แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิกิจกรรมกลุ่ม
กลุ่มท(่ี ชือ่ กลมุ่ )........................................................................................................................................
สมาชิกในกลุม่ 1.......................................................................
2.......................................................................
3........................................................................
4........................................................................
5.......................................................................
6.......................................................................
คำชแี้ จง ให้ทำเครอื่ งหมาย ในช่องท่ตี รงกับความเป็นจริง
พฤติกรรมท่ีสังเกต คะแนน 1
43 2
1. การมสี ว่ นร่วมในการวางแผน
2. การปฏบิ ตั ิงานตามบทบาทหน้าท่ี
3. การให้ความรว่ มมือในการทำงาน
4. การแสดงความคิดเห็น
5. การยอมรับความคดิ เห็น
รวม
ลงช่อื ............................................................................ผู้ประเมิน
.................../................../..................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตเิ ป็นประจำ ให้ 4 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตบิ ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครง้ั ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัตนิ ้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
18-20 ดีมาก
13-17 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรบั ปรงุ
แผนการจดั การเรียนรู้
รายวิชาคณิตศาสตร์พนื้ ฐาน 5 รหัสวิชา ค23101 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
ปีการศกึ ษา 2565
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1
เวลา 1 ชัว่ โมง
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 5 กราฟของฟังก์ชนั กำลงั สอง
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 48 เรอ่ื ง กราฟของฟังก์ชนั กำลงั สอง
ครผู ูส้ อน นายวิษณุวัตร สทุ ธิดี
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟงั กช์ ัน ลาํ ดบั และอนกุ รม และนาํ ไปใช้
2. ตัวชว้ี ดั
ค 1.2 ม.3/2 เข้าใจและใชค้ วามรู้เกี่ยวกับฟงั กช์ นั กาํ ลงั สองในการแกป้ ญั หาคณิตศาสตร์
3. สาระสำคญั
พาราโบลาท่ีกำหนดดว้ ยสมการ y = ax2 + bx + c เมอื่ a ≠ 0 จดั ใหอ้ ยูใ่ นรูป
y = a(x – h)2 + k แล้วจะได้ลักษณะท่ัวไปของกราฟ ดงั น้ี
1. กราฟเป็นพาราโบลาท่เี ป็นรปู สมมาตร โดยมีแกน x = h เปน็ แกนสมมาตร
- ถ้า a > 0 กราฟจะมีลักษณะเป็นพาราโบลาหงาย ซ่ึงกราฟจะมีจดุ ต่ำสดุ แตไ่ ม่มจี ุดสงู สุด
- ถา้ a < 0 กราฟจะมีลักษณะเปน็ พาราโบลาคว่ำ ซ่ึงกราฟจะมจี ดุ สงู สดุ แต่ไม่มีจดุ ต่ำสุด
2. จดุ ตำ่ สดุ หรือจดุ สงู สุดของกราฟอยทู่ จี่ ุด (h,k) ค่าต่ำสดุ หรอื ค่าสูงสดุ ของ y เท่ากบั k
4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
