คู่มือครู

175 175 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean เทคโนโลยีการสื่อสาร 175 สาย USB Type B สาย mini USB สาย USB Type A โดยสาย USB ชนิดต่าง ๆ ภาพที่ 4.28 การเชื่อมต่ออุปกรณ์โดยสาย USB ชนิดต่าง ๆ ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 5. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับการ ถ่ายโอนข้อมูล (ต่อ) โดยตอบคำถาม ดังนี้ • นักเรียนสามารถพบสาย USB Type B ได้กับอุปกรณ์ใด (ตัวอย่างคำตอบเครื่องพิมพ์หรือเครื่อง สแกนเนอร์) • นักเรียนสามารถพบสาย mini USB ได้กับอุปกรณ์ใด ( ตัว อ ย่างคำ ตอบ ก ล้ อง ดิ จิ ทั ล สมาร์ตโฟน) • นักเรียนสามารถพบสาย USB Type A ได้กับอุปกรณ์ใด (ตัวอย่างคำตอบเมาส์คีย์บอร์ดลำโพง) • สาย USB 3.0 มีลักษณะที่ แตกต่างจากรูปแบบอื่นอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบสายUSB3.0 จะมีการ รับ-ส่งข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น ซึ่งความเร็ว สูงสุดอยู่ที่ 5Gbpsและที่หัวของ USB จะมีสีฟ้าเพื่อบ่งบอกว่าเป็น USB3.0) เสริมความรู้ ครูควรสอน ปัจจุบันมี USB ชนิดใหม่เกิดขึ้น คือ USB Type C ที่มีจุดเด่นที่สามารถเสียบ เชื่อมต่อโดยไม่ต้องคำนึงถึงขั้วเชื่อมต่อเพราะผู้ออกแบบต้องการทำ ให้สามารถ เชื่อมต่อได้ง่ายและยังสามารถรับ-ส่งข้อมูลได้ในปริมาณที่มาก ๆ รวมไปถึง การจ่ายกระแสไฟฟ้าที่เพียงพอต่อการกักเก็บพลังงานได้ด้วย

สุดยอดคู่มือครู 176 176 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 176 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2. ก�รถ่�ยโอนข้อมูลแบบขน�น (Parallel Data Transmission) เป็นการส่งข้อมูลหลายบิตพร้อมกัน ผ่านสายตัวนำาสัญญาณหลายเส้น ซึ่งจะเร็วกว่า การส่งข้อมูลทีละบิตแบบอนุกรมหลายเท่า ในปัจจุบันจึงใช้ในการส่งข้อมูลภายในบัสของ ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ไม่นิยมใช้ส่งข้อมูลกับ อุปกรณ์ภายนอก เพราะต้องใช้สายสัญญาณ หลายเส้น นอกจากนี้ยังมีการส่งบิตพาริตี (parity bit) ที่ใช้ในการตรวจสอบความผิดพลาดของ การรับ-ส่งสัญญาณ หรือควบคุมการรับ-ส่งข้อมูล แต่ละชุด ในอดีตจะใช้ parallel port ในการ เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับเครื่องพิมพ์ และฮาร์ดดิสก์ มาตรฐาน EIDE แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นมาตรฐาน SATA ซึ่งใช้การถ่ายโอนแบบอนุกรม ภาพที่ 4.30 การเชื่อมต่อฮาร์ดดิสก์มาตรฐาน EIDE โดยใช้สาย IDE ภาพที่ 4.32 ระบบบัสบนเมนบอร์ด ภาพที่ 4.29 การถ่ายโอนข้อมูลแบบขนาน ภาพที่ 4.31 การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับเครื่องพิมพ์ ด้วยสาย Parallel อุปกรณ์รับ อุปกรณ์ส่ง บิตพาริตี ดาตาบิต ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 6. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับการ ถ่ายโอนข้อมูล (ต่อ) โดยตอบคำถาม ดังนี้ • การถ่ายโอนข้อมูลแบบขนานมี ลักษณะการทำ งานอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ เป็นการส่งข้อมูลหลายบิต พร้อมกันผ่านสายตัวนำสัญญาณหลายเส้น) • จุดเด่นของการโอนข้อมูลแบบขนาน คืออะไร (ตัวอย่างคำตอบ มีการรับ-ส่งข้อมูล ที่รวดเร็ว) • นักเรียนสามารถพบการถ่ายโอน ข้อมูลแบบขนานได้กับอุปกรณ์ใด (ตัวอย่างคำตอบเมนบอร์ด, RAM,การ์ดจอ, การเชื่อมต่อฮาร์ดดิสก์โดยใช้สายIDE) 7. นักเรียนร่วมกันสรุปความคิดรวบยอด เกี่ยวกับการถ่ายโอนข้อมูล ดังนี้ • การส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ส่งไปยัง อุปกรณ์รับแบ่งได้ 2 แบบ คือ การถ่ายโอน ข้อมูลแบบอนุกรม เป็นการส่งข้อมูล ออกไปทีละบิตผ่านสายตัวนำ สัญญาณ เพียงเส้นเดียว และการถ่ายโอนข้อมูล แบบขนานเป็นการส่งข้อมูลหลายบิต พร้อมกันผ่านสายสัญญาณหลายเส้น Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Step4 Step5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า บริการสังคม และจิตสาธารณะ 10. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอแผนภาพความคิด เกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีการ ถ่ายโอนข้อมูลแบบอนุกรมและแบบขนาน โดยใช้โปรแกรมในการนำ เสนอสื่อ หน้าชั้นเรียน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน 11. นักเรียนสร้าง QR Code เกี่ยวกับการ ถ่ายโอนข้อมูล แล้วนำ ไปติดบริเวณ ห้องคอมพิวเตอร์ เพื่อเป็นการเผยแพร่ ความรู้ให้กับผู้อื่น 8. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน จากนั้น ร่วมกันเขียนแผนภาพความคิดเกี่ยวกับ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีการถ่ายโอน ข้ อ มู ล แ บ บ อ นุ ก ร ม แ ล ะ แ บ บ ข น า น โดยออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ พร้อม ตกแต่งให้สวยงาม กิจกรรมนี้ประเมินตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/3 9. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ ร่วมกัน ดังนี้ • การถ่ายโอนข้อมูลแบบอนุกรม นิยมใช้กับอุปกรณ์ต่อพ่วงภายนอก ส่งข้อมูลไม่มาก จะใช้สายประเภท USB เช่น เมาส์ คีย์บอร์ด เครื่องพิมพ์ โพรเจกเตอร์ ส่วนการ ถ่ายโอนข้อมูลแบบขนานจะไม่นิยมใช้ส่งข้อมูลกับอุปกรณ์ภายนอก เพราะต้องการใช้สายสัญญาณ หลายเส้น จึงใช้ในการส่งข้อมูลภายในบัสของระบบคอมพิวเตอร์ เช่น เมนบอร์ด

177 177 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean เทคโนโลยีการสื่อสาร 177 เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ตามขนาดพื้นที่ครอบคลุม เครือข่ายคอมพิวเตอร์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (computer network) เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง เข้าด้วยกัน โดยใช้สื่อกลางต่าง ๆ เชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย เพื่อทำาให้สามารถส่งข้อมูลแลกเปลี่ยนกัน ใช้ทรัพยากร การเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งประเภทโดยใช้เกณฑ์ดังต่อไปนี้ 1. เครือข่�ยคอมพิวเตอร์ต�มขน�ดพื้นที่ครอบคลุม แผนภาพที่ 4.13 เครือข่ายคอมพิวเตอร์ตามขนาดพื้นที่ครอบคลุม PAN LAN MAN WAN การเชื่อมต่อเครือข่ายแบ่งได้กี่ประเภทและแต่ละ ประเภทประกอบด้วยเครือข่ายย่อยอะไรบ้าง คำ�ถ�มสำ�คัญ 1. นักเรียนร่วมกันสังเกตภาพเครือข่าย คอมพิวเตอร์ แล้วตอบคำถาม ดังนี้ ว 4.2 ม.2/3 ภาระงาน/ชิ้นงาน การวาดภาพโครงสร้างการทำ งาน ข้อดี ข้อเสียของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ตาม รูปร่างเครือข่ายด้วยคอมพิวเตอร์ ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Step 1 A B C D • ภาพใดเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบ WAN (ภาพC) • ภาพใดเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบ MAN (ภาพD) • ภาพใดเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบ LAN (ภาพA) • ภาพใดเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบ PAN (ภาพB) • การเชื่อมต่อเครือข่ายแบ่งได้กี่ประเภท และแต่ละประเภทประกอบด้วยเครือข่ายย่อยอะไรบ้าง (มี3ประเภทได้แก่1. ตามขนาดพื้นที่ครอบคลุม แบ่งเป็นWANMANLANและPAN 2. ตามบทบาทหน้าที่ของคอมพิวเตอร์แบ่งเป็นเครือข่ายแบบรับ-ให้บริการและเครือข่ายระดับเดียวกัน 3. ตามรูปร่างเครือข่ายแบ่งเป็นแบบบัสแบบวงแหวนแบบดาวแบบแมชและแบบผสม) 2. นักเรียนศึกษาค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ จากแหล่งการเรียนรู้ อื่น ๆ ที่หลากหลาย เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต ตัวชี้วัด

สุดยอดคู่มือครู 178 178 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 178 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 1.1 WAN (Wide Area Network) หรือเครือข่ายบริเวณกว้าง เป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับ เครือข่ายอื่น ๆ ที่อยู่ห่างไกลเข้าด้วยกัน เช่น ระหว่างจังหวัด ระหว่างภูมิภาค จนถึงระหว่างประเทศ ภาพที่ 4.33 การเชื่อมโยงเครือข่ายแบบ WAN 1.2 MAN (Metropolitan Area Network)หรือเครือข่ายนครหลวง เป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยง หลาย ๆ LAN เข้าด้วยกัน เช่น แต่ละสาขาที่อยู่ห่างไกลกัน เชื่อมโยงหลายตึกเข้าด้วยกัน การเชื่อมต่อ เครือข่ายชนิดนี้นิยมใช้สาย fiber optics หรือ microwave เชื่อมต่อ ภาพที่ 4.34 การเชื่อมโยงเครือข่ายแบบ MAN LAN 1 ABC Inc. MY, USA LAN 2 XYZ Inc. CA, USA LAN 3 123 Inc. MN, USA INTERNET MAN WAN LAN LAN มหาวิทยาลัย โรงงาน ต่างประเทศ 3. นักเรียนร่วมกันเปรียบเทียบเครือข่าย แบบ WAN กับเครือข่ายแบบ MAN โดยบันทึกคําตอบลงในแผนภาพ ความคิด ดังตัวอย่าง และตอบคาถามํ ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 WAN ได้สินค้าตาม ความต้องการ MAN เป็นเครือข่ายบริเวณ กว้างที่ใช้เชื่อมโยง กับเครือข่ายอื่น ๆ ที่อยู่ไกลเข้าด้วยกัน เช่น ระหว่างจังหวัด ภูมิภาคจนถึงประเทศ ใช้เชื่อมโยง คอมพิวเตอร์ เข้าด้วยกัน ทําให้ส่ง ข้อมูลแลกเปลี่ยน กันได้ เป็นเครือข่ายที่ เชื่อมโยงหลาย ๆ LAN เข้าด้วยกัน เช่น ระหว่างตึก ระหว่างเมือง นิยมใช้สาย fiber optics หรือ microwave เชื่อมต่อ • การเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่าง จังหวัด ระหว่างภูมิภาค จนถึงระหว่าง ประเทศใช้เครือข่ายแบบใด (WAN(Wide Area Network)) • การเชื่อมโยงเครือข่ายหลายตึก เข้าด้วยกันใช้เครือข่ายแบบใด (MAN (Metropolitan Area Network)) เสริมความรู้ ครูควรสอน ความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงสุดของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน คือ ประเทศสิงคโปร์

179 179 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean เทคโนโลยีการสื่อสาร 179 1.3 LAN (Local Area Network) หรือเครือข่ายเฉพาะที่ เป็นเครือข่ายที่ใช้ในการเชื่อมโยง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน เช่น ภายในสำานักงาน ภายในอาคาร ภายในบ้าน ภาพที่ 4.35 การเชื่อมโยงเครือข่ายแบบ LAN 1.4 PAN (Persona Area Network) หรือเครือข่ายส่วนบุคคล เป็นเครือข่ายที่ใช้ส่วนบุคคล ซึ่งการเชื่อมต่อแบบนี้จะอยู่ระยะใกล้ เช่น การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ การเชื่อมต่อ ระหว่างคอมพิวเตอร์สองเครื่อง ภาพที่ 4.36 การเชื่อมโยงเครือข่ายแบบ PAN DSL Modem Firewall Switch 16 Port 10/100 Network Printer Bluetooth คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องพิมพ์ พีดีเอ ฮับ (hub) คอมพิวเตอร์พกพา 4. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อเครือข่าย LAN โดยบันทึกคําตอบเป็นแผนภาพ ความคิด ดังตัวอย่าง ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 DSL Modem Firewall Switch Router สาย LAN Gatway อุปกรณ์ที่ใช้ เชื่อมต่อ เครือข่าย LAN 5. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ตามขนาด พื้นที่ครอบคลุม โดยตอบคําถาม ดังนี้ • เครือข่ายแบบ LAN ใช้ในพื้นที่ใด (ตัวอย่างคําตอบ ภายในสํานักงาน ภายในอาคารภายในบ้าน) • ภายในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ของโรงเรียนเป็นการเชื่อมต่อเครือข่าย แบบใด (แบบLAN) • เครือข่ายแบบ PAN เป็นการ เชื่อมต่อแบบใด (ตัวอย่างคําตอบเชื่อมต่อแบบระยะใกล้ เช่น การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับโทรศัพท์- เคลื่อนที่ การเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ สองเครื่อง) • นั ก เ รี ย น มี วิ ธี ป้ อ ง กั น ก า ร สู ญ ห า ย ข อ ง ข้ อ มู ล จ า ก ก า ร ส่ ง Bluetooth อย่างไร (ตัวอย่างคําตอบ ตั้งรหัสผ่านทุกครั้ง ก่อนการเชื่อมต่อ) เสริมความรู้ ครูควรสอน PDA (Personal Digital Assistant) คือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก ซึ่งช่วยอานวยความสะดวกในการจดบันทึก เก็บข้อมูล เตือนเวลานัดหมาย หรือจัดการ ํ งานต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

