The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดและเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสาขา (ปี 2560)

กองฝึกอบรม

Keywords: ด้านบริหารงานที่ดิน

82 ๘๒

ผลลพั ธท ไ่ี ดจ ากการดําเนินการ
๑. รองรับการใหบริการประชาชน ท่ีมาขอรับบริการรูปแปลงท่ีดินในระวางแผนท่ีระบบพิกัดฉาก

ยู ที เอ็ม เพือ่ นาํ ไปใชเปนหลักฐานประกอบการดําเนินการดานธรุ กรรม นิติกรรม หรืออนื่ ๆ
๒. เนื่องจากรูปแปลงที่ดินเดิมในระวางแผนท่ีระบบพิกัดฉาก ยู ที เอ็ม ในเขตชนบท มาตราสวน

๑ : ๔๐๐๐ มีขนาดเล็กมาก การปรับปรุงตําแหนงฐานขอมูลรูปแปลงที่ดินเปนมาตราสวน ๑ : ๑๐๐๐
สามารถนาํ รูปแปลงท่ีดินลงทห่ี มายในระวางแผนที่ได ทําใหระวางแผนที่มีความถูกตอง สมบูรณตอการตรวจสอบและ
ใหบริการประชาชนที่มาขอรับบริการ และรองรับการจัดเก็บขอมูลรูปแปลงที่ดินของศูนยขอมูลแผนที่รูป
แปลงที่ดิน

๘8๓3

สํานกั งานคณะกรรมการชางรงั วดั เอกชน

เรอ่ื ง วิธกี าร หมายเหตุ
(ท่เี ปนอํานาจหนาท่ขี อง จพด.) (แตละเรอ่ื งทํา/ตรวจอะไร/ทาํ อยางไร) (แหลง อา งอิง/หนงั สือสง่ั การ)

1. เม่ือผูแทนสํานักงานชาง 1. ตรวจสอบสัญญารับจางทําการรังวัดที่ดินให พระราชบัญญัติชางรังวัด
รังวัดเอกชนนําสัญญา ชื่อและลายมือช่ือผูถือกรรมสิทธ์ิ (ผูวาจาง) เอกชน พ.ศ. 2535 มาตรา
รับจางทําการรังวัดท่ีดินท่ี ชื่อสํานักงานชางรังวัดเอกชน (ผูรับจาง) 46 ประกอบระเบียบคณะ
ทําไวกับผูมีกรรมสิทธิ์ใน ประเภทการรังวัดและเครื่องหมายท่ีดิน กรรมการชางรังวัดเอกชน
ที่ดินมาแสดงตอเจาพนักงาน ถกู ตอง ตามท่รี ะบุไวใ นคําขอ วาดวยการควบคุมการ
ท่ีดินพรอมกับหนังสือแจง 2. ตรวจชื่อผูจัดการหรือผูทําการแทนพรอมท้ัง ปฏิบัติงานของชางรังวัด
กําหนดวัน เดือน ป ที่ทํา เลขที่ใบอนุญาตใหถูกตองตามทะเบียนชาง เอกชนและสํานักงานชาง
การรังวัดเพ่ือจะขอรับเรื่อง รังวัดเอกชนของสํานักงานชางรังวัดเอกชน รังวัดเอกชน พ.ศ. 2535
รังวัดไปดําเนินการให (ผรู บั จาง) ขอ 4, 5
ดําเนินการ ดังนี้ 3. ในกรณีท่ีมีขอบกพรองใหรีบแจงใหผูแทน
ของสํานักงานชางรังวัดเอกชนดังกลาวแกไข
ใหถ กู ตองโดยเรว็
4. การกําหนดวันทําการรังวัดจะตองแจงกําหนด
วนั เดอื น ป ใหเ จา พนกั งานท่ีดินทราบลวงหนา
ไมน อ ยกวา สบิ วันทําการ
2. การปฏบิ ตั ิราชการเกี่ยวกับ 1. ใหมีคําส่ังแตงต้ังเจาหนาท่ีผูรับผิดชอบ หนังสือกรมท่ีดิน ที่ มท
งานชางรังวัดเอกชนให เก่ียวกับงานรังวัดของสํานักงานชางรังวัด 0509/ว 18385 ลง
สาํ นักงานที่ดินจังหวัด สาขา เอกชน รายงานใหกรมท่ีดินทราบ และถา วนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560
และสวนแยก ดําเนินการ เจาหนาที่ที่ไดรับแตงต้ังมีการโยกยายใหมี
ดงั นี้ คําสั่งแตงตั้งใหม แลวรายงานใหกรมท่ีดิน
ทราบดว ยทกุ ครง้ั
2. ใหกํากับ กวดขันเจาหนาที่ที่ไดรับการ
แ ต ง ตั ้ง ใ ห ร ับ ผ ิด ช อ บ เ กี ่ย ว ก ับ ง า น ร ัง ว ัด
เอกชนใหปฏิบัติงานตามกฎหมาย ระเบียบ
คําส่ังที่เก่ียวกับงานรังวัดเอกชนโดยเครงครัด
หากมีเรื่องรองเรียนเก่ียวกับการปฏิบัติงานไม
เปนไปตามกฎหมาย ระเบียบ คําส่ังจะ
พิจารณาดําเนินการลงโทษทางวินัยโดย
เครงครัดตอ ไป
3. ใหเชิญผูจัดการ หรือผูแทนสํานักงานชาง
รังวัดเอกชนที่ต้ังอยูในพื้นท่ีหรือที่มาติดตอ
งานเขารวมประชุมดวยกรณีท่ีสํานักงานท่ีดิน
มีการประชมุ ทีเ่ กยี่ วกบั การรงั วดั เอกชน หรือจัด

84 ๘๔

เรอ่ื ง วิธีการ หมายเหตุ
(ทเี่ ปนอาํ นาจหนาทข่ี อง จพด.) (แตล ะเรื่องทาํ /ตรวจอะไร/ทาํ อยา งไร) (แหลง อางอิง/หนังสือสั่งการ)

ใหมีการประชุมซักซอมความเขาใจ ระหวาง
เจาหนาท่ผี รู บั ผิดชอบกับผูจัดการ หรือผูแทน
สํานักงานชางรังวัดเอกชนเพื่อซักซอมความ
เขาใจในการปฏิบัติงานใหเปนไปตามระเบียบ
และในแนวทางเดียวกัน ตลอดท้ังรวมกันแกไข
ปญหาตางๆ ที่เกิดขึ้น (ถามี) และใหรายงาน
ผลการประชมุ ใหกรมทีด่ ินทราบดว ย
3. การปลอมลายเซ็นขา งเคียง ในเรื่องน้ีกรมที่ดินไดมีแนวทางเกี่ยวกับ หนังสือกรมที่ดิน ที่ มท
เรื่องการปลอมลายมือชื่อเจาของที่ดินขางเคียง 0514.3/ว 6554 ลง
รับรองแนวเขตที่ดินในเอกสารราชการ ไมวาจะ วันที่ 11 มีนาคม 2554
เปนการปลอมดวยตนเอง หรือมีสวนรับรูหรือรู
เห็นเปนใจกับการปลอมลายมือช่ือเจาของที่ดิน
ขา งเคยี ง เปนการกระทาํ ผดิ วนิ ัย ในกรณไี มป ฏิบัติ
หนาที่ราชการใหเปนไปตามกฎหมาย กฎระเบียบ
ของราชการ หากการกระทําดังกลาวเปนเหตุให
เกิดความเสียหายแกราชการหรือผูหนึ่งผูใด
อยางรายแรง ผูกระทําอาจถูกกลาวหาเปน
ความผิดวินัยอยางรายแรงฐานปฏิบัติหรือละ
เวนการปฏิบัติหนาท่ีราชการโดยมิชอบเพ่ือให
เกิดความเสียหายอยางรายแรงแกผูหน่ึงผูใดหรือ
ละเวนการปฏิบัติหนาที่ราชการโดยทุจริต และ
กระทําการอันไดช่ือวาเปนผูประพฤติช่ัวอยาง
รายแรงตามพระราชบัญญัติระเบียบขาราชการ
พลเรือน พ.ศ. 2551 ซ่ึงกรมท่ีดินจะพิจารณา
ลงโทษทางวินัยและดําเนินการคดีอาญาอยาง
เฉียบขาดทุกราย “สําหรับชางรังวัดเอกชน หาก
มีกรณีเชนวานี้สงเร่ืองใหคณะกรรมการพิจารณา
อาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตเปนชางรังวัดเอกชน
ในฐานประพฤติผิดมรรยาทตามกฎกระทรวง
นอกจากน้ีอาจถูกฟองในคดีอาญาในความผิด
ฐานปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ ตาม
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264 และ
265”

๘8๕5

เรอื่ ง วธิ กี าร หมายเหตุ
(ทเ่ี ป็นอานาจหน้าท่ขี องจพด.) (แต่ละเรื่องทา/ตรวจอะไร/ทาอย่างไร) (แหล่งอา้ งองิ /หนังสือสงั่ การ)

4. การรับมอบอานาจของ ช่างรังวัดเอกชนผู้ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ หนังสือสานักงานคณะ
ช่างรังวัดเอกชน กรณีนา รังวัดท่ีดินของผู้ว่าจ้างและได้รับมอบอานาจ กรรมการช่างรังวัดเอกชน
รังวัดชี้แนวเขตท่ีดินแทน จากเจ้าของที่ดินผู้ว่าจ้างให้ผู้นารังวัดช้ีแนวเขต ท่ี มท 0509/ว 432 ลง
เจา้ ของท่ีดิน ท่ีดินท่ีรังวัดในคราวเดียวกันพระราชบัญญัติ วันท่ี 24 มิถนุ ายน 2548
ช่างรังวัดเอกชนไม่มีข้อห้ามไว้ แต่เป็นการไม่
เหมาะสม หมิ่นเหม่ต่อการผิดมรรยาทช่าง
รังวัดเอกชน ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ.
2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติช่าง
รังวัดเอกชน พ.ศ. 2535 ข้อ 2 (11) ท่ีอาจ
เป็นการยุย งส่งเสริมแ ละอาจก่อให้เกิด ค ว า ม
ขัด แ ย้งที่ส่ง ผ ล ทาให้ง านที่รับ จ้าง เสียหายได้
จึงขอให้ช่างผู้ทาการรังวัดหลีกเล่ียง การมอบ
อานาจใหน้ าชแ้ี นวเขตดังกล่าว
5. หา้ มให้บุคคลท่ีไม่ได้เป็น สานักงานชา่ งรังวัดเอกชนบางแห่งปฏิบัติไม่ หนังสือสานักงานคณะ
ช่างรังวัดเอกชนทาการแทน ถกู ต้องตามพระราชบัญญัติช่างรังวัดเอกชน พ.ศ. กรรมการช่างรังวัดเอกชน
ชา่ งรังวดั เอกชน 2535 โดยให้บุคคลที่ไม่ได้รับใบอนุญาตให้เป็น ที่ มท 0626/266 ลง
ช่างรงั วดั เอกชนเข้าทาการรังวัดแทนช่างรังวัด วนั ที่ 5 เมษายน 2538
เอกชนในสังกัดเมื่อรังวัดเสร็จแล้วจึงให้ช่าง
รังวัดเอกชนในสังกัดลงนามเป็นผทู้ าการรังวัด
การกระทาของสานักงานชา่ งรังวดั เอกชนดงั กลา่ ว
ไมเ่ พยี งเปน็ การปฏบิ ัติที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นไป
ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายท่ีจะส่งเสริมสนับ
สนนุ ภาคเอกชนให้มีบทบาทแทนภาครัฐเท่านั้น
การกระทาดังกล่าวยังมีความผิดมาตรา 33
และมีโทษตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติ
ช่างรังวัดเอกชน พ.ศ. 2535 ส่วนช่างรังวัด
เอกชนก็มีความผิดตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 4
(พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิ
ช่างรังวัดเอกชน พ.ศ. 2535 เร่ือง มรรยาท
ชา่ งรงั วัดเอกชนด้วย
6. กรณีไม่ส่งงานตามกาหนด กรณีสานักงานช่างรังวัดเอกชนไม่ส่งงาน หนังสือกรมที่ดิน ที่ มท
เวลา ตามกาหนดเวลาให้ฝ่ายรังวัดทาหนังสือแจ้ง 0509/ว 4907 ลงวันที่
เตือนสานักงานช่างรังวัดเอกชนน้ันพร้อมขอ 11 กมุ ภาพนั ธ์ 2553
ทราบเหตุแห่งปัญหาอุปสรรคให้สานักงานท่ีดิน
ทราบหากไม่รายงานภายในกาหนดสานักงาน

86 ๘๖

เร่อื ง วิธีการ หมายเหตุ
(ทเี่ ปน อาํ นาจหนาที่ของ จพด.) (แตล ะเร่อื งทาํ /ตรวจอะไร/ทาํ อยา งไร) (แหลง อางอิง/หนงั สือสั่งการ)

ท่ีดินอาจสงเร่ืองใหคณะกรรมการชางรังวัด
เอกชนเพ่ือพิจาณาต้ังคณะอนุกรรมการออกมา
สอบสวนขอเท็จจริง เพ่ือลงโทษสํานักงานชาง
รงั วดั เอกชนและชางรงั วดั เอกชนตอ ไป

6.1 ขั้นตอนดําเนินการ  เจาของท่ีดินมีความประสงคจะขอทําการ ตามพระราชบัญญัติชาง
ของชางรังวดั เอกชน รังวัดสอบเขต แบงแยก และรวมโฉนดที่ดิน รังวัดเอกชน พ.ศ. 2535
ใหติดตอสํานักงานคณะกรรมการชางรังวัด และระเบียบกรมที่ดินวา
เอกชน เพื่อตกลงและทําสัญญารับจาง ดวยการรังวัดสอบเขต
รงั วัดทดี่ ิน แ บ ง แ ย ก แ ล ะ ร ว ม โ ฉ น ด
 เจาของที่ดินมาย่ืนคําขอท่ีสํานักงานที่ดิน ท่ีดินโดยสํานักงานคณะ
พรอมระบุสํานักงานคณะกรรมการชางรังวัด กรรมการชางรังวัดเอกชน
เอกชนทีจ่ ะใหด ําเนินการ พ.ศ. 2538 และแกไข
 ฝายทะเบียนรับคาํ ขอแลวสง เรือ่ งใหฝายรงั วัด (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2547
 ฝายรังวัดจัดทําหนังสือแจงขางเคียงและ
เตรียมสําเนาหลักฐานแผนที่หรือเอกสารอ่ืน
ที่จําเปนตอการรังวัดใหแลวเสรจ็ ภายใน 5 วัน
 สํานักงานคณะกรรมการชางรังวัดเอกชนตอง
นําสัญญารับจางทําการรังวัดมาแสดง เพ่ือ
ขอรับเอกสารเก่ียวกับการรังวัด และมี
หนังสือแจงวันท่ีทําการรังวัดกอนถึงวันที่ทํา
การรงั วัดไมน อ ยกวา 10 วนั
 สํานักงานคณะกรรมการชางรังวัดเอกชนทํา
การรังวัดตามกําหนดเสร็จแลวสงเร่ืองให
ผูจัดการตรวจสอบและลงช่ือรับรองผลการ
รงั วัด (รวม 15 วันทาํ การ)
6.2 ข้ันตอนการตรวจงาน  เม่ือผูจัดการสํานักงานคณะกรรมการชาง
รังวัดเอกชนลงชื่อรับรองผลการรังวัดแลว
สงเร่ืองใหส ํานักงานท่ีดิน โดยทําการสงที่ฝาย
อาํ นวยการเพื่อนําเสนอเจาพนักงานท่ีดินและ
สงใหฝายรังวัดตรวจสอบผลการรังวัดและ
เสนอเจาพนักงานที่ดิน ภายใน 2 วัน นับแต
วันรับเรือ่ ง
 เสนอเจา พนักงานท่ีดินพิจารณาส่ังการภายใน
1 วัน หากมีการแกไขหรือตองทําการรังวัดใหม

๘8๗7

เร่ือง วิธกี าร หมายเหตุ
(ทีเ่ ปนอาํ นาจหนาที่ของ จพด.) (แตละเร่อื งทาํ /ตรวจอะไร/ทําอยางไร) (แหลง อางอิง/หนงั สือสงั่ การ)

ใหสํานักงานคณะกรรมการชางรังวัดเอกชน
มารับเร่ืองภายใน 3 วัน (รวม 6 วันทําการ)
หากไมมีการแกไขและเจาพนักงานท่ีดิน
เห็นชอบแลวใหสงฝายทะเบียนและฝาย
ทะเบียนแจงผูขอภายใน 5 วัน นับแตวันรับ
เร่ืองจากฝายรังวัด (กรณีขางเคียงรับรองเขต
ครบ) หรือนับแตวันดําเนินการครบถวนตาม
ประมวลกฎหมายท่ีดิน (กรณขี า งเคียงไมครบ)
(รวม 5 วนั ทําการ)
6.3 ขั้นตอนการจดทะเบียน  เมือ่ ฝา ยทะเบยี นแจง ผขู อใหทราบเพอ่ื นําโฉนด  กรณีแบงแยกไมเกิน 3
ท่ดี ินมาจดทะเบียนรบั ทราบผลการรังวดั แปลง ผูขอสามารถขอรับ
 ชําระคาธรรมเนียมและเบิกโฉนดเพื่อสราง โฉนดที่ดินแปลงแบงใน
โฉนดแบง แยกหรอื ฉบบั รวมโฉนด ภายใน 10 วนั จดทะเบียนหรืออยาง
วัน นับแตวันจดทะเบียนแจงผูขอมารับโฉนด ชาวันรุงข้ึน
ภายใน 3 วัน
 แจกโฉนดท่ีดินใหผูขอ (เสร็จสิ้นขบวนการ)
(รวม 13 วันทาํ การ)
6.๔ การตรวจสอบกํากับดูแล  ผูรับใบอนุญาตไมดําเนินการตามสัญญา  มาตรา ๔๓ (๕)
งานคางที่ไมดําเนินการ รบั จา งทําการรังวัดที่ดินใหแลวเสร็จทําใหเกิด  มาตรา ๓๖ (๔)
ตามกําห น ด สัญญ า ความลาชาระยะเวลาเกินสัญญาโดยไดรับคํา  มาตรา ๕๖
รับจา งรังวดั ท่ีดิน เตือนหนังสือจากเจาพนักงานท่ีดินแลวและ แหงพระราชบัญญัติ
คณะกรรมการพิจารณาเห็นสมควรใหเพิกถอน ชางรังวัดเอกชน พ.ศ.
ใบอนญุ าต ๒๕๓๕
 เมื่อคณะกรรมการสั่งเพิกถอนใบอนุญาต
จัดตั้งสํานักงานชางรังวัดเอกชน ตามมาตรา ๔๓
แนวทางแกไขขอบกพรองคือใหเจาพนักงาน
ท่ีดินส่ังใหชางรังวัดในสังกัดกรมที่ดินทําการ
รังวัดใหม คาใชจายในการรังวัดใหมใหเรียก
เก็บจากผูวาจางตามอัตราของทางราชการ แต
ไมตัดสิทธ์ิผูวาจางท่ีจะเรียกรองคาใชจาย
ดังกลาวจากผูรับใบอนุญาตจัดตั้งสําสํานักงาน
ชางรังวัดเอกชน ผูจัดการสํานักงานชางรังวัด
เอกชนหรอื ชา งรังวดั เอกชนแตอยา งใด

