หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 44 3.2 นักเรียนทำใบงานแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน 3.3 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน หากมีข้อใดที่ นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น 11. สื่อการเรียนรู้ / แหล่งเรียนรู้ 11.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ Spark 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2. ใบความรู้เรื่อง Vocabulary 3. ใบงานเรื่อง Vocabulary 4. แบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ Spark 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 11.2 แหล่งเรียนรู้ 1. หนังสือพิมพ์ 2. อินเทอร์เน็ตหรือสื่ออื่น ๆ 12. การวัดและประเมินผล ลำดับ รายการที่วัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ใบงานเรื่อง Vocabulary ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นั ก เรีย น ให้ ค วาม ร่วม มื อใน การท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 2 แบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ Spark 2 Student’s book ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด นั ก เรีย น ให้ ค วาม ร่วม มื อใน การท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 13. เกณฑ์การประเมิน 16 - 20 คะแนน ดีมาก 11 - 15 คะแนน ดี 6 - 10 คะแนน พอใช้ น้อยกว่า 6 คะแนน ควรปรับปรุง ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 45 บันทึกหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู วันที่..............เดือน..................................พ.ศ. ..................
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 46 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง Our Wonderful World แผนการจัดการเรียนรู้ที่2 เรื่อง Adjective รหัสวิชา อ22122 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 4 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุจินดา ปรากฏวงศ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับ ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก 1.2 ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.2/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.2 ม.2/5 พูดและเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่าง เหมาะสม ต 2.2 ม.2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค ชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยค ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ต 4.2 ม.4/2 เผยแพร่/ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ของโรงเรียนเป็นภาษาต่างประเทศ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับ Adjective ในข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรอง - นักเรียนมีความรู้ในการอ่านออกเสียง Adjective ตามหลักการอ่านออกเสียง 2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถเขียนประโยคโดยใช้ Adjective เพื่อใช้ในการสื่อสารระหว่างบุคคล ในการแสดง ความรู้สึก ความคิดเห็นและให้เหตุผลประกอบ สถานการณ์ ในชีวิตประจำวันได้ - นักเรียนสามารถใช้ลำดับ Adjective ตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศได้ - นักเรียนสามารถใช้ Adjective ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารเป็นภาษาอังกฤษได้
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 47 2.3 คุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - รักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและฝึกฝนอย่างจริงจังเพียงพอ - ผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีมารยาท ถูกต้องตามกาลเทศะ และบุคคล 3. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด - เขียนประโยคตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศโดยใช้ Adjective เพื่อใช้ในการสื่อสาร ระหว่างบุคคล แสดงความรู้สึก ความคิดเห็นและให้เหตุผลประกอบ สถานการณ์ ในชีวิตประจำวันการนำเสนอ ข้อมูลข่าวสาร มีทักษะในการเลือก พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม ในการปฏิบัติตนอย่าง เหมาะสม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง เขียนประโยคตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศโดยใช้ Adjective เพื่อใช้ในการสื่อสาร ระหว่างบุคคล แสดงความรู้สึก ความคิดเห็นและให้เหตุผลประกอบ สถานการณ์ ในชีวิตประจำวันการนำเสนอ ข้อมูลข่าวสารได้ 4.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1. คำศัพท์ในเรื่อง Unit 5 : Our Wonderful World 2. บทสนทนาในเรื่อง Unit 5 : Our Wonderful World 3. การใช้โครงสร้าง Adjective ในรูปแบบต่าง ๆ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 5.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 6.1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ตามหลักสูตรแกนกลาง) 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 6.2 คุณลักษณะตามหลักสูตรมาตรฐานสากล 1) มีความรู้พื้นฐานในยุคดิจิตอล วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา พหุวัฒนธรรม ตระหนักสำนึกระดับโลก 2) สามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ปรับตัวใฝ่รู้ ใฝ่เรียน วิเคราะห์ สังเคราะห์สรุป สร้างองค์ความรู้ 3) มีทักษะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 4) มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 48 7. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 7C เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 7.1 ทักษะการอ่าน (Reading) 7.2 ทักษะการเขียน (Writing) 7.3 ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic) 7.4 ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) 7.5 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) 7.6 ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, teamwork and leadership) 7.7 ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) 7.8 ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication information and media literacy) 7.9 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing) 7.10 ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) 8. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 8.1 บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 8.2 บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 8.3 บูรณาการห้องเรียนสีเขียว 8.4 อื่น ๆ (โปรดระบุ)................................................................................................................................................. 9. ชิ้นงาน / ภาระงาน 1. ภาระงาน - ใบงานเรื่อง Adjective 2. ชิ้นงาน - 10. กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) เรื่อง Adjective วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบ 2W3P) ชั่วโมงที่ 1 - 2 1. ขั้นกระตุ้นทบทวนและปูพื้นฐานความรู้(Warm up) 1.1 นักเรียนดูรูปภาพบน PowerPoint และร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับภาพ
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 49 1.2 นักเรียนแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละเท่าๆ กัน โดยแต่ละทีมประกอบไปด้วยนักเรียนกลุ่มเก่ง ปาน กลางและอ่อน 1.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มผลัดกันแต่งประโยคกลุ่มละ 1 ประโยค โดยดูจากรูปภาพบนกระดานโดยส่ง ตัวแทนครั้งละ 1 คน ออกมาเขียนประโยคบนกระดาน และเพื่อน ๆ ในห้องช่วยกันตรวจสอบว่าถูกต้องหรือไม่ 1.4 ครูขีดเส้นใต้คำ Adjective ที่อยู่ในประโยคที่นักเรียนร่วมกันแต่งบนกระดาน เช่น • He is tried. • Today is so hot. • The weather is hot. • He is wearing a black tie. • He wear a purple and orange striped shirt. 1.5 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่าคำที่ถูกขีดเส้นใต้นั่นคือคำอะไร ทำหน้าที่อะไร 1.6 นักเรียนฟังครูชี้แจงว่าคำที่ถูกขีดเส้นใต้นั่นคือคำ Adjective ซึ่งคำคุณศัพท์ในภาษาอังกฤษมีหน้าที่ ขยายหรืออธิบายลักษณะของคำนาม คล้ายกับภาษาไทย เช่น big dog หมาตัวใหญ่ คำว่า big คือคำคุณศัพท์ 2. ขั้นนำเสนอเนื้อหาสาระ (Presentation) 2.1 นักเรียนออกมาเขียน Adjective บนกระดานดำคนละ 1 คำพร้อมความหมาย โดยเพื่อน ๆ ช่วยกันตรวจสอบถ้าไม่ถูกต้องสามารถช่วยกันแก้ไขได้ 2.2 นักเรียนช่วยกันจัดหมวดหมู่ Adjective โดยที่ครูเป็นผู้ชี้แนะ 2.3 นักเรียนฟังครูชี้แจงการจัดหมวดหมู่หรือลำดับของ Adjective Adjective order คือ การเรียงลำดับของคำคุณศัพท์ให้ถูกต้องนั่นเอง เจ้าของภาษาเขาไม่รู้ กฎเกณฑ์ หรือหลักการในการจัดลำดับหรอกครับ เขารู้แค่ว่าพูดแบบนี้ถูก ไม่ถูกแค่นั้นเอง ซึ่งเจ้าของภาษาเขาจะรู้ เองว่าต้องพูดแบบไหน เอาคำไหนขึ้นก่อนหลัง สูตรจำง่ายๆ ว่า O S A S C O M P (โอส ชา คอมพ์) ซึ่งเป็นคำย่อมาจากคำเหล่านี้ Opinion (O) = ความเห็นที่เรามีต่อคำนามนั้น เช่น ugly, beautiful, easy Size (S) = ขนาดของคำนาม เช่น big, small, giant Age (A) = อายุ หรือ ความเก่าแก่ของคำนาม เช่น old, young Shape (S) = รูปร่างของคำนาม เช่น fat, thin, round Color (C) = สีของคำนาม เช่น white, grey, black, red Origin (O) = แหล่งที่มาของคำนาม ประเทศ เมือง หรือทวีปต่าง ๆ เช่น Asian, Thai, French Material (M) = วัสดุที่ใช้ผลิตคำนามนั้น เช่น cotton, wool, clay Purpose (P) = วัตถุประสงค์ที่เอาคำนามนั้นไปใช้ เช่น sleeping 2.4 นักเรียนดูตารางประเภทและตัวอย่างคำคุณศัพท์บน PowerPoint ที่ ประเภท คำคุณศัพท์ 1 opinion beautiful, ugly, bad, good, delicious, funny, boring, great, smart 2 size big, small, tall, short, little, huge, tiny 3 shape round, square, triangle, oval 4 age young, old, new 5 colour white, black, green, red, pink, yellow
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 50 6 origin Thai, English, Chinese, American, Japanese 7 material metal, wooden, gold, stone, silver, diamond, cotton, wool, silk 8 purpose cleaning, walking, running, sleeping, whitening 3. ขั้นฝึกฝนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์ (Practice) 3.1 นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างประโยคโดยใช้คำศัพท์จากตารางพร้อมทั้งบอกประเภทของคำคุณศัพท์ ว่าเป็นประเภทใด เช่น • A little old man (O>A) = ผู้ชายสูงอายุรูปร่างเล็ก • The delicious Thai food (O>O) = อาหารไทยแสนอร่อย • An expensive silver cutlery (O>C) = ชุดช้อนส้อมเงินแสนแพง • Your old grey sleeping bag (O>C>P) = ถุงนอนสีเทาเก่า ๆ ของเธอ • Her long black hair (S>C) = ผมยาวสีดำของเธอ เป็นต้น 3.2 นักเรียนดูประโยคบนกระดานพร้อมร่วมกันแสดงความคิดเห็น • A good big round new pink Thai metal frying pan. กระทะ ทอด เหล็ก ไทย สีชมพู ใหม่ กลม ใหญ่ ดี 3.3 นักเรียนฟังครูอธิบายคำคุณศัพท์ที่เห็นมีตั้ง 8 ชนิดด้วยกัน ถ้าเรียงทั้งหมดจะได้ตามตัวอย่างบน กระดาน ดังนั้นถ้าใช้หมดทุกตัวมันจะดูมันมากเกินไป เพราะจริง ๆ แล้วเขาใช้แค่สองสามอันแค่นั้น 3.4 นักเรียนช่วยตัดคำหรือสร้างประโยคใหม่ให้มีความสั้นลงจากประโยค A good big round new pink Thai metal frying pan. โดยนักเรียนสามารถแต่งประโยคได้ดังนี้ • A metal pan. กระทะเหล็ก • A big pan. กระทะใบใหญ่ • A frying pan. กระทะทอด • A good new pan. กระทะใบใหม่คุณภาพดี • A big metal pan. กระทะเหล็กใบใหญ่ • A pink frying pan. กระทะทอดสีชมพู • A new pink frying pan. กระทะทอดสีชมพูใบใหม่ • A good new metal pan. กระทะเหล็กใบใหม่คุณภาพดี
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 51 3.5 นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับ Adjective เพิ่มเติม โดยมีคำ Adjective ที่ไม่ได้เอ่ยถึงอีกกลุ่มหนึ่ง นั่นคือ คำนำหน้านาม ได้แก่ Article : a, an, the Numbers: one, two, three etc. Determiners: this, that, these, those, some, few, many, much etc. คำเหล่านี้ให้นำหน้า เช่น • A big pan. กระทะใบใหญ่ • Two pink pans. กระทะสีชมพูสองใบ • This new pan. กระทะใบใหม่ใบนี้ • The two pink pans. กระทะใบใหม่ทั้งสองใบ 3.6 นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับการเชื่อมคำ Adjective 1. ถ้าเป็นคำคุณศัพท์ต่างประเภทกัน ไม่ต้องใช้คำเชื่อม and เช่น • A pink metal pan. กระทะเหล็กสีชมพู • A big pink metal pan. กระทะเหล็กสีชมพูใบใหญ่ 2. ถ้าเป็นคำคุณศัพท์ประเภทเดียวกัน 2 ตัว จะต้องใช้คำเชื่อม and เช่น • A pink and green pan. กระทะเหล็กสีชมพูปนเขียว หรือชมพูแถบเขียว ขึ้นอยู่กับลวดลาย • Many old and new pans. กระทะทั้งใหม่และเก่าหลายๆ ใบ 3. ถ้าเป็นคำคุณศัพท์ประเภทเดียวกัน 3 ตัวขึ้นไป จะต้องคอมม่าคั่น แลใช้คำเชื่อม and เชื่อมสอง คำสุดท้าย • The white, black and grey cat. แมวสีเทาดำและขาว อันนี้คือแมวสามสี 4. ขั้นนำไปใช้หรือการบูรณาการความรู้(Production) 4.1 นักเรียนทบทวนลำดับของ Adjective บน PowerPoint พร้อมยกตัวอย่างคำศัพท์ Adjective แต่ ละประเภท โดยออกมาเขียนบนกระดาน
