. .
. 200 .
. .
. 201 .
. .
. 202 .
. .
. 203 .
. .
. 204 .
. .
. 205 .
. .
. 206 .
. .
. 207 .
. .
. 208 .
. .
โปรดสแกนเพื่อดูภาพงานบ�ำเพ็ญกุศล
ท่ีวัดธาตุทองและบ้านยุกตะเสวี
. 209 .
. .
เมื่อ
หลอดเลือด
หัวใจตีบ
ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ประดิษฐ์ ปญั จวีณิน .
. 210
. .
ในคนสูงอายุจะพบว่ามีอัตราการเกิดโรคหัวใจสูงขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น (โดยเฉพาะ
โรคหลอดเลือดที่ไปเล้ียงหัวใจตีบ) โรคน้ีเป็นต้นเหตุส�ำคัญอย่างหนึ่งที่ท�ำให้มีอัตราการตายสูงขึ้น
ในผสู้ งู อายุ และมผี ลท�ำใหม้ กี ารคณุ ภาพชวี ติ เปลย่ี นแปลงไปในทางไมส่ ดู้ ี เชน่ ท�ำงานไมไ่ ดด้ เี ทา่ ทค่ี วร
เหนื่อยง่ายขึ้น เป็นภาระกับครอบครัวและสังคมมากข้ึน ในสมัยก่อนการรักษาภาวะนี้ท�ำได้จ�ำกัด
แต่ด้วยวิวัฒนาการในปัจจุบันพบว่ามีการรักษาได้หลายวิธีมาก จึงเป็นผลให้สามารถลดอัตราการตาย
และท�ำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ทั้งทางกายและทางใจ ถ้าได้รับการรักษาแต่เน่ิน ๆ อีกอย่าง
ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคหัวใจกลุ่มน้ีค่อนข้างสูง ฉะนั้น ถ้าเราสามารถป้องกันไม่ให้เป็นโรคน้ีได้
จะดีกว่ามาตามแก้ที่ปลายเหตุ อันอาจท�ำให้เสียชีวิตก่อนเวลาอันควร มีการทุพพลภาพ หรือเสีย
ค่าใช้จ่ายสูงโดยไม่จ�ำเป็น
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบเกิดขึ้นได้อย่างไร
โรคจะเกิดข้ึนได้เมื่อมีการหนาตัวของผนังหลอดเลือดซ่ึงอาจเป็นผลจากมีผลึกไขมันไปเกาะ
หรือมีพังผืดอันเป็นผลจากความเสื่อม หรือมีปัจจัยอ่ืน ๆ ไปกระตุ้นให้เกิดภาวะหนาตัวข้ึน ท�ำให้
เลือดไหลผ่านไม่สะดวกเป็นผลให้หัวใจขาดเลือด มีปัจจัยหลายอย่างที่ท�ำให้เกิดภาวะน้ีได้ ปัจจัย
ที่ว่าน้ี ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง สูบบุหรี่ ไขมันในเลือดสูง อายุท่ีมากข้ึน
ไม่ค่อยออกก�ำลังกาย ฯลฯ จะเห็นได้ว่าปัจจัยต่าง ๆ ท่ีกล่าวมา สามารถแก้ไขหรือท�ำให้ดีขึ้นได้
เป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นประการหน่ึงที่ไม่สามารถแก้ไขได้ คือ อายุที่เพ่ิมข้ึน
จะรู้ได้อย่างไรว่ามีอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
โดยท่ัวไปแล้วคนมักจะเข้าใจว่าอาการของโรคน้ีคือ อาการเจ็บหน้าอกด้านซ้าย และลักษณะ
อาการเจ็บจะเป็นอย่างไรก็ได้ เช่น เจ็บเสียวแปล๊บ ๆ เจ็บจี๊ด เป็นวินาทีหรือนาที ซ่ึงจริง ๆ แล้ว
ลักษณะท่ีกล่าวมาน้ี มักไม่ใช่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ลักษณะเฉพาะของโรคหลอดเลือด
หัวใจตีบจะมีอาการดังต่อไปนี้ คือ อาการเจ็บหน้าอกจะต้องเป็นที่บริเวณกลางหน้าอกตรงบริเวณ
เหนือล้ินปี่ข้ึนมาเล็กน้อย ลักษณะจะต้องเป็นแบบแน่น ๆ หน้าอกเหมือนมีอะไรมาบีบรัด หรือมี
ของหนัก ๆ มาทับอกอยู่ อาจมีอาการร้าวไปท่ีบริเวณไหล่ซ้ายและแขนซ้าย หรือร้าวไปท่ีกราม
ท้ัง ๒ ข้าง และที่ส�ำคัญมักจะสัมพันธ์กับการออกแรงหรือออกก�ำลังกาย เพราะช่วงน้ันหัวใจ
จะต้องการเลือดไปเลี้ยงมากข้ึน แต่เลือดไปไม่ได้เพราะว่ามีหลอดเลือดท่ีไปเล้ียงหัวใจตีบอยู่ อาการ
ทเ่ี ปน็ อยจู่ ะตอ้ งนานเปน็ นาทขี นึ้ ไป เพราะฉะนนั้ ถา้ มอี าการเสยี วแปลบ๊ ๆ เปน็ วนิ าที เปน็ ดา้ นซา้ ย
ของหน้าอกไม่สัมพันธ์กับการออกแรง (ซ่ึงจะเป็นอาการที่ผู้ป่วยมาพบแพทย์บ่อย ๆ) ส่วนใหญ่
ไม่ได้เป็นจากหลอดเลือดหัวใจตีบ
. 211 .
. .
อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ป่วยมีอาการเฉพาะของโรคน้ีครบทุกอย่าง แต่ไม่สัมพันธ์กับการออกแรง
หรือออกก�ำลังกาย ให้สงสัยว่าอาจจะไม่ใช่เป็นการขาดเลือดธรรมดา อาจจะเป็นโรคกล้ามเน้ือหัวใจ
ตายเฉียบพลันที่เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดข้ึนอย่างกะทันหันไม่ใช่เป็นแค่หลอดเลือดหัวใจตีบ
ส่วนใหญ่พวกนี้อาการจะรุนแรงมากกว่าโรคหัวใจขาดเลือด มักมีอาการเหง่ือออกหรืออาการคล้าย
จะเป็นลมร่วมด้วย โรคน้ีจะมีอันตรายมากกว่าโรคหัวใจขาดเลือด และมีผลแทรกซ้อนมากกว่า
ถ้าท่านมีอาการคล้ายหรือเหมือนอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบท่านควรท�ำอย่างไร
ดังได้กล่าวข้างต้นแล้วว่า โรคนี้ถ้าได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะสามารถลดอัตรา
การเสียชีวิต ลดการเกิดทุพพลภาพ และลดค่าใช้จ่ายในการรักษาได้อย่างมาก ฉะน้ัน เมื่อสงสัยว่า
มอี าการดงั กลา่ วจงึ ควรรบี ไปพบแพทยโ์ ดยเรว็ จากทกี่ ลา่ วไวแ้ ลว้ วา่ อาการเจบ็ หนา้ อกอาจเปน็ ไดจ้ าก
๒ กรณี คือ เกิดจากการขาดเลือดเน่ืองจากหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตาย
เฉียบพลันจากการอุดตันของเส้นเลือดที่ไปเล้ียงหัวใจอย่างกะทันหัน
การปฏิบัติตัวใน ๒ กรณีมีความแตกต่างกัน ดังน้ี
๑) ถ้าเป็นจากการขาดเลือดเนื่องจากหลอดเลือดตีบ กล่าวคือ มีอาการขณะออกแรง
หรือออกก�ำลังกาย ให้หยุดการออกแรง หรือออกก�ำลังกายที่มากจนท�ำให้เกิดอาการ
และไปพบแพทย์โดยเร็วแต่ไม่ถึงกับฉุกเฉิน
๒) ถ้าเป็นจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการอุดตันของเลือดที่ไปเล้ียงหัวใจ
อย่างกะทันหัน กล่าวคือ มีอาการในขณะพักหรืออยู่เฉย ๆ โดยมีอาการค่อนข้างมาก
ให้ไปพบแพทย์โดยด่วนที่สุด (ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม เพราะว่าโรคนี้ส่วนใหญ่มักเกิด
ตอนกลางคืน) และควรไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพราะกล้ามเนื้อหัวใจตายที่เกิดจาก
การอุดตันของหลอดเลือดท่ีไปเลี้ยงหัวใจน้ัน จะสัมพันธ์กับระยะเวลาท่ีเกิดการอุดตัน
ของหลอดเลือด และกล้ามเน้ือหัวใจจะตายเกือบท้ังหมดภายใน ๔ - ๖ ชั่วโมง
หลังการขาดเลือด ควรพบแพทย์ภายใน ๙๐ นาที เน่ืองจากการรักษาในปัจจุบัน
สามารถรักษาได้ด้วยการให้ยา หรือขยายหลอดเลือดที่อุดตันได้ด้วยบอลลูน ซ่ึงหาก
ได้รับการรักษาภายใน ๙๐ นาที จะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายได้
(ย่ิงรักษาได้เร็วเท่าไรก็จะท�ำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายน้อยลงเท่านั้น)
. 212 .
. .
ภาวะหัวใจขาดเลือดสามารถป้องกันได้หรือไม่ ถ้าได้ควรท�ำอย่างไร
“ปอ้ งกนั ได”้ ดงั ไดก้ ลา่ วไวแ้ ลว้ วา่ มปี จั จยั ทท่ี �ำใหเ้ กดิ โรคนไี้ ดห้ ลายปจั จยั เชน่ โรคความดนั
โลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน สูบบุหร่ี ฯลฯ การป้องกันคือ ให้ควบคุมต้นเหตุ
ดังกล่าวข้างต้น โดยเลิกสูบบุหรี่ ควบคุมอาหาร และออกก�ำลังกายสม่�ำเสมอ
การออกก�ำลังกายช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือไม่
พบว่าการออกก�ำลังกายนอกจากช่วยให้ร่างกายโดยรวมแข็งแรงแล้ว ยังพบว่าสามารถลด
อัตราการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้ด้วย
วิธีการออกก�ำลังกายที่เหมาะสมควรท�ำอย่างไร
โดยทั่วไปควรออกก�ำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ ๓ คร้ัง คร้ังละไม่ต�่ำกว่า ๒๐ นาที
การเลือกออกก�ำลังกายแบบใดนั้น โดยทั่วไปแนะน�ำให้ออกก�ำลังกายแบบใดก็ได้ ขอให้
เป็นการออกก�ำลังกายท่ีมีการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายตลอดเวลา เช่น เดิน วิ่ง ว่ายน�้ำ
เล่นกีฬา เป็นต้น แต่การออกก�ำลังกายที่ใช้การเกร็งกล้ามเนื้อหรือออกแรงต้านหรือไม่ค่อย
เคล่ือนไหวร่างกายมักจะไม่แนะน�ำ เช่น การยกน้�ำหนัก เป็นต้น
“จะออกก�ำลังกายขนาดเท่าใด” โดยปกติไม่จ�ำเป็นต้องหักโหม ให้ท�ำเท่าท่ีร่างกาย
จะรับได้ โดยมีหลักง่าย ๆ คือว่า ให้ออกก�ำลังกายโดยให้มีชีพจรเต้นเพ่ิมขึ้นมากกว่าขณะพัก ตั้งแต่
๑๐ ครั้งต่อนาทีข้ึนไป ตัวอย่างเช่น ขณะพักจับชีพจรได้ ๗๐ คร้ังต่อนาที เราควรออกก�ำลังกาย
จนถึงระดับที่ท�ำให้ชีพจรเต้นเพ่ิมขึ้นเป็นอย่างน้อย ๘๐ ครั้งต่อนาที หรือมากกว่า อย่างไรก็ตาม
ถ้าจะออกก�ำลังกายมากกว่าท่ีก�ำหนดไว้ท้ังปริมาณและจ�ำนวนวันก็สามารถกระท�ำได้ แต่มักไม่ได้
ช่วยในการป้องกันโรค แต่จะช่วยให้กล้ามเน้ือของร่างกายแข็งแรงข้ึน
โดยสรุป โรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตันกะทันหันเป็นโรคที่ร้ายแรง ท�ำให้เสียชีวิต
หรือทุพพลภาพได้ ตลอดจนต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงมาก ฉะน้ัน การป้องกันจึงน่าจะเป็น
วิธีที่ดีท่ีสุด โดยต้องตรวจหาปัจจัยเสี่ยงท่ีท�ำให้เกิดโรคนี้ว่ามีหรือไม่ ถ้ามีต้องรีบควบคุมและรักษา
และหลีกเล่ียงปัจจัยเสี่ยงท่ีเป็นต้นเหตุ เช่น เลิกสูบบุหรี่ นอกจากนี้ ควรออกก�ำลังกายสม�่ำเสมอ
เพ่ือลดอัตราการเสี่ยงของโรคน้ีลงอีกทางหน่ึง แต่ถ้าป้องกันไม่ทันและเกิดมีอาการของโรคน้ี
ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วเพื่อป้องกันและแก้ไขอันตรายที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะกรณีท่ีเป็น
โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจอย่างกะทันหัน
ซึ่งถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องไปพบแพทย์โดยด่วนภายใน ๙๐ นาทีหลังเกิดอาการ
. 213 .
. .
เมื่อ
คุณหมอ
แนะน�ำให้ใส่เครื่อง
กระตุ้นหัวใจ
(Permanent Pacemaker
Implantation)
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงอริศรา สุวรรณกูล .
. 214
. .
มักเกิดค�ำถามมากมายกับตัวเราว่า... จะท�ำอย่างไรดี? แล้วต้องใส่ตลอดไปหรือไม่?
ใส่เครื่องแล้วเราจะดีขึ้นจริง? การผ่าตัดเส่ียงมากน้อยเพียงใด? ค�ำถามต่าง ๆ จะได้ค�ำตอบเม่ือเรา
ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางให้เข้าใจถึงสาเหตุและความจ�ำเป็นในการใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ ประโยชน์
และความเส่ียงในการฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจ ข้อบ่งชี้ที่ส�ำคัญของการใส่เคร่ืองกระตุ้นหัวใจคือภาวะ
หัวใจเต้นช้ากว่าที่ควรเป็น ร่วมกับมีอาการท่ีสัมพันธ์กับการเต้นหัวใจท่ีช้าผิดปกติ เช่น อ่อนเพลีย
เหน่ือยง่ายเวลาออกแรง หน้ามืด เป็นลมหมดสติ โดยไม่มีสาเหตุท่ีแก้ไขได้
• อาการเป็นอย่างไร ท�ำไมต้องใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ?
คนไข้กลุ่มนี้จะมีอาการอันเนื่องมาจากหัวใจเต้นช้าผิดปกติโดยไม่มีสาเหตุที่แก้ไขได้
ซ่ึงเป็นผลมาจากระบบการน�ำไฟฟ้าในหัวใจท�ำงานได้ลดลง ท�ำให้การสูบฉีดโลหิตมีปริมาณลดลง
จนไมเ่ พยี งพอส�ำหรบั การเลยี้ งอวยั วะตา่ ง ๆ ทงั้ รา่ งกาย สง่ ผลใหผ้ ปู้ ว่ ยรสู้ กึ ออ่ นเพลยี ไมม่ แี รง วงิ เวยี น
มึนศีรษะ หรือหน้ามืดเป็นลมหมดสติได้ จึงจ�ำเป็นต้องใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจเพ่ือช่วยให้จังหวะหัวใจ
กลับมาเต้นเหมือนกับภาวะปกติ
• เราจ�ำเป็นต้องฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจไปตลอดชีวิตหรือไม่?
ในกรณีท่ีแพทย์ตัดสินใจฝังเคร่ืองกระตุ้นหัวใจชนิดถาวร น่ันหมายถึงผู้ป่วยเหล่านี้มีสาเหตุ
ของหัวใจเต้นช้าชนิดไม่สามารถแก้ไขให้กลับเป็นปกติได้ เช่น อายุท่ีมากท�ำให้เนื้อเยื่อในการสร้าง
และส่งสัญญาณเส่ือมหน้าที่จึงจ�ำเป็นต้องฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจอยู่กับผู้ป่วยไปตลอดชีวิต
หากหัวใจท่ีเต้นช้าผิดปกตินั้นมีสาเหตุท่ีสามารถแก้ไขให้หายได้ แพทย์จะรักษาสาเหตุน้ัน ๆ
ซึ่งในระหว่างน้ันถ้ามีความจ�ำเป็น แพทย์จะใส่สายกระตุ้นหัวใจชั่วคราวผ่านทางหลอดเลือดด�ำเข้าไป
ในหัวใจและต่อกับเครื่องกระตุ้นหัวใจช่ัวคราวไปก่อน เพื่อรอเวลาให้หัวใจกลับมาเต้นเป็นปกติ
ภายหลังท่ีสาเหตุได้รับการแก้ไขแล้ว
. 215 .
. .
• เครื่องกระตุ้นหัวใจท�ำงานอย่างไร?
เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจมีหน้าที่กระตุ้นหัวใจท่ีเต้นช้าให้ท�ำงานด้วยอัตราเร็วที่เหมาะสม โดย
จะมสี ว่ นประกอบทส่ี �ำคญั อยู่ ๒ สว่ น คอื ตวั เครอ่ื ง (Pulse Generator) ท�ำหนา้ ทปี่ ลอ่ ยกระแสไฟฟา้
ในปริมาณน้อยแต่เพียงพอท่ีจะกระตุ้นเนื้อเยื่อหัวใจให้บีบตัว และสายสื่อ (Pacemaker Lead)
ท�ำหน้าท่ีน�ำสัญญาณไฟฟ้าระหว่างตัวเครื่องกระตุ้นและเนื้อเย่ือหัวใจ เม่ืออัตราการเต้นหัวใจเราเต้น
ช้ากว่าค่าที่ตั้งไว้ เครื่องก็จะส่งสัญญาณไฟฟ้าผ่านตัวสายสื่อเพื่อกระตุ้นหัวใจให้บีบตัวตามอัตราเร็ว
ตามที่ตั้งไว้ เพ่ือให้ไม่มีอาการของภาวะหัวใจเต้นช้าผิดปกติ
• ความเส่ียงและระยะเวลาในการผ่าตัด
การผ่าตัดฝังเคร่ืองกระตุ้นหัวใจเป็นการผ่าตัดเล็กท่ีมีความเส่ียงต่�ำ (น้อยกว่าร้อยละ ๑)
และใช้ระยะเวลาในการท�ำผ่าตัดประมาณ ๑ - ๒ ชั่วโมง ระหว่างการผ่าไม่จ�ำเป็นต้องใช้ยาสลบ
สามารถใช้เพียงยาชาเฉพาะท่ี และอาจให้ยานอนหลับหรือยาคลายความวิตกกังวลเพ่ือให้ผู้ป่วยรู้สึก
สบายระหว่างผ่าตัดฝังเคร่ือง หลังจากน้ันแพทย์จะใส่สายสื่อน�ำสัญญาณไฟฟ้าผ่านทางหลอดเลือดด�ำ
บริเวณหน้าอกใกล้กระดูกไหปลาร้า เข้าไปสู่ห้องหัวใจห้องขวาเพื่อไปวางสายสื่อในหัวใจห้องบนขวา
และ/หรอื หอ้ งลา่ งขวา หลงั จากตรวจสอบต�ำแหนง่ ปลายสายและการน�ำไฟฟา้ จนไดค้ า่ ทเ่ี หมาะสมแลว้
แพทย์จะต่อสายเข้ากับตัวเคร่ืองกระตุ้นและฝังเคร่ืองไว้ใต้ผิวหนังบริเวณหน้าอกข้างซ้าย
ใต้กระดูกไหปลาร้าจากนั้นจึงเย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย เม่ือผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแพทย์จะปิดแผล
ด้วยพลาสเตอร์กันนํ้าปราศจากเชื้อ และห้ามแผลถูกน้ําตลอดระยะเวลาประมาณ ๑๐ - ๑๔ วัน
จนถึงวันนัดมาตรวจแผลผ่าตัดอีกคร้ัง
• การดูแลตนเองและการปฏิบัติตัวหลังการฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจ
• หลังผ่าตัดประมาณ ๒ สัปดาห์ แพทย์จะนัดมาเพ่ือเปิดแผล และตรวจสอบการท�ำงาน
ของเครื่องกระตุ้นหัวใจอีกครั้ง หากตรวจแผลว่าติดดีแล้ว ผู้ป่วยสามารถให้แผลถูกนํ้าและอาบนํ้าได้
ตามปกติ รวมถึงการยกแขนข้างที่ผ่าตัดข้ึนเหนือศีรษะได้ นอกจากนี้ ถ้าไม่มีปัญหาอื่นใด ผู้ป่วย
สามารถประกอบกิจวัตรประจ�ำวนั และท�ำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ เชน่ การขับรถ ออกก�ำลังกาย
ท�ำงานอดิเรก ท�ำกิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ได้
. 216 .
. .
• ผู้ป่วยที่ได้รับการฝังเคร่ืองกระตุ้นหัวใจควรหลีกเล่ียงกีฬาที่มีโอกาสเกิดการปะทะ
หรือกระแทกบริเวณที่ฝังเครื่อง เช่น รักบี้ บาสเกตบอล ฟุตบอล รวมถึงให้หลีกเลี่ยงการพัก
ลูกบอลท่ีหน้าอก ซ่ึงอาจท�ำให้เกิดอันตรายต่อเครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือท�ำให้แผลฟกช้�ำ น�ำมา
ซึ่งความเส่ียงต่อการติดเช้ือได้ ส่วนกีฬาบางชนิดท่ีต้องแกว่งแขนแรง ๆ เร็ว ๆ เช่น กอล์ฟ เทนนิส
แบดมินตัน ฯลฯ ควรรอให้พ้นระยะ ๖ เดือนแรกให้สายติดแน่นดีก่อน เพ่ือป้องกันสายสื่อเคลื่อน
หลุด
• หากพบอาการผิดปกติ เช่น ใจสั่น หน้ามืดเป็นลม เหน่ือยหอบผิดปกติ สะอึกตลอดเวลา
ตามจังหวะการเต้นของหัวใจ ควรมาพบแพทย์ก่อนนัดเพื่อตรวจหาสาเหตุและตรวจสอบการท�ำงาน
ของเครื่อง
• ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการผิดปกติ จ�ำเป็นต้องเข้ารับการตรวจเพื่อติดตามการท�ำงานของเครื่อง
เป็นระยะตามนัดอย่างน้อยทุก ๔ - ๖ เดือน
• ข้อควรระวังส�ำหรับผู้ป่วยฝังเคร่ืองกระตุ้นหัวใจ
เนอ่ื งจากเครอ่ื งกระตนุ้ ไฟฟา้ หวั ใจเปน็ อปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ สนามแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ทม่ี กี �ำลงั ไฟสงู
อาจส่งผลต่อการท�ำงานของเคร่ืองได้ จึงควรท�ำความเข้าใจและหลีกเลี่ยงส่ิงท่ีอาจรบกวนการท�ำงาน
ของเครื่อง เช่น
ก. อุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านและส�ำนักงาน
• ผปู้ ว่ ยสามารถใชง้ านอปุ กรณไ์ ฟฟา้ ตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจ�ำวนั เชน่ โทรศพั ทม์ อื ถอื ตเู้ ยน็
ทีวี เตาไมโครเวฟ เตาอบไฟฟ้า เครื่องผสมอาหาร ที่เปิดกระป๋องไฟฟ้า เครื่องปิ้งขนมปัง ฯลฯ
ได้ตามปกติเหมือนท่ัวไป โดยไม่มีผลต่อเครื่องกระตุ้นหัวใจ แต่ไม่ควรน�ำหน้าอกด้านท่ีฝังเคร่ือง
กระตุ้นไปแนบกับอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ไม่แนะน�ำให้พกโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเสื้อด้านเดียวกับท่ีฝัง
เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือแขวนไว้กับคอใกล้กับเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจน้อยกว่า ๑๕ เซนติเมตร
ต่อเน่ืองเป็นเวลานาน ๆ
• แนะน�ำให้อยู่ห่างจากส่วนอุปกรณ์ท่ีมีมอเตอร์ เช่น เคร่ืองซักผ้า เครื่องอบผ้า เป็นต้น
อย่างน้อย ๑๕ เซนติเมตร
. 217 .
. .
• อย่างไรก็ตาม หากอุปกรณ์เหล่านี้ท�ำงานผิดปกติ เช่น ไฟรั่ว หากใครได้สัมผัสผู้ป่วย
จะมคี วามเสย่ี งในการถูกไฟช็อตเหมอื นบุคคลท่วั ไป และอาจมผี ลรบกวนการท�ำงานของเครื่องกระตนุ้
ไฟฟ้าหัวใจได้
• อปุ กรณท์ ม่ี แี มเ่ หลก็ ในตวั เชน่ ล�ำโพงขนาดใหญภ่ ายในบา้ น สามารถใชไ้ ดแ้ ตใ่ หแ้ มเ่ หลก็
ห่างจากเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจมากกว่า ๑๕ เซนติเมตร ส่วนที่นอนหรือหมอนที่ฝังแม่เหล็ก
ไม่แนะน�ำให้ผู้ป่วยใช้งาน
• สง่ิ ทคี่ วรหลกี เลย่ี ง ไดแ้ ก่ อปุ กรณช์ า่ งทม่ี กี �ำลงั มอเตอรส์ งู หรอื มคี ลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ แรงสงู
เช่น เล่ือยไฟฟ้า เคร่ืองเชื่อมโลหะ ไม่เข้าใกล้หม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ เคร่ืองก�ำเนิดพลังงาน
ไฟฟ้าขนาดใหญ่ในโรงงานอุตสาหกรรมหรือในโรงไฟฟ้า เตาหลอม ไม่เข้าใกล้ล�ำโพงขนาดใหญ่
ตามงานวัด บริเวณหอและเคร่ืองส่งในสถานีโทรทัศน์หรือวิทยุ
ข. อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจรักษาทางการแพทย์
• การตรวจรักษาทางการแพทย์ส่วนใหญ่สามารถท�ำได้โดยไม่มีผลรบกวนการท�ำงาน
ของเคร่ืองกระตุ้นหัวใจ เช่น การตรวจเอกซเรย์ การตรวจด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ การตรวจ
รักษาฟัน การกรอฟัน ถอนฟัน ผ่าตัดฟัน
• อุปกรณ์การตรวจรักษาทางการแพทย์บางชนิดที่อาจมีผลรบกวนการท�ำงานของเครื่อง
ชั่วคราว แต่สามารถท�ำได้ภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยการปรับโปรแกรมการท�ำงานของเครื่อง
กระตุ้นหัวใจช่ัวคราว เพื่อให้การตรวจรักษาด้วยอุปกรณ์ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว จึงปรับโปรแกรม
กลับมาดังเดิม เช่น
- เครื่องจ้ีไฟฟ้าเพื่อห้ามเลือดเวลาผ่าตัด (Electrocautery)
- เครื่องรักษาด้วยเคร่ืองก�ำเนิดความร้อน (Diathermy)
- เคร่ืองสลายนิ่ว (Lithotripsy)
- เครื่องกระตุกช็อกไฟฟ้าจากภายนอก (External Defibrillator)
- การตรวจและรักษาด้วยการใส่สายสวนหัวใจและจ้ีรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะด้วย
คลื่นไฟฟ้าความถี่สูง (Radiofrequency Ablation)
• การรักษาด้วยการฉายรังสี (Radiation Therapy)
• การใช้ไฟฟ้ากระตุ้นประสาทผ่านทางผิวหนังเพ่ือรักษา เช่น เพ่ือลดอาการปวด
(Transcutaneous Electrical Nerve Stimulation; TENS)
. 218 .
. .
• การตรวจโดยใช้คล่ืนสะท้อนแม่เหล็ก (Magnetic Resonance Imaging) ปัจจุบัน
เคร่ืองกระตุ้นหัวใจถูกพัฒนาให้มีความปลอดภัยต่อการตรวจ MRI มากข้ึน อย่างไรก็ตาม
ก่อนการตรวจทางการแพทย์ทุกคร้ังควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่าใส่เคร่ืองกระตุ้นหัวใจอยู่ในร่างกาย
เพ่ือตรวจเช็กเคร่ืองว่าเป็นรุ่นท่ีสามารถตรวจ MRI ได้หรือไม่ หากพบว่าไม่ใช่รุ่นท่ีเข้าตรวจ MRI ได้
แพทย์จะหลีกเล่ียงหาวิธีการตรวจอื่นทดแทน แต่หากยังมีความจ�ำเป็นต้องตรวจ MRI ควรปรึกษา
แพทยเ์ ฉพาะทางเพอ่ื ปรบั ตงั้ คา่ ของเครอ่ื งกระตนุ้ หวั ใจใหป้ ลอดภยั ตอ่ การตรวจ และเตรยี มความพรอ้ ม
ในการช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุกับตัวเคร่ืองหรือผู้ป่วยขณะท�ำ MRI
ค. การเดินทาง
• ควรพกบัตรประจ�ำตัวผู้ได้รับการฝังเคร่ืองด้วยเสมอ แนะน�ำให้ผู้ป่วยแสดงบัตร
เม่ือต้องผ่านบริเวณท่ีมีประตูหรือการใช้อุปกรณ์ส�ำหรับการตรวจหาอาวุธหรือโลหะเพื่อหลีกเลี่ยง
การตรวจบริเวณที่มีเครื่องฝังอยู่ แต่อาจต้องรับการตรวจค้นด้วยมือแทน
• เครื่องตรวจป้องกันการขโมยในห้องสมุดและตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ผู้ป่วยท่ีมี
เคร่ืองกระตุ้นหัวใจสามารถเดินผ่านได้ โดยไม่ท�ำให้การท�ำงานของเคร่ืองผิดปกติ แต่ไม่ควรยืนค้าง
ระหว่างเครื่องตรวจนาน ๆ
• ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติโดยท่ัวไปไม่มีผลรบกวนการท�ำงานของเครื่องกระตุ้นหัวใจ
• ระบบสัญญาณกันขโมยในบ้านทั่วไปไม่มีผลท�ำให้เคร่ืองท�ำงานผิดปกติ และเครื่อง
กระตุ้นหัวใจก็ไม่กระตุ้นสัญญาณกันขโมยดังแต่อย่างใด
หากผู้ป่วยท่ีได้รับการฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจได้รับข้อมูลเบื้องต้นถึงความจ�ำเป็นในการใส่
เครื่องกระตุ้นหัวใจ รวมถึงประโยชน์ท่ีจะได้รับและความเส่ียงที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างและหลัง
การใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ จะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจ ลดความวิตกกังวลและให้ความร่วมมือต่อการรักษา
ขณะเดียวกันการได้รับค�ำแนะน�ำในการดูแลตนเองและการปฏิบัติตัวหลังใส่เคร่ืองกระตุ้นหัวใจ
จะส่งผลให้ผู้ป่วยยอมรับการเปล่ียนแปลงท่ีเกิดขึ้น และปรับตัวต่อการใช้ชีวิตที่มีเคร่ืองกระตุ้นหัวใจ
ในร่างกายได้ดียิ่งขึ้น เพ่ือส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อผู้ป่วยและครอบครัว
. 219 .
. .
โรค
สมอง
เสื่อม
ที่มา : หนังสือรู้ทันสมองเส่ือม
ผู้เขียน : รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงวรพรรณ เสนาณรงค์
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
จัดพิมพ์โดย : ส�ำนักพิมพ์อมรินทร์เฮลท์
. 220 .
. .
โรคสมองเสอ่ื มรอ้ ยละ ๙๐ จะเกดิ กบั วยั สงู อายุ ๖๐ - ๖๕ ปี และมกั พบในเพศหญงิ มากกวา่
เพศชาย ส�ำหรับสมองเสื่อมก่อนวัยอันควรจะเป็นพบได้ร้อยละ ๑๐ ในผู้ป่วยอายุก่อน ๖๕ ปี
หรือบางต�ำราบอกว่าก่อนอายุ ๕๕ ปี
สมองเส่ือมก่อนวัยหรือสมองเส่ือมในวัยกลางคน คือ เกิดอาการหลงลืมก่อนอายุ ๖๕ ปี
บางครั้งแพทย์จะเคร่งครัดค�ำจ�ำกัดความว่า “ก่อนอายุ ๕๕ ปี” เช่น โรคสมองฟรอนโตเทมพอรัล
(สมองเส่ือมชนิดกลีบสมองส่วนหน้าและกลีบสมองฝ่อ) และโรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์
สมองเสื่อมก่อนวัยหรือสมองเสื่อมในวัยกลางคน
สมองเสื่อมชนิดกลีบสมองส่วนหน้า สมองเสื่อมอัลไซเมอร์
และกลีบสมองฝ่อ
กลุ่มผู้ป่วย: วัยท�ำงาน กลุ่มผู้ป่วย: มักเกิดก่อนวัยสูงอายุ
อาการ: มีอารมณ์ก้าวร้าว อาการ: ถามซ้�ำ ถามค�ำถามเดิมบ่อย ๆ
หุนหันพลันแล่น พูดตะกุกตะกัก ลืมในสิ่งใหม่ ๆ เช่นเดียวกับผู้ป่วย
นึกค�ำพูดไม่ออก ขาดความอาทรห่วงใย อัลไซเมอร์สูงวัย แต่อาจมีอาการลมชัก
อาการใช้มือจับสิ่งของไม่คล่องร่วมด้วยได้
สมองเส่ือมก่อนวัยอันควรจะเป็น มักเกิดจาก “พันธุกรรม” โดยพบได้ในครอบครัวท่ีมี
สารพนั ธกุ รรมผดิ ปกติ เชน่ หากคณุ พอ่ หรอื คณุ แมเ่ ปน็ โรคสมองเสอ่ื ม ลกู กม็ โี อกาสเปน็ โรคสมองเสอื่ มได้
หนึ่งในสองกรณีดังกล่าว หรือร้อยละ ๕๐ แพทย์อาจต้องตรวจเป็นพิเศษเพราะว่าจะมีผลกระทบ
ต่อครอบครัวมากมายในภายหลัง ผู้ป่วยและญาติในกลุ่มน้ีมักมีความเครียดสูงเนื่องจากผู้ป่วยอยู่ใน
วัยท�ำงาน เมื่อมีการถดถอยทางสมองก็มีผลกระทบต่อหน้าที่การงานและเร่ืองส่วนตัวตามมา
. 221 .
. .
