The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือครู

คู่มือครู

website : www.iadth.com ๒ สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) สำานักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำากัด ๑๒๕๖/๙ ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ โทร. ๐-๒๒๔๓-๘๐๐๐ (อัตโนมัติ ๑๕ สาย), ๐-๒๒๔๑-๘๙๙๙ แฟกซ์ : ทุกหมายเลข, แฟกซ์อัตโนมัติ : ๐-๒๒๔๑-๔๑๓๑, ๐-๒๒๔๓-๗๖๖๖ สงวนลิขสิทธิ์ หนังสือเล่มนี้ได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ๒๑ มาตรฐานสากล ศตวรรษที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ BBL5Steps สุดยอดคู่มือครูหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ม. ๒หลักสูตรฯ ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) คู่มือครูเพื่อใช้คู่กับหนังสือเรียน พว. ใช้กระบวนการ BBL & PBL เน้นการทำางานของสมอง GPAS เพิ่มผลสัมฤทธิ์ด้วย NT / O-NET PISA โครงงานบูรณาการ สู่อาเซียนและโลก ทักษะศตวรรษที่ ๒๑ จัดการเรียนรู้ตามแนวทาง Backward Design เฉลยคำาตอบ ละเอียดทุกข้อ QR CODE นวัตกรรมสื่อเสริม ความรู้ความเข้าใจ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระภูมิศาสตร์ • จัดกลุ่มสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ใหม่ • ปรับโครงสร้างรายวิชาใหม่ • เพิ่มสาระการเรียนรู้ที่มีความจำาเป็น • เลื่อนไหลเนื้อหาให้มีความเหมาะสม • ตัดเนื้อหาที่มีความซ้ำาซ้อนกับเนื้อหา กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น หลักสูตรใหม่ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ • การเรียนรู้ภูมิศาสตร์ (Geo-literacy) โดยมีองค์ประกอบ ๓ ส่วน คือ ความสามารถ ทางภูมิศาสตร์ กระบวนการทางภูมิศาสตร์ และทักษะทางภูมิศาสตร์ • ปรับตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ แกนกลางสาระภูมิศาสตร์ • จัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ใหม่ • เปลี่ยนชื่อสาระการเรียนรู้ใหม่ • เพิ่มเติมเนื้อหาด้านต่างๆ ที่มีความทันสมัย สอดคล้องต่อการดำารงชีวิตในปัจจุบันและอนาคต • เลื่อนไหลบางเนื้อหาให้มีความเหมาะสม • เพิ่มเติมสาระที่ ๔ เทคโนโลยี 9 7 8 6 1 6 0 5 4 5 2 7 8 ISBN : 978-616-05-4527-8


แผนผังหัวข้อหน่วยการเรียนรู้ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 แนวคิดเชิงคำ นวณ (ว 4.2 ม.2/1) หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การพัฒนาโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา (ว 4.2 ม.2/2) หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 คอมพิวเตอร์ (ว 4.2 ม.2/3) หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ผลงาน (ว 4.2 ม.2/4) วงจรการพัฒนาโปรแกรม ความรู้พื้นฐานสําหรับการเขียนโปรแกรมภาษาไพธอน การเขียนโปรแกรมแบบลําดับ การเขียนโปรแกรมแบบทางเลือก การเขียนโปรแกรมแบบวนซํ้า ฟังก์ชัน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เทคโนโลยีการสื่อสาร (ว 4.2 ม.2/3) แนวคิดเชิงคํานวณ การแจกแจง การคิดหารูปแบบ การคิดเชิงนามธรรม การออกแบบขั้นตอนวิธี คอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ การประยุกต์ใช้งานและการแก้ปัญหาเบื้องต้น การสื่อสารข้อมูล องค์ประกอบของการสื่อสาร สื่อกลาง โพรโทคอล สัญญาณในการสื่อสาร รูปแบบในการส่งสัญญาณ การถ่ายโอนข้อมูล เครือข่ายคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต ทรัพย์สินทางปัญญา Creative Commons กับการสร้าง และแสดงสิทธิความเป็นเจ้าของผลงาน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2


สงวนลิขสิทธิ์ สำ�นักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด พ.ศ. ๒๕๖๓ สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ๑๒๕๖/๙ ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ โทร. ๐-๒๒๔๓-๘๐๐๐ (อัตโนมัติ ๑๕ สาย), ๐-๒๒๔๑-๘๙๙๙ แฟกซ์ : ทุกหมายเลข, แฟกซ์อัตโนมัติ : ๐-๒๒๔๑-๔๑๓๑, ๐-๒๒๔๓-๗๖๖๖ website : www.iadth.com คู่มือครูเพื่อใช้คู่กับหนังสือเรียน เทคโนโลยี (วิทยาการคำ นวณ) ๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ * โปรแกรมและเว็บไซต์ที่อ้างถึงเป็นชื่อผลิตภัณฑ์เครื่องหมายการค้าและเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทนั้นๆ ตามกฎหมาย


198 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 การกำาหนดสัญญาอนุญาต มีการระบุเงื่อนไขร่วมกันได้ 6 แบบ ดังนี้ ให้เผยแพร่ ดัดแปลงได้ โดยต้องระบุ หรือแสดงที่มา ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุ หรือแสดงที่มา และต้องใช้สัญญา อนุญาตเดียวกัน ให้เผยแพร่ ต้องระบุหรือแสดงที่มา แต่ห้ามดัดแปลงจากเดิมใด ๆ ทั้งสิ้น CC-BY-ND CC-BY-SA CC-BY การกำาหนดสัญญาอนุญาต CC สัญลักษณ์ ความหมาย สุดยอดคู่มือครู 2 พิเศษ ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 แนวข้อสอบ O-NET/PISA GPAS Steps NET 1. ตั้งคำ�ถาม ตั้งสมมุติฐาน เพื่อกระตุ้น ประสบการณ์ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ 2. สังเกตและรวบรวมข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ อย่างหลากหลาย เพื่อให้ผู้เรียนรู้จัก เลือกข้อมูลที่ต้องการ 3. จัดกระทำ�ข้อมูลด้วยการคิดวิเคราะห์ (จำ�แนก จัดหมวดหมู่ หาความสัมพันธ์ เปรียบเทียบ ฯลฯ) โดยใช้แผนภาพจัด ความคิดอย่างเป็นระบบ สรุปสาระสำ�คัญ สังเคราะห์เป็นความคิดรวบยอด 4. คิดประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าโดยเชื่อมโยงกับ หลักคุณธรรมจริยธรรมค่านิยมหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างความเป็น พลเมืองไทยและพลโลกที่มีคุณภาพ แล้วสรุปเป็นความคิดรวบยอด 5. สร้างทางเลือกโดยออกแบบหรือคิดสร้างสรรค์ แนวทางอย่างหลากหลาย แล้วตัดสินใจ เลือกแนวทางที่ดีที่สุด 6. วางแผนขั้นตอนการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อนำ�ไปสู่ความสำ�เร็จ เป้าหมายการเรียนรู้ ระบุเป้าหมายการเรียนรู้ในหลักสูตรตามแนวทาง Backward Design ซึ่งประกอบด้วย - มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด - สมรรถนะสำ�คัญของผู้เรียน - คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ภาระงาน/ชิ้นงาน กำ�หนดภาระงานหรือชิ้นงานของผู้เรียน ซึ่งเป็นหลักฐานแสดงความเข้าใจ กิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพการเรียนรู้ในศตวรรษที่21 แนวข้อสอบ NT/O-NET/PISA และสารประโยชน์มากมายสำ�หรับครู การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนที่สอดคล้องกับ เสริมสร้างศักยภาพการเรียนรู้ตาม การอธิบายเป้าหมาย การเรียนรู้และการทำ� ชิ้นงานที่ผู้เรียนจะได้ คะแนนอย่างชัดเจนทำ�ให้ผู้เรียน เห็นทิศทางในการเรียนเป็นการ ขจัดความกังวลใจ และสร้าง ความรู้สึกเชิงบวกให้แก่ผู้เรียน การใช้คำ�ถาม หรือกำ�หนดปัญหา ที่ผู้เรียนต้องพบในชีวิต (Problem BasedLearning:PBL) เพื่อสร้างความรู้สึกตื่นเต้นท้าทาย กระตุ้นอารมณ์ให้ผู้เรียนสนใจ อยากเรียนรู้ อยากสืบสอบ ซึ่งส่งผลต่อการเรียนรู้ที่ดี การรวบรวมข้อมูล จากสิ่งแวดล้อม และแหล่งเรียนรู้ อย่างหลากหลาย ผ่านระบบ ประสาทสัมผัส (ways of knowing) ทั้งการเห็น(ทางตา) การได้ยิน (ทางหู) การสัมผัส(ทางกาย) การได้กลิ่น(ทางจมูก) การรับรส(ทางปาก) ทำ�ให้สมอง เกิดการเรียนรู้และมีพัฒนาการ เพราะสิ่งแวดล้อมคือตัวกระตุ้น พัฒนาการสมอง และสิ่งแวดล้อม ที่หลากหลายทำให้สมองเรียนรู้ได้ดี การจัดข้อมูลของสมอง จะใช้การคิดหา ความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับ ประสบการณ์เดิม เปรียบเทียบ จัดกลุ่ม และสรุปเป็นหลักการ ของตนเองกิจกรรมที่เน้นการคิด จึงทำให้สมองเกิดการเรียนรู้ และครูต้องฝึกให้ผู้เรียนใช้ แผนภาพความคิด (Graphic Organizers) เพื่อจัดข้อมูลอย่างเป็นระบบ สร้างการคิดอย่างมีแบบแผน การคิดประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า ทำ�ให้ผู้เรียนเห็นความสำ�คัญของสิ่งนั้น ข้อมูลที่มีความสำคัญมีความหมายต่อชีวิต สมองจะสนใจและตอบสนอง จึงส่งข้อมูลเหล่านั้นเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ โดยเชื่อมโยงกับความรู้ และทักษะที่มีอยู่เดิม สร้างความหมายให้มากยิ่งขึ้น ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Step 2 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Step 1


การใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ผลงาน 199 รอบรู้ ASEAN นักเรียนแบ่งกลุ่มร่วมกันค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาของแต่ละประเทศในประชาคม อาเซียน นำาเสนอหน้าชั้นเรียนเพื่อขยายการเรียนรู้ ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุ หรือแสดงที่มาแต่ห้ามใช้เพื่อการค้า โดยเด็ดขาด ให้เผยแพร่ดัดแปลง โดยต้องระบุ หรือแสดงที่มา แต่ห้ามใช้เพื่อการค้า โดยเด็ดขาด และต้องเผยแพร่ ดัดแปลง โดยใช้สัญญาอนุญาตชนิดเดียวกัน ให้เผยแพร่ โดยต้องระบุหรือแสดงที่มา แต่ห้ามใช้เพื่อดัดแปลงและการค้า โดยเด็ดขาด CC-BY-NC-ND CC-BY-NC-SA CC-BY-NC S สัญลักษณ์ ความหมาย ตารางที่ 5.1 สัญลักษณ์สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ 3 สุดยอดคู่มือครู พิเศษ รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean 7. เขียนขั้นตอนการปฏิบัติงานจริงและ ลงมือปฏิบัติตามแผน ประเมินความสำ�เร็จ ของงานและประเมินการทำ�งานเชิงระบบ เพื่อปรับปรุงและแก้ปัญหา แล้วสรุป เป็นความคิดรวบยอด 8. นำ�ความเข้าใจที่เกิดจากการปฏิบัติ มาสร้างองค์ความรู้หรือสรุปเป็นหลักการ 10. เชื่อมโยงความรู้ไปสู่การทำ�ประโยชน์ให้กับ ท้องถิ่น สังคม สิ่งแวดล้อม ในระดับ ประเทศ อาเซียน และโลก ตามวุฒิภาวะ ข อง ผู้ เรี ย น แ ล้ ว ประ เ มิ น ค่านิ ย ม นิสัยแห่งการคิดการกระทำ� 9. สื่อสารและนำ�เสนอผลงานหรือความสำ�เร็จ เพื่อขยายความรู้ในรูปแบบการอภิปราย การรายงาน นำ�เสนอด้วยแผงโครงงาน PowerPoint Presentation เป็นต้น กิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพการเรียนรู้ในศตวรรษที่21 แนวข้อสอบ NT/O-NET/PISA และสารประโยชน์มากมายสำ�หรับครู การเรียนรู้ของสมอง (Brain Based Learning) มาตรฐานสากลในศตวรรษที่ 21 การเคลื่อนไหวและ การลงมือปฏิบัติทำให้ สมองพัฒนาทั้งสองด้าน เมื่อผู้เรียนนำหลักการจากศาสตร์ แขนงต่าง ๆ ไปปฏิบัติหรือลงมือ แก้ปัญหามากขึ้น ความรู้จะยิ่งถักทอ ขยายกว้างขึ้น เกิดทักษะการคิด ริเริ่มสร้างสรรค์(creativethinking) การคิดแก้ปัญหา (problem solving thinking)การคิดอย่างมีวิจารณญาณ (critical thinking)ผู้เรียนได้พัฒนา ความคิดทั้งระบบ และสามารถ สร้างองค์ความรู้ไปพร้อมๆกัน เกิดความเข้าใจที่ลุ่มลึกและเป็น ความเข้าใจที่คงทน สามารถนำ�ไป ประดิษฐ์ผลงาน สร้างผลิตภัณฑ์ จัดทำ�โครงงาน(ProjectBased Learning:PBL) พัฒนาพหุปัญญา และขยายผลสู่สังคมตามมาตรฐาน สากลและวิสัยทัศน์ในศตวรรษที่21 Step 3 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ Step4 ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Step5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า บริการสังคมและจิตสาธารณะ Active Learning


สุดยอดคู่มือครู 150 150 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA ก�รสื่อส�รข้อมูล การสื่อสาร การสื่อสาร การสื่อสาร ยุคโบราณ ยุคปัจจุบันหรือ ยุคไร้สาย ยุคอุตสาหกรรม วิวัฒนาการของ การสื่อสาร มนุษย์มีความพยายามสื่อสาร เพื่อจะถ่ายทอดแนวคิด ความต้องการ เจตนารมณ์ให้กับผู้อื่นได้ทราบทั้งการสื่อสารด้วยท่าทาง สัญลักษณ์ สีหน้า หรือที่เรียกว่า อวัจนภาษา และสื่อสารด้วยภาษาพูดต่าง ๆ หรือที่เรียกว่า วัจนภาษา แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป ทำาให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารให้สามารถ อำานวยความสะดวกและประหยัดเวลาในการสื่อสาร • ภาพบนผนังถํ้า • ควันไฟ • นกพิราบสื่อสาร • ม้าเร็ว • วายฟาย • ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ • การสนทนาทางไกล • โทรศัพท์เคลื่อนที่ • โทรสารหรือแฟกซ์ • จดหมายและพัสดุ คำ�ถ�มสำ�คัญ 150 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 การสื่อสารข้อมูล การสื่อสารข้อมูลในปัจจุบัน มีลักษณะอย่างไร 1. นักเรียนร่วมกันสังเกตภาพและสนทนา เกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูล จากนั้น ตอบคำาถาม ดังนี้ ตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/3 ภาระงาน/ชิ้นงาน แผนภาพความคิดสื่อกลางแบบใช้สาย และสื่อกลางแบบไร้สาย ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Step 1 • แต่ละภาพหมายถึงอะไร (ภาพที่1 เป็นการวาดภาพหรือสัญลักษณ์ ต่างๆบนผนัง ภาพที่2เป็นภาพคนจุดไฟแล้วใช้ควันเพื่อ ส่งสัญญาณ ภาพที่3เป็นการใช้นกพิราบส่งข่าวสาร ภาพที่4เป็นภาพคนขี่ม้าเร็วเพื่อส่งสาร ภาพที่5เป็นการส่งข่าวสารในปัจจุบันโดย การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่) • การสื่อสารข้อมูลในปัจจุบันมี ลักษณะอย่างไร (ตัวอย่างคําตอบ มีการนําเทคโนโลยี เข้ามาใช้ในการสื่อสาร ทําให้การสื่อสาร มีความรวดเร็ว และสะดวกสบายยิ่งขึ้น เช่น การส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ การสนทนาออนไลน์บน facebook) 2. นักเรียนศึกษาค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง การสื่อสารข้อมูล จากแหล่งการเรียนรู้ อื่น ๆ ที่หลากหลาย เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต 3. นั ก เ รี ย น ร่ ว ม กั น วิ เ ค ร า ะ ห์ แ ล ะ เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างการ สื่อสารในยุคโบราณกับการสื่อสาร ในยุคปัจจุบัน โดยเขียนเป็นแผนภาพ ดังตัวอย่าง ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 การสื่อสาร ในยุคโบราณ ได้สินค้าตาม ความต้องการ การสื่อสาร ในปัจจุบัน การสื่อสารในยุคโบราณ ใช้การจุดไฟโดยใช้ควัน ส่งสัญญาณ การเขียน ภาพหรือสัญลักษณ์ การใช้สัตว์ในการส่งสาร เพื่อส่งข้อมูลแก่ผู้รับ ทำาให้เกิดความเข้าใจ ที่ตรงกัน ในปัจจุบันการติดต่อ สื่อสารเป็นเรื่องที่ ทำาได้ง่าย โดยใช้ เครื่องมือเทคโนโลยี ในการส่งข้อมูลทาให้การ ำ ส่งข้อมูลข่าวสารรวดเร็ว สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เป็นการสื่อสารข้อมูล ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับ โดยใช้ภาพ ข้อความ หรือสัญลักษณ์ สุดยอดคู่มือครู 150 150 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA ก�รสื่อส�รข้อมูล การสื่อสาร การสื่อสาร การสื่อสาร ยุคโบราณ ยุคปัจจุบันหรือ ยุคไร้สาย ยุคอุตสาหกรรม วิวัฒนาการของ การสื่อสาร มนุษย์มีความพยายามสื่อสาร เพื่อจะถ่ายทอดแนวคิด ความต้องการ เจตนารมณ์ให้กับผู้อื่นได้ทราบทั้งการสื่อสารด้วยท่าทาง สัญลักษณ์ สีหน้า หรือที่เรียกว่า อวัจนภาษา และสื่อสารด้วยภาษาพูดต่าง ๆ หรือที่เรียกว่า วัจนภาษา แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป ทำาให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารให้สามารถ อำานวยความสะดวกและประหยัดเวลาในการสื่อสาร • ภาพบนผนังถํ้า • ควันไฟ • นกพิราบสื่อสาร • ม้าเร็ว • วายฟาย • ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ • การสนทนาทางไกล • โทรศัพท์เคลื่อนที่ • โทรสารหรือแฟกซ์ • จดหมายและพัสดุ คำ�ถ�มสำ�คัญ 150 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 การสื่อสารข้อมูล การสื่อสารข้อมูลในปัจจุบัน มีลักษณะอย่างไร 1. นักเรียนร่วมกันสังเกตภาพและสนทนา เกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูล จากนั้น ตอบคำาถาม ดังนี้ ตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/3 ภาระงาน/ชิ้นงาน แผนภาพความคิดสื่อกลางแบบใช้สาย และสื่อกลางแบบไร้สาย ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Step 1 • แต่ละภาพหมายถึงอะไร (ภาพที่1 เป็นการวาดภาพหรือสัญลักษณ์ ต่างๆบนผนัง ภาพที่2เป็นภาพคนจุดไฟแล้วใช้ควันเพื่อ ส่งสัญญาณ ภาพที่3เป็นการใช้นกพิราบส่งข่าวสาร ภาพที่4เป็นภาพคนขี่ม้าเร็วเพื่อส่งสาร ภาพที่5เป็นการส่งข่าวสารในปัจจุบันโดย การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่) • การสื่อสารข้อมูลในปัจจุบันมี ลักษณะอย่างไร (ตัวอย่างคําตอบ มีการนําเทคโนโลยี เข้ามาใช้ในการสื่อสาร ทําให้การสื่อสาร มีความรวดเร็ว และสะดวกสบายยิ่งขึ้น เช่น การส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ การสนทนาออนไลน์บน facebook) 2. นักเรียนศึกษาค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง การสื่อสารข้อมูล จากแหล่งการเรียนรู้ อื่น ๆ ที่หลากหลาย เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต 3. นั ก เ รี ย น ร่ ว ม กั น วิ เ ค ร า ะ ห์ แ ล ะ เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างการ สื่อสารในยุคโบราณกับการสื่อสาร ในยุคปัจจุบัน โดยเขียนเป็นแผนภาพ ดังตัวอย่าง ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 การสื่อสาร ในยุคโบราณ ได้สินค้าตาม ความต้องการ การสื่อสาร ในปัจจุบัน การสื่อสารในยุคโบราณ ใช้การจุดไฟโดยใช้ควัน ส่งสัญญาณ การเขียน ภาพหรือสัญลักษณ์ การใช้สัตว์ในการส่งสาร เพื่อส่งข้อมูลแก่ผู้รับ ทำาให้เกิดความเข้าใจ ที่ตรงกัน ในปัจจุบันการติดต่อ สื่อสารเป็นเรื่องที่ ทำาได้ง่าย โดยใช้ เครื่องมือเทคโนโลยี ในการส่งข้อมูลทาให้การ ำ ส่งข้อมูลข่าวสารรวดเร็ว สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เป็นการสื่อสารข้อมูล ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับ โดยใช้ภาพ ข้อความ หรือสัญลักษณ์ สุดยอดคู่มือครู 4 พิเศษ กระบวนการเรียนรู้ BBL อย่างแท้จริง ตามมาตรฐานสากลและวิสัยทัศน์ในศตวรรษที่ 21 Steps GPAS การรวบรวมข้อมูลเพื่อสร้างฐานการเรียนรู้ กระตุ้นอารมณ์ตื่นเต้น สร้างความรู้สึกเชิงบวก สนุกสนาน น่าสนใจ ทำ ให้สมองตื่นตัวพร้อมเรียนรู้ซึ่งมี2 วิธีดังนี้ วิธีที่ 1 การใช้คำ ถามหรือกำ หนดปัญหาที่ผู้เรียนต้องพบในชีวิต วิธีที่ 2 ให้ผู้เรียนอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ โดยใช้ระบบประสาทสัมผัสรับรู้ข้อมูล เรียนรู้ จากของจริง สิ่งใกล้ตัว ภาพ บัตรคำ ฯลฯ รวมทั้งได้สืบค้นจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ด้วยตนเอง ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) Step 1