4.1 ดา้ นความรู้ (K)
1) บอกไดว้ า่ สมการใดเปน็ สมการของพาราโบลาได้ถูกต้องอย่างน้อยร้อยละ 70
2) เขยี นกราฟของสมการของพาราโบลาได้ถกู ต้องอย่างน้อยร้อยละ 70
4.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1) การแกป้ ัญหา
2) การให้เหตุผล
3) การสอ่ื สาร การส่ือความหมาย และการนำเสนอ
4) การเช่อื มโยง
5) ความคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์
4.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะ(A)
1) ทำงานอยา่ งเปน็ ระบบ
2) มีระเบยี บวินยั
3) มีความรอบคอบ
4) มีความรบั ผิดชอบ
5) มคี วามเชื่อมั่นในตนเอง
6) ช่วยเหลอื ซึ่งกันและกัน
7) ตระหนักในคุณคา่ และมีเจตคตทิ ่ดี ตี ่อวิชาคณิตศาสตร์
5. สาระการเรยี นรู้
กราฟของฟังก์ชนั กำลงั สอง
6. กระบวนการเรียนรู้
ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น
1. ครทู ักทายนักเรียนรว่ มกันทบทวนความรู้เกีย่ วกบั กราฟของฟงั กช์ นั กำลังสอง
พาราโบลาทีก่ ำหนดดว้ ยสมการ y = ax2 + bx + c เม่อื a ≠ 0 จดั ให้อยู่ในรปู
y = a(x – h)2 + k แลว้ จะได้ลักษณะท่ัวไปของกราฟ ดังน้ี
1. กราฟเปน็ พาราโบลาทเ่ี ป็นรูปสมมาตร โดยมแี กน x = h เป็นแกนสมมาตร
- ถา้ a > 0 กราฟจะมลี ักษณะเป็นพาราโบลาหงาย ซึ่งกราฟจะมีจดุ ต่ำสุด แต่ไมม่ ีจุดสูงสดุ
- ถ้า a < 0 กราฟจะมีลกั ษณะเปน็ พาราโบลาควำ่ ซ่ึงกราฟจะมีจดุ สูงสุด แต่ไม่มจี ุดต่ำสดุ
2. จุดต่ำสดุ หรอื จดุ สงู สดุ ของกราฟอย่ทู จี่ ดุ (h,k) ค่าตำ่ สุดหรอื ค่าสูงสดุ ของ y เทา่ กบั k
ขั้นสอน
11. ครูกบั นักเรียนรว่ มทำกจิ กรรม “ของฉนั จ่ะหนู 5” โดยมีวิธเี ลน่ ดงั น้ี
1) ครูแบง่ นักเรยี นออกเป็น 4 กล่มุ
2) ครฉู ายภาพกราฟพาราโบลา 4 อนั
3) ให้แตล่ ะกลุ่มเลือกกราฟพาราโบลามาหนงึ่ เส้น
4) ครูมสี มการมาให้ 8 สมการแล้วให้นักเรียนลองหาสมการใดคือสมการของพาราโบลา
ท่กี ลุม่ ตนเองเลือก
ขัน้ สรปุ และฝึกทักษะ
9. ครูใหน้ กั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความรู้เกย่ี วกับฟงั ก์ชันของพาราโบลา
พาราโบลาทกี่ ำหนดดว้ ยสมการ y = ax2 + bx + c เมอื่ a ≠ 0 จัดให้อย่ใู นรปู
y = a(x – h)2 + k แล้วจะได้ลกั ษณะท่ัวไปของกราฟ ดังนี้
1. กราฟเปน็ พาราโบลาทเี่ ป็นรูปสมมาตร โดยมีแกน x = h เป็นแกนสมมาตร
- ถา้ a > 0 กราฟจะมีลักษณะเป็นพาราโบลาหงาย ซึ่งกราฟจะมีจดุ ต่ำสุด แต่ไมม่ จี ุดสูงสุด
- ถ้า a < 0 กราฟจะมีลักษณะเปน็ พาราโบลาควำ่ ซง่ึ กราฟจะมจี ุดสงู สดุ แตไ่ ม่มจี ดุ ตำ่ สดุ
2. จดุ ตำ่ สดุ หรอื จุดสูงสดุ ของกราฟอยูท่ จ่ี ุด (h,k) ค่าต่ำสุดหรือคา่ สงู สดุ ของ y เทา่ กับ k
10. ครูใหน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสยั และอภปิ รายสง่ิ ท่ีไดจ้ ากการเรยี น
ขัน้ การวดั และประเมนิ ผล
7. ให้นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องของสมการของกราฟพาราโบลาของกลุ่มตนและของกลุ่มอื่นว่าตรงกบั
กราฟพาราโพลาทเี่ ลือกหรอื ไม่
7. ส่อื และแหล่งเรียนรู้
10. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ ม.3 เลม่ 1 ของ สสวท.
