The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรศูนย์ฝึกอาชีพ ปี2567 ไตรมาส 1-2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ฺKhaiBangRachan ์NFE, 2024-04-16 22:26:39

หลักสูตรศูนย์ฝึกอาชีพ ปี2567 ไตรมาส 1-2

หลักสูตรศูนย์ฝึกอาชีพ ปี2567 ไตรมาส 1-2

ห น ้ า | 96 4. เป้าหมาย เชิงคุณภาพ ประชาชนทั่วไปมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำกระเป๋าผ้าต่อญี่ปุ่น มีทักษะการทำกระเป๋าจาก ผ้าด้นมือ และสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพการทำกระเป๋าจากผ้าด้นมือ สามารถสร้างรายได้แก่ ตนเองและครอบครัว เชิงปริมาณ ประชาชนทั่วไป จำนวน 7 คน 5. ระยะเวลา จํานวน 20 ชั่วโมง ภาคทฤษฎี 5 ชั่วโมง ภาคปฏิบัติ 15 ชั่วโมง 6.โครงสร้างหลักสูตร ที่ เรื่อง จุดประสงค์ การเรียนรู้ เนื้อหา การจัด กระบวนการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ทฤษฎี 1. พื้นฐาน เกี่ยวกับการ ประกอบ อาชีพ 1.เพื่อให้ผู้เรียนรู้ และเข้าใจ ความสำคัญของ การประกอบ อาชีพ 2.เพื่อให้ผู้เรียนรู้ และเข้าใจความ เป็นไปได้ในการ ประกอบอาชีพ 3.เพื่อให้ผู้เรียนรู้ และเข้าใจ สร้าง อาชีพการเพื่อให้ ผู้เรียนสามารถ พื้นฐานเกี่ยวกับการ ประกอบอาชีพ 1. ความสำคัญของ การประกอบอาชีพ 2. ความเป็นไปได้ใน การประกอบอาชีพ 3. แหล่งเรียนรู้การ ประกอบอาชีพ 1.วิทยากรบรรยาย เรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับ การประกอบอาชีพ 1. ความสำคัญของ การประกอบ อาชีพ 2. ความเป็นไปได้ ในการประกอบ อาชีพ 3. แหล่งเรียนรู้ การประกอบ อาชีพ 1


ห น ้ า | 97 ที่ เรื่อง จุดประสงค์ การเรียนรู้ เนื้อหา การจัด กระบวนการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ทฤษฎี 2. 3. การเรียนรู้ และฝึก ทักษะ การทำ กระเป๋าจาก ผ้าด้นมือ การบริหาร จัดการ กระเป๋าจาก ผ้าด้นมือ นําความรู้ไป ประกอบอาชีพ สร้างรายได้ 1.ผู้เรียนรู้และ เข้าใจการฝึก ทักษะการทำ กระเป๋าจากผ้า ด้นมือ 3.1 สามารถ บริหารจัดการ กระเป๋าจากผ้า ด้นมือได้อย่าง ถูกต้อง 3.2 สามารถ จัดการตลาดใน ได้อย่างถูกต้อง 3.3 บอก แหล่งที่มาของ วัสดุได้ การเรียนรู้และฝึก ทักษะการทำกระเป๋า จากผ้าด้นมือ - วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ ทำกระเป๋าจากผ้าด้น มือ - ขั้นตอนการทำ กระเป๋าจากผ้าด้นมือ 3.1 สามารถบริหาร การจัดการในการทำ กระเป๋าจากผ้าด้นมือ ได้อย่างถูกต้อง 3.2 สามารถจัดการ บริหารการตลาดของ แหล่งจำหน่ายได้ และ ในการทำฐานข้อมูล 3.3 สำรวจและศึกษา แหล่งวัสดุจัด ให้ผู้เรียน วิทยากรบรรยาย สาธิตและฝึก ทักษะการทำ กระเป๋าจากผ้าด้น มือ -วัสดุอุปกรณ์ที่ ต้องใช้ทำ กระเป๋าจากผ้าด้น มือ - ขั้นตอนการทำ กระเป๋าจากผ้าด้น มือ 3.1 วิทยากร อธิบายสาระ ความรู้ให้แม่นยำ ในการปฏิบัติจริง 3.2 วิทยากร อธิบายแหล่ง จำหน่ายการตลาด ฐานข้อมูล 3.3 วิทยากรบอก แหล่งจำหน่ายวัสดุ วัตถุดิบพร้อม อธิบาย 2 15


ห น ้ า | 98 ที่ เรื่อง จุดประสงค์ การเรียนรู้ เนื้อหา การจัด กระบวนการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ทฤษฎี 4. การจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ กระเป๋าจาก ผ้าด้นมือ 3.4 สามารถ กำหนดรูปแบบ ให้เปลี่ยนแปลง หรือคงเดิมได้ 4.1ผู้เรียน สามารถบอก แหล่งจำหน่าย การกระจาย สินค้า 4.2 ให้สามารถ บอกวิธีการ/ ช่อง ทางการ ประชาสัมพันธ์ สินค้าได้ 3.4 การกำหนดการ ควบคุมคุณภาพของ ผลิตภัณฑ์ให้คุณภาพ คงเดิม 4.1.1 แหล่งจำหน่าย การกระจ่ายสินค้า 4.1.2 การ ประชาสัมพันธ์/การ จำหน่ายสินค้า ออนไลน์ 3.4 อธิบายใน รูปแบบต่างๆ ของ ตัวผลิตภัณฑ์ สามารถออกแบบ ขึ้น มาใหม่ได้ 4.1 วิทยากรให้ ความรู้เรื่องแหล่ง จำหน่ายการกระจ่าย สินค้า 4.2 วิทยากรให้ ความรู้เรื่องการ ประชาสัมพันธ์/การ จำหน่ายสินค้า ออนไลน์ 2 รวมจ ำนวนชั่วโมง 5 15 รวมจ ำนวนชั่วโมงท้ังหลกัสูตร 20 7. สื่อการเรียนรู้ 1. สื่อเอกสารใบความรู้ในการบรรยายและสาธิตอาชีพ 2. สื่อเทคโนโลยี 3. ผู้รู้ /ภูมิปัญญา


ห น ้ า | 99 8. การวัดและประเมินผล 1. ใบงาน 2. แบบประเมินผลงาน/ชิ้นงาน 3. แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน 4. แบบติดตามผู้เรียน 9. เกณฑ์การจบหลักสูตร 1. มีระยะเวลาเรียนและฝึกปฏิบัติตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 2. มีผลการประเมินผ่านตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ตามเกณฑ์ที่กำหนด - ภาคทฤษฎี(ความรู้) ร้อยละ 20 - ภาคปฏิบัติ(ผลงาน/ชิ้นงาน) ร้อยละ 80 ลงชื่อ…………………………………………ผู้เสนอหลักสูตร ( นางสาวนฤมล พรมอ่อน ) ลงชื่อ............................................ผู้เห็นชอบหลักสูตร ( พ.ต.ท.สราวุธ ศรีธนายุสบดี ) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา ลงชื่อ............................................ผู้อนุมัติหลักสูตร ( นางสาวปรารถนา ชีโพธิ์ ) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอบางระจัน ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการ สกร.อำเภอบางระจัน รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ สกร.อำเภอค่ายบางระจัน


ห น ้ า | 100 แผนการจัดการเรียนรู้ หลักสูตร กระเป๋าจากผ้าด้นมือ จำนวน 20 ชั่วโมง วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ วันที่................. 09.00 – 15.00 น. บรรยายและฝึกปฏิบัติ วิทยากรให้ความรู้เบื้องต้นกระเป๋า จากผ้าด้นมือ 1) บรรยายให้ความรู้ เกี่ยวกับช่อง ทางการประกอบอาชีพ กระเป๋าจาก ผ้าด้นมือ 2) ความสำคัญของการประกอบ อาชีพ 3) แนวโน้มการประกอบอาชีพ - ความต้องการของตลาด - การจัดหาวัสดุอุปกรณ์ - การคำนวณราคา 4) หลักสูตรการทำกระเป๋าจากผ้าด้น มือ 5) เทคนิคการทำกระเป๋าจากผ้าด้น มือวัสดุการทำกระเป๋าจากผ้าด้นมือ 1) ผ้าใยโพลีเอสเตอร์ ใยสังเคราะห์ ชนิดแผ่น สำหรับทำตัวกระเป๋าชิ้น นอกและชิ้นใน /ผ้ากาว ชนิดธรรมดา กระดาษแข็ง สำหรับทำแบบ/ เข็ม ด้าย ช็อกเขียนผ้า กรรไกร/ของ ตกแต่งกระเป๋า เช่น กระดุม ลูกไม้ ฯ 2) เลือกแบบกระเป๋า แบบหกเหลี่ยม เรียนวันละ 5 ชม. สื่อประกอบการสอน 1. ใบความรู้การทำ กระเป๋าจากผ้าด้นมือ 2. ปากกาหรือดินสอ 3. กระดาษ A4 การวัดและประเมินผล 1.การมีส่วนร่วม 2.ชิ้นงาน


ห น ้ า | 101 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ 3) เลือกแบบกระเป๋า แบบแนวตั้ง 4) เลือกแบบกระเป๋า แบบแนวนอน 5) การตัดแบบกระเป๋า แบบหก เหลี่ยม แบบแนวตั้ง แบบแนวนอน กว้าง 20 ซ.ม. ยาว 30 ซ.ม. 21 กุมภาพันธ์ 2567 09.00 – 15.00 น. บรรยายและฝึกปฏิบัติ ขั้นตอนการทำกระเป๋าจากผ้าด้นมือ 1) การตัดแบบกระเป๋าตาม แบบที่ต้องการ เรียนวันละ 5 ชม. สื่อประกอบการสอน 1. แบบกระเป๋า 2. ปากกาหรือดินสอ 3. กระดาษ A4 1.การมีส่วนร่วม


ห น ้ า | 102 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ 2) เตรียมผ้าฝ้ายลายญี่ปุ่น หลากสีตัดขนาดเท่ากับแพทเทิร์นที่ เราจะต่อในใบที่จะทำในโครงการนี้ เราจะใช้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก 3) เตรียมแพทเทิร์นจาก กระดาษ a4 รีไซเคิลตัดกระดาษ a4 เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก 4) ตัดผ้าให้ใหญ่กว่าแพทเทิร์น ด้านละ 7 มิลลิเมตร 5) จำนวนที่จะใช้เท่ากับจำนวน ขนาดของกระเป๋าแล้วแต่เล็กใหญ่ 6) เนาผ้าติดกับแพทเทิร์นให้ ครบทุกชิ้นทั้ง 4 ด้าน 7) สอยงานทุกชิ้นติดกันเป็น แผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า วันที่.................. 09.00 – 15.00 น. บรรยายและฝึกปฏิบัติ 1.ขั้นตอนการทำกระเป๋าจากผ้าด้น มือนำแบบมาวางแล้วนำผ้ามาวาง ซ้อนกันตามแบบที่เลือก 2.เย็บด้วยมือและใช้วิธีการเย็บแบบ ด้นถอยหลัง โดยเรียงจาก เย็บ ด้านหน้าก่อนและเย็บด้านหลัง กระเป๋า เรียนวันละ 5 ชม. สื่อประกอบการสอน 1. แบบกระเป๋า 2. ปากกาหรือดินสอ 3. กระดาษ A4 การวัดและประเมินผล 1.การมีส่วนร่วม 2.ชิ้นงาน