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 52 4.2 นักเรียนดูประโยคบน PowerPoint พร้อมช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่า คำใดคือคำคุณศัพท์ (Adjective) และเป็นคำคุณศัพท์(Adjective) ประเภทใด 4.3 นักเรียนสามารถตอบได้ว่า O>S>A>S>C>O>M>P ประกอบไปด้วย beautiful = O old = S large = A square = S white = C Turkish = O marble = M dining = P 4.4 นักเรียนดูประโยค 2 ประโยคบนกระดานและร่วมกันแสดงความคิดเห็น • I am sitting in a big white room. • I am sitting in a white big room. 4.5 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติม โดยนักเรียนจะเห็นว่าในประโยคจะมี Adjective 2 คำ คือ “big” และ “white” มาขยายคำนามคือ “room” 4.6 นักเรียนช่วยกันตอบว่าประโยคไหนถูกต้องตามหลักไวยากรณ์โดยคำตอบที่ถูกต้องคือ a big white room เพราะเป็นไปตามการเรียงลำดับของ Adjective นั่นเอง 4.7 นักเรียนศึกษาตำแหน่งของ ลำดับของ Adjective เพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้ Internet โดยนักเรียน ต้องศึกษาอย่างน้อยจาก 3 แหล่งข้อมูล 4.8 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้ที่จากการศึกษาตำแหน่งของ ลำดับของ Adjective เพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้ Internet 4.9 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำแบบฝึกหัดบน PowerPoint Instructions : Add the adjective modifiers progressively. The beautiful old large square white Turkish marble dining table. โต๊ะทานข้าวหินอ่อนมีอายุสีขาวสี่เหลี่ยมที่สวยงามจากตุรกี
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 53 Example : She live in a palace. white =…………………………………………….……………………………………….. . beautiful =……………………………………………….…………………………………….. . old =………………………….………………………………………………………….. . 1. He caught a fish. little =………………………………………………………………………….………………………………….. . blue =………………………………………………………………………….………………………………….. . strange =………………………………………………………………………….………………………………….. . 2. She’s wearing a hat. funny =………………………………………………………………………….………………………………….. . red =………………………………………………………………………….………………………………….. . little =………………………………………………………………………….………………………………….. . 3. He bought a desk. teak =………………………………………………………………………….………………………………….. . old =………………………………………………………………………….………………………………….. . fine =………………………………………………………………………….………………………………….. . Answer Key 1) He caught a little fish. He caught a little blue fish. He caught a strange little blue fish. 2) She’s wearing a funny hat. She’s wearing a funny red hat. She’s wearing a funny little red hat. 3) He bought a teak desk. He bought an old teak desk. He bought a fine old teak desk. 4.10 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดบน PowerPoint 5. ขั้นสรุปความรู้ที่ได้รับจากกระบวน การเรียนรู้(Wrap up) 5.1 สังเกตความเข้าใจของนักเรียนในการทำกิจกรรมและการเขียนประโยคภาษาอังกฤษโดยใช้ Adjectiveของนักเรียน 5.2 นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับเนื้อหาเรื่องลำดับของ Adjective She lives in a white palace She lives in a beautiful white palace She lives in a beautiful old white palace
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 54 ชั่วโมงที่ 3 - 5 1. ขั้นกระตุ้นทบทวนและปูพื้นฐานความรู้(Warm up) 1.1 นักเรียนทำกิจกรรมทบทวนความรู้เรื่องลำดับ adjective บน PowerPoint จำนวน 10 ข้อ โดย นักเรียนช่วยกันนำคำในวงเว็บมาใส่ในประโยคให้ถูกต้อง 1. a beautiful table (wooden / round) 2. an unusual ring (gold) 3. an old house (beautiful) 4. black shirts (leather) 5. an European car (old) 6. a long face (thin) 7. big clouds (black) 8. a sunny day (lovely) 9. a beautiful bird (yellow) 10. a wide avenue (long) Answer Key 1. a beautiful round wooden table 2. an unusual gold ring 3. a beautiful old house 4. black leather shirts 5. an old European car 6. a long thin face 7. big black clouds 8. a lovely sunny day 9. a beautiful yellow bird 10. a long wide avenue 1.2 แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละเท่าๆ กัน โดยแต่ละทีมประกอบไปด้วยนักเรียนกลุ่มเก่ง ปาน กลางและอ่อน 1.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มดูรูปภาพและประโยคบน PowerPoint 1.4 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่าคำนาม (Noun) และคำคุณศัพท์ (Adjective) อยู่ตรงไหนของ ประโยค 2. ขั้นนำเสนอเนื้อหาสาระ (Presentation) 2.1 นักเรียนดูวิดีโอคลิปการเรียงคำคุณศัพท์ (Adjective order) จากhttps://www.youtube.com/ watch?v=K2ORR3ElnzY 2.2 นักเรียนดูวิดีโอคลิปคำคุณศัพท์ Adjective / เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน / คืออะไร ใช้อย่างไร จาก https://www.youtube.com/watch?v=C2k11x38yQc
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 55 2.3 นักเรียนดูวิดีโอคลิปคำคุณศัพท์ How to Use Adjectives in English - English Grammar Course จากhttps://www.youtube.com/watch?v=wC5GPzMb9BE 2.4 นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้จากการดูวิดีโอคลิปทั้ง 3 คลิป 2.5 นักเรียนฟังอธิบายเรื่องตำแหน่งของ Adjective Adjective (คำคุณศัพท์) หมายถึง คำใช้ขยายคำนาม หรือสรรพนามเพื่อที่จะบอกลักษณะเพิ่มเติม ของคำที่จะขยายนั้นว่าเป็นอย่างไร และทำให้คำนามนั้น ๆ เกิดความชัดเจนมากขึ้น เช่น good, small, black, thin, fat, clever, etc. ตำแหน่งของ Adjective คำคุณศัพท์มีตำแหน่งการวางได้ 3 จุดคือ 1. วางไว้หน้าคำนาม เพื่อทำหน้าที่ขยายนาม (noun) เช่น • He is a good boy. good เป็นคำ Adjective boy เป็นคำ noun • It is a white dog. white เป็นคำ Adjective dog เป็นคำ noun 2. วางไว้หลัง Verb to be เพื่อบรรยายลักษณะของประธานประโยค เช่น • Ann is beautiful. beautiful เป็นคำ Adjective is เป็น verb to be • The elephants are big. big เป็นคำ Adjective are เป็น verb to be 3. วางไว้หลัง Linking Verbs (ตัวเชื่อมระหว่างประธานกับคำนำมหรือคำคุณศัพท์ เพื่อขยำยหรือ เน้นย้ำประธานกับสิ่งที่มันเชื่อม) ได้แก่ become (กลายเป็น), feel (รู้สึก), look (ดูเหมือน), sound (ออกเสียง), seem (เหมือนว่า), taste (มีรส), remain (เหลืออยู่) เช่น • She looks sad. sad เป็นคำ Adjective look เป็น Linking Verb 3. ขั้นฝึกฝนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์ (Practice) 3.1 นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างประโยคโดยใช้ตำแหน่งของ Adjective ทั้ง 3 จุด เช่น • The thin man can run very quickly. คนผอมสามารถวิ่งได้เร็วมาก • A wise boy is able to answer a difficult problem. เด็กฉลาดสามารถตอบปัญหาที่ยากได้ • The beautiful girl is wanted by a young boy. สาวสวยย่อมเป็นที่หมายปองของเด็กหนุ่ม
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 56 • The girl is beautiful. เด็กผู้หญิงคนนี้สวยมาก • Bank is smart. แบงค์เป็นคนฉลาด • I’m feeling a bit hungry. ผมรู้สึกหิวนิดๆ แล้วนะ • Sugar tastes sweet. น้ำตาลมีรสหวาน • This soup smells good. แกงจืดนี้มีกลิ่นชวนทาน • She appears cheerful today. วันนี้เธอดูร่าเริงดีนี่ 3.2 นักเรียนฟังครูอธิบายตำแหน่งคำคุณศัพท์เพิ่มเติม 1. ตำแหน่งของคำคุณศัพท์นั้นนอกจากจะวางไว้ด้านหน้าคำนามแล้วยังสามารถเรียงหลังคำนามที่ ไปทำหน้าที่เป็นกรรม (Object) ได้ ทั้งนี้เพื่อช่วยขยายเนื้อความของตัวกรรมนั้นให้สมบูรณ์ขึ้น Adjective ที่ใช้ใน ลักษณะเช่นนี้เรียกว่าเป็น “Objective Complement” เช่น • Sukit made his wife happy. สุกิจทำภรรยาของเขาให้มีความสุข • I consider that man mad. ผมพิจารณาดูแล้ว เจ้าคนนั้นเป็นบ้า • This matter made me foolish. เรื่องนี้ทำให้ผมโง่ไปได้ (happy, mad และ foolish เป็น Adjective ใช้เรียงหลังนาม และสรรพนามที่เป็น object คือ wife, man, me) 2. สามารถเรียง Adjective ไว้หลังคำนามได้ ไม่ว่านามนั้นจะทำหน้าที่เป็นอะไรก็ตาม ถ้า Adjective ตัวนั้นมีบุรพบทวลี (Perpositional Phrase) มาขยายตามหลัง เช่น • A parcel posted by mail today will reach him tomorrow. พัสดุที่ส่งทางไปรษณีย์วันนี้จะถึงเขาวันพรุ่งนี้ (posted เป็น Adjective เรียงตามหลังนาม parcel ได้เพราะมีบุรพบทวลี by mail today มา ขยายตามหลัง) • It was a battle famous in history. มันเป็นสงครามที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์ (famous เป็นคุณศัพท์เรียงตามหลังนามได้ เพราะมีบุรพบทวลี in history มาขยายอยู่หลัง) • I have known the manger suitable for his position. ผมได้รู้จักผู้จัดการคนนั้นซึ่งก็มีความเหมาะสมสำหรับตำแหน่งของเขาดีอยู่หรอก (suitable เป็นคุณศัพท์ เรียงไว้หลังนาม manager ได้ เพราะมีบุรพบท วลี for his position มาขยายตามหลัง)
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 57 3.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำแบบฝึกหัดบน PowerPoint Instructions : Identify the adjective and its position in each sentence. No Sentence Adjective Position Ex. They are good students. good หน้าคำนาม (girl) 1. This cat is fat. 2. These flowers smell good. 3. You look tired today. 4. The weather is too hot today. 5. They take the yellow bus to town. 6. I feel good when I meet you. 7. He is a famous person in the city. 8. My mother has long hair. 9. We are glad to see you again. 10. I met my old friend at the mall. Answer Key 1. fat อยู่หลัง Verb to be 2. good อยู่หลัง liking verb 3. tried อยู่หลัง liking verb 4. hot อยู่หลัง Verb to be 5. yellow หน้าคำนาม (bus) 6. good อยู่หลัง liking verb 7. famous หน้าคำนาม (person) 8. long หน้าคำนาม (hair) 9. glad อยู่หลัง Verb to be 10. old หน้าคำนาม (friend) 4. ขั้นนำไปใช้หรือการบูรณาการความรู้(Production) 4.1 นักเรียนทบทวนตำแหน่ง Adjective พร้อมยกตัวอย่างประโยคโดยออกมาเขียนบนกระดาน 4.2 นักเรียนดูประโยคบน PowerPoint พร้อมช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่า คำใดคือคำคุณศัพท์ (Adjective) และวางไว้ตำแหน่งใด • This chair is made of an enormous ancient European tree. • Taylor is a beautiful tall slim young blonde-haired American artist. • My mom bought me a lovely little white Japanese sweater from Tokyo. 4.3 นักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง Adjective ในเอกสารประกอบการเรียน 4.4 นักเรียนทำใบงานเรื่อง Adjective ในเอกสารประกอบการเรียน 4.5 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดเรื่อง Adjective ในเอกสารประกอบการเรียน 5. ขั้นสรุปความรู้ที่ได้รับจากกระบวน การเรียนรู้(Wrap up) 5.1 สังเกตความเข้าใจของนักเรียนในการทำกิจกรรมและการเขียนประโยคภาษาอังกฤษโดยใช้ Adjective ของนักเรียน 5.2 นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับเนื้อหาเรื่อง Adjective
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 58 11. สื่อการเรียนรู้/ แหล่งเรียนรู้ 11.1 สื่อการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง Adjective 11.2 แหล่งเรียนรู้ 1. ใบงานเรื่อง Adjective 12. การวัดและประเมินผล ลำดับ รายการที่วัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ใบงานเรื่อง Adjective ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นั ก เรีย น ให้ ค วาม ร่วม มื อใน การท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 13. เกณฑ์การประเมิน 16 - 20 คะแนน ดีมาก 11 - 15 คะแนน ดี 6 - 10 คะแนน พอใช้ น้อยกว่า 6 คะแนน ควรปรับปรุง ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู บันทึกหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู วันที่..............เดือน..................................พ.ศ. ..................
