คำนำ
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม พุทธศักราช 2๕๖๕ นี้ ได้จัดทำข้นึ ตาม
แนวทางที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช
๒๕๖๐) สังคมโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรม ช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ การดำรงชีวิตของมนุษย์ ทั้งในฐานะปัจเจกบุคคล และการอยู่
ร่วมกันในสังคม การปรับตัวตามสภาพแวดล้อม การจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด นอกจากน้ี ยังช่วยให้
ผูเ้ รยี นเขา้ ใจถงึ การพัฒนา เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย กาลเวลา ตามเหตปุ ัจจยั ต่างๆ ทำให้เกิดความเขา้ ใจในตนเอง
และผู้อนื่ มคี วามอดทน อดกลั้น ยอมรับในความแตกตา่ ง และมีคณุ ธรรม สามารถนำความรไู้ ปปรับใช้ในการดำเนิน
ชีวติ เปน็ พลเมอื งดีของประเทศชาติและสังคมโลก
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม พุทธศักราช 2๕๖๕ โรงเรียน
วัดท่ากระบือ(ท่ากระบอื พิทยาคาร) เล่มนี้ได้บูรณาการหลักสูตรต้านทจุ ริต เข้าไปในการจัดการเรียนการสอนเพื่อ
เป็นการปลูกฝังให้ผู้เรียนมีพัฒนาการ เติบโตเป็นผู้ที่มีความพร้อมในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างสันติสุข
ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ เล่มนี้จะเป็นประโยชน์สาหรับครูผู้สอนและผู้ที่มีส่วน
เกยี่ วขอ้ งนำไปใชเ้ ป็นกรอบและทศิ ทางในการจดั การเรียนการสอนต่อไป
คณะผูจ้ ดั ทำ
สารบญั หนา้
เรอ่ื ง ก
ข
คำนำ ๑
สารบญั ๒
ความนำ ๒
ทำไมต้องเรียนสังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๓
เรียนร้อู ะไรในสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๕
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ ๖
คุณภาพผู้เรยี น ๓๗
ตัวช้ีวดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง ๓๘
โครงสร้างหลักสตู รโรงเรียนวัดทา่ กระบือ(ทา่ กระบอื พทิ ยาคาร) ๔๕
วเิ คราะหม์ าตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้วี ดั ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ ๔๖
คำอธิบายรายวชิ า ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ๕๔
วิเคราะหม์ าตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชีว้ ดั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๒ ๕๕
คำอธิบายรายวชิ า ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๒ ๖๒
วิเคราะห์มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชี้วดั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ ๖๓
คำอธิบายรายวิชา ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๓ ๗๒
วเิ คราะหม์ าตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชว้ี ัด ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ ๗๓
คำอธบิ ายรายวชิ า ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ ๘๒
วเิ คราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วัด ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ๘๓
คำอธิบายรายวชิ า ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๕ ๙๑
วเิ คราะห์มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวชวี้ ัด ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ๙๒
คำอธบิ ายรายวิชา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ ๑๐๕
โครงสรา้ งรายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ - ๖ ๑๐๗
วเิ คราะห์มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชว้ี ัดประวัติศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ๑๐๘
คำอธิบายรายวิชาประวัตศิ าสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ ๑๑๐
วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชี้วดั ประวตั ิศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๒ ๑๑๑
คำอธิบายรายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๒
วิเคราะหม์ าตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชี้วัดประวตั ศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓
คำอธบิ ายรายวชิ าประวตั ิศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ๑๑๓
วเิ คราะห์มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชว้ี ดั ประวัติศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ ๑๑๔
คำอธิบายรายวชิ าประวัตศิ าสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔ ๑๑๖
วเิ คราะหม์ าตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชีว้ ดั ประวตั ศิ าสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๕ ๑๑๗
คำอธิบายรายวชิ าประวตั ิศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ ๑๑๙
วเิ คราะห์มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวช้วี ัดประวัติศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ ๑๒๐
คำอธบิ ายรายวิชาประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ ๑๒๒
โครงสร้างรายวิชาประวัติศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ - ๖ ๑๒๓
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ หน้าท่พี ลเมอื ง ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ - ๖ ๑๓๐
โครงสร้างรายวชิ าเพิม่ เตมิ หน้าท่ีพลเมือง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ – ๖ ๑๓๘
แนวทางการวัดและประเมินผล ๑๔๕
1
ความนำ
กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ ให้เป็นหลักสูตร
แกนกลางของประเทศ โดยกำหนดจดุ หมาย และมาตรฐานการเรียนรเู้ ปน็ เป้าหมายและกรอบทิศทางในการพัฒนา
คุณภาพผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีระดับโลก
(กระทรวงศึกษาธิการ,๒๕๔๔)พรอ้ มกันนไ้ี ด้ปรบั กระบวนการพัฒนาหลักสตู รให้มีความสอดคลอ้ งกับเจตนารมณ์แห่ง
พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และทีแ่ ก้ไขเพิ่มเติม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ ทมี่ ุง่ เน้นการกระจาย
อำนาจทางการศึกษาให้ท้องถ่นิ และสถานศึกษาได้มีบทบาทและมีส่วนร่วมในการพฒั นาหลักสูตร เพื่อให้สอดคล้อง
กับสภาพ และความตอ้ งการของท้องถ่ิน (สำนักนายกรฐั มนตรี, ๒๕๔๒)
จากข้อค้นพบในการศึกษาวิจัยและติดตามผลการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔
ท่ผี า่ นมา ประกอบกับขอ้ มลู จากแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๑๐ เก่ยี วกับแนวทางการพัฒนาคน
ในสังคมไทย และจดุ เน้นของกระทรวงศึกษาธกิ ารในการพฒั นาเยาวชนส่ศู ตวรรษท่ี ๒๑ จงึ เกดิ การทบทวนหลักสูตร
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ ที่มีความเหมาะสมชัดเจน โดยได้มีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดท่ีชัดเจน เพื่อใช้เป็นทิศทางในการจัดทำหลักสูตร และ
เปิดโอกาสให้สถานศึกษาเพิ่มเติมเวลาเรียนได้ตามความพร้อมและจุดเน้น อีกทั้งได้ปรับกระบวนการวัดและ
ประเมินผลผู้เรยี น เกณฑก์ ารจบการศึกษาแตล่ ะระดับ และเอกสารแสดงหลักฐานทางการศึกษาใหม้ คี วามสอดคล้อง
กับมาตรฐานการเรียนรู้ และมคี วามชดั เจนตอ่ การนำไปปฏิบัติ
หลักสูตรสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของโรงเรียนวัดท่ากระบือ(ท่ากระบือพิทยา
คาร) เล่มน้ี จัดทำข้ึนโดยยดึ หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช
๒๕๖๐) และการบูรณาการหลักสูตรต้านทุจริต ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นแนวทางในการจัดทำ
หลักสูตรของโรงเรยี นและจัดการเรยี นการสอน เพ่ือพฒั นาเด็กและเยาวชนไทยทกุ คนได้รบั การศึกษาขนั้ พนื้ ฐานให้มี
คุณภาพด้านความรู้ และทักษะท่ีจำเป็นสำหรับการดำรงชีวติ ในสังคมทีม่ กี ารเปลีย่ นแปลง และแสวงหาความรู้เพ่ือ
พฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เน่อื งตลอดชวี ติ
2
กลมุ่ สาระสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
ทำไมตอ้ งเรียนสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
สังคมโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรม ช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ว่ามนุษย์ดำรงชีวิตอย่างไร ทั้งในฐานะปัจเจกบุคคล และการอยู่
ร่วมกนั ในสงั คม การปรับตัวตามสภาพแวดล้อม การจดั การทรัพยากรทม่ี อี ยอู่ ย่างจำกดั นอกจากน้ี ยงั ช่วยใหผ้ เู้ รียน
เข้าใจถึงการพัฒนา เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย กาลเวลา ตามเหตุปัจจัยต่างๆ ทำให้เกิดความเข้าใจในตนเอง และ
ผอู้ น่ื มีความอดทน อดกลัน้ ยอมรับในความแตกต่าง และมีคณุ ธรรม สามารถนำความรไู้ ปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต
เปน็ พลเมอื งดขี องประเทศชาติ และสังคมโลก
เรียนรู้อะไรในสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมว่าด้วยการอยู่ร่วมกันในสังคม ที่มีความเชื่อม
สัมพันธ์กัน และมีความแตกต่างกันอย่างหลากหลาย เพื่อช่วยให้สามารถปรับตนเองกับบริบทสภาพแวดลอ้ ม เป็น
พลเมอื งดี มีความรับผดิ ชอบ มคี วามรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม โดยไดก้ ำหนดสาระต่างๆไว้ ดังนี้
ศาสนา ศีลธรรมและจรยิ ธรรม แนวคดิ พื้นฐานเก่ยี วกับศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม หลกั ธรรมของ
พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ การนำหลักธรรมคำสอนไปปฏิบัติในการพัฒนาตนเอง และการอยู่ร่วมกัน
อย่างสันติสุข เป็นผู้กระทำความดี มีค่านิยมที่ดีงาม พัฒนาตนเองอยู่เสมอ รวมทั้งบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและ
ส่วนรวม
หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิต ระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบันการ
ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลักษณะและความสำคัญ การเป็นพลเมืองดี
ความแตกต่างและความหลากหลายทางวัฒนธรรม ค่านิยม ความเชื่อ ปลูกฝังค่านิยมด้านประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สิทธิ หน้าที่ เสรีภาพการดำเนินชีวิตอย่างสันติสุขในสังคมไทยและสังคมโลก
การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับส่วนรวม ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต STORNG :
จิตพอเพยี งตา้ นทจุ รติ พลเมืองกับความรับผดิ ชอบต่อสงั คม
เศรษฐศาสตร์ การผลติ การแจกจ่าย และการบริโภคสนิ ค้าและบริการ การบริหารจดั การทรัพยากรท่มี ีอยู่
อย่างจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพ การดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ และการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ใน
ชวี ติ ประจำวัน
ประวตั ิศาสตร์ เวลาและยคุ สมัยทางประวัติศาสตร์ วิธีการทางประวัตศิ าสตร์ พัฒนาการของมนุษยชาติจาก
อดีตถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์และเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ผลกระทบที่เกิดจากเหตุการณ์สำคัญในอดีต
บุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆในอดีต ความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย
แหล่งอารยธรรมทีส่ ำคัญของโลก
ภูมิศาสตร์ ลักษณะของโลกทางกายภาพ ลักษณะทางกายภาพ แหล่งทรัพยากร และภูมิอากาศของ
ประเทศไทย และภูมภิ าคต่างๆ ของโลก การใช้แผนทแี่ ละเคร่ืองมอื ทางภมู ิศาสตร์ ความสมั พนั ธก์ ันของสง่ิ ต่างๆ ใน
ระบบธรรมชาติ ความสมั พันธ์ของมนุษยก์ บั สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และสิง่ ทม่ี นุษยส์ ร้างขน้ึ การนำเสนอข้อมลู
ภูมิสารสนเทศ การอนุรกั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ มเพ่อื การพฒั นาที่ยง่ั ยนื
3
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนบา้ นหนองขามนาดี มงุ่ ใหผ้ ู้เรียน
เกิดสมรรถนะสำคัญ ๕ ประการ ดงั น้ี
๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา
ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ
ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสงั คม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพือ่ ขจัดและลดปัญหา
ความขัดแย้งต่างๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้
วธิ ีการสอื่ สาร ท่มี ีประสิทธภิ าพโดยคำนึงถึงผลกระทบทม่ี ตี อ่ ตนเองและสังคม
๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามรถในการคิดวิเคราะห์ การคดิ สังเคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์
การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสรา้ งองค์ความรูห้ รือสารสนเทศเพอ่ื การตัดสินใจ
เกีย่ วกบั ตนเองและสังคมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เผชิญไดอ้ ย่าง
ถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ
เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา
และมีการตดั สินใจท่ีมีประสทิ ธภิ าพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบที่เกิดขน้ึ ต่อตนเอง สังคมและสงิ่ แวดล้อม
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่างๆ ไปใช้ในการดำเนิน
ชีวติ ประจำวัน การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง การเรยี นรู้อยา่ งต่อเน่ืองการทำงาน และการอยรู่ ว่ มกนั ในสังคมด้วยการสร้าง
