The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงายวิจัยฉบับสมบูรณ์ Knowledge Stock

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ การสังเคราะห์และประเมินสถานการณ์ของเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อถ่ายทอดสู่พื้นที่ ทำให้เกิดนวัตกรรมในการพัฒนาระดับท้องถิ่น Synthesis and Evaluation of Technologies and Innovations to Assess the Readiness for the Transfer to Area Development: The Supply-Side Analysis

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by paporn, 2023-02-13 22:42:40

รายงายวิจัยฉบับสมบูรณ์ Knowledge Stock

รายงายวิจัยฉบับสมบูรณ์ Knowledge Stock

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ การสังเคราะห์และประเมินสถานการณ์ของเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อถ่ายทอดสู่พื้นที่ ทำให้เกิดนวัตกรรมในการพัฒนาระดับท้องถิ่น Synthesis and Evaluation of Technologies and Innovations to Assess the Readiness for the Transfer to Area Development: The Supply-Side Analysis

หน้า | 3-29 ได้กำหนด EXPERT_ID : EXPERT_NAME ดังนี้ 0101 : ด้านดาราศาสตร์ 0102 : ด้านธรณีวิทยา 0103 : ด้านสมุทรศาสตร์ 0104 : ด้านฟิสิกส์ 0105 : ด้านเคมี 0106 : ด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับโลกและ อวกาศ 0107 : ด้านอุทกวิทยา 0108 : ด้านอุตุนิยมวิทยา 0109 : ด้านสถิติ 0110 : ด้านคณิตศาสตร์ 0201 : สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ 0202 : สาขาแพทยศาสตร์ 0203 : สาธารณสุขศาสตร์ 0204 : สาขาเทคนิคการแพทย์ 0205 : สาขาพยาบาลศาสตร์ 0206 : สาขาทันตแพทยศาสตร์ 0207 : สาขาวิทยาภูมิคุ้มกัน 0208 : สาขากายภาพบำบัด 0209 : สาขากุมารเวชศาสตร์ 0210 : สาขาชีวเคมี 0211 : สาขาพยาธิวิทยา 0212 : สาขารังสีวิทยา 0213 : สาขากายวิภาคศาสตร์ 0214 : สาขาจักษุวิทยา 0215 : สาขาปรสิตวิทยา 0216 : สาขาจิตเวชศาสตร์ 0217 : สาขาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง 0301: อนินทรีย์เคมี 0302: อินทรีย์เคมี 0303: ชีวเคมี 0304: เคมีอุตสาหกรรม 0305: อาหารเคมี 0306: เคมีโพลิเมอร์ 0307: เคมีวิเคราะห์ 0308: ปิโตรเคมี 0309: เคมีสิ่งแวดล้อม 0310: เคมีเทคนิค 0311:นิวเคลียร์เคมี 0312:เคมีเชิงฟิสิกส์ 0313: เคมีชีวภาพ 0314: เภสัชเคมี 0315: เภสัชอุตสาหกรรม 0316: เภสัชวิทยาและพิษวิทยา 0317: เครื่องสำอาง 0318: เภสัชเวท 0319: เภสัชชีวภาพ 0320: อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 0401: ทรัพยากรพืช 0413: สาขาพืชสวน 0414: สาขาปฐพีวิทยา 0415: สาขาโรคพืช 0416: สาขากีฏวิทยา 0417: สาขาส่งเสริมการเกษตร 0418: สาขาเทคโนโลยีระบบเกษตร 0419: สาขาการจัดการศัตรูพืชและสัตว์ 0420: สาขาเคมีการเกษตร 0421: สาขาเทคโนโลยีชีวภาพด้าน การเกษตร 0422: สาขาสัตวศาสตร์อุตสาหกรรม 0423: สาขาวิทยาการสมุนไพร 0501: วิศวกรรมไฟฟ้า 0502: วิศวกรรมโยธา 0503: วิศวกรรมเครื่องกล 0504: วิศวกรรมเคมี 0505: วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ 0506: วิศวกรรมเหมืองแร่ 0507: วิศวกรรมนิวเคลียร์ 0508: วิศวกรรมโลหการ 0509: วิศวกรรมสำรวจ 0510: วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม 0511: วิศวกรรมชลประทาน 0512: วิศวกรรมอุตสาหการ 0513: ทางวิศวกรรมปิโตรเลียม 0514: ทางวิศวกรรมทรัพยากรธรณี 0515: วิศวกรรมยานยนต์ 0516: วิศวกรรมเรือ 0517: วิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อสาร 0518: วิศวกรรมอากาศยาน 0519: วิศวกรรมนาโน 0520: วิศวกรรมชีวเวช 0521: วิศวกรรมซอฟต์แวร์ 0522: วิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อสาร 0523: วิศวกรรมพลังงานทางเลือก 0601: สาขาเศรษฐศาสตร์ 0602: สาขาพาณิชยศาสตร์ 0603: สาขาการบัญชี 0604: สาขาการตลาด 0605: สาขาการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 0606: สาขาระบบสารสนเทศ 0607: สาขาการจัดการโลจิสติกส์ 0608: สาขาการจัดการการท่องเที่ยวและ โรงแรม 0609: สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ 0610: สาขาการเงินการธนาคาร 0611: สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ 0612: สาขาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง 0801: เทคโนโลยีนิวเคลียร์ 0802: เคมีนิวเคลียร์ 0803: รังสีวิทยา 0804: เคมีรังสี 0805: การจัดการกากกัมมันตรังสี 0806: ชีวฟิสิกส์รังสี 0807: เวชศาสตร์นิวเคลียร์ 0808: กัมมันตภาพรังสีสิ่งแวดล้อม 0809: อุทกวิทยาไอโซโทป 0810: เทคโนโลยีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 0811: การถ่ายภาพด้วยรังสี 0812: สาขาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง 0901: ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ 0902: ด้านเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ทางทะเล 0903: ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร 0904: ด้านเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ 0905: ด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ 0906: ด้านวิชาวิศวกรรมอาหาร 0907: ด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร 0908: ด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 0909: ด้านคหกรรมศาสตร์ 0910: ด้านวิชาอาหารและโภชนาการ 0911: ด้านเทคโนโลยีการหมัก 0912: ด้านมาตรฐานการควบคุมคุณภาพอาหารและ โรงงาน 0913: ด้านพอลิเมอร์ชีวภาพ 1001: สถาปัตยกรรมศาสตร์ 1002: สถาปัตยกรรมภายใน 1003: การวางแผนภาคและเมือง 1004: การออกแบบอุตสาหกรรม 1005: ภูมิสถาปัตยกรรม 1006: เคหการ 1007: สถาปัตยกรรมไทย 1008: การออกแบบเครื่องประดับ 1009: การออกแบบสิ่งทอ 1101: ทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ 1102: พันธุศาสตร์และอณูชีววิทยา 1103: พืชศาสตร์และเทคโนโลยี 1104: ทางชีววิทยา 1105: ทางนิเวศวิทยา 1106: การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช 1107: ชีววิทยาทางทะเล 1108: พฤกษศาสตร์พื้นบ้าน 1109: ชีววิทยาสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ 1110: ทางมิญชวิทยา 1111: ทางชลธารวิทยา 1112: ทางอนุกรมวิธานพืช 1113: ทางอนุกรมวิธานสัตว์ 1201: จุลชีววิทยาทางอาหาร


หน้า | 3-30 0402: ทรัพยากรประมง 0403: ทรัพยากรป่าไม้ 0404: ทรัพยากรน้ำเพื่อการเกษตร 0405: ธุรกิจการเกษตร 0406: วิศวกรรมและเครื่องจักรกล การเกษตร 0407: สิ่งแวดล้อมทางการเกษตร 0408: วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 0409: อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 0410: สาขาสัตวศาสตร์ 0411: สาขาเกษตรเขตร้อน 0412: สาขาพืชไร่ 0701: ทางวิทยาการคอมพิวเตอร์และ เทคโนโลยีสารสนเทศ 0702: โทรคมนาคม 0703: การสื่อสารด้วยดาวเทียม 0704: การสื่อสารเครือข่าย 0705: การสำรวจและรับรู้จากระยะไกล 0706: ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ 0707: สารสนเทศศาสตร์ 0708: บรรณารักษศาสตร์ 0709: เทคนิคพิพิธภัณฑ์และภัณฑาคาร 0710: อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 0711: นิเทศศาสตร์ 1202: จุลชีววิทยาทางอุตสาหกรรม 1203: จุลชีววิทยาทางการแพทย์ 1204: จุลชีววิทยาสิ่งแวดล้อม 1205: พันธุวิศวกรรมจุลินทรีย์ 1206: สาขาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง 1301: สาขาด้านอื่นๆ 1401: สาขาการสอบเทียบและทดสอบ 1501: เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว 1601: ชีวสารสนเทศและชีววิทยาระบบ 4. ตารางความเชี่ยวชาญสัมพันธ์กับผู้วิจัย: RESEARCHER_ EXPERT_ AREA Item Name Type Size Description Remark ID Number รหัสของความสัมพันธ์ระหว่าง นักวิจัยและสาขาที่เชี่ยวชาญ - คีย์หลัก (Primary Key) - Auto number RESEARCHER_ID Number รหัสผู้วิจัย อ้างอิงกับตาราง RESEARCHER EXPERT_ID Text 4 รหัสกลุ่มความเชี่ยวชาญ อ้างอิงกับตาราง EXPERT_AREA_GROUP 5. ตารางข้อมูลผลงาน: PRODUCTION Item Name Type Size Description Remark PRO_ID Text 9 รหัสผลงาน กำหนดให้ใช้ตัวอักษรขึ้นต้นแรก 1 ตัว จากนั้นเป็นตัวเลข 8 ตัว กำหนดตัวอักษรตัวแรก ดังนี้ R : รายงานวิจัย A : บทความวิจัย B : หนังสือ I : สิ งประดิษฐ์ -คีย์หลัก (Primary Key) ตัวอย่าง เช่น J00000001 TITLE_THAI String 500 ชื่อผลงานภาษาไทย TITLE_ENG String 500 ชื่อผลงานภาษาอังกฤษ AUTHOR_SHOW String 1000 ชื่อผู้แต่ง/ผู้เขียน/เจ้าของผลงาน แสดงรายชื่อทั้งหมด คั่นแต่ละชื่อ ด้วย ; Suwansri, S.; Moran, J.C.; Aggarangsi, P.;Tippayawong, N.;Bunkham, A.;Rerkkriangkrai, P. EXPERT_ID Text 4 รหัสสาขาที่เกี่ยวข้อง อ้างอิงจากตาราง EXPERT_AREA KEYWORD String 500 Keyword คั่นแต่คำด้วย ; Text;Text;Text;…


หน้า | 3-31 6. ตาราง ผู้วิจัยสัมพันธ์กับผลงาน: RESEARCHER _PRODUCT Item Name Type Size Description Remark RESEARCHER_ID Number รหัสผู้วิจัย -คีย์หลัก (Primary Key) อ้างอิงตาราง RESEARCHER PRO_ID Text 9 รหัสผลงาน -คีย์หลัก (Primary Key) อ้างอิงตาราง PRODUCTION AUTHOR_ORDER Number ลำดับผู้แต่ง 7. ตารางผลงานชนิดรายงานโครงการวิจัย: REPORT Item Name Type Size Description Remark PRO_ID Text 9 รหัสผลงาน กำหนดตัวอักษรตัว แรกคือตัว R -คีย์หลัก (Primary Key) อ้างอิงตาราง PRODUCTION PROJ_TYPE Text 1 ลักษณะโครงการวิจัย 1: โครงการวิจัย, 2:โครงการบริการ วิชาการ, 3: วิทยานิพนธ์ TRL String 4 ระดับการนำไปใช้ประโยชน์(TRL) SRL String 4 ระดับ SRL รหัส TRL1 - 9 TRL 1: Basic principles observed and reported TRL 2: Concept and/or application formulated TRL 3: Concepts demonstrated analytically or experimentally TRL 4: Key elements demonstrated in laboratory environment TRL 5: Key elements demonstrated in relevant environments TRL 6: Representative of the deliverable demonstrated in relevant environments TRL 7: Final development version of the deliverable demonstrated in operational Environment TRL 8: Actual deliverable qualified through test and demonstration TRL 9: Operational use of deliverable


หน้า | 3-32 ระดับ SRL ดังนี้ SRL1: identifying problem and identifying societal readiness) SRL2: formulation of problem, proposed solution(s) and potential impact, expected societal readiness; identifying relevant stakeholders for the project. SRL3: initial testing of proposed solution(s) together with relevant stakeholders SRL4: problem validated through pilot testing in relevant environment to substantiate proposed impact and societal readiness SRL5: proposed solution(s) validated, now by relevant stakeholders in the area SRL 6: (solution (s) demonstrated in relevant environment and in cooperation with relevant stakeholders to gain initial feedback on potential impact SRL7: refinement of project and/or solution and, if needed, retesting in relevant environment with relevant stakeholders SRL8: proposed solution(s) as well as a plan for societal adaptation complete and qualified SRL9 : actual project solution (s) proven in relevant environment 8. ตารางผลงานชนิดบทความตีพิมพ์: ARTICLE Item Name Type Size Description Remark PRO_ID Text 9 รหัสผลงาน กำหนดตัวอักษรตัวแรกคือ ตัว A -คีย์หลัก (Primary Key) อ้างอิงตาราง PRODUCTION JOURNAL_NAME String 500 ชื่อการประชุม/ชือวารสาร PUBLICATION_DATE Date เดือน/ปีที่ตีพิมพ์/เผยแพร่ 2021/06 ARTICLE_TYPE String 1 ประเภท [journal|conference|book chapter|poster] 1:journal, 2:conference, 3: book, 4: chapter, 5:poster PUBLICATION_TYPE Text 1 การเผยแพร่ 1: ในประเทศ , 2: นานาชาติ DATABASE Text 2 ฐานข้อมูล [Scopus,ISI] 1: ISI , 2: Scopus ABSTRACT String 3000 บทคัดย่อ / รายละเอียดสังเขป


หน้า | 3-33 9. ตารางผลงานชนิดหนังสือ: BOOK Item Name Type Size Description Remark PRO_ID Text 9 รหัสผลงาน กำหนดตัวอักษรตัวแรกคือตัว B -คีย์หลัก (Primary Key) อ้างอิงตาราง PRODUCTION PUBLICATION_DATE Date วัน(เดือน)ที่ตีพิมพ์/เผยแพร่ YYYY/MM/DD, YYYY/DD PUBLICATION_TYPE Text 1 การเผยแพร่ 1: ในประเทศ , 2: นานาชาติ 10. ตารางผลงานชนิดสิทธิบัตร: IP Item Name Type Size Description Remark PRO_ID Text 9 รหัสผลงาน กำหนดตัวอักษรตัวแรกคือตัว I -คีย์หลัก (Primary Key) อ้างอิงตาราง PRODUCTION IP_NATION String 10 เลขที่สิทธิบัตร / อนุสิทธิบัตร (เฉพาะสิ่งประดิษฐ์) ในประเทศไทย DATE_NATION Date วันที่ได้รับอนุมัติ(ในประเทศ) [2021/06] IP_INTER String 10 เลขที่สิทธิบัตร / อนุสิทธิบัตร (เฉพาะสิ่งประดิษฐ์) ในประเทศต่างประเทศ DATE_INTER Date วันที่ได้รับอนุมัติ(ต่างประเทศ) [2021/06] 11. ตารางข้อมูลห้องปฏิบัติการ: INFRASTRUCTURE Item Name Type Size Description Remark LABORATORY_ID Number รหัสห้องปฏิบัติการ -คีย์หลัก (Primary Key) Auto number LABORATORY_NAME String 300 ชื่อห้องปฏิบัติการ KEYWORD Text 500 Keyword คั่นแต่คำด้วย ; Text;Text;Text;… INSTITUTE Text 4 สังกัด (มหาวิทยาลัย / หน่วยงาน) KKU,CMU,BU FACULTY String 200 สังกัด (คณะ) DEPARTMENT String 200 สังกัด (ภาควิชา) POSTAL_CODE Text 5 รหัสไปรษณีย์ RESEARCHER_ID Number รหัสผู้วิจัยที่ดูแลห้องปฎิบัติการ


หน้า | 3-34 12. ตารางอุปกรณ์เครื่องมือวิจัย: EQUIPMENT Item Name Type Size Description Remark EQUIPMENT_ID Number รหัสอุปกรณ์ -คีย์หลัก (Primary Key) Auto number EQUIPMENT_NAME_THAI String 300 ชื่ออุปกรณ์ภาษาไทย EQUIPMENT_NAME_ENG String 300 ชื่ออุปกรณ์ภาษาอังกฤษ EQUIPMENT_IMAGE String 300 ไดเร็กทอรี่เก็บภาพครื่องมือ TECHNOLOGY FIELD Text 2 สาขาเทคโนโลยี 01: สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและ คณิตศาสตร์ 02: สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ 03: สาขาวิชาเคมีและเภสัช 04: สาขาเกษตรศาสตร์และทรัพยา ธรรมชาติ 05: สาขาวิศวกรรมศาสตร์ 06: สาขาเศรษฐศาสตร์ 07: สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและนิเทศ 01: ศาสตร์ 08: สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสาร 09: สาขาวิทยาศาสตร์ด้านจุลชีววิทยา 10: สาขาสถาปัตยกรรมศาสตร์และการ ออกแบบ 11: สาขาเทคโนโลยีด้านอื่นๆ 12: สาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อาหาร 13: สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและ คณิตศาสตร์ EQUIPMENT_TECHNIQUE Text 2 เทคนิคของ อุปกรณ์ 01: คณิตศาสตร์และสถิติ 02: ฟิสิกส์ 03: ดาราศาสตร์ 04: วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับโลกและอวกาศ 05: ธรณีวิทยา 06: อุทกวิทยา 07: สมุทรศาสตร์ 08: อุตุนิยมวิทยา 09: ฟิสิกส์ของสิ่งแวดล้อม 10: อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง LABORATORY_ID Number รหัสห้องปฏิบัติการ อ้างอิงตาราง INFRASTRUCTURE


หน้า | 3-35 จากตารางทั้ง 12 ตารางสามารถเขียนความสัมพันธ์ของข้อมูลแต่ละตารางในรูปแบบโครงสร้าง ความสัมพันธ์ของข้อมูล (Entity Relationship Diagram) โดยแบบจำลองนี้อธิบายโครงสร้างและ ความสัมพันธ์ของฐานข้อมูล ดังแผนภาพที่ 3.3 แผนภาพที่ 3.3 แบบจำลองโครงสร้างของฐานข้อมูล การรวบรวมข้อมูล (Data Collection) ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำ Knowledge Stock นั้นคณะผู้วิจัยทั้งทีมส่วนกลางและทีม จากมหาวิทยาลัยทั้ง 5 แห่งได้มีการประชุมร่วมกันเพื่อหารือถึงแหล่งข้อมูลที่มหาวิทยาลัยทั้ง 5 แห่งรวบรวมไว้ และแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำ Knowledge Stock ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่มอัน ประกอบด้วย 1) ฐานข้อมูลวิจัย สิ่งประดิษฐ์ และบริการทางวิชาการของคณะ และมหาวิทยาลัย. 2) ฐานข้อมูล ภาครัฐหรือข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้ทั่วไป เช่นฐานข้อมูล STDB, NRIIS หรือสิทธิบัตร เป็นต้น. 3) ข้อมูลที่ สำรวจเพิ่มเติมจากเครือข่ายของมหาวิทยาลัยทั้ง 5-แห่ง โดยการดำเนินการวางลำดับขั้นตอนดังนี้


หน้า | 3-36 ขั้นตอนที่ 1 กำหนดข้อมูลและประเภทของข้อมูลที่ต้องการร่วมกัน โดยทีมวิจัยได้หารือกัน เพื่อกำหนดความต้องการของข้อมูลและประเภทข้อมูลที่เหมาะสมและสามารถนำเข้าระบบ Knowledge Stock และทีมวิจัยส่วนกลางและมหาวิทยาลัยทั้ง 5 แห่งใช้เป็นกรอบในการรวบรวมข้อมูลเพื่อส่งเข้าระบบ กลาง ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล โดยแบ่งความรับผิดชอบระหว่างทีมส่วนกลางกับทีม วิจัยจากแต่ละมหาวิทยาลัย โดยทีมวิจัยส่วนกลางจัดทำโปรแกรมหรือติดต่อประสานความร่วมมือเพื่อรวบรวม ข้อมูลจากฐานข้อมูลทั่วไป ทีมวิจัยส่วนของมหาวิทยาลัยทำการรวบรวมข้อมูลจากฐานข้อมูลงานวิจัยของ มหาวิทยาลัย และฐานข้อมูลภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัย อันได้แก่ ฐานข้อมูลของอุทยานวิทยาศาสตร์ ฐานข้อมูลสำนักบริการวิชาการ และประสานงานสถาบันอื่นๆ ในเครือข่ายที่มหาวิทยาลัยเป็นแม่ข่าย เช่น เครือข่ายบริหารงานวิจัยภาคตะวันออก เครือข่ายอุดมศึกษาภาคตะวันออก รวมถึงการรวบรวมข้อมูลที่จัดเก็บ อยู่แล้วของแต่ละสถาบัน และการจัดทำแบบสำรวจเพื่อให้สถาบันเครือข่ายร่วมกันรวบรวมข้อมูลงานวิจัย และองค์ความรู้อื่นๆ เพิ่มเติม ขั้นตอนที่ 3 เตรียมข้อมูลเพื่อนำเข้าระบบ Knowledge stock ทีมวิจัยนำข้อมูลที่รวบรวม ได้มาตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วน และตรวจสอบความซ้ำซ้อนของข้อมูล และนำส่งให้ทีมวิจัย ส่วนกลางนำเข้าระบบฐานข้อมูลกลาง Knowledge stock นอกเหนือจากการรวบรวมข้อมูลเข้าสู่ระบบจากจากระบบข้อมูลของ 5 มหาวิทยาลัย รวมถึงการรวบรวมด้วยวิธีการอื่นร่วมด้วย ทั้งนักวิจัยสามารถที่จะนำเข้าข้อมูล เพื่อนำเข้าสู่ระบบคลังความรู้ กลางแล้ว ในการวิจัยครั้งนี้ คณะผู้วิจัยยังได้มีการพัฒนา Search within a webpage เพื่อนำมาใช้ใน การดึงข้อมูลอัตโนมัติด้วยเทคนิคการดึงข้อมูลจากหน้าเว็บไซต์ (Web Scraper) มาใช้ในการรวบรวมข้อมูลใน ครั้งนี้ด้วย ซึ่งจากการทบทวนกระบวนการที่เหมาะสมในการค้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมือง โดยเน้นกระบวนการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง พบว่า การทำงานโดยการดึงข้อมูลอัตโนมัติด้วยเทคนิค การดึงข้อมูลจากหน้าเว็บไซต์ (Web Scraper) เป็นกระบวนการที่ประหยัดเวลาและมีประสิทธิภาพสูง โดย คณะทำงานจะต้องทำการเขียนชุดคำสั่ง โดยอาศัยเลขรหัสประจำตัวของนักวิจัย (Researcher ID) เช่น Scopus ID มาเป็นจุดเชื่อมโยงไปยังข้อมูลของนักวิจัยนั้นจากเว็บไซต์ โดยมีกรอบกระบวนการทำงาน ดังแผนภาพที่ 3.4 ต่อไปนี้


หน้า | 3-37 แผนภาพที่ 3.4 แสดงการดึงข้อมูลอัตโนมัติด้วยเทคนิคการดึงข้อมูลจากหน้าเว็บไซต์ (Web Scraper) ซึ่งจากการดำเนินการ พบว่า ขั้นตอนที่สำคัญคือการรวบรวม เลขรหัสประจำตัวของนักวิจัยหรือ Researcher ID ของแต่ละคน และสร้างชุดคำสั่งให้ทำงานอัตโนมัติในลักษณะ Robot เพื่อดึงข้อมูลจาก ฐานข้อมูล 6 ฐานมารวมไว้ เพื่อนำไปเตรียมคัดแยกและจัดกลุ่มในขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป ฐานข้อมูล 6 ฐานข้อมูลคือ 1) ฐานข้อมูลรายงานการวิจัยของแต่ละสถาบัน 2) ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์แบบ อิเล็กทรอนิกส์ (e-thesis) 3) ฐานข้อมูลห้องปฏิบัติการวิจัย 4) ฐานข้อมูลงานวิจัยระดับนานาชาติ และระดับชาติ 5) ฐานข้อมูลการตีพิมพ์หนังสือ และ 6) และทรัพย์สินทางปัญญา โดยตัวอย่างข้อมูลที่จะทำ การเก็บรวบรวมจะได้นำเสนอในแผนภาพที่ 3.5 และแผนภาพที่ 3.6 MIS Staff/ Faculty Department Researcher Robot Log Web App Publisher/Indexer Robot Lake Scrapper Robot Cloud Storage


หน้า | 3-38 แผนภาพที่ 3.5 ตัวอย่างข้อมูลนักวิจัยในเว็บไซต์Scopus แผนภาพที่ 3.6 ตัวอย่างข้อมูลผลงานตีพิมพ์ที่ได้จากการทำ Data Scraper


หน้า | 3-39 การดำเนินงานที่กล่าวไปแล้วข้างต้นสามารถสรุปผลการคัดเลือกข้อมูลได้ดังนี้ จากการหารือในกลุ่มคณะทำงานทั้ง 5 สถาบันได้ข้อสรุปในแต่ละฐานข้อมูลสามารถแสดงได้ต่อไปนี้ 1.1 ฐานข้อมูลรายงานการวิจัยของแต่ละสถาบัน โดยอาศัยฐานข้อมูลจากระบบ MIS ของแต่ละ สถาบันซึ่งมีรายการข้อมูลที่ต้องการ (Requirement) ดังต่อไปนี้ No ชื่อข้อมูล ลักษณะข้อมูล ตัวอย่างข้อมูล 1 ลำดับ Integer 1 2 ชื่อตัว Text Nakorn 3 ชื่อสกุล Text Tippayawong 4 สังกัด (มหาวิทยาลัย / หน่วยงาน) Text มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 5 สังกัด (คณะ) Text คณะวิศวกรรมศาสตร์ 6 สังกัด (ภาควิชา) (Select from list) วิศวกรรมเครื่องกล 7 อีเมลที่ใช้ประจำ Text (Email) [email protected] 8 Scopus ID Integer 1.2 ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์แบบอิเลคโทรนิค (e-thesis) โดยอาศัยฐานข้อมูลจากระบบห้องสมุด ของ แต่ละสถาบันซึ่งมีรายการข้อมูลที่ต้องการ (Requirement) ดังต่อไปนี้ No ชื่อข้อมูล ลักษณะข้อมูล ตัวอย่างข้อมูล 1 ลำดับ Integer 1 2 ชื่อโครงการ (ไทย) Text การออกแบบ... 3 ขื่อร่วมวิจัย Text;Text;Text;... Suwansri, S.; Moran, J.C.; 4 สังกัด (มหาวิทยาลัย / หน่วยงาน) Text มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 5 สังกัด (คณะ) Text คณะวิศวกรรมศาสตร์ 6 สังกัดชื่อแรก (ภาควิชา) (select from list) เครื่องกล 7 ลักษณะโครงการวิจัย (select from list) วิทยานิพนธ์ 8 ระดับการนำไปใช้ประโยชน์ (TRL) TRL 1 - 9 TRL 3


หน้า | 3-40 No ชื่อข้อมูล ลักษณะข้อมูล ตัวอย่างข้อมูล 9 วันสิ้นสุดโครงการ Date/ month/ Year 2564 10 Keyword Text; Text; Text;... biomethane solution; 11 บทคัดย่อ / รายละเอียดสังเขป Text The objectives of this articles 12 ที่ตั้งของผลงาน (ถ้ามี) รหัสไปรษณีย์ 1.3 ฐานข้อมูลห้องปฏิบัติการวิจัย โดยอาศัยฐานข้อมูลจากระบบ MIS ของแต่ละสถาบันซึ่งมีรายการ ข้อมูลที่ต้องการ (Requirement) ดังต่อไปนี้ No ชื่อข้อมูล ลักษณะข้อมูล ตัวอย่างข้อมูล 1 ลำดับ Integer 1 2 ชื่อกลุ่มวิจัย (ไทย) Text Nakorn 3 ชื่อสมาชิก (ไทย) Text; Text; Text;... Tippayawong 1.4 ฐานข้อมูลงานวิจัยระดับนานชาติและระดับชาติ โดยอาศัยฐานข้อมูลจากเว็บไซต์Scopus และ Web of Knowledge สำหรับงานระดับนานาชาติและจากเว็บไซต์Thijo – TCI data base ซึ่ง มีรายการข้อมูลที่ต้องการ (Requirement) ดังต่อไปนี้ No ชื่อข้อมูล ลักษณะข้อมูล ตัวอย่างข้อมูล 1 ลำดับ Integer 1 2 ชื่อบทความ Text A biomethane solution for domestic 3 ขื่อผู้แต่ง Text; Text; Text; Suwansri, S.; Moran, J.C.; Aggarangsi, 4 สังกัด (มหาวิทยาลัย / หน่วยงาน) Text มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 5 สังกัด (คณะ) Text คณะวิศวกรรมศาสตร์ 6 สังกัดชื่อแรก (ภาควิชา) (Select from list) เครื่องกล


หน้า | 3-41 No ชื่อข้อมูล ลักษณะข้อมูล ตัวอย่างข้อมูล 7 ชื่อการประชุม/ชื่อวารสาร Text Energy for Sustainable Development 8 วัน(เดือน)ที่ตีพิมพ์/เผยแพร่ YYYY/MM/DD, YYYY/DD 2021/06 9 ประเภท [journal|conference|book chapter poster] journal 10 การเผยแพร่ [ในประเทศ|นานาชาติ] นานาชาติ 11 Keyword Text; Text; Text; biomethane solution; 12 บทคัดย่อ / รายละเอียดสังเขป Text The objectives of this 13 ที่ตั้งของผลงาน (ถ้ามี) รหัสไปรษณีย์ 1.5 ฐานข้อมูลการตีพิมพ์หนังสือ โดยอาศัยฐานข้อมูลจากหอสมุดแห่งชาติซึ่งมีรายการข้อมูลที่ ต้องการ (Requirement) ดังต่อไปนี้ No ชื่อข้อมูล ลักษณะข้อมูล ตัวอย่างข้อมูล 1 ลำดับ Integer 1 2 ชื่อหนังสือ Text A biomethane solution for 3 ขื่อผู้แต่ง Text; Text; Text; Suwansri, S.; Moran, J.C.; Aggarangsi, 4 สังกัดชื่อแรก (ภาควิชา) (Select from list) เครื่องกล 5 สังกัดชื่อแรก (CoE) (Select from list) ศูนย์ความเป็นเลิศด้าน วิศวกรรมการแพทย์ 6 ยุทธศาสตร์ (Select from list) EE -พลังงาน 7 วัน(เดือน)ที่ตีพิมพ์/เผยแพร่ YYYY/MM/DD, YYYY/DD 2021/06 8 การเผยแพร่ [ในประเทศ|นานาชาติ] นานาชาติ 9 Keyword Text; Text; Text; biomethane solution; cooking; energy


หน้า | 3-42 1.6 ฐานข้อมูลการจดสิทธิบัตรและทรัพย์สินทางปัญญา โดยอาศัยฐานข้อมูลจากระบบ MIS ของแต่ ละสถาบันและเว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งมีรายการข้อมูลที่ต้องการ (Requirement) ดังต่อไปนี้ No ชื่อข้อมูล ลักษณะข้อมูล ตัวอย่างข้อมูล 1 ลำดับ Integer 1 2 เลขที่สิทธิบัตร / อนุสิทธิบัตร (เฉพาะสิ่งประดิษฐ์) ในประเทศ ไทย Text 10764 3 วันที่ได้รับอนุมัติ(ในประเทศ) YYYY/MM/DD, YYYY/DD 2021/06 4 เลขที่สิทธิบัตร / อนุสิทธิบัตร (เฉพาะสิ่งประดิษฐ์) ในประเทศ ต่างประเทศ Text 10764 5 วันที่ได้รับอนุมัติ(ต่างประเทศ) YYYY/MM/DD, YYYY/DD 2021/06 6 เจ้าของสิทธิบัตร/ลิขสิทธิ์ Text; Text; Text; Suwansri, S.; Moran, J.C.; 7 สังกัดชื่อแรก (ภาควิชา) (Select from list) เครื่องกล 8 สังกัด (มหาวิทยาลัย / หน่วยงาน) Text มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 9 สังกัด (คณะ) Text คณะวิศวกรรมศาสตร์ 10 Keyword Text; Text; Text; biomethane solution 11 ที่ตั้งของผลงาน (ถ้ามี) รหัสไปรษณีย์ การบูรณาการข้อมูล (Data Integration) การดำเนินงานหลังจากที่ได้มีการเก็บรวมรวมข้อมูล ทั้งจากการนำเข้าของเครือข่ายสถาบันการศึกษา 5 แห่งหลักและจากการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยระบบการดึงข้อมูลอัตโนมัติด้วยเทคนิคการดึงข้อมูลจากหน้า เว็บไซต์ (Web Scraper) ข้อมูลที่ได้ทั้งหมด จะเข้าสู่กระบวนการรวมกัน (Merging) การตรวจซ้ำ (Duplicating check) รวมถึง การจำแนกข้อมูล (Data Sorting) การทำฉลากข้อมูล (Data Labeling) และ รวมถึง การตรวจสอบข้อมูล (Data Validation) และการให้สกอร์ข้อมูล (Data Scoring)


หน้า | 3-43 ในส่วนนี้จะทำการผสานรวมข้อมูลที่มาจากแต่ละแหล่งให้อยู่ในรูปแบบเดียวกัน ตาม Data Model ที่กำหนดไว้จะประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้ 1. ขั้นตอนการสร้าง Wrapper เฉพาะ เพื่อทำหน้าที่ในการแปลงรูปแบบของข้อมูล เนื่องจากฐานข้อมูล (Data Source) จากแต่ละแหล่งมีรูปแบบที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงต้องมีWrapper ที่ มีการกำหนดขั้นตอนวิธีในการอ่านข้อมูล แปลงรูปแบบข้อมูลที่แตกต่างกัน โดยการทำ Data Mapping ตาม Data Model ที่กำหนด ตัวอย่างที่ปรากฎในตารางที่ 1 Source Field Target TABLE Target Field ชื่อผู้แต่ง (ที่ปรากฏใน ข้อความ) PRODUCTION AUTHOR_SHOW ชื่อบทความ PRODUCTION TITLE_ENG (lang:english) ชื่อบทความ PRODUCTION TITLE_THAI (lang:thai) ชื่อการประชุม / ชื่อวารสาร ARTICLE JOURNAL_NAME …. 2. ขั้นตอนการสะกัดข้อมูล Data Extraction เมื่อได้ไฟล์ข้อมูลที่นำเข้ามาจากแต่ละแหล่งแล้ว ไฟล์นั้น จะถูกส่งไปแปลงข้อมูลโดยใช้Wrapper ที่สร้างไว้ให้เป็นรูปแบบข้อมูล (Data Model) ที่กำหนดไว้ 3. ขั้นตอนการผสานข้อมูล Data Merging จะเป็นการนำข้อมูลที่ได้จากการสะกดจากแต่ละแหล่งในขั้น ที่ 2 มารวมกัน โดยจะมีการวิเคราะห์จำแนกข้อมูลในแต่ละเรคคอรด์ว่ามีความซ้ำซ้อนกันหรือไม่ ในกรณีที่เป็นข้อมูลใหม่ที่ยังไม่เคยมีในฐานข้อมูลมาก่อน ข้อมูลนั้นจะถูกเพิ่มเข้าไป ในกรณีที่พบ ข้อมูลเดิมอยู่แล้ว ระบบจำทำการตรวจสอบว่า ข้อมูลใดใหม่กว่า ก่อนทำการปรับปรุงข้อมูลที่ใหม่กว่า และข้อมูลที่ผสานได้ทั้งหมดจะนำไปเก็บรวมกันไว้ใน Integrated Database โดยแต่ละเรคคอรด์ที่ บันทึกจะมีการเก็บแหล่งที่มาด้วยเพื่อใช้ในการสืบค้นย้อนกลับได้ (ขั้นตอนการผสานข้อมูลปรากฎใน แผนภาพที่ 3.7)


หน้า | 3-44 แผนภาพที่ 3.7 Flowchart ขั้นตอนการผสานข้อมูล การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับระบบคลังความรู้กลาง (Knowledge Stock System Related Activities) เพื่อให้โครงการฯ สามารถดำเนินการบรรลุตามวัตถุประสงค์ในการจัดทำ Knowledge Stock (คลัง ความรู้) ในการรวบรวมข้อมูลทางด้านทรัพยากรทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมทั้งที่มีอยู่และกำลังดำเนินการ อาทิ ข้อมูลบุคคล หน่วยงานที่ดำเนินการ องค์ความรู้ในรูปแบบต่าง ๆ และชุดความรู้ที่เกี่ยวข้อง จากแต่ละ ภูมิภาค โดยอาศัยเครือข่ายความร่วมมือจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยในภูมิภาคทั้ง 5 แห่งใน การรวบรวมข้อมูล หลังจากนั้น จะมีการนำข้อมูลที่ประมวลทั้งหมด มาจัดหมวดหมู่ข้อมูล เพื่อให้เกิดคลัง ความรู้ พร้อมที่จะถ่ายทอด ให้แก่กลไกในการพัฒนาพื้นที่ ในการดำเนินการดังกล่าว เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นระบบกลางที จะทำหน้าที่นี้คณะผู้วิจัยจึงได้มีการพัฒนาระบบกลางที่เรียกว่า ระบบคลังความรู้ หรือ Knowledge Stock System (KSS) ซึ่งการพัฒนาระบบ KSS ได้มีการดำเนินการในประเด็นต่าง ๆ ต่อไปนี้ การพัฒนาเว็บไซต์คลังความรู้ โครงการได้มีการพัฒนาเว็บไซต์คลังความรู้ขึ้นโดยได้จดทะเบียน URL พร้อมจัดหา web hosting และ hardware ที่มีความจำเป็นในการดำเนินการพัฒนาระบบคลังความรู้กลาง โดยตัวระบบคลัง ความรู้ทีจะเป็นระบบกลางนี้ ผู้ใช้ในแต่ละกลุ่ม จะสามารถเข้าถึงระบบ Knowledge Stock System หรือ KSS ผ่านเว็บไซต์ http://www.knowledgestock.org โดยตัว web URL นี้ทำหน้าที่ใน 3 ส่วนกล่าวคือ


หน้า | 3-45 แผนภาพที่ 3.8 เว็บไซต์ http://www.knowledgestock.org 1. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการฯ – ในส่วนนี้จะเป็นการให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับข้องโครงการฯ การ ติดต่อสื่อสาร กับโครงการฯ และข่าวสารประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับโครงการ 2. ให้บริการไดเรกทอรี่ (Directory Service) และให้บริการการสืบค้น ( Searching Service) ข้อมูลคลังความรู้ที่ได้รวบรวมไว้ทั้งนี้ในการให้บริการดังกล่าว จะมีระดับการเข้าถึงข้อมูลที่ ให้บริการแตกต่างกัน ในแต่ละประเภทของผู้ใช้ 3. ระบบจัดการคลังข้อมูล (Knowledge Stock Content Management System) ซึ่งจะเป็น ระบบในการจัดการเนื้อหา (content) ของ admin หรือผู้ใช้ที่เกี่ยวข้อง การกำหนดกลุ่มผู้ใช้ (User Type) และกำหนดความต้องการเชิงหน้าที่ของระบบ (Functional Requirement) ในการพัฒนาส่วนประกอบของระบบและหน้าที่ (system componence and functions ) สำหรับ แต่ละกลุ่มผู้ใช้งาน จำเป็นที่จะต้องมีการกำหนดกลุ่มผู้ใช้ว่ามีใครบ้างที่จะสามารถเข้ามาใช้ในระบบและใช้ใน ระดับใด เพื่อที่จะได้สามารถออกแบบส่วนประสานงานผู้ใช้ (Graphical User Interface หรือ GUI) และ ส่วน หน้าที่ของระบบ (Functions) ต่าง ๆ ในส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องได้ ซึ่งในการกำหนดกลุ่มผู้ใช้ คณะผู้วิจัยใด้ กำหนดกลุ่มผู้ใช้ไว้ในช่วงเริ่มต้นในการออกแบบ โดยสามารถเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงได้ ในเบื้องต้น คณะผู้วิจัยได้ออกแบบกลุ่มผู้ใช้ตามชนิดของผู้ใช้ (User Types) ไว้ 5 กลุ่ม รายละเอียดในตารางที่ 3.2


หน้า | 3-46 ตารางที่ 3.2 ชนิดของผู้ใช้ (User Type) No. กลุ่มผู้ใช้ (Users) คำอธิบาย (Description) 1 คนทั่วไป (public user) คนทั่วไป (public user) สามารถ browsing ตัว directory ข้อมูลต่าง ๆ และสืบค้น searching ข้อมูลต่าง ๆ ในคลังข้อมูล ที่สามารถเปิดเผยต่อ public โดยไม่ต้อง log-in เข้าสู่ระบบ 2 ผู้ดูแลภูมิภาค (regional admin) ผู้ดูแลภูมิภาค (regional admin) สามารถดำเนินการทุกอย่าง ได้เหมือนกับ คนทั่วไป แต่ผู้ดูแลภูมิภาค สามารถ log-in เข้าสู่ ระบบ แล้วเข้าถึงชั้นข้อมูล และสามารถเพิ่มเติม และปรับปรุง ข้อมูลต่าง ๆ ใน KSS ได้ 3 ผู้ดูแลระบบกลาง (central admin) ผู้ดูแลระบบกลาง (central admin) ทำหน้าที่เป็น super admin คือมี permission ที่สามารถทำ functions ต่าง ๆ ใน ระบบได้ทั้งหมด รวมถึงสามารถ สร้างผู้ใช้ที่ต้องมีการเข้าระบบ ได้ในทุกระดับผู้ใช้ 4. หน่วยจัดสรรทุน (funding agency user) หน่วยจัดสรรทุน (funding agency user) หลังจาก log-in เข้า ระบบแล้ว สามารถเข้าถึงขั้นข้อมูลในระดับที่มากกว่า ที่ไม่ได้ เปิดเผยในระดับคนทั่วไป (public user) 5 ผู้ดูแลระดับสถาบัน (institution admin) ผู้ดูและระดับสถาบัน (institution admin) คือผู้ที่ทำหน้าที่เป็น admin ในสถาบันของตนเอง นอกเหลือจาก functions ต่าง ๆ ที่สามารถดำเนินการได้เหมือนกันคนทั่วไป แล้ว หลังจาก login เข้าสู่ระบบ ผู้ดูแลระดับสถาบัน สามารถ เพิ่มเติม แก้ไข ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลง ข้อมูล ในระดับสถาบันของตนเองได้ ซึ่งหลังจากได้มีการกำหนด User Types หรือ ชนิดหรือ กลุ่มของผู้ใช้แล้ว คณะผู้วิจัยได้มีการดำเนินการ จัดทำ ความต้องการหน้าที่ (Functional Requirement) ของระบบ Knowledge Stock System โดยใน เบื้องต้น ได้กำหนดหน้าที่ (functions) ตามความต้องการ (requirements) ไว้5 กลุ่มความต้องการ ดังต่อไปนี้ 1. การลงทะเบียนผู้ใช้(User Registration) ในกลุ่มนี้มีความต้องการหน้าที่เชิงระบบ (function requirements) 4 หน้าที่ย่อย ซึ่งได้แก่ F1.1. การสร้างหน้าที่ (Create Roles) F1.2. เปลี่ยนแปลง password (Reset Password) F.1.3 ปรับปรุงข้อมูล (Update User Account) F.1.4. Authenticate and Authorize Users


หน้า | 3-47 2. การเก็บสต๊อกความรู้(Knowledge Stocking) ในกลุ่มนี้มีความต้องการหน้าที่เชิงระบบ (function requirements) 4 หน้าที่ย่อย ซึ่งได้แก่ F2.1. เพิ่มสต๊อกความรู้ใหม่ (Add Knowledge Item) F2.2 ปรับปรุงสต๊อกความรู้ที่จัดเก็บ (Update Knowledge Item) F2.3 ลบข้อมูลสต๊อกความรู้ (Delete Knowledge Item) F2.4 การลบชั่วคราวสต๊อกความรู้ (Suspend Knowledge Item) หมายเหตุ– สต๊อกความรู้ หรือ knowledge item ในที่นี้ หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลบุคคล ข้อมูล หน่วยงานที่ดำเนินการ ข้อมูลวารสาร บทความ โครงสร้างพื้นฐาน ชุดความรู้ หรือนวัตกรรมต่าง ๆ 3. การตรวจสอบความถูกต้องและให้สกอร์ (Knowledge Item Validation and Scoring) ในกลุ่มนี้มีความต้องการหน้าที่เชิงระบบ (function requirements) 2 หน้าที่ย่อย ซึ่งได้แก่ F3.1. การร้องขอการตรวจสอบความถูกต้องและให้สกอร์ (New Knowledge Item Request Validation and Scoring ) ของความรู้ใหม่ F3.2 การตรวจสอบความถูกต้องและให้สกอร์ (Validation and Scoring Generation) 4. การให้บริการไดเรกทอรี่ความรู้(Knowledge Directory Service) ในกลุ่มนี้มีความต้องการหน้าที่เชิงระบบ (function requirements) 7 หน้าที่ย่อย ซึ่งได้แก่ F4.1. บริการไดเรกทอรีความรู้โดยนักวิจัย/ผู้เชียวชาญ (knowledge grouping by researcher/expertise) F4.2 บริการไดเรกทอรี่ความรู้โดยสาขาวิชา (knowledge grouping by discipline and subdiscipline) F4.3. บริการไดเรกทอรี่ความรู้โดยโครงสร้างพื้นฐาน (knowledge grouping by infrastructure type) F4.4 บริการไดเรกทอรี่ความรู้โดยภูมิศาสตร์ (knowledge grouping by geography) F4.5 บริการไดเรกทอรี่ความรู้โดยหัวข้อที่กำหนด (knowledge grouping by arranged topic) F4.6 บริการไดเรกทอรี่ความรู้โดยชนิดของนวัตกรรม (knowledge grouping by innovation type) F4.7 บริการไดเรกทอรี่ความรู้โดยการให้บริการ (knowledge grouping by service availability)


หน้า | 3-48 5. การให้บริการสืบค้นความรู้ (Knowledge Search Service) ในกลุ่มนี้มีความต้องการหน้าที่เชิงระบบ (function requirements) 3 หน้าที่ย่อย ซึ่งได้แก่ F5.1. บริการสืบค้นข้อมูลโดยคำสำคัญ ( search knowledge by keyword) F3.2. บริการสืบค้นข้อมูลโดยชื่อนักวิจัย/ผู้เชี่ยวชาญ (search knowledge by name of researcher or name of expertise) F3.3. บริการสืบค้นข้อมูลโดยชื่อสถาบัน (search knowledge by institution name) เมื่อได้มีการกำหนดความต้องการหน้าที่ (Functional Requirement) ที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการดำเนินการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience Design) และออกแบบ กราฟฟิกส่วนประสานผู้ใช้ (Graphical User Interface หรือ GUI) ต่อไป การกำหนดความต้องการประสบการณ์ของผู้ใช้ (User Experience Requirements) และการดำเนินการออกแบบกราฟฟิกส่วนประสานงานผู้ใช้ (User Interface Design) การดำเนินการหลังจากที่ได้มีการกำหนดกลุ่มผู้ใช้ (User Types) มีการวิเคราะห์ความต้องการของ ผู้ใช้ (User Requirements) ในเบื้องต้น และดำเนินการกำหนดและวิเคราะห์ความต้องการเชิงหน้าที่ของ ระบบ (Functional Requirements) แล้วขั้นตอนต่อไป คณะผู้วิจัยได้นำความต้องการ (requirements) ที่ กำหนดทั้งหมด มาดำเนินการจัดทำ แผนภาพแสดงการทำงานของผู้ใช้ระบบ (User case Diagram) เพื่อทำ ความเข้าใจกับกระบวนการทั้งหมดของระบบ (Overall Process Flow) ก่อนที่จะทำการกำหนดความ ต้องการประสบการณ์ผู้ใช้ และฟังก์ชันการทำงานของระบบซึ่ง Actor เป็นผู้กระทำให้เกิดขึ้น รายละเอียดของ Use case Diagram ระบบคลังความรู้กลาง ปรากฎตามแผนภาพที่ 3.9


หน้า | 3-49 แผนภาพที่ 3.9 ระบบคลังความรู้กลาง Use case Diagram จากแผนภาพแสดงการทำงานของผู้ใช้ระบบ (User case Diagram) ของระบบคลังความรู้กลาง จะทำให้เห็นถึงกระบวนการทั้งหมดของระบบและฟังก์ชันการทำงานของระบบซึ่ง Actor เป็นผู้กระทำให้ เกิดขึ้น จากแผนภาพ สามารถ กำหนดบทบาท (Roles) ในเบื้องต้นของผู้ใช้(Users) จากนั้น ความต้องการของผู้ใช้ (User Requirements) ที่ได้จากการทำ แผนภาพแสดงการทำงาน ของผู้ใช้ระบบ (Use case Diagram) ของระบบคลังความรู้กลาง คณะผู้วิจัยได้นำมาออกแบบกราฟฟิกส่วน ประสานงานผู้ใช้ (Graphical User Interface Design) หรือ GUI design. โดยในการแปลงจาก User Case Diagram สามารถนำมาออกแบบหน้าจอ ได้ดังที่ปรากฏในแผนภาพที่ 3.10


หน้า | 3-50 แผนภาพที่ 3.10 หน้าจอระบบคลังความรู้ # คำอธิบาย (Description) Home หน้าแรก หน้าหลักของระบบคลังความรู้กลาง สามารถเข้าสู่ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ในระบบ A1 สามารถดูรายละเอียดของข้อมูลโครงการ ข้อมูลการติดต่อสอบถาม รวมถึงข้อมูลประชาสัมพันธ์ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับโครงการฯ และระบบคลังความรู้ B1 ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์กำหนด สามารถ sign in หรือ log in เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่ให้ในแต่ ละผู้ใช้ได้ C1 สามารถสืบค้น (Search) สต๊อกความรู้ โดยค้นจากคำสำคัญ หรือค้นด้วยชื่อนักวิจัย/ผู้เชียวชาญ/ ปราชญุ์ ได้ D1 สามารถท่อง (Browse) สต๊อกความรู้ ตามไดเร็กทอรี่ ต่างๆ ที่ได้จัดหมวดหมู่ไว้ได้


หน้า | 3-51 แผนภาพที่ 3.11 หน้าเพิ่มรายชื่อ/ข้อมูลนักวจัย # คำอธิบาย (Description) B1.1 สามารถดูรายชื่อของนักวิจัย หรือ ผู้เชี่ยวชาญ หรือ ปราชญ์ ที่อยู่ในระบบ สามารถแก้ไข เพิ่มเติมข้อมูล รวมถึง ลบข้อมูลรายชื่อได้จากหน้านี้ B1.2. สามารถดูรายชื่อของนักวิจัย หรือ ผู้เชียวชาญ หรือ ปราชญ์ ที่เพิ่มเข้าใหม่และยังไม่มีการ validation และ การให้ scoring ซึ่งถ้าดำเนินการเสร็จแล้ว รายชื่อจะไม่ปรากฎอยู่ใน list นี้อีก B1.3 (หน้าตัวอย่างปัจจุบันด้านบน) สามารถ เพิ่มรายชื่อของนักวิจัย หรือ ผู้เชียวชาญ หรือ ปราชญ์ เข้าสู่ระบบคลัง ความรู้ B1.4 สามารถดูรายการองค์ความรู้และนวัตกรรม ที่อยู่ในระบบ สามารถแก้ไข เพิ่มเติมข้อมูล รวมถึง ลบข้อมูลรายการ ได้จากหน้านี้ B1.5. สามารถดูรายการองค์ความรู้และนวัตกรรม ที่เพิ่มเข้าใหม่และยังไม่มีการ validation และ การให้ scoring ซึ่ง ถ้ารายการดังกล่าวดำเนินการตรวจสอบและสกอร์เสร็จแล้ว รายชื่อจะไม่ปรากฎอยู่ใน list นี้อีก B1.6 สามารถเพิ่มรายการองค์ความรู้และนวัตกรรม เข้าสู่ระบบคลังความรู้ B1.7 สามารถดูรายการห้องปฏิบัติการ ที่อยู่ในระบบ สามารถแก้ไข เพิ่มเติมข้อมูล รวมถึง ลบข้อมูลรายการได้จาก หน้านี้ B1.8. สามารถเพิ่มรายการห้องปฏิบัติการ เข้าสู่ระบบคลังความรู้ B1.9 สามารถดูรายการเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ที่อยู่ในระบบ สามารถแก้ไข เพิ่มเติมข้อมูล รวมถึง ลบข้อมูลรายการได้ จากหน้านี้ B1.10 สามารถเพิ่มรายการเครื่องมือวิทยาศาสตร์ เข้าสู่ระบบคลังความรู้ F1 สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูล profile และ password ของผู้ใช้ G1 สามารถ Sign-Out หรือ Log-out ออกจากระบบ ความรู้และเทคโนโลยีที่แต่ละมหาวิทยาลัยในแต่ละภูมิภาคได้รวบรวม ปรากฏผลการศึกษาในบทที่ 4


หน้า | 3-52 แผนภาพที่ 3.12 หน้าจอแสดงส่วนค้าหา “นวัตกรรมพร้อมใช้” แผนภาพที่ 3.13 หน้าจอแสดงส่วนค้าหา “นวัตกรรมพร้อมใช้” ระดับภูมิภาค


หน้า | 3-53 ตัวอย่างการออกแบบและพัฒนาระบบคลังความรู้ของภูมิภาค (Southern Knowledge Stock System: SKSS) เครือข่ายวิจัยภาคใต้ได้มีการพัฒนาพัฒนาระบบคลังความรู้กลางภาคใต้ขึ้น ซึ่งเป็นโปรแกรม ประยุกต์เว็บที่ผู้ใช้ในแต่ละกลุ่มประเภทจะสามารถเข้าถึงระบบ Southern Knowledge Stock System หรือ SKSS ผ่าน URL http://knowledgestock.eng.psu.ac.th ซึ่งระบบให้บริการ 3 ด้าน ดังนี้ 1. บริการไดเรกทอรี่และให้บริการการสืบค้นข้อมูลคลังความรู้งานเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ได้ รวบรวมไว้ในมหาวิทยาลัยเครือข่าย 2. บริการข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายวิจัยภาคใต้ ความสำคัญและที่มา ช่องทางการ และข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเครือข่ายฯ เช่น เพิ่มสื่อสารข้อมูลผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และการฟีตข่าวสารที่เกี่ยวข้องจากแพลตฟอร์มต่างๆ เป็นต้น ดังรูปที่ 2 3. ระบบบริหารจัดการคลังข้อมูล (Southern Knowledge Stock Administrative System) ซึ่ง ทำหน้าที่จัดการเนื้อหา ดังแสดงในรูปที่ 3-4 การบริหารจัดการผู้ใช้งานระบบของผู้ดูแลระบบ เช่น เพิ่มและกำหนดสิทธิผู้ใช้งาน ดังแสดงในรูปที่ 5 การนำเข้าข้อมูลด้วยบันทึกผลที่ละชุดหรือ นำเข้าอัตโนมัติด้วยเทคนิคเว็บฮุกและการนำเข้าผ่านไฟล์รูป csv ดังแสดงในแผนภาพที่ 3.14 แผนภาพที่ 3.14 ตัวอย่างหน้าจอการบริหารจัดการช่องทางการสื่อสารข้อมูลไปเครือข่ายวิจัยภาคใต้


หน้า | 3-54 แผนภาพที่ 3.15 ตัวอย่างหน้าจอแสดงผลการติดตามควบคุมข้อมูลด้าน แผ่นภาพที่ 3.16 ตัวอย่างหน้าจอนำเข้าข้อมูลโครงการวิจัย


หน้า | 3-55 แผ่นภาพที่ 3.17 ตัวอย่างหน้าจอการบริหารจัดการผู้ใช้งานระบบของผู้ดูแลระบบ แผ่นภาพที่ 3.17 ตัวอย่างหน้าจอการสร้างตั้งค่าเว็บฮุคเพื่อนำเข้าข้อมูลอัตโนมัติ การดำเนินการรวบรวมหลักสูตรหลัก (Key Curriculum) ที่พร้อมจะถ่ายทอดสู่กลไกการพัฒนาพื้นที่ ในการศึกษาครั้งนี้ นอกจากโครงการจะได้ทำการรวบรวมองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่มีอยู่ ในแต่ละภูมิภาค โดยมีคณะวิศวกรรมศาสตร์ใน 5 มหาวิทยาลัยหลักในแต่ละภูมิภาคเป็นผู้ประสานรวบรวม แล้ว การศึกษานี้ ยังได้ประสานความร่วมมือกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ ทั้ง 5 แห่ง ในการรวบรวมหลักสูตรสูตร หลัก (Key Curriculum) ที่แต่ละมหาวิทยาลัย พร้อมจะถ่ายทอดสู่กลไกการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งอาจจะเป็นองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น บริษัทพัฒนาเมือง บริษัทวิสาหกิจเพื่อสังคม หรือวิสาหกิจชุมชน


หน้า | 4-1 บทที่ 4 ผลการดำเนินการรวบรวมทรัพยากรทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และเครือข่ายภาคกลาง 4.1 Knowledge Stock (คลังความรู้) รวบรวมทรัพยากรทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมทั้งที่มีอยู่และกำลัง ดำเนินการ ทำเป็นระบบบัญชีข้อมูล (Data Catalog) ของภาคกลาง ตามที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ 5 แห่ง ในแต่ละภูมิภาค อันได้แก่ 1. คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2.คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 3. คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา 4. คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ 5. คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ในแต่ละที่ก็จะทำหน้าที่เป็นแม่ข่าย (Node) ในการประสานกับเครือข่าย ประชาคมวิจัย ทั้งในสถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และชุมชนในแต่ละภูมิภาค เพื่อทำให้เกิดคลังความรู้ กลางในการพัฒนาพื้นที่ รวมถึงการจัดทำแผนในการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับกลไกพัฒนาพื้นที่ การสังเคราะห์และประเมินสถานการณ์ของเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อถ่ายทอดสู่พื้นที่ฯ เป็นการนำเสนอผลการรวบรวมข้อมูล Knowledge Stock ประกอบด้วย ข้อมูลนักวิจัย เทคโนโลยีนวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาพื้นที่ของเครือข่ายสถาบันการศึกษาในภาคกลาง พร้อมหลักสูตรที่พร้อมถ่ายทอดสู่กลไกการพัฒนาพื้นที่ รวมถึงการจัดลำดับของเทคโนโลยีที่พร้อมใช้ใน การพัฒนาพื้นที่ และร่วมกันทำแผนที่นำทางในการพัฒนาความรู้ เทคโนโลยี (Technology Roadmap) ในการพัฒนาภาคกลาง ซึ่งมีปรากฎในตารางที่ 4.1 ตารางที่ 4.1 จำนวนข้อมูลในคลังความรู้ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเครือข่ายภาคกลาง


หน้า | 4-2 แผนภาพที่ 4.1 จำนวนข้อมูลในคลังความรู้ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเครือข่ายภาคกลาง คลังความรู้ที่ได้รวบรวมทรัพยากรที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเครือข่ายภาคกลาง ได้รวบรวมไว้ที่เว็บไซต์knowledgestock.eng.ku.ac.th ปรากฏดังแผนภาพที่ 4.2 แผนภาพที่4.2 เว็บไซต์knowledgestock.eng.ku.ac.th เมื่อพิจารณาถึงความโดดเด่นของเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากรวบรวมทรัพยากรในครั้งนี้ ที่สามารถ นำไปปรับประยุกต์ใช้ในพื้นที่ได้ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้


หน้า | 4-3 วิทยาเขตบางเขน ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) ตู้ความดันบวกเพื่อกระบวนการตรวจโรคโควิด-19 ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาอังกฤษ) Positive Pressure Cabinet for COVID-19 Screening Process บทคัดย่อ เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง โควิด-19 ในประเทศไทย โรงพยาบาลและห้องปฏิบัติการเก็บสิ่ง ส่งตรวจทั่วประเทศมีความต้องการนวัตกรรมที่สามารถป้องกัน การติดเชื้อและเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงานให้กับ บุคคลากรทางการแพทย์ ดังนั้นโครงการนี้จึงมุ่งเน้นที่จะออกแบบ และสร้างตู้ตรวจความดันบวกที่มีการติดตั้งชุดกรองแบบ HEPA class H-14 ซึ่งสามารถกรองอนุภาคได้ 99.995% ขนาด 0.6 เมตร x 0.6 เมตร ตู้นี้จะทำการดึงและกรองอากาศด้วยชุดกรอง แบบหยาบและละเอียด ทำให้อากาศภายในมีความสะอาดและ สร้างสภาวะความดันและอุณหภูมิเทียบเคียงกับมาตรฐานห้อง ความดันบวก อีกทั้งยังมีการออกแบบการไหลของอากาศภายใน ตู้ให้สามารถไล่อากาศที่ตกค้างอยู่ภายในให้ออกนอกตู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการใช้พลศาสตร์ของไหลเชิง คำนวณ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งอุปกรณ์วัดความดันภายในตู้เพื่อใช้ในการตรวจวัดการทำงานของระบบความ ดันบวก ติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ถุงมือระดับการแพทย์ อุปกรณ์ สื่อสารระหว่างภายในและนอกตู้แบบไร้การสัมผัส และถังขยะอัจฉริยะเพื่อลดการสัมผัสระหว่างการใช้งาน ทำ ให้ตู้ความดันบวกนี้สามารถป้องกันเชื้อโรคที่แพร่กระจายผ่านลมหายใจของผู้ป่วยโดยรอบไม่ให้เข้าสู่ภายในตู้ และป้องกันการติดเชื้อให้กับผู้ใช้งานได้อย่างดี และส่งผลให้มีการใช้งานตู้นี้อย่างแพร่หลายในโรงพยาบาล ขนาดใหญ่และห้องปฏิบัติการเก็บสิ่งส่งตรวจทั่วประเทศในปัจจุบัน ชื่อเจ้าของผลงาน ผศ.ดร.วีรชัย ชัยวรพฤกษ์ หน่วยงานเจ้าของผลงาน ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


หน้า | 4-4 ผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) เครื่องอบเนื้อสัตว์แดดเดียวไม่ง้อแสงอาทิตย์ ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาอังกฤษ) Dad Deaw Oven บทคัดย่อ การถนอมอาหารนั้นทำได้หลายวิธี ปลาแดดเดียวเป็น หนึ่งในประเภทของอาหารที่นิยมแปรภาพที่ไม่เพียงแต่ใช้ในการ บริโภคในครัวเรือนแต่มีเป้าหมายเพื่อการจำหน่ายเป็นสินค้า OTOP ของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนบ้านสา ขลา จ.สมุทรปราการได้เป็นอย่างดี การผลิตปลาแดดเดียวมี ข้อจำกัดเกี่ยวกับปัจจัยด้านสภาพอากาศและระยะเวลาในการ ผลิต การผลิตเพื่อการจำหน่ายไม่สามารถผลิตได้ในปริมาณ มากๆ ตามความต้องการของนักท่องเที่ยว เครื่องอบปลาแดด เดียวจึงเป็นนวัตกรรมสำหรับการแก้ปัญหากระบวนการผลิตปลาแดดเดียวที่ตรงตามความต้องการของชุมชน หลักการของเครื่องอบปลาแดดเดียวใช้หลักการให้ความร้อนด้วยหลอดอินฟราเรด ซึ่งคล้ายกับการให้พลังงาน จากดวงอาทิตย์ สภาวะเรือนกระจก และการกระจายความร้อนด้วยพัดลม โดยคณะผู้วิจัยออกแบบโครงสร้าง ให้สามารถถอดประกอบง่ายเพื่อการขนย้าย และการทำความสะอาดเครื่องอบหลังการใช้งานหรือการ บำรุงรักษา ผลการทดลองพบว่าเครื่องอบปลาแดดเดียวที่พัฒนาขึ้นตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ได้เป็นอย่างดีและสามารถประยุกต์เพื่อการอบผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นในลักษณะใกล้เคียงกันได้เช่น เนื้อหมู นอกจากนี้ช่วยส่งเสริมการผลิตและเกิดการขยายการผลิตสู่ภาคอุตสาหกรรมใหญ่ๆได้ในอนาคต ชื่อเจ้าของผลงาน รศ.ดร.คุณยุต เอี่ยมสอาด หน่วยงานเจ้าของผลงาน ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


หน้า | 4-5 ชื่อผลงานวิจัย ( ภาษาไทย) ชุดแพทย์ฉลาดและนาโนกาวน์ที่มีสมบัติยับยั้งเชื้อและสะท้อนน้ำ บทคัดย่อ ชุดแพทย์ฉลาด (Smart gown และ Smart scrub suit) ใช้สวมใส่เพื่อปกป้องบุคลากรทางการ แพทย์ไม่ให้สัมผัสกับเชื้อโรค เลือด สารคัดหลั่งต่างๆ ของผู้ป่วย โดยชุดแพทย์ฉลาด ได้ผ่านการเคลือบเพื่อ ปรับปรุงคุณสมบัติให้มีความสมารถในการสะท้อนน้ำและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ ในการลด ความเสี่ยงจากการติดเชื้อระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงการระบาดของ COVID19 ชุดแพทย์ฉลาดที่มีสมบัติในการยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและสะท้อนน้ำ นับว่าเป็นหนึ่งใน นวัตกรรมที่มีความจำเป็น ซึ่งสมบัติดังกล่าวของชุดแพทย์จะช่วยในการเสริมสร้างสุขอนามัยและความ ปลอดภัย ทั้งยังเพิ่มความอุ่นใจในการปฏิบัติงานให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ได้ การพัฒนาชุดแพทย์ฉลาด เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีสิ่งทอร่วมกับการพัฒนาสูตรน้ำยาเคลือบและ กระบวนการเคลือบ เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติชุดแพทย์ให้มีสมบัติสะท้อนน้ำและต้านทานการเจริญเติบโตของ เชื้อจุลินทรีย์ โดยสารเคมีที่ใช้เคลือบเพื่อยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์มีส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ ไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium dioxide) และ/หรือ ซิงก์ออกไซด์ (Zinc oxide) และสารเคมีที่ใช้เคลือบเพื่อให้มีสมบัติสะท้อนน้ำ ได้แก่ สารประกอบฟลูออโรพอลิเมอร์ ชื่อเจ้าของผลงาน รศ.ดร.อรทัย จงประทีป หน่วยงานเจ้าของผลงาน ภาควิชาวิศวกรรมวัสดุคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


หน้า | 4-6 ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาไทย) ระบบติดตามและตรวจรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดภัย ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาอังกฤษ) Application 2in1 GAP Platform Service บทคัดย่อ Platform ทางการเกษตรที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการยื่นขอรับรองมาตรฐานการผลิต สินค้าเกษตร ได้แก่ มาตรฐาน ThaiGAP ของสภาหอการค้าไทย และเครื่องหมาย Q ของกรมวิชาการเกษตร โดยผู้ใช้สามารถสมัครและใช้งานระบบผ่านทางคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค หรือ Smart Phone เป็นต้น Platform ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกและความเหมาะสมในการใช้งาน โดยออกแบบให้มี การใช้งานบน Website สำหรับการสมัครและกรอกข้อมูลสำคัญต่าง ๆ และการใช้งานผ่าน Application บน Smart Phone สำหรับการเก็บข้อมูลในแปลงเพาะปลูกPlatform ทางการเกษตรในรูปแบบ WebApplication สำหรับการเก็บข้อมูลในแปลงเพาะปลูก ซึ่งเกษตรกรสามารถตรวจประเมินแปลงเพาะปลูกด้วย ตนเอง และมีฟังก์ชั่นการจัดเก็บข้อมูลผ่าน การถ่ายรูป การกรอกข้อมูล การจัดเก็บไฟล์วิดีโอ เพื่ออำนวยความ สะดวกแก่เจ้าหน้าที่สำรวจข้อมูล และสามารถแสดงข้อมูลการรายงานผลว่ายังขาดการประเมินส่วนใดบ้าง และต้องพัฒนาปรับปรุงเรื่องใด ส่วนประกอบหลักของ Web คือ มีฐานข้อมูลแปลงเพาะปลูก สามารถตรวจสอบข้อมูลการเพาะปลูก ย้อนหลัง ระบุพิกัดพื้นที่ตั้งได้ ตรวจสอบสถานะย้อนกลับ ติดตามสถานะการขอรับรอง และแจ้งเตือนรายการ ที่เกี่ยวข้อง การใช้งานบน Mobile Application คือ มีแผนการตรวจสอบสำหรับการลงพื้นที่และเก็บข้อมูลของ เจ้าหน้าที่สำรวจ การตรวจสอบตนเองสำหรับผู้ที่ต้องการตรวจประเมินแปลงเพาะปลูกก่อนการลงพื้นที่ของ เจ้าหน้าที่สำรวจ และ Report สำหรับการตรวจประเมิน ชื่อเจ้าของผลงาน รศ.ดร.มงคล รักษาพัชรวงศ์ หน่วยงานเจ้าของผลงาน สถานีรับสัญญาณดาวเทียมจุฬาภรณ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์


หน้า | 4-7 ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาไทย) การผลักดันอิฐประสาน TOR Block (ป้องกันดินถล่ม) เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาอังกฤษ) Development of a Retaining Wall “TOR Block” for Industrial Production บทคัดย่อ บริเวณที่ราบสูงหรือที่ราบภูเขา มักจะมีลาดดินที่มีความเสี่ยงจากการสูญเสียเสถียรภาพ ซึ่งอาจ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้คนในบริเวณนั้นๆ จึงมีความจำเป็นต้องหาวิธีป้องกัน เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อย ที่สุด การก่อสร้างกำแพงกันดิน (Retaining wall) เป็นหนึ่งในวิธีป้องกันที่ง่ายต่อการออกแบบและก่อสร้าง แต่ ในพื้นที่ทุรกันดาร มักจะประสบปัญหาในการจัดหาผู้ที่มีความรู้และความชำนาญในการออกแบบ รวมทั้งวัสดุที่ ต้องใช้ในการก่อสร้าง จึงเป็นที่มาของโครงการกำแพงกันดิน TOR-BLOCK ในขวบปีที่ผ่านมา ตลอดปี การศึกษา 2559 ทางคณะผู้จัดทำ ได้ดำเนินการพัฒนาประสิทธิภาพของกำแพงกันดิน TOR-BLOCK โดยมี วัตถุประสงค์ เพื่อ ปรับปรุงรูปทรงของ TOR-BLOCK และเสริมความแข็งแรงให้แก่กำแพงกันดิน TOR-BLOCK ด้วยมุ่งหมายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อนำไปก่อสร้างจริง รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิต TOR Block เชิงอุตสาหกรรม เพื่อลดจำนวนแรงงาน ปริมาณวัสดุ และระยะเวลาในการก่อสร้าง จากการดำเนินงาน ดังกล่าวได้ผลว่า โครงการนี้มีผลสัมฤทธิ์เป็นไปตามวัตถุประสงค์ทุกประการ โดยในด้านการปรับปรุงรูปทรง TOR-BLOCK นั้น ทางคณะผู้จัดทำได้ทำการออกแบบรูปทรง TOR-BLOCK ใหม่ ซึ่งเป็นการนำรูปทรงเดิมมา ปรับปรุงและประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพของลาดดินด้านหลังกำแพง ในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพของ กำแพงกันดิน TOR-BLOCK ก็ได้มีการติดตั้งหมุดยึดกำแพง โดยนำความรู้เรื่อง Soil nail มาประยุกต์ ซึ่งส่งผล ให้กำแพงกันดิน TOR-BLOCK มีความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในด้านการพัฒนา TOR-BLOCK สู่การผลิตเชิงอุตสาหกรรม คณะผู้จัดทำได้ทำการจัดหาเครื่องจักรอัดขึ้นรูปด้วยแรงไฮโดรลิก เพื่อใช้ในการผลิต TOR-BLOCK และพบว่าการผลิต TOR Block ด้วยเครื่องจักรนั้น ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยช่วยทำให้ต้นทุนใน การก่อสร้างกำแพงกันดิน TOR-BLOCK ลดลง เนื่องจากสามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนของแรงงาน วัสดุ และ ระยะเวลาลงได้ ชื่อเจ้าของผลงาน รศ.ดร.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ หน่วยงานเจ้าของผลงาน ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


หน้า | 4-8 ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาไทย) เครื่องหย่อนกล้า ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาอังกฤษ) I-KIAM KU บทคัดย่อ เครื่องหย่อนกล้าที่คิดค้นพัฒนาและสร้างขึ้นมาทั้งหมด 5 รุ่น แต่มีเพียง 3 รุ่นเท่านั้นที่นำมาใช้งาน จริงได้ คือ รุ่นที่ 3, รุ่นที่ 4 และรุ่นที่ 4.1 พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จนได้รุ่น 4.1 ที่ค่อนข้างใช้งานได้ดีมีปัญหาไม่มาก นัก ส่วนใหญ่ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการดูแลรักษาในขณะใช้งานและขณะเลิกงานในแต่ละวันแล้วไม่ล้างทำ ความสะอาดทำให้ระบบขับเคลื่อนติดขัด การติดหล่มของเครื่องจักรเป็นเหตุสุดวิสัยซึ่งจะต้องแก้ไขหน้างาน โดยความเป็นจริงเจ้าของนาจะรู้ว่าบนพื้นที่นาของตนเองมีหล่มที่ไหนบ้าง ซึ่งถ้าหากแจ้งกับทีมหย่อนกล้าแล้ว ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงได้ อย่างไรก็ตามในรุ่น 4.1 เมื่อติดหล่มยังสามารถช่วยตัวเองพ้นจากหล่มได้ระดับหนึ่ง คือ หล่มที่ลึกไม่ถึงครึ่งล้อเหล็ก อุปสรรคอย่างหนึ่งในการใช้งานมากคือความเหนื่อยล้าของผู้ขับรถหย่อนกล้าที่ จะต้องใช้มือบีบปลดเฟืองในเกียร์เพื่อให้รถเลี้ยวเพื่อกลับมาปลูกในแนวใหม่ และคนขับจะต้องลงจากรถเพื่อ บังคับแขนเลี้ยวด้วยซึ่งเป็นงานที่หนักมาก ทางโครงการจึงได้นำรถ 1 คันมาดัดแปลงให้เป็นแบบนั่งขับโดยไม่ ต้องลงจากรถเวลาเลี้ยวและแปลงการบีบเลี้ยวมาเป็นใช้เท้าเหยียบเลี้ยวพร้อมทั้งเพิ่มระบบพวงมาลัยเพื่อช่วย ในการเลี้ยวเพื่อแต่งแนวการเดินในขณะหย่อนกล้าด้วย ซึ่งผลออกมาเบาแรงผู้ขับลงได้มาก การปลูกข้าวโดยใช้เครื่องหย่อนกล้าแบบประณีตนี้เหมาะส้าหรับพื้นที่นาแปลงใหญ่ โดยการรวมแปลง นาของชาวบ้านให้ได้ประมาณ 300 ไร่ ซึ่งเป็นแปลงนาที่อยู่ติดกันหรือห่างกันไม่มาก โดยที่แปลงย่อยควรมี พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ขึ้นไปติดกันเพื่อความสะดวกในการทำงาน ควรใช้แปลงนาเองในการเพาะกล้าเพื่อความ รวดเร็วในการส่งกล้า เนื่องจากเวลาส่วนใหญ่ที่เสียไปเพราะส่งกล้าไม่ทัน ข้าวที่ปลูกควรจะเป็นข้าวพันธุ์ที่มี คุณภาพดีเป็นที่ต้องการของตลาดเพื่อให้ได้ราคาดีซึ่งควรจะได้ราคาไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท/ตันข้าวเปลือก มิฉะนั้นจะไม่คุ้มทุน เพราะอัตราค่าจ้างปลูกข้าวแบบหย่อนนั้นทางมูลนิธิฯ กำหนดไว้ที่ 1,370 บาท/ไร่ ซึ่งเป็น อัตราที่มองในแง่ของชาวนาแล้วถือว่าสูงและต้องเสี่ยงกับสภาพภูมิอากาศ (ฝนแล้ง-น้ำท่วม) แต่อย่างไรก็ตาม การปลูกข้าวโดยใช้เครื่องหย่อนกล้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปลูกข้าวปลอดภัยหรือข้าวอินทรีย์ และจะได้ผลผลิต ต่อไร่เพิ่มมากขึ้นกว่าวิธีอื่นๆ สามารถลดการใช้สารเคมีลงถึง 50% เครื่องปลูกข้าวแบบหย่อนกล้านี้ในปัจจุบันสามารถหย่อนกล้าได้ในช่วง 10-12 ไร่/วัน แต่หาก สามารถส่งกล้าได้เร็วขึ้น น่าจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นได้ถึง 15-16 ไร่/วัน ชื่อเจ้าของผลงาน ผศ.ปัญญา เหล่าอนันต์ธนา หน่วยงานเจ้าของผลงาน ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


หน้า | 4-9 ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาไทย) โครงการการศึกษาและพัฒนาต้นแบบเทคโนโลยี แบตเตอรี่แบบเปลี่ยนได้สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า บทคัดย่อ จากปัญหามลภาวะเป็นพิษและ การปล่อยก๊าซเรือน กระจกทำให้โลกมีอุณหภูมิสูงมากขึ้นในทุกๆ ปี การนำรถยนต์ ไฟฟ้ามาใช้งานเพื่อทดแทนการใช้พลังงานน้ำมันเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ คณะกรรมการปฏิรูปพลังงานสภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้มีการกำหนดมาตรการเพื่อส่งเสริมการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ในแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี และมีมาตรการส่งเสริมให้สร้างสถานีประจุไฟฟ้าให้เพียงพอในอนาคตข้างหน้า อย่างไรก็ตามการนำรถยนต์ไฟฟ้าไปใช้งานแทนรถยนต์ทั่วไปที่ใช้น้ำมันมีข้อจำกัดที่สำคัญในเรื่องของระยะทาง รถยนต์ไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ในระยะทางจำกัดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และอาจจะมีปัญหาเรื่องที่เกี่ยวกับความไม่ ปลอดภัยจากโอกาสการระเบิดด้วยการชาร์จไฟฟ้าแบบเร็ว ที่ทำให้เกิดอุณหภูมิที่สูงมาก งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และพัฒนาเทคโนโลยีต้นแบบของการใช้แบตเตอรี่ แบบเปลี่ยนได้สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีการแบตเตอรี่แบบเปลี่ยนได้ใช้เวลาน้อยกว่า เมื่อพลังงานถูกใช้ จนหมด รถยนต์ไฟฟ้าจะวิ่งเข้าสู่สถานีเพื่อถอด และประกอบแบตเตอรี่ลูกใหม่ที่มีพลังงานเต็มมาใช้แทนจึงใช้ เวลาน้อยกว่ามาก มีความปลอดภัยมากกว่าเนื่องจากใช้ระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติเข้าไปเปลี่ยน ลดค่าใช้จ่ายด้าน ค่าแรงของคนได้ สามารถนำไปใช้งานได้ทันที และอาจจะมีความรวดเร็วกว่าการนำรถยนต์แบบใช้น้ำมันเข้าไป ในปั๊มเพื่อเติมน้ำมันเสียอีก ในสถานีสามารถดำเนินการบริหารจัดการการชาร์จแบตเตอรี่หลายๆลูกพร้อมกัน ได้ดีกว่า โดยมีการสร้างระบบป้องกันสภาวะโหลดเกินของระบบไฟฟ้าด้วย แต่จำเป็นต้องลงทุนในการสร้าง ระบบกลไก และระบบอัตโนมัติ เพื่อใช้ในการถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนสำหรับ ระบบหุ่นยนต์ และการสร้างสถานีที่มีการลงทุนที่สูงมากกว่า จึงเป็นเป้าหมายที่สำคัญของโครงการที่จะศึกษา ความคุ้มค่ารูปแบบการลงทุน และ การบริหารการจัดการในขั้นตอนการดำเนินการในอนาคต ทางทีมวิจัยได้ทดลองทำสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ ออกแบบ และ สร้างเคสกล่องเหล็กสำหรับบรรจุแบตเตอรี่แบบเปลี่ยนได้ พัฒนาซอฟต์แวร์ในการควบคุมระบบหุ่นยนต์ โดย ใช้การตัดสินใจจากระบบประมวลผลภาพที่ตรวจจับวัตถุ ระบุตำแหน่ง จำแนกแยกแยะชนิดของวัตถุออกมาได้ และยังมีการวิเคราะห์แรงสัมผัสที่ช่วยในการถอด และประกอบแบตเตอรี่เข้าไปในรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการวิจัยคือ การลดเวลาในการชาร์จประจุไฟฟ้าของแบตเตอรี่ ลดอัตรา การเกิดอุบัติเหตุจากการใช้แรงงานคนในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ซึ่งมีความซับซ้อน และนำไปสู่แนวทางในการ จัดทำมาตรฐานทางอุตสาหกรรมต่อไป สามารถใช้ประโยชน์จากแบตเตอรี่ได้สูงสุด เลือกช่วงการชาร์จประจุ ไฟฟ้าได้ ทำให้ค่าไฟในการชาร์จแบตเตอรี่ถูกลง ระยะการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่า เนื่องจากมีระบบ จัดการที่ดีกว่า ช่วยพลักดันให้ประชาชนทั่วไปหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้นเนื่องจากเปลี่ยนโมเดลทาง ธุรกิจเป็นการเช่าแบตเตอรี่ มีต้นทุนในการดัดแปลงในราคาไม่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับราคารถไฟฟ้าใหม่ เกิด ผลประโยชน์กับผู้ประกอบการหลายฝ่ายด้วยกัน ได้แก่ ธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์ที่สามารถดัดแปลงรถยนต์น้ำมันไป เป็นพลังงานไฟฟ้า วิศวกรหุ่นยนต์ วิศวกรซอฟต์แวร์ ที่ต้องเข้าไปทำงานในสถานี ชื่อเจ้าของผลงาน รศ. ดร.เชาวลิต มิตรสันติสุข หน่วยงานเจ้าของผลงาน ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


หน้า | 4-10 วิทยาเขตกำแพงแสน ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาไทย) เครื่องคั่วเมล็ดกาแฟ ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาอังกฤษ) Coffee Roasting Machine บทคัดย่อ งานวิจัยนี้ได้ออกแบบ และการสร้างเครื่องคั่วเมล็ดกาแฟแบบถังหมุน (rotary drum roaster) มี กำลังการผลิตที่ 200 กรัมสารกาแฟต่อการคั่ว 1 ครั้ง โดยเครื่องคั่วกาแฟใช้ระบบควบคุมแบบกึ่งอัตโนมัติมีถัง คั่วเมล็ดกาแฟทำจากเหล็กกล้าไร้สนิม (SUS 304) ลักษณะเป็นรูปทรงกระบอกแนวนอนขนาดเส้นผ่าน ศูนย์กลางขนาด 100 มิลลิเมตร ความยาว 250 มิลลิเมตร และหนา3 มิลลิเมตร ภายในถังมีครีบ 6 ครีบ แต่ละ ครีบมีความกว้าง 15 มิลลิเมตร ยาว 230 มิลลิเมตร หนา 3 มิลลิเมตร ติดตั้งในแนวเดียวกับตัวถังเพื่อช่วยใน การเกลี่ยเมล็ดกาแฟขณะคั่ว ระบบการให้ความร้อนด้วยแก๊สหุงต้ม (LPG) ติดตั้งเตาแก๊สด้านล่างถังคั่ว มีโซลิ นอยด์วาล์ว (solenoid valve) ควบคุมการเปิด-ปิดของแก๊ส และใช้ระบบไฟฟ้าในการจุดเตาแก๊ส การควบคุม อุณหภูมิภายในถังคั่วกาแฟด้วยเครื่องควบคุมอุณหภูมิแบบอัตโนมัติ(on – off temperature controller) โดยมีเซนเซอร์วัดอุณหภูมิภายในตัวถังพร้อมแสดงค่าอุณหภูมิภายในถังที่หน้าตู้ควบคุมการทำงาน มีระบบการ ตั้งค่าเวลาสำหรับการคั่วเมล็ดกาแฟด้วยเครื่องตั้งเวลาแบบอนาล็อก (analog timer) และการควบคุม ความเร็วรอบของถังคั่วกาแฟด้วยอินเวอร์เตอร์ (Inverter) โดยสามารถปรับค่าความเร็วรอบในการหมุนของถัง คั่วกาแฟสูงสุดที่ 72 รอบต่อนาที ชื่อเจ้าของผลงาน อาจารย์สยุมพร รัตนพันธ์ หน่วยงานเจ้าของผลงาน ภาควิชาวิศวกรรมการอาหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์ กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม


หน้า | 4-11 ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาไทย) ศูนย์ทดสอบประตู หน้าต่างและระบบกระจกสำหรับอาคาร ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาอังกฤษ) Testing Center of Doors, Windows and Curtain Wall in Buildings; TDWCB บทคัดย่อ ศูนย์ทดสอบประตูหน้าต่างและระบบผนังกระจกสำหรับงานอาคาร (Testing Center of Doors, Windows and Curtain wall in Buildings (TDWCB) เดิมชื่อศูนย์ทดสอบวงกบและกรอบบานโลหะสำหรับ ประตูหน้าต่างสำหรับอาคารประเภทต่างๆเป็นโครงการบริการวิชาการดำเนินการภายใต้ภาควิชา วิศวกรรมเครื่องกลคณะวิศวกรรมศาสตร์ กำแพงแสน เมื่อปีพ.ศ. 2550 เป็นการเริ่มต้นทำโครงการวิจัยและพัฒนาร่วมกันระหว่างภาควิชา วิศวกรรมเครื่องกล วิทยาเขตบางเขน (รศ.ดร.สันติ ลักษิตานนท์) และภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล วิทยาเขต กำแพงแสน (ผศ.สุวรรณ หอมหวล), บริษัทไทย-ออสท์อลูมิเนียมจำกัด, โครงการสนับสนุนการพัฒนา เทคโนโลยีเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (iTAP) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในชื่อ“โครงการจัดสร้างห้องทดสอบกระจกโครงอะลูมิเนียมในอาคาร” ต่อมาในปีพ.ศ.2555 – 2556 ได้ดำเนินการร่วมกับบริษัทไทย-ออสท์อลูมิเนียมจำกัดประสานกับ สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.)จัดทำมาตรฐานด้านกระบวนการทดสอบการดำเนินงานด้านเอกสาร ซึ่งทำให้ในปี พ.ศ. 2556 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ประเภทวงกบและกรอบบานโลหะสำหรับประตูและหน้าต่างสำหรับงานอาคารประเภทต่างๆ ตามประกาศ กระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2556) ในปีพ.ศ.2560- 2562 ได้ร่วมกับบริษัทโออาร์เอ็มจำกัดทำโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี เทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (iTAP) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) ในชื่อ “การสร้างห้องทดสอบสำหรับระบบผนัง Curtainwall” และจึงเปลี่ยนมาเป็นศูนย์ทดสอบประตูหน้าต่างและ ระบบผนังกระจกในอาคารและดำเนินการให้บริการมาตรฐานและทดสอบมาตรฐานอุตสาหกรรมเกี่ยวกับ ประตู หน้าต่าง และระบบผนังกระจกเรื่อยมาจนถึงในปัจจุบัน ชื่อเจ้าของผลงาน ผศ.ดร.สุวรรณ หอมหวล หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม


หน้า | 4-12 วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสกลนคร ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาไทย) นวัตกรรมดินมีชีวิต บทคัดย่อ นวัตกรรม “ดินมีชีวิต” จะเปลี่ยนดินลูกรังให้สามารถปลูกพืชได้ ภายใน 1 เดือน ด้วยจุลินทรีย์ท้องถิ่น คู่แฝดที่พบในสวนพุทธธรรม ชื่อเจ้าของผลงาน อาจารย์ ดร.แพรทอง เหลาภา หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร


หน้า | 4-13 ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาไทย) ระบบตรวจสอบย้อนกลับผลิตผลทางการเกษตรสำหรับวัตถุดิบอาหารท้องถิ่นตามมาตรฐานความปลอดภัยฯ ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาอังกฤษ) E-San Gastronomy บทคัดย่อ เพื่อพัฒนาเมืองสกลนครให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นอีสานแบบใหม่ หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร


หน้า | 4-14 ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาไทย) สหกรณ์โพนยางคำฯ ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาอังกฤษ) - แนวคิด เนื่องจากสหกรณ์โพนยางคำฯ ประสบปัญหามีการชำแหละลดลง 17% มูลค่าหายไปประมาณ 150 ล้านบาทต่อปี มูลค่าชิ้นส่วนรองของการชำแหละโค ต่ำลงรวม 21 ล้านบาทต่อปี มูลค่าของเครื่องในหายไป 4 ล้านบาทต่อปี มูลค่าของหนังที่หายไป 17 ล้านบาทต่อปี และมูลค่าของเท้าโคที่หายไป 1.1 ล้านบาทต่อปี นักวิจัยจึงต้องหาวิธีในการเพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นส่วนของโค โดยการนำมาออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ ย้อมหนังด้วยคราม เพื่อนำมาตัดเย็บเป็นกระเป๋า หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร


หน้า | 4-15 วิทยาเขตศรีราชา ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาไทย) เสาทางหลวงอัจฉริยะ ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาอังกฤษ) Smart Highway Guide Post บทคัดย่อ ร่วมมือพัฒนากับบริษัท พลัส สตรอง จำกัด เป็นระบบแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนชลอความเร็ว เมื่อเกิด อุบัติเหตุ มีลักษณะเป็นเสารูปทรงหกเหลี่ยมทำจากยางพารา โดยจะมีระบบสัญญาณอยู่ที่หัวเสา กินไฟน้อย สามารถใช้ไฟได้ทั้งจากแบตเตอรี่หรือแสงอาทิตย์ ซึ่งออกแบบด้วยเทคโนโลยี FEA ที่ทันสมัย สามารถจำลอง การเสียรูปเมื่อโดนรถชนหลายแบบ วัสดุผ่านมาตรฐานกรมทางหลวง และมีฐานยึดกับถนนไม่หลุดออกจนทำ ให้เกิดอันตราย ชื่อเจ้าของผลงาน รศ.ดร.ณัฐพล จันทร์พาณิชย์ หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จังหวัดชลบุรี


หน้า | 4-16 ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาไทย) เตียงผู้ป่วย ชื่อผลงานวิจัย (ภาษาอังกฤษ) Patient Bed บทคัดย่อ ร่วมมือพัฒนากับบริษัท เอสพีเอ็ม จำกัด เป็นเตียงสำหรับพักรักษาผู้ป่วยปรับได้หลายท่าทาง และ Load ต่ำได้ สะดวกกับการขึ้นลงของผู้ป่วย ออกแบบตามมาตรฐาน IEC 60601-2-52 สามารถรับน้ำหนัก ได้ไม่น้อยกว่า 440 kg ซึ่งไม่มีส่วนใดเป็น Entrapment Zone ที่จะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของผู้ป่วย หรือผู้ใช้ ชื่อเจ้าของผลงาน รศ.ดร.ณัฐพล จันทร์พาณิชย์ หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จังหวัดชลบุรี


หน้า | 4-17 หลักสูตร Medical Device Design Control บทคัดย่อ เป็นหลักสูตรที่นำเสนอแนวคิดการออกแบบเครื่องมือแพทย์ โดยถ่ายทอดจากประสบการณ์จริง และ ให้ข้อควรระวังในการออกแบบเครื่องมือแพทย์ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งสอดคล้องกับ ISO 13485:2016 และมี เนื้อหาสอดคล้องกับมาตรฐานวิชาชีพการออกแบบเครื่องมือแพทย์ ระดับ 4 ชื่อเจ้าของผลงาน รศ.ดร.ณัฐพล จันทร์พาณิชย์ หน่วยงานเจ้าของผลงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จังหวัดชลบุรี


4.2 หลักสูตรและการถ่ายทอดองค์ความรู้(Knowledge and Technology Tran การเสริมและพัฒนาทักษะ เพิ่มความสามารถ ให้บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท ระดับปริญญาตรี หลักสูตร เป้าประสงค์หลักสูตร หลักสูตรนานาชาติวิศวกรรม ศาสตรบัณฑิต สาขาวิชา วิศวกรรมไฟฟ้า (เน้นด้าน นวัตกรรมพลังงานและหุ่นยนต์ ชาญฉลาด) 1. เพื่อสร้างบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถและชำนาญใน วิศวกรรมไฟฟ้าแขนงต่างๆ และเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม 2. เพื่อสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ใหม่และนวัตกรรมที่ นำไปใช้ได้จริง โดยเน้นการใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงส สร้างหุ่นยนต์ที่มีความฉลาดเทียมและสามารถปฏิบัติงานท จุดอ่อนของมนุษย์ วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์ และความรู้(หลักสูตรนานาชาติ) 1. เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีศักยภาพในการทำงานและวิสัยทัศน ต่อกระแสโลกาภิวัตน์ 2. เพื่อผลิตบัณฑิตเพื่อเป็นวิศวกรที่มีความชำนาญเฉพาะด วิศวกรรมซอฟต์แวร์ ที่มีระดับความสามารถได้มาตรฐาน ทฤษฎีและปฏิบัติในการผลิตผลงานทางด้านการจัดการค ผลิตซอฟต์แวร์เพื่อส่งเสริมการวิจัยที่จะนำไปสู่การพึ่งพาต ทางการจัดการความรู้และการผลิตซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ องค์กรทุกระดับ


หน้า | 4-18 nsfer) ร่วมกับหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ใน ท้องถิ่น กลุ่มเป้าหมาย ผลลัพธ์ของหลักสูตร นงาน ม สามารถ สุดและการ ทดแทน 1.นักเรียนที่จบมัธยมปลาย หรือระดับ ปวช. หรือเทียบเท่า 2.ตามข้อบังคับว่าด้วย การศึกษาขั้นปริญญาตรี ของ มก. 1. การพัฒนาคุณลักษณะพิเศษของนิสิต มีดังนี้มี ความสามารถในการคิด วิเคราะห์อย่างเป็นระบบ และรู้จักวิธีการค้นหาแนวทางในการแก้ปัญหาได้อย่าง เหมาะสม, มีความสามารถในการเรียนรู้เทคโนโลยีและ ศาสตร์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ เพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพ ของตนเองอย่างต่อเนื่อง, มีมนุษย์สัมพันธ์ดีสามารถ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. การพัฒนาผลการเรียนรู้ในแต่ละด้าน (คุณธรรม จริยธรรม / ความรู้/ ทักษะทางปัญญา / ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ / ทักษะในการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ น์สอดคล้อง ด้านในสาขา นสากล ทั้งเชิง ความรู้และการ ตนเองได้ใน สำหรับ ตามข้อบังคับว่าด้วย การศึกษาขั้นปริญญาตรี ของ มก. 1. การพัฒนาคุณลักษณะพิเศษของนิสิต มีดังนี้สามารถ แก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์, มีความสามารถในการเป็น ผู้นำ, มีจิตสาธารณะ, มีทักษะทาง IT ในระดับสูง, มีความรับผิดชอบและความมีวินัยในตนเอง 2. การพัฒนาผลการเรียนรู้ในแต่ละด้าน มีดังนี้ด้าน คุณธรรมจริยธรรม, กลยุทธ์การสอนที่ใช้พัฒนาการ เรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม, ด้านผลการเรียนรู้, ด้านความรู้, ด้านทักษะทางปัญญา, ด้านทักษะ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ,


หลักสูตร เป้าประสงค์หลักสูตร 3. เพื่อผลิตบัณฑิตที่เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม จริยธรรม มี ความรับผิดชอบต่อส่วนรวมและความสามารถในการปรับ สังคม และสิ่งแวดล้อมทั้งในและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี 4. เพื่อตอบสนองนโยบายของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นเลิศทางวิชาการ ระดับปริญญาโท หลักสูตร เป้าประสงค์หลักสูตร วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล เน้นด้านวิศวกรรมระบบราง เพื่อให้บุคลากรที่ทำงานด้านระบบรางมีการพัฒนาทักษะด้า และการพัฒนาองค์ความรู้ด้านระบบราง วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมป้องกัน อัคคีภัย 1 เพื่อผลิตมหาบัณฑิตที่มีความสามารถออกแบบระบบวิศวก อัคคีภัย ให้คำแนะนำ และเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับระบบการป้ อัคคีภัยแก่หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนทั่วไป 2. เพื่อให้มีการศึกษาและการวิจัยด้านวิศวกรรมป้องกันอัคคี ประเทศไทย 3. ผลิตมหาบัณฑิตให้มีคุณภาพดีมีทักษะในการพัฒนาองค์ ปฏิบัติด้านเทคโนโลยีอย่างก้าวหน้า พึ่งพาตนเอง มีคุณธรร จริยธรรม


หน้า | 4-19 กลุ่มเป้าหมาย ผลลัพธ์ของหลักสูตร มีจิตสำนึกใน บตัวให้เข้ากับ ดี ด้านความ ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการ ใช้เทคโนโลยี กลุ่มเป้าหมาย ผลลัพธ์ของหลักสูตร นการทำวิจัย บุคลากรที่ทำงานด้าน ระบบราง มีการเรียนการ สอนเฉพาะวันเสาร์และ อาทิตย์ มหาบัณฑิตที่จบจากหลักสูตรมีความสามารถในการทำ วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้านระบบราง กรรมป้องกัน ป้องกัน คีภัยขึ้นใน ความรู้สู่การ รมและ 1) สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า สาขาวิชา วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์อุตสาหกรรม ศาสตร์ ครุศาสตร อุตสาหกรรม หรือสาขา อื่นๆที่เกี่ยวข้อง 2) ตามข้อบังคับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษาระดับ บัณฑิตศึกษาของบัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 1. การพัฒนาคุณลักษณะพิเศษของนิสิต คือ (1) สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่น มีทักษะการบริหาร จัดการ และทำงานเป็นหมู่คณะ (2) มีความรับผิดชอบและมีวินัย คิดเป็นทำเป็น และ เลือกวิธีการแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบและเหมาะสม (3) มีคุณธรรมจริยธรรม และจรรยาบรรณต่อวิชาชีพ ถ่อมตนและทำหน้าที่เป็นพลเมืองดีรับผิดชอบต่อ ตนเอง วิชาชีพและสังคม มีความซื่อสัตย์สุจริต (4) มีความรู้พื้นฐานในศาสตร์ที่เกี่ยวข้องทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสามารถประยุกต์ได้อย่าง เหมาะสมในการประกอบวิชาชีพและศึกษาต่อใน ระดับสูง 2. การพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรม 1) มีภาวะผู้นำ ริเริ่ม ส่งเสริม ด้านการประพฤติปฏิบัติ โดยใช้หลักการ เหตุผลและ ค่านิยมอันดีงาม


หลักสูตร เป้าประสงค์หลักสูตร วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมความ ปลอดภัย 1. เพื่อผลิตมหาบัณฑิตที่มีความรู้ทางด้านวิศวกรรมความปล ความสามารถในการวิเคราะห์ประเมิน หาสาเหตุของการเกิ การปฏิบัติงาน สภาพการที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย และใช้ วิศวกรรมความปลอดภัยในการป้องกัน และแก้ไข 2. เพื่อผลิตมหาบัณฑิตที่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ และความ ต่อสังคม 3 เพื่อส่งเสริมงานวิจัยด้านวิศวกรรมความปลอดภัยของประ


หน้า | 4-20 กลุ่มเป้าหมาย ผลลัพธ์ของหลักสูตร 2) มีความสามารถในการวินิจฉัยและจัดการปัญหาที่ ซับซ้อน ข้อโต้แย้งและข้อบกพร่องทางจรรยาบรรณ โดยคำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น 3.ความรู้ 1) มีความรู้และความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในหลักการ ทฤษฏีและงานวิจัย 2) มีความเข้าใจในวิธีการพัฒนาความรู้ใหม่ๆ และการ ประยุกต์ 4.ทักษะทางปัญญา 1) สามารถคิดวิเคราะห์โดยใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจ ภายใต้ข้อจำกัดของข้อมูล 2) สามารถสังเคราะห์และบูรณาการองค์ความรู้เพื่อ พัฒนาความคิดใหม่ 3) สามารถวางแผนและทำโครงการวิจัยค้นคว้าได้ฯลฯ ลอดภัย มี กิดอันตรายใน ้หลักการทาง มรับผิดชอบ ะเทศ สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์หรือ สาขาวิชาอื่นที่เกี่ยวข้อง และมีผลการสอบ ภาษาอังกฤษได้ตามเกณฑ์ ที่มหาวิทยาลัยกำหนด 1. การพัฒนาคุณลักษณะพิเศษของนิสิต คือ (1) มีความรู้พื้นฐานด้านวิศวกรรมความปลอดภัยใน สาขาต่างๆ และตระหนักถึงความสำคัญของความ ปลอดภัย (2) มีความสามารถในการวิเคราะห์การคำนวณทางด้าน วิศวกรรม และสามารถใช้ซอฟท์แวร์สำหรับการ วิเคราะห์เบื้องต้น (3) สามารถริเริ่มงานวิจัย วางแผน และแก้ไขปัญหาใน การทำงานวิจัยได้


Click to View FlipBook Version