รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 31
จ�ำนวนประชากร รวมทั้งสิ้น ๑,๑๑๔ คน
จ�ำนวนครัวเรือน ๒๙๓ ครัวเรือน แยกเป็นชาย
๕๓๗ คน หญิง ๕๗๗ คน ผู้สงู อายุ (อายุ ๖๐ ปี
บริบูรณ์ข้ึนไป) รวมทั้งสิ้น ๒๒๘ คน แยกเป็น
ชาย ๙๗ คนหญิง ๑๓๑ คน คนพิการ รวมท้งั ส้นิ
๓๑ คน แยกเปน็ ชาย ๑๖ คน หญงิ ๑๕ คน
การประกอบอาชพี เกษตรกรรม (ทำ� ไร/่ ทำ� นา/ทำ� สวน/เลยี้ งสตั ว)์ ๑๗๐ ครวั เรอื น
ประมง ๑ ครัวเรอื น ค้าขาย ๒๕ ครัวเรือน ทำ� งานประจำ� /รบั ราชการ ๑๐ ครวั เรอื น
ท�ำงานประจ�ำเอกชน/บริษัท/โรงงาน ๗๗ ครัวเรือน อื่น ๆ ๑๐ ครัวเรือน ว่างงาน
จ�ำนวน ๘๐ คน
หมู่บ้าน มีรายได้ ๔๘,๙๔,๕๐๐ บาท/ปี รายจ่าย ๑๕,๐๗๓,๓๐๐ บาท/ปี
มีหนี้สนิ ๒,๐๒๘,๘๕๐ บาท รายได้เฉลี่ยของประชากร (ตามเกณฑ์ จปฐ. ปี ๒๕๖๒)
จำ� นวน ๕๗,๑๙๘.๒๕ บาท/คน/ปี ครวั เรอื นยากจน (รายไดไ้ มถ่ งึ ๒๒,๐๐๐ บาท/คน/ป)ี
ปี ๒๕๖๒ จำ� นวน - ครัวเรอื น
จ�ำนวน กลุ่มกิจกรรม/อาชีพ/มีจ�ำนวน ๖ กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มท�ำขนมถ่ัวทอด
กลุ่ม สกย. บ้านหนองบัว กลุ่มพลังงานทดแท ศูนย์เรียนรู้การจัดการสวนเกษตร
แบบผสมผสาน บ้านบังยา
กองทนุ ในหมบู่ า้ น มจี ำ� นวน ๑ กองทนุ ดงั น้ี กลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พอ่ื การผลติ ชมุ ชน
บา้ นนาหลา (แผนชุมชน ปี ๒๕๖๓)
บา้ นคลองจิก
พ้ืนท่ี ๔.๖ ตารางกิโลเมตร เป็นพ้ืนที่ราบ ดินอุดมสมบูรณ์ มีคลองไหลผ่าน
เหมาะแกก่ ารทำ� เกษตร ปลกู พชื ผกั สวนครวั ผลไม้ ทำ� สวนยางพารา อยใู่ นเขตลมมรสมุ
ฤดูร้อนพัดผ่าน คือลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงเดือนตุลาคมถึงกลางเดือน
มกราคมและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมกราคม
ส่งผลให้มีฤดูร้อน เร่ิมตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนกรกฎาคม ส่วนฤดูฝนเร่ิมต้ังแต่
เดือนสงิ หาคมถงึ เดือนมกราคม
องคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�ำบลท่าข้าม
32 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
จำ� นวนประชากร รวมทงั้ สนิ้ ๖๙๓ คน แยกเปน็ ชาย ๓๔๒ คน หญงิ ๓๕๑ คน
จำ� นวนครวั เรอื น ๒๐๔ ครวั เรอื น ผสู้ งู อายุ (อายุ ๖๐ ปบี รบิ รู ณข์ นึ้ ไป) รวมทงั้ สน้ิ ๑๓๒ คน
แยกเปน็ ชาย ๕๑ คน หญงิ ๘๑ คน คนพกิ าร รวมทงั้ สน้ิ ๑๑ คน แยกเปน็ ชาย ๑๗ คน
หญงิ ๒๘ คน
การประกอบอาชพี เกษตรกรรม (ทำ� ไร/่ ทำ� นา/ทำ� สวน/เลย้ี งสตั ว)์ ๒๗ ครวั เรอื น
ประมง ๒ ครัวเรือน ค้าขาย ๑๙ ครัวเรอื น ท�ำงานประจ�ำ/รับราชการ ๑๒ ครัวเรือน
ท�ำงานประจ�ำเอกชน/บรษิ ัท/โรงงาน ๒๐ ครัวเรือน อ่นื ๆ ๑๒๔ ครัวเรอื น วา่ งงาน
จ�ำนวน ๖๐ คน
หมบู่ า้ น มีรายได้ ๔๔,๗๐๓,๖๘๐ บาท/ปี รายจา่ ย ๑๖,๔๖๖,๕๗๕ บาท/ปี
มีหนีส้ ิน ๓,๓๑๕,๗๐๐ บาท รายได้เฉล่ยี ของประชากร (ตามเกณฑ์ จปฐ. ปี ๒๕๖๒)
จำ� นวน ๘๔,๑๘๗.๗๒ บาท/คน/ปี ครวั เรอื นยากจน (รายไดไ้ มถ่ งึ ๒๒,๐๐๐ บาท/คน/ป)ี
ปี ๒๕๖๒ จำ� นวน - ครวั เรอื น
จ�ำนวน กลุ่มกิจกรรม/อาชีพ/มีจ�ำนวน ๔ กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มพัฒนาสตรีระดับ
หมบู่ า้ น (กพสม.) กลมุ่ เกษตรกรเครอื่ งแกงสมนุ ไพรบา้ นคลองจกิ กลมุ่ ปลกู ผกั สวนครวั /
พืชสมุนไพร กลมุ่ คนรนุ่ ใหมใ่ ฝ่ใจธรรมะ
กองทนุ ในหมบู่ า้ น มจี ำ� นวน ๓ กองทนุ ดงั นี้ ธนาคารหมบู่ า้ น กองทนุ หมบู่ า้ น
กองทนุ สจั จะวนั ละ ๑ บาท (แผนชมุ ชน ปี ๒๕๖๓)
บ้านปีก/เกาะปลกั
เปน็ พ้นื ทีร่ าบ มีพื้นท่ี ๑,๖๕๐ ไร่ พ้ืนท่ีท�ำการเกษตร
๑,๑๐๐ ไร่ พนื้ ทเ่ี หมาะแกก่ ารเพาะปลกู เลย้ี งสตั ว์ หลงั หมบู่ า้ น
เปน็ ทง่ นา สวนยาง ไมผ้ ล มแี หลง่ นำ้� ธรรมชาตคิ อื คลองแมท่ วด
- วังสัก จำ� นวนประชากรท้ังสิ้น ๕๕๓ คน จ�ำนวนครัวเรือน
๒๙๕ ครัวเรือน ชาย ๓๗๑ คน หญงิ ๒๘๒ คน
การประกอบอาชพี เกษตรกรรม ๑๕๐ ครวั เรอื น ประมง
๓ ครวั เรือน ค้าขาย ๒๕ ครัวเรอื น ทำ� งานประจ�ำ/รบั ราชการ พระครปู นาทธรรมคุณ
๑๐ ครวั เรอื น ทำ� งานประจำ� เอกชน/บรษิ ทั /โรงงาน ๙๐ ครวั เรอื น (เทอื น ปนาโท)
อ่ืน ๆ ๑๗ ครวั เรือน ผกู้ ่อตั้งสำ� นกั สงฆว์ ชริ ธรรม
องค์การบริหารส่วนต�ำบลทา่ ข้าม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 33
รายไดเ้ ฉลย่ี ของประชากร จำ� นวน ๒๒,๓๑๐ บาท/คน/ปี ครวั เรอื นยากจนไมม่ ี
ว่างงาน ๘๐ คน รายไดห้ มบู่ ้าน ๒๒,๓๑๐ บาท/ปี
แหล่งทุนภายในชุมชน ๑) กลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิต ๒) กองทุนหมู่บ้าน
๓) กองทนุ สัจจะวันละ ๑ บาท แหลง่ ทนุ ภายนอกชมุ ชน ๑) ธนาคารเพือ่ การเกษตร
และสหกรณ์การเกษตร ๒) ธนาคารออมสิน ๓) ธนาคารกรุงไทย ๔) ธนาคาร
อาคารสงเคราะห์ ๕) ส่วนราชการ
กองทุนในหมู่บ้าน ๓ กองทุน ๑) กุล่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ๒) กองทุน
หมบู่ ้าน กองทุนสัจจะวนั ละ ๑ บาท
บา้ นเขากลอยออก
พน้ื ที่ ๓.๗๘ ตารางกโิ ลเมตร เปน็ พนื้ ทลี่ าดเชงิ เขา มพี น้ื ทหี่ มบู่ า้ น ๓.๗๘ ตาราง
กโิ ลเมตร พื้นทท่ี �ำการเกษตร ๓.๐๔ ตารางกโิ ลเมตร
จำ� นวนประชากร รวมทง้ั สนิ้ ๕๘๗ คน แยกเปน็ ชาย ๒๙๐ คน หญงิ ๒๙๗ คน
จ�ำนวน ครัวเรือน ๑๙๑ ครัวเรือน ผู้สูงอายุ (อายุ ๖๐ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป) รวมท้ังส้ิน
๑๒๗ คน แยกเป็น ชาย ๕๔ คน หญิง ๗๓ คน คนพิการ รวมทั้งสิ้น ๒๑ คน
แยกเปน็ ชาย ๑๓ คน หญิง ๘ คน
การประกอบอาชพี เกษตรกรรม (ทำ� ไร/่ ทำ� นา/ทำ� สวน/เลย้ี งสตั ว)์ ๙๔ ครวั เรอื น
ประมง ๑ ครวั เรือน ค้าขาย ๒๙ ครัวเรอื น ทำ� งานประจ�ำ/รบั ราชการ ๒๕ ครัวเรอื น
ท�ำงานประจ�ำเอกชน/บริษัท/โรงงาน ๒๒ ครัวเรือน อ่ืน ๆ ๒๐ ครัวเรือน ว่างงาน
จำ� นวน ๒๐ คน
องค์การบรหิ ารสว่ นตำ� บลท่าขา้ ม
34 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
หมู่บ้าน มีรายได้ ๓๐,๓๕๘,๓๐๐ บาท/ปี รายจ่าย ๑๓,๕๑๒,๕๐๐ บาท/ปี
มหี นี้สิน ๒,๒๗๘,๙๐๒ บาท รายได้เฉล่ยี ของประชากร (ตามเกณฑ์ จปฐ. ปี ๒๕๖๒)
จำ� นวน ๖๔,๐๔๗ บาท/คน/ปี ครัวเรือนยากจน (รายไดไ้ มถ่ ึง ๒๒,๐๐๐ บาท/คน/ป)ี
ปี ๒๕๖๑ จำ� นวน ๖๔,๐๔๗.๐๕ ครัวเรอื น
จ�ำนวน กลุ่มกิจกรรม/อาชีพ/มีจ�ำนวน ๗ กลุ่ม ดังน้ี กลุ่มรับซื้อน้�ำยางสด
กลุ่มมันทอดบ้านเขากลอยออก หมู่ที่ ๗ กลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิต กลุ่มสตรี
กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขมูลฐานชุมชน ชมรมท่าข้ามใจดีสัมพันธ์
(ดแู ลผู้พิการ/ผสู้ งู อายุ)
กองทุนในหมู่บา้ น มจี �ำนวน ๓ กองทนุ ดงั นี้ กองทุนหมบู่ ้าน กองทุนสัจจะ
วนั ละ ๑ บาท กลมุ่ ออมทรัพย์เพอ่ื การผลติ (แผนชมุ ชน ปี ๒๕๖๓)
บา้ นเขากลอยตก
พน้ื ที่ ๖.๒๕ ตารางกโิ ลเมตร เปน็ หมบู่ า้ นเกษตรกรรม
ซึ่งสามารถรองรับแรงงานของคนในชุมชนและต้องการ
การพฒั นาดา้ นอาชพี ในสว่ นของการใหค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจ
อย่างต่อเน่ืองในการประกอบอาชีพของคนในชุมชน
ท้ังทางด้านการเกษตรและการประกอบอาชีพในโรงงาน
อตุ สาหกรรม
จ�ำนวนประชากร รวมท้ังส้ิน ๑,๐๗๖ คน จ�ำนวนครัวเรือน ๓๔๕ ครัวเรือน
แยกเป็นชาย ๕๐๘ คน หญิง ๕๖๘ คน ผู้สูงอายุ (อายุ ๖๐ ปีบริบูรณ์ข้ึนไป)
รวมทง้ั สนิ้ ๒๑๗ คน แยกเปน็ ชาย ๘๓ คนหญงิ ๑๓๔ คน คนพกิ าร รวมทง้ั สนิ้ ๓๖ คน
แยกเป็น ชาย ๑๘ คน หญงิ ๑๘ คน
การประกอบอาชีพ เกษตรกรรม (ทำ� ไร่/ทำ� นา/
ทำ� สวน/เลย้ี งสตั ว)์ ๑๖๕ ครวั เรอื น คา้ ขาย ๙๐ ครวั เรอื น
ทำ� งานประจำ� /รบั ราชการ ๑๐ ครวั เรอื น ทำ� งานประจำ�
เอกชน/บรษิ ทั /โรงงาน ๖๐ ครวั เรอื นอน่ื ๆ ๒๐ ครวั เรอื น
ว่างงาน จำ� นวน ๙๐ คน
องค์การบรหิ ารสว่ นตำ� บลทา่ ข้าม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 35
หมู่บ้าน มีรายได้ ๖๙,๓๖๗,๖๐๐ บาท/ปี รายจ่าย ๔๕,๐๓๒,๑๐๐ บาท/ปี
มหี นส้ี ิน ๗,๐๑๖,๐๐๐ บาท รายได้เฉลี่ยของประชากร (ตามเกณฑ์ จปฐ. ปี ๒๕๖๒)
จำ� นวน ๘๐,๗๕๓.๙๐ บาท/คน/ปี ครวั เรอื นยากจน (รายไดไ้ มถ่ งึ ๒๒,๐๐๐ บาท/คน/ป)ี
ปี ๒๕๖๑ จำ� นวน - ครวั เรอื น
จ�ำนวน กล่มุ กิจกรรม/อาชพี /มีจ�ำนวน ๓ กลุม่ ดงั น้ี กลมุ่ มันทอด กลุม่ สกย.