สุดยอดคู่มือครู 180 180 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 180 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2. เครือข่�ยคอมพิวเตอร์ต�มบทบ�ทหน้�ที่ของคอมพิวเตอร์ แผนภาพที่ 4.14 เครือข่ายคอมพิวเตอร์ตามบทบาทหน้าที่ 2.1 เครือข่ายแบบรับ-ให้บริการ(Client-Server Network) เครือข่ายประเภทนี้จะมีคอมพิวเตอร์หลักเครื่องหนึ่งเป็นเครื่องแม่ข่าย (Server) ทำาหน้าที่ เป็นคลังข้อมูล และช่วยเครื่องรับบริการ (Client) ประมวลผล เช่น บริการหน้าเว็บ บริการฐานข้อมูล บริการ เครื่องพิมพ์ โดยเครื่องรับบริการจะร้องขอบริการไปที่เครื่องแม่ข่าย จากนั้นเครื่องแม่ข่ายจะตอบกลับมาให้ เครื่องรับบริการ เครือข่ายแบบรับ-ให้บริการมีข้อดี คือ สามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า สามารถเข้าใช้ บริการของเครือข่ายได้พร้อมกันจำานวนมาก แต่จะต้องใช้เครื่องแม่ข่ายที่มีประสิทธิภาพมาก ทำาให้มี ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและซ่อมบำารุงค่อนข้างสูง ภาพที่ 4.37 เครือข่ายแบบรับ-ให้บริการ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ตามบทบาทหน้าที่ Client-Server Peer to Peer Client Server Client Client Printer 6. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ตามบทบาท หน้าที่ของคอมพิวเตอร์ โดยตอบ คําถาม ดังนี้ • เครือข่ายคอมพิวเตอร์ตาม บ ท บ า ท ห น้ า ที่ ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ มี กี่ประเภท อะไรบ้าง (มี2ประเภทได้แก่1. เครือข่ายแบบรับให้บริการ(Client-ServerNetwork) 2.เครือข่ายระดับเดียวกัน(Peer to Peer Network: P2D)) • หลักการทํางานของเครือข่าย แบบรับ-ให้บริการเป็นอย่างไร (ตัวอย่างคําตอบ จะมีคอมพิวเตอร์ เครื่องหลักเป็นเครื่องแม่ข่าย(Server) ทําหน้าที่เป็นคลังข้อมูล และช่วยเครื่อง รับบริการ (Client) ประมวลผลโดย เครื่องรับบริการจะร้องขอบริการไปที่ เครือข่ายจากนั้นจะตอบกลับมาให้) • ข้อดีของเครือข่ายแบบรับให้บริการคืออะไร (ตัวอย่างคําตอบสามารถใช้ทรัพยากร ได้อย่างคุ้มค่า และสามารถเข้าใช้บริการ ของเครือข่ายได้พร้อมกันจํานวนมาก) • ข้อเสียของเครือข่ายแบบรับให้บริการคืออะไร (ตัวอย่างคําตอบ ต้องใช้เครื่องแม่ข่าย ที่มีประสิทธิภาพสูง ทําให้มีค่าใช้จ่าย ในการติดตั้งและซ่อมบํารุงค่อนข้างมาก) ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 เครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบ Client-Server แตกต่างจาก Peer to Peer หรือไม่ เพราะเหตุใด 1 แตกต่าง เพราะ Client-Server มีเครื่องแม่ข่ายคอยให้บริการคลังข้อมูล แต่ Peer to Peer จะไม่มีเครื่องแม่ข่าย แต่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเอง 2 แตกต่าง เพราะ Client-Server จะเชื่อมต่อผ่านสาย แต่ Peer to Peer จะเชื่อมต่อผ่านสาย หรือไร้สายก็ได้ 3 ไม่แตกต่าง เพราะทั้งสองเครือข่ายมีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อสารกัน 4 ไม่แตกต่าง เพราะลักษณะทางกายภาพเหมือนกัน NET แนวข้อสอบ O-NET/PISA (เฉลย 1 เพราะClient-Serverมีเครื่องแม่ข่ายคอยให้บริการคลังข้อมูล แต่PeertoPear จะไม่มีเครื่องแม่ข่ายแต่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเอง)

181 181 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean เทคโนโลยีการสื่อสาร 181 2.2 เครือข่ายระดับเดียวกัน (Peer-to-Peer Network: P2P) เป็นการติดต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งเครือข่ายประเภทนี้แต่ละเครื่องจะมีสิทธิในการร้องขอ ข้อมูลและบริการอื่น ๆ ได้เท่าเทียมกันทุกเครื่อง โดย ไม่มีเครื่องใดเป็นศูนย์กลาง ไม่มีการควบคุมการใช้ ทรัพยากรใด ๆ การใช้งานส่วนใหญ่มักใช้ในการแบ่งปัน ข้อมูล เช่น เพลง ภาพ ไฟล์ เครือข่ายระดับเดียวกัน ติดตั้งง่าย ราคา ไม่แพง เหมาะกับผู้ใช้งานไม่เกิน 10 เครื่อง เนื่องจาก ยิ่งจำานวนเครื่องมากเครือข่ายจะช้า แต่ไม่สามารถ ควบคุมเรื่องความปลอดภัยและการละเมิดลิขสิทธิ์ ในการเผยแพร่ผลงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 3. เครือข่�ยคอมพิวเตอร์ต�มรูปร่�งเครือข่�ย (Topology) แผนภาพที่ 4.15 เครือข่ายคอมพิวเตอร์ตามรูปร่างเครือข่าย ภาพที่ 4.38 เครือข่ายระดับเดียวกัน เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ตามรูปร่างเครือข่าย Bus Hybrid Ring Mesh Star 7. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ตามบทบาท หน้าที่ของคอมพิวเตอร์ (ต่อ) โดย ตอบคําถาม ดังนี้ • เ ค รื อ ข่ า ย ร ะ ดั บ เ ดี ย ว กั น แตกต่างจากเครือข่ายแบบรับให้บริการอย่างไร (ตัวอย่างคําตอบเครือข่ายระดับเดียวกัน จะไม่มีเครื่องใดเป็นเครื่องศูนย์กลาง แตกต่างจากเครือข่ายแบบรับ-ให้บริการ ที่จะอาศัยเครื่องแม่ข่ายในการเก็บข้อมูล ประมวลผล) • เครือข่ายระดับเดียวกันสามารถ รองรับผู้ใช้งานได้เท่าไร เพราะอะไร (สามารถรองรับได้ไม่เกิน 10 เครื่อง เพราะจํานวนเครื่องยิ่งมากเครือข่ายจะช้า) 8. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ตามรูปร่าง เครือข่าย โดยตอบคําถาม ดังนี้ • เครือข่ายคอมพิวเตอร์ตาม รูปร่างเครือข่ายมีกี่ประเภท อะไรบ้าง (มี5ประเภทได้แก่ 1.แบบบัส(Bus) 2.แบบวงแหวน(Ring) 3.แบบดาว(Star) 4.แบบแมช(Mesh) 5.แบบผสม(Hybrid)) • เครือข่ายคอมพิวเตอร์ตาม รูปร่างเครือข่ายแบบใดบ้างที่นักเรียน เคยพบเจอ (ตัวอย่างคําตอบแบบแมช(Mesh)) ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 contact (คอน′ แทคทฺ) การติดต่อ control (คันโทรล′) การควบคุม install (อินสทอล′) ติดตั้ง safety (เซฟ′ ที) ความปลอดภัย English talk

สุดยอดคู่มือครู 182 182 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 182 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในการส่งแต่ละครั้งจะมีผู้ส่งได้เพียงเครื่องเดียว เพราะใช้สื่อกลางเดียวกัน เมื่อเครื่อง ต้นทางส่งข้อมูลไปตามบัส เมื่อไปถึงเครื่องต่อไปจะเข้าถึงข้อมูลได้ แต่ถ้าหากไม่ใช่ข้อมูลของตนเอง จะทำาการส่งต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงปลายทางที่เป็นผู้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ดังภาพที่ 4.40 Topology เป็นรูปแบบการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายทางกายภาพ ซึ่งการเลือกใช้ Topology แต่ละแบบมีความเหมาะสมแตกต่างกัน จึงต้องศึกษาลักษณะข้อดีและข้อเสียของ Topology แต่ละแบบ ดังนี้ 3.1 เครือข่ายแบบบัส (Bus Topology) เป็นรูปแบบที่มีโครงสร้างไม่ยุ่งยาก คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ จะเชื่อมต่อเข้ากับ สายหลัก (backbone) เพียงสายเดียวที่เรียกว่า บัส (bus) โดยจะเชื่อมคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากับ bus ด้วย connector ภาพที่ 4.39 โครงสร้างเครือข่ายแบบบัส ภาพที่ 4.40 รูปแบบการส่งข้อมูลเครือข่ายแบบบัส จะส่งข้อมูลถึง D ทิ้ง เปิดซองจดหมาย ทิ้ง A C E B D 9. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ตามรูปร่าง เครือข่าย (ต่อ) โดยตอบคําถาม ดังนี้ • เครือข่ายแบบบัสมีสถานะการ ทํางานอย่างไร (ตัวอย่างคําตอบ มีลักษณะการทํางาน โดยจะเชื่อมคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ต่างๆเข้าด้วยกันในการส่งข้อมูลแต่ละครั้ง จะมีผู้ส่งได้เพียงเครื่องเดียว เพราะใช้ สื่อกลางเดียวกัน) • ข้อดีของเครือข่ายแบบบัส คืออะไร (ตัวอย่างคําตอบมีโครงสร้างไม่ยุ่งยาก) • ข้อเสียของเครือข่ายแบบบัส คืออะไร (ตัวอย่างคําตอบ ถ้ามีการส่งข้อมูล พร้อมกันจะเกิดการชนกันของข้อมูล และถ้าเกิดความเสียหายเพียงจุดเดียว จะทําให้ทั้งเครือข่ายไม่สามารถสื่อสารได้) ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 เสริมความรู้ ครูควรสอน connector หรืออุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรกลต่าง ๆ จึงประกอบด้วย plugs (ตัวผู้) และ jack (ตัวเมีย) ในการติดตั้งใช้งานจะมีให้เลือกทั้งแบบ ที่นําตัวผู้ไปยึดติดกับตู้ แล้วนําตัวเมียและสายไฟฟ้ามาเสียบเข้าด้วยกันพร้อมใช้งาน และแบบลอยที่สามารถนําตัวผู้และตัวเมียมาเสียบเข้าด้วยกัน

183 183 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean เทคโนโลยีการสื่อสาร 183 ถ้าหากมีการส่งข้อมูลพร้อมกันจะเกิดการชนกันของข้อมูล ดังภาพที่ 4.41 ด้วยเหตุนี้ทำาให้ เครือข่ายแบบบัสไม่ได้รับความนิยม อีกทั้งหากเกิดความเสียหายเพียงจุดเดียวจะทำาให้ทั้งเครือข่าย ไม่สามารถสื่อสารได้ ภาพที่ 4.41 การส่งข้อมูลในเครือข่ายแบบบัสที่เกิดข้อมูลชนกัน 3.2 เครือข่ายแบบวงแหวน (Ring Topology) เป็นรูปแบบเครือข่ายที่เชื่อมต่อกัน แบบวงแหวน โดยการรับ-ส่งในเครือข่ายวงแหวน จะใช้ทิศทางเดียวกันจนถึงผู้รับ ในการส่งแต่ละครั้งจะต้องรอจนถึง รอบการส่งของตนเองก่อนที่จะส่งข้อมูลของตนเอง ได้ โดยจะส่งข้อมูลไปยังเครื่องถัดไปก่อนจะเข้าถึง ข้อมูลนั้น แต่ถ้าหากไม่ใช่ข้อมูลของตนเองจะทำาการ ส่งต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงปลายทางที่ถูกต้อง เนื่องจากมีการส่งต่อทิศทางเดียวกัน จะไม่เกิดปัญหาการชนกัน แต่ถ้าหากมีเครื่องใด เครื่องหนึ่งในเครือข่ายเสียหาย จะทำาให้ทั้งเครือข่าย ไม่สามารถสื่อสารได้ ภาพที่ 4.42 โครงสร้างเครือข่ายแบบวงแหวน ภาพที่ 4.43 รูปแบบการส่งข้อมูลในเครือข่ายแบบวงแหวน A B C D E จะส่งข้อมูลถึง D เปิดซองจดหมาย ทิ้ง ทิ้ง จะส่งข้อมูลถึง E จะส่งข้อมูลถึง A ทิ้ง ทิ้ง A B E D 10. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ตามรูปร่าง เครือข่าย (ต่อ) โดยตอบคําถาม ดังนี้ • เครือข่ายแบบวงแหวนมี ลั ก ษ ณ ะ ก า ร ทํา ง า น อ ย่ า ง ไ ร (ตัวอย่างคําตอบจะส่งข้อมูลในทิศทาง เดียวกัน การส่งแต่ละครั้งจะต้องรอ จนถึงรอบการส่งของตนเองก่อนถึงจะ ส่งข้อมูลของตนเองได้โดยส่งข้อมูล ไปเครื่องถัดไปก่อน แต่ถ้าไม่ใช่ข้อมูล ของตนเอง จะส่งต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่า จะถึงปลายทางที่ถูกต้อง) • ข้อดีของเครือข่ายแบบวงแหวน คืออะไร (ตัวอย่างคําตอบไม่เกิดปัญหาการชนกัน ของข้อมูล) • ข้อเสียของเครือข่ายแบบ วงแหวนคืออะไร (ตัวอย่างคําตอบถ้ามีเครื่องใดเครื่องหนึ่ง ในเครือข่ายเสียหาย จะทําให้เครือข่าย ไม่สามารถสื่อสารได้) ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2

