แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ม.3

แผนการจดั การเรียนรู้

วชิ า ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน

กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3

นางสาตวาแเหบนญ่งจครรัตูผนู้ช่ว์ ยใจกลา้

โรงเรยี นบ้านแม่ยางหา้

สสาานนักักงงาานนเคขณตพะกน้ื รทร่กีมากราศรึกกษาราปศรกึ ะษถามขศัน้ ึกพษน้ื าฐเาชนยี กงใรหะทมร่ เวขงตศ2กึ ษาธิการ

แผนการจัดการเรียนรู้
รายวชิ า ภาษาอังกฤษพื้นฐาน (อ๒๓101)

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓

นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย

โรงเรยี นบา้ นแม่ยางหา้
สำนักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเชียงใหม่ เขต ๒
สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

บนั ทึกข้อความ

ส่วนราชการ โรงเรยี นบา้ นแมย่ างหา้

ท่ี พิเศษ

เรอ่ื ง ขออนุญาตใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้

เรียน ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบ้านแมย่ างหา้

เนื่องด้วยข้าพเจ้านางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ปฏิบัติหน้าที่ครูผู้สอนกลุ่มสาระการ
เรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ มีความประสงค์ขออนญุ าตใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ ราย วิชาภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน รหัส
อ23101จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ เวลา 3 ช่วั โมง/สัปดาห์ เวลา 60 ชั่วโมง/ภาคเรียน ในระดับชั้น
มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 จำนวนแผนการจัดการเรยี นรู้ 33 แผน

จงึ เรียนมาเพือ่ โปรดพจิ ารณาอนญุ าตใหใ้ ช้ประกอบการเรยี นการสอนตอ่ ไป

ลงชื่อ
(นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า)
ผจู้ ัดทำแผนการจดั การเรียนรู้

ลงช่ือ
(นายหัวหน้า กลุ่มสาระ)

หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะ

ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะ ลงชอื่
(นายเมธี วรรณวงค์)

หวั หนา้ กลมุ่ บริหารงานวิชาการ

อนุญาต
ไม่อนุญาต

ลงชื่อ
(นางสาวนฤสรณ์ ขนั ธะสีมา)

ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแมย่ างหา้

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1

วชิ า ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน รหัสวชิ า อ23101 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 0 Starter Unit
เรือ่ ง Day in, Day out เวลา 3 ช่วั โมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรียน บ้านแม่ยางห้า เวลา 1 ช่ัวโมง

สอนวนั ท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งทีฟ่ ังและอ่านจากส่อื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมเี หตผุ ล
ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบหุ ัวขอ้ เร่อื ง ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนับสนนุ และแสดงความคิดเหน็

เก่ียวกบั เรื่องท่ฟี งั และอา่ นจากส่อื ประเภทตา่ งๆ พรอ้ มทัง้ ให้เหตผุ ลและยกตัวอยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ
คิดเหน็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ
ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโต้ตอบข้อมลู เกี่ยวกับตนเอง เรือ่ งตา่ งๆ ใกลต้ ัว สถานการณ์ ข่าว เรื่อง
ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสงั คม และสอ่ื สารอยา่ งตอ่ เนือ่ งและเหมาะสม
ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มูล อธบิ าย เปรยี บเทียบ และแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับ
เรอื่ งทฟี่ งั หรืออ่านอย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่อื งต่างๆ โดยการพูดและ
การเขียน
ต 1.3 ม.3/1 พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ์/เร่ือง/ประเด็นต่างๆ
ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม
ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกดิ ขึ้นในหอ้ งเรียน สถานศกึ ษา
ชมุ ชน และสงั คม

2. สาระสำคัญ
การบอกเวลา วลีเกี่ยวกบั กจิ วตั รประจำวันและกิจกรรมทท่ี ำในเวลาว่าง การใช้ present simple,

pronouns, possessive adjectives, adverbs of frequency, question words การสนทนาเก่ยี วกับกิจวัตร
ประจำวนั และกจิ กรรมทีท่ ำในเวลาว่าง การอา่ นและเขียนจดหมายใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- พดู และเขยี นบรรยายกจิ วตั รประจำวันและบอกข้อมลู ของตนเองได้
- สนทนาเกี่ยวกบั กจิ กรรมในเวลาวา่ งท่ีชื่นชอบ
- เหน็ ความสำคัญของการพูดขอและให้ข้อมูลเกยี่ วกับกิจวตั รประจำวนั และข้อมลู ส่วนตวั ไดอ้ ย่าง

ถกู ตอ้ งและเหมาะสม

4. สาระการเรียนรู้

• Vocabulary

Daily routines: get up, have breakfast, have a bath, leave for school/work,
lessons start, have lunch, play computer games, do

homework

 Language Structure

Adverbs of frequency: never, sometimes, often, usually, always
Present simple: for habits & routines, permanent states
Pronouns: subject pronouns e.g. I, you, we, they, he, she, it

object pronouns e.g. me, you, us, them, him, her, it
Possessive adjectives: my, your, our, their, his, her, its
Can/Have/Do: interrogative and short answers
Question words: who, where, when, what, how

• Functional Exponents

Talking about daily routines:
A: What time do you get up?
B: At 6:30.

Asking personal questions:
A: What does your father do?
B: He is a doctor.

5. ทักษะ/กระบวนการ
- พดู และเขยี นบรรยายกิจวัตรประจำวันและบอกข้อมลู ของตนเอง

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
- ความสามารถในการสือ่ สาร

7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- มวี ินยั
- มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั ท่ี 1 (ขน้ั นำ) Warm up

1. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นชอื่ บท Starter Unit a และดภู าพในหนังสอื เรียน หน้า 4 แล้วบอกวา่ เนอื้ หาในบนี้
นา่ จะเกี่ยวกับเร่อื งอะไร (daily routines)

2. ครูทบทวนการบอกเวลาด้วยการวาดหน้าปดั นาฬิกาบนกระดาน

o’clock

quarter to quarter past

half past

ครูแบง่ นกั เรยี นออกเปน็ กลุ่ม แล้วเขียนเวลาเปน็ ตัวเลขบนกระดาน ให้แต่ละกลมุ่ พูดบอกเวลา เชน่
T: 7:15
Team A S1: a quarter past seven/seven fifteen
T: 8:50
Team B S1: ten minutes to nine/eight fifty

ครูทบทวนการใช้ am (ใชก้ ับเวลาเทย่ี งคนื ถงึ เที่ยงวนั ) และ pm (ใช้กบั เวลาเทีย่ งวันถึงเท่ียงคนื )

ขน้ั ที่ 2 (ขนั้ นำเสนอ) Presentation
1. ครูเปิด CD 1/Track 2 ใหน้ ักเรยี นฟังวลีเกีย่ วกบั กจิ วัตรประจำวนั ในหนังสือเรียน หน้า 4 Ex.1 และออก
เสยี งตาม จากนน้ั ให้นกั เรยี นช่วยกันแปลวลีเหล่านเี้ ปน็ ภาษาไทย
2. ครใู หน้ กั เรยี น 2 คน อา่ นออกเสยี งตวั อยา่ งคำถามและคำตอบในหนังสือเรียน หน้า 4 Ex.2 แลว้ ให้
นกั เรยี นจบั คู่ผลดั กันถามและตอบเกยี่ วกบั กิจวตั รประจำวนั โดยใชค้ ำถามทกี่ ำหนดให้ จากน้ันครูสุ่ม
เรยี กนกั เรยี นหลายๆ คู่ ออกมาถาม-ตอบทห่ี น้าชั้นเรยี น

Suggested Answer Key
A: When do you do your homework?
B: After school.
A: Do you have breakfast at 8:00?
B: Yes, I do.
A: What do you do in the afternoon?
B: I play computer games. etc.

ข้นั ที่ 3 ( ขั้นฝึก ) Practice
1.ใหน้ กั เรียนดูภาพและอา่ นชือ่ เรอื่ งของบทอา่ นในหนงั สอื เรียน หน้า 5 Ex.3 แล้วบอกว่าเขาคอื ใคร (OJ

Mayo) และนักเรียนคดิ วา่ กิจวัตรประจำวันของเขาเปน็ อย่างไร จากน้นั ครูเปิด CD 1/Track 3 ให้
นกั เรยี นฟงั และอ่านบทอ่าน เพอื่ ตรวจวา่ การคาดเดาของนักเรียนถูกตอ้ งหรือไม่

Suggested Answer Key
OJ Mayo is a basketball player. He wakes up at 6:30 am. He has a big breakfast
and then he goes jogging. After that he goes to school. After school he goes to
basketball practice. He practises four times a week. After basketball practice
he goes home. He usually does his homework in the evening.

2. ให้นกั เรียนอ่านบทอา่ นในหนังสือเรียน หน้า 5 อีกคร้งั แลว้ ครใู ห้นักเรียนช่วยกันอธบิ ายคำศัพท์
relationship, manage, worry about, grades, fall behind with, court, ambitious,
motivated, give up จากเน้ือเรอื่ ง จากนั้นให้นักเรยี นตอบคำถามใน Ex.4 เสร็จแลว้ ตรวจคำตอบ
พรอ้ มกัน

1. He is a young boy from Virginia, USA.
2. He wants to be a professional basketball player.
3. He wakes up at 6:30 am, has a big breakfast, then goes jogging in the park

for an hour. Then he goes to school and after that he goes to basketball
practice. He has practice four days a week and his team often plays two
games a week.
4. He’s well organised so he never falls behind with his homework. He never

stays out late. He always does his best and works hard.
5. Students’ own answer

ขน้ั ท่ี 4 (ขั้นนำไปใช)้ Production
1. ให้นักเรยี นทำกิจกรรมในหนงั สอื เรยี น หนา้ 5 Ex.5 โดยลอกตารางกจิ วตั รประจำวันทคี่ รเู ขียนบน
กระดานลงในสมุด แล้วให้นกั เรียนเติมขอ้ มูลของตนเองและ OJ Mayo ลงในตาราง จากนนั้ จับคู่กับ
เพ่ือนพูดบรรยายกิจวัตรประจำวนั ของตนเองและ OJ Mayo โดยใช้ขอ้ มูลจากตาราง

Me In the morning In the afternoon In the evening
OJ Mayo get up at 7:00 do homework play computer
games
gets up at 6:30 goes to basketball doesn’t stay out
practice late

Suggested Answer Key
OJ Mayo gets up at 6:30 am every day. I usually get up at 7:00 am.

