The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ป.1
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566
เล่ม 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sirilak, 2023-06-16 12:58:37

แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1

แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ป.1
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566
เล่ม 1

27


28 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่1 หน่วยการเรียนรู้ที่1 เรื่อง จำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 เวลา 11 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่4 เรื่อง การเขียนตัวเลข และตัวหนังสือ เวลา 1 ชั่วโมง แสดงจำนวนหกและเจ็ด สาระที่1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการ ของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.1/1 บอกจำนวนของสิ่งต่าง ๆ แสดงสิ่งต่าง ๆ ตามจำนวนที่กำาหนด อ่านและ เขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทยแสดงจำนวนนับไม่เกิน 100 และ 0 สาระสำคัญ จำนวนนับใช้บอกจำนวนของสิ่งต่าง ๆ จำนวนนับหก เขียนเป็นตัวเลขฮินดูอารบิก 6 ตัวเลขไทย ๖ เป็นสัญลักษณ์ใช้แทนจำนวน สิ่งของหรือรูปภาพที่มีจำนวนเท่ากับหก จำนวนนับเจ็ด เขียนเป็นตัวเลขฮินดูอารบิก 7 ตัวเลขไทย ๗ เป็นสัญลักษณ์ใช้แทนจำนวน สิ่งของหรือรูปภาพที่มีจำนวนเท่ากับเจ็ด จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายการอ่าน และเขียนตัวเลขและตัวหนังสือแสดงจำนวนหกและเจ็ด ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถอ่าน และเขียนตัวเลขและตัวหนังสือแสดงจำนวนหกและเจ็ดได้ (P) 3. นักเรียนตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ เอาใจใส่ต่องานที่ได้รับมอบหมาย และส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด (A)


29 สาระการเรียนรู้ การเขียนตัวเลขและตัวหนังสือแสดงจำนวนหกและเจ็ด สมรรถนะ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย (ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด) 2. ใฝ่เรียนรู้ (ตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้) 3. มุ่งมั่นในการทำงาน (เอาใจใส่ต่องานได้รับมอบหมาย) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. นักเรียนทบทวนความรู้ เรื่อง การนับจำนวนหนึ่งถึงสิบ และศูนย์ ด้วยเพลงนับ พร้อมทั้ง ให้นักเรียนนับนิ้วมือตามจังหวะเพลงไปด้วย ขั้นสอน 2. ครูชูนิ้ว 6 นิ้ว ถามนักเรียนว่าครูชูนิ้วกี่นิ้ว (6 นิ้ว) 3. ครูชูปากกา 6 ด้าม ถามนักเรียนว่าครูมีปากกากี่ด้าม (6 ด้าม) 4. ครูชูบัตรภาพช้าง 6 ตัว ถามนักเรียนว่ามีช้างในภาพกี่ตัว (6 ตัว) 5. ครูชูบัตรภาพจักรยาน 6 คัน ถามนักเรียนว่ามีจักรยานในภาพกี่คัน (6 คัน) เพลง นับ หนึ่ง สอง สาม สี่ (ซ้ำ) ห้า หก เจ็ด (ซ้ำ) อีกทั้ง แปดและเก้าสิบ นับอีกที นับอีกที


30 6. นักเรียนพิจารณารูปในหนังสือเรียนหน้า 25 และครูใช้คำถามกระตุ้นความสนใจ ของนักเรียน ดังนี้ − ภาพสัตว์ที่นักเรียนเห็นเป็นสัตว์ชนิดใด (แมวน้ำ) − แมวน้ำมีกี่ตัว (แมวน้ำ 6 ตัว) 7. ครูแนะนำให้นักเรียนรู้จักจำนวนหก ว่าเป็นจำนวนของสิ่งต่าง ๆ ที่มี 6 อัน 6 ชิ้น 6 ตัว ฯลฯ ถ้าเราจะเขียนแสดงจำนวนหกด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ ได้ดังนี้ “เขียนแสดงด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก 6 เขียนแสดงด้วยตัวเลขไทย ๖ เขียนแสดงด้วยตัวหนังสือ หก” จากนั้นครูสาธิตการเขียนแสดงจำนวนหกด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และ ตัวหนังสือบนกระดานทีละขั้นตอนช้า ๆ เพื่อให้นักเรียนสังเกตวิธีเขียน โดยอาจให้นักเรียนฝึกเขียน ตามครู ดังนี้ โดยตัวเลขฮินดูอารบิก 6 มีวิธีเขียนด้วยการเริ่มจากข้างบนลงมาข้างล่าง และจากซ้าย ไปขวา และตัวเลขไทย ๖ เขียนด้วยการเริ่มที่หัวตัวเลขก่อน และจากซ้ายไปขวา 8. ครูชูนิ้ว 7 นิ้ว ถามนักเรียนว่าครูชูนิ้วกี่นิ้ว (7 นิ้ว) 9. ครูชูปากกา 7 ด้าม ถามนักเรียนว่าครูมีปากกากี่ด้าม (7 ด้าม) 10. ครูชูบัตรภาพช้าง 7 ตัว ถามนักเรียนว่ามีช้างในภาพกี่ตัว (7 ตัว) 11. ครูชูบัตรภาพจักรยาน 7 คัน ถามนักเรียนว่ามีจักรยานในภาพกี่คัน (7 คัน)


31 12. นักเรียนพิจารณารูปในหนังสือเรียนหน้า 26 และครูใช้คำถามกระตุ้นความสนใจ ของนักเรียน ดังนี้ − ภาพสัตว์ที่นักเรียนเห็นเป็นสัตว์ชนิดใด (เพนกวิน) − ในภาพมีเพนกวินกี่ตัว (เพนกวิน 7 ตัว) 13. ครูแนะนำให้นักเรียนรู้จักจำนวนเจ็ด ว่าเป็นจำนวนของสิ่งต่าง ๆ ที่มี 7 อัน 7 ชิ้น 7 ตัว ฯลฯ ถ้าเราจะเขียนแสดงจำนวนเจ็ดด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ ได้ดังนี้ “เขียนแสดงด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก 7 เขียนแสดงด้วยตัวเลขไทย ๗ เขียนแสดงด้วยตัวหนังสือ เจ็ด” จากนั้นครูสาธิตการเขียนแสดงจำนวนเจ็ดด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และ ตัวหนังสือบนกระดานทีละขั้นตอนช้า ๆ เพื่อให้นักเรียนสังเกตวิธีเขียน โดยอาจให้นักเรียนฝึกเขียน ตามครู ดังนี้ โดยตัวเลขฮินดูอารบิก 7 มีวิธีเขียนด้วยการเริ่มจากข้างบนลงมาข้างล่าง และจากซ้าย ไปขวา และตัวเลขไทย ๗ เขียนด้วยการเริ่มที่หัวตัวเลขก่อน และจากซ้ายไปขวา ขั้นฝึกทักษะ 14. นักเรียนฝึกเขียนตัวเลขและตัวหนังสือแสดงจำนวนหกและเจ็ด ในกิจกรรมตรวจสอบ ความเข้าใจ ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบัน ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) หน้า 28 จากนั้นให้นักเรียนรวบรวมหนังสือ เรียนของนักเรียนทุกคนในชั้นเรียนส่งครูภายในท้ายชั่วโมงเรียนครั้งนี้


32 ขั้นสรุป 15. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปบทเรียนด้วยการถามตอบ เพื่อให้ได้ข้อสรุปตามสาระสำคัญ โดยมีคำถามดังนี้ − นักเรียนสามารถใช้สัญลักษณ์ใดเขียนแสดงจำนวนหกและเจ็ด (ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ) ขั้นนำไปใช้ 16. นักเรียนทำแบบฝึกหัด 1.6 การเขียนตัวเลข และตัวหนังสือแสดงจำนวนหกและเจ็ด ในแบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) หน้า 17 – 19 สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. แผนภูมิเพลงนับ 2. ปากกา 3. บัตรภาพช้าง และจักรยาน 4. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบัน ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 5. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) การวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนสามารถ อธิบายการอ่าน และ เขียนตัวเลขและ ตัวหนังสือแสดงจำนวน หกและเจ็ดได้ถูกต้อง (K) การตอบคำถาม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับ 4 หมายถึง ตอบคำถามได้ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และชัดเจน ระดับ 3 หมายถึง ตอบคำถามได้ถูกต้อง แต่ยังไม่สมบูรณ์ ระดับ 2 หมายถึง ตอบคำถามถูกต้อง บางส่วน ต้องให้ครูแนะนำ ระดับ 1 หมายถึง ต้องให้ครูแนะนำ คำตอบให้เป็นส่วนใหญ่