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 59 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง Our Wonderful World แผนการจัดการเรียนรู้ที่3 เรื่อง Adverb รหัสวิชา อ22122 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 5 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุจินดา ปรากฏวงศ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับ ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก 1.2 ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.2/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.2 ม.2/5 พูดและเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่าง เหมาะสม ต 2.2 ม.2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค ชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยค ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ต 4.2 ม.4/2 เผยแพร่/ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ของโรงเรียนเป็นภาษาต่างประเทศ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับ Adverb ในข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรอง - นักเรียนมีความรู้ในการอ่านออกเสียง Adverb ตามหลักการอ่านออกเสียง 2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถเขียนประโยคโดยใช้ Adverb เพื่อใช้ในการสื่อสารระหว่างบุคคล ในการแสดง ความรู้สึก ความคิดเห็นและให้เหตุผลประกอบ สถานการณ์ ในชีวิตประจำวันได้ - นักเรียนสามารถใช้ Adverb ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารเป็นภาษาอังกฤษได้ 2.3 คุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - รักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและฝึกฝนอย่างจริงจังเพียงพอ - ผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีมารยาท ถูกต้องตามกาลเทศะ และบุคคล
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 60 3. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด - เขียนประโยคตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศโดยใช้ Adverb เพื่อใช้ในการสื่อสารระหว่าง บุคคล แสดงความรู้สึก ความคิดเห็นและให้เหตุผลประกอบ สถานการณ์ ในชีวิตประจำวันการนำเสนอข้อมูล ข่าวสาร มีทักษะในการเลือก พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม ในการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง เขียนประโยคตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศโดยใช้ Adverb เพื่อใช้ในการสื่อสาร ระหว่างบุคคล แสดงความรู้สึก ความคิดเห็นและให้เหตุผลประกอบ สถานการณ์ ในชีวิตประจำวันการนำเสนอ ข้อมูลข่าวสารได้ 4.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1. คำศัพท์ในเรื่อง Unit 5 : Our Wonderful World 2. บทสนทนาในเรื่อง Unit 5 : Our Wonderful World 3. การใช้โครงสร้าง Adverb ในรูปแบบต่าง ๆ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 5.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 6.1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ตามหลักสูตรแกนกลาง) 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 6.2 คุณลักษณะตามหลักสูตรมาตรฐานสากล 1) มีความรู้พื้นฐานในยุคดิจิตอล วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา พหุวัฒนธรรม ตระหนักสำนึกระดับโลก 2) สามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ปรับตัวใฝ่รู้ ใฝ่เรียน วิเคราะห์ สังเคราะห์สรุป สร้างองค์ความรู้ 3) มีทักษะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 4) มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 7C เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 7.1 ทักษะการอ่าน (Reading) 7.2 ทักษะการเขียน (Writing) 7.3 ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic)
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 61 7.4 ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) 7.5 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) 7.6 ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, teamwork and leadership) 7.7 ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) 7.8 ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication information and media literacy) 7.9 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing) 7.10 ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) 8. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 8.1 บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 8.2 บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 8.3 บูรณาการห้องเรียนสีเขียว 8.4 อื่น ๆ (โปรดระบุ)................................................................................................................................................. 9. ชิ้นงาน / ภาระงาน 1. ภาระงาน - ใบงานเรื่อง Adverb 2. ชิ้นงาน - 10. กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) เรื่อง Adverb วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบ Inquiry Method : 5Es) ชั่วโมงที่ 1 - 2 1. สร้างความสนใจ (Engage) 1.1 นักเรียนดูรูปภาพและประโยคบน PowerPoint และช่วยกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำว่า Adverb 1.2 นักเรียนช่วยกันตอบคำถามบน PowerPoint
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 62 1.3 นักเรียนสามารถตอบได้ว่า 1. Adverb (กริยาวิเศษณ์) คือคำที่ใช้ประกอบหรือขยายคำต่อไปนี้เพื่อให้ได้ความหมายชัดเจน สมบูรณ์ยิ่งขึ้น. 2. ประภทของ Adverb มี 5 ประเภท คือ 2.1 Adverb of Time / Frequency 2.2 Adverb of Manner / action 2.3 Adverb of Place / Direction 2.4 Adverb of Degree / State / Quantity 2.5 Adverb of Purpose / Reason 2. สำรวจและค้นหา (Explore) 2.1 นักเรียนศึกษาเนื้อหาเรื่อง Adverb (กริยาวิเศษณ์) จากแหล่งเรียนรู้ Internet 2.2 นักเรียนแบ่งออกกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน จำนวน 5 กลุ่ม แต่ละกลุ่มประกอบไปด้วยนักเรียนเก่ง ปานกลางและอ่อน เพื่อศึกษาเนื้อหาร่วมกันภายในกลุ่ม โดยแบ่งเนื้อหาการนำเสนอให้นักเรียนดังนี้ กลุ่มที่ 1 Adverb of Time / Frequency กลุ่มที่ 2 Adverb of Manner / action กลุ่มที่ 3 Adverb of Place / Direction กลุ่มที่ 4 Adverb of Degree / State / Quantity กลุ่มที่ 5 Adverb of Purpose / Reason 3. อธิบาย (Explain) 3.1 นักเรียนนำเสนอตามหัวข้อที่กลุ่มได้รับ โดยนำเสนอผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือแผนภาพสรุปผัง ความคิด 3.2 นักเรียนสอบถามความรู้เพิ่มเติมเพื่อเสริมความเข้าใจในเรื่อง Adverb (กริยาวิเศษณ์) เขียนตัวอย่าง ประโยคบนกระดานให้นักเรียนเห็นความหลากหลายมากขึ้น 4. ขยายความรู้ (Elaborate) 4.1 นักเรียนแต่งประโยคโดยมีAdverb (กริยาวิเศษณ์) คนละ 2 ประโยค 4.2 นักเรียนช่วยกันตอบคำถามในแบบฝึกหัดเรื่อง Adverb บน PowerPoint 5. ประเมินผล (Evaluate) 5.1 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบแบบฝึกหัดเรื่อง Adverb บน PowerPoint 5.2 นักเรียนสอบถาม / ซักถามถึงสาเหตุในการตอบคำถามหรือเลือกตอบในแต่ละข้อเพื่อความเข้าใจ มากขึ้น ชั่วโมงที่ 3 - 5 1. สร้างความสนใจ (Engage) 1.1 ทบทวนเนื้อหา Adverb ที่นักเรียนเรียนในชั่วโมงก่อนหน้านี้ 1.2 นักเรียนดูรูปภาพและประโยคบน PowerPoint
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 63 walk slowly walk quickly 1.3 นักเรียนช่วยกันตอบคำถามว่า slowly กับ quickly ขยายคำว่าอะไร จนได้คำตอบว่า walk ซึ่ง เป็นคำกริยา 1.4 นักเรียนฟังครูสรุปว่า slowly กับ quickly เป็นคำกริยาวิเศษณ์บอกลักษณะอาการ (Adverbs of manner) กล่าวคือ adverbs เหล่านี้จะถูกใช้เพื่อบอกว่าการกระทำนั้นกระทำในลักษณะอาการอย่างไร (Adverbs of manner are used to say how the action is done) ส่วนมากจะลงท้ายด้วย -ly 1.5 นักเรียนส่งตัวแทนออกมาหน้าชั้นเรียนที่ละ 1 คนแสดงท่าทางเพื่อนำเสนอคำกริยาวิเศษณ์คำ อื่น ๆ เช่น happily, sadly, loudly, quietly, comically, clumsily, carefully, carelessly เป็นต้น 1.5 นักเรียนแต่ละกลุ่มเลนเกม Adverb จาก https://wordwall.net/th/resource/9287960/ adverb โดยนักเรียนดูคำศัพท์ที่ปรากฏบนจอ PowerPoint และเลือกคำศัพท์ที่เป็น Adverb ให้ถูกต้องภายในเวลา ที่กำหนด 2. สำรวจและค้นหา (Explore) 2.1 นักเรียนดูวิดีโอคลิป adverb คืออะไร ใช้ยังไง เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE จาก https://www.youtube.com/watch?v=X1fb9bkkygI 2.2 นักเรียนดูวิดีโอคลิป Adverb ใช้ยังไง ขยายอะไร? https://www.youtube.com/ watch?v=HikZCIdOCx4 2.3 นักเรียนดูวิดีโอคลิป Adverbs: What Is An Adverb? Useful Grammar Rules, List & Examples จาก https://www.youtube.com/watch?v=L0USJe44yS4 2.4 นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อหาจากวิดีโอคลิปทั้ง 3 วิดีโอคลิป 2.5 นักเรียนดูตัวอย่างประโยคบน PowerPoint และช่วยกันบอกว่าตำแหน่งหรือหน้าที่ของ Adverb นั้นวางไว้ตรงไหนและขยายคำอะไร • My exam went badly. • I was really excited about going to the prom. • It went horribly wrong.
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 64 3. อธิบาย (Explain) 3.1 นักเรียนสามารถตอบได้ว่า • ประโยคที่ 1 วาง Adverb ไว้ระหว่าง กริยาช่วย และ กริยาหลัก (วางหลังกริยาช่วย) เพื่อขยาย Verb คือคำว่า went • ประโยคที่ 2 วาง Adverb ไว้ระหว่าง หน้า Adjective ที่ต้องการขยาย (Adjective จะอยู่หลัง Verb to be และ Linking Verb) เพื่อขยาย adjective คือคำว่า excited • ประโยคที่ 3 วาง Adverb ไว้ระหว่าง หน้า Adverb ที่ต้องการขยาย (Adverb ทำหน้าที่ขยาย Adverb ด้วยกันเอง) เพื่อขยาย adjective คือคำว่า wrong 3.2 นักเรียนช่วยกันสรุปหน้าที่ของ Adverb ว่าทำหน้าที่อะไรบ้าง โดยนักเรียนสามารถสรุปได้ดังนี้ 1. ขยายคำกริยา (verb) 2. ขยายคำคุณศัพท์ (Adjective) 3. ขยายคำกริยาวิเศษณ์ (Adverb ขยาย Adverb ด้วยกันเอง) 3.3 นักเรียนศึกษาความรู้เพิ่มเติมเรื่อง Adverb จากแหล่งเรียนรู้ Internet โดยศึกษาอย่างน้อย 3 แหล่งข้อมูล และ 1 ใน 3 แหล่งข้อมูลจะต้องเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลที่ ได้มาว่ามีความเหมือนและไม่เหมือนกันอย่างไร และเพื่อความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล 3.4 นักเรียนนำข้อมูลที่ได้ศึกษามาแลกเปลี่ยนกับสมาชิกในกลุ่ม หลังจากแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลกันจน ครบทุกคนแล้วให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มมารับกระดาษบรูฟพร้อมอุปกรณ์สำหรับการเขียนสรุป และนำเสนอหน้าชั้น ต่อไป 4. ขยายความรู้ (Elaborate) 4.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอข้อมูลที่ช่วยกันสรุปและได้ศึกษามาบริเวณหน้าชั้นเรียน 4.2 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเพื่อเสริมความเข้าใจในเรื่อง Adverb Adverb หรือ คำกริยาวิเศษณ์คือคำที่ใช้ขยายคำกริยาหรืออธิบายลักษณะการกระทำกริยา นอกจากนี้ยังใช้ขยายคำคุณศัพท์ และบางคำใช้ขยายคำกริยาวิเศษณ์ด้วยกันได้คำกริยาวิเศษณ์มีทั้งที่เป็นคำเดียว และเป็นกลุ่มคำ ปัญหาในการใช้คำกริยาวิเศษณ์ คือการวางตำแหน่งของคำในประโยค เพราะในบางครั้งความหมาย ของประโยคจะเปลี่ยนไป เมื่อวางคำกริยาวิเศษณ์ไว้ในตำแหน่งที่ต่างกัน คำกริยาวิเศษณ์มีหลายประเภทและจะวาง ไว้ตำแหน่งใดขึ้นอยู่กับประเภทของคำกริยาวิเศษณ์นั้น ๆ ประเภทของคำกริยาวิเศษณ์มีดังนี้ 1. คำกริยาวิเศษณ์ที่อธิบายลักษณะการกระทำกริยา (Adverb of Manner) คำกริยาวิเศษณ์กลุ่มนี้เป็นกลุ่มใหญ่ในภาษาอังกฤษ เช่น lazily, beautifully, strictly, helpfully ซึ่งจะตอบคำถาม how? ดังตัวอย่างต่อไปนี้ • The boy is sitting lazily under a tree in the garden. (อธิบายว่านั่งอย่างไร) เป็นการตอบคำถาม “how?” Question : How is the boy sitting? Answer : He is sitting lazily. ตัวอย่างประโยคแสดงตำแหน่งของ adverb of manner • The boy is sitting lazily under a tree in the garden. • The singer sang beautifully. • The singer sang the song beautifully.
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 65 • The instructor helpfully explained each student’s mistakes. • The 16-year-old girl drove carelessly along the road. • Carefully the old lady walked across the busy street. คำกริยาวิเศษณ์ประเภทนี้วางไว้ได้หลายตำแหน่ง คือ หลังคำกริยาหรือหลังกรรม เมื่อคำกริยา นั้นมีกรรมซึ่งอาจจะเป็นท้ายประโยคเลยก็ได้ แต่บางครั้งถ้ามีคำกริยาวิเศษณ์ประเภทอื่น ในประโยคด้วย อาจจะอยู่ หน้าคำกริยาวิเศษณ์นั้น ตำแหน่งอื่นที่วางคำกริยาวิเศษณ์ประเภทนี้ไว้ได้ คือหน้าคำกริยา และในกรณีที่ต้องการเน้นคำ ขยายสามารถวางไว้หน้าประโยคได้ แต่คำกริยาวิเศษณ์ต้องเป็นคำโดด ๆ 2. คำกริยาวิเศษณ์ที่บอกสถานที่การกระทำกริยา (Adverb of Place) คำกริยาวิเศษณ์กลุ่มนี้ใช้บอกสถานที่ เช่น there, in the (place), here, away, somewhere, nowhere, upstairs, etc. ซึ่งจะตอบคำถาม where? ดังตัวอย่างต่อไปนี้ • My brother sat there. • His sister is working in the library. (กลุ่มคำทำหน้าที่เป็นคำกริยาวิเศษณ์) • He bought the book here. ทั้ง 3 ประโยคนี้ คำกริยาวิเศษณ์ตอบคำถาม where? Question : Where did your brother sit? Answer : He sat there. ตัวอย่างประโยคแสดงตำแหน่งของ adverb of place • I left my handbag on the desk. • When I came back I couldn’t find my handbag there. • I tried to look for my handbag everywhere. • Please help me carry this box upstairs. • My handbag wasn’t there when I came back. จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่าคำกริยาวิเศษณ์ประเภทนี้ต้องวางไว้หลังคำกริยาหรือหลังกรรม เมื่อ คำกริยานั้นมีกรรมซึ่งอาจจะเป็นท้ายประโยคเลยก็ได้ คำกริยาวิเศษณ์ here, there ใช้ตามหลัง verbs : be / come / go ได้และสามารถใช้ในรูป ประโยคเช่นนี้ได้ • Here comes the policeman. • There goes the train. We are only a half a minute late. ในกรณีเช่นนี้เป็นการเน้นคำขยาย 3. คำกริยาวิเศษณ์ที่บอกเวลาในการกระทำกริยา (Adverb of Time) คำกริยาวิเศษณ์กลุ่มนี้ใช้บอกเวลา เช่น now, tomorrow, recently, afterwards, at once, since then, etc. ซึ่งจะตอบคำถาม when? ดังตัวอย่างต่อไปนี้ • My brother is leaving now. • His sister will fly to England tonight. • They play tennis in the afternoon. (กลุ่มคำทำหน้าที่เป็นคำกริยาวิเศษณ์)
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 66 ในทั้ง 3 ประโยคนี้ คำกริยาวิเศษณ์ตอบคำถาม when? Question : When will his sister fly to England? Answer : She will fly to England tonight. ตัวอย่างประโยคแสดงตำแหน่งของ adverb of time • Eventually Mary came to join us. / Mary came to join us eventually. • Then everybody left for the show. / Everybody left for the show then. • Please do the work now. Don’t wait until / till tomorrow. • He always returns home late. • Please come immediately. I have something to show you. จากตัวอย่างประโยคจะเห็นได้ว่า ส่วนมากแล้วคำกริยาวิเศษณ์ประเภทนี้จะต้องวางไว้หลัง คำกริยาหรือหลังกรรม เมื่อคำกริยานั้นมีกรรม ซึ่งอาจจะเป็นท้ายประโยคเลยก็ได้คำกริยาวิเศษณ์บางคำ เช่น eventually, then, etc. สามารถนำมาไว้หน้าประโยคได้เมื่อต้องการเน้นคำขยาย ** คำกริยาวิเศษณ์ที่อธิบายลักษณะการกระทำกริยา (adverb of manner) คำกริยาวิเศษณ์ ที่ บอกสถานที่การกระทำกริยา (adverb of place) และคำกริยาวิเศษณ์ที่บอกเวลาในการกระทำกริยา (adverb of time) เมื่อนำมาใช้ในประโยคเดียวกัน มักจะเรียงดังนี้ adverb of manner + adverb of place + adverb of time ยกเว้น คำต่อไปนี้ away, back, down, forward, home, in, off, on, out, round, up และ here, thereจะต้องวางไว้หน้า adverb of manner 4. คำกริยาวิเศษณ์บอกความถี่ (Adverb of Frequency) คำกริยาวิเศษณ์บอกความถี่ เป็นคำกริยาวิเศษณ์ที่บอกว่ากริยาที่คำกริยาวิเศษณ์ขยายนั้นมีการ กระทำบ่อยอย่างไร แบ่งย่อยออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ก ลุ่ ม A : เช่ น ค ำ ต่ อ ไ ป นี้ always, usually, frequently, often, sometimes, occasionally, periodically, repeatedly, continually, once, twice, etc. มี ค ว า ม ห ม า ย เป็ น เชิ งบ ว ก (positive) และใช้กับกริยา affirmative หรือ negative ได้ เช่น • He always goes to school very early. • We did not always go to school by taxi. กลุ่ม B : เช่นคำต่อไปนี้ ever, hardly ever, never, rarely, scarcely (ever), seldom, etc. มีความหมายเป็นเชิงลบ (negative) และใช้กับกริยา affirmative • Mike has never eaten Indian food before. • We seldom go to the cinema because we do not have much time. • Brian had scarcely started his car when one of the front tires went flat. คำกริยาวิเศษณ์บอกความถี่ตอบคำถาม how often? ดังตัวอย่างต่อไปนี้ • He frequently comes to class late. • We sometimes go shopping at the Mall. ใน 2 ประโยคนี้ คำกริยาวิเศษณ์ตอบคำถาม how often? Question : How often does he come to class late? Answer : Always. He always comes to class late.
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 67 การใช้คำกริยาวิเศษณ์บอกความถี่ มักจะใช้กับ simple present tense แต่ใช้กับ tense อื่น ๆ ได้ เช่น • It is rarely cold in Bangkok. • We sometimes visit our relatives in the North. • It never snows in Thailand. • Jane and Mary frequently went swimming at the university pool. • Have you ever visited England? • We have never tried Indian food before. ตำแหน่งของคำกริยาวิเศษณ์บอกความถี่คำกริยาวิเศษณ์บอกความถี่ต้องวางไว้ดังนี้ - หลัง be แต่หน้ากริยาทั่วไปในประโยคที่เป็น simple tense • He is always late for the first class. • We sometimes go shopping at the mall. • Those boys never ate the fruit before. - คำกริยาทั่วไปที่อยู่ในรูป tense ที่มีกริยาช่วย เช่น ใน continuous tense, perfect tense, etc. คำกริยาวิเศษณ์ประเภทนี้ต้องวางไว้หลังกริยาช่วย ถ้ามีกริยาช่วย 2 ตัว ต้องวางไว้หลังกริยาช่วยตัวแรก เช่น • I could never understand what he said. • The children have often been told to be careful when crossing the road. คำกริยาวิเศษณ์ทั้งในกลุ่ม A บางคำ และในกลุ่ม B บางคำ วางไว้หน้าหรือท้าย clause หรือ หน้า / ท้ายประโยคได้ แต่คำว่า always ใช้เช่นนี้ไม่ได้ ยกเว้นในประโยค imperative ดังในตัวอย่าง • Sometimes the children walked to school by themselves. • Hardly ever did he have time to enjoy himself like the other boys of his age. • He always comes to class late. • Always bring a dictionary with you. - คำกริยาวิเศษณ์ที่บอกจำนวนครั้งที่แน่นอน เช่น once, twice, three times, daily, etc. วางไว้เกือบท้ายประโยคหรือต้นประโยคก็ได้ ดังในตัวอย่าง • The light went out twice yesterday. • Once I got stuck in the lift at my office. คำกริยาวิเศษณ์บอกความถี่ที่ใช้บ่อย เรียงลำดับจากมากไปน้อย always, usually, frequently, often, sometimes / occasionally, seldom / hardly ever / rarely, never, once, twice, etc. 5. คำกริยาวิเศษณ์บอกปริมาณ (Adverb of Degree) คำกริยาวิเศษณ์บอกปริมาณ เป็นคำกริยาวิเศษณ์ที่ขยายคำคุณศัพท์หรือคำกริยาวิเศษณ์อื่น เช่ น absolutely, almost, barely, completely, enough, entirely, fairly, far, hardly, just, much, nearly, quite, really, rather, so, too, very, etc. ดังตัวอย่าง
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 68 • The two ladies are almost ready. • This article is really interesting and it is quite easy to understand. • This handwriting is absolutely impossible to read. • The child is not old enough to go to school. • The child didn’t walk quickly enough. So he was left far behind. • The girl is too young to go to school. • The man drove too fast. • Jane is much taller than her sister. • Jane is far taller than her sister. ในประโยคตัวอย่าง จะเห็นได้ว่า 1. คำกริยาวิเศษณ์ประเภทนี้วางไว้หน้าคำคุณศัพท์หรือคำกริยาวิเศษณ์ที่คำกริยาวิเศษณ์ทำหน้าที่ ขยายความ ยกเว้น enough จะอยู่หลังคำคุณศัพท์หรือคำกริยาวิเศษณ์ 2. far และ much ใช้ขยายคำคุณศัพท์หรือคำกริยาวิเศษณ์ ใน comparative degree นักภาษาศาสตร์บางกลุ่มได้จัดกลุ่มคำกริยาวิเศษณ์ต่างไปจากนี้ โดยมีเพิ่มอีก 3 ประเภท คือ 1. คำกริยาวิเศษณ์ที่เน้นคำหรือข้อความ (Focus Adverb) คำกริยาวิเศษณ์เหล่านี้เช่น only, just, really, too ใช้เพื่อเน้นความที่ต้องการสื่อ จึงมักวางไว้ ชิดกับคำที่ต้องการขยาย เช่น • Mr. Brown has only one son. (He has no more than one.) • Just write your name over this line. (This is all you have to do.) 2. คำกริยาวิเศษณ์ที่บอกทัศนคติ (Viewpoint Adverb) คำกริยาวิเศษณ์เหล่านี้ เช่น generally, hopefully, surely, clearly, probably, certainly, etc. วางไว้ต้นประโยค หรือหน้ากริยาหลักหรือกริยาช่วย เช่น • Clearly, the truck driver should have stopped when he saw the train coming. • Hopefully, the president will change his mind. • She probably did not understand the notice on the front gate. • John certainly saw the message we left, so he did not call us. 3. คำกริยาวิเศษณ์เชื่อมความ (Conjunctive Adverb) คำกริยาวิเศษณ์เหล่านี้ เช่น however, moreover, therefore, as a result, consequently, etc. ใช้เพื่อเชื่อมความที่เป็นความแย้งกัน ความที่เป็นเหตุเป็นผลกัน เป็นต้น วางไว้ต้นประโยค หรือบางคำวางไว้ระหว่างความที่ต้องการเชื่อม ซึ่งมักจะคั่นด้วย semicolon (;) เช่น • He was ill; however, he went to the meeting. • He drove too fast; as a result, he was fined. • Kelly did not go to the party because she had to finish her assignment; moreover, she had to study for the final examination.
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 69 หมายเหตุ คำกริยาวิเศษณ์บางคำมีรูปเหมือนกับคำคุณศัพท์ ทำให้สับสนเวลานำไปใช้ คำเหล่านี้ เมื่อใช้เป็นคำคุณศัพท์ จะขยายคำนามและจะวางไว้หน้าคำนาม หรือใช้เป็น complement ตามหลัง be หรือ linking verb เมื่อใช้เป็นคำกริยาวิเศษณ์ จะใช้กับกริยาทั่วไป เช่น คำ ใช้เป็นคำคุณศัพท์ ใช้เป็นคำกริยาวิเศษณ์ fast hard early late high low right wrong • The sky train is very fast. • This question is very hard. • She will take early retirement. • He was late for the first lecture. • The chair is too high for the boy. • The water level in the canal is too low for diving. • This is my right hand. (right hand = มือขวา) • You are right. (คุณพูดถูก) • Your answer is wrong. Try again. • The sky train goes very fast. • John worked hard to earn money for his education. • He returned home quite early yesterday evening. • He went to bed late last night. • The balloon was blown up high into the sky. • He turned down the air conditioner too low. So everybody is freezing. • He walked right into the office without knocking on the door. (เขาเดินเข้าไปใน สำนักงานเลยโดยไม่เคาะประตู) • The computer went wrong, so we have to restart it. 4.3 นักเรียนศึกษาเรื่อง Adverb ในเอกสารประกอบการเรียน 4.4 นักเรียนทำใบงานเรื่อง Adverb ในเอกสารประกอบการเรียน 5. ประเมินผล (Evaluate) 5.1 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบจากการทำใบงานเรื่อง Adverb 5.2 นักเรียนและครูช่วยกันอธิบายถึงสาเหตุในการตอบคำถามหรือเลือกตอบในแต่ละข้อเพื่อให้นักเรียน ทุก ๆ คนเข้าใจหลักการใช้ Adverb 5.3 นักเรียนและครูร่มกันสรุปหลักการและประเภทต่าง ๆ ของ Adverb 11. สื่อการเรียนรู้/ แหล่งเรียนรู้ 11.1 สื่อการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง Adverb 11.2 แหล่งเรียนรู้ 1. ใบงานเรื่อง Adverb
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 70 12. การวัดและประเมินผล ลำดับ รายการที่วัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ใบงานเรื่อง Adverb ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นั ก เรีย น ให้ ค วาม ร่วม มื อใน การท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 13. เกณฑ์การประเมิน 16 - 20 คะแนน ดีมาก 11 - 15 คะแนน ดี 6 - 10 คะแนน พอใช้ น้อยกว่า 6 คะแนน ควรปรับปรุง ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู บันทึกหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู วันที่..............เดือน..................................พ.ศ. ..................
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 71 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง Our Wonderful World แผนการจัดการเรียนรู้ที่4 เรื่อง Adjective and Adverb (Revision) รหัสวิชา อ22122 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุจินดา ปรากฏวงศ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับ ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก 1.2 ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.2/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.2 ม.2/5 พูดและเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่าง เหมาะสม ต 2.2 ม.2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค ชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยค ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ต 4.2 ม.4/2 เผยแพร่/ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ของโรงเรียนเป็นภาษาต่างประเทศ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับ Adjective และ Adverb ในข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรอง - นักเรียนมีความรู้ในการอ่านออกเสียง Adjective และ Adverb ตามหลักการอ่านออกเสียง 2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถเขียนประโยคโดยใช้ Adjective และ Adverb เพื่อใช้ในการสื่อสารระหว่างบุคคล ในการแสดงความรู้สึก ความคิดเห็นและให้เหตุผลประกอบ สถานการณ์ ในชีวิตประจำวันได้ - นักเรียนสามารถใช้ Adjective และ Adverb ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารเป็นภาษาอังกฤษได้ 2.3 คุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - รักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและฝึกฝนอย่างจริงจังเพียงพอ - ผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีมารยาท ถูกต้องตามกาลเทศะ และบุคคล
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 72 3. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด - เขียนประโยคตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศโดยใช้ Adjective และ Adverb เพื่อใช้ในการ สื่อสารระหว่างบุคคล แสดงความรู้สึก ความคิดเห็นและให้เหตุผลประกอบ สถานการณ์ ในชีวิตประจำวันการ นำเสนอข้อมูลข่าวสาร มีทักษะในการเลือก พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม ในการปฏิบัติตน อย่างเหมาะสม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง เขียนประโยคตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศโดยใช้ Adjective และ Adverb เพื่อใช้ใน การสื่อสารระหว่างบุคคล แสดงความรู้สึก ความคิดเห็นและให้เหตุผลประกอบ สถานการณ์ ในชีวิตประจำวันการ นำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ 4.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1. คำศัพท์ในเรื่อง Unit 5 : Our Wonderful World 2. บทสนทนาในเรื่อง Unit 5 : Our Wonderful World 3. การใช้โครงสร้าง Adjective และ Adverb ในรูปแบบต่าง ๆ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 5.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 6.1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ตามหลักสูตรแกนกลาง) 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 6.2 คุณลักษณะตามหลักสูตรมาตรฐานสากล 1) มีความรู้พื้นฐานในยุคดิจิตอล วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา พหุวัฒนธรรม ตระหนักสำนึกระดับโลก 2) สามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ปรับตัวใฝ่รู้ ใฝ่เรียน วิเคราะห์ สังเคราะห์สรุป สร้างองค์ความรู้ 3) มีทักษะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 4) มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 7C เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 7.1 ทักษะการอ่าน (Reading) 7.2 ทักษะการเขียน (Writing) 7.3 ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic)
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 73 7.4 ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) 7.5 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) 7.6 ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, teamwork and leadership) 7.7 ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) 7.8 ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication information and media literacy) 7.9 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing) 7.10 ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) 8. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 8.1 บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 8.2 บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 8.3 บูรณาการห้องเรียนสีเขียว 8.4 อื่น ๆ (โปรดระบุ)................................................................................................................................................. 9. ชิ้นงาน / ภาระงาน 1. ภาระงาน - ใบงานเรื่อง Adjective and Adverb (Revision) 2. ชิ้นงาน - 10. กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) เรื่อง Adjective and Adverb (Revision) วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบกระบวนการเรียนรู้แบบ 5 ขั้น (5 STEPs) และ แบบInquiry Method : 5Es) ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 การเรียนรู้ตั้งคำถาม (Learning to Question) 1.1 นักเรียนดูรูปภาพและประโยคบน PowerPoint ดังนี้ 1.2 นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยคที่นักเรียนเห็นบน PowerPoint 1.3 นักเรียนสังเกต คำที่ถูกเน้นด้วยสีต่าง ๆ และคำที่ถูกทำให้เป็นสีพร้อมทั้งช่วยกันแสดงความคิดเห็น ว่าเป็นคำศัพท์ประเภทใดและทำหน้าที่อะไร
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 74 ขั้นที่ 2 การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search) 2.1 แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 - 6 คน โดยสมาชิกในกลุ่มประกอบไปด้วยนักเรียนเก่ง อ่อน และปานกลาง 2.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มจับฉลากศึกษาหัวข้อเพื่อศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้อินเตอร์เน็ต อย่างน้อย 3 แหล่งข้อมูล ดังต่อไปนี้ กลุ่มที่ 1 ศึกษาเรื่องการใช้Adjectives of Quality กลุ่มที่ 2 ศึกษาเรื่องการใช้Adjectives of Quantity กลุ่มที่ 3 ศึกษาเรื่องการใช้Adjectives of Number กลุ่มที่ 4 ศึกษาเรื่องการใช้Demonstrative Adjectives กลุ่มที่ 5 ศึกษาเรื่องการใช้Interrogative Adjectives กลุ่มที่ 6 ศึกษาเรื่องตำแหน่งของ Adjective 2.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มที่จับฉลากได้เรื่องไหนให้รวมกลุ่มศึกษาด้วยกัน โดยการอภิปรายซักถาม แลกเปลี่ยนความรู้ และร่วมระดมความคิดเห็นจนเข้าใจครบทุกคน 2.4 นักเรียนแต่ละกลุ่มแยกออกจากกันโดยสมาชิกห้ามอยู่ซ้ำกับสมาชิกเดิม โดยรวมตัวสมาชิกใหม่ ซึ่ง ในสมาชิกจะต้องมีสมาชิกจากทั้งหมด 6 กลุ่ม นักเรียนแต่ละคนนำเสนอข้อมูลของตนเองจากกลุ่มเดิมเพื่อขยาย ความรู้ แลกเปลี่ยนข้อมูลและช่วยกันสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาเพื่อเตรียมตัวส่งตัวแทนออกไปพูดหน้าชั้นเรียน 2.5 นักเรียนส่งตัวแทนกลุ่มเพื่อออกมาถ่ายทอดสิ่งที่ได้ศึกษามาให้เพื่อนร่วมชั้นฟังบริเวณหน้าชั้นเรียน ครูสุ่มถามเพื่อทดสอบความเข้าใจเป็นรายกลุ่ม ขั้นที่ 3 การเรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct) 3.1 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง คำคุณศัพท์ Adjective / เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน / คืออะไร ใช้อย่างไร จาก https://www.youtube.com/watch?v=C2k11x38yQc 3.2 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง How to Use Adjectives in English - English Grammar Course จากhttps://www.youtube.com/watch?v=wC5GPzMb9BE 3.3 นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้จากการดูวิดีโอคลิปทั้ง 2 วิดีโอคลิป 3.4 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ Adjective adjective หรือที่เรียกในภาษาไทยว่าคำคุณศัพท์ เป็นคำที่ใช้สำหรับขยายคำนามหรือสรรพนาม เพื่อให้เราทราบรายละเอียดที่มากขึ้น ตัวอย่างเช่น • He was wearing a blue shirt. คำว่า blue (สีน้ำเงิน) ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ขยายคำว่า shirt(เสื้อ) ซึ่งเป็นคำนามให้มีความหมายชัดเจนมากขึ้น • There are seven rooms in the house. จากประโยคที่แปลว่า มีเจ็ดห้องในบ้านหลังนี้ คำ ว่า seven (เจ็ด) มีหน้าที่ขยายคำนาม ห้อง (room) ให้ทราบรายละเอียดชัดขึ้น นอกจาก O S A S C O M P (โอส ชา คอมพ์) ที่นักเรียนได้ศึกษาไปแล้วก่อนนี้ ยังมีประเภทของ Adjective อีก 5 ประเภท คือ 1. Adjectives of Quality เป็นคำคุณศัพท์ที่ทำหน้าที่ขยายความเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องคุณภาพ ตัวอย่างเช่น คำว่า honest (ซื่อสัตย์), large (ขนาดใหญ่), beautiful (สวย), ugly (นาเกลียด) เป็นต้น
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 75 • Bangkok is a large city with many historical monuments. กรุงเทพเป็นเมืองขนาด ใหญ่ที่เต็มด้วยอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์จำนวนมาก คำว่าขนาดใหญ่ทำหน้าที่ขยาย คำว่าเมือง • Yaya is a beautiful woman. ญาญ่าเป็นผู้หญิงสวย คำว่าสวย ขยายคำว่า ผู้หญิง 2. Adjectives of Quantity เป็นคำคุณศัพท์สำหรับบอกปริมาณของคำนามหรือสรรพนาม โดยที่ ไม่ได้ระบุจำนวนที่ชัดเจน เช่น all (ทั้งหมด), half (ครึ่งหนึ่ง), many (มาก), few (เล็กน้อย), little (น้อย), no (ไม่ มี), enough (เพียงพอ) • Many people came to Thailand. คำว่า มากมาย ขยายคำว่า ผู้คน 3. Adjectives of Number เป็นคำคุณศัพท์ที่ใช้แสดงจำนวน แบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ 3.1 Definite Numeral Adjective คำคุณศัพท์ซึ่งเป็นตัวเลขชัดเจน เช่น one, two, twenty, thirty-three เป็นต้น หรือลำดับเลขเช่น first, second, third, seventh เป็นต้น 3.2 Indefinite Numeral Adjective คำคุณศัพท์ที่บอกจำนวนไม่ชัดเจน เช่น some, many, few, any, several, all เป็นต้น 3.3 Distributive Numeral Adjective คำคุณศัพท์ที่ใช้อ้างถึงการแบ่งหรือรวมกลุ่มของ คำนาม เช่น every, either, neither, each, another, other etc. 4. Demonstrative Adjectives คือคำคุณศัพท์สำหรับชี้ให้เห็นหรือเจาะจงให้ชัด เช่น This, That, These และ Those • These flowers are lovely. คำว่า เหล่านี้ ช่วยขยายชี้เฉพาะคำนาม ดอกไม้ เพื่อบอก ให้ผู้ฟังทราบว่า ผู้พูดกำลังหมายถึงเฉพาะดอกไม้เหล่านี้เท่านั้น ไม่รวมดอกไม้อื่น ๆ 5. Interrogative Adjectives คือ คำคุณศัพท์ที่ใช้สำหรับตั้งคำถาม ได้แก่ Where, What, Which and Whose. • What book are they reading? คำว่า what ช่วยขยายชี้เฉพาะคำนาม book เพื่อถาม ว่าหนังสืออะไร 3.4 นักเรียนทำแบบฝึกหัดเรื่อง Adjective ในเอกสารประกอบการเรียน 3.5 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดเรื่อง Adjective ในเอกสารประกอบการเรียน 3.6 นักเรียนสอบถามเมื่อไม่เข้าโดยครูอธิบายและยกตัวอย่างเพื่อให้นักเรียนเข้าใจมากยิ่งขึ้น ขั้นที่ 4 การเรียนรู้เพื่อการสื่อสาร (Learning to Communicate) 4.1 นักเรียนช่วยกันสรุปข้อมูล Adjectives ที่ได้ศึกษาและค้นคว้ามาลงในกระดาษ A4 4.2 นักเรียนและครูร่วมสนทนาเกี่ยวกับ Adjectives แล้วร่วมกันสรุปเป็นความรู้ 4.3 นักเรียนเขียนสะท้อนเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เรียนรู้ ปัญหาและอุปสรรคในการเรียน และความรู้สึกในการ เรียนชั่วโมงนี้ ขั้นที่ 5 การเรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม (Learning to Service) 5.1 นักเรียนนำข้อมูลสรุปเรื่อง Adjectives ที่นักเรียนได้ศึกษาและค้นคว้ามานำไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กับเพื่อนๆ กลุ่มอื่น 5.2 ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนดังนี้ สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะทำงานร่วมกันสังเกตการ ตอบคำถามของนักเรียนในชั้นเรียน
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 76 ชั่วโมงที่ 2 1. สร้างความสนใจ (Engage) 1.1 นักเรียนทบทวนเนื้อหาเดิมเรื่อง Adverb ที่นักเรียนเรียนในชั่วโมงก่อนหน้านี้ 1.2 นักเรียนช่วยกันตอบคำถามบน PowerPoint • What is the difference between adjective and adverb? 1.3 นักเรียนดูประโยคบน PowerPoint พร้อมช่วยกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำที่ถูกขีดเส้นใต้ว่าทำ หน้าที่อะไรในประโยค • Billy has a fast car. • Billy speaks fast. • Sue has an early start in the morning. • Sue starts early. 1.4 นักเรียนสามารถตอบได้ว่า ประโยคที่ 1 fast ทำหน้าที่เป็น adjective วางไว้ด้านหน้าคำนาม car ประโยคที่ 1 fast ทำหน้าที่เป็น adverb วางไว้ด้านหลังคำกริยา speak ประโยคที่ 1 early ทำหน้าที่เป็น adjective วางไว้ด้านหน้าคำกริยา start ประโยคที่ 1 early ทำหน้าที่เป็น adverb วางไว้ด้านหลังคำกริยา start 2. สำรวจและค้นหา (Explore) 2.1 นักเรียนดูรูปภาพและประโยค PowerPoint 2.2 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยคทั้ง 3 ประโยค และคำศัพท์ที่ถูกทำให้เป็นสีว่าทำ หน้าที่อะไร อยู่ตำแหน่งตรงใดของประโยค 2.3 นักเรียนดูประโยคบน PowerPoint โดยประโยคนั้นประกอบไปด้วยคำ adjective และ adverb 2.4 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยคที่นักเรียนเห็นบน PowerPoint และร่วมกัน อธิบายถึงความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง adjective และ adverb 2.5 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Adjectives and Adverbs in English - 5 Levels of Difficulty จาก https://www.youtube.com/watch?v=UlNuPWiyK9Y This is a very sweet mango. Peter reads quite clearly. Girl runs quickly.
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 77 2.6 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Adjective กับ Adverb ใช้ต่างกันอย่างไร จากhttps://www.youtube. com/watch?v=1_QG-JXzWiQ&list=PLBjOnHjDlsB9HYxlAoJBQuFXaHiD9iSRp 2.7 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Difference Between Adjective and Adverb จากhttps://www. youtube.com/watch?v=3NNc17TEXQ8 2.8 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Adjectives and Adverbs in English - 5 Levels of Difficulty จาก https://www.youtube.com/watch?v=UlNuPWiyK9Y 3. อธิบาย (Explain) 3.1 นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้จากการดูวิดีโอทั้ง 4 คลิป 3.2 นักเรียนศึกษาความรู้เพิ่มเติมเรื่อง adjective และ adverb จากแหล่งเรียนรู้ Internet โดยศึกษา อย่างน้อย 3 แหล่งข้อมูล และ 1 ใน 3 แหล่งข้อมูลจะต้องเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เพื่อ เปรียบเทียบข้อมูลที่ได้มาว่ามีความเหมือนและไม่เหมือนกันอย่างไร และเพื่อความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล 3.3 นักเรียนนำข้อมูลที่ได้ศึกษามาแลกเปลี่ยนกับสมาชิกในกลุ่ม หลังจากแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลกันจน ครบทุกคนแล้วให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มเขียนสรุปความรู้ลงในกระดาษ A4 ที่ครูเตรียมให้ 4. ขยายความรู้ (Elaborate) 4.1 นักเรียนช่วยกันตอบคำถาม Adjectives and adverbs Quiz/Grammar Quiz/10 English Quiz จำนวน 10 ข้อ จากhttps://www.youtube.com/watch?v=kjkObf8alR0 โดยช่วยกันตอบก่อนที่จะปรากฏ เฉลย (ภายใน 15 วินาที จะปรากฏตัวเลขนับถอยหลังบริเวณมุมจอด้านซ้ายมือ) 4.2 นักเรียนช่วยกันตอบแบบฝึกหัดบน PowerPoint จำนวน 5 ข้อ 1. The driver stopped the car…………………………….. . 1) financially 2) exactly 3) abruptly 4) now 2. During autumn, colorful flowers can be seen falling……………………………..from trees. 1) everywhere 2) very 3) gently 4) loudly 3. My grandfather always smiled…………………………….. . 1) cheerfully 2) sadly 3) never 4) yesterday 4. After the party, confetti was strewn…………………………….. . 1) blandly 2) everywhere 3) later 4) carefully
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 78 5. It’s time to go…………………………….. . 1) before 2) now 3) yesterday 4) lightly Answer Key : 1. 3) 2. 3) 3. 1) 4. 2) 5. 2) 4.3 นักเรียนทำแบบฝึกหัดเรื่อง Adverb ในเอกสารประกอบการเรียน 5. ประเมินผล (Evaluate) 5.1 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบจากการทำใบงานเรื่องการใช้ Adverb ในเอกสาร ประกอบการเรียน 5.2 นักเรียนฟังครูอธิบายถึงสาเหตุในการตอบคำถามหรือเลือกตอบในแต่ละข้อให้นักเรียนเข้าใจ หลักการใช้ Adverb ครูสรุปหลักการของกฎต่าง ๆ ให้นักเรียนฟังอีกครั้ง 11. สื่อการเรียนรู้/ แหล่งเรียนรู้ 11.1 สื่อการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง Adjective and Adverb (Revision) 11.2 แหล่งเรียนรู้ 1. ใบงานเรื่อง Adjective and Adverb (Revision) 12. การวัดและประเมินผล ลำดับ รายการที่วัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ใบงานเรื่อง Adjective and Adverb (Revision) ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นั ก เรีย น ให้ ค วาม ร่วม มื อใน การท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 1-. เกณฑ์การประเมิน 16 - 20 คะแนน ดีมาก 11 - 15 คะแนน ดี 6 - 10 คะแนน พอใช้ น้อยกว่า 6 คะแนน ควรปรับปรุง ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 79 บันทึกหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู วันที่..............เดือน..................................พ.ศ. ..................
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 80 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง Out and About รหัสวิชา อ22122 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 16 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุจินดา ปรากฏวงศ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับ ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม 1.2 ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.2/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.1 ม.2/4 เลือกหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่าน พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างง่าย ๆ ประกอบ ต 2.1 ม.2/3 เข้าร่วม / จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ ต 2.2 ม.2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค ชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยค ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย 2. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด อ่านออกเสียง Vocabulary บทสนทนา และใช้ประโยค Comparison ตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล ในชีวิตประจำวัน กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม มีทักษะในการเลือก พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม ในการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3. สาระการเรียนรู้ 3.2สาระการเรียนรู้แกนกลาง อ่านออกเสียง Vocabulary บทสนทนา และใช้ประโยค Comparison ตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล ในชีวิตประจำวัน กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมได้
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 81 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1. คำศัพท์ในเรื่อง Unit 6 : Out and About 2. บทสนทนาในเรื่อง Unit 6 : Out and About 3. การใช้Comparison ในรูปแบบต่าง ๆ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 4.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 5.1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ตามหลักสูตรแกนกลาง) 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 5.2 คุณลักษณะตามหลักสูตรมาตรฐานสากล 1) มีความรู้พื้นฐานในยุคดิจิตอล วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา พหุวัฒนธรรม ตระหนักสำนึกระดับโลก 2) สามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ปรับตัวใฝ่รู้ ใฝ่เรียน วิเคราะห์ สังเคราะห์สรุป สร้างองค์ความรู้ 3) มีทักษะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 4) มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 7C เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 6.1 ทักษะการอ่าน (Reading) 6.2 ทักษะการเขียน (Writing) 6.3 ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic) 6.4 ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) 6.5 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) 6.6 ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, teamwork and leadership) 6.7 ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) 6.8 ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication information and media literacy) 6.9 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing) 6.10 ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 82 7. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 7.1 บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 7.2 บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 7.3 บูรณาการห้องเรียนสีเขียว 7.4 อื่น ๆ (โปรดระบุ)…………………………………………………………………………..………………………….………………………… 8. ชิ้นงาน / ภาระงาน 1. ภาระงาน - ใบงานเรื่อง Vocabulary - แบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ Spark 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 - ใบงานเรื่อง Comparison : Positive Degree - ใบงานเรื่อง Comparison : Comparative Degree - ใบงานเรื่อง Comparison : Superlative Degree - ใบงานเรื่อง Comparison (Revision) 2. ชิ้นงาน - 9. การวัดและประเมินผล 9.1 การวัดและประเมินผลชิ้นงาน / ภาระงาน 1. วิธีการ 1. ตรวจใบงานเรื่อง Vocabulary 2. ตรวจแบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ Spark 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3. ตรวจใบงานเรื่อง Comparison : Positive Degree 4. ตรวจใบงานเรื่อง Comparison : Comparative Degree 5. ตรวจใบงานเรื่อง Comparison : Superlative Degree 6. ตรวจใบงานเรื่อง Comparison (Revision) 2. เครื่องมือ 1. ใบงานเรื่อง Vocabulary 2. แบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ Spark 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3. ใบงานเรื่อง Comparison : Positive Degree 4. ใบงานเรื่อง Comparison : Comparative Degree 5. ใบงานเรื่อง Comparison : Superlative Degree 6. ใบงานเรื่อง Comparison (Revision)
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 83 3. เกณฑ์ 1. ตรวจใบงานและแบบฝึกหัดร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 9.2 การวัดและประเมินผลระหว่างการจัดกิจกรรม ลำดับ รายการที่วัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ใบงานเรื่อง Vocabulary and Reading ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นักเรียนให้ความ ร่วมมือในการทำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 2 แบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ Spark 2 Student’s book ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด นักเรียนให้ความ ร่วมมือในการทำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 3 ใบงานเรื่อง Comparison : Positive Degree ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นักเรียนให้ความ ร่วมมือในการทำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 4 ใบงานเรื่อง Comparison : Comparative Degree ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นักเรียนให้ความ ร่วมมือในการทำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 5 ใบงานเรื่อง Comparison : Superlative Degree ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นักเรียนให้ความ ร่วมมือในการทำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 6 ใบงานเรื่อง Comparison (Revision) ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นักเรียนให้ความ ร่วมมือในการทำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 84 10. กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องที่ 1 เรื่อง Vocabulary, reading and conversation จำนวนเวลาเรียน 2 ชั่วโมง วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบค้นพบ Discovery Method) กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) ชั่วโมงที่ 1 1. ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1.1 นักเรียนดูประโยคภาพบน PowerPoint และช่วยกันแสดงความคิดเห็น 1.2 นักเรียนสามารถตอบ เช่น cultural holiday,ecotourism, adventure holiday, city break, escape holiday, family holidays, wildlife and nature holiday, beach holiday, romantic getaways เป็นต้น 1.3 นักเรียนดูคำถามที่ครูเขียนบนกระดาน “What do you like doing while holiday?” นักเรียน ช่วยกันแสดงความคิดเห็น โดยครูรับคำตอบทุกคำ แล้วครูพูดประโยคของตนเองพร้อมเขียนลงบนกระดานว่า I like beach holidays. I usually go to the beach, sunbathe and swim in the sea. What about you หลังจากนั้นครูเขียนคำว่า Holiday บนกระดาน 1.4 นักเรียนช่วยกันคิดถึงคำศัพท์ที่เกี่ยวกิจกรรมในวันหยุด แล้วออกไปเขียนบนกระดานตามเวลาที่ครู กำหนด ช่วยกันแก้ไขตัวสะกดแล้วครูให้นักเรียนอ่านคำศัพท์เหล่านั้นพร้อม ๆ กัน 1.5 นักเรียนทำกิจกรรม Reading : Destination London, UK ในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 70 1.6 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยกิจกรรม Reading : Destination London, UK ในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 70 1.7 นักเรียนทำกิจกรรม Match the attractions (1-8) to what you can see and do there (ab). Then make sentences ในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 71 1.8 นักเรียนทำกิจกรรม Match the words in the two columns ในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 71 1.9 นักเรียนทำกิจกรรม Listen and complete the gaps ในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 71 Types of holidays
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 85 1.10 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยคำตอบในกิจกรรมที่นักเรียนทำทั้งหมดในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 71 หากมีข้อใดที่นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความ เข้าใจมากขึ้น 2. ขั้นเรียนรู้ 2.1 นักเรียนฟังบทสนทนาในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 75 2.2 นักเรียนจับกลุ่มเพื่อฝึกบทสนทนา และส่งตัวแทนออกมา 1 กลุ่มเพื่อออกมาพูดบทสนทนา 2.3 นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 82 กิจกรรม Read the dialogue and mark sentences 1 - 6 T (true) or F (false). Correct the false statement. 2.4 นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 82 กิจกรรม Find words / phrase in the dialogue which mean. 2.5 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยกิจกรรมในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 82 กิจกรรม Read the dialogue and mark sentences 1 - 6 T (true) or F (false). Correct the false statement. และกิจกรรม Find words / phrase in the dialogue which mean. หากมีข้อใดที่นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอน อธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น ชั่วโมงที่ 2 3. ขั้นนำไปใช้ 3.1 นักเรียนศึกษาคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน 3.2 นักเรียนทำใบงานแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน 3.3 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน หากมีข้อใดที่ นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น เรื่องที่ 2 เรื่อง Comparison : Positive Degree จำนวนเวลาเรียน 4 ชั่วโมง วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบ 2W3P) กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) ชั่วโมงที่ 1 - 2 1. ขั้นกระตุ้นทบทวนและปูพื้นฐานความรู้(Warm up) 1.1 นักเรียนดูรูปภาพบน PowerPoint และร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับภาพ 1.2 นักเรียนสามารถตอบได้ว่า same price, same colour, same length, same size, etc. คร฿ เขียนคำตอบของนักเรียนลงบนกระดาน Size : M Shop A Price : 1,900 ฿ Chest (cm) : 47 Length (cm) : 73 Shop B Size : M Chest (cm) : 47 Length (cm) : 73 Price : 1,900 ฿
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 86 1.3 แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละเท่าๆ กัน โดยแต่ละทีมประกอบไปด้วยนักเรียนกลุ่มเก่ง ปาน กลางและอ่อน 1.4 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันแต่งประโยคโดยใช้คำที่ครูเขียนบนกระดานหลังจากนั่นส่งตัวแทนกลุ่มละ 1 คน ออกมาเขียนประโยคบนกระดาน และเพื่อน ๆ ในห้องช่วยกันตรวจสอบว่าถูกต้องหรือไม่ 1.5 ครูขีดเส้นใต้คำ ที่อยู่ในประโยคที่นักเรียนร่วมกันแต่งบนกระดาน เช่น • A’s shop shirt is as lengthy as B’s shop shirt. • This blue jean shirt is the same price as that one. • The shirt from A’s shop is the same as B’s shop. • This shirt is the same chest as that one. • This blue shirt is the same size as that shirt from B’s shop. 1.6 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่าคำที่ถูกขีดเส้นใต้นั่นคือคำอะไร ทำหน้าที่อะไร 1.7 นักเรียนฟังครูชี้แจงว่าคำที่ถูกขีดเส้นใต้นั่นคือคำ Positive Degree (การเปรียบเทียบขั้นเท่ากัน) โดยปกติแล้วการเปรียบเทียบคำคุณศัพท์หรือคำกริยาวิเศษณ์จะเปรียบได้ 3 ระดับด้วยกันคือ ระดับที่เหมือนกันหรือ เท่ากัน (Positive degree) ระดับขั้นกว่า (Comparative Degree) และระดับขั้นสูงสุด (Superlative Degree) 2. ขั้นนำเสนอเนื้อหาสาระ (Presentation) 2.1 นักเรียนออกมาเขียนคำคุณศัพท์(Adjective) คำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) และคำนาม (Noun) ที่ สามารถใช้ในการเปรียบเทียบได้บนกระดานดำคนละ 1 คำพร้อมความหมาย โดยเพื่อน ๆ ช่วยกันตรวจสอบถ้าไม่ ถูกต้องสามารถช่วยกันแก้ไขได้ 2.2 นักเรียนสามารถตอบได้ว่า long, colorful, expensive, diligent, beautifully, quickly, well, fast, money, book, age, etc. 2.3 นักเรียนช่วยกันแยกคำคุณศัพท์ (Adjective) คำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) และคำนาม (Noun) บน กระดาน โดยที่ครูเป็นผู้ชี้แนะ เช่น คำคุณศัพท์ (Adjective) คำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) คำนาม (Noun) long beautifully money colorful quickly book expensive well age diligent fast colour 2.4 นักเรียนฟังครูชี้แจงการเปรียบเทียบขั้นเท่ากัน (Positive Degree) การเปรียบเทียบขั้นเท่ากันหรือการเปรียบเทียบขั้นปกติ (Positive Degree) ใช้เปรียบเทียบความ เท่าเทียมกัน ไม่เท่าเทียมกัน เช่น long, short, small , big , fast, slow เป็นต้น โดยมีวิธีการดังนี้ 1. ใช้ as…as เป็นตัวเชื่อม …as + adjective / adverb + as… • His work is as good as yours. งานของเขาดีพอๆกับงานของคุณเลย
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 87 • He speaks Spanish as well as his mother. เขาพูดภาษาสเปนได้ดีพอๆกับแม่ของเขา ** แต่ถ้าแสดงความไม่เท่ากัน ให้ใส่ not เข้าไป โดยมีโครงสร้างดังนี้ …not as / (so) + adjective / adverb + as… • English is not as difficult as math. ภาษาอังกฤษไม่ยากเท่ากับคณิตศาสตร์ • My room is not so comfortable as your room. ห้องของฉันไม่สะดวกสบายเท่ากับห้องของเธอ ** ถ้าต้องการใส่คำขยาย much / many เข้าไปในความหมายว่า “ฉันมีอะไรมากเท่ากับใคร” ก็ จะมีโครงสร้างดังนี้ …as + much + คำนามนับไม่ได้ / many + คำนามนับได้ + as... • My father has as much work as my mother. พ่อของฉันมีงานมากพอๆกับที่แม่ของฉันมี • I have as many comic books as my friend. ฉันมีหนังสือการ์ตูนมากเท่ากับที่เพื่อนฉันมี 2. การใช้ the same…as …the same + noun + as…. • This watch is the same price as that one. นาฬิกาข้อมือเรื่อนนี้มีราคาเท่ากับเรื่อนนั้น ** บางครั้งก็จะมีการละnoun ไว้ในฐานที่เข้าใจ เช่น • My English mark is the same as yours. คะแนนภาษาอังกฤษของฉันเท่ากับของเธอ 3. ขั้นฝึกฝนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์ (Practice) 3.1 นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างประโยคโดยใช้คำศัพท์จากตารางที่นักเรียนช่วยกันแยกออกเป็น หมวดหมู่ 3.2 นักเรียนส่งตัวแทนออกมาเขียนประโยคที่นักเรียนช่วยกันแต่งบนกระดานพร้อมความหมาย โดย เพื่อน ๆ ช่วยกันตรวจสอบถ้าไม่ถูกต้องสามารถช่วยกันแก้ไขได้ • This pencil is as long as that one. ดินสอแท่งนี้ยาวเท่า ๆ กับแท่งนั้น • This picture is as colorful as the one I have ever seen. ภาพนี้มีสีสันสดใสที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็น • This bag is as expensive as that one. กระเป๋าใบนี้แพงเท่ากันกับอีกใบหนึ่ง
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 88 • Darlene is as diligent as Bastien. ดาร์เลเน่ขยันเท่ากันกับบาสเตียน • Austin sings as beautifully as a singer. ออสตินร้องเพลงได้ไพเราะกับนักร้อง • He walks as quickly as his friend. เขาเดินเร็วเท่ากับเพื่อนของเขา • Bryant plays tennis as well as Christopher. ไบรอันต์เล่นเทนนิสได้ดีเท่ากับคริสโตเฟอร์ • Her car runs as fast as a race car. รถของเธอวิ่งเร็วเหมือนรถแข่ง • Lowell has as much money as Valdus. โลเวลมีเงินมากเท่า ๆ กับวัลดัส • I have as many books as you. ฉันมีหนังสือมากเท่า ๆ กับคุณ • Emma is the same age as Isabella. เอ็มม่ามีอายุเท่ากับฮิซาเบลล่า • My shirt is the same colour as that boy’s (shirt). เสื้อเชิตของฉันมีสีเหมือนกับเสื้อเชิตของเด็กผู้ชายคนนั้น เป็นต้น 4. ขั้นนำไปใช้หรือการบูรณาการความรู้(Production) 4.1 นักเรียนทบทวนการเปรียบเทียบขั้นเท่ากัน (Positive Degree) 4.2 นักเรียนดูประโยคบน PowerPoint พร้อมช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่า 4.3 นักเรียนสามารถตอบได้ว่าเป็นการเปรียบเทียบขั้นเท่ากัน โดยใช้ as…as คำที่อยู่ตรงกลางระหว่าง as..as คือคำ Adjective 4.4 นักเรียนช่วยกันเปลี่ยนประโยคบน PowerPoint ให้เป็นประโยค โดยประโยคที่นักเรียนช่วยกัน เปลี่ยนจะได้เป็น • Mary isn’t as pretty as Tina. 4.5 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบขั้นเท่ากัน (Positive Degree) การเปรียบเทียบขั้นเท่ากัน (Positive Degree) นอกจากจะใช้ as…as, the same…as,as much…as และ as many…as แล้วยังมีการใช้อีก 2 รูปแบบ คือ 1. รูปแบบ Verb to be + like แปลว่าเหมือนกัน เป็นคำเชื่อมแสดงความเท่าเทียมกัน แต่ถ้า ประธานเป็น พหูพจน์ ให้ใช้ verb to be + alike Mary is as pretty as Tina. แมรี่สวยพอ ๆ กับทีน่า
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 89 …is like... …are alike… • She is like her father. เธอเหมือนกับพ่อของเธอ • Your car and mine are alike. รถยนต์ของคุณและของฉันเหมือนกัน 2. รูปแบบ Verb to be + similar to + นาม, แปลว่า เหมือนกัน คล้ายกัน เป็นคำเชื่อมแสดงความ เท่าเทียมกัน …is / are similar to… • Your bag is similar to mine. ถุงของเธอคล้ายกับถุงของฉัน 4.6 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้ที่จากการศึกษาการเปรียบเทียบขั้นเท่ากัน (Positive Degree) เพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้ Internet 4.7 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำแบบฝึกหัดบน PowerPoint Instructions : Make the sentence by using the word given. Use the correct form of positive degree. Example : France / beautiful / London. =……………………………………….……………………………………….. . 1. Julia / tall / her friend. =………………………………………………………………………………………………………………… . 2. A banana / not sweet / an apple. =………………………………………………………………………………………………………………… . 3. A fish / not big / a elephant. =………………………………………………………………………………………………………………… . 4. This dress / pretty / that one. =………………………………………………………………………………………………………………… . 5. the weather / not hot / yesterday’s. =………………………………………………………………………………………………………………… . Answer Key 1. Julia is as tall as her friend. 2. A banana is not as sweet as an apple. 3. A fish is not as big as an elephant. 4. This dress is as pretty as that one. 5. The weather is not as hot as yesterday’s. 4.8 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดบน PowerPoint France is as beautiful as London.
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 90 5. ขั้นสรุปความรู้ที่ได้รับจากกระบวน การเรียนรู้(Wrap up) 5.1 สังเกตความเข้าใจของนักเรียนในการทำกิจกรรมและการเขียนประโยคภาษาอังกฤษโดยใช้ Comparison : Positive Degreeของนักเรียน 5.2 นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับเนื้อหาเกี่ยวกับ Comparison : Positive Degree ชั่วโมงที่ 3 - 4 1. ขั้นกระตุ้นทบทวนและปูพื้นฐานความรู้(Warm up) 1.1 นักเรียนทำกิจกรรมทบทวนความรู้เรื่อง Comparison : Positive Degree จำนวน 10 ข้อ 1. The blue car is……………………………………..……(fast) the red car. 2. Owen is……………………………………..……(not tall) Dominic. 3. The violin is……………………………………..……(not low) the cello. 4. This copy is……………………………………..……(bad) the other one. 5. Jacob is……………………………………..……(optimistic) Ethan. 6. Today it’s……………………………………..……(not windy) yesterday. 7. The tomato soup was……………………………………..……(delicious) the mushroom soup. 8. Grapefruit juice is……………………………………..……(not sweet) lemonade. 9. Violet is……………………………………..……(brave) Natalie. 10. Silver is……………………………………..……(not heavy) gold. Answer Key : 1. as fast as 2. not as tall as 3. not as low as 4. as bad as 5. as optimistic as 6. not as windy as 7. as delicious as 8. not as sweet as 9. as brave as 10. not as heavy as 1.2 แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละเท่าๆ กัน โดยแต่ละทีมประกอบไปด้วยนักเรียนกลุ่มเก่ง ปาน กลางและอ่อน 1.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มดูประโยคบน PowerPoint I have visited the States as much times as he has. 1.4 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่าประโยคบน PowerPoint มีความถูกต้องหรือผิดอย่างไร โดย ให้นักเรียนหาคำนามให้เจอ และคำหรือวิธีที่ใช้ในการเปรียบเทียบ โดยนักเรียนจะได้ คำนามเป็นคำว่า times ซึ่ง เป็นคำนาม พหูพจน์ ใช้การเปรียบเทียบแบบ as much…as ซึ่งเป็นการใช้ที่ผิด เพราะ much ใช้กับคำนามที่นับ ไม่ได้ ดังนั้นจะต้องเปลี่ยนเป็น as mamy….as 2. ขั้นนำเสนอเนื้อหาสาระ (Presentation) 2.1 นักเรียนดูวิดีโอคลิป Positive Degree การเปรียบเทียบขั้นธรรมดา จากhttps://www.youtube. com/watch?v=bdaJdz7plYo 2.2 นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้จากการดูวิดีโอคลิป 2.3 นักเรียนฟังอธิบายเรื่อง Comparison : Positive Degree; much, many, little, few
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 91 ในการเปรียบเทียบสิ่งสองสิ่ง ถ้าสิ่งที่เปรียบเทียบเป็นคำนาม และต้องการบ่อบอกว่ามีมากหรือมี น้อย จะใช้ much, many, little, few ตามโครงสร้างดังนี้ …as + adjective indicating quantity + (noun) + as… โดยคำคุณศัพท์ที่บอกปริมาณที่ใช้ขึ้นอยู่กับว่าคำนามในการเปรียบเทียบนั้นนับได้หรือนับไม่ได้ 1. ใช้ …as many….as และ …as few…as กับคำนามนับได้ทั้งนี้คำนามอาจถูกละในกรณีเมื่อ เข้าใจจากบริบท • They have as many children as we do. พวกเขามีลูกมากเท่ากับที่พวกเรามี • We have as many customers as they do. พวกเรามีลูกค้ามากพอ ๆ กับพวกเขา • Orianna has as few books as Irene. โอเรียนน่ามีหนังสือไม่กี่เล่มเท่าไอรีน • There are as few houses in his village as in mine. มีบ้านไม่กี่หลังในหมู่บ้านของเขาเช่นเดียวกับหมู่บ้านของฉัน • You know as many people as I do. คุณรู้จักคนมากมาย(หลายคน)เท่ากับฉัน • I have three brothers. That’s as many bothers as you have. ฉันมีพี่ชายสามคน นั่นเป็นจำนวนพี่ชายที่มากเท่ากับที่คุณมี I have three brothers. That’s as many as you have. (brothers ถูกละ) ฉันมีพี่ชายสามคน นั่นเป็นจำนวน (พี่ชาย) ที่มากเท่ากับที่คุณมี 2. ใช้…as much….as และ …as little…as กับคำนามนับไม่ได้ โดยคำนามอาจถูกละเว้นเมื่อ เข้าใจจากบริบท • Baron eats as much food as Gabriella. บารอนทานอาหารมากเท่ากับกาเบรียลลา • Oscar has as little patience as Kardos. ออสการ์มีความอดทนน้อยพอๆ กับคาร์ดอส • You’ve heard as much news as I have. คุณเคยได้ยินข่าวมามากพอ ๆ กับผม (กับที่ผมได้ยินมา) • He’s had as much success as his brother has. เขาประสบความสำเร็จมากพอ ๆ กับที่น้องชายของเขามี • They’ve got as little water as we have. พวกเขาเหลือปริมาณน้ำที่มีน้อยเท่าพวกเรา
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 92 • I’m not hungry. I’ve had as much food as I want. ฉันยังไม่หิว. ฉันมีอาหารมากเท่าที่ฉันต้องการ I’m not hungry. I’ve had as much as I want. (“food” ถูกละ) ฉันยังไม่หิว ฉันมีอาหารมากเท่าที่ฉันต้องการ 3. นอกจากนี้ยังสามารถใช้ …as much… as และ …as many… as ใช้โดยไม่ต้องมีคำนาม (noun) ตามหลังก็ได้ เช่น • She drank so much as she wanted. หล่อนดื่มมากเท่าที่หล่อนต้องการ • Rest as much as possible. พักผ่อนให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้ • Can I take these chairs ? ผมเอาเก้าอี้พวกนี้ได้ไหม Yes, you can take as many as you like. ได้ เอามากเท่าไหร่ก็ได้ 3. ขั้นฝึกฝนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์ (Practice) 3.1 นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างประโยคโดยใช้Comparison : Positive Degree; much, many, little, few พร้อมความหมาย เช่น • Go to as many places as you can. ไปหลาย ๆ แห่งที่คุณสามารถไปได้ • There weren’t as many people there as I expected. นั่นคนไม่เยอะเท่าที่ฉันคาดหวังไว้ • There were as many as 50 people crowded into the tiny room. นั่นมีคนเยอะเท่า 50 คนแออัดกันในห้องเล็ก ๆ • Richard makes as much money as Phoenix but not as much as Ethan. ริชาร์ททำเงินได้มากเท่ากับฟีนิกซ์แต่ไม่มากเท่ากับอีธาน • They try to give them as much freedom as they can. พวกเขาพยายามให้อิสระแก่พวกเขามากที่สุด • He earn money as much as his wife. เขาหาเงินได้มากพอกับภรรยาของเขา • I used as little money as my boyfriend did, but he bought much more than I did! ฉันใช้เงินน้อยเหมือนที่แฟนของฉันทำ แต่เขาซื้อมากกว่าฉันมาก! • There are as few musicians in the park as there were last time we visited. มีนักดนตรีไม่กี่คนในสวนสาธารณะเหมือนครั้งก่อนที่เราไปเยือน 3.2 นักเรียนฟังครูอธิบายเรื่อง Comparison : Positive Degree เพิ่มเติม Comparison : Positive Degree ประโยคปฏิเสธสามารถใช้ not as…as หรือ not so…as โดยมัก ใช้ในการเปรียบเทียบเพื่อแสดงความไม่เท่าเทียมกัน (Comparison of Inequality)
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 93 มีรูปแบบประโยคดังนี้ 1 …not (so / as ก็ได้) + (adjective / adverb) + as… เช่น • His report is not so long as mine. รายงานของเขาไม่ยาวเท่าของฉัน 2. …not so + (much + uncountable noun / many + countable noun) + as… เช่น • I don’t have so much money as you. ฉันไม่มีเงินมากเท่าคุณ • Hens don’t have so many legs as buffaloes. ไก่มีขาไม่มากเท่าควาย การเปรียบเทียบเพื่อแสดงความไม่เท่าเทียมกันนี้ ในสมัยก่อนนิยมใช้แต่ not so…as เท่านั้น ซึ่งถือ ว่าเป็นการใช้ถูกแบบแผนของภาษาอย่างเต็มที่ แต่ปัจจุบันนี้นักไวยากรณ์ทั้งหลาย หันมาใช้ not as…as พอ ๆ กัน กับใช้ not so…as ดังนั้นจึงถือว่าใช้ได้ทั้ง 2 แบบ 3.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำแบบฝึกหัดบนเรื่อง Comparison : Positive Degree; much, many, little, few บน PowerPoint จำนวน 5 ข้อ Instructions : Choose the best alternative. 1. Joanna owns……………………………..handbags as she owns shoes. 1) as many 2) as much 3) as little 2. She eats……………………………..junk food as I do, but I still weigh more than she does! 1) as many 2) as little 3) as much 3. There were……………………………..shop assistants at the supermarket as there were yesterday afternoon. 1) as little 2) as much 3) as few 4. I love you……………………………..I love clothes shopping! 1) as little as 2) as few as 3) as much as 5. Chris enjoys listening to music……………………………..he enjoys playing football. 1) as much as 2) as few as 3) as little as Answer Key : 1. 1) 2. 2) 3. 3) 4. 3) 5. 1) 3.4 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำแบบฝึกหัดบนเรื่อง Comparison; as…as และ so…as บน PowerPoint จำนวน 5 ข้อ Instructions : Read the sentence and complete the sentence with the correct form of comparison; as…as and so…as 1. Leonard is stronger than Maximus. Maximus is…………………………….Leonard. 2. Your class and my class are noisy. Your class is……………………………..my class.