11. กราฟท่ีใช้ในกจิ กรรม “ของฉันจะ่ หนู 5”
8. การวดั ประเมนิ ผลการเรียนรู้ เครอื่ งมือ/วิธกี าร เกณฑก์ ารวดั
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. การตอบคำถาม
1. การตอบคำถามใน ในชน้ั เรียนถูกต้อง
ด้านความรู้ (K) ช้นั เรยี น อย่างน้อยร้อยละ
1) บอกได้ว่าสมการใดเป็นสมการของ 2. กจิ กรรม
70
พาราโบลาได้ถกู ตอ้ งอยา่ งน้อยร้อยละ 70 “ของฉันจ่ะหนู 5” 2. กิจกรรม
2) เขยี นกราฟของสมการของพาราโบลา “ของฉันจะ่ หนู 5”
1. การตอบคำถามใน ถูกต้องอย่างนอ้ ย
ได้ถูกตอ้ งอยา่ งนอ้ ยร้อยละ 70 ชน้ั เรยี น รอ้ ยละ 70
2. กิจกรรม 1. การตอบคำถาม
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) ในชัน้ เรยี นถกู ต้อง
1) การแก้ปัญหา “ของฉนั จะ่ หนู 5” อย่างน้อยรอ้ ยละ
2) การให้เหตผุ ล
3) การสื่อสาร การสือ่ ความหมาย แบบสังเกตพฤติกรรม 70
และการนำเสนอ ประจำหนว่ ยการเรยี นรู้ 2. กิจกรรม
4) การเช่ือมโยง “ของฉันจะ่ หนู 5”
5) ความคดิ ริเรม่ิ สรา้ งสรรค์ ถกู ต้องอย่างนอ้ ย
รอ้ ยละ 70
ด้านคุณลักษณะ(A)
แสดงพฤตกิ รรมการมีความรบั ผดิ ชอบ ผ่านเกณฑ์คุณภาพ
แสดงพฤติกรรมใฝเ่ รียนรู้ ในระดับดีข้ึนไป
แสดงพฤติกรรมมีความมุ่งมน่ั ในการทำงาน
9. กจิ กรรมเสนอแนะ
-
แบบสังเกตพฤตกิ รรมทางการเรยี นการสอน
เลขที่ ช่ือ-สกลุ ของ ทำงาน ความ ความ ความ การให้ รวม
ผู้รบั การประเมิน อยา่ งเป็น รอบคอบ ตง้ั ใจเรยี น รบั ผิดชอบ ความ
ระบบ รว่ มมอื
4 4 4 4 4 20
เกณฑ์การให้คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตเิ ป็นประจำ ให้ 4 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏิบัตบิ างครงั้ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตนิ ้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
18-20 ดมี าก
13-17 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรับปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ัติกิจกรรมกลุ่ม
กลุม่ ท(่ี ชือ่ กลมุ่ )........................................................................................................................................
สมาชิกในกลุม่ 1.......................................................................
2.......................................................................
3........................................................................
4........................................................................
5.......................................................................
6.......................................................................
คำชแี้ จง ให้ทำเคร่อื งหมาย ในช่องทตี่ รงกับความเป็นจริง
พฤตกิ รรมที่สังเกต คะแนน 1
43 2
1. การมสี ่วนรว่ มในการวางแผน
2. การปฏิบัติงานตามบทบาทหนา้ ท่ี
3. การใหค้ วามรว่ มมือในการทำงาน
4. การแสดงความคิดเหน็
5. การยอมรบั ความคิดเหน็
รวม
ลงช่ือ............................................................................ผู้ประเมนิ
.................../................../..................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติเป็นประจำ ให้ 4 คะแนน
พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติบ่อยคร้งั ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั บิ างครัง้ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั ิน้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18-20 ดีมาก
