22
2. ครแู นะนาให้นักเรยี นใชเ้ ครือ่ งหมาย > หรือ < แสดงการเปรยี บเทยี บจานวน
74,684 นอ้ ยกวา่ 96,751 96,751 มากกว่า 74,684
74,684 < 96,751 96,751 > 74,684
3. จากน้ันครูยกตัวอย่างจานวนนับสองจานวนท่ีมีจานวนหลักเท่ากันและเลขโดด
ทางซา้ ยสุดไม่เทา่ กันใหน้ ักเรียนเปรยี บเทียบจานวนพร้อมท้ังบอกเหตผุ ลอีก 3 ตวั อยา่ งเชน่
37,591 81,751
55,671 12,951
43,581 28,478
4. ครใู หน้ ักเรยี นทาใบงานที่ 7 หลกั การเปรียบเทียบจานวน เม่อื เสร็จแล้วให้นักเรียน
ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนัน้ ครูและนกั เรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 7
ขัน้ สรปุ
1. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ สง่ิ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้รว่ มกัน ดังน้ี การเปรยี บเทียบจาน วนที่มี
จานวนหลักเท่ากนั ว่า ถา้ จานวนทน่ี ามาเปรยี บเทียบกนั มจี านวนหลักเทา่ กัน ให้เปรยี บเทยี บค่าของ
เลขโดดหลักซา้ ยสดุ ก่อน
สอ่ื การเรียนรู้
ใบงานที่ 7 การเปรยี บเทียบจานวน
23
การวดั ผลและประเมนิ ผล
สิง่ ท่ีตอ้ งการวดั วธิ ีวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 7 70% ข้ึนไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
7 การประเมนิ
2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี ้นึ ไป
ทักษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ
พฤตกิ รรมดา้ น คณุ ภาพดขี ้ึนไป
ทีพ่ ึงประสงค์ คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ คณุ ลักษณะ
ทพี่ ึงประสงค์
10.8 การเปรียบเทียบจานวน (3) ( 1 ชวั่ โมง)
กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั นาเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครูทบทวนการเปรยี บเทียบจานวนนบั สองจานวนที่ไมเ่ กนิ 100,000 ท่ีมีจานวนหลัก
เท่ากนั และเลขโดดทางซา้ ยสุดไม่เทา่ กนั โดยครยู กตวั อย่างมาครง้ั ละ 2 จานวนใหน้ กั เรยี นเปรยี บเทยี บ
ว่าจานวนใดมากกว่า น้อยกว่า โดยให้เหตุผลประกอบแล้วเขียนประโยคสัญลักษณ์แสดงกา ร
เปรยี บเทยี บบนกระดาน เช่น
71,543 > 42,560 81,425 > 29,741
38,468 < 59,467 40,456 > 39,999
ข้ันสอน
1. ครูยกตวั อย่างจานวนนบั สองจานวนที่มจี านวนหลักเท่ากันและเลขโดดทางซ้ายสุด
เท่ากนั เช่น
85,711 83,167
24
ครถู ามคาถามให้นกั เรยี นช่วยกันตอบ ดังน้ี
- จานวนสองจานวนน้ีมีจานวนหลักเทา่ กันหรอื ไม่ (เทา่ กัน)
- เลขโดด 8 ใน 85,711 อยหู่ ลกั ใด มีคา่ เท่าไร (หลกั หม่ืน มีคา่ 80,000)
- เลขโดด 8 ใน 83,167 อยหู่ ลกั ใด มีคา่ เท่าไร (หลกั หมื่น มคี า่ 80,000)
- คา่ ของเลขโดด 8 ในหลกั หมนื่ ของทั้งสองจานวนเทา่ กนั หรือไม่ (เท่ากัน)
- เลขโดดในหลกั พันของ 85,711 กับ 83,167 มคี ่าเทา่ กนั หรือไม่ (ไมเ่ ทา่ กนั )
- เลขโดด 5 ใน 85,711 อยู่หลกั ใด มคี ่าเท่าไร (หลักพัน มคี า่ 5,000)
- เลขโดด 3 ใน 83,167 อยู่หลักใด มคี า่ เทา่ ไร (หลักพัน มีคา่ 3,000)
- จานวนใดมากกวา่ เพราะเหตุใด (85,711 เพราะ 5,000 มากกว่า 3,000)
2. ครแู นะนาใหน้ ักเรยี นใช้เครอ่ื งหมาย > หรอื < แสดงการเปรยี บเทียบจานวน
85,711 มากกว่า 83,167 83,167 น้อยกวา่ 85,711
85,711 > 83,167 83,167 < 85,711
3. จากน้ันครูยกตัวอย่างจานวนนบั สองจานวนท่ีมีจานวนหลักเท่ากันและเลขโดด
ทางซา้ ยสดุ เทา่ กนั ใหน้ ักเรียนเปรยี บเทยี บจานวนพรอ้ มทง้ั บอกเหตุผลอกี 3 ตวั อยา่ งเช่น
37,591 81,751
37,591 81,751
37,591 81,751
4. ครใู ห้นักเรียนทาใบงานท่ี 8 หลกั การเปรียบเทียบจานวน เมอ่ื เสร็จแล้วให้นักเรียน
ช่วยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนนั้ ครูและนกั เรยี นร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 8
ขน้ั สรปุ
25
1. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปส่งิ ท่ีไดเ้ รยี นรู้รว่ มกัน ดังนี้ การเปรยี บเทียบจาน วนที่มี
จานวนหลกั เทา่ กนั วา่ ถ้าจานวนที่นามาเปรยี บเทียบกันมีจานวนหลักเท่ากนั ให้เปรยี บเทียบค่าของ
เลขโดดหลักซา้ ยสดุ ก่อน ถา้ ค่าของเลขโดดทางซา้ ยสุดของจานวนใดมากกวา่ จานวนนั้นมากกว่า ถา้
ค่าของเลขโดดซ้ายสุดเท่ากัน ให้เปรยี บเทียบค่าของเลขโดดในหลักถัดไปทางขวาทีละหลักด้วยวิธี
เดียวกนั
สื่อการเรยี นรู้
ใบงานท่ี 8 การเปรยี บเทียบจานวน
การวัดผลและประเมินผล
สง่ิ ทต่ี ้องการวัด วิธวี ดั เครอื่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 8 70% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์
8 การประเมนิ
2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คณุ ภาพดีขนึ้ ไป
ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั
พฤตกิ รรมด้าน คุณภาพดขี ึ้นไป
ทีพ่ งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะ
ที่พึงประสงค์
10.9 การเรียงลาดบั จานวน (1) ( 1 ช่ัวโมง)
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ครูทบทวนการเปรยี บเทียบจานวนสองจานวน โดยครเู ขยี นจานวนบนกระดานทีละ
คใู่ ห้นักเรยี นเปรยี บเทียบแล้วเขียนประโยคสญั ลักษณ์แสดงการเปรยี บเทียบ
14,567 > 4,987 8,645 < 16,134
44,657 > 43,799 88,645 < 88,654
26
2. นักเรียนร่วมกันสรุปการเปรยี บเทียบจานวนนับว่า การเปรยี บเทียบจานวนให้
พจิ ารณาที่จานวนหลกั ถ้าจานวนใดมหี ลักมากกว่าจานวนนั้นจะมากกวา่ ถา้ จานวนท่เี ปรยี บเทียบมี
จานวนหลักเท่ากนั ใหพ้ ิจารณาค่าของเลขโดดทางซา้ ยสุด ถา้ คา่ ของเลขโดดทางซ้ายสุดของจานวน ใด
มากกวา่ จานวนนนั้ จะมากกวา่ ถา้ ค่าของเลขโดดทางซา้ ยสดุ เทา่ กนั ใหด้ หู ลกั ถัดไปทางขวาทีละหลัก
ด้วยวิธเี ดียวกนั
ข้ันสอน
1. ครูให้นกั เรยี นสุ่มหยบิ บตั รตัวเลขแสดงจานวนนบั ไม่เกนิ 100,000 ทีค่ รูเตรียมไว้มา
3 บตั ร
3,254 23,415 7,812
ครูถามคาถามใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ตอบ ดังนี้
- 3,254 กับ 23,415 จานวนใดมากกว่า (23,415)
- 3,254 กับ 7,812 จานวนใดมากกวา่ (7,812)
- 23,415 กบั 7,812 จานวนใดมากกว่า (23,415)
- จานวนใดนอ้ ยท่ีสดุ (3,254)
- จานวนใดมากทสี่ ดุ (7,812)
2. ให้นักเรียนอาสาสมัครมาจัดเรียงลาดบั ใหม่ โดยเรยี งลาดับจานวนจากมากไปน้อย
เช่น
23,415 7,812 3,254
3. ครตู ิดบัตรจานวน 3 จานวนบนกระดาน
21,292 45,268 12,984
27
ครถู ามคาถามให้นกั เรียนชว่ ยกนั ตอบ ดังนี้
- จานวนนบั ท้ังสามจานวนมีจานวนหลกั เทา่ กันหรือไม่ (เทา่ กัน)
- ถ้าจานวนหลักเท่ากันจะเปรียบเทียบอย่างไร (พิจารณาค่าของเลขโดดทาง
ซ้ายมือสุดก่อน เลขโดดของจานวนใดมีคา่ มากกว่าจานวนน้นั จะมคี ่ามากกว่า)
- จานวนท้งั สามจานวนท่ีกาหนดใหม้ ีค่าของเลขโดดในหลักทางซา้ ยมือสุดเท่ากัน
หรือไม่ (ไมเ่ ทา่ กัน)
4. จากน้ันรว่ มกนั สรปุ ว่า 12,984 เปน็ จานวนท่ีนอ้ ยทีส่ ดุ และ 45,268 เปน็ จานวนท่ีมาก
ทสี่ ุด ครูให้นักเรียนเรยี งลาดับจานวนจากมากไปหาน้อยไดด้ ังน้ี
45,268 21,292 12,984
5. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันน้ีอีก 2-3 ข้อ ให้นักเรียนได้ฝึกเปรียบเทียบและ
เรยี งลาดบั และออกมานาเสนอผลการเรียงลาดับหน้าชนั้ เรียน
1,234 6,798 12,435
46,789 65,789 82,456
12,231 12,233 12,203
6. ครูให้นกั เรยี นทาใบงานที่ 9 หลัก การเรียงลาดับจานวน เมื่อเสร็จแลว้ ใหน้ ักเรียน
ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนัน้ ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 9
ขน้ั สรุป
1. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปส่ิงท่ีได้เรยี นรรู้ ่วมกัน ดงั น้ี การเรยี งลาดบั จานวน ทาได้
โดยการนาจานวนมาเปรยี บเทียบกัน แลว้ เรยี งลาดบั จากจานวนท่ีมีค่าน้อยไปหาจานวนท่ีมีค่า มาก
หรอื จากจานวนท่ีมีค่ามากไปหาจานวนท่ีมคี า่ นอ้ ย
28
ส่ือการเรียนรู้
1. บัตรจานวน
2. ใบงานที่ 9 การเรียงลาดบั จานวน
การวัดผลและประเมินผล
สง่ิ ที่ต้องการวัด วธิ วี ดั เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์การประเมิน
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 9 70% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
9 การประเมิน
2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คุณภาพดีขึ้นไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
พฤติกรรมด้าน คุณภาพดขี ้นึ ไป
ที่พึงประสงค์ คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ คณุ ลักษณะ
ทพ่ี งึ ประสงค์
10.10 การเรยี งลาดบั จานวน (2) ( 1 ช่ัวโมง)
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นาเข้าส่บู ทเรยี น
1. ครูทบทวนการเปรียบเทียบจานวนสองจานวน โดยครูเขียนจานวนทีละคู่บน
กระดาน ใหน้ ักเรียนช่วยกนั เปรยี บเทยี บจานวนและเติมเคร่อื งหมาย > < หรอื = พร้อมท้ังใหเ้ หตุผล
34,567 > 22,567 75,489 < 95,000
25,678 > 22,049 37,654 = 37,654
ขั้นสอน
1. ครตู ิดบัตรจานวนให้ 5 จานวน ใหน้ ักเรยี นช่วยกันเปรียบเทยี บและเรียงลาดบั จานวน
จากน้อยไปมาก พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบซ่ึงครูอาจเสนอแนวคิดให้นักเรียนพิจารณา มา
เปรียบเทยี บและเรยี งลาดับจานวน ดงั นี้
5,356 22,345 5,150 57,400 87,401
29
ครถู ามคาถามใหน้ กั เรียนช่วยกันตอบ ดังนี้
- จานวนใดมากทสี่ ดุ นกั เรียนสงั เกตอย่างไร (87,401 สงั เกตจากคา่ ของเลขโดด
ทางซา้ ยสดุ มีคา่ มากท่สี ุด)
- จานวนใดน้อยที่สุด (5,150) สงั เกตอย่างไร (เปน็ จานวนทมี่ จี านวนหลักน้อยทีส่ ุด
ซ่ึงมีอยู่สองจานวนคอื 5,150 กับ 5,356 และสองจานวนนี้ คา่ ของเลขโดดในหลักพนั เท่ากนั คือ 5,000
แตค่ า่ ของเลขโดดในหลกั รอ้ ยของ 5,150 น้อยกว่าดงั นั้น 5,150 เปน็ จานวนทนี่ อ้ ยที่สดุ )
- เปรียบเทียบจานวนทีเ่ หลอื อีก 3 จานวนคอื 5,356 22,345 และ 57,400 จะได้
ว่าในสามจานวนน้ี 5,356 เป็นจานวนทนี่ อ้ ยทสี่ ดุ และ 57,400 เป็นจานวนท่ีมากที่สดุ
2. ครใู หน้ กั เรียนอภิปรายและชว่ ยกนั หยบิ บตั รตัวเลขเพอ่ื เรียงลาดบั จานวนจากน้อยไป
มากบนกระดาน ซ่ึงจะไดผ้ ลการเรยี งลาดบั จานวนจากนอ้ ยไปมาก ดงั น้ี
5,150 5,356 22,345 57,400 87,401
3. ครจู ัดกจิ กรรมทานองเดยี วกนั นอี้ กี 1 – 2 ตวั อย่างเชน่ 20,746
5,816 24,752 7,407 42,594
18,210 90,010 42,984 49,844 75,922
4. ครูให้นักเรยี นทาใบงานท่ี 10 หลัก การเรยี งลาดับจานวน เม่อื เสร็จแลว้ ให้นกั เรียน
ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากน้นั ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 10
ขน้ั สรปุ
1. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปส่ิงที่ได้เรียนร้รู ่วมกนั ดงั นี้ การเรยี งลาดับจานวน ทาได้
โดยการนาจานวนมาเปรียบเทยี บกัน แล้วเรียงลาดับจากจานวนที่มีค่าน้อยไปหาจานวนที่มีค่า มาก
หรอื จากจานวนทม่ี คี า่ มากไปหาจานวนท่มี คี า่ นอ้ ย
สอ่ื การเรียนรู้
1. บตั รจานวน
2. ใบงานที่ 10 การเรยี งลาดบั จานวน
30
การวัดผลและประเมินผล
สิง่ ทตี่ อ้ งการวดั วธิ ีวดั เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 10 70% ข้นึ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์
10 การประเมิน
2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดขี ้นึ ไป
ทักษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดบั
พฤตกิ รรมด้าน คุณภาพดขี นึ้ ไป
ทีพ่ งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ คุณลกั ษณะ
ทพี่ งึ ประสงค์
10.11 แบบรปู ของจานวนทเ่ี พิ่มขน้ึ ทลี ะ 3 ( 1 ชั่วโมง)
กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน
1. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นโดยการให้นักเรียนดูบัตรตัวเลขแสดงจานวน 5 ใบ
ดงั น้ี
5,356 5,357 5,358 5,359 5,360
จากน้ันครูตั้งคาถามแล้วให้นักเรียนร่วมกันตอบวา่ นักเรียนรู้หรือไม่ว่า จานวน
เหลา่ น้ีมคี วามสัมพันธก์ นั อยา่ งไร (เป็นการเพิ่มขน้ึ ทลี ะ 1)
2. ครูคอยกระต้นุ ใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมเี หตุผล โดยใหค้ าแนะนาว่าบัตร
ตัวเลขแสดงจานวนแต่ละใบต่างกันหรือเหมือนกันอย่างไร ถ้าต่างกัน ต่างกันอย่างไร หรือถ้า
เหมือนกัน เหมอื นกนั อยา่ งไร
ขั้นสอน
1. ครกู าหนดจานวนเรมิ่ ต้นใหน้ ักเรยี น จากนน้ั ใหน้ ักเรียนเขยี นจานวนทนี่ ับเพ่ิมทีละ 3
ถัดไปอกี 5 จานวนเชน่
จานวนเร่ิมต้นเปน็ 2,561 (2,564 2,567 2,570 2,573 2,576)
จานวนเริ่มตน้ เปน็ 4,236 (4,239 4,242 4,245 4,248 4,251)
31
จานวนเริ่มตน้ เป็น 8,908 (8,911 8,914 8,917 8,920 8,923)
จานวนเรมิ่ ตน้ เป็น 1,787 (1,790 1,793 1,796 1,799 1,802)
จานวนเร่มิ ต้นเป็น 3,694 (3,697 3,700 3,703 3,706 3,709)
2. ครูเขียนแบบรปู ของจานวนท่ีเพิ่มข้ึนทลี ะ 3 บนกระดาน ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาและ
รว่ มกันอภิปรายว่าจานวนตอ่ ไปคืออะไร
25,256 25,259 25,262 25,265 …………. …………. ………….
จากนนั้ ครูกลา่ ววา่ จากแบบรปู ทกี่ าหนดเริ่มจาก 25,256 จานวนต่อมา คือ 25,259
25,262 25,265 .......... .......... .......... โดยครตู ้ังคาถามกระตนุ้ ความคิด ดงั น้ี
- จานวนเร่ิมต้นของแบบรูปคอื จานวนใด (25,256)
- จานวนถดั ไปของแบบรปู คือจานวนใด (25,259)
- จานวน 25,259 มีค่ามากกวา่ หรอื นอ้ ยกว่า 25,256 อยู่เทา่ ไร (มากกวา่ อยู่ 3)
- จานวนที่ถดั จาก 25,259 คอื จานวนใด และมคี ่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 25,259
อยเู่ ทา่ ไร (25,262 และมากกวา่ อยู่ 3)
- จานวนทถี่ ดั จาก 25,262 คือจานวนใด และมีค่ามากกว่าหรอื น้อยกว่า 25,262
อยเู่ ทา่ ไร (25,265 และมากกว่าอยู่ 3)
- นักเรียนคิดว่าจานวนที่อยู่ถัดจาก 25,265 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกวา่
25,265 เทา่ ไร (มากกว่าอยู่ 3)
- นักเรียนคิดวา่ จานวนที่อย่ถู ัดจาก 25,265 อกี สามจานวน ควรมคี า่ เทา่ ไร บ้าง
(25,268 25,271 25,274)
3. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันอีก 2 – 3 ข้อ จนกว่านักเรียนทุกคนจะทาได้
คล่องแคล่วและถูกต้อง
4. ครใู ห้นกั เรียนทาใบงานท่ี 11 แบบรปู ของจานวนทเี่ พิ่มขน้ึ ทีละ 3 เมือ่ เสรจ็ แล้วให้
นกั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนนั้ ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 11
ขน้ั สรปุ
1. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปสง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรรู้ ว่ มกัน ดงั นี้ แบบรปู ของจานวนที่เพิม่ ข้ึนที
ละ 3 เป็นชุดของจานวนทมี่ คี วามสัมพนั ธก์ นั แบบเพิ่มขึ้นทีละ 3 อย่างคงท่ี ซึ่งสามารถหาจานวนตอ่ ไป
หรอื จานวนทหี่ ายไปของแบบรปู ได้
สอื่ การเรยี นรู้
1. บตั รตัวเลข
2. ใบงานท่ี 11 แบบรูปของจานวนทีเ่ พิ่มขึ้นทลี ะ 3
32
การวดั ผลและประเมนิ ผล
สงิ่ ที่ต้องการวดั วิธวี ดั เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน
1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 11 70% ขนึ้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
11 การประเมนิ
2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คณุ ภาพดขี ึ้นไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั
พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีข้ึนไป
ที่พงึ ประสงค์ คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ คุณลักษณะ
ทพ่ี งึ ประสงค์
10.12 แบบรูปของจานวนที่เพม่ิ ขึน้ ทีละ 5 ( 1 ชัว่ โมง)
กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน
1. ครทู บทวนความรูเ้ ก่ยี วกับแบบรปู ของจานวนท่ีเพิ่มข้ึนทลี ะ 3 ท่ไี ดเ้ รยี นจากช่ัวโมงที่
แลว้ โดยการกาหนดจานวน แล้วขออาสาสมัครออกมาตอบคาถามว่าจานวนทตี่ อ่ จากจานวนชุดน้อี ีก 3
จานวนมคี ่าเท่าใด
10,579 10,582 10,583 10,588 …………. …………. ………….
ขั้นสอน
1. ครเู ขยี นแบบรูปของจานวนท่ีเพ่มิ ขึ้นทีละ 5 บนกระดาน ให้นกั เรยี นพิจารณาและ
ร่วมกนั อภปิ รายว่าจานวนต่อไปคอื อะไร
10,983 10,988 10,993 10,998 …………. …………. ………….
จากนั้นครกู ลา่ วว่า จากแบบรปู ทก่ี าหนดเริ่มจาก 10,983 จานวนตอ่ มา คอื 10,988
10,993 10,998 .......... .......... .......... โดยครูตง้ั คาถามกระตุน้ ความคิด ดงั นี้
- จานวนเร่มิ ตน้ ของแบบรปู คือจานวนใด (10,983)
- จานวนถดั ไปของแบบรปู คือจานวนใด (10,988)
- จานวน 10,988 มีคา่ มากกวา่ หรือนอ้ ยกว่า 10,983 อยู่เทา่ ไร (มากกว่าอยู่ 5)
33
- จานวนทถ่ี ดั จาก 10,988 คอื จานวนใด และมคี า่ มากกว่าหรอื น้อยกวา่ 10,988
อยเู่ ท่าไร (10,993 และมากกว่าอยู่ 5)
- จานวนทีถ่ ดั จาก 10,993 คอื จานวนใด และมีคา่ มากกว่าหรือน้อยกว่า 10,993
อยเู่ ทา่ ไร (10,998 และมากกวา่ อยู่ 5)
- นักเรียนคิดว่าจานวนท่ีอยู่ถัดจาก 10,998 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้ อยกวา่
10,998 เทา่ ไร (มากกวา่ อยู่ 5)
- นกั เรียนคดิ วา่ จานวนที่อยถู่ ัดจาก 10,998 อกี สามจานวน ควรมคี า่ เทา่ ไร บ้าง
(11,003 11,008 11,013)
2. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันอีก 2 – 3 ข้อ จนกว่านักเรียนทุกคนจะทาได้
คล่องแคลว่ และถกู ตอ้ ง
3. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานท่ี 12 แบบรูปของจานวนทเี่ พ่ิมขึน้ ทลี ะ 5 เม่ือเสร็จแล้วให้
นกั เรยี นช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากนน้ั ครูและนักเรยี นรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 12
ขั้นสรุป
1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ สง่ิ ที่ไดเ้ รยี นรู้ร่วมกัน ดังนี้ แบบรปู ของจานวนท่ีเพม่ิ ข้ึนที
ละ 5 เป็นชดุ ของจานวนที่มคี วามสมั พันธก์ ันแบบเพิ่มขึ้นทีละ 5 อยา่ งคงที่ ซึ่งสามารถหาจานวนตอ่ ไป
หรือจานวนทีห่ ายไปของแบบรปู ได้
สื่อการเรียนรู้
ใบงานท่ี 12 แบบรปู ของจานวนท่เี พิม่ ขึ้นทีละ 5
การวัดผลและประเมินผล
สิง่ ท่ีต้องการวัด วธิ วี ัด เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน
1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 12 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
12 การประเมิน
2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึ้นไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดบั
พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีข้ึนไป
ทพ่ี งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะ
ทพ่ี ึงประสงค์
34
10.13 แบบรปู ของจานวนท่เี พ่ิมข้นึ ทลี ะ 8 ( 1 ชัว่ โมง)
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครูทบทวนความรเู้ กย่ี วกบั แบบรปู ของจานวนท่ีเพ่ิมข้ึนทลี ะ 5 ที่ไดเ้ รียนจากชว่ั โมงท่ี
แล้วโดยการกาหนดจานวน แล้วขออาสาสมัครออกมาตอบคาถามวา่ จานวนที่ตอ่ จากจานวนชุดนีอ้ ีก 3
จานวนมีค่าเทา่ ใด
13,518 13,523 13,528 13,533 …………. …………. ………….