บา้ นเขากลอย กลุม่ ท�ำขนม
กองทุนในหมู่บ้าน มีจ�ำนวน ๒ กองทุน ดังนี กองทุนหมู่บ้านเขากลอยตก
กล่มุ ออมทรัพยบ์ ้านเขากลอย หมู่ ๘ (แผนชมุ ชน ปี ๒๕๖๓)
พัฒนาการทางการเมือง
การเมอื งการปกครอง
การปกครองสว่ นภมู ภิ าคสมยั รชั กาลที่ ๕ โรงครัววดั ท่าข้ามจำ� ลอง
ทรงรวบรวมหัวเมืองตามชายแดนที่ส�ำคัญ ๆ
เปน็ มณฑลเพอื่ ปกปอ้ งการคกุ คามจากภายนอก
จดั ระบบเรยี กว่า “ระบบเทศาภบิ าล” มีหวั เมอื ง
ต่าง ๆ มารวมกันเป็นมณฑลและมีจังหวัด
อำ� เภอ ต�ำบล หมู่บ้านลดหล่นั กันไป มีขา้ หลวง
มณฑลเป็นผู้รับผิดชอบและปกครองโดยรับ
ค�ำสัง่ จากส่วนกลาง
การจัดระเบียบการปกครองมีการ ส�ำนักงานท่ที �ำการอบต.ท่าข้ามปจั จบุ ัน
ต้ังมณฑลเทศาภิบาล จังหวัดและอ�ำเภอ
มผี ปู้ กครองคอื ขา้ หลวงเทศาภบิ าล ขา้ หลวงเมอื ง
และนายอำ� เภอดูแลตามลำ� ดับ
ต่อมายุบการปกครองระดับมณฑลและต�ำแหน่งข้าหลวงเปลี่ยนเป็น
ผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนในการปกครองต�่ำกว่าอ�ำเภอแบ่งเป็นต�ำบลและหมู่บ้าน
มีการเปล่ียนแปลงการสรรหาก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้านจากการแต่งตั้งโดยข้าหลวงหรือ
ผวู้ ่าราชการจังหวัดเปน็ การเลือกต้ังโดยประชาชนในตำ� บลหรอื หมบู่ ้านนนั้
องค์การบรหิ ารส่วนต�ำบลทา่ ข้าม
36 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
มกี ารปรบั ปรงุ กฎหมายหลกั การปกครองทอ้ งทคี่ อื การปกครองภมู ภิ าครวมทง้ั
การปกครองในตำ� บลและหมบู่ า้ นโดยรชั กาลท่ี ๕ โปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชบญั ญัติ
ปกครองทอ้ งท่ี ร.ศ. ๑๑๖ (พ.ศ. ๒๔๔๑) ขนึ้ ใชบ้ งั คบั ทว่ั ประเทศ ตอ่ มาไดป้ รบั ปรงุ เปน็
พระราชบญั ญตั ลิ กั ษณะปกครองทอ้ งที่ พ.ศ. ๒๔๗๕ เจตนารมณข์ องกฎหมายเพอื่ ให้
กำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น เปน็ ตวั แทนของประชาชนในทอ้ งที่ ปฏบิ ตั งิ านในฐานะเปน็ ตวั เชอ่ื ม
ระหวา่ งรัฐบาลกบั ประชาชนในตำ� บล หม่บู า้ น
มกี ารทดลองเลอื กตงั้ กำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ นเปน็ ครงั้ แรกทแ่ี ขวงบางปะอนิ เมอื งกรงุ เกา่
จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา เม่อื วนั ที่ ๑๐ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๔๓๕ ทำ� หนา้ ท่ี “บำ� บดั ทกุ ข์
บ�ำรุงสุข” ให้แก่ประชาชน กระทรวงมหาดไทยจึงก�ำหนดให้วันท่ี ๑๐ สิงหาคมของ
ทุกปีเปน็ “วันกำ� นันผู้ใหญบ่ า้ น”
ต่อมามีพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องท่ี พ.ศ. ๒๔๗๕ มีการแบ่ง
การบริหารราชการของอำ� เภอออกเปน็ ตำ� บลและหมบู่ ้าน
สมัยรัชกาลท่ี ๖ กระทรวงมหาดไทยมีกรมการปกครองเป็นฝ่ายก�ำกับดูแล
การปกครองสว่ นภูมิภาคตงั้ แต่ระดบั อ�ำเภอลงไป
เมื่อมีการเลือกตั้งในระดับต�ำบลก็มีการเลือกก�ำนัน จากค�ำบอกเล่าของผู้รู้
มกี ำ� นันทไี่ ดร้ บั เลอื กตัง้ ตามล�ำดับ ดังน้ี
๑. ขุนวจิ ารณ์ ธารารักษ์ (นายเซ่งอัน้ หรือเถา้ แก่ฮก) ผูใ้ หญบ่ า้ น หมู่ท่ี ๓
จากค�ำบอกเล่าของชาวบ้านที่บอกสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนพบว่า
ขนุ วจิ ารณ์ ธารารกั ษห์ รอื นายเซง่ อน้ั หรอื ทช่ี าวบา้ นทวั่ ไปเรยี กวา่ “เถา้ แกฮ่ ก” เปน็ คนจนี
ชาวต�ำบลบ่อยาง อ�ำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เดินทางไปท�ำเหมืองแร่ดีบุกที่
ต�ำบลเนนิ พิจิตร อำ� เภอนาหม่อม (สมยั น้นั ชาวบ้านเรียกว่าเหนอื อยใู่ นปกครองของ
อ�ำเภอหาดใหญ่) ต่อมาได้มาต้ังถิ่นฐานที่ริมคลอง
ท่าข้าม บริเวณใกล้วัดท่าข้าม ติดถนนสายควนหิน
- นาหลา - นาหม่อม ปจั จุบนั (บา้ นถูกรื้อเหลือแต่
บ่อน�ำ้ ต้ืน) นายเซง่ อน้ั มาสร้างบ้านหลงั ใหญ่ท่รี �่ำลือ
กล่าวขานกันทั่วไปว่า “ปลูกเรินเสาไม้แหม็ดท้ัง
แจ็ดห้อง พอคลายคล่องปลุกเอินเพ้ินเสาเหลี่ยม”
องคก์ ารบรหิ ารส่วนต�ำบลทา่ ข้าม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 37
เป็นเจ้าของที่ดินรายใหญ่ในต�ำบลท่าข้าม มีนามาก มีภรรยา
๒ คน มลี กู ชอ่ื ปเู้ หง้ ปเู้ นยี่ ว ปแู้ งก็ ปเู้ ฉย้ี ว บน้ั เซง่ บนั้ ย่ี บนั้ ซวิ้
บ้ันซยุ้ (ปู้ เปน็ ผหู้ ญิง บน้ั เป็นผูช้ าย) ภรรยาคนแรกของกำ� นัน
เซง่ อนั้ เปน็ ลกู ครง่ึ ไทย - จนี ภรรยาคนทสี่ องชอ่ื จนั มลี กู ดว้ ยกนั
๓ คน เป็นหญงิ หน่งึ ชายสอง คือ ฉเี ฉี้ยว แปะซุ้ยเสียชวี ติ แล้ว
ทั้งสองคนและแปะซ้ิว รุ่นลูกก�ำนันเซ่งอั้นเสียชีวิตหมดแล้ว
ที่ดินที่บ้านเก่าที่ท่าข้าม ปัจจุบันเป็นกรรมสิทธิ์ของหลาน หลานก�ำนันเซ่งอ้ัน ได้แก่
นายวธิ รู นายเกษม นายยะ นายอุดม นายชัย (ถือกรรมสิทธ์ทิ ่ีดนิ บา้ นเก่า ปัจจบุ ัน
อยสู่ งขลา) นายบญุ ชบุ (อยเู่ ชยี งใหม)่ ไมท้ รี่ อ้ื จากบา้ นเกา่ กำ� นนั เซง่ อน้ั ลกู หลานยกให้
วดั ทงุ่ หวงั เรอ่ื งราวของกำ� นนั เซง่ อนั้ ถกู เลา่ ขานผา่ นปากชองพอ่ หลวงไข่ ตอนอายุ ๙๘ ปี
ปจั จบุ นั (พ.ศ. ๒๕๖๓) มรณภาพไป ๒ ปแี ลว้ อกี คนคอื นางถนิ้ สวุ รรณเพชร อายุ ๘๐ ปี
(พ.ศ. ๒๕๖๓) เสียชีวติ แลว้ หลงั จากให้สมั ภาษณ์ไดไ้ มน่ าน ศพกำ� นนั เซง่ อ้นั เช่ือกันว่า
ฝังอยทู่ ่ีฮวงซยุ้ ควนเสาธง อำ� เภอนาหมอ่ ม ลกู หลานเคยไปทำ� บุญกันอยู่ในยคุ แรก ๆ
กำ� นนั เซง่ อน้ั ถา้ อยถู่ งึ วนั น้ี (พ.ศ. ๒๕๖๓) นา่ จะมอี ายเุ กนิ ๑๐๐ ปแี ลว้ เพราะพอ่ หลวงไข่
คนที่เล่าถึงก�ำนนั เซ่งอนั้ อายุ ๙๘ ปเี มอื่ พ.ศ. ๒๕๖๐
๒. กำ� นันสอนหรอื จันทร์สอน อไุ รรัตน์
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๖ บ้านหินเกล้ียง บ้านก�ำนันเซ่งอ้ัน
ก�ำนันแสง ก�ำนันทองเสนและก�ำนันสอนอยู่บริเวณเดียวกัน
เป็นเจ้าของเข่ือนที่เก็บกระดูกบรรพบุรุษและทายาทตระกูล
อุไรรัตน์ท่ีบ้านหนิ เกล้ยี ง เปน็ บตุ รของนายแกว้ ขน มีลูกสาวชอ่ื
นางหนใู ห้ อไุ รรตั น์ อดตี ภรรยาของครเู พยี ร อไุ รรตั น์ ผบู้ รจิ าคทดี่ นิ
สรา้ งโรงเรยี นวดั หนิ เกลยี้ ง สมยั ทคี่ รรู กั ษ์ แกว้ ฉมิ พลี บตุ รเขยเปน็ ครใู หญ่ เปน็ หญงิ แกรง่
ของตำ� บลทา่ ขา้ ม เมอื่ กอ่ นวนั วา่ งชาวบา้ นจะมาพรอ้ มกนั ทเ่ี ขอ่ื นเพอ่ื ประกอบพธิ กี รรม
วันสงกรานต์หรือวันว่างของคนใต้ หลานก�ำนันสอนเป็นโนราช่ือโนรารักษ์ ไชยภักดี
ก�ำนันสอนมีกริช ๓ เล่ม ไว้ร�ำกริช ก�ำนันสอนเป็น
ผสู้ รา้ งขรวั เทพ ทา่ นยอด พระพทุ ธรปู สำ� รดิ วดั แมเ่ ตย
และพระทรงเครื่องใหญ่วัดแม่เตยท่ีใช้เป็นพระลาก
ในประเพณีลากพระของวดั หินเกลี้ยง
องคก์ ารบรหิ ารส่วนตำ� บลทา่ ขา้ ม
38 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
๓. ก�ำนนั แสง ผดงุ ผใู้ หญ่บ้านหมูท่ ่ี ๓ บ้านท่าขา้ ม เช่ือกันวา่ เปน็ ผตู้ ั้งชือ่
ต�ำบลท่าข้ามเพราะท่านเป็นก�ำนันมาจากบ้านท่าข้าม จึงต้ังชื่อต�ำบลตามช่ือบ้าน
ของท่าน มีศักดิ์เป็นลุงของก�ำนันถัด จินดาวงศ์ เป็นพ่ีชายของนางก้ิม ผดุง มารดา
ของก�ำนนั ถดั จินดาวงศ์
๔. กำ� นันถัด จินดาวงศ์
ผ้ใู หญบ่ า้ นหมทู่ ่ี ๓ บา้ นทา่ ขา้ ม เกดิ เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๕๗
ทบ่ี า้ นทา่ ขา้ ม หมทู่ ่ี ๓ ตำ� บลทา่ ขา้ ม อำ� เภอหาดใหญ่ จงั หวดั
สงขลา เป็นลกู ของน้องสาวกำ� นันแสง ผดุง ชือ่ นางกิม้ ผดงุ
พอ่ ชอื่ แดง จินาวงศ์ (ตอนหลังมาเปลยี่ นเปน็ “จนิ ดาวงศ”์ )
เปน็ ชา่ งทำ� หวั นาค ทำ� พระ ตอนแรกเปน็ ผใู้ หญบ่ า้ น เปน็ คน
กำ� นนั ถัด จินดาวงศ์ ธรรมะธรรมโม มพี น่ี อ้ งรว่ มบดิ ามารดา ๒ คน คอื นางเอยี ด
รว่ มมารดาแตต่ า่ งบดิ าอกี ๓ คน คอื นางสนุ้ นางดกุ และนายพราก บวชทว่ี ดั เขากลอย
ตำ� บลทา่ ขา้ ม อำ� เภอหาดใหญ่ แลว้ ไปจำ� พรรษาทวี่ ดั เขาราม ตำ� บลทงุ่ หวงั อำ� เภอเมอื ง
จงั หวดั สงขลา สมรสกับนางเล็ก สกลุ เดมิ แกว้ โสภา เป็นคนเขากลอยแม่ของนางเล็ก
นามสกลุ อไุ รรตั น์ มบี ตุ ร ๓ คน คอื นางประกอบ จนิ ดาวงศ์ จบวทิ ยาลยั อาชวี ะสงขลา
มบี ุตร ๑ คน นายวิภู จินดาวงศ์ จบวิทยาลัยเกษตรกรรมไสใหญ่ มบี ตุ ร ๒ คน และ
นางสาวประดบั จนิ ดาวงศ์ จบวทิ ยาลยั ครสู งขลา โสด กำ� นนั ถดั ไดร้ บั การแตง่ ตงั้ ใหเ้ ปน็
กำ� นนั แทนกำ� นนั แสง ผดงุ หลงั จากตำ� แหนง่ กำ� นนั ตำ� บลทา่ ขา้ มวา่ งลง แตอ่ ยไู่ ดไ้ มถ่ งึ ปี
ถูกก่อกวนโดยการลักวัวและอ่ืน ๆ เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในหมู่บ้านแล้วกดดันให้
กำ� นันลาออกเพราะมคี นอยากจะได้ตำ� แหน่งน้ี
ก�ำนันถัดมีบทบาทในการเป็นตัวตั้งตัวตีในการ
จดั สรา้ งโบสถว์ ดั ทา่ ขา้ มรว่ มกบั พอ่ ทา่ นพลบั จนั ทโสภาคย์ และ
สงิ่ ปลกู สรา้ งอน่ื ๆ ทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ อบุ าสกวดั ประกอบศาสนพธิ ี
ต่าง ๆ จนชาวบ้านเรียกวา่ เปน็ “โฆษกวดั ”
กำ� นนั ถดั เสยี ชวี ติ เมอื่ วนั ที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๘
สิริรวมอายุ ๘๑ ปี (นายจรูญ หยูทอง สัมภาษณ์
นางสาวประดบั จินดาวงศ์ วนั ท่ี ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๔) บวั บรรจุอฐั กิ �ำนนั ถัด
และเครือญาตทิ ว่ี ดั ท่าข้าม
องคก์ ารบริหารสว่ นต�ำบลทา่ ขา้ ม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 39
๕. กำ� นนั พรหมทอง ทองหอม กำ� นนั ตำ� บลทงุ่ ใหญ่ อำ� เภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา
รกั ษาการกำ� นนั ตำ� บลทา่ ขา้ มดว้ ย เปน็ ศษิ ยส์ ำ� นกั เขาออ้ พทั ลงุ เชน่ เดยี วกบั หลวงพอ่ พลดั
ภททฺ โิ ยหรอื พระครภู ทั รธรรมรตั น์ วดั โคกสงู เปน็ ผรู้ เิ รม่ิ ตงั้ ตลาดนดั นาหลาบนทด่ี นิ ของ
ก�ำนันทองเสน ผ่องแผ้ว บัวบรรจุอัฐิก�ำนันพรหมทอง ทองหอม สร้างเป็นหอระฆัง
อย่ทู ีว่ ัดพรุเตาะ ต�ำบลทงุ่ ใหญ่ อ�ำเภอหาดใหญ่ จังหวดั สงขลา
บัวบรรจุอัฐิกำ� นันพรหมทอง ทองหอม
๖. กำ� นนั ทองเสน ผอ่ งแผว้
กำ� นนั ทองเสน ผอ่ งแผว้ นางบญุ คง ผอ่ งแผว้ นางกิม้ พนิ ิจสกลู
ภรรยาคนท่ี ๑ ภรรยาคนที่ ๒
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๓ บ้านท่าข้าม เป็นคนนักเลง “แหลงค�ำไหนค�ำนั้น” เป็นท่ี
รู้จักกว้างขวาง ท่องเท่ียวไปท่ัวถึงจังหวัดยะลา ต่อมาพอหยุดเที่ยวกลับมาอยู่บ้าน
ก็มาคุยกับก�ำนันถัด (หลานก�ำนันแสง) ที่ได้รับการแต่งต้ังต่อจากก�ำนันแสงเพ่ือเป็น
ก�ำนันแทนก�ำนันถัด จินดาวงศ์ ก�ำนันทองเสน ผ่องแผ้ว ท�ำให้เกิดชุมชนนาหลา
ตลาดนาหลาเพราะเป็นเจ้าของสถานที่ท่ีเป็นตลาดนัดตรงสี่แยกบ้านนาหลาบนท่ีดิน
ของก�ำนัน ปัจจุบันอยู่ในความดูแลเป็นกรรมสิทธิ์ของลูกหลานครูเล่ือน ผ่องแผ้ว
ลูกชายของก�ำนันทองเสน ผ่องแผ้ว
องคก์ ารบริหารสว่ นตำ� บลทา่ ขา้ ม
40 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
มีภรรยา ๒ คนคือนางบุญคง และนางก้ิม มีบุตรกับนางบุญคง ๔ คน คือ
นายเล่ือน ผ่องแผ้ว นายล่ัน ผ่องแผ้ว นางเนี่ยว สุวลักษณ์และนางเหี้ยว มีบุตรกับ
นางกม้ิ ๓ คนคอื นายชดิ ผอ่ งแผว้ (เสยี ชวี ติ แลว้ ) นายชอบ ผอ่ งแผว้ และ นายชพี ผอ่ งแผว้
(นายจรญู หยูทอง. สัมภาษณน์ ายอรณุ แก้วสตั ยา เม่ือวันท่ี ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๔)
บา้ นกำ� นนั ทองเสน ผ่องแผว้ นายเซยี้ น สุวลกั ษณ์และภรรยา (พ่อ-แม่กำ� นันชะลอ)
๗. กำ� นันปาน ไชยกลู ผ้ใู หญ่บ้านหมู่ท่ี ๒ บ้านแมเ่ ตย บุตรนายบ้านคงกับ
นางมาก ไชยกูล มีภรรยาช่ือนางแดง และนางเอ้ียง มีบุตร
ช่อื นางเอมอร นายสวน นายเซ้ง และนายแขง๊ ตอนเสยี ชวี ติ
ต้องเช่าเมรุจากวัดหาดใหญ่ใน อาจารย์วินน�้ำน้อยไปท�ำ
กนกโลง นายอรุณตามไปเป็นลูกมือช่วยท�ำ เสียชีวิตที่บ้าน
นางเอยี้ งภรรยาคนทส่ี อง ตอนนายอรณุ จำ� ความไดก้ ำ� นนั ปาน
อยกู่ นิ กบั นางเอย้ี ง กำ� นนั มภี รรยาหลายคนแตท่ เี่ ปน็ ตวั เปน็ ตน
มี ๒ คน ลูกเขยก�ำนันปานเป็นนายบ้านชื่อนายบ้านท้ิงเช่น
เดียวกับนายบ้านเหย็บลูกชาย นายบ้านคลองจิก ชื่อจริงคือนายประสม ปัจจุบัน
บวชอยู่ทีว่ ดั แมเ่ ตย
๘. กำ� นนั พโิ ลม สวุ รรณลกั ษณ์ ผใู้ หญบ่ า้ นหมทู่ ี่ ๓ บา้ นทา่ ขา้ ม เปน็ บตุ รของ
นายเซย้ี น สวุ ลกั ษณ์ (พอ่ กบั ลกู นามสกลุ ไมเ่ หมอื นกนั เพราะความผดิ พลาดทางทะเบยี น
ในเอกสารของทางราชการ) กับนางเนีย่ ว ผ่องแผว้ ลกู สาวของก�ำนันทองเสน มีฐานะ
