. .
การประชุมเสร็จแล้วรัฐบาลไทย โดย คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ รัฐมนตรีประจ�ำส�ำนัก
นายกรฐั มนตรไี ดจ้ ดั เลย้ี งแสดงความยนิ ดแี กค่ ณะผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ ณ ท�ำเนยี บรฐั บาล พรอ้ มการแสดง
นาฏศิลป์จากกรมศิลปากร เป็นที่สวยงาม ประทับใจท่ัวกัน การประชุมส�ำเร็จเรียบร้อย ยิ่งใหญ่
อย่างสมเกียรติและเป็นความภาคภูมิใจอย่างย่ิงของคณะ สปอท. ทุกคนจวบจนทุกวันนี้ โดยเป็น
ท่ีกล่าวขานกันว่า สมาชิกผู้ใดไม่ได้มาประชุมในประเทศไทยครั้งนั้น จะเสียใจไปตลอดชาติเพราะ
ไม่ได้เห็น “สวรรค์บนดิน”
นอกจากนี้ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช เป็นประธานคณะกรรมการอ�ำนวยการจัดประชุม
ระดับภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ๒ คร้ัง ดังน้ี
วนั ท่ี ๓๑ สงิ หาคม - ๔ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๔๒ สปอท. รว่ มเปน็ เจา้ ภาพจดั การประชมุ The Asia
Pacific Regional NGO Symposium ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสมาคมติดตาม
การพัฒนาสตรีในประเทศไทย มีผู้ร่วมเข้าประชุมมากกว่า ๓๐๐ คน จาก ๒๗ ประเทศ ในเอเชีย
และแปซิฟิก ในหัวข้อ “Asia-Pacific Women 2000: Gender Equality Development and
Peace for the Twenty-first Century” ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตก�ำแพงแสน
จังหวัดนครปฐม
วันที่ ๓๐ มิถุนายน และ ๑ - ๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ สปอท. ร่วมกับสมาคมติดตาม
การพัฒนาสตรีในประเทศไทย สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
และมหาวิทยาลัยมหิดล จัดการประชุม Asia Pacific NGO Forum 2004 on Beijing+10
ในหัวข้อ “Celebration Women’s Gains…Confronting Emerging Gender Issues”
ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จังหวัดนครปฐม มีผู้ร่วมเข้าประชุมมากกว่า ๖๗๘ คน
จาก ๓๕ ประเทศ ทา่ นผูห้ ญงิ สมุ าลี จาตกิ วนชิ ตัง้ ใจและทุม่ เทในการเตรยี มงานการจดั การประชมุ
ครั้งนี้อย่างเต็มที่ หลังจากวันแถลงข่าวทำ�ให้ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ต้องเข้าผ่าตัดบายพาส
เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นการเร่งด่วน โดยท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
ได้มอบหมายให้นางสุพัฒนา อาทรไผท นายกสมาคม สปอท. ในขณะนั้น ร่วมกับคณะกรรมการ
จัดการประชุมและภาคีเครือข่ายจนดำ�เนินงานสำ�เร็จลุล่วงไปด้วยดี ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของ
ทุกฝ่าย
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ได้มอบมรดกอันล้�ำค่าให้พวกเราทุกคน ด้วยการเป็นแบบอย่าง
ของการสรา้ งคณุ งามความดแี ละการเสยี สละ การทมุ่ เทก�ำลงั กาย ก�ำลงั ใจ ก�ำลงั ปญั ญา เพอื่ ชว่ ยเหลอื
และสร้างโอกาสแก่เด็กเล็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ให้มีคุณภาพชีวิตท่ีดีขึ้นอย่างย่ังยืน
ท้ังในระดับประเทศและระดับนานาชาติ
. 100 .
. .
ดิฉันเข้ามาเป็นกรรมการในต�ำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการ สมาคม สปอท. ได้ซึมซับการท�ำงาน
จากท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ในสมัยที่ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ด�ำรงต�ำแหน่งนายก
กิตติมศักด์ิ โดยท่านอนุญาตให้บ้านของท่าน (บ้านยุกตะเสวี) เป็นที่ประชุมประจ�ำเดือน รวมทั้ง
ให้เป็นสถานที่ส�ำหรับต้อนรับคณะกรรมการแพนสากลและผู้แทนประเทศสมาชิกแพนสากล และ
กิจกรรมของ สปอท. ในการจัดงานสังสรรค์ให้กับเอกอัครราชทูตสตรีและภริยาเอกอัครราชทูต
ประจ�ำประเทศไทยเป็นเวลาหลายปี ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช รักและผูกพันกับสมาคม สปอท.
และคณะกรรมการทุกยุคทุกสมัยเปรียบเสมือนญาติ ท่านจะคอยให้ค�ำแนะน�ำ ส่งเสริมและสนับสนุน
กิจกรรมของ สปอท. อย่างสมํ่าเสมอ พร้อมท้ังเมตตาเข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญประจ�ำปีทุกปี
และรว่ มงานตา่ ง ๆ ตลอดระยะเวลายาวนาน ครง้ั ลา่ สดุ ทท่ี า่ นกรณุ าดฉิ นั เปน็ อยา่ งมากคอื มารว่ มบนั ทกึ
วีดิทัศน์ “๖๐ ปี สปอท. ด้วยดวงใจมอบให้สังคม” เน่ืองในโอกาสครบรอบ ๖๐ ปี และกรุณา
มารว่ มงานฉลองครบรอบ ๖๐ ปี การกอ่ ตง้ั ของ สปอท. เมอื่ วนั จนั ทรท์ ่ี ๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๒
สปอท. ทุกคนขอตั้งปณิธานที่จะสานต่อคุณงามความดีนี้ด้วยความมุ่งม่ัน ความเสียสละ
และการอุทิศตนเพ่ือสังคมตามแบบอย่างและแนวทางที่ท่านได้มอบไว้ ขอกุศลผลบุญทั้งหลาย
ท่ีท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ได้บ�ำเพ็ญเพียรมาท้ังชีวิต จักเป็นพลวปัจจัย น�ำท่านไปสู่สุคติ
ในสัมปรายภพด้วยเทอญ
ด้วยความเคารพอย่างสูงและอาลัยอย่างท่ีสุด
ชวาลี โอสถานุเคราะห์
นายกสมาคมสตรีภาคพื้นแปซิฟิกและเอเชียอาคเนย์แห่งประเทศไทย
ในพระบรมราชินูปถัมภ์
. 101 .
. .
ค�ำไว้อาลัย
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ได้รับโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ด�ำรงต�ำแหน่งนายกมูลนิธิ
สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มาต้ังแต่เดือน
สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ ซ่ึงตลอดเวลาที่ท่านด�ำรงต�ำแหน่งอันส�ำคัญยิ่งดังกล่าวจวบจนวาระสุดท้าย
แห่งชีวิต ท่านได้ให้ความส�ำคัญและเป็นผู้น�ำในการบริหารมูลนิธิ ด้วยความมุ่งม่ัน ทุ่มเท เพ่ือสนอง
งานมูลนิธิท่ีจัดต้ังขึ้นในมงคลโอกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเจริญพระชนมายุ
ครบ ๘๐ พรรษา เม่ือวันท่ี ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ รัฐบาลและพสกนิกรชาวไทยได้ร่วมกัน
จัดตั้งสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ขึ้นเขตการศึกษาละ ๑ จังหวัด รวม ๑๒ สวน กระจายอยู่
ทว่ั ประเทศ เพอื่ เปน็ ถาวรอนสุ รณส์ ถานระลกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ แหง่ สมเดจ็ ยา่ ของปวงชนชาวไทย
และเพ่ือประโยชน์สุขแก่ประชาชนทั่วไป โดยมีมูลนิธิสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ในพระราชูปถัมภ์
ท�ำหน้าท่ีประสาน สนับสนุน ส่งเสริม ติดตาม และให้ข้อเสนอแนะการด�ำเนินงาน เพ่ือให้
สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ทุกแห่ง มีสถานท่ีสวยงามร่มร่ืนตามพระประสงค์ของสมเด็จย่าท่ีว่า
“สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ต้องจัดสร้างให้ร่มรื่น ร่มเย็น และสวยงามรักษาธรรมชาติไว้ ไม่ต้อง
ให้ใหญ่โตมากนัก ให้ประชาชนเข้าไปใช้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งส้ิน”
กรรมการบริหารมูลนิธิทุกคน รัก เคารพ และภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่มีท่านมาเป็นผู้น�ำ
ในการบริหารงานของมูลนิธิ โดยท่านได้น�ำความรู้และประสบการณ์ในการเป็นผู้น�ำที่ท�ำงาน
เพื่อส่วนรวมตลอดชีวิตของท่านท่ีอุทิศให้สังคมและประเทศชาติมากมาย มาใช้กับการบริหารงาน
สง่ ผลใหง้ านของมลู นธิ ิ และสวนสมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทรท์ กุ แหง่ มคี วามสวยงามเจรญิ รดุ หนา้ ตลอดเวลา
. 102 .
. .
ที่ผ่านมา ยังประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนผู้ใช้บริการตามพระประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยในการประชุม
ของมลู นธิ ทิ กุ ครงั้ ทา่ นไดก้ รณุ าเขา้ รว่ มประชมุ อยา่ งสมา่ํ เสมอ แมช้ ว่ งหลงั ทส่ี ขุ ภาพรา่ งกายของทา่ น
จะเริ่มอ่อนล้าลงมากแล้วก็ตาม
วันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ได้จากพวกเราไป คงเหลือไว้
แต่คุณงามความดี และจริยวัตรอันสง่างามเป็นแบบอย่างให้พวกเราได้ร�ำลึกถึงตลอดไป
(อารีย์ วงศ์อารยะ)
ประธานกรรมการบริหาร
มูลนิธิสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์
ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
103 .
.
. .
อาลัยท่านผู้หญิงสุมาลี...
ผู้เพียบพร้อมด้วยบุญบารมี
ดิฉันรู้จักท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช มาร่วม ๔๐ ปี เร่ิมจากท่ีท่านน�ำหนังสือแม่เล่าให้ฟัง
ฉบับพ็อกเก็ตบุ๊ก พระนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้าพ่ีนางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส
ราชนครนิ ทร์ มาใหบ้ รษิ ทั อมรนิ ทรพ์ รน้ิ ตง้ิ แอนด์ พบั ลชิ ชง่ิ จ�ำกดั (มหาชน) พมิ พ์ เพอื่ น�ำรายได้
จากการจ�ำหน่ายสมทบโครงการสร้างสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระศรีนครินทรา-
บรมราชชนนี ในครั้งน้ันได้เงินจากการพิมพ์หนังสือไปสร้างสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ
ในหลายจังหวัด
ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๓๙ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ บมจ. อมรินทร์ฯ จัดพิมพ์และ
จัดจ�ำหน่ายหนังสือพระราชนิพนธ์ เร่ือง พระมหาชนก ซึ่งเป็นงานใหญ่ท่ีสุดในชีวิตของดิฉัน
และคุณชูเกียรติ ในการท�ำงานท่ีส�ำคัญมากเช่นนี้จ�ำเป็นต้องมีที่ปรึกษาเป็นท่านผู้ใหญ่ผู้มีบารมี
และมปี ระสบการณใ์ นการท�ำงานรอบดา้ น ดฉิ นั และคณุ ชเู กยี รตจิ งึ นกึ ถงึ ทา่ นผหู้ ญงิ สมุ าลี จาตกิ วนชิ
ได้เข้าไปกราบขอความช่วยเหลือให้ท่านเข้ามาเป็นที่ปรึกษาหลักในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะ
การจัดจ�ำหน่ายและการประชาสัมพันธ์ ซ่ึงก็ได้รับความกรุณาตอบรับจากท่านด้วยความยินดี
และเต็มใจ ท�ำให้โครงการน้ีส�ำเร็จบริบูรณ์ด้วยดีย่ิง
. 104 .
. .
นอกเหนือจากความช่วยเหลือที่ท่านได้ให้พวกเราอย่างเต็มใจแล้ว สิ่งสำ�คัญที่ดิฉัน
และครอบครวั ไดเ้ รยี นรจู้ ากทา่ น คอื ทา่ นเปน็ ผใู้ หญท่ มี่ เี มตตา ใหเ้ กยี รตแิ ละใหค้ วามเกรงใจผรู้ ว่ มท�ำ งาน
ทุกคน คุณชูเกียรติมักจะสอนดิฉันและลูก ๆ เสมอให้ดูวิธีทำ�งานของท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
เป็นตัวอย่าง โดยเฉพาะความละเอียดประณีต และความไม่ฟุ่มเฟือยในทุก ๆ เรื่องที่ทำ� อีกทั้ง
ท่านยังเป็นนักการตลาดชั้นยอด ใช้เงินอย่างมัธยัสถ์ แต่ได้ผลเกินค่า ดิฉันสังเกตได้ทุกครั้งที่ร่วม
ทำ�งานการกุศลกับท่าน ทำ�ให้พวกเรานำ�วิธีคิดของท่านมาบริหารธุรกิจของบริษัทด้วย
ความประทบั ใจซึง่ เปน็ ความในใจที่ดฉิ นั ไม่เคยกราบเรยี นให้ทา่ นทราบมากอ่ น คอื เมือ่ ครัง้ ที่
ดิฉันได้มีโอกาสร่วมเดินทางไปประเทศเยอรมนีกับท่านในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ เพื่อนำ�หนังสือ
พระราชนิพนธ์ เรื่อง พระมหาชนก ไปจัดแสดงนิทรรศการในงานแฟรงค์เฟิร์ตบุ๊กแฟร์ ซึ่งเป็น
งานแสดงหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในเวลานั้นคุณชูเกียรติยังอยู่ระหว่างการรักษาด้วยคีโม
และฉายแสงพร้อมกัน ไม่สามารถเดินทางไปร่วมงานได้ จึงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ดิฉันต้องไปปฏิบัติ
ภารกิจสำ�คัญในต่างประเทศโดยไม่มีคุณชูเกียรติ เกิดความรู้สึกว้าเหว่อย่างที่สุด แต่ในเวลานั้น
ดิฉันก็ได้ท่านช่วยให้กำ�ลังใจ พร้อมทั้งให้คำ�แนะนำ�ในรายละเอียดต่าง ๆ จนการจัดงานสำ�เร็จ
ลุล่วงไปได้ด้วยดี
ดิฉันเดินทางกลับเพียงลำ�พังกับท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับท่าน
แทนที่ดิฉันจะดูแลท่าน ท่านกลับเป็นผู้ดูแลดิฉันด้วยคงเข้าใจและเห็นใจ ความเมตตากรุณาที่ท่าน
มีต่อดิฉันในเวลานั้น ทำ�ให้ดิฉันเกิดความรู้สึกเหมือนท่านคือ “แม่” ที่มาบำ�รุงขวัญและปลอบโยน
ดิฉันในขณะที่กำ�ลังมีความทุกข์ และอาจจะด้วยเหตุว่า ท่านอายุรุ่นราวคราวเดียวกับคุณแม่ดิฉัน
ที่เสียชีวิตไปร่วม ๕ ปีแล้ว อีกทั้งคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ลูกสาวท่านก็เป็นนักเรียน
โรงเรยี นเตรยี มอดุ มศกึ ษารุน่ เดยี วกนั จงึ เปน็ ความผกู พนั ทีเ่ กดิ ขึน้ ในใจ ณ เวลานัน้ ชว่ ยท�ำ ใหจ้ ติ ใจ
ชุ่มชื่น คลายความทุกข์และความวิตกกังวลลงได้ แม้ในเวลาต่อ ๆ มาที่ได้พบท่าน ความรู้สึกนี้
ก็ยังคงอยู่มิได้ลืมเลือนหายไป
. 105 .
. .
เกือบ ๔๐ ปีท่ีได้รู้จักท่าน ถึงแม้เวลาเปล่ียนไป อย่างไรก็ตาม ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
ก็ยังคงความเป็นผู้หญิงที่มีจริยวัตรงดงามท้ังกายและใจอยู่อย่างสม่ําเสมอ ยิ่งอายุมากขึ้น
ประสบการณ์มากขึ้น ท่านกลับท�ำงานหนักมากข้ึน โดยมิได้แสดงความเหน็ดเหน่ือยหรือท้อถอย
งานหลักท่ีท่านท�ำคืองานการกุศลและงานเพ่ือประโยชน์ของสังคมทั้งสิ้น และโดยเฉพาะอย่างย่ิง
งานสนองพระมหากรณุ าธคิ ณุ ใตเ้ บอ้ื งพระยคุ ลบาทของทกุ พระองคใ์ นพระราชวงศ์ ชอ่ื เสยี งเกยี รตยิ ศ
ของท่าน รวมถึงผลงานทางด้านการกุศลมากมายนับไม่ถ้วนท่ีท่านได้ท�ำไว้ จึงยังตราตรึงอยู่ในหัวใจ
ของผู้ท่ีได้มีโอกาสร่วมงานกับท่าน เป็นแบบอย่างเพื่อชนรุ่นหลังได้เจริญรอยตามต่อไป
ตลอดชวี ติ ของทา่ นผหู้ ญงิ สมุ าลี จาตกิ วนชิ ทา่ นท�ำแตง่ านบญุ งานกศุ ล ทา่ นลงมาจากสวรรค์
และกลับคืนสู่สวรรค์ในชั้นท่ีสูงกว่าเดิม ด้วยดวงจิตท่ีเปี่ยมไปด้วยความอ่ิมเอิบและปีติสุขอันได้
บ�ำเพ็ญไว้ในแผ่นดินไทย การจากไปของท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช จึงนับเป็นการสูญเสียบุคคล
ส�ำคัญของประเทศไทยท่ีหาได้โดยยากผู้หนึ่ง
ดิฉันขอถือโอกาสน้ีกราบแสดงความเคารพนับถืออย่างสูงย่ิงในบุญกุศล และคุณงามความดี
ที่ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ได้บ�ำเพ็ญมาตลอดชีวิตของท่าน
ด้วยความเคารพนับถืออย่างสูงย่ิง
เมตตา อุทกะพันธุ์
ประธานกรรมการ
บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จ�ำกัด (มหาชน)
. 106 .
. .