ระยะของโรคสมองเสื่อม
โรคสมองเสื่อมแบ่งเป็นสมองเสื่อมระยะต้น ระยะกลาง ระยะรุนแรง และระยะติดเตียง
๑. ระยะต้น (Mild) คือ ระยะที่เริ่มเป็นน้อย ๆ ญาติอาจไม่ทราบเลยว่าผู้ป่วย
เป็นสมองเสื่อม มักคิดว่าเป็นไปตามวัย บางรายบุคลิกเปลี่ยนไป จากที่เคยชอบท่องเที่ยวหรือชอบ
ไปสังสรรค์ก็กลายมาเป็นคนชอบเก็บตัวเงียบอยู่กับบ้าน และมักมีเหตุผลต่าง ๆ นานาเป็นข้ออ้าง
เช่น ไม่อยากไปกินข้าวนอกบ้าน เพราะเบื่อ แล้วก็เมื่อยมาก
อาการแรกท่ีมักพบได้บ่อยคือ การเฉยเมย ไม่กระตือรือร้น ซ่ึงเป็นอาการน�ำของโรค
สมองเส่ือม จากนั้นก็มักถามซ้�ำ ๆ ย�้ำคิดย�้ำค�ำ อาจมีอาการซึมเศร้า เสียใจง่าย และน้อยใจง่าย
เหล่าน้ีเป็นอาการเบื้องต้นของสมองเสื่อม บางรายมีอาการเซื่องซึมร่วมด้วย อาการเบื้องต้นน้ี
จะใช้ระยะเวลา ๓ - ๕ ปี จากนั้นจะพัฒนาเป็นระยะกลาง
๒. ระยะกลาง (Moderate) เป็นระยะท่ีญาติมักพาผู้ป่วยมาหาหมอ ผู้ป่วยจะมีอาการ
ก้าวร้าว โต้เถียงมากขึ้น มีอาการคิดผิด หลงผิด อาจเห็นภาพหลอน เช่น เห็นคนหรือสัตว์
มาพูดคุยด้วย บางรายเร่ิมเห็นตนเองในกระจกแล้วจ�ำไม่ได้ หรือเห็นเป็นคนอื่นเข้ามาอยู่ในบ้าน
มีอาการหุนหันพลันแล่น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยระยะกลางถึงระยะรุนแรง
๓. ระยะรุนแรง (Severe) ผู้ป่วยจะจ�ำส่ิงที่เพ่ิงเกิดข้ึนไม่ได้ ไม่สามารถท�ำกิจวัตร
ประจ�ำวันได้ด้วยตนเอง จ�ำญาติพ่ีน้องไม่ได้ แม้ตนเองก็ยังจ�ำไม่ได้ มักเดินหลงทางได้ง่าย บุคลิก
เปล่ียนไป เดินและเคลื่อนไหวช้า กล้ันอุจจาระและปัสสาวะไม่ได้
บางคร้ังก็แยกผู้ป่วยระยะกลางกับระยะรุนแรงออกจากกันยาก จ�ำเป็นต้องพิจารณาถึง
ความสามารถในกิจวัตรประจ�ำวันว่าผู้ป่วยท�ำได้เองเช่นเดิมหรือไม่ หรือต้องให้ช่วยเหลือจึงจะท�ำได้
มีภาวะพ่ึงพิงในการท�ำกิจวัตรประจ�ำวันมากน้อยแค่ไหน
๔. ระยะติดเตียง (Profound) หมายถึง ผู้ป่วยระยะท่ีจะลุกน่ังหรือเคลื่อนไหวด้วยตนเอง
ไม่ได้ มักจะนอนอยู่บนเตียงเท่านั้น จึงออกจากบ้านด้วยตนเองไม่ได้ และที่ส�ำคัญคือ ผู้ป่วยระยะน้ี
จะลืมแม้กระทั่งการกลืน นับว่าอยู่ในสภาวะพ่ึงพิงโดยสิ้นเชิง
ยกตัวอย่างระยะของโรค
ระยะต้น ผู้ป่วยยังช่วยเหลือตนเองได้ดีในหลาย ๆ อย่าง ญาติอาจแค่เตือนว่า “คุณแม่
เปลี่ยนเสื้อหน่อยนะ” เพราะคุณแม่สวมเสื้อผิดวาระและโอกาส หรือติดกระดุมไม่เรียบร้อย
ระยะกลาง ญาติต้องคอยเตือนท่านมากข้ึน เช่น “คุณแม่อาบน้ํานะคะ... ท�ำไมไม่ยอม
เปล่ียนเส้ือ... จัดเสื้อวางไว้ให้นะคะจะได้สวมตัวน้ีเลยหลังอาบน้ํา”
ระยะกลางเรมิ่ รนุ แรง ผปู้ ว่ ยยงั สามารถชว่ ยเหลอื ตนเอง อาบนาํ้ แตง่ ตวั ได้ แตช่ า้ หรอื ไมส่ ะอาด
เราอาจจะตอ้ งเตอื นทา่ น หรอื ตอ้ งชว่ ยตดิ กระดมุ เสอื้ หรอื แมแ้ ตเ่ ขา้ หอ้ งนาํ้ กไ็ มค่ อ่ ยรกั ษาความสะอาด
เป็นต้น
. 222 .
. .
ระยะติดเตียง ผู้ป่วยเคล่ือนไหวด้วยตนเองไม่ได้ ต้องนอนอยู่บนเตียงเท่าน้ัน นับว่าอยู่ใน
สภาวะพึ่งพิงโดยส้ินเชิง
ผู้มีปัญหาการเคล่ือนไหว
ญาติควรฝึกการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
เช่น จากนอนเป็นน่ัง
จากน่ังเป็นนอน
ฝึกการเดิน เป็นต้น
รู้หรือไม่ ภาวะกลั้นปสั สาวะหรืออุจจาระไม่ได้ หมายถึง ไม่สามารถกลั้นปสั สาวะ
หรืออุจจาระได้ หรือมีการปสั สาวะหรืออุจจาระที่ไม่เหมาะสม
ภาวะนี้หากมีปญั หาโดยเฉียบพลัน มักเกิดจากสาเหตุที่มีโอกาสรักษา
ให้หายขาดได้ แต่หากมีปญั หามานาน มักเกิดจากสาเหตุเรื้อรัง
การรักษาโรคสมองเสื่อม
แพทย์จะท�ำการรักษาเป็นข้ันตอน ท่ีส�ำคัญคือแพทย์จะให้ความรู้ผู้ป่วยและญาติ
ไปพร้อม ๆ กัน เพราะทราบดีว่าญาติรับข้อมูลไม่ได้ทั้งหมดในครั้งเดียว จึงต้องค่อย ๆ แนะน�ำญาติ
ในทุกคร้ังที่มาพบแพทย์และจะสอนให้ญาติรู้ว่า “ผู้ป่วยต้องเป็นฝ่ายถูกเสมอ”
นอกจากนี้ ยังมีกฎเหล็ก ที่ญาติต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเมื่อผู้ป่วยมีอาการสับสน ก้าวร้าว
หงดุ หงดิ คอื ญาตติ อ้ งชน้ี �ำ ชแี้ นะ ชกั จงู และหลอกลอ่ ใหผ้ ปู้ ว่ ยหนั ไปสนใจทใี่ ดทหี่ นงึ่ หา่ งไปจากสงิ่ ที่
ผู้ป่วยหงุดหงิดอยู่ เมื่อมีปัญหาเกิดข้ึนหรือมีอะไรมารุมเร้าท�ำให้การดูแลไม่ราบรื่น แพทย์จะแนะน�ำ
ให้ญาติต้ังสติก่อนแล้วจึงค่อย ๆ พิจารณาว่า
“อะไรคือปัญหาหลัก เหตุการณ์อะไรเกิดข้ึนก่อนท่ีผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมก้าวร้าว”
เนื่องจากถ้าจะรักษาให้หมดทุกปัญหาก็ต้องเอายาไปกินท้ังหมด แต่ในความเป็นจริง หากมี
๒๐ ปัญหาจะกินยาทั้ง ๒๐ ปัญหาไม่ได้ ฉะนั้นจะต้องแก้กันท่ีปัญหาหลักก่อน ส่วนปัญหารอง
ค่อยว่ากัน
. 223 .
. .
แต่ละระยะของโรคสมองเส่ือมจะใช้เวลา ๓ - ๕ ปี สมัยก่อนผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์จะมีชีวิต
อยู่ประมาณ ๑๐ ปีหลังการวินิจฉัย แต่สมัยนี้วิทยาการทางการแพทย์ดีข้ึน ท�ำให้เราอาจเห็น
ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมมีชีวิตอยู่ได้นานถึง ๒๐ ปี
ความแตกต่างระหว่างโรคสมองเสื่อมกับโรคจิต
โรคประสาท โรคจิตที่มักเกิดกับวัยหนุ่มสาวอายุ ๒๐ - ๔๐ ปี คือ โรคจิตเภท
(Schizophrenia) อย่างไรก็ดี แม้ว่าผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมจะมีอาการทางจิตได้ แต่อาการทางจิต
ที่เกิดขึ้นนั้นจะไม่เหมือนกับอาการทางจิตในผู้ป่วยจิตเภท
ผ้ปู ่วยท่มี อี าการของโรคจติ เภทมักจะคิดว่ามใี ครไปลว้ งความรู้ความคิดของเขา มคี นแอบไดย้ ิน
ความคิดของเขา หรือมีคนเอาความคิดมาใส่ให้กับเขา ส่วนผู้ป่วยโรคสมองเส่ือมที่มีอาการทางจิต
มักมีความคิดหลงผิดว่าใครจะมาขโมยของของเขาไป หรือมักคิดว่าสามีจะมีชู้หรือเปล่า คิดว่าบ้านน้ี
ไม่ใช่บ้านของเขา จ�ำบ้านที่ตนเองอยู่ไม่ได้ หรือเห็นภาพหลอน
ด้วยเหตุนี้ การรักษาจึงแตกต่างกัน แม้จะใช้ยาตัวเดียวกัน หรือชนิดคล้าย ๆ กันก็ตาม
แต่การให้ยาจะต่างในแง่ขนาดของยา ชนิดของยา และระยะเวลาของการใช้ยา แพทย์จึงต้องใช้
ศิลปะในการรักษาผู้ป่วย เพราะต้นเหตุและหลักเกณฑ์การคิดของผู้ป่วยสองกลุ่มน้ีต่างกัน
>> สมองเสื่อมเกิดจากโรคและภาวะใดบ้าง
โรคอัลไซเมอร์
โรคอลั ไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) เปน็ สาเหตหุ นงึ่ ทพี่ บบอ่ ยทส่ี ดุ ของ “โรคสมองเสอื่ ม”
หลาย ๆ คนมักเข้าใจว่า “โรคอัลไซเมอร์คือโรคสมองเสื่อม” หรือ “โรคสมองเส่ือมคือ
โรคอัลไซเมอร์” แท้จริงแล้วโรคอัลไซเมอร์เป็นเพียงสาเหตุหนึ่งที่พบบ่อยของ “โรคสมองเส่ือม”
ท่ีพบมากในผู้สูงอายุ
อายุเฉล่ียของคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเม่ือเทียบกับหลายปีท่ีผ่านมา โดยระหว่าง
พ.ศ. ๒๕๔๖ - ๒๕๕๖ พบวา่ คนไทยมอี ายเุ ฉลย่ี เพมิ่ ขน้ึ กวา่ ๓ ปี ส�ำหรบั ใน พ.ศ. ๒๕๕๖ เพศชาย
มอี ายเุ ฉลยี่ ๗๑.๑ ปี เพศหญงิ มอี ายเุ ฉลยี่ ๗๘.๑ ปี อายทุ เี่ พม่ิ ขนึ้ นอ้ี าจเกย่ี วเนอ่ื งกบั เหตผุ ลตา่ ง ๆ เชน่
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างย่ิงด้านการแพทย์และสาธารณสุข คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
และสภาพแวดล้อมที่ดีข้ึน อย่างไรก็ตาม อายุโดยเฉล่ียของคนไทยยัง “น้อยกว่า” ชาวต่างชาติ
สอดคล้องกับจ�ำนวนของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์คนไทยท่ีพบน้อยกว่าชาวต่างชาติ
. 224 .
. .
จากการวจิ ยั พบวา่ ผสู้ งู อายชุ าวไทยทเ่ี ปน็ โรคสมองเสอื่ มจ�ำนวน ๑๐ คน จะเปน็ โรคอลั ไซเมอร์
๕ - ๖ คน แต่ส�ำหรับผู้สูงอายุต่างชาติ ในจ�ำนวน ๑๐ คนนั้น จะเป็นโรคอัลไซเมอร์มากถึง ๘ คน
นอกจากนี้ คนไทยที่เป็นอัลไซเมอร์จะมีโรคหลอดเลือดในสมองมากกว่าชาวต่างชาติ สอดคล้องกับ
ข้อมลู ทางสถิติที่พบว่า ราวร้อยละ ๓๐ - ๗๐ ของประชากรไทยจะมีปญั หาหลอดเลือดแดงทไ่ี ปเลี้ยง
สมองตีบตัน
“ความจ�ำ” ปญั หาเด่นของอัลไซเมอร์
ปัญหาเด่นของคนที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ก็คือ “ความจำ�”
ยกตัวอย่างประกาศตามวิทยุหรือโทรทัศน์ตามหาผู้สูงอายุที่หายออกจากบ้าน ไปหรือ
กลับบ้านไม่ถูกที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุส่วนใหญ่เพราะผู้สูงอายุจำ�สิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ไม่ได้
เนื่องจากความจำ�ของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์จะเป็น “ความจำ�ระยะสั้น” จำ�ในสิ่งที่เกิดใหม่ ๆ ไม่ได้
ผู้ป่วยจึงมักจะถามซํ้าซาก ไม่เพียงเท่านั้น ยังชอบคุยถึงเรื่องในอดีตของตนเอง เช่น เคยเรียน
ชั้นประถมที่ไหน เคยอยู่ที่ไหนมาก่อน มีความประทับใจอะไร สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่า
ความทรงจำ�เก่า ๆ ในอดีตฝักรากลึกอยู่ในสมองหลายส่วนก็เลยจำ�ได้
เวลาตรวจผู้ป่วย ผู้เขียนจะบอกค�ำ ๕ ค�ำ ให้จ�ำเอาไว้แล้วให้ผู้ป่วยพูดตาม จากนั้น
ก็ไปตรวจสอบอย่างอ่ืนต่อ เช่น ให้ผู้ป่วยบวก ลบ คูณ หารเลข ให้แปลสุภาษิต ให้ดูรูปภาพแล้ว
บรรยายรูป จากน้ันก็ย้อนกลับมาถามผู้ป่วยถึงค�ำ ๕ ค�ำที่ให้จ�ำน้ันว่ามีอะไรบ้าง ผู้ป่วยมักจะจ�ำไม่ได้
แม้ว่าจะมีตัวช่วยให้เลือกหรือมีตัวอย่างให้ดูก็จ�ำไม่ได้ เดาผิดเดาถูกไปหมด นั่นคืออาการของ
“โรคอัลไซเมอร์” ผู้ป่วยจะไม่สามารถจ�ำความจ�ำใหม่ ๆ ได้
สาเหตุเพราะสมองส่วนกลีบขมับด้านใกล้กลาง (medial temporal lobe) ซึ่งเกี่ยวข้องกับ
“ความจ�ำใหม่ ๆ” ท่จี ะตอ้ งจดจ�ำน้นั มีพยาธิสภาพฝอ่ ลงจงึ ท�ำให้สญู เสยี ความจ�ำระยะสั้นหรือความจ�ำ
ใหม่ ๆ ไป
อัลไซเมอร์เกิดจากอะไร
ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์มีพยาธิก�ำเนิดจากหลายสาเหตุ ที่ส�ำคัญเราพบว่า สารแอมีลอยด์
(amyloid) และโปรตีนที่เรียกว่า เทา (tau) ซึ่งมีหน้าที่คล้าย ๆ กับน่ังร้านของเซลล์ ถ้านั่งร้าน
มคี วามผดิ ปกตหิ รอื ลม่ สลาย เซลลส์ มองกจ็ ะฝอ่ ลง สว่ นสารแอมลี อยดจ์ ะอยนู่ อกเซลล์ เมอ่ื อยนู่ อกเซลล์
ก็กลายเป็นสิ่งแปลกปลอม จากนั้นเน้ือสมองก็จะเกิดการอักเสบและบวมในเน้ือสมองตามมา เม่ือมี
การอักเสบก็จะมีเซลล์เกลีย (glia) มาท�ำลายเพ่ือให้สารแอมีลอยด์ออกไป จากนั้นจะมีเม็ดเลือดขาว
เข้ามาทดแทน เกิดปฏิกิริยาและเกิดสารหล่ังในสมองที่บ่งว่ามีการอักเสบ (inflammation) มาก
เช่น สารกลุ่มอินเทอร์ลิวคิน (interleukins)
. 225 .
. .
สารแอมีลอยด์มีทั้งระยะท่ีละลายได้กับระยะที่ตกผลึกซ่ึงเป็นตัวต้นก�ำเนิดที่ท�ำให้เกิด
การอักเสบ เกิดการท�ำลายเซลล์สมอง ในขณะเดียวกันสารแอมีลอยด์ก็เป็นตัวช้ีวัดทางชีวภาพ
(biomarker) ด้วย ถ้าเรามีตัวช้ีวัดทางชีวภาพท่ีสัมพันธ์กับการเกิดโรคก็จะช่วยในการวินิจฉัยโรคได้
โดยที่ไม่ต้องรอให้ผู้ป่วยเสียชีวิตก่อน นั่นคือการน�ำน้ําไขสันหลังผู้ป่วยมาตรวจดูว่ามีสารแอมีลอยด์
และโปรตีนเทาผิดปกติมากน้อยแค่ไหน วิธีน้ีจะช่วยคัดกรองคนปกติกับคนท่ีเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้
นอกจากนี้ ยังอาจใช้ตัวช้ีวัดทางชีวภาพท่ีเป็นภาพถ่ายรังสี ภาพถ่ายคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า เช่น
การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ภาพสมอง ดูว่าสมองฝ่อเห่ียวไปแค่ไหน หรือการเอกซเรย์ดูการท�ำงาน
ของสมองส่วนนั้น ๆ ว่า มีหน้าที่ลดน้อยลง หรือใช้การเอกซเรย์ที่มีความจ�ำเพาะพิเศษสามารถเห็น
สารแอมีลอยด์ในสมองได้ เช่น ตรวจโดย Positron Emission Tomography scan (PET scan)
หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ตรวจเอกซเรย์ในอุโมงค์” จะสามารถบอกได้ว่า เป็นโรคอัลไซเมอร์หรือไม่
นอกจากเรื่องของความจ�ำแล้ว ส่ิงที่เป็นลักษณะเด่นของ “โรคอัลไซเมอร์” อีกอย่างคือ
การรับรู้มิติสัมพันธ์และการใช้ภาษาบกพร่องหรือผิดเพ้ียนไป เช่น ผู้ป่วยมักเรียกสิ่งของหรือวัตถุ
ไม่ถูกต้อง
หากเกิดการรับรู้มิติสัมพันธ์บกพร่องหรือผิดเพ้ียนระดับรุนแรง ผู้ป่วยจะเดินหลงทางได้
หากอยู่ในระดับน้อย ๆ เช่น อยู่บ้านตนเองยังไม่หลง แต่ถ้าไปพักอีกที่หนึ่ง พอต่ืนเช้าข้ึนมา
จะสบั สนวา่ ตนเองอยบู่ า้ นไหน เดนิ เขา้ หอ้ งนาํ้ ไมถ่ กู เปน็ เพราะเปลย่ี นสถานทจ่ี งึ ท�ำใหห้ ลง สาเหตเุ พราะ
การรับรู้มิติสัมพันธ์บกพร่อง จึงต้องคอยระวังเป็นพิเศษ เช่น ต้องจัดบ้านให้อยู่ในสภาพท่ีผู้ป่วย
คุน้ เคย ควรน�ำของใชเ้ ดิม ๆ มาตงั้ ไว้ ไมว่ ่าจะเป็นรูปภาพ นาฬกิ า หรือแจกันดอกไมใ้ ห้ดูคุ้นตา เพื่อ
ผู้ป่วยจะได้ไม่หงุดหงิด ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการคิดฟุ้งซ่านไปเองท�ำให้เกิดอาการทางจิตตามมาได้
สว่ นการใชภ้ าษาทบี่ กพรอ่ ง ผดิ เพยี้ นไป หรอื ใชไ้ มถ่ กู ตวั อยา่ งเชน่ ในผปู้ ว่ ยอลั ไซเมอร์ เขารวู้ า่
อยากได้กระเป๋าใบน้นั แต่เรยี กไมถ่ ูก ไมร่ ้จู ะเรยี กวา่ อะไร นอกจากน้ี ในบางรายมีอาการแปลกออกไป
ด้วยการเก็บข้าวของท่ีไม่ใช้ไว้มากมายแล้วก็หวงสิ่งของเหล่าน้ัน เป็นส่วนหน่ึงของพฤติกรรม
และอารมณ์ที่พบในผู้ป่วยอัลไซเมอร์
ระดับของโรคอัลไซเมอร์
ระดับแรก จะเกี่ยวข้องกับเร่ืองของอารมณ์ นั่นคือเฉยชา น่ิงเฉย ถัดไปก็จะซึมเศร้า
แต่อาการซึมเศร้าของผู้ป่วยอัลไซเมอร์มักจะไม่บอกว่าเสียใจ เบื่อหน่าย ท้อแท้ ฯลฯ แต่จะนิ่ง ๆ
เฉย ๆ ไม่อยากท�ำอะไร ไม่อยากกิน ไม่อยากขยับตัว อยากจะอยู่นิ่ง ๆ มากกว่า
ระดับกลาง ผู้ป่วยจะเริ่มคิดผิดหลงผิด เห็นภาพหลอน เห็นคนรู้จักเก่า ๆ รวมไปถึง
ผู้ท่ีถึงแก่กรรมไปแล้วกลับมาเยี่ยม ส่วนใหญ่คนที่เห็นน้ันมักมีความผูกพันกัน บางรายอาจ
คิดว่าสามีหรือภรรยาของตนมีชู้ บางรายอาจคิดว่ามีคนมาขโมยของของเขาไป บางรายอาจคิดว่า
บ้านหลังน้ีไม่ใช่บ้านของตนแน่ ๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าบ้านของตนอยู่ตรงไหน แม้กระท่ังคิดว่าคนนี้ไม่ใช่
สามีของตน แต่เป็นใครไม่รู้มาอยู่ในร่างของสามี อะไรท�ำนองนี้
. 226 .