เปน็ หลานตาของกำ� นนั ทองเสน สมรสกบั นางฉาย มบี ตุ ร ๓ คนคอื อดู หรอื โกวทิ แอว
เอก เปน็ คนนักเลง เปน็ เพ่อื นกบั นายบณั ฑิต เจ้าของร้านปนื บัณฑติ เมื่อนายบัณฑติ
ติดคุก ได้อยู่กินกับนางอร ภรรยาของนายบัณฑิต มีคนขับรถท�ำหน้าท่ีอารักขา
ช่ือนามเติม ทองสมสี ลูกชายของหนังแช่ม ทองสมสี ก�ำนันพิโลม สุวรรณลักษณ์
องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บลทา่ ขา้ ม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 41
เคยสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลาแต่ไม่ได้รับการเลือกต้ัง เสียชีวิต
โดยการถกู ฆาตกรรม หรอื ทคี่ รเู ลอ่ื น ผอ่ งแผว้ ลงุ ของกำ� นนั พโิ ลมใชค้ ำ� วา่ “ปนื พฆิ าต”
ทีบ่ นถนนบรเิ วณบ้านโคกสูง ตำ� บลท่าขา้ ม อำ� เภอหาดใหญ่ จังหวดั สงขลา
๙. ก�ำนันชลอ สวุ รรณลักษณ์
กำ� นันชะลอ สวุ รรณลักษณ์ รางวลั คนดศี รสี งขลา ๒๕๔๖ รบั ประกาศนียบตั รจาก
สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ
ผใู้ หญบ่ า้ นหมทู่ ี่ ๓ บา้ นทา่ ขา้ ม เปน็ บตุ รนายเซยี้ น สวุ ลกั ษณ์ ชาวบา้ นนำ�้ กระจาย
ตำ� บลพะวง อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั สงขลา มารดาคอื นางเนยี่ ว ผอ่ งแผว้ เปน็ ลกู สาวกำ� นนั
ทองเสน ผ่องแผว้ กำ� นนั ชลอเปน็ น้องชายของกำ� นนั พโิ ลม สวุ รรณลักษณ์ เคยได้รับ
รางวลั คนดีศรีสงขลา จากมูลนธิ พิ ลเอกเปรม ติณสูลานนท์
นายเซี้ยน สุวลักษณ์ นางเนี่ยว ผอ่ งแผ้ว มารดาก�ำนนั ชะลอ
บดิ ากำ� นันพโิ ลม และกำ� นันชะลอ บุตรสาว กำ� นันทองเสน ผ่องแผ้ว
องคก์ ารบริหารสว่ นต�ำบลท่าข้าม
42 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
๑๐. กำ� นนั สมศกั ด์ิ เทพกลู ผใู้ หญบ่ า้ นหมทู่ ่ี ๘ บา้ นเขากลอยตก (คนปจั จบุ นั )
พ.ศ. ๒๔๙๙ จอมพล ป. พบิ ูลสงคราม นายกรฐั มนตรีและรฐั มนตรีกระทรวง
มหาดไทย ออกค�ำส่ังกระทรวงมหาดไทยท่ี ๒๒๒/๒๔๙๙ เรื่อง ระเบียบบริหาร
ราชการสว่ นตำ� บลและหมบู่ า้ น กำ� หนดใหม้ ี “สภาตำ� บล” เปน็ ครงั้ แรก มหี นา้ ทคี่ วบคมุ
การบริหารงานของคณะกรรมการตำ� บล โครงสรา้ งสภาต�ำบลตามคำ� ส่ังนี้ สภาตำ� บล
ประกอบดว้ ย คณะกรรมการต�ำบล มีก�ำนัน เป็นประธาน ผู้ใหญ่บา้ นทกุ คน ครูใหญ่
ทุกคน แพทย์ประจ�ำต�ำบล ครู ๑ คน ผู้ทรงคุณวุฒิไม่น้อยกว่า ๒ คนและหัวหน้า
ส่วนราชการอื่นที่ต้ังส�ำนักงานในต�ำบลเป็นกรรมการ สภาต�ำบล มีนายอ�ำเภอ
เปน็ ประธาน สมาชกิ สภาตำ� บลไดร้ บั เลอื กจากหมบู่ า้ น ๆ ละ ๒ คน แตก่ ารบรหิ ารจดั การ
ไมม่ ปี ระสิทธภิ าพ ประชาชนไมใ่ หค้ วามเช่อื ถอื
พ.ศ. ๒๔๙๙ มพี ระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ ารราชการสว่ นตำ� บล มกี ารปรบั ปรงุ
การปกครองตำ� บลใหเ้ ปน็ ราชการบรหิ ารสว่ นทอ้ งถน่ิ อนญุ าตใหจ้ ดั ตงั้ “องคก์ ารบรหิ าร
ส่วนต�ำบล” ซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคล มีรายได้รายจ่ายของตนเอง มีพนักงานต�ำบล
ภายใต้การควบคุมของนายอ�ำเภอและผู้ว่าราชการจังหวัด การจัดต้ังองค์การบริหาร
ส่วนต�ำบลท�ำได้ ๒ วิธี คือ กระทรวงมหาดไทยเห็นควรให้จัดต้ังและราษฎรผู้มีสิทธ์ิ
เลือกต้ังในต�ำบลนั้นไม่ต่�ำกว่าสามในสี่ ร้องขอให้จัดตั้งโดยความเห็นชอบของ
สภาจงั หวดั โดยมีหลกั เกณฑส์ ำ� คัญในการพิจารณา ดังน้ี
๑) เปน็ พน้ื ทหี่ รอื ตำ� บลทมี่ รี ายไดจ้ ากภาษบี ำ� รงุ ทอ้ งทต่ี ง้ั แต่ ๑๐,๐๐๐ บาทขนึ้ ไป
๒) มพี น้ื ท่ีต้งั แต่ ๕๐ ตารางกิโลเมตร
๓) เฉลี่ยความหนาแน่นของประชากรตัง้ แต่ ๑๐๐ คน/ตารางกโิ ลเมตร
โครงสร้างองค์การบริหารส่วนต�ำบลตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร
สว่ นตำ� บล พ.ศ. ๒๔๙๙ ประกอบดว้ ย องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บล มกี ำ� นนั เปน็ ประธาน
แพทย์ประจ�ำต�ำบล ผู้ใหญ่บ้านทุกคน ครูใหญ่โรงเรียนในต�ำบลหรือผู้ทรงคุณวุฒิ
เปน็ กรรมการ สภาตำ� บล มกี ำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ นทกุ คน ราษฎรทไ่ี ดร้ บั เลอื กตงั้ หมบู่ า้ นละ
๑ คน เปน็ สมาชิกสภาตำ� บล มกี ารจัดตงั้ ไดเ้ พียง ๕๙ แหง่ เทา่ นนั้ และถูกยกเลกิ ไป
ตามประกาศคณะปฏิวตั ิ ฉบับที่ ๓๒๖ ลงวนั ท่ี ๑๓ ธันวาคม ๒๕๑๕
องคก์ ารบรหิ ารส่วนต�ำบลทา่ ขา้ ม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 43
พ.ศ. ๒๕๐๙ กระทรวงมหาดไทยไดอ้ อกคำ� สัง่ ที่ ๒๗๕/๒๕๐๙ เพือ่ ปรบั ปรงุ
การบริหารงานในต�ำบลจากรูปแบบการบริหารงานในต�ำบลตามค�ำส่ังกระทรวง
มหาดไทยท่ี ๒๒๒/๒๔๙๙ โดยรวมคณะกรรมการต�ำบลและสภาต�ำบลเข้าด้วยกัน
เรียกว่า “คณะกรรมการสภาต�ำบล” เพื่อเป็นเครื่องมือส่งเสริมการพัฒนาระบอบ
ประชาธปิ ไตยใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพยง่ิ ขน้ึ โดยไมม่ ผี ลกระทบตอ่ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บล
ตามพระราชบัญญตั ิระเบยี บบรหิ ารราชการส่วนตำ� บล พ.ศ. ๒๔๙๙
โครงสร้างสภาต�ำบลตามค�ำส่ังกระทรวงมหาดไทยที่ ๒๗๕/๒๕๐๙ ในต�ำบล
ประกอบด้วย คณะกรรมการสภาต�ำบล มีก�ำนันเป็นประธาน พัฒนากรเปน็ ทปี่ รกึ ษา
สภาตำ� บล กรรมการโดยตำ� แหนง่ ไดแ้ ก่ กำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ นทกุ คนและแพทยป์ ระจำ� ตำ� บล
กรรมการโดยการเลอื ก ได้แก่ ครปู ระชาบาล ๑ คน เป็นเลานุการ กรรมการโดยการ
เลือกตั้ง ได้แก่ ราษฎรผู้ทรงคณุ วฒุ ิ หมูบ่ า้ นละ ๑ คน
ประกาศคณะปฏวิ ัติฉบับที่ ๓๒๖ ลงวนั ท่ี ๑๓ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ กำ� หนด
ใหก้ ารบรหิ ารงานของตำ� บลมรี ปู แบบเดยี วกนั ทั่วประเทศ โดยมโี ครงสร้าง ดงั น้ี
คณะกรรมการสภาตำ� บล มปี ลดั อำ� เภอหรอื พฒั นากรเปน็ ทป่ี รกึ ษา มคี รปู ระจำ�
ต�ำบลเป็นเลขานุการสภาต�ำบล มีกรรมการโดยต�ำแหน่ง ได้แก่ ก�ำนัน เป็นประธาน
ผู้ใหญ่บ้านทุกคนจากทุกหมู่บ้านและแพทย์ประจ�ำต�ำบล เป็นกรรมการ กรรมการ
โดยการเลือกตัง้ ได้แก่ ราษฎรผ้ทู รงคณุ วุฒิทไ่ี ด้รบั การเลือกตั้งหมู่บา้ นละ ๑ คน
สภาต�ำบลตามประกาศคณะปฏิวัติน้ีไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล ขึงขาดอิสระ
ในการดำ� เนนิ งาน เปน็ การรองรบั งานจากราชการมากกวา่ ทจ่ี ะเปน็ ผรู้ เิ รมิ่ สรา้ งสรรคง์ าน
ดว้ ยตนเอง ประชาชนจงึ ไมเ่ ขา้ มามีสว่ นร่วม
พระราชบญั ญตั สิ ภาตำ� บลและองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บล พ.ศ. ๒๕๓๗ มาจาก
แนวคิดการกระจายอ�ำนาจสู่ท้องถน่ิ โดยใหส้ ภาตำ� บลมีฐานะเป็นนติ บิ ุคคล มีหนา้ ท่ี
ในการพัฒนาต�ำบลทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม โครงสร้างสภาต�ำบล
นิติบุคคล ประกอบด้วย สภาต�ำบลนิติบุคคล มีข้าราชการท่ีปฏิบัติงานในต�ำบลหรือ
บุคคลอ่ืนเป็นเลขานุการสภาต�ำบล สมาชิกสภาต�ำบลโดยต�ำแหน่ง ได้แก่ ก�ำนัน
เป็นประธาน ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านและแพทย์ประจ�ำต�ำบลเป็นกรรมการ สมาชิก
สภาตำ� บลโดยการเลือกตงั้ ได้แก่ ราษฎรที่ไดร้ ับการเลือกต้งั หม่บู ้านละ ๑ คน อยใู่ น
วาระคราวละ ๔ ปี
องค์การบรหิ ารส่วนต�ำบลท่าขา้ ม
44 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
โครงสร้างองค์การบริหารส่วนต�ำบล ประกอบด้วย คณะกรรมการบริหาร
องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บล ไดแ้ ก่ กำ� นนั เปน็ ประธานใน ๔ ปแี รก ผใู้ หญบ่ า้ นซงึ่ สมาชกิ
สภาอบต. เลอื ก ๒ คน สมาชกิ ท่มี าจากการเลือกตั้งซึ่งสมาชกิ สภาอบต. เลือก ๔ คน
เปน็ กรรมการ คณะกรรมการบรหิ ารเลอื กเลขานกุ าร ๑ คน จากคณะกรรมการบรหิ าร
ดว้ ยกนั ปลดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บล กำ� กบั ดแู ล สำ� นกั งานปลดั อบต. สว่ นคลงั และ
ส่วนโยธาธิการ สภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บล ได้แก่ สมาชิกโดยตำ� แหน่ง คือ กำ� นนั
ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน แพทย์ประจ�ำต�ำบล สมาชิกมาจากการเลือกตั้ง คือ ราษฎร
ทไ่ี ดร้ บั การเลอื กตง้ั หมบู่ า้ นละ ๒ คน อยใู่ นวาระ ๔ ปี สมาชกิ สภา อบต. เลอื กประธาน
๑ คน รองประธาน ๑ คน และเลขานุการ ๑ คน
อ�ำนาจหนา้ ท่ขี องคณะกรรมการบรหิ าร องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บล
๑) จดั ทำ� แผนพัฒนาตำ� บลและงบประมาณรายจา่ ยประจ�ำปี
๒) บรหิ ารกจิ การของ อบต. ใหเ้ ปน็ ไปตามมติ ขอ้ บงั คบั และแผนพฒั นาตำ� บล
๓) รายงานผลการปฏิบัติงาน และการใช้จ่ายงบประมาณต่อสภา อบต.
อย่างน้อยปลี ะ ๒ ครัง้
๔) ปฏบิ ตั ิหน้าท่ีอนื่ ๆ ตามทีร่ าชการมอบหมาย
อ�ำนาจหน้าท่ีของสภาองค์การบริหารส่วนต�ำบล
๑) ใหค้ วามเหน็ ชอบแผนพฒั นาตำ� บล
๒) พิจารณาและให้ความเห็นชอบร่างข้อบังคับต�ำบลและร่างข้อบังคับ
งบประมาณรายจ่ายประจ�ำปี
๓) ควบคมุ การปฏบิ ตั งิ านของคณะกรรมการบรหิ ารใหเ้ ปน็ ไปตามนโยบายและ
แผนพฒั นาตำ� บล
อ�ำนาจหน้าทีข่ ององค์การบรหิ ารส่วนต�ำบล
๑) จัดใหม้ ีและบ�ำรงุ รกั ษาทางนำ้� และทางบก
๒) รกั ษาความสะอาดของถนน ทางนำ้� ทางเดนิ และทส่ี าธารณะประโยชน์ รวมทง้ั
ก�ำจัดขยะมลู ฝอย ส่งิ ปฏกิ ูล
องคก์ ารบริหารส่วนตำ� บลท่าข้าม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 45
๓) ป้องกนั โรคและระงบั โรคติดตอ่
๔) ปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณะภยั
๕) ส่งเสรมิ การศกึ ษาและวัฒนธรรม
๖) สง่ เสริมการพฒั นาสตรี เด็ก เยาวชน ผสู้ ูงอายุและผู้พิการ
๗) คุ้มครอง ดูแลและบ�ำรุงรกั ษาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม
๘) ปฏิบัตหิ นา้ ท่ีอื่นตามทีท่ างราชการมอบหมาย
นอกจากน้นั องค์การบรหิ ารส่วนต�ำบล อาจท�ำหน้าที่ ดังตอ่ ไปน้ี
๑) ให้มนี ำ้� เพอ่ื การอปุ โภคบรโิ ภคและการเกษตร
๒) ใหม้ ีการบ�ำรุงการไฟฟ้าหรอื แสงสวา่ งโดยวิธีอน่ื
๓) ให้มีและบ�ำรงุ รกั ษาทางระบายน�ำ้
๔) ใหม้ แี ละบำ� รงุ สถานทป่ี ระชมุ การกฬี า การพกั ผอ่ นหยอ่ นใจและสวนสาธารณะ
๕) ใหม้ แี ละสง่ เสรมิ กล่มุ เกษตรกรและสหกรณ์
๖) สง่ เสริมให้มอี ตุ สาหกรรมในครอบครัว
๗) บำ� รุงและส่งเสริมการประกอบอาชีพของราษฎร
๘) คุ้มครอง ดูแลและรักษาทรัพยส์ นิ อนั เป็นสาธารณะสมบตั ขิ องแผน่ ดิน
๙) หาผลประโยชนจ์ ากทรัพยส์ ินขององคก์ ารบรหิ ารส่วนต�ำบล
๑๐) ให้มตี ลาด ท่าเทยี บเรอื และท่าข้าม
๑๑) กจิ การเกี่ยวกับการพาณิชย์
พระราชบญั ญตั สิ ภาตำ� บลและองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บล (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๒
หลงั จากใช้ พรบ.สภาตำ� บล และ อบต. มาได้ ๓ ปี เกดิ วกิ ฤตทิ างเศรษฐกจิ อยา่ งรนุ แรง
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ส่งผลให้ประเทศเป็นหนี้ธนาคารโลกและกองทุนเงินทุนระหว่าง
ประเทศ (IMF) มีการปรับเปล่ยี นโครงสร้างของ อบต.ใหม่ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ดังน้ี
องค์การบริหารส่วนต�ำบล ประกอบด้วย คณะกรรมการบริหาร อบต. ได้แก่
ประธานกรรมการบริหาร ๑ คน กรรมการบริหาร ๒ คน เลือกจากสมาชิก อบต.
องคก์ ารบริหารสว่ นต�ำบลทา่ ขา้ ม
46 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
ปลดั อบต. เปน็ เลขานกุ าร วาระตำ� แหนง่ ๔ ปี มปี ลดั อบต. ควบคมุ ดแู ลสำ� นกั งานปลดั
อบต. สว่ นคลังและส่วนโยธาธกิ าร สภา อบต. ไดแ้ ก่ ประธานสภา รองประธานสภา
เลขานกุ าร ตำ� แหนง่ ละ ๑ คน อยใู่ นวาระ ๒ ปี สมาชกิ จากการเลอื กตง้ั หมบู่ า้ นละ ๒ คน
เขตพน้ื ที่ อบต. มี ๑ หมบู่ ้านให้มีสมาชิกจำ� นวน ๖ คน เขตพืน้ ที่ อบต. มี ๒ หมู่บา้ น
ให้มีสมาชิกหมู่บ้านละ ๓ คน
โครงสรา้ งทเี่ ปลย่ี นไปคอื คณะกรรมการบรหิ ารจาก ๗ คน เหลอื ๔ คน อำ� นาจ
หน้าที่เพ่ิมเติมเรื่องการบ�ำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถ่ินและ
วฒั นธรรมอนั ดีของทอ้ งถ่นิ
จากอดตี ถงึ ปจั จบุ นั ตำ� บลทา่ ขา้ มไดพ้ ฒั นาขนึ้ เปน็ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บลทา่ ขา้ ม
ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เมอ่ื วนั ที่ ๘ มนี าคม ๒๕๓๘ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของ อบต.