ขนั้ สอน
1. ครเู ขียนแบบรปู ของจานวนท่ีเพม่ิ ขน้ึ ทีละ 8 บนกระดาน ให้นักเรียนพจิ ารณาและ
ร่วมกันอภปิ รายว่าจานวนต่อไปคอื อะไร
21,518 21,526 21,534 21,542 …………. …………. ………….
จากน้ันครูกล่าวว่า จากแบบรปู ทก่ี าหนดเรม่ิ จาก 21,518 จานวนต่อมา คอื 21,526
21,534 21,542 .......... .......... .......... โดยครตู ง้ั คาถามกระตนุ้ ความคดิ ดงั น้ี
- จานวนเริ่มต้นของแบบรูปคือจานวนใด (21,518)
- จานวนถัดไปของแบบรปู คือจานวนใด (21,526)
- จานวน 21,526 มีคา่ มากกวา่ หรือน้อยกว่า 21,518 อยู่เทา่ ไร (มากกวา่ อยู่ 8)
- จานวนทถี่ ัดจาก 21,526 คือจานวนใด และมคี า่ มากกว่าหรือน้อยกว่า 21,526
อยู่เท่าไร (21,534 และมากกว่าอยู่ 8)
- จานวนทถี่ ดั จาก 21,534 คือจานวนใด และมคี า่ มากกวา่ หรือน้อยกวา่ 21,534
อย่เู ท่าไร (21,542 และมากกว่าอยู่ 8)
- นักเรียนคิดว่าจานวนที่อยู่ถัดจาก 21,542 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า
21,542 เทา่ ไร (มากกว่าอยู่ 8)
- นกั เรียนคิดวา่ จานวนท่ีอยถู่ ัดจาก 21,542 อีกสามจานวน ควรมคี ่าเท่าไร บ้าง
(21,550 21,558 21,566)
2. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันอีก 2 – 3 ข้อ จนกว่านักเรียนทุกคนจะทาได้
คล่องแคลว่ และถกู ตอ้ ง
3. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 13 แบบรปู ของจานวนท่เี พ่ิมขน้ึ ทีละ 8 เม่อื เสรจ็ แล้วให้
นกั เรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนัน้ ครแู ละนกั เรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 13
35
ขน้ั สรุป
1. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปสงิ่ ทีไ่ ด้เรยี นรรู้ ่วมกนั ดังนี้ แบบรปู ของจานวนทเ่ี พิ่มขึ้นที
ละ 8 เปน็ ชดุ ของจานวนที่มีความสัมพนั ธ์กันแบบเพ่ิมข้นึ ทลี ะ 8 อยา่ งคงท่ี ซึ่งสามารถหาจานวนตอ่ ไป
หรือจานวนท่หี ายไปของแบบรูปได้
ส่อื การเรียนรู้
ใบงานท่ี 13 แบบรปู ของจานวนท่ีเพมิ่ ข้นึ ทลี ะ 8
การวดั ผลและประเมินผล
ส่งิ ท่ตี อ้ งการวัด วธิ ีวดั เครอื่ งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 13 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
13 การประเมิน
2. ด้านทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี นึ้ ไป
ทักษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดบั
พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีข้นึ ไป
ท่ีพึงประสงค์ คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ คุณลักษณะ
ทพี่ ึงประสงค์
10.14 แบบรปู ของจานวนทีเ่ พมิ่ ข้ึนทลี ะ 10 ( 1 ชวั่ โมง)
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน
1. ครูทบทวนความร้เู กี่ยวกบั แบบรปู ของจานวนท่ีเพิ่มขนึ้ ทลี ะ 8 ท่ีได้เรยี นจากช่วั โมงท่ี
แล้วโดยการกาหนดจานวน แล้วขออาสาสมัครออกมาตอบคาถามว่าจานวนทตี่ ่อจากจานวนชดุ นอ้ี ีก 3
จานวนมคี ่าเท่าใด
43,420 43,428 43,436 43,444 …………. …………. ………….
ขนั้ สอน
1. ครเู ขียนแบบรูปของจานวนที่เพิ่มขนึ้ ทีละ 10 บนกระดาน ให้นักเรียนพจิ ารณาและ
รว่ มกันอภิปรายวา่ จานวนตอ่ ไปคืออะไร
36
32,255 32,265 32,275 32,285 …………. …………. ………….
จากนั้นครูกลา่ วว่า จากแบบรูปท่กี าหนดเร่มิ จาก 32,255 จานวนตอ่ มา คอื 32,265
32,275 32,285 .......... .......... .......... โดยครตู ง้ั คาถามกระตนุ้ ความคดิ ดงั น้ี
- จานวนเร่มิ ตน้ ของแบบรูปคอื จานวนใด (32,255)
- จานวนถดั ไปของแบบรปู คือจานวนใด (32,265)
- จานวน 32,265 มคี ่ามากกวา่ หรอื น้อยกวา่ 32,255 อย่เู ทา่ ไร (มากกวา่ อยู่ 10)
- จานวนทถี่ ัดจาก 32,265 คือจานวนใด และมีคา่ มากกว่าหรอื น้อยกว่า 32,265
อยู่เทา่ ไร (32,275 และมากกวา่ อยู่ 10)
- จานวนที่ถัดจาก 32,275 คอื จานวนใด และมีค่ามากกวา่ หรอื น้อยกวา่ 32,275
อยู่เท่าไร (32,285 และมากกวา่ อยู่ 10)
- นักเรียนคิดว่าจานวนท่ีอยู่ถัดจาก 32 ,285 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า
32,285 เท่าไร (มากกว่าอยู่ 10)
- นกั เรียนคิดว่าจานวนที่อยู่ถัดจาก 32,285 อกี สามจานวน ควรมีคา่ เทา่ ไร บ้าง
(32,295 32,305 32,315)
2. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันอีก 2 – 3 ข้อ จนกว่านักเรียนทุกคนจะทาได้
คลอ่ งแคลว่ และถกู ต้อง
3. ครใู ห้นกั เรยี นทาใบงานที่ 14 แบบรูปของจานวนที่เพิม่ ขึ้นทีละ 10 เมือ่ เสร็จแล้วให้
นักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนั้นครูและนกั เรียนร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 14
ข้นั สรปุ
1. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ สง่ิ ที่ไดเ้ รียนรรู้ ่วมกนั ดังนี้ แบบรปู ของจานวนที่เพม่ิ ข้ึนที
ละ 10 เป็นชุดของจานวนทมี่ ีความสัมพันธ์กนั แบบเพิ่มขน้ึ ทีละ 10 อย่างคงท่ี ซึง่ สามารถหาจานวน
ตอ่ ไปหรอื จานวนทีห่ ายไปของแบบรปู ได้
สอื่ การเรียนรู้
ใบงานที่ 14 แบบรูปของจานวนทเ่ี พม่ิ ข้นึ ทีละ 10
37
การวัดผลและประเมนิ ผล
ส่ิงที่ต้องการวัด วิธวี ดั เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 14 70% ขึน้ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
14 การประเมนิ
2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดขี ้ึนไป
ทักษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดขี นึ้ ไป
ทพี่ ึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ คุณลักษณะ
ทพี่ ึงประสงค์
10.15 แบบรปู ของจานวนท่ลี ดลงทีละ 3 ( 1 ชัว่ โมง)
กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครูกระต้นุ ความสนใจของนกั เรยี นโดยการให้นกั เรียนดูบตั รตัวเลขแสดงจานวน 5 ใบ
ดังน้ี
2,375 2,374 2,373 2,372 2,371
จากน้ันครูต้ังคาถามแล้วใหน้ ักเรยี นร่วมกันตอบว่า นักเรียนรู้หรือไม่ว่า จานวน
เหล่านี้มคี วามสัมพนั ธ์กนั อยา่ งไร (เป็นการลดลงทีละ 1)
2. ครคู อยกระตุ้นให้นกั เรียนแสดงความคิดเหน็ อย่างมีเหตผุ ล โดยใหค้ าแนะนาว่าบัตร
ตัวเลขแสดงจานวนแต่ละใบต่างกันหรือเหมือนกันอย่างไร ถ้าต่างกัน ต่างกันอย่างไร หรือถ้า
เหมอื นกัน เหมอื นกันอยา่ งไร
ข้นั สอน
1. ครกู าหนดจานวนเรม่ิ ตน้ ใหน้ ักเรียน จากนัน้ ใหน้ กั เรยี นเขยี นจานวนท่ีลดลงทีละ 3
ถัดไปอกี 5 จานวนเชน่
จานวนเรม่ิ ต้นเปน็ 8,906 (8,903 8,900 8,897 8,894 8,891)
จานวนเรมิ่ ต้นเป็น 3,510 (3,507 3,504 3,501 3,498 3,495)
จานวนเริม่ ต้นเปน็ 8,005 (8,002 7,999 7,996 7,993 7,990)
38
จานวนเรม่ิ ตน้ เป็น 6,587 (6,584 6,581 6,578 6,575 6,572)
จานวนเรมิ่ ตน้ เป็น 2,359 (2,356 2,353 2,350 2,347 2,344)
2. ครูเขียนแบบรูปของจานวนท่ีลดลงทลี ะ 3 บนกระดาน ใหน้ ักเรยี นพิจารณา และ
ร่วมกันอภปิ รายวา่ จานวนต่อไปคืออะไร
15,924 15,921 15,918 15,915 …………. …………. ………….
