The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ป.6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by THAWATSON SINGSUTH, 2020-09-04 00:02:26

คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ป.6

คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ป.6

คูํมือสํงเสรมิ และพัฒนากิจกรรมลกู เสือทกั ษะชวี ติ ในสถานศึกษา
ประเภทลกู สามญั หลักสูตรลกู เสอื เอก
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6

สำ� นักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ

คมูํ ือสงํ เสริมและพฒั นากิจกรรมลกู เสือทักษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ลกู เสือโท ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 1

ค่มู ือส่งเสริมและพฒั นากิจกรรมลกู เสือทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา

ประเภทลกู เสือสามญั หลกั สตู รลกู เสือเอก
ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 6

ปที พ่ี ิมพ ์ พ.ศ. 2562
จำ�นวนพิมพ ์ 200 เลม่
จัดทำ�โดย สำ�นกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
พิมพท์ ่ี โรงพมิ พ์ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำ�กัด
79 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตจุ ักร กรุงเทพมหานคร 10900
โทร. 0-2561-4567 โทรสาร 0-2579-5101
นายโชคดี ออสุวรรณ ผพู้ มิ พ์ผู้โฆษณา

คำนิ ยม

นับว่าเป็นโอกาสและประโยชน์ที่สาคัญ อีกเร่ืองหน่ึงที่สานักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการ
นักเรียน ซึ่งเป็นหน่วยงานหน่ึงในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ผลิตตารา
ในลักษณะคู่มือส่งเสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลูกเสือทักษะชวี ิตในสถานศกึ ษาชุดน้ีข้ึน ซ่ึงมีเนอื้ หาท่ีสอดคลอ้ ง
กับปัญหาตามวัยและพัฒนาการของผู้เรียน และมีการบูรณาการกิจกรรมการเรียนการสอน เข้ากับวิธีการ
ลูกเสอื ครู อาจารย์ ผู้กากับลูกเสือ และบุคลากรทางการลูกเสอื จะได้นาไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง
โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ประเทศไทยกาลังกา้ วสู่ “ไทยแลนด์ 4.0” ดังนัน้ ความถกู ต้องและชัดเจนในเรื่องการจัด
กจิ กรรมลูกเสอื จึงเป็นตาราและคู่มือทางการวิชาการ สาหรับกิจกรรมลูกเสือเพื่อจะใชเ้ ป็นเครื่องมอื ในการ
พัฒนาเยาวชนใหเ้ ป็นพลเมอื งดี มีความรอบรู้ สามารถช่วยตนเองได้ อันจะเป็นแรงผลักดันให้การศึกษาของ
ประเทศไทยมคี วามเจรญิ เท่าเทียมกับประเทศสมาชิกอาเซยี น และอารยประเทศอน่ื ๆ ท่ัวโลก ขอขอบคุณ
และให้กาลงั ใจตอ่ ผู้ทรงคุณวุฒิทางการลกู เสือ และผ้มู ีสว่ นรว่ มในการจัดทาคมู่ อื ส่งเสริมและพัฒนากิจกรรม
ลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษาเล่มนี้ทุกท่าน ที่ได้เสียสละ กาลังความคิด จนทาให้เสร็จส้ินโดยสมบูรณ์
อันจะเป็นประโยชน์ต่อกจิ การลกู เสืออย่างมาก ทั้งในปจั จุบนั และอนาคต

(นายการณุ สกุลประดษิ ฐ)์
ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
นายการุณ สกุลประดษิ ฐ์
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

คำนิ ยม

คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา เป็นเครื่องมือสาคัญสาหรับ
ครูผู้สอน ลูกเสือ เนตรนารี ท่ีจะใช้สาหรับวางแผนการสอน การวัดและการประเมินผู้เรียน จัดทาข้นึ โดยมี
เป้าหมายสาคัญ คือ เสนอแนวทางท่ีเหมาะสมในการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาต่าง ๆ สาหรับ
ครูผู้สอนนาไปใช้เป็นหลักการในการจัดการเรียนการสอน โดยสามารถพัฒนาและปรับปรุงให้ดีข้ึนตาม
ความรู้ ความสามารถของครผู ู้สอน ตามบรบิ ทแตล่ ะภูมภิ าค

หลักสาคัญของเอกสารชุดนี้ นอกเหนือจากเสนอแนวทางด้านเนื้อหาสาระสาคัญ วิธีสอน
ท่ีเหมาะสม การวัดและประเมินผล ตัวอย่างแบบทดสอบ วิธีทดสอบ แล้วยังสามารถต่อยอดทางความคิด
ของครูผู้สอนได้ เน่ืองจากเป้าหมายท่ีต้องการคือ การนาเอากระบวนการลูกเสือมาจัดการเรียนรู้ให้แก่
ผู้เรียนลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ในการทากิจกรรมอย่างครบวงจร เพื่อให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม
ตามกระบวนการของลกู เสือ จงึ เชอื่ ได้ว่า หากผู้เรยี นเข้าใจและปฏิบตั ิได้แล้ว จะเป็นคนดีในสังคมตอ่ ไป

ขอขอบคุณ ผู้ร่วมดาเนินการในการจัดทาคู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิต
ในสถานศึกษาทุกภาคส่วน ท่ีเล็งเห็นประโยชน์ในการทาเอกสารชุดนี้จนสาเร็จเรียบร้อย สามารถเผยแพร่ได้
ซ่งึ นา่ จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ เด็กและเยาวชนในทส่ี ดุ

(นายประเสรฐิ บุญเรอื ง)
รองนปาลยดัเปลกรขรระะาอเธทสงกิรรปวาิฐลงรบศดัสึกญุกำ� ษนรเระากั อืทธงงิกราาวนรงลศกู กึ เสษอืาแธหกิ าง่ รชาติ
เลขาธกิ ารสานักงานลูกเสือแหง่ ชาติ

ค�ำ นำ�

ส�ำนักการลูกเสอื ยุวกาชาดและกิจการนักเรยี น ส�ำนักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการร่วมกบั
สมาคมวางแผนครอบครวั แห่งประเทศไทย ในพระราชูปถมั ภ์สมเด็จพระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี
พฒั นาโครงการสง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลกู เสอื ทกั ษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา มวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื เสรมิ สรา้ ง
ทกั ษะชวี ติ ใหเ้ ดก็ และเยาวชนในสถานศกึ ษาดว้ ยกระบวนการลกู เสอื โดยใหเ้ ดก็ และเยาวชนลงมอื ปฏบิ ตั ิ
ดว้ ยตนเอง ในการทำ� กจิ กรรมอยา่ งครบวงจร ตงั้ แตก่ ารศกึ ษา วเิ คราะห์ วางแผน ปฏบิ ตั ติ ามแผน ประเมนิ
และปรบั ปรงุ การจดั กจิ กรรม รวมถงึ การทำ� งานเป็นระบบหมตู่ ามกระบวนการลกู เสอื ซง่ึ กจิ กรรมดงั กลา่ ว
เป็นการพฒั นาความเป็นมนุษยแ์ บบองคร์ วม ทงั้ ดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ สงั คม และสตปิ ัญญา ทำ� ใหเ้ ดก็ และ
เยาวชนมรี ะเบยี บวนิ ยั มจี ติ สำ� นึกในการทำ� ความดเี พอ่ื ทำ� ประโยชน์ใหก้ บั ครอบครวั ชุมชน สงั คม และ
ประเทศชาติ ต่อไป
เรม่ิ จากการศกึ ษาความเป็นไปได้ ศกึ ษาเอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งทงั้ ในและต่างประเทศ
จดั ประชมุ ผเู้ ชย่ี วชาญทงั้ ดา้ นลกู เสอื ดา้ นทกั ษะชวี ติ รวมทงั้ ดา้ นการพฒั นาเดก็ และเยาวชน เพอ่ื กำ� หนด
กรอบโครงสรา้ งหลกั สตู รลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ทส่ี อดคลอ้ งกบั ปัญหาตามวยั และพฒั นาการดา้ นตา่ ง ๆ
ของลกู เสอื แตล่ ะประเภท
คู่มือการจดั กิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทกั ษะชีวิต ฉบับทดลอง สมาคมวางแผนครอบครวั
แหง่ ประเทศไทยฯ ไดเ้ รม่ิ ใชใ้ นปี พ.ศ. 2553 มโี รงเรยี นจากทกุ ภมู ภิ าคของประเทศเขา้ รว่ มโครงการ จำ� นวน
26 โรงเรยี น โดยไดด้ ำ� เนินการควบคไู่ ปกบั การวจิ ยั และประเมนิ ผลการใชค้ มู่ อื และท�ำการปรบั ปรุงคมู่ อื
ครงั้ แรกเมอ่ื เมษายน พ.ศ. 2554 โดยไดเ้ พมิ่ เตมิ เพลง เกม นิทาน เรอ่ื งสนั้ และเน้ือหาใหค้ รบถว้ นยง่ิ ขน้ึ
การปรบั ปรงุ ครงั้ ทส่ี อง มถิ ุนายน พ.ศ. 2559 เกดิ ขน้ึ ตามขอ้ เสนอแนะจากการประชมุ ปฏบิ ตั กิ าร
“การขบั เคล่อื นกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี นดว้ ยกระบวนการลูกเสอื ” ซ่งึ จดั โดยสำ� นักการลูกเสอื ยุวกาชาด
และกจิ การนักเรยี น ส�ำนักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร โดยยดึ ขอ้ บงั คบั คณะลูกเสอื แห่งชาตวิ ่าดว้ ย
การปกครอง หลกั สูตรและวชิ าพเิ ศษลูกเสอื และเพม่ิ จ�ำนวนแผนการจดั กจิ กรรมให้ครบ 40 ชวั่ โมง
เพอ่ื ครอบคลมุ สาระทจ่ี ำ� เป็นอยา่ งครบถว้ น เป็นการเตรยี มการขยายผลในโรงเรยี นสงั กดั สำ� นกั งานคณะกรรมการ
การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน (สพฐ.) ทวั่ ประเทศ และไดแ้ บ่งคู่มอื ออกเป็น 11 เล่ม ส�ำหรบั ลูกเสอื แต่ละชนั้ ปี
เพอ่ื ความสะดวกของผสู้ อน รวมทงั้ ทางสำ� นกั การลกู เสอื ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรยี นไดด้ ำ� เนินการวจิ ยั
และประเมนิ ผลการใชค้ มู่ อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ จำ� นวน 53 โรงเรยี น คขู่ นานกบั
สมาคมวางแผนครอบครวั แหง่ ประเทศไทยฯ ดว้ ย
สำ� นกั การลกู เสอื ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรยี น และสมาคมวางแผนครอบครวั แหง่ ประเทศไทยฯ
ขอขอบพระคณุ หน่วยงานและบุคลากรทุกทา่ นทม่ี สี ว่ นรว่ มในโครงการใหส้ �ำเรจ็ ลุล่วง ณ โอกาสน้ี ตงั้ แต่
การริเริ่มโครงการการจดั ท�ำหลกั สูตรและคู่มือ การทดลองวิจยั และประเมินผลการใช้คู่มือ รวมทงั้
การปรบั ปรงุ คมู่ อื ทงั้ 2 ครงั้ หวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ คมู่ อื ชดุ น้ีจะชว่ ยสง่ เสรมิ ใหก้ จิ การลกู เสอื ของประเทศไทย
ซง่ึ ดำ� เนินมาครบวาระ 108 ปี ในปี พ.ศ. 2562 น้ี ไดเ้ ป็นเครอ่ื งมอื สำ� คญั และก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สดุ
ตอ่ การพฒั นาเดก็ และเยาวชนของชาตติ ่อไป

สำ� นักการลกู เสือ ยวุ กาชาดและกิจการนักเรียน
สำ� นักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ



สารบญั หน๎า

คานิยม 1
คานา 4
คาชี้แจงการใชค๎ ํมู อื
แผนการจดั กจิ กรรมลกู เสอื สามญั ลกู เสือเอก ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 7

หนํวยท่ี 1 ปฐมนเิ ทศ 12
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 1 การปฐมนเิ ทศ )เรยี นรูก๎ อํ นเรมิ่ (
18
หนวํ ยท่ี 2 ระเบยี บแถว 24
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 2 ระเบยี บแถว และการเดินสวนสนาม 28
37
หนวํ ยที่ 3 วชิ าการของลูกเสอื 42
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 3 คาํ ปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื 47
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 4 ความเป็นพี่น๎องของลกู เสือโลก 50
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 5 การผูกเงอื่ น 53
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 6 โครงการบุกเบกิ 57
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 7 ความปลอดภยั ในการใชเ๎ ครือ่ งมอื ของมคี ม 59
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 8 รกั ธรรมชาติ อนุทินธรรมชาติ 63
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 9 ความกตญั ๒ูกตเวที 68
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 10 ลกู เสอื สภุ าพบรุ ษุ 71
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 11 เข๎าใจเพื่อดว๎ ยภาษากาย
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 12 ทกั ษะการปฏิเสธ 74
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 13 คดิ เชงิ บวก 79
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 14 ภาพวาดอนาคต 84
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 15 การปรุงอาหารแบบชาวปูา
93
หนํวยที่ 4 ทกั ษะลูกเสอื และกิจกรรมกลางแจง๎ 99
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 16 การเดนิ ทางไกล)ภาคทฤษฎี( 104
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 17 ผจญภัย ไดเ๎ พอื่ น เถอื่ นธาร การสนกุ สขุ สม
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 18 แผนท่ีและเข็มทศิ

หนํวยท่ี 5 การบรกิ าร
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 19 อปพร.นอ๎ ย
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 20 การเคลอ่ื นยา๎ ยผูป๎ วู ย
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 21 การบริการและชํวยเหลือผอู๎ น่ื

6 คูํมอื สํงเสริมและพฒั นากิจกรรมลูกเสอื ทักษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือโท ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6

สารบัญ(ตอํ ) หน๎า

หนวํ ยที่ 6 การพึ่งตนเอง 108
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 22 นํา้ ดื่มเพือ่ สขุ ภาพ 114
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 23 เรยี นรเ๎ู พื่อฝกึ ทักษะการวํายนา้ํ 121
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 24 การออกกาํ ลังกาย 124
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 25 รู๎เทําทันสอ่ื โฆษณา 127
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 26 ร๎ูทนั ปอฺ งกนั ได๎ 129
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 27 ความปลอดภัย 140
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 28 การอยคูํ ํายพักแรม
146
หนํวยที่ 7 พธิ กี าร
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 29 พธิ ีประดบั เครอ่ื งหมายลูกเสอื เอก และ 147
เคร่ืองหมายวิชาพิเศษลกู เสือสามัญ
159
หนํวยที่ 8 ประเมินผล 170
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 30 การประเมินผล 173
193
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก แนวคดิ เรอื่ งทกั ษะชวี ติ
ภาคผนวก ข กจิ กรรมลูกเสือเสรมิ สร๎างทกั ษะชีวติ
ภาคผนวก ค แนวปฏบิ ตั ิการสอบวชิ าพิเศษ
บรรณานกุ รม

คํูมอื สํงเสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลูกเสือทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา ลกู เสอื โท ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 7

คาชี้แจงการใชค๎ ํมู ือ

คู่มํ ือส่งํ เสริมและพพัฒัฒนนาากกิจิจกกรรรรมมลลูกูกเสเสือือททักักษษะชะชีวิตีวิตในในสถสาถนาศนึกศษึกาษชาุดชนุดี้ นจ้ี ัดจทัดําทข�ำ้ึนขส้ึนําสห�ำรหับรผับู๎
ผกกู้าํ กำ� กับบัลลูกกูเสเสืออืใชใช๎เปเ้ ปน็ ็นแแนนววททาางงใในนกกาารรจจดั ดั กกจิ จิ กกรรรรมมลลูกกู เเสสอื อื มมจี จีาํ �ำนนววนน111เลเมํ ล่มแยแกยตกาตมาชม้ันชปนั้ ี ปสีาํ หสำ�รหบั รลบักู ลเสกู อื เส4อื
4ปรปะรเภะเทภทคอื คอืลูกลเกูสเือสสอื ําสรำ� อรงองลกู ลเกู สเือสสอื าสมาญัมญั ลูกลเกู สเอืสสอื าสมาญัมญัรุํนรนุ่ใหใหญญํ แ่ ลแะลละกูลกูเสเสืออวื ิสวสาิ มามัญญั

หลักสตู รลูกเสือเสริมสร๎างทักษะชีวิต มีเน้ือหาท่ีสอดคล๎องกับปัญหาตามวัยและพัฒนาการ
ด๎านตําง ๆ ของลูกเสือแตํละประเภท นอกจากนี้ยังมีเน้ือหาครบถ๎วน เป็นไปตามข๎อบังคับคณะ
ลกู เสือแหํงชาติ วาํ ด๎วยการปกครองหลักสตู รและวิชาพเิ ศษลูกเสอื สาํ รอง ลกู เสือสามัญ ลูกเสือสามัญ
รํุนใหญํ และลกู เสอื วสิ ามัญ อกี ด๎วย

แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสร๎างทักษะชีวิตในคํูมือชุดน้ี ได๎ออกแบบโดยบูรณาการ
กิจกรรมที่เสริมสร๎างทักษะชีวิตเข๎ากับวิธีการลูกเสือ คือการใช๎ระบบหมูํหรือกลํุมยํอย โดยให๎เด็กเป็น
ศนู ย๑กลาง และมีผ๎ใู หญทํ าํ หนา๎ ท่ีชวํ ยเหลอื และสํงเสรมิ ใหเ๎ กิดกระบวนการเรียนร๎ูในกลุํม แนะนํา สั่งสอน
และฝกึ อบรมให๎สามารถพึง่ ตนเองได๎ มีจิตอาสา รับผิดชอบตํอสํวนรวม ยึดมั่นในคําปฏิญาณและกฎของ
ลูกเสือ เสรมิ สร๎างคณุ คาํ ในตนเอง รวมทง้ั ใชร๎ ะบบเคร่ืองหมายหรือสัญลักษณ๑ทางลูกเสือและเคร่ืองหมาย
วิชาพเิ ศษ เป็นแรงกระตุน๎ ไปสํเู ปฺาหมายในการพัฒนาตนเอง

การเรยี งลําดบั แผนการจดั กจิ กรรม จัดเรยี งลาํ ดบั เนอ้ื หาสาระตามหลักสูตรในข๎อบังคับคณะ
ลูกเสือแหํงชาติ วาํ ดว๎ ยการปกครองหลกั สูตรและวิชาพิเศษลกู เสอื สํารอง ลูกเสือสามญั ลกู เสือสามัญ
รุํนใหญํ และลกู เสอื วิสามญั การนําไปใช๎ขึ้นกบั ดลุ ยพินิจของสถานศึกษาในการเลือกวําแผนการจัด
กจิ กรรมใดควรใชเ๎ มื่อใด

องค๑ประกอบในการประชุมกอง เน๎นการใช๎ชีวิตกลางแจ๎ง นอกห๎องเรียน ใกล๎ชิดธรรมชาติ
เรยี นรจ๎ู ากการลงมือปฏิบัติดว๎ ยตนเอง เกม และการบริการผู๎อ่ืน ซ่ึงถือเป็นหัวใจของกิจกรรมลูกเสือ
ทกุ ประเภท โดยกิจกรรมที่ใช๎ แบํงออกเปน็ 5 ประเภท คือ การแสดงออก การสาํ รวจและการรายงาน
การวิเคราะห๑และการประเมิน เกมและการแขํงขัน การบําเพ็ญประโยชน๑ มีการออกแบบกิจกรรม
เพอื่ ให๎ลูกเสือได๎ใช๎กระบวนการกลุํมในการแลกเปลี่ยนประสบการณ๑ แลกเปลี่ยนความคิดความเช่ือ
สร๎างองคค๑ วามรแู๎ ละสรปุ ความคดิ รวบยอด รวมท้ังเปิดโอกาสให๎ลูกเสือได๎ประยุกต๑ใช๎สิ่งท่ีได๎เรียนรู๎
ในชวี ติ จริงอีกด๎วย

เน้อื หาสาระในแผนการจดั กจิ กรรมประกอบด๎วย
1. กิจกรรมตามข๎อบังคับของคณะลูกเสือแหํงชาติ )ไมํรวมกิจกรรมทดสอบเพ่ือรับ
เครื่องหมายหรอื สัญลักษณท๑ างลกู เสอื และเครื่องหมายวชิ าพเิ ศษ(
2. กิจกรรมตามข๎อบังคับของคณะลูกเสือแหํงชาติที่ชํวยเสริมสร๎างทักษะชีวิตด๎านคุณธรรม
จริยธรรม ความภาคภูมิใจในตนเอง ความรบั ผิดชอบตํอสํวนรวม
3. กจิ กรรมเสรมิ สรา๎ งทกั ษะชีวติ เพ่ือสร๎างภูมิคม๎ุ กันทางสังคมตอํ เหตุการณแ๑ ละสภาพปัญหา
ของเด็กแตลํ ะวยั

8 คคู่มํูมอื อื สส่งงํเสเสริมรแิมลแะลพะฒั พนัฒากนจิ ากกรจิ รกมลรูกรเมสลือกูทักเสษอื ะทชีวักติ ษใะนชสีวถิตานใศนึกสษถาาปนรศะกึเภษทาลกู ลเสกู อืเสสาือมโทญั หชล้ันักปสรูตะรถลมูกเศสึกอื เษอากปที ี่ 6 1
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6

คมํู อื แตลํ ะเลํม ได๎จดั ทาํ ตารางหนํวยกจิ กรรม และแผนการจดั กิจกรรม 40 ช่ัวโมง เพื่อให๎เหน็
ภาพรวมของการจดั กจิ กรรมลกู เสือเสริมสรา๎ งทักษะชวี ิตของลูกเสอื ในแตํละระดบั ชั้น และมหี มายเหตุ
บอกไว๎ในตารางชํองขวาสดุ วําเปน็ แผนการจดั กิจกรรมเสรมิ สร๎างทักษะชีวิต

แผนการจดั กจิ กรรมประกอบด๎วย จดุ ประสงคก๑ ารเรียนรู๎ เนื้อหา สือ่ การเรยี นรู๎ กจิ กรรม การ
ประเมินผล องค๑ประกอบทักษะชีวิตสําคัญที่เกิดจากกิจกรรม และภาคผนวกประกอบแผนการจัด
กิจกรรม )เพลง เกม ใบงาน ใบความรู๎ เรื่องท่เี ปน็ ประโยชน๑(

จุดประสงคก์ ารเรียนรู๎
ผ๎ูสอนควรทําความเข๎าใจให๎ชัดเจนวําเป็นจุดประสงค๑การเรียนร๎ูด๎านความร๎ู เจตคติ หรือ
ทักษะ เพื่อจดั กจิ กรรมไดต๎ รงตามจดุ ประสงคก๑ ารเรยี นรูแ๎ ตลํ ะดา๎ น
จุดประสงค๑การเรยี นร๎ูด๎านความรู๎ มีจุดเน๎นท่ีการตั้งประเด็นให๎วิเคราะห๑ สังเคราะห๑เนื้อหา
ความร๎ู ให๎เขา๎ ใจอยํางถํองแท๎ และสามารถนําไปใชไ๎ ดใ๎ นชวี ติ จริง
จดุ ประสงคก๑ ารเรียนรู๎ดา๎ นเจตคติ มจี ดุ เน๎นทอ่ี ารมณค๑ วามรู๎สึก และการตั้งประเด็นให๎ผ๎ูเรียน
ได๎แลกเปลยี่ นและตรวจสอบความคดิ ความเชอื่ ของตนเองกบั สมาชิกกลํุมคนอืน่ ๆ

จดุ ประสงคก๑ ารเรยี นร๎ดู า๎ นทักษะ เนน๎ ท่ีการทําความเข๎าใจในข้ันตอนการลงมอื ทําทกั ษะ และ
ได๎ทดลองและฝกึ ฝนจนชาํ นาญ

บางแผนการจัดกิจกรรมมีจุดประสงค๑การเรียนรู๎ซ๎อนกันมากกวํา 1 ด๎าน ให๎เน๎นด๎านท่ีเป็น
จุดประสงค๑หลกั ของแผนการจดั กจิ กรรม

เน้อื หา
เป็นผลการเรียนร๎ูที่เกิดข้ึนหลังการสอน ผู๎สอนควรตรวจสอบวําผู๎เรียนได๎เนื้อหาครบถ๎วน
หรือไมํ

สอ่ื การเรยี นร๎ู
เปน็ ส่อื อุปกรณ๑ ทีใ่ ชใ๎ นการจดั กจิ กรรม เชนํ แผนภมู ิเพลง เกม ใบงาน ใบความร๎ู และเร่ืองท่ี
เป็นประโยชน๑ ซ่งึ มีรายละเอยี ดอยํใู นภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรม

กจิ กรรม

กิจกรรมลูกเสือยังคงแบบแผนของลูกเสือไว๎ คือ การเปิดประชุมกอง/ปิดประชุมกอง และ
เพลง เกม นิทาน เร่อื งทีเ่ ป็นประโยชน๑ ซ่งึ ใสํไว๎ในทกุ แผนการจดั กิจกรรม โดยผก๎ู ํากบั ลูกเสอื สามารถ
ปรับเปลย่ี นไดต๎ ามความเหมาะสม ผูส๎ อนควรจัดกจิ กรรมตามท่ไี ดอ๎ อกแบบไวเ๎ รียงตามลาํ ดับข้ันตอน
การจัดกิจกรรม นอกจากนีก้ อํ นการจดั กจิ กรรมควรศึกษาแผนการจัดกิจกรรมให๎เข๎าใจอยํางถํองแท๎
ทกุ ข้นั ตอน ศึกษาใบความร๎ูสําหรบั ผ๎สู อน และใบงานสําหรับผเ๎ู รียน เพอื่ ทีผ่ ส๎ู อนจะไดจ๎ ัดกจิ กรรมการ
เรียนการสอนให๎ได๎เนื้อหาตรงตามจุดประสงคก๑ ารเรยี นรู๎มากทสี่ ดุ

ท้ังน้ีผ๎กู าํ กบั ควรทาํ ความเขา๎ ใจแนวคดิ เร่อื งทกั ษะชวี ติ และกิจกรรมลกู เสือเสรมิ สร๎างทักษะชวี ติ
ให๎ถอํ งแทด๎ ๎วย โดยศกึ ษาได๎จากภาคผนวก ก และภาคผนวก ข

2 คํูมือสคงํู่มเอื สสรง่ มิ เสแรลมิ ะแพละฒั พนัฒานกาจิ กกจิ รกรรรมมลลูกูกเเสสอือื ททักกั ษษะะชชวี ีวิตติในใสนถสาถนาศนึกษศากึ ษปราะเลภกูทเลสกู ือเสโอืทสาชมนั้ ญั ปหระลถักมสตูศรกึ ลษูกเาสปอื ีทเอ่ี ก6 9
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6

การประเมินผล
สามารถประเมินได๎ทั้งระหวํางการจัดกิจกรรม และหลังการสอนจบแล๎ว ตามแนวทางท่ีได๎ให๎ไว๎
ในแตํละแผนการจดั กจิ กรรม

องคป์ ระกอบทักษะชวี ิตสาคญั ท่ีเกิดจากกิจกรรม

ทักษะชีวิตเกิดข้ึนได๎หลายองค๑ประกอบในการจัดกิจกรรมแตํละคร้ัง ในท่ีน้ีได๎ระบุเพียง
องค๑ประกอบทักษะชีวิตสําคญั ทเ่ี กดิ ขน้ึ เทาํ นั้น

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรม
เป็นสอื่ อปุ กรณ๑ ตามรายการที่ระบุไว๎ในสื่อการเรียนร๎ู เชํน เพลง เกม บัตรคํา ใบงาน ใบความร๎ู

และเร•่ือ งสทสำ� ม่ีเนปากั น็คกปมารวระาลโงกูยแเชสผนอืน๑ ฯคยลรวุ ฯอกบาหชคาารกดัวมแีขลห๎อะํงเกปสจิ รนกะอาเทแรนนศกัะไทเเพรยยี ่ือนฯการปรบั ปรุงคมํู ือชุดนี้ กรณุ าติดตํอท่ี

สเำ�ลนขกัทง่ี า8นวปิภลาดั วกดรรี ะงั ทสริตวง4ศ4กึ ษแาขธวกิ งาลราดกยระาทวรวเงขศตกึ จษตาุจธักกิ รากรรงุ เทพฯ 10900
ถโนทนรศราพั ชทด๑ ำ� เ0น-2ิน9น4อ1ก-2เ3ข2ต0ดสุ ตติ อํ ก1ร5งุ 1เทพโทฯร1ส0า3ร000-2561-5130
โทรศพั ท์ 02-628-6365 โทรสาร 02-628-6402

10 คู่มํมืออื สสง่ ํงเสเสริมรแิมลแะลพะัฒพนัฒากนิจากกรจิ รกมลรูกรเมสลอื ูกทกัเสษือะทชีวักติ ษใะนชสวีถิตานใศนึกสษถาาปนรศะึกเภษทาลูกลเสกู ือเสาอื มโทญั หชลน้ั ักปสรูตะรถลมกู เศสกึือเษอากปที ี่ 6 3
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6

แผนการจัดกจิ กรรมลูกเสอื สามญั
ลูกเสอื เอก

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6

11 4 คูมํ อืคู่มสอืงํ สเส่งเรสิมรแมิ ลและะพพัฒฒั นนาากิจกกรรรรมมลลกู กูเสเอืสทือักทษักะษชีวะิตชใวี นิตสใถนาสนศถกึาษนาศปึกรษะาเภทลลกู กู เสเสือือโสทามชญั ั้นหปลรักะสถตู มรศลึกู เษสาอื ปเอีทก่ี 6
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสอื สามัญ ลกู เสอื เอก ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6

ชอ่ื หนํวยกิจกรรม จานวน
ตามหลกั สตู รขอ๎ บังคบั ชอ่ื แผนการจดั กจิ กรรม ชั่วโมง หมายเหตุ

ลกู เสอื ทักษะชวี ติ 1
2
1. ปฐมนิเทศ 1. การปฐมนเิ ทศ )เรียนรกู๎ อํ นเร่มิ เรยี น( 1
1
2. ระเบยี บแถว 2. ระเบียบแถวและการเดินสวนสนาม 3
3. วชิ าการของลกู เสือ 3. คาํ ปฏญิ าณและกฎของลกู เสือ 2
4. ความเปน็ พนี่ อ๎ งของลกู เสอื ทว่ั โลก 1
5. การผกู เงื่อน
6. การบุกเบกิ
7. ความปลอดภัยในการใชเ๎ ครอื่ งมอื ของมี
คม
8. รกั ษ๑ธรรมชาติ อนทุ นิ ธรรมชาติ 2
9. ความกตญั ๒กู ตเวที 1
10. ลูกเสือสุภาพบรุ ษุ 1 ทกั ษะชวี ิต
11. เขา๎ ใจเพอ่ื นดว๎ ยภาษากาย 1 ทักษะชีวิต
12. ทกั ษะการปฏิเสธ 1 ทกั ษะชวี ิต
13. คิดเชงิ บวก 1 ทักษะชวี ิต
14. ภาพวาดอนาคต 1 ทักษะชีวติ
15. การปรงุ อาหารแบบชาวปูา 2
4. การผจญภัย 16. การเดนิ ทางไกล 1
1
17. ผจญภัย ไดเ๎ พอ่ื น เถือ่ นธาร การสนกุ

สขุ สม

18. ทศิ และการใช๎เข็มทศิ 2
1
5. การบรกิ าร 19. อปพร. น๎อย 1
2
20. การเคลื่อนย๎ายผู๎ปูวย 2
1
21. การบรกิ ารและชํวยเหลือผ๎อู ่นื 1
1 ทกั ษะชีวิต
6. การพ่ึงตนเอง 22. นํา้ ดม่ื เพอ่ื สขุ ภาพ 1 ทักษะชวี ติ

23. เรียนรู๎เพอื่ ฝึกทกั ษะการวํายนา้ํ 1

24. การออกกําลงั กาย

25. รู๎เทาํ ทันส่อื โฆษณา

26. รท๎ู นั ปอฺ งกันได๎

27. ความปลอดภยั

12 คคํมู มู่ อื ือสสงํ ่งเเสสรรมิมิ แแลละะพพัฒัฒนนากาจิ กกจิ รกรมรลรมกู เลสกูือทเสักอื ษทะชักวี ษติ ะใชนวีสติถาในนศสกึ ถษาานปศรึกะษเภาทลลูกกู เสเสอื ือสาโทมัญชห้นั ลปักรสะูตถรมลูกศเกึสอืษเาอปกีที่ 6 5
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชอ่ื หนํวยกจิ กรรม จานวน หมายเหตุ
ตามหลักสตู รขอ๎ บังคับ ชือ่ แผนการจดั กิจกรรม ชวั่ โมง
ลกู เสอื ทกั ษะชวี ิต
28. การอยคํู าํ ยพกั แรม 1
1
7. พิธกี าร 29. พธิ ปี ระดับเครอ่ื งหมายลกู เสอื เอก และ
2
เครอ่ื งหมายวิชาพเิ ศษลกู เสอื สามัญ 40

8. ประเมนิ ผล 30. การประเมนิ ผล

รวม 8 หนวํ ยกจิ กรรม รวม 30 แผนแผนการจดั กจิ กรรม

6 คูํมือคสมู่ งํอื เสสง่ รเสิมรแมิ ลแะลพะพฒั ัฒนนาากกิจิจกกรรรรมมลลูกกู เสเสือทือักทษกั ะษชะีวชติ วีในติ สใถนาสนถศาึกนษศา กึปษระาเภลทกูลเกู สเสอื อื โสทามชัญัน้ ปหรละักถสูตมรศลกึ กู ษเสาือปเอที ก่ี 6 13
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6

แผนการจดั กจิ กรรมลูกเสอื สามญั ลูกเสือเอก ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6

หนวํ ยที่ 1 ปฐมนเิ ทศ เวลา 1 ช่วั โมง
แผนการจดั กิจกรรมที่ 1 การปฐมนเิ ทศ (เรียนร๎ูกํอนเร่ิมเรียน)

1. จุดประสงคก์ ารเรียนรู๎
1.1 ลูกเสอื รกู๎ าํ หนดการการจัดกจิ กรรมการฝึกอบรมเครอ่ื งหมายลกู เสอื และกิจกรรมวันสาํ คญั
1.2 ลูกเสือรู๎จักเคร่ืองหมายลกู เสือเอก
1.3 ลกู เสอื ประเมินตนเองวํามคี วามพรอ๎ มไดร๎ ับเครือ่ งหมายวชิ าพเิ ศษลูกเสือสามญั

2. เนอื้ หา
2.1 เวลาเรียน / เวลาในการจดั กิจกรรมลกู เสอื
2.2 สาระสําคญั ทลี่ กู เสอื เอกควรเรยี นรู๎

2.3 วิชาพเิ ศษลูกเสอื สามัญ

3. ส่อื การเรยี นร๎ู
3.1 แผนภมู เิ พลง
3.2 เกม
3.3 ใบงาน

3.4 ใบความร๎ู
3.5 เครอ่ื งหมายลกู เสอื เอกและสายยงยศ
3.6 บญั ชวี ชิ าพเิ ศษลูกเสอื สามญั

4.กิจกรรม
4.1 ผู๎กํากบั ลกู เสือรวมกองลกู เสอื ในหอ๎ งประชมุ หรือในสถานทก่ี ลางแจ๎งท่เี หมาะสม
4.2 เพลงหรือเกม
4.3 ผู๎กํากับลูกเสอื ชี้แจงใหล๎ กู เสือทราบเกย่ี วกบั เร่ืองตอํ ไปนี้
1( ตารางการเรียนกิจกรรมลูกเสือ รายสปั ดาห๑ และวนั สําคญั ทางลกู เสอื

2( สาระสําคญั ของการเรียนลูกเสอื ตามหลกั สูตรกจิ กรรมลกู เสือเอก
3( การได๎รับเครอ่ื งหมายลกู เสอื เอก เครอ่ื งหมายวชิ าพิเศษและสายยงยศ
)แนะนําเครือ่ งหมายและสายยงยศ(
4.4 ผ๎ูกํากับลูกเสือให๎ลูกเสือศึกษาใบความร๎ูเร่ืองเคร่ืองหมายวิชาพิเศษแล๎ว ให๎ประเมินตนเอง

ตามใบงานวําตนเองวมําคี ตวนามเอสงามมคี าวราถมคสวาามมาพรถรอ้ คมวเราอ่ืมงพใดร๎อแมลเะรสื่อนงใดจทแจ่ี ละะพสฒันนใจาทจี่ ะพัฒนา

ตนเองใหไ๎ ด๎รับเคร่ืองหมายวชิ าพเิ ศษอะไร และทาํ อยํางไรจงึ จะมสี ทิ ธ์ปิ ระดบั สายยงยศ
4.5 ผก๎ู าํ กับลูกเสอื สรุปและพูดคยุ ใหก๎ ําลังใจแกํลูกเสอื ในการพฒั นาตนเอง

14 คูมํ อื สงํ เสริมและพัฒนากจิ กรรมลกู เสือทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา ลกู เสอื โท ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6
คมู่ ือสง่ เสรมิ และพฒั นากิจกรรมลูกเสอื ทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสือสามัญ หลักสตู รลูกเสอื เอก 7
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6

5. การประเมินผล
5.1 สงั เกตความสนใจใฝูร๎ขู องลกู เสอื
5.2 ตรวจใบงาน

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมลูกเสือที่ 1

เพลง

ฉนั คอื คนเกํง
ทานอง Holiday ของ Bony M

ฉันก็เกงํ เธอก็เกํง เรากเ็ จ็ง ลกู เสอื สามญั
เราน๎องพี่ มคี วามฝนั ลกู เสอื สามญั คนดี คนเกงํ

เกม

เปล่ียนของ

วธิ ีเลนํ

ลูกเสือและหมํูเข๎าแถวตอนให๎มีเทําๆ กัน กับคนแรกของหมูํอยํูใกล๎เส๎นเริ่ม ตรงข๎ามสนามอีก
ดา๎ นหนึ่งมหี มวกกับผา๎ ผูกคอลูกเสอื อยํูตรงหน๎าของแตํละหมํู

เมื่อไดย๎ ินสัญญาณเริม่ เลํนจากผู๎กาํ กับลูกเสือ ให๎คนแรกของแตลํ ะแถววิ่งไปเกบ็ หมวกแล๎ววิง่ มา
สํงให๎คนที่ 2 คนท่ี 2 รับแลว๎ วงิ่ เอาหมวกไปไว๎ทเ่ี ดมิ แล๎วหยบิ ผา๎ ผกู คอมาให๎คนท่ี 3 คนท่ี 3 รับแล๎ว เอา
กลบั ไปไวท๎ เ่ี ดมิ เอาหมวกมาอีกสลับกนั ไปจนหมด แถวไหนเสร็จกํอนแถวนน้ั ชนะ

8 คมํู อื คสมู่ ํงอื เสส่งรเสมิ รแมิ ลแะลพะพฒั ัฒนนาากกิจิจกกรรรรมมลลูกกู เสเสอื ทือักทษกั ะษชะีวชิตีวในติ สใถนาสนถศาึกนษศา ึกปษระาเภลทกูลเูกสเสอื ือโสทามชญั ั้นปหรละักถสูตมรศลกึ กู ษเสาือปเอที กี่ 6 15
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6

ใบงาน

แบบบันทกึ การประเมนิ ตนเองของสมาชิกในหมํู

1. ชอ่ื ................................................นามสกลุ ...........................................สงั กัดหมํู..........................
2. ประวตั ิสวํ นตวั อาย.ุ ..................ปี สถานทอ่ี ยํูเลขท.ี่ ............................ตรอก/ซอย...........................
ถนน....................................ตาํ บล/แขวง...........................................อาํ เภอ/เขต............................
จงั หวดั ........................................โทรศัพท.๑ ..................................................
3. ความเจริญก๎าวหน๎าทางลูกเสือ (ให๎ใสํเครื่องหมาย  ลงในชํอง  เฉพาะข๎อที่เข๎าใจ
ทราบดี เป็นความจริง ปฏิบัติได๎ หรือผํานการปฏิบัติมาแล๎ว เทํานั้น หากไมํเคยเรียนรู๎มากํอน
ไมํต๎องใสํเคร่ืองหมายใดๆ ทั้งส้ิน)

3.1  สามารถปฏบิ ตั ิตนในการเปดิ ประชุมกองและปิดประชมุ กองลกู เสือสามัญไดด๎ ี
3.2  รป๎ู ระวัติของผใ๎ู หก๎ ําเนดิ ลกู เสอื โลกเปน็ อยํางดี
3.3  ร๎ูพระราชประวตั ิของพระราชบดิ าลกู เสอื ไทยเป็นอยาํ งดี
3.4  ทาํ ความเคารพ การแสดงรหัส การจบั มือของลกู เสอื ได๎ถูกตอ๎ ง
3.5  ร๎ูความหมายคตพิ จนข๑ องลกู เสือ
3.6  ร๎ูและจดจาํ คําปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื
3.7  บาํ เพ็ญประโยชนต๑ อํ ชมุ ชนอยาํ งนอ๎ ย 2 คร้งั
3.8  ปฏบิ ัตติ ามระเบยี บแถวทาํ มอื เปลาํ ทําถอื ไมพ๎ ลอง สัญญาณมือ และสัญญาณนกหวดี ได๎
3.9  เตรยี มอปุ กรณต๑ าํ งๆ ไปอยคูํ ํายพกั แรมได๎ โดยไมํต๎องมีผู๎ชํวยเหลือ
3.10  บอกสถานทส่ี าํ คญั ในท๎องถนิ่ ของตนใหผ๎ อู๎ ่นื เขา๎ ใจได๎
3.11  รจู๎ กั ทิศทั้ง 8 และวิธกี ารใช๎เขม็ ทิศ
3.12  เดนิ ทางไกลพร๎อมกับเพอ่ื นลกู เสอื ระยะทางไป-กลับ 10 กโิ ลเมตร
3.13  รู๎จกั เคร่อื งหมายจราจรและปฏิบตั ติ ามเคร่อื งหมายจราจรได๎
3.14  รว๎ู ิธีใช๎และเก็บรกั ษาเล่ือย และขวาน
3.15  ผูกเง่อื นตอํ ไปนไี้ ด๎ 1 เงอ่ื น : เงื่อนประมง เงื่อนผูกรนํ เงือ่ นผูกคนลาก
3.16  ผูกเง่อื นตอํ ไปนไี้ ด๎ 1 เง่ือน : เงื่อนขัดสมาธิ เง่อื นขัดสมาธิ 2 ชนั้
3.17  ผูกเงอ่ื นตอํ ไปนไี้ ด๎ 1 เง่ือน : เงือ่ นผกู ซุง เงอ่ื นตะกรุดเบ็ด เงอื่ นผูกรง้ั
3.18  ผูกแนนํ เชนํ ผกู ประกบ ผกู ทแยง ผกู กากบาทได๎
3.19  บอกลักษณะและสัญญาณเกยี่ วกับกาลอากาศในทอ๎ งถ่ินได๎
3.20  การใช๎เวลาวาํ งใหเ๎ ปน็ ประโยชนด๑ ว๎ ยการทํางาน ดงั น้ี

1. ..................................................................................................
2. ..................................................................................................

16 คมํู ือสงํ เสริมและพัฒนากจิ กรรมลกู เสอื ทักษะชีวิตในสถานศึกษา ลกู เสือโท ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6
คมู่ ือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทกั ษะชีวิตในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสอื สามัญ หลักสตู รลูกเสือเอก 9
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 6

4. การปฏบิ ตั ติ ามคาปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื
4.1  เมอื่ ไดร๎ ับมอบหมายงาน ได๎กระทาํ จนสําเรจ็ ไมํเหลวไหล
4.2  ไดก๎ ระทาํ ในสิ่งทแี่ สดงถงึ การเป็นผู๎มีความจงรกั ภักดตี อํ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ๑
4.3  ได๎บาํ เพ็ญตนให๎เป็นประโยชน๑ตํอสํวนรวมอยาํ งน๎อยวันละ 1 ครั้ง
4.4  ร๎จู กั และสนทิ สนมกับเพอ่ื นลูกเสอื ตํางกอง ตาํ งอาํ เภออยํางนอ๎ ย 2 คน
4.5  ไมเํ คยถกู ผู๎บงั คับบญั ชาลงโทษเกย่ี วกบั ความประพฤติ
4.6  เคยชวํ ยเหลือสัตวท๑ ไี่ ดร๎ ับอนั ตรายอยาํ งนอ๎ ย 1 ครง้ั
4.7  ไมํเคยถูกลงโทษจากผ๎ูปกครอง หรอื ผบู๎ ังคับบัญชา เน่อื งจากไมปํ ฏบิ ตั ติ ามคาํ ส่งั
4.8  ไมเํ คยหลกี เลย่ี งงานทีไ่ ดร๎ ับมอบหมายให๎ทํา หรือการใหท๎ าํ งานรํวมกบั ผูอ๎ น่ื
4.9  ไดเ๎ กบ็ สะสมเงินของตนและฝากไว๎กับธนาคารบา๎ งแล๎ว
4.10  เคยกระทําผดิ แตปํ จั จุบนั ไดป๎ ระพฤตติ นเป็นคนดี และจะไมํกระทําในสง่ิ เสอื่ มเสียอกี

5. การวางแผนปฏบิ ตั ิงานเพือ่ สรา๎ งความก๎าวหน๎าให๎กบั ชวี ิตของตนเอง
5.1  เมื่อเรยี นวิชาลกู เสือเอกจบแลว๎ จะสอบวิชาพิเศษที่หลักสูตรบังคับ )อ๎างอิง ข๎อบังคับฯ

วําด๎วยการปกครอง หลักสตู รและวิชาพิเศษลูกเสือสามัญ )ฉบับที่ ๑๓( พ.ศ.๒๕๒๕ ข๎อ ๕๔ สายยงยศ
หน๎า ๗๐( เพ่อื รบั เครอ่ื งหมายสายยงยศ

5.2  เมอื่ สาํ เรจ็ การศกึ ษาชน้ั ประถมศกึ ษาแล๎ว จะไปเรียนตอํ ชน้ั มธั ยมศึกษา
5.3  จะเลือกเรยี นวิชาลกู เสอื สามัญรนุํ ใหญตํ อํ ไป
5.4  จะตง้ั ใจศึกษาเลาํ เรยี น ประพฤติตนเปน็ คนดี เชอื่ ฟงั คําสง่ั สอนของผู๎บงั คับบัญชา
5.5  หลงั จากสาํ เรจ็ การศกึ ษาในชัน้ สูงๆ แล๎วจะประกอบอาชพี ........................................

6. วชิ าพิเศษทีต่ ๎องการสอบ เพ่อื รับเคร่อื งหมายวชิ าพิเศษ ภายใน 3 เดอื น นบั จากน้ีคอื
6.1ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ
6.2ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ
6.3ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ
6.4ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ
6.5ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ
6.6ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ

)ลงชื่อ(....................................................................ผู๎บันทึก
)..............................................................( ลูกเสือหม.ํู ..................

วนั ที่.............เดือน....................................พ.ศ.....................

10 คํูมอื คสมู่ งํอื เสสง่ รเสมิ รแมิ ลแะลพะพัฒัฒนนาากกิจิจกกรรรรมมลลกู ูกเสเสือทอื กัทษักะษชะีวชิตวีในิตสใถนาสนถศาึกนษศา ึกปษระาเภลทกูลเูกสเสือือโสทามชญั ัน้ ปหรละักถสูตมรศลึกูกษเสาอื ปเอีทก่ี 6 17
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6

ใบความรู๎
เครอื่ งหมายลกู เอกและสายยงยศ

1. สาระสาคญั ของหลักสูตรลกู เสอื เอก
ลกู เสอื จะตอ๎ งสอบวิชาทก่ี ําหนดไวใ๎ นหลักสตู รใหไ๎ ดค๎ รบทุกวิชาดังนี้
1. การพ่ึงตนเอง
2. การบรกิ าร
3. การผจญภัย
4. วิชาการของลกู เสอื

5. ระเบียบแถว
ลกู เสือสามญั อาจทาํ งานและสมคั รสอบเพ่ือขอรบั เครือ่ งหมายลกู เสือสามญั ในระยะเวลา 3 เดือน
กํอนจะเลอ่ื นจากกองลกู เสือสามัญไปอยํกู องลูกเสือสามัญรํุนใหญํ

2. วิชาพิเศษลูกเสือสามญั

ลูกเสือสามัญอาจสอบวิชาพิเศษลูกเสือสามัญได๎ตามหลักสูตรท่ีกําหนดไว๎ วิชาพิเศษเหลํานี้
มุํงหมายให๎ลูกเสือได๎แสดงออกทางทักษะ และความสนใจของตนเอง เพ่ือให๎ได๎มีสํวนในการปฏิบัติ
กิจกรรมรํวมกบั ลกู เสอื อ่ืนๆ ด๎วย วชิ าพิเศษลูกเสือสามญั มีดังตอํ ไปนี้

1. นกั จักสาน 19. นักผจญภัยในปาู )ก( 37. นักเครอ่ื งบนิ เลก็
2. ชาํ งไม๎ 20. นกั สํารวจ )ก( 38. นักสะสม

3. ชํางหนงั 21. มคั คเุ ทศก๑ 39. บรรณารกั ษ๑
4. ชาวนา 22. ชํางเขียน 40. นักกรีฑา
5. ชาวสวน 23. นักสญั ญาณ 41. นกั ขม่ี า๎
6. ชาวไรํ 24. นกั บกุ เบกิ )ก( 42. มวยไทยเบื้องต๎น
7. นักเลีย้ งสัตว๑เลก็ 25. นกั ธรรมชาตศิ ึกษา )ข( 43. มวยสากลเบื้องตน๎

8. นกั จักรยาน 2 ลอ๎ 26. ชาํ งเบด็ เตลด็ 44. กระบก่ี ระบองเบ้อื งต๎น
9. นักวํายนาํ้ 27. ผ๎บู ริบาลคนไข๎ 45. นกั ยิงปนื เบือ้ งตน๎
10. ผชู๎ วํ ยคนดบั เพลงิ 28. นักจบั ปลา 46. การอนุรกั ษธ๑ รรมชาติ
11. ผ๎ูชวํ ยเหลือผ๎ปู ระสบภัย 29. ผช๎ู ํวยตน๎ เดํน 47. การหามิตร
12. ผู๎ให๎การปฐมพยาบาล 30. นักพายเรอื 48. มารยาทในสงั คม

13. นักสงั เกตและจาํ 31. นายทา๎ ยเรอื บด 49. นิเวศวิทยา
14. การพราง 32. นกั กระเชียงเรือ 50. การพัฒนาชุมชน
15. ชาวคําย )ข( 33. นกั แลํนเรือใบ 51. การใชพ๎ ลังงานทดแทน
16. ผปู้ ระกอบอาหารในคา่ ย (ข) 34. นกั ดาราศาสตร๑เบื้องตน๎ )ข( 52. ลกู เสือโทพระมงกุฎเกลา๎ ฯ
17. ลาํ ม 35. นักอุตนุ ยิ มวิทยาเบ้ืองต๎น )ข( 53. ลูกเสือเอกพระมงกฎุ เกลา๎ ฯ

18. นักดนตรี 36. ยามอากาศเบ้ืองต๎น 54. สายยงยศ

18 คํูมือสงํ เสริมและพฒั นากจิ กรรมลูกเสือทกั ษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสอื โท ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6
ค่มู อื ส่งเสรมิ และพฒั นากิจกรรมลกู เสือทักษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสือสามญั หลักสูตรลูกเสือเอก 11
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6

แผนการจัดกิจกรรมลกู เสือสามัญ ลูกเสือเอก ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6

หนํวยที่ 2 ระเบยี บแถว เวลา 2 ชว่ั โมง
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 2 ระเบียบแถวและการเดินสวนสนาม

1. จุดประสงค์การเรียนรู๎
ลกู เสอื สามารถเดนิ สวนสนามไดอ๎ ยํางถกู ต๎อง

2. เนอ้ื หา
ระเบยี บแถวและการเดินสวนสนาม

3. ส่ือการเรยี นรู๎
3.1 แผนภูมเิ พลง

3.2 เกม

3.2 ปาฺ ยกองลกู เสอื โรงเรยี น ธงประจาํ กองลกู เสอื โรงเรยี น
3.3 แผนผงั ขบวนสวนสนาม
3.4 อุปกรณก๑ ารสวนสนาม
3.5 เพลงสวนสนาม หรือ กลองใหจ๎ งั หวะ
3.6 ใบความรู๎

3.4 เรือ่ งสน้ั ทเี่ ปน็ ประโยชน๑

4.กจิ กรรม
4.1 กิจกรรมครงั้ ท่ี 1
1( พิธีเปิดประชมุ กอง )ชกั ธงขน้ึ สวดมนต๑ สงบนง่ิ ตรวจ แยก(

2( เพลง หรอื เกม
3( กจิ กรรมตามจุดประสงคก๑ ารเรยี นรู๎

)1( ผก๎ู าํ กับลกู เสือทบทวน การจดั ระเบยี บแถว สัญญาณมือและสัญญาณนกหวดี
)2( ผกู๎ าํ กบั ลูกเสอื อธิบายสาธิตถึงการตั้งรูปขบวนในการเดนิ สวนสนาม และให๎ลกู เสือฝกึ

ปฏิบตั ิ
)3( ผ๎กู ํากับลูกเสืออธิบายและสาธติ วิธีการทาํ ความเคารพประธานในพิธขี องลกู เสอื ผถู๎ อื

ธง ผถ๎ู อื ปฺายของลกู เสือและให๎ลกู เสอื ฝกึ ปฏิบตั ิ
)4( ผู๎กาํ กับลูกเสือมอบหมายใหน๎ ายหมํูลูกเสือเป็นผูน๎ าํ ฝึกภายในหมํขู องตน

เพือ่ ความพร๎อมเพรียง

4( ผูก๎ าํ กบั ลกู เสอื เลําเรอื่ งส้นั ทเ่ี ป็นประโยชน๑
5( พิธีปิดประชมุ กอง )นดั หมาย ตรวจเครอื่ งแบบ ชักธงลง เลิก(

12 คํูมือคสมู่ งํือเสส่งรเสิมรแิมลแะลพะพฒั ฒั นนาากกจิจิ กกรรรรมมลลกู กู เสเสือทือักทษกั ะษชะีวชิตวีในติ สใถนาสนถศาึกนษศา กึปษระาเภลทกูลเกู สเสืออื โสทามชญั ั้นปหรละกั ถสตูมรศลกึ กู ษเสาอื ปเอที ก่ี 6 19
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6

4.2 กจิ กรรมคร้งั ท่ี 2
1( พิธเี ปิดประชุมกอง )ชักธงขนึ้ สวดมนต๑ สงบน่ิง ตรวจ แยก(
2( เพลง หรอื เกม
3( กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก๑ ารเรยี นรู๎

- กองลูกเสอื เดนิ สวนสนาม ตามรูปแบบพิธกี ารสวนสนาม
4( ผ๎กู ํากับลูกเสอื เลาํ เรอื่ งสั้นทีเ่ ป็นประโยชน๑
5( พธิ ีปิดประชมุ กอง )นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ (

5. การประเมินผล
สงั เกต ความพรอ๎ มเพรียง และความถกู ตอ๎ งในการฝกึ ปฏบิ ตั ิ

6. คณุ ธรรม

1. ความซื่อสัตย๑สจุ รติ
2. ความกตัญ๒ู
3. อดุ มการณค๑ ุณธรรม

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 2

เพลง

ลกู เสือธีรราช

เหลําลกู เสอื ของธีรราช ทะนงองอาจสบื ชาติเช้ือพงศพ๑ ันธ๑ุ
สมคั รสมานโดยมสี ามคั คีมนั่ พวกเราจะรักรวํ มกนั จะผกู สมั พนั ธ๑ตลอดกาล

มจี รรยา รักษาชอื่ สรา๎ งเกยี รติระบอื เล่ืองลือตอํ ไปช๎านาน
ราํ่ เงรเงริ แิงแจมจ่ ํมใสใสใผใ่ ฝจรใู จกั รใหกั ใย้ หนื ๎ยนืนานาน พวกเราล๎วนชน่ื บานเพราะกจิ การลกู เสือไทย

เกียรตคิ ุณลกู เสือไทย

เกยี รตคิ ุณลูกเสอื ไทยแพรํไปท่ัวสากล ลกู เสอื ไทยทกุ คนตอ๎ งรักษา

มุํงทาํ ดี ยนื ยนั ตามคาํ มนั่ สญั ญา ดว๎ ยศรทั ธาสามัคคี มนี ้าํ ใจ

มาเถิดมา เรามาช๎าอยใํู ย ลูกเสือไทย มาเร็วไวก๎าวเดนิ ไปทห่ี มายข๎างหนา๎

)ซ้ํา(

อยูคํ นละกอง กเ็ ปน็ พ่ีน๎องกัน มีความรส๎ู ูง๎ านไมหํ วน่ั ไหว

มวี นิ ัย ใจเยน็ เป็นมติ รคนท่วั ไป อยํูแหํงใดสขุ สนกุ ทกุ เวลา

20 คํูมอื สงํ เสริมและพัฒนากจิ กรรมลูกเสือทักษะชวี ิตในสถานศึกษา ลกู เสอื โท ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6
คู่มือสง่ เสริมและพัฒนากจิ กรรมลกู เสือทกั ษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสอื สามญั หลักสตู รลูกเสือเอก 13
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6

เกม

สวัสดี

วิธเี ลนํ วิธที ่ี 1
1. ให๎ลูกเสอื แตํละหมยํู นื เป็นแถวตอนลกึ หันหนา๎ ไปทางผกู๎ ํากบั ลูกเสือ
2. เมอ่ื เรม่ิ เลนํ ให๎คนท่ี 1 ของแตํละหมูํกลับหลังหัน พบกับคนท่ี 2 แล๎วกลําวคําวํา “สวัสดี” ทํา

ความเคารพและจับมือกนั คนท่ี 2 เมื่อทํากบั คนที่ 1 แล๎ว ก็กลบั หลังหนั มาพบกับคนที่ 3 แลว๎ กลําวคําวํา
“สวสั ดี” ทําความเคารพและจบั มือกัน ทําไปเชนํ นจ้ี นหมดแถวหมํูใดเสรจ็ กํอนหมํนู น้ั ชนะ

วิธีเลํนวธิ ีท่ี 2

1. ลูกเสือเขา๎ แถวเปน็ วงกลม ทกุ คนหนั หน๎าเขา๎ ศูนยก๑ ลาง
2. ใหล๎ กู เสอื คนหนึง่ เป็นคนเริ่มตน๎ ว่งิ รอบวงกลมดา๎ นนอกไปแตะหลงั ผ๎ทู ยี่ นื เปน็ วงกลม 1 คน
3. คนทีถ่ กู แตะต๎องออกวง่ิ สวนทศิ ทางกบั คนแรกเมอ่ื วิ่งไปพบกนั ทใ่ี ดใหท๎ ําวนั ทยหตั ถ๑และจับ
มอื เขยาํ พรอ๎ มกับกลําวคาํ วาํ “สวัสดี” ดงั ๆ
4. ปลอํ ยมอื ชิงกันว่งิ เข๎าที่ผ๎ใู ดเขา๎ ท่ไี มํไดเ๎ ปน็ ผเ๎ู ริม่ ตน๎ ใหมํ

เร่อื งส้ันทเี่ ปน็ ประโยชน์

กวางป่ากับพวงองํุน

กวางปูาว่ิงไปในเพิงองุนํ เพือ่ ซอํ นตวั จากการตามลาํ ของนายพราน“ขอให๎ข๎าซํอนตัวด๎วยเถิดนะ
องุํน” กวางปาู กลําวอยาํ งนอบน๎อม องํนุ ก็อนญุ าตเม่อื พรานตามมาถึงบริเวณนัน้ เเตํไมํพบกวางปูา จงึ วิ่ง
ไปอีกทางหนงึ่ กวางปาู เหน็ วาํ ปลอดภยั เเลว๎ จึงกดั กนิ พวงองนํุ อยํางเอร็ดอรอํ ย

“เจ๎ากนิ ขา๎ ทาํ ไมเพอ่ื นเอย๐ ” องนํุ ถามอยํางน๎อยใจ กวางปาู จงึ ตอบวาํ “ถึงข๎าไมํกินเจ๎า ก็มีคนอื่น

มากินเจ๎าอยํดู นี นั่ เเหละ” ขณะที่กัดกินพวงองุํนอยํูนั้นเอง พรานอีกคนหน่ึงผํานมา มองเห็นวํามีบางสิ่ง
เคลื่อนไหวอยใํู ต๎เพงิ องุนํ จงึ เลง็ ธนยู งิ ใสกํ วางปูาทนั ที

เรอื่ งนีส้ อนใหร๎ ู๎วาํ ผท๎ู ี่ไมกํ ตัญ๒ูร๎คู ุณมักประสบความหายนะ

เรื่องชายโงกํ บั ต๎นไผํ

ชาวสวน 2 คน พอํ ลกู ชวํ ยกนั ปลกู ผลไมเ๎ ก็บผลขาย ผู๎เปน็ พํอได๎ปลกู ตน๎ ไผลํ อ๎ มรอบสวนไว๎ เม่ือ
พํอปูวยและเสยี ชีวติ ลกู ชายผูโ๎ งเํ ขลาเบาปญั ญาก็น่ังมองต๎นไผํที่บิดาปลูกไว๎รอบๆสวน พลางคิดวํา“ต๎น
ไผํนไี้ มเํ หน็ มปี ระโยชนอ๑ ะไรเลยไมํเลื่อยอกไมมํ ีผลใหเ๎ กบ็ ไปขาย” คิดดงั นั้นจึงสั่งใหค๎ นงานตัดตน๎ ไผํทง้ิ จน
หมดจากนั้นเปน็ ตน๎ มาสตั ว๑ตาํ งๆ เเละคนพเนจรตาํ งกพ็ ากนั เข๎าออกในสวนอยํางสะดวกสบายสวนผลไม๎

14 คํมู ือคสมู่ ํงอื เสส่งรเสิมรแมิ ลแะลพะพัฒฒั นนาากกจิจิ กกรรรรมมลลกู ูกเสเสือทอื กัทษักะษชะีวชิตีวในิตสใถนาสนถศาึกนษศา กึปษระาเภลทกูลเูกสเสืออื โสทามชญั นั้ ปหรละักถสูตมรศลกึ ูกษเสาือปเอที กี่ 6 21
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6

จงึ ไดร๎ บั ความเสยี หายผลไม๎ถูกขโมยและถกู เหยยี บยํา่ ทําลายในท่ีสุดผลไม๎ก็ตายหมดทั้งสวนเพราะไมํมี
ตน๎ ไผํท่เี ป็นเสมอื นร้ัวลอ๎ มรอบปฺองกนั ภยั อยํางเเตํกํอน

เรื่องนส้ี อนใหร๎ ูว๎ าํ ของทุกส่ิงยํอมมปี ระโยชนใ๑ นทางทเี่ เตกตํางกัน

ใบความรู๎

ระเบียบแถวและการเดนิ สวนสนาม

การเดินสวนสนาม
การสวนสนามมีความจําเป็นอยํางยิ่งในการจัดงานชุมนุมลูกเสือ เชํนงานชุมนุมลูกเสือ

แหํงชาติ งานชุมนุมลูกเสือเขตการศึกษาและงานชุมนุมลูกเสือจังหวัดเพื่อแสดงถึงสมรรถภาพของ
ลูกเสือ วํามีความพร๎อมเพรียง มีระเบียบวินัย ควรแกํการยกยํองสรรเสริญมากน๎อยเพียงใด เป็นการ
แสดงออกในความสามารถของลูกเสือแตํละกอง จะมองภูมิหลังของการดําเนินงานภายในกองลูกเสือได๎

อยาํ งดยี ิง่ และใช๎ประกอบพธิ ีในวันสถาปนาคณะลกู เสือแหํงชาติ ในวันท่ี 1 กรกฎาคม ของทุกปี

การตั้งแถวเดนิ สวนสนามของลกู เสอื
กองลูกเสืออาจจดั แถวสวนสนามได๎ดงั นี้ คอื
1( จดั เปน็ รูปแบบแถวหนา๎ กระดาน หรอื จัดเป็นรูปแบบแถวตอนลกึ แลว๎ แตคํ วามเหมาะสม

2( ตําแหนํงการยืนและเว๎นระยะ คนถือปฺายกองลกู เสอื โรงเรียนยืนเป็นคนแรก หํางจากคนถือ
ปฺาย 5 ก๎าว เป็นตําแหนํงคนถือธงประจํากองลูกเสือโรงเรียน หํางจากคนถือธง 5 ก๎าว เป็นตําแหนํงผ๎ู
กํากบั ลูกเสอื ลูกเสอื หาํ งจากผก๎ู ํากบั ลกู เสือลูกเสือ 5 ก๎าว เป็นตําแหนํงรองผ๎ูกํากับลูกเสือ หํางจากรองผู๎
กาํ กับลกู เสอื 3 ก๎าว เปน็ ตําแหนงํ สมาชกิ ลูกเสอื

การแสดงความเคารพ

1( ผ๎ูถือธง การแสดงความเคารพในเวลาอยูํกับท่ี เมื่อมีคาํ บอกวํา “วันทยา – วุธ” ให๎ผู๎ถือธง
ยกธงขึ้นในทําเคารพ และทาํ กึ่งขวาหัน ลดปลายคันธงลงข๎างหน๎าอยํางช๎าๆ จนคันธงอยูํในแนวเส๎น
ขนานคูํกับพื้น มือทั้ง 2 อยูํเสมอแนวบํา เมื่อลดธงลงถึงแนวขนานกับพื้น ให๎เชิญธงกลับขึ้นในทํา
เคารพช๎าๆ ได๎จังหวะเชํนเดียวกับขาลง และเชิญธงในทาํ นีจ้ นกวําจะมีคาํ บอกวํา “เรียบ – อาวุธ” จึงลด

ธงลงแล๎วจึงทําก่ึงซ๎ายหันอยูํในทําตรง
2( ลูกเสอื และผ๎กู ํากบั ลูกเสอื ทาํ ความเคารพตามวิธีการของลกู เสือ ดงั นี้

การทาความเคารพขณะเดิน
การจัดสถานที่ให๎ใช๎ธงปักเปน็ เคร่ืองหมาย 3 ธง ธงแรกปักหํางจากผูร๎ บั การเคารพ 20 ก๎าว ธงท่ี

สองปกั หาํ งจากผูร๎ บั การเคารพ 10 ก๎าว และธงท่ีสามอยํูถดั จากผรู๎ บั การเคารพไปอกี 10 กา๎ ว

22 คมูํ ือสงํ เสรมิ และพัฒนากิจกรรมลกู เสือทักษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ลกู เสอื โท ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 6
คู่มือส่งเสรมิ และพัฒนากิจกรรมลกู เสือทกั ษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสือสามัญ หลกั สูตรลกู เสือเอก 15
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6

การทาความเคารพ
เม่อื เดนิ ถงึ ธงแรก รองผ๎ูกาํ กับลูกเสอื สง่ั ดว๎ ยคําวํา “ ระวัง” ทกุ คนเรมิ่ ตบเทา๎ แรง
เม่ือถึงธงท่ี 2 รองผกู๎ าํ กับลกู เสอื สั่งดว๎ ยคําวํา “แลขวา – ทาํ ” เมื่อสน้ิ สดุ คําสง่ั ใหล๎ กู เสอื ทกุ นาย

เดินสะบัดหนา๎ ไปทางขวามือเพื่อทําความเคารพประธาน ยกเวน๎ นายหมลูํ กู เสอื ซ่ึงอยูขํ วาสุด ให๎แลตรง

มองไปขา๎ งหน๎า คนถือพลองและไมพ๎ ลองใหเ๎ ดนิ แกวํงแขนตามปกติ ที่เหลอื ไมํแกวํงแขน
เมอ่ื ถึงธงท่ี 3 ผใ๎ู ดหรอื ตบั ใดผาํ นธงที่ 3 กส็ ะบดั หนา๎ แลตรงและเลิกทาํ ความเคารพ แกวงํ แขน

เดนิ ตอํ ไปตามปกติ โดยไมตํ อ๎ งออกคาํ สง่ั

ตวั อยํางแถวสวนสนาม หมูแํ ถวตอน

ป้ายช่ือกองลูกเสือ 5 กา้ ว
ธงประจากองลกู เสือ 5 ก้าว
ผู้กากบั ลูกเสอื 5 กา้ ว
รองผู้กากบั ลูกเสอื ลูกเสือ 3 กา้ ว
ลูกเสือกองท่ี 1

16 คมํู ือคสู่มํงอื เสสง่ รเสิมรแิมลแะลพะพฒั ฒั นนาากกจิิจกกรรรรมมลลูกูกเสเสือทือกัทษกั ะษชะีวชิตวีในิตสใถนาสนถศากึ นษศา ึกปษระาเภลทกูลเกู สเสือือโสทามชญั ้ันปหรละักถสตูมรศลึกูกษเสาือปเอที กี่ 6 23
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6

ตวั อยํางแถวสวนสนาม หมูํแถวหน๎ากระดาน

ป้ายชอื่ กองลกู เสือ 5 ก้าว
ธงประจากองลกู เสอื 5 ก้าว
ผกู้ ากับลกู เสือ 5 ก้าว
รองผกู้ ากบั ลกู เสอื ลกู เสอื
ลูกเสือกองท่ี 1 3 กา้ ว

24 คมูํ อื สํงเสริมและพฒั นากจิ กรรมลูกเสอื ทักษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือโท ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6
คมู่ ือสง่ เสริมและพฒั นากิจกรรมลกู เสือทกั ษะชีวติ ในสถานศึกษา ประเภทลูกเสอื สามัญ หลกั สูตรลกู เสือเอก 17
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6

แผนการจัดกิจกรรมลูกเสอื สามญั ลกู เสอื เอก ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6

หนวํ ยที่ 3 วชิ าการของลูกเสอื เวลา 1 ชว่ั โมง
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 3 คาปฏญิ าณและกฎของลกู เสือ

1. จดุ ประสงค์การเรยี นร๎ู
สามารถปฏบิ ตั ติ นตามคําปฏญิ าณและกฎของลกู เสือได๎

2. เนื้อหา
2.1 คาํ ปฏญิ าณของลูกเสือสามัญ
2.2 กฎของลกู เสอื สามญั

3. สอ่ื การเรียนร๎ู

3.1 แผนภูมเิ พลง
3.2 เกม
3.2 ตวั อยํางหวั ขอ๎ สําหรับการอภปิ ราย
3.3 แบบบันทึกผลการอภิปราย
3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเี่ ปน็ ประโยชน๑

4.กจิ กรรม

4.1 พธิ เี ปดิ ประชุมกอง )ชักธงขน้ึ สวดมนต๑ สงบนงิ่ ตรวจ แยก(
4.2 เพลง หรือเกม
4.3 กจิ กรรมตามจุดประสงคก๑ ารเรยี นร๎ู

1( ผกู๎ าํ กับลกู เสอื ให๎ลกู เสอื ทอํ งคาํ ปฏญิ าณและกฎของลกู เสือ

2( ผกู๎ าํ กบั ลกู เสอื ใหน๎ ายหมํลู กู เสอื จบั สลากกฎของลกู เสือทงั้ 10 ขอ๎ ตามจาํ นวนท่ีกําหนด
3( ให๎ลกู เสอื แตลํ ะหมูํระดมสมองเกยี่ วกบั การปฏบิ ตั ิตนตามคํากฎของลกู เสอื ที่จับสลากได๎

เขยี นลงในกระดาษชาร๑ทพรอ๎ มนาํ เสนอ
4( ใหล๎ กู เสอื แตํละหมูํสงํ ตัวแทนมารายงาน แลว๎ ทุกคนแสดงความคิดเหน็ และรวํ มกนั

สรุปผลการอภปิ ราย
5( ผก๎ู าํ กบั ลกู เสอื เพมิ่ เตมิ แนวคิดทคี่ วรได๎และเสนอแนะให๎ลกู เสอื ได๎ปฏิบตั ติ ามกฎแทจ๎ ริง

4.4 ผูก๎ ํากับลูกเสอื เลําเร่อื งสัน้ ทม่ี ีประโยชน๑
4.5 พธิ ปี ดิ ประชุมกอง )นดั หมาย ตรวจเคร่อื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ (

5. การประเมนิ ผล
สงั เกตการรํวมมือในการระดมสมอง และการแสดงความคดิ เห็นอยํางมเี หตุผลของลกู เสือ

18 คมํู อื คสมู่ ํงือเสสง่ รเสิมรแมิ ลแะลพะพฒั ัฒนนาากกิจจิ กกรรรรมมลลูกกู เสเสือทอื ักทษักะษชะีวชิตีวในติ สใถนาสนถศากึ นษศา ึกปษระาเภลทกูลเกู สเสอื อื โสทามชญั ัน้ ปหรละกั ถสูตมรศลกึ กู ษเสาือปเอีทก่ี 6 25
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6

6. คุณธรรม
1. ความพอเพยี ง
2. ความซอ่ื สตั ย๑สจุ รติ
3. ความกตญั ๒ู

4. ความรับผดิ ชอบ
5. อดุ มการณ๑คุณธรรม

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมที่ 3

เพลง

ลกู เสือธีรราช

เหลาํ ลกู เสอื ของธรี ราช ทะนงองอาจสบื ชาตเิ ชื้อพงศ๑พนั ธ๑ุ
สมัครสมานโดยมีสามคั คมี น่ั พวกเราจะรกั รํวมกัน จะผูกสมั พันธ๑ตลอดกาล
มจี รรยา รกั ษาชอื่ สรา๎ งเกียรติระบอื เลอ่ื งลอื ตอํ ไปชวั่ นาน
ราํ เรงิ แจํมใส ใฝใู จรักใหย๎ นื นาน พวกเราล๎วนชื่นบาน เพราะกจิ การลูกเสอื ไทย

เกม

แชมปย์ กน้าหนกั
วิธีเลนํ
1. ให๎ลูกเสือเข๎าแถวรูปวงกลม
2. เมื่อสัญญาณเริม่ เลนํ ให๎ลกู เสอื พยายามยกคนอืน่ ใหเ๎ ท๎าพ๎นพื้น
3. ใครถกู ยกถอื วาํ ตาย ออกจากการเลนํ
4. คนสุดทา๎ ยถอื วําเป็นแชมป์

26 คูมํ อื สํงเสริมและพัฒนากจิ กรรมลกู เสือทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ลกู เสือโท ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6
คมู่ ือสง่ เสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลกู เสอื ทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสือสามัญ หลกั สูตรลูกเสอื เอก 19
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6

ใบความร๎ู

เรอื่ ง การปฏิบตั ติ ามคาปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื

1. ลูกเสอื ได๎รับมอบหมายการงานใด ไดก๎ ระทาํ จนเป็นผลสําเร็จ
2. แสดงความจงรักภกั ดีตอํ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ๑ เป็นนจิ
3. บาํ เพ็ญตนเปน็ ประโยชนต๑ อํ สาธารณชนทุกวนั )อยํางนอ๎ ยวนั ละ 1 คร้ัง(
4. จะต๎องปฏิบตั ติ นตํอเพื่อนรํวมหมํู รวํ มคณะของตน และยงั มเี พือ่ นตาํ งโรงเรียน ตาํ งอาํ เภออีก

)อยาํ งน๎อยสปั ดาหล๑ ะ 2 คน(
5. ไมํเคยถูกลงโทษเพราะความไมถํ กู ตอ๎ งเรยี บรอ๎ ย
6. ไดเ๎ คยชํวยเหลือชีวิตสัตวแ๑ ละมีความเมตตาสงสารสตั ว๑
7. ไมํเคยถูกลงโทษ เพราะขดั คาํ ส่งั บดิ า มารดา ครู อาจารย๑
8. ไมํเคยหลีกเลยี่ งงานท่ีได๎รบั มอบหมายใหท๎ าํ รํวมกบั คนอืน่
9. ได๎สะสมเงินซึง่ หาได๎โดยน้าํ พกั น้าํ แรง หรือได๎อดออมจากทบี่ ิดามารดาให๎ไว๎ แลว๎ เกบ็ ฝาก
ออมสนิ ไว๎วันละ....................บาท หรอื สปั ดาหล๑ ะ...........................บาท
10. เคยมทีความผดิ มาบา๎ ง แตํไดก๎ ลับตวั กลับใจปฏบิ ัตเิ ปน็ คนดขี องบา๎ น ของโรงเรยี นและของ
สงั คม และจะไมทํ าํ ในทางทเี่ สอื่ มเสยี อกี เด็ดขาด

คาปฏญิ าณของลกู เสือ

คําปฏิญาณของลูกเสือ เป็นถ๎อยคําท่ีกลําวออกมาด๎วยความจริงใจ เพ่ือเป็นหลักยึดเหน่ียวให๎
ลูกเสือปฏิบัติในส่ิงท่ีดีและถูกต๎อง คําปฏิญาณของลูกเสือสามัญ คือ คําม่ันสัญญาที่ลูกเสือให๎ไว๎แกํ
ผ๎บู ังคับบัญชา ตอํ หนา๎ แถว หรือในพิธที างลูกเสือ เปน็ หลกั สากลซง่ึ ลูกเสือทกุ ประเทศปฏิบตั ิเชนํ เดยี วกนั
หมด ตอํ หน๎าแถว ลูกเสือจะเป็นพลเมืองของชาติบ๎านเมืองก็โดยอาศัยหลักคําปฏิญาณเป็นอุดมการณ๑
นําไปปฏิบัตใิ นชวี ิต

คําปฏิญาณข๎อ 1 “ขา๎ จะจงรักภักดตี ํอชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย๑” หมายถึง ลกู เสือต๎องมคี วาม
เคารพ บูชา เทิดทูนไว๎ด๎วยความซื่อสัตย๑ จริงใจ เพราะชาติหมายถึงผืนแผํนดินและประชาชนท่ีอยูํ
รวํ มกนั มธี รรมเนียมประเพณี มีกฎหมายอนั เดยี วกนั คุ๎มครอง จึงควรปฏิบตั ิตํอชาติ ดังน้ี

1. ประพฤตติ นเป็นพลเมอื งดี
2. เคารพปฏิบัติตามคาํ สัง่ และกฎหมายบ๎านเมอื ง
3. ประพฤติตนตามธรรมเนียมประเพณีนยิ ม
4. รักคนในชาตแิ ละรกั แผนํ ดนิ ถน่ิ เกิดของตน

ศาสนา มพี ระคณุ แกเํ รา คอื ชวํ ยแนะนาํ ส่ังสอนให๎รด๎ู รี ชู๎ อบ และเว๎นความชวั่ ไมใํ หเ๎ บยี ดเบยี น
กนั ประพฤตชิ อบทั้งกาย วาจา ใจ ฉะนนั้ ลูกเสอื จงึ ต๎องเคารพและปฏิบัตติ อํ ศาสนาดงั นี้

20 คํมู อื คสมู่ งํือเสสง่ รเสมิ รแมิ ลแะลพะพัฒัฒนนาากกิจจิ กกรรรรมมลลกู ูกเสเสือทือกัทษักะษชะีวชติ ีวในติ สใถนาสนถศาึกนษศา ึกปษระาเภลทกูลเกู สเสืออื โสทามชญั ัน้ ปหรละกั ถสตูมรศลึกกู ษเสาือปเอที กี่ 6 27
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6

1. ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตอํ กิจการของศาสนา
2. เคารพเชอ่ื ฟงั ปฏบิ ตั ิตามคาํ สอนโดยมิเลอื กศาสนา
3. ละเวน๎ การทําความช่ัว กระทาํ แตคํ วามดี
4. ทําบุญบ๎างในเวลาหรอื โอกาสทีส่ ะดวก

พระมหากษัตริย๑ ทรงเป็นประมุขของประเทศชาติ ทรงเป็นพระประมุขของคณะลูกเสือ
แหํงชาติ และทรงเป็นม่ิงขวัญของปวงชนชาวไทยท้ังชาติ ลูกเสือต๎องปฏิบัติดังน้ี

1. แสดงความเคารพสกั การะตํอองคพ๑ ระประมุข และพระบรมฉายาลกั ษณ๑
2. ไมกํ ระทาํ การใดๆ ทีเ่ ปน็ การกระทบกระเทือนเสอื่ มเสยี พระเกยี รตคิ ณุ
3. ลกู เสือต๎องชวํ ยปอฺ งกนั มใิ ห๎คนอื่นกระทําการน้นั ดว๎ ย
คาํ ปฏิญาณขอ๎ 2 “ข๎าจะชวํ ยเหลอื ผอู๎ น่ื ทกุ เม่ือ” การบําเพ็ญประโยชน๑ตํอผู๎อนื่ เป็นเร่ืองสําคัญของ
ลูกเสอื สามญั ทพ่ี งึ ปฏิบตั ิ ลูกเสือพึงชํวยเหลือดูแล มีใจเมตตา กรุณา เอื้อเฟื้อตํอผ๎ูอื่น ลูกเสือกระทําได๎
ทุกโอกาส เชนํ ชํวยพอํ แมํ ครู อาจารย๑ ชํวยเหลอื โรงเรยี นตลอดจนชมุ ชน
คําปฏญิ าณขอ๎ 3 “ขา๎ จะปฏิบัติตามกฎของลกู เสือ” คําปฏิญาณและกฎของลูกเสือเปรียบเสมือน
ศลี ของลูกเสอื ท่เี ป็นหลักยึดเหนี่ยวให๎ลูกเสือประพฤติปฏบิ ตั ิในส่ิงดีงามตามกฎของลูกเสือ 10 ข๎อ อยําง
เครํงครัดโดยไมหํ ลีกเล่ียง

กฎของลกู เสอื มี 10 ข๎อ ดังน้ีคอื
1. ลูกเสอื มเี กียรตเิ ช่อื ถอื ได๎
2. ลูกเสอื มคี วามจงรกั ภักดตี อํ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ๑ และซอื่ ตรงตํอผ๎มู พี ระคณุ
3. ลกู เสอื มหี นา๎ ทีก่ ระทาํ ตนให๎เป็นประโยชนแ๑ ละชํวยเหลือผ๎ูอืน่
4. ลูกเสือเปน็ มติ รของคนทกุ คนและเปน็ พนี่ ๎องกบั ลกู เสอื อ่นื ทว่ั โลก
5. ลกู เสือเป็นผสู๎ ภุ าพเรยี บรอ๎ ย
6. ลกู เสือมคี วามเมตตากรณุ าตํอสัตว๑
7. ลูกเสือเช่อื ฟังคาํ สงั่ ของบิดา มารดา และผ๎ูบงั คับบญั ชาด๎วยความเคารพ
8. ลกู เสอื มิใจรําเรงิ และไมยํ ํอท๎อตํอความยากลาํ บาก
9. ลกู เสอื เป็นผ๎มู ธั ยัสถ๑
10. ลูกเสือประพฤติชอบดว๎ ยกาย วาจา ใจ
ขอ๎ 1. “ลกู เสอื มีเกยี รติเช่อื ถอื ได๎” คือ เป็นผม๎ู เี กียรตเิ ปน็ ทไ่ี ว๎วางใจของผ๎ูอ่นื เชอื่ ถอื ได๎ เม่ือกลําวส่ิง

ใดออกไปแลว๎ ตอ๎ งรกั ษาสัจจะ ปฏบิ ัติเหมือนปากพูดเสมอ เมื่อได๎รับมอบหมายสิ่งใดต๎องทําส่ิงนั้นให๎เสร็จ
เรียบร๎อยด๎วยความตั้งใจจริงจนเตม็ ความสามารถ ตามสตกิ าํ ลังไมํเพกิ เฉยหลีกเล่ียง

ข๎อ 2. “ลูกเสือมีความจงรักภักดีตํอชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย๑ และซ่ือตรงตํอผู๎มีพระคุณ”
หมายความวํา จะต๎องมีความจงรักภักดีตํอประเทศชาติของตน ศาสนา พระมหากษัตริย๑ ด๎วยใจจริง

28 คํูมือสงํ เสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสอื ทกั ษะชวี ติ ในสถานศึกษา ลกู เสอื โท ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6
ค่มู อื สง่ เสริมและพฒั นากิจกรรมลูกเสอื ทักษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสือสามัญ หลกั สูตรลกู เสือเอก 21
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6

ประพฤติตนเปน็ พลเมืองดี ปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย ระเบียบแบบแผน ประเพณี และมีความซ่อื ตรงตอํ พํอแมํ
ครู อาจารย๑ ผ๎ูบงั คบั บญั ชาและผูม๎ ีพระคุณ

ข๎อ 3. “ลูกเสือมีหน๎าท่ีกระทําตนให๎เป็นประโยชน๑และชํวยเหลือผ๎ูอื่น” หมายความวํา จะต๎อง
พยายามทําประโยชน๑แกํผอ๎ู ่ืน เตรียมพร๎อมเสมอทจี่ ะชํวยชีวติ ผอ๎ู ่ืนใหร๎ อดพน๎ จากอนั ตราย

ข๎อ 4. “ลกู เสือเปน็ มติ รของคนทุกคนและเป็นพี่น๎องกับลูกเสืออ่ืนท่ัวโลก” หมายถึง ลูกเสือจะต๎อง
เปน็ ผู๎โอบอ๎อมอารแี กํคนท่ัวไปโดยไมํเลอื กชาตหิ รือช้ันวรรณะโดยถือวําเป็นพ่ีน๎องกันท่ัวโลก

ข๎อ 5. “ลูกเสือเป็นผู๎สุภาพเรียบร๎อย” หมายความวํา เป็นผ๎ูมีกิริยาวาจาสุภาพแกํบุคคลทั่วไป
โดยเฉพาะเดก็ และคนชรา

ข๎อ 6. “ลกู เสือมีความเมตตากรณุ าตอํ สตั ว๑” หมายถึง เปน็ ผู๎มจี ติ ใจเมตตา กรุณา ไมํฆํา ไมํทรมาน

สัตว๑ เมื่อปูวยต๎องดูแลรักษา ถ๎าเป็นสัตว๑ที่ใช๎งานก็พยายามใช๎แคํพอสมควร และให๎สัตว๑นั้นได๎รับความ
สบายพอสมควร

ขอ๎ 7. “ลกู เสอื เชอื่ ฟงั คาํ สัง่ ของบดิ า มารดา และผ๎ูบงั คบั บญั ชาด๎วยความเคารพ” หมายความวํา
ลูกเสือจะต๎องเปน็ ผู๎ปฏบิ ัตติ ามคําสัง่ โดยไมํลงั เลใจ กระทําดว๎ ยความเตม็ ใจเข๎มแขง็

ข๎อ 8. “ลกู เสอื มีใจราํ เริงและไมยํ อํ ท๎อตํอความยากลาํ บาก” หมายถึง เป็นผม๎ู ีความยม้ิ แย๎มแจํมใส
ไมํบนํ ไมยํ ํอท๎อตํอความยากลาํ บาก แม๎จะพบอุปสรรค๑ก็ตอ๎ งฟนั ฝาู และอดทน

ขอ๎ 9. “ลูกเสือเปน็ ผูม๎ ัธยัสถ๑” หมายความวํา ลกู เสือจะตอ๎ งเป็นผู๎รู๎จักประหยัด รู๎จักเก็บหอมรอม
ริบ ใช๎จํายอยํางประหยัด ไมํปลํอยเวลาให๎เสียไปโดยเปลําประโยชน๑ และรู๎จักรักษาทรัพย๑ส่ิงของทั้งของ
ตนเองและผู๎อ่ืน

ขอ๎ 10. “ลูกเสือประพฤตชิ อบดว๎ ยกาย วาจา ใจ” หมายความวาํ ลูกเสือจะต๎องประพฤติตนดีงาม
วาจาเรยี บร๎อย มีจติ ใจสะอาด มคี วามสะอาดตํอบาปและเกรงกลัวตอํ ความชั่ว มีสติเหน่ียวรั้งไมํยอมกระทํา
ส่งิ ผดิ

การอภปิ ราย
ในฐานะที่ลูกเสือเคยเป็นลกู เสือสาํ รอง ลกู เสือสามัญ ตรี – โท มาแล๎วเคยได๎เรยี นรู๎เกยี่ วกับคํา

ปฏญิ าณและกฎมาพอสมควร ตามความเขา๎ ใจของลูกเสือในคาํ ปฏญิ าณและกฎแตลํ ะขอ๎ หมายความวาํ

อยํางไร ชํวยกนั อภิปรายและนําผลการอภิปรายเสนอตอํ ท่ปี ระชุมใหญํตามหัวข๎อตํอไปนี้

)ให๎เวลาหมูํละ 10 นาที รายงานตอํ ท่ปี ระชุมใหญํ หมลูํ ะ 2 นาท(ี

หมูํ 1 คําปฏิญาณ ข๎อ 1 – 3

หมูํ 2 กฎ ข๎อ 1 – 2

หมูํ 3 กฎ ข๎อ 3 – 4

หมูํ 4 กฎ ข๎อ 5 – 6

หมูํ 5 กฎ ข๎อ 7 – 8

หมูํ 6 กฎ ข๎อ 9 – 10

22 คํมู อื คส่มู งํอื เสสง่ รเสมิ รแมิ ลแะลพะพัฒฒั นนาากกจิิจกกรรรรมมลลูกูกเสเสือทอื กัทษกั ะษชะีวชิตีวในิตสใถนาสนถศาึกนษศา กึปษระาเภลทกูลเูกสเสือือโสทามชญั นั้ ปหรละักถสูตมรศลกึ ูกษเสาือปเอที กี่ 6 29
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6

เรื่องสน้ั ทีเ่ ปน็ ประโยชน์

ตวั อยํางของความอดทน

นักลาํ สตั วผ๑ ู๎ยิ่งใหญคํ นหนึง่ เปน็ ชาวแอฟริกาใต๎ชือ่ เอฟ ซี เซลูส๑ )F.C Selous( เป็นตัวอยํางอัน
ดีในเรื่องของความอดทนแบบลูกเสือ ในเมื่อเขาไปลําสัตว๑ท่ีบารอดเซแลนด๑ )Barotseland( ทางตอน
เหนอื ของแมํนาํ้ ซมั เบซี )Zambesi( เมอ่ื หลายปมี าแลว๎ ในตอนเท่ียงคืนวันหน่ึง คํายของเขาได๎ถูกโจมตี
อยาํ งทันทีทนั ใด โดยคนพ้นื เมืองฝูายศัตรซู ึง่ เขา๎ มายิงในระยะใกล๎และบกุ เข๎ามา

เขาและคนพ้ืนเมอื งซง่ึ มจี ํานวนตํางกันหนีกระจัดกระจายหลบไปในความมืดและซํอนตัวอยํูในกอ
หญ๎าสูง เซลูส๑เองค๎าได๎ปืนเล็กยาวกระบอกหนึ่งและลูกปืนบ๎างเล็กน๎อยเขาหลบอยูํอยํางปลอดภัยในกอ
หญ๎า แตํเขาหาพรรคพวกของเขาไมํพบ และเม่ือเห็นวําข๎าศึกได๎ยึดคํายของเขาไว๎เรียบร๎อยแล๎ว ทั้งยังมี
ความมืดอยขํู ๎างหน๎าเขา อีกสองสามชั่วโมงพอจะหนีเอาตัวรอด เขาจึงเริ่มออกเดินทางไปทางทิศใต๎ โดย
กลุมํ ดาววาํ ว )The Southers Cross( เปน็ ทห่ี มาย เขาหมอบคลานผํานยามของฝูายข๎าศึก แล๎ววํายน้ําข๎าม
แมนํ าํ้ และในท่ีสุดก็หนีออกมาได๎โดยมีเคร่ืองแตํงตัวแตํเพียงเสื้อเชิ้ต กางเกงขาส้ัน และรองเท๎า สองสาม
วันตํอมา ท้ังกลางคืน และกลางวนั เขามุํงเดนิ ไปทางทศิ ใต๎ และตอ๎ งหลบซํอนคนพ้ืนเมืองฝูายข๎าศึกบํอยๆ
เขาได๎ยิงกลวางเปน็ อาหาร

คืนวนั หนง่ึ เขาไดเ๎ ขา๎ ไปในหมูบํ ๎านซ่ึงคิดวาํ เปน็ มติ ร แตํแล๎วปนื ของเขาก็ถูกขโมยลักไปเขาจึงต๎อง
กลบั เป็นผ๎หู ลบหนีอกี ครง้ั หนง่ึ โดยไมํมอี าวุธสําหรบั ปอฺ งกันตนเอง หรือยงิ สตั วเ๑ ป็นอาหาร อยํางไรก็ดี เขา
ไมใํ ชํคนทย่ี อมแพใ๎ นเมอื่ ยังมโี อกาสแหํงชีวติ เหลอื อยูํ จงึ ได๎พยายามเดินตํอไป จนกระทั่งในท่ีสุด ได๎ไปถึง
สถานท่ีแหํงหน่งึ ณ ท่นี ่ัน เขาได๎พบพรรคพวกของเขาบางคน ซงึ่ หลบหนีมาได๎เชํนกัน หลังจากนั้น ก็รอน
แรมตํอมาจนถึงท๎องถ่ินท่ีเป็นมิตรด๎วยความปลอดภัย แตํคนพวกนี้คงต๎องประสบความยากลําบากอยําง
มหนั ต๑ สามสัปดาห๑ได๎ผํานพ๎นไปนับต้ังแตํถูกโจมตี และสํวนใหญํเซลูส๑ต๎องอยํูคนเดียว ถูกไลํติดตาม อด
อาหาร หนาวอยาํ งสาหสั ในตอนกลางคืน และร๎อนเหงื่อหยดในตอนกลางวัน

ไมํมีคนใดที่จะผํานความลําบากเชํนนี้มาได๎ เว๎นเสียแตํวําจะมีความอดทนเป็นพิเศษ แตํเซลูส๑
เป็นคนซึง่ ได๎บํารุงตนเองให๎แขง็ แรงมาตงั้ แตเํ ด็ก ด๎วยการรกั ษาตัวและออกกําลังกายและเขาก็ต้ังใจบาก
บัน่ อยตูํ ลอดเวลา

เรื่องน้ีสอนให๎รวู๎ าํ ถา๎ ทํานต๎องการผํานพ๎นการผจญภัยเชํนน้ีด๎วยความปลอดภัยในเม่ือทํานเป็นผู๎ใหญํ
และมิใชํดีแตํปาก ทํานจะต๎องฝึกอบรมตนเองให๎แข็งแรงมีอนามัยดี และคลํองแคลํว
วํองไว ตงั้ แตเํ ด็ก

30 คูมํ อื สํงเสริมและพฒั นากจิ กรรมลูกเสือทกั ษะชวี ิตในสถานศึกษา ลกู เสือโท ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6
คู่มือสง่ เสรมิ และพฒั นากิจกรรมลูกเสือทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา ประเภทลูกเสือสามญั หลกั สตู รลกู เสอื เอก 23
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6

แผนการจดั กจิ กรรมลูกเสอื หลกั สตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสอื เอก) ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 6

หนวํ ยที่ 3 วชิ าการของลูกเสือ เวลา 1 ชวั่ โมง
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 4 ความเป็นพนี่ อ๎ งของลูกเสือทว่ั โลก

1. จดุ ประสงค์การเรียนร๎ู
ลกู เสอื เขา๎ ใจความหมายของความเปน็ พน่ี อ๎ งของลกู เสอื ทั่วโลก

2. เนอื้ หา

2.1 กฎของลกู เสอื
2.2 ความหมายของกฎของลกู เสอื ขอ๎ ที่ 4 “ลูกเสือเปน็ มติ รของคนทกุ คน และเปน็ พี่นอ๎ งกับ

ลกู เสอื อน่ื ท่ัวโลก”

3. สื่อการเรยี นร๎ู

3.1 แผนภมู เิ พลง
3.2 เกม
3.2 ใบความร๎ู
3.3 เร่อื งส้ันทเี่ ป็นประโยชน๑

4.กจิ กรรม
4.1 พธิ เี ปิดประชมุ กอง )ชกั ธงขน้ึ สวดมนต๑ สงบน่ิง ตรวจ แยก(
4.2 เพลง หรือเกม
4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก๑ ารเรยี นร๎ู
1( ผก๎ู ํากับลูกเสอื สนทนาและนาํ อธบิ ายถึงความหมายของความเปน็ พน่ี อ๎ งของลกู เสือ

ทว่ั โลกวาํ มคี วามหมายและขอบขาํ ยความเปน็ พีน่ อ๎ งอยาํ งไรบา๎ ง
2( ผ๎ูกาํ กบั ลูกเสอื ใหล๎ กู เสอื รวํ มอภิปรายแสดงความคดิ เหน็ ในประเด็นตอํ ไปน้ี

ประเด็นที่ 1 ถ๎าลูกเสอื จะเปน็ มติ รของคนทกุ คนและลกู เสอื อน่ื ๆ มีแนวทางปฏิบตั ิ
อยํางไร? จงึ จะถอื วํา “เป็นมติ ร”

ประเดน็ ที่ 2 ทําอยาํ งไรลกู เสือจงึ จะเปน็ มติ รกบั ลกู เสือทว่ั โลกได๎

ประเด็นที่ 3 ลูกเสือจะปฏิบตั ติ นอยํางไรจงึ จะถือวาํ ตวั ลกู เสอื กองลกู เสอื
กลมํุ ลกู เสอื ของตวั เอง เปน็ มิตรกับลูกเสือทัว่ โลก

3( ผก๎ู ํากบั ลูกเสอื ให๎ลกู เสอื นาํ เสนอความคดิ เหน็ ของหมูํตนเองตอํ ที่ประชุมกอง
4( ผกู๎ าํ กับลกู เสอื เพมิ่ เตมิ แนวคิดเรื่องของความหมายและการนาํ สกํู ารปฏบิ ตั ิตนให๎เปน็

พน่ี อ๎ งลกู เสอื ท่ัวโลก

24 คํูมอื คสมู่ งํอื เสสง่ รเสมิ รแิมลแะลพะพฒั ฒั นนาากกจิจิ กกรรรรมมลลกู ูกเสเสอื ทือักทษกั ะษชะวี ชิตวีในติ สใถนาสนถศาึกนษศา กึปษระาเภลทกูลเูกสเสือือโสทามชญั ัน้ ปหรละกั ถสตูมรศลกึ ูกษเสาือปเอีทกี่ 6 31
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6

- การจะเป็นมิตรกบั ผอู๎ ืน่ ได๎ ตอ๎ งพยายามเขา๎ ใจคนอนื่ เขา๎ ใจอารมณ๑ ความรูส๎ กึ ความ
ตอ๎ งการของผูอ๎ นื่ ท่แี ตกตาํ งไปจากเรา แลว๎ ปฏิบัตติ อํ เขาอยํางเป็นมิตร เหน็ อกเห็น
ใจผู๎อนื่

- ยอมรบั ความคิดเหน็ และการแสดงออกของผู๎อื่นทีแ่ ตกตํางจากเรา ทําไดเ๎ ทําเรา
แลว๎ แสดงความช่ืนชมยนิ ดดี ว๎ ยความจรงิ ใจ

- ประพฤตปิ ฏิบตั ติ ํอผู๎อน่ื ดุจญาติ โดยไมํเลือกปฏบิ ตั ิ ไมํเลือกชาติ ศาสนา สผี วิ
ความยากจน ความรวย ถือวาํ ทกุ คนมคี วามดี เปน็ มติ รตอํ กนั ไมกํ ๎าวรา๎ ว รงั แก
ขมํ แหงผ๎อู ืน่ ฯ

4.4 ผ๎ูกาํ กับลูกเสอื เลาํ เร่ืองสั้นทเ่ี ป็นประโยชน๑
4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง )นดั หมาย ตรวจเครือ่ งแบบ ชกั ธงลง เลกิ (

5. การประเมนิ ผล
5.1 สงั เกตจากการอภิปรายในหมแูํ ละการนาํ เสนอความคดิ เหน็ ท่เี หมาะสมของหมํู
5.2 ซักถามความเขา๎ ใจและวิธีการปฏบิ ตั ติ นเป็นมิตร พ่นี ๎อง กบั ลกู เสอื อน่ื

6. คณุ ธรรม
1. ความกตญั ๒ู
2. ความรับผิดชอบ
3. อดุ มการณค๑ ุณธรรม

ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมที่ 4
เพลง

มติ รดี

มติ รดเี ปน็ ทีพ่ ึ่งพา ทกุ คราเดอื ดรอ๎ นเศร๎าใจ
หาทางขจัดปัดภยั ใหล๎ ห้ี นีไกลเมอื่ ยามอับจน

มติ รเลวมีแตสํ อพลอ ยกยอเพ่อื หวังประโยชนต๑ น
หากมภี ยั ตอ๎ งผจญ พวกนี้ทุกคนเลย่ี งลี้หนไี กล

32 คมูํ อื สงํ เสริมและพัฒนากจิ กรรมลูกเสอื ทักษะชวี ิตในสถานศึกษา ลกู เสอื โท ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6
คู่มอื สง่ เสริมและพฒั นากจิ กรรมลกู เสอื ทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสอื สามัญ หลักสูตรลูกเสอื เอก 25
ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 6

ใบความรู๎ กฎของลกู เสอื

กฎของลกู เสอื เปน็ รากฐานสาํ คญั ที่ขบวนการลกู เสอื ได๎สร๎างข้ึน ในกฎของลูกเสือได๎พูดไว๎ถึงวิถี
ชีวติ ทีล่ ูกเสือแตลํ ะคนต๎องยึดถือปฏบิ ัติ

มีบางสิ่งบางอยํางที่ทําให๎กฎของลูกเสือแตกตํางจากกฎเกณฑ๑อ่ืนๆ กลําวคือกฎหมายของ
ประเทศหรอื ของท๎องถิ่นจะระบุให๎พลเมอื งตอ๎ งทาํ หรอื ตอ๎ งไมํทาํ แตํกฎของลูกเสอื ไมํเป็นเชํนน้ัน
เพราะมไิ ด๎บังคบั ใหป๎ ฏบิ ตั ิ แตํเปน็ การปฏบิ ัตดิ ๎วยความสมัครใจ

กฎของลกู เสอื แตํละขอ๎ จะมีคําทม่ี ีความหมายสําคัญฯ ปรากฏอยํู ซึ่งเป็นความหมายอันลึกซ้ึงที่
ลูกเสือทกุ คนตอ๎ งทาํ ความเขา๎ ใจใหด๎ ี และสามารถอธบิ ายให๎ผ๎ูอน่ื ฟงั ได๎

ความหมายของกฎของลูกเสือ
กฎของลกู เสอื 10 ขอ๎ ดงั กลําวไวข๎ า๎ งต๎นนนั้ พอจะกลาํ วถึงความหมายทเี่ ป็น “หัวใจ” ของกฎ

แตลํ ะข๎อได๎ ดังน้ี

ลกู เสือคอื ........

ข๎อ 1: ผู๎มีเกียรติ ลกู เสือต๎องพูดความจริง รักษาคํามั่นสัญญา มีความซ่ือสัตย๑ท่ี

แสดงให๎ทกุ คนเห็นได๎

ขอ๎ 2: ผู๎จงรักภกั ดี ลูกเสือต๎องมีความจริงใจตํอชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย๑

ตลอดจนครอบครวั ผบ๎ู ังคับบัญชาลกู เสือ เพื่อนและโรงเรียน

ข๎อ 3: ผ๎บู ําเพญ็ ประโยชน๑ ลูกเสือเกี่ยวข๎องกับคนทุกคนด๎วยการกระทําใดๆ เป็นการ

ชวํ ยเหลอื ดว๎ ยความสมคั รใจ ไมํต๎องการส่งิ ตอบแทนหรอื รางวลั

ขอ๎ 4: ผูเ๎ ปน็ มิตร ลูกเสือเป็นมิตรกับคนทุกคน และเป็นพี่น๎องกับบรรดาลูกเสือ

อื่น โดยพยายามเข๎าใจคนอ่ืน ยอมรับนับถือความคิดและการ

แสดงออกของคนอ่นื มากกวาํ ของตนเอง

ขอ๎ 5: ผ๎ูสภุ าพเรียบรอ๎ ย ลูกเสือมีความสุภาพเรียบร๎อยกับคนทุกคนโดยไมํแบํงชั้น

วรรณะมีมารยาทดงี ามทจ่ี ะทาํ งานรวํ มกับผอ๎ู ่ืนได๎

ข๎อ 6: ผ๎ูเมตตากรุณา ลูกเสือเข๎าใจแล๎ววําความสุภาพจะสร๎างความแข็งแกรํงให๎กับ

ตนเอง และจะปฏบิ ัติตอํ ผูอ๎ น่ื เหมอื นกับที่เขาต๎องการได๎รับ เขา

จะไมํทาํ รา๎ ยหรือฆาํ สิ่งทีม่ ชี ีวติ อ่ืนๆ โดยไมมํ ีเหตผุ ลอนั ควร

ข๎อ 7: ผเ๎ู ชื่อฟงั คาํ สั่ง ลูกเสอื เปน็ ผู๎ปฏิบตั ิตามกฎเกณฑข๑ องครอบครัว โรงเรียน และ

กองลูกเสือของตน และจะปฏิบัติตามกฎหมายของบ๎านเมือง

ถ๎าคิดวํากฎเกณฑ๑ใดไมํยุติธรรม ลูกเสือก็สามารถหาวิธีการ

แกไ๎ ขปรับปรงุ มากกวาํ การไมเํ คารพเช่อื ฟังใคร

26 คมูํ ือคสู่มํงอื เสสง่ รเสมิ รแิมลแะลพะพฒั ฒั นนาากกจิจิ กกรรรรมมลลูกกู เสเสือทือกัทษักะษชะีวชติ ีวในติ สใถนาสนถศาึกนษศา กึปษระาเภลทกูลเูกสเสืออื โสทามชัญัน้ ปหรละกั ถสตูมรศลึกูกษเสาือปเอีทก่ี 6 33
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 6

ข๎อ 8: ผ๎รู าํ เริง ลกู เสอื จะราํ เริงแจํมใสและตอํ สูก๎ บั ปญั หาหรืออุปสรรคท่ีปรากฏ
ขอ๎ 9: ผู๎มธั ยสั ถ๑ ในงานของเขาได๎ และจะพยายามทําใหผ๎ ๎ูอนื่ มคี วามสุข
ลูกเสือควรประหยดั เงนิ เพื่อไว๎ใช๎ในคราวท่ีจําเป็นหรือเม่ือยาม
ขอ๎ 10: ผปู๎ ระพฤตชิ อบ ทเ่ี จ็บไข๎ได๎ปูวย แตํในบางคร้ังกไ็ มคํ วรตระหน่ีจนเกินไปเพราะ

อาจทําให๎สุขภาพราํ งกายทรดุ โทรม
ลูกเสือจะเป็นผ๎ูมีความสะอาดท้ังกาย ใจ ความคิด ตลอดจน
การพูดจา นอกจากน้ันลูกเสือจะต๎องมองโลกในแงํดี โดยพูด
เพอ่ื สร๎างสรรค๑มากกวาํ ทาํ ลาย

เร่อื งสัน้ ท่ีเป็นประโยชน์

ลูกเสอื เป็นมิตรของคนทุกคน
น.ส.จฑุ ามาส ชํุมเมอื งปกั ผ๎ูแตงํ

งานชุมนุมลูกเสือโลกคร้ังท่ี 23 ณ ประเทศญี่ปุูน เม่ือปี 2015 มีประเทศตํางๆ เข๎ารํวม 142
ประเทศ ลกู เสือและผู๎เกยี่ วข๎องรวํ มงานกวาํ สามหมื่นคน สําหรับประเทศไทยได๎เข๎ารํวมประมาณ 300 กวํา
คน หนงึ่ ในจาํ นวนนนั้ มีลกู เสอื ธนากรซ่ึงเป็นลูกเสือตํางจังหวัด ได๎มีโอกาสเข๎ารํวมด๎วย ธนากรภาคภูมิใจ
และตื่นเต๎นมากเพราะเป็นการเดินทางไปตํางประเทศเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาด๎วย เมื่อเสร็จสิ้นงาน
ชุมนมุ ธนากรกลบั มาดว๎ ยความภาคภมู ใิ จมากย่งิ กวาํ กอํ นไปเสียอีก ผู๎อํานวยการโรงเรียนให๎ธนากรเลําสิ่ง
ประทบั ใจท่ีเขาไดร๎ บั ให๎เพอื่ นทีโ่ รงเรยี นฟงั

ธนากรเลําวํางานชุมนุมลูกเสือโลก เรียกเป็นภาษาอังกฤษวํา “World Scout Jamboree”
“Jamboree” เปน็ ภาษาอาฟรกิ นั ซูลู หมายถงึ ท่ชี นเผําเรียกพรรคพวกให๎มารํวมกันชมุ นมุ เปน็ จาํ นวนมาก
การไปรํวมงานชุมนุมลูกเสือโลกครั้งที่ 23 ณ ประเทศญ่ีปูุนคร้ังนี้ ธนากรมีความประทับใจในวัน
แลกเปล่ียนวัฒนธรรม หรือ Culture Day ในวันที่มีการแลกเปล่ียนวัฒนธรรมหลากหลายด๎านท้ังด๎าน
อาหาร การละเลํน ฯลฯ ธนากรชอบการทํางานรํวมกันตามโครงการท่ีสมัครใจ เขาได๎ฝึกเร่ืองความ
รบั ผิดชอบที่จะจดจําไมมํ ีวนั ลืมเล่อื นกค็ อื การได๎อยํูรํวมกนั ฉนั ท๑พ่นี อ๎ งของบรรดาลกู เสอื ประเทศตาํ งๆ แม๎
จะตาํ งเชอ้ื ชาติ ศาสนา วัฒนธรรม เพศและวัย แตํก็ไมํสามารถกีดก้ันความสามัคคีผูกพันกันได๎เลยทํา
ให๎ธนากรนึกถงึ กฎของลูกเสือขอ๎ ท่ี 4 ทีว่ ํา “ลกู เสอื เป็นมิตรของคนทกุ คนและเป็นพ่ีน๎องกับลูกเสืออ่ืนทั่ว
โลก เพ่ือนๆ คุณครูและบุคลากรในโรงเรียนช่ืนชมธนากรเป็นบุคคลตัวอยํางที่นาํ ช่ือเสียงมาสํูโรงเรียน

เร่อื งน้สี อนให๎รูว๎ าํ ลกู เสอื เปน็ มิตรของคนทกุ คน และเปน็ พน่ี อ๎ งกับลกู เสอื อ่ืนทั่วโลก

34 คมํู อื สงํ เสริมและพัฒนากจิ กรรมลูกเสือทกั ษะชีวิตในสถานศกึ ษา ลกู เสอื โท ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6
คู่มอื ส่งเสรมิ และพัฒนากิจกรรมลกู เสอื ทกั ษะชีวติ ในสถานศึกษา ประเภทลูกเสอื สามญั หลกั สูตรลูกเสือเอก 27
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6

แผนการจดั กจิ กรรมลกู เสอื หลกั สตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสอื เอก) ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6

หนํวยท่ี 3 วิชาการของลูกเสือ เวลา 3 ช่วั โมง
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 5 การผกู เงื่อน

1. จุดประสงค์การเรยี นรู๎
ลกู เสอื สามารถผูกเงอื่ นทจ่ี ําเป็นสาํ หรบั ชํวยชวี ติ คนทีป่ ระสบอบุ ัติภยั ได๎

2. เนอ้ื หา
การใช๎ประโยชน๑ของการผกู เงอื่ น บํวงสายธนู บวํ งสายธนู 2 ชน้ั บวํ งสายธนู 3 ชั้น บวํ งสายธนู

พนั หลกั และเงอื่ นเก๎าอี้

3. ส่อื การเรียนร๎ู
3.1 แผนภมู เิ พลง

3.2 เกม
3.2 เชอื กประจาํ กาย ไม๎พลอง/ไมไ๎ ผํ แผนภมู ิเง่ือนชนิดตาํ ง ๆ
3.3 ใบความรู๎หรือแบบจําลองการผกู เง่อื น
3.4 เรือ่ งสน้ั ท่ีเป็นประโยชน๑

4.กิจกรรม
4.1 กิจกรรมครัง้ ท่ี 1

1( พิธเี ปิดประชมุ กอง )ชกั ธงขน้ึ สวดมนต๑ สงบนิ่ง ตรวจ แยก(
2( เพลง หรือเกม
3( กิจกรรมตามจดุ ประสงคก๑ ารเรยี นร๎ู

)1( ผก๎ู าํ กบั ลูกเสอื จดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนตามฐาน และให๎ลูกเสอื ไดฝ๎ กึ ปฏบิ ัติ
ฐานท่ี 1 เง่อื นบํวงสายธนู
ฐานท่ี 2 เง่ือนบวํ งสายธนู 2 ช้นั
ฐานท่ี 3 เงือ่ นบํวงสายธนู 3 ช้นั

)2( ผก๎ู าํ กับลูกเสอื และลกู เสือสรุปความรท๎ู ไี่ ด๎รร๎ู วํ มกัน

4( ผ๎กู าํ กับลกู เสอื เลาํ เรอื่ งสั้นท่ีเป็นประโยชน๑

5( พธิ ปี ดิ ประชมุ กอง )นัดหมาย ตรวจเครื่องแบบ ชกั ธงลง เลิก(

4.2 กิจกรรมคร้ังที่ 2

1( พธิ ีเปดิ ประชมุ กอง )ชักธงขนึ้ สวดมนต๑ สงบน่งิ ตรวจ แยก(
2( เพลง หรอื เกม
3( กิจกรรมตามจดุ ประสงค๑การเรียนรู๎

28 คํมู ือคสู่มํงือเสส่งรเสิมรแมิ ลแะลพะพฒั ฒั นนาากกจิิจกกรรรรมมลลูกูกเสเสือทอื ักทษกั ะษชะวี ชิตีวในิตสใถนาสนถศาึกนษศา ึกปษระาเภลทกูลเกู สเสอื ือโสทามชัญั้นปหรละักถสูตมรศลกึ ูกษเสาอื ปเอที กี่ 6 35
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6

)1( ผ๎ูกาํ กบั ลูกเสอื จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนตามฐาน และใหล๎ ูกเสอื ไดฝ๎ กึ ปฏบิ ตั ิ
ฐานท่ี 1 เง่อื นบวํ งสายธนพู นั หลัก
ฐานท่ี 2 เงือ่ นเกา๎ อ้ี
ฐานที่ 3 ทดสอบการผกู เงอ่ื นทัง้ 5 ชนิด

)2( ผ๎ูกํากบั ลกู เสือและลูกเสือรวํ มกนั สรุปความรทู๎ ่ไี ดจ๎ ากบทเรยี น
4( ผู๎กํากับลกู เสอื เลาํ เร่ืองส้นั ทเี่ ปน็ ประโยชน๑
5( พิธีปิดประชุมกอง )นดั หมาย ตรวจเครื่องแบบ ชกั ธงลง เลิก(

4.3 กิจกรรมครงั้ ที่ 3
1( พธิ ีเปิดประชุมกอง )ชักธงขนึ้ สวดมนต๑ สงบนง่ิ ตรวจ แยก(
2( เพลง หรือเกม
3( กิจกรรมตามจดุ ประสงค๑การเรียนรู๎
- ผ๎กู าํ กบั ลกู เสือสนทนาถงึ เหตุการณ๑อันตรายที่เกิดขึ้นและอาจมีคนต๎องการขอความ
ชวํ ยเหลือ เชํน การชวํ ยคนตกนาํ้ การชํวยคนตกเหว การไตํจากที่สูง ช่ัวโมงน้ีจึง
เป็นกจิ กรรมการนาํ เงอื่ นไปใช๎ประโยชน๑ โดยผู๎กาํ กับลูกเสือให๎นายหมํูจับสลากเงื่อน
เชือกท่ีกําหนด แลว๎ รํวมกันระดมความคดิ ในการแสดงบทบาทสมมตุ โิ ดยใชเ๎ ง่อื นทจี่ ับ
สลากไดไ๎ ปใชใ๎ นการชวํ ยเหลอื ผูท๎ ีต่ กอยใํู นอันตรายได๎อยํางไร
4( ผ๎กู าํ กับลูกเสอื เลาํ เรือ่ งที่สน้ั เป็นประโยชน๑
5( พธิ ปี ดิ ประชมุ กอง )นดั หมาย ตรวจเคร่อื งแบบ ชกั ธงลง เลิก(

5. การประเมินผล
สงั เกตการมสี ํวนรวํ มในการทาํ กิจกรรม และตรวจสอบความถกู ตอ๎ งในการปฏบิ ตั ิ

6. คุณธรรม
ความรับผดิ ชอบ

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 5
เพลง

เพลง รกั กันไว๎

)สร๎อย( เราต๎องรกั กนั ไว๎ เราต๎องรกั กันไว๎ เราต๎องรักกนั ไว๎
โอุลกู เสือ เช้ือชาติไทย สดชน่ื แจํมใจ จติ ใจรําเรงิ
เราลว๎ นตํางบนั เทงิ รนื่ เรงิ สําราญ )สรอ๎ ย(

36 คํูมอื สงํ เสริมและพัฒนากจิ กรรมลูกเสือทักษะชวี ิตในสถานศึกษา ลกู เสอื โท ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6
คู่มือสง่ เสริมและพัฒนากจิ กรรมลกู เสอื ทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสอื สามัญ หลักสูตรลกู เสอื เอก 29
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6

เพลง ลกู เสือไทย (แล็คตาซอย)

ลูกเสือสาํ รองลูกเสอื สามัญ พวกเรายดึ ม่นั กฎลกู เสอื ไทย
ชวํ ยเหลือผูอ๎ น่ื ไมวํ ําชนชาติใด เราภมู ิใจทีไ่ ดท๎ าํ ดี

เพลงเงอ่ื น
เชอื กขนาดเทาํ กัน ตอํ กนั ดว๎ ยเงอื่ นพิรอด
สองเสน๎ ไมเํ ทาํ กนั ตลอด สมาธิสอดตอํ เปน็ เสน๎ ยาว
บํวงสายธนู อาจชํวยกู๎ชวี ติ ยนื ยาว
กระหวดั ไม๎ ใชเ๎ ชือกยาว ๆ )ซ้ํา( ลากอา๎ วๆ ไมหํ ลดุ ขาดเอย

เกม

มงั กรกินหาง

วิธเี ลํน
แบงํ ลูกเสือออกเป็น 3 - 4 แถว จับเอวตํอกันเป็นแถว คนที่ยืนอยํูหัวแถวเป็นปากมังกร คนท่ี
เปน็ ปากมงั กร พยายามไลจํ บั คนท๎ายแถวของมังกรตัวอื่นๆ ถ๎าแถวใดถูกจับก็ต๎องตํอกัน ในที่สุดจะมี
แถวเดยี วเป็นมังกรหางยาว แล๎วหัวมงั กรก็ไลํจับหางมังกรของตวั เอง
การตดั สิน
หัวมงั กรจะตอ๎ งไลํจับหางมงั กรของตวั เองใหไ๎ ด๎ การเลํนจงึ สิ้นสุดลง

30 คํูมอื คสมู่ งํือเสสง่ รเสมิ รแมิ ลแะลพะพัฒัฒนนาากกิจิจกกรรรรมมลลกู ูกเสเสอื ทือกัทษักะษชะีวชิตวีในิตสใถนาสนถศากึ นษศา กึปษระาเภลทกูลเูกสเสอื ือโสทามชัญั้นปหรละักถสูตมรศลึกูกษเสาอื ปเอีทกี่ 6 37
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6

ใบความรู๎

การผูกเง่ือน
1. เง่อื นบํวงสายธนู

ประโยชน์
1. ใช๎ผกู สัตว๑กับหลักต๎นไม๎ สัตว๑สามารถเดนิ หมนุ รอบๆได๎
2. ใช๎ผกู กับเรือกบั หลัก เม่อื นาํ้ ขน้ึ หรอื ลงบํวงจะเลือ่ นลงไดเ๎ อง
3. ใช๎เปน็ บํวงชวํ ยคนตกนํ้า หรือใช๎คลอ๎ งคน เพอ่ื นหยํอนตัวจากทส่ี งู ลงสทํู ต่ี าํ่
4. ใชค๎ ล๎องคนั ธนู

วธิ กี ารผูก

ขน้ั ตอนท่ี 1 ขน้ั ตอนที่ 2

ขน้ั ตอนท่ี 3 ข้นั ตอนที่ 4

1. ขดเชอื กให๎เป็นบํวงคล๎ายเลขหก
2. จับปลายเชือกสอดเขา๎ ไปในบวํ ง สอดจากดา๎ นลําง
3. จับปลายเชือกออ๎ มหลังเลขหก แล๎ววกสอดปลายลงในบํวงเลขหกและจัดเงอ่ื นให๎แนนํ

38 คูมํ ือสํงเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสอื ทักษะชวี ติ ในสถานศึกษา ลกู เสอื โท ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6
คูม่ อื ส่งเสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลกู เสอื ทกั ษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสอื สามญั หลกั สตู รลูกเสือเอก 31
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6

2. เงอ่ื นบวํ งสายธนู 2 ช้ัน
ประโยชน์

1. ชํวยคนทีห่ มดสติ โดยการคล๎องดงึ คนจากที่ตาํ่ ขึ้นสทํู ีส่ งู เชนํ ชวํ ยคนขึน้ จากกน๎ เหวจากบํอ
เปน็ ตน๎ หรอื ชวํ ยคนจากที่สงู ลงสพํู นื้ ดิน

2. ใช๎คล๎องกบั เสาหรอื ตน๎ ไม๎ ทาํ ใหแ๎ ขง็ แรงทนทานจากการยดึ
3. ใชผ๎ ูกคลอ๎ งขอเหลก็ เพ่อื ใช๎เกย่ี วยกสิ่งของหรอื หยอํ นลงในท่ตี ํ่าๆ

วธิ ผี ูก

ข้นั ท่ี 1 ขน้ั ท่ี 2 ข้ันท่ี 3

ข้นั ท่ี 4 ข้นั ท่ี 6

1. ขดเชอื กท่ีทบกนั ใหเ๎ ปน็ หวํ งคลา๎ ยเลขหก
2. จบั ปลายเชอื กสอดเขา๎ ไปในบํวงเลขหก จะเกดิ บํวง A
3. จบั ปลายเชอื กมาคลอ๎ งบํวง A
4. ดงึ เชอื กเสน๎ บนขึ้น และพลกิ เชอื กเสน๎ ลาํ งกลับขึน้ และดงึ เชอื กใหแ๎ นนํ

32 คูมํ อื คสู่มํงอื เสสง่ รเสิมรแิมลแะลพะพฒั ัฒนนาากกจิจิ กกรรรรมมลลูกูกเสเสอื ทอื ักทษักะษชะวี ชติ ีวในติ สใถนาสนถศากึ นษศา ึกปษระาเภลทกูลเูกสเสือือโสทามชัญัน้ ปหรละกั ถสูตมรศลึกกู ษเสาอื ปเอีทก่ี 6 39
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6

3. เง่อื นบวํ งสายธนู 3 ชัน้
ประโยชน์
1. ใชผ๎ ูกกบั ขอ๎ เหลก็ ไดท๎ ีละหลายข๎อ เพ่ือใช๎เกย่ี วยกสิ่งของหรอื หยอํ นส่งิ ของ
2. ใช๎กับปั้นจ่ันยกสงิ่ ของ
3. ชํวยดงึ ผ๎ูทต่ี ดิ อยูํในที่ตํา่ ซึ่งใช๎แทนเงอื่ นบวํ งสายธนสู องช้ัน และเก๎าอไ้ี ด๎

วธิ ีผกู

ขั้นท่ี 1 ข้นั ท่ี 2 ขนั้ ท่ี 3

1. ขดเชอื กทท่ี บกนั ใหค๎ ลา๎ ยกับเลขหก
2. จบั ปลายเชอื กสอดเขา๎ ไปในบวํ ง แลว๎ ดึงออ๎ มขนึ้ ลอดใตเ๎ ชือก
3. นําปลายเชือกดา๎ นเดิมสอดลงบวํ งอกี ครัง้
4. ขยายปลายเชอื กให๎เป็นบํวงขนานกบั บํวงเดมิ แลว๎ ดงึ เชอื กให๎แนนํ

4. เง่อื นบํวงสายธนูพันหลัก
ประโยชนใ๑ ชผ๎ ูกเชอื กพนั หลักใหแ๎ นนํ เพอื่ ประโยชน๑ในงานตาํ งๆ เชนํ คล๎องสตั ว๑ คลอ๎ งเรอื

เปน็ ต๎น

วธิ ีผูก

1. ขดเชือกให๎เป็นบวํ งคล๎ายเลขหก

2. จับปลายเชือกสอดเขา๎ ไปในบํวง สอดจากดา๎ นลําง

1. ชํวยคนทตี่ ิดอยํูบนทีส่ ูง เชํน ตึก อาคาร ตน๎ ไม๎ เปน็ ต๎น
2. ชํวยคนทต่ี ิดอยูํในทต่ี ่าํ เชํน ก๎นบอํ เหว เป็นตน๎

3. จับปลายเชือกออ๎ มหลังเลขหก แลว๎ วกสอดปลายลงในบวํ งเลขหกและจัดเงอ่ื นให๎แนํน

40 คมูํ อื สงํ เสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ลกู เสือโท ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6
คู่มือส่งเสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสอื สามัญ หลักสตู รลูกเสือเอก 33
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6

5. เงื่อนเกา๎ อ้ี
ประโยชน์
วธิ ีผูก

ขัน้ ท่ี 1 ขั้นท่ี 2 ขัน้ ท่ี 3

ขน้ั ท่ี 4 ขัน้ ท่ี 5

1. ทําเชือกเปน็ สองบวํ งสลับข๎างกนั แล๎วดงึ บวํ งทง้ั สองซ๎อนกัน จากนนั้ ดึงแตํละด๎านตามแนว
ลกู ศร

2. จะเกดิ เป็นบวํ ง A และ B นาํ เชือกเสน๎ ท่ีหนง่ึ คลอ๎ งบํวง A และนาํ ปลายเชือกเส๎นท่ีสองคล๎อง
บํวง B

3. ดงึ เชอื กทัง้ สองเสน๎ และบวํ ง AB ใหแ๎ นนํ

34 คํูมือคสู่มํงือเสสง่ รเสิมรแิมลแะลพะพัฒฒั นนาากกิจิจกกรรรรมมลลูกกู เสเสอื ทือักทษกั ะษชะวี ชิตวีในติ สใถนาสนถศากึ นษศา กึปษระาเภลทกูลเกู สเสืออื โสทามชัญั้นปหรละกั ถสตูมรศลึกกู ษเสาอื ปเอที กี่ 6 41
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6

เร่อื งสนั้ ทเ่ี ปน็ ประโยชน์ คา๎ งคาวเลือกพวก

คา๎ งคาวน้นั ถอื วาํ ตนกม็ ีปกี เหมอื นนก เเละก็มีหูเหมือนสัตว๑อ่ืนท่ัวๆ ไปดังน้ันเมื่อนกยกพวกไป
ตํอส๎กู บั สัตว๑อ่ืนๆ ค๎างคาวก็ขอตัวไมํเข๎าข๎างฝูายใด โดยทําตัวเป็นกลางเเตํเมื่อพวกของนกมีทําทีวําจะ
ชนะ คา๎ งคาวกป็ ระกาศตัวไปเข๎ากับฝูายนกตํอมาพวกนกจะพลาดทําเสียทีเเกํสัตว๑อ่ืนๆ ค๎างคาวก็ผละ
จากนกไปเข๎าพวกกับสัตว๑อื่นๆ ตํอมานกตํอส๎ูจนใกล๎จะได๎ชัย ค๎างคาวก็กลับมาอยูํข๎างฝูายพวกนกอีก
เมอ่ื นกกับสตั วอ๑ นื่ ๆ ทําสัญญาสงบศกึ เเละเปน็ มิตรตํอกัน ทั้งสองตาํ งกข็ บั ไลํค๎างคาว ไมํยอมให๎เข๎าพวก

ด๎วยคา๎ งคาวอับอายจึงไปซํอนตวั อยใํู นถา้ํ จะออกจากถ้าํ ไปหาอาหารในตอนกลางคืนเทาํ นนั้

เร่ืองนสี้ อนให๎วํา ผู๎ท่ีขาดความจรงิ ใจ ไมํมใี ครอยากคบหาดว๎ ย

ราชสหี ก์ ับหนู

ขณะท่ีราชสหี ต๑ ัวหน่ึงกาํ ลังนอนหลับอยํูในปูาใหญํมีแมํหนูตัวหน่ึงเดินผํานมาอยํางรีบเรํงมันคิด
วาํ กาํ ลังเดินแหวกพงหญ๎าอยํูแตทํ ่ีจริงกลับกลายเป็นขนลาํ แพนคอของราชสหี ๑ !!!

“ใคร?? ใครมนั บังอาจรบกวนการนอนของข๎า ? ”ราชสีห๑คํารามพร๎อมกับใช๎มืออันใหญํโตตะปบ
แมํหนูไว๎ทันที“นึกวําอะไร..ท่ีแท๎ก็เป็นแคํหนูตัวเล็ก ๆไมํพอยาใส๎เป็นอาหารมื้อกลางวันของข๎าหรอก”
แมํหนูได๎แตํอ๎อนวอนขอชีวิต “ได๎โปรดไว๎ชีวิตด๎วยข๎ายังมีลูกตัวเล็ก ๆเจ็ดตัวต๎องเล้ียงดู ถ๎าทํานเมตตา
ปลอํ ยขา๎ ไปสักวนั หน่ึงข๎าจะกลบั มาตอบแทนพระคณุ ของทาํ นให๎จงได๎”

“เจา๎ ตัวเล็กแคํน้ีเอง จะมีปัญญาชํวยเหลืออะไรข๎าได๎ลํะ”ราชสีห๑หัวเราะอยํางขบขัน แล๎วก็ปลํอย
แมหํ นไู ปในทีส่ ุดแมํหนูไดแ๎ ตขํ อบคุณซํา้ แล๎วซา้ํ เลํากํอนทีจ่ ะจากไป

ตอํ มาไมํนานราชสีห๑ตวั นั้นไดอ๎ อกลาํ เหย่ือ แตพํ ลาดทําไปติดอยใํู นตาขํายที่นายพรานวางดักไว๎
" กาววว.๑ .."ราชสหี ๑ร๎อง และพยายามด้นิ รนใหห๎ ลุดจากตาขาํ ย แตํก็ไมสํ าํ เร็จ
แมหํ นกู บั ลูก ๆของมนั ได๎เดนิ ทางผาํ นมาทางนน้ั พอดี.. ไดย๎ ินเสยี งร๎องของราชสหี ก๑ ็จาํ ไดพ๎ วกมนั
แมํลูกจึงชํวยกนั ใชฟ๎ ันอันแขง็ แรงแทะเชอื กตาขาํ ยจนขาดออกจากกนั ชํวยราชสหี ๑ให๎พ๎นภยั จากพรานปูา
ซ่งึ กาํ ลงั ถอื ปืนรีบเดนิ มาพอดี
“ขอบคุณพวกเจ๎ามาก พวกหนูใจดีท้ังหลาย เราไมํเคยคาดคิดมากํอนเลยวําสัตว๑ท่ีมีตัวเล็กๆ
อยํางพวกเจา๎ จะมจี ิตใจสูงสงํ รู๎จักตอบแทนคณุ อยาํ งท่ีเคยบอกเราต๎องขอโทษท่ีแตํกํอนน้ันไมํเชื่อวําเจ๎า
จะชํวยเราได๎”แล๎วราชสหี ๑กจ็ ากไปอยํางรวดเรว็ ....

เรอื่ งนส้ี อนให๎วํา ถึงแม๎จะตัวเล็กมีพลังเพียงน๎อยนิดแตํถ๎ารํวมมือรํวมพลังกันแล๎วจะสามารถ
เปลยี่ นเป็นพลงั อนั ยิง่ ใหญไํ ด๎

42 คํูมอื สงํ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลกู เสือทักษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือโท ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6
คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลกู เสอื ทกั ษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสือสามญั หลกั สตู รลกู เสอื เอก 35
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6

คนตดั ไมก๎ ับเทพารักษ์

เทพารักษร๑ ส๎ู กึ สงสารคนตดั ไมท๎ นี่ ั่งร๎องไหอ๎ ยํรู ิมลาํ ธาร เขาทาํ ขวานตกลงไปในลําธารและกลัววํา
จะหมดอาชพี เพราะไมมํ ีเครื่องมอื ทาํ กิน

เทพารักษ๑จึงลงไปงมเอาขวานทองคาํ มาให๎ แตคํ นตดั ไม๎เปน็ คนซอื่ จึงตอบวําขวานทองน้ันไมํใชํ
ของตนครนั้ เทพารักษ๑งมเอาขวานเงินมาใหเ๎ ขากไ็ มํรบั อีก เทพารกั ษ๑จงึ งมเอาขวานเหลก็ ธรรมดาๆ มาให๎
คนตัดไม๎ดีใจมากบอกวําเป็นขวานของตน เทพารักษ๑ช่ืนชมในความซ่ือสัตย๑ของคนตัดไม๎ จึงมอบทั้ง
ขวานทองเเละขวานเงินให๎เขาเปน็ ของขวญั คนตดั ไมด๎ ใี จมากและกลบั บ๎านไปเลาํ ให๎เพอ่ื นบา๎ นฟงั

แตํเพ่ือนบ๎านเป็นคนโลภ จึงรีบเข๎าปูาตัดไม๎เเล๎วเเกล๎งทําขวานตกลงไปในลําธาร
เพ่อื ใหเ๎ ทพารักษ๑มาชวํ ยบา๎ งเม่อื เทพารกั ษ๑งมเอาขวานทองคํามาให๎ชายโลภรีบตอบรับวําเป็นขวานของ
เขาเทพารกั ษเ๑ ห็นชายผูน๎ ั้นพูดเท็จและโลภมากจึงทิ้งให๎เขาน่ังร๎องไห๎ตามลําพังเพราะเขาไมํเหลือแม๎แตํ
ขวานเหล็ก

เรื่องนส้ี อนใหว๎ าํ ความซือ่ ยอํ มนาํ ความเจริญให๎ไดด๎ ีกวาํ ความโลภ

36 คํูมอื คชสู่มั้นงํอืปเสรส่งะรเถสิมมรแศมิ ลกึ แษะลพาะปพัฒีทัฒน่ี น6าากกจิิจกกรรรรมมลลกู กู เสเสอื ทอื ักทษักะษชะวี ชิตีวในิตสใถนาสนถศาึกนษศา กึปษระาเภลทกูลเูกสเสอื อื โสทามชญั ้ันปหรละักถสตูมรศลึกกู ษเสาือปเอที กี่ 6 43

แผนการจดั กิจกรรมลูกเสือ หลักสูตรลูกเสือสามัญ (ลูกเสอื เอก) ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6

หนํวยท่ี 3 วิชาการของลกู เสอื เวลา 2 ช่ัวโมง
แผนการจัดกิจกรรมท่ี 6 โครงการบุกเบกิ

1. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู๎
1.1 ลกู เสอื สามารถบอกประโยชน๑และแสดงวิธผี กู แนนํ แบบตาํ งๆ ได๎
1.2 ลูกเสือทําโครงการบกุ เบิก 1 โครงการ โดยการผกู แนนํ อยาํ งน๎อย 2 วิธี

2. เนือ้ หา

2.1 การผกู แนนํ
2.2 การใชป๎ ระโยชน๑ของการผูกแนํน

3. สอ่ื การเรียนรู๎

3.1 แผนภมู เิ พลง

3.2 เกม
3.2 เชอื กผกู แนํน
3.3 ไม๎พลอง / ไมไ๎ ผํ
3.4 ใบความรู๎
3.5 เรื่องส้ันทีเ่ ปน็ ประโยชน๑

4.กิจกรรม
4.1 กิจกรรมครง้ั ท่ี 1
1( พิธเี ปดิ ประชมุ กอง )ชกั ธงขนึ้ สวดมนต๑ สงบนิง่ ตรวจ แยก(
2( เพลง หรอื เกม

3( กิจกรรมตามจดุ ประสงค๑การเรียนรู๎
)1( ผก๎ู ํากับลูกเสอื ให๎หมูํลกู เสือเรียน ตามระบบฐานดงั นี้
ฐานท่ี 1 การผูกทแยง
ฐานท่ี 2 การผกู กากบาท
ฐานที่ 3 การผูกประกบ 2 ประกบ 3

)2( ผ๎ูกาํ กบั ลูกเสือและลูกเสอื รํวมกนั สรุปบทเรยี น
4( ผ๎กู ํากับลกู เสอื เลําเรอื่ งสน้ั ท่เี ป็นประโยชน๑
5( พธิ ปี ิดประชุมกอง )นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ (

44 คมู่ อื สง่ เสริมและพัฒนากิจกรรมลกู เสอื ทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสือสามญั หลักสตู รลกู เสอื เอก 37
คํมู อื สงํ เสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลกู เสอื ทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือโทชชน้ั ้ันปรปะรถะมถศมึกศษกึาปษที าี่ ป6ีท่ี 6

4.2 กิจกรรมคร้ังที่ 2

1( พธิ ีเปดิ ประชมุ กอง )ชักธงขน้ึ สวดมนต๑ สงบนง่ิ ตรวจ แยก(
2( เพลง หรอื เกม
3( กิจกรรมตามจดุ ประสงคก๑ ารเรียนรู๎

)1( ผกู๎ าํ กบั ลูกเสอื ให๎หมํลู กู เสือ ฝึกปฏิบัตโิ ครงการบกุ เบกิ โดยการทาํ ตอมอํ สะพาน
)2( ผ๎ูกาํ กบั ลูกเสอื ทดลองความคงทนและการใช๎งานไดจ๎ ริง
)3( ผก๎ู าํ กับลูกเสอื และลกู เสอื รวํ มกันสรปุ บทเรยี น
4( ผกู๎ ํากับลกู เสอื เลําเรอื่ งส้ันที่เป็นประโยชน๑
5( พิธีปดิ ประชมุ กอง )นัดหมาย ตรวจเครือ่ งแบบ ชักธงลง เลกิ (

5. การประเมินผล
สงั เกต การมีสํวนรํวมในการทํากจิ กรรม และประเมินการปฏบิ ตั ิ

6. คุณธรรม
ความรับผดิ ชอบ

ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมที่ 6
เพลง

เพลง รวํ มใจ
)สรอ๎ ย( รวํ มใจเราพร๎อมใจ รวํ มใจเราพร๎อมใจ รํวมใจเราพรอ๎ มใจ งานนอ๎ ยใหญํรวํ มใจกันทาํ

พวกเราลูกเสอื ไทยตาํ งพรอ๎ มใจสามัคคี นา้ํ ใจของเรากลา๎ ผจญบากบน่ั อดทนหม่ันทํา
ความดี ผกู มิตรและมไี มตรีเหมือนดั่งนอ๎ งพ่รี ับความชืน่ บาน

)สรอ๎ ย( รํวมใจเราพรอ๎ มใจุุุุุุุุุ
พวกเราลกู เสอื ไทยบุกปูาไปลุยนา้ํ นอง แมเ๎ ราจะฝาู ภัยพาลแตจํ ิตเบกิ บาน เพราะความ

ปรองดอง ชมฟาฺ และนา้ํ ลําคลอง เสยี งคึกคะนองร๎องเพลงเพลนิ ใจ

เกม

ขน้ึ เขาลงหว๎ ย
ให๎แตํละหมํูเข๎าแถวตอนลึก ระยะระหวํางหมูํ 3 ก๎าว ให๎คนสุดท๎าย)รองนายหมํู( ยืนตรง คน
ตอํ มายืนกม๎ หลัง คนถดั ไปยนื ถํางขา)สลบั กันไปเรือ่ ยๆ จนถึงหัวแถว( เม่ือสัญญาณเร่ิมให๎รองนายหมูํเป็น
ผู๎ว่ิง จะมุดหรือกระโดดสุดแตํคนที่อยูํข๎างหน๎าจะยืนในทําใด )ถ๎ายืนก๎มหลัง ให๎กระโดดถ๎ายืนถํางขา ให๎
ลอด(
การตัดสนิ หมใูํ ดหมดกอํ น และน่งั ลงกอํ นเปน็ ผู๎ชนะ

38 คมู่ ือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลกู เสอื ทกั ษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสอื สามญั หลักสูตรลูกเสอื เอก 45
คํูมือชสั้นงํปเรสะรถิมมแศลึกษะพาปัฒที นี่ 6ากจิ กรรมลูกเสอื ทกั ษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ลกู เสือโท ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6

ใบความร๎ู

การผูกแนนํ

1. การผูกทแยง
ประโยชน์
1( ใชผ๎ ูกน่งั รา๎ นในการกอํ สรา๎ ง
2( ผูกไมค๎ ้ํายนั เสาปอฺ งกนั เสาล๎ม
3( ใชผ๎ กู ตอมํอเสาสะพาน

วธิ ผี กู
1( วางไม๎ 2 ทํอนซ๎อนกันเป็นรูปทแยง ใช๎ปลาย
เชือกด๎านหน่ึงคล๎องรอบไม๎เสาทั้ง 2 ทํอน ผูกด๎วยเง่ือน
ผกู ซุง
2( ดึงปลายเชือกลงทางขวา ให๎เง่ือนแนํน แล๎ว
พนั อ๎อมรอบเสาท้ัง 2 ทอํ นอีก 3 - 4 รอบ
3( พันทแยงรอบเสาทง้ั คํูอีก 3 รอบ
4( หกั คอไกํ 2 – 3 รอบ
5( ลงด๎วยเง่ือนตะกรดุ เบด็

2. ผูกกากบาท
ประโยชน์
1( ใช๎ในงานกอํ สร๎าง ทํานัง่ รา๎ นทาสีอาคาร
2( ใช๎ในงานสร๎างคาํ ยพกั แรม อปุ กรณก๑ ารพักแรม

วิธีผกู
1( วางไม๎ 2 ทํอนซ๎อนกัน
เปน็ รปู กากบาท ผกู เง่อื นตะกรุดเบ็ดท่ี
หลักอันตั้งหรืออันนอน แล๎วแตํงงาน
ปลายเชือกสํวนที่เหลือให๎เข๎ากันให๎

เรียบรอ๎ ย )ขึน้ ตน๎ ด๎วยเงือ่ นตะกรดุ เบ็ด
ท่ีหลักต๎นหน่ึง แล๎วแตํงงานเชือกกับ
ปลายเชือก(

2( อ๎อมเชือกลอดใต๎ไม๎อันนอนทางด๎านขวา ดึงให๎ตึงมือ พาดข๎ามอันต้ังด๎านลําง ลอดอันนอน
ด๎านขวาเป็นอนั ครบรอบ พนั อยํางน้ีสัก 3 - 4 รอบ ดงึ ให๎ตึงทกุ ๆ รอบ )พันเชือกออ๎ มหลกั ท้งั สอง(

คมู่ ือส่งเสรมิ และพฒั นากิจกรรมลูกเสือทกั ษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสือสามัญ หลักสตู รลกู เสือเอก 39
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6
46 คูํมอื สํงเสริมและพัฒนากิจกรรมลกู เสอื ทักษะชวี ิตในสถานศึกษา ลกู เสือโท ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6

3( หักคอไกํ คือ การพันรอบเง่ือนในขั้นท่ี 2 เพื่อรัดเชือกให๎ตึง จะได๎ไมํรูดลง )หักคอไกํเพื่อ
รัดเชือกให๎แนํน(

4( เมอื่ หักคอไกไํ ด๎ 2–3 รอบ และดึงเชือกให๎ตึงแล๎ว ให๎จบลงด๎วยเงื่อนตะกรุดเบ็ดที่ไม๎อันนอนซ่ึง
เป็นคนละต๎นกบั ข๎อ 1(

3. วิธกี ารทาตอมอํ สะพาน
การสร๎างตอมํอสะพาน คือ ความต๎องการขั้นแรกของการบุกเบิกอยํางหน่ึง ทั้งยังเป็นเคร่ือง

ทดสอบวชิ าลูกเสือโทอีกด๎วย
รูปแบบของตอมอํ สะพานอาจผิดแผกกนั ไปบา๎ ง ตามความต๎องการของงานท่ีแตกตาํ งกันออกไป

แตํปกติควรมลี กั ษณะดังน้ี

3.1 ปลายเสาของตอมอํ สะพานต๎องอยํูลาํ งสุด ซึ่งจะครูดไปกับพ้ืนเม่ือถูกลากพาไป อยําให๎คาน
ถกู พนื้

3.2 เสาตอมํอสะพานจะสอดขึ้นไปทางคานบนเล็กน๎อย ฉะน้ันระยะท่ีจะผูกแนํนของคานบนและ
ลาํ ง ควรเปน็ 5 ตํอ 6 ตามลําดับ

3.3 คานบนและคานลํางอยูํด๎านเดียวกันของเสาตอมํอ ซ่ึงมองเห็นได๎งํายวําเมื่อประกอบเป็น
ตอมํอ ด๎านนี้จะอยํูบนเสมอ

3.4 ไม๎ค้ํายนั วางอยบูํ นเสา 3 แหงํ อีกแหงํ หนึ่งอยดํู า๎ นใต๎

3.5 ผูกแนนํ แบบกากบาททุกแหํง เวน๎ แตํท่ไี ม๎คา้ํ ยันไขวก๎ ันให๎ผูกแบบทแยง
แบบของตอมํอสะพานที่ทําด๎วยไม๎พลองน้ีมีความแข็งแรงอยํางสมบูรณ๑พอเพียง เพราะมัน

เปน็ แบบที่มกี ารสมดุลดยี ง่ิ แตถํ า๎ ใช๎ไมท๎ มี่ ่นั คงกวําเพอื่ ความถาวรก็นับวาํ ดยี งิ่ ข้นึ ไปอีก

40 คํมู ือคสูม่ ํงือเสส่งรเสิมรแมิ ลแะลพะพัฒัฒนนาากกิจจิ กกรรรรมมลลกู กู เสเสือทอื ักทษกั ะษชะีวชติ ีวในติ สใถนาสนถศาึกนษศา ึกปษระาเภลทกูลเูกสเสือือโสทามชญั น้ั ปหรละกั ถสตูมรศลึกูกษเสาือปเอที ก่ี 6 47
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6

เรือ่ งส้นั ทเี่ ปน็ ประโยชน์

เดก็ เลย้ี งเเกะชอบพูดปด

วันหนึ่งเด็กเลยี้ งเเกะคดิ หาเร่ืองสนกุ ๆ เลํนจงึ เเกลง๎ ร๎องตะโกน ขน้ึ มาวาํ “ชํวยด๎วย! ชํวยด๎วย! หมาปูา
มากินลกู เเกะเเลว๎ ชวํ ยด๎วยจา๎ !” พวกชาวบา๎ นจึงพากันวิ่งมาชํวยพร๎อมด๎วยอาวุธตํางๆเเตํเมื่อมาถึงก็ไมํพบ
หมาปูาสกั ตัว"มันว่งิ ไปทางโน๎นเเล๎วละํ "เดก็ เลีย้ งเเกะโปฺปดเเล๎วก็เเอบหัวเราะชอบใจภายหลัง ตํอจากนั้นเด็ก
เลี้ยงเเกะกเ็ เกล๎งหลอกให๎ชาวบา๎ นวิ่งหน๎าตน่ื เชํนเดมิ ได๎อีก 2-3 คร้ัง จนกระท่ังวันหน่ึงมีหมาปูามาไลํกินเเกะ
จริงๆ คราวนี้เดก็ เลีย้ งเเกะตะโกนขอความชวํ ยเหลือจนคอเเหบ คอเเหง๎ พวกชาวบ๎านก็ไมํมาเพราะคิดวําเด็ก
หลอก

เร่อื งนส้ี อนใหร๎ ๎วู ํา คนท่โี ปปฺ ดมดเท็จ เมอ่ื ถงึ คราวพดู จรงิ ก็ยากทจ่ี ะมใี ครเช่อื

10 ข๎อคิดดี ๆ

1. นกึ เสมอวําการโกรธ 1 นาที จะทาํ ใหค๎ วามทกุ ข๑อยกํู ับเธอ 3 ชวั่ โมง
2. ถ๎าย้มิ ใหก๎ บั คนท่อี ยูใํ นกระจกรับรองวาํ เคา๎ ต๎องย้ิมตอบกลบั มาทุกครงั้ แนํ
3. ระหวํางแปรงฟันถา๎ ฮมั เพลงดว๎ ยไปจนจบจะทาํ ให๎ฟนั สะอาดขน้ึ 2 เทําแนะํ
4. เคี้ยวข๎าวแตลํ ะคาํ ให๎ชา๎ ลง จากทรี่ สชาตธิ รรมดากจ็ ะอรอํ ยข้นึ เยอะ
5. สัตว๑เล้ียงทีบ่ า๎ นเก็บความลับเกํง เรื่องทีไ่ มอํ ยากใหค๎ นอน่ื ร๎จู ึงเลาํ ให๎มนั ฟังได๎
6. อาหารท่เี คยไมชํ อบกิน ลองตักเขา๎ ปากอีกทเี ผ่อื จะกลายเป็นอาหารจานโปรด
7. เขยี นชื่อคนที่เธอเกลยี ดใสกํ ระดาษแลว๎ ฉกี ทงิ้ ความเกลยี ดจะเบาบางลงเรอื่ ยๆ
8. กอํ นจะซื้ออะไรก็ตาม ต๎องคิดหาประโยชนข๑ องมนั ใหไ๎ ดอ๎ ยํางนอ๎ ย 3 ขอ๎ กอํ น
9. ถึงเสือ้ กางเกงในตจู๎ ะมอี ยูนํ อ๎ ยแตํถา๎ สลับกนั ไปเรื่อยๆก็ดูเหมอื นจะเยอะข้นึ
10. จะหน๎าตายงั ไงกแ็ ล๎วแตํถา๎ ทิง้ ขยะลงพ้ืนกก็ ลายเปน็ ขี้เหรํไดท๎ นั ตาเหน็

ทมี่ า forward mail
เรอื่ งนส้ี อนใหร๎ ๎วู าํ เร่ืองดีๆ มไี วเ๎ ป็นขอ๎ คดิ

48 คํมู ือสงํ เสรมิ และพฒั นากิจกรรมลกู เสือทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือโท ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6
คมู่ อื ส่งเสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลกู เสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ประเภทลูกเสือสามัญ หลักสูตรลูกเสอื เอก 41
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6


Click to View FlipBook Version