จำ� นวน ๙๗ แหง่ ในจงั หวดั สงขลา และเปน็ หนงึ่ ใน ๕ แหง่ ในอำ� เภอหาดใหญใ่ นขณะนน้ั
ซง่ึ ปัจจุบัน จ�ำนวน อปท. ในเขตจงั หวัดสงขลาไดเ้ พ่มิ เป็น ๑๓๙ แห่ง
พ.ศ. ๒๕๓๘ เลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนต�ำบล ๆ ละ ๒ คน
ประธานคณะกรรมการบริหารมาจากกำ� นนั โดยต�ำแหนง่
พ.ศ. ๒๕๔๒ เลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนต�ำบล นายกองค์การ
บรหิ ารสว่ นตำ� บลมาจากทปี่ ระชมุ สมาชกิ สภาองค์การบริหารส่วนต�ำบล
พ.ศ. ๒๕๔๖ เลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนต�ำบล นายกองค์การ
บรหิ ารสว่ นต�ำบลมาจากทีป่ ระชุมสมาชิกสภาองคก์ ารบริหารส่วนตำ� บล
พ.ศ. ๒๕๕๐ นายกองค์การบริหารส่วนตำ� บลมาจากการเลือกต้ังโดยตรงของ
ประชาชน
การศกึ ษา
ชุมชนท่าข้ามมีโรงเรียนหรือสถานศึกษาระดับประถมศึกษา สังกัดส�ำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน (สพฐ.) จ�ำนวน ๔ โรง คือโรงเรียนวัดท่าข้าม
โรงเรยี นวดั หนิ เกลย้ี ง โรงเรยี นวดั เขากลอยและโรงเรยี นวดั แมเ่ ตย ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็
๔ แห่ง คือศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านแม่เตย หมู่ที่ ๑ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านท่าข้าม
หม่ทู ่ี ๓ อนุบาล ๓ ขวบ โรงเรยี นวดั หินเกลย้ี ง อนุบาล ๓ ขวบ โรงเรยี นวดั เขากลอย
องค์การบริหารส่วนต�ำบลท่าข้าม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 47
พระสงฆร์ ะดบั เจา้ อาวาส ผนู้ ำ� ชมุ ชน และชาวบา้ น ผปู้ กครองนกั เรยี นมสี ว่ นรว่ ม
ในการจัดการศึกษาของชุมชนท่าข้ามมาตั้งแต่เร่ิมต้น ทั้งในเร่ืองการจัดสร้างโรงเรียน
การจดั การเรยี นการสอนบางโรงเรยี น เชน่ โรงเรยี นวดั แมเ่ ตย พระอธกิ ารชว่ ย ธรรมโชโต
อดตี เจา้ อาวาสเปน็ ครคู นแรก เปน็ ตน้ เรมิ่ ตง้ั แตโ่ รงเรยี นวดั เขากลอย เปดิ เรยี นครง้ั แรก
เมอื่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๕ ท่วี ดั ท่าขา้ ม ชอื่ “โรงเรยี นประชาบาลต�ำบลทา่ ขา้ ม”
มีนายเพียร อุไรรัตน์ เป็นครูใหญ่คนแรก ต่อมาย้ายมาอยู่วัดเขากลอย มีนายสนิท
ธรรมนิยม เปน็ ครใู หญ่ และมีการพัฒนามาจนถึงปจั จบุ ัน
ปี พ.ศ. ๒๔๗๖ โรงเรยี นวดั แมเ่ ตยเปดิ เรยี นครงั้ แรก มพี ระอปุ ชั ฌายช์ ว่ ย ธรรมชโู ต
เจ้าอาวาสวัดแม่เตยเป็นครูคนแรก ปี พ.ศ. ๒๔๗๘ หยดุ เรียนไปเพราะขาดแคลนครู
มาเปิดอีกครั้งในปี พ.ศ. ๒๔๘๒ ปี พ.ศ. ๒๕๑๐ ก�ำนันทองเสน ผ่องแผ้วร่วมกับ
เจา้ อาวาสเปน็ ผนู้ ำ� ในการจดั สรา้ งอาคารเรยี นขนาด ๓ ห้องเรยี น ๑ หลัง หลังจากนั้น
โรงเรียนได้รบั การพัฒนามาจนถงึ ปจั จุบนั
๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ โรงเรียนวัดท่าข้ามเปิดเรียนครั้งแรก มีนายวัน
ผดงุ ศักด์ิ เปน็ ครูใหญค่ นแรก ชื่อ “โรงเรยี นประชาบาลตำ� บลท่าขา้ ม ๒” (วดั ท่าข้าม)
ปี ๒๔๙๙ พระอธกิ ารพลบั จนั ทโสภาคย์ เจ้าอาวาสวดั ทา่ ขา้ ม พร้อมคณะครู ก�ำนัน
ผใู้ หญบ่ า้ นและผปู้ กครองจดั หาเงนิ สรา้ งอาคารเรยี นขนาด ๔ หอ้ งเรยี น โรงเรยี นพฒั นา
มาตามลำ� ดับจนปัจจบุ นั
๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๒ โรงเรียนวัดหินเกลี้ยงเปิดเรียนครั้งแรก
มนี ายเลอ่ื น ผอ่ งแผว้ เปน็ ครใู หญค่ นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๙๘ นายรกั ษ์ แกว้ ฉมิ พลี ครใู หญ่
โรงเรียนวัดหินเกล้ียงร่วมกับพระอธิการถัด ฐิตเมโท เจ้าอาวาสวัดหินเกลี้ยงชักชวน
ชาวบา้ นสรา้ งอาคารเรยี น ๑ หลงั ปี พ.ศ. ๒๕๐๙ พระอธกิ ารพณิ จารธุ มโฺ ม เจา้ อาวาส
วดั หนิ เกลยี้ ง พระอธกิ ารถดั ฐติ เมโท เจา้ อาวาสวดั พรเุ ตาะ และพระอธกิ ารเทอื น ปนาโท
รกั ษาการเจา้ อาวาสวดั เนนิ พจิ ติ ร อำ� เภอนาหมอ่ ม สรา้ งอาคารเรยี นขนาด ๔ หอ้ งเรยี น
๑ หลงั ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ นางหนใู ห้ อไุ รรตั นแ์ ละนายจนั ทรท์ อง อไุ รรตั น์ รว่ มกนั บรจิ าค
ที่ดิน ๕ ไร่ ๓ งาน สร้างอาคารเรียนขนาด ๕ ห้องเรียน หลังจากน้ันโรงเรียนได้รับ
การพฒั นาจนถงึ ปัจจุบัน
องคก์ ารบริหารสว่ นตำ� บลทา่ ขา้ ม
48 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
โรงเรียนวัดเขากลอย
สังกัดส�ำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถม
ศกึ ษาสงขลา เขต ๒ ตั้งอยู่หมู่ที่ ๘ บ้านเขากลอยตก
ตำ� บลทา่ ขา้ ม เปดิ สอนครงั้ แรกเมอ่ื วนั ท่ี ๑ พฤษภาคม
พ.ศ. ๒๔๖๕ ณ บรเิ วณวัดท่าข้ามในปจั จบุ นั ใชช้ ่อื ว่า
โรงเรยี นประชาบาลตำ� บลทา่ ขา้ ม สมยั รองอำ� มาตยโ์ ทขนุ ราชเขตภกั ดเี ปน็ นายอำ� เภอ
หาดใหญ่ นายช่วง ธนะวงศ์ เป็นธรรมการอำ� เภอ มีนายเพียร อุไรรัตน์ เป็นครใู หญ่
คนแรก วนั ที่ ๘ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๖๕ ยา้ ยโรงเรยี นจากวดั ทา่ ขา้ มมาเปดิ ทำ� การสอนที่
บริเวณวัดเขากลอย มีนายสนิท ธรรมนิยม มาเป็นครูใหญ่แทนนายเพียร อุไรรัตน์
ทลี่ าออกไป ใชศ้ าลาวดั เปน็ ที่เรยี น เปิดสอนชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ - ๔ พ.ศ. ๒๕๑๒
ไดร้ บั งบประมาณจากองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั สรา้ งอาคารเรยี นแบบ ป.๑ ก ๑ หลงั
ขนาด ๔ ห้องเรียน พ.ศ. ๒๕๒๒ เปดิ สอนถึงระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เป็นปีแรก
และขยายการศึกษาภาคบังคับถงึ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ ต่อมาปี ๒๕๒๓ ปี ๒๕๓๐
และปี ๒๕๓๘ โรงเรียนได้รับงบประมาณสร้างอาคารเรียนอีก ๓ หลัง ปี ๒๕๔๐
โรงเรียนเขา้ รว่ มโครงการโรงเรยี นปฏริ ปู การเรยี นการสอน ปี ๒๕๔๔ เข้ารว่ มโครงการ
โรงเรียนสีขาว ปี ๒๕๔๕ เข้าร่วมโครงการโรงเรยี นส่งเสริมสขุ ภาพ ปี ๒๕๔๖ เข้าร่วม
โครงการโรงเรยี นวถิ พี ทุ ธและโครงการ TOPSTAR ปี ๒๕๕๐ โรงเรยี นไดร้ บั การคดั เลอื ก
เป็นโรงเรียนแกนน�ำการจัดการเรียนร่วม ปี ๒๕๕๑ โรงเรียนได้รับการคัดเลือกเป็น
โรงเรียนต้นแบบการสอนแบบคละชั้น ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน
ปี ๒๕๔๖ ได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนโรงเรียนขนาดเล็กเข้ารับการตรวจเย่ียมจาก
นายอดศิ ัย โพธารามกิ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร นางพรนภิ า ลิมปพยอม
ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร นางกษมา วรวรรณ
ณ อยธุ ยา เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษา
ขั้นพ้ืนฐาน ดร.รุ่ง แก้วแดง เลขาธิการ
สภาการศึกษาแห่งชาติและคณะผู้บริหาร
ระดบั สงู จากกระทรวงศึกษาธิการ
องค์การบรหิ ารส่วนต�ำบลทา่ ข้าม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 49
อดตี ผบู้ ริหารสถานศึกษา
ท�ำเนียบผู้บริหารโรงเรยี น ประกอบด้วย
นายเพยี ร อไุ รรัตน์ (พ.ศ. ๒๔๖๕ - ๒๔๗๐)
นายสนทิ ธรรมนิยม (พ.ศ. ๒๔๗๐ - ๒๔๘๕)
นายเพยี ร อุไรรตั น์ (พ.ศ. ๒๔๘๕ - ๒๔๙๔)
นายเลือ่ น ผอ่ งแผว้ (พ.ศ. ๒๔๙๕ - ๒๕๒๐)
องค์การบรหิ ารสว่ นต�ำบลท่าข้าม
50 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
นายพว่ ง กาญจนวงศ์ (รักษาการ พ.ศ. ๒๕๒๐ - ๒๕๒๑)
นายผล จันทชโู ต (พ.ศ. ๒๕๒๑ - ๒๕๒๔)
นายนภุ าพ กาญจนวงศ์ (พ.ศ. ๒๕๒๔ - ๒๕๒๘)
นายเลศิ ศรีโยม (พ.ศ. ๒๕๒๘ - ๒๕๒๙)
นายเสรมิ ศกั ด์ิ ทองวงศ์ (พ.ศ. ๒๕๒๙ - ๒๕๓๔)
นายตรีทศ อรญั เขต (พ.ศ. ๒๕๓๔ - ๒๕๓๗)
นางประสานทอง จันทมณี (พ.ศ. ๒๕๓๗ - ปัจจบุ ัน/๒๕๖๔)
สภาพปจั จบุ นั (ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓)
จำ� นวนบคุ ลากร ๑๗ คน เปน็ ผชู้ าย ๓ คน เปน็ ผหู้ ญงิ ๑๔ คน จำ� นวนนกั เรยี น
อนบุ าล ๑ - ๓ จำ� นวน ๔๐ คน เปน็ ผชู้ าย ๒๒ คน เปน็ ผหู้ ญงิ ๑๘ คน ป.๑ - ๖ จำ� นวน
๑๓๗ คน เปน็ ผ้ชู าย ๗๘ คน เป็นผูห้ ญิง ๕๙ คน
ส่ิงปลูกสร้าง ประกอบด้วย อาคารเรียน ป.๑ ก (๒๕๑๒) อาคารเรียน
สปช.๑๐๕/๒๖ (๒๕๓๘) อาคารเอนกประสงค์ โรงอาหาร โรงฝึกงาน (๒๕๓๗)
ส้วมนักเรียนชาย ๔ ที่ (๒๕๖๐) อาคารอื่น ๆ อาคารเอนกประสงค์ โรงอาหาร
โรงฝีกงาน สปช.๒๐๒/๒๖ ส้วม สปช.๖๐๑/๒๖ (๒๕๔๖) สนามเด็กเล่น (๒๕๕๔)
สนามวอลเลย์บอล (๒๕๕๔) ร้ัวคอนกรีต (๒๕๔๙) สนามกีฬาต่าง ๆ (๒๕๓๓)
ถนนคอนกรีต (๒๕๕๒)
องค์การบรหิ ารส่วนตำ� บลทา่ ขา้ ม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 51
โรงเรยี นวัดหินเกลีย้ ง
ตั้งอยู่หม่ทู ่ี ๖ บ้านหินเกลย้ี ง ตำ� บลทา่ ขา้ ม อำ� เภอหาดใหญ่ ก่อตง้ั เมือ่ วนั ท่ี
๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๒ สมัยนายประเสรฐิ กาญจนดลุ เปน็ นายอ�ำเภอหาดใหญ่
นายนวล บุญสนอง เป็นศึกษาธิการอ�ำเภอหาดใหญ่ เปิดสอนครั้ง แรกมีนักเรียน
๑๒๐ คน ครู ๑ คน คอื นายเลอ่ื น ผอ่ งแผว้ เปน็ ครใู หญ่ ใชศ้ าลาวดั หนิ เกลย้ี งเปน็ ทเี่ รยี น
ปี ๒๔๙๘ นายรกั ษ์ แกว้ ฉมิ พลี เปน็ ครใู หญ่ พระอธกิ ารถดั ฐติ เมโท เจา้ อาวาส
วดั หนิ เกลยี้ ง ชกั ชวนชาวบา้ นและผปู้ กครองนกั เรยี นสรา้ งอาคารเรยี นชว่ั คราว ๑ หลงั
ในทด่ี นิ ของวดั หินเกลีย้ ง
ปี ๒๕๐๙ พระอธกิ ารพิณ จารธุ มั โม เจา้ อาวาสวดั หนิ เกลีย้ ง พระอธกิ ารถดั
ฐิตเมโท เจ้าอาวาสวัดพรุเตาะ และพระอธิการเทือน ปนาโท รักษาการเจ้าอาวาส
วดั เนนิ พจิ ติ ร รว่ มกบั กรรมการศกึ ษา ผปู้ กครองนกั เรยี นและคณะครกู ลมุ่ โรงเรยี นนำ�้ นอ้ ย
สรา้ งอาคารเรยี น แบบ ป.๑ ก ขนาด ๔ หอ้ งเรยี น ๑ หลงั ในเนอ้ื ที่ ๑ ไร่ แตก่ ารปลกู สรา้ ง
ยงั คา้ งคาอยู่ ปัจจุบันใชเ้ ปน็ ศาลาเสรมิ สุขภาพเพอ่ื ใหช้ ุมชนเลน่ กฬี า ออกกำ� ลังกาย
ปี ๒๕๑๓ มีนักเรียน ๒๐๓ คน ครู ๕ คน ทเี่ รียนไมพ่ อ นางหนูให้ อไุ รรตั น์
และนายจันทร์ทอง อุไรรัตน์ มอบที่ดินให้รวม ๕ ไร่ ๓ งาน สร้างอาคารเรียน
แบบ ป.๑ ก ขนาด ๕ ห้องเรียน
ปี ๒๕๑๔ เปดิ เรียนช้ันประถมปลาย ป.๕ - ๗ และมีการสร้างอาคารเรียนอกี
๑ หลัง จากการบรจิ าคของกรรมการศึกษาและผปู้ กครองนักเรียน
องคก์ ารบรหิ ารส่วนต�ำบลท่าขา้ ม
52 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
ปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ได้งบประมาณสร้างอาคารเรียนขนาด ๘ ห้องเรียนและ
ไดง้ บประมาณ จาก ส.ส.อนนั ต์ เรอื งกลู สรา้ งสนามบาสเกตบอลขนาด ๘ x ๑๖ เมตร
ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ไดง้ บประมาณ ตอ่ เติมอาคารเรียน ป.๑ ก ๑ ห้องเรยี น
ปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ไดง้ บประมาณซอ่ มอาคารเรยี น ป.๑ ก จำ� นวนเงนิ ๑๑๑,๓๐๐ บาท
และขุดเจาะบ่อบาดาล จ�ำนวน ๒ ลูก จาก กรมทรัพยากรธรณีและส�ำนักงานเร่งรัด
พฒั นาชนบท งบจำ� นวน ๓๐๐,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ได้งบทอดผ้าป่า น�ำมาปรับปรุงซ่อมแซมหลังคาห้องสมุด
จ�ำนวนเงิน ๑๓๔,๔๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ โครงการโรงเรียนสุขาภิบาลที่ดีในโรงเรียน น�ำมาปรับปรุง
โรงอาหาร จ�ำนวนเงิน ๗๕,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ไดร้ บั การจดั สรรเงนิ กองทนุ ดอกผลเพอ่ื โครงการอาหารกลางวนั
ในโรงเรียนประถม ส�ำหรับการพัฒนาระบบสุขาภิบาลอาหารท่ีดีและน�้ำดื่มที่สะอาด
น�ำมาปรับปรงุ ระบบน้�ำด่มื ภายในโรงเรยี น จ�ำนวนเงิน ๗๕,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้รับงบประมาณโรงเรียนประชารัฐ จากธนาคารกรุงเทพ
๔๒๗,๐๐๐ บาท นำ� มาจดั กจิ กรรม ๓ กจิ กรรม คอื ปลกู ผกั ไฮโดรโปนกิ ส์ ๑๐๐,๐๐๐ บาท
เพาะเหด็ นางฟ้า ๑๐๐,๗๐๐ บาท และจัดซ้อื เคร่อื งดนตรีไทย ๒๒๖,๓๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งน้ีทางโรงเรียนได้รับจัดสรรงบประมาณปรับปรุงซ่อมแซม
อาคารเรียน ๐๑๗ และโรงอาหาร (งบน้�ำท่วมปี ๒๕๖๐) จ�ำนวน ๓๕๓,๐๐๐ บาท
และงบซ่อมแซมอาคารเรียน ป.๑ ก จ�ำนวน ๔๐๓,๐๐๐ บาท, กอ่ สร้างถนนคอนกรีต
เสรมิ เหลก็ ทางเขา้ – ทางออก จำ� นวน ๑๐๙,๙๐๐ บาท และกอ่ สรา้ งสว้ มนกั เรยี นหญงิ
๔ ท/่ี ๔๙ จำ� นวน ๓๘๓,๙๐๐ บาท
องค์การบริหารส่วนต�ำบลท่าขา้ ม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 53
ผู้มคี ุณปู การตอ่ โรงเรียนวัดหินเกลีย้ ง
พระอธกิ ารถดั ฐติ เมโท พระอธกิ ารพิณ จารธุ มโฺ ม พระอธกิ ารเทือน ปนาโท
นางหนใู ห้ อไุ รรตั น์
อดตี ผ้บู รหิ ารโรงเรยี นวดั หินเกล้ยี ง
ท�ำเนียบผู้บริหารโรงเรยี น ประกอบดว้ ย
นายเล่ือน ผ่องแผ้ว (พ.ศ. ๒๔๘๒ - ๒๔๘๔)
องค์การบริหารส่วนต�ำบลท่าข้าม
54 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
นายวนั ผดุงศกั ดิ์ (พ.ศ. ๒๔๘๔ - ๒๔๙๘)
นายรกั ษ์ แกว้ ฉมิ พลี (พ.ศ. ๒๔๙๘ - ๒๕๓๐)
นายจำ� นง แผ่ผล (พ.ศ. ๒๕๓๐ - ๒๕๓๕)
นายมะโน ไชยเพช็ ร (พ.ศ. ๒๕๓๕ - ๒๕๓๙)
นายสวัสดิ์ ปานงาม (พ.ศ. ๒๕๓๙ - ๒๕๕๑)
นายมนสั แก้วชนะ (พ.ศ. ๒๕๕๑ - ๒๕๕๖)
นางสกาวรตั น์ ชูมัง (พ.ศ. ๒๕๕๖ - ปจั จุบนั )
องคก์ ารบริหารส่วนต�ำบลท่าขา้ ม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 55
สภาพปจั จุบนั (ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓)
จำ� นวนบุคลากรท้ังหมด ๑๒ คน เป็นผู้ชาย ๒ คน เป็นผหู้ ญงิ ๑๐ คน จำ� นวน
นักเรียน ชนั้ อนุบาล ๑ - ๓ จ�ำนวน ๔๗ คน เปน็ ผู้ชาย ๓๐ คน เปน็ ผหู้ ญิง ๑๗ คน
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ - ๖ จำ� นวน ๑๔๙ คน เปน็ ผู้ชาย ๗๐ คน เป็นผูห้ ญงิ ๗๙ คน
หอ้ งเรียนช้ันอนบุ าล ๓ หอ้ งเรียน ชั้นประถมศึกษา ๖ หอ้ งเรียน
โรงเรยี นวดั ท่าขา้ ม
เปดิ ทำ� การสอนครง้ั แรกเมอื่ วนั ท่ี ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ มนี ายวนั ผดงุ ศกั ดิ์
เป็นครูใหญ่คนแรก อาศัยศาลาการเปรียญของวัดเป็นที่เรียน ช่ือว่า “โรงเรียน
ประชาบาลตำ� บลทา่ ข้าม ๒” (วดั ท่าขา้ ม) ปี พ.ศ. ๒๔๘๒ นายมนสั เพชรขาว มาเปน็
ครใู หญแ่ ทนนายวนั ผดงุ ศกั ดท์ิ ย่ี า้ ยไป ตอ่ มาอกี ๑๗ ปี พระอธกิ ารพลบั จนั ทโสภาคย์
เจา้ อาวาสวดั ทา่ ขา้ ม พรอ้ มคณะครู กำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ นและผปู้ กครอง ผเู้ รยี นไดพ้ รอ้ มกนั
จัดหาเงินเพ่ือสร้างอาคารเรียนขนาด ๔ ห้องเรียน เปิดป้ายอาคารเรียนเมื่อวันท่ี
๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๑ พร้อมกับเปล่ียนช่ือโรงเรียนเปน็ “โรงเรยี นวัดท่าข้าม”
ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ นายไสว อุไรรตั น์ เป็นครใู หญ่ ได้งบประมาณสรา้ งอาคารเรยี นขนาด
๓ ห้องเรยี น ๑ หอ้ งสมุด ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ไดง้ บประมาณสร้างอาคารเอนกประสงค์
๑ หลงั ปี ๒๕๒๘ ทางราชการแตง่ ตง้ั นายนภุ าพ กาญจนวงศ์ มาดำ� รงตำ� แหนง่ ครใู หญ่
พรอ้ มจดั สรรงบประมาณการตดิ ตงั้ ไฟฟา้ ประปา และจดั สรา้ งอาคารเรยี นชนั้ เดก็ เลก็
๑ หลัง วันที่๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๖ ทางราชการได้แต่งต้ังนางจุฑาภรณ์ ทองดีเลิศ
มาด�ำรงต�ำแหน่งอาจารย์ใหญ่ วันท่ี๒๒ ธันวาคม ๒๕๓๘ ทางราชการได้แต่งต้ัง
นายหวันลาริ เห็นชอบ มาดำ� รงตำ� แหน่งอาจารยใ์ หญ่ วันท่ี ๒๖ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๔๓
ทางราชการได้แต่งต้ังนายนิทัศน์ สุนทรจตุรวิทย์ มาด�ำรงต�ำแหน่งอาจารย์ใหญ่
ปีงบประมาณ ๒๕๔๗ ได้รับงบประมาณ
สร้างอาคารเรียนอีก ๒ หลัง ปีงบประมาณ
๒๕๕๐ โรงเรียนได้รับงบประมาณสร้างส้วม
ขนาด ๔ ท่ีน่ัง วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๑
ทางราชการได้แต่งตั้งนางสาวสมพิศ โคพิชัย
มาดำ� รงตำ� แหนง่ ผอู้ ำ� นวยการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๒
องค์การบริหารส่วนตำ� บลทา่ ขา้ ม
56 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
โรงเรียนและศษิ ย์เกา่ ไดจ้ ดั เล้ียงน้�ำชาเพ่ือสรา้ งส�ำนักงานของโรงเรียนจำ� นวน ๑ หลงั
ขนาด ๔๕ ตารางเมตร ใช้เป็นส�ำนักงานของโรงเรียน โดยได้รับเงินสมทบเพิ่มเติม
จากองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บลทา่ ข้าม ปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๓ โรงเรียนไดร้ บั งบประมาณ
ปรบั ปรงุ ซอ่ มแซมอาคารเรยี นจำ� นวนหนง่ึ และในปเี ดยี วกนั โรงเรยี นไดร้ บั ความรว่ มมอื
จากกองพันทหารช่างท่ี ๔๐๑ (ค่ายอภัยบริรักษ์) พัทลุง ได้มาติดต้ังจานดาวเทียม
เพื่อการเรียนการสอนจากโรงเรียนไกลกังวลหัวหินและได้รับบริจาคเงินจ�ำนวนหนึ่ง
จากสมาคมผบู้ ำ� เพญ็ ประโยชนส์ รา้ งศาลารกั ษก์ ารอา่ นจำ� นวน ๑ หลงั ปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๔
โรงเรยี นไดร้ บั งบประมาณตามขอ้ เสนอของสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร สรา้ งอาคารเรยี น
๑ หลัง ขนาด ๓ ห้องเรียน ปีการศึกษา ๒๕๕๕ พระครูชยุต สุตคุณ บริจาคเงิน
จากกองผ้าป่าสามัคคีชุมชนบ้านท่าข้ามจ�ำนวนหน่ึงเพื่อสร้างเสาธงหน้าอาคารเรียน
ปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๖ โรงเรยี นและวดั ทา่ ขา้ มรว่ มกนั ทอดผา้ ปา่ สามคั คเี พอ่ื ตอ่ เตมิ ใตถ้ นุ
อาคารท�ำเป็นโรงอาหาร ห้องครัวและห้องเก็บของ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ ส�ำนักงาน
คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐานได้จัดสรรงบประมาณมาติดต้ังระบบทางไกล
ดาวเทียมเพื่อการศึกษาจากโรงเรียนไกลกังวลหัวหินเพ่ือจัดการเรียนกาสอนให้กับ
โรงเรยี นขนาดเลก็ จำ� นวน ๖๗ โรงเรยี น ในเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสงขลา เขต ๒
วันท่ี ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ ทางราชการไดแ้ ต่งตง้ั นางดวงรัตน์ วงศ์สวา่ งศริ ิ มาดำ� รง
ต�ำแหน่งผู้อ�ำนวยการโรงเรียน วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๒ ทางราชการได้แต่งต้ัง
ว่าทรี่ ้อยตรปี ระสาน โรหโิ ตปการ มาด�ำรงต�ำแหน่งผอู้ �ำนวยการโรงเรียน
องค์การบริหารสว่ นต�ำบลทา่ ข้าม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 57
อดีตผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา
๑. นายวนั ผดงุ ศกั ด์ิ (พ.ศ. ๒๔๘๑ - ๒๔๘๒)
๒. นายมนสั เพ็ชรขาว (พ.ศ. ๒๔๘๒ - ๒๕๒๑)
๓. นายไสว อไุ รรตั น์ (พ.ศ. ๒๕๒๑ - ๒๕๒๘)
๔. นายนุภาพ กาญจนวงศ์ (พ.ศ. ๒๕๒๘ - ๒๕๓๖)
๕. นางจฑุ าภรณ์ ทองดเี ลศิ (พ.ศ. ๒๕๓๖ - ๒๕๓๘)
๖. นายหวนั สาริ เหน็ ชอบ (พ.ศ. ๒๕๓๘ - ๒๕๔๐)
๗. นายวลิ าศ ทองญวน (พ.ศ. ๒๕๔๐ - ๒๕๔๓)
๘. นายนทิ ัศน์ สุนทรจตรุ วิทย์ (พ.ศ. ๒๕๔๓ - ๒๕๕๑)
๙. นางสาวสมพิศ โคพชิ ยั (พ.ศ. ๒๕๕๑ - ๒๕๕๘)
๑๐. นางดวงรัตน์ วงศส์ ว่างศรี (พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๖๒)
๑๑. วา่ ที่ร้อยตรปี ระสาน โรหโิ ตปการ (พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๔)
๑๒. นางประสานทอง จนั ทมณี (พ.ศ. ๒๕๖๔ - ปจั จบุ นั )
ผบู้ ริหารสภานศกึ ษาปจั จบุ นั
นางประสานทอง จันทมณี
ผู้อ�ำนวยการโรงเรียนวดั เขากลอย
รกั ษาการต�ำแหน่งผ้อู ำ� นวยการ
องคก์ ารบริหารส่วนต�ำบลท่าขา้ ม
58 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
พ่อทา่ นพลับ โรงเรียนวดั ท่าข้ามหลังเก่า
สภาพปจั จบุ นั (ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓)
จำ� นวนบคุ ลากรท้งั หมด ๕ คน เปน็ ผชู้ าย ๒ คน เป็นผ้หู ญิง ๒ คน จำ� นวน
นกั เรยี น ชนั้ อนบุ าล ๒ - ๓ จำ� นวน ๓ คน เปน็ ผชู้ าย ๒ คน เปน็ ผหู้ ญงิ ๑ คน นกั เรยี น
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ - ๖ จ�ำนวน ๓๗ คน เปน็ ผชู้ าย ๒๑ คน เปน็ ผูห้ ญิง ๑๖ คน
จำ� นวนหอ้ งเรยี น ๘ หอ้ งเรยี น ชัน้ อนบุ าล ๒ หอ้ งเรยี น ชัน้ ประถม ๖ หอ้ งเรยี น
สง่ิ ปลูกสร้าง ประกอบดว้ ย อาคารเรียน ป.๑ ข (๒๔๙๙) อาคารเรียน สปช.
๑๐๕/๒๙ (๒๕๔๘) อาคารเรียน สปช.๑๐๔/๒๖ (๒๕๕๔) อาคารเอนกประสงค์
(โรงอาหาร โรงฝึกงาน) (๒๕๕๓) อาคารเอนกประสงค์ สปช.๒๐๒/๒๖ (๒๕๒๗)
อาคารเอนกประสงค์สร้างเอง (๒๕๔๕) ส้วม (๒๕๒๓) ส้วม ๖๐๔/๔๕ (๒๕๕๐)
ส้วม (๒๕๔๘) หอสมดุ (๒๕๔๒) ถังเก็บน�้ำ แทงค์นำ�้ (๒๕๔๘) รว้ั (๒๕๕๔)
โรงเรยี นวัดแม่เตย
กอ่ ตงั้ เมอื่ ปี พ.ศ. ๒๔๗๖ โดยพระอปุ ชั ฌายช์ ว่ ย ธรรมชโู ต
อดีตเจ้าอาวาสวัดแม่เตย และเป็นครูคนแรก อาศัยศาลาวัด
เป็นที่เรียนชั่วคราว ต้องหยุดเรียนช่ัวคราวใน พ.ศ. ๒๔๗๘
เนอ่ื งจากขาดครู พ.ศ. ๒๔๘๒ เปิดสอนอกี คร้ังในสถานที่เดิม
พ.ศ. ๒๕๑๐ สรา้ งอาคารเรยี นแบบ ป.๑ ก พเิ ศษ ขนาด ๓ หอ้ งเรยี น
บนทดี่ นิ วดั ดา้ นหนา้ (ทศิ ตะวนั ตก) โดยกำ� นนั ทองเสน ผอ่ งแผว้ พระอธิการชว่ ย ธรรมชูโต
ผูก้ ่อตั้งโรงเรยี นและ
เปน็ ครูคนแรก
องคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�ำบลทา่ ขา้ ม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 59
กำ� นนั ทองเสน ผ่องแผว้ และเจา้ อาวาสวดั แมเ่ ตยเปน็ ผนู้ ำ� การสรา้ ง ปจั จบุ นั อาคาร
หลังนี้อนุญาตให้องค์การบริหารส่วนต�ำบลท่าข้าม
จัดตั้งศูนย์เด็กเล็ก จัดการเรียนการสอนเด็กก่อนวัยเรียน
บริการประชากรหมู่ที่ ๑ และหมู่ท่ี ๒ ปัจจุบันโรงเรียน
ตงั้ อยใู่ นทด่ี นิ ธรณสี งฆ์ มเี นอ้ื ท่ี ๕ ไร่ ๑ งาน มอี าคารเรยี น
ขนาด ๔ หอ้ งเรยี น และขนาด ๘ หอ้ งเรยี น อาคารเอนกประสงค์
ปีการศึกษา ๒๕๕๔ เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล ๑ ถึง
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖
อดตี ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา
๑. นายอุดม วาลีกุล (พ.ศ. ๒๔๘๒ - ๒๔๘๓)
๒. นายเปรม อุไรรัตน์ (พ.ศ. ๒๔๘๓ - ๒๔๘๘)
๓. นายศรีอินทร ์ ทองดเี ลิศ (พ.ศ. ๒๔๘๘ - ๒๔๙๘)
๔. นายเขยี ว ทองดเี ลิศ (พ.ศ. ๒๔๙๘ - ๒๕๒๗)
๕. นายอนนั ต ์ ศรีวิโรจน์ (พ.ศ. ๒๕๒๗ - ๒๕๓๖)
๖. นายเลิศ ศรีโยม (พ.ศ. ๒๕๓๖ -)
๗. นายนุภาพ กาญจนวงศ์
๘. นายกติ ตเิ มศวร ์ ทองแจ้น (พ.ศ. ๒๕๔๗ - ๒๕๕๒)
๙. นายทวศี ักด ิ์ ปริชาติวงศ์ (พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๖)
๑๐. นายสมคดิ เนินพรหม (รก.พ.ศ. ๒๕๕๖ - ๒๕๕๗)
๑๑. นายเรงิ ฤทธ ิ์ สงั สรณ์ (พ.ศ. ๒๕๕๗ - ๒๕๕๘)
๑๒. นางจารชุ า ทองดเี ลศิ (พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๕๙)
๑๓. น.ส.อริณชาภทั ร ์ ชทู อง (พ.ศ. ๒๕๕๙ - ๒๕๖๓)
๑๔. นายสรุ ิยา รกั เลศิ (พ.ศ. ๒๕๖๓ - ปจั จบุ ัน)
องค์การบริหารสว่ นตำ� บลทา่ ข้าม
60 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
ผู้บริหารสถานศกึ ษาปจั จบุ ัน
นายสรุ ิยา รักเลิศ
สภาพปัจจุบัน (ปีการศึกษา ๒๕๖๓)
จ�ำนวนบุคลากรท้ังหมด ๑๑ คน เปน็ ผูช้ าย ๓ คน เปน็ ผหู้ ญงิ ๘ คน จำ� นวน
นกั เรยี น ชน้ั อนบุ าล ๑ - ๓ จำ� นวน ๔๘ คน เปน็ ผชู้ าย ๒๖ คน เปน็ ผหู้ ญงิ ๒๒ จำ� นวน
หอ้ งเรยี นช้นั อนุบาล ๑ - ๓ จ�ำนวน ๓ ห้องเรยี น ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ - ๖ จำ� นวน
๑๑๕ คน จ�ำนวน ๖ ห้องเรียน
สิ่งปลูกสร้าง ประกอบด้วย อาคารเยน ป.๑ ก. (๒๕๑๐) อาคารเรียนอื่น ๆ
(๒๕๒๒) อาคารเรียนสปช.๑๐๕/๒๙ (๒๕๓๓) อาคารเอนกประสงค์ (โรงอาหาร
โรงฝกึ งาน) (๒๕๒๘) สว้ ม (๒๕๒๔) สว้ ม (๒๕๓๒) รวั้ คอนกรตี (๒๕๕๔) ถนนคอนกรตี
(๒๕๕๓)
ศนู ยพ์ ัฒนาเดก็ เลก็
ศูนยพ์ ฒั นาเด็กเล็ก ๔ แห่ง
- ศนู ย์พัฒนาเด็กเลก็ บา้ นแมเ่ ตย หมู่ท่ี ๑ จ�ำนวนนกั เรยี น ๔๘ คน
- ศูนย์พฒั นาเดก็ เล็กบ้านท่าขา้ ม หมูท่ ่ี ๓ จ�ำนวนนกั เรียน ๓ คน
- อนุบาล ๓ ขวบ โรงเรียนวดั หินเกลย้ี ง หมู่ที่ ๖ จ�ำนวนนกั เรียน ๔๗ คน
- อนบุ าล ๓ ขวบ โรงเรยี นวดั เขากลอย หมู่ที่ ๘ จ�ำนวนนกั เรยี น ๔๐ คน
องค์การบรหิ ารส่วนต�ำบลทา่ ขา้ ม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 61
สาธารณสขุ
ชมุ ชนทา่ ขา้ มมสี ถานบรกิ ารดา้ นสขุ ภาพ ๒ แหง่ คอื สถานอี นามยั ประจำ� ตำ� บล
และศูนยแ์ พทย์ชุมชน ๓ ต�ำบล (ท่าขา้ ม/ทงุ่ ใหญ่/น้ำ� น้อย)
ศนู ยแ์ พทยช์ ุมชนสามตำ� บล เครอื ขา่ ยโรงพยาบาลหาดใหญ่
ศาสนา
พทุ ธศาสนาแบบลงั กาวงศเ์ ขา้ มาสดู่ นิ แดนแถบนตี้ งั้ แตพ่ ทุ ธศตวรรษที่ ๑๗ - ๑๘
สมัยกรุงศรอี ยุธยาตอนปลาย มกี ารแบ่งเจ้าคณะสงฆเ์ ป็นต�ำแหน่งพระครู ๔ องค์ คอื
พระครูกาแกว้ พระครกู าราม พระครูกาชาด และพระครูกาเดมิ บทบาทของสถาบนั
ศาสนาสมัยกรุงศรีอยุธยามีอย่างกว้างขวาง สามารถมีทรัพย์สินและข้าพระคนทาน
เพ่ือท�ำนุบ�ำรุงวัดโดยเฉพาะ รัฐบาลกลางให้อ�ำนาจแก่พระครูเจ้าคณะปกครองดูแล
ขา้ พระคนทานในคณะเตม็ ที่ ขา้ พระคนทานเหลา่ นนั้ ไดร้ บั การงดเวน้ การเสยี สว่ ยอากร
และการเป็นเลกวัด เจ้าเมืองและคณะกรรมการเมืองไม่มีอ�ำนาจบังคับคดีความแพ่ง
และอาญา รฐั บาลกลางมนี โยบายใชส้ ถาบนั ศาสนาเขา้ ชว่ ยการปกครอง ความเชอื่ ตา่ ง ๆ
สืบเนื่องมาแต่พุทธศาสนาแบบมหายานและลังกาวงศ์ ประสมกับลัทธิพราหมณ์
อย่างแยกกันไม่ออก คติเหล่าน้ีประสานอยู่ในวัฒนธรรมทุกแขนงที่ยังมีอิทธิพลต่อ
วิถีการด�ำเนินชวี ิตของชาวบ้านอยา่ งยิง่ (สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์. ๒๕๒๕ : )
ประชากรในต�ำบลทา่ ขา้ ม รอ้ ยละ ๙๐ นบั ถอื ศาสนาพุทธ รอ้ ยละ ๑๐ นับถอื
ศาสนาอิสลาม มวี ัดและส�ำนกั สงฆ์ ๖ แห่ง และมัสยิด ๑ แห่ง
เริ่มจากวัดท่าข้าม สร้างเปน็ วัดเมือ่ พ.ศ. ๒๒๐๐ รว่ มสมัยอยุธยาตอนปลาย
ไดร้ ับพระราชทานวสิ งุ คามสมี า เมื่อ พ.ศ. ๒๒๙๐ ผูกพัทธสีมา พ.ศ. ๒๓๐๐ นับเปน็
องค์การบรหิ ารส่วนต�ำบลท่าขา้ ม
62 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
วัดเก่าแก่ทีส่ ดุ ของชุมชนทา่ ข้าม ต่อมาอีกประมาณ ๑๐๐ ปี มีการสร้างวัดหนิ เกลีย้ ง
เมื่อ พ.ศ. ๒๓๐๐ โดยพระมหาพรหมแก้ว ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ
๑๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๗๘ หลงั จากนนั้ ๑ ปี พ.ศ. ๒๓๐๑ มกี ารสรา้ งวดั แมเ่ ตย ไดร้ บั
พระราชทานวสิ งุ คามสมี า เมอ่ื พ.ศ. ๒๓๒๗ ตอ่ มา พ.ศ. ๒๔๔๙ มกี ารสรา้ งวดั เขากลอย
โดยนายมงคล นางหนนู ยุ้ พทุ ธวาศรี บรจิ าคทด่ี นิ ๓๐ ไร่ ถวายพระอาจารยค์ ง อตุ ตฺ โม
ตอ่ มาไดร้ บั การทำ� นบุ ำ� รงุ จากชาวบา้ นมาสรา้ งอาคาร ถาวรวตั ถตุ า่ ง ๆ เชน่ นายคำ� นงึ
อไุ รรตั น์ นางแดง อนิ ทสวุ รรณโณ เปน็ ตน้ พ.ศ. ๒๕๒๑ พระอาจารยป์ ลดั พลดั ภททฺ โิ ย
จากวัดแจ้งด�ำเนินการจัดซื้อท่ีดินที่บ้านโคกสูง ให้นายบ้านท้ิง ทองจืดด�ำเนินการ
ขออนุญาตจัดสร้างวัดได้รับอนุญาตให้จัดสร้างเม่ือ ๑ พฤษภาคม ๒๕๒๑ ประกาศ
ตั้งเป็นวัดเมื่อ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ มีพระปลัดพลัด ภทฺทิโย เป็นเจ้าอาวาส
รปู แรกเมอ่ื พ.ศ. ๒๕๒๔ ตอ่ มา พ.ศ. ๒๕๐๐ พระอธกิ ารเทอื น ปนาโท (พระครปู นาท
ธรรมคุณ) เจ้าอาวาสวัดหินเกลี้ยงในขณะน้ัน ได้จัดตั้งส�ำนักเปรียญพระปริยัติธรรม
ตำ� บลทา่ ข้าม เปดิ สอนนกั ธรรม พ.ศ. ๒๕๐๖ โดยท่านเปน็ ผู้สอนเอง มสี ามเณรอรุณ
นลิ สวุ รรณ สอบนกั ธรรมชน้ั ตรไี ดเ้ ปน็ รปู แรกของตำ� บลทา่ ขา้ ม และไดส้ ง่ สามเณรอรณุ
ไปศึกษาบาลีท่ีวัดคูหาสวรรค์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดพัทลุงจนจบเปรียญธรรม ๖ หลัง
จากน้ันมีลูกศิษย์จากส�ำนักสงฆ์วชิรธรรม (เกาะปลัก) จบเปรียญธรรม นักธรรมเอก
ปริญญาตรี ปริญญาโท ประมาณ ๒๑ รูป ปัจจุบันส�ำนักสงฆ์แห่งนี้มีบทบาทสำ� คัญ
ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของเยาวชนในต�ำบลท่าข้ามในฐานะ
“ศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ยต์ ำ� บลทา่ ขา้ ม” (ศอต.ทา่ ขา้ ม) จดทะเบยี นในนาม
วดั หนิ เกลยี้ ง โดยความรว่ มมอื ของคณะสงฆ์ คณะศษิ ยข์ องพระครปู นาทธรรมคณุ และ
พทุ ธศาสนิกชนตอ่ เน่ืองมาตลอด
วดั ทา่ ข้าม
ตั้งอยู่ที่บ้านท่าข้าม ถนนท้องถ่ิน หมู่ท่ี ๓
ต�ำบลท่าข้าม อ�ำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สังกัด
คณะสงฆม์ หานกิ าย มที ด่ี นิ ตง้ั วดั เนอื้ ที่ ๒๖ ไร่ ๙ ตารางวา
อาณาเขตทศิ เหนือยาว ๖ เส้น ๓ วา ติดตอ่ กับท่ดี ินของ
นายเลีย่ งและนายเน่ือง ทศิ ใต้ยาว ๖ เสน้ ๔ วา ติดตอ่ กบั
ที่ดนิ นายมนัส เพชรขาว ทิศตะวันออกยาว ๖ เส้น ๑๑ วา
องค์การบริหารส่วนตำ� บลท่าข้าม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 63
ตดิ ตอ่ กบั ทดี่ นิ ของนายพนั ธแ์ ละนางตง้ั เนยี่ ว ทศิ ตะวนั ตกยาว ๖ เสน้ ๑๑ วา ตดิ ตอ่ กบั
ถนนสายท่าขา้ ม
พ้ืนท่ีต้ังวัดเป็นที่ราบ ล้อมรอบด้วย
หมู่บ้าน อยู่ริมถนนสายท่าข้าม - ควนหิน
อาคารเสนาสนะต่าง ๆ มีอุโบสถกว้าง
๙.๕๐ เมตร ยาว ๑๔ เมตร สร้างเมื่อ
พ.ศ. ๒๕๒๐ ศาลาการเปรยี ญกวา้ ง ๑๓ เมตร
ยาว ๑๖ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๐
โครงสรา้ งไม้ กุฎสี งฆ์ จำ� นวน ๔ หลัง โครงสรา้ งเปน็ เปน็ อาคารไม้และครงึ่ ตึกครึ่งไม้
วัดท่าข้ามสร้างข้ึนเป็นวัดนับต้ังแต่ พ.ศ. ๒๒๐๐ ได้รับพระราชทาน
วสิ งุ คามสมี า ประมาณ พ.ศ. ๒๒๙๐ เขตวสิ งุ คามสมี ากวา้ ง ๙.๕๐ เมตร ยาว ๑๕ เมตร
ไดผ้ กู พัทธสมี าประมาณ พ.ศ. ๒๓๐๐
เจ้าอาวาสมี ๗ รูป คือ รูปที่ ๑ หลวงพ่อขรัวเทพ (พ่อจอม) รูปที่ ๒
พระอาจารยย์ อด ปยิ วณโฺ ณ รปู ท่ี ๓ พระอาจารยพ์ นั รปู ท่ี ๔ พระครจู นั ทโสภาคย์ (พลบั )
(พ.ศ. ๒๔๙๘ - ๒๕๒๒) รูปท่ี ๕ พระอธกิ ารไว วิสุทธสิ าโร (พ.ศ. ๒๕๒๓ – ๒๕๒๙)
รูปท่ี ๖ พระมหาทวี สริ วิ ณฺโณ (พ.ศ. ๒๕๓๐ - ๒๕๓๗) รปู ที่ ๗ พระครชู ยตุ สตุ คุณ
(ชยันต์ ป.ธ.๓) (พ.ศ. ๒๕๓๗ - ปัจจุบัน) (กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ.