88 88

ขน้ั ตอนการดําเนินการรงั วัดท่ีดนิ โดยสาํ นกั งานชางรงั วดั เอกชนเปน ผดู ําเนินการรังวดั

ทีด่ นิ ทม่ี โี ฉนดท่ดี นิ ทว่ั ประเทศ เจา ของทด่ี นิ มีความประสงค ติดตอ สนง.ชา งรงั วดั เอกชน ยืน่ คาํ ขอรงั วดั พรอมระบุ สนง.ชางรังวดั เอกชนท่ใี ห ฝา ยทะเบียนรับคําขอ
จะขอสอบเขต,แบงแยก, ดําเนนิ การตอ สาํ นกั งานที่ดินจังหวัด/สาขา/สว นแยก ทที่ ด่ี ินนั้นตงั้ อยู
รวมโฉนดทด่ี นิ

ถามีเหตุขัดของไมสามารถดําเนินการตอไปให ทกกเชอาําี่าดกหรงิ นชนรรนตััดงงนววทาัั ดัมดดํ า ส น ง . ช า ง สนง.ท่ีดินมอบเอกสารรังวัดและคิดคาธรรมเนียมคัด กอนวันทําการรังวัดไมนอยกวา ๑๐ วัน สนง. ชางรังวัดเอกชน นํา ฝายรังวัดจัดทํา
ทําการบันทึกถึงเหตุแหงการงดรังวัดไวและ รังวดั เอกชน สําเนาเอกสารหนาละ ๕ บาท และคารับรองสําเนา สญั ญารับจางทําการรังวัดมาแสดง(ติดอากรแสตมปตามบัญชีอัตรา ห นั ง สื อ แ จ ง
แจงใหสํานักงานที่ดินทราบ หากมีความ สงหนงั สอื เอกสารชุดละ ๑๐ บาท (ตามกฎกระทรวง พ.ศ.๒๕๓๕ อากรแสตมป จํานวน ๑ บาท ทุกจํานวน ๑,๐๐๐ บาท หรือเศษ ขา งเคียงและ
จําเปน ตอ งไปทําการรงั วัดใหมตองใหฝายรังวัด แจง ขางเคียง ออกตามความในพระราชบัญญัติชางรังวัดเอกชน พ.ศ. ของ ๑,๐๐๐ บาทแหงสินจางที่กําหนดไว) เพื่อขอรับเอกสาร เตรี ยมสํ าเน า
ออกหมายแจงเจาของท่ีดินขางเคียงกอนทํา ๒๕๓๕) มอบหนังสือแจงขางเคียง จําหนายหลักเขตท่ีดิน เกี่ยวกับการรังวัดและมีหนังสือแจงวันท่ีทําการรังวัด ฝายรังวัด หลักฐานแผนที่
การรงั วัดทุกคร้ัง พรอมแจงระยะเวลาแลวเสร็จตามขอกําหนดในสัญญา ลงบัญชี รว.๗๑ ของชางรังวัดเอกชนโดยแยกสํานักงานละ ๑ เลม ใหแ ลวเสรจ็
ตามนัยหนังสือกรมที่ดิน ท่ี มท ๐๕๐๙/ว ๔๙๐๗ ลว. พรอ มทัง้ ระบุขอมูลที่เก่ียวของ เชน วันรับคําขอ วันดําเนินการ วัน ภายใน ๕ วั น
สํานกั งานชางรังวดั เอกชนผไู ดรบั ใบอนญุ าตไมดําเนนิ การตามสญั ญารับจางทําการ ๑๑ ก.พ ๒๕๕๓ แลว เสรจ็ (ตามสัญญา) ชื่อผรู ังวัด นบั ตงั้ แตรับเรอ่ื ง
รังวัดที่ดินใหเสร็จภายในเวลาอันสมควรโดยไดรับคําเตือนเปนหนังสือจากเจา เจาพนักงานทีด่ ินสัง่ ใหชางรงั วัดสงั กดั กรมท่ดี ินดําเนินการ
พนักงานที่ดนิ แลวและคณะกรรมการพิจารณาเห็นสมควรใหเ พิกถอนใบอนุญาต

ผูจัดการ สนง.ชางรังวัด หน.ฝายรังวัดควบคุมและเรงรัดการ เจา พนักงานทด่ี ิน ไมเห็นชอบ สั่งแกไขหรือ ใหทําการรังวัดใหม สนง.ชางรังวัดเอกชน รับเรื่องภายใน ๓ วัน และดําเนินการตามคําสั่ง ในกรณีท่ีตองมีการ
เอกชนตรวจสอบและ ตรวจงานรังวัดใหแ ลว เสรจ็ ภายในสองวนั พจิ ารณาสั่งการ แจง สนง.ชางรงั วดั เอกชน รงั วัดตรวจสอบใหม ใหแจงเจาพนักงานท่ีดินทราบกอนวันทําการรังวัดไมนอยกวา ๑๐ วัน
ล ง ชื่ อ รั บ ร อ ง ผ ล ก า ร นับแตวนั รบั เร่ือง ภายใน ๑ วนั ทราบ ภายใน ๒ วนั นับต้ังแตวนั ทต่ี รวจพบ ทําการ
รงั วดั  ตรวจใหถ กู ตองตามกฎหมาย ระเบียบ
สจมพงีหงดนา.นังทใสี่ดหือิน สสแํนาลงเะน.ฝทาาี่ดยสินรงัโงตดวัดอย คําสั่งและหลกั วชิ า (ไมต อ งลงนามรับรอง เหน็ ชอบ แจงผขู อทราบภายใน ๕ วัน นบั แตว ัน ผู้ ข อ นํ า โ ฉ น ด ม า
ตรวจสอบจํานวนเอกสาร ในแบบพมิ พหลกั ฐาน การรงั วัด) ฝา ยทะเบียน รบั เร่อื งจากฝายรังวดั (กรณขี างเคยี งครบ) สนง.ทีดิน
ท่ีนําสงถูกตองครบถวน  ตรวจสอบการใชหลักเขตที่ดินใหตรง สนง.ทดี่ ิน หรือนบั แตว ันดาํ เนนิ การครบตาม ป.ทีด่ นิ
ต ร ง ต า ม จํ า น ว น บั ญ ชี ตามรายงาน รว.๓ (กรณขี างเคยี งไมครบ)
เอกสาร (สชอ.๗) แลว  ตรวจชนิดและหมายเลขเครื่องมือ
ลงนามรบั ไว รงั วัดท่ใี ชจ ากสาํ เนาหนงั สอื รบั รอง (แบบ
สชอ.๕)ใหอ ยูภายในระยะเวลารับรอง
 ถาตองมีการแกไขใหแจงเปนหนังสือ สรา งโฉนดฉบับแบง แยกหรอื ฉบบั รวมโฉนด ชําระคา ธรรมเนียม แบง แยก
ถึ ง สํ า นั ก ง า น ช า ง รั ง วั ด เ อ ก ช น ท ร า บ ภายใน ๗ วัน นับแตวนั จดทะเบยี นและแจง จดทะเบียน รวมโฉนด
ภายในสองวัน ผขู อทราบ ภายใน ๓ วัน เพ่ือมารบั โฉนด รับทราบ
หรือแกไ ข สอบเขต
๑. กรณแี บงแยกไมเ กนิ ๓ แปลง ผูขอสามารถรอรับโฉนดท่ีแปลงแยกในวันจดทะเบียน แจกโฉนดคืน
แบง แยก หรืออยา งชา วันรุงขน้ึ
๒. สําหรับกรุงเทพฯ หากแบงแยกไมเกิน ๕ แปลง ผูขอสามารถรับโฉนดแปลงแยกใน
วนั จดทะเบียนแบง แยกไดเลย

แจกโฉนดคืน หมายเหตุ ระเบยี บกรมทดี่ นิ วา ดว ยการรงั วดั สอบเขต แบงแยก และรวมโฉนดท่ีดินโดยสาํ นักงานชา งรงั วดั เอกชน พ.ศ. ๒๕๓๘ และแกไขฉบบั ท่ี ๒ พ.ศ. ๒๕๔๗

๘8๙9

สาํ นกั จัดการทด่ี นิ ของรัฐ

เรื่อง การดาํ เนินการเก่ยี วกบั การคุมครองปองกันทดี่ ินอนั เปน สาธารณสมบัตขิ องแผนดนิ สําหรบั
พลเมืองใชร วมกนั

ประเด็นภารกจิ สาระสาํ คัญในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําส่ังท่เี กี่ยวของ

1. อํานาจหนาท่ีในการ  อํานาจหนาท่ีในการดูแลรักษาและ  มาตรา 122 แหงพระราชบัญญัติ
คมุ ครองปอ งกนั คุมครองปองกันที่ดินอันเปนสาธารณ ลักษณะปกครองทองที่พุทธศักราช
สมบัติของแผนดินสําหรับพลเมืองใช ๒ ๔ ๕ ๗ ซึ่ ง แ ก ไ ข เ พิ่ ม เ ติ ม โ ด ย
รวมกันเปนของนายอําเภอรวมกับ พระราชบัญญัติลักษณะปกครอง
องคก รปกครองสว นทองถิ่น ทอ งท่ี (ฉบบั ท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑

2. หนาท่ีสนับสนุนใน  เจาพนักงานที่ดินจังหวัด/ เจาพนักงาน  ระเบียบกระทรวงมหาดไทย วาดวย
การดําเนินการของ ท่ีดินจังหวัดสาขา มีหนาที่สนับสนุนใน การดูแลรักษาและคุมครองปองกันท่ีดิน
หนวยงานท่ีมีอํานาจ การดําเนินการตรวจสอบขอเท็จจริง อันเปนสาธารณสมบัติของแผนดิน
หนา ท่ีตามกฎหมาย เก่ียวกับท่ีดินสาธารณประโยชน การ สาํ หรบั พลเมอื งใชร ว มกนั พ.ศ. ๒๕๕๓
ดูแลรักษาและคุมครองปองกัน ตลอดจน  ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย วา ดว ย
การดําเนินการแกไขปญหาการบุกรุก การสอบสวนเกี่ยวกับการบุกรุกท่ีหรือ
ท่ดี ินของรัฐ ทางสาธารณประโยชน พ.ศ. ๒๕๓๙
 หนังสือกระทรวงมหาดไทย ท่ี มท
๐๖๐๔/ว 197 ลงวันท่ี ๑๘ เมษายน
๒๕๑0 เร่ือง การดูแลรักษาและ
ดําเนินการคุมครองปองกันที่ดินอัน
เปน สาธารณสมบตั ขิ องแผน ดนิ
 หนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท
๐๔๐๓/ว ๑๓๙๔ ลงวันที่ ๒๕ ตุลาคม
๒๕๒๘ เร่ืองกาํ หนดมาตรการปองกัน
การบุกรุกท่ีดนิ สาธารณประโยชน
 หนงั สือกระทรวงมหาดไทย ดว นมาก
ท่ี มท ๐๕๑๑.๔/ว ๒๔๓๔ ลงวันที่
๒๑ กรกฎาคม ๒๕๔๖ เรื่อง การ
แกไขปญ หาการบุกรุกทดี่ นิ ของรัฐ

90 ๙๐

เรื่อง การดําเนนิ การจดั ใหม ีหนงั สอื สาํ คัญสาํ หรับที่หลวง

ประเดน็ ภารกิจ สาระสาํ คญั ในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ ส่งั ท่ีเกี่ยวของ

อํานาจหนาท่ีและ การจดั ใหมีหนงั สอื สาํ คัญสําหรับท่ีหลวง  ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย
บทบาทของเจาพนักงาน เพ่ือแสดงเขตทีด่ นิ อนั เปน สาธารณสมบัติ มาตรา 1304 (2), (3)
ท่ีดินจังหวัด/สาขาใน ของแผนดินสําหรับพลเมืองใชรวมกันหรือ  ประมวลกฎหมายท่ีดิน มาตรา ๘ ตรี
การดําเนินการจัดใหมี ใชเพ่ือประโยชนของแผนดินโดยเฉพาะ  กฎกระทรวงฉบับท่ี ๒๖ (พ.ศ. ๒๕๑๖)
หนั งสื อสํ าคั ญสํ าหรั บ เปนอํานาจหนาที่ของอธิบดีกรมที่ดิน ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
ทีห่ ลวง และเปนภารกิจของกรมท่ีดิน ดังนั้น ประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
เจา พนักงานท่ีดินจังหวัด/เจาหนักงานท่ีดิน
จงั หวดั สาขาจงึ มีหนาท่ีปฏิบัติควบคุม กํากับ  กฎกระทรวงฉบับท่ี ๔๕ (พ.ศ. ๒๕๓๗)
ดูแลการปฏิบัติงานของเจาหนาที่ใหเปนไป ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
ตามกฎหมาย/ระเบียบ/คําส่ังที่เก่ียวของซึ่งมี ประมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
 ระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการออกหนังสือ
ประเดน็ ภารกจิ ทส่ี าํ คัญ ดังน้ี
1. การย่ืนคําขอ หรือแจงความประสงค สําคัญสําหรับที่หลวง พ.ศ. ๒๕๑๗ (และ
จะใหมีหนงั สือสําคัญสําหรับท่ีหลวง ที่แกไ ขเพิม่ เติม) ขอ 3  5
2. การรงั วัดเพอ่ื ออกหนังสือสําคัญสําหรับ  หนังสือกรมท่ีดิน ท่ี มท ๐๕๑๑.๔/ว
ที่หลวง ๗๑๘๒ ลงวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๒
3. การสอบสวน การประกาศ และการ เรื่อง การออกหนังสือสําคัญสําหรับ
ท่ีหลวงในท่ีดินอันเปนสาธารณสมบัติ
ดาํ เนินการกรณมี กี ารคดั คาน ของแผน ดินสําหรับพลเมืองใชรวมกนั
4. การลงนามในหนังสือสําคญั สําหรับทหี่ ลวง  คําสั่งกรมที่ดิ น ที่ 2189/2546
5. การจัดทําทะเบยี นทดี่ ินสาธารณประโยชน
6. การออกใบแทนหนงั สือสําคญั สําหรบั
ท่หี ลวง ลงวันที่ ๒๔ ตุลาคม 2546 เร่ือง
7. การเปลี่ยนอาํ นาจหนาทผ่ี ดู แู ลรักษา มอบ อํา น า จของอธิบดีกรมท่ีดิ น
8. การเปลี่ยนหนงั สือสําคญั แสดงกรรมสิทธิ์ ใหผูวาราชการจังหวัดแบบบูรณาการ
เปนหนงั สือสําคญั สําหรบั ท่ีหลวง ปฏิบัติราชการแทน
9. การออกหนังสอื สําคัญสาํ หรับท่หี ลวง
กรณเี ปลีย่ นประเภทท่ีดิน
10. การเพิกถอนหรือแกไขหนังสือ
สาํ คัญสาํ หรับทหี่ ลวง
11. การรงั วัดออกหนงั สอื สาํ คญั สําหรบั

ท่หี ลวงในท่ีราชพัสดุ
12. การรังวดั ออกหนังสือสําคัญสาํ หรับ
ที่หลวงในเขตปฏริ ปู ที่ดนิ (ส.ป.ก.)

