มหาวิยาลัยราชภัฏอุดรธานี
แผนการ
จัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค23101
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
เรื่อง กราฟของฟังก์ชันกำลังสอง
จั ด ทำ โ ด ย โ ร ง เ รี ย น
นายวิษณุวัตร สุทธิดี โรงเรียนน้ำโสมพิ ทยาคม
รหัสนักศึกกษา 62040140217
สาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
แผนการจัดการเรียนรู้
วชิ าคณิตศาสตร์พนื้ ฐาน 5 (ค23101)
กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 กราฟของฟังก์ชนั กำลังสอง
นายวษิ ณุวัตร สุทธิดี
รหัสนกั ศกึ ษา 62040140217
สาขาวชิ าคณติ ศาสตร์
ปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 1
ED16401 (INTERNSHIP IN SCHOOL 1)
คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั อุดรธานี
ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565
คำนำ
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศใช้ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551
เพื่อให้สถานศึกษานำไปใช้เป็นกรอบทิศทางในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาวางแผนการจัดการเรียน การสอน
และจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพฒั นาผู้เรียนใหม้ ีความรู้ความสามารถ และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงคต์ ามเปา้ หมาย
ของหลักสูตร ตลอดจนให้เกิดผลสำเร็จตามเจตนารมณ์ของการปฏิรูปการศึกษา ดังนั้น ขั้นตอนการนำหลักสูตร
สถานศึกษาไปปฏิบตั ิจริงในชั้นเรยี นของครผู ู้สอน จึงจัดเปน็ หวั ใจสำคญั ในการพฒั นาผู้เรยี น
ครผู สู้ อนจงึ ได้จดั ทำ แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ ื้นฐาน ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ขึ้นเพ่ือเป็น
แนวทางวางแผนจัดการเรียนรู้แก่ผู้เรียน โดยจัดทำเป็นหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐานและออกแบบกิจกรรมการ
เรียนรู้ตามแนวคิดการออกแบบ ตลอดจนเน้นกิจกรรมแบบ Active Learning อันจะช่วยให้ผู้ปกครองและ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประเมินคุณภาพการศึกษา สามารถมั่นใจในผลการเรียนรู้และคุณภาพของผู้เรียนที่มี
หลกั ฐานตรวจสอบผลการเรียนรอู้ ย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้ผู้สอนต้องขอขอบคุณนายพิทักษ์ ตุ้มมี ผู้อำนวยการโรงเรียนน้ำโสมพิทยาคมที่คอยอำนวยการ
ในการจัดการเรยี นการสอน และตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรกู้ อ่ นนำไปใช้จรงิ
ขอบคุณนายภราดร คัณทักษ์ หัวหน้ากลุ่มบริการวิชาการ ที่คอยอำนวยการนิเทศการสอนในการ
จัดการเรยี นการสอน และตรวจสอบแผนการจดั การเรียนรู้กอ่ นนำไปใชจ้ รงิ
ขอบคุณนางสาวรุ่งนภา ผาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และนางนภัสสร ตันนารัตน์
ครพู เี่ ลี้ยง ที่คอยให้คำปรกึ ษา กำกับดูแล และตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรกู้ อ่ นนำไปใช้
หากผูส้ อนผิดพลาดประการใดตอ้ งขออภัยมา ณ ท่นี ี้ด้วย
( นายวิษณุวตั ร สทุ ธิดี )
นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครู
สาขาวิชาคณติ ศาสตร์ คณะครศุ าสตร์
มหาวิทยาลยั ราชภฏั อดุ รธานี
โครงสร้างเวลาเรยี นและสัดสว่ นคะแนน
ค 23101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ (พ้นื ฐาน) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3
ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต เวลา 62 ช่วั โมง
ลำดบั ที่ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ เวลา(ชัว่ โมง) คะแนนเก็บ
1 ปฐมนเิ ทศ 15 10
อสมการเชิงเส้นตวั แปรเดยี ว
2 15 10
3 − แนะนำอสมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดียว
4 − คำตอบของอสมการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดียว 20 10
− การแก้อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว 10 10
− โจทย์ปัญหาเก่ยี วกับอสมการเชิงเส้นตวั แปรเดยี ว
สมการกำลงั สองตัวแปรเดียว 20
− แนะนำสมการกำลังสองตัวแปรเดยี ว 30
− การแกส้ มการกำลังสองตวั แปรเดยี ว 100
− โจทยป์ ญั หาเก่ยี วกับสมการกำลังสองตวั แปรเดียว
กราฟสมการกำลงั สองตัวแปรเดียว
− แนะนำฟงั ก์ชัน
− กราฟของฟังกช์ ันกำลังสอง
สถติ ิ
− ทบทวนความร้ทู างสถิติ
− แผนภาพกล่อง
− การอา่ นและแปลความหมายจากแผนภาพกล่อง
สอบกลางภาค
สอบปลายภาค
รวม
แผนการจัดการเรยี นรู้
รายวิชาคณิตศาสตร์พนื้ ฐาน 5 รหสั วชิ า ค23101 กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์
ปีการศึกษา 2565
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1
เวลา 1 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 กราฟของฟังก์ชันกำลงั สอง
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 31 เรือ่ ง สอบกอ่ นเรยี น
ครผู ูส้ อน นายวษิ ณุวัตร สุทธดิ ี