๒๕๒๗ : ๔๔๗)
อดีตเจา้ อาวาสวัดท่าขา้ ม
พระอาจารยย์ อด ปิยวณฺโณ พระครจู ันทโสภาคย์ (พลบั ) พระอธกิ ารไว วิสุทธิสาโร
องค์การบรหิ ารส่วนต�ำบลท่าขา้ ม
64 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
สิง่ ศักดสิ์ ิทธภิ์ ายในวดั
ขรวั เทพหรือพอ่ จอม
พ่อจอมหรือหลวงพ่อขรัวเทพ อดีตเจ้าอาวาส
รปู ท่ี ๑ ของวดั ทา่ ขา้ ม สนั นษิ ฐานวา่ เปน็ ทฝ่ี งั อฐั ขิ องทา่ น
เดิมมีลักษณะเป็นจอมปลวก ชาวบ้านเช่ือว่าศักดิ์สิทธ์ิ
เล่ากันว่าเมื่อก่อนมีประดู่ต้นใหญ่มีลักษณะเป็นโพรง
อยใู่ กล้ ๆ กบั พอ่ จอม มตี อ่ มาทำ� รงั คนื วนั หนงึ่ มคี นมาแอบเผาตอ่ และเกดิ ไฟไหมโ้ พรง
ต้นประดู่แต่ก่ิงประดู่ตรงพ่อจอมกลับโค่นหักไปอีกทางหน่ึงไม่โดนศาลาพ่อจอม
ชาวบ้านจงึ เชื่อวา่ พ่อจอมศกั ดิ์สทิ ธิร์ ับการบนบานศาลกล่าวต้งั แตน่ นั้ เป็นตน้ มา
พระครูจันทโสภาคย์ (พอ่ ท่านพลบั )
อดตี เจ้าอาวาสวัดทา่ ขา้ ม (พ.ศ. ๒๔๙๘ - ๒๕๒๒)
ตำ� บลทา่ ขา้ ม อำ� เภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา อดตี เจา้ คณะ
ต�ำบลท่าข้าม อ�ำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และ
อดีตเจ้าอาวาสวัดบางดาน ต�ำบลพะวง อ�ำเภอเมือง
จงั หวดั สงขลา ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ พระอธกิ ารพลบั จนั ทโสภาคย์
ร่วมกับคณะครู ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้ปกครองนักเรียน
สร้างอาคารเรยี นขนาด ๔ หอ้ งเรยี น ให้กบั โรงเรยี นวดั ทา่ ขา้ ม
นามเดมิ นายพลบั แกว้ ชเู ชดิ เกดิ เมอ่ื วนั ท่ี ๔ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๔๔๙ ทบ่ี า้ นทา่ ขา้ ม
หมทู่ ่ี ๓ อำ� เภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา เปน็ บตุ รของนายเสน นางสกุ แกว้ ชเู ชดิ มพี นี่ อ้ ง
๔ คน คอื พระครูจันทโสภาคย์ (พลบั แก้วชเู ชดิ ) นายฉ่ำ� แกว้ ชูเชิด นายไข่ แกว้ ชเู ชิด
และนายเพ็ง แก้วชูเชิด การศึกษาสามัญพออ่านออกเขียนได้ อุปสมบทเมื่อวันท่ี
๑๔มถิ นุ ายนพ.ศ.๒๔๗๐อายุ๒๑ป ี โดยมพี ระครรู ตั นโมลเี ปน็ พระอปุ ชั ฌาย์พ.ศ.๒๔๙๕
เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าข้าม พ.ศ. ๒๔๙๘ เป็นเจ้าคณะต�ำบลท่าข้าม พ.ศ. ๒๔๙๘
เป็นเจ้าส�ำนักศาสนศึกษา ต�ำบลท่าข้าม พ.ศ. ๒๕๐๓ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์
เปน็ พระครสู ญั ญาบตั รชน้ั ตรใี นราชทนิ นาม “พระครจู นั ทโสภาคย”์ มรณภาพเมอื่ วนั ท่ี
๑๓ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ สริ ริ วมอายไุ ด้ ๗๔ ปี ๕๔ พรรษา คณะสงฆแ์ ละศษิ ยานศุ ษิ ย์
ไดร้ ่วมกนั ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันท่ี ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๔
องคก์ ารบรหิ ารส่วนตำ� บลท่าข้าม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 65
เวลา ๑๕.๐๐ น. ณ วดั ทา่ ขา้ ม ตำ� บลทา่ ขา้ ม อำ� เภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา คณะศษิ ย์
รว่ มกนั จดั ตง้ั ชมรมชอ่ื “ชมรมคณะศษิ ยพ์ ระครจู นั ทโสภาคย์ (พลบั จนทฺ สโร)” เพอ่ื รว่ มกนั
จัดกิจกรรมบ�ำเพ็ญกุศลแลดงความกตัญญูกตเวทีและเผยแพร่เกียรติคุณของ
พระครจู นั ทโสภาคย์ ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. ๒๕๕๘ (ทร่ี ะลกึ พธิ ที ำ� บญุ ครบรอบ ๑๑๑ ปี ชาตกาล
พระครจู ันทโสภาคย์ (พลบั จนทฺ สโร) ๑๑ มถิ นุ ายน ๒๕๖๐)
ประวตั พิ ระครชู ยุต สตคณุ (ชยันต์ ป.ธ.๓)
เจ้าอาวาสรูปปจั จุบัน
นามเดิม นายประไพ บัวบุตร เมื่อพรรษาที่ ๓ พระครูชยุต สุตคุณ
โดยประมาณ เปลย่ี นชอื่ เปน็ ชยนั ต์ บวั บตุ ร เกดิ ทบ่ี า้ นบอ่ โพธ์ิ
เลขท่ี ๓๙/๑ หมู่ที่ ๖ ต�ำบลน้�ำน้อย อ�ำเภอหาดใหญ่
จงั หวดั สงขลา เมอ่ื วนั ที่ ๒๑ สงิ หาคม ๒๕๐๓ มพี นี่ อ้ งรว่ มกนั
สองคน คือน้องสาวช่ือกนิษฐา บัวบุตร จบการศึกษา
ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนวัดท่านางหอม
ต�ำบลนำ�้ นอ้ ย อำ� เภอหาดใหญ่ จังหวดั สงขลา
เม่ืออายุครบบวช วันท่ี ๑๐ พฤษภาคม ปี ๒๕๒๓ อุปสมบท ณ พัทธสีมา
วดั ทา่ นางหอม มพี ระครอู ดุ มสาธกุ จิ (พอ่ ทา่ นอนิ ) เจา้ อาวาสวดั ทา่ นางหอม เจา้ คณะ
ตำ� บลน�้ำน้อยเป็นพระอุปัชฌาย์ ฉายา “อนุตฺตโร” พรรษาแรกสอบนักธรรมชั้นตรีได้
พรรษาที่ ๒ สอบนกั ธรรมชน้ั โทได้ พรรษาที่ ๓ สอบนกั ธรรมชน้ั เอกไดเ้ ปน็ ครสู อนนกั ธรรม
พระบวชใหม่ทีว่ ัดทา่ นางหอม สอนพระสอนนกั เรียนโรงเรยี นวัดทา่ นางหอม
สมัครเรียนบาลีไวยากรณ์ที่ส�ำนักเรียนวัดหงส์ประดิษฐาราม สอบได้เปรียญ
๑ - ๒ ประโยคและเปรียญ ๓ ประโยคใน ๕ ปตี อ่ มา ในปี ๒๕๓๔ สอบได้พระกรรม
วาจาจารย์ พระอนศุ าสนาจารย์ พระครชู น้ั ตรี รองเจา้ อาวาสวดั ทา่ นางหอม ไดเ้ ปรยี ญ
๓ ประโยค มหาเปรียญประโยค ๓ เรียนทางโลกตอนมาเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าข้าม
ปี ๒๕๓๗ รกั ษาการเจา้ อาวาสวดั ทา่ ขา้ ม ปี ๒๕๓๘ ได้รับการแตง่ ตั้งเปน็ เจ้าอาวาส
วัดท่าข้าม ปี ๒๕๔๑ เป็นเจ้าคณะต�ำบลท่าข้าม ปี ๒๕๔๒ เป็นพระอุปัชฌาย์
(นายจรูญ หยูทอง สัมภาษณ์ พระครูชยุต สตคุณ (ชยันต์ บัวบุตร) ณ วัดท่าข้าม
ต�ำบลทา่ ขา้ ม อ�ำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมอ่ื วนั ที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔)
องคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�ำบลท่าข้าม
66 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
วดั เขากลอย
เลขท่ี ๑๓๖ บ้านเขากลอย ต�ำบลท่าข้าม อ�ำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต มีที่ดินตั้งวัดเน้ือท่ี ๓๐ ไร่ อาณาเขตบริเวณวัดด้านหน้าวัด
ยาว ๑๒๐ เมตร ด้านหลังวดั ยาว ๑๔ เมตร ด้านข้างสองด้าน ยาวดา้ นละ ๓๖๐ เมตร
ดา้ นหนา้ วัดมีก�ำแพงคอนกรีต ส่วนสามด้านนอกจากนีม้ ีรัว้ ลวดหนามก้นั โดยรอบ
พื้นท่ีต้ังวัดเป็นที่ราบ อาคารเสนาสนะต่าง ๆ มีอุโบสถกว้าง ๙.๕๐ เมตร
ยาว ๑๗.๕๐ เมตร สร้างเมือ่ พ.ศ. ๒๔๗๑ โครงสร้างคอนกรตี ศาลาการเปรยี ญกวา้ ง
๑๕.๕๐ เมตร ยาว ๒๒ เมตร สรา้ งเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ โครงสร้างคอนกรตี เสริมเหล็ก
หอสวดมนต์กว้าง ๕ เมตร ยาว ๗ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๕ โครงสร้างไม้
กฏุ สี งฆ์ จำ� นวน ๘ หลงั โครงสรา้ งเปน็ อาคารไม้ หอฉนั กวา้ ง ๗ เมตร ยาว ๑๓.๕ เมตร
สร้างเม่อื พ.ศ. ๒๔๖๓ โครงสร้างไม้ หอระฆังกวา้ ง ๔ เมตร สงู ๙ เมตร โครงสร้าง
คอนกรีตเสรมิ เหลก็ สุสานกอ่ อฐิ ถือปูน ศาลาบาตร กว้าง ๒.๕ เมตร ยาว ๓.๕ เมตร
โครงสรา้ งไม้ นอกจากน้ีมีโรงไฟฟา้ อาคารอ�ำนวยการและโรงครัว
วัดเขากลอยสร้างข้ึนเป็นวัดนับตั้งแต่วันท่ี ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ โดยมี
นายมงคล นางหนูนุ้ย พุทธวาศรี บริจาคที่ดินถวายแด่ท่านอาจารย์คง อุตฺตโม
เพอ่ื ดำ� เนนิ การสรา้ งวดั ตอ่ มาไดร้ บั การทะนบุ ำ� รงุ จากประชาชนดว้ ยดี มผี มู้ าสรา้ งอาคาร
และถาวรวตั ถตุ า่ ง ๆ ถวายไวท้ คี่ วรกลา่ วถงึ มี นายคำ� นงึ อไุ รรตั น์ นางแดง อนิ ทสวุ รรณโณ
เปน็ ตน้
องค์การบริหารส่วนต�ำบลทา่ ข้าม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 67
วัดเขากลอย มเี จา้ อาวาส ตามลำ� ดบั ดงั นี้ หลวงพอ่ อุตตโม (คง) หรือปู่เจา้ คง
เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก เป็นชาวบ้านเขากลอยออก หมู่ที่ ๗ บวชท่ีวัดหินเกล้ียง
สังกัดมหานิกาย ต่อมาไปยัติใหม่เป็นพระสังกัดธรรมยุตินิกายโดยท�ำทัณหิกรรม
ทวี่ ดั มชั ฌมิ าวาส (วดั กลาง) สงขลา พระอารามหลวง กลบั มาพำ� นกั อยทู่ ศ่ี าลาทพี่ กั สงฆ์
“หลาเกาะกลาง” ในทดี่ นิ สว่ นตวั ของครอบครวั ทา่ นเอง ตอ่ มานายมงคลกบั นางหมานยุ้
รว่ มกนั บรจิ าคทด่ี นิ ๓๐ ไร่ ใหส้ รา้ งวดั ในบรเิ วณทตี่ งั้ วดั เขากลอยปจั จบุ นั ทา่ นปเู่ จา้ คง
เรม่ิ สรา้ งโบสถโ์ ดยา่ วา่ จา้ งนายชา่ งเมน่ โดยนางจลู นั่ และนางกมิ้ ซยุ้ บรจิ าคเงนิ จำ� นวน
๗๐๐ บาท ใหส้ รา้ งโบสถ์ ชว่ งนที้ า่ นปเู่ จา้ คงไป ๆ มา ๆ ระหวา่ งทพ่ี กั สงฆห์ ลาเกาะกลาง
กับวัดมัชฌิมาวาส เนื่องจากชาวสงขลาบ่อยางมีความเคารพนับถือปู่เจ้าคงจึงไปมา
หาสู่เปน็ ประจำ� ทำ� ให้เกดิ การตัดทางเกวยี นเข้ามายงั วดั เขากลอยและตอนจัดงานศพ
ปู่เจา้ คงจึงเกิดถนนสายควนหนิ - เขากลอยก่อนจะมาเปน็ ถนน รพช. ในยคุ ต่อมา
เจ้าอาวาสรูปต่อมาคือทิดบัว บวชอยู่นาน ๓๕ พรรษา สร้างครัวขนาดใหญ่
๑๓ ห้อง ปัจจุบันได้ร้ือถอนไปหมดแล้วต้ังแต่สมัยนายบ้านเสถียร ต่อมา
ท่านลาสกิ ขาบทหลงั จากสรา้ งครวั หลังดงั กล่าวเสร็จ
เจา้ อาวาสรปู ทส่ี ามคอื ทดิ เพชร บวชอยู่ ๓๐ พรรษา สรา้ งโรงธรรมศาลาตอ่ มา
ทา่ นลาสิกขาบท
เจา้ อาวาสรูปทสี่ ี่คอื พระสมุหผ์ อม สมฺโภ
เจา้ อาวาสรูปที่หา้ คือทา่ นจนั ทร์ กนตฺ วณฺโณ บวชอยู่ ๒๐ พรรษา ทา่ นบวช
ตอนอายุมากแล้ว ท่านสร้างกุฏิหลังใหม่โดยไปตัดไม้แปรรูปท่ีบ้านทุ่งงายในยุคที่ยัง
ไมม่ วี ดั ทงุ่ งาย
องคก์ ารบริหารส่วนตำ� บลท่าขา้ ม
68 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
พระครูสารธรรมคุณ (จ้ี ปวฑฺฒโน) เดิมช่ือจี้ เจริญศรี เป็นบุตรของนายคง
นางขวญั เจรญิ ศรี เกดิ เมอ่ื วนั ที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๓ ณ บา้ นเลขท่ี ๓๘ ตำ� บลทา่ ขา้ ม
อ�ำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีพ่ีน้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๕ คน คือ
นายเลก็ นางชว่ ย นายจี้ นางทองปาน และนางนยุ้
เขา้ เรยี นระดบั ประถมศกึ ษาทโี่ รงเรยี นวดั เขากลอยในสมยั ครใู หญส่ นทิ ธรรมนยิ ม
จนจบช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔ สมัยครูใหญ่เพียร อุไรรัตน์ สมรสกับนางช่วย มีบุตร
ด้วยกัน ๒ คนคือ นางยุพา สมรสกับนายเฉลิม แก้วโสภา มีบุตรด้วยกัน ๑ คน
นายทวี สมรสกับนางบุญพา สังข์ศิลปช์ ยั มีบุตรด้วยกัน ๒ คน
อุปสมบทเม่ือ พ.ศ. ๒๔๘๔ ณ วัดเขากลอย ตำ� บลทา่ ขา้ ม อ�ำเภอหาดใหญ่
จังหวัดสงขลา อุปสมบทคร้ังท่ี ๒ เมื่อวันท่ี ๓ มกราคม ๒๕๒๕ ณ วัดเขากลอย
พ.ศ. ๒๕๓๙ ไดร้ บั แตง่ ตงั้ เปน็ เจา้ อาวาสวดั เขากลอย มบี ทบาทในการอบรมคณุ ธรรม
นกั เรยี นในวนั สำ� คญั ทางศาสนา เปน็ ผแู้ สดงธรรมเทศนา ปาฐกถาธรรมภายในวดั และ
ภายในชุมชน งานพัฒนาและท�ำนุบ�ำรุงพระศาสนา ท�ำหน้าท่ีเจ้าอาวาสอย่างเต็ม
ความสามารถโดยการอบรมส่ังสอนพุทธศาสนิกชนให้เป็นคนดี เลื่อมใสศรัทธา
ในศาสนาและพฒั นาวดั เขากลอยใหเ้ จรญิ รุ่งเรอื งจนเป็นที่รจู้ ักของคนทัว่ ไป
พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับแต่งต้ังเป็นพระฐานานุกรมที่พระใบฎีกาจ้ี ปวฑฺฒโน
พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้รับแต่งต้ังเป็นพระฐานานุกรมท่ีพระปลัดจี้ ปวฑฺฒโน พ.ศ. ๒๕๔๖
ได้รับแตง่ ต้ังเป็นพระครสู ารธรรมคุณ
ไดส้ รา้ งถาวรวตั ถแุ ละเสนาสนะในวดั เขากลอย ไดแ้ ก่ สรา้ งโรงเลยี้ ง สรา้ งหอฉนั
สร้างศาลาต้ังศพ สร้างวิหารปฏิบัติธรรม ซ่อมแซมอุโบสถ สร้างกุฏิ ปรับพื้นที่และ
น�ำหินเกล็ดถมภายในวัด ร่วมกิจกรรมประกวดเรือพระร่วมกับเทศบาลนครสงขลา
เปน็ กรรมการสถานศกึ ษา สร้างหอ้ งน้ำ� สร้างศาลาเอนกประสงค์
พระครสู ารธรรมคุณ มรณภาพด้วยความชราเม่ือวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๒
เวลา ๒๐.๓๐ น. ณ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ�ำเภอหาดใหญ่
จงั หวัดสงขลา สริ ริ วมอายุ ๘๙ ปี พรรษา ๒๗
พระอรรถพล แก้วโสภา
เจา้ อาวาสรูปปจั จุบันคอื พระศุภนฎั สนั ตุสฺสโก
องค์การบรหิ ารสว่ นต�ำบลท่าขา้ ม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 69
หลวงพ่อ อุตตฺ โม (คง) พระครูสมหุ ผ์ อม สมุ ฺโภ ทา่ นจนั ทร์ กนฺตวณโฺ ณ
พระครสู ารธรรมคุณ (จ้ี ปวฑฒฺ โน) พระศุภณฎั สนั ตุสฺสโก (เฉลมิ ศร)ี
วดั เขากลอยไดร้ ับพระราชทานวสิ ุงคามสีมาวนั ท่ี ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๗
เขตวสิ งุ คามสีมา กวา้ ง ๔๐ เมตร ยาว ๘๐ เมตร
การศึกษา ทางวัดได้ให้ทางราชการจัดต้ังโรงเรียนประถมศึกษาข้ึนในที่วัด
ซึง่ มอี าคารเรยี น ๑ หลงั ทางวัดให้การอปุ การะตามสมควรตลอดมา (กรมการศาสนา
กระทรวงศึกษาธิการ. ๒๕๒๗ : ๓๕๙ - ๓๖๐)
วดั เขากลอยไดจ้ ดั งานฉลองครบรอบ ๑๑๑ ปี เมอื่ วนั ที่ ๑๘ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
โดยจัดท�ำพระเครื่องเป็นอนสุ รณท์ ี่ระลกึ ออกเผยแพร่
ทร่ี ะลกึ ในงานฉลอง ๑๑๑ ปี วัดเขากลอย
เมื่อ ๑๘ สงิ หาคม ๒๕๖๑
องคก์ ารบริหารสว่ นต�ำบลท่าข้าม
70 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
ประวตั เิ จ้าอาวาสวดั เขากลอยรปู ปจั จุบนั (พ.ศ. ๒๕๖๒ - ปจั จุบนั /๒๕๖๔)
นามเดิม ศุภณัฏ เฉลิมศรี (ตระกูลเดิมเฉลิมวงศ์)
เกิดเมื่อวันท่ี ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๖ ท่ีบ้านเขากลอย
เลขที่ ๔๐ หมู่ท่ี ๗ บ้านเขากลอยออก ต�ำบลท่าข้าม
อำ� เภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา บิดาช่ือนายนวล เฉลิมศรี
มารดาชอ่ื นางเผยี น ปาตปิ าเลส จบการศกึ ษาชน้ั ประถมปที ่ี ๖
จากโรงเรียนวัดเขากลอย เม่ือปี ๒๕๓๙ บรรพชาเป็น
สามเณรเม่อื อายุ ๑๓ ปี วันที่ ๑๗ กรกฎาคม ปี ๒๕๓๙ ณ วดั ราชผาตกิ ารามวรวหิ าร
กรงุ เทพมหานคร แขวงวชริ พยาบาล เขตดสุ ติ กรงุ เทพมหานคร ฉายา “สขุ สริ ”ิ สอบได้
นักธรรมตรี ปี ๒๕๓๙ จากส�ำนักเรียนวัดราชาธิวาส สอบได้นักธรรมโท ปี ๒๕๔๒
จากสำ� นกั เรยี นวดั โสมนสั วหิ าร เขตปอ้ มปราบ กรงุ เทพมหานคร สอบไปไดน้ กั ธรรมเอก
ปี ๒๕๔๔ จากส�ำนักเรียนวัดโสมนัสวิหาร จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย
มหามกฏุ ราชวิทยาลยั ปี ๒๕๕๒
อุปสมบทเมอื่ อายุ ๒๕ ปี วันที่ ๑๐ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ณ วัดเขากลอย
ต�ำบลท่าข้าม อ�ำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ฉายา “สันตุสฺสโก” พระอุปัชฌาย์
พระครูโสภณศีลวัตร พระกรรมวาจารย์ พระวิญญู พุทธสาโร พระอนุสาสนาจารย์
พระนอ้ ย จติ ตฺ ทโม
ปี ๒๕๕๑ - ๒๕๕๔ จ�ำพรรษาที่วัดภูมิพาราม จังหวัดเชียงราย ปี ๒๕๕๕
จำ� พรรษาท่วี ดั ปา่ สามัคคีธรรม อำ� เภอสิงหนคร จังหวดั สงขลา ปี ๒๕๕๖ จำ� พรรษา
ท่ีวัดภูมิพาราม จังหวัดเชียงราย ปี ๒๕๕๗ จ�ำพรรษาท่ีวัดเขากลอย ต�ำบลท่าข้าม
อ�ำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ปี ๒๕๕๗ จบพระธรรมทูต รุ่นที่ ๒๐ ปี ๒๕๕๘
จ�ำพรรษาท่วี ัดภูมพิ าราม จงั หวัดเชียงราย วนั ท่ี ๑ กุมภาพันธ์ ปี ๒๕๖๒ อายุ ๓๖ ปี
พรรษา ๑๑ ได้รับตราต้ังเป็นเจ้าอาวาสวัดเขากลอย ต�ำบลท่าข้าม อ�ำเภอหาดใหญ่
จังหวัดสงขลา จนถึงปัจจุบันโดยไม่ต้องรักษาการเจ้าอาวาส (นายจรูญ หยูทอง.
สัมภาษณ์ ณ วัดเขากลอย ต�ำบลท่าข้าม อ�ำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่
๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔)
องค์การบรหิ ารสว่ นตำ� บลทา่ ขา้ ม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 71
วัดหนิ เกล้ียง
เดมิ วดั หนิ เกลยี้ งตง้ั อยทู่ ห่ี ลาตน้ โด ปจั จบุ นั ตง้ั อยู่
เลขท่ี ๘๖ บ้านหินเกลี้ยง ถนนสายน้�ำน้อย - ทุ่งหวัง
หมู่ท่ี ๖ ต�ำบลท่าข้าม อ�ำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินต้ังวัดเนื้อที่ ๑๒ ไร่
อาณาเขตทิศเหนือยาว ๑๒๐ เมตร ติดต่อกับ
ถนนสายนำ้� นอ้ ย - ทงุ่ หวงั ทศิ ใตย้ าว ๒๒๙ เมตร ตดิ ตอ่ กบั ทน่ี าของนายเควด็ จนั ทชโู ต
ทิศตะวันออกยาว ๕๐๐ เมตร ติดต่อกับที่นาของนายวินและนายวัน ทิศตะวันตก
ยาว ๕๐๐ เมตร ตดิ ต่อกับทโี่ รงเรียนวัดหนิ เกล้ียง มที ่ีธรณีสงฆ์ ๑ แปลง เนอ้ื ที่ ๑ ไร่
๘ ตารางวา ส.ค.๑ เลขที่ ๑
พนื้ ทต่ี งั้ วดั เปน็ ทร่ี าบลมุ่ แวดลอ้ มดว้ ยทงุ่ นา อาคารเสนาสนะตา่ ง ๆ มอี โุ บสถ
กวา้ ง ๑๒ เมตร ยาว ๑๖ เมตร สรา้ งเมอื่ พ.ศ. ๒๕๒๖ ศาลาการเปรยี ญกวา้ ง ๑๒ เมตร
ยาว ๒๔ เมตร สรา้ งเมอื่ พ.ศ. ๒๕๒๖ กฎุ สี งฆจ์ ำ� นวน ๕ หลงั โครงสรา้ งเปน็ อาคารไม้
ยกพ้นื สูง
วัดหินเกลี้ยง สร้างขึ้นเป็นวัดตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๐๐ โดยมีพระมหาพรหมแก้ว
เป็นผู้มาบุกเบิก ริเร่ิมด�ำเนินการสร้างวัดขึ้น ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา วันท่ี
๑๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๗๘ เขตวิสงุ คามสมี า กว้าง ๑๕ เมตร ยาว ๑๙ เมตร
องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บลทา่ ข้าม
72 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
ภายในวัดหินเกลี้ยงมีพระลากไม้ทรงเคร่ืองบุทอง คู่กับพระไม้บุเงินที่
วัดนารังนก แต่ก่อนเคยอยู่ที่วัดนารังนกด้วยกันเรียกว่า “พระเงินน้อง พระทองพี่”
อรณุ แก้วสตั ยาเล่าวา่ ทวดสีชายเอาพระทองมาจากวดั นารังนก ช่างอรุณเคยท�ำเกศ
พระนารังนกเป็นกะไหล่ทอง ในวันสงกรานต์จะอัญเชิญพระนารังนกมาสรงน้�ำ
ท่ีวัดหินเกล้ียง ผู้สร้างพระนารังนกแต่ละรูปคนละช่างกัน ขนาดไม่เท่ากัน พระทอง
ท่วี ัดหนิ เกลีย้ ง ไม่มที องทบ่ี แุ ลว้ ปจั จุบันอย่ใู นโรงธรรมศาลา
สง่ิ ศกั ดิส์ ิทธภ์ิ ายในวัด ไดแ้ ก่ พระพทุ ธวรัตนว์ ราชิตมงคล และหลักพ่อท่านอยุ้
เจา้ อาวาสมี ๖ รปู คอื รปู ท่ี ๑ พระสขุ โสภโิ ต (พ.ศ. ๒๔๖๘ - ๒๔๘๘) รปู ที่ ๒
พระอธิการถัด ฐติ เมโท (พ.ศ. ๒๔๘๘ - ๒๕๐๐) รูปที่ ๓ พระอธกิ ารเทอื น ปนาโท
(พ.ศ. ๒๕๐๐ - ๒๕๐๔) รูปที่ ๔ พระปลัดพิณ จารุธมโม (พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๓๙)
รปู ท่ี ๕ พระอธกิ ารดำ� ผาสโุ ก (พ.ศ. ๒๕๓๙ - ๒๕๔๙) รปู ท่ี ๖ พระใบฎกี าชอบ ถาวโร
(พ.ศ. ๒๕๔๙ - ปจั จุบัน) (กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธกิ าร. ๒๕๒๗ : ๖๕๕)
องคก์ ารบริหารส่วนต�ำบลทา่ ขา้ ม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 73
พระสุข โสภิโต พระอธกิ ารถดั ฐติ เมโท พระอธกิ ารเทือน ปนาโท
พระปลดั พณิ จารธุ มโฺ ม พระอธกิ ารดำ� ผาสุโก พระครูสังฆรกั ษ์ชอบ ถาวโร
ประวัตเิ จา้ อาวาสวดั หินเกล้ยี งรปู ปัจจุบนั
สถานะเดิม นายชอบ ศรีเฉลิม วิทยฐานะ
ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ อาชพี ทำ� สวน เชอื้ ชาตไิ ทย สญั ชาตไิ ทย
สณั ฐานปานกลาง ผวิ เนอ้ื ดำ� แดง ตำ� หนแิ ผลเปน็ นว้ิ กลางซา้ ย
บิดาช่ือนายไชยแก้ว มารดาช่ือนางพิน ศรีเฉลิม เกิดเมื่อ
วนั ท่ี ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ทบี่ า้ นเลขท่ี ๘๖ หมทู่ ่ี ๖
ตำ� บลทา่ ข้าม อ�ำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
อุปสมบทเมื่ออายุ ๔๕ ปี เม่ือวันท่ี ๑๘ กรฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๔
ณ วดั ทงุ่ ฆอ้ โฆษติ าราม ตำ� บลนาหมอ่ ม อำ� เภอนาหมอ่ ม จงั หวดั สงขลา พระอปุ ชั ฌาย์
พระครูวิจารธรรมโฆษิต พระกรรมวาจาจารย์ พระมหาวิสิต ชิตธมฺโม
พระอนศุ าสนาจารย์ พระปลดั นิพนธ์ ฐติ โิ ก
องคก์ ารบริหารส่วนตำ� บลทา่ ขา้ ม
74 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
ไดร้ บั แตง่ ตง้ั รกั ษาการเจา้ อาวาสวดั หนิ เกลยี้ งเมอื่ วนั ท่ี ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗
อายุ ๔๗ ปี พรรษา ๓ พ.ศ. ๒๕๔๙ ไดร้ บั แต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหินเกลีย้ ง
กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖ อายุ ๕๖ พรรษา ๑๒ วิทยฐานะ นักธรรมตรี
เจ้าอาวาสวัดหินเกลี้ยงได้รับแต่งตั้งด�ำรงต�ำแหน่งฐานานุกรมที่พระครูสังฆรักษ์
(นายจรูญ หยูทอง. สัมภาษณ์พระครูสังฆรักษ์. ณ วัดหินเกลี้ยง ต�ำบลท่าข้าม
อ�ำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เม่อื วนั ท่ี ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔)
วัดแม่เตย
วดั แมเ่ ตย เดมิ ชอื่ วดั คงคาสวสั ดิ์ ตง้ั อยรู่ มิ คลองวงั นายสาม ตอ่ มายา้ ยมาตง้ั อยู่
เลขที่ ๑๑๑ บา้ นแมเ่ ตย หมทู่ ่ี ๑ ตำ� บลทา่ ขา้ ม อำ� เภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา เปลยี่ นชอ่ื
เป็นวัดแม่เตยตามช่ือบ้านตามระเบียบของกรมการศาสนาสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
มีท่ีดินต้ังวัดเนื้อที่ ๑๓ ไร่ ๒ งาน ๙๐ ตารางวา น.ส.๓ เลขท่ี ๔๗๘๔ อาณาเขต
ทศิ เหนือยาว ๕ เสน้ ตดิ ต่อกับคลองสาธารณะ ทิศใตย้ าว ๖ เส้น ๕ วา ติดต่อกับ
ทนี่ าชาวบา้ น ทศิ ตะวนั ออกยาว ๔ เสน้ ๑๐ วา ตดิ ตอ่ กบั คลองสาธารณะ ทศิ ตะวนั ตก
ยาว ๔ เส้น ๑๐ วา ติดต่อกับคลองสาธารณะ มีท่ีธรณีสงฆ์ ๒ แปลง เนื้อที่ ๘ ไร่
๒ งาน ๙ ตารางวา ส.ค.๑ เลขที่ ๔๐๒, ๔๐๑
องคก์ ารบรหิ ารส่วนต�ำบลทา่ ขา้ ม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 75
พนื้ ทตี่ ง้ั วดั เปน็ ทร่ี าบลมุ่ ลอ้ มรอบดว้ ยลำ� ธาร อาคารเสนาสนะตา่ ง ๆ มี อโุ บสถ
กว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๑๗ เมตร สรา้ งเมอ่ื พ.ศ. ๒๔๘๑ โครงสร้างผนงั กอ่ อิฐถือปนู
หลงั คาสองชน้ั มงุ ดว้ ยกระเบอื้ งดนิ เผา ศาลาการเปรยี ญกวา้ ง ๑๐ เมตร ยาว ๑๕ เมตร
สรา้ งเมอื่ พ.ศ. ๒๔๔๘ โครงสรา้ งไม้ กฎุ สี งฆ์ จำ� นวน ๖ หลงั โครงสรา้ งเปน็ อาคารไมแ้ ละ
ครงึ่ ตกึ ครงึ่ ไม้ ปชู นยี วตั ถมุ พี ระประธานในอโุ บสถ พระเพลากวา้ ง ๗๒ เซน็ ตเิ มตร เปน็
พระพทุ ธรปู ทองเหลอื ง แบบรตั นโกสนิ ทรต์ อนกลาง อญั เชญิ มาจากกรงุ เทพมหานคร
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕
วัดแมเ่ ตย สร้างขนึ้ เปน็ วดั ต้ังแต่ พ.ศ. ๒๓๐๑ ไดร้ บั พระราชทานวิสุงคามสมี า
ประมาณ พ.ศ. ๒๓๒๗ ไดผ้ ูกพทั ธสมี าประมาณ พ.ศ. ๒๓๕๐
เกย่ี วกบั การศกึ ษา วดั นไ้ี ดเ้ ปดิ ใหม้ กี ารสอนประปรยิ ตั ธิ รรม ตง้ั แต่ พ.ศ. ๒๕๒๒
เปน็ ตน้ มา ขณะนม้ี นี กั เรยี นธรรมกวา่ ๒๐ รปู ทางวดั จดั สรา้ งอาคารเรยี นและชว่ ยเหลอื
ทางอปุ กรณ์การเรยี นแก่โรงเรยี นประถมศึกษาที่ตง้ั อยใู่ นวดั
เจา้ อาวาสมี ๗ รปู คอื รปู ที่ ๑ พระอธกิ ารคง รปู ที่ ๒ พระครอู มิ่ ธมมสโร รปู ที่ ๓
พระช่วย ธมมโชโต รูปที่ ๔ พระเล่ง อิสสโร รูปท่ี ๕ พระไชย ขันติโก รูปท่ี ๖
พระอธกิ ารสี ตสิ สโร (พ.ศ. ๒๕๐๐ - ๒๕๑๖) รปู ท่ี ๗ พระปลดั ลว่ น (พ.ศ. ๒๕๒๑ – ๒๕๒๗)
๘ พระสมุหบ์ รรจง สุเมโธ (๒๕๒๘ - ปัจจบุ ัน) (กรมการศาสนา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร.
๒๕๒๗ : ๕๗๙๒๕๘๐)
พระครอู ิ่ม ธมสฺ โร พระช่วย ธมฺมโชโต พระอธกิ ารสี ตสิ สฺ โร
องคก์ ารบริหารส่วนต�ำบลท่าขา้ ม
76 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
สงิ่ ศกั ด์สิ ทิ ธิภายในวดั
หลวงพ่ออนิ ทร์ กติ ติสาโร
หลาทวด
พระอธกิ ารสี ติสโร
พระสมหุ ์บรรจง สุเมโธ
เจ้าอาวาสวดั แมเ่ ตยรูปปจั จุบนั (ปี ๒๕๒๘ - ปัจจบุ นั )
นามเดิมนายบรรจง ชัยกูล เกิดเมื่อวันท่ี ๒๔
พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๕ ที่บ้านแม่เตย บิดาชื่อนายอิ่ม
มารดาช่อื นางจนั ทรเ์ นย่ี ว ชัยกูล จบชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
จากโรงเรยี นวดั แมเ่ ตย บวชเมอ่ื อายุ ๒๑ ปี เดอื นกรกฎาคม
ปี ๒๕๒๕ ที่วัดแม่เตย ต�ำบลท่าข้าม อ�ำเภอหาดใหญ่
จังหวัดสงขลา
พรรษาที่ ๑ ปี ๒๕๒๕ จบนักธรรมตรี พรรษาที่ ๒ ปี ๒๕๒๖ จบนกั ธรรมโท
พรรษาท่ี ๓ ปี ๒๕๒๗ จบนกั ธรรมเอก สอนนกั ธรรม ตำ� บลทา่ ข้าม ไม่ได้ไปเรยี นบาลี
เปรียญธรรมเพราะไม่มีใครอยู่วัด ได้รับแต่งต้ังเป็นเจ้าอาวาสวัดแม่เตย
เมื่อปี ๒๕๒๘ ฐานานุกรมพระสมุห์บรรจง สเมโธ (นายจรูญ หยูทอง. สัมภาษณ์
พระสมหุ บ์ รรจง สุเมโธ ณ วัดแมเ่ ตย ตำ� บลทา่ ขา้ ม อำ� เภอหาดใหญ่ จงั หวัดสงขลา
เมือ่ วันท่ี ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔)
องคก์ ารบริหารส่วนตำ� บลทา่ ข้าม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 77
วดั โคกสงู
ตงั้ อยทู่ บ่ี า้ นโคกสงู ถนนกาญจนวนชิ สงขลา - หาดใหญ่ หมทู่ ี่ ๑ ตำ� บลทา่ ขา้ ม
อำ� เภอหาดใหญ่ จังหวดั สงขลา สังกดั คณะสงฆ์มหานิกาย ท่ีดินตง้ั วดั มเี นอ้ื ท่ี ๑๐ ไร่
อาณาเขต ทศิ เหนือยาว ๔ เส้น ๓ วา ตดิ ตอ่ ทด่ี นิ ของนายลั่น ทศิ ใตย้ าว ๓ เส้น ๔ วา
ตดิ ต่อกบั ท่ีดินฟาร์มโฆษิต ทิศตะวันออกยาว ๔ เสน้ ๔ วา ตดิ ตอ่ กับทีด่ ินของนางจับ
ทศิ ตะวันตกยาว ๓ เสน้ ๕ วา ตดิ ตอ่ กบั ถนนกาญจนวนิช สงขลา - หาดใหญ่
พน้ื ทต่ี งั้ วดั เปน็ เนนิ สงู สภาพแวดลอ้ มเดมิ มปี า่ ไม้ สวนยางและฟารม์ เลยี้ งสกุ ร
ทางด้านทิศตะวันตก อาคารเสนาสนะต่าง ๆ มีศาลาการเปรียญ ๑ หลัง สร้างเมื่อ
พ.ศ. ๒๕๒๑ โครงสร้างเป็นเสาไม้ หลังคาสงั กะสี กุฎสี งฆ์จ�ำนวน ๔ หลัง โครงสรา้ ง
เป็นอาคารไม้และตึก ส�ำหรับปูชนียวัตถุมีพระประธานและพระพุทธรูปพร้อม
วัตถุโบราณซ่ึงสะสมโดยพระอาจารย์ปลัดพลัด ภททิโย อดีตเจ้าอาวาสรูปแรกและ
อดตี เจ้าคณะต�ำบลท่าขา้ มมีอยู่หลายรายการ
วดั โคกสงู กอ่ นการเรม่ิ สรา้ งวดั มพี ระปลดั พลดั ภททโิ ย จากวดั แจง้ อำ� เภอเมอื ง
จังหวัดสงขลา ด�ำเนินการจัดซ้ือที่ดินแล้วมอบให้ผู้ใหญ่บ้านคือนายท้ิง ทองจืด
ขออนญุ าตตอ่ ทางราชการ ไดร้ บั อนญุ าตใหส้ รา้ งวดั เมอ่ื วนั ที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๑
กระทรวงศกึ ษาธิการประกาศต้งั เป็นวดั เมื่อวันที่ ๑๙ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๒๓
วดั โคกสงู ไดร้ บั พระราชทานวสิ งุ คามสมี าเมอื่ วนั ท่ี ๓๐ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๒๔
เขตวิสุงคามสีมากวา้ ง ๔๐ เมตร ยาว ๘๐ เมตร
เจา้ อาวาสนามวา่ พระปลดั พลดั ภททฺ โิ ยซงึ่ เปน็ ผดู้ ำ� เนนิ การสรา้ งวดั นมี้ าแตต่ น้
ด�ำรงต�ำแหน่งเจ้าอาวาสตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๔ จนได้รับพระราชทานสมณศักด์ิเป็น
พระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะต�ำบลช้ันตรีที่พระครูภัทรธรรมรัตน์ มรณภาพในวันท่ี
องค์การบริหารส่วนต�ำบลท่าข้าม
78 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ พระปริยัติวรานุกูล (สุนทร) เจ้าคณะอ�ำเภอหาดใหญ่
รกั ษาการเจา้ อาวาส (พ.ศ. ๒๕๔๑) ตอ่ มาปี พ.ศ. ๒๕๔๒ พระมหาวเิ ชยี ร วโิ รจโน ปธ.๖
เปน็ เจา้ อาวาสจนถึงปัจจบุ นั (พ.ศ. ๒๕๖๔)
พระครภู ัทรธรรม (พลัด) ภททฺ โิ ย พระครูวนิ ัยธร (วิเชยี ร วโิ รจโน)
ประวตั อิ ดตี เจา้ อาวาสพระครูภทั รธรรม (พลดั ภทฺทโิ ย)
นามเดิม พลดั นามสกลุ บญุ คง เกิดเมือ่ วันท่ี 6 พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๕๔
ทตี่ ำ� บลทา่ มะเดอ่ื อำ� เภอเขาชยั สน จงั หวดั พทั ลงุ เปน็ บตุ รของนายหนู นางดำ� บญุ คง
ไดศ้ กึ ษาวชิ าสามญั จบชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ บดิ าของทา่ นเสยี ชวี ติ ตง้ั แตท่ า่ นยงั เดก็ ๆ
เมื่อท่านอายุ ๑๒ ปี มารดาก็เสียชีวิตไปอีกคน ซึ่งในขณะนั้นครอบครัวของท่าน
ลำ� บากมาก ตอ้ งไปขอยมื เงนิ จากเจา้ ของสวนยางเพอ่ื นำ� ไปทำ� ศพใหแ้ ม่ และชดใชห้ น้ี
โดยการเอาตวั ทา่ นเองไปทำ� งานใชห้ นี้ เมอื่ ทำ� งานใชห้ นไี้ ดป้ เี ศษ มผี ใู้ หญท่ า่ นหนงึ่ รสู้ กึ
สงสารจึงน�ำเงินไปไถ่ตัวท่านออกมา และท่านก็ออกมารับจ้างท�ำไร่ท�ำนาหาเลี้ยงชีพ
เมอื่ อายุ ๑๗ ปี ทา่ นถกู กลา่ วหาวา่ เปน็ เสอื พลดั เทย่ี วออกปลน้ ชาวบา้ น ครง้ั นน้ั ทำ� ให้
ทา่ นตอ้ งหนหี วั ซกุ หวั ซนุ เนอื่ งจากตำ� รวจตามจบั แตใ่ นความโชครา้ ยกย็ งั มคี วามโชคดี
เนื่องจากมีคนปกป้องท่าน โดยการช่วยรับรองกับทางต�ำรวจว่าท่านเป็นคนดี ไม่ได้
เป็นเสอื พลดั อยา่ งที่ถกู กล่าวหา
เนอื่ งจากทา่ นชอบในทางไสยศาสตรแ์ ละโหราศาสตร์ ทา่ นไดฝ้ ากตวั เปน็ ศษิ ย์
พระเกจอิ าจารยห์ ลายรปู เชน่ พอ่ ทา่ นวนั ปญุ ญฺ สริ ิ วดั รตั นาราม (พระครศู รทั ธานรุ กั ษ)์
พระครูวัตตานุกูล (พ่อท่านจันทร์) วัดควนฝาละมี และพ่อท่านมหาลอย จนฺทสโร
วดั แหลมจาก พ่อท่านชมุ วัดควนปิยาราม และอีกหลายท่าน
องค์การบริหารสว่ นตำ� บลท่าขา้ ม
รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย 79
เมอื่ อายไุ ด้ ๒๒ ปี ซงึ่ เปน็ ชว่ งทอ่ี ยใู่ นเกณฑค์ รบบวชของชายไทยตามประเพณี
ท�ำให้ท่านคิดที่จะบวชแทนคุณบิดามารดา และได้พิจารณาเห็นว่าชีวิตของคน
มีแต่ความทุกข์ โดยเฉพาะตัวท่าน ท่านจึงคิดจะหาความสงบหาแสงสว่างทางธรรม
เลยตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์ ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดควนฝาละมี
อำ� เภอปากพะยนู จังหวัดพทั ลงุ เม่ือวนั ที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๖ เวลา ๑๔.๐๕ น.
โดยมี พระครวู ตั ตานกุ ลู (พอ่ ทา่ นจนั ทร)์ วดั ควนฝาละม ี เปน็ พระอปุ ชั ฌาย ์ พระสมหุ ว์ นั
ปญุ ญฺ สริ ิ วดั รตั นาราม (พระครศู รทั ธานรุ กั ษ)์ เปน็ พระกรรมวาจาจารย ์ พระอธกิ ารชมุ
ยสโร วดั ควนปยิ าราม (พระครวู ลิ าศวรญั ญ)ู เปน็ พระอนสุ าวนาจารย ์ ไดฉ้ ายาวา่ ภทธฺ โิ ย
กอ่ นทท่ี า่ นจะบวชทา่ นไดก้ ลา่ ววาจาตอ่ ญาตโิ ยม ทไ่ี ปรว่ มอนโุ มทนาและเปน็ เจา้ ภาพ
ให้กับท่านว่า “ขอให้ทุกท่านตั้งใจให้ดี การท�ำบุญกุศลกับข้าพเจ้าในครั้งน้ี ข้าพเจ้า
จะขอบวชตลอดชวี ติ ”
เมื่อท่านบวชแล้วได้จ�ำพรรษาอยู่วัดควนฝาละมี ท่านได้ศึกษาพระธรรม
วนิ ยั ปฏบิ ตั วิ ปิ สั สนากรรมฐาน จากพระพอ่ ทา่ นจนั ทร ์ พระอปุ ชั ฌาย ์ และพอ่ ทา่ นวนั
จนสอบได้นักธรรมช้ันตรี ส�ำนักเรียน วัดรัตนารามอีกท้ังท่านยังได้ศึกษาเรียนวิชา
อาคม โหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ ควบคู่ไปด้วย ศิษย์ร่วมอุปัชฌาย์ของท่าน ก็มี
พ่อท่านแดง วัดควนนางพิมพ์ ปากพะยูน พระครูรังสีโศภณ วัดหารเทา
พระครูโฆษิตธรรมาภรณ์ วัดควนฝาละมี ต่อมาท่านได้ขอลาพระอุปัชฌาย์อาจารย์
เพื่อออกธุดงค์ ท่านได้ออกธุดงค์ เพื่อหาพระอาจารย์ท่ีมีชื่อเสียงด้านวิชาอาคม
ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ พ่อท่านมหาลอย จนฺทสโร และพระสมุห์ชุม วัดแหลมจาก
ตำ� บลปากรอ อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั สงขลา (ปจั จบุ นั อำ� เภอสงิ หนคร) ไดว้ ชิ าหลายอยา่ ง
จากพอ่ ทา่ นมหาลอย รวมทง้ั วชิ าแพทยแ์ ผนโบราณ หลงั จากนนั้ ทา่ นไดล้ าพอ่ ทา่ นมหาลอย
เพอ่ื ไดศ้ กึ ษาวชิ า ณ สำ� นกั วดั เขาเอาะ (วดั เขาออ้ ) ตำ� บลมะกอกเหนอื อำ� เภอควนขนนุ
จังหวัดพัทลุง โดยได้เรียนวิชาแพทย์แผนโบราณ วิชาโหราศาสตร์และไสยเวทย์
วิชาอาคมต่าง ๆ โดยได้ฝากตัวเป็นศิษย์ พระครูสิทธิยาภิรัต (พ่อท่านเอียด)
วัดดอนศาลา พระอาจารย์ปาล ปาลธมฺโม วัดเขาอ้อ และพ่อท่านคง สิริมโต
วัดบ้านสวน ท่านยังได้ศึกษาฝากตัวเป็นศิษย์อาจารย์น�ำ จันทร์แก้ว ซ่ึงเป็น
อาจารย์ฝ่ายฆราวาส เมื่อได้ศึกษาวิชาตามต�ำราของเขาอ้อแล้ว พ่อท่านพลัดได้ลา
พระอาจารย์ เพ่ือออกธุดงค์ ไปอยู่ตามป่าเขา จากเหนือจรดใต้ เพื่อฝึกวิปัสสนา
องคก์ ารบรหิ ารส่วนต�ำบลท่าขา้ ม
80 รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม : ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย
กรรมฐาน ทำ� ใหท้ า่ นมสี มาธจิ ติ เขม้ แขง็ ประกอบกบั ผทู้ จี่ ะออกธดุ งคใ์ นสมยั กอ่ นตอ้ งมี
วิชาอาคมเก่งกล้าพอ ถึงจะมีชีวิตรอดกลับมาได้ จึงถือได้ว่าท่านมีความเข้มขลัง
ในด้านไสยศาสตร์ไม่เป็นสองรองใคร ต่อมาท่านได้กลับมาจ�ำพรรษาที่วัดหารเทา
ปี พ.ศ. ๒๔๘๔ สำ� นกั สงฆห์ วั ควน อำ� เภอปากพะยนู ไดว้ า่ งผดู้ แู ล พอ่ ทา่ นวนั
วัดรัตนาราม ซึ่งเป็นเจ้าคณะต�ำบลได้ให้พ่อท่านพลัดไปดูแลและพัฒนา ในช่วงท่ี
พอ่ ทา่ นพลดั เปน็ เจา้ อาวาสวดั หวั ควน ทา่ นมลี กู ศษิ ยล์ กู หามาก เพราะทา่ นมชี อื่ เสยี ง
เร่ืองเครื่องรางของขลัง ไสยเวทย์ต่าง ๆ อีกท้ังชาวบ้านได้ประจักษ์ กับเหตุการณ์
คร้ังหน่ึง มีการปล้นเรือยนต์ที่ว่ิงในทะเลสาบสงขลา ครั้งนั้นพ่อท่านพลัด ได้โดยสาร
มาดว้ ย เรอื ยนตโ์ ดยสารสมยั นน้ั เปน็ เรอื ๒ ชน้ั เมอื่ ทา่ นเหน็ วา่ พวกโจรจะมาปลน้ เรอื
ท่านก็ได้ให้ชาวบ้านเอาของมีค่ามาใส่ไว้ในจีวรของท่าน พวกโจรได้ยิง อินเนีย
(เอ็นจิเนียร์/นายเครื่องเรือ) ตาย แล้วข้ึนไปข้างบนที่นั่งของผู้โดยสาร แต่ก็ไม่พบ
ของมีค่าท่ีชาวบ้าน ก็เลยมาค้นท่ีพ่อท่านพลัด แต่ก็มองไม่เห็นของมีค่าที่ตัวพ่อท่าน
และโจรไมก่ ลา้ ทำ� รา้ ยใครบนเรอื รบี หนไี ปทนั ท ี เพราะเกรงกลวั ตบะของพอ่ ทา่ นพลดั
ท�ำให้พ่อท่านพลัดมีช่ือเสียงโด่งดังมาก จากปากต่อปาก ท�ำให้มีชาวบ้านมาหาท่าน
เปน็ จำ� นวนมากในแต่ละวนั รวมทั้งบรรดาไอเ้ สือ ทีม่ ชี ือ่ เสียง
ในสมัยนั้นเสือท่ีมีช่ือเสียง อย่าง เสือจ้อง เสือพะ เสือเหลง เสือเลาะ
ซงึ่ ตา่ งกเ็ ปน็ ลกู ศษิ ยพ์ อ่ ทา่ นพลดั ทางการตอ้ งการตวั มาก ตำ� รวจไมส่ ามารถจบั ตวั เสอื
ท้ัง ๔ คนได้ ด้วยบารมีของพ่อท่านพลัด ท่ีคุ้มครองอยู่เพราะเสือทั้ง ๔ ได้ศึกษา
วิชาไสยศาสตร์จากพ่อท่านพลัดและยังได้เคร่ืองรางของขลังที่พ่อท่านพลัดท�ำให้
เล่ากันว่าทางการได้ขอก�ำลังหน่วยปราบปรามจากกรุงเทพฯ โดยมีอาวุธท่ีดีที่สุด
ในสมยั นนั้ มาตามลา่ ตวั เสอื ทง้ั ๔ เมอ่ื ตำ� รวจตามลา่ ตวั เสอื จอ้ งไปถงึ กระทอ่ มกลางนา
ได้ระดมยิงใส่จนกระท่อมพัง แต่กระสุนปืนก็ไม่ระคายผิว อีกเหตุการณ์ คือ ต�ำรวจ
ตามล่า เสือจ้องซึ่งหนีเข้าไปในวัดหัวควนเข้าไปในศาลาหอฉัน ที่พ่อท่านพลัดก�ำลัง
นง่ั ฉนั ขา้ วอย ู่ แลว้ เสอื จอ้ งไดไ้ ปหลบทห่ี ลงั พอ่ ทา่ นพลดั เอาจวี รคมุ ไว้ ตำ� รวจนบั สบิ นาย
เข้ามาก็มองไม่เห็นว่ามีคนหลบอยู่ที่หลังพ่อท่านพลัด เมื่อตรวจค้นจนท่ัวก็ไม่เจอจึง
ไดล้ ากลบั ทางการจงึ เหน็ วา่ ถา้ พอ่ ทา่ นพลดั ยงั อยใู่ นอำ� เภอปากพะยนู จะเปน็ อปุ สรรค
ในการจับตัว เสือท้ัง ๔ เพราะบารมีความขลังความศักดิ์สิทธิ์ของท่านคุ้มภัยให้พวก
ไอ้เสือเหล่านั้น ทางการตกลงกันว่าต้องนิมนต์พ่อท่านพลัด ออกจากวัดหัวควน
องค์การบรหิ ารสว่ นตำ� บลทา่ ขา้ ม