ระลึกถึง
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
ดิฉันคุ้นเคยกับท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ตั้งแต่ตัวเองเด็ก ๆ เพราะพี่สาวเป็นเพื่อนกับ
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ลูกสาวท่าน และคุณแม่ก็เป็นรุ่นพี่ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
ที่โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยอีกด้วย ฉะนั้น ดิฉันจึงได้ไปวิ่งเล่น จับฉลาก ว่ายนํ้า ไปงานเลี้ยง
ที่บ้านท่าน พบกับท่านในงานการกุศลต่าง ๆ ที่คุณแม่พาไปเรื่อยมา
ดิฉันได้มีโอกาสใกล้ชิดกับท่านเมื่อได้มาทำ�งานโครงการจัดสร้างสวนสมเด็จพระศรีนครินทรา-
บรมราชชนนี เนือ่ งในโอกาสพระชนมายุ ๘๐ พรรษา วนั ที่ ๒๑ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๒๓ โดยทา่ นผูห้ ญงิ
สมุ าลี จาตกิ วนชิ เปน็ กรรมการในคณะอ�ำ นวยการจดั สรา้ ง และเปน็ ประธานคณะอนกุ รรมการหาทนุ
ส่วนดิฉันในฐานะข้าราชการกรมการศึกษานอกโรงเรียนก็ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยท่านอธิบดี
กรมการศึกษานอกโรงเรียน (ในขณะนั้นคือ คุณหญิงอารี กุลตัณฑ์) ในคณะกรรมการจัดสร้าง
และเป็นผู้ช่วยเลขานุการคณะอนุกรรมการหาทุน ทำ�ให้ดิฉันได้มีโอกาสเรียนรู้วิธีการทำ�งาน
ของท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ในการทำ�งานยากให้ง่ายขึ้นโดยใช้ศาสตร์และศิลป์ชั้นสุดยอด
ดิฉันประทับใจในตัวท่านในหลายเรื่องด้วยกัน
ทา่ นรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ นื่ อยา่ งเปดิ กวา้ ง แตส่ ามารถปรบั ใหเ้ ปน็ ไปได้ ทา่ นจงึ รบั ขอ้ เสนอ
ในการจัดพิมพ์หนังสือแม่เล่าให้ฟัง พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
(พระยศในขณะนั้น) จากปกแข็ง ๓๐๐ บาท เป็นปกอ่อน ๓๐ บาท ถึง ๕๐๐,๐๐๐ เล่ม และ
ภายหลังได้พิมพ์หนังสือเวลาเป็นของมีค่า ขายปกอ่อน ๕๐ บาท อีก ๕๐,๐๐๐ เล่ม เพื่อให้
หนังสือได้กระจายได้กว้างขวางด้วยราคาย่อมเยาลง ถ้าดูแบบผิวเผินก็จะธรรมดา ๆ แต่จำ�นวน
๕๐๐,๐๐๐ เล่ม ในความจริงนั้นมากมายมหาศาล ซึ่งท่านได้ชี้ช่องทางและนำ�พาให้ขายหนังสือ
ได้จนหมด ได้เงินมาเป็นทุนส่วนหนึ่งในการจัดสร้างสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ๑๒ แห่ง
ใน ๑๒ เขตการศึกษาทั่วประเทศ
. 107 .
. .
การประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อหาที่สร้างสวน นอกจากจะเป็นพื้นที่ที่จังหวัด
หรือหน่วยงานต่าง ๆ เสนอมาแล้ว อีกส่วนหนึ่งจะเป็นข้อเสนอของคณะกรรมการสู่จังหวัด
หรือหน่วยงานนั้น ๆ ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ได้น�ำคณะพูดคุยกับจังหวัดหลายจังหวัดด้วยกัน
เพ่ือขอพื้นท่ีที่คณะกรรมการเห็นว่าเหมาะสม เพ่ือจัดสร้างสวน วาทะของท่านที่ใช้ในการเจรจา
เต็มไปด้วยความนุ่มนวล เทิดทูนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และยังประโยชน์
แกป่ ระชาชน ทา่ นไปประชมุ ครงั้ ใด ทไี่ หนกม็ แี ตค่ วามส�ำเรจ็ ซำ�้ จงั หวดั ยงั ยนิ ดหี าทนุ จดั สรา้ งสวนเอง
อีกด้วย
ท่านลุยงานเอง หากเห็นว่าล่าช้า ตอนที่จะจัดพิมพ์หนังสือเวลาเป็นของมีค่า เราต้องท�ำ
แผ่นปลิวออกโฆษณาแก่สาธารณชน แต่หน่วยงานในกรมท่ีต้องท�ำ Art Work ให้เรามีงานอื่นล้นมือ
งาน “สวนสมเดจ็ ฯ” มกั จะเปน็ งาน “ฝากท�ำ” เสมอ ท�ำใหง้ านการขายเขยบิ ไมไ่ ด้ ทา่ นผหู้ ญงิ สมุ าลี
จาติกวนิช โทร.มาติดตาม ๒ - ๓ ครั้ง สุดท้ายจึงว่า “เด๋ียวจะเข้าไปท่ีกรม แล้วไปท�ำ Art Work
กนั นะ” แลว้ ทา่ นกม็ าเขยี นเนอ้ื หา ตดั โนน่ ตดิ นอ่ี ยพู่ กั หนงึ่ มดี ฉิ นั เปน็ ลกู มอื ทไี่ มม่ ศี ลิ ปะเลย แตไ่ มน่ าน
Art Work ก็เสร็จ และสามารถส่งโรงพิมพ์ให้จัดท�ำในข้ันตอนต่อไปได้ทันกาล
. 108 .
. .
ท่านท�ำงานได้งาน และได้ความรู้ความสนุกด้วย ในคราวไปดูพ้ืนท่ีที่จังหวัดกาญจนบุรี
มีสวนหินที่แปลกตาในบริเวณวิทยาลัยเกษตรกรรมกาญจนบุรีท่ีได้เสนอจะจัดสร้างเป็น
“สวนสมเด็จฯ” ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช น�ำคณะไปร่วมกับคุณหญิงอารี กุลตัณฑ์
เม่ือประชุมและส�ำรวจพ้ืนที่เสร็จแล้ว ท่านชวนพวกเราไปดูปราสาทเมืองสิงห์ในจังหวัดกาญจนบุรี
จ�ำได้ว่าช่วงที่ไปอากาศร้อนจัดและอยู่ไกล แต่ท่านก็ไม่ได้บ่นเลย เราทุกคนในคณะจึงร่วมเดินทาง
ไปอย่างร้อน ๆ เม่ือถึงอุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์ เราก็เพลิดเพลินกับความรู้ใหม่
และเปิดโลกทัศน์กับสถาปัตยกรรมแบบขอม และศิลปกรรมท่ีส�ำคัญอีกมากมายภายในบริเวณน้ัน
เช่นเดียวกับเมื่อเราเดินทางไปประชุมกับวิทยาลัยครูเชียงราย (มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
ในปัจจุบัน) ในการจัดสร้างสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ หลังเลิกงานท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
ได้ชวนเราไปเย่ียมชมสตูดิโอของคุณถวัลย์ ดัชนี และมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง พวกเราดีใจและสนุกสนาน
ท้ังยังได้ความรู้มากมายเม่ือได้ไป Trip กับท่าน
ท่านให้ก�ำลังใจกับผู้ท�ำงานตลอดเวลาที่ท�ำงาน ท่านจะโทรศัพท์มาสอบถามความก้าวหน้า
ในเร่ืองต่าง ๆ และบอกว่าถ้าติดขัดเรื่องอะไรให้โทร.ถึงท่านได้ หารู้ไม่ว่าเป็นการติดตามงาน
อย่างแยบยล ท�ำให้เราอุ่นใจว่ามีท่านเป็นเกราะก�ำบังและน�ำทาง ท�ำให้เราโทร.ถึงท่านบ่อย ๆ
แม้แต่เรื่องเล็กน้อย ยังรู้สึกละอายใจจนปัจจุบันว่ารบกวนท่านเหลือเกิน
โดยส่วนตัวของดิฉัน เม่ือลาออกจากราชการแล้ว ท่านก็ยังมีเมตตาสนับสนุนดิฉันเรื่อยมา
ไม่ว่าจะท�ำละครเพลงให้กับโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยคร้ังใด เมื่อเชิญท่าน ท่านก็รับไปชมทุกคร้ัง
หรือเม่ือโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep มีงานใด ๆ เช่น มอบทุนการศึกษาสิปปนนท์ เกตุทัต
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ก็ได้กรุณารับมาเป็น Guest Speaker กล่าวถึง ศาสตราจารย์
ดร.สิปปนนท์ เกตุทัต และมอบทุนการศึกษา นับเป็นความกรุณาของท่านท่ีดิฉันไม่อาจจะลืมได้เลย
พวกครูฝร่ังยังช่ืนชมภาษาอังกฤษที่ท่านพูดได้อย่างสละสลวย และเน้ือหาผลงานของศาสตราจารย์
ดร.สิปปนนท์ เกตุทัต ที่ท่านน�ำมากล่าวถึงก็มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจ
ขอกราบท่านด้วยความรักและเคารพอย่างสูง และขอบพระคุณท่ีท่านได้กรุณาเป็นตัวอย่าง
แห่งความดีงาม การท�ำงานจริงจัง ความมุ่งมั่นเพ่ือประโยชน์ส่วนรวม มีความหวังดี และเป็นก�ำลังใจ
ให้คนท�ำงานอย่างไม่มีสิ้นสุด
ภัทราดา ยมนาค
. 109 .
. .
ท่านผู้มีคุณูปการ
ต่อวงการแพทย์โรคหัวใจ
ผมรจู้ กั กบั ทา่ นผหู้ ญงิ สมุ าลี จาตกิ วนชิ ผา่ นทางทา่ นศาสตราจารย์ นายแพทยก์ ษาน จาตกิ วนชิ
เม่ือครั้งท่านด�ำรงต�ำแหน่งเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล โดยขณะน้ันผมยังเป็นนักศึกษาแพทย์
ปีท้าย ๆ ได้มีโอกาสเรียนกับอาจารย์ด้วย หลังจากน้ันเมื่อเป็นแพทย์ประจ�ำบ้านในภาควิชา
ศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ก็ได้มีโอกาสพบอาจารย์ในต่างกรรม ต่างวาระ เช่น
อาจารย์มาเย่ียมผู้ป่วยก่อนและหลังผ่าตัด การสอนนักศึกษาแพทย์ข้างเตียง สิ่งท่ีประทับใจ
ในตัวอาจารย์ คือ ความเป็นสุภาพบุรุษสุดสมาร์ต มาสอนนักศึกษาแพทย์เป็นครั้งคราว รวมถึง
การได้รับเชิญไปรับประทานอาหารท่ีบ้านอาจารย์ซ่ึงมีบรรยากาศท่ีอบอุ่น ประทับใจแขกที่ได้รับเชิญ
ท้ังไทยและเทศ มีโอกาสได้ร่วมโต๊ะอาหาร ร่วมสนทนา เป็นการแนะน�ำเข้าสู่สังคมทางการแพทย์
เป็นอย่างดี
ผมได้เห็นการเตรียมการและการต้อนรับอาคันตุกะของท่านผู้หญิงสุมาลีท่ีบ้าน ซ่ึงเป็นไป
อยา่ งเรยี บงา่ ยแตด่ สู มเกยี รติ กพ็ ยายามทจี่ ะจ�ำเอาไวเ้ ปน็ ตวั อยา่ ง รายการเมนอู าหารทา่ นไมจ่ ดั อะไร
ทพี่ สิ ดาร แตเ่ ปน็ ของแปลก ๆ ทฝี่ รง่ั ไมเ่ คยรบั ประทาน เปน็ อาหารไทย รสชาตไิ มเ่ ผด็ ไมเ่ คยคดิ วา่
ทา่ นจะจดั เมนนู เ้ี พอื่ เลย้ี งแขกตา่ งประเทศซงึ่ ชอบมาก เชน่ แกงเขยี วหวานขเ้ี หลก็ เนอ้ื ยา่ ง สง่ิ ตา่ ง ๆ
เหล่านี้ผมได้เรียนรู้จากบ้านท่านอาจารย์กษานและท่านผู้หญิงสุมาลีอย่างต่อเนื่อง ท�ำให้ได้มีโอกาส
สนิทสนมกับอาจารย์และท่านผู้หญิงมากข้ึน และได้น�ำไปใช้ในโอกาสต่าง ๆ ทั้งในประเทศและ
ต่างประเทศ
เมื่อผมเป็นแพทย์ประจ�ำบ้านในภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
อาจารย์ก็ยังเข้ามาสอนนักเรียนแพทย์เป็นคร้ังคราว และได้เจอกันบ่อย ๆ เร่ืองที่ประทับใจผม
มากท่ีสุดเร่ืองหน่ึง คือ เมื่อ Sir Brian Barratt-Boyes จาก Green Lane Hospital, Auckland
ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นศัลยแพทย์ผ่าตัดหัวใจท่ีมีช่ือเสียงระดับโลกมาเป็นแขกของสมาคมแพทย์
โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ได้มีโอกาสต้อนรับอย่างใกล้ชิดท่ีบ้านอาจารย์ และท่านอาจารย์กษาน
ได้ยื่นบัตรเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ให้ผม ๒ ใบ แล้วบอกว่า
“ปริญญาช่วยพา Sir Brian ไปดูฟุตบอลหน่อย”
ผมไดม้ โี อกาสใกลช้ ดิ กบั Sir Brian หลายชวั่ โมงในการไปดฟู ตุ บอลครงั้ นน้ั ซงึ่ ถอื เปน็ จดุ ตงั้ ตน้
ของการได้รับเกียรติต้อนรับแขกต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และต่อมาเมื่อท่านได้รับเชิญมาบรรยาย
ในเมืองไทยก็ได้มีโอกาสพบปะและร่วมงานเล้ียงด้วยกันหลายคร้ัง เมื่อผมเดินทางไปนิวซีแลนด์
เพอื่ ประชาสมั พนั ธก์ ารประชมุ แพทยโ์ รคหวั ใจอาเซยี น ครง้ั ท่ี ๕ เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๒๗ ในฐานะประธาน
จัดการประชุมก็ได้พบกันท่ีบ้านท่าน
. 110 .
. .
มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๔ โดย
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ
สยามบรมราชกุมารีทรงด�ำรงต�ำแหน่งประธานกรรมการบริหาร มีอาจารย์กษานเป็นรองประธาน
คนที่ ๑ อาจารย์ นายแพทย์กมล สินธวานนท์ เป็นรองประธาน คนที่ ๒ ผมท�ำหน้าท่ีเป็น
เลขาธิการ ส่วนท่านผู้หญิงสุมาลีในฐานะภรรยาของรองประธาน คนท่ี ๑ ก็ได้เข้าร่วมกิจกรรม
ของมูลนิธิอย่างแข็งขัน มูลนิธิได้รับการรับรองจากสหพันธ์สมาคมหัวใจแห่งโลกให้เป็นสมาชิก
สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งโลก และได้รับเชิญให้ส่งผู้แทนจากมูลนิธิหัวใจฯ และสมาคมแพทย์
โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ให้เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่ประจ�ำปีซ่ึงจัดทุก ๔ ปี โดยจัดพร้อม
การประชุมแพทย์โรคหัวใจโลก (World Congress of Cardiology) เม่ือ พ.ศ. ๒๕๒๘ มูลนิธิ
ได้มีโอกาสรับรอง นางบาร์บาร่า เกนส์เซอร์ ประธานมูลนิธิหัวใจจากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
เม่ือ พ.ศ. ๒๕๓๑ และได้น�ำเฝ้าองค์ประธานมูลนิธิด้วย
. 111 .
. .
ใน พ.ศ. ๒๕๓๓ ท่านผู้หญิงด�ำรงต�ำแหน่งรองประธานกรรมการมูลนิธิ คนที่ ๒ มีอาจารย์
นายแพทย์กมล สินธวานนท์ เป็นรองประธาน คนท่ี ๑ โดยผมยังท�ำหน้าที่เลขาธิการ มูลนิธิ
มกี จิ กรรมหลกั คอื ใหค้ วามรเู้ รอื่ งโรคหวั ใจ การดแู ลรกั ษารวมถงึ การฟน้ื ตวั หลงั การรกั ษา และชว่ ยเหลอื
ผู้ท่ีหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน ซีพีอาร์ มีบริการให้การผ่าตัดหัวใจแก่ผู้ป่วยยากไร้โดยเฉพาะ
ผทู้ ี่อย่ใู นทอ้ งถ่นิ ทุรกนั ดาร และไดด้ �ำเนนิ กจิ การมาโดยตลอด มกี ารเดนิ ทางไปออกหนว่ ยตา่ งจังหวัด
เพื่อตรวจผู้ป่วยและให้ค�ำแนะน�ำแก่แพทย์ท้องถิ่น รวมถึงให้ทุนการผ่าตัดหัวใจแก่ผู้ป่วยยากไร้
ในหลายโครงการ ซ่ึงท่านผู้หญิงสุมาลีได้ร่วมไปกับหน่วยแพทย์อาสาเพื่อสังเกตการณ์การปฏิบัติงาน
ของแพทย์ และได้ให้ค�ำแนะน�ำที่เป็นประโยชน์ต่อกิจกรรมสาธารณะนี้อย่างต่อเนื่อง
ตอ่ มาเมอ่ื ทา่ นผหู้ ญงิ สมุ าลเี ลอ่ื นต�ำแหนง่ ขน้ึ เปน็ รองประธานของมลู นธิ หิ วั ใจฯ คนที่ ๑ ผมไดร้ บั
การแต่งต้ังเป็นรองประธาน คนท่ี ๒ ก็ได้ท�ำงานร่วมกับท่านผู้หญิงมาโดยตลอด รวมถึงการติดต่อ
ร่วมมือกับมูลนิธิและสมาคมแพทย์ที่ด�ำเนินการในลักษณะเดียวกันจากในประเทศและต่างประเทศ
เราได้เดินทางไปต่างจังหวัดและต่างประเทศด้วยกันหลายครั้งเพ่ือปฏิบัติงานตามโครงการของมูลนิธิ
หัวใจฯ ได้ซึมซับอัธยาศัยจากท่านผู้หญิงท่ีมีความกรุณา มีความจริงใจช่วยเหลือมูลนิธิอย่างเต็ม
ความสามารถ เสมือนหน่ึงว่าท่านได้รับการส่งต่องานนี้จากท่านอาจารย์กษาน จาติกวนิช สามี
ซ่ึงล่วงลับไปก่อนหน้านี้ งานของมูลนิธิได้ด�ำเนินมาอย่างราบร่ืนจนถึงปัจจุบัน
เมื่อครบวาระ ผมได้รับเลื่อนให้เป็นรองประธาน คนที่ ๑ โดยมีคุณวัลลภ เจียรวนนท์
เป็นรองประธาน คนท่ี ๒ ท่านผู้หญงิ สุมาลี จาติกวนิช ก็ยงั มาช่วยงานในฐานะทป่ี รกึ ษา และเสนอ
ให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ เท่าที่ท่านจะกรุณาได้ ทั้ง ๆ ท่ีเร่ิมเข้าสู่ช่วงสูงวัย ท่านผู้หญิงก็ยังกรุณา
ท�ำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อมูลนิธิ ต่อวงการแพทย์โรคหัวใจ และประชาชนคนไทยที่เป็นโรคหัวใจ
อย่างมากมาย เม่ือท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช จากพวกเราไป ท�ำให้พวกเรารู้สึกอาลัยท่าน
เป็นอย่างยิ่ง ต่อไปนี้เราคงจะไม่มีแม่งานอย่างท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ที่เข้มแข็งคอยช่วยเหลือ
มูลนิธิหัวใจฯ อย่างสุดหัวใจ พวกเราจะต้ังใจท�ำงานตามแนวทางท่ีท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
ได้วางไว้ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ขอให้ท่านผู้หญิงไว้วางใจพวกเรา และขอให้ท่านจากพวกเราไปสู่
สัมปรายภพบนสรวงสรรค์
ด้วยความเคารพรักอย่างสูง
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปริญญา - อุษณา สากิยลักษณ์
. 112 .
. .
ความประทับใจ
ต่อท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
ปรับจากบทสัมภาษณ์ในวีดิทัศน์ “มิ่งขวัญกัลยาณี ๙๐ ปี สุมาลี จาติกวนิช”
พ่อผมเป็นเพ่ือนคุณหมอกษาน จาติกวนิช ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือของครอบครัวเรา ในสมัยที่
ผมเป็นเด็กจ�ำได้ว่า เวลาท่ีคุณหมอและเพ่ือน ๆ พบปะกันมักมีอยู่เรื่องหน่ึงท่ีชอบหยอกล้อคุณหมอ
คือเรื่องน้าอ๊อด หรือท่านผู้หญิงสุมาลี ท่ีผมรู้สึกตั้งแต่ตอนเป็นเด็กว่าสวยมาก คือหน้าตาอ่อนกว่า
บรรดาภรรยาของเพื่อนพ่อผมท้ังหมดรวมท้ังแม่ผมด้วย เมื่อมีอายุน้อยกว่าสักประมาณสิบกว่าปี
ก็เลยเป็นท่ีน่าอิจฉา ผมคิดว่าท่ีหยอกล้อกันก็คือเร่ืองคุณหมอมีภรรยาเด็ก คุณหมอเป็นหนุ่มใหญ่
จบจากอังกฤษ เป็นหมอท่ีมีช่ือเสียง หน้าตาดี รูปร่างสูงใหญ่ วัยสามสิบต้น ๆ พอกลับมาเมืองไทย
ได้เจอสุภาพสตรีอายุเพียง ๑๖ ปี สวยน่ารัก คุณหมอก็ตกหลุมรักทันที ตกหลุมรักหนักด้วย
ไม่ต้องการคอย ต้องการแต่งงานทันทีเลย ขณะน้ันท่านเพ่ิงเข้าเรียนจุฬาฯ ปี ๑ ก็เลยตกลง
แต่งงาน เรื่องน้ีเป็นเรื่องน่าอิจฉาของเพื่อน ๆ และมักน�ำมาล้อเลียน
ในสมุดอวยพรงานแต่งงาน มีเพ่ือนคุณหมอคนหนึ่งเขียนว่า God Save the Bride
ซ่ึงคล้ายประโยคท่ีคนอังกฤษใช้พูดกันว่า God Save the King (หรือ The Queen) ซ่ึงเป็น
ค�ำถวายพระพร ดังนั้น God Save the Bride จึงล้อเลียนโดยหมายความว่าให้พระเจ้าคุ้มครอง
เจ้าสาวด้วย เพราะคุณหมอเป็นผู้ใหญ่ และท่านผู้หญิงเด็กกว่ามาก
ท่านผ้หู ญิงสุมาลี จาติกวนิช ท�ำงานสังคมสงเคราะหต์ งั้ แต่อายุยังไมถ่ งึ ๑๘ ปดี ้วยซำ้� เพราะ
ติดตามคุณแม่ของท่านท่ีท�ำงานสังคมสงเคราะห์มาอย่างยาวนาน เพราะฉะนั้นท่านจึงท�ำงานมา
ตั้งแต่เป็นเด็ก ผมไม่ได้พบท่านตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๘ ก่อนท่ีคุณหมอจะเป็นอธิการบดีคนแรก
ของมหาวทิ ยาลยั มหดิ ล ใน พ.ศ. ๒๕๑๔ ผมไมไ่ ดพ้ บทา่ นนานมาก ผมไปเรยี นหนงั สอื และกลบั มา
. 113 .
. .
ท�ำงานทธ่ี รรมศาสตร์ เคยเขยี นปรารภในสอ่ื วา่ อยากท�ำงานใหเ้ ดก็ ใน พ.ศ. ๒๕๔๐ ทา่ นผหู้ ญงิ สมุ าลี
จาติกวนิช คงได้ทราบจึงชวนผมมาท�ำงานให้มูลนิธิ ช่ือว่า มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพ่ือเด็กและเยาวชน
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ความประทับใจท่ีสุดของผมก็คือ ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช เป็นคนอ่อนโยน พูดจา
ไพเราะ สามารถควบคุมท่ีประชุมให้ด�ำเนินไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น
ชาวต่างประเทศเข้ามาก็สยบเสน่ห์ของท่าน หลายครั้งที่เห็นไม่ตรงกัน ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
ก็เด็ดขาด แต่ภายใต้ความเด็ดขาด เป็นความนิ่มนวล ท�ำให้มูลนิธิมีความก้าวหน้ามาเป็นล�ำดับ
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช มักชอบออกตัวว่าไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย มีความรู้ภาษาอังกฤษจ�ำกัด
แต่แท้ท่ีจริงแล้วท่านท�ำได้ดีมาก แล้วไม่ใช่เพียงมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ เท่าน้ัน
เท่าที่ทราบจากเพื่อนนักวิชาการด้วยกัน ท่านยังเป็นประธานสมาคมสตรีภาคพื้นแปซิฟิกและเอเชีย
อาคเนย์ ๒ สมัย ท�ำงานกับชาวต่างชาติระดับโลกหลายปี ได้รับรางวัลดีเด่นจากนานาชาติ
จากการประชุมที่ปักก่ิงเกี่ยวกับสิทธิสตรี ท่านท�ำงานมายาวนานในเร่ืองสังคมสงเคราะห์และ
สามารถน�ำประสบการณ์มาใช้ให้เป็นประโยชน์แก่สังคมไทยในเรื่องอ่ืน ๆ ได้เป็นอย่างดียิ่ง
ส่ิงหนึ่งท่ีผมสังเกตเห็นก็คือ ไม่เคยเห็นว่าท่านได้อะไรเป็นส่วนตัวจากการตัดสินใจของมูลนิธิ
สง่ิ ทท่ี า่ นนกึ ถงึ เสมอกค็ อื มลู นธิ แิ ละเดก็ ไดอ้ ะไร ตอนทผี่ มมาท�ำงาน ทา่ นนา่ จะมอี ายเุ กอื บ ๗๐ ปแี ลว้
เม่ือผมมาประชุมที่บ้านน้ีทุกคร้ัง ผมจะเห็นท่านน่ังรถกลับมาจากการไปท�ำงานข้างนอก ไม่เคยเห็น
ท่านอยู่ที่บ้านเลย ซ่ึงด้วยวัยและฐานะ ท่านไม่ต้องท�ำอะไรก็ได้ เพราะท่านท�ำมาตลอดชีวิตแล้ว
แต่ท่านก็ยังท�ำตลอดไม่หยุด
ผมคิดว่าส่ิงส�ำคัญคือความจริงใจ และการตัดสินใจท่ีเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่ได้คิดว่า
ตนเองได้อะไร การประชุมของเราไม่มีเบ้ียประชุม ไม่มีค่าพาหนะหรือค่าตอบแทน แต่ท่านเล้ียง
อาหารผู้มาประชุมทุกม้ือ ท่านควักกระเป๋าของท่านเลี้ยงพวกเราตลอดเวลานับสิบ ๆ ปี
มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ ในตอนแรกไม่ได้อยู่ในพระราชูปถัมภ์
สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี เปน็ เพยี งมลู นธิ ิ
ในประเทศไทยที่เป็นกึ่งสาขาของมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรใหญ่โตมีชื่อเสียง
มีสาขาทั่วโลก มูลนิธิตั้งอยู่ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนสมัยสงครามโลกครั้งท่ีสอง ซี.ซี.เอฟ. (CCF)
ยอ่ มาจาก Christian Children Fund ภายหลงั เปลยี่ นชอื่ เปน็ Community Children Fund คอื
ตัดเร่ืองศาสนาออกไป คร้ังน้ันเมื่อมาต้ังในประเทศไทยก็มีคนไทยมาร่วมกันท�ำงาน คุณหญิงสุคนธ์
. 114 .
. .
ชลออยู่ ผู้เป็นประธานกรรมการมูลนิธิมีส่วนวางรากฐานอย่างส�ำคัญ เราไม่เป็นสาขาของมูลนิธิใหญ่
แต่ได้รับเงินทุนสนับสนุนเด็กและเยาวชน
ตอนเริ่มต้นเมื่อเกือบ ๕๐ ปีก่อน เรามีเด็กไม่กี่คน ปัจจุบันมีมากถึง ๔๒,๐๐๐ คน
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช เป็นผู้ริเริ่มให้มีการรับบริจาคจากผู้ใจบุญของสังคมเราแทนการรับเงิน
จากมูลนิธิใหญ่ โดยมีการระดมทุนทุกปี ซึ่งถือว่าประสบความสำ�เร็จอย่างมาก จนปัจจุบันมีสถานะ
การเงินที่มั่นคง เรามีคณะกรรมการที่เป็นที่น่าเชื่อถือของสังคมมาช่วยกันทำ�งานและมีทีมทำ�งาน
ทั้งส่วนกลางและสว่ นภมู ิภาคที่แขง็ ขนั เราชว่ ยเดก็ เรื่องอาหารเช้า อาหารกลางวัน ใหเ้ งินช่วยเหลอื
เดก็ และมอบสิง่ ของทีจ่ ำ�เปน็ ต่อการด�ำ รงชวี ิต มกี ารฝกึ อบรมตา่ ง ๆ และใหเ้ ดก็ เหลา่ นีเ้ ขยี นจดหมาย
ขอบพระคุณผู้อุปถัมภ์เสมอ การได้รับความกรุณาและความร่วมมือจากผู้มีจิตศรัทธาจำ�นวนมาก
ก็ด้วยมูลนิธิมีชื่อท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช เป็นประธานกรรมการ และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์
ในเวลาต่อมา
ท่ีส�ำคัญที่สุดประการหนึ่งคือ มูลนิธิอยู่ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง ท�ำให้
เราสามารถท�ำงานได้อย่างกว้างขวาง บนพ้ืนฐานที่ได้รับความไว้วางใจเป็นอย่างดีในเร่ืองการทุ่มเท
ท�ำงาน ธรรมาภิบาล และประสิทธิภาพ และการยึดมั่นผลประโยชน์ของเด็กเป็นที่ต้ัง
. 115 .
. .
สิ่งท่ีเรียนรู้จากการท�ำงานกับท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ประการแรก ท่านเป็นตัวแทน
ของผู้หญิงไทย และเป็นตัวอย่างให้คนรุ่นใหม่ที่สนใจ ต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคมได้
ศึกษา เพ่ือให้สามารถท�ำงานที่เป็นประโยชน์ต่อคนหมู่มากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประการท่ีสอง คือ การพัฒนาตนเอง แม้ว่าท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ไม่ได้อยู่ในระบบ
การศึกษาแบบมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ แต่ท่านพัฒนาตนเองตลอดเวลา และด้วยอุปนิสัย
ชา่ งสงั เกต ท�ำใหเ้ ขา้ ใจความเปน็ มนษุ ยอ์ ยา่ งลกึ ซงึ้ และทราบความเปน็ ไปของสงั คมไทยสมยั กอ่ นดมี าก
ท่านจึงสามารถน�ำประสบการณ์มาช่วยตัดสินใจในเร่ืองต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี และประการท่ีสาม
ท่านเช่ือว่าการได้การยอมรับจากคนอื่น ไม่ได้มาจากฐานะทางสังคม แต่มาจากความจริงใจและ
ผลงานท่ีท�ำ ท่านไม่เคยอ้างเลยว่าท่านเป็นใครมาจากไหน ท่านมีแต่ผลงานที่ท�ำให้เด็กมายาวนาน
เป็นเครื่องพิสูจน์เพ่ือการได้รับความสนับสนุน
ทั้งสามประการน้ีเป็นบทเรียนส�ำคัญท่ีคนรุ่นใหม่ควรจะศึกษาเรียนรู้ ท้ังเร่ืองความเป็นผู้หญิง
การพัฒนาตนเอง และการมีความจริงใจต่อส่ิงที่ท�ำ ถ้าผมคิดจะท�ำงานสังคม ผมจะศึกษาว่า
ทา่ นท�ำอะไรบา้ ง ท�ำอยา่ งไร มวี ธิ กี ารพดู อยา่ งไร มวี ธิ กี ารจดั การปญั หาและตดั สนิ ใจอยา่ งไร ผมคดิ วา่
ท่านเป็นสุภาพสตรีที่คลาสสิก และน่าเคารพท่ีสุดคนหน่ึงท่ีผมรู้จักในชีวิต
ผมได้พบท่านในวัย ๙๐ ปี และคิดว่าท่านเป็นสุภาพสตรีสูงวัยท่ีสดช่ืน สุขภาพกาย
และสุขภาพจิตดีมาก ผมขออาราธนาพลานุภาพแห่งประโยชน์ที่ท่านได้ท�ำให้แก่สังคมไทยเป็น
อเนกอนันต์มายาวนาน ได้สร้างแบบอย่างท่ีย่ิงใหญ่อย่างยั่งยืนแก่คนรุ่นหลังตราบนานเท่านาน
ขอบพระคุณท่านผู้หญิงท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช เราจะพยายามช่วยกันสร้างกุศล
ที่ย่ิงใหญ่น้ีต่อไปอย่างไม่รู้จบ
ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ .
116
.
. .
ค�ำไว้อ�ำลัยท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
ผู้บุกเบิกการพัฒนาสตรีไทย
เมื่อได้ทราบข่าวการจากไปของท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ดิฉันรู้สึกใจหายและเศร้ามาก
ไดร้ ว่ มงานใกลช้ ดิ กบั ทา่ นมาเปน็ เวลานาน เคารพรกั ทา่ นเสมอื นญาตผิ ใู้ หญ่ จงึ ขอรว่ มแสดงความเสยี ใจ
กับคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา และครอบครัว มา ณ โอกาสน้ีด้วย
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช เป็นบุคคลส�ำคัญของสังคมไทย ตลอดชีวิตท่านได้สร้าง
คุณูปการให้แก่สังคมอย่างมากมาย ทั้งในด้านสตรี เด็ก คนพิการ ผู้ยากไร้ และการสาธารณสุข
ท่านเป็นต้นแบบของบุคคลท่ีอุทิศตนเพ่ือประโยชน์สาธารณะอย่างแท้จริง
ส�ำหรับวงการพัฒนาสตรีไทย ท่านคือต�ำนาน ผู้บุกเบิกและส่งเสริมบทบาทสตรีไทยให้มีพื้นที่
และมีตัวตนในสังคม มีบทบาทและมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและกิจการงานของบ้านเมือง
เคียงคู่กับบุรุษ
ภาพจ�ำของดิฉันที่มีต่อท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ย้อนไปในเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๓๘
ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในระหว่างการประชุมระดับโลกว่าด้วยเรื่องสตรี ครั้งท่ี ๔
จัดโดยองค์การสหประชาชาติ ซึ่งมีสตรีจากท่ัวโลกมาร่วมประชุมจ�ำนวนกว่า ๔๐,๐๐๐ คน
โดยท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ได้รับแต่งต้ังจากคณะผู้จัดให้เป็นประธานประสานงานการประชุม
ภาคเอกชนของกลมุ่ ประเทศในภมู ภิ าคเอเชยี -แปซฟิ กิ (NGOs Focal Point for Asia and Pacific)
ดฉิ นั ไดพ้ บทา่ นผหู้ ญงิ สมุ าลี จาตกิ วนชิ เปน็ ครงั้ แรกทน่ี นั่ ยงั จ�ำภาพทา่ นอยา่ งชดั เจนวา่ ทา่ นสวยสงา่
คล่องแคล่ว แจ่มใส ท�ำงานอยู่ท่ามกลางสตรีนานาชาติ ก�ำลังช่วยกันผูกผ้าพ้ืนเมืองของชาติต่าง ๆ
เพ่ือน�ำไปผูกแขวนที่ก�ำแพงเมืองจีน เป็นสัญลักษณ์ความมีตัวตนของเหล่าสตรีจากชาติต่าง ๆ
ที่มาร่วมประชุมกัน
. 117 .
. .
หลงั จากการประชมุ ทปี่ กั ก่ิง ท่านผหู้ ญิงสุมาลี จาตกิ วนิช ไดเ้ ชญิ ผู้ทไี่ ปประชุมมาปรกึ ษาหารอื
เพ่ือร่วมมือกันขับเคล่ือนแผนปฏิบัติการเพ่ือความก้าวหน้าของสตรีตามปฏิญญาปักกิ่ง ๑๙๙๕
โดยตกลงจัดตั้งเป็นสมาคมติดตามการพัฒนาสตรีในประเทศไทย (ตพส. ไทย) ภาษาอังกฤษคือ
Thai Women Watch Association (TW2) จดทะเบียนเม่ือวันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช เป็นนายกผู้ก่อตั้งสมาคม
ต่อมา ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ได้ร่วมกับสตรีผู้น�ำในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิกที่เคย
รวมตวั กนั เปน็ APNGO Working Group กอ่ นการประชมุ ทป่ี กั กงิ่ จดั ตง้ั Asia Pacific Women’s
Watch (APWW) เพ่ือให้การด�ำเนินงานมีความต่อเนื่องย่ังยืน และท่านได้รับเลือกให้เป็นประธาน
APWW คนแรกด้วย
เป็นท่ีน่าภาคภูมิใจที่ในระยะต่อมา องค์การสหประชาชาติได้ให้การยอมรับ APWW เป็น
องค์กรที่ปรึกษาพิเศษ (Consultative Status with the United Nations Economic and
Social Council) นับเป็นเกียรติอย่างสูงแก่ ตพส. และกลุ่มองค์กรสตรีเอกชนไทยด้วย
ดิฉันขอกราบคารวะต่อดวงวิญญาณของท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติ
มคี วามชนื่ ชม และมคี วามสขุ รวมทง้ั สนกุ สนานทไ่ี ดร้ ว่ มท�ำงานกบั ทา่ น ไดเ้ รยี นรหู้ ลายสง่ิ หลายอยา่ ง
จากทา่ น ทา่ นเปน็ แรงบนั ดาลใจและเปน็ แบบอยา่ งใหแ้ กด่ ฉิ นั ตลอดมา ดฉิ นั มนั่ ใจวา่ ชาว ตพส. ไทย
รวมท้ังสตรีอ่ืน ๆ ที่ได้รู้จักและท�ำงานกับท่านก็คงรู้สึกอย่างเดียวกับดิฉัน ท่านเป็นตัวอย่างของสตรี
ผู้กล้า เก่ง และแกร่ง ท่านมีฐานะและความพร้อมเกือบทุกอย่างท่ีจะด�ำรงชีวิตได้อย่างสบาย ๆ
ในยุคท่ีสตรีส่วนใหญ่ยังคงมีบทบาทเฉพาะภายในครอบครัวเป็นหลัก แต่ท่านผู้หญิงสุมาลีได้เลือก
ที่จะมีบทบาทภายนอกครอบครัว เพ่ือแสดงความเป็นตัวตนของท่านด้วย ท่านผู้หญิงสุมาลี
ประกอบธุรกิจส่วนตัวและอุทิศเวลาท�ำงานเพื่อสังคมควบคู่กันด้วย ท่านจึงเป็นสตรีผู้กล้าคนหน่ึง
กล้าแตกต่าง กล้าเปลี่ยนแปลง กล้าเผชิญสิ่งใหม่ ๆ กล้าต่อสู้และยืนหยัดในความเช่ือของท่านว่า
มนุษย์เท่าเทยี มกนั ในความเป็นคน หญิงและชายมีความสามารถทีเ่ ท่าเทียมกนั ท่านไมย่ อ่ ท้อแมจ้ ะ
พบอุปสรรคและบางเรื่องยังไม่ประสบความส�ำเร็จ ท่านจะเป็นดวงประทีปให้พวกเราเดินต่อไป
เพ่ือบรรลุเป้าหมายแห่งสังคมเสมอภาคชายหญิง
ขออ�ำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และบุญบารมี ความดีงาม ตลอดจนจิตอันเป็นกุศล
และใฝธ่ รรมของทา่ นผหู้ ญงิ สมุ าลี จาตกิ วนชิ ทไ่ี ดส้ รา้ งสมมาตลอดอายขุ ยั ของทา่ น จงเปน็ พลวปจั จยั
ส่งให้ดวงวิญญาณของท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ได้ไปสถิตเสวยอุดมสุขในทิพยวิมานสุคติสถาน
ในสัมปรายภพด้วยเทอญ
ด้วยความรักและอาลัย
คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์
นายกสมาคมตดิ ตามการพฒั นาสตรใี นประเทศไทย
118 .
