The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ SSCS รายวิชาคณิตศาสตร์ 6 รหัสวิชา ค33102 หลักสูตรใหม่

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ครรชิต แซ่โฮ่, 2021-10-17 00:08:55

แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ SSCS รายวิชาคณิตศาสตร์ 6 รหัสวิชา ค33102 หลักสูตรใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ SSCS รายวิชาคณิตศาสตร์ 6 รหัสวิชา ค33102 หลักสูตรใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง สถติ ศิ าสตร์ 7

จากตารางจะพบว่ามีพนักงานเพียง 1 คนเท่าน้ันที่มีเงินเดือนเท่ากับค่าเฉลี่ย ในขณะที่
พนักงานส่วนใหญ่มีเงินเดือนอยู่ในช่วง 15,000 – 25,000 บาท ซ่ึงเงินเดือนน้อยกว่าค่าเฉล่ียประมาณ
ครง่ึ หน่งึ และมพี นกั งาน 4 คนเทา่ นั้นที่มีเงนิ เดือนเกินคา่ เฉลยี่
คาถาม การนาเสนอข้อมลู ขา้ งตน้ ดว้ ยค่าเฉลย่ี เลขคณิตเหมาะสมหรือไม่ เพราะเหตใุ ด
คาตอบ ไม่เหมาะสมในการอธิบายของตัวอย่างน้ี เพราะข้อมูลเงินเดือนของพนักงานแต่ละ

คนมคี วามแตกตา่ งกันมาก ซงึ่ อาจกอ่ ให้เกดิ ความเขา้ ใจคลาดเคลือ่ นได้ โดยเฉพาะใน
กรณีท่ีขาดความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกับสถิตศิ าสตร์)
1.7 ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาตัวอย่างการนาเสนอข้อมูลท่ีอาจก่อให้เกิดความเข้าใจ
คลาดเคล่ือนได้ในรูปแบบอ่ืน ๆ เช่น การนาเสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง หน้า 8 ของแบบฝึกทักษะ
คณติ ศาสตร์ เลม่ ที่ 1 เรอื่ ง สถติ ศิ าสตร์และขอ้ มลู จากน้นั ผเู้ รยี นและครูร่วมกันสรุปการนาเสนอข้อมูล
ที่อาจกอ่ ให้เกดิ ความเข้าใจคลาดเคลอ่ื นได้ โดยครูคอยแนะนาจนกว่าผู้เรียนเข้าใจ ดังนี้ “ความรู้ความ
เข้าใจเกี่ยวกับสถิติศาสตร์เบื้องต้นเป็นส่ิงจาเป็นอย่างยิ่ง ท้ังสาหรับผู้นาเสนอข้อมูล เพื่อให้สามารถ
นาเสนอภาพรวมที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์ต่อสังคมและสาหรับผู้ใช้ข้อมูล เพ่ือให้สามารถวิเคราะห์
ข้อมลู ข่าวสารทีพ่ บตามสอื่ ตา่ ง ๆ ท้ังสอื่ ส่ิงพิมพแ์ ละสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ ตลอดจนรู้เท่าทันสื่อเหล่านั้น
วา่ มีความน่าเชื่อถอื เพยี งใด หรือมจี ุดมุ่งหมายแอบแฝงหรือไม่”
ขน้ั ท่ี 2 Solve: S (ข้นั การแกป้ ญั หา)
2.1 ครูให้ผู้เรียนวางแผนและเลือกวิธีการท่ีใช้ในการแก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยครูจะไม่จากัด
แนวคิดและวธิ ีการทผี่ ู้เรยี นเลือกใชใ้ นการแกป้ ัญหา
2.2 ครใู ห้ผู้เรียนดาเนินการตามแผนท่ีผู้เรียนได้วางไว้ จนได้คาตอบในท่ีสุด โดยผู้เรียนแต่ละ
กลมุ่ ร่วมกนั ทาแบบฝกึ ทกั ษะท่ี 1 เรอ่ื งสถิติศาสตร์ แลว้ ช่วยกนั เฉลยและตรวจสอบความถูกตอ้ ง
ขน้ั ที่ 3 Create: C (ข้ันสรา้ งความรู้)
3.1 ครใู หผ้ ู้เรียนเรยี บเรยี งข้นั ตอนการแกป้ ัญหาและบนั ทึกความรู้ของผู้เรียนได้จากการศึกษา
เรื่องสถิติศาสตร์ และจากการทาแบบฝึกทักษะท่ี 1 เรื่องสถิติศาสตร์ ลงในสมุดโดยใช้ภาษาที่ง่ายต่อ
การเขา้ ใจ สละสลวยในการเขยี นแสดงแนวคดิ และอธิบายคาตอบของผู้เรียน
ข้นั ท่ี 4 Share: S (ขัน้ อภปิ รายแลกเปลยี่ นความคิดเห็น)
4.1 ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มแลกเปลี่ยนความรู้ นาเสนอแนวคิดและวิธีการในการแก้ปัญหา
ของตนจากการทาแบบฝกึ ทกั ษะ
4.2 ครสู ุ่มผู้เรียนออกมานาเสนอการสรุปความรู้ แนวคิดและวิธีการในการแก้ปัญหาจากการ
ทากิจกรรม และถ้ามีผู้เรียนคนใดมีแนวคิดหรือวิธีการในการหาคาตอบท่ีแตกต่างจากเพื่อนก็สามารถ
นาวธิ กี ารหรอื แนวคดิ นนั้ มานาเสนอได้อย่างเต็มท่ี
4.3 ผู้เรียนและครูร่วมกันอภิปรายถึงวิธีการต่าง ๆ และผลที่ได้ที่เพ่ือนผู้เรียนแต่ละคนได้
ออกมานาเสนอ โดยขณะท่ีร่วมกันอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็นน้ัน ครูจะมีการสังเกตพฤติกรรม
การสอ่ื สารท้ังในดา้ นการฟงั และการพดู ของผู้เรยี นไปพร้อม ๆ กัน

ครูครรชติ แซโ่ ฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง สถติ ิศาสตร์ 8

ขั้นสรุปบทเรยี น
ผู้เรียนและครูร่วมกันสรุปความหมายและประโยชน์ของสถิติศาสตร์ พร้อมท้ังสรุปการ
นาเสนอข้อมูลท่ีพบเห็นในชีวิตประจาวันว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใดก่อให้เกิดความเข้าใจ
คลาดเคล่อื นหรอื ไม่ อย่างไร ดังน้ี
สถิติศาสตร์ (Statistics) หมายถึงวิชาที่ว่าด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และ
สรุปผลจากขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เพอ่ื นามาตอบคาถาม อธบิ ายปรากฏการณห์ รอื ประเดน็ ทส่ี นใจ
ประโยชนข์ องสถติ ศิ าสตร์ในด้านตา่ ง ๆ เชน่

ดา้ น ตวั อย่างการนาไปใช้ประโยชน์

การศึกษา รัฐบาลนาข้อมูลเกี่ยวกับประชากรก่อนวัยเรียนและวัยเรียน บุคลากรทางการ
ศึกษา จานวนสถานศึกษา และค่าใช้จ่ายในแต่ละระดับการศึกษา มาวิเคราะห์
เพ่ือกาหนดนโยบายและวางแผนพัฒนาการศึกษาและการกระจายโอกาสทาง
การศกึ ษาใหก้ บั เด็กและเยาวชน

การเกษตร รัฐบาลนาข้อมูลเกี่ยวกับครัวเรือนที่ทาเกษตร พื้นท่ีการเพาะปลุก ผลผลิต ราคา
สินค้า แหล่งน้าชลประทาน มาวิเคราะห์เพื่อให้คาแนะนาในการวางแผนการ
เพาะปลูกกับเกษตรในฤดกู าลถดั ไปได้

การผลิต การวางแผนผลิตสินค้าออกจาหน่ายควรเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ว่าสินค้าน้ันเป็น
ทีต่ อ้ งการของตลาดหรือไม่ มีกาลังผลิตเท่าไหร่ ควรจาหน่ายสินค้าท่ีไหนและทา
อย่างไรผลผลติ จะมอี ย่างตอ่ เนอื่ งและไดส้ นิ คา้ ท่มี ีคุณภาพ

การควบคุม การควบคุมคุณภาพสินค้าท่ีผลิตให้มีมาตรฐานตามท่ีกาหนด โดยกาหนดวิธีการ
คุณภาพสนิ ค้า ตามขน้ั ตอนของกระบวนการทางสถติ ิศาสตร์ กล่าวคอื ในขั้นตอนการเก็บขอ้ มลู

ผบู้ รโิ ภค การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าสามารถนาสถิติศาสตร์มาใช้ โดยเก็บข้อมูลเก่ียวกับ
สินค้าท่ีต้องการ แล้วนาข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์หรือเปรียบเทียบข้อมูลจากร้าน
ค้างต่าง ๆ ที่สารวจเพอ่ื นามาตัดสนิ ใจว่าจะซือ้ สินค้านัน้ หรือไม่

การพยากรณ์ การพยากรณ์เก่ียวกับฝนโดยอาศัยข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งใช้ข้อมูลใน
อดีตและปจั จุบนั ตลอดจนวิเคราะห์ทางสถิติศาสตรเ์ ข้ามาช่วย ทาให้สามารถคาด
เดาสถานการณล์ ่วงหน้าไดว้ ่าฝนจะตกหนกั หรือไม่

ชวี ิตประจาวัน จดบันทึกรายรับรายจ่ายในแต่ละเดือนเพื่อใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้
จ่ายซึ่งจะช่วยให้สามารถปรับวิธีการใช้จ่ายเงินและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อ่ายงมี
ประสทิ ธภิ าพมากยง่ิ ขน้ึ

สถิติศาสตร์มีความสาคัญอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันซ่ึงมีข้อมูลมากกมายอยู่
รอบตัวเรา ผู้วิเคราะห์ข้อมูลจาเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเคร่ืองมือและกระบวนการทาง
สถติ ศิ าสตร์ท่เี หมาะสมกบั สถานการณต์ า่ ง ๆ และสารถแปลความหมายโดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย
หรอื ความเข้าใจคลาดเคลอ่ื นในภายหลงั นอกจากนี้ ผใู้ ชข้ อ้ มลู ยงั ต้องมีความรู้ทางสถิติศาสตร์ที่จาเป็น
เพื่อให้สามารถสังเกตเห็นข้อมูลท่ีเป็นเท็จหรือทาให้เข้าใจผิด และตระหนักถึงข้อมูลที่บิดเบือนไปจาก
ความจริง รวมทัง้ สามารถวิเคราะห์ได้ว่าค่าสถิติ แผนภูมิ กราฟ หรือการนาเสนอข้อมูลต่าง ๆ มีความ
นา่ เช่อื ถอื มากนอ้ ยเพียงใด กอ่ ใหเ้ กิดความเขา้ ใจคลาดเคล่ือนหรอื ไม่

ครคู รรชติ แซโ่ ฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง สถิติศาสตร์ 9

ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับสถิติศาสตร์เบ้ืองต้นเป็นส่ิงจาเป็นอย่างย่ิง ท้ังสาหรับผู้นาเสนอ
ข้อมูล เพอ่ื ใหส้ ามารถนาเสนอภาพรวมท่ีถูกต้อง เป็นประโยชน์ต่อสังคมและสาหรับผู้ใช้ข้อมูล เพ่ือให้
สามารถวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารที่พบตามส่ือต่าง ๆ ทั้งส่ือส่ิงพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ ตลอดจน
รเู้ ทา่ ทนั ส่ือเหล่านั้นว่ามีความน่าเชื่อถือเพียงใด หรือมีจุดมงุ่ หมายแอบแฝงหรือไม่

ครคู รรชิต แซ่โฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เรือ่ ง สถิตศิ าสตร์ 10

แบบบนั ทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้

แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท.่ี ........เวลา................ชั่วโมง/คาบ ภาคเรียนท.ี่ ...........ปีการศึกษา...........
เร่อื ง.........................................................................................................................................................
รหสั วิชา...............................ชอื่ วชิ า...................................... ............................ชั้น..................................

1. จานวนนกั เรยี นทร่ี ่วมกิจกรรมการเรียนรู้ จานวนนกั เรยี นทีข่ าดเรยี น (คน)
จานวนนักเรียนท้งั หมด (คน)

นกั เรยี นทขี่ าดเรียน (เลขที่) หมายเหตุ

2. ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

2.1 ความเหมาะสมของระยะเวลา ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง

2.2 ความเหมาะสมของเนอื้ หา ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรุง

2.3 กิจกรรมการเรยี นรู้ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรงุ

2.4 สอ่ื การเรยี นรู้ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรับปรงุ

............................................................................................................................. ..............

................................................................................................ ...........................................

2.5 พฤติกรรม/การมีส่วนรว่ มของผูเ้ รียน ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรับปรุง

............................................................................................................................ ...............

............................................................................................................................. ..............

2.6 ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรม/ใบกิจกรรม/ใบงาน/แบบฝกึ หัด/การทดสอบกอ่ น – หลงั เรยี น

............................................................................................................................... ............

............................................................................................................................. ..............

3. ปญั หาและอุปสรรค

.......................................................................................................................... ........................

.................................................................................................. ................................................

4. ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข

............................................................................................................................. .....................

................................................................................................................................ ..................

ลงชอ่ื ……….……………………ครูผ้สู อน

(นายครรชติ แซ่โฮ่)

ตาแหนง่ ครู อันดับ คศ.2

ครคู รรชิต แซ่โฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง สถิตศิ าสตร์ 11

แบบสงั เกตพฤติกรรมผ้เู รียนดา้ นทักษะกระบวนการ

รายวชิ า คณิตศาสตร์ 6 รหัส ค 33102 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6
ภาคเรยี นท่ี..................
คาบท่.ี ............... ปีการศกึ ษา...................

วันท…ี่ ……..เดือน………………………..พ.ศ………..........

คาช้ีแจง ให้ใส่คะแนนระดบั คุณภาพลงในช่องทักษะกระบวนการแตล่ ะชอ่ งตามเกณฑ์การใหค้ ะแนน

พฤตกิ รรมผู้เรยี นดา้ นทกั ษะกระบวนการ สรุปผล

ที่ ชื่อ – สกุล รวม การประเมิน

การ การให้ การส่ือสาร การ การคิดริเร่มิ ผ่าน ไม่
แก้ปญั หา เหตุผล เชือ่ มโยง สร้างสรรค์ ผ่าน

การผา่ นเกณฑต์ อ้ งได้ระดับคณุ ภาพโดยรวมตงั้ แต่ 10 คะแนนขึน้ ไป

ลงช่ือ……………………………………………..ผู้ประเมนิ
(……………………………………………...)

วนั ที.่ ...........เดือน.......................พ. ศ................

ครูครรชติ แซ่โฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง สถติ ศิ าสตร์ 12

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านทักษะกระบวนการ

1. การแก้ปญั หา

คะแนน : ระดับคุณภาพ ความสามารถในการแก้ปญั หาท่ีปรากฏใหเ้ ห็น

4 : ดมี าก ใช้ยทุ ธวธิ ดี าเนนิ การแกป้ ญั หาสาเร็จอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ อธิบายถึง
เหตผุ ลในการใช้วิธีการดังกล่าวได้เขา้ ใจชดั เจน

3 : ดี ใชย้ ุทธวธิ ดี าเนินการแก้ปัญหาสาเร็จ แต่น่าจะอธิบายถงึ เหตุผล
ในการใช้วิธีการดงั กล่าวได้ดกี ว่าน้ี

2 : พอใช้ มียทุ ธวิธดี าเนนิ การแกป้ ัญหาสาเร็จเพยี งบางส่วน อธบิ ายถึงเหตผุ ล
ในการใช้วธิ ีการดงั กล่าวได้บางสว่ น

1 : ควรแก้ไข มรี อ่ งรอยการแกป้ ญั หาบางส่วน เริม่ คิดว่าทาไมจึงต้องใชว้ ธิ กี ารนัน้
แล้วหยดุ อธบิ ายต่อไมไ่ ด้ แก้ปญั หาไม่สาเร็จ

0 : ควรปรบั ปรงุ ทาได้ไมถ่ ึงเกณฑ์ข้างตน้ หรือไมม่ รี ่องรอยการดาเนินการแก้ปญั หา

2. การใหเ้ หตผุ ล

คะแนน : ระดับคุณภาพ ความสามารถในการให้เหตุผลทป่ี รากฏใหเ้ หน็

4 : ดมี าก มีการอ้างอิง เสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจอยา่ งมเี หตุผล

3 : ดี มีการอ้างอิงทีถ่ ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ

2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไมส่ มเหตุสมผลในการประกอบการตดั สนิ ใจ

1 : ควรแก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจ

0 : ควรปรับปรงุ ไมม่ ีแนวคิดประกอบการตัดสินใจ

3. การสือ่ สาร การสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการส่ือสาร การส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์
และการนาเสนอทป่ี รากฏให้เหน็

ใช้ภาษาและสัญลักษณท์ างคณิตศาสตรท์ ่ีถกู ต้อง นาเสนอโดยใชก้ ราฟ

4 : ดมี าก แผนภูมิ หรือตารางแสดงข้อมูลประกอบตามลาดบั ข้นั ตอนได้เป็น

ระบบ กระชบั ชัดเจน และมีความละเอียดสมบรู ณ์

ใช้ภาษาและสญั ลกั ษณท์ างคณติ ศาสตร์ นาเสนอโดยใช้กราฟ แผนภมู ิ

3 : ดี หรอื ตารางแสดงขอ้ มลู ประกอบตามลาดับขั้นตอนไดถ้ ูกต้อง

ขาดรายละเอยี ดทส่ี มบูรณ์

2 : พอใช้ ใชภ้ าษาและสัญลักษณท์ างคณติ ศาสตร์ พยายามนาเสนอขอ้ มูลโดยใช้
กราฟ แผนภมู ิ หรอื ตารางแสดงขอ้ มูลประกอบชดั เจนบางสว่ น

1 : ควรแกไ้ ข ใชภ้ าษาและสัญลกั ษณ์ทางคณติ ศาสตร์อยา่ งง่าย ๆ ไมไ่ ด้ใชก้ ราฟ
แผนภูมิหรอื ตารางเลย และการนาเสนอข้อมูลไมช่ ัดเจน