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสมั พนั ธ์ ฟังกช์ นั ลาํ ดบั และอนกุ รม และนาํ ไปใช้
2. ตวั ช้ีวัด
ค 1.2 ม.3/2 เข้าใจและใชค้ วามรูเ้ กีย่ วกบั ฟังกช์ นั กําลังสองในการแกป้ ัญหาคณติ ศาสตร์
3. สาระสำคญั
การทดสอบก่อนเรียน เปน็ การตรวจสอบความรพู้ น้ื ฐานของนกั เรียนก่อนท่ีจะเริม่ เรียน
เรือ่ ง สมการกำลงั สองตัวแปรเดียว วา่ นักเรียนมีความรู้พนื้ ฐานมากน้อยเพียงใด
4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
4.1 ดา้ นความรู้ (K)
1) อธบิ ายความหมายของฟังกช์ ันได้ถกู ต้องอยา่ งน้อยร้อยละ 70
2) คำนวณหาค่าของฟงั ก์ชนั f ท่ี x หรือ f (x) เมื่อกำหนดค่า x มาให้ได้ถกู ตอ้ งอย่างน้อยรอ้ ยละ 70
3) อธบิ ายลักษณะของพาราโบลาจากสมการไดถ้ ูกต้องอย่างน้อยร้อยละ 70
4) เขียนกราฟของสมการของพาราโบลาได้ถูกต้องอย่างนอ้ ยร้อยละ 70
4.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
1) การแก้ปญั หา
2) การใหเ้ หตผุ ล
3) การสื่อสาร การสื่อความหมาย และการนำเสนอ
4) การเชอื่ มโยง
5) ความคิดรเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์
4.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ(A)
1) ทำงานอยา่ งเปน็ ระบบ
2) มรี ะเบียบวนิ ยั
3) มคี วามรอบคอบ
4) มีความรับผดิ ชอบ
5) มคี วามเชอื่ มัน่ ในตนเอง
6) ช่วยเหลือซงึ่ กันและกัน
7) ตระหนักในคุณค่าและมีเจตคตทิ ่ดี ตี ่อวชิ าคณิตศาสตร์
5. สาระการเรยี นรู้
กราฟของฟงั กช์ นั กำลังสอง
6. กระบวนการเรยี นรู้
ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรียน
1. ครคู รูทักทายนกั เรยี นและแจ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้วา่ วนั นี้คือการทดสอบก่อนเรยี นเรอ่ื งกราฟของ
ฟงั กช์ นั กำลงั สอง
ข้ันสอน
-
ขัน้ สรุปและฝกึ ทักษะ
-
ขั้นการวดั และประเมินผล
1. ให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี นเรอ่ื งกราฟของฟงั กช์ นั กำลังสอง
7. ส่ือและแหลง่ เรียนรู้
1. หนงั สอื เรียนรายวชิ าพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 ของ สสวท.
2. แบบทดสอบก่อนเรยี นเรื่องกราฟของฟังก์ชนั กำลงั สอง
8. การวดั ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เครือ่ งมอื /วิธีการ เกณฑก์ ารวัด
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. แบบทดสอบ
ด้านความรู้ (K)
1) อธิบายเก่ยี วกบั การแก้สมการกำลังสองตวั 1. แบบทดสอบก่อน ก่อนเรยี นเรื่อง
เรียนเรอื่ งสมการกำลังสอง สมการกำลังสองตวั
แปรเดียวโดยทำเป็นกำลังสองสมบูรณไ์ ด้ถูกต้อง ตัวแปรเดียว
อยา่ งน้อยร้อยละ70 แปรเดียว
ถูกต้องอย่างนอ้ ย
2) เขียนแสดงการแก้สมการกำลังสองตวั แปร
เดยี วโดยทำเป็นกำลงั สองสมบูรณไ์ ดถ้ ูกต้อง ร้อยละ 30
อย่างน้อยร้อยละ 70
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1. แบบทดสอบ
1) การแก้ปญั หา
2) การให้เหตุผล 1. แบบทดสอบก่อน กอ่ นเรยี นเร่ือง
3) การสอ่ื สาร การสอ่ื ความหมาย เรียนเร่ืองสมการกำลงั สอง สมการกำลงั สองตวั
และการนำเสนอ ตัวแปรเดยี ว
4) การเช่ือมโยง แปรเดียว
5) ความคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์ ถูกต้องอย่างนอ้ ย
ด้านคณุ ลกั ษณะ(A) รอ้ ยละ 30
แสดงพฤตกิ รรมการมีความรับผดิ ชอบ
แสดงพฤติกรรมใฝเ่ รียนรู้ แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์คุณภาพ
แสดงพฤติกรรมมคี วามม่งุ มั่นในการทำงาน ประจำหน่วยการเรยี นรู้ ในระดบั ดีข้นึ ไป
9. กิจกรรมเสนอแนะ
-
แบบสังเกตพฤตกิ รรมทางการเรยี นการสอน
เลขที่ ช่ือ-สกลุ ของ ทำงาน ความ ความ ความ การให้ รวม
ผู้รบั การประเมิน อยา่ งเป็น รอบคอบ ตง้ั ใจเรยี น รบั ผิดชอบ ความ
ระบบ รว่ มมอื
4 4 4 4 4 20
เกณฑ์การให้คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตเิ ป็นประจำ ให้ 4 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏิบัตบิ างครงั้ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตนิ ้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
18-20 ดมี าก
13-17 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรับปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ัติกิจกรรมกลุ่ม
กลุม่ ท(่ี ชือ่ กลมุ่ )........................................................................................................................................
สมาชิกในกลุม่ 1.......................................................................
2.......................................................................
3........................................................................
4........................................................................
5.......................................................................
6.......................................................................