13-17 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรบั ปรงุ
กราฟในกจิ กรรม “ของฉนั จ่ะหน”ู
เฉลย
y = 2x2 + 7x 1 (เส้นสีเขียว)
y = x2 – 6 - 2 (เสน้ นำ้ เงิน)
y = -3x2 + 2x – 1 (เสน้ สแี ดง)
y = -x2 – 8x + 3 (เสน้ สีม่วง)
แผนการจัดการเรยี นรู้
รายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐาน 5 รหัสวชิ า ค23101 กลุม่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์
ปกี ารศึกษา 2565
ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1
เวลา 1 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 กราฟของฟังก์ชนั กำลงั สอง
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 49 เรือ่ ง กราฟของฟังก์ชันกำลงั สอง
ครูผ้สู อน นายวษิ ณุวตั ร สุทธิดี
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะหแ์ บบรูป ความสัมพนั ธ์ ฟังก์ชนั ลาํ ดับและอนกุ รม และนําไปใช้
2. ตัวช้วี ัด
ค 1.2 ม.3/2 เข้าใจและใช้ความรู้เกยี่ วกับฟังก์ชนั กาํ ลังสองในการแกป้ ญั หาคณติ ศาสตร์
3. สาระสำคัญ
พาราโบลาท่กี ำหนดดว้ ยสมการ y = ax2 + bx + c เมอื่ a ≠ 0 จดั ให้อยใู่ นรปู
y = a(x – h)2 + k แลว้ จะได้ลกั ษณะทว่ั ไปของกราฟ ดังน้ี
1. กราฟเป็นพาราโบลาที่เป็นรปู สมมาตร โดยมแี กน x = h เป็นแกนสมมาตร
- ถ้า a > 0 กราฟจะมีลักษณะเป็นพาราโบลาหงาย ซ่ึงกราฟจะมจี ุดต่ำสดุ แต่ไม่มีจุดสงู สุด
- ถ้า a < 0 กราฟจะมลี กั ษณะเปน็ พาราโบลาคว่ำ ซึ่งกราฟจะมีจดุ สูงสดุ แต่ไม่มจี ดุ ต่ำสดุ
2. จุดต่ำสุด หรือจดุ สงู สดุ ของกราฟอยทู่ ีจ่ ุด (h,k) คา่ ตำ่ สดุ หรอื คา่ สงู สุดของ y เท่ากบั k
4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
4.1 ดา้ นความรู้ (K)
1) บอกได้ว่าสมการใดเปน็ สมการของพาราโบลาได้ถูกต้องอย่างนอ้ ยร้อยละ 70
2) เขยี นกราฟของสมการของพาราโบลาได้ถกู ต้องอย่างน้อยร้อยละ 70
4.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
1) การแก้ปญั หา
2) การให้เหตผุ ล
3) การส่อื สาร การสื่อความหมาย และการนำเสนอ
4) การเชอ่ื มโยง
5) ความคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์
4.3 ด้านคุณลกั ษณะ(A)
1) ทำงานอย่างเป็นระบบ
2) มีระเบียบวนิ ัย
3) มคี วามรอบคอบ
4) มีความรับผดิ ชอบ
5) มีความเชื่อมั่นในตนเอง
6) ชว่ ยเหลอื ซึ่งกนั และกัน
7) ตระหนกั ในคณุ ค่าและมเี จตคติท่ดี ตี ่อวิชาคณิตศาสตร์
5. สาระการเรยี นรู้
กราฟของฟังกช์ ันกำลังสอง
6. กระบวนการเรยี นรู้
ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น
2. ครทู ักทายนกั เรยี นร่วมกันทบทวนความร้เู ก่ียวกับฟังกช์ นั
พาราโบลาทีก่ ำหนดดว้ ยสมการ y = ax2 + bx + c เมอ่ื a ≠ 0 จดั ใหอ้ ยูใ่ นรปู
y = a(x – h)2 + k แล้วจะได้ลกั ษณะทัว่ ไปของกราฟ ดังน้ี
1. กราฟเป็นพาราโบลาที่เป็นรปู สมมาตร โดยมแี กน x = h เปน็ แกนสมมาตร
- ถา้ a > 0 กราฟจะมีลักษณะเป็นพาราโบลาหงาย ซ่ึงกราฟจะมีจุดต่ำสดุ แต่ไม่มี
จดุ สูงสุด
- ถา้ a < 0 กราฟจะมลี ักษณะเป็นพาราโบลาควำ่ ซ่งึ กราฟจะมจี ุดสงู สดุ แต่ไม่มจี ุด
ต่ำสดุ
2. จุดต่ำสดุ หรอื จุดสูงสุดของกราฟอยทู่ จ่ี ดุ (h,k) คา่ ตำ่ สุดหรอื คา่ สูงสุดของ y เทา่ กบั k
ขน้ั สอน
12. ครคู รแู ละนักเรียนรว่ มทำกิจกรรม “มันจะยากเท่าไหร่กันเชียว 3”โดยมีวธิ เี ลน่ ดังน้ี
1) ครูแบง่ นกั เรยี นออกเปน็ กล่มุ กลุ่มละ 4-5 คน
2) ครูใหน้ ักเรียนตงั้ ชื่อกล่มุ และสมาชกิ ในทีม
3) ครเู ปิดเกมใน
https://manage.vonder.co.th/challengeOverall?challengeId=62a0eacc5a0f0000095
c5021&type=challenge-detail&page=challenge-detail
4) ให้นักเรยี นหาตวั แทนกลมุ่ เพ่ือใชโ้ ทรศัพทใ์ นการตอบคำถาม
5) เล่นจนจบเกมแลว้ สรปุ คะแนน
ขน้ั สรปุ และฝึกทักษะ
11. ครใู หน้ ักเรียนรว่ มกนั สรุปความรู้เกี่ยวกับฟงั กช์ นั ของพาราโบลา
พาราโบลาทกี่ ำหนดดว้ ยสมการ y = ax2 + bx + c เมอื่ a ≠ 0 จดั ให้อยใู่ นรูป
y = a(x – h)2 + k แลว้ จะไดล้ กั ษณะท่วั ไปของกราฟ ดงั น้ี
1. กราฟเป็นพาราโบลาท่ีเป็นรูปสมมาตร โดยมีแกน x = h เป็นแกนสมมาตร
- ถา้ a > 0 กราฟจะมลี ักษณะเป็นพาราโบลาหงาย ซึ่งกราฟจะมีจดุ ต่ำสดุ แตไ่ มม่ ี
จดุ สงู สดุ
- ถา้ a < 0 กราฟจะมีลักษณะเปน็ พาราโบลาคว่ำ ซ่งึ กราฟจะมจี ดุ สูงสุด แตไ่ ม่มจี ดุ
ตำ่ สดุ
2. จดุ ตำ่ สดุ หรือจดุ สงู สุดของกราฟอยูท่ ี่จุด (h,k) คา่ ตำ่ สุดหรอื ค่าสงู สดุ ของ y เทา่ กบั k
12. ครใู ห้นกั เรียนซักถามข้อสงสยั และอภิปรายสง่ิ ท่ีไดจ้ ากการเรยี น
ขัน้ การวดั และประเมินผล
8. ครูครแู ละนักเรียนร่วมกนั เฉลยและหาคำตอบของคำถามแตล่ ะข้อ
7. ส่อื และแหล่งเรยี นรู้
12. หนงั สอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ ม.3 เลม่ 1 ของ สสวท.
8. การวดั ประเมนิ ผลการเรียนรู้ เครือ่ งมือ/วธิ ีการ เกณฑก์ ารวัด
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. การตอบคำถาม
ด้านความรู้ (K)
1) บอกได้ว่าสมการใดเป็นสมการของ ในชนั้ เรียนถกู ต้อง
พาราโบลาได้ถกู ตอ้ งอยา่ งนอ้ ยร้อยละ 70 1. การตอบคำถามใน อยา่ งน้อยร้อยละ
2) เขยี นกราฟของสมการของพาราโบลา ช้นั เรียน 70
ได้ถูกตอ้ งอยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ 70 2. กจิ กรรม “มนั จะยาก 2. กจิ กรรม “มันจะ
เทา่ ไหร่กนั เชยี ว 3” ยากเทา่ ไหร่
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1) การแก้ปัญหา กนั เชียว 2”ถูกต้อง
2) การให้เหตผุ ล
3) การสื่อสาร การส่อื ความหมาย อยา่ งน้อยร้อยละ
และการนำเสนอ
4) การเช่ือมโยง 70
5) ความคดิ ริเร่มิ สร้างสรรค์
1. การตอบคำถาม
ด้านคุณลักษณะ(A)
แสดงพฤตกิ รรมการมีความรับผิดชอบ ในช้ันเรยี นถกู ต้อง
แสดงพฤติกรรมใฝ่เรียนรู้
แสดงพฤติกรรมมีความมงุ่ มั่นในการทำงาน 1. การตอบคำถามใน อย่างน้อยร้อยละ
ชน้ั เรียน 70
2. กิจกรรม “มันจะยาก 2. กจิ กรรม “มันจะ
เท่าไหร่กนั เชียว 3” ยากเทา่ ไหร่
กนั เชยี ว 3”ถูกต้อง
อย่างน้อยร้อยละ
70
แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์คณุ ภาพ
ประจำหนว่ ยการเรียนรู้ ในระดบั ดีข้ึนไป
9. กจิ กรรมเสนอแนะ
-
แบบสังเกตพฤตกิ รรมทางการเรยี นการสอน
เลขที่ ช่ือ-สกลุ ของ ทำงาน ความ ความ ความ การให้ รวม
ผู้รบั การประเมิน อยา่ งเป็น รอบคอบ ตง้ั ใจเรยี น รบั ผิดชอบ ความ
ระบบ รว่ มมอื
4 4 4 4 4 20
เกณฑ์การให้คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตเิ ป็นประจำ ให้ 4 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏิบัตบิ างครงั้ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตนิ ้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
18-20 ดมี าก
13-17 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรับปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิกิจกรรมกลุ่ม
กลุ่มท(่ี ชือ่ กลมุ่ )........................................................................................................................................
สมาชิกในกลุม่ 1.......................................................................
2.......................................................................
3........................................................................
4........................................................................
5.......................................................................
6.......................................................................
คำชแี้ จง ให้ทำเครอื่ งหมาย ในช่องท่ตี รงกับความเป็นจริง
พฤติกรรมท่ีสังเกต คะแนน 1
43 2
1. การมสี ว่ นร่วมในการวางแผน
2. การปฏบิ ตั ิงานตามบทบาทหน้าท่ี
3. การให้ความรว่ มมือในการทำงาน
4. การแสดงความคิดเห็น
5. การยอมรับความคดิ เห็น
รวม
ลงช่อื ............................................................................ผู้ประเมิน
.................../................../..................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตเิ ป็นประจำ ให้ 4 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตบิ ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครง้ั ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัตนิ ้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
18-20 ดีมาก
13-17 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรบั ปรงุ
แผนการจัดการเรยี นรู้
รายวิชาคณิตศาสตร์พนื้ ฐาน 5 รหสั วชิ า ค23101 กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์
ปีการศึกษา 2565
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1
เวลา 1 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 กราฟของฟังกช์ นั กำลังสอง
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 31 เร่อื ง สอบหลังเรยี น
ครผู ูส้ อน นายวษิ ณุวัตร สุทธดิ ี
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะหแ์ บบรูป ความสมั พนั ธ์ ฟงั กช์ นั ลาํ ดบั และอนุกรม และนาํ ไปใช้
2. ตวั ช้ีวัด
ค 1.2 ม.3/2 เข้าใจและใช้ความรูเ้ กย่ี วกบั ฟงั กช์ นั กําลังสองในการแกป้ ัญหาคณติ ศาสตร์
3. สาระสำคญั
การทดสอบก่อนเรียน เปน็ การตรวจสอบความรพู้ น้ื ฐานของนกั เรียนก่อนท่ีจะเริม่ เรยี น
เรือ่ ง สมการกำลงั สองตัวแปรเดียว ว่านักเรียนมีความรู้พนื้ ฐานมากน้อยเพียงใด
4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
4.1 ดา้ นความรู้ (K)
1) อธบิ ายความหมายของฟังก์ชนั ไดถ้ ูกต้องอยา่ งน้อยร้อยละ 70
2) คำนวณหาค่าของฟังก์ชนั f ท่ี x หรือ f (x) เมื่อกำหนดค่า x มาให้ได้ถกู ตอ้ งอย่างน้อยรอ้ ยละ 70
3) อธบิ ายลักษณะของพาราโบลาจากสมการไดถ้ ูกต้องอย่างน้อยร้อยละ 70
4) เขียนกราฟของสมการของพาราโบลาได้ถูกต้องอย่างนอ้ ยร้อยละ 70
4.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
1) การแก้ปญั หา
2) การใหเ้ หตผุ ล
3) การสื่อสาร การสื่อความหมาย และการนำเสนอ
4) การเชอื่ มโยง
5) ความคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์
4.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ(A)
1) ทำงานอยา่ งเปน็ ระบบ
2) มรี ะเบียบวนิ ัย
3) มคี วามรอบคอบ
4) มีความรบั ผิดชอบ
5) มีความเช่ือมน่ั ในตนเอง
6) ช่วยเหลอื ซ่งึ กันและกัน
7) ตระหนกั ในคณุ ค่าและมีเจตคติทดี่ ตี ่อวชิ าคณติ ศาสตร์
5. สาระการเรียนรู้
กราฟของฟงั ก์ชันกำลังสอง
6. กระบวนการเรียนรู้
ขั้นนำเขา้ สู่บทเรยี น
3. ครูครูทักทายนกั เรียนและแจ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้วา่ วนั น้คี อื การทดสอบหลงั เรยี นเร่อื งกราฟของฟงั ก์ชนั
กำลงั สอง
ข้นั สอน
-
ขน้ั สรปุ และฝึกทักษะ
-
ขัน้ การวดั และประเมนิ ผล
2. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี นเรื่องกราฟของฟงั กช์ นั กำลังสอง
7. ส่อื และแหล่งเรียนรู้
13. หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 ของ สสวท.
