บันทกึ ข้อความ
ส่วนราชการ โรงเรยี นเทศบาลเมอื งขลุง 1 (บุรวิทยาคาร)
ที่จบ ๕๒๒๐๖.๑/-- วนั ท่ี…………………………………………………………………………………….…
เรอื่ ง การตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้
เรียน ผู้อานวยการสถานศึกษา
ข้าพเจ้า นายสุริยัน ไตรยพัน ธ์ ได้จัดทาแผนการจัดการเรียน รู้ของช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี 3
วชิ า คณิตศาสตร์ รหัสวิชา 13101 จาน วน 1 แผนฯ เวลา 100 ช่ัวโมง ช่วงระยะเวลา
วันที.่ ........................................................ถึงวนั ท.่ี ........................................................ โดยมรี ายละเอียดดงั น้ี
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน การบูรณาการ
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ การสือ่ สาร หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ซ่ือสัตย์สุจริต การคิด โตไปไมโ่ กง
มวี นิ ัย การแกป้ ญั หา ต้านทจุ รติ ศึกษา
ใฝ่เรยี นรู้ การใชท้ กั ษะชีวิต ประชาคมอาเซยี น
อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง การใช้เทคโนโลยี บูรณาการกบั กลุ่มสาระ
มงุ่ มน่ั ในการทางาน การเรยี นรู้...................................
รกั ความเป็นไทย
มจี ติ สาธารณะ
ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21
3R ทกั ษะด้านการอา่ น 8C ทักษะด้านการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณฯ
ทักษะด้านการเขียน ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรค์ฯ
ทักษะทางคณิตศาสตร์ ทักษะดา้ นความร่วมมือฯ
ทักษะดา้ นความเขา้ ใจต่างของวัฒนธรรมฯ
ทกั ษะด้านการส่อื สารฯ
ทกั ษะด้านคอมพิวเตอรฯ์
ทกั ษะอาชพี ฯ
ความมเี มตตา คุณธรรมฯ
จึงเรียนมาเพือ่ โปรดพจิ ารณา
ลงช่ือ............................................................ผูส้ อน
( นายสุริยัน ไตรยพนั ธ์ )
ตาแหนง่ ครู
ผ้ตู รวจแผนการจัดการเรียนรู้
.................................................................................... ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
ลงชอ่ื ...................................................วิชาการสายช้นั ลงชอื่ ..............................................หัวหน้างานวิชาการ
( ………………………………… ) (……………………………………)
ตาแหน่ง……………………………………………………………… ตาแหนง่ ………………………………………………………………..
ความเหน็ อนมุ ตั ิ ไม่อนมุ ัติ เน่อื งจาก..............................................................................................
ลงชือ่ ...........................................................
(นายสภุ นิติ์ สาสะเน)
ผอู้ านวยการสถานศึกษา
สารบัญ หน้า
เรอื่ ง ก
ง
คำอธิบำยรำยวชิ ำคณติ ศำสตร์ ฐ
โครงสร้ำงเวลำเรยี นกล่มุ สำระกำรเรยี นรคู้ ณติ ศำสตร์ ชั้นประถมศึกษำปที ่ี 3
ตำรำงวเิ ครำะห์จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ ตัวชวี้ ัดและสำระกำรเรียนรู้คณติ ศำสตร์ 1-44
45-104
ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี 3 105-142
หนว่ ยกำรเรยี นรู้ 1 จำนวนนบั ไม่เกนิ 100,000 143-149
หน่วยกำรเรยี นรู้ 2 กำรบวกและกำรลบจำนวนนับ ไมเ่ กิน 100,000 150-168
หนว่ ยกำรเรียนรู้ 3 เวลำ 169-208
หนว่ ยกำรเรยี นรู้ 4 รปู เรขำคณติ 209-243
หนว่ ยกำรเรยี นรู้ 5 แผนภมู ิรูปภำพและตำรำงทำงเดียว 210
หน่วยกำรเรียนรู้ 6 เศษสว่ น 211
หน่วยกำรเรียนรู้ 7 กำรคณู 212
ภาคผนวก 213
214-215
- กำรตรวจแผนกกำรจัดกำรเรียนรู้
- บันทกึ ขอ้ ควำมกำรสง่ บันทกึ ผลหลงั กำรจัดกำรเรยี นรู้
- กำรส่งบนั ทึกผลหลังกำรจดั กำรเรียนรู้
- บนั ทึกผลหลงั กำรจัดกำรเรียนรู้ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้
ก
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำคณิตศำสตร์
รำยวิชำพ้ืนฐำน กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ คณติ ศำสตร์
ชัน้ ประถมศึกษำปที ่ี 3 เวลำ 200 ชว่ั โมง/ปี
ศึกษาการอ่านและการเขียนตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนังสือแสดงจานวนนับหลัก ค่าของเลขโดดใน
แตล่ ะหลกั และการเขยี นตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจาย การเปรยี บเทียบจานวน การเรยี งลาดับจานวน แบบรปู ของ
จานวนที่เพิ่มข้ึนและลดลง การบวกจานวนนับทมี่ ผี ลบวกไม่เกนิ 100,000 การบวกจานวนสามจานวนท่ีมีผลบวกไม่
เกนิ 100,000 โจทยป์ ัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหาการบวก การลบจานวนท่มี ีตวั ต้ังไม่เกิน 100,000 การลบ
จานวนสามจานวน การหาตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกและการลบ โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์
ปัญหาการลบ การคณู จานวนหนึ่งหลักกบั จานวนไม่เกนิ สหี่ ลกั การคูณกบั จานวนสองหลักกบั จานวนสองหลกั โจทย์
ปญั หาและการสรา้ ง โจทย์ปญั หาการลบ การหารทีม่ ีตวั ตง้ั ไมเ่ กนิ ส่ีหลักและตัวหารมีหน่ึงหลกั การหาตวั ไมท่ ราบค่าใน
ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการคูณและการหาร โจทยป์ ัญหาและการสรา้ งโจทยป์ ัญหาการหาร การวัดความยาวเป็น
เซนติเมตรและมิลลเิ มตร เมตรและเซนติเมตร กโิ ลเมตรและเมตร การเลือกเคร่ืองมือวัดความยาวทเ่ี หมาะสม การ
คาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเป็นเซนติเมตร การเปรยี บเทียบความยาวโดยใชค้ วามสัมพันธ์ระหว่างหนว่ ยความยาว
โจทย์ปญั หาเกยี่ วกับความยาว รูปทมี่ แี กนสมมาตรและจานวนแกนสมมาตร การบอก อา่ นและเขยี นเศษส่วนท่ีตัวเศษ
น้อยกว่าหรอื เท่ากับตัวสว่ น การเปรียบเทยี บเศษสว่ น การเรียงลาดบั เศษสว่ น การบวกเศษส่วนท่มี ีตัวสว่ นเท่ากัน การ
ลบเศษสว่ นท่ีมีตวั ส่วนเทา่ กนั โจทยป์ ญั หาการบวกและการลบเศษสว่ น การวดั และบอกนา้ หนักเปน็ กิโลกรมั และขีด
กิโลกรัมและกรมั การเลือกเครือ่ งชง่ั ท่เี หมาะสม การคาดคะเนนา้ หนักเปน็ กิโลกรมั และเป็นขดี การเปรียบเทียบ
นา้ หนกั โดยใชค้ วามสมั พนั ธร์ ะหว่างกิโลกรัมกบั กรมั เมตรกิ ตันกับกิโลกรัม โจทยป์ ัญหาเก่ยี วกับนา้ หนกั การวัดปริมาตร
และความจเุ ป็นลิตรและมิลลลิ ติ ร การเลือก เครอื่ งตวงทีเ่ หมาะสม การคาดคะเนปรมิ าตรและความจุเป็นลิตร กา ร
เปรียบเทยี บปรมิ าตรและความจโุ ดยใชค้ วามสมั พันธร์ ะหว่างลติ รกับมิลลลิ ติ ร ช้อนชา ชอ้ นโตะ๊ ถ้วยตวงกบั มลิ ลิลิตร
โจทย์ปญั หาเก่ียวกบั ปรมิ าตรและความจุทม่ี หี น่วยเป็นลติ รและมิลลลิ ติ ร การเก็บรวบรวมข้อมลู และจาแนกข้อมูล การ
อา่ นและเขียนแผนภมู ิรปู ภาพ การอา่ นและเขียนตารางทางเดยี ว การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที การเขียนบอกเวลา
และการอ่าน การบอกระยะเวลาเปน็ ช่ัวโมงและนาที การเปรยี บเทยี บระยะเวลาโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างช่ัวโมงกับ
นาที การอ่านและการเขียนบนั ทึกกจิ กรรมท่รี ะบเุ วลา โจทย์ปญั หาเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา เงนิ เหรยี ญและธนบัตร
ชนิดต่าง ๆ การบอกจานวนเงินและเขียนแสดงจานวนเงนิ แบบใช้จดุ และการอา่ น การเปรียบเทยี บจานวนเงินและการ
แลกเงนิ การอ่านและการเขียนบันทกึ รายรับ รายจ่าย โจทย์ปญั หาเกี่ยวกับเงิน การบวก ลบ คูณ หารระคน โจทย์
ปัญหาและการสร้างโจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน โดยการจัดประสบการณห์ รือสร้างสถานการณใ์ น
ชวี ติ ประจาวนั ท่ีใกล้ตวั ใหผ้ เู้ รียนได้ศึกษา ค้นควา้ ฝึกทกั ษะ โดยการปฏบิ ัติจรงิ ทดลอง สรปุ รายงาน เพ่อื พฒั นาทักษะ
กระบวนการในการคิดคานวณ การแกป้ ัญหา การให้เหตุผล การส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ และนาประสบการณ์
ด้านความรู้ ความคดิ ทักษะและกระบวนการทไี่ ดไ้ ปใช้ในการเรียนรสู้ ิ่งต่างๆ และใช้ในชวี ติ ประจาวนั อยา่ งสร้างสรรค์
เพอ่ื ให้เหน็ คุณค่าและมีเจตคตทิ ี่ดตี ่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานไดอ้ ย่างเป็นระบบ มีระเบยี บ รอบคอบมคี วาม
รบั ผิดชอบ มวี จิ ารณญาณ มคี วามคิดริเร่มิ สรา้ งสรรค์และมคี วามเช่อื มั่นในตนเอง
ข
ตวั ชีว้ ดั
ค. 1.1 ป.3/1 อา่ นและเขียนตัวเลขฮินดอู ารบิก ตัวเลขไทย และตวั หนังสือแสดงจานวนนับไม่เกิน
100,000 และ 0
ค. 1.1 ป.3/2 เปรียบเทยี บและเรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน 100,000 จากสถานการณ์ต่าง ๆ
ค. 1.1 ป.3/3 บอก อา่ น และเขยี นเศษสว่ นแสดงปรมิ าณสงิ่ ตา่ งๆ และเขียนแสดงสิ่งตา่ ง ๆ ตามเศษส่วนท่ี
กาหนด
ค. 1.1 ป.3/4 เปรยี บเทียบเศษสว่ นทตี่ วั เศษเทา่ กนั โดยที่ตัวเศษนอ้ ยกวา่ หรอื เทา่ กับตัวสว่ น
ค. 1.1 ป.3/5 หาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์แสดงการ
ลบของจานวนนับไม่เกนิ 100,000 และ 0
ค. 1.1 ป.3/6 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการคูณของจานวน 1 หลกั กับจานวนไม่
เกิน 4 หลักและจานวน 2 หลกั กับจานวน 2 หลกั
ค. 1.1 ป.3/7 หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการหารทต่ี ัวตั้งไม่เกนิ 4 หลัก ตวั หาร 1
หลกั
ค. 1.1 ป.3/8 หาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 และ 0
ค. 1.1 ป.3/9 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขนั้ ตอน ของจานวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 และ 0
ค. 1.1 ป.3/10 หาผลบวกของเศษสว่ นทมี่ ตี วั ส่วนเท่ากันและผลบวกไมเ่ กิน 1 และหาผลลบของ
เศษสว่ นท่ีมตี วั ส่วนเทา่ กัน
ค. 1.1 ป.3/11 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปญั หาการบวกเศษสว่ นท่มี ตี ัวส่วนเท่ากันและผลบวกไมเ่ กนิ 1
และโจทย์ปญั หาการลบเศษสว่ นที่มีตัวส่วนเทา่ กนั
ค. 1.2 ป.3/1 ระบจุ านวนท่ีหายไปในแบบรปู ของจานวนทีเ่ พมิ่ ข้ึนหรือลดลงทลี ะเทา่ ๆ กัน
ค. 2.1 ป.3/1 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ยี วกับเงนิ
ค. 2.1 ป.3/2 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกับเวลาและระยะทาง
ค. 2.1 ป.3/3 เลือกใช้เคร่ืองวดั ความยาวทเี่ หมาะสม วัดและบอกความยาวของสิ่งต่าง ๆ เปน็
เซนตเิ มตรและมิลลเิ มตรเปน็ เมตรและเซนตเิ มตร
ค. 2.1 ป.3/4 คาดคะเนความยาวเปน็ เมตรและเปน็ เซนติเมตร
ค. 2.1 ป.3/5 เปรยี บเทียบความยาวระหว่างเซนติเมตรกบั มิลลเิ มตร เมตรกบั เซนติเมตร กโิ ลเมตรกับ
เมตร จากสถานการณต์ า่ ง ๆ
ค. 2.1 ป.3/6 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวท่ีมีหน่วยเป็นเซนติเมตรและ
มิลลเิ มตร เมตรและเซนตเิ มตร กโิ ลเมตรและเมตร
ค. 2.1 ป.3/7 เลือกใช้เครอ่ื งชัง่ ท่เี หมาะสม วัดและบอกน้าหนักเป็นกิโลกรมั และขดี กโิ ลกรัมและกรัม
ค. 2.1 ป.3/8 คาดคะเนนา้ หนกั เปน็ กิโลกรัมและเปน็ ขดี
ค. 2.1 ป.3/9 เปรยี บเทียบนา้ หนกั ระหวา่ งกิโลกรมั กบั กรัม เมตริกตันกับกิโลกรมั จากสถานการณต์ า่ ง ๆ
ค. 2.1 ป.3/10 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั น้าหนกั ที่มหี นว่ ยเปน็ กโิ ลกรัมกับ
กรมั เมตรกิ ตนั กบั กิโลกรัม
ค
ค. 2.1 ป.3/11 เลือกใช้เคร่ืองตวงท่ีเหมาะสม วัดและเปรียบเทยี บปรมิ าตร ความจุเปน็ ลิตรและ
มิลลลิ ติ ร
ค. 2.1 ป.3/12 คาดคะเนปริมาตรและความจเุ ปน็ ลติ ร
ค. 2.1 ป.3/13 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปญั หาเกี่ยวกบั ปรมิ าตรและความจทุ ี่มหี น่วยเปน็
ลติ รและมิลลิลิตร
ค. 2.2 ป.3/1 ระบุรปู เรขาคณิตสองมิติท่มี แี กนสมมาตรและจานวนแกนสมมาตร
ค. 3.1 ป.3/1 เขียนแผนภูมริ ูปภาพ และใช้ขอ้ มลู จากแผนภมู ริ ปู ภาพในการหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา
ค. 3.1 ป.3/2 เขยี นตารางทางเดยี วจากขอ้ มลู ทเี่ ป็นจานวนนบั และใชข้ ้อมูลจากตารางทางเดยี วในการ
หาคาตอบของโจทยป์ ญั หา
รวม 28 ตวั ช้วี ดั
ง
โครงสร้างเวลาเรยี นกลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๓
ภาคเรียนท่ี 1 ช่วั โมง
รหัสวิชา ค ๑๓๑๐๑ ชือ่ วิชา คณติ ศาสตร์
๑8
รายวิชา 25
หน่วยการเรยี นรู้ 1 จานวนนับไม่เกิน 100,000 ๑6
หนว่ ยการเรยี นรู้ 2 การบวกและการลบจานวนนบั 2
7
ไมเ่ กนิ 100,000 ๑6
หนว่ ยการเรียนรู้ 3 เวลา ๑6
หนว่ ยการเรยี นรู้ 4 รูปเรขาคณิต
หน่วยการเรยี นรู้ 5 แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดยี ว 100
หนว่ ยการเรยี นรู้ 6 เศษสว่ น
หนว่ ยการเรียนรู้ 7 การคณู
รวม
จ
กาหนดแผนการจดั การเรยี นรู้ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 จานวนนับไมเ่ กนิ 100,000
แผนการ เร่อื ง จานวน
จดั การ (ชวั่ โมง)
เรียนรูท้ ่ี การอา่ นและเขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบกิ ตัวเลขไทย และตวั หนังสือแสดงจานวน
การอ่านและเขยี นตวั เลขฮินดอู ารบกิ ตัวเลขไทย และตัวหนังสอื แสดงจานวน 1
1 หลกั คา่ ของเลขโดดในแต่ละหลกั และการเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรปู กระจาย 1
2 หลกั คา่ ของเลขโดดในแต่ละหลกั และการเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรปู กระจาย 1
3 หลัก ค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลกั และการเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรปู กระจาย 1
4 การเปรียบเทยี บจานวน 1
5 การเปรยี บเทยี บจานวน 1
6 การเปรียบเทียบจานวน 1
7 การเรยี งลาดับจานวน 1
8 การเรยี งลาดบั จานวน 1
9 แบบรูปของจานวนที่เพิ่มข้ึนทีละ 3 1
10 แบบรูปของจานวนที่เพิม่ ข้นึ ทีละ 5 1
11 แบบรูปของจานวนที่เพมิ่ ขน้ึ ทีละ 8 1
12 แบบรปู ของจานวนท่ีเพม่ิ ขน้ึ ทีละ 10 1
13 แบบรปู ของจานวนทล่ี ดลงทีละ 3 1
14 แบบรปู ของจานวนทล่ี ดลงทลี ะ 5 1
15 แบบรูปของจานวนที่ลดลงทลี ะ 8 1
16 แบบรปู ของจานวนทล่ี ดลงทลี ะ 10 1
17 1
18 รวม 18
ฉ
กาหนดแผนการจัดการเรียนรู้ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 การบวกและการลบจานวนนับไม่เกิน 100,000
แผนการ เรอ่ื ง จานวน
จดั การ (ชว่ั โมง)
เรยี นร้ทู ี่ การบวกจานวนสองจานวนทม่ี ผี ลบวกไมเ่ กิน 1,000 ไมม่ ที ด
การบวกจานวนสองจานวนทีม่ ผี ลบวกไม่เกนิ 1,000 มที ด 1
1 การบวกจานวนสองจานวนทม่ี ผี ลบวกไม่เกนิ 10,000 ไมม่ ีทด 1
2 การบวกจานวนสองจานวนที่มผี ลบวกไมเ่ กิน 10,000 มที ด 1
3 การบวกจานวนสองจานวนท่มี ีผลบวกไมเ่ กนิ 100,000 ไมม่ ที ด 1
4 การบวกจานวนสองจานวนทม่ี ผี ลบวกไมเ่ กนิ 100,000 มีทด 1
5 การบวกจานวนสามจานวนทีม่ ผี ลบวกไม่เกนิ 100,000 1
6 การบวกจานวนสามจานวนทม่ี ีผลบวกไมเ่ กนิ 100,000 1
7 การลบจานวนสองจานวนทมี่ ตี ัวตั้งไม่เกนิ 1,000 ไมม่ กี ารกระจาย 1
8 การลบจานวนสองจานวนที่มีตัวตั้งไม่เกิน 1,000 มีการกระจาย 1
9 การลบจานวนสองจานวนที่มีตัวตง้ั ไม่เกนิ 10,000 ไม่มีการกระจาย 1
10 การลบจานวนสองจานวนทมี่ ีตวั ตั้งไมเ่ กนิ 10,000 มกี ารกระจาย 1
11 การลบจานวนสองจานวนทม่ี ตี วั ตั้งไม่เกิน 100,000 ไมม่ กี ารกระจาย 1
12 การลบจานวนสองจานวนที่มีตวั ตง้ั ไม่เกิน 100,000 มกี ารกระจาย 1
13 การลบจานวนสามจานวนที่มีตัวตงั้ ไมเ่ กิน 100,000 1
14 การหาคา่ ของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกและการลบ 1
15 การหาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกและการลบ 1
16 การวิเคราะหโ์ จทย์ปญั หาการบวกและหาคาตอบ 1
การแสดงวธิ ที าโจทยป์ ญั หาการบวก 1
17 การวเิ คราะห์โจทย์ปัญหาการลบและหาคาตอบ 1