จากนน้ั ครูกลา่ วว่า จากแบบรปู ท่กี าหนดเริ่มจาก 15,924 จานวนตอ่ มา คือ 15,921
15,918 15,915 .......... .......... .......... โดยครตู ้ังคาถามกระตนุ้ ความคิด ดังน้ี
- จานวนเริม่ ต้นของแบบรปู คอื จานวนใด (15,924)
- จานวนถัดไปของแบบรปู คือจานวนใด (15,921)
- จานวน 15,921 มีคา่ มากกวา่ หรอื น้อยกว่า 15,924 อยู่เทา่ ไร (นอ้ ยกว่าอยู่ 3)
- จานวนทถ่ี ัดจาก 15,921 คอื จานวนใด และมีคา่ มากกวา่ หรือน้อยกว่า 15,921
อยูเ่ ท่าไร (15,918 และนอ้ ยกวา่ อยู่ 3)
- จานวนท่ีถดั จาก 15,918 คือจานวนใด และมคี า่ มากกว่าหรอื น้อยกวา่ 15,918
อยูเ่ ทา่ ไร (15,915 และน้อยกว่าอยู่ 3)
- นักเรียนคิดว่าจานวนท่ีอยู่ถัดจาก 15 ,915 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกวา่
15,915 เทา่ ไร (นอ้ ยกวา่ อยู่ 3)
- นกั เรียนคิดว่าจานวนที่อย่ถู ัดจาก 15,915 อกี สามจานวน ควรมคี า่ เทา่ ไร บ้าง
(15,912 15,909 15,906)
3. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันอีก 2 – 3 ข้อ จนกว่านักเรียนทุกคนจะทาได้
คล่องแคลว่ และถูกตอ้ ง
4. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 15 แบบรปู ของจานวนท่ีลดลงทีละ 3 เม่อื เสร็จแล้วให้
นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนน้ั ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 15
ขนั้ สรุป
1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ สิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกนั ดังน้ี แบบรูปของจานวนทีล่ ดลงที
ละ 3 เป็นชุดของจานวนทม่ี ีความสัมพนั ธก์ นั แบบลดลงทีละ 3 อย่างคงท่ี ซงึ่ สามารถหาจานวนตอ่ ไป
หรือจานวนทหี่ ายไปของแบบรูปได้
สือ่ การเรียนรู้
1. บตั รตวั เลข
2. ใบงานที่ 15 แบบรูปของจานวนทลี่ ดลงทีละ 3
39
การวดั ผลและประเมินผล
สิ่งทีต่ อ้ งการวัด วธิ วี ดั เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การประเมิน
1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 15 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
15 การประเมิน
2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดขี น้ึ ไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลักษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ
พฤตกิ รรมด้าน คุณภาพดขี ึ้นไป
ท่พี ึงประสงค์ คุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะ
ท่พี งึ ประสงค์
10.16 แบบรปู ของจานวนทีล่ ดลงทีละ 5 ( 1 ช่ัวโมง)
กจิ กรรมการเรียนรู้
ขั้นนาเขา้ ส่บู ทเรยี น
1. ครทู บทวนความรเู้ กี่ยวกับแบบรูปของจานวนท่ีลดลงทลี ะ 3 ท่ีไดเ้ รยี นจากชั่วโมงที่
แลว้ โดยการกาหนดจานวน แล้วขออาสาสมคั รออกมาตอบคาถามวา่ จานวนทตี่ ่อจากจานวนชดุ นอ้ี ีก 3
จานวนมีคา่ เท่าใด
72,391 72,388 72,385 72,382 …………. …………. ………….
ขนั้ สอน
1. ครูเขยี นแบบรูปของจานวนท่ีลดลงทลี ะ 5 บนกระดาน ให้นักเรียนพิจารณา และ
รว่ มกนั อภปิ รายวา่ จานวนต่อไปคอื อะไร
80,399 80,394 80,389 80,384 …………. …………. ………….
จากนั้นครูกลา่ ววา่ จากแบบรูปที่กาหนดเริม่ จาก 80,399 จานวนตอ่ มา คอื 80,394
80,389 80,384 .......... .......... .......... โดยครตู ง้ั คาถามกระตนุ้ ความคดิ ดงั น้ี
- จานวนเร่ิมต้นของแบบรปู คือจานวนใด (80,399)
- จานวนถดั ไปของแบบรูปคือจานวนใด (80,394)
40
- จานวน 80,394 มีคา่ มากกว่าหรอื น้อยกวา่ 80,399 อยเู่ ท่าไร (นอ้ ยกว่าอยู่ 5)
- จานวนท่ีถดั จาก 80,394 คือจานวนใด และมคี ่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 80,394
อยเู่ ท่าไร (80,389 และนอ้ ยกว่าอยู่ 5)
- จานวนท่ีถัดจาก 80,389 คอื จานวนใด และมคี า่ มากกวา่ หรอื น้อยกว่า 80,389
อยเู่ ท่าไร (80,384 และนอ้ ยกวา่ อยู่ 5)
- นักเรียนคิดว่าจานวนที่อยู่ถัดจาก 80 ,384 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า
80,384 เทา่ ไร (น้อยกว่าอยู่ 5)
- นักเรียนคดิ วา่ จานวนท่ีอยถู่ ัดจาก 80,384 อกี สามจานวน ควรมีค่าเท่าไร บ้าง
(80,379 80,374 80,369)
2. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันอีก 2 – 3 ข้อ จนกว่านักเรียนทุกคนจะทาได้
คลอ่ งแคล่วและถูกตอ้ ง
3. ครูให้นักเรยี นทาใบงานท่ี 16 แบบรปู ของจานวนท่ีลดลงทีละ 5 เมือ่ เสร็จแล้วให้
นกั เรยี นช่วยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนั้นครูและนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 16
ขน้ั สรุป
1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปสิ่งที่ได้เรยี นร้รู ่วมกนั ดงั น้ี แบบรปู ของจานวนทล่ี ดลงที
ละ 5 เป็นชดุ ของจานวนทมี่ คี วามสมั พนั ธก์ นั แบบลดลงทีละ 5 อยา่ งคงท่ี ซง่ึ สามารถหาจานวนต่อไป
หรือจานวนที่หายไปของแบบรูปได้
ส่ือการเรยี นรู้
ใบงานที่ 16 แบบรปู ของจานวนท่ีลดลงทีละ 5
การวดั ผลและประเมนิ ผล
สงิ่ ท่ีต้องการวดั วธิ ีวัด เครือ่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 16 70% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
16 การประเมิน
2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คณุ ภาพดีข้นึ ไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดบั
พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดขี ้ึนไป
ท่ีพึงประสงค์ คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ คุณลกั ษณะ
ท่พี ึงประสงค์
41
10.17 แบบรปู ของจานวนที่ลดลงทลี ะ 8 ( 1 ชวั่ โมง)
กิจกรรมการเรียนรู้
ขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน
1. ครทู บทวนความรู้เกยี่ วกบั แบบรูปของจานวนทลี่ ดลงทลี ะ 5 ที่ได้เรียนจากช่ัวโมงท่ี
แลว้ โดยการกาหนดจานวน แล้วขออาสาสมคั รออกมาตอบคาถามวา่ จานวนที่ต่อจากจานวนชดุ นี้อกี 3
จานวนมีคา่ เทา่ ใด
36,189 36,184 36,179 36,174 …………. …………. ………….
ขั้นสอน
1. ครูเขียนแบบรูปของจานวนท่ีลดลงทลี ะ 8 บนกระดาน ให้นกั เรยี นพิจารณา และ
รว่ มกนั อภปิ รายวา่ จานวนตอ่ ไปคืออะไร
31,470 31,462 31,454 31,446 …………. …………. ………….
จากนนั้ ครกู ลา่ ววา่ จากแบบรปู ท่กี าหนดเร่มิ จาก 31,470 จานวนต่อมา คอื 31,462
31,454 31,446 .......... .......... .......... โดยครูตง้ั คาถามกระต้นุ ความคิด ดังน้ี
- จานวนเร่มิ ต้นของแบบรปู คอื จานวนใด (31,470)
- จานวนถดั ไปของแบบรปู คอื จานวนใด (31,462)
- จานวน 31,462 มคี ่ามากกวา่ หรอื นอ้ ยกวา่ 31,470 อยเู่ ท่าไร (นอ้ ยกวา่ อยู่ 8)
- จานวนท่ีถัดจาก 31,462 คอื จานวนใด และมีค่ามากกวา่ หรอื น้อยกว่า 31,462
อยู่เทา่ ไร (31,454 และน้อยกว่าอยู่ 8)
- จานวนทถี่ ดั จาก 31,454 คือจานวนใด และมคี า่ มากกว่าหรือน้อยกว่า 31,454
อยเู่ ทา่ ไร (31,446 และน้อยกวา่ อยู่ 8)
- นักเรียนคิดว่าจานวนที่อยู่ถัดจาก 31 ,446 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า
31,446 เทา่ ไร (นอ้ ยกวา่ อยู่ 8)
- นักเรยี นคิดว่าจานวนที่อยูถ่ ัดจาก 31,446 อกี สามจานวน ควรมคี ่าเทา่ ไร บ้าง
(31,438 31,430 31,422)
2. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันอีก 2 – 3 ข้อ จนกว่านักเรียนทุกคนจะทาได้
คล่องแคลว่ และถกู ต้อง
3. ครใู หน้ ักเรยี นทาใบงานท่ี 17 แบบรูปของจานวนที่ลดลงทีละ 8 เมอ่ื เสร็จแล้วให้
นักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 17
42
ข้นั สรุป
1. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ สิ่งที่ได้เรียนรรู้ ่วมกัน ดงั นี้ แบบรปู ของจานวนทล่ี ดลงที
ละ 8 เป็นชดุ ของจานวนท่มี ีความสมั พันธ์กนั แบบลดลงทีละ 8 อยา่ งคงท่ี ซึง่ สามารถหาจานวนตอ่ ไป
หรอื จานวนที่หายไปของแบบรปู ได้
สอื่ การเรยี นรู้
ใบงานที่ 17 แบบรูปของจานวนท่ีลดลงทีละ 8
การวัดผลและประเมนิ ผล
สงิ่ ทตี่ อ้ งการวัด วธิ ีวัด เคร่อื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 17 70% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์
17 การประเมิน
2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีข้นึ ไป
ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดบั
พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดขี ึ้นไป
ที่พงึ ประสงค์ คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะ
ท่พี งึ ประสงค์
10.18 แบบรูปของจานวนท่ีลดลงทีละ 10 ( 1 ช่วั โมง)
กจิ กรรมการเรียนรู้
ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน
1. ครทู บทวนความรูเ้ ก่ยี วกับแบบรูปของจานวนท่ีลดลงทลี ะ 8 ทีไ่ ด้เรียนจากช่วั โมงท่ี
แลว้ โดยการกาหนดจานวน แล้วขออาสาสมัครออกมาตอบคาถามว่าจานวนที่ต่อจากจานวนชุดนอ้ี กี 3
จานวนมคี ่าเทา่ ใด
20,069 20,061 20,053 20,045 …………. …………. ………….
ขนั้ สอน
1. ครูเขียนแบบรูปของจานวนท่ีลดลงทลี ะ 10 บนกระดาน ให้นักเรยี นพจิ ารณาและ
รว่ มกันอภิปรายว่าจานวนตอ่ ไปคอื อะไร
43
46,991 46,981 46,971 46,961 …………. …………. ………….
จากน้นั ครกู ล่าวว่า จากแบบรปู ทกี่ าหนดเร่ิมจาก 46,991 จานวนต่อมา คือ 46,981
46,971 46,961 .......... .......... .......... โดยครูตั้งคาถามกระต้นุ ความคิด ดงั น้ี
- จานวนเร่ิมตน้ ของแบบรปู คอื จานวนใด (46,991)
- จานวนถัดไปของแบบรูปคอื จานวนใด (46,981)
- จานวน 46,981 มีคา่ มากกว่าหรอื น้อยกวา่ 46,991 อยูเ่ ทา่ ไร (นอ้ ยกว่าอยู่ 10)
- จานวนท่ีถดั จาก 46,981 คือจานวนใด และมคี ่ามากกวา่ หรอื น้อยกว่า 46,981
อยู่เท่าไร (46,971 และน้อยกว่าอยู่ 10)
- จานวนที่ถัดจาก 46,971 คอื จานวนใด และมคี ่ามากกว่าหรอื น้อยกวา่ 46,971
อยเู่ ท่าไร (46,961 และนอ้ ยกวา่ อยู่ 10)
- นักเรียนคิดว่าจานวนท่ีอยู่ถัดจาก 46 ,961 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า
46,961 เท่าไร (นอ้ ยกวา่ อยู่ 10)
- นกั เรยี นคดิ ว่าจานวนที่อย่ถู ัดจาก 46,961 อกี สามจานวน ควรมคี า่ เทา่ ไร บ้าง
(46,951 46,941 46,931)
2. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันอีก 2 – 3 ข้อ จนกว่านักเรียนทุกคนจะทาได้
คล่องแคล่วและถูกตอ้ ง
3. ครูให้นกั เรียนทาใบงานท่ี 18 แบบรูปของจานวนท่ีลดลงทีละ 10 เม่อื เสรจ็ แล้วให้
นกั เรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้นั ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 18
ขั้นสรุป
1. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ สิ่งที่ได้เรยี นรู้ร่วมกนั ดงั น้ี แบบรูปของจานวนทีล่ ดลงที
ละ 10 เปน็ ชดุ ของจานวนท่ีมีความสัมพันธ์กันแบบลดลงทีละ 10 อยา่ งคงที่ ซ่ึงสามารถหาจานวน
ตอ่ ไปหรอื จานวนท่หี ายไปของแบบรูปได้
สื่อการเรยี นรู้
ใบงานท่ี 18 แบบรปู ของจานวนท่ีลดลงทลี ะ 10
44
การวดั ผลและประเมนิ ผล
สงิ่ ท่ตี ้องการวัด วธิ วี ดั เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 18 70% ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
18 การประเมนิ
2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คุณภาพดขี ึ้นไป
ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดับ
พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดขี ้นึ ไป
ที่พงึ ประสงค์ คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ คณุ ลักษณะ
ทพ่ี ึงประสงค์
45
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 วชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค13101
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การบวกและการลบจานวนนับไม่เกนิ 100,000 เวลาเรยี น 25 ชวั่ โมง
............................................................................................................................. ............................... ....