เสริมความสัมพันธอ์ ันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่างๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวใหท้ นั
กับการเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรจู้ ักหลีกเล่ียงพฤตกิ รรมไมพ่ ึงประสงค์ท่ีสง่ ผลกระทบต่อ
ตนเองและผูอ้ น่ื
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆ และมี
ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน
การแกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมีคุณธรรม
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนบ้านหนองขามนาดี มุ่งพัฒนา
ผเู้ รยี นใหม้ ีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เพ่ือใหส้ ามารถอยู่ร่วมกับผู้อน่ื ในสังคมได้อยา่ งมีความสุข ในฐานะเปน็ พลเมือง
ไทยและพลโลก ดงั น้ี
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซอื่ สตั ย์สุจริต
๓. มวี นิ ยั
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง
๖. มงุ่ ม่ันในการทำงาน
๗. รักความเป็นไทย
๘. มจี ิตสาธารณะ
4
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม
มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา
หรือศาสนาทต่ี นนบั ถอื และศาสนาอืน่ มีศรัทธาทถี่ กู ต้อง ยึดม่ัน และปฏบิ ตั ิตามหลักธรรม เพอ่ื อยู่ร่วมกันอย่างสันติ
สขุ
มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนาหรอื
ศาสนาท่ตี นนับถอื
สาระที่ ๒ หน้าทพ่ี ลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนินชวี ติ ในสงั คม
มาตรฐาน ส ๒.๑ เขา้ ใจและปฏบิ ัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มคี า่ นยิ มทดี่ ีงาม และธำรงรักษา
ประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย ดำรงชีวติ อยู่ร่วมกันในสังคมไทย และ สังคมโลกอยา่ งสนั ติสขุ
มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมอื งการปกครองในสงั คมปัจจุบัน ยึดมั่น ศรัทธา และธำรงรักษาไว้ซึ่ง
การปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมขุ
สาระที่ ๓ เศรษฐศาสตร์
มาตรฐาน ส.๓.๑ เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรพั ยากรในการผลติ และการบรโิ ภคการใช้ ทรัพยากรที่
มีอยจู่ ำกดั ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมท้งั เข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพ่ือการดำรงชีวิตอย่างมี
ดุลยภาพ
มาตรฐาน ส.๓.๒ เข้าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และความ
จำเปน็ ของการรว่ มมอื กนั ทางเศรษฐกจิ ในสงั คมโลก
สาระที่ ๔ ประวัติศาสตร์
มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสำคญั ของเวลาและยุคสมัยทางประวตั ิศาสตร์ สามารถใช้วิธีการ
ทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะหเ์ หตกุ ารณ์ตา่ งๆ อย่างเปน็ ระบบ
มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์และการ
เปลี่ยนแปลงของเหตุการณอ์ ยา่ งตอ่ เนื่อง ตระหนกั ถงึ ความสำคัญและสามารถ วเิ คราะห์ผลกระทบท่เี กิดข้ึน
มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจและ
ธำรงความเปน็ ไทย
สาระที่ ๕ ภมู ิศาสตร์
มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พันธข์ องสรรพสิง่ ซง่ึ มผี ล ตอ่ กันและกัน
ในระบบของธรรมชาติ ใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ในการค้นหาวิเคราะห์ สรุป และใช้ข้อมูลภูมิ
สารสนเทศอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
มาตรฐาน ส ๕.๒ เข้าใจปฏสิ ัมพนั ธร์ ะหว่างมนษุ ยก์ บั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพทก่ี อ่ ให้เกดิ การสร้างสรรค์
วฒั นธรรม มีจติ สำนึก และมสี ว่ นร่วมในการอนุรกั ษ์ ทรพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ ม เพื่อการพฒั นาท่ยี ่งั ยืน
5
คุณภาพผู้เรยี น
จบชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓
• ได้เรียนรู้เรือ่ งเกีย่ วกบั ตนเองและผูท้ ีอ่ ยู่รอบข้าง ตลอดจนสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น ที่อยู่อาศัย และ
เช่อื งโยงประสบการณ์ไปสู่โลกกวา้ ง
• ผู้เรียนได้รับการพัฒนาใหม้ ีทักษะกระบวนการ และมีข้อมลู ท่ีจำเป็นตอ่ การพฒั นาให้เป็น ผู้มีคุณธรรม
จรยิ ธรรม ประพฤตปิ ฏิบัติตามหลกั คำสอนของศาสนาที่ตนนบั ถือ มีความเป็นพลเมอื งดี มีความรบั ผิดชอบ การอยู่
ร่วมกันและการทำงานกบั ผูอ้ ่ืน มีส่วนรว่ มในกจิ กรรมของหอ้ งเรียน และไดฝ้ กึ หัดในการตัดสนิ ใจ
• ได้ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน และชุมชนในลักษณะการบูรณาการ ผู้เรียนได้
เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับปัจจุบันและอดีต มีความรู้พื้นฐานทางเศรษฐกิจได้ข้อคิดเกี่ยวกับรายรับ-รายจ่ายของ
ครอบครัว เขา้ ใจถงึ การเปน็ ผู้ผลิต ผ้บู รโิ ภค รจู้ กั การออมขั้นตน้ และวธิ ีการเศรษฐกจิ พอเพียง
• ได้รับการพัฒนาแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน้าที่พลเมือง เศรษฐศาสตร์
ประวัติศาสตร์ และภูมิปญั ญา เพ่ือเป็นพ้นื ฐานในการทำความเขา้ ใจในขนั้ ทีส่ งู ตอ่ ไป
จบชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖
• ได้เรียนรู้เรื่องของจังหวัด ภาค และประทศของตนเอง ทั้งเชิงประวัติศาสตร์ ลักษณะทางกายภาพ
สงั คม ประเพณี และวฒั นธรรม รวมทั้งการเมืองการปกครอง สภาพเศรษฐกิจโดยเน้นความเปน็ ประเทศไทย
• ได้รับการพฒั นาความรู้และความเข้าใจ ในเร่ืองศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม ปฏิบตั ิตนตามหลักคำสอน
ของศาสนาทต่ี นนบั ถอื รวมทัง้ มีส่วนร่วมศาสนพธิ ี และพธิ ีกรรมทางศาสนามากยิ่งขึ้น
• ได้ศกึ ษาและปฏิบตั ิตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิหน้าที่ในฐานะพลเมืองดีของท้องถ่นิ จังหวัด ภาค
และประเทศ รวมท้งั ไดม้ ีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมตามขนบธรรมเนยี มประเพณี วัฒนธรรม ของท้องถิน่ ตนเองมากย่งิ ขึ้น
• ได้ศึกษาเปรียบเทียบเรื่องราวของจงั หวัดและภาคต่างๆของประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้รับ
การพฒั นาแนวคดิ ทางสังคมศาสตร์ เก่ียวกับศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม หนา้ ทพ่ี ลเมือง เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์
และภูมิศาสตร์เพื่อขยายประสบการณ์ไปสู่การทำความเข้าใจ ในภูมิภาค ซีกโลกตะวันออกและตะวันตกเกี่ยวกับ
ศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ มความเชอ่ื ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม การดำเนินชวี ติ การจัดระเบียบ
ทางสังคม และการเปล่ยี นแปลงทางสงั คมจากอดีตสู่ปจั จุบนั
6
ตวั ชี้วัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลาง
สาระท่ี ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม
มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนา
ทต่ี นนับถือและศาสนาอนื่ มีศรัทธาที่ถกู ต้อง ยึดมัน่ และปฏบิ ตั ิตามหลักธรรมเพอ่ื อย่รู ่วมกนั อย่างสนั ตสิ ขุ
ช้นั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. บอกพุทธประวัติ หรอื ประวัติของศาสดา พทุ ธประวตั ิ ประสตู ิ ตรัสรู้ ปรินิพพาน
ท่ีตนนบั ถือโดยสังเขป
๒. ชน่ื ชมและบอกแบบอย่างการดำเนินชีวิต สามเณรบัณฑิต วัณณุปถชาดก สุวัณณสามชาดก
และข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก/เรอื่ งเลา่ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช
และศาสนิกชนตัวอย่างตามท่ีกำหนด เจา้ พระยาสธุ รรมมนตรี (หนูพรอ้ ม)
๓. บอกความหมาย ความสำคญั และเคารพ ➢ พระรัตนตรัย ศรัทธา พระพุทธ พระธรรม
พระรัตนตรยั ปฏิบัติตามหลกั ธรรมโอวาท ๓ พระสงฆ์
ในพระพทุ ธศาสนา หรอื หลกั ธรรมของ ➢ โอวาท ๓
ศาสนาที่ตนนบั ถอื ตามทก่ี ำหนด ไม่ทำช่ัว เบญจศีล
ทำความดี เบญจธรรม สงั คหวัตถุ ๔
กตัญญูกตเวทีตอ่ พ่อแม่ และครอบครวั
มงคล ๓๘ ทำตัวดี ว่าง่าย รบั ใชพ้ อ่ แม่
ทำจติ ให้บริสทุ ธ์ิ (บริหารจิตและเจริญ
ปญั ญา)
➢ พทุ ธศาสนสภุ าษิต
อตตฺ า หิ อตตฺ โน นาโถ
ตนแลเปน็ ทพี่ ึง่ ของตน
มาตา มิตตฺ ํ สเก ฆเร
มารดาเป็นมติ รในเรอื นของตน
๔. เห็นคุณค่าและสวดมนต์ แผ่เมตตา มสี ติ ➢ ฝกึ สวดมนตแ์ ละแผเ่ มตตา
ท่เี ป็นพื้นฐานของสมาธิในพระพทุ ธศาสนา รู้ความหมายและประโยชน์ของสติ
หรือการพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ ฟงั เพลงและร้องเพลงอยา่ งมสี ติ
ตนนบั ถือตามทกี่ ำหนด เลน่ และทำงานอยา่ งมสี ติ
ฝกึ ให้มีสติในการฟัง การอ่าน การคิด การถาม
และการเขยี น
ป.๒ ๑. บอกความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธศาสนาเป็นเอกลกั ษณข์ อง ชาตไิ ทย
หรือศาสนาท่ีตนนบั ถือ
๒. สรุปพทุ ธประวัติตง้ั แตป่ ระสตู ิจนถงึ การ สรุปพทุ ธประวัติ
ออกผนวชหรอื ประวตั ิศาสดาทตี่ นนบั ถือ ประสตู ิ เหตุการณห์ ลงั ประสตู ิ แรกนขวัญ
ตามที่กำหนด การศึกษา การอภิเษกสมรส เทวทูต ๔ การออก
ผนวช
7
ชั้น ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
๓. ชนื่ ชมและบอกแบบอย่างการดำเนนิ ชวี ติ สามเณรราหุล วรุณชาดก วานรินทชาดก
และขอ้ คดิ จากประวัตสิ าวก ชาดก/เรือ่ งเลา่ สมเดจ็ พระญาณสงั วร (ศุข ไก่เถอ่ื น)
และศาสนิกชนตัวอย่างตามท่กี ำหนด สมเดจ็ พระญาณสงั วร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ
สุวฑฒฺ โน)
๔. บอกความหมาย ความสำคญั และเคารพ ➢ พระรัตนตรยั ศรัทธา
พระรตั นตรัย ปฏบิ ัติตามหลกั ธรรมโอวาท ➢ โอวาท ๓ ไม่ทำชั่ว เบญจศลี ทำความดี
๓ ในพระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของ เบญจธรรม หริ ิ-โอตตัปปะ สงั คหวัตถุ ๔
ศาสนาที่ตนนับถือตามที่กำหนด ฆราวาสธรรม ๔ กตญั ญกู ตเวทีตอ่ ครู อาจารย์
และโรงเรยี น มงคล ๓๘ กตญั ญู สงเคราะห์ญาตพิ ี่
นอ้ ง ทำจิตให้บริสุทธิ์ (บรหิ ารจติ และเจรญิ ปญั ญา)
➢ พุทธศาสนสุภาษิต
นมิ ติ ฺตํ สาธรุ ปู านํ กตญฺญ กตเวทิตา ความ
กตัญญ กตเวทเี ปน็ เครื่องหมาย ของคนดี
พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร มารดาบดิ าเป็นพรหม
ของบุตร
๕. ชื่นชมการทำความดีของตนเอง บุคคลใน ตวั อยา่ งการกระทำความดขี องตนเองและบคุ คลใน
ครอบครวั และในโรงเรียน ตามหลักศาสนา ครอบครวั และในโรงเรยี น (ตามสาระในข้อ ๔)
๖. เห็นคุณคา่ และสวดมนต์ แผ่เมตตา ฝกึ สวดมนตไ์ หว้พระและแผ่เมตตา รคู้ วามหมาย
มสี ติท่เี ปน็ พน้ื ฐานของสมาธิในพระพุทธ- และประโยชน์ของสตแิ ละสมาธิ ฝึกสมาธิเบือ้ งต้น
ศาสนา หรือการพฒั นาจิตตามแนวทางของ ฝึกสติเบื้องตน้ ด้วยกิจกรรมการเคลอ่ื นไหวอย่างมีสติ
ศาสนาท่ีตนนบั ถอื ตามทกี่ ำหนด ฝึกให้มสี มาธใิ นการฟงั การอ่าน การคดิ การถาม
และการเขียน
๗. บอกชอ่ื ศาสนา ศาสดา และความสำคัญ ช่อื ศาสนา ศาสดา และคัมภีรข์ องศาสนาตา่ ง ๆ
ของคมั ภรี ข์ องศาสนาท่ตี นนับถือและศาสนา ◆ พระพทุ ธศาสนา
อื่นๆ o ศาสดา : พระพทุ ธเจ้า
o คัมภรี ์ : พระไตรปฎิ ก
ศาสนาอสิ ลาม
o ศาสดา : มฮุ ัมมัด
o คมั ภีร์ : อัลกรุ อาน
ครสิ ต์ศาสนา
o ศาสดา : พระเยซู
o คัมภีร์ : ไบเบิล
ศาสนาฮนิ ดู
o ศาสดา : ไมม่ ศี าสดา
คมั ภีร์ : พระเวท พราหมณะ อปุ นิษทั
อารัณยกะ
8
ช้นั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.๓ ๑. อธิบายความสำคญั ของพระพุทธศาสนา - ความสัมพนั ธข์ องพระพุทธศาสนากบั การดำเนิน
หรอื ศาสนาท่ีตนนบั ถอื ในฐานะท่เี ป็น ชีวิตประจำวนั เช่น การสวดมนต์ การทำบุญ ใส่
รากฐานสำคญั ของวัฒนธรรมไทย บาตร การแสดงความเคารพ การใช้ภาษา
- พระพุทธศาสนามีอทิ ธิพลตอ่ การสร้างสรรค์
ผลงานทางวฒั นธรรมไทยอันเกิดจากความศรทั ธา
เช่น วดั ภาพวาด พระพทุ ธรูป วรรณคดี
สถาปัตยกรรมไทย
๒. สรปุ พทุ ธประวัติตัง้ แตก่ ารบำเพ็ญเพยี ร สรุปพุทธประวัติ (ทบทวน)
จนถงึ ปรินพิ พาน หรือประวตั ิของศาสดาที่ การบำเพญ็ เพียร
ตนนับถือตามท่กี ำหนด
ผจญมาร
ตรัสรู้
ปฐมเทศนา
ปรนิ ิพพาน
๓. ช่ืนชมและบอกแบบอย่างการดำเนินชวี ติ สามเณรสังกิจจะ
และขอ้ คดิ จากประวัติสาวก ชาดก/เรือ่ งเล่า อารามทูสกชาดก
และศาสนกิ ชนตัวอย่าง ตามที่กำหนด มหาวาณิชชาดก
สมเดจ็ พระพุฒาจารย์ (โต พรฺ หมฺ รํส)ี
สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช
๔. บอกความหมาย ความสำคญั ของ ความสำคญั ของพระไตรปฎิ ก เช่น เป็นแหล่ง
พระไตรปิฎก หรือคัมภีรข์ องศาสนาทต่ี นนบั อ้างอิง ของหลักธรรมคำสอน
ถือ
๕. แสดงความเคารพพระรตั นตรัย และ ➢ พระรัตนตรยั ศรทั ธา
ปฏบิ ัติตามหลักธรรมโอวาท ๓ ใน ➢ โอวาท ๓
พระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของศาสนาที่ ไม่ทำชัว่ - เบญจศลี
ตนนบั ถือตามทกี่ ำหนด ทำความดี เบญจธรรม สติ-สัมปชญั ญะ
สงั คหวตั ถุ ๔ ฆราวาสธรรม ๔
อตั ถะ ๓ (อตั ตัตถะ, ปรัตถะ, อภุ ยัตถะ)
กตัญญูกตเวทีต่อชมุ ชน, สงิ่ แวดลอ้ ม มงคล ๓๘
รู้จกั ให้ พูดไพเราะ อยใู่ นสิ่งแวดล้อมที่ดี
ทำจิตให้บริสุทธ์ิ (บรหิ ารจติ และเจริญ
ปญั ญา)
➢ พุทธศาสนสภุ าษติ
ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ใหย้ อ่ มเปน็ ทีร่ ัก
โมกโฺ ข กลยฺ าณยิ า สาธุ
เปล่งวาจาไพเราะใหส้ ำเร็จประโยชน์
9
ชนั้ ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
๓ เหน็ คุณค่า และปฏิบัติตนตามแบบอยา่ ง พระอรุ ุเวลกัสสปะ
การดำเนินชีวิตและข้อคิดจากประวตั ิสาวก กุฏทิ ูสกชาดก
ชาดก/เรือ่ งเล่าและ มหาอกุ กุสชาดก
ศาสนิกชนตัวอยา่ ง ตามทก่ี ำหนด สมเด็จพระมหติ ลาธเิ บศร อดุลยเดชวิกรม พระ
บรมราชชนก
สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี
๗. บอกชอื่ ความสำคัญและปฏบิ ัตติ น ชื่อและความสำคญั ของศาสนวัตถุ ศาสนสถานและ
ได้อย่างเหมาะสมต่อศาสนวัตถุ ศาสนบุคคล ในพระพุทธศาสนา ศาสนาอิสลาม
ศาสนสถาน และศาสนบคุ คลของศาสนา คริสตศ์ าสนา ศาสนาฮินดู การปฏบิ ตั ิตนที่
อืน่ ๆ เหมาะสมต่อศาสนวตั ถุ ศาสนสถานและศาสนบุคคล
ในศาสนาอนื่ ๆ
ป.๔ ๑. อธิบายความสำคญั ของพระพุทธศาสนา พระพทุ ธศาสนา ในฐานะท่เี ป็น เคร่ืองยึด
หรอื ศาสนาที่ตนนบั ถอื ในฐานะเป็นศูนย์ เหน่ียวจิตใจ เปน็ ศนู ยร์ วมการทำความดี และ
รวมจิตใจของศาสนกิ ชน พฒั นาจิตใจ เชน่ ฝึกสมาธิ สวดมนต์ ศึกษา
หลกั ธรรม เป็นทีป่ ระกอบศาสนพธิ ี (การทอดกฐิน
การทอดผ้าป่า การเวยี นเทยี น การทำบุญ)
เปน็ แหล่งทำกิจกรรมทางสังคม เช่น การจดั
ประเพณที อ้ งถนิ่ การเผยแพรข่ อ้ มลู ข่าวสารชุมชน
และการสง่ เสริมพฒั นาชมุ ชน
๒. สรปุ พุทธประวตั ิต้งั แต่บรรลธุ รรมจนถึง สรุปพุทธประวตั ิ (ทบทวน) ตรัสรู้ ประกาศธรรม
ประกาศธรรม หรอื ประวตั ิศาสดาทต่ี นนบั ไดแ้ ก่ โปรดชฎลิ โปรดพระเจา้ พิมพิสาร พระอคั ร
ถอื ตามทก่ี ำหนด สาวก แสดงโอวาทปาฏิโมกข์
๓. เหน็ คุณค่า และปฏบิ ัตติ นตามแบบอยา่ ง มหาอกุ กุสชาดก
การดำเนนิ ชวี ิตและข้อคิดจากประวัติสาวก สมเดจ็ พระมหติ ลาธิเบศร อดุลยเดชวกิ รม พระ
ชาดก/เรอ่ื งเลา่ และ บรมราชชนก
ศาสนิกชนตัวอยา่ ง ตามที่กำหนด สมเดจ็ พระศรนี ครินทราบรมราชชนนี
๔. แสดงความเคารพ พระรตั นตรยั ปฏิบัติ พระรัตนตรยั ศรัทธา ๔ พระพทุ ธ พทุ ธคุณ
ตามไตรสกิ ขาและหลักธรรมโอวาท ๓ ใน
พระพุทธศาสนา หรือหลกั ธรรมของศาสนา พระธรรม หลักกรรม พระสงฆ์
ท่ีตนนับถือตามทกี่ ำหนด ไตรสกิ ขา ศีล สมาธิ ปญั ญา โอวาท ๓
ไมท่ ำช่ัว เบญจศีล ทุจริต ๓ ทำความดี เบญจธรรม
สุจรติ ๓ พรหมวหิ าร ๔ กตญั ญูกตเวทีตอ่
ประเทศชาติ มงคล ๓๘ เคารพ ถอ่ มคน ทำความ
ดีใหพ้ รอ้ มไว้กอ่ น ทำจติ ให้บริสทุ ธิ์ (บริหารจิตและเจริญ
ปัญญา)
➢ พทุ ธศาสนสภุ าษติ
สุขา สงฺฆสสฺ สามคฺคี ความพรอ้ มเพรียงของหมู่
ใหเ้ กดิ สุข โลโกปตฺถมภฺ ิกา เมตฺตา เมตตาธรรมคำ้
จนุ โลก
10
ช้นั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
๕. ช่นื ชมการทำความดีของตนเอง บุคคลใน ตัวอย่างการกระทำความดีของตนเองและบุคคลใน
ครอบครัว โรงเรียนและชมุ ชนตามหลกั ศาสนา ครอบครวั ในโรงเรยี น และในชุมชน
พรอ้ มทง้ั บอกแนวปฏบิ ัติในการดำเนินชวี ิต
๖. เห็นคุณคา่ และสวดมนต์ แผเ่ มตตา สวดมนต์ไหวพ้ ระ สรรเสรญิ คณุ พระรตั นตรยั และ
มสี ตทิ ่ีเป็นพ้ืนฐานของสมาธิใน แผ่เมตตา รคู้ วามหมายของสติสมั ปชญั ญะ สมาธิ
พระพุทธศาสนา หรือการพัฒนาจติ และปัญญา รู้วิธปี ฏบิ ัติของการบริหารจิตและเจริญ
ตามแนวทางของศาสนาทตี่ นนับถอื ปญั ญา ฝึกการยนื การเดิน การน่ัง และการนอน
ตามทีก่ ำหนด อย่างมีสติ ฝึกการกำหนดรคู้ วามรู้สึก เมอ่ื ตาเหน็ รปู
หฟู งั เสยี ง จมูกดมกล่ิน ลนิ้ ลม้ิ รส กายสัมผัสส่ิง
ทม่ี ากระทบ ใจรับรธู้ รรมารมณ์ ฝึกให้มีสมาธใิ น
การฟัง การอ่าน การคดิ การถาม และการเขยี น
๗. ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ธรรมของศาสนาที่ตน หลกั ธรรมเพ่ือการอยรู่ ่วมกนั อย่างสมานฉันท์
นบั ถือ เพอื่ การอยู่ร่วมกนั เป็นชาติไดอ้ ย่าง เบญจศีล – เบญจธรรม ทจุ ริต ๓ – สุจรติ ๓
พรหมวิหาร ๔ มงคล ๓๘ เคารพ ถอ่ มตน
สมานฉนั ท์
ทำความดีใหพ้ รอ้ มไวก้ อ่ น พุทธศาสนสุภาษิต :
ความพรอ้ มเพรยี งของหมู่ให้เกิดสขุ เมตตาธรรม
ค้ำจนุ โลก กตัญญูกตเวทตี อ่ ประเทศชาติ
๘. อธบิ ายประวตั ิศาสดาของศาสนาอนื่ ๆ ประวตั ศิ าสดา พระพทุ ธเจา้ มุฮัมมดั พระเยซู
โดยสังเขป
ป.๕ ๑. วิเคราะห์ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา มรดกทางวฒั นธรรมท่ีไดร้ ับจากพระพุทธศาสนา
หรอื ศาสนาที่ตนนบั ถือ ในฐานะที่เปน็ มรดก มรดกทางดา้ นรูปธรรม เชน่ ศาสนสถาน
ทางวัฒนธรรมและหลักในการพัฒนาชาติไทย โบราณวตั ถุ สถาปัตยกรรม มรดกทางด้านจิตใจ
เชน่ หลกั ธรรมคำสัง่ สอน ความเช่อื และคุณธรรม
ต่าง ๆ การนำพระพุทธศาสนาไปใช้เปน็ แนวทาง
ในการพฒั นาชาติไทย พัฒนาด้านกายภาพ และ
สง่ิ แวดล้อม เชน่ ภาวนา ๔ (กาย ศีล จติ ปญั ญา)
ไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปัญญา) และอรยิ สจั สี่
พฒั นาจิตใจ เชน่ หลักโอวาท ๓ (ละความชวั่ ทำดี
ทำจิตใจใหบ้ ริสทุ ธิ)์ และการบรหิ ารจิตและเจริญ
ปัญญา
11
ช้ัน ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
๒. สรปุ พทุ ธประวัติต้งั แต่เสด็จกรุงกบิลพสั ด์ุ สรุปพุทธประวัติ (ทบทวน) โปรดพระพุทธบดิ า
จนถงึ พทุ ธกจิ สำคัญ หรือประวตั ศิ าสดาท่ตี น (เสด็จกรงุ กบิลพัสด์)ุ พุทธกิจสำคญั ไดแ้ ก่
นับถือตามที่กำหนด โลกัตถจรยิ า ญาตตั ถจริยา และพุทธตั ถจริยา
๓. เห็นคณุ ค่า และประพฤตติ นตามแบบอยา่ ง พระโสณโกฬวิ สิ ะ จฬู เสฏฐชิ าดก วัณณาโรหชาดก
การดำเนินชวี ิตและขอ้ คิดจากประวัตสิ าวก สมเดจ็ พระสงั ฆราช(สา) อาจารย์เสถียร โพธินันทะ
ชาดก/เรอื่ งเล่าและ ศาสนิกชนตวั อยา่ ง
ตามที่กำหนด
๔. อธิบายองค์ประกอบ และความสำคญั ของ องคป์ ระกอบของพระไตรปฎิ ก พระสุตตนั ตปฎิ ก
พระไตรปิฎก หรอื คัมภีร์ของศาสนาท่ีตนนบั พระวนิ ัยปฎิ ก พระอภิธรรมปฎิ ก ความสำคัญของ
ถือ พระไตรปฎิ ก
๕. แสดงความเคารพพระรัตนตรัย และปฏบิ ัติ พระรัตนตรยั ศรัทธา ๔ พระพุทธ พุทธจรยิ า ๓
ตามไตรสกิ ขาและหลักธรรมโอวาท ๓ ใน พระธรรม อรยิ สจั ๔ หลกั กรรม พระสงฆ์
พระพุทธศาสนาหรอื หลกั ธรรมของศาสนาที่ ไตรสกิ ขา ศีล สมาธิ ปัญญา โอวาท ๓ ไมท่ ำชั่ว
ตนนบั ถือตามทก่ี ำหนด เบญจศลี อบายมุข ๔ ทำความดี เบญจธรรม บุญ
กริ ยิ าวัตถุ ๓ อคติ ๔ อิทธบิ าท ๔ กตญั ญูกตเวทีต่อ
พระพุทธศาสนา มงคล ๓๘ ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน
การงานไมอ่ ากลู อดทน ทำจิตใหบ้ ริสุทธิ์ (บริหาร
จติ และเจริญปัญญา) พุทธศาสนสุภาษิต
- วริ ิเยน ทกุ ขฺ มจเฺ จติ คนจะลว่ งทกุ ขไ์ ดเ้ พราะความ
เพียร
- ปญฺญา โลกสมฺ ิ ปชโฺ ชโต ปัญญา คอื แสงสวา่ ง
ในโลก
๖. เหน็ คุณค่าและสวดมนต์แผ่เมตตา มีสติท่ี สวดมนต์ไหวพ้ ระ สรรเสรญิ คณุ พระรัตนตรยั และ
เป็นพน้ื ฐานของสมาธใิ นพระพุทธศาสนา หรอื แผ่เมตตา รู้ความหมายของสติสัมปชัญญะ สมาธิ
การพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนับ และปัญญา รูว้ ิธปี ฏบิ ตั แิ ละประโยชน์ของ การ
ถือตามท่กี ำหนด บริหารจติ และเจริญปัญญา ฝึกการยนื การเดนิ
การน่งั และ การนอน อยา่ งมีสติ ฝกึ การกำหนดรู้
ความรสู้ กึ เมอ่ื ตา เห็นรูป หฟู งั เสยี ง จมกู ดม
กลิน่ ลน้ิ ลิม้ รส กายสัมผัสสงิ่ ทีม่ ากระทบใจรบั รู้
ธรรมารมณ์ ฝึกใหม้ ีสมาธใิ นการฟงั การอ่าน การ
คิด การถามและการเขยี น
๗. ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ธรรมของศาสนาที่ตน โอวาท ๓ (ตามสาระการเรียนรูข้ ้อ ๕)
นับถือ เพื่อการพัฒนาตนเองและสงิ่ แวดลอ้ ม
12
ช้นั ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
ป.๖ ๑. วเิ คราะห์ความสำคัญของพระพุทธ- พระพทุ ธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติ เชน่
ศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติ เปน็ เอกลักษณ์ของชาติไทย เป็นรากฐานทาง
หรอื ความสำคัญของศาสนาท่ีตนนับถอื วฒั นธรรมไทย เป็นศูนย์รวมจติ ใจ เป็นมรดกทาง
วฒั นธรรมไทย และเป็นหลกั ในการพัฒนาชาตไิ ทย
๒. สรุปพทุ ธประวตั ิตั้งแต่ปลงอายสุ งั ขาร สรปุ พุทธประวตั ิ (ทบทวน) ปลงอายุสงั ขาร ปจั ฉิม
จนถงึ สงั เวชนยี สถาน หรือประวัตศิ าสดาที่ สาวก ปรินพิ พาน การถวายพระเพลิง แจกพระบรม
ตนนับถอื ตามท่กี ำหนด สารรี ิกธาตุ สงั เวชนียสถาน ๔
๓. เห็นคณุ ค่าและประพฤตติ นตาม พระราธะ ทีฆตี ิโกสลชาดก สพั พทาฐิชาดก พ่อขุน
แบบอย่างการดำเนินชวี ิตและขอ้ คิดจาก รามคำแหงมหาราช สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรม-
ประวตั ิสาวก ชาดก/เร่ืองเล่า และ พระปรมานุชิตชโิ นรส
ศาสนกิ ชนตัวอย่างตามที่กำหนด พระรัตนตรยั ศรัทธา ๔ พระพทุ ธ พทุ ธกจิ ๕
พระธรรม อรยิ สจั ๔ หลักกรรม พระสงฆ์ ไตรสกิ ขา
๔. วเิ คราะห์ความสำคญั และเคารพ ศลี สมาธิ ปญั ญา โอวาท ๓ ไม่ทำชว่ั เบญจศีล
พระรัตนตรัย ปฏบิ ัตติ ามไตรสกิ ขาและ อบายมขุ ๖ อกศุ ลมูล ๓ ทำความดี เบญจธรรม กุศล
หลักธรรมโอวาท ๓ ในพระพทุ ธศาสนา มูล ๓ พละ ๔ คารวะ ๖ กตญั ญกู ตเวทีตอ่
หรอื หลกั ธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ พระมหากษัตรยิ ์ มงคล ๓๘ มวี นิ ัย การงานไมม่ ีโทษ
ตามทีก่ ำหนด ไม่ประมาทในธรรม ทำจติ ให้บริสุทธ์ิ (บรหิ ารจิตและ
เจริญปัญญา)
พทุ ธศาสนสุภาษติ
สจฺเจน กติ ฺตึ ปปฺโปติ คนจะได้เกียรติดว้ ยสัจจะ
ยถาวาที ตถาการี พดู เช่นไร ทำเชน่ นน้ั
๕. ชนื่ ชมการทำความดขี องบุคคลใน ตวั อยา่ งการกระทำความดีของบคุ คลในประเทศ
ประเทศตามหลกั ศาสนา พรอ้ มทัง้ บอกแนว
ปฏิบตั ิในการดำเนินชวี ิต
๖. เหน็ คุณค่าและสวดมนต์แผ่เมตตา และ สวดมนต์ไหวพ้ ระ สรรเสริญ คุณพระรัตนตรยั และ
บรหิ ารจิตเจรญิ ปัญญา มสี ติทีเ่ ปน็ พื้นฐาน แผ่เมตตา รู้ความหมายของสติสัมปชญั ญะ สมาธิ
ของสมาธใิ นพระพทุ ธศาสนา หรือการ และปัญญา ร้วู ิธปี ฏิบตั ิและประโยชนข์ อง การ
พฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนา บริหารจิตและเจรญิ ปัญญา ฝึกการยืน การเดนิ
ท่ีตนนบั ถือ ตามที่กำหนด การนัง่ และ การนอนอย่างมีสติ ฝกึ การกำหนดรู้
ความร้สู กึ เม่อื ตาเห็นรปู หูฟงั เสยี ง จมูกดมกล่นิ ลิ้น
ลม้ิ รส กายสัมผัสสงิ่ ที่มากระทบ ใจรบั รูธ้ รรมารมณ์
ฝึกใหม้ ีสมาธใิ นการฟัง การอ่าน การคดิ การถาม
และการเขียน
๗. ปฏิบตั ติ นตามหลักธรรมของศาสนา หลักธรรม : อรยิ สจั ๔ หลกั กรรม
ท่ีตนนบั ถือ เพอื่ แกป้ ัญหาอบายมุขและ ส่ิง โอวาท ๓ : เบญจศีล – เบญจธรรม อบายมุข ๖
เสพติด อกศุ ลมลู ๓ กศุ ลมลู ๓
13
ชนั้ ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
๘. อธิบายหลักธรรมสำคัญของศาสนาอน่ื ๆ หลักธรรมสำคญั ของศาสนาต่าง ๆ
โดยสังเขป พระพทุ ธศาสนา : อริยสัจ ๔ โอวาท ๓ ฯลฯ
ศาสนาอิสลาม : หลกั ศรัทธา หลกั ปฏิบัติ หลัก
จรยิ ธรรม ครสิ ตศ์ าสนา : บญั ญัติ ๑๐ ประการ
๙. อธิบายลักษณะสำคัญของศาสนพธิ ี ศาสนพธิ ขี องศาสนาตา่ ง ๆ
พธิ กี รรมของศาสนาอ่ืนๆ และปฏิบตั ติ นได้ พระพทุ ธศาสนา
อย่างเหมาะสมเมือ่ ตอ้ งเข้ารว่ มพธิ ี o ศาสนพธิ ีที่เปน็ พุทธบัญญตั ิ เชน่ บรรพชา
อปุ สมบท
o ศาสนพิธที ีเ่ กยี่ วเนือ่ งกบั พระพุทธศาสนา เชน่
ทำบุญพธิ ีเน่อื งในวนั สำคัญทางศาสนา
o ศาสนาอิสลาม เชน่ การละหมาด
การถอื ศลี อด การบำเพ็ญฮัจญ์ ฯลฯ
o ครสิ ต์ศาสนา เช่น ศลี ลา้ งบาป
ศีลอภัยบาป ศลี กำลัง ศีลมหาสนทิ ฯลฯ
o ศาสนาฮินดู เช่น พธิ ศี ราทธ์ พิธบี ชู าเทวดา
สาระท่ี ๑ ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม
มาตรฐาน ส ๑.๒ เขา้ ใจ ตระหนักและปฏิบตั ิตนเปน็ ศาสนิกชนท่ีดี และธำรงรักษาพระพทุ ธศาสนา
หรอื ศาสนาท่ีตนนับถอื
ชัน้ ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. บำเพญ็ ประโยชน์ต่อวดั หรอื ศาสน การบำเพ็ญประโยชน์ตอ่ วดั หรือศาสนสถาน
สถานของศาสนาทตี่ นนบั ถอื การพัฒนาทำความสะอาด
การบริจาค
การรว่ มกิจกรรมทางศาสนา
๒. แสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ หรอื แสดงตน การแสดงตนเปน็ พุทธมามกะ
เป็นศาสนิกชนของศาสนาท่ีตนนบั ถือ ข้ันเตรียมการ
ขัน้ พิธีการ
๓. ปฏบิ ัตติ นในศาสนพธิ ี พธิ กี รรม และวัน ประวตั โิ ดยสงั เขปของวนั สำคัญทางพระพทุ ธศาสนา
สำคญั ทางศาสนา ตามท่กี ำหนดได้ถกู ตอ้ ง วนั มาฆบูชา
วนั วิสาขบูชา
วนั อาสาฬหบูชา
วันอฏั ฐมบี ชู า
การบูชาพระรัตนตรัย
14
ชัน้ ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง
ป.๒ ๑. ปฏบิ ัตติ นอย่างเหมาะสมต่อสาวกของ การฝกึ ปฏิบัติมรรยาทชาวพุทธ การพนมมอื
ศาสนาท่ีตนนบั ถอื ตามที่กำหนดไดถ้ ูกต้อง การไหว้ การกราบ การน่งั การยนื การเดนิ
๒. ปฏิบัตติ นในศาสนพธิ ี พิธกี รรม และ การเขา้ รว่ มกิจกรรมและพธิ ีกรรม ท่เี กย่ี วเน่อื ง
วันสำคญั ทางศาสนา ตามท่ีกำหนดได้
กับวันสำคญั ทางพุทธศาสนา
ถูกต้อง ระเบียบพิธกี ารบูชาพระรัตนตรัย
การทำบญุ ตักบาตร
ป.๓ ๑. ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อสาวก ฝกึ ปฏิบัตมิ รรยาทชาวพทุ ธ
ศาสนสถาน ศาสนวัตถุของศาสนาท่ีตนนบั การลกุ ขน้ึ ยนื รบั
ถือ ตามท่กี ำหนดได้ถกู ตอ้ ง
การต้อนรับ
การรบั – สง่ สิง่ ของแกพ่ ระภิกษุ
มรรยาทในการสนทนา
การสำรวมกริ ิยามารยาท การแตง่ กายที่
เหมาะสมเมื่อ
อยู่ในวัดและพทุ ธสถาน
การดูแลรกั ษาศาสนวตั ถุและ ศาสนสถาน
๒. เห็นคุณค่า และปฏบิ ัตติ นในศาสนพิธี การอาราธนาศลี
พิธีกรรม และวันสำคัญทางศาสนา ตามท่ี การสมาทานศีล
กำหนดได้ถกู ต้อง
เครือ่ งประกอบโตะ๊ หมูบ่ ูชา การจดั โตะ๊ หมบู่ ูชา
๓. แสดงตนเป็นพุทธมามกะ หรอื แสดงตน ความเป็นมาของการแสดงตนเปน็ พุทธมามกะ
เปน็ ศาสนิกชนของศาสนาทตี่ นนับถอื การแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ
ข้นั เตรยี มการ
ข้ันพิธกี าร
ป.๔ ๑. อภปิ รายความสำคัญ และมสี ว่ นร่วมใน ความรูเ้ บอื้ งต้นและความสำคัญของ ศาสนสถาน
การบำรงุ รักษาศาสนสถานของศาสนาที่ การแสดงความเคารพต่อศาสนสถาน
ตนนับถือ การบำรงุ รกั ษาศาสนสถาน
๒. มีมรรยาทของความเปน็ ศาสนกิ ชนทด่ี ี การปฏิบัตติ นทเี่ หมาะสมตอ่ พระภกิ ษุ
ตามทกี่ ำหนด การยนื การเดิน และการน่ังที่เหมาะสมใน
โอกาสต่าง ๆ
๓. ปฏบิ ัติตนในศาสนพิธี พิธกี รรมและวนั การอาราธนาศลี
สำคัญทางศาสนา ตามที่กำหนดไดถ้ กู ต้อง การอาราธนาธรรม
