The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ป.3 เทอม 1
ปี 2565
ครูสุริยัน ไตรยพันธ์
โรงเรียนเทศบาลเมืองขลุง 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kanom_pang007, 2022-04-13 05:10:02

แผนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ป.3 เทอม 1

แผนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ป.3 เทอม 1
ปี 2565
ครูสุริยัน ไตรยพันธ์
โรงเรียนเทศบาลเมืองขลุง 1

Keywords: แผนการสอน,คณิตศาสตร์,สุริยัน

72

การวดั ผลและประเมินผล

สิ่งทต่ี ้องการวัด วิธวี ดั เครื่องมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 10 70% ข้นึ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์
10 การประเมิน
2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึ้นไป
ทักษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดขี น้ึ ไป
ทพี่ ึงประสงค์ คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะ
ท่ีพงึ ประสงค์

2.11 การลบจานวนสองจานวนทม่ี ีตวั ต้ังไม่เกิน 10,000 ไม่มีการกระจาย (1 ชว่ั โมง)
กิจกรรมการเรยี นรู้

ข้นั นาเขา้ สูบ่ ทเรียน
1. ครูทบทวนการลบจานวนสองจานวนท่ีมีตวั ตงั้ ไมเ่ กิน 1,000 ไมม่ ีการกระจาย โดย

ติดบตั รภาพแสดงสนิ ค้าบนกระดาน ดังน้ี

978 บาท 435 บาท

ครูถามนกั เรียนว่า นาฬกิ าราคามากกว่ากระเปา๋ อยู่เท่าใด
2. ครูเขียนประโยคสัญลักษณ์บนกระดาน ดังนี้ 978 – 435 =  จากนั้นครูถาม
นักเรียน ดงั น้ี

- 978 มกี ีร่ ้อย กับกส่ี บิ กบั ก่หี น่วย (9 ร้อย กบั 7 สบิ กบั 8 หน่วย)

73

- ลบด้วย 435 หมายความวา่ อย่างไร (เอาออก 4 ร้อย กับ 3 สิบ กบั 5 หนว่ ย)
ครแู นะนานักเรยี นวา่ การลบเรมิ่ จากทางขวา แลว้ ถามนกั เรียนต่อวา่
- 8 หน่วย เอาออก 5 หน่วย เหลือกีห่ น่วย (3 หนว่ ย)
- 7 สบิ เอาออก 3 สิบ เหลอื ก่ีสิบ (4 สบิ )
- 9 ร้อย เอาออก 4 ร้อย เหลอื ก่รี อ้ ย (5 รอ้ ย)
ครูแนะนาการเขียนแสดงการลบ ดังน้ี

978 -
435

543

ข้นั สอน
1. ครตู ดิ บตั รภาพแสดงสนิ คา้ บนกระดาน ดงั น้ี

1,234 บาท 6,575 บาท

ครสู นทนากับนักเรียนวา่ พดั ลมราคานอ้ ยกว่าโทรศพั ท์มอื ถืออยเู่ ท่าใด
ครเู ขียนประโยคสัญลกั ษณ์ 6,575 – 1,234 =  ครแู นะนาการเขยี นการบวกใน

แนวต้งั ดังนี้

หลกั พัน หลกั ร้อย หลกั สบิ หลักหนว่ ย -
6 5 7 5
1 2 3 4
5 3 4 1

74

2. ครูอธบิ ายเพิม่ เติมว่าในการเขียนแสดงการลบในแนวตั้ง ไมจ่ าเป็นต้องเขียนช่ือหลัก
กากบั แตต่ ้องเขียนเลขโดดท่อี ยใู่ นหลักเดียวกันให้ตรงกัน ดงั น้ี

6575 -
1234

5341

3. ครกู าหนดโจทยก์ ารบวกให้นกั เรียนหาผลบวก แล้วครูสุ่มเลอื กตัวแทนนักเรียน ให้
แสดงวิธีทา โดยครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง เช่น

1) 8730 - 2) 8930 - 3) 5789 -
3520 5210 4657

5210 3720 1132

4) 6804 - 5) 2654 + 6) 5962 +
2802 1451 3740

4002 1203 2222

4. ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 11 การลบจานวนสองจานวนทีม่ ีตัวต้งั ไมเ่ กนิ 10,000 ไม่
มกี ารกระจาย เม่อื เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้ันครแู ละนักเรยี นร่วมกัน
เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 11

ขัน้ สรุป
1. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ ส่ิงที่ได้เรยี นร้รู ่วมกนั ดังน้ี การหาผลลบของจานวนของ

จานวนสองจานวน ใหน้ าจานวนทอ่ี ยใู่ นหลกั เดียวกนั ของตัวต้ังลบดว้ ยจานวนท่ีอยู่ในหลกั เดียวกันของ
ตวั ลบ

75

สือ่ การเรยี นรู้
1. บตั รภาพแสดงสินคา้
2. ใบงานท่ี 11 การลบจานวนสองจานวนทีม่ ีตวั ต้ังไมเ่ กิน 10,000 ไมม่ กี ารกระจาย

การวดั ผลและประเมนิ ผล

สงิ่ ทตี่ อ้ งการวดั วธิ ีวัด เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 11 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
11 การประเมิน
2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดขี น้ึ ไป
ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั
พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดขี ึน้ ไป
ทพ่ี ึงประสงค์ คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ คุณลักษณะ
ทพ่ี งึ ประสงค์