. .
นอกจากน้ีก็มีอาการเอะอะก้าวร้าว ซึ่งมักเป็นตอนที่ญาติเข้าไปช่วยเหลือในขณะท่ีอาบน้ํา
แต่งตัว หรือท�ำกิจวัตรส่วนตัว ส�ำหรับเรื่องน้ีเป็นเรื่องแปลกท่ีผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมยังรับรู้ว่า น่ีคือ
เรอื่ งสว่ นตวั จรงิ ๆ ดงั นน้ั หากใครจะมาชว่ ยถอดเสอ้ื ให้ หรอื มาชว่ ยเรอื่ งสว่ นตวั ให้ ผปู้ ว่ ยกจ็ ะมอี าการ
เอะอะไม่ชอบใจ ผู้ป่วยบางรายยังมีพฤติกรรมเดินไปเดินมาโดยไม่รู้จุดหมายและในที่สุดก็หลงทาง
ในเรื่องของความจ�ำที่หลง ๆ ลืม ๆ ญาติอาจช่วยเหลือได้โดยหาเวลาคุยกับผู้ป่วยในเร่ืองเก่า ๆ
เล่าความหลงั ให้ผู้ป่วยร้ือฟืน้ ความจ�ำเกา่ ๆ ข้ึนมา เขาก็จะมีความสุข ไม่ใช่ว่าพดู แตเ่ รื่องดาราใหม่ ๆ
ละครเร่ืองใหม่ ๆ ผู้ป่วยจะสับสนเพราะเขาตามไม่ทัน
อัลไซเมอร์ในวัยหนุ่มสาวหรือวัยกลางคน
มีผู้ป่วยอัลไซเมอร์ราวร้อยละ ๑๐ ท่ีเกิดอาการในวัยหนุ่มสาวหรือวัยกลางคน ท่ีเรียกว่า
สมองเส่ือมก่อนวัย (early onset dementia) มักจะมีประวัติในครอบครัวว่ามีญาติพ่ีน้องเป็น
อัลไซเมอร์ตั้งแต่วัยกลางคน ผู้ป่วยกลุ่มน้ีนอกจากจะมีอาการอัลไซเมอร์แล้ว ยังมักมีอาการอื่น ๆ
ร่วมด้วย เช่น มีอาการชักหรือร่างกายอ่อนแรงครึ่งซีก หรือขาสองข้างอ่อนแรง ซึ่งไม่ค่อยเหมือนกับ
อาการในผู้สูงวัยท่ีเป็นโรคอัลไซเมอร์
ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ในวัยหนุ่มสาวหรือวัยกลางคนจะมีการด�ำเนินโรคเร็วกว่าในผู้สูงวัย เช่น
จากระยะเริ่มวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุจนถึงมีอาการเดินหลง คิดผิดหลงผิดจะใช้เวลาถึง
๗ ปี แตผ่ ปู้ ว่ ยอลั ไซเมอรใ์ นกลมุ่ วยั หนมุ่ สาวหรอื วยั กลางคนจะใชเ้ วลาเพยี งแค่ ๓ ปเี ทา่ นนั้ กเ็ ดนิ หลงแลว้
สาเหตุเพราะเขามีสารพันธุกรรมผิดปกติอยู่ในตัว ท�ำให้สร้างสารแอมีลอยด์ในอัตราสูง ผู้ป่วย
อัลไซเมอร์กลุ่มนี้จึงมักจะเสียชีวิตเร็ว
ลักษณะการเสียชีวิตของผู้ป่วยอัลไซเมอร์มักจะเกิดจากมีการติดเชื้อ เน่ืองจากในระยะสุดท้าย
ผู้ป่วยจะขยับตัวล�ำบาก สมองก็ไม่สั่งงานให้ท�ำอะไร พูดไม่ได้ นอนลืมตาเฉย ๆ น่ิง ๆ ส�ำลักอาหาร
บ่อยจึงมักจะติดเชื้อทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ และในระบบปัสสาวะหรือมีแผลกดทับได้
นอกจากน้ี ผู้ป่วยร้อยละ ๑๐ จะมีอาการชักได้ และส่วนใหญ่มักจะเสียชีวิตจากการติดเช้ือ
บางครั้งผู้ป่วยอาจเสียชีวิตจากสาเหตุอ่ืน ๆ เช่น เป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ เป็นเบาหวาน
จนไตวาย ปัจจุบันเริ่มมีข้อมูลมากข้ึนว่า ยาท่ีรักษาโรคอัลไซเมอร์ไม่ใช่เพียงแค่รักษาอาการเท่าน้ัน
แต่ยังช่วยชะลอการเดินทางของโรคออกไปได้นานย่ิงข้ึน กระทั่งเม่ือมีโรคอื่นแทรกซ้อนเข้ามาท�ำให้
ผู้ป่วยเสียชีวิตแทน ก่อนท่ีจะเสียชีวิตด้วยโรคอัลไซเมอร์จริง ๆ
การรักษาโรคอัลไซเมอร์
เคยมีลูกผู้ป่วยคนหน่ึงบอกผู้เขียนว่า “ยาอะไรของหมอนี่ เหมือนยาอายุวัฒนะเลย คุณแม่
เป็นอัลไซเมอร์ทั้งกินยารักษาและออกก�ำลังกายอยู่แท้ ๆ แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่ดี กลายเป็นคุณพ่อ
ที่ชิงเสียชีวิตไปก่อนด้วยโรคมะเร็ง”
. 227 .
. .
การด�ำเนินโรคอัลไซเมอร์
คนปกติ ผู้ป่วยอัลไซเมอร์
มีสมองกลีบขมับ
ของผู้ป่วยอัลไซเมอร์
ภาพผู้ป่วยอัลไซเมอร์วาดรูปนาฬิกา ภาพถ่ายคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง
อ่าน ๑๑ โมง ๑๐ นาที ของผู้ป่วยอัลไซเมอร์
ปัจจุบันข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยังไม่ยอมรับว่า ยารักษาอัลไซเมอร์เพียงอย่างเดียวจะท�ำให้
ผู้ป่วยมีอายุยืนข้ึนได้เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ไม่กินยา แต่พบว่าผู้ป่วยที่ไม่กินยามักจะมีอาการเอะอะ
ก้าวร้าว คิดผิดหลงผิดมากกว่าผู้ที่กินยา ในท่ีสุดก็อาจจะมีอาการแทรกซ้อนอย่างอื่นเข้ามาจนเป็น
เหตุให้เสียชีวิตไปก่อน
สิ่งที่แนะนำ�ให้รักษาในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยคือ ให้ผู้ป่วยมีกิจกรรมต่าง ๆ
มีกิจกรรมนันทนาการ ฝึกลับสมองบ่อย ๆ เพื่อให้สมองมีความคิดสร้างสรรค์ ดูแลให้มี
การออกกำ�ลังกาย ๑๒๐ นาทีต่อสัปดาห์ ดูแลรักษาปัจจัยเสี่ยง เช่น โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง
ความดันโลหิตสูง รักษาให้เป็นปกติของวัย ต้องไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา หันมากินอาหารเพื่อสุขภาพ
เหล่านี้ก็จะช่วยชะลอจุดเริ่มต้นของการเป็น “สมองเสื่อม” ได้
การรักษาโดยใช้ยา
มียากลุ่มท่ีเป็นยามาตรฐานแต่ยังไม่ได้อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ เพราะว่ายังมีราคาสูง
และใช้ได้ในผู้ป่วยบางกลุ่มตามสิทธิประโยชน์ ยาดังกล่าวถือว่าเป็นยามาตรฐานในกลุ่มต้าน
acetylcholinesterase โดยมีอยู่ ๓ ตัว ด้วยกัน แต่ละชนิดก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน จะใช้ได้
ในผู้ป่วยระยะไม่รุนแรงจนถึงระยะรุนแรง
นอกจากน้ี ยังมียาในกลุ่มต้านตัวรับสารสื่อประสาท NMDA เป็นยาป้องกันไม่ให้เซลล์
แตกสลาย ป้องกันกระบวนการตายของเซลล์ (apoptosis) ไม่ให้มีแคลเซียมซึมเข้าไปในเซลล์
สมอง จะใช้ในผู้ป่วยระยะกลางและระยะรุนแรง
. 228 .
. .
การรักษาโดยไม่ใช้ยา
ด้วยวิธีฝึกสมองในหลาย ๆ ทักษะ เช่น เตือนความจ�ำ เตือนในเรื่องของเวลา สถานที่
เตือนเร่ืองการช่วยเหลือตนเอง แม้กระทั่งให้เล่นไพ่ เต้นร�ำ เล่นหมากรุก หมากฮอส หรือเกม
ที่ต้องใช้ความคิดต่าง ๆ แม้จะเป็นวิธีที่ต้องใช้เวลาแต่ก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของผู้ป่วยที่จะกระท�ำได้
การฟื้นฟูสุขภาพทางกายโดยรวมจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเคล่ือนไหวกล้ามเนื้อและข้อต่าง ๆ
ได้ดี ช่วยป้องกันข้อติดได้ ผู้ป่วยบางรายอาจต้องรู้จักใช้อุปกรณ์ท่ีช่วยในการเดิน เช่น ไม้เท้า
คอกช่วยเดิน หรือรถเข็น ควรฝึกให้ผู้ป่วยสามารถประกอบกิจวัตรประจ�ำวันอย่างอิสระและปลอดภัย
เช่น ฝึกให้ลุกจากเตียงลงมานั่งท่ีเก้าอ้ี ฝึกเดิน ฝึกขึ้นบันได เป็นต้น ผู้ป่วยบางกลุ่มอาจต้องใช้
การรักษาด้วยวิธีธาราบ�ำบัด การดึงกล้ามเน้ือ การประคบร้อนหรือเย็น การใช้คลื่นเสียง
และการกระตุ้นด้วยไฟฟ้าเพ่ือให้กล้ามเน้ือท�ำงานได้ประสานกัน โดยเฉพาะในระยะรุนแรงของโรค
ท่ีมักจะมีปัญหาการเคลื่อนไหวร่วมด้วย
นอกจากนี้ การดูแลสิ่งแวดล้อมในบ้านก็ส�ำคัญ ควรจัดส่ิงแวดล้อมให้ผู้ป่วยสมองเสื่อม
สามารถด�ำเนินชีวิตในบ้านได้ด้วยความปลอดภัย เช่น จัดให้ห้องนอนอยู่ใกล้ห้องน้ํา ไม่ใช้กลอน
ประตูแบบล็อกจากด้านใน เพราะหากผู้ป่วยเผลอล็อกประตู บุคคลนอกห้องจะไม่สามารถเข้าไปช่วย
เหลือได้ เลือกใช้นาฬิกาแขวนผนังท่ีมีตัวเลขขนาดใหญ่เพราะมองเห็นได้ชัดเจน รวมท้ังพ้ืนในบ้าน
ที่อยู่อาศัยควรเป็นพื้นเรียบและเป็นพ้ืนระดับเดียวเพ่ือป้องกันการสะดุดหกล้ม เป็นต้น
>> การป้องกันและดูแลสมองก่อน “เสื่อม”
ดูแลสมองของคุณตั้งแต่วันนี้
โรคอัลไซเมอร์ของผู้สูงวัยจะมีการด�ำเนินโรคประมาณ ๑๕ ปี ถ้าดูแลผู้ป่วยอย่างดีก็อาจ
จะมีชีวิตอยู่นานถึง ๒๐ ปี แต่ในโรคอัลไซเมอร์ที่เกิดในวัยท�ำงานจะมีการด�ำเนินโรครวดเร็วกว่า
ผู้ป่วยสูงวัย
ทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างสารพันธุกรรมกับสิ่งแวดล้อม (epigenetics) ซ่ึงหมายถึง
การด�ำเนินวิถีชีวิต อาหารที่กิน การพักผ่อน ออกก�ำลังกาย ล้วน “มีผล” ต่อการแสดงออก
ของสารพันธุกรรมได้ ดังน้ัน แพทย์จึงแนะน�ำการปรับปรุงพฤติกรรมและการใช้ชีวิตร่วมกับ
การรักษาด้วยยาเสมอ
• การท�ำสมาธิจะช่วยดูแลสมอง ส่วนการออกก�ำลังกายจะช่วยให้เลือดข้ึนไปเลี้ยงสมองได้ดี
• ควบคุมระดับนํ้าตาลในเลือดให้เป็นปกติ น้ําตาลจะเดินทางร่วมไปกับเลือดขึ้นไป
เลี้ยงสมองด้วย ส่งผลให้สารแอมีลอยด์สะสมในสมองมากขึ้น ฉะน้ันเราต้องควบคุมโรคเบาหวานให้ดี
ซ่ึงจริง ๆ แล้วเราต้องเริ่มป้องกันรักษาสมองเสื่อมต้ังแต่อยู่ในวัยหนุ่มสาวเร่ือยมาจะย่ิงดี
. 229 .
. .
• การดูแลสุขภาพโดยการออกก�ำลังกาย จะมีผลให้ร่างกายหลั่งสารเลี้ยงสมองเรียกว่า
Brain-derived Growth Factor (BDGF) ออกมามาก สารนี้จะช่วยซ่อมแซมส่วนท่ีสึกหรอ
ท�ำให้เซลล์ต้นก�ำเนิดในสมองสามารถแบ่งตัวได้ดี สมองก็จะฝ่อน้อย
• การพกั ผ่อนหยอ่ นใจจะชว่ ยให้สมองไมถ่ ูกท�ำลายมาก สรรหาสิ่งดี ๆ ทีท่ �ำให้เรามีความสขุ
สมองท�ำงานได้ดี สังเกตดูว่าคนที่มีอาชีพนักร้อง นักดนตรี มีโอกาสเป็นอัลไซเมอร์น้อย
แม้บางรายจะมีอายุ ๗๐ - ๘๐ ปีแล้วก็ยังไม่ค่อยเป็นอัลไซเมอร์ แต่อาชีพนักธุรกิจหรือผู้ท่ีต้อง
ใช้สมอง ใช้ความคิดตลอดเวลา หากดูแลสมองดี ๆ เช่น พอรู้ตัวว่าเครียดก็พักผ่อน หาทางระบาย
ความเครียด ออกไปดูแลพัฒนาตนเองให้มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์จะช่วยชดเชยกันได้ ขณะเดียวกัน
ก็ต้องออกก�ำลังกายและพักผ่อนจิตใจให้พอเพียง
ถ้าเครียดต้องพักผ่อน มิเช่นนั้นโอกาสท่ีจะเป็นอัลไซเมอร์ในอนาคตก็จะมีได้มากกว่า
คนท่ีออกก�ำลังกายแล้วพักผ่อน และดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี
เคล็ดลับเพื่อสุขภาพกาย-ใจที่ดีและห่างไกลสมองเสื่อม
กินอาหาร เฝ้าระวังนํ้าหนัก ด่ืมน้ําให้เพียงพอ หม่ันออกก�ำลังความคิด
หลากหลายชนิดที่ชอบ ด�ำเนินชีวิต อย่างน้อยวันละ ออกก�ำลังสมอง
๑,๕๐๐ มิลลิลิตร
ด้วยความกระตือรือร้น เพราะสมองก็เหมือนมีด
กระฉับกระเฉง ยิ่งลับก็ยิ่งคม
เลือกกินอาหาร ด่ืมนมหรือกินอาหารที่มี ดูแลสุขภาพ พักผ่อนท�ำกิจกรรม
ท่ีมีไขมันไม่อิ่มตัว แคลเซียมมาก และกิน ช่องปากและฟัน นันทนาการเพื่อให้
กินอาหารที่มีกากใย อาหารท่ีมีวิตามินบีสูง หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา
ไม่กินอาหารเค็มจัด จิตใจสงบ
ไม่สูบบุหรี่หรือซิการ์
กินผักและผลไม้ นอนหลับให้เพียงพอ ออกผ่ึงแดดช่วงเช้า ๆ นั่งสมาธิ วิปัสสนา
ให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ
๖ ช่ัวโมง
. 230 .
. .
การออกก�ำลังกาย
พ.ศ. ๒๕๕๑ กระทรวงสาธารณสุข ประเทศสหรัฐอเมริกา ก�ำหนดแนวทางปฏิบัติว่า
ควรออกก�ำลังกายที่ใช้พละก�ำลังระดับปานกลาง สัปดาห์ละ ๑๕๐ นาที หรือจะแบ่ง
การออกก�ำลังกายเป็นคร้ังละ ๓๐ นาที และท�ำ ๕ คร้ังต่อสัปดาห์ เพ่ือการมีสุขภาพกายและจิต
ท่ีเข้มแข็ง ส่วนในผู้ที่อ้วนหรือมีดัชนีมวลกายสูงกว่าท่ีควร ควรออกก�ำลังกายมากกว่าที่แนะน�ำน้ี
พร้อมกับลดปริมาณอาหารที่กินในแต่ละวัน เพื่อให้นํ้าหนักลดลงไปสู่เกณฑ์ที่เหมาะสม
สมองฝ่อเป็นสาเหตุหนึ่งของสมองเสื่อม
โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุหนึ่งของสมองเสื่อม เราพบว่าโรคท้ังสองนี้สามารถ
อยู่ร่วมกันได้ ซ่ึงสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ด้วยการออกก�ำลังกาย กินอาหารท่ีถูกสุขลักษณะ
ป้องกันไม่ให้เป็นเบาหวานและความดันโลหิตสูง
มีข้อมูลศึกษาในผู้สูงอายุท่ีมีความจ�ำบกพร่องและมีระดับโฮโมซีสทีน (homocysteine)
ในเลือดสูง ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองอย่างหนึ่ง เม่ือให้ผู้ป่วยกินโฟลิกแอซิด
วันละ ๐.๘ มิลลิกรัม วิตามินบี ๖ วันละ ๒๐ มิลลิกรัม และวิตามินบี ๑๒ วันละ ๐.๕ มิลลิกรัม
หลังกินไป ๖ เดือนพบว่าระดับโฮโมซีสทีนในเลือดลดลงและผู้สูงอายุท่ีมีโฮโมซีสทีนสูงมาก ๆ
จะมีผลในการลดอัตราฝ่อของสมองลงได้ถึงร้อยละ ๓๐
จริง ๆ แล้ววิตามินท่ีให้กินนั้น เราสามารถหาได้ง่าย ๆ โดยการกินผักผลไม้และข้าวซ้อมมือ
ดังตัวอย่างท่ีจะหยิบยกมาแสดงในส่วนต่อไป
แหล่งอาหารที่มีวิตามินและสารบ�ำรุงสมอง
สารอาหาร/วิตามิน แหล่งอาหาร ประโยชน์ต่อร่างกาย
วิตามินซี ผลไม้รสเปร้ียว กล้วย มะละกอ ช่วยรักษาสุขภาพฟันและเหงือก ท�ำให้ร่างกาย
กะหล่�ำปลี มะเขือเทศ แข็งแรง มีความต้านทานโรค ช่วยให้ผนัง
วิตามินดี เส้นเลือดแข็งแรง ช่วยเสริมสร้างความจ�ำ
อาหารประเภทเน้ือสัตว์ ให้ว่องไวขึ้น ถ้าขาดวิตามินซีจะท�ำให้เกิด
นํ้ามันตับปลา ไขมัน นม เนย เลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวม
ตับสัตว์ ตับปลาค็อด ปลาทู และเส้นเลือดฝอยเปราะ
ไข่แดง ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ช่วยควบคุมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ปลาแมคเคอเรล ท่ีจ�ำเป็นในการท�ำงานของระบบประสาท
และกล้ามเนื้อ
. 231 .
. .
สารอาหาร/วิตามิน แหล่งอาหาร ประโยชน์ต่อร่างกาย
วิตามินบี ๑ เมล็ดข้าวต่าง ๆ ท่ีไม่ได้ขัดให้ขาว ช่วยให้รู้สึกเจริญอาหาร ช่วยให้สมองไม่มึนงง
(thiamine) เช่น ข้าวซ้อมมือหรือข้าวแดง ไม่สับสน มองโลกในแง่ดี มีความคิดอ่านดี
ข้าวโอ๊ต เน้ือหมู ตับ ถั่ว ร�ำข้าว ให้พลังงานแก่ประสาทและสมอง ช่วยสร้าง
วิตามินบี ๒ และยีสต์ท่ีตายแล้ว สารแอซิติลโคลีนซึ่งท�ำให้ระบบประสาท
(riboflavin) และระบบกล้ามเนื้อท�ำงานดีและสัมพันธ์กัน
วิตามินบี ๓ เคร่ืองใน เช่น ตับ ไต ฯลฯ นม ช่วยรักษาโรคเหน็บชาและช่วยให้กล้ามเนื้อ
(niacin) นมเปรี้ยว โยเกิร์ต ผักใบเขียว หัวใจท�ำงานดีข้ึน นอกจากนี้ ยังช่วยให้ไม่เกิด
วิตามินบี ๖ และปลา อาการวิงเวียนศีรษะอีกด้วย
(pyridoxine) ตับวัว หัวใจวัว ไตวัว เนื้อ ช่วยให้ผม เล็บ และผิวหนังแข็งแรง
วิตามินบี ๑๒ กระต่าย ไก่งวง ไก่เน้ือ ปลาทูน่า ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคต้อกระจก ช่วยให้
(cyanocobalamin) ระบบประสาท หู และตาท�ำงานดี ป้องกัน
กรดโฟลิก ข้าวซ้อมมือ ข้าวสาลีไม่ขัดขาว โรคปากนกกระจอก และแผลในปากเปื่อย
(folic acid) จมูกข้าว ตับ ช่วยไม่ให้เกิดแผลโคนล้ินหรือลิ้นแตก
มีส่วนในการสร้างพลังงานร่วมในการสังเคราะห์
สังกะสี (zinc) ตับ เนื้อสัตว์ ไข่ นม เนย กรดไขมัน ถ้าขาดวิตามินบี ๓
สังเคราะห์ได้โดยแบคทีเรีย จะท�ำให้เกิดโรคผิวหนังแห้งแตกและอักเสบ
ในล�ำไส้ใหญ่ เม่ือถูกแสงแดด อ่อนเพลีย ท้องเดิน
ผักใบเขียวจัดทุกชนิด แครอต ประสาทหลอน
ตับ ไข่แดง แคนตาลูป ฟักทอง ช่วยในการท�ำงานของระบบย่อยอาหาร
อะโวคาโด ถว่ั แดง ถวั่ ด�ำ ถวั่ เหลอื ง บ�ำรุงผิวหนัง ถ้าขาดวิตามินบี ๖ จะท�ำให้
ข้าวซ้อมมือ และธัญพืช ผิวหนังแห้งแตก ใจคอหดหู่ อ่อนแอ
จมูกข้าว เมล็ดฟักทอง ปวดตามมือและเท้า เส้นประสาทเสื่อม
บริเวอร์ยีสต์ ไข่ นม มัสตาร์ดผง และผมร่วง
เป็นปัจจัยในการสร้างเม็ดเลือดแดง
ช่วยการท�ำงานของระบบประสาท ถ้าขาด
วิตามินบี ๑๒ จะท�ำให้เกิดโรคโลหิตจาง
เจ็บล้ิน เจ็บปาก ประสาทไขสันหลังเสื่อมสภาพ
เป็นสารเริ่มต้นที่ช่วยลดระดับโฮโมซีสทีน
ในเลือด (โฮโมซีสทีนสูงเป็นต้นเหตุของ
หลอดเลือดแข็ง เลือดไปเลี้ยงสมองล�ำบาก)
นอกจากน้ี กรดโฟลิกยังเป็นสารอาหารส�ำคัญ
ต่อระบบการเผาผลาญกรดไขมันโมเลกุลยาว
ในสมอง
ไมโทคอนเดรียในเซลล์ใช้สังกะสี
ในการขับเคลื่อนและแบ่งตัว ไมโทคอนเดรีย
เป็นเสมือนขุมพลังงานของเซลล์
. 232 .
. .
สารอาหาร/วิตามิน แหล่งอาหาร ประโยชน์ต่อร่างกาย
แมกนีเซียม ผักใบเขียวเข้ม ผลไม้ เป็นสารอาหารท่ีมีผลต่อการท�ำงาน
โพแทสเซียม และธัญพืชต่าง ๆ ของระบบประสาท การกินผักและผลไม้
และแคลเซียม จะท�ำให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ
เป็นสารกลุ่มเคอร์คูมินอยด์ (antioxidant) ท่ีมีประโยชน์ในเร่ือง
เคอร์คูมิน (curcuminoid) พบในพืชวงศ์ขิง ชะลอการเส่ือมของสมองเมื่ออายุมากขึ้น
เช่น ขม้ินชัน และช่วยป้องกันไม่ให้สมองถูกท�ำลายจาก
กรดไขมัน ปลาท่ีมีไขมัน เช่น ปลาทู อนุมูลอิสระ
โอเมก้า-๓ หรือไขมันจากวอลนัตและเมล็ด ช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ
แฟลกซ์จะมีกรดไขมันโอเมก้า-๓ ซ่ึงเป็นกุญแจส�ำคัญที่ท�ำให้ความจ�ำเส่ือม
ชนิด DHA สูง
DHA เป็นกรดที่ส�ำคัญต่อเซลล์สมอง
เพราะถ้าระดับของ DHA ในร่างกายต่�ำ
จะเส่ียงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์
และความจ�ำเส่ือมได้
อาหารที่เหมาะส�ำหรับผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุมีความต้องการพลังงานลดลงจากวัยผู้ใหญ่ เนื่องจากปริมาณกล้ามเนื้อ
และมวลกล้ามเนื้อลดลง อัตราการเผาผลาญอาหารจึงลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น แต่ความต้องการ
สารอาหาร วิตามิน และเกลือแร่ไม่ลดลง อาหารที่เหมาะสมสำ�หรับผู้สูงอายุมีดังต่อไปนี้
• โปรตนี รอ้ ยละ ๑๒ - ๑๕ ของพลงั งานทคี่ วรไดร้ บั ตอ่ วนั ควรมาจากโปรตนี อาหารโปรตนี
ที่ผู้สูงอายุควรกิน ได้แก่ เน้ือสัตว์ โดยเฉพาะปลาและไก่ไม่ติดหนัง นม ถ่ัวต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์
จากถั่ว เช่น เต้าหู้ นํ้านมถั่วเหลือง ไข่ ซ่ึงเป็นโปรตีนท่ีมีคุณภาพสูง โดยเฉพาะไข่ขาวควรกินไข่
สัปดาห์ละ ๒ - ๓ ฟอง
• คาร์โบไฮเดรต ร้อยละ ๕๐ - ๖๐ ของพลังงานท้ังหมดที่ได้รับต่อวันควรมาจาก
คาร์โบไฮเดรต ผู้สูงอายุควรกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนและใยอาหาร เช่น ข้าว ข้าวกล้อง ธัญพืช
เป็นต้น
• ไขมัน ร้อยละ ๓๐ ของพลังงานท่ีได้รับต่อวันควรมาจากไขมัน หลีกเล่ียงไขมันจากสัตว์
ควรประกอบอาหารโดยใช้นํ้ามันถั่วเหลือง นํ้ามันข้าวโพด หรือนํ้ามันร�ำข้าว เป็นต้น
• ใยอาหาร อาหารที่มีใยอาหารสูง ได้แก่ ถ่ัว ผัก ผลไม้ชนิดต่าง ๆ การกินอาหาร
ท่ีมีใยอาหารจะช่วยท�ำให้การขับถ่ายอุจจาระสะดวกขึ้น ลดอาการท้องผูก ผู้สูงอายุควรกินใยอาหาร
วันละ ๒๐ - ๓๕ กรัม
. 233 .
. .
• วิตามินและเกลือแร่ ผู้สูงอายุควรเลือกผักและผลไม้ท่ีกินง่าย ควรกินทุกวัน
จากข้อก�ำหนดสารอาหารส�ำหรับผู้สูงอายุ ก�ำหนดให้ผู้สูงอายุควรได้รับแคลเซียมและฟอสฟอรัส
ประมาณวันละ ๘๐๐ - ๑,๕๐๐ มิลลิกรัม เกลือแร่ชนิดอ่ืนที่ควรให้ความสนใจมากคือเหล็ก ถ้าขาด
ธาตุเหล็กจะท�ำให้เกิดโรคโลหิตจาง ซ่ึงจะท�ำให้ผู้สูงอายุเหน่ือยง่าย และมีความต้านทานโรคน้อยลง
• นํ้า ไตของผู้สูงอายุมีประสิทธิภาพในการขับถ่ายของเสียได้น้อยลง การดื่มน้ํามาก ๆ
ช่วยให้มีน้ําผ่านไปท่ีไตมากพอท่ีจะช่วยไตขับถ่ายของเสียได้ง่ายข้ึน ผู้สูงอายุควรดื่มน้ําสะอาด
อย่างน้อยวันละ ๖ - ๘ แก้ว
• สารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) คือ สารประกอบที่สามารถป้องกันหรือชะลอ
กระบวนการเกิดออกซิเดชัน สารต้านอนุมูลอิสระสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคโดยเฉพาะโรคเรื้อรัง
ที่สัมพันธ์กับอาหาร เช่น โรคมะเร็ง เบาหวาน หัวใจ สมอง (เช่น อัลไซเมอร์) เป็นต้น
สารอาหารและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเอ
ซีลีเนียม สังกะสี แคโรทีนอยด์
แหล่งอาหารที่ให้วิตามินซีสูง ได้แก่ ฝร่ัง ส้ม มะขามป้อม มะละกอสุก พริกช้ีฟ้า ผักคะน้า
ยอดสะเดา ผักกาดเขียว ต�ำลึง ผักบุ้ง เป็นต้น
วิตามินอี พบในเมล็ดทานตะวันและนํ้ามันพืชชนิดต่าง ๆ เช่น น้ํามันจากจมูกข้าวสาลี
น้ํามันเมล็ดทานตะวัน น้ํามันข้าวโพด น้ํามันถั่วเหลือง น้ํามันดอกค�ำฝอย
ซีลีเนียม มีมากในอาหารทะเล ปลาทู เนื้อสัตว์ ตับไก่
วิตามินเอ มีมากในตับหมู ตับไก่ ไข่แดง นม พืชผักท่ีมีสีเขียวเข้ม ผลไม้ท่ีมีสีเหลืองส้ม
เช่น ผักต�ำลึง ผักกวางตุ้ง ผักบุ้ง ฟักทอง มะม่วงสุก มะละกอสุก มะเขือเทศ
แคโรทีนอยด์ (เบต้าแคโรทีน ลูทีน และไลโคปีน) มีมากในผักท่ีมีสีเขียวเข้ม ผลไม้ท่ีมี
สีเหลือง
นักวิชาการบางท่านบอกว่า อาหารเมดิเตอร์เรเนียน เป็นสิ่งท่ีผู้ต้องการรักษาสุขภาพสมอง
ปรารถนา แต่จริง ๆ แล้วไม่จ�ำเป็นต้องเป็นอาหารเมดิเตอร์เรเนียนก็ได้ อาหารแบบไทย ๆ เรา
เช่น น้ําพริกกะปิ ปลาทูทอด ผักต้ม ก็ถือว่าวิเศษเช่นกัน แนะน�ำให้กินปลามากกว่าเนื้อ ผู้สูงวัย
ควรกินไข่ไก่สัปดาห์ละ ๒ - ๓ ฟอง กินอาหารท่ีมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น มะเขือเทศราชินี
มะละกอสุก กล้วยไข่ มะขามป้อม แตงกวา เป็นต้น
ท่ีส�ำคัญคือ ต้องระวังอย่าให้เป็นเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง รวมท้ังออกก�ำลังกาย
อย่างสม่ําเสมออย่างน้อยวันละ ๒๐ - ๓๐ นาที ๓ วันต่อสัปดาห์ นอกจากน้ี ในเร่ืองของ
ความสุนทรีต่าง ๆ ก็ส�ำคัญ เพ่ือให้สมองได้ผ่อนคลาย เช่น การร้องเพลง การท่องเท่ียว
เพ่ือไม่ให้ร่างกายเกิดความเครียด และมีสารที่หล่ังออกมาช่วยซ่อมแซมเสริมสร้างสมองได้
. 234 .
. .
การออกก�ำลังกาย การเล่นเกม หรือร่วมกิจกรรมเป็นกลุ่มท่ีต้องปฏิสัมพันธ์กับหมู่คณะ เช่น
การเข้าสังคมโดยการท�ำบุญร่วมกัน ท�ำงานช่วยเหลือสังคม เล่นกีฬา เหล่านี้คือการบริหารจัดการ
โดยการใช้สมอง
การฝึกสมองเพื่อให้ห่างไกลภาวะสมองเสื่อม
การฝึกให้สมองส่วนต่าง ๆ มีการท�ำงานที่ประสานสัมพันธ์กัน
• การฝึกจ�ำเป็นการบริหารสมองท่ีดี อายุท่ีมากข้ึนจะท�ำให้ประสิทธิภาพความจ�ำด้อยลง
เพราะสมองเร่ิมฝ่อลงตามวัยน่ันเอง ดังนั้นจึงจ�ำเป็นต้องบริหารสมองด้วยการให้สมองท�ำงานอยู่
เสมอ เพื่อเป็นการชะลอความเสื่อมของสมอง วิธีการง่าย ๆ เช่น ลองฝึกจ�ำตัวเลข เบอร์โทรศัพท์
ท่องศัพท์วันละ ๑๐ ค�ำ
• การฝึกพัฒนาสมองด้วยการท�ำสิ่งใหม่ ๆ เช่น เรียนศิลปะ เรียนภาษา เต้นร�ำ เล่นกีฬา
เป็นต้น การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จะช่วยกระตุ้นสมองของเราให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ส่ิงใหม่ ๆ ได้
• การพัฒนาสมองด้วยการเล่นเกม เช่น เล่นหมากรุก เล่นเกมลับสมอง เกมใบ้ค�ำ
ปริศนาอักษรไขว้ หรือการคิดค�ำนวณโดยไม่ใช้เครื่องคิดเลข เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการพัฒนา
สมอง โดยวิธีการเหล่าน้ีช่วยให้สมองมีสมาธิจดจ่ออยู่กับกิจกรรม
• การอ่านหนังสือพิมพ์ ติดตามข่าวสาร หรือดูทีวีให้ความรู้ก็จัดเป็นการลับสมองให้มี
กิจกรรมไม่อยู่น่ิง
• การหมั่นสนทนาและหมั่นคิดวิเคราะห์ เน่ืองจากการพูดคุยและร่วมแสดงความเห็น
ในประเด็นต่าง ๆ จะกระตุ้นกระบวนการคิดของสมอง
• หม่ันฝึกกิจกรรมท่ีใช้มือทั้งสองข้าง
• ฝึกกิจกรรมท่ีใช้สมองสองหน้าท่ี เช่น โยนลูกบอลพร้อมนับเลข
. 235 .
. .
รายนามบุคคล คณะบุคคล และหน่วยงาน
ที่มาเคารพด้วยหรีดในรูปแบบต่าง ๆ
๑. กฎหมายมหาชนรุ่นที่ ๑๒ ๑๘. พลอากาศเอก กีรติ -
๒. ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ พลอากาศตรีหญิง คุณหญิงสุชาดา
๓. ดร.กมล รอดคล้าย วรทรัชต์
๔. ดร.กมล ศิริบรรณ และครอบครัว ๑๙. ท่านผู้หญิงกุณฑี ไกรฤกษ์ และครอบครัว
๕. กมลพัฒน์ ทีปสุวรรณ ๒๐. ศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักด์ิ
๖. กรณ์ - วรกร จาติกวณิช เจริญวงศ์ศักด์ิ
และครอบครัว ๒๑. เกษม ศุภรานนท์
๗. กรรมการสภาวิทยาลัยดุสิตธานี ๒๒. ดร.เกษม สดงาม
๘. กฤษณ์ - ระวีวรรณ กาญจนกุญชร ๒๓. นายแพทย์โกวิท - แพทย์หญิงวิบูลย์ศรี
๙. กลินท์ - เพชรพริ้ง สารสิน พิมลพันธุ์
๑๐. ดร.กวินทร์เกียรติ นนธ์พละ ๒๔. โกวิทย์ - ลลิดา โปษยานนท์
๑๑. กองทุนปลูกรากแก้วศาสนทายาท ๒๕. ขจิตพรรณ ไทยเพ็ชร
วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก ๒๖. ศาสตราจารย์เกียรติคุณ
๑๒. กองทุนเพื่อความเสมอภาคการศึกษา คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ
๑๓. กองมรดกยุวดี เจริญพิทักษ์ นายกสภามหาวิทยาลัยศิลปากร
๑๔. ดร. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ๒๗. คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
๑๕. ศาสตราจารย์ ดร.กาญจนา เงารังษี มหาวิทยาลัยมหิดล
๑๖. ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ ๒๘. คณบดีคณะวิทยาการจัดการ
กิตติยารักษ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
๑๗. รองศาสตราจารย์ ดร.กิติพงค์ มะโน ๒๙. คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะท่ี ๓
236 .
.
. .
๓๐. คณะกรรมการส่งเสริมสนับสนุน ๕๙. จาตุรนต์ - จิราภรณ์ ฉายแสง
และพัฒนาการศึกษาโรงเรียนเยาววิทย์ ๖๐. พลอากาศเอก จารึก - กานดา
จังหวัดพังงา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
๓๑. คณะดุริยางคศาสตร์ ๖๑. จิตริก - ท่านผู้หญิงวิวรรณ เศรษฐบุตร
มหาวิทยาลัยศิลปากร ๖๒. คุณหญิงจินดา จรุงเจริญเวชช์
๓๒. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ๖๓. พันเอกหญิง แพทย์หญิงจินดา ยงใจยุทธ
๓๓. คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ๖๔. จินางค์กูร โรจนนันต์
อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร ๖๕. พลต�ำรวจโท จิรภพ - รงรอง ภูริเดช
๓๔. คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ๖๖. จิระ บุณยะโหตระ และครอบครัว
๓๕. คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ๖๗. จิรายุ - ท่านผู้หญิงอรนุช
มหาวิทยาลัยมหิดล อิศรางกูร ณ อยุธยา
๓๖. คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร ๖๘. รองศาสตราจารย์ ดร. เภสัชกรหญิง
มหาวิทยาลัยศิลปากร จุฑามณี สุทธิสีสังข์
๓๗. คณะองคมนตรี ๖๙. จุรี - วิชรัตน์ วิจิตรวาทการ
๓๘. คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ๗๐. เจริญ - คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี
๓๙. ดร.คมกฤช จันทรขจร ๗๑. เจ๊ียบ - โน้ต
๔๐. ครอบครัว ดร.ถวัลย์ ทองมี และน้อง ๆ ๗๒. ใจสคราญ หิรัญพฤกษ์
๔๑. ครอบครัว ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ๗๓. รองศาสตราจารย์ฉลองศรี พิมลสมพงศ์
๔๒. ครอบครัวจอมพล ถนอม - ๗๔. ดร.ฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร
ท่านผู้หญิงจงกล กิตติขจร ๗๕. เฉลย - ศุทธิมาศ พูนสวน
๔๓. ครอบครัวธรรมวิจักษ์พร ๗๖. ชนิดา วัธนเวคิน - นพพร อนันตสิน
๔๔. ครอบครัวบัณฑรวรรณ ๗๗. ชนินทธ์ - วิภาดา โทณวณิก
๔๕. ครอบครัวบ้านกล้วยน้ําไท ๗๘. ชมรม วปรอ. ๔๐๑๐ และคู่สมรส
๔๖. ครอบครัวบุนปาน ๗๙. ชมรม สนช. ๔๙-๕๑
๔๗. ครอบครัวป๊อก คบคงสันติ ๘๐. ชมรมชาวกรมวิชาการ
๔๘. ครอบครัวพุกกะมาน ๘๑. ชวรัตน์ - ทัศนีย์ ชาญวีรกูล
๔๙. ครอบครัวลิ้มมณีวิจิตร ๘๒. คุณหญิงชอุ่มศรี วีรานุวัตติ์
๕๐. ครอบครัววัธนเวคิน และครอบครัวศรียุกต์สิริ
๕๑. ครอบครัวสิงหพันธุ์ ๘๓. รองศาสตราจารย์ ดร.ชัชพล ไชยพร
๕๒. ครอบครัวอารีเจริญเลิศ ๘๔. ชัชวิน - ดารณี เจริญรัชต์ภาคย์
๕๓. ครอบครัวอุบลชาติ ๘๕. ชัยวุฒิ - วรวรรณ บรรณวัฒน์
๕๔. ครูจารุณี ครูวรสรวง สุทธิสวรรค์ ๘๖. ชาญ - ชาย ศรีวิกรม์
๕๕. คลินิกทันตกรรมอัศวานนท์ ๘๗. ชาติศิริ - ณินทิรา โสภณพนิช
๕๖. โครงการทุนการศึกษา ๘๘. ชาวเนินชเลส�ำราญ
เครือเจริญโภคภัณฑ์ ๘๙. ดร.ชินพล - ธีรรัตน์ จงประเสริฐ
๕๗. โฆสิทธ์ิ แสงกุศลส่ง ๙๐. หม่อมราชวงศ์ชิษณุสรร -
๕๘. คุณหญิงจันทนี ธนรักษ์ หม่อมราชวงศ์พร้อมฉัตร สวัสดิวัตน์
. 237 .
. .
๙๑. นายแพทย์ชุษณะ - วิภาศิริ มะกรสาร ๑๒๐. ธวัช ชลารักษ์
๙๒. โชคชัยการโยธา ๑๒๑. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธัชวีร์ ลีละวัฒน์
๙๓. ฐานิสร์ วัชโรทัย และครอบครัว ๑๒๒. ท่านผู้หญิงธิดา เศวตศิลา และครอบครัว
๙๔. ฐาปน - ปภัชญา สิริวัฒนภักดี ๑๒๓. ดร.ธีร์ ภวังคนันท์
๙๕. พลอากาศเอก ณพฤษภ์ - ๑๒๔. ธีรยุทธ หาญตระกูลยืนยง
จงพิศ มัณฑะจิตร ๑๒๕. ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ
๙๖. พลเอก ณรงค์ จารุเศรณี ทันตแพทย์หญิง ดร.ธีรลักษณ์ สุทธเสถียร
๙๗. ณัฏฐพล - ทยา ทีปสุวรรณ ๑๒๖. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระ -
๙๘. ดนุชา พิชยนันท์ ศาสตราจารย์ ดร.พันธุ์ทิพย์ รามสูต
๙๙. ดอน - นรีรัตน์ ปรมัตถ์วินัย ๑๒๗. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระ -
๑๐๐. พลเอก ดาว์พงษ์ - ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงเพ็ญแข ลิ่มศิลา
พลโทหญิง สุพัตรา รัตนสุวรรณ ๑๒๘. คุณหญิงนงเยาว์ จิตกุศล และครอบครัว
๑๐๑. เดชา - ศรี ตุลานันท์ ๑๒๙. นภา พงศ์พิพัฒน์
๑๐๒. ตรีนุช เทียนทอง ๑๓๐. ดร.นรรธพร จันทร์เฉล่ีย เสริบุตร
๑๐๓. พลต�ำรวจโท ต่อศักด์ิ - และทีมงาน Starfish Education
นิภาพรรณ สุขวิมล ๑๓๑. พลต�ำรวจโท ดร.นรวัฒน์ -
๑๐๔. ตูน บอลลูน ลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์
๑๐๕. ทรงพล สินธพสิริพร ๑๓๒. น้องนิว แจม วรวรรณ
๑๐๖. ทรงศรี วิระรังษิยากรณ์ ๑๓๓. นารถ - แสงระวี วาจาวุทธ
๑๐๗. ทวีศักด์ิ วิศิษฎางกูร และครอบครัว
๑๐๘. หม่อมหลวงทองมงกุฎ - ๑๓๔. นิตยา - บุศรา ยุกตะเสวี
จารุจิตร ทองใหญ่ ๑๓๕. นิธินันท์ จาติกวณิช
๑๐๙. ดร.ทองอยู่ - ๑๓๖. นินนาท ไชยธีรภิญโญ
รองศาสตราจารย์ฉวีวรรณ แก้วไทรฮะ ๑๓๗. ดร.นิยม ไผ่โสภา
๑๑๐. ท�ำเนียบวุฒิอาสาสมัคร ๑๓๘. ดร.นิวัตร นาคะเวช
๑๑๑. คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ๑๓๙. ดร.บรรจง พงศ์ศาสตร์ และภริยา
๑๑๒. ทีมการศึกษา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ๑๔๐. ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง
๑๑๓. หม่อมราชวงศ์เทพกมล - มไหสวริยะ
คุณหญิงขวัญตา เทวกุล ๑๔๑. บริษัท กรุงไทยการไฟฟ้า จ�ำกัด
๑๑๔. ศาสตราจารย์ นายแพทย์เทพนม - ๑๔๒. บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จ�ำกัด (มหาชน)
ชยะพร เมืองแมน ๑๔๓. บริษัท เบนซ์ พระราม ๓ จ�ำกัด
๑๑๕. ธนาคารกรุงเทพ จ�ำกัด (มหาชน) ๑๔๔. บริษัท แปลน ฟอร์ คิดส์ จ�ำกัด
๑๑๖. ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาชิดลม ๑๔๕. บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์
๑๑๗. ธนาคารไทยพาณิชย์ จ�ำกัด
สาขาถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ๑๔๖. บริษัท สยามพิวรรธน์ จ�ำกัด
๑๑๘. พันต�ำรวจเอก ธรรมนิธิ วณิชย์ถนอม ๑๔๗. บริษัท เอ็มเคเรสโตรองต์กรุ๊ป จ�ำกัด
๑๑๙. ธฤติ ประสานสอน (มหาชน)
. 238 .
. .
๑๔๘. บอยแบนด์ FOK ๑๗๗. ดร.พีระ รัตนวิจิตร
๑๔๙. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ๑๗๘. เพชร โอสถานุเคราะห์
๑๕๐. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร ๑๗๙. ศาสตราจารย์พิเศษ นายแพทย์ไพจิตร
๑๕๑. บัณฑูร - อุษา ลํ่าซ�ำ ปวะบุตร
๑๕๒. ปกรณ์ นิลประพันธ์ ๑๘๐. พลเอก ไพบูลย์ - กาญจนา
๑๕๓. ปณัยกร - ลลิตยา จาติกวณิช กาญจนพิบูลย์
๑๕๔. ดร.ปรเมศวร์ ศิริรัตน์ ๑๘๑. พลเอก ไพบูลย์ - พจนี คุ้มฉายา
๑๕๕. รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ประดิษฐ์ ๑๘๒. ไพศรี ทิพยธรรม
ประทีปะวณิช ๑๘๓. ดร.ภัทร์ พหลโยธิน
๑๕๖. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประพจน์ ๑๘๔. ภัทราดา - ต่อตระกูล ยมนาค
อัศววิรุฬหการ และครอบครัว
๑๕๗. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ๑๘๕. ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์
นายกรัฐมนตรี และ ศิริราชพยาบาล
รองศาสตราจารย์นราพร จันทร์โอชา ๑๘๖. ดร.ภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธ�ำรง
๑๕๘. ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ๑๘๗. มติชน ข่าวสด
๑๕๙. ปราโมช - นันทิยา พอจิต ๑๘๘. ศาสตราจารย์ นายแพทย์มนตรี -
และครอบครัว ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงชนิกา ตู้จินดา
๑๖๐. ปรีชา จิตรสิงห์ ๑๘๙. อาจารย์ แพทย์หญิงมนทกานติ์
๑๖๑. ป๊อก - ป่าน - อีฟ - แอล โอประเสริฐสวัสดิ์
๑๖๒. ปานศักดิ์ รังสิพราหมณกุล - ๑๙๐. มยุรี โสตถิพันธุ์
หม่อมราชวงศ์ปรียนันทนา รังสิต ๑๙๑. มหาวิทยาลัยมหิดล
๑๖๓. ปิยะ ภิรมย์ภักดี ๑๙๒. มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
๑๖๔. พงศ์ทิพย์ อินทรแก้ว ๑๙๓. มหาวิทยาลัยศรีปทุม
๑๖๕. พงศ์เทพ - พนิดา เทพกาญจนา ๑๙๔. มหาวิทยาลัยศิลปากร
๑๖๖. ดร.พจนีย์ ธนวรานิช ๑๙๕. มังกร กุลวานิช
๑๖๗. ดร.พรชัย - ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชลลดา ๑๙๖. มีชัย ฤชุพันธ์
มงคลวนิช ๑๙๗. มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพ่ือเด็กและเยาวชนฯ
๑๖๘. พรศรี หลูไพบูลย์ ๑๙๘. มูลนิธิ ดร.โกวิท วรพิพัฒน์
๑๖๙. พรเสก - ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี ๑๙๙. มูลนิธิศาสตราจารย์ ดร.ก่อ
๑๗๐. ดร.พลสัณห์ - รองศาสตราจารย์นพรัตน์ สวัสดิ์พาณิชย์ เพื่อส่งเสริมการอ่าน
โพธ์ิศรีทอง ๒๐๐. มูลนิธิกสิกรไทย
๑๗๑. พัดชา และครอบครัวอาชวนิยุต ๒๐๑. มูลนิธิกองทุนการกุศล
๑๗๒. พิทักษ์ - พรรณประภา อินทรวิทยนันท์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
๑๗๓. พินิจศักดิ์ - นิตยา สุวรรณรังค์ ในพระราชูปถัมภ์
๑๗๔. พิริยะ ไกรฤกษ์ ๒๐๒. มูลนิธิการศึกษาไทย
๑๗๕. พิไลพรรณ สมบัติศิริ ๒๐๓. มูลนิธิคนดีศรีธาตุทอง
๑๗๖. พิศณุ ศรีพล ๒๐๔. มูลนิธิคนสร้างป่า
. 239 .
. .
๒๐๕. มูลนิธิคุณพุ่ม ๒๓๒. ระลึก ธานี
๒๐๖. มูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลน ๒๓๓. รัชนุช สละโวหาร
ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ๒๓๔. รัตน์ - ชวาลี โอสถานุเคราะห์
๒๐๗. มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทยฯ ๒๓๕. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ราชวิกรม -
๒๐๘. มูลนิธิธีรนาถ กาญจนอักษร ผู้ช่วยศาสตราจารย์วราภรณ์
๒๐๙. มูลนิธิบรรจง พงศ์ศาสตร์ เจริญรัชต์ภาคย์
๒๑๐. มูลนิธิแผ่นดินธรรม ๒๓๖. ราชสกุลวรวรรณ
๒๑๑. มูลนิธิแพธทูเฮลท์ ๒๓๗. เริงชัย จงพิพัฒนสุข
๒๑๒. มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ๒๓๘. โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ (คณะผู้บริหารกลุ่มโรงเรียน)
๒๑๓. มูลนิธิยุวทูตความดี ๒๓๙. โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย
กระทรวงการต่างประเทศ (อดีตคณะผู้บริหาร)
๒๑๔. มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ๒๔๐. โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัยนครปฐม
๒๑๕. มูลนิธิราชประชาสมาสัย (พระต�ำหนักสวนกุหลาบมัธยม)
ในพระบรมราชูปถัมภ์ ๒๔๑. โรงเรียนเครือประภามนตรี
๒๑๖. มูลนิธิราชสกุลอินทรางกูร (ดร.เขมสิริ - เจต ประภามนตรีพงศ์)
๒๑๗. มูลนิธิโรงเรียนสตาร์ฟิช และ ๒๔๒. โรงเรียนจุฑาทิพย์
โรงเรียนบ้านปลาดาว (อาจารยพ์ รี พงศ์ - อาจารยเ์ กษร พาลพา่ ย)
๒๑๘. มูลนิธิสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา ๒๔๓. โรงเรียนช่างฝีมือในวังชาย
๒๑๙. มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ๒๔๔. โรงเรียนตากพิทยาคม
๒๒๐. มูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร ๒๔๕. โรงเรียนตากพิทยาคม
อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (ผอ.สคราญจิต ศริญญามาศ)
๒๒๑. มูลนิธิสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ๒๔๖. โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
๒๒๒. มูลนิธิสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์เชียงราย ๒๔๗. โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
๒๒๓. มูลนิธิสวัสดิการโรงเรียนประถมนนทรี (กกฐ วาระ ๒๕๖๔ - ๒๕๖๗)
๒๒๔. มูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ๒๔๘. โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
๒๒๕. มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก (สมาคมผู้ปกครองและครู
๒๒๖. มูลนิธิหอศิลปะแห่งรัชกาลท่ี ๙ วาระ ๒๕๖๔ - ๒๕๖๗)
๒๒๗. มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ๒๔๙. โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ
ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ดร.จินตนา ศรีสารคาม)
๒๒๘. มูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการ ๒๕๐. โรงเรียนเทพศิรินทร์
ในพระราชูปถัมภ์ของ ๒๕๑. โรงเรียนเทพศิรินทร์
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (วิธาน พรหมสินธุศักด์ิ)
๒๒๙. มูลนิธิอุบลรัตน์ โดย เลขาฯ ๒๕๒. โรงเรียนนานาชาติรักบี้
ดร.วีณา เชิดบุญชาติ ๒๕๓. โรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา
๒๓๐. รองศาสตราจารย์ ดร.ยาใจ สิทธิมงคล จังหวัดสุพรรณบุรี
๒๓๑. เยาวเรศ ชินวัตร
. 240 .
. .
