A: What time do you get up?
B: At 6:30.
Asking personal questions:
A: What does your father do?
B: He is a doctor.
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- เขียนแนะนำสถานทท่ี ่องเที่ยว ซงึ่ สามารถพบเห็นบคุ คลที่ใส่เครือ่ งแบบพเิ ศษ
6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
- ความสามารถในการสื่อสาร
7. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
- มวี ินัย
- มุง่ ม่นั ในการทำงาน
8. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั ที่ 1 (ขน้ั นำ) Warm up
1. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรียนฟงั ว่า Culture corner เป็นการแนะนำหัวขอ้ ท่นี า่ สนใจเกย่ี วกับวัฒนธรรมของส
หราชอาณาจักร หรือประเทศท่ีใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่
2. ครูใหน้ กั เรียนดูชือ่ เรือ่ งของบทอา่ นและภาพในหนงั สือเรียน หน้า 15 แลว้ ให้นกั เรียนเดาว่าเรือ่ งทีจ่ ะได้
อ่านน่าจะเกย่ี วกบั อะไร (a castle in England and the men that guard it)
ขนั้ ท่ี 2 (ข้นั นำเสนอ) Presentation
1. ครเู ขียนคำถามในหนงั สอื เรียน หน้า 15 Ex.1a บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนลองเดาคำตอบ ต่อมาครเู ปดิ
CD 1/Track 14 ให้นกั เรียนฟังและอา่ นบทอา่ นเรอ่ื ง The Yeoman Warders เพอื่ หาคำตอบของ
คำถามบนกระดาน
The men in the picture are Yeoman Warders. They work at the Tower
of London. The bird is a raven.
จากนน้ั นักเรยี นทำ Ex.1b โดยหาความหมายของคำทขี่ ีดเส้นใต้ในบทอา่ นจาก dictionary แลว้ ครู
สมุ่ เรียกนกั เรยี นบอกความหมาย
2. นกั เรียนอ่านประโยค 1-4 ในหนงั สอื เรียน หนา้ 15 Ex.2 แลว้ กลบั ไปอา่ นเรือ่ ง The Yeoman
Warders อกี ครั้ง เพอื่ ตอบคำถามว่าประโยค 1-4 ประโยคใดถูก(T) ประโยคใดผิด (F) หรอื ไม่ได้บอก
ขอ้ มูลไวใ้ นบทอา่ น (DS) เสรจ็ แล้วเฉลยคำตอบร่วมกนั
1. T 2. DS 3. F 4. DS
ขั้นที่ 3 ( ข้นั ฝึก ) Practice
1.นกั เรียนทำ Ex.3 ในหนงั สือเรียน หน้า 15 โดยปิดหนังสือเรยี น แลว้ จบั คู่ทำกิจกรรมกบั เพ่อื น โดย
สมมตวิ า่ ตนเองเปน็ Beefeater แล้วผลัดกนั พูดนำเสนอขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเองว่าเปน็ ใคร ทำงานทีไ่ หน งานทที่ ำ
คืออะไร และสวมใส่เสอื้ ผ้าอย่างไรขณะทำงาน โดยครูสงั เกตการทำกิจกรรม และสุม่ เรยี กนกั เรยี นบางคน
ออกมาพูดหน้าชนั้ เรียน
2.ใหน้ กั เรียนอา่ นขอ้ ความในหนงั สอื เรียน หน้า 15 Ex.4 แล้วช่วยกันบอกวา่ ข้อมลู ที่ขาดหายไปในแต่ละ
ช่องน่าจะเปน็ ขอ้ มลู เก่ยี วกับอะไร (1 - a person’s name, 2 - a name of a part of the Tower or a
noun, 3 - something you can buy, 4 - a time, 5 - a price) จากนนั้ ครเู ปดิ CD 1/Track 15 ใหน้ กั เรียน
ฟงั และเตมิ ขอ้ มูลทข่ี าดหายไป เสรจ็ แลว้ เฉลยคำตอบร่วมกัน
… and now for the next part in our series on Britain’s best tourist
attractions. This week we’re looking at the Tower of London, one of London’s
most popular attractions and one of the most famous buildings in the world! So,
let’s begin with a little history! For those of you who don’t know, the first
buildings of the Tower of London were built in 1078 by the Norman king called
William the Conqueror.
On a visit to the Tower, we recommend that you take one of the free
tours that the Yeomen Warders who work there give. They are the best people
to tell you all about the fascinating history of the tower! Also, don’t miss seeing
the famous Crown Jewels!
Don’t forget to pay a visit to one of the five tower shops before you
leave where you can buy all sorts of souvenirs such as guide books, jewellery
and toys.
The tower is open from 9 am to 6 pm from Tuesday to Saturday and
from 10 am to 6 pm on Sundays and Mondays. You can avoid long queues for
tickets by booking online on the Tower of London’s website. Tickets cost £16.00
for adults and £9.50 for children.
In our opinion, a visit to the Tower of London is a great day out that
the whole family will enjoy! So, that’s all for today. Next week we’ll be telling
you all about …
1. William 2. history 3. toys 4. 6 pm 5. £16.00
ขนั้ ท่ี 4 (ขั้นนำไปใช)้ Production
1. นักเรยี นทำ Ex.5 ในหนงั สอื เรยี น หน้า 15 โดยแบ่งกลมุ่ กลุม่ ละ 4-5 คน เพอื่ เขียนแนะนำสถานท่ี
ท่องเทย่ี วทมี่ ชี ือ่ เสียงในประเทศ ซงึ่ สามารถพบเห็นบุคคลท่ใี ส่เครอื่ งแบบพิเศษ แต่เนือ่ งจากในประเทศ
ไทยไมม่ ีสถานท่ที ี่มีลกั ษณะดังกล่าว ครจู งึ ใหน้ ักเรียนเขยี นแนะนำเกยี่ วกบั the Papal Palace ใน
ประเทศอติ าลี โดยกำหนดประเดน็ ในการเขียน ดังนี้ where is it/its history, who you can see
there/their job/their uniform ครูแนะนำให้นกั เรียนคน้ ควา้ รวบรวมข้อมลู จากอินเทอรเ์ น็ต
สารานกุ รม แผ่นพับ โฆษณาการทอ่ งเที่ยว พรอ้ มหาภาพประกอบ ครูมอบหมายให้นกั เรียนทำเปน็
การบ้าน แลว้ นำเสนอผลงานในชว่ั โมงถัดไป
Suggested Answer Key
A trip to Italy is never complete without a visit to the Vatican City and
the Papal Palace which is guarded by the Papal Swiss Guard. The Papal
Palace, also called the Apostolic Palace, is the official home of the Pope
in Vatican City. Some of its over 1,000 rooms are open to the public
including Raphael’s Rooms. It also includes the Papal Apartment, offices
and chapels, in particular, the Sistine Chapel with its beautiful ceiling
frescoes painted by Michaelangelo. The Swiss Guard is responsible for
guarding the entrances to the Apostolic Palace. The guards must be
Swiss, catholic young men between 19 and 30 who are of good character
and at least 1.74 metres tall. They are a Guard of Honour and also keep
order every time the Pope appears in public.The official dress is a distinct
blue, red, orange and yellow uniform with a metal helmet and they carry
a spear.
กจิ กรรมเพ่มิ เตมิ ครใู หน้ ักเรยี นชว่ ยกันบอกสถานทที่ ่องเทยี่ วทางประวตั ิศาสตรข์ องประเทศไทย
จากน้ันครถู ามนักเรยี นวา่ รู้สกึ อยา่ งไรเมอ่ื ไปเท่ยี วสถานทเ่ี หลา่ นี้ เชน่ ภาคภมู ิใจในบรรพบุรษุ ของไทย
หรือหวงแหนสมบตั ิของชาติ จากน้นั ครใู ห้นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายวา่ ควรปฏิบัตติ นอยา่ งไรเม่ือไปเทีย่ ว
สถานทเ่ี หลา่ นี้เพือ่ ช่วยอนรุ ักษ์มรดกของชาติ หลังการอภปิ รายครูบอกนักเรยี นว่าการทน่ี กั เรียนหวง
แหนและมสี ่วนร่วมในการอนุรกั ษม์ รดกของชาติ แสดงว่านกั เรียนเป็นผทู้ ีม่ คี วามรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ข้ันท่ี 5 (ขนั้ สรปุ ) Wrap up
1. นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั ในหนังสอื แบบฝึกหัด หน้า 13 Unit 1d Exs.1-3 เป็นการบา้ น (ดคู ำตอบใน
เฉลยแบบฝึกหดั Access 3 หน้า 13 (ภาคผนวก A))
2. นกั เรียนทำแบบฝึกหัดในแบบฝกึ ไวยากรณ์ Extra Access 3 หน้า 23-24 Exploring Grammar
Units 1-3 (ดคู ำตอบในเฉลยแบบฝกึ ไวยากรณ์ Extra Access 3 หน้า 23-24 (ภาคผนวก B))
3. นักเรยี นเล่นเกม โดยครูถ่ายเอกสารจาก Teacher’s Resource Pack & Tests 3 หนา้ 20 Game
(ภาคผนวก C)
9. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สอื เรียน Access ม. 3
2. แบบฝกึ หัด Access ม. 3
3. Access Class Audio CDs ม. 3
10. การวัดและประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
วธิ ีการวดั เกณฑ์การประเมินชิน้ งาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินการฟัง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมินการพูดโต้ตอบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟัง แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การเขยี น แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ประเมินผลงานเขียนแนะนำสถานท่ีท่องเทยี่ ว ซึง่ สามารถพบเห็นบุคคลท่ีใสเ่ ครอื่ งแบบพิเศษ
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 8
วิชา ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน รหัสวิชา อ23101 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 Lifestyles
เร่ือง Single,please เวลา 10 ชว่ั โมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรยี น บา้ นแม่ยางห้า เวลา 2 ชั่วโมง
สอนวันท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งทฟ่ี ังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมีเหตุผล
ต 1.1 ม.3/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสัน้ ๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบหุ ัวข้อเร่อื ง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคดิ เห็น
เกีย่ วกับเรอื่ งท่ฟี งั และอ่านจากสอื่ ประเภทต่างๆ พร้อมทงั้ ให้เหตุผลและยกตวั อย่าง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ และความ
คิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มูล อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับ
เร่ืองทีฟ่ ังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สกึ และความคิดเหน็ ของตนเองเก่ยี วกบั เรือ่ งต่างๆ กจิ กรรม
ประสบการณ์ และข่าว/เหตกุ ารณ์ พรอ้ มทงั้ ให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรอื่ งตา่ งๆ โดยการพดู และ
การเขยี น
ต 1.3 ม.3/1 พดู และเขียนบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ/์ เร่อื ง/ประเด็นต่างๆ ท่ี
อยใู่ นความสนใจของสังคม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภ้ าษา นำ้ เสียง และกิรยิ าท่าทางเหมาะกับบุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคม
และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเก่ียวกับชวี ิตความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณขี องเจ้าของภาษา
ต 2.1 ม.3/3 เขา้ รว่ ม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเปน็
พืน้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
ต 3.1 ม.3/1 ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจริงทเ่ี ก่ยี วข้องกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อื่นจาก
แหล่งการเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขยี น
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกดิ ขึ้นในห้องเรยี น สถานศึกษา
ชุมชน และสังคม
2. สาระสำคัญ
การบอกเวลา วลีเก่ยี วกับกจิ วตั รประจำวนั และกจิ กรรมทท่ี ำในเวลาวา่ ง การใช้ present simple,
pronouns, possessive adjectives, adverbs of frequency, question words การสนทนาเก่ียวกบั กจิ วตั ร
ประจำวนั และกิจกรรมท่ที ำในเวลาว่าง การอ่านและเขียนจดหมายให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- แสดงบทบาทสมมติในการซ้อื ต๋วั รถไฟฟ้าใต้ดิน
4. สาระการเรยี นรู้
• Vocabulary
Daily routines: get up, have breakfast, have a bath, leave for school/work,
lessons start, have lunch, play computer games, do homework
Language Structure
Adverbs of frequency: never, sometimes, often, usually, always
Present simple: for habits & routines, permanent states
Pronouns: subject pronouns e.g. I, you, we, they, he, she, it
object pronouns e.g. me, you, us, them, him, her, it
Possessive adjectives: my, your, our, their, his, her, its
Can/Have/Do: interrogative and short answers
Question words: who, where, when, what, how
• Functional Exponents
Talking about daily routines:
A: What time do you get up?
B: At 6:30.
Asking personal questions:
A: What does your father do?
B: He is a doctor.
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- แสดงบทบาทสมมติในการซ้อื ตั๋วรถไฟฟา้ ใต้ดิน
6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
- ความสามารถในการสือ่ สาร
7. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
- มวี ินัย
- มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
8. กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั ท่ี 1 (ข้นั นำ) Warm up
1. ครูนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการถามนกั เรียนแตล่ ะคนว่าเดนิ ทางมาโรงเรยี นโดยวธิ ีใด How do you get to
school? (By bus, car, taxi, motorcycle, boat, on foot, etc)
2. ใหน้ กั เรียนดแู ผนที่ในหนังสือเรยี น หน้า 16 แลว้ เดาว่าในบทน้ีนักเรยี นนา่ จะได้เรียนเกี่ยวกับเร่ืองอะไร
(buying a ticket for the London underground)
ขนั้ ที่ 2 (ข้นั นำเสนอ) Presentation
1. นักเรียนดวู ลเี กี่ยวกบั วิธกี ารเดนิ ทางในหนงั สือเรยี น หน้า 16 Ex.1 แลว้ ช่วยกันบอกความหมาย จากนน้ั
ครูให้นกั เรยี นจับคู่ ผลดั กนั ถาม-ตอบวธิ กี ารเดินทางมาโรงเรียนของเพื่อน
2. ครเู ปดิ CD 1/Track 16 ให้นกั เรยี นฟงั ประโยคในหนังสอื เรียน หนา้ 16 Ex.2a แลว้ ฝึกออกเสยี งตาม
จากน้นั ครูอธิบายความหมายของคำทน่ี ักเรยี นไมร่ ู้ เช่น Barbican - a place in London และให้
นักเรยี นแปลประโยคเหลา่ นี้เปน็ ภาษาไทย โดยครูยำ้ ว่านักเรียนควรแปลโดยใช้สำนวนภาษาทน่ี กั เรียนใช้
จรงิ ไม่ควรแปลคำต่อคำ
3. นกั เรียนทำ Ex.2b ในหนังสอื เรียน หนา้ 16 โดยระบวุ ่าแต่ละประโยคใน Ex.2a ใครเปน็ ผู้พูดระหว่าง
พนกั งานขายตว๋ั หรอื ผูโ้ ดยสาร แล้วครูเปดิ CD 1/Track 17 ใหน้ กั เรยี นฟงั และดบู ทสนทนาตาม
ไปดว้ ยเพื่อตรวจคำตอบ
A ticket seller would say: Next, please. Where to? Single or return?
That’s £6.00. You’re welcome.
A passenger would say: Return to Barbican, please.
Which line do I take, please?
จากน้ันครูถามนกั เรียนว่า ผู้โดยสารแตล่ ะคนตอ้ งการไปที่ไหน ด้วยคำถาม Where does each
person want to go?
A St James’s Park B Barbican
ข้นั ที่ 3 ( ขั้นฝึก ) Practice
1. นักเรียนอา่ นบทสนทนาในหนงั สอื เรยี น หนา้ 16 Ex.2b อีกครงั้ เพอื่ หาประโยคที่มีความหมายเหมือนกบั
ประโยค 1-5 ใน Ex.3 จากนัน้ ครูตรวจคำตอบ
1. Next, please. 2. Where to? 3. That’s £6.00.
4. Thanks a lot. 5. You’re welcome.
2.นกั เรยี นฟงั Access Workbook Audio CD/Track 2 แล้วทำแบบฝึกหดั ในหนังสอื แบบฝึกหัด หน้า 14
Unit 1e Ex.3 เสร็จแลว้ ตรวจคำตอบพร้อมกนั (ดูคำตอบในเฉลยแบบฝกึ หัด Access 3 หนา้ 14 (ภาคผนวก
A))
Ts: Next, please.
P: Hello.
Ts: Yes sir, how can I help you?
P: I’d like two, no, I beg your pardon, make that three tickets, please.
Ts: Certainly, single or return?
P: Return, please.
Ts: Where to?
P: I’d like to go to Euston Square.
Ts: Okay, that’s £18.00.
P: Here you are. Which line do I take?
Ts: You should get on the Jubilee Line, then take the Metropolitan Line.
P: Thanks a lot.
Ts: You’re welcome, sir.
3.ครใู ห้นักเรียนลอกตารางในหนังสอื เรียน หนา้ 16 Ex.5 ลงในสมุด แลว้ เปดิ CD 1/Track 18 ให้นักเรยี น
ฟงั เพอ่ื ทำเครอ่ื งหมาย ลงในชอ่ งสญั ลักษณ์เสียงตามท่ีได้ยนิ ในการออกเสียงคำแต่ละคำ แล้วครเู ปิด CD
อีกคร้งั โดยหยดุ ทลี ะคำ เพือ่ ให้นักเรยี นฝกึ ออกเสียงตาม จากน้ันครูตรวจคำตอบ และใหน้ กั เรยี น
ยกตัวอย่างคำทีอ่ อกเสียง /I/, /i:/ เพ่ิมเติม
/I/ /i:/ /I/ /i:/
Pete ✓ beat ✓
pit ✓ bit ✓
peal ✓ slip ✓
pill ✓ sleep ✓
Suggested Answer Key
/I/: hill, pin, kid
/i:/: heat, meet, meat
ขนั้ ท่ี 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
1. นกั เรียนดแู ผนทีก่ ารเดนิ รถของรถไฟฟ้าใต้ดินใน London ในหนังสอื เรียน หนา้ 16 Ex.4 แล้วสมมติ
สถานการณ์วา่ ต้องการเดนิ ทางจาก Liverpool Street ไป Westminster ให้นกั เรียนจับคู่กันเพื่อแสดง
บทบาทสมมติ โดยคนหนงึ่ เป็นพนักงานขายตว๋ั และอกี คนหนง่ึ เป็นผโู้ ดยสาร ใหน้ ักเรียนใช้
บทสนทนาใน Ex.2b เป็นแบบ ครูชว่ ยเหลือนักเรียนในการหาขอ้ มลู ทเ่ี ก่ยี วข้องในแผนท่ี เช่น
Liverpool Street, Westminster, name of line, cost of tickets และเขียน diagram แสดง
ขัน้ ตอนการพูดบทสนทนาบนกระดานใหน้ กั เรยี นดู
ครูเดินสังเกตการทำกิจกรรมรอบๆ ชน้ั เรยี น จากนนั้ สุ่มเรยี กนกั เรียนบางคอู่ อกมาแสดง
บทบาท-สมมตหิ น้าชัน้ เรยี น
Suggested Answer Key
A: Yes, please?
B: Two return tickets to Westminster, please.
A: That’s £6.00.
B: Here you are. Which line do I take, please?
A: Take the Circle Line.
B: Thanks a lot.
A: You’re welcome.
ข้นั ที่ 5 (ข้ันสรปุ ) Wrap up
1.นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ในหนงั สอื แบบฝึกหัด หน้า 14 Unit 1e Exs.1-2, 4 เป็นการบ้าน (ดูคำตอบใน
เฉลยแบบฝกึ หดั Access 3 หนา้ 14 (ภาคผนวก A))
2.นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดในแบบฝกึ ไวยากรณ์ Extra Access 3 หน้า 25 Revision Units 1-3 (ดคู ำตอบ
ในเฉลยแบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access 3 หนา้ 25 (ภาคผนวก B)
9. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรียน Access ม. 3
2. แบบฝึกหัด Access ม. 3
3. Access Class Audio CDs ม. 3
10. การวัดและประเมนิ ผล
วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด เกณฑก์ ารประเมนิ ชนิ้ งาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟงั แบบประเมนิ การฟัง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ การพดู โต้ตอบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมนิ การเขียน
ประเมินการออกเสียง แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ประเมนิ ผลการแสดงบทบาทสมมติในการซอ้ื ตว๋ั รถไฟฟ้าใต้ดนิ
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 9
วิชา ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน รหัสวิชา อ23101 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 Lifestyles
เรอ่ื ง Culture corner เวลา 10 ชว่ั โมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรียน บ้านแม่ยางห้า เวลา 2 ชั่วโมง
สอนวันท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่ืองทีฟ่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมีเหตผุ ล
ต 1.1 ม.3/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็น
เก่ียวกบั เรื่องทฟี่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สึกและความ
ต 1.2 ม.3/4 คดิ เห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ
ต 1.2 ม.3/5 พดู และเขยี นเพอื่ ขอและใหข้ อ้ มลู อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั
เร่ืองทฟ่ี ังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
พูดและเขยี นบรรยายความรู้สึก และความคดิ เห็นของตนเองเก่ียวกบั เรื่องตา่ งๆ กิจกรรม
ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตุการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองตา่ งๆ โดยการพูดและ
การเขยี น
ต 1.3 ม.3/1 พดู และเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ/์ เร่ือง/ประเด็นตา่ งๆ ที่
อยใู่ นความสนใจของสังคม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใชไ้ ด้
อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาสตามมารยาทสังคม
และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเก่ียวกบั ชีวติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม.3/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่ และ
เป็นพ้ืนฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั นข์ องตน
ต 3.1 ม.3/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจริงที่เกี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่
จากแหล่งการเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูดและการเขียน
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ งๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ าลองที่เกิดข้นึ ในห้องเรียน สถานศึกษา
ชุมชน และสงั คม
2. สาระสำคญั
การบอกเวลา วลีเกย่ี วกับกจิ วัตรประจำวันและกจิ กรรมที่ทำในเวลาว่าง การใช้ present simple,
pronouns, possessive adjectives, adverbs of frequency, question words การสนทนาเกีย่ วกับกจิ วตั ร
ประจำวันและกจิ กรรมที่ทำในเวลาว่าง การอ่านและเขียนจดหมายใหข้ ้อมลู เก่ยี วกับตนเอง
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
- ทำแผ่นพับนำเสนอข้อมูลเก่ยี วกับสภาพการดำเนนิ ชวี ติ ในเมืองนวิ เดลี
4. สาระการเรียนรู้
• Vocabulary
Daily routines: get up, have breakfast, have a bath, leave for school/work,
lessons start, have lunch, play computer games, do homework
Language Structure
Adverbs of frequency: never, sometimes, often, usually, always
Present simple: for habits & routines, permanent states
Pronouns: subject pronouns e.g. I, you, we, they, he, she, it
object pronouns e.g. me, you, us, them, him, her, it
Possessive adjectives: my, your, our, their, his, her, its
Can/Have/Do: interrogative and short answers
Question words: who, where, when, what, how
• Functional Exponents
Talking about daily routines:
A: What time do you get up?
B: At 6:30.
Asking personal questions:
A: What does your father do?
B: He is a doctor.
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ทำแผ่นพบั นำเสนอขอ้ มูลเก่ียวกับสภาพการดำเนินชวี ิตในเมืองนวิ เดลี
6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
- ความสามารถในการสือ่ สาร
7. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
- มวี นิ ยั
- มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันท่ี 1 (ข้ันนำ) Warm up
1. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน หนา้ 17 แลว้ อธิบายว่า Curricular Cut เป็นการแนะนาวิชาท่ีสอนใน
โรงเรียนในสหราชอาณาจกั ร ซ่ึงเป็นส่วนหน่ึงของหลกั สูตรแห่งชาติ เช่น ภมู ศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์
2. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนดว้ ยการให้นกั เรียนดชู ื่อเร่ืองของบทอา่ นและภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 17 แลว้
บอกครูว่า Unit 1f น่าจะเรียนเกี่ยวกบั เรื่องอะไร (information about the people, transport and food in
Mexico City)
ขนั้ ท่ี 2 (ขน้ั นำเสนอ) Presentation
1. นกั เรียนทา Ex.1 ในหนงั สือเรียน หนา้ 17 โดยครูเปิ ด CD 1/Track 19 ให้นกั เรียนฟังเสียงและดู
ภาพประกอบบทอ่าน แลว้ จินตนาการว่านกั เรียนอยทู่ ส่ี ถานทใี่ นภาพ นกั เรียนคดิ ว่าสถานท่นี ้นั มี
ลกั ษณะอยา่ งไร จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั พดู แสดงความคดิ เห็นท่ีมตี อ่ Mexico City จากภาพทเ่ี ห็น
และเสียงที่ไดฟ้ ัง
2. นกั เรียนทา Ex.2a ในหนงั สือเรียน หนา้ 17 โดยช่วยกนั คิดคาถาม 3 คาถาม ทีอ่ ยากรู้เกี่ยวกบั Mexico
City เช่น How many people live there? What has it got? How many people visit it every year?
จากน้นั ใหน้ กั เรียนอา่ นบทอา่ นเพ่อื หาว่ามคี าตอบของคาถามท่ีคิดไวห้ รือไม่
3. นกั เรียนทา Ex.2b ในหนงั สือเรียน หนา้ 17 โดยอา่ นบทอ่านอีกคร้งั แลว้ จบั คู่หวั ขอ้ A-D กบั
ยอ่ หนา้ 1-4 ในบทอา่ น เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD 1/Track 20 ให้นกั เรียนฟังเพื่อตรวจคาตอบ จากน้นั
นกั เรียนและครูช่วยกนั อธิบายความหมายของคาที่เป็นตวั ดาหนาในบทอ่าน
1 - C (tourism) 2 - A (transport)
3 - D (leisure) 4 - B (food)
4. ขั้นท่ี 3 ( ข้นั ฝกึ ) Practice
นกั เรียนเล่นเกมเป็นกลุม่ โดยครูเขียนคาเหล่าน้ีบนกระดาน city, buildings, park, museum, nightlife,
heavy traffic, metro, network, busy street, markets, sports, friendly people, local food, serve แลว้ ให้
แตล่ ะกลมุ่ ผลดั กนั แตง่ ประโยคจากคาเหลา่ น้ี โดยส่งตวั แทนคร้ังละ 1 คน ถา้ แต่งประโยคถกู ตอ้ งจะได้
1 คะแนน กลุ่มทไ่ี ดค้ ะแนนมากท่ีสุดจะเป็นผชู้ นะ เช่น
Team A S1: Milan is a city in Italy.
Team B S1: There are a lot of beautiful buildings in my city.
ขน้ั ที่ 4 (ขนั้ นำไปใช)้ Production
1. นกั เรียนทา Ex.5 ในหนงั สือเรียน หนา้ 15 โดยแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 4-5 คน เพ่อื เขียนแนะนาสถานท่ี
ทอ่ งเท่ียวทีม่ ีชื่อเสียงในประเทศ ซ่ึงสามารถพบเห็นบุคคลที่ใส่เครื่องแบบพเิ ศษ แตเ่ นื่องจากใน
ประเทศไทยไม่มีสถานท่ที มี่ ลี กั ษณะดงั กลา่ ว ครูจึงให้นกั เรียนเขียนแนะนาเกี่ยวกบั the Papal Palace
ในประเทศอติ าลี โดยกาหนดประเดน็ ในการเขียน ดงั น้ี where is it/its history, who you can see
there/their job/their uniform ครูแนะนาให้นกั เรียนคน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มูลจากอินเทอร์เนต็ สารานุกรม
แผน่ พบั โฆษณาการทอ่ งเทย่ี ว พร้อมหาภาพประกอบ ครูมอบหมายให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น แลว้
นาเสนอผลงานในชวั่ โมงถดั ไป
Suggested Answer Key
A trip to Italy is never complete without a visit to the Vatican City and the Papal
Palace which is guarded by the Papal Swiss Guard.
The Papal Palace, also called the Apostolic Palace, is the official home of the Pope
in Vatican City. Some of its over 1,000 rooms are open to the public including
Raphael’s Rooms. It also includes the Papal Apartment, offices and chapels, in
particular, the Sistine Chapel with its beautiful ceiling frescoes painted by
Michaelangelo.
The Swiss Guard is responsible for guarding the entrances to the Apostolic Palace.
The guards must be Swiss, catholic young men between 19 and 30 who are of good
character and at least 1.74 metres tall. They are a Guard of Honour and also keep
order every time the Pope appears in public.
The official dress is a distinct blue, red, orange and yellow uniform with a metal
helmet and they carry a spear.
กจิ กรรมเพิ่มเติม ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกสถานทีท่ อ่ งเทย่ี วทางประวตั ิศาสตร์ของประเทศไทย
จากน้นั ครูถามนกั เรียนว่ารู้สึกอยา่ งไรเมื่อไปเทย่ี วสถานท่ีเหลา่ น้ี เช่น ภาคภูมใิ จในบรรพบุรุษของไทย
หรือหวงแหนสมบตั ขิ องชาติ จากน้นั ครูให้นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายว่าควรปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไรเม่ือไป
เท่ยี วสถานทเี่ หล่าน้ีเพ่อื ช่วยอนุรกั ษม์ รดกของชาติ หลงั การอภปิ รายครูบอกนกั เรียนว่าการทน่ี กั เรียน
หวงแหนและมสี ่วนร่วมในการอนุรักษม์ รดกของชาติ แสดงวา่ นกั เรียนเป็นผทู้ ี่มคี วามรักชาติ ศาสน์
กษตั ริย์
1. นกั เรียนทา Ex.3 ในหนงั สือเรียน หนา้ 17 โดยแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 4-5 คน คน้ ควา้ ขอ้ มลู ทางอนิ เทอร์เน็ต
เกี่ยวกบั สภาพการดาเนินชีวติ ในเมืองนิวเดลี (New Delhi) ประเทศอนิ เดีย จากเวบ็ ไซตท์ กี่ าหนดให้
ในประเด็นต่างๆ ดงั น้ี Continent, Population, Language, Currency, Tourism, Transport, Leisure,
Food พร้อมท้งั หาภาพประกอบ แลว้ นาเสนอขอ้ มลู ในรูปแบบของแผน่ พบั โดยใชบ้ ทอา่ นเร่ือง
Mexico City เป็นแบบ
Suggested Answer Key
New Delhi
Capital City of India
CONTINENT: Asia
POPULATION: 24,953,311
LANGUAGE: Hindi and English
CURRENCY: Indian Rupee
Tourism
New Delhi is the second richest city in the world for birds. It has over 450 species.
It has also got beautiful old buildings, lots of temples, museums and big parks.
It’s a great place to visit.
Transport
New Delhi is quite easy to get around because people can use buses, auto rickshaws
and taxis. The city’s fantastic metro network has three lines and 59 stations.
Leisure
In their free time, the people in New Delhi shop at colourful street markets. They
also enjoy going to the cinema and the theatre. They have lots of fairs and festivals.
Cricket and football are the most popular sports.
Food
The people of New Delhi are very friendly. The food is excellent, too! The
restaurants serve delicious local food like piping hot Punjabi makki ki rotis (flat
bread prepared from corn) and sarson ka saag (prepared from fresh, green mustard
leaves).
2. ข้นั ท่ี 5 (ขั้นสรุป) Wrap up
นกั เรียนทาแบบฝึกหัดในหนงั สือแบบฝึกหัด หน้า 15 Unit 1f Exs.1-2 โดยใน Ex.2 ใหน้ กั เรียนฟัง
Access Workbook Audio CD/Track 3 เพื่อเขยี นประโยคตามท่ีไดย้ ินจาก CD (ดคู าตอบในเฉลย
แบบฝึ กหัด Access 3 หนา้ 15 (ภาคผนวก A))
Peter lives on a farm in the country. He usually gets up at 6 am each day and
feeds the chickens then he goes to school. In the afternoon he does his
homework and then he helps on the farm. He really likes living in the
countryside. He likes the fresh air and the quiet.
3. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั เสริม โดยครูถ่ายเอกสารจาก Teacher’s Resource Pack & Tests 3
หนา้ 19 (ภาคผนวก C) (ดูคาตอบใน Key to Resource Activities หนา้ 147 (ภาคผนวก C))
4. นกั เรียนทาแบบประเมนิ ตนเอง Self Check ในหนงั สือเรียน หนา้ 18 (ดูคาตอบในคู่มือครู หนา้ 309)
9. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียน Access ม. 3
2. แบบฝกึ หัด Access ม. 3
3. Access Class Audio CDs ม. 3
10. การวัดและประเมนิ ผล
วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมือ เกณฑ์
ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด เกณฑก์ ารประเมินชิน้ งาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมินการฟัง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ การพดู โต้ตอบ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมนิ การเขียน
ประเมินการออกเสยี ง แบบประเมนิ การอ่านออกเสียง
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ประเมนิ ผลงานแผ่นพบั นาเสนอขอ้ มูลเกี่ยวกบั สภาพการดาเนินชีวติ ในเมอื งนิวเดลี
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 10
วชิ า ภาษาอังกฤษพื้นฐาน รหัสวิชา อ23101 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 Narrow escapes! เวลา 11 ชัว่ โมง
เร่อื ง Experiences เวลา 2 ช่ัวโมง
ครผู ูส้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า สอนวนั ท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
โรงเรียน บ้านแม่ยางห้า สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรือ่ งท่ีฟังและอา่ นจากส่อื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ต 1.1 ม.3/2 อ่านออกเสียงข้อความ ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้ันๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ม.3/3 ระบแุ ละเขียนสอ่ื ทไ่ี ม่ใช่ความเรยี งรูปแบบต่างๆ ให้สมั พันธก์ ับประโยค และขอ้ ความที่ฟงั
หรอื อา่ น
ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหวั ข้อเรอื่ ง ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เกยี่ วกบั เร่อื งท่ีฟงั และอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลขา่ วสาร แสดงความร้สู ึกและความ
คิดเห็นอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโตต้ อบข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ข่าว เรือ่ งท่ี
ต 1.2 ม.3/4 อยู่ในความสนใจของสังคม และสอื่ สารอย่างตอ่ เนื่องและเหมาะสม
ต 1.2 ม.3/5 พดู และเขียนเพ่อื ขอและให้ขอ้ มูล อธบิ าย เปรียบเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั
เรื่องที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม
พูดและเขยี นบรรยายความรู้สึก และความคิดเหน็ ของตนเองเกีย่ วกับเรือ่ งตา่ งๆ กจิ กรรม
ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์ พร้อมทงั้ ให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่างๆ โดยการพูดและ
การเขยี น
ต 1.3 ม.3/1 พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรอ่ื ง/ประเด็นตา่ งๆ ท่ี
อยู่ในความสนใจของสังคม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภ้ าษา นำ้ เสยี ง และกริ ิยาทา่ ทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาสตามมารยาท
สังคม และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม.3/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเช่อื มโยงความรูก้ บั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่นื และเป็นพน้ื ฐานใน
การพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน
ต 3.1 ม.3/1 ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ขอ้ เท็จจริงท่เี ก่ียวขอ้ งกบั กล่มุ สาระการเรียนรอู้ ืน่
จากแหลง่ การเรียนรู้ และนำเสนอดว้ ยการพูดและการเขยี น
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกดิ ข้ึนในห้องเรียน สถานศึกษา
ชุมชน และสังคม
2. สาระสำคัญ
ข้อมลู เกี่ยวกบั ประสบการณ์ของตนเองและเหตกุ ารณท์ ่ีเกิดขน้ึ ในอดตี ปรากฏการณ์ธรรมชาติ นทิ าน
นวนิยาย การแสดงความคดิ เหน็ รวมถึงการค้นควา้ ขอ้ มูลเกีย่ วกบั ภยั พบิ ัติ
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
- เล่าประสบการณ์ในอดีต
4. สาระการเรยี นรู้
• Vocabulary
Feelings: surprised, relieved, tired, bored, terrified, worried, calm, excited
Natural phenomena: earthquake, lightning, flood, tornado, hurricane, volcanic
eruption
• Language Structure
Past simple: regular and irregular verbs
Time words: as soon as, when, while, so, after, until, then
Forming adverbs: e.g. careful – carefully, good – well
• Functional Exponents
Talking about the feelings:
- I felt surprised.
- I felt bored.
Narrating past events:
- You’ll never guess what happened to me.
- What was going on?
- What on earth was it?
• Pronunciation
/ i:/: he, knee, bee
/ ɪə/: here, beer, near
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- สนทนาแลกเปลย่ี นเกี่ยวกับประสบการณ์ ภยั ธรรมชาติ และเหตกุ ารณ์ทเี่ กดิ ขึน้ ในอดีตได้
6. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
- ความสามารถในการส่ือสาร
7. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
- มวี นิ ัย
- มุ่งมั่นในการทำงาน
8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นท่ี 1 (ข้นั นำ) Warm up
1. ใหน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น โดยครูถ่ายเอกสาร Test 2 (Module 2) จาก Teacher’s
Resource Pack & Tests 3 หนา้ 101-104 (ภาคผนวก C) (ดูคำตอบใน Key to Tests หนา้ 160-161
(ภาคผนวก C))
2. ใหน้ ักเรียนดูช่อื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 Narrow escapes! ในหนงั สือเรยี น หนา้ 19 แล้วช่วยกันบอก
ความหมาย และแสดงความคดิ เหน็ ว่าหน่วยการเรียนรู้นี้นา่ จะเกี่ยวกับอะไร โดยสำรวจเนื้อหาในหนว่ ย
การเรยี นรู้ที่ 2 อยา่ งคร่าวๆ
Suggested Answer Key
The title refers to escaping from or avoiding dangerous situations. We will
learn about different natural disasters and people’s experiences and feelings.
3. ครูช้แี จงใหน้ ักเรยี นทราบว่า หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 นี้ นกั เรียนจะได้เรียนรเู้ ก่ยี วกับ
• people’s experiences & feelings time words
• natural phenomena sequence of events
• past simple stories
• forming adverbs from adjectives
4. ครูสอบถามความรู้พ้ืนฐาน และกระตุ้นความสนใจของนกั เรยี น โดยอาจใชค้ ำถามตอ่ ไปน้ี
- What did you feel when you passed the examination? Did you feel sad?
Did you feel happy?
- Do you know tsunami? Do you like it? Why or why not?
- Do you know “natural phenomena”? Give me the example of “natural
phenomena”. Is flood a kind of natural phenomena?
5. ครูใช้ภาพ 1-8 ในหนังสอื เรียน หนา้ 19 กระตุน้ ความสนใจของนกั เรยี นเขา้ สู่บทเรียน และเตรียมการ
อภิปรายแสดงความคิดเห็น โดยครบู อกนกั เรยี นวา่ มีเพียงบางภาพเทา่ นั้นที่มีอยใู่ นหนว่ ยการเรยี นรนู้ ี้ ให้
นักเรียนหาวา่ มภี าพใดบ้าง (Pictures 1, 2, 4, 6) จากนน้ั ครูถามคำถามเกี่ยวกับภาพที่หาพบ เพ่ือเร่ิม
การอภิปรายเก่ียวกับหัวข้อต่างๆ ที่จะเรียนในหน่วยการเรยี นรนู้ ี้
Suggested Answer Key
Focus students’ attention on picture 1.
T: What page is picture 1 from?
S1: It’s from page 27.
T: What can you see in picture 1?
S2: A ghostly man.
T: How do you think the picture is related to the title of the unit?
S3: I think it relates to a scary story. etc.
T: What page is picture 2 from? (page 26) What can you see in picture 2?
How do you think the picture is related to the title of the unit?
How do you think he feels? What else can you see on page 26? etc.
6. ครใู หน้ ักเรียนหาว่า an extract from a novel (ข้อความทต่ี ัดตอนมาจากนยิ าย) และ a quote (การ
ยกเอาคำพูดของคนดังมาอ้างถึง) อยใู่ นหนังสือเรียนหนา้ ใด เมื่อหาพบแล้วครถู ามคำถามเพื่อตรวจสอบ
ความเขา้ ใจของนักเรียน
an extract from a novel (page 27)
What is the title of the novel? Who wrote it?
Do you know any other works by this author?
What do you think the story is about?
a quote (page 25)
Who said this? What do you think he meant?
Are there any similar sayings in our language?
ขน้ั ท่ี 2 (ข้ันนำเสนอ) Presentation
1. นักเรยี นชว่ ยกนั อธบิ ายความหมายของคำคุณศพั ทบ์ อกความรู้สกึ ในหนงั สือเรยี น หน้า 19 หวั ขอ้
Vocabulary และจบั คูค่ ำคุณศพั ทก์ บั ภาพ 1-8 แล้วครูเปิด CD 1/Track 21 ให้นักเรยี นฟังเพ่ือตรวจ
คำตอบ
surprised terrified relieved calm
excited worried bored tired
จากนัน้ ครูตรวจคำตอบอีกคร้ังโดยครูพูดหมายเลขภาพ ใหน้ กั เรียนบอกคำคุณศพั ท์บอกความรสู้ ึกที่ตรง
กับภาพ
เช่น T: Picture 1
S: surprised
แลว้ ให้นักเรยี นบอกวา่ ครงั้ สุดท้ายทเ่ี กิดความรู้สึกตามภาพเกิดข้นึ เมื่อไหร่
Suggested Answer Key
1. I was so surprised when I saw my birthday present on the bed.
2. I was absolutely terrified when I saw the long orange snake in the water!
3. I was so relieved when I passed my exams.
4. I wasn’t at all afraid when I saw the ghost. I felt very calm.
5. I couldn’t wait for my party on Saturday. I was so excited!
6. I was really worried when I saw the snake in the water. I didn’t know what
it was!
7. I stayed at home last weekend. I was so bored!
8. I was tired after a long trip.
2. ใหน้ ักเรียนอา่ นชอ่ื บท Unit 2a และดูภาพในหนังสอื เรียน หนา้ 20 แล้วบอกครูวา่ เหน็ อะไรบา้ ง จากนน้ั
ให้นักเรียนเดาว่าเนอ้ื หาใน Unit 2a นา่ จะเก่ยี วกับอะไร (real life experiences, possibly about a
person who experienced a disaster)
3. นักเรยี นทำ Ex.1 ในหนงั สอื เรียน หนา้ 20 โดยดูภาพประกอบของบทอ่านเรื่อง True Stories แลว้ บอก
ว่าเห็นอะไรบ้าง (a tropical beach, a huge wave/tsunami, a flooded area with damaged
houses) จากนัน้ ช่วยกันระดมสมองคิดว่าบทอ่านนนี้ ่าจะเกี่ยวกับอะไร แลว้ ครูเปิด CD 1/Track 22 ให้
นกั เรียนฟงั และอ่านบทอา่ นตาม เพือ่ ตรวจคำตอบ
Suggested Answer Key
The text is about a huge wave/tsunami that hit a holiday resort in Thailand.
4. ครูใหน้ กั เรียนหาความหมายของคำ/วลีในหนงั สือเรียน หนา้ 20 Ex.2 จาก dictionary แลว้ ครูสุ่มเรียก
นกั เรยี นบอกความหมาย
5. ใหน้ กั เรยี นอ่านประโยคขอ้ 1-8 ในหนงั สอื เรียน หนา้ 20 Ex.3 แล้วอา่ นบทอ่านเร่อื ง True Stories
อกี ครง้ั จากน้ันเตมิ คำลงในประโยคให้สมบรู ณ์ โดยครูแนะนำใหน้ ักเรยี นเติมคำ 2-4 คำ ลงในชอ่ งว่าง
ของแตล่ ะประโยค และบอกนกั เรยี นวา่ คำตอบบางประโยคจะบอกไวอ้ ย่างชดั เจนในบทอา่ น แต่คำตอบ
บางประโยคจะต้องถอดความหรือสรุปความเพือ่ นำมาเติมคำ เมอ่ื ทำเสร็จแล้วตรวจคำตอบพร้อมกัน
Suggested Answer Key 5. pull him into
1. on holiday to Thailand 6. a helicopter
2. warm and sunny 7. his mum
3. run into the water/go swimming 8. lucky to be alive
4. massive/huge wave
6. ครูถามคำถามในหนงั สอื เรียน หนา้ 20 Ex.4 แลว้ กระตุน้ ใหน้ ักเรยี นท้งั ชัน้ ชว่ ยกนั หาคำตอบ โดยครู
ช่วยเหลอื ดว้ ยการบอกคำศัพท์ที่จำเป็นแกน่ ักเรียน
Suggested Answer Key
1. Mark experienced a tsunami/huge wave.
2. Mark felt shocked and upset, then he felt lonely and lost and in the end
he felt relieved and lucky to be alive, but sorry for the locals.
ข้นั ที่ 3 ( ข้ันฝกึ ) Practice
1. นักเรียนตอบคำถามในหนงั สอื เรยี น หนา้ 20 หวั ข้อ Think! วา่ เรอ่ื งราวของ Mark ทำให้นักเรยี นรูส้ กึ
อยา่ งไร จากนัน้ ครูสมุ่ เรียกนกั เรียนบอกความร้สู กึ ของตนเองให้เพอื่ นฟัง
Suggested Answer Key
I felt shocked at what happened to him and sorry for the locals.
2. นักเรียนอ่านคำคุณศพั ท์ 1-6 ในหนังสอื เรยี น หน้า 21 Ex.5 ซง่ึ เปน็ คำคณุ ศัพทท์ ีอ่ ยู่ในบทอ่าน
เรอ่ื ง True Stories แลว้ จบั คู่กบั คำคุณศพั ท์ a-f ที่มคี วามหมายเหมือนกนั เม่ือทำเสร็จแลว้ ครูเฉลย
คำตอบ จากนนั้ ใหน้ ักเรียนอธบิ ายความหมายของคำที่เป็นตัวดำหนาในบทอ่าน
1. c 2. a 3. b 4. f 5. e 6. d
3. นกั เรียนอ่านหลักการใช้ past simple ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 21 Ex.6 และนักเรยี นศึกษารายละเอียด
เพ่ิมเติมใน Grammar Reference Section ในหน้า 120 เมอ่ื อา่ นจบแลว้ ครูดึงความสนใจของนกั เรียน
มาท่รี ปู ปฏเิ สธ รปู คำถาม และการตอบคำถามแบบสนั้ จากนั้นกระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันบอกวธิ ที ำ
regular verbs ในประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ และคำถามให้อยู่ในรูป past simple
We form the past simple for regular verbs in the affirmative by adding -ed
to the end of the main verb. We form negations with did not/didn’t + the
main verb without -ed. We form questions with did + subject pronoun +
the main verb without -ed.
Irregular verbs do not follow this pattern but they form negations and
questions with did and did not/didn’t and the main verb.