0 : ควรปรบั ปรงุ ไมน่ าเสนอขอ้ มลู

ครคู รรชติ แซโ่ ฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เรือ่ ง สถติ ิศาสตร์ 13

4. การเชอ่ื มโยงความรู้ทางคณติ ศาสตร์

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการเชือ่ มโยงที่ปรากฏใหเ้ หน็

นาความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ในการเชอื่ มโยงกับ

4 : ดมี าก สาระคณิตศาสตร์ / สาระอืน่ / ในชวี ติ ประจาวนั เพ่อื ช่วย

ในการแกป้ ัญหาหรือประยกุ ต์ใช้ได้อย่างสอดคล้องและเหมาะสม

นาความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงกบั

3 : ดี สาระคณติ ศาสตร์ / สาระอืน่ / ในชวี ติ ประจาวนั เพ่ือชว่ ยในการ

แก้ปัญหา หรือประยกุ ตใ์ ช้ได้บางส่วน

2 : พอใช้ นาความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ไปเชื่อมโยงกบั สาระ
คณิตศาสตร์ ไดบ้ างส่วน

1 : ควรแกไ้ ข นาความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงยงั ไม่
เหมาะสม

0 : ควรปรบั ปรงุ ไม่มีการเช่อื มโยงกับสาระอ่นื ใด

5. ความคิดริเริม่ สรา้ งสรรค์

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ ความคดิ รเิ ริมสร้างสรรคท์ ่ปี รากฏให้เห็น

4 : ดีมาก มแี นวคดิ / วิธีการแปลกใหม่ทีส่ ามารถนาไปปฏบิ ัตไิ ด้อยา่ งถูกต้อง
สมบูรณ์

3 : ดี มีแนวคิด / วธิ ีการแปลกใหม่ทสี่ ามารถนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้ถกู ต้องแตน่ าไป
ปฏบิ ัตแิ ล้วไมถ่ ูกตอ้ งสมบูรณ์

2 : พอใช้ มีแนวคดิ / วิธกี ารไมแ่ ปลกใหมแ่ ตน่ าไปปฏบิ ัตแิ ลว้ ถูกต้องสมบรู ณ์

1 : ควรแกไ้ ข มแี นวคิด / วธิ กี ารไม่แปลกใหม่และนาไปปฏบิ ตั ิแล้วไม่ถูกต้องสมบูรณ์

0 : ควรปรับปรงุ ไม่มผี ลงาน

ครูครรชิต แซโ่ ฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เรอื่ ง สถติ ศิ าสตร์ 14

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมผู้เรียนดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

รายวิชา คณิตศาสตร์ 6 รหสั ค 33102 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 6
ภาคเรยี นที่..................
คาบท่.ี ............... ปกี ารศึกษา...................

วนั ท…ี่ ……..เดอื น………………………..พ.ศ………..........

คาชี้แจง ใหใ้ ส่คะแนนระดับคุณภาพลงในช่องคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์แตล่ ะช่องตามเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

พฤติกรรมผู้เรียนดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ สรุปผล

ที่ ชื่อ – สกุล การทางานเป็น ระเบยี บ ความ ความเชือ่ ม่นั รวม การประเมนิ
ระบบรอบคอบ วินัย รบั ผดิ ชอบ ในตนเอง
ความ ผ่าน ไม่
ซอ่ื สตั ย์ ผา่ น

การผา่ นเกณฑต์ อ้ งได้ระดบั คุณภาพโดยรวมตง้ั แต่ 10 คะแนนขึน้ ไป

ลงชือ่ ……………………………………………..ผปู้ ระเมนิ
(……………………………………………...)

วนั ท.่ี ...........เดอื น.......................พ. ศ................

ครคู รรชิต แซ่โฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่ือง สถิติศาสตร์ 15

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

1. การทางานเป็นระบบรอบคอบ

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คณุ ลักษณะทปี่ รากฏให้เหน็

- มกี ารวางแผนการดาเนนิ งานเปน็ ระบบ

3 : ดมี าก - การทางานมีครบทุกขั้นตอน ตัดขน้ั ตอนทไ่ี ม่สาคญั ออก

- จดั เรยี งลาดบั ความสาคัญก่อน – หลงั ถูกต้องครบถว้ น

- มกี ารวางแผนการดาเนนิ งาน

2 : ดี - การทางานไม่ครบทกุ ข้นั ตอน และผิดพลาดบ้าง

- จดั เรียงลาดับความสาคญั ก่อน – หลงั ไดเ้ ป็นส่วนใหญ่

- ไมม่ ีการวางแผนการดาเนินงาน

1 : พอใช้ - การทางานไมม่ ีข้ันตอน มีความผิดพลาดต้องแกไ้ ข

- ไม่จัดเรยี งลาดับความสาคัญ

2. ระเบยี บวินยั

คะแนน : ระดับคณุ ภาพ คุณลกั ษณะที่ปรากฏให้เหน็

3 : ดีมาก - สมุดงาน ช้ินงาน สะอาดเรยี บรอ้ ย
- ปฏิบัติตนอยูใ่ นข้อตกลงที่กาหนดให้รว่ มกนั ทุกครง้ั

2 : ดี - สมดุ งาน ชิ้นงาน ส่วนใหญ่สะอาดเรียบร้อย
- ปฏบิ ัตติ นอยู่ในข้อตกลงที่กาหนดให้รว่ มกนั เป็นส่วนใหญ่

- สมุดงาน ช้ินงาน ไมค่ ่อยเรียบรอ้ ย

1 : พอใช้ - ปฏบิ ตั ติ นอยใู่ นข้อตกลงทีก่ าหนดให้รว่ มกนั เปน็ บางคร้ัง ต้องอาศยั

การแนะนา

3. ความรับผิดชอบ

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คณุ ลกั ษณะท่ปี รากฏใหเ้ หน็

- สง่ งานก่อนหรือตรงกาหนดเวลานดั หมาย

3 : ดีมาก - รับผิดชอบในงานท่ีได้รบั มอบหมายและปฏบิ ัติตนเองจนเปน็ นสิ ัย

เป็นระบบแก่ผู้อื่น และแนะนาชักชวนให้ผู้อนื่ ปฏิบตั ิ

2 : ดี - ส่งงานช้ากว่ากาหนด แตไ่ ด้มีการตดิ ต่อชแี้ จงผูส้ อน มีเหตุผลที่รบั ฟงั ได้
- รบั ผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเปน็ นิสยั

1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากว่ากาหนด
- ปฏบิ ตั ิงานโดยตอ้ งอาศยั การชแี้ นะ แนะนา ตักเตือนหรือให้กาลงั ใจ

ครูครรชติ แซ่โฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ ง สถติ ิศาสตร์ 16

4. ความเชอ่ื ม่ันในตนเอง

คะแนน : ระดับคุณภาพ คณุ ลักษณะท่ีปรากฏใหเ้ หน็

3 : ดีมาก มีแนวคดิ การตัดสนิ ใจในการทางานด้วยตนเองทกุ คร้ัง ใหค้ าแนะนา
ผ้อู ืน่ ได้

2 : ดี มีแนวคดิ การตดั สินใจในการทางานด้วยตนเองเป็นบางครัง้ แต่ต้องถาม
ปัญหาบางคร้งั

1 : พอใช้ ไม่มแี นวคดิ ของตนเอง ไมก่ ล้าตดั สินใจด้วนตนเอง

5. ความซื่อสตั ย์

คะแนน : ระดับคณุ ภาพ คณุ ลักษณะทีป่ รากฏใหเ้ หน็

3 : ดมี าก มแี นวคดิ ในการทางานดว้ ยตนเองทุกคร้งั ไมน่ าผลงานคนอื่นมา
ลอกเลียนแบบ ไมน่ าผลงานผู้อ่นื มาเป็นผลงานของตนเอง

2 : ดี มแี นวคิดในการทางานด้วยตนเองเปน็ บางคร้ัง ลอกเลียนแบบงานจาก
คนอ่ืนบางครงั้ ไม่นาผลงานผู้อื่นมาเปน็ ผลงานของตนเอง

1 : พอใช้ ไมม่ ีแนวคิดของตนเอง ทางานทุกครัง้ ต้องลอกเลียนแบบจากงานเพื่อน

ครคู รรชิต แซ่โฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

รายวชิ า คณิตศาสตร์ 6
รหัสวิชา ค33102

แผนการจดั การเรียนรู้

คณติ ศาสตร์ ม.6

ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ
เรื่อง สถติ ิศาสตร์และขอ้ มูล ด้วยรูปแบบ SSCS

แผนการจัดการเรียนรู้ที่

2

เร่อื ง คาสาคัญในสถิติศาสตร์

นายครรชติ แซโ่ ฮ่
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ

โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา
สานักงานเขตพนื้ ที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 15
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน

กระทรวงศึกษาธกิ าร

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่อง คาสาคัญในสถิติศาสตร์ 1

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง คาสาคญั ในสถติ ศิ าสตร์

รายวิชา คณิตศาสตร์ 6 รหสั วชิ า ค33102 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 เรอื่ ง สถิติศาสตรแ์ ละข้อมูล เวลาทใ่ี ช้ในการจัดการเรยี นรู้ 2 คาบ

 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด
สาระท่ี 3 สถติ แิ ละความน่าจะเปน็
มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใชค้ วามรทู้ างสถติ ใิ นการแก้ปัญหา
ตวั ชว้ี ดั เขา้ ใจและใชค้ วามรู้ทางสถติ ใิ นการนา เสนอข้อมูล และแปล
ความหมายของคา่ สถิติเพ่อื ประกอบการตัดสินใจ

 จุดเน้นการพฒั นาผู้เรียน
 แสวงหาความรูเ้ พอ่ื การแก้ปญั หา
 ใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือการเรยี นรู้
 ทักษะการคิดขั้นสงู
 มที ักษะชวี ติ
 ทกั ษะการส่ือสารอยา่ งสร้างสรรค์ตามช่วงวยั

 สาระสาคัญ (ความเขา้ ใจท่คี งทน)
ประชากร (Population) หมายถึงกลุ่มของหน่วยท้ังหมดในเรื่องที่สนใจศึกษา หน่วยในท่ีน้ี

อาจเปน็ คนสตั ว์ หรอื สิ่งของ
ตัวอย่าง (Sample) หมายถึงกลุ่มย่อยของประชากรที่ถูกเลือกมาเป็นตัวแทนของประชากร

โดยทั่วไปมวี ัตถปุ ระสงค์เพ่ือใชต้ วั อย่างในการสรปุ ผลเกี่ยวกบั ลกั ษณะของประชากรที่สนใจ
ตวั แปร (Variable) หมายถงึ ลกั ษณะบางประการของประชากรหรอื ตัวอย่างท่ีสนใจศกึ ษา
ข้อมูล (Data) หมายถึงข้อความจริงเกี่ยวกับเร่ืองใดเร่ืองหนึ่งที่สามารถใช้ในการสรุปผลใน

เร่ืองที่สนใจศกึ ษา อาจเป็นได้ทง้ั ตัวเลขหรอื ไม่ใชต่ ัวเลข หรอื อาจหมายถงึ คา่ ของตวั แปรทสี่ นใจศึกษา
พารามิเตอร์ (Parameter) หมายถึงค่าวัดท่ีแสดงลักษณะของประชากร ซึ่งเป็นค่าคงตัวท่ี

คานวณหรอื ประมวลจากขอ้ มูลทัง้ หมดของประชากร
ค่าสถิติ (Statistic) หมายถึงค่าคงตัวท่ีพิจารณาจากข้อมูลของตัวอย่าง โดยมีวัตถุประสงค์

เพื่ออธิบายลักษณะของตัวอย่างนั้นหรือเพ่ือประมาณค่าของพารามิเตอร์แล้วนาไปใช้ในการอธิบาย
ลกั ษณะของประชากร

 สาระการเรียนรู้ (มาตรฐานการปฏิบัตไิ ด้)
ด้านความรู้ (K) ผเู้ รียนสามารถ
1) ระบุประชากร ตัวอยา่ ง ตัวแปร ขอ้ มูล พารามเิ ตอร์ และค่าสถิตจิ ากสถานการณ์ที่
กาหนดได้

ครคู รรชติ แซโ่ ฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง คาสาคัญในสถติ ิศาสตร์ 2

ด้านทักษะกระบวนการ (P) ผเู้ รยี นมคี วามสามารถใน
1) การแกป้ ัญหา
2) การใหเ้ หตผุ ล
3) การส่ือสาร การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ
4) การเชือ่ มโยงความรู้ทางคณติ ศาสตร์
5) ความคดิ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์

ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ผู้เรียนมี
1) การทางานเป็นระบบ รอบคอบ
2) ระเบียบวนิ ัย
3) ความรับผดิ ชอบ
4) ความเชือ่ มั่นในตนเอง
5) ความซ่อื สัตย์

 สมรรถนะสาคัญ
 ความสามารถในการส่ือสาร
 ความสามารถในการคดิ
 ความสามารถในการแก้ปัญหา
 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

 ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้
สือ่ การเรียนรู้
1) แบบฝึกทักษะคณติ ศาสตร์ เลม่ ท่ี 1 เร่อื ง สถติ ิศาสตรแ์ ละข้อมูล
แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งสมุดของโรงเรียน
2) การสบื ค้นข้อมูลจากอนิ เตอรเ์ นต็ ไดแ้ ก่
- เวบ็ ไซต์ http://www.google.co.th
- คลงั วีดีโอส่ือคณติ ศาสตร์ http://www.youtube.com
- คลังเอกสารสอื่ คณติ ศาสตร์ http://www.scribd.com

 หลกั ฐานการเรียนรู้
ชนิ้ งาน
1) -
ภาระงาน
1) แบบฝึกทกั ษะท่ี 2 เร่อื ง คาสาคัญในสถิติศาสตร์

ครูครรชิต แซโ่ ฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่อง คาสาคัญในสถติ ิศาสตร์ 3

 การวัดผลและประเมินผลการจดั การเรยี นรู้

ด้าน รายการประเมนิ วิธกี าร เครื่องมอื เกณฑก์ าร
1. ความรู้ (K) ประเมนิ
ผูเ้ รยี นสามารถ 1. ประเมนิ จากการทา
2. ทักษะ 1) ระบปุ ระชากร ตวั อย่าง แบบฝึกทักษะ - แบบฝึกทกั ษะ ทาเอกสาร
กระบวนการ
(P) ตวั แปร ขอ้ มูล พารา 2. ตรวจเอกสารแบบฝึก แบบฝกึ ทักษะ/
มเิ ตอร์ และคา่ สถติ ิจาก ทักษะ
สถานการณ์ทก่ี าหนดได้ ไดถ้ ูกต้องอยา่ ง
ดูจากแบบสังเกตพฤติกรรม 1. สงั เกตจากการตอบ
ผู้เรยี นดา้ นทักษะ คาถามในห้องเรียน น้อย 70% ของ
กระบวนการ
2. สงั เกตพฤติกรรม คะแนนทั้งหมด
ผู้เรียน
แบบสงั เกต การผ่านเกณฑ์

พฤติกรรม ต้องได้ระดบั

ผู้เรยี น คุณภาพโดย

ดา้ นทักษะ ภาพรวมตั้งแต่ 10

กระบวนการ คะแนนขน้ึ ไป

3. คุณลกั ษณะ ดูจากแบบสังเกตพฤติกรรม 1. สังเกตจากการตอบ แบบสงั เกต การผ่านเกณฑ์
อันพงึ ประสงค์ ผู้เรียนดา้ นคณุ ลักษณะ คาถามในห้องเรียน
(A) อนั พึงประสงค์ พฤติกรรม ต้องได้ระดบั
2. สังเกตพฤติกรรม
ผู้เรยี น ผู้เรยี น คุณภาพโดย

ด้านคณุ ลกั ษณะ ภาพรวมต้ังแต่ 10

อนั พงึ ประสงค์ คะแนนขึน้ ไป

 การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

กิจกรรมการเรยี นรู้ตามรูปแบบ SSCS

ขั้นเตรียมความพรอ้ ม
1. ครใู ห้ผู้เรียนน่ังสมาธิ เพือ่ รวบรวมสติ สมาธิและเตรียมความพรอ้ มในการเรียน
2. ผเู้ รยี นและครรู ว่ มกันสนทนาเก่ยี วกับหลักการดาเนินชีวิตประจาวัน โดยนาค่านิยมหลักของ
คนไทย 12 ประการมาแทรกเป็นกรณีตัวอย่างตามสถานการณ์ ได้แก่ 1) รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทย
2) มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ เป็นตน้
3. ครูช้ีแจงวิธีการเรียนรู้โดยการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ตาม
รปู แบบ SSCS

ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน
1. ครแู บ่งกลุ่มผู้เรียนออกเป็นกลุ่มกลุ่มละ 4 – 5 คน โดยแต่ละกลุ่มมีการคละความสามารถ
ของผู้เรียน เกง่ ปานกลาง และอ่อน ตามผลการเรียนทีพ่ จิ ารณาจากการสอบในภาคเรยี นที่ผ่านมาเป็น
รายบุคคล เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นได้ชว่ ยเหลือกันและแลกเปลยี่ นประสบการณ์ภายในกลุ่ม และให้ผู้เรียนแต่ละ
กลมุ่ ชว่ ยกันเลอื กประธาน 1 คน เลขานุการ 1 คน และผู้รว่ มงาน 2 – 3 คน
2. ครูแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ของกจิ กรรมการเรยี นร้ตู ามรปู แบบ SSCS ใหผ้ ูเ้ รยี นทราบ

ครคู รรชติ แซ่โฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง คาสาคัญในสถติ ิศาสตร์ 4

3. ผู้เรียนและครูร่วมกันสนทนา ทบทวนเกี่ยวกับความรู้เดิม เรื่องความหมายและประโยชน์
ของสถิติศาสตร์ พร้อมท้ังสรุปการนาเสนอข้อมูลท่ีพบเห็นในชีวิตประจาวันว่ามีความน่าเชื่อถือมาก
น้อยเพียงใดก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคล่ือนหรือไม่ อย่างไร โดยครูใช้การถาม-ตอบ แล้วช่วยกัน
ยกตัวอยา่ งและตรวจสอบความเข้าใจ

ขน้ั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ ที่ 1 Search: S (ขนั้ สบื เสาะค้นหาความรู้)
1.1 ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทากิจกรรมคาสาคัญในสถิติศาสตร์ โดยให้ผู้เรียนสืบค้น
หรือค้นคว้าหาคาศัพท์ คาแรกคือ “ประชากร” จากน้ันผู้เรียนและครูร่วมกันสรุปความหมายของคา
สาคัญในสถิตศิ าสตร์ โดยครคู อยแนะนาจนกวา่ ผู้เรยี นเขา้ ใจ ดงั น้ี
“ประชากร (Population) หมายถึงกลุ่มของหน่วยท้ังหมดในเรื่องท่ีสนใจศึกษา หน่วยในท่ีนี้
อาจเป็นคนสัตว์ หรือสิง่ ของ”
1.2 ครตู ้งั คาถามใหผ้ ู้เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับประชากร ดงั น้ี
“การสารวจความคิดเห็นของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทย ปีการศึกษา 2563
เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนทางไกลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) ผเู้ รียนคิดวา่ ประชาการในท่นี ค้ี ืออะไร” (ตอบ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทย
ปกี ารศกึ ษา 2563)
1.3 ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทากิจกรรมคาสาคัญในสถิติศาสตร์ โดยให้ผู้เรียนสืบค้น
หรือค้นคว้าหาคาศัพท์ คาที่สองคือ “ตัวอย่าง” จากนั้นผู้เรียนและครูร่วมกันสรุปความหมายของคา
สาคญั ในสถิติศาสตร์ โดยครูคอยแนะนาจนกวา่ ผู้เรียนเข้าใจ ดงั น้ี
“ตวั อย่าง (Sample) หมายถึงกลุ่มย่อยของประชากรท่ีถูกเลือกมาเป็นตัวแทนของประชากร
โดยทว่ั ไปมวี ัตถปุ ระสงคเ์ พ่ือใช้ตวั อย่างในการสรปุ ผลเกีย่ วกบั ลกั ษณะของประชากรท่สี นใจ”
1.4 ครตู ง้ั คาถามให้ผู้เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับตวั อยา่ ง ดงั น้ี
“การสารวจความคิดเห็นของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทย ปีการศึกษา 2563
เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนทางไกลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) ผู้เรียนคิดว่า ตัวอย่างในที่น้ีคืออะไร” (คาตอบมีหลากหลาย เช่น นักเรียนระดับ
มัธยมศึกษาในประเทศไทย ปีการศึกษา 2563 ที่สุ่มตัวอย่างมาจานวน 50,000 คน หรือ นักเรียน
ระดับมัธยมศึกษาในภาคใต้ของประเทศไทย ปกี ารศกึ ษา 2563)
1.5 ครูอธิบายเพมิ่ เติมเกี่ยวกบั ความหมายของประชากรและตวั อย่าง ดงั น้ี
จากความหมายของประชากรและตัวอย่าง สามารถเขียนแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง
ประชากรและตัวอย่าง ได้ดังรปู

ครูครรชิต แซ่โฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง คาสาคัญในสถติ ิศาสตร์ 5

1.6 ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทากิจกรรมคาสาคัญในสถิติศาสตร์ โดยให้ผู้เรียนสืบค้น
หรือค้นคว้าหาคาศัพท์ คาที่สามคือ “ตัวแปร” จากน้ันผู้เรียนและครูร่วมกันสรุปความหมายของคา
สาคัญในสถิตศิ าสตร์ โดยครคู อยแนะนาจนกวา่ ผู้เรยี นเข้าใจ ดงั น้ี

“ตัวแปร (Variable) หมายถึงลกั ษณะบางประการของประชากรหรือตวั อย่างที่สนใจศึกษา”
1.7 ครตู ้งั คาถามให้ผู้เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับตัวแปร ดงั น้ี
“ผ้เู รียนคิดว่า ตัวแปรท่ีแสดงถึงลักษณะบางประการของข้อมูลท่ีเราสนใจมีอะไร” (คาตอบมี
หลากหลาย เชน่ เพศ อายุ ความสงู นา้ หนัก สถานภาพ เป็นตน้ )
1.8 ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทากิจกรรมคาสาคัญในสถิติศาสตร์ โดยให้ผู้เรียนสืบค้น
หรือค้นคว้าหาคาศัพท์ คาที่สี่คือ “ข้อมูล” จากน้ันผู้เรียนและครูร่วมกันสรุปความหมายของคาสาคัญ
ในสถิตศิ าสตร์ โดยครูคอยแนะนาจนกว่าผู้เรียนเขา้ ใจ ดงั นี้
“ข้อมูล (Data) หมายถึงข้อความจริงเก่ียวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งท่ีสามารถใช้ในการสรุปผลใน
เรอ่ื งท่สี นใจศกึ ษา อาจเป็นได้ทั้งตวั เลขหรอื ไม่ใชต่ ัวเลข หรอื อาจหมายถงึ ค่าของตัวแปรทสี่ นใจศึกษา”
1.9 ครตู ัง้ คาถามใหผ้ ู้เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับคาสาคัญในสถิติศาสตร์ทั้งส่ีคาท่ี
ผ่านมา ดงั นี้
ตัวอยา่ งท่ี 1 จากการเลือกตัวอย่างนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนแห่งหนึ่ง

จานวน 50 คน เพ่ือพิจารณาดัชนีมวลกาย (Body Mass Index : BMI) ซึ่งใช้เป็น

มาตรฐานในการประเมนิ สภาวะของรา่ งกายวา่ อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่ โดยได้
สารวจขอ้ มูลต่าง ๆ ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง ปรากฏผลดังตาราง

ท่ี เลขประจาตวั นกั เรียน เพศ อายุ (ปี) นา้ หนกั ส่วนสูง
(กิโลกรมั ) (เซนตเิ มตร)

1 45164 ชาย 17 70 171

2 48184 หญิง 16 45 156

3 49217 ชาย 18 55 168

50 470135 หญงิ 16 50 158

คาถาม ผู้เรยี นคดิ ว่า ประชากร ตัวอย่าง ตวั แปร และขอ้ มลู การสารวจน้คี อื อะไร

คาตอบ ประชากร คือ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายท้ังหมดของโรงเรียนแห่งน้ี

ตัวอยา่ ง คอื นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนแห่งนี้จานวน 50 คน

ตวั แปร คือ เลขประจาตัวนักเรยี น เพศ อายุ น้าหนัก และส่วนสูง และข้อมูล คือ ค่า

ของตัวแปรแต่ละตัวท่เี ก็บรวบรวมได้ ดังทป่ี รากฏในตาราง

1.10 ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทากิจกรรมคาสาคัญในสถิติศาสตร์ โดยให้ผู้เรียนสืบค้น

หรอื ค้นควา้ หาคาศัพท์ คาทหี่ า้ คอื “พารามเิ ตอร์” จากนนั้ ผู้เรียนและครูร่วมกันสรุปความหมายของคา

สาคัญในสถติ ศิ าสตร์ โดยครูคอยแนะนาจนกวา่ ผู้เรียนเขา้ ใจ ดงั นี้

“พารามิเตอร์ (Parameter) หมายถึงค่าวัดท่ีแสดงลักษณะของประชากร ซึ่งเป็นค่าคงตัวท่ี

คานวณหรอื ประมวลจากขอ้ มูลทง้ั หมดของประชากร”

1.11 ครตู ั้งคาถามให้ผู้เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพารามิเตอร์ ดังน้ี

ครคู รรชิต แซ่โฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง คาสาคัญในสถติ ิศาสตร์ 6

“การสารวจความคิดเห็นของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทย ปีการศึกษา 2563
เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนทางไกลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) เช่น ถ้าในแบบสารวจมีการสอบถามระดับความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอน
ทางไกลของนักเรียน (มากท่ีสุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยท่ีสุด) ผู้เรียนคิดว่า พารามิเตอร์ในที่น้ีคือ
อะไร” (ตอบ ฐานนิยมของระดับความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนทางไกลของนักเรียน
นกั เรยี นระดับมธั ยมศึกษาในประเทศไทย ปกี ารศึกษา 2563)

1.12 ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทากิจกรรมคาสาคัญในสถิติศาสตร์ โดยให้ผู้เรียนสืบค้น
หรือค้นคว้าหาคาศัพท์ คาสุดท้ายคือ “ค่าสถิติ” จากนั้นผู้เรียนและครูร่วมกันสรุปความหมายของคา
สาคญั ในสถติ ศิ าสตร์ โดยครูคอยแนะนาจนกวา่ ผู้เรียนเข้าใจ ดังนี้

“ค่าสถิติ (Statistic) หมายถึงค่าคงตัวท่ีพิจารณาจากข้อมูลของตัวอย่าง โดยมีวัตถุประสงค์
เพ่ืออธิบายลักษณะของตัวอย่างนั้นหรือเพ่ือประมาณค่าของพารามิเตอร์แล้วนาไปใช้ในการอธิบาย
ลกั ษณะของประชากร”

1.13 ครตู ้งั คาถามให้ผู้เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกับคา่ สถิติ ดงั น้ี
“การสารวจความคิดเห็นของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทย ปีการศึกษา 2563
เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนทางไกลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) และเลอื กตวั อยา่ งของนกั เรียนระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทย ปีการศึกษา 2563 ท่ีสุ่ม
ตัวอย่างมาจานวน 50,000 คน เช่น ถ้าในแบบสารวจมีการสอบถามระดับความพึงพอใจต่อการ
จัดการเรียนการสอนทางไกลของนักเรียน (มากท่ีสุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด) ผู้เรียนคิดว่า
ค่าสถิติในที่นี้คืออะไร” (ตอบ ฐานนิยมของระดับความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนทางไกล
ของนักเรียนนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทย ปีการศึกษา 2563 สุ่มตัวอย่างมาจานวน
50,000 คน)
1.14 ครอู ธบิ ายเพ่มิ เตมิ เกีย่ วกบั คา่ สถิตใิ ห้กบั ผู้เรยี นดังนี้
จากความหมายของ คา่ สถิติ (Statistic) ซง่ึ หมายถึงคา่ คงตวั ที่พจิ ารณาจากข้อมลู ของตัวอย่าง
โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ืออธิบายลักษณะของตัวอย่างนั้นหรือเพื่อประมาณค่าของพารามิเตอร์แล้ว
นาไปใช้ในการอธิบายลักษณะของประชากร โดยคาที่ขีดเส้นใต้ หมายถึง การประมาณค่ามี
ความหมายตรงกับคาว่า estimation ในภาษาอังกฤษ ที่หมายถึงการกะประมาณค่าเท่าท่ีควรจะเป็น
หรอื การกาหนดคา่ ไวอ้ ยา่ งคร่าว ๆ เช่น ในการประมาณค่าของคา่ เฉลี่ยเลขคณิตของประชากร อาจทา
ได้โดยการสุ่มตัวอย่าง แล้วหาค่าเฉล่ียเลขคณิตของตัวอย่าง จากน้ันนาไปใช้ประมาณค่าของค่าเฉลี่ย
เลขคณติ ของประชากร
การประมาณค่าในที่น้ีมีความหมายแตกต่างจากคาว่า approximation ท่ีหมายถึงการกะ
หรอื คะเนให้ใกล้เคียงคา่ ท่แี ทจ้ ริง โดยให้มีความละเอียดเพยี งพอทีจ่ ะนาไปใช้ เช่น ถา้ เราคานวณขนาด
ตัวอย่างเพื่อใช้ในงานวิจัยโดยใช้สูตรทางคณิตศาสตร์ได้เป็น 120.8 แล้วสามารถประมาณได้ว่าขนาด
ตัวอยา่ งทีค่ วรสมุ่ เพื่อใชใ้ นงานวจิ ัยคอื 121 ตวั อยา่ ง

ครคู รรชติ แซ่โฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง คาสาคัญในสถติ ิศาสตร์ 7

1.15 ให้ผเู้ รียนพิจารณาตัวอย่างของการระบุประชากร ตัวอย่าง ตัวแปร ข้อมูล พารามิเตอร์
และคา่ สถิตจิ ากสถานการณท์ กี่ าหนด แล้วตงั้ คาถามกระต้นุ ความคิดของผูเ้ รียน ดงั น้ี
ตวั อย่างท่ี 2 จากการสารวจเกี่ยวกับอาชีพในฝันของนกั เรียนในยุคดิจิทัลของจังหวัดแห่งหนึ่ง โดย

สารวจจากนักเรียนที่มีอายุ 15 – 18 ปี ท่ีเลือกมากจากทุกโรงเรียนในจังหวัด รวม
ท้ังสิ้น 300 คน พบว่า อาชีพในฝันของนักเรียนในยุคดิจิทัล 5 อันดับแรก ได้แก่
อันดับที่ 1 อาชีพธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 35 อันดับท่ี 2 อาชีพครู ร้อยละ 22 อันดับท่ี
3 อาชีพรับราชการ ร้อยละ 17 อันดับท่ี 4 อาชีพแพทย์ ร้อยละ 12 และอันดับที่ 5
อาชพี วศิ วกร ร้อยละ 7
คาถาม ผู้เรียนคดิ ว่า ประชากร ตัวอย่าง ตวั แปร ข้อมลู และคา่ สถติ ขิ องการสารวจนค้ี อื อะไร
ตอบ 1) ประชากร คือ นักเรยี นทุกคนในจงั หวดั นี้ 2) ตัวอย่าง คือ นักเรียนที่มีอายุ 15–18
ปี ทเี่ ลอื กมากจากทกุ โรงเรียนในจังหวดั รวมทัง้ ส้ิน 300 คน 3) ตัวแปร คือ อาชีพใน
ฝันของนักเรียนในยุคดิจิทัล 4) ข้อมูล คือ อาชีพในฝันของนักเรียนในยุคดิจิทัลของ
นักเรียนแต่ละคนที่เก็บรวบรวมมาได้ 5) ค่าสถิติ คือ ร้อยละของนักเรียนท่ีเลือก
อาชีพในฝันในยุคดจิ ิทลั 5 อันดับแรกซ่งึ คานวณจากตวั อยา่ งจานวน 300 คน
ตวั อย่างที่ 3 จากการสารวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน พ.ศ. 2563 สานักงานสถิติ
แห่งชาติได้เก็บรวบรวมข้อมูลในช่วง 6 เดือนแรกของ พ.ศ. 2563 จากครัวเรือน
ตัวอย่างในทุกจังหวัดทั่วประเทศท้ังในเขตเทศบาลและนอกเขตเทศบาลประมาณ
26,00 ครัวเรือน เพื่อศึกษารายได้เฉล่ียต่อเดือนของครัวเรือนท่ัวประเทศ โดยจาก
ข้อมูลตัวอย่างได้ข้อสรุปว่าค่าประมาณของรายได้เฉล่ียต่อเดือนของครัวเรือนท่ัว
ประเทศคือ 26,973 บาท
คาถาม ผู้เรียนคิดว่า ประชากร ตัวอย่าง พารามิเตอร์ ตัวแปร ข้อมูล และค่าสถิติของการ
สารวจน้คี อื อะไร
ตอบ 1) ประชากร คือ ครัวเรือนทั้งหมดในประเทศไทยในช่วง 6 เดือนแรกของ พ.ศ.
2563 2) ตัวอย่าง คือ ครัวเรือนตัวอย่างในทุกจังหวัดทั่วประเทศท้ังในเขตเทศบาล
และนอกเขตเทศบาลประมาณ 26,00 ครัวเรอื น 3) ตวั แปร คือ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน
ของครัวเรือน 4) ข้อมูล คือ รายได้เฉล่ียต่อเดือนของแต่ละครัวเรือนตัวอย่างที่เก็บ
รวบรวมมาได้ 5) พารามิเตอร์ คือ รายได้เฉล่ียต่อเดือนของครัวเรือนท่ัวประเทศ 6)
ค่าสถิติ คือ ค่าประมาณของรายได้เฉล่ียต่อเดือนของครัวเรือนทั่วประเทศคือ
26,973 บาท
ขัน้ ที่ 2 Solve: S (ขั้นการแกป้ ัญหา)
2.1 ครูให้ผู้เรียนวางแผนและเลือกวิธีการท่ีใช้ในการแก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยครูจะไม่จากัด
แนวคดิ และวิธกี ารทผ่ี ู้เรยี นเลือกใช้ในการแกป้ ญั หา
2.2 ครใู ห้ผู้เรียนดาเนินการตามแผนท่ีผู้เรียนได้วางไว้ จนได้คาตอบในท่ีสุด โดยผู้เรียนแต่ละ
กลุ่มร่วมกันทาแบบฝึกทักษะท่ี 2 เร่ืองคาสาคัญในสถิติศาสตร์ แล้วช่วยกันเฉลยและตรวจสอบความ
ถกู ตอ้ ง

ครคู รรชิต แซ่โฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง คาสาคัญในสถิติศาสตร์ 8