๒๕๔. โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๒๗๙. โรงเรียนวัดมกุฏกษัตริย์
(ดร.สมพร สังวาระ) (ผอ.วรรณา ปริญญาวิวัฒน์กุล)
๒๕๕. โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๒ ๒๘๐. โรงเรียนศรีสังวาลย์
(ดร.อารีย์ วีระเจริญ) ๒๘๑. โรงเรียนสตรีมหาพฤฒาราม
๒๕๖. โรงเรียนบางกอกพัฒนา ๒๘๒. โรงเรียนสตรีวัดระฆัง (วิมลนาถ บัวแก้ว)
๒๕๗. โรงเรียนประถมนนทรี ๒๘๓. โรงเรียนสตรีวิทยา
๒๕๘. โรงเรียนประถมนนทรี (ผอ.สุภาณี ธรรมาธิคม)
(อาจารย์เปรมจิต ถนอมศรี) ๒๘๔. โรงเรียนสตรีวิทยา ๒
๒๕๙. โรงเรียนพญาไท (ดร.พีรานุช ไชยพิเดช) ๒๘๕. โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย
๒๖๐. โรงเรียนพระต�ำหนักสวนกุหลาบ ๒๘๖. โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
๒๖๑. โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย (จิณณภัทร พิบูลวิทิตธ�ำรง)
(ดร.สามารถ รอดส�ำราญ) ๒๘๗. โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
๒๖๒. โรงเรียนพระราชทานทับละมุ (ดร.เชิดศักดิ์ ศุภโสภณ)
จังหวัดพังงา ๒๘๘. โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
๒๖๓. โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง (พีระ ชัยศิริ)
๒๖๔. โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง (กกฐ.) ๒๘๙. โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต
๒๖๕. โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง ๒๙๐. โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต
(ผอ.กัลยาณีย์ สินสกุล) (ดร.สุภาวดี วงษ์สกุล)
๒๖๖. โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง ๒๙๑. โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต
(สมาคมนักเรียนเก่า) (วรพันธ์ แก้วอุดม)
๒๖๗. โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง ๒๙๒. โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต
(สมาคมผู้ปกครองและครู) (วีระ กาญจนะรังสิตมา)
๒๖๘. โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง (กกฐ.) ๒๙๓. โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย
๒๖๙. โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง (สุพจน์ อภิศักด์ิมนตรี)
(สมาคมผู้ปกครองและครู) ๒๙๔. โรงเรียนอนุบาลวัดธาตุทอง
๒๗๐. โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง ๒๙๕. โรงเรียนอ�ำนวยศิลป์
(สมาคมศิษย์เก่า) ๒๙๖. โรงเรียนอุทัยธรรมานุวัตรวิทยา
๒๗๑. โรงเรียนเยาววิทย์ พังงา (กกฐ.) (ผอ.สมบุญ - ผอ.สงวนทรัพย์ ทิพรังศรี)
๒๗๒. โรงเรียนราชวินิต ๒๙๗. คุณหญิงโรส บริบาลบุรีภัณฑ์
๒๗๓. โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย และครอบครัว
๒๗๔. โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย (มูลนิธิ) ๒๙๘. ฤาชุตา บุญสูง - วัฒนชัย อนุรัฐพันธ์
๒๗๕. โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ๒๙๙. คุณหญิงลมุลศรี โกสิน
(สมาคมผู้ปกครองและครู) ๓๐๐. ดร.เลิศลักษณ์ สังขวรรณ
๒๗๖. โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ๓๐๑. วตท. ๓
(สมาคมศิษย์วังหลัง - วัฒนา) ๓๐๒. วรพจน์ - พัชรินทร์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
๒๗๗. โรงเรียนวัดปทุมวนาราม ๓๐๓. ดร.วรวุฒิ แสงเฟือง และครอบครัว
๒๗๘. โรงเรียนวัดปทุมวนาราม (กกฐ.) ๓๐๔. ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล
. 241 .
. .
๓๐๕. วัชรินทร์ - กาญจนาภรณ์ จ�ำปี ๓๓๖. ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์
๓๐๖. วัฒนา ๙๒ ๓๓๗. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพ่ือการศึกษา
๓๐๗. วัฒนาพานิช ส�ำราญราษฎร์ ส�ำนักงาน กศน. เอกมัย
๓๐๘. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ๓๓๘. ศูนย์สัตว์ทดลองแห่งชาติ
๓๐๙. ดร.วิชัย ตันศิริ มหาวิทยาลัยมหิดล
๓๑๐. วิทยา - อรสา เวชชาชีวะ ๓๓๙. สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์
๓๑๑. วิทยาลัยดุสิตธานี และบุคลากรทางการศึกษา
๓๑๒. วิมล - มารศรี นาคพันธ์ ๓๔๐. สถาบันราชประชาสมาสัย
(อดีต ผอ.สพป.กระบี่) ๓๔๑. พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล
๓๑๓. วิรเทพ ยุกตะเสวี ๓๔๒. สน่ัน - คุณหญิงณัฐิกา อังอุบลกุล
๓๑๔. วิรัช บุญน�ำ ๓๔๓. สพป. สุพรรณ เขต ๓
๓๑๕. วิรัชฟาร์ม ๓๔๔. สภาคณาจารย์และพนักงาน
๓๑๖. ท่านผู้หญิงวิลาวัณย์ วีรานุวัตต์ิ มหาวิทยาลัยศิลปากร
๓๑๗. วิไลวรรณ - อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ ๓๔๕. สภามหาวิทยาลัยมหิดล
๓๑๘. ดร.วีระ - ธรรมพร แข็งกสิการ ๓๔๖. สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย
๓๑๙. ศรีเมือง เจริญศิริ ในพระบรมราชูปถัมภ์
๓๒๐. คุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ ๓๔๗. สมควร ทรัพย์ยอดแก้ว และครอบครัว
๓๒๑. ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ศักด์ิชัย - ๓๔๘. ดร.สมบัติ - กนกพรรณ สุวรรณพิทักษ์
วราภรณ์ ล้ิมทองกุล และลูก ๆ
๓๒๒. ศักดิ์ทิพย์ - หม่อมราชวงศ์เบญจาภา ๓๔๙. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมพิศ
ไกรฤกษ์ ขัตติยพิกุล
๓๒๓. ดร.ศักด์ิสิน โรจน์สราญรมย์ ๓๕๐. สมยศ ศิริบรรณ และคณะกรรมการ
๓๒๔. ศิริพร กิจเก้ือกูล สถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนราชวินิต
๓๒๕. หม่อมหลวงศิริมา ศรีธวัช ภารดี ๓๕๑. ดร.สมศักด์ิ - คุณหญิงปัทมา
พหลโยธิน อัมพรพิสิฏฐ์ ภัทร์ ลีสวัสดิ์ตระกูล
พหลโยธิน ๓๕๒. สมศักด์ิ ปริศนานันทกุล
๓๒๖. ศิริราชมูลนิธิ ๓๕๓. รองศาสตราจารย์ ดร.สมหมาย ผิวสอาด
๓๒๗. รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริวัฒน์ โพธิเวชกุล ๓๕๔. สมาคมติดตามการพัฒนาสตรี
๓๒๘. ศิวะพร - รจนา ทรรทรานนท์ ในประเทศไทย
๓๒๙. ศุภกร วงศ์ปราชญ์ ๓๕๕. สมาคมนักเรียนเก่าเตรียมอุดมศึกษา
๓๓๐. ศุภกิต - มาริษา เจียรวนนท์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
๓๓๑. ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ๓๕๖. สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์
๓๓๒. ศุภชัย - สงวนศรี สุทธิพงษ์ชัย แห่งประเทศไทย
๓๓๓. ศุภชัย เจียรวนนท์ ๓๕๗. สมาคมผู้ช่วยผู้บริหารและเลขานุการ
๓๓๔. ศุภชัย ภู่งาม แห่งประเทศไทย
๓๓๕. ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนกาญจนาภิเษก ๓๕๘. สมาคมผู้บ�ำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย
(วิทยาลัยในวัง) ในพระบรมราชินูปถัมภ์
. 242 .
. .
๓๕๙. สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ๓๘๗. ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ -
ในพระบรมราชูปถัมภ์ สวิตา สุวรรณสวัสดิ์
๓๖๐. สมาคมส่งเสริมบุคลิกสตรี ๓๘๘. สุชาติ ชมกล่ิน
๓๖๑. สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ๓๘๙. ศาสตราจารย์ แพทย์หญิง
๓๖๒. สมาคมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ คุณหญิงสุดสาคร ตู้จินดา
๓๖๓. สมาคมสตรีภาคพ้ืนแปซิฟิกและ ๓๙๐. สุทธิพงษ์ - วันดี จุลเจริญ
เอเชียอาคเนย์แห่งประเทศไทยฯ ๓๙๑. สุนทร - สุมนี โภคาชัยพัฒน์
๓๖๔. สมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทย ๓๙๒. สุนทร - อารยา อรุณานนท์ชัย
๓๖๕. ดร.สมิทธ - เนาวรัชต์ ธรรมสโรช ๓๙๓. สุภาภรณ์ ตรีแสน
๓๖๖. พลตรี สรวุฒิ - ลีลาหงส์ ไชยบุตร ๓๙๔. สุมน ปราณีประชาชน
๓๖๗. สวนสามพราน ๓๙๕. สุมาลี เริงสุขพิพัฒนะ และครอบครัว
๓๖๘. สหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการ ๓๙๖. สุเมธ เอี่ยมประชา ศรีหงส์
กระทรวงศึกษาธิการ จ�ำกัด ๓๙๗. สุรภีร์ โรจนวงศ์
๓๖๙. ดร.สหชัย สาสวน ๓๙๘. พลเอก สุรยุทธ์ - ท่านผู้หญิงจิตรวดี
๓๗๐. สายปัญญาสมาคม จุลานนท์
ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ๓๙๙. แพทย์หญิงสุรางคณา เตชะไพฑูรย์
๓๗๑. ส�ำนักงาน กศน. ๔๐๐. สุวรรณี สิริเวชชะพันธ์
๓๗๒. ส�ำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษา ๔๐๑. สุวิชญ์ รัศมิภูติ
พังงา ๔๐๒. รองศาสตราจารย์ ดร.เสถียร
๓๗๓. ส�ำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ธัญญศรีรัตน์
กองกฎหมายการศึกษาและวัฒนธรรม ๔๐๓. เสน่ห์ ขาวโต
๓๗๔. ส�ำนักงานโครงการกองทุนการศึกษา ๔๐๔. คุณหญิงแสงเดือน ณ นคร
ท�ำเนียบองคมนตรี และครอบครัว
๓๗๕. ส�ำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ๔๐๕. ศาสตราจารย์ ดร.โสภณ เริงส�ำราญ
๓๗๖. ส�ำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ๔๐๖. หญิง เพา พิชญ์
๓๗๗. ส�ำนักงานศึกษาธิการจังหวัดพังงา ๔๐๗. หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล
๓๗๘. ส�ำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ ๔๐๘. ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ
และสังคมแห่งชาติ นายแพทย์เหลือพร - ดาริกา ปุณณกันต์
๓๗๙. ส�ำนักงานองคมนตรี ๔๐๙. อธิไกร - แคลร์ - นิกกี้ จาติกวณิช
๓๘๐. ดร.ส�ำเริง กุจิรพันธ์ ๔๑๐. ศาสตราจารย์ ดร.อนุชาติ พวงส�ำลี
๓๘๑. ส�ำเริง บุญโต ๔๑๑. อนุตร - กษมา จาติกวณิช
๓๘๒. พลเอก สิงหา - ๔๑๒. ๒๑ อนงค์ วปรอ. ๔๐๑๐
พลตรีหญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ ๔๑๓. รองศาสตราจารย์ ดร.อนุวัฒน์
๓๘๓. สิทธิ - พนิดา ภาณุพัฒนพงศ์ จางวนิชเลิศ
๓๘๔. หม่อมหลวงสิริน รองทรง ๔๑๔. พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์
๓๘๕. สิริมา - กรกฎ ศรีวิกรม์ ๔๑๕. อมเรศ - ภัทรา ศิลาอ่อน
๓๘๖. สืบตระกูล - ปรียา สุนทรธรรม ๔๑๖. อรรถนิติ - สุดใจ ดิษฐอ�ำนาจ
. 243 .
. .
.
๔๑๗. อรรถพล เจริญชันษา ๔๔๕. Child Fund International
๔๑๘. ดร.อรรถพล สังขวาสี ๔๔๖. Giverny Co., Ltd.
๔๑๙. อัครวิทย์ - กีระณา สุมาวงศ์ ๔๔๗. Ines and Matthieu
๔๒๐. ท่านผู้หญิงอังกาบ บุณยัษฐิติ ๔๔๘. Janister - Ken Chittaropas
และครอบครัว ๔๔๙. JAWW
๔๒๑. พลต�ำรวจตรี อังกูร อาทรไผท - นี๊ด ๔๕๐. Kenan Foundation Asia
และครอบครัว ๔๕๑. LH FUND
๔๒๒. อัญชลิตา กองอรรถ รองเลขาธิการ ๔๕๒. LINK FAMILY
คณะกรรมการกฤษฎีกา ๔๕๓. MHC Nishimatsu Property
๔๒๓. ดร.อัมพร พินะสา ๔๕๔. Nok Yung Ikebana Association
๔๒๔. อัศวิน ฐาปนี เตชะเจริญวิกุล ๔๕๕. PPSEAWA International
๔๒๕. อาทิตย์ - บุญน�ำ อุไรรัตน์ ๔๕๖. Sen’ei Ikenobo
๔๒๖. คุณหญิงอารยา พิบูลนครินทร์ ๔๕๗. Siam Autobacs Co., Ltd.
๔๒๗. อาสา - ท่านผู้หญิงสุจิตคุณ สารสิน ๔๕๘. The Emquartier
๔๒๘. อาสาสมัครโครงการกองทุนการศึกษา ๔๕๙. WeMove และเครือข่ายผู้หญิง
๔๒๙. อ�ำนวยศิลป์มูลนิธิ ครูจิตร ครูเอิบ กับรัฐธรรมนูญ
ทังสุบุตร ๔๖๐. Wilfried - Supamas Vincent
๔๓๐. ดร.อ�ำนาจ วิชยานุวัติ and Family
๔๓๑. อินทร์จันทร์ บุราพันธ์ ๔๖๑. Yu Kyung, Kim, Susu, Carina
๔๓๒. ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ - หากมีข้อผิดพลาดหรือขาดตกบกพร่อง
ท่านผู้หญิงมณฑินี มงคลนาวิน ขอประทานอภัย ขออภัยมา ณ ท่ีนี้
๔๓๓. ดร.อุดม วงษ์สิงห์ และครอบครัววงษ์สิงห์
๔๓๔. อุดม เหลืองสด กาญจนบุรี
๔๓๕. ศาสตราจารย์ ดร.อุไรวรรณ ธนสถิตย์
๔๓๖. อุษา มนต์เสรีนุสรณ์
(ท่ีปรึกษามูลนิธิเด็กโสสะฯ)
๔๓๗. อุษา สมบูรณ์ นายกสมาคม
โรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไทย
๔๓๘. ศาสตราจารย์ ดร.เอกวิทย์ ณ ถลาง
และครอบครัว
๔๓๙. เอ๋ย ไต๋ ไอ๋ ต้นไทร
๔๔๐. นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์
๔๔๑. Amarin Group
๔๔๒. Astra Academy International
School
๔๔๓. BANGKOK PREP
๔๔๔. B.GRIMM
. 244
. .
รายนามบุคคล คณะบุคคล
และหน่วยงานที่ร่วมท�ำบุญ
๑. กมล เจตนาวิชโมกข์ ๑๘. ดร. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช
๒. ดร.กมล รอดคล้าย ๑๙. กัลยาณีย์ - วินัย สินสกุล
๓. กมล ศิริบรรณ ๒๐. กาญจนา ชุมศรี
๔. กรองกาญจน์ ถนอมพล - ๒๑. กานดา - ปรีชา วัชราภัย
สุพัตรา ไผ่แก้ว ๒๒. กิ่งเพชร วรพิพัฒน์
๕. กรองสิญจน์ กนิษฐสุดา ๒๓. กิตติโชต ห้อยย่ีภู่
๖. นายแพทย์กริช โพธิสุวรรณ ๒๔. ศาสตราจารย์ ดร.กิตติพงษ์ -
๗. กฤษฎาวรรณ พรหมชนะ ศริยา กิตยารักษ์
๘. กฤษณา สินไชย ๒๕. กิตติพล ยศธแสนย์
๙. กล้า สมตระกูล ๒๖. ดร.กิติพงศ์ พร้อมวงศ์
๑๐. กลุ่มโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย - ๒๗. ดร.กิติพงษ์ มะโน
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสกลนคร ๒๘. พลอากาศเอก กีรติ -
๑๑. กวินทร์เกียรติ นนธ์พละ คุณหญิงสุชาดา วรทรัชต์
๑๒. กวี เพ็งศรี ๒๙. กุณฑลี แก้วจินดา - กชกร สินธวานนท์
๑๓. กศน. เขตคลองเตย ๓๐. ท่านผู้หญิงกุณฑี ไกรฤกษ์
๑๔. กองทุนปลูกรากแก้วศาสนทายาท ๓๑. กุศล สุทธิวุฒินฤเบศร์
(วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก) ๓๒. รองศาสตราจารย์ ดร.เกตุมณี มากมี
๑๕. กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ๓๓. เกรียงศักดิ์ - พวงทอง อานันทนะสุวงศ์
๑๖. กันยา เรืองพิริยะ ๓๔. ดร.เกศทิพย์ ศุภวนิช
๑๗. พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ ๓๕. เกษม ศุภรานนฑ์
. 245 .
. .
.
๓๖. เกษศิรินทร์ สุวรรณสุนทร และครอบครัว ๖๙. จินางค์กูร โรจนนันต์
๓๗. นายแพทย์โกวิท - แพทย์หญิงวิบูลย์ศรี ๗๐. จีระศักดิ์ - อภิญญวรรณ ธเนศนันท์
พิมลพันธุ์ ๗๑. จุไรรัตน์ แสงบุญน�ำ
๓๘. โกวิทย์ - ลลิดา โปษยานนท์ ๗๒. รองศาสตราจารย์ ดร.จุไรรัตน์
๓๙. โกศล - วารุณี ปราค�ำ นันทานิช
๔๐. ไกรทิพย์ - นันดา ไกรฤกษ์ ๗๓. เจต - เขมสิริ ประภามนตรีพงศ์
๔๑. นายแพทย์ไกรสิทธ์ิ ตันติศิรินทร์ ๗๔. พลต�ำรวจโท เจตนากร นภีตะภัฏ
๔๒. ขจิตพรรณ - สุทธิกัญญา ไทยเพ็ชร์ ๗๕. เจริญ - คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี
๔๓. ขรรค์ - อังคณา ประจวบเหมาะ ๗๖. เจือจันทร์ จงสถิตอยู่
๔๔. คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ ๗๗. โฉมฉาย เหล่าสุนทร
๔๕. ดร.คงศักดิ์ ยุกตะเสวี ๗๘. คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม
๔๖. คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ๗๙. ดร.ชณิษฐา สัมฤทธ์ิ
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ๘๐. ศาสตราจารย์ ดร.ชนาธิป ผาริโน
๔๗. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ๘๑. ชนิดา ดีย่ิง
๔๘. คณะท�ำงานโครงการพัฒนาการเรียนรู้ ๘๒. ชมรม วปรอ. ๔๐๑๐
และส่งเสริมการมีงานท�ำมูลนิธิคุณพุ่ม ๘๓. ชไมพร ประเทืองบูลย์
๔๙. ดร.คมกฤช จันทร์ขจร ๘๔. ชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์
๕๐. คมคาย น้อยสิทธิ์ ๘๕. คุณหญิงชวลี อมาตยกุล
๕๑. ครอบครัวจงพิพัฒนสุข ๘๖. ชัช ปันยารชุน
๕๒. ครอบครัวลิ้มมณีวิจิตร ๘๗. ชัชวาล - ลักขณา อภิบาลศรี
๕๓. คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ ๘๘. ชัชวิน - ดารณี เจริญรัชต์ภาคย์
๕๔. ฆรนี เทียนไทย ๘๙. พลอากาศเอก ชัยยันต์ - จรวยพรรณ
๕๕. จงกล ทรัพย์สมบูรณ์ นาทะสิริ
๕๖. จรัลธาดา กรรณสูต ๙๐. ชัยรัตน์ หลายวัชระกุล
๕๗. จรูญ ลมุล ๙๑. ชัยวุฒิ - วรวรรณ - บรรณวัฒน์
๕๘. ดร.จักรพรรดิ วะทา ๙๒. ชาญฤทธิ์ มุตตานันทกุล
๕๙. จันทร์ทิพา ภู่ตระกูล ๙๓. ชาญวิทย์ ตรีรุ่งกิจ
๖๐. จาตุรนต์ - จิราภรณ์ ฉายแสง ๙๔. ชาญเวช บุญประเดิม
๖๑. พลอากาศโท จารึก - กานดา สนิทวงศ์ ๙๕. ชินพล - ธีรรัตน์ จงประเสริฐ
ณ อยุธยา ๙๖. หม่อมราชวงศ์ชิษณุสรร -
๖๒. จ�ำนรรจ์ เสนาะเมือง หม่อมราชวงศ์พร้อมฉัตร สวัสดิวัตน์
๖๓. จ�ำรูญ - จันทรา ณ ระนอง ๙๗. ชื่นจิต - กฤษฎีก์ จารุเศรณี
๖๔. จ�ำลอง เชยอักษร ๙๘. ชื่นจิตร์ สุขทันโถม
๖๕. จ�ำลอง - ทรรศนียา ศักดิ์ดี ๙๙. ชุตินาฏ วงศ์สุบรรณ
๖๖. จิตรพัฒน์ - ศุภลักษณ์ ไกรฤกษ์ ๑๐๐. ชุติมา พงษ์เลื่องธรรม
๖๗. จิตริก - ท่านผู้หญิงวิวรรณ เศรษฐบุตร ๑๐๑. ชุติมา อิศรเสนา ณ อยุธยา
๖๘. ดร.จิตสันติ - สมถวิล ธนโสภณ ๑๐๒. ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจ�ำนงค์
. 246
. .
๑๐๓. ดร.ชูชาติ ทรัพย์มาก ๑๓๕. ตรีนุช เทียนทอง
๑๐๔. ชูศรี อุดมกุศลศรี ๑๓๖. ตวงรัตน์ ศิริยงค์
๑๐๕. ชูศักด์ิ จันทยานนท์ ๑๓๗. ตวงสุดา เมืองวงษ์
๑๐๖. ชูสิน โพธิ์ใบกูล ๑๓๘. แตงอ่อน ม่ันใจตน
๑๐๗. เชิดศักดิ์ ศรีสง่าชัย ๑๓๙. ถานันดร สุวรรณรัตน์
๑๐๘. ดร.เชิดศักดิ์ ศุภโสภณ ๑๔๐. ถาวร - วิภา รัตนวราหะ
๑๐๙. ญาณิฐา หลิมวัฒนา ๑๔๑. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทรรศนีย์ จันทรสมบัติ
๑๑๐. ฎาทกาญจน์ อุสตัส ๑๔๒. ดร.ทวีพล - วรรณวิภา จูฑะพล
๑๑๑. พลเรือเอก ฐนิธ - นวลแพร กิตติอ�ำพล ๑๔๓. ทวีศักดิ์ - อุดม วิศิษฎางกูร
๑๑๒. ฐาปน - ปภัชญา สิริวัฒนภักดี ๑๔๔. ทองอยู่ แก้วไทรฮะ
๑๑๓. ฐิรัชชานันท์ บวรปิยาวัฒน์ ๑๔๕. ทัธนา รอดโพธ์ิทอง
๑๑๔. ณกรณ์ อุดมผล ๑๔๖. ดร.ทินศิริ ศิริโพธิ์
๑๑๕. ณนภ เล้ียงถนอม ๑๔๗. หม่อมราชวงศ์ทิพพาวดี ดุละลัมพะ
๑๑๖. พลอากาศเอก ณพฤษภ์ - ๑๔๘. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทิพย์วัลย์ สมุทรักษ์
จงพิศ มัณฑะจิตร ๑๔๙. หม่อมราชวงศ์ทิพวรรณา นิติพน
๑๑๗. ณรงค์ - กาญจนาวรรณ พรหมลักขโณ ชลันต์ - จิตทิพย์ หวั่งหลี
๑๑๘. ณรงค์ - ศุลีมาศ สุทธิสัมพัทน์ ๑๕๐. คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์
๑๑๙. ณรงค์ - สุรีย์พร ตามรักษา ๑๕๑. ทีมวิจัย TSQP มูลนิธิศึกษาธิการ
๑๒๐. ดร.ณฤดี เคียงศิริ ๑๕๒. ศาสตราจารย์ ดร.ธงทอง จันทรางศุ
๑๒๑. ณัฏฐพล - ทยา ทีปสุวรรณ ๑๕๓. ศาสตราจารย์ ดร.ธนะเศรษฐ์
๑๒๒. ณัฐพร โรจนดิษฐ์ ง้าวหิรัญพัฒน์
๑๒๓. ณัฐภพ - ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ๑๕๔. ธนาลัย ลิมปรัตนคีรี
๑๒๔. ดรรชนี ฟอร์คก้ิงแฮม ๑๕๕. ธนิดา ฤทธาคนี
๑๒๕. ดรุณี ศรีจิรารัตน์ ๑๕๖. พลอากาศเอก ธเรศ - จันทเพ็ญ ปุณศรี
๑๒๖. ดวงสมร วรฤทธิ์ ๑๕๗. ว่าที่ร้อยตรี ธวัชชัย ชาญกุล
๑๒๗. ดารณี สถาปณกุล ๑๕๘. ธวัชชัย - ดวงใจ ต้ังสง่า
๑๒๘. พลเอก ดาว์พงษ์ - พลโทหญิง สุพัตรา ๑๕๙. ธัชชัย สุมิตร
รัตนสุวรรณ ๑๖๐. ธิติวัฒน์ - วลีรักษ์ ธรรมวิจักษ์พร
๑๒๙. หม่อมราชวงศ์ด�ำรงดิศ - เอื้อเอ็นดู ๑๖๑. ธีรชัย ศุภพันธุ์ภิญโญ
ดิศกุล ๑๖๒. ธีรพงศ์ นิยมทอง
๑๓๐. นายแพทย์ด�ำรงวิทย์ - แพทย์หญิงโชติมา ๑๖๓. ธีรพล รัตตกุล
สุขะจินตนากาญจน์ ๑๖๔. ธีระชัย - จิราพร เขมนะสิริ
๑๓๑. ดิเรก พรสีมา ๑๖๕. ศาสตราจารย์พิเศษ นายแพทย์ธีระ -
๑๓๒. ดิศกุล - สุพรรณ เกษมสวัสดิ์ ศาสตราจารย์ ดร.พันธุ์ทิพย์ รามสูต
๑๓๓. ดุริยา อมตวิวัฒน์ ๑๖๖. นคร ตังคะพิภพ
๑๓๔. นายแพทย์ดุสิต - แพทย์หญิงวารุณี ๑๖๗. คุณหญิงนงเยาว์ จิตต์กุศล
ลิขนะพิชิตกุล ๑๖๘. นงเยาว์ วงษ์สกุล
. 247 .
. .
๑๖๙. นพพร มากคงแก้ว ๒๐๓. บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จ�ำกัด (มหาชน)
๑๗๐. นพพร สุวรรณรุจิ ๒๐๔. พลเรือโท บัณฑิตย์ นุตสาระ
๑๗๑. นพพร - จิรสุดา รอยลาภเจริญพร ๒๐๕. บัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูล
๑๗๒. นภาพร อภัยวงศ์ ๒๐๖. บัวภา โยธะไชยสาร
๑๗๓. ศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร ๒๐๗. บ�ำรุง - ธนพรรณ แก้วจันดี
๑๗๔. พลต�ำรวจโท นรวัฒน์ - ลดาวรรณ ๒๐๘. บุญเกียรติ์ อัศวะสกุลโชคดี
เจริญรัชต์ภาคย์ ๒๐๙. บุญชู ชลัษเฐียร
๑๗๕. ท่านผู้หญิงนราวดี ชัยเฉนียน ๒๑๐. บุญปลูก ชายเกตุ
๑๗๖. ดร.นวลพรรณ วรรณสุธี ๒๑๑. ดร.บุญเลิศ - ทิพวัลย์ มาแสง
๑๗๗. นวลศิริ เปาโรหิตย์ ๒๑๒. บุญเอิบ ธีระพันธ์
๑๗๘. ผู้ช่วยศาสตราจารย์นันทพล จั่นเงิน ๒๑๓. ดร.บุศราภรณ์ ส�ำราญ
๑๗๙. นันทลี จารุรัตน์ ๒๑๔. แพทย์หญิงบุษบัน เช้ืออินทร์
๑๘๐. นันทิตา ค�ำทอง ๒๑๕. บูรพาทิศ พลอยสุวรรณ์
๑๘๑. นัยนา สุรีย์ชัยนิรันดร์ ๒๑๖. ดร.เบญจลักษณ์ - ดิเรก นํ้าฟ้า
๑๘๒. นาวิน ขันธหิรัญ ๒๑๗. เบ็ญจวรรณ สีแสง
๑๘๓. ดร.น้ําทิพย์ อักษรกุล ๒๑๘. ปติมา หิริสัจจะ
๑๘๔. นิติยา หลานไทย ๒๑๙. รองศาสตราจารย์ ดร.ประกฤติ -
๑๘๕. นิเทศน์ บัวตูม ดร.สันทนา พูลพัฒน์
๑๘๖. นินนาท ไชยธีรภิญโญ ๒๒๐. หม่อมราชวงศ์ประกายฉัตร สุขสวัสด์ิ
๑๘๗. นิพนธ์ ก้องเวหา ๒๒๑. พลต�ำรวจโท ประกาศ -
๑๘๘. นิภาพร จืมทราย คุณหญิงผะอบทิพย์ ศาตะมาน
๑๘๙. นิภาพรรณ แสงอินทร ๒๒๒. ดร.ปภัสวดี วีรกิตติ
๑๙๐. ร้อยต�ำรวจเอก นิรุธ รักษาเสรี ๒๒๓. ประกิต - พวงเพชร กันยาบาล
๑๙๑. ดร.นิวัตร นาคะเวช ๒๒๔. ประคอง ถนัดงาน
๑๙๒. นิศารัตน์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ๒๒๕. ประจง สารกิจปรีชา
๑๙๓. นีรนุช - สุประวัติ ปัทมสูต ๒๒๖. นายแพทย์ประชา - ประจิตรา
๑๙๔. เนตรนภา ทุมมานนฑ์ เธียรประสิทธ์ิ
๑๙๕. เนตรนฤมล ศิริมณฑล ๒๒๗. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประดิษฐ์
๑๙๖. บดินทร์ - ดร.ผุสดี ตามไท ปัญจวีณิน
๑๙๗. บรรพต - อัญชลี หงษ์ทอง ๒๒๘. ประดิษฐ์ เวชพนม
๑๙๘. บรรยงค์ - สุมิดา พันธุ์กระวี ๒๒๙. รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ประดิษฐ์
สุวรรณผ่อง ประทีปะวณิช
๑๙๙. บรรหาร ประยงค์ระวิกุล ๒๓๐. ร้อยเอก ประดิษฐ์ -
๒๐๐. บริษัท มติชน จ�ำกัด (มหาชน) พลอากาศตรีหญิง ลัดดาวดี มงคลอภิบาล
๒๐๑. บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จ�ำกัด ๒๓๑. ดร.ประดิษฐ์ - อรไท ฉัตรจรัสกุล
(มหาชน) ๒๓๒. ประดิษฐ - อรพินท์ ระสิตานนท์
๒๐๒. บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จ�ำกัด ๒๓๓. ประยูร เหล่าสายเช้ือ
248 .
.
. .
๒๓๔. ประโยชน์ - วณี จันทรโชติ ๒๖๘. พนิดา คุณาศัย
๒๓๕. ประสงค์ สุบรรณพงษ์ - พลอยกาญจน์ ๒๖๙. พร รุจนเวช
พึ่งเพียง ๒๗๐. ศาสตราจารย์ นายแพทย์พรชัย -
๒๓๖. ดร.ประสงค์ - สุมาลี สังขะไชย รองศาสตราจารย์ ดร.อรพรรณ
๒๓๗. ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล มาตังคสมบัติ
๒๓๘. ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ๒๗๑. พรทิพย์ ชาตะรัตน์
๒๓๙. ดร.ประเสริฐ มงคล ๒๗๒. พรทิพย์ พรรณนิตานนท์
๒๔๐. ประหยัดศักดิ์ บัวงาม ๒๗๓. ดร.พรนับพัน วงศ์ตระกูล
๒๔๑. ปราโมทย์ แก้วสุข ๒๗๔. พรนิภา ลิมปพยอม
๒๔๒. ปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล ๒๗๕. พลต�ำรวจตรี พรภัทร์ - โสภา
๒๔๓. ปรีชา จิตรสิงห์ สุยะนันทน์
๒๔๔. ปรีดาวรรณ์ ขวัญพ่วง ๒๗๖. พรรณชณิตตา บุญครอง
๒๔๕. ปรีดี ภูสีนํ้า ๒๗๗. หม่อมหลวงพรรณวดี วรวรรณ
๒๔๖. ปัทมนิธิ เสนาณรงค์ ๒๗๘. พรรณวรา บูรณโสภณ
๒๔๗. ปัทมรัตน์ เต็มพิทักษ์ ๒๗๙. ศาสตราจารย์พรศักดิ์ ศรีอมรศักดิ์
๒๔๘. ปานจิตต์ วสันต์ ๒๘๐. พรเสก - ลาลีวรรณ กาญจนจารี
๒๔๙. ดร.ปาน - รองศาสตราจารย์ศิริมล กิมปี ๒๘๑. พรอนงค์ นิยมค้า
๒๕๐. พลต�ำรวจตรี ปิติพงษ์ธิติ - ปภาดา ๒๘๒. พระโสภณวชิราภรณ์ ดร.อัครมหาบัณฑิต
แก่นสารสมใจ ๒๘๓. พลวัชร ไตรอุโฆษ
๒๕๑. แพทย์หญิงปินัชนี ชาติบุรุษ ๒๘๔. ดร.พะโยม ชิณวงศ์
๒๕๒. ปิยะพันธ์ จัมปาสุต ๒๘๕. หม่อมหลวงพัชรภากร เทวกุล
๒๕๓. ผาณิต พูนศิริวงศ์ ๒๘๖. พัชรี อาระยะกุล
๒๕๔. ผ่านพบ ปล่ังประยูร ๒๘๗. พัฒนะ พัฒนทวีดล
๒๕๕. ผู้บริหารและคณะครู โรงเรียนโสตศึกษา ๒๘๘. พันทิพา สักการะเวช
จังหวัดกาญจนบุรี ๒๘๙. พันทิพา - วัลลภา อัสสกุล
๒๕๖. ผู้บริหารและพนักงานมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. ๒๙๐. หม่อมหลวงพันธุ์จันทร์ ครุฑะเสน
๒๕๗. พงศกรณ์ - พิชามญธุ์ วรวรรณ ๒๙๑. พันธุ์ทิพย์ สุรทิณฑ์
๒๕๘. พงศ์ศักดิ์ - พิมพ์สิมา เกษมสุวรรณ ๒๙๒. พลโท พิชัย รอดเรืองศรี
๒๕๙. พลเอก พงษ์เทพ เทศประทีป ๒๙๓. พิชัย - นลินี คณิวิชาภรณ์
๒๖๐. พงษธร ปุณศรี ๒๙๔. พลโท ดร.พิเชษฐ คงศรี
๒๖๑. พลตรี พงษา - วิญญา เอกบรรณสิงห์ ๒๙๕. รองศาสตราจารย์ ดร.พิณสุดา สิริธรังศรี
๒๖๒. พจนา ว่องตระกุล ๒๙๖. ดร.พิทักษ์ โสตถยาคม
๒๖๓. พจนีย์ ธนวรานิช ๒๙๗. พิทักษ์ - พรรณประภา อินทรวิทยนันท์
๒๖๔. พจมาน พงษ์ไพบูลย์ ๒๙๘. พินิจ พัวพันธ์
๒๖๕. พนม ศรีราม ๒๙๙. พินิจศักด์ิ - นิตยา สุวรรณรังค์
๒๖๖. พนักงาน THE PINE CREST ๓๐๐. พิพัฒน์ พรสุวรรณ
๒๖๗. พนัส บุญวัฒนสุนทร ๓๐๑. พิมพ์ใจ ทองมี
. 249 .