The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิทยาการคำนวณ ป.6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nuengcomputer, 2021-09-29 13:08:26

วิทยาการคำนวณ ป.6

วิทยาการคำนวณ ป.6

การประเมนิ จากการทำกจิ กรรม

ระดับคะแนน

3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ

รหัส สงิ่ ทปี่ ระเมิน ระดับคะแนน

ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

S1 การสงั เกต

S8 การลงความเห็นจากข้อมูล

S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรปุ

ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21

C4 การสอื่ สาร

C5 ความรว่ มมอื

8. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้
- หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

สสวท.
- ผังงาน oho.ipst.ac.th/im/6191
- เรยี นรผู้ งั งาน oho.ipst.ac.th/im/6192
- การเปรยี บเทยี บน้ำหนกั oho.ipst.ac.th/im/6193

9. ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ.......................................................... แลว้ มีความเหน็ ดังนี้
1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
 ดีมาก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรงุ
2. การจัดกจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 เนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
 ยงั ไมเ่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ พัฒนาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่
 นำไปใช้ได้จรงิ
 ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ..................................................
(.................................................)
วันที่........เดือน...............พ.ศ. ...........

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอืน่ ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชอื่ ..................................................ครผู ู้สอน
(.................................................)

ตำแหนง่ ............................................

แนวคําตอบแบบฝกึ หดั ท้ายบท

ขอ้ 1. อมิ่ จะหยดุ อยทู่ ี่ช่อง E2
ข้อ 2. นกั เรียนจะไม่ต้องทำขัน้ ตอน รับเงินทอนและตรวจนบั
ขอ้ 3. กระปกุ ออมสนิ E หนักทสี่ ดุ

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี)

ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 ปีการศกึ ษา ..........

เรือ่ ง รับน้องใหม่ หวั ใจปง๊ิ ๆ ตอน ตามล่าหาสมบตั ิ เวลา 1 ชว่ั โมง

ครูผสู้ อน.........................................

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ดั
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน
และการแก้ปญั หาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รูเ้ ท่าทันและมจี ริยธรรม
ตัวชีว้ ดั ป.6/1 ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการอธิบายและออกแบบวธิ กี ารแก้ปญั หาท่ีพบใน
ชวี ิตประจำวัน

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (ความรู,้ ทักษะ, เจตคต)ิ
1. นกั เรียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจเก่ียวกบั การใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ัญหา
2. นักเรียนสามารถใชผ้ ังงานแสดงขน้ั ตอนในการทำงานหรอื การแก้ปญั หาได้
3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์และสามารถใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาใน

ชวี ติ ประจำวันได้

3. สาระสำคญั
การเปรียบเทียบสงิ่ ของสามารถทำได้หลายวธิ ี เช่น เปรยี บเทียบทลี ะชน้ิ หรอื แบ่งสิ่งของออกเป็นกลุ่ม

แลว้ นำมาเปรยี บเทยี บกนั
วิธีการแก้ปัญหาหนึ่ง ๆ มีได้หลายวิธี แต่ละวิธีอาจมีจำนวนขั้นตอนที่ไม่เท่ากัน แต่สามารถแก้ปัญหา

ไดเ้ ช่นเดียวกัน
การแสดงขั้นตอนในการแก้ปัญหาสามารถทำได้โดยเขียนรหัสลำลอง หรือเขียนผังงาน ผังงาน

(flowchart) ใช้ออกแบบหรือวางแผนขั้นตอนการทำงาน ช่วยให้เข้าใจขั้นตอนและเห็นภาพการทำงานท่ี
ชัดเจนขึ้น และสามารถตรวจสอบ ย้อนกลับเมื่อพบข้อผิดพลาดในการทำงานได้ นอกจากนี้เราสามารถใช้ผัง
งาน แสดงขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ด้วย สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเขียน ผังงาน เช่น เริ่มต้น/
จบ การปฏิบตั ิงาน การตัดสนิ ใจ ทศิ ทาง

4. สาระการเรียนรู้
1. การใช้เหตผุ ลในการแก้ปัญหา
2. การเขยี นผงั งานเพื่อแสดงข้ันตอนการแก้ปญั หา

5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. อยูอ่ ย่างพอเพียง
3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

5. ชิ้นงานหรือภาระงาน
ใบกจิ กรรมท่ี 1.1 ตามล่าหาสมบัติ

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

โดยเน้นผ้เู รียนเปน็ สำคัญ ดำเนนิ การเรียนการสอนดังตอ่ ไปน้ี

1. ข้นั สร้างความสนใจ (engagement)
1. ครูทบทวนความรู้เดิมโดยให้นักเรียนตอบคําถามในสำรวจความรู้ก่อนเรียน และอาจใช้

คำถามอนื่ ๆ เชน่
- สำลี 1 กโิ ลกรัม กับ ผา้ พนั แผล 1 กโิ ลกรัม อะไรมนี ำ้ หนกั มากกวา่ กนั (หนกั เท่ากัน)
- นักเรียนรจู้ กั ไมก้ ระดกหรอื ไม่ มีลักษณะอยา่ งไร
- นักเรยี นเคยเลน่ ไม้กระดกหรือไม่ เวลาเลน่ สามารถสลบั ขนึ้ ลงกับเพอื่ นได้หรือไม่
- นกั เรยี นคิดว่าถา้ ไม้กระดกไมส่ ามารถสลบั ขึน้ ลงไดเ้ ปน็ เพราะอะไร (เสีย จังหวะไม่พอดี)

ไม้กระดกที่มีผ้เู ล่น 2 คน ถ้าคนหนึง่ ผอมมากและอีกคนน้ำหนัก เยอะมากจะสลับขึ้นลงไดส้ ะดวกหรือไม่เพราะ
อะไร (สลับขนึ้ ลงได้ยาก เพราะด้านท่ีมีคนนำ้ หนกั เบาจะยกขน้ึ ตลอดและไม่มีแรงกดกระดานลงด้านล่าง)

2. ขน้ั สำรวจและคน้ หา (exploration)
1. ครูนำอภิปรายเน้อื หาในหนังสือเรียน บทที่ 1 รบั น้องใหมห่ วั ใจปงิ้ ๆ หนา้ 3 – 14 (ถึงภาพ

ที่เด็ก ๆ ช่วยกันชั่งของขวัญและแกะกระดาษ เพื่อนำยางลบออกมา) โดยระหว่างการอภิปราย ครูอาจเปิดรูป
หรือคลิปเกี่ยวกบั เครือ่ งช่ัง 2 แขน ให้นักเรียนดู (อาจไม่ต้องให้ดู เนื้อหาทั้งหมด ในคลิป และเลือกเฉพาะการ
แสดงตัวอย่างในการชง่ั ) ตัวอยา่ งคำถามระหวา่ งการศึกษาเนือ้ หา เชน่

- เพราะอะไรในตอนแรกไม้กระดกจงึ ค้างอยู่ที่เดมิ (เพราะผเู้ ลน่ นำ้ หนักตัวตา่ งกนั มาก)
- มีวิธีแกป้ ญั หาอยา่ งไร (ให้คนนำ้ หนักใกล้เคียงกันเลน่ ด้วยกัน)
- ถา้ ต้องแกะกลอ่ งของขวญั ทง้ั หมดเพอ่ื ค้นหายางลบต้องแกะทั้งหมดก่ีคร้ัง

- ให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมาวาดแผนภาพตามวิธีการค้นหากล่อง ที่ไม่มียางลบของก้อย
โป้ง และปอ้ ม ที่แตกตา่ งจากภาพที่อธบิ ายในหนังสอื เรยี น

2. ครูนำนักเรียนศึกษาเนื้อหาในบทเรียน หน้า 14 (เริ่มที่บทสนทนาด้านลา่ ง) ถึงหน้า 16 (ถึง
ภาพท่คี ณุ ครูอธิบายสัญลกั ษณ์ท่ีใช้ ในการเขยี นผังงาน) จากนน้ั ครูยกตัวอยา่ งการเขยี นผังงานจากสถานการณ์
ในชวี ติ ประจำวนั โดยใหน้ กั เรยี นช่วยกนั เขยี นเป็น รหัสลำลองก่อน เชน่ ซื้อขนม (ควรใช้ขัน้ ตอนทีก่ ระชับเพื่อให้
นกั เรียนเข้าใจไดง้ ่าย) ดังตวั อยา่ ง

1. เร่ิมตน้
2. เลอื กขนม
3. ตรวจสอบวา่ มเี งนิ เพยี งพอหรือไม่

3.1 ถ้าจริง ซ้อื ขนม
3.2 ถ้าเท็จ ย้อนกลบั ไปทำ ข้อ 2.
4. จา่ ยเงนิ
5. จบ
3. ขนั้ อธิบายและลงขอ้ สรุป (explanation)
1. จากนั้นครูทบทวนเกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่ใช้เขียนผังงาน และให้นักเรียนช่วยกันเขียนผัง
งานบนกระดานโดยเทียบเคียงขน้ั ตอนจากรหสั ลำลอง และครูชว่ ยแนะนำโดยตง้ั คาํ ถาม เช่น
- การเริม่ ต้น ควรใช้สญั ลกั ษณ์ใด
- การแสดงให้เหน็ ถึงลำดบั ของการทำงานควรใชส้ ญั ลักษณ์ใด
- สัญลักษณ์ที่ใช้ในขั้นตอนการเลือกขนมควรเป็นสัญลักษณ์ใด ขั้นตอนการตรวจสอบว่ามี
เงินเพียงพอหรือไม่ ควรใช้สัญลักษณ์ใด สัญลักษณ์ที่เป็นการตัดสินใจ จะได้ทางเลือกที่ทาง อะไรบ้าง (2
ทางเลอื ก ทางเลอื กในกรณที ่ีเป็นจริง กับทางเลอื กในกรณีทเ่ี ป็นเทจ็ )
- เขยี นขอ้ ความ “จรงิ ” และ “เทจ็ ” ไวท้ ีต่ ำแหนง่ ใดบา้ ง
- การจ่ายเงินใชส้ ัญลกั ษณ์อะไร
- เม่ือจบขัน้ ตอนการทำงานใชส้ ัญลักษณ์ใด

ตวั อยา่ ง ผงั งานทส่ี อดคล้องกับกิจกรรม “ซ้ือขนม”

2. ครูนำนักเรียนอภิปรายเนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 21-26 โดยในส่วนของแบบฝึกหัด
ท้ายบทอาจใหน้ กั เรยี นทำในช่ัวโมงท่มี ีการสอนและอภปิ รายความร้รู ่วมกนั

3. ครูให้นักเรียนทำใบกิจกรรมที่ 1.1 เรื่อง ตามล่าหาสมบัติ โดยครูอธิบายสถานการณ์ใน
แตล่ ะกิจกรรมให้นกั เรียน เขา้ ใจก่อนลงมือทำ จากนั้นใหน้ กั เรียนออกมานำเสนอคำตอบ และแนวคิดในการหา
คำตอบ จากนน้ั ร่วมกนั อภปิ รายความคดิ เหน็ ในกรณีท่ีคาํ ตอบแตกตา่ งกัน ในกรณีทีน่ ักเรียนตอบเหมือนกันครู
อาจใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันนำเสนอวธิ ีการแกป้ ัญหาแบบอนื่ ๆ ทีแ่ ตกต่าง

4. ข้นั ขยายความรู้ (elaboration)
1. ครูนำนกั เรียนอภิปรายสรุปความรู้ท่ีไดร้ ับ ในประเด็นต่อไปนี้
- นักเรียนได้รับความรู้อะไรจากการทำกิจกรรมนี้ (รู้จักตาชั่งสองแขน การเขียนคำส่ัง

ลำลอง สัญลักษณ์ในผังงาน การเขียน ผังงาน การอธบิ ายวิธกี ารแก้ปญั หา วธิ ีการช่งั ของแบบต่าง ๆ)
- นักเรียนสามารถบอกขั้นตอนในการแก้ปัญหาหรือการทำงาน ต่าง ๆ ในรูปแบบ

ใดบ้าง (เขียนเป็นความเรยี ง เขยี นรหัสลำลอง เขยี นผงั งาน)
- การเขียนวิธีการทำงานหรือการแก้ปัญหาในรูปของรหัสลำลองหรือผังงานมีข้อดี

อยา่ งไร (เข้าใจง่าย เหน็ ลำดบั ทีช่ ดั เจน ค้นหา ขอ้ ผิดพลาดได้งา่ ย)
- นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการแก้ปัญหาหรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ใน

ชวี ิตประจำวันอยา่ งไร (เขยี นลำดบั การทำกิจกรรม แสดงวิธีการแกป้ ญั หาใหช้ ดั เจน)
5. ขัน้ ประเมิน (evaluation)
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุด

ใดบา้ งท่ยี ังไม่เขา้ ใจหรอื ยงั มีขอ้ สงสัย ถ้ามี ครชู ่วยอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจ
2. นกั เรยี นร่วมกันประเมนิ การปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปญั หาหรืออุปสรรคใด และได้มีการ

แก้ไขอย่างไรบ้าง
3. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติ

กจิ กรรม และการนำความรู้ท่ไี ดไ้ ปใช้ประโยชน์

7. กระบวนการวัดและประเมนิ ผล
การประเมนิ การเรยี นรขู้ องนกั เรยี นทำได้ ดงั นี้
1. ประเมินความรูเ้ ดมิ จากการอภิปรายในช้ันเรียน
2. ประเมินการเรียนรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึก

กิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม

ของนักเรียน

การประเมินจากการทำกจิ กรรม

ระดบั คะแนน

3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง

รหัส สงิ่ ทป่ี ระเมิน ระดบั คะแนน

ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

S1 การสังเกต

S8 การลงความเห็นจากข้อมูล

S13 การตีความหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรปุ

ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21

C4 การส่อื สาร

C5 ความร่วมมือ

8. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
- หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

สสวท.
- แบบฝึกทักษะรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

สสวท.
- ผงั งาน oho.ipst.ac.th/im/6191
- เรียนร้ผู ังงาน oho.ipst.ac.th/im/6192
- การเปรยี บเทียบน้ำหนัก oho.ipst.ac.th/im/6193

9. ความเหน็ ของหวั หน้าสถานศึกษา/ผทู้ ไี่ ด้รับมอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ.......................................................... แล้วมีความเห็นดงั นี้
1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี
 ดีมาก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรุง
2. การจัดกจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
 ยงั ไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
 นำไปใช้ได้จริง
 ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

.................................................................................................................................................... ..........................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ..................................................
(.................................................)

วันท่ี........เดือน...............พ.ศ. ...........

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอืน่ ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชอื่ ..................................................ครผู ู้สอน
(.................................................)

ตำแหนง่ ............................................

แนวคําตอบแบบฝกึ หดั ท้ายบท

ขอ้ 1. อมิ่ จะหยดุ อยทู่ ี่ช่อง E2
ข้อ 2. นกั เรียนจะไม่ต้องทำขัน้ ตอน รับเงินทอนและตรวจนบั
ขอ้ 3. กระปกุ ออมสนิ E หนักทสี่ ดุ

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 4

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี)
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ปีการศึกษา ..........
เรอ่ื ง รับน้องใหม่ หัวใจป๊งิ ๆ ตอน ตราช่ังแสนกล เวลา 1 ชั่วโมง
ครูผสู้ อน.........................................

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน
และการแก้ปัญหาไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ รู้เท่าทันและมีจริยธรรม
ตัวช้วี ัด ป.6/1 ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการอธบิ ายและออกแบบวธิ กี ารแกป้ ญั หาท่ีพบใน
ชวี ติ ประจำวัน

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (ความร้,ู ทกั ษะ, เจตคติ)
1. นกั เรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ัญหา
2. นกั เรยี นสามารถใช้ผงั งานแสดงขั้นตอนในการทำงานหรือการแกป้ ญั หาได้
3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์และสามารถใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาใน

ชวี ติ ประจำวันได้

3. สาระสำคญั
การเปรียบเทียบส่ิงของสามารถทำได้หลายวธิ ี เช่น เปรยี บเทยี บทลี ะชิ้น หรอื แบ่งสง่ิ ของออกเป็นกลุ่ม

แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน
วิธีการแก้ปัญหาหนึ่ง ๆ มีได้หลายวิธี แต่ละวิธีอาจมีจำนวนขั้นตอนที่ไม่เท่ากัน แต่สามารถแก้ปัญหา

ไดเ้ ช่นเดยี วกัน
การแสดงขั้นตอนในการแก้ปัญหาสามารถทำได้โดยเขียนรหัสลำลอง หรือเขียนผังงาน ผังงาน

(flowchart) ใช้ออกแบบหรือวางแผนขั้นตอนการทำงาน ช่วยให้เข้าใจขั้นตอนและเห็นภาพการทำงานที่
ชัดเจนขึ้น และสามารถตรวจสอบ ย้อนกลับเมื่อพบข้อผิดพลาดในการทำงานได้ นอกจากนี้เราสามารถใช้ผัง
งาน แสดงขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ด้วย สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเขยี น ผังงาน เช่น เริ่มต้น/
จบ การปฏบิ ตั งิ าน การตดั สนิ ใจ ทศิ ทาง

4. สาระการเรียนรู้
1. การใช้เหตุผลในการแก้ปญั หา
2. การเขียนผงั งานเพือ่ แสดงข้นั ตอนการแก้ปัญหา

5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. อย่อู ย่างพอเพียง
3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

5. ช้ินงานหรือภาระงาน
ใบกจิ กรรมท่ี 1.2 ตราชั่งแสนกล

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดำเนินการเรยี นการสอนดังตอ่ ไปน้ี

1. ขน้ั สร้างความสนใจ (engagement)
1. ครูทบทวนความรู้เดิมโดยให้นักเรียนตอบคําถามในสำรวจความรู้ก่อนเรียน และอาจใช้

คำถามอน่ื ๆ เช่น
- นกั เรียนรจู้ ักไมก้ ระดกหรือไม่ มลี กั ษณะอยา่ งไร
- นักเรียนเคยเล่นไม้กระดกหรือไม่ เวลาเลน่ สามารถสลบั ขึ้นลงกบั เพ่อื นได้หรอื ไม่
- นกั เรียนคิดว่าถ้าไม้กระดกไม่สามารถสลบั ขึ้นลงไดเ้ ปน็ เพราะอะไร (เสีย จังหวะไม่พอดี)

ไมก้ ระดกที่มีผู้เลน่ 2 คน ถา้ คนหนงึ่ ผอมมากและอกี คนน้ำหนัก เยอะมากจะสลับข้ึนลงได้สะดวกหรือไม่เพราะ
อะไร (สลบั ขึน้ ลงได้ยาก เพราะด้านท่มี ีคนน้ำหนักเบาจะยกขึ้นตลอดและไมม่ ีแรงกดกระดานลงด้านลา่ ง)

2. ขน้ั สำรวจและคน้ หา (exploration)
1. ครนู ำอภปิ รายเนื้อหาในหนงั สอื เรียน บทท่ี 1 รับน้องใหมห่ ัวใจป้งิ ๆ หนา้ 3 – 14 (ถึงภาพ

ที่เด็ก ๆ ช่วยกันชั่งของขวญั และแกะกระดาษ เพื่อนำยางลบออกมา) โดยระหว่างการอภิปราย ครูอาจเปิดรูป
หรือคลิปเกี่ยวกับเครื่องชั่ง 2 แขน ให้นักเรียนดู (อาจไม่ต้องให้ดู เนื้อหาทั้งหมด ในคลิป และเลือกเฉพาะการ
แสดงตวั อย่างในการชงั่ ) ตัวอย่างคำถามระหว่างการศกึ ษาเนอื้ หา เช่น

- เพราะอะไรในตอนแรกไม้กระดกจึงคา้ งอยู่ท่ีเดิม (เพราะผูเ้ ลน่ น้ำหนกั ตวั ต่างกันมาก)
- มีวิธีแกป้ ัญหาอยา่ งไร (ให้คนน้ำหนักใกล้เคยี งกนั เลน่ ด้วยกัน)
- ถา้ ต้องแกะกล่องของขวัญทงั้ หมดเพือ่ คน้ หายางลบตอ้ งแกะท้ังหมดก่ีครงั้

- ให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมาวาดแผนภาพตามวิธีการค้นหากล่อง ที่ไม่มียางลบของก้อย
โป้ง และปอ้ ม ที่แตกตา่ งจากภาพที่อธบิ ายในหนังสือเรยี น