สุดยอดคู่มือครู 3434 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 34 เทคโนโลยี(วิทย�ก�รคำ�นวณ)ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่2 สวนสนุกคิดค่�เข้�บริก�ร โดยพิจ�รณ�จ�กคว�มสูงของลูกค้� ดังนี้ ถ้�มีส่วนสูง ม�กกว่� 150 เซนติเมตร คิดค่�บริก�ร 200บ�ท น้อยกว่� 150 เซนติเมตร ไม่คิดค่�บริก�ร ข้อมูลนำ�เข้� คือคว�มสูง (height) ข้อมูลแสดงออก คือข้อคว�มอธิบ�ยได้แก่ “Pay 200Baht”, “Free” ALGORITHM themepark start 1. INPUTheight 2. IFheight>150 3. THEN OUTPUT“Pay 200Baht” 4. ELSE OUTPUT“Free” end ตัวอย่�งที่ 4 โปรแกรมคำ�นวณค่�บริก�รเข้�เล่นสวนสนุกแบบท�งเลือกสองท�ง ผังง�นแสดงขั้นตอน โปรแกรมคำ�นวณ ค่�บริก�รเข้�เล่นสวนสนุก แบบท�งเลือกสองท�ง Pseudo Code start OUTPUT“Pay 200Baht” end height>150 INPUTheight True False OUTPUT“Free” 15. นักเรียนวิเคราะห์เกี่ยวกับการ ออกแบบขั้นตอนวิธีต่อไปนี้แล้ว ตอบคำาถาม ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 • ความแตกต่างระหว่างโปรแกรม คำานวณค่าบริการเข้าเล่นสวนสนุก แบบทางเลือกทางเดียวกับโปรแกรม คำานวณค่าบริการเข้าเล่นสวนสนุก แบบทางเลือกสองทางคืออะไร (ตัวอย่างคำาตอบ มีข้อมูลแสดงออก 2 ข้อความ ได้แก่ Pay 200 Baht และFree) • ถ้ามีส่วนสูง 150 เซนติเมตร โปรแกรมจะแสดงผลลัพธ์ใดออกมา (Free) • ถ้ามีส่วนสูง 151 เซนติเมตร โปรแกรมจะแสดงผลลัพธ์ใดออกมา (Pay200Baht) 34 เทคโนโลยี(วิทย�ก�รคำ�นวณ)ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่2 สวนสนุกคิดค่�เข้�บริก�ร โดยพิจ�รณ�จ�กคว�มสูงของลูกค้� ดังนี้ ถ้�มีส่วนสูง ม�กกว่� 150 เซนติเมตร คิดค่�บริก�ร 200บ�ท น้อยกว่� 150 เซนติเมตร ไม่คิดค่�บริก�ร ข้อมูลนำ�เข้� คือคว�มสูง (height) ข้อมูลแสดงออก คือข้อคว�มอธิบ�ยได้แก่ “Pay 200Baht”, “Free” ALGORITHM themepark start 1. INPUTheight 2. IFheight>150 3. THEN OUTPUT“Pay 200Baht” 4. ELSE OUTPUT“Free” end ตัวอย่�งที่ 4 โปรแกรมคำ�นวณค่�บริก�รเข้�เล่นสวนสนุกแบบท�งเลือกสองท�ง ผังง�นแสดงขั้นตอน โปรแกรมคำ�นวณ ค่�บริก�รเข้�เล่นสวนสนุก แบบท�งเลือกสองท�ง Pseudo Code start OUTPUT“Pay 200Baht” end height>150 INPUTheight True False OUTPUT“Free” ผังงานแบ่งออกเป็น2ประเภทได้แก่อะไรบ้าง 1 ผังงานระบบผังงานโปรแกรม 2 ผังงานโปรแกรมผังงานวงจร 3 ผังงานโปรแกรมผังงานเชื่อมโยง 4 ผังงานวงจรผังงานเชื่อมโยง NET แนวข้อสอบ O-NET/PISA (เฉลย 1 เพราะผังงานระบบแสดงการ ทำางานโดยภาพรวม และผังงานโปรแกรม เป็นผังงานที่แสดงการทำางานย่อยหรือ ลำาดับขั้นตอนการทำางานของโปรแกรม) สุดยอดคู่มือครู 3434 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 34 เทคโนโลยี(วิทย�ก�รคำ�นวณ)ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่2 สวนสนุกคิดค่�เข้�บริก�ร โดยพิจ�รณ�จ�กคว�มสูงของลูกค้� ดังนี้ ถ้�มีส่วนสูง ม�กกว่� 150 เซนติเมตร คิดค่�บริก�ร 200บ�ท น้อยกว่� 150 เซนติเมตร ไม่คิดค่�บริก�ร ข้อมูลนำ�เข้� คือคว�มสูง (height) ข้อมูลแสดงออก คือข้อคว�มอธิบ�ยได้แก่ “Pay 200Baht”, “Free” ALGORITHM themepark start 1. INPUTheight 2. IFheight>150 3. THEN OUTPUT“Pay 200Baht” 4. ELSE OUTPUT“Free” end ตัวอย่�งที่ 4 โปรแกรมคำ�นวณค่�บริก�รเข้�เล่นสวนสนุกแบบท�งเลือกสองท�ง ผังง�นแสดงขั้นตอน โปรแกรมคำ�นวณ ค่�บริก�รเข้�เล่นสวนสนุก แบบท�งเลือกสองท�ง Pseudo Code start OUTPUT“Pay 200Baht” end height>150 INPUTheight True False OUTPUT“Free” 15. นักเรียนวิเคราะห์เกี่ยวกับการ ออกแบบขั้นตอนวิธีต่อไปนี้แล้ว ตอบคำาถาม ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 • ความแตกต่างระหว่างโปรแกรม คำานวณค่าบริการเข้าเล่นสวนสนุก แบบทางเลือกทางเดียวกับโปรแกรม คำานวณค่าบริการเข้าเล่นสวนสนุก แบบทางเลือกสองทางคืออะไร (ตัวอย่างคำาตอบ มีข้อมูลแสดงออก 2 ข้อความ ได้แก่ Pay 200 Baht และFree) • ถ้ามีส่วนสูง 150 เซนติเมตร โปรแกรมจะแสดงผลลัพธ์ใดออกมา (Free) • ถ้ามีส่วนสูง 151 เซนติเมตร โปรแกรมจะแสดงผลลัพธ์ใดออกมา (Pay200Baht) 34 เทคโนโลยี(วิทย�ก�รคำ�นวณ)ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่2 สวนสนุกคิดค่�เข้�บริก�ร โดยพิจ�รณ�จ�กคว�มสูงของลูกค้� ดังนี้ ถ้�มีส่วนสูง ม�กกว่� 150 เซนติเมตร คิดค่�บริก�ร 200บ�ท น้อยกว่� 150 เซนติเมตร ไม่คิดค่�บริก�ร ข้อมูลนำ�เข้� คือคว�มสูง (height) ข้อมูลแสดงออก คือข้อคว�มอธิบ�ยได้แก่ “Pay 200Baht”, “Free” ALGORITHM themepark start 1. INPUTheight 2. IFheight>150 3. THEN OUTPUT“Pay 200Baht” 4. ELSE OUTPUT“Free” end ตัวอย่�งที่ 4 โปรแกรมคำ�นวณค่�บริก�รเข้�เล่นสวนสนุกแบบท�งเลือกสองท�ง ผังง�นแสดงขั้นตอน โปรแกรมคำ�นวณ ค่�บริก�รเข้�เล่นสวนสนุก แบบท�งเลือกสองท�ง Pseudo Code start OUTPUT“Pay 200Baht” end height>150 INPUTheight True False OUTPUT“Free” ผังงานแบ่งออกเป็น2ประเภทได้แก่อะไรบ้าง 1 ผังงานระบบผังงานโปรแกรม 2 ผังงานโปรแกรมผังงานวงจร 3 ผังงานโปรแกรมผังงานเชื่อมโยง 4 ผังงานวงจรผังงานเชื่อมโยง NET แนวข้อสอบ O-NET/PISA (เฉลย 1 เพราะผังงานระบบแสดงการ ทำางานโดยภาพรวม และผังงานโปรแกรม เป็นผังงานที่แสดงการทำางานย่อยหรือ ลำาดับขั้นตอนการทำางานของโปรแกรม) 5 สุดยอดคู่มือครู พิเศษ สมองจะเกิดการเรียนรู้ทันทีเมื่อประเมินได้ว่า เรื่องที่กำ ลังเรียนมีความหมายและสำ คัญต่อการดำ เนินชีวิต ดังนั้น ในการสอนควรให้ผู้เรียนคิดประเมินเพื่อสร้างความหมายของความรู้ในมิติคุณธรรม จริยธรรม และ ค่านิยมหลัก 12 ประการ ผู้เรียนจะกระตือรือร้นเมื่อร่างกายได้เคลื่อนไหว มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ทำ ให้สมองพัฒนา มีศักยภาพ ในการคิดมากขึ้น สมองจะใช้การคิดหาความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ เพื่อเปรียบเทียบ จัดกลุ่ม และสร้างเป็นหลักการ ของตนเอง โดยใช้แผนภาพมาช่วยจัดความคิดเหล่านี้ให้เป็นระบบชัดเจน ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ (Processing) Step 2


สุดยอดคู่มือครู 7878 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 78 เทคโนโลยี (วิทย�ก�รคำ�นวณ) ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่ 2 3. โครงสร้�งแบบท�งเลือกท�งเดียว ตัวอย่าง โปรแกรม ผลลัพธ์ 1 2 3 4 5 6 x = True y = False print("x and y =",x and y) print("x or y =",x or y) print("not x =",not x) print("not y =",not y) x and y = False x or y = True not x = False not y = True ผังงานแสดงรูปแบบการทำางาน แบบทางเลือกทางเดียว รูปแบบการเขียนโปรแกรม แบบทางเลือกทางเดียว (if) if เงื่อนไข: คําสั่ง เงื่อนไข คำ�สั่ง False True ในภ�ษ� Python จะมีก�รจัดย่อหน้� (indent) เพื่อแบ่งบล็อกของโปรแกรมแต่ละส่วน ซึ่งจะ ต้องกำ�หนดย่อหน้�ให้ตรงกันและถูกต้องต�มลักษณะก�รทำ�ง�น คำ�สั่งข้�งต้นจะมีก�รจัดย่อหน้�ไม่เหมือนกัน ทำ�ให้โปรแกรมทำ�ง�นแตกต่�งกัน โดยก�ร จัดย่อหน้�แบบที่ 1 คำ�สั่งที่ 1 และ 2 จะทำ�ง�นเมื่อเงื่อนไขเป็นจริงเท่�นั้น ส่วนก�รจัดย่อหน้�แบบที่ 2 คำ�สั่งที่ 1 จะทำ�ง�นเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง ส่วนคำ�สั่งที่ 2 จะทำ�ทุกกรณีทั้งเงื่อนไขเป็นจริงและเป็นเท็จ การจัดย่อหน้าแบบที่ 1 if เงื่อนไข: คำ�สั่งที่ 1 คำ�สั่งที่ 2 เงื่อนไข คำ�สั่งที่ 1 False True คำ�สั่งที่ 2 การจัดย่อหน้าแบบที่ 2 if เงื่อนไข: คำ�สั่งที่ 1 คำ�สั่งที่ 2 เงื่อนไข คำ�สั่งที่ 1 คำ�สั่งที่ 2 False True Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ 7. นักเรียนร่วมกันปฏิบัติการเขียน โปรแกรมตัวดำาเนินการตรรกะ ดังตัวอย่าง 8. นักเรียนทดลองเปลี่ยนค่าตัวแปร x = False y = True แล้วทดลองรันโปรแกรม 9. นักเรียนร่วมกันศึกษาโครงสร้าง แบบทางเลือกทางเดียว จากนั้น เขียนผังงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิต ประจำาวัน ดังตัวอย่าง 78 เทคโนโลยี (วิทย�ก�รคำ�นวณ) ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่ 2 3. โครงสร้�งแบบท�งเลือกท�งเดียว ตัวอย่าง โปรแกรม ผลลัพธ์ 1 2 3 4 5 6 x = True y = False print("x and y =",x and y) print("x or y =",x or y) print("not x =",not x) print("not y =",not y) x and y = False x or y = True not x = False not y = True ผังงานแสดงรูปแบบการทำางาน แบบทางเลือกทางเดียว รูปแบบการเขียนโปรแกรม แบบทางเลือกทางเดียว (if) if เงื่อนไข: คําสั่ง เงื่อนไข คำ�สั่ง False True ในภ�ษ� Python จะมีก�รจัดย่อหน้� (indent) เพื่อแบ่งบล็อกของโปรแกรมแต่ละส่วน ซึ่งจะ ต้องกำ�หนดย่อหน้�ให้ตรงกันและถูกต้องต�มลักษณะก�รทำ�ง�น คำ�สั่งข้�งต้นจะมีก�รจัดย่อหน้�ไม่เหมือนกัน ทำ�ให้โปรแกรมทำ�ง�นแตกต่�งกัน โดยก�ร จัดย่อหน้�แบบที่ 1 คำ�สั่งที่ 1 และ 2 จะทำ�ง�นเมื่อเงื่อนไขเป็นจริงเท่�นั้น ส่วนก�รจัดย่อหน้�แบบที่ 2 คำ�สั่งที่ 1 จะทำ�ง�นเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง ส่วนคำ�สั่งที่ 2 จะทำ�ทุกกรณีทั้งเงื่อนไขเป็นจริงและเป็นเท็จ การจัดย่อหน้าแบบที่ 1 if เงื่อนไข: คำ�สั่งที่ 1 คำ�สั่งที่ 2 เงื่อนไข คำ�สั่งที่ 1 False True คำ�สั่งที่ 2 การจัดย่อหน้าแบบที่ 2 if เงื่อนไข: คำ�สั่งที่ 1 คำ�สั่งที่ 2 เงื่อนไข คำ�สั่งที่ 1 คำ�สั่งที่ 2 False True start ตั้งใจเรียน สอบได้คะแนนดี ได้รับคำาชื่นชม end True False สุดยอดคู่มือครู 7878 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 78 เทคโนโลยี (วิทย�ก�รคำ�นวณ) ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่ 2 3. โครงสร้�งแบบท�งเลือกท�งเดียว ตัวอย่าง โปรแกรม ผลลัพธ์ 1 2 3 4 5 6 x = True y = False print("x and y =",x and y) print("x or y =",x or y) print("not x =",not x) print("not y =",not y) x and y = False x or y = True not x = False not y = True ผังงานแสดงรูปแบบการทำางาน แบบทางเลือกทางเดียว รูปแบบการเขียนโปรแกรม แบบทางเลือกทางเดียว (if) if เงื่อนไข: คําสั่ง เงื่อนไข คำ�สั่ง False True ในภ�ษ� Python จะมีก�รจัดย่อหน้� (indent) เพื่อแบ่งบล็อกของโปรแกรมแต่ละส่วน ซึ่งจะ ต้องกำ�หนดย่อหน้�ให้ตรงกันและถูกต้องต�มลักษณะก�รทำ�ง�น คำ�สั่งข้�งต้นจะมีก�รจัดย่อหน้�ไม่เหมือนกัน ทำ�ให้โปรแกรมทำ�ง�นแตกต่�งกัน โดยก�ร จัดย่อหน้�แบบที่ 1 คำ�สั่งที่ 1 และ 2 จะทำ�ง�นเมื่อเงื่อนไขเป็นจริงเท่�นั้น ส่วนก�รจัดย่อหน้�แบบที่ 2 คำ�สั่งที่ 1 จะทำ�ง�นเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง ส่วนคำ�สั่งที่ 2 จะทำ�ทุกกรณีทั้งเงื่อนไขเป็นจริงและเป็นเท็จ การจัดย่อหน้าแบบที่ 1 if เงื่อนไข: คำ�สั่งที่ 1 คำ�สั่งที่ 2 เงื่อนไข คำ�สั่งที่ 1 False True คำ�สั่งที่ 2 การจัดย่อหน้าแบบที่ 2 if เงื่อนไข: คำ�สั่งที่ 1 คำ�สั่งที่ 2 เงื่อนไข คำ�สั่งที่ 1 คำ�สั่งที่ 2 False True Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ 7. นักเรียนร่วมกันปฏิบัติการเขียน โปรแกรมตัวดำาเนินการตรรกะ ดังตัวอย่าง 8. นักเรียนทดลองเปลี่ยนค่าตัวแปร x = False y = True แล้วทดลองรันโปรแกรม 9. นักเรียนร่วมกันศึกษาโครงสร้าง แบบทางเลือกทางเดียว จากนั้น เขียนผังงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิต ประจำาวัน ดังตัวอย่าง 78 เทคโนโลยี (วิทย�ก�รคำ�นวณ) ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่ 2 3. โครงสร้�งแบบท�งเลือกท�งเดียว ตัวอย่าง โปรแกรม ผลลัพธ์ 1 2 3 4 5 6 x = True y = False print("x and y =",x and y) print("x or y =",x or y) print("not x =",not x) print("not y =",not y) x and y = False x or y = True not x = False not y = True ผังงานแสดงรูปแบบการทำางาน แบบทางเลือกทางเดียว รูปแบบการเขียนโปรแกรม แบบทางเลือกทางเดียว (if) if เงื่อนไข: คําสั่ง เงื่อนไข คำ�สั่ง False True ในภ�ษ� Python จะมีก�รจัดย่อหน้� (indent) เพื่อแบ่งบล็อกของโปรแกรมแต่ละส่วน ซึ่งจะ ต้องกำ�หนดย่อหน้�ให้ตรงกันและถูกต้องต�มลักษณะก�รทำ�ง�น คำ�สั่งข้�งต้นจะมีก�รจัดย่อหน้�ไม่เหมือนกัน ทำ�ให้โปรแกรมทำ�ง�นแตกต่�งกัน โดยก�ร จัดย่อหน้�แบบที่ 1 คำ�สั่งที่ 1 และ 2 จะทำ�ง�นเมื่อเงื่อนไขเป็นจริงเท่�นั้น ส่วนก�รจัดย่อหน้�แบบที่ 2 คำ�สั่งที่ 1 จะทำ�ง�นเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง ส่วนคำ�สั่งที่ 2 จะทำ�ทุกกรณีทั้งเงื่อนไขเป็นจริงและเป็นเท็จ การจัดย่อหน้าแบบที่ 1 if เงื่อนไข: คำ�สั่งที่ 1 คำ�สั่งที่ 2 เงื่อนไข คำ�สั่งที่ 1 False True คำ�สั่งที่ 2 การจัดย่อหน้าแบบที่ 2 if เงื่อนไข: คำ�สั่งที่ 1 คำ�สั่งที่ 2 เงื่อนไข คำ�สั่งที่ 1 คำ�สั่งที่ 2 False True start ตั้งใจเรียน สอบได้คะแนนดี ได้รับคำาชื่นชม end True False สุดยอดคู่มือครู 6 พิเศษ ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge) Step 3 การนำ หลักการที่สร้างขึ้นไปปฏิบัติลงมือทำ ลงมือแก้ปัญหา ทำ ให้สมองต่อยอดความรู้ที่มีอยู่เดิม เกิดความรู้ ที่ซับซ้อนขึ้น ยิ่งปฏิบัติเป็นประจำ จะเกิดความชำ นาญ กลายเป็นความเข้าใจที่คงทน ซึ่งเรียกว่า องค์ความรู้หรือปัญญา