การอาราธนาพระปริตร
ระเบียบพธิ แี ละการปฏิบตั ิตนในวันธรรมสวนะ
15
ชนั้ ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.๕ ๑. จดั พิธีกรรมตามศาสนาทต่ี นนับถอื การจัดพิธีกรรมท่เี รียบงา่ ย ประหยัด มี
อยา่ งเรยี บง่าย มปี ระโยชน์ และปฏิบตั ิตน ประโยชน์ และถกู ตอ้ งตามหลักทางศาสนาที่ตน
ถูกตอ้ ง นับถือ
๒. ปฏิบตั ติ นในศาสนพิธี พิธกี รรม และวัน การมสี ่วนร่วมในการจัดเตรียมสถานที่
สำคญั ทางศาสนา ตามทก่ี ำหนด และ ประกอบศาสนพธิ ี พธิ กี รรมทางศาสนา
อภปิ รายประโยชนท์ ีไ่ ด้รบั จากการเขา้ รว่ ม พธิ ีถวายสังฆทาน เครื่องสงั ฆทาน
กิจกรรม
ระเบยี บพธิ ีในการทำบญุ งานมงคล
ประโยชน์ของ การเข้าร่วมศาสนพธิ ี พธิ ีกรรม
ทางศาสนา หรือกิจกรรม ในวนั สำคญั ทาง
ศาสนา
๓. มมี รรยาทของความเปน็ ศาสนิกชนทด่ี ี การกราบพระรตั นตรยั
ตามทกี่ ำหนด การไหวบ้ ิดา มารดา ครู/อาจารย์ ผู้ท่ีเคารพ
นับถอื
การกราบศพ
ป.๖ ๑. อธิบายความรูเ้ ก่ียวกับสถานท่ีตา่ งๆ ความร้เู บ้ืองต้นเกีย่ วกับสถานท่ีต่าง ๆภายในวดั
ในศาสนสถาน และปฏบิ ัตติ นไดอ้ ย่าง
เช่น เขตพทุ ธาวาส สังฆาวาส
เหมาะสม การปฏิบัติตนท่ีเหมาะสมภายในวดั
๒. มีมรรยาทของความเป็นศาสนกิ ชนท่ีดี การถวายของแกพ่ ระภกิ ษุ
ตามทีก่ ำหนด การปฏิบตั ิตนในขณะฟงั ธรรม
การปฏบิ ตั ติ นตามแนวทางของพทุ ธศาสนกิ ชน
เพ่อื ประโยชน์ตอ่ ศาสนา
๓. อธบิ ายประโยชนข์ องการเขา้ ร่วมใน ทบทวนการอาราธนาศลี อาราธนาธรรม และ
ศาสนพธิ ี พิธีกรรม และกจิ กรรมใน อาราธนาพระปริตร
วันสำคญั ทางศาสนา ตามทีก่ ำหนด และ พธิ ที อดผ้าป่า
ปฏิบตั ติ นไดถ้ กู ตอ้ ง พิธีทอดกฐิน
ระเบียบพธิ ีในการทำบญุ งานอวมงคล
การปฏิบตั ิตนทถ่ี กู ต้องในศาสนพิธพี ธิ ีกรรม และ
วันสำคญั ทางศาสนา เชน่ วนั มาฆบูชา วนั วิ
สาขบูชา วันอัฐมบี ูชา วนั อาสาฬหบูชา วนั
ธรรมสวนะ
ประโยชนข์ องการเขา้ รว่ มในศาสนพธิ ี/พิธกี รรม
และวันสำคัญทางศาสนา
๔. แสดงตนเปน็ พุทธมามกะ หรอื แสดงตน การแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ
เปน็ ศาสนกิ ชนของศาสนาทต่ี นนับถือ ขัน้ เตรียมการ ข้ันพธิ กี าร
16
สาระที่ ๒ หนา้ ที่พลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสังคม
มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและปฏบิ ัติตนตามหนา้ ท่ขี องการเป็นพลเมืองดี มคี ่านยิ มที่ดงี ามและธำรงรักษาประเพณี
และวฒั นธรรมไทย ดำรงชีวิตอยู่รว่ มกันในสงั คมไทยและสงั คมโลกอย่างสนั ติสุข
ช้นั ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. บอกประโยชนแ์ ละปฏบิ ตั ิตนเปน็ การเปน็ สมาชิกทีด่ ีของครอบครัวและโรงเรียน
สมาชิกท่ีดขี องครอบครัวและโรงเรียน เชน่
− กตญั ญกู ตเวทีและเคารพรับฟังคำแนะนำ
ของพ่อแม่ ญาตผิ ใู้ หญ่ และครู
− ร้จู กั กลา่ วคำขอบคณุ ขอโทษ การไหว้
ผ้ใู หญ่
− ปฏบิ ัติตาม ขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบยี บ
ของครอบครวั และโรงเรียน
− มสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมของครอบครวั และ
โรงเรยี น
− มีเหตผุ ลและยอมรับฟังความคิดเหน็ ของ
ผู้อน่ื
− มรี ะเบยี บ วนิ ัย มีนำ้ ใจ
ประโยชนข์ องการปฏิบัติตนเป็นสมาชกิ ที่ดีของ
ครอบครัวและโรงเรียน
๒. ยกตัวอยา่ งความสามารถและความดี ลกั ษณะความสามารถและลักษณะ ความดขี อง
ของตนเอง ผอู้ ืน่ และบอกผลจากการ ตนเองและผ้อู ืน่ เชน่
กระทำน้นั - ความกตญั ญูกตเวที
- ความมีระเบียบวินัย
- ความรบั ผดิ ชอบ
- ความขยัน
- การเอือ้ เฟอื้ เผ่ือแผแ่ ละช่วยเหลือผ้อู นื่
- ความซ่ือสัตย์สุจริต
- ความเมตตากรุณา
ผลของการกระทำความดี เชน่
- ภาคภูมิใจ
- มีความสุข
- ได้รับการชน่ื ชม ยกยอ่ ง
ป.๒ ๑. ปฏบิ ตั ติ นตามข้อตกลง กติกา กฎ ขอ้ ตกลง กตกิ า กฎ ระเบียบ หน้าที่ท่ีต้อง
ระเบียบและหน้าท่ที ีต่ ้องปฏบิ ัตใิ น ปฏบิ ตั ใิ นครอบครวั โรงเรยี น สถานท่สี าธารณะ
ชวี ติ ประจำวัน เชน่ โรงภาพยนตร์ โบราณสถาน ฯลฯ
17
ช้นั ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
๒. ปฏบิ ัตติ นตนตามมารยาทไทย มารยาทไทย เช่น การแสดงความเคารพ การ
ยืน การเดิน การนง่ั การนอน การทกั ทาย การ
รบั ประทาน
๓. แสดงพฤตกิ รรมในการยอมรับความคดิ การยอมรบั ความแตกต่างของคนในสงั คม ใน
ความเช่ือและการปฏิบตั ิของบุคคลอืน่ ท่ี เรื่อง ความคดิ ความเช่ือ ความสามารถและการ
แตกต่างกนั โดยปราศจากอคติ ปฏิบัตติ นของบุคคลอ่นื ที่ แตกตา่ งกนั เช่น
- บุคคลย่อมมีความคิดทม่ี เี หตุผล
- การปฏบิ ตั ิตนตามพิธีกรรมตามความ เชอ่ื
ของบุคคล
- บุคคลย่อมมีความสามารถแตกต่างกัน
- ไม่พูดหรอื แสดงอาการดูถกู รงั เกียจผูอ้ ื่น
ในเร่อื งของรูปรา่ งหน้าตา สีผม สีผิว ท่ี
แตกต่างกนั
๔. เคารพในสทิ ธิ เสรภี าพของผ้อู ่นื สิทธสิ ว่ นบุคคล เช่น
- สิทธิแสดงความคดิ เห็น
- สิทธเิ สรีภาพในรา่ งกาย
- สิทธใิ นทรพั ยส์ ิน
ป.๓ ๑. สรปุ ประโยชนแ์ ละปฏิบตั ติ นตาม ประเพณแี ละวฒั นธรรมในครอบครัว
ประเพณีและวฒั นธรรมในครอบครวั และ เช่น การแสดงความเคารพและการเช่อื ฟังผใู้ หญ่
ท้องถ่ิน การกระทำกิจกรรมรว่ มกนั ในครอบครวั
ประเพณแี ละวฒั นธรรมในท้องถ่ิน เช่น การเขา้
รว่ มประเพณีทางศาสนา ประเพณีเกย่ี วกับการ
ดำเนินชีวิต ประโยชน์ของการปฏบิ ัติตนตาม
ประเพณีและวฒั นธรรมในครอบครวั และท้องถิน่
๒. บอกพฤตกิ รรมการดำเนนิ ชวี ติ ของ พฤตกิ รรมของตนเองและเพื่อน ๆ
ตนเอง และผ้อู ่นื ทอี่ ย่ใู นกระแสวัฒนธรรม ในชีวิตประจำวนั เช่น การทกั ทาย
ทห่ี ลากหลาย การทำความเคารพ การปฏิบัตติ าม
ศาสนพธิ ี การรับประทานอาหาร การใช้ภาษา
(ภาษาถ่ินกับภาษาราชการ และภาษาอ่นื ๆ
ฯลฯ )
สาเหตุท่ีทำใหพ้ ฤตกิ รรมการดำเนนิ ชีวติ ใน
ปัจจุบนั ของนักเรียน และผอู้ น่ื แตกต่างกัน
18
ชั้น ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
๓. อธิบายความสำคัญขอวันหยดุ ราชการ วนั หยุดราชการท่สี ำคญั เช่น
ท่ีสำคัญ - วันหยดุ เกี่ยวกบั ชาตแิ ละพระมหากษตั ริย์
เชน่ วันจักรี วนั รัฐธรรมนญู วันฉัตรมงคล
วันเฉลมิ พระชนมพรรษา
- วนั หยดุ ราชการเกยี่ วกบั ศาสนา เช่น
วนั มาฆบชู า วันวสิ าขบูชา วนั อาสาฬหบชู า
วนั เขา้ พรรษา
- วันหยดุ ราชการเก่ียวกับประเพณแี ละ
วัฒนธรรม เชน่ วันสงกรานต์ วนั พชื มงคล
๔. ยกตวั อย่างบุคคลซ่ึงมผี ลงานทีเ่ ปน็ บุคคลทม่ี ีผลงานเป็นประโยชน์แก่ชุมชนและ
ประโยชน์แกช่ ุมชนและท้องถน่ิ ของตน ท้องถน่ิ ของตน
ลกั ษณะผลงานท่เี ปน็ ประโยชนแ์ ก่ชุมชนและ
ท้องถิน่
ป.๔ ๑. ปฏบิ ัตติ นเปน็ พลเมอื งดีตามวิถี การเข้ารว่ มกจิ กรรมประชาธิปไตยของชมุ ชน
ประชาธิปไตยในฐานะสมาชิกที่ดีของ เชน่ การรณรงค์การเลือกต้งั
ชุมชน แนวทางการปฏบิ ัติตนเป็นสมาชกิ ทีด่ ีของชุมชน
เชน่ อนรุ กั ษ์สงิ่ แวดล้อม สาธารณสมบัติ
โบราณวัตถุและโบราณสถาน การพฒั นาชุมชน
๒. ปฏบิ ตั ิตนในการเป็นผนู้ ำและผตู้ ามทีด่ ี การเป็นผู้นำและผู้ตามท่ีดี
- บทบาทและความรบั ผิดชอบของผนู้ ำ
- บทบาทและความรบั ผิดชอบของผู้ตามหรอื
สมาชิก
- การทำงานกลุม่ ให้มีประสิทธิผลและ
ประสทิ ธภิ าพ และประโยชน์ของการทำงาน
เป็นกลุ่ม
๓. วเิ คราะห์สทิ ธิพื้นฐานทเี่ ดก็ ทุกคน สิทธพิ นื้ ฐานของเดก็ เช่น สทิ ธทิ ี่จะมีชีวติ สิทธทิ ี่
พงึ ไดร้ ับตามกฎหมาย จะได้รบั การปกปอ้ ง สทิ ธิ ทจ่ี ะไดร้ บั การพัฒนา
สิทธิท่จี ะมี ส่วนรว่ ม
๔. อธบิ ายความแตกตา่ งทางวฒั นธรรม วฒั นธรรมในภาคต่างๆ ของไทย ที่แตกตา่ งกัน
ของกล่มุ คนในทอ้ งถนิ่ เช่น การแตง่ กาย ภาษา อาหาร
๕. เสนอวธิ ีการทีจ่ ะอยู่ร่วมกันอยา่ ง ปัญหาและสาเหตุของการเกิดความขดั แย้งใน
สนั ตสิ ุขในชวี ิตประจำวัน ชวี ติ ประจำวัน
แนวทางการแกป้ ญั หาความขัดแยง้ ด้วยสันตวิ ธิ ี
19
ชั้น ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
ป.๕ ๑. ยกตัวอยา่ งและปฏบิ ตั ิตนตาม สถานภาพ บทบาท สิทธเิ สรีภาพ
สถานภาพ บทบาท สทิ ธิเสรภี าพ และ หนา้ ท่ขี องพลเมอื งดี เชน่ เคารพ เทดิ ทนู
หนา้ ท่ีในฐานะพลเมืองดี
สถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ อนุรกั ษ์
ทรพั ยากรธรรมชาติ อนรุ กั ษ์ศลิ ปวัฒนธรรม
ปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย
คุณลกั ษณะของพลเมอื งดี เชน่ เหน็ แก่
ประโยชนส์ ่วนรวมมากกว่าประโยชนส์ ว่ นตน มี
ความรับผิดชอบ เสียสละ
๒. เสนอวิธีการปกป้องคุ้มครองตนเอง เหตุการณท์ ี่ละเมดิ สทิ ธเิ ดก็ ในสังคมไทย
หรอื ผู้อืน่ จากการละเมิดสิทธิเด็ก แนวทางการปกปอ้ งค้มุ ครองตนเองหรือผอู้ ่ืน
จากการละเมดิ สิทธิเดก็
การปกปอ้ งคมุ้ ครองสิทธิเด็กในสังคมไทย
๓. เห็นคุณค่าวฒั นธรรมไทยที่มผี ลตอ่ การ วัฒนธรรมไทย ท่มี ีผลตอ่ การดำเนินชวี ติ ของคน
ดำเนนิ ชีวติ ในสงั คมไทย
ในสงั คมไทย
คุณค่าของวฒั นธรรมกับการดำเนินชวี ติ
๔. มสี ่วนร่วมในการอนรุ ักษแ์ ละเผยแพร่ ความสำคญั ของภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่
ภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ินของชุมชน
ตวั อย่างภูมิปัญญาท้องถ่นิ ในชุมชน ของตน
การอนุรกั ษ์และเผยแพรภ่ มู ปิ ัญญาท้องถน่ิ ของ
ชมุ ชน
ป.๖ ๑. ปฏบิ ัติตามกฎหมายที่เกย่ี วข้องกับ กฎหมายท่เี กย่ี วขอ้ งกบั ชวี ิตประจำวันเชน่
ชีวติ ประจำวันของครอบครวั และชุมชน - กฎหมายจราจร
- กฎหมายทะเบียนราษฎร
- กฎหมายยาเสพตดิ ให้โทษ
- เทศบัญญัติ ข้อบญั ญัติ อบต. อบจ.
ประโยชนข์ องการปฏิบตั ิตนตามกฎหมาย
ดังกล่าว
๒. วเิ คราะห์การเปล่ยี นแปลงวัฒนธรรม ความหมายและประเภทของวัฒนธรรม
ตามกาลเวลาและธำรงรักษาวัฒนธรรม อนั การเปล่ยี นแปลงวฒั นธรรมตามกาลเวลาท่มี ีผล
ดีงาม ต่อตนเองและสังคมไทย
แนวทางการธำรงรกั ษาวัฒนธรรมไทย
๓. แสดงออกถงึ มารยาทไทยได้เหมาะสม ความหมายและสำคัญของมารยาทไทย
ถูกกาลเทศะ มารยาทไทยและมารยาทสงั คม เช่น การแสดง
ความเคารพ การยนื การเดิน การนัง่ การนอน
การรับของส่งของ การรบั ประทานอาหาร การ
แสดงกริ ิยาอาการ การทกั ทาย การสนทนา
การใช้คำพูด
20
ชน้ั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
๔. อธบิ ายคุณค่าทางวฒั นธรรมท่แี ตกต่าง ประโยชน์และคุณค่าทางวฒั นธรรม
กนั ระหว่างกลมุ่ คนในสงั คมไทย ความแตกตา่ งทางวฒั นธรรมระหว่างกลมุ่ คน
ภาคต่างๆ ในสังคมไทย
แนวทางการรักษาวฒั นธรรม
๕. ติดตามข้อมูล ข่าวสาร เหตุการณ์ตา่ ง ๆ ข้อมลู ข่าวสาร เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ เชน่ วทิ ยุ
ในชวี ิตประจำวนั เลอื กรับและใช้ขอ้ มูล
โทรทัศน์ หนงั สอื พิมพ์ แหล่งขา่ วต่าง ๆ
ขา่ วสารในการเรยี นร้ไู ด้เหมาะสม สถานการณ์จรงิ
ประโยชนจ์ ากการติดตามขอ้ มูล ขา่ วสาร
เหตุการณ์ต่างๆ
หลกั การเลือกรับและใช้ข้อมลู ข่าวสารจากส่ือ
ตา่ งๆ รวมทง้ั ส่ือทีไ่ รพ้ รมแดน
สาระที่ ๒ หน้าท่ีพลเมอื ง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชวี ติ ในสังคม
มาตรฐาน ส ๒.๒ เขา้ ใจระบบการเมอื งการปกครองในสงั คมปัจจุบนั ยึดม่นั ศรทั ธาและธำรงรกั ษา ไวซ้ งึ่ การ
ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมขุ
ชั้น ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
ป.๑ ๑. บอกโครงสร้าง บทบาทและหน้าท่ขี อง โครงสร้างของครอบครัวและความสมั พันธ์ของ
สมาชิกในครอบครวั และโรงเรยี น บทบาท หน้าที่ของสมาชิกในครอบครัว โครงสรา้ ง
ของโรงเรยี น ความสัมพนั ธข์ องบทบาท หน้าท่ีของ
สมาชกิ ในโรงเรยี น
๒. ระบุบทบาท สทิ ธิ หน้าท่ีของตนเองใน ความหมายและความแตกต่างของอำนาจตาม
ครอบครวั และโรงเรยี น บทบาท สิทธิ หน้าท่ีในครอบครัวและโรงเรียน
การใชอ้ ำนาจในครอบครวั ตามบทบาท สิทธหิ นา้ ท่ี
๓. มีสว่ นร่วมในการตดั สินใจและทำ กิจกรรมตามกระบวนการประชาธิปไตยในครอบครัว
กจิ กรรมในครอบครัวและโรงเรยี นตาม เชน่ การแบ่งหน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบในครอบครวั การ
กระบวนการประชาธปิ ไตย รบั ฟังและแสดงความคดิ เหน็ กิจกรรมตาม
กระบวนการประชาธปิ ไตยในโรงเรียน เชน่ เลือก
หวั หน้าหอ้ ง ประธานชุมนุม ประธานนักเรยี น
ป.๒ ๑. อธิบายความสัมพันธข์ องตนเอง และ ความสมั พนั ธข์ องตนเอง และสมาชิกในครอบครัวกับ
สมาชิกในครอบครวั ในฐานะเปน็ สว่ นหนึ่ง ชมุ ชน เชน่ การชว่ ยเหลอื กจิ กรรมของชุมชน
ของชมุ ชน
๒. ระบุผูม้ บี ทบาท อำนาจในการตัดสินใจ ผมู้ บี ทบาท อำนาจในการตดั สนิ ใจ ในโรงเรยี น และ
ในโรงเรยี น และชมุ ชน ชุมชน เช่น ผูบ้ ริหารสถานศึกษา ผ้นู ำทอ้ งถ่นิ กำนนั
ผู้ใหญบ่ า้ น
21
ช้ัน ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง
ป.๓ ๑. ระบุบทบาทหนา้ ทข่ี องสมาชิกของ บทบาทหน้าท่ขี องสมาชิกในชุมชน การมีส่วนร่วมใน
ชุมชนในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง กจิ กรรมต่าง ๆ ตามกระบวนการประชาธิปไตย
ๆ ตามกระบวนการประชาธิปไตย
๒. วิเคราะห์ความแตกตา่ งของ การออกเสียงโดยตรงและการเลอื กตัวแทนออกเสียง
กระบวนการการตดั สินใจในชน้ั เรยี น/
โรงเรยี นและชุมชนโดยวธิ ีการออกเสียง
โดยตรงและการเลอื กตวั แทนออกเสียง
๓. ยกตัวอยา่ งการเปลีย่ นแปลงในชน้ั การตดั สนิ ใจของบคุ คลและกลุ่มทีม่ ผี ลต่อการ
เรยี น/โรงเรียนและชุมชนทีเ่ ปน็ ผลจากการ เปลี่ยนแปลงในชั้นเรียน โรงเรยี น และชมุ ชน
ตัดสนิ ใจของบุคคลและกล่มุ - การเปล่ยี นแปลงในช้ันเรยี น เชน่ การเลือก
หวั หน้าห้อง การเลอื ก คณะกรรมการหอ้ งเรียน
- การเปลยี่ นแปลงในโรงเรยี น เชน่ เลือก
ประธานนกั เรียน เลอื กคณะกรรมการนกั เรยี น
การเปลี่ยนแปลงในชุมชน เช่น การเลอื กผู้ใหญ่บ้าน
กำนัน สมาชิก อบต. อบจ.
ป.๔ ๑. อธิบายอำนาจอธปิ ไตยและความสำคัญ อำนาจอธปิ ไตย ความสำคญั ของการปกครองตาม
ของระบอบประชาธปิ ไตย ระบอบประชาธิปไตย
๒. อธิบายบทบาทหนา้ ท่ีของพลเมอื งใน บทบาทหน้าท่ขี องพลเมอื งในกระบวนการเลือกตง้ั
กระบวนการเลือกต้งั ท้งั ก่อนการเลือกตงั้ ระหว่างการเลือกตั้ง หลังการ
เลอื กต้งั
๓. อธบิ ายความสำคัญของสถาบัน สถาบนั พระมหากษตั รยิ ใ์ นสังคมไทย ความสำคัญของ
พระมหากษตั ริย์ตามระบอบประชาธิปไตย สถาบนั พระมหากษัตริยใ์ นสังคมไทย
อันมพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมุข
ป.๕ ๑. อธบิ ายโครงสร้าง อำนาจ หนา้ ทแี่ ละ โครงสร้างการปกครองในท้องถิน่ เช่น อบต. อบจ.
ความสำคญั ของการปกครองสว่ นท้องถิ่น เทศบาล และการปกครองพิเศษ เช่น พัทยา กทม.
อำนาจหนา้ ท่แี ละความสำคญั ของ การปกครองสว่ น
ทอ้ งถิ่น
๒. ระบบุ ทบาทหนา้ ที่ และวธิ กี ารเข้าดำรง บทบาทหน้าที่ และวิธีการเขา้ ดำรงตำแหนง่ ของ
ตำแหนง่ ของผูบ้ ริหารท้องถน่ิ ผ้บู รหิ ารทอ้ งถ่นิ เช่นนายก อบต. นายกเทศมนตรี
นายก อบจ. ผ้วู ่าราชการ กทม.
๓. วเิ คราะห์ประโยชนท์ ี่ชุมชน จะไดร้ ับ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นกบั บรกิ าร
จากองค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ สาธารณประโยชนใ์ นชมุ ชน
ป.๖ ๑. เปรียบเทยี บบทบาท หน้าทขี่ อง บทบาท หนา้ ที่ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ และ
องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ และรัฐบาล รัฐบาล
๒. มีสว่ นร่วมในกจิ กรรมตา่ งๆ ที่ส่งเสริม กิจกรรมต่างๆ เพอ่ื ส่งเสรมิ ประชาธิปไตย ในท้องถนิ่
ประชาธิปไตยในทอ้ งถ่นิ และประเทศ และประเทศ
22
ชน้ั ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
๓. อภิปรายบทบาท ความสำคญั ในการใช้ การมสี ่วนในการออกกฎหมาย ระเบียบ กตกิ า การ
สทิ ธิออกเสยี งเลอื กตัง้ ตามระบอบ เลอื กตง้ั สอดส่องดแู ลผูม้ พี ฤตกิ รรมการกระทำผดิ
ประชาธปิ ไตย การเลือกต้ัง และแจง้ ต่อเจ้าหนา้ ทผ่ี รู้ ับผดิ ชอบ
ตรวจสอบคุณสมบัติ การใชส้ ิทธอิ อกเสียงเลอื กตั้ง
ตามระบอบประชาธปิ ไตย
สาระท่ี ๓ เศรษฐศาสตร์
มาตรฐาน ส ๓.๑ เขา้ ใจและสามารถบรหิ ารจัดการทรพั ยากรในการผลติ และการบริโภค การใช้ทรัพยากร ทีม่ ีอยู่
จำกดั ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ารวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง เพอ่ื การดำรงชีวติ
อยา่ งมดี ลุ ยภาพ
ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. ระบุสินคา้ และบรกิ ารทีใ่ ช้ประโยชน์ใน สินค้าและบริการที่ใชอ้ ย่ใู นชีวิตประจำวนั เช่น
ชวี ิตประจำวนั ดนิ สอ กระดาษ ยาสีฟนั สนิ ค้าและบริการทไี่ ดม้ า
โดยไม่ใช้เงิน เชน่ มีผู้ให้หรือการใช้ของแลกของ
สินคา้ และบรกิ ารที่ได้มาจากการใชเ้ งินซ้อื
ใชป้ ระโยชนจ์ ากสินค้าและบริการให้คมุ้ คา่
๒. ยกตวั อยา่ งการใชจ้ ่ายเงนิ ในชวี ติ การใช้จ่ายเงินในชีวติ ประจำวันเพอื่ ซื้อสนิ ค้าและ
ประจำวนั ทไี่ มเ่ กินตวั และเห็นประโยชน์ บรกิ ารประโยชน์ของการใชจ้ ่ายเงินที่ไมเ่ กนิ ตวั
ของการออม ประโยชน์ของการออม โทษของการใชจ้ ่ายเงนิ เกิน
ตวั วางแผนการใช้จ่าย
๓. ยกตวั อยา่ งการใช้ทรัพยากรใน ทรพั ยากรท่ีใช้ในชีวติ ประจำวนั เชน่ ดนิ สอ
ชวี ติ ประจำวนั อย่างประหยัด กระดาษ เสื้อผ้า อาหาร ทรัพยากรส่วนรวม เชน่
โต๊ะ เกา้ อ้ี นักเรียน สาธารณูปโภคต่าง ๆ
วิธกี ารใช้ทรพั ยากรทง้ั ของสว่ นตัวและส่วนรวม
อย่างถกู ตอ้ ง และประหยดั และคุ้มค่า
ป.๒ ๑. ระบทุ รัพยากรท่นี ำมาผลติ สินค้าและ ทรพั ยากรท่ีนำมาใช้ในการผลิตสินค้าและบรกิ ารที่
บรกิ ารที่ใช้ในชวี ิตประจำวนั ใช้ในครอบครวั และโรงเรยี น เชน่ ดินสอและ
กระดาษที่ผลติ จากไม้ รวมทงั้ เครื่องจักรและ
แรงงานการผลติ ผลของการใช้ทรพั ยากรในการ
ผลติ ทหี่ ลากหลายที่มีตอ่ ราคา คุณค่าและประโยชน์
ของสนิ คา้ และบริการรวมท้ังสง่ิ แวดลอ้ ม
๒. บอกทีม่ าของรายไดแ้ ละรายจ่ายของ การประกอบอาชพี ของครอบครวั การแสวงหา
ตนเองและครอบครัว รายได้ทสี่ จุ ริตและเหมาะสมรายได้และรายจา่ ยใน
ภาพรวมของครอบครวั รายไดแ้ ละรายจ่ายของ
ตนเอง
23
ชั้น ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
๓. บันทึกรายรบั รายจา่ ยของตนเอง วธิ กี ารทำบัญชรี ายรับรายจา่ ยของตนเองอย่างงา่ ยๆ
รายการของรายรบั ทีเ่ ป็นรายได้ทเ่ี หมาะสม และไม่
เหมาะสม รายการของรายจา่ ยทเี่ หมาะสมและ
ไม่เหมาะสม
๔. สรปุ ผลดีของการใช้จา่ ยท่ีเหมาะสมกบั ท่ีมาของรายไดท้ ีส่ จุ ริต การใช้จ่ายทเี่ หมาะสม
รายได้และการออม ผลดขี องการใชจ้ า่ ยท่ีเหมาะสมกับรายได้
การออมและผลดีของการออม การนำเงนิ ท่เี หลอื มา
ใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ เช่น การช่วยเหลือสาธารณกุศล
ป.๓ ๑. จำแนกความตอ้ งการและความจำเป็น สินค้าท่ีจำเป็นในการดำรงชีวิตท่ี เรยี กว่าปัจจัย ๔
ในการใชส้ นิ คา้ และบรกิ ารในการดำรง สินค้าที่เป็นความตอ้ งการของมนุษย์อาจ เป็นสนิ ค้า
ชีวติ ทจ่ี ำเปน็ หรือไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวติ ประโยชน์
และคุณคา่ ของสนิ ค้าและบริการ ท่ีสนองความ
ตอ้ งการของมนษุ ยห์ ลกั การเลือกสินคา้ ที่จำเป็น
ความหมายของผู้ผลิตและผ้บู ริโภค
๒. วิเคราะห์การใช้จ่ายของตนเอง ใชบ้ ัญชรี ับจ่ายวเิ คราะหก์ ารใช้จ่ายทจ่ี ำเปน็ และ
เหมาะสม วางแผนการใชจ้ า่ ยเงนิ ของตนเอง
วางแผนการแสวงหารายไดท้ ่สี จุ ริตและเหมาะสม
วางแผนการนำเงนิ ทเี่ หลือจา่ ยมาใชอ้ ย่างเหมาะสม
๓.อธบิ ายได้วา่ ทรพั ยากรทม่ี อี ยจู่ ำกัดมีผล ความหมายของผู้ผลติ และผ้บู รโิ ภค ความหมายของ
ต่อการผลิตและบรโิ ภคสนิ ค้าและบรกิ าร สินค้าและบริการ
ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกจิ ทเี่ กิดจากความ หายาก
ของทรพั ยากรกบั ความตอ้ งการของมนษุ ย์ทม่ี ไี มจ่ ำกัด
ป.๔ ๑. ระบปุ จั จยั ที่มีผลต่อการเลือกซ้ือสินคา้ สินคา้ และบรกิ ารที่มีอยูห่ ลากหลายในตลาดท่มี ี
และบรกิ าร ความแตกต่างดา้ นราคาและคุณภาพ ปัจจัยทมี่ ผี ล
ตอ่ การเลือกซือ้ สินค้าและบรกิ ารท่ีมีมากมาย ซ่ึง
ขน้ึ อยู่กับผซู้ ้ือ ผ้ขู าย และ ตวั สินค้า เชน่ ความพึง
พอใจของผซู้ ้ือ ราคาสินคา้ การโฆษณา คุณภาพ
ของสินคา้
๒. บอกสิทธิพื้นฐานและรักษา สทิ ธิพน้ื ฐานของผู้บรโิ ภคสินค้าและบรกิ ารทีม่ ี
ผลประโยชน์ของตนเองในฐานะผู้บริโภค เครอื่ งหมายรบั รองคุณภาพ หลักการและวิธกี าร
เลือกบริโภค
๓. อธบิ ายหลกั การของเศรษฐกิจพอเพียง หลกั การของเศรษฐกิจพอเพียง การประยุกตใ์ ช้
และนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ของตนเอง เศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวติ เชน่ การแตง่
กาย การกินอาหาร การใช้จา่ ย
24
ชั้น ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๕ ๑. อธิบายปัจจัยการผลิตสนิ ค้าและบริการ ความหมายและประเภทของปจั จัยการผลิต
ประกอบด้วย ทดี่ นิ แรงงาน ทุนและผ้ปู ระกอบการ
เทคโนโลยใี นการผลิตสินคา้ และบริการ ปจั จัยอนื่ ๆ
เช่น ราคานำ้ มนั วตั ถุดิบพฤตกิ รรมของผู้บริโภค
๒. ประยกุ ต์ใช้แนวคดิ ของปรัชญาของ ตวั อย่างการผลิตสินคา้ และบริการท่มี ีอยู่ในท้องถ่ิน
เศรษฐกิจพอเพียงในการทำกิจกรรม หรือแหลง่ ผลิตสนิ ค้าและบริการในชุมชน
หลกั การปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
การประยุกตใ์ ชป้ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงใน
ตา่ ง ๆ ในครอบครัว โรงเรียนและชมุ ชน กิจกรรมต่าง ๆ ในครอบครัว โรงเรยี นและชุมชน
เช่นการประหยัดพลงั งานและค่าใช้จ่ายในบา้ น
โรงเรียน การวางแผนการผลติ สินค้าและบรกิ ารเพ่ือ
ลดความสูญเสียทุกประเภท การใชภ้ ิปัญญาท้องถ่น
ตวั อย่างการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารในชุมชน เช่น หนึง่
ตำบลหนึ่งผลิตภณั ฑห์ รอื โอท๊อป
๓. อธิบายหลักการสำคญั และประโยชน์ หลกั การและประโยชน์ของสหกรณ์ประเภทของ
ของสหกรณ์ สหกรณ์โดยสังเขปสหกรณ์ในโรงเรยี น (เน้นฝกึ
ปฏิบัตจิ ริง)การประยุกตห์ ลกั การของสหกรณม์ าใช้
ในชีวิตประจำวัน
ป.๖ ๑. อธบิ ายบทบาทของผู้ผลติ ท่ีมคี วาม บทบาทของผ้ผู ลิตท่ีมีคุณภาพ เช่น คำนึงถึง
รบั ผดิ ชอบ สง่ิ แวดลอ้ ม มีจรรยาบรรณ ความรับผิดชอบต่อ
สังคม วางแผนกอ่ นเร่มิ ลงมือทำกจิ กรรมต่าง ๆ เพ่ือ
ลดความผดิ พลาดและการสูญเสีย ฯลฯ ทศั นคติใน
การใช้ทรัพยากรอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและ
ประสิทธิผล ประโยชนข์ องการผลิตสินค้าท่มี ี
คณุ ภาพ
๒. อธิบายบทบาทของผู้บรโิ ภค คุณสมบัตขิ องผบู้ ริโภคที่ดพี ฤตกิ รรมของผู้บรโิ ภคท่ี
ทรี่ ู้เท่าทนั บกพรอ่ ง คุณคา่ และประโยชนข์ องผูบ้ ริโภคทร่ี เู้ ทา่
ทนั ทมี่ ตี ่อตนเอง ครอบครวั และสงั คม
๓. บอกวิธีและประโยชน์ของการใช้ ความหมาย และความจำเปน็ ของทรัพยากร
ทรัพยากรอยา่ งย่งั ยืน หลักการและวธิ ีใช้ทรพั ยากรให้เกิดประโยชนส์ งู สุด
(ลดการสญู เสียทกุ ประเภท)วิธีการสร้างจติ สำนึกให้
คนในชาตริ คู้ ุณคา่ ของทรัพยากรทม่ี ีอย่จู ำกัด
วางแผนการใช้ทรัพยากร โดยประยุกต์เทคนิคและ
วธิ ีการใหม่ ๆ ให้เกิดประโยชนแ์ กส่ ังคมและ
ประเทศชาติ และทันกับสภาพทางเศรษฐกิจและ
สงั คม
25
สาระท่ี ๓ เศรษฐศาสตร์
มาตรฐาน ส ๓.๒ เขา้ ใจระบบและสถาบนั ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกจิ และความจำเปน็ ของ
การร่วมมือกนั ทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก
ช้นั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. อธิบายเหตุผลความจำเปน็ ท่ีคนต้อง ความหมาย ประเภทและความสำคญั ของการทำงาน
ทำงานอย่างสจุ รติ เหตุผลของการทำงานผลของการทำงานประเภทตา่ ง
ๆ ท่ีมีต่อครอบครัวและสงั คม การทำงานอยา่ งสุจริต
ทำใหส้ งั คมสงบสุข
ป.๒ ๑. อธบิ ายการแลกเปล่ยี นสนิ ค้าและ ความหมายและความสำคญั ของการแลกเปล่ียน
บริการโดยวธิ ีต่าง ๆ สินคา้ และบรกิ าร ลักษณะของการแลกเปลยี่ นสินคา้
และบริการโดยไม่ใช้เงนิ รวมทงั้ การแบ่งปนั การ
ช่วยเหลือ ลกั ษณะการแลกเปลีย่ นสินค้าและบริการ
โดยการใชเ้ งิน
๒. บอกความสัมพนั ธร์ ะหว่างผู้ซ้อื และ ความหมายและบทบาทของผู้ซอ้ื และผู้ขาย ผผู้ ลิต
ผขู้ าย และผูบ้ รโิ ภคพอสังเขป ความสัมพันธร์ ะหวา่ งผซู้ อ้ื
และผขู้ ายในการกำหนดราคาสินคา้ และบริการ
ความสัมพันธร์ ะหวา่ งผซู้ อ้ื และผขู้ าย ทำให้สงั คมสงบ
สขุ และประเทศม่ันคง
ป.๓ ๑. บอกสินคา้ และบรกิ ารท่รี ฐั จดั หาและ สนิ ค้าและบริการท่ีภาครัฐทกุ ระดบั จัดหาและ
ให้บรกิ ารแกป่ ระชาชน ใหบ้ รกิ ารแกป่ ระชาชน เช่น ถนน โรงเรยี น
สวนสาธารณะ การสาธารณสุข การบรรเทาสาธารณภยั
๒. บอกความสำคัญของภาษีและบทบาท ความหมายและความสำคัญของภาษีท่รี ัฐนำมาสรา้ ง
ของประชาชนในการเสียภาษี ความเจริญและใหบ้ ริการแก่ประชาชน ตัวอยา่ งของ
ภาษี เช่นภาษรี ายไดบ้ ุคคลธรรมดา ภาษีมูลคา่ เพ่ิม
ฯลฯ บทบาทหน้าที่ของประชาชนในการเสียภาษี
๓. อธบิ ายเหตุผลการแขง่ ขนั ทางการค้า ท่ี ความสำคญั และผลกระทบของการแขง่ ขนั ทางการค้าที่
มีผลทำใหร้ าคาสินค้าลดลง มผี ลทำใหร้ าคาสินค้าลดลง
ป.๔ ๑. อธิบายความสมั พนั ธ์ทางเศรษฐกิจของ อาชีพ สนิ ค้าและบรกิ ารต่าง ๆ ทผี่ ลิต ในชมุ ชน
คนในชุมชน การพงึ่ พาอาศยั กนั ภายในชุมชนทาง ด้านเศรษฐกิจ
เชน่ ความสมั พันธ์ระหว่างผซู้ อ้ื ผ้ขู าย การกูห้ นยี้ มื สนิ
การสร้างความเข้มแขง็ ให้ชมุ ชนด้วย การใช้สิ่งของท่ี
ผลิตในชุมชน
๒. อธบิ ายหน้าทเ่ี บอ้ื งตน้ ของเงนิ ความหมายและประเภทของเงิน หนา้ ทีเ่ บ้อื งตน้ ของ
เงินในระบบเศรษฐกจิ สกุลเงินสำคัญท่ีใชใ้ นการซอ้ื
ขายแลกเปลีย่ นระหวา่ งประเทศ
ชัน้ ตวั ช้วี ัด 26
ป.๕ ๑. อธบิ ายบทบาทหน้าที่เบือ้ งตน้ ของ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ธนาคาร บทบาทหน้าท่ขี องธนาคารโดยสังเขป ดอกเบย้ี เงนิ
๒. จำแนกผลดีและผลเสียของการกู้ยมื ฝาก และดอกเบ้ียกู้ยืม การฝากเงิน / การถอนเงนิ
ผลดแี ละผลเสียของการกูย้ ืมเงินทงั้ นอกระบบและใน