คำชแี้ จง ให้ทำเครอื่ งหมาย ในช่องที่ตรงกับความเปน็ จริง
พฤติกรรมที่สังเกต คะแนน 1
43 2
1. การมสี ว่ นร่วมในการวางแผน
2. การปฏบิ ตั ิงานตามบทบาทหน้าท่ี
3. การให้ความรว่ มมือในการทำงาน
4. การแสดงความคิดเหน็
5. การยอมรับความคดิ เหน็
รวม
ลงช่อื ............................................................................ผู้ประเมนิ
.................../................../..................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตเิ ป็นประจำ ให้ 4 คะแนน
พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัติบ่อยคร้งั ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั บิ างครัง้ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18-20 ดีมาก
13-17 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรบั ปรงุ
แผนการจดั การเรียนรู้
รายวชิ าคณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน 5 รหัสวชิ า ค23101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
ปกี ารศกึ ษา 2565
ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1
เวลา 1 ช่วั โมง
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 กราฟของฟังก์ชนั กำลงั สอง
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 32 เร่อื ง แนะนำฟงั ก์ชัน
ครูผสู้ อน นายวษิ ณุวัตร สทุ ธดิ ี
1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรปู ความสมั พนั ธ์ ฟังกช์ นั ลาํ ดบั และอนกุ รม และนําไปใช้
2. ตัวชว้ี ัด
ค 1.2 ม.3/2 เข้าใจและใช้ความรู้เก่ยี วกับฟงั ก์ชนั กําลังสองในการแก้ปญั หาคณิตศาสตร์
3. สาระสำคญั
ฟังก์ชัน คือ ความสัมพันธ์ของปริมาณ x และปริมาณ y โดยที่ปริมาณ x แต่ละค่า จะมีปริมาณ y ที่
สอดคล้องกันเพียง 1 ค่า ในกรณีที่ f เป็นความสัมพันธ์ที่เป็นฟังก์ชัน และค่าของ y ขึ้นอยู่กับค่าของ x จะ
เขยี นแทนดว้ ย y = f (x) และเรียก f (x) ว่า คา่ ของฟงั ก์ชัน f ที่ x
4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
4.1 ดา้ นความรู้ (K)
1) อธบิ ายความหมายของฟังกช์ นั ได้ถกู ต้องอย่างน้อยร้อยละ 70
2) คำนวณหาค่าของฟงั กช์ นั f ที่ x หรอื f (x) เม่ือกำหนดคา่ x มาให้ไดถ้ ูกต้องอยา่ งนอ้ ยร้อยละ 70
4.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
1) การแกป้ ัญหา
2) การใหเ้ หตุผล
3) การสื่อสาร การส่อื ความหมาย และการนำเสนอ
4) การเชือ่ มโยง
5) ความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์
4.3 ด้านคุณลกั ษณะ(A)
1) ทำงานอยา่ งเปน็ ระบบ
2) มรี ะเบยี บวินัย
3) มคี วามรอบคอบ
4) มคี วามรบั ผิดชอบ
5) มคี วามเชือ่ มัน่ ในตนเอง
6) ชว่ ยเหลือซง่ึ กนั และกัน
7) ตระหนกั ในคุณคา่ และมเี จตคตทิ ่ีดตี ่อวชิ าคณติ ศาสตร์
5. สาระการเรียนรู้
กราฟของฟังก์ชันกำลงั สอง
6. กระบวนการเรียนรู้
ข้นั นำเข้าสู่บทเรียน
2. ครทู กั ทายนกั เรียนร่วมกนั ทบทวนความรเู้ ก่ียวกับสมการกำลงั สองตวั แปรเดยี ว และการแกส้ มการกำลัง
สองตัวแปรเดียวโดยการแยกตวั ประกอบ
การหาคำตอบของสมการกำลังสองทีม่ ีรูปทั่วไป ax2 + bx + c = 0 เม่อื a, b และ c เปน็ ค่าคงตัว
และ a 0 สามารถทำได้โดยใชส้ ตู ร ซึ่งใช้ความรู้เกี่ยวกับกำลงั สองสมบูรณ์ และผลต่างของกำลงั สอง
ดังน้ี
1) คำตอบของสมการกำลงั สอง ax2 + bx + c = 0 เม่อื a, b และ c เปน็ คา่ คงตัว a 0
และ b2 – 4ac ≥ 0 เป็นจำนวนจรงิ ท่หี าได้จากสตู ร
x = − ±√ 2−4
2
2) คำตอบทีไ่ ด้มี 2 คำตอบ เมื่อ b2 – 4ac > 0
คำตอบทไี่ ด้มี 1 คำตอบ เมื่อ b2 – 4ac = 0
และไมม่ คี ำตอบ เมื่อ b2 – 4ac < 0
ขน้ั สอน
1. ครูนำเสนอเน้ือหาฟังกช์ นั โดยบอกความหมายของฟังก์ชันวา่ คือ “ฟังกช์ นั คือ ความสัมพนั ธข์ องปริมาณ
x และปริมาณ y โดยท่ีปรมิ าณ x แต่ละค่า จะมีปรมิ าณ y ทส่ี อดคล้องกันเพียง 1 คา่ ในกรณีที่ f เป็น
ความสัมพนั ธ์ท่เี ป็นฟงั ก์ชัน และคา่ ของ y ขน้ึ อย่กู ับค่าของ x จะเขียนแทนด้วย y = f (x) และเรียก
f (x) วา่ คา่ ของฟังกช์ ัน f ท่ี x ”
2. ครูนำเสนอตวั อย่างตอ่ ไปนี้
ตัวอยา่ งท่ี 1 กำหนด f(x) = x2 + 5x จงหา f(2)
วิธีทำ จาก f(x) = x2 + 5x
จะได้ f(2) = 22 + 5(2)
= 4 + 10
= 14
ดงั น้ัน f(2) = 14
ตัวอย่างที่ 2 กำหนด g(x) = 2x2−12x จงหา g(-3)
3
วธิ ีทำ จาก g(x) = 2x2−12x
3
จะได้ g(-3) = 2(−3)2−12(−3)
3
= 18+36
3
= 54
3
ดังนั้น g(-3) = 18
3. ครูอธิบายในหนังสือเรียนใหน้ ักเรียนฟงั เพ่มิ เติม และเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นได้ซักถามขอ้ สงสัย
ข้ันสรปุ และฝกึ ทักษะ
1. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกันสรุปความรู้เกยี่ วกับฟงั ก์ชัน
ฟงั ก์ชัน คอื ความสมั พนั ธ์ของปริมาณ x และปริมาณ y โดยทป่ี รมิ าณ x แต่ละค่า จะมีปริมาณ
y ทส่ี อดคลอ้ งกันเพียง 1 คา่ ในกรณที ี่ f เปน็ ความสัมพันธ์ท่เี ปน็ ฟังกช์ นั และค่าของ y ข้ึนอยู่กับค่า
ของ x จะเขยี นแทนด้วย y = f (x) และเรียก f (x) วา่ คา่ ของฟังกช์ นั f ที่ x
2. ครูใหน้ กั เรยี นซักถามข้อสงสัยและอภิปรายสิง่ ที่ไดจ้ ากการเรยี น
ข้นั การวัดและประเมนิ ผล
1. ใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั ที่ 9
7. ส่อื และแหลง่ เรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 ของ สสวท.