.
. .
กราบท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
ที่รักและเคารพอย่างสูง
ดิฉันได้มีโอกาสรู้จักและท�ำงานใกล้ชิดกับท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ก็อยู่ในระยะ ๒๔ ปี
สุดท้ายของชีวิตท่าน น่าเสียดายโอกาสที่ไม่ได้มีส่วนรู้จักท่านตั้งแต่ระยะต้น ๆ คงเป็นช่วงเวลา
ที่ดิฉันจะได้เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ที่มีค่าจากท่านได้อีกมาก ได้สังเกตวิธีการ
บริหารงานอย่างน่ิมนวล เฉียบแหลม จูงใจให้ทุกคนพร้อมใจกันท�ำงานอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย
ด้วยความเต็มใจและมีความสุข
วันแรกที่ดิฉันได้พบท่านท่ีบ้าน ก็เมื่อดิฉันได้ขออนุญาตไปกราบขอบพระคุณที่ท่านกรุณาให้
ความเมตตาสนับสนุนดิฉัน ให้ได้รับความเป็นธรรม ในการแต่งต้ังเล่ือนระดับต�ำแหน่งให้สูงข้ึนท่ี
กระทรวงพาณิชย์ ดิฉันรู้สึกตกใจมากที่ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ซ่ึงเป็นที่เคารพยกย่องในสังคม
ท่ัวไป จะตัดสินใจเป็นผู้น�ำในการแสดงความไม่พอใจอย่างเข้มแข็งและเด็ดเด่ียว ท้ัง ๆ ที่ดิฉัน
และท่านไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
แม้ว่าเหตุการณใ์ นครั้งน้ันจะไมส่ �ำเรจ็ สมความต้ังใจของท่านผหู้ ญิงและคณะ รวมถงึ สุภาพสตรี
จากองค์กรต่าง ๆ ท่ีเรียกร้องความเป็นธรรม แต่ผลแห่งการแสดงออกได้มีส่วนท�ำให้การแต่งต้ัง
ข้าราชการเพื่อเลื่อนระดับให้สูงข้ึนในระยะหลัง ต้องพินิจพิจารณาถึงความเท่าเทียมระหว่าง
หญิงและชายเป็นประเด็นส�ำคัญอีกประเด็นหน่ึงด้วย เราจึงได้เห็นว่าในปัจจุบันข้าราชการสตรี
ที่ด�ำรงต�ำแหน่งผู้บริหารระดับสูงมีจ�ำนวนเพ่ิมข้ึนเป็นล�ำดับ และนี่อาจถือได้ว่าเป็นส่วนหน่ึงของ
ความพยายามท่ีเด็ดเดี่ยวของท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช และคณะสุภาพสตรีจากองค์กรต่าง ๆ
ที่ร่วมแสดงออกในคร้ังน้ัน
. 119 .
. .
ส่วนตัวดิฉันเองถึงแม้จะไม่ได้รับต�ำแหน่ง แต่ก็ได้รับอานิสงส์จากการจุดประกายเรียกร้อง
ความเป็นธรรมอย่างจริงจงั ท�ำใหด้ ิฉนั ได้รับความเมตตา ความเหน็ อกเหน็ ใจจากผใู้ หญ่ในวงราชการ
และวงการธุรกิจหลายท่าน เป็นก�ำลังใจอันส�ำคัญให้แก่ดิฉัน ทั้งน้ี ดิฉันถือว่าเป็นพระคุณอันยิ่งใหญ่
ท่ีได้รับจากท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ซึ่งดิฉันไม่มีวันลืม
ดิฉันได้เรียนสารภาพกับท่านตรง ๆ ว่า ดิฉันท�ำงานอยู่ท่ีกระทรวงพาณิชย์ท้ังชีวิต ไม่สันทัด
เรอ่ื งงานทที่ า่ นท�ำอยู่ ทา่ นกไ็ ดก้ รณุ าชแี้ นะใหม้ าชว่ ยงานทางดา้ นเศรษฐกจิ ตอ่ ยอดใหก้ บั พวก SMEs
ที่ยังเข้าไม่ถึงโครงการของรัฐ จากนั้นสมาคมติดตามการพัฒนาสตรีในประเทศไทย (ตพส.) ท่ี
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช เป็นผู้ริเริ่มก่อต้ังก็มีโครงการโดยเรียกว่า เวทีสตรีไทยกับเศรษฐกิจ
ของ SMEs ในภูมิภาคต่าง ๆ โดยเร่ิมจากภาคกลางมีกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลาง ภาคเหนือและ
อีสานที่โคราช ภาคตะวันออกท่ีชลบุรี และภาคใต้ท่ีกระบี่ โครงการนี้เป็นการจัดสัมมนาต่อยอด
ใหค้ วามรแู้ ก่ SMEs ทง้ั ภาควชิ าการ ภาคปฏบิ ตั ิ : การผลติ การตลาด การแลกเปลย่ี นประสบการณ์
และภาคสนาม โดยออกไปเยี่ยมโรงงานของ SMEs ต้นแบบ ณ สถานที่ของภาคน้ัน ๆ โดยเลือก
วิชาการและภาคปฏิบัติที่เหมาะสมกับแต่ละภูมิภาค ด้วยความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ ของ
กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงศึกษาธิการ สภาหอการค้าในแต่ละจังหวัด
ระหว่างท่ีดิฉันได้ท�ำงานกับ ตพส. น้ันเป็นระยะเวลาท่ีดิฉันเกษียณอายุราชการแล้ว จึงมี
เวลาท่ีจะช่วยงานท่านได้อย่างเต็มที่ และเป็นครั้งแรกที่ดิฉันเข้ามาช่วยท�ำงานองค์กรสตรีท่ีมีท่าน
เป็นหัวหน้า รู้สึกทึ่งและแปลกใจเป็นอันมากที่เห็นท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ลงมาช่วย (ลุย)
งานทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ หลังการประชุมสัมมนาเสร็จทุกครั้ง ท่านจะเป็นแม่งานดูแลรวบรวม
เอกสาร สรุปผลการประชุมด้วยตนเอง รายงานผลการประชุมทุกครั้งจะต้องท�ำให้เสร็จเรียบร้อย
เป็นเอกสารพร้อมยื่นหรือแจกให้ผู้สนใจได้ทราบทุกครั้ง ท่านบอกว่านี่เป็นผลงานที่เราต้องมี
และรวบรวมไว้ หากจ�ำเป็นต้องไปขอความอนุเคราะห์ด้านหนึ่งด้านใดจากส่วนราชการหรือองค์กร
ระหว่างประเทศ ท่านท�ำงานทุกช้ินอย่างมืออาชีพและถูกต้องตามขั้นตอนที่สมบูรณ์ ท่านเล่าให้
พวกเราฟังเสมอว่า ท่านแต่งงานเม่ืออายุน้อย อยากเรียนแพทย์ก็ไม่ได้เรียน แต่มีสามีเป็นแพทย์
ซึ่งอายุมากกว่าท่านมาก จึงจ�ำเป็นต้องขวนขวายหาความรู้ทุกเร่ืองท่ีจะอยู่ในสังคมของคุณหมอ
และกลุ่มเพื่อนที่อาวุโสกว่าท่านให้ได้
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช มีคุณลักษณะของผู้งามพร้อมทั้งกายและใจ การวางตัวของท่าน
เป็นไปโดยธรรมชาติ ท่านสามารถเป็นผู้น�ำองค์กรสตรีท้ังในระดับประเทศและสากลได้อย่างนุ่มนวล
แก้ปัญหาใหญ่ให้ดูเป็นเร่ืองเล็ก
ด้วยความฉลาดหลักแหลม ใครได้อยู่ใกล้ชิดท่านจะรู้สึกว่ามีความร่มเย็น อบอุ่น อยู่รอบตัว
การจากไปของท่าน ท�ำให้ดิฉันรู้สึกใจหาย เสียดาย และอาลัยเป็นอย่างย่ิง ด้วยกุศลผลบุญ
ท่ีท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ได้กระท�ำมาตลอดชีวิตและท่ีพวกเราได้อุทิศไปให้ท่าน ได้น�ำพา
ดวงวิญญาณของท่านไปสู่สุคติภพเทอญ
อรนุช โอสถานนท์
. 120 .
. .
ท่านผู้เป็นพลังรวมใจของมวลสตรี
ดิฉันได้พบกับท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช เมื่อ ๒๘ ปีก่อน (พ.ศ. ๒๕๓๗) เป็นช่วงที่ท่าน
อยูใ่ นระหวา่ งรบั ภาระหนกั ในต�ำ แหนง่ ประธานฝา่ ยองคก์ รเอกชน (เอน็ จโี อ) ในภมู ภิ าคเอเชยี แปซฟิ กิ
จัดสัมมนาหารือนับครั้งไม่ถ้วน เพื่อกลั่นกรองประเด็นเสนอต่อการประชุมสตรีระดับโลก ครั้งที่ ๔
ณ กรุงปักกิ่ง ดิฉันเองแม้จะได้ศึกษาวิจัยปัญหาสตรี เป็นที่ปรึกษาให้สหประชาชาติหลายองค์กร
แต่ตอนนั้นไม่เคยมีประสบการณ์กับองค์กรเอกชนมาก่อน การที่ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
ชกั ชวนใหเ้ ขา้ มารว่ มขบวนการนน้ั ถอื ไดว้ า่ ทา่ นเปดิ โอกาสส�ำ คญั ยง่ิ ใหเ้ ขา้ ไปรเู้ หน็ สงั คมโลกในอกี มติ หิ นง่ึ
ความชื่นชมต่อการท�ำงานของท่านนั้นมีเหลือประมาณ โดยเฉพาะสไตล์การสร้างสัมพันธไมตรี
ผ่อนหนักผ่อนเบา ใส่ใจที่จะยอมรับภูมิหลังของแต่ละกลุ่ม และไม่ย่อท้อต่อข้อเรียกร้องขององค์กร
ทุกระดับ ความท้าทายของทุกปัญหาท่ีเกิดขึ้น ท่านมีความสามารถพิเศษที่จะตอบโต้ ปลอบใจ
ปลกุ เรา้ แตล่ ะกลมุ่ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม และทสี่ �ำคญั คอื คดิ หากลยทุ ธใ์ หค้ วามหว่ งใยของเขาถกู น�ำเขา้ สู่
ความสนใจและการพิจารณาของภาครัฐได้อย่างนุ่มนวล ต่างกับวิธีผลักดันอย่างแข็งกร้าว
ซึ่งพวกเขาเคยชินกันมา
. 121 .
. .
ขอยกตัวอย่างกลเม็ดของท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ในการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชีย
แปซิฟิก ซ่ึงภาคองค์กรเอกชนมีการจัดประชุมคู่ขนาน และได้เข้าเสนอข้อสรุปต่อที่ประชุมภาครัฐ
ตัวแทนจากแต่ละประเทศก็มุ่งจะเดินหน้าปัญหาเร่งด่วนของเขา เช่น กลุ่มที่ต่อต้านความรุนแรงต่อ
สตรีก็คิดว่าต้องมาก่อนเร่ืองเศรษฐกิจ อีกกลุ่มย้�ำแต่ว่า ต้องเริ่มจากแก้ไขความยากจน ไม่เช่นน้ัน
จะส่งเสริมการศึกษา ฯลฯ ได้อย่างไร ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ใช้ทักษะชาญฉลาด
ประนีประนอมให้เปิดใจรับฟังกันและกัน
ลองนึกภาพการประชุมผู้น�ำภาครัฐ แทบทุกคร้ังจะเห็นกลุ่มประท้วงยืนถือป้ายตะโกน
เรยี กรอ้ งความสนใจ แนน่ อนวา่ นน่ั ไมใ่ ชแ่ นวนยิ มของทา่ นผหู้ ญงิ สมุ าลี จาตกิ วนชิ หากใชว้ ธิ แี บบนน้ั
เม่ือคนส�ำคัญท้ังหลายมาถึงและลงจากรถแล้ว เขาก็จะรีบเดินหนี ท่านแนะพวกเราให้ใช้
ความสวยงามดึงความสนใจ มีตัวแทนแต่งชุดประจ�ำชาติคาดสายสะพายแบบประกวดนางงาม
เขียนหัวข้อส�ำคัญต่าง ๆ ดังน้ัน คืนก่อนวันงานเราจึงไม่เครียดกันสักนิด มีแต่เสียงหัวเราะเฮฮา
ชว่ ยกนั นงั่ เยบ็ สายสะพาย วนั รงุ่ ขน้ึ ตวั แทนของเรากไ็ ปยนื เขา้ แถวตอ้ นรบั ไมม่ ใี ครมาไล่ มแี ตม่ องดู
อย่างท่ึงว่าเกิดอะไรข้ึน เม่ือผู้แทนภาครัฐจาก ๕๐ กว่าประเทศเดินเข้ามาเห็นพวกเรา ก็ล้วนแต่ย้ิม
อย่างอารมณ์ดี เข้ามาทักทาย อ่านป้าย พยักหน้าท�ำท่าว่าเข้าใจ
เวลาผา่ นไปตลอดชว่ งเชา้ กวา่ ผแู้ ทนภาครฐั จะกลา่ วถอ้ ยแถลงครบกล็ ว่ งเลยเวลาอาหารกลางวนั
ผู้คนเตรียมจะลุกออกจากห้อง ไม่สนใจอยู่ฟังข้อเรียกร้องของภาคเอกชน แต่ท่านผู้หญิงสุมาลี
จาติกวนิช ได้เตรียมมุกเด็ดไว้พร้อมแล้วส�ำหรับสถานการณ์น้ี เนื่องจากท่านสวมบทบาทเป็นทั้ง
หน่ึงในคณะผู้แทนประเทศไทย และหัวหน้าใหญ่ภาคองค์กรเอกชนทั้งภูมิภาค ท่านกล่าวจากท่ีน่ัง
ท่ามกลางภาครัฐ ด้วยนํ้าเสียงนุ่มนวล ท่วงท่าสง่างาม สรุปส้ัน ๆ ว่ากลุ่มองค์กรเอกชนขอน�ำเสนอ
ความห่วงใยเกี่ยวกับการพัฒนาสตรี โดยมีรายละเอียดในสมุดปกเหลือง (The Yellow Book)
เล่มเล็ก ๆ ท่ีวางอยู่ตรงหน้าท่านทั้งหลาย มาถึงตรงนี้ พวกเราที่อยู่ช้ันบนก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับ
ชูสมุดปกเหลือง เป็นสัญญาณบอกว่า เชิญท่านหยิบสมุดนี้กลับไปศึกษาต่อท่ีบ้านเอาเองได้เลยนะ
การประชุมก็จบลงด้วยดี ภาครัฐประทับใจกับวิธีน�ำเสนอที่แตกต่าง ภาคเอกชนได้เสนอประเด็น
ของตน บรรดาสมาชิกล้วนเป็นปล้ืมกับกลเม็ดของท่านหัวหน้าใหญ่ในคร้ังน้ี
. 122 .
. .
หลังการประชุมที่ปักก่ิงผ่านพ้นไป ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช หันมาเน้นการรักษาและ
ตอ่ ยอดเครอื ขา่ ยทร่ี วบรวมมาไดด้ ว้ ยความยากล�ำบาก กอ่ ตงั้ องคก์ รอยา่ งเปน็ ทางการขน้ึ ทง้ั ในระดบั
ภูมิภาคใหญ่ (Asia Pacific Women’s Watch) และภูมิภาคย่อย (South East Asia Women’s
Watch) สว่ นในประเทศเรา สมาคมตดิ ตามการพฒั นาสตรใี นประเทศไทยกถ็ อื ก�ำเนดิ ขนึ้ อยา่ งเขม้ แขง็
โดยที่ท่านออกแบบสัญลักษณ์ของสมาคมในแนวใหม่ คือเป็นรูปรวงผึ้ง สื่อความหมายว่า ทุกคน
มีบทบาทและความส�ำคัญ ได้โอกาสท�ำงานทัดเทียมกัน ควรรวมพลังความสามัคคี เดินหน้าต่อไป
ไม่หยุดย้ัง
ส�ำหรับความประทับใจจากการท�ำงานกับท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ดิฉันขอเน้นย�้ำเรื่อง
ความคิดสร้างสรรค์ ความแข็งแกร่งภายใต้บุคลิกงามสง่านุ่มนวล อดทนฝ่าฟันการเข้าใจผิด
หรือแม้แต่การต่อต้าน กรณีน้ีก็เข้าใจได้ไม่ยาก องค์กรเอกชนสตรีสมัยน้ันมีกลุ่มใหญ่คือพวกที่เรียก
ตัวเองว่า รากหญ้า คือ ท�ำงานติดดิน คลุกคลีปัญหา ส่วนท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ดูทีท่า
เลิศลอยอย่างน้ี จะมารู้ประเด็นได้อย่างไรกัน
วันหนึ่ง หลังจากภาระงานที่ปักกิ่งส�ำเร็จลงอย่างดีเยี่ยม มีผู้น�ำองค์กรส�ำคัญมาขอพบท่าน
บอกว่ามีเรื่องจะสารภาพและขออภัย พูด ๆ ไปก็นํ้าตาคลอเบ้า เสียใจว่าเขาเคยต้ังแง่กับท่านมา
หลายวาระท้ังต่อหน้าและลับหลัง แต่สุดท้าย ท่านพิสูจน์ให้เห็นโดยไม่มีข้อกังขาว่าคนท่ีดูเป็นแนว
รํ่ารวยสูงศักด์ิก็เข้าใจประเด็นรากหญ้าได้ ของทุก ๆ ประเทศด้วย และท่านท�ำให้พวกเขาเห็น
ความจ�ำเป็นว่า แม้จะเป็นตัวแทนกลุ่มที่เดือดร้อนมากมายก็ไม่ใช่จะตั้งหน้าชูก�ำปั้นแสดงพลัง
หากแต่ต้องหาวิธีท�ำงานร่วมกับภาครัฐได้อย่างเคียงบ่าเคียงไหล่ เข้าไปนั่งเจรจาในห้องประชุม
เดียวกัน เขายอมรับโดยไม่มีเง่ือนไขเลยว่าท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช เป็นแม่แบบที่ดีท่ีสุด
นับเป็นโชคดีอย่างไม่มีที่เปรียบ ท่ีวงโคจรของชีวิตได้น�ำดิฉันมาพบบุคคลที่งดงาม น่าเคารพ
นับถือในทุกด้าน และได้รับโอกาสร่วมงานใกล้ชิดกับท่านเป็นเวลายาวนาน ถึงแม้ต่อมาประเด็น
เร่ืองสุขภาพจะท�ำให้ความเก่ียวพันของท่านกับงานด้านนี้ชะลอลง ก็ยังได้ไปกราบเย่ียมสนทนา
เร่ืองต่าง ๆ ต่อเนื่องมาจนปลายช่วงชีวิตของท่าน ความเมตตาที่ท่านมอบให้จะจารึกแนบแน่น
ในความทรงจ�ำตลอดไป
ดิฉันขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงแทนเครือข่ายสตรีท่ัวโลกที่ได้ท่านผู้หญิงสุมาลี
จาติกวนิช เป็นผู้น�ำและแบบอย่างอันสมบูรณ์พร้อมส�ำหรับการด�ำเนินงานเพื่อส่งเสริมความเสมอ
ภาคระหว่างหญิงชาย
รองศาสตราจารย์ ดร.ภาวดี ทองอุไทย
123 .
.
. .
Thanpuying Sumalee Chartikavanij
We remember Sumalee as a focal point of the Asia Pacific NGOs as we prepared
for the United Nations Fourth World Conference on Women.
We remember Sumalee as co-founder of Southeast Asia Women’s Watch
(SEAWWatch) and Asia Pacific Women’s Watch, regional networks committed to
the implementation of the Beijing Platform for Action.
We remember Sumalee as a dedicated, untiring and formidable champion
of women’s rights in Thailand, in the Asia Pacific Region and globally.
We remember Sumalee as impressive organizer and gracious host of
many regional and international meetings of the women’s movement held in
Thailand as well as of smaller and more intimate gatherings in her lovely home.
We remember Sumalee as a model advocate for women’s empowerment,
working for meaningful change in society while at the same time effectively
inspiring and empowering those with whom she worked, particularly a younger
generation of feminists.
We remember Sumalee as a dear friend---kind, generous, thoughtful,
delightful company---a truly beautiful and extraordinary human being who will
be greatly missed. Rest in peace dear Sumalee.
Patricia B. Licuanan
Asia Pacific Women’s Watch (APWW)
Southeast Asia Women’s Watch (SEAWWatch)
124 .
.
. .
ไว้อาลัยอาอ๊อด
หลังสงครามไม่นาน ครอบครัวเราก็ย้ายมาอยู่ท่ีบ้านสาทรในบริเวณเดียวกับบ้านคุณปู่
พระยาอธิกรณ์ประกาศ เป็นบ้านใหญ่มีเน้ือท่ีประมาณสัก ๗ ไร่ เห็นจะได้ มีบ้านใหญ่สามหลัง
ที่บริเวณพ้ืนท่ีติดต่อกัน ผมอายุราว ๆ ๗ - ๘ ขวบ หลังบ้านมีดงกล้วยตานี มีท่ีวิ่งเล่นกว้างมาก
ผมอยู่บ้านด้านหลัง มีบ่อนํ้าใหญ่ก้ันอยู่จากบ้านคุณปู่แต่ก็มีสะพานข้าม วิ่งเข้าออกได้หมดทุกหลัง
ไม่มีใครว่าเพราะเป็นพ่ีน้องใกล้ชิดกันหมด ลูกหลานคนอ่ืน ๆ ก็โตกันหมดแล้ว มีผมเล็กกว่าเพื่อน
แตก่ ม็ เี ดก็ ขา้ งบา้ นมาเลน่ ดว้ ยเปน็ ประจ�ำอยหู่ ลายคน จ�ำไดว้ า่ อยบู่ า้ นสนกุ มาก ไมอ่ ยากไปโรงเรยี นเลย
คุณอาหมอกษานอยู่บ้านคุณปู่ แต่ก็ไม่ค่อยได้พบกันเท่าไร ท่านเป็นแพทย์และคงต้อง
ท�ำงานหนกั อยตู่ ลอด จนในทส่ี ดุ อาหมอกแ็ ตง่ งานและอาออ๊ ดกเ็ ขา้ มาอยทู่ บ่ี า้ นคณุ ปู่ เปน็ สมาชกิ ใหม่
ของกลุ่มบ้านเรา ผมพบกับอาอ๊อดคร้ังแรกในวันแต่งงาน ตอนน้ันก็คิดว่าอาอ๊อดสวยมากตอนเดิน
ลงมาจากบ้าน ชุดแต่งงานก็สวย มีดอกไม้สองดอกที่กระโปรงสองข้างสะโพก หลังจากวันนั้น
ผมก็ข้ามมาหาเป็นประจ�ำ เป็นเพ่ือนใหม่และใกล้ชิดกันมาตลอดเพราะบ้านอยู่ติดกัน
สมัยเม่ือเด็ก ๆ ต้ังแต่อ่านหนังสือออกผมก็ชอบอ่านหนังสือ แต่ก็ไม่รู้จะไปหามาจากท่ีไหน
นอกจากหนงั สอื เรยี นทมี่ อี ยู่ ไมเ่ หมอื นลกู หลานเราสมยั น้ี ไมเ่ คยรวู้ า่ มรี า้ นขายหนงั สอื และไมเ่ คยคดิ วา่
ถ้ามีเงนิ กจ็ ะเอาไปซอื้ หนงั สอื จนในทสี่ ุดก็พบรา้ นขายหนังสอื ไม่ใช่ Asia Books หรอกนะ แต่เป็น
ร้านตาอ่องหน้าบ้านคุณปู่ ติดกับร้านตัดผมเจ๊กหงวน หนังสือท่ีชอบที่สุดตอนนั้นก็คือหนังสือของ
ป. อินทรปาลิต (ไม่รู้ว่ามีใครเกิดทันหรือเปล่า) พวก พล นิกร กิมหงวน เสือใบ เสือด�ำ และอ่ืน ๆ
สนกุ มาก เปน็ ครง้ั แรกทร่ี วู้ า่ อา่ นหนงั สอื นสี่ นกุ จรงิ ๆ แตแ่ พงมาก เลม่ ละสบิ สลงึ ตอ้ งแบง่ เงนิ คา่ ขนม
วันละห้าสิบสตางค์มาเช่าหนังสือจากร้านตาอ่อง ตอนนั้นโลกหนังสือของผมส่วนใหญ่ก็มีอยู่
แค่นั้นเอง
. 125 .
. .
ตอ่ มาวนั หนง่ึ ผมกไ็ ดม้ าพบกบั Comics (Captain Marvel, Tarzan, Green Lantern เปน็ ตน้ )
สมยั นน้ั มาจากเมอื งนอกทงั้ นน้ั สภาพสนิ คา้ ดกี วา่ กนั มาก เตม็ ไปดว้ ยรปู ภาพชนั้ ดสี สี วยสด นา่ ตนื่ เตน้
ทงั้ เลม่ นา่ อา่ นมาก ปญั หากค็ อื เปน็ ภาษาองั กฤษทง้ั หมด ไมม่ หี วงั ทจี่ ะเขา้ ใจอะไรได้ และโดยบงั เอญิ
ท่ีภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่วิชาท่ีผมสนใจอะไร (เกลียด) ผมก็เลยลองเอา Comics ที่มีอยู่หลายเล่ม
ไปปรึกษากับอาอ๊อดเพื่อนผมดู ปรากฏว่าได้ผลเกินคาด เหมือนฝัน เพราะอาอ๊อดนั่งแปลให้ฟังหมด
ทุกเล่มที่เอามาโดยไม่เกี่ยงเลย ไม่ใช่แค่แปลแต่เล่าเป็นเร่ืองท�ำให้ตื่นเต้นน่าสนใจมาก ราวกับว่า
คุณอาเองก็พลอยสนุกกับการอ่านไปด้วย นั่งเล่ากันอยู่คร้ังละนานมาก นี่เป็นกิจกรรมใหม่ที่ผม
ชอบมาก เมอ่ื ไรทไี่ ด้ Comics มาใหมก่ จ็ ะตอ้ งขา้ มมาเยยี่ มทนั ทแี ละไมเ่ คยผดิ หวงั ในระยะแรกนนั้
แหล่งความรู้ของผมก็มาจากหนังสือพวกน้ีและเร่ิมปะติดปะต่อความหมายของภาษาได้บ้าง นับว่า
อาอ๊อดมีส่วนช่วยในการพัฒนาภาษาของผมตอนนั้นมากทีเดียว
อกี ไมน่ านตอ่ มากถ็ งึ เวลาทผ่ี มตอ้ งไปเรยี นตอ่ เมอื งนอก จากนน้ั กเ็ ปน็ ชว่ งทเ่ี ราตอ้ งหา่ งเหนิ กนั
เป็นเวลานานและมีการเปล่ียนแปลงมากมาย หลังจากน้ันครอบครัวท้ังหลายที่บ้านสาทรก็ย้าย
ออกไปกันหมดในช่วงที่ผมไม่อยู่ กลับมาอีกทีก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิม ไม่เหลือใครอยู่ในบ้านอีกต่อไป
พ่อและอาหมอกษานก็ใช้ท่ีดินสาทรท�ำธุรกิจต่าง ๆ แต่ในท่ีสุดท่ีดินบ้านด้านหน้าก็ตกมาเป็นของผม
หลังจากที่พ่อเสียชีวิตไป เป็นโอกาสอีกคร้ังหนึ่งที่ผมได้กลับมาใกล้ชิดกับครอบครัวอาอ๊อด
ที่ดินต้นถนนสาทรของเราได้กลายเป็นท่ีดินที่มีค่ามาก เราปรึกษากันว่าน่าจะหาทางใช้เป็น
ประโยชนเ์ พื่อท�ำรายได้ให้เพิ่มขึ้น ในทีส่ ดุ กม็ นี กั ธุรกจิ กลุม่ หนึง่ มาขอเชา่ เป็นระยะยาวเพือ่ จะปลูกตกึ
ขนาดใหญ่ซึ่งตรงกับความต้องการ เราก็ตกลงท่ีจะเอาที่ดินเข้าร่วมโครงการด้วยกัน ผมเองไม่ได้มี
ความรู้อะไรเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากนัก ได้แต่ฟังค�ำแนะน�ำจากคนอื่นแล้วก็เอามา
ปะติดปะต่อเองเพ่ือท�ำข้อเสนอที่ผู้เช่าเขาจะรับได้และเป็นประโยชน์กับเราด้วย อาอ๊อดเป็นบุคคล
ทก่ี วา้ งขวางและมคี นในสงั คมใหค้ วามเคารพและเกรงใจเปน็ จ�ำนวนมาก การทเ่ี รามอี าออ๊ ดอยรู่ ว่ มดว้ ย
ท�ำให้โครงการเดินหน้าไปได้ดีมากจนเสร็จลุล่วงไปได้ อาอ๊อดแนะน�ำทนายชั้นหนึ่งให้มาช่วยเรา
(คุณสุนทร โภคาชัยพัฒน์ - ส�ำคัญมาก) เราใช้เวลาอยู่หลายปีในการตกลงรายละเอียดของสัญญา
ผมคิดว่าความไว้วางใจและความเกรงใจเป็นส่วนส�ำคัญของความส�ำเร็จคร้ังน้ี
ตลอดชีวิตที่ได้ใกล้ชิดกับอาอ๊อดมา ผมสังเกตว่าเป็นคนใจดี เฉลียวฉลาดเป็นพิเศษ
และพร้อมที่จะเห็นใจและช่วยเหลือ แนะน�ำคนอ่ืนในทุกกรณี รู้สึกผ่อนคลายเม่ืออยู่ใกล้ชิด
เป็นญาติผู้ใหญ่คนหน่ึงท่ีเราจะรักและไม่มีวันลืม
อุทัยพันธ์ จาติกวณิช
. 126 .
. .
ค�ำไว้อาลัย
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
เม่ือวันก่อนที่ผมได้ไปร่วมงานท�ำบุญครบ ๕๐ วัน ท่ีบ้านเพชรบุรีตัดใหม่ของท่านผู้หญิง
สุมาลี จาติกวนิช ท�ำให้ผมนึกถึงสมัยเด็ก ๆ ท่ีได้ไปร่วมงานรวมญาติตระกูลยุกตะเสวี-จาติกวณิช
และภาพจ�ำที่ผมมีกับ “ป้าอ๊อดแอ๊ด” (ท่ีบ้านผมเราเรียกท่านแบบน้ีมาตลอด ไม่ทราบว่าเริ่มอย่างไร
เพิ่งมารู้เอาตอนโตว่านั่นไม่ใช่ชื่อจริงของท่าน!) ซ่ึงภาพจ�ำน้ันคือความสง่างามและรอยยิ้มท่ีท่าน
มีให้กับทุกคน
เราจะรู้สึกเสมอว่าตระกูลเรามักได้ก�ำไรจากการท่ีผู้ใหญ่ของเราแต่งสตรีเก่ง ๆ เข้ามา
ในครอบครัว ในกรณีท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช น่ีต้องบอกว่า “ก�ำไรเกินควร” ไม่ใช่เพียงเพราะ
ช่ือเสียงของท่านจากการอุทิศตนให้กับงานสังคมมาท้ังชีวิต แต่จากความใส่ใจในความสัมพันธ์กับ
เครือญาติฝั่งเราท่ีท�ำให้เรามีความรู้สึกอบอุ่นตลอดมา
เม่ือผมมีสถานะเป็นบุคคลสาธารณะจากการเป็นนักการเมือง ผมยิ่งได้อานิสงส์จาก
ความเสียสละของป้าอ๊อดแอ๊ดในบทบาทการช่วยเหลือคนและองค์กรต่าง ๆ ทั่วประเทศ ไปท่ีไหน
จะมีคนกล่าวถึงท่านด้วยความช่ืนชม ซ่ึงจนถึงทุกวันน้ีผมก็ยังมีความผูกพันกับหลายองค์กรท่ีท่าน
ได้อุปถัมภ์ไว้เพื่อสานต่อความตั้งใจของท่านที่มีต่อองค์กรเหล่านั้น
ในสายตาของหลาน ๆ อยา่ งเรา ปา้ ออ๊ ดแอด๊ เปน็ รปู แบบของกลุ สตรี ทงั้ ในการวางตน ค�ำพดู
และทศั นคตทิ ย่ี ากทจี่ ะหาทต่ี ิ ประกายในสายตาและรอยยม้ิ ของทา่ นอยใู่ นความทรงจ�ำ และเรอื่ งเลา่
ของท่านถึงคุณลุงของเรา คณุ หมอกษาน จาตกิ วนชิ ก็เต็มไปด้วยอารมณ์ข�ำทีท่ �ำให้เราเห็นวา่ บทบาท
ของท่านในฐานะภรรยาก็มีท้ังความสุขและความรักที่ท�ำให้ชีวิตครอบครัวของท่านเป็นตัวอย่างท่ีดี
และแรงบันดาลใจกับเราเช่นกัน
ทา่ นผหู้ ญงิ สมุ าลี จาตกิ วนชิ เปน็ One in a Million ทหี่ ลาน ๆ ทกุ คนรกั เคารพ และอาลยั
อย่างที่สุด
ด้วยความรัก ความขอบคุณ จากใจหลาน ๆ ฝ่าย “จาติกวณิช” ทุกคน
กรณ์ จาติกวณิช (ดอน)
. 127 .
. .
ระลึกถึงท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
ผู้จากไป
อาจารย์วรรณดี คันธวงศ์ รู้จักกับท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช เม่ือมาเรียนในโรงเรียนวัฒนา
วิทยาลัย ท่านเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ท่ีท�ำคุณประโยชน์ให้กับโรงเรียนท่ีท่านเคย
เรียนมาเป็นอันมาก ซง่ึ นักเรยี นวัฒนาวทิ ยาลัยทุกคนควรจะเอาแบบอยา่ งทา่ น เพอื่ พฒั นาโรงเรยี น
ท่ีรักของเราให้เจริญก้าวหน้าย่ิงขึ้นไปอยู่คู่กับประเทศไทยของเราตลอดกาล
เม่ืออาจารย์วรรณดี คันธวงศ์ เข้าร่วมเป็นกรรมการในสมาคมศิษย์เก่าก็พบปะกับท่านเสมอ
บางคร้ังก็ไปร่วมประชุมท่ีบ้านของท่านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย เม่ือทราบว่า
ท่านจากไปจึงขอให้ทางโรงเรียนพาไปสวดศพท่ีวัดธาตุทองร่วมกับคุณครูหลายท่านท่ีรู้จักท่านด้วย
ปัจจุบันก็ยังคงระลึกถึงท่านอยู่เสมอ
วรรณดี คันธวงศ์
* คุณครูวรรณดี คันธวงศ์ ผู้เป็นท่ีเคารพรักของศิษย์วัฒนาฯ ทุกรุ่น .
มีอายุ ๑๐๑ ปี ใน พ.ศ. ๒๕๖๕
. 128
. .
ด้วยรักและอาลัย
จากเพื่อนวัฒนาฯ รุ่น ๗๐
เพื่อนวัฒนาฯ รุ่น ๗๐
เกษศรี ตันธุวนิตย์ หม่อมหลวงพันธุ์จันทร์ ครุฑะเสน
วงเดือน ศีตะจิตต์ สุนิตย์ ศาตะมาน แสงสุนี ล้ิมพงษ์
ชีวิตวัยเด็กที่โรงเรียนวัฒนาฯ
โรงเรยี นวฒั นาวทิ ยาลยั ปลกู ฝงั ใหเ้ รารกั กนั รจู้ กั การให้ มคี วามรบั ผดิ ชอบ หนกั เอาเบาสู้ ฯลฯ
และเป็นสมาชิกท่ีดีของสังคม จึงท�ำให้เราเป็นเพื่อนท่ีรักกันมาจนทุกวันนี้ และส่วนหน่ึงก็น่าจะช่วย
ส่งเสริมสิ่งดี ๆ ในตัวอ๊อดให้ท�ำงานเพ่ือสังคมด้วยความรักและได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้า
โปรดกระหม่อมพระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูง ใช้ค�ำน�ำหน้านามว่าท่านผู้หญิง
สมัยเด็ก ๆ เราเข้ามาเรียนท่ีโรงเรียนวัฒนาฯ ตอนอายุ ๖ ขวบบ้าง ๗ ขวบบ้าง บางคนอยู่
ประจ�ำ บางคนไปกลับ ตอนอยู่ ป. ๔ มีเพ่ือนใหม่เข้ามา ๔ คน ช่ือคล้องกันเลยคือ เจิด ประจง
ยวุ ยงค์ สมุ าลี ออ๊ ดตอนนนั้ ตวั เลก็ ๆ ตดั ผมสนั้ นงุ่ กระโปรงสนั้ เหนอื เขา่ เรยี นเกง่ มนี ำ้� ใจ สนทิ กบั แสง
มากที่สุด กลุ่มพวกเราค่อนข้างจะเรียบร้อย จึงไม่มีวีรกรรมอะไรนัก จะมีบ้างก็เร่ืองความหิว
ท่ีเราเก็บใบมะขาม เก็บลูกหนามแดง และลูกไม้ ใบไม้ที่กินได้มากินกัน
. 129 .