33 จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 2. นักเรียนสามารถอ่าน และเขียนตัวเลขและ ตัวหนังสือแสดงจำนวน หกและเจ็ดได้ (P) การตรวจ แบบฝึกหัด แบบฝึกหัด 1.6 เกณฑ์การให้คะแนนและการประเมินผล แบบฝึกหัด 3. นักเรียนตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ เอาใจใส่ต่อ งานที่ได้รับมอบหมาย และส่งงานตรงตามเวลา ที่กำหนด (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพของพฤติกรรม ระดับดี - ดีมาก ถือว่า ผ่าน ระดับพอใช้ - ปรับปรุง ถือว่า ไม่ผ่าน


34 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่1 หน่วยการเรียนรู้ที่1 เรื่อง จำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 เวลา 11 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่5 เรื่อง การเขียนตัวเลข และตัวหนังสือ เวลา 1 ชั่วโมง แสดงจำนวนแปดถึงสิบ สาระที่1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการ ของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.1/1 บอกจำนวนของสิ่งต่าง ๆ แสดงสิ่งต่าง ๆ ตามจำนวนที่กำาหนด อ่านและ เขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทยแสดงจำนวนนับไม่เกิน 100 และ 0 สาระสำคัญ จำนวนนับใช้บอกจำนวนของสิ่งต่าง ๆ จำนวนนับแปด เขียนเป็นตัวเลขฮินดูอารบิก 8 ตัวเลขไทย ๘ เป็นสัญลักษณ์ใช้แทนจำนวน สิ่งของหรือรูปภาพที่มีจำนวนเท่ากับแปด จำนวนนับเก้า เขียนเป็นตัวเลขฮินดูอารบิก 9 ตัวเลขไทย ๙ เป็นสัญลักษณ์ใช้แทนจำนวน สิ่งของหรือรูปภาพที่มีจำนวนเท่ากับเก้า จำนวนนับสิบ เขียนเป็นตัวเลขฮินดูอารบิก 10 ตัวเลขไทย ๑๐ เป็นสัญลักษณ์ใช้แทนจำนวน สิ่งของหรือรูปภาพที่มีจำนวนเท่ากับสิบ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายการอ่าน และเขียนตัวเลขและตัวหนังสือแสดงจำนวนแปดถึงสิบ ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถอ่าน และเขียนตัวเลขและตัวหนังสือแสดงจำนวนแปดถึงสิบได้ (P)


35 3. นักเรียนตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ เอาใจใส่ต่องานที่ได้รับมอบหมาย และส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด (A) สาระการเรียนรู้ การเขียนตัวเลขและตัวหนังสือแสดงจำนวนแปดถึงสิบ สมรรถนะ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย (ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด) 2. ใฝ่เรียนรู้ (ตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้) 3. มุ่งมั่นในการทำงาน (เอาใจใส่ต่องานได้รับมอบหมาย) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. นักเรียนทบทวนความรู้ เรื่อง การนับจำนวนหนึ่งถึงสิบ และศูนย์ ด้วยเพลงนับ พร้อมทั้ง ให้นักเรียนนับนิ้วมือตามจังหวะเพลงไปด้วย ขั้นสอน 2. ครูชูนิ้ว 8 นิ้ว ถามนักเรียนว่าครูชูนิ้วกี่นิ้ว (8 นิ้ว) 3. ครูชูปากกา 8 ด้าม ถามนักเรียนว่าครูมีปากกากี่ด้าม (8 ด้าม) 4. ครูชูบัตรภาพช้าง 8 ตัว ถามนักเรียนว่ามีช้างในภาพกี่ตัว (8 ตัว) 5. ครูชูบัตรภาพจักรยาน 8 คัน ถามนักเรียนว่ามีจักรยานในภาพกี่คัน (8 คัน) เพลง นับ หนึ่ง สอง สาม สี่ (ซ้ำ) ห้า หก เจ็ด (ซ้ำ) อีกทั้ง แปดและเก้าสิบ นับอีกที นับอีกที


36 6. นักเรียนพิจารณารูปในหนังสือเรียนหน้า 29 และครูใช้คำถามกระตุ้นความสนใจ ของนักเรียน ดังนี้ − ภาพสัตว์ที่นักเรียนเห็นเป็นสัตว์ชนิดใด (เก้งเผือก) − เก้งเผือกมีกี่ตัว (เก้งเผือก 8 ตัว) 7. ครูแนะนำให้นักเรียนรู้จักจำนวนแปด ว่าเป็นจำนวนของสิ่งต่าง ๆ ที่มี 8 อัน 8 ชิ้น 8 ตัว ฯลฯ ถ้าเราจะเขียนแสดงจำนวนแปดด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ ได้ดังนี้ “เขียนแสดงด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก 8 เขียนแสดงด้วยตัวเลขไทย ๘ เขียนแสดงด้วยตัวหนังสือ แปด” จากนั้นครูสาธิตการเขียนแสดงจำนวนแปดด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และ ตัวหนังสือบนกระดานทีละขั้นตอนช้า ๆ เพื่อให้นักเรียนสังเกตวิธีเขียน โดยอาจให้นักเรียนฝึกเขียน ตามครู ดังนี้ โดยตัวเลขฮินดูอารบิก 8 มีวิธีเขียนด้วยการเริ่มจากข้างบนลงมาข้างล่าง และจากซ้าย ไปขวา และตัวเลขไทย ๘ เขียนด้วยการเริ่มที่หัวตัวเลขก่อน และจากซ้ายไปขวา 8. ครูชูบัตรภาพช้าง 9 ตัว ถามนักเรียนว่ามีช้างในภาพกี่ตัว (9 ตัว 9. ครูชูบัตรภาพจักรยาน 9 คัน ถามนักเรียนว่ามีจักรยานในภาพกี่คัน (9 คัน)


37 10. นักเรียนพิจารณารูปในหนังสือเรียนหน้า 30 และครูใช้คำถามกระตุ้นความสนใจ ของนักเรียน ดังนี้ − ภาพสัตว์ที่นักเรียนเห็นเป็นสัตว์ชนิดใด (ค่างแว่น) − ในภาพมีค่างแว่นกี่ตัว (ค่างแว่น 9 ตัว) 11. ครูแนะนำให้นักเรียนรู้จักจำนวนเก้า ว่าเป็นจำนวนของสิ่งต่าง ๆ ที่มี 9 อัน 9 ชิ้น 9 ตัว ฯลฯ ถ้าเราจะเขียนแสดงจำนวนเก้าด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ ได้ดังนี้ “เขียนแสดงด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก 9 เขียนแสดงด้วยตัวเลขไทย ๙ เขียนแสดงด้วยตัวหนังสือ เก้า” จากนั้นครูสาธิตการเขียนแสดงจำนวนเก้าด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และ ตัวหนังสือบนกระดานทีละขั้นตอนช้า ๆ เพื่อให้นักเรียนสังเกตวิธีเขียน โดยอาจให้นักเรียนฝึกเขียน ตามครู ดังนี้ โดยตัวเลขฮินดูอารบิก 9 มีวิธีเขียนด้วยการเริ่มจากข้างบนลงมาข้างล่าง และจากซ้าย ไปขวา และตัวเลขไทย ๙ เขียนด้วยการเริ่มที่หัวตัวเลขก่อน และจากซ้ายไปขวา 12. ครูชูบัตรภาพช้าง 10 ตัว ถามนักเรียนว่ามีช้างในภาพกี่ตัว (10 ตัว) 13. ครูชูบัตรภาพจักรยาน 10 คัน ถามนักเรียนว่ามีจักรยานในภาพกี่คัน (10 คัน)


38 14. นักเรียนพิจารณารูปในหนังสือเรียนหน้า 33 และครูใช้คำถามกระตุ้นความสนใจ ของนักเรียน ดังนี้ − ภาพสัตว์ที่นักเรียนเห็นเป็นสัตว์ชนิดใด (ม้า) − ในภาพมีม้าในคอกกี่ตัว (ม้า 10 ตัว) 15. ครูแนะนำให้นักเรียนรู้จักจำนวนสิบ ว่าเป็นจำนวนของสิ่งต่าง ๆ ที่มี 10 อัน 10 ชิ้น 10 ตัว ฯลฯ ถ้าเราจะเขียนแสดงจำนวนเก้าด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ ได้ดังนี้ “เขียนแสดงด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก 10 เขียนแสดงด้วยตัวเลขไทย ๑๐ เขียนแสดงด้วยตัวหนังสือ สิบ” จากนั้นครูสาธิตการเขียนแสดงจำนวนสิบด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และ ตัวหนังสือบนกระดานทีละขั้นตอนช้า ๆ เพื่อให้นักเรียนสังเกตวิธีเขียน โดยอาจให้นักเรียนฝึกเขียน ตามครู ดังนี้ โดยตัวเลขฮินดูอารบิก 10 มีวิธีเขียนด้วยการเริ่มจากข้างบนลงมาข้างล่าง และจากซ้าย ไปขวา และตัวเลขไทย ๑๐ เขียนด้วยการเริ่มที่หัวตัวเลขก่อน และจากซ้ายไปขวา ขั้นฝึกทักษะ 16. นักเรียนฝึกเขียนตัวเลขและตัวหนังสือแสดงจำนวนแปดถึงสิบ ในกิจกรรมตรวจสอบ ความเข้าใจ ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบัน ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) หน้า 32 และหน้า 36 จากนั้นให้นักเรียน รวบรวมหนังสือเรียนของนักเรียนทุกคนในชั้นเรียนส่งครูภายในท้ายชั่วโมงเรียนครั้งนี้


