The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เล่มแผนการจัดการเรียนรู้ วิชาชีววิทยา เทอม2 นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ 63040111101

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2024-01-22 22:15:14

เล่มแผนการจัดการเรียนรู้ วิชาชีววิทยา เทอม2

เล่มแผนการจัดการเรียนรู้ วิชาชีววิทยา เทอม2 นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ 63040111101

146 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง การโคลนยีนโดยใช้พลาสมิดของแบคทีเรีย จำนวน 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ ************************************************************************* 1.ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) อธิบายหลักการสร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมโดยใช้ดีเอ็นเอรีคอมบิแนนท์ 2. สาระสำคัญ เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ เป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างดีเอ็นเอสายผสม หรือ DNA รีคอมบิแนนท์ (recombinant DNA) ซึ่งสามารถใช้ดัดแปลง ตัดต่อ เคลื่อนย้าย หรือสร้าง DNA สายใหม่ เพื่อนำไปดัดแปร พันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต การโคลนยีนโดยอาศัยพลาสมิดของแบคทีเรีย เป็นการเพิ่มจำนวนปริมาณ DNA โดยการตัดชิ้นส่วน DNA แล้วนำไปเชื่อมต่อกับเวกเตอร์ เช่น พลาสมิด (plasmid) ของแบคทีเรีย และนำแบคทีเรียไปเลี้ยงเพิ่ม จำนวนเพื่อให้มีปริมาณชิ้นส่วน DNA ที่เพิ่มขึ้น 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 สามารถอธิบายเกี่ยวกับการโคลนยีนโดยใช้พลาสมิดของแบคทีเรียได้ (K) 3.2 สามารถสืบค้นการค้นข้อมูลเกี่ยวกับการโคลนยีนโดยใช้พลาสมิดของแบคทีเรียได้ (P) 3.3 มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) 4. ทักษะกระบวนการคิด 4.1 การสังเกต 4.2 การลงความเห็นจากข้อมูล 4.3 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูลสรุป 5. สาระการเรียนรู้ - การโคลนยีนโดยใช้พลาสมิดของแบคทีเรีย 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มุ่งมั่นในการทำงาน


147 7. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน (วิธีสอนโดยการจัดการเรียนการสอน: กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1. ทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับ DNA มีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์ ด้วยการใช้ชุดคำถาม ข้อคำถามหลักประกอบด้วย 1.1 ความรู้ทางด้าน DNA มีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์อย่างไร (แนวตอบ ความรู้ทางด้าน DNA ทำให้ทราบถึงการควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายสิ่งมีชีวิต ซึ่งเป็นผลจากการควบคุมของยีน ดังนั้น จึงสามารถนำนำความรู้เหล่านี้มาใช้ใน ด้านต่าง ๆ เช่น ทางการแพทย์ในการรักษาโรคหรืออาการที่เกิดจากความผิดปกติของยีน ด้านการเกษตรในการปรับปรุงสายพันธุ์สิ่งมีชีวิตให้มีคุณสมบัติที่ดีและมีลักษณะที่ต้องการได้) 1.2 การตัดต่อยีนและถ่ายยีนที่ต้องการเข้าสู่สิ่งมีชีวิต จะได้สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม เรียกเทคนิคนี้ว่า (แนวตอบ พันธุวิศวกรรม) ขั้นสำรวจและค้นหา (Explore) 20 นาที 1. แจกใบงาน เรื่อง การโคลนยีนโดยใช้พลาสมิดของแบคทีเรียได้ ให้กับนักเรียน 2. ครูให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับการโคลนยีนโดยใช้พลาสมิดของแบคทีเรียได้ 3. ครูร่วมอภิปรายกับนักเรียนเกี่ยวกับการโคลนยีนโดยใช้พลาสมิดของแบคทีเรียได้ 4. ให้นักเรียนจัดกระทำข้อมูลเกี่ยวกับการโคลนยีนโดยใช้พลาสมิดของแบคทีเรียได้ร่วม ลงในใบงาน 5. ขณะที่นักเรียนกำลังทำกิจกรรม ครูจะใช้แบบสังเกตบันทึกการทำกิจกรรม ดูคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน แบบสังเกตจะใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและการ ประเมินผล ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 10 นาที 1. เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมตามใบงานเสร็จ ให้ตัวแทนนักเรียนออกมารายงานผลการ ค้นพบหน้าชั้นเรียนด้วยวาจา จำนวน 2 คน ตามความสมัครใจ 2. เมื่อนักเรียนรายงานเสร็จแล้ว ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการวิเคราะห์และลง ข้อสรุปหากผู้เรียนมีผลการวิเคราะห์และลงข้อสรุป ขัดแย้งกับผลอภิปราย ให้ดำเนินแก้ไขผล ดังกล่าวในใบงานของตนเองให้ถูกต้อง 3. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันเพื่อสรุปผลการเรียนรู้ตามสาระสำคัญ ด้วยคำถามดังนี้ - สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม (GMOs) หมายถึงอะไร


148 (แนวตอบ สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่ถูกตัดแต่งพันธุกรรม โดยนำยีนจาก สิ่งมีชีวิตที่สนใจมาแทรกเข้าสู่ยีนของสิ่งมีชีวิตอีกชนิด ทำให้สิ่งมีชีวิตที่ถูกแทรกยีนเข้าไปมี คุณสมบัติของยีนที่สนใจ) ขั้นประเมิน (Evaluation) 10 นาที 1. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 6 2. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการนำเสนอ ผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 3. ครูตรวจผลงานจากการทำใบงานหรือแบบฝึกหัด 8. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 10.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 10.2 Power point เรื่อง การโคลนยีนโดยใช้พลาสมิดของแบคทีเรีย 9. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 1. K สามารถอธิบายรูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซมได้ ตอบคำถามใน ใบงาน แบบประเมิน ชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 2. P สามารถวาดภาพรูปร่าง ลักษณะ และส่วนประกอบของ โครโมโซมได้ ภาพวาด แบบประเมิน ทักษะการ ปฏิบัติการ ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบประเมิน พฤติกรรม ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป 3.2 ใฝ่เรียนรู้ 3.3 มุ่งมั่นการทำงาน


149 แบบประเมินชิ้นงาน ประเด็นที่ ประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ผลงานมีความ ถูกต้องสมบูรณ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นบางประเด็น ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็น ระบบ ผลงานมีแนวคิดแปลก ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่ 5. ผลงานเสร็จ ตามเวลาที่กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ที่กำหนด ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 1-2 วัน ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 3-5 วัน แบบประเมินทักษะการปฏิบัติการ ทักษะปฏิบัติการ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ การเลือกใช้ อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลอง เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้เหมาะสมกับ งาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้ถูกต้องแต่ไม่ เหมาะสมกับงาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการไม่ถูกต้อง การใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการ ทดลอง ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือใน การทดลองได้อย่าง คล่องแคล่วและถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติ ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองได้ถูกต้องตาม หลักการปฏิบัติแต่ไม่ คล่องแคล่ว ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองไม่ถูกต้อง การทดลอง/ปฏิบัติ ตามแผนที่กำหนด ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่าง ถูกต้อง มีการปรับปรุง แก้ไขเป็นระยะ ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้มีการ ปรับปรุงแก้ไขบ้าง ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้หรือ ดำเนินการข้ามที่กำหนดไว้ ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข


150 แบบประเมินพฤติกรรม วิธีการให้คะแนน ตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์โดยกำหนดน้ำหนักของตัวเลือกในช่องต่าง ๆ เป็น 4 3 2 และ 1 ข้อความที่มีความหมายเป็นทางบวก กำหนดให้คะแนนแต่ละข้อความดังนี้ ระดับพฤติกรรมการแสดงออก คะแนน มาก 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 ไม่มีการแสดงออก 1


151 10. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้


152 ความเห็นของครูพี่เลี้ยง 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอุบลรรณ เลี้ยวอุดมชัย) ครูพี่เลี้ยง แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


153 ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นายบุญเลี้ยง จอดนอก) หัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


154 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง การถ่ายทอดดีเอ็นเอคอมบิแนนท์ จำนวน 3 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ ************************************************************************* 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติและหน้าที่ของสารพันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐาน ข้อมูล และ แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก การเกิดสปีชีส์ใหม่ ความ หลากหลายทางชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และอนุกรมวิธานรวมทั้ง นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) อธิบายหลักการสร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมโดยใช้ดีเอ็นเอรีคอมบิแนนท์ 2. สาระสำคัญ การโคลนยีนโดยอาศัยพลาสมิดของแบคทีเรีย เป็นการเพิ่มจำนวนปริมาณ DNA โดยการตัด ชิ้นส่วน DNA แล้วนำไปเชื่อมต่อกับเวกเตอร์ เช่น พลาสมิด (plasmid) ของแบคทีเรีย และนำ แบคทีเรียไปเลี้ยงเพิ่มจำนวนเพื่อให้มีปริมาณชิ้นส่วน DNA ที่เพิ่มขึ้น 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 สามารถอธิบายการถ่ายทอดดีเอ็นเอคอมบิแนนท์ (K) 3.2 สามารถสืบค้นการค้นข้อมูลการเกี่ยวกับการถ่ายทอดดีเอ็นเอคอมบิแนนท์ (P) 3.3 มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) 4. ทักษะกระบวนการคิด 4.1 การสังเกต 4.2 การลงความเห็นจากข้อมูล 4.3 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูลสรุป 5. สาระการเรียนรู้ - การถ่ายดีเอ็นเอคอมบิแนนท์


155 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน (วิธีสอนโดยการจัดการเรียนการสอน: กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1. ทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับ สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ด้วยการใช้ชุด คำถาม ข้อคำถามหลักประกอบด้วย 1.1 สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม (GMOs) หมายถึงอะไร (แนวตอบ สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่ถูกตัดแต่งพันธุกรรม โดยนำยีนจาก สิ่งมีชีวิตที่สนใจมาแทรกเข้าสู่ยีนของสิ่งมีชีวิตอีกชนิด ทำให้สิ่งมีชีวิตที่ถูกแทรกยีนเข้าไปมี คุณสมบัติของยีนที่สนใจ) ขั้นสำรวจและค้นหา (Explore) 20 นาที 1. แจกใบงาน เรื่อง การถ่ายดีเอ็นเอคอมบิแนนท์ให้กับนักเรียน 2. ครูให้นักเรียนศึกษา การโคลนยีนโดยอาศัยพลาสมิดของแบคทีเรีย 3. ครูอธิบาย การโคลนยีนโดยอาศัยพลาสมิดของแบคทีเรียเป็นการเพิ่มจำนวนโดยใช้ พลาสมิดเป็นเวกเตอร์ในการเพิ่มจำนวน โดยการตัดต่อยีนที่สนใจให้กับพลาสมิดของแบคทีเรีย แล้วนำแบคทีเรียมาเพิ่มจำนวน ซึ่งยีนที่ผ่านการตัดต่อจะเพิ่มจำนวนตามการเพิ่มจำนวนของ แบคทีเรีย 4. ให้นักเรียนจัดกระทำข้อมูลเกี่ยวกับการโคลนยีนโดยอาศัยพลาสมิดของแบคทีเรีย ได้ ร่วมลงในใบงาน 5. ขณะที่นักเรียนกำลังทำกิจกรรม ครูจะใช้แบบสังเกตบันทึกการทำกิจกรรม ดู คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน แบบสังเกตจะใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและการ ประเมินผล ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 10 นาที 1. เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมตามใบงานเสร็จ ให้ตัวแทนนักเรียนออกมารายงานผลการ ค้นพบหน้าชั้นเรียนด้วยวาจา จำนวน 2 คน ตามความสมัครใจ


156 2. เมื่อนักเรียนรายงานเสร็จแล้ว ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการวิเคราะห์และลง ข้อสรุปหากผู้เรียนมีผลการวิเคราะห์และลงข้อสรุป ขัดแย้งกับผลอภิปราย ให้ดำเนินแก้ไขผล ดังกล่าวในใบงานของตนเองให้ถูกต้อง 3. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันเพื่อสรุปผลการเรียนรู้ตามสาระสำคัญ ด้วยคำถามดังนี้ - เพราะเหตุใดจึงเลือกพลาสมิดของแบคทีเรียเป็นพาหะในการโคลนยีน (แนวตอบ พลาสมิดของแบคทีเรีย เป็น DNA สายคู่ที่อยู่นอกโครโมโซมของแบคทีเรีย ซึ่งพลาสมิ ดของแบคทีเรียเป็นที่นิยมใช้ เนื่องจากมีจุดเริ่มต้นของการจำลอง DNA มียีนต้านยาปฏิชีวนะ มี ตำแหน่งของเอนไซม์ตัดจำเพาะหลายชนิดซึ่งเหมาะสมกับการโคลนยีน) - การโคลนยีนโดยใช้พลาสมิดของแบคทีเรียจะทำให้ได้ยีนที่ต้องการสามารถนำไปศึกษาใน ด้านใดบ้าง (แนวตอบ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การผลิตโปรตีนที่ต้องการ เช่น อินซูลิน วัคซีน หรือรักษาโรคต่างๆ) ขั้นประเมิน (Evaluation) 10 นาที 1. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 6 2. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการนำเสนอ ผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 3. ครูตรวจผลงานจากการทำใบงานหรือแบบฝึกหัด 8. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 10.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 10.2 Power point เรื่อง การถ่ายดีเอ็นเอคอมบิแนนท์


157 9. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล แบบประเมินชิ้นงาน ประเด็นที่ ประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ผลงานมีความ ถูกต้องสมบูรณ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นบางประเด็น ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็น ระบบ ผลงานมีแนวคิดแปลก ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่ 5. ผลงานเสร็จ ตามเวลาที่กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ที่กำหนด ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 1-2 วัน ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 3-5 วัน จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 1. K สามารถอธิบายรูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซมได้ ตอบคำถามใน ใบงาน แบบประเมิน ชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 2. P สามารถวาดภาพรูปร่าง ลักษณะ และส่วนประกอบของ โครโมโซมได้ ภาพวาด แบบประเมิน ทักษะการ ปฏิบัติการ ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบประเมิน พฤติกรรม ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป 3.2 ใฝ่เรียนรู้ 3.3 มุ่งมั่นการทำงาน


158 แบบประเมินทักษะการปฏิบัติการ ทักษะปฏิบัติการ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ การเลือกใช้ อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลอง เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้เหมาะสมกับ งาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้ถูกต้องแต่ไม่ เหมาะสมกับงาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการไม่ถูกต้อง การใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการ ทดลอง ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือใน การทดลองได้อย่าง คล่องแคล่วและถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติ ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองได้ถูกต้องตาม หลักการปฏิบัติแต่ไม่ คล่องแคล่ว ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองไม่ถูกต้อง การทดลอง/ปฏิบัติ ตามแผนที่กำหนด ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่าง ถูกต้อง มีการปรับปรุง แก้ไขเป็นระยะ ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้มีการ ปรับปรุงแก้ไขบ้าง ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้หรือ ดำเนินการข้ามที่กำหนดไว้ ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข แบบประเมินพฤติกรรม วิธีการให้คะแนน ตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์โดยกำหนดน้ำหนักของตัวเลือกในช่องต่าง ๆ เป็น 4 3 2 และ 1 ข้อความที่มีความหมายเป็นทางบวก กำหนดให้คะแนนแต่ละข้อความดังนี้ ระดับพฤติกรรมการแสดงออก คะแนน มาก 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 ไม่มีการแสดงออก 1


159 10. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้


160 ความเห็นของครูพี่เลี้ยง 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอุบลรรณ เลี้ยวอุดมชัย) ครูพี่เลี้ยง แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


161 ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นายบุญเลี้ยง จอดนอก) หัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


162 แผนการจัดการเรียนรู้ทรี่ 17 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง การเพิ่มจำนวน DNA ด้วยเทคนิค PCR จำนวน 3 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ ************************************************************************* 1.ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) อธิบายหลักการสร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมโดยใช้ดีเอ็นเอรีคอมบิแนนท์ 2. สาระสำคัญ การโคลนยีนในหลอดทดลองโดยเทคนิคพอลิเมอเรสเชนรีแอกชัน (PCR) ซึ่งต้องอาศัยองค์ DNA แม่แบบ ไพรเมอร์ นิวคลีโอไทด์ (เบส A C G T) และเอนไซม์ DNA พอลิเมอเรส การโคลนยีนโดยเทคนิค PCR จะมีความรวดเร็วและจำเพาะสูง แต่การโคลนยีนอาศัยพลาสมิ ดของแบคทีเรียจะถูกใช้เมื่อต้องการโคลนยีนในปริมาณมาก 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 สามารถอธิบายการเพิ่มจำนวน DNA ด้วยเทคนิค PCR (K) 3.2 สามารถสืบค้นการค้นข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มจำนวน DNA ด้วยเทคนิค PCR (P) 3.3 มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) 4. ทักษะกระบวนการคิด 4.1 การสังเกต 4.2 การลงความเห็นจากข้อมูล 4.3 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูลสรุป 5. สาระการเรียนรู้ - การเพิ่มจำนวน DNA ด้วยเทคนิค PCR 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มุ่งมั่นในการทำงาน


163 7. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน (วิธีสอนโดยการจัดการเรียนการสอน: กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1. ทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับ การโคลนยีนโดยอาศัยพลาสมิดของแบคทีเรีย ด้วยการใช้ชุดคำถาม ข้อคำถามหลักประกอบด้วย - หลักการการโคลนยีนโดยอาศัยพลาสมิดของแบคทีเรีย (แนวตอบ การเพิ่มจำนวนยีนโดยอาศัยพลาสมิดของแบคทีเรียเป็นเวกเตอร์ โดยการตัดต่อยีนที่ สนใจเข้าสู่ พลาสมิดของแบคทีเรีย แล้วนำแบคทีเรียไปเพิ่มจำนวน ซึ่งเมื่อแบคทีเรียมีจำนวนเพิ่ม มากขึ้น จำนวนยีนที่สนใจที่อยู่ในพลาสมิดจะเพิ่มขึ้นด้วย) ขั้นสำรวจและค้นหา (Explore) 20 นาที 1. แจกใบงาน เรื่อง การเพิ่มจำนวน DNA ด้วยเทคนิค PCR ให้กับนักเรียน 2. ครูให้นักเรียนศึกษา การเพิ่มจำนวน DNA ด้วยเทคนิค PCR 3. ครูอธิบาย การโคลนยีนในหลอดทดลองโดยเทคนิคพอลิเมอเรสเชนรีแอกชัน ที่สามารถ ควบคุมสภาวะต่าง ๆ ในการเพิ่มจำนวนของยีนหรือดีเอ็นเอได้ 4. ให้นักเรียนจัดกระทำข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มจำนวน DNA ด้วยเทคนิค PCR ได้ร่วมลงใน ใบงาน 5. ขณะที่นักเรียนกำลังทำกิจกรรม ครูจะใช้แบบสังเกตบันทึกการทำกิจกรรม ดู คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน แบบสังเกตจะใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและการ ประเมินผล ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 10 นาที 1. เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมตามใบงานเสร็จ ให้ตัวแทนนักเรียนออกมารายงานผลการ ค้นพบหน้าชั้นเรียนด้วยวาจา จำนวน 2 คน ตามความสมัครใจ 2. เมื่อนักเรียนรายงานเสร็จแล้ว ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการวิเคราะห์และลง ข้อสรุปหากผู้เรียนมีผลการวิเคราะห์และลงข้อสรุป ขัดแย้งกับผลอภิปราย ให้ดำเนินแก้ไขผล ดังกล่าวในใบงานของตนเองให้ถูกต้อง 3. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันเพื่อสรุปผลการเรียนรู้ตามสาระสำคัญ ด้วยคำถามดังนี้ - การโคลนยีนในหลอดทดลองโดยเทคนิคพอลิเมอเรสเชนรีแอกชัน มีกระบวนการอย่างไร (แนวตอบ การโคลนยีนในหลอดทดลองเริ่มจากการแยก DNA ออกเป็นสายเดี่ยวเพื่อใช้เป็นแม่แบบ จากนั้นไพเมอร์จะเข้ามาจับกับ DNA แม่แบบเพื่อเริ่มการสังเคราะห์ โดย RNA พอลิเมอร์เรสจะนำ นิวคลีโอไทด์อิสระมาเข้าคู่กับนิวคลีโอไทด์ของสายแม่แบบ เมื่อสิ้นสุดกระบวนการสังเคราะห์ จะได้ยีน ที่มีลักษณะเหมือนกันเพิ่มขึ้นมา)


164 - หากต้องการยีนจำนวน 500 โมเลกุล จากยีนเริ่มต้นเพียงโมเลกุลเดียว จะต้องกำหนด รอบของการทำ PCR กี่รอบ (แนวตอบ 9 รอบ เพราะ 29 เท่ากับ 512 ซึ่งจะเพียงพอต่อจำนวนยีนที่ต้องการ) - การโคลนยีนโดยเทคนิคพอลิเมอเรสเชนรีแอกชัน มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร (แนวตอบ การโคลนยีนโดยเทคนิคพอลิเมอเรสเชนรีแอกชันจะมีความรวดเร็วและจำเพาะสูง แต่ อาจเกิดความผิดพลาดในการโคลนปริมาณมาก เนื่องจากเอนไซม์ที่ใช้ในปฏิกิริยาอาจไม่ทำงาน และไม่มีสมบัติการตรวจสอบความถูกต้องของนิวคลีโอไทด์เหมือนกับของแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้มี จำนวนชุด DNA ที่ถูกต้องเพียงบางส่วนเท่านั้น) - หากต้องการโคลนยีนปริมาณมากจากยีนเริ่มต้นปริมาณน้อยมาก และมีเวลาที่จำกัด ควร เลือกการโคลนยีนด้วยวิธีใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ ควรเลือกใช้การโคลนยีนโดยเทคนิคพอลิเมอเรสเชนรีแอกชัน เนื่องจากมีเป็นเทคนิคที่ ความจำเพาะสูง และมีความรวดเร็ว) ขั้นประเมิน (Evaluation) 10 นาที 1. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 6 2. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการนำเสนอ ผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 3. ครูตรวจผลงานจากการทำใบงานหรือแบบฝึกหัด 8. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 10.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 10.2 Power point เรื่อง การเพิ่มจำนวน DNA ด้วยเทคนิค PCR 9. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 1. K สามารถอธิบายรูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซมได้ ตอบคำถามใน ใบงาน แบบประเมิน ชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป


165 แบบประเมินชิ้นงาน ประเด็นที่ ประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ผลงานมีความ ถูกต้องสมบูรณ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นบางประเด็น ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็น ระบบ ผลงานมีแนวคิดแปลก ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่ 5. ผลงานเสร็จ ตามเวลาที่กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ที่กำหนด ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 1-2 วัน ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 3-5 วัน จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 2. P สามารถวาดภาพรูปร่าง ลักษณะ และส่วนประกอบของ โครโมโซมได้ ภาพวาด แบบประเมิน ทักษะการ ปฏิบัติการ ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบประเมิน พฤติกรรม ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป 3.2 ใฝ่เรียนรู้ 3.3 มุ่งมั่นการทำงาน


166 แบบประเมินทักษะการปฏิบัติการ ทักษะปฏิบัติการ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ การเลือกใช้ อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลอง เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้เหมาะสมกับ งาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้ถูกต้องแต่ไม่ เหมาะสมกับงาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการไม่ถูกต้อง การใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการ ทดลอง ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือใน การทดลองได้อย่าง คล่องแคล่วและถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติ ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองได้ถูกต้องตาม หลักการปฏิบัติแต่ไม่ คล่องแคล่ว ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองไม่ถูกต้อง การทดลอง/ปฏิบัติ ตามแผนที่กำหนด ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่าง ถูกต้อง มีการปรับปรุง แก้ไขเป็นระยะ ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้มีการ ปรับปรุงแก้ไขบ้าง ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้หรือ ดำเนินการข้ามที่กำหนดไว้ ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข แบบประเมินพฤติกรรม วิธีการให้คะแนน ตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์โดยกำหนดน้ำหนักของตัวเลือกในช่องต่าง ๆ เป็น 4 3 2 และ 1 ข้อความที่มีความหมายเป็นทางบวก กำหนดให้คะแนนแต่ละข้อความดังนี้ ระดับพฤติกรรมการแสดงออก คะแนน มาก 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 ไม่มีการแสดงออก 1


167 10. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้


168 ความเห็นของครูพี่เลี้ยง 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอุบลรรณ เลี้ยวอุดมชัย) ครูพี่เลี้ยง แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


169 ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นายบุญเลี้ยง จอดนอก) หัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


170 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง การหาขนาดของ DNA ด้วยเทคนิคเจลอิเล็กโทรฟอรีซิส จำนวน 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ ************************************************************************* 1.ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) อธิบายหลักการสร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมโดยใช้ดีเอ็นเอรีคอมบิแนนท์ 2. สาระสำคัญ การวิเคราะห์ DNA เป็นความรู้พื้นฐานในการแยกโมเลกุลของ DNA ที่มีรูปร่างแตกต่างกัน โดยวิธีการแยกด้วยสนามไฟฟ้า อาศัยหลักการอิเล็กโทรโฟไลซิส มีตัวกลางเป็นเจล ซึ่งเรียก กระบวนการนี้ว่า เจลอิเล็กโทรโฟไลซิส การหาลำดับการเรียงตัวของนิวคลีโอไทด์ในสาย DNA เรียกว่า การหาลำดับนิวคลีโอไทด์ สามารถทำได้โดยหาลำดับเบสที่เป็นองค์ประกอบของนิวคลีโอไทด์บนสาย DNA ด้วยเครื่องมือที่ เรียกว่า เครื่องหาลำดับนิวคลีโอไทด์แบบอัตโนมัติ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 สามารถอธิบายการหาขนาดของ DNA ด้วยเทคนิคเจลอิเล็กโทรฟอรีซิส (K) 3.2 สามารถสืบค้นการค้นข้อมูลการเกี่ยวกับการหาขนาดของ DNA ด้วยเทคนิคเจลอิเล็กโทรฟอรี ซิส (P) 3.3 มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) 4. ทักษะกระบวนการคิด 4.1 การสังเกต 4.2 การลงความเห็นจากข้อมูล 4.3 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูลสรุป 5. สาระการเรียนรู้ - การหาขนาดของ DNA ด้วยเทคนิคเจลอิเล็กโทรฟอรีซิส 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มุ่งมั่นในการทำงาน


171 7. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน (วิธีสอนโดยการจัดการเรียนการสอน: กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1. ทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับ การเพิ่มจำนวน DNA ด้วยเทคนิค PCR ด้วย การใช้ชุดคำถาม ข้อคำถามหลักประกอบด้วย - หากต้องการโคลนยีนปริมาณมากจากยีนเริ่มต้นปริมาณน้อยมาก และมีเวลาที่จำกัด ควรเลือกการโคลนยีนด้วยวิธีใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ ควรเลือกใช้การโคลนยีนโดยเทคนิคพอลิเมอเรสเชนรีแอกชัน เนื่องจากมีเป็นเทคนิคที่ ความจำเพาะสูง และมีความรวดเร็ว) - การโคลนยีนในหลอดทดลองโดยเทคนิคพอลิเมอเรสเชนรีแอกชัน มีกระบวนการ อย่างไร (แนวตอบ การโคลนยีนในหลอดทดลองเริ่มจากการแยก DNA ออกเป็นสายเดี่ยวเพื่อใช้เป็นแม่แบบ จากนั้นไพเมอร์จะเข้ามาจับกับ DNA แม่แบบเพื่อเริ่มการสังเคราะห์ โดย RNA พอลิเมอร์เรสจะนำ นิวคลีโอไทด์อิสระมาเข้าคู่กับนิวคลีโอไทด์ของสายแม่แบบ เมื่อสิ้นสุดกระบวนการสังเคราะห์จะได้ ยีนที่มีลักษณะเหมือนกันเพิ่มขึ้นมา) ขั้นสำรวจและค้นหา (Explore) 20 นาที 1. แจกใบงาน เรื่อง การหาขนาดของ DNA ด้วยเทคนิคเจลอิเล็กโทรฟอรีซิส ให้กับ นักเรียน 2. ครูให้นักเรียนศึกษา การหาขนาดของ DNA ด้วยเทคนิคเจลอิเล็กโทรฟอรีซิส 3. ครูอธิบาย การโคลนยีนในหลอดทดลองโดยเทคนิคพอลิเมอเรสเชนรีแอกชัน ที่สามารถ ควบคุมสภาวะต่าง ๆ ในการเพิ่มจำนวนของยีนหรือดีเอ็นเอได้ 4. ให้นักเรียนจัดกระทำข้อมูลเกี่ยวกับการหาขนาดของ DNA ด้วยเทคนิคเจลอิเล็กโทร ฟอรีซิสลงในใบงาน 5. ขณะที่นักเรียนกำลังทำกิจกรรม ครูจะใช้แบบสังเกตบันทึกการทำกิจกรรม ดูคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน แบบสังเกตจะใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและการ ประเมินผล ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 10 นาที 1. เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมตามใบงานเสร็จ ให้ตัวแทนนักเรียนออกมารายงานผลการ ค้นพบหน้าชั้นเรียนด้วยวาจา จำนวน 2 คน ตามความสมัครใจ