2. ครูนำนักเรียนศึกษาเนื้อหาในบทเรียน หน้า 14 (เริ่มที่บทสนทนาด้านล่าง) ถึงหน้า 16 (ถึง
ภาพท่คี ณุ ครูอธิบายสัญลักษณ์ท่ีใช้ ในการเขยี นผังงาน) จากน้ันครยู กตวั อย่างการเขียนผังงานจากสถานการณ์
ในชวี ติ ประจำวนั โดยใหน้ กั เรยี นช่วยกนั เขยี นเป็น รหัสลำลองก่อน เช่น ซือ้ ขนม (ควรใช้ข้นั ตอนที่กระชบั เพื่อให้
นกั เรียนเข้าใจไดง้ ่าย) ดังตวั อยา่ ง

1. เร่ิมตน้
2. เลอื กขนม
3. ตรวจสอบวา่ มเี งนิ เพยี งพอหรือไม่

3.1 ถ้าจริง ซ้อื ขนม
3.2 ถ้าเท็จ ย้อนกลบั ไปทำ ข้อ 2.
4. จา่ ยเงนิ
5. จบ
3. ขนั้ อธิบายและลงขอ้ สรุป (explanation)
1. จากนั้นครูทบทวนเกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่ใช้เขียนผังงาน และให้นักเรียนช่วยกันเขียนผัง
งานบนกระดานโดยเทียบเคียงขน้ั ตอนจากรหสั ลำลอง และครูชว่ ยแนะนำโดยตง้ั คาํ ถาม เชน่
- การเริม่ ต้น ควรใช้สญั ลกั ษณ์ใด
- การแสดงให้เหน็ ถึงลำดบั ของการทำงานควรใช้สัญลักษณใ์ ด
- สัญลักษณ์ที่ใช้ในขั้นตอนการเลือกขนมควรเป็นสัญลักษณ์ใด ขั้นตอนการตรวจสอบว่ามี
เงินเพียงพอหรือไม่ ควรใช้สัญลักษณ์ใด สัญลักษณ์ที่เป็นการตัดสินใจ จะได้ทางเลือกที่ทาง อะไรบ้าง (2
ทางเลอื ก ทางเลอื กในกรณที ่ีเป็นจริง กับทางเลอื กในกรณีทเ่ี ป็นเทจ็ )
- เขยี นขอ้ ความ “จรงิ ” และ “เทจ็ ” ไวท้ ีต่ ำแหนง่ ใดบา้ ง
- การจ่ายเงินใชส้ ัญลกั ษณ์อะไร
- เม่ือจบขัน้ ตอนการทำงานใชส้ ัญลักษณ์ใด

ตวั อยา่ ง ผงั งานทส่ี อดคล้องกับกิจกรรม “ซ้ือขนม”

2. ครูนำนักเรียนอภิปรายเนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 21-26 โดยในส่วนของแบบฝึกหัด
ทา้ ยบทอาจใหน้ ักเรยี นทำในช่ัวโมงทีม่ ีการสอนและอภิปรายความรู้ร่วมกัน

3. ครูให้นักเรยี นทำใบกจิ กรรมที่ 1.2 เรอื่ ง ตราชงั่ แสนกล โดยครอู ธบิ ายสถานการณ์ในแต่
ละกิจกรรมให้นักเรียน เข้าใจก่อนลงมือทำ จากนั้นให้นักเรียนออกมานำเสนอคำตอบ และแนวคิดในการหา
คำตอบ จากนั้นร่วมกันอภปิ รายความคิดเห็น ในกรณีที่คําตอบแตกต่างกัน ในกรณีทน่ี ักเรยี นตอบเหมือนกันครู
อาจใหน้ กั เรยี นช่วยกันนำเสนอวิธีการแก้ปญั หาแบบอื่น ๆ ท่แี ตกต่าง

4. ขนั้ ขยายความรู้ (elaboration)
1. ครูนำนักเรยี นอภิปรายสรุปความร้ทู ไ่ี ดร้ บั ในประเด็นต่อไปนี้
- นักเรียนได้รับความรู้อะไรจากการทำกิจกรรมนี้ (รู้จักตาชั่งสองแขน การเขียนคำสั่ง

ลำลอง สัญลักษณ์ในผงั งาน การเขียน ผังงาน การอธิบายวิธกี ารแกป้ ัญหา วิธกี ารช่ังของแบบตา่ ง ๆ)
- นักเรียนสามารถบอกขั้นตอนในการแก้ปัญหาหรือการทำงาน ต่าง ๆ ในรูปแบบ

ใดบ้าง (เขยี นเป็นความเรียง เขียนรหสั ลำลอง เขียนผงั งาน)
- การเขียนวิธีการทำงานหรือการแก้ปัญหาในรูปของรหัสลำลองหรือผังงานมีข้อดี

อย่างไร (เขา้ ใจงา่ ย เหน็ ลำดบั ท่ชี ดั เจน คน้ หา ข้อผิดพลาดไดง้ ่าย)
- นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการแก้ปัญหาหรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ใน

ชีวติ ประจำวนั อย่างไร (เขยี นลำดับการทำกิจกรรม แสดงวิธกี ารแก้ปัญหาใหช้ ดั เจน)
5. ขัน้ ประเมิน (evaluation)
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุด

ใดบ้างท่ียงั ไมเ่ ข้าใจหรอื ยังมขี อ้ สงสยั ถา้ มี ครชู ่วยอธบิ ายเพ่มิ เตมิ ให้นกั เรียนเขา้ ใจ
2. นักเรียนร่วมกนั ประเมนิ การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมกลุ่มวา่ มีปญั หาหรืออุปสรรคใด และได้มีการ

แกไ้ ขอยา่ งไรบ้าง
3. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติ

กจิ กรรม และการนำความรู้ท่ีได้ไปใช้ประโยชน์

7. กระบวนการวัดและประเมนิ ผล
การประเมินการเรียนรขู้ องนกั เรียนทำได้ ดงั น้ี
1. ประเมนิ ความรู้เดิมจากการอภิปรายในชนั้ เรยี น
2. ประเมินการเรียนรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึก

กิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม

ของนักเรียน

การประเมินจากการทำกจิ กรรม

ระดบั คะแนน

3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ

รหัส สงิ่ ทป่ี ระเมิน ระดับคะแนน

ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

S1 การสังเกต

S8 การลงความเห็นจากข้อมูล

S13 การตีความหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรปุ

ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21

C4 การส่อื สาร

C5 ความร่วมมือ

8. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
- หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

สสวท.
- แบบฝึกทักษะรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

สสวท.
- ผงั งาน oho.ipst.ac.th/im/6191
- เรียนร้ผู ังงาน oho.ipst.ac.th/im/6192
- การเปรยี บเทียบน้ำหนัก oho.ipst.ac.th/im/6193

9. ความเหน็ ของหวั หน้าสถานศึกษา/ผทู้ ไี่ ด้รับมอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ.......................................................... แล้วมีความเห็นดงั นี้
1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี
 ดีมาก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรุง
2. การจัดกจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
 ยงั ไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
 นำไปใช้ได้จริง
 ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

.................................................................................................................................................... ..........................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ..................................................
(.................................................)

วันท่ี........เดือน...............พ.ศ. ...........

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอืน่ ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชอื่ ..................................................ครผู ู้สอน
(.................................................)

ตำแหนง่ ............................................

แนวคําตอบแบบฝกึ หดั ท้ายบท

ขอ้ 1. อมิ่ จะหยดุ อยทู่ ี่ช่อง E2
ข้อ 2. นกั เรียนจะไม่ต้องทำขัน้ ตอน รับเงินทอนและตรวจนบั
ขอ้ 3. กระปกุ ออมสนิ E หนักทสี่ ดุ

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 5

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี)

ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปีการศึกษา ..........

เรอ่ื ง รบั น้องใหม่ หัวใจปงิ๊ ๆ ตอน ภารกิจพิชิตฝงั่ แม่นำ้ เวลา 2 ชั่วโมง

ครผู ู้สอน.........................................

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ัด
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน
และการแกป้ ญั หาได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมจี ริยธรรม
ตวั ช้วี ัด ป.6/1 ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการอธบิ ายและออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหาทพ่ี บใน
ชวี ิตประจำวัน

2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (ความรู้, ทกั ษะ, เจตคต)ิ
1. นกั เรียนมีความรูค้ วามเข้าใจเกยี่ วกบั การใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะในการแกป้ ัญหา
2. นกั เรยี นสามารถใช้ผงั งานแสดงขัน้ ตอนในการทำงานหรอื การแก้ปญั หาได้
3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์และสามารถใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาใน

ชวี ติ ประจำวันได้

3. สาระสำคัญ
การเปรยี บเทียบสิ่งของสามารถทำไดห้ ลายวธิ ี เช่น เปรียบเทียบทีละชิ้น หรือแบง่ สง่ิ ของออกเป็นกลุ่ม

แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน
วิธีการแก้ปัญหาหนึ่ง ๆ มีได้หลายวิธี แต่ละวิธีอาจมีจำนวนขั้นตอนที่ไม่เท่ากัน แต่สามารถแก้ปัญหา

ได้เชน่ เดียวกัน
การแสดงขั้นตอนในการแก้ปัญหาสามารถทำได้โดยเขียนรหัสลำลอง หรือเขียนผังงาน ผังงาน

(flowchart) ใช้ออกแบบหรือวางแผนขั้นตอนการทำงาน ช่วยให้เข้าใจขั้นตอนและเห็นภาพการทำงานท่ี
ชัดเจนขึ้น และสามารถตรวจสอบ ย้อนกลับเมื่อพบข้อผิดพลาดในการทำงานได้ นอกจากนี้เราสามารถใช้ผัง
งาน แสดงขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ด้วย สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเขียน ผังงาน เช่น เริ่มต้น/
จบ การปฏิบัตงิ าน การตัดสนิ ใจ ทิศทาง

4. สาระการเรียนรู้
1. การใช้เหตุผลในการแกป้ ญั หา
2. การเขียนผังงานเพอ่ื แสดงข้ันตอนการแกป้ ัญหา