ขั้นท่ี 3 Create: C (ขนั้ สร้างความรู้)
3.1 ครใู หผ้ ู้เรียนเรยี บเรียงขนั้ ตอนการแกป้ ัญหาและบันทกึ ความรู้ของผู้เรียนได้จากการศึกษา
เร่อื งคาสาคญั ในสถิติศาสตร์ และจากการทาแบบฝึกทกั ษะที่ 2 เรอ่ื งคาสาคัญในสถิติศาสตร์ ลงในสมุด
โดยใชภ้ าษาท่ีง่ายต่อการเข้าใจ สละสลวยในการเขียนแสดงแนวคดิ และอธบิ ายคาตอบของผู้เรยี น
ขั้นท่ี 4 Share: S (ขนั้ อภปิ รายแลกเปลยี่ นความคิดเห็น)
4.1 ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มแลกเปลี่ยนความรู้ นาเสนอแนวคิดและวิธีการในการแก้ปัญหา
ของตนจากการทาแบบฝกึ ทักษะ
4.2 ครูสุ่มผู้เรียนออกมานาเสนอการสรุปความรู้ แนวคิดและวิธีการในการแก้ปัญหาจากการ
ทากิจกรรม และถ้ามีผู้เรียนคนใดมีแนวคิดหรือวิธีการในการหาคาตอบที่แตกต่างจากเพื่อนก็สามารถ
นาวธิ ีการหรอื แนวคิดนนั้ มานาเสนอไดอ้ ย่างเตม็ ท่ี
4.3 ผู้เรียนและครูร่วมกันอภิปรายถึงวิธีการต่าง ๆ และผลท่ีได้ท่ีเพื่อนผู้เรียนแต่ละคนได้
ออกมานาเสนอ โดยขณะที่ร่วมกันอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็นน้ัน ครูจะมีการสังเกตพฤติกรรม
การสื่อสารทงั้ ในด้านการฟงั และการพดู ของผู้เรียนไปพร้อม ๆ กนั
ขน้ั สรปุ บทเรียน
ผู้เรียนและครูร่วมกันสรุปความหมายของคาสาคัญในสถิติศาสตร์ ได้แก่ ประชากร ตัวอย่าง
ตวั แปร ข้อมูล พารามิเตอร์ และคา่ สถติ ิ ดังน้ี
ประชากร (Population) หมายถึงกลุ่มของหน่วยทั้งหมดในเรื่องท่ีสนใจศึกษา หน่วยในท่ีน้ี
อาจเปน็ คนสตั ว์ หรอื สงิ่ ของ
ตัวอย่าง (Sample) หมายถึงกลุ่มย่อยของประชากรท่ีถูกเลือกมาเป็นตัวแทนของประชากร
โดยทวั่ ไปมวี ัตถุประสงคเ์ พ่ือใชต้ ัวอย่างในการสรปุ ผลเกีย่ วกบั ลกั ษณะของประชากรทส่ี นใจ
ตัวแปร (Variable) หมายถงึ ลักษณะบางประการของประชากรหรอื ตัวอย่างทีส่ นใจศกึ ษา
ข้อมูล (Data) หมายถึงข้อความจริงเก่ียวกับเร่ืองใดเรื่องหน่ึงที่สามารถใช้ในการสรุปผลใน
เรือ่ งท่ีสนใจศกึ ษา อาจเปน็ ได้ทัง้ ตัวเลขหรือไม่ใชต่ วั เลข หรอื อาจหมายถึงคา่ ของตวั แปรท่ีสนใจศึกษา
พารามิเตอร์ (Parameter) หมายถึงค่าวัดท่ีแสดงลักษณะของประชากร ซึ่งเป็นค่าคงตัวท่ี
คานวณหรอื ประมวลจากข้อมูลท้ังหมดของประชากร
ค่าสถิติ (Statistic) หมายถึงค่าคงตัวท่ีพิจารณาจากข้อมูลของตัวอย่าง โดยมีวัตถุประสงค์
เพื่ออธิบายลักษณะของตัวอย่างนั้นหรือเพื่อประมาณค่าของพารามิเตอร์แล้วนาไปใช้ในการอธิบาย
ลกั ษณะของประชากร
พร้อมทั้งยกตัวอย่างให้ผู้เรียนได้ระบุประชากร ตัวอย่าง ตัวแปร ข้อมูล พารามิเตอร์ และ
ค่าสถติ จิ ากสถานการณท์ ี่กาหนดให้ได้

ครคู รรชิต แซ่โฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง คาสาคัญในสถติ ิศาสตร์ 9

แบบบนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้

แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยท.่ี ........เวลา................ชั่วโมง/คาบ ภาคเรยี นท.ี่ ...........ปกี ารศกึ ษา...........
เรอ่ื ง.........................................................................................................................................................
รหสั วิชา...............................ชือ่ วิชา...................................... ............................ช้นั ..................................

1. จานวนนักเรยี นทีร่ ว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ จานวนนักเรียนทีข่ าดเรยี น (คน)
จานวนนักเรยี นท้ังหมด (คน)

นกั เรียนทข่ี าดเรยี น (เลขที่) หมายเหตุ

2. ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

2.1 ความเหมาะสมของระยะเวลา ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง

2.2 ความเหมาะสมของเนื้อหา ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง

2.3 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรงุ

2.4 สือ่ การเรยี นรู้ ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง

.................................................................................... .......................................................

............................................................................................................................. ..............

2.5 พฤตกิ รรม/การมสี ว่ นร่วมของผู้เรียน ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง

............................................................................................................................. ..............

........................................................................................ ........................................... ........

2.6 ผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม/ใบกจิ กรรม/ใบงาน/แบบฝึกหดั /การทดสอบกอ่ น – หลังเรยี น

............................................................................................................................. ..............

............................................................................................................................. ..............

3. ปัญหาและอุปสรรค

............................................................................................. .....................................................

.......................................................................................................................... ........................

4. ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข

................................................................................................................................ ..................

............................................................................................................................. .....................

ลงชื่อ……….……………………ครูผ้สู อน

(นายครรชติ แซ่โฮ่)

ตาแหนง่ ครู อนั ดบั คศ.2

ครูครรชิต แซ่โฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง คาสาคัญในสถิติศาสตร์ 10

แบบสังเกตพฤตกิ รรมผ้เู รียนด้านทกั ษะกระบวนการ

รายวชิ า คณิตศาสตร์ 6 รหัส ค 33102 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6
ภาคเรียนท่ี..................
คาบท่ี................ ปีการศึกษา...................

วันท…่ี ……..เดือน………………………..พ.ศ………..........

คาชี้แจง ให้ใส่คะแนนระดบั คณุ ภาพลงในช่องทักษะกระบวนการแต่ละชอ่ งตามเกณฑ์การใหค้ ะแนน

พฤติกรรมผู้เรยี นด้านทักษะกระบวนการ สรุปผล

ท่ี ชือ่ – สกุล รวม การประเมนิ

การ การให้ การสื่อสาร การ การคิดริเริ่ม ผ่าน ไม่
แก้ปัญหา เหตผุ ล เชอ่ื มโยง สรา้ งสรรค์ ผ่าน

การผา่ นเกณฑ์ตอ้ งไดร้ ะดับคุณภาพโดยรวมตง้ั แต่ 10 คะแนนขึ้นไป

ลงชอ่ื ……………………………………………..ผปู้ ระเมนิ
(……………………………………………...)

วันท.ี่ ...........เดือน.......................พ. ศ................

ครคู รรชติ แซโ่ ฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง คาสาคัญในสถิติศาสตร์ 11

เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นทักษะกระบวนการ

1. การแกป้ ญั หา

คะแนน : ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาทปี่ รากฏให้เห็น

4 : ดมี าก ใช้ยุทธวิธีดาเนินการแกป้ ญั หาสาเรจ็ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ อธบิ ายถงึ
เหตผุ ลในการใช้วิธีการดงั กล่าวไดเ้ ข้าใจชัดเจน

3 : ดี ใช้ยุทธวธิ ดี าเนนิ การแก้ปญั หาสาเรจ็ แต่น่าจะอธิบายถึงเหตุผล
ในการใชว้ ธิ ีการดังกล่าวได้ดกี ว่านี้

2 : พอใช้ มียุทธวิธีดาเนินการแกป้ ัญหาสาเรจ็ เพียงบางส่วน อธบิ ายถึงเหตุผล
ในการใช้วธิ กี ารดงั กลา่ วได้บางส่วน

1 : ควรแกไ้ ข มรี ่องรอยการแก้ปัญหาบางส่วน เรม่ิ คิดว่าทาไมจงึ ต้องใชว้ ธิ กี ารน้นั
แล้วหยดุ อธิบายต่อไม่ได้ แก้ปญั หาไม่สาเร็จ

0 : ควรปรบั ปรุง ทาได้ไมถ่ ึงเกณฑข์ ้างต้นหรือไม่มีร่องรอยการดาเนนิ การแก้ปญั หา

2. การให้เหตุผล

คะแนน : ระดับคุณภาพ ความสามารถในการให้เหตผุ ลทป่ี รากฏใหเ้ ห็น

4 : ดีมาก มกี ารอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล

3 : ดี มีการอ้างอิงทถ่ี ูกต้องบางสว่ น และเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ

2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไม่สมเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสินใจ

1 : ควรแก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจ

0 : ควรปรบั ปรุง ไม่มแี นวคิดประกอบการตดั สินใจ

3. การส่ือสาร การส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการส่ือสาร การส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์
และการนาเสนอทป่ี รากฏให้เห็น

ใชภ้ าษาและสัญลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์ท่ีถูกต้อง นาเสนอโดยใชก้ ราฟ

4 : ดีมาก แผนภมู ิ หรือตารางแสดงขอ้ มูลประกอบตามลาดับขน้ั ตอนได้เป็น

ระบบ กระชับ ชดั เจน และมีความละเอยี ดสมบรู ณ์

ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ นาเสนอโดยใช้กราฟ แผนภมู ิ

3 : ดี หรือตารางแสดงขอ้ มลู ประกอบตามลาดบั ขัน้ ตอนได้ถูกต้อง

ขาดรายละเอียดท่ีสมบรู ณ์

2 : พอใช้ ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ พยายามนาเสนอข้อมูลโดยใช้
กราฟ แผนภมู ิ หรือตารางแสดงขอ้ มูลประกอบชัดเจนบางสว่ น

1 : ควรแก้ไข ใช้ภาษาและสัญลักษณท์ างคณิตศาสตร์อย่างงา่ ย ๆ ไม่ไดใ้ ชก้ ราฟ
แผนภูมิหรือตารางเลย และการนาเสนอข้อมูลไม่ชัดเจน

0 : ควรปรบั ปรงุ ไม่นาเสนอขอ้ มูล

ครูครรชติ แซโ่ ฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง คาสาคัญในสถิติศาสตร์ 12

4. การเชือ่ มโยงความรู้ทางคณิตศาสตร์

คะแนน : ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการเช่ือมโยงทีป่ รากฏใหเ้ หน็

นาความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชือ่ มโยงกบั

4 : ดีมาก สาระคณิตศาสตร์ / สาระอ่นื / ในชวี ิตประจาวนั เพ่ือชว่ ย

ในการแกป้ ัญหาหรอื ประยุกต์ใชไ้ ดอ้ ยา่ งสอดคล้องและเหมาะสม

นาความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอื่ มโยงกับ

3 : ดี สาระคณิตศาสตร์ / สาระอ่นื / ในชีวติ ประจาวัน เพอ่ื ชว่ ยในการ

แกป้ ญั หา หรือประยุกต์ใช้ได้บางสว่ น

2 : พอใช้ นาความรู้ หลักการ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ไปเช่อื มโยงกับสาระ
คณิตศาสตร์ ไดบ้ างสว่ น

1 : ควรแก้ไข นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงยงั ไม่
เหมาะสม

0 : ควรปรับปรุง ไม่มีการเชื่อมโยงกบั สาระอื่นใด

5. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

คะแนน : ระดบั คุณภาพ ความคิดรเิ รมิ สร้างสรรค์ทีป่ รากฏให้เห็น

4 : ดมี าก มแี นวคิด / วิธกี ารแปลกใหม่ทส่ี ามารถนาไปปฏิบตั ไิ ด้อยา่ งถกู ต้อง
สมบรู ณ์

3 : ดี มีแนวคดิ / วิธีการแปลกใหม่ทสี่ ามารถนาไปปฏบิ ัติได้ถูกต้องแตน่ าไป
ปฏบิ ตั ิแล้วไมถ่ ูกต้องสมบูรณ์

2 : พอใช้ มแี นวคิด / วธิ กี ารไมแ่ ปลกใหม่แต่นาไปปฏบิ ัติแล้วถูกต้องสมบูรณ์

1 : ควรแก้ไข มแี นวคิด / วิธีการไม่แปลกใหม่และนาไปปฏิบัติแลว้ ไม่ถกู ต้องสมบรู ณ์

0 : ควรปรับปรงุ ไมม่ ผี ลงาน

ครคู รรชติ แซโ่ ฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง คาสาคัญในสถติ ิศาสตร์ 13

แบบสังเกตพฤตกิ รรมผู้เรียนดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

รายวชิ า คณติ ศาสตร์ 6 รหัส ค 33102 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6
ภาคเรียนที่..................
คาบท่.ี ............... ปีการศกึ ษา...................

วันท…่ี ……..เดือน………………………..พ.ศ………..........

คาช้ีแจง ใหใ้ ส่คะแนนระดบั คณุ ภาพลงในชอ่ งคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์แตล่ ะช่องตามเกณฑ์การให้คะแนน

พฤติกรรมผู้เรยี นด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สรปุ ผล

ที่ ชื่อ – สกลุ การทางานเป็น ระเบยี บ ความ ความเชือ่ มั่น รวม การประเมนิ
ระบบรอบคอบ วนิ ยั รบั ผิดชอบ ในตนเอง
ความ ผ่าน ไม่
ซื่อสัตย์ ผ่าน

การผา่ นเกณฑ์ตอ้ งได้ระดบั คุณภาพโดยรวมตง้ั แต่ 10 คะแนนข้ึนไป

ลงชอ่ื ……………………………………………..ผ้ปู ระเมิน
(……………………………………………...)

วนั ท่ี............เดอื น.......................พ. ศ................

ครูครรชติ แซโ่ ฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง คาสาคัญในสถิติศาสตร์ 14

เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

1. การทางานเป็นระบบรอบคอบ

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คณุ ลักษณะท่ีปรากฏใหเ้ ห็น

- มีการวางแผนการดาเนนิ งานเปน็ ระบบ

3 : ดมี าก - การทางานมีครบทุกขั้นตอน ตดั ขนั้ ตอนท่ีไมส่ าคญั ออก

- จดั เรียงลาดบั ความสาคญั ก่อน – หลัง ถกู ต้องครบถว้ น

- มกี ารวางแผนการดาเนินงาน

2 : ดี - การทางานไม่ครบทุกข้นั ตอน และผิดพลาดบา้ ง

- จัดเรยี งลาดับความสาคัญก่อน – หลัง ไดเ้ ป็นส่วนใหญ่

- ไม่มกี ารวางแผนการดาเนนิ งาน

1 : พอใช้ - การทางานไม่มีข้ันตอน มีความผิดพลาดต้องแกไ้ ข

- ไมจ่ ัดเรียงลาดบั ความสาคัญ

2. ระเบียบวนิ ยั

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คณุ ลกั ษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็

3 : ดมี าก - สมดุ งาน ชิน้ งาน สะอาดเรียบร้อย
- ปฏิบตั ิตนอยู่ในข้อตกลงท่กี าหนดให้ร่วมกันทุกครั้ง

2 : ดี - สมดุ งาน ชนิ้ งาน สว่ นใหญส่ ะอาดเรยี บรอ้ ย
- ปฏบิ ัติตนอยใู่ นข้อตกลงทีก่ าหนดใหร้ ่วมกนั เป็นสว่ นใหญ่

- สมดุ งาน ชิ้นงาน ไม่ค่อยเรยี บรอ้ ย

1 : พอใช้ - ปฏบิ ัติตนอยูใ่ นข้อตกลงทก่ี าหนดใหร้ ว่ มกันเปน็ บางครง้ั ต้องอาศยั

การแนะนา

3. ความรบั ผดิ ชอบ

คะแนน : ระดับคุณภาพ คุณลกั ษณะทป่ี รากฏใหเ้ หน็

- ส่งงานก่อนหรือตรงกาหนดเวลานัดหมาย

3 : ดมี าก - รับผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเป็นนสิ ัย

เปน็ ระบบแก่ผู้อื่น และแนะนาชักชวนใหผ้ อู้ ่ืนปฏิบัติ

2 : ดี - ส่งงานช้ากวา่ กาหนด แต่ได้มกี ารตดิ ต่อช้ีแจงผ้สู อน มเี หตุผลท่รี บั ฟงั ได้
- รบั ผดิ ชอบในงานที่ไดร้ บั มอบหมายและปฏิบัตติ นเองจนเป็นนิสยั

1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากวา่ กาหนด
- ปฏิบัติงานโดยต้องอาศัยการช้ีแนะ แนะนา ตักเตือนหรอื ใหก้ าลังใจ

ครูครรชิต แซโ่ ฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง คาสาคัญในสถติ ิศาสตร์ 15

4. ความเช่อื มนั่ ในตนเอง

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คณุ ลักษณะที่ปรากฏใหเ้ ห็น

3 : ดีมาก มแี นวคดิ การตัดสนิ ใจในการทางานดว้ ยตนเองทุกคร้งั ใหค้ าแนะนา
ผอู้ ื่นได้

2 : ดี มแี นวคดิ การตดั สินใจในการทางานด้วยตนเองเป็นบางคร้งั แต่ต้องถาม
ปญั หาบางครัง้

1 : พอใช้ ไม่มแี นวคดิ ของตนเอง ไมก่ ล้าตดั สินใจด้วนตนเอง

5. ความซ่อื สัตย์

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คณุ ลกั ษณะที่ปรากฏให้เห็น

3 : ดีมาก มีแนวคดิ ในการทางานดว้ ยตนเองทุกคร้ัง ไม่นาผลงานคนอน่ื มา
ลอกเลียนแบบ ไมน่ าผลงานผู้อ่ืนมาเป็นผลงานของตนเอง

2 : ดี มแี นวคิดในการทางานดว้ ยตนเองเป็นบางคร้ัง ลอกเลียนแบบงานจาก
คนอื่นบางครั้ง ไม่นาผลงานผู้อน่ื มาเป็นผลงานของตนเอง

1 : พอใช้ ไม่มีแนวคดิ ของตนเอง ทางานทุกคร้งั ต้องลอกเลียนแบบจากงานเพื่อน

ครคู รรชติ แซ่โฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

รายวิชา คณติ ศาสตร์ 6
รหสั วชิ า ค33102

แผนการจดั การเรยี นรู้

คณติ ศาสตร์ ม.6

ประกอบการใช้แบบฝึกทกั ษะ
เรอ่ื ง สถิตศิ าสตรแ์ ละข้อมูล ดว้ ยรปู แบบ SSCS

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี

3

เรอ่ื ง ประเภทของขอ้ มลู

นายครรชติ แซโ่ ฮ่
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ

โรงเรยี นคณะราษฎรบารงุ จังหวดั ยะลา
สานกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 15
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน

กระทรวงศึกษาธิการ

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เร่อื ง ประเภทของข้อมลู 1

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรือ่ ง ประเภทของขอ้ มลู

รายวิชา คณิตศาสตร์ 6 รหัสวิชา ค33102 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง สถติ ิศาสตรแ์ ละข้อมูล เวลาที่ใชใ้ นการจดั การเรียนรู้ 3 คาบ

 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ดั
สาระที่ 3 สถติ แิ ละความน่าจะเปน็
มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใชค้ วามรูท้ างสถิติในการแก้ปัญหา
ตัวชว้ี ดั เขา้ ใจและใช้ความรูท้ างสถติ ิในการนา เสนอข้อมลู และแปล
ความหมายของค่าสถติ เิ พ่อื ประกอบการตัดสนิ ใจ

 จุดเน้นการพัฒนาผู้เรียน
 แสวงหาความร้เู พ่ือการแกป้ ญั หา
 ใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรยี นรู้
 ทักษะการคิดขั้นสูง
 มีทกั ษะชวี ิต
 ทักษะการสื่อสารอยา่ งสรา้ งสรรค์ตามชว่ งวยั

 สาระสาคญั (ความเขา้ ใจท่คี งทน)
ข้อมูลทีจ่ ะนามาใชศ้ ึกษาสามารถแบง่ ไดห้ ลายประเภทที่สาคัญมีดงั น้ี
1. การแบ่งประเภทของข้อมลู ตามแหลง่ ท่มี าของข้อมลู
การแบ่งประเภทของข้อมูลตามแหล่งท่ีมาของข้อมูลเป็นการแบ่งประเภทของข้อมูล โดย

คานงึ ว่าผู้ใช้ขอ้ มลู เปน็ ผจู้ ดั เก็บข้อมูลเอง หรือเป็นข้อมูลที่บุคคลหรือหน่วยงานอ่ืนเป็นผู้จัดเก็บแล้ผู้ใช้
เพียงแค่นามาใช้จึงแบง่ ข้อมลู ออกเปน็ 2 ประเภท ดงั นี้

1) ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary data) หมายถึงข้อมูลที่ผู้ใช้ดาเนินการเก็บรวบรวมจาก
เจา้ ของขอ้ มูลหรอื ต้นกาเนดิ ของข้อมูลโดยตรง

2) ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary data) หมายถึงข้อมูลที่ผู้ใช้ไม่ได้ดาเนินการเก็บรวบรวม
จากเจ้าของขอ้ มูลหรอื ต้นกาเนิดของข้อมูลโดยตรง แต่ใช้ข้อมูลท่ีบุคคลหรือหน่วยงานอ่ืนเก็บรวบรวม
มา ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ใช้มักจะใช้ข้อมูลท่ีเก็บรวบรวมโดยภาครัฐซ่ึงเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลตามภารกิจ
ของหน่วยงาน

2. การแบ่งประเภทของข้อมลู ตามระยะเวลาทจ่ี ัดเก็บ
การแบ่งประเภทของข้อมูลตามระยะเวลาท่ีจัดเก็บเป็นการแบ่งประเภทของข้อมูล โดย

พจิ ารณาจากชว่ งเวลาทีม่ ขี อ้ มูลเกดิ ขน้ึ และมีการจดั เกบ็ จึงแบง่ ข้อมลู ออกเปน็ 2 ประเภท ดงั นี้
1) ข้อมูลอนุกรมเวลา (Time series data) หมายถงึ ชดุ ข้อมูลท่ีเกิดข้ึนและจัดเก็บตาม

ลาดบั เวลาต่อเนื่องกนั ไปตลอดชว่ ง ๆ หนึง่
2) ข้อมลู ตัดขวาง (Cross-sectional data) หมายถึงขอ้ มูลทบ่ี อกสถานะหรือสภาพของสิ่ง

ทส่ี นใจ ณ จุดหนึ่งของเวลา

ครูครรชติ แซโ่ ฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 เรอ่ื ง ประเภทของข้อมลู 2

3. การแบ่งประเภทของข้อมูลตามลักษณะของขอ้ มลู
การแบ่งประเภทของข้อมูลตามลักษณะของข้อมูลเป็นการแบ่งประเภทของข้อมูล โดย

พจิ ารณาจากข้อมลู นนั้ แสดงถึงปริมาณของส่งิ ๆ หน่งึ หรอื ไม่ จึงแบง่ ข้อมลู ออกเป็น 2 ประเภท ดงั นี้
1) ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative data) หมายถึงข้อมูลท่ีได้จากการวัดหรือการนับค่า

โดยแสดงเปน็ ตัวเลขหรือปริมาณทส่ี ามารถนาไปบวก ลบ คูณ หรอื หาร และเปรียบเทียบกันได้
2) ขอ้ มลู เชงิ คุณภาพ (Qualitative data) หมายถึงข้อมูลท่ีแสดงลักษณะ ประเภท สมบัติ

ในเชงิ คณุ ภาพและอ่นื ๆ ท่ไี มส่ ามารถวดั ค่าเปน็ ตัวเลขทีน่ ามาบวก ลบ คณู หรอื หารกันได้

 สาระการเรียนรู้ (มาตรฐานการปฏิบตั ไิ ด้)
ด้านความรู้ (K) ผูเ้ รยี นสามารถ
1) จาแนกประเภทของข้อมูลตามแหล่งท่ีมาของข้อมลู ระยะเวลาที่จดั เก็บ หรือลกั ษณะของ
ขอ้ มูลได้
ด้านทักษะกระบวนการ (P) ผู้เรียนมคี วามสามารถใน
1) การแก้ปัญหา
2) การใหเ้ หตผุ ล
3) การสอ่ื สาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ
4) การเชอื่ มโยงความรทู้ างคณิตศาสตร์
5) ความคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์
ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) ผ้เู รียนมี
1) การทางานเป็นระบบ รอบคอบ
2) ระเบยี บวนิ ัย
3) ความรบั ผิดชอบ
4) ความเชอื่ ม่นั ในตนเอง
5) ความซอื่ สตั ย์

 สมรรถนะสาคัญ
 ความสามารถในการสื่อสาร
 ความสามารถในการคิด
 ความสามารถในการแก้ปญั หา
 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

 สือ่ /แหล่งเรียนรู้
ส่ือการเรียนรู้
1) แบบฝกึ ทกั ษะคณติ ศาสตร์ เลม่ ท่ี 1 เรอ่ื ง สถิติศาสตรแ์ ละข้อมูล
แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องสมดุ ของโรงเรียน
2) การสืบค้นขอ้ มูลจากอินเตอรเ์ น็ต ได้แก่
- เวบ็ ไซต์ http://www.google.co.th

ครคู รรชติ แซ่โฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง ประเภทของข้อมลู 3

- คลังวีดีโอสอื่ คณิตศาสตร์ http://www.youtube.com
- คลงั เอกสารสื่อคณติ ศาสตร์ http://www.scribd.com

 หลักฐานการเรยี นรู้
ช้ินงาน
1) -
ภาระงาน
1) แบบฝกึ ทกั ษะที่ 3 เรื่อง ข้อมูลปฐมภูมแิ ละข้อมลู ทุติยภูมิ
2) แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 4 เรอื่ ง ข้อมูลอนุกรมเวลาและข้อมูลตัดขวาง
3) แบบฝึกทักษะท่ี 5 เรือ่ ง ขอ้ มูลเชงิ ปรมิ าณและขอ้ มลู เชงิ คุณภาพ

 การวดั ผลและประเมินผลการจดั การเรยี นรู้

ด้าน รายการประเมิน วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์การ
1. ความรู้ (K) ประเมนิ

2. ทกั ษะ ผ้เู รียนสามารถ 1. ประเมินจากการทา - แบบฝึกทักษะ ทาเอกสาร
กระบวนการ 1) จาแนกประเภทของ แบบฝกึ ทกั ษะ
(P) แบบฝกึ ทกั ษะ/
ขอ้ มูลตามแหลง่ ท่ีมาของ 2. ตรวจเอกสารแบบฝึก
ข้อมูล ระยะเวลาท่ี ทักษะ ไดถ้ ูกต้องอยา่ ง
จัดเก็บ หรอื ลกั ษณะของ
ขอ้ มูลได้ 1. สงั เกตจากการตอบ น้อย 70% ของ
คาถามในหอ้ งเรียน
ดจู ากแบบสงั เกตพฤตกิ รรม คะแนนทั้งหมด
ผู้เรยี นดา้ นทกั ษะ 2. สงั เกตพฤติกรรม
กระบวนการ ผู้เรียน แบบสงั เกต การผ่านเกณฑ์
พฤติกรรม ตอ้ งได้ระดับ
3. คุณลักษณะ ดูจากแบบสงั เกตพฤติกรรม 1. สงั เกตจากการตอบ ผู้เรยี น คุณภาพโดย
อนั พึงประสงค์ ผู้เรียนด้านคุณลักษณะ คาถามในห้องเรียน ดา้ นทกั ษะ ภาพรวมตัง้ แต่ 10
(A) อันพึงประสงค์ กระบวนการ คะแนนข้นึ ไป
2. สังเกตพฤติกรรม
ผู้เรียน แบบสงั เกต การผา่ นเกณฑ์
พฤติกรรม ต้องได้ระดบั
ผู้เรียน คณุ ภาพโดย
ด้านคุณลักษณะ ภาพรวมต้ังแต่ 10
อันพงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นไป

ครคู รรชิต แซโ่ ฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เรือ่ ง ประเภทของข้อมูล 4

 การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

กิจกรรมการเรียนรตู้ ามรูปแบบ SSCS

ขน้ั เตรียมความพรอ้ ม
1. ครใู ห้ผู้เรยี นนง่ั สมาธิ เพอื่ รวบรวมสติ สมาธิและเตรยี มความพรอ้ มในการเรยี น
2. ผูเ้ รียนและครูร่วมกันสนทนาเกยี่ วกบั หลักการดาเนินชีวิตประจาวัน โดยนาค่านิยมหลักของ
คนไทย 12 ประการมาแทรกเป็นกรณีตัวอย่างตามสถานการณ์ ได้แก่ 1) เข้าใจเรียนรู้การเป็น
ประชาธิปไตย 2) มีระเบียบ วนิ ยั เคารพกฎหมาย ผู้นอ้ ยรู้จักการเคารพผ้ใู หญ่ เป็นตน้
3. ครูชี้แจงวิธีการเรียนรู้โดยการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ตาม
รปู แบบ SSCS

ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน
1. ครูแบง่ กลุม่ ผู้เรียนออกเป็นกลุ่มกลุ่มละ 4 – 5 คน โดยแต่ละกลุ่มมีการคละความสามารถ
ของผ้เู รยี น เกง่ ปานกลาง และออ่ น ตามผลการเรยี นทพ่ี จิ ารณาจากการสอบในภาคเรียนที่ผ่านมาเป็น
รายบุคคล เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนได้ชว่ ยเหลือกนั และแลกเปลีย่ นประสบการณ์ภายในกลุ่ม และให้ผู้เรียนแต่ละ
กลุ่มช่วยกนั เลอื กประธาน 1 คน เลขานุการ 1 คน และผรู้ ว่ มงาน 2 – 3 คน
2. ครแู จง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ของกิจกรรมการเรียนรูต้ ามรูปแบบ SSCS ใหผ้ ู้เรยี นทราบ
3. ผู้เรียนและครูร่วมกันสนทนา ทบทวนเก่ียวกับความรู้เดิม เรื่องคาสาคัญในสถิติศาสตร์
ได้แก่ประชากร ตัวอย่าง ตัวแปร ข้อมูล พารามิเตอร์ และค่าสถิติ พร้อมท้ังยกตัวอย่างให้ผู้เรียนระบุ
ประชากร ตัวอย่าง ตัวแปร ข้อมูล พารามิเตอร์ และค่าสถิติจากสถานการณ์ท่ีกาหนด โดยครูใช้การ
ถาม-ตอบ เพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจ

ขั้นกจิ กรรมการเรยี นรู้ (คาบที่ 1)
ขนั้ ที่ 1 Search: S (ขน้ั สืบเสาะค้นหาความร)ู้
1.1 ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มสแกน QR code เพื่อเข้าไปศึกษาวีดิทัศน์ซ่ึงจัดทาข้ึนภายใต้
โครงการ Project14 ของสสวท.

หรือเว็บไซต์ที่ https://proj14.ipst.ac.th/m4-6-math-basic/m6-math-basic/math-m6-003/
จากนั้นผเู้ รียนและครูร่วมกันสรุปประเภทของข้อมลู โดยครูคอยแนะนาจนกว่าผู้เรยี นเขา้ ใจ ดังนี้

การแบ่งประเภทของข้อมูลตามแหล่งท่ีมาของข้อมูลเป็นการแบ่งประเภทของข้อมูล โดย
คานึงวา่ ผใู้ ช้ขอ้ มลู เปน็ ผจู้ ดั เกบ็ ข้อมูลเอง หรือเป็นข้อมูลท่ีบุคคลหรือหน่วยงานอื่นเป็นผู้จัดเก็บแล้ผู้ใช้
เพยี งแคน่ ามาใช้ จงึ แบง่ ข้อมลู ออกเป็น 2 ประเภท ดงั น้ี

ครูครรชิต แซ่โฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 เร่อื ง ประเภทของข้อมลู 5

1. ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary data) หมายถึงข้อมูลที่ผู้ใช้ดาเนินการเก็บรวบรวมจาก
เจา้ ของขอ้ มลู หรือต้นกาเนิดของข้อมูลโดยตรง

2. ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary data) หมายถึงข้อมูลท่ีผู้ใช้ไม่ได้ดาเนินการเก็บ
รวบรวมจากเจ้าของข้อมูลหรือต้นกาเนิดของข้อมูลโดยตรง แต่ใช้ข้อมูลที่บุคคลหรือหน่วยงาน
อ่ืนเก็บรวบรวมมา ซ่ึงส่วนใหญ่ผู้ใช้มักจะใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดยภาครัฐซ่ึงเป็นการเก็บ
รวบรวมขอ้ มูลตามภารกจิ ของหน่วยงาน

1.2 ครูต้ังคาถามให้ผู้เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแบ่งประเภทของข้อมูลตาม
แหลง่ ทม่ี าของขอ้ มลู ดังนี้
คาถามที่ 1 ข้อมูลความพึงพอใจในสินค้าที่เจ้าของสินค้าเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้สินค้าหรือ

ผู้บริโภค ขอ้ มูลนี้เปน็ ข้อมูลประเภทใด
คาตอบ ข้อมูลปฐมภูมิ
คาถามท่ี 2 ข้อมูลการรักษรพยาบาลท่ีโรงพยาบาทบันทึกไว้ในประวัติผู้ป่วย ข้อมูลน้ีเป็นข้อมูล

ประเภทใด
คาตอบ ขอ้ มูลปฐมภูมิ
คาถามที่ 3 ขอ้ มลู ทน่ี ักเรียนบันทึกจากการทดลองฟิสิกส์ในห้องปฏิบัติการของโรงเรียน ข้อมูลนี้

เปน็ ขอ้ มลู ประเภทใด
คาตอบ ข้อมลู ปฐมภมู ิ
คาถามที่ 4 รายงานข้อมูลทะเบียนประวัติของนักเรียนท่ีส่งไปยังเขตพ้ืนที่การศึกษา ข้อมูลนี้เป็น

ขอ้ มูลประเภทใด
คาตอบ ข้อมูลทุตยิ ภมู ิ
คาถามที่ 5 รายงานข้อมูลนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยจัดเก็บโดยสานักงานตรวจคน

เขา้ เมือง ข้อมลู น้เี ป็นขอ้ มลู ประเภทใด
คาตอบ ขอ้ มลู ทุติยภูมิ
คาถามที่ 6 คะแนนสูงสุดและต่าสุดของการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อของทุกมหาวิทยาลัย

ขอ้ มูลนเี้ ป็นข้อมลู ประเภทใด
คาตอบ ข้อมูลทุติยภมู ิ

1.3 ครูตง้ั คาถามใหผ้ ูเ้ รียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั ขอ้ ดขี องขอ้ มลู ปฐมภูมิและข้อมูล
ทตุ ยิ ภมู ิ เป็นอยา่ งไร
คาตอบ ข้อดีของข้อมูลปฐมภูมิ ได้แก่ ข้อมูลท่ีได้ตรงกับความต้องการ ข้อมูลมีความเป็น

ปจั จบุ ัน
ข้อดีของข้อมูลทุติยภูมิ ได้แก่ ผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเก็บรวบรวม
ขอ้ มลู เองสามารถนาข้อมูลทีม่ ีผู้อนื่ เก็บรวบรวมไว้แล้วมาใชไ้ ดเ้ ลย
1.4 ครตู งั้ คาถามให้ผู้เรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั การนาขอ้ มลู ทตุ ยิ ภูมิมาใช้จึงมีส่ิง
สาคญั ที่ควรพจิ ารณา มอี ะไรบา้ ง อยา่ งไร

ครูครรชิต แซ่โฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เรือ่ ง ประเภทของข้อมลู 6

คาตอบ
1. บคุ คลหรือหน่วยงานท่ีจัดทารายงาน บทความ หรือเอกสาร มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเร่ือง
นน้ั และมีความน่าเช่อื ถือหรอื ไม่
2. ควรเก็บรวบรวมข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่ง ถ้าสามารถทาได้ เพื่อใช้ในการตรวจสอบข้อมูลว่า
ขอ้ มูลท่ตี อ้ งการมคี วามผดิ พลาดจากการคัดลอกหรือเข้าใจผิดหรือไม่
3. พิจารณาจากลักษณะของข้อมูล ถ้าเป็นข้อมูลที่เป็นความจริง ข้อทูลที่ได้จากทะเบียนหรือ
ขอ้ มลู ที่เป็นความคดิ เห็นหรือเจตคติ ส่วนใหญ่มกั จะมคี วามถกู ตอ้ งและเช่อื ถือได้มาก
4. ถ้าข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้มาจากการสารวจตัวอย่าง ควรจะต้องตรวจสอบวิธีการที่ใช้ในการ
เลอื กตวั อย่าง ขนาดตัวอยา่ ง และวิธีเคราะหข์ อ้ มูลวา่ เหมาะสมหรือไม่

ขน้ั ที่ 2 Solve: S (ข้ันการแก้ปญั หา)
2.1 ครูให้ผู้เรียนวางแผนและเลือกวิธีการท่ีใช้ในการแก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยครูจะไม่จากัด
แนวคดิ และวธิ กี ารทผ่ี ู้เรยี นเลือกใชใ้ นการแก้ปัญหา
2.2 ครใู ห้ผู้เรียนดาเนินการตามแผนท่ีผู้เรียนได้วางไว้ จนได้คาตอบในท่ีสุด โดยผู้เรียนแต่ละ
กลุ่มร่วมกันทาแบบฝึกทักษะที่ 3 ข้อมูลปฐมภูมิและข้อมูลทุติยภูมิ แล้วช่วยกันเฉลยและตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ ง
ขนั้ ท่ี 3 Create: C (ข้นั สรา้ งความรู้)
3.1 ครใู หผ้ ู้เรยี นเรยี บเรยี งข้ันตอนการแก้ปัญหาและบนั ทึกความรู้ของผู้เรียนได้จากการศึกษา
เรอื่ งข้อมูลปฐมภมู ิและขอ้ มลู ทตุ ยิ ภูมิ และจากการทาแบบฝึกทักษะท่ี 3 ข้อมูลปฐมภูมิและข้อมูลทุติย
ภูมิ ลงในสมุดโดยใช้ภาษาที่ง่ายต่อการเข้าใจ สละสลวยในการเขียนแสดงแนวคิดและอธิบายคาตอบ
ของผู้เรยี น
ขัน้ ท่ี 4 Share: S (ขั้นอภปิ รายแลกเปลย่ี นความคดิ เห็น)
4.1 ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มแลกเปลี่ยนความรู้ นาเสนอแนวคิดและวิธีการในการแก้ปัญหา
ของตนจากการทาแบบฝึกทกั ษะ
4.2 ครูสุ่มผู้เรียนออกมานาเสนอการสรุปความรู้ แนวคิดและวิธีการในการแก้ปัญหาจากการ
ทากิจกรรม และถ้ามีผู้เรียนคนใดมีแนวคิดหรือวิธีการในการหาคาตอบที่แตกต่างจากเพื่อนก็สามารถ
นาวธิ กี ารหรอื แนวคดิ นั้นมานาเสนอได้อยา่ งเตม็ ที่
4.3 ผู้เรียนและครูร่วมกันอภิปรายถึงวิธีการต่าง ๆ และผลที่ได้ที่เพื่อนผู้เรียนแต่ละคนได้
ออกมานาเสนอ โดยขณะท่ีร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นน้ัน ครูจะมีการสังเกตพฤติกรรม
การส่อื สารทงั้ ในดา้ นการฟงั และการพดู ของผู้เรียนไปพร้อม ๆ กนั

ขน้ั กจิ กรรมการเรียนรู้ (คาบท่ี 2)
ข้นั ที่ 1 Search: S (ขัน้ สืบเสาะคน้ หาความร้)ู
1.5 ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาวีดิทัศน์ต่อ จากนั้นผู้เรียนและครูร่วมกันสรุปประเภทของ
ข้อมลู โดยครคู อยแนะนาจนกว่าผู้เรยี นเข้าใจ ดังนี้
การแบ่งประเภทของข้อมูลตามระยะเวลาที่จัดเก็บเป็นการแบ่งประเภทของข้อมูล โดย
พจิ ารณาจากชว่ งเวลาท่มี ขี อ้ มูลเกดิ ขึน้ และมีการจัดเกบ็ จึงแบง่ ข้อมูลออกเป็น 2 ประเภท ดงั นี้

ครูครรชติ แซ่โฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรอ่ื ง ประเภทของข้อมูล 7

1. ข้อมูลอนุกรมเวลา (Time series data) หมายถึงชุดข้อมูลท่ีเกิดข้ึนและจัดเก็บ
ตามลาดับเวลาต่อเนอ่ื งกนั ไปตลอดชว่ ง ๆ หนง่ึ

2. ข้อมูลตัดขวาง (Cross-sectional data) หมายถึงข้อมูลท่ีบอกสถานะหรือสภาพ
ของส่ิงทีส่ นใจ ณ จดุ หนงึ่ ของเวลา

1.6 ครูต้ังคาถามให้ผู้เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับการแบ่งประเภทของข้อมูลตาม
ระยะเวลาทจ่ี ดั เก็บ ดงั น้ี
คาถามที่ 1 ยอดขายสินค้ารายเดือนต้ังแต่เดือน มกราคม พ.ศ. 2563 ถึง ธันวาคม พ.ศ. 2563

ขอ้ มลู นเ้ี ปน็ ข้อมูลประเภทใด
คาตอบ ข้อมลู อนุกรมเวลา
คาถามท่ี 2 มหาวทิ ยาลยั ยอดนยิ มทน่ี กั เรยี น ม.6 เลือกเขา้ ศกึ ษาตอ่ ในช่วง 5 ปที ีผ่ า่ นมา ข้อมูลน้ี

เปน็ ขอ้ มลู ประเภทใด
คาตอบ ข้อมลู อนกุ รมเวลา
คาถามท่ี 3 ราคาโทรศัพท์มือถอื ย่ีหอ้ หนงึ่ ในช่วงไตรมาศแรก ข้อมลู น้เี ปน็ ข้อมูลประเภทใด
คาตอบ ขอ้ มูลอนุกรมเวลา
คาถามที่ 4 รายงานผลการศกึ ษาของนักเรยี นเมอื่ ส้ินภาคการศึกษา ขอ้ มูลน้เี ปน็ ข้อมูลประเภทใด
คาตอบ ข้อมูลตัดขวาง
คาถามท่ี 5 จานวนประชากรของประเทศไทย ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ข้อมูลนี้เป็น

ขอ้ มูลประเภทใด
คาตอบ ขอ้ มลู ตดั ขวาง
คาถามท่ี 6 น้าหนักของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 เม่ือเปิดภาคการศึกษา ข้อมูลน้ีเป็นข้อมูล

ประเภทใด
คาตอบ ข้อมลู ตัดขวาง

ขั้นที่ 2 Solve: S (ขน้ั การแกป้ ญั หา)
2.1 ครูให้ผู้เรียนวางแผนและเลือกวิธีการท่ีใช้ในการแก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยครูจะไม่จากัด
แนวคดิ และวิธกี ารทผ่ี ู้เรียนเลอื กใช้ในการแก้ปญั หา
2.2 ครใู ห้ผู้เรียนดาเนินการตามแผนที่ผู้เรียนได้วางไว้ จนได้คาตอบในที่สุด โดยผู้เรียนแต่ละ
กลุ่มร่วมกันทาแบบฝึกทักษะที่ 4 ข้อมูลอนุกรมเวลาและข้อมูลตัดขวาง แล้วช่วยกันเฉลยและ
ตรวจสอบความถกู ต้อง
ข้นั ที่ 3 Create: C (ข้ันสรา้ งความรู้)
3.1 ครใู หผ้ ู้เรยี นเรยี บเรียงขั้นตอนการแกป้ ัญหาและบันทกึ ความรู้ของผู้เรียนได้จากการศึกษา
เร่ืองข้อมูลอนุกรมเวลาและข้อมูลตัดขวาง และจากการทาแบบฝึกทักษะที่ 4 ข้อมูลอนุกรมเวลาและ
ข้อมูลตัดขวาง ลงในสมุดโดยใช้ภาษาที่ง่ายต่อการเข้าใจ สละสลวยในการเขียนแสดงแนวคิดและ
อธบิ ายคาตอบของผู้เรียน

ครคู รรชติ แซโ่ ฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื ง ประเภทของข้อมลู 8

ขนั้ ท่ี 4 Share: S (ข้ันอภิปรายแลกเปล่ียนความคดิ เหน็ )
4.1 ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มแลกเปล่ียนความรู้ นาเสนอแนวคิดและวิธีการในการแก้ปัญหา
ของตนจากการทาแบบฝึกทักษะ
4.2 ครูสุ่มผู้เรียนออกมานาเสนอการสรุปความรู้ แนวคิดและวิธีการในการแก้ปัญหาจากการ
ทากิจกรรม และถ้ามีผู้เรียนคนใดมีแนวคิดหรือวิธีการในการหาคาตอบท่ีแตกต่างจากเพื่อนก็สามารถ
นาวิธีการหรือแนวคิดนัน้ มานาเสนอไดอ้ ยา่ งเตม็ ที่
4.3 ผู้เรียนและครูร่วมกันอภิปรายถึงวิธีการต่าง ๆ และผลท่ีได้ที่เพื่อนผู้เรียนแต่ละคนได้
ออกมานาเสนอ โดยขณะท่ีร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นน้ัน ครูจะมีการสังเกตพฤติกรรม
การสือ่ สารท้งั ในดา้ นการฟังและการพูดของผู้เรยี นไปพร้อม ๆ กัน

ขน้ั กิจกรรมการเรยี นรู้ (คาบท่ี 3)
ขน้ั ที่ 1 Search: S (ข้ันสืบเสาะคน้ หาความรู)้
1.7 ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาวีดิทัศน์ต่อ จากน้ันผู้เรียนและครูร่วมกันสรุปประเภทของ
ขอ้ มลู โดยครูคอยแนะนาจนกวา่ ผู้เรยี นเข้าใจ ดังน้ี
การแบ่งประเภทของข้อมูลตามลักษณะของข้อมูลเป็นการแบ่งประเภทของข้อมูล โดย
พจิ ารณาจากข้อมูลนัน้ แสดงถึงปริมาณของสง่ิ ๆ หนึง่ หรอื ไม่ จึงแบ่งขอ้ มลู ออกเป็น 2 ประเภท ดงั นี้

1. ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative data) หมายถึงข้อมูลที่ได้จากการวัดหรือการนับ
คา่ โดยแสดงเป็นตัวเลขหรือปริมาณทส่ี ามารถนาไปบวก ลบ คูณ หรอื หาร และเปรยี บเทียบกันได้

2. ข้อมูลเชิงคุณภาพ (Qualitative data) หมายถึงข้อมูลท่ีแสดงลักษณะ ประเภท
สมบตั ใิ นเชงิ คุณภาพและอน่ื ๆ ทไ่ี มส่ ามารถวดั คา่ เปน็ ตวั เลขที่นามาบวก ลบ คูณ หรือหารกนั ได้

1.8 ครูต้ังคาถามให้ผู้เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับการแบ่งประเภทของข้อมูลตาม
ลกั ษณะของข้อมลู ดังน้ี
คาถามท่ี 1 คะแนนสอบวชิ าคณติ ศาสตรข์ องนกั เรยี น ข้อมลู นีเ้ ปน็ ขอ้ มลู ประเภทใด
คาตอบ ขอ้ มูลเชงิ ปริมาณ
คาถามท่ี 2 จานวนนกั เรยี นท่ใี ชบ้ รกิ ารห้องสมุดของโรงเรยี น ขอ้ มลู น้ีเป็นขอ้ มลู ประเภทใด
คาตอบ ขอ้ มูลเชิงปรมิ าณ
คาถามท่ี 3 ยอดขายโทรศพั ทม์ ือถือรายเดอื น ขอ้ มลู นเ้ี ป็นขอ้ มูลประเภทใด
คาตอบ ข้อมูลเชงิ ปรมิ าณ
คาถามที่ 4 อาชีพของผูป้ กครองของนกั เรียน ข้อมลู น้ีเปน็ ข้อมูลประเภทใด
คาตอบ ขอ้ มลู เชงิ คุณภาพ
คาถามที่ 5 ยี่หอ้ โทรศพั ท์มอื ถือ ขอ้ มูลน้เี ป็นข้อมลู ประเภทใด
คาตอบ ขอ้ มูลเชิงคุณภาพ
คาถามท่ี 6 เลขประจาตัวของนักเรียน ขอ้ มลู นีเ้ ป็นขอ้ มลู ประเภทใด
คาตอบ ข้อมลู เชงิ คุณภาพ

ครคู รรชติ แซ่โฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เร่อื ง ประเภทของข้อมลู 9

ขน้ั ที่ 2 Solve: S (ขน้ั การแก้ปญั หา)
2.1 ครูให้ผู้เรียนวางแผนและเลือกวิธีการท่ีใช้ในการแก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยครูจะไม่จากัด
แนวคิดและวธิ ีการทผี่ ู้เรียนเลือกใช้ในการแก้ปญั หา
2.2 ครใู ห้ผู้เรียนดาเนินการตามแผนท่ีผู้เรียนได้วางไว้ จนได้คาตอบในที่สุด โดยผู้เรียนแต่ละ
กลุ่มร่วมกันทาแบบฝึกทักษะที่ 5 ข้อมูลเชิงปริมาณและข้อมูลเชิงคุณภาพ แล้วช่วยกันเฉลยและ
ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
ข้นั ท่ี 3 Create: C (ขั้นสรา้ งความรู้)
3.1 ครใู หผ้ ู้เรยี นเรยี บเรยี งขนั้ ตอนการแกป้ ญั หาและบันทกึ ความรู้ของผู้เรียนได้จากการศึกษา
เร่ืองขอ้ มูลเชิงปรมิ าณและขอ้ มูลเชิงคุณภาพ และจากการทาแบบฝึกทักษะท่ี 5 ข้อมูลเชิงปริมาณและ
ข้อมูลเชิงคุณภาพ ลงในสมุดโดยใช้ภาษาที่ง่ายต่อการเข้าใจ สละสลวยในการเขียนแสดงแนวคิดและ
อธิบายคาตอบของผู้เรยี น
ขั้นที่ 4 Share: S (ขั้นอภปิ รายแลกเปล่ียนความคิดเหน็ )
4.1 ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มแลกเปลี่ยนความรู้ นาเสนอแนวคิดและวิธีการในการแก้ปัญหา
ของตนจากการทาแบบฝกึ ทักษะ
4.2 ครูสุ่มผู้เรียนออกมานาเสนอการสรุปความรู้ แนวคิดและวิธีการในการแก้ปัญหาจากการ
ทากิจกรรม และถ้ามีผู้เรียนคนใดมีแนวคิดหรือวิธีการในการหาคาตอบที่แตกต่างจากเพื่อนก็สามารถ
นาวิธีการหรอื แนวคดิ นั้นมานาเสนอได้อย่างเต็มท่ี
4.3 ผู้เรียนและครูร่วมกันอภิปรายถึงวิธีการต่าง ๆ และผลที่ได้ท่ีเพื่อนผู้เรียนแต่ละคนได้
ออกมานาเสนอ โดยขณะที่ร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนั้น ครูจะมีการสังเกตพฤติกรรม
การสอื่ สารท้ังในดา้ นการฟงั และการพูดของผู้เรียนไปพร้อม ๆ กัน

ครอู ธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกบั ขอ้ มลู เชิงปริมาณและข้อมูลเชิงคุณภาพให้กับผู้เรยี น ดงั น้ี
1) ข้อมูลเชิงปริมาณ อาจจัดกลุ่มหรือช่วงของค่าเพ่ือตีความเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพได้ ตัวอย่าง
เช่น ผลผลิตข้าวต่อไร่ในพ้ืนท่ีบริเวณหนึ่งมีค่าเป็นไปได้ตั้งแต่ 295 ถึง 560 กิโลกรัม โดยมีค่าเฉล่ียอยู่ที่
400 กิโลกรมั อาจเปลย่ี นเปน็ ข้อมลู ปรมิ าณผลผลิตข้าวตอ่ ไรเ่ ป็นข้อมูลเชิงคุณภาพท่ีบอกระดับผลผลิตว่า
ต่า ปานกลาง หรือสูงได้ โดยกาหนดให้ผลผลิตต่าคือผลผลิตตั้งแต่ 295 กิโลกรัม แต่น้อยกว่า 375
กิโลกรัม ผลผลิตปานกลางคือผลผลิตต้ังแต่ 375 กิโลกรัม แต่น้อยกว่า 450 กิโลกรัม และผลผลิตสูงคือ
ผลผลิตต้ังแต่ 450 กิโลกรัม ถึง 560 กิโลกรัม แต่ข้อมูลท่ีบันทึกใหม่จะไม่มีรายละเอียดของข้อมูลมาก
เท่ากบั ขอ้ มลู เดิมและต้องใช้วธิ ีการวิเคราะหท์ ี่แตกต่างออกไปด้วย
2) ข้อมูลท่ีนามาประมวลผลหรือวิเคราะห์เพื่อตอบคาถามหรือโจทย์ท่ีต้ังไว้ อาจแบ่งตาม
ประเภทต่าง ๆ ข้างต้นได้มากว่าหนึ่งประเภท เช่น ข้อมูลหนึ่งอาจเป็นทั้งข้อมูลเชิงปริมาณและข้อมูล
อนุกรมเวลา เช่น จานวนนักท่องเท่ียวชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาที่สนามบินสุวรรณภูมิในแต่ละ
วนั ในเดือนธนั วาคม พ.ศ.2563
3) นักเรียนอาจเข้าใจว่า ผลการเรียนหรือเกรด (4, 3, 2, 1, 0) เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ ในทาง
ทฤษฎี เกรดจัดเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพที่สามารถเปรียบเทียบมากน้อยได้ เช่นเดียวกับ เบอร์รองเท้า
ระดบั ความพงึ พอใจ พ.ศ. ผลการจัดอันดับต่าง ๆ ฯลฯ เนื่องจากข้อมูลเชิงปริมาณจะต้องสามารถนาไป
บวก ลบ คูณ หรือหาร และเปรียบเทียบกันได้ แต่การนาเกรดมาคูณหรือหารกันไม่ก่อให้เกิด

ครูครรชติ แซ่โฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เร่ือง ประเภทของข้อมูล 10

ความหมายใด ๆ เช่น ไม่สามารถบอกได้ว่านักเรียนที่ได้เกรด 4 ได้คะแนนเป็นสองเท่าของนักเรียนท่ีได้
เกรด 2 ทั้งน้ี ในทางปฏิบัติเป็นที่นิยมโดยทั่วไปให้สามารถพิจารณาข้อมูลลักษณะน้ีเป็นข้อมูลเชิง
ปรมิ าณและสามารถหาค่าเฉลยี่ ได้

ขัน้ สรปุ บทเรียน
ผู้เรยี นและครูร่วมกนั สรุปประเภทของขอ้ มูล ดงั นี้
ขอ้ มูลทีจ่ ะนามาใช้ศกึ ษาสามารถแบง่ ได้หลายประเภททีส่ าคัญมดี ังน้ี
1. การแบ่งประเภทของขอ้ มลู ตามแหล่งที่มาของข้อมูล

การแบ่งประเภทของข้อมูลตามแหล่งท่ีมาของข้อมูลเป็นการแบ่งประเภทของข้อมูล โดย
คานึงวา่ ผใู้ ช้ขอ้ มลู เป็นผจู้ ัดเก็บข้อมูลเอง หรือเป็นข้อมูลท่ีบุคคลหรือหน่วยงานอ่ืนเป็นผู้จัดเก็บแล้ผู้ใช้
เพียงแคน่ ามาใช้จึงแบ่งขอ้ มูลออกเปน็ 2 ประเภท ดังนี้

1) ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary data) หมายถึงข้อมูลที่ผู้ใช้ดาเนินการเก็บรวบรวมจาก
เจา้ ของข้อมูลหรอื ตน้ กาเนิดของข้อมลู โดยตรง

2) ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary data) หมายถึงข้อมูลท่ีผู้ใช้ไม่ได้ดาเนินการเก็บรวบรวม
จากเจ้าของขอ้ มลู หรอื ต้นกาเนิดของข้อมูลโดยตรง แต่ใช้ข้อมูลท่ีบุคคลหรือหน่วยงานอื่นเก็บรวบรวม
มา ซ่ึงส่วนใหญ่ผู้ใช้มักจะใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดยภาครัฐซ่ึงเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลตามภารกิจ
ของหน่วยงาน

2. การแบง่ ประเภทของข้อมลู ตามระยะเวลาทีจ่ ดั เกบ็
การแบ่งประเภทของข้อมูลตามระยะเวลาที่จัดเก็บเป็นการแบ่งประเภทของข้อมูล โดย

พิจารณาจากชว่ งเวลาที่มีขอ้ มลู เกดิ ขนึ้ และมกี ารจัดเกบ็ จงึ แบ่งข้อมูลออกเป็น 2 ประเภท ดังน้ี
1) ข้อมลู อนุกรมเวลา (Time series data) หมายถงึ ชดุ ข้อมูลทีเ่ กดิ ขึ้นและจัดเกบ็ ตาม

ลาดบั เวลาต่อเนอื่ งกนั ไปตลอดช่วง ๆ หน่ึง
2) ข้อมูลตัดขวาง (Cross-sectional data) หมายถึงข้อมูลท่บี อกสถานะหรือสภาพของส่ิง

ทส่ี นใจ ณ จุดหน่งึ ของเวลา
3. การแบ่งประเภทของขอ้ มูลตามลักษณะของขอ้ มูล
การแบ่งประเภทของข้อมูลตามลักษณะของข้อมูลเป็นการแบ่งประเภทของข้อมูล โดย

พิจารณาจากข้อมลู นัน้ แสดงถึงปรมิ าณของส่ิง ๆ หนึ่งหรือไม่ จึงแบง่ ขอ้ มลู ออกเปน็ 2 ประเภท ดังน้ี
1) ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative data) หมายถึงข้อมูลท่ีได้จากการวัดหรือการนับค่า

โดยแสดงเปน็ ตัวเลขหรอื ปริมาณท่ีสามารถนาไปบวก ลบ คูณ หรือหาร และเปรียบเทียบกันได้
2) ข้อมลู เชงิ คุณภาพ (Qualitative data) หมายถึงข้อมูลที่แสดงลักษณะ ประเภท สมบัติ

ในเชิงคุณภาพและอื่น ๆ ท่ไี มส่ ามารถวัดค่าเป็นตวั เลขทีน่ ามาบวก ลบ คูณ หรือหารกันได้

ครูครรชิต แซโ่ ฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เรอื่ ง ประเภทของข้อมูล 11

แบบบันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที.่ ........เวลา................ช่วั โมง/คาบ ภาคเรียนท.่ี ...........ปีการศกึ ษา...........
เร่อื ง.........................................................................................................................................................
รหสั วิชา...............................ช่อื วิชา...................................... ............................ชน้ั ..................................

1. จานวนนกั เรียนท่รี ่วมกิจกรรมการเรียนรู้ จานวนนักเรยี นท่ขี าดเรยี น (คน)
จานวนนกั เรยี นท้งั หมด (คน)

นักเรียนท่ขี าดเรียน (เลขท่ี) หมายเหตุ

2. ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

2.1 ความเหมาะสมของระยะเวลา ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรุง

2.2 ความเหมาะสมของเน้ือหา ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง

2.3 กิจกรรมการเรยี นรู้ ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรงุ

2.4 สอื่ การเรียนรู้ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรงุ

............................................................................................................................... ............

............................................................................................................................. ..............

2.5 พฤตกิ รรม/การมีสว่ นรว่ มของผเู้ รียน ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรับปรงุ

............................................................................................................................. ..............

................................................................................................................................... ........

2.6 ผลการปฏิบัติกิจกรรม/ใบกจิ กรรม/ใบงาน/แบบฝกึ หดั /การทดสอบก่อน – หลงั เรยี น

...........................................................................................................................................

............................................................................................................................. ..............

3. ปญั หาและอุปสรรค

..................................................................................................................................................

.......................................................................................................................... ........................

4. ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข

............................................................................................................................. .....................

........................................................................................ ........................................ ..................

ลงชอื่ ……….……………………ครูผูส้ อน

(นายครรชิต แซ่โฮ่)

ตาแหนง่ ครู อนั ดับ คศ.2

ครูครรชติ แซโ่ ฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง ประเภทของข้อมลู 12

แบบสังเกตพฤติกรรมผ้เู รียนดา้ นทกั ษะกระบวนการ

รายวชิ า คณติ ศาสตร์ 6 รหสั ค 33102 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 6
ภาคเรยี นท่ี..................
คาบท.่ี ............... ปกี ารศกึ ษา...................

วันท…่ี ……..เดอื น………………………..พ.ศ………..........

คาชี้แจง ให้ใส่คะแนนระดบั คุณภาพลงในช่องทกั ษะกระบวนการแตล่ ะช่องตามเกณฑ์การใหค้ ะแนน

พฤตกิ รรมผู้เรยี นด้านทกั ษะกระบวนการ สรุปผล

ท่ี ชอ่ื – สกุล รวม การประเมิน

การ การให้ การส่อื สาร การ การคดิ รเิ ริม่ ผ่าน ไม่
แกป้ ัญหา เหตุผล เช่อื มโยง สร้างสรรค์ ผ่าน

การผา่ นเกณฑต์ ้องได้ระดับคณุ ภาพโดยรวมตั้งแต่ 10 คะแนนข้นึ ไป

ลงชอื่ ……………………………………………..ผู้ประเมนิ
(……………………………………………...)

วันท.ี่ ...........เดอื น.......................พ. ศ................

ครคู รรชิต แซโ่ ฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เรอื่ ง ประเภทของข้อมูล 13

เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านทักษะกระบวนการ

1. การแกป้ ัญหา

คะแนน : ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการแก้ปญั หาทป่ี รากฏใหเ้ ห็น

4 : ดมี าก ใช้ยทุ ธวธิ ีดาเนนิ การแก้ปญั หาสาเร็จอย่างมีประสทิ ธภิ าพ อธิบายถึง
เหตุผลในการใชว้ ิธกี ารดงั กลา่ วได้เขา้ ใจชัดเจน

3 : ดี ใชย้ ทุ ธวิธดี าเนนิ การแก้ปัญหาสาเร็จ แตน่ ่าจะอธบิ ายถึงเหตุผล
ในการใช้วธิ ีการดังกล่าวไดด้ ีกว่านี้

2 : พอใช้ มยี ุทธวธิ ดี าเนนิ การแก้ปัญหาสาเร็จเพยี งบางส่วน อธิบายถึงเหตผุ ล
ในการใชว้ ธิ กี ารดังกล่าวไดบ้ างส่วน

1 : ควรแก้ไข มีร่องรอยการแก้ปญั หาบางสว่ น เร่มิ คิดวา่ ทาไมจงึ ตอ้ งใช้วธิ ีการน้นั
แล้วหยุด อธบิ ายตอ่ ไม่ได้ แก้ปัญหาไม่สาเรจ็

0 : ควรปรบั ปรุง ทาได้ไม่ถึงเกณฑ์ข้างต้นหรือไมม่ รี ่องรอยการดาเนินการแก้ปญั หา

2. การให้เหตุผล

คะแนน : ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลท่ปี รากฏใหเ้ หน็

4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจอย่างมเี หตุผล

3 : ดี มีการอ้างอิงท่ถี ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจ

2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไมส่ มเหตุสมผลในการประกอบการตัดสินใจ

1 : ควรแกไ้ ข มคี วามพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจ

0 : ควรปรับปรงุ ไมม่ แี นวคิดประกอบการตัดสินใจ

3. การสอื่ สาร การส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ และการนาเสนอ

คะแนน : ระดับคุณภาพ ความสามารถในการสือ่ สาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์
และการนาเสนอท่ีปรากฏให้เห็น

ใช้ภาษาและสัญลกั ษณท์ างคณติ ศาสตร์ที่ถกู ต้อง นาเสนอโดยใช้กราฟ

4 : ดีมาก แผนภมู ิ หรือตารางแสดงข้อมูลประกอบตามลาดับขนั้ ตอนได้เป็น

ระบบ กระชบั ชดั เจน และมีความละเอียดสมบูรณ์

ใชภ้ าษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ นาเสนอโดยใช้กราฟ แผนภูมิ

3 : ดี หรือตารางแสดงข้อมูลประกอบตามลาดับขั้นตอนได้ถูกต้อง

ขาดรายละเอยี ดท่สี มบูรณ์

2 : พอใช้ ใช้ภาษาและสัญลักษณท์ างคณิตศาสตร์ พยายามนาเสนอข้อมูลโดยใช้
กราฟ แผนภมู ิ หรือตารางแสดงข้อมูลประกอบชดั เจนบางสว่ น

1 : ควรแกไ้ ข ใชภ้ าษาและสัญลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์อยา่ งงา่ ย ๆ ไม่ไดใ้ ช้กราฟ
แผนภูมหิ รอื ตารางเลย และการนาเสนอข้อมูลไมช่ ดั เจน

0 : ควรปรับปรงุ ไมน่ าเสนอขอ้ มูล

ครูครรชิต แซโ่ ฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 เรอ่ื ง ประเภทของข้อมูล 14

4. การเชอ่ื มโยงความรู้ทางคณติ ศาสตร์

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการเชอื่ มโยงที่ปรากฏใหเ้ ห็น

นาความรู้ หลักการ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงกับ

4 : ดีมาก สาระคณิตศาสตร์ / สาระอ่นื / ในชีวิตประจาวนั เพ่อื ชว่ ย

ในการแก้ปัญหาหรอื ประยุกต์ใช้ไดอ้ ยา่ งสอดคล้องและเหมาะสม

นาความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงกับ

3 : ดี สาระคณติ ศาสตร์ / สาระอ่นื / ในชวี ติ ประจาวนั เพือ่ ชว่ ยในการ

แก้ปญั หา หรอื ประยุกตใ์ ช้ได้บางส่วน

2 : พอใช้ นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ไปเชอ่ื มโยงกบั สาระ
คณติ ศาสตร์ ได้บางสว่ น

1 : ควรแก้ไข นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ในการเช่ือมโยงยงั ไม่
เหมาะสม

0 : ควรปรบั ปรุง ไมม่ ีการเชอ่ื มโยงกบั สาระอื่นใด

5. ความคิดรเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์

คะแนน : ระดับคณุ ภาพ ความคดิ รเิ รมิ สรา้ งสรรคท์ ปี่ รากฏใหเ้ หน็

4 : ดีมาก มแี นวคดิ / วธิ ีการแปลกใหม่ท่ีสามารถนาไปปฏบิ ัติได้อยา่ งถกู ต้อง
สมบรู ณ์

3 : ดี มีแนวคิด / วธิ กี ารแปลกใหม่ทสี่ ามารถนาไปปฏิบัติได้ถกู ต้องแต่นาไป
ปฏบิ ตั ิแลว้ ไมถ่ ูกต้องสมบรู ณ์

2 : พอใช้ มแี นวคดิ / วธิ ีการไมแ่ ปลกใหมแ่ ตน่ าไปปฏิบตั ิแลว้ ถกู ต้องสมบูรณ์

1 : ควรแกไ้ ข มแี นวคดิ / วธิ ีการไมแ่ ปลกใหม่และนาไปปฏบิ ตั แิ ล้วไม่ถูกต้องสมบรู ณ์

0 : ควรปรับปรุง ไม่มผี ลงาน

ครูครรชติ แซ่โฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง ประเภทของข้อมูล 15

แบบสังเกตพฤติกรรมผ้เู รยี นด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

รายวชิ า คณิตศาสตร์ 6 รหัส ค 33102 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6
ภาคเรยี นที่..................
คาบท่ี................ ปีการศึกษา...................

วนั ท…่ี ……..เดอื น………………………..พ.ศ………..........

คาชีแ้ จง ใหใ้ ส่คะแนนระดบั คณุ ภาพลงในช่องคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์แต่ละชอ่ งตามเกณฑ์การใหค้ ะแนน

พฤติกรรมผู้เรียนด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ สรุปผล

ที่ ชอ่ื – สกลุ การทางานเป็น ระเบียบ ความ ความเชือ่ ม่นั รวม การประเมิน
ระบบรอบคอบ วนิ ัย รบั ผดิ ชอบ ในตนเอง
ความ ผ่าน ไม่
ซอื่ สัตย์ ผา่ น

การผา่ นเกณฑ์ตอ้ งไดร้ ะดับคณุ ภาพโดยรวมตั้งแต่ 10 คะแนนขนึ้ ไป

ลงช่ือ……………………………………………..ผ้ปู ระเมนิ
(……………………………………………...)

วนั ที่............เดือน.......................พ. ศ................

ครูครรชิต แซโ่ ฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เร่อื ง ประเภทของข้อมูล 16

เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

1. การทางานเป็นระบบรอบคอบ

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คณุ ลักษณะที่ปรากฏใหเ้ ห็น

- มีการวางแผนการดาเนินงานเป็นระบบ

3 : ดีมาก - การทางานมีครบทุกข้นั ตอน ตดั ข้ันตอนที่ไมส่ าคัญออก

- จดั เรียงลาดับความสาคญั ก่อน – หลงั ถูกต้องครบถว้ น

- มีการวางแผนการดาเนนิ งาน

2 : ดี - การทางานไม่ครบทกุ ขั้นตอน และผิดพลาดบา้ ง

- จัดเรียงลาดบั ความสาคญั ก่อน – หลงั ไดเ้ ป็นสว่ นใหญ่

- ไมม่ กี ารวางแผนการดาเนนิ งาน

1 : พอใช้ - การทางานไม่มีข้นั ตอน มีความผิดพลาดต้องแกไ้ ข

- ไม่จดั เรยี งลาดบั ความสาคัญ

2. ระเบยี บวินัย

คะแนน : ระดับคณุ ภาพ คณุ ลกั ษณะที่ปรากฏให้เห็น

3 : ดมี าก - สมุดงาน ชน้ิ งาน สะอาดเรียบรอ้ ย
- ปฏบิ ตั ิตนอยู่ในข้อตกลงท่ีกาหนดให้รว่ มกนั ทุกคร้งั

2 : ดี - สมุดงาน ชน้ิ งาน ส่วนใหญ่สะอาดเรยี บรอ้ ย
- ปฏิบัตติ นอยใู่ นข้อตกลงทก่ี าหนดใหร้ ่วมกนั เป็นส่วนใหญ่

- สมุดงาน ชิน้ งาน ไมค่ ่อยเรยี บร้อย

1 : พอใช้ - ปฏิบัติตนอยู่ในข้อตกลงทก่ี าหนดใหร้ ว่ มกันเป็นบางครงั้ ต้องอาศยั

การแนะนา

3. ความรับผดิ ชอบ

คะแนน : ระดับคุณภาพ คุณลกั ษณะทป่ี รากฏใหเ้ หน็

- ส่งงานก่อนหรอื ตรงกาหนดเวลานัดหมาย

3 : ดมี าก - รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมายและปฏบิ ตั ติ นเองจนเป็นนสิ ัย

เปน็ ระบบแกผ่ ู้อน่ื และแนะนาชกั ชวนใหผ้ ้อู ่นื ปฏิบตั ิ

2 : ดี - ส่งงานชา้ กว่ากาหนด แตไ่ ด้มีการติดต่อชีแ้ จงผู้สอน มีเหตุผลทร่ี ับฟงั ได้
- รับผดิ ชอบในงานท่ไี ด้รับมอบหมายและปฏิบตั ิตนเองจนเปน็ นิสยั

1 : พอใช้ - สง่ งานชา้ กวา่ กาหนด
- ปฏิบัติงานโดยต้องอาศัยการชแี้ นะ แนะนา ตักเตือนหรอื ใหก้ าลังใจ

ครคู รรชิต แซ่โฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เร่อื ง ประเภทของข้อมูล 17

4. ความเชอ่ื ม่ันในตนเอง

คะแนน : ระดับคณุ ภาพ คุณลักษณะทีป่ รากฏให้เหน็

3 : ดมี าก มแี นวคิด การตัดสินใจในการทางานด้วยตนเองทกุ ครั้ง ใหค้ าแนะนา
ผอู้ นื่ ได้

2 : ดี มีแนวคิด การตัดสินใจในการทางานด้วยตนเองเป็นบางครงั้ แต่ตอ้ งถาม
ปญั หาบางคร้ัง

1 : พอใช้ ไมม่ แี นวคดิ ของตนเอง ไมก่ ล้าตดั สินใจดว้ นตนเอง

5. ความซ่ือสตั ย์

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คุณลกั ษณะทปี่ รากฏให้เหน็

3 : ดีมาก มีแนวคดิ ในการทางานดว้ ยตนเองทุกครั้ง ไมน่ าผลงานคนอน่ื มา
ลอกเลียนแบบ ไม่นาผลงานผู้อ่ืนมาเป็นผลงานของตนเอง

2 : ดี มแี นวคิดในการทางานดว้ ยตนเองเป็นบางครัง้ ลอกเลียนแบบงานจาก
คนอืน่ บางคร้ัง ไม่นาผลงานผู้อนื่ มาเป็นผลงานของตนเอง

1 : พอใช้ ไมม่ แี นวคดิ ของตนเอง ทางานทกุ ครงั้ ต้องลอกเลียนแบบจากงานเพอื่ น

ครคู รรชิต แซโ่ ฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

รายวชิ า คณิตศาสตร์ 6
รหัสวชิ า ค33102

แผนการจดั การเรยี นรู้

คณิตศาสตร์ ม.6

ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ
เร่อื ง สถติ ิศาสตรแ์ ละขอ้ มูล ดว้ ยรูปแบบ SSCS

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่

4

เรอ่ื ง สถติ ิศาสตรเ์ ชิงพรรณนาและ
สถิตศิ าสตรเ์ ชงิ อนมุ าน

นายครรชิต แซ่โฮ่
ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ

โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา
สานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 15
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน

กระทรวงศึกษาธกิ าร

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง สถิตศิ าสตรเ์ ชงิ พรรณนาและสถติ ิศาสตร์เชิงอนุมาน 1

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 4 เร่อื ง สถิติศาสตรเ์ ชงิ พรรณนาและสถติ ิศาสตร์เชิงอนุมาน

รายวชิ า คณิตศาสตร์ 6 รหสั วชิ า ค33102 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง สถติ ิศาสตร์และข้อมูล เวลาทีใ่ ช้ในการจัดการเรียนรู้ 3 คาบ

 มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้ีวัด
สาระที่ 3 สถติ แิ ละความน่าจะเป็น
มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใช้ความร้ทู างสถติ ิในการแกป้ ญั หา
ตวั ช้วี ัด เขา้ ใจและใชค้ วามรูท้ างสถติ ใิ นการนา เสนอข้อมลู และแปล
ความหมายของคา่ สถิติเพ่ือประกอบการตัดสินใจ

 จุดเนน้ การพฒั นาผู้เรยี น
 แสวงหาความรู้เพ่ือการแกป้ ัญหา
 ใช้เทคโนโลยีเพ่อื การเรยี นรู้
 ทักษะการคดิ ขัน้ สงู
 มีทักษะชวี ิต
 ทักษะการสอื่ สารอยา่ งสรา้ งสรรค์ตามช่วงวัย

 สาระสาคญั (ความเข้าใจทคี่ งทน)
สถิติศาสตร์เชิงพรรณนา (Descriptive statistics) เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลที่สรุปสาระ

สาคัญของข้อมูลชุดหน่ึงซึ่งเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพหรือข้อมูลเชิงปริมาณ เพื่ออธิบายลักษณะหรือสภาพ
ของข้อมูลชุดน้ันว่าเป็นอย่างไร โดยทั่วไปข้อมูลเชิงคุณภาพจะใช้การนาเสนอด้วยตารางความถ่ีแผนภูมิ
แท่ง ฐานนิยม และอ่ืน ๆ ส่วนข้อมูลเชิงปริมาณจะใช้การนาเสนอด้วยฮิสโทแกรมแผนภาพกล่อง ค่า
ต่าสดุ ค่าสูงสุด ค่าเฉล่ีย และอน่ื ๆ

สถิติศาสตร์เชิงอนุมาน (Inferential statistics) เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลท่ีใช้ทฤษฎีท่ี
เกย่ี วกับความน่าจะเปน็ ในการหาข้อสรุปเก่ียวกบั ลกั ษณะของประชากรโดยใช้ข้อมูลจากตัวอย่างที่ได้มา
จากประชากรน้นั

 สาระการเรยี นรู้ (มาตรฐานการปฏบิ ัติได้)
ด้านความรู้ (K) ผ้เู รยี นสามารถ
1) ระบุไดว้ า่ สถานการณ์ท่ีกาหนดใชว้ ธิ ีการของสถิติศาสตรเ์ ชงิ พรรณนาหรอื สถิติศาสตร์เชงิ
อนุมาน
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) ผเู้ รียนมคี วามสามารถใน
1) การแกป้ ัญหา
2) การให้เหตุผล
3) การสื่อสาร การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ
4) การเชื่อมโยงความร้ทู างคณิตศาสตร์
5) ความคดิ ริเร่ิมสรา้ งสรรค์

ครคู รรชติ แซ่โฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 เร่อื ง สถิตศิ าสตร์เชงิ พรรณนาและสถิตศิ าสตร์เชงิ อนมุ าน 2

ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) ผู้เรยี นมี
1) การทางานเปน็ ระบบ รอบคอบ
2) ระเบยี บวนิ ัย
3) ความรับผิดชอบ
4) ความเชือ่ มนั่ ในตนเอง
5) ความซ่อื สัตย์

 สมรรถนะสาคัญ
 ความสามารถในการสื่อสาร
 ความสามารถในการคิด
 ความสามารถในการแก้ปัญหา
 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

 สื่อ/แหลง่ เรียนรู้
ส่ือการเรยี นรู้
1) แบบฝกึ ทกั ษะคณิตศาสตร์ เลม่ ที่ 1 เรือ่ ง สถิติศาสตร์และข้อมลู
แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องสมดุ ของโรงเรียน
2) การสบื คน้ ข้อมูลจากอินเตอรเ์ น็ต ไดแ้ ก่
- เว็บไซต์ http://www.google.co.th
- คลังวีดโี อสื่อคณติ ศาสตร์ http://www.youtube.com
- คลังเอกสารสือ่ คณติ ศาสตร์ http://www.scribd.com

 หลักฐานการเรียนรู้
ช้นิ งาน
1) -
ภาระงาน
1) แบบฝึกทกั ษะท่ี 6 สถิติศาสตรเ์ ชิงพรรณนาและสถติ ศิ าสตร์เชิงอนมุ าน
2) กจิ กรรม เรยี งร้อยความหมาย
3) กจิ กรรม การอนญุ าตใหใ้ ส่ชดุ ลาลองมาโรงเรยี นได้
4) กิจกรรม แบบสอบถามพน้ื ฐานทางสงั คมและเศรษฐกจิ ของนักเรยี น
5) แบบฝกึ หัดทา้ ยบท สถติ ศิ าสตร์และข้อมลู

ครคู รรชติ แซโ่ ฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สถติ ศิ าสตร์เชิงพรรณนาและสถติ ศิ าสตร์เชิงอนุมาน 3

 การวดั ผลและประเมินผลการจดั การเรียนรู้

ดา้ น รายการประเมิน วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑก์ าร
1. ความรู้ (K) ประเมิน
ผเู้ รยี นสามารถ 1. ประเมนิ จากการทา
2. ทักษะ 1) ระบุได้วา่ สถานการณ์ที่ แบบฝกึ ทักษะ - แบบฝกึ ทักษะ ทาเอกสาร
กระบวนการ
(P) กาหนดใชว้ ธิ ีการของ 2. ตรวจเอกสารแบบฝึก แบบฝึกทกั ษะ/
สถิตศิ าสตร์เชงิ พรรณนา ทักษะ
หรอื สถิตศิ าสตร์เชิง ไดถ้ ูกต้องอย่าง
อนมุ าน 1. สังเกตจากการตอบ
ดจู ากแบบสังเกตพฤตกิ รรม คาถามในหอ้ งเรยี น นอ้ ย 70% ของ
ผู้เรยี นดา้ นทกั ษะ
กระบวนการ 2. สังเกตพฤติกรรม คะแนนทัง้ หมด
ผู้เรียน
แบบสังเกต การผา่ นเกณฑ์
3. คณุ ลกั ษณะ ดจู ากแบบสังเกตพฤติกรรม 1. สงั เกตจากการตอบ พฤติกรรม ตอ้ งได้ระดบั
อันพงึ ประสงค์ ผู้เรียนดา้ นคณุ ลกั ษณะ คาถามในหอ้ งเรยี น ผู้เรียน คณุ ภาพโดย
(A) อนั พึงประสงค์ ด้านทักษะ ภาพรวมตั้งแต่ 10
2. สังเกตพฤติกรรม กระบวนการ คะแนนข้ึนไป
ผู้เรยี น
แบบสังเกต การผา่ นเกณฑ์
พฤติกรรม ต้องไดร้ ะดบั
ผู้เรียน คณุ ภาพโดย
ด้านคุณลกั ษณะ ภาพรวมต้ังแต่ 10
อนั พงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ ไป

 การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

กจิ กรรมการเรียนรู้ตามรปู แบบ SSCS

ขน้ั เตรียมความพรอ้ ม
1. ครใู ห้ผเู้ รยี นน่งั สมาธิ เพือ่ รวบรวมสติ สมาธิและเตรยี มความพรอ้ มในการเรยี น
2. ผเู้ รียนและครรู ว่ มกันสนทนาเก่ยี วกบั หลกั การดาเนินชีวิตประจาวัน โดยนาค่านิยมหลักของ
คนไทย 12 ประการมาแทรกเป็นกรณีตัวอย่างตามสถานการณ์ ได้แก่ 1) มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทา 2) รู้จัก
ดารงตนอยูโ่ ดยใชห้ ลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เปน็ ต้น
3. ครูช้ีแจงวิธีการเรียนรู้โดยการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ตาม
รปู แบบ SSCS

ขน้ั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น
1. ครูแบ่งกลุ่มผู้เรียนออกเป็นกลุ่มกลุ่มละ 4 – 5 คน โดยแต่ละกลุ่มมีการคละความสามารถ
ของผู้เรียน เกง่ ปานกลาง และออ่ น ตามผลการเรียนท่พี ิจารณาจากการสอบในภาคเรยี นที่ผ่านมาเป็น
รายบุคคล เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนได้ช่วยเหลือกันและแลกเปลย่ี นประสบการณ์ภายในกลุ่ม และให้ผู้เรียนแต่ละ
กลุ่มช่วยกันเลอื กประธาน 1 คน เลขานกุ าร 1 คน และผู้รว่ มงาน 2 – 3 คน

ครูครรชติ แซโ่ ฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 4 เร่ือง สถิตศิ าสตร์เชิงพรรณนาและสถิตศิ าสตรเ์ ชงิ อนมุ าน 4

2. ครแู จ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ของกิจกรรมการเรียนรตู้ ามรปู แบบ SSCS ใหผ้ เู้ รียนทราบ
3. ผู้เรียนและครูร่วมกันสนทนา ทบทวนเกี่ยวกับความรู้เดิม เรื่องประเภทของข้อมูล พร้อม
ทั้งยกตัวอย่างให้ผู้เรียนจาแนกประเภทของข้อมูลตามแหล่งที่มาของข้อมูล ระยะเวลาท่ีจัดเก็บ หรือ
ลกั ษณะของข้อมลู โดยครใู ช้การถาม-ตอบ เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจ

ข้ันกจิ กรรมการเรียนรู้
ขั้นที่ 1 Search: S (ข้ันสบื เสาะค้นหาความร้)ู
1.1 ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มสแกน QR code เพ่ือเข้าไปศึกษาวีดิทัศน์ซึ่งจัดทาขึ้นภายใต้
โครงการ Project14 ของสสวท.

หรือเว็บไซต์ที่ https://proj14.ipst.ac.th/m4-6-math-basic/m6-math-basic/math-m6-004/
จากน้ันผู้เรียนและครูร่วมกันสรุปความหมายของสถิติศาสตร์เชิงพรรณนา โดยครูคอยแนะนาจนกว่า
ผู้เรยี นเข้าใจ ดังนี้

การวเิ คราะห์ข้อมลู แบง่ ข้อมลู ได้เป็นสถติ ิศาสตรเ์ ชงิ พรรณนาและสถิติศาสตร์เชิงอนุมาน
โดยมีรายละเอยี ดดังตอ่ ไปนี้

สถิติศาสตร์เชิงพรรณนา (Descriptive statistics) เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลที่สรุป
สาระ สาคัญของข้อมูลชุดหน่ึงซ่ึงเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพหรือข้อมูลเชิงปริมาณ เพ่ืออธิบายลักษณะ
หรอื สภาพของขอ้ มลู ชดุ นน้ั ว่าเป็นอย่างไร โดยท่ัวไปข้อมูลเชิงคุณภาพจะใช้การนาเสนอด้วยตาราง
ความถ่ีแผนภูมิแท่ง ฐานนิยม และอื่น ๆ ส่วนข้อมูลเชิงปริมาณจะใช้การนาเสนอด้วยฮิสโทแกรม
แผนภาพกล่อง ค่าต่าสุด ค่าสูงสดุ คา่ เฉลย่ี และอืน่ ๆ

1.2 ครยู กตัวอยา่ งการใช้สถิตศิ าสตร์เชงิ พรรณนาใหผ้ ู้เรยี น ดังนี้
1) คะแนนสงู สดุ ในการสอบกลางภาควิชาคณติ ศาสตร์ คอื 29 คะแนน
2) รายได้เฉลี่ยของผูป้ กครองนกั เรียนช้ัน ม.6
3) นกั ศึกษาของมหาวทิ ยาลัยแห่งหนงึ่ ทมี่ ภี มู ิลาเนาอยู่ภาคใต้คิดเป็นร้อยละ 20 ของ

นักศกึ ษาทั้งหมด
1.3 ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันยกตัวอย่างอ่ืน ๆ ท่ีเป็นการใช้สถิติศาสตร์เชิงพรรณนามา

กลมุ่ ละ 3 ตวั อยา่ ง
1.4 ให้ผู้เรียนพจิ ารณาตัวอย่างขอ้ มูล แลว้ ต้งั คาถามกระตนุ้ ความคดิ ของผ้เู รยี น ดังน้ี
คะแนนสอบวชิ าคณิตศาสตร์ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ห้องหนึ่ง จานวน 50 คน เก็บ

รวบรวมมาได้ดงั น้ี

ครูครรชิต แซโ่ ฮ่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 เรอื่ ง สถติ ิศาสตร์เชิงพรรณนาและสถิติศาสตรเ์ ชิงอนุมาน 5

81 79 74 50 47 53 66 62 98 70
78
77 73 86 73 52 69 85 64 54 91
49
81 80 74 95 70 72 93 62 58 59

50 69 45 85 82 78 68 78 67

49 55 67 67 89 58 53 55 90

คาถามที่ 1 จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ นกั เรียนทไ่ี ดค้ ะแนนสอบมากกวา่ 80 คะแนน มกี ีค่ น

คาตอบ 12 คน

คาถามที่ 2 จากคาถามท่ี 1 ผู้เรียนมวี ธิ ีคดิ อยา่ งไรถึงไดค้ าตอบ

คาตอบ โดยการไล่นับข้อมูลทีละจานวน

คาถามท่ี 3 จากข้อมูลขา้ งตน้ นักเรียนทีไ่ ดค้ ะแนนสอบต้ังแต่ 61 – 70 คะแนน มีก่คี น

คาตอบ 12 คน

คาถามท่ี 4 จากคาถามท่ี 3 ผเู้ รียนมวี ธิ คี ดิ อยา่ งไรถึงได้คาตอบ ยังมีวิธีอน่ื อกี หรือไม่

คาตอบ โดยการไล่นับข้อมูลทีละจานวน

จากคาถามข้างตน้ จะเห็นได้ว่า การตอบคาถามข้างตน้ ได้จะต้องมีการไล่นับข้อมูลทีละจานวน

ถงึ สองรอบ ซงึ่ ถ้าข้อมูลมจี านวนมากยิ่งจะให้เราเสียเวลามากข้ึนด้วย ดังน้ัน ข้อมูลท่ีเก็บรวบรวมมาได้

อาจมีจานวนมากหรือเก็บรวบรวมไม่เป็นระบบจึงไม่สามารถนามาอธิบายลักษณะที่สาคัญของข้อมูล

ไดช้ ัดเจน จงึ ต้องใช้วธิ ีการของสถิติศาสตรเ์ ชิงพรรณนาในการสรปุ ผลจากข้อมูลด้วยการนาเสนอข้อมูล

ในรูปแบบตา่ ง ๆ เพื่อให้สามารถอ่านและแปลความหมายของข้อมูลไดง้ า่ ยขนึ้

จากข้อมูลข้างต้น อาจใช้วิธีการของสถิติศาสตร์เชิงพรรณนาในการนาเสนอข้อมูลด้วยตาราง

โดยแบ่งชว่ งคะแนนได้ดงั นี้

คะแนนสอบ จานวนนักเรียน (คน)

41 – 50 6

51 – 60 9

61 – 70 12

71 – 80 11

81 – 90 8

91 – 100 4

รวม 50

จะเห็นวา่ การนาเสนอข้อมูลด้วยตารางจะทาใหอ้ า่ นและแปลความหมายของข้อมูลได้ง่ายกว่า
การพิจารณาจากขอ้ มูลท่ีเกบ็ รวบรวมมาได้ท้งั หมดโดยทยี่ งั ไม่ไดจ้ ัดกลมุ่ ขอ้ มูลในรูปของตาราง

นอกจากน้ยี งั เป็นการวิเคราะหข์ ้อเพือ่ สรุปส่ิงท่ีสนใจได้ เช่น จากตารางมีนักเรียนที่ได้คะแนน
สอบมากกว่า 60 คะแนน จานวน 12 + 11 + 8 + 4 = 35 คน ซึ่งมากกว่าร้อยละ 50 ของนักเรียน
ทงั้ หมด

ครูครรชิต แซ่โฮ่ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวัดยะลา


Click to View FlipBook Version