. .
สมัยนั้นนักเรียนวัฒนาฯ ส่วนใหญ่เป็นลูกข้าราชการ คหบดี ที่อยู่บ้านจะมีคนดูแลท�ำงาน
บ้านให้ แต่เมื่อมาอยู่โรงเรียนทุกคนเหมือนกันหมด ต้องดูแลตัวเอง ท�ำงานบ้าน ท�ำท่ีนอน ซักผ้า
รีดผ้า ฯลฯ เอง และยังต้องมีน�้ำใจช่วยเหลือน้อง ๆ ด้วย เช่น มีเพ่ือนคนหนึ่งปัสสาวะรดที่นอน
พ่ีช้ัน ๖ ที่เป็น Buddy ก็จะมาช่วยซักผ้าปูท่ีนอน ซ่ึงก็เป็นส่วนหน่ึงท่ีท�ำให้รุ่นพ่ีรุ่นน้องรัก
และเกรงใจกนั มเี รอื่ งสนกุ ในตอนนอน บนตกึ นอนไมม่ หี อ้ งนำ้� เราจงึ ตอ้ งถอื กระโถนขน้ึ นอนคนละใบ
ถ้าฝากระโถนตกก็จะถูกท�ำโทษ คนท่ีแก่น ๆ จะแอบไปถ่ายเบาใส่ลงกระโถนเพื่อน พอตอนเช้า
เพ่ือนยกกระโถนก็หกเลอะ จึงต้องช่วยกันเช็ดไปตามธรรมเนียม ....
ตนื่ เชา้ เวลาอาบนำ้� จะมรี ะฆงั ใหเ้ ราเปดิ นำ�้ ตกั นำ้� อาบ มรี ะฆงั ใหป้ ดิ นำ้� ฟอกสบู่ และเปดิ นำ�้ อาบ
และระฆังให้ออกจากห้องน�้ำเพ่ือคนต่อไปจะได้เข้ามาอาบ ท�ำให้นักเรียนวัฒนาฯ เป็นคนท�ำอะไร
รวดเร็ว
เวลากินข้าวเราไม่ได้น่ังกับเพื่อน ๆ แต่จะมีพ่ี ม. ๖ เป็นหัวโต๊ะตักข้าว ม. ๕ เป็นรองหัวโต๊ะ
ม. ๔ ม. ๓ เป็นท้ายโต๊ะ พี่ ๆ มักจะดูแลความเรียบร้อยในโต๊ะและชี้ชวนให้น้อง ๆ ที่กินยาก
ได้กินอาหารให้ครบหมู่ นอกจากนี้เราต้องคอยมองกันเพ่ือท่ีจะอิ่มข้าวค�ำสุดท้ายพร้อมกัน
เราเรียนด้วยกัน สนุกด้วยกัน จนกระท่ังเกิดสงครามโลกคร้ังที่ ๒ โรงเรียนถูกญี่ปุ่นยึด
ท�ำให้เราต้องย้ายไปเรียนที่วังบูรพา ที่โรงเรียนยกหมิ่น ถนนสุรวงศ์ เม่ือกรุงเทพฯ ถูกท้ิงระเบิด
เราต่างต้องแยกย้ายจากกันไป ก่อนมาพบกันอีกทีเม่ือสงครามเลิก
อ๊อดตัวเล็กและไม่โกรธใคร ... มีวันหน่ึงเป็นวันเกิดของฉัน คุณครูผินและคุณครูประพิธ
อนุญาตให้พวกเราออกไปจัดงานเล้ียงกันที่ในสวนนอกโรงเรียน เม่ือเราพร้อมกันแล้ว แต่อ๊อดยังช่วย
คณุ ครทู �ำงานไมเ่ สรจ็ ดว้ ยความอยากรบี ไป ฉนั จงึ แอบเอาหนงั ยางวงยงิ ไปทข่ี าใตก้ ระโปรง ออ๊ ดยนื นงิ่
แค่เอามือเกาเบา ๆ ยุกยิกตรงท่ีถูกยิง และไม่หันมามอง แต่ไม่รอดพ้นสายตาคุณครู เลยท�ำโทษ
ให้ยืนรอ.... แต่สุดท้ายก็ให้ไปกินเลี้ยงกัน น่ีเป็นความประทับใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีต่ออ๊อดในวัยเด็ก
วงเดือน ศีตะจิตต์
. 130 .
. .
อ๊อดเป็นคนเรียนเก่ง ไม่มีใครแซงเขาได้นอกจาก “จงรัก” สลับกันได้ท่ีหนึ่ง ถึงอย่างน้ัน
อ๊อดก็ยังเห็นความสามารถของคนอ่ืน ไม่เคยทะนงตนว่าเก่งคนเดียว ท�ำให้ฉันรู้สึกภูมิใจเพื่อนรัก
คนนี้มาก อ๊อดเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน วันเกิดฉันอ๊อดเคยเขียนค�ำอวยพรเป็นกลอนที่น่าประทับใจ....
ฉันยังเก็บการ์ดไว้จนทุกวันนี้
เกษศรี ตันธุวนิตย์
อ๊อดมีน้�ำใจต่อเพ่ือน ๆ จ�ำได้ว่าสมัยเรียนหนังสือ เวลากลับมาจากบ้านก็มักมีของฝากเล็ก ๆ
น้อย ๆ เช่น กิ๊บติดผม ดินสอ สมุดสวย ๆ มาฝากเสมอ อ๊อดตัวเล็ก เรียนเก่งได้ที่ ๑ เสมอ
จึงช่วยสอนการบ้านให้ฉนั ในขณะทอ่ี ๊อดไม่ชอบท�ำการฝีมือ ฉนั จงึ ชว่ ยท�ำให้เปน็ ประจ�ำ มคี รัง้ หนึ่ง
ชั่วโมงวาดรูป คุณครูผินให้วาดรูปแจกันดอกไม้ พอเธอส่งรูป คุณครูผินก็ถามว่า “ให้วาดแจกัน
ท�ำไมจึงเป็นบันได” อ๊อดมาเฉลยว่า “คุณครูให้ตีสเกล แล้วฉันก็ยังตีสเกลไม่เสร็จจ้ะ”
แสงสุนี ลิ้มพงษ์
. 131 .
. .
ชีวิตวัยท�ำงาน
อ๊อดแต่งงานตอนอยู่โรงเรียนเตรียมปี ๑ เพราะคุณหมอรอไม่ไหว อ๊อดไม่ได้ท�ำงานประจ�ำ
จึงมีเวลาได้ท�ำงานช่วยเหลือสังคมหลายแห่งอย่างทุ่มเทจนประสบความส�ำเร็จ จนได้รับ
การโปรดเกล้าฯ ให้เป็นท่านผู้หญิง ได้ไปประชุมทั้งในและต่างประเทศ จนเป็น “คนดัง” ของ
สังคม แต่ก็ยังไม่ลืมเพื่อน ยังคงนัดทานข้าวกันเป็นประจ�ำ และชวนกันไปท�ำความดีอยู่เนือง ๆ
ตอนท�ำงานใหม่ ๆ อ๊อดกับจงไม่ได้ท�ำงานจึงมารับฉันไปกินข้าวด้วยกันบ่อย ๆ บางครั้ง
ก็ไปทานข้าวบ้านมัลลิกา มีครั้งหน่ึงอ๊อดมารับไปทานอาหารกลางวันแถวถนนราชด�ำเนิน ขากลับ
ตาแปลงคนขับรถมารับ อ๊อดถามว่าไปทานข้าวท่ีไหนมา ตาแปลงตอบว่าโรงแรมรัตนโกสินทร์ครับ
พวกเราก็ข�ำ ๆ เพราะรู้ว่าไปทานท่ีข้างโรงแรมมา
แสงสุนี ลิ้มพงษ์
พอเกษียณกลุ่มรับประทานอาหารกลางวันก็ใหญ่ขึ้น มีอ๊อด ประจง แสงสุนี พันธุ์จันทร์
สนุ ติ ย์ บางครงั้ กม็ ปี ู เกษศรี ชชู พี มารว่ มดว้ ย ซงึ่ จะพบกนั ทกุ วนั พฤหสั ฯ และรบั ประทานทบี่ า้ นออ๊ ด
บ่อย ๆ ตอนนั้นมีเล็กเป็นแม่ครัวและท�ำอาหารอร่อย
ด้วยความภูมิใจในตัวเพ่ือน หม่อมหลวงพันธุ์จันทร์จึงตัดข่าวท่านผู้หญิงเก็บไว้ดู ซ่ึงประทับใจ
ในหลักการท�ำงาน “๕ จง” ของท่านผู้หญิงอ๊อด คือ
จงรักภักดี ต่อล้นเกล้าฯ
จงมุ่งม่ันท�ำ ต่องานสังคมสงเคราะห์
จงเคารพรัก ต่อคุณงามความดี
จงท�ำนุบ�ำรุง ต่อทุกศาสนา
จงสนองคุณ ต่อร่มเงาบนผืนแผ่นดิน
(เร่ืองโดยสุรพล ตรงต่อศักดิ์)
. 132 .
. .
ท่านผู้หญิงกล่าวถึงหลักธรรมในการท�ำงานสังคมสงเคราะห์ว่า “หลักธรรมท่ีน�ำมาใช้ใน
การท�ำงานคือการเห็นอกเห็นใจคนอื่น เพราะดิฉันท�ำงานก็ประเภทงานสงเคราะห์ หมายความว่า
เรามีความสามารถท่ีจะช่วยใครให้มีความสุขข้ึนมาเพียงน้อยนิด ก็ถือว่าเป็นบุญของเราแล้วท่ีมีโอกาส
ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เป็นสิ่งส�ำคัญที่คนไทยชาวพุทธต้องมีไว้เป็นประจ�ำ
บุญท่ีได้จะสุขใจอย่างมาก”
(เร่ืองโดยสุทธิคุณ กองทอง)
ด้านงานสังคม อ๊อดเป็นประธานกรรมการฝ่ายสลากรางวัลในงานกาชาด และตั้งให้ฉันเป็น
กรรมการในสมยั นน้ั ทกุ ปี จนไดร้ บั พระราชทานเหรยี ญกาชาดบอ่ ยครงั้ ดว้ ยความภาคภมู ใิ จ นอกจากน้ี
พวกเรายงั ไปชว่ ยท�ำงานสงั คมสงเคราะหต์ า่ ง ๆ พบผคู้ นมากมาย และไดไ้ ปเทย่ี วดว้ ยกนั หลายจงั หวดั
ใต้ อีสาน เหนือ กินนอนด้วยกันอย่างสนุกสนาน
หม่อมหลวงพันธุ์จันทร์ ครุฑะเสน
. 133 .
. .
ที่อ๊อดมีคือ ความสามารถในการขอร้องให้คนช่วยเหลือ ใครก็ตามท่ีได้รับการขอร้องจากอ๊อด
จะยินดีท�ำให้ด้วยความเต็มใจ เพราะอ๊อดสามารถเลือกคนได้ตรงตามความสามารถ ถูกเวลา มีวิธีพูด
และตอบแทนคนที่มาช่วยด้วยน้�ำใจ อาจเป็นค�ำขอบคุณ เป็นสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ตลอดเวลา
วงเดือน ศีตะจิตต์
ค�ำไว้อาลัย ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
ใจหาย เม่ือได้ข่าวการจากไปของท่านผู้หญิงสุมาลี (อ๊อด) เพ่ือนรักมากมาย.... เราได้พบกัน
อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่อายุ ๖ ขวบ กิน นอน เรียนด้วยกันถึง ๑๐ ปี แล้วแยกย้ายไปปฏิบัติหน้าท่ี
ให้กับครอบครัวของแต่ละคน เลี้ยงลูก ท�ำงานกัน กลับมาพบกันอีกเมื่อหมดภาระต่าง ๆ เม่ือเร่ิม
แก่ร่วงโรย เราจะพบกันทุกวันพฤหัสฯ อ๊อด ประจง แสงสุนี และสุนิตย์ ทานข้าวกลางวัน คุยกัน
ไปซ้ือของกันอย่างสนุกสนานเป็นประจ�ำ
อ๊อดจะชอบช่วยเหลือเพ่ือน ใครเดือดร้อน อ๊อดจะเข้าใจทุกเร่ืองและช่วยพวกเราเสมอ ๆ
อ๊อดเป็นน้องเล็ก อายุอ่อนกว่าเราตั้ง ๓ - ๔ ปี ไม่คิดเลยว่า อ๊อดจะจากเราไปเป็นคนแรกเลย
คิดถึง รักและอาลัย
หม่อมหลวงพันธุ์จันทร์ ครุฑะเสน
ด้วยความระลึกถึงอ๊อดเพ่ือนรัก
อ๊อดชอบพูดอะไรเป็นโคลงกลอนคล้องจองกัน วันเกิดก็จะแต่งกลอนที่ประทับใจให้เพื่อน ๆ
สมัยก่อนเวลาท่ีอ๊อดอยากไปไหนแล้วไม่อยากให้คนท่ีบ้านรู้ ก็จะไม่ใช้คนรถที่บ้าน ฉันจึงขับรถ
ให้แทนเป็นบางครั้ง
ท่านผู้หญิงสุมาลี (อ๊อด) เป็นคนดีมาก และมีความสามารถในการควบคุมตัวเองสูงมาก เวลา
ไม่สบายก็ท�ำตัวเป็นปกติไม่มีใครรู้ ท�ำให้ฉันแทบไม่รู้ข่าวการไม่สบายของอ๊อดเลย พอรู้ข่าวตกใจ
ก็เพิ่งเข้าใจว่าใจไปอยู่ท่ีตาตุ่มเป็นอย่างไร เพิ่งโดนกับตัวเอง อ้ึงไปนานจึงได้สติ ไม่รู้ว่าใครจะเป็น
เพ่ือนตายต่อไป ทุกสิ่งเกิดข้ึน ตั้งอยู่ ดับไป... นี่คือสัจธรรม
คิดถึงเพื่อนเสมอ .
วงเดือน ศีตะจิตต์
134
.
. .
ฉลองแซยิดเพื่อนแก้ว แสงสุนี
รักสนิทเน่ืองนานปี ย่ิงใกล้
จงพันธุ์จันอ๊อดมี ใจร่วม
ขอพรพระโปรดให้ สุขล�้ำพันฉน�ำ
แด่อ๊อดเพ่ือนรักท่ีสุด
ท่านผู้หญิงสุมาลี (อ๊อด) เป็นเพ่ือนท่ีรักที่สุด รักยิ่งกว่าใคร เราเป็นเพื่อนกันต้ังแต่เด็ก ๆ
ที่โรงเรียนวัฒนาฯ จ�ำไม่ได้ว่าต้ังแต่ช้ันประถม ๔ หรือเปล่า เรามีความห่วงใยกันต้ังแต่เล็กจนโต...
เม่ือเรียนจบท�ำงาน อ๊อดก็ไปขออนุญาตคุณป้าให้ไปช่วยท�ำงานที่คลินิกเมืองไทยประกันชีวิต
และยังเป็นห่วง ในตอนเย็นจึงให้กลับมาพร้อมกับคุณหมอ มาทานข้าวเย็นด้วยกัน เม่ืออ่ิมแล้ว
อ๊อดก็ไปส่งท่ีบ้าน
มีเรื่องข�ำ ตอนท่ีอ๊อดแพ้ท้อง คุณหมอไม่อยู่ ฉันเลยไปอยู่เป็นเพ่ือน เม่ือไปถึงหาอ๊อดต้ังนาน
ก็ได้ยินเสียงเรียกมาจากใต้เตียง ก้มไปดู เธอก็บอกว่าแพ้ท้องจึงไม่ชอบแสงสว่างจ้ะ
อ๊อดยังคงมีน้�ำใจส่งมาถึงลูกหลาน อุตส่าห์ไปขอให้ท่านเจ้าคุณที่วัดธาตุทองตั้งช่ือหลานชาย
คนแรกให้ และในวันแต่งงานของปอมปอมก็ไปร่วมงานตั้งแต่เช้าจนบ่าย แม้ว่าจะไม่ค่อยสบาย
แม้ทราบมาตลอดว่าอ๊อดไม่ค่อยสบาย ก็ได้แต่หวังว่าความดีท่ีเธอท�ำมาจะคอยเป็นเกราะ
คุ้มครองให้หาย สบายข้ึนมาได้ในเร็ววัน แต่เธอก็ได้จากไปอย่างสงบก่อนใครเพื่อน...
แด่อ๊อดเพื่อนรัก .
ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้เราได้เกิดมาเป็นเพ่ือนรักกันอีกนะจ๊ะ
แสงสุนี ลิ้มพงษ์
. 135
. .
น้องอ๊อดที่รัก
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช กับดิฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ตอนเด็ก ๆ เราอยู่ด้วยกันจนเธอ
ได้แต่งงานกับท่านศาสตราจารย์ นายแพทย์กษาน จาติกวนิช
เธอเป็นบุคคลที่น่ารักมาก ๆ ใจคอโอบอ้อมอารี ชอบท�ำการกุศลต้ังแต่ยังสาวจนกระท่ัง
สุดท้ายของชีวิต เธอเป็นคนร่าเริง ชอบพูดตลกโดยท�ำสีหน้าเฉย ๆ ถึงเธอจะแต่งงานไปแล้ว
แต่เธอก็ยังเชิญญาติ ๆ มาประชุมทานข้าวด้วยกันอย่างสม่ําเสมอ
เมื่อขาดเธอไป เราก็เหมือนขาดหัวหน้าที่แสนดี ขอขอบคุณความอารีและความรักที่มอบให้
แก่พวกเรา
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ได้จากพวกเราไปสู่สรวงสวรรค์แล้ว เราจะรักและไม่ลืม
ด้วยรักและคิดถึง
อุไรวรรณ อินทรียงค์ (พ่ีจ๊ีด)
. 136 .
. .
อาลัยพี่อ๊อด
คุณอุไรวรรณ อินทรียงค์ (พ่ีจ๊ีด) ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช (พี่อ๊อด) และดวงแก้ว
เอกะหติ านนท์ (นอ้ งดวง) เตบิ โตและเลน่ ดว้ ยกนั มาตง้ั แตเ่ ลก็ ๆ คณุ แมข่ องพวกเราทง้ั สามไมเ่ พยี งแต่
เป็นพี่น้องคลานตามกันมา แต่ยังรักและใกล้ชิดสนิทสนมกันยิ่ง ลูก ๆ ก็เช่นเดียวกัน เมื่อเติบโตขึ้น
คุณพ่อพี่จี๊ดเป็นผู้พิพากษา มีบางช่วงเวลาท่ีต้องไปรับราชการต่างจังหวัดบ้างก็ต้องห่างกันไป พี่อ๊อด
ไปเข้าโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย น้องดวงก็ตามไปเข้าโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยด้วย ช่วงสงครามโลก
ครงั้ ท่ี ๒ ฝา่ ยสมั พนั ธมติ รมาทงิ้ ระเบดิ ทกี่ รงุ เทพฯ แทบทกุ คนื บา้ นนอ้ งดวงอยทู่ ถ่ี นนสาทร ซงึ่ ญป่ี นุ่
มาต้ังกองบัญชาการอยู่ที่ถนนสาทรท้ังสองฟาก จึงเป็นการเส่ียงที่ลูกระเบิดจะมาลงที่บ้านเรา คุณพ่อ
น้องดวงจึงขับรถพาคุณแม่และน้องดวงไปค้างท่ีบ้านพี่อ๊อดที่ซอยแสนส�ำราญ (ถนนสุขุมวิท ซอย ๘)
ทุกคืน เพื่อหลบลูกระเบิด เพราะที่บ้านพี่อ๊อดมีหลุมหลบภัยใต้บันไดตึกที่คุณลุงหลวงยุกตเสวีวิวัฒน์
กอ่ สรา้ งไวอ้ ยา่ งดตี ง้ั แตก่ อ่ นเกดิ สงคราม พอเสยี งหวอดงั ขน้ึ ทกุ คนกว็ ง่ิ ลงไปหลบภยั ในอโุ มงคใ์ ตบ้ า้ น
เด็ก ๆ ก็สนุก หายกลัวลูกระเบิดไปชั่วขณะ ถ้าช่วงไหนไม่มีเคร่ืองบินมาท้ิงระเบิด ตกเย็นก็จะมี
การร�ำวงกันระหว่างพ่ี ๆ น้อง ๆ และเพื่อนบ้านในละแวกสุขุมวิท ซอย ๘
เราท้ังสองเม่ือเรียนจบจากโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย พ่ีอ๊อดไปศึกษาต่อที่โรงเรียน
เตรียมอุดมศึกษา หลังสงครามโลกคร้ังท่ี ๒ สงบ น้องดวงไปศึกษาต่อท่ีประเทศอังกฤษ พ่ีจี๊ด
สมรสกับคุณวิบูลย์ อินทรียงค์ มีครอบครัวไปก่อน ตามด้วยพี่อ๊อดซึ่งสมรสกับศาสตราจารย์
นายแพทย์กษาน จาติกวนิช น้องดวงเป็นคนสุดท้าย แต่ถึงทุกคนจะมีครอบครัวกันไป เราก็ยัง
ตดิ ตอ่ พบปะสงั สรรคก์ นั อยเู่ สมอ มกี ารรบั ประทานอาหารทบี่ า้ นถนนเพชรบรุ ตี ดั ใหมท่ กุ เยน็ วนั อาทติ ย์
พ่ีน้องทั้งหลายและลูกหลานก็ได้สังสรรค์กันมาโดยตลอด
. 137 .
. .
เมื่อเกิดโรคโควิดระบาด การไปมาหาสู่ระหว่างพวกเราก็ต้องหยุดกันไปเพราะความจ�ำเป็น
แตก่ ย็ งั ตดิ ต่อกันอยูเ่ สมอ เม่ือพ่อี อ๊ ดจากไป พี่จดี๊ และน้องดวงกร็ สู้ ึกใจหาย ส่วนส�ำคญั ได้ขาดหายไป
จากชีวิตพวกเรา อย่างไรก็ตาม ทุกคนต้องยอมรับและตระหนักดีว่า ด้วยคุณงามความดีท้ังหลาย
ท่ีพ่ีอ๊อดได้อุทิศตนให้แก่สังคมมาตลอดชีวิต พ่ีอ๊อดคงได้ประสบความสุขสงบในสัมปรายภพ
ตลอดกาลนาน
ด้วยรักและอาลัยย่ิง
ดวงแก้ว เอกะหิตานนท์
. 138 .
. .
คิดถึง..... “พี่อ๊อด”
ทา่ นผูห้ ญงิ สมุ าลี จาติกวนชิ หรือพอ่ี อ๊ ดของน้อง ๆ เป็นธดิ าคนโตของคุณพ่อคณุ แม่ น้อง ๆ
ทุกคนจึงเรียกท่านติดปากว่า “พี่อ๊อด” ตลอดมา
ด้วยวัยที่ห่างกันมาก ข้าพเจ้าจึงไม่ทันเห็นท่านในวัยเด็ก คุณแม่เล่าให้ฟังว่า ท่านเป็น
เด็กฉลาด น่ารัก สวย พูดจาไพเราะ อ่อนหวาน น่าฟัง เรียนเก่ง เป็นที่น่าเอ็นดูในความฉลาดพูด
มีน้ําใจ ชอบช่วยเหลือผู้คนด้วยความเมตตาปรานี อันเป็นคุณสมบัติท่ีเหมาะสมอย่างยิ่งส�ำหรับ
การท�ำงานสังคมสงเคราะห์ที่ท่านรักและปฏิบัติตลอดมา จนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง
ในวัยเด็กของน้อง ๆ ท่านให้ความสนใจกับการตกแต่งภายใน นอกจากการรักสวยรักงาม
ในการแตง่ ตวั จะมรี ปู สวยแขวนไวใ้ นหอ้ งนอนทอี่ ยกู่ บั นอ้ งนดี๊ นอกจากน้ี ทา่ นยงั ท�ำขนมเคก้ ใหท้ าน
อร่อย ๆ และตกแต่งโต๊ะอาหารให้สวยงาม เม่ือครั้งท่ีข้าพเจ้าติดตามสามีท่ีมีต�ำแหน่งผู้จัดการ
ธนาคารกรุงเทพ สาขาลอนดอน ได้ใช้ค�ำส่ังสอนของท่านในการจัดโต๊ะอาหารเวลารับรองแขกที่มา
ทานเลี้ยงท่ีบ้านพักของธนาคารให้สวยงาม
นอกจากน้ี ท่านยังสนใจท่ีจะเรียนภาษาต่างประเทศ ภาษาฝรั่งเศส และภาษาแมนดาริน
เพิ่มเติมจากภาษาอังกฤษอีกด้วย
นับแต่คุณพ่อคุณแม่สิ้นบุญไปเมื่อหลายปีก่อน ท่านก็ท�ำหน้าท่ีเป็นเสาหลักของครอบครัว
ยุกตะเสวี เป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคน ทุกวันอาทิตย์ท่านเปิดบ้านให้พวกเราไปพบปะพูดคุย
รับประทานอาหารร่วมกัน ไต่ถามทุกข์สุขซึ่งกันและกัน เป็นที่อบอุ่นใจยิ่งนัก
ในท่ีสุด วันท่ีพวกเราไม่ปรารถนาก็มาถึงตามกฎธรรมชาติที่มิอาจหลีกเล่ียงได้ พวกเรารู้สึก
ใจหายและอาลัยในการจากไปของพ่ีอ๊อด ขอตั้งจิตอธิษฐานให้คุณงามความดีและบุญกุศลที่ท่าน
ได้บ�ำเพ็ญเพียรมาตลอดชีวิต จงเป็นพลังปัจจัยให้ท่านไปสู่สุคติ ประสบแต่ความสุขสงบ
ในสัมปรายภพเทอญ
ด้วยรักและอาลัยย่ิง
สุนทรี ยุกตะเสวี ตยางคานนท์ (อ๊ีด)
. 139 .
. .
พี่อ๊อดของน้องนี๊ด
กลาง พ.ศ. ๒๔๘๗ สงครามโลกครั้งที่ ๒ ยังไม่ยุติ ความชุลมุนวุ่นวายเกิดข้ึนท่ัวโลก รวมท้ัง
ประเทศไทยของเราด้วย โดยเฉพาะที่บ้านเลขที่ ๖๓๔ ถนนสุขุมวิท ซอย ๘ (ซอยแสนส�ำราญ)
ยิ่งชุลมุนหนักเข้าไปอีก เม่ือคุณแม่ (คุณหญิงยุกตเสวีวิวัฒน์) ก�ำลังจะให้ก�ำเนิดลูกสาวคนสุดท้อง
คนขับรถต้องใช้ความสามารถท่ีมีอยู่ทั้งหมด น�ำคุณแม่ส่งโรงพยาบาลศิริราชซ่ึงไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ เลย
หลังจากเหยียบคันเร่งแบบมิด ๆ แถมฝ่าสัญญาณไฟแดงไปตลอดทาง เป็นผลให้คุณแม่ไปถึง
มือคุณหมอชัชและคุณหมอสมพรทันเวลา และแล้วน้องสาวคนสุดท้องของบ้านก็ลืมตาขึ้นมาชม
ความวุ่นวายของโลกอย่างปลอดภัย
. 140 .
. .
เม่ือกลับจากโรงพยาบาลมาถึงบ้าน คุณแม่ได้ส่งมอบหนูน้อยซึ่งอยู่ในตะกร้าหูห้ิวตกแต่ง
อย่างสวยงามภายในบุผ้าอ่อนนุ่มให้กับพ่ีสาวคนโต คือ พี่อ๊อด (ท่านผู้หญิงสุมาลี ยุกตะเสวี
จาติกวนิช) โดยบอกว่าคุณแม่มีตุ๊กตามาให้เล่นและให้เป็นผู้รับผิดชอบดูแล ขณะนั้นพ่ีอ๊อดอายุเพียง
๑๓ ปีเท่านั้น
พอมีเสียงสัญญาณแจ้งเตือนการมาท้ิงระเบิดของเคร่ืองบินญี่ปุ่น พ่ีอ๊อดจะต้องอุ้มน้องใส่
ตะกร้าห้ิวลงอุโมงค์หลบภัยใต้ถุนบ้าน เม่ือเห็นปลอดภัยแล้วก็จะหิ้วตะกร้าน้องข้ึนมา เป็นเช่นน้ี
หลายครั้งหลายหนกว่าสงครามจะสงบลง แต่หน้าท่ีของพ่ีอ๊อดยังคงด�ำเนินต่อไป คือต้องดูแล
น้องจอมยุ่งคนนี้ จนกระท่ัง........
เม่ือพ่ีอ๊อดพบรักกับคุณหมอหนุ่มนักเรียนอังกฤษรูปหล่อ (ศาสตราจารย์ นายแพทย์กษาน
จาติกวนิช) คุณหมอหล่อมาก ๆ ถึงขนาดที่นักประพันธ์มีชื่อในขณะนั้นน�ำมาบรรยายเป็นบุคลิก
ของพระเอกนวนยิ ายเรอื่ งดงั คนอา่ นตดิ กนั ทง้ั เมอื ง และยงั น�ำไปสรา้ งเปน็ ภาพยนตรอ์ กี ดว้ ย คณุ หมอ
ก�ำลังจะมาพรากพี่สาวไปจากดิฉัน แต่ด้วยความหล่อถึงขนาดก็ต้องยอม
ต่อมาพ่ีอ๊อดก็ได้เข้าสู่ประตูวิวาห์กับพ่ีหมอ มีงานเล้ียงฉลองท่ีโรงแรมดังสุดขณะน้ัน
รตั นโกสนิ ทร์ หรอื โรงแรม Royal หวั มมุ สนามหลวง ตลอดงานคนื นน้ั เมอื่ เจา้ สาวเดนิ ไปไหนจะตอ้ งมี
นอ้ งสาววยั ๔ ขวบเดนิ ตามตดิ เกาะกระโปรงชดุ สวยของพส่ี าวไปทวั่ งาน จนกระทง่ั “นายแม”่ (คณุ แม่
ของคุณหมอกษาน) มาถามอย่างใจดีว่า “ถ้าไม่เดินเกาะพ่ีสาวไปตลอดเวลาแบบน้ี อยากได้อะไร
เป็นรางวัล บอกมาจะให้ทุกอย่าง” ดิฉันตอบทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด “อยากได้หอยมุก
ในห้องรับแขกที่บ้านนายแม่ค่ะ” เม่ือท่านรับปากว่า “ได้” เท่านั้นแหละ ดิฉันก็เลิกติดตามพี่สาว
ทันทีเพราะหลงรักหอยแสนสวยนี้มานานแล้ว ทุกคร้ังท่ีไปบ้านพ่ีหมอจะต้องไปยืนจ้องดูหอยตัวนี้
เป็นเวลานานทกุ ที ได้หอยตวั น้ีมาสมใจ เก็บไวใ้ กล้ตวั แทนพส่ี าว ปจั จบุ ันหอยนี้ถกู วางไวบ้ นชั้นโชว์
ในห้องนอนและยังมีเพ่ือนหอยอีก ๑ ตัวขนาดเท่ากันเปี๊ยบ โดยได้เพ่ือนตัวใหม่มาจากหัวหิน
หลายปแี ลว้ เมอื่ หอยมคี แู่ ลว้ ดมู คี วามสขุ ไมเ่ หงา และแทนความรกั ทด่ี ฉิ นั มตี อ่ พสี่ าว จะเกบ็ หอยทง้ั คู่
ไว้ใกล้ตัวเสมอ
ต่อมาพ่ีอ๊อดก็มีหลานแดง (คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา) อายุห่างจากดิฉันเพียง ๕ ปี
อยดู่ ว้ ยกนั เปน็ เพอ่ื นเลน่ อยา่ งมคี วามสขุ เราจะไปอยทู่ บ่ี า้ น “ศรถี นอม” หวั หนิ ดว้ ยกนั ทกุ ๆ เดอื นเมษายน
อยู่นานเป็นเดือน เป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขมาก เราจะนอนกลางวันด้วยกัน พ่ีอ๊อดจะมีหนังสือ
การต์ นู สนกุ ๆ มาเลา่ ใหห้ ลานแดงฟงั ดฉิ นั กไ็ ดฟ้ งั ไปดว้ ยและเรากห็ ลบั ไปดว้ ยกนั พอตนื่ ขนึ้ กพ็ ากนั ไป
เล่นทราย ว่ายนํ้า ตกค่�ำก็ชวนกันไปเล่นกอล์ฟเล็กที่โรงแรมรถไฟ ล่าถ้วยรางวัลมาครองหลายใบ
และยังเก็บไว้อย่างดีจนถึงบัดนี้
. 141 .
. .
คราวท่ีดิฉันป่วยต้องเข้ารับการผ่าตัดหลอดเลือดสมองซึ่งต้องนอนโรงพยาบาลระยะยาว
พ่ีอ๊อดจะไปเย่ียมเฝ้าดูอาการด้วยความห่วงใยและยังมีอาหารไปฝากคนเฝ้าไข้อีกด้วย พ่ีอ๊อดได้บอก
กับสามีดิฉันว่า “น้องสาวของพ่ี จะท�ำทุกอย่างให้น้องของพ่ีหายป่วย” และในท่ีสุดดิฉันก็หาย
เป็นปกติ
ชีวิตด�ำเนินไปอย่างมีความสุข ทุกวันอาทิตย์สังสรรค์รวมญาติ ทานข้าวและมีกิจกรรมร่วมกัน
กลายเปน็ ครอบครวั ใหญ่ มลี กู ๆ หลาน ๆ และเหลน ๆ เพิม่ ข้นึ มากมาย วันเวลาผ่านไป คนเก่า ๆ
ก็ค่อย ๆ จากไป เหลือพี่อ๊อดเป็นร่มโพธ์ิร่มไทรของตระกูล และยังมีพี่สาวซึ่งเปรียบเสมือนเพ่ือน
อีกคน อายุไล่เลี่ยกันจนเกือบจะเป็นฝาแฝด คือ พี่อ๊ีด (สุนทรี ยุกตะเสวี ตยางคานนท์) ให้ดิฉัน
ได้กอดยามเหงา
ทุกอย่างต้องมาสะดุดหยุดลงเมื่อเกิดโรคระบาดไวรัสโควิด ๑๙ การพบปะสังสรรค์จ�ำเป็นต้อง
หยุดชั่วคราว ต่อมาก็ได้ข่าวว่าพ่ีอ๊อดป่วยตามวัย เข้ารักษาตัวท่ีโรงพยาบาล ไม่สามารถเข้าเย่ียมได้
ด้วยมาตรการป้องกันโรคระบาด พวกเราทุกคนรอรับทราบอาการจากหลานแดงซึ่งจะติดต่อกับ
คณะแพทยท์ ร่ี กั ษา ตา่ งภาวนาใหพ้ อ่ี อ๊ ดหายกลบั คนื เปน็ ปกติ ทกุ คนื กอ่ นนอนดฉิ นั จะสวดมนตภ์ าวนา
ให้พ่ีอ๊อดหายจากความเจ็บป่วยและเฝ้ารอคอยการกลับ แต่ในที่สุดก็ได้รับข่าวเศร้า พ่ีอ๊อดได้จาก
พวกเราไปโดยไม่มีโอกาสได้ร�่ำลา
ดิฉันต้องเสียน้ําตาอีกคร้ังหน่ึงหลังจากท่ีเคยเกิดมาแล้วเม่ือคุณพ่อ คุณแม่ พ่ีชายสองคน
จากไป ครงั้ นนี้ บั เปน็ การสญู เสยี ผเู้ ปรยี บเสมอื นเปน็ “แม”่ คนทสี่ อง ทดี่ แู ลใสใ่ จทกุ เรอื่ งตงั้ แตแ่ รกเกดิ
จนถึงวาระสุดท้ายของพ่ี น้องขอภาวนาให้พ่ีอ๊อดไปสู่สรวงสวรรค์ชั้นฟ้า เป็นเทพธิดาที่มีแต่ความสุข
ชั่วกาลนาน
จากน้องน๊ีดของพี่อ๊อด
สุพัฒนา ยุกตะเสวี อาทรไผท
หอยมุกนี้แทนกายพี่อ๊อด จะอยู่เคียงข้างน้องเสมอ .
พ่ีอ๊อดจะไม่เหงา เพราะมีเพื่อนอยู่ด้วยเสมอ
. 142
. .
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
ในความทรงจ�ำ
ผมเรียกท่านว่า “พ่ีอ๊อด” เป็นพี่สาวของภรรยา (คุณสุพัฒนา ยุกตะเสวี) ผมเข้ามาเป็น
เครือญาติของท่านเมื่อ ๕๐ ปีก่อน ได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างจากที่น่ี และสามารถน�ำไปใช้
ประกอบในการด�ำรงชีวิตได้จริง อดท่ีจะกล่าวถึงคุณหญิงยุกตเสวีวิวัฒน์ (มารดาของท่านผู้หญิง
ซึ่งก็เป็นแม่ยายผม) มิได้ ผมนับถือเป็นอาจารย์ใหญ่แห่งบ้านยุกตะเสวีทีเดียว
คุณหญงิ ยุกตเสวีววิ ัฒนท์ า่ นไดแ้ นะน�ำสิง่ ดี ๆ กบั ผมตลอดมา สง่ิ หน่ึงท่จี �ำใส่สมองไมล่ มื เลือน
และยืมค�ำพูดของท่านสอนคนอื่นต่อไปอีก ท่านบอกกับผมว่า “อังกูร คนที่เขาร่�ำรวย มีทรัพย์สิน
เงินทอง เขารับมาก จ่ายน้อย” เหมือนเตือนสติท่ีเห็นผมฟุ้งเฟ้อเท่ียวเตร่ ประโยคส้ัน ๆ
แต่โดนใจ ได้คิด ถือปฏิบัติตลอดมา ต่อมาคุณหญิงแม่ถึงแก่กรรม พ่ีอ๊อดฐานะพี่คนโตก็ได้มา
ด�ำรงต�ำแหน่งประมุขแห่งบ้านยุกตะเสวีสืบแทน
. 143 .