2. แบบฝกึ หดั ที่ 9
8. การวดั ประเมนิ ผลการเรียนรู้ เคร่อื งมือ/วิธกี าร เกณฑก์ ารวัด
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. การตอบคำถามใน 1. การตอบคำถาม
ด้านความรู้ (K) ชน้ั เรียน ในชนั้ เรยี นถูกต้อง
1) อธิบายเก่ยี วกบั การแก้สมการกำลงั สองตวั อยา่ งน้อยรอ้ ยละ
2. แบบฝึกหดั ท่ี 9
แปรเดียวโดยทำเป็นกำลังสองสมบรู ณไ์ ด้ถกู ต้อง 70
อยา่ งน้อยร้อยละ70 2. แบบฝกึ หัดท่ี 9
ถกู ต้องอย่างน้อย
2) เขียนแสดงการแก้สมการกำลังสองตวั แปร
เดยี วโดยทำเปน็ กำลงั สองสมบรู ณ์ไดถ้ ูกต้อง ร้อยละ 70
อย่างน้อยร้อยละ 70
1. การตอบคำถามใน 1. การตอบคำถาม
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ชนั้ เรยี น ในชนั้ เรยี นถกู ต้อง
1) การแก้ปญั หา อย่างน้อยรอ้ ยละ
2) การให้เหตุผล 2. แบบฝึกหดั ท่ี 9
3) การสอ่ื สาร การสื่อความหมาย 70
และการนำเสนอ 2. แบบฝึกหดั ที่ 9
4) การเช่ือมโยง ถูกต้องอย่างนอ้ ย
5) ความคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์
ร้อยละ 70
ด้านคณุ ลกั ษณะ(A)
แสดงพฤตกิ รรมการมีความรับผดิ ชอบ แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์คุณภาพ
แสดงพฤตกิ รรมใฝเ่ รยี นรู้ ประจำหนว่ ยการเรียนรู้ ในระดบั ดีข้ึนไป
แสดงพฤติกรรมมคี วามมุ่งมั่นในการทำงาน
9. กิจกรรมเสนอแนะ
-
แบบสังเกตพฤตกิ รรมทางการเรยี นการสอน
เลขที่ ช่ือ-สกลุ ของ ทำงาน ความ ความ ความ การให้ รวม
ผู้รบั การประเมิน อยา่ งเป็น รอบคอบ ตง้ั ใจเรยี น รบั ผิดชอบ ความ
ระบบ รว่ มมอื
4 4 4 4 4 20
เกณฑ์การให้คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตเิ ป็นประจำ ให้ 4 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏิบัตบิ างครงั้ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตนิ ้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
18-20 ดมี าก
13-17 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรับปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิกิจกรรมกลุ่ม
กลุ่มท(่ี ชือ่ กลมุ่ )........................................................................................................................................
สมาชิกในกลุม่ 1.......................................................................
2.......................................................................
3........................................................................
4........................................................................
5.......................................................................
6.......................................................................
คำชแี้ จง ให้ทำเครอื่ งหมาย ในช่องท่ตี รงกับความเป็นจริง
พฤติกรรมท่ีสังเกต คะแนน 1
43 2
1. การมสี ว่ นร่วมในการวางแผน
2. การปฏบิ ตั ิงานตามบทบาทหน้าท่ี
3. การให้ความรว่ มมือในการทำงาน
4. การแสดงความคิดเห็น
5. การยอมรับความคดิ เห็น
รวม
ลงช่อื ............................................................................ผู้ประเมิน
.................../................../..................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตเิ ป็นประจำ ให้ 4 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตบิ ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครง้ั ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัตนิ ้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
18-20 ดีมาก
13-17 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรบั ปรงุ
เฉลยแบบฝึกหัดที่ 9
1) กำหนด ( ) = x + 2x จงหา (3)
วธิ ที ำ จาก ( ) = x + 2x
จะไดว้ ่า (3) = (3) + 2(3)
= 3+6
=9
ดงั นั้น (3) = 9
2) กำหนด ( ) = 3x3 - 2x2 + 4x -1 จงหา (−2)
วธิ ที ำ จาก ( ) = 3x3 - 2x2 + 4x -1
จะได้ว่า (−2) = 3(-2)3 - 2(-2)2 + 4(-2) -1
= 3(-8) - 2(4) + 4(-2) -1
= (-24) – 8 + (-8) – 1
= -41
ดังน้นั (−2) = -41