14. แบบทดสอบหลังเรยี นเรื่องกราฟของฟงั ก์ชนั กำลังสอง
8. การวดั ประเมนิ ผลการเรียนรู้ เครอ่ื งมือ/วธิ กี าร เกณฑก์ ารวัด
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. แบบทดสอบหลงั
ด้านความรู้ (K)
1) อธิบายเก่ยี วกบั การแก้สมการกำลงั สองตัว 1. แบบทดสอบหลงั เรยี นเรือ่ งสมการ
เรียนเร่อื งสมการกำลังสอง กำลังสองตัวแปร
แปรเดียวโดยทำเป็นกำลงั สองสมบรู ณไ์ ด้ถกู ต้อง ตวั แปรเดยี ว
อยา่ งน้อยร้อยละ70 เดยี ว
ถกู ต้องอย่างน้อย
2) เขียนแสดงการแกส้ มการกำลงั สองตัวแปร
เดยี วโดยทำเปน็ กำลงั สองสมบรู ณไ์ ดถ้ ูกต้อง ร้อยละ 30
อย่างน้อยร้อยละ 70
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1. แบบทดสอบหลัง
1) การแก้ปญั หา
2) การให้เหตุผล 1. แบบทดสอบหลงั เรยี นเรือ่ งสมการ
3) การสอ่ื สาร การสอื่ ความหมาย เรยี นเรอื่ งสมการกำลงั สอง กำลงั สองตวั แปร
และการนำเสนอ ตัวแปรเดียว
4) การเช่ือมโยง เดียว
5) ความคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์ ถกู ต้องอย่างนอ้ ย
รอ้ ยละ 30
ด้านคณุ ลกั ษณะ(A) แบบสงั เกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์คณุ ภาพ
แสดงพฤตกิ รรมการมีความรับผิดชอบ ประจำหนว่ ยการเรียนรู้ ในระดับดีขน้ึ ไป
แสดงพฤตกิ รรมใฝเ่ รยี นรู้
แสดงพฤติกรรมมคี วามมุง่ ม่นั ในการทำงาน
9. กิจกรรมเสนอแนะ
-
แบบสังเกตพฤตกิ รรมทางการเรยี นการสอน
เลขที่ ช่ือ-สกลุ ของ ทำงาน ความ ความ ความ การให้ รวม
ผู้รบั การประเมิน อยา่ งเป็น รอบคอบ ตง้ั ใจเรยี น รบั ผิดชอบ ความ
ระบบ รว่ มมอื
4 4 4 4 4 20
เกณฑ์การให้คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตเิ ป็นประจำ ให้ 4 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏิบัตบิ างครงั้ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตนิ ้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
18-20 ดมี าก
13-17 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรับปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิกิจกรรมกลุ่ม
กลุ่มท(่ี ชือ่ กลมุ่ )........................................................................................................................................
สมาชิกในกลุม่ 1.......................................................................
2.......................................................................
3........................................................................
4........................................................................
5.......................................................................
6.......................................................................
คำชแี้ จง ให้ทำเครอื่ งหมาย ในช่องท่ตี รงกับความเป็นจริง
พฤติกรรมท่ีสังเกต คะแนน 1
43 2
1. การมสี ว่ นร่วมในการวางแผน
2. การปฏบิ ตั ิงานตามบทบาทหน้าท่ี
3. การให้ความรว่ มมือในการทำงาน
4. การแสดงความคิดเห็น
5. การยอมรับความคดิ เห็น
รวม
ลงช่อื ............................................................................ผู้ประเมิน
.................../................../..................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตเิ ป็นประจำ ให้ 4 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตบิ ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครง้ั ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัตนิ ้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
18-20 ดีมาก
13-17 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรบั ปรงุ