4. นักเรยี นอ่านคำกริยาในหนังสอื เรยี น หน้า 21 Ex.7a แล้วครูกระตุ้นให้นักเรยี นบอกความหมายหรือคำท่ี
มีความหมายเหมือนของคำกรยิ าแต่ละคำ จากนั้นใหน้ ักเรยี นหารปู อดีตของคำกรยิ าเหลา่ นี้ในบทอา่ น
หนา้ 20 พรอ้ มทัง้ บอกวา่ คำใดเปน็ regular คำใดเปน็ irregular เม่อื ทำเสรจ็ แล้วครูตรวจคำตอบบน
กระดาน
Suggested Answer Key
1. be –was/were – irregular (be used to show a permanent or temporary
quality, state, job, etc; show the position of a person or thing in space or time)
2.go – went – irregular (travel/move)
3. decide – decided – regular (choose)
4. run – ran – irregular (move quickly)
5. can – could – irregular (be able to)
6. hear – heard – irregular (be aware of a sound through your ears)
7.disappear – disappeared – regular (vanish/move out of sight)
8. wonder – wondered – regular (think)
9. turn – turned – regular (change direction)
10. swallow – swallowed – regular (put in stomach)
11. try – tried – regular (attempt)
12. push – pushed – regular (move something away from you with
force)
13. grab – grabbed – regular (get hold of something)
14. pull – pulled – regular (move something towards you with
force)
15. gasp – gasped – regular (breathe in quickly)
16. look – looked – regular (see/direct your eyes at something)
17. feel – felt – irregular (touch/experience an emotion)
18. pass – passed – regular (go by)
19. start – started – regular (begin)
20. see – saw – irregular (understand through your eyes)
21. come – came – irregular (arrive)
22. leave – left – irregular (depart)
23. lose – lost – irregular (no longer have something/not
succeed)
5. ครใู ห้นักเรยี นลอกตารางในหนังสือเรียน หน้า 21 Ex.7b ลงในสมุด แล้วครอู า่ นออกเสยี งตวั อยา่ ง
ทอ่ี ยูใ่ นตารางใหน้ ักเรียนฟงั และอาจทบทวนวิธีการออกเสียงคำกรยิ าที่ลงทา้ ยด้วย -ed ดงั น้ี
1) ออกเสยี ง /t/ เมอื่ คำกรยิ านน้ั ลงท้ายดว้ ยพยญั ชนะเสียงไม่ก้อง (voiceless) ได้แก่ /k/, /s/,
/ʧ/, /∫/, /f/, /p/ เช่น cooked, kissed, watched, finished, laughed, stepped
2) ออกเสียง /d/ เมือ่ คำกริยาน้ันลงท้ายดว้ ยพยัญชนะเสียงกอ้ ง (voiced) ไดแ้ ก่ /b/, /n/, /v/
เชน่ rubbed, opened, arrived
3) ออกเสียง /Id/ เมือ่ คำกริยานัน้ ลงทา้ ยด้วยพยญั ชนะเสียง /t/, /d/ เช่น wanted, needed
จากนนั้ ใหน้ ักเรียนเตมิ รูปอดีตของคำกริยาทีเ่ ป็น regular จาก Ex.7a ลงในตารางตามการออกเสยี ง
เมื่อทำเสร็จแล้วครเู ปดิ CD 1/Track 23 ให้นักเรียนฟงั เพือ่ ตรวจคำตอบ
/t/ /d/ /Id/
pushed, gasped, disappeared, decided, started
looked, passed wondered, turned,
swallowed, tried,
grabbed, pulled
6. นักเรยี นทำ Ex.7c ในหนงั สอื เรยี น หน้า 21 โดยเลอื กคำกรยิ า 5 คำ จาก Ex.7a มาแต่งประโยคเก่ียวกับ
ตนเองในรูป past simple เสรจ็ แลว้ ครตู รวจคำตอบดว้ ยการส่มุ เรียกนกั เรยี นอ่านประโยคของตนเองให้
เพือ่ นในชั้นฟงั
Suggested Answer Key
Yesterday, I went to the cinema.
Once, I swallowed a fish bone.
This morning I felt tired.
I could ride a bike when I was five.
I started learning English eight years ago.
7. นกั เรียนทำ Ex.8 ในหนงั สือเรยี น หนา้ 21 โดยเปลย่ี นคำกริยาในวงเลบ็ ใหอ้ ยู่ในรูป past simple
เสร็จแลว้ ครตู รวจคำตอบ
A 1. felt 2. didn’t know
3. started 4. couldn’t
B 1. didn’t take 2. grabbed 3. rushed
C 1. became 2. started 3. tried
4. didn’t work 5. were
8. นกั เรยี นทำกิจกรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 21 Ex.9 โดยจบั คู่กับเพ่อื น พูดสนทนาถาม-ตอบเก่ียวกบั
ประสบการณ์ในวันหยดุ ที่สนกุ ท่ีสดุ เศร้าที่สดุ หรอื นา่ กลัวที่สุด ใหน้ กั เรยี นใชค้ ำท่ีกำหนดใหใ้ นการถาม
คำถาม ครูสงั เกตขณะนกั เรยี นทำกิจกรรม แลว้ สุ่มเรยี กนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพูดสนทนาที่หน้าชั้น
เรยี น
Suggested Answer Key
1. A: Where did you go?
B: I went to Portugal.
2. A: What was the weather like?
B: It was hot and sunny.
3. A: How did you get there?
B: I got there by boat.
4. A: Where did you stay?
B: I stayed at a campsite.
What did you do?
5. A: I swam every day and ate local dishes.
B: What happened?
We went sailing and there was a storm.
6. A: Who were you with?
B: I was with my friends.
How did you feel?
7. A: I felt scared.
B: What happened in the end?
We got rescued.
8. A: How did you feel in the end?
B: I felt lucky to be alive.
9. A:
B:
10. A:
B:
ขนั้ ที่ 4 (ขั้นนำไปใช)้ Production
9. นกั เรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 21 Ex.10 โดยนำคำตอบของคู่สนทนาของตนเองจาก Ex.9 มา
พูดเล่าประสบการณใ์ นวันหยุดของคู่สนทนาใหเ้ พื่อนในช้ันฟงั
สำหรับนักเรียนท่ีเรียนออ่ น ครูอาจเขียนวลีตอ่ ไปนี้บนกระดาน เพือ่ ให้นักเรยี นใชใ้ นการเขียน
เร่อื งเลา่ จากน้นั จึงออกมาเล่าให้เพื่อนในชนั้ ฟงั
went on holiday with friends stayed at campsite
swam decided to hire
went sailing suddenly
started to rain were scared
fishermen rescued them felt lucky to be alive
Suggested Answer Key
Last year John went on holiday to Portugal with his friends. They went there
by boat. They stayed at a campsite and had a great time. They swam every
day, then in the evenings they ate local dishes.
One day they decided to hire a boat and went sailing. Suddenly the weather
changed. Soon it started to rain and there was a storm. They were very scared.
Luckily, some fishermen rescued them. They all felt lucky to be alive.
ข้ันท่ี 5 (ขนั้ สรปุ ) Wrap up
1. นกั เรียนทำแบบฝึกหดั ในหนงั สือแบบฝึกหดั หน้า 16 Unit 2a Exs.1-4 เป็นการบ้าน (ดคู ำตอบในเฉลย
แบบฝึกหดั Access 3 หน้า 16 (ภาคผนวก A))
2. นักเรียนทำแบบฝกึ หดั ในแบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access 3 หนา้ 26-29 Unit 4 (ดูคำตอบในเฉลย
แบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access 3 หนา้ 26-29 (ภาคผนวก B))
3. นกั เรยี นเลน่ เกม โดยครถู ่ายเอกสารจาก Teacher’s Resource Pack & Tests 3 หนา้ 28 Game
(ภาคผนวก C)
9. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสือเรยี น Access ม. 3
2. แบบฝึกหัด Access ม. 3
3. Access Class Audio CDs ม. 3
10. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมอื เกณฑ์
วธิ ีการวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ชิน้ งาน รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินการฟงั ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมินการพดู โต้ตอบ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟัง แบบประเมินการเขียน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ การอ่านออกเสยี ง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การเขียน แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการออกเสยี ง แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ดา้ นทักษะ/สมรรถนะ
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ประเมนิ ผลการทำแบบทดสอบก่อน/หลงั เรยี นหน่วยการเรียนรู้ที่ 2
2. ประเมนิ ผลการเล่าประสบการณ์ในอดีต
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 11
วชิ า ภาษาองั กฤษพื้นฐาน รหสั วิชา อ23101 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 Narrow escapes! เวลา 11 ชวั่ โมง
เรือ่ ง Nightmare เวลา 2 ชั่วโมง
ครผู ูส้ อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวันที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
โรงเรยี น บา้ นแมย่ างห้า สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรือ่ งท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตผุ ล
ต 1.1 ม.3/2 อา่ นออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้ันๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ม.3/3 ระบแุ ละเขียนสอ่ื ท่ไี มใ่ ช่ความเรียงรูปแบบตา่ งๆ ใหส้ ัมพันธ์กบั ประโยค และข้อความท่ีฟัง
หรอื อา่ น
ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหวั ข้อเรอ่ื ง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนบั สนนุ และแสดงความคิดเหน็
เกี่ยวกับเร่ืองทีฟ่ ังและอา่ นจากสื่อประเภทต่างๆ พรอ้ มท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สึกและความ
คิดเหน็ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเก่ียวกับตนเอง เร่อื งตา่ งๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่
ต 1.2 ม.3/4 อยใู่ นความสนใจของสงั คม และส่อื สารอย่างตอ่ เน่ืองและเหมาะสม
ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขียนเพ่อื ขอและให้ข้อมูล อธบิ าย เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั
เรือ่ งที่ฟังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
พูดและเขียนบรรยายความรสู้ กึ และความคิดเห็นของตนเองเกย่ี วกบั เรอ่ื งต่างๆ กจิ กรรม
ประสบการณ์ และข่าว/เหตกุ ารณ์ พรอ้ มทั้งใหเ้ หตผุ ลประกอบอย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพดู และ
การเขยี น
ต 1.3 ม.3/1 พูดและเขยี นบรรยายเกย่ี วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรอื่ ง/ประเด็นตา่ งๆ ที่
อยูใ่ นความสนใจของสงั คม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ต 2.1 ม.3/1 เลือกใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกริ ิยาทา่ ทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาสตามมารยาท
สังคม และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม.3/3 เขา้ รว่ ม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอื่ มโยงความรกู้ ับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อนื่ และเปน็ พ้ืนฐานใน
การพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
ต 3.1 ม.3/1 ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ขอ้ เท็จจรงิ ที่เกีย่ วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ ืน่
จากแหลง่ การเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพดู และการเขียน
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ท้ังในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกดิ ขึ้นในห้องเรียน สถานศกึ ษา
ชมุ ชน และสังคม
2. สาระสำคญั
ขอ้ มูลเกีย่ วกบั ประสบการณ์ของตนเองและเหตกุ ารณ์ทเี่ กิดข้ึนในอดตี ปรากฏการณ์ธรรมชาติ นิทาน
นวนิยาย การแสดงความคิดเห็น รวมถึงการคน้ คว้าข้อมูลเกีย่ วกบั ภัยพบิ ัติ
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
- ค้นควา้ รวบรวมข้อมูลและพูดนำเสนอเกยี่ วกบั ภัยพิบัติทางทะเล
4. สาระการเรยี นรู้
• Vocabulary
Feelings: surprised, relieved, tired, bored, terrified, worried, calm,
excited
Natural phenomena: earthquake, lightning, flood, tornado, hurricane,
volcanic eruption
• Language Structure
Past simple: regular and irregular verbs
Time words: as soon as, when, while, so, after, until, then
Forming adverbs: e.g. careful – carefully, good – well
• Functional Exponents
Talking about the feelings:
- I felt surprised.
- I felt bored.
Narrating past events:
- You’ll never guess what happened to me.
- What was going on?
- What on earth was it?
• Pronunciation
/ i:/: he, knee, bee
/ ɪə/: here, beer, near
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- คน้ ควา้ รวบรวมข้อมลู และพูดนำเสนอเก่ียวกับภัยพบิ ัตทิ างทะเล
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
- ความสามารถในการส่ือสาร
7. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
- มวี ินยั
- ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
8. กิจกรรมการเรียนรู้
ขัน้ ที่ 1 (ขั้นนำ) Warm up
ครดู งึ ความสนใจของนกั เรยี นมาทช่ี ือ่ บท Unit 2b และภาพในหนังสอื เรยี น หน้า 22 แล้วกระตุ้นให้
นักเรียนเดาวา่ เนอื้ หาใน Unit 2b น่าจะเก่ยี วกับเร่ืองอะไร (natural disasters)
ขน้ั ท่ี 2 (ขั้นนำเสนอ) Presentation
1. ครเู ปดิ CD 1/Track 24 ใหน้ ักเรียนฟังคำศัพทเ์ กี่ยวกบั ปรากฏการณ์ธรรมชาติในหนังสือเรยี น หน้า 22
Ex.1 และออกเสียงตาม แล้วครใู ห้นักเรยี นบอกความหมายของคำศัพท์โดยดูจากภาพ จากนัน้ ใหน้ กั เรยี น
ร่วมกันอภปิ รายว่าปรากฏการณธ์ รรมชาตใิ ดบา้ งท่ีเกดิ ขึ้นในประเทศไทย
Suggested Answer Key
In my country we often have flood and lightning.
2. ครูให้เวลานกั เรยี น 2 นาที เพือ่ เตรียมคำตอบในหนงั สือเรียน หนา้ 22 หวั ข้อ Think! โดย
เขียนลงในสมดุ เสร็จแล้วใหน้ ักเรยี นบอกคำตอบของตนเองกบั เพื่อนข้างเคียง จากน้นั ครสู ุ่มเรียก
นักเรียนบอกคำตอบของตนเองใหเ้ พอื่ นในช้นั ฟงั
Suggested Answer Key
To me the most dangerous ones are tornadoes, floods and hurricanes
because they can occur suddenly, without much warning, and cause major damage.
3. นักเรยี นอ่านหวั ข้อ Learning to learn ในหนงั สือเรยี น หน้า 22 ซ่งึ แนะนำวธิ ีการคาดเดาเนอ้ื เรอื่ งของ
บทอา่ นจากคำสำคัญ ซ่งึ คำสำคญั น้ีจะช่วยใหส้ ามารถคาดเดาไดว้ ่าบทอ่านจะเกี่ยวข้องกับเร่อื งอะไร
4. นักเรยี นทำ Ex.2 ในหนงั สอื เรียน หน้า 22 โดยอ่านชอื่ เรื่องของบทอ่าน บทเกรน่ิ นำเร่อื ง และคำ/วลี
สำคัญทใ่ี หม้ าใน Ex.2 แล้วครูอธิบายคำทีน่ ักเรยี นไม่ร้คู วามหมาย เชน่ nightmare – bad dream,
drowning – dying under water, swept – washed away, lamppost – streetlight จากนั้นครใู ห้
นกั เรยี นชว่ ยกนั บอกว่าบทอา่ นน้ีนา่ จะเก่ียวกับเรือ่ งอะไร (a flood) แลว้ ให้นักเรียนฟัง CD 1/Track 25
และอ่านบทอ่านตามไปด้วยเพอ่ื ตรวจคำตอบ เมื่ออา่ นจบครถู ามนักเรียนวา่ สามารถอ่านบทอ่านนไ้ี ดจ้ าก
ทใ่ี ด (a magazine)
5. ใหน้ กั เรยี นอ่านบทอา่ นเร่อื ง It could happen to you! อีกครั้ง แล้วตอบคำถามในหนังสือเรยี น หน้า 23
Ex.3 จากนนั้ ครูตรวจคำตอบ แล้วใหน้ ักเรียนอธิบายความหมายของคำท่เี ป็นตวั ดำหนาในบทอ่าน
1. John was afraid of water.
2. He went to Cornwall on holiday.
3. The river burst its banks, and water swept him off his feet and washed
him down the road.
4. He grabbed a lamppost and pulled himself out of the water.
5. He was very relieved to be alive.
6. นกั เรยี นทำ Ex.4 ในหนังสอื เรยี น หนา้ 23 โดยจับคูค่ ำสรรพนาม 1-7 ซง่ึ มาจากบทอา่ นเรือ่ ง It could
happen to you! กับคำนามที่กำหนดให้ เสร็จแลว้ ครูตรวจคำตอบ
2. John 5. the lady in the shop
3. John’s 6. John
4. the river’s 7. the lamppost
7. ใหน้ กั เรยี นอา่ นตวั อยา่ งประโยคท่ใี หม้ าในหนงั สือเรียน หน้า 23 Ex.5a แล้วครูกระตนุ้ ให้
นกั เรยี นบอกว่าคำท่พี ิมพ์สีฟ้าในแตล่ ะประโยค คำใดเป็น adjective คำใดเปน็ adverb
จากน้นั ครูใหน้ กั เรยี นสังเกต adverb ที่ลงทา้ ยด้วย -ly และชี้ให้นักเรียนดูตวั อยา่ ง good – well ซ่ึง
เปน็ adverb ที่เป็น irregular แลว้ ครกู ระตุ้นให้นักเรียนบอกวธิ กี ารสร้าง adverb
We usually form adverbs by adding -ly to the adjective.
Adjectives ending in -le drop the -e and take -y;
adjectives ending in a consonant + -y drop the -y and take -ily;
adjectives ending in -l take -ly.
8. นักเรยี นทำ Ex.5b ในหนังสอื เรียน หน้า 23 โดยสร้าง adverbs จาก adjectives ทก่ี ำหนดให้ ครูทำคำ
ท่ี 1 ให้ดูเปน็ ตวั อยา่ งบนกระดาน แล้วให้นกั เรียนทำคำทเี่ หลือ เสรจ็ แลว้ ครูตรวจคำตอบ จากนั้นให้
นกั เรียนแต่งประโยคโดยใช้ adverbs เหล่านี้
slowly, happily, safely, fast, really, completely, well
Suggested Answer Key He really likes chocolate.
She is singing happily. She is completely happy.
I always drive safely. She speaks English well.
I can run fast.
9. นักเรียนอา่ นการใช้ time words ในหนังสอื เรียน หน้า 23 Ex.6 ครอู ธบิ ายเพม่ิ เติมถ้านักเรียนไมเ่ ข้าใจ
จากนน้ั ใหน้ ักเรียนหาตัวอย่างประโยคท่ีใช้ time words จากบทอ่านเรื่อง It could happen to you!
... and then water swept me away.
Last year, while John was on holiday ... .
... as soon as he stepped out ... .
Then suddenly, he ... .
ขน้ั ท่ี 3 ( ขัน้ ฝึก ) Practice
1.ครใู หน้ กั เรยี นเชื่อมประโยคที่ให้มาในหนังสอื เรยี น หนา้ 23 Ex.7 ดว้ ยคำในวงเลบ็ เสร็จแลว้ ครตู รวจคำตอบ
Suggested Answer Key
2. They walked in the park until it got dark.
3. He went on holiday after he finished school./
After he finished school, he went on holiday.
4. The phone rang as soon as she entered the room./
As soon as she entered the room, the phone rang.
5. It stopped raining and then they left the office.
6. It was late, so he decided to get a taxi.
2. ครูดึงความสนใจของนักเรยี นมาที่ภาพ ชอ่ื เรือ่ ง และข้อความที่ให้เติมคำในหนังสอื เรียน หนา้ 23 Ex.8a
แลว้ กระตุ้นให้นกั เรยี นคดิ วา่ เรอื่ งทจ่ี ะไดฟ้ งั นจี้ ะเกย่ี วกบั อะไร (the sinking of the Titanic) จากน้ันให้
นกั เรียนอ่านขอ้ ความทใี่ ห้เติมคำ และครูกระตุน้ ให้นักเรยี นบอกวา่ ขอ้ มลู ประเภทใดที่ขาดหายไปในแต่
ละช่องวา่ ง (1 - the name of a place, 2 - a date, 3 - a time, 4 - a number, 5 - a month)
แล้วครูเปดิ CD 1/Track 26 ใหน้ ักเรยี นฟังและเตมิ คำทขี่ าดหายไป เสร็จแล้วครตู รวจคำตอบ
Radio presenter: (radio jingle) … Welcome back, I’m John Stewart, it’s
just before four o’clock on Tuesday, 10th April and you ‘relistening to
Radio Hampshire. In just a few minutes, we’ll bring you the latest news,
but first let’s go back in time to this day in history. On 10th April, 1912,
when the RMS Titanic left Southampton for New York for the very first
time, it was the largest passenger steamship in the world. On Sunday,
14th April, at 11:40 in the evening, the Titanic hit a massive iceberg in the
middle of the North Atlantic Ocean. The ship’s engines stopped and on
15th April, at 2:20 in the morning, the ship sank. Some people managed
to get into lifeboats, but many others didn’t. Altogether, more than
1,500 people lost their lives. On 1st September, 1985, an oceanographer
called Dr. Robert Ballard found the RMS Titanic nearly 4,000 meters
down near Newfoundland, Canada. After this, many explorers, film
crews and even tourists have visited the ship! And that’s all for today’s
‘This Day in History’. Next up, the news …
1. New York 2. 14th 3. 2:20
4. 1,500 5. September
3. นักเรยี นทำ Ex.8b ในหนงั สือเรียน หนา้ 23 โดยจับคู่กับเพอื่ น ชว่ ยกนั เรียงลำดับคำทีก่ ำหนดให้เป็น
คำถามทถ่ี ูกตอ้ ง แล้วฝึกถาม-ตอบกนั โดยใช้ขอ้ มลู จาก Ex.8a ครเู ดินสงั เกตขณะนักเรยี นทำกจิ กรรม
และสุ่มเรยี กนกั เรยี นหลายๆ คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบหน้าช้นั เรยี น เพ่อื ตรวจความถูกต้อง
2. A: What was its destination?
B: New York.
3. A: What happened four days later?
B: The ship hit an iceberg (in the North Atlantic Ocean).
4. A: When did the ship sink?
B: On 15th April.
5. A: What time was it?
B: 2:20 am.
6. A: How many people died?
B: More than 1,500.
7. A: When did they locate the ship?
B: On 1st September, 1985.
ขน้ั ที่ 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
1. นกั เรียนทำกิจกรรมในหนงั สือเรียน หนา้ 21 Ex.10 โดยนำคำตอบของคูส่ นทนาของตนเองจาก Ex.9 มา
พดู เลา่ ประสบการณใ์ นวนั หยุดของคู่สนทนาใหเ้ พื่อนในช้นั ฟัง
สำหรบั นักเรยี นที่เรียนออ่ น ครูอาจเขียนวลีต่อไปนี้บนกระดาน เพ่อื ใหน้ ักเรียนใช้ในการเขียน
เรอื่ งเลา่ จากนน้ั จงึ ออกมาเลา่ ใหเ้ พือ่ นในชัน้ ฟัง
went on holiday with friends stayed at campsite
swam decided to hire
went sailing suddenly
started to rain were scared
fishermen rescued them felt lucky to be alive
Suggested Answer Key
Last year John went on holiday to Portugal with his friends. They went there
by boat. They stayed at a campsite and had a great time. They swam every
day, then in the evenings they ate local dishes.
One day they decided to hire a boat and went sailing. Suddenly the weather
changed. Soon it started to rain and there was a storm. They were very scared.
Luckily, some fishermen rescued them. They all felt lucky to be alive.
2. นกั เรียนทำ Ex.9 ในหนังสือเรยี น หน้า 23 โดยครูแบง่ นักเรยี นเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 3-4 คน ให้แต่ละกลมุ่
ค้นควา้ ข้อมูลเกย่ี วกบั ภยั พิบัติทางทะเลจากสารานกุ รม หนงั สืออ้างองิ หรอื อินเทอร์เนต็ โดยใชเ้ วบ็ ไซต์ท่ี
กำหนดให้ แล้วให้แต่ละกล่มุ นำเสนอข้อมูลหน้าช้ันเรียน โดยครูแนะนำให้นกั เรียนใช้สิง่ ท่ีกระตุ้นสายตา
เช่น ภาพ มาประกอบขอ้ มลู หรอื นกั เรียนท่ีมคี วามสามารถด้านเทคโนโลยอี าจนำเสนอด้วย
PowerPoint จากน้นั ครอู าจใหน้ กั เรยี นลงคะแนนเลอื กกลมุ่ ทน่ี ำเสนอขอ้ มูลได้ดีท่ีสดุ
Suggested Answer Key
The Herald of Free Enterprise was a British car and passenger ferry. On 6th
March 1987, at 6:05 pm, it left the Belgian port of Bruges-Zeebrugge on its way to
Dover in England. There were 459 passengers and 80 crew on board as well as 81 cars,
3 buses and 47 lorries. It started to sink a minute and a half later because workers
forgot to close the bow doors. At 6:29 pm the ship sank just 90 metres from the shore.
A rescue helicopter arrived within 30 minutes as well as the Belgian Navy but still 193
people died. As the ship sank in shallow water, they managed to re-float it a month
later in April, 1987.
ข้ันท่ี 5 (ขัน้ สรปุ ) Wrap up
1. นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั ในหนังสือแบบฝกึ หดั หนา้ 17-18 Unit 2b Exs.1-4 เป็นการบ้าน (ดูคำตอบใน
เฉลยแบบฝกึ หดั Access 3 หนา้ 17-18 (ภาคผนวก A))
2. นกั เรยี นทำแบบฝึกหดั เสรมิ โดยครถู า่ ยเอกสารจาก Teacher’s Resource Pack & Tests 3 หนา้ 21
Exs.1-5 (ภาคผนวก C) (ดูคำตอบใน Key to Resource Activities หนา้ 148 (ภาคผนวก C))
9. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนังสือเรยี น Access ม. 3
2. แบบฝึกหัด Access ม. 3
3. Access Class Audio CDs ม. 3
10. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
วิธีการวดั เกณฑก์ ารประเมนิ ชิน้ งาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟัง ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ การพดู โต้ตอบ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การเขียน แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ประเมินผลการค้นคว้ารวบรวมขอ้ มูลและพูดนำเสนอเก่ียวกับภัยพิบตั ทิ างทะเล
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 12
วิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน รหสั วิชา อ23101 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 Narrow escapes! เวลา 11 ชัว่ โมง
เรือ่ ง Relieved เวลา 1 ช่ัวโมง
ครผู ้สู อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวนั ท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
โรงเรยี น บ้านแมย่ างห้า สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทีฟ่ ังและอา่ นจากส่อื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมีเหตผุ ล
ต 1.1 ม.3/2 อ่านออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้ันๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ม.3/3 ระบุและเขียนสือ่ ท่ีไม่ใชค่ วามเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สมั พันธก์ ับประโยค และขอ้ ความที่ฟงั
หรืออา่ น
ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบหุ ัวข้อเร่ือง ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เก่ยี วกบั เรื่องทฟี่ งั และอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลขา่ วสาร แสดงความร้สู ึกและความ
คดิ เหน็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ
ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบขอ้ มูลเก่ยี วกบั ตนเอง เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ข่าว เรือ่ งท่ี
ต 1.2 ม.3/4 อยู่ในความสนใจของสังคม และสอื่ สารอย่างตอ่ เนื่องและเหมาะสม
ต 1.2 ม.3/5 พดู และเขียนเพอื่ ขอและให้ข้อมูล อธบิ าย เปรียบเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั
เร่ืองท่ีฟังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
พดู และเขยี นบรรยายความรสู้ กึ และความคิดเหน็ ของตนเองเกีย่ วกับเรือ่ งตา่ งๆ กจิ กรรม
ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์ พร้อมทงั้ ให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่างๆ โดยการพูดและ
การเขียน
ต 1.3 ม.3/1 พดู และเขียนบรรยายเกยี่ วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรอ่ื ง/ประเด็นตา่ งๆ ท่ี
อยู่ในความสนใจของสังคม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใช้ภาษา น้ำเสยี ง และกิริยาท่าทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาสตามมารยาท
สงั คม และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ม.3/3 เข้ารว่ ม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชอื่ มโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ ่ืน และเปน็ พืน้ ฐานใน
การพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
ต 3.1 ม.3/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ขอ้ มูล/ข้อเท็จจรงิ ที่เกยี่ วขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ ่นื
จากแหล่งการเรยี นรู้ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขยี น
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม
ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกิดข้ึนในห้องเรยี น สถานศกึ ษา
ชุมชน และสังคม
2. สาระสำคัญ
ขอ้ มูลเกีย่ วกับประสบการณ์ของตนเองและเหตุการณ์ท่เี กิดข้นึ ในอดตี ปรากฏการณ์ธรรมชาติ นิทาน
นวนิยาย การแสดงความคิดเหน็ รวมถึงการค้นควา้ ข้อมลู เกี่ยวกับภัยพิบัติ
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
- สนทนาและเขียนเกยี่ วกบั ประสบการณ์แปลกๆ ของตนเอง
4. สาระการเรียนรู้
• Vocabulary
Feelings: surprised, relieved, tired, bored, terrified, worried, calm,
excited
Natural phenomena: earthquake, lightning, flood, tornado, hurricane, volcanic
eruption
• Language Structure
Past simple: regular and irregular verbs
Time words: as soon as, when, while, so, after, until, then
Forming adverbs: e.g. careful – carefully, good – well
• Functional Exponents
Talking about the feelings:
- I felt surprised.
- I felt bored.
Narrating past events:
- You’ll never guess what happened to me.
- What was going on?
- What on earth was it?
• Pronunciation
/ i:/: he, knee, bee
/ ɪə/: here, beer, near
5. ทักษะ/กระบวนการ
- สนทนาและเขยี นเกี่ยวกับประสบการณ์แปลกๆ ของตนเอง
6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
- ความสามารถในการสอ่ื สาร
7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
- มวี นิ ยั
- มุง่ มน่ั ในการทำงาน
8. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั ที่ 1 (ขน้ั นำ) Warm up
ครูให้นักเรยี นดชู อื่ บท Unit 2c และภาพในหนงั สอื เรียน หน้า 24 แลว้ กระตุ้นใหน้ กั เรียนเดาว่าเน้ือหาใน
Unit 2c นา่ จะเก่ียวกับเร่ืองอะไร (a story about a scary experience)
ขน้ั ที่ 2 (ขัน้ นำเสนอ) Presentation
1. นกั เรยี นทำ Ex.1 ในหนงั สือเรียน หน้า 24 โดยดูภาพ แลว้ ครูเปิด CD 1/Track 27 ใหน้ กั เรียนฟังเสยี ง
และคาดเดาวา่ เน้ือเรื่องของบทอ่านจะเกย่ี วขอ้ งกับอะไร จากนั้นให้นกั เรยี นอ่านบทอ่านเพือ่ ตรวจว่าการ
คาดเดาของนักเรยี นถกู ต้องหรือไม่
Suggested Answer Key
I think the story is about a hurricane which destroyed someone’s house.
2. ครสู าธติ การทำ Ex.2 ในหนังสือเรยี น หนา้ 24 โดยอ่านประโยคทีต่ ้องเตมิ คำข้อ 1 ในบทอา่ น
และอ่านวลี a-e ใน Ex.2 จากน้ันใหน้ ักเรยี นนำวลี a-e มาเตมิ ลงในช่องวา่ งข้อ 1 ทีละวลี แล้วครูถามว่า
วลีใดท่ีเติมลงในช่องว่างแล้วทำให้เนือ้ เร่ืองได้ใจความมากทสี่ ุด (b) ครูใหน้ กั เรียนทำข้อที่เหลือด้วย
วธิ กี ารเดยี วกัน เสรจ็ แลว้ ครเู ปดิ CD 1/Track 28 ใหน้ กั เรียนฟงั เพอื่ ตรวจคำตอบ จากนน้ั ใหน้ ักเรยี น
ช่วยกนั อธบิ ายคำ/วลที ่เี ปน็ ตวั ดำหนาในบทอ่าน
1. b 2. d 3. a 4. c 5. e
ขน้ั ท่ี 3 ( ขน้ั ฝกึ ) Practice
1. ครใู หน้ ักเรยี นเรียงเหตกุ ารณใ์ นหนังสอื เรียน หนา้ 24 Ex.3 ตามลำดับท่เี กิดขึน้ ในบทอ่าน เมือ่ นักเรยี น
เรยี งลำดับเหตกุ ารณ์ถูกต้องแล้ว ใหใ้ ชโ้ ครงเรือ่ งนเี้ ขียนสรปุ เรื่อง แลว้ ครสู ุ่มเรียกนักเรียนพดู สรุปให้
เพอื่ นในชัน้ ฟัง
2. It began to rain. 6. They heard a loud crashing noise.
3. They went inside the house. 7. The wind stopped.
4. They closed the windows. 8. They went outside again.
5. They went to the basement. 9. They helped their neighbours.
Suggested Answer Key
The children were in the garden when it began to rain. They went inside the
house and they closed the windows. The family went down to the basement
and they could hear the wind blowing. They heard a loud crashing noise and
they were scared. After a while, the wind stopped and they went outside
again. They helped their neighbours find their dog.
2. นกั เรยี นอ่านหัวข้อ Learning to learn ในหนังสือเรียน หน้า 24 เกยี่ วกบั การลำดับเหตุการณ์ แลว้ ครู
บอกนกั เรยี นวา่ ก่อนทน่ี ักเรียนจะเขียนเรื่องเล่า จำเปน็ ตอ้ งคิดถงึ เหตุการณ์ทีเ่ กิดขึ้นกอ่ น และนำเสนอ
เหตุการณเ์ หล่านนั้ ตามลำดบั เวลาเพ่ือชว่ ยใหผ้ ู้อ่านติดตามเร่ืองราวได้
ขน้ั ที่ 4 (ขัน้ นำไปใช)้ Production
1. ครูใหน้ ักเรียนรว่ มกันระดมความคดิ เกย่ี วกับประสบการณผ์ ิดปกติท่ีนักเรียนเคยพบเจอ เช่น
earthquake, flood แล้วใหน้ ักเรยี นอภปิ รายคำถามของแต่ละย่อหน้าทีก่ ำหนดให้ในโครงเรอื่ งใน
หนงั สอื เรยี น หนา้ 24 Ex.4 จากน้นั ครูให้นักเรียนทำงานคู่ ช่วยกนั สรุปโครงเร่ืองทจี่ ะเขียน
เมื่อได้โครงเร่ืองแลว้ จึงเขียนเล่าเหตกุ ารณ์ หลงั จากนักเรียนเขยี นเรือ่ งเสร็จแลว้ ครูสุ่มเรยี กนกั เรียน
หลายๆ คน ออกมาอา่ นเรอ่ื งทต่ี นเองเขยี นใหเ้ พอ่ื นฟังท่หี น้าชัน้ เรยี น
Suggested Answer Key
I was on holiday in Phuket with my parents last year. Three days before
we left, we decided to go shopping for souvenirs. It was a hot sunny day.
We were about to leave the hotel room when, suddenly, we heard a loud
noise. The ground began to shake and we realised it was an earthquake. My
dad told us to stay calm. We stood in a doorway and waited for it to stop.
It was over in a few seconds. It was a frightening experience and we were
relieved it was over. At least we were all OK.
สำหรับนกั เรยี นทเี่ รียนอ่อน ครเู ขยี นวลตี ่อไปน้ีบนกระดาน เพื่อใหน้ ักเรยี นใชเ้ ขยี นเรื่องเลา่ ของตนเอง
on holiday with parents last year hot & sunny
hear loud noise ground begin to shake earthquake
stand in a doorway stay calm be over
frightening experience relieved
ขนั้ ที่ 5 (ขั้นสรปุ ) Wrap up
1. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั ในหนังสือแบบฝกึ หดั หนา้ 17-18 Unit 2b Exs.1-4 เปน็ การบา้ น (ดูคำตอบใน
เฉลยแบบฝกึ หดั Access 3 หน้า 17-18 (ภาคผนวก A))
2. นักเรียนทำแบบฝึกหัดเสรมิ โดยครูถา่ ยเอกสารจาก Teacher’s Resource Pack & Tests 3 หน้า 21
Exs.1-5 (ภาคผนวก C) (ดูคำตอบใน Key to Resource Activities หนา้ 148 (ภาคผนวก C))
9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี น Access ม. 3
2. แบบฝกึ หัด Access ม. 3
3. Access Class Audio CDs ม. 3
10. การวัดและประเมนิ ผล
วธิ ีการวดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์
รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด เกณฑก์ ารประเมนิ ชิ้นงาน
วิธีการวดั เครอื่ งมือ เกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมนิ การฟัง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู แบบประเมนิ การพูดโตต้ อบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การเขียน แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมนิ การอ่านออกเสยี ง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
1. ประเมนิ ผลการค้นคว้ารวบรวมขอ้ มูลและพดู นำเสนอเกี่ยวกับภยั พิบตั ทิ างทะเล
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 13
วิชา ภาษาองั กฤษพื้นฐาน รหสั วิชา อ23101 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 Narrow escapes! เวลา 11 ชัว่ โมง
เรอ่ื ง Culture corner เวลา 2 ช่ัวโมง
ครูผู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า สอนวนั ท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
โรงเรียน บ้านแม่ยางห้า สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ัด
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งที่ฟงั และอา่ นจากส่อื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมีเหตผุ ล
ต 1.1 ม.3/2 อ่านออกเสียงข้อความ ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้ันๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ม.3/3 ระบุและเขยี นสอ่ื ท่ีไม่ใชค่ วามเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สมั พันธก์ ับประโยค และขอ้ ความที่ฟงั
หรอื อ่าน
ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบหุ ัวข้อเร่ือง ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เก่ยี วกบั เรือ่ งทีฟ่ ังและอา่ นจากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลขา่ วสาร แสดงความร้สู ึกและความ
คิดเหน็ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ข่าว เรือ่ งท่ี
ต 1.2 ม.3/4 อยู่ในความสนใจของสงั คม และสอื่ สารอย่างตอ่ เนื่องและเหมาะสม
ต 1.2 ม.3/5 พดู และเขียนเพ่อื ขอและให้ข้อมูล อธบิ าย เปรียบเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั
เรอ่ื งท่ีฟงั หรอื อ่านอยา่ งเหมาะสม
พูดและเขียนบรรยายความรสู้ ึก และความคิดเหน็ ของตนเองเกีย่ วกับเรือ่ งตา่ งๆ กจิ กรรม
ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์ พร้อมทงั้ ให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่างๆ โดยการพูดและ
การเขียน
ต 1.3 ม.3/1 พดู และเขยี นบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรอ่ื ง/ประเด็นตา่ งๆ ท่ี
อยู่ในความสนใจของสงั คม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ต 2.1 ม.3/1 เลือกใชภ้ าษา นำ้ เสยี ง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาสตามมารยาท
สังคม และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ม.3/3 เข้ารว่ ม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความร้กู บั กลุ่มสาระการเรียนรอู้ ื่น และเปน็ พ้นื ฐานใน
การพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน
ต 3.1 ม.3/1 คน้ คว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงทีเ่ กยี่ วข้องกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อนื่
จากแหลง่ การเรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ยการพดู และการเขยี น
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ท้ังในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศกึ ษา
ชมุ ชน และสงั คม
2. สาระสำคญั
ขอ้ มลู เกย่ี วกับประสบการณ์ของตนเองและเหตกุ ารณท์ ีเ่ กดิ ขึ้นในอดตี ปรากฏการณ์ธรรมชาติ นิทาน
นวนิยาย การแสดงความคิดเห็น รวมถึงการคน้ คว้าข้อมูลเกยี่ วกบั ภยั พบิ ัติ
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- เล่านิทานของไทย
4. สาระการเรยี นรู้
• Vocabulary
Feelings: surprised, relieved, tired, bored, terrified, worried, calm, excited
Natural phenomena: earthquake, lightning, flood, tornado, hurricane, volcanic
eruption
• Language Structure
Past simple: regular and irregular verbs
Time words: as soon as, when, while, so, after, until, then
Forming adverbs: e.g. careful – carefully, good – well
• Functional Exponents
Talking about the feelings:
- I felt surprised.
- I felt bored.
Narrating past events:
- You’ll never guess what happened to me.
- What was going on?
- What on earth was it?
• Pronunciation
/ i:/: he, knee, bee
/ ɪə/: here, beer, near
5. ทักษะ/กระบวนการ
- เล่านทิ านของไทย
6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
- ความสามารถในการสอ่ื สาร
7. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
- มวี นิ ัย
- รกั ความเปน็ ไทย
8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นท่ี 1 (ขนั้ นำ) Warm up
ครูนำเขา้ สู่บทเรียนดว้ ยการให้นักเรียนดภู าพและช่ือบทอา่ นในหนงั สอื เรยี น หนา้ 25 แลว้ เดาวา่ Unit
2d จะเก่ียวกบั อะไร (stories) จากน้นั ครูให้นักเรยี นช่วยกันคิดและบอกว่าเรือ่ งท่จี ะไดอ้ ่านน้จี ะเกี่ยวข้องกับ
อะไรบ้าง (fairies, gold, forests, princesses, etc.)
ขนั้ ท่ี 2 (ขัน้ นำเสนอ) Presentation
1. ใหน้ กั เรยี นทำ Ex.1 ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 25 โดยฟังเสียงดนตรีจาก CD 1/Track 29 และตอบคำถาม
วา่ เสียงดนตรีทไี่ ดฟ้ งั นนั้ ทำให้นักเรียนนึกถงึ ประเทศใด
Ireland
2. ใหน้ กั เรียนทำ Ex.2 ในหนังสือเรยี น หนา้ 25 โดยดูภาพ แล้วตอบคำถามว่าเห็นอะไรในภาพ และร้ขู อ้ มูล
อะไรเกยี่ วกับตัวละครในภาพบา้ ง จากนั้นครเู ปิด CD 1/Track 30 ใหน้ ักเรยี นฟังและอา่ นบทอ่านตาม
เพอ่ื หาคำตอบ แล้วช่วยกันบอกเกีย่ วกับลกั ษณะของตัวละครในภาพ
Suggested Answer Key
The man on the left is a seanchaí or a storyteller. The creature next to
him is an elf called a leprechaun, who makes shoes and has a hidden
pot of gold. The man on the horse is a warrior/hero and the girl may be
a princess. The creature on the far right of the picture is a fairy.
3. นกั เรยี นอ่านคำถาม 1-4 ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 25 Ex.3 แล้วตอบคำถาม โดยครูอาจใหน้ ักเรียนอา่ น
บทอา่ นอีกครั้งถ้าจำเปน็ เม่อื นักเรียนทำเสร็จแล้วครูตรวจคำตอบ จากน้นั หาความหมายของคำที่เป็นตัว
ดำหนาในบทอ่าน
1. Seanchais tell stories.
2. Myths, legends and folk tales.
3. They are about giants, warriors and kings. They are about heroes who
overcome great obstacles, fight with magical beasts and have
incredible adventures.
4. They have fairies and elves including leprechauns.
4. นักเรยี นอ่านวลที ใี่ ช้ ‘spend’ ในหนังสือเรยี น หน้า 25 Ex.4 แล้วหาวลีใดท่ีใช้ ‘spend’ ในบทอ่าน
(spend a cold, winter night) จากนน้ั แต่งประโยคโดยใช้วลที ใ่ี ช้ ‘spend’ เสร็จแลว้ ครูสมุ่ เรยี ก
นกั เรยี นอ่านประโยคของตนเอง
Suggested Answer Key
I spend 100 baht a week on bus fares.
I spend most evenings reading or watching TV.
ขนั้ ท่ี 3 ( ขัน้ ฝึก ) Practice
1. นักเรยี นทำ Ex.5 ในหนงั สอื เรยี น หน้า 25 โดยคิดถึงเรื่องเล่าหรือนิทานที่ชนื่ ชอบ 3 เรือ่ ง และ
คตสิ อนใจที่ไดร้ บั แลว้ ครูเรยี กนักเรยี นหลายๆ คน พดู ใหเ้ พือ่ นฟงั
Suggested Answer Key
My three favourite stories are the Grimm Brothers’ ‘Little Red Riding
Hood’, and Aesop’s fables ‘The Tortoise and the Hare’ and ‘The Boy
Who Cried Wolf’. The first story teaches us not to easily trust strangers;
the second teaches us not to underestimate others and the third story
teaches us to always be honest.
ขนั้ ท่ี 4 (ข้ันนำไปใช)้ Production
.1. นกั เรียนทำ Ex.6 ในหนังสอื เรียน หน้า 25 โดยแบ่งกลุม่ กลมุ่ ละ 3-4 คน นกึ ถงึ นทิ านพ้ืนบา้ นของไทยที่
เปน็ ทีร่ ู้จัก แลว้ ออกมาเลา่ ให้เพอ่ื นฟงั ที่หน้าชน้ั เรียนโดยมรี ายละเอียดดังน้ี
What is it about? Who are the main characters?
What happens in the story? What moral values does the story teach?
Suggested Answer Key
The story of Sudsakorn and Cheepueay
Sudsakorn was Phra Aphaimani’s son and a mermaid. He was born at Ko
Kaeo Pisadan. He never saw his father. When he grew up he started to
seek his father.
On the way, Sudsakorn met an old man, Cheepueay. He cheated
Sudsakorn and stole his magic stick and Maninmangkorn. He pushed
Sudsakorn fell into the cliff. But Sudsakorn didn’t die and recovered the
magic stick and Maninmangkorn. Finally he met his father.
The story teaches us not to trust a stranger.
ขนั้ ที่ 5 (ข้นั สรปุ ) Wrap up
1. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ในหนงั สือแบบฝึกหัด หนา้ 23 Unit 2d Exs.1-4 เปน็ การบา้ น (ดูคำตอบใน
เฉลยแบบฝกึ หัด Access 3 หนา้ 23 (ภาคผนวก A))
2. นักเรียนทำแบบฝกึ หัดในแบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access 3 หน้า 32-33 Exploring Grammar
Units 4-5 (ดคู ำตอบในเฉลยแบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access 3 หนา้ 32-33 (ภาคผนวก B))
9. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ เคร่ืองมือ เกณฑ์
1. หนงั สอื เรยี น Access ม. 3
2. แบบฝึกหัด Access ม. 3
3. Access Class Audio CDs ม. 3
10. การวัดและประเมนิ ผล
วิธีการวดั
วิธีการวัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด เกณฑก์ ารประเมินชน้ิ งาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟงั แบบประเมนิ การฟงั ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู แบบประเมินการพดู โตต้ อบ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การเขียน แบบประเมนิ การเขียน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสยี ง แบบประเมินการอ่านออกเสียง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ด้านทักษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
1. ประเมินผลการเลา่ นิทานของไทย
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 14
วิชา ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน รหสั วิชา อ23101 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 Narrow escapes! เวลา 11 ชัว่ โมง
เร่ือง Oh my goodness! เวลา 1 ช่ัวโมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวนั ท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
โรงเรยี น บ้านแม่ยางหา้ สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่อื งทฟี่ งั และอา่ นจากส่อื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ต 1.1 ม.3/2 อ่านออกเสียงข้อความ ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้ันๆ ถูกต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ม.3/3 ระบแุ ละเขยี นสอ่ื ท่ีไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สมั พันธก์ ับประโยค และขอ้ ความที่ฟงั
หรอื อา่ น
ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบหุ ัวข้อเร่ือง ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เก่ยี วกบั เรือ่ งทีฟ่ ังและอา่ นจากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลขา่ วสาร แสดงความร้สู ึกและความ
คดิ เหน็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ ัว สถานการณ์ ข่าว เรือ่ งท่ี
ต 1.2 ม.3/4 อยใู่ นความสนใจของสังคม และสอื่ สารอย่างตอ่ เนื่องและเหมาะสม
ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขยี นเพ่อื ขอและให้ข้อมูล อธบิ าย เปรียบเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั
เร่ืองที่ฟังหรอื อ่านอยา่ งเหมาะสม
พดู และเขียนบรรยายความรสู้ ึก และความคิดเหน็ ของตนเองเกีย่ วกับเรือ่ งตา่ งๆ กจิ กรรม
ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์ พร้อมทงั้ ให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่างๆ โดยการพูดและ
การเขียน
ต 1.3 ม.3/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ยี วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรอ่ื ง/ประเด็นตา่ งๆ ท่ี
อยู่ในความสนใจของสังคม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