13. การรงั วดั ออกหนังสือสาํ คญั สาํ หรับ
ทีห่ ลวงในเขตจัดรปู ทีด่ ิน

๙9๑1

ประเดน็ ภารกิจ สาระสําคญั ในการพจิ ารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําสัง่ ทีเ่ ก่ียวของ
14. การรงั วดั ออกหนงั สอื สาํ คัญสําหรบั

ที่หลวงในเขตปา ไม
15. การรงั วดั ออกหนงั สือสําคัญสาํ หรับ

ท่หี ลวงในเขตนคิ มสรา งตนเอง
16.การรังวัดตรวจสอบที่สาธารณประโยชน

ท่ไี มม ีหนังสอื สาํ คัญสําหรบั ที่หลวง

1. การยนื่ คาํ ขอหรือแจง 1.1 ท่ีดนิ ท่ีอธิบดีอาจจัดใหมีหนังสือสําคัญ ประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย มาตรา
ความประสงคจะใหมี สาํ หรับทห่ี ลวงไดมี ๒ ประเภท คือ 1304 (2), (3)
หนงั สอื สําคัญสําหรับ (1) ที่ดินอันเปนสาธารณสมบัติ  ประมวลกฎหมายท่ดี นิ มาตรา ๘ ตรี
ทห่ี ลวง ของแผนดินสําหรับพลเมืองใช  กฎกระทรวงฉบับที่ ๒๖ (พ.ศ. ๒๕๑๖)
รว มกนั ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
(2) ที่ดินอันเปนสาธารณสมบัติ ประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
ของแผนดินสําหรับใชเพ่ือ  ระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการออกหนังสือ
ประโยชนของแผนดินโดยเฉพาะ สําคญั สาํ หรับทีห่ ลวงพ.ศ. ๒๕๑๗ (และ
1.2 ใหทบวงการเมืองผูมีอํานาจ ทแี่ กไ ขเพิม่ เตมิ ) ขอ 3 – 5
หนาท่ีดูแลรักษาทําหนังสือแจง  หนังสือกรมท่ีดิน ที่ มท ๐๕๑๑.๔/
ความประสงคยื่นผานสํานักงาน ว ๗๑๘๒ ลงวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๒
ท่ีดินจังหวัดหรือสาขา ซ่ึงท่ีดิน เรื่อง การออกหนังสือสําคัญสําหรับท่ี
น้ันตั้งอยู ถา พื้นที่คาบเก่ียวหลาย หลวงในท่ีดินอันเปนสาธารณสมบัติของ
จังหวัด หรืออําเภอใหย่ืน ณ แผน ดินสําหรับพลเมืองใชร วมกัน
สํานกั งานที่ดินจงั หวัดหรือสาขาที่มี  คําส่ังกรมท่ีดิ น ท่ี 2189/2546
พื้นท่ีสวนใหญต ั้งอยู ลงวันที่ ๒๔ ตุลาคม 2546 เรื่อง
1.3 เจาพนักงานที่ดินจังหวัดหรือ มอบอํ านาจของอธิ บดี กรมที่ ดิ น
เจาพนักงานที่ดินจังหวัดสาขา ใหผูวาราชการจังหวัดแบบบูรณาการ
ตองตรวจพจิ ารณาวา ที่ดินแปลงที่ ปฏิบัติราชการแทน
ขอนั้นอยูในหลักเกณฑที่จะออก
หนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวงใหได
หรือไม ถาจะออกใหไมไดให
ร ายงาน กร มที่ดิน ห รือผูวา
ราชการจังหวัดทราบเพ่ือแจงให
ทบวงการเมอื งนนั้ ทราบ

92 ๙๒

ประเดน็ ภารกิจ สาระสําคัญในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําส่ังทเี่ กี่ยวของ

2. การรังวัดเพื่อออก 2.1 การรังวัดใหปฏิบัติเชนเดียวกับการ  ระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการออกหนังสือ
หนังสอื สําคัญสําหรับ รังวัดออกโฉนดที่ดินโดยอนุโลม สําคัญสําหรับท่ีหลวง พ.ศ. ๒๕๑๗ (และ
ท่หี ลวง แตมสี ว นท่จี ะตอ งดาํ เนนิ การเพ่ิมเติม ที่แกไ ขเพ่มิ เติม) ขอ 6 10
ตามระเบียบฯ เชน การปกหลัก
หมายเขตท่ีสาธารณประโยชนและ
แผนปายบอกชื่อที่สาธารณประโยชน
เปน ตน
2.2 การรังวัดใหถือเขตตามที่ปรากฏ  ระเบียบกระทรวงมหาดไทย วาดวยการ
ในหลักฐาน หรือทะเบียนเดิมของ มอบหมายใหสภาตําบลหรือองคกร
ทางราชการแตถาเขต ระยะ และ ปกครองสวนทองถิ่นชวยเหลือในการ
ขางเคียงเปล่ียนแปลงไปจะตอง ดําเนินการออกหนังสือสําคัญสําหรับ
สอบสวนบันทึกผูนําทําการรังวัด ที่หลวงพ.ศ. ๒๕๔๓
ผูปกครองทองที่ผูสูงอายุที่เชื่อถือ
ไดผูที่เคยใชประโยชน ประมาณ
๓ – ๔ คน ถึงสาเหตุของการ
เปลี่ยนแปลง หากปรากฏวาไดเน้ือ
ทน่ี อยกวา หลกั ฐานเดมิ มาก ใหแจง
นายอําเภอทราบเพ่ือใหสภาตําบล
หรือองคกรปกครองสวนทองถ่ิน
ชว ยเหลอื ในการออกหนังสือสําคัญ
สําหรับทีห่ ลวงตามระเบียบฯ
2.3 ในการรงั วัดหากมผี คู ัดคานใหทําแผนที่
โดยแสดงเขตดวยเสนประแสดงเน้ือท่ี
ที่มีการคัดคานแตละรายในแผนท่ี
กระดาษบางระบุ “ชื่อผูคัดคาน”
โดยไมตองใหผ คู ดั คานรบั รองเขต
2.4 กรณีมีทางสาธารณประโยชน

(รถยนตเดนิ ไมได) หวยลําน้ําอยูในท่ีดิน
ท่ีขอออกหนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวง
ใหบันทึกความยินยอมผูดูแลรักษา
และออกเปนแปลงเดียวกันก็ได และ
ใหบันทึกผูขอดวยวาจะไมทําให
เสียหายแกการใชที่สาธารณประโยชน

๙9๓3

ประเดน็ ภารกจิ สาระสําคัญในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ สัง่ ทเี่ ก่ียวของ
น้นั และแสดงเสนประใหปรากฏในรูป
แผนทีถ่ า มคี ลองสาธารณประโยชน
ทางหลวงแผนดิน ทางหลวงชนบท
ตัดผานใหออกหนังสือสําคัญสําหรับ
ทห่ี ลวงเปน แปลงๆ ไป

3. การสอบสวนการ 3.1 พนักงานเจาหนาท่ีตองสอบสวน  ระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการออกหนังสือ
ประกาศ และการ ผูขอหรือตัวแทนผูนําทําการรังวัด สําคัญสําหรับท่ีหลวง พ.ศ. ๒๕๑๗ (และ
ดําเนินการกรณีมี ผูปกครองทองที่ผูสูงอายุ เจาของ ทีแ่ กไ ขเพิ่มเตมิ )
การคดั คา น ที่ดินขางเคียงเพ่ือใหทราบถึงท่ีต้ัง ขอ 11 – 15
จํานวนเนอ้ื ที่ ประวตั แิ ละอาณาเขตท่ีดิน
ตามแบบการสอบสวนเพื่อออก
หนังสอื สาํ คญั สาํ หรับที่หลวง (ส.ธ.2)
3.2 ใหเจา พนกั งานทีด่ นิ จงั หวัดหรือสาขา  กฎกระทรวงฉบับท่ี ๒๖ (พ.ศ. ๒๕๑๖)
ประกาศการออกหนังสือสําคัญ ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
สําหรับท่ีหลวงใหประชาชนทราบ มี ประมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
กาํ หนด 30 วัน ในประกาศใหมีแผนที่
แสดงแนวเขตทด่ี ินและกาํ หนดระยะเวลา
ใ ห ผู มี ส ว น ไ ด เ สี ย คั ด ค าน ภ าย ใ น
กําหนด 30 วนั นับแตวันประกาศ
3.3 กรณมี ผี ูคดั คา นดําเนนิ การ ดังน้ี  กฎกระทรวงฉบับที่ ๔๕ (พ.ศ. ๒๕๓๗)
(๑) ผูคัดคานไมมีหลักฐานหนังสือ ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
แสดงสิทธิในท่ีดินตามประมวล ประมวลกฎหมายทด่ี ิน
กฎหมายที่ดินใหไปใชสิทธิทาง พ.ศ. ๒๔๙๗
ศาลภายใน ๖๐ วัน นับแตวันที่
คัดคาน หากไมไปใชสิทธิภายใน
กํ า ห น ด ใ ห อ อ ก หนั งสื อสํ าคั ญ
สําหรับที่หลวงได หากไปใชสิทธิทาง
ศาลใหรอเรื่องไวจนกวาศาลจะมี
คําพิพากษาถึงทส่ี ดุ
(๒) ผคู ดั คา นมีหลักฐานหนังสือแสดง
สิทธิในท่ีดินตามประมวลกฎหมาย
ท่ีดนิ ใหผ ูวาราชการจังหวัดตรวจสอบ

94 ๙๔

ประเดน็ ภารกิจ สาระสาํ คัญในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําส่งั ทเี่ กี่ยวของ
สิทธิวาชอบดวยกฎหมายหรือไม
และแจงผลใหผูคัดคา นทราบ

4. การลงนามในหนังสือ 4.1 อํานาจในการออก หรือจัดใหมี  คําสั่งกรมที่ดิน ที่ 2189/2546 ลงวันท่ี
สําคัญสําหรับท่หี ลวง หนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวงเปน ๒๔ ตุลาคม 2546 เร่ือง มอบอํานาจ
ของอธิบดีกรมท่ีดินตามมาตรา 8 ของอธิบดีกรมท่ีดินใหผูวาราชการ
ตรี แหงประมวลกฎหมายที่ดินโดยได จังหวัดแบบบรู ณาการปฏิบตั ริ าชการ
มอบอํานาจใหผูวาราชการจังหวัด แทน
ปฏิบัติราชการแทน
4.2 หนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวงใหจัดทํา  ระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการออกหนังสือ
เปน 3 ฉบับ เก็บไวที่ผูดูแลรักษา สําคัญสําหรับที่หลวง พ.ศ. ๒๕๑๗
สาํ นกั งานท่ีดินจังหวัดหรือสาขาและ (และที่แกไขเพิ่มเติม)ขอ 13 – 14,
กรมท่ีดิน กรณีท่ีดินอยูคาบเกี่ยว 1718
หลายจังหวัดใหทําเพ่ิมตามจํานวน
พ้ืนที่ท่ีเก่ียวของ เจาพนักงานที่ดิน
จังหวัดและสาขา ตองตรวจสอบ
ความถูกตองและความเรียบรอย
กอนเสนอลงนาม

5. การจัดทําทะเบียนท่ีดิน 5.1 การจัดทําทะเบียนที่ดินสาธารณ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา ดวยการ
สาธารณประโยชน ประโยชนเปนหนาที่ของนายอําเภอ ดูแลรักษาและคุมครองปองกันที่ดินอัน
รวมกบั องคกรปกครองสวนทองถิ่น เปนสาธารณสมบัติของแผนดิน สําหรับ
เจาพนักงานท่ีดินจังหวัด หรือสาขา พลเมืองใชรวมกนั พ.ศ. ๒๕๕๓ ขอ 10
มีหนาทส่ี นับสนุนในการดําเนนิ การ  ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา ดวยการ
5.2 เมอ่ื ไดด าํ เนินการออกหนังสือสําคญั ดูแลรักษาและคุมครองปองกันที่ดินอัน
สําหรับท่ีหลวงแลว ใหตรวจสอบ เปนสาธารณสมบัติของแผนดิน สําหรับ
ทะเบียนที่ดินสาธารณประโยชน พลเมืองใชร วมกนั พ.ศ. ๒๕๕๓ ขอ 11
หากไมปรากฏหลักฐาน หรือราย  หนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท
ละเอยี ดไมตรงกันใหเ จาพนักงานที่ดิน ๐๖๐๔/ว 197 ลงวันที่ ๑๘ เมษายน
ลงรายการเก่ียวกับท่ีดินใหครบถวน ๒๕๑0 เร่ือง การดูแลรักษา และ
หรอื แกไ ขใหต รงกบั ขอเทจ็ จริง ดําเนินการคุมครองปองกันท่ีดินอัน
กรณีมีการถอนสภาพ หรือมีการ เปนสาธารณสมบตั ิของแผนดนิ
โอน หรือมีคําพิพากษาหรือคําสั่งถึง

๙9๕5

ประเดน็ ภารกจิ สาระสําคัญในการพจิ ารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําสั่งที่เก่ียวของ
ท่ีสุดวาที่ดินตามทะเบียนไมเปนที่
ส า ธ า ร ณ ป ร ะ โ ย ช น ท้ั ง แ ป ล ง ใ ห
เจาพนักงานที่ดินจําหนายทะเบียน
แตหากเปนบางสวนใหหมายเหตุ
ทายรายการใหถูกตองตามระเบียบฯ
กรณีท่ียังมิไดมีการออกหนังสือสําคัญ
สาํ หรบั ท่ีหลวง เมื่อขอเท็จจริงปรากฏวา
ทะเบียนท่ีดินสาธารณประโยชนผิดพลาด
คลาดเคลื่อน ใหสํานักงานที่ดินจังหวัด
หรือสาขารวบรวมขอเทจ็ จรงิ และความเห็น
ขององคกรปกครองสวนทองถ่ินและอําเภอ
เพ่ือรายงานผูวาราชการจังหวัดใหความ
เ ห็ น ช อ บ นํ า เ ส น อ กระทรวงมหาดไทย
(รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย) พิจารณา
สง่ั การ หากเหน็ ชอบใหเ จา พนักงานท่ีดิน
แกไขหรือจาํ หนายทะเบียนตามระเบียบฯ

5.3 กรณีทีด่ นิ สาธารณประโยชนท ไ่ี ด  ระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการออก
ออกหนงั สือสําคัญสาํ หรบั ที่หลวงนั้น หนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวง พ.ศ.
ไมมกี ารจัดทาํ ทะเบยี นท่ีดินสาธารณ ๒๕๑๗ (และทแ่ี กไขเพม่ิ เตมิ ) ขอ 16
ประโยชนมากอ น ใหจ ดั ทําขึ้นใหม
ตามระเบียบฯ จาํ นวน 4 ชดุ เกบ็ ไว
ทอ่ี ําเภอ องคก รปกครองสว นทอ งถิ่น
สาํ นกั งานท่ดี ินจังหวัด และกรมที่ดิน

6.การออกใบแทนหนังสือ 6.1 ในกรณีหนังสือสําคัญสําหรับท่ี  ระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการออกหนังสือ
สาํ คัญสําหรับทห่ี ลวง หลวงฉบับผูดูแลรักษาชํารุดหรือ สําคัญสําหรับท่ีหลวง พ.ศ. ๒๕๑๗ (และ
สูญหาย ใหผูดูแลรักษาทําเปน ท่ีแกไ ขเพ่มิ เติม) ขอ 19 – 23
หนังสือแจงความประสงคขอรับใบ  คําส่ังกรมที่ดิ น ท่ี 2189/2546
แทน ผานสํานักงานท่ีดินจังหวัด ลงวนั ที่ ๒๔ตลุ าคม2546เรอื่ งมอบ
หรือสาขา โดยใหทําการสอบสวนตาม อํานาจของอธิบดีกรมท่ีดินใหผูวา
ควรแกกรณี แตไมตองประกาศเม่ือไม ราชการจังหวัดแบบบูรณาการปฏิบัติ
มีขอขัดของแลว ใหสรางใบแทน ราชการแทน

96 ๙๖

ประเด็นภารกิจ สาระสําคญั ในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ ส่ังท่ีเก่ียวของ
หนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวงตาม
ระเบียบฯ เสนอผมู ีอํานาจลงนาม
6.2 กรณีหนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวง
ฉบับสํานักงานท่ีดินจังหวัดหรือ
ฉบับกรมที่ดินชํารุด สูญหายให
เจาพนกั งานท่ีดินเรียกหนังสือสําคัญ
สําหรับท่ีหลวงฉบับใดฉบับหนึ่งมา
จาํ ลองรปู ถายเก็บไวเปนหลกั ฐานได

7. การเปลี่ยนอํานาจ เมื่อออกหนังสือสําคัญสําหรับท่ี  ระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการออกหนังสือ
หนา ทผ่ี ดู ูแลรกั ษา หลวงไปแลวหากมีการเปลี่ยนอํานาจ สําคัญสําหรับที่หลวง พ.ศ. ๒๕๑๗
หนาท่ีผูดูแลรักษาใหมอบหนังสือสําคัญ (และที่แกไ ขเพ่มิ เติม)ขอ 28
สําหรับท่ีหลวงกันไดโดยไมตองแกไขชื่อ
และไมตอ งทาํ การรังวดั ใหม

8. การเปล่ียนหนังสือ หากผูดูแลรักษาท่ีดินอันเปนสาธารณ  ระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการออกหนังสือ
สําคัญแสดงกรรมสิทธิ์ สมบัติของแผนดินที่ใชเพื่อประโยชนของทาง สําคัญสําหรับท่ีหลวง พ.ศ. ๒๕๑๗
เปนหนังสือสําคัญ ราชการประสงคจะเปล่ียนหนังสือสําคัญแสดง (และทแ่ี กไ ขเพิ่มเติม)ขอ 28
สาํ หรับที่หลวง กรรมสิทธิ์เดมิ เปน หนังสอื สําคัญสําหรับที่หลวง
ก็ใหดําเนินการไดเมื่อออกใหไปแลวใหเรียก
โฉนดท่ีดินเดมิ มาหมายเหตุตามระเบยี บฯ

9. การออกหนังสือสําคัญ เม่ือไดมีการออกหนังสือสําคัญสําหรับที่  ระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการออกหนังสือ
สําหรับที่หลวง กรณี หลวงใหไปแลว ตอมามีการเปล่ียนประเภท สําคัญสําหรับท่ีหลวง พ.ศ. ๒๕๑๗
เปล่ยี นประเภทท่ดี นิ ที่ดนิ และผูดูแลรักษา เชน ที่ดินสาธารณ (และทแ่ี กไขเพ่ิมเตมิ ) ขอ 30
สมบัติของแผนดินสําหรับพลเมืองใช
รวมกัน เม่ือไดมีพระราชกฤษฎีกาถอน
สภาพเพื่อใชประโยชนในราชการท้ังแปลง
ท่ีดินดังกลาวจึงเปลี่ยนประเภทที่ดินเปน
“สาธารณสมบตั ขิ องแผนดินสําหรับใชเพ่ือ
ประโยชนของแผนดินโดยเฉพาะ”และ
เปลี่ยนผูดูแลรักษาจาก“กระทรวงมหาดไทย”
เปน “กระทรวงการคลัง” หากผูดูแลรักษา

๙9๗7

ประเดน็ ภารกจิ สาระสาํ คญั ในการพจิ ารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําส่ังท่ีเกี่ยวของ
ประสงคจะขอเปล่ยี นหนงั สอื สาํ คญั สาํ หรับ
ทห่ี ลวงใหม กใ็ หออกหนังสือสําคัญสําหรับ
ท่ีหลวงใหมใหตรงกับสภาพท่ีดินไดโดยไม
ตองประกาศและไมตองทําการรังวัดใหม
เม่ือออกใหไปแลวใหเรียกฉบับเดิมมา
หมายเหตุไวตามระเบยี บฯ