3) กำหนด ( ) = 2( x – 4 )2 จงหา (1)
วธิ ีทำ จาก ( ) = 2( x – 4 )2
จะไดว้ ่า (1) = 2( 1 – 4 )2
= 2( -3 )2
= 2( 9 )
= 18
ดงั นั้น (−2) = -41
4) กำหนด ( ) = ( 1 - 2x )2 - x จงหา (−5)
วิธีทำ จาก ( ) = ( 1 - 2x )2 - x
จะไดว้ า่ (−5) = ( 1 – 2( -5 ) )2 – ( -5 )
= ( 1 – ( -10 ) )2 + 5
= ( 1 + 10 )2 + 5
= ( 11 )2 + 5
= 121 + 5
= 126
ดังนน้ั (−5) = 126
5) กำหนด ℎ( ) = √5 + 5 จงหา ℎ(4)
วธิ ที ำ จาก ℎ( ) = √5 + 5
จะได้ว่า ℎ(4) = √5(4) + 5
= √20 + 5
= √25
= ±5
ดังนั้น ℎ(4) = ± 5
6) กำหนด ℎ( ) = ( x - 3 )2 - ax จงหา ℎ( ) เมือ่ a เปน็ คา่ คงที่
วธิ ที ำ จาก ℎ( ) = ( x - 3 )2 - ax
จะได้วา่ ℎ( ) = ( a - 3 )2 – a(a)
( x – y )2 = x + 2xy = ( a2 – 6a + 9 ) – a2
+y = a2 – 6a + 9 – a2
= - 6a + 9
ดังนน้ั ℎ( ) = - 6a + 9
แผนการจดั การเรียนรู้
รายวชิ าคณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน 5 รหัสวชิ า ค23101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
ปกี ารศกึ ษา 2565
ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1
เวลา 1 ช่วั โมง
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 กราฟของฟังก์ชนั กำลงั สอง
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 33 เร่อื ง แนะนำฟงั ก์ชัน
ครูผสู้ อน นายวษิ ณุวัตร สทุ ธดิ ี
1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรปู ความสมั พนั ธ์ ฟังกช์ นั ลาํ ดบั และอนกุ รม และนําไปใช้
2. ตัวชว้ี ัด
ค 1.2 ม.3/2 เข้าใจและใช้ความรู้เก่ยี วกับฟงั ก์ชนั กําลังสองในการแก้ปญั หาคณิตศาสตร์
3. สาระสำคญั
ฟังก์ชัน คือ ความสัมพันธ์ของปริมาณ x และปริมาณ y โดยที่ปริมาณ x แต่ละค่า จะมีปริมาณ y ที่
สอดคล้องกันเพียง 1 ค่า ในกรณีที่ f เป็นความสัมพันธ์ที่เป็นฟังก์ชัน และค่าของ y ขึ้นอยู่กับค่าของ x จะ
เขยี นแทนดว้ ย y = f (x) และเรียก f (x) ว่า คา่ ของฟงั ก์ชัน f ที่ x
4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
4.1 ดา้ นความรู้ (K)
1) อธบิ ายความหมายของฟังกช์ นั ได้ถกู ต้องอย่างน้อยร้อยละ 70
2) คำนวณหาค่าของฟงั กช์ นั f ท่ี x หรอื f (x) เม่ือกำหนดคา่ x มาให้ไดถ้ ูกต้องอยา่ งนอ้ ยร้อยละ 70
4.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
1) การแกป้ ัญหา
2) การใหเ้ หตผุ ล
3) การสื่อสาร การส่อื ความหมาย และการนำเสนอ
4) การเชือ่ มโยง
5) ความคิดรเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์
4.3 ด้านคุณลกั ษณะ(A)
1) ทำงานอยา่ งเป็นระบบ
2) มรี ะเบยี บวนิ ยั
3) มคี วามรอบคอบ
4) มคี วามรบั ผดิ ชอบ
5) มีความเชื่อมนั่ ในตนเอง
6) ช่วยเหลอื ซึง่ กนั และกนั
7) ตระหนกั ในคณุ ค่าและมเี จตคติท่ดี ตี ่อวิชาคณติ ศาสตร์
5. สาระการเรยี นรู้
กราฟของฟังกช์ ันกำลังสอง
6. กระบวนการเรยี นรู้
ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรยี น
1. ครูทักทายนักเรยี นร่วมกันทบทวนความร้เู กยี่ วกบั ฟังกช์ นั
ฟงั กช์ ัน คือ ความสัมพันธข์ องปรมิ าณ x และปรมิ าณ y โดยท่ีปรมิ าณ x แตล่ ะค่า จะมปี ริมาณ
y ทีส่ อดคลอ้ งกันเพียง 1 ค่า ในกรณีที่ f เปน็ ความสัมพนั ธ์ทเ่ี ปน็ ฟงั กช์ นั และคา่ ของ y ขึ้นอยู่กับค่า
ของ x จะเขียนแทนดว้ ย y = f (x) และเรียก f (x) วา่ ค่าของฟังกช์ นั f ที่ x
ขั้นสอน
4. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยแบบฝึกหัดที่ 9
1) กำหนด ( ) = x + 2x จงหา (3)
วิธที ำ จาก ( ) = x + 2x
จะได้วา่ (3) = (3) + 2(3)
= 3+6
=9
ดงั น้นั (3) = 9
2) กำหนด ( ) = 3x3 - 2x2 + 4x -1 จงหา (−2)
วิธีทำ จาก ( ) = 3x3 - 2x2 + 4x -1
จะไดว้ ่า (−2) = 3(-2)3 - 2(-2)2 + 4(-2) -1
= 3(-8) - 2(4) + 4(-2) -1
= (-24) – 8 + (-8) – 1
= -41
ดงั นัน้ (−2) = -41
3) กำหนด ( ) = 2( x – 4 )2 จงหา (1)
วธิ ที ำ จาก ( ) = 2( x – 4 )2
จะได้วา่ (1) = 2( 1 – 4 )2
= 2( -3 )2
= 2( 9 )
= 18
ดังนนั้ (−2) = -41
4) กำหนด ( ) = ( 1 - 2x )2 - x จงหา (−5)
วธิ ีทำ จาก ( ) = ( 1 - 2x )2 - x
จะไดว้ ่า (−5) = ( 1 – 2( -5 ) )2 – ( -5 )