ระบบที่มีตอ่ ระบบเศรษฐกจิ เช่น การเสียดอกเบีย้
การลงทุน การซ้อื ของอุปโภคเพิ่มข้ึน ท่ีนำไปสคู่ วาม
ฟุง้ เฟ้อ ฟุม่ เฟอื ย เป็นต้น
ป.๖ ๑. อธิบายความสัมพนั ธร์ ะหว่างผู้ผลติ ความสัมพันธ์ระหว่างผ้ผู ลิต ผบู้ ริโภค ธนาคาร และ
ผ้บู ริโภค ธนาคาร และรัฐบาล รัฐบาล ท่มี ีต่อระบบเศรษฐกิจอยา่ งสังเขป เชน่ การ
แลกเปลยี่ นสินคา้ และบรกิ าร รายไดแ้ ละรายจ่าย
การออมกบั ธนาคาร การลงทนุ แผนผงั แสดง
ความสัมพันธ์ของ หน่วยเศรษฐกิจ ภาษแี ละ
หน่วยงานท่จี ัดเกบ็ ภาษี สิทธขิ องผ้บู รโิ ภค และสิทธิ
ของผู้ใชแ้ รงงานในประเทศไทย การหารายได้
รายจา่ ย การออม การลงทุน ซงึ่ แสดง ความสมั พันธ์
ระหวา่ งผูผ้ ลิต ผบู้ ริโภค และรฐั บาล
๒. ยกตวั อยา่ งการรวมกลุม่ ทางเศรษฐกิจ การรวมกลุ่มเชงิ เศรษฐกจิ เพือ่ ประสานประโยชน์ใน
ภายในท้องถนิ่ ท้องถิน่ เช่น กลุ่มออมทรพั ย์ กล่มุ แม่บา้ น กองทุน
หมูบ่ ้าน
สาระที่ ๔ ประวตั ิศาสตร์
มาตรฐาน ส ๔.๑ เขา้ ใจความหมาย ความสำคัญของเวลา และยคุ สมัยทางประวตั ศิ าสตร์ สามารถใชว้ ิธีการทาง
ประวตั ิศาสตร์มาวิเคราะหเ์ หตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเปน็ ระบบ
ชั้น ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑.บอกวัน เดอื น ปี และการนับ ชื่อ วนั เดอื น ปี ตามระบบสรุ ิยคติทปี่ รากฏในปฏิทนิ ชื่อ
ช่วงเวลาตามปฏิทินทใี่ ช้ใน วัน เดือน ปี ตามระบบจนั ทรคตใิ นปฏทิ ิน ช่วงเวลาท่ีใช้
ชีวิตประจำวัน ในชวี ติ ประจำวนั เช่น เช้าวันน้ี ตอนเย็น
๒. เรยี งลำดบั เหตกุ ารณ์ใน เหตกุ ารณ์ที่เกิดข้ึนในชวี ติ ประจำวนั ของนกั เรียน เชน่
ชีวิตประจำวนั ตามวันเวลาท่ีเกดิ ข้นึ รบั ประทานอาหาร ตืน่ นอน เข้านอน เรยี นหนงั สอื เล่น
กีฬา ฯลฯ ใช้คำบอกชว่ งเวลา แสดงลำดับเหตุการณ์ ท่ี
เกดิ ขนึ้ ได้
๓. บอกประวตั คิ วามเป็นมาของตนเอง วธิ กี ารสบื ค้นประวัตคิ วามเปน็ มาของตนเองและ
และครอบครวั โดยสอบถามผเู้ กยี่ วข้อง ครอบครวั อย่างงา่ ย ๆ การบอกเล่าประวัตคิ วามเป็นมา
ของตนเองและครอบครัวอยา่ งส้ัน ๆ
27
ชัน้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง
ป.๒ ๑. ใชค้ ำระบุเวลาที่แสดงเหตุการณ์ใน คำทแี่ สดงช่วงเวลาในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เช่น
อดตี ปจั จุบนั และอนาคต วนั นี้ เมื่อวานนี้ พรงุ่ น้ี เดือนน้ี เดือนหนา้ เดอื นกอ่ น วนั
สำคญั ท่ีปรากฏในปฏิทินทีแ่ สดงเหตกุ ารณ์สำคญั ในอดตี
และปัจจบุ ัน ใชค้ ำบอกชว่ งเวลา อดตี ปัจจุบัน อนาคต
แสดงเหตุการณ์ได้
๒. ลำดบั เหตกุ ารณ์ที่เกดิ ข้นึ ใน วธิ กี ารสืบคน้ เหตุการณ์ที่ผ่านมาแลว้ ทเ่ี กิดขน้ึ กบั
ครอบครัวหรอื ในชีวติ ของตนเองโดยใช้ ตนเองและครอบครวั โดยใช้หลกั ฐานทเี่ กย่ี วข้อง เชน่
หลกั ฐาน ภาพถา่ ย สูตบิ ัตร ทะเบียนบ้าน
ท่ีเกย่ี วขอ้ ง ใช้คำท่ีบอกชว่ งเวลาแสดงเหตกุ ารณ์ ทเ่ี กิดขน้ึ ใน
ครอบครัวหรอื ในชวี ติ ตนเอง ใช้เส้นเวลา (Time Line)
ลำดับเหตุการณ์ ท่ีเกดิ ขึน้ ได้
ป.๓ ๑. เทียบศกั ราชที่สำคญั ตามปฏทิ ินที่ใช้ ทม่ี าของศักราชท่ปี รากฏในปฏทิ ิน เชน่ พุทธศกั ราช
ในชวี ิตประจำวัน ครสิ ตศ์ ักราชอย่างสงั เขป (ถา้ เปน็ มุสลิมควรเรยี น
ฮิจเราะห์ศกั ราชด้วย ) วิธีการเทยี บ พ.ศ. เปน็ ค.ศ. หรอื
ค.ศ. เปน็ พ.ศ. ตัวอยา่ งการเทยี บศักราช ในเหตกุ ารณ์
ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั นักเรียน เช่น ปีเกดิ ของนกั เรียน เป็นต้น
๒. แสดงลำดบั เหตุการณ์สำคญั ของ วธิ ีการสบื ค้นเหตกุ ารณ์สำคัญของโรงเรยี นและชมุ ชน
โรงเรยี นและชมุ ชนโดยระบุหลักฐาน โดยใชห้ ลกั ฐาน และแหล่งข้อมูล ที่เก่ยี วข้อง ใช้เสน้
และแหล่งข้อมูลท่ีเก่ยี วข้อง เวลา (Time Line) ลำดับเหตกุ ารณ์ ท่ีเกดิ ขนึ้ ใน
โรงเรยี นและชมุ ชน
ป.๔ ๑. นับช่วง เวลา เป็นทศวรรษ ความหมายและช่วงเวลาของทศวรรษ ศตวรรษ และ
ศตวรรษ และสหัสวรรษ สหสั วรรษ การใช้ทศวรรษ ศตวรรษ และสหัสวรรษ
เพือ่ ทำความเขา้ ใจช่วงเวลาในเอกสารเชน่
หนังสือพมิ พ์
๒. อธบิ ายยคุ สมัยในการศึกษาประวตั ิ เกณฑก์ ารแบ่งยุคสมัยในการศึกษาประวตั ศิ าสตร์ที่
ของมนุษยชาติโดยสังเขป แบง่ เป็นยุคกอ่ นประวตั ศิ าสตร์และยุคประวัตศิ าสตร์
ยคุ สมัยท่ีใช้ในการศกึ ษาประวัติศาสตรไ์ ทยเช่น
๓. แยกแยะประเภทหลกั ฐานท่ีใช้ใน สมยั กอ่ นสุโขทัย สมัยสุโขทัย สมยั อยุธยา สมยั ธนบุรี
การศกึ ษาความเปน็ มาของทอ้ งถิน่ และสมยั รัตนโกสินทร์
ประเภทของหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ทแี่ บง่ เป็น
หลกั ฐานชั้นต้น และหลกั ฐานชั้นรองตวั อยา่ งหลักฐานท่ี
ใช้ในการศึกษา ความเปน็ มาของทอ้ งถิ่นของตน การ
จำแนกหลักฐานของท้องถิ่นเป็นหลักฐานช้ันต้นและ
หลักฐานชัน้ รอง
28
ช้ัน ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.๕ ๑. สบื ค้นความเปน็ มาของทอ้ งถ่ินโดย วธิ กี ารสืบคน้ ความเป็นมาของท้องถ่ิน หลักฐานทาง
ใช้หลกั ฐานทหี่ ลากหลาย ประวตั ิศาสตร์ท่ีมีอยู่ในท้องถิน่ ท่ีเกดิ ขน้ึ ตามช่วงเวลา
ต่างๆ เช่น เคร่ืองมือเครื่องใช้ อาวธุ โบราณสถาน
โบราณวตั ถุ การนำเสนอความเป็นมาของท้องถน่ิ โดย
อ้างองิ หลกั ฐานที่หลากหลายด้วยวิธีการตา่ ง ๆ เช่น การ
เล่าเรื่องการเขยี นอยา่ งง่าย ๆ การจัดนทิ รรศการ
๒. รวบรวมข้อมลู จากแหลง่ ต่าง ๆ การตง้ั คำถามทางประวตั ิศาสตรเ์ กย่ี วกับความเป็นมา
เพอ่ื ตอบคำถามทางประวตั ศิ าสตร์ ของท้องถน่ิ เช่น มเี หตุการณ์ใดเกิดขน้ึ ในช่วงเวลาใด
อย่างมีเหตผุ ล เพราะสาเหตใุ ดและมีผลกระทบอยา่ งไร แหล่งขอ้ มลู
และหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตรใ์ นทอ้ งถ่ินเพอ่ื ตอบ
คำถามดงั กล่าว เช่น เอกสาร เรือ่ งเล่า ตำนานทอ้ งถ่ิน
โบราณสถาน โบราณวัตถุ ฯลฯ การใชข้ ้อมูลทพี่ บเพื่อ
ตอบคำถามไดอ้ ย่างมีเหตุผล
๓. อธิบายความแตกต่างระหว่าง ตัวอย่างเรอื่ งราวจากเอกสารต่างๆ ท่สี ามารถแสดงนยั
ความจรงิ กับข้อเท็จจรงิ เกยี่ วกบั ของความคิดเห็นกับข้อมูล เช่น หนังสือพมิ พ์ บทความ
เร่ืองราว จากเอกสารต่าง ๆ เปน็ ตน้ ตัวอยา่ งข้อมลู จากหลักฐาน
ในทอ้ งถิน่ ทางประวตั ศิ าสตร์ ในท้องถน่ิ ทแี่ สดงความจรงิ กับ
ขอ้ เทจ็ จรงิ สรุปประเดน็ สำคญั เกี่ยวกับขอ้ มูลในท้องถิ่น
ป.๖ ๑. อธบิ ายความสำคัญของวิธกี ารทาง ความหมายและความสำคัญของวธิ กี ารทาง
ประวัตศิ าสตรใ์ นการศึกษาเรอื่ งราว ประวตั ศิ าสตร์อยา่ งงา่ ย ๆ ท่ีเหมาะสมกับนกั เรยี น
ทางประวตั ศิ าสตร์อย่างงา่ ย ๆ การนำวิธกี ารทางประวตั ิศาสตรไ์ ปใชศ้ ึกษาเรอื่ งราวใน
ทอ้ งถ่ิน เช่น ความเป็นมาของภูมนิ ามของสถานที่ใน
ทอ้ งถ่นิ
๒. นำเสนอขอ้ มลู จากหลักฐานท่ี ตวั อย่างหลกั ฐานท่ีเหมาะสมกับนกั เรียนที่นำมาใช้ใน
หลากหลายในการทำความเข้าใจ การศกึ ษาเหตกุ ารณส์ ำคญั ในประวตั ศิ าสตร์ไทย สมยั
เร่อื งราวสำคัญในอดตี รตั นโกสินทร์ เชน่ พระราชหัตถเลขาของรัชกาลที่ ๔
หรอื รัชกาลท่ี ๕ กฎหมายสำคญั ฯลฯ
( เช่อื มโยงกบั มฐ. ส ๔.๓ ) สรุปขอ้ มูลท่ไี ด้จากหลักฐาน
ท้ังความจรงิ และข้อเท็จจริงการนำเสนอข้อมลู ท่ีได้จาก
หลกั ฐาน ทางประวัติศาสตรด์ ้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การ
เลา่ เร่ือง การจัดนทิ รรศการ การเขียนรายงาน
29
สาระที่ ๔ ประวัติศาสตร์
มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาตจิ ากอดีตจนถงึ ปัจจุบัน ในดา้ นความสมั พนั ธแ์ ละ
การเปล่ยี นแปลงของเหตกุ ารณ์อย่างต่อเนือ่ ง ตระหนกั ถงึ ความสำคญั และสามารถ วิเคราะห์ผลกระทบทีเ่ กิดขน้ึ
ชนั้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.๑ ๑. บอกความเปลย่ี นแปลงของสภาพ ความเปลีย่ นแปลงของสภาพแวดล้อม สงิ่ ของ
แวดล้อม สงิ่ ของ เคร่ืองใช้ หรอื การดำเนิน เครื่องใช้ หรอื การดำเนนิ ชีวิตของอดีตกับปัจจุบันท่ี
ชีวิตของตนเองกับสมยั ของพอ่ แม่ ปูย่ า่ เป็นรูปธรรมและใกล้ตัวเดก็ เช่นการใช้ควาย ไถนา
ตายาย รถไถนา เตารีด ถนน เกวยี น - รถอีแต๋น
สาเหตุและผลของการเปลยี่ นแปลงของส่งิ ต่างๆ ตาม
กาลเวลา
๒. บอกเหตกุ ารณ์ท่ีเกิดขึ้นในอดีต เหตุการณ์สำคญั ท่ีเกิดข้ึนในครอบครวั เช่น การย้าย
ทมี่ ีผลกระทบต่อตนเองในปจั จบุ ัน บา้ น การหยา่ ร้าง การสูญเสยี บุคคลในครอบครัว
ป.๒ ๑. สบื ค้นถงึ การเปล่ียนแปลง วิธกี ารสบื คน้ ขอ้ มลู อย่างง่าย ๆ เชน่ การสอบถาม
ในวถิ ีชวี ติ ประจำวนั ของคนในชมุ ชน ของ พ่อแม่ ผูร้ ู้ วถิ ชี ีวิตของคนในชุมชน เชน่
ตนจากอดตี ถงึ ปจั จบุ ัน การประกอบอาชีพ การแตง่ กาย การสอื่ สาร
ประเพณีในชมุ ชนจากอดีต ถึงปจั จุบัน
สาเหตุของการเปล่ยี นแปลงวิถชี ีวติ ของคนในชมุ ชน
๒. อธิบายผลกระทบของการเปลยี่ นแปลง การเปลย่ี นแปลงของวิถีชวี ิตของคนในชุมชนทางด้าน
ทม่ี ีต่อวถิ ีชวี ิตของคน ต่าง ๆ ผลกระทบของการเปลีย่ นแปลงที่มีตอ่
ในชมุ ชน วิถชี ีวิตของคนในชมุ ชน
ป.๓ ๑. ระบุปัจจยั ทีม่ อี ทิ ธิพลตอ่ การตง้ั ถนิ่ ฐาน ปจั จัยการตัง้ ถน่ิ ฐานของชุมชนซึง่ ข้นึ อยู่กบั ปจั จยั ทาง
และพฒั นาการของชุมชน ภมู ิศาสตรแ์ ละปัจจัยทางสังคม เช่น ความเจริญทาง
เทคโนโลยี การคมนาคม ความปลอดภัย ปัจจยั ที่มี
อทิ ธพิ ลตอ่ พฒั นาการของชุมชนทง้ั ปจั จยั ทาง
ภูมิศาสตร์ และปัจจัยทางสังคม
๒. สรุปลักษณะที่สำคัญของ ขนบธรรมเนยี ม ประเพณแี ละวฒั นธรรมชุมชนของ
ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรม ตนทเี่ กิดจากปัจจัยทางภมู ศิ าสตร์และปัจจัยทาง
ของชมุ ชน สังคม ขนบธรรมเนียมประเพณี และวฒั นธรรมของ
๓. เปรียบเทียบความเหมอื นและความ ชมุ ชนอนื่ ๆ ที่มีความเหมือนและความต่างกับชุมชน
ตา่ งทางวฒั นธรรมของชมุ ชนตนเองกับ ของตนเอง
ชุมชนอื่น ๆ
30
ชัน้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
พัฒนาการของมนุษย์ยคุ ก่อนประวัตศิ าสตรแ์ ละยคุ
ป. ๔ ๑. อธิบายการตง้ั หลกั แหลง่ และ
พฒั นาการของมนุษยย์ ุคก่อน ประวัติศาสตร์ ในดนิ แดนไทย โดยสังเขป
ประวัติศาสตร์และยคุ ประวัตศิ าสตร์
โดยสังเขป หลักฐานการตั้งหลกั แหล่งของมนษุ ย์ ยุคก่อน
ประวตั ิศาสตรใ์ นดนิ แดนไทยโดยสังเขป
๒. ยกตวั อยา่ งหลกั ฐานทาง หลักฐานทางประวัตศิ าสตร์ท่พี บในทอ้ งถิน่ ท่แี สดง
ประวตั ศิ าสตร์ท่พี บในท้องถิน่ ทแ่ี สดง พฒั นาการของมนษุ ยชาติในดนิ แดนไทยโดยสังเขป
พฒั นาการของมนุษยชาติ
ป.๕ ๑. อธิบายอทิ ธิพลของอารยธรรมอินเดีย การเขา้ มาของอารยธรรมอินเดียและจนี ในดินแดน
และจีนทีม่ ตี อ่ ไทย และเอเชยี ตะวันออก ไทยและภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตโ้ ดยสังเขป
เฉียงใต้ โดยสงั เขป อิทธพิ ลของอารยธรรมอนิ เดียและจีน ทม่ี ีต่อไทย
และคนในภมู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ เช่น
ศาสนาและความเชือ่ ภาษา การแต่งกาย อาหาร
๒. อภปิ รายอิทธิพลของวฒั นธรรม การเขา้ มาของวฒั นธรรมต่างชาติในสงั คมไทย เช่น
ตา่ งชาตทิ ่ีมีตอ่ สังคมไทยปัจจุบัน อาหาร ภาษา การแตง่ กาย ดนตรี โดยระบุลักษณะ
โดยสังเขป สาเหตุและผล อิทธิพลท่หี ลากหลายในกระแสของ
วฒั นธรรมต่างชาตติ อ่ สงั คมไทยในปจั จบุ ัน
ป.๖ ๑. อธบิ ายสภาพสังคม เศรษฐกจิ และ ใชแ้ ผนที่แสดงที่ตั้งและอาณาเขตของประเทศต่าง ๆ
การเมอื งของประเทศเพ่ือนบา้ นในปจั จบุ นั ในภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้
สภาพสงั คม เศรษฐกจิ และการเมอื งของประเทศ
เพ่อื นบา้ นของไทยโดยสงั เขป
ตวั อยา่ งความเหมือนและ ความตา่ งระหว่างไทยกบั
ประเทศเพือ่ นบา้ น เชน่ ภาษา ศาสนา การปกครอง
๒. บอกความสมั พนั ธ์ของกลมุ่ อาเซียน ความเป็นมาของกลมุ่ อาเซยี นโดยสังเขป
โดยสังเขป
สมาชกิ ของอาเซียนในปัจจุบัน ความสมั พันธข์ อง
กลุม่ อาเซยี นทางเศรษฐกิจ และสังคมในปจั จุบนั
โดยสังเขป
31
สาระที่ ๔ ประวตั ิศาสตร์
มาตรฐาน ส ๔.๓ เขา้ ใจความเป็นมาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภมู ิปัญญาไทย มคี วามรัก ความภูมิใจและธำรงความ
เป็นไทย
ชัน้ ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
ป.๑ ๑. อธิบายความหมายและความสำคัญ ความหมายและความสำคัญของสัญลักษณ์ที่สำคัญของ