สุดยอดคู่มือครู 184 184 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 184 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3.3 เครือข่ายแบบดาว(Star Topology) เป็นรูปแบบเครือข่าย ที่เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ ทุกชิ้นเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ เครือข่าย ที่เป็นจุดศูนย์กลาง ได้แก่ ฮับ (Hub) หรือสวิตช์ (Switch) โดยเครือข่าย ประเภทนี้ง่ายต่อการเพิ่ม-ลดเครื่อง คอมพิวเตอร์ โดยไม่มีผลกระทบต่อ คอมพิวเตอร์ในเครือข่าย ภาพที่ 4.44 โครงสร้างเครือข่ายแบบดาว ภาพที่ 4.45 รูปแบบการส่งข้อมูลในเครือข่ายแบบดาว โดยใช้ Hub เป็นตัวกลาง ในการส่งข้อมูลแต่ละครั้ง เครื่องต้นทางจะต้องส่งข้อมูลไปยัง Hub หรือ Switch ซึ่งแต่ละอุปกรณ์มีการทำางาน ที่แตกต่างกัน กล่าวคือ Hub จะทำาหน้าที่ แจกจ่ายไปยังเครื่องลูกข่ายทุกเครื่อง แล้วเครื่องใดที่เป็นปลายทางก็จะสามารถ เข้าถึงข้อมูลได้ ส่วน Switch จะทำาหน้าที่ ตรวจสอบเส้นทางที่ถูกต้องก่อนจะส่งข้อมูล ไปให้ปลายทาง ภาพที่ 4.46 รูปแบบการส่งข้อมูลในเครือข่ายแบบดาว โดยใช้ Switch เป็นตัวกลาง เนื่องจากเครือข่ายแบบดาว จำาเป็นต้องมีอุปกรณ์ในการวัดเส้นทาง และใช้สายเคเบิลจำานวนมาก ทำาให้มี ค่าใช้จ่ายที่สูง อีกทั้งเมื่อ Hub หรือ Switch เสียอาจจะทำาให้เครือข่ายทั้งหมดหยุดชะงัก จะส่งข้อมูลถึง D เปิดจดหมาย A E B D C Hub ทิ้ง ทิ้ง ทิ้ง เปิดจดหมาย จะส่งข้อมูลถึง D A E B D C Switch 11. นักเรียนร่วมกันเปรียบเทียบการ ทํางานของฮับ (Hub) กับสวิตช์ (Switch) โดยบันทึกคําตอบ เป็นแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 Hub ได้สินค้าตาม ความต้องการ Switch ทําหน้าที่แจกจ่าย ข้อมูลไปยังเครื่อง ลูกข่ายทุกเครื่อง แล้วเครื่องใดที่เป็น ปลายทางก็จะสามารถ เข้าถึงข้อมูลได้ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ เชื่อมต่อเครือข่าย และเพิ่มการเชื่อมต่อ ของคอมพิวเตอร์ ทําหน้าที่ตรวจสอบ เส้นทางที่ถูกต้อง ก่อนจะส่งข้อมูล ไปให้ปลายทาง 12. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ตามรูปร่าง เครือข่าย (ต่อ) โดยตอบคําถาม ดังนี้ • เครือข่ายแบบดาวมีลักษณะ การทํางานอย่างไร (ตัวอย่างคําตอบการส่งข้อมูลแต่ละครั้ง เครื่องต้นทางจะต้องส่งข้อมูลไปยัง Hubหรือ Switch แล้วส่งข้อมูลไปให้ ปลายทาง) • ข้อดีของเครือข่ายแบบดาว คืออะไร (ตัวอย่างคําตอบสามารถเพิ่ม-ลดเครื่อง คอมพิวเตอร์ โดยไม่มีผลกระทบต่อ คอมพิวเตอร์ในเครือข่าย) • ข้อเสียของเครือข่ายแบบดาว คืออะไร (ตัวอย่างคําตอบใช้สายเคเบิลจํานวนมาก จึงทําให้ค่าใช้จ่ายสูง และเมื่อ Hubหรือ Switchเสียอาจทําให้เครือข่ายทั้งหมด หยุดชะงัก) อุปกรณ์ใดไม่เหมาะสมกับการนามาใช้ในเครือข่ายแบบดาว ํ 1 ฮับ 2 สวิตช์ 3 เกตเวย์ 4 สายนําสัญญาณ NET แนวข้อสอบ O-NET/PISA (เฉลย 3 เพราะเกตเวย์เป็นอุปกรณ์ขนาดใหญ่ และมีประสิทธิภาพมากเกินความจําเป็นของระบบ มีราคาแพงและติดตั้งยาก)

185 185 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean ภาพที่ 4.47 โครงสร้างเครือข่ายแบบแมช ภาพที่ 4.48 การส่งข้อมูลโดยหาเส้นทางใหม่ เมื่อเกิดปัญหาสาย AD ขาด สายขาด จะส่งข้อมูลถึง D แต่สาย AD ขาด เปิดจดหมาย A D B E C เทคโนโลยีการสื่อสาร 185 3.4 เครือข่ายแบบแมช (Mesh Topology) เป็นรูปแบบที่มีเส้นทาง เชื่อมต่อกันทุกอุปกรณ์ ทำาให้เครือข่ายแบบแมช มีประสิทธิภาพสูง และมีความนิยมมาก ในการส่งข้อมูลจะสามารถ ส่งหากันโดยตรงก็ได้ แต่ถ้าหากไม่พบ เส้นทางตรง ดังภาพที่ 4.48 หรือถ้า สายสัญญาณขาดก็จะส่งไปยังอุปกรณ์ หาเส้นทาง (router) เพื่อหาเส้นทางใหม่ และส่งข้อมูลไปยังปลายทางที่ถูกต้อง เครือข่ายประเภทนี้ไม่เหมาะ กับสื่อกลางแบบมีสาย เนื่องจากต้องใช้ สายสัญญาณมาก จึงเหมาะกับการใช้สื่อกลาง แบบไร้สาย เด็กควรรู้ บริดจ์ (Bridge) เป็นอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่าย LAN เข้าด้วยกันทำาให้ขยายขอบเขต เครือข่าย LAN ออกไปได้กว้างมากขึ้น เราเตอร์ (Router) เป็นอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่ายหลายเครือข่ายเข้าด้วยกัน จึงมีเส้นทางการเข้า-ออกของข้อมูล หลายเส้นทาง เพื่อนำาข้อมูลไปยังอุปกรณ์ปลายทาง เกตเวย์ (Gateway) เป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีข้อจำากัดระหว่างเครือข่ายต่างระบบ หรือโพรโทคอลที่ต่างกัน มีความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่ายเข้าด้วยกันสูงที่สุด แต่มีราคาแพงและทำาการติดตั้งยาก 13. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ตามรูปร่าง เครือข่าย (ต่อ) โดยตอบคําถาม ดังนี้ • เครือข่ายแบบแมชมีลักษณะ การทํางานอย่างไร (ตัวอย่างคําตอบ เป็นรูปแบบที่มีเส้นทางเชื่อมต่อกัน ทุกอุปกรณ์โดยสามารถส่งข้อมูลหากัน โดยตรงได้ถ้าสายสัญญาณขาดจะส่ง ข้อมูลไปยังอุปกรณ์หาเส้นทาง เพื่อหา เส้นทางใหม่และส่งข้อมูลไปยังปลายทาง ที่ถูกต้อง) • ข้อดีของเครือข่ายแบบแมช คืออะไร (ตัวอย่างคําตอบทําให้การส่ง ข้อมูลมีประสิทธิภาพสูงถ้าสายสัญญาณ ขาดก็ยังส่งข้อมูลได้โดยจะส่งข้อมูลไปยัง อุปกรณ์หาเส้นทาง เพื่อหาเส้นทางใหม่ และส่งข้อมูลไปยังปลายทางที่ถูกต้อง) • ข้อเสียของเครือข่ายแบบแมช คืออะไร (ตัวอย่างคําตอบ ไม่เหมาะ กับสื่อกลางแบบมีสาย เนื่องจากต้องใช้ สายสัญญาณจํานวนมาก จึงเหมาะ กับการใช้สื่อกลางแบบไร้สาย) • เครือข่ายแบบผสมมีลักษณะ การทํางานอย่างไร (ตัวอย่างคําตอบ เป็นรูปแบบเครือข่ายที่ผสมผสานรูปแบบ เครือข่ายแบบต่าง ๆ เช่น แบบบัส แบบวงแหวนแบบดาว แบบแมช) ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2

สุดยอดคู่มือครู 186 186 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 186 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3.5 เครือข่ายแบบผสม (Hybrid Topology) เป็นรูปแบบเครือข่ายที่ผสมผสานรูปแบบเครือข่ายแบบต่าง ๆ เช่น แบบบัส วงแหวน ดาว แมช ซึ่งเป็นการรวมเครือข่ายย่อยที่มีหลากหลายรูปแบบเป็นเครือข่ายใหญ่ แผนภาพที่ 4.16 การเชื่อมโยงเครือข่ายแบบผสม Hub/Switch Hub/Switch IBM AS400 IBM 6400 Printer IBM PS/2 14. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับเครือข่าย คอมพิวเตอร์ตามรูปร่างเครือข่าย (ต่อ) โดยตอบคําถาม ดังนี้ • ข้อดีของเครือข่ายแบบผสมคืออะไร (ตัวอย่างคําตอบ เป็นการรวมเครือข่ายย่อย ที่มีหลากหลายรูปแบบ เป็นเครือข่ายใหญ่ จึงทําให้เมื่อเครือข่ายเสียหายยังสามารถส่งข้อมูล ได้จากเครือข่ายที่เหลือ) • ข้อเสียของเครือข่ายแบบผสม คืออะไร (ตัวอย่างคําตอบ ต้องใช้อุปกรณ์ ในการเชื่อมต่อและสายส่งสัญญาณจํานวน มาก จึงทําให้ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง) 15. นักเรียนร่วมกันสรุปความคิดรวบยอด เกี่ยวกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ดังนี้ • เครือข่ายคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ เครือข่ายตามขนาดพื้นที่ เครือข่ายตามบทบาทหน้าที่ และเครือข่าย ตามรูปร่างเครือข่าย ในแต่ละรูปแบบของ เครือข่ายคอมพิวเตอร์มีความแตกต่างกัน ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะงาน Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 16. นักเรียนแบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม เท่า ๆ กัน จากนั้น ร่วมกันศึกษาเครือข่ายคอมพิวเตอร์ตาม รูปร่างเครือข่าย แล้วบันทึกคําตอบ โดย วาดภาพโครงสร้างการทํางาน บอกข้อดี ข้อเสียลงในคอมพิวเตอร์ แต่ละกลุ่ม มีหัวข้อ ดังนี้ • กลุ่มที่ 1 เครือข่ายแบบบัส • กลุ่มที่ 2 เครือข่ายแบบวงแหวน • กลุ่มที่ 3 เครือข่ายแบบดาว • กลุ่มที่ 4 เครือข่ายแบบแมช • กลุ่มที่ 5 เครือข่ายแบบผสม กิจกรรมนี้ประเมินตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/3 17. นักเรียนสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Step4 Step5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า บริการสังคม และจิตสาธารณะ 18. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอภาพโครงสร้าง ํ การทํางาน ข้อดี ข้อเสียของเครือข่าย คอมพิวเตอร์ตามรูปร่างเครือข่าย หน้าชั้นเรียนด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน • เครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน โดยผ่านสื่อกลางต่าง ๆ เชื่อมต่อเป็นเครือข่าย เพื่อทําให้สามารถรับ-ส่งข้อมูลและแลกเปลี่ยน ทรัพยากรกันได้ 19. นักเรียนนําความรู้เกี่ยวกับเครือข่าย คอมพิวเตอร์ไปอธิบายแก่เพื่อนและ ครอบครัว เพื่อนําไปประยุกต์ใช้ในการ เลือกเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสม กับลักษณะของงาน

187 187 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean เทคโนโลยีการสื่อสาร 187 อินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ต (Internet) ย่อมาจากคำาว่า Interconnection Network หมายถึง เครือข่ายขนาดใหญ่ ที่ครอบคลุมทั่วโลก โดยมีมาตรฐานการส่งเดียวกัน ซึ่งสามารถรับ-ส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์สื่อสารใด ๆ ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ บนอินเทอร์เน็ตจะเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวมข้อมูลสารสนเทศ และความรู้ทุกศาสตร์ ภาพที่ 4.49 การเชื่อมโยงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลก อินเทอร์เน็ตมีความสำาคัญในการดำารงชีวิตของ มนุษย์หรือไม่อย่างไร คำ�ถ�มสำ�คัญ 1. นักเรียนร่วมกันสังเกตและรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ต ในชีวิตประจําวัน โดยบันทึกคําตอบ เป็นแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง ว 4.2 ม.2/3 ภาระงาน/ชิ้นงาน ตารางตัวอย่างเว็บไซต์ Domain 2 ระดับ และ Domain 3 ระดับ ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Step 1 ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 การติดต่อสื่อสาร สืบค้นข้อมูล ดูหนัง ดาวน์โหลด ฟังเพลง โปรแกรม เล่นเกม การใช้ อินเทอร์เน็ตใน ชีวิตประจําวัน 2. นักเรียนศึกษาค้นคว้าและรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง อินเทอร์เน็ต จากแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ ที่หลากหลาย เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต 3. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ อินเทอร์เน็ต โดยตอบคําถาม ดังนี้ • อินเทอร์เน็ตคืออะไร (ตัวอย่างคําตอบ เครือข่ายขนาดใหญ่ ที่ครอบคลุมทั่วโลก โดยมีมาตรฐานการ ส่งเดียวกันซึ่งสามารถรับ-ส่งข้อมูลผ่าน อุปกรณ์สื่อสาร ใด ๆ ที่เชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตได้) • อินเทอร์เน็ตมีความสําคัญ ในการดํารงชีวิตของมนุษย์หรือไม่ อย่างไร (ตัวอย่างคําตอบมีความสําคัญ เพราะ ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เป็นแหล่งข้อมูล ขนาดใหญ่ที่รวบรวมความรู้ไว้ทุกศาสตร์ และสามารถเป็นช่องทางในการสร้าง ธุรกิจได้) ตัวชี้วัด