39 ขั้นสรุป 17. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปบทเรียนด้วยการถามตอบ เพื่อให้ได้ข้อสรุปตามสาระสำคัญ โดยมีคำถามดังนี้ − นักเรียนสามารถใช้สัญลักษณ์ใดเขียนแสดงจำนวนห้าและศูนย์ (ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ) ขั้นนำไปใช้ 18. นักเรียนทำแบบฝึกหัด 1.7 การเขียนตัวเลข และตัวหนังสือแสดงจำนวนแปดและเก้า และแบบฝึกหัด 1.8 การเขียนตัวเลข และตัวหนังสือแสดงจำนวนสิบ ในแบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) หน้า 20 – 25 สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. แผนภูมิเพลงนับ 2. ปากกา 3. บัตรภาพช้าง และจักรยาน 4. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบัน ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 5. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 6. ใบงาน เรื่อง การเขียนตัวเลขและตัวหนังสือแสดงจำนวนหกถึงสิบ การวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนสามารถ อธิบายการอ่าน และ เขียนตัวเลขและ ตัวหนังสือแสดงจำนวน แปดถึงสิบได้ถูกต้อง (K) การตอบคำถาม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับ 4 หมายถึง ตอบคำถามได้ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และชัดเจน ระดับ 3 หมายถึง ตอบคำถามได้ถูกต้อง แต่ยังไม่สมบูรณ์ ระดับ 2 หมายถึง ตอบคำถามถูกต้อง บางส่วน ต้องให้ครูแนะนำ


40 จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ระดับ 1 หมายถึง ต้องให้ครูแนะนำ คำตอบให้เป็นส่วนใหญ่ 2. นักเรียนสามารถอ่าน และเขียนตัวเลขและ ตัวหนังสือแสดงจำนวน แปดถึงสิบได้ (P) การตรวจ แบบฝึกหัด แบบฝึกหัด 1.7 และ 1.8 เกณฑ์การให้คะแนนและการประเมินผล แบบฝึกหัด 3. นักเรียนตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ เอาใจใส่ต่อ งานที่ได้รับมอบหมาย และส่งงานตรงตามเวลา ที่กำหนด (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพของพฤติกรรม ระดับดี - ดีมาก ถือว่า ผ่าน ระดับพอใช้ - ปรับปรุง ถือว่า ไม่ผ่าน


41


42 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่1 หน่วยการเรียนรู้ที่1 เรื่อง จำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 เวลา 11 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่6 เรื่อง การเปรียบเทียบจำนวนนับ เวลา 1 ชั่วโมง โดยการจับคู่ สาระที่1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการ ของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.1/2 เปรียบเทียบจำนวนนับไม่เกิน 100 และ 0 โดยใช้เครื่องหมาย = ≠ > < สาระสำคัญ จำนวนสองจำนวนเมื่อนำมาเปรียบเทียบกันอาจเท่ากัน หรือจำนวนหนึ่งมากกว่า อีกจำนวนหนึ่ง หรือจำนวนหนึ่งน้อยกว่าอีกจำนวนหนึ่ง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายการเปรียบเทียบจำนวนนับโดยการจับคู่ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถเปรียบเทียบจำนวนนับโดยการจับคู่ได้ (P) 3. นักเรียนตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ เอาใจใส่ต่องานที่ได้รับมอบหมาย และส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด (A) สาระการเรียนรู้ การเปรียบเทียบจำนวน โดยการจับคู๋


43 สมรรถนะ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย (ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด) 2. ใฝ่เรียนรู้ (ตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้) 3. มุ่งมั่นในการทำงาน (เอาใจใส่ต่องานได้รับมอบหมาย) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ให้นักเรียนชาย 5 คนและนักเรียนหญิง 5 คน ออกมาหน้าชั้นเรียน โดยไม่บอกจำนวน ให้นักเรียนทราบ จากนั้นครูใช้คำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ดังนี้ − นับจำนวนนักเรียนชายได้กี่คน (5 คน) − นับจำนวนนักเรียนหญิงได้กี่คน (5 คน) 2. ให้นักเรียนชายยืนเรียงกันและนักเรียนหญิงยืนเรียงกันหันหน้าเข้าหากัน และจับมือกัน เป็นคู่ ๆ จากนั้นครูใช้คำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ดังนี้ − นักเรียนชายและนักเรียนหญิงยืนจับมือกันเป็นคู่ได้พอดีหรือไม่ (พอดี) − มีนักเรียนชายที่ไม่มีคู่หรือไม่ (ไม่มี) และมีนักเรียนหญิงที่ไม่มีคู่หรือไม่ (ไม่มี) ครูอธิบายว่านักเรียนหญิง 5 คน และนักเรียนชาย 5 คน จับคู่กันได้พอดี แสดงว่า นักเรียนหญิงกับนักเรียนชายมีจำนวนเท่ากัน นั่นคือ จำนวนนักเรียนหญิงเท่ากับจำนวนนักเรียนชาย หรือ 5 เท่ากับ 5 ขั้นสอน 3. ครูยกตัวอย่างการเปรียบเทียบจำนวนที่เท่ากันโดยการจับคู่ตามหนังสือเรียนหน้า 37 โดยครูนำบัตรภาพแคร์รอตไปติดบนกระดานเรียงกันทีละหัวจนครบ 4 หัว และนำบัตรภาพ นกฟลามิงโกไปติดบนกระดานเรียงกัน 4 ตัวให้ตรงกับแคร์รอต จากนั้นครูโยงเส้นจับคู่แคร์รอตกับ นกฟลามิงโกทีละคู่จนครบทุกคู่ และครูใช้คำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ดังนี้ − นกฟลามิงโกกับแคร์รอตจับคู่กันได้พอดีหรือไม่ (พอดี)


44 จากนั้นนักเรียนและครูร่วมกันสรุปว่า แคร์รอตกับนกฟลามิงโกจับคู่กันได้พอดี และครูอธิบายเพิ่มเติมว่าแคร์รอต 4 หัว กับนกฟลามิงโก 4 ตัวจับคู่กันได้พอดี แสดงว่า แคร์รอตกับ นกฟลามิงโกมีจำนวนเท่ากัน นั่นคือ จำนวนแคร์รอตเท่ากับจำนวนนกฟลามิงโก หรือ 4 เท่ากับ 4 4. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปว่า การจับคู่สิ่งต่าง ๆ สองกลุ่ม ถ้าจับคู่กันได้พอดี แสดงว่าสิ่ง ต่าง ๆ สองกลุ่มนั้นมีจำนวนเท่ากัน 5. ให้นักเรียนหญิง 3 คน และนักเรียนชาย 4 คน ออกมายืนหน้าห้องโดยไม่บอกจำนวนให้ นักเรียนทราบ แล้วให้นักเรียนชายและนักเรียนหญิงยืนเรียงหันหน้าเข้าหากันและจับมือกันเป็นคู่ ๆ จากนั้นครูใช้คำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ดังนี้ − มีนักเรียนหญิงกี่คน (3 คน) − มีนักเรียนชายกี่คน (4 คน) − จับคู่กันได้พอดีหรือไม่ (ไม่พอดี) − นักเรียนรู้ได้อย่างไรว่าจับคู่ได้ไม่พอดี (มีนักเรียนชายไม่มีคู่ 1 คน) − นักเรียนบอกครูได้หรือไม่ว่าจำนวนนักเรียนชายและนักเรียนหญิงเท่ากันหรือ ไม่เท่ากัน (ไม่เท่ากัน) เพราะเหตุใดจึงไม่เท่ากัน (จับคู่กันได้ไม่พอดี) ครูอธิบายว่า นักเรียนหญิง 3 คน และนักเรียนชาย 4 คน จับคู่กันได้ไม่พอดี แสดงว่า นักเรียนหญิงกับนักเรียนชายมีจำนวนไม่เท่ากัน นั่นคือ เมื่อจับคู่กันแล้วมีนักเรียนชายเหลืออยู่ แสดงว่า จำนวนนักเรียนชายมากกว่าจำนวนนักเรียนหญิง หรือจำนวนนักเรียนหญิงน้อยกว่าจำนวน นักเรียนชาย นั่นคือ 4 มากกว่า 3 หรือ 3 น้อยกว่า 4 6. ครูยกตัวอย่างการเปรียบเทียบจำนวนที่ไม่เท่ากันโดยการจับคู่ตามหนังสือเรียนหน้า 38 โดยครูนำบัตรภาพข้าวโพดไปติดบนกระดานเรียงกันทีละฝักจนครบ 7 ฝัก และนำบัตรภาพกวาง ไปติดบนกระดานเรียงกัน 5 ตัวให้ตรงกับข้าวโพด จากนั้นครูโยงเส้นจับคู่ข้าวโพดกับกวางทีละคู่ จนครบทุกคู่ แต่มีข้าวโพดเหลืออยู่ และครูใช้คำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ดังนี้ − กวางกับข้าวโพดจับคู่กันได้พอดีหรือไม่ (ไม่พอดี)