= ( 1 – ( -10 ) )2 + 5
= ( 1 + 10 )2 + 5
= ( 11 )2 + 5
= 121 + 5
= 126
ดงั นน้ั (−5) = 126
5) กำหนด ℎ( ) = √5 + 5 จงหา ℎ(4)
วธิ ที ำ จาก ℎ( ) = √5 + 5
จะไดว้ า่ ℎ(4) = √5(4) + 5
= √20 + 5
= √25
= ±5
ดังนั้น ℎ(4) = ± 5
6) กำหนด ℎ( ) = ( x - 3 )2 - ax จงหา ℎ( ) เมอื่ a เปน็ ค่าคงที่
วธิ ีทำ จาก ℎ( ) = ( x - 3 )2 - ax
( x – y )2 = x + 2xy จะได้วา่ ℎ( ) = ( a - 3 )2 – a(a)
+y = ( a2 – 6a + 9 ) – a2
= a2 – 6a + 9 – a2
= - 6a + 9
ดังน้ัน ℎ( ) = - 6a + 9
ขั้นสรปุ และฝึกทักษะ
1. ครใู หน้ กั เรียนรว่ มกนั สรปุ ความรเู้ กีย่ วกับฟงั ก์ชัน
ฟงั ก์ชัน คอื ความสัมพันธ์ของปรมิ าณ x และปริมาณ y โดยทป่ี ริมาณ x แต่ละค่า จะมีปริมาณ
y ที่สอดคลอ้ งกันเพียง 1 คา่ ในกรณีที่ f เป็นความสมั พนั ธ์ทเ่ี ปน็ ฟังกช์ นั และค่าของ y ขึ้นอยู่กับค่า
ของ x จะเขยี นแทนด้วย y = f (x) และเรียก f (x) ว่า ค่าของฟงั ก์ชนั f ท่ี x
2. ครใู หน้ กั เรยี นซักถามข้อสงสยั และอภิปรายสิ่งท่ีได้จากการเรียน
ข้ันการวัดและประเมินผล
1. ให้นักเรยี นตรวจสอบความถกู ตอ้ งของหแบบฝึกหัดท่ี 9
7. สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้
1. หนังสอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 ของ สสวท.
2. แบบฝึกหดั ที่ 9
8. การวดั ประเมนิ ผลการเรียนรู้ เคร่อื งมือ/วิธกี าร เกณฑก์ ารวัด
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. การตอบคำถามใน 1. การตอบคำถาม
ด้านความรู้ (K) ชน้ั เรียน ในชนั้ เรยี นถูกต้อง
1) อธิบายเก่ยี วกบั การแก้สมการกำลงั สองตวั อยา่ งน้อยรอ้ ยละ
2. แบบฝึกหดั ท่ี 9
แปรเดียวโดยทำเป็นกำลังสองสมบรู ณไ์ ด้ถกู ต้อง 70
อยา่ งน้อยร้อยละ70 2. แบบฝกึ หัดท่ี 9
ถกู ต้องอย่างน้อย
2) เขียนแสดงการแก้สมการกำลังสองตวั แปร
เดยี วโดยทำเป็นกำลงั สองสมบรู ณ์ไดถ้ ูกต้อง ร้อยละ 70
อย่างน้อยร้อยละ 70
1. การตอบคำถามใน 1. การตอบคำถาม
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ชนั้ เรยี น ในชนั้ เรยี นถกู ต้อง
1) การแก้ปญั หา อย่างน้อยรอ้ ยละ
2) การให้เหตุผล 2. แบบฝึกหดั ท่ี 9
3) การสอ่ื สาร การสื่อความหมาย 70
และการนำเสนอ 2. แบบฝึกหดั ที่ 9
4) การเช่ือมโยง ถูกต้องอย่างนอ้ ย
5) ความคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์
ร้อยละ 70
ด้านคณุ ลกั ษณะ(A)
แสดงพฤตกิ รรมการมีความรับผดิ ชอบ แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์คุณภาพ
แสดงพฤตกิ รรมใฝเ่ รยี นรู้ ประจำหนว่ ยการเรียนรู้ ในระดบั ดีข้ึนไป
แสดงพฤติกรรมมคี วามมุ่งมั่นในการทำงาน
9. กิจกรรมเสนอแนะ
-
แบบสังเกตพฤตกิ รรมทางการเรยี นการสอน
เลขที่ ช่ือ-สกลุ ของ ทำงาน ความ ความ ความ การให้ รวม
ผู้รบั การประเมิน อยา่ งเป็น รอบคอบ ตง้ั ใจเรยี น รบั ผิดชอบ ความ
ระบบ รว่ มมอื
4 4 4 4 4 20
เกณฑ์การให้คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตเิ ป็นประจำ ให้ 4 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏิบัตบิ างครงั้ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตนิ ้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
18-20 ดมี าก
13-17 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรับปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ัติกิจกรรมกลุ่ม
กลุม่ ท(่ี ชือ่ กลมุ่ )........................................................................................................................................
สมาชิกในกลุม่ 1.......................................................................
2.......................................................................
3........................................................................
4........................................................................
5.......................................................................
6.......................................................................