สุดยอดคู่มือครู 188 188 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 188 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทั้งนี้ ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตทุกเครื่องบนเครือข่ายจะต้องใช้โปรโตคอลเดียวกัน คือ TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) ซึ่งจะกำาหนด IP Address ให้กับอุปกรณ์สื่อสาร ทุกเครื่องในเครือข่าย เช่น บริษัท กูเกิล ให้บริการเว็บไซต์สำาหรับสืบค้นเว็บ (search engine) เครื่อง server มี IP Address คือ 172.217.16.206 แต่เนื่องจาก IP Address ยากต่อการจดจำา จึงมีการ กำาหนดให้มี Domain Name ตามระบบชื่อโดเมน (Domain Name System: DNS) เช่น www.google.com IP Address ย่อมาจาก Internet Protocol Address คือหมายเลขประจำาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต่ออยู่บนเครือข่าย ประกอบด้วยเลข 4 ชุด มีเครื่องหมายจุดขึ้นระหว่างชุด เช่น 192.168.1.1 กำาหนดโดยองค์การกำาหนดหมายเลขอินเทอร์เน็ต (IANA) เป็นผู้ดำาเนินการจัดสรร IP Address ทั่วโลก เว็บไซต์แนะนำา การตรวจสอบข้อมูล ip address หรือ domain name ของเว็บไซต์ต่าง ๆ www.officemanner.com 1. Domain Nameอาจกล่าวได้ว่าเป็นชื่อเว็บไซต์ ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำาและนำา ไปใช้งาน โดยที่ส่วนประกอบของ Domain Name ที่ใช้ในปัจจุบันมี 2 รูปแบบ ตัวอย่างองค์กรที่พบบ่อย ใน Domain 2 ระดับ • .com คือ บริษัทหรือองค์กรพาณิชย์ • .org คือ องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำาไร • .net คือ องค์กรที่เป็นเกตเวย์ • .edu คือ สถาบันการศึกษา • .gov คือ องค์กรของรัฐบาล • .mil คือ องค์กรทางทหาร www.ชื่อ.ประเภทขององค์กร เช่น www.iadth.com 1.1 Domain Name 2 ระดับ ตัวอย่างองค์กรที่พบบ่อย ใน Domain 3 ระดับ • .co คือ บริษัทหรือองค์กรพาณิชย์ • .ac คือ สถาบันการศึกษา • .go คือ องค์กรของรัฐบาล • .or คือ องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำาไร • .th คือ โดเมนเนมระดับบนสุดตาม รหัสประเทศ www.ชื่อ.ประเภทขององค์กร.ประเทศ เช่น www.bodin.ac.th 1.2 Domain Name 3 ระดับ ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 4. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ อินเทอร์เน็ต (ต่อ) โดยตอบคําถาม ดังนี้ • อินเทอร์เน็ตทุกเครื่องบน เครือข่ายจะต้องใช้โพรโทคอลใด (TCP/IP(TransmissionControl Protocol/InternetProtocol)) • นักเรียนเคยสืบค้นข้อมูลจาก เว็บไซต์ใด (ตัวอย่างคําตอบ www.google.com) • IP Address กับ Domain Name เหมือนกันอย่างไร (ระบุตําแหน่งที่ตั้งของเว็บไซต์) • Domain Name มีกี่รูปแบบ อะไรบ้าง (มี2 รูปแบบ ได้แก่ Domain Name 2ระดับและDomainName3ระดับ) 5. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ Domain Name แล้วยกตัวอย่าง องค์กรที่พบบ่อย บันทึกเป็นแผนภาพ ความคิด ดังตัวอย่าง และตอบคาถามํ Domain Name Domain 2 ระดับ Domain 3 ระดับ .com .org .net .edu .gov .mil .co .ac .go .or .th • ยกตัวอย่างเว็บไซต์ที่เป็นองค์กร .com (ตัวอย่างคําตอบ www.google.com) • ยกตัวอย่างเว็บไซต์สถาบันการศึกษา (ตัวอย่างคําตอบ www.chula.ac.th) • ยกตัวอย่างเว็บไซต์องค์กรเอกชน ที่ไม่แสวงหาผลกําไร (ตัวอย่างคําตอบ www.code.org) QR CODE เรื่อง โปรแกรมค้นหาเว็บไซต์ (search engine)

189 189 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean เทคโนโลยีการสื่อสาร 189 3. โปรแกรมค้นห�เว็บ (search engine) ใช้สำาหรับค้นหาเว็บเพจที่ต้องการ โดยใช้คำาสำาคัญ (keyword) ในการค้นหา โดย search engine จะนำาคำาสำาคัญไปเทียบกับข้อความในหน้าเว็บ แล้วแสดง ลิงก์เว็บไซต์ที่มีคำาสำาคัญนั้นปรากฏอยู่ ตัวอย่างของ search engine ได้แก่ Google, Bing, Excite และ Yahoo 2. บริก�รของอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ที่ผู้ใช้ง�นใช้คือ การเข้าถึงเว็บไซต์ (website) หรือ World Wide Web (www) หรือ Web ซึ่งเป็นการให้บริการข้อมูลแบบ HyperText ที่ประกอบไปด้วย เอกสารจำานวนมากที่เชื่อมโยงถึงกันผ่านโพรโทคอล HTTP (HyperText Transport Protocol) ในการเข้าถึงเว็บไซต์ จะต้องเรียกดูผ่านเว็บเบราว์เซอร์ (web browser) เช่น Mozilla Firefox, Microsoft Edge, Google Chrome Safari Opera ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้แสดงหน้าเว็บ (web page) หรือเชื่อมโยง (hyperlink) ไปยังหน้าเว็บอื่น โดยผู้ใช้จะต้องพิมพ์ URL (Universal Resource Locator) ภาพที่ 4.50 ความหมายของ URL ในแต่ละส่วน Protocol Domain Name เส้นทางการเข้าถึง ชื่อไฟล์ ความรู้รอบโลก W3C (World Wide Web Consortium) เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ทำางานด้านการพัฒนา เทคโนโลยี (www) ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 6. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ อินเทอร์เน็ต (ต่อ) โดยตอบคาถาม ดังนี้ ํ • โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ ที่นักเรียนใช้งานเป็นประจําคือ โปรแกรมใด เพราะเหตุใดจึงใช้งาน โปรแกรมนี้ (ตัวอย่างคําตอบ Google Chrome เพราะมีส่วนเสริมที่สามารถติดตั้งเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพ หรือความสามารถของ โปรแกรมได้) • URL ประกอบด้วยอะไรบ้าง (Protocol, Domain Name, เส้นทางการเข้าถึง และชื่อไฟล์) • โปรแกรมค้นหา (search engine) ที่นักเรียนใช้งานเป็นประจา ํ คือโปรแกรมใด เพราะอะไร (ตัวอย่างคําตอบGoogleเพราะสามารถ ค้นหาข้อมูลเพื่อไปยังบริการอื่น ๆ ได้ เช่น Youtube, Google map และ อีกมากมายซึ่งช่วยให้การค้นหาสะดวกขึ้น) 7. นักเรียนร่วมกันสรุปความคิด รวบยอดเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต ดังนี้ • อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่าย ขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมทั่วโลก โดยมี มาตรฐานการส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์ ที่ เ ชื่ อ ม ต่ อ กั บ อิ น เ ท อ ร์ เ น็ ต ไ ด้ อินเทอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งข้อมูล ขนาดใหญ่ที่รวบรวมสารสนเทศ ความบันเทิง ข่าวสาร ความรู้ ไว้มากมาย เสริมความรู้ ครูควรสอน IoT หรือ Internet of Things คือ “อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง” หมายถึง อุปกรณ์ต่าง ๆ สิ่งต่าง ๆ ได้ถูกเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างสู่โลกอินเทอร์เน็ต ทําให้มนุษย์สามารถ สั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

สุดยอดคู่มือครู 190 190 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 190 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาพที่ 4.51 หน้าเว็บไซต์ www.google.com เด็กควรรู้ การพัฒนาเว็บไซต์สู่เว็บไซต์3.0 เว็บไซต์2.0 (web 2.0) มี ก า ร พั ฒ น า เ ท ค โ น โ ล ยี ที่ สนับสนุนการใช้งานบนเครือข่าย อินเทอร์เน็ต ผู้ใช้สามารถ โพสต์ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ความคิดเห็น การจัดอันดับ ที่ปรากฏบนเว็บเพจได้ เว็บไซต์3.0 (web 3.0) มี ลั ก ษ ณ ะ เ ป็ น เ ว็ บ ไ ซ ต์ เ ชิ ง ความหมาย (semantic web) สามารถวิเคราะห์ความต้องการ ของผู้ใช้งานและเสนอทางเลือก ให้กับผู้ใช้งานแทนการค้นหา ข้อมูลแบบตรงไปตรงมา เว็บไซต์1.0 (web 1.0) มีลักษณะให้ข้อมูลแบบทางเดียว ไม่ค่อยมีการปรับปรุงข้อมูล ให้ทันสมัย รูปแบบการใช้งาน ไม่หลากหลายเนื่องจากข้อจำากัด หลายประการ เช่น ความรู้ ความสามารถในการใช้ คอมพิวเตอร์ การเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้งานจะต้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ กับอินเทอร์เน็ต ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ใช้โมเด็ม (modem) ผ่านสายสัญญาณโทรศัพท์ ใช้บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต (Broadband Internet Connection) เช่น ADSL (Asymmetric Digital Subscriber Line) เคเบิลโมเด็มที่ส่งสัญญาณ อินเทอร์เน็ตพร้อมเคเบิลทีวีหรืออินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย เช่น WiFi หรืออินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม ซึ่ง การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยวิธีข้างต้นผู้ใช้จะต้องใช้บริการจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider: ISP) เด็กควรรู้ สำานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ (กสทช.) เป็นหน่วยงานภาครัฐที่จัดสรรช่องสัญญาณให้กับ ISP รายต่าง ๆ โดยใช้ วิธีการประมูล Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ 8. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน จากนั้นยกตัวอย่างเว็บไซต์ที่เป็น Domain Name 2 ระดับ และ Domain Name 3 ระดับ แล้วบอก จุดประสงค์ของเว็บไซต์ โดยบันทึก เป็นตาราง ดังตัวอย่าง ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Step4 Step5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า บริการสังคม และจิตสาธารณะ ชื่อเว็บไซต์ จุดประสงค์ ประเภท Domain 2 ระดับ 3 ระดับ www.google.com ใช้สืบค้นข้อมูล 3 www.code.org ฝึกเขียน โปรแกรม 3 www.chula.ac.th ประชาสัมพันธ์ ข่าวสารและ ระบบออนไลน์ ของนักศึกษา 3 www.moe.go.th ประชาสัมพันธ์ ข่าวสารเกี่ยวกับ การศึกษาของ ประเทศไทย 3 กิจกรรมนี้ประเมินตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/3 9. นักเรียนสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ ร่วมกัน ดังนี้ • อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่าย ในการเชื่อมต่อที่กว้างและยังเป็นฐาน ข้อมูลที่มีทั้งความรู้และความบันเทิง การค้นหาข้อมูลควรนําคําสําคัญ ไปเทียบกับข้อความในหน้าเว็บ แล้วแสดงลิงก์เว็บไซต์ที่มีคาสํ าคัญนั้น ํ ปรากฏอยู่ 10. นักเรียนแต่ละกลุ่มนําเสนอตาราง ตัวอย่างเว็บไซต์ Domain 2 ระดับ และ Domain 3 ระดับ หน้าชั้นเรียน ด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรู้กัน 11. นักเรียนนําความรู้เรื่องอินเทอร์เน็ต ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวัน แล้ว ให้ความรู้กับเพื่อนหรือผู้ปกครอง เพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่าง เหมาะสม ปลอดภัย

191 191 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean เทคโนโลยีการสื่อสาร 191 1. นักเรียนคิดว่าพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารแบบใด ที่ทำาให้เกิดผลเสียต่อตนเอง และผู้อื่น 2. ปัจจัยใดที่มีผลต่อความสำาเร็จและประสิทธิภาพของการสื่อสาร 3. จงออกแบบระบบเครือข่ายภายในที่พักอาศัยและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างละเอียด โดยระบุ ประเภทของสื่อกลางและอุปกรณ์ที่ติดตั้ง พร้อมเหตุผล 4. เพราะเหตุใดในปัจจุบันจึงไม่มีการใช้งานโมเด็มในบ้านพักอาศัย 5. เครือข่ายแบบ PAN LAN MAN และ WAN มีความแตกต่างกันอย่างไร 6. การเชื่อมต่อแบบใช้สายและไร้สาย มีข้อแตกต่าง จุดเด่น จุดด้อย อย่างไร 7. จงอธิบายพัฒนาการของเครือข่ายแบบบัส วงแหวน ดาว แมช และผสม 8. หากนักเรียนกำาลังเข้าเว็บไซต์เพื่อรับ-ส่งอีเมลกับเพื่อน มีการใช้งานโพรโทคอลใดบ้าง 9. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนควรเลือกใช้รูปแบบเครือข่ายแบบใด 10. นักเรียนจะใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอย่างไรให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามบนอินเทอร์เน็ต คำาถามพัฒนากระบวนการคิด 1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม จำานวน 7 กลุ่ม ร่วมกันทำางานสมมุติ เรื่องรูปแบบเครือข่าย 2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ร่วมกันคิดบริการบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตรูปแบบใหม่ โดยอาศัย หลักการของการสื่อสารข้อมูล 3. นักเรียนสืบค้นเทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่หรือในอนาคต แล้วนำามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ เพื่อนในชั้นเรียน 4. นักเรียนสำารวจและจัดทำาแผนผังอุปกรณ์เครือข่ายภายในโรงเรียน หรือที่พักอาศัยของนักเรียน กิจกรรมการเรียนรู้ โครงงานสร้างสรรค์ นักเรียนจัดทำาเว็บไซต์หรือบล็อก เรื่องเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อเผยแพร่ความรู้และ เกิดประสบการณ์การจัดทำาเว็บไซต์หรือบล็อก ? แนวค�ำตอบ 1. เฉลยคําตอบอยู่ส่วนหน้า หน้าที่ 23 2. เฉลยคําตอบอยู่ส่วนหน้า หน้าที่ 23 3. เฉลยคําตอบอยู่ส่วนหน้า หน้าที่ 23 4. เฉลยคําตอบอยู่ส่วนหน้า หน้าที่ 23 5. เฉลยคําตอบอยู่ส่วนหน้า หน้าที่ 23 6. เฉลยคําตอบอยู่ส่วนหน้า หน้าที่ 23 7. เฉลยคําตอบอยู่ส่วนหน้า หน้าที่ 24 8. เฉลยคําตอบอยู่ส่วนหน้า หน้าที่ 24 9. เฉลยคําตอบอยู่ส่วนหน้า หน้าที่ 24 10. เฉลยคําตอบอยู่ส่วนหน้า หน้าที่ 24

สุดยอดคู่มือครู 192 192 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 5 หนว่ ยการเรยีนรทู้่ี การใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ผลงาน แผนผังหัวข้อหน่วยการเรียนรู้ ตัวชี้วัด • ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีความรับผิดชอบ สร้างและแสดงสิทธิในการเผยแพร่ผลงาน (ว 4.2 ม.2/4) ศัพท์เทคโนโลยีน่ารู้ คำาศัพท์ คำาอ่าน ความหมาย creative commons ครีเอ′ ทิฟว คอม′ เมินสฺ สร้างสรรค์ร่วมกัน intellectual property อินทะเลค′ ชวล พรอพ′ เพอร์ที ทรัพย์สินทางปัญญา patent แพท′ เทินทฺ สิทธิบัตร privacy ไพร′ วะ ซี ความเป็นส่วนตัว trademark เทรด′ มาร์ค เครื่องหมายการค้า ความเป็นส่วนตัว ทรัพย์สินทางปัญญา Creative Commons กับการสร้างและแสดงสิทธิ ความเป็นเจ้าของผลงาน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างปลอดภัย การใช้เทคโนโลยี เผยแพร่ผลงาน เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำ นวณใน การแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็น ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำ งาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม

193 193 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean แสดงที่มา (Attribution: BY) ห้ามนำาไปใช้เพื่อการค้า (Non-Commercial: NC) ห้ามแก้ไขต้นฉบับ (No Derivatives: ND) สัญญาอนุญาตแบบเดียวกัน (Share Alike: SA) Creative Commons กับการสร้างและแสดงสิทธิความเป็นเจ้าของผลงาน สมรรถนะสำ คัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตัวชี้วัดที่ 4.1 ตั้งใจ เพียรพยายามใน การเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ตัวชี้วัดที่ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่ง เรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก โรงเรียน ด้วยการเลือกใช้สื่ออย่าง เหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็น องค์ความรู้ สามารถนำ ไปใช้ในชีวิต ประจำวันได้ มุ่งมั่นในการทำงาน ตัวชี้วัดที่ 6.1 ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน ตัวชี้วัดที่ 6.2 ทำ งานด้วยความเพียร พยายามและอดทนเพื่อให้งานสำ เร็จ ตามเป้าหมาย นักเรียนแบ่งกลุ่ม เลือกใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ออกแบบและจัดทำสื่อ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัย โดยสื่อนั้นมีความสวยงาม น่าสนใจ และเข้าใจง่าย บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 จดุ ประกายโครงงาน

สุดยอดคู่มือครู 194 194 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 194 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทรัพย์สินทางปัญญา 1. ทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) 1.1 ความหมายและความสำาคัญของทรัพย์สินทางปัญญา เป็นการสร้างสรรค์ ผลิต คิดค้นผลงานจากความสามารถด้านสติปัญญา และความชำานาญ ในอาชีพผนวกกับประสบการณ์ของมนุษย์แต่ละบุคคล อาจแสดงออกมาเป็นรูปธรรม เช่น สินค้า OTOP หรือสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ และเป็นนามธรรม เช่น แนวคิดสร้างสรรค์ หรือบริการต่าง ๆ โดยไม่ต้องคำานึงถึง ประเภท วิธีการ หรือกระบวนการในการสร้างสรรค์ ในปัจจุบันการติดต่อสื่อสารและการเผยแพร่ ข้อมูลมีความสะดวกและรวดเร็วมาก เนื่องจาก มีการนำาเทคโนโลยีมาช่วยอำานวยความสะดวก ในหลาย ๆ ด้าน ทำาให้โลกที่กว้างดูแคบลงทันที บนโลกออนไลน์ มีการเผยแพร่ข้อมูลต่าง ๆ ทั้งข้อมูล ที่เป็นจริงและข้อมูลที่เป็นเท็จ ผู้ใช้จะต้องใช้วิจารณญาณและตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลว่ามีความ น่าเชื่อถือหรือไม่ และต้องไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้จัดทำา ทรัพย์สินทางปัญญาคืออะไร • ช่วยให้ผู้คิดค้นมีความเป็นธรรม • ช่วยคุ้มครองเจ้าของผลงานที่เป็นผู้คิด และกลั่นกรองออกมาจนเป็นผลงาน • มีการบันทึกขึ้นทะเบียนแสดงความเป็นเจ้าของ ผลงานอย่างชัดเจน • ช่วยรักษาสิทธิประโยชน์ให้กับเจ้าของผลงาน • บริษัทนายทุนได้เปรียบชาวบ้าน นายทุน ได้ประโยชน์ • ค่าลิขสิทธิ์มีราคาแพง • ประเทศอุตสาหกรรมจดลิขสิทธิ์ คิดค่าลิขสิทธิ์ ในการพัฒนาประเทศของประเทศที่ด้อยพัฒนา ข้อดี ข้อเสีย คำาถามสำาคัญ 1. นักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับ ทรัพย์สินทางปัญญา โดยตอบคำถาม ดังนี้ • ทรัพย์สินทางปัญญาคืออะไร (เป็นการสร้างสรรค์คิดค้นผลิตผลงาน จากความสามารถด้านสติปัญญา และ ความชำ นาญในสายอาชีพร่วมกับ ปร ะ ส บ ก าร ณ์ข อง แ ต่ ล ะ บุ ค ค ล อาจแสดงออกมาเป็นรูปธรรม) • ทรัพย์สินทางปัญญาที่สามารถ พบเห็นในชีวิตประจำวันมีอะไรบ้าง (ตัวอย่างคำ ตอบ ผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP) • ทรัพย์สินทางปัญญาส่งผลดี ต่อใคร เพราะเหตุใด (ต่อเจ้าของผลงานเพราะช่วยรักษาสิทธิ ประโยชน์ของผู้ที่คิดค้นหรือสร้างสรรค์ สิ่งประดิษฐ์นวัตกรรม หรือความคิด นั้นๆ) • การบันทึกหรือขึ้นทะเบียน แสดงความเป็นเจ้าของผลงานใด ๆ ในประเทศไทยมีหน่วยงานใดเป็น ผู้รับผิดชอบ (กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์) ตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/4 ภาระงาน/ชิ้นงาน การนำ เสนอการกำหนดสัญญาอนุญาต ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Step 1 เสริมความรู้ ครูควรสอน กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 มีหน้าที่ขึ้นทะเบียน ดูแล ควบคุม และบังคับใช้กฎหมายที่มีความเกี่ยวข้อง กับทรัพย์สินทางปัญญา

195 195 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean การใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ผลงาน 195 ย่อมาจาก Copyright แสดงถึงชิ้นงานนี้มีลิขสิทธิ์ หากต้องการใช้จะต้อง ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องก่อน ย่อมาจาก Registerd Trademark หมายถึง เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน ย่อมาจาก Trademark หมายถึง เครื่องหมายการค้าที่ไม่ได้จดทะเบียน ดังนั้น การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อเป็นกลยุทธ์ในธุรกิจ ก่อให้เกิดผลดี เพราะทรัพย์สินทางปัญญาจะป้องกันการเลียนแบบสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ ป้องกันการสับสนของผู้บริโภค และสามารถสร้างรายได้จากการอนุญาตใช้สิทธิได้ เว็บไซต์แนะนำา สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา http://www.ipthailand.go.th/th/gi-001.html ปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารอย่างแพร่หลาย ทำาให้การสื่อสาร และการค้าระหว่างประเทศเกิดขึ้นอย่างมากมายไร้พรมแดน ประเทศใดที่ไม่มีการนำาเข้าหรือส่งออกสินค้า และบริการ ประเทศนั้นจะพัฒนาช้ากว่าประเทศอื่น มาตรฐานในการครองชีพของประชาชนก็จะตำ่าลง ทำาให้ หลาย ๆ ประเทศต้องมีการแข่งขันกันเรื่องการค้าและธุรกิจ เมื่อการค้ามีความดุเดือด กลุ่มอุตสาหกรรม หรือบริษัทต่าง ๆ เริ่มให้ความสำาคัญกับการวางแผน และสร้างกลยุทธ์ให้กับบริษัทของตนเอง ซึ่ง ทรัพย์สินทางปัญญามักก่อให้เกิดรายได้ให้กับบริษัท โดยการขายผลิตภัณฑ์หรืออนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิ ในการผลิต 2. นักเรียนรวบรวมความรู้เกี่ยวกับ เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา จากนั้น ร่วมกันสังเกตผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้ ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 สวนประกอบ นมโค 100% R R MILK BOX TM ขาว TM กลอง C กลองเก็บ C ความเย็น 3. นักเรียนสังเกตและช่วยกันอธิบายว่า สัญลักษณ์ต่อไปนี้หมายถึงอะไร • ย่อมาจาก Copyright ชิ้นงานนี้ มีลิขสิทธิ์ ต้องขอ อนุญาต • ย่อมาจาก Registerd T r a d e m a r k เครื่องหมายการค้า จดทะเบียน • ย่อมาจาก Trade mark เครื่องหมาย การค้าที่ไม่ได้จด ทะเบียน 4. นักเรียนศึกษาค้นคว้าและรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง ทรัพย์สิน ทางปัญญา จากแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ ที่หลากหลาย เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต เสริมความรู้ ครูควรสอน การละเมิดลิขสิทธิ์มีโทษทางอาญาทั้งจำคุกและโทษปรับแล้วแต่กรณี และเจ้าของ ลิขสิทธิ์ยังมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่งด้วย

สุดยอดคู่มือครู 196 196 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 196 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 1.2 ประเภทของทรัพย์สินทางปัญญา ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม (Industrial Property) เป็นความคิดสร้างสรรค์ การผลิตสินค้า ออกแบบผลิตภัณฑ์ วิธีการหรือกระบวนการ ในการผลิตที่พัฒนาหรือคิดค้นใหม่เกี่ยวกับ อุตสาหกรรม สามารถแบ่งได้ดังนี้ • สิทธิบัตร (Patent) • เครื่องหมายการค้า (Trademark) • แบบผังภูมิของวงจรรวม • ความลับทางการค้า • สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ลิขสิทธิ์ (Copyright) เป็นการใช้ความคิดสร้างสรรค์ และ สติปัญญาในการผลิต หรือสร้างผลงานในด้าน วรรณคดี ศิลปะ วรรณกรรม ดนตรี ภาพยนตร์ วิทยาศาสตร์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ งาน ฐานข้อมูล เป็นต้น ซึ่งผลงานอาจแสดงออกเป็น รูปธรรมหรือนามธรรมก็ได้ เด็กควรรู้ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication: GI) เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่เป็นสินค้าที่มาจากแหล่งผลิต เฉพาะเจาะจง โดยคุณภาพหรือเอกลักษณ์ของสินค้านั้นเป็นผลมาจากการผลิต ในแหล่งภูมิศาสตร์ตามธรรมชาติ เช่น สภาพดินฟ้าอากาศ หรือวัตถุดิบเฉพาะในพื้นที่ จึงเปรียบเสมือนเป็นแบรนด์ของท้องถิ่นที่บ่งบอกถึงคุณภาพและแหล่งที่มาของสินค้า ในประเทศไทย กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ออกตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทาง ภูมิศาสตร์ไทย เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจในระดับชุมชน เป็นการยกระดับ คุณภาพชีวิตและสร้างความยั่งยืนให้ชุมชน เช่น • กาแฟดอยตุง จังหวัดเชียงราย • ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด • ทุเรียนนนท์ จังหวัดนนทบุรี • ขนมหม้อแกงเมืองเพชร จังหวัดเพชรบุรี • หมูย่างเมืองตรัง จังหวัดตรัง หากเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่ไม่เปิดเผยให้ผู้อื่นรับรู้ เรียกว่า Trade Secret เช่น สูตรของนำ้า Coca-Cola 5. นักเรียนร่วมกันศึกษาและวิเคราะห์ เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา โดย ตอบคำถาม ดังนี้ • ทรัพย์สินทางปัญญาที่นักเรียน สามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำ วัน มีอะไรบ้าง (ตัวอย่างคำ ตอบ ภาพยนตร์ดนตรี วรรณกรรม) • ท รัพ ย์ สิ น ทา งปั ญ ญ า ที่ ถู ก ละเมิดลิขสิทธิ์ที่สามารถพบเห็นได้ ในชีวิตประจำวันมีอะไรบ้าง (ตัวอย่างคำ ตอบ การลักลอบบันทึก ภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์มาเผยแพร่) • ยกตัวอย่างเครื่องหมายการค้า ที่จดทะเบียนในชีวิตประจำวัน (นักเรียนบอกเครื่องหมายการค้าหรือ ยี่ห้อของผลิตภัณฑ์และสินค้าต่าง ๆ ที่รู้จัก) • ยกตัวอย่างสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ที่อยู่ในจังหวัดของนักเรียน (ตัวอย่างคำ ตอบ ครกหินอ่างศิลา ตำบลอ่างศิลาอำ เภอเมืองจังหวัดชลบุรี) ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ 1 ส้มโอทับทิมสยาม 2 เครื่องปั้นดินเผาเกาะเกร็ด 3 ไข่เค็มไชยา 4 ข้าวสังข์หยด NET แนวข้อสอบ O-NET/PISA (เฉลย 2 เพราะเครื่องปั้นดินเผาเกาะเกร็ด อยู่ที่อำ เภอปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรีซึ่งอยู่ใน พื้นที่ภาคกลาง) ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2

197 197 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean การใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ผลงาน 197 ประเทศไทยได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552 เพื่อให้ประชากร เห็นความสำาคัญของการเผยแพร่เนื้อหาอย่างสร้างสรรค์บนโลกอินเทอร์เน็ต เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหา ลิขสิทธิ์ตัวการแบ่งปันสารสนเทศบนโลกออนไลน์ โดยหลักการของเงื่อนไขสัญญาอนุญาตแบ่งออกเป็นหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทสามารถนำามา ประกอบกันในการเลือกใช้หรือไม่ใช้ตัวใดก็ได้ ดังนี้ Creative Commons กับการสร้างและแสดงสิทธิ ความเป็นเจ้าของผลงาน แผนภาพที่ 5.1 เงื่อนไขสัญญาอนุญาตแต่ละประเภท ครีเอทีฟคอมมอนส์ (CC) เป็นสัญญาที่ทำาขึ้นเพื่อให้เจ้าของผลงานที่มีลิขสิทธิ์และมีการเผยแพร่ เปิดเป็นสาธารณะให้ผู้อื่นนำาผลงานของตนไปใช้เพื่อดัดแปลง คัดลอก หรือเผยแพร่ โดยไม่จำาเป็นต้อง ขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ แต่ต้องทำาตามเงื่อนไขที่เจ้าของผลงานกำาหนดไว้ โดยจะมีสัญลักษณ์ ที่เป็นเงื่อนไขระบุติดลงไปบนชิ้นงาน ได้แก่ ทั้งนี้ หากมีการนำาไปใช้โดยผิดจากเงื่อนไขที่เจ้าของผลงานกำาหนด เจ้าของผลงานสามารถฟ้องร้อง ได้ตามกฎหมายลิขสิทธิ์คุ้มครอง แสดงที่มา (Attribution: BY) ยินยอมให้ผู้อื่นคัดลอก เผยแพร่ แต่ให้เครดิตว่า ผลงานนี้ใครเป็นเจ้าของ ห้ามนำาไปใช้เพื่อการค้า (Non-Commercial: NC) ยินยอมให้ผู้อื่นคัดลอก เผยแพร่ ใช้งาน แสดงงาน ดัดแปลง แต่ห้ามใช้เพื่อการค้าเท่านั้น ห้ามแก้ไขต้นฉบับ (No Derivatives: ND) ยินยอมให้คัดลอก เผยแพร่ แต่ห้ามดัดแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น สัญญาอนุญาตแบบเดียวกัน (Share Alike: SA) ยินยอมให้ดัดแปลงคัดลอกด้วยสัญญาอนุญาต ที่เหมือนกันทุกประการ 6. นักเรียนร่วมกันศึกษาและวิเคราะห์ เกี่ยวกับ Creative Commons กับการสร้างและแสดงสิทธิความเป็น เจ้าของผลงาน โดยตอบคำถาม ดังนี้ • Creative Commons เป็นสัญญา ที่ทำ ขึ้นเพื่อให้เจ้าของผลงานมีสิทธิ ในด้านใด (มีสิทธิในการครอบครองลิขสิทธิ์และ มีการเผยแพร่เปิดเป็นสาธารณะให้ผู้อื่น นำ ผลงานของตนไปดัดแปลง คัดลอก หรือเผยแพร่โดยไม่ต้องขออนุญาต) • ยกตัวอย่างสัญลักษณ์ Creative Commons ที่นักเรียนพบเห็นในชีวิต ประจำวัน (ตัวอย่างคำ ตอบ สัญลักษณ์ห้ามนำ ไปใช้เพื่อการค้า) 7. นักเรียนร่วมกันศึกษาและวิเคราะห์ เกี่ยวกับ Creative Commons กับการสร้างและแสดงสิทธิความเป็น เจ้าของผลงาน โดยสุ่มตัวแทนนักเรียน ออกมาเขียนชื่อและข้อกำ หนดให้ สัมพันธ์กับสัญลักษณ์บนกระดาน ดังนี้ • แสดงที่มา (Attribution: B Y) ยิ น ย อ ม ใ ห้ ผู้ อื่ น คัดลอก เผยแพร่ แต่ต้อง ให้เครดิตเจ้าของผลงาน • ห้ามนำ ไปใช้เพื่อการค้า (Non-Commercial: NC) ยินยอมให้ผู้อื่นคัดลอก เผยแพร่ ใช้งาน ดัดแปลง แต่ห้ามใช้เพื่อการค้าเท่านั้น • ห้ า ม แ ก้ ไ ข ต้ น ฉ บั บ (No Derivatives: ND) ยินยอมให้คัดลอกเผยแพร่ แต่ห้ามดัดแปลงใด ๆ ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 • สัญญาอนุญาตแบบเดียวกัน (Share Alike: SA) ยินยอมให้ดัดแปลงคัดลอก ด้วยสัญญาอนุญาตที่เหมือนกัน 8. นักเรียนร่วมกันสรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา ดังนี้ • เป็นสิทธิทางกฎหมายของผู้คิดค้นสร้างสรรค์ ทางด้านสติปัญญา ความชํานาญ ในสาขาอาชีพของแต่ละบุคคลหรืออาจเป็นนามธรรม แนวคิดหรือบริการต่าง ๆ

สุดยอดคู่มือครู 198 198 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 198 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 การกำาหนดสัญญาอนุญาต มีการระบุเงื่อนไขร่วมกันได้ 6 แบบ ดังนี้ ให้เผยแพร่ ดัดแปลงได้ โดยต้องระบุ หรือแสดงที่มา ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุ หรือแสดงที่มา และต้องใช้สัญญา อนุญาตเดียวกัน ให้เผยแพร่ ต้องระบุหรือแสดงที่มา แต่ห้ามดัดแปลงจากเดิมใด ๆ ทั้งสิ้น CC-BY-ND CC-BY-SA CC-BY การกำาหนดสัญญาอนุญาต CC สัญลักษณ์ ความหมาย ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 9. นักเรียนแบ่งกลุ่ม 6 กลุ่ม จับสลาก เลือกการกำหนดสัญญาอนุญาต ดังนี้ • CC-BY • CC-BY-SA • CC-BY-ND • CC-BY-NC • CC-BY-NC-SA • CC-BY-NC-ND 10. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสืบค้น รูปแบบสัญลักษณ์ ความหมาย และ ตัวอย่างการกำหนดสัญญาอนุญาต ดังนี้ กลุ่มที่ 1 CC-BY • รูปแบบสัญลักษณ์ • ความหมายของสัญลักษณ์ • ตัวอย่างการกำหนดสัญลักษณ์ กลุ่มที่ 2 CC-BY-SA • รูปแบบสัญลักษณ์ • ความหมายของสัญลักษณ์ • ตัวอย่างการกำหนดสัญลักษณ์ กลุ่มที่ 3 CC-BY-ND • รูปแบบสัญลักษณ์ • ความหมายของสัญลักษณ์ • ตัวอย่างการกำหนดสัญลักษณ์ เสริมความรู้ ครูควรสอน อาเซียนได้ดำ เนินการพัฒนางานด้านทรัพย์สินทางปัญญา (ASEAN Working Group on Intellectual Property Cooperation: AWGIPC) มีการจัดทำแผนปฏิบัติการด้าน ทรัพย์สินทางปัญญา โดยแผนล่าสุดคือ ASEAN IPR Action Plan 2016-2025 มีอายุ 10 ปี ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ (1) การพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศ สมาชิก (2) การพัฒนาระบบและเครือข่ายทรัพย์สินทางปัญญา (3) การพัฒนาสภาพ แวดล้อมของทรัพย์สินทางปัญญาในอาเซียน (4) การใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็น เครื่องมือในการสร้างสินทรัพย์ให้แก่ภาคธุรกิจอาเซียน QR CODE เรื่อง Creative Commons

199 199 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean การใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ผลงาน 199 รอบรู้ ASEAN นักเรียนแบ่งกลุ่มร่วมกันค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาของแต่ละประเทศในประชาคม อาเซียน นำาเสนอหน้าชั้นเรียนเพื่อขยายการเรียนรู้ ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุ หรือแสดงที่มาแต่ห้ามใช้เพื่อการค้า โดยเด็ดขาด ให้เผยแพร่ดัดแปลง โดยต้องระบุ หรือแสดงที่มา แต่ห้ามใช้เพื่อการค้า โดยเด็ดขาด และต้องเผยแพร่ ดัดแปลง โดยใช้สัญญาอนุญาตชนิดเดียวกัน ให้เผยแพร่ โดยต้องระบุหรือแสดงที่มา แต่ห้ามใช้เพื่อดัดแปลงและการค้า โดยเด็ดขาด CC-BY-NC-ND CC-BY-NC-SA CC-BY-NC S สัญลักษณ์ ความหมาย ตารางที่ 5.1 สัญลักษณ์สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ 11. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสืบค้น รูปแบบสัญลักษณ์ ความหมาย และ ตัวอย่างการกำหนดสัญญาอนุญาต ดังนี้ กลุ่มที่ 4 CC-BY-NC • รูปแบบสัญลักษณ์ • ความหมายของสัญลักษณ์ • ตัวอย่างการกำหนดสัญลักษณ์ กลุ่มที่ 5 CC-BY-NC-SA • รูปแบบสัญลักษณ์ • ความหมายของสัญลักษณ์ • ตัวอย่างการกำหนดสัญลักษณ์ กลุ่มที่ 6 CC-BY-NC-ND • รูปแบบสัญลักษณ์ • ความหมายของสัญลักษณ์ • ตัวอย่างการกำหนดสัญลักษณ์ กิจกรรมนี้ประเมินตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/4 12. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็น ความรู้ร่วมกันดังนี้ • การกำหนดสัญญาอนุญาตเพื่อ แสดงสิทธิความเป็นเจ้าของผลงาน โดยมีรูปแบบสัญลักษณ์ที่เรียกว่า ครีเอทีฟคอมมอนส์ (CC) เพื่อให้ เจ้าของผลงานแสดงสิทธิและมีการ เผยแพร่เพื่อให้ผู้อื่นสามารถคัดลอก ดั ด แ ป ล ง โ ด ย ไ ม่ จำ เ ป็ น ต้ อ ง ขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งการ กำหนดสัญญาอนุญาตมี 6 รูปแบบ ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Step4 Step5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า บริการสังคม และจิตสาธารณะ 13. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำ เสนอ การสืบค้น การกำ หนดสัญญา อนุญาต โดยใช้โปรแกรมนำ เสนอ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ 14. นักเรียนร่วมกันจัดป้ายนิเทศข้อมูล การกำหนดสัญญาอนุญาต เพื่อเผย แพร่และแบ่งปันความรู้แก่เพื่อน ในระดับชั้นอื่น ๆ ที่สนใจ

สุดยอดคู่มือครู 200 200 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 200 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมากมายบนอินเทอร์เน็ต พบว่าระบบเครือข่ายมีการ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก เพราะเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร การคมนาคม การเดินทาง การทำาธุรกิจ และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ทุกอย่างบนอินเทอร์เน็ตล้วนเป็นข้อมูลที่มีเจ้าของซึ่งเป็นคนนำาข้อมูล เผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต ทั้งภาพนิ่ง เสียง ข้อความ ภาพเคลื่อนไหว รายการโทรทัศน์ วิทยุ ล้วนอยู่ในระบบ อินเทอร์เน็ต นอกจากการนำาข้อมูลเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้ทั่วโลกยังมุ่งหมายในการเข้าถึงแหล่งข้อมูล บนอินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา ความบันเทิง ความจรรโลงใจ ความคิดสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจ ในการดำารงชีวิต ซึ่งมีกฎระเบียบ กฎหมาย และข้อตกลงในการใช้งาน หากใช้อย่างไม่ระมัดระวังหรือ ใช้อย่างไม่เหมาะสมจะทำาให้เกิดปัญหาในสังคมหรือเกิดผลกระทบทางด้านลบได้ ข้อปฏิบัติในการใช้อินเทอร์เน็ต 1. เคารพในสิทธิและข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น ตรวจสอบที่มาของข้อมูล ตรวจสอบความเป็นส่วนตัว การเผยแพร่ข้อมูลต่าง ๆ ทั้งการนำาเสนอภาพ การส่งต่อข้อมูลควรได้รับอนุญาต 2. ใช้ภาษาที่สุภาพ ถูกต้อง และเหมาะสมกับคู่สนทนา 3. ปฏิบัติตามข้อกำาหนดของกฎหมายในการใช้คอมพิวเตอร์ 4. ไม่นำาเสนอภาพ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหวอนาจารบนอินเทอร์เน็ต 5. การทำาธุรกรรมทางการเงินบนเว็บไซต์ต้องตรวจสอบเว็บไซต์ให้ดีเพื่อป้องกันการคัดลอกข้อมูล 6. ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของตนเองและครอบครัวให้กับบุคคลอื่นที่ไม่รู้จักบนอินเทอร์เน็ต เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองและครอบครัวได้ 7. ไม่ตัดสินใจไปพบบุคคลที่รู้จักกันผ่านอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง หากมีการนัดควรไปในที่สาธารณะและแจ้งให้ผู้ปกครองรับรู้ 8. ถ้าได้รับภาพหรือข้อความใดที่ไม่เหมาะสม ควรออกจากเว็บไซต์นั้นทันที 1. นักเรียนร่วมกันสังเกตเกี่ยวกับการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศของตนและ บุคคลรอบข้าง แล้วตอบคำถาม ดังนี้ • เทคโนโลยีสารสนเทศรอบตัว นักเรียนมีอะไรบ้าง (ตัวอย่างคำ ตอบ โทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์) • แอปพลิเคชันหรือโปรแกรมใด เป็นช่องทางที่ก่อให้เกิดปัญหาทาง สังคมออนไลน์ (ตัวอย่างคำ ตอบFacebook, Line) • นักเรียนเคยประสบปัญหาใน สังคมออนไลน์อะไรบ้าง (ตัวอย่างคำ ตอบเสพข่าวที่มีข้อมูลเป็นเท็จ แล้วนำไปเผยแพร่ต่อ) 2. นักเรียนศึกษาค้นคว้าและรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศอย่างปลอดภัย จากแหล่ง การเรียนรู้อื่น ๆ ที่หลากหลาย เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต ว 4.2 ม.2/4 ภาระงาน/ชิ้นงาน 1. แผนภาพความคิดปัญหาการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. โปสเตอร์ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Step 1 3. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับ พฤติกรรมที่ควรปฏิบัติและพฤติกรรม ที่ไม่ควรปฏิบัติของการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ โดยตัวแทนนักเรียนออกมา เขียนคำ ตอบเป็นแผนภาพความคิด บนกระดาน ดังตัวอย่าง ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ พฤติกรรมที่ควรปฏิบัติ พฤติกรรมที่ไม่ควรปฏิบัติ ใช้ภาษาสุภาพในการสนทนา ระบุที่มาของข้อมูล ตั้งรหัสผ่านระบบและอุปกรณ์ เทคโนโลยีสารสนเทศ คัดกรองข้อมูลข่าวสาร ออกระบบบัญชีทุกครั้งหลังใช้งาน เปิดระบบเพื่อเตือนการทำธุรกรรม ทางการเงิน นำ เสนอข้อมูลเท็จ ดัดแปลงข้อมูลผู้อื่น เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้ ผู้อื่นทราบ ไ ป พ บ กั บ บุ ค ค ล ที่ รู้ จั ก ในอินเทอร์เน็ต ส่งไวรัสรบกวนผู้อื่น เจาะระบบข้อมูลผู้อื่น 4. นักเรียนร่วมกันสรุปความคิดรวบยอด เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างปลอดภัย ดังนี้ • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ควรใช้อย่างระมัดระวัง เพื่อเกิดความ ปลอดภัยกับตนเองและผู้อื่น ถ้าใช้อย่าง ไม่เหมาะสมจะทำ ให้เกิดปัญหาในสังคม หรือเกิดผลกระทบทางด้านลบได้ Step5 ตัวชี้วัด

201 201 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean การใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ผลงาน 201 5. นักเรียนจับคู่แล้วระบุปัญหาที่เกิด จากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มา 1 ปัญหา จากนั้นออกแบบ แผนภาพความคิด โดยระบุชื่อของ ปัญหา สาเหตุ ผลกระทบที่เกิดขึ้น แ ล ะ แ น ว ท า ง ใ น ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า ด้วยคอมพิวเตอร์ ดังตัวอย่าง Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ สร้างข้อมูลเท็จ แล้วส่งให้ผู้อื่น ใช้ภาษา ไม่สุภาพ ผลกระทบ ทำ ใ ห้ ผู้ อื่ น เ ดื อ ด ร้ อ น และเกิดการ ทะเลาะวิวาท ตามมา แนวทางในการแก้ปัญหา ไม่สร้างข้อมูลเท็จและคัดกรองข้อมูลก่อน ทุกครั้ง ใช้ภาษาสุภาพ ไม่ควรนำข้อมูลผู้อื่น ไปเผยแพร่ และเมื่อพบสื่อที่ไม่เหมาะสม ให้ออกจากเว็บไซต์ทันที ปัญหา การใช้อินเทอร์เน็ต อย่างไม่เหมาะสม ส่งวิดีโอ อนาจาร เผยแพร่ข้อมูล ผู้อื่น โดยไม่ได้ รับอนุญาต กิจกรรมประเมินตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/4 6. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็น ความรู้ร่วมกัน ดังนี้ • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ควรใช้อย่างระมัดระวัง ไม่ทำ ให้ผู้อื่น เดือดร้อน และควรศึกษาเกี่ยวกับ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกัน การกระทำผิดจากการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ 7. นักเรียนออกมานำ เสนอแผนภาพ ความคิดเกี่ยวกับปัญหาการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศหนั้าชั้นเรียน โดยใช้คอมพิวเตอร์ในการนำ เสนอ เพื่อแลกปลี่ยนเรียนรู้กัน ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Step4 Step5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า บริการสังคม และจิตสาธารณะ 8. นั ก เ รี ย น นำ โ ป ส เ ต อ ร์ พ . ร . บ คอมพิวเตอร์ที่ออกแบบจัดป้ายนิเทศ แสดงผลงาน และนำความรู้ไปบอก ต่อกับเพื่อน ๆ และผู้ปกครอง เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสม สาเหตุ

