หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 94 3. Life in the country is slower than in the city. Life in the city is……………………………..in the country. 4. Going to restaurants in Budapest is expensive, and in Prague too. Going to restaurants in Budapest……………………………..in Prague. 5. Last week was busier than this week. This week is……………………………..last week. Answer Key : 1. not so strong as 2. as noisy as 3.not so slow as 4. is expensive as 5.not so busy as 3.5 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดที่ได้ทำมาทั้งหมด โดยนักเรียนซักถามเพิ่มเติมเมื่อไม่เข้าใจ และครูอธิบายเหตุผลในการตอบแต่ละข้ออย่างชัดเจนเพื่อให้นักเรียนเข้าใจมากยิ่งขึ้น 4. ขั้นนำไปใช้หรือการบูรณาการความรู้(Production) 4.1 นักเรียนทบทวนเรื่อง Comparison : Positive Degree พร้อมยกตัวอย่างประโยคโดยออกมาเขียน บนกระดานพร้อมความหมาย เช่น • These new shoes are not nearly as comfortable as my old ones. รองเท้าคู่ใหม่ไม่สะดวกสบายเหมือนกับคู่เก่า • This ball is as round as a mable. ลูกบอลนี้กลมเหมือนโต๊ะกลม • Alexandra works as hard as her sister. อเล็กซานดร้าทำงานหนักเหมือนพี่สาวของเธอ • Nicole is not so beautiful as her mother. นิโคลสวยไม่เท่ากับแม่ของเธอ • His handwriting is not so poor as his friend’s. ลายมือของเขาไม่ได้แย่เหมือนเพื่อนของเขา • He doesn’t run so fast as his brother. เขาไม่ได้วิ่งเร็วเหมือนพี่ชายของเขา • Helena is like her mother. เฮเลน่าเหมือนแม่ของเธอ • The workers work hard like buffaloes. คนงานทำงานหนักเหมือนควาย • My shirt is the same colour as that boy’s (shirt). เสื้อของฉันเป็นสีเดียวกับของเด็กชายคนนั้น
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 95 • The two dresses are the same style. เสื้อทั้งสองชุดมีรูปแบบเดียวกัน • The colour of her eyes and that of mine are the same. สีตาของเธอกับ(สีตา)ของฉันสีเดียวกัน • The red dress is similar to the blue one. (one = dress) ชุดสีแดงคล้ายกับชุดสีน้ำเงิน (หนึ่ง = ชุด) • Her idea is similar to mine. (mine = my idea) ความคิดของเธอคล้ายกับของฉัน (ของฉัน = ความคิดของฉัน) 4.2 นักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง Comparison : Positive Degree ในเอกสารประกอบการเรียน 4.3 นักเรียนทำใบงานเรื่อง Comparison : Positive Degree ในเอกสารประกอบการเรียน 4.4 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดเรื่อง Comparison : Positive Degree ในเอกสาร ประกอบการเรียน 5. ขั้นสรุปความรู้ที่ได้รับจากกระบวน การเรียนรู้(Wrap up) 5.1 สังเกตความเข้าใจของนักเรียนในการทำกิจกรรมและการเขียนประโยคภาษาอังกฤษโดยใช้ Comparison : Positive Degreeของนักเรียน 5.2 นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับเนื้อหาเรื่อง Comparison : Positive Degree เรื่องที่ 3 เรื่อง Comparison : Comparative Degree จำนวนเวลาเรียน 4 ชั่วโมง วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบ Inquiry Method : 5Es) กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) ชั่วโมงที่ 1 - 2 1. สร้างความสนใจ (Engage) 1.1 นักเรียนดูรูปภาพและประโยคบน PowerPoint และช่วยกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยค และคำที่เป็นตัวอักษรสีแดงว่ามีความหมายว่าอย่างไรและทำหน้าที่อะไรในประโยค 1.2 นักเรียนช่วยกันตอบคำถามบน PowerPoint “What is a comparative adjective?” 1.3 นักเรียนสามารถตอบได้ว่า Comparative adjective หรือ Comparative Degree คือการเปรียบ การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ขั้นกว่า คือ การเปรียบเทียบของ 2 สิ่ง, คน 2 คน, หรือกลุ่ม 2 กลุ่ม โดยเปรียบเทียบ ว่าสิ่งไหนใหญ่กว่า…เล็กกว่า….แพงกว่า….หรืออื่น ๆ
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 96 2. สำรวจและค้นหา (Explore) 2.1 นักเรียนศึกษาเนื้อหาเรื่อง Comparison : Comparative Degree จากแหล่งเรียนรู้ Internet 2.2 นักเรียนแบ่งออกกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน จำนวน 8 กลุ่ม แต่ละกลุ่มประกอบไปด้วยนักเรียนเก่ง ปานกลางและอ่อน เพื่อศึกษาเนื้อหาร่วมกันภายในกลุ่ม โดยแบ่งเนื้อหาการนำเสนอให้นักเรียนดังนี้ กลุ่มที่ 1 และ 2 Using er in adjective กลุ่มที่ 3 และ 4 Using more and less กลุ่มที่ 5 และ 6 Using irregular adjectives กลุ่มที่ 7 และ 8 Using double comparative 3. อธิบาย (Explain) 3.1 นักเรียนนำเสนอตามหัวข้อที่กลุ่มได้รับ โดยนำเสนอผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือแผนภาพสรุปผัง ความคิด 3.2 นักเรียนสอบถามความรู้เพิ่มเติมเพื่อเสริมความเข้าใจในเรื่อง Comparison : Comparative Degree โดยครูเขียนตัวอย่างประโยคบนกระดานให้นักเรียนเห็นความหลากหลายมากขึ้น 4. ขยายความรู้ (Elaborate) 4.1 นักเรียนช่วยกันตอบคำถามในแบบฝึกหัดเรื่อง Comparison : Comparative Degree บน PowerPoint Instructions : Complete the sentences with the comparative forms of adjectives. 1. Neon’s room is…………………………….(small) than Richard’s room. 2. The blue car is…………………………….(nice)) than the black car. 3. This exercise is…………………………….(boring) than that one. 4. His pullover is…………………………….(dark) than his jeans. 5. Lucy’s hair is…………………………….(long) than my hair. 6. Phoenix is…………………………….(funny) than Maximus. 7. My result in the test was…………………………….(good) than Ethan’s. 8. Gold is…………………………….(expensive) than silver. 9. Valdus is…………………………….(smart) than Edgard. 10. Football is…………………………….(popular) than handball. Answer Key : 1. smaller 2. nicer 3. more boring 4. darker 5. longer 6. funnier 7. better 8. more expensive 9. smarter 10. more popular 5. ประเมินผล (Evaluate) 5.1 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบแบบฝึกหัดเรื่อง Comparison : Comparative Degree บน PowerPoint 5.2 นักเรียนสอบถาม / ซักถามถึงสาเหตุในการตอบคำถามหรือเลือกตอบในแต่ละข้อเพื่อความเข้าใจ มากขึ้น
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 97 ชั่วโมงที่ 3 - 4 1. สร้างความสนใจ (Engage) 1.1 นักเรียนดูรูปภาพและคำศัพท์บน PowerPoint และช่วยกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปภาพและ คำศัพท์ 1.2 นักเรียนช่วยกันแต่งประโยคจากรูปภาพและคำศัพท์บน PowerPoint โดยใช้comparative adjective 1.3 นักเรียนแต่งประโยคได้ว่า • Dominic is taller than Lowell. • Lowell is shorter than Dominic. 2. สำรวจและค้นหา (Explore) 2.1 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง การเปรียบเทียบขั้นกว่า Comparative degree จาก https://www.youtube.com/watch?v=PDt7cilu4kQ 2.2 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่องการใช้ประโยค Comparatives จาก https://www.youtube. com/watch?v=mZwqYIUCung 2.3 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Comparative Degree จาก https://www.youtube.com/watch? v=DRdavZGjgpQ 2.4 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Comparative Adjectives จาก https://www.youtube.com/watch? v=wXiD0FdON7k 3. อธิบาย (Explain) 3.1 นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้จากการดูวิดีโอทั้ง 4 คลิป 3.2 นักเรียนฟังครูอธิบาย Comparison : Comparative Degree การเปรียบเทียบขั้นกว่า (Comparative Degree) เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นความมากกว่าหรือ น้อยกว่าของ 2 สิ่ง ไม่ว่าจะเป็นในแง่ใดก็ตาม โดยมีโครงสร้างประโยคแบบง่ายๆ 1. ในการเปรียบเทียบแบบมากกว่าคือ การเปรียบเทียบที่สูงกว่า แสดงในรูปคุณศัพท์ขั้นกว่า + than Subject + Verb + Adjective / Adverb + “-er” + than • Jennie’s grades are higher than her sister’s. ผลการเรียนของเจนนี่สูงกว่าน้องสาวของเธอ Dominic Lowell
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 98 • Today is colder than yesterday. วันนี้อากาศหนาวกว่าเมื่อวาน • My girlfriend came later than me. แฟนของฉันมาช้ากว่าฉัน • Lindy is shorter than her younger sister. ลินดี้เตี้ยกว่าน้องสาว • My ruler is longer than yours. ไม้บรรทัดของฉันยาวกว่าของคุณ • This road is longer than that one. ถนนเส้นนี้ยาวกว่าเส้นนั้น แปลว่า • You are taller than me. หรือ You are taller than I am. เธอสูงกว่าฉัน 2. การเปรียบเทียบที่ต่ำกว่ากัน แสดงในรูป less โดยจะใช้less เพื่อพูดถึงบางสิ่งหรือบางอย่างที่อยู่ ในระดับที่ต่ำกว่า less + positive degree + than • Walking is less tiring than running. การเดินเหนื่อยน้อยกว่าการวิ่ง • Australia is less populated than China. ออสเตรเลียมีประชากรน้อยกว่าจีน • Hamburgers are less healthy than vegetables. แฮมเบอร์เกอร์มีประโยชน์ต่อร่างกายน้อยกว่าผัก • Malee is less careful than Somchai. มาลีเป็นคนที่รอบคอบน้อยกว่าสมชาย • It is less hot today than it was yesterday. วันนี้อากาศร้อนกว่าเมื่อวานนี้ 3. เมื่อนำคุณศัพท์ขั้นกว่ามาใช้เปรียบเทียบกับคำนาม (noun) ด้วยกัน ให้ใช้รูปแบบดังนี้ fewer + นามพหูพจน์นับได้ + than = น้อยกว่า less + นามนับไม่ได้ + than = น้อยกว่า more + นามพหูพจน์นับได้, นามนับไม่ได้ + than = มากกว่า • There are fewer students in this room than in that room. มีนักเรียนในห้องนี้น้อยกว่าในห้องนั้น • I spent less money than you. ฉันใช้จ่ายเงินน้อยกว่าคุณ • There are more students in this room than in that room. มีนักเรียนในห้องนี้ มากกว่าในห้องนั้น
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 99 • My mother have more money than my father. แม่ของฉันมีเงินมากกว่าพ่อ 4. การเปรียบเทียบที่คำคุณศัพท์จะเปลี่ยนคำไปเมื่ออยู่ในขั้นกว่า แต่ยังมีโครงสร้างเหมือนเดิม เพียง ไม่ต้องเติม er Subject + Verb + Adjective ขั้นกว่า + than คำคุณศัพท์ ขั้นกว่า good better bad worse little less much more far further / farther • Today is the worst day I’ve had in a long time. วันนี้เป็นวันที่แย่ที่สุดที่ฉันเคยมีมาเป็นเวลานานแล้ว • You play tennis better than I do. คุณเล่นเทนนิสได้ดีกว่าที่ฉันเล่น • This is the least expensive sweater in the store. นี่คือเสื้อสเวตเตอร์ที่ราคาถูกที่สุดในร้าน • This sweater is less expensive than that one. เสื้อสเวตเตอร์นี้ราคาถูกกว่าเสื้อตัวนั้น • I ran pretty far yesterday, but I ran even farther today. เมื่อวานผมวิ่งได้ไกล แต่วันนี้ผมวิ่งได้ไกลกว่า 5. การเปรียบเทียบซ้อนหรือการเปรียบเทียบคู่ (Double Comparatives) คือวลีทั่วไปที่ใช้การ เปรียบเทียบสองครั้ง เพื่อแสดงผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง นอกจากนี้การเปรียบเทียบสองครั้งยังถูกใช้เพื่อเน้น ย้ำความสำคัญของการกระทำ หรือกิจกรรมบางอย่าง ถ้าแปลความหมายให้เห็นภาพ ก็แปลได้ว่า “ยิ่ง...ก็ยิ่ง...” โครงสร้างของประโยค Double Comparative The + comparative + subject + verb, the + comparative + subject + verb The + more / less + (noun / noun phrase) + subject + verb, the + more / less + (noun / noun phrase) + subject + verb ข้อควรจำ 1. ทั้งสองประโยค ขึ้นต้นด้วย the เสมอ 2. สามารถใช้โครงสร้างทั้งสองผสมกันได้ 3. ระวังการใช้ Comparative ซ้ำกันนะคะ อย่างเช่น more easier, more safer • The closer we got to the fire, the warmer we felt. ยิ่งเราเข้าใกล้ไฟมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งรู้สึกอุ่นขึ้นเท่านั้น
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 100 ประโยคนี้ใช้โครงสร้างแบบที่ 1 ทั้งสองประโยค • The sharper the knife is, the easier it is to cut something. ยิ่งมีดคมเท่าไหร่ มันก็ยิ่งตัดสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายเท่านั้น ประโยคนี้ใช้โครงสร้างแบบที่ 1 ทั้งสองประโยค • The fresher the fruit is, the better it tastes. ยิ่งผลไม้สดเท่าไหร่ รสชาติก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น) ประโยคนี้ใช้โครงสร้างแบบที่ 1 ทั้งสองประโยค • The less you worry about others, the less they will bother you. ยิ่งคุณกังวลหรือเป็นห่วงคนอื่นน้อยลงเท่าไหร่ พวกเขาก็จะรบกวนใจคุณน้อยลงเท่านั้น ประโยคนี้ใช้โครงสร้างแบบที่ 2 ทั้งสองประโยค • The harder you study, the more you will learn. ยิ่งคุณศึกษาหนักมากเท่าไหร่ คุณก็จะได้เรียนรู้มากขึ้นเท่านั้น ประโยคนี้ใช้โครงสร้างของสองประโยคผสมกัน • The more shrimp a flamingo eats, the pinker it gets. ยิ่งฟลามิงโก้กินกุ้งมากเท่าไหร่ มันก็จะเป็นสีชมพูมากขึ้นเท่านั้น ประโยคนี้ใช้โครงสร้างของสองประโยคผสมกัน 6. นอกจากนี้ในการเปรียบเทียบขั้นกว่ายังสามามารถใช้คำคุณศัพท์เปรียบเทียบ (fatter, richer, bigger) ตามด้วย and และตามคำคุณศัพท์เปรียบเทียบคำเดิม • My uncle grew fatter and fatter over the years. • As Microsoft grew, Bill Gates got richer and richer. • The balloon got bigger and bigger and then burst. จะไม่นิยมพูดคำคุณศัพท์ที่อยู่หลัง more โดยจะพูดและใช้ more and more ตามด้วย คำคุณศัพท์ • Things are getting more and more expensive. • This book gets more and more interesting with every chapter. • He spoke for over an hour and his explanation got more and more complicated. 3.3 นักเรียนสอบถามความรู้เพิ่มเติมเพื่อเสริมความเข้าใจในเรื่อง Comparison : Comparative Degree โดยครูเขียนตัวอย่างประโยคบนกระดานให้นักเรียนเห็นความหลากหลายมากขึ้น 4. ขยายความรู้ (Elaborate) 4.1 นักเรียนดูประโยคบน PowerPoint และร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าประโยคที่เห็นนั้นถูกหรือผิด และถ้าผิดจะแก้ไขให้ถูกต้องอย่างไร 1. His car is more faster than mine. 2. The participants were more experienced. 3. The line moved more slowly. 4. She likes pizza better than her husband. 5. Her suitcase is bigger than John.
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 101 4.2 นักเรียนสามารถตอบได้ว่าประโยคทั้งหมดเป็นประโยคที่ผิด และจะต้องแก้เป็น 1. His car is faster than mine. 2. The participants were more experienced than the previous participant pool. 3. The line moved more slowly than the line next to it. 4. She likes pizza better than her husband does. 5. Her suitcase is bigger than John’s. 4.3 นักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง Comparison : Comparative Degree ในเอกสารประกอบการเรียน 4.4 นักเรียนทำใบงานเรื่อง Comparison : Comparative Degree ในเอกสารประกอบการเรียน 4.5 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดเรื่อง Comparison : Comparative Degree ในเอกสาร ประกอบการเรียน 5. ประเมินผล (Evaluate) 5.1 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบแบบฝึกหัดเรื่อง Comparison : Comparative Degree ในเอกสารประกอบการเรียน 5.2 นักเรียนสอบถาม / ซักถามถึงสาเหตุในการตอบคำถามหรือเลือกตอบในแต่ละข้อเพื่อความเข้าใจ มากขึ้น เรื่องที่ 4 เรื่อง Comparison : Superlative Degree จำนวนเวลาเรียน 4 ชั่วโมง วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบ กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน : GPAS 5 Steps และแบบ Inquiry Method : 5Es) กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) ชั่วโมงที่ 1 - 2 1. ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) 1.1 นักเรียนดูรูปภาพและคำศัพท์บน PowerPoint 1.2 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นและอธิบายเกี่ยวกับคำศัพท์slow, slower และ slowest บน PowerPoint 1.3 นักเรียนดูรูปภาพพร้อมประโยคเพิ่มเติมเกี่ยวกับ slow, slower และ slowest บน PowerPoint • The turtle is slow.
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 102 • The slung is slower than the turtle. • The legislators are the slowest. 1.4 นักเรียนศึกษาเนื้อหาเรื่อง Comparison : Superlative Degree จากแหล่งเรียนรู้ Internet 2. ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้(Processing) 2.1 นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ประโยคที่ครูเขียนบนกระดาน • He is the happier person I know. • His car is the most fastest. • The youngest girl was also littlest. 2.2 นักเรียนสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ประโยคที่ 1 ผิดเพราะว่าใช้การเปรียบเทียบขั้นกว่าแทนขั้นสูงสุด ซึ่งในบริบทไม่มีการเปรียบเทียบ กับใคร ดังนั้นจะต้องใช้การเปรียบเทียบขั้นสูงสุด และในความหมาย เขาคือบุคคลที่มีความสุขมากที่สุดที่ฉันรู้จัก ดังนั้นจะได้ประโยคเป็น He is the happiest person I know. ประโยคที่ 2 ผิดเพราะว่าเพิ่มคำเปรียบทียบ จากประโยคจะมีคำศัพท์ที่แสดงถึงการเปรียบเทียบ ขั้นสูงสุดของคำ คือคำว่า most และ fastest ซึ่งการจะใช้ most ได้นั้นจะต้องใช้นำหน้าคำคุณศัพท์ที่ไม่สามารถ เติม est ได้ ส่วน fastest เป็นคำที่ระบุว่าเป็นขั้นสูงสุดอยู่แล้วจึงไม่ต้องเติมคำว่า most นำหน้า ดังนั้นประโยคที่ ถูกต้องคือ His car is the fastest. ประโยคที่ 3 ผิดเพราะว่า ขาดการใช้“the” ในขั้นการเปรียบเทียบขั้นสูงสุด โดยจะเห็นได้ว่าใน ประโยคมีคำที่บ่งบอกขั้นสูงสุด 2 คำคือคำว่า youngest และ littlest ซึ่ง youngest นั้นมีคำว่า the นำหน้า ส่วน littlest ไม่มี และตามกฎแล้ว การใช้การเปรียบเทียบขั้นสูงสุดจะต้องมี the นำหน้าคำคุณศัพท์ที่แสดงการ เปรียบเทียบขั้นสูงสุด 2.3 นักเรียนช่วยกันสรุปการใช้ Comparison : Superlative Degree 3. ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ(Applying and Constructing the Knowledge) 3.1 นักเรียนทำแบบฝึกหัดเรื่อง Comparison : Superlative Degree บน PowerPoint จำนวน 10 ข้อ โดยเขียนคำตอบลงในกระดาษที่ครูเตรียมให้ Instructions : Complete the sentences with the superlative forms of adjectives. 1. Your pet ran…………………………….(fast) of any pet in the race. 2. Christopher is…………………………….(smart) boy in the class. 3. Neon is the…………………………….(good) music teacher in my school. 4. Which is…………………………….(good) language of all to learn? 5. Which is the…………………………….(fast) bird in the world? 6. Which is the…………………………….(small) bird in the world? 7. He is…………………………….(bad) employee in the company. 8. My project was…………………………….(good) in class. 9. She is…………………………….(beautiful) girl I ever met. 10. Katherine bought…………………………….(expensive) cakes. Answer Key : 1. the fastest 2. the smartest 3. best 4. the best
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 103 5. fastest 6. smallest 7. the worst 8. the best 9. the most beautiful 10. the most expensive 3.2 นักเรียนช่วยกันสรุปและอธิบายความรู้เรื่องการใช้ Comparison : Superlative Degree 4. ขั้นสื่อสารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill) 4.1 นักเรียนแต่งประโยค Comparison : Superlative Degree คนละ 2 ประโยคลงในกระดาษ 4.2 นักเรียนนำเสนอประโยคของตนเองหน้าชั้นเรียน 5. ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating) 5.1 นักเรียนทำการแลกเปลี่ยนประโยคของตนเองกับเพื่อน ๆ ในห้อง เพื่อให้ทุกคนในห้องได้ศึกษา ประโยคที่แต่ละคนได้เขียน 5.2 นักเรียนทำการวิเคราะห์ประโยค การใช้ไวยากรณ์ การใช้คำศัพท์ในแต่ละประโยคว่ามีความถูกต้อง หรือผิดพลาดตรงไหน 5.3 นักเรียนช่วยกันรวบรวมข้อผิดพลาดจากการวิเคราะห์ประโยคของเพื่อน ๆ และนำเสนอหน้าชั้น 5.4 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบจากการทำแบบฝึกหัดเรื่อง Comparison : Superlative Degree บน PowerPoint ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ Comparison : Superlative Degree เพื่อให้นักเรียน เข้าใจมากยิ่งขึ้น ชั่วโมงที่ 3 - 4 1. สร้างความสนใจ (Engage) 1.1 นักเรียนดูรูปภาพและข้อมูลบน PowerPoint หลังจากนั้นช่วยกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ รูปภาพและข้อมูล 1.2 นักเรียนช่วยกันแต่งประโยคจากรูปภาพและข้อมูลบน PowerPoint โดยใช้Superlative adjective 1.3 นักเรียนแต่งประโยคได้ว่า • Granddad is the oldest in the family. • Dad is the tallest. • Lucien is the youngest. • The cat is the fastest pet in the family. • The dog is the smartest pet in the house. • The dog is the most friendly in the house. Age Granddad : 85 Grandma : 67 Dad : 37 Mum : 32 Lucien : 2
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 104 • Grandma is the kindest in the family. etc. 2. สำรวจและค้นหา (Explore) 2.1 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง หลักการใช้งาน superlative degree / การเปรียบเทียบขั้นสูงสุด / ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษพื้นฐานจาก https://www.youtube.com/watch?v=AQH6_KiU22M 2.2 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Superlative Adjectives จาก https://www.youtube.com/watch? v=K1Rs793CjqE 2.3 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่องSuperlative Degree จาก https://www.youtube.com/watch? v=geVN43poD2s 2.4 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Comparative and Superlative Adjectives - English Grammar Lesson จาก https://www.youtube.com/watch?v=13TLUMw6og0 3. อธิบาย (Explain) 3.1 นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้จากการดูวิดีโอทั้ง 4 คลิป 3.2 นักเรียนฟังครูอธิบาย Comparison : Superlative Degree Superlative Degree ใช้เปรียบเทียบตั้งแต่สามคน หรือ สามสิ่งขึ้นไป หรืออาจเป็นที่สุดในโลก ทวีป กลุ่ม พวก คณะ หรือ ชั้นเรียน เช่น the biggest, the most beautiful, the longest, the most quickly, the most easily มีโครงสร้างประโยค 2 แบบ คือ Subject + Verb to be + the + adjective + est Subject + Verb to be + the + most + adjective รูปแบบแรกจะใช้ the นำหน้า adj. ที่มีการเติม -est ท้ายคำนั้น ๆ เพื่อเปรียบเทียบว่า สิ่งนั้น … ที่สุด รูปแบบที่สอง จะใส่ the most ไว้ด้านหน้า adj. นั้น ๆ เพื่อเปรียบเทียบว่า สิ่งนั้น … ที่สุด วิธีการใช้ Superlative Degree 1. ใช้เปรียบเทียบระหว่างสามคน หรือ สามสิ่งขึ้นไป หรืออาจเป็นที่สุดในหมู่หรือในกลุ่ม • Canada, China and Russia are big countries. But Russia is the biggest. ประเทศแคนาดา ประเทศจีน และประเทศรัสเซียเป็นประเทศใหญ่ แต่ประเทศรัสเซียเป็น ประเทศที่ใหญ่ที่สุด • Mouth Everest is the highest mountain in the world. เอเวอเรสต์เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลก • That brand is the least powerful for getting out stains. สินค้ายี่ห้อนั้นมีประสิทธิภาพน้อยที่สุดในการขจัดคราบ แต่ถ้าเป็นการเปรียบเทียบสิ่งเดียวกันกับตัวมันเอง จะไม่มี the นำหน้า • England is coldest in winter. อังกฤษหนาวที่สุดในฤดูหนาว 2. สามารถขยายความได้ด้วยการเติม much, far, quite, almost, practically, nearly หรือ easily หน้าขั้นสูงสุด
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 105 • Lily is much the most intelligent of them all. ลิลลี่เป็นคนฉลาดที่สุดในบรรดาพวกเขาทั้งหมด • Bastien is by far the most talented. บาสเตียนเป็นคนเก่งที่สุดแล้ว • Sarah is quite the most amazing person I have ever met. ซาร่าเป็นคนที่น่าทึ่งที่สุดที่ฉันเคยพบมา • This is easily the worst film I have seen in a long time. นี่เป็นภาพยนตร์ที่แย่ที่สุดที่ฉันเคยเห็นมาเป็นเวลานาน 3. ใช้ขั้นสูงสุดกับคำนามได้ตามโครงสร้าง ต่อไปนี้ the most + คำนามพหูพจน์ / คำนามเอกพจน์นับไม่ได้ = มากที่สุด the fewest + คำนามพหูพจน์ = น้อยที่สุด the least + คำนามเอกพจน์นับไม่ได้ = น้อยที่สุด • Olivier does the most work in this office. Anthony does the least. โอลิเวอร์ทำงานมากที่สุดในสำนักงานนี้ แอนโทนี่ทำน้อยที่สุด • The essay with the fewest mistakes is not always the best. เรียงความที่มีข้อผิดพลาดน้อยที่สุดไม่ได้ดีที่สุดเสมอไป 4. สามารถใช้ในโครงสร้าง one of the + ขั้นสูงสุดได้ • This is watch is one of the most expensive I have ever seen. นี่คือนาฬิกาเรือนหนึ่งที่แพงที่สุดที่ฉันเคยเห็นมา • This offer is one of the best I am going to get. ข้อเสนอนี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันจะได้รับ 5. most ตามด้วยคำนามพหูพจน์ หรือ คำนามเอกพจน์นับไม่ได้ จะใช้ในความหมายว่า เป็นส่วน ใหญ่หรือเป็นส่วนมาก เวลาใช้ไม่ต้องมีthe นำหน้า • Most students have found top level professional jobs. นักเรียนส่วนใหญ่ได้พบงานระดับมืออาชีพระดับสูง • Most information is now obtained from the internet. ข้อมูลส่วนใหญ่ได้มาจากอินเทอร์เน็ตในขณะนี้ 6. การเรียงลำดับคำคุณศัพท์ หากมี Ordinal Numeral Adjective ซึ่งเป็นคำคุณศัพท์ที่ใช้ขยาย นามเพื่อบอกลำดับที่ของนามนั้น ๆ มา ร่วมขยายด้วยจะต้องวางตามโครงสร้าง เช่น first, second, third, fifth, sixth, seventh มีโครงสร้างดังนี้ the + ordinal numeral adjective + superlative adjective • The world’s second largest gem quality diamond has been discovered in Botswana. เพชรคุณภาพที่เป็นอัญมณีใหญ่เป็นอันดับสองของโลกถูกค้นพบในบอตสวานา
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 106 เพิ่มเติม เวลาเราเห็น more หรือ than หรือ adjective ที่ลงท้ายด้วย er ให้นึกถึงเรื่อง Comparative Degree วิธีสังเกตการเปรียบเทียบ Superlative Degree ให้สังเกตจากวลีต่อไปนี้ • of all • of them all • in the class • in the world • in the family • ever • that I have ever seen / visited / heard 3.3 นักเรียนสอบถามความรู้เพิ่มเติมเพื่อเสริมความเข้าใจในเรื่อง Comparison : Superlative Degree โดยครูเขียนตัวอย่างประโยคบนกระดานให้นักเรียนเห็นความหลากหลายมากขึ้น 4. ขยายความรู้ (Elaborate) 4.1 นักเรียนดูประโยคบน PowerPoint และร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าประโยคที่เห็นนั้นถูกหรือผิด และถ้าผิดจะแก้ไขให้ถูกต้องอย่างไร 1. This road is the most shortest of all. (Incorrect) 2. Donovan is the strongest and hardworking boy in the class. (Incorrect) 3. Selena is one of the most brilliant student in the class. 4. The software we bought the muchest of came from an online supplier. 5. Natalie types the most fastest out of all the secretaries. 4.2 นักเรียนสามารถตอบได้ว่าประโยคทั้งหมดเป็นประโยคที่ผิด และจะต้องแก้เป็น 1. This road is the shortest of all. 2. Donovan is the strongest and most hardworking boy in the class. 3. Selena is one of the most brilliant students in the class. (ผิดตรง student ในโจทย์ เป็นเอกพจน์ หลักการใช้ one of the most + Noun พหูพจน์) 4. The software we bought the most of came from an online supplier. 5. Natalie types the fastest out of all the secretaries. 4.3 นักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง Comparison : Superlative Degree ในเอกสารประกอบการเรียน 4.4 นักเรียนทำใบงานเรื่อง Comparison : Superlative Degree ในเอกสารประกอบการเรียน 4.5 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดเรื่อง Comparison : Superlative Degree ในเอกสาร ประกอบการเรียน 5. ประเมินผล (Evaluate) 5.1 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบแบบฝึกหัดเรื่อง Comparison : Superlative Degree ใน เอกสารประกอบการเรียน 5.2 นักเรียนสอบถาม / ซักถามถึงสาเหตุในการตอบคำถามหรือเลือกตอบในแต่ละข้อเพื่อความเข้าใจ มากขึ้น
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 107 เรื่องที่ 5 เรื่อง Comparison (Revision) จำนวนเวลาเรียน 2 ชั่วโมง วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)) กิจกรรมการเรียนรู้ (Active Learning) ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 ขั้นนำ 1.1 นักเรียนดูภาพ Comparison of Adjectives บน PowerPoint 1.2 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่า Comparison of Adjectives คืออะไรและมีกี่ประเภท 1.3 นักเรียนสามารถตอบได้ว่า Comparison of Adjective (การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์) เป็นการ เปรียบเทียบคุณลักษณะต่าง ๆ ของ คน สัตว์ และสิ่งของตั้งแต่ 2 อย่างขึ้นไป การเปรียบเทียบมี 3 ระดับคือ • ขั้นธรรมดา Positive Degree • ขั้นกว่า Comparative Degree • ขั้นสูงสุด Superlative Degree ขั้นที่ 2 ขั้นการสืบค้นความรู้จากแหล่งข้อมูลและสารสนเทศ 2.1 นักเรียนดูภาพพร้อมคำคุณศัพท์ที่ใช้ในการเปรียบเทียบบนหน้าจอ Projector 2.2 นักเรียนช่วยกันแต่งประโยคจากรูปภาพและคำคุณศัพท์ที่ใช้ในการเปรียบเทียบบนหน้าจอ Projector 2.3 นักเรียนสามารถแต่งประโยคได้ว่า • The bicycle is fast. • The bicycle is not fast as the car. • The car is faster than the bicycle. • The areophane in the fastest of all. 2.4 นักเรียนช่วยกันหาคำคุณศัพท์ที่ใช้ในการเปรียบเทียบมาใช้แทนคำว่า fast, faster และ fastest เช่น slow, new, expensive, cheap เป็นต้น 2.5 นักเรียนนำคำคุณศัพท์ที่ช่วยกันคิดนำมาแต่งประโยค เช่น • The bicycle is the cheapest. • The areophane is the most expensive transportation. Comparison of Adjectives
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 108 • The car is slower than the areophane. • The car is not slow as the bicycle. • The bicycle is the newest. etc. 2.6 นักเรียนสืบค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอย่างประโยคที่ใช้Comparison of Adjectives จากเว็บไซต์ต่าง ๆ จากอินเทอร์เน็ตโดยครูตั้งกติกาว่าจะต้องศึกษาอย่างน้อย 2 เว็บไซต์ ขั้นที่ 3 ขั้นเชื่อมโยงความรู้ 3.1 นักเรียนส่งตัวแทนจำนวน 10 คน เพื่อรับบัตรคำคุณศัพท์และประโยค 3.2 นักเรียนที่ได้รับบัตรคำและประโยคแสดงบัตรคำพร้อมออกเสียงคำคุณศัพท์และประโยคให้ เพื่อนฟังด้วยความมั่นใจ 3.3 นักเรียนที่มีบัตรคำคุณศัพท์เดินค้นหาเพื่อนที่มีบัตรคำประโยคที่สามารถมีความหมายใกล้เคียง และสามารถใช้คำคุณศัพท์นั้น ๆ ได้ 3.4 เมื่อนักเรียนเจอคู่ของตัวเองแล้ว เช่น บัตรประโยค The Nile is……………………….river in the world. คู่กับ บัตรคำคุณศัพท์ the longest ให้นักเรียนพูดออกเสียงประโยคและคำคุณศัพท์นั้น ๆ ทีละคู่แล้วนำบัตรคำคุณศัพท์และบัตร ประโยคมาติดที่กระดาน 3.5 เมื่อนักเรียนติดบัตรคำครบทุกคำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบความ ถูกต้องของประโยคจากบัตรคำคุณศัพท์และบัตรประโยคที่นักเรียนติดบนกระดาน 3.6 นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ประโยคบนกระดานพร้อมจดบันทึกลงในสมุด ขั้นที่ 4 ขั้นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ปฏิบัติงานกลุ่ม 4.1 นักเรียนแบ่งออกเป็น 10 กลุ่มๆ ละ 5 คน และ โดยแต่ละกลุ่มประกอบไปด้วยสมาชิก นักเรียน เก่ง ปานกลางและอ่อน ให้แต่ละกลุ่มเลือกหัวหน้ากลุ่มของตนเอง 4.2 นักเรียนนั่งเป็นวงกลม และช่วยกันศึกษา Comparison of Adjectives จากเอกสาร ประกอบการเรียน 4.3 นักเรียนฟังครูอธิบายหลักการใช้ Comparison of Adjectives การเปรียบเทียบออกเป็นทั้งหมด 3 ระดับนั้น ดังนี้ 1. Positive Degree คือ การเปรียบเทียบขั้นปกติเป็นการเปรียบเทียบความเท่าเทียมกันมีรูป ประโยคดังนี้ as / so + adjectives / adverbs + as • Apple is as delicious as pineapple. • Mrs. Pisamai is as beautiful as Mrs. Supatra.
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 109 • Mr.Puang is as tall as Mr.Daeng. 2. Comparative Degree คือ การเปรียบเทียบขั้นกว่า เป็นการเปรียบเทียบระหว่างคำนาม 2 สิ่งมีรูปประโยคดังนี้ คำคุณศัพท์ (adjectives) เติม er + than more + คำคุณศัพท์ (adjective) + than • Math is more difficult than English. • The car is faster than the mortorcycle. • The boy is taller than the girl • The tiger is more dangerous than the dog. 3. Superlative Degree คือ การเปรียบเทียบขั้นสุด เป็นการเปรียบเทียบขั้นสูงสุด ใช้ในการ เปรียบเทียบที่มากกว่า 2 สิ่งขึ้นไป นิยมใช้ the นำหน้ามีรูปประโยคดังนี้ the + คำคุณศัพท์ (adjectives) เติม -est the + most + คำคุณศัพท์ (adjectives) • The elephant is the biggest of all. • The tiger is the most dangerous of all. นอกจากนี้ยังมีDouble comparative หรือ การใช้การเปรียบเทียบขั้นกว่ามารวมไว้ใน ประโยคเดียวกันเพื่อโยงถึงความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องแบบแปรผัน ที่แปรตามกันหรือแปรผกผันกันก็ได้โครงสร้าง คือ The + adj / adv + er…, the + adj / adv +er… The + more / less adj / adv..., the + more / less adj / adv… หรือจะเขียนสรุปเป็น The + comparative form, the + comparative form • The more you eat, the bigger you will be. • The more he reads, the smarter he becomes. • The more the kitten looks at the big bunch of bananas, the more it feels afraid. • The colder the air became in the harsh winter, the less chance the homeless could survive in the streets. ขั้นที่ 5 ขั้นการสร้างองค์ความรู้ร่วมกัน 5.1 นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์และตอบคำถามบน PowerPoint จำนวน 5 ข้อ
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 110 Instructions : Choose the best alternative 1. A mouse is…………………………….than an elephant. a) big b) bigger c) smaller d) the smallest 2. A motorcycle is…………………………….than a bicycle. a) expensive b) more expensive c) expensiver d) the most expensive 3. The tiger is…………………………….of all. a) the dangerous b) the more dangerous c) the dangerouser d) the most dangerous. 4. Lions are…………………………….than rabbits. a) big b) more big c) bigger d) the biggest 5. February is…………………………….than January. a) the longest b) longer c) the shortest d) shorter Answer Key : 1. c) 2. b) 3. d) 4. c) 5. d) 5.2 นักเรียนรวมกลุ่มกัน และแต่ละคนในกลุ่มพูดสรุปความรู้เรื่อง Comparison of Adjectives 5.3 หัวหน้ากลุ่มรวบรวมคำพูด องค์ความรู้จากสิ่งที่เพื่อนทุกคนพูดเกี่ยวกับหลักการใช้ หลักการแต่ง ประโยค Comparison of Adjectives 5.4 นักเรียนช่วยกันทำใบงานเรื่อง Comparison (Revision) ในเอกสารประกอบการเรียนรู้ 5.5 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบจากการทำใบงานเรื่อง Comparison (Revision) ใน เอกสารประกอบการเรียนรู้ 5.6 นักเรียนฟังครูอธิบายเหตุผลในการตอบในแต่ละข้อ ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 6 ขั้นการสื่อสารและการนำเสนอ 6.1 นักเรียนตัวแทนกลุ่มรับกระดาษและอุปกรณ์การเขียนเพื่อทำการสรุปเนื้อหา Comparison of Adjectives โดยแบ่งออกเป็นหัวข้อดังนี้ กลุ่มที่ 1 สรุปเรื่องการเปรียบเทียบขั้นธรรมดา Positive Degree กลุ่มที่ 2 สรุปเรื่องการเปรียบเทียบขั้นกว่า Comparative Degree กลุ่มที่ 3 สรุปเรื่องการเปรียบเทียบแบบคู่ Double Comparatives กลุ่มที่ 4 สรุปเรื่องการเปรียบเทียบขั้นสูงสุด Superlative Degree 6.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอประโยคและการใช้Comparison of Adjectives ของกลุ่ม ตนเองหน้าชั้นเรียน
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 111 ขั้นที่ 7 ขั้นประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 7.1 นักเรียนร่วมกันสรุป Comparison of Adjectives ที่เรียนไปแล้ว 7.2 นักเรียนยกตัวอย่างการนำความรู้เรื่อง Comparison of Adjectives ที่แต่ละกลุ่มได้เรียนรู้โดย สรุปร่วมกันทั้งห้องแล้วบันทึกความรู้ลงในสมุดบันทึก
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 112 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง Out and About แผนการจัดการเรียนรู้ที่5 เรื่อง Vocabulary, reading and conversation รหัสวิชา อ22122 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุจินดา ปรากฏวงศ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับ ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม 1.2 ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.2/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.1 ม.2/4 เลือกหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่าน พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างง่าย ๆ ประกอบ ต 2.1 ม.2/3 เข้าร่วม / จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ ต 2.2 ม.2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค ชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยค ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับการอ่านออกเสียง Vocabulary บทสนทนา - นักเรียนมีความรู้ เรื่องการใช้ Comparison ในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผลและการใช้ ประโยคเปรียบเทียบในภาษาอังกฤษ 2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง Vocabulary บทสนทนา ได้ถูกต้อง - นักเรียนสามารถใช้ประโยค Comparison ตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ ในการ แสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล ในชีวิตประจำวันและในกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมได้ 2.3 คุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - รักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและฝึกฝนอย่างจริงจังเพียงพอ - ผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีมารยาท ถูกต้องตามกาลเทศะ และบุคคล
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 113 3. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด - อ่านออกเสียง Vocabulary บทสนทนา และใช้ประโยค Comparison ตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล ในชีวิตประจำวัน กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม มีทักษะในการเลือก พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม ในการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง อ่านออกเสียง Vocabulary บทสนทนา และใช้ประโยค Comparison ตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล ในชีวิตประจำวัน กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมได้ 4.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1. คำศัพท์ในเรื่อง Unit 6 : Out and About 2. บทสนทนาในเรื่อง Unit 6 : Out and About 3. การใช้ Vocabulary ในรูปแบบต่าง ๆ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 5.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 6.1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ตามหลักสูตรแกนกลาง) 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 6.2 คุณลักษณะตามหลักสูตรมาตรฐานสากล 1) มีความรู้พื้นฐานในยุคดิจิตอล วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา พหุวัฒนธรรม ตระหนักสำนึกระดับโลก 2) สามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ปรับตัวใฝ่รู้ ใฝ่เรียน วิเคราะห์ สังเคราะห์สรุป สร้างองค์ความรู้ 3) มีทักษะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 4) มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 7C เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 7.1 ทักษะการอ่าน (Reading) 7.2 ทักษะการเขียน (Writing) 7.3 ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic) 7.4 ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving)
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 114 7.5 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) 7.6 ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, teamwork and leadership) 7.7 ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) 7.8 ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication information and media literacy) 7.9 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing) 7.10 ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) 8. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 8.1 บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 8.2 บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 8.3 บูรณาการห้องเรียนสีเขียว 8.4 อื่น ๆ (โปรดระบุ)................................................................................................................................................. 9. ชิ้นงาน / ภาระงาน 1. ภาระงาน - ใบงานเรื่อง Vocabulary - แบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ Spark 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2. ชิ้นงาน - 10. กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) เรื่อง Vocabulary, reading and conversation วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบค้นพบ Discovery Method) ชั่วโมงที่ 1 1. ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1.1 นักเรียนดูประโยคภาพบน PowerPoint และช่วยกันแสดงความคิดเห็น 1.2 นักเรียนสามารถตอบ เช่น cultural holiday,ecotourism, adventure holiday, city break, escape holiday, family holidays, wildlife and nature holiday, beach holiday, romantic getaways เป็นต้น Types of holidays
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 115 1.3 นักเรียนดูคำถามที่ครูเขียนบนกระดาน “What do you like doing while holiday?” นักเรียน ช่วยกันแสดงความคิดเห็น โดยครูรับคำตอบทุกคำ แล้วครูพูดประโยคของตนเองพร้อมเขียนลงบนกระดานว่า I like beach holidays. I usually go to the beach, sunbathe and swim in the sea. What about you หลังจากนั้นครูเขียนคำว่า Holiday บนกระดาน 1.4 นักเรียนช่วยกันคิดถึงคำศัพท์ที่เกี่ยวกิจกรรมในวันหยุด แล้วออกไปเขียนบนกระดานตามเวลาที่ครู กำหนด ช่วยกันแก้ไขตัวสะกดแล้วครูให้นักเรียนอ่านคำศัพท์เหล่านั้นพร้อม ๆ กัน 1.5 นักเรียนทำกิจกรรม Reading : Destination London, UK ในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 70 1.6 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยกิจกรรม Reading : Destination London, UK ในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 70 1.7 นักเรียนทำกิจกรรม Match the attractions (1-8) to what you can see and do there (ab). Then make sentences ในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 71 1.8 นักเรียนทำกิจกรรม Match the words in the two columns ในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 71 1.9 นักเรียนทำกิจกรรม Listen and complete the gaps ในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 71 1.10 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยคำตอบในกิจกรรมที่นักเรียนทำทั้งหมดในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 71 หากมีข้อใดที่นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความ เข้าใจมากขึ้น 2. ขั้นเรียนรู้ 2.1 นักเรียนฟังบทสนทนาในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 75 2.2 นักเรียนจับกลุ่มเพื่อฝึกบทสนทนา และส่งตัวแทนออกมา 1 กลุ่มเพื่อออกมาพูดบทสนทนา 2.3 นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 82 กิจกรรม Read the dialogue and mark sentences 1 - 6 T (true) or F (false). Correct the false statement. 2.4 นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 82 กิจกรรม Find words / phrase in the dialogue which mean. 2.4 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยกิจกรรมในหนังสือเรียน Spark 2 หน้าที่ 82 กิจกรรม Read the dialogue and mark sentences 1 - 6 T (true) or F (false). Correct the false statement. และกิจกรรม Find words / phrase in the dialogue which mean. หากมีข้อใดที่นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอน อธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 116 ชั่วโมงที่ 2 3. ขั้นนำไปใช้ 3.1 นักเรียนศึกษาคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน 3.2 นักเรียนทำใบงานแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน 3.3 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน หากมีข้อใดที่ นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น 11. สื่อการเรียนรู้ / แหล่งเรียนรู้ 11.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ Spark 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2. ใบความรู้เรื่อง Vocabulary 3. ใบงานเรื่อง Vocabulary 4. แบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ Spark 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 11.2 แหล่งเรียนรู้ 1. หนังสือพิมพ์ 2. อินเทอร์เน็ตหรือสื่ออื่น ๆ 12. การวัดและประเมินผล ลำดับ รายการที่วัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ใบงานเรื่อง Vocabulary ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นั ก เรีย น ให้ ค วาม ร่วม มื อใน การท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 2 แบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ Spark 2 Student’s book ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด นั ก เรีย น ให้ ค วาม ร่วม มื อใน การท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 13. เกณฑ์การประเมิน 16 - 20 คะแนน ดีมาก 11 - 15 คะแนน ดี 6 - 10 คะแนน พอใช้ น้อยกว่า 6 คะแนน ควรปรับปรุง ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 117 บันทึกหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู วันที่..............เดือน..................................พ.ศ. ..................
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 118 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง Out and About แผนการจัดการเรียนรู้ที่6 เรื่อง Comparison : Positive Degree รหัสวิชา อ22122 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 4 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุจินดา ปรากฏวงศ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับ ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม 1.2 ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.2/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.1 ม.2/4 เลือกหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่าน พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างง่าย ๆ ประกอบ ต 2.1 ม.2/3 เข้าร่วม / จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ ต 2.2 ม.2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค ชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยค ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - นักเรียนมีความรู้ เรื่องการใช้ Comparison : Positive Degree ในการแสดงความคิดเห็น การให้ เหตุผลและการใช้ประโยคเปรียบเทียบในภาษาอังกฤษ 2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถใช้ประโยค Comparison : Positive Degree ตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศ ในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล ในชีวิตประจำวันและในกิจกรรมทางภาษาและ วัฒนธรรมได้ 2.3 คุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - รักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและฝึกฝนอย่างจริงจังเพียงพอ - ผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีมารยาท ถูกต้องตามกาลเทศะ และบุคคล
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 119 3. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด - อ่านออกเสียงคำศัพท์และใช้ประโยค Comparison : Positive Degree ตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล ในชีวิตประจำวัน กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม มีทักษะในการเลือก พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม ในการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง อ่านออกเสียงคำศัพท์และใช้ประโยค Comparison : Positive Degree ตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล ในชีวิตประจำวัน กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมได้ 4.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1. คำศัพท์ในเรื่อง Unit 6 : Out and About 2. บทสนทนาในเรื่อง Unit 6 : Out and About 3. การใช้โครงสร้าง Comparison : Positive Degree ในรูปแบบต่าง ๆ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 5.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 6.1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ตามหลักสูตรแกนกลาง) 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 6.2 คุณลักษณะตามหลักสูตรมาตรฐานสากล 1) มีความรู้พื้นฐานในยุคดิจิตอล วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา พหุวัฒนธรรม ตระหนักสำนึกระดับโลก 2) สามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ปรับตัวใฝ่รู้ ใฝ่เรียน วิเคราะห์ สังเคราะห์สรุป สร้างองค์ความรู้ 3) มีทักษะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 4) มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 7C เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 7.1 ทักษะการอ่าน (Reading) 7.2 ทักษะการเขียน (Writing) 7.3 ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic) 7.4 ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving)
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 120 7.5 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) 7.6 ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, teamwork and leadership) 7.7 ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) 7.8 ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication information and media literacy) 7.9 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing) 7.10 ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) 8. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 8.1 บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 8.2 บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 8.3 บูรณาการห้องเรียนสีเขียว 8.4 อื่น ๆ (โปรดระบุ)................................................................................................................................................. 9. ชิ้นงาน / ภาระงาน 1. ภาระงาน - ใบงานเรื่อง Comparison : Positive Degree 2. ชิ้นงาน - 10. กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) เรื่อง Comparison : Positive Degree วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบ 2W3P) ชั่วโมงที่ 1 - 2 1. ขั้นกระตุ้นทบทวนและปูพื้นฐานความรู้(Warm up) 1.1 นักเรียนดูรูปภาพบน PowerPoint และร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับภาพ 1.2 นักเรียนสามารถตอบได้ว่า same price, same colour, same length, same size, etc. คร฿ เขียนคำตอบของนักเรียนลงบนกระดาน 1.3 แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละเท่าๆ กัน โดยแต่ละทีมประกอบไปด้วยนักเรียนกลุ่มเก่ง ปาน กลางและอ่อน 1.4 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันแต่งประโยคโดยใช้คำที่ครูเขียนบนกระดานหลังจากนั่นส่งตัวแทนกลุ่มละ 1 คน ออกมาเขียนประโยคบนกระดาน และเพื่อน ๆ ในห้องช่วยกันตรวจสอบว่าถูกต้องหรือไม่ Size : M Shop A Price : 1,900 ฿ Chest (cm) : 47 Length (cm) : 73 Shop B Size : M Chest (cm) : 47 Length (cm) : 73 Price : 1,900 ฿
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 121 1.5 ครูขีดเส้นใต้คำ ที่อยู่ในประโยคที่นักเรียนร่วมกันแต่งบนกระดาน เช่น • A’s shop shirt is as lengthy as B’s shop shirt. • This blue jean shirt is the same price as that one. • The shirt from A’s shop is the same as B’s shop. • This shirt is the same chest as that one. • This blue shirt is the same size as that shirt from B’s shop. 1.6 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่าคำที่ถูกขีดเส้นใต้นั่นคือคำอะไร ทำหน้าที่อะไร 1.7 นักเรียนฟังครูชี้แจงว่าคำที่ถูกขีดเส้นใต้นั่นคือคำ Positive Degree (การเปรียบเทียบขั้นเท่ากัน) โดยปกติแล้วการเปรียบเทียบคำคุณศัพท์หรือคำกริยาวิเศษณ์จะเปรียบได้ 3 ระดับด้วยกันคือ ระดับที่เหมือนกันหรือ เท่ากัน (Positive degree) ระดับขั้นกว่า (Comparative Degree) และระดับขั้นสูงสุด (Superlative Degree) 2. ขั้นนำเสนอเนื้อหาสาระ (Presentation) 2.1 นักเรียนออกมาเขียนคำคุณศัพท์(Adjective) คำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) และคำนาม (Noun) ที่ สามารถใช้ในการเปรียบเทียบได้บนกระดานดำคนละ 1 คำพร้อมความหมาย โดยเพื่อน ๆ ช่วยกันตรวจสอบถ้าไม่ ถูกต้องสามารถช่วยกันแก้ไขได้ 2.2 นักเรียนสามารถตอบได้ว่า long, colorful, expensive, diligent, beautifully, quickly, well, fast, money, book, age, etc. 2.3 นักเรียนช่วยกันแยกคำคุณศัพท์ (Adjective) คำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) และคำนาม (Noun) บน กระดาน โดยที่ครูเป็นผู้ชี้แนะ เช่น คำคุณศัพท์ (Adjective) คำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) คำนาม (Noun) long beautifully money colorful quickly book expensive well age diligent fast colour 2.4 นักเรียนฟังครูชี้แจงการเปรียบเทียบขั้นเท่ากัน (Positive Degree) การเปรียบเทียบขั้นเท่ากันหรือการเปรียบเทียบขั้นปกติ (Positive Degree) ใช้เปรียบเทียบความ เท่าเทียมกัน ไม่เท่าเทียมกัน เช่น long, short, small , big , fast, slow เป็นต้น โดยมีวิธีการดังนี้ 1. ใช้ as…as เป็นตัวเชื่อม …as + adjective / adverb + as… • His work is as good as yours. งานของเขาดีพอๆกับงานของคุณเลย • He speaks Spanish as well as his mother. เขาพูดภาษาสเปนได้ดีพอๆกับแม่ของเขา ** แต่ถ้าแสดงความไม่เท่ากัน ให้ใส่ not เข้าไป โดยมีโครงสร้างดังนี้ …not as / (so) + adjective / adverb + as… • English is not as difficult as math.
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 122 ภาษาอังกฤษไม่ยากเท่ากับคณิตศาสตร์ • My room is not so comfortable as your room. ห้องของฉันไม่สะดวกสบายเท่ากับห้องของเธอ ** ถ้าต้องการใส่คำขยาย much / many เข้าไปในความหมายว่า “ฉันมีอะไรมากเท่ากับใคร” ก็ จะมีโครงสร้างดังนี้ …as + much + คำนามนับไม่ได้ / many + คำนามนับได้ + as... • My father has as much work as my mother. พ่อของฉันมีงานมากพอๆกับที่แม่ของฉันมี • I have as many comic books as my friend. ฉันมีหนังสือการ์ตูนมากเท่ากับที่เพื่อนฉันมี 2. การใช้ the same…as …the same + noun + as…. • This watch is the same price as that one. นาฬิกาข้อมือเรื่อนนี้มีราคาเท่ากับเรื่อนนั้น ** บางครั้งก็จะมีการละnoun ไว้ในฐานที่เข้าใจ เช่น • My English mark is the same as yours. คะแนนภาษาอังกฤษของฉันเท่ากับของเธอ 3. ขั้นฝึกฝนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์ (Practice) 3.1 นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างประโยคโดยใช้คำศัพท์จากตารางที่นักเรียนช่วยกันแยกออกเป็น หมวดหมู่ 3.2 นักเรียนส่งตัวแทนออกมาเขียนประโยคที่นักเรียนช่วยกันแต่งบนกระดานพร้อมความหมาย โดย เพื่อน ๆ ช่วยกันตรวจสอบถ้าไม่ถูกต้องสามารถช่วยกันแก้ไขได้ • This pencil is as long as that one. ดินสอแท่งนี้ยาวเท่า ๆ กับแท่งนั้น • This picture is as colorful as the one I have ever seen. ภาพนี้มีสีสันสดใสที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็น • This bag is as expensive as that one. กระเป๋าใบนี้แพงเท่ากันกับอีกใบหนึ่ง • Darlene is as diligent as Bastien. ดาร์เลเน่ขยันเท่ากันกับบาสเตียน • Austin sings as beautifully as a singer. ออสตินร้องเพลงได้ไพเราะกับนักร้อง • He walks as quickly as his friend. เขาเดินเร็วเท่ากับเพื่อนของเขา
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 123 • Bryant plays tennis as well as Christopher. ไบรอันต์เล่นเทนนิสได้ดีเท่ากับคริสโตเฟอร์ • Her car runs as fast as a race car. รถของเธอวิ่งเร็วเหมือนรถแข่ง • Lowell has as much money as Valdus. โลเวลมีเงินมากเท่า ๆ กับวัลดัส • I have as many books as you. ฉันมีหนังสือมากเท่า ๆ กับคุณ • Emma is the same age as Isabella. เอ็มม่ามีอายุเท่ากับฮิซาเบลล่า • My shirt is the same colour as that boy’s (shirt). เสื้อเชิตของฉันมีสีเหมือนกับเสื้อเชิตของเด็กผู้ชายคนนั้น เป็นต้น 4. ขั้นนำไปใช้หรือการบูรณาการความรู้(Production) 4.1 นักเรียนทบทวนการเปรียบเทียบขั้นเท่ากัน (Positive Degree) 4.2 นักเรียนดูประโยคบน PowerPoint พร้อมช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่า 4.3 นักเรียนสามารถตอบได้ว่าเป็นการเปรียบเทียบขั้นเท่ากัน โดยใช้ as…as คำที่อยู่ตรงกลางระหว่าง as..as คือคำ Adjective 4.4 นักเรียนช่วยกันเปลี่ยนประโยคบน PowerPoint ให้เป็นประโยค โดยประโยคที่นักเรียนช่วยกัน เปลี่ยนจะได้เป็น • Mary isn’t as pretty as Tina. 4.5 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบขั้นเท่ากัน (Positive Degree) การเปรียบเทียบขั้นเท่ากัน (Positive Degree) นอกจากจะใช้ as…as, the same…as,as much…as และ as many…as แล้วยังมีการใช้อีก 2 รูปแบบ คือ 1. รูปแบบ Verb to be + like แปลว่าเหมือนกัน เป็นคำเชื่อมแสดงความเท่าเทียมกัน แต่ถ้า ประธานเป็น พหูพจน์ ให้ใช้ verb to be + alike …is like... …are alike… • She is like her father. เธอเหมือนกับพ่อของเธอ • Your car and mine are alike. รถยนต์ของคุณและของฉันเหมือนกัน Mary is as pretty as Tina. แมรี่สวยพอ ๆ กับทีน่า
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 124 2. รูปแบบ Verb to be + similar to + นาม, แปลว่า เหมือนกัน คล้ายกัน เป็นคำเชื่อมแสดงความ เท่าเทียมกัน …is / are similar to… • Your bag is similar to mine. ถุงของเธอคล้ายกับถุงของฉัน 4.6 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้ที่จากการศึกษาการเปรียบเทียบขั้นเท่ากัน (Positive Degree) เพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้ Internet 4.7 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำแบบฝึกหัดบน PowerPoint Instructions : Make the sentence by using the word given. Use the correct form of positive degree. Example : France / beautiful / London. =……………………………………….……………………………………….. . 1. Julia / tall / her friend. =………………………………………………………………………………………………………………… . 2. A banana / not sweet / an apple. =………………………………………………………………………………………………………………… . 3. A fish / not big / a elephant. =………………………………………………………………………………………………………………… . 4. This dress / pretty / that one. =………………………………………………………………………………………………………………… . 5. the weather / not hot / yesterday’s. =………………………………………………………………………………………………………………… . Answer Key 1. Julia is as tall as her friend. 2. A banana is not as sweet as an apple. 3. A fish is not as big as an elephant. 4. This dress is as pretty as that one. 5. The weather is not as hot as yesterday’s. 4.8 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดบน PowerPoint 5. ขั้นสรุปความรู้ที่ได้รับจากกระบวน การเรียนรู้(Wrap up) 5.1 สังเกตความเข้าใจของนักเรียนในการทำกิจกรรมและการเขียนประโยคภาษาอังกฤษโดยใช้ Comparison : Positive Degreeของนักเรียน 5.2 นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับเนื้อหาเกี่ยวกับ Comparison : Positive Degree France is as beautiful as London.
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 125 ชั่วโมงที่ 3 - 4 1. ขั้นกระตุ้นทบทวนและปูพื้นฐานความรู้(Warm up) 1.1 นักเรียนทำกิจกรรมทบทวนความรู้เรื่อง Comparison : Positive Degree จำนวน 10 ข้อ 1. The blue car is……………………………………..……(fast) the red car. 2. Owen is……………………………………..……(not tall) Dominic. 3. The violin is……………………………………..……(not low) the cello. 4. This copy is……………………………………..……(bad) the other one. 5. Jacob is……………………………………..……(optimistic) Ethan. 6. Today it’s……………………………………..……(not windy) yesterday. 7. The tomato soup was……………………………………..……(delicious) the mushroom soup. 8. Grapefruit juice is……………………………………..……(not sweet) lemonade. 9. Violet is……………………………………..……(brave) Natalie. 10. Silver is……………………………………..……(not heavy) gold. Answer Key : 1. as fast as 2. not as tall as 3. not as low as 4. as bad as 5. as optimistic as 6. not as windy as 7. as delicious as 8. not as sweet as 9. as brave as 10. not as heavy as 1.2 แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละเท่าๆ กัน โดยแต่ละทีมประกอบไปด้วยนักเรียนกลุ่มเก่ง ปาน กลางและอ่อน 1.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มดูประโยคบน PowerPoint I have visited the States as much times as he has. 1.4 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่าประโยคบน PowerPoint มีความถูกต้องหรือผิดอย่างไร โดย ให้นักเรียนหาคำนามให้เจอ และคำหรือวิธีที่ใช้ในการเปรียบเทียบ โดยนักเรียนจะได้ คำนามเป็นคำว่า times ซึ่ง เป็นคำนาม พหูพจน์ ใช้การเปรียบเทียบแบบ as much…as ซึ่งเป็นการใช้ที่ผิด เพราะ much ใช้กับคำนามที่นับ ไม่ได้ ดังนั้นจะต้องเปลี่ยนเป็น as mamy….as 2. ขั้นนำเสนอเนื้อหาสาระ (Presentation) 2.1 นักเรียนดูวิดีโอคลิป Positive Degree การเปรียบเทียบขั้นธรรมดา จากhttps://www.youtube. com/watch?v=bdaJdz7plYo 2.2 นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้จากการดูวิดีโอคลิป 2.3 นักเรียนฟังอธิบายเรื่อง Comparison : Positive Degree; much, many, little, few ในการเปรียบเทียบสิ่งสองสิ่ง ถ้าสิ่งที่เปรียบเทียบเป็นคำนาม และต้องการบ่อบอกว่ามีมากหรือมี น้อย จะใช้ much, many, little, few ตามโครงสร้างดังนี้ …as + adjective indicating quantity + (noun) + as…
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 126 โดยคำคุณศัพท์ที่บอกปริมาณที่ใช้ขึ้นอยู่กับว่าคำนามในการเปรียบเทียบนั้นนับได้หรือนับไม่ได้ 1. ใช้ …as many….as และ …as few…as กับคำนามนับได้ทั้งนี้คำนามอาจถูกละในกรณีเมื่อ เข้าใจจากบริบท • They have as many children as we do. พวกเขามีลูกมากเท่ากับที่พวกเรามี • We have as many customers as they do. พวกเรามีลูกค้ามากพอ ๆ กับพวกเขา • Orianna has as few books as Irene. โอเรียนน่ามีหนังสือไม่กี่เล่มเท่าไอรีน • There are as few houses in his village as in mine. มีบ้านไม่กี่หลังในหมู่บ้านของเขาเช่นเดียวกับหมู่บ้านของฉัน • You know as many people as I do. คุณรู้จักคนมากมาย(หลายคน)เท่ากับฉัน • I have three brothers. That’s as many bothers as you have. ฉันมีพี่ชายสามคน นั่นเป็นจำนวนพี่ชายที่มากเท่ากับที่คุณมี I have three brothers. That’s as many as you have. (brothers ถูกละ) ฉันมีพี่ชายสามคน นั่นเป็นจำนวน (พี่ชาย) ที่มากเท่ากับที่คุณมี 2. ใช้…as much….as และ …as little…as กับคำนามนับไม่ได้ โดยคำนามอาจถูกละเว้นเมื่อ เข้าใจจากบริบท • Baron eats as much food as Gabriella. บารอนทานอาหารมากเท่ากับกาเบรียลลา • Oscar has as little patience as Kardos. ออสการ์มีความอดทนน้อยพอๆ กับคาร์ดอส • You’ve heard as much news as I have. คุณเคยได้ยินข่าวมามากพอ ๆ กับผม (กับที่ผมได้ยินมา) • He’s had as much success as his brother has. เขาประสบความสำเร็จมากพอ ๆ กับที่น้องชายของเขามี • They’ve got as little water as we have. พวกเขาเหลือปริมาณน้ำที่มีน้อยเท่าพวกเรา • I’m not hungry. I’ve had as much food as I want. ฉันยังไม่หิว. ฉันมีอาหารมากเท่าที่ฉันต้องการ I’m not hungry. I’ve had as much as I want. (“food” ถูกละ) ฉันยังไม่หิว ฉันมีอาหารมากเท่าที่ฉันต้องการ 3. นอกจากนี้ยังสามารถใช้ …as much… as และ …as many… as ใช้โดยไม่ต้องมีคำนาม (noun) ตามหลังก็ได้ เช่น • She drank so much as she wanted. หล่อนดื่มมากเท่าที่หล่อนต้องการ
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 127 • Rest as much as possible. พักผ่อนให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้ • Can I take these chairs ? ผมเอาเก้าอี้พวกนี้ได้ไหม Yes, you can take as many as you like. ได้ เอามากเท่าไหร่ก็ได้ 3. ขั้นฝึกฝนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์ (Practice) 3.1 นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างประโยคโดยใช้Comparison : Positive Degree; much, many, little, few พร้อมความหมาย เช่น • Go to as many places as you can. ไปหลาย ๆ แห่งที่คุณสามารถไปได้ • There weren’t as many people there as I expected. นั่นคนไม่เยอะเท่าที่ฉันคาดหวังไว้ • There were as many as 50 people crowded into the tiny room. นั่นมีคนเยอะเท่า 50 คนแออัดกันในห้องเล็ก ๆ • Richard makes as much money as Phoenix but not as much as Ethan. ริชาร์ททำเงินได้มากเท่ากับฟีนิกซ์แต่ไม่มากเท่ากับอีธาน • They try to give them as much freedom as they can. พวกเขาพยายามให้อิสระแก่พวกเขามากที่สุด • He earn money as much as his wife. เขาหาเงินได้มากพอกับภรรยาของเขา • I used as little money as my boyfriend did, but he bought much more than I did! ฉันใช้เงินน้อยเหมือนที่แฟนของฉันทำ แต่เขาซื้อมากกว่าฉันมาก! • There are as few musicians in the park as there were last time we visited. มีนักดนตรีไม่กี่คนในสวนสาธารณะเหมือนครั้งก่อนที่เราไปเยือน 3.2 นักเรียนฟังครูอธิบายเรื่อง Comparison : Positive Degree เพิ่มเติม Comparison : Positive Degree ประโยคปฏิเสธสามารถใช้ not as…as หรือ not so…as โดยมัก ใช้ในการเปรียบเทียบเพื่อแสดงความไม่เท่าเทียมกัน (Comparison of Inequality) มีรูปแบบประโยคดังนี้ 1 …not (so / as ก็ได้) + [adjective / adverb] + as… เช่น • His report is not so long as mine. รายงานของเขาไม่ยาวเท่าของฉัน 2. …not so + [much + uncountable noun / many + countable noun] + as… เช่น • I don’t have so much money as you. ฉันไม่มีเงินมากเท่าคุณ
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 128 • Hens don’t have so many legs as buffaloes. ไก่มีขาไม่มากเท่าควาย การเปรียบเทียบเพื่อแสดงความไม่เท่าเทียมกันนี้ ในสมัยก่อนนิยมใช้แต่ not so…as เท่านั้น ซึ่งถือ ว่าเป็นการใช้ถูกแบบแผนของภาษาอย่างเต็มที่ แต่ปัจจุบันนี้นักไวยากรณ์ทั้งหลาย หันมาใช้ not as…as พอ ๆ กัน กับใช้ not so…as ดังนั้นจึงถือว่าใช้ได้ทั้ง 2 แบบ 3.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำแบบฝึกหัดบนเรื่อง Comparison : Positive Degree; much, many, little, few บน PowerPoint จำนวน 5 ข้อ Instructions : Choose the best alternative. 1. Joanna owns……………………………..handbags as she owns shoes. 1) as many 2) as much 3) as little 2. She eats……………………………..junk food as I do, but I still weigh more than she does! 1) as many 2) as little 3) as much 3. There were……………………………..shop assistants at the supermarket as there were yesterday afternoon. 1) as little 2) as much 3) as few 4. I love you……………………………..I love clothes shopping! 1) as little as 2) as few as 3) as much as 5. Chris enjoys listening to music……………………………..he enjoys playing football. 1) as much as 2) as few as 3) as little as Answer Key : 1. 1) 2. 2) 3. 3) 4. 3) 5. 1) 3.4 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำแบบฝึกหัดบนเรื่อง Comparison; as…as และ so…as บน PowerPoint จำนวน 5 ข้อ Instructions : Read the sentence and complete the sentence with the correct form of comparison; as…as and so…as 1. Leonard is stronger than Maximus. Maximus is…………………………….Leonard. 2. Your class and my class are noisy. Your class is……………………………..my class. 3. Life in the country is slower than in the city. Life in the city is……………………………..in the country. 4. Going to restaurants in Budapest is expensive, and in Prague too. Going to restaurants in Budapest……………………………..in Prague. 5. Last week was busier than this week. This week is……………………………..last week.
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 129 Answer Key : 1. not so strong as 2. as noisy as 3.not so slow as 4. is expensive as 5.not so busy as 3.5 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดที่ได้ทำมาทั้งหมด โดยนักเรียนซักถามเพิ่มเติมเมื่อไม่เข้าใจ และครูอธิบายเหตุผลในการตอบแต่ละข้ออย่างชัดเจนเพื่อให้นักเรียนเข้าใจมากยิ่งขึ้น 4. ขั้นนำไปใช้หรือการบูรณาการความรู้(Production) 4.1 นักเรียนทบทวนเรื่อง Comparison : Positive Degree พร้อมยกตัวอย่างประโยคโดยออกมาเขียน บนกระดานพร้อมความหมาย เช่น • These new shoes are not nearly as comfortable as my old ones. รองเท้าคู่ใหม่ไม่สะดวกสบายเหมือนกับคู่เก่า • This ball is as round as a mable. ลูกบอลนี้กลมเหมือนโต๊ะกลม • Alexandra works as hard as her sister. อเล็กซานดร้าทำงานหนักเหมือนพี่สาวของเธอ • Nicole is not so beautiful as her mother. นิโคลสวยไม่เท่ากับแม่ของเธอ • His handwriting is not so poor as his friend’s. ลายมือของเขาไม่ได้แย่เหมือนเพื่อนของเขา • He doesn’t run so fast as his brother. เขาไม่ได้วิ่งเร็วเหมือนพี่ชายของเขา • Helena is like her mother. เฮเลน่าเหมือนแม่ของเธอ • The workers work hard like buffaloes. คนงานทำงานหนักเหมือนควาย • My shirt is the same colour as that boy’s (shirt). เสื้อของฉันเป็นสีเดียวกับของเด็กชายคนนั้น • The two dresses are the same style. เสื้อทั้งสองชุดมีรูปแบบเดียวกัน • The colour of her eyes and that of mine are the same. สีตาของเธอกับ(สีตา)ของฉันสีเดียวกัน • The red dress is similar to the blue one. (one = dress) ชุดสีแดงคล้ายกับชุดสีน้ำเงิน (หนึ่ง = ชุด) • Her idea is similar to mine. (mine = my idea) ความคิดของเธอคล้ายกับของฉัน (ของฉัน = ความคิดของฉัน)
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 130 4.2 นักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง Comparison : Positive Degree ในเอกสารประกอบการเรียน 4.3 นักเรียนทำใบงานเรื่อง Comparison : Positive Degree ในเอกสารประกอบการเรียน 4.4 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดเรื่อง Comparison : Positive Degree ในเอกสาร ประกอบการเรียน 5. ขั้นสรุปความรู้ที่ได้รับจากกระบวน การเรียนรู้(Wrap up) 5.1 สังเกตความเข้าใจของนักเรียนในการทำกิจกรรมและการเขียนประโยคภาษาอังกฤษโดยใช้ Comparison : Positive Degreeของนักเรียน 5.2 นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับเนื้อหาเรื่อง Comparison : Positive Degree 11. สื่อการเรียนรู้/ แหล่งเรียนรู้ 11.1 สื่อการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง Comparison : Positive Degree 11.2 แหล่งเรียนรู้ 1. ใบงานเรื่อง Comparison : Positive Degree 12. การวัดและประเมินผล ลำดับ รายการที่วัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ใบงานเรื่อง Comparison : Positive Degree ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นั ก เรีย น ให้ ค วาม ร่วม มื อใน การท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 13. เกณฑ์การประเมิน 16 - 20 คะแนน ดีมาก 11 - 15 คะแนน ดี 6 - 10 คะแนน พอใช้ น้อยกว่า 6 คะแนน ควรปรับปรุง ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 131 บันทึกหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู วันที่..............เดือน..................................พ.ศ. ..................
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 132 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง Out and About แผนการจัดการเรียนรู้ที่7 เรื่อง Comparison : Comparative Degree รหัสวิชา อ22122 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 4 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุจินดา ปรากฏวงศ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับ ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม 1.2 ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.2/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.1 ม.2/4 เลือกหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่าน พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างง่าย ๆ ประกอบ ต 2.1 ม.2/3 เข้าร่วม / จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ ต 2.2 ม.2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค ชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยค ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - นักเรียนมีความรู้ เรื่องการใช้ Comparison : Comparative Degree ในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผลและการใช้ประโยคเปรียบเทียบในภาษาอังกฤษ 2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถใช้ประโยค Comparison : Comparative Degree ตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศ ในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล ในชีวิตประจำวันและในกิจกรรมทางภาษาและ วัฒนธรรมได้ 2.3 คุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - รักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและฝึกฝนอย่างจริงจังเพียงพอ - ผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีมารยาท ถูกต้องตามกาลเทศะ และบุคคล
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 133 3. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด - อ่านออกเสียงคำศัพท์และใช้ประโยค Comparison : Comparative Degree ตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล ในชีวิตประจำวัน กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม มีทักษะในการเลือก พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม ในการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง อ่านออกเสียงคำศัพท์และใช้ประโยค Comparison : Comparative Degree ตามโครงสร้างประโยค ของภาษาต่างประเทศในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล ในชีวิตประจำวัน กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม ได้ 4.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1. คำศัพท์ในเรื่อง Unit 6 : Out and About 2. บทสนทนาในเรื่อง Unit 6 : Out and About 3. การใช้โครงสร้าง Comparison : Comparative Degree ในรูปแบบต่าง ๆ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 5.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 6.1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ตามหลักสูตรแกนกลาง) 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 6.2 คุณลักษณะตามหลักสูตรมาตรฐานสากล 1) มีความรู้พื้นฐานในยุคดิจิตอล วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา พหุวัฒนธรรม ตระหนักสำนึกระดับโลก 2) สามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ปรับตัวใฝ่รู้ ใฝ่เรียน วิเคราะห์ สังเคราะห์สรุป สร้างองค์ความรู้ 3) มีทักษะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 4) มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 7C เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 7.1 ทักษะการอ่าน (Reading) 7.2 ทักษะการเขียน (Writing) 7.3 ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic)
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 134 7.4 ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) 7.5 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) 7.6 ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, teamwork and leadership) 7.7 ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) 7.8 ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication information and media literacy) 7.9 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing) 7.10 ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) 8. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 8.1 บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 8.2 บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 8.3 บูรณาการห้องเรียนสีเขียว 8.4 อื่น ๆ (โปรดระบุ)................................................................................................................................................. 9. ชิ้นงาน / ภาระงาน 1. ภาระงาน - ใบงานเรื่อง Comparison : Comparative Degree 2. ชิ้นงาน - 10. กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) เรื่อง Comparison : Comparative Degree วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบ Inquiry Method : 5Es) ชั่วโมงที่ 1 - 2 1. สร้างความสนใจ (Engage) 1.1 นักเรียนดูรูปภาพและประโยคบน PowerPoint และช่วยกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยค และคำที่เป็นตัวอักษรสีแดงว่ามีความหมายว่าอย่างไรและทำหน้าที่อะไรในประโยค 1.2 นักเรียนช่วยกันตอบคำถามบน PowerPoint “What is a comparative adjective?”
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 135 1.3 นักเรียนสามารถตอบได้ว่า Comparative adjective หรือ Comparative Degree คือการเปรียบ การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ขั้นกว่า คือ การเปรียบเทียบของ 2 สิ่ง, คน 2 คน, หรือกลุ่ม 2 กลุ่ม โดยเปรียบเทียบ ว่าสิ่งไหนใหญ่กว่า…เล็กกว่า….แพงกว่า….หรืออื่น ๆ 2. สำรวจและค้นหา (Explore) 2.1 นักเรียนศึกษาเนื้อหาเรื่อง Comparison : Comparative Degree จากแหล่งเรียนรู้ Internet 2.2 นักเรียนแบ่งออกกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน จำนวน 8 กลุ่ม แต่ละกลุ่มประกอบไปด้วยนักเรียนเก่ง ปานกลางและอ่อน เพื่อศึกษาเนื้อหาร่วมกันภายในกลุ่ม โดยแบ่งเนื้อหาการนำเสนอให้นักเรียนดังนี้ กลุ่มที่ 1 และ 2 Using er in adjective กลุ่มที่ 3 และ 4 Using more and less กลุ่มที่ 5 และ 6 Using irregular adjectives กลุ่มที่ 7 และ 8 Using double comparative 3. อธิบาย (Explain) 3.1 นักเรียนนำเสนอตามหัวข้อที่กลุ่มได้รับ โดยนำเสนอผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือแผนภาพสรุปผัง ความคิด 3.2 นักเรียนสอบถามความรู้เพิ่มเติมเพื่อเสริมความเข้าใจในเรื่อง Comparison : Comparative Degree โดยครูเขียนตัวอย่างประโยคบนกระดานให้นักเรียนเห็นความหลากหลายมากขึ้น 4. ขยายความรู้ (Elaborate) 4.1 นักเรียนช่วยกันตอบคำถามในแบบฝึกหัดเรื่อง Comparison : Comparative Degree บน PowerPoint Instructions : Complete the sentences with the comparative forms of adjectives. 1. Neon’s room is…………………………….(small) than Richard’s room. 2. The blue car is…………………………….(nice)) than the black car. 3. This exercise is…………………………….(boring) than that one. 4. His pullover is…………………………….(dark) than his jeans. 5. Lucy’s hair is…………………………….(long) than my hair. 6. Phoenix is…………………………….(funny) than Maximus. 7. My result in the test was…………………………….(good) than Ethan’s. 8. Gold is…………………………….(expensive) than silver. 9. Valdus is…………………………….(smart) than Edgard. 10. Football is…………………………….(popular) than handball. Answer Key : 1. smaller 2. nicer 3. more boring 4. darker 5. longer 6. funnier 7. better 8. more expensive 9. smarter 10. more popular 5. ประเมินผล (Evaluate) 5.1 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบแบบฝึกหัดเรื่อง Comparison : Comparative Degree บน PowerPoint
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 136 5.2 นักเรียนสอบถาม / ซักถามถึงสาเหตุในการตอบคำถามหรือเลือกตอบในแต่ละข้อเพื่อความเข้าใจ มากขึ้น ชั่วโมงที่ 3 - 4 1. สร้างความสนใจ (Engage) 1.1 นักเรียนดูรูปภาพและคำศัพท์บน PowerPoint และช่วยกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปภาพและ คำศัพท์ 1.2 นักเรียนช่วยกันแต่งประโยคจากรูปภาพและคำศัพท์บน PowerPoint โดยใช้comparative adjective 1.3 นักเรียนแต่งประโยคได้ว่า • Dominic is taller than Lowell. • Lowell is shorter than Dominic. 2. สำรวจและค้นหา (Explore) 2.1 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง การเปรียบเทียบขั้นกว่า Comparative degree จาก https://www.youtube.com/watch?v=PDt7cilu4kQ 2.2 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่องการใช้ประโยค Comparatives จาก https://www.youtube. com/watch?v=mZwqYIUCung 2.3 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Comparative Degree จาก https://www.youtube.com/watch? v=DRdavZGjgpQ 2.4 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Comparative Adjectives จาก https://www.youtube.com/watch? v=wXiD0FdON7k 3. อธิบาย (Explain) 3.1 นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้จากการดูวิดีโอทั้ง 4 คลิป 3.2 นักเรียนฟังครูอธิบาย Comparison : Comparative Degree การเปรียบเทียบขั้นกว่า (Comparative Degree) เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นความมากกว่าหรือ น้อยกว่าของ 2 สิ่ง ไม่ว่าจะเป็นในแง่ใดก็ตาม โดยมีโครงสร้างประโยคแบบง่ายๆ 1. ในการเปรียบเทียบแบบมากกว่าคือ การเปรียบเทียบที่สูงกว่า แสดงในรูปคุณศัพท์ขั้นกว่า + than Subject + Verb + Adjective / Adverb + “-er” + than Dominic Lowell
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 137 • Jennie’s grades are higher than her sister’s. ผลการเรียนของเจนนี่สูงกว่าน้องสาวของเธอ • Today is colder than yesterday. วันนี้อากาศหนาวกว่าเมื่อวาน • My girlfriend came later than me. แฟนของฉันมาช้ากว่าฉัน • Lindy is shorter than her younger sister. ลินดี้เตี้ยกว่าน้องสาว • My ruler is longer than yours. ไม้บรรทัดของฉันยาวกว่าของคุณ • This road is longer than that one. ถนนเส้นนี้ยาวกว่าเส้นนั้น แปลว่า • You are taller than me. หรือ You are taller than I am. เธอสูงกว่าฉัน 2. การเปรียบเทียบที่ต่ำกว่ากัน แสดงในรูป less โดยจะใช้ less เพื่อพูดถึงบางสิ่งหรือบางอย่างที่อยู่ ในระดับที่ต่ำกว่า less + positive degree + than • Walking is less tiring than running. การเดินเหนื่อยน้อยกว่าการวิ่ง • Australia is less populated than China. ออสเตรเลียมีประชากรน้อยกว่าจีน • Hamburgers are less healthy than vegetables. แฮมเบอร์เกอร์มีประโยชน์ต่อร่างกายน้อยกว่าผัก • Malee is less careful than Somchai. มาลีเป็นคนที่รอบคอบน้อยกว่าสมชาย • It is less hot today than it was yesterday. วันนี้อากาศร้อนกว่าเมื่อวานนี้ 3. เมื่อนำคุณศัพท์ขั้นกว่ามาใช้เปรียบเทียบกับคำนาม (noun) ด้วยกัน ให้ใช้รูปแบบดังนี้ fewer + นามพหูพจน์นับได้ + than = น้อยกว่า less + นามนับไม่ได้ + than = น้อยกว่า more + นามพหูพจน์นับได้, นามนับไม่ได้ + than = มากกว่า • There are fewer students in this room than in that room. มีนักเรียนในห้องนี้น้อยกว่าในห้องนั้น
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 138 • I spent less money than you. ฉันใช้จ่ายเงินน้อยกว่าคุณ • There are more students in this room than in that room. มีนักเรียนในห้องนี้ มากกว่าในห้องนั้น • My mother have more money than my father. แม่ของฉันมีเงินมากกว่าพ่อ 4. การเปรียบเทียบที่คำคุณศัพท์จะเปลี่ยนคำไปเมื่ออยู่ในขั้นกว่า แต่ยังมีโครงสร้างเหมือนเดิม เพียง ไม่ต้องเติม er Subject + Verb + Adjective ขั้นกว่า + than คำคุณศัพท์ ขั้นกว่า good better bad worse little less much more far further / farther • Today is the worst day I’ve had in a long time. วันนี้เป็นวันที่แย่ที่สุดที่ฉันเคยมีมาเป็นเวลานานแล้ว • You play tennis better than I do. คุณเล่นเทนนิสได้ดีกว่าที่ฉันเล่น • This is the least expensive sweater in the store. นี่คือเสื้อสเวตเตอร์ที่ราคาถูกที่สุดในร้าน • This sweater is less expensive than that one. เสื้อสเวตเตอร์นี้ราคาถูกกว่าเสื้อตัวนั้น • I ran pretty far yesterday, but I ran even farther today. เมื่อวานผมวิ่งได้ไกล แต่วันนี้ผมวิ่งได้ไกลกว่า 5. การเปรียบเทียบซ้อนหรือการเปรียบเทียบคู่ (Double Comparatives) คือวลีทั่วไปที่ใช้การ เปรียบเทียบสองครั้ง เพื่อแสดงผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง นอกจากนี้การเปรียบเทียบสองครั้งยังถูกใช้เพื่อเน้น ย้ำความสำคัญของการกระทำ หรือกิจกรรมบางอย่าง ถ้าแปลความหมายให้เห็นภาพ ก็แปลได้ว่า “ยิ่ง...ก็ยิ่ง...” โครงสร้างของประโยค Double Comparative The + comparative + subject + verb, the + comparative + subject + verb The + more / less + (noun / noun phrase) + subject + verb, the + more / less + (noun / noun phrase) + subject + verb ข้อควรจำ 1. ทั้งสองประโยค ขึ้นต้นด้วย the เสมอ
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 139 2. สามารถใช้โครงสร้างทั้งสองผสมกันได้ 3. ระวังการใช้ Comparative ซ้ำกันนะคะ อย่างเช่น more easier, more safer • The closer we got to the fire, the warmer we felt. ยิ่งเราเข้าใกล้ไฟมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งรู้สึกอุ่นขึ้นเท่านั้น ประโยคนี้ใช้โครงสร้างแบบที่ 1 ทั้งสองประโยค • The sharper the knife is, the easier it is to cut something. ยิ่งมีดคมเท่าไหร่ มันก็ยิ่งตัดสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายเท่านั้น ประโยคนี้ใช้โครงสร้างแบบที่ 1 ทั้งสองประโยค • The fresher the fruit is, the better it tastes. ยิ่งผลไม้สดเท่าไหร่ รสชาติก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น) ประโยคนี้ใช้โครงสร้างแบบที่ 1 ทั้งสองประโยค • The less you worry about others, the less they will bother you. ยิ่งคุณกังวลหรือเป็นห่วงคนอื่นน้อยลงเท่าไหร่ พวกเขาก็จะรบกวนใจคุณน้อยลงเท่านั้น ประโยคนี้ใช้โครงสร้างแบบที่ 2 ทั้งสองประโยค • The harder you study, the more you will learn. ยิ่งคุณศึกษาหนักมากเท่าไหร่ คุณก็จะได้เรียนรู้มากขึ้นเท่านั้น ประโยคนี้ใช้โครงสร้างของสองประโยคผสมกัน • The more shrimp a flamingo eats, the pinker it gets. ยิ่งฟลามิงโก้กินกุ้งมากเท่าไหร่ มันก็จะเป็นสีชมพูมากขึ้นเท่านั้น ประโยคนี้ใช้โครงสร้างของสองประโยคผสมกัน 6. นอกจากนี้ในการเปรียบเทียบขั้นกว่ายังสามามารถใช้คำคุณศัพท์เปรียบเทียบ (fatter, richer, bigger) ตามด้วย and และตามคำคุณศัพท์เปรียบเทียบคำเดิม • My uncle grew fatter and fatter over the years. • As Microsoft grew, Bill Gates got richer and richer. • The balloon got bigger and bigger and then burst. จะไม่นิยมพูดคำคุณศัพท์ที่อยู่หลัง more โดยจะพูดและใช้ more and more ตามด้วย คำคุณศัพท์ • Things are getting more and more expensive. • This book gets more and more interesting with every chapter. • He spoke for over an hour and his explanation got more and more complicated. 3.3 นักเรียนสอบถามความรู้เพิ่มเติมเพื่อเสริมความเข้าใจในเรื่อง Comparison : Comparative Degree โดยครูเขียนตัวอย่างประโยคบนกระดานให้นักเรียนเห็นความหลากหลายมากขึ้น 4. ขยายความรู้ (Elaborate) 4.1 นักเรียนดูประโยคบน PowerPoint และร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าประโยคที่เห็นนั้นถูกหรือผิด และถ้าผิดจะแก้ไขให้ถูกต้องอย่างไร 1. His car is more faster than mine. 2. The participants were more experienced.
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 140 3. The line moved more slowly. 4. She likes pizza better than her husband. 5. Her suitcase is bigger than John. 4.2 นักเรียนสามารถตอบได้ว่าประโยคทั้งหมดเป็นประโยคที่ผิด และจะต้องแก้เป็น 1. His car is faster than mine. 2. The participants were more experienced than the previous participant pool. 3. The line moved more slowly than the line next to it. 4. She likes pizza better than her husband does. 5. Her suitcase is bigger than John’s. 4.3 นักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง Comparison : Comparative Degree ในเอกสารประกอบการเรียน 4.4 นักเรียนทำใบงานเรื่อง Comparison : Comparative Degree ในเอกสารประกอบการเรียน 4.5 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดเรื่อง Comparison : Comparative Degree ในเอกสาร ประกอบการเรียน 5. ประเมินผล (Evaluate) 5.1 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบแบบฝึกหัดเรื่อง Comparison : Comparative Degree ในเอกสารประกอบการเรียน 5.2 นักเรียนสอบถาม / ซักถามถึงสาเหตุในการตอบคำถามหรือเลือกตอบในแต่ละข้อเพื่อความเข้าใจ มากขึ้น 11. สื่อการเรียนรู้/ แหล่งเรียนรู้ 11.1 สื่อการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง Comparison : Comparative Degree 11.2 แหล่งเรียนรู้ 1. ใบงานเรื่อง Comparison : Comparative Degree 12. การวัดและประเมินผล ลำดับ รายการที่วัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ใบงานเรื่อง Comparison : Comparative Degree ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นั ก เรีย น ให้ ค วาม ร่วม มื อใน การท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 13. เกณฑ์การประเมิน 16 - 20 คะแนน ดีมาก 11 - 15 คะแนน ดี 6 - 10 คะแนน พอใช้ น้อยกว่า 6 คะแนน ควรปรับปรุง
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 141 ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู บันทึกหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู วันที่..............เดือน..................................พ.ศ. ..................
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 142 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง Out and About แผนการจัดการเรียนรู้ที่8 เรื่อง Comparison : Superlative Degree รหัสวิชา อ22122 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 4 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุจินดา ปรากฏวงศ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับ ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม 1.2 ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.2/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.1 ม.2/4 เลือกหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่าน พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างง่าย ๆ ประกอบ ต 2.1 ม.2/3 เข้าร่วม / จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ ต 2.2 ม.2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค ชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยค ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - นักเรียนมีความรู้ เรื่องการใช้ Comparison : Superlative Degree ในการแสดงความคิดเห็น การ ให้เหตุผลและการใช้ประโยคเปรียบเทียบในภาษาอังกฤษ 2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถใช้ประโยค Comparison : Superlative Degree ตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศ ในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล ในชีวิตประจำวันและในกิจกรรมทางภาษาและ วัฒนธรรมได้ 2.3 คุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - รักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและฝึกฝนอย่างจริงจังเพียงพอ - ผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีมารยาท ถูกต้องตามกาลเทศะ และบุคคล
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22122) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน้า 143 3. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด - อ่านออกเสียงคำศัพท์และใช้ประโยค Comparison : Superlative Degree ตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล ในชีวิตประจำวัน กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม มีทักษะในการเลือก พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม ในการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง อ่านออกเสียงคำศัพท์และใช้ประโยค Comparison : Superlative Degree ตามโครงสร้างประโยค ของภาษาต่างประเทศในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล ในชีวิตประจำวัน กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม ได้ 4.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1. คำศัพท์ในเรื่อง Unit 6 : Out and About 2. บทสนทนาในเรื่อง Unit 6 : Out and About 3. การใช้โครงสร้าง Comparison : Superlative Degree ในรูปแบบต่าง ๆ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 5.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 6.1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ตามหลักสูตรแกนกลาง) 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 6.2 คุณลักษณะตามหลักสูตรมาตรฐานสากล 1) มีความรู้พื้นฐานในยุคดิจิตอล วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา พหุวัฒนธรรม ตระหนักสำนึกระดับโลก 2) สามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ปรับตัวใฝ่รู้ ใฝ่เรียน วิเคราะห์ สังเคราะห์สรุป สร้างองค์ความรู้ 3) มีทักษะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 4) มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 7C เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 7.1 ทักษะการอ่าน (Reading) 7.2 ทักษะการเขียน (Writing) 7.3 ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic)