The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เล่มแผนการจัดการเรียนรู้ วิชาชีววิทยา เทอม2 นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ 63040111101

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2024-01-22 22:15:14

เล่มแผนการจัดการเรียนรู้ วิชาชีววิทยา เทอม2

เล่มแผนการจัดการเรียนรู้ วิชาชีววิทยา เทอม2 นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ 63040111101

96 7. สมรรถนะผู้เรียน 7.1 ความสามารถในการคิด 7.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 8. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน (วิธีสอนโดยการจัดการเรียนการสอน: กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1. ทบทวนความรู้เดิมของผู้เรียนเกี่ยวกับ การถ่ายทอดลักษณะของถั่วลันเตา ด้วยการใช้ คำถามชุดคำถาม - เมนเดลอธิบายการถ่ายทอดลักษณะของถั่วลันเตาว่าอย่างไร (แนวตอบ การถ่ายทอดลักษณะของถั่วลันเตาระหว่างลักษณะเด่นและลักษณะด้อยที่เป็น พันธุ์แท้ทั้งคู่ พบว่า รุ่น F1 จะแสดงฟีโนไทป์ที่เป็นลักษณะเด่นออกมา แต่มีจีโนไทป์แบบเฮเทอโร ไซกัส และเมื่อให้ F1 ผสมกันเองจะได้รุ่น F2 มีจีโนไทป์ 3 แบบที่อัตราส่วน 1 : 2 : 1 แต่ฟีโนไทป์ที่ แสดงออกมามีเพียง 2 แบบ คือ ลักษณะเด่นต่อลักษณะด้อยที่อัตราส่วน 3 : 1) - อัตราส่วน 3 : 1 ในรุ่น F2 จากการทดลองของเมนเดลเกิดได้อย่างไร (แนวตอบ เนื่องจากรุ่น F1 จะมีจีโนไทป์แบบเฮเทอโรไซกัส เมื่อให้รุ่น F1 กันเอง จะได้รุ่น F2 ที่มีจีโน-ไทป์ 3 แบบ คือ ฮอมอไซกัสโดมิแนนต์ เฮเทอโรไซกัส และฮอมอไซกัสรีเซสซีฟ ใน อัตราส่วน 1 : 2 : 1 แต่ฮอมอไซกัสโดมิแนนต์และเฮเทอโรไซกัสจะแสดงลักษณะออกมาเหมือนกัน ทำให้ในรุ่น F2 มีลักษณะที่แสดงออกมาในอัตราส่วน 3 : 1) ขั้นสำรวจและค้นหา (Explore) 1.10 นาที 1. แจกใบงาน เรื่อง กฎการแยก ให้กับนักเรียน 2. ครูให้นักเรียนศึกษาการผสมพันธุ์ถั่วลันเตาดอกสีม่วงกับดอกสีขาว แล้วถามนักเรียนว่า ในการผสมโดยพิจารณาเพียง 1 ลักษณะ เพราะเหตุใดอัตราส่วนฟีโนไทป์ของรุ่น F2 จึงมีลักษณะ เด่นต่อลักษณะด้อยเท่ากับ 3 : 1 (แนวตอบ ถั่วลันเตาดอกสีม่วงในรุ่น F1 มีจีโนไทป์ Pp โดยแอลลีล P และ p จะแยกไปสู่ เซลล์ไข่หรือสเปิร์มเท่า ๆ กัน คือ ½ เมื่อมีการปฏิสนธิโอกาสที่สเปิร์มจะรวมกับเซลล์ไข่จึงเป็นไปได้ 3 แบบ คือ PP Pp pp ในอัตราส่วน 1 : 2 : 1 แต่จะมีฟีโนไทป์ 2 แบบ คือ ดอกสีม่วงต่อดอกสีขาว ในอัตราส่วน 3 : 1) 3. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า การผสมพันธุ์ถั่วลันเตาในรุ่น F1 ด้วยกันเองจะได้อัตราส่วน จีโนไทป์ในรุ่น F2 เท่ากับ 1 : 2 : 1 และอัตราส่วนฟีโนไทป์เท่ากับ 3 : 1 ซึ่งเกิดจากการแยกกันของ


97 เซลล์สืบพันธุ์ P และ p ทำให้เมนเดลตั้งเป็นกฎการแยก ที่มีใจความสำคัญว่า ลักษณะของสิ่งมีชีวิต ถูกควบคุมโดยยีน และยีนจะปรากฏเป็นคู่ ๆ เสมอ ซึ่งยีนจะแยกจากกันเมื่อมีการสร้างเซลล์ สืบพันธุ์ โดยเซลล์สืบพันธุ์แต่ละเซลล์จะได้รับเพียงแอลลีลใดแอลลีลหนึ่ง 4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับกฎการแยกของเมนเดลกับการถ่ายทอด ลักษณะของถั่วลันเตา 5. ให้นักเรียนจัดกระทำข้อมูลเกี่ยวกับกฎการแยกลงในใบงาน 6. ขณะที่นักเรียนกำลังทำกิจกรรม ครูจะใช้แบบสังเกตบันทึกการทำกิจกรรม ดู คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน แบบสังเกตจะใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและการ ประเมินผล ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 15 นาที 1. เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมตามใบงานเสร็จ ให้ตัวแทนนักเรียนออกมารายงานผลการ ค้นพบหน้าชั้นเรียนด้วยวาจา จำนวน 2 คน ตามความสมัครใจ 2. เมื่อนักเรียนรายงานเสร็จแล้ว ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการวิเคราะห์และลง ข้อสรุปหากผู้เรียนมีผลการวิเคราะห์และลงข้อสรุป ขัดแย้งกับผลอภิปราย ให้ดำเนินแก้ไขผล ดังกล่าวในใบงานของตนเองให้ถูกต้อง 3. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันเพื่อสรุปผลการเรียนรู้ตามสาระสำคัญ ด้วยคำถามดังนี้ - นักเรียนจะรู้ได้อย่างไรว่าถั่วลันเตาดอกสีม่วงที่เห็นมีจีโนไทป์แบบฮอมอไซกัส (PP) และ แบบเฮเทอโรไซกัส (Pp) (แนวตอบ ใช้การตรวจสอบที่เรียกว่า การผสมเพื่อทดสอบหรือเทสต์ครอส) - การตรวจสอบจีโนไทป์ของถั่วลันเตาดอกสีม่วงว่า ถ้าจีโนไทป์ของถั่วลันเตาที่สงสัยเป็น แบบฮอมอไซกัส (PP) จะให้รุ่น F1 เป็นอย่างไร หรือถ้าเป็นแบบเฮเทอโรไซกัส (Pp) จะให้รุ่น F1 เป็นอย่างไร (แนวตอบ ถ้าจีโนไทป์ของถั่วลันเตาที่สงสัยเป็นแบบฮอมอไซกัส (PP) รุ่น F1 จะมีดอกสี ม่วงทั้งหมด แต่ถ้าเป็นแบบเฮเทอโรไซกัส (Pp) รุ่น F1 จะไปดอกสีม่วงและดอกสีขาวในอัตราส่วน 1:1) ขั้นประเมิน (Evaluation) 10 นาที 1. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 4 2. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการนำเสนอ ผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 3. ครูตรวจผลงานจากการทำใบงานหรือแบบฝึกหัด


98 9. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 10.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 10.2 Power point เรื่อง กฎการแยก 10.เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 1. K สามารถอธิบายรูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซมได้ ตอบคำถามใน ใบงาน แบบประเมิน ชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 2. P สามารถวาดภาพรูปร่าง ลักษณะ และส่วนประกอบของ โครโมโซมได้ ภาพวาด แบบประเมิน ทักษะการ ปฏิบัติการ ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบประเมิน พฤติกรรม ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป 3.2 ใฝ่เรียนรู้ 3.3 มุ่งมั่นการทำงาน