5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
3. มุ่งมั่นในการทำงาน

5. ชน้ิ งานหรือภาระงาน
ใบกจิ กรรมท่ี 1.3 ภารกจิ พิชิตฝ่ังแม่นำ้

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

โดยเนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญ ดำเนินการเรยี นการสอนดงั ต่อไปนี้

1. ขน้ั สร้างความสนใจ (engagement)
1. ครูทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับการเขียนผังงานจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวันโดยให้

นักเรียนช่วยกันเขียนเป็น รหสั ลำลองก่อน เชน่ ซ้อื ขนม (ควรใชข้ น้ั ตอนที่กระชับเพื่อให้ นักเรียนเข้าใจได้ง่าย)
ดงั ตวั อย่าง

1. เรม่ิ ตน้
2. เลอื กขนม
3. ตรวจสอบวา่ มเี งนิ เพยี งพอหรือไม่

3.1 ถา้ จริง ซ้อื ขนม
3.2 ถา้ เท็จ ย้อนกลับไปทำ ข้อ 2.
4. จ่ายเงิน
5. จบ
2. ขัน้ สำรวจและค้นหา (exploration)
1. ครอู ธบิ ายเกยี่ วกับคำว่า “จริง” หรอื “เท็จ” ครูอาจยกตัวอยา่ ง โดยเชื่อมโยงกบั
คำวา่ “ใช่” หรือ “ไมใ่ ช่” โดยให้นกั เรยี น ตอบคำถามและกำหนดเง่อื นไขว่า ถา้ ใช่ ใหพ้ ูดวา่ “จริง” ถ้า
ไมใ่ ช่ ให้พดู ว่า เทจ็ ”
- นกั เรยี นเรยี นอยชู่ น้ั ป.6 ใชห่ รือไม่
- นกั เรียนเป็นเดก็ ผู้หญิงใชห่ รอื ไม่

- นกั เรยี นชอบทำงานบ้านใชห่ รือไม่
- คณุ ครเู ป็นคนน่ารกั ใชห่ รอื ไม่
3. ขนั้ อธิบายและลงขอ้ สรุป (explanation)
1. จากนั้นครูทบทวนเกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่ใช้เขียนผังงาน และให้นักเรียนช่วยกันเขียนผัง
งานบนกระดานโดยเทียบเคียงขน้ั ตอนจากรหสั ลำลอง และครูชว่ ยแนะนำโดยตั้งคําถาม เชน่
- การเริม่ ต้น ควรใชส้ ญั ลักษณ์ใด
- การแสดงให้เห็นถึงลำดบั ของการทำงานควรใชส้ ัญลักษณ์ใด
- สัญลักษณ์ที่ใช้ในขั้นตอนการเลือกขนมควรเป็นสัญลักษณ์ใด ขั้นตอนการตรวจสอบว่ามี
เงินเพียงพอหรือไม่ ควรใช้สัญลักษณ์ใด สัญลักษณ์ที่เป็นการตัดสินใจ จะได้ทางเลือกที่ทาง อะไรบ้าง (2
ทางเลอื ก ทางเลือกในกรณีทเ่ี ป็นจริง กบั ทางเลือกในกรณที ี่เปน็ เทจ็ )
- เขยี นขอ้ ความ “จรงิ ” และ “เทจ็ ” ไว้ที่ตำแหนง่ ใดบ้าง
- การจ่ายเงนิ ใชส้ ญั ลกั ษณอ์ ะไร
- เมือ่ จบขนั้ ตอนการทำงานใช้สัญลกั ษณ์ใด

ตัวอย่าง ผังงานท่สี อดคล้องกับกิจกรรม “ซื้อขนม”

2. ครูนำนักเรียนอภิปรายเนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 21-26 โดยในส่วนของแบบฝึกหัด
ทา้ ยบทอาจให้นักเรียนทำในชว่ั โมงที่มีการสอนและอภิปรายความรรู้ ่วมกนั

3. ครใู หน้ กั เรียนทำใบกจิ กรรมที่ 1.3 เรื่อง ภารกจิ พชิ ติ ฝ่ังแม่น้ำ โดยครูอธบิ ายสถานการณ์
ในแต่ละกิจกรรมให้นักเรียน เข้าใจกอ่ นลงมอื ทำ จากน้ันให้นกั เรยี นออกมานำเสนอคำตอบ และแนวคิดในการ
หาคำตอบ จากนน้ั รว่ มกนั อภิปรายความคิดเห็น ในกรณที ่คี ําตอบแตกต่างกัน ในกรณีท่ีนกั เรยี นตอบเหมือนกัน
ครอู าจใหน้ ักเรียนชว่ ยกันนำเสนอวิธกี ารแก้ปัญหาแบบอน่ื ๆ ทแ่ี ตกตา่ ง

4. ขน้ั ขยายความรู้ (elaboration)
1. ครูนำนักเรียนอภปิ รายสรปุ ความรทู้ ่ีไดร้ ับ ในประเดน็ ต่อไปน้ี
- นักเรียนได้รับความรู้อะไรจากการทำกิจกรรมนี้ (รู้จักตาชั่งสองแขน การเขียนคำส่ัง

ลำลอง สัญลกั ษณใ์ นผังงาน การเขยี น ผงั งาน การอธิบายวิธีการแก้ปัญหา วิธีการช่ังของแบบต่าง ๆ)

- นักเรียนสามารถบอกขั้นตอนในการแก้ปัญหาหรือการทำงาน ต่าง ๆ ในรูปแบบ
ใดบา้ ง (เขียนเป็นความเรยี ง เขียนรหสั ลำลอง เขียนผังงาน)

- การเขียนวิธีการทำงานหรือการแก้ปัญหาในรูปของรหัสลำลองหรือผังงานมีข้อดี
อย่างไร (เข้าใจงา่ ย เหน็ ลำดบั ทชี่ ดั เจน คน้ หา ข้อผิดพลาดไดง้ า่ ย)

- นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการแก้ปัญหาหรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ใน
ชวี ิตประจำวนั อย่างไร (เขยี นลำดับการทำกจิ กรรม แสดงวิธีการแกป้ ัญหาใหช้ ดั เจน)

5. ขัน้ ประเมิน (evaluation)
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุด

ใดบ้างที่ยงั ไมเ่ ข้าใจหรอื ยังมีขอ้ สงสัย ถา้ มี ครชู ว่ ยอธิบายเพม่ิ เตมิ ใหน้ ักเรียนเข้าใจ
2. นักเรยี นรว่ มกนั ประเมินการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมกลุ่มวา่ มีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการ

แกไ้ ขอย่างไรบ้าง
3. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติ

กจิ กรรม และการนำความรู้ท่ไี ดไ้ ปใชป้ ระโยชน์

7. กระบวนการวดั และประเมนิ ผล
การประเมินการเรียนรขู้ องนักเรยี นทำได้ ดังนี้
1. ประเมนิ ความรเู้ ดมิ จากการอภปิ รายในช้ันเรียน
2. ประเมินการเรียนรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึก

กิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม

ของนกั เรียน

การประเมินจากการทำกิจกรรม

ระดบั คะแนน

3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรบั ปรุง

รหสั สิ่งท่ีประเมนิ ระดับคะแนน

ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

S1 การสังเกต

S8 การลงความเหน็ จากข้อมูล

S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรุป

ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21

C4 การสื่อสาร

C5 ความร่วมมือ

8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้
- หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

สสวท.
- แบบฝึกทักษะรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

สสวท.
- ผงั งาน oho.ipst.ac.th/im/6191
- เรยี นรผู้ ังงาน oho.ipst.ac.th/im/6192
- การเปรียบเทยี บนำ้ หนกั oho.ipst.ac.th/im/6193

9. ความเห็นของหวั หน้าสถานศึกษา/ผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ของ.......................................................... แลว้ มคี วามเห็นดงั นี้
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี
 ดีมาก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรบั ปรุง
2. การจัดกจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
 เน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
 ยงั ไมเ่ นน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ควรปรับปรงุ พัฒนาตอ่ ไป
3. เป็นแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่
 นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ
 ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ..................................................
(.................................................)

วันท่ี........เดอื น...............พ.ศ. ...........

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอืน่ ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชอื่ ..................................................ครผู ู้สอน
(.................................................)

ตำแหนง่ ............................................

แนวคําตอบแบบฝกึ หดั ท้ายบท

ขอ้ 1. อมิ่ จะหยดุ อยทู่ ี่ช่อง E2
ข้อ 2. นกั เรียนจะไม่ต้องทำขัน้ ตอน รับเงินทอนและตรวจนบั
ขอ้ 3. กระปกุ ออมสนิ E หนักทสี่ ดุ

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 6

กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี)
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ปีการศึกษา ..........
เรือ่ ง คลปิ ซอ้ น ซ่อนเง่ือน เวลา 1 ช่วั โมง
ครูผสู้ อน.........................................

