เกีย่ วกับเร่อื งที่ฟงั หรอื อา่ นอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ขอ้ 5 พูดและเขียนบรรยายความร้สู กึ และความคิดเหน็ ของตนเองเกีย่ วกับเรอื่ งตา่ งๆ
กจิ กรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมท้ังให้เหตุผลประกอบอย่าง
เหมาะสม
ต 1.3 ข้อ 1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ/์ เรือ่ ง/ประเดน็
ตา่ ง ๆ ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 2.1 ข้อ 1 เลือกใชภ้ าษา นำ้ เสยี ง และกริ ิยาท่าทาง เหมาะกับบุคคลและโอกาสตามมารยาท
สงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ขอ้ 2 อธิบายเกยี่ วกบั ชวี ิตความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของเจา้ ของภาษา
ต 3.1 ขอ้ 1 ค้นควา้ รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจรงิ ทีเ่ กย่ี วข้องกับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่ืน
จากแหลง่ เรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพดู /การเขียน
ต 4.1 ข้อ 1 ใช้ภาษาสอื่ สารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองท่ีเกดิ ขึ้นในห้องเรียน
สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม
2. สาระสำคัญ
ความร้เู กีย่ วกับการจำลองสถานการณจ์ รงิ (simulating reality) ในคอมพิวเตอร์ ชว่ ยใหเ้ กิดความรู้ ความ
เขา้ ใจเกี่ยวกบั กลมุ่ สาระการเรียนรอู้ ่ืน
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- เรยี นรูค้ ำศัพทต์ ่อไปนี้ phrases with ‘develop’; phrases with ‘popular’ and ‘famous’;
simulating reality games, computer simulations, cockpit, flight simulators, design,
develop, at risk ได้
- อา่ นเพอ่ื หาความสอดคล้องและการเชือ่ มโยงได้
- พูดเกี่ยวกับเรือ่ งทอ่ี ่านได้
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- การจบั ใจความสำคัญ เช่น ใจความสำคัญ รายละเอียดสนบั สนุน
- ประโยคและขอ้ ความที่ใชใ้ นการให้ข้อมลู เกย่ี วกบั เรอื่ งที่อา่ น
5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟงั พดู อ่านและเขยี นเก่ียวกบั ตนเอง กจิ วตั รประจำวัน กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวิตประจำวนั
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการส่อื สาร
- ความสามารถในการคิด
- การคดิ วิเคราะห์
7. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
-ใฝ่เรยี นรู้
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ ที่ 1 (ข้นั นำ) Warm up
ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกว่า ICT ยอ่ มาจากคำว่าอะไร (Information and Communications
Technology) แลว้ ครถู ามวา่ ในภาษาไทย ICT เรียกว่าอะไร (เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร) และ
มีไว้เพ่ืออะไร (to help students acquire general ICT competencies e.g. use a computer,
create websites etc)
ข้นั ที่ 2 (ขนั้ นำเสนอ) Presentation
1. นักเรยี นทำกิจกรรมในหนงั สือเรยี น หนา้ 57 Ex. 1 (to predict the content of a text) โดยดภู าพ
และช่อื ของบทอ่าน แล้วเดาว่าบทอา่ นนี้นา่ จะเกี่ยวกบั เรอ่ื งอะไร (computer simulations) จากน้นั ครู
ใหน้ ักเรยี นอ่านบทอา่ นเพื่อตรวจวา่ การคาดเดาของนกั เรยี นถกู ต้องหรอื ไม่
2. นกั เรียนทำกิจกรรมในหนงั สือเรียน หน้า 57 Ex. 2 (to read for lexico-grammatical structure)
โดยอา่ นบทอา่ นอกี คร้งั แล้วเลือกคำท่ีถูกตอ้ งเติมลงในช่องวา่ ง 1-5 เมอื่ ทำเสร็จแลว้ ให้นกั เรยี น
เปรยี บเทียบคำตอบกับเพ่ือน จากน้ันครูเปิด CD 2/Track 9 ใหน้ กั เรยี นฟังและตรวจคำตอบของตนเอง
ขั้นท่ี 3 ( ขนั้ ฝกึ ) Practice
1. ครใู หน้ ักเรยี นตอบคำถามทกี่ ำหนดใหใ้ นหนังสอื เรยี น หน้า 57 Ex. 3 (to read for specific
information) เสรจ็ แลว้ ครเู ฉลยคำตอบด้วยการสุ่มเรยี กนกั เรยี นหลายๆ คน ตอบคำถาม จากนน้ั ให้
นักเรยี นอธิบายความหมายของคำทพี่ มิ พ์ตัวหนาในบทอ่าน
2. ครอู า่ นวลีท่ใี ช้ develop ในหนังสือเรียน หนา้ 57 Ex. 4 (to present and practise new
vocabulary) แล้วอธบิ ายวา่ คำทีพ่ มิ พ์สดี ำคือวลี และคำท่ีพมิ พส์ อี น่ื ๆ คือความหมาย จากน้ันใหน้ ักเรียน
หาว่าวลีใดท่อี ยู่ในบทอ่าน เม่ือหาพบแล้วครูใหน้ กั เรียนแต่งประโยคด้วยวลที ีใ่ ช้ develop แต่ละวลี
3. ครเู ขียนคำวา่ popular และ famous บนกระดาน แลว้ อธบิ ายว่าทงั้ 2 คำน้เี ก่ียวขอ้ งกบั คำวา่ ‘well
known’ แตใ่ ช้ในบรบิ ทที่ต่างกัน จากนน้ั ครใู หน้ ักเรยี นเตมิ ประโยคในหนงั สอื เรยี น หนา้ 57 Ex. 5 (to
distinguish between popular and famous) ใหส้ มบรู ณด์ ว้ ย popular หรอื famous เม่อื ทำเสร็จ
แลว้ ครใู ห้นักเรยี นตรวจคำตอบของตนเองในพจนานกุ รมภาษาองั กฤษ
1. popular 2. famous 3. famous 4. popular
ข้ันท่ี 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
1. ครูให้นักเรียนเล่นเกม โดยครูเขียนคำเหล่าน้ีบนกระดาน
video game real life computer stimulation
at risk go online language barrier
technology gap genetic engineering artificial intelligence
global warming clone
cures turn on
แล้วแบง่ นักเรยี นเปน็ กล่มุ ใหแ้ ต่ละกลุม่ สง่ ตัวแทนออกมาแตง่ ประโยคโดยใชค้ ำที่ครเู ขียนบนกระดาน
คร้งั ละ 1 คน ถ้าแตง่ ประโยคได้ถกู ตอ้ งจะได้ 1 คะแนน กลมุ่ ท่ีไดค้ ะแนนมากท่ีสุดเปน็ ผู้ชนะ
e.g. Team A S1:Sim City is a video game.
Team B S1:We can’t test some things in real life because it’s very difficult.
ขั้นท่ี 5 (ข้ันสรุป) Wrap up
1. นกั เรียนทำกจิ กรรมในหนงั สอื เรยี น หนา้ 57 Ex. 6 (to consolidate information through speaking)
โดยครูให้นกั เรยี นอ่านบทอ่านอีกครัง้ เมื่ออ่านจบแล้วปิดหนงั สอื เรียนและจับคู่กับเพ่ือน ผลัดกนั พูดสิ่งท่ี
จำได้ 3 ส่ิง เกยี่ วกับบทอ่าน จากน้นั ครสู ุ่มเรียกนักเรยี นหลายๆ คู่ รายงานให้เพอ่ื นในช้นั ฟัง
2. นกั เรียนทำกจิ กรรมในแบบฝกึ หดั (Workbook) Unit 5f หน้า 49 Exs. 1-3 เปน็ การบ้าน
3. นกั เรียนทำกจิ กรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) Unit 5f หนา้ 49 Ex. 4 โดยครูเปิด Access Workbook
Audio CD 3 ม. 3/Track 11 ใหน้ กั เรยี นฟังเพื่อเขยี นตามคำบอก
9. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนังสือเรียน Access 3 ม. 3
2. แบบฝกึ หัด (Workbook) Access 3 ม. 3
10. การวัดและประเมินผล
วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมนิ ช้นิ งาน ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมินการฟงั ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ การพดู โตต้ อบ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ดา้ นทักษะ/สมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
โรงเรียนบา้ นแม่ยางหา้
สานักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษา เชยี งใหม่ เขต 2
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
แผนการจดั การเรยี นรู้
วิชา ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน
ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3
กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