ด้วยเทคนิคเจลอิเล็กโทรฟอรีซิส 170


ค สารบัญ (ต่อ) หน้า แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ 178 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20 หลักฐานที่บ่งบอกถึงวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต 186 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 21 วิวัฒนาการของลามาร์ก 194 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 22 วิวัฒนาการของดาร์วิน 202 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 23 ความถี่ของแอลลีลและจีโนไทป์ 210 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 24 ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีล 217 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 25 กำเนิดสปีชีส์ 225 ภาคผนวก 236


1 หลักสูตรรายวิชา วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 1. ความเป็นมาและความสำคัญ วิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งในสังคมโลกปัจจุบันและอนาคต เพราะวิทยาศาสตร์เกี่ยวข้อง กับทุกคนทั้งในชีวิตประจำวันและการงานอาชีพต่างๆ ตลอดจนเทคโนโลยี เครื่องมือเครื่องใช้และ ผลผลิตต่างๆ ที่มนุษย์ได้ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตและการทำงาน เหล่านี้ล้วนเป็นผลของ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์และศาสตร์อื่นๆ วิทยาศาสตร์ช่วยให้มนุษย์ ได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ มีทักษะสำคัญในการ ค้นคว้าหาความรู้ มีความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลที่ หลากหลายและมีประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ วิทยาศาสตร์เป็นวัฒนธรรมของโลกสมัยใหม่ซึ่งเป็น สังคมแห่งการเรียนรู้ (knowledge-based society) สามารถใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในด้านการคิดและแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่ เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง ดังนั้นทุกคนจึงจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาให้รู้ วิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะมีความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติและเทคโนโลยีที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้น สามารถ นำความรู้ไปใช้อย่างมีเหตุผล สร้างสรรค์และมีคุณธรรม 2. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรระดับชั้นเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ดังนี้ 1. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ ความรู้หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม 2. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการ ใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรอง เพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและ ความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเอง และสังคม


2 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มา ใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบ ที่เกิดขึ้น ต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคลการจัดการปัญหาและความขัดแย้ง ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการ รู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้าน ต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน การแก้ปัญหา อย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคุณธรรม 3. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ดังนี้ 1. ซื่อสัตย์สุจริต 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. อยู่อย่างพอเพียง 4. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ 4.1. สาระชีววิทยา 1. เข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์สารที่เป็น องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต กล้องจุลทรรศน์ โครงสร้างและหน้าที่ ของเซลล์การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์การแบ่งเซลล์และการหายใจระดับเซลล์


3 ผลการเรียนรู้และสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม สาระชีววิทยา สาระชีววิทยา 2. เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติและหน้าที่ ของสารพันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูลและแนวคิดเกี่ยวกับ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์กการเกิดสปีชีส์ใหม่ ความหลากหลายทาง ชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และอนุกรมวิธาน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ ชั้น ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ม.4 1. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และสรุปผล การทดลองของเมนเดล • เมนเดลศึกษาการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมโดยการผสม พันธุ์ถั่วลันเตา จนสรุปเป็นกฎแห่งการแยกและกฎแห่งการ รวมกลุ่มอย่างอิสระ • กฎแห่งการแยกมีใจความว่า แอลลีลที่อยู่เป็นคู่จะแยกออกจากกัน ในระหว่างการสร้างเซลล์สืบพันธุ์โดยเซลล์สืบพันธุ์แต่ละเซลล์จะมี เพียงแอลลีลใดแอลลีลหนึ่ง • กฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระมีใจความว่า หลังจากคู่ของ แอลลีลแยกออกจากกัน แต่ละแอลลีลจะจัดกลุ่มอย่างอิสระกับ แอลลีลอื่น ๆ ที่แยกออกจากคู่เช่นกันในการเข้าไปอยู่ในเซลล์ สืบพันธุ์ 2. อธิบาย และสรุปกฎแห่งการแยก และกฎแห่งการรวมกลุ่มอย่าง อิสระ และนำกฎของเมนเดลนี้ไป อธิบายการถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรมและใช้ในการคำนวณ โอกาสในการเกิดฟีโนไทป์และจี โนไทป์แบบต่าง ๆ ของรุ่น F1 และ F2 3. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์อธิบาย และสรุปเกี่ยวกับการถ่ายทอด ลักษณะทางพันธุกรรม ที่เป็นส่วน ขยายของพันธุศาสตร์เมนเดล • การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมบางลักษณะให้อัตราส่วนที่ แตกต่างจากผลการศึกษาของเมนเดล เรียกลักษณะเหล่านี้ว่า ลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของพันธุศาสตร์เมนเดล เช่น การข่มไม่สมบูรณ์การข่มร่วมกันมัลติเปิลแอลลีลยีนบน โครโมโซมเพศและพอลิยีน • ลักษณะพันธุกรรมบางลักษณะมีความแตกต่างกันชัดเจน เช่น การ มีติ่งหูหรือไม่มีติ่งหูซึ่งเป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันไม่ ต่อเนื่อง • ลักษณะทางพันธุกรรมบางลักษณะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย และลดหลั่นกันไป เช่น ความสูงและสีผิวของมนุษย์ถูกควบคุมโดย ยีนหลายคู่ซึ่งเป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันต่อเนื่อง และสิ่งแวดล้อมอาจมีผลต่อการแสดงลักษณะนั้น 4. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์และ เ ป ร ี ย บ เ ท ี ย บ ล ั ก ษ ณ ะ ท า ง พันธุกรรมที่มีการแปรผันไม่ ต ่ อ เ น ื ่ อ ง แ ล ะ ล ั ก ษ ณ ะ ท า ง พันธุกรรมที่มีการแปรผันต่อเนื่อง 5. อธิบายการถ่ายทอดย ีนบน โครโมโซม และยกตัวอย่าง ลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูก • โครโมโซมภายในเซลล์ร่างกายแบ่งเป็นออโตโซมและโครโมโซม เพศ ลักษณะทางพันธุกรรมส่วนใหญ่ถูกควบคุมด้วยยีนบนออโต


4 ชั้น ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ควบคุมด้วยยีนบนออโตโซมและ ยีนบนโครโมโซมเพศ โซม บางลักษณะถูกควบคุมด้วยยีนบนโครโมโซมเพศซึ่งส่วนมาก เป็นยีนบนโครโมโซม X • เมื่อมีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ยีนบนโครโมโซมเดียวกันที่อยู่ใกล้กัน มักจะถูกถ่ายทอดไปด้วยกันแต่การเกิดครอสซิงโอเวอร์ในการแบ่ง เซลล์แบบไมโอซิสอาจทำให้ยีนบนโครโมโซมเดียวกันแยกจากกัน ได้ส่งผลให้รูปแบบของเซลล์สืบพันธุ์ที่ได้แตกต่างไปจากกรณีที่ไม่ เกิดครอสซิงโอเวอร์ ม.4 6. สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติและ ห น ้ า ท ี ่ ข อ ง ส า ร พ ั น ธ ุ กร ร ม โครงสร้างและองค์ประกอบทาง เคมีของ DNA และสรุปการจำลอง DNA 7. อธิบาย และระบุขั้นตอนใน กระบวนการสังเคราะห์โปรตีน และหน้าที่ของ DNA และRNA แต ่ล ะชน ิด ใน กร ะบ ว น ก า ร สังเคราะห์โปรตีน 8. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างสาร พัน ธ ุกร ร ม แอล ล ีล โ ป รตีน ลักษณะทางพันธุกรรม และ เชื่อมโยงกับความรู้เรื่องพันธุ ศาสตร์เมนเดล • DNA เป็นพอลิเมอร์ของนิวคลีโอไทด์แต่ละ นิวคลีโอไทด์ ประกอบด้วย น้ำตาลดีออกซีไรโบสหมู่ฟอสเฟต และไนโตรจีนัส เบส คือ A T C และ G • โมเลกุลของ DNA เป็นพอลินิวคลีโอไทด์๒ สายเรียงสลับทิศและ บิดเป็นเกลียวเวียนขวา โดยการเข้าคู่กันของสาย DNA เกิดจาก การจับคู่ของเบสคู่สม คือ A คู่กับ T และ C คู่กับ G • ยีน คือสาย DNA บางช่วงที่ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมได้โดย ยีนกำหนดลำดับกรดอะมิโนของโปรตีนซึ่งทำหน้าที่เป็นโครงสร้าง เอนไซม์และอื่น ๆ มีผลทำให้เซลล์และสิ่งมีชีวิตปรากฏลักษณะ ต่าง ๆ ได้ • DNA จำลองตัวเองได้โดยใช้สายหนึ่งเป็นแม่แบบและสร้างอีกสาย ขึ้นมาใหม่ซึ่งจะมีโครงสร้างและลำดับนิวคลีโอไทด์เหมือนเดิม • DNA ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตได้โดยการสร้าง RNA ๓ ประเภท คือ mRNA tRNA และ rRNA ซึ่งร่วมกันทำหน้าที่ ในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีน • RNA เป็นพอลิเมอร์ของนิวคลีโอไทด์สายเดี่ยว แต่ละนิวคลีโอไทด์ ประกอบด้วย น้ำตาลไรโบส หมู่ฟอสเฟตและไนโตรจีนัสเบสคือ A U C และ G 9. สืบค้นข้อมูล และอธิบายการเกิด มิวเทชันระดับยีนและระดับ โครโมโซม สาเหตุการเกิดมิวเทชัน รวมทั้งยกตัวอย่างโรคและกลุ่ม อาการที่เป็นผลของการเกิดมิวเท ชัน • มิวเทชันเป็นการเปลี่ยนแปลงของลำดับหรือจำนวนนิวคลีโอไทด์ ใน DNA ซึ่งอาจนำไปสู่ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำงาน ของโปรตีน ซึ่งถ้าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดในเซลล์สืบพันธุ์จะ สามารถถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อ ๆ ไปได้และทำให้เกิดความแปรผัน ทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต การเกิดมิวเทชันมีสาเหตุมาจากปัจจัย ต่าง ๆ เช่น รังสีและสารเคมี • การขาดหายไปหรือเพิ่มขึ้นของนิวคลีโอไทด์และการแทนที่คู่เบส เป็นการเกิดมิวเทชันระดับยีน เช่น โรคโลหิตจางชนิดซิกเคิลเซลล์ เป็นผลมาจากการแทนที่คู่เบส • การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของโครโมโซม เช่น หายไปหรือเพิ่มขึ้น บางส่วน และการเปลี่ยนแปลงจำนวนโครโมโซม เช่น การลดลง