ข้นั ที่ 5 (ขั้นสรปุ ) Wrap up
1. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ในหนงั สือแบบฝกึ หดั หนา้ 5 Starter Unit a Exs.1-2 โดยใน Ex.2 ให้นักเรียนฟัง

Access Workbook Audio CD/Track 1 ประกอบการทำแบบฝึกหดั (ดคู ำตอบในเฉลยแบบฝกึ หดั
Access 3 หน้า 5 (ภาคผนวก A))

9. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสือเรยี น Access ม. 3

2. แบบฝกึ หัด Access ม. 3

3. Access Class Audio CDs ม. 3

10. การวัดและประเมินผล

วิธกี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมนิ ช้นิ งาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมินการฟัง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ประเมินการพดู แบบประเมนิ การพูดโต้ตอบ

ประเมินการเขยี น แบบประเมินการเขียน

วิธกี ารวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์
ประเมินการออกเสยี ง แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

1. การประเมินผลการพดู บรรยายกจิ วตั รประจำวันของตนเองและ OJ Mayo (จากบทอา่ น)

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2

วชิ า ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน รหัสวชิ า อ23101 ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 0 Starter Unit
เร่อื ง How often…? เวลา 3 ช่วั โมง
ครผู ูส้ อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
โรงเรยี น บ้านแม่ยางห้า เวลา 1 ชวั่ โมง

สอนวันท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรือ่ งทฟ่ี ังและอา่ นจากสือ่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมเี หตุผล
ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหวั ข้อเรื่อง ใจความสำคญั รายละเอียดสนับสนนุ และแสดงความคิดเหน็

เกย่ี วกับเร่อื งท่ฟี งั และอา่ นจากสอื่ ประเภทตา่ งๆ พรอ้ มทัง้ ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความร้สู ึกและความ
คิดเหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโตต้ อบข้อมูลเกยี่ วกบั ตนเอง เร่อื งตา่ งๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ขา่ ว เรื่อง
ท่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม และสอื่ สารอย่างตอ่ เน่ืองและเหมาะสม
ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขยี นเพื่อขอและให้ขอ้ มูล อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับ
เร่อื งท่ฟี งั หรอื อา่ นอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่างๆ โดยการพูดและ
การเขยี น
ต 1.3 ม.3/1 พูดและเขียนบรรยายเกีย่ วกับตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ/์ เร่อื ง/ประเดน็ ต่างๆ
ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสงั คม
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองท่ีเกดิ ข้ึนในห้องเรยี น สถานศกึ ษา
ชุมชน และสงั คม

2. สาระสำคญั
การบอกเวลา วลีเก่ยี วกบั กิจวตั รประจำวนั และกจิ กรรมทที่ ำในเวลาว่าง การใช้ present simple,

pronouns, possessive adjectives, adverbs of frequency, question words การสนทนาเกี่ยวกบั กจิ วัตร
ประจำวนั และกจิ กรรมทที่ ำในเวลาวา่ ง การอ่านและเขียนจดหมายให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- พดู และเขยี นบรรยายกิจวตั รประจำวันและบอกข้อมลู ของตนเองได้
- สนทนาเกี่ยวกบั กจิ กรรมในเวลาวา่ งท่ีชื่นชอบ
- เหน็ ความสำคัญของการพูดขอและให้ข้อมูลเกยี่ วกับกิจวตั รประจำวนั และข้อมลู ส่วนตวั ไดอ้ ย่าง

ถกู ตอ้ งและเหมาะสม

4. สาระการเรียนรู้

• Vocabulary

Daily routines: get up, have breakfast, have a bath, leave for school/work,
lessons start, have lunch, play computer games, do

homework

 Language Structure

Adverbs of frequency: never, sometimes, often, usually, always
Present simple: for habits & routines, permanent states
Pronouns: subject pronouns e.g. I, you, we, they, he, she, it

object pronouns e.g. me, you, us, them, him, her, it
Possessive adjectives: my, your, our, their, his, her, its
Can/Have/Do: interrogative and short answers
Question words: who, where, when, what, how

• Functional Exponents

Talking about daily routines:
A: What time do you get up?
B: At 6:30.

Asking personal questions:
A: What does your father do?
B: He is a doctor.

5. ทักษะ/กระบวนการ
- พดู และเขยี นบรรยายกิจวัตรประจำวันและบอกขอ้ มลู ของตนเอง

6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
- ความสามารถในการสอ่ื สาร

7. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
- มวี นิ ยั
- มุ่งม่นั ในการทำงาน

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันที่ 1 (ข้นั นำ) Warm up

ครใู หน้ ักเรียนอา่ นช่ือบท Starter Unit b ในหนังสอื เรียน หน้า 6 แล้วเดาว่าเนอื้ หาในบทน้ีนา่ จะ
เกีย่ วกบั เร่ืองอะไร (how often we do things) จากนนั้ ครใู ห้นักเรียนบอกสิ่งที่นักเรยี นทำหรือไม่ได้ทำบ่อยๆ
มาคนละ 1 อย่าง

ขนั้ ที่ 2 (ขั้นนำเสนอ) Presentation
1. ใหน้ กั เรยี นอา่ นการใช้ present simple และตวั อย่างในหนงั สอื เรยี น หนา้ 6 Ex.1a แลว้ ชว่ ยกันบอก
วธิ กี ารสร้างประโยค present simple พร้อมยกตัวอยา่ งประกอบ

Suggested Answer Key
We form the present simple with the subject pronoun and the main verb.
We usually add -s to the third person singular in the affirmative. In the
interrogative and negative forms we use do/don’t with I, you, we and they
and does/doesn’t with he, she and it.

จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั ค่กู ับเพอ่ื นทำ Ex.1b โดยหาตวั อยา่ ง present simple ในบทอ่าน Ex.3 หนา้ 5

’s, gets, has, plays, is, isn’t, want, know, have to, says, wakes up, starts, goes,
’s, finishes, goes, practises, play, is, lose, know, ’s, says, makes, think, do,
does, manage, miss, worry, want, ’m, fall behind, stay out, do, work, stay, give up, says

2. ใหน้ กั เรียนจับคู่กบั เพือ่ นทำ Ex.2 ในหนังสือเรียน หนา้ 6 โดยเปลี่ยนรูปคำกริยาจากบรุ ุษท่ี 1 เปน็
เอกพจนบ์ ุรษุ ท่ี 3 เสร็จแลว้ ครูตรวจคำตอบบนกระดาน

1. plays 5. wakes up 8. finishes
2. wants 6. starts 9. loses
3. knows 7. goes 10. misses
4. works

3. ใหน้ กั เรียนลอกตารางในหนงั สอื เรียน หน้า 6 Ex.3 ลงในสมดุ แลว้ นำคำกริยารปู เอกพจนบ์ รุ ุษที่ 3 จาก
Ex.2 มาเติมในตารางใหถ้ ูกต้องตามการออกเสียงคำท่ีลงด้วย -s จากนน้ั ครูเปดิ CD 1/Track 4 ให้
นกั เรยี นฟงั เพ่ือตรวจคำตอบ

/s/ wants, works, wakes up, starts
/z/ plays, knows, goes
/Iz/ finishes, loses, misses

ขน้ั ที่ 3 ( ขนั้ ฝกึ ) Practice
1. ใหน้ ักเรียนทำ Ex.4 ในหนังสือเรียน หน้า 6 โดยเปลย่ี นคำกรยิ าในวงเล็บให้อยใู่ นรูป present simple

เสรจ็ แล้วเปรียบเทยี บคำตอบกบั เพ่ือน จากน้ันครูตรวจคำตอบบนกระดาน

1. lives 3. travels 5. plays

2. wakes up 4. doesn’t have 6. doesn’t like

2. ใหน้ ักเรยี นทำ Ex.5 ในหนงั สือเรียน หน้า 6 โดยเรียงลำดบั คำให้เปน็ ประโยคทถี่ ูกต้อง กอ่ นทำครอู า่ น
ตวั อยา่ งใหฟ้ ัง แลว้ ให้เวลานักเรยี นทำ 2 นาที จากน้ันครูให้นกั เรียน 6 คู่ ออกมาถามและตอบคำถามที่
หนา้ ช้นั เรยี น

Suggested Answer Key
1. Where do you live?

I live in Thailand.
2. Do you wake up early?

Yes, I do./No, I don’t. I wake up at 8:00.
3. How do you travel to school?

I travel to school by bus.

4. What does your dad do?
He’s an engineer. He works in a factory.

5. Do you like football?
Yes, I do./No, I don’t.

6. Does your mum work?
Yes, she does./No, she doesn’t.

3. ใหน้ ักเรยี นลอกตารางในหนังสือเรียน หนา้ 6 Ex.6 ลงในสมดุ แลว้ เติม subject pronouns, object
pronouns, possessive adjectives ใหค้ รบ จากน้ันครูตรวจคำตอบ แล้วใหน้ ักเรียนแปลคำเหล่าน้ีเปน็
ภาษาไทย

Subject pronouns: I, you, he, she, it, we, they
Object pronouns: me, you, him, her, it, us, them
Possessive adjectives: my, your, his, her, its, our, their
4. ใหน้ ักเรยี นทำ Ex.7 ในหนังสอื เรยี น หน้า 6 โดยแทนทีค่ ำทเี่ ป็นตัวดำหนาในประโยคดว้ ย pronouns
หรอื เติมประโยคให้สมบูรณ์ดว้ ย possessive adjectives ทถ่ี กู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูตรวจคำตอบ

Suggested Answer Key 7. We love swimming.
2. They are friends. 8. I want to buy a present for him.
3. They have two dogs. 9. our
4. He is sick. 10. Her dog is black.
5. Are you talking to her? 11. This room is for us.
6. my

5. ใหน้ ักเรยี นอา่ นประโยคเกี่ยวกับ Jane ในหนงั สอื เรยี น หน้า 7 Ex.8 จากน้ันอธิบายความหมายของ
adverbs of frequency เปน็ ภาษาไทย

6. ใหน้ ักเรียนทำ Ex.9 ในหนังสอื เรียน หนา้ 7 โดยแตง่ ประโยคเกีย่ วกับบุคคลในภาพดว้ ยข้อมูลทีก่ ำหนดให้
ตามตวั อยา่ ง

2. Laura always goes to school on foot.
3. Steve often plays computer games in the evening.
4. Laura usually plays computer games in the evening.

5. Steve always goes to bed at 10:30.
6. Laura always goes to bed at 10:30.
7. Steve sometimes meets friends after school.
8. Laura often meets friends after school.
9. Steve often walks the dog.
10. Laura never walks the dog.

7. ครเู ปิด CD 1/Track 5 ให้นกั เรยี นฟังวลีเกย่ี วกับกิจกรรมที่ทำในเวลาวา่ งในหนังสอื เรียน หนา้ 7 Ex.10
แล้วออกเสียงตาม จากน้นั แปลวลเี หลา่ นี้เป็นภาษาไทย

8. ครูอา่ นตัวอย่างในหนงั สือเรียน หน้า 7 Ex.11 ให้นักเรยี นฟงั แล้วให้นกั เรยี นจบั คู่สนทนาเกี่ยวกับ
กิจกรรมในเวลาว่างท่ีช่นื ชอบ ครูสงั เกตการทำกิจกรรมรอบๆ ชัน้ เรียน แลว้ สมุ่ เรียกนักเรียนบางคู่
ออกมาพดู รายงานกิจกรรมในเวลาว่างทค่ี ูข่ องตนชน่ื ชอบ

9. นกั เรยี นทำ Ex.12 ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 7 โดยเติม can, have, has, do หรอื does ในประโยคคำถาม
พร้อมท้ังตอบคำถาม เสรจ็ แลว้ ครูตรวจคำตอบ

Suggested Answer Key
2. Do Yes, I do./No, I don’t.
3. Has Yes, he has./No, he hasn’t.
4. Does Yes, she/he does./No, she/he doesn’t.
5. Have Yes, I have./No, I haven’t.
6. Can/ Yes, she/he can./No, she/ he can’t./

Does Yes, she/he does./No, she/ he doesn’t.
7. Do Yes, I do./No, I don’t.