18 การวิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหาการลบและหาคาตอบ 1
19 การแสดงวิธที าโจทย์ปญั หาการลบ 1
20 1
21
22
แผนการ เร่อื ง ช
จัดการ
เรียนรู้ท่ี การสรา้ งโจทย์ปญั หาการบวกจากภาพ จานวน
การสรา้ งโจทย์ปญั หาการลบจากภาพ (ชว่ั โมง)
23 การสร้างโจทยป์ ัญหาการบวกจากประโยคสญั ลกั ษณ์
24 1
25 รวม 1
1
25
กาหนดแผนการจดั การเรยี นรู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 ซ
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เวลา
แผนการ เรอ่ื ง จานวน
จดั การ (ช่ัวโมง)
เรียนรทู้ ่ี การบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที
การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที 1
1 การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที 1
2 การอา่ นและเขยี นบอกเวลาทมี มี หพั ภาค (.) หรอื ทวิภาค (:) 1
3 การอา่ นและเขียนบอกเวลาทมี ีมหัพภาค (.) หรอื ทวภิ าค (:) 1
4 การบอกระยะเวลาเป็นช่วั โมงและนาที 1
5 การบอกระยะเวลาเปน็ ช่วั โมงและนาที 1
6 การบอกระยะเวลาเปน็ ชว่ั โมงและนาที 1
7 การเปรียบเทยี บระยะเวลา 1
8 การเปรยี บเทยี บระยะเวลา 1
9 โจทยป์ ญั หาการบวกเกย่ี วกบั เวลาและระยะเวลา 1
10 โจทยป์ ญั หาการบวกเก่ียวกับเวลาและระยะเวลา 1
11 โจทยป์ ญั หาการลบเกยี่ วกับเวลาและระยะเวลา 1
12 โจทย์ปญั หาการลบเกย่ี วกบั เวลาและระยะเวลา 1
13 การอ่านบนั ทึกกจิ กรรมที่ระบเุ วลา 1
14 การเขียนบันทึกกิจกรรมท่รี ะบุเวลา 1
15 1
16 รวม 16
ฌ
กาหนดแผนการจดั การเรยี นรู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 รูปเรขาคณิต
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี เรอื่ ง จานวน
(ชั่วโมง)
1 รูปทม่ี แี กนสมมาตร
2 การประยุกตใ์ ชร้ ูปทม่ี แี กนสมมาตร 1
1
รวม 2
ญ
กาหนดแผนการจดั การเรยี นรู้ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 5 แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดียว
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ เร่อื ง จานวน
(ชว่ั โมง)
1 การเก็บรวบรวมขอ้ มูลและจาแนกขอ้ มูล
2 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และจาแนกข้อมูล 1
3 การอ่านแผนภูมิรูปภาพ 1
4 การอ่านแผนภูมริ ูปภาพ 1
5 การเขียนแผนภมู ิรูปภาพ 1
6 การอ่านตารางทางเดียว 1
7 การเขยี นตารางทางเดียว 1
1
รวม 7
ฎ
กาหนดแผนการจัดการเรยี นรู้ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 6 เศษสว่ น
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี เรอื่ ง จานวน
(ชว่ั โมง)
1 การอา่ นและการเขียนเศษส่วนท่ตี วั เศษนอ้ ยกว่าตวั ส่วน
2 การอ่านและการเขยี นเศษส่วนท่ตี ัวเศษเทา่ กบั ตัวสว่ น 1
3 การเปรียบเทยี บเศษสว่ นทม่ี ีตวั สว่ นเทา่ กัน 1
4 การเรียงลาดับเศษสว่ นทีม่ ีตวั สว่ นเท่ากัน 1
5 การเปรียบเทียบเศษสว่ นท่ีมตี วั เศษเทา่ กนั 1
6 การเรียงลาดับเศษส่วนท่มี ีตัวเศษเท่ากัน 1
7 การบวกเศษสว่ นทม่ี ีตัวส่วนเทา่ กัน 1
8 การบวกเศษส่วนทมี่ ตี ัวสว่ นเทา่ กนั 1
9 การลบเศษส่วนท่มี ตี วั ส่วนเทา่ กัน 1
10 การลบเศษส่วนท่มี ตี ัวส่วนเท่ากนั 1
11 โจทย์ปัญหาการบวกเศษสว่ นท่มี ตี ัวสว่ นเท่ากนั 1
12 โจทยป์ ญั หาการบวกเศษสว่ นท่มี ตี วั สว่ นเท่ากัน 1
13 โจทย์ปญั หาการบวกเศษส่วนทม่ี ตี วั สว่ นเทา่ กัน 1
14 โจทยป์ ญั หาการลบเศษสว่ นที่มตี ัวสว่ นเทา่ กนั 1
15 โจทย์ปญั หาการลบเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากนั 1
16 โจทยป์ ัญหาการลบเศษสว่ นที่มีตัวส่วนเท่ากนั 1
1
รวม 16
ฏ
กาหนดแผนการจดั การเรยี นรู้ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 7 การคณู
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี เรอ่ื ง จานวน
(ชวั่ โมง)
1 การคณู จานวนหนึ่งหลกั กับจานวนสองหลกั
2 การคณู จานวนหนึ่งหลักกบั 100, 200, 300, ..., 900 1
3 การคูณจานวนหนง่ึ หลักกบั 1,000, 2,000, 3,000, ..., 9,000 1
4 การคูณจานวนที่มหี นง่ึ หลักกบั จานวนสามหลกั (ไมม่ กี ารทด) 1
5 การคณู จานวนท่ีมีหน่ึงหลกั กบั จานวนสามหลัก (มีการทด) 1
6 การคูณจานวนที่มีหนง่ึ หลกั กบั จานวนสามหลัก (มีการทด) 1
7 การคูณจานวนทม่ี ีหนึ่งหลักกับจานวนสี่หลกั 1
8 การคูณจานวนสองหลกั กบั 10, 20, 30, ..., 90 1
9 การคูณจานวนทมี่ สี องหลกั กับจานวนสองหลัก 1
10 ความรูส้ ึกเชงิ จานวนเก่ยี วกบั การคณู 1
11 การหาคา่ ของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคณู 1
12 การวเิ คราะห์โจทย์ปญั หาการคูณและหาคาตอบ 1
13 การวิเคราะห์โจทย์ปัญหาการคณู และหาคาตอบ 1
14 การแสดงวิธีทาโจทย์ปญั หาการคณู 1
15 การสร้างโจทย์ปญั หาการคณู จากภาพ 1
16 การสร้างโจทยป์ ัญหาการคณู จากประโยคสญั ลกั ษณ์ 1
1
รวม 16
ตารางวิเคราะห์จุดประสงค์การเรียนรู้ ตวั ชีว้ ดั แล
บทท่ี เรือ่ ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตวั
1 จำนวนนบั 1. อำ่ นและเขยี นตวั เลขฮนิ ดอู ำรบิก ตัวเลข ค 1.1
ไมเ่ กนิ ไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนบั ไม่เกิน ป.3/1 อ่ำนแ
100,000 100,000 ได้ ฮนิ ดูอำรบิก ต
2. เขียนตัวเลขฮินดูอำ รบิก ตัวเลขไทย ตัวหนังสือแสด
และตัวหนังสือแสดงจ ำ น วน นับไม่เกิน เกนิ ๑๐,๐๐๐
100,000 และ 0 ไดถ้ กู ตอ้ ง ป.3/2 เปรยี บ
3. อำ่ นตัวเลขฮินดูอำรบกิ และตวั เลขไทย ลำ ดบั จำนวนน
แสดงจำนวนนบั ไม่เกิน 100,000 และ 0 ๑๐๐,๐๐๐ จำ
ได้ถกู ตอ้ ง ต่ำงๆ
4. นำควำมรู้เกี่ยวกับกำรอ่ำนและเขียน
ตัวเลข ฮิน ดูอำ ร บิ ก ตัวเล ขไท ย แล ะ
ตั วห นั ง สื อ แ ส ด งจ ำ น วน นั บ ไม่ เกิ น
100,000 ไปใชแ้ กป้ ัญหำทำงคณิตศำสตร์
ได้
ฐ
ละสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓
วช้วี ัด สาระการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา
(ชม.)
จำนวนนบั ทีไ่ มเ่ กนิ จำนวนนับที่ไม่เกิน 100,000 18
และเขียนตัวเลข 100,000 และ 0 และ 0 สำมำรถอ่ำนและเขียน
ตัวเลข ไทยและ เปน็ จำนวนท่ี แทน ด้วยตัวเลขฮินดูอำร บิก
ดงจำนวนนับไม่ ประกอบด้วยหลกั ตัวเลขไทย และตั วหนั งสื อ
และ ๐ หนว่ ย หลักสบิ หลกั จำนวนต่ำง ๆ จะมีค่ำมำกหรือ
บเทยี บและเรียง รอ้ ย หลกั พนั หลัก นอ้ ยขึ้นอยูก่ ับจำนวนหลักและคำ่
นบั ไมเ่ กิน หม่นื และหลักแสน ของตวั เลขในแต่ละหลักที่จะทำ
ำกสถำนกำรณ์ สำ+25+มำรถอ่ำน ให้จำนวนมีค่ำแตกต่ำงกัน ซ่ึง
จำนวนนับท่ีไม่เกิน 100,000
และเขยี นแทนด้วย จะเปน็ กำรบอกจำนวนทีม่ ตี วั เลข
ตัวเลขฮินดอู ำรบิก ที่ไม่เกินหกหลัก จำนวนนับไม่
ตวั เลขไทย และ เกิน 100,000 สำมำรถนำมำ
ตัวหนังสือ ซ่งึ ตอ้ งใส่ เปรียบเทียบกัน ได้ โดยมีค่ำ
เครื่องหมำยจุลภำค เท่ำกันหรือไม่เท่ำกนั และคำ่ ไม่
(,) ทกุ ชว่ งสำม เท่ำกันอำจมีค่ำมำกกวำ่ หรอื น้อย
ตำแหนง่ ของจำนวน กวำ่ กนั อยำ่ งใดอยำ่ งหนึง่ เทำ่ น้ัน
โดยนับจำกหลกั โดยใชเ้ ครอ่ื งหมำย = ≠ > <
หน่วยไปทำงซ้ำยมือ แสดงกำ รเปรียบเทียบ กำ ร
เรียงลำดับจำนวน
บทท่ี เรื่อง จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัว
2 กำรบวก 1. หำผลบวกจำนวนสองจำนวนทม่ี ผี ลบวก ค 1.1
และกำร ไมเ่ กิน 1,000 ไมม่ ีทดได้ ป.3/5 หำคำ่ ข
ลบจำนวน 2. เขียนแสดงวิธีกำรหำผลบวกจำนวนสอง คำ่ ในประโยค ส
นับ จำนวนที่มผี ลบวกไมเ่ กิน 1,000 ไมม่ ีทดได้ กำรบวกและปร
ไม่เกิน ถูกตอ้ ง สัญลกั ษณแ์ สดง
100,000 3. นำควำมรู้เกี่ยวกับกำรบวกจำนวนสอง จำนวนนบั ไมเ่ ก
จำนวนท่ีมผี ลบวกไมเ่ กนิ 1,000 ไมม่ ีทดไป และ ๐
ใช้แกป้ ัญหำทำงคณิตศำสตรไ์ ด้ ป.3/9 แสดงวิธ
ของโจทยป์ ญั ห
ของจำ นวนนับ
๑๐๐,๐๐๐ แล
ค 1.2
ป.3/1 ระบจุ ำน
แบบรปู ของจำ
หรอื ลดลง ทลี ะ
ฑ
วชี้วัด สาระการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา
(ชม.)
กำรบวกจำนวนสอง กำรบวกจำนวนสองจำนวนที่มี
จำนวนทมี่ ีผลบวกไม่ ผลบวกไมเ่ กนิ 100,000 ให้ 25
เกนิ 1,000 ไม่มที ด บวกจำนวนทอี่ ยู่ในหลกั เดยี วกนั
ของตวั ไม่ทรำบ เข้ำด้วยกัน โดยเร่ิมบวกจำก
สญั ลักษณแ์ สดง หลักหน่วยก่อน ถ้ำผลบวกใน
ระโยค หลักใดเป็นจำนวนสองหลักให้
งกำรลบของ ทดจำนวนทคี่ รบสิบไปยังหลัก
ถดั ไปทำงซำ้ ย กำรบวกจำนวน
กิน ๑๐๐,๐๐๐ สำมจำนวนใช้วธิ ีเดียวกนั กับ
กำรบวกจำนวนสองจำนวน คือ
ธีหำค ำตอบ กำร บวกจ ำ น วน ที่ อยู่ ใน ห ลั ก
หำสอง ขนั้ ตอน เดียวกัน เข้ำ ด้วยกัน โจท ย์
บไม่เกิน ปัญหำกำรบวกจะประกอบไป
ละ ๐ ด้วยสองส่วนคอื ส่วนท่ีโจทย์
กำหนดให้และสว่ นทโี่ จทยถ์ ำม
นวนทห่ี ำยไปใน กำรหำคำตอบโจทยป์ ัญหำกำร
ำนวนที่เพมิ่ ขนึ้ บวก ทำได้โดยกำรวิเครำะห์
โจทย์ เขียนประโยคสญั ลกั ษณ์
ะเท่ำ ๆ กนั
บทท่ี เรื่อง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตัวช
3 เวลำ 1. บอกเวลำเป็นนำฬิกำและนำทไี ด้ ค 2.1
2. เขียนแสดงเข็มของนำฬิกำตำมเวลำที่ ป.3/2 แสด
กำหนดได้ ของโจทยป์ ญั หำ
3. นำควำมรู้เกี่ยวกับกำรบอกเวลำ เป็น และระยะเวลำ
นำฬกิ ำและนำทีไปใชใ้ นชวี ติ จริงได้
ฒ
ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา
(ชม.)
กำรบอกเวลำเป็น กำรบอกเวลำบนหน้ำปดั นำฬิกำ
ดงวธิ หี ำคำตอบ นำฬิกำและนำที จะบอกเปน็ นำฬิกำกับนำที และ ๑6
ำ เกีย่ วกับเวลำ สำมำรถบอกระยะเวลำเป็นช่ัวโมง
เปน็ นำที ซ่งึ นำมำเปรยี บเทยี บได้
สว่ นกำรเขยี นและกำรอ่ำนเวลำ
สำมำรถใช้มหพั ภำค (.) และ
ทวิภำค (:) ซ่ึงนำไปใชใ้ นกำรอำ่ น
และเขียนบันทึกกิจกรรมทรี ะบุได้
กำรแก้ปัญหำเกย่ี วกบั เวลำเป็น
กำรนำเวลำในหนว่ ยเดียวกนั มำ
บวก ลบ คูณ หำรกนั
บทที่ เร่อื ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ตัวช
4 รูป 1. อธิบำ ยลักษณะของรูปเรขำ คณิตท่ีมี ค 2.2
เรขำคณติ แกนสมมำตรได้ ป.3/1 ระบ
2. สร้ำงรูปสมมำตรและระบุจำนวนแกน สองมิตทิ ่ีมแี กน
สมมำตรของรปู สมมำตรได้ จำนวนแกนสมม
3. นำควำมรู้เกี่ยวกับรูปทีม่ ีแกนสมมำตร
และจำนวนแกนสมมำตรไปใช้แกป้ ัญหำทำง
คณิตศำสตร์
ณ
ชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา
(ชม.)
บุรปู เรขำคณิต -รปู ที่เม่ือพับแล้ว แต่ เม่อื พบั กระดำษรปู เรขำคณิต
สมมำตรและ 2
มำตร
ละข้ำ งของรอยพับ สองมิตติ ำมแนวเส้นประแล้ว ทัง้
ทับกันสนิทเป็นรูปท่ี สองส่วนทบั กนั สนทิ พอดี เรียก
มีแกนสมมำตร รอย รอยพบั นวี้ ่ำ แกนสมมำตร และ
ดั บ น้ี เ ป็ น แ ก น เรียกรูปเรขำคณติ สองมติ ิท่มี ี
สมมำตร แกนสมมำตรว่ำ รูปสมมำตร ซ่ึง
-รูปท่ีมีแกนสมมำตร รปู เรขำคณิตสองมิติบำงรปู มี
บ ำ ง รู ป ที่ มี แ ก น แกนสมมำตรมำกกวำ่ 1 แกน
สมมำตรมำกกว่ำ 1
แกน
บทท่ี เร่ือง จุดประสงค์การเรยี นรู้ ตัวช
5 แผนภมู ิ 1. บอกวิธีกำร เก็บร วบร วมข้อมูลและ ค 3.1
รปู ภำพ จำแนกขอ้ มลู ได้ (K) ป.3/1 เขยี นแผ
และ 2. เก็บรวบรวมข้อมูลและจำแนกข้อมูลได้ และใชข้ อ้ มูล จำ
ตำรำงทำง อย่ำงถกู ต้อง (P) รปู ภำพในกำรห
เดียว 3. นำ ควำมรู้เกี่ยวกับกำ รเก็บร วบรวม โจทยป์ ัญหำ
ข้อมูลและจำแนกข้อมูลไปใช้ในชีวิตจริงได้ ป.3/2 เขียนตำ
(A) จำกข้อมลู ท่เี ป็น
และใชข้ อ้ มูล จำ
เดียวในกำรหำ ค
โจทย์ปัญหำ
ด
ชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา
(ชม.)
ผนภูมิรปู ภำพ กำรเกบ็ รวบรวม กำรเก็บรวบรวมขอ้ มลู และ
ำกแผนภูมิ ข้อมูล สำมำรถเกบ็ จำแนกขอ้ มูล มีวธิ ีกำรที่ 7
หำ คำตอบของ รวมรวมข้อมลู ซง่ึ อยู่ หลำกหลำยและใช้ทกั ษะ
ในรูปขอ้ ควำมหรือ กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตร์ใน
ำรำงทำงเดียว ตัวเลขดว้ ยวิธตี ำ่ งๆ กำรหำคำตอบและตรวจสอบ
นจำนวนนบั เช่น กำรสัมภำษณ์ ควำมสมเหตุสมผลของคำตอบ
ำกตำรำงทำง กำรสอบถำม กำร โดยต้องเลือกใช้ใหเ้ หมำะสม
คำตอบของ สำรวจ กำรสงั เกต สว่ นกำรนำเสนอข้อมลู สำมำรถ
และกำรทดลอง สว่ น ใช้ตำรำงทำงเดยี วและแผนภมู ิ
กำรจำแนกขอ้ มูลเปน็ รปู ภำพได้
กำรนำขอ้ มูลมำจัดให้
เปน็ หมวดหมหู่ รอื
เรยี งลำดับในลกั ษณะ
ตำ่ งๆ ตำม
วตั ถุประสงคท์ จ่ี ะนำ
ขอ้ มลู ไปใช้ จำกนน้ั
จงึ นำเสนอข้อมลู ใน
รปู แบบต่ำงๆ
บทท่ี เรอ่ื ง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ตวั ช
6 เศษส่วน 1. บอกเศษส่วน ท่ีตัวเศษน้อยกว่ำหรือ ค 1.1
เทำ่ กับตวั สว่ นได้ (K) ป.3/3 บอก อำ่
2. เขียนเศษส่วน ท่ีตัวเศษน้อยกว่ำหรือ เศษสว่ นแสดง ป
เท่ำกับตัวส่วนได้ (P) ตำมเศษส่วนท่ีก
3. นำควำมรู้เก่ียวกับกำรบอก อ่ำน และ ป.3/4 เปรยี บเท
เขียนเศษส่วนท่ีตัวเศษน้อยกว่ำหรือเท่ำกับ ตวั เศษเทำ่ กัน โด
ตัวสว่ นไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้ (A) นอ้ ยกวำ่ หรอื เท่ำ
ป.3/10 หำผลบ
เศษสว่ นทมี่ ีตวั สว่
ผลบวกไม่เกิน ๑
ของเศษสว่ นที่มตี
ป.3/11 แสดงว
ของโจทยป์ ญั หำ
เศษส่วนท่ีมตี ัวสว่
ผลบวกไม่เกิน ๑
ปัญหำกำรลบ เศ
ส่วนเท่ำกัน
ต
ชวี้ ดั สาระการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา
(ชม.)
เศษส่วน เป็นกำร กำรบอก อำ่ น และเขยี น
๑6
ำนและเขยี น เขียนแสดงจำนวน เศษส่วนทม่ี ีตัวเศษน้อยกว่ำหรอื
ปรมิ ำณส่งิ ตำ่ งๆ โดยใช้ − เปน็ เส้นค่นั เทำ่ กับตวั สว่ น สำมำรถ
ำหนด ระหวำ่ งจำนวนสอง เรยี งลำดบั เศษส่วนได้โดยกำร
ทียบเศษสว่ นท่ี จำนวน จำนวนที่อยู่ เปรยี บเทยี บเศษส่วน ส่วนกำร
ดยท่ตี วั เศษ บนเส้นคั่นเรยี กว่ำ ตวั แกโ้ จทย์ปญั หำกำรบวกและกำร
ำกับตวั ส่วน เศษ จำนวนท่ีอยูใ่ ต้ ลบเศษสว่ น ตอ้ งวเิ ครำะหโ์ จทย์
บวกของ เสน้ คน่ั เรยี กวำ่ ตวั และแสดงวธิ ีทำเพื่อหำคำตอบ
วน เท่ำกันและ ส่วน กำรอำ่ น รวมท้งั ตรวจสอบควำม
๑ และหำผลลบ เศษสว่ นให้เรม่ิ อ่ำน สมเหตุสมผลของคำตอบ
ตัวสว่ นเทำ่ กัน จำกตวั เลขเศษกอ่ น
วิธีหำค ำตอบ โดยมคี ำวำ่ เศษ
ำ กำรบวก นำหน้ำแล้วตำมดว้ ย
วนเทำ่ กัน และ ตัวเลขท่เี ป็นตัวเศษ
๑ และโจทย์ จำกนัน้ อำ่ นตวั สว่ น
ศษส่วนท่มี ตี ัว ตอ่ โดยมคี ำวำ่ ส่วน
นำหนำ้ แลว้ ตำมดว้ ย
ตวั เลขทเ่ี ป็นตัวส่วน
บทท่ี เรื่อง จุดประสงค์การเรียนรู้ ตวั ช
7 กำรคณู 1. สำมำรถหำผลคณู จำนวนที่มีหน่งึ หลัก ค 1.1
กับจำนวนสองหลักได้ (K) ป.3/6 หำค่ำขอ
2. เขียนแสดงวิธีหำคำตอบโดยใช้กำรคูณ ค่ำในประโยค ส
จำนวนหน่ึงหลักกับจำนวนไมเ่ กินส่ีหลักจำก กำรคณู ของจำน
โจทย์ท่ีกำหนดใหไ้ ดถ้ กู ต้อง (P) จำนวนไม่เกนิ ๔
3. นำควำมรู้เกีย่ วกับกำรคูณจำนวนหนึ่ง จำนวน ๒ หลักก
หลักกับจำนวนไมเ่ กนิ สหี่ ลักไปใชแ้ กป้ ัญหำ หลกั
ทำงคณิตศำสตร์ได้ (A) ป.3/9 แสดงวธิ
ของโจทย์ปญั หำ
ของจำนวนนบั ไม
๑๐๐,๐๐๐ และ
รวม
ถ
ช้วี ัด สาระการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา
(ชม.)
กำรคูณจำนวนทีม่ ี หลักในกำรคณู จำนวนไมเ่ กิน ๑6
องตัวไมท่ รำบ หนึง่ หลักกับจำนวน 100,000 คอื ใหค้ ูณจำนวนใน
สญั ลักษณแ์ สดง สองหลัก เร่ิมจำกคณู หลักหน่วยของตวั ตง้ั ก่อน แล้ว 100
นวน ๑ หลกั กบั ในหลักหนว่ ยก่อน จึงคูณในหลกั ถดั ไปทำงซำ้ ยมือ
๔ หลกั และ แลว้ จงึ คูณในหลกั สบิ ของหลกั หนว่ ยตำมลำดบั หรอื
กับจำนวน ๒ ซง่ึ อยถู่ ัดไปทำง จำกหลักทำงขวำมอื ไปทำงซ้ำย
มือทลี ะหลกั หำกมีทด ให้ทดไป
ซ้ำยมือ เมือ่ ผลคณู ใน ยังหลักถดั ไปทำงซำ้ ยมือกำร
ธหี ำค ำตอบ หลักหนว่ ยครบสิบ สรำ้ งโจทย์ปัญหำกำรคณู จะ
ำสอง ขั้นตอน หรือมำกกว่ำสบิ ให้ใส่ ประกอบไปด้วยสองส่วนคอื
ม่เกนิ ผลลพั ธเ์ ฉพำะหลัก สว่ นที่โจทย์กำหนดใหแ้ ละส่วนท่ี
ะ ๐ หนว่ ย ส่วนผลลัพธ์ โจทย์ถำม กำรแกโ้ จทยป์ ัญหำ
กำรคูณมขี ้ันตอนสำคัญคอื ทำ
หลกั สิบน้นั ให้ทดไป ควำมเขำ้ ใจ และวเิ ครำะห์โจทย์
ให้ผลลพั ธข์ องกำร ปัญหำ วำงแผนในกำรแกโ้ จทย์
คูณในหลกั สิบตอ่ ไป ปญั หำ แก้ปญั หำ และตรวจสอบ
ควำมสมเหตุสมผลของคำตอบ
1
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1
กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 วชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค13101
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 จานวนนับไม่เกนิ 100,000 เวลาเรยี น 18 ชัว่ โมง
............................................................................................................................. ............................... ....
1. สาระที่ 1 จานวนและพีชคณิต
2. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ
ดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกดิ ขน้ึ จากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการ
ดาเนนิ การ และการนาไปใช้
3. ตวั ช้ีวัด
ค 1.1 ป.3/1 : อา่ นและเขียน ตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทย และตัวหนังสือ แสดงจานวน
นบั ไมเ่ กนิ 100,000 และ 0
ค 1.1 ป.3/2 : เปรียบเทยี บและเรียงลา ดบั จานวนนบั ไม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐ จากสถานการณ์ตา่ งๆ
4. สาระสาคัญ
จานวนนับทไี่ มเ่ กิน 100,000 และ 0 เปน็ จานวนท่ีประกอบดว้ ยหลกั หนว่ ย หลักสิบ หลักรอ้ ย
หลกั พนั หลกั หม่ืน และหลกั แสน สามารถอา่ นและเขยี นแทนด้วยตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทย และ
ตวั หนงั สือ ซงึ่ ตอ้ งใส่เครื่องหมายจุลภาค (,) ทกุ ช่วงสามตาแหน่งของจานวนโดยนับจากหลักหน่วยไป
ทางซ้ายมือ
5. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
5.1 ด้านความรู้
1) อา่ นและเขียนตวั เลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับไม่เกิน
100,000 ได้ (K)
2) เขียนตัวเลขฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทย และตวั หนงั สือแสดงจานวนนับไมเ่ กนิ 100,000
และ 0 ได้ถูกต้อง (P)
3) อา่ นตวั เลขฮินดอู ารบิกและตวั เลขไทย แสดงจานวนนับไมเ่ กนิ 100,000 และ 0 ได้
ถูกต้อง
4) นาความรู้เก่ยี วกบั การอา่ นและเขยี นตัวเลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทย และตัวหนังสือ
แสดงจานวนนับไม่เกิน 100,000 ไปใช้แก้ปญั หาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ (A)
2
5.2 ดา้ นทักษะกระบวนการ
1) ทกั ษะการแกป้ ัญหา
2) ทักษะการส่อื สารและส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์
3) ทักษะการเชอ่ื มโยง
4) ทักษะการใหเ้ หตุผล
5) การคิดสร้างสรรค์
5.3 ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) มีวนิ ัย
2) ใฝเ่ รียนรู้
3) มุ่งมั่นในการทางาน
6. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
6.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
6.2 ความสามารถในการคดิ
6.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
6.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
6.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. การพัฒนา 3R
7.1 ทักษะดา้ นการอ่าน
7.2 ทักษะดา้ นการเขียน
7.3 ทกั ษะทางคณติ ศาสตร์
8. การพัฒนา 8C
8.1 ทกั ษะด้านการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณฯ
-
8.2 ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์ฯ
-
8.3 ทกั ษะด้านความร่วมมอื ฯ
ความรว่ มมอื ในการทางานกลมุ่
8.4 ทักษะด้านความเข้าใจตา่ งของวัฒนธรรมฯ
การทางานรว่ มกนั ในการทางานกลมุ่
8.5 ทักษะด้านการสือ่ สารฯ
-
3
8.6 ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ฯ
-
8.7 ทกั ษะอาชพี ฯ
-
8.8 ทกั ษะความมีเมตตา คุณธรรมฯ
การส่งงานตรงตามเวลาทกี่ าหนด
9. การบรู ณาการ
-
10. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
10.1 การอา่ นและเขียนตวั เลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทยและตัวหนงั สอื แสดงจานวน (1)
( 1 ชว่ั โมง)
ขัน้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน
1. ครูจัดกิจกรรมโดยใหน้ กั เรียนดหู ลักลุกคิดแล้วครแู นะนาว่าแตล่ ะหลักจะมีลูกคิดได้
เพยี ง 9 ลูกถา้ ใสค่ รบ 10 ลกู จะต้องนาลกู คิดในหลักนั้นออกแลว้ ใส่ลกู คิดในหลักถดั ไปทางซา้ ย 1 ลูก
เปน็ เชน่ น้ีทุกหลักจากน้ันครใู สล่ กู คิดในหลักลูกคดิ แสดงจานวนนับ 1,235
หมน่ื พนั ร้อย สบิ หน่วย
ครถู ามนักเรียนว่า
- จานวนลูกคดิ ในหลักหนว่ ยมีกี่ลกู และแสดงจานวนใด (5 ลูก แสดงจานวน
5)
- จานวนลูกคดิ ในหลักสบิ มกี ่ลี กู และแสดงจานวนใด (3 ลกู แสดงจานวน 30)
- จานวนลูกคดิ ในหลกั ร้อยมกี ี่ลกู และแสดงจานวนใด (2 ลูก แสดงจานวน
200)
- จานวนลกู คดิ ในหลกั พันมกี ี่ลูกและแสดงจานวนใด (1 ลกู แสดงจานวน
1,000)
4
ครูสรปุ การเขยี นแสดงจานวนบนกระดานดังน้ี
ตวั เลขฮินดูอารบกิ 1,235
ตัวเลขไทย ๑,๒๓๕
ตวั หนงั สอื หนึง่ พนั สองร้อยสามสิบหา้
ขั้นสอน
1. ครูใหน้ ักเรียนใส่ลกู คิดในหลกั หน่วย หลกั สิบ หลกั ร้อย หลักพนั โดยแตล่ ะหลกั ไม่เกิน
9 ลูกหรอื บางหลักไมต่ อ้ งใส่ลูกคิด แลว้ ให้นักเรยี นบอกจานวนลกู คดิ ในแตล่ ะหลัก เขียนตวั เลขฮินดู -
อารบิก ตวั เลขไทยและตัวหนงั สือ เชน่ 5,403 ใหน้ ักเรียนเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทยและ
ตัวหนงั สอื แสดงจานวนนบั 5,403 บนกระดานจะได้
หม่นื พัน รอ้ ย สิบ หนว่ ย
ตัวเลขฮินดอู ารบิก 5,403
ตวั เลขไทย ๕,๔๐๓
ตัวหนงั สือ หา้ พันสรี่ อ้ ยสาม
2. ครูนาลกู คดิ ใสใ่ นหลักพัน 10 ลูกแล้วถามนกั เรียนว่าลูกคิดแสดงจานวนใด (10 พัน)
ครูแนะนาวา่ 10 พันคือ 1 หมนื่ แล้วแนะนาวา่ จะต้องนาลูกคิดท้ัง 10 ลูกออกแลว้ ใสล่ ูกคดิ ในหลัก
ถัดไปทางซา้ ยของหลักพนั 1 ลูกแทนครแู นะนาว่าหลักถัดไปทางซ้ายของหลักพันเรียกว่าหลักหม่ืน
ดังน้ันลูกคิดในหลักหม่ืน 1 ลูกแสดงจานวน 1 หม่ืน ครูเขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทยและ
ตัวหนงั สอื แสดงจานวน 1 หมน่ื
ตัวเลขฮนิ ดูอารบิก 10,000
ตัวเลขไทย ๑๐,๐๐๐
ตวั เลขหนังสือ หนง่ึ หม่ืน
3. ใส่ลกู คิดในหลกั หม่ืนจนครบ 10 ลกู แลว้ ถามนกั เรียนว่าลูกคิดแสดงจานวนใด (10
หมนื่ )
5
4. ครแู นะนาว่า 10 หมืน่ คอื 1 แสนแลว้ แนะนาต้องนาลูกคิดในหลักหม่ืน 10 ลูกออก
แลว้ ใส่ลูกคิดในหลักถดั ไปทางซ้ายของหลักหมื่น 1 ลูกแทนครแู นะนาวา่ หลักถัดไปทางซา้ ยของหลัก
หมื่นเรียกวา่ หลกั แสนแล้วร่วมกันสรุปความสมั พนั ธ์ตา่ งๆ ดังน้ี
10 หนว่ ย คือ 1 สิบ
10 สบิ คือ 1 รอ้ ย
10 รอ้ ย คือ 1 พัน
10 พัน คอื 1 หมนื่
10 หมื่น คือ 1 แสน
5. ครจู ัดลกู คดิ แสดงจานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 ใหน้ กั เรียนบอกจานวนพร้อมท้งั เขียน
ตัวเลขฮินดอู ารบิก ตัวเลขไทยและตัวหนงั สือ 2 – 3 ตวั อย่าง เชน่ 32,090 56,143 80,755 ครเู ขียน
ตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตัวเลขไทยและตัวหนงั สอื แสดงจานวนบนกระดาน แล้วใหน้ กั เรียนจัดลกู คิดแสดง
จานวนตามครทู ก่ี าหนด 3 – 4 ตวั อยา่ ง เชน่ 21,645 43,706 50,289 64,507
6. ครใู ห้นักเรียนทาใบงานที่ 1 การอา่ นและเขยี นตวั เลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย และ
ตัวหนังสือแสดงจานวน เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครูและ
นกั เรียนรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 1
ขั้นสรุป
1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ สิ่งท่ีได้เรียนร้รู ่วมกนั ดงั น้ี การเขยี นตวั เลขแสดงจานวน
นับท่ีมากกว่า 999 แต่ไมเ่ กนิ 100,000 เลขโดดทางซ้ายของหลักร้อยอยู่ในหลักพนั เลขโดดทางซ้าย
ของหลกั พันอยใู่ นหลักหมื่น เลขโดดทางซ้ายของหลกั หม่นื อยใู่ นหลักแสน
สอ่ื การเรียนรู้
1. ลูกคดิ หรอื หลกั ลูกคิด
2. ใบงานท่ี 1 การอา่ นและเขยี นตัวเลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย และตวั หนงั สือแสดงจานวน
6
การวดั ผลและประเมินผล
สง่ิ ท่ีตอ้ งการวดั วธิ วี ัด เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 1 70% ขน้ึ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์
1 การประเมนิ
2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีขน้ึ ไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ
พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีข้นึ ไป
ทพี่ งึ ประสงค์ คุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ คณุ ลักษณะ
ที่พงึ ประสงค์
7
10.2 การอ่านและเขยี นตวั เลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทยและตวั หนงั สอื แสดงจานวน (2)
( 1 ช่ัวโมง)
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรียน
1. ครูและนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความเขา้ ใจเก่ยี วกับหลกั ลกู คิดแต่ละหลัก โดยครู
สาธติ การใช้ลกู คดิ หนา้ ชน้ั เรียน แล้วต้งั คาถามให้นักเรยี นตอบ ดงั นี้
หม่ืน พัน รอ้ ย สิบ หน่วย
ครูถามนกั เรียนว่า
- หลักลกู คดิ ด้านขาวมือสดุ ใช้แทนจานวนในหลกั ใด (หลักหน่วย)
- หลักลกู คดิ ถัดจากหลกั หน่วยไปทางซา้ ยมือใช้แทนจานวนในหลกั ใด (หลกั
สบิ )
- หลักลูกคิดถดั จากหลักสิบไปทางซ้ายมือใช้แทนจานวนในหลกั ใด (หลัก
รอ้ ย)
- หลักลูกคดิ ถดั จากหลกั รอ้ ยไปทางซ้ายมือใช้แทนจานวนในหลักใด (หลกั
พัน)
- หลกั ลกู คิดถดั จากหลกั พันปทางซ้ายมือใช้แทนจานวนในหลักใด (หลัก
หมื่น)
2. ครขู ออาสาสมัครนักเรยี น 1 คน ออกมาหยบิ ลกู คดิ ใสในหลักลกู คิด แสดงจานวนไม่
เกนิ 100,000 ตามความตอ้ งการของนกั เรียน แลว้ นักเรียนทั้งชนั้ อ่านตวั เลขที่แทนดว้ ยหลักลกู คดิ นั้น
8
3. ครนู าลูกคดิ ใส่ในหลักลูกแสดงจานวนนับ 3,052 ดังรูป
หม่นื พนั ร้อย สบิ หนว่ ย
ครูตงั้ คาถามให้นกั เรยี นตอบดังนี้
- หลักพันมีลกู คดิ จานวนกีล่ กู และแสดงจานวนใด (3 ลูก แสดงจานวน 3,000)
- หลกั ร้อยมลี ูกคดิ จานวนกีล่ กู และแสดงจานวนใด (0 ลูก แสดงจานวน 0)
- หลกั สิบมีลกู คิดจานวนก่ีลูก และแสดงจานวนใด (5 ลูก แสดงจานวน 50)
- หลักหน่วยมลี กู คิดจานวนกลี่ กู และแสดงจานวนใด (2 ลกู แสดงจานวน 2)
- หลักลกู คิดแสดงจานวนใด อา่ นว่า อย่างไร (3,052 อา่ นว่า สามพนั หา้ สบิ สอง)
ข้นั สอน
1. ครแู จกบัตรภาพต่อไปนใี้ หน้ ักเรียนกลุ่มละ 4 ใบ ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกัน เขียน
วงกลมแทนลกู คิดลงในบัตรภาพให้สอดคล้องกบั จานวนที่กาหนดให้
หมนื่ พนั ร้อย สบิ หน่วย หม่นื พนั ร้อย สิบ หน่วย
37,028 40,869
หมน่ื พนั ร้อย สบิ หน่วย หมืน่ พนั รอ้ ย สบิ หน่วย
57,475 38,009
9
นกั เรยี นชว่ ยกันเขียนตวั เลขไทยและตัวหนงั สอื แสดงจานวน ดังนี้
37,028 ๓๗,๐๒๘ สามหมน่ื เจ็ดพันยี่สบิ แปด
40,869 ๔๐,๘๖๙ สห่ี มืน่ แปดร้อยหกสบิ เก้า
57,475 ๕๗,๔๗๕ ห้าหม่ืนเจด็ พันสร่ี ้อยเจด็ สบิ ห้า
38,009 ๓๘,๐๐๙ สามหมื่นแปดพันเกา้
2. ครแู จกบตั รภาพหลักลกู คิดใหน้ ักเรยี นกลุ่มละ 4 ใบให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกัน
เขียนจานวนแทนลูกคดิ ลงในบตั รภาพให้สอดคล้องกับภาพที่กาหนดให้
หมนื่ พัน รอ้ ย สบิ หน่วย หมน่ื พัน รอ้ ย สิบ หน่วย
หมืน่ พนั รอ้ ย สบิ หน่วย หม่นื พนั รอ้ ย สิบ หนว่ ย
นักเรยี นชว่ ยกนั เขยี นตวั เลขไทยและตัวหนงั สือแสดงจานวน ดังน้ี
17,592 ๑๗,๕๙๒ หน่งึ หมน่ื เจด็ พนั ห้ารอ้ ยเกา้ สบิ สอง
53,156 ๕๓,๑๕๖ หา้ หมนื่ สามพนั หนึ่งรอ้ ยหา้ สิบหก
47,232 ๔๗,๒๓๒ ส่ีหม่นื เจด็ พันสองร้อยสามสิบสอง
63,236 ๖๓,๒๓๖ หกหม่นื สามพนั สองรอ้ ยสามสบิ หก
3. ครตู ิดบัตรตัวเลขแสดงจานวนนบั ไม่เกนิ 100,000 บนกระดาน 3-4 จานวน แล้ว
สาธิตการอา่ นแตล่ ะจานวนใหน้ กั เรียนฟัง โดยใหน้ กั เรียนร่วมกนั อา่ นตาม
10
94,354 50,280 38,753 85,427
4. ครใู ห้นักเรียนทาใบงานที่ 2 การอ่านและเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย และ
ตัวหนังสือแสดงจานวน เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครูและ
นักเรยี นร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 2
ขนั้ สรุป
1. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปสิ่งท่ไี ด้เรียนรู้ร่วมกนั ดังนี้ จานวนนับทไ่ี ม่เกิน 100,000
สามารถอ่านและเขยี นแทนด้วยตัวเลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย และตวั หนังสอื ซึง่ การบอกจานวนไม่
เกิน 100,000 จะเปน็ การบอกจานวนท่มี ีตวั เลขไมเ่ กินหกหลัก
ส่ือการเรยี นรู้
1. ลูกคดิ หรือหลักลกู คดิ
2. บตั รภาพ
3. บตั รตัวเลข
4. ใบงานท่ี 2 การอ่านและเขยี นตัวเลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย และตวั หนังสอื แสดงจานวน
การวดั ผลและประเมินผล
สง่ิ ทีต่ ้องการวดั วิธีวดั เครือ่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน
1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 2 70% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
2 การประเมิน
2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขน้ึ ไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั
พฤติกรรมด้าน คุณภาพดขี ึ้นไป
ที่พึงประสงค์ คณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะ
ทีพ่ ึงประสงค์
11
10.3 หลกั ค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลัก และการเขียนตวั เลข แสดงจานวนในรูปกระจาย (1)
( 1 ชว่ั โมง)
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน
1. ครูทบทวนหลกั และคา่ ของเลขโดดในแต่ละหลักของจานวนนบั ไมเ่ กนิ 100 โดยครู
เตรียมมดั ไมม้ ดั ละ 10 จานวน 3 มดั กับไมอ้ ีก 4 อนั แล้วถามคาถามให้นักเรยี นช่วยกนั ตอบ ดงั นี้
- มมี ดั ไมอ้ ยูก่ ่ีมัด กับไม้อกี ก่ีอนั (3 มดั กับอีก 4 อัน)
- มไี ม้ท้งั หมดก่ีอนั (สามสิบสี่อนั )
- เขยี นตัวเลขแสดงจานวนไม้ท้ังหมดได้อย่างไร (34 หรือ ๓๔)
- 34 แทนจานวนก่ีสิบกบั ก่หี น่วย (3 สิบกบั 4 หนว่ ย)
- 3 ทางซ้ายอยู่ในหลักใด (หลกั สบิ ) และ 4 ทางขวาอยู่ในหลกั ใด (หลักหนว่ ย)
- เลขโดด 3 ในหลักสิบมีค่าเท่าใด (30) เลขโดด 4 ในหลักหน่วยมคี า่ เท่าใด (4)
ขนั้ สอน
1. ครเู ขยี นจานวนนับสองจานวนบนกระดานเชน่ 58 แล้วถามนักเรียนว่า
- เลขโดด 5 อย่ใู นหลักใด มคี ่าเทา่ ไร (หลักสิบ มีค่า 50)
- เลขโดด 8 อยใู่ นหลกั ใด มคี า่ เท่าไร (หลกั หน่วย มีคา่ 8)
2. ครูจดั กจิ กรรมทานองเดียวกนั อีก 3 – 5 จานวนเชน่ 65 76 89 95 99 จากนั้นครู
ยกตัวอย่างจานวนนับท่เี ลขโดดในหลักสิบและหลักหน่วยเป็นจานวนเดยี วกัน เชน่ 11 22 33 ให้
นกั เรียนบอกหลกั และคา่ ของเลขโดดในแต่ละหลัก
3. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุป เลขโดดตัวเดยี วกนั ถ้าอยู่ในหลักต่างกนั จะมคี า่ ต่างกนั
4. ครยู กตัวอย่างจานวนสามหลัก เช่น 120 และ 549 ให้นักเรียนบอกหลกั และค่าของ
เลขโดดในแต่ละหลกั โดยครถู ามนักเรียนดังน้ี
120 เลขโดด 1 อยใู่ นหลกั ใด มคี ่าเทา่ ไร (หลักร้อย มคี า่ 100)
เลขโดด 2 อยใู่ นหลักใด มคี ่าเท่าไร (หลักสบิ มคี า่ 20)
เลขโดด 0 อยูใ่ นหลกั ใด มีค่าเท่าไร (หลักหนว่ ย มคี ่า 20)
549 เลขโดด 5 อยูใ่ นหลักใด มีคา่ เท่าไร (หลกั รอ้ ย มีค่า 500)
เลขโดด 4 อยใู่ นหลกั ใด มีค่าเทา่ ไร (หลกั สบิ มคี า่ 40)
เลขโดด 9 อยู่ในหลกั ใด มีค่าเทา่ ไร (หลักหนว่ ย มคี ่า 9)
5. ครูยกตวั อยา่ งจานวนนับ 495 แลว้ ถามนักเรยี นดังต่อไปน้ี
495 เลขโดด 9 อยใู่ นหลักใด มคี า่ เท่าไร (หลักสบิ มีคา่ 90)
495 เลขโดด 5 อยู่ในหลักใด มคี ่าเท่าไร (หลักหนว่ ย มคี า่ 5)
12
ครถู ามนกั เรียนวา่ จานวนนับ 495 เลขโดด 9 กบั เลขโดด 5 มีคา่ ตา่ งกนั เทา่ ไร คดิ
ได้อย่างไร (85 คิดได้จาก 9 อย่ใู นหลกั สิบมีคา่ 90 และ 5 อยู่ในหลักหนว่ ยมีค่า 5 ดงั นั้น 90 – 5 =
85)
6. ครใู หน้ ักเรยี นทาใบงานท่ี 3 หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และการเขยี นตัวเลข
แสดงจานวนในรปู กระจาย เมอ่ื เสรจ็ แล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนนั้ ครูและ
นกั เรยี นร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 3
ข้นั สรุป
1. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปสิ่งท่ไี ด้เรียนร้รู ่วมกัน ดงั นี้ จานวนนับทีม่ ีสามหลัก เลข
โดดทางขวาอยู่ในหลักหนว่ ย เลขโดดทางซ้ายของหลักหน่วยอยใู่ นหลกั สิบ เลขโดดทางซ้ายของหลัก
สิบอย่ใู นหลักรอ้ ย
สอื่ การเรียนรู้
1. มดั ไม้
2. ใบงานท่ี 3 หลกั ค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลัก และการเขยี นตัวเลขแสดงจานวนในรูป
กระจาย
การวัดผลและประเมินผล
สง่ิ ที่ตอ้ งการวัด วิธวี ัด เครอ่ื งมอื วดั เกณฑ์การประเมิน
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 3 70% ขนึ้ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
3 การประเมนิ
2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดขี ึน้ ไป
ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดับ
พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี นึ้ ไป
ท่พี งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะ
ท่ีพึงประสงค์
13
10.4 หลกั คา่ ของเลขโดดในแตล่ ะหลัก และการเขยี นตวั เลข แสดงจานวนในรปู กระจาย (2)
( 1 ชว่ั โมง)
กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
1. ครทู บทวนหลกั และคา่ ของเลขโดดในแตล่ ะหลกั ของจานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 โดยติด
บัตรภาพลูกคดิ แสดงจานวน 652 บนกระดานดงั น้ี
หมื่น พัน รอ้ ย สิบ หนว่ ย
ครูถามคาถามใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตอบ ดังน้ี
- บัตรภาพแสดงจานวนใด (หกร้อยห้าสิบสอง)
- เขยี นตวั เลขแสดงจานวนไดอ้ ยา่ งไร (652 หรือ ๖๕๒)
- 652 เป็นจานวนท่มี ีกี่รอ้ ย (6 รอ้ ย) กับกีส่ ิบ (5 สบิ ) กบั กห่ี น่วย (2 หน่วย)
- 6 อยู่ในหลกั ใด (หลกั ร้อย) มีค่าเทา่ ใด (600)
- 5 อยู่ในหลกั ใด (หลักสบิ ) มีคา่ เท่าใด (50)
- 2 อยใู่ นหลกั ใด (หลกั หน่วย) มีค่าเทา่ ใด (2)
- 315 เขียนในรูปกระจายได้อย่างไร (315 = 300 + 10 + 5)
ขั้นสอน
1. ครตู ิดบัตรภาพลกู คิดแสดงจานวน 8,173 บนกระดานดังน้ี
หมื่น พัน รอ้ ย สบิ หน่วย
ครูถามคาถามให้นกั เรยี นช่วยกันตอบ ดังน้ี
- บัตรภาพแสดงจานวนใด (แปดพันหนึ่งรอ้ ยเจ็ดสบิ สาม)
- เขยี นตวั เลขแสดงจานวนได้อย่างไร (8,173 หรือ ๘,๑๗๓)
14
- 8,173 เปน็ จานวนที่มกี ่พี นั (8 พนั ) กับกี่ร้อย (1 รอ้ ย) กับก่ีสบิ (7 สิบ) กับกี่
หนว่ ย (3 หน่วย)
- 8 อยูใ่ นหลกั ใด (หลกั พัน) มคี า่ เท่าใด (8,000)
- 1 อยใู่ นหลักใด (หลักรอ้ ย) มคี า่ เท่าใด (100)
- 7 อยใู่ นหลกั ใด (หลกั สิบ) มีคา่ เทา่ ใด (70)
- 3 อย่ใู นหลกั ใด (หลักหนว่ ย) มีคา่ เท่าใด (3)
- 8,173 เขียนในรปู กระจายไดอ้ ย่างไร (8,173 = 8,000 + 100 + 70 + 3)
2. ครูยกตัวอย่างจานวนนับ เช่น 6,301 ให้นักเรียนช่วยกนั ตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
- 6 อยู่ในหลักใด (หลักพนั ) มคี า่ เท่าใด (3,000)
- 3 อยู่ในหลักใด (หลักรอ้ ย) มคี า่ เทา่ ใด (300)
- 0 อยู่ในหลักใด (หลกั สิบ) มีค่าเทา่ ใด (0)
- 1 อยูใ่ นหลักใด (หลกั หนว่ ย) มคี ่าเท่าใด (1)
- 6,301 เขียนในรปู กระจายไดอ้ ยา่ งไร (6,301 = 6,000 + 300 + 0 + 1)
ครแู นะนาวา่ 6,301 = 6,000 + 300 + 0 + 1 สามารถเขยี นในรปู กระจายได้อีก
แบบดังน้ี
6,301 = 6,000 + 300 + 1
3. ครูบอกจานวนนับแล้วให้ตัวแทนนกั เรียนออกมาเขยี นตัวเลขแสดงจานวนในรปู
กระจายบนกระดานดังน้ี
2,430 = 2,000 + 400 + 30
5,261 = 5,000 + 200 + 60 + 1
1,245 = 1,000 + 20 + 40 + 5
9,720 = 9,000 + 700 + 20
8,012 = 8,000 + 10 + 2
4. ครใู ห้นกั เรยี นทาใบงานท่ี 4 หลัก คา่ ของเลขโดดในแต่ละหลัก และการเขยี นตวั เลข
แสดงจานวนในรปู กระจาย เมื่อเสรจ็ แล้วให้นกั เรยี นช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนัน้ ครูและ
นักเรียนร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 4
ขน้ั สรปุ
1. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปส่งิ ทไ่ี ด้เรียนร้รู ่วมกัน ดังนี้ การเขยี นตวั เลขแสดงจานวน
นับใดๆ ในรูปกระจายเป็นการเขียนในรูปการบวกค่าของเลขโดดในหลักตา่ งๆ ของจานวนนัน้
ส่อื การเรียนรู้
1. บตั รภาพลูกคดิ
2. ใบงานที่ 4 หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และการเขยี นตัวเลขแสดงจานวนใ นรูป
กระจาย
15
การวัดผลและประเมินผล
ส่งิ ที่ต้องการวัด วธิ วี ัด เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ
1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 4 70% ขน้ึ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
4 การประเมิน
2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี นึ้ ไป
ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดบั
พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดีขึน้ ไป
ท่ีพึงประสงค์ คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ คณุ ลักษณะ
ทพี่ งึ ประสงค์
10.5 หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และการเขยี นตัวเลข แสดงจานวนในรปู กระจาย (3)
( 1 ชว่ั โมง)
กจิ กรรมการเรียนรู้
ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ครูทบทวนจานวนนับไมเ่ กิน 10,000 โดยครูยกตวั อยา่ ง 2,496 โดยครตู ิดบตั รภาพ
หลักลูกคิดแสดงจานวน 2,496 บนกระดานดังนี้
หม่นื พัน ร้อย สิบ หนว่ ย
ครถู ามคาถามใหน้ กั เรยี นช่วยกันตอบ ดงั นี้
- บัตรภาพหลักลกู คิดแสดงจานวนใด (สองพนั สีร่ ้อยเก้าสบิ หก)
- เขียนตัวเลขแสดงจานวนไดอ้ ยา่ งไร (2,496 หรอื ๒,๔๙๖)
- 2,496 เขียนในรูปกระจายได้อย่างไร (2,496 = 2,000 + 400 + 90 + 6)
16
ขั้นสอน
1. ครกู าหนดจานวนห้าหลัก ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ใสล่ กู คิดแสดงจานวนท่ีกาหนดให้ทีละ
จานวน เช่น 38,047 62,365 ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง แล้วครตู ิดบตั รภาพหลักลกู คิดท่แี สดงจานวน
38,047 บนกระดาน
หมน่ื พัน ร้อย สิบ หนว่ ย
ครถู ามคาถามใหน้ ักเรียนช่วยกันตอบ ดังน้ี
- บตั รภาพหลกั ลูกคิดแสดงจานวนใด (สามหมน่ื แปดพนั สส่ี บิ เจด็ )
- เขยี นตัวเลขแสดงจานวนไดอ้ ย่างไร (38,047 หรอื ๓๘,๐๔๗)
- 38,047 เปน็ จานวนก่หี มน่ื (3 หมน่ื ) กบั ก่พี ัน (8 พัน) กับกร่ี ้อย (0 ร้อย) กับก่ี
สบิ (4 สิบ) กับกหี่ น่วย (7 หนว่ ย)
- 3 อยใู่ นหลักใด (หลักหมน่ื ) มีค่าเทา่ ใด (30,000)
- 8 อยู่ในหลกั ใด (หลกั พนั ) มคี ่าเทา่ ใด (8,000)
- 0 อย่ใู นหลกั ใด (หลักรอ้ ย) มคี ่าเท่าใด (0)
- 4 อยใู่ นหลักใด (หลกั สิบ) มคี า่ เท่าใด (40)
- 7 อยู่ในหลักใด (หลกั หนว่ ย) มคี ่าเทา่ ใด (7)
- 38,047 เขียนในรปู กระจายได้อย่างไร (38,047 = 30,000 + 8,000 + 40 + 7)
2. ครแู นะนาการเขียน 62,365 ในรปู กระจายดังนี้
62,365 = 60,000 + 2,000 + 300 + 60 + 5
3. ครูตดิ บตั รภาพลูกคดิ แสดงจานวน 100,000
หมืน่ พนั ร้อย สิบ หน่วย
ครูถามคาถามให้นกั เรยี นชว่ ยกันตอบ ดังน้ี
17
- บตั รภาพหลักลูกคิดแสดงจานวนใด (หนึง่ แสน)
- เขียนตวั เลขแสดงจานวนไดอ้ ยา่ งไร (100,000 หรอื ๑๐๐,๐๐๐)
4. ครยู กตัวอยา่ งจานวนนบั ท่มี ากกวา่ 10,000 แตน่ อ้ ยกวา่ 100,000 เช่น 40,740 บน
กระดานใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันบอกค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลกั ดงั นี้
4 ในหลกั หมน่ื มคี ่าเทา่ ใด (40,000)
0 ในหลักพันมคี า่ เทา่ ใด (0)
7 ในหลกั ร้อยมคี า่ เทา่ ใด (700)
4 ในหลักสิบมคี า่ เท่าใด (40)
0 ในหลกั หนว่ ยมคี ่าเทา่ ใด (0)
หลังจากนั้น ครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั ตอบคาถามต่อไปน้ี
- 40,740 เขียนในรูปกระจายได้อยา่ งไร (40,740 = 40,000 + 700 + 40)
- คา่ ของเลขโดด 4 ในหลกั สบิ และหลักหมื่นต่างกนั หรือไม่(ต่างกัน) ถ้าตา่ งกัน
ต่างกนั อยเู่ ทา่ ใด (40,000 – 40 = 39,960)
- คา่ ของเลขโดด 0 ในหลักหนว่ ยและหลักพนั ตา่ งกนั หรือไม่ (ไม่ตา่ งกนั )
5. ครูยกตัวอยา่ งทานองเดียวกนั นี้อีก 1-2 ตวั อยา่ งเช่น 25,713 78,406
6. ครใู หน้ กั เรยี นทาใบงานที่ 5 หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และการเขียนตวั เลข
แสดงจานวนในรูปกระจาย เมอ่ื เสรจ็ แล้วให้นกั เรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนัน้ ครูและ
นักเรยี นร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 5
ขน้ั สรปุ
1. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปสิง่ ทไ่ี ด้เรยี นรู้รว่ มกนั ดงั น้ี การเขยี นตวั เลขแสดงจานวน
ใดๆ ในรปู กระจาย เป็นการเขยี นในรปู การบวกค่าของเลขโดดในหลักต่างๆ ของจานวนน้นั และเลข
โดดเดยี วกันถา้ อยู่ในหลักตา่ งกนั จะมีค่าต่างกัน ยกเว้น 0
ส่อื การเรียนรู้
1. บัตรภาพลูกคิด
2. ใบงานที่ 5 หลัก คา่ ของเลขโดดในแต่ละหลัก และการเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรูป
กระจาย
18
การวัดผลและประเมินผล
สง่ิ ท่ีตอ้ งการวดั วิธีวดั เครอื่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 5 70% ขนึ้ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์
5 การประเมิน
2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขน้ึ ไป
ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขึ้นไป
ท่ีพงึ ประสงค์ คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ คณุ ลักษณะ
ที่พึงประสงค์
10.6 การเปรียบเทยี บจานวน (1) ( 1 ช่วั โมง)
กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ันนาเขา้ สูบ่ ทเรยี น
1. ครทู บทวนการเปรยี บเทียบจานวนนับสองจานวนทไี่ มเ่ กนิ 1,000 โดยครยู กตัวอยา่ ง
มาคร้งั ละ 2 จานวนให้นักเรยี นเปรียบเทียบจานวนใดมากกว่า นอ้ ยกว่าหรอื เท่ากับ โดยใหเ้ หตุผล
ประกอบแลว้ เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการเปรยี บเทยี บบนกระดานเชน่
316 > 87 268 < 452
254 > 248 199 < 209
918 = 918 0=0
2. นักเรียนรว่ มกนั สรุปการเปรยี บเทียบจานวน ดงั น้ี
1) เปรียบเทียบจานวนหลกั กอ่ น จานวนใดมีจานวนหลกั มากกวา่ จานวนนน้ั จะ
มากกว่า
19
2) ถ้าจานวนหลกั เทา่ กัน ให้เปรียบเทยี บคา่ ของเลขโดดในหลกั ทางซ้ายสุดก่อน ถ้า
คา่ ของเลขโดดในหลกั ทางซ้ายสุดของจานวนใดมากกวา่ จานวนนั้นจะมากกวา่ ถา้ ค่าของเลขโดดใน
หลักทางซา้ ยสุดของทง้ั สองจานวนเทา่ กนั ให้เปรยี บเทยี บค่าของเลขโดดในหลักถัดไปทางขวาทลี ะหลัก
ขน้ั สอน
1. ครูเขยี นตวั เลขแสดงจานวนนับสองจานวนท่ไี ม่เกิน 100,000 โดยทั้งสองมจี า นวน
หลกั ไม่เทา่ กับบนกระดาน เชน่
52,582 5,248
ครถู ามคาถามให้นกั เรยี นชว่ ยกันตอบ ดงั น้ี
- จานวนสองจานวนน้เี ท่ากนั หรอื ไม่ (ไม่เท่ากัน)
- จานวนทางซ้ายมือมีกี่หลัก (5 หลัก)
- จานวนทางขวามอื มีกี่หลกั (4 หลกั )
- จานวนทางซ้ายจะมากกว่าหรอื นอ้ ยกวา่ จานวนทางขวา (มากกวา่ )
2. ครแู นะนาใหน้ กั เรียนใช้เครอ่ื งหมาย > หรือ < แสดงการเปรยี บเทียบจานวน
52,582 มากกวา่ 5,248 5,248 นอ้ ยกวา่ 52,582
52,582 > 5,248 5,248 < 52,582
3. ครยู กตัวอย่าง จานวนคอู่ ่นื ๆ ทม่ี ีจานวนหลักไม่เทา่ กันอีก 3 ตัวอยา่ งแล้วใหน้ ักเรยี น
พิจารณาเปรยี บเทียบพรอ้ มทง้ั อธิบายเหตุผล
3,567 21,542
100,000 12,541
43,261 1,342
20
4. ครใู ห้นักเรียนทาใบงานที่ 6 หลัก การเปรียบเทยี บจานวน เม่ือเสร็จแลว้ ใหน้ ักเรียน
ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากน้นั ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 6
ขนั้ สรุป
1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปสง่ิ ทไ่ี ดเ้ รียนรูร้ ว่ มกนั ดังน้ี การเปรยี บเทยี บจานวนนบั ไม่
เกนิ 100,000 ท่ีจานวนหลกั ไมเ่ ทา่ กันโดยจานวนนับที่มีจานวนหลกั มากกวา่ จะมากกว่าและจา นวน
นบั ท่มี ีจานวนหลกั น้อยกวา่ จะน้อยกว่า
สอ่ื การเรยี นรู้
ใบงานท่ี 6 หลกั ค่าของเลขโดดในแต่ละหลกั และการเขยี นตวั เลขแสดงจานวนในรูปกระจาย
การวดั ผลและประเมินผล
ส่งิ ทต่ี อ้ งการวดั วิธวี ัด เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การประเมิน
1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 6 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
6 การประเมนิ
2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขน้ึ ไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดบั
พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดขี ึน้ ไป
ท่ีพึงประสงค์ คณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะ
ทพ่ี ึงประสงค์
21
10.7 การเปรียบเทียบจานวน (2) ( 1 ชวั่ โมง)
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครูทบทวนการเปรยี บเทยี บจานวนนบั สองจานวนท่ีไมเ่ กนิ 100,000 ที่มจี านวนหลัก
ไมเ่ ท่ากนั โดยครูยกตวั อยา่ งมาคร้ังละ 2 จานวนให้นกั เรียนเปรยี บเทยี บว่าจานวนใดมากกว่า น้อยกว่า
หรือเท่ากนั โดยใหเ้ หตผุ ลประกอบแลว้ เขียนประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการเปรยี บเทียบบนกระดาน เช่น
1,543 < 42,560 81,425 > 9,741
3,468 < 59,467 10,456 > 9,999
41,843 > 8,913 42,536 = 42,563
2. นักเรยี นสรปุ การเปรียบเทยี บจานวนไมเ่ กิน 100,000 ทีม่ ีจานวนหลกั ไม่เทา่ กัน ดังนี้
ถา้ จานวนสองจานวนทนี่ ามาเปรยี บเทยี บกันมีจานวนหลักไม่เทา่ กัน จานวนทม่ี ีจานวนหลกั มากกวา่
จะมากกว่าและจานวนท่มี ีจานวนหลกั นอ้ ยกว่าจะน้อยกว่า
ขัน้ สอน
1. ครยู กตัวอยา่ งจานวนนับสองจานวนที่มจี านวนหลักเทา่ กันและเลขโดดทางซ้ายสุด
ไม่เท่ากนั เช่น
74,684 96,751
ครูถามคาถามให้นกั เรยี นช่วยกนั ตอบ ดงั น้ี
- จานวนสองจานวนนี้มีจานวนหลกั เทา่ กนั หรือไม่ (เทา่ กัน)
- 7 ในหลกั หม่ืนมีคา่ เทา่ ไร (70,000)
- 9 ในหลักหม่นื มีค่าเท่าไร (90,000)
- จานวนใดมากกวา่ (96,751) เพราะเหตใุ ด (90,000 มากกวา่ 70,000)