5 ชั้น ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม หรือเพิ่มขึ้นของโครโมโซมบางแท่งหรือทั้งชุด เป็นสาเหตุของการ เกิดมิวเทชันระดับโครโมโซม เช่น กลุ่มอาการคริดูชาต์และกลุ่ม อาการดาวน์กลุ่มอาการเทอร์เนอร์และกลุ่มอาการไคลน์เฟลเตอร์ 10. อธิบายหลักการสร้างสิ่งมีชีวิตดัด แปรพันธุกรรมโดยใช้ดีเอ็นเอรี คอมบิแนนท์ 11. ส ื บ ค ้ น ข ้อ ม ูล ย ก ต ั ว อย ่าง และอภิปรายการนำเทคโนโลยี ทางดีเอ็นเอไปประยุกต์ใช้ทั้งใน ด้านสิ่งแวดล้อมนิติวิทยาศาสตร์ ก า ร แ พ ท ย ์ ก า ร เ ก ษ ต ร แ ล ะ อุตสาหกรรม และข้อควรคำนึงถึง ด้านชีวจริยธรรม • การใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ ในการสร้างดีเอ็นเอรี คอมบิแนนท์สามารถนำไปใช้ในการสร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรม โดยนำยีนที่ต้องการมาตัดต่อใส่ในสิ่งมีชีวิต ทำให้สิ่งมีชีวิตนั้นมีสมบัติตามต้องการ • เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ เช่น สิ่งแวดล้อม นิติวิทยาศาสตร์การแพทย์การเกษตร และ อุตสาหกรรม โดยการใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอต้องคำนึงถึงความ ปลอดภัยทางชีวภาพ ชีวจริยธรรม และผลกระทบต่อสังคม 12. สืบค้นข้อมูล และอธิบายเกี่ยวกับ หลักฐานที่สนับสนุนและข้อมูลที่ ใช้อธิบายการเกิดวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต • หลักฐานที่ทำให้เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตมีวิวัฒนาการ เช่นซากดึกดำบรรพ์ กายวิภาคเปรียบเทียบ วิทยาเอ็มบริโอ การแพร่กระจายของ สิ่งมีชีวิตทางภูมิศาสตร์การศึกษาทางชีวภูมิศาสตร์และด้าน ชีววิทยาระดับโมเลกุล • มนุษย์มีการสืบสายวิวัฒนาการมาเป็นเวลานานโดยมีหลักฐาน ที่สนับสนุนจากซากดึกดำบรรพ์ของบรรพบุรุษมนุษย์ที่ค้นพบ และ จากการเปรียบเทียบลำดับเบสบน DNA ระหว่างมนุษย์กับไพรเมต อื่นๆ 13. อธิบาย และเปรียบเทียบแนวคิด เกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ของฌอง ลามาร์กและทฤษฎี เกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ของชาลส์ดาร์วิน • ฌอง ลามาร์ก ได้เสนอแนวคิดเพื่ออธิบายเกี่ยวกับวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิตว่า สิ่งมีชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างให้เข้ากับ สภาพแวดล้อมโดยอาศัยกฎการใช้และไม่ใช้และกฎแห่งการ ถ่ายทอดลักษณะที่เกิดขึ้นมาใหม่ • ชาลส์ ดาร์วิน เสนอทฤษฎีเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตว่า เกิด จากการคัดเลือกโดยธรรมชาติโดยสิ่งมีชีวิตมีแนวโน้มที่จะให้ กำเนิดลูกที่มีลักษณะแตกต่างกันจำนวนมาก แต่มีเพียงจำนวน หนึ่งที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมสามารถมีชีวิตรอด และ ถ่ายทอดลักษณะที่เหมาะสมไปยังรุ่นต่อไปได้


6 ชั้น ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม 14. ระบุสาระสำคัญ และอธิบาย เงื่อนไขของภาวะสมดุลของฮาร์ดี- ไวน์เบิร์ก ปัจจัยที่ทำให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีล ในประชากร พร้อมทั้งคำนวณหา ความถี่ของแอลลีลและจีโนไทป์ ของประชากรโดยใช้หลักของฮาร์ ดี-ไวน์เบิร์ก • เมื่อประชากรอยู่ในภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์กโดยประชากรมี ขนาดใหญ่ ไม่มีการถ่ายเทยีนระหว่างประชากร ไม่เกิดมิวเทชัน สมาชิกทุกตัวมีโอกาสผสมพันธุ์ได้เท่ากัน และไม่เกิดการคัดเลือก โดยธรรมชาติจะทำให้ความถี่ของแอลลีลของลักษณะนั้นไม่ เปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะผ่านไปกี่รุ่นก็ตาม เป็นผลให้ลักษณะนั้นไม่ เกิดวิวัฒนาการ • การเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนหรือแอลลีล ในประชากร เกิดจาก ปัจจัยหลายประการ นำไปสู่การเกิดวิวัฒนาการ 15. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และ อธิบายกระบวนการเกิดสปีชีส์ ใหม่ของสิ่งมีชีวิต • สปีชีส์ใหม่จะเกิดขึ้นได้เมื่อไม่มีการถ่ายเทเคลื่อนย้ายยีนระหว่าง ประชากรหนึ่งกับอีกประชากรหนึ่ง ในรุ่นบรรพบุรุษ ทำให้ ประชากรทั้งสอง มีโครงสร้างทางพันธุกรรมที่แตกต่างกันและ วิวัฒนาการเกิดเป็นสปีชีส์ใหม่ • ปัจจัยที่ทำให้เกิดสปีชีส์ใหม่อาจเกิดได้๒ แนวทาง คือ การเกิดสปี ชีส์ใหม่จากการแบ่งแยกทางภูมิศาสตร์และการเกิดสปีชีส์ใหม่ใน เขตภูมิศาสตร์เดียวกัน


7 คำอธิบายรายวิชา รายวิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 มัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต คำอธิบายรายวิชา ศึกษาเกี่ยวกับโครโมโซม และสารพันธุกรรม โครงสร้างของ DNA การจําลอง DNA การควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมของ DNA มิวเทชัน และการเกิดมิวเทชัน ศึกษาการถ่ายทอด ลักษณะทางพันธุกรรมการศึกษาพันธุกรรมของเมนเดล การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม ลักษณะทาง พันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของพันธุศาสตร์เมนเดล การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซมเพศ ยีนบน โครโมโซมเดียวกันศึกษาเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ พันธุวิศวกรรม และการโคลนยีน การหาขนาดของ DNA และการหาลำดับนิวคลีโอไทด์ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอและเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ กับความปลอดภัยทางชวีภาพและชวีจริยธรรม ศึกษาเกี่ยวกับวิวัฒนาการหลักฐานและข้อมลู ที่ใช้ใน การศึกษาวิวัฒนาการของสิ่งมชีวิต แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตพันธุศาสตร์ประชากร ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถีของแอลลีลและกำเนิดสปีชีส์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะการคิด การแก้ไขปัญหา ทักษะชีวิตและการใช้ เทคโนโลยี หรือรกระบวนการการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการการสร้างความรู้ กระบวนการ การคิด กระบวนการเผชิญสถานการณ์และการแก้ปัญหา กระบวนการการเรียนรู้จากประสบการณ์ จริง กระบวนการปฏิบัติ ลงมือทำจริง กระบวนการการวิจัย กระบวนการการเรียนรู้การเรียนรู้ของ ตัวเอง กระบวนการการจัดการเพื่อให้นักเรียนเกิดความซื่อสัตย์สุจริต อยู่อย่างพอเพียง ใฝ่รู้ใฝ่เรียน และมุ่งมั่นในการทำงาน ผลการเรียนรู้ 1. สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติและหน้าที่ของสารพันธุกรรม โครงสร้างและองค์ประกอบทาง เคมีของ DNA และสรป การจำาลอง DNA 2. อธิบายและระบุขั้นตอนในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีนและหน้าที่ของ DNA และ RNA แต่ละชนิดในกระบวนการสังเคราะห์ โปรตีน 3. สืบค้นข้อมูล และอธิบายการเกิดมิวเทชันระดับยีนและระดับโครโมโซม สาเหตุการเกิดมิว เทชัน รวมทั้งยกตัวอย่างโรคและกลุ่มอาการที่เป็นผลของการเกิดมิวเทชัน 4. สืบค้นข้อมูล อธิบายและสรุป ผลการทดลองของเมนเดล 5. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างสารพันธุกรรม แอลลีล โปรตีน ลักษณะทางพันธุกรรม และ เชื่อมโยงกับความรู้เรื่องพันธุศาสตร์เมนเดล


