ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภ้ าษา น้ำเสียง และกริ ิยาทา่ ทางเหมาะกับบุคคลและโอกาสตามมารยาท
สังคม และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ม.3/3 เข้าร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อืน่ และเปน็ พื้นฐานใน
การพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน
ต 3.1 ม.3/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจรงิ ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อนื่
จากแหล่งการเรียนรู้ และนำเสนอดว้ ยการพูดและการเขียน
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองท่ีเกดิ ข้ึนในห้องเรยี น สถานศกึ ษา
ชมุ ชน และสงั คม
2. สาระสำคัญ
ขอ้ มูลเกย่ี วกับประสบการณ์ของตนเองและเหตกุ ารณท์ เี่ กดิ ขน้ึ ในอดตี ปรากฏการณ์ธรรมชาติ นิทาน
นวนยิ าย การแสดงความคิดเหน็ รวมถึงการคน้ ควา้ ข้อมูลเกย่ี วกบั ภยั พบิ ตั ิ
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
- สนทนาและเขียนเกีย่ วกบั ประสบการณ์แปลกๆ ของตนเอง
4. สาระการเรยี นรู้
• Vocabulary
Feelings: surprised, relieved, tired, bored, terrified, worried, calm, excited
Natural phenomena: earthquake, lightning, flood, tornado, hurricane, volcanic
eruption
• Language Structure
Past simple: regular and irregular verbs
Time words: as soon as, when, while, so, after, until, then
Forming adverbs: e.g. careful – carefully, good – well
• Functional Exponents
Talking about the feelings:
- I felt surprised.
- I felt bored.
Narrating past events:
- You’ll never guess what happened to me.
- What was going on?
- What on earth was it?
• Pronunciation
/ i:/: he, knee, bee
/ ɪə/: here, beer, near
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- สนทนาและเขียนเกย่ี วกบั ประสบการณแ์ ปลกๆ ของตนเอง
6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
- ความสามารถในการส่อื สาร
7. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- มีวนิ ยั
- มงุ่ มั่นในการทำงาน
8. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ันที่ 1 (ขนั้ นำ) Warm up
ใหน้ กั เรียนอา่ นชอ่ื บท Unit 2e และดูภาพในหนังสอื เรยี น หนา้ 26 แลว้ เดาว่าเนอื้ หาในบทนี้นา่ จะ
เก่ียวกับเร่อื งอะไร (an unexpected event)
ขนั้ ที่ 2 (ขนั้ นำเสนอ) Presentation
1. ใหน้ กั เรียนฟงั การออกเสยี งประโยคท่ีใชใ้ นการเล่าเหตกุ ารณ์ในอดีตในหนังสอื เรียน หน้า 26 Ex.1 จาก
CD 1/Track 31 โดยครูเปิด CD ใหน้ กั เรียนฟังจนจบ 1 คร้ัง แล้วจงึ เปดิ อีกคร้ัง โดยหยุด CD ทกุ ครั้งท่ี
จบประโยค เพอ่ื ให้นักเรยี นออกเสียงตาม และบอกคำท่ีออกเสียงเน้นหนกั ในแต่ละประโยค
You’ll never guess what happened to me. Oh, my goodness!
I had quite a shock. You look a little upset.
What on earth was it? What was going on?
What is it? Oh, dear!
2. ใหน้ กั เรยี นทำ Ex.2 ในหนังสอื เรยี น หนา้ 26 โดยครูอธบิ ายวา่ ประโยคใน Ex.1 มาจากบท
สนทนาระหวา่ ง John กับ Penny แล้วให้นกั เรยี นดูภาพและเดาว่าเกดิ อะไรข้ึนกบั Penny (e.g. She
saw a snake.) จากนัน้ ครเู ปิด CD 1/Track 32 ให้นกั เรยี นฟงั บทสนทนาเพ่ือตรวจว่านักเรียนเดา
ถูกตอ้ งหรอื ไม่
She saw a snake at the zoo. The snake escaped from its cage and went
in a fountain.
3. ใหน้ ักเรียนทำ Ex.3 ในหนงั สือเรียน หน้า 26 โดยอ่านบทสนทนาระหว่าง John กับ Penny แลว้ จด
บนั ทึกเหตกุ ารณ์ท่เี กิดขน้ึ กับ Penny ตามลำดับ เสรจ็ แล้วเปรยี บเทยี บกับเพื่อนขา้ งๆ และตรวจคำตอบ
พรอ้ มกนั
Suggested Answer Key
1. Penny went to the zoo.
2. Penny heard people shouting and screaming.
3. She saw people around the fountain, looking really scared.
4. She saw a long orange snake swimming in the fountain.
5. The guards caught the snake and put it back in its cage.
ข้นั ท่ี 3 ( ขน้ั ฝกึ ) Practice
1. ใหน้ ักเรียนทำ Ex.4 ในหนังสอื เรยี น หนา้ 26 โดยแปลประโยคใน Ex.1 เป็นภาษาไทย
2. ใหน้ กั เรียนอา่ นบทสนทนาในหนังสอื เรียน หน้า 26 อีกครั้ง แลว้ หาประโยค/สำนวนท่ีมีความหมาย
เหมือนกับวลใี น Ex.5 เสร็จแลว้ ครสู ่มุ เรยี กนกั เรียนบอกคำตอบ
1. Oh, dear./Oh, my goodness! 4. You don’t see that every day.
2. What is it? 5. Imagine that!
3. You look a little upset.
3. ครูให้นกั เรยี นลอกตารางในหนังสือเรยี น หนา้ 26 Ex.7 ลงในสมดุ แล้วเปิด CD 1/Track 33 ใหน้ ักเรียน
ฟังว่าคำศพั ท์ทไี่ ดย้ ินน้ันออกเสยี ง /i:/ หรอื /ɪə/ แลว้ ทำเครอ่ื งหมาย ลงในตารางตามเสียงทไ่ี ด้ยิน
จากน้ันครเู ปิด CD อกี คร้ัง โดยหยดุ ทีละคำเพ่อื ให้นักเรียนออกเสยี งตาม แล้วใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั บอก
คำศพั ท์คำอื่นทีอ่ อกเสียง /i:/ และ /ɪə/
/i:/ /ɪə/ /i:/ /ɪə/
he ✓ beer ✓
here ✓ knee ✓
bee ✓ near ✓
Suggested Answer Key /ɪə/: fear, spear, dear, deer
/i:/: she, me, we
ขน้ั ท่ี 4 (ขั้นนำไปใช)้ Production
1. ใหน้ กั เรยี นทำ Ex.6 ในหนงั สือเรียน หนา้ 26 โดยระดมความคิดชว่ ยกนั บอกเกีย่ วกบั เหตุการณ์ที่ไม่ปกติ
(e.g. see a ghost/famous person/wild animal, find or lose something) จากนั้นจบั คู่กนั
สนทนาเก่ียวกับเหตุการณ์ที่ไมป่ กติทีเ่ กิดขึ้นกบั ตนเองโดยใชป้ ระโยคใน Ex.1 และครเู ขียนรูปแบบการ
สนทนาเปน็ ตัวอยา่ งใหน้ ักเรยี นดูบนกระดาน
ครูสังเกตการทำกิจกรรมรอบๆ ช้ันเรียน และสุ่มเรียกนกั เรยี นบางค่อู อกมาพดู สนทนาทห่ี น้าชนั้ เรยี น
Suggested Answer Key
A: Hi, John. You’ll never guess what happened to me.
B: What is it? You look a little upset.
A: I was in the supermarket when I heard people shouting and screaming.
B: What on earth was it?
A: Everyone was at the entrance and they all looked really scared.
B: Oh, my goodness! What was going on?
A: A lion was outside the supermarket.
B: Oh, dear! Was anyone hurt?
A: No. Animal Control came and took it away.
B: Well, you don’t see that every day, do you?
A: No, you certainly don’t.
2. นกั เรียนทำแบบฝึกหดั ในหนังสอื แบบฝกึ หดั หน้า 24 Unit 2e Exs.1-3 โดยใน Ex.1 ให้นักเรยี นฟัง
Access Workbook Audio CD/Track 4 ประกอบการทำแบบฝึกหัด (ดูคำตอบในเฉลยแบบฝกึ หัด
Access 3 หน้า 24 (ภาคผนวก A))
… And according to the latest information released by the National Centre
for Disaster Studies, our country is experiencing more earthquakes now
than ever before. So, we have decided to give our listeners some useful
tips on how you can protect yourselves from this new danger.
If you are indoors and the ground starts to shake, you should get under a
desk, table or other furniture like that. It’s the only way you can protect
yourself from falling objects. Sadly, earthquakes can damage buildings, and
even cause them to collapse! So hiding under a table may well save your
life! Remember to keep away from windows and doors, too. This is the best
way to make sure you don’t get cut by broken glass. And for those of you
who work in an office, stay clear of the lifts; they are not a safe place to
be! Lift cables can break and send the lift crashing to the ground!
According to the NCDS, most people are outdoors during an earthquake. If
that applies to you, try to get to an open space away from buildings and
trees. If you’re in an open space, you won’t get trapped by any falling
debris. Also remember to move away from areas with overhead electrical
wires; they can break and kill anybody unlucky enough to be beneath
them.If you’re in your car, you should try to come to a quick stop, if it is
safe for you to do so. Try to avoid parking near or under buildings or
bridges, as these locations can be dangerous. When you’re safe, switch on
your car radio and wait for news bulletins. Most radio stations provide
constant information on what you should do during emergencies.
Last, but not least, try to stay calm and tell others not to panic. If you ever
need further help during an earthquake, you can call ‘Quakeline’ 24 hours
a day, free of charge on 0936 542 5483 …
ขน้ั ท่ี 5 (ข้นั สรปุ ) Wrap up
1.นกั เรียนทำแบบฝึกหดั ในแบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access 3 หน้า 34 Revision Units 1-5 (ดู
คำตอบในเฉลยแบบฝกึ ไวยากรณ์ Extra Access 3 หน้า 34 (ภาคผนวก B))
9. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสือเรียน Access ม. 3
2. แบบฝึกหัด Access ม. 3
3. Access Class Audio CDs ม. 3
10. การวัดและประเมินผล
วิธีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด เกณฑก์ ารประเมนิ ช้ินงาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟัง แบบประเมนิ การฟัง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูด แบบประเมินการพดู โตต้ อบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมินการเขียน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมนิ การอ่านออกเสยี ง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
1. ประเมินผลการเล่านทิ านของไทย
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 15
วชิ า ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน รหสั วิชา อ23101 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 Narrow escapes! เวลา 11 ชัว่ โมง
เร่อื ง Curricular cut เวลา 2 ช่ัวโมง
ครูผู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า สอนวนั ท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
โรงเรยี น บ้านแม่ยางห้า สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ัด
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งทฟี่ งั และอา่ นจากส่อื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมีเหตผุ ล
ต 1.1 ม.3/2 อ่านออกเสียงข้อความ ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้ันๆ ถูกต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ม.3/3 ระบุและเขยี นสอ่ื ท่ีไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สมั พันธก์ ับประโยค และขอ้ ความที่ฟงั
หรอื อ่าน
ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบหุ ัวข้อเร่ือง ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เก่ยี วกบั เรือ่ งทีฟ่ ังและอา่ นจากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลขา่ วสาร แสดงความร้สู ึกและความ
คิดเหน็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ ัว สถานการณ์ ข่าว เรือ่ งท่ี
ต 1.2 ม.3/4 อยู่ในความสนใจของสังคม และสอื่ สารอย่างตอ่ เนื่องและเหมาะสม
ต 1.2 ม.3/5 พดู และเขียนเพ่อื ขอและให้ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั
เร่ืองท่ีฟงั หรอื อ่านอยา่ งเหมาะสม
พูดและเขียนบรรยายความรสู้ ึก และความคิดเหน็ ของตนเองเกีย่ วกับเรือ่ งตา่ งๆ กจิ กรรม
ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์ พร้อมทงั้ ให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่างๆ โดยการพูดและ
การเขียน
ต 1.3 ม.3/1 พดู และเขยี นบรรยายเก่ยี วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรอ่ื ง/ประเด็นตา่ งๆ ท่ี
อยู่ในความสนใจของสังคม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ต 2.1 ม.3/1 เลือกใชภ้ าษา นำ้ เสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาสตามมารยาท
สังคม และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม.3/3 เข้ารว่ ม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเชือ่ มโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่ และเปน็ พื้นฐานใน
การพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศนข์ องตน
ต 3.1 ม.3/1 คน้ คว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจรงิ ท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั กล่มุ สาระการเรียนรอู้ น่ื
จากแหล่งการเรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ยการพูดและการเขยี น
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองท่ีเกดิ ข้ึนในห้องเรยี น สถานศึกษา
ชุมชน และสังคม
2. สาระสำคญั
ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ประสบการณ์ของตนเองและเหตุการณ์ที่เกดิ ขน้ึ ในอดีต ปรากฏการณ์ธรรมชาติ นทิ าน
นวนยิ าย การแสดงความคดิ เหน็ รวมถึงการคน้ ควา้ ข้อมลู เกยี่ วกับภัยพบิ ตั ิ
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
- พดู และเขยี นเล่าเหตกุ ารณ์ท่ีเกิดขน้ึ ในอดตี และนทิ าน/เร่ืองเล่าได้
4. สาระการเรียนรู้
• Vocabulary
Feelings: surprised, relieved, tired, bored, terrified, worried, calm, excited
Natural phenomena: earthquake, lightning, flood, tornado, hurricane, volcanic
eruption
• Language Structure
Past simple: regular and irregular verbs
Time words: as soon as, when, while, so, after, until, then
Forming adverbs: e.g. careful – carefully, good – well
• Functional Exponents
Talking about the feelings:
- I felt surprised.