10. การเพิกถอนหรือ 10.1 อธิบดีกรมที่ดินเปนผูมีอํานาจ  ประมวลกฎหมายท่ีดิน มาตรา 8 ตรี
แกไขหนังสือสําคัญ ออกหนงั สือสําคัญสําหรับที่หลวง  พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทาง
สําหรบั ทหี่ ลวง ตามประมวลกฎหมายท่ีดิน จึงเปน ปกครอง พ.ศ.2539 มาตรา 3,
เจาหนาท่ีผูมีอํานาจทําคําส่ังทาง 43, 49
ปกครอง เม่ือไมมีกฎหมายบัญญัติเร่ือง
การเพิ กถอนแก ไขหนั งสื อสํ าคั ญ
สําหรับท่ีหลวงไวเปนการเฉพาะจึง
เปนไปตามหลักเกณฑท่ัวไปตามนัย
พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการ
ทางปกครอง พ.ศ.2539

10.2 อธิบดกี รมทด่ี นิ ไดมอบอํานาจเก่ียว  คําสั่งกรมท่ีดิน ท่ี 2189/2546
กับการเพกิ ถอนหรอื แกไขหนังสือ ลงวันที่ ๒๔ ตุลาคม 2546 เรื่อง
สําคัญสําหรับที่หลวงใหผูวาราชการ ม อ บ อํ า น า จ ข อ ง อ ธิ บ ดี ก ร ม ที่ ดิ น
จังหวัดปฏิบัติราชการแทน ยกเวน ใหผูวาราชการจังหวัดแบบบูรณาการ
ในเขตกรุงเทพมหานคร ยังเปน ปฏบิ ัติราชการแทน
อาํ นาจของอธบิ ดีกรมท่ีดนิ

10.3 เม่ือปรากฏวา มกี ารออกหนงั สอื  ระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการเพิก
สําคัญสําหรับท่ีหลวงไปโดยผิดพลาด ถอนหรือแกไขหนังสือสําคัญสําหรับ
คลาดเคลื่อนใหสอบสวนพยาน ที่หลวง พ.ศ. ๒๕๒๙ ขอ 3
หลกั ฐาน สรุปชี้แจงเหตุทผี่ ดิ พลาด
คลาดเคล่ือน เสนอผูมีอํานาจตาม
ขอ 10.2 พิจารณา หากตองมีการ
รังวัดใหทบวงการเมืองผูดูแลรักษา
ยน่ื ขอรงั วดั ตรวจสอบผานสํานักงาน

98 ๙๘

ประเดน็ ภารกจิ สาระสาํ คญั ในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ สัง่ ที่เก่ียวของ
ท่ีดินจังหวัดหรือสาขา โดยอนุโลม
ปฏิบัติเชนเดียวกับการรังวัดสอบ
เขตโฉนดทีด่ ิน

10.4 เม่ือผูมีอํานาจเห็นสมควรวาจะตอง  ระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการเพิก
เพิกถอนหรือแกไขแลว ใหแจงผูมี ถอนหรือแกไขหนังสือสําคัญสําหรับ
อํานาจหนาท่ีดูแลรักษาทราบเพื่อ ให ท่หี ลวง พ.ศ. ๒๕๒๙ ขอ 4
คัดคานภายใน ๓๐ วันนับแตวันที่
ไดรับแจง พรอมท้ังใหเจาพนักงาน
ทดี่ นิ จังหวัดหรือสาขาประกาศให
ประชาชนทราบภายใน ๓๐ วัน
หากมีการแกไขรูปแผนท่ีใหมีรูป
แผนที่แสดงแนวเขตท่ีดินเดิมและ
ท่ีจะแกไขทายประกาศดวย กรณี
มีการคัดคา นใหสงเร่ืองใหกรมท่ีดิน
เพื่อเสนอกระทรวงมหาดไทย
พิจารณาสงั่ การ

10.5 เมื่อมีคําสั่งแลวใหหมายเหตุ  ระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการเพิก
การเพิกถอนหรือแกไขตามระเบียบ ฯ ถอนหรือแกไขหนังสือสําคัญสําหรับ
รายงานใหกรมที่ดินทราบเพื่อ ท่หี ลวง พ.ศ. ๒๕๒๙
หมายเหตุฉบับกรมที่ดินใหถูกตอง ขอ 5 – 7
ตรงกนั และใหแจงทบวงการเมือง
ผูมีอํานาจหนาที่ดูแลรักษาทราบ
อีกคร้ังหน่ึงพรอมท้ังหมายเหตุใน
ทะเบียนท่ีสาธารณประโยชนให
สอดคลองกนั

10.6 เจาพนักงานท่ีดินจังหวัดหรือสาขา  ระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการเพิก
มอี ํานาจแกไ ขหนงั สือสาํ คัญสาํ หรับ ถอนหรือแกไขหนังสือสําคัญสําหรับ
ที่หลวงเนื่องจากเขียนหรือพิมพ ท่ีหลวง พ.ศ. ๒๕๒๙ ขอ 9
ขอความผิดพลาดคลาดเคลื่อน
โดยมีหลักฐานชัดแจง รวมท้ังแกไข

๙9๙9

ประเด็นภารกจิ สาระสําคัญในการพจิ ารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําสง่ั ทเ่ี กี่ยวของ

รายละเอียดใหถูกตองตามความ
เปนจริงท่ีเปลี่ยนแปลงไป เสร็จ
แลวรายงานกรมที่ดินทราบ เพ่ือ
แกฉ บับก ร มที่ ดินใ หถูก ตอ ง
ตรงกันตอไป
11. การรังวดั ออกหนังสือ 11.๑ ใหออกหนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวง  หนังสือกรมที่ดิน ท่ี มท 0609.2/
สํ าคั ญสํ าหรั บท่ี ในที่ดินอันเปนสาธารณสมบัติ ว 2140 ลว. 2 เมษายน 2525
หลวงในที่ราชพสั ดุ ของแผนดินใชเพ่ือประโยชนของ  หนังสือกรมที่ดิน มท 0711/ว
แผนดินโดยเฉพาะเทาน้ันหากเปน 19914 ลว. 29 สงิ หาคม 25๒9
ทรัพยสินของแผนดินธรรมดา
ใหอ อกเปนโฉนดทีด่ นิ

11.2 กรณีรังวัดไดเนื้อที่นอยกวาหลักฐาน  บันทึกขอตกลงระหวางกรมที่ดิน
เดิมหรือนอยกวาเนื้อท่ีตามทะเบียน กบั กรมธนารักษเรื่องการรังวัดออก
ท่ีราชพัสดุใหสํานักงานท่ีดินจังหวัด หนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวง การ
หรือสาขา แจงกรมธนารักษ/ธนารักษ ระวังช้ีแนวเขตและลงนามรับรอง
พื้นที่ทราบ หากไมแจงผลการ แนวเขตทีร่ าชพสั ดุ พ.ศ. 2543
พิจารณาหรือขอขัดของใหทราบ
ภายใน ๖๐ วัน ใหถือวาไมประสงค
จะออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวง
และใหยกเลิกคําขอตอ ไป

12. การรังวัดออกหนังสือ 12.1ตอ งตรวจสอบวาทส่ี าธารณประโยชน  หนังสือกระทรวงมหาดไทย ดวนมาก
สํ าคั ญสํ าหรั บท่ี นั้นอยใู นเขตการปฏิรูปทด่ี ินหรอื ไม ที่ มท 0409/ว 26 ลงวันที่ 6 มกราคม
หลวงในเขตปฏิรูป ประชาชนยังใชประโยชนรวมกันอยู 2535
ทดี่ นิ (ส.ป.ก.) หรือไม หากขอเท็จจริงปรากฏวา
ประชาชนยังใชประโยชนรวมกัน
อยูจงึ จะสามารถออกหนงั สอื สาํ คัญ
สําหรับที่หลวงได ในทางปฏิบัติ
กอนออกหนังสือสําคัญสําหรับท่ี
หลวงควรแจงใหสํานักงานการ
ปฏิรูปท่ีดินเพ่ือเกษตรกรรมเพ่ือ
ขอทราบวา จะขัดขอ งหรอื ไม

100 ๑๐๐

ประเด็นภารกิจ สาระสําคัญในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําสง่ั ท่เี กี่ยวของ
12.2 เม่อื ไดม ีพระราชกฤษฎีกากําหนดเขต

ปฏิรูปที่ดินใชบังคับในทองที่ใด
แลว ส.ป.ก. ก็มีอํานาจนําที่ดิน
สาธารณสมบัติของแผนดินสําหรับ
พลเมืองใชรวมกันไปดําเนินการ
ปฏิรูปที่ดินตามมาตรา ๒๖ (๑)
แหงพระราชบัญญัติการปฏิรูป
ท่ีดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘
ไดแตกอนดําเนินการจะตองได
ความวาประชาชนเลิกใชประโยชน
ในท่ดี ินนั้นหรอื ไดเ ปลีย่ นสภาพไป
จากการเปนที่ดินสําหรับพลเมือง
ใชรวมกันแลวหากประชาชนใช
รวมกันอยูหรือยังไมเปล่ียนแปลง
สภาพจากการเปนที่ดินสําหรับ
พลเมืองใชรวมกันคณะกรรมการ
ปฏิรูปที่ดินเพ่ือเกษตรกรรมตอง
จัดที่ดินแปลงอื่นใหประชาชนใช
รวมกันแทนกอนจึงจะมีผลเปน
การถอนสภาพตามกฎหมาย แต
สําหรับกรณีราษฎรเลิกใชเพราะ
มีผูบุกรุกครอบครองโดยพลการ
จนเปนเหตใุ หประชาชนไมสามารถ
เขาใชประโยชนรวมกันไดนั้นไม
ถือเปนการเลิกใชตามนัยหนังสือ
สํานักงานการปฏิรูปท่ีดินเพื่อ
เกษตรกรรม ที่ กษ ๑๒๐๔/๘๒๑๐
ลงวนั ที่ ๘ กันยายน ๒๕๓๗

13.การรงั วดั ออกหนงั สอื ท่ีดินสาธารณประโยชนที่อยูในเขต หนังสือกรมท่ีดิน มท 0718/02718
สาํ คญั สําหรับท่ีหลวง พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตโครงการ ลงวนั ท่ี 27 มกราคม 2542
ในเขตจัดรูปที่ดิน จัดรูปที่ดินจะมีผลเปนการถอนสภาพ
เปนทรัพยสินของกระทรวงเกษตรและ

๑1๐๑01

ประเด็นภารกิจ สาระสําคญั ในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําสงั่ ทเ่ี ก่ียวของ
สหกรณเพ่ือใชในการจัดรูปที่ดินตามนัย
มาตรา ๔๓ แหงพระราชบัญญัติจัดรูป
ท่ีดินเพื่อการเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗
เชนเดียวกับในเขตปฏิรูปที่ดิน ดังนั้น
จะตองไดขอเท็จจริงวาที่ดินดังกลาว
ประชาชนเลิกใชประโยชนรวมกันแลว
หากประชาชนยังใชประโยชนรวมกันอยู
และคณะกรรมการจัดรูปท่ีดินจังหวัดไม
ประสงคจะใชท่ีดินสวนน้ันในการจัดรูป
ที่ดิน ที่ดินนั้นยังคงสภาพเปนสาธารณ
สมบัติของแผนดินสําหรับพลเมืองใช
ร ว ม กั น อ ยู ส า ม า ร ถ ท่ี จ ะ อ อ ก ห นั ง สื อ
สําคัญสําหรับท่ีหลวงได

14. ก า ร รั ง วั ด อ อ ก 14.1 การตราพระราชกฤษฎีกากําหนด  คําวินิจฉัยคณะกรรมการกฤษฎีกา
ห นั ง สื อ สํ า คั ญ เขตอุทยานแหงชาติไมมีผลเปน เรอ่ื งเสรจ็ ที่ ๒๗๑/๒๕๓๐
สําหรับท่ีหลวงใน การเพกิ ถอนที่สาธารณประโยชน  ความเห็นคณะกรรมการพิจารณาปญ หา
เขตปา ไม แตอยางใด (คห.คกฎ.) และการ ขอกฎหมายกรมที่ดินเรื่องเสร็จท่ี
ตรากฎกระทรวงกําหนดเขตปา ๑๐/๒๕๓๔
สงวนแหงชาติไมมีผลเปนการ
ถอนสภาพที่สาธารณประโยชนได
เชนกัน (คห.คกม.) เน่ืองจากการ
ถอนสภาพท่ีสาธารณประโยชน
จะตองดําเนินการตามมาตรา ๘ แหง
ประมวลกฎหมายท่ีดินเทานั้น
ดั ง นั้ น จึ ง ส า ม า ร ถ อ อ ก ห นั ง สื อ
สําคัญสาํ หรับทีห่ ลวงได
14.2 กรมทด่ี ินและกรมปาไมไดว างแนวทาง  หนั งสือกรมที่ดิ น ที่ มท ๐๗๑๑/
ปฏบิ ัตเิ กย่ี วกับการออกหนงั สือสําคัญ ว. ๒๓๐๘๐ ลงวันท่ี ๑๖ ตุลาคม ๒๕๒๗
สาํ หรบั ท่หี ลวงในเขตปา ไมไ ว ดังน้ี
(๑) กรณีมหี ลกั ฐานการสงวนหวงหา ม
หรือหลักฐานการกันออกจาก
เขตปาไม หรือที่อยูนอกเขต

102 ๑๐๒
ประเดน็ ภารกจิ
สาระสาํ คญั ในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําสั่งที่เก่ียวของ
แตมีอาณาเขตติดตอกับเขต
ปาไมใหตรวจสอบวามีการ
ส ง ว น ห ว ง ห า ม ที ่ด ิน ไ ว โ ด ย
กฎหมายใดหรอื ไมอยางไรเคยมี
ประกาศหวงหามและข้ึนทะเบียน
ท่ดี ินสาธารณประโยชนห รือไม

(๒) กรณีไมมีหลักฐานการสงวน
หวงหา มแตพลเมอื งไดใชประโยชน
รวมกันอยูกอนท่ีทางราชการ
กําหนดเปนเขตปาไมใหคณะ
กรรมการระดับอําเภอรวมกัน
ตรวจสอบแนวเขตทําความเห็น
เสนอคณะกรรมการจําแนก
ประเภทที่ดินประจําจังหวัด
หรือคณะกรรมการจําแนก
ประเภทท่ีดินและพัฒนาที่ดิน
ชายทะเลประจําจังหวัดพิจารณา
หากคณะอนุกรรมการฯ เห็น
ดวยใหออกหนังสือสําคัญสําหรับ
ที่หลวงตอไปหากไมเห็นดวย
ใหท าํ เรือ่ งสง คนื ใหนายอําเภอ
หากนายอําเภอเห็นดวยกับคณะ
อนุกรรมการก็ใหดําเนินการไป
ตามน้ันหากไมเ หน็ ดว ยกับคณะ
อนุกรรมการฯ ใหสรุปเหตุผล
สงเรอ่ื งใหก รมทด่ี ินพิจารณา

(3) สําหรับในเขตอุทยานแหงชาติ
ในกรณีไมมีหลักฐานการสงวน
หวงหา มถามีความจําเปนตอง
ดําเนินการรังวัดออกหนังสือ
สําคัญสําหรับที่หลวงใหชี้แจง
เหตุผลความจําเปนใหกรมที่ดิน
พิจารณากอนเปนราย ๆ ไป

๑๐1๓03

ประเด็นภารกิจ สาระสาํ คัญในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ สัง่ ท่เี ก่ียวของ

15. การรังวัดออกหนังสือ การจัดตั้งนิคมเปนไปตามพระราช  หนังสือกรมประชาสงเคราะห ท่ี มท
สํ าคั ญสํ าหรั บท่ี บญั ญตั ิจดั ทด่ี ินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. ๒๕๑๑ ๐๘๑๐.ฝบ/ว ๑๕๖๐๘ ลงวันท่ี 1
หลวงในเขตนิคม แตพระราชบัญญัติดังกลาวมิไดมีผลเปน มีนาคม 2533
สรางตนเอง การเพิกถอนที่ดินสาธารณประโยชนแต
อยางใดสามารถออกหนังสือสําคัญสําหรับ
ท่ีหลวงไดกรมประชาสงเคราะหไดวาง
แนวทางปฏิบัติในการระวังช้ีแนวเขตและ
ลงชื่อรบั รองแนวเขตในการรังวัดหนังสือ
สําคัญสําหรับที่หลวงไว ตามหนังสือ
กรมประชาสงเคราะห ที่ มท ๐๘๑๐.ฝบ/
ว ๑๕๖๐๘ ลงวนั ที่ 1 มีนาคม 2533

16.การรังวัดตรวจสอบ กรณที ี่นายอําเภอหรือองคกรปกครอง  คําส่ังกระทรวงมหาดไทย ท่ี 158/
ที่สาธารณประโยชน สวนทอ งถิ่นขอใหรังวัดตรวจสอบทางหรือ 2501 ลงวันท่ี 3 มีนาคม 2501
ที่ยังไมมีหนังสือ ลํารางสาธารณประโยชน ซ่ึงไมมีการออก เร่ือง ระเบียบปฏิบัติในการรังวัดทํา
สําคัญสําหรับที่ หนังสือสําคัญสําหรับที่หลวงโดยทําเปน แผนท่ีและการระวังแนวเขตท่ีดินอัน
หลวง หนังสือขอความรวมมือใหสํานักงานที่ดิน เปนสาธารณสมบัตขิ องแผน ดินสําหรบั
จัดสง เจาหนาทไ่ี ปทําการรังวดั พลเมืองใชประโยชนรวมกันซ่ึงเกิดขึ้น
ในทางปฏิบัติควรสงชางรังวัดอาวุโส โดยสภาพ
ไปดําเนินการโดยใหถือหนังสือขอความ  หนังสือกรมท่ีดิน ที่ มท ๐๖๐๖/
รวมมือเปนคําขอและอนุโลมและถือปฏิบัติ ว ๓๐๗๔๓ ลงวันท่ี ๒๒ พฤศจิกายน
ตามระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการรังวัด ๒๕๓๙
สอบเขตแบงแยกและรวมโฉนด พ.ศ.2527  หนังสือกรมท่ีดิน ที่ มท ๐๗๒๖/ว
ประกอบกับคําสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ ๐๗๒๘๒ ลงวันที่ ๒๐ มีนาคม
158/2501 ลงวนั ที่ 3 มีนาคม 2501 ๒๕๔๔
เม่ือดําเนินการเสร็จแลวใหสงรูปแผนที่
กระดาษบาง (ร.ว.9) แสดงขอบเขตที่
สาธารณประโยชนและสวนท่ีมีขอพิพาท
ใหผูมีอํานาจดูแลรักษาเพ่ือพิจารณา
ดําเนนิ การตามอํานาจหนาท่ตี อไป