สุดยอดคู่มือครู 186 186 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 186 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3.5 เครือข่ายแบบผสม (Hybrid Topology) เป็นรูปแบบเครือข่ายที่ผสมผสานรูปแบบเครือข่ายแบบต่าง ๆ เช่น แบบบัส วงแหวน ดาว แมช ซึ่งเป็นการรวมเครือข่ายย่อยที่มีหลากหลายรูปแบบเป็นเครือข่ายใหญ่ แผนภาพที่ 4.16 การเชื่อมโยงเครือข่ายแบบผสม Hub/Switch Hub/Switch IBM AS400 IBM 6400 Printer IBM PS/2 14. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับเครือข่าย คอมพิวเตอร์ตามรูปร่างเครือข่าย (ต่อ) โดยตอบคำาถาม ดังนี้ • ข้อดีของเครือข่ายแบบผสมคืออะไร (ตัวอย่างคําตอบ เป็นการรวมเครือข่ายย่อย ที่มีหลากหลายรูปแบบ เป็นเครือข่ายใหญ่ จึงทําให้เมื่อเครือข่ายเสียหายยังสามารถส่งข้อมูล ได้จากเครือข่ายที่เหลือ) • ข้อเสียของเครือข่ายแบบผสม คืออะไร (ตัวอย่างคําตอบ ต้องใช้อุปกรณ์ ในการเชื่อมต่อและสายส่งสัญญาณจํานวน มาก จึงทําให้ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง) 15. นักเรียนร่วมกันสรุปความคิดรวบยอด เกี่ยวกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ดังนี้ • เครือข่ายคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ เครือข่ายตามขนาดพื้นที่ เครือข่ายตามบทบาทหน้าที่ และเครือข่าย ตามรูปร่างเครือข่าย ในแต่ละรูปแบบของ เครือข่ายคอมพิวเตอร์มีความแตกต่างกัน ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะงาน Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 16. นักเรียนแบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม เท่า ๆ กัน จากนั้น ร่วมกันศึกษาเครือข่ายคอมพิวเตอร์ตามรูป ร่างเครือข่าย แล้วบันทึกคำาตอบ โดย วาดภาพโครงสร้างการทำางาน บอกข้อดี ข้อเสีย ลงในคอมพิวเตอร์ แต่ละกลุ่ม มีหัวข้อ ดังนี้ • กลุ่มที่ 1 เครือข่ายแบบบัส • กลุ่มที่ 2 เครือข่ายแบบวงแหวน • กลุ่มที่ 3 เครือข่ายแบบดาว • กลุ่มที่ 4 เครือข่ายแบบแมช • กลุ่มที่ 5 เครือข่ายแบบผสม กิจกรรมนี้ประเมินตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/3 17. นักเรียนสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ ขั้นสื่อสารและน�าเสนอ Step4 Step5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า บริการสังคม และจิตสาธารณะ 18. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอภาพโครงสร้าง ำ การทำางาน ข้อดี ข้อเสียของเครือข่าย คอมพิวเตอร์ตามรูปร่างเครือข่าย หน้าชั้นเรียนด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน • เครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน โดยผ่านสื่อกลางต่าง ๆ เชื่อมต่อเป็นเครือข่าย เพื่อทำาให้สามารถรับ-ส่งข้อมูลและแลกเปลี่ยน ทรัพยากรกันได้ 19. นักเรียนนำาความรู้เกี่ยวกับเครือข่าย คอมพิวเตอร์ไปอธิบายแก่เพื่อนและ ครอบครัว เพื่อนำาไปประยุกต์ใช้ในการ เลือกเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสม กับลักษณะของงาน สุดยอดคู่มือครู 186 186 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 186 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3.5 เครือข่ายแบบผสม (Hybrid Topology) เป็นรูปแบบเครือข่ายที่ผสมผสานรูปแบบเครือข่ายแบบต่าง ๆ เช่น แบบบัส วงแหวน ดาว แมช ซึ่งเป็นการรวมเครือข่ายย่อยที่มีหลากหลายรูปแบบเป็นเครือข่ายใหญ่ แผนภาพที่ 4.16 การเชื่อมโยงเครือข่ายแบบผสม Hub/Switch Hub/Switch IBM AS400 IBM 6400 Printer IBM PS/2 14. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับเครือข่าย คอมพิวเตอร์ตามรูปร่างเครือข่าย (ต่อ) โดยตอบคำาถาม ดังนี้ • ข้อดีของเครือข่ายแบบผสมคืออะไร (ตัวอย่างคําตอบ เป็นการรวมเครือข่ายย่อย ที่มีหลากหลายรูปแบบ เป็นเครือข่ายใหญ่ จึงทําให้เมื่อเครือข่ายเสียหายยังสามารถส่งข้อมูล ได้จากเครือข่ายที่เหลือ) • ข้อเสียของเครือข่ายแบบผสม คืออะไร (ตัวอย่างคําตอบ ต้องใช้อุปกรณ์ ในการเชื่อมต่อและสายส่งสัญญาณจํานวน มาก จึงทําให้ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง) 15. นักเรียนร่วมกันสรุปความคิดรวบยอด เกี่ยวกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ดังนี้ • เครือข่ายคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ เครือข่ายตามขนาดพื้นที่ เครือข่ายตามบทบาทหน้าที่ และเครือข่าย ตามรูปร่างเครือข่าย ในแต่ละรูปแบบของ เครือข่ายคอมพิวเตอร์มีความแตกต่างกัน ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะงาน Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 16. นักเรียนแบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม เท่า ๆ กัน จากนั้น ร่วมกันศึกษาเครือข่ายคอมพิวเตอร์ตามรูป ร่างเครือข่าย แล้วบันทึกคำาตอบ โดย วาดภาพโครงสร้างการทำางาน บอกข้อดี ข้อเสีย ลงในคอมพิวเตอร์ แต่ละกลุ่ม มีหัวข้อ ดังนี้ • กลุ่มที่ 1 เครือข่ายแบบบัส • กลุ่มที่ 2 เครือข่ายแบบวงแหวน • กลุ่มที่ 3 เครือข่ายแบบดาว • กลุ่มที่ 4 เครือข่ายแบบแมช • กลุ่มที่ 5 เครือข่ายแบบผสม กิจกรรมนี้ประเมินตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/3 17. นักเรียนสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ ขั้นสื่อสารและน�าเสนอ Step4 Step5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า บริการสังคม และจิตสาธารณะ 18. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอภาพโครงสร้าง ำ การทำางาน ข้อดี ข้อเสียของเครือข่าย คอมพิวเตอร์ตามรูปร่างเครือข่าย หน้าชั้นเรียนด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน • เครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน โดยผ่านสื่อกลางต่าง ๆ เชื่อมต่อเป็นเครือข่าย เพื่อทำาให้สามารถรับ-ส่งข้อมูลและแลกเปลี่ยน ทรัพยากรกันได้ 19. นักเรียนนำาความรู้เกี่ยวกับเครือข่าย คอมพิวเตอร์ไปอธิบายแก่เพื่อนและ ครอบครัว เพื่อนำาไปประยุกต์ใช้ในการ เลือกเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสม กับลักษณะของงาน 7 สุดยอดคู่มือครู พิเศษ ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ (Applying the Communication Skill) การถ่ายทอดความรู้ความคิด ความรู้สึก โดยใช้ภาษา แสดงถึงความสามารถในการสื่อสารหรือปัญญา ด้านภาษา กระบวนการนี้ทำ ให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนความรู้ทัศนคติซึ่งกันและกัน ถ้านำ เสนอโดยใช้คอมพิวเตอร์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ผู้เรียนก็จะได้พัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีด้วย การสื่อสารและนำ เสนอเป็นการสร้างอารมณ์เชิงบวกได้อย่างดีเมื่อผู้อื่นชื่นชอบผลงานของตน ชื่นชม ความสำ เร็จของตน ผู้เรียนจะเกิดความภาคภูมิใจ เกิดแรงบันดาลใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานต่อๆ ไป Step4


135 135 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�าเสนอ Applying the Communication Skill asean คอมพิวเตอร์ 135 4. บุคล�กร (People) เป็นบุคล�กรที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ก�รพัฒน�จนถึง ผู้ใช้ง�นจริง โดยบุคล�กรท�งคอมพิวเตอร์จะต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ที่มีคว�มรู้คว�มส�ม�รถและทักษะ เกี่ยวกับเทคโนโลยีส�รสนเทศ ทั้งนี้ ก�รจัดแบ่งหน้�ที่และคว�มรับผิดชอบของบุคล�กรขึ้นอยู่กับองค์กร และนโยบ�ยของผู้บริห�ร บุคล�กรท�งด้�นคอมพิวเตอร์ส�ม�รถแบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆ ได้ดังนี้ 5. ขั้นตอนก�รปฏิบัติง�น (Procedure) เป็นก�รปฏิบัติง�นที่เป็นลำ�ดับขั้นชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้ ส�ม�รถเข้�ใจได้ง่�ย และส�ม�รถปฏิบัติต�มได้อย่�งมีประสิทธิภ�พ โดยขั้นตอนก�รปฏิบัติง�นควรมีก�ร เก็บรวบรวมและจัดทำ�เป็นคู่มือ เพื่อให้ง่�ยต่อก�รเรียนรู้และปฏิบัติต�ม รวมถึงควรมีก�รอธิบ�ยวิธีก�ร แก้ปัญห�เบื้องต้นไว้ด้วย 1. นักวิเคร�ะห์ระบบ (system analyst) ศึกษ�และวิเคร�ะห์คว�มต้องก�รของระบบ แล้วนำ�ม�ออกแบบระบบใหม่ 2. โปรแกรมเมอร์ (programmer) / วิศวกรซอฟต์แวร์ (software engineer) พัฒน�โปรแกรมต�มที่ออกแบบไว้โดยใช้ ภ�ษ�คอมพิวเตอร์ 3. ผู้บริห�รระบบเครือข่�ย (network administrator) ออกแบบระบบเครือข่�ย ดูแลและแก้ปัญห� ก�รใช้ง�นเครือข่�ย 4. ผู้บริห�รระบบฐ�นข้อมูล (database administrator) ออกแบบฐ�นข้อมูลให้เหม�ะสมกับองค์กร บำ�รุงรักษ�ฐ�นข้อมูล 5. ผู้ดูแลและซ่อมบำ�รุง (supporter) ผู้ดูแลและตรวจสอบสภ�พเครื่องคอมพิวเตอร์ แก้ปัญห�ด้�นก�รเชื่อมต่อเครือข่�ยและก�รใช้ง�น ซอฟต์แวร์เบื้องต้น ผู้พัฒนาโปรแกรม (developer) ผู้ใช้ง�นคอมพิวเตอร์ทั่วไป มีหล�ยระดับ ต�มสิทธิก�รเข้�ถึงข้อมูลที่แตกต่�งกัน ต�มคว�มรับผิดชอบ 1. ผู้ใช้ง�นระดับสูง เข้�ถึงข้อมูลในลักษณะของกร�ฟ ร�ยง�นสรุปโดยไม่ต้องลงร�ยละเอียด ม�กนัก 2. ผู้ใช้ง�นระดับปฏิบัติก�ร ปฏิบัติต�มแผนที่ได้รับมอบหม�ย ต้องส�ม�รถแก้ปัญห�จ�กก�รปฏิบัติง�น ของพนักง�นได้ 3. ผู้ปฏิบัติง�น ดำ�เนินง�นทั้งหมด ส�ม�รถเข้�ถึง ข้อมูลได้เฉพ�ะส่วนที่ตนเองรับผิดชอบ เท่�นั้น ผู้ใช้งาน (User) Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ 45. นักเรียนปฏิบัติการเขียนแผนภาพ ความคิดเกี่ยวกับบุคลากรทางด้าน คอมพิวเตอร์ โดยบันทึกคำาตอบ เป็นแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง บุคลากรทางด้านคอมพิวเตอร์ ผู้พัฒนาโปรแกรม (developer) ผู้ใช้งาน (User) นักวิเคราะห์ ระบบ โปรแกรมเมอร์ ผู้บริหารระบบ เครือข่าย ผู้บริหารระบบ ฐานข้อมูล ผู้ดูแลและ ซ่อมบำารุง ผู้ใช้งานระดับสูง ผู้ใช้งานระดับ ปฏิบัติการ ผู้ปฏิบัติงาน 46. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็น ความรู้ร่วมกัน ดังนี้ • สามารถนำา QR Code มา ประยุกต์ใช้ได้หลากหลายรูปแบบ เ ช่ น แ ส ด ง U R L ข้ อ ค วาม หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลเป็นตัว อักษร ปัจจุบันนิยมใช้ในหลาย ๆ ด้าน เนื่องจากมีความรวดเร็วในการเข้าถึง ข้อมูล โดยใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ ในการสแกน ขั้นสื่อสารและน�าเสนอ Step4 Step5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า บริการสังคม และจิตสาธารณะ 47. นักเรียนนำาเสนอ QR Code ที่สร้างขึ้น โดยให้เพื่อนในชั้นเรียนสแกน เพื่อ เข้าดูข้อมูลที่นำาเสนอพร้อมตรวจสอบ ความถูกต้อง 48. นักเรียนนำาความรู้เกี่ยวกับการสร้าง QR Code ไปนำาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ โรคระบาด โดยจัดทำาเป็นป้ายแสดง QR Code แล้วนำาไปติดบริเวณ โรงเรียน เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ 135 135 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�าเสนอ Applying the Communication Skill asean คอมพิวเตอร์ 135 4. บุคล�กร (People) เป็นบุคล�กรที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ก�รพัฒน�จนถึง ผู้ใช้ง�นจริง โดยบุคล�กรท�งคอมพิวเตอร์จะต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ที่มีคว�มรู้คว�มส�ม�รถและทักษะ เกี่ยวกับเทคโนโลยีส�รสนเทศ ทั้งนี้ ก�รจัดแบ่งหน้�ที่และคว�มรับผิดชอบของบุคล�กรขึ้นอยู่กับองค์กร และนโยบ�ยของผู้บริห�ร บุคล�กรท�งด้�นคอมพิวเตอร์ส�ม�รถแบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆ ได้ดังนี้ 5. ขั้นตอนก�รปฏิบัติง�น (Procedure) เป็นก�รปฏิบัติง�นที่เป็นลำ�ดับขั้นชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้ ส�ม�รถเข้�ใจได้ง่�ย และส�ม�รถปฏิบัติต�มได้อย่�งมีประสิทธิภ�พ โดยขั้นตอนก�รปฏิบัติง�นควรมีก�ร เก็บรวบรวมและจัดทำ�เป็นคู่มือ เพื่อให้ง่�ยต่อก�รเรียนรู้และปฏิบัติต�ม รวมถึงควรมีก�รอธิบ�ยวิธีก�ร แก้ปัญห�เบื้องต้นไว้ด้วย 1. นักวิเคร�ะห์ระบบ (system analyst) ศึกษ�และวิเคร�ะห์คว�มต้องก�รของระบบ แล้วนำ�ม�ออกแบบระบบใหม่ 2. โปรแกรมเมอร์ (programmer) / วิศวกรซอฟต์แวร์ (software engineer) พัฒน�โปรแกรมต�มที่ออกแบบไว้โดยใช้ ภ�ษ�คอมพิวเตอร์ 3. ผู้บริห�รระบบเครือข่�ย (network administrator) ออกแบบระบบเครือข่�ย ดูแลและแก้ปัญห� ก�รใช้ง�นเครือข่�ย 4. ผู้บริห�รระบบฐ�นข้อมูล (database administrator) ออกแบบฐ�นข้อมูลให้เหม�ะสมกับองค์กร บำ�รุงรักษ�ฐ�นข้อมูล 5. ผู้ดูแลและซ่อมบำ�รุง (supporter) ผู้ดูแลและตรวจสอบสภ�พเครื่องคอมพิวเตอร์ แก้ปัญห�ด้�นก�รเชื่อมต่อเครือข่�ยและก�รใช้ง�น ซอฟต์แวร์เบื้องต้น ผู้พัฒนาโปรแกรม (developer) ผู้ใช้ง�นคอมพิวเตอร์ทั่วไป มีหล�ยระดับ ต�มสิทธิก�รเข้�ถึงข้อมูลที่แตกต่�งกัน ต�มคว�มรับผิดชอบ 1. ผู้ใช้ง�นระดับสูง เข้�ถึงข้อมูลในลักษณะของกร�ฟ ร�ยง�นสรุปโดยไม่ต้องลงร�ยละเอียด ม�กนัก 2. ผู้ใช้ง�นระดับปฏิบัติก�ร ปฏิบัติต�มแผนที่ได้รับมอบหม�ย ต้องส�ม�รถแก้ปัญห�จ�กก�รปฏิบัติง�น ของพนักง�นได้ 3. ผู้ปฏิบัติง�น ดำ�เนินง�นทั้งหมด ส�ม�รถเข้�ถึง ข้อมูลได้เฉพ�ะส่วนที่ตนเองรับผิดชอบ เท่�นั้น ผู้ใช้งาน (User) Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ 45. นักเรียนปฏิบัติการเขียนแผนภาพ ความคิดเกี่ยวกับบุคลากรทางด้าน คอมพิวเตอร์ โดยบันทึกคำาตอบ เป็นแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง บุคลากรทางด้านคอมพิวเตอร์ ผู้พัฒนาโปรแกรม (developer) ผู้ใช้งาน (User) นักวิเคราะห์ ระบบ โปรแกรมเมอร์ ผู้บริหารระบบ เครือข่าย ผู้บริหารระบบ ฐานข้อมูล ผู้ดูแลและ ซ่อมบำารุง ผู้ใช้งานระดับสูง ผู้ใช้งานระดับ ปฏิบัติการ ผู้ปฏิบัติงาน 46. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็น ความรู้ร่วมกัน ดังนี้ • สามารถนำา QR Code มา ประยุกต์ใช้ได้หลากหลายรูปแบบ เ ช่ น แ ส ด ง U R L ข้ อ ค วาม หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลเป็นตัว อักษร ปัจจุบันนิยมใช้ในหลาย ๆ ด้าน เนื่องจากมีความรวดเร็วในการเข้าถึง ข้อมูล โดยใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ ในการสแกน ขั้นสื่อสารและน�าเสนอ Step4 Step5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า บริการสังคม และจิตสาธารณะ 47. นักเรียนนำาเสนอ QR Code ที่สร้างขึ้น โดยให้เพื่อนในชั้นเรียนสแกน เพื่อ เข้าดูข้อมูลที่นำาเสนอพร้อมตรวจสอบ ความถูกต้อง 48. นักเรียนนำาความรู้เกี่ยวกับการสร้าง QR Code ไปนำาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ โรคระบาด โดยจัดทำาเป็นป้ายแสดง QR Code แล้วนำาไปติดบริเวณ โรงเรียน เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ สุดยอดคู่มือครู 8 พิเศษ เมื่อสมองของผู้เรียนได้รับการเสริมแรงเชิงบวกอย่างสมํ่าเสมอจากสิ่งที่ทำ จะกระตุ้นให้คิดสร้างสรรค์ สิ่งที่เป็นประโยชน์เพิ่มขึ้นอีก หล่อหลอมเป็นนิสัยแห่งการคิดการกระทำ ในตัวผู้เรียน สามารถขยายผลไปสู่สังคมได้ ตามมาตรฐานสากลและวิสัยทัศน์ในศตวรรษที่ 21 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating) Step5


ฮาร์ดแวร์ ข้อมูล ซอฟต์แวร์ บุคลากร ขั้นตอน การปฏิบัติงาน แผนผังหัวข้อหน่วยการเรียนรู้ 3 หนว่ ยการเรยีนรทู้่ี คอมพิวเตอร์ • อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำางานของระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อประยุกต์ใช้งานหรือ แก้ปัญหาเบื้องต้น (ว 4.2 ม.2/3) ตัวชี้วัด คำาศัพท์ คำาอ่าน คำาแปล arithmetic logic unit อะริธ′ เมททิค ลอจ′ จิค ยู′ นิท หน่วยคำานวณและตรรกะ compact disc คอม′ แพคทฺ ดิสคฺ แผ่นซีดี digital versatile disc ดิจ′ จิ เทิล เวอร์′ ซะไทลฺ ดิสคฺ แผ่นดีวีดี fetching เฟช′ ชิง การรับข้อมูลเข้า magnetic tape แมกเนท′ ทิค เทพ เทปแม่เหล็ก ศัพท์เทคโนโลยีน่ารู้ การประยุกต์ใช้งาน และการแก้ปัญหา เบื้องต้น คอมพิวเตอร์ หลักการทำางาน ของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์(Hardware) อุปกรณ์หลัก และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ ฮาร์ดแวร์(Software) เป็นโปรแกรมหรือชุดคำาสั่ง ที่ควบคุมการทำางาน ของคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ (Data) เป็นสิ่งที่จะต้อง นำาเข้าสู่คอมพิวเตอร์และ นำาออกมาจากคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะต้องเลือกใช้ข้อมูล ที่เพียงพอเหมาะสม กับวัตถุประสงค์ ข้อมูล (People) บุคลากรที่เกี่ยวข้อง กับระบบทั้งเป็นผู้พัฒนา หรือผู้ใช้งานระบบ บุคลากร การปฏิบัติงาน (Procedure) การทำางานของผู้ปฏิบัติ ตามลำาดับขั้นตอน ขั้นตอน 9 สุดยอดคู่มือครู พิเศษ เป็นหัวข้อที่ผู้เรียนจะได้เรียน ในหน่วยการเรียนรู้นี้ แผนผังหัวข้อหน่วยการเรียนรู้ เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนที่ผู้เรียน จะได้รับและปฏิบัติได้ในหน่วยการเรียนรู้นี้ ตัวชี้วัด หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี(วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เล่มนี้ได้จัดทำ�ขึ้น ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560)ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยมีเนื้อหา กิจกรรม และคำ�ถามที่เหมาะสมกับพัฒนาการของผู้เรียน กระตุ้น กระบวนการคิดวิเคราะห์ให้กับผู้เรียนมีทักษะสำ�คัญในการค้นคว้าหาความรู้มีความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ และพัฒนาทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยีให้กับผู้เรียน ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนรู้ของสมอง(BrainBasedLearning) ค�ำชี้แจงในการใช้หนังสือเรียน ที่ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับการเรียนรู้ของสมอง ศัพท์เทคโนโลยีน่ารู้ เป็นคำศัพท์ภาษาต่างประเทศที่น่ารู้เพื่อสร้างเสริม ความสามารถในด้านทักษะการใช้ภาษา อินโฟกราฟิก เสริมสร้างการเรียนรู้และการคิด เชิงระบบโดยใช้Infographic


แนวคิดเชิงคำ�นวณ 15 ก�รคิดห�รูปแบบ (Pattern Recognition) ก�รคิดห�รูปแบบเป็นก�รสังเกตสิ่งที่มี คว�มคล้�ยคลึงกัน ทั้งในด้�นลักษณะก�รทำ�ง�น หรือพฤติกรรม ซึ่งสิ่งที่มีรูปแบบเดียวกัน มีแนวโน้มที่จะใช้แนวคิดเดียวกันในก�รอธิบ�ย ทำ�ให้ลดจำ�นวนของปัญห�และลดระยะเวล� ในก�รทำ�ง�นได้ ตัวอย่�งที่ 1 ตัวเลขดิจิทัล ก�รคิดห�รูปแบบช่วยให้เร� แก้ไขปัญห�ได้อย่�งไร ก�รแสดงผลตัวเลขดิจิทัล จะเกิดจ�กก�รเปิด-ปิดของหลอดไฟ LED ทั้ง 7 ดวง ในรูปแบบ ที่แตกต่�งกันซึ่งหลอดไฟแต่ละดวงจะถูกควบคุมก�รเปิด-ปิดด้วยสัญญ�ณท�งไฟฟ้� 7bit ดังนั้น ก�รแสดงผลตัวเลขแต่ละตัวจัดเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้น เพื่อจะส่งข้อมูลแสดงผลเป็น ตัวเลขดิจิทัลต�มต้องก�ร ถ้�ห�กมีก�รส่งสัญญ�ณ 1111111คือก�รส่งสัญญ�ณให้เปิดไฟ LED พร้อมกันทั้ง 7ดวงจะแสดงเป็นตัวเลข8 0110000 1101101 1111001 0110011 1011011 1011111 1110000 1111111 1111011 1111110 a g d e f c b g f com a b e d com c dot หลอด a b c d e f 1 1 1 1 1 1 เลข 1 คือก�รส่งสัญญ�ณไฟฟ้� เลข 0 คือก�รไม่ส่งสัญญ�ณไฟฟ้� g 1 คำ�ถ�มสำ�คัญ ช่องทางการโจมตี อีเมล ไวรัสและมัลแวร์ การเข้าถึงระบบ ได้จากระยะไกล การเข้าถึงคอมพิวเตอร์ ภายในเครือข่ายโดยตรง ช่องทางใหม่ของ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ 1 2 3 4 5 @ การใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ผลงาน 205 3. วิธีการป้องกันจากการโดนโจรกรรมข้อมูลความเป็นส่วนตัว สุดยอดคู่มือครู 10 พิเศษ เนื้อหา ครบตามตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช2551เหมาะสม กับระดับชั้นของผู้เรียน Infographic นำเสนอเนื้อหาให้เข้าใจง่าย โดยใช้Infographic


14 เทคโนโลยี(วิทย�ก�รคำ�นวณ)ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่2 กิจกรรมที่ 1.1 ก�รแจกแจงปัญห�ย่อย วัสดุอุปกรณ์ 1. กระด�ษสำ�หรับทำ�กิจกรรม 1 แผ่น 2. ป�กก� 1 ด้�ม วิธีปฏิบัติ 1. นักเรียนเลือกเทคโนโลยีที่สนใจม� 1ชนิด 2. ศึกษ�ก�รทำ�ง�นของเทคโนโลยีที่เลือก 3. คิดแบบแยกปัญห�ย่อยแล้วเขียนอธิบ�ยด้วยแผนภ�พ ดังตัวอย่�ง กรรไกรเป็นเครื่องมือที่ใช้ในก�ร ตัดวัสดุบ�ง ๆ โดยใช้แรงกดไม่ม�ก เมื่อ วิเคร�ะห์แยกส่วนกรรไกร จะส�ม�รถ อธิบ�ยได้ดังนี้ ใบมีด ทำ�จ�กโลหะแข็ง ลับผิวด้�นนอก เพื่อเพิ่มแรงเฉือน หมุด ตรึงใบมีดเป็นจุดหมุน และล็อกให้ใบมีดทั้ง 2 แนบชิดกัน ด้�มจับ ออกแบบให้สอดนิ้ว เพื่อจับให้ถนัดมือ 28 เทคโนโลยี(วิทย�ก�รคำ�นวณ)ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่2 ตัวอย่�ง ก�รห�ค่�ที่ม�กกว่� จ�กข้อมูล 2 จำ�นวน start NNumber 1 NNumber 2 NNumber 1> NNumber 2 NNumber 1 NNumber 2 end True False ผังง�นแสดงก�รห�ข้อมูลที่มีค่�ม�กกว่� 2 เด็กควรรู้ 1. ข้อคว�มที่เขียนด้วยสัญลักษณ์ผังง�นอ�จเขียนด้วยภ�ษ�ไทยและภ�ษ�อังกฤษ 2. ทิศท�งของผังง�นนิยมเขียนจ�กบนลงล่�ง 3. สัญลักษณ์แทนก�รรับเข้�ข้อมูลนำ�เข้�อ�จใช้เป็น INPUTnum 1 4. สัญลักษณ์แทนก�รแสดงข้อมูลอ�จใช้เป็น OUTPUTnum 1 แต่ต้องระบุว่�เป็น OUTPUT 5. ในก�รตัดสินใจผลจ�กก�รตัดสินใจจะต้องแยกเป็น2ท�งเท่�นั้นโดยเขียนT/จริงและF/เท็จกำ�กับเส้นท�งด้วย 6. ในก�รรวมหล�ยเส้นท�งเข้�ด้วยกันจะต้องมีก�รรวมด้วยสัญลักษณ์ 7. ทุกผังง�นจะต้องมี start และ end เพียงจุดเดียว 11 สุดยอดคู่มือครู พิเศษ วัสดุอุปกรณ์ นำเสนอสื่อการเรียนรู้ประเภทวัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการปฏิบัติ ตามกิจกรรมที่กำหนด วิธีปฏิบัติ แสดงขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรม เพื่อหาคำตอบของคำถาม กิจกรรม นำเสนอกิจกรรมให้ผู้เรียนบูรณาการ ระหว่างความรู้กับการฝึกปฏิบัติ พั ฒ นาทั ก ษะ ด้าน การ คิ ด แ ละ การใช้เทคโนโลยีสร้างความรู้ด้วย ตัวผู้เรียนเองและประเมินตามตัวชี้วัด ประจำหน่วยการเรียนรู้ เด็กควรรู้ นำเสนอความรู้เพิ่มเติมจากเนื้อหา ที่เกี่ยวข้องในบทเรียนเพื่อขยาย ความรู้ของผู้เรียน


สุดยอดคู่มือครู 12 พิเศษ 44 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 1.3 ภาษาระดับสูง (High-level Language) เป็นภาษารุ่นที่ 3 (3rd Generation Languages หรือ 3GLs) ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ สามารถเขียนและอ่านโปรแกรมได้ง่ายขึ้นโดยจะมีลักษณะเหมือนภาษาอังกฤษและเป็นภาษาที่ใกล้เคียงกับ การสื่อสารของมนุษย์จึงเป็นที่นิยมของโปรแกรมเมอร์ในการเขียนโปรแกรมตัวอย่างของภาษาประเภทนี้ เช่นภาษาฟอร์แทรน(FORTRAN)ภาษาโคบอล(COBOL)ภาษาปาสกาล(Pascal)ภาษาเบสิก(BASIC) ภาษาวิชวลเบสิก(VisualBasic)ภาษาซี(C)และภาษาจาวา (Java)ซึ่งในภาษารุ่นที่3นี้ผู้เขียนโปรแกรม ต้องเขียนโปรแกรมควบคุมการทำางานเองทั้งหมด โดยต้องเขียนคำาสั่งการทำางานที่เป็นขั้นตอนทุกอย่าง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นภาษาที่มีแบบแผน(ProceduralLanguage) แผนภาพที่ 2.3 ระดับของภาษาคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ในการทำางานของคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรมที่ถูกเขียนด้วยภาษาเหล่านี้จะต้องมีการ แปลงให้เป็นภาษาเครื่องซึ่งจะต้องใช้ตัวแปลภาษา (Translator) ในการเขียนโปรแกรม ตัวแปลภาษาระดับสูง (Translator) 1) อินเทอร์พรีเตอร์ (Interpreter) เป็นโปรแกรมที่ใช้แปลภาษาระดับสูงให้เป็น ภาษาเครื่อง โดยจะแปลทีละบรรทัดและทำางานตามคำาสั่งทันทีแล้วจึงจะอ่านบรรทัดต่อไป เมื่อ อินเทอร์พรีเตอร์พบข้อผิดพลาดจะรายงานความผิดพลาดทันทีโปรแกรมเมอร์จะต้องแก้ไขคำาสั่ง ในบรรทัดนั้นให้ถูกต้องแล้วจึงสั่งให้โปรแกรมเริ่มทำางานใหม่ภาษาที่ใช้อินเทอร์พรีเตอร์เช่น ภาษาเบสิก (BASIC)ภาษาจีดับบลิวเบสิก(GW-Basic)ภาษาไพธอน(Python) โดยมีรูปแบบการแปลภาษาดังภาพ ภาษาระดับตํ่า (Low-level Language) เป็นภาษาสัญลักษณ์ที่แทนกลุ่มของตัวเลขฐานสอง เพื่อให้มนุษย์สามารถสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ได้ง่ายกว่า ภาษาเครื่อง เช่นภาษาแอสเซมบลี(assembly) ภาษาระดับสูง ภาษาเครื่อง (Machine Language) เป็นภาษาพื้นฐานที่คอมพิวเตอร์ เข้าใจได้ทันทีเป็นภาษา ระบบเลขฐานสอง เว็บไซต์แนะนำ� ภาษาของคอมพิวเตอร์ https://www.kru13.com ก�รพัฒน�โปรแกรมเพื่อแก้ปัญห� 49 ภาพที่ 2.5 หน้าจอเขียนภาษาไพธอนบน Command Prompt ไพธอนมีเครื่องมือที่ช่วยในก�รพัฒน�โปรแกรมโดยมีสิ่งอำ�นวยคว�มสะดวกต่�ง ๆ หรือที่ เรียกว่� IDE (Integrated Development Environments) และเป็นโปรแกรมที่ช่วยสร้�ง สภ�พแวดล้อม (environment) ให้เหม�ะแก่ก�รเขียนโปรแกรม ซึ่ง IDE ภ�ษ�ไพธอนมีจำ�นวนม�ก เช่น NetBeans, Eclipse, PyScripter, Thonny, PythonWin, PyCharm, Python IDLE ความรู้รอบโลก โซเฟียเป็นหุ่นยนต์ AI ที่พัฒน�ให้มีก�รแสดงออก เหมือนมนุษย์ พัฒน�ขึ้นโดย Hanson Robotics ในฮ่องกง โดย David Hanson เป็นหัวหน้�ทีมวิศวกร โดยที่ได้รับแรงบันด�ลใจม�จ�ก Audrey Hepburn อดีตนักแสดงส�วที่เสียชีวิตไปแล้วและภรรย�ของ Hanson โซเฟียได้เริ่มใช้ง�นครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 เมษ�ยน 2015 จุดเด่นของเธอคือ คว�มเหมือนมนุษย์ทั้งรูปร่�ง คว�มรู้สึกนึกคิดใกล้เคียงกับมนุษย์ม�กที่สุด โดยผิวหนังทำ�จ�กซิลิโคนที่ได้รับก�รจดสิทธิบัตรแล้ว มีคว�มสมจริงอย่�งม�ก และส�ม�รถแสดงสีหน้�ได้ถึง 62 รูปแบบ จนเมื่อเดือนตุล�คมปี 2017 ที่ผ่�นม� โซเฟียได้ถูกประก�ศว่�เป็นพลเมืองคนหนึ่งของประเทศซ�อุดีอ�ระเบีย นับว่�เป็นหุ่นยนต์ตัวแรกของโลกที่ได้รับสัญช�ติจ�กประเทศใดประเทศหนึ่ง โปรแกรมภาษาไพธอนมีข้อดีอย่างไรสำาหรับผู้เริ่มฝึกเขียนโปรแกรม ภาพที่ 2.6 หุ่นยนต์โซเฟีย AI ที่มา : https://brandinside.asia/ sophia-ai-robotics/ คำ�ถ�มสำ�คัญ ความรู้รอบโลก นำเสนอเนื้อหาและความรู้ อันเป็นสากล เพื่อให้ผู้เรียน มีจิตสำนึกในความเป็นพลโลก เว็บไซต์แนะน�ำ นำเสนอหัวข้อเรื่องที่ให้ผู้เรียนสามารถ ค้นหาข้อมูลหรือสารสนเทศเพิ่มเติม ในเรื่องที่เรียนจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง


13 สุดยอดคู่มือครู พิเศษ ปลอดภัยไว้ก่อน นำเสนอข้อพึงปฏิบัติและพึงระวัง ที่ให้ผู้เรียนรู้จักระมัดระวังในการ ปฏิบัติกิจกรรมต ่าง ๆ และการ ดำเนินชีวิต โดยสอดแทรกหัวข้อ ที่สัมพันธ์กับเรื่องที่เรียน 100 เทคโนโลยี (วิทย�ก�รคำ�นวณ) ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่ 2 2. โทษของก�รใช้คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์มีคว�มจำ�เป็นและก�รใช้ประโยชน์อย่�งม�กม�ย แต่ในท�งตรงกันข้�มก�รใช้ง�น คอมพิวเตอร์ก็มีข้อเสีย ดังต่อไปนี้ 2.1 ปัญหาสุขภาพ ก�รใช้คอมพิวเตอร์ทำ�ให้เสียสุขภ�พ เพร�ะห�กนั่งอยู่กับที่เป็นเวล�น�นอ�จเกิดอ�ก�ร ปวดเมื่อย ส�ยต�เสีย หรือเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม (office syndrome) 2.2 ปัญหาสังคม ปัจจุบันมีก�รติดต่อสื่อส�รที่ง่�ยทั้งในรูปแบบภ�พและเสียง ทำ�ให้วัยรุ่นไทยแสดงพฤติกรรม ที่ไม่เหม�ะสมและก่อให้เกิดอันตร�ยต่อตนเองและผู้อื่น ซึ่งปัญห�เหล่�นี้พบม�กในปัจจุบัน เช่น ก�รถูกล่อลวงไปทำ�อน�จ�ร ก�รใช้สื่อออนไลน์ในก�รเผยแพร่สื่อล�มก ก�รเต้นโชว์รูปร่�ง ปัญห�เหล่�นี้ มักเกิดกับวัยเรียนเป็นส่วนม�ก 2.3 ปัญหาสิทธิเสรีภาพ ก�รเผยแพร่ข้อมูลต่�ง ๆ ของตนเองจนบ�งครั้งกล�ยเป็นจุดสนใจของสังคม หรือก�รที่ ผู้อื่นนำ�ข้อมูลของเร�ไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญ�ต อ�จทำ�ให้เกิดปัญห�ก�รละเมิดสิทธิเสรีภ�พ เช่น ก�รแอบถ่�ยภ�พส่วนตัวของด�ร�แล้วนำ�ไปเผยแพร่โดยที่เจ้�ตัวไม่ยินยอม 2.4 ปัญหาด้านพฤติกรรมเลียนแบบ เมื่อเด็กพบพฤติกรรมที่ไม่ดีและกำ�ลังตกเป็นกระแสสังคมในโลกออนไลน์ เด็กวัยรุ่นบ�งกลุ่ม ก็จะเลียนแบบพฤติกรรมนั้น ๆ เพร�ะมองเห็นว่�เป็นสิ่งที่สังคมกำ�ลังให้คว�มสนใจ เช่น ก�รใช้ถ้อยคำ�ที่ ไม่สุภ�พต�มกระแส ก�รเต้นถอดเสื้อผ้� ซึ่งก�รเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่ดีแบบนี้จะก่อให้เกิดปัญห�สังคม ต่อไป ปลอดภัยไว้ก่อน ก�รใช้ง�นคอมพิวเตอร์ควรใช้ง�นอย่�งพอเหม�ะเท่�ที่จำ�เป็น ไม่ใช้ง�นต่อเนื่องกันเป็นระยะ เวล�น�น เพร�ะจะส่งผลต่อสุขภ�พ เช่น ส�ยต�เสีย ปวดเมื่อยกล้�มเนื้อ คอมพิวเตอร์ 103 การทำางานของคอมพิวเตอร์เริ่มจากผู้ใช้ป้อนข้อมูลผ่านทางหน่วยรับเข้า (Input Unit) เช่น คีย์บอร์ด (Keyboard) เมาส์ (Mouse) ข้อมูลเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนเป็นสัญญาณดิจิทัลซึ่งประกอบด้วยเลข 0 หรือ 1 แล้วส่งต่อไปยังหน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit: CPU) เพื่อประมวลผลตามคำาสั่ง หากในระหว่างการประมวลผลมีคำาสั่งให้นำาผลลัพธ์จากการประมวลผลไปจัดเก็บในหน่วยความจำา ข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งไปยังแรม (Random Access Memory: RAM) ซึ่งทำาหน้าที่เก็บข้อมูลจาก การประมวลผลเป็นการชั่วคราว หากต้องการบันทึกข้อมูลที่อยู่ใน RAM จัดเก็บไว้เพื่อเรียกใช้งานอีก ในอนาคต สามารถจัดเก็บข้อมูลนี้ลงในหน่วยความจำาสำารอง (Secondary Memory Unit) เช่น แผ่นบันทึก (Diskette) แผ่นซีดี (CD) ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) ได้ หรือหากต้องการนำาข้อมูลที่เป็นผลลัพธ์ จากการประมวลผลนี้ไปแสดงผลก็สามารถแสดงผลผ่านทางหน่วยส่งออก (Output Unit) เช่น จอภาพ (Monitor) เครื่องพิมพ์ (Printer) ลำาโพง (Speaker) ได้เช่นกัน โดยการส่งข้อมูลไปยังหน่วยต่าง ๆ ภายในระบบคอมพิวเตอร์จะส่งผ่านระบบบัส (Bus) แผนภาพที่ 3.3 การประมวลผลของหน่วยประมวลผลกลาง อาชีพน่ารู้ นักวิศวกรคอมพิวเตอร์ เป็นผู้ออกแบบและสร้างเครื่องมือหรือระบบคอมพิวเตอร์และระบบ ที่ใช้คอมพิวเตอร์ โดยจะต้องศึกษาทางด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ การสื่อสาร หน่วยควบคุม (Control Unit: CU) หน่วยคำานวณและตรรกะ(Arithmetic Logic Unit: ALU) หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit) เรจิสเตอร์ (Register) อาชีพน่ารู้ นำเสนอความรู้สำคัญเกี่ยวกับอาชีพต ่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางเลือกประกอบอาชีพในอนาคต


สุดยอดคู่มือครู 14 พิเศษ 92 เทคโนโลยี (วิทย�ก�รคำ�นวณ) ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่ 2 โครงงานสร้างสรรค์ นักเรียนแบ่งกลุ่มเขียนโปรแกรมเพื่อจำ�ลองระบบก�รทำ�ง�นอย่�งง่�ย เช่น ร้�นค้� จองที่นั่ง โต๊ะอ�ห�ร เกมอย่�งง่�ย โปรแกรม ผลลัพธ์ พร้อมตัวอย่างข้อมูลนําเข้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 def area(x): return 22 / 7 * x ** 2 def circumference(x): return 2 * 22 / 7 * x choice = int(input("Find area of circle press 1\nFind circumference press 2\nFind all press others:")) r = int(input("Enter radius:")) if choice == 1: print("Area =", area(r)) elif choice == 2: print("Circumference =", circumference(r)) else: print("Area =", area(r)) print("Circumference =", circumference(r)) Find area of circle press 1 Find circumference press 2 Find all press others:1 Enter radius:7 Area = 154.0 ตัวอย่างที่ 1 การสร้างฟังก์ชันเพื่อใช้งานซำ้า ๆ ตัวอย่างที่ 2 การสร้างฟังก์ชันที่มีการเรียกตัวเอง (recursive function) โปรแกรม ผลลัพธ์ พร้อมตัวอย่างข้อมูลนําเข้า 1 2 3 4 5 6 7 8 def factorial(x): if x == 1: return x else: return x * factorial(x-1) n = int(input("n = ")) print(factorial(n)) n = 5 120 การใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ผลงาน 199 รอบรู้ ASEAN นักเรียนแบ่งกลุ่มร่วมกันค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาของแต่ละประเทศในประชาคม อาเซียน นำาเสนอหน้าชั้นเรียนเพื่อขยายการเรียนรู้ ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุ หรือแสดงที่มาแต่ห้ามใช้เพื่อการค้า โดยเด็ดขาด ให้เผยแพร่ดัดแปลง โดยต้องระบุ หรือแสดงที่มา แต่ห้ามใช้เพื่อการค้า โดยเด็ดขาด และต้องเผยแพร่ ดัดแปลง โดยใช้สัญญาอนุญาตชนิดเดียวกัน ให้เผยแพร่ โดยต้องระบุหรือแสดงที่มา แต่ห้ามใช้เพื่อดัดแปลงและการค้า โดยเด็ดขาด CC-BY-NC-ND CC-BY-NC-SA CC-BY-NC S สัญลักษณ์ ความหมาย ตารางที่ 5.1 สัญลักษณ์สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ รอบรู้อาเซียน นำเสนอกิจกรรมเพื่อให้ผู้เรียนสืบค้นสืบสอบเรื่องราว ของประเทศในกลุ่มอาเซียนที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อเรื่อง ที่ศึกษา เพื่อสร้างความเข้าใจอาเซียน นำเสนอกิจกรรมโครงงานสร้างสรรค์ เพื่อฝึกให้ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการทำงาน ความคิดสร้างสรรค์การแก้ปัญหา และ การร่วมมือทำงานเป็นทีม โครงงานสร้างสรรค์


ก�รพัฒน�โปรแกรมเพื่อแก้ปัญห� 93 1. จัดกลุ่มเพื่อร่วมกันสมมุติเป็นทีมพัฒน�ซอฟต์แวร์ แบ่งหน้�ที่ก�รทำ�ง�นต�มขั้นตอน SDLC เพื่อแก้โจทย์ปัญห� 2. จัดทำ�ชิ้นส่วนของผังง�นเพื่อให้นักเรียนฝึกลำ�ดับก�รทำ�ง�นด้วยผังง�น กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพร�ะเหตุใดขั้นตอนวิเคร�ะห์คว�มต้องก�รจึงเป็นขั้นตอนที่สำ�คัญที่สุด 2. จงอธิบ�ยข้อแตกต่�งระหว่�งอินเทอร์พรีเตอร์กับคอมไพเลอร์ 3. จงบอกชนิดข้อมูลจ�กก�รประก�ศตัวแปรดังต่อไปนี้ number = 4126 name = “Lattapol” phonenumber = “087656364” grade = 3.96 number, name, phonenumber, grade เป็นข้อมูลชนิดใด 4. จงห�ผลลัพธ์ของนิพจน์ 451 + 327 / 3 + 12 * 6 - 5 ** 3 5. จงเขียนโปรแกรมเพื่อแปลงอุณหภูมิหน่วยองศ�เซลเซียสเป็นหน่วยองศ�ฟ�เรนไฮต์ องศ�โรเมอร์ และเคลวิน 6. จงเขียนโปรแกรมเพื่อรับจำ�นวนเต็ม แล้วตรวจสอบว่�เป็นเลขคู่หรือเลขคี่ 7. จงเขียนโปรแกรมคำ�นวณค่� BMI (Body Mass Index) โดยรับน�ำ้หนัก (กิโลกรัม) และคว�มสูง (เมตร) แล้วคำ�นวณค่� BMI จ�กสูตร BMI = นำ้�หนัก (กิโลกรัม) (คว�มสูง (เมตร))2 แล้วสรุปว่�ถ้� น้อยกว่� 18.5 หม�ยถึง นำ้�หนักน้อยกว่�ม�ตรฐ�น 18.5-22.9 หม�ยถึง ปกติ 23-24.9 หม�ยถึง อ้วนระดับ 1 25-29.9 หม�ยถึง อ้วนระดับ 2 ม�กกว่�หรือเท่�กับ 30 หม�ยถึง อ้วนระดับ 3 8. จงเขียนโปรแกรมเพื่อรับร�ค�สินค้� 10 อย่�ง แล้วสรุปร�ค�รวมของสินค้�ที่ซื้อ 9. จงเขียนโปรแกรมแสดงสูตรคูณแม่ n โดยรับ n จ�กผู้ใช้ท�งคีย์บอร์ด 10. จงเขียนโปรแกรมแสดงลำ�ดับฟีโบนัชชี คำาถามพัฒนากระบวนการคิด ? 15 สุดยอดคู่มือครู พิเศษ เป็นคำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนได้ฝึกคิดวิเคราะห์ ค�ำถามพัฒนากระบวนการคิด เป็นกิจกรรมให้ผู้เรียน ได้ฝึกปฏิบัติและพัฒนาทักษะ ทางด้านการคิดและความรู้ ประจำหน่วยการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้


สุดยอดคู่มือครู 16 พิเศษ เฉลยกิจกรรมที่ 1.4 การแก้ปัญหา หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 แนวคิดเชิงคํานวณ นักเรียนออกแบบขั้นตอนวิธี เพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์ต่อไปนี้ 1. ปัญหาการแปลงอุณหภูมิของหน่วยองศาเซลเซียสเป็นหน่วยองศาฟาเรนไฮต์องศาโรเมอร์และเคลวิน C 5 = F–32 5 = R 4 = K–273 5 เริ่มต้น รับค่า C F = 9 5 (C)+32 จบ R = C 5 * 4 K= C +273 แสดงผลFRK เริ่มต้น รับค่า x ให้m เท่ากับเศษจากการหาร xด้วย2 m เท่ากับ0 เลขคู่ เลขคี่ จบ จริง ไม่จริง ตัวอย่างคำตอบ ตัวอย่างคำตอบ 2. ปัญหาการนับจํานวนเต็มแล้วตรวจสอบว่าเป็นเลขคู่หรือเลขคี่


17 สุดยอดคู่มือครู พิเศษ BMI= W/((H/100)*(H/100)) รับนํ้าหนัก W รับความสูง H เริ่มต้น BMI<18.5 ไม่จริง BMI<=22.9 ไม่จริง BMI<=24.9 ไม่จริง BMI<=29.9 ไม่จริง BMI>=30 น้อยกว่ามาตรฐาน อ้วนระดับ3 อ้วนระดับ2 อ้วนระดับ1 ปกติ จริง จริง จริง จริง จบ 3. ปัญหาการคํานวณค่า (BMI/Body Mass Index) โดยนับค่านํ้าหนัก(กิโลกรัม)และความสูง (เมตร) และคํานวณค่า BMIจากสูตรBMI=นํ้าหนัก(กิโลกรัม) (ความสูง (เมตร))2 แล้วสรุปว่า ถ้าน้อยกว่า 18.5หมายถึงนํ้าหนักน้อยกว่ามาตรฐาน เกณฑ์นํ้าหนักมาตรฐาน 18.5-22.9 หมายถึง ปกติ 23-24.9 หมายถึง อ้วนระดับ1 25-29.9 หมายถึง อ้วนระดับ2 มากกว่าหรือเท่ากับ30 หมายถึง อ้วนระดับ3 ตัวอย่างคำตอบ จริง


ตัวอย่างคำตอบ สุดยอดคู่มือครู 18 พิเศษ 4. ปัญหาการรับราคาสินค้า 10อย่าง แล้วสรุปการรวมราคาสินค้าที่ซื้อ เริ่มต้น รับจำ�นวนB รับราคา A คำ�นวณราคา A แสดงผลลัพธ์ B = 10 จริง จบ ไม่จริง


ตัวอย่างคำตอบ 19 สุดยอดคู่มือครู พิเศษ 5. ปัญหาการแสดงสูตรคูณแม่nโดยรับnจากผู้ใช้ทางคีย์บอร์ด เริ่มต้น แสดงผลsum i<=12 จริง จบ i+1 sum =n* i i = 1 รับค่า n ไม่จริง


ตัวอย่างคำตอบ สุดยอดคู่มือครู 20 พิเศษ 6. ปัญหาการลำ�ดับเลขฟีโบนัชชี OUTPUT“Enternterms:” start INPUTnterms Ifnterms<=0 For i inrange(nterms) If i<=1 Return(i – 1)+(i – 2) OUTPUT“(i – 1)+(i – 2)” Return i OUTPUT“i” OUTPUT“Please enter apositive integer” OUTPUT “Fibonacci sequence:” True False False True True False end


celsius=int(input(″กรอกอุณหภูมิ(องศาเซลเซียส) : ″)) Farenheit=(9/5*celsius+32) Kelvin=(celsius+273) Reaumur=(celsius/5*4) print (Farenheit) print (Kelvin) print (Reaumur) ตัวอย่างคำตอบ ตัวอย่างคำตอบ n=int(input(″ระบุตัวเลข :″)) sum = (n%2) if sum==0: print(n,″เป็นเลขคู่ ″) else: print(n,″เป็นเลขคี่ ″) 21 สุดยอดคู่มือครู พิเศษ เฉลยคําถามพัฒนากระบวนการคิด หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การพัฒนาโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา 1. เพราะเหตุใดขั้นตอนวิเคราะห์ความต้องการจึงเป็นขั้นตอนที่สําคัญที่สุด ตอบเพราะจะได้เข้าใจภาพรวมและหน้าที่ของโปรแกรมที่ต้องการ 2. จงอธิบายข้อแตกต่างระหว่างอินเทอร์พรีเตอร์กับคอมไพเลอร์ ตอบ อินเทอร์พรีเตอร์จะแปลคําสั่งทีละบรรทัดและทํางานตามคําสั่งทันทีแล้วจึงจะอ่านบรรทัดต่อไป เมื่อพบความ ผิดพลาดจะรายงานความผิดพลาดทันทีส่วนคอมไพเลอร์จะแปลคําสั่งทั้งโปรแกรม ถ้าโปรแกรมมีข้อผิดพลาด คอมไพเลอร์จะบอกข้อผิดพลาดทั้งหมด 3. จงบอกชนิดข้อมูลจากการประกาศตัวแปรดังต่อไปนี้ number =4126 name =“Lattapol” phonenumber =“087656364” grade = 3.96 number,name,phonenumber,grade เป็นข้อมูลชนิดใด ตอบ number เป็นข้อมูลชนิดจํานวนเต็ม name เป็นข้อมูลชนิดสตริง phonenumber เป็นข้อมูลชนิดสตริง grade เป็นข้อมูลชนิดจํานวนทศนิยม 4. จงหาผลลัพธ์ของนิพจน์ 451+327 / 3+12 * 6 – 5 **3 ตอบผลลัพธ์คือ507 5. จงเขียนโปรแกรมเพื่อแปลงอุณหภูมิหน่วยองศาเซลเซียสเป็นหน่วยองศาฟาเรนไฮต์องศาโรเมอร์และเคลวิน 6. จงเขียนโปรแกรมเพื่อรับจำ�นวนเต็มแล้วตรวจสอบว่าเป็นเลขคู่หรือเลขคี่


ตัวอย่างคำตอบ ตัวอย่างคำตอบ ตัวอย่างคำตอบ ตัวอย่างคำตอบ weight=float(input (″นํ้าหนัก : ″)) height=float(input (″ส่วนสูง : ″)) bmi=weight/((height/100)*(height/100)) if bmi<18.5: print(″น้อยกว่ามาตรฐาน″) elif bmi<=22.9: print(″ปกติ″) elif bmi<=24.9: print(″อ้วนระดับ 1″) elif bmi<=29.9: print(″อ้วนระดับ 2″) else: print(″อ้วนระดับ 3″) price=0 product=10 sum=0 while price<product: num=int (input(″Enter price %d: ″%(price+1))) sum=sum+num price=price+1 print (″total=″,sum) n=int(input(″ระบุตัวเลข :″)) for i in rang (1,13): resul=n*i print(″%d X %d=%d″% (n,i,resul)) def fibo(n): if n <= 1: return n else: return(fibo(n–1) + fibo(n–2)) nterms = int (input(″Enter n terms :″)) if nterms <= 0: print(″please enter a positive integer″) else: print(″Fibonacci sequence:″) for i in range (nterms): สุดยอดคู่มือครู 22 print (fibo(i), end=″ ″) พิเศษ 7. จงเขียนโปรแกรมคำ�นวณค่า BMI (Body Mass Index) โดยรับนํ้าหนัก(กิโลกรัม) และความสูง (เมตร) แล้วคำ�นวณค่า BMI จากสูตรBMI=นํ้าหนัก (กิโลกรัม) (ความสูง (เมตร))2 แล้วสรุปว่า ถ้าน้อยกว่า 18.5 หมายถึง นํ้าหนักน้อยกว่ามาตรฐาน 18.5-22.9 หมายถึง ปกติ 23-24.9 หมายถึง อ้วนระดับ1 25-29.9 หมายถึง อ้วนระดับ2 มากกว่าหรือเท่ากับ30 หมายถึง อ้วนระดับ3 8. จงเขียนโปรแกรมเพื่อรับราคาสินค้า 10อย่าง แล้วสรุปราคารวมของสินค้าที่ซื้อ 9. จงเขียนโปรแกรมแสดงสูตรคูณแม่n โดยรับnจากผู้ใช้ทางคีย์บอร์ด 10. จงเขียนโปรแกรมแสดงลำ�ดับฟีโบนัชชี


23 สุดยอดคู่มือครู พิเศษ เฉลยคําถามพัฒนากระบวนการคิด หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เทคโนโลยีการสื่อสาร 1. นักเรียนคิดว่าพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารแบบใดที่ทำ�ให้เกิดผลเสียต่อตนเองและผู้อื่น ตอบ เผยแพร่ภาพลามกอนาจาร และการล่อลวงปัจจุบันมีผู้ใช้เทคโนโลยีการสื่อสาร เช่นอินเทอร์เน็ตส่วนหนึ่งทำ�การ เผยแพร่ภาพลามกอนาจาร และภาพที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งยังใช้ในการล่อลวงเพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ ทั้งประสงค์ ต่อทรัพย์สินและทำ�ร้ายเหยื่อที่หลงกล 2. ปัจจัยใดที่มีผลต่อความสำ�เร็จและประสิทธิภาพของการสื่อสาร ตอบ ปัจจัยที่มีผลต่อความสำ�เร็จและประสิทธิภาพของการสื่อสารข้อมูลมีดังนี้ 1) สารสนเทศที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร ผู้รับและผู้ส่งต้องเข้าใจรูปแบบการสื่อสาร เช่น ภาษาที่ใช้ความเร็วที่ใช้ รับ-ส่ง รูปแบบการแสดงผล 2) คุณลักษณะเฉพาะตัวขององค์ประกอบของการสื่อสารทั้งผู้ส่ง ผู้รับ สื่อกลาง เช่น การใช้สายเคเบิลย่อมช้ากว่า การใช้คลื่นวิทยุในการส่งข้อมูล 3) การรบกวน หากมีการรบกวนการสื่อสารน้อย ประสิทธิภาพของการสื่อสารจะมากขึ้น เช่น การคุยโทรศัพท์ ในที่เงียบจะฟังชัดกว่าการคุยในที่มีเสียงดัง 3. จงออกแบบระบบเครือข่ายภายในที่พักอาศัยและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างละเอียด โดยระบุประเภทของสื่อกลาง และอุปกรณ์ที่ติดตั้ง พร้อมเหตุผล ตอบ ระบบเครือข่ายภายในบ้านสามารถเชื่อมต่อได้โดยใช้ระบบเครือข่ายแบบLAN โดยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจาก ผู้ให้บริการเข้ากับ Modem Router ซึ่งเลือกเป็นชนิดที่มีwireless และ LAN Port โดยหากมีคอมพิวเตอร์ ตั้งโต๊ะอาจเชื่อมต่อกับModemRouterผ่านLAN Portและหากมีคอมพิวเตอร์พกพาหรือสมาร์ตโฟนที่ต้องการ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอาจเชื่อมต่อผ่าน wireless ได้ 4. เพราะเหตุใดในปัจจุบันจึงไม่มีการใช้งานโมเด็มในบ้านพักอาศัย ตอบ เพราะความเร็วในการสื่อสารตํ่า ประมาณ 56 kbps 5. เครือข่ายแบบPAN LAN MAN และ WAN มีความแตกต่างกันอย่างไร ตอบ แตกต่างกันที่พื้นที่ที่ครอบคลุมการใช้งานของเครือข่ายโดยที่ PAN : เป็นเครือข่ายที่ใช้ส่วนบุคคลเช่นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ LAN : เป็นเครือข่ายที่ใช้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน เช่น ภายในบ้าน ภายในสำ�นักงาน MAN : เป็นเครือข่ายที่ใช้เชื่อมต่อLAN ที่อยู่ห่างไกลออกไปเช่นสำ�นักงานที่อยู่คนละอาคารที่มีระยะทางไกลกัน WAN : เป็นเครือข่ายที่ใช้เชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่นที่อยู่ห่างไกลมากเช่นเครือข่ายระหว่างจังหวัด 6. การเชื่อมต่อแบบใช้สายและไร้สายมีข้อแตกต่าง จุดเด่นจุดด้อยอย่างไร ตอบ ข้อแตกต่างคือการเชื่อมต่อแบบใช้สายจะมีสายในการเชื่อมต่อ ส่วนการเชื่อมต่อแบบไร้สายจะใช้สัญญาณแบบ แม่เหล็กไฟฟ้าในการเชื่อมต่อ - จุดเด่นของการเชื่อมต่อแบบไร้สายคือความเร็วความแม่นยำ�และความเสถียรของระบบสัญญาณ ส่วนจุดด้อย คือเรื่องการติดตั้งการวางระบบยุ่งยากและเรื่องความเป็นระเบียบ - จุดเด่นของการเชื่อมต่อแบบไร้สายคือ ลดปัญหาเรื่องการติดตั้ง การวางระบบ และเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนจุดด้อยคือระยะในการส่งสั้นมีสัญญาณรบกวนสูงความเร็วและความเสถียรของระบบไม่ดีแบบใช้สาย


สุดยอดคู่มือครู 24 พิเศษ 7. จงอธิบายพัฒนาการของเครือข่ายแบบบัสวงแหวนดาว แมช และผสม ตอบ เครือข่ายแบบบัส : สถานีทุกสถานีในเครือข่ายจะเชื่อมต่อเข้ากับสายสื่อสารหลักเพียงสายเดียวที่เรียกว่า บัส เครือข่ายแบบวงแหวน : สถานีแต่ละสถานีจะเชื่อมต่อกันแบบวงแหวน สัญญาณรับข้อมูลในวงแหวนจะส่งไปใน ทิศทางเดียวจนถึงผู้รับ เครือข่ายแบบดาว :สถานีทุกสถานีในเครือข่ายจะเชื่อมต่อเข้ากับหน่วยสลับสายกลาง เช่นฮับหรือสวิตช์ เครื่อข่ายแบบแมช : สถานีทุกสถานีในเครือข่ายจะเชื่อมต่อเข้าด้วยกันและยังเชื่อมต่อกับ router ซึ่งช่วยในการ จัดเส้นทางใหม่หากมีเส้นทางการเชื่อมต่อคู่ใดขาดไป 8. หากนักเรียนกำ�ลังเข้าเว็บไซต์เพื่อรับ-ส่งอีเมลกับเพื่อนมีการใช้งานโพรโทคอลใดบ้าง ตอบ ในการเข้าเว็บไซต์เพื่อรับ-ส่งอีเมลต้องใช้โพรโทคอลดังต่อไปนี้ HTTPS: เพื่อเข้าเว็บไซต์ในการรับ-ส่งอีเมล POP3/IMAP: ใช้ในการเรียกดูอีเมลที่อยู่บน mail sever 9. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนควรเลือกใช้รูปแบบเครือข่ายแบบใด ตอบ เครือข่ายในโรงเรียนควรใช้เครือข่ายแบบLAN ซึ่งเป็นเครือข่ายที่เหมาะกับการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ต่างๆที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันเช่นภายในบ้านเรือนภายในอาคารภายในสำ�นักงานหรือพื้นที่ใกล้เคียงกันที่ห่างกัน ไม่มากนักเช่นภายในโรงเรียนที่มีอาคารอยู่ในบริเวณเดียวกัน 10. นักเรียนจะใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอย่างไรให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามบนอินเทอร์เน็ต ตอบ ข้อควรปฏิบัติในการใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามคือ 1. บัญชีใช้งานต่างๆควรตั้งรหัสที่คาดเดายากและเปลี่ยนรหัสผ่านอยู่เสมอ 2. ติดตั้งใช้งานและปรับปรุงโปรแกรมป้องกันไวรัสและมัลแวร์ 3. ไม่ควรให้รายละเอียดส่วนตัว เช่น หมายเลขโทรศัพท์ที่อยู่ ทั้งของตนเอง บุคคลในครอบครัว หรือเพื่อนกับ คนแปลกหน้าบนอินเทอร์เน็ต 4. ไม่หลงเชื่อนัดพบบุคคลแปลกหน้าที่รู้จักกันผ่านอินเทอร์เน็ตถ้าจำ�เป็นให้ปรึกษาผู้ปกครองก่อน 5. ถ้าได้รับข้อความไม่เหมาะสมควรออกจากเว็บไซต์ทันที 6. ไม่เผยแพร่ภาพ เสียงหรือภาพเคลื่อนไหวอนาจารบนอินเทอร์เน็ต


หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ลัทธพล ด่านสกุล วันวิสา ด่านสกุล ดร.ชัชญาภา วัฒนธรรม อาจารย์ดวงใจ จันทะเสน อาจารย์เสาวศักดิ์ ผาสุข รองศาสตราจารย์ ดร.ปณิตา วรรณพิรุณ ดร.ชวนพบ เอี่ยวสานุรักษ์ ผู้เรียบเรียง ผู้ตรวจ บรรณาธิการ เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ)


สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ๑๒๕๖/๙ ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ โทร. ๐-๒๒๔๓-๘๐๐๐ (อัตโนมัติ ๑๕ สาย), ๐-๒๒๔๑-๘๙๙๙ แฟกซ์ : ทุกหมายเลข, แฟกซ์อัตโนมัติ : ๐-๒๒๔๑-๔๑๓๑, ๐-๒๒๔๓-๗๖๖๖ website : www.iadth.com * โปรแกรมและเว็บไซต์ที่อ้างถึงเป็นชื่อผลิตภัณฑ์เครื่องหมายการค้า และเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทนั้นๆ ตามกฎหมาย สงวนลิขสิทธิ์ สำานักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำากัด พ.ศ. ๒๕๖๓ พิมพ์ครั้งที่ ๑ จำานวน ๒๐,๐๐๐ เล่ม


คํานํา 101110 001010 หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเทคโนโลยี(วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ได้จัดทำาขึ้นตามตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเทคโนโลยี(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560)ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้กระบวนการคิดอย่างมีเหตุผล คิดสร้างสรรค์คิดอย่างมีวิจารณญาณ มีทักษะที่สำาคัญในศตวรรษที่ 21 ทั้งทักษะการเรียนรู้ และนวัตกรรม ทักษะสารสนเทศ และทักษะชีวิตและอาชีพ เป็นต้น หนังสือเรียนเล่มนี้ ประกอบด้วย 5 หน่วยการเรียนรู้โดยแต่ละหน่วยการเรียนรู้ได้นำาเสนอหัวข้อหลักด้วยแผนผัง มโนทัศน์ เพื่อให้เห็นภาพรวมของเนื้อหาก่อนการศึกษารายละเอียด มีการชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ ความสำาคัญ และการเชื่อมโยงกับชีวิตประจำาวันเพื่อทำาให้นักเรียนได้เห็นคุณค่าในการศึกษา เนื้อหาส่วนนั้น ๆ มีการนำาเสนอสาระสำาคัญของเนื้อหาด้วยแผนภาพที่น่าสนใจและง่ายต่อการเรียนรู้ มีการสอดแทรกเกร็ดความรู้ที่เกี่ยวข้องในแต่ละเนื้อหา เนื้อหาสามารถเข้าใจได้ง่าย มีตัวอย่าง กิจกรรม คำาถามพัฒนากระบวนการคิด และกิจกรรมการเรียนรู้ที่ครูสามารถนำาไปใช้ในการ จัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนเพื่อต่อยอดประสบการณ์ให้กับนักเรียนได้ ผู้จัดทำาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นตัวจุดประกายให้กับนักเรียนตระหนักถึง ความสำาคัญ ประโยชน์และการนำาไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงและอนาคตของนักเรียนได้ซึ่งจะช่วย ผลักดันให้นักเรียนเป็นกำาลังที่สำาคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ๑๒๕๖/๙ ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ โทร. ๐-๒๒๔๓-๘๐๐๐ (อัตโนมัติ ๑๕ สาย), ๐-๒๒๔๑-๘๙๙๙ แฟกซ์ : ทุกหมายเลข, แฟกซ์อัตโนมัติ : ๐-๒๒๔๑-๔๑๓๑, ๐-๒๒๔๓-๗๖๖๖ website : www.iadth.com * โปรแกรมและเว็บไซต์ที่อ้างถึงเป็นชื่อผลิตภัณฑ์เครื่องหมายการค้า และเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทนั้นๆ ตามกฎหมาย สงวนลิขสิทธิ์ สำานักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำากัด พ.ศ. ๒๕๖๓ พิมพ์ครั้งที่ ๑ จำานวน ๒๐,๐๐๐ เล่ม


C หน้า หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เทคโนโลยีการสื่อสาร 148 • การสื่อสารข้อมูล 150 • องค์ประกอบของการสื่อสาร 152 • สื่อกลาง 155 • โพรโทคอล 162 • สัญญาณในการสื่อสาร 171 • รูปแบบในการส่งสัญญาณ 172 • การถ่ายโอนข้อมูล 173 • เครือข่ายคอมพิวเตอร์ 177 • อินเทอร์เน็ต 187 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ผลงาน 192 • ทรัพย์สินทางปัญญา 194 • Creative Commonsกับการสร้าง และแสดงสิทธิความเป็นเจ้าของผลงาน 197 • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย 200 • ความเป็นส่วนตัว 202 C บรรณานุกรม 208 สารบัญ </> หน้า หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 แนวคิดเชิงคำานวณ 6 • แนวคิดเชิงคำานวณ 8 • การแจกแจง 12 • การคิดหารูปแบบ 15 • การคิดเชิงนามธรรม 21 • การออกแบบขั้นตอนวิธี 24 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การพัฒนาโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา 38 • วงจรการพัฒนาโปรแกรม 40 • ความรู้พื้นฐานสำาหรับการเขียนโปรแกรมภาษาไพธอน 43 • การเขียนโปรแกรมแบบลำาดับ 73 • การเขียนโปรแกรมแบบทางเลือก 76 • การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้า 85 • ฟังก์ชัน 89 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 คอมพิวเตอร์ 94 • คอมพิวเตอร์ 96 • ระบบคอมพิวเตอร์ 101 • หลักการทำางานของคอมพิวเตอร์ 136 • การประยุกต์ใช้งานและการแก้ปัญหาเบื้องต้น 137 10111 00110 00110 00110 11011 11011


C หน้า หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เทคโนโลยีการสื่อสาร 148 • การสื่อสารข้อมูล 150 • องค์ประกอบของการสื่อสาร 152 • สื่อกลาง 155 • โพรโทคอล 162 • สัญญาณในการสื่อสาร 171 • รูปแบบในการส่งสัญญาณ 172 • การถ่ายโอนข้อมูล 173 • เครือข่ายคอมพิวเตอร์ 177 • อินเทอร์เน็ต 187 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ผลงาน 192 • ทรัพย์สินทางปัญญา 194 • Creative Commonsกับการสร้าง และแสดงสิทธิความเป็นเจ้าของผลงาน 197 • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย 200 • ความเป็นส่วนตัว 202 C บรรณานุกรม 208


สุดยอดคู่มือครู 66 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 1 หนว่ ยการเรยีนรทู้่ี แนวคิดเชิงคำ�นวณ แผนผังหัวข้อหน่วยการเรียนรู้ • ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิดเชิงคำ�นวณในก�รแก้ปัญห� หรือก�รทำ�ง�นที่พบในชีวิตจริง (ว 4.2ม.2/1) ตัวชี้วัด คำาศัพท์ คำาอ่าน คำาแปล abstraction แอบสแทรค′ชัน ก�รคิดเชิงน�มธรรม algorithm design อัลกอริธึมดิไซนฺ′ ก�รออกแบบขั้นตอนวิธี computational thinking คอมพิวเท′ชันแนลธิง′คิง แนวคิดเชิงคำ�นวณ decomposition ดีเคิมโพซิ′ชัน ก�รแจกแจง patternrecognition แพท′ เทิร์นเรคเคิกนิช′ชัน ก�รคิดห�รูปแบบ ศัพท์เทคโนโลยีน่ารู้ ก�รออกแบบขั้นตอนวิธีแบบบรรย�ย ก�รออกแบบขั้นตอนวิธีด้วยรหัสลำ�ลอง ก�รออกแบบขั้นตอนวิธีด้วยผังง�น ก�รออกแบบ ขั้นตอนวิธี ก�รแจกแจง ก�รคิดห�รูปแบบ ก�รคิด เชิงน�มธรรม แนวคิด เชิงคำ�นวณ เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำ นวณใน การแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็น ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำ งาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม


77 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean แนวคิดเชิงคำ�นวณ (Computational Thinking) แนวคิด เชิงคำ�นวณ ก�รคิดเชิงน�มธรรม (Abstraction) ก�รออกแบบ ขั้นตอนวิธี (Algorithm Design) ก�รแจกแจง (Decomposition) ก�รคิดห�รูปแบบ (PatternRecognition) สมรรถนะสำ คัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตัวชี้วัดที่ 4.1 ตั้งใจ เพียรพยายามใน การเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ตัวชี้วัดที่ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่ง เรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก โรงเรียน ด้วยการเลือกใช้สื่ออย่าง เหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็น องค์ความรู้ สามารถนำ ไปใช้ในชีวิต ประจำวันได้ มุ่งมั่นในการทำงาน ตัวชี้วัดที่ 6.1 ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน ตัวชี้วัดที่ 6.2 ทำ งานด้วยความเพียร พยายามและอดทนเพื่อให้งานสำ เร็จ ตามเป้าหมาย นักเรียนแบ่งกลุ่ม แต่ละกลุ่มสํารวจปัญหาที่เกิดขึ้นในโรงเรียน แล้วเลือก ปัญหามา 1 ปัญหา ร่วมกันเสนอแนวทางและแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ แนวคิดเชิงคํานวณ จัดทําในรูปแบบโครงงาน บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 จดุ ประกายโครงงาน


สุดยอดคู่มือครู 88 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 8 เทคโนโลยี(วิทย�ก�รคำ�นวณ)ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่2 แนวคิดเชิงคำ�นวณ ก�รดำ�รงชีวิตของมนุษย์ในแต่ละวันนั้น จะมีก�รทำ�กิจกรรมต่�ง ๆ อย่�งม�กม�ย ห�กเร�สังเกต กิจกรรมที่ทำ� เร�จะพบว่�มีสถ�นก�รณ์หล�ย ๆ สถ�นก�รณ์ในชีวิตประจำ�วันที่มนุษย์ต้องใช้ก�รคิด อย่�งเป็นขั้นตอนในก�รแก้ปัญห� เช่น ค้นห�เส้นท�งก�รเดินท�งที่รวดเร็วที่สุด เลือกซื้อวัสดุอุปกรณ์ ไปใช้ในก�รสร้�งชิ้นง�นอย่�งเหม�ะสมก�รรับฟังข่�วส�รจ�กสื่อต่�งๆ ภาพที่ 1.1 โต๊ะรับประทานอาหาร แนวคิดเชิงคำ�นวณคืออะไร คำ�ถ�มสำ�คัญ 1. นักเรียนสังเกตกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิต ประจำวัน โดยตอบคำถาม ดังนี้ • กิจกรรมใดบ้างที่คิดแก้ปัญหา อย่างเป็นขั้นตอน (ตัวอย่างคำ ตอบการเดินทางไปโรงเรียน การจัดกระเป๋าหนังสือการออกกำลังกาย การแต่งตัว) • ถ้านักเรียนต้องการนำ เงิน จากกระป๋องออมสินไปฝากธนาคาร จะมีวิธีการแยกเงินอย่างไร (ตัวอย่างคำ ตอบแยกตามชนิดของเงิน เช่นเหรียญบาทแบ่งเป็นกองละ100บาท เหรียญ 2บาทแบ่งเป็นกองละ100บาท เหรียญ 5บาทแบ่งเป็นกองละ100บาท และเหรียญ10บาทแบ่งเป็นกองละ100บาท ส่วนธนบัตรให้แยกเป็นชนิดเช่นกัน) • วิธีการแยกเงินของนักเรียน มีข้อดีอย่างไร (ตัวอย่างคำ ตอบ สะดวกต่อการนับ จำนวนเงิน และใช้เวลานับที่รวดเร็วขึ้น) 2. นักเรียนศึกษาค้นคว้าและรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง แนวคิดเชิง คำนวณ จากแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ ที่หลากหลาย เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต ตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/1 ภาระงาน/ชิ้นงาน แผนภาพการแจกแจงเทคโนโลยี ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Step 1


99 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean แนวคิดเชิงคำ�นวณ 9 ในก�รจับคู่ช้อนส้อมเพื่อจัดชุดสำ�รับ รับประท�นอ�ห�ร ถ้�ในบ้�นของนักเรียน มีช้อนและส้อมที่คละสีแล้วเร�ต้องก�รจับคู่ ช้อนกับส้อมจำ�นวน6คู่นักเรียนจะมีวิธีก�ร อย่�งไร ภาพที่ 1.2 ช้อนส้อมคละสี แนวคิดที่ 1 ทำ�ต�มขั้นตอนข้�งต้นจนครบ6คู่ สุ่มหยิบเฉพ�ะส้อมทีละคัน จนกว่�จะได้แบบที่คู่กัน 1 สุ่มหยิบช้อน1คัน 2 3. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ แนวคิดการจับคู่ช้อนกับส้อมที่ คละแบบกันจำนวน 6 คู่ โดยตอบ คำถาม ดังนี้ • ถ้ า สุ่ ม ห ยิ บ ช้ อ น คั น แ ร ก ได้สีฟ้า จะมีโอกาสสุ่มหยิบส้อม สีฟ้าเป็นเท่าไร (1ใน6) • ถ้ า สุ่ ม ห ยิ บ ช้ อ น คั น ที่ ส อ ง ได้สีม่วง จะมีโอกาสสุ่มหยิบส้อม สีม่วงเป็นเท่าไร (1ใน5) • ถ้ า สุ่ ม ห ยิ บ ช้ อ น คั น ที่ ส า ม ได้สีแดง จะมีโอกาสสุ่มหยิบส้อม สีแดงเป็นเท่าไร (1ใน4) • ถ้ า สุ่ ม ห ยิ บ ช้ อ น คั น ที่ สี่ ได้สีเหลือง จะมีโอกาสสุ่มหยิบส้อม สีเหลืองเป็นเท่าไร (1ใน3) • ถ้ า สุ่ ม ห ยิ บ ช้ อ น คั น ที่ ห้ า ได้สีเขียว จะมีโอกาสสุ่มหยิบส้อม สีเขียวเป็นเท่าไร (1ใน2) ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 ข้อใดคือประโยชน์ของแนวคิดเชิงคำนวณ 1 ช่วยให้ทำ งานต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว 2 ช่วยให้กระบวนการคิดเหมือนคอมพิวเตอร์ 3 แก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตได้อย่างเป็นระบบและมีขั้นตอน 4 สามารถจดจำและบันทึกข้อมูลได้เป็นจำนวนมาก (เฉลย 3 เพราะแนวคิดเชิงคำนวณมีกระบวนการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและมีขั้นตอน) NET แนวข้อสอบ O-NET/PISA


สุดยอดคู่มือครู 1010 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 10 เทคโนโลยี(วิทย�ก�รคำ�นวณ)ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่2 แนวคิดที่ 2 จ�กแนวคิดก�รแก้ปัญห�ข้�งต้นพบว่� ทั้ง 2 แนวคิดส�ม�รถแก้ปัญห�ได้สำ�เร็จทั้ง 2 แบบแต่เมื่อ ทดสอบแล้วพบว่� แนวคิดที่ 2 ใช้เวล�น้อยกว่� เนื่องจ�กก�รสุ่มหยิบช้อนทั้งหมดม�ว�งแยกแต่ละสำ�รับ จนครบแล้วสุ่มหยิบส้อมทีละคัน ไม่ว่�จะได้ส้อมสีอะไรก็ส�ม�รถจับคู่ช้อนและส้อมที่เป็นสีเดียวกันได้ เร็วกว่�ก�รสุ่มหยิบช้อน1คันและสุ่มหยิบส้อมทีละคันจนกว่�จะเจอส้อมสีเดียวกันกับช้อน 1 2 สุ่มหยิบช้อนม�ว�งแยกแต่ละสำ�รับ หยิบส้อมทีละคันถ้�ห�กสีของส้อมตรงกับช้อนคันไหนให้นำ�ส้อมไปว�งกับช้อนสีนั้น 4. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ แนวคิดการจับคู่ช้อนกับส้อมที่ คละแบบกันจำนวน 6 คู่ (ต่อ) โดย ตอบคำถาม ดังนี้ • ถ้าสุ่มหยิบช้อนมาวางแยก แต่ละสำ รับแล้ว จะต้องหยิบส้อม มาวางคู่กับช้อนทั้งหมดกี่ครั้งถึงจะ ครบคู่ (6 ครั้ง) • นักเรียนคิดว่าแนวคิดที่ 1 กับแนวคิดที่ 2 แนวคิดใดใช้เวลา แก้ปัญหาได้น้อยที่สุด เพราะเหตุใด (ตัวอย่างคำ ตอบ แนวคิดที่2 ใช้เวลา แก้ปัญหาน้อยที่สุดเพราะว่ามีการนำช้อน มาวางแยกแต่ละสำ รับ แล้วหยิบส้อม ทีละคันมาวางให้ตรงสีกับช้อน ซึ่งหยิบ ส้อมเพียง 6 ครั้งก็ครบคู่ แต่แนวคิด ที่ 1 ต้องหยิบส้อมมากกว่า 6 ครั้ง ถึงจะครบคู่จึงใช้เวลานานกว่า) ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับแนวคิดเชิงคำนวณ 1 เป็นการแก้ปัญหาแบบมีลำดับขั้นตอน 2 เป็นกระบวนการคิดเหมือนหุ่นยนต์ 3 เป็นทักษะที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ต้องมี 4 แนวคิดเชิงนามธรรมเป็นองค์ประกอบ ของแนวคิดเชิงคำนวณ NET แนวข้อสอบ O-NET/PISA (เฉลย 2 เพราะ แ นวคิ ด เชิงคำ นวณคือการแก้ปัญหา หลังจากพบปัญหา วิเคราะห์ อ อ ก แ บ บวิ ธี ก าร แ ล ะ เริ่ ม กระบวนการแก้ปัญหาจนสำ เร็จ) ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2


1111 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean แนวคิดเชิงคำ�นวณ 11 สถ�นก�รณ์ข้�งต้นเป็นสถ�นก�รณ์ตัวอย่�งที่เป็นเรื่องใกล้ตัวและพบในชีวิตประจำ�วันแต่นักเรียน อ�จจะไม่เห็นคว�มสำ�คัญ ซึ่งถ้�ห�กคิดเพื่อแก้ปัญห�อย่�งเป็นขั้นตอนแล้วจะทำ�ให้ปัญห�ง่�ยขึ้น และแก้ปัญห�ได้อย่�งมีประสิทธิภ�พ แนวคิดเชิงคำ�นวณ (Computational Thinking) เป็นกระบวนก�รคิดเชิงวิเคร�ะห์คิดอย่�ง เป็นระบบด้วยเหตุผลอย่�งเป็นขั้นตอนเพื่อแก้ปัญห�ต่�ง ๆ ทั้งปัญห�ในชีวิตประจำ�วัน ปัญห�ท�งด้�น ก�รพัฒน�โปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นต้นโดยมีขั้นตอนในก�รคิดเชิงคำ�นวณอยู่4ขั้นตอนดังนี้ แผนภาพที่ 1.1 ขั้นตอนการคิดเชิงคำานวณ 1 2 3 4 1 ก�รแจกแจง (Decomposition) ก�รคิด ห�รูปแบบ (Pattern Recognition) ก�รคิด เชิงน�มธรรม (Abstraction) ก�รออกแบบ ขั้นตอนวิธี (Algorithm Design) แนวคิด เชิงคำ�นวณ 5. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ ขั้นตอนการคิดเชิงคำนวณ บันทึก คำ ตอบเป็นแผนภาพความคิดบน กระดาน แล้วร่วมกันตอบคำ ถาม ดังตัวอย่าง การคิดหารูปแบบ (Pattern Recognition) การออกแบบขั้นตอนวิธี (Algorithm Design) การแจกแจง (Decomposition) การคิดเชิงนามธรรม (Abstraction) แนวคิด เชิงคำ นวณ ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 • แนวคิดเชิงคำนวณหมายถึงอะไร (ตัวอย่างคำ ตอบ เป็นการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างเป็นระบบด้วยเหตุผลอย่าง เป็นขั้นตอน เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งปัญหา ในชีวิตประจำวันปัญหาทางด้านการพัฒนา โปรแกรมคอมพิวเตอร์) • นักเรียนคิดว่าสามารถนำ ขั้นตอนในการคิดเชิงคำนวณไปใช้ แก้ปัญหาได้หรือไม่ (ได้) การออกแบบผังงานอยู่ในขั้นตอนใดของแนวคิดเชิงคำนวณ 1 การแจกแจง 2 การคิดหารูปแบบ 3 การคิดเชิงนามธรรม 4 การออกแบบขั้นตอนวิธี NET แนวข้อสอบ O-NET/PISA (เฉลย 4 เพราะการออกแบบขั้นตอนวิธี จะนำผังงานเข้ามาช่วยแก้ปัญหา ทำให้ การแก้ปัญหาเป็นไปตามขั้นตอน)


สุดยอดคู่มือครู 1212 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA ใบมีด ทำ�จ�กโลหะแข็ง ลับผิวด้�นนอก เพื่อเพิ่มแรงเฉือน ด้ามจับ ออกแบบให้สอดนิ้ว เพื่อจับได้ถนัดมือ หมุด ตรึงใบมีดเป็นจุดหมุน และล็อกให้ใบมีดทั้ง 2 แนบชิดกัน เป็นก�รแบ่งปัญห�ที่ซับซ้อนออกเป็นส่วนย่อยๆซึ่งจะทำ�ให้ปัญห�ที่กำ�ลังพิจ�รณ� จัดก�รได้ง่�ยขึ้นแก้ปัญห�ได้ตรงประเด็นและครอบคลุมปัญห�ม�กยิ่งขึ้น ตัวอย่�งที่ 1 กรรไกร กรรไกรเป็นเครื่องมือที่ใช้ในก�รตัดวัสดุบ�งๆโดยใช้แรงกดไม่ม�กเมื่อวิเคร�ะห์ แยกส่วนของกรรไกรจะส�ม�รถอธิบ�ยได้ดังนี้ การแจกแจง ทั้งนี้ในก�รออกแบบกรรไกรจะใช้หลักก�รค�นอันดับที่1ซึ่งมีจุดหมุนอยู่ตรงกล�ง ยิ่งว�งวัสดุใกล้จุดหมุนจะยิ่งผ่อนแรง 12 เทคโนโลยี(วิทย�ก�รคำ�นวณ)ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่2 เหตุใดจึงต้องมีก�รแจกแจงปัญห� คำ�ถ�มสำ�คัญ ก�รแจกแจง (Decomposition) ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 6. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ ปากกากด โดยวาดภาพปากกา และแยกส่วนประกอบ จากนั้นอธิบาย หน้าที่ส่วนต่าง ๆ แล้วตอบคำถาม ดังตัวอย่าง ที่หนีบ ที่กด สปริง ปลอกปากกา หมึก ยางจับ ลูกลื่น ส่วนประกอบ หน้าที่การทำงาน 1. ลูกลื่น เป็นส่วนที่เขียนลื่นไหลและทำ ให้ นํ้าหมึกไหลไปบนกระดาษ 2. ยางจับ ทำจากยาง ช่วยให้จับปากกา ได้สะดวกสบาย 3. หมึก เป็นน้าหมึกสีน ํ ้าเงิน สีแดง หรือสีดำ ํ เพื่อใช้ในการบันทึกข้อมูลลง บนกระดาษ 4. ที่หนีบ ช่วยการหนีบยึดเกาะกับกระเป๋า เสื้อหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ 5. ที่กด ช่วยกดเวลาต้องการใช้งาน 6. สปริง ทำหน้าที่ยืดหรือหด 7. ปลอกปากกา ใช้เป็นด้ามจับของปากกา • เหตุใดจึงต้องมีการแจกแจงปัญหา (ตัวอย่างคำ ตอบ เป็นการแบ่งปัญหา เป็นส่วนย่อย ๆ ซึ่งจะทำ ให้ปัญหา ที่กำลังพิจารณาจัดการได้ง่ายขึ้นแก้ปัญหา ได้ตรงประเด็น และครอบคลุมปัญหา มากยิ่งขึ้น) การแจกแจงมีความสำคัญอย่างไร 1 ใช้ลำดับความสำคัญของปัญหา 2 ทำ ให้เกิดจุดเชื่อมโยงของปัญหา 3 ทำ ให้แก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น 4 ใช้หาจุดที่เหมือนกัน NET แนวข้อสอบ O-NET/PISA (เฉลย 3 เพราะการแจกแจงเป็นการแบ่งปัญหา หรืองานที่กำลังทำออกเป็นส่วนย่อยเพื่อทำให้จัดการ กับปัญหาหรืองานนั้นๆได้ง่ายขึ้น


1313 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean แนวคิดเชิงคำ�นวณ 13 เกมบันไดงูมีกติก�ก�รเล่นเกมคือให้ผู้เล่นแต่ละคนทอยลูกเต๋�เพื่อสุ่มจำ�นวนช่องเดินห�กผู้เล่น เดินไปตกในช่องท�งขึ้นบันไดจะเลื่อนตัวเดินไปอีกฝั่งแต่ถ้�ห�กผู้เล่นเดินไปตกในช่องหัวงูจะเลื่อนตัวเดิน ไปที่ห�งของงูถ้�ผู้เล่นเดินไปตกที่ช่องว่�งจะเลื่อนไปช่องนั้น ห�กผู้เล่นคนใดไปถึงช่อง FINISH ก่อน จะเป็นผู้ชนะ ก�รแยกส่วนปัญห�ของเกมบันไดงูให้แบ่งเหตุก�รณ์ที่ตำ�แหน่งของตัวเดิน เดินไปถึงจุดหม�ย เป็นส่วนย่อยดังนี้ เกม บันไดงู ก�รดำ�เนินก�รเมื่อเดินไปหยุดที่ช่องว่�ง ก�รดำ�เนินก�รเมื่อเดินไปหยุดที่หัวงู ก�รดำ�เนินก�รเมื่อเดินไปหยุดที่ท�งขึ้นบันได ตัวอย่�งที่ 2 เกมบันไดงูมห�สนุก ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 7. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ เกมบันไดงูมหาสนุก โดยแจกแจง องค์ประกอบลงในตาราง พร้อมระบุ หน้าที่องค์ประกอบต่าง ๆ แล้ว ตอบคำถาม ดังตัวอย่าง องค์ประกอบ หน้าที่ 1. ช่องว่าง ถ้าตกที่ช่องว่างจะเลื่อนไปช่องนั้น 2. ช่องหัวงู จะเลื่อนตัวเดินไปที่หางของงู 3. ช่องทางขึ้น บันได จะเลื่อนตัวเดินไปทางลงบันได 4. ช่อง FINISH ใครถึงก่อนเป็นผู้ชนะ 5. ตัวเดิน ใช้ระบุตำแหน่งที่ช่องปัจจุบัน 6. ลูกเต๋า ใช้ทอยเพื่อนำแต้มมาเดินตาม เลขช่อง 7. ตัวเลขช่อง บอกตำแหน่งของช่อง • จำนวนผู้เล่นเกมบันไดงูควรมี กี่คน (ตัวอย่างคำ ตอบ ประมาณ 2-5 คน) • เกมบันไดงูมีประโยชน์อย่างไร (ตัวอย่างคำ ตอบ ฝึกการคิดคํานวณ ในการบวกเลขและการวางแผน) 8. นักเรียนร่วมกันสรุปความคิด รวบยอดเกี่ยวกับการแจกแจง ดังนี้ • การแจกแจงเป็นการแยกส่วน ย่อย ๆ ออกมา ซึ่งทำ ให้แก้ปัญหา ได้ง่ายขึ้น ตรงประเด็นขึ้น และ ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น


สุดยอดคู่มือครู 1414 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 14 เทคโนโลยี(วิทย�ก�รคำ�นวณ)ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่2 กิจกรรมที่ 1.1 ก�รแจกแจงปัญห�ย่อย วัสดุอุปกรณ์ 1. กระด�ษสำ�หรับทำ�กิจกรรม 1 แผ่น 2. ป�กก� 1 ด้�ม วิธีปฏิบัติ 1. นักเรียนเลือกเทคโนโลยีที่สนใจม� 1ชนิด 2. ศึกษ�ก�รทำ�ง�นของเทคโนโลยีที่เลือก 3. คิดแบบแยกปัญห�ย่อยแล้วเขียนอธิบ�ยด้วยแผนภ�พ ดังตัวอย่�ง กรรไกรเป็นเครื่องมือที่ใช้ในก�ร ตัดวัสดุบ�ง ๆ โดยใช้แรงกดไม่ม�ก เมื่อ วิเคร�ะห์แยกส่วนกรรไกร จะส�ม�รถ อธิบ�ยได้ดังนี้ ใบมีด ทำ�จ�กโลหะแข็ง ลับผิวด้�นนอก เพื่อเพิ่มแรงเฉือน หมุด ตรึงใบมีดเป็นจุดหมุน และล็อกให้ใบมีดทั้ง 2 แนบชิดกัน ด้�มจับ ออกแบบให้สอดนิ้ว เพื่อจับให้ถนัดมือ 9. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมที่ 1.1 การแจกแจงปัญหาย่อย โดยการ เลือกเทคโนโลยีที่สนใจมา 1 ชนิด และศึกษาการทำ งานของเทคโนโลยี ที่เลือก จากนั้นคิดแบบแยกปัญหาย่อย แล้วเขียนอธิบายแผนภาพ ดังตัวอย่าง Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ 14 เทคโนโลยี(วิทย�ก�รคำ�นวณ)ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่2 กิจกรรมที่ 1.1 ก�รแจกแจงปัญห�ย่อย วัสดุอุปกรณ์ 1. กระด�ษสำ�หรับทำ�กิจกรรม 1 แผ่น 2. ป�กก� 1 ด้�ม วิธีปฏิบัติ 1. นักเรียนเลือกเทคโนโลยีที่สนใจม� 1ชนิด 2. ศึกษ�ก�รทำ�ง�นของเทคโนโลยีที่เลือก 3. คิดแบบแยกปัญห�ย่อยแล้วเขียนอธิบ�ยด้วยแผนภ�พ ดังตัวอย่�ง กรรไกรเป็นเครื่องมือที่ใช้ในก�ร ตัดวัสดุบ�ง ๆ โดยใช้แรงกดไม่ม�ก เมื่อ วิเคร�ะห์แยกส่วนกรรไกร จะส�ม�รถ อธิบ�ยได้ดังนี้ ใบมีด ทำ�จ�กโลหะแข็ง ลับผิวด้�นนอก เพื่อเพิ่มแรงเฉือน หมุด ตรึงใบมีดเป็นจุดหมุน และล็อกให้ใบมีดทั้ง 2 แนบชิดกัน ด้�มจับ ออกแบบให้สอดนิ้ว เพื่อจับให้ถนัดมือ กิจกรรมนี้ประเมินตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/1 10. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจ เป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ • การแจกแจงเป็นกระบวนการ หนึ่งในแนวคิดเชิงคำนวณ ซึ่งเป็น การแยกปัญหาออกเป็นส่วนย่อย ๆ จะช่วยให้การแก้ปัญหานั้นง่ายขึ้น แ ล ะ เ ป็ น ก า ร คิ ด ที่ ใ ห้ เ ห ตุ ผ ล คิดอย่างเป็นระบบ ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Step4 Step5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า บริการสังคม และจิตสาธารณะ 11. นักเรียนแต่ละคนออกมานำ เสนอ เทคโนโลยีที่เลือก โดยอธิบาย การทำงาน การคิดแบบแยกปัญหาย่อย จากแผนภาพหน้าชั้นเรียน เพื่อ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน 12. นักเรียนจัดทำ ป้ายความรู้เกี่ยวกับ การแจกแจงเทคโนโลยี โดยนำมาติด บริเวณหน้าชั้นเรียน เพื่อเผยแพร่ ความรู้แก่สมาชิกในโรงเรียน


1515 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean แนวคิดเชิงคำ�นวณ 15 ก�รคิดห�รูปแบบ (Pattern Recognition) ก�รคิดห�รูปแบบเป็นก�รสังเกตสิ่งที่มี คว�มคล้�ยคลึงกัน ทั้งในด้�นลักษณะก�รทำ�ง�น หรือพฤติกรรม ซึ่งสิ่งที่มีรูปแบบเดียวกัน มีแนวโน้มที่จะใช้แนวคิดเดียวกันในก�รอธิบ�ย ทำ�ให้ลดจำ�นวนของปัญห�และลดระยะเวล� ในก�รทำ�ง�นได้ ตัวอย่�งที่ 1 ตัวเลขดิจิทัล ก�รคิดห�รูปแบบช่วยให้เร� แก้ไขปัญห�ได้อย่�งไร ก�รแสดงผลตัวเลขดิจิทัล จะเกิดจ�กก�รเปิด-ปิดของหลอดไฟ LED ทั้ง 7 ดวง ในรูปแบบ ที่แตกต่�งกันซึ่งหลอดไฟแต่ละดวงจะถูกควบคุมก�รเปิด-ปิดด้วยสัญญ�ณท�งไฟฟ้� 7bit ดังนั้น ก�รแสดงผลตัวเลขแต่ละตัวจัดเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้น เพื่อจะส่งข้อมูลแสดงผลเป็น ตัวเลขดิจิทัลต�มต้องก�ร ถ้�ห�กมีก�รส่งสัญญ�ณ 1111111คือก�รส่งสัญญ�ณให้เปิดไฟ LED พร้อมกันทั้ง 7ดวงจะแสดงเป็นตัวเลข8 0110000 1101101 1111001 0110011 1011011 1011111 1110000 1111111 1111011 1111110 a g d e f c b g f com a b e d com c dot หลอด a b c d e f 1 1 1 1 1 1 เลข 1 คือก�รส่งสัญญ�ณไฟฟ้� เลข 0 คือก�รไม่ส่งสัญญ�ณไฟฟ้� g 1 คำ�ถ�มสำ�คัญ 1. นักเรียนสังเกตและสนทนาเกี่ยวกับ การคิดหารูปแบบ โดยศึกษาตัวเลข ดิจิทัล แล้วตอบคำถาม ดังนี้ • นักเรียนรู้จักตัวเลขดิจิทัลหรือไม่ (รู้จัก/ไม่รู้จัก) • นักเรียนพบเห็นตัวเลขดิจิทัล จากที่ใดบ้าง (ตัวอย่างคำ ตอบ สัญญาณไฟจราจร จอแสดงการแข่งขันฟุตบอลป้ายโฆษณา) 2. นักเรียนร่วมกันสังเกตและรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง การคิดหารูปแบบ จากแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ ที่หลากหลาย เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต ว 4.2 ม.2/1 ภาระงาน/ชิ้นงาน การคิดหารูปแบบจากสถานการณ์ต่าง ๆ ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Step 1 ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 3. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ การแสดงผลตัวเลขดิจิทัล โดยตอบ คำถาม ดังนี้ • ถ้าส่งสัญญาณ 1111111 จะแสดงหมายเลขใด (เลข8) • การคิดหารูปแบบช่วยให้เรา แก้ไขปัญหาได้อย่างไร (ทำ ให้ลดจำ นวนของปัญหาและลด ระยะเวลาในการทำงานได้) • ถ้านำ ตัวเลขดิจิทัลมาต่อกัน เป็นเลข 88 จะสามารถแสดงเลข ออกมาได้มากที่สุดจำนวนเท่าไร (1,111) • สามารถเขียนการส่งสัญญาณ ไฟฟ้าได้อย่างไร (01100000110000) ตัวชี้วัด • ตัวเลขดิจิทัลใดที่มีการส่ง สัญญาณไฟฟ้ามากที่สุด (เลข8)


สุดยอดคู่มือครู 1616 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 16 เทคโนโลยี(วิทย�ก�รคำ�นวณ)ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่2 หลังจ�กที่ทำ�ก�รคิดแยกส่วนปัญห�แล้ว จ�กนั้นทำ�ก�รวิเคร�ะห์เพื่อค้นห�รูปแบบที่เกิดขึ้นในเกม จะพบพฤติกรรมที่มีลักษณะซำ้� ๆกล่�วคือ 1. เมื่อเดินไปตกที่ท�งขึ้นบันไดจะต้องเลื่อนตัวเดินขึ้นไปท�งลงบันได 2. เมื่อเดินไปตกที่หัวของงูจะต้องเลื่อนตัวเดินลงม�ที่ห�งของงู 3. เมื่อตกที่ช่องว่�งจะไม่เกิดเหตุก�รณ์ใดๆ ซึ่งจะทำ�ให้เร�เข้�ใจก�รทำ�ง�นของเกมได้รวดเร็วขึ้น เนื่องจ�กมีก�รจัดหมวดหมู่ของคว�มคิด และก�รทำ�ง�นเป็นส่วนๆ ตัวอย่�งที่ 2 เกมบันไดงูมห�สนุก 4. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับเกม บันไดงูมหาสนุก โดยตอบคำ ถาม ดังนี้ • ถ้าทอดลูกเต๋าครั้งที่ 1 ได้ 4 แต้ม และครั้งที่ 2 ได้ 6 แต้ม แล้วจะเดิน ไปตกที่ช่องหมายเลขใด (ช่องหมายเลข20) • ถ้ า ท อ ด ลู ก เ ต๋ า ต ก ที่ ช่ อ ง หมายเลข 98 จะต้องทอดลูกเต๋า ให้ได้กี่แต้มถึงจะตกช่อง FINISH (2แต้ม) 5. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ การคิดแยกส่วนปัญหาของเกมบันไดงู มหาสนุก แล้วเขียนบันทึกเป็นตาราง กติกาเกมบันไดงูมหาสนุกลงใน กระดาษ ดังตัวอย่าง ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 กติกาเกมบันไดงูมหาสนุก เมื่อทอดลูกเต๋า รูปแบบที่เกิดขึ้น ตกทางขึ้นบันได ตกหัวงู ตกช่องว่าง เลื่อนไปทางลงบันได เลื่อนไปทางหางงู ไม่เกิดเหตุการณ์ใด ๆ 6. นักเรียนร่วมกันสรุปความคิด รวบยอดเกี่ยวกับการคิดหารูปแบบ ดังนี้ • การคิดหารูปแบบเป็นการ สังเกตสิ่งที่มีความคล้ายคลึงกัน ทั้ ง ใ น ด้ า น ลั ก ษ ณ ะ ก า ร ทำ งาน หรือพฤติกรรม ซึ่งมีแนวโน้มที่จะใช้ แนวคิดเดียวกันในการอธิบาย หรือแก้ปัญหา ทำ ให้ลดจำ นวน ของปัญหาและลดระยะเวลาในการ ทำ งานได้ พิจารณาแบบภาพต่อไปนี้ 5 7 11 13 17 ? ควรเติมเลขอะไรแทนเครื่องหมายคำถาม 1 19 2 21 3 23 4 25 (เฉลย 1 เพราะจากแบบรูปเป็นลำดับของจำนวนเฉพาะซึ่งจำนวนเฉพาะที่ต่อจาก 17 คือ19นั่นเอง NET แนวข้อสอบ O-NET/PISA


1717 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean แนวคิดเชิงคำ�นวณ 17 กิจกรรมที่ 1.2 การคิดหารูปแบบ วัสดุอุปกรณ์ 1. กระดาษสำาหรับทำากิจกรรม 2 แผ่น 2. ปากกา 1 ด้าม วิธีปฏิบัติ 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 3คน 2. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อวิเคราะห์หารูปแบบและตอบคำาถามของสถานการณ์ต่อไปนี้ 1. 2. 3. 4. 3 4 6 9 ? 4 1 2 3 0 ? 7 D A O C C E T G O ? 5 ? 7. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมที่ 1.2 การคิด หารูปแบบ โดยนักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน แล้วร่วมกันอภิปราย เพื่อวิเคราะห์หารูปแบบ และ ตอบคำถามจากสถานการณ์ ดังนี้ Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ 1. 2. 3. 4. 3 4 6 9 4 1 2 3 0 7 D A O C C E T G O I 5 13 2


สุดยอดคู่มือครู 1818 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 18 เทคโนโลยี(วิทย�ก�รคำ�นวณ)ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่2 5. 6. 6 2 6 9 8 4 3 ? ? 8. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมที่ 1.2 การคิด หารูปแบบ โดยนักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน แล้วร่วมกันอภิปราย เพื่อวิเคราะห์หารูปแบบ และ ตอบคำ ถามจากสถานการณ์ (ต่อ) ดังนี้ Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ 5. 6. 6 2 6 9 8 4 3 12


1919 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean แนวคิดเชิงคำ�นวณ 19 7. 8. ? ? 9. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมที่ 1.2 การคิด หารูปแบบ โดยนักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน แล้วร่วมกันอภิปราย เพื่อวิเคราะห์หารูปแบบ และ ตอบคำ ถามจากสถานการณ์ (ต่อ) ดังนี้ Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ 7. 8. ?


สุดยอดคู่มือครู 2020 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 20 เทคโนโลยี(วิทย�ก�รคำ�นวณ)ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่2 10. 6 7 9 12 9 ? 12 15 11 ? ? 17 12 13 15 ? 9. 4 5 12 18 20 21 ? 40 36 24 10 8 10. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมที่ 1.2 การคิด หารูปแบบ โดยนักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน แล้วร่วมกันอภิปราย เพื่อวิเคราะห์หารูปแบบ และตอบ คำถามจากสถานการณ์ (ต่อ) ดังนี้ Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ กิจกรรมนี้ประเมินตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/1 11. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็น ความรู้ร่วมกัน ดังนี้ • การคิดหารูปแบบเป็นทักษะการ หาความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้อง แนวโน้ม และลักษณะทั่วไปของสิ่งต่าง ๆ โดย ทั่วไปแล้วจะเริ่มพิจารณาปัญหา จากนั้นใช้ทักษะการแยกส่วนประกอบ ทำ ให้ได้องค์ประกอบภายในอื่น ๆ แล้วใช้ทักษะการคิดหารูปแบบ เพื่อสร้างความเข้าใจองค์ประกอบ ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Step4 Step5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า บริการสังคม และจิตสาธารณะ 12. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันนำ เสนอ วิธีการหาคำ ตอบจากสถานการณ์ หน้าชั้นเรียน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน 13. นักเรียนนำความรู้ที่ได้ในเรื่อง การคิด หารูปแบบไปประยุกต์ใช้กับการ ทำ งานในชีวิตประจำ วันของตนเอง แ ล ะ นำ ค ว า ม รู้ ไ ป บ อ ก ต่ อ ผู้ อื่ น หรือเพื่อน เพื่อเป็นแนวทางในการ ปฏิบัติอย่างถูกต้อง 10. 6 7 9 12 9 ? 12 15 11 ? ? 17 12 13 15 ? 9. 4 5 12 18 20 21 ? 40 36 24 10 8 42 10 12 14 18


2121 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean คำ�ถ�มสำ�คัญ ก�รคิดเชิงน�มธรรม (Abstraction) แนวคิดเชิงคำ�นวณ 21 เป็นกระบวนก�รคิดแก้ปัญห�โดยก�รคัดเลือกสิ่งที่จำ�เป็นต่อปัญห�ไว้และคัดเลือกสิ่งที่ไม่จำ�เป็น ต่อปัญห�ออกไป ซึ่งทำ�ให้เหลือเฉพ�ะส่วนที่สำ�คัญและจำ�เป็นต่อปัญห�เท่�นั้น โดยในขั้นตอนนี้จะทำ�ให้ กรอบของปัญห�แคบลงและมีคว�มชัดเจนขึ้นทำ�ให้แก้ปัญห�ได้ตรงจุดม�กยิ่งขึ้น ในก�รปฏิบัติก�รคิดเชิงน�มธรรม นักเรียนส�ม�รถสรุปเป็นส�ระสำ�คัญด้วยข้อคว�มหรือส�ม�รถ ถ่�ยทอดส�ระสำ�คัญให้เป็นแผนภ�พที่แสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับก�รห�คว�มสัมพันธ์ได้ รถยนต์เคลื่อนที่ด้วยอัตร�เร็วคงตัวได้ระยะท�ง100เมตรในเวล� 10วิน�ทีจงห�อัตร�เร็วในก�ร เคลื่อนที่ของรถยนต์คันนี้ อัตร�เร็ว = ระยะท�ง (เมตร) เวล� (วิน�ที) แทนค่� = 100 (เมตร) 10 (วิน�ที) = 10 เมตร/วิน�ที สรุปได้ว่� รถยนต์คันนี้มีอัตร�เร็วเคลื่อนที่10 เมตรต่อวิน�ที ระยะท�ง = 100 เมตร เวล� = 10 วิน�ที อัตร�เร็ว = ? ตัวอย่�งที่ 1 ก�รคำ�นวณห�อัตร�เร็ว ก�รคิดเชิงน�มธรรมมีลักษณะอย่�งไร 1. นักเรียนสังเกตและรวบรวมข้อมูล เ กี่ ย ว กั บ ก า ร คิ ด เ ชิ ง น า ม ธ ร ร ม โดยศึกษาการคำ นวณหาอัตราเร็ว แล้วตอบคำถาม ดังนี้ • ค่ า ที่ ใ ช้ ใ น ก า ร คำ นวณหา อัตราเร็วมีอะไรบ้าง (1.ระยะทาง 2. เวลา และ 3.อัตราเร็ว) • สูตรการคำ นวณหาอัตราเร็ว คืออะไร (อัตราเร็ว = ระยะทาง(เมตร) เวลา(วินาที) ) • นักเรียนสามารถแทนค่าด้วย ตัวอักษรภาษาอังกฤษอย่างไร พร้อมอธิบาย (v = v คือ อัตราเร็ว, s คือ ระยะทาง(เมตร), t คือ เวลา(วินาที)) 2. นักเรียนศึกษาค้นคว้าและรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง การคิดเชิง นามธรรม จากแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ ที่หลากหลาย เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต ว 4.2 ม.2/1 ภาระงาน/ชิ้นงาน การวาดภาพแผนที่สถานที่สำคัญในชุมชน ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Step 1 ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 3. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ การคิดเชิงนามธรรม โดยตอบคำถาม ดังนี้ • ถ้ารถวิ่งด้วยความเร็ว 25 เมตร/ วินาที โดยเคลื่อนที่เป็นระยะทาง 500 เมตร ถามว่ารถคันนี้จะใช้เวลาเท่าไร (20วินาที) • ถ้ากระเบื้องขนาดกว้างหนึ่ง หน่วย ยาวหนึ่งหน่วย ต้องการ ปูกระเบื้องบนพื้นที่ขนาดกว้าง s t ตัวชี้วัด 16 หน่วย ยาว 32 หน่วย จะต้องใช้ กระเบื้องจำนวนกี่แผ่น (16 ×32 = 512แผ่น) • การคิดเชิงนามธรรมมีลักษณะ อย่างไร (ตัวอย่างคำ ตอบ เป็นการคิดแก้ปัญหา โดยการคัดเลือกสิ่งที่จำ เป็นไว้และ คัดเลือกสิ่งที่ไม่จำ เป็นออกไป)


สุดยอดคู่มือครู 2222 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 22 เทคโนโลยี(วิทย�ก�รคำ�นวณ)ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่2 ภาพที่ 1.3 ระบบย่อยอาหาร เมื่อเร�รับประท�นอ�ห�รเข้�ไป อ�ห�รจะผ่�นเข้�สู่ช่องป�ก ผ่�นก�รย่อยเชิงกลด้วยก�รบดเคี้ยว ของฟันและเชิงเคมีด้วยก�รหลั่งเอนไซม์จ�กต่อมนำ้�ล�ย จ�กนั้นอ�ห�รจะเคลื่อนที่เข้�สู่หลอดอ�ห�ร โดยผ่�นคอหอย เพื่อเดินท�งไปยังกระเพ�ะอ�ห�รซึ่งมีก�รย่อยโปรตีนและเคลื่อนที่ไปยังลำ�ไส้เล็ก ในส่วนนี้จะมีก�รย่อยและดูดซึมส�รอ�ห�รม�กที่สุด แล้วไปที่ลำ�ไส้ใหญ่เพื่อดูดซึมนำ้�และเกลือแร่ จนเหลือเพียงก�กอ�ห�รแล้วขับออกท�งทว�รหนักให้นักเรียนเขียนอธิบ�ยบทคว�มนี้เป็นรูปแบบแผนภ�พ ตัวอย่�งที่ 2 ระบบย่อยอ�ห�ร อัตร�เร็วกับคว�มเร็ว อัตร�เร็ว คือ ระยะท�งที่วัตถุเคลื่อนที่ได้ในหนึ่งหน่วยเวล� เป็นปริม�ณที่มีขน�ดเพียงอย่�งเดียว ใช้สัญลักษณ์V คว�มเร็วคือก�รกระจัดที่วัตถุเคลื่อนที่ได้ในหนึ่งหน่วยเวล� ใช้สัญลักษณ์ตัว  มีหน่วยเป็นเมตร/วิน�ที(m/s) เด็กควรรู้ Step5 4. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ การคิดเชิงนามธรรม โดยศึกษาระบบ ย่อยอาหาร แล้วบันทึกลงในผังงาน ลงบนกระดาน ดังตัวอย่าง ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 เริ่มต้น รับประทานอาหาร บดเคี้ยวด้วยฟัน อาหารเคลื่อนที่สู่หลอดอาหาร กระเพาะย่อยโปรตีน ลำ ไส้เล็กดูดซึมสารอาหาร ลำ ไส้ใหญ่ดูดซึมเกลือแร่ ขับถ่ายทางทวารหนัก จบ 5. นักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับการคิด เชิงนามธรรม ดังนี้ • ประโยชน์ของการคิดเชิงนามธรรม คืออะไร (ตัวอย่างคำ ตอบทำให้กรอบของปัญหา แคบลงและมีความชัดเจนขึ้น ทำ ให้ แก้ปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น)


2323 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean แนวคิดเชิงคำ�นวณ 23 เมื่อทำ�ก�รคิดแบบน�มธรรมเพื่อจับประเด็นสำ�คัญแล้วสรุปได้ว่� 1. เมื่อเดินไปตกที่ท�งขึ้นบันไดจะต้องเลื่อนตัวเดินขึ้นไปท�งลงบันได 2. เมื่อเดินไปตกที่หัวของงูจะต้องเลื่อนตัวเดินลงม�ที่ห�งของงู 3. เมื่อตกที่ช่องว่�งจะไม่เกิดเหตุก�รณ์ใดๆ กิจกรรมที่ 1.3 ก�รคิดเชิงน�มธรรม วัสดุอุปกรณ์ 1. กระด�ษสำ�หรับทำ�กิจกรรม 1 แผ่น 2. ดินสอ 1 แท่ง 3. ย�งลบ 1 ก้อน วิธีปฏิบัติ นักเรียนว�ดแผนที่สถ�นที่สำ�คัญในชุมชนหรือท้องถิ่น ระบุชื่อที่อยู่ของสถ�นที่นั้นพร้อมกับ เส้นท�งก�รเดินท�ง ตัวอย่�งที่ 3 กติก�ของเกมบันไดงู ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 6. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ การคิดเชิงนามธรรม โดยศึกษา กติกาของเกมบันไดงู แล้วตอบ คำถาม ดังนี้ • เกมบันไดงูมีกติกาอย่างไร (1. เมื่อเดินไปตกที่ทางขึ้นบันไดจะต้อง เลื่อนตัวเดินขึ้นไปทางลงบันได 2. เมื่อเดินไปตกที่หัวของงูจะต้องเลื่อน ตัวเดินลงมาที่หางของงู 3. เมื่อตกที่ช่องว่างจะไม่เกิดเหตุการณ์ ใดๆ) • ในการเล่นเกมบันไดงูจะได้ ผู้ชนะก็ต่อเมื่อเกิดเหตุการณ์ใด (ผู้เล่นคนใดคนหนึ่งเดินไปตกที่ช่อง FINISH ซึ่งเป็นช่องสุดท้ายของ เกมบันไดงู) 7. นักเรียนร่วมกันสรุปความคิดรวบยอด เกี่ยวกับการคิดเชิงนามธรรม ดังนี้ • คัดเลือกสิ่งที่จำ เป็นต่อปัญหาไว้ และเลือกสิ่งที่ไม่จำ เป็นต่อปัญหาออก เพื่อให้กรอบของปัญหาแคบลงและ มีความชัดเจนขึ้น Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Step4 Step5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า บริการสังคม และจิตสาธารณะ 8. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมที่ 1.3 การ คิดเชิงนามธรรม โดยการวาดแผนที่ สถานที่สำคัญในชุมชนหรือท้องถิ่น ระบุชื่อที่อยู่ของสถานที่พร้อม เส้นทางการเดินทาง กิจกรรมนี้ประเมินตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/1 • การคิดเชิงนามธรรมช่วยขจัด สิ่งที่ไม่จำ เป็นต่อปัญหาออกไป ทำ ให้ การแก้ปัญหานั้นชัดเจนและง่ายมาก ยิ่งขึ้น 10. นักเรียนนำ เสนอภาพวาดแผนที่ หน้าชั้นเรียน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน 11. นักเรียนนำ ความรู้จากการคิด เชิงนามธรรมไปประยุกต์แก้ปัญหา ในชีวิตประจำ วัน และนำ ความรู้ ไปบอกต่อผู้อื่นหรือเพื่อน เพื่อเป็น แนวทางในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ 9. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็น ความรู้ร่วมกัน ดังนี้


สุดยอดคู่มือครู 2424 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 24 เทคโนโลยี(วิทย�ก�รคำ�นวณ)ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่2 ก�รออกแบบขั้นตอนวิธี(Algorithm Design) ขั้นตอนวิธี (Algorithm) เป็นแนวท�งที่ชัดเจนที่ใช้ในก�รแก้ปัญห�หรือก�รทำ�ง�นต่�งๆเช่นวิธีก�ร ทำ�ส้มตำ� วิธีก�รยืม-คืนหนังสือจ�กห้องสมุด วิธีก�รจัดเรียงข้อมูล ซึ่งขั้นตอนวิธีจะเป็นตัวกำ�หนด ก�รทำ�ง�นให้เป็นลำ�ดับขั้นตอน ก�รออกแบบขั้นตอนวิธีเป็นก�รถ่�ยทอดคว�มคิดที่ใช้ในก�รแก้ปัญห�หรือก�รทำ�ง�น เพื่อทำ�ให้ ส�ม�รถนำ�แนวคิดที่ออกแบบไปปฏิบัติต�มและส�ม�รถศึกษ�ในภ�ยหลังได้ เครื่องมือที่นิยมใช้ในก�รออกแบบขั้นตอนวิธีได้แก่ 1. ก�รออกแบบขั้นตอนวิธีแบบบรรย�ย(Narrative Description) 2. ก�รออกแบบขั้นตอนวิธีด้วยรหัสลำ�ลอง (Pseudo Code) 3. ก�รออกแบบขั้นตอนวิธีด้วยผังง�น(Flowchart) 1. ก�รออกแบบขั้นตอนวิธีแบบบรรย�ย (Narrative Description) เป็นก�รอธิบ�ยขั้นตอนด้วยคำ�พูดที่เข้�ใจง่�ยเป็นลำ�ดับ 1. ฉีดนำ้�ใส่รถให้ทั่วเพื่อล้�งขจัดฝุ่น เศษดินและทร�ยต่�งๆออก 2. ผสมนำ้�ย�ล้�งรถ1ฝ�ต่อนำ้�ครึ่งถัง 3. นำ�ฟองนำ้�ชุบนำ้�ที่ผสมนำ้�ย� เช็ด ทำ�คว�มสะอ�ดให้ทั่วตัวรถ 4. ฉีดนำ้�ล้�งให้สะอ�ด ใช้ผ้�นุ่ม ๆ หรือผ้�ช�มัวร์ที่สะอ�ดเช็ดให้แห้ง ภาพที่ 1.4 การล้างรถยนต์ ตัวอย่�งที่ 1 ขั้นตอนวิธีก�รล้�งรถยนต์ ทำ�ไมจึงต้องมีก�รออกแบบขั้นตอนวิธี คำ�ถ�มสำ�คัญ 1. นักเรียนสังเกตกิจกรรมในชีวิต ประจำวัน โดยตอบคำถาม ดังนี้ • กิจกรรมในชีวิตประจำวันใดบ้าง ที่ต้องมีการทำ งานอย่างเป็นขั้นตอน (ตัวอย่างคำ ตอบ การยืม-คืนหนังสือ จากห้องสมุด การกดเงินผ่านตู้ATM การทำธุรกรรมออนไลน์) • นักเรียนคิดว่าการรับประทาน อาหารมีลำดับขั้นตอนหรือไม่ (มี) • นักเรียนจะใช้วิธีใด เพื่อให้ผู้อื่น รับรู้ลำดับขั้นตอนการทำ งาน (ตัวอย่างคำ ตอบการอธิบายด้วยคำ พูด การวาดภาพแผนผัง การแสดงท่าทาง การใช้รหัส) 2. นั ก เ รี ย น ต อ บ คำ ถ า ม เ กี่ ย ว กั บ เครื่องมือที่นิยมใช้ในการออกแบบ ขั้นตอนวิธี ดังนี้ • นักเรียนรู้จักเครื่องมือในการ ออกแบบขั้นตอนวิธีใดบ้าง (แบบบรรยายรหัสลำลองและผังงาน) 3. นักเรียนศึกษาค้นคว้าและรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง การออกแบบ ขั้นตอนวิธี จากแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ ที่หลากหลาย เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต ว 4.2 ม.2/1 ภาระงาน/ชิ้นงาน การออกแบบขั้นตอนวิธีแบบผังงาน เพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์ ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Step 1 ตัวชี้วัด


Click to View FlipBook Version