Mr Shaw’s feelings) จากนน้ั ครใู ห้เวลานักเรยี นอ่านบทสัมภาษณ์ แลว้ เติมขอ้ มูลในบันทกึ ย่อให้
สมบรู ณ์ เม่ือทำเสร็จแลว้ ครตู รวจคำตอบของนักเรียน
3. นักเรยี นทำกิจกรรมในหนังสอื เรยี น หนา้ 42 Ex. 3 (to understand the meaning of everyday
English expressions) โดยอ่านบทสัมภาษณ์ แล้วหาประโยคในบทสัมภาษณท์ ี่มีความหมายเหมอื นกบั
ประโยคที่กำหนดให้ เสร็จแล้วครตู รวจคำตอบโดยสุม่ เรยี กนกั เรยี นอ่านคำตอบของตนเอง
4. นักเรียนจบั คู่กบั เพื่อนทำกิจกรรมในหนงั สือเรยี น หน้า 42 Ex. 4a (to give a third person account of
an event) โดยใชข้ ้อมูลจากบันทึกยอ่ ใน Ex. 2 ผลัดกันเล่าวา่ เกิดอะไรขนึ้ ครูสงั เกตการทำกจิ กรรมของ
นกั เรียน แลว้ สมุ่ เรียกนักเรยี นเลา่ ให้เพื่อนในช้ันฟังว่าเกิดอะไรขึน้
ขั้นท่ี 3 ( ขนั้ ฝกึ ) Practice
1. นกั เรยี นทำกจิ กรรมในหนังสือเรียน หน้า 42 Ex. 4b (to understand new vocabulary and act
out an interview) โดยครูใหเ้ วลานกั เรียนหาความหมายของคำท่ีพิมพ์ตวั หนาในบทสัมภาษณ์ แล้วครู
กระตุน้ ใหน้ ักเรยี นบอกความหมาย จากนนั้ ให้นกั เรยี นจับคู่ฝึกแสดงการสมั ภาษณ์ แลว้ ครสู ุ่มเรยี ก
นักเรยี นบางคูอ่ อกมาแสดงการสมั ภาษณ์ทห่ี น้าช้ันเรยี น
2. นักเรยี นปดิ หนงั สอื เรียน แล้วครูเขยี นประโยค They had been waiting for three hours before
the rescue workers arrived. บนกระดาน และบอกนักเรยี นวา่ คำกริยาทข่ี ีดเส้นใตอ้ ยู่ในรปู past
perfect continuous จากนั้นกระตุ้นใหน้ ักเรยี นบอกว่า tense น้ี แสดงถึงอะไร (action that started
and ended in the past before another action, with emphasis on duration) แลว้ ครูให้
นักเรียนอา่ นหลักการใช้และตัวอย่างประโยค past perfect และ past perfect continuous ใน
หนงั สอื เรยี น หนา้ 43 Ex. 5 (to present the past perfect continuous and compare it to the
past perfect) จากนน้ั กระตุ้นให้นกั เรียนบอกว่าเราสร้าง past perfect และ past perfect
continuous อยา่ งไร แล้วให้นกั เรยี นหาตัวอย่างประโยคทั้ง 2 tense ในบทสัมภาษณ์
3. ครใู หน้ กั เรยี น 1 คน อ่านตวั อย่างในหนงั สอื เรยี น หน้า 43 Ex. 6 (to practise the past perfect
affirmative and negative) แลว้ กระตนุ้ ให้นกั เรยี นบอกรปู ปฏเิ สธของ past perfect (negative form
of past form of ‘have got’ + past participle of main verb) จากน้ันใหน้ ักเรียนจบั คู่กบั เพอื่ นพดู
บอกส่ิงท่ี Laura ทำ/ไม่ไดท้ ำ เสรจ็ แล้วครตู รวจคำตอบ และส่มุ เรียกนักเรียนทีละคนบอกเพอ่ื นในชนั้ ถงึ
สง่ิ ท่ี Laura ทำ/ไม่ไดท้ ำ
ข้ันท่ี 4 (ขัน้ นำไปใช)้ Production
1. นกั เรยี นทำกจิ กรรมในหนังสอื เรียน หนา้ 43 Ex. 8b (to consolidate the past perfect and the
past perfect continuous) โดยเขยี นประโยคเกี่ยวกับ 3 สง่ิ ที่นกั เรียนทำ/กำลังทำก่อนเขา้ ชั้นเรียน
ภาษาองั กฤษวนั นีโ้ ดยใช้ past perfect หรือ past perfect continuous เมอ่ื นักเรยี นเขยี นประโยค
เสรจ็ แลว้ ครตู รวจคำตอบด้วยการสุ่มเรียกนักเรยี นทีละคนพูดประโยคของตนเองให้เพ่ือนในชนั้ ฟงั
2. ครดู งึ ความสนใจของนักเรยี นมาท่หี วั ข้อขา่ วและตัวอยา่ งการพูดโต้ตอบในหนังสือเรยี น หน้า 43 Ex. 9
(to give and react to news) แลว้ ให้นักเรยี นจบั คูแ่ สดงการพูดโต้ตอบเก่ียวกับหวั ข้อข่าวดงั กล่าวโดย
ใช้สำนวนภาษาทใ่ี ห้มาในกรอบ ครเู ดนิ สังเกตรอบๆ ชั้นเรียนขณะนักเรยี นทำกจิ กรรม แลว้ ส่มุ เรยี ก
นกั เรยี นหลายๆ คู่ ออกมาแสดงการพูดโตต้ อบท่ีหนา้ ช้ันเรียน
Suggested Answer Key
• A: Did you hear that a falling tortoise stopped a taxi?
B: Wow! Really?
• A: Listen to this. A brother rescued his sister from a fire!
B: Wow! Really?
• A: You won’t believe this! Some teenagers conquered Everest.
B: That’s unbelievable!
• A: Did you hear that 130 people were injured in a train crash?
B: Really? Oh, dear! That’s terrible!
3. นักเรียนทำกิจกรรมในหนงั สอื เรียน หน้า 43 Ex. 10 (to listen and take notes) โดยครูเปิด CD
1/Track 50 ให้นกั เรยี นฟงั เรือ่ งราวเก่ียวกับพีช่ ายซง่ึ ช่วยชวี ติ น้องสาวของเขาจากไฟไหม้ ขณะที่ฟังให้
นกั เรยี นจดบนั ทึกยอ่ ตามหัวขอ้ ท่กี ำหนด เสรจ็ แล้วครตู รวจคำตอบของนกั เรยี น
ข้ันที่ 5 (ข้ันสรุป) Wrap up
1. นกั เรยี นทำกิจกรรมในหนังสอื เรียน หน้า 43 Ex. 11 (to act out an interview) โดยจับค่กู ับเพอ่ื น ใช้
ขอ้ มูลจากบนั ทึกยอ่ ใน Ex. 10 เตรียมบทสัมภาษณ์โดยใช้ past simple, past continuous, past
perfect และ/หรือ past perfect continuous นกั เรยี นสามารถใช้บทสมั ภาษณ์ในหนา้ 42 เป็นต้นแบบ
ครูให้เวลานกั เรียนเตรียมและฝกึ การสัมภาษณ์ โดยครสู ังเกตการทำกิจกรรมของนกั เรยี น จากนนั้ สุ่มเรยี ก
นกั เรยี นหลายๆ คู่ ออกมาแสดงการสัมภาษณท์ ีห่ นา้ ชน้ั เรียน
Suggested Answer Key
A: Good evening, Simon. I’m from the Daily Herald. Can you tell me
what happened?
B: Well, last night I was washing the dishes. I went into the living room
because I had smelt smoke, and saw it was on fire.
A: Wow! What did you do?
9. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสือเรียน Access 3 ม. 3
2. แบบฝกึ หัด (Workbook) Access 3 ม. 3
10. การวัดและประเมินผล
วิธีการวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด เกณฑก์ ารประเมินชิ้นงาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมินการฟงั ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพูด แบบประเมินการพดู โต้ตอบ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การเขยี น แบบประเมนิ การเขยี น ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นทักษะ/สมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 24
วิชา ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน รหัสวชิ า อ23101 ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 The media
เร่ือง Lucky days เวลา 12 ช่วั โมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรยี น บ้านแม่ยางหา้ เวลา 2 ชว่ั โมง
สอนวนั ที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชว้ี ัดชนั้ ปี
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรือ่ งที่ฟังและอ่านจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตุผล
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรูส้ ึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรอ่ื งตา่ งๆ โดยการพดู และ
การเขยี น
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใชอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชื่อมโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรียนรอู้ ่ืน และเปน็ พน้ื ฐาน
ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั น์ของตน
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.1 ข้อ 2 อ่านออกเสยี งข้อความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองส้นั ๆ ถกู ต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.2 ขอ้ 1 สนทนาและเขียนโตต้ อบข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว
เรือ่ งที่อยูใ่ นความสนใจของสังคม และส่อื สารอย่างตอ่ เน่อื งและเหมาะสม
ต 1.3 ขอ้ 1 พดู และเขียนบรรยายเกยี่ วกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เร่ือง/ประเดน็
ตา่ งๆ ทอ่ี ยูใ่ นความสนใจของสงั คม
ต 1.3 ข้อ 2 พดู และเขยี นสรุปใจความสำคญั /แกน่ สาระ หวั ขอ้ เรอ่ื งทไ่ี ดจ้ ากการวิเคราะห์เร่ือง/
ขา่ ว/เหตุการณ์/สถานการณ์ท่ีอยู่ในความสนใจของสงั คม
ต 2.1 ขอ้ 1 เลือกใช้ภาษา นำ้ เสยี ง และกิรยิ าทา่ ทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาสตามมารยาท
ต 2.1 ข้อ 2 สงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
อธิบายเกี่ยวกบั ชีวิตความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจา้ ของภาษา
ต 2.2 ขอ้ 1 เปรยี บเทียบและอธบิ ายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียง
ประโยคชนดิ ต่างๆ และการลำดบั คำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย
ต 3.1 ข้อ 1 ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจริงที่เกยี่ วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อื่น
จากแหล่งเรยี นรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน
2. สาระสำคญั
ร้แู ละเขา้ ใจหลักการเขยี นรายงานขา่ ว ชว่ ยใหใ้ ช้ภาษาส่อื สารเกีย่ วกบั เหตุการณต์ ่างๆ ท่ีอยู่ในความสนใจ
ของสงั คมได้อย่างเหมาะสม
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- เรียนรคู้ ำศพั ท์ต่อไปน้ี seriously injured, swerve off, crash, avoid, speed, witness, arrest,
recover, shark, jaws, surfboard, fin, ambulance, scratches ได้
- เขียนรายงานขา่ วได้
- เลา่ ประสบการณ์ได้
- ฟังเพอ่ื ยนื ยนั ข้อมลู ได้
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- การจบั ใจความสำคญั เชน่ ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน
- การบรรยายเก่ยี วกบั ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ์
- การจบั ใจความสำคญั ของขา่ ว/เหตุการณ์
5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟัง พดู อ่านและเขยี นเก่ียวกับตนเอง กิจวัตรประจำวนั กิจกรรม และสถานการณ์ต่างๆ ในชีวติ ประจำวัน
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
- ความสามารถในการสอ่ื สาร
- ความสามารถในการคิด
7. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- ใฝ่เรียนรู้
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั ที่ 1 (ข้นั นำ) Warm up
ครใู ห้นกั เรียนดชู ื่อ Unit 4c และภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 44 แล้วเดาว่าเน้ือหาใน Unit 4c น่าจะ
เกี่ยวขอ้ งกบั อะไร (an accident)
ขั้นท่ี 2 (ข้ันนำเสนอ) Presentation
1. นกั เรยี นทำกิจกรรมในหนงั สอื เรยี น หนา้ 44 Ex. 1 (to describe an event from pictures) โดยดภู าพ
อุบตั เิ หตแุ ละคิดว่าเกิดอะไรขึน้ จากนัน้ ครสู มุ่ เรียกนกั เรยี นทลี ะคนบรรยายเหตุการณ์ว่าเกดิ อะไรขน้ึ
2. ครูเปิด CD 1/Track 51 ใหน้ กั เรียนฟังและอา่ นรายงานข่าวในหนังสอื เรยี น หน้า 44 Ex. 2 (to listen
and read for confirmation) ตามไปดว้ ย เพื่อตรวจวา่ เหตุการณ์ท่นี กั เรยี นคาดเดาไว้ถูกตอ้ งหรือไม่
3. ครูอ่านคำถามในหนงั สอื เรียน หน้า 44 Ex. 3 (to read for context, purpose and structure) ให้
นักเรียนฟงั 1 ครัง้ แล้วกระตุ้นคำตอบจากนกั เรียนในช้นั จากน้นั ให้นกั เรยี นอธิบายความหมายของคำท่ี
พมิ พต์ ัวหนาในรายงานข่าว
ข้ันที่ 3 ( ขั้นฝึก ) Practice
1. นกั เรียนทำกจิ กรรมในหนังสือเรียน หนา้ 44 Ex. 4 (to narrate an experience) โดยจินตนาการว่า
ตนเองอยู่บนรถโรงเรยี นทีเ่ กิดอุบตั เิ หตุในภาพ แล้วให้นกั เรยี นเล่าประสบการณโ์ ดยเริม่ ตน้ เลา่
ประสบการณด์ ว้ ยประโยค “I was on the school bus yesterday morning on my way to
school when …” ครใู ห้เวลานกั เรียนเตรียมเรอ่ื ง จากนั้นสุ่มเรียกนักเรียนหลายๆ คน เล่า
ประสบการณใ์ ห้เพอ่ื นในชัน้ ฟงั
ขน้ั ที่ 4 (ขั้นนำไปใช)้ Production
1. ครูใหน้ กั เรียนอ่านหวั ขอ้ ขา่ วและคำสำคัญท่ีใหม้ าในหนงั สอื เรียน หน้า 44 Ex. 5 (to read to predict
content, to listen for confirmation) แลว้ กระตุ้นให้นักเรียนคิดวา่ เกดิ อะไรข้นึ กับนกั ทอ่ งเทีย่ ว
จากนนั้ ครเู ปิด CD 1/Track 52 ใหน้ ักเรยี นฟงั และตรวจว่าการคาดเดาของนักเรียนถกู ต้องหรอื ไม่
ข้นั ท่ี 5 (ข้ันสรปุ ) Wrap up
1. นักเรยี นทำกจิ กรรมในหนงั สอื เรยี น หนา้ 44 Ex. 6 (to write a news report) โดยจนิ ตนาการวา่
ตนเองเปน็ ผ้สู อ่ื ขา่ วของวารสารโรงเรียน ใหน้ กั เรียนใช้ความคิดของตนเอง หัวขอ้ ข่าว และคำสำคญั ทีใ่ ห้
มาใน Ex. 5 มาเขยี นรายงานข่าวตามโครงร่างที่กำหนดให้ ครูใหเ้ วลานกั เรียนทำงาน
ในชนั้ เรียนหรืออาจมอบหมายใหเ้ ปน็ การบา้ น เม่ือเขียนเสร็จแล้วครใู ห้นักเรียนหลายๆ คน อ่านรายงาน
ข่าวของตนเองให้เพ่ือนฟัง แล้วครตู รวจคำตอบ หรอื ใหน้ กั เรยี นแลกเปลยี่ นกบั เพ่อื นข้างเคยี งและ
ประเมนิ รายงานข่าวของเพอื่ นโดยดทู ่ี paragraphing, grammar, spelling, topic/supporting
sentences
การเขียนรายงานขา่ ว
ปกตริ ายงานขา่ วจะประกอบด้วย 3 ย่อหน้า
ในยอ่ หนา้ แรกจะเขียนสรุปเหตุการณ์ นัน่ คอื เกิดอะไรขน้ึ เมื่อไหร่ ท่ีไหน และเกยี่ วข้อง
กับใครบ้าง
ในย่อหนา้ ที่ 2 จะนำเสนอรายละเอียดของเหตกุ ารณ์ โดยปกติเราจะเขียนตามลำดับ
เหตุการณท์ ่เี กิดข้ึน
และในยอ่ หน้าสุดท้าย เราจะเขยี นว่าเกิดอะไรขน้ึ ในตอนสดุ ทา้ ย
รายงานข่าวจะตอ้ งมีชื่อเร่ืองเสมอ เพื่อบอกใหผ้ ้อู า่ นทราบถึงเนื้อหาของรายงาน
ซึ่งเปน็ รูปแบบทเ่ี ป็นทางการโดยทัว่ ไปของรายงานข่าว
9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี น Access 3 ม. 3
2. แบบฝึกหัด Access 3 ม. 3
10. การวัดและประเมินผล
วธิ ีการวัด เครอื่ งมอื เกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมินช้นิ งาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟงั แบบประเมินการฟงั ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพดู แบบประเมินการพดู โต้ตอบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขยี น แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสยี ง แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 25
วชิ า ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน รหัสวชิ า อ23101 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 The media
เรอื่ ง Culture corner เวลา 12 ชวั่ โมง
ครูผู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
โรงเรียน บ้านแม่ยางห้า เวลา 2 ชัว่ โมง
สอนวันที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ดั ชั้นปี
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอ่ื งทีฟ่ ังและอา่ นจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมเี หตผุ ล
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรูส้ ึกและ
ความคดิ เหน็ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องตา่ งๆ โดยการพูดและ
การเขียน
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเชื่อมโยงความรกู้ ับกลุ่มสาระการเรยี นร้อู นื่ และเปน็ พน้ื ฐาน
ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ทัง้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
ตวั ช้วี ัด อา่ นออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้ันๆ ถกู ต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ขอ้ 2 เลอื ก/ระบุหวั ข้อเรอื่ ง ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคิดเหน็
ต 1.1 ขอ้ 4 เกย่ี วกบั เร่ืองท่ีฟังและอ่านจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ พรอ้ มทัง้ ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อย่าง
ประกอบ
ต 1.2 ขอ้ 1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบข้อมลู เกีย่ วกับตนเอง เรือ่ งตา่ งๆ ใกล้ตวั สถานการณ์ ข่าว
ต 1.3 ข้อ 1 เร่ืองทอี่ ยู่ในความสนใจของสังคม และสอื่ สารอยา่ งต่อเนอ่ื งและเหมาะสม
ต 1.3 ขอ้ 2 พดู และเขยี นบรรยายเก่ียวกับตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ/์ เรื่อง/ประเด็น
ตา่ งๆ ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสังคม
พูดและเขยี นสรปุ ใจความสำคัญ/แกน่ สาระ หัวขอ้ เร่อื งทไ่ี ดจ้ ากการวิเคราะห์เรื่อง/
ขา่ ว/เหตกุ ารณ/์ สถานการณ์ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 2.1 ข้อ 1 เลือกใชภ้ าษา นำ้ เสยี ง และกริ ิยาท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาสตามมารยาท
สังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ข้อ 2 อธิบายเกี่ยวกับชีวติ ความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณขี องเจ้าของภาษา
ต 2.1 ขอ้ 3 เขา้ ร่วม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
ต 2.2 ขอ้ 1 เปรยี บเทียบและอธบิ ายความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสยี ง
ประโยคชนิดตา่ งๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศ
และภาษาไทย
ต 3.1 ขอ้ 1 คน้ คว้า รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจรงิ ท่ีเกีย่ วขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่
จากแหลง่ เรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน
ต 4.1 ขอ้ 1 ใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรยี น
สถานศึกษา ชุมชน และสังคม
2. สาระสำคัญ
รแู้ ละเข้าใจคำศัพทท์ ี่เกยี่ วขอ้ งกบั นิตยสาร ความรู้เก่ียวกบั นิตยสารวัยร่นุ ของชาวอังกฤษ ชว่ ยให้เขา้ ใจชวี ิต
ความเป็นอยู่ บรบิ ททางสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- เรยี นรคู้ ำศพั ทต์ อ่ ไปน้ี sections, problem page, glossy covers, celebrity gossip, horoscopes,
real-life stories ได้
- เรียนรู้เกย่ี วกบั นิตยสารวยั รนุ่ ของชาวอังกฤษและเนื้อหาของนิตยสารได้
- สรา้ งคำคุณศัพท์ (adjectives) จากคำนาม (nouns) ได้
- จดั ทำนิตยสารได้
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- การบรรยายเก่ยี วกบั เรอ่ื งที่อยู่ในความสนใจของสังคม
- ชวี ติ ความเป็นอยขู่ องเจ้าของภาษา
5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟงั พูด อา่ นและเขียนเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวัตรประจำวัน กจิ กรรม และสถานการณ์ต่างๆ ในชวี ติ ประจำวนั
6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการส่ือสาร
- ความสามารถในการคิด
- การคิดวิเคราะห์
- การคิดอย่างสรา้ งสรรค์
7. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- ใฝ่เรยี นรู้
8. กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นที่ 1 (ขนั้ นำ) Warm up
ครใู ห้นกั เรียนดูภาพในหนังสือเรยี น หน้า 45 แล้วกระตุน้ ใหน้ ักเรียนบอกว่าเนื้อหาใน Unit 4d นา่ จะ
เกย่ี วกับเร่ืองอะไร (teen magazines) จากน้นั ถามนักเรยี นว่านักเรียนอ่านนิตยสารหรอื ไม่ ถ้าอา่ น
นกั เรยี นอา่ นนิตยสารอะไร
ขั้นที่ 2 (ขัน้ นำเสนอ) Presentation
1. นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสอื เรียน หน้า 45 Ex. 1 (to identify the readership and content of
magazines) โดยครูดงึ ความสนใจของนกั เรียนมาที่ภาพปกนิตยสาร แลว้ ให้นกั เรียนตอบคำถามว่า
นิตยสารท่ีนกั เรยี นเห็นเหมาะสำหรบั ใคร และนักเรยี นจะได้อา่ นเก่ียวกบั อะไรในนติ ยสารดังกลา่ ว โดย
ครถู ามคำถามเพื่อชว่ ยนกั เรยี น เชน่
- What is the name of the magazine on the left? (Shoot)
- What does the picture on the cover show? (a footballer)
- Who do you think would read this magazine? (boys)
- What do you think you could read inside? (articles about football)
2. ครูเปิด CD 1/Track 53 ใหน้ ักเรยี นฟงั และอ่านบทอ่านในหนังสอื เรยี น หน้า 45 Ex. 2 (to listen and
read for specific information) ตามไปด้วย แล้วสมุ่ เรยี กนกั เรยี นหลายๆ คน อา่ นออกเสยี งประโยค
1-3 ที่ไมส่ มบูรณ์ จากน้ันใหน้ ักเรียนเตมิ ประโยคดังกลา่ วให้สมบรู ณ์ เมอื่ ทำเสรจ็ แล้วครูตรวจคำตอบ
ของนกั เรยี น แลว้ ให้นักเรยี นอธิบายความหมายของคำทีพ่ มิ พต์ ัวหนาในบทอ่าน
ข้ันที่ 3 ( ขนั้ ฝึก ) Practice
1. นักเรียนทำกิจกรรมในหนงั สือเรียน หนา้ 45 Ex. 3 (to relate the topic to students’ own
culture) โดยครูกระตุน้ ใหน้ ักเรียนบอกชอื่ ของนิตยสารวัยรุ่นในประเทศไทย และเนื้อหาในนิตยสาร
ดังกล่าว
ขน้ั ที่ 4 (ข้นั นำไปใช)้ Production
1. ครใู ห้นกั เรยี นอ่านหลกั เกณฑก์ ารสร้างคำคณุ ศัพท์จากคำนามในหนังสอื เรียน หนา้ 45 Ex. 4 (to form
adjectives from nouns) จากนั้นเปลี่ยนคำนามทกี่ ำหนดใหใ้ นวงเลบ็ ใหเ้ ปน็ คำคุณศัพท์
เสรจ็ แลว้ ครูกระตุ้นคำตอบจากนกั เรียน
1. successful 2. helpful 3. harmless
ข้ันที่ 5 (ข้นั สรปุ ) Wrap up
1. นกั เรยี นทำกิจกรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 45 Ex. 5 (to make a magazine) โดยครแู บ่งนกั เรียนเปน็
กลุ่ม กล่มุ ละ 4-5 คน แล้วให้แต่ละกลุม่ จัดทำนติ ยสารทมี่ ีเนอื้ หาทง้ั หมด 6 หน้า ครใู ห้แตล่ ะกล่มุ ช่วยกนั
ออกแบบเนือ้ หาท่จี ะใสใ่ นนิตยสาร ได้แก่ a crossword puzzle, some joke, sports, quizzes, a
horoscope, a problem page, a true story ซง่ึ นกั เรียนสามารถใช้ภาพจากนติ ยสารต่างๆ หรอื ภาพ
ทวี่ าดเองมาประกอบ เม่อื ทกุ กลุ่มทำนิตยสารเสรจ็ แล้วใหน้ ำเสนอผลงาน
9. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี น Access 3 ม. 3
2. แบบฝกึ หัด (Workbook) Access 3 ม. 3
10. การวัดและประเมนิ ผล
วิธกี ารวดั เคร่อื งมือ เกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด เกณฑ์การประเมนิ ชิน้ งาน รอ้ ยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมินการฟัง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ การพูดโตต้ อบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสยี ง แบบประเมินการอา่ นออกเสียง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ด้านทักษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 26
วชิ า ภาษาองั กฤษพื้นฐาน รหัสวิชา อ23101 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4 The media
เรอื่ ง What’s on? เวลา 12 ช่ัวโมง
ครผู สู้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรยี น บ้านแมย่ างหา้ เวลา 2 ชั่วโมง
สอนวนั ที่ …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชี้วดั ชัน้ ปี
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรือ่ งท่ฟี ังและอ่านจากส่อื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตุผล
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรสู้ ึกและ
ความคิดเห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องตา่ งๆ โดยการพดู และ
การเขียน
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
กับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใชอ้ ยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชื่อมโยงความรกู้ ับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื และเปน็ พืน้ ฐาน
ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ งๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชีว้ ัด อ่านออกเสียงข้อความ ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองสั้นๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ข้อ 2 เลอื ก/ระบุหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสำคญั รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคิดเหน็
ต 1.1 ขอ้ 4 เกย่ี วกับเรื่องทฟี่ งั และอา่ นจากส่อื ประเภทต่างๆ พรอ้ มทัง้ ให้เหตผุ ลและยกตวั อย่าง
ประกอบ
ต 1.2 ข้อ 1 สนทนาและเขียนโตต้ อบขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง เรื่องต่างๆ ใกล้ตวั สถานการณ์ ข่าว
ต 1.3 ข้อ 1 เรื่องทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสังคม และสอ่ื สารอย่างตอ่ เน่อื งและเหมาะสม
ต 1.3 ข้อ 2 พูดและเขียนบรรยายเกย่ี วกับตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ/์ เร่อื ง/ประเด็น
ตา่ งๆ ทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสังคม
พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระ หัวข้อเร่ืองท่ีไดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ รอ่ื ง/
ขา่ ว/เหตุการณ์/สถานการณท์ ่อี ยู่ในความสนใจของสังคม
ต 2.1 ข้อ 1 เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาสตามมารยาท
สังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ข้อ 2 อธบิ ายเก่ียวกับชวี ติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนยี มและประเพณขี องเจ้าของภาษา
ต 2.1 ขอ้ 3 เขา้ รว่ ม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
ต 2.2 ข้อ 1 เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสยี ง
ประโยคชนิดตา่ งๆ และการลำดบั คำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย
ต 3.1 ข้อ 1 ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงทเ่ี ก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื
จากแหล่งเรยี นรู้ และนำเสนอด้วยการพดู /การเขียน
ต 4.1 ขอ้ 1 ใช้ภาษาสอื่ สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดข้ึนในห้องเรียน
สถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม
2. สาระสำคัญ
รแู้ ละเขา้ ใจคำศัพท์ สำนวนภาษาทเ่ี กยี่ วข้องกับรายการโทรทัศน์ การอา่ นออกเสียงถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ช่วยใหใ้ ช้ภาษาในการพดู เก่ยี วกับเรอ่ื งท่ีอยู่ในความสนใจของสงั คมไดอ้ ย่างเหมาะสม
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- เรียนรูค้ ำศพั ทต์ อ่ ไปนี้ wildlife documentary, cookery programme, music show, police
drama, sports programme, quiz show, comedy series, soap opera, chat show, reality
show ได้
- อ่านออกเสยี งสำนวนภาษาท่ีใช้ในการเลือกรายการโทรทัศน์ บทสนทนา และคำศัพท์ทีม่ เี สยี ง /e/, /eə/,
/æ/ ได้
- พูดเก่ยี วกบั รายการโทรทศั นไ์ ด้
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- การออกเสียงตามระดบั เสียงสงู -ต่ำ ในประโยค การออกเสียงสระเสียงยาว สระประสม
- ภาษาที่ใชใ้ นการสือ่ สารระหว่างบุคคล
- การเลอื กใชภ้ าษา นำ้ เสยี ง และกิรยิ าทา่ ทางในการสนทนาตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรม
ของเจา้ ของภาษา
- การใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกดิ ข้ึนในห้องเรียน
5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟงั พูด อ่านและเขยี นเก่ยี วกับตนเอง กิจวตั รประจำวัน กจิ กรรม และสถานการณต์ ่างๆ ในชีวติ ประจำวัน
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการสอื่ สาร
7. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
- ใฝเ่ รยี นรู้
8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั ท่ี 1 (ขัน้ นำ) Warm up
ครูอา่ นชื่อ Unit 4e ในหนงั สือเรียน หนา้ 46 ใหน้ ักเรยี นฟงั แล้วดึงความสนใจของนักเรยี นมาทภ่ี าพ
และกระต้นุ ใหน้ ักเรยี นบอกวา่ เน้ือหาใน Unit 4e นา่ จะเกย่ี วกับเร่อื งอะไร (TV)
ขัน้ ที่ 2 (ขัน้ นำเสนอ) Presentation
1. ครดู ึงความสนใจของนกั เรียนมาที่ TV guide ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 46 Ex. 1 (to read for specific
information) แลว้ กระตุ้นให้นักเรยี นบอกวา่ จะพบ TV guide ได้ท่ีใด (in a magazine, newspaper
etc) จากนั้นครใู ห้เวลานักเรยี นอ่าน TV guide เม่ืออ่านจบแลว้ ครใู ห้นักเรยี นหลายๆ คน บอกประเภท
รายการโทรทศั น์ทม่ี ใี น TV guide และสุ่มเรียกนักเรียนบอกประเภทรายการโทรทัศน์ท่ี
ชืน่ ชอบ
2. ครเู ปดิ CD 1/Track 54 ใหน้ กั เรยี นฟังการออกเสียงสำนวนภาษาท่ใี ช้ในการเลือกรายการโทรทศั น์ใน
หนงั สอื เรยี น หนา้ 46 Ex. 2 (to present new vocabulary) พร้อมทัง้ บอกนกั เรยี นใหส้ งั เกตการออก
เสยี งสูง-ต่ำในประโยค แลว้ ครเู ปิด CD อกี ครั้ง โดยหยุดทลี ะประโยคเพื่อให้นักเรียนออกเสยี งตาม
ข้ันท่ี 3 ( ข้ันฝึก ) Practice
1. นกั เรยี นทำกจิ กรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 46 Ex. 3a (to predict the content of a text) โดยครูให้
นักเรียนอ่านสำนวนภาษาใน Ex. 2 อีกคร้ัง และครูอธิบายวา่ สำนวนภาษาเหล่าน้ีมาจากบทสนทนา
ระหวา่ งเพื่อน 2 คน แลว้ กระตนุ้ ใหน้ ักเรียนคดิ ว่าบทสนทนาน้นี ่าจะเกย่ี วขอ้ งกบั อะไร จากน้ันครูเปิด
CD 1/Track 55 ให้นักเรียนฟงั และอ่านบทสนทนาในหนงั สือเรยี นตามไปด้วย เพือ่ ตรวจวา่ การคาดเดา
ของนักเรียนถูกต้องหรอื ไม่
2. นกั เรียนทำกจิ กรรมในหนังสอื เรียน หนา้ 46 Ex. 3b (to read out a dialogue and consolidate
new vocabulary through translation) โดยให้นักเรยี นจบั ค่ฝู กึ อ่านบทสนทนา แลว้ ครูสมุ่ เรยี ก
นกั เรยี นบางคู่ออกมาอ่านบทสนทนาท่หี น้าช้ันเรยี น จากนนั้ กระตนุ้ ให้นักเรียนแปลสำนวนใน Ex. 2 เป็น
ภาษาไทย โดยครยู ้ำว่านกั เรียนควรแปลดว้ ยสำนวนภาษาท่เี ทียบเท่ากับในภาษาไทยมากกว่าการแปล
ตรงตวั
3. นกั เรยี นทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หนา้ 46 Ex. 4 (to understand the meaning of everyday
English expressions) โดยอ่านบทสนทนาอีกครั้ง แลว้ หาประโยคในบทสนทนาทีม่ ีความหมายเหมือนกับ
ประโยค 1-3 จากน้นั ครตู รวจคำตอบโดยสุ่มเรยี กนกั เรยี นอา่ นคำตอบของตนเอง 1. Do
you fancy watching it? 3. I hate sports.
2. Sure.
ขน้ั ที่ 4 (ข้ันนำไปใช)้ Production
1. นักเรียนฝกึ ออกเสียงคำศพั ท์ทอ่ี อกเสยี ง /e/, /eə/, /æ/ ในหนังสอื เรียน หน้า 46 Ex. 6 (to
pronounce /e/, /eə/, /æ/) โดยครูเปิด CD 1/Track 56 ใหน้ กั เรยี นฟงั และทำเครื่องหมาย ✓ ลงใน
ช่องทีต่ รงกบั เสียงทไี่ ด้ยนิ แลว้ ครูเปิด CD อีกครัง้ โดยหยุดทีละคำเพ่ือใหน้ กั เรียนฟงั และออกเสียงตาม
ครเู ปดิ CD ให้นกั เรียนฟังจนแนใ่ จวา่ นกั เรียนออกเสยี งไดถ้ ูกตอ้ ง จากนน้ั ครูเฉลยคำตอบ และให้
นกั เรียนบอกคำศัพท์ที่ออกเสียง /e/, /eə/, /æ/ เพิม่ เตมิ
/e/ /eə/ /æ/ /e/ /eə/ /æ/
belly ✓ marry ✓
Harry ✓ Mary ✓
fairy ✓ ferry ✓
ขนั้ ที่ 5 (ขัน้ สรุป) Wrap up
1. นักเรียนทำกจิ กรรมในหนงั สอื เรียน หนา้ 46 Ex. 5 (to act out a dialogue using visual prompts)
โดยสมมตใิ ห้ขณะนีเ้ ปน็ วนั องั คารตอนเยน็ แล้วครูใหน้ กั เรียนจับคู่กบั เพอ่ื น ใช้ TV guide ใน Ex. 1 และ
ความคิดของตนเองแสดงบทสนทนาเกีย่ วกับรายการโทรทัศนท์ ต่ี ้องการดู ครูบอกนกั เรยี นว่าสามารถใช้
บทสนทนาใน Ex. 3 เปน็ ตน้ แบบได้ จากน้ันครเู ขียนโครงสรา้ งบทสนทนาใหน้ ักเรยี นดูบนกระดาน และ
กระต้นุ ใหน้ ักเรียนบอกสำนวนภาษาทใี่ ชใ้ นบทสนทนาน้ี
9. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี น Access 3 ม. 3
2. แบบฝกึ หัด Access 3 ม. 3
10. การวัดและประเมนิ ผล
วธิ ีการวัด เคร่ืองมอื เกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด เกณฑก์ ารประเมนิ ชนิ้ งาน รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟงั แบบประเมินการฟงั ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมินการพดู โตต้ อบ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การเขยี น แบบประเมนิ การเขยี น ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมินการอา่ นออกเสยี ง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 27
วชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน รหัสวชิ า อ23101 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 The media เวลา 12 ชว่ั โมง
เรอ่ื ง Curricular Cut เวลา 2 ชว่ั โมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวันท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
โรงเรยี น บา้ นแม่ยางหา้ สำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งทฟ่ี งั และอา่ นจากส่อื ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมีเหตุผล
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ และ
ความคดิ เหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่อื งตา่ งๆ โดยการพูดและ
การเขียน
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใชไ้ ด้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใชอ้ ยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเช่อื มโยงความร้กู บั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ น่ื และเปน็ พ้ืนฐาน
ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม
ตัวชว้ี ัด อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองสัน้ ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ข้อ 2 เลือก/ระบุหวั ขอ้ เร่อื ง ใจความสำคญั รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคดิ เหน็
ต 1.1 ข้อ 4 เกยี่ วกับเรือ่ งทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมทง้ั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
ต 1.2 ข้อ 1 สนทนาและเขียนโตต้ อบข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง เร่อื งต่างๆ ใกลต้ ัว สถานการณ์ ข่าว
เรอ่ื งทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสังคม และส่อื สารอยา่ งต่อเนื่องและเหมาะสม
ต 1.3 ข้อ 1 พูดและเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/เร่ือง/ประเด็น
ต 1.3 ข้อ 2 ต่างๆ ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสังคม
พูดและเขียนสรุปใจความสำคญั /แก่นสาระ หัวข้อเรื่องที่ได้จากการวเิ คราะห์เรอ่ื ง/
ข่าว/เหตุการณ์/สถานการณ์ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 2.1 ข้อ 1 เลือกใช้ภาษา นำ้ เสยี ง และกริ ิยาท่าทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาสตามมารยาท
สงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ข้อ 2 อธิบายเก่ยี วกับชวี ติ ความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ข้อ 3 เข้าร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
ต 2.2 ข้อ 1 เปรยี บเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียง
ประโยคชนิดตา่ งๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย
ต 3.1 ข้อ 1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ข้อเท็จจรงิ ทีเ่ กี่ยวข้องกบั กล่มุ สาระการเรยี นร้อู ื่น
จากแหลง่ เรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน
ต 4.1 ข้อ 1 ใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกดิ ข้ึนในหอ้ งเรียน
สถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
2. สาระสำคญั
รู้และเข้าใจคำศพั ทท์ ี่เกีย่ วข้องกับรายการวทิ ยุ เป็นพน้ื ฐานในการคน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มูลท่เี กี่ยวข้องกบั
กลุ่มสาระการเรียนร้อู นื่ และนำเสนอดว้ ยการพดู
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- เรียนรคู้ ำศัพท์ต่อไปนี้ phrases with ‘win’, ‘gain’, and ‘make’; review (v), campus, run a
station, technician, engineer, equipment, producer ได้
- ฟังและอ่านเพอ่ื หาข้อมลู จำเพาะได้
- พูดเกี่ยวกบั การทำงานของสถานีวทิ ยุได้
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
- การจับใจความสำคัญ เช่น ใจความสำคญั รายละเอียดสนับสนนุ
- การบรรยายเกีย่ วกับเรื่องทอี่ ยูใ่ นความสนใจของสังคม
- กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม
- การค้นควา้ การรวบรวม และการนำเสนอข้อมลู ที่เกี่ยวขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อื่น
(เทคโนโลยีฯ)
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟงั พดู อา่ นและเขยี นเกี่ยวกบั ตนเอง กจิ วัตรประจำวัน กิจกรรม และสถานการณต์ ่างๆ ในชวี ิตประจำวัน
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการส่อื สาร
- ความสามารถในการคิด
- การคดิ วิเคราะห์
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- ใฝเ่ รยี นรู้
8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นท่ี 1 (ข้นั นำ) Warm up
ครูอ่านคำว่า Media studies ในหนังสือเรยี น หนา้ 47 แล้วอธบิ ายว่า Media studies เป็นวชิ าท่ี
เกยี่ วข้องกับส่ือมวลชน จากนั้นครูถามว่าในโรงเรยี นของนกั เรยี นมีการสอนวิชานห้ี รือไม่ แล้วครดู งึ
ความสนใจของนักเรยี นมาทภ่ี าพ และกระตนุ้ ให้นกั เรยี นบอกว่าเน้อื หาใน Unit 4f น่าจะเกยี่ วกบั
อะไร (student radio stations)
ขั้นท่ี 2 (ขน้ั นำเสนอ) Presentation
1. ครูอา่ นคำถามในหนงั สือเรียน หนา้ 47 Ex. 1 (to introduce the topic) ให้นักเรียนฟัง แลว้ กระตนุ้
คำตอบจากนกั เรียน
2. นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสอื เรียน หน้า 47 Ex. 2 (to read and listen for specific
information) โดยครเู ปิด CD 1/Track 57 ให้นักเรียนฟงั และอา่ นบทอ่านในหนังสอื เรยี นตามไป
ดว้ ย เมอ่ื นกั เรียนอา่ นจบครูอา่ นคำถามที่ใหม้ า แล้วกระต้นุ ให้นักเรยี นตอบคำถาม เสรจ็ แลว้ ครตู รวจ
คำตอบ และให้นกั เรยี นอธิบายคำทีพ่ ิมพ์ตัวหนาในบทอ่าน
3. นกั เรียนทำกจิ กรรมในหนงั สือเรียน หน้า 47 Ex. 3 (to present new vocabulary) โดยเตมิ วลี 1-
4 ด้วย win หรือ gain เสร็จแล้วให้นักเรียนตรวจคำตอบจากพจนานกุ รมภาษาอังกฤษ จากนน้ั ครใู ห้
นกั เรยี นแปลวลเี หล่าน้ีด้วยถอ้ ยคำท่ีเทียบเท่ากับในภาษาไทย
4. ครูให้นักเรียนดู mind map ในหนังสือเรียน หนา้ 47 Ex. 4 (to present and practise new
vocabulary) แล้วใหเ้ วลานักเรียนหาวลีทใี่ ช้ make ในบทอ่าน (make new friends) จากนนั้ ครใู ห้
นักเรียนเขียนประโยคโดยใช้วลที ี่ใช้ make ใน mind map เสร็จแลว้ ครตู รวจคำตอบด้วยการให้
นักเรียนอ่านประโยคของตนเอง
ข้นั ท่ี 3 ( ข้ันฝกึ ) Practice
1. นกั เรยี นทำกจิ กรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 47 Ex. 5a (to listen for gist) โดยครบู อกว่าจะให้
นักเรียนฟงั รายการวทิ ยุ และให้นักเรยี นสนใจฟงั โดยเฉพาะตอนเริ่มต้น จากน้ันครเู ปิด CD 1/Track
58 ใหน้ กั เรยี นฟงั แลว้ กระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามที่กำหนดให้
2. นกั เรยี นทำกิจกรรมในหนังสอื เรยี น หนา้ 47 Ex. 5b (to act out a radio programme) โดยครู
แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน แล้วใหน้ กั เรียนชว่ ยกันระดมความคดิ เก่ียวกบั เหตุการณ์ท่ี
เกดิ ข้นึ ในโรงเรยี นหรือในทอ้ งถิ่นเม่อื เร็วๆ น้ี ทน่ี ักเรยี นสามารถนำมารวมไว้ในรายการวิทยุได้
ครแู นะนำวา่ นักเรียนควรคดิ ชือ่ สถานวี ทิ ยุ รวมทง้ั ดนตรสี ้ันๆ (jingle) และบอกให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม
สมมตบิ ทบาทเป็น DJ, journalists, technician, producer
จากนน้ั ครใู หเ้ วลานกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ เตรยี มรายการวิทยุของตนเอง พรอ้ มทง้ั บนั ทึกเสยี ง จากนน้ั ให้
แต่ละกลุม่ นำรายการวทิ ยขุ องตนเองมาเปิดใหเ้ พอื่ นในช้นั ฟงั
ขน้ั ที่ 4 (ขั้นนำไปใช)้ Production
1. ครใู ห้นักเรยี นเลน่ เกมโดยเลือกนักเรียน 1 คน เป็น leader และให้ leader คิดถึงอปุ กรณ์ทท่ี ันสมัย
1 ชนิ้ และให้นักเรียนในช้นั ผลัดกันถามคำถาม ซึ่ง leader จะตอบ “Yes” หรือ “No” หรอื
“Perhaps” นกั เรียนทีเ่ ดาถูกต้องว่าอุปกรณ์ชิ้นนน้ั คอื อะไร จะไดม้ าเป็น leader แทน และเริ่มเลน่
เกมต่อไป
e.g. S1: Do you read it?
Leader: Perhaps.
S2: Do you play games on it?
Leader: Yes.
S3: Do you talk to people with it?
Leader: Yes.
S4: Is it a mobile phone?
Leader: Yes.
ขนั้ ท่ี 5 (ขัน้ สรปุ ) Wrap up
1. นกั เรียนทำกิจกรรมในหนังสอื เรียน หนา้ 47 Ex. 6 (to make a presentation) โดยแบง่ กลมุ่ กลุ่ม
ละ 3-4 คน คน้ ควา้ ขอ้ มลู วา่ สถานีวิทยุทำงานอย่างไร ครูใหน้ ักเรียนคน้ คว้าข้อมูลจากเวบ็ ไซต์ที่
กำหนดให้ และสนับสนนุ ให้นกั เรียนคน้ ควา้ ขอ้ มูลจากเว็บไซตอ์ น่ื รวมถงึ ขอ้ มลู จากหนังสืออ้างองิ
อนื่ ๆ จากน้ันรวบรวมขอ้ มูลและนำเสนอทหี่ น้าช้ันเรยี น
2. นกั เรียนทำกิจกรรมในแบบฝกึ หดั (Workbook) Unit 4f หน้า 41 Exs. 1-4 เป็นการบา้ น
3. นกั เรียนทำกจิ กรรมในแบบฝกึ หดั (Workbook) Unit 4f หน้า 41 Ex. 5 โดยครเู ปิด Access
Workbook Audio CD 3 ม. 3/Track 9 ให้นักเรยี นฟงั เพอื่ เขียนตามคำบอก
9. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี น Access 3 ม. 3
2. แบบฝึกหัด (Workbook) Access 3 ม. 3
3. Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนังสอื เรียน Access 3 ม. 3)
4. Access Workbook Audio CD 3 ม. 3 (ประกอบแบบฝกึ หัด (Workbook) Access 3 ม. 3 และ
Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3)
5. CD หนงั สอื Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3
6. พจนานกุ รมภาษาองั กฤษ
7. อนิ เทอรเ์ น็ต หรอื หนังสอื อ้างองิ
10. การวัดและประเมินผล
วิธีการวดั เคร่ืองมอื เกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด เกณฑ์การประเมนิ ช้ินงาน รอ้ ยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการฟัง แบบประเมินการฟัง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพดู แบบประเมนิ การพดู โต้ตอบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การเขยี น แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 28
วชิ า ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน รหัสวชิ า อ23101 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 5 Our future
เรอ่ื ง E-society เวลา 12 ชั่วโมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
โรงเรยี น บ้านแม่ยางห้า เวลา 2 ชั่วโมง
สอนวันที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1.มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้วี ัดชน้ั ปี
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งทีฟ่ ังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมีเหตุผล
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ
และความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรอื่ งต่างๆ โดยการพูดและ
การเขียน
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชอื่ มโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่ และเปน็ พื้นฐาน
ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชว้ี ัด อ่านออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ถกู ต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ขอ้ 2 ระบุและเขียนสือ่ ทไ่ี มใ่ ชค่ วามเรียงรปู แบบตา่ งๆ ใหส้ มั พนั ธก์ ับประโยค และขอ้ ความ
ต 1.1 ข้อ 3 ท่ฟี ังหรอื อ่าน
เลือก/ระบุหัวขอ้ เร่ือง ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เหน็
ต 1.1 ข้อ 4 เกย่ี วกับเรอื่ งทีฟ่ งั และอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้ังให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
ต 1.2 ขอ้ 2 ใช้คำขอร้อง ใหค้ ำแนะนำ คำชแ้ี จง และคำอธบิ ายอย่างเหมาะสม
ต 1.2 ข้อ 4 พดู และเขยี นเพือ่ ขอและใหข้ ้อมูล อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคดิ เห็น
ต 1.2 ขอ้ 5 เกี่ยวกับเร่อื งทีฟ่ งั หรอื อ่านอยา่ งเหมาะสม
พูดและเขยี นบรรยายความรู้สกึ และความคิดเหน็ ของตนเองเก่ยี วกับเรื่องต่างๆ
ต 1.3 ข้อ 1 กจิ กรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมทัง้ ใหเ้ หตุผลประกอบอยา่ ง
ต 2.1 ข้อ 1 เหมาะสม
ต 2.1 ขอ้ 2 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/เรอื่ ง/ประเด็น
ต 3.1 ขอ้ 1 ตา่ ง ๆ ที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 4.1 ขอ้ 1 เลือกใช้ภาษา นำ้ เสียง และกริ ิยาท่าทาง เหมาะกับบคุ คลและโอกาสตามมารยาท
สงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
อธิบายเกี่ยวกบั ชวี ิตความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของเจา้ ของภาษา
ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ขอ้ เท็จจรงิ ท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นร้อู ่ืน
จากแหลง่ เรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพดู /การเขียน
ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองทเี่ กิดขึ้นในห้องเรยี น
สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม
2. สาระสำคัญ
ความรู้เก่ียวกบั ความเหล่อื มล้ำในการเขา้ ถึงขอ้ มลู ขา่ วสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การใช้ will/be
going to/present continuous ช่วยให้ใช้ภาษาในการสือ่ สารเกย่ี วกับเรอ่ื งที่อยใู่ นความสนใจของสงั คมไดอ้ ย่าง
เหมาะสม
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- เรยี นรู้คำศพั ทต์ อ่ ไปน้ี educate people, language barrier, can’t afford, use the Internet, go
online,
old-fashioned way of thinking, equal opportunities, right software, local languages, take new
technology for granted, phone line, modem, have access, technology gab, subscription, bridge
digital divide ได้
- นำเสนอเรอื่ งความเหลอ่ื มลำ้ ในการเขา้ ถงึ ข้อมลู ขา่ วสารผา่ นเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ได้
- ใช้ will/be going to/present continuous ได้ถูกต้อง
- เขยี นข้อความส้นั ๆ เกย่ี วกับสงิ่ ประดษิ ฐใ์ นอนาคตได้
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- ประโยคและขอ้ ความท่ีใชใ้ นการขอและให้ข้อมูลเก่ียวกับเรอื่ งทีอ่ ่าน
- การบรรยายเกยี่ วกบั ประเดน็ ทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสังคม
5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟงั พดู อา่ นและเขียนเก่ียวกับตนเอง กจิ วัตรประจำวนั กจิ กรรม และสถานการณต์ า่ งๆ ในชีวิตประจำวัน
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการส่ือสาร
- ความสามารถในการคิด
- การคิดวเิ คราะห์
7. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
-ใฝเ่ รยี นรู้
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นท่ี 1 (ขั้นนำ) Warm up
1. นักเรียนทำแบบทดสอบความรกู้ ่อนเรียนโดยใช้ Self Check ในหนังสอื เรียน หนา้ 58
2. นกั เรียนดูชือ่ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5: Our future แล้วครูถามว่าหมายความวา่ อยา่ งไร และให้นักเรียนคดิ
ว่าหน่วยการเรยี นรนู้ น้ี ่าจะเก่ยี วกบั เรื่องใด ครกู ระตุ้นใหน้ กั เรียนตอบคำถามด้วยการให้นกั เรยี นเปดิ ดู
เนอ้ื หาในหนังสือเรียน หน้า 50-57 อยา่ งครา่ วๆ
3. ครชู ี้แจงให้นักเรียนทราบวา่ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 นี้ นักเรยี นจะไดเ้ รยี นร้เู กยี่ วกบั
the digital revolution
technology & science
high-tech gadgets
conditionals types 1-3
wishes
will/be going to – present continuous (future meaning)
expressing opinions
giving instructions
4. ครูใชภ้ าพ 1-2 ในหนังสอื เรยี น หน้า 49 กระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี นเข้าสูก่ ารอภปิ ราย และนำ
นักเรยี นเขา้ สู่หนว่ ยการเรียนรู้ โดยครูถามคำถามเพอ่ื เริ่มต้นการอภปิ รายเกย่ี วกบั หวั ข้อตา่ งๆ ท่จี ะเรียน
ในหน่วยการเรยี นรนู้ ้ี
5. นักเรยี นทำกจิ กรรมในหนงั สือเรียน หนา้ 49 หัวข้อ Find the page numbers for โดยหาว่า
instructions, a quiz, a bar graph และ opinions อยู่ในหนังสือเรียนหนา้ ใด เม่อื หาพบแลว้ ครูถาม
คำถามเก่ียวกับหัวข้อดังกลา่ วเพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน
instructions (p. 56) What are the instructions for?
Where could you see instructions like these?
a quiz (p. 52) What is the quiz about? Where can you find quizzes?
Do you like doing quizzes? Etc
a bar graph (p. 55) What does the graph show? Do you use graphs at school?
In which classes? Do you find graphs useful? Etc
opinions (p. 54) What are the opinions about? Which do you agree/disagree with?
etc
ขัน้ ที่ 2 (ขนั้ นำเสนอ) Presentation
1. ครเู ปดิ CD 2/Track 1 ให้นักเรยี นฟงั คำศพั ท์ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 49 หวั ข้อ Vocabulary โดยครูหยดุ
CD เมอื่ จบทลี ะคำ เพื่อให้นักเรียนออกเสียงตาม แลว้ กระต้นุ ให้นกั เรยี นบอกคำทเี่ ป็นคำสากล (TV,
laptop, DVD, MP3, camera, robot) จากนัน้ ใหน้ ักเรยี นจับค่คู ำศพั ท์ 1-10 กบั วลีทีอ่ ยูท่ างด้าน
ขวามือซึง่ เป็นการใชอ้ ปุ กรณ์ เสร็จแลว้ นำคำศพั ท์และวลีที่จับคู่กันมาแตง่ ประโยค
Suggested Answer Key
We use a laptop to surf the Net and send emails.
We use a DVD player to watch films.
We use a mobile phone to call friends and send text messages.
We use an MP3 player to listen to music and store music files.
We use a robot helper to do the housework.
2. นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรยี น หน้า 50 Ex. 1a (to compare pictures) โดยดูภาพ แล้วครู
กระตุ้นใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั บอกวา่ บุคคลในภาพกำลังทำอะไร จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นเปรยี บเทียบ
การกระทำของบุคคลในภาพด้านบนของหนังสอื เรยี นกับการกระทำของบุคคลในภาพดา้ นล่าง
3. ครูอา่ นคำถามท่กี ำหนดให้ในหนังสอื เรียน หนา้ 50 Ex. 1b (to infer information and read for
confirmation) แล้วกระตนุ้ คำตอบจากนกั เรียน จากนนั้ ครูเปดิ CD 2/Track 2 ให้นกั เรยี นฟังและอา่ น
บทอา่ นในหนงั สอื เรยี นตามไปด้วย หลังจากอา่ นจบครูใหน้ ักเรียนตอบคำถาม เสรจ็ แลว้ ครเู ฉลยคำตอบ
ขั้นท่ี 3 ( ขน้ั ฝกึ ) Practice
1. ครูใหเ้ วลานกั เรียนหาความหมายของคำ/วลีท่กี ำหนดให้ในหนังสอื เรยี น หน้า 51 Ex. 2a (to present
new vocabulary) จากพจนานกุ รมภาษาองั กฤษ แล้วครสู ุ่มเรยี กนักเรยี นหลายๆ คน พดู สรปุ บทอ่านใน
หนา้ 50 โดยใช้คำ/วลีเหลา่ น้ี จากนนั้ ครใู หน้ กั เรียนชว่ ยกันอธิบายความหมายของคำท่ีพมิ พ์ตัวหนาในบท
อา่ น
2. นกั เรียนทำกจิ กรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 51 Ex. 2b (to consolidate information) โดยครูใหเ้ วลา
นกั เรียน 3 นาที เขียน 2-3 ประโยค เกี่ยวกับหวั ข้อ ‘เราสามารถประสานความเหล่อื มลำ้ ทางสงั คมใน
การเขา้ ถึงข้อมลู ข่าวสารผ่านเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรไ์ ด้อยา่ งไร’ เม่ือเขยี นเสร็จแลว้ ให้นกั เรียนอา่ น
ประโยคของตนเองให้เพื่อนขา้ งๆ ฟงั แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรยี นอา่ นประโยคของตนเอง
3. ครูเขียนประโยคบนกระดานตามนี้
A I’m going to travel abroad this year.
B I think I’ll go to China.
C I’m meeting Hanna tonight.
แล้วถามนกั เรยี นว่าประโยคใดแสดงแผนการท่แี น่นอนในอนาคตอนั ใกล้ (C) ประโยคใดแสดงความตัง้ ใจ
ในอนาคต (A) และประโยคใดแสดงการคาดเดาโดยตั้งอยบู่ นสิ่งทเ่ี ราคดิ (B)
จากนั้นครใู ห้นกั เรยี นอ่านการใช้ will/be going to/present continuous ในหนังสอื เรยี น หน้า 51
Ex. 3 (to present will/be going to/present continuous) แลว้ ให้นักเรยี นช่วยกนั ยกตวั อยา่ งท่ี
แสดงการใชแ้ ต่ละแบบ และหาตวั อย่าง will/be going to/present continuous จากบทอ่าน
ขัน้ ที่ 4 (ขั้นนำไปใช)้ Production
1. นักเรียนทำกจิ กรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 51 Ex. 4 (to practise will/won’t) โดยครใู หน้ ักเรียนระดม
ความคิดเก่ียวกบั การคาดเดาอนาคต ครูกระตุ้นให้นักเรียนคิดถึงสง่ิ ทจ่ี ะเกดิ ขึ้น/ไม่เกิดขน้ึ ในอนาคต
จากนน้ั ให้นกั เรยี นดขู ้อความที่ให้มา และอธบิ ายว่าขอ้ ความน้ีเป็นการคาดเดาอนาคตของ Brad แล้วครู
ใหเ้ วลานักเรียนอา่ นและเติมข้อความให้สมบรู ณด์ ้วย will หรอื won’t
2. นกั เรียนทำกิจกรรมในหนงั สอื เรียน หนา้ 51 Ex. 5 (to practise be going to) ด้วยการแต่งประโยค
เก่ยี วกบั ตนเองโดยใช้ be going to และคำทีก่ ำหนดให้ เมือ่ นกั เรียนทำเสรจ็ แลว้ ครตู รวจคำตอบโดยสุ่ม
เรียกนกั เรยี นอา่ นประโยคของตนเอง
ข้ันท่ี 5 (ขน้ั สรุป) Wrap up
1. นักเรยี นทำกิจกรรมในหนงั สอื เรยี น หน้า 51 Ex. 9 (to write a short text) โดยครใู หน้ ักเรียนช่วยกัน
ระดมความคดิ ว่าชว่ ง 80 ปขี า้ งหนา้ จะมสี ิง่ ประดิษฐ์ใหมๆ่ อะไรบ้าง เชน่ underground cities, robots,
hover shoes, cures for every disease แล้วครเู ขียนสิง่ ที่นกั เรยี นคดิ บนกระดาน จากนน้ั ใหน้ กั เรียนใช้
ความคิดดงั กลา่ วเขยี นข้อความสนั้ ๆ เก่ยี วกบั ส่ิงประดิษฐ์ในอนาคตโดยใชข้ ้อความของ Bred ใน Ex. 4
เป็นตน้ แบบ เม่อื นกั เรยี นเขยี นเสร็จแลว้ ครูสมุ่ เรียกนกั เรียนหลายๆ คน อ่านขอ้ ความของตนเองให้เพือ่ น
ในชัน้ ฟงั
9. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสอื เรียน Access 3 ม. 3
2. แบบฝกึ หัด Access 3 ม. 3
3. แบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access 3 ม. 3
4. Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนังสอื เรยี น Access 3 ม. 3)
5. CD หนังสอื Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3
6. พจนานุกรมภาษาอังกฤษ
10. การวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์
วธิ กี ารวดั เกณฑก์ ารประเมินชิ้นงาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟงั ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมินการพูดโต้ตอบ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟงั แบบประเมนิ การเขียน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การเขยี น แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสยี ง แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทักษะ/สมรรถนะ
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 29
วชิ า ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน รหัสวชิ า อ23101 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 5 Our future
เรอื่ ง Science Matters เวลา 12 ชั่วโมง
ครผู ูส้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรียน บ้านแม่ยางหา้ เวลา 2 ชั่วโมง
สอนวันที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัดชนั้ ปี
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรือ่ งทีฟ่ ังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมเี หตุผล
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ
และความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรอื่ งต่างๆ โดยการพูดและ
การเขยี น
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอื่ มโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่ และเปน็ พื้นฐาน
ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวช้วี ัด อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ถกู ต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ขอ้ 2 ระบุและเขยี นสื่อทไ่ี มใ่ ชค่ วามเรียงรปู แบบตา่ งๆ ใหส้ มั พนั ธก์ ับประโยค และขอ้ ความ
ต 1.1 ขอ้ 3 ทฟ่ี งั หรืออ่าน
เลอื ก/ระบหุ วั ข้อเร่ือง ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เหน็
ต 1.1 ข้อ 4 เกย่ี วกบั เรื่องทฟี่ ังและอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้ังให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
ต 1.2 ขอ้ 2 ใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชแ้ี จง และคำอธบิ ายอย่างเหมาะสม
ต 1.2 ขอ้ 4 พูดและเขียนเพอ่ื ขอและใหข้ ้อมูล อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคดิ เห็น
ต 1.2 ข้อ 5 เกยี่ วกับเรอ่ื งทฟ่ี ังหรืออา่ นอยา่ งเหมาะสม
พูดและเขียนบรรยายความรู้สึก และความคิดเหน็ ของตนเองเกย่ี วกับเรอื่ งตา่ งๆ
ต 1.3 ข้อ 1 กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พรอ้ มท้ังให้เหตุผลประกอบอยา่ ง
ต 2.1 ข้อ 1 เหมาะสม
ต 2.1 ข้อ 2 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ/์ เรอื่ ง/ประเดน็
ต 3.1 ข้อ 1 ต่าง ๆ ที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 4.1 ข้อ 1 เลอื กใชภ้ าษา น้ำเสียง และกริ ยิ าทา่ ทาง เหมาะกับบคุ คลและโอกาสตามมารยาท
สงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
อธิบายเกย่ี วกับชวี ิตความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจ้าของภาษา
ค้นคว้า รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ขอ้ เท็จจริงทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อื่น
จากแหล่งเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน
ใช้ภาษาสือ่ สารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองท่เี กิดขนึ้ ในห้องเรยี น
สถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
2. สาระสำคัญ
รู้และเขา้ ใจคำศพั ท์ท่ีเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ เป็นพนื้ ฐานในการค้นควา้ รวบรวมข้อมูลที่เก่ียวข้องกับกล่มุ
สาระการเรยี นร้อู นื่ และนำเสนอด้วยการเขียน
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
- เรียนรคู้ ำศพั ทต์ ่อไปน้ี renewable, energy, global warming, genetic engineering, artificial
intelligence, cloning, run out, genes, resist disease, famine, pollute, temperatures rise,
polar ice caps, take over, enslave ได้
- อา่ นเพื่อหาจดุ ประสงค์ได้
- ใช้ 1st, 2nd, 3rd conditionals และ wishes ได้ถูกต้อง
- นำเสนอเกี่ยวกบั ภาวะโลกรอ้ นได้
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
- การจบั ใจความสำคญั เช่น ใจความสำคญั รายละเอียดสนบั สนนุ
- การบรรยายเก่ียวกบั ประเด็นท่อี ยูใ่ นความสนใจของสงั คม
- การค้นควา้ การรวบรวม และการนำเสนอขอ้ มูลท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ นื่
(วิทยาศาสตร)์
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟงั พูด อา่ นและเขยี นเกย่ี วกบั ตนเอง กิจวัตรประจำวนั กจิ กรรม และสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
6. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการคิด
- การคิดวิเคราะห์
-ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
-ใฝเ่ รียนรู้
8. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ันที่ 1 (ขั้นนำ) Warm up
ครใู หน้ กั เรยี นดูชื่อ Unit 5b และภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 52 แล้วครูกระตุ้นให้นกั เรยี นบอกวา่
นักเรียนเห็นอะไรในภาพ (the sun, a sheep and a model of a DNA strand, Earth on
fire, vegetables, a robot) จากนน้ั ให้นักเรยี นเดาวา่ เนอ้ื หาใน Unit 5b น่าจะเก่ียวกับเร่ืองอะไร
(science in the future)
ขั้นท่ี 2 (ขั้นนำเสนอ) Presentation
1. ครใู ห้นักเรยี นหาความหมายของวลีท่ีกำหนดให้ในหนังสอื เรียน หนา้ 52 Ex. 1 (to present new
vocabulary) จากพจนานกุ รมภาษาองั กฤษ แล้วครใู ห้นกั เรียนอธบิ ายความหมายเพ่ือตรวจความเข้าใจ
จากนั้นครใู หน้ ักเรยี นจบั คู่วลเี หล่านี้กับภาพ A-E
A renewable energy D genetic engineering
B cloning E artificial intelligence
C global warming
2. ครอู ธิบายหรือกระตุ้นใหน้ กั เรียนบอกความหมายของคำวา่ optimistic (hopeful for the future)
และ pessimistic (someone who thinks that bad things are going to happen)
แล้วครใู ห้นักเรยี นอ่านและทำแบบทดสอบความรู้ (quiz) ในหนงั สือเรยี น หนา้ 52 Ex. 2 (to read for
specific purposes) เม่อื นักเรียนทำเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรยี นยกมือว่าใครตอบ A เป็นส่วนใหญ่ และใคร
ตอบ B เปน็ สว่ นใหญ่ จากน้ันใหน้ กั เรยี นอธิบายความหมายของคำท่ีพิมพ์ตัวหนาใน quiz แลว้ บอก 3
ส่งิ ท่ีนักเรียนจำได้จาก quiz
3. ครูอา่ นคำถามในหนงั สือเรียน หนา้ 52 Ex. 3 (to express an opinion about cloning) ใหน้ กั เรียน
ฟังแล้วจับคู่กับเพอื่ นอภปิ รายคำถาม โดยครสู ังเกตการทำกจิ กรรมของนักเรียน หรืออาจให้เวลานักเรียน
3 นาที เขียนแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับคำถาม 2-3 ประโยค จากนั้นครูสมุ่ เรยี กนักเรยี นหลายๆ คน พดู
แสดงความคิดเห็นของตนเองให้เพอ่ื นในช้ันฟัง
4. ครใู ห้นักเรียนปิดหนงั สือเรยี น แลว้ สอน 1st, 2nd, 3rd conditional ดงั นี้
- ครูเขยี นประโยคบนกระดานตามนี้
If you ask him, he will help you.
hypothesis main clause
แลว้ กระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นบอกวา่ ประโยคนใี้ ช้ tense อะไร ประโยคน้กี ลา่ วถึงปจั จบุ ัน อนาคต
หรอื อดตี จากนั้นครชู ใ้ี ห้นักเรยี นเห็นว่าประโยคยอ่ ย 2 ประโยค ถกู แบง่ โดยคอมม่า (,) และ
if-clause อยหู่ น้าประโยคหลกั (main clause) ดงั นัน้ ประโยคนค้ี อื 1st conditional ซ่งึ ใช้
กล่าวถงึ เหตกุ ารณ์ทเ่ี ปน็ ไปไดใ้ นอนาคต แล้วครูให้นักเรียนสรปุ โครงสร้างประโยค
1st conditional (if + present simple will + infinitive)
- ครเู ขียนประโยคบนกระดานตามน้ี
If we all reduced our petrol usage, the air would be less polluted.
hypothesis main clause
แล้วกระตุ้นใหน้ กั เรียนบอกวา่ ประโยคน้ใี ช้ tense อะไร กลา่ วถงึ ปจั จุบนั อนาคต หรอื อดตี
จากนัน้ ครชู ใ้ี ห้นกั เรียนเหน็ ว่าประโยคย่อย 2 ประโยค ถกู แบง่ โดยคอมม่า (,) และ if-clause
อยู่หน้าประโยคหลกั (main clause) ดงั น้นั ประโยคนีค้ อื 2nd conditional ซึง่ ใชก้ ล่าวถงึ
เหตุการณท์ ี่เป็นไปไม่ได้ในปัจจุบนั /อนาคต หรือใหค้ ำแนะนำ แล้วครใู ห้นกั เรยี นสรปุ
โครงสรา้ งประโยค 2nd conditional (if + past simple would + infinitive)
- ครูเขยี นประโยคบนกระดานตามน้ี
If we had taken action sooner, the planet would have been in a better
state.
hypothesis main clause
แลว้ กระต้นุ ให้นักเรียนบอกว่าประโยคนี้ใช้ tense อะไร กลา่ วถึงปัจจบุ ัน อนาคต หรอื อดตี
จากนัน้ ครชู ี้ให้นักเรยี นเห็นวา่ ประโยคย่อย 2 ประโยค ถกู แบง่ โดยคอมม่า (,) และ if-clause
อยู่หนา้ ประโยคหลกั (main clause) ดังนัน้ ประโยคนค้ี อื 3rd conditional ซงึ่ ใช้กลา่ วถึง
เหตกุ ารณท์ ี่สมมตขิ ้นึ ในอดีต แลว้ ครูใหน้ กั เรียนสรปุ โครงสร้างประโยค 3rd conditional
(if + past perfect would have + past participle)
5. ครูให้นกั เรียนเปิดหนังสอื เรียน หน้า 53 Ex. 4 (to present the 1st, 2nd and 3rd conditionals)
แล้วอา่ นการใช้และโครงสร้างของ 1st, 2nd, 3rd conditional ครูกระต้นุ ให้นักเรียนยกตัวอยา่ ง
ประโยคแตล่ ะชนดิ เพม่ิ เติม จากนั้นใหน้ ักเรยี นหาตัวอย่าง 1st, 2nd, 3rd conditional ใน quiz หน้า
52 แล้วครเู ฉลยคำตอบ
ขน้ั ท่ี 3 ( ข้นั ฝกึ ) Practice
1. ครูใหน้ กั เรียนดูคำวา่ i-Cybie ในหนงั สือเรยี น หนา้ 53 Ex. 5 (to practise the first conditional)
แล้วกระตุน้ ให้นักเรยี นบอกว่า i-Cybie คืออะไร (a high-tech robot dog) จากน้ันครใู หน้ ักเรยี น 1 คน
อา่ นตวั อยา่ งการถามและตอบ แล้วให้นักเรยี นบอกวา่ สมมตฐิ าน (hypothesis) อยู่ใน tense ใด
(present simple) และประโยคหลัก (main clause) อยใู่ น tense ใด (will + infinitive)
แลว้ ครูใหน้ กั เรยี นใชค้ ำทกี่ ำหนดใหแ้ ต่งประโยค 1st conditional เสร็จแล้วครูตรวจคำตอบด้วยการสุ่ม
เรียกนักเรียนทลี ะคนอ่านประโยค
2. ครูใหน้ ักเรียน 1 คน อา่ นตวั อย่างการถามและตอบในหนังสอื เรียน หน้า 53 Ex. 6 (to practise the
second conditional) แลว้ ให้นักเรยี นบอกว่าสมมตฐิ าน (hypothesis) อยู่ใน tense ใด (past
simple) และประโยคหลกั (main clause) อยใู่ น tense ใด (would + infinitive) จากนนั้ ครูให้
นกั เรยี นจบั คู่ ถามและตอบดว้ ยโครงสรา้ ง 2nd conditional แลว้ ครเู ฉลยคำตอบโดยสมุ่ เรียกนกั เรียน
หลายๆ คู่ พดู ถามและตอบคำถาม
3. ครใู หน้ กั เรียน 1 คน อ่านตัวอยา่ งในหนงั สือเรียน หน้า 53 Ex. 7 (to practise the third conditional)
แลว้ ใหน้ ักเรียนบอกวา่ สมมตฐิ าน (hypothesis) อยใู่ น tense ใด (past perfect) และประโยคหลัก
(main clause) อยู่ใน tense ใด (would have + past participle) ครชู ีใ้ หน้ กั เรยี นเห็นการเปลี่ยนรูป
คำกรยิ าจากบอกเล่าเปน็ ปฏิเสธ
จากน้ันใหน้ ักเรียนเขยี นประโยคท่ีกำหนดใหใ้ หมใ่ นรูป 3rd conditional เสร็จแล้วครตู รวจคำตอบโดย
สุม่ เรยี กนักเรียนทีละคนอ่านประโยค
4. ครูใหน้ กั เรียนดูคำกรยิ าท่ใี ห้มาในแต่ละประโยคในหนังสอื เรยี น หนา้ 53 Ex. 8 (to further practise
the 1st, 2nd & 3rd conditional) ท้งั สมมติฐาน (hypothesis) และประโยคหลกั (main clause)
เพ่ือระบุรปู แบบของเงือ่ นไข ซง่ึ จะชว่ ยใหน้ ักเรียนใช้ tense ได้ถูกตอ้ ง จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นเปลย่ี น
คำกรยิ าในวงเลบ็ ให้ถกู ตอ้ งตาม tense พรอ้ มทงั้ บอกว่าแต่ละประโยคเป็นประโยคเงื่อนไขแบบใด เสร็จ
แลว้ ครูตรวจคำตอบ
1. did (2nd conditional)
2. stops (1st conditional)
3. had got up (3rd conditional)
4. wouldn’t eat (2nd conditional)
5. would have played (3rd conditional)
ขัน้ ที่ 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
1. ครอู ่านประโยคทอี่ ยใู่ นภาพในหนังสอื เรียน หนา้ 53 Ex. 9a (to present wishes) แล้วอธิบายวา่ ทง้ั
2 คน ในภาพต้องการบางส่งิ ทแ่ี ตกต่างกัน คนหนึง่ ต้องการบางสง่ิ ในปจั จุบัน สว่ นอกี คนหนงึ่ แสดงความ
เสยี ใจเก่ียวกับบางสงิ่ ทีเ่ กิดขึ้นหรอื ไมไ่ ดเ้ กดิ ขึ้นในอดีต แล้วครูใหน้ กั เรียนบอกวา่ ประโยคใดแสดงถึงความ
ตอ้ งการในปัจจุบัน และประโยคใดแสดงถงึ ความเสยี ใจในอดตี จากน้ันครูเฉลยคำตอบ และใหน้ กั เรยี น
ยกตวั อย่างการใช้ wish แต่ละแบบเพิ่มเติม
I wish/If only I had an umbrella. (wish for the present)
I wish/If only I hadn’t eaten so much. (regret about the past)
2. ครใู ห้นกั เรยี น 1 คน อา่ นตัวอย่างข้อ 1 ในหนังสือเรียน หน้า 53 Ex. 9b (to practise wishes) แล้วครู
ใหน้ ักเรียนเขยี นประโยคขอ้ ที่เหลอื ใหมด่ ้วย I wish/If only เหมือนดงั ตัวอยา่ ง โดยครชู ้ใี ห้นกั เรียนดกู าร
เปลี่ยนรูปคำกริยาเป็นปฏิเสธ เมือ่ นักเรียนทำเสร็จแล้วครเู ฉลยคำตอบโดยสมุ่ เรยี กนักเรยี นทลี ะคนอ่าน
ประโยค
ข้ันท่ี 5 (ขั้นสรปุ ) Wrap up
1. นกั เรยี นทำกิจกรรมในหนังสอื เรียน หนา้ 53 Ex. 10 (ICT project on global warming) โดยแบ่งกลุม่
กลมุ่ ละ 3-4 คน ค้นคว้า รวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกบั ภาวะโลกรอ้ น (global warming) จากเว็บไซต์ท่ี
กำหนดใหห้ รือเว็บไซตอ์ นื่ ๆ ครใู ห้เวลานักเรียนทำกจิ กรรมในชัน้ เรียนหรอื มอบหมายให้เป็นการบ้าน
จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกล่มุ เตรยี มการนำเสนอข้อมลู ครูสนบั สนนุ ให้นักเรยี นนำเสนอดว้ ยข้อมลู ท่ี
สามารถมองเห็นได้
9. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนังสือเรยี น Access 3 ม. 3
2. แบบฝึกหัด Access 3 ม. 3
10. การวัดและประเมินผล
วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมนิ ช้นิ งาน ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมินการฟงั ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ การพดู โตต้ อบ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ดา้ นทักษะ/สมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 30
วชิ า ภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน รหัสวชิ า อ23101 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 5 Our future
เร่อื ง Life in the future เวลา 12 ชั่วโมง
ครผู ้สู อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
โรงเรียน บา้ นแม่ยางห้า เวลา 2 ชั่วโมง
สอนวันที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัดช้ันปี
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรือ่ งทีฟ่ ังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตุผล
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ
และความคิดเหน็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรอื่ งต่างๆ โดยการพูดและ
การเขียน
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชอื่ มโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่ และเปน็ พื้นฐาน
ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วัด อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ถกู ต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ขอ้ 2 ระบุและเขยี นส่ือทไ่ี มใ่ ชค่ วามเรียงรปู แบบตา่ งๆ ใหส้ มั พนั ธก์ ับประโยค และขอ้ ความ
ต 1.1 ขอ้ 3 ทฟ่ี ังหรอื อา่ น
เลอื ก/ระบุหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เหน็
ต 1.1 ข้อ 4 เก่ียวกับเรอ่ื งที่ฟงั และอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้ังให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
ต 1.2 ข้อ 2 ใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชแ้ี จง และคำอธบิ ายอย่างเหมาะสม
ต 1.2 ขอ้ 4 พดู และเขียนเพอื่ ขอและใหข้ ้อมูล อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคดิ เห็น
ต 1.2 ขอ้ 5 เกี่ยวกบั เรอ่ื งท่ีฟงั หรืออ่านอย่างเหมาะสม
พดู และเขียนบรรยายความรูส้ กึ และความคิดเหน็ ของตนเองเก่ียวกับเรื่องตา่ งๆ
ต 1.3 ขอ้ 1 กจิ กรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตกุ ารณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลประกอบอย่าง
ต 2.1 ขอ้ 1 เหมาะสม
ต 2.1 ข้อ 2 พดู และเขยี นบรรยายเกีย่ วกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เร่อื ง/ประเดน็
ต 3.1 ขอ้ 1 ต่าง ๆ ทอี่ ยูใ่ นความสนใจของสงั คม
ต 4.1 ขอ้ 1 เลอื กใช้ภาษา น้ำเสียง และกริ ิยาท่าทาง เหมาะกบั บคุ คลและโอกาสตามมารยาท
สงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
อธบิ ายเกี่ยวกบั ชีวิตความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจา้ ของภาษา
คน้ คว้า รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ข้อเท็จจริงท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อืน่
จากแหลง่ เรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน
ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน
สถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
2. สาระสำคัญ
รู้และเขา้ ใจสำนวน ประโยคที่ใชใ้ นการแสดงความคดิ เหน็ หลกั การเขียนบทความแสดงความคดิ เห็น ช่วยให้
ใชภ้ าษาในการแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั เรื่องตา่ งๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
- เรียนรู้คำศพั ท์ตอ่ ไปน้ี scientists, cures, diseases, robots, GM foods ได้
- อา่ นเพ่ือจบั ใจความสำคญั ได้
- แสดงความคิดเหน็ เหน็ ด้วย/ไม่เหน็ ด้วยเก่ยี วกับเหตกุ ารณ์ในอนาคตได้
- เขียนบทความแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ชีวติ ในอนาคตได้
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนร้แู กนกลาง
- การจับใจความสำคญั เชน่ ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนบั สนนุ
- ภาษาทใี่ ช้ในการแสดงความคิดเหน็ เชน่ I think…/I believe…/I agree/disagree…
5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟัง พูด อ่านและเขยี นเกีย่ วกับตนเอง กจิ วตั รประจำวนั กจิ กรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวิตประจำวัน
6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
- ความสามารถในการสอื่ สาร
- ความสามารถในการคิด
- การคดิ วเิ คราะห์
-ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
-ใฝเ่ รยี นรู้
8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้ันที่ 1 (ขั้นนำ) Warm up
ครูดึงความสนใจของนักเรียนมาทีช่ อื่ Unit 5c และภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 54 แล้วกระตนุ้ ให้นักเรยี น
คดิ ว่า Unit 5c น่าจะเกย่ี วกบั เรือ่ งอะไร (opinions about life in the future)
ขัน้ ท่ี 2 (ขนั้ นำเสนอ) Presentation
1. ครูใหน้ ักเรียนอา่ นบทความของ Lucy ในหนงั สือเรยี น หนา้ 54 Ex. 1 (to read for gist) แลว้ เตมิ
ชอ่ งว่างในบทความด้วยความคิดเห็น A หรอื B พร้อมบอกวา่ คำ/วลใี ดที่ Lucy ใช้เพอ่ื ลำดบั ความ-
คดิ เห็นของตนเอง
ขน้ั ท่ี 3 ( ข้ันฝึก ) Practice
1. นกั เรยี นศกึ ษาการใช้ topic/supporting sentences ในหนงั สือเรยี น หน้า 54 หวั ขอ้ Learning to
learn แลว้ ครูบอกนักเรยี นวา่ topic sentences จะสร้างความคนุ้ เคยระหวา่ งผู้อา่ นกับเนื้อหา ส่วน
supporting sentences จะขยาย topic sentences ดว้ ยการให้เหตุผล/ตวั อยา่ ง
1. นกั เรยี นทำกิจกรรมในหนังสอื เรียน หนา้ 54 Ex. 2 (to identify topic sentences and supporting
sentences) โดยจับคูก่ ับเพอื่ น ดบู ทความของ Lucy ใน Ex. 1 แล้วระบุวา่ ประโยคใดเป็น topic
sentence และประโยคใดเป็น supporting sentences แลว้ ครูเฉลยคำตอบ จากน้นั ใหน้ ักเรียนคดิ
ประโยคที่เหมาะสมที่จะใชแ้ ทนท่ี topic sentence
ขน้ั ท่ี 4 (ขนั้ นำไปใช้) Production
1. นกั เรียนจบั คกู่ บั เพอื่ นแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกับหัวขอ้ 1-6 ท่ีกำหนดใหใ้ นหนงั สอื เรียน หน้า 54 Ex. 3
(to express opinion, agree and disagree with an opinion) โดยใช้สำนวนภาษาในตาราง ครูสังเกต
ขณะนักเรียนทำกิจกรรม แลว้ สุ่มเรยี กนกั เรยี นบางค่อู อกมาแสดงความคิดเห็นท่หี น้าชัน้ เรียน
ข้ันท่ี 5 (ข้ันสรปุ ) Wrap up
1. นกั เรยี นทำกิจกรรมในหนงั สือเรยี น หนา้ 54 Ex. 4 (to write a short opinion article) โดยใชค้ วาม-
คิดเหน็ ของตนเองจาก Ex. 3 มาเขียนบทความส้ันๆ แสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกบั ชวี ติ ในอนาคต ครูให้
นกั เรียนใชโ้ ครงร่างทก่ี ำหนดให้ในการเขียน ก่อนลงมือเขยี นครูถามคำถามเพือ่ ให้แนใ่ จว่านักเรยี นเข้าใจ
ส่งิ ท่ีต้องทำ เช่น What are you going to write? How many paragraphs are you going to
write? What is your opinion of life in the future? จากนัน้ ครใู หเ้ วลานักเรยี นเขียนบทความหรอื
มอบหมายให้เป็นการบ้าน เม่ือเขยี นเสรจ็ แล้วครตู รวจงานเขยี นของนักเรยี น หรอื อาจให้นกั เรยี น
แลกเปล่ยี นกับเพื่อนและประเมนิ งานเขยี น โดยดใู นส่วนของ paragraphing, grammar, spelling,
topic supporting sentences
9. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี น Access 3 ม. 3
2. แบบฝึกหดั (Workbook) Access 3 ม. 3
10. การวัดและประเมินผล
วธิ กี ารวัด เครื่องมอื เกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด เกณฑ์การประเมินชนิ้ งาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟงั แบบประเมนิ การฟงั ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูด แบบประเมนิ การพดู โต้ตอบ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การเขียน แบบประเมนิ การเขียน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสยี ง แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ดา้ นทักษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 31
วชิ า ภาษาองั กฤษพื้นฐาน รหัสวชิ า อ23101 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 Our future
เรอ่ื ง Culture corner เวลา 12 ชั่วโมง
ครผู สู้ อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
โรงเรียน บา้ นแมย่ างหา้ เวลา 2 ชั่วโมง
สอนวันที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัดชั้นปี
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งทีฟ่ ังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมเี หตุผล
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ
และความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรอื่ งต่างๆ โดยการพูดและ
การเขียน
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอื่ มโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่ และเปน็ พื้นฐาน
ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้วี ัด อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ถกู ต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ข้อ 2 ระบแุ ละเขียนสอื่ ทไ่ี มใ่ ชค่ วามเรียงรปู แบบตา่ งๆ ใหส้ มั พนั ธก์ ับประโยค และขอ้ ความ
ต 1.1 ข้อ 3 ทีฟ่ ังหรืออ่าน
เลอื ก/ระบุหัวข้อเร่ือง ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เหน็
ต 1.1 ขอ้ 4 เกี่ยวกบั เรอ่ื งทฟ่ี ังและอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้ังให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
ต 1.2 ขอ้ 2 ใชค้ ำขอรอ้ ง ให้คำแนะนำ คำชแ้ี จง และคำอธบิ ายอย่างเหมาะสม
ต 1.2 ข้อ 4 พดู และเขียนเพื่อขอและใหข้ ้อมูล อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคดิ เห็น
ต 1.2 ขอ้ 5 เกยี่ วกับเร่ืองทฟ่ี ังหรอื อา่ นอย่างเหมาะสม
พดู และเขียนบรรยายความรู้สึก และความคิดเหน็ ของตนเองเกยี่ วกับเร่ืองตา่ งๆ
ต 1.3 ขอ้ 1 กจิ กรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผลประกอบอย่าง
ต 2.1 ขอ้ 1 เหมาะสม
ต 2.1 ขอ้ 2 พูดและเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ/์ เรอ่ื ง/ประเด็น
ต 3.1 ขอ้ 1 ตา่ ง ๆ ท่ีอยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 4.1 ขอ้ 1 เลอื กใช้ภาษา น้ำเสยี ง และกิรยิ าทา่ ทาง เหมาะกบั บุคคลและโอกาสตามมารยาท
สงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
อธบิ ายเกย่ี วกบั ชีวิตความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของเจา้ ของภาษา
ค้นคว้า รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ข้อเท็จจรงิ ทเี่ กีย่ วขอ้ งกับกลุม่ สาระการเรียนรอู้ ืน่
จากแหลง่ เรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ยการพดู /การเขียน
ใช้ภาษาสือ่ สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองทีเ่ กดิ ขน้ึ ในห้องเรยี น
สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
2. สาระสำคญั
รแู้ ละเข้าใจคำศัพทท์ ่เี กีย่ วข้องกับอปุ กรณอ์ ิเล็กทรอนกิ สต์ า่ งๆ ความรูเ้ กย่ี วกบั วัยรนุ่ องั กฤษกบั อุปกรณ์
อิเลก็ ทรอนกิ ส์ การอา่ นและเขียนกราฟแท่ง ช่วยใหเ้ กดิ ความเข้าใจในชวี ิตความเป็นอยูข่ องเจ้าของภาษา และ
สามารถตีความ/ถ่ายโอนข้อมลู ใหส้ มั พนั ธก์ บั สอ่ื ทไี่ ม่ใชค่ วามเรยี งได้
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- เรยี นร้คู ำศัพทต์ ่อไปน้ี high-tech, equipment, MP3 player, games condole, DVD player,
hi-fi system, digital, pocket money, gold mine ได้
- อา่ นเพือ่ หาข้อมลู จำเพาะได้
- สำรวจข้อมูลได้
- แปลงขอ้ มูลเป็นกราฟแทง่ ได้
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
- การตคี วาม/ถา่ ยโอนขอ้ มลู ให้สัมพันธก์ บั สื่อทไี่ ม่ใช่ความเรียง เช่น กราฟ
- การจับใจความสำคญั เช่น ใจความสำคัญ รายละเอียดสนบั สนุน
- ชวี ิตความเป็นอย่ขู องเจ้าของภาษา
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟงั พูด อา่ นและเขียนเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจำวนั กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวิตประจำวนั
6. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
- ความสามารถในการสอ่ื สาร
- ความสามารถในการคิด
- การคิดวเิ คราะห์
7. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
-ใฝ่เรยี นรู้
8. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั ที่ 1 (ขัน้ นำ) Warm up
ครูใหน้ ักเรียนดูภาพในหนงั สอื เรียน หน้า 55 และจัดการสำรวจเพ่ือหาว่าอุปกรณ์ (gadgets) ใดบ้างที่
นกั เรียนมี
ขั้นท่ี 2 (ขนั้ นำเสนอ) Presentation
1. นกั เรียนทำกจิ กรรมในหนงั สอื เรียน หนา้ 55 Ex. 1 (to listen and read for specific information)
โดยครเู ปดิ CD 2/Track 4 ใหน้ กั เรียนฟงั และอ่านบทอา่ นในหนงั สอื เรียนตามไปด้วย และตอบคำถามท่ี
กำหนดให้
2. นกั เรยี นทำกจิ กรรมในหนงั สอื เรยี น หน้า 55 Ex. 2 (to read for specific information and
interpret a graph) โดยอา่ นบทอ่านอีกคร้ัง และศึกษากราฟ จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามที่
กำหนดให้ และอธบิ ายความหมายของคำทพ่ี ิมพต์ ัวหนาในบทอา่ น
ขนั้ ที่ 3 ( ขั้นฝึก ) Practice
1. ครูอธบิ ายกจิ กรรมในหนงั สือเรียน หนา้ 55 Ex. 3 (to explain information in a graph) และอธบิ าย
วา่ กราฟแท่ง (bar graph) ในบทอา่ นแสดงความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสิ่ง 2 สงิ่ คือ ความสมั พันธ์ของวยั รนุ่
อังกฤษ (เส้นแนวต้ัง) กบั อุปกรณ์ (gadgets) ที่พวกเขามี (เสน้ แนวนอน) แลว้ กระตนุ้ ให้นกั เรยี นบอกวา่
กราฟแท่งแรกแสดงถึงอะไร (50% of British teens own a hi-fi) จากน้ันครสู มุ่ เรยี กนกั เรยี นทลี ะคน
ให้อธบิ ายกราฟแทง่ อืน่ ๆ ที่เหลือ เมือ่ นกั เรยี นสามารถอา่ นกราฟแทง่ ไดแ้ ลว้ ครใู ห้นักเรยี นสำรวจวา่
เพือ่ นในชัน้ มีอปุ กรณใ์ ดบา้ งตามที่แสดงในกราฟ
ข้ันท่ี 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
1. นกั เรยี นทำกิจกรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 55 Ex. 4 (to conduct a survey and make a bar graph)
โดยครเู ขยี นช่ืออปุ กรณ์ high-tech และอปุ กรณช์ ิ้นเล็กๆ (gadgets) จากกราฟแทง่ ในบทอา่ นลงบน
กระดาน โดยอาจเพ่มิ เตมิ อุปกรณอ์ ืน่ ๆ ได้ เชน่ mobile phone, laptop, games console แล้วครูให้
นักเรียนดูรายช่ืออุปกรณ์ตา่ งๆ บนกระดาน และให้นักเรยี นยกมอื ถ้านักเรยี นมีอุปกรณ์ชนิดนน้ั ครนู ับ
จำนวนนักเรียนท่ยี กมือในแต่ละครัง้ และเขยี นจำนวนนกั เรียนบนกระดานตอ่ จากชอ่ื อุปกรณช์ นดิ น้ันๆ
จากนน้ั ครูใหน้ ักเรยี นคดั ลอกช่อื อุปกรณ์และจำนวนนกั เรียนลงในสมดุ แล้วคำนวณเปอร์เซน็ ต์ เชน่ ใน
ชน้ั มนี ักเรยี นทัง้ หมด 20 คน ถา้ 10 คน มโี ทรศัพทม์ ือถอื (mobile phone) แสดงวา่ นัน่ คอื 50% ของ
นักเรยี นทมี่ โี ทรศพั ทม์ ือถอื เมอื่ นกั เรยี นได้ผลคำนวณเปอร์เซ็นต์แล้วใหน้ ักเรียนใช้ผลคำนวณทไ่ี ดเ้ ขียน
กราฟแทง่ เหมือนในหนงั สือเรยี น เสร็จแลว้ ให้นกั เรยี นนำเสนอผลคำนวณเปน็ เปอรเ์ ซ็นตใ์ หเ้ พอื่ นในชั้น
ฟงั หรือครอู าจใหน้ ักเรยี นเตรียมแบบสอบถาม แลว้ ถา่ ยเอกสารแจกให้เพอื่ นในช้นั
ตัวอยา่ งแบบสอบถาม
Which gadgets have you got? Tick (✓).
MP 3 player ……………. mobile phone ……..………
Hi-fi ……………………. laptop ……………….…….
PC ……………………… games console ……………
digital TV ……………… other ………………..…….
video camera ……….…..
ขั้นท่ี 5 (ข้นั สรปุ ) Wrap up
1. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบสอบถาม เมอื่ ทำเสร็จแล้วให้นักเรยี นแต่ละคนรวบรวมแบบสอบถาม และ
คำนวณเปอร์เซ็นต์ตามทอ่ี ธิบายไปแลว้ จากนั้นนำผลคำนวณทไ่ี ดม้ าเขยี นกราฟแท่ง
2. นกั เรยี นทำกิจกรรมในแบบฝกึ หัด (Workbook) Unit 5d หนา้ 47 Exs. 1-3 โดยใน Ex. 2 ใหน้ กั เรยี น
ฟงั Access Workbook Audio CD 3 ม. 3/track 10 ประกอบการทำกิจกรรม
9. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สอื เรียน Access 3 ม. 3
2. แบบฝึกหัด (Workbook) Access 3 ม. 3
10. การวัดและประเมินผล
วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมนิ ช้นิ งาน ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมินการฟงั ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ การพดู โตต้ อบ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ดา้ นทักษะ/สมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 32
วิชา ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน รหัสวชิ า อ23101 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 Our future
เรือ่ ง Sounds easy เวลา 12 ชั่วโมง
ครูผู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรยี น บา้ นแมย่ างหา้ เวลา 2 ชั่วโมง
สอนวันที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชว้ี ัดชนั้ ปี
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งทีฟ่ ังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมีเหตุผล
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ
และความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรอื่ งต่างๆ โดยการพูดและ
การเขียน
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเชอื่ มโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่ และเปน็ พื้นฐาน
ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวช้วี ัด อา่ นออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ถกู ต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ขอ้ 2 ระบแุ ละเขียนสอื่ ทไ่ี มใ่ ชค่ วามเรียงรปู แบบตา่ งๆ ใหส้ มั พนั ธก์ ับประโยค และขอ้ ความ
ต 1.1 ขอ้ 3 ทฟี่ ังหรืออา่ น
เลือก/ระบหุ วั ขอ้ เร่ือง ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เหน็
ต 1.1 ขอ้ 4 เกี่ยวกับเร่ืองที่ฟังและอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้ังให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
ต 1.2 ขอ้ 2 ใช้คำขอรอ้ ง ให้คำแนะนำ คำชแ้ี จง และคำอธบิ ายอย่างเหมาะสม
ต 1.2 ขอ้ 4 พูดและเขยี นเพือ่ ขอและใหข้ ้อมูล อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคดิ เห็น
ต 1.2 ขอ้ 5 เกีย่ วกับเรือ่ งที่ฟงั หรอื อา่ นอย่างเหมาะสม
พูดและเขียนบรรยายความรู้สึก และความคิดเหน็ ของตนเองเกี่ยวกบั เรอ่ื งต่างๆ
ต 1.3 ข้อ 1 กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลประกอบอยา่ ง
ต 2.1 ข้อ 1 เหมาะสม
ต 2.1 ขอ้ 2 พูดและเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ/์ เรอื่ ง/ประเด็น
ต 3.1 ขอ้ 1 ต่าง ๆ ทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 4.1 ขอ้ 1 เลอื กใช้ภาษา นำ้ เสียง และกิรยิ าทา่ ทาง เหมาะกบั บุคคลและโอกาสตามมารยาท
สงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
อธิบายเก่ียวกบั ชีวิตความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของเจา้ ของภาษา
ค้นคว้า รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ขอ้ เท็จจริงท่ีเกีย่ วขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรยี นร้อู ืน่
จากแหล่งเรียนรู้ และนำเสนอดว้ ยการพดู /การเขียน
ใช้ภาษาสอื่ สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองทเี่ กดิ ข้นึ ในหอ้ งเรยี น
สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
2. สาระสำคัญ
รแู้ ละเข้าใจสำนวนภาษาที่ใชใ้ นการขอและใหค้ ำแนะนำ ช่วยให้ใช้ภาษาในการใหค้ ำแนะนำในสถานการณ์
ต่างๆ ได้อยา่ งเหมาะสม
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- เรยี นรู้คำศพั ท์ต่อไปน้ี turn on, connect access email account, create, type, click on,
include email address ได้
- อ่านออกเสียงสำนวนภาษาทีใ่ ช้ในการขอและให้คำแนะนำและคำศพั ท์ท่ีมีเสยี ง / /, /ʌ/ ได้
- ใหค้ ำแนะนำในการสง่ SMS ได้
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- การออกเสียงตามระดับเสียงสูง-ตำ่ ในประโยค การออกเสยี งสระเสยี งส้นั สระเสยี งยาว
- คำแนะนำในการสง่ SMS
- การเลอื กใช้ภาษา นำ้ เสยี ง และกริ ิยาทา่ ทางในการสนทนา ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา
- การใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองทเ่ี กิดขึ้นในหอ้ งเรยี น
5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟัง พดู อ่านและเขียนเกย่ี วกับตนเอง กจิ วัตรประจำวนั กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวัน
6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
- ความสามารถในการสือ่ สาร
7. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
-ใฝ่เรยี นรู้
8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั ที่ 1 (ขน้ั นำ) Warm up
ครูใหน้ ักเรยี นอ่านชื่อ Unit 5e ในหนังสือเรียน หน้า 56 และใหน้ ักเรียนเดาว่าเนื้อหาใน Unit 5e นา่ จะ
เกย่ี วกับเร่ืองอะไร (giving instructions)
ขัน้ ท่ี 2 (ข้ันนำเสนอ) Presentation
1. ครูใหน้ กั เรยี นดทู อี่ ยูท่ ใี่ ห้มาในหนงั สอื เรยี น หน้า 56 Ex. 1 (to understand email and website
addresses) แลว้ บอกว่าทอี่ ยู่ใดเป็น email address และทอ่ี ยใู่ ดเปน็ website address จากนน้ั ครู
อ่านข้อความใน key ให้นักเรยี นฟงั และสมุ่ เรียกนักเรียนหลายๆ คน อา่ น email address และ
website address ท่ีให้มา ครูชว่ ยเหลอื เรือ่ งการออกเสยี งในกรณีท่จี ำเปน็ แลว้ เปิด CD 2/Track 5 ให้
นกั เรยี นฟงั วิธกี ารอา่ น email address และ website address เพ่ือตรวจการออกเสียงของนักเรยี น
2. ครอู ่านประโยคทใ่ี ห้มาในหนังสอื เรยี น หน้า 56 Ex. 2 (to distinguish between giving and asking
for instructions) ให้นกั เรยี นฟงั แล้วเปดิ CD 2/Track 6 โดยครหู ยดุ CD หลังจบแต่ละประโยคเพอื่ ให้
นักเรยี นฟงั และออกเสียงตาม จากนัน้ กระตุ้นให้นกั เรียนบอกวา่ ประโยคใดเป็นการให้คำแนะนำ และ
ประโยคใดเปน็ การขอคำแนะนำ แล้วครูเฉลยคำตอบ และให้นกั เรยี นแปลประโยคเหล่านี้เปน็ ภาษาไทย
ข้นั ที่ 3 ( ข้ันฝกึ ) Practice
1. ครูอธบิ ายกจิ กรรมในหนงั สอื เรียน หนา้ 56 Ex. 3 (to decode information and order visual
material) แล้วให้นักเรียนดูภาพ A-F และบอกว่าแต่ละภาพแสดงให้เหน็ อะไร (A – the Internet, B – a
‘send’ button, C – a ‘create message’ button, D – turning on a computer, E – a ‘sign in’
page, F – typing on a computer keyboard) จากนั้นครเู ปิด CD 2/Track 7 ให้นักเรียนฟงั และอ่าน
บทสนทนาในหนงั สอื เรียนตามไปดว้ ย เมอื่ ฟงั จบแลว้ ใหน้ ักเรียนเรียงลำดบั ภาพ A-F ใหถ้ กู ตอ้ งตาม
ข้ันตอนทีไ่ ดฟ้ งั เสร็จแล้วครูตรวจคำตอบ
2. นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสอื เรยี น หน้า 56 Ex. 4 (to understand the meaning of everyday
English expressions) โดยอา่ นบทสนทนาใน Ex. 3 อกี ครงั้ แล้วหาประโยคในบทสนทนาทม่ี ี
ความหมายเหมอื นกับประโยค 1-4 เสร็จแล้วครเู ฉลยคำตอบโดยสมุ่ เรียกนักเรยี นอ่านคำตอบของตนเอง
ขน้ั ท่ี 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
1. ครใู ห้นักเรยี นคัดลอกตารางในหนงั สอื เรยี น หนา้ 56 Ex. 6 (to pronounce / /, /ʌ/) ลงในสมดุ
จากนน้ั ครูเปดิ CD 2/Track 8 ให้นกั เรยี นฟังคำศัพทท์ ่อี อกเสยี ง / / และ /ʌ/ แลว้ ทำเครอ่ื งหมาย
ลงในตารางตามเสียงทีไ่ ด้ยิน เสรจ็ แล้วครเู ปิด CD ให้นกั เรียนฟังอกี ครงั้ และหยดุ CD หลังจบ
แต่ละคำ เพ่ือให้นกั เรียนฝกึ ออกเสยี งตาม
ข้นั ท่ี 5 (ข้นั สรุป) Wrap up
1. ครูอ่านคำแนะนำท่ีให้มาในหนงั สือเรียน หนา้ 56 Ex. 5 (to act out a dialogue) ให้นักเรยี นฟัง แลว้
ให้นกั เรยี นจบั คูก่ บั เพือ่ น ใช้คำแนะนำเหล่าน้ีแสดงบทสนทนาเกย่ี วกบั การให้คำแนะนำในการส่ง SMS
ครยู ้ำใหน้ กั เรยี นใช้บทสนทนาใน Ex. 3 เป็นตน้ แบบ แลว้ เขยี นโครงสร้างบทสนทนาใหน้ กั เรียนดบู น
กระดาน และกระตุ้นใหน้ ักเรียนบอกสำนวนภาษาที่ใช้ในบทสนทนาน้ี
ครูสังเกตรอบๆ ชั้นเรียนขณะนักเรียนทำกิจกรรม ครูให้นักเรียนบันทกึ บทสนทนาของตนเองถ้ามี
อุปกรณท์ ่ีเหมาะสม จากนนั้ ครสู ุ่มเรียกนักเรยี นหลายๆ คู่ ออกมาแสดงบทสนทนาทหี่ นา้ ช้นั เรยี น
9. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียน Access 3 ม. 3
2. แบบฝึกหดั (Workbook) Access 3 ม. 3
3. Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนังสือเรยี น Access 3 ม. 3)
4. CD หนังสอื Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3
10. การวัดและประเมนิ ผล
วิธีการวดั เครอื่ งมือ เกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด เกณฑก์ ารประเมินชิน้ งาน ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมินการฟัง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมินการพูดโต้ตอบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขยี น แบบประเมินการเขียน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมนิ การอ่านออกเสยี ง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 33
วชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน รหัสวชิ า อ23101 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 5 Our future
เรอ่ื ง Curricular Cut เวลา 12 ชั่วโมง
ครผู สู้ อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
โรงเรียน บ้านแมย่ างหา้ เวลา 2 ชั่วโมง
สอนวันที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัดชั้นปี
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งทีฟ่ ังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมเี หตุผล
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ
และความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรอื่ งต่างๆ โดยการพูดและ
การเขียน
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอื่ มโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่ และเปน็ พื้นฐาน
ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้วี ัด อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ถกู ต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ข้อ 2 ระบแุ ละเขียนสอื่ ทไ่ี มใ่ ชค่ วามเรียงรปู แบบตา่ งๆ ใหส้ มั พนั ธก์ ับประโยค และขอ้ ความ
ต 1.1 ข้อ 3 ทีฟ่ ังหรืออ่าน
เลอื ก/ระบุหัวข้อเร่ือง ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เหน็
ต 1.1 ขอ้ 4 เกี่ยวกบั เรอ่ื งทฟ่ี ังและอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้ังให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
ต 1.2 ขอ้ 2 ใชค้ ำขอรอ้ ง ให้คำแนะนำ คำชแ้ี จง และคำอธบิ ายอย่างเหมาะสม
ต 1.2 ข้อ 4 พดู และเขียนเพื่อขอและใหข้ ้อมูล อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคดิ เห็น