10. ใหน้ กั เรยี นบอก question words แลว้ ครเู ขียนบนกระดาน ครอู าจชว่ ยเหลือนักเรยี นดว้ ยการถาม
คำถาม เชน่ What word do we use to ask about a person’s name? (What), a person’s
age? (How old) etc. จากน้ันให้นกั เรยี นทำ Ex.13 ในหนังสือเรียน หนา้ 7 โดยเติม question words
ลงในประโยคคำถามให้ถกู ต้อง และจับคู่คำถามกับคำตอบทีส่ ัมพนั ธก์ นั เสร็จแล้วครเู ปดิ CD 1/Track 6
ใหน้ กั เรยี นตรวจคำตอบ

1. f Who 5. e How
2. g How 6. b How often

3. a Where 7. c What

4. d When/What time 8. h When

ขน้ั ที่ 4 (ขั้นนำไปใช)้ Production
1. ใหน้ ักเรยี นอ่านกจิ กรรมทีก่ ำหนดใหใ้ นกรอบสีเขียวในหนงั สือเรียน หนา้ 7 Ex.9 พรอ้ มกัน จากน้ันให้
นกั เรียนเขียนประโยคบอกวา่ ตนเองทำกิจกรรมเหลา่ น้ีบ่อยแค่ไหน แล้วครสู มุ่ เรยี กนักเรียน 5 คน อ่าน
ใหเ้ พอ่ื นฟัง

ข้ันท่ี 5 (ขนั้ สรปุ ) Wrap up
2. นักเรียนทำแบบฝึกหดั ในหนังสอื แบบฝึกหดั หนา้ 6 Starter Unit b Exs.1-4 (ดคู ำตอบในเฉลย

แบบฝึกหดั Access 3 หน้า 6 (ภาคผนวก A))

9. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรียน Access ม. 3
2. แบบฝกึ หัด Access ม. 3
3. Access Class Audio CDs ม. 3

10. การวัดและประเมินผล เคร่อื งมอื เกณฑ์
วธิ กี ารวดั เกณฑ์การประเมินชิ้นงาน ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟัง ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบประเมนิ การพดู โต้ตอบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟัง แบบประเมินการเขียน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูด แบบประเมินการอา่ นออกเสยี ง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขยี น แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทักษะ/สมรรถนะ
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. การประเมนิ ผลการพดู บรรยายกิจวตั รประจำวันของตนเองและ OJ Mayo (จากบทอา่ น)

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3

วิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน รหสั วชิ า อ23101 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 0 Starter Unit
เรือ่ ง Penfriends เวลา 3 ช่ัวโมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
โรงเรียน บ้านแม่ยางห้า เวลา 1 ชัว่ โมง

สอนวันที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ัด
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งทีฟ่ งั และอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น

อยา่ งมีเหตผุ ล
ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบุหัวข้อเรอ่ื ง ใจความสำคญั รายละเอียดสนบั สนนุ และแสดงความคดิ เห็น

เกี่ยวกับเร่อื งทฟี่ ังและอ่านจากสือ่ ประเภทตา่ งๆ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตัวอย่าง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรูส้ กึ และความ
คิดเห็นอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโต้ตอบขอ้ มลู เก่ยี วกบั ตนเอง เร่อื งต่างๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ข่าว เร่ือง
ทีอ่ ยู่ในความสนใจของสงั คม และสอื่ สารอย่างต่อเนอื่ งและเหมาะสม
ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขยี นเพือ่ ขอและให้ขอ้ มูล อธิบาย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับ
เรอื่ งทีฟ่ ังหรอื อา่ นอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่อื งตา่ งๆ โดยการพูดและ
การเขียน
ต 1.3 ม.3/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ยี วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ/์ เร่ือง/ประเด็นต่างๆ
ทอี่ ย่ใู นความสนใจของสังคม
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกิดขึ้นในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา
ชมุ ชน และสังคม

2. สาระสำคญั
การบอกเวลา วลีเกยี่ วกับกิจวัตรประจำวนั และกิจกรรมท่ีทำในเวลาว่าง การใช้ present simple,

pronouns, possessive adjectives, adverbs of frequency, question words การสนทนาเก่ยี วกับกิจวตั ร
ประจำวันและกิจกรรมท่ที ำในเวลาวา่ ง การอา่ นและเขียนจดหมายให้ข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

- เขียนจดหมายถึงเพ่ือนใหม่เพื่อบอกข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
- เหน็ ความสำคัญของการพูดขอและให้ข้อมูลเกย่ี วกับกจิ วัตรประจำวนั และข้อมลู สว่ นตวั ไดอ้ ย่าง
ถกู ต้องและเหมาะสม

4. สาระการเรยี นรู้

• Vocabulary

Daily routines: get up, have breakfast, have a bath, leave for school/work,
lessons start, have lunch, play computer games, do homework

 Language Structure

Adverbs of frequency: never, sometimes, often, usually, always
Present simple: for habits & routines, permanent states
Pronouns: subject pronouns e.g. I, you, we, they, he, she, it

object pronouns e.g. me, you, us, them, him, her, it
Possessive adjectives: my, your, our, their, his, her, its
Can/Have/Do: interrogative and short answers
Question words: who, where, when, what, how

• Functional Exponents

Talking about daily routines:
A: What time do you get up?
B: At 6:30.

Asking personal questions:
A: What does your father do?
B: He is a doctor.

5. ทักษะ/กระบวนการ
- เขยี นจดหมายถึงเพือ่ นใหม่เพ่ือบอกข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง

6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
- ความสามารถในการส่ือสาร

7. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- มวี ินัย
- มุ่งมั่นในการทำงาน

8. กิจกรรมการเรียนรู้
ขัน้ ที่ 1 (ข้นั นำ) Warm up

1. ครใู หน้ กั เรียนอ่านชื่อบท Starter Unit c และดูบทอา่ นในหนงั สือเรยี น หนา้ 8 แล้วเดาว่าเนื้อหาในบทนี้
นา่ จะเกี่ยวกับเรอื่ งอะไร (writing a letter to a penfriend)

2. ครูถามนกั เรยี นว่า บทอา่ นในหนงั สือเรยี น หน้า 8 เป็นขอ้ ความประเภทใด (a letter)

ขนั้ ท่ี 2 (ขน้ั นำเสนอ) Presentation
1. ครูเปดิ CD 1/Track 2 ให้นกั เรยี นฟังวลีเกยี่ วกบั กิจวัตรประจำวันในหนงั สอื เรยี น หนา้ 4 Ex.1 และออก
เสียงตาม จากนนั้ ให้นกั เรยี นช่วยกนั แปลวลีเหล่านี้เปน็ ภาษาไทย
2. ครูใหน้ กั เรยี น 2 คน อ่านออกเสียงตัวอยา่ งคำถามและคำตอบในหนังสือเรียน หน้า 4 Ex.2 แล้วให้
นกั เรียนจับคู่ผลัดกนั ถามและตอบเกี่ยวกบั กจิ วัตรประจำวนั โดยใชค้ ำถามท่ีกำหนดให้ จากน้นั ครูสุ่ม
เรียกนกั เรียนหลายๆ คู่ ออกมาถาม-ตอบทหี่ น้าชั้นเรียน

Suggested Answer Key
A: When do you do your homework?
B: After school.
A: Do you have breakfast at 8:00?
B: Yes, I do.
A: What do you do in the afternoon?
B: I play computer games. etc.

ข้ันท่ี 3 ( ข้นั ฝึก ) Practice
1. ใหน้ ักเรยี นดูภาพและอา่ นชื่อเร่อื งของบทอา่ นในหนงั สอื เรยี น หนา้ 5 Ex.3 แล้วบอกวา่ เขาคอื ใคร (OJ

Mayo) และนักเรยี นคิดวา่ กิจวตั รประจำวนั ของเขาเปน็ อย่างไร จากนั้นครเู ปดิ CD 1/Track 3 ให้
นักเรียนฟงั และอ่านบทอ่าน เพ่ือตรวจวา่ การคาดเดาของนักเรียนถกู ตอ้ งหรือไม่

Suggested Answer Key
OJ Mayo is a basketball player. He wakes up at 6:30 am. He has a big breakfast

and then he goes jogging. After that he goes to school. After school he
goes to basketball practice. He practises four times a week. After basketball practice he
goes home. He usually does his homework in the evening.

2. ใหน้ กั เรยี นอา่ นบทอ่านในหนงั สือเรียน หน้า 5 อกี ครง้ั แล้วครูให้นักเรยี นช่วยกันอธิบายคำศัพท์
relationship, manage, worry about, grades, fall behind with, court, ambitious,
motivated, give up จากเนอ้ื เรอ่ื ง จากนน้ั ใหน้ ักเรียนตอบคำถามใน Ex.4 เสร็จแลว้ ตรวจคำตอบ
พรอ้ มกัน

1. ใหน้ ักเรียนอ่านประโยคข้อ 1-6 ในหนังสือเรยี น หน้า 8 Ex.1 แลว้ อ่านจดหมาย เม่ืออ่านจบครูให้
นักเรยี นชว่ ยกนั อธบิ ายคำวา่ local hospital, police officer, long hours, get along, especially
จากนน้ั ให้นกั เรยี นบอกว่าประโยคขอ้ 1-6 เป็นจริง (T) หรือไมจ่ รงิ (F) ตามจดหมาย

1. T 2. F 3. T 4. F 5. F 6. F

3. ใหน้ ักเรียนทำกิจกรรมในหนงั สอื เรียน หนา้ 8 Ex.2 โดยอ่านตวั อยา่ งคำถามและคำตอบพรอ้ มกนั
จากนั้นให้นักเรียนจบั คู่ถามและตอบคำถามเกยี่ วกบั เนือ้ ความในจดหมาย โดยใช้ question words
แลว้ ครูสมุ่ เรยี กนักเรียนบางคูอ่ อกมาถาม-ตอบทีห่ น้าชนั้ เรยี น

Suggested Answer Key
A: He comes from Barcelona, Spain. What does his mum do?
B: She is a doctor. Where does she work?
A: She works at the local hospital. What does his dad do?
B: He is a police officer. etc.