8 6. อธิบายและสรุปกฎแห่งการแยกและกฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระ และนำกฎของเมน เดลนี้ไปอธิบายการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมและใช้ในการคำนวณโอกาสในการเกิดฟีโนไทป์ และจีโนไทป์แบบต่าง ๆ ของรุ่น F1 และ F2 7. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ อธิบาย และสรุปเกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็น ส่วนขยายของพันธุศาสตร์เมนเดล 8. สืบค้นข้อมลู วิเคราะห์ และเปรียบเทียบลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันไม่ต่อเนื่อง และลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันต่อเนื่อง 9. อธิบายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม และยกตัวอย่างลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุม ด้วยยีนบนออโตโซมและยีนบนโครโมโซมเพศ 10. อธิบายหลักการสร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมโดยใช้ดีเอ็นเอรีคอมบิแนนท์ 11. สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง และอภิปรายการนำเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอไปประยุกต์ทั้งใน ด้านสิ่งแวดล้อม นิติวิทยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตร และอุตสาหกรรม และข้อควรคำนึงถึงด้าน ชีวจริยธรรม 12. สืบค้นข้อมูลและอธิบายเกี่ยวกับหลักฐานที่สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้อธิบายการเกิด วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต 13. อธิบายและเปรียบเทียบแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตของฌอง ลามาร์กและ ทฤษฎีเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตของชาลส์ดาร์วิน 14. ระบุสาระสำคัญและอธิบายเงื่อนไขของภาวะสมดุลของฮาร์ดี – ไวน์เบิร์ก ปัจจัยที่ทำให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีลในประชากร พร้อมทั้งคำนวณหาความถี่ของแอลลลี และจีโน ไทป์ของประชากรโดยใช้หลักของฮาร์ดี – ไวน์เบิร์ก 15. สืบค้นข้อมลู อภิปราย และอธิบายกระบวนการเกิดสปีชีสส์ใหม่ของสิ่งมชีวิต รวมผลการเรียนรู้ 15 ผลการเรียนรู้


9 โครงสร้างรายวิชา รายวิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต หน่วย ที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐาน การเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 4 โครโมโซมและ สารพันธุกรรม 1-3 - โครโมโซม - สารพันธุกรรม - สมบัติของสารพันธุกรรม - มิวเทชัน 13 10 5 การถ่ายทอด ลักษณะทาง พันธุกรรม 4-9 - การศึกษาพันธุกรรมของเมนเดล - ลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วนขยาย ของพันธุศาสตร์เมนเดล - ยีนบนโครโมโซมเดียวกัน 17 15 6 เทคโนโลยีทาง ดีเอ็นเอ 10-11 - พันธุวิศวกรรมและการโคลนยีน - การหาขนาดของ DNA และการหาลำดับ นิวคลีโอไทด์ - การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ - เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอกับความปลอดภัย ทางชีวภาพและ ชีวจริยธรรม 12 10 7 วิวัฒนาการ 12-15 - หลักฐานและข้อมูลที่ใช้ในการศึกษา วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต - แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต - พันธุศาสตร์ประชากร - ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ ของแอลลีล - กำเนิดสปีชีสส์ 16 15 รวม 58 50 สอบกลางภาค (หน่วยที่4-5) 1 20 สอบปลายภาค (หน่วยที่ 6-7) 1 30 รวมทั้งหมด 60 100


10 Pedagogy สื่อการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม ชีววิทยา ม. 4 ผู้จัดทำได้ออกแบบการสอน (Instructional Design) อันเป็นวิธีการจัดการเรียนรู้และเทคนิคการสอนที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและมีความ หลากหลายให้กับผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด รวมถึงสมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนที่หลักสูตรกำหนดไว้โดยครูสามารถ นำไปใช้จัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในรายวิชานี้ได้นำรูปแบบการสอนแบบสืบ เสาะหาความรู้(5Es Instructional Model) มาใช้ในการออกแบบการสอน ดังนี้ รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ด้วยจุดประสงค์ของการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิด สร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์วิจารณ์มีทักษะสำคัญในการค้นคว้าหา ความรู้และมีความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ผู้จัดทำ จึงได้เลือกใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5Es Instructional Model) ซึ่งเป็นขั้นตอนการเรียนรู้ที่มุ่งให้ผู้เรียนได้มี โอกาสสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองผ่านกระบวนการคิดและการลง มือทำ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อ การพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะการ เรียนรู้แห่งศตวรรษที่ 21 วิธีสอน (Teaching Method) ผู้จัดทำเลือกใช้วิธีสอนที่หลากหลาย เช่น การทดลอง การสาธิต การอภิปรายกลุ่มย่อย เป็นต้น เพื่อ ส่งเสริมการเรียนรู้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5Es Instructional Model) ให้เกิดประสิทธิภาพ มากที่สุด ซึ่งจะเน้นใช้วิธีสอนโดยใช้การทดลองมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นวิธีสอนที่มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเกิด องค์ความรู้จากประสบการณ์ตรงโดย การคิดและการลงมือทำด้วยตนเอง อันจะช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้และ เกิดทักษะทางวิทยาศาสตร์ที่คงทน เทคนิคการสอน (Teaching Technique) ผู้จัดทำเลือกใช้เทคนิคการสอนที่หลากหลายและเหมาะสมกับเรื่องที่เรียน เพื่อส่งเสริมวิธีสอนให้มี ประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การใช้คำถาม การเล่นเกม เพื่อนช่วยเพื่อน เป็นต้น ซึ่งเทคนิคการสอนต่างๆ จะ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุขในขณะที่เรียนและสามารถปฏิบัติกิจกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้พัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 อีกด้วย


11 กำหนดการสอน วิชาชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 สัปดาห์ ที่ แผนการจัดการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) มาตราฐาน/ตัวชี้วัด 1 โครโมโซมและสารพันธุกรรม - ปฐมนิเทศ - แผนที่ 1 โครโมโซม 1 1. สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติและหน้าที่ ของสารพันธุกรรม โครงสร้างและ องค์ประกอบทางเคมีของ DNA และสรุป - แผนที่ 2 การค้นพบสารพันธุกรรม 1 การจำลอง DNA 2 - แผนที่ 3 องค์ประกอบทางเคมีของDNA 1 - แผนที่ 4 โครงสร้างของดีเอ็นเอ 2 3 - 4 - แผนที่ 5 การจำลองดีเอ็นเอ - แผนที่ 6 การแปลรหัส 2 2 2. อ ธ ิ บ า ย แ ล ะ ร ะ บ ุ ข ั ้ น ต อ น ใ น กระบวนการสังเคราะห์โปรตีนและหน้าที่ ของ DNA และ RNA แต่ละชนิดใน กระบวนการสังเคราะห์ โปรตีน - แผนที่ 7 มิวเทชันระดับยีน 2 3. สืบค้นข้อมูล และอธิบายการเกิดมิวเท ชันระดับยีนและระดับโครโมโซม สาเหตุ การเกิดมิวเทชัน รวมทั้งยกตัวอย่างโรค และกลุ่มอาการที่เป็นผลของการเกิดมิว เทชัน 5 - 10 - แผนที่ 8 มิวเทชันระดับโครโมโซม 2 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม - แผนที่ 9 การศึกษาพันธุกรรมของเมนเดล 2 4. สืบค้นข้อมูล อธิบายและสรุปผลการ ทดลองของเมนเดล - แผนที่ 10 กฎการแยก 2 5. อธิบายและสรุปกฎแห่งการแยกและ กฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระ และนำ กฎของเมนเดลนี้ไปอธิบายการถ่ายทอด ลักษณะทางพันธุกรรมและใช้ในการ คำนวณโอกาสในการเกิดฟีโนไทป์และจี โนไทป์แบบต่างๆของรุ่น F1 และ F - แผนที่ 11 กฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระของ เมนเดล 2 - แผนที่ 12 การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม 1 6. อธิบายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม และยกตัวอย่างลักษณะทางพันธุกรรมที่ ถูกควบคุมด้วยยีนบน ออโตโซมและยีน บนโครโมโซมเพศ - แผนที่ 13 ความน่าจะเป็นกับการถ่ายทอด ลักษณะทางพันธุกรรม 1


12 สัปดาห์ ที่ แผนการจัดการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) มาตราฐาน/ตัวชี้วัด - แผนที่ 14 การถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรม • ความเด่นไม่สมบูรณ์ และความเด่นร่วม • มัลติเพิลอัลลีล • ลักษณะควบคุมด้วยยีนหลายคู่ • การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซมเพศ • ยีนบนโครโมโซมเดียว 9 7. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ อธิบาย และ สรุปเกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของพันธุ ศาสตร์เมนเดล 8.สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ และ เปรียบเทียบลักษณะทางพันธุกรรมที่มี การแปรผันไม่ต่อเนื่องและลักษณะทาง พันธุกรรมที่มีการแปรผันต่อเนื่อง 9.อธิบายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม และยกตัวอย่างลักษณะทางพันธุกรรมที่ ถูกควบคุมด้วยยีนบน ออโตโซมและยีน บนโครโมโซมเพศ - สอบกลาง 1 หน่วยที่ 4-5 15-19 เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ - แผนที่ 15 การโคลนยีนโดยใช้ พลาสมิด ของแบคทีเรีย 2 10. อธิบายหลักการสร้างสิ่งมีชีวิตดัด แปรพันธุกรรมโดยใช้ดีเอ็นเอรีคอม บิแนนท์ - แผนที่ 16 การถ่ายดีเอ็นเอคอมบิแนนท์ 3 - แผนที่ 17 การเพิ่มจำนวน DNA ด้วย เทคนิค PCR 3 - แผนที่ 18 การหาขนาดของ DNA ด้วย เทคนิคเจลอิเล็กโทรฟอรีซิส 2 - แผนที่ 19 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดี เอ็นเอ 2 11. สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง และ อภิปรายการนำเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอไป ประยุกต์ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม นิติ วิทยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตร และ อุตสาหกรรม และข้อควรคำนึงถึงด้าน ชีวจริยธรรม วิวัฒนาการ - แผนที่ 20 หลักฐานที่บ่งบอกถึง วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต 2 12. สืบค้นข้อมูลและอธิบายเกี่ยวกับ หลักฐานที่สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้ อธิบายการเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต


13 สัปดาห์ ที่ แผนการจัดการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) มาตราฐาน/ตัวชี้วัด - แผนที่ 21 วิวัฒนาการของลามาร์ก 2 13. อธิบายและเปรียบเทียบแนวคิด เกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตของฌอง ลามาร์ก และทฤษฎีเกี่ยวกับวิวัฒนาการ ของสิ่งมีชีวิตของชาลส์ ดาร์วิน - แผนที่ 22 วิวัฒนาการของดาร์วิน 3 - แผนที่ 23 ความถี่ของแอลลีลและจีโนไทป์ 3 14. ระบุสาระสำคัญและอธิบายเงื่อนไข ของภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ปัจจัยที่ทำให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงความถี่ ของแอลลีลในประชากร พร้อมทั้ง คำนวณหาความถี่ของแอลลีลและจีโน ไทป์ของประชากรโดยใช้หลักของฮาร์ดี- ไวน์เบิร์ก - แผนที่ 24 ปัจจัยที่ทำให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีล 3 - แผนที่ 25 กำเนิดสปีชีส์ 3 15. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบาย กระบวนการเกิดสปีชีส์ใหม่ของสิ่งมีชีวิต สอบปลายภาค 1 หน่วยที่ 6 - 7 รวม 60 15 ตัวชี้วัด


14 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายวิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ผลการเรียนรู้ รู้อะไร ทำอะไรได้ ภาระงาน/ชิ้นงาน สมรรถนะ สำคัญ คุณลักษณะ ของวิชา คุณลักษณะอัน พึงประสงค์ 1. เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะ ทางพันธุกรรม การถ่ายทอด ยีนบนโครโมโซม สมบัติและ หน้าที่ของสารพันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยี ทางดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูล แ ล ะ แ น ว ค ิ ด เ ก ี ่ ย ว กั บ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์ เบิร์กการเกิดสปีชีส์ใหม่ ค ว า ม ห ล า ก ห ล า ย ท า ง ชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ค ว า ม ห ล า ก ห ล า ย ข อ ง สิ่งมีชีวิต และอนุกรมวิธาน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ รู้อะไร การถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบน โครโมโซม สมบัติและหน้าที่ ของสารพันธุกรรม การเกิดมิว เทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูลและแนวคิด เกี่ยวกับวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ ดี-ไวน์เบิร์กการเกิดสปีชีส์ใหม่ ความหลากหลายทางชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ความ หลากหลายของสิ่งมีชีวิต และ อนุกรมวิธาน รวมทั้งนำความรู้ ไปใช้ประโยชน์ ทำอะไรได้ อธิบาย วิเคราะห์ สรุปและ อภิปรายรวมถึงการสืบค้น ข้อมูลเกี่ยวกับการถ่ายทอด ลักษณะทางพันธุกรรม การ ถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติและหน้าที่ของสาร พันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เท คโนโล ยี ท า งด ีเ อ ็ น เ อ หลักฐานข้อมูลและแนวคิด เกี่ยวกับวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ ดี-ไวน์เบิร์กการเกิดสปีชีส์ใหม่ ความหลากหลายทางชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ความ หลากหลายของสิ่งมีชีวิต และ อนุกรมวิธาน รวมทั้งนำความรู้ ไปใช้ประโยชน์ ชิ้นงานที่ 1 ใบงาน เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะ ทางพันธุกรรม ชิ้นงานที่ 2 ใบงาน เรื่อง สารพันธุกรรม ชิ้นงานที่ 3 ใบงาน เรื่อง เทคโนโลยีทาง ดีเอ็นเอ ชิ้นงานที่ 4 ใบงาน เรื่อง วิวัฒนาการ 1. ความสามารถ ในการคิด วิเคราะห์ 2. ความสามารถ การแก้ปัญหา 1. ความรอบคอบ 2. กระบวนการ กลุ่ม 1.ความมีวินัย 2.ใฝ่เรียนรู้ 3.มุ่งมั่นในการ ทำงาน


15 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายวิชา ชีววิทยา รหัสวิชา ว31241 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เป้าหมายการเรียนรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน วิธีวัด เครื่องมือวัด ประเด็น/ เกณฑ์การให้ คะแนน คะแนน สาระสำคัญ การถ่ายทอดลักษณะ ทางพันธุกรรม การถ่ายทอด ยีนบนโครโมโซม สมบัติและ หน้าที่ของสารพันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยี ทางดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูล แ ล ะ แ น ว ค ิ ด เ ก ี ่ ย ว กั บ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์ เบิร์กการเกิดสปีชีส์ใหม่ ความหลากหลายทางชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ความ หลากหลายของสิ่งมีชีวิต และอนุกรมวิธาน รวมทั้งนำ ความรู้ไปใช้ประโยชน์ ชิ้นงานที่ 1 ใบงาน เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะ ทางพันธุกรรม ชิ้นงานที่ 2 ใบงาน เรื่อง สารพันธุกรรม ชิ้นงานที่ 3 ใบงาน เรื่อง เทคโนโลยีทาง ดีเอ็นเอ ชิ้นงานที่ 4 ใบงาน เรื่อง วิวัฒนาการ 1. ตรวจใบงานเรื่อง ก า ร ถ ่ า ย ท อ ด ล ั ก ษ ณ ะ ท า ง พันธุกรรม 2. ตรวจใบงาน เรื่อง สารพันธุกรรม 3. ตรวจใบงาน เรื่อง เทคโนโลยีท า ง ดีเอ็นเอ 4. ตรวจใบงาน เรื่อง วิวัฒนาการ 1. แบบตรวจใบงา น เรื่อง การถ่ายทอด ล ั ก ษ ณ ะ ท า ง พันธุกรรม 2. แบบตรวจใบงา น เรื่องสารพันธุกรรม 3. แบบตรวจใบงา น เรื่องเทคโนโลยีทาง ดีเอ็นเอ 4. แบบตรวจใบงา น เรื่องวิวัฒนาการ ร้อยละ 70 ของคะแนนที่ ได้โดยดูความ ถูกต้องของ เนื้อหาที่ผู้เรียน บันทึกและ ความตั้งใจใน การทำ กิจกรรม 50


16 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง โครโมโซม จำนวน 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ 1. ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติและหน้าที่ของสารพันธุกรรม โครงสร้างและองค์ประกอบทางเคมี ของ DNA และสรุปการจำลอง DNA 2. สาระสำคัญ โครโมโซม (chromosome) มีลักษณะเป็นเส้นยาวขดพันกันเป็นเกลียวอยู่ในนิวเคลียส เรียกว่า โครมาทิน (chromatin) ซึ่งในช่วงของการแบ่งเซลล์ โครโมโซมจะหดตัวสั้นและหนาที่ ประกอบด้วยโครมาทิด 2 อัน ยึดกันตรงตำแหน่งเซนโทรเมียร์ (centromere) แบ่งออกเป็น 4 ชนิด ได้แก่ - เมทาเซนทริก (metacentric) เป็นโครโมโซมที่มีตำแหน่งเซนโทรเมียร์อยู่ตรงกลาง - ซับเมทาเซนทริก (submetacentric) เป็นโครโมโซมที่มีตำแหน่งเซนโทรเมียร์อยู่ห่างจาก จุดกึ่งกลางเล็กน้อย - อะโครเซนทริก (acrocentric) เป็นโครโมโซมที่มีตำแหน่งเซนโทรเมียร์อยู่ใกล้กับปลาย โครมาทิด - ทีโลเซนทริก (telocentric) เป็นโครโมโซมที่มีตำแหน่งเซนโทรเมียร์อยู่ที่ปลายโครมาทิด โครโมโซมจะบรรจุโมเลกุลเกลี่ยวคู่ของ DNA รวมอยู่กับโปรตีนฮีสโตน ซึ่งมีการสร้างสมดุลของสาย DNA พันรอบกลุ่มโปรตีนฮีสโตนเป็นโครงสร้างของนิวคลีโอโซม (nucleosome) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 สามารถอธิบายอธิบายโครงสร้างและองค์ประกอบของโครโมโซมได้(K) 3.2 สามารถวาดภาพรูปร่าง ลักษณะ และส่วนประกอบของโครโมโซมได้ (P) 3.3 มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) 4. สาระการเรียนรู้ - DNA เป็นพอลิเมอร์ของนิวคลีโอไทด์ แต่ละนิวคลี- โอไทด์ประกอบด้วยน้ำตาล ดีออกซี ไรโบส หมู่ฟอสเฟต และไนโตรจีนัสเบส คือ A T C และ G - โมเลกุลของ DNA เป็นพอลินิวคลีโอไทด์ 2 สาย เรียงสลับทิศและบิดเป็นเกลียวเวียนขวา โดยการเข้าคู่กันของสาย DNA เกิดจากการจับคู่ของเบสคู่สม คือ A คู่กับ T และ C คู่กับ G


17 5. ทักษะกระบวนการคิด 5.1 การสังเกต 5.2 การวัด 5.3 การจำแนกประเภท 5.4 การลงความเห็นจากข้อมูล 5.5 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูลสรุป 6. สมรรถนะผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะการสำรวจค้นหา 3) ทักษะการรวบรวมข้อมูล 4) ทักษะการหาแบบแผน 5) ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 6.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กระบวนการที่ใช้สอน : กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1. ทบทวนความรู้เดิมเรื่อง การแบ่งเซลล์ โดยใช้ชุดคำถามข้อคำถามหลักประกอบด้วย 1.1 โครโมโซมจะเห็นชัดเจนในการแบ่งเซลล์ระยะใด (แนวตอบ เมทาเฟส) 1.2 โครโมโซมของสิ่งมีชีวิตมีกี่ประเภท อะไรบ้าง (แนวตอบ โครโมโซมของสิ่งมีชีวิต แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ โครโมโซมร่างกาย และ โครโมโซมเพศ) 2. นำเสนอรูป 4.1 แคริโอไทป์ของกบนาและมนุษย์ต่างๆ ให้กับนักเรียนสังเกต


18 3. ใช้ชุดคำถามการสังเกตภาพดังกล่าวข้อ 2 กับนักเรียน ข้อคำถามหลักประกอบด้วย 3.1 การจัดเรียงตามขนาดของโครโมโซมและตำแหน่งของเซนโทเมียร์ของกบและมนุษย์ เหมือนกันหรือไม่ (แนวคำตอบ : การจัดเรียงโครโมโซมของกบนาได้ 13 คู่ และโครโมโซมของมนุษย์ได้ 23 คู่ โครโมโซมมีรูปร่างลักษณะเหมือนกันเป็นคู่ เรียกว่า ฮอมอโลกัสโครโมโซม) 3.2 นักวิทยาศาสตร์สามารถใช้จำนวนโครโมโซมในการระบุสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตได้หรือไม่ เพราะเหตุใด (แนวตอบ จำนวนโครโมโซมไม่สามารถใช้ระบุสปีส์ของสิ่งมีชีวิตได้ เพราะสิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์ กันอาจมีจำนวนโครโมโซมเท่ากันได้ เช่น สน มะเขือเทศ และข้าว มีจำนวนโครโมโซม 24 โครโมโซม เท่ากัน) ขั้นสำรวจและค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ให้นักเรียนสังเกตตาราง 4.1 จำนวน โครโมโซมในเซลล์ร่างกายของสิ่งมีชีวิตสปีชีสป์ต่างๆ และให้นักเรียนสังเกตรูปภาพ 4.3 -4.4 เพื่อให้ นักเรียนศึกษาการเกี่ยวกับรูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซม และส่วนประกอบของโครโมโซม ของยูแคริโอต 2. แจกใบงาน เรื่อง โครโมโซม ให้กับนักเรียน 3. ครูให้นักเรียนศึกษาและสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับรูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซม และ ส่วนประกอบของโครโมโซมของยูแคริโอต จากแหล่งวิทยาการต่างๆ เช่น อินเตอร์เน็ต สไลด์การสอน และหนังสือเรียน และให้นักเรียนทำกิจกรรมตามคำชี้แจงใบงาน ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการทำกิจกรรม โดยครูใช้คำถามดังนี้ - โครโมโซมมีความสัมพันธ์กับความซับซ้อนของสิ่งมีชีวิตหรือไม่ (แนวตอบ จำนวนโครโมโซมไม่น่าจะมีความสัมพันธ์กับระดับความซับซ้อนของสิ่งมีชีวิต เช่น ไก่มีจำนวนโครโมโซมมากกว่าคน แต่ระบบอวัยวะของคนมีความซับซ้อนมากกว่าไก่ หรือแมลงวัน แมลงหวี่ ยุงก้นปล่อง และผึ้ง เป็นแมลงเหมือนกันที่มีความซับซ้อนของโครงสร้างใกล้เคียงกัน แต่มี จำนวนโครโมโซมที่แตกต่างกัน) - สิ่งมีชีวิตต่างชนิด แต่มีโครโมโซมเท่ากัน สามารถสืบพันธุ์และให้กำเนิดลูกได้หรือไม่ เพราะ เหตุใด (แนวตอบ สิ่งมีชีวิตต่างชนิดกันที่มีจำนวนโครโมโซมเท่ากันจะไม่สามารถสืบพันธุ์และให้ กำเนิดลูกได้ เนื่องจากแต่ละโครโมโซมมีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกัน จึงทำให้ไม่เกิดการเข้าคู่กัน ของฮอมอโลกัสโครโมโซม)


19 - โปรตีนฮีสโตนในโครโมโซมมีบทบาทอย่างไร (แนวตอบ เนื่องจาก DNA มีประจุลบ แต่โปรตีนฮีสโตนมีประจุบวก จึงทำให้เกิดการสร้าง สมดุลประจุของโครมาทินด้วยสาย DNA พันรอบกลุ่มโปรตีนฮีสโตน) 2. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคำตอบของใบงานเรื่อง โครโมโซม ขั้นขยายความรู้ (Elaborate) ครูให้นักเรียนทำผังสรุป เรื่อง โครโมโซมของสิ่งมีชีวิต โดยคัดเลือกสิ่งมีชีวิตที่สนใจในท้องถิ่น ของนักเรียน ระบุจำนวนโครโมโซม และประเภทของโครโมโซมแต่ละแท่งตามตำแหน่งของ เซนโทรเมียร์ โดยสืบค้นข้อมูลจากวารสารทางวิชาการ หรือสื่อออนไลน์ ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 4 2. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการนำเสนอผลงาน โดยการ ใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 3. ครูตรวจผลงานจากการทำใบงานหรือแบบฝึกหัด 8. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 10.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 10.2 Power point เรื่อง รูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซม 9. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 1. K สามารถอธิบายรูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซมได้ ตอบคำถามใน ใบงาน แบบประเมิน ชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 2. P สามารถวาดภาพรูปร่าง ลักษณะ และส่วนประกอบของ โครโมโซมได้ ภาพวาด แบบประเมิน ทักษะการ ปฏิบัติการ ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป


20 แบบประเมินชิ้นงาน ประเด็นที่ ประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ผลงานมีความ ถูกต้องสมบูรณ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นบางประเด็น ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็น ระบบ ผลงานมีแนวคิดแปลก ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่ 5. ผลงานเสร็จ ตามเวลาที่กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ที่กำหนด ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 1-2 วัน ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 3-5 วัน จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบประเมิน พฤติกรรม ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป 3.2 ใฝ่เรียนรู้ 3.3 มุ่งมั่นการทำงาน


21 แบบประเมินทักษะการปฏิบัติการ ทักษะปฏิบัติการ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ การเลือกใช้ อุปกรณ์/ เครื่องมือในการ ทดลอง เลือกใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการ ทดลองหรือปฏิบัติการ ได้เหมาะสมกับงาน เลือกใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการทดลอง หรือปฏิบัติการได้ถูกต้อง แต่ไม่เหมาะสมกับงาน เลือกใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการทดลอง หรือปฏิบัติการไม่ถูกต้อง การใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการ ทดลอง ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองได้อย่าง คล่องแคล่วและถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติ ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือใน การทดลองได้ถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติแต่ ไม่คล่องแคล่ว ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือใน การทดลองไม่ถูกต้อง การทดลอง/ ปฏิบัติตามแผนที่ กำหนด ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้ อย่างถูกต้อง มีการ ปรับปรุงแก้ไขเป็น ระยะ ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้มี การปรับปรุงแก้ไขบ้าง ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้หรือ ดำเนินการข้ามที่กำหนด ไว้ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข แบบประเมินพฤติกรรม วิธีการให้คะแนน ตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์โดยกำหนดน้ำหนักของตัวเลือกในช่องต่าง ๆ เป็น 4 3 2 และ 1 ข้อความที่มีความหมายเป็นทางบวก กำหนดให้คะแนนแต่ละข้อความดังนี้ ระดับพฤติกรรมการแสดงออก คะแนน มาก 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 ไม่มีการแสดงออก 1


22 10. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้


23 ความเห็นของครูพี่เลี้ยง 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอุบลรรณ เลี้ยวอุดมชัย) ครูพี่เลี้ยง แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


24 ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นายบุญเลี้ยง จอดนอก) หัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


25 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง การค้นพบสารพันธุกรรม จำนวน 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ 1. ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติและหน้าที่ของสารพันธุกรรม โครงสร้างและองค์ประกอบทางเคมี ของ DNA และสรุปการจำลอง DNA 2. สาระสำคัญ นักวิทยาศาสตร์หลายท่านทำการค้นคว้าเกี่ยวกับสารพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต ดังนี้ - โยฮันน์ ฟรีดริช มิเชอร์ ค้นพบว่า กรดนิวคลีอิกจากสารเคมีที่สกัดจากนิวเคลียสของเซลล์ เม็ดเลือดขาว ซึ่งไม่สามารถถูกย่อยด้วยเอนไซม์เพปซิน - เฟรเดอริก กริฟฟิท ค้นพบสารบางอย่างจากแบคทีเรียสายพันธุ์ S ที่ทำให้ตายด้วยความ ร้อนสามารถเข้าไปยังแบคทีเรียสายพันธุ์ R ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรียสายพันธุ์ R เป็น แบคทีเรียสายพันธุ์ S ซึ่งสามารถถ่ายทอดไปยังรุ่นลูกหลานของแบคทีเรีย - ออสวอลด์ที แอเวอรีแมคลิน แมคคาร์ที และคอลิน แมคลอยด์ ค้นพบว่า สารที่ เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของแบคทีเรีย สายพันธุ์ R เป็นสายพันธุ์ S คือ DNA 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 สามารถอธิบายและสรุปผลการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับการค้นพบสารพันธุกรรม ได้ (K) 3.2 สามารถสืบค้นการค้นข้อมูลการค้นพบสารพันธุกรรมโดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ได้ (P) 3.3 มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) 4. สาระการเรียนรู้ - DNA เป็นพอลิเมอร์ของนิวคลีโอไทด์ แต่ละนิวคลี- โอไทด์ประกอบด้วยน้ำตาล ดีออกซีไร โบส หมู่ฟอสเฟต และไนโตรจีนัสเบส คือ A T C และ G - โมเลกุลของ DNA เป็นพอลินิวคลีโอไทด์ 2 สาย เรียงสลับทิศและบิดเป็นเกลียวเวียนขวา โดยการเข้าคู่กันของสาย DNA เกิดจากการจับคู่ของเบสคู่สม คือ A คู่กับ T และ C คู่กับ G 5. ทักษะกระบวนการคิด 5.1 การสังเกต 5.2 การจำแนกประเภท


26 5.3 การลงความเห็นจากข้อมูล 6. สมรรถนะผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะการสำรวจค้นหา 3) ทักษะการรวบรวมข้อมูล 4) ทักษะการหาแบบแผน 5) ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 6.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กระบวนการที่ใช้สอน : กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1. ทบทวนความรู้เดิมเรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต โดยใช้ชุดคำถามข้อ คำถามหลักประกอบด้วย 1.1 เพราะเหตุใด DNA จึงมีบทบาทสำคัญต่อการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของ สิ่งมีชีวิต (แนวตอบ DNA เป็นสารพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต ซึ่งทำหน้าที่กำหนดลักษณะทางพันธุกรรม ของสิ่งมีชีวิต และยังสามารถถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากรุ่นพ่อแม่สู่รุ่นลุกได้) 1.2 สารพันธุกรรมของมนุษย์ คืออะไร (แนวตอบ สารพันธุกรรมของมนุษย์ คือ ดีเอ็นเอ) ขั้นสำรวจและค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ให้นักเรียนสังเกตรูปภาพ 4.5 -4.6 เพื่อให้ นักเรียนศึกษา การทดลองของนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการค้นพบสารพันธุกรรม 2. แจกใบงาน เรื่อง การค้นพบสารพันธุกรรม ให้กับนักเรียน 3. ครูให้นักเรียนศึกษาและสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการค้นพบสารพันธุกรรมของนักวิทยาศาสตร์ จาก แหล่งวิทยาการต่างๆ เช่น อินเตอร์เน็ต สไลด์การสอน และหนังสือเรียน และให้นักเรียนทำกิจกรรมตามคำ ชี้แจงใบงาน ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการทำกิจกรรม โดยครูใช้คำถามดังนี้ - เพราะเหตุใด เมื่อฉีดแบคทีเรียที่ผสมระหว่างสายพันธุ์ S ที่ตายแล้วกับแบคทีเรียสายพันธุ์ R จึงมีผลทำให้หนูตาย


27 (แนวตอบ มีสารบางอย่างจากแบคทีเรียสายพันธุ์ S เข้าไปยังแบคทีเรียสายพันธุ์ R และ สามารถเปลี่ยนแบคทีเรียสายพันธุ์ R ให้กลายป็นสายพันธุ์ S ได้ จึงมีผลทำให้หนูตาย) - สารอะไรที่สามารถเปลี่ยนแบคทีเรียสายพันธุ์ R ให้กลายป็นสายพันธุ์ S ได้ เพราะเหตุใด (แนวตอบ สารที่ทำให้แบคทีเรียสายพันธุ์ R ให้กลายป็นสายพันธุ์ S คือ DNA เนื่องจากเมื่อ ทำการทดลองใส่เอนไซม์หลายชนิด ได้แก่ RNase โปรตีเอส DNase ลงในส่วนผสมอของแบคทีเรียที่ ผสมระหว่างสายพันธุ์ S ที่ตายแล้วกับแบคทีเรียสายพันธุ์ R มีเพียงหลอดที่ใส่ DNase เท่านั้น ที่ไม่ เกิดการเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรีย แสดงให้เห็นว่า DNase ย่อย DNA จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงของ แบคทีเรีย) ขั้นขยายความรู้ (Elaborate) ครูให้นักเรียนผังสรุป เรื่อง การค้นพบสารพันธุกรรม จากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ท่าน ต่าง ๆ ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 4 2. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการนำเสนอผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 3. ครูตรวจผลงานจากการทำใบงานหรือแบบฝึกหัด 8. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 10.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 10.2 Power point เรื่อง การค้นพบสารพันธุกรรม 9. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 1. K สามารถอธิบายรูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซมได้ ตอบคำถามใน ใบงาน แบบประเมิน ชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 2. P สามารถวาดภาพรูปร่าง ลักษณะ และส่วนประกอบของ โครโมโซมได้ ภาพวาด แบบประเมิน ทักษะการ ปฏิบัติการ ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป


28 แบบประเมินชิ้นงาน ประเด็นที่ ประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ผลงานมีความ ถูกต้องสมบูรณ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นบางประเด็น ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็น ระบบ ผลงานมีแนวคิดแปลก ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่ 5. ผลงานเสร็จ ตามเวลาที่กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ที่กำหนด ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 1-2 วัน ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 3-5 วัน จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบประเมิน พฤติกรรม ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป 3.2 ใฝ่เรียนรู้ 3.3 มุ่งมั่นการทำงาน


29 แบบประเมินทักษะการปฏิบัติการ ทักษะปฏิบัติการ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ การเลือกใช้ อุปกรณ์/ เครื่องมือในการ ทดลอง เลือกใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการ ทดลองหรือปฏิบัติการ ได้เหมาะสมกับงาน เลือกใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการทดลอง หรือปฏิบัติการได้ถูกต้อง แต่ไม่เหมาะสมกับงาน เลือกใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการทดลอง หรือปฏิบัติการไม่ถูกต้อง การใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการ ทดลอง ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองได้อย่าง คล่องแคล่วและถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติ ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือใน การทดลองได้ถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติแต่ ไม่คล่องแคล่ว ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือใน การทดลองไม่ถูกต้อง การทดลอง/ ปฏิบัติตามแผนที่ กำหนด ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้ อย่างถูกต้อง มีการ ปรับปรุงแก้ไขเป็น ระยะ ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้มี การปรับปรุงแก้ไขบ้าง ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้หรือ ดำเนินการข้ามที่กำหนด ไว้ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข แบบประเมินพฤติกรรม วิธีการให้คะแนน ตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์โดยกำหนดน้ำหนักของตัวเลือกในช่องต่าง ๆ เป็น 4 3 2 และ 1 ข้อความที่มีความหมายเป็นทางบวก กำหนดให้คะแนนแต่ละข้อความดังนี้ ระดับพฤติกรรมการแสดงออก คะแนน มาก 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 ไม่มีการแสดงออก 1


30 10. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้


31 ความเห็นของครูพี่เลี้ยง 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอุบลรรณ เลี้ยวอุดมชัย) ครูพี่เลี้ยง แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


32 ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นายบุญเลี้ยง จอดนอก) หัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


33 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง องค์ประกอบทางเคมีของDNA จำนวน 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ ************************************************************************* 1. ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติและหน้าที่ของสารพันธุกรรม โครงสร้างและองค์ประกอบทางเคมี ของ DNA และสรุปการจำลอง DNA 2. สาระสำคัญ ดีเอ็นเอหรือกรดดีออกซีไรโบนิวคลีอิกเป็นสารพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตเกิดจากพอลิเมอร์ของ นิวคลีโอไทด์ (nucleotide) ที่ประกอบด้วยน้ำตาลดีออกซีไรโบส ไนโตรจีนัสเบส (อะดีนีน กวานีน ไซโทซีน และไทมีน) และหมู่ฟอสเฟต หน่วยย่อยของนิวคลีโอไทด์แต่ละหน่วยจะสร้างพันธะฟอสโฟไดเอสเตอร์ (phosphodiester bond) โดยหมู่ฟอสเฟตที่อยู่ในตำแหน่งคาร์บอนที่ 5 สร้างพันธะกับน้ำตาลดีออกซีไรโบสของอีกนิ วคลีโอไทด์ที่คาร์บอนตำแหน่งที่ 3 จนเป็นสายยาวที่เรียกว่า พอลินิวคลีโอไทด์ (polynucleotide) ที่ปลายด้านหนึ่งจะเป็นตำแหน่ง 5’ ของคาร์บอนอะตอมในน้ำตาลดีออกซีไรโบส และปลายอีกด้าน เป็นตำแหน่ง 3’ ของคาร์บอนอะตอมในน้ำตาล ดีออกซีไรโบส 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 สามารถอธิบายองค์ประกอบทางเคมีของดีเอ็นเอได้ (K) 3.2 สามารถสืบค้นการค้นข้อมูลเกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมีของดีเอ็นเอได้ (P) 3.3 มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) 4. สาระการเรียนรู้ - DNA เป็นพอลิเมอร์ของนิวคลีโอไทด์ แต่ละนิวคลี- โอไทด์ประกอบด้วยน้ำตาล ดีออกซีไร โบส หมู่ฟอสเฟต และไนโตรจีนัสเบส คือ A T C และ G - โมเลกุลของ DNA เป็นพอลินิวคลีโอไทด์ 2 สาย เรียงสลับทิศและบิดเป็นเกลียวเวียนขวา โดยการเข้าคู่กันของสาย DNA เกิดจากการจับคู่ของเบสคู่สม คือ A คู่กับ T และ C คู่กับ G 5. ทักษะกระบวนการคิด 5.1 การสังเกต 5.2 การวัด 5.3 การจำแนกประเภท


34 5.4 การลงความเห็นจากข้อมูล 6. สมรรถนะผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะการสำรวจค้นหา 3) ทักษะการรวบรวมข้อมูล 4) ทักษะการหาแบบแผน 5) ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 6.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กระบวนการที่ใช้สอน : กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1. ทบทวนความรู้เดิมเรื่อง DNA โดยใช้ชุดคำถามข้อคำถามหลักประกอบด้วย - DNA มีความสัมพันธ์กับโครโมโซมอย่างไร (แนวตอบ DNA เป็นส่วนประกอบของโครโมโซมของสิ่งมีชีวิต ซึ่งสายดีเอ็นเอจะพันอยู่รอบ กลุ่มโปรตีนฮีสโตน) 2. นำเสนอรูปภาพ 4.7 นิวคลีโอไทด์ ให้กับนักเรียนสังเกต 3. ใช้ชุดคำถามการสังเกตภาพดังกล่าวข้อ 2 กับนักเรียน ข้อคำถามหลักประกอบด้วย - จากรูปภาพนิวคลีโอไทด์ สิ่งที่นักเรียนสังเกตได้คืออะไร (แนวตอบ นิวคลีโอไทด์ของดีเอ็นเอ ประกอบด้วยโครงสร้าง 3 ส่วน )


35 ขั้นสำรวจและค้นหา (Explore) 20 นาที 1. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ให้นักเรียนสังเกตรูปภาพ 4.7 -4.8 เพื่อให้ นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมีของดีเอ็นเอ 2. แจกใบงาน เรื่อง องค์ประกอบทางเคมีของดีเอ็นเอ ให้กับนักเรียน 3. ครูให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับ นิวคลีโอไทด์ของดีเอ็นเอ ประกอบด้วยโครงสร้าง 3 ส่วน ได้แก่ น้ำตาล ดีออกซีไรโบส หมู่ฟอสเฟต และไนโตรจีนัสเบส ซึ่งนิวคลีโอไทด์แต่ละชนิดจะแตกต่างกันที่ ชนิดของไนโตรจีนัสเบส ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 10 นาที 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการทำกิจกรรม โดยครูใช้คำถามดังนี้ - หน่วยย่อยของนิวคลีโอไทด์เชื่อมต่อเป็น DNA สายยาวได้อย่างไร (แนวตอบ หมู่ฟอสเฟตที่อยู่ในคาร์บอนตำแหน่งที่ 5 ของนิวคลีโอไทด์โมเลกุลหนึ่ง จะสร้าง พันธะฟอสโฟ- ไดเอสเตอร์กับคาร์บอนตำแหน่งที่ 3 ของน้ำตาลดีออกซีไรโบสของอีกนิวคลีโอไทด์ หนึ่ง แต่โมเลกุลดีเอ็นเอมีลักษณะเป็นเกลียวคู่ ซึ่งดีเอ็นเอ 2 สาย จะสร้างพันธะไฮโดรเจนระหว่างไน โตรจีนัสเบส โดยเบส A กับเบส T จะจับกันด้วยพันธะไฮโดรเจน 2 พันธะ ส่วนเบส G กับเบส C จะจับกันด้วยพันธะไฮโดรเจน 3 พันธะ) - เพราะเหตุใด ปริมาณเบส A จึงใกล้เคียงกับเบส T และเบส G จึงใกล้เคียงกับเบส C (แนวตอบ เนื่องจากเบส A จะเข้าคู่กับเบส T ส่วนเบส C จะเข้าคู่กับเบส G จึงทำให้ปริมาณเบส A จึงใกล้เคียงกับเบส T และเบส G จึงใกล้เคียงกับเบส C เสมอ) - นิวคลีโอไทด์แต่ละชนิดจะแตกต่างกันอย่างไร (แนวตอบ นิวคลีโอไทด์แต่ละชนิดจะแตกต่างกันที่ชนิดของเบส โดยอาจเป็นเบสชนิดอะดีนีน ไทมีน ไซโทซีน หรือกวานีน) ขั้นขยายความรู้ (Elaborate) 5 นาที ครูให้นักเรียนศึกษาปริมาณเบสในโมเลกุล DNA ในเซลล์ร่างกายของสิ่งมีชีวิตในท้องถิ่น และ สื่อออนไลน์ ขั้นประเมิน (Evaluation) 10 นาที 1. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 4 2. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการนำเสนอผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 3. ครูตรวจผลงานจากการทำใบงานหรือแบบฝึกหัด


36 8. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 9.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 9.2 Power point เรื่อง องค์ประกอบทางเคมีของดีเอ็นเอ 9. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 1. K สามารถอธิบายรูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซมได้ ตอบคำถามใน ใบงาน แบบประเมิน ชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 2. P สามารถวาดภาพรูปร่าง ลักษณะ และส่วนประกอบของ โครโมโซมได้ ภาพวาด แบบประเมิน ทักษะการ ปฏิบัติการ ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบประเมิน พฤติกรรม ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป 3.2 ใฝ่เรียนรู้ 3.3 มุ่งมั่นการทำงาน