คำชแี้ จง ให้ทำเครอื่ งหมาย ในช่องที่ตรงกับความเปน็ จริง
พฤติกรรมที่สังเกต คะแนน 1
43 2
1. การมสี ว่ นร่วมในการวางแผน
2. การปฏบิ ตั ิงานตามบทบาทหน้าท่ี
3. การให้ความรว่ มมือในการทำงาน
4. การแสดงความคิดเหน็
5. การยอมรับความคดิ เหน็
รวม
ลงช่อื ............................................................................ผู้ประเมนิ
.................../................../..................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตเิ ป็นประจำ ให้ 4 คะแนน
พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัติบ่อยคร้งั ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั บิ างครัง้ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18-20 ดีมาก
13-17 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรบั ปรงุ
เฉลยแบบฝึกหัดที่ 9
1) กำหนด ( ) = x + 2x จงหา (3)
วธิ ที ำ จาก ( ) = x + 2x
จะไดว้ ่า (3) = (3) + 2(3)
= 3+6
=9
ดงั นั้น (3) = 9
2) กำหนด ( ) = 3x3 - 2x2 + 4x -1 จงหา (−2)
วธิ ที ำ จาก ( ) = 3x3 - 2x2 + 4x -1
จะได้ว่า (−2) = 3(-2)3 - 2(-2)2 + 4(-2) -1
= 3(-8) - 2(4) + 4(-2) -1
= (-24) – 8 + (-8) – 1
= -41
ดังน้นั (−2) = -41
3) กำหนด ( ) = 2( x – 4 )2 จงหา (1)
วธิ ีทำ จาก ( ) = 2( x – 4 )2
จะไดว้ ่า (1) = 2( 1 – 4 )2
= 2( -3 )2
= 2( 9 )
= 18
ดงั นั้น (−2) = -41
4) กำหนด ( ) = ( 1 - 2x )2 - x จงหา (−5)
วิธีทำ จาก ( ) = ( 1 - 2x )2 - x
จะไดว้ า่ (−5) = ( 1 – 2( -5 ) )2 – ( -5 )
= ( 1 – ( -10 ) )2 + 5
= ( 1 + 10 )2 + 5
= ( 11 )2 + 5
= 121 + 5
= 126
ดังนน้ั (−5) = 126
5) กำหนด ℎ( ) = √5 + 5 จงหา ℎ(4)
วธิ ที ำ จาก ℎ( ) = √5 + 5
จะได้ว่า ℎ(4) = √5(4) + 5
= √20 + 5
= √25
= ±5
ดังนั้น ℎ(4) = ± 5
6) กำหนด ℎ( ) = ( x - 3 )2 - ax จงหา ℎ( ) เมือ่ a เปน็ คา่ คงที่
วธิ ที ำ จาก ℎ( ) = ( x - 3 )2 - ax
( x – y )2 = x + 2xy จะได้วา่ ℎ( ) = ( a - 3 )2 – a(a)
+y = ( a2 – 6a + 9 ) – a2
= a2 – 6a + 9 – a2
= - 6a + 9
ดังนน้ั ℎ( ) = - 6a + 9
แผนการจดั การเรียนรู้
รายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐาน 5 รหสั วชิ า ค23101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
ปกี ารศกึ ษา 2565
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรียนที่ 1
เวลา 1 ช่วั โมง
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 กราฟของฟังกช์ นั กำลังสอง
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 34 เรอื่ ง แนะนำฟงั ก์ชัน
ครูผู้สอน นายวษิ ณุวัตร สุทธิดี
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะหแ์ บบรปู ความสมั พนั ธ์ ฟังกช์ ัน ลําดับและอนกุ รม และนาํ ไปใช้
2. ตัวชีว้ ัด
ค 1.2 ม.3/2 เข้าใจและใช้ความร้เู กี่ยวกบั ฟงั ก์ชนั กาํ ลังสองในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์
3. สาระสำคัญ
ฟังก์ชัน คือ ความสัมพันธ์ของปริมาณ x และปริมาณ y โดยที่ปริมาณ x แต่ละค่า จะมีปริมาณ y ที่
สอดคล้องกันเพียง 1 ค่า ในกรณีที่ f เป็นความสัมพันธ์ที่เป็นฟังก์ชัน และค่าของ y ขึ้นอยู่กับค่าของ x จะ
เขยี นแทนด้วย y = f (x) และเรียก f (x) ว่า ค่าของฟังก์ชัน f ที่ x
4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
4.1 ดา้ นความรู้ (K)
1) อธิบายความหมายของฟังกช์ นั ได้ถกู ต้องอย่างน้อยร้อยละ 70
2) คำนวณหาคา่ ของฟังก์ชนั f ที่ x หรอื f (x) เม่อื กำหนดค่า x มาให้ได้ถกู ตอ้ งอยา่ งน้อยร้อยละ 70
4.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1) การแกป้ ญั หา
2) การให้เหตผุ ล
3) การสอื่ สาร การสอ่ื ความหมาย และการนำเสนอ
4) การเชอื่ มโยง
5) ความคิดริเร่มิ สร้างสรรค์
4.3 ด้านคุณลกั ษณะ(A)
1) ทำงานอย่างเป็นระบบ
2) มีระเบยี บวินัย
3) มคี วามรอบคอบ
4) มีความรบั ผิดชอบ
5) มีความเชือ่ ม่ันในตนเอง
6) ช่วยเหลอื ซ่งึ กันและกัน
7) ตระหนกั ในคุณคา่ และมีเจตคติทด่ี ีต่อวิชาคณติ ศาสตร์
5. สาระการเรยี นรู้
กราฟของฟังก์ชันกำลังสอง
6. กระบวนการเรยี นรู้
ขนั้ นำเขา้ สู่บทเรยี น
3. ครทู กั ทายนักเรยี นร่วมกนั ทบทวนความรูเ้ ก่ยี วกับฟังก์ชัน