172 2. เมื่อนักเรียนรายงานเสร็จแล้ว ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการวิเคราะห์และลง ข้อสรุปหากผู้เรียนมีผลการวิเคราะห์และลงข้อสรุป ขัดแย้งกับผลอภิปราย ให้ดำเนินแก้ไขผล ดังกล่าวในใบงานของตนเองให้ถูกต้อง 3. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันเพื่อสรุปผลการเรียนรู้ตามสาระสำคัญ ด้วยคำถามดังนี้ - เมื่อต้องการเพิ่มจำนวน DNA สามารถนำมาหาขนาดของ DNA ได้อย่างไร (แนวตอบ ใช้เทคนิคเจลอิเล็กโทรฟอรีซิส) - การหาลำดับการเรียงตัวของนิวคลีโอไทด์สาย DNA เรียกว่า (แนวตอบ การหาลำดับดีเอ็นเอ) ขั้นประเมิน (Evaluation) 10 นาที 1. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 6 2. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการนำเสนอ ผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 3. ครูตรวจผลงานจากการทำใบงานหรือแบบฝึกหัด 8. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 10.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 10.2 Power point เรื่อง การหาขนาดของ DNA ด้วยเทคนิคเจลอิเล็กโทรฟอรีซิส 9. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 1. K สามารถอธิบายรูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซมได้ ตอบคำถามใน ใบงาน แบบประเมิน ชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 2. P สามารถวาดภาพรูปร่าง ลักษณะ และส่วนประกอบของ โครโมโซมได้ ภาพวาด แบบประเมิน ทักษะการ ปฏิบัติการ ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป


173 แบบประเมินชิ้นงาน ประเด็นที่ ประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ผลงานมีความ ถูกต้องสมบูรณ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นบางประเด็น ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็น ระบบ ผลงานมีแนวคิดแปลก ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่ 5. ผลงานเสร็จ ตามเวลาที่กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ที่กำหนด ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 1-2 วัน ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 3-5 วัน จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบประเมิน พฤติกรรม ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป 3.2 ใฝ่เรียนรู้ 3.3 มุ่งมั่นการทำงาน


174 แบบประเมินทักษะการปฏิบัติการ ทักษะปฏิบัติการ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ การเลือกใช้ อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลอง เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้เหมาะสมกับ งาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้ถูกต้องแต่ไม่ เหมาะสมกับงาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการไม่ถูกต้อง การใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการ ทดลอง ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือใน การทดลองได้อย่าง คล่องแคล่วและถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติ ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองได้ถูกต้องตาม หลักการปฏิบัติแต่ไม่ คล่องแคล่ว ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองไม่ถูกต้อง การทดลอง/ปฏิบัติ ตามแผนที่กำหนด ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่าง ถูกต้อง มีการปรับปรุง แก้ไขเป็นระยะ ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้มีการ ปรับปรุงแก้ไขบ้าง ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้หรือ ดำเนินการข้ามที่กำหนดไว้ ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข แบบประเมินพฤติกรรม วิธีการให้คะแนน ตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์โดยกำหนดน้ำหนักของตัวเลือกในช่องต่าง ๆ เป็น 4 3 2 และ 1 ข้อความที่มีความหมายเป็นทางบวก กำหนดให้คะแนนแต่ละข้อความดังนี้ ระดับพฤติกรรมการแสดงออก คะแนน มาก 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 ไม่มีการแสดงออก 1


175 10. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้


176 ความเห็นของครูพี่เลี้ยง 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอุบลรรณ เลี้ยวอุดมชัย) ครูพี่เลี้ยง แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


177 ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นายบุญเลี้ยง จอดนอก) หัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


178 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ จำนวน 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ ************************************************************************* 1.ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง และอภิปรายการนำเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอไปประยุกต์ ทั้งในด้าน สิ่งแวดล้อม นิติวิทยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตร และอุตสาหกรรม และข้อควรคำนึงถึงด้าน ชีวจริยธรรม 2. สาระสำคัญ เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอถูกนำมาประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. การประยุกต์ใช้ในเชิงการแพทย์ - การวินิจฉัยโรค โดยใช้เทคนิค PCR ที่มีการออกแบบไพรเมอร์ให้จำเพาะกับยีนที่เกี่ยวข้อง กับโรค - การบำบัดด้วยยีน โดยแทรกยีนปกติเข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วยหรือผู้มีความผิดปกติ เพื่อให้ยีนปกติเข้าไปแทนที่ยีนที่ผิดปกติ และสามารถทำงานแทนยีนที่ผิดปกติได้ - การสร้างผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม โดยแทรกยีนที่สามารถผลิตสารหรือฮอร์โมนให้กับ แบคทีเรีย แล้วนำไปเพิ่มจำนวนเพื่อให้สามารถผลิตในปริมาณมากขึ้น 2. การประยุกต์ใช้ในเชิงวิทยาศาสตร์ โดยการตรวจลายพิมพ์ DNA เพื่อระบุความสัมพันธ์ใน ครอบครัว และผู้กระทำความผิดในคดีต่าง ๆ โดยอาศัยเทคนิค PCR และ RFLP 3. การประยุกต์ใช้ในเชิงการเกษตร แบ่งออกเป็น - การสร้างสัตว์พืชแปรพันธุกรรม เพื่อให้พืชผลิตสารหรือแสดงลักษณะตามต้องการ ออกมา เช่น การตัดต่อยีนต้านทานแมลงโรคใบด่างจุดวงแหวนให้กับมะละกอ การตัด ต่อยีนสร้างวิตามินเอให้กับข้าว การตัดต่อยีนยืดอายุให้กับมะเขือเทศ - การสร้างสัตว์ดัดแปรพันธุกรรม เพื่อให้สัตว์ผลิตสารหรือแสดงลักษณะตามต้องการ ออกมา เช่น การตัดต่อยีนเพื่อให้หมูมีไขมันต่ำและมีเนื้อมากขึ้น วัวผลิตน้ำนมเร็วและ มากขึ้น 4. การประยุกต์ใช้ในด้านสิ่งแวดล้อม โดยการสร้างพืชหรือจุลินทรีย์ดัดแปรพันธุกรรม เพื่อใช้ ย่อยสลายสารพิษที่ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม


179 5. การประยุกต์ใช้ในด้านอุตสาหกรรม โดยการสร้างพืชหรือจุลินทรีย์ดัดแปรพันธุกรรม เพื่อให้มีคุณสมบัติตามต้องการ และถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรม เช่น มันฝรั่งดัดแปรพันธุกรรม เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมกระดาษ แบคทีเรียดัดแปรพันธุกรรมเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมผลิต ฮอร์โมน 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 สามารถการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ (K) 3.2 สามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ (P) 3.3 มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) 4. ทักษะกระบวนการคิด 4.1 การสังเกต 4.2 การลงความเห็นจากข้อมูล 4.3 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูลสรุป 5. สาระการเรียนรู้ - การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน (วิธีสอนโดยการจัดการเรียนการสอน: กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1. ทบทวนความรู้เดิมเรื่อง เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ โดยใช้ชุดคำถาม ข้อคำถามหลักประกอบด้วย - นักเรียนคิดว่า เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอนำมาใช้ในการวินิจฉัยโรคได้อย่างไร (แนวตอบ การตรวจสอบจีโนมของไวรัส หรือการออกแบบไพรเมอร์ที่เกี่ยวข้องกับโรค เพื่อศึกษาถึง การกลายของยีนที่มีความสัมพันธ์กับโรค) ขั้นสำรวจและค้นหา (Explore) 20 นาที 1. แจกใบงาน เรื่อง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ ให้กับนักเรียน 2. ครูอธิบายให้นักเรียนเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ 3. ครูให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ


180 4. ให้นักเรียนจัดกระทำข้อมูลเกี่ยวกับครูอธิบายเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดี เอ็นเอลงในใบงาน 5. ขณะที่นักเรียนกำลังทำกิจกรรม ครูจะใช้แบบสังเกตบันทึกการทำกิจกรรม ดู คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน แบบสังเกตจะใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและการ ประเมินผล ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 10 นาที 1. เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมตามใบงานเสร็จ ให้ตัวแทนนักเรียนออกมารายงานผลการ ค้นพบหน้าชั้นเรียนด้วยวาจา จำนวน 2 คน ตามความสมัครใจ 2. เมื่อนักเรียนรายงานเสร็จแล้ว ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการวิเคราะห์และลง ข้อสรุปหากผู้เรียนมีผลการวิเคราะห์และลงข้อสรุป ขัดแย้งกับผลอภิปราย ให้ดำเนินแก้ไขผล ดังกล่าวในใบงานของตนเองให้ถูกต้อง 3. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันเพื่อสรุปผลการเรียนรู้ตามสาระสำคัญ ด้วยคำถามดังนี้ - ลายพิมพ์ DNA ใช้พิสูจน์ตัวบุคคลได้อย่างไร (แนวตอบ เนื่องจากลายพิมพ์ DNA ของแต่ละบุคคลจะมีลักษณะเฉพาะ ซึ่งมีลำดับดีเอ็นเอที่ แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ทำให้สามารถใช้ลายพิมพ์ DNA ในการพิสูจน์ตัวบุคคล) - นักเรียนคิดว่าเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอมีข้อดีหรือข้อเสีย อย่างไร (แนวตอบ คำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน - ข้อดีของเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ เช่น การประยุกต์ใช้ทางการแพทย์และเภสัชกรรมในการรักษา โรค การผลิตยาหรือฮอร์โมน การปรระยุกต์ใช้ทางการเกษตรในการสร้างสิ่งมีชีวิตที่มีคุณสมบัติหรือ ลักษณะตามต้องการ และการประยุกต์ใช้ทางนิติวิทยาศาสตร์ในการตรวจสอบความสัมพันธ์ทาง สายเลือด และผู้ร้ายในคดีต่าง ๆ - ข้อเสียของเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ เช่น การเกิดสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ที่อาจเป็นพาหะของสารพิษ ดื้อยาปฏิชีวนะและสารกำจัดศตรูพืช หรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็น) ขั้นประเมิน (Evaluation) 10 นาที 1. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 6 2. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการนำเสนอ ผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 3. ครูตรวจผลงานจากการทำใบงานหรือแบบฝึกหัด


181 8. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 10.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 10.2 Power point เรื่อง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ 9. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล แบบประเมินชิ้นงาน ประเด็นที่ ประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ผลงานมีความ ถูกต้องสมบูรณ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นบางประเด็น ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็น ระบบ ผลงานมีแนวคิดแปลก ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่ จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 1. K สามารถอธิบายรูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซมได้ ตอบคำถามใน ใบงาน แบบประเมิน ชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 2. P สามารถวาดภาพรูปร่าง ลักษณะ และส่วนประกอบของ โครโมโซมได้ ภาพวาด แบบประเมิน ทักษะการ ปฏิบัติการ ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบประเมิน พฤติกรรม ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป 3.2 ใฝ่เรียนรู้ 3.3 มุ่งมั่นการทำงาน


182 5. ผลงานเสร็จ ตาม เวลาที่กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ที่กำหนด ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 1-2 วัน ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 3-5 วัน แบบประเมินทักษะการปฏิบัติการ ทักษะปฏิบัติการ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ การเลือกใช้ อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลอง เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้เหมาะสมกับ งาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้ถูกต้องแต่ไม่ เหมาะสมกับงาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการไม่ถูกต้อง การใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการ ทดลอง ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือใน การทดลองได้อย่าง คล่องแคล่วและถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติ ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองได้ถูกต้องตาม หลักการปฏิบัติแต่ไม่ คล่องแคล่ว ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองไม่ถูกต้อง การทดลอง/ปฏิบัติ ตามแผนที่กำหนด ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่าง ถูกต้อง มีการปรับปรุง แก้ไขเป็นระยะ ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้มีการ ปรับปรุงแก้ไขบ้าง ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้หรือ ดำเนินการข้ามที่กำหนดไว้ ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข แบบประเมินพฤติกรรม วิธีการให้คะแนน ตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์โดยกำหนดน้ำหนักของตัวเลือกในช่องต่าง ๆ เป็น 4 3 2 และ 1 ข้อความที่มีความหมายเป็นทางบวก กำหนดให้คะแนนแต่ละข้อความดังนี้ ระดับพฤติกรรมการแสดงออก คะแนน มาก 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 ไม่มีการแสดงออก 1


183 10. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้


184 ความเห็นของครูพี่เลี้ยง 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอุบลรรณ เลี้ยวอุดมชัย) ครูพี่เลี้ยง แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


185 ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นายบุญเลี้ยง จอดนอก) หัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


186 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง หลักฐานที่บ่งบอกถึงวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต จำนวน 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ ************************************************************************* 1.ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) สืบค้นข้อมูลและอธิบายเกี่ยวกับหลักฐานที่สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้อธิบายการเกิด วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตส 2. สาระสำคัญ หลักฐานที่บ่งบอกว่าสิ่งมีชีวิตมีการศึกษาได้จากหลักฐานจากซากดึกดำบรรพ์ หลักฐานจาก กายวิภาคเปรียบเทียบหลักฐานจากวิทยาเอ็มบริโอเปรียบเทียบหลักฐานจากด้านชีววิทยาระดับ โมเลกุลและหลักฐานทางชีวภูมิศาสตร์เป็นต้น 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 สามารถอธิบายแนวคิดเกี่ยวกับหลักฐานต่างๆที่สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้อธิบายการเกิด วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต (K) 3.2 สามารถสืบค้นการค้นข้อมูลแนวคิดเกี่ยวกับหลักฐานต่างๆที่สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้อธิบาย การเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต (P) 3.3 มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) 4. ทักษะกระบวนการคิด 4.1 การสังเกต 4.2 การลงความเห็นจากข้อมูล 4.3 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูลสรุป 5. สาระการเรียนรู้ - แนวคิดเกี่ยวกับหลักฐานต่างๆที่สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้อธิบายการเกิดวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มุ่งมั่นในการทำงาน


187 7. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน (วิธีสอนโดยการจัดการเรียนการสอน: กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1. ทบทวนความรู้เดิมเรื่อง ซากดึกดำบรรพ์ โดยใช้ชุดคำถามข้อคำถามหลักประกอบด้วย - จากความรู้เดิมของนักเรียน ซากดึกดำบรรพ์หมายถึงอะไร (แนวตอบ:หินที่เก็บรักษาซากสิ่งมีชีวิตโบราณหรือร่องรอยของการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นพืช สัตว์ แบคทีเรีย ส่วนของละอองเกสร หรือแม้แต่รอยเท้า ต่าง ๆ ซึ่งถูกแปรสภาพและเก็บรักษาไว้ด้วยกระบวนการทางธรรมชาติในชั้นหินใต้เปลือกโลก ก่อนจะกลายมาเป็นหลักฐานทางธรณีวิทยาที่สำคัญให้เราได้ทำการศึกษาและทำความเข้าใจ ต่อโลกและสิ่งมีชีวิตในอดีต ) - เพราะเหตุใด สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ บนโลกจึงมีลักษณะที่เหมือนและแตกต่างกันออกไป (แนวตอบ เนื่องจากสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดจะมีการปรับตัวด้านต่าง ๆ ให้เหมาะสมต่อการ ดำรงชีวิตในสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง ๆ ทำให้สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีลักษณะแตกต่างกันออกไป หรือกล่าวได้ว่า สิ่งมีชีวิตมีวิวัฒนาการเกิดขึ้น ทำให้สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดลักษณะที่เหมือนและ แตกต่างกัน) ขั้นสำรวจและค้นหา (Explore) 20 นาที 1. แจกใบงาน เรื่อง แนวคิดเกี่ยวกับหลักฐานต่างๆที่สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้อธิบาย การเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ให้กับนักเรียน 2. ครูให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับแนวคิดเกี่ยวกับหลักฐานต่างๆที่สนับสนุนและข้อมูลที่ ใช้อธิบายการเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต 3. ให้นักเรียนจัดกระทำข้อมูลเกี่ยวกับแนวคิดเกี่ยวกับหลักฐานต่างๆที่สนับสนุนและ ข้อมูลที่ใช้อธิบายการเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ลงในใบงาน 4. ขณะที่นักเรียนกำลังทำกิจกรรม ครูจะใช้แบบสังเกตบันทึกการทำกิจกรรม ดู คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน แบบสังเกตจะใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและการ ประเมินผล ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 10 นาที 1. เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมตามใบงานเสร็จ ให้ตัวแทนนักเรียนออกมารายงานผลการ ค้นพบหน้าชั้นเรียนด้วยวาจา จำนวน 2 คน ตามความสมัครใจ


188 2. เมื่อนักเรียนรายงานเสร็จแล้ว ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการวิเคราะห์และ ลงข้อสรุปหากผู้เรียนมีผลการวิเคราะห์และลงข้อสรุป ขัดแย้งกับผลอภิปราย ให้ดำเนินแก้ไข ผลดังกล่าวในใบงานของตนเองให้ถูกต้อง 3. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันเพื่อสรุปผลการเรียนรู้ตามสาระสำคัญ ด้วยคำถาม ดังนี้ - หลักฐานใดบ่งบอกว่าในอดีตเคยมีสิ่งมีชีวิตที่ไม่พบในปัจจุบันเคยอาศัยอยู่ (แนวตอบ ซากดึกดำบรรพ์เป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าเคยมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ในอดีต แต่มีการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต ทำให้ไม่พบในปัจจุบัน แต่จะพบซากของสิ่งมีชีวิตหลง เหลืออยู่ เช่น การอยู่ในน้ำแข็ง การอยู่ในยางไม้ รวมทั้งซากบางส่วนที่คงทน เช่น ฟัน กระดูก เปลือก เป็นต้น) - ซากดึกดำบรรพ์ที่พบในหินตะกอนชั้นล่างกับหินตะกอนชั้นบน ซากดึกดำบรรพ์ที่ พบในหินชั้นใดมีอายุมากกว่ากัน (แนวตอบ โดยทั่วไปโครงสร้างของซากดึกดำบรรพ์ที่พบในหินชั้นบนจะมีความมีอายุน้อยกว่า ในหินชั้นล่าง เนื่องจากสิ่งมีชีวิตในระยะแรก ๆ จะตายและถูกทับถมอยู่ในหินชั้นล่าง จึงทำให้มี ความซับซ้อนของโครงสร้างที่น้อยกว่าพบในหินชั้นบน ส่วนหินชั้นบนจะพบโครงสร้างที่มีความ สมบูรณ์และมีลักษณะใกล้เคียงกับสิ่งมีชีวิตในปัจจุบัน) - สิ่งมีชีวิตกลุ่มใดมีโอกาสพบเป็นซากดึกดำบรรพ์ได้ยากเพราะเหตุใด พร้อม ยกตัวอย่างสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น (แนวตอบ สิ่งมีชีวิตกลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังและพืชต่าง ๆ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ไม่มี โครงสร้างแข็งภายในร่างกาย ทำให้ถูกย่อยโดยจุลินทรีย์ต่าง ๆ ได้ง่าย ทำให้ไม่เหลือซาก สิ่งมีชีวิตในปัจจุบัน เช่น หนอนตัวกลม หนอนตัวแบบ ไส้เดือน พืชต่าง ๆ) - สัตว์มีกระดูกสันหลังต่าง ๆ มีการพัฒนาการเหมือนหรือแตกต่างกัน อย่างไร (แนวตอบ ในระยะแรกของการเจริญของเอ็มบริโอของสัตว์มีกระดูกสันหลังเหล่านี้จะ มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่ในระยะปลายจะมีการปรับเปลี่ยนรูปร่างให้เหมาะสมต่อการ ดำรงชีวิตของสัตว์แต่ละชนิด) ขั้นประเมิน (Evaluation) 10 นาที 1. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 7 2. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการนำเสนอ ผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 3. ครูตรวจผลงานจากการทำใบงานหรือแบบฝึกหัด


189 8. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 10.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 10.2 Power point เรื่อง แนวคิดเกี่ยวกับหลักฐานต่างๆที่สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้อธิบาย การเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต 9. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 1. K สามารถอธิบายแนวคิดเกี่ยวกับ หลักฐานต่างๆที่สนับสนุนและ ข้อมูลที่ใช้อธิบายการเกิด วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ตอบคำถาม ในสมุด แบบประเมิน ชิ้นงาน เกณฑ์ดีขึ้นไป 2. P สามารถสืบค้นการค้นข้อมูล แนวคิดเกี่ยวกับหลักฐานต่างๆ ที่สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้ อธิบายการเกิดวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต ตอบคำถาม ในสมุด แบบประเมิน ชิ้นงาน เกณฑ์ดีขึ้นไป 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบประเมิน พฤติกรรม 3.2 ใฝ่เรียนรู้ เกณฑ์ดีขึ้นไป 3.3 มุ่งมั่นการทำงาน


190 แบบประเมินชิ้นงาน ประเด็นที่ ประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ผลงานมีความ ถูกต้องสมบูรณ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นบางประเด็น ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็น ระบบ ผลงานมีแนวคิดแปลก ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่ 5. ผลงานเสร็จ ตาม เวลาที่กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ที่กำหนด ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 1-2 วัน ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 3-5 วัน แบบประเมินพฤติกรรม วิธีการให้คะแนน ตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์โดยกำหนดน้ำหนักของตัวเลือกในช่องต่าง ๆ เป็น 4 3 2 และ 1 ข้อความที่มีความหมายเป็นทางบวก กำหนดให้คะแนนแต่ละข้อความดังนี้ ระดับพฤติกรรมการแสดงออก คะแนน มาก 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 ไม่มีการแสดงออก 1


191 10. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้


192 ความเห็นของครูพี่เลี้ยง 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอุบลรรณ เลี้ยวอุดมชัย) ครูพี่เลี้ยง แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


193 ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นายบุญเลี้ยง จอดนอก) หัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


194 แผนการจัดการเรียนรู้ที่21 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง วิวัฒนาการของลามาร์ก จำนวน 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ ************************************************************************* 1.ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) อธิบายและเปรียบเทียบแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตของฌอง ลามาร์ก และทฤษฎี เกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตของชาลส์ ดาร์วิน 2. สาระสำคัญ แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของลามาร์ก มีใจความสำคัญว่า สิ่งมีชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง โครงสร้างให้เข้ากับสภาพแวดล้อมขณะเกิดวิวัฒนาการ โดยเสนอแนวคิด 2 แนวคิด - กฎการใช้และไม่ใช้ (Law of use and disuse) ซึ่งอวัยวะส่วนใดที่มีการใช้มากในการดำรงชีวิต จะมีขนาดใหญ่และแข็งแรง แต่อวัยวะส่วนใดที่ไม่มีการใช้จะอ่อนแอและเสื่อมลง - กฎแห่งการถ่ายทอดลักษณะที่เกิดขึ้นใหม่ (Law of inheritance of acquired characteristic) ซึ่งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นภายในชั่วรุ่นนั้น และสามารถถ่ายทอดไปยังรุ่น ลูกหลานได้ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 สามารถอธิบายแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของลามาร์กได้ (K) 3.2 สามารถสืบค้นการค้นข้อมูลแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของลามาร์ก (P) 3.3 มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) 4. ทักษะกระบวนการคิด 4.1 การสังเกต 4.2 การลงความเห็นจากข้อมูล 4.3 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูลสรุป 5. สาระการเรียนรู้ - วิวัฒนาการของลามาร์ก 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มุ่งมั่นในการทำงาน


195 7. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน (วิธีสอนโดยการจัดการเรียนการสอน: กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1. ทบทวนความรู้เดิมเรื่อง วิวัฒนาการ โดยใช้ชุดคำถามข้อคำถามหลักประกอบด้วย 1.1 วิวัฒนาการคืออะไร (แนวตอบ:การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมในประชากรของสิ่งมีชีวิต จากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่ง) 1.2 เพราะเหตุใดจึงเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตมีวิวัฒนาการเกิดขึ้น (แนวตอบ เนื่องจากมีการพบหลักฐานหลายอย่างที่สนับสนุนการเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต เช่น หลักฐานจากซากดึกดำบรรพ์ ซึ่งพบว่ามีลักษณะที่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตในปัจจุบัน หรือหลักฐาน ด้านชีววิทยาระดับโมเลกุล ซึ่งพบว่าสิ่งมีชีวิตบางชนิดมีลำดับเบสบนสายดีเอ็นเอที่แตกต่างกันเพียง เล็กน้อย แต่บางชนิดก็มีความแตกต่างกันอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิดของสิ่งมีชีวิตกลุ่ม ต่าง ๆ) ขั้นสำรวจและค้นหา (Explore) 20 นาที 1. แจกใบงาน เรื่อง วิวัฒนาการของลามาร์กให้กับนักเรียน 2. ครูให้นักเรียนศึกษา แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของลามาร์ก ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์คน แรก ๆ ที่นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต โดยเสนอแนวคิด 2 ประเด็น ได้แก่ กฎ การใช้และไม่ใช้ ซึ่งอวัยวะส่วนใดที่มีการใช้มากในการดำรงชีวิตจะมีขนาดใหญ่และแข็งแรง แต่ อวัยวะส่วนใดที่ไม่มีการใช้จะอ่อนแอและเสื่อมลง และกฎแห่งการถ่ายทอดลักษณะที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นภายในชั่วรุ่นนั้น และสามารถถ่ายทอดไปยังรุ่น ลูกหลานได้ 3.ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า ลามาร์ก อธิบายลักษณะคอยาวของยีราฟว่า บรรพบุรุษของ ยีราฟมีคอสั้นกว่าซึ่งกินใบอ่อนบนยอดไม้เป็นอาหาร เมื่อใบอ่อนบริเวณด้านล่างถูกกินหมดจึงต้อง ยืดคอเพื่อกินใบไม้จากต้นไม้ที่สูงขึ้น และเนื่องจากการยืดคออย่างเดียวนั้นยังไม่เพียงพอจะต้อง เขย่งขาด้วย เมื่อเวลาผ่านไปจึงทำให้ยีราฟมีคอและขายาวขึ้น และสามารถสืบพันธุ์ให้กำเนิดยีราฟ รุ่นลูกที่มีคอและขายาว 4. ให้นักเรียนจัดกระทำข้อมูลเกี่ยวกับวิวัฒนาการของลามาร์กลงในใบงาน 5. ขณะที่นักเรียนกำลังทำกิจกรรม ครูจะใช้แบบสังเกตบันทึกการทำกิจกรรม ดูคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน แบบสังเกตจะใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและการ ประเมินผล


Click to View FlipBook Version