ของสัญลักษณ์สำคญั ของชาตไิ ทย และ ชาติไทย ได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
ปฏิบัตติ นได้ถกู ต้อง (ธงชาติ เพลงชาติ พระพุทธรูป พระบรมฉายาลักษณ)์
การเคารพธงชาติ การร้องเพลงชาติ และเพลงสรรเสรญิ
พระบารมี เคารพ ศาสนวัตถุ ศาสนสถาน เอกลกั ษณ์อ่ืน
ๆ เช่น แผนที่ประเทศไทย ประเพณีไทย อาหารไทย
(อาหารไทย ทต่ี า่ งชาติยกย่อง เช่น ตม้ ยำกุ้ง ผดั ไทย) ที่มี
ความภาคภมู ใิ จ และมีสว่ นร่วม ทจ่ี ะอนุรกั ษไ์ ว้
๒. บอกสถานที่สำคัญซง่ึ เป็นแหล่ง ตัวอย่างของแหลง่ วัฒนธรรมในชุมชน ที่ใกล้ตัวนักเรยี น
วฒั นธรรมในชุมชน เช่น วัด ตลาด พิพิธภัณฑ์ มัสยิด โบสถ์คริสต์
โบราณสถาน โบราณวัตถุ คุณค่าและความสำคัญของ
แหล่งวัฒนธรรมในชุมชนในด้านต่างๆ เช่น เป็นแหล่ง
ท่องเท่ียว เป็นแหล่งเรยี นรู้
๓. ระบสุ ่ิงทีต่ นรัก และภาคภมู ใิ จใน ตัวอย่างสิ่งทีเ่ ป็นความภาคภูมิใจในท้องถ่ิน เช่น สิ่งของ
ท้องถนิ่ สถานที่ ภาษาถิ่น ประเพณี และวัฒนธรรม ฯลฯ ที่เป็น
สิ่งที่ใกล้ตัวนักเรียน และเป็นรูปธรรมชัดเจนคุณค่าและ
ประโยชน์ของสิง่ ต่างๆเหล่านัน้
ป.๒ ๑. ระบุบุคคลทที่ ำประโยชน์ตอ่ ทอ้ งถ่ิน บุคคลในท้องถิ่นที่ทำคุณประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์
หรือประเทศชาติ วัฒนธรรม และความมั่นคงของท้องถิ่น และ
ประเทศชาติ ในอดีตที่ควรนำเป็นแบบอย่าง ผลงาน
ของบุคคลในทอ้ งถิ่นทน่ี ่าภาคภูมใิ จ
๒. ยกตัวอยา่ งวฒั นธรรม ประเพณี และ ตัวอย่างของวฒั นธรรมประเพณีไทย เช่น การทำความ
ภูมปิ ัญญาไทยที่ภาคภมู ใิ จและควร เคารพ อาหารไทย ภาษาไทย ประเพณีสงกรานต์ ฯลฯ
อนรุ ักษไ์ ว้ คณุ ค่าของวฒั นธรรม และประเพณไี ทย ท่ีมตี อ่ สังคมไทย
ภมู ปิ ัญญาของคนไทยในท้องถนิ่ ของนกั เรียน
ป.๓ ๑. ระบพุ ระนามและพระราชกรณียกจิ พระราชประวัติ พระราชกรณียกจิ โดยสังเขปของพ่อขุน
โดยสงั เขปของพระมหากษตั ริย์ไทยที่ ศรีอินทราทิตย์ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่
เปน็ ผสู้ ถาปนาอาณาจักรไทย ทอง) สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และ
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้
สถาปนาอาณาจักรไทย สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และ
รัตนโกสินทร์ตามลำดับ อาณาจักรไทยอื่นๆที่ผนวก
รวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของชาติไทย เช่น ล้านนา
นครศรธี รรมราช
32
ช้ัน ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
๒. อธบิ ายพระราชประวัตแิ ละพระราช พระราชประวตั ิและพระราชกรณยี กิจของ
กรณยี กิจของพระมหากษัตรยิ ์ ในรชั กาล พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ภูมิพลอดุลยเดช และ
ปจั จบุ นั โดยสงั เขป สมเดจ็ พระบรมราชินนี าถโดยสงั เขป
๓. เล่าวรี กรรมของบรรพบุรุษไทย วรี กรรมของบรรพบุรษุ ไทยท่มี ีสว่ นปกป้องประเทศชาติ
ทีม่ ีสว่ นปกปอ้ งประเทศชาติ เช่น ท้าวเทพสตรี ท้าวศรีสนุ ทร ชาวบา้ นบางระจัน
พระยาพชิ ัยดาบหกั สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จ
พระเจา้ ตากสินมหาราช
ป.๔ ๑. อธบิ ายพัฒนาการของอาณาจกั ร การสถาปนาอาณาจักรสโุ ขทัยโดยสังเขป พฒั นาการของ
สุโขทัยโดยสังเขป อาณาจกั รสุโขทยั ทางดา้ นการเมอื งการปกครอง และ
เศรษฐกจิ โดยสงั เขป
๒. บอกประวัติและผลงานของบุคคล ประวัติ และผลงานของบุคคลสำคญั สมยั สโุ ขทัย เช่น
สำคญั สมัยสโุ ขทัย พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ พอ่ ขุนรามคำแหงมหาราช
พระมหาธรรมราชา ท่ี ๑ (พระยาลไิ ทยโดยสังเขป)
๓. อธิบายภมู ิปญั ญาไทยทสี่ ำคญั ภูมิปญั ญาไทยในสมยั สโุ ขทัย เช่นภาษาไทย ศิลปกรรม
สมัยสโุ ขทยั ทีน่ ่าภาคภมู ใิ จ และควรคา่ สโุ ขทัยทีไ่ ด้รับ การยกยอ่ งเป็นมรดกโลก เครือ่ ง
แกก่ ารอนุรักษ์ สังคมโลก คุณค่าของภูมปิ ัญญาไทยทสี่ ืบตอ่ ถึงปัจจุบันท่ี
น่าภาคภูมใิ จและควรค่า แกก่ ารอนุรกั ษ์
ป.๕ ๑. อธิบายพฒั นาการของอาณาจักร การสถาปนาอาณาจักรอยธุ ยา โดยสงั เขปปัจจัยท่ี
อยธุ ยาและธนบุรโี ดยสงั เขป สง่ เสริมความเจริญรุ่งเรอื งทางเศรษฐกิจ และการ
๒. อธิบายปจั จัยทสี่ ่งเสริมความเจริญ ปกครองของอาณาจักรอยุธยาพัฒนาการของอาณาจักร
รุง่ เรืองทางเศรษฐกจิ และการปกครอง อยุธยาการดา้ นการเมอื ง การปกครอง และเศรษฐกิจ
ของอาณาจักรอยธุ ยา โดยสังเขป ผลงานของบุคคลสำคญั ในสมัยอยุธยา เช่น
สมเดจ็ พระรามาธิบดที ่ี ๑ สมเด็จ พระบรมไตรโลกนาถ
๓. บอกประวตั แิ ละผลงานของบคุ คล สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนารายณ์
สำคัญสมัยอยธุ ยาและธนบุรที ่นี า่ มหาราช ชาวบ้านบางระจัน เปน็ ตน้ ภูมปิ ัญญาไทย
ภาคภมู ิใจ สมยั อยธุ ยาโดยสงั เขป เช่น ศลิ ปกรรม การค้า
๔. อธิบายภูมิปัญญาไทยทีส่ ำคัญ วรรณกรรม การกอบกูเ้ อกราชและการสถาปนา
อาณาจกั รธนบรุ ีโดยสังเขป พระราชประวัติ และ
สมัยอยธุ ยาและธนบุรีทน่ี า่ ภาคภมู ใิ จ ผลงานของ พระเจ้าตากสนิ มหาราชโดยสงั เขป
และควรค่าแกก่ ารอนุรกั ษ์ไว้
ภูมิปญั ญาไทยสมยั ธนบุรโี ดยสังเขป เชน่ ศลิ ปกรรม
การคา้ วรรณกรรม
33
ชัน้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.๖ ๑. อธบิ ายพัฒนาการของไทยสมยั การสถาปนาอาณาจกั รรตั นโกสินทรโ์ ดยสังเขป
รัตนโกสนิ ทร์ โดยสังเขป ปัจจยั ท่ีสง่ เสริมความเจริญรงุ่ เรืองทางเศรษฐกิจและการ
๒. อธบิ ายปจั จยั ทสี่ ง่ เสริมความ ปกครองของไทย ในสมัยรตั นโกสินทร์ พฒั นาการของ
ไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์ โดยสงั เขป ตามช่วงเวลาต่างๆ
เจริญร่งุ เรืองทางเศรษฐกจิ และการ เชน่ สมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ สมยั ปฏริ ปู ประเทศ
ปกครองของไทยสมัยรัตนโกสนิ ทร์ และสมัยประชาธปิ ไตย ผลงานของบคุ คลสำคัญทางดา้ น
๓. ยกตัวอยา่ งผลงานของบคุ คลสำคญั ตา่ งๆ ในสมยั รตั นโกสนิ ทร์ เชน่ พระบาทสมเด็จพระ
ดา้ นต่างๆสมยั รัตนโกสินทร์
พุทธยอดฟ้า- จุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระบวรราชเจา้
๔. อธิบายภมู ิปญั ญาไทยท่ีสำคัญสมัย มหาสรุ สงิ หนาท พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้า
รัตนโกสินทรท์ น่ี า่ ภาคภมู ิใจ และควรค่า เจา้ อยหู่ วั ฯลฯ ภูมิปัญญาไทยสมยั รัตนโกสนิ ทร์
แก่การอนรุ กั ษ์ไว้ เชน่ ศิลปกรรม วรรณกรรม
สาระที่ ๕ ภูมิศาสตร์
มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธ์ของสรรพสิ่งซง่ึ มีผลต่อกันและกัน ในระบบ
ของธรรมชาติ ใชแ้ ผนที่และเคร่อื งมือทางภูมศิ าสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ สรุป และใช้ขอ้ มูล
ภูมสิ ารสนเทศอยา่ งมีประสิทธภิ าพ
ช้นั ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.๑ ๑. แยกแยะส่งิ ต่างๆ รอบตัวทเ่ี กิดขึ้นเอง สง่ิ ตา่ ง ๆ รอบตวั ทเี่ กิดขนึ้ เองตามธรรมชาติและที่
ตามธรรมชาติและทีม่ นษุ ย์สร้างขน้ึ มนษุ ย์สรา้ งขึน้
๒. ระบคุ วามสมั พนั ธข์ องตำแหนง่ ความสมั พนั ธข์ องตำแหนง่ ระยะ ทิศของส่ิงต่างๆ
ระยะ ทศิ ของส่งิ ตา่ งๆ รอบตวั รอบตัว เช่น ทอ่ี ยู่อาศัย บ้าน เพื่อนบา้ น ตน้ ไม้ ถนน
ทุ่งนา ไร่ สวน ทีร่ าบ ภูเขา แหลง่ นำ้
๓. ระบทุ ิศหลักและท่ีต้งั ของสิง่ ตา่ งๆ ทิศหลัก (เหนือ ตะวนั ออก ใต้ ตะวันตก) และ ท่ตี ้งั
ของส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั
๔. ใชแ้ ผนผงั ง่าย ๆ ในการแสดง แผนผงั แสดงตำแหนง่ สิ่งต่างๆในห้องเรียน
ตำแหนง่ ของส่งิ ตา่ งๆในห้องเรยี น
๕. สงั เกตและบอกการเปลีย่ นแปลงของ การเปลย่ี นแปลงของสภาพอากาศในรอบวนั เช่น
สภาพอากาศในรอบวนั กลางวัน กลางคืน ความร้อนของอากาศ ฝน - เมฆ - ลม
ป.๒ ๑. ระบสุ ิง่ ต่างๆ ทเ่ี ป็นธรรมชาตกิ บั ท่ี ส่งิ ตา่ งๆ ท่เี ป็นธรรมชาติกบั ที่มนุษย์สร้างข้นึ ซึง่ ปรากฏ
มนุษย์สรา้ งขึ้น ซ่งึ ปรากฏระหวา่ ง ระหวา่ งโรงเรยี นกับบ้าน
โรงเรียนกับบา้ น
34
ชน้ั ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
๒. ระบุตำแหนง่ อย่างงา่ ยและลักษณะทาง ตำแหน่งอย่างง่ายและลกั ษณะทางกายภาพของสิง่ ตา่ งๆที่ปรากฏ
กายภาพของสงิ่ ตา่ งๆทปี่ รากฏในลูกโลก แผน ในลกู โลก แผนที่ แผนผัง และภาพถ่ายเช่น ภเู ขา ท่ีราบ
ที่ แผนผงั และภาพถ่าย
แม่น้ำ ตน้ ไม้ อากาศ ทะเล
๓. อธบิ ายความสัมพนั ธ์ของ ความสมั พนั ธข์ องปรากฏการณ์ระหว่างโลก ดวงอาทิตย์
ปรากฏการณ์ระหว่างโลก ดวงอาทติ ย์ และดวงจนั ทร์เช่น ข้างข้ึน ขา้ งแรม ฤดูกาลต่างๆ
และดวงจนั ทร์
ป.๓ ๑. ใช้แผนที่ แผนผงั และภาพถ่ายใน แผนท่ี แผนผัง และภาพถ่าย
การหาข้อมูลทางภูมิศาสตร์ในชุมชนได้ ความสมั พันธข์ องตำแหนง่ ระยะ ทศิ ทาง
อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
๒. เขียนแผนผงั งา่ ยๆ เพอ่ื แสดง ตำแหนง่ ท่ตี ้งั สมั พันธข์ องสถานทส่ี ำคัญในบรเิ วณ
ตำแหน่งท่ตี ง้ั ของสถานทส่ี ำคัญใน โรงเรียนและชมุ ชน เชน่ สถานท่รี าชการ อำเภอ ตลาด
บรเิ วณโรงเรียนและชุมชน โรงพยาบาล ไปรษณีย์ ฯลฯ
๓ .บอกความสัมพนั ธ์ของลักษณะ ภมู ิประเทศ และภูมอิ ากาศทม่ี ีผลต่อสภาพสังคมใน
กายภาพกับลักษณะทางสังคมของชุมชน ชุมชน
ป.๔ ๑. ใช้แผนท่ี ภาพถ่าย ระบลุ ักษณะ แผนท่ี/ภาพถา่ ย ลกั ษณะทางกายภาพของจังหวัดตนเอง
สำคญั ทางกายภาพของจังหวัดตนเอง
๒. ระบแุ หล่งทรพั ยากรและสิง่ ต่าง ๆ ตำแหน่ง ระยะทางและทศิ ของทรัพยากรและสง่ิ ตา่ งๆ
ในจงั หวัดของตนเองดว้ ยแผนท่ี ในจงั หวัดของตนเอง
๓. ใชแ้ ผนทีอ่ ธิบายความสัมพันธ์ของสิ่ง แผนทแ่ี สดงความสัมพันธข์ องสงิ่ ต่างๆ ท่มี ีอยใู่ นจังหวดั
ตา่ งๆ ทมี่ ีอยู่ในจังหวดั ลักษณะทางกายภาพ (ภูมิลักษณ์หรือภูมิประเทศและ
ภูมอิ ากาศ) ทม่ี ผี ลตอ่ สภาพสงั คมของจงั หวดั
ป.๕ ๑. รู้ตำแหน่ง (พิกัดภูมิศาสตร์ ละติจดู ตำแหน่ง (พกิ ดั ภูมิศาสตร์ ละติจดู ลองจจิ ูด) ระยะ
ลองจิจูด) ระยะ ทศิ ทางของภมู ภิ าค ทศิ ทาง ของภูมิภาคของตนเอง
ของตนเอง
๒. ระบลุ กั ษณะภูมิลกั ษณท์ ่ีสำคญั ใน ภมู ิลกั ษณท์ ี่สำคัญในภูมิภาคของตนเองเช่น แม่น้ำ
ภมู ภิ าคของตนเองในแผนท่ี ภูเขา ป่าไม้
๓. อธิบายความสัมพนั ธข์ องลกั ษณะทาง ความสัมพนั ธ์ของลักษณะทางกายภาพ (ภูมิลักษณแ์ ละ
กายภาพกับลักษณะทางสงั คมในภมู ิภาค ภูมิอากาศ) และลกั ษณะทางสงั คม (ภูมิสงั คม)ในภูมภิ าค
ของตนเอง ของตนเอง
ป.๖ ๑. ใช้เครื่องมอื ทางภูมิศาสตร์ (แผนท่ี เคร่อื งมือทางภูมิศาสตร์ (แผนท่ี ภาพถ่ายชนิดต่าง ๆ ) ท่ี
ภาพถา่ ยชนิดตา่ ง ๆ) ระบลุ กั ษณะสำคญั แสดงลกั ษณะทางกายภาพของประเทศ
ทางกายภาพและสงั คมของประเทศ
๒. อธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหว่าง ความสัมพนั ธร์ ะหว่างลักษณะทางกายภาพกับ
ลกั ษณะทางกายภาพกับปรากฏการณ์ ปรากฏการณท์ างธรรมชาตขิ องประเทศ เช่น อทุ กภยั
ทางธรรมชาติของประเทศ แผน่ ดินไหว วาตภัย ภมู ิลกั ษณ์ทม่ี ตี ่อภมู สิ งั คมของ
ประเทศไทย
35
สาระท่ี ๕ ภมู ิศาสตร์
มาตรฐาน ส ๕.๒ เข้าใจปฏิสัมพนั ธร์ ะหวา่ งมนุษย์กบั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพทีก่ อ่ ใหเ้ กิด
การสรา้ งสรรค์วฒั นธรรม มจี ิตสำนกึ และมสี ว่ นรว่ มในการอนรุ กั ษท์ รพั ยากร
และสง่ิ แวดลอ้ ม เพื่อการพัฒนาทย่ี งั่ ยืน
ช้นั ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
ป.๑ ๑. บอกส่งิ ตา่ ง ๆ ที่เกดิ ตามธรรมชาตทิ ่ี ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ ภูมิอากาศมีผลตอ่ ความเปน็ อย่ขู อง
สง่ ผลต่อความเปน็ อยู่ของมนษุ ย์ มนษุ ย์ เชน่ ทอี่ ยอู่ าศัย เคร่ืองแตง่ กายและอาหาร
๒. สงั เกตและ เปรียบเทยี บการเปลยี่ นแปลง การเปลีย่ นแปลงของสภาพ แวดลอ้ มทีอ่ ยูร่ อบตวั
ของสภาพแวดล้อมที่อยรู่ อบตวั
๓. มสี ่วนร่วมในการจัดระเบยี บส่ิงแวดลอ้ ม การรูเ้ ท่าทันสงิ่ แวดล้อมและปรับตวั เข้ากับสง่ิ แวดล้อม
ท่ีบา้ นและชนั้ เรียน
ป.๒ ๑. อธบิ ายความสำคญั และคุณคา่ คณุ ค่าของสงิ่ แวดลอ้ มทางธรรมชาติ เช่น ในการ
ของสง่ิ แวดล้อมทางธรรมชาติและ ประกอบอาชีพ คณุ คา่ ของสิ่งแวดล้อมทางสงั คม เชน่
ทางสงั คม สิง่ ปลกู สรา้ งเพือ่ การดำรงชพี
๒. แยกแยะและใชท้ รัพยากรธรรมชาตทิ ่ี ความหมายของทรัพยากรธรรมชาติ
ใชแ้ ล้วไมห่ มดไปและท่ใี ช้แลว้ หมดไปได้ ประเภททรัพยากรธรรมชาติ ใช้แล้วหมดไป เชน่ แร่
อยา่ งคุ้มคา่
ใชแ้ ล้วไม่หมด เชน่ บรรยากาศ นำ้ ใชแ้ ล้วมกี ารเกิด
ข้ึนมา ทดแทนหรอื รักษาไว้ได้ เชน่ ดิน ป่าไม้ สตั ว์ป่า
วิธีใช้ทรัพยากรอยา่ งคมุ้ ค่า
๓. อธิบายความสมั พนั ธ์ของฤดูกาลกับ ความสัมพนั ธข์ องฤดูกาลกับการดำเนนิ ชวี ติ ของมนุษย์
การดำเนินชวี ิตของมนุษย์
๔. มสี ่วนร่วมในการฟนื้ ฟูปรับปรงุ การเปลี่ยนแปลงของสงิ่ แวดล้อม
สิ่งแวดล้อมในโรงเรยี นและชมุ ชน การรกั ษาและฟ้ืนฟูส่ิงแวดลอ้ ม
ป.๓ ๑. เปรียบเทียบการเปลยี่ นแปลง สภาพแวดลอ้ มในชุมชนในอดตี และปัจจุบัน
สภาพแวดลอ้ มในชุมชนจากอดีตถงึ
ปจั จุบัน
๒. อธิบายการพึ่งพาสงิ่ แวดลอ้ ม การพงึ่ พาสิ่งแวดล้อม ในการดำรงชวี ติ ของมนุษย์ เชน่
และทรัพยากรธรรมชาตใิ นการสนองความ การคมนาคม บ้านเรือน และการประกอบอาชีพใน
ต้องการพน้ื ฐานของมนุษย์ และ ชุมชน การประกอบอาชพี ที่เปน็ ผลมาจาก
การประกอบอาชีพ สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาตใิ นชมุ ชน
๓. อธบิ ายเกี่ยวกับมลพษิ และการ มลพษิ ทเ่ี กดิ จากการกระทำของมนษุ ย์
ก่อใหเ้ กดิ มลพษิ โดยมนุษย์
๔. อธบิ ายความแตกต่างของเมอื งและ ลกั ษณะของเมอื งและชนบท
ชนบท
36
ช้ัน ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
๕. ตระหนกั ถงึ การเปล่ียนแปลงของ การเพม่ิ และสญู เสียสิง่ แวดล้อมทำใหช้ มุ ชนเปล่ียนแปลง
ส่งิ แวดลอ้ มในชุมชน
ป.๔ ๑. อธบิ ายสภาพ แวดลอ้ มทางกายภาพของ สภาพ แวดลอ้ มทางกายภาพของชุมชนที่ส่งผลต่อการ
ชมุ ชนท่สี ่งผลตอ่ การดำเนินชวี ติ ของคนใน ดำเนินชวี ติ ของคนในจังหวดั เชน่ ลกั ษณะบ้าน อาหาร
จังหวัด
๒. อธิบายการเปล่ยี นแปลงสภาพ แวดล้อม การเปล่ยี นแปลงสภาพแวดล้อมในจงั หวดั และผลท่ีเกิด
ในจังหวดั และผลที่เกดิ จากการ จากการเปล่ยี นแปลง เช่น การต้งั ถ่ินฐาน การยา้ ยถิ่น
เปลยี่ นแปลงน้นั
๓. มสี ว่ นรว่ มในการอนรุ ักษส์ ิ่งแวดล้อมใน การอนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติใน
จงั หวดั จงั หวัด
ป.๕ ๑. วิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มทางกายภาพท่ี สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพทม่ี อี ทิ ธิพลต่อลกั ษณะการ
มีอิทธพิ ลตอ่ ลกั ษณะการต้ังถนิ่ ฐานและ ต้งั ถิ่นฐานและการยา้ ยถิ่นของประชากรในภมู ภิ าค
การย้ายถนิ่ ของประชากรในภมู ภิ าค
๒. อธิบายอิทธิพลของส่งิ แวดลอ้ มทาง อิทธิพลของสง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติทกี่ ่อให้เกดิ วิถชี วี ติ
ธรรมชาติที่กอ่ ใหเ้ กดิ วถิ ีชวี ติ และการ และการสรา้ งสรรค์วฒั นธรรมในภูมิภาค
สร้างสรรค์วฒั นธรรมในภมู ิภาค
๓. นำเสนอตัวอยา่ งทสี่ ะทอ้ นใหเ้ ห็นผล ผลจากการรักษาและการทำลายสภาพแวดล้อม
จากการรักษาและการทำลาย แนวทางการอนรุ ักษแ์ ละรกั ษาสภาพแวดล้อมในภูมิภาค
สภาพแวดลอ้ ม และเสนอแนวคิด
ในการรกั ษาสภาพแวดลอ้ มในภมู ภิ าค
ป.๖ ๑. วเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธ์ระหวา่ ง ส่ิงแวดล้อมทางธรรมชาติ กับสิ่งแวดล้อมทางสงั คมใน
สง่ิ แวดล้อมทางธรรมชาติกบั สงิ่ แวดลอ้ ม ประเทศ ความสมั พนั ธ์และผลกระทบ
ทางสงั คมในประเทศ
๒. อธบิ ายการแปลงสภาพธรรมชาติใน ผลท่ีเกิดจากการปรับเปล่ยี น หรือดัดแปลงสภาพ
ประเทศไทยจากอดีตถึงปจั จุบัน และผลท่ี ธรรมชาติในประเทศจากอดีต ถงึ ปัจจุบัน และผลที่
เกิดขน้ึ จากการเปล่ยี นแปลงนั้น เกิดขึ้น (ประชากร เศรษฐกิจ สงั คม อาชพี และ
วฒั นธรรม)
๓. จัดทำแผนการใช้ทรพั ยากรในชมุ ชน แนวทางการใช้ทรัพยากรของคนในชุมชนใหใ้ ชไ้ ด้นาน
ขนึ้ โดยมีจิตสำนึกรู้คณุ ค่าของทรัพยากร แผนอนรุ กั ษ์
ทรัพยากรในชุมชน หรอื แผนอนุรักษ์
37
โครงสรา้ งเวลาเรยี น
โครงสร้างหลักสูตรโรงเรยี นวัดท่ากระบือ(ท่ากระบือพทิ ยาคาร)
กลุ่มสาระการเรยี นร/ู้ กจิ กรรม เวลาเรยี น (ชม./ป)ี
ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖
กลุม่ สาระการเรียนรู้
ภาษาไทย ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
สุขศึกษาและพลศึกษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
ศลิ ปะ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
การงานอาชพี ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
ภาษาต่างประเทศ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐
รวมเวลาเรยี น(พนื้ ฐาน) ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
รายวชิ า/กจิ กรรมทีส่ ถานศกึ ษาจัดเพิม่ เตมิ ความพรอ้ ม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
และจดุ เนน้ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
วเิ คราะห์ สร้างสรรค์ ภาษาไทย ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
วิทยาการคอมพวิ เตอร์
หน้าทีพ่ ลเมือง ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
Basic Conversation
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐
⚫กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
⚫กิจกรรมนกั เรียน ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐
๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
- ลกู เสอื /เนตรนารี ๑,๑๒๐ ๑,๑๒๐ ๑,๑๒๐ ๑,๑๒๐ ๑,๑๒๐ ๑,๑๒๐
- ชุมนมุ
กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณะประโยชน์
รวมเวลากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน
รวมเวลาเรยี น
ตารางวเิ คราะหเ์ พ่ือจดั
กลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนา แล
สาระท่ี ๑ ศาสนา
มาตรฐาน ส๑.๑ รู้ และเข้าใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสน
หลักธรรม เพื่ออยรู่ ว่ มกนั อย่างสันติสขุ
ตวั ชวี้ ัด ความร
๑. บอกพุทธประวตั ิหรอื ประวัติของศาสดาทตี่ น นับถอื -พุทธประวตั หิ รือประวตั ิของ
โดยสงั เขป โดยสงั เขป
๒.ชื่นชมและบอกแบบอย่างการดำเนนิ ชวี ิตและข้อคิดจาก -การดำเนินชวี ิตและข้อคิดจ
ประวตั ิสาวก ชาดก/เรอ่ื งเลา่ และศาสนกิ ชน ตัวอยา่ งตามที่ เรอ่ื งเล่าและศาสนิกชน ตัวอ
กำหนด
๓. บอกความหมายความสำคัญ และเคารพ พระรตั นตรยั -ความหมายความสำคัญ แล
ปฏิบัติตามหลักธรรมโอวาท ๓ ในพระพทุ ธ ศาสนาหรอื ปฏิบตั ติ ามหลักธรรมโอวาท
หลกั ธรรมของศาสนาที่ ตนนบั ถอื ตามท่ีกำหนด หรือหลักธรรมของศาสนาที่ต
๔. เหน็ คุณค่าและสวดมนตแ์ ผเ่ มตตา มีสติทเ่ี ป็นพน้ื ฐานของ -การสวดมนต์แผ่เมตตา มีส
สมาธใิ นพระพทุ ธศาสนา หรือการพฒั นาจติ ตาแนวทางของ สมาธใิ นพระพทุ ธศาสนา หร
ศาสนาที่ตนนบั ถอื ตามทก่ี ำหนด แนวทางของศาสนาท่ีตนนบั
38
ดทำคำอธบิ ายรายวิชา
ละวฒั นธรรม ช้นั ป.๑ รหัสวิชา ส ๑๑๑๐๑
ศลี ธรรม จรยิ ธรรม
นาหรอื ศาสนาทต่ี นนบั ถือและศาสนาอ่นื มีศรัทธาท่ีถูกตอ้ ง ยึดม่ัน และปฏบิ ัตติ าม
เป้าหมายคณุ ภาพผู้เรียนทีห่ ลกั สตู รแกนกลางฯ กำหนด
รู้ (K) ทักษะกระบวนการ คุณลักษณะ (A)
(P)
งศาสดาที่ตน นับถือ -บอกประวัติ - ศรัทธา
จากประวัตสิ าวก ชาดก/ -แบบอยา่ งการดำเนนิ ชวี ิต -ชื่นชมแบบอย่าง
อยา่ งตามท่ีกำหนด
ละเคารพพระรัตนตรัย -ปฏิบัติตามหลักธรรม -เคารพพระรตั นตรยั
ท ๓ในพระพทุ ธศาสนา -เห็นคุณค่า
ตนนบั ถอื ตามทก่ี ำหนด
สตทิ ่ีเปน็ พืน้ ฐานของ -สวดมนต์
รือการพัฒนาจติ ตา แผ่เมตตา
บถือตามท่ีกำหนด
ตารางวิเคราะหเ์ พือ่ จดั
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา แล
สาระท่ี ๑ ศาสนา
มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัตติ นเป็นศาสนิกช
ตวั ชีว้ ัด ค
๑.บำเพ็ญประโยชน์ตอ่ วัดหรอื -การบำเพ็ญประ
ศาสนสถาน ของศาสนาที่ตนนบั ถือ สถาน ของศาส
๒. แสดงตนเป็นพุทธมามกะ หรอื แสดงตนเปน็ ศาสนิกชนของ -การแสดงตนเป
ศาสนาที่ตนนบั ถอื ตนเป็นศาสนิกช
๓ .ปฏบิ ัติตนในศาสนพิธี พธิ ีกรรม และวันสำคญั ทางศาสนา -ศาสนพธิ ี พธิ ีกร
ตามทีก่ ำหนดไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ศาสนาตามท่กี ำ
39
ดทำคำอธบิ ายรายวิชา
ละวฒั นธรรม ชนั้ ป.๑ รหัสวิชา ส ๑๑๑๐๑
ศีลธรรม จรยิ ธรรม
ชนทด่ี ี และธำรงรกั ษาพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาทต่ี นนับถอื
เปา้ หมายคุณภาพผเู้ รียนท่หี ลกั สตู รแกนกลางฯ กำหนด
ความรู้ (K) ทักษะกระบวนการ(P) คุณลักษณะ (A)
ะโยชน์ต่อวัดหรือศาส -บำเพญ็ ประโยชนต์ อ่ วัด -
สนาท่ีตนนบั ถือ
ป็นพทุ ธมามกะ หรือแสดง -แสดงตนเป็นพุทธมามกะ, -
ชนของศาสนาทต่ี นนับถอื
รรม และวันสำคญั ทาง ศาสนิกชน
ำหนดไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
-ปฏิบตั ติ น -ปฏบิ ัติตนไดถ้ กู ตอ้ ง
ตารางวิเคราะหเ์ พ่อื จัด
กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา แล
สาระท่ี ๒ หนา้ ทพี่ ลเมือง วัฒน
มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและปฏิบัติตนตามหนา้ ท่ีของการเป็นพลเมอื งดี มคี ่านยิ ม
ในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสนั ติสขุ
เป
ตวั ช้ีวัด ความรู้ (K
๑. บอกประโยชน์และปฏบิ ัตติ นเปน็ สมาชกิ ที่ดีของ -ประโยชน์ของการปฏ
ครอบครวั และโรงเรียน สมาชกิ ท่ีดขี องครอบค
โรงเรยี น
๒. ยกตวั อยา่ งความ สามารถและความดีของ -ลักษณะความสามารถ
ตนเอง ผอู้ ื่นและบอกผลจากการกระทำน้นั ความดีของตนเองและ
ผลของการกระทำน้ัน
40
ดทำคำอธิบายรายวิชา
ละวฒั นธรรม ชัน้ ป.๑ รหัสวิชา ส ๑๑๑๐๑
นธรรม และการดำเนินชีวิตในสงั คม
มทีด่ งี าม และธำรงรกั ษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยรู่ ่วมกัน
ป้าหมายคุณภาพผเู้ รยี นที่หลกั สตู รแกนกลางฯ กำหนด
K) ทักษะกระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A)
ฏบิ ตั ติ นเปน็ -บอก -เปน็ สมาชิกท่ดี ี
ครัวและ -ปฏบิ ตั ิ
ถและลกั ษณะ -ยกตัวอยา่ ง -นกั เรยี นทำความดี
ะผู้อ่นื และ -บอก
ตารางวิเคราะห์เพ่อื จดั
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา แล
สาระที่ ๒ หน้าที่พลเมอื ง วัฒนธร
มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมอื งการปกครองในสังคมปัจจบุ ัน ยดึ มน่ั ศร
เป็นประมขุ
ตวั ชี้วัด เ
ความรู้ (K
๑.บอกโครงสรา้ งบทบาทและหน้าท่ีของสมาชกิ ใน -โครงสร้างบทบาทและ
ครอบครวั และโรงเรยี น สมาชกิ ในครอบครัวแล
๒. ระบบุ ทบาท สิทธิ หนา้ ที่ของตนเองในครอบครัว -บทบาท สทิ ธิ หน้า
และโรงเรียน ครอบครวั และโรงเรีย
๓. มสี ว่ นร่วมในการตัดสนิ ใจและทำกิจกรรมใน -กจิ กรรมตามกระบว
ครอบครวั และโรงเรยี นตามกระบวนการประชาธิปไตย ประชาธปิ ไตยในครอ
41
ดทำคำอธบิ ายรายวิชา
ละวัฒนธรรม ช้ัน ป.๑ รหัสวิชา ส ๑๑๑๐๑
รรม และการดำเนินชีวิตในสงั คม
รัทธา และธำรงรักษาไวซ้ งึ่ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรง
เปา้ หมายคุณภาพผู้เรียนทห่ี ลักสตู รแกนกลางฯ กำหนด
K) ทกั ษะกระบวนการ (P) คณุ ลกั ษณะ (A)
ะหน้าท่ีของ -บอก
ละโรงเรียน
าทีต่ นเองใน -บอก
ยน -ระบุ
วนการ -กิจกรรมกลุ่ม
อบครัว -แสดงความคดิ เหน็
ตารางวิเคราะห์เพื่อจดั
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา แล
สาระที่ ๓ เศ
มาตรฐาน ส ๓.๑ เข้าใจและสามารถบรหิ ารจดั การทรพั ยากรในการผลิตและการบรโิ ภค ก
เศรษฐกิจพอเพียง เพอ่ื การดำรงชวี ติ อยา่ งมีดุลยภาพ
ตัวชี้วัด เป
ความรู้ (K)
๑.ระบุสนิ ค้าและบริการท่ีใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวัน -สินค้าและบริการท่ีใช้ประโยช
ชวี ิตประจำวนั
๒. ยกตัวอย่างการใชจ้ ่ายเงนิ -การใช้จา่ ยเงนิ ในชีวติ ประจำว
ในชวี ิตประจำวนั ที่ไมเ่ กินตัวและเหน็ ประโยชน์ของ ทไี่ ม่เกินตวั และเหน็ ประโยชนข์
การออม การออม
๓. ยกตัวอย่างการใชท้ รพั ยากรในชวี ติ ประจำวนั อยา่ ง -การใช้ทรพั ยากรในชวี ติ ประจ
ประหยัด อย่างประหยดั
มาตรฐาน ส ๓.๒ เข้าใจระบบและสถาบนั ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐก
เป
ตวั ช้วี ัด ความรู้ (K)
๑. อธบิ ายเหตผุ ลความจำเป็นทคี่ นตอ้ งทำงานอย่าง -ความจำเปน็ ทีค่ นต้องทำงานอ
สุจริต สจุ ริต