ฟังก์ชนั คือ ความสัมพันธ์ของปรมิ าณ x และปรมิ าณ y โดยท่ีปริมาณ x แตล่ ะคา่ จะมปี ริมาณ
y ทส่ี อดคล้องกันเพยี ง 1 ค่า ในกรณีท่ี f เป็นความสมั พนั ธ์ทเี่ ปน็ ฟังก์ชนั และค่าของ y ขึ้นอยู่กับค่า
ของ x จะเขียนแทนด้วย y = f (x) และเรยี ก f (x) วา่ ค่าของฟังก์ชนั f ท่ี x
ขน้ั สอน
1. ครูและนักเรยี นร่วมทำกจิ กรรม “จะโจทย์ จะมวย จะรวย กม็ าเหอะ 2”
a. ครแู บ่งนกั เรยี นแบบแบง่ กลมุ่ คละความสามารถกลุ่มละ 5 คน
b. ครแู จกบตั รคำตอบใหน้ กั เรยี นกลมุ่ ละ 12 แผน่
c. ครูเปดิ หนา้ เกมที่ใช้เล่นในกิจกรรม“จะโจทย์ จะมวย จะรวย ก็มาเหอะ 2”
i. ครูสุ่มเลอื กกลมุ่ แรกในการเลือกเปดิ แผ่นป้ายจากนัน้ เวียนกลุ่มในการเลือกแผ่นป้ายไป
เรื่อย
ii. เมอื่ เปดิ แผ่นป้ายแล้วแตล่ ะกลุ่มมีเวลา 15 วินาทใี นการเขียนคำตอบลงในบัตรคำตอบ
แลว้ นำมาส่งโดยบตั รคำตอบหน่งึ ใบใช้สำหรบั เขียนคำตอบไดเ้ พยี งหน่ึงครง้ั เทา่ น้นั
iii. ก่อนที่จะเปิดแผ่นป้ายแต่ละแผ่นจะมีคะแนนเขียนไว้และเมื่อเปิดแผ่นป้ายแล้วกลุ่ม
ไหนตอบถูกก็จะไดค้ ะแนนตามที่กำหนดไว้แต่แรก
iv. เมื่อเปิดแผ่นป้ายหมดทุกแผน่ แลว้ กลมุ่ ท่มี คี ะแนนสูงสุดชนะ
ข้ันสรปุ และฝึกทักษะ
1. ครใู ห้นกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความรเู้ กีย่ วกับฟังกช์ นั
ฟังก์ชัน คือ ความสมั พนั ธ์ของปรมิ าณ x และปรมิ าณ y โดยท่ีปรมิ าณ x แต่ละคา่ จะมีปริมาณ
y ทีส่ อดคลอ้ งกันเพียง 1 ค่า ในกรณที ่ี f เป็นความสมั พันธ์ที่เป็นฟังก์ชัน และค่าของ y ขึ้นอยู่กับค่า
ของ x จะเขียนแทนด้วย y = f (x) และเรียก f (x) ว่า คา่ ของฟังกช์ นั f ที่ x
2. ครใู หน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสยั และอภิปรายสงิ่ ท่ีไดจ้ ากการเรยี น
ข้นั การวัดและประเมนิ ผล
1. ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบของกิจกรรม“จะโจทย์ จะมวย จะรวย
ก็มาเหอะ 2”
7. สือ่ และแหล่งเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ม.3 เลม่ 1 ของ สสวท.
2. เกม “จะโจทย์ จะมวย จะรวย กม็ าเหอะ”
3. บตั รคำตอบ
8. การวัดประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เครือ่ งมือ/วธิ ีการ เกณฑ์การวัด
จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. การตอบคำถาม
1. การตอบคำถามในชน้ั ในช้นั เรียนถกู ต้อง
ดา้ นความรู้ (K) เรยี น อย่างน้อยร้อยละ
1) อธิบายเก่ยี วกบั การแก้สมการกำลังสองตัว
2. กิจกรรม “จะโจทย์ 70
แปรเดยี วโดยทำเป็นกำลงั สองสมบูรณ์ได้ถูกต้อง จะมวย จะรวย 2. ตอบคำถามใน
อยา่ งน้อยร้อยละ70 ก็มาเหอะ 2” กิจกรรม “จะโจทย์
จะมวย จะรวย
2) เขียนแสดงการแกส้ มการกำลงั สองตวั แปร 1. การตอบคำถามใน ก็มาเหอะ 2”
เดียวโดยทำเปน็ กำลงั สองสมบรู ณ์ได้ถูกต้อง ชนั้ เรยี น ถูกต้องอย่างนอ้ ย
อยา่ งน้อยร้อยละ 70
2. กิจกรรม “จะโจทย์ รอ้ ยละ 70
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) จะมวย จะรวย 1. การตอบคำถาม
1) การแก้ปัญหา กม็ าเหอะ 2” ในชั้นเรยี นถกู ต้อง
2) การให้เหตุผล อย่างน้อยร้อยละ
3) การสอ่ื สาร การสอ่ื ความหมาย
และการนำเสนอ 70
4) การเชือ่ มโยง 2. ตอบคำถามใน
5) ความคดิ ริเร่มิ สรา้ งสรรค์ กิจกรรม “จะโจทย์
จะมวย จะรวย
ดา้ นคุณลักษณะ(A) กม็ าเหอะ 2”
แสดงพฤติกรรมการมีความรบั ผิดชอบ ถูกต้องอย่างน้อย
แสดงพฤตกิ รรมใฝ่เรยี นรู้
แสดงพฤติกรรมมีความมงุ่ มน่ั ในการทำงาน ร้อยละ 70
9. กิจกรรมเสนอแนะ แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์คุณภาพ
ประจำหนว่ ยการเรียนรู้ ในระดบั ดีข้นึ ไป
แบบสังเกตพฤตกิ รรมทางการเรยี นการสอน
เลขที่ ช่ือ-สกลุ ของ ทำงาน ความ ความ ความ การให้ รวม
ผู้รบั การประเมิน อยา่ งเป็น รอบคอบ ตง้ั ใจเรยี น รบั ผิดชอบ ความ
ระบบ รว่ มมอื
4 4 4 4 4 20
เกณฑ์การให้คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตเิ ป็นประจำ ให้ 4 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏิบัตบิ างครงั้ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตนิ ้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
18-20 ดมี าก
13-17 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรับปรงุ