The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการขอรับการสนับสนุนเงินในรูปแบบโค

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thanapong.12, 2021-02-10 21:26:20

คู่มือการขอรับการสนับสนุนเงินในรูปแบบโค

คู่มือการขอรับการสนับสนุนเงินในรูปแบบโค

คูมือ

การขอรับการสนบั สนุนเงนิ ในรูปแบบโครงการ
จากกองทุนเพ่ือการปอ งกนั และปราบปรามการคา มนษุ ย

กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนษุ ย



(ปก)

คูมอื

จาจกากกกอกากงรอทาขงรนุทอขคนุรเ่มูอพือับรเตพอ่ืับกัว่อืกกอากยาารา่ารรสงรสปโนคปนอรบัองบังกสงกสากนรนันนัทุนุนไี่แแดเเลล้รงงบัะะินินกปปาใใรรรนนสาารนรบบูปบัปู ปสปแแนรบรบนุาาบจมบมาโกกโคกกาคราอรรงงรคกทงคาุนกามารามนรนุษยุษ ย

เพอ่ื การปอ้ งกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ย์



คำ�น�ำ

ตามคำ�ส่ังคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เรื่องการมอบหมาย
อำ�นาจหน้าท่ีให้คณะอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัด เป็นผู้พิจารณา
อ นุ มั ติ โ ค ร ง ก า ร ท่ี ข อ รั บ ก า ร ส นั บ ส นุ น จ า ก ก อ ง ทุ น เ พ่ื อ ก า ร ป้ อ ง กั น แ ล ะ ป ร า บ ป ร า ม ก า ร ค้ า ม นุ ษ ย์   เ พื่ อ ใ ห้ เ กิ ด 
ความคลอ่ งตัว รวดเร็ว และเกดิ ประโยชนใ์ นการด�ำ เนินงานด้านการป้องกันและปราบปราม การค้ามนุษย์สงู สดุ

คู่มือการขอรับการสนับสนุนเงินในรูปแบบโครงการจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปราม 
การค้ามนุษย์ฉบับนี้ จัดทำ�ข้ึนตามคำ�สั่งคณะกรรมการบริหารกองทุนเพ่ือการป้องกันและปราบปรามการค้า
มนุษย์ เพ่ือให้ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัด ใช้เป็นแนวทาง ในการปฏิบัติงาน เพ่ือ
นำ�ไปสู่การพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินโครงการท่ีขอรับการสนับสนุนจากกองทุน เพื่อการป้องกันและปราบปราม 
การคา้ มนษุ ย์ เฉพาะโครงการขนาดเลก็ และขนาดกลาง ตามวงเงนิ และรายการค่าใชจ้ ่ายท่กี ำ�หนด

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หวังเป็นอย่างย่ิงว่า คู่มือการขอรับ การสนับสนุน
เงินในรูปแบบโครงการจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จะเป็นประโยชน์ และช่วยให้ 
ผปู้ ฏบิ ตั งิ านสามารถด�ำ เนินงานให้เป็นไปตามเจตนารมณข์ องกฎหมายได้

กระทรวงการพฒั นาสังคมและความม่ันคงของมนษุ ย์
ตุลาคม 2561



สารบัญ

หนา้

1. ความเปน็ มาของกองทนุ เพอ่ื การป้องกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ย ์ 1

2. การสนับสนุนการดำ�เนนิ โครงการเกย่ี วกบั การปอ้ งกันและปราบปรามการคา้ มนุษย์ 2

3. เกณฑ์การพิจารณาในการประเมินโครงการของกองทุนเพ่อื การป้องกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ย ์ 4

4. ขนั้ ตอนการดำ�เนนิ งานเพ่ือพจิ ารณาให้การสนับสนนุ 5 
โครงการเพอ่ื การปอ้ งกันและปราบปรามการค้ามนษุ ย ์

5. แนวทางการวิเคราะห์โครงการเบ้อื งตน้ ของกองทนุ เพือ่ การป้องกันและปราบปรามการคา้ มนุษย์ 7

6. ตัวอยา่ งโครงการที่ได้รับการอนมุ ัตใิ ห้การสนับสนนุ การดำ�เนินโครงการ 17 
จากกองทนุ เพอื่ การปอ้ งกนั และปราบปรามการค้ามนษุ ย ์

6.1 ตวั อย่างโครงการดา้ นการป้องกนั และปราบปรามการคา้ มนุษย ์ 18

6.2 ตวั อยา่ งโครงการดา้ นการปราบปรามการคา้ มนุษย์ 139 
และการคุ้มครองช่วยเหลือผ้เู สียหายจากการค้ามนษุ ย์

6.3 ตัวอย่างโครงการด้านการพฒั นาระบบขอ้ มูลการป้องกนั และปราบปรามการค้ามนษุ ย์ 151

7. กฎหมาย ระเบียบ และประกาศที่เก่ยี วขอ้ ง

ภาคผนวก

ก. แบบฟอรม์ การเสนอโครงการขอรับเงนิ กองทุนเพอ่ื การปอ้ งกนั 293 
และปราบปรามการค้ามนุษย ์ (แบบ กปค. 01) 301 
309 
ข. แบบรายงานผลการปฏิบตั งิ านและการใชจ้ า่ ยเงนิ กองทนุ เพื่อการปอ้ งกนั และ 313
ปราบปรามการค้ามนุษย ์ (แบบ กปค. 02)

ค. แบบสัญญาเงนิ อุดหนุนจากกองทนุ เพ่ือการป้องกันและ
ปราบปรามการค้ามนษุ ย ์ (แบบ กปค. 03)

ง. ค�ำ สงั่ คณะกรรมการบรหิ ารกองทุนเพ่อื การปอ้ งกันและปราบปรามการค้ามนษุ ย ์



1. ความเปน็ มากองทนุ เพือ่ การป้องกันและปราบปรามการค้ามนษุ ย์

กองทนุ เพอ่ื การปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย ์ กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ 
เปน็ กองทนุ ทจ่ี ดั ตง้ั ขน้ึ ตามพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย ์ พ.ศ. 2551 โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื  
เปน็ ทนุ ใชจ้ า่ ยส�ำ หรบั การปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย ์ โดยจะใหก้ ารชว่ ยเหลอื ผเู้ สยี หายจากการกระท�ำ ความผดิ  
ฐานค้ามนุษย์ และให้การสนับสนุนโครงการเก่ยี วกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของหน่วยงานภาครัฐ
และองคก์ รเอกชนดา้ นการปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์

2. การสนบั สนุนการด�ำ เนนิ โครงการเกย่ี วกับการป้องกนั
และปราบปรามการคา้ มนุษย์

(1) คณุ สมบัติของหน่วยงาน/องคก์ รทขี่ อรับเงินสนับสนุน

–– หน่วยงานภาครัฐ หมายถึง กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกช่ืออย่างอื่น ซ่ึงมีฐานะเป็นกรม 
หรอื เทยี บเทา่ กรม หรอื เทยี บเทา่ กอง/ส�ำ นกั  ราชการสว่ นภมู ภิ าค หนว่ ยงานสว่ นกลางทต่ี ง้ั อยใู่ นสว่ นภมู ภิ าค 
สถานีตำ�รวจ โรงเรียน หรือ สถาบันการศึกษาของรัฐ ราชการส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอ่ืนของรัฐ 
ที่ด�ำ เนนิ การตามวัตถุประสงคห์ รอื กิจกรรมเก่ยี วกับการปอ้ งกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ย์

–– องค์กรเอกชน หมายถึง องค์กรท่ีบุคคลรวมกันขึ้นและได้จดทะเบียนด้านการป้องกันและปราบปราม 
การคา้ มนุษย ์ ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย ์ พ.ศ. 2551 *
(*องค์กรที่จะเสนอโครงการขอรับการสนับสนุนจากกองทุน จะต้องดำ�เนินการจดทะเบียน องค์กรเอกชน

ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ก่อน โดยรายละเอียดการย่ืนคำ�ขอจดทะเบียนจะเป็นไปตามระเบียบ
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ว่าด้วยการจดทะเบียนองค์กรเอกชนด้านการป้องกันและ
ปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2552)

(2) การย่ืนเสนอโครงการ

–– ในกรณีท่ีผู้ย่ืนคำ�ขอมีภูมิลำ�เนาหรือถิ่นที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นท่ีกองต่อต้านการค้ามนุษย์ 
สำ�นกั งานปลัดกระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์

–– ในกรณีท่ีผู้ย่ืนคำ�ขอมีภูมิลำ�เนาหรือถ่ินท่ีอยู่ในเขตจังหวัดใด ให้ย่ืนท่ีสำ�นักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคง 
ของมนษุ ยจ์ งั หวัดนั้นๆ
ให้หน่วยงานภาครัฐและองค์กรเอกชนจัดทำ�รายละเอียดโครงการตามแบบการเสนอโครงการขอรับเงิน 

กองทนุ เพอ่ื การปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย ์ ประจ�ำ ป ี .... (แบบ กปค.01) ซง่ึ ประกอบดว้ ยขอ้ มลู  2 สว่ น คอื

ค่มู อื การขอรบั การสนับสนุนเงนิ ในรปู แบบโครงการจากกองทุนเพือ่ การป้องกนั และปราบปรามการค้ามนษุ ย์ 1

สว่ นท่ี 1 ขอ้ มูลทั่วไป
ส่วนท่ี 2 รายละเอียดข้อมูลโครงการขอรับการสนับสนุนเงินกองทุน (แยกตามรายโครงการ) โดยจะต้อง 
จัดทำ�ข้อมูลโครงการให้มีรายละเอียดท่ีชัดเจน พร้อมทั้งแนบเอกสารตามที่กำ�หนดไว้ในแบบฟอร์มให้ครบถ้วน
สมบรู ณ ์ เพอ่ื ประโยชนต์ ่อการพิจารณาโครงการ

(3) การกำ�หนดกรอบวงเงนิ โครงการ

–– วงเงนิ ทต่ี ํ่ากวา่  50,000 บาท หมายถงึ  โครงการขนาดเล็ก
–– วงเงินต้ังแต ่ 50,000 บาทขนึ้ ไป แตไ่ มเ่ กิน 300,000 บาท หมายถึง โครงการขนาดกลาง
–– วงเงนิ ทเ่ี กนิ  300,000 บาทขน้ึ ไป แตไ่ มเ่ กนิ  3,000,000 บาท หมายถงึ  โครงการขนาดใหญ่

ในกรณีท่ีมีความจำ�เป็นเพื่อการดำ�เนินโครงการ ซึ่งมีวงเงินเกิน 3,000,000 บาทขึ้นไป ให้เสนอต่อ 
คณะกรรมการบรหิ ารกองทนุ เพอ่ื การปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ยพ์ จิ ารณาเปน็ รายกรณไี ป

(4) รอบการพิจารณาโครงการ

ส�ำ หรบั ระยะเวลาการรบั โครงการ กองทนุ จะเปดิ รบั ตลอดป ี โดยจะพจิ ารณาโครงการประมาณเดอื นละหนง่ึ ครง้ั

(5) การพิจารณาโครงการ

กรณีเป็นหน่วยงานภาครัฐ ตอ้ งเปน็ โครงการท่รี เิ ร่มิ ใหม่ หรอื เปน็ โครงการทไ่ี ม่สามารถขอรับการสนับสนนุ  
จากงบประมาณปกติได ้ หรือไดร้ บั แตไ่ ม่เพยี งพอ

กรณีเป็นองค์กรเอกชน ต้องเป็นโครงการท่ีมีการดำ�เนินงานมาแล้ว ซึ่งมีทุนอยู่บางส่วน หรือเป็นโครงการ
ริเริ่มใหม่ ท้ังนี้ โครงการนั้นต้องไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากส่วนราชการหรือแหล่งทุนอื่น หรือได้รับ 
แตไ่ ม่เพยี งพอ

สำ�หรบั ลักษณะโครงการท่จี ะไดร้ บั การสนบั สนนุ  ได้แก ่ โครงการลกั ษณะดงั ตอ่ ไปน้ี
–– โครงการทด่ี �ำ เนนิ การเกย่ี วกบั การปอ้ งกนั ปญั หาการคา้ มนษุ ยท์ ง้ั ในระดบั บคุ คล ครอบครวั  และชมุ ชน เชน่  

การรณรงคแ์ ละประชาสมั พนั ธ ์ การสรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจและปรบั เปลย่ี นทศั นคต ิ ตลอดจนคา่ นยิ มเกย่ี ว
กบั ปญั หาการคา้ มนษุ ย ์ การสง่ เสรมิ การศกึ ษาทกั ษะชวี ติ  การยา้ ยถน่ิ ทป่ี ลอดภยั  และการฝกึ อาชพี หรอื การ
ประกอบอาชพี  การสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ระบบเฝา้ ระวงั ในชมุ ชน
–– โครงการพัฒนาระบบการให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองผู้เสียหาย เช่น การพัฒนาข้ันตอนการ 
ให้ความช่วยเหลือคุ้มครองกลุ่มบุคคลท่ีตกเป็นผู้เสียหายให้เป็นระบบ มีคุณภาพมาตรฐาน ตลอดจน 
การประสานงานเครอื ขา่ ยระหวา่ งหนว่ ยงานและองคก์ รทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
–– โครงการท่ีดำ�เนินงานทางกฎหมายและการปราบปราม เช่น การผลักดันให้มีการบังคับใช้กฎหมาย 
อย่างจริงจัง  ก า ร ดำ � เ นิ น ค ดี กั บ ผู้ก ร ะ ทำ � ผิ ด   ก า ร พั ฒ น า ศั ก ย ภ า พ บุ ค ล า ก ร   แ ล ะ ก า ร ส ร้ า ง เ ค รื อ ข่ า ย 
ทางกฎหมายเก่ียวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ การสนับสนุนเงินรางวัลและ 
คา่ ตอบแทนในการน�ำ จบั ผกู้ ระท�ำ ความผดิ ของหนว่ ยงานภาครฐั

2 คมู่ อื การขอรับการสนับสนุนเงินในรปู แบบโครงการจากกองทนุ เพ่อื การป้องกนั และปราบปรามการค้ามนุษย์

–– โครงการฟื้นฟูเยียวยาและการคืนสู่สังคม เช่น การพัฒนาที่พักอาศัยชั่วคราว การบริการฝึกอาชีพ 
การส่งเสริมการประกอบอาชีพ การสนับสนุนค่าครองชีพระหว่างการหางานทำ� การสร้างเครือข่าย
กระบวนการการส่งกลับอย่างเป็นระบบ ท้ังในประเทศและระหว่างประเทศ การเยียวยาผู้เสียหาย
และครอบครัว และการติดตามผล รวมท้ังการดูแลภายหลังการคืนสู่สังคม เพ่ือป้องกันมิให้กลับเข้าสู่
ขบวนการค้ามนุษย์อีก

–– โครงการจัดทำ�และพัฒนาระบบข้อมูลการติดตามและการประเมินผล เช่น การสร้างฐานข้อมูลระดับ
จังหวัด ระดับประเทศ และระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ สภาพปัญหา การย้ายถิ่น สถิติ
การดำ�เนินงาน เส้นทางการค้ามนุษย์ พ้ืนท่ีและกลุ่มเสี่ยง และการติดตามประเมินผลการดำ�เนินงาน 
และสนับสนุนการทำ�วจิ ัย

–– โครงการพัฒนากลไกการบริหารงานและการจัดการในด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ 
เช่น การจดั ทำ�แผนงานระดับจงั หวดั และแผนปฏิบัติการของแตล่ ะหนว่ ยงาน มกี ารพฒั นาระบบเครอื ขา่ ย 
การดำ�เนินงานทุกระดับ การพัฒนาศักยภาพบุคลากร และองค์กรเครือข่าย และการสนับสนุนองค์กร 
ทีป่ ฏิบัตงิ านในทุกระดับ

–– โครงการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น การพัฒนากลไกความร่วมมือบริเวณชายแดน 
ในการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ การพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ 
การจัดทำ�ข้อตกลงและแผนปฏิบัติการทั้งระดับทวีภาคี พหุภาคีและระดับภูมิภาคหรืออนุภูมิภาค 
และจดั ใหม้ ีการแลกเปลยี่ นประสบการณ์ขอ้ มูลขา่ วสารของประเทศต้นทาง ทางผ่าน และปลายทาง

–– โครงการอื่นตามท่ีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ย์กำ�หนด
ท้ังน้ี ลักษณะโครงการจะต้องมีวัตถุประสงค์และกระบวนการในการดำ�เนินงานชัดเจน มีผลต่อการ 
แก้ไขปัญหา การช่วยเหลือ หรือการคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหาย หรือการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ 
รวมทั้งเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของบุคคล หรือหน่วยงาน หรือประชาชนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา การช่วยเหลือ 
หรือการคุ้มครองสวสั ดภิ าพผู้เสยี หาย หรอื การปอ้ งกันและปราบปรามการค้ามนษุ ย์

(6) การยนื่ ขอรบั การสนบั สนุน

–– กรณีองค์กรท่ีขอรับการสนับสนุนจากกองทุน ประสงค์จะดำ�เนินโครงการในเขตกรุงเทพฯ ให้ย่ืนท่ี 
กล่มุ บริหารกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ กองต่อต้านการค้ามนุษย์ สำ�นักงาน 
ปลัดกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนษุ ย์

–– กรณีองค์กรท่ีขอรับการสนับสนุนจากกองทุน ประสงค์จะดำ�เนินโครงการในจังหวัดใด ให้ย่ืนต่อสำ�นักงาน 
พฒั นาสงั คมและความม่นั คงของมนษุ ย์จังหวัดนน้ั ๆ 
** รายละเอยี ดเพม่ิ เตมิ ตามประกาศคณะกรรมการประสานและก�ำ กบั การด�ำ เนนิ งานปอ้ งกนั และปราบปราม 

การค้ามนุษย์ เรื่อง วงเงินและรายการค่าใช้จ่าย ตลอดจนหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขอื่นในการให้การสนับสนุน 
จากกองทนุ เพือ่ การป้องกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย ์ ประกาศ ณ วนั ท ่ี 8 ธนั วาคม พ.ศ. 2552

ค่มู อื การขอรบั การสนับสนุนเงินในรูปแบบโครงการจากกองทนุ เพอื่ การปอ้ งกนั และปราบปรามการค้ามนษุ ย์ 3

3. เกณฑ์การพจิ ารณาในการประเมินโครงการของกองทุน
เพ่อื การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

1 .   ห ลั ก ก า ร แ ล ะ เ ห ตุ ผ ล จ ะ ต้ อ ง วิ เ ค ร า ะ ห์ ส ถ า น ก า ร ณ์ ปั ญ ห า ใ น พ้ื น ที่ อ ย่ า ง ชั ด เจ น   ร ว ม ท้ั ง แ ส ด ง ถึ ง 
ความจำ�เป็นในการด�ำ เนินโครงการเพ่ือแก้ปญั หาดังกล่าว

2. วัตถุประสงค์ขององค์กรท่ีเสนอคืออะไร โครงการท่ีเสนอมาสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ขององค์กร/
หนว่ ยงาน หรอื ไม่

3. ความเช่ือมโยงระหว่างโครงการกับยุทธศาสตร์สังคมระดับต่างๆ เช่น ของกระทรวง, จังหวัด, ท้องถ่ิน 
ผลสำ�เร็จของโครงการสามารถนำ�ไปสกู่ ารบรรลเุ ปา้ หมายทางยทุ ธศาสตร์

4. วตั ถปุ ระสงค์, กลมุ่ เป้าหมาย, กจิ กรรมและวธิ ีดำ�เนนิ โครงการ, ผลผลิตสอดคลอ้ งกันหรือไม่
5. รายละเอยี ดค่าใช้จ่ายตอ้ งมกี ารแจกแจงใหช้ ดั เจน
6. ความร่วมมือและบทบาทของภาคเี ครือขา่ ย เช่น อปท., องคก์ รของรัฐ, หนว่ ยงานในพนื้ ท ่ี เป็นต้น
7. ความสัมพันธ์กับโครงการอ่ืนในหน่วยงานเดียวกัน และของหน่วยงานอ่ืนๆ เพื่อใช้ประโยชน์จาก 
ความสัมพันธ์กับโครงการอื่น และหลีกเลี่ยงความซํ้าซ้อน
8. ผลผลิต, ผลลัพธ์ ตัวช้ีวัดโครงการ ไม่ว่าผลผลิตหรือผลลัพธ์น้ัน จะต้องมีกลไกที่สามารถบอกได้ว่า 
ผลผลิตหรือผลลัพธ์เกิดขึ้นจริง (จะอยู่ในรูปตัวชี้วัดโครงการ)
9. มีตัวชี้วดั ท่ีจะบ่งบอกถึงความสมั ฤทธขิ์ องโครงการ
10. ลักษณะโครงการแสดงให้เห็นถึงความย่งั ยืน ความต่อเน่อื งหรือมีกลไกท่ขี ยายผลต่อไปได้ แม้กองทุน 
จะไม่ได้สนบั สนนุ ปีต่อๆ ไป
11. ศักยภาพในการบริหารจัดการโครงการ แผนการบริหารจดั การมีความสมเหตสุ มผลหรือไม่
12. การมีส่วนร่วมของผู้เก่ียวข้องกับโครงการ ท้ังกลุ่มที่ส่งผลกระทบต่อความสำ�เร็จของโครงการ หรือ
กลมุ่ ท่ีอาจไดร้ บั ผลกระทบจากโครงการ เพอ่ื หาแนวทางท่ีเหมาะสมในการบรหิ ารบคุ คลเหล่าน้ี

4 คมู่ ือการขอรบั การสนับสนนุ เงนิ ในรูปแบบโครงการจากกองทุนเพื่อการป้องกนั และปราบปรามการค้ามนุษย์

4. ขัน้ ตอนการด�ำ เนินงานเพ่ือพจิ ารณาให้การสนบั สนุนโครงการ
เพ่ือการปอ้ งกันและปราบปรามการคา้ มนุษย์

ค่มู อื การขอรบั การสนับสนนุ เงินในรูปแบบโครงการจากกองทุนเพอื่ การป้องกนั และปราบปรามการค้ามนุษย์ 5

6 ค่มู ือการขอรบั การสนบั สนนุ เงินในรปู แบบโครงการจากกองทนุ เพื่อการป้องกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์

5. แนวทางการวเิ คราะห์โครงการเบื้องตน้ ของกองทุนเพ่อื การป้องกนั
และปราบปรามการค้ามนุษย์

คู่มือการขอรับการสนับสนุนเงนิ ในรปู แบบโครงการจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนษุ ย์ 7

8 ค่มู ือการขอรบั การสนบั สนนุ เงินในรปู แบบโครงการจากกองทนุ เพื่อการป้องกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์

บทที่ 1

แนวทางการวเิ คราะหส์ ถานการณ์การคา้ มนุษย์ในพ้นื ที่

การวิเคราะห์สถานการณ์จะช่วยให้ทราบกระบวนการตีกรอบอย่างมีเหตุผล และช่วยในการตัดสินใจ 
ในการจัดทำ�โครงการเพ่ือการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในพ้ืนท่ีได้อย่างชัดเจนจากฐานข้อมูล 
ที่มีความน่าเชื่อถือ โดยแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของสถานการณ์ในพื้นที่ และนำ�ไปสู่การป้องกันและแก้ไขปัญหา
การค้ามนุษย์

กระบวนการในการวเิ คราะห์สถานการณก์ ารค้ามนษุ ย์
การเขียนโครงการต้องมีการกำ�หนด “โจทย์” ซึ่งการค้นหาโจทย์ จะเป็นสิ่งที่สำ�คัญสำ�หรับการจัดทำ� 

โครงการ เพราะจะเป็นการหาคำ�ตอบ โดยการกำ�หนดโจทย์ท่นี ำ�ไปส่กู ารทำ�โครงการได้น้นั  ผ้เู ขียนต้องอ้างอิงข้อมูล 
การคา้ มนษุ ย์ในพนื้ ท ี่ ส�ำ หรับการพิจารณาประกอบการเขียนโครงการ โดยมีองค์ประกอบ 2 ประเดน็ ส�ำ คญั  คือ

1. พจิ ารณาจากสถานการณ์การค้ามนุษย์
การพิจารณาสถานการณ์การค้ามนุษย์โดยใช้สถิติ ข้อมูลการค้ามนุษย์ท่ีเกิดข้ึนในพ้ืนท่ี ซ่ึงในแต่ละจังหวัด 

มปี ระเดน็ ปญั หาการคา้ มนษุ ยท์ มี่ คี วามแตกตา่ งกนั ตามแตล่ ะสถานการณข์ องพนื้ ท ่ี ดงั นนั้  ปญั หาเหลา่ นจี้ ะถกู น�ำ ไปส ู่
การจัดล�ำ ดบั ความส�ำ คัญของการคา้ มนุษย์

2. การจดั ลำ�ดบั ของความสำ�คัญของสถานการณ์การคา้ มนษุ ย์
ผ้เู ขียนโครงการจะต้องพิจารณาสถานการณ์การค้ามนุษย์ในแต่ละจังหวัด โดยจะต้องจัดลำ�ดับความสำ�คัญ 

ของการคา้ มนษุ ยใ์ นจงั หวดั นน้ั ๆ ซง่ึ สถานการณเ์ กย่ี วกบั การคา้ มนษุ ยแ์ ตกตา่ งกนั ไปตามระดบั ความรนุ แรงของปญั หา 
ของการค้ามนุษย์ในพนื้ ท่ี

ตัวอย่างที่ 1 ในจังหวัดสระแก้ว ถือว่าเป็นจังหวัดชายแดน ท่ีมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชา 
อาจจะมสี ถานการณก์ ารคา้ มนษุ ยใ์ นรปู แบบการขอทานในตลาดโรงเกลอื  และมรี ะดบั ความรนุ แรงมาก จงึ ใหค้ วามส�ำ คญั  
กับปญั หาการคา้ มนุษยใ์ นรปู แบบการขอทาน เป็นตน้

ตัวอย่างท่ี 2 ขณะที่สถานการณ์การค้ามนุษย์ในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งถือว่าเป็นจังหวัดท่ีติดต่อกับชายแดน 
ประเทศกัมพูชา เช่นเดียวกับจังหวัดสระแก้ว แต่สถานการณ์ในเรื่องการค้ามนุษย์มีความแตกต่างกัน เช่น อาจจะ
เป็นเร่อื งการถูกหลอกไปทำ�งานในตา่ งประเทศ และถกู บังคบั ใชแ้ รงงาน เปน็ ตน้

เพราะฉะน้ัน แต่ละจังหวัดจะมีสถานการณ์เฉพาะด้านท่ีแตกต่างกัน หรือบางจังหวัดที่เป็นจังหวัดใหญ่ๆ 
ที่เป็นศูนย์กลาง คมนาคม ธุรกิจการค้า ธุรกิจสถานบันเทิง อาจจะมีเร่ืองการค้ามนุษย์ ในรูปแบบการค้าประเวณี 
ซึ่งเป็นปัญหาสำ�คัญอันดับแรก หากเป็นจังหวัดชายทะเล อาจจะเน้นในเรื่องแรงงานประมง ซ่ึงปัญหาเหล่าน้ี 
หน่วยงานที่จัดทำ�ข้อเสนอโครงการ จะต้องมีการจัดลำ�ดับความสำ�คัญของสถานการณ์การค้ามนุษย์ในพื้นที่

คมู่ ือการขอรบั การสนบั สนนุ เงนิ ในรูปแบบโครงการจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนษุ ย์ 9

ขณะเดยี วกนั  การจดั ล�ำ ดบั ความส�ำ คญั ของสถานการณก์ ารคา้ มนษุ ยไ์ ดน้ น้ั  จะตอ้ งอาศยั ขอ้ มลู จากศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ าร 
ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัด (ศปคม.จังหวัด) ซึ่งทาง ศปคม. จังหวัด จะต้องมีแผนปฏิบัติการ 
ที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของจังหวัด

หลังจากจัดลำ�ดับความสำ�คัญของสถานการณ์การค้ามนุษย์ได้แล้ว ผู้จัดทำ�ข้อเสนอโครงการจะสามารถ
แยกประเด็นโครงการได้อย่างชัดเจนว่า โครงการท่ีจะจัดทำ�ข้อเสนอโครงการ เป็นโครงการประเภทใด ซึ่งมีอยู่ 
3 ประเภท ได้แก่

ประเภทท ี่ 1 โครงการด้านการปอ้ งกนั การคา้ มนุษย์
ประเภทท่ี 2 โครงการด้านการปราบปรามการคา้ มนษุ ย์
ประเภทท ่ี 3 โครงการด้านการคุ้มครองชว่ ยเหลือผู้เสยี หายจากการกระทำ�ความผดิ ฐานค้ามนุษย์
ซ่ึงเม่ือจำ�แนกโครงการได้ชัดเจนแล้วน้ัน ผู้จัดทำ�โครงการจะสามารถวิเคราะห์ศักยภาพของโครงการ 
ท่ีเขียนได้ว่า โครงการนั้นมีจุดแข็ง จุดอ่อน อย่างไร และโครงการนั้นมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากน้อย
เพียงใด
ดังนั้น การพิจารณาเช่นน้ี เท่ากับเป็นการ “หาโจทย์” โครงการได้อย่างชัดเจน และผู้จัดทำ�ต้องมีความร ู้
เรื่องที่จะทำ�โครงการอย่างชัดเจน

10 คูม่ อื การขอรับการสนบั สนุนเงนิ ในรปู แบบโครงการจากกองทนุ เพ่อื การปอ้ งกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

บทท ่ี 2

แนวทางการวเิ คราะห์วตั ถุประสงค์ของโครงการ

โครงการทุกโครงการจำ�เป็นต้องมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายเป็นเคร่ืองช้ีแนวทางในการดำ�เนินงาน
ของโครงการโดยวัตถุประสงค์ จะเป็นข้อความที่แสดงถึงความต้องการที่จะกระทำ�สิ่งต่างๆ ภายในโครงการ 
ให้ปรากฏผลเป็นรูปธรรม ซึ่งข้อความท่ีใช้เขียนวัตถุประสงค์จะต้องชัดเจน ไม่คลุมเครือ สามารถวัดและประเมิน
ผลได้ โครงการแต่ละโครงการสามารถมีวัตถุประสงค์ได้มากกว่า 1 ข้อ ลักษณะของวัตถุประสงค์ขึ้นอยู่กับระดับ
และขนาดของโครงการ เพ่ือให้การปฏิบัติหน้าที่องค์การ ให้บรรลุถึงเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ย่อมส่งผลดี 
ต่อการดำ�เนินการ และผลตอบแทนท่ีองค์การหรือหน่วยงานจะได้รับอย่างคุ้มค่า อันจะนำ�มาซึ่งการพัฒนา 
ของหน่วยงานนั้นๆ

วัตถุประสงค์ของโครงการด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ควรแสดงให้เห็นถึงจุดมุ่งหมาย 
ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในพ้ืนท่ีได้อย่างชัดเจน โดยต้องสอดคล้องกับที่มา หลักการและเหตุผล 
และกล่มุ เปา้ หมายในโครงการ

แนวทางการวเิ คราะห์วตั ถุประสงค์และลกั ษณะที่ดีของโครงการดังตอ่ ไปน้ี
1. สามารถตอบสนองความตอ้ งการหรอื ป้องกนั /แกไ้ ขปัญหาการคา้ มนุษยใ์ นพ้ืนทไี่ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม
2. มวี ัตถุประสงคแ์ ละเป้าหมายทีช่ ัดเจน สามารถดำ�เนินงานและปฏบิ ตั ิได้จริงในพืน้ ที่
3. ร า ย ล ะ เ อี ย ด ข อ ง โ ค ร ง ก า ร ต้ อ ง ส อ ด ค ล้ อ ง แ ล ะ สั ม พั น ธ์ กั น   ก ล่ า ว คื อ   วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ ข อ ง โ ค ร ง ก า ร 
ต้องสอดคล้องกับหลักการและเหตุผล วิธีการดำ�เนินงาน กลุ่มเป้าหมาย และผลที่คาดว่าจะได้รับ เป็นต้น
4. รายละเอียดของโครงการสามารถเข้าใจไดง้ า่ ย สะดวกตอ่ การดำ�เนนิ งานตามโครงการ
5. เป็นโครงการที่สามารถนำ�ไปปฏิบัติได้ สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา 
การค้ามนุษย์ของจังหวัด และสามารถติดตามประเมนิ ผลได้
6. โครงการต้องกำ�หนดขึ้นจากข้อมูลสถานการณ์การค้ามนุษย์ท่ีเกิดขึ้นในพื้นที่ และเป็นข้อมูลท่ีได้รับ 
การวิเคราะห์อย่างรอบคอบ มีความส�ำ คญั  และจำ�เปน็ ต้องได้รบั การแกไ้ ขปัญหา
7. โครงการต้องได้รับการสนับสนนุ ในดา้ นทรัพยากร และการบริหารอย่างเหมาะสม
8. โครงการต้องมีระยะเวลาในการดำ�เนินงานและพื้นท่ีดำ�เนินโครงการอย่างชัดเจน กล่าวคือ ต้องระบุถึง
วันเวลาทเ่ี ร่มิ ตน้ และสน้ิ สดุ โครงการ และระบุสถานที่ในการจดั ท�ำ โครงการ
9. ควรชี้ให้เห็นผลลัพธ์ในการดำ�เนินโครงการ และสามารถตอบโจทย์ในการป้องกันและการแก้ไขปัญหา
การคา้ มนษุ ย์ในพ้ืนที่ได้อยา่ งชัดเจน

บทที่ 3

คูม่ ือการขอรบั การสนบั สนุนเงินในรูปแบบโครงการจากกองทนุ เพอ่ื การปอ้ งกันและปราบปรามการคา้ มนุษย์ 11

บทท่ี ๓

แนวทางการวเิ คราะห์กลุ่มเปา้ หมาย

ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ ก ลุ่ ม เ ป้ า ห ม า ย   ผู้ เ ส น อ โ ค ร ง ก า ร ต้ อ ง อ ธิ บ า ย ใ ห้ ชั ด เจ น ว่ า   ใ ค ร คื อ ก ลุ่ ม เ ป้ า ห ม า ย ข อ ง
โครงการ หากกลุ่มเป้าหมายมีหลายกลุ่ม ให้บอกชัดลงไปว่า ใครคือกลุ่มเป้าหมายหลัก ใครคือกลุ่มเป้าหมายรอง 
มคี วามสอดคล้องกบั โครงการอยา่ งไร

กลุ่มเป้าหมาย (Tเอrget group) คือ กลุ่มคนที่ต้องการขับเคลื่อน หรือต้องการให้เกิดการเปล่ียนแปลง 
พฤติกรรมกับกลุ่มคนเหล่านั้น โดยแต่ละกิจกรรมหรือโครงการ จะมีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน แต่เป้าหมาย
สุดท้ายคอื ประชาชนในพืน้ ท่ไี ดร้ ับประโยชน์จากการเปล่ยี นแปลงของกลุ่มเปา้ หมาย

กลุ่มเป้าหมายหลัก หมายถึง กลุ่มคนท่ีเกี่ยวข้องโดยตรงกับการดำ�เนินกิจกรรมในโครงการ เช่น โครงการ
อบรมนกั ศกึ ษาเพอ่ื เฝา้ ระวังการปอ้ งกนั การค้ามนษุ ย์ กลมุ่ เปา้ หมายหลัก คอื  นกั ศกึ ษา

กลุ่มเป้าหมายรอง หมายถึง กลุ่มคนที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำ�เนินกิจกรรมโครงการในทางอ้อม 
เช่น โครงการอบรมนักศึกษาเพ่ือเฝ้าระวังการป้องกันการค้ามนุษย์ กลุ่มเป้าหมายรอง คือ อาจารย์หรือผู้ปกครอง 
ซง่ึ อาจมคี วามสมั พนั ธเ์ กย่ี วขอ้ งกบั นกั ศกึ ษา ซง่ึ มผี ลเกย่ี วขอ้ งในการด�ำ เนนิ โครงการ ใหด้ �ำ เนนิ การไดเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพ 
และประสิทธิผล

แนวทางการวิเคราะหก์ ลุ่มเปา้ หมายด้านการป้องกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย ์ แบ่งเป็น 3 ด้าน ดงั น้ี
1. การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายด้านการป้องกันการค้ามนุษย์ หมายถึง คนท่ไี ด้รับผลกระทบโดยตรง/อ้อม 
จากการด�ำ เนนิ กจิ กรรมในโครงการดา้ นการปอ้ งกนั การคา้ มนษุ ย ์ อนั เกดิ จากการใชก้ ลไก มาตรการ และวธิ กี ารตา่ งๆ 
ท่ีจะไม่ให้เกิดการแสวงประโยชน์หรือการบังคับใช้แรงงาน โดยการก�ำ จัดท่ีต้นเหตุ ขจัดโอกาสที่จะกระทำ�ผิด และ
มมี าตรการตดิ ตามตรวจสอบประเมินผลการปฏบิ ัตงิ านอยา่ งต่อเนอื่ ง
2. การวเิ คราะหก์ ลมุ่ เปา้ หมายดา้ นการปราบปรามการคา้ มนษุ ย ์ หมายถงึ  คนทไ่ี ดร้ บั ผลกระทบโดยตรง/ออ้ ม 
จากการดำ�เนินกิจกรรมในโครงการดา้ นการปราบปรามและด�ำ เนนิ คดีเกย่ี วกบั การค้ามนษุ ย์
3. การวิเคราะห์กล่มุ เป้าหมายด้านการค้มุ ครองช่วยเหลือผ้เู สียหายจากการค้ามนุษย์ หมายถึง คนท่ไี ด้รับ 
ผลกระทบโดยตรง/อ้อม จากการดำ�เนินกิจกรรมท่ีให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยอนุญาต 
ให้อยู่ในประเทศได้ชั่วคราว เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย จิตใจ การฝึกอาชีพและทักษะ การอนุญาตให้ผู้เสียหาย 
ออกไปทำ�งานภายนอกสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ รวมถึงการดำ�เนินคดีเพ่ือเรียกร้อง 
คา่ สนิ ไหมทดแทนให้กับผู้เสยี หาย
ท้ังน้ี ผู้เขียนโครงการจะต้องประเมินศักยภาพของตนเองว่า มีความรู้ ความเข้าใจ ในการดำ�เนินโครงการ 
มากนอ้ ยอย่างไร ในการจัดทำ�โครงการ

12 คมู่ อื การขอรับการสนับสนนุ เงนิ ในรูปแบบโครงการจากกองทนุ เพอื่ การปอ้ งกันและปราบปรามการค้ามนษุ ย์

ตัวอย่างเช่น ถ้าเสนอโครงการเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ด้านการบังคับใช้แรงงาน ผู้จัดทำ�โครงการอาจจะ 
ไม่ทราบทุกเรื่องเก่ียวกับแรงงานท่ีเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ แต่อาจมีความรู้ความเข้าใจ ในเร่ืองเกี่ยวกับแรงงาน 
ที่เก่ียวข้องกับการค้ามนุษย์ เช่น ลักษณะการตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในรูปแบบการบังคับใช้แรงงาน 
และปัจจัยเสี่ยงที่นำ�ไปสู่การค้ามนุษย์ด้านการบังคับใช้แรงงาน เป็นต้น

การกำ�หนดประเด็นและกลุ่มเป้าหมายชัดเจน จะนำ�ไปสู่การออกแบบกิจกรรมในการดำ�เนินโครงการ 
ได้อย่างชัดเจนสอดคล้องทั้งโครงการ เช่น สามารถออกแบบกิจกรรมการฝึกอบรมเน้ือหาหลักสูตรที่สอดคล้องกับ
กลุ่มเป้าหมายของการดำ�เนินโครงการ เม่ือดำ�เนินโครงการเสร็จสิ้น จะสามารถประเมินผลการดำ�เนินกิจกรรม 
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรปุ ศกั ยภาพของการเขยี นและการด�ำ เนนิ โครงการได้ ดังนี้
1. ผู้เขยี นและผู้ด�ำ เนินโครงการ จะตอ้ งมีความรูค้ วามเข้าใจในการดำ�เนินโครงการ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
2. สามารถกำ�หนดกลุม่ เป้าหมายที่ชดั เจน และสอดคล้องกบั โครงการ
3. ออกแบบกจิ กรรมทสี่ อดคล้องกบั กล่มุ เป้าหมาย
4. มกี ารออกแบบการประเมนิ ผลกจิ กรรมโครงการทีเ่ กิดผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน

คู่มือการขอรับการสนับสนนุ เงนิ ในรูปแบบโครงการจากกองทนุ เพือ่ การปอ้ งกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ 13

บทที่ 4

การวเิ คราะห์ความเหมาะสมของงบประมาณ

การวิเคราะห์ความเหมาะสมของงบประมาณในการขอรับทุนสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการป้องกันและ 
ปราบปรามการค้ามนุษย์

1. วงเงินตํ่ากวา่  50,000 บาท หมายถงึ  โครงการขนาดเลก็
2. วงเงนิ ต้ังแต ่ 50,000 บาทข้นึ ไป แต่ไม่เกนิ  300,000 บาท หมายถงึ  โครงการขนาดกลาง
3. วงเงนิ ท่เี กิน 300,000 บาทขน้ึ ไป แตไ่ มเ่ กิน 3,000,000 บาท หมายถงึ  โครงการขนาดใหญ่
ในกรณีท่ีมีความจำ�เป็นเพื่อการดำ�เนินโครงการซ่ึงมีวงเงินเกิน 3,000,000 บาทขึ้นไป ให้เสนอต่อ 
คณะกรรมการบริหารกองทนุ เพอ่ื การป้องกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ยพ์ ิจารณาเปน็ รายกรณี
ความเหมาะสมของงบประมาณ หลักเกณฑ์วงเงินค่าใช้จ่ายในการพิจารณาให้การสนับสนุนจากกองทุน
เพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
การกำ�หนดงบประมาณวงเงินค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนโครงการ ต้องสอดคล้องกับปัจจัยในการทำ�งาน 
การจัดงบประมาณในแผนงานต้องมีความเหมาะสมให้งานน้ันๆ สามารถจัดทำ�กิจกรรมได้บรรลุตามเป้าหมาย 
ที่ตั้งไว้ หรือการกำ�หนดเป้าหมายหรือผลที่จะได้รับ ต้องสอดคล้องกับงบประมาณและความเป็นไปได้
หลักเกณฑ์นี้ เป็นกรอบแนวทางการจัดสรรงบประมาณเบ้ืองต้นเท่านั้น แผนงาน/โครงการ สามารถปรับ 
ให้สอดคล้องกับสภาพการณ์และบริบทท่ีแท้จริงของแต่ละแผนงาน โดยยึดหลักความเหมาะสม ประหยัด โปร่งใส 
และเป็นธรรม
สำ�หรับเกณฑ์ในการพจิ ารณาความเหมาะสมของงบประมาณ
1) ควรพิจารณาความหมายขององค์ประกอบโครงการ แผนงาน เช่น วัตถุประสงค์ เป้าหมาย แผนงาน 
งาน โครงการ กจิ กรรม ฯลฯ ให้สอดคล้องกบั แผนงบประมาณอย่างเหมาะสม
2) ควรทบทวน วิเคราะห์ วัตถุประสงค์ เป้าหมายของกิจกรรมต่างๆ ว่ากิจกรรมใดท่ีสมควรชะลอ หรือ 
ยุบเลกิ  เพอื่ ใหม้ ีทรัพยากรที่จะนำ�ไปใช้ส�ำ หรับงาน/โครงการใหม่ๆ ที่คมุ้ ค่ากว่า
3) ควรมีการก�ำ หนดตวั ช้วี ดั ความส�ำ เรจ็ ของแผนงาน/งาน/โครงการ

14 คมู่ ือการขอรบั การสนบั สนนุ เงนิ ในรปู แบบโครงการจากกองทนุ เพ่ือการปอ้ งกันและปราบปรามการค้ามนษุ ย์

บทที่ ๕

แนวทางการวิเคราะหผ์ ลความยงั่ ยนื ของโครงการ

เมื่อได้ดำ�เนินโครงการแล้ว ผู้เขียนโครงการ หรือผู้ดำ�เนินโครงการจะต้องคำ�นึงถึงความยั่งยืนของโครงการ 
ให้เกิดความต่อเนื่อง และเกิดศักยภาพในการดำ�เนินโครงการต่อยอดขยายผลด้วยงบประมาณของหน่วยงาน 
ดังนั้น ต้องมีการพิจารณาโครงการต่างๆ ว่าโครงการใดเป็นโครงการท่ีมีความย่ังยืน จะต้องมีลักษณะสำ�คัญ 
ดังต่อไปนี้

1. พิจารณาความย่ังยืนของทรัพยากร เม่ือดำ�เนินโครงการเสร็จสิ้นแล้ว หน่วยงานที่เคยของบประมาณ 
จากกองทนุ เพอ่ื การปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย ์ จะสามารถตง้ั งบประมาณรายจา่ ยประจ�ำ ปเี ปน็ ของหนว่ ยงานได ้
เพอ่ื ดำ�เนินโครงการตอ่ ยอดขยายผล ซึ่งเปน็ การระดมทรัพยากรท่มี อี ยขู่ องหนว่ ยงานและเครอื ขา่ ยทม่ี อี ยไู่ ด้

2. ความย่งั ยืนดา้ นการด�ำ เนนิ โครงการ
2.1 โครงการจะต้องมีการด�ำ เนนิ โครงการต่อยอดขยายผล โดยใช้งบประมาณปกติของหน่วยงาน
2.2 โครงการจะต้องมีแผนงานที่ระบุชัดเจนว่าเป็นโครงการท่ีส่งผลดีต่อการป้องกันแก้ไขปัญหา 

การค้ามนุษย์ในพื้นที่ได้
2.3 สามารถระบ ุ ผลส�ำ เรจ็  (Output) ผลลพั ธ ์ (Outcome) และสง่ ผลกระทบใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลง 

ในพนื้ ทไ่ี ด้ (Impเอซtี )
แนวทางการวเิ คราะหค์ วามย่ังยืนของโครงการ

1. หน่วยงานท่ีขอรับการสนับสนุนจากกองทุนเพ่ือการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ดำ�เนิน
โครงการในปีแรกเป็นรูปแบบการอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจ การอบรมเชิงปฏิบัติการ ดังน้ัน โครงการในปีท่ี 1 
จึงเป็นลกั ษณะ “การหวา่ นเมลด็ ” กลา่ วคอื  เปน็ การสรา้ งกระบวนการเพอ่ื ใหเ้ กดิ แผน หรอื ความร ู้ ความเขา้ ใจในการ
ปอ้ งกนั  การปราบปราม และการชว่ ยเหลือผู้เสยี หายจากการคา้ มนษุ ย์

2. หนว่ ยงานทข่ี อรบั การสนบั สนนุ จากกองทนุ เพอ่ื การปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย ์ ด�ำ เนนิ โครงการ 
ในปีที่ 2 ควรจะต้องมีพัฒนาการในเชิงรูปธรรมมากข้ึน เช่น ปีท่ี 1 เป็นโครงการการอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจ 
กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ในปีท่ี 2 ควรเกิดโครงการในลักษณะสร้างคณะทำ�งาน 
การวางแผนป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ รวมท้ังความช่วยเหลือจากการค้ามนุษย์ โดยในพ้ืนท่ีจะมีตัวแทน 
ศปคม. และอาสาสมัครชุมชน ในการเป็นตัวแทนให้โครงการประสบความสำ�เร็จ ดังน้ัน โครงการในปีท่ี 2 
เม่ือพัฒนาต่อจากโครงการปีที่ 1 โครงการควรเป็นลักษณะท่ีเรียกว่า “จุดเริ่มของการวางรากฐาน” เพื่อส่งเสริม 
ให้เกิดพลังในการดำ�เนินงานเกี่ยวกับการป้องกัน การปราบปราม และการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์

3. ในปีที่ 3 โครงการเป็นการ “ขยายรากฐาน” อาจสร้างวิทยากรต้นแบบในการป้องกัน การปราบปราม 
และการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือระบบฐานข้อมูลท่ีเกี่ยวข้อง 
กบั การปอ้ งกนั  การปราบปราม และการช่วยเหลอื ผู้เสยี หายจากการคา้ มนษุ ย ์ ใหม้ ีประสทิ ธิภาพมากขนึ้

คูม่ ือการขอรับการสนบั สนุนเงนิ ในรูปแบบโครงการจากกองทุนเพื่อการปอ้ งกนั และปราบปรามการค้ามนุษย์ 15

4. ในปีท่ี 4 อาจเป็นโครงการที่เกิดความยั่งยืนในพ้ืนท่ี โดยชุมชนและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ดำ�เนิน
โ ค ร ง ก า ร ก า ร ป้ อ ง กั น   ก า ร ป ร า บ ป ร า ม   แ ล ะ ก า ร ช่ ว ย เ ห ลื อ ผู้ เ สี ย ห า ย จ า ก ก า ร ค้ า ม นุ ษ ย์ ไ ด้ เ อ ง   แ ล ะ ส า ม า ร ถ 
เป็นที่ปรกึ ษาโครงการท่เี ก่ยี วขอ้ งกับการปอ้ งกนั  การปราบปราม และการช่วยเหลอื ผเู้ สยี หายจากการค้ามนุษยไ์ ด้

5. ทุกโครงการที่ดำ�เนินงาน ควรมีผลลัพธ์ท่ีส่งผลกระทบ (Impเอซีt) ต่อการป้องกันการค้ามนุษย์ 
การปราบปรามการค้ามนุษย์และการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งสามารถนำ�ไปใช้ประโยชน์ได้อย่าง
เปน็ รปู ธรรม
หมายเหตุ ผลของความย่ังยืนของโครงการท่ีดำ�เนินโครงการต่อเน่ืองต้ังแต่ปีท่ี 2 – 3 ไม่ได้หมายความว่าจะต้อง 
ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพ่ือการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ แต่หมายความถึงกรณี
หน่วยงานต่างๆ เม่ือขอรับงบประมาณสนับสนุนโครงการจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ 
ในปีท่ี 1 แล้วน้ัน ในปีท่ี 2 – 3 หน่วยงานต่างๆ เหล่าน้ันอาจดำ�เนินโครงการเอง โดยไม่ได้รับการสนับสนุน 
งบประมาณจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ดังน้ัน ความย่ังยืนโครงการ จึงเป็น 
ก า ร พั ฒ น า ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร ดำ � เ นิ น โ ค ร ง ก า ร อ ย่ า ง ต่ อ เ นื่ อ ง   ซึ่ ง เ ป็ น ก า ร ช้ี ใ ห้ นั ก วิ เ ค ร า ะ ห์ ส า ม า ร ถ 
เห็นทศิ ทางและแนวโน้มการดำ�เนนิ การโครงการทมี่ ีความยั่งยืนของโครงการ

16 คู่มอื การขอรบั การสนับสนุนเงินในรูปแบบโครงการจากกองทนุ เพอ่ื การป้องกันและปราบปรามการคา้ มนุษย์

6. ตัวอย่างโครงการที่ไดร้ ับการอนมุ ัต ิ
ให้การสนับสนนุ การดำ�เนินโครงการจากกองทนุ
เพ่ือการป้องกนั และปราบปรามการค้ามนษุ ย์

6.1 ตวั อยา่ งโครงการด้านการปอ้ งกันการคา้ มนุษย์
6.2 ตวั อย่างโครงการด้านการปราบปรามการค้ามนุษยแ์ ละคุม้ ครอง

ชว่ ยเหลอื ผู้เสียหายจากการค้ามนษุ ย์
6.3 ตวั อย่างโครงการด้านการพัฒนาระบบข้อมูลการป้องกนั และปราบ

ปรามการคา้ มนษุ ย์

คูม่ อื การขอรับการสนบั สนุนเงินในรูปแบบโครงการจากกองทนุ เพื่อการป้องกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ย์ 17

6.1 ตวั อย่างโครงการด้านการป้องกนั การคา้ มนุษย์

18 ค่มู ือการขอรบั การสนับสนุนเงินในรปู แบบโครงการจากกองทุนเพ่อื การปอ้ งกนั และปราบปรามการค้ามนุษย์

แบบ กปค.01

ตวั อย่างโครงการดา้ นการป้องกันการคา้ มนุษย์

แบบการเสนอโครงการขอรับเงนิ กองทนุ เพือ่ การป้องกันและปราบปรามการคา้ มนุษย์ ประจ�ำ ปี พ.ศ. 2561
ส�ำ นักงานปลดั กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนษุ ย ์
กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมั่นคงของมนษุ ย์

สว่ นท่ี 1 ขอ้ มลู ท่วั ไป
1.1 ชอ่ื องคก์ ร  (ภาษาไทย) ศนู ย ์ ก. ต�ำ รวจภธู รภาค ข.
(ภาษาอังกฤษ) ถา้ ม ี –
1.2 องคก์ รของทา่ น จัดอยใู่ นประเภทองค์กรใด (เลือกเพยี ง 1 ข้อ)

 หนว่ ยงานภาครัฐ1 (ระบ)ุ  สำ�นักงาน ค.
 องคก์ รเอกชน2
 องคก์ รอื่นๆ3 (ระบ)ุ ......................................................................................................................
1.3 รายช่ือคณะกรรมการ/ตำ�แหน่ง และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามโครงการ / กรณีเป็นหน่วยงานภาครัฐ  
(รายละเอยี ดปรากฏตามเอกสารแนบลำ�ดับที่ 2)
1.4 ปที ่ีจดทะเบยี นกอ่ ต้ังองค์กรหรือปที ีเ่ ริม่ ด�ำ เนินการ ป ี พ.ศ. 2552
1.5 ปีท่ีจดทะเบียนเป็นองค์กรด้านป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปราม
การค้ามนุษย ์ พ.ศ. 2551) ป ี พ.ศ. 2552
1.6 ท่ี ต้ั ง สำ � นั ก ง า น   ( พ ร้อ ม แ ผ น ท่ี )   ศูนย์ ราชการ  ถ น น   ก .   ตำ � บ ล   ข .   อำ � เ ภ อ เ มื อ ง   จั ง ห วั ด   ค .   1 0 0 0 0 
โทรศัพท์ 001–123456, 001–111111 โทรสาร 001–222222 E-mail : [email protected]
เวป็ ไซต ์ www.aaaaaaaa.go.th
1.7 ช่ือผู้ประสานงานโครงการ พันตำ�รวจ........................................โทรศัพท์มือถือ.......................................... 
และ พนั ตำ�รวจตรี........................................โทรศพั ท์มือถอื .....................................
1.8 วตั ถปุ ระสงคข์ ององค์กร
1.8.1 ถวายความปลอดภัยแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ 

และพระบรมวงศานุวงศ์ทกุ พระองค ์ อยา่ งสูงสุด
1.8.2 ให้ความสำ�คัญและผลักดันมาตรการป้องกัน การดำ�เนินคดี การคุ้มครองช่วยเหลือและการพัฒนา

กลไกเชงิ นโยบายและการขบั เคล่ือน และการพัฒนาและบรหิ ารข้อมูลอย่างมีประสิทธผิ ล

1  หน่วยงานภาครฐั  หมายความวา่  กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการท่ีเรียกชือ่ อย่างอืน่  ซ่งึ มฐี านะเป็นกรม หรอื เทยี บเท่ากรม หรือเทียบเทา่
กอง/ส�ำ นกั  ราชการส่วนภมู ภิ าค ราชการส่วนกลางท่ตี ้ังอย่ใู นส่วนภมู ภิ าค สถานีตำ�รวจ โรงเรยี นหรอื สถาบันการศกึ ษาของรัฐ ราชการสว่ นทอ้ งถิ่น
หรือหน่วยงานอน่ื ของรัฐท่ดี ำ�เนินการตามวตั ถุประสงค์หรอื กิจกรรมเก่ยี วกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

2  องคก์ รเอกชน หมายความวา่  องคก์ รท่บี คุ คลรวมกันขน้ึ และได้จดทะเบียนดา้ นการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ตามพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกัน
และปราบปรามการค้ามนุษย ์ พ.ศ.2551

3  องคก์ รอ่ืน หมายความว่า องคก์ รอนื่ ตามท่ปี ลัดกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษยก์ ำ�หนด

คู่มอื การขอรบั การสนบั สนนุ เงินในรปู แบบโครงการจากกองทนุ เพือ่ การป้องกนั และปราบปรามการค้ามนุษย์ 19

1.8.3 สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ใหค้ รอบครวั  ชมุ ชน เปน็ กลไกส�ำ คญั ในการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาการคา้ มนษุ ย์
1.8.4 ผลกั ดนั การด�ำ เนนิ การปราบปรามอยา่ งจรงิ จงั  และเขม้ งวด ในการจดั การกบั ผกู้ ระท�ำ ผดิ ฐานคา้ มนษุ ย ์

การค้าแรงงาน และองคก์ รอาชญากรรมขา้ มชาติ ขบวนการ กลมุ่ ผู้เกี่ยวข้องจากการคา้ มนุษย์
1.8.5 ให้การคุ้มครองป้องกัน ด้านแรงงาน จากการละเมิดสิทธิมนุษยชนข้ันพ้ืนฐานด้วยความรวดเร็วและ 

มปี ระสิทธิภาพ
1.8.6 พัฒนาหน่วยงานให้มีศักยภาพเฉพาะทางอย่างสูงสุด สามารถเป็นหน่วยงานเจ้าภาพของสำ�นักงาน ค. 

ในการแก้ไขปัญหาการกระทำ�ความผิดเก่ียวกับการค้ามนุษย์ ปัญหาด้านแรงงานและการจัดระเบียบ
สงั คม ในระดบั ประเทศและนานาชาติ
1.8.7 พัฒนาบุคลากรให้เป็นผู้เช่ียวชาญ มีทีมงานสืบสวนสอบสวนชำ�นาญเฉพาะด้านที่มีทัศนคติความร ู้
ความเข้าใจท้ังปัญหาและสาเหตุ สามารถแก้ไขปัญหาการกระทำ�ความผิดเก่ียวกับการค้ามนุษย์ได้
อย่างเปน็ ระบบ ครบทุกมิติ และยั่งยืน
1.8.8 พัฒนาระบบฐานข้อมูลด้วยเทคโนโลยี สามารถเช่ือมโยงข้อมูลกับทุกหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ทั้งในและ
ต่างประเทศ เพื่อเป็นศูนย์กลางข้อมูลในการแก้ไขปัญหาการกระทำ�ความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ 
ในระดับสากล
1.9 กจิ กรรมหรือโครงการทอ่ี งคก์ รดำ�เนนิ การอยู่ในปจั จบุ นั
ด�ำ เนนิ การปอ้ งกนั และปราบปรามการกระท�ำ ความผดิ ตามพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย ์
พ.ศ. 2551 และตามพระราชบัญญัติอื่นที่มีโทษทางอาญา
1.10 ผลงานในรอบ 1 ปที ีผ่ า่ นมา (โดยสรปุ ) ต้งั แต่วนั ที ่ 1 ตลุ าคม 2559 – วันท ่ี 30 กันยายน 2560
–– จบั กมุ ผกู้ ระท�ำ ความผดิ ตาม พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย ์ จ�ำ นวน 9 คดี
–– จบั กมุ ผกู้ ระท�ำ ความผดิ ตาม พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ ประเวณ ี จ�ำ นวน 2 คดี
–– จบั กมุ ผกู้ ระท�ำ ความผดิ เกย่ี วกบั ความรนุ แรงตอ่ เดก็  เยาวชน สตร ี ครอบครวั  จ�ำ นวน 47 คดี
–– ด�ำ เนนิ การดา้ นการจดั ระเบยี บสงั คม จ�ำ นวน 117,614 ครง้ั
1.11 แหลง่ ความชว่ ยเหลือทีอ่ งคก์ รไดร้ บั ในปัจจบุ นั  (ท้งั ในและต่างประเทศ)

20 คมู่ อื การขอรับการสนบั สนนุ เงินในรปู แบบโครงการจากกองทุนเพอื่ การปอ้ งกันและปราบปรามการคา้ มนุษย์

ส่วนท่ ี 2 รายละเอียดขอ้ มูลโครงการเพอ่ื ขอรบั การสนบั สนนุ เงินกองทนุ  (แยกตามรายโครงการ)

2.1 ช่อื โครงการ (ภาษาไทย) “อบรมผ้ปู ระกอบการ ตอ่ ต้านการคา้ มนษุ ย์ ขจัดการค้าประเวณเี ด็ก”
2.2 ประเภทโครงการที่ขอรบั การสนบั สนุน (ตอบได้มากกวา่  1 ขอ้ )

 การด�ำ เนนิ การเก่ยี วกบั การปอ้ งกันปัญหาการค้ามนุษยใ์ นระดับบคุ คล ครอบครัว และชุมชน
 การพัฒนาระบบการให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองผ้เู สียหายจากการกระท�ำ ความผิดฐานค้ามนษุ ย์
 การดำ�เนินงานทางกฎหมายและการปราบปราม
 การฟ้ืนฟูเยยี วยาและการคืนสู่สงั คม
 การจดั ท�ำ และพัฒนาระบบขอ้ มูล การติดตามและประเมินผล
 การพัฒนากลไกการบริหารงานและการจดั การในด้านการปอ้ งกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ย์
 การประสานความรว่ มมือระหว่างประเทศ
 อืน่ ๆ ตามทีค่ ณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์หรือคณะกรรมการประสานและกำ�กับ

การด�ำ เนนิ งานป้องกนั และปราบปรามการคา้ มนุษยก์ ำ�หนด (ระบ)ุ ......................................
2.3 คณุ สมบตั ขิ องหนว่ ยงาน/องคก์ รที่ขอรับการสนับสนุน

(1) กรณเี ป็นหนว่ ยงานภาครัฐ
 โครงการริเร่มิ ใหม่ (โครงการทม่ี ีแนวคดิ หรือนโยบายใหมไ่ ม่เคยทำ�มากอ่ น)
 ไม่สามารถขอรับการสนบั สนุนจากงบประมาณปกตไิ ด้ หรอื
 ได้รับแตไ่ มเ่ พยี งพอ (ไดร้ ับงบประมาณปกต.ิ ......................บาท)

(2) กรณเี ปน็ องคก์ รเอกชน
 โครงการทีม่ ีการดำ�เนนิ งานมาแลว้  ซ่งึ มที นุ อยบู่ างส่วน หรือ
 โครงการรเิ ริ่มใหม ่ (โครงการที่มีแนวคดิ หรอื นโยบายใหมไ่ ม่เคยท�ำ มาก่อน)
 โครงการทีไ่ มไ่ ดร้ บั การสนบั สนุนงบประมาณจากสว่ นราชการหรือแหลง่ ทุนอนื่  หรอื
 ไดร้ บั แตไ่ มเ่ พยี งพอ (ไดร้ ับงบประมาณปกต.ิ .......................บาท)

(3) กรณีมิได้เป็นหนว่ ยงาน/องค์กรตามข้อ (1) และ (2)
 เป็นองค์กรอืน่ ตามทีป่ ลดั กระทรวงการพฒั นาสังคมและความม่ันคงของมนุษยก์ ำ�หนด

คมู่ ือการขอรบั การสนับสนนุ เงินในรูปแบบโครงการจากกองทนุ เพอ่ื การปอ้ งกนั และปราบปรามการค้ามนษุ ย์ 21

2.4 โปรดให้รายช่อื บุคคลที่น่าเชอื่ ถอื  ท่สี ามารถอธบิ ายถึงผลงานของท่านที่ผา่ นมาได ้ จำ�นวน 2 ท่าน
2.4.1 ชอื่ ......................................ที่อย่/ู หน่วยงาน............................................................................................ 
โทรศพั ท์.................................................................................................................................................
2.4.2 ช่ือ......................................ท่ีอยู/่ หน่วยงาน............................................................................................ 
โทรศัพท์.................................................................................................................................................

2.5 หลกั การและเหตผุ ล
จากสถานการณ์การค้ามนุษย์ในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นการค้ามนุษย์ท่ีมีรูปแบบการบังคับหญิงและ 

แสวงหาประโยชนโ์ ดยมชิ อบจากการคา้ ประเวณเี ดก็  คา่ นยิ มพน้ื ฐานและสง่ิ แวดลอ้ มทเ่ี อารดั เอาเปรยี บตอ่ เดก็ และหญงิ  
และปัจจัยอ่ืน เช่น การขาดโอกาสทางการศึกษา การฝึกอบรมอาชีพ การเข้าไม่ถึงบริการของรัฐ ช่องว่าง 
และการบังคับใช้กฎหมาย ปริมาณความต้องการในการใช้บริการทางเพศ ประเทศต่างๆท่วั โลกจึงได้ให้ความห่วงใย
และดำ�เนินมาตรการต่างๆ เพ่ือป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ เพราะถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
อย่างร้ายแรง และรัฐบาลให้ความสำ�คัญกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ โดยได้ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาต ิ
ท่ีทุกหน่วยต้องร่วมมือกันนำ�นโยบายของรัฐไปปฏิบัติ ท้ังในด้านนโยบาย ด้านการป้องกัน การดำ�เนินคดีและ 
ดา้ นการคมุ้ ครองชว่ ยเหลอื ผเู้ สยี หาย

ซ่งึ ตำ�รวจภูธรภาค ข. เป็นหน่วยงานท่มี ีอำ�นาจหน้าท่ใี นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมท่เี ก่ยี วกับ 
การค้ามนุษย์ การกระทำ�ผิดต่อเด็ก เยาวชน สตรี รวมท้ังความผิดเก่ียวกับแรงงานและการจัดระเบียบสังคมและ 
ความผิดอ่ืนท่ีเก่ียวเน่ือง จากข้อมูลสถิติการเกิดคดีค้ามนุษย์ในพ้ืนท่ีตำ�รวจภูธรภาค ข. ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2556 – 
2559 มีจำ�นวน 115 คดี พบว่าปัญหาการค้ามนุษย์ในรูปแบบการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็กเกิด
ขน้ึ มากทส่ี ดุ ถงึ  109 คด ี บงั คบั ใชแ้ รงงานหรอื งานบรกิ าร 4 คด ี แสวงหาประโยชนท์ างเพศในรปู แบบอน่ื และบงั คบั  
ขอทาน รูปแบบละ 1 คดี ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความรู้สึกของคนในประเทศและสังคมโลก และสังคม
โลกยังมองว่าประเทศไทยมีการค้าประเวณีอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการนำ�เด็กและเยาวชนมาแสวงหาประโยชน์
ทางเพศ ซ่ึงเป็นปัญหาท่ีสังคมโลกต่อต้านเป็นอย่างย่ิง แม้ว่าปัจจุบันจะมีความเข้มงวดกวดขันจากเจ้าหน้าท่ีรัฐ 
หลายๆ หนว่ ยแลว้ กต็ าม แตด่ ว้ ยผลจากสภาวะทางเศรษฐกจิ และความเหลอ่ื มล�ำ้ ทางสงั คมไทยและประเทศเพอ่ื นบา้ น 
การเปลย่ี นแปลงวธิ กี ารใหม้ คี วามสลบั ซบั ซอ้ นเพอ่ื หลกี เลย่ี งการจบั กมุ ของเจา้ หนา้ ทร่ี ฐั  และขอ้ มลู จากการปฏบิ ตั งิ าน 
ทไ่ี ดพ้ บวา่ ผตู้ อ้ งหาทถ่ี กู จบั กมุ ตวั มาด�ำ เนนิ คดจี �ำ นวนไมน่ อ้ ยทเ่ี ขา้ สกู่ ระบวนการคา้ มนษุ ย ์ เนอ่ื งจากการขาดความร ู้ – 
ความเข้าใจ ข้อกฎหมายและบทลงโทษท่ีเก่ียวข้องกับการค้ามนุษย์ โดยคิดเพียงว่าไม่ได้มีการบังคับ ขู่เข็ญ หรือ 
กกั ขงั หนว่ งเหนย่ี วผเู้ สยี หายหรอื เหยอ่ื  หากเกดิ จากความเตม็ ใจของผเู้ สยี หายเอง จงึ ท�ำ ใหต้ กอยใู่ นขบวนการคา้ มนษุ ย ์
โดยไม่ได้ผ่านการประเมินความเส่ียงเม่ือเปรียบเทียบกับผลประโยชน์ท่ีได้รับเพียงเล็กน้อยว่าควรเข้าไปเก่ียวข้อง 
ในขบวนการกระทำ�ความผิดน้ีหรือไม่ และเป็นความท้าทายของเจ้าหน้าท่ีท่ีมีหน้าท่ีรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหา
เหล่าน้ีว่า จะปรับเปล่ียนให้บุคคลกลุ่มน้ีเข้ามาร่วมมือกับเจ้าหน้าท่ี ในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการ 
ป รั บ ทั ศ น ค ติ ข อ ง ก ลุ่ ม ผู้ ใช้ บ ริ ก า ร   มิ ใ ห้ แ ส ว ง ห า ก า ร ร่ ว ม ป ร ะ เว ณี เ ด็ ก ไ ด้ อ ย่ า ง ไร   จึ ง ไ ด้ เ ส น อ ท่ี จ ะ จั ด ทำ �
โครงการ “อบรมผู้ประกอบการต่อต้านการค้ามนุษย์ ขจัดการค้าประเวณีเด็ก” เพ่ือขจัดรูปแบบการค้ามนุษย์ 
โดยเฉพาะรูปแบบการค้าประเวณีเด็กให้หมดไปจากพ้ืนท่ีในตำ�รวจภูธรภาค ข. โดยมีแนวทางในการดำ�เนิน 
การท่ีสำ�คัญคือ การคัดกรองและเข้าไปทำ�ความเข้าใจ เพ่ือเสริมสร้างความร่วมมือกับผู้ประกอบกิจการกลุ่มเส่ียง 
อันได้แก่ ผู้ประกอบการประเภทคาราโอเกะท่ีมีหญิงน่ังบริการ ร้านขายสุราท่ีมีหญิงให้บริการ สถานประกอบ

22 คมู่ ือการขอรบั การสนับสนุนเงนิ ในรปู แบบโครงการจากกองทุนเพอ่ื การป้องกนั และปราบปรามการค้ามนษุ ย์

กิจการนวดท่ีอาจมีการแอบแฝงการค้าประเวณี รีสอร์ท หรือโรงแรมขนาดเล็ก ท่ีมีการให้บริการแบบช่ัวคราว 
แก่กลุ่มลูกค้า กลุ่มนักเท่ียวท่ีอยู่ในสถานประกอบการกลุ่มเส่ียง เป็นต้น การแก้ปัญหาน้ีอยู่บนหลักคิดท่ีว่า 
หากสามารถท�ำ ความเขา้ ใจ และปรบั เปลย่ี นใหก้ ลมุ่ ผปู้ ระกอบการดงั กลา่ วไมเ่ ขา้ มาอยใู่ นวงจรของการคา้ ประเวณเี ดก็  
ประกอบกับการตรวจตราเพ่ือป้องปรามท่ีตรงกลุ่มเป้าหมายและดำ�เนินคดีกับผู้ท่ียังคงลักลอบกระทำ�ความผิด
อย่างจริงจัง ก็จะเป็นการลดกล่มุ ขบวนการชักนำ�นำ�พาเด็ก เยาวชนท้งั จากในพ้นื ท่แี ละจากประเทศเพ่อื นบ้านมาสู่ 
ขบวนการค้ามนุษย์อีกด้วย ท้ังยังลดช่องว่างโอกาสมิให้กลุ่มเหย่ือและลูกค้าท่ีนิยมมาใช้บริการค้าประเวณีเด็ก 
เข้ามาสู่ขบวนการค้ามนุษย์อีกด้วย และในขณะเดียวกัน ยังมีการประสานความร่วมมือกับเครือข่ายทุกภาคส่วน 
ในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ เพ่ือสร้างเครือข่ายประชาชนเฝ้าระวังในพ้ืนท่ี จากการดำ�เนินงาน 
ตามโครงการดังกล่าว เช่ือว่าจะทำ�ให้การค้ามนุษย์ในรูปแบบของการค้าประเวณีเด็กลดลงอย่างมีนัยสำ�คัญ 
หรอื หมดไปจากพน้ื ทต่ี �ำ รวจภธู รภาค ข.
2.6 วตั ถุประสงค์

2.6.1 เพ่ือให้ผู้ประกอบการกลุ่มเส่ียง มีความรู้ ความเข้าใจถึงกฎหมายและบทลงโทษท่ีรุนแรง รวมท้ัง 
ตระหนักถึงความเส่ียงและผลกระทบทางสังคมที่ตามมาจากการเข้าไปเก่ียวข้องกับการนำ�เด็กมาค้าประเวณี 
ซงึ่ เป็นรปู แบบการกระทำ�ผิดเกย่ี วกับการค้ามนษุ ย์ ทจี่ ะต้องรว่ มมือขจัดใหห้ มดไป

2 . 6 . 2   เ พ่ื อ ป รั บ เ ป ลี่ ย น ทั ศ น ค ติ ก า ร แ ส ว ง ห า แ ล ะ ก า ร ใช้ บ ริ ก า ร ค้ า ป ร ะ เว ณี เ ด็ ก ข อ ง ก ลุ่ ม ผู้ ใช้ บ ริ ก า ร 
ในสถานบริการกลุ่มเสยี่ ง
2.7 กลุ่มเป้าหมายและพื้นที่ด�ำ เนินงาน

2.7.1 กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบกิจการกลุ่มเสี่ยง อาทิเช่น กิจการประเภทคาราโอเกะท่ีมีหญิงนั่ง 
ให้บริการ, ร้านขายสุราท่ีมีหญิงให้บริการ, สถานประกอบกิจการนวดท่ีอาจมีการแอบแฝงการค้าประเวณี, รีสอร์ท 
หรือโรงแรมขนาดเล็กท่ีมีการให้บริการแบบชั่วคราวแก่ลูกค้า เป็นต้น ในพื้นทจี่ ังหวัด ก. ข. ค. ง. จ. ช. ซ. ด. ต. 
น. ย. และ ล. รวม 12 จงั หวดั

จัดแบ่งเป็นรายกลุ่มจงั หวัด 4 ร่นุ ดังนี้
–– รนุ่ ท ่ี 1 จงั หวดั  ค. ซ. ช. รวม 3 จงั หวดั ๆ ละ 50 ราย รวม 150 คน
–– รนุ่ ท ่ี 2 จงั หวดั  จ. ข. ก. รวม 3 จงั หวดั ๆ ละ 50 ราย รวม 150 คน
–– รนุ่ ท ่ี 3 จงั หวดั  ต. น. ง. รวม 3 จงั หวดั ๆ ละ 50 ราย รวม 150 คน
–– รนุ่ ท ่ี 4 จงั หวดั  ล. ย. ด. รวม 3 จงั หวดั ๆ ละ 50 ราย รวม 150 คน
2.7.2 พน้ื ที่ดำ�เนนิ การคือ

2.7.2.1 จงั หวัด ค.
2.7.2.2 จงั หวัด จ.
2.7.2.3 จังหวัด ต.
2.7.2.4 จงั หวดั  ล.

คูม่ ือการขอรบั การสนับสนุนเงินในรูปแบบโครงการจากกองทุนเพื่อการปอ้ งกันและปราบปรามการคา้ มนุษย์ 23

2.8 วธิ กี ารด�ำ เนินงาน
2.8.1 ดำ�เนินการตรวจและคัดกรองสถานประกอบกิจการกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มนักเท่ียวท่ีมาใช้บริการใน 

สถานประกอบการกลมุ่ เสย่ี งตามกลมุ่ เปา้ หมายขอ้  2.7.1 มาเขา้ รบั การอบรมกลมุ่  โดยจดั แบง่ เปน็ กลมุ่ จงั หวดั  4 กลมุ่  
ตามขอ้  2.7.2 เพอ่ื ท�ำ ความเขา้ ใจใหค้ วามรขู้ อ้ กฎหมายและบทลงโทษเกย่ี วกบั การคา้ มนษุ ย ์ ความเสยี่ งของการเขา้ ส ู่
กระบวนการค้ามนุษย์ รวมทั้งผลกระทบทางสังคม โดยเฉพาะกับบุคคลรอบข้างท่ีได้รับผลจากการท่ีถูกด�ำ เนินคดี
ตามกฎหมายการค้ามนุษย์ โดยร่วมกับภาคีเครือข่ายและหน่วยงานพันธมิตรที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ 
ในแต่ละพ้ืนที่จังหวัด ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แต่ละจังหวัด, กรมการปกครอง
สว่ นทอ้ งถิน่ , สถานตี �ำ รวจภูธรท้องที่ เปน็ ตน้

2.8.2 จัดชุดเจ้าหน้าท่ีเข้าไปตรวจป้องปรามและรณรงค์ประชาสัมพันธ์ทำ�ความเข้าใจ เพื่อเสริมสร้าง 
ความร่วมมือกับผู้ประกอบกิจการกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ ท่ียังไม่ได้เข้ารับการอบรมกลุ่มตามข้อ 2.8.1 รวมทั้งรณรงค์
ทำ�ความเข้าใจกับกลุ่มนักเท่ียวท่ีอยู่ในสถานประกอบการกลุ่มเส่ียง เพ่ือให้ความรู้ข้อกฎหมายและการปรับเปล่ียน
ทัศนคตมิ ิให้แสวงหาการใช้บรกิ ารคา้ ประเวณีเด็ก

2.8.3 จัดทีมรณรงค์ประชาสัมพันธ์จากเจ้าหน้าท่ีตำ�รวจศูนย์ ก. ตำ�รวจภูธรภาค ข. ทีมละ 10 นาย 
เพอ่ื ด�ำ เนนิ การตามขอ้  2.8.1 – 2.8.2 โดยรว่ มมอื กบั เครอื ขา่ ยทกุ ภาคสว่ นในพน้ื ทร่ี บั ผดิ ชอบ เชน่  การประชาสมั พนั ธ ์
โดยลงสปอร์ตวิทยุ ตามสถานีวิทยุชุมชน และขยายเครือข่ายภาคประชาชนโดยใช้สติกเกอร์, แผ่นพับ และ 
แผน่ ป้ายรณรงค ์ ทีจ่ ัดทำ�ข้ึนในแตล่ ะจงั หวัด

24 คู่มอื การขอรับการสนบั สนุนเงนิ ในรูปแบบโครงการจากกองทนุ เพอื่ การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

2.9 ปฏิทนิ กจิ กรรมหรอื ปฏทิ นิ งานในโครงการ
แสดงแผนการด�ำ เนินงาน/ปฎิทินงานในแตล่ ะเดือน โดยแยกตามกจิ กรรมทดี่ �ำ เนินการตามข้อ 2.8

กจิ กรรม กลมุ่ เป้าหมาย   วัน เดือน  ผลท่คี าดว่าจะไดร้ บั งบประมาณ  งบประมาณ งบประมาณ
(ระบจุ ำ�นวน) ปี ท่เี สนอขอ  จากแหลง่ อน่ื   รวมทง้ั สน้ิ

(1) (2) (1)+(2)

1.  จัดอบรม --ผู้ ป ร ะ ก อ บ มีนาคม   --ได้รับความรู้  ข้อกฎหมาย 
กลุม่ ท ี่ 1 กิ จ ก า ร ใ น พื้ น ท่ี   – เมษายน  บ ท ล ง โ ท ษ เ ก่ี ย ว กั บ 
ที่ ยั ง ไ ม่ เ ค ย  2561 ก า ร ค้ า ม นุ ษ ย์   ร ว ม ท้ั ง 
ไ ด้ รั บ ก า ร อ บ ร ม  ก า ร ป ร ะ เ มิ น ค ว า ม เ ส่ี ย ง ใ น 
จั ง ห วั ด   ดั ง นี้   การเข้าสู่ขบวนการค้ามนุษย์ 
1 .   จั ง ห วั ด   ค . เ ผ ย แ พ ร่   ทำ � ค ว า ม เข้ า ใจ 
2 .   จั ง ห วั ด   ซ . ในปัญหาท่ีพบทางส่ือต่างๆ 
3 .   จั ง ห วั ด   ช . อย่างต่อเนื่อง ให้เกิดกระแส
ผลกั ดนั ทางสังคม
500,000 500,000

2. ตรวจตรา/ --ส ถ า น ป ร ะ ก อ บ
ป้องปรามและ ก า ร ก ลุ่ ม เ สี่ ย ง 
ประชาสัมพันธ์ ท่ีเจ้าของกิจการ 

ยั ง ไ ม่ รั บ ก า ร
อบรมในจังหวัด 
ตามข้อ 1

1.  จัดอบรม --ผู้ประกอบกิจการ พฤษภาคม   --ได้รับความรู้  ข้อกฎหมาย 
กลุ่มท ่ี 2 ในพื้นทที่ ยี่ งั ไม่เคย – มถิ ุนายน  บ ท ล ง โ ท ษ เ กี่ ย ว กั บ ก า ร 
ได้รับการอบรม  2561 ค้ามนุษย์ รวมทั้งการประเมิน
จั ง ห วั ด   ดั ง นี้   ค ว า ม เ สี่ ย ง ใ น ก า ร เ ข้ า สู่  
1 .   จั ง ห วั ด   จ . ขบวนการค้ามนุษย์ เผยแพร่ 
2 .   จั ง ห วั ด   ข . ทำ�ความเข้าใจในปัญหาท่ีพบ
3 .   จั ง ห วั ด   ก . ท า ง ส่ื อ ต่ า ง ๆ   อ ย่ า ง ต่ อ เ นื่ อ ง 
ให้เกิดกระแสผลักดันท า ง
สังคม 500,000 500,000

2. ตรวจตรา/ --ส ถ า น ป ร ะ ก อ บ
ป้องปรามและ ก า ร ก ลุ่ ม เ ส่ี ย ง 
ประชาสมั พันธ์ ท่ีเจ้าของกิจการ 

ยังไม่รับการอบรม
ใ น จั ง ห วั ด ต า ม 
ขอ้  1

ค่มู ือการขอรบั การสนับสนนุ เงินในรูปแบบโครงการจากกองทนุ เพ่อื การป้องกันและปราบปรามการค้ามนษุ ย์ 25

กจิ กรรม กล่มุ เป้าหมาย   วนั  เดือน  ผลที่คาดว่าจะไดร้ ับ งบประมาณ  งบประมาณ งบประมาณ
(ระบจุ ำ�นวน) ปี ท่ีเสนอขอ  จากแหลง่ อน่ื   รวมทงั้ สน้ิ

(1) (2) (1)+(2)

1. จัดอบรม --ผู้ประกอบกิจการ กรกฎาคม   --ได้รับความรู้  ข้อกฎหมาย 
กลมุ่ ท ี่ 3 ในพ้ืนทีท่ ่ียงั ไม่เคย – สงิ หาคม  บ ท ล ง โ ท ษ เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร 
ได้รับการอบรม  2561 ค้ า ม นุ ษ ย์   ร ว ม ทั้ ง ก า ร
จั ง ห วั ด   ดั ง น้ี   ป ร ะ เ มิ น ค ว า ม เ ส่ี ย ง ใ น ก า ร
1 .   จั ง ห วั ด   ต . เข้ า สู่ ข บ ว น ก า ร ค้ า ม นุ ษ ย์  
2 .   จั ง ห วั ด   น . เ ผ ย แ พ ร่   ทำ � ค ว า ม เข้ า ใจ ใ น
3 .   จั ง ห วั ด   ง . ปญั หาทพ่ี บทางส่ือต่างๆ อยา่ ง
ต่อเนื่อง ให้เกิดกระแสผลักดัน
ทางสังคม 500,000 500,000

2. ตรวจตรา/ --ส ถ า น ป ร ะ ก อ บ
ปอ้ งปรามและ ก า ร ก ลุ่ ม เ สี่ ย ง 
ประชาสมั พันธ์ ท่ีเจ้าของกิจการ 

ยังไม่รับการอบรม
ในจังหวัดตามข้อ 
1

1. จดั อบรม --ผู้ประกอบกิจการ กันยายน   --ได้รับความรู้ ข้อกฎหมาย บท
กลมุ่ ท ี่ 4 ในพน้ื ทท่ี ีย่ งั ไม่เคย – ตุลาคม  ลงโทษเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ 
ได้รับการอบรม  2561 รวมท้ังการประเมินความเสี่ยง 
จั ง ห วั ด   ดั ง น้ี   ในการเข้าส่ขู บวนการค้ามนุษย์  500,000 500,000
1 .   จั ง ห วั ด   ล . เ ผ ย แ พ ร่   ทำ � ค ว า ม เข้ า ใจ 
2 .   จั ง ห วั ด   ย . ในปัญหาท่ีพบทางสื่อต่างๆ 
3 .   จั ง ห วั ด   ด . อย่างต่อเน่ือง ให้เกิดกระแส
ผลกั ดันทางสังคม

2. ตรวจตรา/ --ส ถ า น ป ร ะ ก อ บ
ปอ้ งปรามและ ก า ร ก ลุ่ ม เ ส่ี ย ง 
ประชาสัมพันธ์ ท่ีเจ้าของกิจการ 

ยังไม่รับการอบรม
ใ น จั ง ห วั ด ต า ม 
ขอ้  1

ห ม า ย เ ห ตุ   ร ว ม ก า ร จั ด อ บ ร ม ก ลุ่ ม จำ � น ว น   4   ค รั้ ง   ร ว ม ง บ ป ร ะ ม า ณ ท้ั ง ส้ิ น   2 , 0 0 0 , 0 0 0   บ า ท 
(สองลา้ นบาทถว้ น)



26 คู่มือการขอรับการสนบั สนนุ เงนิ ในรูปแบบโครงการจากกองทุนเพ่ือการป้องกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ย์

2.10 การประเมินผล
2.10.1 ปี พ.ศ. 2561 สถิติคดีค้ามนุษย์ในรูปแบบของการค้าประเวณีในจังหวัด ก. ข. ค. ง. จ. ช. ซ. ด. 

ต. น. ย. ล. รวม 12 จงั หวดั  ลดลงอยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ 70 เมอื่ เทียบกับคดีที่เกิดขนึ้ ในช่วงเดียวกันของปีทีผ่ า่ นมา
2.10.2 ประเมนิ ผลจากผเู้ ขา้ รว่ มโครงการกอ่ นและหลงั  วา่ มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจมากขน้ึ  และมที ศั นคตทิ ด่ี ขี น้ึ  

ในการรว่ มกันในการแกไ้ ขปัญหาการค้าประเวณีเดก็ ในพ้ืนท่ีด�ำ เนินงานโครงการ
2.11 งบประมาณ

ขอรับงบประมาณจากกองทุนเพ่ือการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ประจำ�ปี พ.ศ. 2561 จำ�นวน 
2,000,000 บาท (สองลา้ นบาทถว้ น)
2.12 ผลท่คี าดวา่ จะได้รบั

2.12.1 ปัญหาการค้ามนุษย์โดยเฉพาะรูปแบบของการค้าประเวณีเด็กในพื้นท่ีจังหวัด ก. ข. ค. ง. จ. ช. 
ซ. ด. ต. น. ย. ล. รวม 12 จังหวดั  ลดลงอยา่ งมนี ัยส�ำ คญั หรอื หมดไป

2.12.2 ลดปัญหาทางสังคมท่ีเป็นผลกระทบจากการดำ�เนินคดีกับกลุ่มผู้ชักนำ� นำ�พา และผู้ประกอบการ
ในความผิดฐานค้ามนุษย์ ได้แก่ ผลกระทบต่อบุคคลในครอบครัวที่ได้รับผลกระทบเม่ือมีการดำ�เนินคดีกับผู้ต้องหา
ในคดีค้ามนุษย์, ผลกระทบต่อลูกจ้างต่างๆ ในสถานประกอบการที่อาจตกงานจากการปิดกิจการ เนื่องจากเจ้าของ
กิจการถูกด�ำ เนินคดี

2.12.3 ลดจำ�นวนของกลมุ่ บุคคลผู้แสวงหาการใชบ้ รกิ ารคา้ ประเวณเี ด็ก
2.12.4 เพื่อสร้างสัมพันธภาพท่ีดีระหว่างภาคประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐในการเป็นแนวร่วมเครือข่าย 
เพ่ือรว่ มกันป้องกันและแก้ไขปญั หาการค้ามนุษยใ์ นอนาคต
เพ่ือประโยชน์ต่อการพิจารณาโครงการของท่าน กรุณาตรวจสอบความครบถ้วนสมบูรณ์ของเอกสาร 
ที่กำ�หนดให้จัดส่งทุกรายการ โดยทำ�เคร่ืองหมาย   หน้าหัวข้อเอกสารที่ท่านจัดส่งมา พร้อมกับแนบ
รายละเอียด ดงั นี้
1. เอกสารโครงการ 3 ชุด พรอ้ มแผน่ ดิสก์ 1 แผน่  (ถ้ามี) โดยแต่ละชุดประกอบดว้ ย
 รายละเอยี ดโครงการ ตามแบบเสนอโครงการ
 มติท่ีประชุมขององค์กร ซึง่ ให้ความเหน็ ชอบโครงการทเี่ สนอขอรับการสนบั สนนุ  (ถา้ ม)ี
2. เอกสารประกอบการพิจารณาโครงการอยา่ งละ 3 ชุด
 แผนทอ่ี งค์กรของท่าน
 แผนทีข่ องพน้ื ทีด่ �ำ เนนิ งาน
 อื่นๆ (ทเ่ี ปน็ ประโยชน์ตอ่ การพิจารณาโครงการ)

คมู่ ือการขอรับการสนับสนุนเงินในรูปแบบโครงการจากกองทุนเพ่อื การป้องกนั และปราบปรามการคา้ มนุษย์ 27

3. กรณีเปน็ องคก์ รเอกชนใหแ้ นบเอกสารเพมิ่ เตมิ ประกอบ อยา่ งละ 3 ชดุ  ดังน้ี
 ส�ำ เนาตราสารหรือระเบียบข้อบังคบั
 ผลงานในรอบปที ี่ผ่านมา
 งบดลุ หรืองบแสดงรายรับ – รายจ่ายสำ�หรับรอบปีท่ผี า่ นมา
 ส�ำ เนาใบส�ำ คญั แสดงการจดทะเบยี นเปน็ องคก์ รเอกชนดา้ นปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์

ข้าพเจ้าขอรับรองว่า รายการและวงเงินท่ีขอรับการสนับสนุนจากกองทุนเพ่ือการป้องกันและปราบปราม 
การค้ามนุษย์นี้ ไม่ซํ้าซ้อนกับเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากแหล่งทุนอ่ืนๆ และยินยอมปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และ
เง่ือนไขทก่ี องทุนกำ�หนด

พลตำ�รวจตร ี ก. 
(พลต�ำ รวจตร ี ก.)
รองผู้บญั ชาการตำ�รวจภธู รภาค ข.
ผู้เสนอโครงการ

พ.ย. 2560

28 คู่มอื การขอรับการสนับสนุนเงนิ ในรปู แบบโครงการจากกองทนุ เพ่ือการป้องกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ย์

แบบการเสนอโครงการขอรบั เงินกองทนุ เพ่ือการปอ้ งกนั และปราบปรามการค้ามนษุ ยป์ ระจำ�ปี 2559
ส�ำ นักงานปลดั กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมัน่ คงของมนษุ ย ์
กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความม่นั คงของมนษุ ย์

สว่ นที ่ 1 ข้อมลู ทว่ั ไป
1.1 ชอ่ื องค์กร  (ภาษาไทย) ตรวจคนเข้าเมอื งจงั หวดั  ก.

(ภาษาองั กฤษ) ถา้ มี aa IMMIGRATION
1.2 องค์กรของท่าน จดั อยู่ในประเภทองคก์ รใด (เลือกเพยี ง 1 ขอ้ )

 หนว่ ยงานภาครฐั 1 (ระบุ) สังกดั  ส�ำ นกั งานตรวจคนเข้าเมอื ง สำ�นักงานต�ำ รวจแห่งชาติ
 องคก์ รเอกชน2
 องคก์ รอื่น3 (ระบุ)

1.3 รายชื่อคณะกรรมการ/ตำ�แหน่ง และเจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงานตามโครงการ/กรณีเป็นหน่วยงานภาครัฐ
ให้ระบตุ �ำ แหนง่ ผบู้ รหิ ารและเจ้าหนา้ ทีโ่ ครงการ
1. พันต�ำ รวจเอก เอ  ตำ�แหนง่   ผู้กำ�กบั การตรวจคนเข้าเมืองจงั หวัด ก.
2. พันต�ำ รวจเอก บ ี ต�ำ แหน่ง  รองผกู้ ำ�กบั การตรวจคนเข้าเมอื งจังหวดั  ก.
3. พนั ต�ำ รวจโทหญงิ  ซ ี ต�ำ แหน่ง  รองผู้ก�ำ กับการตรวจคนเข้าเมืองจงั หวดั  ก.

1.4 ปที ่จี ดทะเบียนกอ่ ตง้ั องค์กรหรอื ปที ่ีเริม่ ดำ�เนินการ...........................................................................

1.5 ปีที่จดทะเบียนเป็นองค์กรด้านป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปราม
การค้ามนุษย ์ พ.ศ. 2551)...........................................................................................

1.6 ท่ีตั้งสำ�นักงาน (พร้อมแผนท่ี) ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด ก. เลขท่ี 1 หมู่ที่ 2 ถนน ค. ตำ�บล ข. อำ�เภอเมือง 
จังหวัด ก. โทรศพั ท ์ 000 – 111111 โทรสาร 000 – 22222 E–mail : [email protected]

1.7 ชอ่ื ผู้ประสานงานโครงการ  พันต�ำ รวจโท ดี  โทรศัพท์มอื ถอื  000 – 111111
ร้อยต�ำ รวจเอกหญิง อี  โทรศัพท์มอื ถือ 000 – 2222222
รอ้ ยตำ�รวจโท เอฟ  โทรศพั ทม์ อื ถือ 000 – 3333333

โทรศพั ทท์ ท่ี ำ�งาน 000 – 9999999 โทรสาร 000 – 4444444

1  หน่วยงานภาครัฐ หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม หรอื สว่ นราชการทเ่ี รยี กชอ่ื อย่างอนื่  ซ่ึงมฐี านะเปน็ กรม หรือเทียบเท่ากรม หรอื เทยี บเท่า
กอง/ส�ำ นกั  ราชการสว่ นภูมภิ าค ราชการส่วนกลางที่ตง้ั อยใู่ นสว่ นภมู ิภาค สถานตี ำ�รวจ โรงเรยี นหรอื สถาบนั การศึกษาของรัฐ ราชการสว่ นท้องถิน่
หรือหน่วยงานอื่นของรฐั ทด่ี ำ�เนนิ การตามวัตถปุ ระสงคห์ รอื กิจกรรมเกี่ยวกบั การปอ้ งกันและปราบปรามการค้ามนษุ ย์
2  องคก์ รเอกชน หมายความวา่  องค์กรที่บุคคลรวมกนั ขน้ึ และได้จดทะเบียนด้านการป้องกนั และปราบปรามการค้ามนุษย์ตามพระราชบญั ญัตปิ ้องกนั
และปราบปรามการค้ามนษุ ย์ พ.ศ.2551
3  องคก์ รอ่นื  หมายความวา่  องค์กรอนื่ ตามทป่ี ลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนษุ ย์กำ�หนด

คู่มือการขอรับการสนบั สนุนเงนิ ในรูปแบบโครงการจากกองทุนเพือ่ การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ 29

แบบ กปค.01

1.8 วัตถุประสงค์ขององค์กร ออกพบปะเย่ียมเยียนกำ�นัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำ�ท้องถิ่น และผู้นำ�ชุมชนตามหมู่บ้าน 
แนวตะเข็บชายแดน เพ่ือพูดคุยเสวนาอย่างไม่เป็นทางการเพ่ือทราบปัญหา ข้อขัดข้อง คำ�แนะนำ� ในการ 
แจ้งข้อมูล เม่ือคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยฯ การเฝ้าระวังบุคคลหรือเครือข่ายท่ีอาจกระทำ�ความผิดเกี่ยวกับ 
การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง การค้ามนุษย์ และ/หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึง การเสริมสร้าง 
เครือขา่ ยแนวร่วมในการป้องกนั ปัญหาการลักลอบหลบหนเี ข้าเมอื งและการคา้ มนุษย์

1.9 กจิ กรรมหรอื โครงการทอ่ี งคก์ รด�ำ เนนิ การอยใู่ นปจั จบุ นั  (โดยสรปุ ) เมอื่ วนั ท ่ี 3 เม.ย. 2558 พลเอกประยทุ ธ ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมมอบนโยบายเร่อื งการปราบปรามการค้ามนุษย์แห่งชาติ ณ ตึกสันติไมตร ี
ทำ�เนียบรัฐบาล โดยสำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติได้จัดตั้งศูนย์คัดกรองคนต่างด้าวกลุ่มเสี่ยงท่ีจะตกเป็นเหย่ือ 
จากการค้ามนุษย์ของตรวจคนเข้าเมือง ก. (ก. โมเดล) ณ จุดตรวจสะพาน ค. แห่งที่ 1 ได้ทำ�การคัดกรอง
บคุ คลท่จี ะเดินทางเขา้ มาในราชอาณาจักรและสงสัยวา่ จะเป็นกลุ่มเสย่ี งทจี่ ะตกเปน็ เหย่อื การคา้ มนุษย์

1.10 ผลงานในรอบ 1 ปที ีผ่ า่ นมา (โดยสรปุ )
(1) ด้านการป้องกัน ในรอบปีที่ผา่ นมาไดท้ �ำ การคดั กรองบุคคลท่เี ดนิ ทางเข้ามาในราชอาณาจักร ซงึ่ สงสยั วา่
เป็นกลุม่ เสีย่ งท่ีจะตกเป็นเหยือ่ การคา้ มนษุ ย์ โดยมสี ถิติ ดงั นี้
–– ปี พ.ศ. 2558 ตรวจคัดกรอง 340 คน (สัญชาติลาว 264 คน, เวียดนาม 76 คน) ปฏิเสธ 
เขา้ เมอื ง 143 คน
–– ปี พ.ศ. 2559 (มกราคม – พฤษภาคม) ตรวจคัดกรอง 178 คน (สัญชาติลาว 31 คน, เวียดนาม 
147 คน) ปฏิเสธเขา้ เมือง 17 คน
(2) ด้านการปราบปราม สถิติการจบั กุมคดคี า้ มนษุ ย์
–– ปี พ.ศ. 2557 จับกุม 4 คดี (ผู้ต้องหา 9 คน เป็นคนไทย 7 คน, คนลาว 2 คน) ผู้เสียหาย 
(เหยื่อ) 13 คน (เด็กหญิงลาว 11 คน, เด็กหญิงไทย 2 คน) และจับกุมตามหมายจับ 2 คดี 
ผู้ต้องหาคนไทย 2 คน
–– ปี พ.ศ. 2558 จับกุม 4 คดี (ผู้ต้องหาคนไทย 6 คน) ผู้เสียหาย (เหย่ือ) 7 คน (เด็กหญิงลาว 
5 คน,เดก็ หญิงไทย 2 คน) และจบั กุมตามหมายจับ 2 คดี ผูต้ ้องหาคนไทย 2 คน
–– ปี พ.ศ. 2559 (มกราคม – มิถุนายน) จับกุม 1 คดี (ผู้ต้องหา 3 คน เป็นคนไทย 2 คน, คนลาว 
1 คน) ผเู้ สยี หาย (เหยอ่ื ) เดก็ หญงิ ไทย 1 คน และจบั กมุ ตามหมายจบั  2 คด ี ผตู้ อ้ งหาคนไทย 2 คน

1.11 แหล่งความชว่ ยเหลอื ท่ีองคก์ รได้รับในปัจจุบนั  (ท้งั ในและตา่ งประเทศ)
1. …………………. – ………………………จำ�นวน...................– ......................บาท
2. …………………. – ………………………จ�ำ นวน...................– ......................บาท

30 คู่มือการขอรับการสนับสนนุ เงนิ ในรปู แบบโครงการจากกองทุนเพือ่ การปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนุษย์

ส่วนที ่ 2 รายละเอยี ดข้อมลู โครงการเพื่อขอรับการสนับสนนุ เงนิ กองทุน (แยกตามรายโครงการ)

2.1 ชอ่ื โครงการ (ภาษาไทย) โครงการเสรมิ สร้างแนวรว่ มการแจง้ ข้อมลู คนตา่ งดา้ วพกั อาศัยและการตรวจสถานที่
สุม่ เสยี่ ง เพือ่ งปอ้ งกนั ปราบปรามการคา้ มนุษย์ในเขตจังหวัด ก.

2.2 ประเภทโครงการทข่ี อรับการสนบั สนนุ  (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
 การดำ�เนินการเกี่ยวกับการปอ้ งกนั ปัญหาการค้ามนษุ ยใ์ นระดับบุคคล ครอบครวั  และชุมชน
 การพัฒนาระบบการให้ความชว่ ยเหลือและคุ้มครองผ้เู สยี หายจากการกระท�ำ ความผิดฐานค้ามนษุ ย์
 การดำ�เนนิ งานทางกฎหมายและการปราบปราม
 การฟืน้ ฟเู ยยี วยาและการคืนสสู่ งั คม
 การจดั ทำ�และพัฒนาระบบข้อมูล การติดตามและประเมินผล
 การพฒั นากลไกการบริหารงานและการจัดการในด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
 การประสานความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศ
 อื่นๆ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือคณะกรรมการประสานและกำ�กับ
การดำ�เนินงานป้องกนั และปราบปรามการค้ามนุษยก์ �ำ หนด (ระบ)ุ ..................................

2.3 คุณสมบตั ิของหนว่ ยงาน/องคก์ รทีข่ อรับการสนบั สนุน
(1) กรณเี ปน็ หน่วยงานภาครัฐ
 โครงการริเริม่ ใหม ่ (โครงการทมี่ แี นวคิดหรือนโยบายใหมไ่ มเ่ คยท�ำ มาก่อน)
 ไมส่ ามารถขอรบั การสนับสนุนจากงบประมาณปกติได ้ หรอื
 ไดร้ ับ แตไ่ มเ่ พยี งพอ (ได้รับงบประมาณปกติ.............................บาท)
(2) กรณเี ปน็ องค์กรเอกชน
 โครงการท่ีมกี ารด�ำ เนนิ งานมาแลว้  ซงึ่ มที ุนอยู่บางสว่ น หรือ
 โครงการริเริม่ ใหม ่ (โครงการทีม่ ีแนวคิดหรือนโยบายใหมไ่ ม่เคยท�ำ มาก่อน)
 โครงการที่ไมไ่ ด้รับการสนับสนนุ งบประมาณจากสว่ นราชการหรือแหล่งทนุ อื่น หรือ
 ได้รับ แต่ไม่เพยี งพอ (ไดร้ ับงบประมาณปกต.ิ ............................บาท)
(3) กรณีมิได้เปน็ หน่วยงาน/องค์กรตามข้อ (1) และ (2)
 เปน็ องคก์ รอ่ืนตามท่ีปลัดกระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนษุ ยก์ �ำ หนด

2.4 โปรดใหร้ ายชื่อบคุ คลทน่ี า่ เชื่อถือ ทีส่ ามารถอธิบายถงึ ผลงานของท่านท่ีผ่านมาได ้ จำ�นวน 2 ท่าน
(1) พนั ตำ�รวจเอก เอ ท่อี ย/ู่ หน่วยงาน ตรวจคนเขา้ เมอื งจงั หวัด ก. โทรศัพท์ 000 – 111111
(2) พันตำ�รวจโท บี ทอ่ี ยู่/หนว่ ยงาน ตรวจคนเข้าเมอื งจงั หวัด ก. โทรศัพท ์ 000 – 222222

ค่มู ือการขอรับการสนบั สนุนเงนิ ในรูปแบบโครงการจากกองทุนเพือ่ การปอ้ งกนั และปราบปรามการค้ามนุษย์ 31

2.5 หลกั การและเหตุผล
คณะรัฐมนตรีมีมติเม่อื วนั ท ่ี 11 พฤษภาคม 2553 เห็นชอบนโยบายยทุ ธศาสตร์และมาตรการในการปอ้ งกัน

และปราบปรามการค้ามนุษย์ พุทธศักราช 2554 – 2559 ซ่ึงมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ทุกภาคส่วนท่ีเก่ียวข้อง 
ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรระหว่างประเทศ และภาคประชาสังคม 
ใชเ้ ปน็ แนวทางในการด�ำ เนนิ งานปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ยร์ ว่ มกนั ตามหลกั การบรหิ ารจดั การแบบมสี ว่ นรว่ ม 
จากภาคเี ครอื ขา่ ยทกุ ภาคสว่ น เพอื่ เปน็ การระดมสรรพก�ำ ลงั และความคดิ เหน็ จากปญั หาและอปุ สรรคในการท�ำ งาน 
ทุกระดับ ให้บรรลุความม่งุ หวังร่วมกันตามเจตนารมณ์ของนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการในการป้องกันและ
ปราบปรามการคา้ มนษุ ย ์ พทุ ธศกั ราช 2554 – 2559 รวมถงึ เพอ่ื สนบั สนนุ ใหม้ กี ารจดั ท�ำ แผนปฏบิ ตั กิ ารทกุ ระดบั  
ให้สอดคล้องในทิศทางเดียวกัน ประกอบด้วยรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของกระทรวงการต่างประเทศ 
สหรฐั อเมรกิ า เมอ่ื วนั ท ่ี 30 มถิ นุ ายน 2557 ไดจ้ ดั กลมุ่ ระดบั การตอบสนองใหป้ ระเทศไทยเปน็ กลมุ่ เทยี ร ์ 3 หมายถงึ  
ประเทศที่ดำ�เนินการไม่สอดคล้องกับมาตรฐานข้ันต่ําตามกฏหมายด้านการค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกา และไม่ได้ 
ใชค้ วามพยายามอย่างมนี ยั ส�ำ คญั ที่จะแก้ไขปัญหาการคา้ มนุษย์

รัฐบาลได้ประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านการค้ามนุษย์ และนโยบายเร่ืองการป้องกันและแก้ไขปัญหา 
การค้ามนุษย์ของประเทศไทยให้เป็นวาระแห่งชาติ ในการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการค้ามนุษย์ เม่ือวันที่ 6 
สงิ หาคม 2557 ณ ท�ำ เนยี บรฐั บาล เกย่ี วกบั การด�ำ เนนิ งานดา้ นการปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย ์ รฐั บาลไทย 
ใหค้ วามส�ำ คญั และไดผ้ ลกั ดนั การจดั ท�ำ บนั ทกึ ขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศทงั้ ในระดบั ทวภิ าคแี ละพหภุ าคใี นอนภุ มู ภิ าค 
ลุ่มแม่น้ําโขง เพ่ือต่อต้านการค้ามนุษย์ 6 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา จีน พม่า ลาว เวียดนาม และไทย เพื่อใช้ 
เป็นแนวทางในการประสานงานการจัดทำ�แผนปฏิบัติการ รวมทั้งติดตามประเมินผลเรื่องการดำ�เนินงานป้องกัน
และแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ดังนั้น เพื่อให้กระบวนการต่อต้านการค้ามนุษย์มีประสิทธิภาพและสามารถคุ้มครอง 
ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ได้อย่างมีคุณภาพ จึงได้นำ�ข้อจำ�กัดจากการดำ�เนินงานตามนโยบายระดับชาติ 
เรอื่ งการปอ้ งกนั ปราบปรามและแกไ้ ขปญั หาการคา้ เดก็ และหญงิ  ภายในประเทศและขา้ มชาต ิ พ.ศ. 2548 – 2553 
และแผนปฏบิ ตั กิ ารอนภุ มู ภิ าคลมุ่ แมน่ า้ํ โขงเพอ่ื ตอ่ ตา้ นการคา้ มนษุ ย ์ ระยะท ่ี 2 (2551 – 2553) ภายใตก้ ระบวนการ 
comMIT และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ตลอดจนการมีส่วนร่วมของ 
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากกระบวนการต่อต้านการค้ามนุษย์จากทุกภาคส่วนทั่วประเทศ มาจัดทำ�นโยบายยุทธศาสตร์
และมาตรการในการป้องกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย ์ พ.ศ. 2554 – 2559

ตรวจคนเขา้ เมอื งจงั หวดั  ก. เปน็ หนว่ ยงานในสงั กดั กองบงั คบั การตรวจคนเขา้ เมอื ง จ. ส�ำ นกั งานตรวจคนเขา้ เมอื ง 
มีอำ�นาจหน้าท่ีในการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง กฎหมายว่าด้วยการทำ�งานของคนต่างด้าว และกฎหมาย
ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้ตระหนักและให้ความสำ�คัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหา 
ทอ่ี าจจะเกดิ ขน้ึ  เกย่ี วกบั กรณกี ารลกั ลอบเขา้ เมอื งของคนตา่ งดา้ วโดยผดิ กฎหมาย ซงึ่ อาจน�ำ ไปสกู่ ระบวนการคา้ มนษุ ย ์
และลกั ลอบเขา้ ไปยงั พน้ื ทชี่ นั้ ในของประเทศ แตเ่ ขตพนื้ ทรี่ บั ผดิ ชอบทง้ั จงั หวดั  ก. จ�ำ นวน 9 อ�ำ เภอ ไดแ้ ก ่ อ�ำ เภอ ก. 
ข. ค. ง. จ. ฉ. ช. ซ. และ ด. สภาพพ้ืนท่ีติดกับแม่นํ้าโขง 6 อำ�เภอ ยกเว้น 3 อำ�เภอ คือ อำ�เภอ ช. ซ. และด. 
จากสภาพพื้นท่ีอำ�เภอชายแดนท่ีอยู่ติดกับแม่นํ้าโขงเส้นกั้นอาณาเขตระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐ 
ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซง่ึ มคี วามยาวมากถงึ  210.6 กโิ ลเมตร การลกั ลอบเขา้ เมอื งตามล�ำ แมน่ า้ํ โขง 
จึงสามารถกระทำ�ได้เกือบทุกจุด ตามพื้นท่ีแนวตะเข็บชายแดนมีสถานที่สุ่มเสี่ยงจำ�นวนมาก มีการเปิดร้านอาหาร 
คาราโอเกะ นวดแผนโบราณ หรืออื่นๆ ทำ�ให้มีประชาชนของประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ สปป.ลาว ลักลอบ 

32 คู่มือการขอรบั การสนบั สนนุ เงินในรปู แบบโครงการจากกองทุนเพือ่ การปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์

เข้ามาเพื่อทำ�งานในไทยซ่ึงมีค่าแรงที่สูงกว่า หรือบางส่วนแอบแฝงเข้ามาขายบริการทางเพศ อีกท้ังจังหวัด ก. 
ยังเปรียบเสมือนประตูด่านแรกท่ีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายหรือบุคคลท่ีกระทำ�ผิดอื่นๆ ใช้เป็นเส้นทางผ่าน
ลักลอบเข้าไปยังพื้นท่ีชั้นใน เช่น กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สงขลา ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นท้ังจังหวัดต้นทาง 
ทางผ่าน และปลายทางของกลุ่มขบวนการหรือเครือข่ายการค้ามนุษย์ อันเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศและ
เป็นหน่ึงในจำ�นวนอาชญากรรมข้ามชาติ

ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2558 ตรวจคนเขา้ เมอื งจงั หวดั  ก. ไดร้ บั เงนิ สนบั สนนุ จากกองทนุ เพอ่ื การปอ้ งกนั และ 
ปราบปรามการค้ามนุษย์ สำ�นักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ จำ�นวนเงิน 323,860 บาท สำ�หรับ
ดำ�เนินโครงการให้ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับปัญหาด้านการค้ามนุษย์แก่ชุมชน การป้องกันและปราบปราม 
การค้ามนุษย์ และข้อมูลอื่นๆ ท่ีเก่ียวข้องกับประชาชน และเพ่ือเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ
กับภาคประชาชนให้เข้มแข็ง สามารถเป็นแนวทางในการป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ได้ โดยได้ดำ�เนินการจัดอบรม 
ใหค้ วามรฯู้  จ�ำ นวน 4 รนุ่  รวมผผู้ า่ นการอบรมทง้ั หมด จ�ำ นวน 201 คน ซง่ึ รนุ่ ท ่ี 1 จดั อบรมระหวา่ งวนั ท ่ี 26 – 27 
กมุ ภาพนั ธ ์ 2558 ณ โรงแรมแทนซโิ น อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวดั หนองคาย มผี เู้ ขา้ รบั การอบรม จ�ำ นวน 50 คน คดิ เปน็  
รอ้ ยละ 24.9 ของผเู้ ขา้ รบั การอบรมทง้ั หมด รนุ่ ท ่ี 2 จดั อบรมระหวา่ งวนั ท ่ี 2 – 3 มนี าคม 2558 ณ โรงแรมแทนซโิ น 
อำ�เภอเมือง จังหวัดหนองคาย มีผู้เข้าอบรม จำ�นวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 25.4 ของผู้เข้ารับการอบรมทั้งหมด 
รนุ่ ท ่ี 3 จดั อบรมระหวา่ งวนั ท ่ี 18 – 19 มนี าคม 2558 ณ โรงแรมราชา แอนด ์ รสี อรท์  อ�ำ เภอโพนพสิ ยั  จงั หวดั หนองคาย 
มีผู้เข้ารับการอบรม จำ�นวน 50 คน คิดเป็นร้อยละ 24.9 ของผู้เข้ารับการอบรมทั้งหมด และรุ่นท่ี 4 จัดอบรม 
ระหวา่ งวนั ท ่ี 7 – 8 เมษายน 2558 ณ โรงแรมพรหมลขิ ติ สวรรคบ์ นั ดาล รสี อรท์  อ�ำ เภอศรเี ชยี งใหม ่ จงั หวดั หนองคาย 
มผี เู้ ขา้ รบั การอบรม จ�ำ นวน 50 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 24.9 ของผเู้ ขา้ รบั การอบรมทงั้ หมด ในการส�ำ รวจความพงึ พอใจ 
ของผเู้ ขา้ รบั การอบรมโครงการฯ ทง้ั  4 รนุ่  พบวา่  ผเู้ ขา้ รบั การอบรมสามารถน�ำ ความรทู้ ไ่ี ดร้ บั จากการเขา้ อบรมโครงการฯ 
ไปใชใ้ นการปฏบิ ตั เิ ปน็ แนวรว่ มเครอื ขา่ ยใหก้ บั เจา้ หนา้ ทใ่ี นการปอ้ งกนั ปราบปรามการคา้ มนษุ ยไ์ ดด้  ี สามารถน�ำ ความร ู้
ความเขา้ ใจทไี่ ด้รับไปเป็นแนวทางในการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาต่างๆ เก่ียวกบั การค้ามนุษย์ได้

ดงั นน้ั  เพอ่ื เปน็ การตอ่ ยอดจากการฝกึ อบรมโครงการฯ ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2558 ตรวจคนเขา้ เมอื งจงั หวดั  ก. 
ได้เล็งเห็นความจำ�เป็นในการให้ความรู้แก่ผู้นำ�ชุมชน ผู้นำ�ท้องถ่ิน และประชาชนโดยท่ัวไป ในการเผยแพร่
ประชาสมั พนั ธเ์ กย่ี วกบั การแจง้ ทพ่ี กั อาศยั ของเจา้ บา้ น เจา้ ของ หรอื ผคู้ รอบครองเคหสถานซง่ึ รบั คนตา่ งดา้ วเขา้ พกั อาศยั  
ภายใน 24 ชว่ั โมงนบั แตค่ นตา่ งดา้ วเขา้ พกั อาศยั  ซง่ึ เปน็ มาตรการควบคมุ ดแู ลบคุ คลตา่ งดา้ วตามกฎหมายคนเขา้ เมอื ง 
เมอื่ มกี ารแจง้ ทพ่ี กั อาศยั ฯ พนกั งานเจา้ หนา้ ทตี่ รวจคนเขา้ เมอื งสามารถตรวจสอบสถานทพี่ กั อาศยั ของบคุ คลตา่ งดา้ ว 
จากระบบสารสนเทศของสำ�นักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นการเฝ้าระวังเด็กและผู้หญิงที่มีอายุตํ่ากว่า 18 ปี 
โดยเฉพาะอย่างย่ิง บุคคลสัญชาติลาวท่ีเข้ามาพักอาศัยหรือประกอบอาชีพหรืออื่นๆ ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย 
หรอื ศลี ธรรมอนั ดขี องประชาชน ซง่ึ อาจน�ำ ไปสกู่ ารแสวงหาประโยชนโ์ ดยมชิ อบจากการคา้ มนษุ ย ์ รวมถงึ การปอ้ งกนั  
ปราบปรามคนต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองซึ่งมีแนวโน้มจะสูงข้ึน โดยจะดำ�เนินการให้ข้าราชการตำ�รวจ 
ตรวจคนเขา้ เมอื งจงั หวดั  ก. ออกพน้ื ทไ่ี ปพดู คยุ เสวนา พบปะเยย่ี มเยยี น และรบั ทราบขอ้ มลู เชงิ ประจกั ษอ์ ยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ 
กบั ประชาชนในพน้ื ทถ่ี งึ บา้ นพกั อาศยั ตามหมบู่ า้ นหรอื ชมุ ชนตา่ งๆ เพอ่ื สรา้ งแนวรว่ มการแจง้ ขอ้ มลู คนตา่ งดา้ วพกั อาศยั  
และการตรวจสถานท่ีสุ่มสี่ยง และให้นำ�ความรู้ท่ีได้รับไปเป็นเกราะป้องกันการค้ามนุษย์ในเขตพื้นที่จังหวัด ก. 
จึงได้จัดทำ�โครงการฯ นี้ขึ้น

คู่มือการขอรบั การสนบั สนนุ เงินในรปู แบบโครงการจากกองทุนเพอ่ื การปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนุษย์ 33

2.6 วตั ถปุ ระสงค์
2.6.1 เพื่อออกประชาสัมพันธ์ตาม มาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ในการแจ้งข้อมูล 
เม่ือคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยฯ โดยให้เจ้าบ้าน เจ้าของหรือผู้ครอบครองเคหสถานท่ีรับคนต่างด้าว 
เข้าพักอาศัย มีหน้าท่ีต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าท่ีตรวจคนเข้าเมือง ณ ท่ีทำ�การตรวจคนเข้าเมืองซ่ึงตั้งอยู่
ภายใน 24 ชวั่ โมง นับแต่เวลาทีค่ นตา่ งด้าวเขา้ พักอาศยั
2.6.2 เพอ่ื ใหก้ �ำ นนั  ผใู้ หญบ่ า้ น ผนู้ �ำ ทอ้ งถน่ิ  และผนู้ �ำ ชมุ ชน ไดร้ บั ทราบขอ้ กฎหมาย ขน้ั ตอนและวธิ กี ารปฏบิ ตั  ิ
ในการด�ำ เนนิ การตา่ งๆ รวมถงึ การเฝา้ ระวงั บคุ คลหรอื เครอื ขา่ ยทอ่ี าจกระท�ำ ความผดิ เกย่ี วกบั การลกั ลอบ 
หลบหนีเขา้ เมอื ง การคา้ มนุษย ์ และ/หรือ กฎหมายอืน่ ๆ ทเี่ กย่ี วข้อง
2.6.3 เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายแนวร่วม และความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าท่ีตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด ก. 
กับประชาชนโดยทว่ั ไป ในการป้องกนั ปญั หาการลักลอบหลบหนเี ขา้ เมืองและการค้ามนษุ ย์

2.7 กลุ่มเป้าหมาย/และพน้ื ทดี่ ำ�เนนิ การ
2.7.1 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กำ�นัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำ�ชุมชน ผู้นำ�ท้องถ่ิน และประชาชนในหมู่บ้านและชุมชน 
ตามแนวชายแดน รวมจำ�นวนท้งั สน้ิ  1,460 คน (เฉลีย่ หมบู่ ้าน/ชุมชนละ 10 คน)
2.7.2 พน้ื ทด่ี �ำ เนนิ การ หมบู่ า้ นตามแนวตะเขบ็ ชายแดน 6 อ�ำ เภอ 26 ต�ำ บล 124 หมบู่ า้ น และ 22 ชมุ ชน 
รวมทั้งสิ้น 146 หมู่บ้าน/ชุมชน ซ่ึงเป็นพื้นที่จุดยุทธศาสตร์สำ�คัญ และเป็นจุดเส่ียงในการลักลอบ 
การก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง การค้ามนุษย์ ที่มีผลกระทบกับ 
ประชาชนท่ีอาศัยอยู่ตามแนวชายแดนและพ้นื ทีต่ อนในของประเทศ

2.8 วธิ กี ารดำ�เนนิ การ
2.8.1 จดั ชดุ ปฏบิ ตั กิ ารตรวจคนเขา้ เมอื งจงั หวดั  ก. จ�ำ นวน 2 ชดุ  ชดุ ละ 4 คน ออกพบปะ ก�ำ นนั  ผใู้ หญบ่ า้ น 
ผ้นู ำ�ชุมชน ผ้นู ำ�ท้องถ่นิ  และประชาชนในแต่ละหม่บู ้านและชุมชนตามแนวชายแดน เพ่อื ให้คำ�แนะน�ำ  
ในการปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย รบั ฟงั ปญั หา และขอ้ เสนอแนะตา่ งๆ ทกุ ๆ วนั เสาร ์ – อาทติ ย ์ (เฉลย่ี วนั ละ 
3 หมู่บ้าน/ชุมชน ต่อ 1 ชุดปฎิบัติการ หรือ 6 หมู่บ้าน/ชุมชน ทุกๆ วันเสาร์ – อาทิตย์ ต่อ 
1 ชุดปฏิบัติการ) รวมจำ�นวนหม่บู ้าน/ชุมชนท่อี อกปฏิบัติการฯ = 6 หม่บู ้าน/ชุมชน × 2 ชุดปฏิบัติ
การ × 4 คร้ังตอ่ เดอื น = 48 หมบู่ า้ น/ชมุ ชนตอ่ เดอื น
2.8.2 จดั เสวนาหรอื พดู คยุ แบบกลมุ่ ยอ่ ยอยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ ณ สถานทอ่ี นั ควร เชน่  ทท่ี �ำ การก�ำ นนั  ผใู้ หญบ่ า้ น 
บ้านเรือน ศาลาประชาคมหมู่บ้าน ศาลาวัด หรืออ่ืนๆ ตามความเหมาะสม โดยสาระสำ�คัญท่ีพูดคุย
เสวนากนั  มดี งั นี้
–– ก  ารแจง้ ข้อมลู คนตา่ งดา้ วพกั อาศัย
–– ส  ถานทส่ี ุ่มเสีย่ งในแตล่ ะพน้ื ท่ี
–– อ  งค์ประกอบการกระทำ�ที่เข้าข่ายความผิดการคา้ มนุษย์
–– แ  รงงานตา่ งด้าวหลบหนีเข้าเมอื งและผลกระทบ
–– ก  ารค้าประเวณี

34 คู่มอื การขอรับการสนับสนนุ เงินในรูปแบบโครงการจากกองทุนเพือ่ การปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์

2.8.3 แจกแผน่ พบั ความรเู้ กย่ี วกบั การแจง้ ทพ่ี กั อาศยั ฯ การคา้ มนษุ ย ์ สตกิ เกอร ์ และเอกสารอน่ื ๆ เพอ่ื ใหก้ �ำ นนั  
ผใู้ หญบ่ า้ น ผนู้ �ำ ชมุ ชน ผนู้ �ำ ทอ้ งถน่ิ  และประชาชนทเ่ี สวนาหรอื รว่ มพดู คยุ กนั  สามารถน�ำ ไปถา่ ยทอดตอ่  
ให้กับลูกบ้านหรือบคุ คลในพ้ืนที่รายอนื่ ได้

2.8.4 ติดแผ่นป้ายไวนิลประชาสัมพันธ์ ขนาด 1 × 1.8 เมตร ของตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด ก. ในท่ี
สาธารณะซงึ่ สามารถมองเห็นไดช้ ัดเจน

2.8.5 จัดทำ�แบบสำ�รวจความพึงพอใจของผู้ร่วมเสวนาหรือพูดคุยกันกลุ่มย่อยอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อนำ�
มาวิเคราะห์ตอ่ ไป

2.8.6 สร้างแนวร่วมเครือข่ายผู้ร่วมเสวนาหรือพูดคุยกันฯ ให้เข้ามามีบทบาทในการแจ้งข้อมูลข่าวสาร 
เบาะแสผูก้ ระท�ำ ความผดิ  ทางโทรศพั ท์หรือทางกลมุ่ ไลนต์ รวจคนเข้าเมืองจังหวดั  ก.

2.9 ปฏทิ นิ กจิ กรรมหรือปฏิทินงานในโครงการ

กิจกรรม กลุ่มเปา้ หมาย วัน  ผลท่คี าดวา่ งบประมาณ งบประมาณ งบประมาณ
เดอื น  จะได้รบั ทเ่ี สนอขอ จากแหลง่ อนื่ รวมทั้งส้ิน
(ระบุจำ�นวน) ปี (1) (2) (1) + (2)

จัดชุดปฏิบัติการ กำ�นัน ผู้ใหญ่บ้าน เดอื น ก า ร เ ส ริ ม ส ร้ า ง 246,060 – 246,060
ตรวจคนเข้าเมือง  ผู้นำ�ชุมชน ผู้นำ� ตุลาคม  เครือข่ายแนวร่วม
จังหวัด ก. 2 ชุด  ท้ อ ง ถ่ิ น   แ ล ะ ถึงเดอื น ผู้ให้การช่วยเหลือ 
ชุดละ 4 คน ออก ป ร ะ ช า ช น ใ น ธันวาคม  ห รื อ ส นั บ ส นุ น
พบปะพูดคุยเพื่อ  หมู่บ้านตามแนว  2559 งานภาครัฐ หรือ 
ให้คำ�แนะนำ�ในการ  ชายแดน 6 อ�ำ เภอ  ตรวจคนเข้าเมือง
ปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย  26 ตำ�บล 124  จังหวัด ก. เป็นไป
รับฟังปัญหา และ หมู่บ้าน และ 22  อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ข้อเสนอแนะต่างๆ  ชุมชน รวมท้ังสิ้น  และมีประสิทธิผล
กับประชาชนใน 146 หมบู่ า้ น/ชมุ ชน  สงู สุด
พื้ น ที่ รั บ ผิ ด ช อ บ  ก ลุ่ ม เ ป้ า ห ม า ย 
สัปดาห์ละ 2 ครั้ง  จ�ำ นวน 1,460 คน
(วนั เสาร ์ – อาทติ ย)์  
รวม 8 ครง้ั  ตอ่ เดอื น 
ต่อ 1 ชุดฯ

ค่มู อื การขอรับการสนับสนุนเงินในรปู แบบโครงการจากกองทุนเพือ่ การปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์ 35

2.10 การประเมนิ ผล
2.10.1 เชงิ ปริมาณ
1) กลุ่มแนวร่วมเครือข่ายการแจ้งข้อมูล เบาะแสคนต่างด้าวพักอาศัย และการตรวจสถานท่ี 
สุ่มเสี่ยง เพื่อป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ในเขตจังหวัด ก. มีจำ�นวนเพิ่มมากขึ้นไม่น้อย
กวา่ ร้อยละ 80
2) สถิติการแจง้ ข้อมูลคนตา่ งดา้ วพกั อาศัยเพมิ่ มากข้ึน ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80
2.10.2 เชิงคุณภาพ
1) ประชาชนมคี วามพึงพอใจในการดำ�เนนิ การของเจา้ หนา้ ท่ี
2) ประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนตามแนวชายแดน มีความรู้ ความเข้าใจในวิธีการแจ้งข้อมูล 
คนต่างด้าวพกั อาศัยและสถานท่ีสมุ่ เสี่ยง รวมถงึ ประโยชนท์ ค่ี วรจะได้รับ

2.11 งบประมาณ
ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการเงินกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ 

สำ�นักงานพัฒนาสังคมและความมนั่ คงของมนุษย์ จ�ำ นวน 246,060 บาท (สองแสนส่ีหม่ืนหกพนั หกสิบบาทถว้ น) 
ปรากฏตามเอกสารท่แี นบ
2.12 ผลทคี่ าดว่าจะไดร้ ับ

2.12.1 กำ�นัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำ�ชุมชน ผู้นำ�ท้องถ่ิน และประชาชนในพ้ืนที่หมู่บ้านและชุมชนตามแนว
ตะเข็บชายแดน ตระหนักและเห็นความสำ�คัญในการแจ้งข้อมูลคนต่างด้าวพักอาศัย สถานที่สุ่มเสี่ยง คนต่างด้าว
หลบหนเี ข้าเมอื ง แรงงานต่างดา้ วผดิ กฎหมาย รวมถงึ การปอ้ งกนั ปราบปรามการคา้ มนษุ ย์

2.12.2 การเสริมสร้างเครือข่ายแนวร่วม ผู้ให้การช่วยเหลือหรือสนับสนุนงานหน่วยงานภาครัฐหรือ 
ตรวจคนเข้าเมอื งจงั หวดั  ก. เป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพและประสทิ ธิผลสงู สุด

2.12.3 ประชาชนในพนื้ ที่ตามแนวชายแดน มีความปลอดภัยในชีวติ และทรพั ย์สนิ
ข้าพเจ้าขอรับรองว่ารายการและวงเงินที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปราม 
การค้ามนุษย์น้ี ไม่ซํ้าซ้อนกับเงินท่ีได้รับการสนับสนุนจากแหล่งทุนอ่ืนๆ และยินยอมปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และ
เง่อื นไขท่กี องทนุ ก�ำ หนด

พนั ตำ�รวจเอก................เอ..........................................
(พนั ตำ�รวจเอกเอ)
ผู้เสนอโครงการ

ผ้กู ำ�กบั การตรวจคนเขา้ เมืองจังหวดั  ก.
กองบังคับการตรวจคนเขา้ เมือง จ.

หมายเหตุ กรณีเป็นองค์กรเอกชน ต้องเป็นผู้มีอำ�นาจลงนามผูกพันองค์กร และกรณีเป็นหน่วยงานภาครัฐ 
ต้องเปน็ ผบู้ รหิ ารของหน่วยงาน หรือผ้ทู ไ่ี ด้รบั มอบหมาย

36 คู่มือการขอรบั การสนบั สนุนเงินในรปู แบบโครงการจากกองทุนเพื่อการป้องกนั และปราบปรามการค้ามนุษย์

เพื่อประโยชน์ต่อการพิจารณาโครงการของท่าน กรุณาตรวจสอบความครบถ้วนสมบูรณ์ของเอกสาร 
ทก่ี �ำ หนดใหจ้ ดั สง่ ทกุ รายการ โดยท�ำ เครอ่ื งหมาย  หนา้ หวั ขอ้ เอกสารทท่ี า่ นจดั สง่ มา พรอ้ มกบั แนบรายละเอยี ด
ดังน้ี

1. เอกสารโครงการ 3 ชุด พรอ้ มแผน่ ดสิ ก ์ 1 แผน่  (ถ้ามี) โดยแตล่ ะชุดประกอบด้วย
 รายละเอยี ดโครงการ ตามแบบเสนอโครงการ
 มตทิ ีป่ ระชมุ ขององคก์ ร ซง่ึ ให้ความเห็นชอบโครงการทเ่ี สนอขอรับการสนับสนนุ  (ถา้ ม)ี

2. เอกสารประกอบการพิจารณาโครงการอย่างละ 3 ชดุ
 แผนท่ีองค์กรของท่าน
 แผนท่ีของพ้ืนท่ีดำ�เนินงาน
 อนื่ ๆ (ท่ีเปน็ ประโยชนต์ อ่ การพจิ ารณาโครงการ)..................................................

3. กรณีเปน็ องคก์ รเอกชนใหแ้ นบเอกสารเพมิ่ เตมิ ประกอบ อย่างละ 3 ชดุ  ดังน้ี
 สำ�เนาตราสารหรอื ระเบียบขอ้ บงั คับ
 ผลงานในรอบปที ผ่ี า่ นมา
 งบดลุ หรอื งบแสดงรายรบั  – รายจา่ ยส�ำ หรับรอบปที ่ผี ่านมา
 ส�ำ เนาใบส�ำ คญั แสดงการจดทะเบยี นเป็นองคก์ รเอกชนดา้ นการป้องกนั และปราบปรามการคา้ มนุษย์

คู่มือการขอรบั การสนับสนนุ เงนิ ในรปู แบบโครงการจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนษุ ย์ 37

2.11 งบประมาณ

กิจกรรม/ กลมุ่ เปา้ หมาย จ�ำ นวนหน่วย อตั รา รวมเป็นเงนิ รวมเป็นเงนิ
รายการคา่ ใชจ้ า่ ย นับของรายการ  (ทงั้ โครงการ) (เสนอขอ)

คชจ.

--คา่ เบยี้ เลี้ยง จำ�นวน  2  ชุด  ชุดละ  4 คร้งั /เดือน/ชุด  240 บาท/คน 240 บาท × 8 ครั้ง  46,080
4 คน รวม 8 คน จ�ำ นวน 2 ชดุ   × 8 คน 
ออกด�ำ เนนิ การ 3 เดอื น  รวม 8 ครงั้ = 15,360 บาท

(ต.ค. – ธ.ค. 59) 15,360 บาท 
× 3 เดอื น 
= 46,080 บาท

--ค่าที่พัก จำ�นวน  2  ชุด  ชุดละ  4 ครงั้ /เดอื น 700 บาท/คน 700 บาท × 4 ครง้ั   67,200
4 คน รวม 8 คน × 8 คน 
ออกด�ำ เนนิ การ 3 เดอื น 
(ต.ค. – ธ.ค. 59) = 22,400 บาท
22,400 บาท 
× 3 เดอื น 

= 67,200 บาท

--ค่ า พ า ห น ะ  จำ�นวน  2  ชุด  ชุดละ 4 คร้งั /เดือน 1,500 บาท/ชดุ 1,500 บาท × 4 ครง้ั   36,000
(รถยนต์ราชการ) ประมาณ 1,500 บาท/ × 2 ชดุ  
ครงั้  (เทา่ ทีจ่ า่ ยจรงิ ) = 12,000 บาท

ออกด�ำ เนนิ การ 3 เดอื น  12,000 บาท 
(ต.ค. – ธ.ค. 59) × 3 เดอื น 

--ค่าแผ่นพับ 2 หน้า  ป ร ะ ช า ช น ต า ม แ น ว 3,000 แผน่ 3 บาท/แผน่ = 36,000 บาท 9,000
( S t o p   H u m a n  ชายแดน 3,000 แผน่ 3 บาท × 3,000 แผน่   9,000
Traffiซีking) 1,500 แผน่ 52,500
= 9,000 บาท

--124 หมบู่ า้ น

--22 ชุมชน

--ค่าแผ่นพับ 2 หน้า  ป ร ะ ช า ช น ต า ม แ น ว 3 บาท/แผน่ 3 บาท × 3,000 แผน่  
(มาตรา  37  และ  ชายแดน = 9,000 บาท
ม า ต ร า   3 8   แ ห่ ง 
พ.ร.บ. คนเขา้ เมอื งฯ) --124 หมู่บา้ น
--22 ชมุ ชน

--สติกเกอร์ (ผู้รับจ้าง  ป ร ะ ช า ช น ต า ม แ น ว 35 บาท/แผ่น 35 บาท × 1,500 แผน่  
ขนคนเข้าเมืองฯ) ชายแดน = 52,500 บาท

--124 หมู่บา้ น
--22 ชมุ ชน

38 คมู่ อื การขอรบั การสนบั สนุนเงนิ ในรูปแบบโครงการจากกองทุนเพอ่ื การปอ้ งกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ย์

กิจกรรม/ กลุ่มเป้าหมาย จ�ำ นวนหนว่ ย อัตรา รวมเปน็ เงิน รวมเปน็ เงิน
รายการคา่ ใชจ้ า่ ย นบั ของรายการ  (ท้ังโครงการ) (เสนอขอ)

คชจ.

--ป้ า ย ไ ว นิ ล --หมบู่ า้ น 124 หมูบ่ า้ น 146 ปา้ ย 180 บาท/ปา้ ย 180 บาท × 146 ปา้ ย  26,280
ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์   --ชมุ ชน 22 ชมุ ชน = 26,280 บาท
ขนาด 1 × 1.8 เมตร รวม  146  หมู่บ้าน/

ชมุ ชน

รวมทง้ั ส้ิน 246,060

หมายเหต ุ :
1) เน่ืองจากเป็นโครงการใหม่ท่ีพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด ก. ต้องออกพบปะเยี่ยมเยียนกำ�นัน 

ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำ�ท้องถิ่น และผู้นำ�ชุมชนตามหมู่บ้านแนวตะเข็บชายแดนนอกสถานที่ ซึ่งมีจำ�นวนมากถึง 
6 อ�ำ เภอ 26 ต�ำ บล 124 หมบู่ า้ น และ 22 ชมุ ชน เพอื่ พดู คยุ เสวนาอยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ เพอ่ื รบั ทราบปญั หา 
ข้อขัดข้อง คำ�แนะนำ�ต่างๆ ในการดำ�เนินโครงการฯ เป็นการปฏิบัตินอกเหนือจากภารกิจตามปกติ ซ่ึงมิได้ 
มกี ารตง้ั งบประมาณไว้
2) จึงขอรบั การสนบั สนุนค่าเบย้ี เลย้ี ง ค่าท่ีพัก และคา่ พาหนะ (รถยนตร์ าชการ) ตามจำ�นวนที่ระบุไว ้

คู่มอื การขอรับการสนบั สนนุ เงินในรูปแบบโครงการจากกองทนุ เพือ่ การปอ้ งกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ 39

แบบ กปค.01

แบบการเสนอโครงการขอรับเงินกองทนุ เพือ่ การป้องกนั และปราบปรามการค้ามนุษย์ ประจ�ำ ป ี ..2560..
ส�ำ นักงานปลัดกระทรวงการพฒั นาสังคมและความมัน่ คงของมนุษย ์
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนษุ ย์

ส่วนท ่ี 1 ขอ้ มูลทวั่ ไป
1.1 ชอ่ื องคก์ ร  (ภาษาไทย) ส�ำ นกั งานพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนษุ ยจ์ งั หวดั  ข.

(ภาษาองั กฤษ) ถา้ ม ี B Provincial Social Development and Human Security Office
1.2 องคก์ รของท่าน จัดอย่ใู นประเภทองค์กรใด (เลือกเพียง 1 ขอ้ )

 หนว่ ยงานภาครฐั 1
 องค์กรเอกชน2
 องค์กรอืน่ 3

1.3 รายชอ่ื คณะกรรมการ/ตำ�แหนง่  และเจา้ หนา้ ทผ่ี ปู้ ฏิบตั ิงานตามโครงการ/กรณีเปน็ หน่วยงานภาครฐั ใหร้ ะบุ
ตำ�แหน่งผบู้ รหิ ารและเจา้ หน้าที่โครงการ
1. ประธาน นาย เอ ตำ�แหน่ง พัฒนาสงั คมและความมั่นคงของมนษุ ย์จงั หวดั  ข.
2. กรรมการ.........................................ตำ�แหน่ง...............................................................................
3. กรรมการ.........................................ต�ำ แหน่ง...............................................................................
4. กรรมการ.........................................ตำ�แหนง่ ...............................................................................
5. เจ้าหนา้ ท ี่ (1) นาย บี ตำ�แหน่ง นักสังคมสงเคราะหช์ ำ�นาญการ
(2) นางสาว ซี ต�ำ แหนง่  นักพัฒนาสงั คม (จนท.ศปคม.จงั หวดั  ข.)
(3) ...............................................ตำ�แหนง่ .............................................................
(4) ...............................................ต�ำ แหนง่ .............................................................

1.4 ปีที่จดทะเบียนกอ่ ตัง้ องคก์ รหรอื ปที ี่เร่ิมด�ำ เนนิ การ จดั ต้งั ขึน้ เมอื่ ปี พ.ศ. 2508

1.5 ปีท่ีจดทะเบียนเป็นองค์กรด้านป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปราม
การค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551)...........................................................................................

1.6 ท่ีตั้งสำ�นักงาน (พร้อมแผนที่) ศาลากลางจังหวัด ข. ตำ�บล ก. อำ�เภอ ข. จังหวัด ข.โทรศัพท์/โทรศัพท์มือ
ถอื  0 1111 2222 โทรสาร 0 0000 1111 ต่อ 00 E-mail : aaaaa.go.th

1  หน่วยงานภาครัฐ หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม หรอื สว่ นราชการที่เรยี กชือ่ อย่างอ่ืน ซง่ึ มฐี านะเปน็ กรม หรอื เทยี บเทา่ กรม หรอื เทยี บเท่า
กอง/ส�ำ นกั  ราชการส่วนภูมภิ าค ราชการสว่ นกลางที่ตัง้ อยู่ในสว่ นภูมิภาค สถานีตำ�รวจ โรงเรยี นหรือสถาบนั การศกึ ษาของรัฐ ราชการส่วนทอ้ งถนิ่
หรือหน่วยงานอื่นของรัฐท่ดี �ำ เนินการตามวัตถุประสงค์หรอื กิจกรรมเกี่ยวกบั การปอ้ งกันและปราบปรามการค้ามนษุ ย์
2  องคก์ รเอกชน หมายความวา่  องค์กรทบี่ ุคคลรวมกันขนึ้ และได้จดทะเบียนด้านการปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์ตามพระราชบญั ญตั ิปอ้ งกัน
และปราบปรามการค้ามนษุ ย ์ พ.ศ.2551
3  องค์กรอื่น หมายความว่า องคก์ รอนื่ ตามทีป่ ลดั กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนุษยก์ �ำ หนด

40 คู่มือการขอรบั การสนบั สนนุ เงินในรปู แบบโครงการจากกองทนุ เพอื่ การป้องกนั และปราบปรามการค้ามนุษย์

1.7 ชื่อผูป้ ระสานงานโครงการ นาย เอ โทรศัพท/์ โทรศพั ทม์ อื ถือ 0 1111 4444
1.8 วัตถุประสงคข์ ององค์กร

1. พฒั นากลไกการคมุ้ ครองทางสงั คมให้กลมุ่ เป้าหมายไดร้ บั สวสั ดิการสงั คมท่ีเหมาะสม
2. ป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาทางสังคม
3. พฒั นาศักยภาพและการมสี ว่ นรว่ มขององค์กรเครือข่าย
4. ระบบการบริการจัดการองค์กรเปน็ ไปตามมาตรฐานของคุณภาพการบริหารจัดการภาครฐั

1.9 กิจกรรมหรือโครงการท่ีองค์กรดำ�เนินอยู่ในปัจจุบัน (โดยสรุป) โครงการอบรมผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกัน 
แก้ไข และปราบปรามการค้ามนุษย์ โครงการจัดระเบียบสังคมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ตรวจ
ตราสถานบริการ สถานประกอบการ ร้านคาราโอเกะ ร้านเกมส์ หอพัก แหล่งม่ัวสุมฯ มิให้มีการกระทำ� 
ผิดกฎหมาย โครงการอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน โครงการส่งเสริมพ้ืนท่ีสร้างสรรค์สำ�หรับเด็กและเยาวชน 
ส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์

1.10 ผลงานในรอบ 1 ปี ท่ีผ่านมา (โดยสรุป) อบรมให้ความรู้เก่ียวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
ในจังหวัด ข. ประชาสัมพันธ์รณรงค์ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ป้องกันกลุ่มเส่ียง ได้แก่ เด็ก และ
เยาวชน ประชาชนทั่วไปได้รับความรู้ ความเข้าใจและตระหนักในการป้องกันแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย ์
ร่วมสัมภาษณ์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์

1.11 แหล่งความชว่ ยเหลอื ท่อี งค์กรได้รับในปจั จุบัน (ทงั้ ในและตา่ งประเทศ)
1. ................................................................................................................ จ�ำ นวน.................บาท
2. ................................................................................................................ จำ�นวน.................บาท

ส่วนท ี่ 2 รายละเอียดข้อมูลโครงการเพ่ือขอรับการสนับสนนุ เงินกองทุน (แยกตามรายโครงการ)

2.1 ช่ือโครงการ (ภาษาไทย) โครงการส่งเสริมบทบาทและพัฒนาศักยภาพทีมสหวิชาชีพและผู้ปฏิบัติงานด้านการ
ปอ้ งกันและปราบปรามการคา้ มนุษยจ์ ังหวดั  ข.

2.2 ประเภทโครงการทข่ี อรบั การสนับสนนุ  (ตอบไดม้ ากกวา่  1 ขอ้ )
 การด�ำ เนนิ การเก่ยี วกับการป้องกันปัญหาการคา้ มนษุ ยใ์ นระดับบคุ คล ครอบครวั  และชุมชน
 การพัฒนาระบบการให้ความช่วยเหลอื และคุ้มครองผูเ้ สียหายจากการกระทำ�ความผิดฐานค้ามนษุ ย์
 การดำ�เนินงานทางกฎหมายและการปราบปราม
 การฟืน้ ฟูเยียวยาและการคืนสู่สงั คม
 การจัดท�ำ และพฒั นาระบบขอ้ มลู  การตดิ ตามและประเมินผล
 การพัฒนากลไกการบรหิ ารงานและการจัดการในด้านการป้องกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ย์
 การประสานความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศ

คู่มือการขอรับการสนบั สนนุ เงินในรูปแบบโครงการจากกองทนุ เพอื่ การปอ้ งกันและปราบปรามการค้ามนษุ ย์ 41

 อื่นๆ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือคณะกรรมการประสานและกำ�กับ 
การดำ�เนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์กำ�หนด (ระบุ) .............เฝ้าระวังป้องกัน แก้ไขและ
ปราบปรามปญั หาการค้ามนษุ ยใ์ นจงั หวัด ข. ......

2.3 คุณสมบตั ขิ องหน่วยงาน/องคก์ รทข่ี อรบั การสนบั สนุน
(1) กรณีเป็นหน่วยงานภาครฐั
 โครงการรเิ ริ่มใหม ่ (โครงการท่มี ีแนวคิดหรือนโยบายใหมไ่ ม่เคยท�ำ มาก่อน)
 ไมส่ ามารถขอรบั การสนบั สนนุ จากงบประมาณปกติได ้ หรอื
 ไดร้ บั แต่ไมเ่ พยี งพอ (ได้รับงบประมาณปกต.ิ .......................บาท)
(2) กรณีเปน็ องค์กรเอกชน
 โครงการทม่ี ีการด�ำ เนินงานมาแล้ว ซึง่ มที ุนอยู่บางส่วน หรอื
 โครงการรเิ ร่ิมใหม่ (โครงการที่มีแนวคดิ หรอื นโยบายใหมไ่ มเ่ คยทำ�มาก่อน)
 โครงการที่ไม่ไดร้ ับการสนับสนุนงบประมาณจากส่วนราชการหรอื แหล่งทุนอ่ืน หรือ
 ไดร้ ับแต่ไม่เพยี งพอ (ไดร้ ับงบประมาณปกต.ิ .......................บาท)
(3) กรณมี ไิ ด้เป็นหนว่ ยงาน/องคก์ รตามขอ้  (1) และ (2)
 เปน็ องค์กรอน่ื ตามที่ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมัน่ คงของมนษุ ย์กำ�หนด

2.4 โปรดใหร้ ายชอื่ บคุ คลทน่ี า่ เชือ่ ถือ ทีส่ ามารถอธิบายถงึ ผลงานของทา่ นทผ่ี ่านมาได ้ จ�ำ นวน 2 ทา่ น
1. ช่ือ  นาย  เอ  ท่ีอยู่/หน่วยงาน  สำ�นักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์จังหวัด  ข. 
โทรศัพท์ 0 2222 3333
2. ชื่ อ   น า ง ส า ว   บี   ที่ อ ยู่ / ห น่ ว ย ง า น   สำ � นั ก ง า น พั ฒ น า สั ง ค ม แ ล ะ ค ว า ม ม่ั น ค ง ข อ ง ม นุ ษ ย์ จั ง ห วั ด   ข . 
โทรศพั ท์ 0 0000 2222
หมายเหตุ ในกรณีงบประมาณโครงการที่เสนอต่อกองทุนเพ่ือการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ 

มากกว่า 50,000 บาท ใหแ้ นบหนงั สอื รบั รองผลงาน และให้บคุ คลอ้างองิ ลงนามมาพรอ้ มกับแบบเสนอโครงการ

42 คมู่ อื การขอรบั การสนบั สนนุ เงนิ ในรูปแบบโครงการจากกองทุนเพือ่ การป้องกันและปราบปรามการค้ามนษุ ย์


Click to View FlipBook Version