1. He is a young boy from Virginia, USA.
2. He wants to be a professional basketball player.
3. He wakes up at 6:30 am, has a big breakfast, then goes jogging in the park

for an hour. Then he goes to school and after that he goes to basketball
practice. He has practice four days a week and his team often plays two games a week.

4. He’s well organised so he never falls behind with his homework. He never
stays out late. He always does his best and works hard.

5. Students’ own answer

3. ครูให้นักเรียนอา่ นโน้ตยอ่ ในหนังสือเรียน หนา้ 8 Ex.3 แล้วคิดว่าข้อมูลท่หี ายไปคอื อะไร (1
father’s name; 2 father’s job; 3 mother’s age; 4 sister’s name; 5 brother’s age) จากน้ันครู
เปิด CD 1/Track 7 ใหน้ ักเรียนฟังและเติมข้อมลู ท่หี ายไปลงในช่องวา่ ง เสร็จแล้วครตู รวจคำตอบ

Hi! My name’s Steve Miller and I’m fifteen years old. My father’s
name is Tom and he’s thirty-seven years old. He’s a fire fighter! He
loves his job, but it’s very dangerous. I get along really well with my
dad. We often go to football matches together!

My mum’s name is Helen and she’s thirty-six years old. She’s a
teacher. She likes her job, too.

I’ve got one sister, Jane, who’s thirteen years old and one brother,
Andy, who’s nine. I get on really well with them!

Want a penfriend? I’d love to hear from you! Tell me all about
yourself and your family!

1. Tom 3. 36 5. 9
2. fire fighter 4. Jane

ขนั้ ที่ 4 (ขั้นนำไปใช)้ Production
1. ใหน้ กั เรียนอ่านโครงรา่ งจดหมายทก่ี ำหนดให้ในหนงั สอื เรียน หนา้ 8 Ex.4 จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนสมมติว่า
ตนเองมเี พือ่ นใหมเ่ ป็นเพ่อื นทางจดหมาย ให้นักเรียนเขียนจดหมายถึงเพ่อื นโดยใชโ้ ครงร่างน้ี เม่ือเขียน
เสร็จแล้วครูสมุ่ เรียกนักเรยี นบางคนอ่านจดหมายของตนเองให้เพอื่ นฟงั

Suggested Answer Key
Dear John,
Thanks for your letter. I hope we become great penfriends.
Let me tell you all about myself. I am 15 years old and I live in Madrid. There
are three people in my family. My mum is a nurse and my dad is a teacher. A typical
weekday for me starts at 7:00. School starts at 8:30. After school I play basketball, and
then I do my homework and watch TV. In my free time I play sports, hang out with my

friends and go to the cinema. What about you? What is a typical day like for
you? What do you like to do in your

free time?
Please write soon.
Yours,
Marco

ข้นั ท่ี 5 (ข้นั สรปุ ) Wrap up
1. นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั ในหนังสือแบบฝกึ หดั หนา้ 7 Starter Unit c Exs.1-3 (ดูคำตอบในเฉลย

แบบฝึกหดั Access 3 หน้า 7 (ภาคผนวก A))

9. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้

1. หนังสือเรียน Access ม. 3

2. แบบฝึกหัด Access ม. 3

3. Access Class Audio CDs ม. 3

10. การวัดและประเมินผล

วธิ กี ารวัด เครื่องมอื เกณฑ์
ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมินช้นิ งาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมนิ การฟงั ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ การพดู โต้ตอบ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การเขียน แบบประเมินการเขียน

ประเมินการออกเสียง แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง

ดา้ นทักษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. การประเมนิ ผลงานเขียนจดหมายถงึ เพื่อนใหม่เพ่ือบอกข้อมลู เกีย่ วกบั ตนเอง

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 4

วชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน รหัสวชิ า อ23101 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 Lifestyles
เรือ่ ง City life – country life เวลา 10 ชั่วโมง
ครผู ้สู อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรยี น บา้ นแมย่ างห้า เวลา 2 ชั่วโมง

สอนวนั ที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

สำนักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งที่ฟงั และอ่านจากสือ่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตุผล

ต 1.1 ม.3/2 อา่ นออกเสียงข้อความ ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้ันๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบุหัวข้อเรอื่ ง ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนับสนนุ และแสดงความคิดเห็น

เกย่ี วกบั เร่ืองที่ฟงั และอ่านจากสอ่ื ประเภทต่าง ๆ พร้อมท้ังใหเ้ หตุผลและยกตัวอย่าง
ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สึกและความ
คิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขียนเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มูล อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับ
เรอ่ื งที่ฟงั หรืออ่านอย่างเหมาะสม

ต 1.2 ม.3/5 พดู และเขียนบรรยายความรู้สกึ และความคิดเหน็ ของตนเองเกี่ยวกบั เรอื่ งต่างๆ
กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตกุ ารณ์ พรอ้ มทัง้ ให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรอื่ งตา่ งๆ โดยการพูดและ
การเขยี น

ต 1.3 ม.3/1 พดู และเขยี นบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ์/เรื่อง/ประเด็นตา่ งๆ
ทอี่ ยู่ในความสนใจของสงั คม

มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภ้ าษา น้ำเสียง และกริ ยิ าท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคม
และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเก่ียวกับชวี ติ ความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ม.3/3 เขา้ ร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเชือ่ มโยงความร้กู บั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อื่น และเปน็
พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั นข์ องตน
ต 3.1 ม.3/1 ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ขอ้ เท็จจรงิ ที่เกย่ี วข้องกับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื จาก
แหล่งการเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพดู และการเขียน
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองที่เกดิ ข้ึนในห้องเรยี น สถานศึกษา
ชุมชน และสงั คม

2. สาระสำคญั
ข้อมูลเกย่ี วกบั การดำเนินชีวิต ครอบครวั อาชพี ของแตล่ ะบคุ คลท่มี ีความแตกตา่ งกนั ขึ้นอยกู่ บั

เง่อื นไขของพฤติกรรม นสิ ัย การดแู ล การให/้ ขอหรอื นำเสนอขอ้ มูลเกีย่ วกับการเดินทางและสถานที่ทอ่ งเทย่ี ว
การเขยี นอีเมลถึงเพอื่ น รวมถงึ การตั้งเปา้ หมายเกี่ยวกบั อาชพี ในอนาคต

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
- เข้าใจถงึ ความแตกต่างในการดำเนินชวี ติ และการประกอบอาชพี ของแตล่ ะบคุ คล
- เขยี นอีเมลถงึ เพื่อนเพื่อบอกเลา่ เกี่ยวกบั ตนเอง

4. สาระการเรียนรู้
 Vocabulary
Jobs: bank clerk, dentist, pilot, actor, police officer, receptionist, farmer,
coach, reporter, teacher
Personality adjectives: brave, imaginative, friendly, sociable,
hardworking, patient, polite, smart, honest, careful, skilful, lazy, cowardly,
stupid, careless, shy
Means of transport: train, bus, motorcycle, plane, tube, bike, taxi, car,
boat, ship, foot
 Language Structure
Present continuous: subject + verb to be + v-ing
for an action happening now and a future arrangement
Relative clauses: who, which, whose, where
Connectors: and, but, or
 Functional Exponents

Buying an underground ticket:
- Single or return?
- Where to?
- Which line do I take, please?
- Two return tickets to London, please.

 Pronunciation
/I/: pit, pill, bit, slip

/i:/: Pete, peal, beat, sleep

5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- พูดแลกเปล่ยี นขอ้ มูลเก่ียวกบั การประกอบอาชีพ

6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
- ความสามารถในการส่อื สาร

7. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
-การรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
-ใฝเ่ รยี นรู้
- มงุ่ มั่นในการทำงาน

8. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ ท่ี 1 (ข้ันนำ) Warm up

1. ใหน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบความรกู้ อ่ นเรยี น โดยครูถา่ ยเอกสาร Test 1 (Module 1) จาก Teacher’s
Resource Pack & Tests 3 หนา้ 97-100 (ภาคผนวก C) (ดคู ำตอบใน Key to Tests หนา้ 160 (ภาคผนวก
C))

2. ใหน้ กั เรียนดูชื่อของหน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 Lifestyles ในหนงั สือเรียน หน้า 9 แลว้ ชว่ ยกันแสดงความ
คดิ เหน็ ว่าหน่วยการเรียนรู้น้ีนา่ จะเกี่ยวกับเรื่องใด โดยครชู ี้ให้นักเรียนดูหวั ข้อตา่ งๆ

The title refers to the living conditions, behavior and habits of a person or a
group of people. We will learn about how different people around the world
live.

3. ครูชี้แจงใหน้ กั เรียนทราบว่า หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 นี้ นักเรยี นจะได้เรียนรเู้ กยี่ วกับ
• city life/country life
• people & jobs
• people’s lifestyles
• free-time activities
• present continuous
• present simple vs present continuous
• relative clauses
• forming adjectives from nouns

4. ครูสอบถามความร้พู ื้นฐานและดึงความสนใจของนกั เรยี นเขา้ สู่บทเรียน โดยอาจใช้คำถามตอ่ ไปน้ี
 What do you prefer to live in the city or in the country? Why?

5. ใหน้ ักเรียนดภู าพ 1-2 ในหนังสือเรยี น หน้า 9 แล้วครูกระตนุ้ ให้นกั เรียนอภปิ รายแสดงความคดิ เหน็
โดยถามคำถามเกีย่ วกับแต่ละภาพ

Suggested Answer Key
Focus Students’ attention on picture 1.
T: What page is picture 1 from?
S1: It’s from page 10.
T: What can you see in picture 1?
S2: A busy street in London.
T: How do you think the picture is related to the title of the unit?
S3: I think it shows something of what life is like in a busy city.
T: What page is picture 2 from? (page 10) What can you see in
picture 2?
How do you think the picture is related to the title of the unit? etc

ขน้ั ที่ 2 (ขน้ั นำเสนอ) Presentation
1. ใหน้ กั เรยี นหาวา่ ภาพ an email, risky jobs, two men in uniform และ a map of the London
underground อย่ใู นหนงั สือเรียนหน้าใด เสร็จแลว้ เฉลยคำตอบพร้อมกนั จากนัน้ ครูถามคำถาม
เกยี่ วกับแตล่ ะภาพ เพ่อื ตรวจสอบความเขา้ ใจและความรู้พื้นฐานของนักเรยี น
 an email (page 11)
What is an email? Do you write emails? Who do you send them
to?

 risky jobs (page 12)
What does risky mean? Why are these jobs risky?
Would you like to do one of these jobs? Why (not)?

 two men in uniform (page 15)
Who do you think these men are? What country are they from?
Where do you think they work? Would you like to visit this place?

 a map of the London underground (page 16)
Have you been on the London underground?
What is the underground rail network in your country called?

2. ครเู ปดิ CD 1/Track 8 ให้นักเรยี นฟังการออกเสยี งคำศพั ทใ์ นหนังสอื เรยี น หน้า 9 หวั ขอ้ Vocabulary
แลว้ ใหน้ กั เรยี นฝึกออกเสียงตาม จากนนั้ ชว่ ยกันบอกความหมายเป็นภาษาไทย โดยครูอนญุ าตให้
นักเรยี นใช้ dictionary ได้

3. ใหน้ กั เรียนดูภาพ 1-2 ในหนงั สือเรียน หนา้ 9 อีกครั้ง แลว้ ตอบคำถาม Which place do you
prefer: a village or a busy town? Why? โดยให้นกั เรียนใช้วลใี นหวั ขอ้ Vocabulary ตอบคำถาม
ตามความคดิ ของตนเอง ก่อนใหน้ กั เรียนตอบคำถาม ครสู ุม่ เรียกนักเรียน 1 คน อ่านตัวอยา่ งคำตอบให้
เพอ่ื นๆ ฟัง

4. ใหน้ ักเรยี นอา่ นชือ่ บท Unit 1a และดภู าพในหนังสอื เรยี น หนา้ 10 แลว้ บอกครวู ่าเห็นอะไรบา้ ง
จากน้ันใหน้ กั เรยี นเดาว่าเน้ือหาใน Unit 1a นา่ จะเกย่ี วกบั อะไร (Life in the city versus life in the
country)

5. ใหน้ กั เรยี นทำ Ex.1 ในหนังสือเรียน หนา้ 10 โดยปดิ ตาและจนิ ตนาการวา่ ถ้านกั เรียนอยทู่ ่สี ถานที่ใด
สถานที่หน่ึงในภาพ นักเรยี นจะได้ยนิ ไดเ้ ห็น ไดก้ ลนิ่ และร้สู ึกอย่างไร ครูให้นักเรียนบรรยายภาพตาม
จนิ ตนาการ

Suggested Answer Key
The picture on the left shows a village in the countryside next to a
lake or a river and some hills. I can hear the sound of water gently
moving and birds singing. I can see the green grass on the hillside and I
can smell the fresh country air. I feel relaxed and peaceful.
The picture on the right shows a busy road in the city of London. I can
hear the sound of traffic on the road and horns beeping. I can see the
city and the tall buildings, and I can smell the fumes of the cars. I feel
stressed and anxious.

6. ใหน้ ักเรยี นดูไดอารี่ ในหนงั สอื เรยี น หน้า 10 แล้วครูเปดิ CD 1/Track 9 ให้นักเรยี นฟังและ
อา่ นไดอาร่ีตาม จากนน้ั ครอู า่ นคำถามใน Ex.2 หนา้ 11 แลว้ ใหเ้ วลานักเรียนตอบคำถามลงในสมดุ
เสรจ็ แล้วตรวจคำตอบรว่ มกนั จากนน้ั ให้นกั เรียนอธิบายความหมายของคำท่ีเปน็ ตัวดำหนาในไดอาร่ี
โดยเดาความหมายจากบริบท ถ้านักเรยี นไม่รู้จรงิ ๆ ครูช่วยบอกความหมาย

1. Sarah feels excited because she’s going shopping in Oxford Street
and then to the cinema this afternoon.

2. Annabel can’t stand the smell of the animals.
3. Sarah’s school is very small.
4. Annabel misses the hustle and bustle of London.
5. Sarah misses the beautiful countryside and her friends from her

hometown.
6. Sarah is getting homesick.

7. ใหน้ ักเรียนอ่านคำ/วลีท่กี ำหนดให้ในหนังสือเรียน หนา้ 11 Ex.3 และหาความหมายใน dictionary
จากนนั้ ใชค้ ำ/วลีเหล่าน้แี ตง่ ประโยค เสร็จแลว้ ครสู มุ่ เรยี กนักเรียนอ่านประโยคท่แี ตง่ ใหเ้ พื่อนฟงั

Suggested Answer Key
In London people travel by tube.
My school has great facilities.
There is a lot of traffic in the city.
I get homesick when I’m away from home.
I miss my family when I am away from home.
Farmers get up early every day to milk the cows.
Animals on a farm live in a barn.
Farmers feed the chickens corn or other grains.
Annabel can’t stand the smell of the animals.
My dad takes me to meet the bus every morning.
I feel isolated in the countryside.
In the city everything is close at hand.
I like the hustle and bustle of the city.

ขนั้ ที่ 4 (ข้ันนำไปใช)้ Production
1. ใหน้ ักเรียนทำ Ex.4 ในหนงั สือเรยี น หนา้ 11 โดยเตมิ ประโยคใหส้ มบูรณ์ตามความรู้สกึ ของนักเรยี น

เสรจ็ แลว้ ครสู ุม่ เรียกนักเรียนอา่ นประโยคใหเ้ พอื่ นฟัง

Suggested Answer Key
1. I like my city because (everything is close at hand.)
2. I love my school because (it has brilliant facilities.)
3. I enjoy being in the countryside because (I love the fresh air and the peace and
quiet.)

2. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาการใช้ present continuous ในหนงั สือเรยี น หน้า 11 Ex.5 แลว้ บอกโครงสร้าง
ประโยค present continuous จากนั้นครูทบทวนวธิ ีการเตมิ -ing หลงั คำกรยิ า โดยให้นักเรียน
ชว่ ยกนั บอกหลักเกณฑ์ (Verbs ending in -e drop the -e and add -ing. Verbs ending in one
stressed vowel between two consonants double the last consonant and add -ing.
Verbs ending in -l double the -l and add -ing. Verbs ending in -ie drop the -ie and take
-y and -ing.) ครูแนะนำวา่ นักเรยี นสามารถศึกษาการใช้ present continuous เพิม่ เตมิ ใน
Grammar Reference Section ในหนา้ 119 จากนัน้ ใหน้ กั เรียนหาตัวอย่างประโยค present
continuous ในไดอารี่ หนา้ 10 มา 2 ประโยค

Suggested Answer Key
We form the present continuous with the verb to be and the main
verb with the
-ing ending.
Examples: Annabel’s mum is making breakfast. Today we are milking
the cows in the barn and feeding the chickens.
3. ใหน้ กั เรียนทำ Ex.6 ในหนงั สือเรยี น หน้า 11 โดยเตมิ ประโยคใหส้ มบรู ณด์ ้วยคำกรยิ าท่กี ำหนดให้
ซ่งึ ตอ้ งเปล่ียนให้อยู่ในรูป present continuous เสรจ็ แลว้ ครูตรวจคำตอบ

1. is making 2. are going 3. is leaving
4. is visiting 5. is milking

4. ให้นักเรียนอ่านประโยคที่ 1 ในหนงั สอื เรียน หนา้ 11 Ex.7 แลว้ ครูถามคำถามดงั น้ี
 Does the sentence describe what Ann is doing now? (No)

 Does it describe what she will do in the future? (No)
 Does it describe something she does regularly i.e. a habit or routine? (Yes)
 What tense is used? (The present simple)
ครถู ามคำถามเชน่ เดียวกันน้ีกบั ประโยคท่ี 2 และ 3 จากนัน้ ใหน้ ักเรยี นหาตวั อย่างประโยคของแต่ละ
tense ในไดอาร่ี หน้า 10

1. present simple, a habit/routine
2. present continuous, an action happening now
3. present continuous, a future arrangement
Examples:
- Everyone stays in bed late here. (habit/routine)
- It’s 8 am and Annabel’s mum is making breakfast. (an action happening
now)
- This afternoon, we’re going shopping in Oxford Street and then we’re going
to

the cinema! (future arrangements) etc

5. ใหน้ กั เรยี นอา่ นอเี มลในหนังสอื เรียน หน้า 11 Ex.8 แลว้ เปล่ียนคำกริยาในวงเล็บให้อยู่ใน tense ท่ี
ถกู ต้องระหวา่ ง present simple หรือ present continuous พรอ้ มทั้งให้เหตุผลประกอบคำตอบ
เสร็จแลว้ ครูตรวจคำตอบ
1. am studying (an action happening now)
2. am sitting (a future arrangement)
3. start (a routine)
4. am working (action happening now)
5. am meeting (a future arrangement)

6. ใหน้ ักเรียนทำ Ex.9 ในหนงั สอื เรียน หน้า 11 โดยจับคกู่ นั ถาม-ตอบเกี่ยวกบั ไดอาร่ีในหนา้ 10 ครสู ังเกต
ขณะนักเรยี นทำกจิ กรรม และกระตุ้นให้นกั เรียนใช้ present simple และ present continuous ทง้ั
คำถามและคำตอบ

Suggested Answer Key
A: Where does Sarah live?
B: On a farm in the north of Scotland.

A: What time do they get up at Annabel’s house?
B: They get up late.
A: What time does Sarah usually get up?
B: She usually gets up at 5 am.
A: What is happening at Annabel’s house when Sarah’s writing her diary
entry

on Day 2?
B: Annabel’s mum is making breakfast.
A: What is happening at Sarah’s house on Day 2?
B: They are milking the cows in the barn and feeding the chickens. etc
7. ใหน้ ักเรียนอ่านโครงรา่ งการเขียนอเี มลในหนังสอื เรยี น หน้า 11 Ex.10 แลว้ ครูถามเกี่ยวกบั กิจวตั ร
ประจำวันและแผนการสำหรบั คนื นี้ของนกั เรยี น จากนนั้ ครใู หน้ ักเรียนเขียนอีเมลตามโครงร่างที่
กำหนดให้ โดยใช้อีเมลใน Ex.8 เป็นแบบ เม่อื เขยี นเสรจ็ แล้วครูสมุ่ เรยี กนักเรยี นหลายๆ คน อ่านอเี มล
ให้เพื่อนฟัง

Suggested Answer Key
Hi Janet,
Thanks very much for your email. At the moment I’m waiting for my exam
results.I don’t have school so I wake up late everyday. I sometimes meet my
friends and go shopping. Tonight I’m going to the cinema with my friend, Ann.
Well, that’s all for now. Write again soon.
Jane

ขนั้ ที่ 5 (ขนั้ สรุป) Wrap up
1. ใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหัดในหนังสอื แบบฝกึ หัด หน้า 8 Unit 1a Exs.1-4 เป็นการบ้าน (ดูคำตอบใน

เฉลยแบบฝกึ หัด Access 3 หนา้ 8 (ภาคผนวก A))
2. ใหน้ กั เรียนทำแบบฝึกหัดในแบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access 3 หนา้ 14-19 Unit 2 (ดูคำตอบใน

เฉลยแบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access 3 หนา้ 14-19 (ภาคผนวก B)

9. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรียน Access ม. 3
2. แบบฝกึ หัด Access ม. 3
3. Access Class Audio CDs ม. 3

10. การวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์
วธิ กี ารวดั เกณฑ์การประเมินชน้ิ งาน ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมินการฟงั ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ การพูดโตต้ อบ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การฟงั แบบประเมินการเขียน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมินการอา่ นออกเสียง ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสยี ง แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ทำแบบทดสอบกอ่ น/หลังเรียนหนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1
2. ประเมนิ ผลงานเขียนอเี มลถึงเพือ่ นเพ่อื บอกเล่าเก่ียวกบั ตนเอง

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 5

วชิ า ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน รหัสวิชา อ23101 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 Lifestyles
เรือ่ ง Risky jobs เวลา 10 ชว่ั โมง
ครูผู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
โรงเรียน บา้ นแม่ยางหา้ เวลา 2 ชั่วโมง

สอนวันท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

สำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งทฟ่ี ังและอา่ นจากส่อื ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมีเหตผุ ล

ต 1.1 ม.3/2 อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสัน้ ๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหัวขอ้ เร่อื ง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคดิ เห็น

เกีย่ วกับเรือ่ งท่ีฟังและอ่านจากสอื่ ประเภทตา่ งๆ พร้อมทงั้ ให้เหตุผลและยกตวั อย่าง
ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ และความ
คิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขยี นเพ่ือขอและใหข้ อ้ มูล อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับ
เรอื่ งทีฟ่ ังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม

ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สกึ และความคิดเหน็ ของตนเองเก่ยี วกบั เรือ่ งต่างๆ กจิ กรรม
ประสบการณ์ และข่าว/เหตกุ ารณ์ พร้อมทง้ั ให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรอื่ งตา่ งๆ โดยการพดู และ
การเขยี น

ต 1.3 ม.3/1 พดู และเขยี นบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ/์ เร่อื ง/ประเด็นต่างๆ ท่ี
อยูใ่ นความสนใจของสังคม

มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภ้ าษา นำ้ เสียง และกิรยิ าทา่ ทางเหมาะกับบุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคม
และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเกีย่ วกบั ชวี ติ ความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณขี องเจ้าของภาษา
ต 2.1 ม.3/3 เข้ารว่ ม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความร้กู บั กลุ่มสาระการเรียนร้อู ่นื และเปน็
พนื้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน
ต 3.1 ม.3/1 ค้นควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจริงท่เี กย่ี วข้องกับกลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ืน่
จากแหลง่ การเรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ยการพูดและการเขยี น
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดข้ึนในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา
ชมุ ชน และสงั คม

2. สาระสำคัญ
การบอกเวลา วลีเกีย่ วกับกิจวัตรประจำวันและกิจกรรมที่ทำในเวลาวา่ ง การใช้ present simple,

pronouns, possessive adjectives, adverbs of frequency, question words การสนทนาเกี่ยวกบั กิจวตั ร
ประจำวนั และกิจกรรมที่ทำในเวลาว่าง การอ่านและเขียนจดหมายใหข้ ้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- แสดงบทบาทสมมติสมั ภาษณ์บุคคลซ่งึ ประกอบอาชพี แตกต่างกนั

4. สาระการเรียนรู้

• Vocabulary

Daily routines: get up, have breakfast, have a bath, leave for school/work,
lessons start, have lunch, play computer games, do homework

 Language Structure

Adverbs of frequency: never, sometimes, often, usually, always
Present simple: for habits & routines, permanent states
Pronouns: subject pronouns e.g. I, you, we, they, he, she, it

object pronouns e.g. me, you, us, them, him, her, it
Possessive adjectives: my, your, our, their, his, her, its
Can/Have/Do: interrogative and short answers
Question words: who, where, when, what, how

• Functional Exponents

Talking about daily routines:
A: What time do you get up?

B: At 6:30.
Asking personal questions:

A: What does your father do?
B: He is a doctor.

5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- เขยี นจดหมายถงึ เพอ่ื นใหมเ่ พื่อบอกขอ้ มูลเก่ยี วกับตนเอง

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
- ความสามารถในการส่อื สาร

7. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
- มวี นิ ยั
- มุ่งม่ันในการทำงาน

8. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ันที่ 1 (ข้ันนำ) Warm up

ใหน้ กั เรยี นดชู ่ือบท Unit 1b และภาพประกอบในหนังสือเรยี น หน้า 12 แลว้ บอกความหมายของ
คำว่า risky (dangerous) จากน้นั ครถู ามนักเรียนว่า คิดว่าเน้ือหาใน Unit 1b น่าจะเก่ียวกบั เร่ืองอะไร
(dangerous jobs)

ขน้ั ท่ี 2 (ข้นั นำเสนอ) Presentation

1. ใหน้ ักเรยี นทำ Ex.1 ในหนังสอื เรยี น หน้า 12 โดยลอกแผนภูมิใยแมงมุม (spidergram) เกีย่ วกับ Jobs

ลงในสมุด แลว้ ครอู ธบิ ายคำศพั ท์ที่นกั เรียนไมร่ ู้ เชน่ media - TV, newspaper and magazines; the

Arts - music, painting, literature, cinema, dance จากนั้นให้นักเรียนเขยี นคำศัพท์เกี่ยวกบั อาชพี

ใหไ้ ด้มากที่สุด ภายในเวลา 4 นาที เสรจ็ แลว้ เปรียบเทียบกับเพอ่ื น แลว้ ตรวจคำตอบพรอ้ มกนั บน

กระดาน จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นลอกคำศัพท์เกีย่ วกับอาชพี ทัง้ หมดลงในแผนภมู ิใยแมงมุมในสมดุ

Suggested Answer Key

Money: bank manager, stock broker, cashier

Medicine: doctor, nurse, surgeon, vet

Transport: train/bus/lorry driver, flight attendant

The Arts: musician, dancer, artist, director, sculptor, painter

Law & Order: lawyer, judge, MP

Restaurants/Hotels:manager, waiter, chef, maid

Other: fire fighter

Sports: athlete, referee, footballer

Media: TV presenter, DJ, newspaper/magazine editor

Education: headmaster, private tutor

2. ใหน้ กั เรยี นเลน่ เกมเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ 4-5 คน โดยแตล่ ะคนในกลุ่มคิดอาชพี คนละ 1 อาชีพ แล้วผลัดกนั
ออกมาทำท่าทางบอกใบ้ให้กลุ่มอน่ื ๆ ทายว่าเป็นอาชีพใด กลุ่มที่ทายได้ถกู ตอ้ งจะได้ 1 คะแนน กลุ่มทไี่ ด้
คะแนนมากท่ีสดุ จะเปน็ ผู้ชนะ
เช่น Team A S1: ทำทา่ ดึงฟันออกมา
Team B S1: Are you a sculptor?
Team A S1: No.
Team C S1: Are you a dentist?
Team A S1: Yes.

3. ใหน้ ักเรยี นทำ Ex.2 ในหนังสอื เรยี น หนา้ 12 โดยดูภาพ A-C แลว้ ครเู ปดิ CD 1/Track 10 ใหน้ ักเรียน
ฟังเสยี ง แล้วจับคู่เสยี งทไี่ ด้ยินกับภาพ จากนัน้ ครูอ่านชอื่ อาชีพ 1-3 ใหน้ ักเรยี นจับคชู่ ่ืออาชพี กบั บุคคล
ในภาพ A-C และอธิบายวา่ แต่ละอาชีพต้องทำอะไร
The first sound matches picture C.
The second sound matches picture A.
The third sound matches picture B.
C1A2 B3

Suggested Answer Key
A storm chaser photographs lightning storms and tornadoes.
A war photographer photographs battles during times of war.
A wildlife photographer photographs animals and plants in their natural
habitats.
4. ครูใหเ้ วลานักเรียนหาความหมายของคำทกี่ ำหนดให้ในหนังสือเรยี น หนา้ 12 Ex.3 จาก dictionary
แลว้ ให้นกั เรียนพูดบอกครู ครอู าจใหน้ กั เรยี นทำกิจกรรมเพม่ิ เติม โดยแต่งประโยคจากคำเหลา่ นี้ แล้วครู
สุ่มเรยี กนักเรียนอ่านประโยคใหเ้ พ่อื นฟัง

talented = มีพรสวรรค์
travel = เดินทาง
hurricanes = พายุเฮอรร์ เิ คน (พายโุ ซนรอ้ นทีม่ กี ำลังแรงมาก เกดิ ขน้ึ ใน

บรเิ วณภาคตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟกิ อ่าวเม็กซิโก)
bombs and rockets = ระเบดิ และขีปนาวุธ
patient = อดทน
dangerous = อันตราย
proud = ภูมิใจ
look for = มองหา, คน้ หา
excitement = ความตื่นเตน้
brave = กลา้ , กล้าหาญ
5. ใหน้ ักเรยี นทำ Ex.4a ในหนงั สอื เรียน หนา้ 12 จับค่กู ับเพ่ือน ช่วยกนั เติมข้อความในกรอบโดยใช้คำที่
กำหนดใน Ex.3 ครูแนะนำวา่ ถ้าขอ้ ใดทน่ี ักเรียนไม่แนใ่ จ ให้ลองเติมคำในช่องวา่ งนน้ั ทีละคำ
แลว้ อา่ นประโยคว่าไดใ้ จความหรือไม่ เมอ่ื ทำเสรจ็ แล้วครูเปดิ CD 1/Track 11 ใหน้ ักเรยี นฟังเพ่อื ตรวจ
คำตอบ

Interviewer: … you’re listening to Lifestyle Radio, 98.2 FM. Now, I’d like
to welcome to the studio today three very special people
who really don’t like desk jobs! They much prefer adventure
and excitement. Sometimes, in fact, they even look for a little
danger!First of all, we’ve got Warren Faidley, who is a real-life
storm chaser in the USA. Warren, what exactly is a storm
chaser?

Warren Faidley: Well, basically a storm chaser is someone who photographs
things like tornadoes, lightning strikes and hurricanes for a
living.

Interviewer: Wow! You must be really brave!
Warren Faidley: Well, yes, I guess so. I have to be really determined too

though to get the best pictures.
Interviewer: I can imagine! So what do you like most about your job?
Warren Faidley: Well, that’s easy! Definitely the travel and the adventure. Oh,

and the excitement of course!
Interviewer: Thanks, Warren. Now, someone else who has aexciting job is

Jonathan Alpeyrie, who is a war photographer. Just imagine –
every day he wakes up in the middle of a war zone where
bombs and rockets are going off all the time! Obviously, it’s a
very dangerous job, which requires a lot of courage. Jonathan,
why do you want to do such a dangerous job?
Jonathan Alpeyrie: Good question! Well, basically I want to show the world
the

horrors of war so that governments do more to stop them.
Interviewer: I see. OK, well finally I’d like to introduce Joel Sartore,

who is a very talented wildlife photographer working with
the National Geographic Society. Joel, your job must be really
exciting, too. Do you enjoy it?
Joel Sartore: Oh yes, I love it! Photography is the key to the whole world,
you know. You have to be very patient sometimes and, of
course, very careful when photographing wild animals, but
when I see
the pictures I’ve taken, then I feel really proud!
Interviewer: Well, in my opinion you should all feel very proud of
yourselves. You’re certainly braver than I am! Guys, thanks so
much for
coming on the show!

1. excitement 5. travel 8. talented
2. look for 6. bombs and rockets 9. patient
3. hurricanes 7. dangerous 10. proud
4. brave

จากนน้ั นักเรยี นทำ Ex.4bโดยบอกความหมายของคำท่ีเปน็ ตวั ดำหนาในข้อความ ครูแนะนำให้นักเรียน
เดาความหมายจากบริบท ถ้าไมร่ ู้จรงิ ๆ ครูใหน้ ักเรียนหาความหมายใน dictionary

ขั้นท่ี 3 ( ขั้นฝึก ) Practice
1. ใหน้ ักเรยี นทำ Ex.5 ในหนังสอื เรียน หน้า 12 อภิปรายแสดงความคิดเห็นว่า อะไรสำคญั มากกว่าในการ

เลอื กอาชพี ระหวา่ งการได้เงนิ จำนวนมาก (making a lot of money) หรือความพอใจของตนเอง
(personal satisfaction) พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลประกอบ โดยครอู ธบิ ายความหมายของคำว่า personal
satisfaction (the pleasure that you feel when you do something you want to do or get
something you want to get) หรือครอู าจใหน้ ักเรียนเขยี นประโยคแสดงความคดิ เห็นในหัวขอ้ น้ี 2-3
ประโยค ภายในเวลา 3 นาที แลว้ พูดให้เพอ่ื นขา้ งๆ ฟงั จากนัน้ ครขู ออาสาสมัครออกมาอ่านประโยคที่
ตนเองเขียนให้เพอื่ นในช้นั ฟัง

Suggested Answer Key
I think personal satisfaction is more important because if you don’t like what
you do, even if you make a lot of money, you still won’t be happy.

2. ใหน้ ักเรียนอา่ นขอ้ ความในกรอบ Learning to learn หนังสือเรียน หน้า 13 เกีย่ วกบั การจดจำ
คำคุณศัพท์ โดยการเรยี นรคู้ ำตรงขา้ มของคำคุณศัพท์ จากนนั้ ครูยกตัวอยา่ งโดยเลือกคำคุณศพั ท์จาก
Ex.3 ในหนา้ 12 มาเขยี นบนกระดาน เช่น talented, proud, patient, brave และกระตุ้นใหน้ กั เรยี น
บอกคำตรงข้าม (untalented, modest, impatient, cowardly)

3. นักเรียนอ่านคำคุณศัพท์ข้อ 1-11 ในหนงั สอื เรยี น หน้า 13 Ex.6a แล้วครอู ธบิ ายความหมายของคำที่
นกั เรยี นไมร่ ู้ และชใี้ ห้นักเรยี นเหน็ วา่ คำตรงขา้ มข้อ a-k บางคำมาจากการเติม prefix ขา้ งหน้า
คำคุณศพั ท์ จากนนั้ ให้นักเรยี นจับคู่คำคณุ ศพั ท์ขอ้ 1-11 กบั คำตรงขา้ มข้อ a-k เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียน
ฟงั CD 1/Track 12 เพอื่ ตรวจคำตอบ

1. d 3. a 5. b 7. i 9. f 11. e
2. c 4. j 6. h 8. k 10. g

4. ใหน้ กั เรียนอา่ นคำศพั ทเ์ กีย่ วกับอาชีพและประโยคตวั อย่างในหนังสอื เรียน หน้า 13 Ex.6b แล้วจับคู่
ชว่ ยกนั เลือกคำคุณศพั ท์ท่ีเหมาะสมจาก Ex.6a มาบรรยายอาชพี ท่กี ำหนดให้ จากน้นั ครสู ่มุ เรียกนักเรยี น
หลายๆ คู่ พูดบรรยายอาชพี แตล่ ะอาชีพ

Suggested Answer Key
A nursery teacher needs to be imaginative and patient.
A fire fighter needs to be brave and skillful.

A storm chaser needs to be patient and careful.
A lawyer needs to be hardworking and smart.
A waiter needs to be friendly and polite.
A doctor needs to be smart and skillful.

5. ใหน้ ักเรียนศึกษาการสรา้ งคำคุณศพั ท์จากคำนามในหนังสอื เรยี น หน้า 13 Ex.7 แล้วครูยกตวั อย่าง
เพิ่มเตมิ เชน่ sun – sunny จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัด โดยเปลย่ี นคำนามในวงเลบ็ ให้เป็น
คำคุณศพั ท์ เสร็จแลว้ ครูตรวจคำตอบและการสะกดคำของนกั เรยี น

1. funny 2. famous 3. beautiful

6. ใหน้ กั เรยี นอา่ นตวั อย่างประโยค relative clauses ในกรอบสีเหลอื ง ในหนังสือเรียน หน้า 13 Ex.8
แล้วเตมิ กฎการใช้ relative clauses ให้ถกู ตอ้ ง จากนนั้ หาตวั อย่างการใช้ relative clauses จาก
ขอ้ ความในกรอบ หนา้ 12 Ex.4b

1. who 2. where 3. which 4. whose
Examples:
Warren Faidley is a real-life storm chaser whose job is to photograph …
… adventure and excitement are the things which he likes most about this
job.
… he wakes up in the middle of a war zone where bombs and rockets are
going off …
It’s a job which requires a lot of courage.
… wildlife photographer who works with …

7. ใหน้ กั เรยี นทำ Ex.9 ในหนงั สอื เรียน หนา้ 13 โดยเตมิ ประโยคให้สมบูรณด์ ้วย relative pronouns:
who, which, where, whose ท่ีถูกตอ้ ง เสร็จแล้วตรวจคำตอบพร้อมกัน

1. who 2. where 3. who 4. whose 5. which

8. ใหน้ กั เรยี นทำ Ex.10 ในหนังสอื เรยี น หนา้ 13 เติมประโยคใหส้ มบรู ณ์ด้วยข้อมลู จริงของนักเรยี น โดยใช้
who หรอื which เสรจ็ แล้วครูสุ่มเรยี กนกั เรียนอา่ นประโยค

Suggested Answer Key 4. which, travel
2. which, relax 5. which, a swimming pool
3. who, lazy, unhelpful

ขนั้ ท่ี 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
1. ใหน้ ักเรยี นทำ Ex.11 ในหนงั สือเรียน หนา้ 13 โดยแบ่งกลุม่ กลมุ่ ละ 4 คน แสดงบทบาทสมมติ
ในการสัมภาษณ์ผู้ท่ีมีอาชีพตา่ งๆ 3 อาชีพ จาก Ex.5 (Jonathan, Joel, Warren) ครูใหน้ ักเรยี นช่วยกัน
ต้ังคำถามท่ีจะใช้ในการสมั ภาษณ์ แล้วครูเขยี นคำถามบนกระดาน เช่น What do you like best
about your job? What skills do you need to do your job? จากนน้ั ให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ แบง่
บทบาทกนั โดยเปน็ ผู้สมั ภาษณ์ 1 คน และผถู้ ูกสัมภาษณ์ 3 คน แล้วผลัดกันถาม-ตอบ ครูสังเกตการทำ
กิจกรรมรอบๆ ชัน้ เรียน และสุม่ เรยี กนกั เรยี นบางกลุ่มออกมาแสดงบทบาทสมมติหน้าชนั้ เรียน

Suggested Answer Key
A: What do you do for a living, Joel?
B: I am a wildlife photographer for the National Geographic Society.
A: Do you like your job?
B: Yes. I like it very much. Photography is the key to the whole world.
A: What skills do you need to do your job?
B: You need to be patient and careful.
A: And, what do you do for a living, Warren?
C: I’m a storm chaser. etc

ขน้ั ท่ี 5 (ข้นั สรปุ ) Wrap up
1. ใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัดในหนังสือแบบฝกึ หัด หนา้ 9 Unit 1b Exs.1-5 เปน็ การบ้าน (ดูคำตอบใน

เฉลยแบบฝกึ หัด Access 3 หนา้ 9 (ภาคผนวก A))
2. ใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัดในแบบฝกึ ไวยากรณ์ Extra Access 3 หน้า 20-22 Unit 3 (ดูคำตอบในเฉลย

แบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access 3 หน้า 20-22 (ภาคผนวก B))

9. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรียน Access ม. 3
2. แบบฝึกหัด Access ม. 3
3. Access Class Audio CDs ม. 3

10. การวัดและประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์
วิธีการวดั เกณฑ์การประเมนิ ช้ินงาน รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟงั ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมินการพดู โตต้ อบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมินการเขียน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู แบบประเมนิ การอ่านออกเสียง ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การเขยี น แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. ประเมินผลการแสดงบทบาทสมมตสิ มั ภาษณ์บุคคลซึ่งประกอบอาชพี แตกตา่ งกนั

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 6

วิชา ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน รหัสวิชา อ23101 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 Lifestyles
เรื่อง Modern living เวลา 10 ชว่ั โมง
ครูผู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
โรงเรยี น บ้านแม่ยางหา้ เวลา 2 ชั่วโมง

สอนวันท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งทฟ่ี ังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมเี หตผุ ล

ต 1.1 ม.3/2 อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสัน้ ๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหวั ขอ้ เร่อื ง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคดิ เห็น

เกีย่ วกับเรื่องท่ีฟงั และอ่านจากสอื่ ประเภทต่างๆ พร้อมทงั้ ให้เหตุผลและยกตวั อย่าง
ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ และความ
คิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ

ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มูล อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับ
เรอื่ งทีฟ่ ังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม

ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขยี นบรรยายความรู้สกึ และความคิดเหน็ ของตนเองเก่ยี วกบั เรือ่ งต่างๆ กจิ กรรม
ประสบการณ์ และข่าว/เหตกุ ารณ์ พรอ้ มทงั้ ให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรอื่ งตา่ งๆ โดยการพดู และ
การเขยี น

ต 1.3 ม.3/1 พดู และเขียนบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ/์ เร่อื ง/ประเด็นต่างๆ ท่ี
อยูใ่ นความสนใจของสังคม

มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภ้ าษา น้ำเสียง และกิรยิ าท่าทางเหมาะกับบุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคม
และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเกี่ยวกับชวี ิตความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณขี องเจ้าของภาษา
ต 2.1 ม.3/3 เข้ารว่ ม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรูก้ บั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็น
พน้ื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน
ต 3.1 ม.3/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจรงิ ที่เก่ียวขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรียนรอู้ ื่นจาก
แหล่งการเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองท่ีเกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศกึ ษา
ชมุ ชน และสังคม

2. สาระสำคัญ
การบอกเวลา วลีเก่ียวกบั กจิ วตั รประจำวันและกจิ กรรมท่ีทำในเวลาว่าง การใช้ present simple,

pronouns, possessive adjectives, adverbs of frequency, question words การสนทนาเกี่ยวกบั กิจวัตร
ประจำวนั และกจิ กรรมทท่ี ำในเวลาว่าง การอ่านและเขียนจดหมายใหข้ ้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- เขียนบทความเก่ียวกบั การดำเนนิ ชีวติ ของตนเอง

4. สาระการเรยี นรู้

• Vocabulary

Daily routines: get up, have breakfast, have a bath, leave for school/work,
lessons start, have lunch, play computer games, do homework

 Language Structure

Adverbs of frequency: never, sometimes, often, usually, always
Present simple: for habits & routines, permanent states
Pronouns: subject pronouns e.g. I, you, we, they, he, she, it

object pronouns e.g. me, you, us, them, him, her, it
Possessive adjectives: my, your, our, their, his, her, its
Can/Have/Do: interrogative and short answers
Question words: who, where, when, what, how

• Functional Exponents

Talking about daily routines:

A: What time do you get up?
B: At 6:30.
Asking personal questions:
A: What does your father do?
B: He is a doctor.