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ดั
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน
และการแกป้ ัญหาไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทันและมีจรยิ ธรรม
ตัวชี้วัด ป.6/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัยเข้าใจสิทธิและ หน้าที่ของตน
เคารพในสิทธขิ องผ้อู ื่น แจง้ ผ้เู กีย่ วข้องเม่ือพบขอ้ มลู หรือบุคคลที่ไมเ่ หมาะสม

2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (ความร,ู้ ทักษะ, เจตคติ)
1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีปกป้องสิทธิ์ในผลงานของตนเอง และเคารพสิทธิของ

ผ้อู ื่น
2. นกั เรยี นสามารถบอกวธิ ีปกป้องสทิ ธิใ์ นผลงานของตนเอง และเคารพสทิ ธิของผู้อนื่ ได้
3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์และสามารถใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาใน

ชวี ิตประจำวนั ได้

3. สาระสำคัญ
หากต้องการนาํ ภาพ ข้อความ หรือผลงานของผ้อู นื่ ไปใชเ้ พื่อการศึกษา ควรบอกท่ีมาของข้อมูลเพ่ือให้

เกยี รตแิ กเ่ จ้าของขอ้ มลู
การปกป้องสิทธิ์ในผลงานของตนเองทำได้โดยใส่ชื่อแสดงความเป็นเจ้าของให้ ชัดเจน การคัดลอก

ผลงานผ้อู นื่ ไปเปน็ ผลงานของตนเองเปน็ การละเมิดลขิ สทิ ธิ์ ซงึ่ มี ความผดิ ตามกฎหมาย
การนําภาพหรือข้อมูลของผู้อื่นไปเผยแพร่ในที่สาธารณะหรือบนสื่อสังคมโดย ไม่ได้รับอนุญาต เป็น

การละเมิดความเปน็ สว่ นตัวของผูอ้ ่นื
ไม่ควรบันทึกภาพหรือวิดีโอในสถานพยาบาลเพราะอาจเป็นการละเมิดสิทธิ ของผู้ป่วย และอาจกีด

ขวางการปฏิบัติงานของเจา้ หนา้ ที่

4. สาระการเรียนรู้
1. การละเมิดลขิ สิทธ์ิ
2. การปกป้องสิทธข์ิ องตนเอง
3. การไมล่ ะเมดิ ความเป็นสว่ นตัว

5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

5. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน
ใบงาน เร่ือง คลิปซ้อน ซอ่ นเงอ่ื น

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

โดยเน้นผเู้ รียนเป็นสำคัญ ดำเนนิ การเรยี นการสอนดงั ตอ่ ไปน้ี

1. ขน้ั สร้างความสนใจ (engagement)
1. ครูทบทวนความรู้จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี

ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 บทท่ี 5 เรื่อง ไลฟส์ าระ โดยเล่าให้นักเรยี นฟังแล้วตงั้ คําถามให้นกั เรียนอภปิ ราย รว่ มกนั
เกี่ยวกับการถ่ายทอดสด (Live) เช่น สถานการณ์การใด ควรถ่ายทอดสด สถานการณ์ใดที่ไม่ควรถ่ายทอดสด
และการใชส้ ื่อสงั คมออนไลนอ์ ย่างปลอดภยั มีข้อควรปฏิบัตอิ ยา่ งไรบ้าง

2. ขั้นสำรวจและค้นหา (exploration)
1. ครูนำอภิปรายโดยตั้งคำถามในประเด็นตอ่ ไปนี้
- เคยมีผู้อนื่ ถ่ายภาพของนักเรียนแลว้ นำไปโพสต์ในส่ือสังคมหรือไม่ ภาพน้ันเป็นภาพอะไร

นกั เรยี นรสู้ ึกอยา่ งไร
- นักเรยี นคิดวา่ เราสามารถโพสตภ์ าพผอู้ ่ืนบนส่ือสังคมไดห้ รือไม่ เพราะอะไร

3. ขนั้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ (explanation)
1. ครูนำนักเรียนศกึ ษาเน้ือหาในหนงั สือเรยี น บทที่ 2 คลปิ ซ้อน ซ่อนเงอ่ื นหนา้ 30-38 จากนั้น

ครูตัง้ คำถามให้นกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายเพ่มิ เติม เชน่
- โป้งกบั ก้อยไปถ่ายรปู แมวทไ่ี หน (สวนสาธารณะ)
- เพราะเหตใุ ดคณุ พ่อจงึ อนุญาตใหโ้ ปง้ และก้อยอัปโหลดวิดโี อ น้องแมวบนส่อื สาธารณะได้

(เพราะไม่มีภาพโปง้ และก้อย อยู่ในคลปิ วดิ ีโอนนั้ )

- กอ่ นถา่ ยคลปิ วดิ โี อแมว โปง้ และกอ้ ยได้ขออนุญาตเจา้ ของ แมวหรือไม่ (ขออนญุ าต)
2. ครชู ้แี จงการทำใบงาน เรอ่ื ง คลปิ ซ้อน ซอ่ นเงอื่ น จากน้ันสมุ่ นกั เรยี นมานำเสนอคำตอบ
4. ข้ันขยายความรู้ (elaboration)
1. ครนู ำนักเรยี นร่วมกนั สรุปความรู้ทไี่ ดจ้ ากการำกจิ กรรมในประเด็นตอ่ ไปนี้

- ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไรบา้ งเพ่ือไมใ่ ห้เปน็ การละเมดิ สิทธิความ เป็นส่วนตัวของผอู้ ่นื
- นักเรียนคิดว่าการเผยแพร่ภาพถ่ายของตนเองบนสื่อสังคม มีผลดีและผลเสียอย่างไร
(ข้อดีหรอื ข้อเสียจะขึ้นอยู่กับภาพ น้ันว่าเปน็ ภาพเกย่ี วกบั อะไร)
5. ข้นั ประเมนิ (evaluation)
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุด
ใดบา้ งท่ยี งั ไม่เขา้ ใจหรือยงั มีขอ้ สงสยั ถ้ามี ครูช่วยอธิบายเพิ่มเตมิ ให้นักเรยี นเข้าใจ
2. นกั เรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปญั หาหรืออุปสรรคใด และได้มีการ
แก้ไขอย่างไรบ้าง
3. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติ
กิจกรรม และการนำความรูท้ ่ีได้ไปใชป้ ระโยชน์

7. กระบวนการวัดและประเมนิ ผล

การประเมินการเรียนรู้ของนกั เรยี นทำได้ ดงั น้ี

1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภปิ รายในชน้ั เรยี น

2. ประเมินการเรียนรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึก

กจิ กรรม

3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม

ของนกั เรียน

การประเมินจากการทำกิจกรรม

ระดับคะแนน

3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรงุ

รหสั สิง่ ท่ปี ระเมนิ ระดับคะแนน

ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

S1 การสงั เกต

S8 การลงความเห็นจากข้อมลู

S13 การตีความหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรุป

ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21

C4 การสอ่ื สาร

C5 ความรว่ มมือ

8. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
- หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

สสวท.

9. ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ไี่ ดร้ บั มอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ.......................................................... แลว้ มีความเหน็ ดงั นี้
1. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่
 ดีมาก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรงุ
2. การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
 ยงั ไมเ่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี
 นำไปใช้ได้จรงิ
 ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

.................................................................................................................................................... ..........................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ..................................................
(.................................................)

วนั ท่ี........เดอื น...............พ.ศ. ...........

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอืน่ ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชอื่ ..................................................ครผู ู้สอน
(.................................................)

ตำแหนง่ ............................................

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 7

กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี)

ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ปกี ารศึกษา ..........

เร่ือง คลปิ ซ้อน ซ่อนเงอ่ื น ตอน ละเมดิ หรอื ไม่ ถามใจเธอดู เวลา 1 ชว่ั โมง

ครผู ูส้ อน.........................................

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน
และการแกป้ ญั หาได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ รเู้ ท่าทนั และมีจริยธรรม
ตัวชี้วัด ป.6/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัยเข้าใจสิทธิและ หน้าที่ของตน
เคารพในสทิ ธิของผู้อ่นื แจ้งผเู้ กีย่ วข้องเมอื่ พบข้อมลู หรอื บคุ คลที่ไมเ่ หมาะสม

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (ความรู้, ทักษะ, เจตคต)ิ
1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีปกป้องสิทธิ์ในผลงานของตนเอง และเคารพสิทธิของ

ผอู้ น่ื
2. นักเรียนสามารถบอกวิธปี กป้องสทิ ธิ์ในผลงานของตนเอง และเคารพสิทธิของผู้อื่นได้
3. นกั เรยี นมีเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ วิชาวทิ ยาศาสตร์และสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

3. สาระสำคญั
หากต้องการนาํ ภาพ ขอ้ ความ หรอื ผลงานของผอู้ นื่ ไปใช้เพ่ือการศึกษา ควรบอกทม่ี าของข้อมูลเพื่อให้

เกียรตแิ กเ่ จา้ ของขอ้ มลู
การปกป้องสิทธิ์ในผลงานของตนเองทำได้โดยใส่ชื่อแสดงความเป็นเจ้าของให้ ชัดเจน การคัดลอก

ผลงานผู้อนื่ ไปเป็นผลงานของตนเองเปน็ การละเมดิ ลิขสทิ ธิ์ ซงึ่ มี ความผดิ ตามกฎหมาย
การนําภาพหรือข้อมูลของผู้อื่นไปเผยแพร่ในที่สาธารณะหรือบนสื่อสังคมโดย ไม่ได้รับอนุญาต เป็น

การละเมดิ ความเป็นส่วนตัวของผอู้ นื่
ไม่ควรบันทึกภาพหรือวิดีโอในสถานพยาบาลเพราะอาจเป็นการละเมิดสิทธิ ของผู้ป่วย และอาจกีด

ขวางการปฏิบตั งิ านของเจ้าหนา้ ที่

4. สาระการเรียนรู้
1. การละเมดิ ลิขสทิ ธิ์
2. การปกปอ้ งสทิ ธ์ิของตนเอง
3. การไมล่ ะเมิดความเปน็ ส่วนตวั

5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. อยู่อย่างพอเพียง
3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

5. ชิ้นงานหรือภาระงาน
ใบกจิ กรรมที่ 2.1 ละเมิดหรอื ไม่ ถามใจเธอดู

6. กิจกรรมการเรียนรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

โดยเน้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั ดำเนินการเรียนการสอนดงั ต่อไปน้ี

1. ขน้ั สรา้ งความสนใจ (engagement)
1. ครูทบทวนความรู้จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี

ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 บทที่ 5 เรื่อง ไลฟส์ าระ โดยเลา่ ให้นกั เรยี นฟังแลว้ ตัง้ คําถามให้นกั เรยี นอภปิ ราย รว่ มกนั
เกี่ยวกับการถ่ายทอดสด (Live) เช่น สถานการณ์การใด ควรถ่ายทอดสด สถานการณ์ใดที่ไม่ควรถ่ายทอดสด
และการใชส้ ื่อสังคมออนไลน์อย่างปลอดภัยมีข้อควรปฏิบัตอิ ยา่ งไรบ้าง

2. ข้นั สำรวจและคน้ หา (exploration)
1. ครูนำนกั เรยี นศกึ ษาเนอ้ื หาในหนังสือเรยี น บทท่ี 2 คลิปซ้อน ซอ่ นเงื่อนหน้า 30-38 จากน้ัน

ครตู ั้งคำถามให้นกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายเพม่ิ เตมิ เชน่
- โปง้ กบั ก้อยไปถา่ ยรปู แมวทีไ่ หน (สวนสาธารณะ)
- เพราะเหตุใดคุณพ่อจึงอนุญาตให้โป้งและก้อยอัปโหลดวดิ ีโอ น้องแมวบนสื่อสาธารณะได้

(เพราะไมม่ ีภาพโป้งและกอ้ ย อย่ใู นคลปิ วดิ ีโอน้ัน)
- ก่อนถ่ายคลิปวิดีโอแมว โป้งและก้อยได้ขออนญุ าตเจ้าของ แมวหรือไม่ (ขออนญุ าต)
- นักเรียนคิดว่าเราสามารถถ่ายภาพผู้อื่นแล้วนำไปเผยแพร่ บนสื่อสังคมได้หรือไม่ (เราไม่

ควรถ่ายภาพผู้อ่ืนไปเผยแพร่ บนส่ือสังคมกอ่ นได้รับอนญุ าตจากเจา้ ของ)
- นักเรียนคิดว่าเพราะเหตุใดคลิปวิดีโอต้นฉบับของโป้งจึงถูก ผู้อื่นนำไปเผยแพร่ต่อ (โป้ง

โพสต์คลปิ นนั้ ไว้บนสอื่ สาธารณะ)

- เพราะเหตุใดพ่ีพิงก์จึงเช่ือว่าวดิ โี อที่โพสต์เป็นของร้าน ขายอาหารสัตว์ (เพราะวันท่ีโพสต์
วดิ ีโอนน้ั โพสต์ก่อนวดิ ีโอ ท่โี ป้งตดั ต่อใหม่ และไม่ได้แสดงชือ่ เจา้ ของ)

- เราสามารถนำข้อมูลที่เผยแพรบ่ นอินเทอร์เน็ตไปใชท้ าง การศกึ ษาไดห้ รือไม่ (สามารถทำ
ได้ แตค่ วรมีการอา้ งอิงแหล่ง ท่มี าของขอ้ มูล เพื่อใหเ้ กยี รตแิ กเ่ จา้ ของขอ้ มลู )

- การกระทำของเจ้าของร้านขายอาหารสัตว์ที่นำคลิปของโป้ง ไปใช้ในการโฆษณาแล้ว
เผยแพร่บนสื่อสังคม เป็นการละเมิด ลิขสิทธิ์หรือ ละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวผู้อื่น (เป็นการละเมิดลิขสิทธ์ิ)

3. ขนั้ อธิบายและลงข้อสรุป (explanation)
1. ครชู ้แี จงและให้นกั เรียนทำใบกิจกรรมท่ี 2.1 ละเมดิ หรอื ไม่ ถามใจเธอดู จากน้ันส่มุ นกั เรยี น

นำเสนอคำตอบ แล้วร่วมกัน อภปิ รายดว้ ยคำถาม เช่น
- นอกจากพฤติกรรมในแบบฝึกทักษะนี้แล้ว นักเรียนพบพฤติกรรมอื่นที่เป็นการละเมิด

ลขิ สิทธ์ิ หรอื ละเมดิ ความเปน็ ส่วนตวั อีกหรือไม่ อย่างไร
- คำตอบของนกั เรยี นแตกตา่ งกนั หรือไม่ นกั เรียนคิดว่า คำตอบใดถูก เพราะอะไร
- เพราะเหตุใดจึงไม่ควรถ่ายภาพหรืออดั คลิปวิดโี อในห้องน้ำสาธารณะ (เพราะเป็นสถานที่

ที่ไม่เหมาะสมและเป็นสถานที่ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว การอัดคลิปวิดีโอ อาจจะมีภาพ ของบุคคลอื่นที่ใช้
บรกิ ารห้องน้ำสาธารณะติดไปกับวดิ ีโอ โดยมิไดต้ งั้ ใจ)

- เพราะเหตุใดจึงไม่ควรเผยแพร่ภาพถ่ายและวิดีโอที่ไม่เหมาะสม เช่น ภาพคนนอนหลับ
น้ำลายไหล วิดีโอการ กลั่นแกล้งกัน ภาพถ่ายของคนป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาล (สร้างความเสียหาย หรือความ
อบั อายให้ผ้ทู ่อี ยูใ่ นวดิ โี อไดถ้ อื เป็นการละเมดิ ความเปน็ สว่ นตวั ผอู้ นื่ )

4. ขัน้ ขยายความรู้ (elaboration)
1. ครนู ำนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการทำกจิ กรรมในประเด็นต่อไปนี้
- ควรปฏิบตั ิอย่างไรบา้ งเพือ่ ไม่ให้เป็นการละเมิดสทิ ธคิ วาม เป็นส่วนตวั ของผู้อน่ื
- นักเรียนคิดว่าการเผยแพร่ภาพถ่ายของตนเองบนสื่อสังคม มีผลดีและผลเสียอย่างไร

(ข้อดีหรือข้อเสียจะขนึ้ อยกู่ บั ภาพ นัน้ วา่ เป็นภาพเก่ยี วกับอะไร)
- นักเรียนได้รับความรู้อะไรจากการทำกิจกรรมนี้ (การละเมิด ลิขสิทธิ์ การละเมิดความ

เปน็ ส่วนตัว การแสดงสิทธ์ิ ความเปน็ เจ้าของ)
- นกั เรียนจะนำความรไู้ ปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อย่างไร (การปฏิบตั ิตนทไี่ ม่ละเมิดลิขสิทธ์ิและ

ไมล่ ะเมิดสทิ ธิ ความเป็นสว่ นตัวของผู้อืน่ )
5. ขั้นประเมิน (evaluation)
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุด

ใดบ้างทย่ี งั ไมเ่ ขา้ ใจหรอื ยังมขี อ้ สงสัย ถา้ มี ครูชว่ ยอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรยี นเขา้ ใจ
2. นกั เรียนร่วมกันประเมนิ การปฏิบัติกจิ กรรมกลุ่มว่ามีปญั หาหรืออุปสรรคใด และได้มีการ

แกไ้ ขอยา่ งไรบ้าง

3. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติ
กิจกรรม และการนำความร้ทู ไี่ ดไ้ ปใช้ประโยชน์

7. กระบวนการวดั และประเมินผล
การประเมนิ การเรยี นรู้ของนักเรยี นทำได้ ดังนี้
1. ประเมินความรู้เดมิ จากการอภิปรายในช้นั เรยี น
2. ประเมินการเรียนรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึก

กิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม

ของนักเรยี น

การประเมินจากการทำกิจกรรม

ระดบั คะแนน

3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรงุ

รหัส สิ่งที่ประเมนิ ระดบั คะแนน

ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

S1 การสงั เกต

S8 การลงความเห็นจากขอ้ มลู

S13 การตคี วามหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรุป

ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21

C4 การสอื่ สาร

C5 ความร่วมมือ

8. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
- หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

สสวท.
- แบบฝึกทักษะรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

สสวท.
- คลิปวิดโี อ รูท้ นั ลขิ สิทธ์ิ EP1 ตอน ทำความร้จู กั กบั ลขิ สทิ ธิ์ oho.ipst.ac.th/im/6291

9. ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ.......................................................... แลว้ มีความเหน็ ดังนี้
1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี
 ดีมาก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรงุ
2. การจัดกจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
 เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
 ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรับปรงุ พัฒนาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
 นำไปใช้ได้จริง
 ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ..................................................
(.................................................)

วันท่ี........เดือน...............พ.ศ. ...........

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอืน่ ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชอื่ ..................................................ครผู ู้สอน
(.................................................)

ตำแหนง่ ............................................

แนวคำตอบแบบฝกึ หดั ทา้ ยบท
ขอ้ 1. การกระทำทถ่ี อื เป็นการละเมิดลิขสทิ ธ์ิ
ก. นำภาพของผอู้ ื่นมาดัดแปลงแล้วนำไปขาย
ค. เผยแพรภ่ าพยนตรท์ ีก่ ำลังฉายอยู่ในโรงภาพยนตรใ์ ห้เพือ่ นดผู า่ นทางส่ือสังคม
จ. คดั ลอกเนอ้ื หาจากหนงั สอื มาดดั แปลงแลว้ เผยแพรใ่ นเว็บไซตข์ องตนเอง

ข้อ 2. การกระทำทถี่ อื เปน็ การละเมิดความเปน็ ส่วนตวั ของผู้อืน่
ก. ถา่ ยภาพครขู ณะทีค่ รกู ำลงั สอนแลว้ ส่งให้คณุ แม่ดู
ข. แอบถ่ายภาพน้องอนุบาลท่ีหนา้ ตานา่ รกั แลว้ นําไปโพสต์
ง. เผยแพร่เบอร์โทรศัพทข์ องคณุ แม่ในกลุ่มสนทนาของช้นั เรยี น

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 8

กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี)

ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ปกี ารศึกษา ..........

เร่ือง คลปิ ซ้อน ซ่อนเงอ่ื น ตอน รายงานผลิตภัณฑท์ ้องถน่ิ เวลา 1 ช่วั โมง

ครผู ูส้ อน.........................................

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน
และการแก้ปญั หาไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ รูเ้ ทา่ ทันและมีจรยิ ธรรม
ตัวชี้วัด ป.6/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัยเข้าใจสิทธิและ หน้าที่ของตน
เคารพในสิทธิของผอู้ ่นื แจ้งผู้เกยี่ วข้องเม่อื พบขอ้ มูลหรอื บคุ คลที่ไมเ่ หมาะสม

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (ความร,ู้ ทกั ษะ, เจตคติ)
1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีปกป้องสิทธิ์ในผลงานของตนเอง และเคารพสิทธิของ

ผอู้ น่ื
2. นักเรียนสามารถบอกวธิ ปี กป้องสิทธิใ์ นผลงานของตนเอง และเคารพสทิ ธิของผอู้ นื่ ได้
3. นกั เรยี นมีเจตคตทิ ี่ดตี อ่ วชิ าวทิ ยาศาสตร์และสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวันได้

3. สาระสำคญั
หากต้องการนาํ ภาพ ข้อความ หรอื ผลงานของผอู้ น่ื ไปใชเ้ พื่อการศึกษา ควรบอกทม่ี าของข้อมูลเพื่อให้

เกียรตแิ กเ่ จา้ ของขอ้ มลู
การปกป้องสิทธิ์ในผลงานของตนเองทำได้โดยใส่ชื่อแสดงความเป็นเจ้าของให้ ชัดเจน การคัดลอก

ผลงานผู้อนื่ ไปเป็นผลงานของตนเองเปน็ การละเมิดลขิ สทิ ธิ์ ซึ่งมี ความผดิ ตามกฎหมาย
การนําภาพหรือข้อมูลของผู้อื่นไปเผยแพร่ในที่สาธารณะหรือบนสื่อสังคมโดย ไม่ได้รับอนุญาต เป็น

การละเมดิ ความเป็นส่วนตัวของผู้อน่ื
ไม่ควรบันทึกภาพหรือวิดีโอในสถานพยาบาลเพราะอาจเป็นการละเมิดสิทธิ ของผู้ป่วย และอาจกีด

ขวางการปฏิบตั งิ านของเจ้าหนา้ ที่

4. สาระการเรยี นรู้
1. การละเมิดลิขสทิ ธิ์
2. การปกปอ้ งสิทธขิ์ องตนเอง
3. การไมล่ ะเมดิ ความเป็นสว่ นตัว

5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง
3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน

5. ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน
ใบกิจกรรมที่ 2.2 รายงานผลติ ภณั ฑ์ท้องถ่นิ

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

โดยเน้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั ดำเนนิ การเรยี นการสอนดงั ต่อไปน้ี

1. ขั้นสร้างความสนใจ (engagement)
1. ครูทบทวนความรู้จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี

ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 บทท่ี 5 เร่ือง ไลฟ์สาระ โดยเลา่ ให้นกั เรยี นฟังแล้วตัง้ คาํ ถามให้นกั เรยี นอภปิ ราย รว่ มกัน
เกี่ยวกับการถ่ายทอดสด (Live) เช่น สถานการณ์การใด ควรถ่ายทอดสด สถานการณ์ใดที่ไม่ควรถ่ายทอดสด
และการใช้ส่อื สงั คมออนไลนอ์ ย่างปลอดภัยมีขอ้ ควรปฏบิ ตั อิ ยา่ งไรบ้าง

2. ขั้นสำรวจและคน้ หา (exploration)
1. ครูนำนักเรียนศึกษาเนื้อหาในหนังสือเรียน บทที่ 2 คลิปซ้อน ซ่อนเงื่อน หน้า 30-50

จากนัน้ ครตู ั้งคำถามให้นักเรียนรว่ มกันอภิปราย เพม่ิ เติม เชน่
- ในระหวา่ งท่ีอยู่โรงพยาบาล โป้งและกอ้ ยทำอะไรบา้ ง (พูดคยุ กบั คณุ ย่า ถา่ ยทำคลิปวิดีโอ

เย่ยี มคนไข้ถ่ายภาพคณุ ย่า)
- เกิดอะไรขึน้ หลงั จากทโี่ ปง้ โพสตร์ ปู คุณย่าในสื่อสังคม (มีคนแสดงความหว่ งใยคุณย่า และ

จะเดินทางมาเยยี่ ม)
- คุณย่าบอกอะไรกับโป้งและก้อยเกี่ยวกับการโพสต์ภาพผู้อื่น ลงในสื่อสังคม (คุณย่าไม่

ตอ้ งการให้คนอืน่ เป็นกงั วล และ ก่อนโพสต์ภาพให้ขออนญุ าตก่อน)
- เพราะเหตุใดจึงไม่ควรถ่ายภาพหรือวิดีโอในสถานพยาบาล (เป็นการละเมิดสิทธิผู้ป่วย

และอาจขัดขวางการทำงาน ของเจ้าหน้าท)ี่

- โป้งและก้อยใช้หลักฐานอะไรเพื่อยืนยันว่าตนเองเป็น เจ้าของคลิป (ภาพจากกล้องวงจร
ปิดในสวนสาธารณะขณะท่ีโป้งและกอ้ ยถ่ายคลปิ วิดโี อแมว)

- หากนักเรียนถูกขโมยคลิป นกั เรยี นจะทำอย่างไร (แจง้ ผูป้ กครอง หรอื ครูทราบ) นักเรียน
คิดวา่ มีวธิ ีการอื่นในการยืนยนั ความเป็นเจา้ ของ ได้อกี หรอื ไม่ (ใสช่ ือ่ เจ้าของผลงานลงในคลปิ วิดโี อ)

- เพราะเหตุใดคุณแม่จึงเห็นว่า สัตวแพทย์สามารถนำภาพจาก คลิปวิดีโอของโป้งไปใช้ได้
(เพราะเปน็ การนำคลิปบางสว่ น ไปใชโ้ ดยเขยี นบอกที่มาไว้ชดั เจน และเป็นการนำไปใช้เพื่อการศกึ ษา)

- สิ่งท่ีเจ้าของรา้ นอาหารเสริมได้รบั จากการนำคลิปของโป้งและก้อยไปใชค้ ืออะไร (เจ้าของ
ร้านอาหารเสริมถูกตำรวจจับ เพราะนอกจากขโมยคลิปคนอื่นมาใช้แล้วยังปลอมอาหารสัตว์ ซ่ึงผิดกฎหมาย)

3. ขนั้ อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (explanation)
1. ครชู ี้แจงและให้นกั เรียนทำใบกิจกรรมท่ี 2.2 รายงานผลิตภณั ฑท์ อ้ งถน่ิ จากนน้ั ส่มุ นกั เรียน

นำเสนอคำตอบ โดยเปิดโอกาสให้ นักเรียนคนอื่นที่มีแนวคำตอบที่แตกต่างกัน ออกมานำเสนอและหาข้อสรปุ
ร่วมกนั

4. ขนั้ ขยายความรู้ (elaboration)
1. ครูนำนักเรียนร่วมกันสรปุ ความรูท้ ่ีได้จากการทำกิจกรรมในประเด็นต่อไปน้ี
- ควรปฏิบัตอิ ยา่ งไรบา้ งเพ่ือไม่ใหเ้ ปน็ การละเมิดสิทธคิ วาม เปน็ ส่วนตวั ของผอู้ ืน่
- นักเรียนคิดว่าการเผยแพร่ภาพถ่ายของตนเองบนสื่อสังคม มีผลดีและผลเสียอย่างไร

(ข้อดีหรอื ขอ้ เสียจะขน้ึ อยกู่ ับภาพ นั้นว่าเปน็ ภาพเก่ียวกับอะไร)
- นักเรียนได้รับความรู้อะไรจากการทำกิจกรรมนี้ (การละเมิด ลิขสิทธิ์ การละเมิดความ

เป็นส่วนตัว การแสดงสทิ ธิ์ ความเปน็ เจ้าของ)
- นกั เรยี นจะนำความรไู้ ปใช้ในชวี ิตประจำวนั อย่างไร (การปฏบิ ตั ติ นที่ไมล่ ะเมิดลิขสิทธิ์และ

ไมล่ ะเมิดสิทธิ ความเป็นสว่ นตัวของผ้อู ื่น)
5. ข้นั ประเมิน (evaluation)
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุด

ใดบ้างท่ยี ังไม่เขา้ ใจหรือยังมขี ้อสงสัย ถา้ มี ครูช่วยอธบิ ายเพิ่มเตมิ ใหน้ ักเรียนเข้าใจ
2. นักเรียนรว่ มกันประเมนิ การปฏบิ ัติกจิ กรรมกลุ่มว่ามีปญั หาหรืออุปสรรคใด และได้มีการ

แก้ไขอยา่ งไรบา้ ง
3. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติ

กิจกรรม และการนำความรูท้ ่ีได้ไปใช้ประโยชน์

7. กระบวนการวดั และประเมินผล
การประเมนิ การเรยี นรขู้ องนกั เรียนทำได้ ดังน้ี
1. ประเมินความรู้เดมิ จากการอภิปรายในชัน้ เรยี น
2. ประเมินการเรียนรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึก

กจิ กรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม

ของนกั เรยี น

การประเมนิ จากการทำกจิ กรรม

ระดับคะแนน

3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ

รหสั สงิ่ ทป่ี ระเมิน ระดบั คะแนน

ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

S1 การสงั เกต

S8 การลงความเหน็ จากขอ้ มลู

S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรุป

ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21

C4 การส่ือสาร

C5 ความรว่ มมอื

8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้
- หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

สสวท.
- แบบฝึกทักษะรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

สสวท.
- คลปิ วดิ โี อ ร้ทู ันลขิ สิทธิ์ EP1 ตอน ทำความรู้จกั กบั ลขิ สิทธ์ิ oho.ipst.ac.th/im/6291

9. ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ.......................................................... แลว้ มีความเหน็ ดังนี้
1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี
 ดีมาก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรงุ
2. การจัดกจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
 เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
 ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรับปรงุ พัฒนาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
 นำไปใช้ได้จริง
 ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ..................................................
(.................................................)

วันท่ี........เดือน...............พ.ศ. ...........

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอืน่ ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชอื่ ..................................................ครผู ู้สอน
(.................................................)

ตำแหนง่ ............................................

แนวคำตอบแบบฝกึ หดั ทา้ ยบท
ขอ้ 1. การกระทำทถ่ี อื เป็นการละเมิดลิขสทิ ธ์ิ
ก. นำภาพของผอู้ ื่นมาดัดแปลงแล้วนำไปขาย
ค. เผยแพรภ่ าพยนตรท์ ีก่ ำลังฉายอยู่ในโรงภาพยนตรใ์ ห้เพือ่ นดผู า่ นทางส่ือสังคม
จ. คดั ลอกเนอ้ื หาจากหนงั สอื มาดดั แปลงแลว้ เผยแพรใ่ นเว็บไซตข์ องตนเอง

ข้อ 2. การกระทำทถี่ อื เปน็ การละเมิดความเปน็ ส่วนตวั ของผู้อืน่
ก. ถา่ ยภาพครขู ณะทีค่ รกู ำลงั สอนแลว้ ส่งให้คณุ แม่ดู
ข. แอบถ่ายภาพน้องอนุบาลท่ีหนา้ ตานา่ รกั แลว้ นําไปโพสต์
ง. เผยแพร่เบอร์โทรศัพทข์ องคณุ แม่ในกลุ่มสนทนาของช้นั เรยี น

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 9

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี)

ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ปีการศึกษา ..........

เร่ือง คลปิ ซ้อน ซ่อนเงื่อน ตอน ละเมดิ ลขิ สทิ ธ์ิ ละเมิดความเป็นส่วนตวั เวลา 1 ชวั่ โมง

ครผู ู้สอน.........................................