45 จากนั้นนักเรียนและครูร่วมกันสรุปว่า ข้าวโพดกับกวางจับคู่กันได้ไม่พอดี และครูอธิบาย เพิ่มเติมว่าข้าวโพด 7 ฝัก กับกวาง 5 ตัว จับคู่กันได้ไม่พอดีแสดงว่า ข้าวโพดกับกวางมีจำนวน ไม่เท่ากัน หรือ จำนวนข้าวโพดไม่เท่ากับจำนวนกวาง นั่นคือ 7 ไม่เท่ากับ 5 แต่เมื่อจับคู่แล้ว มีข้าวโพดเหลืออยู่แสดงว่า จำนวนข้าวโพดมากกว่าจำนวนกวาง หรือ จำนวนกวางน้อยกว่าจำนวน ข้าวโพด นั่นคือ 7 มากกว่า 5 หรือ 5 น้อยกว่า 7 ครูเขียนบนกระดานว่า จำนวนข้าวโพด มากกว่า จำนวนกวาง ดังนั้น 7 มากกว่า 5 จำนวนกวาง น้อยกว่า จำนวนข้าวโพด ดังนั้น 5 น้อยกว่า 7 7. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปว่า การจับคู่สิ่งต่าง ๆ สองกลุ่ม ถ้าจับคู่กันได้ไม่พอดี แสดงว่า สิ่งต่าง ๆ สองกลุ่มนั้นมีจำนวนไม่เท่ากัน หรือจำนวนของสิ่งหนึ่งไม่เท่ากับจำนวนของอีกสิ่งหนึ่ง ถ้าสิ่งใดมีของเหลืออยู่ จำนวนของสิ่งนั้นจะมากกว่า ขั้นฝึกทักษะ 8. นักเรียนฝึกเปรียบเทียบจำนวนนับโดยการจับคู๋ ในกิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) หน้า 40 จากนั้นให้นักเรียนรวบรวมหนังสือเรียน ของนักเรียนทุกคนในชั้นเรียนส่งครูภายในท้ายชั่วโมงเรียนครั้งนี้ ขั้นสรุป 9. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปบทเรียนด้วยการถามตอบ เพื่อให้ได้ข้อสรุปตามสาระสำคัญ โดยมีคำถามดังนี้ − การจับคู่สิ่งต่าง ๆ สองกลุ่ม ถ้าจับคู่กันได้พอดีแสดงว่าสิ่งต่าง ๆ สองกลุ่มนั้น มีจำนวนเท่ากันหรือไม่เท่ากัน (เท่ากัน) − การจับคู่สิ่งต่าง ๆ สองกลุ่ม ถ้าจับคู่กันได้ไม่พอดีแสดงว่าสิ่งต่าง ๆ สองกลุ่มนั้น มีจำนวนเท่ากันหรือไม่เท่ากัน (ไม่เท่ากัน)


46 − ถ้าสิ่งต่าง ๆ สองกลุ่มนั้นมีจำนวนไม่เท่ากัน จะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งใดมีจำนวนมากกว่า หรือน้อยกว่า (ถ้าจับคู่กันแล้วมีสิ่งใดเหลืออยู่ แสดงว่าสิ่งนั้นมีจำนวนมากกว่า) ขั้นนำไปใช้ 10. นักเรียนทำแบบฝึกหัด 1.9 การเปรียบเทียบจำนวนนับโดยการจับคู่ ในแบบฝึกหัดรายวิชา พื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี(สสวท.) หน้า 26 – 28 สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. บัตรภาพนกฟลามิงโก แคร์รอต กวาง ข้าวโพด 2. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบัน ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 3. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 4. ใบงาน เรื่อง การเปรียบเทียบจำนวนนับโดยการจับคู่ การวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนสามารถ อธิบายการเปรียบเทียบ จำนวนนับโดยการจับคู่ ได้ถูกต้อง (K) การตอบคำถาม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับ 4 หมายถึง ตอบคำถามได้ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และชัดเจน ระดับ 3 หมายถึง ตอบคำถามได้ถูกต้อง แต่ยังไม่สมบูรณ์ ระดับ 2 หมายถึง ตอบคำถามถูกต้อง บางส่วน ต้องให้ครูแนะนำ ระดับ 1 หมายถึง ต้องให้ครูแนะนำ คำตอบให้เป็นส่วนใหญ่ 2. นักเรียนสามารถ เปรียบเทียบจำนวนนับ โดยการจับคู่ได้ (P) การตรวจ แบบฝึกหัด แบบฝึกหัด 1.9 เกณฑ์การให้คะแนนและการประเมินผล แบบฝึกหัด


47 จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 3. นักเรียนตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ เอาใจใส่ต่อ งานที่ได้รับมอบหมาย และส่งงานตรงตามเวลา ที่กำหนด (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพของพฤติกรรม ระดับดี - ดีมาก ถือว่า ผ่าน ระดับพอใช้ - ปรับปรุง ถือว่า ไม่ผ่าน


48


49 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่1 หน่วยการเรียนรู้ที่1 เรื่อง จำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 เวลา 11 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่7 เรื่อง การเปรียบเทียบจำนวน เวลา 1 ชั่วโมง 1 ถึง 10 และ 0 สาระที่1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการ ของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.1/2 เปรียบเทียบจำนวนนับไม่เกิน 100 และ 0 โดยใช้เครื่องหมาย = ≠ > < สาระสำคัญ จำนวนสองจำนวนเมื่อนำมาเปรียบเทียบกันอาจเท่ากัน หรือจำนวนหนึ่งมากกว่า อีกจำนวนหนึ่ง หรือจำนวนหนึ่งน้อยกว่าอีกจำนวนหนึ่ง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายการเปรียบเทียบจำนวน 1 ถึง 10 และ 0 ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถเปรียบเทียบจำนวน 1 ถึง 10 และ 0 ได้ (P) 3. นักเรียนตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ เอาใจใส่ต่องานที่ได้รับมอบหมาย และส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด (A) สาระการเรียนรู้ การเปรียบเทียบจำนวน 1 ถึง 10 และ 0


50 สมรรถนะ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย (ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด) 2. ใฝ่เรียนรู้ (ตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้) 3. มุ่งมั่นในการทำงาน (เอาใจใส่ต่องานได้รับมอบหมาย) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. นักเรียนทบทวนการเปรียบเทียบจำนวนโดยการจับคู่สิ่งต่าง ๆ ด้วยกิจกรรมจับคู่ ดังนี้ (1) กิจกรรมย่อยที่ 1 เท่ากัน ไม่เท่ากัน ครูชูบัตรภาพ 10 บัตร โดยชูทีละบัตรแล้วให้นักเรียนบอกว่าสิ่งที่อยู่ในบัตรภาพ แต่ละบัตรมีจำนวนเท่ากันหรือไม่เท่ากัน (2) กิจกรรมย่อยที่ 2 สิ่งใดมากกว่า ครูชูบัตรภาพ 10 บัตร โดยชูทีละบัตรแล้วให้นักเรียนบอกว่าสิ่งที่อยู่ในบัตรภาพ แต่ละบัตร สิ่งใดมีจำนวนมากกว่า (3) กิจกรรมย่อยที่ 3 สิ่งใดน้อยกว่า ครูชูบัตรภาพ 10 บัตร โดยชูทีละบัตรแล้วให้นักเรียนบอกว่าสิ่งที่อยู่ในบัตรภาพ แต่ละบัตร สิ่งใดมีจำนวนน้อยกว่า 2. นักเรียนและครูร่วมกันทบทวนข้อสรุปเกี่ยวกับการเปรียบเทียบจำนวนโดยการจับคู่ว่า การเปรียบเทียบจำนวนนับโดยการจับคู่สิ่งต่าง ๆ สองกลุ่มถ้าจับคู่กันได้พอดี แสดงว่าทั้งสองกลุ่มมี จำนวนของสิ่งต่าง ๆ เท่ากัน หรือจำนวนของสิ่งหนึ่งเท่ากับจำนวนของอีกสิ่งหนึ่ง ถ้าจับคู่ไม่พอดี แสดงว่าทั้งสองกลุ่มมีจำนวนของสิ่งต่าง ๆ ไม่เท่ากัน หรือจำนวนของสิ่งหนึ่งไม่เท่ากับจำนวนของอีก สิ่งหนึ่ง ถ้าสิ่งใดมีของเหลืออยู่จำนวนของสิ่งนั้นจะมากกว่า ขั้นสอน 3. ครูยกตัวอย่างการเปรียบเทียบ 5 กับ 5 โดยใช้แถบจำนวนสองแถบที่มีขนาดเท่ากัน (ขนาดช่องเท่ากันความยาวเท่ากัน) แรเงาแถบจำนวนแต่ละแถบที่ตัวเลข 1 ถึง 5 ติดบนกระดาน ดังนี้