. .
กิจกรรมท่ีสืบสานต่อเนื่องคือ การพบปะสังสรรค์รับประทานอาหารมื้อค่�ำวันอาทิตย์มิได้
ขาดเว้น พ่ีอ๊อดน่ังหัวโต๊ะ น้อง ๆ และลูก ๆ หลาน ๆ รวมท้ังเหลน ๆ ก็มานั่งเรียงต่อเป็น
พระอันดับตามอาวุโส สมาชิกในครอบครัวมากขึ้นจนต้องขยายเป็น ๒ โต๊ะ ทุกคร้ังจะมีกิจกรรม
เป็นท่ีครึกครื้น เช่น ประกวดการแต่งกายแฟนซี ร้องเพลง การแสดงต่าง ๆ ตามที่ตนถนัด พ่ีอ๊อด
จะแจกรางวัลให้เสมอ จนพวกเราติดการสังสรรค์ทุกวันอาทิตย์ รอว่าเม่ือไรจะถึง บางครั้งท่าน
ก็เปลี่ยนสถานท่ีไปทานตามภัตตาคาร บางครั้งสัญจรไปตามสถานท่ีตากอากาศ ตามเกาะและ
โรงแรมชายทะเล เรียกได้เต็มปากเลยว่า “พี่น้ีมีแต่ให้”
พี่อ๊อดฝึกให้รู้จักมรรยาทในการรับประทานอาหาร โดยท่านท�ำเป็นแบบอย่าง (โดยไม่ต้อง
สอน) เช่น น่ังตัวตรง ไม่เท้าโต๊ะ ไม่ต้ังศอก การเค้ียวอาหาร การใช้ภาชนะอย่างไม่มีเสียง และ
ในช่วงที่ทานอาหารน้ัน ท่านยังแฝงวิธีการให้คุ้นเคยต่อการพูดในท่ีสาธารณะ (เป็นการพูดท่ีไม่ได้
มีการเตรียมตัวมาก่อน) แล้วแต่ท่านจะเลือกให้ใครพูด หมุนเวียนเปลี่ยนกันไป (น้อง ๆ สถาบัน
การฝึกพูดทีเดียว)
ส่วนผมรับหน้าที่เป็นนักร้องนักแสดงคนหน่ึง ครั้งท่ีพี่อ๊อดฉลองอายุครบ ๖๐ ปี ผมได้มี
โอกาสขึ้นเวที สวมบทเบิร์ด ธงไชย ในเพลง “พริกข้ีหนู” มีสาวไฮโซเป็นแดนเซอร์ และผมก็ยังเป็น
เอลวิส เพรสลี่ย์ ประจ�ำตัวท่านอีกด้วย พี่อ๊อดเป็นคนร่าเริงสนุกสนาน เวลาผมร้องเพลงท่านจะ
ปรบมือเป็นจังหวะและเต้นไปด้วย
งานเล้ียงย่อมมีวันเลิกรา ช่วงไวรัสโควิด ๑๙ ระบาด ท�ำให้สมาชิกบ้านยุกตะเสวีต้องห่างเหิน
กิจกรรมวันอาทิตย์จ�ำต้องหยุดพัก ทุกคนต่างรอคอยวันแห่งความสุขท่ีจะกลับมา แต่แล้วกลับมีข่าว
ท่ีสะเทือนใจเมื่อพวกเราได้ทราบว่าพ่ีอ๊อดป่วย รักษาตัวท่ีโรงพยาบาล การไปเยี่ยมไข้กระท�ำได้ยาก
ดว้ ยมาตรการปอ้ งกนั โควดิ ของโรงพยาบาล ทกุ คนไดแ้ ตค่ อยรบั ฟงั อาการและภาวนาใหท้ า่ นหายปว่ ย
แต่ข่าวสุดท้ายที่ได้รับคือความเศร้า พวกเราน้ําตาซึมกราบศพอ�ำลาท่าน ไม่มีพี่อ๊อดคุณพี่ที่แสนดี
อีกต่อไป
ขอกราบลาพี่อ๊อด พ่ีผู้มีแต่ให้ ด้วยหัวใจ
อังกูร อาทรไผท
. 144 .
. .
เรื่องราวความประทับใจ
ในท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
เมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ผมเข้าไปกราบคารวะท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
ท่ีบ้าน ได้นั่งคุยกับพ่ีแดง (คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา) โดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวของ
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช จากทุกเรื่องท่ีคุย ยิ่งท�ำให้ผมรู้สึกรัก เคารพ ภูมิใจ และประทับใจ
ในตัวท่านมากข้ึนกว่าช่วงที่ท่านยังอยู่กับเรา ท้ังเชื่อว่าพ่ีแดงก็คงรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน ก่อนกลับ
พี่แดงถามว่า แล้วหมอรู้จักคุณแม่ได้อย่างไร ค�ำถามนี้ท�ำให้ภาพความทรงจ�ำที่ย้อนหลังไปใน
พ.ศ. ๒๕๔๔ ที่โรงพยาบาลศิริราช ถูกฉายกลับมาเล่าเหตุการณ์ครั้งแรกที่ได้รู้จักท่านผู้หญิงสุมาลี
จาติกวนิช ซึ่งผมไม่เคยลืม ขณะน้ันท่านอายุ ๗๐ ปี เร่ืองท่ีน�ำท่านมาปรึกษาดูผิวเผินค่อนข้าง
ธรรมดามากกับวัยของท่าน คือเร่ืองปวดเข่าและปวดหลัง แต่เบื้องลึก คือ พรุ่งน้ีท่านจะต้องขึ้นเวที
เพ่ือมอบมงกุฎและสายสะพายแก่ผู้ชนะเลิศการประกวดนางสาวไทย เร่ืองใหญ่คือหมอทุกคน
ล้วนห้ามท่านใส่รองเท้าส้นสูง แต่ท่านกลับท�ำให้บรรยากาศการพูดคุยกลายเป็นความสนุกสนาน
และผ่อนคลาย จากการเปรยผ่านสีหน้าจริงจังแต่แฝงรอยย้ิม ถ้าเป็นเวทีอื่นจะไม่ว่า แต่น่ีเวที
นางสาวไทยจะให้ใส่รองเท้าแตะข้ึนไปคงยอมไม่ได้ ผมเรียนท่านว่าขอแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน
โดยจะลดระดับข้อห้ามมาเป็นข้อควรระวัง แล้วค่อยวางแผนระยะยาวกันอีกที หลังจากน้ันท่านก็ให้
ความไว้ใจผมมาตลอด
แม้ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช จะจากไปเม่ือวันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕ แต่ส�ำหรับผม
ภาพจ�ำ ในความเป็นตัวตนของท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ยังหวนกลับมาทุกครั้งที่นึกถึงบางสิ่ง
หรือได้ยินบางค�ำ โดยเฉพาะกับค�ำว่า
สุภาพสตรี ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช คือ อัตลักษณ์ยืนหนึ่งของค�ำน้ี จาก ๒๑ ปี
ท่ีได้ใกล้ชิด ท�ำให้ผมเชื่อสนิทใจว่าท่านไม่ใช่เป็นบุคคลที่มีลักษณะภายนอกที่เป็นสตรี
ซึ่งเพียบพร้อมด้วยบุคลิกของผู้ดีในสังคมชั้นสูงตามแบบอย่างอุดมคติของวัฒนธรรมไทยเท่านั้น
หากแต่เน้ือในยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุภาพ ท่ีไร้การปรุงแต่ง
หญิงเก่งและแกร่ง เป็นที่ยอมรับทั้งแผ่นดินว่า ท่านมีความสามารถ ความมุ่งมั่นและรอบรู้
ในเชิงลึกเกือบทุกด้าน ส�ำหรับผมขอใช้ค�ำว่าเก่งและแกร่งเกินค�ำบรรยาย เก่งเกินมนุษย์ เก่งข้ันเทพ
. 145 .
. .
สง่างาม เป็นอากัปกิริยาท่ีถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของท่านโดยแท้ ซึ่งแม้แต่ปัญหา
สุขภาพต่าง ๆ ก็ไม่สามารถบดบังหรือลดทอนความสง่างามของท่านได้ หน่ึงในหลาย ๆ บทพิสูจน์
ท่ีผมประทับใจ คือ เม่ือประมาณ ๑๐ ปีท่ีแล้ว พี่แดงมาบอกว่าจะพาคุณแม่ไปเท่ียวยุโรป พวกเรา
อยากให้หมอไปด้วย จะได้ช่วยกันดูแลท่านท่ียังมีปัญหาปวดเข่าและปวดหลังเป็นคร้ังคราว แต่ด้วย
บุคลิกที่เข้มแข็งของท่านท�ำให้ดูไม่ออก ในการเดินทางคร้ังน้ีช่วงเปลี่ยนเคร่ืองซึ่งจะต้องเดินไกล
เราจึง Request Wheelchair ให้ท่าน พอเห็นคนเข็น Wheelchair มารับ พ่ีแดงรีบกระซิบว่า
“แม่ท�ำตัวให้เหมือนคนป่วยหน่อย” เร่ืองนี้นึกถึงทีไรอดยิ้มไม่ได้ทุกที
รู้ทันและอยู่เป็น กับปัญหาสุขภาพท่ีพบบ่อยในช่วงสูงวัย เร่ืองน้ีท่านผู้หญิงสุมาลี
จาตกิ วนชิ เกง่ ทสี่ ดุ ในยคุ ปจั จบุ นั ทค่ี นอายยุ นื ยาวขน้ึ หลายคนมเี พยี ง Life Span แตข่ าดคณุ ภาพชวี ติ
หรอื Health Span เพราะถกู Handle จากโรคภยั ตา่ ง ๆ ทม่ี กั จะตามมากบั วยั แตส่ �ำหรบั ทา่ นผหู้ ญงิ
สุมาลี จาติกวนิช แล้ว ท่านกลับเป็นฝ่ายท่ี Handle ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างรู้เท่าทัน ไม่ว่า
จะเป็นเร่ืองเส้นเลือดหัวใจตีบตันจนต้องผ่าตัด Bypass ถึงสองครั้ง ปัญหาปวดเรื้อรังจากข้อเส่ือม
ทั้งเข่า หลัง คอ และมือ ได้อย่างยอดเยี่ยม จนแทบไม่มีใครเช่ือว่าท่านมีปัญหาเหล่านี้ ต่อมา
มีโจทย์ใหม่ ซ่ึงใหญ่และท้าทายท่านและครอบครัว คือ เร่ืองความจ�ำของท่านที่เร่ิมบกพร่อง
ที่รู้จักกันในชื่อโรค Alzheimer ปัญหานี้ท่านรับรู้ด้วยตัวเอง ซึ่งสร้างความกังวลไม่เฉพาะตัวท่าน
แต่รวมไปถึงครอบครัวด้วย เพราะเป็นท่ีรู้กันว่าการรักษาโรคนี้ช่วยได้เพียงระดับหน่ึงซ่ึงไม่มาก
. 146 .
. .
ผมใช้ค�ำว่า As Good As It Gets กับท่าน ท่านเองก็ยอมรับอย่างม่ันคง ท่านถามว่าที่เหลือ
จะท�ำให้เป็นภาระกับคนอ่ืนใช่ไหม และต่อมาอีกไม่นานท่านบอกกับผมว่าแม่ (ท่านแทนตนเอง
กับผมซ่ึงผมปลื้มมาก) ตัดสินใจลาออกจากต�ำแหน่งประธานและนายกของสโมสรและสมาคมต่าง ๆ
ทั้งหมดรวดเดียว ๓๔ แห่ง เพราะแม่ไม่อยู่ในภาวะเหมาะสมกับหน้าท่ีแล้ว แม่ทุ่มเทจนหลาย
หน่วยงานเจริญรุ่งเรือง ส่วนท่ียังมีอุปสรรคแม่ให้เงินช่วยเหลือเท่าท่ีเห็นสมควร ว่าจะสามารถสาน
ต่องานให้ผ่านพ้นไปได้ ตอนฟังผมถึงกับอึ้งไปพักนึง พอนึกค�ำออก จึงเรียนท่านว่าการตัดสินใจ
คร้ังน้ีถือเป็นข้ันวีรกรรมเลยครับ
ชว่ ง ๔ - ๕ ปหี ลงั ความจ�ำทา่ นลดลงคอ่ นขา้ งเรว็ ทา่ นบน่ อยา่ วา่ แตข่ า้ มวนั เลย แปรงฟนั เสรจ็
บางครั้งยังจ�ำไม่ได้ว่าแปรงแล้วหรือยัง ขณะฟังท�ำให้ผมนึกถึงอะไรบางอย่างอยู่ในใจ อาทิตย์ถัดมา
(ปกติทุกวันอาทิตย์ผมจะมาทานม้ือเย็นที่บ้านท่าน) ผมแกะ Fridge Magnet จากตู้เย็นของผม
มาใหท้ า่ น เปน็ อนั ทม่ี คี �ำคม “We do not remember the days… We remember the moments”
ผมวา่ เหมาะกบั ทา่ นในตอนนน้ั มาก เพราะสติ วจิ ารณญาณ และการตดั สนิ ใจ ณ ปจั จบุ นั ของทา่ นนน้ั
ยังเฉียบคมและมักจะมีมุกแฝงอยู่เสมอ คนนอกมาคุยด้วยจะรู้สึกว่าเป็นการสนทนาท่ีสนุกและมักจะ
ไม่เชื่อว่าท่านเป็นโรคน้ี หลานท่านแซวลับหลังว่า ท่านเนียนมาก อย่างครั้งหนึ่งท่านไปติดตาม
ตรวจทดสอบความจ�ำ ผมเข้าไปอยู่ในห้องกับท่าน หมอให้บอกช่ือของมา ๑๐ อย่าง อีกสักพัก
กลับมาถามใหม่ ปรากฏว่าท่านท�ำได้ค่อนข้างดี ผมชมท่าน ท่านย้ิมและเฉลยความจริงว่า แม่ก็
แอบเหลือบมองของรอบ ๆ ตัวในห้องนั่นแหละ ถามใหม่ก็มองใหม่ แต่ตอนนี้จ�ำอะไรไม่ได้
สักอย่างแล้ว เร่ืองน้ีผมชอบมาก เอาไว้เตือนสติตัวเองต่อไปต้องระวังถูกคนไข้โดยเฉพาะ
คนทแ่ี สนฉลาดหลอก และเรอ่ื ง We remember the moments นเี้ ขา้ ใจวา่ พแ่ี ดง (ซง่ึ นอกจากจะรบั
ความเกง่ แกรง่ ฉลาดและเฉยี บคมของคณุ แมม่ าแบบเตม็ ๆ แลว้ ยงั ประยกุ ตไ์ ดอ้ ยา่ งรว่ มสมยั อกี ดว้ ย)
คงเห็นชอบ เพราะสิ่งที่พี่แดงบริหารในการดูแลคุณแม่ตลอดมานั้นเห็นชัดว่าเป็นความสุขท่ีอยู่กับ
ปัจจุบันและท�ำอย่างดีท่ีสุดเท่าที่จะท�ำให้ได้เป็นส�ำคัญ
ความสุขของคนเรา คือ ไม่ยึดติด ไม่มองโลกในแง่ลบ ท�ำแต่สิ่งท่ีดีมีประโยชน์ต่อสังคม
รวมถึงตัวเราเอง ส�ำหรับผมท่านผู้หญิงคือแบบอย่างของค�ำพูดน้ีที่ชัดเจน
๒๑ ปีแห่งความประทับใจและภาคภูมิใจท่ีได้ใกล้ชิดและรับใช้
Always Remember ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ประดิษฐ์ ประทีปะวณิช
. 147 .
. .
ด้วยความเคารพและระลึกถึง
ท่านผู้หญิงสุมาลีท่ีเราเคยเรียกท่านติดปากกันว่าพ่ีอ๊อด เนื่องจากท่านมีอาวุโสท่ีสุดในยุค
ของเรา โดยเฉพาะท่านได้ท�ำหน้าท่ีเป็นผู้ปกครองผมในช่วงเรียนมัธยมท่ีโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
วันมอบตัวท่านเป็นคนพาผมไปและได้เลือกให้เรียนภาษาฝร่ังเศส โดยบอกว่าครอบครัวเรา
เป็นครอบครัวช่าง ต้องเรียนภาษานี้จะได้เติบโตเป็นช่างเหมือนกันกับครอบครัว คําท่ีท่านพูด
วันน้ันเป็นส่ิงที่ผมนึกถึงอยู่จนทุกวันนี้และดีใจท่ีไม่ได้ท�ำให้ท่านผิดหวัง
ตลอดเวลาที่ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับท่าน ทําให้ผมรู้จักค�ำว่าสังคมสงเคราะห์ คุณสมบัติ
ของกุลสตรี และผู้ที่ทํางานตลอดชีวิต ไม่เคยเห็นท่านหาความสุขส่วนตัวเลยจริง ๆ นอกเสียจาก
การไปพักผ่อนช่วงหน้าร้อนที่บ้านศรีถนอม หนองแกเท่านั้น ท่ีเห็นท่านไม่ท�ำงานและมีความสุข
กับการได้พักผ่อน
ผมนึกไม่ออกเลยว่าจะมีผู้ใดท่ีมีความสมบูรณ์แบบของกุลสตรีเหมือนอย่างท่าน
ด้วยความเคารพและระลึกถึงอยู่ในใจเสมอ
ดร.คงศักด์ิ ยุกตะเสวี
ศิลปินแห่งชาติ
. 148 .
. .
ขอคารวะ
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ได้ให้ผมเขียนเรื่องท่ีประทับใจเกี่ยวกับท่านผู้หญิงสุมาลี
จาติกวนิช แบบส้ัน ๆ ดังน้ี
เมื่อคราวที่ผมได้รับพระราชทานเล่ือนยศเป็นนายต�ำรวจช้ันนายพล ท่านผู้หญิงสุมาลี
จาติกวนิช ได้นัดญาติเพ่ือเล้ียงแสดงความยินดีให้ผม ในการท่ีมีความก้าวหน้าในหน้าท่ีราชการ
และสร้างช่ือเสียงเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าท่านได้ติดตามดูสารทุกข์สุกดิบ
ของญาติพี่น้องว่าเป็นอย่างไรบ้าง หรือท่านใดมีปัญหาสุขภาพ เจ็บป่วย เช่น คุณแม่ของผมป่วย
เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ท่านได้กรุณาเขียนจดหมายให้ก�ำลังใจแก่คุณแม่ของผม ซ่ึงแสดงให้เห็นว่า
ท่านมีความห่วงใยในความเป็นอยู่ของญาติพ่ีน้อง และหากมีโอกาสก็จะพยายามให้ก�ำลังใจ
ในลักษณะต่าง ๆ ดังเช่นท่ีผมและครอบครัวเคยได้รับความเมตตาจากท่านตลอดมา
ขอคารวะท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ
พลต�ำรวจตรี จิรยุส ยุกตะเสวี
. 149 .