สุดยอดคู่มือครู 202 202 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA หากไม่มีการป้องกันข้อมูลส่วนตัว จะก่อให้เกิดผลอย่างไร คำาถามสำาคัญ 202 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ความเป็นส่วนตัว 1. ความสำาคัญของ ความเป็นส่วนตัว ปัจจุบันมนุษย์มีการพัฒนา และสร้างเทคโนโลยี โดยการใช้ศาสตร์ ความรู้ต่าง ๆ เพื่ออำานวยความสะดวก และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในการดำารงชีวิตประจำาวัน เทคโนโลยีที่พบ ในปัจจุบันมีการนำาคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการอำานวยความสะดวกหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการสื่อสาร มีการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการเก็บข้อมูล ประมวลผล และแสดงข้อมูลบนโลกออนไลน์ ปัจจุบันทุกคนสามารถเข้าใช้งานเพื่อค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ที่มีอยู่และเป็นสาธารณะได้ง่ายดาย บุคคล บางกลุ่มเลือกใช้ข้อมูลที่ดี บุคคลบางกลุ่มนำาข้อมูลที่พบไปใช้ในทางที่ผิดหลักคุณธรรม จริยธรรม หรือใช้ ในการปลอมแปลงเอกสาร การปลอมแปลงตัวตน สิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือเกิดอาชญากรรม ในสังคมได้ การเข้าใช้ข้อมูลต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ต้องมีนโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อคัดกรองการเข้าถึงข้อมูล ปกป้องข้อมูลบนโลกออนไลน์ ซึ่งบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลจะมีสิทธิพิจารณาการให้เข้าถึงข้อมูลของตน ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy) เป็นสิทธิในการเป็นเจ้าของและควบคุมข้อมูลของตนเอง ในการเปิดเผยหรือเผยแพร่ข้อมูลใด ๆ ให้กับผู้อื่น เด็กควรรู้ จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ แบ่งเป็น 4 ประเด็น ประกอบด้วย 1. ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy) หมายถึง สิทธิที่เจ้าของสามารถที่จะควบคุมข้อมูล ของตนเองในการเปิดเผยให้กับผู้อื่น เช่น การเข้าไปดูข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์และการบันทึกข้อมูล ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และตัวอย่างพฤติกรรมที่ผิดจริยธรรม เช่น การติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคล การใช้ข้อมูล ของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายตลาด 2. ความถูกต้อง (Information Accuracy) หมายถึง ความถูกต้องของการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการรวบรวม จัดเก็บ และเรียกใช้ข้อมูลนั้น ในการจัดทำาข้อมูลและสารสนเทศควรได้รับการตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะนำาเข้า ฐานข้อมูล รวมถึงการปรับปรุงข้อมูลให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ 3. ความเป็นเจ้าของ (Information Property) หมายถึง กรรมสิทธิ์ในการถือครองทรัพย์สิน ซึ่งอาจเป็นทรัพย์สิน ทั่วไปที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ เช่น คอมพิวเตอร์ รถยนต์ บทเพลง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่สามารถถ่ายทอด และบันทึกลงในสื่อต่าง ๆ ได้ เช่น สิ่งพิมพ์ เทป ซีดีรอม ในการคัดลอกผลงานนั้น ๆ จะต้องคำานึงถึงสิทธิที่ได้รับว่า มีสิทธิในระดับใด 4. การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility) การเข้าใช้งานโปรแกรมหรือระบบคอมพิวเตอร์จะมีการกำาหนดสิทธิ ตามระดับของผู้ใช้งาน เพื่อเป็นการป้องกันการเข้าไปดำาเนินการต่าง ๆ เป็นการรักษาความลับของข้อมูล 1. นักเรียนสังเกตบัตรประจำตัวประชาชน ของตนเอง แล้วตอบคำถาม ดังนี้ ว 4.2 ม.2/4 ภาระงาน/ชิ้นงาน การปฏิบัติเกี่ยวกับวิธีการป้องกันข้อมูล ส่วนตัวบนโลกออนไลน์ ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Step 1 • ข้อมูลที่ไม่ควรเปิดเผยให้ผู้อื่น รับรู้คืออะไร (1 เลขประจำ ตัวประชาชน 13 หลัก 2. แถบบาร์โคดซ้ายมือ 3. เลขใต้ภาพ 4. ตำแหน่งที่ตั้งที่อยู่อาศัย) • การทำ สำ เนาข้อมูลส่วนตัว ต่าง ๆ เช่น สำ เนาบัตรประจำตัวประชาชน สำ เนาทะเบียนบ้าน เพื่อไป ใช้งาน นักเรียนมีวิธีป้องกันข้อมูล ส่วนตัวอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบใช้ปากกาขีดทับบนหน้า สําเนา เซ็นลายมือชื่อและเขียนว่า “ใช้สำหรับ...” เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่น นำสำ เนาไปใช้) • หากไม่มีการป้องกันข้อมูล ส่วนตัวจะก่อให้เกิดผลอย่างไร (ตัวอย่างคำ ตอบ อาจถูกแอบอ้างหรือ ปลอมแปลง เพื่อนำ ข้อมูลไปใช้เพื่อ เกิดประโยชน์แก่ผู้ไม่หวังดีและส่งผลเสีย ต่อเจ้าของข้อมูลและคนรอบข้าง) 2. นักเรียนศึกษาค้นคว้าและรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง ความเป็นส่วนตัว จากแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ ที่หลากหลาย เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต chaos (เค′ ออส) ความวุ่นวาย counterfeit (เคาน′ฺ เทอะ ฟิท) ปลอมแปลง crime (ไครฺม) อาชญากรรม document (ดอค′ คิว เมินทฺ) เอกสาร English talk ตัวชี้วัด

203 203 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean การใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ผลงาน 203 2. วิธีปกป้องข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์ เป็นแนวทางในการรักษาความเป็นส่วนตัวของบุคคลในการใช้สื่อหรือการใช้ข้อมูล บนโลกออนไลน์ ซึ่งจะมีการกำาหนดแนวทางในการรักษาข้อมูลของตนเองให้มีความปลอดภัยและ มีความเป็นส่วนตัว ดังนี้ 2.1 การตั้งรหัสป้องกันในอุปกรณ์ต่างๆ เป็นขั้นตอนแรกในการป้องกันข้อมูลความเป็นส่วนตัว ควรมีการเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นระยะ เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น การโดนขโมยหรือลืมอุปกรณ์ต่าง ๆ ทิ้งไว้ ทั้งสมาร์ตโฟน และคอมพิวเตอร์ การตั้งรหัสผ่านจะเป็นตัวช่วยในการป้องกันข้อมูลความเป็นส่วนตัวได้ดี ทีเดียว ในการตั้งรหัสผ่านควรตั้งเป็นตัวอักขระที่ตนเองจำาได้ง่าย แต่ให้ผู้อื่นคาดเดาได้ยาก และไม่ควรใช้รหัสผ่านที่เป็นวัน เดือน ปีเกิด 2.2 การแจ้งเตือน การใช้บริการ Google Alert แจ้งเตือน เมื่อมีการ เข้าถึงบัญชีส่วนตัวของผู้ใช้บนโลกออนไลน์จะมีการแจ้งเตือนผ่านเข้าไป ในอีเมล ทำาให้เจ้าของบัญชีรับรู้เหตุการณ์การแจ้งเตือน เกิดขึ้นได้ใน หลายแอปพลิเคชัน เช่น อินเทอร์เน็ตแบงก์กิงของธนาคาร การเข้าถึง แอปพลิเคชันไลน์ (LINE) 2.3 ลงชื่อออกจากบัญชีทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน การลงชื่อออกจากอุปกรณ์หรือคอมพิวเตอร์สาธารณะ ที่เราใช้งานเสร็จแล้วถือเป็นสิ่งสำาคัญ เพราะช่วยป้องกันผู้อื่นที่ เข้าใช้งานทีหลัง ในการเข้าใช้ข้อมูลของเรา ซึ่งอาจนำาบัญชีเราไปใช้ในการ กระทำาความผิดทั้งทางกฎหมาย และการผิดศีลธรรม จริยธรรม เช่น การโพสต์ หรือการคอมเมนต์ข้อมูลในทางลบต่าง ๆ PASSWORD **** 3. นักเรียนร่วมกันศึกษาและวิเคราะห์ เกี่ยวกับวิธีป้องกันข้อมูลส่วนตัว บนโลกออนไลน์ แล้วตอบคำถาม ดังนี้ • วิ ธี ป้ อ ง กั น ข้ อ มู ล ส่ ว น ตั ว บนโลกออนไลน์หมายถึงอะไร (การรักษาข้อมูลความเป็นส่วนตัว ในการใช้งานบนโลกออนไลน์ เพื่อให้ เกิดความปลอดภัยและมีความเป็น ส่วนตัวสูงสุด) • การตั้งรหัสป้องกันในอุปกรณ์ ต่าง ๆ มีความสำคัญอย่างไร (การตั้งรหัสป้องกันจะช่วยในการรักษา ข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของระบบหรือ อุปกรณ์ที่ต้องการความปลอดภัย และเป็นขั้นตอนแรกที่จะป้องกันข้อมูล จากผู้ไม่หวังดี) • ยกตัวอย่างการแจ้งเตือนจาก ระบบเมื่อมีการเข้าใช้งานบนโลก ออนไลน์ (ตัวอย่างคำตอบการแจ้งเตือนทางsms) • การลงชื่อออกจากบัญชีทุกครั้ง เมื่อเลิกใช้งานมีความสำคัญอย่างไร (ตัวอย่างคำ ตอบเพื่อลดโอกาสการเกิด การลักลอบเข้าใช้งานจนอาจทำให้เกิด ความเสียหายต่อตนเองและบุคคลอื่น) ข้อใดเป็นการปลดล็อกด้วยรหัสที่แตกต่างออกไป 1 การปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ 2 การปลดล็อกด้วยม่านตา 3 การปลดล็อกด้วยใบหน้า 4 การปลดล็อกด้วยรหัสตัวเลข NET แนวข้อสอบ O-NET/PISA (เฉลย 4 เพราะการปลดล็อกด้วยข้ออื่นใช้เอกลักษณ์แต่ละบุคคลเพื่อยืนยันตัวตน) ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2

สุดยอดคู่มือครู 204 204 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 204 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2.4 ป้องกันข้อมูลอีเมล หมายเลขโทรศัพท์หรือหมายเลข บัตรประจำาตัวประชาชน การเข้าเว็บไซต์หลายเว็บไซต์ที่ต้องใช้ข้อมูลเกี่ยวกับ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์หรือหมายเลขบัตรประจำาตัวประชาชนในการ ยืนยันตัวบุคคลจึงสามารถเข้าใช้งานได้เจ้าของรหัสต้องรับผิดชอบ หากรหัสของตนเข้าใช้บริการในเว็บไซต์ต่างๆ 2.6 การตรวจสอบความปลอดภัยจากการใช้จ่ายบนโลก ออนไลน์ของผู้บริโภค ในปัจจุบันส่วนมากมีการใช้บริการออนไลน์ในการสั่ง ซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีการใช้จ่ายผ่าน บัตรเครดิต โดยการกรอกหมายเลขและรหัสผ่านบัตร ซึ่งอาจจะมี ซอฟต์แวร์ที่แอบแฝงในเครื่องและอุปกรณ์โดยจะคัดลอกข้อมูลแล้วส่ง ให้เจ้าของซอฟต์แวร์ทำาให้เกิดความไม่ปลอดภัย 2.7 การตั้งค่าเครือข่ายสังคมออนไลน์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ในปัจจุบันเช่นfacebookทำาให้ ผู้คนติดต่อสื่อสารกันได้รวดเร็วขึ้น การเปิดเผยข้อมูลความเป็นส่วนตัว ควรจำากัดขอบเขตสำาหรับกลุ่มสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เช่น กลุ่มใดบ้าง ควรเห็นโพสต์ข้อความหรือรูปภาพของเรากลุ่มใดบ้างไม่ควรเห็นผู้ใช้งาน จึงควรมีการตั้งค่าที่เหมาะสม 2.5 เปิดใช้ระบบพิสูจน์ตัวตนใน Gmail ในการลงชื่อเข้าใช้ใน Gmail หากต้องใช้อุปกรณ์ใหม่ จะต้องได้รับรหัสผ่านจากอุปกรณ์เดิมที่มีการยืนยันส่งเข้าสู่โทรศัพท์ เคลื่อนที่ก่อน จึงสามารถลงชื่อเข้าใช้งานในอุปกรณ์ใหม่ได้ซึ่งเป็นระบบ บริการพิสูจน์ตัวตน2ขั้นตอน 4. นักเรียนร่วมกันศึกษาและวิเคราะห์ เกี่ยวกับวิธีป้องกันข้อมูลส่วนตัว บนโลกออนไลน์ (ต่อ) แล้วตอบ คำถาม ดังนี้ • หากไม่ป้องกันข้อมูลอีเมล หมายเลขโทรศัพท์ หรือหมายเลข บัตรประจําตัวประชาชน จะเกิด ผลเสียอย่างไร (ตัวอย่างคำ ตอบอาจถูกสวมรอยหรือ นำ ข้อมูลเหล่านั้นไปกระทำ ความผิด ที่ส่งผลต่อเจ้าของข้อมูลและคนรอบข้าง) • การใช้งานระบบพิสูจน์ตัวตน ใน Gmail เกิดขึ้นมาจากสาเหตุใด (มีผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าถึงรหัสในการ ลงชื่อเข้าใช้งานระบบและมีวัตถุประสงค์ เพื่อก่อให้เกิดความเสียหาย จึงมีการ ยืนยันผ่านอุปกรณ์เดิมด้วยรหัสหรือ ชุดตัวเลขก่อนจึงสามารถเข้าใช้งานได้) • การป้องกันความปลอดภัยจาก การใช้จ่ายบนโลกออนไลน์สามารถ ทำ ได้โดยวิธีใด (ตัวอย่างคำ ตอบ การจํากัดจำนวนเงิน และจำนวนครั้งต่อวันในการใช้จ่ายผ่าน บัตรเครดิตหรืออาจใช้บริการเก็บเงิน ปลายทางเพื่อเพิ่มความปลอดภัยจากการ ถูกขโมยข้อมูล) การป้องกันการถูกโจรกรรมข้อมูลวิธีใดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด 1 การใช้รหัสผ่านด้วยหมายเลขโทรศัพท์ 2 แยกข้อมูลแล้วกระจายไปยังที่เก็บที่หลากหลาย 3 งดการใช้คอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายสาธารณะ 4 ใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จในการรับบริการออนไลน์ NET แนวข้อสอบ O-NET/PISA (เฉลย 3 เพราะการใช้คอมพิวเตอร์ หรือเครือข่ายสาธารณะผู้ให้บริการอาจ มีวัตถุประสงค์เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้เพื่อ นำ ข้อมูลไปก่อให้เกิดความเสียหาย จึงควรหลีกเลี่ยงการกระทำนี้ ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2