51 เปรียบเทียบส่วนที่แรเงา จะได้ว่า 5 เท่ากับ 5 4. ครูยกตัวอย่างการเปรียบเทียบจำนวนของสิ่งต่าง ๆ โดยใช้แถบจำนวนตามหนังสือเรียน หน้า 42 และใช้คำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ดังนี้ − ต้นกล้ากับใบบัวกำลังทำอะไร (ตักปลา) − ต้นกล้าตักปลาได้กี่ตัว (6 ตัว) ใบบัวตักปลาได้กี่ตัว (2 ตัว) ครูให้นักเรียนเปรียบเทียบจำนวนปลาโดยใช้แถบจำนวนนั่นคือเปรียบเทียบ 6 กับ 2 โดยครูติดแถบจำนวนที่แรเงาแสดงจำนวน 6 และ 2 ในแถบจำนวน แล้วเปรียบเทียบกัน ดังรูป ครูอธิบายว่าจากแถบจำนวนจะได้ 6 มากกว่า 2 หรือ 2 น้อยกว่า 6 ดังนั้น ต้นกล้าตักปลา ได้มากกว่าใบบัวหรือใบบัวตักปลาได้น้อยกว่าต้อนกล้า 5. ครูยกตัวอย่างการเปรียบเทียบจำนวนสิ่งต่าง ๆ โดยใช้แถบจำนวนตามหนังสือเรียน หน้า 43 และใช้คำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ดังนี้


52 − มีเก้งกี่ตัว (4 ตัว) มีกวางกี่ตัว (5 ตัว) มีม้าลายกี่ตัว (7 ตัว) มีลากี่ตัว (5 ตัว) ครูให้นักเรียนแรเงาจำนวนสัตว์แต่ละชนิดในแถบจำนวนเพื่อนำมาเปรียบเทียบกัน ดังนี้ จากนั้นครูใช้คำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ดังนี้ − 4 น้อยกว่าหรือมากกว่า 5 (น้อยกว่า) − เก้ง น้อยกว่าหรือมากกว่า กวาง (น้อยกว่า) − 7 น้อยกว่าหรือมากกว่า 4 (มากกว่า) − ม้าลาย น้อยกว่าหรือมากกว่า เก้ง (มากกว่า) − 5 น้อยกว่า มากกว่า หรือเท่ากับ 5 (เท่ากับ) − กวาง น้อยกว่า มากกว่า หรือเท่ากับ ลา (เท่ากับ) ขั้นฝึกทักษะ 6. นักเรียนฝึกเปรียบเทียบจำนวนนับโดยการจับคู๋ ในกิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) หน้า 44 จากนั้นให้นักเรียนรวบรวมหนังสือเรียน ของนักเรียนทุกคนในชั้นเรียนส่งครูภายในท้ายชั่วโมงเรียนครั้งนี้ ขั้นสรุป 7. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปบทเรียนด้วยการถามตอบ เพื่อให้ได้ข้อสรุปตามสาระสำคัญ โดยมีคำถามดังนี้ − การจับคู่สิ่งต่าง ๆ สองกลุ่ม ถ้าจับคู่กันได้พอดีแสดงว่าสิ่งต่าง ๆ สองกลุ่มนั้น มีจำนวนเท่ากันหรือไม่เท่ากัน (เท่ากัน) − การจับคู่สิ่งต่าง ๆ สองกลุ่ม ถ้าจับคู่กันได้ไม่พอดีแสดงว่าสิ่งต่าง ๆ สองกลุ่มนั้น มีจำนวนเท่ากันหรือไม่เท่ากัน (ไม่เท่ากัน) − ถ้าสิ่งต่าง ๆ สองกลุ่มนั้นมีจำนวนไม่เท่ากัน จะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งใดมีจำนวนมากกว่า หรือน้อยกว่า (ถ้าจับคู่กันแล้วมีสิ่งใดเหลืออยู่ แสดงว่าสิ่งนั้นมีจำนวนมากกว่า)


53 ขั้นนำไปใช้ 8. นักเรียนทำแบบฝึกหัด 1.10 การเปรียบเทียบจำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 ในแบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี(สสวท.) หน้า 29 – 31 สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. บัตรภาพเปรียบเทียบจำนวนโดยการจับคู่ 2. แถบจำนวน 1 ถึง 10 3. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบัน ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 4. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 5. ใบงาน เรื่อง การเปรียบเทียบจำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 การวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนสามารถ อธิบายการเปรียบเทียบ จำนวน 1 ถึง 10 และ 0 ได้ถูกต้อง (K) การตอบคำถาม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับ 4 หมายถึง ตอบคำถามได้ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และชัดเจน ระดับ 3 หมายถึง ตอบคำถามได้ถูกต้อง แต่ยังไม่สมบูรณ์ ระดับ 2 หมายถึง ตอบคำถามถูกต้อง บางส่วน ต้องให้ครูแนะนำ ระดับ 1 หมายถึง ต้องให้ครูแนะนำ คำตอบให้เป็นส่วนใหญ่ 2. นักเรียนสามารถ เปรียบเทียบจำนวน 1 ถึง 10 และ 0 ได้ (P) การตรวจ แบบฝึกหัด แบบฝึกหัด 1.10 เกณฑ์การให้คะแนนและการประเมินผล แบบฝึกหัด 3. นักเรียนตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ เอาใจใส่ต่อ การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพของพฤติกรรม ระดับดี - ดีมาก ถือว่า ผ่าน ระดับพอใช้ - ปรับปรุง ถือว่า ไม่ผ่าน


54 จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน งานที่ได้รับมอบหมาย และส่งงานตรงตามเวลา ที่กำหนด (A)


55


56 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่1 หน่วยการเรียนรู้ที่1 เรื่อง จำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 เวลา 11 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่8 เรื่อง การเรียงลำดับจำนวน เวลา 1 ชั่วโมง 1 ถึง 10 และ 0 สาระที่1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการ ของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.1/3 เรียงลำดับจำนวนนับไม่เกิน 100 และ 0 ตั้งแต่ 3 ถึง 5 จำนวน สาระสำคัญ การเรียงลำดับจำนวน อาจเรียงลำดับจำนวนจากมากไปน้อยหรือจากน้อยไปมาก โดยพิจารณาจำนวนที่มากที่สุดและจำนวนที่น้อยที่สุดก่อน แล้วนำจำนวนที่เหลือมาเปรียบเทียบกัน จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายการเรียงลำดับจำนวน 1 ถึง 10 และ 0 ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถเรียงลำดับจำนวน 1 ถึง 10 และ 0 ได้ (P) 3. นักเรียนตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ เอาใจใส่ต่องานที่ได้รับมอบหมาย และส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด (A) สาระการเรียนรู้ การเรียงลำดับจำนวน 1 ถึง 10 และ 0 สมรรถนะ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด


57 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย (ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด) 2. ใฝ่เรียนรู้ (ตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้) 3. มุ่งมั่นในการทำงาน (เอาใจใส่ต่องานได้รับมอบหมาย) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. นักเรียนทบทวนการเปรียบเทียบจำนวนน้อยกว่าและมากกว่า โดยให้ตัวแทนนักเรียน ออกมา 2 คน สุ่มหยิบบัตรตัวเลข 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 และ 0 ติดบนกระดาน ให้นักเรียน ร่วมกันเปรียบเทียบจำนวน แล้วพูดพร้อมกันว่า น้อยกว่า หรือ มากกว่า เช่น “หกมากกว่าสี่” หรือ “สี่น้อยกว่าหก” จากนั้นครูตรวจสอบความถูกต้อง 2. นักเรียนและครูร่วมกันทบทวนการเปรียบเทียบจำนวนน้อยกว่าและมากกว่าด้วยกิจกรรม เช่นเดียวกับข้อ 1 อีก 3 – 4 ตัวอย่าง ขั้นสอน 3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน จากนั้นครูแจกสิ่งของให้แต่ละกลุ่มดังนี้ บัตรภาพ ดอกไม้ 3 ดอก บัตรภาพนก 5 ตัว บัตรภาพผึ้ง 2 ตัว บัตรภาพผีเสื้อ 4 ตัว และบัตรตัวเลข แสดงจำนวน ดังนี้ 6 4


58 4. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเรียงบัตรภาพ แล้วใช้ใช้คำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ดังนี้ − จำนวนดอกไม้น้อยกว่าหรือมากกว่าจำนวนนก (น้อยกว่า) − จำนวนนกน้อยกว่าหรือมากกว่าจำนวนผึ้ง (มากกว่า) − จำนวนผึ้งน้อยกว่าหรือมากกว่าจำนวนผีเสื้อ (น้อยกว่า) − จำนวนสิ่งใดมากที่สุด (นก) − จำนวนสิ่งใดน้อยที่สุด (ผึ้ง) − เรียงลำดับสิ่งของจากมากไปน้อย (นก ผีเสื้อ ดอกไม้ ผึ้ง) − เรียงลำดับจำนวนจากมากไปน้อย (5 4 3 2) 5. ครูยกตัวอย่างการเรียงลำาดับจำนวนตามหนังสือเรียนหน้า 45 ครูใช้คำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ดังนี้ − ในภาพมีไข่ไก่กี่ฟอง (5 ฟอง) − มีไข่นกกระทากี่ฟอง (8 ฟอง) − มีไข่เป็ดกี่ฟอง (4 ฟอง) จากนั้นครูติดแถบจำนวน 1 ถึง 10 บนกระดาน แล้วให้นักเรียนแรเงาแสดงจำนวนไข่แต่ ละชนิดบนกระดาน ดังนี้


59 ครูเขียนรูปสี่เหลี่ยมสำหรับเติมตัวเลขแสดงจำนวนที่เรียงลำดับจากน้อยไปมากสามรูป บนกระดาน ดังนี้ ครูอธิบายว่า ถ้าต้องการเรียงลำดับจำนวนต้องหาจำนวนที่มากที่สุดและจำนวนที่น้อย ที่สุด ถ้าเรียงลำดับจากน้อยไปมากจำนวนที่ต้องเติมในรูปสี่เหลี่ยมรูปแรกต้องเป็นจำนวนที่น้อยที่สุด และจำนวนที่ต้องเติมในรูปสี่เหลี่ยมรูปสุดท้ายต้องจำนวนที่มากที่สุด แต่ถ้าเรียงลำดับจากมากไปน้อย จำนวนที่ต้องเติมในรูปสี่เหลี่ยมรูปแรกต้องเป็นจำนวนที่มากที่สุด และจำนวนที่ต้องเติมในรูปสี่เหลี่ยม รูปสุดท้ายต้องจำนวนที่น้อยที่สุด จากนั้นครูใช้คำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ดังนี้ − จากแถบจำนวน จำนวนใดน้อยที่สุด (4) − จำนวนใดมากที่สุด (8) ครูเขียนจำนวนที่มากที่สุดและจำนวนที่น้อยที่สุดในรูปสี่เหลี่ยมบนกระดาน ดังนี้ − ในรูปสี่เหลี่ยมรูปที่อยู่ตรงกลางควรเติมจำนวนใด (5) จากนั้นนักเรียนและครูร่วมกันเขียนเรียงลำดับจำนวนไข่จากมากไปน้อยได้ดังนี้ 8 5 4 หรือเรียงลำดับจำนวนไข่จากน้อยไปมากได้ดังนี้ 4 5 8 6. ครูยกตัวอย่างการเรียงลำาดับจำนวนสี่จำนวนตามหนังสือเรียนหน้า 46


60 ครูใช้คำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ดังนี้ − จากภาพนักเรียนเห็นสัตว์ชนิดใดบ้าง (แมว หนูตะเภา กระต่าย กระรอก) − มีแมวกี่ตัว (6 ตัว) − มีหนูตะเภากี่ตัว (2 ตัว) − มีกระต่ายกี่ตัว (7 ตัว) − มีกระรอกกี่ตัว (1 ตัว) จากนั้นครูติดแถบจำนวน 1 ถึง 10 บนกระดาน แล้วสุ่มให้นักเรียนออกมาแรเงาแสดง จำนวนสัตว์แต่ละชนิด ดังนี้ จากนั้นครูใช้คำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ดังนี้ − จากแถบจำนวน จำนวนใดน้อยที่สุด (1) − จำนวนใดมากที่สุด (7) ครูสุ่มให้นักเรียนออกมาเติมตัวเลขแสดงจำนวนในรูปสี่เหลี่ยมบนกระดาน ดังนี้ − เมื่อเติม 1 และ 7 ในรูปสี่เหลี่ยมแล้ว เหลือจำนวนใดบ้างที่ต้องนำามาเรียงลำดับ (2 กับ 5) − นำ 2 กับ 5 มาเปรียบเทียบกันได้อย่างไร (2 น้อยกว่า 5) ครูสุ่มให้นักเรียนออกมาเติมตัวเลขแสดงจำนวนในรูปสี่เหลี่ยมบนกระดาน ดังนี้ จากนั้นนักเรียนและครูร่วมกันเขียน เรียงลำดับจำนวนจากน้อยไปมากได้ดังนี้ 1 2 5 หรือเรียงลำดับจำนวนจากมากไปน้อยได้ดังนี้ 7 5 2 1


61 ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า ถ้าต้องการเรียงลำดับจำนวนสี่จำนวนจากมากไปน้อยหรือจาก น้อยไปมาก ให้หาจำนวนที่มากที่สุดและจำนวนที่น้อยที่สุดก่อน แล้วจึงนำจำนวนที่เหลือ มาเปรียบเทียบกัน แล้วจึงเขียนเรียงลำดับจำนวนตามที่กำหนด ขั้นฝึกทักษะ 7. นักเรียนฝึกเรียงลำดับจำนวน 1 ถึง 10 และ 0 ในกิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) หน้า 48 จากนั้นให้นักเรียนรวบรวมหนังสือเรียน ของนักเรียนทุกคนในชั้นเรียนส่งครูภายในท้ายชั่วโมงเรียนครั้งนี้ ขั้นสรุป 8. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปบทเรียนด้วยการถามตอบ เพื่อให้ได้ข้อสรุปตามสาระสำคัญ โดยมีคำถามดังนี้ − ถ้าต้องการเรียงลำดับจำนวนต้องหาสิ่งใดก่อน (จำนวนที่มากที่สุดและจำนวนที่น้อย ที่สุด) − แล้วจึงนำจำนวนที่เหลือมาทำอะไร (มาเปรียบเทียบกัน) ขั้นนำไปใช้ 9. นักเรียนทำแบบฝึกหัด 1.11 การเรียงลำดับจำนวน 1 ถึง 10 และ 0 ในแบบฝึกหัดรายวิชา พื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี(สสวท.) หน้า 32 – 34 สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. บัตรภาพดอกไม้ ภาพนก ภาพผึ้ง ภาพผีเสื้อ 2. บัตรตัวเลข 3. แถบจำนวน 1 ถึง 10 4. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบัน ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 5. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 6. ใบงาน เรื่อง การเรียงลำดับจำนวน 1 ถึง 10 และ 0


62 การวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนสามารถ อธิบายการเรียงลำดับ จำนวน 1 ถึง 10 และ 0 ได้ถูกต้อง (K) การตอบคำถาม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับ 4 หมายถึง ตอบคำถามได้ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และชัดเจน ระดับ 3 หมายถึง ตอบคำถามได้ถูกต้อง แต่ยังไม่สมบูรณ์ ระดับ 2 หมายถึง ตอบคำถามถูกต้อง บางส่วน ต้องให้ครูแนะนำ ระดับ 1 หมายถึง ต้องให้ครูแนะนำ คำตอบให้เป็นส่วนใหญ่ 2. นักเรียนสามารถ เรียงลำดับจำนวน 1 ถึง 10 และ 0 ได้ (P) การตรวจ แบบฝึกหัด แบบฝึกหัด 1.11 เกณฑ์การให้คะแนนและการประเมินผล แบบฝึกหัด 3. นักเรียนตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ เอาใจใส่ต่อ งานที่ได้รับมอบหมาย และส่งงานตรงตามเวลา ที่กำหนด (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพของพฤติกรรม ระดับดี - ดีมาก ถือว่า ผ่าน ระดับพอใช้ - ปรับปรุง ถือว่า ไม่ผ่าน


63


64 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่1 หน่วยการเรียนรู้ที่1 เรื่อง จำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 เวลา 11 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่9 เรื่อง ความสัมพันธ์ของจำนวน 0 ถึง 5 เวลา 1 ชั่วโมง สาระที่1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการ ของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.1/1 บอกจำนวนของสิ่งต่าง ๆ แสดงสิ่งต่าง ๆ ตามจำนวนที่กำหนด อ่านและ เขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย แสดงจำนวนนับไม่เกิน 100 และ 0 สาระสำคัญ ความสัมพันธ์ของจำนวนแบบส่วนย่อย – ส่วนรวมเป็นการเขียนแสดงจำนวนในรูปของ จำนวนสองจำนวนขึ้นไป จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายการจัดกลุ่มของจำนวน 0 ถึง 5 ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถจัดกลุ่มของจำนวน 0 ถึง 5 ได้ (P) 3. นักเรียนตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ เอาใจใส่ต่องานที่ได้รับมอบหมาย และส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด (A) สาระการเรียนรู้ ความสัมพันธ์ของจำนวนแบบส่วนย่อย – ส่วนรวมของจำนวน 0 ถึง 5 สมรรถนะ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด


65 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย (ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด) 2. ใฝ่เรียนรู้ (ตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้) 3. มุ่งมั่นในการทำงาน (เอาใจใส่ต่องานได้รับมอบหมาย) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. นักเรียนทบทวนความรู้ เรื่อง จำนวนนับ 1-10 และ 0 โดยร่วมกันนับจำนวน และตอบว่า ไม้ไอศกรีมในมือครูมีจำนวนเท่าใด ดังตัวอย่าง (5 ไม้) จากนั้นผู้แทนนักเรียน 3 คน ออกมาเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และคำอ่านบน กระดาน แล้วร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง 2. นักเรียนและครูร่วมกันทบทวนจำนวนนับ 1-10 และ 0 ด้วยกิจกรรมเช่นเดียวกับข้อ 1 อีก 3 – 4 ตัวอย่าง ขั้นสอน 3. นักเรียนศึกษาวีดิทัศน์เรื่องความสัมพันธ์แบบส่วนย่อย – ส่วนรวมก่อน โดยครูสแกน QR Code จากหนังสือเรียนหน้า 49 เพื่อเปิดวีดิทัศน์ให้นักเรียนศึกษา 4. นักเรียนทำกิจกรรมความสัมพันธ์แบบส่วนย่อย-ส่วนรวมของจำนวน 0 ถึง 5 โดยครูแจก ตัวนับให้นักเรียนคนละ 5 อัน และใบกิจกรรมคนละ 1 ใบ


66 5. ให้นักเรียนแต่ละคนวางตัวนับ 5 อัน ในใบกิจกรรมช่องบนสุด แล้วแยกตัวนับ 5 อัน ออกเป็น 2 กอง กองละเท่าไรก็ได้ ให้อยู่ใน 2 ช่องล่างในใบกิจกรรม เช่น นักเรียนบันทึกจำนวนตัวนับที่แยกออกมาเป็น 2 กอง ลงในใบกิจกรรม เช่น เมื่อแยก ตัวนับได้ดังรูป เขียนบันทึกจำนวนตัวนับลงในแบบบันทึกกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 50 – 51 ได้ดังนี้ จากนั้นครูให้นักเรียนรวมตัวนับเป็น 5 อันเหมือนเดิมแล้วแยกตัวนับ 5 อันออกเป็น 2 กอง ที่ต่างจากแบบแรกแล้วบันทึกจำนวนตัวนับลงในแบบบันทึกกิจกรรม ทำเช่นนี้ไปจนครบ ทุกแบบ เช่น ถ้ามีตัวนับ 5 อัน นักเรียนสามารถแยกเป็น 2 กอง และบันทึกผลลงในแบบบันทึก กิจกรรมครบทุกแบบได้ดังนี้ จากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติมว่า 5 เป็นส่วนรวม 0 กับ 5, 1 กับ 4 และ 2 กับ 3 เป็นส่วนย่อยของ 5


67 6. นักเรียนใช้ตัวนับตามจำนวนที่กำหนดในหนังสือเรียนหน้า 50 – 51 แล้วทำกิจกรรม แยกตัวนับเป็น 2 กอง เช่นเดียวกับข้อ 1 และบันทึกผลการแยกตัวนับลงในแบบบันทึกกิจกรรม ทำกิจกรรมเช่นนี้จนครบทุกจำนวน 7. นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยความสัมพันธ์แบบส่วนย่อย – ส่วนรวมของจำนวนที่กำหนด ในหนังสือเรียนหน้า 50 – 51 เป็นดังนี้ เมื่อกำหนดตัวนับ 4 อัน แล้วให้แยกตัวนับเป็น 2 กอง และบันทึกจำนวนตัวนับที่แยกเป็น 2 กองลงในแบบบันทึกกิจกรรมจนครบทุกแบบ ดังนี้ เมื่อกำหนดตัวนับ 3 อัน แล้วให้แยกตัวนับเป็น 2 กอง และบันทึกจำนวนตัวนับที่แยกเป็น 2 กองลงในแบบบันทึกกิจกรรมจนครบทุกแบบ ดังนี้


68 เมื่อกำหนดตัวนับ 2 อัน แล้วให้แยกตัวนับเป็น 2 กอง และบันทึกจำนวนตัวนับที่แยกเป็น 2 กองลงในแบบบันทึกกิจกรรมจนครบทุกแบบ ดังนี้ และเมื่อกำหนดตัวนับ 1 อัน แล้วให้แยกตัวนับเป็น 2 กอง และบันทึกจำนวนตัวนับที่แยก เป็น 2 กองลงในแบบบันทึกกิจกรรมจนครบทุกแบบ ดังนี้ ขั้นฝึกทักษะ 8. นักเรียนฝึกเขียนแสดงความสัมพันธ์ของจำนวนแบบส่วนย่อย - ส่วนรวมของจำนวน 0 ถึง 5 ในกิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) หน้า 52 จากนั้นให้นักเรียนรวบรวมหนังสือเรียนของนักเรียนทุกคนในชั้นเรียนส่งครูภายใน ท้ายชั่วโมงเรียนครั้งนี้ ขั้นสรุป 9. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปบทเรียนด้วยการถามตอบ เพื่อให้ได้ข้อสรุปตามสาระสำคัญ โดยมีคำถามดังนี้ − ความสัมพันธ์ของจำนวนแบบส่วนย่อย – ส่วนรวมเป็นการเขียนแสดงจำนวน ใน รูปของจำนวนกี่จำนวน (สองจำนวนขึ้นไป) ขั้นนำไปใช้ 10. นักเรียนทำแบบฝึกหัด 1.12 ความสัมพันธ์ของจำนวนแบบส่วนย่อย – ส่วนรวมของ จำนวน 0 ถึง 5 ในแบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบัน ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) หน้า 35 – 37


69 สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. ไม้ไอศกรีม 2. วีดิทัศน์เรื่องความสัมพันธ์แบบส่วนย่อย – ส่วนรวม 3. ตัวนับ 4. ใบกิจกรรม 5. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบัน ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 6. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 7. ใบงาน เรื่อง ความสัมพันธ์ของจำนวนแบบส่วนย่อย – ส่วนรวมของจำนวน 0 ถึง 5 การวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนสามารถ อธิบายการจัดกลุ่ม ของจำนวน 0 ถึง 5 ได้ถูกต้อง (K) การตอบคำถาม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับ 4 หมายถึง ตอบคำถามได้ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และชัดเจน ระดับ 3 หมายถึง ตอบคำถามได้ถูกต้อง แต่ยังไม่สมบูรณ์ ระดับ 2 หมายถึง ตอบคำถามถูกต้อง บางส่วน ต้องให้ครูแนะนำ ระดับ 1 หมายถึง ต้องให้ครูแนะนำ คำตอบให้เป็นส่วนใหญ่ 2. นักเรียนสามารถ จัดกลุ่มของจำนวน 0 ถึง 5 ได้ (P) การตรวจ แบบฝึกหัด แบบฝึกหัด 1.12 เกณฑ์การให้คะแนนและการประเมินผล แบบฝึกหัด 3. นักเรียนตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ เอาใจใส่ต่อ งานที่ได้รับมอบหมาย และส่งงานตรงตามเวลา ที่กำหนด (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพของพฤติกรรม ระดับดี - ดีมาก ถือว่า ผ่าน ระดับพอใช้ - ปรับปรุง ถือว่า ไม่ผ่าน


70


71 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่1 หน่วยการเรียนรู้ที่1 เรื่อง จำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 เวลา 11 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่10 เรื่อง ความสัมพันธ์ของจำนวน 6 ถึง 10 เวลา 1 ชั่วโมง สาระที่1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการ ของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.1/1 บอกจำนวนของสิ่งต่าง ๆ แสดงสิ่งต่าง ๆ ตามจำนวนที่กำหนด อ่านและ เขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย แสดงจำนวนนับไม่เกิน 100 และ 0 สาระสำคัญ ความสัมพันธ์ของจำนวนแบบส่วนย่อย – ส่วนรวมเป็นการเขียนแสดงจำนวนในรูปของ จำนวนสองจำนวนขึ้นไป จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายการจัดกลุ่มของจำนวน 6 ถึง 10 ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถจัดกลุ่มของจำนวน 6 ถึง 10 ได้ (P) 3. นักเรียนตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ เอาใจใส่ต่องานที่ได้รับมอบหมาย และส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด (A) สาระการเรียนรู้ ความสัมพันธ์ของจำนวนแบบส่วนย่อย – ส่วนรวมของจำนวน 6 ถึง 10 สมรรถนะ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด


72 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย (ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด) 2. ใฝ่เรียนรู้ (ตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้) 3. มุ่งมั่นในการทำงาน (เอาใจใส่ต่องานได้รับมอบหมาย) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. นักเรียนเล่นเกม “รวมเงิน” โดยนักเรียนแต่ละคนแทนเงิน 1 บาท จากนั้นนักเรียนทั้งหมด ออกมาเดินเป็นวงกลม ร้องเพลงหรือปรบมือตามจังหวะ เมื่อครูให้สัญญาณหยุด นักเรียนจับกลุ่ม ตามจำนวนเงินที่กำหนด เมื่อได้กลุ่มแล้วจัดกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม แล้วแต่ละกลุ่มนั่งลง ดังตัวอย่าง ต้องการเงิน 4 บาท ขั้นที่ 1 นักเรียน 4 คน = 4 บาท ขั้นที่ 2 จัดกลุ่มย่อยออกเป็น 2 กลุ่ม หรือ (3 กับ 1) (2 กับ 2) จากนั้นนักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง และดำเนินกิจกรรมนี้อีก 2 – 3 ครั้ง ขั้นสอน 2. ให้นักเรียนเขียนความสัมพันธ์แบบส่วนย่อย – ส่วนรวมของ 4 โดยใช้คำถามกระตุ้นความ สนใจของนักเรียน ดังนี้ − จำนวนใดเป็นส่วนรวม (4) − ส่วนย่อยของ 4 มีจำนวนใดบ้าง (0 กับ 4, 1 กับ 3, 2 กับ 2 )


73 3. ให้นักเรียนจับคู่กันทำกิจกรรม จัดคู่ 10 โดยแจกตัวนับให้นักเรียนคู่ละ 10 อัน และ ใบกิจกรรมคู่ละ 1 ใบ จากนั้นให้นักเรียนแต่ละคู่วางตัวนับ 10 อัน ในช่องบนสุดของใบกิจกรรมแล้วแยก ตัวนับเป็นสองกองเลื่อนลงมาช่องล่างสุดในใบกิจกรรม และบันทึกจำนวนตัวนับทั้งสองกองลงใน แบบบันทึกกิจกรรมในหนังสือเรียนหน้า 53 ทำเช่นนี้จนครบทุกแบบ ดังนี้ 4. ให้นักเรียนแต่ละคู่ใช้ตัวนับตามจำนวนที่กำาหนดในหนังสือเรียนหน้า 54 – 55 แล้วให้ นักเรียนจัดตัวนับตามจำนวนที่กำาหนดให้ในแต่ละข้อ แยกเป็น 2 กอง แล้วบันทึกผลที่ได้ลงในแบบ บันทึกกิจกรรม โดยครูอาจให้แนวทางการทำกิจกรรม เช่น ครูถามนักเรียนว่า ข้อ 1 ต้องใช้ตัวนับกี่อัน (9 อัน) แยกตัวนับ 9 อัน ออกเป็น 2 กอง โดยกองหนึ่งให้มีจำนวนตัวนับเท่ากับจำนวนที่กำหนดให้ ในแบบบันทึกกิจกรรม คือ จำนวน 0 1 2 3 หรือ 4 แล้วบันทึกจำนวนตัวนับอีกกองหนึ่งลงใน แบบบันทึกกิจกรรม จนครบทุกจำนวนดังนี้


74 ซึ่งเป็นการเขียนความสัมพันธ์ของจำนวนแบบจัดกลุ่ม 2 กลุ่มที่เขียนแสดงจำนวนสองจำนวนในแบบที่ ไม่ซ้ำกัน โดยครูให้นักเรียนสังเกตว่า จำนวนที่กำาหนดให้ในแบบบันทึกกิจกรรมเป็นจำนวน ที่เริ่มจาก 0 แล้วเพิ่มขึ้นทีละ 1 เป็น 0 1 2 3 4 และจำนวนอีกจำนวนหนึ่งที่นำามาเติมในแบบบันทึก กิจกรรมคือ 9 8 7 6 5 ตามลำดับ ซึ่งเป็นจำนวนที่ลดลงทีละ 1 5. นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยความสัมพันธ์แบบส่วนย่อย – ส่วนรวมของจำนวนที่กำหนด ในหนังสือเรียนหน้า 54 – 55 เป็นดังนี้ เมื่อกำหนดตัวนับ 8 อัน แล้วให้แยกตัวนับเป็น 2 กอง และบันทึกจำนวนตัวนับที่แยกเป็น 2 กองลงในแบบบันทึกกิจกรรมจนครบทุกแบบ ดังนี้ เมื่อกำหนดตัวนับ 7 อัน แล้วให้แยกตัวนับเป็น 2 กอง และบันทึกจำนวนตัวนับที่แยกเป็น 2 กองลงในแบบบันทึกกิจกรรมจนครบทุกแบบ ดังนี้ และเมื่อกำหนดตัวนับ 6 อัน แล้วให้แยกตัวนับเป็น 2 กอง และบันทึกจำนวนตัวนับที่แยก เป็น 2 กองลงในแบบบันทึกกิจกรรมจนครบทุกแบบ ดังนี้


75 ขั้นฝึกทักษะ 6. นักเรียนฝึกเขียนแสดงความสัมพันธ์ของจำนวนแบบส่วนย่อย - ส่วนรวมของจำนวน 6 ถึง 10 ในกิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) หน้า 56 จากนั้นให้นักเรียนรวบรวมหนังสือเรียนของนักเรียนทุกคนในชั้นเรียนส่งครูภายใน ท้ายชั่วโมงเรียนครั้งนี้ ขั้นสรุป 7. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปบทเรียนด้วยการถามตอบ เพื่อให้ได้ข้อสรุปตามสาระสำคัญ โดยมีคำถามดังนี้ − ความสัมพันธ์ของจำนวนแบบส่วนย่อย – ส่วนรวมเป็นการเขียนแสดงจำนวน ใน รูปของจำนวนกี่จำนวน (สองจำนวนขึ้นไป) ขั้นนำไปใช้ 8. นักเรียนทำแบบฝึกหัด 1.13 ความสัมพันธ์ของจำนวนแบบส่วนย่อย – ส่วนรวมของ จำนวน 6 ถึง 10 ในแบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบัน ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) หน้า 38 – 40 สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. ตัวนับ 2. ใบกิจกรรม 3. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบัน ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 4. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 5. ใบงาน เรื่อง ความสัมพันธ์ของจำนวนแบบส่วนย่อย – ส่วนรวมของจำนวน 6 ถึง 10 การวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนสามารถ อธิบายการจัดกลุ่ม การตอบคำถาม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับ 4 หมายถึง ตอบคำถามได้ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และชัดเจน


76 จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ของจำนวน 6 ถึง 10 ได้ถูกต้อง (K) ระดับ 3 หมายถึง ตอบคำถามได้ถูกต้อง แต่ยังไม่สมบูรณ์ ระดับ 2 หมายถึง ตอบคำถามถูกต้อง บางส่วน ต้องให้ครูแนะนำ ระดับ 1 หมายถึง ต้องให้ครูแนะนำ คำตอบให้เป็นส่วนใหญ่ 2. นักเรียนสามารถ จัดกลุ่มของจำนวน 6 ถึง 10 ได้ (P) การตรวจ แบบฝึกหัด แบบฝึกหัด 1.13 เกณฑ์การให้คะแนนและการประเมินผล แบบฝึกหัด 3. นักเรียนตั้งใจเรียน สนใจเข้าร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ เอาใจใส่ต่อ งานที่ได้รับมอบหมาย และส่งงานตรงตามเวลา ที่กำหนด (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพของพฤติกรรม ระดับดี - ดีมาก ถือว่า ผ่าน ระดับพอใช้ - ปรับปรุง ถือว่า ไม่ผ่าน


Click to View FlipBook Version