ห น ้ า | 103 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ 3.เย็บตามจำนวนชิ้นที่เราตัดแบบไว้ ให้หมดทุกชิ้น วันที่.................. 09.00 – 15.00 น. 1.บรรยายและฝึกปฏิบัติขั้นตอนการ ทำกระเป๋าจากผ้าด้นมือ 2.การเย็บผ้าประกอบส่วนใบประเป๋า ให้ใช้วิธีการเย็บแบบด้นถอยหลัง 3.โดยนำส่วนประกอบที่ตัดตามแบบ มาเย็บประกอบเป็นใบและนำผ้าโพลี เอสเตอร์ แผ่นใยสังเคราะห์ มาเย็บ ด้านใน 3.เย็บผ้าปิดท้ายด้วยการเย็บปาก กระเป๋าโดยพับขอบลงมาครึ่งนิ้วแล้ว จึงเย็บให้สวยงาม ขั้นตอนการตกแต่งเก็บงานการทำ กระเป๋าจากผ้าด้นมือ 1) การใส่หูกระเป๋า 2) การเย็บหูกระเป๋า 3) การตกแต่ง 1.ตัดหูกระเป๋าตามความยาวที่ ต้องการ 2.นำผ้าฝ้ายลายญี่ปุ่นผ้าลายต่างๆ ที่เราต้องการใช้สอยติดกับตัวผ้าดิบ 1 ด้าน เย็บประกอบเข้ากับตัวกระเป๋า 3.วิทยากรบรรยายความรู้เรื่อง แหล่งจำหน่ายการกระจ่ายสินค้า เรียนวันละ 5 ชม. สื่อประกอบการสอน 1. แบบกระเป๋า 2. ปากกาหรือดินสอ 3. กระดาษ A4 การวัดและประเมินผล 1.การมีส่วนร่วม 2.ชิ้นงาน


ห น ้ า | 104 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ 4.วิทยากรบรรยายความรู้เรื่องการ ประชาสัมพันธ์/การจำหน่ายสินค้า ออนไลน์ ลงชื่อ………………………………………………………วิทยากร (...........................................)


ห น ้ า | 105 หลักสูตร การผูกผ้าประดับ จำนวน 20 ชั่วโมง ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอค่ายบางระจัน ความเป็นมา 1. หลักสูตร การผูกผ้าประดับ จำนวน 20 ชั่วโมง 2. ความเป็นมา ด้วยกระทรวงศึกษาธิการมุ่งมั่นดำเนินการภารกิจหลักตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพขับเคลื่อนทุกแผนย่อยในประเด็น 12 การพัฒนาการเรียนรู้ และแผนย่อยที่ 3 ในประเด็น 11 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต รวมทั้งแผนการปฏิรูปประเทศด้าน การศึกษา (ฉบับปรับปรุง) และนโยบายรัฐบาลทั้งในส่วนนโยบายหลักด้านการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ และการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย และนโยบายเร่งด่วน เรื่อง การเตรียม คนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 และพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย กรมส่งเสริมการเรียนรู้ มีบทบาทหน้าที่จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพและเพิ่มขีด ความสามารถในการแข่งขันพัฒนาสมรรถนะอาชีพที่สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจ โดยการ Re-skill Up-skill และ New skill เพื่อให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น พร้อมทั้งสร้างช่องทางอาชีพ ในรูปแบบหลากหลายให้ครอบคลุมผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งผู้สูงอายุ โดยมีการบูรณาการความ ร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมและสร้างทักษะอาชีพให้แก่ประชาชน ศูนย์การเรียนรู้ตำบลโพสังโฆ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอค่ายบางระจัน จึงเล็งเห็นถึงการส่งเสริม ความรู้และสร้างทักษะอาชีพให้แก่ประชาชนในพื้นที่อำเภอค่ายบางระจัน จึงจัดทำหลักสูตรการผูกผ้า ประดับเพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้อาชีพการผูกผ้าประดับเกิดอาชีพ สามารถสร้างรายได้ภาคครัวเรือน และ เป็นการสร้างเอกลักษณ์ให้แก่คนในชุมชนได้ พร้อมเป็นการสร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้กับคนในชุมชน 3. จุดมุ่งหมาย 3.1 เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการผูกผ้าประดับ 3.2 เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการผูกผ้าประดับ 3.3 เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพการผูกผ้าประดับ สามารถสร้างรายได้แก่ ตนเองและครอบครัว


ห น ้ า | 106 4. เป้าหมาย เชิงคุณภาพ ประชาชนทั่วไปมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการผูกผ้าประดับ มีทักษะการผูกผ้าประดับ และ สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพการผูกผ้าประดับ สามารถสร้างรายได้แก่ตนเองและครอบครัว เชิงปริมาณ ประชาชนทั่วไป จำนวน 7 คน 5. ระยะเวลา จํานวน 20 ชั่วโมง ภาคทฤษฎี 2 ชั่วโมง ภาคปฏิบัติ 18 ชั่วโมง 6.โครงสร้างหลักสูตร ที่ เรื่อง จุดประสงค์ การเรียนรู้ เนื้อหา การจัด กระบวนการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 1. พื้นฐาน เกี่ยวกับการ ประกอบอาชีพ 1.เพื่อให้ผู้เรียนรู้ และเข้าใจ ความสำคัญของ การประกอบ อาชีพ 2.เพื่อให้ผู้เรียนรู้ และเข้าใจความ เป็นไปได้ในการ ประกอบอาชีพ 3.เพื่อให้ผู้เรียนรู้ และเข้าใจ สร้าง อาชีพการเพื่อให้ ผู้เรียนสามารถ นําความรู้ไป พื้นฐานเกี่ยวกับการ ประกอบอาชีพ 1. ความสำคัญของ การประกอบอาชีพ 2. ความเป็นไปได้ใน การประกอบอาชีพ 3. แหล่งเรียนรู้การ ประกอบอาชีพ 1.วิทยากรบรรยายเรื่อง พื้นฐานเกี่ยวกับการ ประกอบอาชีพ 1. ความสำคัญของ การประกอบอาชีพ 2. ความเป็นไปได้ใน การประกอบอาชีพ 3. แหล่งเรียนรู้การ ประกอบอาชีพ วิทยากรบรรยาย สาธิตและฝึกทักษะ การผูกผ้าประดับ -วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ ทำ 1


ห น ้ า | 107 ที่ เรื่อง จุดประสงค์ การเรียนรู้ เนื้อหา การจัด กระบวนการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 2. 3. การเรียนรู้และ ฝึกทักษะ การผูกผ้า ประดับ การบริหาร จัดการ การผูกผ้า ประดับ ประกอบอาชีพ สร้างรายได้ 1.ผู้เรียนรู้และ เข้าใจการฝึก ทักษะการผูกผ้า ประดับ 3.1 สามารถ บริหารจัดการผูก ผ้าประดับ ถูกต้อง 3.2 สามารถ จัดการตลาดใน ได้อย่างถูกต้อง 3.3 บอก แหล่งที่มาของ วัสดุได้ 3.4 สามารถ กำหนดรูปแบบ ให้เปลี่ยนแปลง หรือคงเดิมได้ การเรียนรู้และฝึก ทักษะการผูกผ้า ประดับ - วัสดุอุปกรณ์ที่ต้อง ใช้การผูกผ้าประดับ - ขั้นตอนการผูกผ้า ประดับ 3.1 สามารถบริหาร การจัดการในการผูก ผ้าประดับ ถูกต้อง 3.2 สามารถจัดการ บริหารการตลาด ของแหล่งจำหน่าย ได้ และในการทำ ฐานข้อมูล 3.3 สำรวจและ ศึกษาแหล่งวัสดุจัด ให้ผู้เรียน 3.4 การกำหนดการ ควบคุมคุณภาพของ ผลิตภัณฑ์ให้คุณภาพ คงเดิม การผูกผ้าประดับ - ขั้นตอนการผูกผ้า ประดับ 3.1 วิทยากรอธิบาย สาระความรู้ให้แม่นยำ ในการปฏิบัติจริง 3.2 วิทยากรอธิบาย แหล่งจำหน่าย การตลาดฐานข้อมูล 3.3 วิทยากรบอก แหล่งจำหน่ายวัสดุ วัตถุดิบพร้อมอธิบาย 3.4 อธิบายในรูปแบบ ต่างๆ ของตัว ผลิตภัณฑ์ สามารถออกแบบขึ้น มาใหม่ได้ 1 18 รวมจำนวนชั่วโมง 2 18 รวมจำนวนชั่วโมงทั้งหลักสูตร 20


ห น ้ า | 108 7. สื่อการเรียนรู้ 1. สื่อเอกสารใบความรู้ในการบรรยายและสาธิตอาชีพ 2. สื่อเทคโนโลยี 3. ผู้รู้ /ภูมิปัญญา 8. การวัดและประเมินผล 1. ใบงาน 2. แบบประเมินผลงาน/ชิ้นงาน 3. แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน 4. แบบติดตามผู้เรียน 9. เกณฑ์การจบหลักสูตร 1. มีระยะเวลาเรียนและฝึกปฏิบัติตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 2. มีผลการประเมินผ่านตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ตามเกณฑ์ที่กำหนด - ภาคทฤษฎี(ความรู้) ร้อยละ 20 - ภาคปฏิบัติ(ผลงาน/ชิ้นงาน) ร้อยละ 80 ลงชื่อ…………………………………………ผู้เสนอหลักสูตร ( นางสาวนฤมล พรมอ่อน ) ลงชื่อ............................................ผู้เห็นชอบหลักสูตร ( พ.ต.ท.สราวุธ ศรีธนายุสบดี ) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา ลงชื่อ............................................ผู้อนุมัติหลักสูตร ( นางสาวปรารถนา ชีโพธิ์ ) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอบางระจัน ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการ สกร.อำเภอบางระจัน รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ สกร.อำเภอค่ายบางระจัน


ห น ้ า | 109 แผนการจัดการเรียนรู้ หลักสูตร การผูกผ้าประดับ จำนวน 20 ชั่วโมง วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ วันที่................... 09.00 – 15.00 น. บรรยายและฝึกปฏิบัติ วิทยากรให้ความรู้เบื้องต้นการผูกผ้า ประดับ วัสดุการผูกผ้าประดับ ลายจีบกระทบ 1.ผ้าต่วน 2.เชือกปอ 3.เข็มมุด 1.นำผ้ามาคลุมโต๊ะโดยให้ชายผ้า ทั้ง 4 ด้านยาวเท่ากัน จากนั้นดึงผ้าให้ เรียบตึง 2.พับผ้าส่วนเกินเข้ามุมให้เรียบร้อย แล้วกลัดด้วยเข็มหมุดให้แน่น ทำเช่น เดียวกันทั้ง 4 มุม 3.เริ่มทำลายโดยการนำผ้าอีกผืนมา พับให้มีความยาวเท่ากับความสูงของ โต๊ะ โดยให้ด้านที่มีความมันวาวอยู่ ด้านนอก กลัดปลายผ้าด้วยเข็มหมุด ติดกับขอบโต๊ะเป็นจุดเริ่มต้น 4.ดึงผ้าย้อนกลับไปทางช้ายให้ตึง แล้วกลัดคิดกับขอบโต๊ะด้วยเข็มหมุด เป็นจุดที่ 2 5.ดึงผ้าจากจุดที่ 2 เข้าหามุมโต๊ะให้ สื่อประกอบการ สอน 1. ใบความรู้การ ผูกผ้าประดับ 2. ปากกาหรือ ดินสอ 3. กระดาษ A4 การวัดและ ประเมินผล 1.การมีส่วนร่วม 2.ชิ้นงาน