5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- เขยี นบทความเกยี่ วกบั การดำเนนิ ชวี ิตของตนเอง

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
- ความสามารถในการสอื่ สาร

7. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- มวี ินัย
- ม่งุ มนั่ ในการทำงาน

8. กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นที่ 1 (ขน้ั นำ) Warm up

ครใู หน้ กั เรียนอา่ นชอื่ บท Unit 1c ชื่อบทอ่าน และดูภาพในหนงั สอื เรียน หน้า 14 แลว้ กระตนุ้ ให้
นกั เรียนคิดว่าเนื้อหาใน Unit 1c น่าจะเก่ียวกับเร่อื งอะไร (an average teenager’s lifestyle)

ขนั้ ที่ 2 (ขน้ั นำเสนอ) Presentation
1. ใหน้ ักเรยี นทำ Ex.1 ในหนงั สอื เรียน หนา้ 14 โดยดูภาพประกอบบทอา่ น แล้วบอกว่าเห็นอะไรในภาพ (a
teenager, John, and a view of a UK city) จากน้นั ครูใหน้ กั เรยี นคิดวา่ วิถชี วี ิต (lifestyle) ของ
John เปน็ อย่างไร (is a student, has part-time job, etc) แล้วครูเปิด CD 1/Track 13 ใหน้ ักเรียนฟัง
และอา่ นบทอ่านตามเพอ่ื หาคำตอบ
2. ใหน้ ักเรยี นทำ Ex.2 ในหนังสอื เรียน หนา้ 14 โดยช่วยกันอธบิ ายความหมายของคำที่เปน็ ตวั ดำหนาใน
บทอา่ น จากนั้นให้นกั เรยี นจบั คกู่ นั ถาม-ตอบเกยี่ วกบั เน้ือเรอื่ งในบทอ่าน

Suggested Answer Key
A: How old is John?
B: 15. Where does he come from?

A: He comes from Swansea in Wales. What does he say about
Swansea?
B: It is very big, lovely and full of friendly people. He likes livingthere but he
thinks it gets a bit noisy when the tourists arrive in the summer.

What is his house like?
A: It is a small house close to the beach. What is his room like?
B: It is on the second floor and has a great view of the sea. etc

ข้นั ที่ 3 ( ขนั้ ฝึก ) Practice
1.ใหน้ ักเรียนอ่านวลที ่ใี ช้ feel ในหนังสอื เรียน หน้า 14 Ex.3 และครยู กตัวอย่างเพมิ่ เตมิ เพื่อให้

นกั เรยี นเข้าใจมากขึ้น เชน่ How do you feel today? I feel happy. My clothes feel
comfortable. I feel like eating an ice cream. etc แล้วใหน้ ักเรยี นหาวลที ี่ใช้ feel ในบทอ่าน

It makes me feel calm.

จากนน้ั ครใู ห้เวลานักเรยี นแต่งประโยคโดยใช้วลีที่ใช้ feel ใน Ex.3 แลว้ ครูสมุ่ เรยี กนักเรียนอา่ นประโยค

Suggested Answer Key My skin feels soft.
I feel happy. How do you feel about watching a DVD later?
I feel like staying in tonight.

2. ใหน้ ักเรียนศึกษาการใช้คำเช่ือมประโยค (connectors) ในกรอบ Learning to learn หนังสอื เรยี น หนา้
14 Ex.4 แลว้ หาประโยคท่ีมีคำเชอื่ มในบทอ่าน

I’m 15 years old and I come from Wales.
It is very big but it’s lovely and full of friendly people.
I really enjoy living here but it gets a bit noisy when …
… we talk about music or we make plans … etc

จากนนั้ ให้นกั เรียนใชค้ ำเช่อื มทเ่ี รียนเชือ่ มประโยคขอ้ 1-4 เสร็จแล้วครูตรวจคำตอบ

1. It’s a nice place but it is very expensive.

2. We often go to Pierre’s and we have lunch there.
3. We can go by bus or we can walk.
4. We swim there and we play beach volleyball.

ขน้ั ท่ี 4 (ขัน้ นำไปใช)้ Production
1. ใหน้ ักเรียนเขียนบทความเก่ยี วกับการดำเนนิ ชวี ติ ของตนเองเพอ่ื ลงในวารสารของโรงเรียน โดยตอบ
คำถามท่อี ยใู่ นโครงรา่ งงานเขียนในหนังสอื เรียน หนา้ 14 Ex.5 ลงในสมดุ จากน้นั นำคำตอบมาเขยี น
บทความ ครแู นะนำให้นักเรียนใช้บทอ่านเร่อื ง Being 15 เป็นต้นแบบงานเขยี น และใชว้ ลเี กย่ี วกบั
คำว่า feel และคำเชือ่ มทีเ่ รียนมาในงานเขียนของนักเรียนด้วย เสร็จแลว้ ครใู ห้นักเรียนอ่านบทความให้
เพอ่ื นฟงั

Suggested Answer Key
Being 14
I’m Maria Ceres. I’m 14 years old and I come from Spain. I live in Malaga.
It is a very big city.
My house
I live in a small house close to the beach. My room is on the top floor. I love
my room.
My family
There are six people in my family: my mum, my dad, me and my three
brothers, Jose, Mario and Carlos. My dad is a doctor and my mum stays at
home.
My friends
I have lots of friends. I go to the cinema with them. My best friend, Rosa, lives
in the same neighborhood as me. We play music together.

ขน้ั ท่ี 5 (ข้ันสรุป) Wrap up
1. นักเรียนทำแบบฝกึ หดั ในหนังสอื แบบฝกึ หดั หนา้ 10-12 Unit 1c Exs.1-8 เปน็ การบา้ น (ดคู ำตอบใน

เฉลยแบบฝกึ หัด Access 3 หนา้ 10-12 (ภาคผนวก A))
2. นกั เรียนทำแบบฝกึ หัดเสริม โดยครถู ่ายเอกสารจาก Teacher’s Resource Pack & Tests 3 หน้า 17-

18
(ภาคผนวก C) (ดคู ำตอบใน Key to Resource Activities หนา้ 147 (ภาคผนวก C)

9. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้

1. หนังสือเรียน Access ม. 3

2. แบบฝึกหัด Access ม. 3

3. Access Class Audio CDs ม. 3

10. การวัดและประเมินผล

วธิ ีการวดั เครื่องมอื เกณฑ์
ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด เกณฑก์ ารประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟงั แบบประเมินการฟัง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูด แบบประเมินการพูดโตต้ อบ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมินการเขียน

ประเมินการออกเสยี ง แบบประเมนิ การอ่านออกเสยี ง

ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. ประเมนิ ผลงานเขยี นบทความเก่ยี วกับการดำเนนิ ชีวิตของตนเอง

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 7

วิชา ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน รหัสวิชา อ23101 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 Lifestyles
เร่ือง Culture corner เวลา 10 ชว่ั โมง
ครผู สู้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรยี น บ้านแม่ยางหา้ เวลา 1 ชั่วโมง

สอนวันท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ัด

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอื่ งทฟ่ี ังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตุผล

ต 1.1 ม.3/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสัน้ ๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหัวขอ้ เร่อื ง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคดิ เห็น

เก่ยี วกับเร่อื งท่ีฟงั และอ่านจากสอื่ ประเภทต่างๆ พร้อมทงั้ ให้เหตุผลและยกตวั อย่าง
ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ และความ
คดิ เหน็ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ

ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขยี นเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มูล อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับ
เรอ่ื งทฟ่ี ังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม

ต 1.2 ม.3/5 พดู และเขยี นบรรยายความรู้สกึ และความคิดเหน็ ของตนเองเก่ยี วกบั เรือ่ งต่างๆ กจิ กรรม
ประสบการณ์ และข่าว/เหตกุ ารณ์ พรอ้ มทงั้ ให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรอื่ งตา่ งๆ โดยการพดู และ
การเขียน

ต 1.3 ม.3/1 พดู และเขยี นบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ/์ เร่อื ง/ประเด็นต่างๆ ท่ี
อย่ใู นความสนใจของสังคม

มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ต 2.1 ม.3/1 เลือกใชภ้ าษา นำ้ เสียง และกิรยิ าท่าทางเหมาะกับบุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคม
และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเก่ยี วกบั ชวี ิตความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณขี องเจ้าของภาษา
ต 2.1 ม.3/3 เขา้ ร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความร้กู บั กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ น่ื และเป็น
พื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศนข์ องตน
ต 3.1 ม.3/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงท่เี ก่ยี วข้องกับกลุม่ สาระการเรียนร้อู น่ื จาก
แหลง่ การเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกดิ ข้ึนในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา
ชมุ ชน และสงั คม

2. สาระสำคัญ
การบอกเวลา วลีเก่ียวกับกิจวัตรประจำวันและกิจกรรมทีท่ ำในเวลาวา่ ง การใช้ present simple,

pronouns, possessive adjectives, adverbs of frequency, question words การสนทนาเกย่ี วกับกจิ วตั ร
ประจำวันและกิจกรรมท่ที ำในเวลาวา่ ง การอ่านและเขียนจดหมายใหข้ ้อมูลเกย่ี วกับตนเอง

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- เขียนแนะนำสถานท่ที ่องเทีย่ ว ซึง่ สามารถพบเห็นบุคคลทใี่ ส่เครื่องแบบพเิ ศษ

4. สาระการเรยี นรู้

• Vocabulary

Daily routines: get up, have breakfast, have a bath, leave for school/work,
lessons start, have lunch, play computer games, do homework

 Language Structure

Adverbs of frequency: never, sometimes, often, usually, always
Present simple: for habits & routines, permanent states
Pronouns: subject pronouns e.g. I, you, we, they, he, she, it

object pronouns e.g. me, you, us, them, him, her, it
Possessive adjectives: my, your, our, their, his, her, its
Can/Have/Do: interrogative and short answers
Question words: who, where, when, what, how

• Functional Exponents

Talking about daily routines: