หลักสูตร เป้าประสงค์หลักสูตร วิศวกรรมศาสตร สหวิทยาการ สาขาวิชา เทคโนโลยีการผลิตทาง อุตสาหกรรม 1.เพื่อผลิตมหาบัณฑิตที่มีความรู้ในเชิงลึกและความเข้าใจใน สาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตทางอุตสาหกรรม 2.เพื่อตอบสนอง ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมภายใน การผสมผสานองค์ความรู้ท้องถิ่นและองค์ความรู้สากล 3.เพื่อมุ่งเน้นพัฒนาการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาแบบสหวิ
หน้า | 4-21 กลุ่มเป้าหมาย ผลลัพธ์ของหลักสูตร 2. การพัฒนาผลการเรียนรู้ในแต่ละด้าน คือ นิสิตต้องมี คุณธรรม จริยธรรมเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตร่วมกับ ผู้อื่นในสังคมอย่างราบรื่น และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม 3.ความรู้นิสิตต้องมีความรู้เกี่ยวกับสาขาวิชาวิศวกรรม ความปลอดภัยเพียงพอเพื่อใช้ประกอบอาชีพและช่วย พัฒนาสังคม 4. ทักษะทางปัญญา นิสิตต้องสามารถพัฒนาตนเองและ ประกอบวิชาชีพได้โดยพึ่งตนเองได้เมื่อจบการศึกษาแล้ว ดังนั้นนิสิตจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาทักษะทางปัญญา ไปพร้อมกับคุณธรรม จริยธรรม และความรู้เกี่ยวกับ สาขาวิชาที่ศึกษาในขณะที่สอนนิสิต อาจารย์ต้องเน้นให้ นิสิตคิดหาเหตุผล เข้าใจที่มาและสาเหตุของปัญหา วิธีการแก้ปัญหารวมทั้งแนวคิดด้วยตนเอง ฯลฯ นสหวิทยาการ นประเทศ โดย วิทยาการ 1.สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ อุตสากรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์หรือ สาขาวิชาอื่นที่เกี่ยวข้อง 2. ตามข้อบังคับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษาระดับ บัณฑิตศึกษาของบัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 1. การพัฒนาคุณลักษณะพิเศษของนิสิต คือ มีความรู้ ทางทฤษฏีและทักษะการปฏิบัติงานทางด้านเทคโนโลยี การผลิต ในแต่ละวิชาด้านเทคโนโลยีการผลิต 2. การพัฒนาผลการเรียนรู้ในแต่ละด้าน ดังนี้ด้านการ เรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม, ด้านความรู้,ด้านทักษะ ทางปัญญา, ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและ ความรับผิดชอบ, ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ฯลฯ
หลักสูตร เป้าประสงค์หลักสูตร วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ 1. เพื่อผลิตมหาบัณฑิตที่มีความรอบรู้และทักษะด้านการบิ และการพัฒนาระบบดิจิทัลสำหรับองค์กร เพื่อให้องค์กรประ นวัตกรรมและกระบวนการปฏิบัติงานแบบดิจิทัลที่มีประสิท 2. เพื่อผลิตมหาบัณฑิตที่มีความสามารถในด้านวิชาการ การ การสร้างนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการประย ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ก่อให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพ ต่อองค์กรและสังคม 3. เพื่อผลิตมหาบัณฑิตที่มีคุณธรรมและจริยธรรม อีกทั้งมีจิต ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ตลอดจนเป็นผู้ชี้นำทิศทางที่ดีข และประเทศชาติ 4. เพื่อผลิตมหาบัณฑิตที่มีศักยภาพสำหรับการศึกษาต่อระดั เทคโนโลยีดิจิทัล วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโครงสร้าง พื้นฐานและการบริหาร 1. เพื่อผลิตมหาบัณฑิตวิศวกรรมโยธา ในระดับสูง ใน วิศวกรรมโครงสร้างพื้นฐานและการบริหาร 2. เพื่อตอบสนองความต้องการในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐ ประเทศ โดยการพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ด้านวิชาชีพวิศวก ระดับสูง 3. เพื่อศึกษาและพัฒนาการประยุกต์ใช้องค์ความรู้ในการพั โครงสร้างพื้นฐานของประเทศได้อย่างยั่งยืนโดยการค้นคว้าวิ ต่างๆ ของสาขาวิศวกรรมโยธา
หน้า | 4-22 กลุ่มเป้าหมาย ผลลัพธ์ของหลักสูตร ริหารจัดการ ะยุกต์ใช้ ธิภาพ รวิจัย และ ยุกต์องค์ พการทำงาน ตสำนึกใน ของสังคม ดับสูงในด้าน 1. สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า 2. ตามข้อบังคับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษาระดับ บัณฑิตศึกษาของบัณฑิต วิทยาลัย 1.การพัฒนาคุณลักษณะพิเศษของนิสิต มีดังนี้มีทักษะ การเรียนรู้ด้วยตนเอง, มีภาวะผู้นำ มีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์และความรับผิดชอบตลอดจนมีวินัยใน ตนเอง, มีบุคลิกภาพที่เหมาะสม, มีจริยธรรม และ จรรยาบรรณวิชาชีพ, มีจิตสาธารณะ 2. การพัฒนาผลการเรียนรู้ในแต่ละด้าน มีดังนี้ด้าน คุณธรรม จริยธรรม, ด้านความรู้, ด้านทักษะทางปัญญา, ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความ รับผิดชอบ, ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การ สื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ นสาขา านของ กรรมโยธาใน พัฒนา วิจัยในแขนง 1) สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา หรือสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง และมีผลการสอบ ภาษาอังกฤษได้ตามเกณฑ์ ที่มหาวิทยาลัยกำหนด 2) ไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ 2.1) เป็นผู้มีความประพฤติ เสียหายอย่างร้ายแรง 2.2) เป็นคนวิกลจริต 2.3) เป็นโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคสำคัญที่จะ 1. การพัฒนาคุณลักษณะพิเศษของนิสิต มีดังนี้สามารถ แก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์, มีความสามารถในการเป็น ผู้นำ, มีจิตสาธารณะ, มีทักษะทาง IT ใน ระดับสูง, มีความรับผิดชอบและความมีวินัยในตนเอง 2. การพัฒนาผลการเรียนรู้ในแต่ละด้าน มีดังนี้ด้าน คุณธรรมจริยธรรม, กลยุทธ์การสอนที่ใช้พัฒนาการ เรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม, ด้านผลการเรียนรู้, ด้าน ความรู้, ด้านทักษะทางปัญญา, ด้านทักษะความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ, ด้านทักษะการ วิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยี
หลักสูตร เป้าประสงค์หลักสูตร วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีโครงสร้าง เพื่อสิ่งแวดล้อมสรรค์สร้าง 1. ผลิตวิศวกรโครงสร้างของประเทศที่มีขีดความสามารถทา สูง ทันต่อความก้าวหน้าและการแข่งขันของโลกในปัจจุบันแ บริหารจัดการงานด้านวิศวกรรมโครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิ ตลอดจนมีความเข้าใจและสามารถสรรค์สร้างผลงานที่คำนึง อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติพลังงาน และสิ่งแวดล้อม 2. เพื่อผลิตบุคลากรที่สามารถสร้างฐานความรู้ทางด้านเทคโ โครงสร้างขั้นสูงของประเทศ โดยเป็นแหล่งความรู้เพื่อพัฒน เทคโนโลยีและนวัตกรรมจากปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในการพัฒน สรรค์สร้างของประเทศ
หน้า | 4-23 กลุ่มเป้าหมาย ผลลัพธ์ของหลักสูตร เป็นอุปสรรคขัดขวางต่อ การศึกษา 2.4) ถูกคัดชื่อออกจาก สถานศึกษาเพราะกระทำ ความผิดทางวินัย 3) ระเบียบปฏิบัติอื่นๆ เป็นไปตามที่มหาวิทยาลัย กำหนด างเทคโนโลยี และสามารถ ธิภาพ งถึงการ โนโลยี าการวิจัยเชิง นาสิ่งแวดล้อม 1. สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาตรีสาขา วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์หรือ สาขาวิชาอื่นที่เกี่ยวข้อง 2. ตามข้อบังคับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษาระดับ บัณฑิตศึกษา ของบัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นิสิตมีคุณธรรม จริยธรรม และมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ, มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม, มีจิต สาธารณะ, มีความสามารถทางเทคโนโลยี การออกแบบโดยใช้แบบจำลอง 3 มิติและลิขสิทธิ์ ของโปรแกรมคอมพิวเตอร์, มีภาวะการเป็นผู้นำสามารถ สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ, เข้าใจบทบาทหน้าที่ตน และเคารพในผู้อื่น
ระดับปริญญาเอก หลักสูตร เป้าประสงค์หลักสูตร ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมเคมี (1) เพื่อผลิตดุษฎีบัณฑิตสาขาวิศวกรรมเคมีที่มีความรู้ความสา ค้นคว้าวิจัยมี ความสามารถในการวิเคราะห์และสังเคราะห์สามารถริเริ่มคิดค้ ผลงานวิจัยที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล (2) เพื่อส่งเสริมการวิจัยในแขนงต่างๆ ในสาขาวิศวกรรมเคมี เผยแพร่ผลงานสู่ สาธารณะ (3) เพื่อสนองเจตนารมณ์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในกา การศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาและมุ่งสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยวิ ยอมรับในระดับนานาชาติ ปรัชญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎี บัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรม โยธา 1. เพื่อผลิตดุษฎีบัณฑิตที่มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรร 2. เพื่อสนองตอบความต้องการในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยการพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ด้านวิชาชีพวิศวกรรมโยธาใน 3. เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างองค์ความรู้ขึ้นเองอย่า ประสิทธิภาพ โดยการค้นคว้าวิจัยในแขนงต่างๆ ของสาขาวิศวกรรมโยธา 4. เพื่อศึกษาถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ต่าง ๆ ด้านวิ โยธา ให้เหมาะสมกับทรัพยากร สภาพแวดล้อม สังคม และวัฒนธรรมไทย ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรม คอมพิวเตอร์ 1. เพื่อผลิตดุษฎีบัณฑิตที่มีความรู้และความสามารถทางวิชากา วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ขั้นสูง 2. เพื่อผลิตดุษฎีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศในการวิจัย โดยสามาร ความรู้ใหม่ด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรฐานทัดเทียม นานาชาติ
หน้า | 4-24 กลุ่มเป้าหมาย ผลลัพธ์ของหลักสูตร ามารถในการ ค้นและสร้าง รวมทั้งการ ารพัฒนา จัยที่เป็นที่ 1. สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาโทสาขา วิศวกรรมศาสตร์สาขาวิชา อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 2. ตามข้อบังคับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษาระดับ บัณฑิตศึกษา ของบัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สามารถผลิตบัณฑิตให้แข่งขันในตลาดโลกได้โดยเฉพาะ อย่างยิ่งอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมี เพื่อรองรับการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการผลิตให้มี ความก้าวหน้าและมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น รณในวิชาชีพ นของประเทศ นระดับสูง างถูกวิธีและมี วิศวกรรม 1. สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาโทสาขา วิศวกรรมศาสตร์หรือ สาขาวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 2. ตามข้อบังคับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษาระดับ บัณฑิตศึกษา ของบัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สามารถผลิตบัณฑิตเพื่อตอบสนองความต้องการของ ประเทศในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งการ ออกแบบวิเคราะห์วิจัย วางแผน และบริหารโครงการ ก่อสร้าง ป้องกันและแก้ไขปัญหา และตอบสนองต่อการ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งการเรียนรู้ วิจัย และสร้าง นวัตกรรมระดับโลก เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของศาสตร์แห่งแผ่นดิน ารด้าน รถสร้างองค์ มระดับ 1. สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาโทสาขา วิศวกรรมศาสตร์หรือ สาขาวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 2. ตามข้อบังคับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลักสูตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มีเจตนารมณ์ยึดมั่นตามปรัชญาแห่ง มก. คือ การสร้าง ความเจริญงอกงามแห่งภูมิปัญญา ที่พร้อมพรั่งด้วย ความรู้คุณธรรม จริยธรรม และความเป็นผู้นำทิศทางที่ ดีแก่สังคมเพื่อความดำรงอยู่ความสามารถพึ่งพาตนเอง ได้และความเป็นอารยะของชาติ
หลักสูตร เป้าประสงค์หลักสูตร 3. เพื่อผลิตดุษฎีบัณฑิตที่มีความเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมและจ ทั้งมีจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อส่วนรวม สามารถเป็นแบ และเป็นผู้ชี้นำทิศทางที่ดีของสังคมและประเทศชาติ 4. เพื่อผลิตดุษฎีบัณฑิตที่มีศักยภาพในการพัฒนา ถ่ายทอด แล องค์ความรู้ด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์อันก่อให้เกิดประโยชน สาธารณชน วิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า 1. เพื่อกำหนดและสร้างหลักสูตรวิศวกรรมไฟฟ้าคุณภาพสูงให้ อุตสาหกรรม 4.0 2. เพื่อปลูกฝังความสามารถด้านนวัตกรรมและวิศวกรรมด้วย จริยธรรม วิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสา หการ 1. เพื่อสร้างดุษฎีบัณฑิตที่มีความรู้และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งใ วิจัย 2. เพื่อตอบสนองต่อนโยบายความเป็นเลิศทางการวิจัยของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 3. เพื่อให้สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษ 2558 4. เพื่อให้เป็นไปตามการวิจัยสถาบันและการวิพากษ์หลักสูตรซึ สาระสําคัญคือการเพิ่มทักษะด้านภาษา 5. เพิ่มรายวิชาที่สามารถตอบสนองความต้องการของประเทศใ พัฒนาโลจิสติกส์ได้
หน้า | 4-25 กลุ่มเป้าหมาย ผลลัพธ์ของหลักสูตร จริยธรรม อีก บบอย่างที่ดี ละเผยแพร่ น์ต่อ ว่าด้วยการศึกษาระดับ บัณฑิตศึกษา ของบัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ห้ทัน คุณธรรมและ 1. สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาโทสาขา วิศวกรรมศาสตร์หรือ สาขาวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 2. ตามข้อบังคับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษาระดับ บัณฑิตศึกษา ของบัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สามารถผลิตบัณฑิตที่ตอบสนองความต้องการของสังคม ที่เปลี่ยนแปลง มีความรู้และทักษะด้านวิศวกรรมและ วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องในด้านวิศวกรรมไฟฟ้า คุณภาพสูงให้ทันอุตสาหกรรม 4.0 สามารถแก้ปัญหาที่ สำคัญในอุตสาหกรรมและสังคมผ่านการเป็นผู้นำและ นวัตกรรมในสาขาของตน ในสาขาที่ทํา ษา พ.ศ. ซึ่งมี ในด้านการ 1. เป็นผู้สำเร็จการศึกษา ปริญญาโทหรือเทียบเท่า สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์หรือ สาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง 2. มีผลการสอบ ภาษาอังกฤษได้ตามเกณฑ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการ อุดมศึกษากำหนด สามารถผลิตบัณฑิตที่มีความสามารถในการสร้าง องค์ความรู้ใหม่ที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบอย่างเป็น ระบบ และมีมาตรฐานสากล เพื่อเป็นพื้นฐานของการ พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนในที่สุดเกิดเป็นวัฒนธรรมและ ค่านิยมของสังคม
หลักสูตร เป้าประสงค์หลักสูตร วิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล 1. เพื่อสร้างดุษฎีบัณฑิตที่มีความรู้และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งใ วิจัย 2. เพื่อตอบสนองต่อนโยบายความเป็นเลิศทางการวิจัยของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 3. เพื่อให้สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษ 2558 ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมทรัพยากร น้ำ 1. เพื่อสร้างดุษฎีบัณฑิตที่มีความรู้และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งใ วิจัย 2. เพื่อตอบสนองต่อนโยบายความเป็นเลิศทางการวิจัยของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 3. เพื่อให้สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษ 2558 วิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรม สิ่งแวดล้อม 1. เพื่อผลิตบัณฑิตทางวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมที่มีความรู้สอดคล้ ต้องการบุคลากรด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมของประเทศ 2. เพื่อศึกษาวิจัยและให้บริการทางวิชาการและพัฒนาเทคโนโ สิ่งแวดล้อมใหม่ 3. เพื่อช่วยแก้ไขปัญญาสิ่งแวดล้อมให้กับภาครัฐและเอกชน
หน้า | 4-26 กลุ่มเป้าหมาย ผลลัพธ์ของหลักสูตร ในสาขาที่ทํา ษา พ.ศ. 1. สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาโทสาขา วิศวกรรมศาสตร์หรือ สาขาวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 2. ตามข้อบังคับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษาระดับ บัณฑิตศึกษา ของบัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สามารถผลิตบัณฑิตในสาขาวิศวกรรมเครื่องกล ที่มี ความรู้ความสามารถ มีความอดทนและรู้จักแก้ปัญหา มีคุณธรรมและจรรยาบรรณในวิชาชีพออกไปรับใช้สังคม และประเทศชาติให้เกิดความเจริญก้าวหน้า และมุ่งหวัง ให้บัณฑิตที่จบออกไปมีความสามารถด้านเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าและก้าวทันความ เจริญของโลกยุคโลกาภิวัฒน์ตลอดจนช่วยชี้นำสังคมให้ ก้าวไปข้างหน้าอย่างถูกต้อง ในสาขาที่ทํา ษา พ.ศ. 1. สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาโทสาขา วิศวกรรมศาสตร์หรือ สาขาวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 2. ตามข้อบังคับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษาระดับ บัณฑิตศึกษา ของบัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สามารถผลิตบัณฑิตที่มุ่งเน้นรู้จักวางแผน พัฒนาและ จัดการโครงการทรัพยากรน้ำที่มีความยุ่งยากซับซ้อน มากได้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบระบายน้ำในเมือง การ จำลองสภาวะน้ำท่วม ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (Geographic Information System) ข้อมูลระยะไกล (Remote sensing) การจำลองแม่น้ำ ระบบช่วยการ ตัดสินใจในงานทรัพยากรน้ำ ล้องกับความ โลยีด้าน 1. สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาโทสาขา วิศวกรรมศาสตร์หรือ สาขาวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 2. ตามข้อบังคับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษาระดับ สามารถผลิตบัณฑิตและงานวิจัยที่มีคุณภาพรวมทั้ง พัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหา สิ่งแวดล้อมของประเทศ สามารถใช้เทคโนโลยีที่ เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมซึ่งเกิดจาการ พัฒนาทางด้านอุตสาหกรรม และการเพิ่มจำนวน ประชากร อันจะทำให้สามารถพัฒนาประเทศโดยไม่ ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม
หลักสูตร เป้าประสงค์หลักสูตร 4. เพื่อส่งเสริมความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในต่างประเท พัฒนาการเรียนการสอนและงานวิจัยของภาควิชาฯ ให้อยู่ใ สากล ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมวัสดุ 1. เพื่อสร้างดุษฎีบัณฑิตที่มีความรู้และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งใ วิจัย 2. เพื่อตอบสนองต่อนโยบายความเป็นเลิศทางการวิจัยของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 3. เพื่อให้สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษ 2558
หน้า | 4-27 กลุ่มเป้าหมาย ผลลัพธ์ของหลักสูตร ทศเพื่อ ในระดับ บัณฑิตศึกษา ของบัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในสาขาที่ทํา ษา พ.ศ. 1. สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาโทสาขา วิศวกรรมศาสตร์หรือ สาขาวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 2. ตามข้อบังคับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษาระดับ บัณฑิตศึกษา ของบัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นิสิตมีความรู้ความเชี่ยวชาญในความเข้าใจพื้นฐาน เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคุณสมบัติโครงสร้าง การประมวลผล และประสิทธิภาพ ตลอดจนการเรียนรู้ ทักษะทางเทคนิคเชิงปฏิบัติในด้านวัสดุศาสตร์
หน้า | 4-28 4.3 แผนพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Technology Roadmap) นำมาวิเคราะห์ศักยภาพของ พื้นที่โดยใช้ชุดข้อมูลความรู้ที่มีอยู่ทำให้เกิดนวัตกรรมในการพัฒนาระดับท้องถิ่น นำไปสู่การลงทุนในพื้นที่ จากการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์การผลของการรวบรวมคลังความรู้ และองค์ความรู้นำมาซึ่งการ วิเคราะห์และวางแผนการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาเชิงพื้นที่ และความต้องการ นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในอนาคตให้สอดคล้องกับการการพัฒนาเชิงพื้นที่ในบริบท ภาคกลาง โดยผนวกวิสัยทัศน์ด้านการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พื้นที่จำเป็นต้องใช้กับวิสัยทัศน์ด้านแผน พันธกิจและกลยุทธ์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์โดยครอบคลุมถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคม ประชากร การเปลี่ยนแปลงของตลาด การเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์สภาพแวดล้อม การวางแผนด้านวิจัย และพัฒนา การเตรียมจัดหาทรัพยากรรวมทั้งกำลังคน ซึ่งเป็นปัจจัยผลักดันที่สำคัญต่ออนาคตของพื้นที่ ภาคกลาง โดยในเบื้องต้น สามารถกำหนดขอบเขตในการพัฒนา (Area of Development) ด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรม ไว้ดังนี้ • เทคโนโลยีและนวัตกรรมจักรกลการเกษตร • เทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตร • เทคโนโลยีและนวัตกรรมการปรับปรุงดิน การจัดการการเพาะปลูก • เทคโนโลยีและนวัตกรรมความปลอดภัยทางอาหาร
หน้า | 4-29
หน้า | 5-1 บทที่ 5 ผลการดำเนินการรวบรวมทรัพยากรทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และเครือข่ายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5.1 Knowledge Stock (คลังความรู้) รวบรวมทรัพยากรทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมทั้งที่มีอยู่และกำลัง ดำเนินการ ทำเป็นระบบบัญชีข้อมูล (Data Catalog) ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ 4 แห่ง ประกอบด้วย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งได้รับ ทุนจากกองทุนวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ให้ทำการจัดทำคลังความรู้ (Knowledge Stock) ในการพัฒนาพื้นที่ของประเทศไทย จัดทำแผนในการ ถ่ายทอดความรู้สู่กลไกพัฒนาพื้นที่ รวมถึงจัดทำ Knowledge Roadmap ทางด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมในการ พัฒนาพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำหน้าที่เป็น แม่ข่าย (Node) ในการประสานงานกับเครือข่ายประชาคมวิจัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งในสถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และชุมชน เพื่อทำให้เกิดคลังความรู้กลางในการพัฒนาพื้นที่ รวมถึงการ จัดทำแผนในการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับกลไกพัฒนาพื้นที่ ซึ่งบัดนี้ได้ดำเนินโครงการมาถึงขั้นสุดท้ายแล้ว โดยสามารถสรุปผลการดำเนินโครงการในส่วนของการรวบรวมทรัพยากรทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมทั้งที่มี อยู่และกำลังดำเนินการ ทำเป็นระบบบัญชีข้อมูล (Data Catalog) ได้ดังนี้ 5.1.1 จำนวนเครือข่ายพันธมิตร และการให้ความร่วมมือในการรวบรวมข้อมูล นักวิจัย นักวิชาการ ผลงานวิจัย โครงการวิจัย วารสาร การเผยแพร่ผลงาน บทความที่ตีพิมพ์ และการเผยแพร่ผลงานด้านต่าง ๆ (ดังแสดงในตาราง 5.1) ตาราง 5.1 รายชื่อเครือข่ายพันธมิตร จำนวนนักวิจัย และจำนวนโครงการที่รวบรวม เครือข่ายพันธมิตร จำนวนนักวิจัย (คน) จำนวน โครงการ 1. คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 40 87 2. คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 5 5 3. คณะเทคโนโลยีฯ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 3 3 4. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 5 5 5. คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 5 5 6. มหาวิทยาลัยขอนแก่น (วิทยาเขตหนองคาย) 10 21 7. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 9 32
หน้า | 5-2 เครือข่ายพันธมิตร จำนวนนักวิจัย (คน) จำนวน โครงการ 8. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี 18 18 9. มหาวิทยาลัยนครพนม 10 25 10. มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ 21 118 11. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเทคโนโลยีราชมงคลอิสาน 21 56 12. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเทคโนโลยีราชมงคลอิสาน (วิทยาเขตขอนแก่น) 10 35 13. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเทคโนโลยีราชมงคลอิสาน (วิทยาเขตสุรินทร์) 10 42 14. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเทคโนโลยีราชมงคลอิสาน (วิทยาเขตสกลนคร) 10 30 15. มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี 10 17 16. มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม 10 15 17. มหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ 8 24 18. มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย 10 38 19. โปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของ อุตสาหกรรมไทย (iTAP) 10 10 รวมข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับ 225 586 จากข้อมูลในตารางข้างต้น จะสรุปได้ว่า ทีเครือข่ายพันธมิตรทั้งสิ้น 19 หน่วยงาน จำนวนนักวิจัยที่ ส่งผลงาน 225 คน และมีจำนวนงานวิจัย ทั้งสิ้น 586 โครงการ และเมื่อจำแนกงานวิจัยเหล่านั้นออกเป็น หมวดหมู่ทั้งสิ้น 7 หมวดหมู่ คือ
หน้า | 5-3 ตาราง 5.2 จำแนกผลงานโครงการวิจัยออกเป็นหมวดหมู่ แผนภาพที่ 5.1 จำแนกผลงานวิจัย ตามหมวดหมู่ จากข้อมูลที่สรุปได้ใน รูปที่ 4.1 จะเห็นว่า ร้อยละของงานวิจัยเมื่อเรียงลำดับหมวดหมู่ทั้ง 7 หมวดหมู่ จากมากไปหาน้อยคือ Mobility, Energy, Waste management, Housing, Disaster, อื่นๆ และ Policies เท่ากับ ร้อยละ 28.5, 27.0, 14.7, 10.1, 9.6, 5.6 และ 4.6 ตามลำดับ หมวดหมู่ จำนวน ร้อยละ 1. Mobility 167 28.5 2. Energy 158 27.0 3. Housing 59 10.1 4. Policies 27 4.6 5. Waste management 86 14.7 6. Disaster 56 9.6 7. อื่นๆ 33 5.6 รวม 586 100
หน้า | 5-4 จากนั้นได้ทำการจัดลำดับและ ยกตัวอย่างเทคโนโลยีที่พร้อมใช้งาน ในการพัฒนาพื้นที่ ร่วมกันการ คัดเลือกเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พร้อมถ่ายทอดสู่การพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งแบบออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ คือ 1. ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (Energy & Environment ) 2. ด้านสมาร์ทเทคโนโลยี(Smart technology) 3. ด้านนวัตกรรม และเครื่องจักร ( Innovation and machinery) โดยคัดเลือกจากเทคโนโลยีที่รวบรวมมาทั้งสิ้น 586 เรื่อง ให้เหลือ 14 เรื่อง ดังนี้ รายละเอียดเบื้องต้นของ 14 เทคโนโลยีที่พร้อมใช้งาน ในการพัฒนาพื้นที่ ร่วมกันการคัดเลือก เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พร้อมถ่ายทอดสู่การพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
หน้า | 5-5 ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) นวัตกรรมระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนรวมเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บทคัดย่อ ในการบำบัดน้ำเสียชุมชน และ น้ำเสียครัวเรือนนั้น โดยทั่วไปจะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการเดินระบบ บำบัดน้ำเสียเพื่อใช้ในการเติมอากาศลงในน้ำให้เพียงพอต่อการทำงานของจุลินทรีย์ที่ทำหน้าที่ย่อยสลายสิ่ง สกปรกในน้ำ จึงทำให้การบำบัดน้ำเสียเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่ไม่มีกำลังทรัพย์ เพียงพอในการเสียค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าเพื่อการบำบัดน้ำเสีย ดังนั้น ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี นากะโอกะ ประเทศญี่ปุ่น จึงริเริ่มพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียที่ไม่ต้องใช้พลังงานในการเติมอากาศให้กับ จุลินทรีย์ในน้ำขึ้น โดยได้ทดลองนำฟองน้ำมาเป็นวัสดุตัวกลางให้จุลินทรีย์เกาะติดและเพียงนำน้ำเสียที่ต้องการ บำบัดผ่านตัวกลางฟองน้ำที่มีจุลินทรีย์เกาะติดนี้ด้วยระยะเวลาอันสั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นก็ได้น้ำที่สะอาดขึ้น ได้ จึงเป็นการค้นพบที่สร้างนวัตกรรมในการบำบัดน้ำเสียได้โดยไม่ต้องพึ่งพาพลังงานในการเติมอากาศลงในน้ำ เพื่อเป็นทางเลือกในการบำบัดน้ำเสียโดยไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการปั๊มอากาศเข้าสู่ระบบ และให้ชื่อเรียก ระบบนี้ว่า ระบบดีเอชเอส (Down-flow Hanging Sponge : DHS) คณะดำเนินการวิจัย ได้พัฒนาระบบดีเอช เอสสำหรับน้ำเสียชุมชนในประเทศไทย สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยว่า ระบบ DHS ทีมนักวิจัยได้ร่วมมือวิจัยพัฒนาระบบดีเอชเอส เพื่อให้สอดคล้องกับ บริบทของน้ำเสียชุมชนในประเทศไทยขึ้น โดยเริ่มดำเนินการวิจัยศึกษาความเป็นไปได้ และทดลองเดินระบบ ระดับห้องปฏิบัติการ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 และนำมาซึ่งการสร้างระบบถังตกตะกอนควบคู่กับระบบดีเอชเอส ขนาดนำร่อง เพื่อทดลองแนวทางที่ออกแบบวิจัยพัฒนาขึ้นให้เหมาะสมกับน้ำเสียชุมชนในประเทศไทยเป็นแห่ง แรก เมื่อปี พ.ศ. 2554 โดยได้รับความร่วมมือวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนะกะโอกะ และเทศบาลนคร ขอนแก่น ให้ความร่วมมือในการอนุเคราะห์พื้นที่วิจัยและแลกเปลี่ยนเรียนรู้อันนำมาสู่ผลการวิจัยที่แสดงถึง ศักยภาพของระบบดีเอชเอสในการบำบัดน้ำเสียชุมชนของเทศบาลนครขอนแก่น ได้ในเวลาเพียง 16 นาที และ ได้น้ำเสียบำบัดแล้วที่มีค่าบีโอดีต่ำเพียง 2 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเป็นค่าที่เทียบเท่ากับคุณภาพน้ำของลำน้ำที่มี ความสะอาดมาก จากผลการวิจัยที่ผ่านมากว่า 10 ปี ชื่อเจ้าของผลงาน ผศ.ดร. ไปรยา เฉยไสย หน่วยงานเจ้าของผลงาน สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
หน้า | 5-6 ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) เครื่องผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพจากชีวมวล ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาอังกฤษ) Bio-Oil production machine บทคัดย่อ การออกแบบและพัฒนากระบวนการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพจากชีวมวลให้มีต้นทุนต่ำโดยใช้เตา ปฏิกรณ์ฟลูอิดไดซ์เบดแบบหมุนเวียนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 นิ้ว สูง 4.5 เมตร วัสดุเบดใช้ทรายที่มีขนาด เส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยเท่ากับ 249 ไมโครเมตร และใช้ชานอ้อยเป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ ระบบผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพนี้มีอัตราการป้อนวัตถุดิบตั้งแต่ 18-45 กิโลกรัมต่อชั่วโมง และออกแบบให้มี ลักษณะเด่นที่ทำให้สามารถผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ มีห้องเผาไหม้เชื้อเพลิงแก๊ส แบบที่ใช้ในเครื่องยนต์กังหันแก๊ส ระบบการนำแก๊สที่ไม่กลั่นตัวกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตและในการป้อน วัสดุ และระบบแลกเปลี่ยนความร้อนก่อนการควบแน่น เป็นต้น โดยการศึกษาในครั้งนี้ได้ทดสอบผลิตน้ำมัน เชื้อเพลิงชีวภาพที่ ความเร็วของก๊าซระหว่าง 5- 7 เมตรต่อวินาที อุณหภูมิเบดตั้งแต่ 440 ถึง 520 องศา เซลเซียส และปริมาณเบดที่อยู่ในเตาปฏิกรณ์ เท่ากับ 0.5 และ 4.5 กิโลกรัม จากการศึกษาพบว่า ระบบ ดังกล่าวสามารถผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพสูงสุดเท่ากับ 78.07 %wt ที่อุณหภูมิเบด ความเร็วก๊าซ ปริมาณ เบดที่อยู่ในเตาปฏิกรณ์ และอัตราการป้อนเท่ากับ 480 องศาเซลเซียส, 7 เมตรต่อวินาที, 4.5 กิโลกรัม และ 30 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ตามลำดับ โดยน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพมีคุณสมบัติให้ค่าความร้อน ค่าความหนืด ค่าความ หนาแน่น และค่าความเป็นกรด-ด่าง เท่ากับ 18,483 kJ/kg, 24.54 cSt, 1,274 kg/m3 และ 2 ตามลำดับ ระบบนี้มีประสิทธิภาพในการแปรรูปพลังงานและประสิทธิภาพการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพสูงสุดเท่ากับ 46.06% และ 32.94% ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาต้นทุนในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพจะพบว่ามีต้นทุน การผลิตเท่ากับ 11.09 บาทต่อลิตร นอกจากนี้ผลการศึกษายังพบว่า อุณหภูมิเบด อัตราการหมุนเวียนของเบด และค่าความหนาแน่นเฉลี่ยของอนุภาคแขวนลอย ส่งผลโดยตรงอย่างมีนัยยะสำคัญต่อปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง ชีวภาพที่ผลิตได้ และปริมาณก๊าซออกซิเจนในก๊าซไอเสียจากระบบห้องเผาไหม้และก๊าซที่ไม่กลั่นตัวที่เกิดจาก กระบวนการผลิตนั้น ส่งผลโดยตรงต่อคุณสมบัติของน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพที่ผลิตได้ ชื่อเจ้าของผลงาน รศ.ดร. รัชพล สันติวรากร อ.ดร. วศกร ตรีเดช หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
หน้า | 5-7 ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) โปรแกรมตรวจจับการฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดงและการสวมหมวกนิรภัยโดยใช้กล้องวงจรปิด ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาอังกฤษ) Development of Program for Red Light Running Violation and Helmet Wearing Using Cctv Camera บทคัดย่อ บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโปรแกรมตรวจจับการฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดงและการไม่สวม หมวก นิรภัยของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยกล้องวงจรปิด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ โปรแกรมที่พัฒนาขึ้นนี้สามารถนำภาพวิดีโอแต่ละเฟรมจากกล้องมุมกว้าง (Overview camera) มาใช้เพื่อการตรวจจับการฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรแบบอัตโนมัติโดยมีหลักการทำงานคือ โปรแกรม จะตรวจสอบสีของดวงโคมสัญญาณไฟจราจร เมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีแดง โปรแกรมจะตรวจสอบ รถที่วิ่งข้ามเส้นหยดุ เข้าพื้นที่ทางแยก ซ่ึงจะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดงกล้องป้ายทะเบียนจะจับภาพ ป้ายทะเบียนรถคันดังกล่าวแล้วทำ การบันทึกภาพเหตุการณ์และภาพป้ายทะเบียนแบบเวลาจริง ข้อมูลภาพ ทั้งสองจะถูกบันทึกลงในฐานข้อมูลพร้อมข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการนำมาออกใบสั่งภายหลัง ผู้วิจัยใช้ ภาาษา C++ ในการพัฒนาโปรแกรมร่วมกับไลบรารี Open CV (Open Source Computer Vision) ในการ จัดการและประมวลผลภาพวิดีโอ และใช้ MySQL เป็นตัวจัดการฐานข้อมูล (DBMS) นอกจากนี้โปรแกรมยัง ช่วยตรวจจับผู้ไม่สวมหมวกนิรภัยได้โดยผู้ใช้จะทำการตรวจสอบภาพที่ได้จากกล้องมุมกว้างที่ บันทึกไว้ใน ฐานข้อมูล เมื่อพบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดรอสัญญาณไฟจราจร หรือขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าทางแยกที่ไม่ สวมหมวกนิรภัยก็บันทึกภาพวีดีโอเป็นภาพนิ่งจากนั้น จะตรวจสอบภาพป้ายทะเบียนจากกล้องจับภาพป้าย ทะเบียน พร้อมทั้งบันทึกภาพเหตุการณ์ทั้งหมดลงในฐานข้อมูล ผลการประเมินประสิทธิภาพของโปรแกรม พบว่าโปรแกรม สามารถตรวจจับรถที่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดงได้ร้อยละ 85 ของรถที่ฝ่าฝืนทั้งหมด สามารถ ตรวจจับยานพาหนะได้เกือบทุกประเภท ทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน ผลตรวจสอบความถูกต้องของ โปรแกรม พบว่า โปรแกรมมีความเที่ยงตรงในการตรวจจับรถที่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดงถึง ร้อยละ 96.3 นอกจากนี้โปรแกรมดังกล่าวยังสามารถประยุกต์ใช้ในการตรวจจับการไม่สวมหมวกนิรภัยได้โดยมีความ เที่ยงตรงในการตรวจจับผู้ไม่สวมหมวกนิรภัยร้อยละ 96.3 ชื่อเจ้าของผลงาน อ.ดร.วาธิส ลีลาภัทร หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
หน้า | 5-8 ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) การประเมินปริมาณของเมล็ดข้าวในภาพถ่าย โดยใช้เทคนิคประมวลผลภาพ ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาอังกฤษ) Evaluation amount of rice grains in photograph using image processing techniques บทคัดย่อ การเก็บเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวนวดข้าว มีปัจจัยที่ส่งผลต่อความสูญเสีย ได้แก่ ปัจจัยด้านการปรับแต่ง เครื่อง ที่สามารถควบคุมได้ และปัจจัยด้านสภาพพืช ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ ยกตัวอย่างเช่น ความหนาแน่น ของพืช เนื่องจากความหนาแน่นของข้าวในแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน ส่งผลให้ดัชนีล้อโน้มไม่เหมาะสมกับกลุ่มข้าว ผู้วิจัยนำเสนอวิธีการประเมินความหนาแน่นของเมล็ดข้าว โดยพัฒนาอัลกอริทึมคัดแยกเมล็ดข้าวจากภาพถ่าย ของกล้องดิจิตอล เพื่อนำไปพัฒนาเป็นระบบหัวเกี่ยวข้าวที่ปรับความเร็วของล้อโน้มได้อัตโนมัติ ภาพถ่ายต้น ข้าว จากภาคสนาม จะถูกวิเคราะห์ด้วยการจับภาพนิ่งส่วนต่างๆ ของต้นข้าว แบ่งเป็นกลุ่มได้แก่ เมล็ดข้าว, ใบ , ลำต้น, และ พื้น โดยมีปัจจัยศึกษาได้แก่ ความชื้นของข้าว และระดับความสูงการถ่ายภาพ อัลกอริทึมที่ พัฒนาจะใช้ Model Random forest classification เพื่อทำนายกลุ่มพิกเซลในภาพถ่าย ผลทดสอบ อัลกอริทึมที่ได้พัฒนา พบว่า Model ให้ความแม่นยำของการทำนายกลุ่มต่างๆจากพิกเซล อยู่ในช่วง 59.43- 86.94 เปอร์เซ็นต์ หลังจากการทำนายพบว่า เปอร์เซ็นต์เมล็ดข้าวในรูปภาพอยู่ที่ 3.08-6.92 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ ทราบถึงปริมาณของพิกเซลเมล็ดข้าวในภาพถ่าย ซึ่งสามารถใช้อ้างอิงเป็นความหนาแน่นของเมล็ดข้าวได้ และ สามารถใช้ปริมาณการทำนายนี้ ในการอ้างอิงการพัฒนาปรับตั้งระบบหัวเกี่ยวข้าว ที่ปรับความเร็วของล้อโน้ม ได้อัตโนมัติ เพื่อให้ได้ดัชนีล้อโน้มที่เหมาะสมกับความหนาแน่นข้าว ชื่อเจ้าของผลงาน รศ.ดร.ชัยยันต์ จันทร์ศิริ หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
หน้า | 5-9 ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) ระบบ Smart EMS เพื่อเป็นระบบเตือนด้านความปลอดภัย ให้กับผู้ดูแลผู้สูงอายุ บทคัดย่อ โครงการพัฒนาระบบประเมินการจำแนกผู้สูงอายุ เพื่อออกแบบเครื่องอำนวยความสะดวกในการ ดำเนินชีวิตประจำวันผู้สูงอายุและ พัฒนาระบบ Smart EMS เพื่อเป็นระบบเตือนด้านความปลอดภัยให้กับ ผู้ดูแลผู้สูงอายุ” เป็นการพัฒนา Mobile Application และระบบ Smart EMS สำหรับเป็นระบบเตือนด้าน ความปลอดภัยของผู้สูงอายุ และอำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ ชื่อเจ้าของผลงาน ผศ.ดร.ทิพาภรณ์ หอมดี หน่วยงานเจ้าของผลงาน มหาวิทยาลัยนครพนม
หน้า | 5-10 ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) ตู้ตรวจสุขภาพอัจฉริยะ “สุขศาลา” ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาอังกฤษ) Suk Sala smart health examination box บทคัดย่อ ปัจจุบันการเข้ารับการตรวจสุขภาพในโรงพยาบาล คนไข้จำเป็นต้องเดินทาง เพื่อเข้ารับการตรวจโรค กับแพทย์โดยตรง ซึ่งใช้เวลานานในการอตรวจและเข้าตรวจกับแพทย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวชนบท ห่างไกลที่ป่วยไข้ เข้ารับการตรวจที่ตู้ตรวจสุขภาพอัจฉริย “สุขศาลา ” อันเป็นการตรวจสุขภาพเบื้องต้น โดย ไม่ต้องรอเข้าคิวไม่ใช้เวลานาน ลดความเหลื่อมล้ำในการให้บริการทางการแพทย์และลดภาระค่าใช้จ่ายสำหรับ ผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกลโรงพยาบาล จึงได้สร้าง และพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับแพทย์และผู้ตรวจสุขภาพที่สามารถ ส่งข้อมูลการตรวจสุขภาพจากตู้ตรวจสุขภาพ “สุขศาลา” สามารถวัด น้ำหนัก ส่วนสูง วัดค่า BMI และ ปริมาณกลูโคสในกระแสเลือดได้โดยไม่ต้องเจาะเลือด เมื่อส่งข้อมูลการตรวจสุขภาพได้จะทำให้แพทย์สามารถ เรียกดูข้อมูลการตรวจสุขภาพได้จากแอปพลิเคชันสำหรับแพทย์ ส่วนผู้รับการตรวจสามารถ เรียกดูผลการ ตรวจสุขภาพได้จากแอปพลิเคชันสำหรับผู้รับการตรวจสุขภาพ นอกจากนี้ ยังสามารถพิมพ์ข้อมูลผลการตรวจ สุขภาพเบื้องต้นในการตรวจแต่ละครั้งได้หากต้องการ ชื่อเจ้าของผลงาน อาจารย์ ดร.ชวิศ ศรีจันทร์ สังกัด มหาวิทยาลัยขอนแก่น หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
หน้า | 5-11 ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะร่วมกับสถานีชาร์จแบตเตอรี่แบบ Swap ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาอังกฤษ) KKU E-Motorcycle Eco-System บทคัดย่อ ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาด้านพลังงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี ทั้งนี้เนื่องจากประเทศไทยไม่มี ทรัพยากรด้านพลังงานที่เพียงพอต่อการใช้งานในประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานจากฟอสซิล ดังนั้นจึงต้อง อาศัยการนำเข้าจากต่างประเทศเป็นหลัก ประเทศไทยมีสัดส่วนการใช้พลังงานในภาคการขนส่งสูงที่สุดคิดเป็น 39.7% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิสมาเป็นเชื้อเพลิงในการเผาไหม้ในเครื่องยนต์เพื่อสร้าง พลังงานในการขับเคลื่อน ซึ่งมีการการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นต้นเหตุของสภาวะโลกร้อนเป็น จำนวนมาก ดังนั้นจึงควรมีการพัฒนาหรือปรับเปลี่ยนเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลลงให้มากที่สุดในทุกๆภาค ส่วนเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านพลังงานในประเทศ และลดลดปัญหาที่กระทบสู่สิ่งแวดล้อม พาหนะไฟฟ้าเป็น ทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสมที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาด้านภาคขนส่ง โดยการนำพาหนะไฟฟ้ามาใช้งานทดแทน พาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลนั้นมีต้นทุนการเดินทางที่ต่ำกว่ามากและมีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ขณะใช้งานที่น้อยกว่ามากเช่นกัน มหาวิทยาลัยขอนแก่นก็เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่มีความตั้งใจในการนำ พาหนะไฟฟ้ามาใช้งานเพื่อทดแทนพาหนะน้ำมันอย่างจริงจัง โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้จัดตั้งโรงงานผลิต แบตเตอรี่ลิเธี่ยมในเชิงพาณิชย์เพื่อตอบสนองการนำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้งาน และ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ตอบรับนโยบายของทางมหาวิทยาลัยในการพัฒนาระบบ พาหนะไฟฟ้าให้มีการใช้งานอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้มีการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาต้นแบบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า แบบ ที่ใช้แบตเตอรี่แบบยกเปลี่ยน (Swap Battery Technology: SBT) ที่ใช้งานร่วมกับสถานีชาร์จแบตเตอรี่ แบบ swap โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ และนำมาทดสอบเบื้องต้นแล้ว พบว่า ต้นทุนในการเดินทางของรถ จักรยายนต์ไฟฟ้าแบบ SBT นี้มีค่าเท่ากับ 0.092 บาท/ก.ม. สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 55 km/hr วิ่งได้ ระยะทางไกลสุดต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็มเท่ากับ 40 กิโลเมตร มีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เท่ากับ 14.1 กรัมต่อกิโลเมตร ดังนั้น เพื่อให้เกิดการวิจัย พัฒนาต่อยอดและขยายผลการใช้งานพาหนะไฟฟ้า เพื่อให้เกิดระบบนิเวศในการใช้งานยานพาหนะไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรมภายในมหาวิทยาลัย นำไปสู่เป้าหมาย การเป็น Smart and Green University โดยจะทำการวิจัยต่อยอดในการสร้างและขยายผลการใช้งาน ยานพาหนะไฟฟ้าต่างๆ ได้แก่ จักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบ SBT รุ่น 2 ล้อ, จักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบ SBT รุ่น 3 ล้อ, รถยนต์ไฟฟ้าแบบ 2 ที่นั่ง, รถยนต์ไฟฟ้าแบบ 12 ที่นั่ง และสถานีชาร์จแบตเตอรี่แบบอัจฉริยะ โดยโครงการนี้ จะนำระบบควบคุมอัตโนมัติมาประยุกต์ใช้กับพาหนะไฟฟ้า รวมไปถึงพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับ
หน้า | 5-12 รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ ตรวจสอบความปลอดภัยในการใช้ งานต่อการลักขโมย และตรวจสภาพยานพาหนะได้ด้วยตนเอง โดยผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้หากมีการดำเนิน โครงการนี้นอกจากจะได้สร้างต้นแบบระบบนิเวศด้านการออกแบบ การใช้งาน และการซ่อมบำรุงจักรยานยนต์ ไฟฟ้าเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่สังคมแล้วนั้น จะมีการศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบโครงสร้าง ระบบควบคุม ทางไฟฟ้า แบตเตอรี่ การพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อจัดการยานพาหนะ การพัฒนาระบบจัดการสถานีชาร์จ แบตเตอรี่แบบครบวงจร การศึกษาพฤติกรรมการใช้งาน การเก็บข้อมูลการใช้งานพาหนะไฟฟ้าและสถานีชาร์จ การศึกษาผลกระทบจากการกำหนดอัตราค่าบริการในการชาร์จประจุไฟแบตเตอรี่เพื่อให้เกิดแรงจูงใจในการใช้ งาน แนวทางการปรับปรุงพัฒนาต่อยอดระบบจักรยานยนต์ไฟฟ้า และข้อมูลการใช้พลังงานไฟฟ้าในการชาร์จ แบตเตอรี่เพื่อสร้างโมเดลธุรกิจในการขยายผลการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ซึ่งตอบสนองกับ มาตรการเตรียมความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานด้านยานยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงได้ข้อมูลด้านการปรับปรุง ระบบผลิตไฟฟ้า สำรองไฟฟ้า และสายส่งไฟฟ้า ที่สอดรับกับนโยบายแผนจัดสรรกำลังการผลิตไฟฟ้ของ ประเทศ และได้แนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาพลังงานทดแทนในการนำมาใช้ในชุมชน เกิดเศรษฐกิจชุมชน และอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของท้องถิ่น และทำให้ชุมชนมีการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอันจะนำพาไปสู่ การสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้แก่ชุมชนตามนโยบายของกระทรวงพลังงานต่อไป ทั้งนี้โครงการนี้ได้ผ่าน มติเห็นชอบในที่ประชุมของคณะกรรมการขับเคลื่อนการบริหารจัดการพลังงานสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ จังหวัด ขอนแก่นซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธาน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชื่อเจ้าของผลงาน รศ.ดร.รัชพล สันติวรากร อาจารย์ ดร.วศกร ตรีเดช หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
หน้า | 5-13 ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) แอปพลิเคชั่นบริหารจัดการคิวรถตัดอ้อย บทคัดย่อ พัฒนาระบบสำหรับบริหารจัดการการให้บริการรถแทรกเตอร์และอุปกรณ์และการให้บริการรถตัด อ้อยขนาดเล็ก เพื่อลดต้นทุนการผลิตอ้อยภายใต้โครงการสร้างองค์ความรู้และพัฒนาด้าน เพื่อแก้ปัญหาการ บริหารจัดการการให้บริการรถแทรกเตอร์และรถตัดอ้อย ซึ่งในปัจจุบันการบริหารจัดการทำได้ยากลำบากและ ใช้เวลานาน อีกทั้งยังใช้ต้นทุนการบริหารสูง สามารถประเมินค่าใช้จ่าย ปริมาณเชื้อเพลิง ระยะเวลาที่ ให้บริการในแต่ละแปลง และสามารถบันทึกตารางการทำงานในแอพพลิเคชั่นได้ จึงสามารถจัดการต้นทุนให้มี ต้นทุนในการผลิตต่ำลงได้ และสามารถสร้างฐานข้อมูลให้กับการจัดการอ้อยได้ในอนาคต ชื่อเจ้าของผลงาน รศ.ดร. ขวัญตรีแสงประชาธนารักษ์ หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
หน้า | 5-14 ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) เคื่องกำจัดสาหร่ายและตะไคร่ในแหล่งน้ำด้วยคลื่นความถี่สูง ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาอังกฤษ) Suk Sala smart health examination box บทคัดย่อ เครื่องกำจัดสาหร่ายและตะไคร่ในแหล่งน้ำด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงสามารถเปิดใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าจากภายนอก ซึ่งเครื่องกำจัดสาหร่ายและตะไคร่ในแหล่งน้ำด้วยคลื่นเสียง ความถี่สูงจะใช้พลังจากแบตเตอร์รี่ และจะทำการรีชาร์จจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดเป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเครื่องกำจัดสาหร่ายและตะไคร่ในแหล่งน้ำด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงนี้สามารถติดได้ใน กลางแจ้ง ทนทานทุกสภาพอากาศ และสามารถควบคุมการทำงานของเครื่องกำจัดสาหร่ายและตะไคร่ใน แหล่งน้ำด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงและรายงานผลของคุณภาพน้ำผ่านแอปพลิเคชันโมบายได้ ชื่อเจ้าของผลงาน ผศ.ดร. ธนเสฏฐ์ ทศดีกรพัฒน์ หน่วยงานเจ้าของผลงาน สาขาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
หน้า | 5-15 ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) เรือเก็บขยะอัตโนมัติ บทคัดย่อ เรือสามารถทำงานอัตโนมัติ หรือควบคุมผ่านรีโมทคอนโทรลได้ในระยะทำการที่อยู่ในเครือข่าย WiFi สามารถเคลื่อนที่ได้อัตโนมัติและตรวจจับขยะด้วยระบบ image processing และส่งผ่านข้อมูลผ่าน mobile application เมื่อขยะเต็มสามารถเคลื่อนที่กลับมายังจุดเริ่มต้นเองได้ ชื่อเจ้าของผลงาน ผศ.ดร.โศรฎา แข็งการ หน่วยงานเจ้าของผลงาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
หน้า | 5-16 ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) เครื่องอบมันเส้นแบบสายพานลำเลียงต่อเนื่องชนิดหลายสถานะการอบ ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาอังกฤษ) Multi-Stage Continuous Apron Dryer for Cassava Chip บทคัดย่อ งานวิจัยนี้ได้ทำการออกแบบและสร้างเครื่องอบมันเส้นแบบสายพานลำเลียงต่อเนื่องชนิดหลาย สถานะการอบ เพื่อป้องกันมันสำปะหลัง ถูกความร้อนสูง ที่ผิวหน้าของชิ้นมันซึ่งจะเกิดเจลแป้ง และความชื้น ภายในจะไม่สามารถระเหยออกมาได้ เครื่องอบที่ออกแบบจึงประกอบด้วยห้องความร้อน สภาวะอุณหภูมิต่ำ ไปสูง 3 สถานะ และ ห้องคลายความร้อน 1 สถานะ ตัวเครื่องอบและอุปกรณ์ต่อร่วม ถูกออกแบบด้วยทฤษฎี การถ่ายเทความร้อนและมวลสำหรับลักษณะเครื่องอบแบบสายพานลำเลียง บนวิธีการ Spread sheet – aided dryer design ร่วมกับวิธีการหาค่าที่เหมาะสมที่สุดแบบ Hybrid differential evolution & Nelder and Mead method ตัวเครื่องอบที่สร้างขึ้น มีสายพานแสตนเลสชั้นเดียว เจาะรูด้านล่าง เส้นผ่านศูนย์กลาง5 มิลลิเมตร ห่างกัน 25 มิลลิเมตร 3 แถวบนแนวยาวของชิ้นสายพาน เมื่อประกอบกันได้สายพานกว้าง 2 เมตร ยาว 9 เมตร ความยาวทั้งหมด 20 เมตร ระยะห้องอบ 6 เมตร ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ขนาด 4.8 กิโลวัตต์ด้วย ความเร็วสายพานต่ำสุด 2 เมตรต่อชั่วโมง เครื่องอบใช้พลังงานความร้อนจากแก๊สร้อนของหัวเผาขนาด 245 กิโลวัตต์ แก๊สร้อนไหลผ่านท่อหุ้มฉนวนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 นิ้ว เข้าที่ห้องอบด้านบน ใน 3 สถานะแรก และเข้าที่ห้องอบด้านล่าง ทั้ง 4 สถานะ ด้วยความเร็วลมเฉลี่ย 20 เมตรต่อวินาที ความชื้นถูกผลักออกจาก ระบบห้องอบจากความแตกต่างของความดัน ผ่านช่องทาง ออกด้านบน ขนาด 20 X 20 ตารางเซนติเมตร จำนวน 8 ช่อง ในแต่ละสถานะ พร้อมปล่องช่วยปล่อยอากาศออกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 นิ้ว ที่ห้องอบ 3 สถานะแรกเพื่อเพิ่มความสามารถในการอบเมื่อ ความชื้นบรรยากาศสูง
หน้า | 5-17 การทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องอบมันเส้นแบบการออกแบบการทดลองแบบปัจจัยทั่วไป (general factorial design) สามารถสรุปได้ว่าความชื้นของมันเส้นก่อนการอบและอุณหภูมิในการอบมีผล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อความชื้นของมันเส้นหลังการอบ และไม่มีปฏิกิริยาสัมพันธ์ระหว่างความชื้นของมัน เส้นก่อนอบกับอุณหภูมิในการอบ เมื่อนำข้อมูลมาสร้างสมการถดถอย (Linear regression model) พบว่า สภาวะที่เหมาะสมในการอบมันเส้นเพื่อให้ได้ความชื้นไม่เกิน 16 %wb คือ เมื่อความชื้นมันเส้นก่อนอบ ประมาณ 40 %wb ควรใช้อุณหภูมิในการอบไม่น้อยกว่า 120 องศาเซลเซียส หรือ เมื่อมันเส้นมีความชื้นก่อน อบ 65 %wb ควรใช้อุณหภูมิในการอบไม่น้อยกว่า 125 องศาเซลเซียส ผลการวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ พบว่า ค่าวัตถุดิบไม่ควรเกิน 3.49 บาทต่อกิโลกรัม กำลังการผลิตขั้นต่ า 1,191.46 กิโลกรัมต่อวัน ราคาขาย มันอบแห้งไม่ควรต่ำกว่า 5.62 บาทต่อกิโลกรัม จะทำให้เครื่องจักรนี้ไม่ขาดทุนและน่าลงทุน ชื่อเจ้าของผลงาน ผศ.ดร.ธนา ราษฎร์ภักดี รศ.ดร.สมชาย ชวนอุดม ผศ.ดร.คมกฤช ปิติฤกษ์ หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
หน้า | 5-18 ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) อากาศยานไร้คนขับ เพื่อประเมินความหวานอ้อย การประเมินผลผลิตอ้อย ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาอังกฤษ) Field Practice Solutions: FPS บทคัดย่อ โดรนวัดค่าความหวาน หรือ อากาศยานไร้คนขับตัวนี้ สามารถวิเคราะห์และประเมินผล การผลิต การ เก็บเกี่ยว และความหวานของไร่อ้อย ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่รองรับระบบ 5G ซึ่งเป็นเทคโนโลยี เกษตรแม่นยำ หนึ่งในการพัฒนา New - S- Curve หรืออุตสาหกรรมอนาคตของประเทศไทย ที่สามารถ แข่งขันในตลาดโลก ซึ่งประเทศไทยมีต้นทุนการผลิตในภาคเกษตรสูงกว่าประเทศอื่น ๆ การลดต้นทุนการผลิต จึงจำเป็นต้องมีวิธีการแก้ปัญหาในการบริหารทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พัฒนาระบบที่สามารถติดตาม และตรวจวัดปริมาณคุณภาพของผลผลิต ในแปลงเกษตรโดยใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติหรือ AI เข้ามาช่วยจัดการ แนวคิดดังกล่าว ผสานกับเทคโนโลยี IOT และ AT จะต้องช่วยเกษตรกร ลดต้นทุน คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ สูง ซึ่งการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับเพื่อประเมินความหวานอ้อยนี้ มีราคาต้นทุนต่ำกว่าบริการคู่แข่งใน ต่างประเทศมากถึง 20 เท่า และมีความหวานแม่นยำมากกว่าบริการปัจจุบันเพียงบวกลบหนึ่งเท่านั้น ซึ่ง บริการการตรวจค่าความหวานในประเทศไทย ปัจจุบันเป็นระบบจัดการด้วยคน คือ เก็บตัวอย่างด้วยมนุษย์ ซึ่ง มีความผิดพลาดถึงร้อยละ 40 แต่หากใช้ระบบ FPS ซึ่งเป็นการนำอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน ที่พัฒนากับ ซอฟต์แวร์ภาพถ่ายดาวเทียมของเอกชน นำมาวิเคราะห์ค่าความหวาน การเติบโตของพืช การวิเคราะห์โรคพืช โดยนักวิชาการจากม.ขอนแก่น สามารถวิเคราะห์ข้อมูลไร่อ้อยเป็นแสน ๆ ไร่ในเวลาอันรวดเร็วและแม่นยำ ชื่อเจ้าของผลงาน รศ.ดร. ขวัญตรีแสงประชาธนารักษ์ หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
หน้า | 5-19 ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) ระบบควบคุมการทำงานอัตโนมัติ-ปลูกพืชในโรงเรือน บทคัดย่อ ระบบควบคุมอัตโนมัติ จะรับข้อมูลจากตัวเซนเซอร์ต่าง ๆ จากนั้นเก็บเข้าฐานข้อมูลผ่านระบบการ ประมวลผล (ผ่านระบบ AI) เพื่อใช้ในการประมวลผลกลับมา สำหรับ ควบคุมสภาวะต่าง ๆ ในโรงเรือนให้มี ประสิทธิภาพ โดยโรงเรือนปลูกพืชด้วยแสง LED จะมีเซนเซอร์ (sensor) วัดแสง ความสว่าง อุณหภูมิ ความชื้น และความเร็วลม ภายในโรงเรือน เพื่อใช้วัดค่าต่างๆ แล้วส่งเข้าไปเก็บ ในฐานข้อมูล สำหรับการ วิเคราะห์ “ความเหมาะสม” ในการปลูกพืช ชื่อเจ้าของผลงาน ผศ.ดร.ชัชชัย คุณบัว หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
หน้า | 5-20 … ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) เสื้อเกาะรังไหมกันกระสุน บทคัดย่อ ไหมเป็นเส้นใยธรรมชาติที่มีความเหนียว แข็งแรง ทนทานและสามารถยืดหยุ่นได้ดี จากรายงานพบว่า เส้นไหมมีความแข็งแรงตั้งแต่ 4.8 จิกะปาสคาล ขึ้นไป ความแข็งแรงของเส้นไหมขณะเปียกจะลดลงร้อยละ 15-20 เมื่อเทียบกับเส้นไหมแห้ง ส่วนความยืดหยุ่นไหมมีความยืดหยุ่นได้ตั้งแต่ร้อยละ 35 และสามารถหด กลับคืนได้ถึงร้อยละ 92 จากคุณสมบัติที่กล่าวมานี้จึงได้มีผู้นำไหมมาทำเป็นอุปกรณ์ป้องกันกระสุนปืน ที่ผ่าน มามีผู้ประดิษฐ์อุปกรณ์กันกระสุนหลายชิ้นงาน เช่น อนุสิทธิบัตรไทย เลขที่ 1948 เสื้อเกราะกันกระสุนที่มีแผ่น กันกระสุนที่แผ่นโลหะทั้งชั้นในและนอกหุ้มไว้ด้วยโพลีไวนิลคลอไรด์อย่างน้อย1 ชั้น นอกจากนี้ยังมีผู้ประดิษฐ์ แผ่นเกราะกันกระสุนที่ใช้แผ่นคาร์บอน-ไฟเบอร์ร่วมกับวัสดุคาร์บอนเคฟล่าร์ โดยนำวัสดุทั้ง 2 ส่วน บรรจุใน เสื้อกั๊กหรือเสื้อเกราะกันกระสุนทั้งด้านหน้า-หลัง แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีผู้ใดนำรังไหมใช้ร่วมกับวัสดุอื่นๆ มา ใช้เป็นส่วนผสมในการทำแผ่นวัสดุกันกระสุนมาก่อน ดังนั้น ผู้ประดิษฐ์จึงได้คิดค้นแผ่นวัสดุกันกระสุนที่มี ส่วนผสมของรังไหมและวัสดุอื่นๆ เพื่อพัฒนาเป็นแผ่นวัสดุกันกระสุนที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุเหลือใช้ ซึ่งสามารถป้องกันกระสุนปืนได้ ชื่อเจ้าของผลงาน ผศ.ดร.พนมกร ขวาของ หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
หน้า | 5-21 5.2 หลักสูตรและการถ่ายทอดองค์ความรู้ (Knowledge and Technology Transfer) ร่วมกับหน่วย บริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ในการเสริมและพัฒนาทักษะ เพิ่มความสามารถ ให้บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เศรษฐกิจชุมชนถือว่าเป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากประชากรไทยส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่ม ที่อาศัยอยู่ในท้องถิ่นมากกว่าอยู่ในเมือง ดังนั้นการสร้างฐานรากของเศรษฐกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็ง และ ยั่งยืน ก็จะเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มีศักยภาพด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ การนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้กับการดำรงชีวิตและธุรกิจของคนในชุมชน จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนา และเรียนรู้อย่างยั่งยืน สามารถนำองค์ความรู้จากงานวิจัยไปใช้ในการทำธุรกิจ สร้างอาชีพ รวมถึงต่อยอดไปสู่ การแก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ การส่งเสริมการนำนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่เพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน (Area based Innovation for Community) เป็นงานที่ส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีหรืองานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในชุมชน ในหลากหลายมิติ เช่น การดำรงชีพ สุขภาพ การแก้ไขปัญหาทางธุรกิจ การสร้างอาชีพ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้เกิด การเรียนรู้ในชุมชน เพิ่มศักยภาพของคนในท้องถิ่น และพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ในแผนงาน ยังมีกิจกรรมที่ช่วยสนับสนุนการสร้างธุรกิจใหม่ในชุมชน ผ่านกระบวนการบ่มเพาะจากเครือข่ายอุทยาน วิทยาศาสตร์ภูมิภาค ซึ่งจะเป็นการช่วยผู้ประกอบการชุมชนลดความเสี่ยงในการตั้งธุรกิจ และสามารถต่อยอด ทางธุรกิจเองได้อย่างยั่งยืน โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยบูรพาได้วิเคราะห์แลพัฒนาหลักสูตรในการเสริมและพัฒนาทักษะ เพิ่มความสามารถให้บุคคลากร ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับการถ่ายเทคโนโลยีสำหรับพื้นที่ 5.2.1 ภาพรวมของหลักสูตร [Course Overview] ภาพรวมของหลักสูตรการส่งเสริมการนำนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่เพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน (Area based Innovation for Community) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประกอบด้วย กิจกรรม ดังนี้ การถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน (Tech transfer to Community) 1) การสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลชุมชน - การลงพื้นที่เพื่อสำรวจความต้องการในการพัฒนา - การรวบรวมข้อมูลเทคโนโลยีที่พร้อมถ่ายทอดแก่ชุมชน - มีการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลชุมชนถึงปัญหาและความต้องการ วางแผนเพื่อการพัฒนา ชุมชนร่วมกันระหว่างผู้รับผิดชอบโครงการและชุมชน วิเคราะห์ถึงโอกาสความเป็นไปได้ในการนำไปประยุกต์ใช้ งานจริงและความเป็นไปได้ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชนอย่างเป็นระบบ โดยการสำรวจความต้องการของ ชุมชนใช้วิธีการลงพื้นที่พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาเพื่อให้ได้มาซึ่งโจทย์ปัญหาของชุมชนอย่างแท้จริง 2) การประเมินศักยภาพและความต้องการของชุมชน - การลงพื้นที่เพื่อประเมินความพร้อมของชุมชน พร้อมทั้งวางแผนการดำเนินงานพร้อมผู้นำ ชุมชน พร้อมทั้งกำหนดหลักสูตรที่เหมาะสมกับชุมชนในการอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้สู่ชุมชน
หน้า | 5-22 3) การดำเนินโครงการ โดยประกอบด้วยกิจกรรม ดังนี้ - การสำรวจพื้นที่ และทำความเข้าใจเบื้องตันกับชุมชน - การให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้งานในพื้นที่ - การสาธิตการใช้งานเทคโนโลยี - การส่งเสริมให้ชุมชนนำเทคโนโลยีไปใช้งานจริง 4) ติดตามและประเมินผลการถ่ายทอดความรู้ - มีกระบวนการในการติดตามการดำเนินการถ่ายทอดความรู้ 5.2.2 วัตถุประสงค์การเรียนรู้ [learning Objectives] - ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในชุมชน - สร้างผู้ประกอบการชุมชนที่มีพื้นฐานจากเทคโนโลยีและงานวิจัยในการทำธุรกิจ 5.2.3 กลุ่มเป้าหมาย [Target Audience] - ชุมชนที่มีการนำเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน - ผู้ประกอบการชุมชนที่มีความพร้อมในการทำธุรกิจ 5.2.4 เนื้อหาหลักสูตร [Course Content] หลักสูตรที่1 หลักสูตรการจัดการจราจรเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน หัวข้อ รายละเอียด ชื่อหลักสูตร หลักสูตรการจัดการจราจรเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน เนื้อหาหลักสูตร วิศวกรรมจราจรเบื้องต้น การออกแบบและจัดการความปลอดภัยทางถนน ผู้ขับขี่ และคนเดินเท้า การออกแบบและจำแนกประเภทของถนนตามหน้าที่การใช้งาน ลักษณะของกระแสจราจรและทฤษฎีการไหลของการจราจร หลักการออกแบบ มาตรการและการใช้เครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการจัดการจราจร ระยะเวลาอบรม 12 วันต่อหลักสูตร กลุ่มเป้าหมาย วิศวกรผู้ปฏิบัติงานหรือเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานด้านระบบจราจรได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ หน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
หน้า | 5-23 รายละเอียดการอบรมในแต่ละหลักสูตร การจัดการจราจร (Traffic Management) - การออกแบบมาตรการ และเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการจัดการจราจร - เทคนิค มาตรการ และเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการจราจรที่เหมาะสม ที่สามารถระบุ ข้อดี ข้อเสีย และระดับความสัมฤทธิ์ผลของมาตรการและเครื่องมือแต่ละชนิด การสยบการจราจร (Traffic Calming) - การจำแนกประเภทของถนนตามหน้าที่การใช้งานการจำแนกประเภทของการสยบ การจราจร - การออกแบบมาตรการและเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการสยบการจราจร กระบวนการ ในการสยบการจราจรสำหรับถนนสายย่อย ถนนสายรอง และถนนสายหลัก การตรวจสอบความ ปลอดภัยทางถนน (Road Safety Audit) - การพัฒนาบุคคลากรให้มีความเชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบความปลอดภัยทางถนน ซึ่งครอบคลุมถึงโครงการหรือถนนที่มีอยู่แล้ว โครงการที่กำลังมีการก่อสร้าง หรืออยู่ใน ระหว่างการออกแบบ การแก้ไขจุดอันตราย (Black Spot Treatment) - นิยามและกระบวนการในการดำเนินการแก้ไขของจุดอันตรายทั้งต่างประเทศและใน ประเทศไทย - การเก็บรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการแก้ไขจุดอันตรายเพื่อสร้างค่าดัชนีชี้วัด ความปลอดภัยทางถนน (Road Safety Index: RSI) รวมไปถึงจัดทำแบบฟอร์ม
หน้า | 5-24 หลักสูตรที่ 2 หลักสูตรจัดการขยะมูลฝอยชุมชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวข้อ รายละเอียด ชื่อหลักสูตร หลักสูตรจัดการขยะมูลฝอยชุมชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เนื้อหาหลักสูตร แนวทางการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนตั้งแต่ การคาดการณ์ปริมาณขยะ วิธีการการ จัดการ เทคโนโลยีที่นำมาใช้ การแปรรูปขยะเป็นพลังงาน การประเมินความเสี่ยง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการวางแนวทางในการออกแบบสถานที่ก่อสร้างในการ จัดการขยะ ระยะเวลาอบรม 3 วันต่อหลักสูตร กลุ่มเป้าหมาย ผู้นำชุมชน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น รายละเอียดการอบรมในแต่ละหลักสูตร วันที่ 1 วันที่ 2 วันที่ 3 • สถานที่กำจัดขยะมูลฝอยของ ประเทศ • ทิศทางและเป้าหมายในการ กำกับนโยบาย• กฎหมายที่ เกี่ยวข้อง • มาตราการต้นทาง กลางทาง และปลายทาง • แนวทางการรวมกลุ่มพื้นที่ใน การจัดการขยะ • การดำเนินโครงการการกำจัด ขยะของอปท • ขั้นตอนการมอบหมายให้ เอกชนดำเนินการหรือร่วม ดำเนินการกำจัดขยะ • ขั้นตอนการพิจารณาโครงการ ไรงไฟฟ้าจากขยะ • การจัดทำเล่มรายงานโครงการ โรงไฟฟ้าจากขยะชุมชน เพื่อ เสนออนุมัติจากกรรมการ • รายละเอียดเกี่ยวกับประมวล หลักปฏิบัติการผลิตไฟฟ้าที่ใช้ ขยะมูลฝอยชุมชนเป็นเชื้อเพลิง • การร่าง TOR, การคัดเลือก เอกชน, อื่นๆ • ตัวอย่าง Case Study โครงการโรงไฟฟ้าจากขยะชุมชน อบต โชคชัย จังหวัดนครราชสีมา • แนวทางในการวางแผน ออกแบบ ก่อสร้างและการ ดำเนินงานสถานที่ฝังกลบขยะ แบบกึ่งใช้อากาศ • แนวทางใน การออกแบบบ่อฝังกลบขยะ ขนาดเล็ก (< 5 ตัน/วัน) • รายละเอียดมาตราฐานของ สำนักงานสิ่งแวดล้อม • ตัวอย่าง Case Study การ ออกแบบบ่อฝังกลบขยะขนาด เล็กของ เทศบาลตำบลชัยวารี อำเภอโพธิ์ชัยจังหวัดร้อยเอ็ด
หน้า | 5-25 หลักสูตรที่ 3 หลักสูตรอบรมนักบินโดรนในภาคการเกษตร หัวข้อ รายละเอียด ชื่อหลักสูตร หลักสูตรอบรมนักบินโดรนในภาคการเกษตร เนื้อหาหลักสูตร เรียนรู้การใช้งานอากาศยานไร้คนขับเบื้องต้น เรียนรู้การประกอบอากาศยานไร้คนขับ และการบำรุงรักษาอากาศยานไร้คนขับ เรียนรู้การฝึกทดสอบบินโดยใช้โปรแกรม Simulator ในห้องทดลอง เรียนรู้การฝึกอบรมการใช้งานโปรแกรม HGMC เรียนรู้และ ทดสอบบินอากาศยานไร้คนขับ (ออกแปลงบินทดสอบ) ระยะเวลาอบรม 2 วันต่อหลักสูตร กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนกลุ่มเกษตรกรทั่วไป ผู้นำชุมชน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ หน่วยงานรัฐ
หน้า | 5-26 หลักสูตรที่ 4 หลักสูตรพัฒนาผู้ประกอบการผลิตพืชด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ หัวข้อ รายละเอียด ชื่อหลักสูตร หลักสูตรพัฒนาผู้ประกอบการผลิตพืชด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ เนื้อหาหลักสูตร ความรู้พื้นฐานด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตร การเขียนโปรแกรมและการ พัฒนาระบบเกษตรอัจฉริยะ การประยุกต์ใช้ IoT การออกแบบและการจัดการระบบ การผลิตพืชในสภาพควบคุม (โรงเรือนระบบปิด) ด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ ระยะเวลาอบรม 2 วันต่อหลักสูตร กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนทั่วไป เกษตรกรทั่วไป ผู้นำชุมชน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น บุคลากร ภาคอุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
หน้า | 5-27 หลักสูตรที่ 5 หลักสูตรการแปรรูปพลังงานจากชีวมวลเพื่อลดการเผาวัสดุเหลือทิ้งจากการเกษตร หัวข้อ รายละเอียด ชื่อหลักสูตร หลักสูตรการแปรรูปพลังงานจากชีวมวลเพื่อลดการเผาวัสดุเหลือทิ้งจากการเกษตร เนื้อหาหลักสูตร ความรู้พื้นฐานด้านชีวมวล ประเภทของชีวมวล การนำชีวมวลมาใช้เป็นพลังงานใน รูปแบบเชื้อเพลิงแข็ง เชื้อเพลิงเหลว และเชื้อเพลิงแก๊ส มลพิษที่เกิดจากการนำชีวมวล มาใช้เป็นเชื้อเพลิง เทคโนโลยีการแปรรูปชีวมวลให้อยู่ในรูปเชื้อเพลิงเหลว แนวทางใน การจัดการชีวมวลเพื่อเพิ่มมูลค่าชีวมวลอย่างยั่งยืน ระยะเวลาอบรม 2 วันต่อหลักสูตร กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนทั่วไป เกษตรกรทั่วไป ผู้นำชุมชน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ หน่วยงานรัฐ
หน้า | 5-28 หลักสูตรที่ 6 หลักสูตรการออกแบบและสร้างกังหันน้ำแบบหัวน้ำต่ำเพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า หัวข้อ รายละเอียด ชื่อหลักสูตร หลักสูตรการออกแบบและสร้างกังหันน้ำแบบหัวน้ำต่ำเพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า เนื้อหาหลักสูตร ความรู้พื้นฐานด้านการผลิตกระแสไฟฟ้า การออกแบบคลองส่งน้ำเพื่อใช้งานสำหรับ กังหันน้ำแบบหัวน้ำต่ำ ชนิดและประเภทของกังหันน้ำต่างๆ การออกแบบกังหันน้ำ แบบหัวน้ำต่ำ การออกแบบระบบส่งกำลังและการสาธิตการใช้งานกังหันน้ำแบบหัวน้ำ ต่ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ระยะเวลาอบรม 2 วันต่อหลักสูตร กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนทั่วไป เกษตรกรทั่วไป ผู้นำชุมชน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ หน่วยงานรัฐ
หน้า | 5-29 หลักสูตรที่ 7 หลักสูตรการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ในการจัดการด้านจราจรเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน หัวข้อ รายละเอียด ชื่อหลักสูตร หลักสูตรการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ในการจัดการด้านจราจรเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้อง ถนน เนื้อหาหลักสูตร ความรู้พื้นฐานด้านระบบปัญญาประดิษฐ์ ตัวอย่างการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ในงาน จราจร การใช้งานระบบ Image Processing ร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ การวางแผนเชิง โครงสร้างในการแก้ไขงานจราจรโดยการใช้ปัญญาประดิษฐ์ร่วมกับข้อมูล Big Data การเก็บข้อมูลเพื่อการพัฒนาระบบและการดูแลรักษา ระยะเวลาอบรม 2 วันต่อหลักสูตร กลุ่มเป้าหมาย องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด หน่วยงานรัฐ
หน้า | 5-30 หลักสูตรที่ 8 หลักสูตรการใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการจัดการทรัพยากรน้ำ หัวข้อ รายละเอียด ชื่อหลักสูตร หลักสูตรการใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการจัดการทรัพยากรน้ำ เนื้อหาหลักสูตร ความรู้พื้นฐานของระบบฐานข้อมูล การใช้ระบบ GIS ในการวางแผนและบริหาร จัดการน้ำ การสำรวจการเก็บข้อมูลด้านน้ำในภาคสนาม การพัฒนาแผนการจัดการน้ำ ชุมชน การปฏิบัติการสำรวจ จัดทำแผนที่แหล่งน้ำด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และ วางแผนผังการจัดการน้ำชุมชน การตรวจวัดข้อมูลทางอุตุอุทกวิทยาและการบริหาร จัดการทรัพยากรน้ำในภาพรวมของประเทศ ระยะเวลาอบรม 3 วันต่อหลักสูตร กลุ่มเป้าหมาย บุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านน้ำมีความพร้อมในการปฏิบัติงาน และศึกษาต่อในระดับ บัณฑิตศึกษาด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ
หน้า | 5-31 หลักสูตรที่ 9 หลักสูตรการจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ หัวข้อ รายละเอียด ชื่อหลักสูตร หลักสูตรการจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ เนื้อหาหลักสูตร หลักการจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ การวางแผนและบริหารจัดการน้ำ การมี ส่วนร่วมในการจัดการน้ำ การสร้างเครือข่ายการจัดการน้ำ การพัฒนาแผนการจัดการ น้ำชุมชน กฎระเบียบ กฎหมายน้ำ การปฏิบัติการสำรวจระบบแหล่งน้ำและการใช้น้ำ ชุมชน การตรวจสอบอาคารชลศาสตร์ การดูแลรักษาระบบส่งน้ำ คุณภาพน้ำผิวดิน คุณภาพน้ำบาดาล ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำ การตรวจวัดคุณภาพ น้ำ การติดตามเฝ้าระวังคุณภาพน้ำ ระยะเวลาอบรม 3 วันต่อหลักสูตร กลุ่มเป้าหมาย บุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านน้ำมีความพร้อมในการปฏิบัติงาน และศึกษาต่อในระดับ บัณฑิตศึกษาด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ
หน้า | 5-32 หลักสูตรที่ 10 หลักสูตรการผลิตประปาชุมชนและการจัดการระบบบำบัดน้ำเสียชุมชน หัวข้อ รายละเอียด ชื่อหลักสูตร หลักสูตรการผลิตประปาชุมชนและการจัดการระบบบำบัดน้ำเสียชุมชน เนื้อหาหลักสูตร ประปาชุมชนรูปแบบต่างๆ การสำรวจแหล่งน้ำดิบเพื่อการพัฒนาระบบประปาชุมชน การออกแบบก่อสร้างระบบประปา การเดินระบบ และดูแลรักษาระบบประปาการ ควบคุมการทิ้งน้ำ การบำบัดน้ำเสีย กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการจัดการน้ำเสีย การ สำรวจพื้นที่เพื่อก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียชุมชน การตรวจวัดคุณภาพน้ำ ออกแบบ ก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียชุมชน การเดินระบบ ดูแลรักษาระบบบำบัดน้ำเสียชุมชน เทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียเทคโนโลยีในการนำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่ ระยะเวลาอบรม 3 วันต่อหลักสูตร กลุ่มเป้าหมาย บุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านน้ำมีความพร้อมในการปฏิบัติงาน และศึกษาต่อในระดับ บัณฑิตศึกษาด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ
หน้า | 5-33 Digital Platform Thai Youth Integrity Assessment V.1 URL: https://v1.tyintegrity.org/public/home? Anti - Corruption Education Monitoring and Evaluation 2021 URL: https://tyintegrity.org/public/home?
หน้า | 5-34 AMPHOE-ITA 2022 URL: https://amphoeita.com/index.php#public/home.php POLICE-ITA 2022 URL: https://policeita.com/index.php#public/home.php