- I felt bored.
Narrating past events:
- You’ll never guess what happened to me.
- What was going on?
- What on earth was it?
• Pronunciation
/ i:/: he, knee, bee
/ ɪə/: here, beer, near
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- พดู และเขียนเลา่ เหตุการณ์ท่เี กดิ ขนึ้ ในอดีตและนทิ าน/เร่ืองเล่าได้
6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
- ความสามารถในการสอื่ สาร
7. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
- มีวนิ ยั
- มงุ่ มั่นในการทำงาน
8. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั ท่ี 1 (ขนั้ นำ) Warm up
ครอู า่ นชอื่ ของนกั เขยี น “ออสการ์ ไวลด์” (Oscar Wilde) ในหนงั สือเรียน หน้า 27 และชี้ใหน้ ักเรียน
ดูภาพของเขา จากนนั้ ครยู กตัวอย่างชื่อผลงานของเขา (e.g. The Happy Prince, Lady Windermere’s Fan)
แลว้ ถามนักเรียนว่ารจู้ กั ผลงานของเขาหรือไม่
ขน้ั ท่ี 2 (ขน้ั นำเสนอ) Presentation
1. ใหน้ กั เรียนทำ Ex.1 ในหนังสือเรยี น หนา้ 27 โดยครูอ่านชื่อบทอา่ น ‘The Canterville Ghost’ และให้
นกั เรยี นดูภาพดา้ นล่าง แลว้ คิดว่าบทอา่ นเรอื่ งน้ีนา่ จะเกยี่ วกบั อะไร (a ghost, a haunted house)
จากน้นั ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นบทอา่ นในกรอบ A เพอ่ื หาคำตอบ
The story is about a family who buys a haunted house.
2. ใหน้ ักเรยี นทำ Ex.2 ในหนงั สือเรียน หน้า 27 โดยฟังเสียงจาก CD 1/Track 34 แล้วเดาวา่ เกดิ อะไรขน้ึ
จากเสยี งทีไ่ ด้ยนิ จากนน้ั ใหน้ ักเรียนฟัง CD 1/Track 35 แลว้ อา่ นบทอ่านในกรอบ B ตามไปดว้ ย เพื่อ
ตรวจคำตอบ
Suggested Answer Key
I think the ghost moves around in chains. Someone hears the noise
and goes to see what is happening.
ข้นั ท่ี 3 ( ขน้ั ฝกึ ) Practice
1. ใหน้ กั เรยี นคน้ หาความหมายของคำ/วลีท่กี ำหนดใหใ้ นหนังสือเรียน หนา้ 27 Ex.3 จาก dictionary
และเติมคำ/วลีเหลา่ นี้ลงในประโยคข้อ 1-5 ครูอาจจะให้นักเรียนอา่ นบทอ่านในกรอบ B อกี ครัง้ ก่อน
เตมิ คำ เม่อื นักเรียนทำเสร็จแลว้ ครตู รวจคำตอบ จากนัน้ ชว่ ยกันอธบิ ายความหมายของคำที่เปน็ ตัวดำ
หนาในบทอา่ น
1. ambassador 4. ghost, handcuffs, rusty chains
2. haunted house 5. lubricant
3. clank of metal
2. ใหน้ ักเรียนทำ Ex.4 ในหนังสอื เรียน หนา้ 27 โดยอ่านบทอา่ นเรอ่ื ง ‘The Canterville Ghost’ อย่าง
คร่าวๆ เพ่ือหาประโยคท่ีเหมาะสมที่ใช้บรรยายภาพประกอบได้ดที ่สี ุด แลว้ ครูสมุ่ เรยี กนักเรยี นพดู
ประโยค
Suggested Answer Key
“My dear sir,” said Mr Otis, “those chains need oiling./Here, take this
small bottle of lubricant./I will leave it here for you and I will give you
more if you need it.”
2. ให้นักเรยี นเลน่ เกม Chain story โดยครูเขียนประโยค John was very tired, so he decided to go
to bed. บนกระดาน แลว้ ใหน้ ักเรยี นพูดเนือ้ เร่อื งต่อกนั ไปเร่อื ยๆ โดยครูต้งั ช่ือเร่อื งน้ีว่า ‘The ghost’
ขน้ั ที่ 4 (ขั้นนำไปใช)้ Production
1. ใหน้ กั เรยี นทำ Ex.5 ในหนังสอื เรยี น หน้า 27 โดยแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน ให้แต่ละคนรว่ มกนั แสดง
ความคดิ เห็นเกยี่ วกบั เรื่อง ‘The Canterville Ghost’ วา่ เนอื้ เรื่องต่อจากนัน้ จะเป็นอยา่ งไร แล้วให้แต่
ละกลมุ่ ออกมาอ่านตอนจบใหก้ ลมุ่ อนื่ ฟงั จากนน้ั ครูเปิด CD 1/Track 36 ให้นกั เรยี นฟังและตรวจสอบ
ว่าสงิ่ ทีน่ กั เรียนคดิ น้นั ถกู ต้องหรือไม่
Suggested Answer Key
I think the ghost got very upset that Mr Otis wasn’t scared of him and went away
upset.
For a moment the Canterville ghost stood quietly in the hall. Then, he
threw the bottle of lubricant upon the floor and he ran down the
corridor. Just as he reached the top of the great wooden stairs, a door
opened and two little white-robed figures appeared, and a large pillow
flew past his head! There was no time to be lost, so, he vanished
through the wall, and the house became quiet again.
On reaching a small secret room, he leaned up against a wall to get his
breath. He wasn’t very happy. For the first time in three hundred years,
he felt insulted.
2. นักเรียนทำแบบฝกึ หัดในหนังสอื แบบฝึกหดั หนา้ 25 Unit 2f Exs.1-3 โดยใน Ex.3 ให้นกั เรียนฟงั
Access Workbook Audio CD/Track 5 เพ่ือเขียนประโยคตามท่ไี ดย้ ินจาก CD (ดคู ำตอบในเฉลย
แบบฝึกหดั Access 3 หน้า 25 (ภาคผนวก A))
After lunch David went to the park. Nothing could prepare him for what
was about to happen. Suddenly, he heard a loud roar and the sky
turned black. He looked up and saw lightning in the sky. It started to
rain heavily. He rushed down the hill to try to get to his house but he
slipped and then the water swept him down the road.
ขน้ั ท่ี 5 (ขั้นสรปุ ) Wrap up
1. นกั เรยี นทำแบบฝึกหัดเสรมิ โดยครูถา่ ยเอกสารจาก Teacher’s Resource Pack & Tests 3 หน้า 24
Exs.10-11 (ภาคผนวก C) (ดูคำตอบใน Key to Resource Activities หนา้ 148 (ภาคผนวก C))
2. นกั เรียนทำแบบประเมนิ ตนเอง Self Check ในหนังสือเรียน หนา้ 28 (ดคู ำตอบในคู่มอื ครู หน้า 309)
3. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น โดยครถู ่ายเอกสาร Test 2 (Module 2) จาก Teacher’s Resource
Pack & Tests 3 หนา้ 101-104 (ภาคผนวก C) (ดูคำตอบใน Key to Tests หน้า 160-161 (ภาคผนวก
C))
4. นักเรยี นประเมนิ ความสามารถในการเรยี นรูข้ องตนเองตามตารางทก่ี ำหนด (Now I can…)
9. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสือเรยี น Access ม. 3
2. แบบฝกึ หัด Access ม. 3
3. Access Class Audio CDs ม. 3
10. การวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์
วิธีการวัด เกณฑ์การประเมินช้ินงาน ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟัง ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมินการพูดโต้ตอบ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพดู แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การเขียน แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ด้านทักษะ/สมรรถนะ
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. แบบประเมนิ พดู และเขียนเลา่ เหตุการณ์ทเี่ กดิ ขึน้ ในอดีตและนิทาน/เรื่องเลา่ ได้
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 16
วิชา ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน รหสั วิชา อ23101 ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 Travel
เรอ่ื ง Places to visit เวลา 12 ชั่วโมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
โรงเรียน บ้านแมย่ างห้า เวลา 2 ชว่ั โมง
สอนวนั ที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้วี ัด
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสอ่ื ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตผุ ล
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรูส้ ึกและความ
มาตรฐาน ต 1.3 คิดเห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรอ่ื งตา่ งๆ โดยการพดู และ
การเขียน
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชอ่ื มโยงความรกู้ ับกลุ่มสาระการเรียนรอู้ ่นื และเป็นพนื้ ฐาน
ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ตัวชีว้ ัด ปฏิบตั ิตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายท่ีฟงั และอา่ น
ต 1.1 ขอ้ 1 อ่านออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสัน้ ๆ ถูกต้องตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ขอ้ 2 ระบุและเขยี นสื่อท่ไี ม่ใช่ความเรยี งรูปแบบต่างๆ ใหส้ ัมพนั ธ์กับประโยคและขอ้ ความทีฟ่ งั หรอื
ต 1.1 ข้อ 3 อ่าน
เลอื ก/ระบุหัวข้อเรอ่ื ง ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเร่อื ง
ต 1.1 ข้อ4 ทีฟ่ ังและอ่านจากส่อื ประเภทต่างๆ พร้อมทง้ั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง ประกอบ
สนทนาและเขียนโต้ตอบขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เรอ่ื งตา่ งๆ ใกลต้ ัว สถานการณ์ ขา่ ว
ต 1.2 ข้อ 1 เรอื่ งทีอ่ ยู่ในความสนใจของสังคม และสอื่ สารอย่างตอ่ เน่อื งและเหมาะสม
ต 1.2 ขอ้ 2 ใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธบิ ายอย่างเหมาะสม
ต 1.3 ขอ้ 1 พดู และเขียนบรรยายเกีย่ วกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ์/เรอื่ ง/ประเดน็ ต่างๆ ท่ีอยู่
ในความสนใจของสงั คม
ต 2.1 ข้อ 1 เลือกใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกิริยาท่าทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาสตามมารยาทสังคมและ
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ข้อ 2 อธิบายเกีย่ วกบั ชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้าของภาษา
ต 3.1 ข้อ 1 ค้นคว้า รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ขอ้ เท็จจริงทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนร้อู ่ืน จาก
แหล่งเรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ยการพดู และการเขยี น
ต 4.1 ขอ้ 1 ใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา
ชุมชน และสังคม
2. สาระสำคัญ
รแู้ ละเข้าใจคำศพั ท์เก่ยี วกบั วันหยุด สถานท่ีทอ่ งเที่ยว วธิ ีการเดินทาง กิจกรรม ทีพ่ ัก และการใช้ present
perfect ชว่ ยให้ใช้ภาษาในการส่อื สารทงั้ การฟัง/อา่ น และเขยี นไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
- เรียนร้คู ำศพั ท์เกี่ยวกับวนั หยุด สถานที่ท่องเท่ียว วธิ ีการเดนิ ทาง กิจกรรม ทพี่ ัก และคำศัพทต์ ่อไปนี้ dive,
underwater, guests, impressive, dark secrets, major attraction, dark alleys, vaults, deserted
churchyards ได้
- ฟงั /อ่านเพ่ือหาข้อมูลจำเพาะได้
- ใช้ present perfect ได้ถกู ตอ้ ง
- เขียนโปสการด์ ถึงเพ่อื นเพอ่ื บรรยายวันหยุดได้
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- การจับใจความสำคัญ เชน่ ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนบั สนุน
- การบรรยายเกี่ยวกับตนเอง
5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟัง พูด อา่ นและเขยี นเกยี่ วกับตนเอง กจิ วัตรประจำวนั กจิ กรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวนั
6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการคิด
- การคดิ วเิ คราะห์
7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
- ใฝ่เรยี นรู้
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นที่ 1 (ข้นั นำ) Warm up
1. นักเรียนทำแบบทดสอบความรู้กอ่ นเรียนโดยใช้ Self Check ในหนงั สือเรยี น หนา้ 38
2. ครูให้นกั เรยี นดูชื่อหนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3: Travel ในหนงั สือเรยี น หน้า 29 แล้วบอกวา่ หมายความวา่
อย่างไร จากนนั้ ครูให้นกั เรยี นคิดวา่ เนือ้ หาในหน่วยการเรียนรู้นนี้ ่าจะเกีย่ วกับเร่ืองอะไร ครูกระตุน้ ให้
นกั เรียนตอบคำถามดว้ ยการเปิดดูเนื้อหาในหนังสือเรยี น หนา้ 30-37 อยา่ งครา่ วๆ
ข้นั ท่ี 2 (ขัน้ นำเสนอ) Presentation
1. ครชู ี้แจงให้นกั เรยี นทราบว่า หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 นักเรียนจะได้เรยี นรูเ้ กยี่ วกบั
• types of holidays
• holiday destinations
• holiday experiences
• present perfect with already, yet, just, since, for
• present perfect continuous
• present perfect vs past simple
• making, accepting & refusing invitations
2. ครใู ช้ภาพ 1-2 ในหนงั สอื เรียน หนา้ 29 กระตุ้นความสนใจของนกั เรียนเขา้ สกู่ ารอภปิ รายและนำเข้าสู่
หน่วยการเรยี นรู้ โดยครถู ามคำถามเพื่อเรมิ่ การอภิปรายเก่ยี วกบั หวั ขอ้ ตา่ งๆ ทน่ี กั เรยี นจะเรียนในหน่วย
การเรียนรนู้ ี้
3. นักเรียนทำกจิ กรรมในหนงั สือเรยี น หนา้ 29 หัวขอ้ Find the page numbers for โดยหาว่า a
postcard, rules on how to swim safely, an email, an article about an underwater hotel
และ a theme park อยู่ในหนังสอื เรียนหนา้ ใด เมื่อหาพบแล้วครถู ามคำถามเกยี่ วกับหวั ข้อดังกล่าวเพื่อ
ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน
ขน้ั ท่ี 3 ( ขน้ั ฝึก ) Practice
1. นกั เรียนทำกจิ กรรมในหนงั สอื เรยี น หน้า 30 Ex. 1 (to predict the content of a text and read
for specific information) โดยครอู า่ นชอ่ื ของบทอา่ น และกระตุ้นให้นักเรียนเดาว่าบทอ่านนี้นา่ จะ
เกยี่ วกบั เรอ่ื งอะไร จากนั้นใหน้ ักเรียนรว่ มกนั ระดมความคดิ คดิ คำถาม 3 คำถาม เกี่ยวกบั สถานท่ที ั้ง 2
แห่งในภาพ เชน่ Where is Jules’ Undersea Lodge? What can you do there? How much
does it cost to stay there? What can you see in Edinburgh? What is a ghost walk? What
can you see during a ghost walk? เม่ือนกั เรียนคดิ คำถามได้แล้วครเู ปิด CD 1/Track 38 ให้
นักเรยี นฟงั และอา่ นบทอ่านตามไปด้วย เพอื่ ดวู า่ นกั เรียนตอบคำถามไดห้ รือไม่
2. ครูให้นกั เรยี นอ่านบทอา่ นในหนงั สือเรียน หน้า 30 อกี คร้ัง แล้วตอบคำถามใน Ex. 2 (to read for
specific information) เสรจ็ แล้วครตู รวจคำตอบของนกั เรียน
3. ครใู ห้เวลานกั เรยี น 2-3 นาที เพอ่ื เตรยี มคำตอบในกจิ กรรม Think! หนังสอื เรียน หนา้ 30 โดยเขียน
ประโยค 2-3 ประโยค จากนนั้ ใหน้ ักเรียนอา่ นคำตอบของตนเองใหเ้ พ่อื นขา้ งๆ ฟัง
4. ครูอา่ นคำศัพท์ 1-5 และ a-e ในหนงั สือเรยี น หน้า 31 Ex. 3 (to learn new vocabulary and
synonyms) แล้วอธิบายคำศพั ท์ทีน่ ักเรียนไม่รคู้ วามหมาย และใหน้ ักเรยี นหาคำศพั ท์ 1-5 ในบทอา่ น
หนา้ 30 จากน้ันให้นักเรยี นจบั คู่กับคำศพั ท์ 1-5 กับคำทมี่ ีความหมายเหมือน a-c เสร็จแลว้ ครูตรวจ
คำตอบ แล้วให้นักเรียนอธิบายคำทพี่ ิมพ์ตวั หนาในบทอา่ น
5. ครเู ขยี น mind map ในหนังสอื เรยี น หนา้ 31 Ex. 4 (to brainstorm for vocabulary related to a
given topic) บนกระดาน แล้วกระตนุ้ ให้นักเรียนชว่ ยกนั บอกคำศพั ท์ท่ีเก่ยี วข้องกบั วนั หยดุ ใน
แต่ละหัวขอ้ ยอ่ ย ซ่ึงได้แก่ places to visit, type, means of transport, activities,
accommodation โดยครูเขียนคำศพั ท์ท่ีนกั เรียนบอกลงใน mind map บนกระดาน แล้วให้นกั เรียน
คัดลอก mind map ลงในสมดุ ของตนเอง
ข้ันที่ 4 (ข้ันนำไปใช)้ Production
1. ครูใหน้ กั เรียนดูข้อความในหนงั สือเรียน หน้า 31 Ex. 8 (to practise the present perfect) แลว้ บอก
วา่ เป็นข้อความประเภทใด (postcard) จากนัน้ ครูอธิบายว่า Rio de Janeiro คือชอ่ื เมอื งท่ีอยู่ใน
ประเทศบราซลิ แล้วใหน้ ักเรียนทำกจิ กรรมโดยเปลยี่ นคำกริยาในวงเลบ็ ให้อยู่ในรปู present perfect
เม่ือนักเรยี นทำเสรจ็ แล้วครูตรวจคำตอบ
1. ’ve ever been 4. ’ve swum 7. has been
2. ’ve visited 5. ’ve tried 8. Have you ever been
3. ’ve walked 6. haven’t visited
ข้นั ท่ี 5 (ขนั้ สรุป) Wrap up
1. นกั เรยี นทำกจิ กรรมในหนงั สอื เรียน หนา้ 31 Ex. 9 (to write a postcard) โดยครใู ห้นกั เรียนอา่ น
บทอ่านในหนา้ 30 อกี คร้ัง แล้วเลือกสถานท่ใี นภาพมา 1 สถานท่ี เพอื่ เขยี นโปสการด์ ครูให้นักเรียน
จินตนาการวา่ นักเรียนอยูใ่ นชว่ งวนั หยุดในสถานที่ทีน่ กั เรยี นเลอื ก แลว้ เขียนโปสการ์ดถึงเพอ่ื นเพ่ือ
บรรยายวนั หยดุ ของตนเองตามหัวขอ้ ทก่ี ำหนดให้ ครใู หเ้ วลานักเรยี นทำงานในชน้ั เรียน หรืออาจ
มอบหมายให้เป็นการบ้าน
9. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสอื เรียน Access 3 ม. 3
2. แบบฝึกหัด (Workbook) Access 3 ม. 3
3. แบบฝกึ ไวยากรณ์ Extra Access 3 ม. 3
4. Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนังสอื เรยี น Access 3 ม. 3)
5. CD หนงั สือ Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3
10. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
วิธกี ารวดั เกณฑก์ ารประเมินชิ้นงาน ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟัง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ การพูดโตต้ อบ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การฟงั แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูด แบบประเมนิ การอ่านออกเสียง ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขยี น แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นทักษะ/สมรรถนะ
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 17
วชิ า ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน รหสั วิชา อ23101 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 Travel เวลา 12 ชัว่ โมง
เร่ือง Out of the ordinary เวลา 2 ช่วั โมง
ครูผูส้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า สอนวันท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
โรงเรียน บา้ นแมย่ างห้า สำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอา่ นจากสอื่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตผุ ล
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรูส้ กึ และ
มาตรฐาน ต 1.3 ความคิดเหน็ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูดและ
การเขียน
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื และเป็นพื้นฐาน
ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
ตวั ชีว้ ัด ปฏิบตั ติ ามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายท่ีฟังและอา่ น
ต 1.1 ขอ้ 1 อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้ันๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ข้อ 2 ระบุและเขยี นสอื่ ทีไ่ มใ่ ชค่ วามเรียงรูปแบบต่างๆ ใหส้ มั พันธ์กบั ประโยคและ
ต 1.1 ข้อ 3 ข้อความทฟ่ี ังหรอื อ่าน
เลอื ก/ระบหุ ัวขอ้ เรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนนุ และแสดงความคิดเหน็
ต 1.1 ข้อ4 เกย่ี วกบั เร่อื งที่ฟงั และอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ พร้อมทงั้ ให้เหตผุ ลและยกตวั อย่าง
ประกอบ
ต 1.2 ขอ้ 1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรอ่ื งต่างๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ขา่ ว
เรอ่ื งทอี่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม และสื่อสารอย่างตอ่ เน่ืองและเหมาะสม
ต 1.2 ขอ้ 2 ใช้คำขอรอ้ ง ให้คำแนะนำ คำชแี้ จง และคำอธบิ ายอยา่ งเหมาะสม
ต 1.3 ข้อ 1 พูดและเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/เรือ่ ง/ประเดน็
ตา่ งๆ ทีอ่ ยู่ในความสนใจของสังคม
ต 2.1 ข้อ 1 เลอื กใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาสตามมารยาท
สังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ขอ้ 2 อธบิ ายเกี่ยวกับชวี ิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณขี องเจ้าของภาษา
ต 3.1 ขอ้ 1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ข้อเท็จจริงที่เก่ยี วข้องกับกล่มุ สาระการเรียนร้อู ่นื
จากแหลง่ เรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ยการพูดและการเขียน
ต 4.1 ขอ้ 1 ใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองทีเ่ กิดข้นึ ในห้องเรียน
สถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม
2. สาระสำคัญ
รู้และเขา้ ใจการใช้ present perfect กับ already, yet, just, since, for การใช้ present perfect
continuous, past simple และ present perfect ช่วยใหใ้ ช้ภาษาในการสือ่ สารไดอ้ ย่างถูกต้องทง้ั การอา่ นและ
เขียน
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- เรยี นรู้คำศพั ท์ต่อไปน้ี typical, melt, entire, actual, snowmobile, warm, believe it or not,
queue up, on sale, treat yourself, just the place, trust me, local snack, reindeer meat ได้
- อ่านเพ่ือหาข้อมลู จำเพาะได้
- ใช้ present perfect กบั already, yet, just, since, for ไดถ้ ูกตอ้ ง
- ใช้ present perfect continuous ได้ถูกต้อง
- ใช้ past simple และ present perfect ได้ถูกต้อง
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- การจบั ใจความสำคญั เชน่ ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนับสนุน
- การบรรยายเกี่ยวกบั ประสบการณ์
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟัง พูด อา่ นและเขยี นเก่ยี วกับตนเอง กจิ วตั รประจำวัน กิจกรรม และสถานการณต์ า่ งๆ ในชีวิตประจำวนั
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการสือ่ สาร
- ความสามารถในการคิด
- การคิดวเิ คราะห์
7. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
- ใฝ่เรยี นรู้
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ ท่ี 1 (ขน้ั นำ) Warm up
ครูดงึ ความสนใจของนักเรียนมาทชี่ ื่อ Unit 3b ช่ือเรอ่ื งของบทอา่ น และภาพประกอบในหนงั สอื เรียน
หน้า 32 แล้วกระต้นุ ใหน้ ักเรยี นเดาวา่ Unit 3b น่าจะเกี่ยวกับเร่อื งอะไร (an interesting winter
holiday destination)
ขน้ั ที่ 2 (ข้ันนำเสนอ) Presentation
1. นักเรยี นดูภาพในหนังสือเรยี น หน้า 32 Ex. 1 (to predict the content of a text) แล้วครูกระต้นุ ให้
นกั เรยี นบอกสภาพอากาศท่เี ห็นในภาพ จากนัน้ ใหน้ ักเรยี นเดาว่าสถานทใี่ นภาพนา่ จะอยทู่ ่ีใด
คนทอ่ี ยใู่ นภาพ A กำลังทำอะไร และมีอะไรท่ผี ิดปกตไิ ปจากทั่วๆ ไป แล้วครเู ปดิ CD 1/Track 40 ให้
นกั เรียนฟงั และอ่านบทอา่ นตามไปด้วย เพอื่ ตรวจวา่ นกั เรยี นคาดเดาถูกตอ้ งหรือไม่
2. นกั เรยี นทำกิจกรรมในหนังสือเรยี น หน้า 32 Ex. 2 (to read for specific information) โดยอา่ น
บทอ่านอกี คร้ัง แล้วเติมประโยคให้สมบูรณ์ เสร็จแล้วครตู รวจคำตอบ
1. Norway 4. snowmobile
2. very cold and snowy 5. dried reindeer meat
3. of ice and snow
3. ครูอา่ นคำ/วลี (1-6) ในหนังสือเรียน หน้า 32 Ex. 3 (to learn new vocabulary and synonyms)
แล้วครูอธิบายหรือกระตุ้นให้นกั เรยี นบอกความหมาย จากนัน้ ครูอธบิ ายการทำกิจกรรมโดยให้นกั เรียน
หาวลใี นบทอ่านทมี่ คี วามหมายเหมือนกับคำ/วลีที่กำหนดให้ และครทู ำข้อ 1 เป็นตวั อยา่ งดว้ ยการให้
นักเรียนอ่านบรรทดั ท่ี 2 ในบทอา่ น แล้วกระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นบอกว่าคำหรือวลีใดในบรรทัดนที้ ม่ี ี
ความหมายเหมือนคำวา่ ‘surprisingly’ (believe it or not)
แลว้ ครใู ห้นักเรยี นทำขอ้ ทีเ่ หลือด้วยตนเอง เม่อื ทำเสร็จแลว้ ครูตรวจคำตอบ จากนัน้ ให้นักเรียนใชว้ ลีท่หี า
พบในบทอ่านมาแตง่ ประโยค
4. นักเรยี นทำกจิ กรรมในหนังสอื เรียน หน้า 32 Ex. 4a (to use a dictionary to find synonyms) โดยหา
ความหมายของคำทีข่ ีดเสน้ ใต้ในบทอา่ นจากพจนานุกรมภาษาอังกฤษ จากนัน้ ครูกระตุน้ ใหน้ กั เรียนบอก
คำท่ีมีความหมายเหมอื นกับคำเหล่านี้ ครใู ห้ความช่วยเหลือและอธิบายให้ชัดเจนในจุดท่นี กั เรยี นไม่เข้าใจ
เสร็จแลว้ ใหน้ ักเรยี นอธบิ ายความหมายของคำทีพ่ ิมพ์ตวั หนาในบทอ่าน
ข้ันท่ี 3 ( ขั้นฝกึ ) Practice
1. ครูใหเ้ วลานกั เรยี นเตรยี มคำตอบของคำถามในหนังสอื เรียน หนา้ 32 Ex. 4b (to consolidate new
information) กจิ กรรม Think! ว่าสิ่งท่ีทำให้ Kautokeino ไม่ธรรมดาคอื อะไร และเขียนเหตผุ ล 3 ข้อ ท่ี
ควรไปเทยี่ วท่ี Kautokeino เมอื่ นกั เรียนเขียนเสรจ็ แลว้ ครูสุ่มเรยี กนกั เรียนบางคนอ่านคำตอบของตนเอง
2. นกั เรยี นอา่ นการใช้ already, yet, just, since, for ในหนังสอื เรียน หน้า 33 Ex. 5 (to present the
present perfect with already, yet, just, since, for) แล้วครกู ระตุ้นใหน้ กั เรียนยกตัวอยา่ งประโยค
ท่ใี ช้ adverbs เหล่านเี้ พม่ิ เตมิ และใหน้ ักเรียนแปล adverbs เหลา่ น้เี ป็นภาษาไทย จากนั้นให้นกั เรียน
อา่ นบทอ่าน หนา้ 32 อย่างรวดเร็วเพ่อื หาว่า adverbs คำใดท่ีมใี นบทอ่าน
ข้ันที่ 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
1. ครูเขียนประโยค I have been studying since 9:00 am. บนกระดาน และวาดเสน้ ตามน้ี
แลว้ อธิบายวา่ ประโยคนี้การกระทำเรม่ิ ต้นในเวลา 9:00 am และตอ่ เน่ืองไปจนถึงปัจจบุ ัน โครงสร้าง
ประโยคที่ใช้ คือ present perfect continuous ซึ่งใชแ้ สดงถึงชว่ งเวลาท่ตี อ่ เนื่องของ
การกระทำ
จากนนั้ ครูใหน้ กั เรียนอา่ นการใช้ present perfect continuous ในหนงั สือเรียน หน้า 33 Ex. 8
(to present the present perfect continuous & practise since and for with the present
perfect continuous) แล้วครูอ่านตวั อยา่ งท่ใี ห้มา และอธิบายใหน้ กั เรียนฟังว่าเราใช้ for เมื่อกล่าวถึง
ชว่ งเวลา เชน่ two days, two months, two years แตเ่ ราใช้ since กบั วนั หรอื เวลาทแี่ นน่ อน เชน่
Monday, September, 2005 แล้วครูใหน้ ักเรียนแต่งประโยค present perfect continuous โดยใช้
for หรือ since กับคำ/วลีทีก่ ำหนดให้ ครูบอกนักเรียนว่าประโยคทีน่ กั เรยี นแต่งตอ้ งเป็นประโยคบอกเลา่
เมอื่ นกั เรยี นทำเสร็จแลว้ ครตู รวจคำตอบ
2. ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นแบบทดสอบความรู้ (quiz) ในหนังสือเรียน หน้า 33 Ex. 10 (to practise the past
simple and the present perfect) แล้วเปลีย่ นคำกริยาในวงเลบ็ ให้อยู่ในรูป present perfect หรือ
past simple เมื่อทำเสร็จแล้วครตู รวจคำตอบ พรอ้ มทง้ั ให้นักเรยี นอธบิ ายเหตุผลประกอบคำตอบของ
ตนเอง
ขั้นที่ 5 (ขั้นสรุป) Wrap up
1. ครูอา่ นตวั อย่างท่ีใหม้ าในหนงั สือเรียน หน้า 33 Ex. 11 (to write about travel experiences, using
the present perfect and past simple) ให้นกั เรียนฟงั แลว้ ให้เวลานกั เรียนคิดและเขียนประโยค
4 ประโยค เก่ยี วกับประสบการณ์การเดนิ ทางของตนเอง โดยใชโ้ ครงสรา้ ง present perfect และ past
simple เสร็จแล้วครูตรวจคำตอบโดยให้นักเรียนอา่ นประโยคของตนเอง
9. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี น Access 3 ม. 3
2. แบบฝกึ หดั (Workbook) Access 3 ม. 3
10. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมอื เกณฑ์
เกณฑก์ ารประเมนิ ชิ้นงาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
วิธีการวดั แบบประเมินการฟัง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ การพดู โต้ตอบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟงั แบบประเมินการเขียน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพดู แบบประเมินการอา่ นออกเสียง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการออกเสยี ง แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นทักษะ/สมรรถนะ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 18
วิชา ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน รหัสวชิ า อ23101 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 Travel
เรือ่ ง Greetings from… เวลา 12 ชวั่ โมง
ครผู ูส้ อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
โรงเรียน บา้ นแมย่ างหา้ เวลา 2 ชั่วโมง
สอนวันท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ และ
มาตรฐาน ต 1.3 ความคิดเหน็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
นำเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่างๆ โดยการพดู และ
การเขยี น
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรูก้ ับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน และเป็นพ้ืนฐาน
ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวัด ปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำช้ีแจง และคำอธบิ ายทฟ่ี ังและอา่ น
ต 1.1 ข้อ 1 อ่านออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ขอ้ 2
ต 1.1 ขอ้ 3 ระบแุ ละเขยี นสื่อทไี่ มใ่ ช่ความเรยี งรูปแบบต่างๆ ใหส้ มั พันธก์ บั ประโยคและ
ขอ้ ความท่ฟี ังหรอื อา่ น
ต 1.1 ข้อ4 เลือก/ระบุหัวขอ้ เรอ่ื ง ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนบั สนนุ และแสดงความคดิ เห็น
เกย่ี วกบั เร่อื งท่ฟี ังและอ่านจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ พรอ้ มท้ังให้เหตุผลและยกตัวอย่าง
ต 1.2 ข้อ 1 ประกอบ
สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง เรอื่ งตา่ งๆ ใกล้ตวั สถานการณ์ ข่าว
เร่ืองทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสังคม และส่ือสารอยา่ งตอ่ เนอ่ื งและเหมาะสม
ต 1.2 ขอ้ 2 ใชค้ ำขอรอ้ ง ให้คำแนะนำ คำช้ีแจง และคำอธิบายอย่างเหมาะสม
ต 1.3 ขอ้ 1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ/์ เรื่อง/ประเด็น
ตา่ งๆ ท่อี ย่ใู นความสนใจของสังคม
ต 2.1 ขอ้ 1 เลือกใช้ภาษา น้ำเสยี ง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกับบุคคลและโอกาสตามมารยาท
สงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ข้อ 2 อธิบายเกี่ยวกบั ชวี ิตความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจา้ ของภาษา
ต 3.1 ขอ้ 1 ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ข้อเท็จจริงท่เี กย่ี วขอ้ งกับกล่มุ สาระการเรยี นรู้อื่น
จากแหลง่ เรียนรู้ และนำเสนอดว้ ยการพดู และการเขยี น
ต 4.1 ข้อ 1 ใช้ภาษาสอื่ สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองท่เี กิดขึ้นในหอ้ งเรยี น
สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
2. สาระสำคัญ
ความรู้เกีย่ วกับรปู แบบการเขียนแบบไมเ่ ปน็ ทางการ (informal style) ชว่ ยให้ใชภ้ าษาในการสอื่ สารดว้ ย
การเขียนไดอ้ ย่างเหมาะสม
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
- เรียนรคู้ ำศัพท์ต่อไปนี้ sunburnt, crowded, gorgeous, rude, disgusting, boring, wet, rainy,
exciting things ได้
- เขียน email ถึงเพ่อื นได้
- เรยี นรูร้ ปู แบบการเขยี นแบบไม่เป็นทางการได้
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
- การบรรยายเกีย่ วกับประสบการณ์
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟัง พูด อา่ นและเขียนเก่ียวกับตนเอง กจิ วัตรประจำวนั กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวัน
6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการสอ่ื สาร
7. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
- ใฝเ่ รยี นรู้
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันที่ 1 (ขั้นนำ) Warm up
ครใู หน้ ักเรียนดูภาพและอ่านช่อื Unit 3c ในหนงั สือเรียน หนา้ 34 แล้วครกู ระตุ้นใหน้ กั เรยี นบอกวา่
เน้อื หาใน Unit 3c จะเกยี่ วกบั เร่ืองอะไร (greetings from holiday destinations)
ขน้ั ที่ 2 (ข้ันนำเสนอ) Presentation
1. นกั เรียนทำกจิ กรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 34 Ex. 1 (to read for context and specific
information) โดยครูดงึ ความสนใจของนกั เรยี นมาที่ email และกระตนุ้ ให้นกั เรยี นตอบคำถามวา่ ใคร
เปน็ ผูส้ ง่ email ฉบับน้ี สง่ ถงึ ใคร และ Mike อยู่ท่ีไหน
Janet is sending it to Mike.
Janet is in California and Mike is at home.
2. นกั เรียนศกึ ษาหวั ขอ้ Learning to learn ในหนงั สอื เรียน หน้า 34 เกีย่ วกับ informal style (การเขยี น
แบบไมเ่ ปน็ ทางการ) จากนั้นครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนดว้ ยการถามคำถาม เช่น informal
style จะใช้เมอื่ ไร และมีลักษณะเชน่ ใดบา้ ง
3. นักเรยี นทำกจิ กรรมในหนงั สือเรยี น หนา้ 34 Ex. 2 (to read for cohesion and coherence and to
listen for confirmation, to identify elements of informal style) โดยอา่ น email แล้วเตมิ
ช่องว่างดว้ ยวลี a-f ท่ีกำหนดให้ เม่ือทำเสร็จแลว้ ครูเปดิ CD 1/Track 41 ใหน้ กั เรียนฟังเพอื่ ตรวจ
คำตอบ
ขั้นที่ 3 ( ข้นั ฝกึ ) Practice
1. นกั เรียนทำกจิ กรรมในหนงั สือเรียน หน้า 34 Ex. 3 (to present new vocabulary) โดยหาความหมาย
ของคำท่พี มิ พต์ วั หนาในแตล่ ะประโยคจากพจนานุกรมภาษาองั กฤษ จากนัน้ ใหน้ ักเรยี นใช้ประโยค เหล่าน้ี
เขยี นบรรยายเกี่ยวกับวันหยุดที่ผา่ นมาของตนเอง เม่อื นกั เรยี นทำเสรจ็ แลว้ ครสู ่มุ เรียกนกั เรียนอ่านให้
เพอื่ นฟงั
2. ครอู ่านตัวอยา่ งการใช้ have been และ have gone ที่อย่ใู นกรอบในหนงั สอื เรียน หน้า 34 Ex. 4
(to understand the difference between have been and have gone) จากน้นั ใหน้ ักเรยี นเตมิ
ประโยคใหส้ มบูรณ์ด้วย have been หรอื have gone เสร็จแล้วครูตรวจคำตอบของนกั เรยี น
1. has gone 2. has been 3. has gone 4. has been
ข้ันที่ 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
ครใู หน้ ักเรยี นเล่นเกม โดยครเู ขยี นคำเหล่านบ้ี นกระดาน sunburnt, crowed, rude, disgusting,
boring, wet & rainy จากน้ันใหน้ ักเรยี นแบ่งกล่มุ แลว้ ใหแ้ ต่ละกล่มุ ผลดั กนั สง่ ตัวแทนครงั้ ละ 1 คน
แต่งประโยคโดยใช้คำทค่ี รเู ขียนบนกระดาน ถ้าแต่งประโยคได้ถกู ต้องจะได้
ประโยคละ 1 คะแนน กลมุ่ ทไ่ี ด้คะแนนมากที่สดุ เปน็ ผ้ชู นะ
e.g. Team A S1: Don’t stay in the sun too long. You can get sunburnt.
Team B S1: I don’t like crowed beaches. I prefer quiet ones.
ขัน้ ท่ี 5 (ขั้นสรุป) Wrap up
1. กำลังใช้เวลา 1 สปั ดาห์ ทร่ี ีสอร์ต แลว้ ให้นักเรียนเขยี น email ถงึ เพอ่ื นโดยมรี ายละเอยี ดตามหัวขอ้ ที่
กำหนดให้ ครูให้นกั เรยี นชว่ ยกันระดมความคิดเก่ียวกบั ข้อมลู ท่จี ำเป็นในการเขียน โดยครถู ามคำถาม
เชน่ Can you think of a holiday resort you have been to or would like to go to?
(Tenerife) Where could you stay? (in a nice hotel) What could you do? เปน็ ต้น จากน้นั ครู
ใหเ้ วลานกั เรยี นเขียน email ในช้นั เรียนหรอื มอบหมายใหเ้ ปน็ การบ้าน เสร็จแล้วครตู รวจงานเขยี นของ
นกั เรียน
9. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนังสือเรียน Access 3 ม. 3
2. แบบฝึกหัด (Workbook) Access 3 ม.3
10. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมอื เกณฑ์
เกณฑก์ ารประเมินชน้ิ งาน ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
วิธกี ารวดั แบบประเมนิ การฟงั ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ การพดู โตต้ อบ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมินการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขยี น แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 19
วชิ า ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน รหัสวชิ า อ23101 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 Travel
เรื่อง Culture corner เวลา 12 ชวั่ โมง
ครูผสู้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรียน บา้ นแมย่ างห้า เวลา 2 ชั่วโมง
สอนวันท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรือ่ งท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตุผล
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ และ
มาตรฐาน ต 1.3 ความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่างๆ โดยการพดู และ
การเขยี น
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรูก้ ับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน และเป็นพ้ืนฐาน
ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวช้วี ัด ปฏิบตั ิตามคำขอรอ้ ง คำแนะนำ คำช้ีแจง และคำอธบิ ายทฟ่ี ังและอา่ น
ต 1.1 ขอ้ 1 อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ข้อ 2
ต 1.1 ข้อ 3 ระบุและเขยี นสื่อทไี่ มใ่ ช่ความเรยี งรูปแบบต่างๆ ใหส้ มั พันธก์ บั ประโยคและ
ข้อความท่ฟี ังหรืออา่ น
ต 1.1 ขอ้ 4 เลอื ก/ระบหุ ัวข้อเรอ่ื ง ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนบั สนนุ และแสดงความคดิ เห็น
เกยี่ วกบั เรอ่ื งทีฟ่ งั และอ่านจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ พรอ้ มท้ังให้เหตุผลและยกตัวอย่าง
ต 1.2 ข้อ 1 ประกอบ
สนทนาและเขยี นโต้ตอบข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง เรอื่ งตา่ งๆ ใกล้ตวั สถานการณ์ ข่าว
เรื่องที่อยูใ่ นความสนใจของสงั คม และสอื่ สารอยา่ งตอ่ เนื่องและเหมาะสม
ต 1.2 ขอ้ 2 ใชค้ ำขอรอ้ ง ให้คำแนะนำ คำช้ีแจง และคำอธิบายอยา่ งเหมาะสม
ต 1.3 ขอ้ 1 พูดและเขยี นบรรยายเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ์/เร่ือง/ประเด็น
ตา่ งๆ ทอ่ี ยูใ่ นความสนใจของสังคม
ต 2.1 ขอ้ 1 เลอื กใช้ภาษา น้ำเสยี ง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาสตามมารยาท
สังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ข้อ 2 อธบิ ายเกยี่ วกบั ชวี ติ ความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณขี องเจ้าของภาษา
ต 3.1 ขอ้ 1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ข้อเท็จจรงิ ที่เก่ยี วข้องกบั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ืน่
จากแหล่งเรยี นรู้ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน
ต 4.1 ขอ้ 1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรียน
สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม
2. สาระสำคญั
ความรเู้ ก่ยี วกับ Legoland สวนสนกุ ในแคลฟิ อร์เนีย ชว่ ยใหเ้ กดิ ความเข้าใจในชวี ติ ความเป็นอยู่ของ
เจา้ ของภาษา และเปน็ พ้ืนฐานในการค้นควา้ รวบรวมขอ้ มลู และนำเสนอด้วยการเขยี น
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
- เรียนรคู้ ำศพั ทต์ ่อไปน้ี plastic bricks, trip, attractions, form models, take a ride, driving
licence, safari trek, landmarks ได้
- อ่านเพ่อื หาข้อมลู จำเพาะได้
- สรา้ งคำนามท่ีเป็นนามธรรมจากคำกริยาได้
- เขียนบทความเกย่ี วกบั สถานท่ีท่องเทีย่ วหรอื สวนสนุกในประเทศไทยได้
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- การจบั ใจความสำคัญ เช่น ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนับสนนุ
- การบรรยายเกย่ี วกบั ประเดน็ ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม
- สถานทที่ ่องเที่ยวในประเทศของเจ้าของภาษา
- การคน้ ควา้ การรวบรวม และการนำเสนอข้อมูลท่ีเก่ยี วข้องกบั กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ ื่น
5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟัง พูด อ่านและเขยี นเก่ยี วกับตนเอง กจิ วัตรประจำวัน กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวนั
6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
- ความสามารถในการสอื่ สาร
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- ใฝ่เรยี นรู้
8. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขัน้ ท่ี 1 (ขั้นนำ) Warm up
ครถู ามนักเรยี นวา่ ‘theme park’ คืออะไร (places with lots of fun activities) แลว้ ถามต่อว่าใน
ประเทศ-ไทยมี theme park หรอื ไม่ ถา้ มีคอื ท่ใี ด และนักเรยี นเคยไปเท่ียว theme park หรือไม่ ครใู ห้
นักเรียนคิดเกีย่ วกบั ประสบการณข์ องตนเอง
ข้ันท่ี 2 (ขั้นนำเสนอ) Presentation
1. นกั เรียนทำกิจกรรมในหนังสอื เรียน หน้า 35 Ex. 1 (to introduce the topic) โดยครถู ามนักเรียนวา่
รจู้ ัก Lego หรือไม่ แลว้ ครูดงึ ความสนใจของนักเรยี นมาทชี่ อ่ื เรอ่ื งของบทอา่ นและภาพ และกระตุ้นให้
นกั เรยี นบอกวา่ Legoland คืออะไร (a theme park) และอยู่ในประเทศใด (USA) จากนั้นครูให้
นักเรยี นระดมความคิด คิดคำถาม 3 คำถามเกย่ี วกับ Legoland เชน่ What can people see/do
there? Are there a lot of attractions? Can visitors make model there? เสรจ็ แล้วครเู ปิด CD
1/Track 42 ใหน้ กั เรียนฟงั และอ่านบทอ่านในหนงั สอื เรียนตามไปด้วย เพือ่ ดูวา่ คำถามของนกั เรยี นมี
คำตอบหรือไม่
2. ครใู ห้นักเรียนอ่านบทอา่ นในหนังสอื เรียน หน้า 35 อกี ครง้ั แล้วตอบคำถามใน Ex. 2 (to read for
specific information) เสรจ็ แลว้ ครตู รวจคำตอบของนักเรยี น
ขั้นที่ 3 ( ขน้ั ฝึก ) Practice
1. ครใู ห้นกั เรียนหาความหมายของคำท่กี ำหนดใหใ้ นหนังสือเรียน หนา้ 35 Ex. 3 (to present new
vocabulary) จากพจนานกุ รมภาษาอังกฤษ จากนั้นใหน้ กั เรียนใช้คำเหลา่ น้แี ต่งประโยคเก่ียวกับ
Legoland เม่อื นกั เรยี นทำเสรจ็ แล้วครูตรวจคำตอบโดยการสมุ่ เรียกนกั เรยี นหลายๆ คน อา่ นประโยคของ
ตนเองให้เพอ่ื นฟงั
Answer Key
There are a lot of great attractions at Legoland California.
You can dig for dinosaur bones at Dino Island in Legoland.
You can take a ride on Coastersaurus, a big roller coaster at Legoland.
You can get a driving licence and drive a fire truck at Fun Town.
You can see lions and zebras on the safari trek.
Be sure not to miss the chance to go to Legoland!
At Miniland, USA, in Legoland, 20 million LEGO bricks form models of
landmarks.
ขั้นท่ี 4 (ข้ันนำไปใช)้ Production
1. นักเรียนอา่ นหลกั เกณฑก์ ารสรา้ งคำนามทเ่ี ปน็ นามธรรม (abstract nouns) จากคำกริยา (verbs) ใน
หนงั สือเรยี น หน้า 35 Ex. 4 (to form abstract nouns from verbs) แล้วครยู กตัวอย่างเพิม่ เติมเพอ่ื
สาธิตการทำกิจกรรม เชน่ develop – development, attend – attention จากนั้นใหน้ ักเรียนสรา้ ง
คำนามจากคำกรยิ าท่กี ำหนดใหโ้ ดยใช้พจนานุกรมภาษาองั กฤษ เสรจ็ แล้วครตู รวจคำตอบบนกระดาน
attract – attraction, equip – equipment, excite – excitement
ขั้นท่ี 5 (ขั้นสรุป) Wrap up
1. นกั เรยี นทำกิจกรรมในหนังสอื เรยี น หน้า 35 Ex. 5 (to write a short article) โดยครูแบง่ นักเรยี น
ออกเป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 4-5 คน แลว้ ใหน้ กั เรยี นระดมความคิดเก่ียวกับสถานทีพ่ เิ ศษในประเทศไทย เช่น
สถานท่ีทอ่ งเทย่ี ว หรือสวนสนกุ ที่นกั เรยี นสามารถนำมาเขียนบทความได้ จากนัน้ ให้แต่ละกล่มุ ค้นคว้า
รวบรวมขอ้ มลู จากอนิ เทอรเ์ น็ตหรอื หนงั สอื อา้ งอิง โดยมรี ายละเอียด ดังนี้ What’s its name? Where
is it? What can you do/see there? ครมู อบหมายให้เปน็ การบ้าน เสร็จแลว้ ครตู รวจผลงานของ
นกั เรยี น
9. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
1 หนงั สอื เรียน Access 3 ม. 3
2 แบบฝกึ หัด (Workbook) Access 3 ม. 3
10. การวัดและประเมนิ ผล
วิธกี ารวดั เคร่อื งมือ เกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด เกณฑ์การประเมนิ ชิน้ งาน รอ้ ยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมินการฟัง ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ การพูดโตต้ อบ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสยี ง แบบประเมินการอา่ นออกเสียง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทักษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 20
วิชา ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน รหัสวชิ า อ23101 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 Travel
เร่อื ง How about…? เวลา 12 ชวั่ โมง
ครผู ้สู อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรยี น บา้ นแม่ยางห้า เวลา 2 ชัว่ โมง
สอนวนั ท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทีฟ่ งั และอา่ นจากส่ือประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตุผล
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรูส้ กึ และ
มาตรฐาน ต 1.3 ความคิดเหน็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ
นำเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรอื่ งตา่ งๆ โดยการพดู และ
การเขยี น
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใชไ้ ด้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชอื่ มโยงความร้กู บั กลุ่มสาระการเรยี นร้อู ื่น และเปน็ พน้ื ฐาน
ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม
ตัวชวี้ ัด ปฏิบตั ติ ามคำขอรอ้ ง คำแนะนำ คำช้ีแจง และคำอธบิ ายท่ีฟงั และอ่าน
ต 1.1 ขอ้ 1 อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ถูกต้องตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ขอ้ 2
ต 1.1 ขอ้ 3 ระบุและเขียนสือ่ ทไี่ มใ่ ช่ความเรยี งรูปแบบตา่ งๆ ให้สัมพันธ์กบั ประโยคและ
ขอ้ ความทฟี่ งั หรืออ่าน
ต 1.1 ขอ้ 4 เลอื ก/ระบุหวั ข้อเร่ือง ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคิดเหน็
เกี่ยวกับเรอ่ื งทฟี่ ังและอ่านจากส่อื ประเภทตา่ งๆ พร้อมทงั้ ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ต 1.2 ขอ้ 1 ประกอบ
สนทนาและเขยี นโต้ตอบขอ้ มูลเกยี่ วกับตนเอง เรอ่ื งตา่ งๆ ใกล้ตวั สถานการณ์ ข่าว
เร่อื งที่อยูใ่ นความสนใจของสงั คม และส่อื สารอยา่ งตอ่ เน่อื งและเหมาะสม
ต 1.2 ข้อ 2 ใชค้ ำขอรอ้ ง ใหค้ ำแนะนำ คำช้ีแจง และคำอธบิ ายอยา่ งเหมาะสม
ต 1.3 ข้อ 1 พูดและเขยี นบรรยายเก่ียวกับตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ์/เร่ือง/ประเด็น
ตา่ งๆ ท่อี ยูใ่ นความสนใจของสงั คม
ต 2.1 ข้อ 1 เลอื กใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกริ ิยาท่าทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาสตามมารยาท
สังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ข้อ 2 อธิบายเกย่ี วกับชวี ิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนยี มและประเพณีของเจา้ ของภาษา
ต 3.1 ข้อ 1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ข้อเท็จจรงิ ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ ืน่
จากแหล่งเรียนรู้ และนำเสนอดว้ ยการพดู และการเขียน
ต 4.1 ขอ้ 1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองทเ่ี กดิ ขึ้นในห้องเรียน
สถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม
2. สาระสำคัญ
ร้แู ละเขา้ ใจสำนวนภาษาที่ใช้ในการเชิญ การตอบรบั และปฏิเสธคำเชิญ การออกเสยี งคำศัพท์ท่ีถูกต้อง
ตามหลักการอา่ น ชว่ ยใหใ้ ช้ภาษาในการสือ่ สารในสถานการณต์ ่างๆ ได้อย่างเหมาะสม
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- เรียนร้สู ำนวนภาษาตอ่ ไปนี้ Would you like to …? How about going/coming …? I’d love to,
That sounds great! Thanks, but I’m afraid I can’t, I’d love to, but I can’t ได้
- อ่านออกเสียงสำนวนภาษาทใ่ี ช้ในการเชญิ การตอบรบั และปฏเิ สธคำเชญิ และคำศัพทท์ ี่มีเสยี ง / /, / /
- แสดงบทสนทนาในการเชิญ ตอบรับและปฏิเสธคำเชญิ ได้
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- การออกเสียงตามระดงั เสียงสงู -ต่ำในประโยค การออกเสียงสระเสยี งยาว
- ภาษาทีใ่ ช้ในการส่ือสารระหวา่ งบคุ คล
- การเลือกใชภ้ าษา นำ้ เสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางในการสนทนาตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม
ของเจ้าของภาษา
- การใช้ภาษาสอื่ สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองทเี่ กดิ ขึ้นในห้องเรยี น
5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟงั พูด อา่ นและเขียนเก่ยี วกับตนเอง กจิ วตั รประจำวนั กิจกรรม และสถานการณต์ า่ งๆ ในชวี ิตประจำวนั
6. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
- ใฝ่เรยี นรู้
8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั ท่ี 1 (ขั้นนำ) Warm up
ครใู หน้ ักเรียนอ่านชือ่ Unit 3e ในหนังสอื เรียน หนา้ 36 แลว้ กระต้นุ ให้นกั เรียนบอกว่าเมอ่ื ไหรท่ ีเ่ ราใช้
สำนวน How about…? (when we want to make a suggest/invite somebody somewhere)
จากน้ันให้นักเรยี นคิดว่าเน้ือหาใน Unit 3e นา่ จะเก่ียวกบั เรื่องอะไร (invitations)
ขัน้ ที่ 2 (ขั้นนำเสนอ) Presentation
1. ครอู ่านประโยค/วลใี นหนังสือเรยี น หน้า 36 Ex. 1 (to present useful phrases) ให้นกั เรยี นฟัง และ
อธิบายคำศัพท์ทน่ี ักเรยี นไม่รู้ความหมาย เช่น lucky – fortunate จากน้นั เปิด CD 1/Track 43 ให้
นักเรยี นฟงั โดยหยดุ CD เมื่อจบแต่ละประโยค/วลี และใหน้ กั เรียนออกเสยี งตาม ครูสังเกตการออก
เสยี งสูง-ต่ำในประโยคของนกั เรยี น
กิจกรรมเพ่มิ เตมิ ครูให้นกั เรยี นเลน่ เกม Memory game ดว้ ยการให้นักเรยี นจดจำประโยค/วลใี น Ex.
1 ภายในเวลา 1 นาที จากน้ันให้นกั เรียนทกุ คนปิดหนงั สอื เรียน และพยายามนึกประโยค/วลใี หไ้ ด้มาก
ท่ีสดุ แลว้ ครใู หน้ ักเรียนบอกประโยค/วลที ่จี ำได้
2. นักเรยี นทำกิจกรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 36 Ex. 2 (to predict the content of a text) โดยครู
อธบิ ายวา่ ประโยค/วลใี น Ex. 1 นนั้ มาจากบทสนทนาระหว่างเพอื่ น 2 คน แลว้ ครูกระตุ้นใหน้ กั เรยี นบอก
วา่ บทสนทนาดงั กล่าวน่าจะเกย่ี วข้องกบั อะไร จากน้ันครูเปิด CD 1/Track 44 ใหน้ ักเรยี นฟงั และอ่าน
บทสนทนาในหนังสอื เรยี นตามไปดว้ ย เพอ่ื ตรวจว่าการคาดเดาของนักเรียนถกู ต้องหรอื ไม่
It’s about inviting someone to a summer camp.
ข้นั ที่ 3 ( ขั้นฝึก ) Practice
1. นักเรียนทำกจิ กรรมในหนงั สอื เรียน หน้า 36 Ex. 3 (to consolidate new vocabulary through
translation) โดยแปลประโยค/วลีใน Ex. 1 เป็นภาษาไทย ครูบอกนักเรียนวา่ ควรเลอื กใชถ้ อ้ ยคำท่ีมี
ความหมายเทียบเท่ากบั ในภาษาไทย ไม่ควรแปลแบบคำต่อคำ จากน้ันครใู หน้ กั เรียนจับคู่ฝกึ อ่านบท
สนทนา
2. นกั เรยี นทำกจิ กรรมในหนงั สอื เรยี น หนา้ 36 Ex. 4 (to understand the meaning of everyday
English expressions) โดยอ่านบทสนทนา แลว้ หาประโยคในบทสนทนาทีม่ คี วามหมายเหมอื นกบั
ประโยค 1-4 ที่กำหนดให้ เสร็จแลว้ ครูตรวจคำตอบโดยสมุ่ เรียกนกั เรียนบางคนอ่านคำตอบของตนเอง
ขัน้ ที่ 4 (ขัน้ นำไปใช)้ Production
1. ครูให้นกั เรียนอา่ นสำนวนภาษาในการเชญิ การตอบรบั และปฏเิ สธคำเชิญในหนงั สือเรยี น หน้า 36 Ex. 5
(to make, accept and refuse invitations) แล้วให้นกั เรยี นจับคกู่ บั เพื่อน ใชส้ ำนวนภาษาดังกล่าว
เชิญเพอื่ นทำกิจกรรมตามที่กำหนดให้ จากนนั้ ครูสุ่มเรยี กนกั เรียนหลายๆ คู่ ออกมาแสดงการเชญิ การ
ตอบรบั และปฏิเสธคำเชิญทห่ี นา้ ชนั้ เรียน
• A: Would you like to go to the cinema?
B: I’d love to.
• A: How about going hiking?
B: That sounds great!
2. นกั เรียนฝึกออกเสียงคำศพั ทท์ ีอ่ อกเสียง / / และ / / ในหนงั สอื เรียน หน้า 36 Ex. 7 (to pronounce
/ /, / /) โดยครูเปิด CD 1/Track 45 ให้นกั เรยี นฟงั คำศพั ท์ แลว้ ทำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในช่องตามการ
ออกเสียงที่ไดย้ ิน จากนน้ั ครูเปิด CD อีกคร้ัง โดยหยดุ ทลี ะคำ ใหน้ กั เรยี นฟงั และออกเสยี งตาม แลว้ ครู
ตรวจคำตอบ เสร็จแล้วครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันคิดคำศพั ทท์ อ่ี อกเสยี ง / / และ / / เพ่ิมเตมิ
// // / / //
burn ✓ bird ✓
born ✓ board ✓
ขน้ั ที่ 5 (ข้ันสรปุ ) Wrap up
1. นักเรียนทำกจิ กรรมในหนงั สอื เรียน หน้า 36 Ex. 6 (to act out a dialogue) โดยครูอธบิ ายสถานการณ์
ให้นกั เรยี นฟงั ว่า เพอื่ นของนกั เรียนกำลงั จะไปเทย่ี ววันหยุดและได้ชวนนักเรยี นไปดว้ ย แลว้ ครูให้นกั เรียน
จับคู่กับเพอ่ื น เตรียมบทสนทนา ครบู อกนกั เรียนว่าสามารถใช้สำนวนภาษาใน Ex. 1 และ Ex. 5 รวมถึง
บทสนทนาในหนงั สือเรยี นเปน็ ต้นแบบ
ครูชว่ ยเหลือนกั เรียนโดยเขยี นโครงสรา้ งบทสนทนาบนกระดาน แล้วกระตนุ้ ใหน้ ักเรียนบอกสำนวนทค่ี วร
ใชใ้ นบทสนทนาน้ี
9. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี น Access 3 ม. 3
2. แบบฝกึ หัด (Workbook) Access 3 ม. 3
10. การวัดและประเมินผล
วิธีการวดั เครอื่ งมือ เกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด เกณฑก์ ารประเมินช้นิ งาน ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการฟัง แบบประเมนิ การฟัง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู แบบประเมนิ การพดู โตต้ อบ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การเขียน แบบประเมนิ การเขียน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมินการอา่ นออกเสยี ง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นทักษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 21
วชิ า ภาษาองั กฤษพื้นฐาน รหสั วิชา อ23101 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 Travel เวลา 12 ชว่ั โมง
เร่อื ง Curricular Cut เวลา 2 ชั่วโมง
ครูผสู้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า สอนวันท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
โรงเรยี น บา้ นแมย่ างห้า สำนักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้ีวดั ชัน้ ปี
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่ืองทฟ่ี งั และอา่ นจากสอ่ื ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตผุ ล
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความร้สู กึ และ
มาตรฐาน ต 1.3 ความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรอ่ื งต่างๆ โดยการพดู และ
การเขยี น
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรูอ้ นื่ และเป็นพน้ื ฐาน
ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ งๆ ทั้งในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม
ตัวชีว้ ัด ปฏิบัตติ ามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายท่ีฟังและอ่าน
ต 1.1 ขอ้ 1 อ่านออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสนั้ ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ข้อ 2
ต 1.1 ข้อ 3 ระบุและเขยี นสื่อทีไ่ ม่ใช่ความเรยี งรูปแบบต่างๆ ให้สมั พันธ์กับประโยคและ
ขอ้ ความทฟ่ี ังหรอื อา่ น
ต 1.1 ข้อ4 เลอื ก/ระบุหวั ข้อเรอ่ื ง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคดิ เห็น
เกยี่ วกบั เรือ่ งที่ฟงั และอ่านจากสือ่ ประเภทต่างๆ พรอ้ มท้ังให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ต 1.2 ข้อ 1 ประกอบ
สนทนาและเขียนโตต้ อบข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ข่าว
เร่ืองที่อยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอยา่ งตอ่ เนอื่ งและเหมาะสม
ต 1.2 ขอ้ 2 ใช้คำขอรอ้ ง ให้คำแนะนำ คำช้ีแจง และคำอธบิ ายอย่างเหมาะสม
ต 1.3 ข้อ 1 พดู และเขียนบรรยายเกย่ี วกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ/์ เรอื่ ง/ประเดน็
ตา่ งๆ ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 2.1 ขอ้ 1 เลือกใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาสตามมารยาท
สงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ขอ้ 2 อธบิ ายเกยี่ วกับชวี ติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนยี มและประเพณีของเจา้ ของภาษา
ต 3.1 ข้อ 1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจริงท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน
จากแหล่งเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน
ต 4.1 ขอ้ 1 ใชภ้ าษาสือ่ สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองทเ่ี กิดขึน้ ในห้องเรยี น
สถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
2. สาระสำคญั
การรู้ความหมายของคำแนะนำ ชว่ ยให้ปฏบิ ัติตามสื่อทีฟ่ ังและอา่ น และใชภ้ าษาในการให้คำแนะนำไดอ้ ยา่ ง
ถกู ต้อง
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- เรียนรู้สำนวนภาษาตอ่ ไปนี้ Would you like to …? How about going/coming …? I’d love to,
That sounds great! Thanks, but I’m afraid I can’t, I’d love to, but I can’t ได้
- อ่านออกเสยี งสำนวนภาษาทีใ่ ช้ในการเชญิ การตอบรับและปฏเิ สธคำเชิญ และคำศพั ทท์ ีม่ ีเสยี ง / /, / /
- แสดงบทสนทนาในการเชิญ ตอบรับและปฏเิ สธคำเชิญได้
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- คำแนะนำในการเลน่ นำ้ อย่างปลอดภยั
- การตีความ/ถ่ายโอนข้อมูลให้สมั พนั ธก์ ับส่อื ท่ไี ม่ใช่ความเรียง
- คำแนะนำเก่ียวกบั ความปลอดภยั ทางนำ้
- การค้นควา้ การรวบรวม และการนำเสนอขอ้ มูลท่ีเกย่ี วข้องกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อนื่
(สขุ ศึกษา)
5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟงั พดู อา่ นและเขียนเกยี่ วกับตนเอง กจิ วัตรประจำวนั กิจกรรม และสถานการณ์ต่างๆ ในชวี ิตประจำวนั
6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
- ความสามารถในการสือ่ สาร
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
7. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
- ใฝเ่ รียนรู้
8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั ท่ี 1 (ขนั้ นำ) Warm up
ครูถามนักเรียนวา่ กิจกรรม/กฬี าประเภทใดทน่ี กั เรียนทำ/เลน่ ในชัว่ โมงพลศกึ ษาทโี่ รงเรยี นจากนั้นครูกระตนุ้
ให้นักเรยี นบอกว่าการวา่ ยน้ำเป็นกิจกรรมในโรงเรยี นหรือไม่
ขน้ั ท่ี 2 (ขนั้ นำเสนอ) Presentation
1. นกั เรียนศึกษาหวั ข้อ Learning to learn ในหนังสอื เรยี น หน้า 37 แลว้ ครูอธบิ ายวา่ รปู ภาพนัน้ จะบรรจุ
ขอ้ มูลทีม่ องเหน็ ได้ ซง่ึ จะช่วยใหน้ ักเรียนเข้าใจข้อความมากย่งิ ขน้ึ
2. นักเรียนดูภาพ (A-F) ในหนังสือเรยี น หนา้ 37 Ex. 1 (to listen and read for detailed
understanding) แลว้ ครูกระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นบอกวา่ เห็นอะไรในแตล่ ะภาพ (A – a person jumping in
the water on top of a swimmer, B – a person shouting/talking while another person
listens to him/her, C – a person running, D – a person sinking because their stomach is
full, E – a person diving into water that is not very deep, F – a person reading a sign)
จากนนั้ ครใู ห้นักเรียนอา่ นคำแนะนำในการเล่นนำ้ หรอื ครูเปดิ CD 1/Track 46 ใหน้ ักเรียนฟัง แลว้ ให้
นกั เรยี นจับคูค่ ำแนะนำ (1-6) กบั ภาพ (A-F) ทีม่ ีความหมายสัมพันธ์กนั เสร็จแลว้ ครตู รวจคำตอบ พร้อม
ทงั้ ให้นักเรียนบอกวา่ คำใดที่ช่วยนกั เรยี นในการจบั คู่
1. C (run) 4. E (NO DIVING)
2. D (not eat, drown) 5. A (dive-bombing, never jump)
3. B (call, do what they say) 6. F (displayed on signs, read)
ขั้นท่ี 3 ( ข้ันฝึก ) Practice
1. ครใู ห้เวลานักเรยี นหาความหมายของคำ/วลีในหนังสอื เรียน หนา้ 37 Ex. 2 (to present new
vocabulary) จากพจนานุกรมภาษาองั กฤษ เม่อื หาความหมายครบทุกคำแลว้ ให้นักเรยี นจับคูก่ บั เพอ่ื น
ผลัดกนั ทำทา่ บอกใบ้ความหมายของคำ/วลี แล้วให้อกี คนหน่งึ ทายวา่ คอื คำใด ครสู งั เกตขณะนักเรยี นทำ
กิจกรรม แล้วส่มุ เรียกนักเรียนหลายๆ คน ทำท่าบอกใบ้ความหมายของคำ/วลีใหเ้ พื่อนในช้ันทาย
จากนน้ั ให้นกั เรยี นชว่ ยกันอธบิ ายความหมายของคำทพ่ี มิ พ์ตวั หนาทอ่ี ยใู่ นคำแนะนำในการเลน่ นำ้
2. นักเรยี นทำกจิ กรรมในหนังสือเรยี น หน้า 37 Ex. 3 (to summarise a text through role play) โดย
จนิ ตนาการว่าตนเองเป็นผดู้ แู ลความปลอดภัยในการทำกจิ กรรมนันทนาการทางนำ้ (lifeguard) แล้วครู
ใหน้ กั เรียนใช้ภาพ (A-F) บอกเพอ่ื นในชัน้ เกย่ี วกับส่งิ ทคี่ วรทำ/ไม่ควรทำขณะอยูท่ ่ีสระนำ้ ครใู ห้นักเรยี น
หลายๆ คน ออกมาสรุปคำแนะนำในบทบาทผู้ดแู ลความปลอดภยั ในการทำกิจกรรมนนั ทนาการทางนำ้
ขน้ั ท่ี 4 (ข้ันนำไปใช)้ Production
1. ครูอ่านวลีที่ใช้ keep ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 37 Ex. 4 (to present and practise new vocabulary)
แล้วอธิบายว่าตวั อกั ษรสดี ำคือคำทใ่ี ช้ร่วมกบั keep ส่วนตัวอักษรที่เป็นสตี ่างๆ คอื ความหมายของวลี
น้ันๆ จากน้นั ครใู หน้ ักเรยี นหาวลีทีใ่ ช้ keep ในคำแนะนำในการเลน่ น้ำ (They are there to keep
you safe.) แลว้ ใหน้ ักเรยี นแต่งประโยคโดยใช้วลีทใ่ี ช้ keep เหลา่ น้ี เสรจ็ แล้วครตู รวจคำตอบดว้ ยการ
ให้นกั เรยี นอา่ นประโยคของตนเอง
When I make a promise, I keep that promise.
You can trust me, I can keep a secret.
I sit by the fire to keep warm in the winter.
People should take care to keep safe on the streets at night.
ขน้ั ที่ 5 (ขัน้ สรุป) Wrap up
1. ครใู ห้นักเรียนทำกิจกรรมในหนงั สือเรียน หน้า 37 Ex. 5 (to do a project on water safety) โดย
แบง่ นักเรยี นเปน็ กล่มุ กลมุ่ ละ 3-4 คน แลว้ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ คน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกับความปลอดภยั
ทางนำ้ จากเว็บไซต์ท่ีกำหนดให้ หรือแหลง่ อ้างองิ อ่นื ๆ ครูให้เวลานกั เรยี นทำงานในช้นั เรียนหรอื
มอบหมายใหเ้ ป็นการบา้ น เสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรียนนำเสนอข้อมูลที่หนา้ ช้นั เรียน
Answer Key
• Always swim with a partner, whether you’re swimming in a pool, at the
beach,
or in a lake. He/She can go for help in case of an emergency.
• Learn some life-saving techniques.
• Know your limits. Don’t go in water that’s so deep you can’t touch the
bottom
9. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี น Access 3 ม. 3
2. แบบฝกึ หัด (Workbook) Access 3 ม. 3
3. อินเทอรเ์ นต็
10. การวัดและประเมนิ ผล
วธิ กี ารวดั เครื่องมอื เกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมินชิน้ งาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟงั แบบประเมนิ การฟัง ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพูด แบบประเมนิ การพดู โตต้ อบ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขยี น แบบประเมินการเขียน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมนิ การอ่านออกเสยี ง ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 22
วชิ า ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน รหสั วิชา อ23101 ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 The media
เรือ่ ง Daily news เวลา 12 ชว่ั โมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
โรงเรยี น บา้ นแม่ยางห้า เวลา 2 ชัว่ โมง
สอนวนั ท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั ชัน้ ปี
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอ่ื งทีฟ่ ังและอา่ นจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตุผล
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรูส้ ึกและ
ความคิดเห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรือ่ งต่างๆ โดยการพดู และ
การเขยี น
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใชไ้ ด้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใชอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเช่อื มโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อน่ื และเป็นพืน้ ฐาน
ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศนข์ องตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ งๆ ทัง้ ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
ตัวชวี้ ัด อา่ นออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองสัน้ ๆ ถูกต้องตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ข้อ 2 เลือก/ระบุหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนับสนนุ และแสดงความคดิ เหน็
ต 1.1 ขอ้ 4 เก่ยี วกับเรื่องทฟี่ งั และอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ พรอ้ มทง้ั ให้เหตผุ ลและยกตัวอย่าง
ประกอบ
ต 1.2 ขอ้ 1 สนทนาและเขียนโตต้ อบข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง เรอ่ื งต่างๆ ใกล้ตวั สถานการณ์ ข่าว
ต 1.3 ขอ้ 1 เร่อื งทอี่ ยูใ่ นความสนใจของสงั คม และสอ่ื สารอย่างตอ่ เนอ่ื งและเหมาะสม
ต 1.3 ข้อ 2 พูดและเขยี นบรรยายเกีย่ วกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เร่อื ง/ประเด็น
ตา่ งๆ ทีอ่ ย่ใู นความสนใจของสงั คม
พดู และเขยี นสรปุ ใจความสำคัญ/แก่นสาระ หัวขอ้ เร่ืองท่ไี ด้จากการวิเคราะห์เรือ่ ง/
ข่าว/เหตกุ ารณ/์ สถานการณท์ ่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 2.1 ขอ้ 1 เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกริ ยิ าท่าทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาสตามมารยาท
สงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ข้อ 2 อธิบายเกี่ยวกบั ชีวติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ขอ้ 3 เขา้ ร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
ต 2.2 ข้อ 1 เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างการออกเสยี ง
ประโยคชนิดตา่ งๆ และการลำดบั คำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย
ต 3.1 ข้อ 1 ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจรงิ ท่ีเก่ียวขอ้ งกับกล่มุ สาระการเรยี นรอู้ ื่น
จากแหล่งเรยี นรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน
ต 4.1 ขอ้ 1 ใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองทีเ่ กดิ ขนึ้ ในห้องเรียน
สถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
2. สาระสำคญั
รูแ้ ละเขา้ ใจการใช้ past simple และ past continuous ชว่ ยให้ใชภ้ าษาในการพดู เกี่ยวกับตนเองได้
อยา่ งเหมาะสม และเข้าใจว่าโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทยนน้ั แตกตา่ งกนั
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
- เรียนรู้คำศัพท์ตอ่ ไปน้ี ran off, luckily, sign, come to the rescue of, recover, panic, evidence,
saved,
get better, escape, fear, fortunately, scorpion ได้
- อา่ นเพ่อื หาข้อมูลจำเพาะได้
- ใช้ past simple และ past continuous ไดถ้ กู ตอ้ ง
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
- การจับใจความสำคญั เช่น ใจความสำคญั รายละเอียดสนับสนุน
- ภาษาทีใ่ ชใ้ นการสอ่ื สารระหว่างบคุ คล
- การเปรยี บเทียบและอธิบายความเหมอื น/ความแตกต่างระหวา่ งโครงสรา้ งประโยคของ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟงั พูด อา่ นและเขียนเกย่ี วกับตนเอง กจิ วตั รประจำวัน กิจกรรม และสถานการณต์ า่ งๆ ในชวี ิตประจำวนั
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการคิด
- การคิดวิเคราะห์
7. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
- ใฝ่เรียนรู้
8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้ันที่ 1 (ขน้ั นำ) Warm up
1. นกั เรยี นทำแบบทดสอบความรู้ก่อนเรยี นโดยใช้ Self Check ในหนงั สือเรยี น หนา้ 48
2. ครูให้นักเรียนดชู อื่ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4: The media ในหนังสอื เรียน หน้า 39 แล้วบอกว่าหมายความวา่
อย่างไร และนักเรียนคดิ ว่าหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 น่าจะเรียนเกี่ยวกับเรื่องอะไร ครกู ระตุ้นใหน้ กั เรียนตอบ
คำถามด้วยการให้นกั เรยี นเปดิ ดเู นือ้ หาในหนังสอื เรยี น หน้า 40-47 อย่างคร่าวๆ
3. ครูช้ีแจงให้นักเรยี นทราบวา่ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 นี้ นกั เรยี นจะไดเ้ รียนรูเ้ ก่ียวกับ
• types of media
• news articles
• an interview
• a TV guide
• past simple vs past continuous
• past perfect – past perfect continuous
ขัน้ ท่ี 2 (ขัน้ นำเสนอ) Presentation
1. ครดู งึ ความสนใจของนกั เรียนมาท่ีภาพ 1-5 ในหนังสือเรยี น หนา้ 39 แลว้ เปิด CD 1/Track 47 ให้
นกั เรียนฟงั คำศพั ทแ์ ละออกเสยี งตาม จากน้ันใหน้ ักเรยี นแปลความหมายของคำศพั ท์เหล่านี้เป็น
ภาษาไทยแล้วครอู ่านคำ/วลีทก่ี ำหนดใหใ้ นหวั ขอ้ Vocabulary และอธิบายหรือกระต้นุ ใหน้ กั เรยี นบอก
ความหมาย ถ้าไมแ่ นใ่ จใหน้ ักเรียนดคู วามหมายจากพจนานกุ รมภาษาองั กฤษ จากน้ันใหน้ ักเรยี นทำ
กิจกรรมคกู่ บั เพ่ือน โดยจับคู่คำ/วลีเหลา่ นใี้ หต้ รงกับประเภทของสื่อมวลชน (media) ในภาพ ครูบอก
นกั เรียนวา่ คำบางคำอาจเกี่ยวขอ้ งกับสอ่ื มวลชนไดม้ ากกวา่ 1 ประเภท
2. นกั เรยี นทำกจิ กรรม Think! ในหนังสอื เรียน หน้า 39 โดยครกู ระตนุ้ ให้นกั เรียนบอกว่านกั เรียนอ่าน
หนังสือพิมพ์/นติ ยสาร ดทู วี ี ฟังวทิ ยุ เล่นอนิ เทอร์เน็ตบอ่ ยแคไ่ หนด้วยการยกมือ แล้วครถู ามตอ่ วา่
สื่อมวลชนประเภทใดทีน่ กั เรียนชน่ื ชอบ โดยครูสมุ่ เรยี กนกั เรียนหลายๆ คน บอกคำตอบ พรอ้ มเหตุผล
จากนั้นครูนำนกั เรยี นเข้าสกู่ ารอภปิ รายสนั้ ๆ เกย่ี วกบั สื่อมวลชนสามารถใชภ้ าพของคนท่ีดดู ี/สวยมามี
อทิ ธิพลตอ่ เราอยา่ งไร
The media can use images of beautiful people to try and influence us to buy
a product. Such images can also affect our own self image and influence how
we feel about our bodies and our appearance.
3. ครูให้นักเรียนดชู อื่ Unit 4a ภาพ และบทอา่ นในหนงั สอื เรยี น หนา้ 40 แลว้ ใหน้ กั เรียนเดาวา่ Unit 4a
น่าจะเก่ียวกับเร่อื งอะไร (news stories)
ขั้นที่ 3 ( ข้ันฝึก ) Practice
1. ครดู งึ ความสนใจของนักเรยี นมาที่บทอ่าน A-C ในหนังสือเรียน หน้า 40 Ex. 1 (to understand the
context and predict the content of a text) แลว้ กระตนุ้ ใหน้ กั เรียนบอกว่าสามารถพบบทอา่ นแต่
ละเรอ่ื งได้ทใ่ี ด จากน้นั ครูอา่ นหวั ข้อในบทอา่ น และให้นักเรยี นบอกวา่ บทอา่ นแตล่ ะเรื่องน่าจะเกีย่ วข้อง
กบั อะไร แล้วครูเปดิ CD 1/Track 48 ให้นกั เรียนฟังและอา่ นบทอ่านในหนังสือเรียนตามไปดว้ ย เพ่ือ
ตรวจวา่ การคาดเดาของนักเรียนถกู ตอ้ งหรือไม่
A on the Internet – could be a story about a bear
B in a magazine – a dog saves a boy’s life
C in a newspaper – someone found a scorpion in a bunch of grapes
2. ครูอา่ นประโยค 1-5 ในหนังสอื เรยี น หนา้ 40 Ex. 2 (to read for specific information) ใหน้ ักเรยี นฟงั
และใหเ้ วลานกั เรยี นอ่านบทอ่าน A-C อกี ครง้ั เมื่ออ่านจบแลว้ ใหน้ กั เรียนตอบว่าประโยคที่ให้มาถกู ต้อง
ตามเนอ้ื เรื่องทีอ่ ่านหรอื ไม่ โดยใส่ T หรือ F พร้อมทั้งแก้ไขประโยคทผี่ ิดให้ถกู ตอ้ ง เสรจ็ แลว้ ครตู รวจ
คำตอบดว้ ยการสมุ่ เรียกนกั เรยี นบอกคำตอบ จากนัน้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั อธิบายความหมายของคำทเี่ ปน็
ตัวพิมพ์หนาในบทอ่าน
3. ครอู า่ นคำ/วลี (a-f) ในหนังสอื เรียน หนา้ 40 Ex. 3 (to present new vocabulary) และอธิบายหรือ
กระตุน้ ใหน้ กั เรยี นบอกความหมาย จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นจบั คคู่ ำ/วลที ี่ขดี เส้นใตใ้ นบทอ่านทมี่ ีความหมาย
เหมอื นกับคำ/วลีเหลา่ นี้ เสร็จแลว้ ครตู รวจคำตอบของนักเรียน
ran off – d sign – a recovering – c
Luckily – f came to the rescue of – b panic – e
ขั้นที่ 4 (ขนั้ นำไปใช)้ Production
1. นักเรยี นทำกจิ กรรมในหนงั สือเรยี น หนา้ 40 Ex. 4 (to identify with a situation) โดยครูให้เวลา
นักเรียนคิดและเตรียมคำตอบว่าถ้านกั เรียนเป็น Michelle Smith (จากบทอ่านในกรอบ C) นักเรียนจะ
ทำอย่างไร จากนน้ั ครตู รวจคำตอบโดยสุ่มเรยี กนกั เรียนบอกคำตอบของตนเองให้เพอื่ นในช้นั ฟงั
2. นักเรียนศึกษาหวั ขอ้ Learning to learn ในหนังสอื เรียน หนา้ 41 เก่ยี วกบั การเรยี นรโู้ ครงสร้าง
ไวยากรณ์ แลว้ ครูยกตัวอย่างประโยค past simple และ past continuous เปน็ ภาษาไทย เพือ่ ให้
นักเรียนเข้าใจมากขนึ้
3. นักเรยี นปดิ หนงั สอื เรียน แล้วครเู ขยี นประโยค I was watching TV at 7 o’clock yesterday
evening. บนกระดาน และกระตุ้นใหน้ กั เรยี นบอกวา่ รปู กริยาน้ีแสดงถึงอะไร (action in progress at a
specific time in the past)
แล้วครูใหน้ ักเรียนบอกรปู ประโยค past continuous (We form the past continuous with the
past simple of the verb ‘to be’ (was/were) and the main verb + -ing. We form
questions by putting was/were before the subject, and we form negations by putting
‘not’ after was/were.)
จากนน้ั ครูอธิบายหลักเกณฑ์ของ past continuous ในภาษาไทย และใหน้ ักเรียนเปรยี บเทียบกับ
หลกั เกณฑ์ของ past continuous ในภาษาอังกฤษ
กจิ กรรมเพม่ิ เตมิ ครูใหน้ ักเรียนหาตวั อย่าง past continuous ในบทอ่าน หนา้ 40 (e.g. was eating,
was hiking, was putting, were hiding)
ขั้นท่ี 5 (ขนั้ สรุป) Wrap up
1. นกั เรียนทำกจิ กรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 41 Ex. 9 (To practise the past simple and past
continuous) โดยจับคู่ แล้วบอกสถานท่ที ีน่ กั เรียนอยูเ่ มอ่ื วันอาทิตย์ท่ผี า่ นมา จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นถามและ
ตอบเกีย่ วกบั ส่งิ ทเี่ พื่อนกำลงั ทำในสถานที่ดังกลา่ วดงั ตวั อยา่ ง ครสู ังเกตขณะนักเรยี นทำกิจกรรม แล้วสมุ่
เรียกนกั เรยี นบางคู่ออกมาพูดถามและตอบคำถามทห่ี น้าชั้นเรียน
A: Last Sunday I was at home.
B: Were you doing your homework?
A: No, I wasn’t.
B: Were you watching TV?
A: No, I wasn’t.
B: Were you reading a book?
A: Yes, I was. etc
9. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี น Access 3 ม. 3
2. แบบฝึกหดั (Workbook) Access 3 ม. 3
3. แบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access3 ม. 3
4. Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนังสือเรียน Access 3 ม. 3)
5. CD หนงั สือ Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3
6. พจนานกุ รมภาษาอังกฤษ
10. การวัดและประเมินผล
วธิ กี ารวัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด เกณฑ์การประเมนิ ชิ้นงาน รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟัง แบบประเมินการฟงั ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู แบบประเมินการพดู โต้ตอบ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมินการอา่ นออกเสียง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 23
วิชา ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน รหัสวชิ า อ23101 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 The media
เร่ือง That’s incredible! เวลา 12 ชั่วโมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรียน บา้ นแม่ยางหา้ เวลา 2 ชัว่ โมง
สอนวนั ท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชวี้ ัด
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งท่ฟี งั และอ่านจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตผุ ล
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรูส้ ึกและ
ความคดิ เห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรือ่ งตา่ งๆ โดยการพดู และ
การเขยี น
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรูก้ บั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ืน่ และเป็นพืน้ ฐาน
ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ตัวชี้วัด อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองสนั้ ๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ข้อ 2 เลือก/ระบุหวั ขอ้ เรื่อง ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนบั สนนุ และแสดงความคิดเหน็
ต 1.1 ขอ้ 4 เกยี่ วกบั เร่อื งท่ฟี ังและอา่ นจากสอื่ ประเภทต่างๆ พร้อมทั้งใหเ้ หตุผลและยกตัวอย่าง
ประกอบ
ต 1.2 ข้อ 1 สนทนาและเขยี นโต้ตอบขอ้ มูลเกยี่ วกับตนเอง เร่ืองต่างๆ ใกล้ตวั สถานการณ์ ข่าว
ต 1.3 ข้อ 1 เรือ่ งท่อี ยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอยา่ งต่อเน่ืองและเหมาะสม
ต 1.3 ขอ้ 2 พูดและเขยี นบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ/์ เรอ่ื ง/ประเด็น
ต่างๆ ท่ีอยู่ในความสนใจของสงั คม
พูดและเขยี นสรปุ ใจความสำคัญ/แกน่ สาระ หวั ข้อเรอ่ื งทไี่ ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ รื่อง/
ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/สถานการณท์ ีอ่ ยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 2.1 ข้อ 1 เลอื กใชภ้ าษา น้ำเสียง และกิรยิ าท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาสตามมารยาท
สงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ข้อ 2 อธิบายเก่ียวกบั ชวี ิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนยี มและประเพณขี องเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ข้อ 3 เขา้ ร่วม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
ต 2.2 ข้อ 1 เปรยี บเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี ง
ประโยคชนดิ ตา่ งๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย
ต 3.1 ขอ้ 1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจรงิ ท่เี กยี่ วข้องกับกลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื
จากแหล่งเรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน
ต 4.1 ข้อ 1 ใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองทีเ่ กิดขึ้นในหอ้ งเรยี น
สถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
2. สาระสำคัญ
รู้และเขา้ ใจสำนวนภาษาในการให้ข่าวและตอบสนองต่อขา่ วที่ฟัง/อ่าน และเปรียบเทียบ past perfect กับ
past perfect continuous ช่วยใหใ้ ชภ้ าษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มูลเก่ยี วกบั ข่าว/เหตกุ ารณ์ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- เรียนรคู้ ำศัพท์ต่อไปนี้ tortoise, unbelievable, crawling, balcony, apartment, damaged,
rescue, conquer, injured ได้
- เปรยี บเทยี บ past perfect กับ past perfect continuous ได้
- ใหข้ ่าวและตอบสนองตอ่ ข่าวได้
- อ่านและฟงั เพ่ือหาขอ้ มลู จำเพาะได้
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- การจบั ใจความสำคัญ เชน่ ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนบั สนุน
- ภาษาท่ีใช้ในการส่อื สารระหว่างบุคคล เช่น การสนทนาเกย่ี วกับข่าว
- การจบั ใจความสำคัญของขา่ ว
- การใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟัง พดู อ่านและเขยี นเก่ยี วกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน กจิ กรรม และสถานการณต์ า่ งๆ ในชวี ิตประจำวัน
6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
- ความสามารถในการสอื่ สาร
- ความสามารถในการคิด
- การคิดวเิ คราะห์
7. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
- ใฝ่เรียนรู้
8. กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นที่ 1 (ขน้ั นำ) Warm up
ครูดึงความสนใจของนักเรียนมาทชี่ ่อื Unit 4b และภาพในหนงั สือเรยี น หน้า 42 แลว้ กระตุน้ ใหน้ ักเรียน
บอกว่าเนื้อหาใน Unit 4b น่าจะเก่ียวกับเรอื่ งอะไร (an incredible story about a tortoise)
ขนั้ ท่ี 2 (ขั้นนำเสนอ) Presentation
1. นกั เรยี นทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หนา้ 42 Ex. 1 (to predict the content of a text) โดยครูอา่ น
ประโยคแรกท่ี reporter และ Mr Shaw พูดโตต้ อบกนั ในบทสัมภาษณ์ แลว้ กระตนุ้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั
บอกว่าบทสัมภาษณน์ น้ี ่าจะเกย่ี วกับเรอ่ื งอะไร จากนนั้ ครเู ปิด CD 1/Track 49 ใหน้ ักเรยี นฟงั และอ่าน
บทสมั ภาษณ์ในหนงั สอื เรียนตามไปดว้ ย เพือ่ ตรวจวา่ การคาดเดาของนักเรียนถูกต้องหรือไม่
2. ครูให้นกั เรยี นอ่านบันทึกยอ่ ของผสู้ ่ือข่าวในหนังสือเรยี น หนา้ 42 Ex. 2 (to read for specific
information) แลว้ บอกวา่ ขอ้ มูลประเภทใดที่ขาดหายไปในแตล่ ะชอ่ งวา่ ง (1 a name, 2 a time, 3 a
verb, 4 a verb, 5 a verb, 6 an adjective to describe the car, 7 an adjective to describe