205 205 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean ช่องทางการโจมตี อีเมล ไวรัสและมัลแวร์ การเข้าถึงระบบ ได้จากระยะไกล การเข้าถึงคอมพิวเตอร์ ภายในเครือข่ายโดยตรง ช่องทางใหม่ของ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ 1 2 3 4 5 @ การใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ผลงาน 205 3. วิธีการป้องกันจากการโดนโจรกรรมข้อมูลความเป็นส่วนตัว ขั้นคิดวิเคราะห์ และสรุปความรู้ Step 2 5. นักเรียนร่วมกันศึกษาและวิเคราะห์ เกี่ยวกับวิธีการป้องกันจากการ โดนโจรกรรมข้อมูลความเป็นส่วนตัว แล้วตอบคำถาม ดังนี้ • ช่องทางการโจมตีของผู้ไม่หวังดี มีกี่ช่องทาง อะไรบ้าง (5ช่องทาง ได้แก่ 1. การเข้าถึงระบบได้จากระยะไกล 2. การเข้าถึงคอมพิวเตอร์ภายใน เครือข่ายโดยตรง 3. ช่องทางใหม่ของฮาร์ดแวร์และ ซอฟต์แวร์ 4. ไวรัสและมัลแวร์ 5. อีเมล) • การหลีกเลี่ยงการโจมตีใน ช่องทางใดที่ผู้ใช้งานปกติกระทำ ได้ยาก เพราะเหตุใด (ช่องทางใหม่ที่เกิดจากช่องโหว่ของ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์) 6. นักเรียนร่วมกันสรุปความคิดรวบยอด เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว ดังนี้ • ข้อมูลความเป็นส่วนตัวของ แต่ละบุคคลถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เป็น เจ้าของจะต้องรักษาและป้องกัน รวมถึงรู้เท่าทันช่องทางการโจมตี ลักลอบการเข้าถึงข้อมูล และนำ ไปใช้ ไม่ให้เกิดผลเสียต่อตนเองและ คนรอบข้าง เสริมความรู้ ครูควรสอน ควรหลีกเลี่ยงการเข้าเว็บไซต์ผิดกฎหมาย เช่น เว็บไซต์ลามกอนาจาร เว็บไซต์ การพนัน เว็บไซต์ขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะเป็นช่องทางที่อาจก่อให้เกิด อันตรายแก่คอมพิวเตอร์ เช่น ติดไวรัสและมัลแวร์ และยังเป็นอันตรายต่อตนเอง

สุดยอดคู่มือครู 206 206 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA การเปิดบัญชีระบบ พิสูจน์ตัวตนใน Gmail การตรวจสอบ ความปลอดภัย จากการใช้จ่าย ในระบบ ออนไลน์ ตั้งค่าเครือข่าย สังคมออนไลน์ การลงชื่อออกจากบัญชี ทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน การป้องกันข้อมูลอีเมล หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน การแจ้งเตือน การตั้งรหัสป้องกันใน อุปกรณ์ต่าง ๆ วิธีการ ป้องกัน 206 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 7. นักเรียนศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับ วิธีการป้องกันข้อมูลส่วนตัวบนโลก ออนไลน์ ตามวิธีการ ดังนี้ 7.1 ตั้งรหัสป้องกันในอุปกรณ์ต่าง ๆ 7.2 ตั้งการแจ้งเตือนการเข้าใช้งาน อุปกรณ์ 7.3 ลงชื่อออกจากบัญชีทุกครั้ง 7.4 ป้องกันหรือหลีกเลี่ยงข้อมูล อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ หรือ หมายเลขบัตรประชาชน 7.5 เปิดระบบพิสูจน์ตัวตน 7.6 ตั้งค่าเครือข่ายสังคมออนไลน์ 7.7 ป้องกันและตรวจสอบความ ปลอดภัยจากการใช้จ่ายใน ระบบออนไลน์ กิจกรรมนี้ประเมินตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/4 8. นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เป็น ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับวิธีป้องกัน ข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์ ดังนี้ • การรู้จักป้องกัน รักษาข้อมูล ของตนเองทําให้ลดโอกาสการ เกิดปัญหาที่จะตามมาในอนาคต จากการถูกลักลอบใช้งานข้อมูล ส่วนตัว Step 3 ขั้นปฏิบัติ และสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Step4 Step5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า บริการสังคม และจิตสาธารณะ 9. ตัวแทนนักเรียนออกมานำ เสนอ วิธีการป้องกันข้อมูลส่วนตัวบน โลกออนไลน์ โดยใช้โปรแกรม นำ เสนอหรือใช้บทบาทสมมุติเพื่อเพิ่ม ความน่าสนใจ 10. นักเรียนนำ ความรู้ที่ได้ไปแนะนำ คนในครอบครัว เพื่อน และคน รอบข้าง เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนตัว บนโลกออนไลน์และปัญหาที่จะ ตามมาในอนาคต

207 207 สุดยอดคู่มือครู รอบรู้อาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า Self-Regulating เสริมความรู้ ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ Applying the Communication Skill asean การใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ผลงาน 207 โครงงานสร้างสรรค์ นักเรียนแบ่งกลุ่มร่วมกันศึกษา วิเคราะห์ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับห้องเรียนอัจฉริยะ แล้วออกแบบห้องเรียนอัจฉริยะในยุคศตวรรษที่ 21 จากนั้นนำาผลงานการออกแบบไปเผยแพร่ ทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ พร้อมกับแสดงความเป็นเจ้าของผลงานโดยใช้ Creative Commons 1. นักเรียนสืบค้นข่าวที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ แล้วนำามาอภิปรายและวิพากย์สถานการณ์ ที่เกิดขึ้น 2. นักเรียนยกตัวอย่างกรณีศึกษาการแสดงสิทธิประเภทต่าง ๆ ของชิ้นงานของบุคคลอื่น 3. นักเรียนออกแบบสิ่งประดิษฐ์และผลิตภัณฑ์ที่สามารถเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่/ชุมชน ที่นักเรียนอาศัยอยู่ กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพราะเหตุใดจึงต้องมีการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา 2. ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมแตกต่างจากลิขสิทธิ์อย่างไร 3. จงยกตัวอย่างสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทยตามพื้นที่ต่าง ๆ มา 5 ตัวอย่าง 4. เพราะเหตุใดจึงต้องมีการกำาหนดเลือกครีเอทีฟคอมมอนส์ (CC) 5. หากนักเรียนต้องการคัดลอกข้อความหนังสือที่มีลิขสิทธิ์มาใช้ทำารายงาน นักเรียนจะปฏิบัติอย่างไร 6. หากนักเรียนต้องการใช้ภาพอินโฟกราฟิกที่มีสัญลักษณ์ มาใช้ในการนำาเสนอ เพื่ออธิบายประกอบการนำาเสนอ นักเรียนควรปฏิบัติอย่างไร 7. หากนักเรียนต้องการเผยแพร่คลิปวิดีโอละครสั้นลงบนสื่อออนไลน์ โดยที่ต้องการแสดงสิทธิ ความเป็นเจ้าของ แต่อนุญาตให้ผู้อื่นนำาไปเผยแพร่ต่อได้ โดยห้ามดัดแปลงส่วนใดในคลิป และ ไม่อนุญาตให้นำาไปใช้ประโยชน์ในการค้าใด ๆ ต้องใช้สัญลักษณ์ครีเอทีฟคอมมอนส์ใดในชิ้นงาน 8. นักเรียนมีวิธีการป้องกันข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์อย่างไร 9. นักเรียนมีวิธีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างไรให้ปลอดภัย และไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น 10. เพราะเหตุใดจึงไม่ควรบอก username และ password ของตนเองแก่ผู้อื่น และในขณะเดียวกัน ก็ไม่ควรเข้าใช้บัญชีผู้ใช้ของผู้อื่นในการ Login เข้าสู่ระบบใด ๆ คำาถามพัฒนากระบวนการคิด ? แนวค�ำตอบ 1. เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ทางปัญญาของ ผู้คิดค้นและเป็นการป้องกันการลักลอบ การคัดลอก ดัดแปลง แก้ไข ทรัพย์สิน ทางปัญญา 2. ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมมีความเกี่ยวข้อง กับการผลิตสินค้า ออกแบบผลิตภัณฑ์ เช่น สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า หรือ ความลับทางการค้าแต่ลิขสิทธิ์เป็นการใช้ ความคิดสร้างสรรค์และสติปัญญาในการ ผลิตเช่นวรรณคดีวรรณกรรมภาพยนตร์ ดนตรี 3. เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง,ผ้าไหมแพรวา กาฬสินธุ์, มะขามหวาน เพชรบูรณ์, กาแฟดอยช้าง,และไข่เค็มไชยา 4. ทำขึ้นเพื่อให้เจ้าของผลงานที่มีลิขสิทธิ์และ มีการเผยแพร่เปิดเป็นสาธารณะให้ผู้อื่น นำผลงานไปดัดแปลง คัดลอก แก้ไข ตามเงื่อนไข 5. เพิ่มส่วนอ้างอิงในรายงานที่จัดทำขึ้น 6. ให้เผยแพร่ต้องระบุหรือแสดงที่มาแต่ห้าม ดัดแปลงจากเดิมใดๆทั้งสิ้น 7. 8. ตั้งรหัสป้องกันหรือการเข้าใช้งาน 9. หลีกเลี่ยงการเข้าใช้งานคอมพิวเตอร์ สาธารณะ และไม่เผยแพร่ข้อมูลหรือ ข้อความก่อนที่จะไตร่ตรองถึงข้อเท็จจริง และสิทธิของผู้อื่น 10. เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย จากการถูกนำข้อมูลไปใช้เพื่อผลประโยชน์ และก่อให้เกิดผลเสียต่อตัวเองในอนาคต BY NC ND

สุดยอดคู่มือครู 208 208 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ Processing บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 GPAS 5 Steps แนวข้อสอบ O-NET/PISA 208 เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ณัฐวัตร คำาภักดี. คู่มือเขียนโปรแกรมด้วยภาษาไพธอน Python. กรุงเทพฯ : โปรวิชัน, 2561. ธนาวุฒิ ประกอบผล และอัมรินทร์ เพ็ชร์กุล. หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม ระบบเครือข่ายเบื้องต้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6. กรุงเทพฯ : ซัคเซส มีเดีย, 2554. ภัทรสินี ภัทรโกศล. เครือข่ายคอมพิวเตอร์. กรุงเทพฯ : สำานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2555. สุพจน์ สง่าทอง และปิยะ นากสงค์. การเขียนโปรแกรมภาษาไพธอน Python. กรุงเทพฯ : รีไวว่า, 2561. Curl M. White. Fundamentals of Networking and Data Communications. Canada: Cengage Learnning, 2011. Jonathan Chan and Choy Wai Tse Kelly. COMPUTER APPLICATIONS for upper secondary. Singapore: Pearson, 2007. ข้อมูลเว็บไซต์ สำานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://www.thaicert.or.th/papers/general/2013/Pa20139euro.html. (วันที่ค้นข้อมูล : 4 กันยายน 2561). บรรณานุกรม สุดยอดคู่มือครู 208 208

website : www.iadth.com ๒ สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) สำานักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำากัด ๑๒๕๖/๙ ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ โทร. ๐-๒๒๔๓-๘๐๐๐ (อัตโนมัติ ๑๕ สาย), ๐-๒๒๔๑-๘๙๙๙ แฟกซ์ : ทุกหมายเลข, แฟกซ์อัตโนมัติ : ๐-๒๒๔๑-๔๑๓๑, ๐-๒๒๔๓-๗๖๖๖ สงวนลิขสิทธิ์ หนังสือเล่มนี้ได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ๒๑ มาตรฐานสากล ศตวรรษที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ BBL5Steps สุดยอดคู่มือครูหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี (วิทยาการคำานวณ) ม. ๒หลักสูตรฯ ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) คู่มือครูเพื่อใช้คู่กับหนังสือเรียน พว. ใช้กระบวนการ BBL & PBL เน้นการทำางานของสมอง GPAS เพิ่มผลสัมฤทธิ์ด้วย NT / O-NET PISA โครงงานบูรณาการ สู่อาเซียนและโลก ทักษะศตวรรษที่ ๒๑ จัดการเรียนรู้ตามแนวทาง Backward Design เฉลยคำาตอบ ละเอียดทุกข้อ QR CODE นวัตกรรมสื่อเสริม ความรู้ความเข้าใจ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระภูมิศาสตร์ • จัดกลุ่มสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ใหม่ • ปรับโครงสร้างรายวิชาใหม่ • เพิ่มสาระการเรียนรู้ที่มีความจำาเป็น • เลื่อนไหลเนื้อหาให้มีความเหมาะสม • ตัดเนื้อหาที่มีความซ้ำาซ้อนกับเนื้อหา กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น หลักสูตรใหม่ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ • การเรียนรู้ภูมิศาสตร์ (Geo-literacy) โดยมีองค์ประกอบ ๓ ส่วน คือ ความสามารถ ทางภูมิศาสตร์ กระบวนการทางภูมิศาสตร์ และทักษะทางภูมิศาสตร์ • ปรับตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ แกนกลางสาระภูมิศาสตร์ • จัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ใหม่ • เปลี่ยนชื่อสาระการเรียนรู้ใหม่ • เพิ่มเติมเนื้อหาด้านต่างๆ ที่มีความทันสมัย สอดคล้องต่อการดำารงชีวิตในปัจจุบันและอนาคต • เลื่อนไหลบางเนื้อหาให้มีความเหมาะสม • เพิ่มเติมสาระที่ ๔ เทคโนโลยี 9 7 8 6 1 6 0 5 4 5 2 7 8 ISBN : 978-616-05-4527-8