1. สาระที่ 1 จานวนและพชี คณิต
2.มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ
ดาเนินการของจานวน ผลทเี่ กดิ ขึ้นจากการดาเนนิ การ สมบัติของการ
ดาเนินการ และการนาไปใช้
3.ตัวชี้วัด
ค 1.1 ป.3/5 : หาค่าของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกและปร ะโยค
สญั ลักษณแ์ สดงการลบของจานวนไมเ่ กนิ 100,000 และ 0
ค 1.1 ป.3/5 : หาค่าของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยค สญั ลักษณแ์ สดงการบวกและประโยค
สัญลกั ษณแ์ สดงการลบของจานวนนบั ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐
ค 1.1 ป.3/9 : แสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปญั หาสอง ขัน้ ตอนของจา นวนนบั ไม่เกิน
๑๐๐,๐๐๐ และ ๐
ค 1.2 ป.3/1 : ระบุจานวนทีห่ ายไปในแบบรูป ของจานวนที่เพม่ิ ข้ึนหรือลดลง ทลี ะเทา่ ๆ กัน
4. สาระสาคญั
การบวกจานวนสองจานวนทม่ี ีผลบวกไม่เกิน 1,000 ทไ่ี ม่มีการทด ใหบ้ วกจานวนทีอ่ ยูใ่ นหลัก
เดยี วกนั เขา้ ด้วยกัน โดยเริ่มบวกจากหลักหนว่ ยก่อน
5. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
5.1ดา้ นความรู้
1) หาผลบวกจานวนสองจานวนที่มีผลบวกไม่เกิน 1,000 ไม่มที ดได้ (K)
2) เขยี นแสดงวิธีการหาผลบวกจานวนสองจานวนที่มีผลบวกไม่เกนิ 1,000 ไมม่ ีทดได้
ถูกตอ้ ง (P)
3) นาความรู้เกย่ี วกบั การบวกจานวนสองจานวนท่ีมีผลบวกไม่เกนิ 1,000 ไมม่ ีทดไปใช้
แกป้ ัญหาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A)
5.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ
46
1) ทักษะการแกป้ ญั หา
2) ทกั ษะการสื่อสารและส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์
3) ทักษะการเชื่อมโยง
4) ทักษะการใหเ้ หตผุ ล
5) การคิดสรา้ งสรรค์
5.3 ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1) มีวนิ ยั
2) ใฝ่เรียนรู้
3) มุง่ ม่ันในการทางาน
6. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน
6.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
6.2 ความสามารถในการคิด
6.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
6.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
6.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. การพัฒนา 3R
7.1 ทกั ษะด้านการอ่าน
7.2 ทักษะดา้ นการเขียน
7.3 ทกั ษะทางคณิตศาสตร์
8. การพฒั นา 8C
8.1 ทักษะดา้ นการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณฯ
-
8.2 ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ฯ
-
8.3 ทักษะดา้ นความร่วมมอื ฯ
ความร่วมมอื ในการทางานกลมุ่
8.4 ทักษะดา้ นความเข้าใจต่างของวัฒนธรรมฯ
การทางานร่วมกันในการทางานกลุ่ม
8.5 ทกั ษะดา้ นการส่อื สารฯ
-
47
8.6 ทักษะด้านคอมพวิ เตอรฯ์
-
8.7 ทกั ษะอาชีพฯ
-
8.8 ทกั ษะความมเี มตตา คุณธรรมฯ
การส่งงานตรงตามเวลาท่กี าหนด
9. การบรู ณาการ
-
2.1 การบวกจานวนสองจานวนที่มีผลบวกไม่เกิน 1,000 ไมม่ ีทด (1 ช่ัวโมง)
กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น
1. นักเรยี นรว่ มกันหาผลบวกของเลขจานวนสองหลกั ท่ีมผี ลบวกไม่เกนิ 100 เชน่
75 + 24 = 60 + 29 =
35 + 27 = 44 + 26 =
2. ทากจิ กรรมเช่นเดียวกับในข้อ 1. อีกประมาณ 5 ขอ้ ใครหาคาตอบไดเ้ ร็วและถูกต้อง
มากทสี่ ุด ครูใหค้ าชมเชย
ข้นั สอน
1. นกั เรยี นดูแผนภาพแสดงการบวกจานวนที่มีสามหลักไมม่ ีการทด
2. ครูอธิบายการบวกจานวนท่ีมีสามหลักสองจานวนไม่มีการทดตามแผนภาพ เชน่
367 + 231 เช่น
3 6 7 + หลกั หน่วยนาเลข 7 + 1 ได้ผลลัพธ์เป็น 8
2 3 1 หลักสบิ นาเลข 6 + 3 ได้ผลลพั ธ์เปน็ 9
8 9 5 หลักรอ้ ยนาเลข 3 + 2 ไดผ้ ลลพั ธเ์ ปน็ 5
48
หลักหน่วย ใหน้ า 7 มาบวกกบั หนง่ึ 1 ได้ผลลพั ธ์เปน็ 8 แลว้ นา 8 ไปใสไ่ วใ้ นช่องท่ี
ตรงกับหลกั หนว่ ย
หลกั สบิ ให้นา 6 มาบวกกับ 3 ได้ผลลัพธ์เปน็ 9 นาเลข 9 ไปใส่ไวใ้ นช่องที่ตรงกับ
หลักสบิ
หลักรอ้ ย ให้นา 3 มาบวกกบั 2 ได้ผลลัพธ์เป็น 5 นาเลข 5 ไปใส่ไวใ้ ห้ตรงกับหลัก
ร้อย
ดังนัน้ 367 + 231 ได้ผลลัพธ์เปน็ 598
3. ครตู ้งั โจทย์บนกระดานให้นักเรียนออกมาแสดงวิธกี ารบวกตามข้อ 2. อกี 4 - 6 ขอ้
จนนกั เรียนเขา้ ใจ
1) 730 + 2) 240 + 3) 297 +
221 149 402
951 389 699
4) 134 + 5) 456 + 6) 302 +
455 313 521
589 769 823
4. ครูให้นกั เรียนทาใบงานท่ี 1 การบวกจานวนสองจานวนทม่ี ีผลบวกไม่เกนิ 1,000 ไม่
มีทด เมื่อเสรจ็ แล้วใหน้ ักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครูและนักเรยี นรว่ มกัน เฉลย
กจิ กรรมในใบงานท่ี 1
ข้ันสรปุ
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ ส่ิงที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ หลักการบวกจานวนสอง
จานวนท่มี ีสามหลักตามแนวตัง้ ไมม่ ีการทด คือ ใหน้ าตวั เลขในหลักเดยี วกันมาบวกเข้าด้วยกนั โดยให้
บวกในหลักหนว่ ยก่อนแล้วค่อยบวกในหลกั สิบและหลกั ร้อยตามลาดับ
สื่อการเรียนรู้
1. แผนภาพ
2. ใบงานที่ 1 การบวกจานวนสองจานวนท่ีมผี ลบวกไม่เกนิ 1,000 ไมม่ ที ด
49
การวัดผลและประเมินผล
สิง่ ที่ต้องการวัด วธิ วี ัด เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 1 70% ข้ึนไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
1 การประเมิน
2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดขี นึ้ ไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ
พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีข้ึนไป
ทพ่ี งึ ประสงค์ คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะ
ทพี่ ึงประสงค์
2.2 การบวกจานวนสองจานวนท่ีมีผลบวกไม่เกิน 1,000 มที ด (1 ชว่ั โมง)
กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน
1. ร่วมกนั หาผลบวกของเลขจานวนสามหลักที่มผี ลบวกไมเ่ กิน 1,000 โดยไมม่ ีการทด
เชน่
715 + 204 = 605 + 291 =
325 + 274 = 434 + 265 =
2. ทากจิ กรรมเชน่ เดยี วกบั ในข้อ 1. อกี ประมาณ 5 ขอ้ ใครหาคาตอบได้เร็วและถูกต้อง
มากที่สดุ ครใู หค้ าชมเชย
ข้ันสอน
1. ครตู ิดบัตรภาพแสดงสนิ ค้าบนกระดาน ดงั น้ี
598 บาท 297 บาท
50
ครสู นทนากบั นักเรยี นว่าหากนักเรยี นต้องการซือ้ สินคา้ ทงั้ สองอยา่ งตามภาพนี้ต้อง
จา่ ยเงินเทา่ ไร ครเู ขียนประโยคสญั ลักษณ์ 598 + 297 = ครแู นะนาการเขียนการบวกในแนวตั้ง
ดงั น้ี
หลกั รอ้ ย หลกั สบิ หลักหน่วย
5 9 8+
297
จากนั้นเริ่มบวกจากขวาไปซา้ ย ครูถามว่า ผลบวกในหลักหน่วยเป็นเท่าไร (15
หน่วย) มกี ี่สบิ กีห่ น่วย (1 สิบ กบั 5 หน่วย) จงึ ใส่ 5 ในหลกั หน่วยและทด 1 สบิ ในหลักสบิ รวมกับ
ผลบวกในหลกั สบิ (9 สบิ กบั 9 สบิ ได้ 18 สบิ รวมกบั 1 สิบ เปน็ 19 สิบ) ใส่ 9 ในหลักสบิ และทด 1
ร้อยในหลักร้อย รวมกบั ผลบวกในหลักร้อย (5 ร้อย กับ 2 ร้อย ได้ 7 รอ้ ย รวมกบั 1 ร้อย เป็น 8 รอ้ ย)
ใส่ 8 ในหลกั รอ้ ย ซง่ึ ครูเขียนได้ดงั นี้
หลกั รอ้ ย หลกั สบิ หลกั หนว่ ย
1 1 8+
7
5 9 5
2 9
8 9
2. ครูอธิบายเพ่ิมเตมิ วา่ ในการเขยี นแสดงการบวกในแนวต้ัง ไมจ่ าเป็นต้องเขียนชือ่ หลัก
กากับ แตต่ อ้ งเขยี นเลขโดดท่ีอยู่ในหลักเดยี วกันให้ตรงกัน และนาจานวนที่อยใู่ นหลักเดียวกนั มาบวก
กัน โดยหาผลบวกในหลักหน่วยกอ่ น จากนัน้ จึงหาผลบวกในหลักสิบ หลกั ร้อย ตามลาดับ ครูเขียน
แสดงการหาผลบวกดงั นี้
11
598 +
297
895
51
3. ครูกาหนดโจทย์การบวกให้นกั เรยี นหาผลบวก พรอ้ มแสดงวิธที า เช่น
1) 11 2) 1 3) 1
594 + 185 + 608 +
347 407 115
941 592 723
4) 11 5) 1 6) 11
397 + 562 + 374 +
465 354 326
862 916 700
4. ครใู ห้นักเรยี นทาใบงานที่ 2 การบวกจานวนสองจานวนทม่ี ีผลบวกไม่เกิน 1,000 มี
ทด เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนน้ั ครูและนกั เรียนร่วมกันเฉลย
กิจกรรมในใบงานท่ี 2
ขน้ั สรุป
1. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปสิ่งทไี่ ด้เรียนรู้รว่ มกัน ดงั นี้ การหาผลบวกของจานวนสอง
จานวน ให้นาจานวนท่ีอยู่ในหลกั เดยี วกนั มาบวกกัน ถา้ ผลบวกของจานวนในหลักใดเปน็ จานวนสอง
หลัก ใหท้ ดจานวนท่ีครบสิบไปรวมกับจานวนท่อี ย่ถู ัดไปทางซา้ ย
ส่อื การเรยี นรู้
1. บัตรภาพแสดงสนิ ค้า
2. ใบงานท่ี 2 การบวกจานวนสองจานวนที่มผี ลบวกไม่เกิน 1,000 มที ด
52
การวัดผลและประเมินผล
สง่ิ ท่ีต้องการวดั วธิ วี ดั เครื่องมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 2 70% ขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
2 การประเมิน
2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีข้ึนไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดับ
พฤตกิ รรมดา้ น คณุ ภาพดขี ึน้ ไป
ทพ่ี งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะ
ท่ีพงึ ประสงค์
2.3 การบวกจานวนสองจานวนทมี่ ีผลบวกไม่เกิน 10,000 ไม่มที ด (1 ชัว่ โมง)
กจิ กรรมการเรียนรู้
ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครทู บทวนการบวกจานวนสองจานวนที่มีผลบวกไม่เกิน 1,000 โดยตดิ บตั รภา พ
แสดงสนิ ค้าบนกระดาน ดังน้ี
395 บาท 498 บาท
2. ครสู นทนากับนักเรียนวา่ หากนักเรียนต้องการซื้อสินค้าทัง้ สองอยา่ งตามภาพน้ี ต้อง
จา่ ยเงนิ เท่าไร ให้นกั เรยี นหาผลบวก จากนั้นครูส่มุ นักเรยี นออกมาเขยี นแสดงวิธีทาและหาคาตอบ
โดยมคี รูและเพอ่ื นรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง
3. ครูทบทวนค่าประจาหลกั ใหน้ ักเรยี น โดยถามนักเรยี นวา่
53
- 1 สิบมกี หี่ นว่ ย (10 หน่วย)
- 1 ร้อยมกี ส่ี บิ (10 สบิ )
- 1 พนั มีกีร่ ้อย (10 รอ้ ย)
- 1 หมืน่ มีกพี่ ัน (10 พนั )
-
ขน้ั สอน
1. ครูติดบัตรภาพแสดงสินค้าบนกระดาน ดังน้ี
1,274 บาท 6,525 บาท
ครสู นทนากับนักเรยี นวา่ หากนกั เรียนต้องการซอื้ สินค้าท้ังสองอยา่ งตามภาพน้ีต้อง
จ่ายเงนิ เทา่ ไร ครเู ขยี นประโยคสัญลักษณ์ 1,274 + 6,525 = ครูแนะนาการเขยี นการบวกใน
แนวตัง้ ดังน้ี
หลักพนั หลักรอ้ ย หลกั สบิ หลกั หน่วย
127 4+
652 5
จากนั้นเร่ิมบวกจากขวาไปซ้าย ครูถามนกั เรียนวา่
- 4 หนว่ ยบวกกบั 5 หน่วยไดเ้ ทา่ ไร (9 หน่วย ใส่ 9 ในหลักหนว่ ย)
- 7 สิบบวกกบั 2 สบิ ไดเ้ ทา่ ไร (9 สบิ ใส่ 9 ในหลกั สบิ )
- 2 รอ้ ยบวกกบั 5 ร้อยไดเ้ ท่าไร (7 ร้อย ใส่ 7 ในหลักร้อย)
- 1 พันรวมกบั 6 พันได้เท่าไร (7 พัน ใส่ 7 ในหลกั พนั )
54
หลักพัน หลกั ร้อย หลักสิบ หลกั หนว่ ย +
1 2 7 4
6 5 2 5
7 7 9 9
2. ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ ว่าในการเขยี นแสดงการบวกในแนวตง้ั ไม่จาเป็นตอ้ งเขียนชอ่ื หลัก
กากับ แตต่ อ้ งเขยี นเลขโดดที่อยู่ในหลักเดียวกันให้ตรงกัน และนาจานวนทอี่ ยู่ในหลักเดียวกนั มาบวก
กนั โดยหาผลบวกในหลักหน่วยกอ่ น จากนั้นจงึ หาผลบวกในหลกั สิบ หลกั ร้อย หลกั พนั ตามลาดบั ครู
เขียนแสดงการหาผลบวกดังนี้
1274 +
6525
7799
3. ครูกาหนดโจทยก์ ารบวกให้นกั เรียนหาผลบวก แล้วครสู ุ่มเลือกตัวแทนนักเรียน ให้
แสดงวธิ ีทา โดยครแู ละนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง เชน่
1) 3224 + 2) 2126 + 3) 1014 +
5105 4232 6024
8329 6358 7038
4) 3823 + 5) 6119 + 6) 3701 +
5133 2440 2243
8956 8559 5944
4. ครใู หน้ กั เรียนทาใบงานที่ 3 การบวกจานวนสองจานวนท่ีมีผลบวกไม่เกิน 10,000
ไม่มีทด เมือ่ เสร็จแล้วใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากน้ันครแู ละนกั เรียนรว่ มกันเฉลย
กจิ กรรมในใบงานท่ี 3
55
ขน้ั สรุป
1. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปส่งิ ท่ีไดเ้ รียนร้รู ่วมกนั ดังนี้ การหาผลบวกของจานวนสอง
จานวนใหน้ าจานวนท่อี ยู่ในหลกั เดยี วกนั มาบวกกนั
สอื่ การเรยี นรู้
1. บตั รภาพแสดงสนิ คา้
2. ใบงานท่ี 3 การบวกจานวนสองจานวนที่มผี ลบวกไมเ่ กิน 100,000 ไม่มที ด
การวัดผลและประเมนิ ผล
สง่ิ ท่ตี ้องการวัด วธิ วี ดั เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 3 70% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
3 การประเมิน
2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คุณภาพดีขึ้นไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ
พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีข้ึนไป
ทีพ่ งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะ
ที่พงึ ประสงค์
56
2.4 การบวกจานวนสองจานวนที่มีผลบวกไมเ่ กิน 10,000 มที ด (1 ชว่ั โมง)
กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน
1. ครูทบทวนการบวกจานวนสองจานวนท่ีมผี ลบวกไม่เกิน 10,000 ไมม่ ที ด โดยติด
บัตรภาพแสดงสินคา้ บนกระดาน ดงั นี้
3,205 บาท 1,653 บาท
2. ครูสนทนากับนักเรียนว่าหากนักเรียนต้องการซื้อสินคา้ ทั้งสองอยา่ งตามภาพน้ี ตอ้ ง
จ่ายเงินเทา่ ไร ใหน้ ักเรยี นหาผลบวก จากนน้ั ครูสุ่มนักเรียนออกมาเขียนแสดงวิธที าและหาคาตอบ
โดยมคี รูและเพอื่ นรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง
ขนั้ สอน
1. ครูแนะนาการหาผลบวกของจานวนสองจานวนที่มผี ลบวกไม่เกิน 10,000 มที ดด้วย
การยกตัวอย่าง ดงั นี้
5,916 + 1,805 =
วธิ ที า การบวกในหลกั หน่วย นา 6 หนว่ ย บวกกบั 5 หนว่ ย ได้ 11 หน่วย หรอื 1 สบิ กบั 1 หนว่ ย
เขียน 1 ไว้ในหลักหนว่ ยและทด 1 ในหลักสิบ
1
5 9 1 6 +
1 8 0 5
1
57
การบวกในหลักสบิ นา 1 สบิ บวกกับ 0 สบิ ได้ 1 สบิ บวกกับตวั ทด 1 สบิ ได้ 2 สบิ
เขียน 2 ไว้ในหลกั สิบ
1
5 9 1 6 +
1 8 0 5
21
การบวกในหลักรอ้ ย นา 9 รอ้ ย บวกกบั 8 รอ้ ย ได้ 17 ร้อย หรอื 1 พนั กับ 7 ร้อย
เขยี น 7 ไวใ้ นหลกั รอ้ ยและทด 1 ในหลกั พนั
11
5 9 1 6 +
1 8 0 5
721
การบวกในหลักพนั นา 5 พัน บวกกับ 1 พนั ได้ 6 พนั บวกกับตวั ทด 1 พนั ได้ 7 พัน
เขียน 7 ไว้ในหลักพัน
11
5 9 1 6 +
1 8 0 5
7721
ดงั นน้ั 5,916 + 1,805 = 7,721
2. ครกู าหนดโจทย์การบวกให้นักเรียนหาผลบวก แล้วครสู มุ่ เลอื กตัวแทนนักเรียน ให้
แสดงวธิ ีทา โดยครูและนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง เช่น
3,720 + 4,592 =
5,546 + 2,998 =
2,865 + 3,886 =
1,269 + 7,593 =
6,842 + 1,938 =
58
3. ครใู ห้นักเรียนทาใบงานที่ 4 การบวกจานวนสองจานวนที่มีผลบวกไมเ่ กิน 10,000 มี
ทด เมื่อเสร็จแล้วใหน้ ักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนน้ั ครูและนักเรยี นร่วมกันเฉลย
กิจกรรมในใบงานที่ 4
ข้นั สรปุ
1. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สิง่ ที่ไดเ้ รียนรู้รว่ มกัน ดังนี้ การหาผลบวกของจานวนสอง
จานวนให้นาจานวนที่อยู่ในหลักเดียวกนั มาบวกกนั ถ้าผลบวกของจานวนในหลักใดมากกว่าหรือ
เทา่ กับสิบให้ใส่จานวนที่เกินสิบหรือศูนย์ในหลักเดิมแล้วทดสิบไปรวมกับจานวนในหลกั ถัดไปทาง
ซา้ ยมอื
ส่ือการเรียนรู้
1. บัตรภาพแสดงสินค้า
2. ใบงานที่ 4 การบวกจานวนสองจานวนทีม่ ผี ลบวกไม่เกิน 100,000 มที ด
การวัดผลและประเมนิ ผล
ส่ิงท่ตี ้องการวดั วิธีวัด เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ
ใบงานที่ 4 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ การประเมิน
แบบสังเกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดบั
4 พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีข้นึ ไป
ทักษะกระบวนการ
2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นักเรียนได้คะแนนระดบั
พฤตกิ รรมดา้ น คณุ ภาพดีขึ้นไป
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ คณุ ลกั ษณะ
ทพี่ งึ ประสงค์
3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น
ทพ่ี งึ ประสงค์ คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์
2.5 การบวกจานวนสองจานวนทม่ี ีผลบวกไมเ่ กิน 10,000 ไม่มีทด (1 ชัว่ โมง)
กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ครทู บทวนความรเู้ ก่ยี วกบั การบวกจานวนสองจานวนท่ีมีผลบวกไม่เกนิ 10,000 มี
ทด โดยต้งั โจทยแ์ ล้วเขยี นบนกระดาน จากน้ันขออาสาสมคั รออกมาแสดงวิธีทาบนกระดาน
59
7,432 + 1,966 =
1
7 4 3 2 +
1 9 6 6
9398
ขน้ั สอน
1. ครแู นะนาการหาผลบวกของจานวนสองจานวนท่มี ีผลบวกไม่เกิน 100,000 ไมม่ ที ด
ด้วยการยกตวั อยา่ ง ดังน้ี
34,209 + 31,470 =
3 4 2 0 9 +
3 1 4 7 0
65679
24,742 + 42,206 =
2 4 7 4 2 +
4 2 2 0 6
66948
43,452 + 16,121 =
4 3 4 5 2 +
1 6 1 2 1
59573
60
2. ครูกาหนดโจทยก์ ารบวกให้นกั เรียนหาผลบวก แล้วครสู ุ่มเลอื กตัวแทนนักเรียน ให้
แสดงวธิ ีทา โดยครูและนกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง เชน่
25,109 + 13,490 =
42,452 + 34,337 =
73,212 + 13,271 =
12,346 + 34,543 =
10,406 + 52,380 =
3. ครูใหน้ ักเรยี นทาใบงานท่ี 5 การบวกจานวนสองจานวนทม่ี ีผลบวกไมเ่ กนิ 100,000
ไมม่ ที ด เม่ือเสร็จแลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนน้ั ครูและนักเรียนร่วมกนั เฉลย
กิจกรรมในใบงานท่ี 5
ข้นั สรปุ
1. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปสิ่งท่ไี ด้เรียนรรู้ ว่ มกัน ดงั น้ี การบวกจานวนสองจานวนที่
มีผลบวกไม่เกิน 100,000 ไม่มีทด ใหบ้ วกจานวนทอี่ ยู่ในหลักเดียวกันเข้าดว้ ยกัน โดยเริม่ บวกจาก
หลกั หน่วยก่อน
สือ่ การเรียนรู้
ใบงานท่ี 5 การบวกจานวนสองจานวนท่มี ีผลบวกไม่เกิน 100,000 มีทด
การวัดผลและประเมนิ ผล
สิง่ ทต่ี ้องการวัด วธิ วี ดั เครื่องมอื วัด เกณฑ์การประเมิน
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 5 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์
5 การประเมิน
2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี น้ึ ไป
ทักษะกระบวนการ
3. ดา้ นคุณลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดับ
พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีขึ้นไป
ทพ่ี งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ คุณลักษณะ
ที่พึงประสงค์
61
2.6 การบวกจานวนสองจานวนทม่ี ีผลบวกไมเ่ กิน 100,000 มีทด (1 ช่วั โมง)
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นาเข้าสู่บทเรียน
1. ครูทบทวนความร้เู กย่ี วกับการบวกจานวนสองจานวนที่มีผลบวกไม่เกิน 100,000 มี
ทด โดยตง้ั โจทย์แล้วเขยี นบนกระดาน จากนั้นขออาสาสมคั รออกมาแสดงวิธีทาบนกระดาน
32,432 + 55,326 =
3 2 4 3 2 +
5 5 3 2 6
87758
ขัน้ สอน
1. ครแู นะนาการหาผลบวกของจานวนสองจานวนท่ีมีผลบวกไม่เกนิ 100,000 มีทด
ด้วยการยกตัวอย่าง ดังนี้
63,295 + 13,498 =
วธิ ีทา การบวกในหลกั หนว่ ย นา 5 หน่วย บวกกับ 8 หนว่ ย ได้ 13 หนว่ ย หรอื 1 สบิ กับ 3 หนว่ ย
เขียน 3 ไว้ในหลักหน่วยและทด 1 ในหลักสบิ
1
6 3 2 9 5 +
1 3 4 9 8
3
การบวกในหลักสบิ นา 9 สิบ บวกกับ 9 สบิ ได้ 18 สิบ บวกกับตวั ทด 1 สบิ ได้ 19 สิบ
เขียน 9 ไวใ้ นหลักสิบและทด 1 ในหลักรอ้ ย
11
6 3 2 9 5 +
1 3 4 9 8
93
การบวกในหลักรอ้ ย นา 2 ร้อย บวกกบั 4 ร้อย ได้ 6 รอ้ ย บวกกับตัวทด 1 ร้อย ได้ 7 ร้อย
เขียน 7 ไวใ้ นหลักร้อย
62
11
6 3 2 9 5 +
1 3 4 9 8
793
การบวกในหลกั พนั นา 3 พัน บวกกบั 3 พนั ได้ 6 พัน
เขยี น 6 ไว้ในหลกั พนั
11
6 3 2 9 5 +
1 3 4 9 8
6793
การบวกในหลกั พนั นา 5 พนั บวกกับ 1 พนั ได้ 6 พนั บวกกบั ตวั ทด 1 พนั ได้ 7 พนั
เขยี น 7 ไว้ในหลกั พัน
11
6 3 2 9 5 +
1 3 4 9 8
76793
ดงั นนั้ 63,295 + 13,498 = 76,793
2. ครูกาหนดโจทยก์ ารบวกใหน้ กั เรียนหาผลบวก แล้วครสู ุ่มเลือกตัวแทนนักเรียน ให้
แสดงวธิ ีทา โดยครแู ละนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง เช่น
19,405 + 68,891 =
28,942 + 43,840 =
67,309 + 28,173 =
16,674 + 56,721 =
34,419 + 28,127 =
3. ครูให้นกั เรียนทาใบงานท่ี 6 การบวกจานวนสองจานวนทีม่ ผี ลบวกไม่เกิน 100,000
มที ด เม่อื เสร็จแล้วใหน้ ักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนนั้ ครแู ละนักเรยี นร่วมกัน เฉลย
กิจกรรมในใบงานที่ 6
63
ข้นั สรปุ
1. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ สงิ่ ท่ีไดเ้ รยี นรู้ร่วมกนั ดังนี้ การหาผลบวกของจานวนสอง
จานวน ให้นาจานวนท่อี ยู่ในหลักเดียวกันมาบวกกัน ถ้าผลบวกของจานวนหลักใดครบสิบ ใหท้ ด
จานวนทีค่ รบสิบไปรวมกบั จานวนท่ีอยู่ในหลกั ถดั ไปทางซ้ายมือ การบวกจานวนสองจานวนเมือ่ สลับที่
กนั ผลบวกยังคงเทา่ เดมิ
สื่อการเรียนรู้
ใบงานท่ี 6 การบวกจานวนสองจานวนทม่ี ีผลบวกไมเ่ กิน 100,000 มที ด
การวัดผลและประเมนิ ผล
สิ่งท่ีต้องการวัด วิธวี ดั เครอื่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมิน
ใบงานท่ี 6 70% ขึ้นไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์
1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ การประเมิน
แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
6 พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดขี ้ึนไป
ทกั ษะกระบวนการ
2. ด้านทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ
พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี นึ้ ไป
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ คุณลักษณะ
ท่ีพึงประสงค์
3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน
ทีพ่ งึ ประสงค์ คุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์
2.7 การบวกจานวนสามจานวนทีม่ ีผลบวกไม่เกิน 100,000 (1 ช่วั โมง)
กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
1. นาโจทย์การบวกจานวนทม่ี หี ลกั เดียวกนั สามจานวนมาให้นักเรยี นช่วยกนั หาคา ตอบ
เชน่
7+9+8=
2. นาโจทย์การบวกจานวนท่มี สี องหลกั มาใหน้ ักเรียนช่วยกันหาคาตอบ เช่น
39 + 26 + 17 =
64
3. ทากิจกรรมเชน่ เดียวกบั ในข้อ 1. อีกประมาณ 5 ขอ้ ใครหาคาตอบไดเ้ รว็ และถกู ต้อง
มากทส่ี ุด ครใู หค้ าชมเชย
ขัน้ สอน
1. ครเู ขียนโจทยป์ ญั หาการบวกจานวนสามจานวนบนกระดาน ดงั นี้
22,356 + 4,469 + 17,647 =
ขัน้ ท่ี 1 นาจานวนสองจานวนแรกบวกกัน
11
2 2 3 5 6 +
4 4 6 9
26825
ขน้ั ท่ี 2 นาผลลัพธท์ ่ไี ด้จากการบวกสองจานวนแรกมาบวกกับจานวนทีส่ าม
11 1
2 6 8 2 5 +
1 7 6 4 7
44472
2. ครกู าหนดโจทย์การบวกใหน้ ักเรียนหาผลบวก แลว้ ครูสุ่มเลือกตัวแทนนักเรียน ให้
แสดงวิธที า โดยครูและนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง เชน่
7,236 + 19,405 + 68,891 =
28,942 + 43,840 + 8,469 =
67,309 + 9,427 + 28,173 =
16,674 + 3,745 + 56,721 =
34,419 + 28,127 + 5,893 =
3. ครใู หน้ ักเรียนทาใบงานท่ี 7 การบวกจานวนสามจานวนทม่ี ผี ลบวกไมเ่ กิน 100,000
เมอ่ื เสรจ็ แลว้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากน้นั ครูและนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยกจิ กรร ม
ในใบงานท่ี 7
65
ขน้ั สรุป
1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปส่ิงที่ได้เรียนร้รู ่วมกัน ดังนี้ การบวกจานวนสามจานวนที่
มผี ลบวกไม่เกิน 100,000 บวกจานวนท่อี ยู่ในหลักเดยี วกันเข้าดว้ ยกนั โดยเริ่มจากบวกหลักหน่วย
ก่อน มสี องขั้นตอน คือ นาจานวนสองจานวนบวกกนั กอ่ นจากนั้นนาผลลพั ธ์ท่ีไดบ้ วกเข้ากบั อกี จานวน
ที่เหลือ
สอ่ื การเรียนรู้
ใบงานท่ี 7 การบวกจานวนสามจานวนท่ีมีผลบวกไมเ่ กิน 100,000
การวดั ผลและประเมนิ ผล
ส่ิงทีต่ ้องการวัด วิธวี ัด เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 7 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
7 การประเมนิ
2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขึน้ ไป
ทักษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ
พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดขี น้ึ ไป
ท่ีพึงประสงค์ คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะ
ทพี่ ึงประสงค์
2.8 การบวกจานวนสามจานวนทีม่ ีผลบวกไมเ่ กนิ 100,000 (1 ชั่วโมง)
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน
1. ครูกลา่ วทกั ทายและทบทวนความรเู้ กีย่ วกับการบวกจานวนสามจานวนที่มีผลบวก
ไม่เกนิ 100,000 โดยครูต้ังโจทยบ์ นกระดานแลว้ ขออาสาสมัครนักเรียนออกมาแสดงวิธีทาพร้อมทั้ง
ตรวจคาตอบ ครูและนักเรียนท่ีเหลือรว่ มกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
ขนั้ สอน
1. ครูเขียนโจทยป์ ญั หาการบวกจานวนสามจานวนบนกระดาน ดงั นี้
39,495 + 18,304 + 23,947 =
66
ขนั้ ท่ี 1 นาจานวนสองจานวนแรกบวกกนั
1
3 9 4 9 5 +
1 8 3 0 4
57799
ขน้ั ท่ี 2 นาผลลัพธ์ทีไ่ ดจ้ ากการบวกสองจานวนแรกมาบวกกบั จานวนท่ีสาม
1111
5 7 7 9 9 +
2 3 9 4 7
81746
49,845 + 14,356 + 20,904 =
ข้นั ท่ี 1 นาจานวนสองจานวนแรกบวกกนั
1111
4 9 8 4 5 +
1 4 3 5 6
64201
ขน้ั ที่ 2 นาผลลพั ธท์ ี่ได้จากการบวกสองจานวนแรกมาบวกกบั จานวนที่สาม
1
64201+
20904
85105
2. ครูตง้ั โจทย์การบวกจานวนสามจานวนที่มีผลบวกไม่เกิน 100,000 แล้วเขียนบน
กระดาน จากนั้นสุ่มนกั เรยี นออกมาแสดงวิธีทา โดยครแู ละนักเรียนที่เหลือร่วมกันตรวจสอบควา ม
ถกู ตอ้ ง
67
3. ครตู ั้งคาถามนกั เรยี นทสี่ ามารถหาคาตอบไดอ้ ยา่ งรวดเร็วว่า มีวิธีคดิ อยา่ งไร จากน้ัน
ครูและนักเรยี นอภิปรายรว่ มกนั เกี่ยวกบั วธิ กี ารบวกจานวนสามจานวนท่ีมีผลบวกไม่เกิน 100,000 (ให้
บวกจานวนท่อี ยใู่ นหลักเดียวกันเขา้ ด้วยกนั โดยเริ่มจากบวกหลักหน่วยก่อน มสี องขน้ั ตอน คอื นา
จานวนสองจานวนบวกกันกอ่ น จากนัน่ นาผลลพั ธ์ที่ได้บวกกบั อกี จานวนท่เี หลอื )
4. ครูใหน้ ักเรยี นทาใบงานที่ 8 การบวกจานวนสามจานวนท่ีมผี ลบวกไม่เกิน 100,000
เมื่อเสรจ็ แล้วให้นักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยกิจกรร ม
ในใบงานท่ี 8
ข้ันสรปุ
1. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปสิ่งทไ่ี ด้เรียนรู้ร่วมกนั ดงั นี้ การบวกจานวนสามจานวนใช้
วิธเี ดยี วกนั กับการบวกจานวนสองจานวน คือ การบวกจานวนท่อี ยู่ในหลักเดียวกนั เข้าด้วยกัน โดย
บวกจานวนแรกกบั จานวนหลงั กอ่ น เมอ่ื ไดผ้ ลลัพธ์แลว้ ใหน้ าผลลัพธ์มาบวกกบั จานวนท่ีเหลอื
สอ่ื การเรียนรู้
ใบงานท่ี 8 การบวกจานวนสามจานวนทม่ี ผี ลบวกไม่เกิน 100,000
การวัดผลและประเมนิ ผล
ส่ิงท่ตี ้องการวดั วิธีวัด เครื่องมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 8 70% ขึน้ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
8 การประเมนิ
2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดขี ้ึนไป
ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั
พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขนึ้ ไป
ท่พี ึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะ
ที่พงึ ประสงค์
68
2.9 การลบจานวนสองจานวนที่มีตัวตง้ั ไม่เกิน 1,000 ไม่มีการกระจาย (1 ช่ัวโมง)
กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ทบทวนเรอ่ื งการลบ เริม่ ตัง้ แตก่ ารลบจานวนท่ีมีหนงึ่ หลกั สองหลัก โดยครตู ้ังโจทย์
บนกระดานให้นักเรียนยกมือตอบ คนทีต่ อบถูกก่อนเพื่อน ครแู ละเพ่อื นในช้ันเรียนชมชยโดยการ
ปรบมอื ให้
2. ทากจิ กรรมเช่นเดียวกบั ในขอ้ 1. อกี ประมาณ 8-10 ข้อ
3. นักเรยี นและครูรว่ มกนั สรุปเก่ียวกับการลบจานวนสองจานวนที่มหี น่ึงหลักและสอง
หลกั
ขน้ั สอน
1. ครูหยบิ แผน่ ตารางรอ้ ย แผน่ ตารางสบิ แผน่ ตารางหน่วย มาแสดงการหาผลลบของ
จานวนท่มี ีสามหลกั ไม่มีการกระจาย เชน่ 256 – 124 =
2. ใหอ้ าสาสมัครออกมาหยิบตารางร้อยมา 2 แผน่ ตารางสบิ มา 5 แผน่ และตาราง
หน่วย 6 แผน่ แลว้ ให้นกั เรียนหยิบแผน่ ตารางหนว่ ยออก 4 แผน่ หยบิ ตารางสิบออก 2 แผน่ และหยิบ
ตารางร้อยออก 1 แผน่ แลว้ ครูถามนักเรียนวา่ ตารางทีเ่ หลอื อยู่เป็นเทา่ ใด (132) พร้อมท้ังเขยี นแสดง
วธิ ที าในรปู กระจายให้นกั เรียนดูด้วย
3. ครูใหน้ กั เรียนดูแผนภาพแสดงการหาผลลบโดยวิธีลดั ดังน้ี
3 8 6 - หลักหน่วย 6 – 1 ได้ผลลัพธ์ 5
2 3 1 หลกั สิบ 8 – 3 ไดผ้ ลลัพธ์ 5
1 5 5 หลักร้อย 3 – 2 ไดผ้ ลลพั ธ์ 1
4. ครูอธบิ ายวิธีการลบตามแผนภาพ ดงั นี้
หลกั หนว่ ย ให้นา 6 มาลบออก 1 ได้ผลลัพธเ์ ปน็ 5 แลว้ นา 5 ไปใสไ่ ว้ในชอ่ งท่ีตรง
กับหลกั หน่วย
หลักสบิ ให้นา 8 มาลบออก 3 ไดผ้ ลลัพธ์เปน็ 5 นาเลข 5 ไปใสไ่ ว้ในชอ่ งที่ตรงกับ
หลกั สิบ
หลกั รอ้ ย ใหน้ า 3 มาลบออก 2 ไดผ้ ลลัพธเ์ ปน็ 1 นาเลข 1 ไปใสไ่ ว้ให้ตรงกับหลัก
ร้อย
ดังนน้ั 386 - 231 ไดผ้ ลลพั ธ์เปน็ 155
69
5. ครูตงั้ โจทย์บนกระดานให้นกั เรียนออกมาแสดงวิธีการลบตามขอ้ 3. อีก 3 - 4 ขอ้
จนนกั เรยี นเข้าใจ
6. ครใู หน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 9 การลบจานวนสองจานวนท่มี ีตวั ต้ังไม่เกนิ 1,000 ไม่มี
การกระจาย เม่อื เสร็จแลว้ ให้นักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนน้ั ครแู ละนักเรียนร่วมกัน
เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 9
ข้ันสรปุ
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้รว่ มกัน ดังน้ี หลักการลบจานวนสอง
จานวนทมี่ สี ามหลักตามแนวตัง้ ไม่มีการกระจาย คอื ให้นาตัวเลขในหลกั เดียวกันมาลบออกจากกัน
โดยใหล้ บในหลักหน่วยกอ่ นแล้วคอ่ ยลงในหลกั สิบและหลักรอ้ ยตามลาดบั
ส่ือการเรียนรู้
1. แผน่ ตารางรอ้ ย แผ่นตารางสิบ แผน่ ตารางหน่วย
2. ใบงานที่ 9 การลบจานวนสองจานวนท่มี ตี วั ต้ังไมเ่ กิน 1,000 ไมม่ กี ารกระจาย
การวัดผลและประเมินผล
สิ่งทีต่ อ้ งการวัด วิธีวัด เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน
1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 9 70% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
9 การประเมิน
2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดขี ึน้ ไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดับ
พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดขี น้ึ ไป
ท่ีพงึ ประสงค์ คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ คณุ ลักษณะ
ที่พงึ ประสงค์
70
2.10 การลบจานวนสองจานวนท่มี ีตัวต้ังไม่เกิน 1,000 มกี ารกระจาย (1 ช่ัวโมง)
กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นาเขา้ ส่บู ทเรียน
1. ร่วมกนั สนทนาถึงการลบของเลขจานวนสามหลกั ท่ีมตี ัวตัง้ ไมเ่ กนิ 1,000 ไมม่ กี าร
กระจาย เชน่
377 - 212 = 698 - 435 =
456 - 223 = 786 - 546 =
2. ทากจิ กรรมเช่นเดียวกับในขอ้ 1. อกี ประมาณ 5 ข้อ ใครหาคาตอบได้เรว็ และถกู ต้อง
มากท่ีสุด ครใู หค้ าชมเชย
ขัน้ สอน
1. ครหู ยบิ แผน่ ตารางร้อย แผ่นตารางสบิ แผน่ ตารางหนว่ ย มาแสดงการหาผลลบของ
จานวนที่มีสามหลัก มกี ารกระจายจากหลักสบิ ไปหลักหนว่ ย เช่น 272 – 124 = โดยหยบิ ตาราง
ร้อยมา 2 แผ่น ตารางสบิ มา 7 แผ่น และตารางหนว่ ย 2 แผ่น
- การลบหลกั หน่วยตอ้ งหยิบแผน่ ตารางหน่วยออก 4 แผ่น ครูให้นักเรยี นสังเกต
ว่าตารางหนว่ ยมแี ค่ 2 แผ่น จงึ จาเป็นจะตอ้ งกระจายตารางสิบออก 1 แผ่น และหยบิ ตารางหนว่ ยมา
แทน 10 แผน่ รวมกบั ของเดิม 2 แผ่น กจ็ ะมีตารางหนว่ ยท้งั หมด 12 แผน่ หยบิ ออก 4 แผ่น เหลอื 8
แผ่น
- การลบในหลักสบิ ตารางสบิ ก็จะเหลอื 6 แผน่ หยิบออก 2 แผ่น เหลอื 4 แผ่น
- การลบในหลักรอ้ ย หยบิ ตารางรอ้ ยออก 1 แผ่น ตารางรอ้ ยเหลอื 1 แผ่น
2. ใหอ้ าสาสมัครออกมาหยบิ ตารางร้อยมา 2 แผ่น ตารางสบิ มา 5 แผ่น และตาราง
หนว่ ย 6 แผน่ แล้วให้นกั เรยี นหยิบแผ่นตารางหนว่ ยออก 4 แผน่ หยบิ ตารางสิบออก 2 แผ่น และหยิบ
ตารางรอ้ ยออก 1 แผน่ แลว้ ครูถามนักเรียนวา่ ตารางท่เี หลอื อยู่เปน็ เท่าใด (132) พรอ้ มทัง้ เขียนแสดง
วิธีทาในรูปกระจายให้นกั เรยี นดูดว้ ย
3. ครูใหน้ กั เรยี นดแู ผนภาพแสดงการหาผลลบทมี่ ีการกระจายจากหลักร้อยไปหาหลัก
สบิ โดยวธิ ีลดั ดังน้ี
71
5 11
6 1 6 - หลักหนว่ ย 6 หน่วยลบดวั ย 4 หน่วย ได้ 2 หน่วย
2 3 4 หลกั สิบกระจายจากหลกั ร้อย เปน็ 11 สิบ ลบด้วย 3 สิบ ได้ 8 สบิ
3 8 2 หลักรอ้ ยกระจายไปหลกั สิบเหลือ 5 รอ้ ยลบด้วย 2 ร้อย ได้ 3 ร้อย
4. ครูอธบิ ายวิธีการลบตามแผนภาพ ดงั น้ี
หลักหน่วย ใหน้ า 6 หน่วยมาลบออก 4 หน่วย ไดผ้ ลลัพธเ์ ปน็ 2 นาเลข 2 ไปใส่ไวใ้ ห้
ตรงกับหลักหน่วย
หลักสิบ 1 สบิ มีค่านอ้ ยกวา่ 3 สิบ ต้องกระจายมาจากหลักรอ้ ย เปน็ 11 สิบ นามา
ลบออก 3 สบิ เหลือ 8 สิบ นา 8 ไปใส่ไว้ในชอ่ งทตี่ รงกบั หลักสบิ
หลักร้อย กระจายให้หลักสิบเหลอื 5 ร้อย นามาลบออกดว้ ย 2 ร้อย เหลอื 3 รอ้ ย
นาเลข 3 ไปใสไ่ ว้ในช่องทต่ี รงกับหลกั รอ้ ย
ดังนั้น 616 - 234 ไดผ้ ลลพั ธ์เป็น 382
5. ครตู ั้งโจทยบ์ นกระดานให้นกั เรยี นออกมาแสดงวธิ ีการลบตามขอ้ 3. อีก 3 - 4 ขอ้
จนนักเรียนเขา้ ใจ
6. ครูใหน้ ักเรียนทาใบงานท่ี 10 การลบจานวนสองจานวนท่ีมีตัวต้ังไม่เกิน 1,000 มี
การกระจาย เมอื่ เสร็จแลว้ ให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากนน้ั ครูและนักเรยี นร่วมกัน
เฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 10
ข้นั สรุป
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้รว่ มกัน ดังน้ี หลักการลบจานวนสอง
จานวนที่มีสามหลักตามแนวตง้ั และมกี ารกระจายจากหลกั ร้อยไปหลักสิบ คือ การลบจะมีการกระจาย
จากหลกั ร้อยไปหลกั สบิ เมอ่ื ตัวเลขในหลกั สิบของตัวตง้ั มคี ่านอ้ ยกวา่ ตวั เลขของหลกั สิบในตวั ลบ
สอื่ การเรยี นรู้
1. แผ่นตารางร้อย แผน่ ตารางสบิ แผ่นตารางหน่วย
2. ใบงานท่ี 10 การลบจานวนสองจานวนท่มี ตี วั ต้ังไม่เกนิ 1,000 มีการกระจาย