ห น ้ า | 110 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ ตึงแล้วใช้เข็มหมุดกลัดติดกับขอบโต๊ะ เป็นจุดที่ 3 6.จับผ้าพับทบกันให้มีความยาว ประมาณ 12 นิ้ว แล้วกลัดด้านที่เป็น สันทบติดกับขอบโต๊ะเป็นจุดที่ 4 จากนั้นกางผ้าที่พับทบไว้ให้มีลักษณะ แบนราบขนานกับขอบโต๊ะ โดยให้ กึ่งกลางของผ้าอยู่ตรงส่วนกลาง วันที่.................... 09.00 – 15.00 น. วัสดุการผูกผ้าประดับ ลายดอกไม้ 1.ผ้าต่วน 2.เชือกปอ 3.เข็มมุด ขั้นตอนการฝึก 1.ปูผ้าปูโต๊ะ ใช้ลวดผูกยืดผ้าปูโต๊ะให้ตึง และติดกับโต๊ะ 2.นำผ้าจับจีบมาทาบเพื่อเทียบความสูง ให้เท่ากับโต๊ะ พับทบผ้าให้ด้านมันอยู่ ด้านนอก 3.กลัดเข็มหมุดที่ปลายผ้าเพื่อยึดผ้าติด กับโต๊ะ 4.กลัดเข็มหมุดที่มุมโต๊ะ เพื่อเริ่มจับจีบ ผ้า (หมายเลข 1) 5.กลัดเข็มหมุดห่างจากมุมโต๊ะระยะ 4 นิ้ว (หมายเลข 2) สื่อประกอบการ สอน 1. ใบความรู้การ ผูกผ้าประดับ 2. ปากกาหรือ ดินสอ 3. กระดาษ A4 การวัดและ ประเมินผล 1.การมีส่วนร่วม 2.ชิ้นงาน


ห น ้ า | 111 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ 6.จับจีบผ้าขนาด 7 นิ้ว กลัดเข็มหมุด ตรึงไว้ 7.ตึงผ้าขนานกับขอบโต๊ะ ห่างจากจีบ ที่ 1 ระยะ 8 นิ้ว กลัดเข็มหมุดตรึง กับ 0 8.จับจีบที่ 2 ขนาด 7 นิ้ว ใช้เข็มหมุด กลัดตรึงกับขอบโต๊ะ 9.จากนั้นทำตามขั้นตอนในข้อ 7 และ ไปจนครบ โดยให้ระยะห่าง และขนาดของจีบให้เท่ากันเพื่อความ สวยงาม 10.เมื่อจับจีบผ้าครบตามต้องการ ให้ จบการจับจีบโดยจับจีบผ้าขนาด 8 นิ้ว ตึงจีบผ้าขนานกับขอบโต๊ะ กลัดเข็มหมุด ตรึงติดกับขอบโต๊ะ เก็บชายผ้าที่เหลือไว้ ใต้โต๊ะ 11.การจัดลายดอกไม้ จับชายผ้าด้าน นอกของจีบ จับจีบผ้าไลขึ้นจนถึงสันจีบ ใช้หัวแม่มือกับนิ้วชี้กดผ้าที่จับจีบไว้แล้ว จึงกลัดเข็มหมุดตรงกึ่งกลางผ้าที่จับจีบไว้ 14 มีนาคม 2567 09.00 – 15.00 น. วัสดุการผูกผ้าประดับ ลายสับปะรด 1.ผ้าต่วน 2.เชือกปอ 3.เข็มมุด ขั้นตอนการฝึก สื่อประกอบการ สอน 1. ใบความรู้การ ผูกผ้าประดับ 2. ปากกาหรือ ดินสอ 3. กระดาษ A4


ห น ้ า | 112 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ การผูกผ้าลายสับปะรด แบบที่ 1 1.กรีดกลีบทั้ง 2 ห่วงให้สวย นำห่วง 2 ของช่องแรก มายึดกับกลับแรกของช่อง ต่อมา ทำจนรอบโต๊ะ 2.จับกลีบสับหว่างโดยวัดลงมาประมาณ 1-2 นิ้ว ให้เท่าๆ กันทุกช่องจนถึงชายผ้า ด้านล่าง และจับแต่งชายผ้าให้สวยงาม แบบที่ 2 ลายสับปะรดล่าง 1.กรีดผ้าทิ้งกลีบให้ตรง วัดลงมา ประมาณ 1 คืบ 2.จับกลีบยึดด้วยเข็มหมุด สับหว่างลงมา เรื่อยๆ ระยะห่างประมาณ 1-2 นิ้ว ทำ ประมาณ 4-5 ชั้น เมื่อสำเร็จแล้วโต๊ะจะ มีทรงเอวคอด 3.ใช้นิ้วกดผ้าด้านบนให้พองออก แบบ สำเร็จ ทำจนรอบโต๊ะ การวัดและ ประเมินผล 1.การมีส่วนร่วม 2.ชิ้นงาน 15 มีนาคม 2567 09.00 – 15.00 น. วัสดุการผูกผ้าประดับ ลายผีเสื้อ ลายสามห่วง 1.ผ้าต่วน 2.เชือกปอ 3.เข็มมุด ขั้นตอนการฝึก 1.วัดผ้าเริ่มต้น โดยตลบชายผ้าไว้ด้าน นอก 2.จับทวิช 2 กลีบ ปล่อยห่วงเหมือนลาย ใบโพธิ์ กางกลีบทั้ง 2 ข้าง ยึดด้วยเข็ม หมุด ก่อนยืดให้ถอยมาประมาณ 1 นิ้ว ทำรอบโต๊ะ เรียนวันละ 5 ชม. สื่อประกอบการ สอน 1. ใบความรู้การ ผูกผ้าประดับ 2. ปากกาหรือ ดินสอ 3. กระดาษ A4 การวัดและ ประเมินผล


ห น ้ า | 113 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ 3.หาจุดตรงกลางของกลีบที่กางไว้ ทบ ชายผ้าประมาณครึ่งนึง จับกลีบ 3 ครั้ง ยึดเข็มหมุดตรงกลาง ทำจนรอบโต๊ะ ลายสามห่วง 1.วัดชายผ้าให้กองพื้นเล็กน้อย ตลบชาย ผ้าเข้าข้างใน เก็บริมผ้าด้านข้าง 2.ขึ้นกลีบแรกกว้างไม่เกิน 2 นิ้ว ยึดเป็นห่วง จำนวน 3 ห่วง 3.นำห่วงที่ 3 มาวัดทางขวามือ ยึดหมุด ไว้แล้วทำห่วง 3 ห่วง ทำไปเรื่อยๆ จน รอบโต๊ะ 4.จับห่วงทั้ง 3 ห่วงมาด้านหน้ากรีดผ้า ให้สวยงาม วัดลงมาประมาณ 1 คืบ ยึด ด้วยเข็มหมุด ทำจนรอบโต๊ะ 5.จับกลีบสุดท้ายของช่องแรกกับกลีบ แรกของช่องที่สองมายึดด้วยเข็มหมุด โดยให้มีระยะห่าง 2-3 นิ้ว ทำจนรอบ โต๊ะ 6.ได้แบบผ้าลายต่างๆสวยงามตามที่ เราต้องการ 7.วิทยากรและผู้เรียนรวมกันสรุปเนื้อหา หลักสูตรการผูกผ้าและจีบผ้า 8.วิทยากรบรรยายให้ความรู้ในเรื่องของ การถนอมผ้าให้คงทนต่อการใช้งานและ การเลือกการนำไปใช้ในแต่ละชิ้นงานที่ จะจัดตกแต่ง และการใช้วัสดุไม่ให้เป็น 1.การมีส่วนร่วม 2.ชิ้นงาน


ห น ้ า | 114 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ รอยช้ำจะได้ใช้งานได้อย่างมีคุณภาพ และเหมาะสม ลงชื่อ……………………………………………………วิทยากร ( .............................................. )


ห น ้ า | 115 หลักสูตร การตัดผมชายเบื้องต้น จ านวน 20 ชั่วโมง ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อ าเภอค่ายบางระจัน 1. หลักสูตร การตัดผมเบื้องต้น 2. ความเป็นมา ด้วยกระทรวงศึกษาธิการมุ่งมั่นด าเนินการภารกิจหลักตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพขับเคลื่อนทุกแผนย่อยในประเด็น 12 การพัฒนาการเรียนรู้ และแผนย่อยที่ 3 ในประเด็น 11 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต รวมทั้งแผนการปฏิรูปประเทศด้าน การศึกษา (ฉบับปรับปรุง) และนโยบายรัฐบาลทั้งในส่วนนโยบายหลักด้านการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ และการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย และนโยบายเร่งด่วน เรื่อง การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 และพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย กรมส ่งเสริมการเรียนรู้ มีบทบาทหน้าที ่จัดการศึกษาเพื ่อพัฒนาทักษะอาชีพและเพิ ่มขีด ความสามารถในการแข่งขันพัฒนาสมรรถนะอาชีพที่สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจ โดยการ Re-skill Up-skill และ New skill เพื่อให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น พร้อมทั้งสร้างช่องทางอาชีพ ในรูปแบบหลากหลายให้ครอบคลุมผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งผู้สูงอายุ โดยมีการบูรณาการความ ร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมและสร้างทักษะอาชีพให้แก่ประชาชน ศูนย์การเรียนรู้ต าบลหนองกระทุ่ม ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อ าเภอค่ายบางระจัน จึงเล็งเห็นถึงการ ส่งเสริมความรู้และสร้างทักษะอาชีพให้แก่ประชาชนในพื้นที่อ าเภอค่ายบางระจัน จึงจัดท าหลักสูตร การตัด ผมเบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้อาชีพ การตัดผมเบื้องต้น สามารถสร้างรายได้ภาคครัวเรือน และ เป็นการสร้างเอกลักษณ์ให้แก่คนในชุมชนได้ พร้อมเป็นการสร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้กับคนในชุมชน 3. จุดมุ่งหมาย 1. มีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง มั่งคั่ง 2. ตัดสินใจประกอบอาชีพให้สอดคล้องกับศักยภาพของตนเอง ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่าง มีคุณธรรม จริยธรรม 3. มีเจตคติที่ดีในการประกอบอาชีพ 4. มีความรู้ความเข้าใจและฝึกทักษะการบริหารจัดการในอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5. มีการประกอบอาชีพเพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาอาชีพของตนเอง


ห น ้ า | 116 4. เป้าหมาย เชิงคุณภาพ ประชาชนทั่วไปมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการตัดผมชายเบื้องต้น การออกแบบ ทรงผม ประเภท ต่างๆ การตัดผมชาย มาตรฐานรองทรง ทรงนักเรียน การออกหน่วยบริการฝึกทักษะช่างตัดผม ชาย เพื่อสร้างรายได้แก่ตนเองและครอบครัว เชิงปริมาณ ประชาชนทั่วไป จ านวน 7 คน 5. ระยะเวลา ระยะเวลาเรียนตลอดหลักสูตร จ านวน 20 ชั่วโมง ภาคทฤษฎี จ านวน 5 ชั่วโมง ภาคปฏิบัติ จ านวน 15 ชั่วโมง 6. โครงสร้างหลักสูตร ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 1. ช่องทางการ ประกอบ อาชีพการตัด ผมชาย เบื้องต้น 1. บอกและ อธิบาย ความสำคัญใน การ ประกอบ อาชีพการตัดผม ชายเบื้องต้นได้ 2. วิเคราะห์ความ เป็นไปได้ในการ ประกอบอาชีพ การตัดผมชาย 3. บอกและหา แหล่ง เรียนรู้ใน พื้นฐานเกี่ยวกับ การประกอบ อาชีพ 1. ความสำคัญใน การเลือกประกอบ อาชีพการตัดผม 2. ความเป็นไปได้ ในการประกอบ อาชีพการตัดผม 3. แหล่งเรียนรู้การ ประกอบอาชีพการ ตัดผม 4. ทิศทาง 1.วิทยากรบรรยายเรื่อง พื้นฐานเกี่ยวกับการ ประกอบอาชีพ 1. วิทยากรอธิบาย ความสำคัญในการประกอบ อาชีพการ ตัดผมและให้ ผู้เรียนร่วมแสดงความ คิดเห็น 2. วิทยากรอธิบายความ เป็นไปได้ในการประกอบ อาชีพ การตัดผมและให้ ผู้เรียนฝึกปฏิบัติวิเคราะห์ 1ชม. 2ชม.


ห น ้ า | 117 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ การประกอบ การ ตัดผม 4. บอกทิศทางใน การ พัฒนาการ ประกอบ อาชีพ การตัดผมได้ ในการพัฒนา การประกอบอาชีพ ตัดผม 3. ให้ผู้เรียนศึกษาดูงานจาก ผู้ประกอบอาชีพร้านตัดผมที่ ประสบความสำเร็จ แหล่ง เรียนรู้อื่นๆ นำมา แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน และ สรุปเพื่อเป็นข้อมูลในการ ตัดสินใจเลือกประกอบ อาชีพการตัดผม 4. วิทยากรและผู้เรียน ร่วมกันวิเคราะห์ทิศทาง ในการพัฒนาการประกอบ อาชีพการตัดผม 2. ทักษะการ ประกอบ อาชีพการตัด ผมชาย เบื้องต้น 1. ผู้เรียนมีความรู้ ความ เข้าใจ อธิบายหลักการ และวิธีการของ ช่างตัด ผมชาย ได้ อย่างถูกต้อง 2. ผู้เรียนสามารถ เลือก ซื้อ จัดเตรียม ใช้และ บำรุงรักษา เครื่องมือ พื้นฐานเกี่ยวกับ การประกอบ อาชีพ ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับการตัดผม 1. คุณสมบัติที่ดี ของช่าง ตัดผม 1.1 จรรยาบรรณ ของช่าง ตัดผม 1.2 อนามัย เกี่ยวกับสุขภาพ 1.3 อนามัย เกี่ยวกับ บุคลิกภาพ วิทยากรบรรยายเรื่อง พื้นฐานเกี่ยวกับการ ประกอบอาชีพ 1. การบรรยาย 2. การสาธิต ทดลอง 3. การฝึกปฏิบัติจริง 4. ศึกษาจากเอกสารสิ่งพิมพ์/ ใบความรู้/ สื่อออนไลน์ ต่างๆ 2 ชั่วโมง


ห น ้ า | 118 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 1.4 อุปนิสัยของ ช่างตัดผม 3. การบริหาร จัดการใน การประกอบ อาชีพ ธุรกิจ ตัดผมชาย 1. สามารถบริหาร จัดการในการ ประกอบอาชีพ การตัดผมได้ 2. สามารถ กำหนด รูปแบบ ในการประกอบ อาชีพการตัดผม ได้ 1. การประกอบ อาชีพ 1.1 การเลือกทำเล ที่ตั้ง 1.2 การจัดตก แต่งหน้าร้าน 1.3 การบริการ 1.4 การจัดการ จัดซื้ออุปกรณ์ตัด ผมและผลิตภัณฑ์ แต่งผม 1.5 การคำนวณ ราคา ต้นทุนและ การกำหนดราคา ค่าบริการได้ 2. เทศบัญญัติแต่ง ผมและการขอ อนุญาตเปิดร้าน 1. วิทยากรอธิบายความ แตกต่างการเลือกทำเลที่ตั้ง ร้าน การจัด ตกแต่งหน้า ร้าน การคิดราคาต้นทุน การวิเคราะห์ จุดคุ้มทุน ประเภทและแหล่งของความ เสี่ยง จิตบริการ การตลาด ความแตกต่างระหว่างการ ขายและการให้บริการ 2. ผู้เรียนฝึกปฏิบัติกำหนด รูปแบบในการประกอบ อาชีพ ธุรกิจตัดผมชาย 3. ศึกษาข้อมูลจริงจากการ สัมภาษณ์สอบถามจาก สถาน ประกอบการในพื้นที่ 2ชม. 3ชม. 4. การตัดผม ทรงนักเรียน ชาย เพื่อให้ผู้เรียนมี ทักษะการ ตัดผมนักเรียน ชาย การเรียนรู้และฝึก ทักษะการ ตัดผม - การตัดผมทรง นักเรียนชาย วิทยากรบรรยาย สาธิต และฝึกทักษะการตัดผม 1.คลุมผ้าขนหนูรอบคอ ตาม ด้วยผ้าคลุมซอย ติดกิ๊บ คลุมอย่าให้ผมลงคอได้ ต่อมาก็ปะแป้ง เน้นปะ ไม่ให้ทา ให้ปะรอบหัวที่ 5 ชม.


ห น ้ า | 119 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ ผิวหนัง เพราะจะได้ให้ปัตตา เลี่ยนลื่นไหลไม่สะดุด ไถ ด้านล่างก่อน จับปัตตาเลี่ยน แบบจับมือคน อีกมือนึง ประคองหัว เวลาไถทำยังไง ก็ได้ให้ผิวหนังหัวตึงที่สุด เพื่อป้องกันการสะดุด ของปัตตาเลี่ยน 2.ไถรอบหัวสามด้านให้ เกรียน ด้านข้างซ้าย-ขวา ไถ ให้สูงถึงนวลลูกแก้ว (สามเหลี่ยมศีรษะมุมในทั้ง สองข้าง) ส่วนด้านหลังไถให้ ถึงขวัญหัว ไถให้ขวัญหาย กันไปเลย ส่วนวิธีการไถ ทำ ยังไงไม่ให้เป็นขอบกะลา ครอบหัว เวลาไถจะต้องไถ พุ่งไปข้างหน้าไม่หยุดชะงัก ไถให้ลื่นไหล มือใหม่อย่าตัด เร็ว ขอบด้านบนให้ใช้ข้อมือ เยอะๆ ตวัดๆเอา อยาก ให้ขอบเส้นไปทางใหนก็หัน ฟันปัตตาเลี่ยนไปทางนั้น (อันนี้สำคัญอย่าลืม) 3.เมื่อตัดด้านข้างเสร็จแล้ว มาด้านบนกันบ้าง เอาวิธีจับ ก่อนมือซ้ายจับหวี มือขวา


ห น ้ า | 120 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ จับปัตตาเลี่ยน (ถ้าถนัดซ้าย ก็สลับกัน) -การจับหวี ใช้สามนิ้ว โป้ง ชี้ กลาง สอดหวีเข้าไประหว่าง นิ้วชี้กับนิ้วโป้ง หันซี่หวีไปด้านหน้าของ ตัวเอง แล้วทีนี้จะมีนิ้วโป้ง อยู่ตรงสันหวีกับนิ้วชี้อยู่ตรง ซี่หวีหนีบไว้ นิ้วกลางจะอยู่ ข้างล่างล็อกหวีไว้อยู่(สำคัญ การจับหวีแบบนี้จะทำให้เรา ตัดง่ายที่สุดบังคับทรงได้ง่าย กว่าจับรูปแบบอื่น เพราะ เราจะสามารถทำให้หวีดิ้น ได้ โดยใช้ข้อมือกับ นิ้ว เพราะถ้าจับแบบอื่นจะ ใช้แขนเยอะบังคับยากและ จะเมื่อย -การจับปัตตา เลี่ยน ด้านบนเราจะจับอีก แบบนึงคือ จับแบบจับ ปากกาห้านิ้ว นิ้วโป้งอยู่ ด้านบน นิ้วชี้นิ้วกลางอยู่ ด้านซ้าย นิ้วนางนิ้วก้อยอยู่ ด้านล่างรับน้ำหนักของปัต ตาเลี่ยน 4.ต่อมาการตัดด้านบน ให้


ห น ้ า | 121 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ หันตัวหันหน้าหันมือ วางหวี (ใช้หวีใหญ่)ให้ขนานกับหัว ดูจังหวะ อย่ายกหวีออกจาก หัว ให้แทง สอด ยกเส้นผม ขึ้นมา ส่วนที่อยู่บนหวีจะถูก ตัดออกทั้งหมด อย่ากดปัต ตาเลี่ยน ตัดเป็นแถวๆไปเอา ให้สุดแขน เหลืออีกฝังก็ต้อง อ้อมไปตัดเอา อย่าไปค้ำหัว ตัด เพราะหลักขาที่ยืนไม่ มั่นคง เริ่มจากท้ายหัวก่อน จะฝั่งไหนก็ได้ หวีและปัต ตาเลี่ยนต้องขนานกับหัว อันนี้สำคัญ ย้ำ เวลาตัด ด้านบน ให้ฟันปัตตาเลี่ยนที่ อยู่ฝั่งนิ้วโป้งชิดสันหวี อย่า ให้เกินลงมาเดี๋ยวหัวจะ แหว่ง ฟันปัตตาเลี่ยนฝั่ง นิ้วชี้นิ้วกลางให้เกินซี่หวี ออกไป เวลาตัดสอดหวีเข้า เส้นผมให้เชิดซี่หวีเล็กน้อย จะได้ไม่แหว่งเหมือนกัน 5. ครึ่งหัวแรก จากขวัญมา กลางหัว ให้เอาหวีแนบสนิท ชิดหัว ถึงกลางหัวละ ให้ยก หวีขึ้นเล็กน้อย อย่าให้ชิด หัว เวลาขยับหวีมาตัดแถว


ห น ้ า | 122 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ ใหม่ ให้วางหวีระหว่างรอย ตัดเดิมแนวผมใหม่ที่เราจะ ตัด เพื่อที่จะสร้างรอยให้ กลืนกัน ยิ่งขยับมาหน้าๆให้ ยกหวีลอยแล้วตัดเอา เอา นิ้วก้อยกับนิ้วนางคานหัวไว้ เพื่อรับน้ำหนักจากปัตตา เลี่ยน เพราะทรงนักเรียน ต้องมีผมข้างหน้าด้วย 6.เมื่อแต่งซ้ายขวาเสร็จ แล้ว บนเสร็จแล้วมาแต่ง ขอบ ใช้หวี (หวีเล็ก) จับเหมือนหวีก่อนหน้า ปัต ตาเลี่ยนเก็บขอบ จะได้ สวยงามยิ่งขึ้นไม่เป็นขอบ เป็นกะลา 7.ตัดผมด้านหน้า ใช้กรรไกร ฟันตัด จับโดยใช้นิ้วโป้ง เสียบรูซ้าย นิ้วนางรูขวา ใช้มือที่ถนัด หวีแข็งใช้มือที่ ไม่ถนัดจับแบบเดียวกับ ด้านบน ยกเส้นผมที่จะตัด ขึ้นมา แล้วตัดที่ให้ยกตัด เพราะเวลาผมมันตกลงมา จะไล่กันสวย อย่าใช้ กรรไกรตัดเพราะจะเป็น หน้าม้ากะลาครอบหัว


ห น ้ า | 123 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ เหมือนกันอันนี้สำคัญ จะตัด ตรงไหนให้หวียกขนานกับ หัว หัวโค้งก็โค้งตาม ตรงก็ ตรงตาม ใช้ข้อมือ เยอะๆ ความยาวความสั้น ก็อยู่ที่เราต้องการ 8.ระหว่างการตัด ให้ใช้ แปรงปัดผมเป็นระยะๆ คน ถูกตัดจะได้ไม่คัน ใช้แปรง แข็งปัดหัวไปทางเดียวกันกับ เส้นผม ใช้แปรงอ่อนปัด หน้าปัดตา ปัดส่วนที่เป็น ผิวหนังจะได้ไม่แสบ ใช้พู่ แป้งช่วยปัดจะดีมาก ผมจะ หลุดง่าย 5. การตัดผม รองทรง เพื่อให้ผู้เรียนมี ทักษะในการตัด ผมแบบรองทรง การเรียนรู้และฝึก ทักษะการตัดผม รองทรง - ทักษะที่ใช้ในการ ตัดผมรองทรง วิทยากรบรรยาย สาธิต และฝึกทักษะการตัดผม รองทรง 1. ตัดด้านข้างก่อน โดยให้ดู หางตาเป็นเกณฑ์สำหรับ จอน และหางคิ้วเป็นเกณฑ์ สำหรับปลายผม การตัด ด้านข้าง และใช้หวีรองใหญ่ ด้านซี่ใหญ่ ตัดก่อนเพื่อให้ เห็นแนว ตัดเฉียงองศาอยู่ที่ 45 องศา โดยให้สันหวีแตะ ใบหู 5 ชม.


ห น ้ า | 124 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 2. ใช้หวีรองเล็กด้านซี่ถี่ ตัด จากด้านหน้าย้อนไป ด้านหลัง (มือใหม่อาจใช้กิ๊ฟ แบ่งผม) เมื่อเสร็จแล้วเริ่ม ตัดอีกข้างหนึ่ง ตัดจาก ด้านหน้าย้อนไปด้านหลัง 3.เช็คว่าทั้ง 2 ข้างตัดได้ ระดับเท่ากันไหม (แนว ปลายผมอยู่แนวคิ้ว และ จอนอยู่แนวหางตา) 4. เริ่มตัดช่วงท้ายทอย โดย รองทรงต่ำตัดแนวเดียวกับ ติ่งหู โดยตัดที่ระดับแนวตรง 90 องศาก่อน โดยใช้หวีรอง ใหญ่ด้านซี่ใหญ่ หลังจากนั้น ใช้หวีรองเล็กด้านซี่เล็กแต่ง ท้ายทอยภายหลัง 5. เริ่มตัดด้านข้าง เพื่อเป็น การลบเหลี่ยม โดยให้ตัดขึ้น ไป (การตัดเป็นตัว U ) โดยใช้ หวีรองใหญ่ และใช้หวีรอง เล็ก ในการแต่งเหมือนเดิม 6. ซอยความยาวออก โดย อาจฉีดน้ำพอหมาดๆ แบ่ง ผมโดยช่อแรก อยู่ระหว่าง กลางหางคิ้วซ้ายขวา ความ


ห น ้ า | 125 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ ยาวขึ้นกับลูกค้า แต่ มาตรฐานอยู่ที่หัวคิ้ว (ดึงผม ให้ยาวมาถึงหัวคิ้ว) การตัด จะใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลาง พอ เสร็จก็ปล่อยช่อแรกไป และ ตัดช่อใหม่ถัดไปทางท้าย ทอยโดยใช้ช่อแรกเป็น เกณฑ์ 7. และสำหรับ ช่อที่ 2 ก็ตัด ถัดมาจากช่อ แรก ตัดจาก ส่วนหน้าไปยังส่วนหลัง รวมจำนวนชั่วโมง 5 15 รวมจำนวนชั่วโมงทั้งหลักสูตร 20 สื่อการเรียนรู้ 1. วิทยากรผู้เชี่ยวชาญ 2. ใบความรู้การตัดผม 3. สื่ออิเล็กทรอนิกส์Youtube การวัดและประเมินผล 1. แบบทดสอบเรื่องการตัดผม 2. การประเมินจากการฝึกปฏิบัติ 3. การประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน


ห น ้ า | 126 การจบหลักสูตร 1. มีเวลาเรียนและฝึกปฏิบัติตามหลักสูตรไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 2. มีผลการประเมินผ่านตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 3. มีผลงานผ่านการประเมินการทดสอบที่มีคุณภาพตามหลักเกณฑ์การตัดผมชายเบื้องต้น ลงชื่อ..............................................ผู้เสนอหลักสูตร ( นายณัฐภัทร พุ่มเนียม ) ลงชื่อ............................................ผู้เห็นชอบหลักสูตร ( พ.ต.ท.สราวุธ ศรีธนายุสบดี ) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา ลงชื่อ............................................ผู้อนุมัติหลักสูตร ( นางสาวปรารถนา ชีโพธิ์ ) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอบางระจัน ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการ สกร.อำเภอบางระจัน รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ สกร.อำเภอค่ายบางระจัน


ห น ้ า | 127 แผนการจัดการเรียนรู้ หลักสูตร การตัดผมชายเบื้องต้น จ านวน 20 ชั่วโมง วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ วันที่ ................ 09.00 - 15.00 น. ช่องทางการ ประกอบอาชีพการ ตัดผมชายเบื้องต้น บรรยายและฝึกปฏิบัติ 1. วิทยากรอธิบายความส าคัญในการประกอบอาชีพ การ ตัดผมและให้ผู้เรียนร่วมแสดงความคิดเห็น 2. วิทยากรอธิบายความเป็นไปได้ในการประกอบ อาชีพ การตัดผมและให้ผู้เรียนฝึกวิเคราะห์ ฝึกปฏิบัติ 1. ให้ผู้เรียนศึกษาดูงานจากผู้ประกอบอาชีพร้านตัด ผมที่ประสบความส าเร็จในพื้นที่และ แหล่งเรียนรู้ อื่นๆ น ามา แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน และสรุปเพื่อเป็น ข้อมูลในการ ตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพการตัดผม 2. วิทยากรและผู้เรียนร่วมกันวิเคราะห์ทิศทาง ในการพัฒนาการประกอบอาชีพการตัดผม เรียนวันละ 5 ชม. สื่อประกอบการสอน ใบความรู้ การตัดผม วัสดุที่ใช้ในการเรียน การสอน วัสดุที่ใช้ในการ ตัดผม วิธีการประเมิน 1.การมีส่วนร่วม 2.การสังเกต วันที่..................... 09.00 - 15.00 น. ทักษะการประกอบ อาชีพการตัดผมชาย เบื้องต้น บรรยายและฝึกปฏิบัติ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการตัดผม 1. คุณสมบัติที่ดีของช่าง ตัดผม 1.1 จรรยาบรรณของช่างตัดผม -ช่างตัดผมจรรยาบรรณต่ออาชีพของตัวเองเน้นถึง ความประพฤติโดยเฉพาะของช่างที่มีต่อนายจ้าง ลูกจ้างและเพื่อนร่วมงานจรรยาบรรณที่ดีจะสร้าง ความมั่นใจและเพิ่มพูนลูกค้าให้มากขึ้นหนึ่ง ให้บริการที่สุภาพและเป็นกันเองกับลูกค้า - ปฏิบัติต่อลูกค้าด้วยความซื่อสัตย์และยุติธรรมอย่า แสดงถึงความล าเอียง เรียนวันละ 5 ชม. สื่อประกอบการสอน ใบความรู้ การตัดผม วัสดุที่ใช้ในการเรียน การสอน วัสดุที่ใช้ในการ ตัดผม วิธีการประเมิน 1.การมีส่วนร่วม 2.การสังเกต


ห น ้ า | 128 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ - เป็นคนที่จะท าสุภาพและแสดงความนับถือต่อผู้อื่น - ไม่พูดมากตั้งใจท าหน้าที่ของช่างตัดผมอย่างสุด ความสามารถ - ยึดมั่นให้เกียรติคุณอันดีงามตั้งอยู่ในตัวอย่างความ ประพฤติที่ดี - ชื่อสัตย์ลูกค้า 1.2 อนามัยเกี่ยวกับสุขภาพ การตัดผม ได้ถูกจัดให้เป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อ สุขภาพตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ที่ต้องมีการควบคุม ดูแล และเฝ้าระวังปัญหา ทางด้านสุขอนามัยของทั้งผู้มาใช้บริการ และผู้ ให้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีกิจการประเภทการตัดผม เป็นจ านวนมากทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร เขต เทศบาล และองค์การบริหารส่วนต าบล โดยที่สถาน บริการดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมากจาก ประชาชนในการสรรค์สร้างความงามอย่างครบวงจร ตั้งแต่ ตัดผม แต่งทรงผม เสริมสวย นวดหน้า ขัดตัว ประชาชนส่วนใหญ่ต้องออกไปประกอบอาชีพ นอกบ้านมีการเข้าสังคมกับบุคคลอื่นส่งผลให้มีการ ใส่ใจในเรื่องความสวยงามมากขึ้น ดังนั้นจึงพบว่ามี ประชาชนทุกเพศทุกวัยเข้าไปใช้บริการใน สถาน บริการตัดผม-เสริมสวย ทั้งที่มีสุขภาพดีและเจ็บป่วย ถือเป็นสถานบริการที่ผู้รับบริการและผู้ให้บริการต้อง ใกล้ชิดกัน หากมีบุคคลใดเจ็บป่วยย่อมมีโอกาสที่จะ เกิดการแพร่โรคได้ จึงมีความจ าเป็นอย่างยิ่งที่ ผู้ ให้บริการ คือ ช่างตัดผมเอาใจใส่ในเรื่องความสะอาด ความปลอดภัยความเป็นระเบียบเรียบร้อยตลอดจน


ห น ้ า | 129 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ เครื่องส าอาง วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ต้องมีคุณภาพที่ดี สะอาดถูกสุขลักษณะ ไม่เป็นแหล่ง แพร่กระจายของเชื้อโรค กรมอนามัย กระทรวง สาธารณสุข โดยส านักอนามัยสิ่งแวดล้อม ได้เล็งเห็น ความส าคัญในการด าเนินงานดังกล่าวจึงได้จัดท า เอกสาร "การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมสถานบริการ ตัดผม-เสริมสวยสะอาด ปลอดภัย น่าใช้บริการ" เพื่อ ใช้เป็นแนวทางส าหรับประกอบการในการปรับปรุง พัฒนา และยกระดับมาตรฐานสถานบริการตัดผมให้ มีความสะอาด ปลอดภัย ต่อสุขภาพอนามัยของ ผู้ใช้บริการรวมทั้งผู้ให้บริการ นอกจากนี้ยังเป็นการ คุ้มครองสุขภาพและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มาใช้ บริการทั้งที่เป็นประชาชนคนไทยและนักท่องเที่ยว ต่างชาติ อันจะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของ ประเทศไทยในที่สุด 1.3 อนามัยเกี่ยวกับ บุคลิกภาพ จะต้องมีความรู้ความสามารถทั้งทางทฤษฎี และ ภาคปฏิบัติ ร่าเริงอยู่เสมอ การยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นสิ่ง ส าคัญในการสร้างมิตรไมตรีครั้งแรก การยิ้มย่อม สร้างมิตรให้กับเราและสิ่งส าคัญเป็นสัญลักษณ์ของ มิตรภาพอันดีงาม มันผ่อนคลายความตึงเครียดจะ ชนะความล าบากต้องมีความอดทนเป็นผู้รักษาความ สะอาดทั้งร่างกายและจิตใจ การแต่งกายการ เคลื่อนไหว การวางบุคลิก บ่งบอกถึงความเป็นช่างที่ ดี หรือการเป็นผู้น า ถ้าจะเปรียบเป็นบ้านก็ได้ คนเรา นั้นอยากจะอยู่บ้านที่สวยงามสะอาดใครเห็นก็อยาก มอง อยากเป็นเจ้าของ ถ้าช่างท าผมเป็นคนสะอาด


ห น ้ า | 130 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ แต่งกายให้สวยงามก็จะเป็นที่ต้องตาต้องใจของลูกค้า ก่อให้เกิดความเชื่อถือและศรัทธา 1.4 อุปนิสัยของช่างตัดผม เป็นผู้ที่มีบุคลิกที่ดี พูดจาสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน การพูดจาสุภาพย่อมเป็นจุดสนใจมีความน่าเชื่อถือ และเป็นที่เกรงใจในสังคม การอ่อนน้อมย่อมได้ ประโยชน์มากกว่าบุคคลที่แข็งกระด้าง ช่วยสร้าง เสน่ห์ให้กับตนเอง เป็นคนที่น่าคบน่าเคารพนับถือ น่าไว้วางใจและก่อให้เกิดศรัทธา ช่วยท าให้เป็นที่รู้จัก ในหมู่สังคมช่วยสร้างความส าเร็จในหน้าที่การงาน บุคลิกที่ดีของช่างตัดผมท าอย่างไรลูกค้าจึงจะติดใจ เรา ?สิ่งที่ช่างตัดผมไม่ควรกระท าต่อไปนี้ ไม่ควรพูด โต้ถียงลูกค้า และแซวลูกค้า เพราะท่านจะไม่ สามารถได้รับไมตรีจิตรจากอีกฝ่ายหนึ่งได้เลย ดังนั้น ท่านจงพิจารณาตนเองว่า ท่านต้องการได้รับชัยชนะ ในการโต้แย้ง หรือต้องการไมตรีจิตจากลูกค้า เช่นนั้นท่านอาจจะเสียลูกค้าก็ได้เป็นคนฉลาดหลัก แหลม มีไหวพริบดี รู้จักกาลเทศะเป็นคนดีมีศีลธรรม มีจรรยามารยาทที่ดี ความสุภาพอ่อนน้อม คนไทย เราถือเรื่องความสุภาพอ่อนน้อมเป็นเรื่องส าคัญถึงได้ อบรมสั่งสอนกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ว่า เด็กต้องเคารพ ผู้ใหญ่ ลูกต้องเคารพพ่อแม่ ศิษย์ต้องเคารพครูบา อาจารย์ ถ้าไม่ท าอย่างนี้ คือไม่มีความเคารพนับถือก็ ถูกต าหนิว่าไม่มีมารยาทแต่ถ้ามีความเคารพอยู่ในตัว ก็จะได้รับการยกย่องสรรเสริญว่าเป็นคนดีมีมารยาท ดีงาม ท าให้ใครๆก็อยากเข้าใกล้ เป็นคนประหยัด อดออม


ห น ้ า | 131 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ วันที่..................... 09.00 - 15.00 น. การบริหารจัดการใน การประกอบอาชีพ ธุรกิจตัดผมชาย 1. วิทยากรอธิบายความแตกต่างการเลือกท าเลที่ตั้ง ร้าน การจัด ตกแต่งหน้าร้าน การคิดราคาต้นทุน การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน ประเภทและแหล่งของความ เสี่ยง จิตบริการ การตลาดความแตกต่างระหว่างการ ขายและการให้บริการ 2. ผู้เรียนฝึกปฏิบัติก าหนดรูปแบบในการประกอบ อาชีพ ธุรกิจตัดผมชาย 3. ศึกษาข้อมูลจริงจากการสัมภาษณ์สอบถามจาก สถาน ประกอบการในพื้นที่ เรียนวันละ 5 ชม. สื่อประกอบการสอน ใบความรู้ การตัดผม วัสดุที่ใช้ในการเรียน การสอน วัสดุที่ใช้ในการ ตัดผม วิธีการประเมิน 1.การมีส่วนร่วม 2.การสังเกต วันที่.................... 09.00 - 15.00 น. การตัดผมทรง นักเรียนชาย วิทยากรบรรยาย สาธิตและฝึกทักษะการตัดผม 1.ใช้น ้ามันจักรหยอดปัตตาเลี่ยน คลุมผ้าขนหนูรอบ คอ ตามด้วยใช้กระดาษพันรอบคอและผ้าคลุม ติด กิ๊บ คลุมอย่าให้ผมลงคอได้ ต่อมาก็ปะแป้ง เน้นปะ ไม่ให้ทา ให้ปะรอบหัวที่ผิวหนัง เพราะจะได้ให้ปัตตา เลี่ยนลื่นไหลไม่สะดุด ใช้น ้ามันจักรหยอดปัตตาเลี่ยน และไถด้านล่างก่อน จับปัตตาเลี่ยนแบบจับมือ คน อีกมือนึงประคองหัว เวลาไถท ายังไงก็ได้ให้ ผิวหนังหัวตึงที่สุด เพื่อป้องกันการสะดุดของปัตตา เลี่ยน 2.ไถรอบหัวสามด้านให้เกรียน ด้านข้างซ้าย-ขวา ไถ ให้สูงถึงนวลลูกแก้ว(สามเหลี่ยมศีรษะมุมในทั้งสอง ข้าง) ส่วนด้านหลังไถให้ถึงขวัญหัว ไถให้ขวัญหายกัน ไปเลย ส่วนวิธีการไถ ท ายังไงไม่ให้เป็นขอบกะลา ครอบหัว เวลาไถจะต้องไถพุ่งไปข้างหน้าไม่ หยุดชะงัก ไถให้ลื่นไหล มือใหม่อย่าตัดเร็ว ขอบ เรียนวันละ 5 ชม. สื่อประกอบการสอน ใบความรู้ การตัดผม วัสดุที่ใช้ในการเรียน การสอน ปัตตาเลี่ยน กระปุกแป้ง แป้ง หวีเล็ก,ใหญ่ แชมพู ผ้าขนหนู กระดาษพันคอ


ห น ้ า | 132 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ ด้านบนให้ใช้ข้อมือเยอะๆ ตวัดๆเอา อยากให้ขอบ เส้นไปทางไหนก็หันฟันปัตตาเลี่ยนไปทางนั้น(อันนี้ ส าคัญอย่าลืม) 3.เมื่อตัดด้านข้างเสร็จแล้วมาด้านบนกันบ้าง เอาวิธี จับก่อนมือซ้ายจับหวี มือขวาจับปัตตาเลี่ยน (ถ้าถนัด ซ้ายก็สลับกัน) -การจับหวี ใช้สามนิ้ว โป้ง ชี้ กลาง สอดหวีเข้าไป ระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วโป้งหันซี่หวีไปด้านหน้าของตัวเอง แล้วทีนี้จะมีนิ้วโป้งอยู่ตรงสันหวีกับนิ้วชี้อยู่ตรงซี่หวี หนีบไว้ นิ้วกลางจะอยู่ข้างล่างล็อกหวีไว้อยู่(ส าคัญ การจับหวีแบบนี้จะท าให้เราตัดง่ายที่สุดบังคับทรงได้ ง่ายกว่าจับรูปแบบอื่น เพราะเราจะสามารถท าให้หวี ดิ้นได้ โดยใช้ข้อมือกับนิ้ว เพราะถ้าจับแบบอื่นจะใช้ แขนเยอะบังคับยากและจะเมื่อย -การจับปัตตาเลี่ยน ด้านบนเราจะจับอีกแบบนึงคือ จับแบบจับปากกาห้านิ้ว นิ้วโป้งอยู่ด้านบน นิ้วชี้ นิ้วกลางอยู่ด้านซ้าย นิ้วนางนิ้วก้อยอยู่ด้านล่างรับ น ้าหนักของปัตตาเลี่ยน 4.ต่อมาการตัดด้านบน ให้หันตัวหันหน้าหันมือ วาง หวี(ใช้หวีใหญ่)ให้ขนานกับหัว ดูจังหวะ อย่ายกหวี ออกจากหัว ให้แทง สอด ยกเส้นผมขึ้นมา ส่วนที่อยู่ บนหวีจะถูกตัดออกทั้งหมด อย่ากดปัตตาเลี่ยน ตัด เป็นแถวๆไปเอาให้สุดแขน เหลืออีกฝังก็ต้องอ้อมไป ตัดเอา อย่าไปค ้าหัวตัด เพราะหลักขาที่ยืนไม่มั่นคง เริ่มจากท้ายหัวก่อนจะฝั่งไหนก็ได้ หวีและปัตตา เลี่ยนต้องขนานกับหัว อันนี้ส าคัญ ย ้า เวลาตัด ด้านบน ให้ฟันปัตตาเลี่ยนที่อยู่ฝั่งนิ้วโป้งชิดสันหวี น ้ามันจักร วิธีการประเมิน 1.การมีส่วนร่วม 2.การสังเกต


ห น ้ า | 133 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ ช อย่าให้เกินลงมาเดี๋ยวหัวจะแหว่ง ฟันปัตตาเลี่ยนฝั่ง นิ้วชี้นิ้วกลางให้เกินซี่หวีออกไป เวลาตัดสอดหวีเข้า เส้นผมให้เชิดซี่หวีเล็กน้อย จะได้ไม่แหว่งเหมือนกัน 5. ครึ่งหัวแรก จากขวัญมากลางหัว ให้เอาหวีแนบ สนิทชิดหัว ถึงกลางหัวละ ให้ยกหวีขึ้นเล็กน้อย อย่า ให้ชิดหัว เวลาขยับหวีมาตัดแถวใหม่ ให้วางหวี ระหว่างรอยตัดเดิมแนวผมใหม่ที่เราจะตัด เพื่อที่จะ สร้างรอยให้กลืนกัน ยิ่งขยับมาหน้าๆให้ยกหวีลอย แล้วตัดเอา เอานิ้วก้อยกับนิ้วนางคานหัวไว้เพื่อรับ น ้าหนักจากปัตตาเลี่ยน เพราะทรงนักเรียนต้องมีผม ข้างหน้าด้วย 6.เมื่อแต่งซ้ายขวาเสร็จแล้ว บนเสร็จแล้วมาแต่ง ขอบ ใช้หวี(หวีเล็ก)จับเหมือนหวีก่อนหน้า ปัตตา เลี่ยนเก็บขอบ จะได้สวยงามยิ่งขึ้นไม่เป็นขอบเป็น กะลา 7.ตัดผมด้านหน้า ใช้กรรไกรฟันตัด จับโดยใช้นิ้วโป้ง เสียบรูซ้าย นิ้วนางรูขวา ใช้มือที่ถนัด หวีแข็งใช้มือ ที่ไม่ถนัดจับแบบเดียวกับด้านบน ยกเส้นผมที่จะตัด ขึ้นมา แล้วตัดที่ให้ยกตัดเพราะเวลาผมมันตกลงมา จะไล่กันสวย อย่าใช้กรรไกรแง้บๆตัดเพราะจะเป็น หน้าม้ากะลาครอบหัวเหมือนกันอันนี้ส าคัญ จะตัด ตรงไหนให้หวียกขนานกับหัว หัวโค้งก็โค้งตาม ตรงก็ ตรงตาม ใช้ข้อมือเยอะๆ ความยาวความสั้นก็อยู่ที่ เราต้องการ 8.ระหว่างการตัด ให้ใช้แปรงปัดผมเป็นระยะๆ คน ถูกตัดจะได้ไม่คัน ใช้แปรงแข็งปัดหัวไปทางเดียวกัน กับเส้นผม ใช้แปรงอ่อนปัดหน้าปัดตา ปัดส่วนที่เป็น


ห น ้ า | 134 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ ผิวหนังจะได้ไม่แสบ ใช้พู่แป้งช่วยปัดจะดีมาก ผมจะ หลุดง่าย ใช้มีดโกนกันขอบจอนและท้ายทอย เมื่อตัด เสร็จแล้วสระผมให้เศษผมออก ใช้ผ้าขนหนูเช็ดผม และเป่าผมให้แห้ง วันที่.................. 09.00 - 15.00 น. การตัดผมรองทรง 1. ตัดด้านข้างก่อน โดยให้ดูหางตาเป็นเกณฑ์ส าหรับ จอน และหางคิ้วเป็นเกณฑ์ส าหรับปลายผม การตัด ด้านข้าง และใช้หวีรองใหญ่ด้านซี่ใหญ่ ตัดก่อน เพื่อให้เห็นแนว ตัดเฉียงองศาอยู่ที่ 45 องศา โดยให้ สันหวีแตะใบหู 2. ใช้หวีรองเล็กด้านซี่ถี่ ตัดจากด้านหน้าย้อนไป ด้านหลัง (มือใหม่อาจใช้กิ๊ฟแบ่งผม) เมื่อเสร็จแล้ว เริ่มตัดอีกข้างหนึ่ง ตัดจากด้านหน้าย้อนไปด้านหลัง 3.เช็คว่าทั้ง 2 ข้างตัดได้ระดับเท่ากันไหม (แนวปลาย ผมอยู่แนวคิ้ว และจอร์นอยู่แนวหางตา) 4. เริ่มตัดช่วงท้ายทอย โดยรองทรงต ่าตัดแนว เดียวกับติ่งหู โดยตัดที่ระดับแนวตรง 90 องศาก่อน โดยใช้หวีรองใหญ่ด้านซี่ใหญ่ หลังจากนั้นใช้หวีรอง เล็กด้านซี่เล็กแต่งท้ายทอยภายหลัง 5. เริ่มตัดด้านข้าง เพื่อเป็นการลบเหลี่ยม โดยให้ตัด ขึ้นไป (การตัดเป็นตัว U ) โดยใช้หวีรองใหญ่ และ ใช้หวีรองเล็ก ในการแต่งเหมือนเดิม 6. ซอยความยาวออก โดยอาจฉีดน ้าพอหมาดๆ แบ่ง ผมโดยช่อแรก อยู่ระหว่างกลางหางคิ้วซ้าย ขวา ความยาวขึ้นกับลูกค้า แต่มาตรฐานอยู่ที่หัวคิ้ว (ดึงผมให้ยาวมาถึงหัวคิ้ว) การตัดจะใช้นิ้วชี้กับ เรียนวันละ 5 ชม. สื่อประกอบการสอน ใบความรู้ การตัดผม วัสดุที่ใช้ในการเรียน การสอน -ปัตตาเลี่ยน -กระปุกแป้ง -แป้ง -หวีเล็ก,ใหญ่ -แชมพู -ผ้าขนหนู -กระดาษพันคอ -น ้ามันจักร วิธีการประเมิน 1.การมีส่วนร่วม 2.การสังเกต


ห น ้ า | 135 วัน เดือน ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ นิ้วกลาง พอเสร็จก็ปล่อยช่อแรกไป และตัดช่อใหม่ ถัดไปทางท้ายทอยโดยใช้ช่อแรกเป็นเกณฑ์ 7. และส าหรับ ช่อที่ 2 ก็ตัดถัดมาจากช่อ แรก ตัด จากส่วนหน้าไปยังส่วนหลังใช้มีดโกนกันขอบจอน และท้ายทอย เมื่อตัดเสร็จแล้วสระผมให้เศษผมออก ใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมและเป่าผมให้แห้ง ลงชื่อ.................................................วิทยากร (............................................)


ห น ้ า | 136 หลักสูตร การท ายาหม่องสมุนไพร จ านวน 20 ชั่วโมง ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อ าเภอค่ายบางระจัน 1. หลักสูตร การท ายาหม่องสมุนไพร 2. ความเป็นมา ด้วยกระทรวงศึกษาธิการมุ่งมั่นด าเนินการภารกิจหลักตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพขับเคลื่อนทุกแผนย่อยในประเด็น 12 การพัฒนาการเรียนรู้ และแผนย่อยที่ 3 ในประเด็น 11 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต รวมทั้งแผนการปฏิรูปประเทศด้าน การศึกษา (ฉบับปรับปรุง) และนโยบายรัฐบาลทั้งในส่วนนโยบายหลักด้านการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ และการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย และนโยบายเร่งด่วน เรื่อง การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 และพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย กรมส ่งเสริมการเรียนรู้ มีบทบาทหน้าที ่จัดการศึกษาเพื ่อพัฒนาทักษะอาชีพและเพิ ่มขีด ความสามารถในการแข่งขันพัฒนาสมรรถนะอาชีพที่สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจ โดยการ Re-skill Up-skill และ New skill เพื่อให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น พร้อมทั้งสร้างช่องทางอาชีพ ในรูปแบบหลากหลายให้ครอบคลุมผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งผู้สูงอายุ โดยมีการบูรณาการความ ร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมและสร้างทักษะอาชีพให้แก่ประชาชน ศูนย์การเรียนรู้ต าบลหนองกระทุ่ม ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อ าเภอค่ายบางระจัน จึงเล็งเห็นถึงการ ส่งเสริมความรู้และสร้างทักษะอาชีพให้แก่ประชาชนในพื้นที่อ าเภอค่ายบางระจัน จึงจัดท าหลักสูตร การท า ยาหม่องสมุนไพร เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้อาชีพ การท ายาหม่องสมุนไพร สามารถสร้างรายได้ภาค ครัวเรือน และเป็นการสร้างเอกลักษณ์ให้แก่คนในชุมชนได้ พร้อมเป็นการสร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้กับคนใน ชุมชน 3. จุดมุ่งหมาย 1. มีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง มั่งคั่ง 2. ตัดสินใจประกอบอาชีพให้สอดคล้องกับศักยภาพของตนเอง ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่าง มีคุณธรรม จริยธรรม 3. มีเจตคติที่ดีในการประกอบอาชีพ 4. มีความรู้ความเข้าใจและฝึกทักษะการบริหารจัดการในอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5. มีการประกอบอาชีพเพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาอาชีพของตนเอง


ห น ้ า | 137 4. เป้าหมาย เชิงคุณภาพ ประชาชนทั่วไปมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการท ายาหม่องสมุนไพร สูตรต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ แก่ตนเองและครอบครัว เชิงปริมาณ ประชาชนทั่วไป จ านวน 7 คน 5. ระยะเวลา ระยะเวลาเรียนตลอดหลักสูตร จ านวน 20 ชั่วโมง ภาคทฤษฎี จ านวน 3 ชั่วโมง ภาคปฏิบัติ จ านวน 17 ชั่วโมง 6. โครงสร้างหลักสูตร ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการ เรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 1. ช่องทางการ ประกอบ อาชีพการทำ ยาหม่อง สมุนไพร และทักษะ การทำยา หม่อง สมุนไพร 1. บอกและ อธิบาย ความสำคัญใน การ ทำยาหม่อง สมุนไพร 2. วิเคราะห์ความ เป็นไปได้ในการ ประกอบอาชีพ การทำยาหม่อง สมุนไพร 3. บอกและหา แหล่ง เรียนรู้ 4. บอกทิศทางใน การ พัฒนาการ พื้นฐานเกี่ยวกับการ ประกอบอาชีพ 1. ความสำคัญในการ ทำยาหม่องสมุนไพร 2. ความเป็นไปได้ใน การทำยาหม่องสมุนไพร 3. แหล่งเรียนรู้ภูมิ ปัญญาและแหล่ง สมุนไพรในชุมชน 4. ทิศทาง ในการพัฒนา การประกอบอาชีพการ ทำยาหม่อง 1.วิทยากรบรรยาย เรื่องพื้นฐาน เกี่ยวกับการ ประกอบอาชีพ 1. ให้ผู้เรียนศึกษา เรียนรู้จากภูมิ ปัญญาชาวบ้านใน ชุมชน การทำยา หม่องสมุนไพรที่ ประสบความสำเร็จ ในพื้นที่และ แหล่ง เรียนรู้อื่นๆ นำมา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ 30 นาที


ห น ้ า | 138 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการ เรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ ประกอบ อาชีพ การตัดผมได้ ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับการทำยา หม่องสมุนไพร 1. กระบวนการคิดการ จัดทำยาหม่องสมุนไพร 1.1 การทำยาหม่อง สมุนไพร ได้พัฒนา รูปแบบการจัดการ เรียนรู้สู่กระบวนการคิด อย่างมีเหตุผล ใช้ กระบวนการเรียนรู้แบบ ร่วมมือ และเน้น การศึกษาค้นคว้าและลง มือปฏิบัติงานด้วย ตนเอง พัฒนาผู้เรียนให้ มีคุณธรรม และมีเจตคติ ที่ดีต่อ อาชีพที่ สอดคล้องกับบริบทของ ชุมชนและทันต่อการ เปลี่ยนแปลงของสังคม โลกในยุคปัจจุบันและ มุ่งพัฒนาองค์ความรู้ การทำผลิตภัณฑ์จาก พืชสมุนไพรที่มีอยู่ใน ชุมชนและพัฒนาผู้เรียน ให้มีทักษะสำคัญใน ศตวรรษที่ 21 มีความรู้ กัน และสรุปเพื่อ เป็นข้อมูล 2. วิทยากรและ ผู้เรียนร่วมกัน วิเคราะห์ทิศทาง ในการพัฒนาการ ประกอบอาชีพการ ทำยาหม่องสมุนไพร


ห น ้ า | 139 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการ เรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ ความสามารถ สร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อทำผลิตภัณฑ์จาก พืชสมุนไพรที่มีอยู่ใน ชุมชน - กำหนดผลการเรียนรู้ และสาระเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์จากพืช สมุนไพร อันเป็นภูมิ ปัญญาความรู้ในการ เรียนการทำผลิตภัณฑ์ จากพืชสมุนไพรใน รูปแบบต่างๆ ปฏิบัติการทำผลิตภัณฑ์ จาก พืชผัก ผลไม้ต่างๆ ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรตาม ฤดูกาลของท้องถิ่นตาม กรรมวิธีต่างๆ การ เตรียมวัสดุอุปกรณ์ การ จด บันทึกการ ปฏิบัติงานการ ประเมินผล เรียนรู้และ ฝึกปฏิบัติผลิตภัณฑ์ สมุนไพรและ ประเมินผล ทำให้ ผู้เรียนได้เรียนรู้ สรรพคุณของพืช


ห น ้ า | 140 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการ เรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ สมุนไพรที่มีในท้องถิ่น ในการนำมาใช้ในการทำ ยาหม่อง เป็นการ ส่งเสริมให้ผู้เรียน รักถิ่น ฐาน ภูมิใจในภูมิปัญญา ของตน องค์ประกอบในการทำ ยาหม่อง มี3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 น้ำมันสมุนไพร ทำให้ยาหม่องสมุนไพร เพิ่มคุณค่ามากขึ้น ตาม สรรพคุณของสมุนไพร แต่ละชนิดที่นำมาสกัด เป็นน้ำมัน สมุนไพร และนำมาเป็นส่วนผสม ของยาหม่องสมุนไพรที่ สามารถใช้ประโยชน์ได้ 1. น้ำมันระกำ (methyl salicylate) มี ลักษณะเป็นของเหลว คุณสมบัติร้อนช่วย คลายกล้ามเนื้อแก้ อาการ ปวดเมื่อย ฟกช้ำ 2. น้ำมันยูคาลิปตัส มี ลักษณะเป็นของเหลวใส มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มี สรรพคุณช่วยบรรเทา


ห น ้ า | 141 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการ เรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ อาการ หวัด คัดจมูก รักษาอาการเจ็บปวด กล้ามเนื้อ 3. น้ำมันไพล สรรพคุณ และประโยชน์ น้ำมัน หอมระเหยในเหง้าพบ สารที่สามารถทำให้ กล้ามเนื้อ หลอดลมของ สัตว์คลายตัวได้คลาย กล้ามเนื้อ ลดอาการ ปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก ส่วนที่ 2 ทำให้ยาหม่อง สมุนไพรมีคุณค่าเพิ่มขึ้น 1. พิมเสนน้ำ มีกลิ่น หอม ใช้สูด ช่วยทำให้ สดชื่นสมองโปร่งสบาย ผ่อนคลายความเครียด แก้วิงเวียน แก้ปวด ศีรษะ อ่อนเพลีย เฉื่อย ชา บำรุงหัวใจ แก้ปวด ตามตัว แก้หวัดคัดจมูก แก้ไอแก้เมารถ เมาเรือ ฆ่าเชื้อ โรค 2. เมนทอล (menthol) มีลักษณะเป็นผลึกรูป เข็มใส


ห น ้ า | 142 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการ เรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ มีคุณสมบัติลดอาการ เมื่อย ทำให้เย็น ช่วย บรรเทาอาการหวัด และวิงเวียนศีรษะ 3. การบูร มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว ใส มีกลิ่นหอม ร้อน บรรเทาความเจ็บ มี คุณสมบัติบำรุงธาตุ ขับ เสมหะ แก้จุกเสียด แน่นเฟ้อ ช่วยแก้พิษ แมลงสัตว์กัดต่อย และ บรรเทาอาการหวัดคัด จมูก ส่วนที่ 3 ยาหม่อง 1. พาราฟินช่วยทำให้ เนื้อยาหม่องแข็งเป็น ขี้ผึ้งขึ้นรูป 2. วาสลีน ทำให้ ยาหม่อง นิ่มไม่ แข็งมาก 3. บีแวกซ์ช่วยให้เนื้อยา หม่องแข็ง มันวาว 4. ลาโนลีน ช่วยให้เนื้อ ยาหม่องแข็ง


ห น ้ า | 143 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการ เรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 2. การทำยา หม่อง สมุนไพร (สูตรไพล) ชนิดแข็ง ผู้เรียนมีความรู้ ความ เข้าใจ อธิบายหลักการ และวิธีการทำยา หม่องสมุนไพร สูตรไพล ได้อย่าง ถูกต้อง 1. นำเอาพาราฟิน วา สลีน ตั้งไฟอุ่นแค่พอให้ ละลายคนให้เข้ากันแล้ว ยกลงจากเตา 2. เติมเมนทอลลงไปคน ให้เข้ากัน 3. เติมส่วนผสมทีเหลือ ทั้งหมดลงไป คนให้เข้า กัน 4.หลังจากนั้นนำไปใส่ ภาชนะขวดแก้วหรือ ตลับที่เป็นโลหะ วางให้ เย็นแล้วจึงปิดภาชนะ 5. ไม่ควรใช้ขวด พลาสติกในการบรรจุ เพราะความร้อนจากตัว ยา จะหลอมสารใน พลาสติกออกมา 6.สรรพคุณ ใช้ทาลดอาการอักเสบ แก้เคล็ดขัดยอก และแก้ ปวดเมื่อย วิทยากรบรรยาย เรื่องพื้นฐาน เกี่ยวกับการ ประกอบอาชีพ 1. การบรรยาย 2. การสาธิต ทดลอง 3. การฝึกปฏิบัติจริง 4. ศึกษาจาก เอกสารสิ่งพิมพ์/ใบ ความรู้/ สื่อออนไลน์ ต่างๆ 30 นาที 4 ชั่วโมง 3. ยาหม่อง (สูตรน้ำมัน สมุนไพร) 1. สามารถบริหาร จัดการในการ ประกอบอาชีพ การทำยาหม่องได้ วิธีทำ 1. นำวาสลีน พาราฟิน มาหลอมเข้าด้วยกัน ใช้ ไฟอ่อนๆ กวนจนเป็น เนื้อเดียวกัน วิทยากรบรรยาย เรื่องพื้นฐาน เกี่ยวกับการ ประกอบอาชีพ 1. การบรรยาย 30 นาที 4 ชม. 30 นาที


ห น ้ า | 144 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการ เรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 2. สามารถ กำหนด รูปแบบ ในการประกอบ ทำยาหม่องได้ 2. นำเมนทอล พิมเสน การบูร น้ำมันยูคาลิปตัส น้ำมันระกำ น้ำมัน กานพลู น้ำมันอบเชย น้ำมัน สะระแหน่ ผสม ลงไปกวนให้เข้ากัน 3. นำน้ำสกัดสมุนไพร ผสมลงไปกวนให้เข้ากัน ยกลงจากเตา บรรจุใส่ ขวดที่มีความร้อน พอเหมาะ 2. การสาธิต ทดลอง 3. การฝึกปฏิบัติจริง 4. ศึกษาจาก เอกสารสิ่งพิมพ์/ใบ ความรู้/ สื่อออนไลน์ ต่างๆ 4. ยาหม่อง (สูตรขมิ้น ตะไคร้หอม) 1. สามารถบริหาร จัดการในการ ประกอบอาชีพ การทำยาหม่องได้ 2. สามารถ กำหนด รูปแบบ ในการประกอบ ทำยาหม่องได้ วิธีทำ 1.นำพิมเสน เมนทอล เกล็ด การบูร และ น้ำมันระกำตะไคร้หอม ขมิ้น ผสมรวมกัน คนให้ ละลายเป็นน้ำเนื้อ เดียวกัน พักไว้ก่อน 2.นำหม้อแสตน เลส ใส่ วาสลินและพาราฟีนลง ไป และวางหม้อ วาสลินลงในหม้ออีกใบ ที่ใหญ่กว่า ทำการตุ๋น ด้วยความร้อนจากหม้อ ใบใหญ่ที่ใส่น้ำ ใช้ไฟ กลาง ๆ กวนให้เข้ากัน ห้ามใช้ความร้อนที่สูง วิทยากรบรรยาย เรื่องพื้นฐาน เกี่ยวกับการ ประกอบอาชีพ 1. การบรรยาย 2. การสาธิต ทดลอง 3. การฝึกปฏิบัติจริง 4. ศึกษาจาก เอกสารสิ่งพิมพ์/ใบ ความรู้/ สื่อออนไลน์ ต่างๆ 1ชม. 4ชม.


ห น ้ า | 145 ที่ เรื่อง จุดประสงค์การ เรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการ เรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ เกินไป จะทำให้กลิ่น ระเหยหมด และอาจทำ ให้เกิดไฟลุกไหม้ได้ 3. จากวาสลินและพารา ฟีนละลายหมดแล้ว นำ ส่วนผสมที่ 1 มาผสม รวมกัน คนให้ละลายจน เป็นเนื้อ เดียวกัน 4. นำส่วนผสมที่ได้ บรรจุขณะเป็นน้ำ ใส่ ขวดที่เตรียมไว้ ทิ้งไว้ให้ เย็นก่อนปิดฝา พร้อมใช้ หรือจำหน่าย 5. ยาหม่อง สมุนไพร (สูตรไพลสด อินทรีย์) เพื่อให้ผู้เรียนมี ทักษะในการทำ ยาหม่องสมุนไพร สูตรไพลสด อินทรีย์ การเรียนรู้และฝึก ทักษะการทำยาหม่อง สูตรไพลสดอินทรีย์ วิธีทำ 1. นำไพลสดใส่หม้อตุ๋น เติมน้ำมันคาร์เนชั่น ตุ๋น นาน 3 ชั่วโมง เพื่อสกัด น้ำมันไพลออกมา 2. ทำให้ส่วนผสมของ พิมเสน การบูร เมนทอล และน้ำมัน ระกำ กรองตั้งไว้ เมื่อ ตุ๋นไพลได้ที่แล้วให้ นำมา กรองเอาน้ำมัน วิทยากรบรรยาย เรื่องพื้นฐาน เกี่ยวกับการ ประกอบอาชีพ 1. การบรรยาย 2. การสาธิต ทดลอง 3. การฝึกปฏิบัติจริง 4. ศึกษาจาก เอกสารสิ่งพิมพ์/ใบ ความรู้/ สื่อออนไลน์ ต่างๆ 30นาที 4 ชม. 30นาที


Click to View FlipBook Version