99 แบบประเมินชิ้นงาน ประเด็นที่ ประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ผลงานมีความ ถูกต้องสมบูรณ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นบางประเด็น ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็น ระบบ ผลงานมีแนวคิดแปลก ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่ 5. ผลงานเสร็จ ตามเวลาที่กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ที่กำหนด ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 1-2 วัน ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 3-5 วัน แบบประเมินทักษะการปฏิบัติการ ทักษะปฏิบัติการ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ การเลือกใช้ อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลอง เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้เหมาะสมกับ งาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้ถูกต้องแต่ไม่ เหมาะสมกับงาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการไม่ถูกต้อง การใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการ ทดลอง ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือใน การทดลองได้อย่าง คล่องแคล่วและถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติ ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองได้ถูกต้องตาม หลักการปฏิบัติแต่ไม่ คล่องแคล่ว ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองไม่ถูกต้อง การทดลอง/ปฏิบัติ ตามแผนที่กำหนด ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่าง ถูกต้อง มีการปรับปรุง แก้ไขเป็นระยะ ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้มีการ ปรับปรุงแก้ไขบ้าง ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้หรือ ดำเนินการข้ามที่กำหนดไว้ ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข


100 แบบประเมินพฤติกรรม วิธีการให้คะแนน ตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์โดยกำหนดน้ำหนักของตัวเลือกในช่องต่าง ๆ เป็น 4 3 2 และ 1 ข้อความที่มีความหมายเป็นทางบวก กำหนดให้คะแนนแต่ละข้อความดังนี้ ระดับพฤติกรรมการแสดงออก คะแนน มาก 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 ไม่มีการแสดงออก 1


101 10. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้


102 ความเห็นของครูพี่เลี้ยง 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอุบลรรณ เลี้ยวอุดมชัย) ครูพี่เลี้ยง แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


103 ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นายบุญเลี้ยง จอดนอก) หัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


104 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง กฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระของเมนเดล จำนวน 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ ************************************************************************* 1.ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) อธิบายและสรุปกฎแห่งการแยกและกฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระ และนำกฎของเมนเดลนี้ ไปอธิบายการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมและใช้ในการคำนวณโอกาสในการเกิดฟีโนไทป์และจีโน ไทป์แบบต่างๆของรุ่น F1 และ F2 2. สาระสำคัญ กฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระ (law of independent assortment) มีใจความสำคัญว่า แอลลี ลของยีนที่เป็นคู่กัน เมื่อแยกออกจากกันจะจัดกลุ่มกันอย่างอิสระกับแอลลีลของยีนอื่น ๆ ซึ่งแยกออก จากคู่เช่นกันเพื่อเข้าไปยังเซลล์สืบพันธุ์ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 สามารถอธิบายกฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระของเมนเดลได้ (K) 3.2 ใช้กฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระไปหาโอกาสของการเกิดฟีโนไทป์และจีโนไทป์แบบต่าง ๆ ของรุ่น F1 และ F2 ของการผสมพิจารณาสองลักษณะ (K) 3.3 สามารถสืบค้นการค้นข้อมูลเกี่ยวกับกฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระของเมนเดลได้ (P) 3.4 มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) 4. สาระการเรียนรู้ - กฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระของเมนเดล 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มุ่งมั่นในการทำงาน 6. สมรรถนะผู้เรียน 7.1 ความสามารถในการคิด 7.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


105 7. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน (วิธีสอนโดยการจัดการเรียนการสอน: กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1. ทบทวนความรู้เดิมของผู้เรียนเกี่ยวกับ กฎการแยก ด้วยการใช้คำถามชุดคำถาม - จากการศึกษาของเมนเดลโดยพิจารณาหนึ่งลักษณะเหตุใดในรุ่น F1 จึงแสดงออกมา เพียงลักษณะเดียว (แนวตอบ เพราะยีนเด่นของลักษณะที่ปรากฏสามารถข่มการแสดงออกของยีนด้อยได้อย่าง สมบูรณ์) - การตรวจสอบจีโนไทป์ของถั่วลันเตาดอกสีม่วงว่า ถ้าจีโนไทป์ของถั่วลันเตาที่สงสัยเป็น แบบฮอมอไซกัส (PP) จะให้รุ่น F1 เป็นอย่างไร หรือถ้าเป็นแบบเฮเทอโรไซกัส (Pp) จะให้รุ่น F1 เป็นอย่างไร (แนวตอบ ถ้าจีโนไทป์ของถั่วลันเตาที่สงสัยเป็นแบบฮอมอไซกัส (PP) รุ่น F1 จะมีดอกสีม่วงทั้งหมด แต่ถ้าเป็นแบบเฮเทอโรไซกัส (Pp) รุ่น F1 จะไปดอกสีม่วงและดอกสีขาวในอัตราส่วน 1:1) ขั้นสำรวจและค้นหา (Explore) 10 นาที 1. แจกใบงาน เรื่อง กฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระของเมนเดล ให้กับนักเรียน 2. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตจะถ่ายทอด หลาย ๆ ลักษณะไปพร้อม ๆ กัน แต่การถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรมของถั่วลันเตาที่ผ่านมาเป็น การศึกษาเพียงลักษณะใดลักษณะหนึ่งเท่านั้น เมนเดลจึงศึกษาเพิ่มโดยการผสมพันธุ์ถั่วลันเตาสอง ลักษณะพร้อม ๆ กัน ที่เรียกว่า การผสมพิจารณาสองลักษณะ 3. จากภาพการผสมพันธุ์ถั่วลันเตาโดยพิจารณาสองลักษณะที่ศึกษา รุ่น F1 ที่ได้จากการ ผสมพันธุ์มีโอกาสสร้างเซลล์สืบพันธุ์ได้กี่แบบ อะไรบ้าง (แนวตอบ รุ่น F1 สร้างสเปิร์มหรือเซลล์ไข่ได้ 4 แบบ คือ RY Ry rY ry โดยยีนแต่ละคู่ของ RrYy จะแยกออกจากกันตามกฎแห่งการแยกของเมนเดล) 3. จากภาพการผสมพันธุ์ถั่วลันเตาโดยพิจารณาสองลักษณะที่ศึกษา รุ่น F1 ที่ได้จากการ ผสมพันธุ์มีโอกาสสร้างเซลล์สืบพันธุ์ได้กี่แบบ อะไรบ้าง (แนวตอบ รุ่น F1 สร้างสเปิร์มหรือเซลล์ไข่ได้ 4 แบบ คือ RY Ry rY ry โดยยีนแต่ละคู่ของ RrYy จะแยกออกจากกันตามกฎแห่งการแยกของเมนเดล) 4. ครูถามนักเรียนว่า รุ่น F2 มีโอกาสที่จะเกิดจีโนไทป์และฟีโนไทป์กี่แบบ อะไรบ้าง


106 (แนวตอบ รุ่น F2 มีโอกาสเกิดจีโนไทป์ 9 แบบ ได้แก่ RRYY RRyy RRyy RrYy RrYy Rryy rrYY rrYy rryy และมีโอกาสเกิดฟีโนไทป์ได้ 4 แบบ ได้แก่ เมล็ดกลมสีเหลือง เมล็ดกลมสี เขียว เมล็ดขรุขระสีเหลือง และเมล็ดขรุขระสีเขียว ในอัตราส่วน 9 : 3 : 3 : 1) 5. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับกฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระของเมนเดล 5. ให้นักเรียนจัดกระทำข้อมูลเกี่ยวกับกฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระของเมนเดลลงในใบงาน 6. ขณะที่นักเรียนกำลังทำกิจกรรม ครูจะใช้แบบสังเกตบันทึกการทำกิจกรรม ดู คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน แบบสังเกตจะใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและการ ประเมินผล ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 15 นาที 1. เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมตามใบงานเสร็จ ให้ตัวแทนนักเรียนออกมารายงานผลการ ค้นพบหน้าชั้นเรียนด้วยวาจา จำนวน 2 คน ตามความสมัครใจ 2. เมื่อนักเรียนรายงานเสร็จแล้ว ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการวิเคราะห์และลง ข้อสรุปหากผู้เรียนมีผลการวิเคราะห์และลงข้อสรุป ขัดแย้งกับผลอภิปราย ให้ดำเนินแก้ไขผล ดังกล่าวในใบงานของตนเองให้ถูกต้อง 3. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันเพื่อสรุปผลการเรียนรู้ตามสาระสำคัญ ด้วยคำถามดังนี้ - กฏการรวมกลุ่มอิสระ ของเมนเดลจะเป็นจริงเมื่อ (แนวตอบ ยีนต่าง ๆ อยู่คนละ โครโมโซม) - การผสมระหว่าง Aa Bb Cc x Aa Bb Cc จะมีโอกาสได้ลูกผสม พวกโฮโมไซกัสสำหรับยีน ด้อยเป็น (แนวตอบ 1/64) - สิ่งมีชีวิตที่จีโนไทป์ AaBB จะสร้าง gamete อะไรบ้าง (แนวตอบ AB : aB = 1 : 1) - เพราะเหตุฟีโนไทป์ในรุ่น F2 จึงมีอัตราส่วนเท่ากับ 9 : 3 : 3 : 1 (แนวตอบ เมื่อพิจารณาเพียงลักษณะเดียวจะได้อัตราส่วนลักษณะเด่นต่อลักษณะด้อยเท่ากับ 3 : 1 ซึ่งเมื่อนำอัตราส่วนของสองลักษณะมาคูณกันจะได้รุ่น F2 มีฟีโนไทป์ 4 แบบ ที่อัตราส่วน 9 : 3 : 3 : 1) ขั้นประเมิน (Evaluation) 10 นาที 1. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 5 2. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการนำเสนอ ผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 3. ครูตรวจผลงานจากการทำใบงานหรือแบบฝึกหัด


107 8. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 10.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 10.2 Power point เรื่อง กฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระของเมนเดล 9. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 1. K สามารถอธิบายรูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซมได้ ตอบคำถามใน ใบงาน แบบประเมิน ชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 2. P สามารถวาดภาพรูปร่าง ลักษณะ และส่วนประกอบของ โครโมโซมได้ ภาพวาด แบบประเมิน ทักษะการ ปฏิบัติการ ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบประเมิน พฤติกรรม ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป 3.2 ใฝ่เรียนรู้ 3.3 มุ่งมั่นการทำงาน


108 แบบประเมินชิ้นงาน ประเด็นที่ ประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ผลงานมีความ ถูกต้องสมบูรณ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นบางประเด็น ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็น ระบบ ผลงานมีแนวคิดแปลก ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่ 5. ผลงานเสร็จ ตามเวลาที่กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ที่กำหนด ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 1-2 วัน ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 3-5 วัน แบบประเมินทักษะการปฏิบัติการ ทักษะปฏิบัติการ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ การเลือกใช้ อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลอง เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้เหมาะสมกับ งาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้ถูกต้องแต่ไม่ เหมาะสมกับงาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการไม่ถูกต้อง การใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการ ทดลอง ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือใน การทดลองได้อย่าง คล่องแคล่วและถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติ ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองได้ถูกต้องตาม หลักการปฏิบัติแต่ไม่ คล่องแคล่ว ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองไม่ถูกต้อง การทดลอง/ปฏิบัติ ตามแผนที่กำหนด ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่าง ถูกต้อง มีการปรับปรุง แก้ไขเป็นระยะ ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้มีการ ปรับปรุงแก้ไขบ้าง ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้หรือ ดำเนินการข้ามที่กำหนดไว้ ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข


109 แบบประเมินพฤติกรรม วิธีการให้คะแนน ตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์โดยกำหนดน้ำหนักของตัวเลือกในช่องต่าง ๆ เป็น 4 3 2 และ 1 ข้อความที่มีความหมายเป็นทางบวก กำหนดให้คะแนนแต่ละข้อความดังนี้ ระดับพฤติกรรมการแสดงออก คะแนน มาก 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 ไม่มีการแสดงออก 1


110 10. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้


111 ความเห็นของครูพี่เลี้ยง 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอุบลรรณ เลี้ยวอุดมชัย) ครูพี่เลี้ยง แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


112 ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นายบุญเลี้ยง จอดนอก) หัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


113 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม จำนวน 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ 1. ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) อธิบายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม และยกตัวอย่างลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วย ยีนบนออโตโซมและยีนบนโครโมโซมเพศ 2. สาระสำคัญ - ยีนบนโครโมโซมเพศ เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วยยีนบนโครโมโซมเพศ เช่น โรคฮีโมฟิเลีย โรคตาบอดสี - ยีนบนโครโมโซมเดียวกัน เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วยยีนบนโครโมโซม เดียวกัน และยีนจะถูกถ่ายทอดไปพร้อมกัน เช่น ยีนควบคุมลักษณะสีตัวและลักษณะปีกของแมลงหวี่ - ลักษณะภายใต้อิทธิพลเพศ เป็นลักษณะพันธุกรรมที่อยู่บนโครโมโซมร่างกาย แต่มีการ แสดงออกแตกต่างกันในแต่ละเพศ เช่น ลักษณะศีรษะล้าน 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 สามารถอธิบายเกี่ยวกับการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซได้ (K) 3.2 สามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซมได้ (P) 3.3 มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) 4. สาระการเรียนรู้ - การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมบางลักษณะให้อัตราส่วนที่แตกต่างจากผลการศึกษา ของเมนเดล เรียกลักษณะเหล่านี้ว่า ลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของพันธุศาสตร์เมนเดล เช่น การข่มไม่สมบูรณ์ การข่มร่วมกัน มัลติเพิลแอลลีล ยีนบนโครโมโซมเพศ และพอลิยีน - ลักษณะพันธุกรรมบางลักษณะมีความแตกต่างกันชัดเจน เช่น การมีติ่งหูหรือไม่มีติ่งหู ซึ่ง เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันไม่ต่อเนื่อง - ลักษณะทางพันธุกรรมบางลักษณะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยและลดหลั่นกันไป เช่น ความสูงและสีผิวของมนุษย์ถูกควบคุมโดยยีนหลายคู่ซึ่งเป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผัน ต่อเนื่อง และสิ่งแวดล้อมอาจมีผลต่อการแสดงลักษณะนั้น - โครโมโซมภายในเซลล์ร่างกายแบ่งเป็นออโตโซมและโครโมโซมเพศ ลักษณะทางพันธุกรรม ส่วนใหญ่ถูกควบคุมด้วยยีนบนออโตโซม บางลักษณะถูกควบคุมด้วยยีนบนโครโมโซมเพศซึ่งส่วนมาก เป็นยีนบนโครโมโซม X


114 - เมื่อมีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ ยีนบนโครโมโซมเดียวกันที่อยู่ใกล้กันมักจะถูกถ่ายทอดไป ด้วยกัน แต่การเกิดครอสซิงโอเวอร์ในการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสอาจทำให้ยีนบนโครโมโซมเดียวกัน แยกจากกันได้ ส่งผลให้รูปแบบของเซลล์สืบพันธุ์ที่ได้แตกต่างไปจากกรณีที่ไม่เกิดครอสซิงโอเวอร์ - ลักษณะที่จำกัดในเพศ เป็นลักษณะพันธุกรรมที่อยู่บนโครโมโซมร่างกาย แต่แสดงออกใน เพศใดเพศหนึ่งเท่านั้น เช่น การสร้างน้ำนมในเพศหญิง การเกิดหนวดเคราในเพศชาย 5. ทักษะกระบวนการคิด 5.1 การสังเกต 5.2 การจำแนกประเภท 5.3 การลงความเห็นจากข้อมูล 5.4 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูลสรุป 6. สมรรถนะผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) การลงความเห็นจากข้อมูล 3) การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูล 6.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 7. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กระบวนการที่ใช้สอน : กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 2. ครูทบทวนความรู้เดิมนักเรียนเกี่ยวกับการปฏิสนธิโดยใช้คำถามดังนี้ 2.1 การปฏิสนธิระหว่างสเปิร์มและเซลล์ไข่จะพัฒนาเป็นอะไร (แนวคำตอบ: ไซโกต) 2.2 ไซโกตพัฒนาเจริญเป็นอะไร (แนวตอบ : เอ็มบริโอ) 2.3 ยีนจากพ่อแม่สามารถถ่ายทอดไปยังลูกหลานได้อย่างไร (แนวคำตอบ: ยีนซึ่งเป็นหน่วยควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมจากพ่อแม่สามารถถ่ายทอด ไปยังลูกหลานได้ โดยผ่านทางโครโมโซมในเซลล์สืบพันธุ์ของพ่อแม่) ขั้นสำรวจและค้นหา (Explore) 4. ครูให้นักเรียนสังเกตรูปภาพ 5.8 ในหนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 5. ครูให้นักเรียนศึกษาและสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซมจากแหล่ง วิทยาการต่างๆ เช่น อินเตอร์เน็ต สไลด์การสอน และหนังสือเรียน


115 6. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม 5.2 การแก้โจทย์ปัญหา เรื่อง การผสมพิจารณาหลายลักษณะ ใน หนังสือเรียนชีววิทยา เล่ม 2 หน้า 74 ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 3. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการทำกิจกรรม โดยครูใช้คำถามดังนี้ 1.1 กฎของเมนเดลมีความสอดคล้องกับกระบวนการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสอย่างไร (แนวคำตอบ : ฮอมอโลกัสโครโมโซมจะแยกออกจากกันและรวมกลุ่มกับโครโมโซมต่างคู่ อย่างอิสระ ในขณะแบ่งเซลล์ระยะไมโอซิส I โดยเมื่อสิ้นสุดการแบ่งเซลล์แต่ละเซลล์สืบพันธุ์ จะได้รับโครโมโซม 1 แท่ง จากฮอมอโลกัสโครโมโซมแต่ละคู่ เช่นเดียวกับการที่แอลลีลของ ยีนหนึ่งแยกจากคู่และไปรวมกลุ่มกับแอลลีลของยีนอื่นอย่างอิสระ) 1.2 ถ้ามียีน2 คู่ สภาพเฮเทอโรไซกัส RrYy เมื่อมีการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสจะสร้างเซลล์ สืบพันธุ์ได้กี่แบบ อะไรบ้าง (แนวตอบ : RY Ry rY และ ry) ขั้นขยายความรู้ (Elaborate) นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎของเมนเดลกกับการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส โดยสรุปจด บันทึกลงในสมุด ขั้นประเมิน (Evaluation) 4. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 5 5. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการนำเสนอผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 6. ครูตรวจผลงานจากการทำใบงานหรือแบบฝึกหัด 8. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 9.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 9.2 Power point เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม


116 9. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 1. K สามารถอธิบายรูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซมได้ ตอบคำถามใน ใบงาน แบบประเมิน ชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 2. P สามารถวาดภาพรูปร่าง ลักษณะ และส่วนประกอบของ โครโมโซมได้ ภาพวาด แบบประเมิน ทักษะการ ปฏิบัติการ ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบประเมิน พฤติกรรม ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป 3.2 ใฝ่เรียนรู้ 3.3 มุ่งมั่นการทำงาน


117 แบบประเมินชิ้นงาน ประเด็นที่ ประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ผลงานมีความ ถูกต้องสมบูรณ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นบางประเด็น ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็น ระบบ ผลงานมีแนวคิดแปลก ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่ 5. ผลงานเสร็จ ตามเวลาที่กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ที่กำหนด ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 1-2 วัน ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 3-5 วัน แบบประเมินทักษะการปฏิบัติการ ทักษะปฏิบัติการ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ การเลือกใช้ อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลอง เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้เหมาะสมกับ งาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้ถูกต้องแต่ไม่ เหมาะสมกับงาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการไม่ถูกต้อง การใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการ ทดลอง ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือใน การทดลองได้อย่าง คล่องแคล่วและถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติ ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองได้ถูกต้องตาม หลักการปฏิบัติแต่ไม่ คล่องแคล่ว ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองไม่ถูกต้อง การทดลอง/ปฏิบัติ ตามแผนที่กำหนด ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่าง ถูกต้อง มีการปรับปรุง แก้ไขเป็นระยะ ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้มีการ ปรับปรุงแก้ไขบ้าง ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้หรือ ดำเนินการข้ามที่กำหนดไว้ ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข


118 แบบประเมินพฤติกรรม วิธีการให้คะแนน ตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์โดยกำหนดน้ำหนักของตัวเลือกในช่องต่าง ๆ เป็น 4 3 2 และ 1 ข้อความที่มีความหมายเป็นทางบวก กำหนดให้คะแนนแต่ละข้อความดังนี้ ระดับพฤติกรรมการแสดงออก คะแนน มาก 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 ไม่มีการแสดงออก 1


119 10. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้


120 ความเห็นของครูพี่เลี้ยง 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอุบลรรณ เลี้ยวอุดมชัย) ครูพี่เลี้ยง แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


121 ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นายบุญเลี้ยง จอดนอก) หัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


122 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 จำนวน 1 ชั่วโมง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง ความน่าจะเป็นกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ครูผู้สอน นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ ************************************************************************* 1. ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) อธิบายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม และยกตัวอย่างลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วย ยีนบน ออโตโซมและยีนบนโครโมโซมเพศ 2. สาระสำคัญ - ยีนบนโครโมโซมเพศ เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วยยีนบนโครโมโซมเพศ เช่น โรคฮีโมฟิเลีย โรคตาบอดสี - ยีนบนโครโมโซมเดียวกัน เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วยยีนบนโครโมโซม เดียวกัน และยีนจะถูกถ่ายทอดไปพร้อมกัน เช่น ยีนควบคุมลักษณะสีตัวและลักษณะปีกของแมลงหวี่ - ลักษณะภายใต้อิทธิพลเพศ เป็นลักษณะพันธุกรรมที่อยู่บนโครโมโซมร่างกาย แต่มีการ แสดงออกแตกต่างกันในแต่ละเพศ เช่น ลักษณะศีรษะล้าน 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 สามารถอธิบายเกี่ยวกับความน่าจะเป็นกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมได้ (K) 3.2 สามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับความน่าจะเป็นกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมได้ (P) 3.3 มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) 4. สาระการเรียนรู้ - การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมบางลักษณะให้อัตราส่วนที่แตกต่างจากผลการศึกษา ของเมนเดล เรียกลักษณะเหล่านี้ว่า ลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของพันธุศาสตร์เมนเดล เช่น การข่มไม่สมบูรณ์ การข่มร่วมกัน มัลติเพิลแอลลีล ยีนบนโครโมโซมเพศ และพอลิยีน - ลักษณะพันธุกรรมบางลักษณะมีความแตกต่างกันชัดเจน เช่น การมีติ่งหูหรือไม่มีติ่งหู ซึ่งเป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันไม่ต่อเนื่อง - ลักษณะทางพันธุกรรมบางลักษณะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยและลดหลั่นกันไป เช่น ความสูงและสีผิวของมนุษย์ถูกควบคุมโดยยีนหลายคู่ซึ่งเป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผัน ต่อเนื่อง และสิ่งแวดล้อมอาจมีผลต่อการแสดงลักษณะนั้น


123 - โครโมโซมภายในเซลล์ร่างกายแบ่งเป็นออโตโซมและโครโมโซมเพศ ลักษณะทางพันธุกรรม ส่วนใหญ่ถูกควบคุมด้วยยีนบนออโตโซม บางลักษณะถูกควบคุมด้วยยีนบนโครโมโซมเพศซึ่งส่วนมาก เป็นยีนบนโครโมโซม X - เมื่อมีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ ยีนบนโครโมโซมเดียวกันที่อยู่ใกล้กันมักจะถูกถ่ายทอดไป ด้วยกัน แต่การเกิดครอสซิงโอเวอร์ในการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสอาจทำให้ยีนบนโครโมโซมเดียวกัน แยกจากกันได้ ส่งผลให้รูปแบบของเซลล์สืบพันธุ์ที่ได้แตกต่างไปจากกรณีที่ไม่เกิดครอสซิงโอเวอร์ - ลักษณะที่จำกัดในเพศ เป็นลักษณะพันธุกรรมที่อยู่บนโครโมโซมร่างกาย แต่แสดงออกใน เพศใดเพศหนึ่งเท่านั้น เช่น การสร้างน้ำนมในเพศหญิง การเกิดหนวดเคราในเพศชาย 5. ทักษะกระบวนการคิด 5.1 การสังเกต 5.2 การจำแนกประเภท 5.3 การลงความเห็นจากข้อมูล 5.4 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูลสรุป 6. สมรรถนะผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) การลงความเห็นจากข้อมูล 3) การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูล 6.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 7. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กระบวนการที่ใช้สอน : กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1. ครูทบทวนความรู้เดิมนักเรียนเกี่ยวกับการปฏิสนธิโดยใช้คำถามดังนี้ 1.1 กฎของเมนเดลเกี่ยวข้องกับความน่าจะเป็นอย่างไร (แนวคำตอบ : เกี่ยวข้องกันเนื่องจากโอกาส ขึ้นอยู่กับว่าขณะเกิดการกระบวนการสร้างเซลล์ สืบพันธุ์ แต่ละเซลล์สืบพันธุ์ที่จะได้รับแอลลีลใดบ้าง และเซลล์สืบพันธุ์ใดจะมีโอกาสเกิดการ ปฏิสนธิกัน)


124 ขั้นสำรวจและค้นหา (Explore) 2. ครูให้นักเรียนศึกษาและสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับความน่าจะเป็นกับการถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรมจากแหล่งวิทยาการต่างๆ เช่น อินเตอร์เน็ต สไลด์การสอน และหนังสือเรียน 3. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมเสนอแนะ เรื่อง ความน่าจะเป็นกับการถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรมในหนังสือเรียนชีววิทยา เล่ม 2 หน้า 75 ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการทำกิจกรรม โดยครูใช้คำถามดังนี้ 4.1 ความน่าจะเป็นกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมคืออะไร (แนวคำตอบ : อัตราส่วนจำนวนครั้งของเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น ต่อเหตุการณ์นั้น อัตราส่วนในทางพันธุศาสตร์ คือ อัตราส่วนทางจีโนไทป์ และอัตราส่วนทางฟีโนไทป์) 4.2 กฎความน่าจะเป็นมีกี่ข้อ อะไรบ้าง (แนวตอบ : 2 ข้อ คือ กฎการบวก และกฎการคูณ) 4.3 กฎการบวก (Addition Law) คืออะไร (แนวตอบ : เหตุการณ์ไม่สามารถเกิดขึ้นพร้อมๆ กันได้) ขั้นขยายความรู้ (Elaborate) 5. นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโจทย์ความน่าจะเป็นกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม 10 ข้อ โดยสรุปจดบันทึกลงในสมุด ขั้นประเมิน (Evaluation) 6. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 5 7. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการนำเสนอผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 8. ครูตรวจผลงานจากการทำใบงานหรือแบบฝึกหัด 8. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 8.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 8.2 Power point เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม


125 9. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การ เรียนรู้ 1. K สามารถอธิบายรูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซมได้ ตอบคำถามใน ใบงาน แบบประเมิน ชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 2. P สามารถวาดภาพรูปร่าง ลักษณะ และส่วนประกอบของ โครโมโซมได้ ภาพวาด แบบประเมิน ทักษะการ ปฏิบัติการ ผ่านเกณฑ์ ดี ขึ้นไป 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบประเมิน พฤติกรรม ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป 3.2 ใฝ่เรียนรู้ 3.3 มุ่งมั่นการทำงาน


126 แบบประเมินชิ้นงาน ประเด็นที่ ประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ผลงานมีความ ถูกต้องสมบูรณ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นบางประเด็น ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็น ระบบ ผลงานมีแนวคิดแปลก ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่ 5. ผลงานเสร็จ ตามเวลาที่กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ที่กำหนด ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 1-2 วัน ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 3-5 วัน แบบประเมินทักษะการปฏิบัติการ ทักษะปฏิบัติการ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ การเลือกใช้ อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลอง เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้เหมาะสมกับ งาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการได้ถูกต้องแต่ไม่ เหมาะสมกับงาน เลือกใช้อุปกรณ์/เครื่องมือ ในการทดลองหรือ ปฏิบัติการไม่ถูกต้อง การใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการ ทดลอง ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือใน การทดลองได้อย่าง คล่องแคล่วและถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติ ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองได้ถูกต้องตาม หลักการปฏิบัติแต่ไม่ คล่องแคล่ว ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ทดลองไม่ถูกต้อง การทดลอง/ปฏิบัติ ตามแผนที่กำหนด ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่าง ถูกต้อง มีการปรับปรุง แก้ไขเป็นระยะ ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้มีการ ปรับปรุงแก้ไขบ้าง ทดลองตามวิธีการและ ขั้นตอนที่กำหนดไว้หรือ ดำเนินการข้ามที่กำหนดไว้ ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข


127 แบบประเมินพฤติกรรม วิธีการให้คะแนน ตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์โดยกำหนดน้ำหนักของตัวเลือกในช่องต่าง ๆ เป็น 4 3 2 และ 1 ข้อความที่มีความหมายเป็นทางบวก กำหนดให้คะแนนแต่ละข้อความดังนี้ ระดับพฤติกรรมการแสดงออก คะแนน มาก 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 ไม่มีการแสดงออก 1


128 10. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้


129 ความเห็นของครูพี่เลี้ยง 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอุบลรรณ เลี้ยวอุดมชัย) ครูพี่เลี้ยง แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


130 ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นายบุญเลี้ยง จอดนอก) หัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


131 แผนการจัดการเรียนรู้ที่14 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม จำนวน 9 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายกฤษณวงศ์ รอบรู้ 1. ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) 1. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และสรุปผลการทดลองของเมนเดล 2. อธิบาย และสรุปกฎแห่งการแยก และกฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระ และนำกฎของเมนเดล นี้ไปอธิบายการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมและใช้ในการคำนวณโอกาสในการเกิด ฟีโนไทป์และจีโนไทป์แบบต่าง ๆ ของรุ่น F1 และ F2 3. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์อธิบาย และสรุปเกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ที่เป็นส่วนขยายของพันธุศาสตร์เมนเดล 4. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์และเปรียบเทียบลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันไม่ต่อเนื่องและ ลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันต่อเนื่อง 5. อธิบายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม และยกตัวอย่างลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วย ยีนบนออโตโซมและยีนบนโครโมโซมเพศ 2. สาระสำคัญ ลักษณะต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตล้วนถูกกำหนดขึ้นมาจากสารพันธุกรรมที่อยู่ภายในเซลล์ แต่ละเซลล์ของสิ่งมีชีวิต โดยสารพันธุกรรมเหล่านี้เป็นสารชีวโมเลกุลชนิดหนึ่งที่เรียกว่ากรด นิวคลีอิก (nucleic acid) ซึ่งประกอบด้วย DNA และ RNA โดยจากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ในหลาย ๆ งานวิจัยพบว่า สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดมี DNA เป็นสารพันธุกรรมและมีส่วนน้อยที่มี RNA เป็นสารพันธุกรรม และยังค้นพบว่าโครงสร้างของ DNA ดังกล่าวเกิดจากการที่ พอลินิวคลีโอไทด์ (polynucleotide) 2 สายมาเข้าคู่กันด้วยพันธะไฮโดรเจนและบิดเป็นเกลียวคู่เวียน ขวาตามเข็ม นาฬิกาลักษณะคล้ายบันไดเวียน นอกจากนี้ DNA ที่อยู่ภายในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตจะมีการจับกับ โปรตีนบางชนิดและขดตัวให้มีขนาดเล็กจนสามารถบรรจุอยู่ในนิวเคลียสของเซลล์ได้ โดย หลังจาก การขดตัวแล้วเราจะเรียกโครงสร้างนั้นว่า เส้นใยโครมาทิน (chromatin fiber) และจะมีการ ขดตัว มากที่สุดในระหว่างการแบ่งเซลล์ซึ่งเราจะเรียกโครงสร้างนั้นว่า โครโมโซม (chromosome)


132 แต่อย่างไรก็ตามโมเลกุลของ DNA หนึ่ง ๆ จะมีทั้งส่วนที่ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม และ ส่วนที่ไม่ได้ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต โดยเราจะเรียกส่วนที่ควบคุมลักษณะ ทางพันธุกรรมว่า ยีน (gene) ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า ยีน คือ ส่วนใดส่วนหนึ่งของสารพันธุกรรมและ เป็นหน่วยควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต ซึ่งสามารถจำแนกออกได้เป็นยีนเด่นที่เขียน แทนด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่ และยีนด้อยที่เขียนแทนด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์เล็ก นอกจากนี้ยีนบน DNA หรือบนโครโมโซมเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำงานกันเป็นคู่ในรูปแบบต่าง ๆ ที่เรียกว่า จีโนไทป์ (genotype) เพื่อควบคุมลักษณะใดลักษณะหนึ่งให้เกิดการแสดงออกหรือที่เรียกว่า ฟีโนไทป์ (phenotype) คู่ของยีนหนึ่ง ๆ จะมียีนแต่ละยีนที่มาจากโครโมโซมคู่เหมือน (homologous chromosome) ที่มีลักษณะ รูปร่าง และตำแหน่งต่าง ๆ บนโครโมโซมเหมือนกันทุกประการ ซึ่งหาก นำความรู้ดังกล่าวไปประยุกต์เข้ากับการแบ่งเซลล์จะทำให้สามารถอธิบายกลไกการถ่ายทอด ลักษณะ ทางพันธุกรรมได้ กล่าวคือ ขณะที่สิ่งมีชีวิตทำการแบ่งเซลล์เพื่อสร้างเซลล์สืบพันธุ์โครโมโซมที่มี ลักษณะเหมือนกันจะถูกแยกออกจากกันไปยังเซลล์สืบพันธุ์แต่ละเซลล์ ส่งผลให้ยีนที่เป็นคู่กันจะถูก แยกออกจากกันเพื่อไปยังเซลล์สืบพันธุ์ด้วยเช่นเดียวกัน เซลล์สืบพันธุ์ที่ได้จึงมียีน บรรจุอยู่เพียง ครึ่งหนึ่งของเซลล์เดิม จนกระทั่งเมื่อใดก็ตามที่สิ่งมีชีวิตมีการผสมพันธุ์กัน เซลล์สืบพันธุ์จากเพศผู้และ เพศเมียที่มียีนเพียงครึ่งหนึ่งนั้นจะมาผสมกันได้เซลล์ลูกที่มียีนซึ่งสามารถเข้าคู่กันได้อีกครั้งและ ควบคุมการแสดงออกลักษณะต่าง ๆ ได้เช่นเดียวกับพ่อแม่ แต่อาจมีลักษณะที่แสดงออกแตกต่าง ไปบ้างเนื่องจากรูปแบบของยีนที่เข้าคู่กันอาจไม่เหมือนกับรุ่นพ่อแม่ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 สามารถอธิบายเกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมได้ (K) 3.2 สามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมได้ (P) 3.3 มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) 4. สาระการเรียนรู้ เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติ และหน้าที่ ของสารพันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูลและแนวคิดเกี่ยวกับ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี - ไวน์เบิร์ก การเกิดสปีชีส์ใหม่ ความหลากหลายทาง ชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และอนุกรมวิธาน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์


133 5. ตารางแสดงกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในแต่ละขั้นตอนด้วยการจัดการเรียนรู้ design thinking การจัดการเรียนรู้การคิดเชิงออกแบบตามแนวคิดของ Stanford d.school bootcamp bootleg (2010 อ้างถึงใน DEX SPACE, 2017) แผน ที่ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) แนวคิด STEAM 1 1 ครูและนักเรียนร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นใน ประเด็นเรื่อง ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ดังนี้ − นักเรียนคิดว่าเพราะเหตุใด บุคคลในครอบครัวจึงมี ลักษณะต่างๆ ที่คล้ายคลึงกัน (แนวตอบ : มนุษย์ จะถ่ายทอดลักษณะต่างๆ เช่น สีตา สีผม ความสูง สีผิว ห่อลิ้นได้ ห่อลิ้นไม่ได้ ผมหยิก ผมเหยียดตรง มีติ่งหู ไม่มีติ่งหู จากบรรพบุรุษสู่ลูกหลาน โดยลูก จะได้รับการถ่ายทอดลักษณะจากพ่อและแม่ ซึ่งพ่อ ก็จะได้รับการถ่ายทอดลักษณะมาจากปู่และย่าอีกที เช่นเดียวกับแม่ ก็จะได้รับการถ่ายทอดลักษณะจาก ตายายเช่นกัน จากการถ่ายทอดลักษณะต่าง ๆ ของแต่ละรุ่นจึงทำให้บุคคลในครอบครัวมีลักษณะ ต่าง ๆ ที่คล้ายคลึงกัน) − เมื่อทราบลักษณะของพ่อแม่จะสามารถทำนาย ลักษณะทางพันธุกรรมของลูกที่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ : ได้ เพราะสมบัติอย่างหนึ่งที่ สำคัญของสิ่งมีชีวิต คือ มีการถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรมต่างๆ จากรุ่นสู่รุ่น ศึกษาได้จากพันธุศาสตร์ ของเมนเดล) 2. ครูนำภาพดอกชบาสีแดง สีขาว สีส้ม สีเหลือง และสีชมพู จากนั้นถามคำถาม ดังนี้ − ถ้านักเรียนต้องปลูกดอกชบาสีต่างๆจะต้องทำอย่างไร (แนวคำตอบ : มีการวางแผนงาน จัดเตรียมอุปกรณ์ ต่าง ๆ เตรียมเมล็ดพันธุ์) − ในการปลูก มีวิธีการอย่างไรเพื่อให้ดอกไม้ได้ สีตามต้องการ (แนวคำตอบ : การตัดต่อพันธุกรรม การใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ) ๑.สืบค้นข้อมูล อธิบาย และ สรุปผลการทดลองของ เมนเดล 3 S T E A M


134 แผน ที่ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) แนวคิด STEAM − นักเรียนสามารถทำนายการปลูกและผสมของสีดอกช บาได้หรือไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ : ได้ โดยใช้ความ น่าจะเป็นและศึกษาจากตารางพันเนตต์ : Punnett square) − ตารางพันเนตต์ช่วยในการทำนายสีของดอกชบา ได้อย่างไร (แนวคำตอบ : เพราะตารางพันเนตต์ สามารถใช้หาผลลัพธ์ของโอกาสการเข้าคู่กันของแอล ลีลในขณะเกิดการปฏิสนธิ) − นักเรียนคิดว่าการผสมพันธุ์เพื่อให้ได้สีของดอก ตามต้องการ มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร (แนวคำตอบ : ข้อดี ได้ผลผลิตตามต้องการ ข้อเสีย ทำให้เกิดการ กลายพันธุ์) 3. นักเรียนสืบค้นเกี่ยวกับการศึกษาพันธุกรรมของเมนเดล และทำใบกิจกรรมที่ 1 การศึกษาพันธุกรรมของเมนเดล จากนั้นครูอธิบายเกี่ยวกับการศึกษาพันธุกรรมของเมนเดล 2 4. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ครูเชื่อมโยงเข้าสู่สถานการณ์ปัญหา พร้อมทั้งกำหนด บทบาทให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเป็นเจ้าของบริษัทนักสืบ แล้วครูแนะนำวิธีใช้ Padlet เพื่อเป็นช่องทางการส่งงาน อัพเดทงานบริษัทตัวเอง 5. ครูยื่นซองสถานการณ์ให้แต่ละบริษัท แล้วให้เวลา แก้ปัญหาจาก 4 สถาการณ์ ดังนี้ 1. การผสมพันธุ์หนูพันธุ์หายากอย่าง Himalayan จากพ่อแม่พันธุ์ที่ฟาร์มมีอยู่อย่างจำกัด “ฟาร์มมู๋หมินช่งประสบวิกฤตหนักตลาดจีนต้องการ กระต่ายสีขน Rare item คือ Himalayan ทาง ฟาร์มมีพ่อแม่พันธุ์ Wilde-type , Chinchilla, HimalayanและAlbino จำนวนน้อย แต่ตลาด มีความต้องการ Himalayan จำนวนมาก มีวิธีช่วย ผสมหนูอย่างไรบ้าง” ๒.สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ อธิบาย และสรุปเกี่ยวกับ การถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรมที่เป็นส่วน ขยายของพันธุศาสตร์ เมนเดล ๓.สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ และเปรียบเทียบลักษณะ ทางพันธุกรรมที่มีการ แปรผันไม่ต่อเนื่องและ ลักษณะทางพันธุกรรมที่ มีการแปรผันต่อเนื่อง 3


135 แผน ที่ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) แนวคิด STEAM 2. คดีพ่อแม่ตามหาลูกที่แท้จริง “22 ปีก่อน สามีเลือดหมู่ AB ภรรยาเลือดหมู่ A สองคนนี้เป็นชาวฮ่องกงให้กำเนิดบุตรชาย แต่ก็เกิด เหตุการณ์ที่เลวร้ายกับครอบครัวคือ ลูกชายถูกลักพา ตัวหายไปอย่างไร้ร่องรอย วันเวลาผ่านมาจนถึง ปัจจุบัน วันหนึ่งรายการโหนกระสวยมีแขกรับเชิญ คนหนึ่งเป็นชาย อายุ 22 ปี เขามาออกรายการเพื่อ ตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง เขารู้แค่ว่าเขาเกิดที่ โรงพยาบาลจินจงเหวินและมีเลือดหมู่ O ในขณะนั้น ก็มีชายอีกคนโทรเข้ามาในรายการ อ้างว่าตนก็ตาม หาพ่อแม่และตนก็เกิดที่โรงพยาบาลนั้นเช่นกัน แต่มี เลือดหมู่ A เราจะช่วยสามีภรรยาอย่างไรในการตาม หาลูกที่แท้จริง” 3. ตรวจก่อนแต่งเพื่อทายาทที่แข็งแรง “ แจ็คกับอลิซาเบทแต่งงานกัน แล้ววางแผนมีลูก เพื่อให้มีทายาทมาสืบสกุลและบริหารบริษัท แอลดีดับเบิลดอร์ มูลค่าจดทะเบียนกว่า 10,000$ พวกเขาจึงต้องการความมั่นใจว่าทายาท ต ้ อ ง ม ี ค ว า ม ส ม บ ู ร ณ ์ แ ข ็ ง แ ร ง ป ร า ศ จ า ก ภาวะแทรกซ้อนของรอยโรคต่างๆ จึงจับมือกันไป ตรวจ ปรากฏว่าอลิซาเบทเป็นพาหะของโรคตาบอด สี ส่วนแจ็คไม่เป็นโรคตาบอดสี แต่สืบทราบว่าพันธุ ประวัติของครอบครัวแจ็คมีแม่เป็นตาบอดสี โอกาสที่ ทั้งคู่จะมีบุตรที่เป็นโรคตาบอดสีกี่ % นักเรียนจะช่วย ให้คำปรึกษาทั้งคู่ว่าควรตัดสินใจอย่างไรต่อไปดี ” 4. ใครคือผู้บริจาคเลือดจากอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ “แก๊งเพื่อนสาวพึ่งเดินทางกลับจากผับย่านรัชดา มุ่งหน้าเดนทางไปต่อทางมอเตอร์เวย์ชลบุรี ปรากฏ ว่าเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ พบผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย และถูกนำส่งโรงพยาบาล ทันที ผู้บาดเจ็บสูญเสียเลือดมากต้องการเลือดด่วน ทีมแพทย์แจ้งว่าเลือดของผู้บาดเจ็บในขณะนั้น เป็นเลือดที่ต กตะกอนใน Antibody A และ


136 แผน ที่ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) แนวคิด STEAM ไม่ตกตะกอนใน Antibody B ขณะนั้นมีผู้หวังดีมา ขอบริจาคให้ 2 คน คนที่ 1 มีหมู่เลือดที่สามารถรับบริจาคได้ทุกหมู่ คนที่ 2 มีหมู่เลือดที่ไม่สามารถรับบริจาค จากหมู่เลือดอื่นได้ยกเว้นหมู่เลือดตัวเอง” ขั้นที่ 1 การสร้างความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง (Empathy) 1.1 เพื่อให้นักเรียนเข้าใจสถานการณ์ปัญหาทั้ง 4 สถานการณ์ ในใบกิจกรรมที่ 2 ดังนี้ − การผสมพันธุ์หนูพันธุ์หายากอย่าง Himalayan จากพ่อแม่พันธุ์ที่ฟาร์มมีอยู่อย่างจำกัด − คดีพ่อแม่ตามหาลูกที่แท้จริง − ตรวจก่อนแต่งเพื่อทายาทที่แข็งแรง − ใครคือผู้บริจาคเลือดจากอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ และเพื่อให้นักเรียนทำความเข้าใจความต้องการของ ลูกค้าอย่างลึกซึ้งครูถามคำถาม ดังนี้ 1) บทบาทของนักเรียนในทั้ง 4 สถานการณ์คืออะไร 2) บริษัทของนักเรียนในทั้ง 4 สถานการณ์ทำหน้าที่ อะไร 1.2 นักเรียนในกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์และตอบคำถาม ในใบกิจกรรมที่ 2 ในประเด็นต่อไปนี้ - ชื่อบริษัท - ลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย (ระบุกลุ่มเป้าหมาย) - ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย (ระบุปัญหา) - ความต้องการของบริษัท (ระบุปัญหา) - เหตุผลของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเช่นนั้น (อธิบายสาเหตุของปัญหา) ขั้นที่ 2 ขั้นการตั้งกรอบโจทย์ (Define) 2.1 ครูถามคำถามเพื่อให้นักเรียนเข้าใจสถานการณ์ มากขึ้น ดังนี้


137 แผน ที่ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) แนวคิด STEAM 1) สิ่งที่นักเรียนต้องทำเพื่อตอบสนองความต้องการ ในทั้ง 4 สถานการณ์คืออะไร 2) แต่ละสถานการณ์ มีเงื่อนไขอย่างไร 2.2 นักเรียนในกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์และตอบคำถาม ในใบกิจกรรมที่ 2 ในประเด็นต่อไปนี้ - สิ่งที่บริษัทต้องทำ (ตั้งกรอบโจทย์ของปัญหา) - สิ่งที่ต้องคำนึงในการแก้ปัญหา (ตั้งกรอบโจทย์ ของปัญหา) 2.3 เมื่อแต่ละบริษัทสามารถแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์ ได้เสร็จเรียบร้อยให้เขียนแสดงคำตอบ/การแนะนำ ลงใน ใบบันทึกคำตอบ ถ่ายภาพแล้วอัพโหลดลงใน Padlet ขั้นที่ 3 ขั้นการระดมความคิด (Ideate) 3.1 ครูยกสถานการณ์ทีละสถานการณ์ ดังนี้ − การผสมพันธุ์หนูพันธุ์หายากอย่าง Himalayan จากพ่อแม่พันธุ์ที่ฟาร์มมีอยู่อย่างจำกัด − คดีพ่อแม่ตามหาลูกที่แท้จริง − ตรวจก่อนแต่งเพื่อทายาทที่แข็งแรง − ใครคือผู้บริจาคเลือดจากอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ แล้วขออาสาสมัครแสดงความคิดเห็น แสดงวิธีคิด และ เปิดช่วงเวลาให้กลุ่มอื่นที่คิดเหมือนหรืออาจจะคิดแตกต่างได้ แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมทำแบบนี้เรื่อย ๆ จนจบทั้ง 4 สถานการณ์ 3 ขั้นที่ 4 การสร้างต้นแบบ (Prototype) 4.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผนในการทำวาดภาพสถานการณ์ เป็นฉาก พร้อมคำอธิบาย วิธีการทำงานของนักสืบ 4.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มลงมือทำกิจกรรม และสามารถเลือกใช้ อุปกรณ์เสริมที่ครูเตรียมไว้ให้ ได้แก่ กรรไกร กระดาษ สีดินสอ 4.3. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงาน ขั้นที่ 5 ขั้นการทดสอบต้นแบบ (Testing) 5.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มประเมินผลงานของตนเองว่าตรง กับความต้องการของลูกค้าและเงื่อนไขที่ตั้งไว้ ในใบกิจกรรมที่ 2 ตามประเด็นต่อไปนี้ ๔.อ ธ ิ บ า ย แ ล ะ ส รุ ป กฎแห่งการแยก และกฎ แห่งการรวมกลุ่มอย่าง อิสระและนำกฎของ เมนเดลนี้ไปอธิบาย การถ่ายทอดลักษณะ ทางพันธุกรรมและใช้ใน การคำนวณโอกาสในการ เกิดฟีโนไทป์และจีโนไทป์ แบบต่างๆ ของรุ่น F1 และ F2 3


138 แผน ที่ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) แนวคิด STEAM ประเด็นประเมิน ตรง ตาม เงื่อนไข ไม่ตรง ตาม เงื่อนไข สถานการณ์ ที่ 1 สามารถผสมหนูให้ได้พันธุ์ Himalayan สามารถอธิบายวิธีการผสม หนูให้ได้พันธุ์ Himalayan ได้อย่างถูกต้อง สถานการณ์ ที่ 2 สามารถตามหาลูกที่แท้จริงให้สามี ภรรยาได้ สถานการณ์ ที่ 3 สามารถบอกแนวทางช่วยให้ คำปรึกษาตัวละครในสถานการณ์ ว่าควรตัดสินใจได้ สถานการณ์ ที่ 4 สามารถบอกได้ว่าใครคือผู้บริจาค เลือดจากอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำได้ ๕.อธิบายการถ่ายทอดยีน บ น โ ค ร โ ม โ ซ ม แ ล ะ ยกตัวอย่างลักษณะทาง พันธุกรรมที่ถูกควบคุม ด้วยยีนบนออโตโซมและ ยีนบนโครโมโซมเพศ 6. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 6.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 6.2 Power point เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม 6.3 ใบกิจกรรมที่ 1 การศึกษาพันธุศาสตร์ของเมนเดล 6.4 ใบกิจกรรมที่ 2 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม


139 7. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล แบบการประเมินความสามารถการคิดแก้ปัญหาของผู้เรียน ชื่อ..................................................นามสกุล.................................................ชั้น........... ....เลขที่............ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน และขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับคะแนน สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผ่าน (0) ความสามารถ ใน การแก้ปัญหา สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ เผชิญได้ ใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงใน สังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการ ป้องกันและแก้ไขปัญหา สามารตัดสินใจได้เหมาะสมตามวัย สรุปผลการประเมิน รวม .......... คะแนน ระดับ ............... จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ K P A) วิธีการวัดผลประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. K 1.1 สามารถอธิบายเกี่ยวกับการถ่ายทอด ลักษณะทางพันธุกรรมได้ ตอบคำถาม ในใบกิจกรรมที่ 2 แบบประเมิน ความสามารถ ในการคิดแก้ปัญหา เกณฑ์พอใช้ขึ้นไป 2. P 2.1 สามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการ ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมได้ ตอบคำถาม ในใบกิจกรรมที่ 1 แบบประเมิน ชิ้นงาน เกณฑ์พอใช้ขึ้นไป 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบประเมิน พฤติกรรม 3.2 ใฝ่เรียนรู้ เกณฑ์ดีขึ้นไป 3.3 มุ่งมั่นการทำงาน


140 แบบประเมินการคิดแก้ปัญหา รายการการ ประเมิน ระดับคุณภาพ 4 (ดีเยี่ยม) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (พอใช้) 1. ความเข้าใจปัญหา ข้อที่ควรปฏิบัติ 1. ค้นหาปัญหา 2. จำแนกปัญหา 3. จัดลำดับปัญหา 4. ระบุปัญหา ได้ครบถ้วน ปฏิบัติตาม ข้อกำหนดได้ 3 ข้อ ปฏิบัติตาม ข้อกำหนด ได้2 ข้อ ปฏิบัติตามข้อกำหนด ได้1 ข้อ 2. วางแผนแก้ปัญหา ข้อที่ควรปฏิบัติ 1. หาวิธีแก้ปัญหาโดยใช้ข้อมูลจาก การวิเคราะห์ 2. กำหนดจุดประสงค์แก้ปัญหาได้ สอดคล้องกับ ปัญหา 3. จำแนกแนวทางและวิธีแก้ปัญหา ที่เป็นไปได้ 4. ตั้งสมมติฐานได้ครบถ้วน ปฏิบัติตาม ข้อกำหนดได้ 3 ข้อ ปฏิบัติตาม ข้อกำหนด ได้2 ข้อ ปฏิบัติตามข้อกำหนด ได้1 ข้อ 3. ดำเนินการ แก้ปัญหา แก้ปัญหาตามแผนที่วาง ไว้ร้อยละ 90 ตรวจสอบ วิธีแก้ปัญหาและผลแต่ละ ขั้นตอน ครบถ้วน แก้ปัญหาตาม แผนที่วางไว้ ร้อยละ 70 ตรวจสอบวิธี แก้ปัญหาและ ผลแต่ละ ขั้นตอน ครบถ้วน แก้ปัญหา ตามแผนที่ วางไว้ร้อย ละ 50 ตรวจสอบวิธี แก้ปัญหา และผลแต่ ละ ขั้นตอน ครบถ้วน ร้อยละ 50 ตรวจสอบ วิธีแก้ปัญหาและผล แต่ละ ขั้นตอน ครบถ้วน แก้ปัญหา ตามแผนที่วางไว้ต่ำ กว่าร้อยละ 50 ตรวจสอบวิธี แก้ปัญหา และผลแต่ ละขั้นตอน ครบถ้วน 4. ตรวจสอบ การ แก้ปัญหา ข้อที่ควรปฏิบัติ 1. เข้าใจว่าปัญหาเกิดจาก สาเหตุใด 2. ประเมินผลของปัญหา 3. ตัดสินใจ 4. นำผลการแก้ปัญหาไป ประยุกต์ใช้ 5. ผลกระทบที่เกิดขึ้น ปฏิบัติตาม ข้อกำหนดได้ ครบ 3 ข้อ ปฏิบัติตาม ข้อกำหนด ได้2 ข้อ ปฏิบัติตามข้อกำหนด ได้ครบ 1 ข้อ ระดับคุณภาพ 4 (ดีเยี่ยม) = 13-16 คะแนน 3 (ดี) = 9-12 คะแนน 2 (พอใช้) = 5-8 คะแนน 1 (ปรับปรุง) = 1-4 คะแนน เกณฑ์การผ่าน ได้ระดับคุณภาพ 2 (พอใช้) ขึ้นไปถือว่าผ่าน


141 แบบประเมินชิ้นงาน คําชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินชิ้นงาน/ภาระงานของนักเรียนตามรายการที่กำหนด แล้วขีด ✓ ลงใน ช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับ ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 ผลงานมีความถูกต้องสมบูรณ์ 2 ผลงานมีความคิดสร้างสรรค์ 3 ผลงานเสร็จตามเวลาที่กำหนด รวม ลงชื่อผู้ประเมิน ………………………………………… ………………../………………../……………….. เกณฑ์การประเมินชิ้นงาน ประเด็นที่ประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ๑. ผลงานมีความ ถูกต้องสมบูรณ์ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นบางประเด็น ๒. ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์แปลก ใหม่ และเป็นระบบ ผลงานมีแนวคิดแปลกใหม่ แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ ยังไม่มีแนวคิดแปลกใหม่ ๓. ผลงานเสร็จตาม เวลาที่กำหนด ส่งผลงานตามเวลา ที่กำหนด ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 1-2 วัน ส่งผลงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 3-5 วัน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 11-12 ดีมาก 9-10 ดี 6-8 พอใช้ ต่ำกว่า 6 ปรับปรุง


142 แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนักเรียน รายวิชาชีววิทยา (ว31241) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 คำชี้แจง : ให้ครูผู้สอนสังเกตพฤติกรรมนักเรียนตามรายการที่กำหนด แล้วเขียนคะแนนที่ได้ ลงในช่องที่ตรงกับพฤติกรรมนักเรียนเป็นรายบุคคล ลำดับ ที่ ชื่อ-นามสกุล จุดประสงค์ รวม คะแนน ระดับ คุณภาพ ด้าน ความรู้ (K) ด้านทักษะ กระบวนการ (P) ด้าน คุณลักษณะ (A) 3 3 3 9 เกณฑ์การประเมินการสังเกตพฤติกรรมนักเรียน วิธีการให้คะแนน ตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์โดยกำหนดน้ำหนักของตัวเลือกในช่องต่าง ๆ เป็น 4 3 2 และ 1 ข้อความที่มีความหมายเป็นทางบวก กำหนดให้คะแนนแต่ละข้อความดังนี้ ระดับพฤติกรรม การแสดงออก คะแนน มาก 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 ไม่มีการแสดงออก 1


143 10. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้


144 ความเห็นของครูพี่เลี้ยง 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอุบลรรณ เลี้ยวอุดมชัย) ครูพี่เลี้ยง แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


145 ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ☐ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 2. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา ☐ สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ ☐ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 5. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ☐ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นายบุญเลี้ยง จอดนอก) หัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย แผนการจัดการเรียนรู้นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เห็นสมควร ให้ใช้จัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน


Click to View FlipBook Version