104 ๑๐๔

เรอ่ื ง การบรหิ ารจัดการและการอนุญาตใหใชประโยชนในทดี่ นิ ของรัฐ

ประเดน็ ภารกจิ สาระสาํ คญั ในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําสงั่ ท่ีเกี่ยวของ

อํานาจหนาที่และ ประมวลกฎหมายทีด่ ินมบี ทบญั ญัตเิ กีย่ วกับ  มาตรา ๘, ๘ ทว,ิ ๙, ๙/๑, ๑๐, ๑๑

บทบาทของเจาพนักงาน การบรหิ ารจัดการและการอนุญาตใหใชป ระโยชน และ ๑๒ แหง ประมวลกฎหมายท่ีดิน

ที่ดินจังหวัด/สาขา ใน ในทดี่ ินของรฐั ไวต้ังแตมาตรา 8 ถึงมาตรา 12  ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย วา ดวย

การบริหารจัดการ โดยทด่ี ินของรัฐที่จะอนญุ าตใหใ ชป ระโยชนไ ด วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการถอนสภาพการ

และการอนุญาตใหใช มี 2 ประเภท คือ ท่ีดินรกรางวางเปลา และ จัดข้ึนทะเบียนและการจัดหาผล

ปร ะโ ยช นใน ที่ดิน ท่สี าธารณประโยชน เมอื่ กฎหมายบัญญตั ิให ประโยชนในที่ดินของรัฐ ตามประมวล

ของรัฐ เปนภารกิจของกรมทด่ี ิน ดังนั้น เจา พนักงานท่ีดิน กฎหมายทีด่ ิน

จงั หวดั /เจาหนกั งานท่ีดนิ จังหวัดสาขาจึงมหี นา ที่  ระเบียบกระทรวงมหาดไทย วาดวย

ปฏบิ ัติ ควบคมุ กํากบั ดูแลการปฏบิ ัติงานของ หลักเกณฑและวิธีการเก่ียวกับการ

เจา หนาทีใ่ หเปน ไปตามกฎหมาย/ระเบียบ/คาํ สงั่ อนุญาต ตามมาตรา ๙ แหงประมวล

ทีเ่ กย่ี วของ ซงึ่ มปี ระเดน็ ภารกิจทส่ี าํ คัญ ดังนี้ กฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. ๒๕๔๓

1. ทบวงการเมืองประสงคขอใชท่ีดินสาธารณ  ระเบียบกระทรวงมหาดไทย วาดวย

ประโยชนอ ยา งถาวร ก า ร เ ป ลี ่ย น ส ภ า พ ที ่ด ิน อ ัน เ ป น

2. ทบวงการเมืองประสงคขอใชท่ีดินรกราง สาธารณสมบัติของแผนดินสําหรับ

วางเปลา อยา งถาวร พลเมืองใชรวมกันจากการใชเพ่ือ

3. ทบวงการเมืองหรือเอกชนขออนุญาตใช สาธารณประโยชนอยางหน่ึงเปน

ประโยชนในท่ีดินของรัฐ ตามมาตรา ๙ อกี อยางหน่งึ พ.ศ. ๒๕๔๓

แหง ประมวลกฎหมายท่ดี ิน  ระเบียบกระทรวงมหาดไทย วาดวย

4. ทบวงการเมืองประสงคข อจัดหาผลประโยชน การอนญุ าตใหดดู ทราย พ.ศ. ๒๕๔๖

ในท่ดี นิ ของรฐั  คําส่ังกระทรวงมหาดไทย ท่ี ๑๐๙/

5. เอกชนขออนุญาตดูดทรายในที่ดินสาธารณ ๒๕๓๘ เร่อื ง แตงต้ังพนักงานเจาหนาที่

ประโยชน ตามความในมาตรา ๙ แหงประมวล

6. การขอสัมปทานในที่ดินของรัฐ กฎหมายทด่ี นิ ลงวันท่ี ๑๖ มีนาคม

7. การขอเปลยี่ นสภาพที่ดินอันเปนสาธารณ ๒๕๓๘

สมบตั ิของแผนดนิ สําหรับพลเมืองใชรวมกัน  คําสงั่ กระทรวงมหาดไทย ที่ ๓๓๐/

จากการใชเพื่อสาธารณประโยชนอยางหนึ่ง ๒๕๓๙ เรือ่ ง แตง ตงั้ คณะกรรมการ

เปนอกี อยา งหน่งึ พจิ ารณาเรื่องราวขอสัมปทาน ตาม

8. การจัดทําโครงการจัดที่ดินของรัฐขจัด มาตรา ๑๒ แหงประมวลกฎหมาย

ความยากจน ที่ดนิ ลงวนั ที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๓๙

๑๐1๕05

ประเดน็ ภารกิจ สาระสําคญั ในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ สั่งทีเ่ กี่ยวของ

1. ทบวงการเมืองประสงค กรณที บวงการเมอื งประสงคจะขอใชท่ีดิน  มาตรา ๘ แหง ประมวลกฎหมายทีด่ ิน

ขอใชท ี่ดินสาธารณ สาธารณประโยชนอยางถาวร เชน เปนท่ีต้ัง  ระเบียบกระทรวงมหาดไทย วาดวย

ประโยชนอ ยา งถาวร อาคารสํานักงานราชการ เปนตน จะตองดําเนินการ วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการถอนสภาพการ

ถอนสภาพจากการเปนท่ีดินสาธารณประโยชน จัดขึ้นทะเบียนและการจัดหาผล

ตามมาตรา ๘ วรรคสอง (๑) แหงประมวล ประโยชนในท่ีดินของรัฐ ตามประมวล

กฎหมายทดี่ นิ ดงั น้ี กฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. ๒๕๕๐

1. ยื่นเรื่องตอผูวาราชการจังหวัดทองที่หาก  คําส่ังกระทรวงมหาดไทย ที่ ๑๐๙/

ที่ดินตั้งอยูในเขตกรุงเทพมหานครใหย่ืน ๒๕๓๘ ลงวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๓๘

ตออธบิ ดกี รมทด่ี นิ พรอ มเอกสารโครงการ เรื่อง แตงต้ังพนักงานเจาหนาที่ตาม

แผนทส่ี งั เขป และแผนที่ภูมิประเทศแสดง ความในมาตรา ๙ แหงประมวล

ตําแหนงทีด่ ินท่ีขอถอนสภาพ กฎหมายท่ีดิน

2. หากเปนท่ีสาธารณประโยชนท่ีประชาชน  ประกาศกระทรวงมหาดไทย เร่ือง

เลิกใชแลว การถอนสภาพจะตองออก กาํ หนดบริเวณที่หวงหาม ตามมาตรา ๙

พระราชกฤษฎีกาถอนสภาพ หากเปนท่ี (๒) แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน

สาธารณประโยชนท่ีประชาชนยังใชประโยชน ลงวนั ท่ี ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๒๓

อยูจะตองตราเปนพระราชบัญญัติและจัดหา

ท่ดี นิ ใหประชาชนใชประโยชนรวมกนั แทน

3. ท่ีดินท่ีขอถอนสภาพตองอยูในบริเวณที่

กําหนดใหใชป ระโยชนในราชการ (ZONING)

และตองไมขัดตอกฎหมายผังเมือง สวน

ข้ันตอนวิธีการ จะเปนไปตามระเบียบ

กระทรวงมหาดไทยกําหนด

2.ทบวงการเมืองประสงค กรณที บวงการเมอื งประสงคจะขอใชท่ีดิน  มาตรา ๘ ทวิ แหงประมวลกฎหมาย

ขอใชท่ีดินรกราง ของรัฐอยางถาวรในที่ดินซึ่งมิไดมีบุคคลใด ทีด่ นิ

วางเปลา อยางถาวร มีสิทธิครอบครองหรือที่สาธารณประโยชน  กฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๕ (พ.ศ. ๒๕๑๖)

ซ่ึงถูกถอนสภาพแลว เชน ขอใชท่ีดินบริเวณ ออกตามความในพระราชบัญญัติ

ท่เี ขาภูเขาหรือปริมณฑลเขา๔๐เมตร ตามประกาศ ใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.

กระทรวงมหาดไทย เพื่อเปนท่ีตั้งสํานักราชการ ๒๔๙๗

จะตอ งดาํ เนินการ ดงั นี้  ระเบียบกระทรวงมหาดไทย วาดวย

106 ๑๐๖

ประเด็นภารกจิ สาระสาํ คญั ในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําสงั่ ทเ่ี ก่ียวของ

๑. ใหยื่นเร่ืองเชนเดียวกับการขอถอนสภาพ วิธีปฏิบัติเก่ียวกับการถอนสภาพการ

ท่ีดินโดยจะมีประกาศของกระทรวงมหาดไทย จัดข้ึนทะเบียน และการจัดหาผล

ใหนาํ ขนึ้ ทะเบยี นทดี่ นิ ของรฐั เพอื่ ใชประโยชน ประโยชนในที่ดินของรัฐ ตามประมวล

ในราชการ กฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๕๕๐

๒. ท่ีดินที่ขอจะตองเปนท่ีดินของรัฐ ซึ่งมิไดมี

บุคคลใดมีสทิ ธิครอบครองหรือท่ีสาธารณ

ประโยชนซ่ึงถูกถอนสภาพแลว (รวมถึง

ท่ีดินสาธารณประโยชนซ่ึงอยูในทองที่ท่ีมี

พระราชกฤษฎกี ากําหนดเปน เขตปฏริ ูปท่ดี นิ

ซ่ึงมผี ลใหทสี่ าธารณประโยชนท ่ีประชาชน

ไดเลิกใชแลวถูกถอนสภาพจากการเปนที่

สาธารณประโยชนดวย) และตองไมขัดตอ

กฎหมายผังเมือง สวนขั้นตอน วิธีการ จะ

เปนไปตามระเบียบที่กระทรวงมหาดไทย

กาํ หนด

3. ทบวงการเมืองหรือ ทบวงการเมืองหรือเอกชนขออนุญาตใช  มาตรา ๙ แหงประมวลกฎหมายทดี่ นิ

เอกชนขออนุญาตใช ประโยชนในที่ดินของรัฐ ตามมาตรา ๙ แหง  ระเบียบกระทรวงมหาดไทย วาดวย

ประโยชนในท่ีดิน ประมวลกฎหมายท่ีดินเปนการขอใชในลักษณะ หลักเกณฑและวิธีการเกี่ยวกับการ

ของรัฐตามมาตรา ๙ ชั่วคราวไมถาวร โดยสถานะของท่ีดินยังคงเดิม อนุญาต ตามมาตรา ๙ แหงประมวล

แหงประมวลกฎหมาย จะตอ งดาํ เนนิ การ ดงั นี้ กฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. ๒๕๔๓

ท่ดี ิน ๑. ผูขอจะตองเปนบุคคลหรือนิติบุคคลสัญชาติ  คําสั่งกระทรวงมหาดไทย ท่ี ๑๐๙/

ไทย ยื่นคําขอตามแบบตอนายอําเภอทองท่ี ๒๕๓๘ ลงวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๓๘

หากทอ งทใี่ ดยกเลกิ อาํ นาจหนา ที่นายอําเภอ เรื่อง แตงตั้งพนักงานเจาหนาที่ตาม

แลวใหยื่นตอเจา พนกั งานทด่ี ินจังหวัดหรือ ความในมาตรา ๙ แหงประมวล

เจา พนกั งานที่ดนิ จงั หวัดสาขา กฎหมายทด่ี ิน

๒. ผูวาราชการจังหวัดออกใบอนุญาตใหใช

ประโยชนในที่ดินของรัฐ ในการขออนุญาต

ใหใชประโยชนในที่ดินของรัฐจะอนุญาต

ไดเน้ือท่ีไมเกิน ๑๐ ไร เวนแตมีเหตุอัน

๑๐1๗07

ประเดน็ ภารกิจ สาระสาํ คัญในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ ส่งั ที่เก่ียวของ

ควรมกี าํ หนดระยะเวลาไมเกิน ๕ ป

๓. ตองเสียคาตอบแทนใหแกองคกรปกครอง

สวนทองถิ่น ตามมาตรา ๙/๑ แหงประมวล

กฎหมายท่ีดิน ตามขอบัญญัติทองถ่ิน แต

ไมเกนิ อัตราตามบัญชีทายประมวลกฎหมาย

ทีด่ ินกําหนด

4. หากเปนการขออนุญาตใชท่ีดินสาธารณ

ประโยชน การอนุญาตจะตองไมขัดตอการ

ใชประโยชนรวมกันของราษฎร และตองไดรับ

อนุมัติจากรัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย

กอน สวนข้ันตอน วิธีการ จะเปนไปตาม

ระเบียบท่ีกระทรวงมหาดไทยกําหนด

๕. กรณีทบวงการเมืองขอถอนสภาพที่ดิน

สาธารณประโยชนเพื่อใชประโยชนในราชการ

ซ่ึงจะตองใชระยะเวลาในการดําเนินการ

หากทบวงการเมืองผูขอมีความจําเปน

เรง ดวนจะตองดําเนนิ การ เชน หากไมเริ่ม

ดําเนินการงบประมาณจะตกไปก็สามารถ

ดําเนินการย่ืนขออนุญาตใชประโยชนใน

ท่ีดินของรัฐ ตามมาตรา ๙ แหงประมวล

กฎหมายที่ดิน ควบคูไปกับการขอถอน

สภาพที่ดินได

4. ทบวงการเมือง กรณีทบวงการเมืองประสงคจะขอจัดหาผล  มาตรา ๑๐, ๑๑ แหงประมวล
ประสงคขอจดั หา ประโยชนในท่ีดินของรัฐท่ีดินจะนํามาจัดหาผล กฎหมายทด่ี ิน
ผลประโยชนใน ประโยชนจะตองเปนที่ดินของรัฐ ซ่ึงมิไดมี  กฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๐๐)
ทีด่ นิ ของรัฐ บุคคลใดมีสิทธิครอบครอง หากเปนที่ดิน ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
สาธารณประโยชนก ็จะตองดาํ เนนิ การ ดงั นี้ ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ซ่ึง
๑. ถอนสภาพจากการเปนที่สาธารณประโยชน แกไขเพ่ิมเติมโดยกฎกระทรวง
๒. การจัดหาผลประโยชนมีหลายวิธี ไดแก ฉบบั ที่ ๒๐ (พ.ศ. ๒๕๑๕)

108 ๑๐๘

ประเด็นภารกจิ สาระสําคัญในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําส่งั ที่เก่ียวของ

การจัดใหที่ดินใชประโยชนได ซื้อขาย  กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ.

แลกเปล่ียน ใหเชา และใหเชาซ้ือ วิธีการ ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราช

ดําเนินการแยกเปน ๒ กรณี ดังน้ี บัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน

(๑) กรณีอธิบดีกรมทดี่ นิ เปน ผจู ดั หาผลประโยชน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๑๔ (๓)

ตามมาตรา ๑๐ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน  ระเบียบกระทรวงมหาดไทย วาดว ย

รายไดจากการจัดหาผลประโยชนจะตองนํา วธิ ีปฏิบัติเกี่ยวกับการถอนสภาพ การ

สงคลังเปนรายไดแผนดินสําหรับการขาย จัดข้ึนทะเบียน และการจัดหาผล

การแลกเปลี่ยน และการใหเชาซ้ือตอง ประโยชนในท่ีดินของรัฐ ตามประมวล

ไดรับอนุมัติจากรัฐมนตรีวาการกระทรวง กฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. ๒๕๕๐

มหาดไทยกอ น

(๒) กรณีทบวงการเมืองเปนผูจัดหาผลประโยชน

ตามมาตรา ๑๑ แหงประมวลกฎหมาย

ที่ดิน เชน องคการบริหารสวนจังหวัด

เทศบาล องคการบริหารสวนตําบล

ขอจัดหาผลประโยชน โดยใหราษฎรเชา

และนําคาเชาเปนรายไดบํารุงทองถ่ิน

โดยจะตองมีประกาศกระทรวงมหาดไทย

มอบหมายใหทบวงการเมอื งน้ันดําเนินการ

จัดหาผลประโยชนกอน ข้ันตอน วิธีการ

จะเปนไปตามท่ีระเบียบกระทรวงมหาดไทย

กําหนด

5. เอกชนขออนุญาต เอกชนขออนุญาตดูดทรายในท่ีดินสาธารณ  มาตรา ๙ แหง ประมวลกฎหมายทดี่ ิน

ดูดทรายในท่ีดิน ประโยชน เชน แมนํ้า เปนตน จะตองดําเนนิ การ  ระเบียบกระทรวงมหาดไทย วาดวย

สาธารณประโยชน ดงั นี้ การอนุญาตใหดูดทราย พ.ศ. ๒๕๔๒

๑. ผูขอเปนบุคคลหรือนิติบุคคลสัญชาติไทย

ย่ืนคําขอตามแบบเชนเดียวกับกรณีการ

ขออนุญาตใชประโยชนในที่ดินของรัฐ

ตามมาตรา ๙ แหงประมวลกฎหมายทีด่ ิน

๒. ผูวาราชการจังหวัดจะออกใบอนุญาตให

๑๐1๙09

ประเดน็ ภารกจิ สาระสาํ คัญในการพจิ ารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําส่ังทีเ่ กี่ยวของ

ดดู ทรายในจงั หวดั อนญุ าตไดเนื้อท่ีไมเกิน

๕ ไร มีกาํ หนดระยะเวลา ๑ ป

๓. เสียคาตอบแทนใหแกองคกรปกครอง

สวนทองถ่ิน ตามมาตรา ๙/๑ แหงประมวล

กฎหมายท่ีดิน ตามขอบัญญัติทองถ่ิน แต

ไมเกินบัญชีทายประมวลกฎหมายที่ดิน

กําหนด

๔. หากเปนการดําเนินการในแมน้ําระหวาง

ประเทศ เชน แมนํ้าโขง จะตองนําเสนอ

คณะกรรมการพิจารณาอนุญาตใหดูดทราย

(กพด.) พิจารณากอน ข้ันตอน วิธีการ จะ

เปนไปตามระเบียบท่ีกระทรวงมหาดไทย

กําหนด

6. การขอสัมปทาน การขอสัมปทานในที่ดินของรัฐเปนการ  มาตรา ๑๒ แหงประมวลกฎหมาย

ในทด่ี ินของรัฐ ขออนุญาตใชประโยชนในระยะยาวไมเกนิ ๕๐ ป ที่ดนิ

โดยสถานะของท่ีดินคงเดิม ในการอนุญาตเปน  กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๑๒, ๑๓, ๒๑,

อํานาจของรัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย ๔๗

แตหากระยะเวลาขอสมั ปทานเกิน ๒๐ ป จะตอ ง  คําส่ังกระทรวงมหาดไทย ท่ี ๑๙๔/

ไดร บั อนมุ ตั ิจากคณะรัฐมนตรีกอน โดยรัฐมนตรี ๒๕๐๑ ลงวันท่ี ๑๓ มีนาคม ๒๕๐๑

วาการกระทรวงมหาดไทยจะออกหนังสือ เร่ือง ระเบียบการใหสัมปทานใน

สัมปทานบัตรใหและผขู อจะตองเสียคาธรรมเนียม ทีด่ นิ ของรัฐ ตามประมวลกฎหมาย

ในการขอสัมปทานรายละ ๕๐๐ บาท คา ทด่ี นิ

สัมปทานไรละ ๒๐ บาทตอไป สวนขั้นตอน  คาํ สั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ ๓๓๐/

วธิ ีการ จะเปน ไปตามกฎกระทรวง คําส่ัง และ ๒๕๓๙ ลงวันท่ี ๑๙ พฤศจิกายน

ระเบยี บทีเ่ กีย่ วของ ๒๕๓๙ เรอ่ื ง แตงต้งั คณะกรรมการ

พิจารณาเรอื่ งราวขอสัมปทาน ตาม

มาตรา ๑๒ แหงประมวลกฎหมาย

ท่ีดิน

110 ๑๑๐

ประเดน็ ภารกิจ สาระสําคัญในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ สงั่ ทีเ่ ก่ียวของ

7. การขอเปลยี่ นสภาพ การขอเปล่ียนสภาพท่ีดินสาธารณประโยชน  ระเบียบกระทรวงมหาดไทย วา

ท่ดี นิ อนั เปนสาธารณ จากการใชเพ่ือสาธารณประโยชนอยางหน่ึง ดวยการเปล่ียนสภาพท่ีดินอันเปน

สมบัติของแผนดิน เปนอีกอยางหนง่ึ เปน การปรับปรงุ เพ่ือเปล่ียน สาธารณสมบัติของแผนดินสําหรับ

สําหรับพลเมืองใช แปลงสภาพท่ีดินสาธารณประโยชน ซึ่งเดิม พลเมืองใชรวมกัน จากการใชเพ่ือ

รวมกันจากการใช ประชาชนใชประโยชนรวมกันอยางหนึ่งเปนใช สาธารณประโยชนอยางหน่ึงเปน

เพ่ือสาธารณประโยชน ประโยชนอีกอยางหนึ่ง โดยสถานะของท่ีดิน อกี อยางหน่งึ พ.ศ. ๒๕๔๓

อยางหน่ึงเปนอีก คงเดิมและประชาชนก็ยังสามารถใชประโยชน

อยา งหนึ่ง รวมกนั ไดอยู เชน ถมคลองเปนถนน เปล่ียนที่เลี้ยง

สัตวสาธารณะเปนสวนสาธารณะหรือสนาม

กีฬา เปนตน โดยดาํ เนินการ ดังนี้

๑. ผูขอตองเปนทบวงการเมืองยื่นเร่ืองตอผูวา

ราชการจังหวัด พรอมเอกสารโครงการ

งบประมาณ แผนที่ท่ีดิน แผนผังการใช

และแผนที่ภูมิประเทศ

๒. ในการดําเนินการจะตองไดรับอนุมัติจาก

รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยกอน

ขั้นตอน วิธีการ จะเปนไปตามระเบียบ

กระทรวงมหาดไทยกําหนด

8. การจัดทําโครงการ จัดทําโครงการจัดที่ดินของรัฐขจัดความ  ระเบียบกระทรวงมหาดไทย วา
จัดท่ีดินของรัฐขจัด ยากจน ซ่ึงเปนการจัดระบบการถือครองท่ีดิน ดวยการอนุญาตใหประชาชนใช
ความยากจน ในทีด่ ินสาธารณประโยชนท่ีราษฎรเลิกใชแลว ประโยชนในท่ีดนิ ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๗
โดยสถานะก็ยังเปนที่สาธารณประโยชนอยู
โดยดําเนินการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย
วาดวยการอนุญาตใหประชาชนใชประโยชน
ในที่ดินของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งมีหลักเกณฑ
ทส่ี าํ คัญ คอื
๑. ผทู ค่ี รอบครองทาํ กนิ อยจู ะตองยอมรบั วา
เปนผูบุกรุกทส่ี าธารณประโยชน
๒. ที่ดินสาธารณประโยชนดังกลาวราษฎร

๑๑1๑11

ประเดน็ ภารกจิ สาระสาํ คญั ในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ ส่งั ท่เี กี่ยวของ

จะตองหมดความจําเปนที่จะใชประโยชน

รว มกนั แลว โดยจะตองมีการรับฟงความเห็น

ของราษฎรในพื้นที่ดวย ซึ่งจะตองช้ีแจง

ทําความเขาใจ โดยอาจใชวิธีการกําหนด

พืน้ ท่ีเปน ๓ สวน สวนแรกเปนพื้นท่ีอนุรักษ

คือ พื้นท่ีกันไวใชประโยชนรวมกัน เชน

สวนท่ีเปนถนน สวนท่ีเปนสระน้ําประจํา

หมูบาน สวนที่เปนลานกีฬาประจําหมูบาน

หรอื กันไวเปนพน้ื ที่สวนกลาง สวนที่ ๒ คือ

สวนที่จัดใหประชาชน สวนท่ี ๓ สวนที่กัน

ไวเ พ่ือประโยชนข องทางราชการ

๓. ราษฎรท่ีอยูอาศัยทํากินจะตองเปนราษฎร

ท่ีเขาทําประโยชนอยูจริง และอยูมาเปน

เวลานานแลว (กอนวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๖

ตามมติคณะรัฐมนตรี วันท่ี ๒๔ มกราคม

๒๕๔๗)

๔. จะตองเปนคนยากจนไมมที ี่ดนิ ทํากินหรือมี

อยแู ลว ไมเพยี งพอ

๕. จดั ใหค รอบครวั ไมเ กิน ๑๕ ไร ออกหนงั สือ

อนุญาตใหคราวละ ๕ ป และหามโอนเปลี่ยน

มอื เวนแตกรณผี ูรบั อนญุ าตถึงแกกรรม ให

ทายาทโดยธรรมมีสิทธิแจงความประสงค

ขอใชประโยชนภายในกําหนด ๙๐ วัน

นบั แตว ันถงึ แกก รรม

6. ปจจุบันรัฐบาลมีนโยบายที่จะจัดที่ดินทํากิน

ในลักษณะแปลงรวมแตไมใหกรรมสิทธิ์

โดยใหร าษฎรรวมกนั เปนกลุม เชน กลุมสหกรณ

ตามหลักเกณฑ วิธีการและคุณสมบัติที่คณะ

กรรมการนโยบายที่ดินแหงชาติ (คทช.)

กําหนด

112 ๑๑๒

ประเด็นภารกจิ สาระสําคญั ในการพจิ ารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ สั่งที่เกี่ยวของ

9. การจัดที่ดินทํากินให การจัดท่ีดินใหแกผูยากไร โดยไมใหกรรมสิทธิ์  คําส่ังคณะกรรมการนโยบายที่ดิน
ชุมชนตามนโยบาย แตอนุญาตใหเขาทําประโยชนในที่ดินของรัฐ แหงชาติ ท่ี 1/2557 เรื่องแตงต้ัง
รฐั บาล (คทช) เปนกลุมหรือชุมชน ตามหลักเกณฑและ คณะอนุกรรมการ

เง่ือนไขที่ คทช. กําหนด ในรูปแบบสหกรณ  คําส่ังคณะกรรมการนโยบายที่ดิน
หรือรูปแบบอื่นท่ีเหมาะสมเพ่ือรวมกันบริหาร แหงชาติ ท่ี 1/2558 เร่ืองแตงต้ัง
จัดการที่ดิน รวมท้ังการสงเสริมการประกอบ คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดิน
อาชีพตามศักยภาพของพ้นื ท่ี
จังหวดั (คทช. จงั หวัด)

9.1 กระบวนการจัดท่ีดิน ๑. หลักเกณฑการจัดที่ดินทํากินใหชุมชนการ
ทาํ กินใหชุมชนตาม จัดระเบียบการใชประโยชน เปนการนํา
นโยบายรัฐบาล (คทช.) ท่ีดินของรัฐที่มีผูใชประโยชนมาจัด
พ้ืนที่ดําเนินการ ระเบยี บการใชประโยชน
เปนท่ีดินในพื้นท่ี (๑) จัดที่ดินทํากินใหชุมชนในรูปแปลงรวม
ตามสภาพพ้ืนท่ี และตามเขตการปกครอง
ปา สงวนแหง ชาติ
(๒) การใชประโยชนในท่ีดิน ใหเปนไปตาม

ขอกําหนดและเง่ือนไขของหนวยงาน

เจาของพื้นท่ี ซึ่งไดผานความเห็นชอบ

ของ คทช. แลว

(๓) จัดที่ดินใหแกผูเขาทําประโยชนหรืออยู

อาศัยในพื้นท่ีอยูแลวตามที่ครอบครอง

อยจู ริงแตไมเกิน ๒๐ ไร หากมีพื้นที่เหลือ

หรือพื้นที่ที่ไมมีผูทําประโยชนจึงจะจัดให

ผูท่ีถูกผลักดันและอพยพออกจากพื้นที่ปา

และผูมีถ่ินท่ีอยูในทองท่ีที่จะจัดที่ดิน

หรือใกลเคียง โดยพิจารณาจากหมูบาน

ตําบล อําเภอ จังหวัด ตามลําดับ ตาม

เกณฑการตรวจสอบขอมูลการถือครอง

และแนวทางการจัดที่ดนิ ที่ คทช. เห็นชอบ

ทั้งน้ี เพ่ือเปนการควบคุมและรวมกัน

ดแู ลรกั ษาพืน้ ท่ีปาไม

๑1๑1๓3

ประเดน็ ภารกจิ สาระสําคญั ในการพจิ ารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําสงั่ ที่เก่ียวของ

(๔) ใหผูที่ไดรับอนุญาตใหใชประโยชนใน
ท่ีดินนําท่ีดินดังกลาวไปดําเนินการจัด
ท่ีดินทํากินใหชุมชนตามนโยบายรัฐบาล
โดยรวมกับ คทช.จังหวัด เพื่อดําเนินการ
จัดท่ีดินใหแกราษฎรที่มีคุณสมบัติและ
เปน ไปตามหลกั เกณฑท่ี คทช. เห็นชอบ

๒. ประเภทของผทู ่ีไดรับการจัดท่ดี ิน
(๑) ผูเขาทําประโยชนหรืออยูอาศัยในพ้ืนที่
อยูแลวเปนไปตามผลการตรวจสอบ
ขอมูลรูปแปลงท่ีดิน และขอมูลของ
รายชื่อราษฎรผูครอบครองโดย คทช.
จังหวัด สําหรับผลการตรวจสอบของ
คทช.จังหวัด ในพ้ืนท่ีปาสงวนแหงชาติ
สามารถจําแนกประเภทผูท่ีไดรับการจัด
ท่ดี นิ ตามลกั ษณะการครอบครองได ดังนี้
 ผูครอบครองรายเดมิ ช่อื ตรง/แปลงตรง
ใหเขา รว มโครงการฯ
 ผูครอบครองชื่อไมตรง (ทายาทผู
ครอบครองรายเดิม)/แปลงตรง ใหเขา
รวมโครงการฯ
 ผูครอบครองรายใหม/มีการเปล่ียนมือ
ใหต รวจสอบคุณสมบัติของผูค รอบครอง

กรณผี า น : เขา รว มโครงการแบบมีเงื่อนไขตามท่ี
กรมปาไมไดกําหนดเงื่อนไขวา“ใหราษฎรท่ี
ครอบครองท่ีดินรายใหมปลูกไมปายืนตนเฉล่ีย
ไมนอยกวา ๔๐ ตนตอไร โดยใหแลวเสร็จ
ภายใน ๒ ป นับแตวันท่ีไดเขารวมโครงการ
ท้ังน้ีตองทําการบํารุงรักษาตนไมที่ปลูก หาก
ตนไมที่ปลูกตายตองปลูกทดแทนดวยและ
ตองไมตัดตน ไมท ป่ี ลูกกอ นไดร บั อนุญาต”

114 ๑๑๔

ประเดน็ ภารกจิ สาระสําคัญในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําสั่งที่เก่ียวของ

กรณีไมผาน : ไมเขารวมโครงการฯ (ท่ีดินเขา
กองกลาง)

 ไมปรากฏชื่อผูครอบครองมีการใชที่ดิน
แตไมพบตัวให คทช. จังหวัด ตรวจสอบ
เพ่ิมเติมผลการตรวจสอบเปนคนเดิม เขาสู
ประเภทผูครอบครองรายเดิม/ทายาท กรณี
เปนคนใหม เขาสูประเภทผูครอบครองราย
ใหม/ มีการเปลยี่ นมอื

(๒) ผูท ่ถี ูกผลกั ดันและอพยพออกจากพืน้ ที่ปา
(๓) ผูมีถิ่นท่ีอยูในทองท่ีที่จะจัดที่ดินหรือ

ใกลเคียง โดยพิจารณาจากหมูบาน
ตําบล อําเภอ จงั หวดั ตามลาํ ดบั

๓. คณุ สมบตั ขิ องผทู ไ่ี ดร บั การจดั ที่ดนิ
(๑) บุคคลสญั ชาตไิ ทย
(๒) เปนผูยากไรไมมีท่ีทํากิน และ/หรือที่อยู

อา ศั ย ห รื อมี ร าย ไ ด ตอ ป ไม เ กิ น
๓๐,๐๐๐ บาท/คน
(๓) บรรลุนิติภาวะแลว หรือเปนหัวหนา
ครอบครวั
(๔) มีถ่ินที่อยูในทองท่ีท่ีจะจัดท่ีดินหรือ
ใกลเ คียง
(๕) มีความสามารถทาํ ประโยชนใ นท่ีดินได
(๖) ไมเปนคนวิกลจริต หรือจิตฟนเฟอน ไม
สมประกอบ
(๗) ยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ ขอบังคับ
ขอกาํ หนด และเงื่อนไขท่ีกาํ หนด
(๘) ปจ จบุ ันไมไดรับการชวยเหลือในการจัด
ที่ดนิ จากทางราชการ
(๙) กรณีท่ีคณะอนุกรรมการนโยบายท่ีดิน
จังหวัดพิจารณาเห็นเปนความจําเปน
เพ่ือประโยชนในทางเศรษฐกิจ สังคม

๑1๑1๕5

ประเดน็ ภารกจิ สาระสําคญั ในการพจิ ารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําส่งั ที่เก่ียวของ

และความสงบเรียบรอย โดยคํานึงถึง
ลักษณะพ้ืนที่สภาพการใชประโยชน
ทําประโยชน คณะอนุกรรมการนโยบาย
ที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด) จะผอนผัน
ก า ร ป ฏิ บั ติ ต า ม ห ลั ก เ ก ณ ฑ เ ป น ก า ร
เฉพาะรายก็ได

๔. แนวทางการดําเนินการ
(๑) คณะอนุกรรมการจัดที่ดินสงมอบขอมูล
แปลงที่ดินและรายชื่อผูครอบครอง
ใหแ ก คทช. จังหวัดดําเนินการ
(๒) คทช. จังหวดั รวมกับหนวยงานเจาของ
พื้นท่ี (ระดับจังหวัด)สํารวจ/ตรวจสอบ/
ลงพื้นท่ีตรวจสอบขอมูลรูปแปลงท่ีดิน
และขอมูลของราษฎรผูครอบครองภายใน
ขอบเขตพื้นท่ีที่จะดําเนินการจัดที่ดินทํา
กินใหชุมชน และจําแนกประเภทตาม
ลกั ษณะการครอบครอง
(๓) คทช. จังหวัดรวบรวมขอมูลรายงาน
คณะอนุกรรมการจัดที่ดินทราบ เพื่อ
รายงานให คทช. ทราบ
(๔) จังหวดั หรือหนว ยงานท่ีไดรับมอบหมาย
จาก คทช.จังหวัด ขออนุญาตเขาทํา
ประโยชนหรืออยูอาศยั ภายในเขตปา สงวน
แหง ชาติ ตามมาตรา ๑๖ แหงพระราช
บญั ญัติปาสงวนแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗
(๕) หนวยงานที่ไดรับมอบหมายจาก คทช.
จั ง ห วั ด ไ ด รั บ อ นุ ญ า ต จ า ก ห น ว ย ง า น
เจา ของพ้นื ที่
(๖) คทช.จังหวัดตั้งคณะทํางานจัดที่ดิน
ดาํ เนินการจดั ระเบียบการใชประโยชน
(๗) คณะทํางานฯประชุมชี้แจงราษฎรแจง

116 ๑๑๖

ประเดน็ ภารกจิ สาระสําคญั ในการพจิ ารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ สง่ั ทเี่ กี่ยวของ

ใหทราบถึงแนวทาง/แผนการดําเนนิ งาน
(๘) คณะทาํ งานฯคดั เลือกบุคคลตามคุณสมบัติ

ประเภทของผูท่ีไดรับการจัดที่ดินและ
เง่ือนไขการเขารวมโครงการจัดที่ดินทํา
กินใหชุมชนที่กําหนด รวมท้ังจัดทําผัง
แปลงที่ดินและรายชื่อราษฎรท่ีจะไดรับ
การจัดระเบียบการใชประโยชน
(๙) คทช. จังหวัด อนุมัติใหดําเนินการจัด
ระเบียบการใชประโยชนตามผังแปลง
และรายช่ือที่คณะทํางานฯ เสนอ จากนั้น
รายงานผลใหคณะอนุกรรมการจัดท่ีดิน
เพอื่ รายงาน คทช. ทราบ
(๑๐) คทช.จังหวดั รวบรวมขอ มลู สงเร่ืองให
ผูไดรับอนุญาตและหนวยงานเจาของ
พื้นท่ีกํากับดูแลใหเปนไปตามการอนุญาต
และขอกําหนดภายใตการบริหารจัดการ
ของ คทช.จังหวดั

9.2 กระบวนการจัดที่ดิน ๑. หลักเกณฑการจัดที่ดินทํากินใหชุมชนการ
ทาํ กินใหชุมชนตาม จัดระบบการใชประโยชน นําท่ีดินของรัฐ
นโยบายรัฐบาล (คทช.) ท่ีไมมีการใชประโยชน (ที่วาง) มาบริหาร
สําหรบั พื้นท่ีดําเนิน จัดการ
การระยะท่ี ๒ ใน (๑) จัดทดี่ ินทํากินใหช ุมชนหรือกลุมบุคคล
พนื้ ทเ่ี ขตปฏริ ูปท่ีดิน
หรอื สถาบันเกษตรกรในรปู ใหใชประโยชน
ของ ส.ป.ก.
รวมกนั โดยไมใ หเ ปนกรรมสิทธ์เิ ฉพาะราย

ตามสภาพพ้นื ที่และตามเขตการปกครอง

(๒) การจัดทําแผนผังแปลงที่ดินตามสัดสวน

ท่ีเหมาะสมกับสภาพการทําประโยชน

(Zoning) และความเหมาะสมของ

สภาพพ้ืนท่ี

(๓) กําหนดจัดทําสาธารณูปโภคอยาง

๑1๑1๗7

ประเด็นภารกิจ สาระสาํ คัญในการพจิ ารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ ส่ังที่เกี่ยวของ

เหมาะสมกับพื้นท่ี และความสะดวก
ในการใชป ระโยชนแ ละความเปนอยู
(๔) หลักเกณฑ วิธีการและเง่ือนไขในการ
จัดท่ีดินและการใชประโยชนในที่ดิน
ใหเปนไปตามกฎหมายและขอกําหนด
ของหนวยงานเจาของพ้ืนท่ีซ่ึงไดผาน
ความเห็นชอบของ คทช. แลว
(๕) จัดท่ีดินใหผูที่ถูกผลักดันและอพยพ
ออกจากพื้นท่ีปาตนน้ําและปาอนุรักษ
ท่ีสําคัญเปนลําดับแรกผูที่ไดรับผลกระทบ
จากการดําเนินการตามโครงการของ
ทางราชการท่ีสูญเสียท่ีดินทํากินและ
ผูไมมีท่ีดินทํากินหรือมีเพียงเล็กนอย
ไมเพียงพอตอการครองชีพท่ีมีถ่ินที่อยู
ในทองที่ที่จะจัดท่ีดิน โดยพิจารณา
จากหมูบาน ตําบล อําเภอ ตามลําดับ
หากมีพ้ืนที่เหลือจึงจะจัดใหผูท่ีมีถ่ินท่ี
อยูในทองที่ใกลเคียงอื่นตอไป ท้ังนี้
กรณีท่ีคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดิน
จังหวัดพิจารณา เห็นเปนความจําเปน
เพื่อประโยชนในทางเศรษฐกิจ สังคม
แ ล ะ ค ว า ม ส ง บ เ รี ย บ ร อ ย ส า ม า ร ถ
กําหนดการคัดกรอง และจัดลําดับท่ี
เหมาะสมของชุมชนทองถิ่นตามท่ี
เห็นสมควรได
(๖) ใหผูท่ีไดรับอนุญาต (หนวยงาน หรือ
ชุมชน หรือสถาบันเกษตรกรหรืออื่นๆ
ที่กฎหมายของหนวยงานกําหนด) ให
ใชป ระโยชนในท่ีดนิ นําทดี่ ินดังกลาวไป
ดําเนินการจัดท่ีดินทํากินใหสมาชิกใน
ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล โดยรวมกับ

118 ๑๑๘

ประเดน็ ภารกจิ สาระสําคญั ในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําสั่งทีเ่ กี่ยวของ

คทช. จังหวัด หนวยงานเจาของพื้นท่ี
และองคกรหรือคณะกรรมการตามที่
กฎหมายของหนวยงานนั้นกําหนด เพื่อ
ดําเนินการจัดที่ดินใหแกผูท่ีมีคุณสมบัติ
ตามกฎหมายของหนวยงานน้ันกําหนด
และเปนไปตามหลักเกณฑที่ คทช.
เหน็ ชอบ

๒. ประเภทของผูท ีจ่ ะไดร ับการจัดท่ีดิน
(๑) ผูที่ถูกผลักดันและอพยพออกจากพื้นท่ี
ปาตน นา้ํ และปาอนรุ ักษท สี่ าํ คัญ
(๒) ผูที่ไดรับผลกระทบจากการดําเนินการ
ตามโครงการของทางราชการท่ีสูญเสีย
ทด่ี นิ ทํากิน
(๓) เกษตรกรผูไรที่ดินทํากินที่ขอรับการจัด
ท่ีดินท่ีมีถ่ินที่อยูในทองท่ีที่จะจัดท่ีดิน
และไดขึ้นทะเบียนกับ ส.ป.ก. หรือ
หนวยงานอื่นๆ
โดยใหคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดิน

จังหวัด (คทช.จังหวัด) สามารถพิจารณาได
ตามความเหมาะสม

๓. คุณสมบัติของผทู ไี่ ดรบั การจดั ท่ีดนิ
(๑) บคุ คลสัญชาติไทย
(๒) เปนผูยากไรไมมีที่ทํากิน และ/หรือท่ีอยู
อาศัย
(๓) บรรลุนิติภาวะแลว หรือเปนหัวหนา
ครอบครัว
(๔) มคี วามสามารถทําประโยชนใ นที่ดนิ ได
(๕) ไมเ ปนคนวิกลจริต หรือจิตฟนเฟอน ไม
สมประกอบ
(๖) ยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ ขอบังคับ
ขอกําหนด และเงื่อนไขท่ีกําหนดทั้งจาก

๑1๑1๙9

ประเดน็ ภารกิจ สาระสาํ คญั ในการพจิ ารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําส่งั ที่เก่ียวของ

คทช.และหนวยงานเจา ของพื้นท่ี
(๗) ปจ จบุ ันไมไดรับการชวยเหลือในการจัด

ทดี่ ินทํากนิ จากทางราชการ
(๘) กรณีที่คณะอนุกรรมการนโยบายท่ีดิน

จังหวัดพิจารณาเห็นเปนความจําเปน
เพื่อประโยชนในทางเศรษฐกิจ สังคม
และความสงบเรียบรอย โดยคํานึงถึง
ลักษณะพ้ืนท่ีสภาพการใชประโยชน ทํา
ประโยชน คณะอนุกรรมการนโยบาย
ที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด) จะผอนผัน
การปฏิบัติตามหลักเกณฑเปนการเฉพาะ
รายก็ได
(๙) มีคุณสมบัติตามกฎหมายของหนวยงาน
เจาของพน้ื ท่ีกาํ หนด

๔. แนวทางการดาํ เนนิ การ
(๑) คณะอนุกรรมการจัดท่ีดินสงมอบพ้ืนที่
(เนื้อท่ี และรูปแปลงที่ดิน) ใหแก คทช.
จังหวัดดาํ เนินการ
(๒) คทช. จงั หวัด รวมกับหนวยงานเจาของ
พื้นท่ีและหนวยงานอื่นๆ ท่ีเก่ียวของ ใน
ระดับจังหวัด กําหนดวางผังแปลงท่ีดิน
ใหมีขนาดที่เหมาะสมกับสภาพการทํา
ประโยชน (Zoning) และพื้นที่สาธารณ
ประโยชนใ นดานตา งๆ ทใี่ ชร วมกนั
(๓) คทช. จังหวัดรวมกับหนวยงานเจาของ
พื้นที่และหนวยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวของ
ประกาศรับผูมีความจําเปนที่เดือดรอน
คัดกรองจดั ลําดับและจัดทําบัญชีรายช่ือ
ผูท ี่สมควรจะไดร บั การจดั ทดี่ ิน
(๔) คทช. จังหวัด หรือรวมกับหนวยงาน
เจาของพ้ืนที่และหนวยงานอ่ืนๆ ที่เกี่ยวของ

120 ๑๒๐

ประเดน็ ภารกจิ สาระสาํ คัญในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ สัง่ ทเี่ กี่ยวของ

หรือองคกรหรือคณะกรรมการตามท่ี
กฎหมายของหนวยงานนั้นกําหนดพิจารณา
คัดเลือกผูที่สมควรจะไดรับการจัดที่ดิน
ตามการคัดกรองจัดลําดบั ตาม (๓)
(๕) ใหผูที่ผานการพิจารณาตาม (๔) จัดต้ัง
สถาบันเกษตรกรในรูปสหกรณหรือกลุม
เกษตรกร โดยตองมีวัตถุประสงคเพื่อนํา
ท่ีดินท่ีไดมาไปบริหารจัดการใหสมาชิก
ใชประโยชนต ามกฎหมายของหนวยงาน
นัน้ กาํ หนดดวย
(๖) ใหองคกรหรือคณะกรรมการตามที่กฎหมาย
ของหนว ยงานน้ันกาํ หนดพิจารณาอนุญาต
ใหสถาบันเกษตรกรเขาทําประโยชนใน
ท่ีดนิ ตามเง่ือนไขท่ีกฎหมายของหนวยงาน
น้ันกําหนด
(๗) คทช.จังหวัดบูรณาการระหวางหนวยงาน
ที่เกี่ยวของในการพัฒนาพื้นที่และอาชีพ
ของสมาชิกสถาบันเกษตรกรหรือผูที่ไดรับ
การจดั ทีด่ นิ สําหรบั การพฒั นาพื้นท่ีดาน
โครงสรางพื้นฐานและกิจการสาธารณ
ประโยชน ตามแผนผังที่กําหนดให
หนวยงานที่ดําเนินการ บูรณาการพัฒนา
ขอใชท่ีดินเพื่อดําเนินงานไดจากหนวยงาน
เจาของพืน้ ที่

9.3 กระบวนการจัดท่ีดิน ๑. หลักเกณฑการจัดที่ดินทํากินใหชุมชนการ
ทาํ กินใหชุมชนตาม จัดระเบยี บ/จัดระบบการใชประโยชนเปน
นโ ยบ าย รัฐ บา ล การนําที่ดินของรัฐที่มีผูครอบครองใช
( ค ท ช . ) จัง ห วัด ประโยชนมาจัดระเบียบการใชประโยชน
นครศรีธรรมราช รวมทั้งการนาํ ท่ีดินของรัฐท่ีไมมีผูครอบครอง
พื้นที่ดําเนินการเปน มาจดั ระบบการใชประโยชนใหแกผูยากไร

๑1๒2๑1

ประเด็นภารกิจ สาระสําคัญในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําสงั่ ที่เก่ียวของ

ท่ี ดิ นใ น พ้ื น ที่ ป า ไมมีที่ดินทํากิน หรือมีแตไมพอเลี้ยงชีพ
สงวน แหงช าติท่ี โดยใชหลกั เกณฑด ังนี้
เปน ปา ชายเลน (๑) จัดที่ดินทํากินใหชุมชนในรูปแปลงรวม

ใหใชประโยชนร วมกันโดยไมใหกรรมสิทธ์ิ
เฉพาะรายตามสภาพพื้นที่และตาม
เขตการปกครองโดยสมาชิกของชุมชน
ควรมีการรวมกลุมกันท้ังนี้อาจประกอบ
ดวย สมาชิกในกลุมตามรูปแบบท่ี
กฎหมายกําหนดเชนวิสาหกิจชุมชน
สหกรณ เปน ตน
(๒) การใชป ระโยชนในท่ีดินใหเปนไปตาม
ขอกําหนดและเง่ือนไขกรมทรัพยากร
ทางทะเลและชายฝง ซ่ึงไดผานความ
เหน็ ชอบของ คทช. แลว
(๓) จัดท่ีดินใหแกผูเขาทําประโยชนหรือ
อยูอาศัยในพ้ืนท่ีอยูแลวตามท่ีครอบครอง
อยูจริงแตไมเกิน 3๐ ไร หากมีพื้นท่ี
เหลือหรือพ้ืนที่ท่ีไมมีผูทําประโยชนให
นํามาฟนฟูสภาพปากอน หากพ้ืนที่ไม
เหมาะสม ที่จะนํามาฟนฟูสภาพปาจึง
จะจัดใหผูที่ถูกผลักดันและอพยพออก
จากพ้นื ที่ปา และผูมีถิน่ ที่อยูใ นทองที่ที่
จะจัดที่ดินหรือใกลเคียง โดยพิจารณา
จากหมูบาน ตําบล อําเภอ จังหวัด ตาม
ลําดับ ตามเกณฑการตรวจสอบขอมูล
การถือครองและแนวทางการจัดท่ีดิน
ที่ คทช. เห็นชอบ ทั้งนี้ เพื่อเปนการ
ควบคุมและรวมกันดูแลรักษาพื้นที่
ปาชายเลน
(๔) ใหผูท่ีไดรับอนุญาตใหใชประโยชนใน
ท่ีดินนําที่ดินดังกลาวไปดําเนินการจัด

122 ๑๒๒

ประเดน็ ภารกจิ สาระสาํ คัญในการพจิ ารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําสั่งทเ่ี กี่ยวของ

ที่ดินทํากินใหชุมชนหรือสมาชิกของ
ชมุ ชนทรี่ วมกลมุ กันตามนโยบายรัฐบาล
โดยรวมกับ คทช.จังหวัด เพื่อดําเนินการ
จัดทดี่ นิ ใหแกราษฎรที่มีคุณสมบัติและ
เปน ไปตามหลักเกณฑที่ คทช. เห็นชอบ
(๕) พ้ืนที่ท่ีจะจัดใหตามโครงการฯ ตองมี
การทําประโยชนในพื้นท่ีกอนมติคณะ
รฐั มนตรี เมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔
และตอ เนื่องจนถงึ ปจ จุบัน
(๖) ใหกันที่ดินสวนที่อยูหางจากริมทะเล
ไมนอยกวา ๑๐๐ เมตร ออกไปกอน เพ่ือ
การอนุรักษและฟนฟสู ภาพปาชายเลน
(7) ในการจัดระบบการใชประโยชนที่ดิน
ใ ห กั บ ผู ไ ด รั บ ก า ร จั ด ท่ี ดิ น ร า ย ใ ห ม
จังหวัดนครศรีธรรมราช ไดกําหนด
พน้ื ทีไ่ วป ระมาณ 500 ไร
(8) ผูที่จะไดรับการจัดท่ีดินตองแจงความ
ประสงคเขารวมโครงการฯ ตอกรม
ทรัพยากรทางทะเลและชายฝงหรือ
คทช. จังหวดั

๒. ประเภทของผูท่ีไดรับการจัดทีด่ นิ
๑. ผูเขาทําประโยชนหรืออยูอาศัยในพ้ืนที่
อยูแลวจากการสํารวจเบ้ืองตนของกรม
ทรัพยากรทางทะเลและชายฝงและ
เปนไปตามผลการตรวจสอบขอมูลรูป
แปลงที่ดิน และขอมูลรายชื่อราษฎรผู
ครอบครองจาก คทช. จังหวัด โดยจําแนก
ประเภทผูที่ไดรับการจัดท่ีดินตามลักษณะ
การครอบครอง ออกเปน
(1.1) ผูครอบครองรายเดิมช่ือตรง/

๑1๒2๓3

ประเด็นภารกิจ สาระสําคัญในการพจิ ารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ สงั่ ท่เี กี่ยวของ

แปลงตรงใหเ ขารว มโครงการฯ
(1.2) ผูครอบครองชื่อไมตรง (ทายาทผู

ครอบครองรายเดิม)/แปลงตรง
ใหเ ขารว มโครงการฯ
(1.3) ผูครอบครองรายใหม/มีการ
เปลยี่ นมือใหตรวจสอบคุณสมบัติ
ของผคู รอบครอง
กรณผี าน : ใหเขา รว มโครงการฯ
กรณีไมผาน : แจงผูครอบครองทราบและให
นาํ พ้ืนทมี่ าฟน ฟสู ภาพปา
(1.4) ในพ้ืนท่ีท่ีไมมีผูแจงความประสงค
เขารวมโครงการฯ ให คทช. จังหวัด
ตรวจสอบเพ่ิมเติมเพ่ือยืนยันวา
ไมประสงคจะเขารวมโครงการฯ
ในกรณีนี้ใหกรมทรัพยากรทางทะเล
และชายฝงพิจารณาดําเนินการ
ตามอํานาจหนาท่ีตอไป
2. ผูท่ีถกู ผลกั ดนั และอพยพออกจากพืน้ ท่ปี า
3. ผูมีถิ่นที่อยูในทองที่ที่จะจัดที่ดินหรือ
ใกลเคียง โดยพิจารณาจากหมูบาน ตําบล
อาํ เภอ จังหวัด ตามลําดับ

๓. คุณสมบตั ขิ องผูทไี่ ดรับการจดั ท่ีดิน
๓.๑ ผูครอบครองท่ีดินรายเดิม (การจัด
ระเบียบการใชประโยชน)
(๑) มีสัญชาติไทยและบรรลุนิติภาวะ
แลว หรอื เปน หัวหนาครอบครวั
(๒) มีความสามารถทําประโยชนในท่ีดนิ ได
(๓) ไมเปนคนวิกลจริตหรือจิตฟนเฟอน
ไมส มประกอบ
(๔) ยนิ ยอมปฏบิ ัติตามระเบียบขอบังคบั
ขอ กําหนด และเง่ือนไขที่กาํ หนด