37 แบบประเมินชิ้นงาน ประเด็นที่ ประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ผลงานมีความ ถูกต้องสมบูรณ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นบางประเด็น ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็น ระบบ ผลงานมีแนวคิดแปลก ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่ 5. ผลงานเสร็จ ตาม เวลาที่กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ที่กำหนด ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 1-2 วัน ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 3-5 วัน แบบประเมินทักษะการปฏิบัติการ ทักษะปฏิบัติการ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ การเลือกใช้ อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลอง เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้เหมาะสมกับ งาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้ถูกต้องแต่ไม่ เหมาะสมกับงาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการไม่ถูกต้อง การใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการ ทดลอง ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือใน การทดลองได้อย่าง คล่องแคล่วและถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติ ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองได้ถูกต้องตาม หลักการปฏิบัติแต่ไม่ คล่องแคล่ว ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองไม่ถูกต้อง การทดลอง/ปฏิบัติ ตามแผนที่กำหนด ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่าง ถูกต้อง มีการปรับปรุง แก้ไขเป็นระยะ ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้มีการ ปรับปรุงแก้ไขบ้าง ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้หรือ ดำเนินการข้ามที่กำหนดไว้ ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข


38 แบบประเมินพฤติกรรม วิธีการให้คะแนน ตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์โดยกำหนดน้ำหนักของตัวเลือกในช่องต่าง ๆ เป็น 4 3 2 และ 1 ข้อความที่มีความหมายเป็นทางบวก กำหนดให้คะแนนแต่ละข้อความดังนี้ ระดับพฤติกรรมการแสดงออก คะแนน มาก 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 ไม่มีการแสดงออก 1


39 10. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้


40 ความเห็นของครูพี่เลี้ยง 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอุบลรรณ เลี้ยวอุดมชัย) ครูพี่เลี้ยง แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


41 ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นายบุญเลี้ยง จอดนอก) หัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


42 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 วิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง โครงสร้างของดีเอ็นเอ จำนวน 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ 1. ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติและหน้าที่ของสารพันธุกรรม โครงสร้างและองค์ประกอบทางเคมี ของ DNA และสรุปการจำลอง DNA 2. สาระสำคัญ โมเลกุลดีเอ็นเอจะประกอบด้วยพอลินิวคลีโอไทด์ 2 สายเรียงสลับทิศกันและพันกันเป็น เกลี่ยวคู่ตามเข็มนาฬิกา มีแกนน้ำตาล-ฟอสเฟตอยู่ด้านนอกของโมเลกุล และไนโตรจีนัสเบสอยู่ด้านใน โมเลกุลซึ่งเบส A จะจับคู่กับเบส T ด้วยพันธะไฮโดรเจน 2 พันธะ และเบส G จะจับคู่กับเบส C ด้วย พันธะไฮโดรเจน 3 พันธะ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 สามารถอธิบายโครงสร้างของดีเอ็นเอได้ (K) 3.2 สามารถสร้างแบบจำลองดีเอ็นเอได้ (P) 3.3 มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) 4. สาระการเรียนรู้ - DNA เป็นพอลิเมอร์ของนิวคลีโอไทด์ แต่ละนิวคลี- โอไทด์ประกอบด้วยน้ำตาล ดีออกซี ไรโบส หมู่ฟอสเฟต และไนโตรจีนัสเบส คือ A T C และ G - โมเลกุลของ DNA เป็นพอลินิวคลีโอไทด์ 2 สาย เรียงสลับทิศและบิดเป็นเกลียวเวียนขวา โดยการเข้าคู่กันของสาย DNA เกิดจากการจับคู่ของเบสคู่สม คือ A คู่กับ T และ C คู่กับ G 5. ทักษะกระบวนการคิด 5.1 การสังเกต 5.2 การวัด 5.3 การจำแนกประเภท 5.4 การลงความเห็นจากข้อมูล 5.5 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูลสรุป 6. สมรรถนะผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด


43 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะการสำรวจค้นหา 3) ทักษะการรวบรวมข้อมูล 4) ทักษะการหาแบบแผน 5) ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 7. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน วิธีสอนโดยการจัดการเรียนการสอน: กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1. ทบทวนความรู้เดิมเรื่อง นิวคลีโอไทด์โดยใช้ชุดคำถามข้อคำถามหลักประกอบด้วย - หน่วยย่อยของนิวคลีโอไทด์เชื่อมต่อเป็น DNA สายยาวได้อย่างไร (แนวตอบ หมู่ฟอสเฟตที่อยู่ในคาร์บอนตำแหน่งที่ 5 ของนิวคลีโอไทด์โมเลกุลหนึ่ง จะสร้าง พันธะฟอสโฟไดเอสเตอร์กับคาร์บอนตำแหน่งที่ 3 ของน้ำตาลดีออกซีไรโบสของอีกนิวคลีโอไทด์หนึ่ง แต่โมเลกุลดีเอ็นเอมีลักษณะเป็นเกลียวคู่ ซึ่งดีเอ็นเอ 2 สาย จะสร้างพันธะไฮโดรเจนระหว่างไนโตร จีนัสเบส โดยเบส A กับเบส T จะจับกันด้วยพันธะไฮโดรเจน 2 พันธะ ส่วนเบส G กับเบส C จะจับกัน ด้วยพันธะไฮโดรเจน 3 พันธะ) 2. นำเสนอรูปภาพโครงสร้างของดีเอ็นเอ ให้กับนักเรียนสังเกต 3. ใช้ชุดคำถามการสังเกตภาพดังกล่าวข้อ 2 กับนักเรียน ข้อคำถามหลักประกอบด้วย - จากรูปภาพดีเอ็นเอมีความสัมพันธ์กับนิวคลีโอไทด์อย่างไร (แนวตอบ เอ็นเอจะประกอบด้วยพอลินิวคลีโอไทด์ 2 สายเรียงสลับทิศกันและพันกันเป็น เกลี่ยวคู่ตามเข็มนาฬิกา)


44 ขั้นสำรวจและค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ให้นักเรียนสังเกตรูปภาพ 4.9 -4.11 เพื่อให้ นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างของดีเอ็นเอ 2. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า โมเลกุลดีเอ็นเอประกอบด้วยพอลินิวคลีโอไทด์ 2 สาย เรียงสลับทิศกัน บิดเป็นเกลียวคู่เวียนตามเข็มนาฬิกา ซึ่งมีแกนน้ำตาล-ฟอสเฟตอยู่ด้านนอก และไนโตรจีนัสเบสอยู่ ด้านใน โดย A จับคู่กับ T ด้วยพันธะไฮโดรเจน 2 พันธะ และ G จับคู่กับ C ด้วยพันธะไฮโดรเจน 3 พันธะ โครงสร้างเกลียวคู่มีระยะห่างกัน 20 อังสตรอม แต่ละเกลียวห่างกัน 34 อังสตรอม และแต่ละคู่ เบสห่างกัน 3.4 อังสตรอม 3. แจกใบงาน เรื่อง โครงสร้างของดีเอ็นเอ ให้กับนักเรียน ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการทำกิจกรรม โดยครูใช้คำถามดังนี้ - แรงยึดเหนียวของคู่เบส A กับ T และคู่เบส G กับ C คู่ใดมีแรงยึดเหนียวมากกว่ากัน (แนวตอบ คู่เบสระหว่าง G กับ C มีแรงยึดเหนียวมากกว่า A กับ T เนื่องจากมีพันธะ ไฮโดรเจนมากกว่า) - ใน 1 เกลียวของ DNA ประกอบด้วยคู่เบสกี่คู่ (แนวตอบ เกลียว DNA แต่ละเกลียวจะห่างกัน 34 อังสตรอม ซึ่งแต่ละคู่เบสห่างกัน 3.4 อังสตรอม ดังนั้น เกลียว DNA แต่ละเกลียวประกอบด้วยคู่เบสจำนวน 10 คู่) ขั้นขยายความรู้ (Elaborate) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน สร้างแบบจำลองโมเลกุลของ DNA จากกระดาษ โดยใช้ข้อมูลการสร้างแบบจำลองโมเลกุลของ DNA จากกิจกรรม 4.1 แบบจำลองดีเอ็นเอ แล้วออกมา นำเสนอแบบจำลองหน้าชั้นเรียน ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 4 2. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการนำเสนอผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 3. ครูตรวจผลงานจากการทำใบงานหรือแบบฝึกหัด 8. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 9.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 9.2 Power point เรื่อง องค์ประกอบทางเคมีของดีเอ็นเอ


45 9. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล แบบประเมินชิ้นงาน ประเด็นที่ ประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ผลงานมีความ ถูกต้องสมบูรณ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นบางประเด็น ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็น ระบบ ผลงานมีแนวคิดแปลก ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่ 5. ผลงานเสร็จ ตามเวลาที่กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ที่กำหนด ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 1-2 วัน ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 3-5 วัน จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 1. K สามารถอธิบายรูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซมได้ ตอบคำถามใน ใบงาน แบบประเมิน ชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 2. P สามารถวาดภาพรูปร่าง ลักษณะ และส่วนประกอบของ โครโมโซมได้ ภาพวาด แบบประเมิน ทักษะการ ปฏิบัติการ ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบประเมิน พฤติกรรม ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป 3.2 ใฝ่เรียนรู้ 3.3 มุ่งมั่นการทำงาน


Click to View FlipBook Version