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ดั
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน
และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ รู้เท่าทันและมีจริยธรรม
ตัวชี้วัด ป.6/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัยเข้าใจสิทธิและ หน้าที่ของตน
เคารพในสทิ ธขิ องผู้อน่ื แจง้ ผู้เกยี่ วขอ้ งเมอื่ พบข้อมลู หรอื บุคคลที่ไมเ่ หมาะสม

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (ความร,ู้ ทักษะ, เจตคติ)
1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีปกป้องสิทธิ์ในผลงานของตนเอง และเคารพสิทธิของ

ผอู้ นื่
2. นกั เรียนสามารถบอกวธิ ปี กปอ้ งสทิ ธ์ิในผลงานของตนเอง และเคารพสทิ ธขิ องผู้อื่นได้
3. นักเรียนมีเจตคตทิ ่ดี ตี ่อวิชาวิทยาศาสตร์และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวันได้

3. สาระสำคญั
หากต้องการนําภาพ ข้อความ หรอื ผลงานของผู้อน่ื ไปใช้เพ่ือการศึกษา ควรบอกที่มาของข้อมูลเพื่อให้

เกียรตแิ ก่เจา้ ของขอ้ มูล
การปกป้องสิทธิ์ในผลงานของตนเองทำได้โดยใส่ชื่อแสดงความเป็นเจ้าของให้ ชัดเจน การคัดลอก

ผลงานผอู้ ืน่ ไปเป็นผลงานของตนเองเป็นการละเมิดลิขสิทธ์ิ ซึ่งมี ความผิดตามกฎหมาย
การนําภาพหรือข้อมูลของผู้อื่นไปเผยแพร่ในที่สาธารณะหรือบนสื่อสังคมโดย ไม่ได้รับอนุญาต เป็น

การละเมิดความเปน็ สว่ นตวั ของผูอ้ ่นื
ไม่ควรบันทึกภาพหรือวิดีโอในสถานพยาบาลเพราะอาจเป็นการละเมิดสิทธิ ของผู้ป่วย และอาจกีด

ขวางการปฏิบัตงิ านของเจ้าหน้าที่

4. สาระการเรยี นรู้
1. การละเมดิ ลขิ สทิ ธ์ิ
2. การปกป้องสทิ ธ์ขิ องตนเอง
3. การไม่ละเมดิ ความเปน็ ส่วนตวั

5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. อย่อู ยา่ งพอเพียง
3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

5. ช้ินงานหรือภาระงาน
ใบกจิ กรรมที่ 2.3 ละเมิดลขิ สิทธ์ิ ละเมดิ ความเป็นส่วนตวั

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

โดยเนน้ ผู้เรียนเป็นสำคญั ดำเนนิ การเรยี นการสอนดังตอ่ ไปนี้

1. ขน้ั สรา้ งความสนใจ (engagement)
1. ครูทบทวนความรู้จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี

ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 บทที่ 5 เรื่อง ไลฟ์สาระ โดยเล่าให้นกั เรยี นฟงั แล้วต้งั คําถามใหน้ กั เรียนอภิปราย รว่ มกัน
เกี่ยวกับการถ่ายทอดสด (Live) เช่น สถานการณ์การใด ควรถ่ายทอดสด สถานการณ์ใดที่ไม่ควรถ่ายทอดสด
และการใชส้ ือ่ สังคมออนไลนอ์ ย่างปลอดภัยมีข้อควรปฏิบัติอย่างไรบ้าง

2. ขนั้ สำรวจและค้นหา (exploration)
1. ครูนำนักเรียนศึกษาเนื้อหาในหนังสือเรียน บทที่ 2 คลิปซ้อน ซ่อนเงื่อน หน้า 30-50

จากน้นั ครตู งั้ คำถามให้นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ ราย เพิม่ เตมิ เชน่
- ในระหว่างทีอ่ ยู่โรงพยาบาล โปง้ และกอ้ ยทำอะไรบ้าง (พูดคยุ กับคณุ ย่า ถ่ายทำคลิปวิดีโอ

เยย่ี มคนไข้ถา่ ยภาพคุณยา่ )
- เกิดอะไรข้ึนหลงั จากทโ่ี ปง้ โพสตร์ ปู คุณย่าในสื่อสงั คม (มคี นแสดงความหว่ งใยคุณย่า และ

จะเดินทางมาเย่ยี ม)
- คุณย่าบอกอะไรกับโป้งและก้อยเกี่ยวกับการโพสต์ภาพผู้อื่น ลงในสื่อสังคม (คุณย่าไม่

ต้องการใหค้ นอ่ืนเปน็ กงั วล และ ก่อนโพสตภ์ าพใหข้ ออนุญาตก่อน)
- เพราะเหตุใดจึงไม่ควรถ่ายภาพหรือวิดีโอในสถานพยาบาล (เป็นการละเมิดสิทธิผู้ป่วย

และอาจขดั ขวางการทำงาน ของเจา้ หนา้ ท)่ี

- โป้งและก้อยใช้หลักฐานอะไรเพื่อยืนยันว่าตนเองเป็น เจ้าของคลิป (ภาพจากกล้องวงจร
ปิดในสวนสาธารณะขณะที่โป้งและกอ้ ยถ่ายคลปิ วดิ ีโอแมว)

- หากนกั เรยี นถูกขโมยคลปิ นักเรยี นจะทำอยา่ งไร (แจ้งผปู้ กครอง หรอื ครูทราบ) นักเรียน
คิดวา่ มวี ิธีการอ่ืนในการยนื ยนั ความเป็นเจ้าของ ได้อีกหรือไม่ (ใสช่ ่ือเจา้ ของผลงานลงในคลิปวิดีโอ)

- เพราะเหตุใดคุณแม่จึงเห็นว่า สัตวแพทย์สามารถนำภาพจาก คลิปวิดีโอของโป้งไปใช้ได้
(เพราะเปน็ การนำคลปิ บางส่วน ไปใช้โดยเขยี นบอกที่มาไวช้ ดั เจน และเปน็ การนำไปใช้เพอื่ การศกึ ษา)

- ส่งิ ท่เี จ้าของร้านอาหารเสริมได้รับจากการนำคลปิ ของโป้งและก้อยไปใช้คืออะไร (เจ้าของ
ร้านอาหารเสริมถูกตำรวจจับ เพราะนอกจากขโมยคลิปคนอื่นมาใช้แล้วยังปลอมอาหารสัตว์ ซึ่งผิดกฎหมาย)

3. ขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรุป (explanation)
1. ครูเปิดคลิปวิดีโอรู้ทันลิขสิทธิ์ EP1 ตอน ทำความรู้จักกับลิขสิทธิ์ให้นักเรียนดู จากน้ัน

อภปิ รายร่วมกนั ประเดน็ ในการอภิปราย เช่น
- ลิขสทิ ธค์ิ อื อะไร มคี วามสำคัญอย่างไร

2. ครูชี้แจงและให้นักเรยี นทำใบกิจกรรมที่ 2.3 ละเมดิ ลขิ สทิ ธิ์ ละเมิดความเป็นส่วนตัว จากน้นั
สุ่มนักเรียนนำเสนอคำตอบ และเปิดโอกาสให้นักเรียนคนอ่ืนที่มีแนวคำตอบที่แตกต่างกนั ออกมานำเสนอ และ
หาข้อสรุปร่วมกนั

4. ข้ันขยายความรู้ (elaboration)
1. ครูนำนักเรียนร่วมกนั สรุปความรู้ทไี่ ด้จากการทำกจิ กรรมในประเดน็ ต่อไปน้ี
- ควรปฏบิ ตั อิ ยา่ งไรบ้างเพือ่ ไม่ให้เปน็ การละเมดิ สทิ ธคิ วาม เปน็ สว่ นตวั ของผอู้ น่ื
- นักเรียนคิดว่าการเผยแพร่ภาพถ่ายของตนเองบนสื่อสังคม มีผลดีและผลเสียอย่างไร

(ขอ้ ดหี รอื ขอ้ เสยี จะขึ้นอยู่กับภาพ นัน้ วา่ เปน็ ภาพเกีย่ วกบั อะไร)
- นักเรียนได้รับความรู้อะไรจากการทำกิจกรรมนี้ (การละเมิด ลิขสิทธิ์ การละเมิดความ

เป็นสว่ นตัว การแสดงสิทธิ์ ความเป็นเจา้ ของ)
- นักเรียนจะนำความรไู้ ปใชใ้ นชีวิตประจำวนั อย่างไร (การปฏิบัตติ นทไี่ มล่ ะเมิดลิขสิทธ์ิและ

ไม่ละเมดิ สทิ ธิ ความเปน็ สว่ นตัวของผู้อนื่ )
5. ข้นั ประเมิน (evaluation)
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุด

ใดบา้ งที่ยังไม่เข้าใจหรือยงั มขี อ้ สงสยั ถา้ มี ครูชว่ ยอธบิ ายเพิม่ เตมิ ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจ
2. นักเรยี นรว่ มกันประเมินการปฏบิ ัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปญั หาหรืออุปสรรคใด และได้มีการ

แก้ไขอยา่ งไรบา้ ง
3. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติ

กิจกรรม และการนำความรู้ท่ไี ด้ไปใชป้ ระโยชน์

7. กระบวนการวดั และประเมินผล
การประเมนิ การเรยี นรขู้ องนกั เรียนทำได้ ดังน้ี
1. ประเมินความรู้เดมิ จากการอภิปรายในชัน้ เรยี น
2. ประเมินการเรียนรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึก

กจิ กรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม

ของนกั เรยี น

การประเมนิ จากการทำกจิ กรรม

ระดับคะแนน

3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ

รหสั สงิ่ ทป่ี ระเมิน ระดบั คะแนน

ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

S1 การสงั เกต

S8 การลงความเหน็ จากขอ้ มลู

S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรุป

ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21

C4 การส่ือสาร

C5 ความรว่ มมอื

8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้
- หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

สสวท.
- แบบฝึกทักษะรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

สสวท.
- คลปิ วดิ โี อ ร้ทู ันลขิ สิทธิ์ EP1 ตอน ทำความรู้จกั กบั ลขิ สิทธ์ิ oho.ipst.ac.th/im/6291


Click to View FlipBook Version