124 ๑๒๔

ประเด็นภารกจิ สาระสําคัญในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คําสงั่ ท่เี กี่ยวของ

(๕) ปจจบุ นั ไมไ ดรบั การชวยเหลอื ในการ
จดั ทด่ี นิ จากทางราชการ

๓.๒ ผูไดรับการจัดที่ดินรายใหม (การจัด
ระบบการใชประโยชน)
(๑) มีสัญชาติไทยและบรรลุนิติภาวะ
แลวหรอื เปน หัวหนาครอบครวั
(๒) มีความสามารถทาํ ประโยชนในทดี่ นิ ได
(๓) ไมเปนคนวิกลจริตหรือจิตฟนเฟอน
ไมสมประกอบ
(๔) ยนิ ยอมปฏิบัตติ ามระเบียบขอบงั คับ
ขอกําหนด และเง่ือนไขท่ีกาํ หนด
(๕) ปจจบุ นั ไมไ ดรับการชวยเหลอื ในการ
จัดทดี่ ินจากทางราชการ
(๖) เปนผยู ากไรไมมที ่ที ํากนิ และ/หรือท่ีอยู
อาศัยหรือมรี ายไดไ มเกิน ๓๐,๐๐๐
บาท/คน/ป
(๗) มีถิ่นที่อยูในทองท่ีท่ีจะจัดที่ดินหรือ
ใกลเ คยี ง

กรณีท่ีคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดิน
จงั หวัดพิจารณาถึงความจําเปนเพื่อประโยชน
ในทางเศรษฐกิจ สังคม และความสงบเรียบรอย
โดยคํานึงถึงลักษณะพื้นที่ สภาพการใชประโยชน
ทําประโยชน คณะอนุกรรมการนโยบายท่ีดิน
จังหวัด (คทช. จังหวัด) จะผอนผันการปฏิบัติ
ตามหลกั เกณฑเปนการเฉพาะรายก็ได

๔. แนวทางการดําเนนิ การ
(๑) คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินสงมอบ
ขอมูลแปลงท่ีดินและรายช่ือผูครอบครอง
ทม่ี ใี หแก คทช. จังหวดั ดําเนินการ
(๒) คทช. จังหวดั รวมกับหนวยงานเจาของ

๑1๒2๕5

ประเดน็ ภารกจิ สาระสาํ คัญในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ สั่งที่เก่ียวของ

พนื้ ที่ (ระดบั จงั หวัด) สาํ รวจ/ตรวจสอบ/
ลงพ้ืนที่ตรวจสอบขอมูลรูปแปลงที่ดิน
และขอมูลของราษฎรผูครอบครองภายใน
ขอบเขตพื้นที่ที่จะดําเนินการจัดที่ดิน
ทาํ กนิ ใหช ุมชน และจาํ แนกประเภทตาม
ลกั ษณะการครอบครอง
(๓) คทช.จังหวัดรวบรวมขอมูลรายงานคณะ
อนุกรรมการจัดท่ีดินทราบ เพ่ือรายงานให
คทช. ทราบ
(๔) จังหวดั หรือหนว ยงานท่ีไดรับมอบหมาย
จาก คทช. จังหวัดขออนุญาตเขาทํา
ประโยชน หรืออยูอาศัยภายในเขตปา
สงวนแหงชาติ ตามมาตรา ๑๖ แหง
พระราชบัญญัติปาสงวนแหงชาติ พ.ศ.
๒๕๐๗ ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและ
ชายฝงไดดําเนินการขอยกเวน มติครม.
ทเี่ กย่ี วของเรยี บรอยแลว
(๕) หนวยงานท่ีไดรับมอบหมายจาก คทช.
จังหวัดไดรับอนุญาตจากหนวยงาน
เจา ของพื้นท่ี
(๖) คทช.จงั หวัดอาจต้ังคณะทํางานจัดท่ีดิน
ดําเนินการจัดระเบียบ/จัดระบบการใช
ประโยชน
(๗) คณะทํางานฯประชุมชี้แจงราษฎรแจง
ใหทราบถงึ แนวทาง/แผนการดาํ เนินงาน
(๘) คณะทํางานฯ คดั เลือกบุคคลตามคุณสมบัติ
ประเภทของผูที่ไดรับการจัดท่ีดิน และ
เงื่อนไขการเขารวมโครงการจัดที่ดิน
ทํากินใหชุมชนท่ีกําหนดซ่ึงไดผานความ
เห็นชอบของ คทช. แลว รวมท้ังจัดทํา
ผังแปลงท่ีดินและรายช่ือราษฎรท่ีจะ

126 ๑๒๖

ประเดน็ ภารกิจ สาระสําคัญในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ สั่งท่เี กี่ยวของ

ไดรับการจัดระเบียบ/จัดระบบการใช
ประโยชน
(๙) คทช. จังหวัด อนุมัติใหดําเนินการจัด
ระเบียบ/จัดระบบการใชประโยชนตาม
ผังแปลงและรายชื่อที่คณะทํางานฯ เสนอ
จากนั้นรายงานผลใหคณะอนุกรรมการ
จัดทด่ี นิ เพือ่ รายงาน คทช. ทราบ
(๑๐) คทช.จงั หวัด รวบรวมขอมูลสงเรื่องให
ผูไดรับอนุญาตและหนวยงานเจาของ
พื้นทก่ี ํากบั ดูแลใหเปนไปตามการอนุญาต
และขอกําหนดภายใตการบริหารจัดการ
ของ คทช.จังหวัด

9.4 กระบวนการการจัด 1. หลักเกณฑการจดั ที่ดนิ ทาํ กินใหชมุ ชน มี 2
ทด่ี นิ ทํากินใหชุมชน รูปแบบ ดังนี้
ตามนโยบายรัฐบาล 1.1 การจัดท่ีดินทํากินใหชุมชนโดยการจัด
ในที่ดินราชพสั ดุ ระบบการใชประโยชน นําที่ดินราชพัสดุ

ท่ีไมมีการใชประโยชน (ท่ีวาง) มาจัดระบบ

ใชป ระโยชน

(1) จัดท่ีดินทํากินใหชุมชนหรือกลุมบุคคล

โดยไมใหเปนกรรมสิทธิ์เฉพาะรายตาม

สภาพพ้ืนท่แี ละตามเขตการปกครอง

(2) จัดทําแผนผังแปลงท่ีดินตามสัดสวนท่ี

เหมาะสมกับสภาพการใชประโยชน

และความเหมาะสมของสภาพพน้ื ท่ี

(3) จัดทําสาธารณูปโภคอยางเหมาะสมกับ

พ้ืนทีแ่ ละความสะดวกในการใชประโยชน

(4) หลกั เกณฑ วิธกี าร และเงื่อนไขในการ

จดั ที่ดนิ ราชพัสดุ และการใชประโยชน

ที่ดินราชพสั ดใุ หเ ปน ไปตามกฎหมายที่

๑1๒2๗7

ประเดน็ ภารกจิ สาระสําคญั ในการพจิ ารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ สั่งท่เี กี่ยวของ

ราชพัสดุ ซ่ึงไดผานความเห็นชอบของ
คทช. แลว
(5) จดั ท่ดี ินราชพัสดุใหผูท่ีถูกผลักดัน และ
อพยพออกจากพื้นท่ีปาตนนํ้าและปา
อนุรักษท่ีสําคัญเปนลําดับแรก และผู
บกุ รกุ ท่ดี ินราชพัสดุซึ่งอยูในเงื่อนไขจะ
ไดรับการจัดที่ดินตามกฎหมายท่ีราช
พัสดุผูท่ีไดรับผลกระทบจากการดําเนิน
การตามโครงการของทางราชการที่
สูญเสียที่ดินทํากิน และผูที่ไมมีท่ีดิน
ทํากิน หรือมีเพียงเล็กนอยไมเพียงพอ
ตอการครองชีพ ที่มีถิ่นที่อยูในทองท่ีที่
จะจัดท่ีดิน โดยพิจารณาจากหมูบาน
ตําบล อําเภอ ตามลําดับ หากมีพื้นท่ี
เหลือจึงจะจัดใหผูที่มีถ่ินที่อยูในทองที่
ใกลเคียงอื่นตอไป ทั้งน้ี กรณีที่คณะ
อนุกรรมการนโยบายท่ีดินจังหวัดพิจารณา
เห็นเปนความจําเปน เพ่ือประโยชน
ในทางเศรษฐกิจ สังคม และความสงบ
เรียบรอยสามารถกําหนดการคัดกรอง
และจัดลําดับท่ีเหมาะสมของชุมชน
ทองถน่ิ ตามทเ่ี หน็ สมควรได
1.2 การจัดทดี่ ินทาํ กินใหช มุ ชน โดยการจัด
ระเบียบการใชประโยชนเปนการนํา
ที่ดินราชพัสดุ ท่ีมีผูใชประโยชนมาจัด
ระเบียบการใชป ระโยชน
(1) จัดท่ีดินทํากินใหชุมชนในรูปแปลงรวม
ตามสภาพพ้ืนที่และตามเขตการปกครอง
(2) การใชป ระโยชนในที่ดินใหเปนไปตาม
กฎหมาย ขอกําหนด และเง่ือนไข
ของหนวยงานเจาของพ้ืนท่ี ซ่ึงได

128 ๑๒๘

ประเด็นภารกจิ สาระสําคญั ในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ สงั่ ทเี่ ก่ียวของ

ผานความเหน็ ชอบของ คทช. แลว
(3) จัดที่ดินใหแกผูเขาทําประโยชนหรือ

อยูอาศัยในพื้นท่ีอยูแลวตามที่ครอบ
ครองอยูจริง ตามความเหมาะสม
หากมีพื้นที่เหลือหรือพื้นที่ท่ีไมมีผูทํา
ประโยชนจึงจะจัดใหผูที่ถูกผลักดัน
และอพยพออกจากพื้นที่ปา และผูมี
ถิ่นที่อยูในทองที่ที่จะจัดที่ดินหรือ
ใกลเคียง โดยพิจารณาจากหมูบาน
ตําบล อําเภอ จังหวัด ตามลําดับตาม
เกณฑก ารตรวจสอบขอมลู การถือครอง
และแนวทางการจัดที่ดินที่ คทช.
เห็นชอบ ท้ังนี้ เพื่อเปนการควบคุม
และรวมกนั ดแู ลรักษาพนื้ ทีท่ ีร่ าชพัสดุ

2. ประเภทของผทู ี่ไดร ับการจดั ทด่ี นิ
(1) ผูที่ถูกผลักดันและอพยพออกจากพ้ืนที่
ปาตนนาํ้ และปาอนุรักษท ่สี ําคัญ
(2) ผบู กุ รกุ ทีด่ ินราชพัสดุซ่ึงอยใู นเงื่อนไขจะ
ไดร ับการจดั ท่ดี นิ ตามกฎหมายทีร่ าชพัสดุ
(3) ผูที่ไดรับผลกระทบจากการดําเนินการ
ตามโครงการของทางราชการที่สูญเสีย
ที่ดินทํากนิ
(4) ผูท่ีไมมที ี่ดนิ ทํากินหรือมเี พียงเลก็ นอย
ไมพอตอการครองชีพ ทม่ี ีถิ่นท่อี ยูในทองที่
ท่ีจะจัดท่ีดินโดยพิจารณาจากหมูบาน
ตําบล อาํ เภอ จังหวดั ตามลําดับ หากมี
พื้นท่ีเหลือจึงจะจัดใหผทู ม่ี ีถ่ินท่ีอยูใ น
ทอ งที่ใกลเคียงอ่ืนตอไป

3. คุณสมบตั ขิ องผูทีไ่ ดร บั การจดั ทด่ี นิ
(1) บุคคลสัญชาติไทย
(2) เปนผูยากไรไ มม ีทที่ าํ กนิ และ/หรอื ท่ีอยู

๑1๒2๙9

ประเดน็ ภารกิจ สาระสําคญั ในการพิจารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ ส่งั ที่เก่ียวของ

อาศัยหรือมีรายไดตอปไมเกิน 30,000
บาท/คน
(3) บรรลุนิติภาวะแลวหรือเปนหัวหนา
ครอบครวั
(4) มีถ่ินท่ีอยูในทองที่ท่ีจะจัดที่ดินหรือ
ใกลเคียง
(5) มคี วามสามารถทําประโยชนใ นทด่ี นิ ได
(6) ไมเปนคนวิกลจริต หรือจิตฟนเฟอน
ไมส มประกอบ
(7) ยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ ขอบังคับ
ขอกําหนด และเง่ือนไขที่กําหนดทั้ง
จาก คทช. และกรมธนารักษ
(8) ปจจุบันไมไดรับการชวยเหลือในการ
จัดท่ดี นิ ทํากนิ จากทางราชการ
(9) กรณีท่ีคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดิน
จังหวัดพิจารณาเห็นเปนความจําเปน
เพ่ือประโยชนในทางเศรษฐกิจ สังคม
และความสงบเรียบรอย โดยคํานึงถึง
ลักษณะพื้นที่สภาพการใชประโยชน
ทําประโยชน คณะอนุกรรมการนโยบาย
ที่ดินจงั หวดั (คทช.จังหวัด) จะผอนผัน
การปฏิบัติตามหลักเกณฑเปนการ
เฉพาะรายกไ็ ด
(10) มีคณุ สมบัติตามกฎหมายของหนวยงาน
เจาของพ้ืนที่กําหนด เชน กรณีการจัด
ระเบียบการใชประโยชน ผูไดรับการ
จัดสรรตองเปนผูอยูในท่ีราชพัสดุกอน
วันที่ 4 ตุลาคม 2546 เปน ตน

4. แนวทางดําเนนิ การ
1) การจัดที่ดินทํากินใหชุมชน โดยการ

130 ๑๓๐
ประเดน็ ภารกจิ
สาระสาํ คญั ในการพจิ ารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ สั่งทเี่ ก่ียวของ

จัดระบบการใชป ระโยชน
(1) สํานักงานธนารักษพื้นท่ีประสาน

หนวยงานที่เกี่ยวของสํารวจ ตรวจสอบ
ท่ีราชพัสดุแปลงที่เหมาะสม พรอม
ทั้งจัดทําผังแปลงที่ดินใหมีขนาด
เหมาะสม กับสภาพการทําประโยชน
และแผนพัฒนาโครงสรางพื้นฐานใน
ดานตาง ๆ เพื่อสงใหกรมธนารักษ
พิจารณาคัดเลือกแลวจัดสงใหคณะ
อนุกรรมการจัดหาท่ีดินพิจารณา
กําหนดเปนพืน้ ที่เปา หมาย
(2) คณะอนุกรรมการจัดหาท่ีดินใหความ
เห็นชอบแลวสงมอบพ้ืนที่เปาหมาย
ใหคณะอนุกรรมการจัดที่ดิน และ
คทช.จงั หวัดดําเนนิ การ
(3) คทช. จังหวัดคัดเลือกบุคคลตาม
หลักเกณฑ คุณสมบัติ ประเภทผูไดรับ
การจดั ท่ีดินและขอกําหนดอื่นที่เกี่ยวของ
และจดั ทําบัญชีรายชื่อผูที่จะไดรับการ
จัดที่ดินสงใหคณะอนุกรรมการจัดท่ีดิน
พิจารณา
(4) ผูไดรับการคัดเลือกตามบัญชีรายชื่อ
ผูท่ีจะไดรับการจัดท่ีดิน ดําเนินการ
จดทะเบียนจดั ตั้งสหกรณ
(5) ชุมชนในรูปสหกรณย่ืนคําขอเชาท่ี
ราชพัสดใุ นลักษณะแปลงรวม
(6) สํานักงานธนารักษพื้นที่ดําเนินการ
จัดใหชุมชนในรูปสหกรณเชาตาม
กฎหมายที่ราชพัสดุ โดยสหกรณ
จัดสรรพื้นท่ีใหแกสมาชิกเพ่ืออยูอาศัย
ไดไมเกิน ๑๐๐ ตารางวา ตอครอบครัว

๑1๓3๑1

ประเด็นภารกจิ สาระสําคัญในการพจิ ารณา กฎหมาย/ระเบียบ/คาํ สัง่ ท่เี กี่ยวของ

อัตราคาเชาไมต่ํากวาตารางวาละ
๐.๒๕ บาทตอเดือน และกรณีการเชา
เพื่อประกอบการเกษตรไดไมเกิน
๑๕ ไร ตอครอบครัว อัตราคาเชาไม
ต่าํ กวาไรล ะ ๒๐๐ บาทตอป
(7) คทช. จังหวัด แจงผลการดําเนินการ
จัดทําสัญญาเชาท่ีราชพัสดุใหคณะ
อนุกรรมการจัดท่ีดินทราบเพื่อสงให
คณะอนุกรรมการสงเสริมและพัฒนา
อาชพี ดําเนินการตอ ไป

2) การจัดท่ีดินทํากินใหชุมชนโดยการจัด
ระเบียบการใชป ระโยชน
(1) สํานักงานธนารักษพ้ืนท่ีสํารวจรังวัด
และตรวจสอบท่ีราชพัสดุแปลงที่มี
การบุกรุกพรอมรายละเอียดผูบุกรุก
สงใหกรมธนารักษเพื่อพิจารณา
คัดเลือกแปลงเสนอคณะอนุกรรมการ
จัดหาท่ีดินพิจารณา กําหนดเปน
พืน้ ทเี่ ปาหมาย
(2) คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินให
ความเห็นชอบแลวสงใหคณะอนุ
กรรมการนโยบายทีด่ นิ จงั หวัด (คทช.
จงั หวัด) พจิ ารณาดาํ เนินการ
(3) คทช. จังหวัด พิจารณาตรวจสอบ
ขอบเขตพ้นื ท่ีดาํ เนนิ การ จํานวนผู
บุ ก รุ ก แ ล ะ ร า ย ล ะ เ อี ย ด แ ล ว ส ง
ขอมูลใหคณะอนุกรรมการจัดหา
ที่ดนิ พิจารณา
(4) คณะอนุกรรมการจดั หาที่ดินสง มอบ
พน้ื ที่เปาหมายใหคณะอนกุ รรมการ
จดั ทดี่ ิน และ คทช. จงั หวัดดําเนินการ


Click to View FlipBook Version