2.12 การลบจานวนสองจานวนท่มี ีตัวตงั้ ไมเ่ กิน 10,000 มกี ารกระจาย (1 ชั่วโมง)
กิจกรรมการเรยี นรู้

ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครูทบทวนการลบจานวนสองจานวนที่มีตัวตั้งไม่เกิน 10,000 ไม่มีการกระจาย โดย

ติดบัตรภาพแสดงสนิ คา้ บนกระดาน ดงั นี้

3,985 บาท 1,653 บาท

ครูถามนักเรยี นวา่ จกั รยานราคาแพงกว่าเคร่ืองบนิ บงั คบั เทา่ ไร

76

2. ครูเขียนประโยคสญั ลักษณ์บนกระดาน ดังนี้ 3,985 – 1,653 =  จากน้ันครู
แนะนาการเขียนแสดงการลบ ดังน้ี

3 9 8 5 -
1 6 5 3

2332

ข้ันสอน

1. ครูแนะนาการลบจานวนสองจานวนเพ่ิมเติมว่าการหาผลลบของจานวนของจานวน

สองจานวน ถ้าจานวนในหลักใดของตัวตั้งน้อยกวา่ จานวนในหลักนั้นของตัวลบ ตอ้ งกระจายจานวน

ของตัวตงั้ จากหลักที่อยู่ถดั ไปทางซา้ ยมือมารวมกับจานวนในหลักน้ัน ดังตัวอย่าง

5,825 - 1,976 = 

4 17 11 15

5 8 2 5 -
1 9 7 6

3849

ขั้นท่ี 1 การลบในหลกั หนว่ ย คอื 5 หน่วย ลบ 6 หนว่ ย ไมไ่ ด้ จึงกระจายจากหลกั สิบมา 1 สิบ หรอื

10 หนว่ ย รวมเปน็ 15 หนว่ ย แล้วจงึ ลบด้วย 6 หน่วย เหลือ 9 หนว่ ย เขียน 9 ในหลักหนว่ ย

ขน้ั ท่ี 2 การลบในหลักสิบ คือ 2 สิบกระจายไป 1 สบิ เหลอื 1 สบิ ลบดว้ ย 7 สบิ ไมไ่ ด้ จึงกระจาย

จากหลกั รอ้ ยมา 1 ร้อย หรือ 10 สิบ รวมเปน็ 11 สบิ แลว้ จึงลบด้วย 7 สิบ เหลอื 4 สบิ เขียน

4 ในหลักสิบ

ขัน้ ท่ี 3 การลบในหลักรอ้ ย คือ 8 ร้อยกระจายไป 1 ร้อย เหลือ 7 ร้อย ลบด้วย 9 ร้อยไม่ได้ จึง

กระจายจากหลักพนั มา 1 พนั หรือ 10 รอ้ ย รวมเป็น 17 รอ้ ย แลว้ จงึ ลบด้วย 9 รอ้ ย เหลือ 8

ร้อย

ขน้ั ท่ี 4 การลบในหลกั พัน คอื 5 พนั กระจายไป 1 พนั เหลือ 4 พัน ลบดว้ ย 1 พัน เหลอื 3 พนั เขยี น

3 ในหลกั พนั

2. ครูยกตวั อย่างเพิ่มเติม 2 – 3 ตัวอยา่ ง โดยครูแสดงวธิ ที าเพื่อหาคาตอบไปพร้อมกับ

นกั เรียน แล้วเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นซักถามหากมีข้อสงสยั ท่ียังไม่เข้าใจ เพื่อเป็นการตรวจสอบควา ม

เขา้ ใจของนกั เรยี น

77

4,521 - 2,374 = 

4 11 11

4 5 2 1 -
2 3 7 4

2147

8,123 - 4,932 = 

7 10 12

8 1 2 3 -
4 9 3 2

3191

3. ครกู าหนดโจทย์การลบให้นกั เรยี นหาผลลบ แล้วครสู ุม่ เลอื กตัวแทนนักเรียนให้แสดง
วธิ ีทา โดยครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง เชน่

6,720 - 4,592 = 
5,546 - 2,998 = 
7,865 - 3,886 = 
9,269 - 4,593 = 
4. ครูให้นักเรยี นทาใบงานท่ี 12 การลบจานวนสองจานวนทม่ี ีตัวต้งั ไม่เกิน 10,000 มี
การกระจาย เมอ่ื เสร็จแล้วให้นกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนนั้ ครูและนกั เรียนร่วมกัน
เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 12
ขัน้ สรุป
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรยี นร้รู ่วมกัน ดังน้ี การลบจานวนสองจาน วน
จะต้องนาจานวนที่อยู่ในหลักเดียวกนั ของตัวต้ังลบด้วยจานวนทอี่ ยูใ่ นหลักเดยี วกันของตัวลบ ถ้า
จานวนในหลกั ใดของตวั ตงั้ น้อยกวา่ จานวนในหลักนั้นของตัวลบ ต้องกระจายจานวนของตัวตั้งจาก
หลกั ท่ีอยู่ถัดไปทางซ้ายมือมารวมกบั จานวนในหลกั น้ัน

78

สอื่ การเรยี นรู้
1. บัตรภาพแสดงสินค้า
2. ใบงานท่ี 12 การลบจานวนสองจานวนทม่ี ีตวั ตั้งไมเ่ กิน 10,000 ไมม่ ีการกระจาย

การวดั ผลและประเมินผล

สงิ่ ทต่ี อ้ งการวัด วธิ วี ัด เครือ่ งมือวดั เกณฑ์การประเมนิ
1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 12 70% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
12 การประเมิน
2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดขี ึ้นไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั
พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขน้ึ ไป
ทพ่ี ึงประสงค์ คุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ คุณลักษณะ
ที่พงึ ประสงค์

2.13 การลบจานวนสองจานวนที่มีตัวตั้งไม่เกิน 100,000 ไม่มีการกระจาย (1 ชว่ั โมง)
กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน
1. ครทู บทวนความรูเ้ ก่ียวกบั การลบจานวนสองจานวนท่ีมีตัวตั้งไมเ่ กนิ 10,000 โดยต้งั

โจทยแ์ ล้วเขยี นบนกระดาน จากนนั้ ขออาสาสมัครออกมาแสดงวิธีทาบนกระดาน

7,432 - 1,966 = 

6 13 12 12

7 4 3 2 -
1 9 6 6

5466

79

ขนั้ สอน
1. ครูนาโจทย์การลบทม่ี ีตวั ตงั้ ไมเ่ กิน 100,000 ทไี่ มม่ ีการกระจายมาให้นักเรียนรว่ มกัน

หาคาตอบ ในการตั้งโจทยต์ ้องต้ังตัวเลขในหลักเดียวกันให้ตรงกันแล้วให้นาจานวนที่อยู่ในหลัก
เดียวกันมาลบกัน โดยเร่ิมลบในหลักหน่วยก่อน (ครูยกตัวอย่าง 2 -3 ข้อ เพื่อให้นักเรียนเกิด
ความเข้าใจ) ครแู ละนักเรยี นร่วมกันหาคาตอบไปพรอ้ มๆ กนั

49,844 - 23,730 = 

4 9 8 4 4 -
2 3 7 3 0

26114

67,891 - 22,181 = 

6 7 8 9 1 -
2 2 1 8 1

45710

69,665 - 18,263 = 

6 9 6 6 5 -
1 8 2 6 3

51402

2. ครกู าหนดโจทยก์ ารลบให้นักเรียนหาผลลบ แล้วครูส่มุ เลือกตัวแทนนักเรยี นให้แสดง
วธิ ีทา โดยครูและนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง เช่น

25,949 - 13,409 = 
42,452 - 31,330 = 

80

73,278 - 13,271 = 
34,543 - 12,342 = 
50,486 - 40,380 = 
3. ครใู หน้ กั เรยี นทาใบงานที่ 13 การลบจานวนสองจานวนที่มีตวั ตัง้ ไม่เกนิ 100,000 ไม่
มกี ารกระจาย เมื่อเสร็จแลว้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนั้นครแู ละนักเรียนร่วมกัน
เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 13
ขั้นสรุป
1. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ส่ิงท่ีได้เรยี นรรู้ ว่ มกนั ดังนี้ การหาผลลบของจานวนของ
จานวนสองจานวน ให้นาจานวนทอ่ี ยู่ในหลกั เดยี วกันของตัวตง้ั ลบดว้ ยจานวนที่อยู่ในหลกั เดียวกันของ
ตวั ลบ

สอ่ื การเรียนรู้
ใบงานท่ี 13 การลบจานวนสองจานวนที่มตี ัวตงั้ ไมเ่ กนิ 100,000 ไม่มกี ารกระจาย

การวดั ผลและประเมนิ ผล

ส่งิ ทตี่ อ้ งการวัด วธิ วี ดั เคร่ืองมือวัด เกณฑ์การประเมิน
1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 13 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
13 การประเมนิ
2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีขนึ้ ไป
ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดบั
พฤตกิ รรมด้าน คุณภาพดขี ้นึ ไป
ท่ีพึงประสงค์ คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะ
ที่พงึ ประสงค์

81

2.14 การลบจานวนสองจานวนทีม่ ีตัวต้ังไม่เกิน 100,000 มีการกระจาย (1 ชวั่ โมง)
กจิ กรรมการเรยี นรู้

ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครูทบทวนความรู้เกย่ี วกับการลบจานวนสองจานวนท่ีมีตวั ตัง้ ไมเ่ กิน 100,000 ไม่มี

การกระจาย โดยต้ังโจทย์แลว้ เขยี นบนกระดาน จากนั้นขออาสาสมัครออกมาแสดงวธิ ีทาบนกระดาน

75,966 - 24,743 = 

7 5 9 6 6 -
2 4 7 4 3

51223

ขั้นสอน
1. ครูแนะนาการลบจานวนสองจานวนเพิ่มเติมว่าการหาผลลบของจานวนของจานวน

สองจานวน ถา้ จานวนในหลักใดของตัวต้ังนอ้ ยกว่าจานวนในหลกั นั้นของตวั ลบ ตอ้ งกระจายจานวน
ของตัวตั้งจากหลกั ทอ่ี ยูถ่ ัดไปทางซ้ายมอื มารวมกบั จานวนในหลักนนั้ ดงั ตวั อยา่ ง

46,732 – 19,949 = 

3 15 16 12 12

4 6 7 3 2 -
1 9 9 4 9

26783

ข้นั ท่ี 1 การลบในหลกั หนว่ ย คอื 2 หน่วย ลบ 9 หนว่ ยไมไ่ ด้ จงึ กระจายจากหลกั สิบมา 1 สบิ หรอื
10 หน่วย รวมเป็น 12 หน่วย แล้วจงึ ลบด้วย 9 หน่วย เหลอื 3 หน่วย เขยี น 3 ในหลักหน่วย

ข้ันที่ 2 การลบในหลกั สบิ คอื 3 สิบกระจายไป 1 สิบ เหลือ 2 สบิ ลบด้วย 4 สิบไมไ่ ด้ จึงกระจายจาก
หลักรอ้ ยมา 1 ร้อย หรอื 10 สิบ รวมเปน็ 12 สบิ แลว้ จึงลบด้วย 4 สิบ เหลอื 8 สบิ เขยี น 8
ในหลกั สบิ

82

ขนั้ ที่ 3 การลบในหลักร้อย คือ 7 ร้อยกระจายไป 1 ร้อย เหลือ 6 ร้อย ลบด้วย 9 ร้อยไ ม่ได้ จึง
กระจายจากหลกั พนั มา 1 พัน หรือ 10 ร้อย รวมเปน็ 16 รอ้ ย แล้วจึงลบดว้ ย 9 ร้อย เหลือ 7
ร้อย

ขั้นท่ี 4 การลบในหลกั พัน คือ 6 พนั กระจายไป 1 พัน เหลอื 5 พัน ลบดว้ ย 9 พันไมไ่ ด้ จงึ กระจาย
จากหลกั หมืน่ มา 1 หมืน่ หรือ 10 พนั รวมเป็น 15 พัน แลว้ จึงลบดว้ ย 9 พัน เหลือ 6 พนั
เขียน 6 ในหลักพัน

ขนั้ ที่ 5 การลบในหลกั หมืน่ คือ 4 หมืน่ กระจายไป 1 หมนื่ เหลือ 3 หมื่น ลบด้วย 1 หมน่ื เหลอื 2
หมืน่ เขยี น 2 ในหลักหมื่น
2. ครูยกตัวอยา่ งเพิ่มเติม 2 – 3 ตวั อยา่ ง โดยครแู สดงวิธที าเพอ่ื หาคาตอบไปพร้อมกับ

นักเรยี น แลว้ เปิดโอกาสให้นกั เรยี นซกั ถามหากมีข้อสงสัยที่ยังไม่เข้าใจ เพอื่ เป็นการตรวจสอบควา ม
เขา้ ใจของนกั เรยี น

75,922 – 39,875 = 

6 15 8 11 12

7 5 9 2 2 -
3 9 8 7 5

36047

98,742 – 73,829 = 

7 17 3 12

9 8 7 4 2 -
7 3 8 2 9

24913

3. ครกู าหนดโจทยก์ ารลบใหน้ ักเรียนหาผลลบ แลว้ ครสู มุ่ เลือกตัวแทนนักเรยี นให้แสดง
วิธีทา โดยครแู ละนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง เชน่

36,720 - 14,592 = 
75,546 - 22,998 = 

83

57,865 - 43,886 = 
69,269 - 44,593 = 
4. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 14 การลบจานวนสองจานวนทีม่ ีตวั ต้งั ไม่เกิน 100,000 มี
การกระจาย เมอื่ เสรจ็ แลว้ ให้นกั เรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนนั้ ครแู ละนักเรยี นร่วมกัน
เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 14

ข้นั สรปุ
1. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ สิ่งที่ได้เรียนรูร้ ่วมกัน ดงั น้ี การหาผลลบของจานวนสอง

จานวน ใหน้ าจานวนท่ีอย่ใู นหลักเดยี วกนั ของตวั ตั้งลบดว้ ยจานวนที่อยู่ในหลักเดียวกนั ของตัวลบ ถา้
จานวนในหลักใดของตัวต้งั น้อยกว่าจานวนในหลักน้ันของตัวลบ ต้องกระจายจานวนของตวั ต้ังจาก
หลกั ทีอ่ ยถู่ ัดไปทางซา้ ยมือมารวมกบั จานวนในหลกั น้ัน

สือ่ การเรยี นรู้
ใบงานที่ 14 การลบจานวนสองจานวนทม่ี ตี วั ตง้ั ไม่เกิน 100,000 มีการกระจาย

การวัดผลและประเมนิ ผล

สงิ่ ทต่ี อ้ งการวดั วธิ ีวดั เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 14 70% ขึน้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
14 การประเมิน
2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดขี นึ้ ไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคุณลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ
พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดขี ึ้นไป
ท่ีพงึ ประสงค์ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ คุณลักษณะ
ที่พงึ ประสงค์

84

2.15 การลบจานวนสามจานวนทม่ี ตี ัวตงั้ ไมเ่ กิน 100,000 (1 ชัว่ โมง)
กิจกรรมการเรยี นรู้

ขน้ั นาเข้าสูบ่ ทเรียน
1. นาโจทย์การลบจานวนท่มี หี ลกั เดียวกันสามจานวนมาให้นักเรียนชว่ ยกนั หาคาตอบ

เช่น

9–3–2 =

2. นาโจทยก์ ารลบจานวนท่ีมีสองหลกั มาให้นักเรียนช่วยกนั หาคาตอบ เช่น

96 – 12 - 21 = 

3. ทากจิ กรรมเชน่ เดียวกบั ในขอ้ 1. อกี ประมาณ 5 ข้อ ใครหาคาตอบได้เร็วและถกู ต้อง
มากที่สุด ครใู หค้ าชมเชย

ขัน้ สอน
1. ครเู ขยี นโจทยป์ ญั หาการบวกจานวนสามจานวนบนกระดาน ดงั นี้

66,700 – 13,801 – 9,397 = 

ข้ันท่ี 1 ลบสองจานวนแรกก่อน

5 16 9 10

6 6 7 0 0 -
1 3 8 0 1

52899

ข้นั ท่ี 2 นาผลลพั ธ์ทไ่ี ด้จากการลบสองจานวนแรกมาลบกบั จานวนทีส่ าม

4 12

5 2 8 9 9 -
9 3 9 7

85

43502

2. ครูกาหนดโจทย์การลบให้นกั เรยี นหาผลลบ แลว้ ครสู มุ่ เลือกตัวแทนนักเรยี นให้แสดง
วธิ ีทา โดยครแู ละนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง เชน่

68,891 - 7,236 - 19,405 = 
43,840 - 28,942 - 8,469 = 
67,309 - 9,427 - 28,173 = 
56,721 - 16,674 - 3,745 = 
34,419 - 28,127 - 5,893 = 
3. ครใู ห้นักเรียนทาใบงานที่ 15 การลบจานวนสามจานวนที่มตี ัวตั้งไม่เกิน 100,000
เมือ่ เสรจ็ แลว้ ให้นกั เรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยกิจกรร ม
ในใบงานที่ 15
ขน้ั สรปุ
1. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปสิง่ ท่ีได้เรยี นรู้รว่ มกัน ดังน้ี เก่ยี วกบั การลบจานวนสา ม
จานวนวา่ ใหน้ าจานวนทอี่ ยู่ในหลักเดียวกนั มาลบกนั ถ้าเลขโดดของตวั ตงั้ ในหลกั เดียวกนั นอ้ ยกว่าตัว
ลบให้กระจายหลักทางซา้ ยมือของตวั ตั้งมาเพิ่มในหลกั น้ัน โดยจะหาผลลบของจานวนสองจานวนแรก
ก่อน แล้วจงึ นาจานวนท่ีเหลือมาลบออกจากผลลพั ธ์ท่ีได้

สื่อการเรียนรู้
ใบงานที่ 15 การลบจานวนสามจานวนทมี่ ตี ัวตง้ั ไม่เกิน 100,000

การวัดผลและประเมินผล

สิง่ ที่ตอ้ งการวัด วธิ วี ัด เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 15 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
15 การประเมนิ
2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดขี ้ึนไป
ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดบั
พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีขึ้นไป
ทพี่ งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ คณุ ลักษณะ
ทีพ่ ึงประสงค์

86

2.16 การหาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกและการลบ (1 ชั่วโมง)
กจิ กรรมการเรียนรู้

ขน้ั นาเข้าสูบ่ ทเรยี น
1. ครเู ขยี นโจทย์บนกระดาน ดงั นี้

52,432 + 14,579 = 67,011

67,011 – 52,432 = 14,579

67,011 – 14,579 = 52,432

2. จากน้ันครูให้นักเรียนสังเกตโจทย์ที่ครเู ขียนบนกระดาน โดยครูถามนักเรยี นว่า
“โจทยท์ ี่ครเู ขยี นบนกระดานทั้งสามข้อมีความสัมพันธก์ นั อย่างไร” (ผลบวกของสองจานวนใดๆ เม่อื
ลบด้วยจานวนใดจานวนหนง่ึ ในสองจานวนนน้ั จะไดผ้ ลลบเท่ากบั อีกจานวนหนึ่งเสมอ)

ข้ันสอน
1. ครูเขียนโจทยบ์ นกระดานอีกครัง้ เช่น  + 25,243 = 57,812 ใหน้ กั เรียนร่วมกัน

หาคาตอบ จากนั้นครเู ขียนโจทย์ 57,812 – 32,569 =  และ 57,812 – 25,243 =  บน
กระดาน แล้วให้นักเรยี นร่วมกนั หาคาตอบ พร้อมทงั้ พจิ ารณาความสมั พันธจ์ ากโจทย์ที่ครูเขียนบน
กระดาน

2. ครูเขียนสรุปการหาคาตอบท้ังสามขอ้ บนกระดานอีกคร้ัง ดงั นี้
32,569 + 25,243 = 57,812
57,812 – 32,569 = 25,243
57,812 – 25,243 = 32,569

3. ครูยกตัวอย่างอีกครั้ง โดยครูเขียนโจทยบ์ นกระดาน เชน่ 79,138 -  = 44,341
ใหน้ ักเรยี นร่วมกันหาคาตอบ จากนั้นครูเขยี นโจทย์ 34,138 + 44,341 =  บนกระดาน ให้นักเรยี น
พิจารณาความสัมพันธ์จากโจทย์ทคี่ รเู ขียนบนกระดาน

87

4. ครเู ขียนสรปุ การหาคาตอบท้ังสามข้อบนกระดานอกี ครง้ั ดงั นี้
79,138 – 34,138 = 44,341
34,138 + 44,341 = 79,138

5. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 17 การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์
แสดงการบวกและการลบ เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้ันครูและ
นักเรียนร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 17

ขั้นสรปุ
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้รว่ มกัน ดังนี้ การหาตัวไม่ทราบค่าใน

ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกและการลบ สามารถใช้ความรเู้ กี่ยวกบั ความสมั พันธ์ของการบวกและ
การลบมาชว่ ยในการหาคาตอบ กลา่ วคอื ผลบวกของสองจานวนใด ๆ เม่อื ลบด้วยจานวนใดจานวน
หน่งึ ในสองจานวนน้นั จะไดผ้ ลลบเทา่ กับอกี จานวนหนงึ่ เสมอ

สื่อการเรยี นรู้
ใบงานที่ 17 การหาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวกและการลบ

การวดั ผลและประเมนิ ผล

สงิ่ ท่ตี ้องการวดั วิธวี ัด เคร่ืองมอื วดั เกณฑ์การประเมิน
1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 17 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
17 การประเมนิ
2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คุณภาพดขี ึ้นไป
ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นักเรียนได้คะแนนระดับ
พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีขนึ้ ไป
ท่พี ึงประสงค์ คุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะ
ทพ่ี ึงประสงค์

88

2.17 การหาค่าของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกและการลบ (1 ชว่ั โมง)
กิจกรรมการเรยี นรู้

ขน้ั นาเขา้ ส่บู ทเรียน
1. ครทู ักทายและทบทวนความร้เู ก่ียวกบั การหาตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์

แสดงการบวกและการลบ โดยการต้งั โจทย์ 2-3 ขอ้ แล้วสุ่มใหน้ ักเรยี นตอบคาถามวา่ “ตัวไมท่ ราบค่า
คือจานวนใด”

ขั้นสอน
1. ครูตง้ั คาถามกระตนุ้ ความคิด โดยยกตัวอย่างอกี ครง้ั ด้วยการเขียนโจทย์บนกร ะดาน

เชน่ 85,179 -  = 48,627 ให้นักเรียนร่วมกนั หาคาตอบ จากนน้ั ครเู ขียนโจทย์ 36,912 + 48,627
=  บนกระดาน ใหน้ กั เรียนรว่ มกันอธบิ ายความสัมพันธข์ องโจทย์ทงั้ สอง

2. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั เขียนสรุปการหาคาตอบทงั้ สองขอ้ บนกระดานอีกครง้ั ดงั น้ี
85,179 – 36,912 = 48,627
36,912 + 48,627 = 85,179
จากความสมั พันธท์ ีก่ ล่าวมา ครูถามนกั เรยี นว่า นกั เรยี นคิดว่า 85,179 – 36,912 =

 (48,627)
3. ครูยกตัวอย่างอีกครั้ง โดยครเู ขียนโจทยบ์ นกระดาน เชน่ 62,483 -  = 10,334

ให้นกั เรยี นรว่ มกนั หาคาตอบ จากน้ันครูเขยี นโจทย์ 52,149 + 10,334 =  บนกระดาน ให้นักเรียน
พิจารณาความสัมพนั ธจ์ ากโจทย์ทีค่ รูเขียนบนกระดาน

4. ครูเขียนสรุปการหาคาตอบท้ังสามข้อบนกระดานอกี คร้ัง ดงั น้ี
62,483 – 52,149 = 10,334
52,149 + 10,334 = 62,483

5. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 18 การหาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์
แสดงการบวกและการลบ เมือ่ เสร็จแล้วใหน้ ักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากนนั้ ครูและ
นกั เรียนรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 18

ขั้นสรุป
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ สิ่งท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี การหาตัวไม่ทราบค่าใน

ประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวกและการลบ สามารถใช้ความรูเ้ กีย่ วกบั ความสัมพันธ์ของการบวกและ
การลบมาชว่ ยในการหาคาตอบ กล่าวคือ ผลบวกของสองจานวนใด ๆ เมือ่ ลบดว้ ยจานวนใดจานวน
หนงึ่ ในสองจานวนนั้น จะได้ผลลบเท่ากบั อีกจานวนหน่ึงเสมอ

89

สื่อการเรยี นรู้
ใบงานท่ี 18 การหาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวกและการลบ

การวดั ผลและประเมินผล

ส่งิ ท่ีต้องการวัด วิธวี ัด เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 18 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
18 การประเมนิ
2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดขี ้นึ ไป
ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดับ
พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขน้ึ ไป
ที่พงึ ประสงค์ คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ คุณลักษณะ
ทีพ่ ึงประสงค์

2.18 การวิเคราะห์โจทยป์ ัญหาการบวกและหาคาตอบ (1 ชว่ั โมง)

กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขั้นนาเขา้ สู่บทเรยี น

1. ครูทบทวนการบวกจานวนที่มผี ลบวกไม่เกนิ 100,000 โดยตดิ บัตรโจทย์การบวกบน

กระดาน ดังนี้

- 8,005 + 8,906 =  - 3,510 + 2,359 = 

- 74,090 + 17,239 =  - 41,890 + 37,899 = 

- 24,103 + 27,601 =  - 41,592 + 28,466 = 

ข้ันสอน

1. ครตู ิดโจทย์ปัญหาการบวกบนกระดาน พรอ้ มท้ังอ่านโจทย์ให้นกั เรียนอ่านตาม ดังนี้

พอ่ ซื้อตูเ้ ย็นราคา 10,989 บาท ซ้อื โทรศพั ท์มอื ถอื ราคา 15,689 บาท
พอ่ ต้องจ่ายเงนิ ท้ังหมดเท่าไร

90

2. ครูให้นกั เรียนฝึกวิเคราะหโ์ จทยป์ ญั หา โดยตอบคาถามดังต่อไปนี้
- โจทย์กาหนดอะไรมาใหบ้ ้าง (พอ่ ซื้อตู้เย็นราคา 10,989 บาท ซอื้ โทรศพั ท์มอื ถือ

ราคา 15,689 บาท)
- โจทยถ์ ามอะไรบ้าง (พ่อตอ้ งจา่ ยเงนิ ทั้งหมดเท่าไร)
- ใชว้ ธิ ีใดหาคาตอบ (วธิ บี วก)
- เขียนเป็นประโยคสัญลกั ษณ์ได้อยา่ งไร (10,989 + 15,689 = )
- คาตอบที่ได้คอื เทา่ ใด (26,678 บาท)

3. ครฝู กึ วิเคราะห์โจทย์ปญั หาการบวกตามลักษณะกิจกรรมที่ทามาขา้ งต้นอีก 2 – 3
ตวั อย่าง

4. ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานที่ 19 การวเิ คราะหโ์ จทยป์ ญั หาการบวกและหาคาตอบ เมือ่
เสรจ็ แล้วให้นกั เรยี นช่วยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้ันครแู ละนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบ
งานท่ี 19

ข้ันสรุป
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี โจทย์ปัญหาเป็นการนา

จานวนหรอื สถานการณ์ตา่ ง ๆ มาเขยี นเปน็ คาถาม เพื่อใหค้ ิดหาคาตอบ ซ่งึ เราตอ้ งอ่านโจทย์ใหเ้ ขา้ ใจ
พจิ ารณาว่าโจทย์กาหนดอะไรให้บ้าง โจทยถ์ ามหาอะไร ควรใช้วิธกี ารแก้ไขปัญหาอยา่ งไร
สื่อการเรยี นรู้

ใบงานที่ 19 การวเิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหาการบวกและหาคาตอบ
การวัดผลและประเมนิ ผล

ส่งิ ทีต่ อ้ งการวดั วธิ ีวัด เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 19 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
19 การประเมนิ
2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขึน้ ไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคุณลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ
พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดขี ้นึ ไป
ทพี่ ึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะ
ทพี่ ึงประสงค์

91

2.19 การแสดงวธิ ที าโจทยป์ ัญหาการบวก (1 ชัว่ โมง)
กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขั้นนาเข้าสู่บทเรยี น
1. ครูทบทวนความรูเ้ ร่อื ง การแก้โจทยป์ ัญหาการบวก จากนนั้ ครูติดบัตรโจทย์ปัญหา

แลว้ ครสู มุ่ นักเรยี น 2-3 คน ออกมาแสดงข้นั ตอนการแก้โจทยป์ ัญหาหนา้ ช้นั เรียน โดยครแู ละนกั เรียน
ทเ่ี หลือร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง

ขนั้ สอน
1. ครูกาหนดแถบโจทย์ปัญหาการบวก จากนั้นครูให้นกั เรียนวิเคราะห์โจทย์ตาม

ข้ันตอนต่อไปนี้

แม่ค้าขายเสือ้ ไดเ้ งิน 21,589 บาท ขายกระโปรงไดม้ ากกว่าเสอ้ื 17,492 บาท
แมค่ า้ ขายกระโปรงไดเ้ งนิ ท้ังหมดเทา่ ไร

- สิ่งที่โจทย์กาหนดให้ (แม่ค้าขายเสื้อได้เงิน 21,589 บาท ขายกระโปรงได้

มากกว่าเส้อื 17,492 บาท)

- สิง่ ทโ่ี จทยต์ ้องการทราบ (แม่ค้าขายกระโปรงไดเ้ งนิ ทง้ั หมดเท่าไร)

- เขียนเปน็ ประโยคสญั ลักษณไ์ ด้อยา่ งไร (21,589 + 17,492 = )

2. ครูและนักเรยี นร่วมกันแสดงวิธีทาเพ่ือหาคาตอบจากประโยคสญั ลักษณ์

ประโยคสญั ลักษณ์ 21,589 + 17,492 = 

วิธีทา แม่ค้าขายเสอื้ ได้เงิน 21589 + บาท
ขายกระโปรงได้มากกวา่ เสือ้ 17492 บาท

แมค่ า้ ขายกระโปรงไดเ้ งนิ ทงั้ หมด 39081 บาท

ตอบ แมค่ ้าขายกระโปรงได้เงนิ ท้ังหมด ๓๙,๐๘๑ บาท

3. ครฝู ึกวเิ คราะห์โจทยป์ ญั หาการบวกตามลกั ษณะกจิ กรรมที่ทามาขา้ งตน้ อกี 2 – 3
ตัวอยา่ ง

4. ครใู หน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 21 การแสดงวิธีทาโจทย์ปญั หาการบวก เม่อื เสรจ็ แล้วให้
นกั เรียนช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้นั ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 21

ขน้ั สรปุ

92

1. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ สิ่งท่ีได้เรียนรูร้ ่วมกนั ดังน้ี การแกโ้ จทย์ปญั หาการบวก
ทาได้โดยการวเิ คราะห์โจทย์ปญั หาเพื่อทาความเข้าใจโจทย์วางแผนว่าจะใชว้ ิธีใดหาคาตอบ แล้วลงมือ
ทาโดยการแสดงวธิ ที าหาคาตอบ และตรวจสอบคาตอบ สว่ นการเขียนข้อความเพอื่ สร้างโจทย์ปัญหา
จะตอ้ งให้สอดคลอ้ งกบั ที่โจทยก์ าหนด และมีความสมเหตสุ มผล เราสามารถนาความรู้เรือ่ ง การแก้โจทย์
ปญั หาการบวก ไปใช้แก้ปญั หาเกยี่ วกบั จานวนต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวันได้

สื่อการเรยี นรู้
1. แถบโจทย์ปญั หาการบวก
2. ใบงานท่ี 21 การแสดงวธิ ที าโจทยป์ ัญหาการบวก

การวัดผลและประเมนิ ผล

ส่งิ ท่ีต้องการวัด วิธวี ัด เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 21 70% ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์
21 การประเมนิ
2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีขนึ้ ไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
พฤตกิ รรมดา้ น คณุ ภาพดีขน้ึ ไป
ทพ่ี งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะ
ทีพ่ งึ ประสงค์

2.20 การวเิ คราะห์โจทยป์ ญั หาการลบและหาคาตอบ (1 ชว่ั โมง)

กจิ กรรมการเรียนรู้

ขั้นนาเข้าสูบ่ ทเรยี น

1. ครูทบทวนการลบจานวนที่มีตั้วตั้งไม่เกิน 1 00,000 โดยติดบัตรโจทย์การลบบน

กระดาน ดงั นี้

- 5,949 – 4,839 =  - 8,210 – 3,452 = 

- 83,900 – 14,350 =  - 75,649 – 28,923 = 

- 98,339 – 54,921 =  - 90,010 – 79,053 = 

93

ขนั้ สอน
1. ครตู ิดโจทยป์ ญั หาการบวกบนกระดาน พร้อมทั้งอา่ นโจทย์ให้นักเรยี นอ่านตาม ดงั นี้

ฉนั มเี งนิ 59,349 บาท ซ้อื โทรศพั ท์ไป 12,664 บาท ฉนั เหลือเงนิ ก่บี าท

2. ครใู ห้นักเรียนฝกึ วเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหา โดยตอบคาถามดังตอ่ ไปนี้
- โจทยก์ าหนดอะไรมาใหบ้ ้าง (ฉันมเี งิน 59,349 บาท ซือ้ โทรศพั ท์ไป 12,664

บาท)
- โจทยถ์ ามอะไรบ้าง (ฉนั เหลอื เงนิ ก่ีบาท)
- ใชว้ ิธใี ดหาคาตอบ (วิธีลบ)
- เขยี นเปน็ ประโยคสัญลกั ษณ์ไดอ้ ย่างไร (59,349 – 12,664 = )
- คาตอบที่ไดค้ ือเทา่ ใด (46,685 บาท)

3. ครฝู ึกวิเคราะหโ์ จทย์ปัญหาการลบตามลกั ษณะกิจกรรมท่ีทามาข้างต้นอีก 2 – 3
ตวั อย่าง

4. ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 22 การวิเคราะห์โจทย์ปญั หาการลบและหาคาตอบ เมื่อ
เสรจ็ แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากน้นั ครูและนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบ
งานท่ี 22

ข้ันสรปุ
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีได้เรยี นรรู้ ่วมกัน ดังน้ี โจทย์ปัญหาเป็นการนา

จานวนหรือสถานการณต์ า่ ง ๆ มาเขยี นเป็นคาถาม เพอ่ื ให้คิดหาคาตอบ ซง่ึ เราตอ้ งอ่านโจทย์ให้เขา้ ใจ
พิจารณาว่าโจทยก์ าหนดอะไรให้บา้ ง โจทยถ์ ามหาอะไร ควรใช้วธิ ีการแก้ไขปัญหาอย่างไร

ส่ือการเรียนรู้
ใบงานที่ 22 การวเิ คราะหโ์ จทย์ปญั หาการลบและหาคาตอบ

94

การวัดผลและประเมนิ ผล

สิง่ ท่ตี อ้ งการวดั วิธวี ดั เครอื่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมิน
1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 22 70% ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
22 การประเมิน
2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดขี ้นึ ไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดขี ้นึ ไป
ท่ีพึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ คุณลักษณะ
ท่พี งึ ประสงค์

2.21 การวิเคราะห์โจทยป์ ญั หาการลบและหาคาตอบ (1 ช่ัวโมง)
กิจกรรมการเรียนรู้

ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน
1. ครูนาโจทยป์ ญั หาการบวกท่มี คี าวา่ “นอ้ ยกวา่ ” มาให้นักเรยี นฝึกวิเคราะห์โจทยแ์ ละ

หาคาตอบ เช่น

น้องมีเงินฝาก 49,758 บาท พ่ีมีเงินฝากน้อยกว่าน้อง 15,908 บาท
พ่ีมีเงนิ ฝากท้งั หมดเท่าไร

2. ครฝู กึ ใหน้ ักเรยี นฝึกวเิ คราะห์โจทยโ์ ดยตอบคาถามต่อไปนี้
- โจทยข์ อ้ น้เี กีย่ วกับอะไร (เงนิ ฝากของพแ่ี ละนอ้ ง)
- โจทยถ์ ามอะไร (พมี่ ีเงินฝากทั้งหมดเท่าไร)
- โจทยก์ าหนดอะไรมาให้บ้าง (น้องมเี งินฝาก 49,758 บาท พ่ีมีเงินฝากน้อยกว่า

นอ้ ง 15,908 บาท)
- พีม่ ีเงนิ ทัง้ หมดเทา่ ไร (33,850 บาท)
- พม่ี เี งนิ ฝากมากกวา่ หรือนอ้ ยกวา่ นอ้ ง (น้อยกว่า)
- เป็นไปไดไ้ หมท่พี จี่ ะมเี งนิ ฝากมากกวา่ 49,758 บาท (เป็นไปไม่ได)้

95

ข้ันสอน
1. ครูตดิ แถบโจทยป์ ัญหาการบวกใหน้ ักเรยี นคดิ หาคาตอบ ดงั นี้

พ่อไดร้ ับเงินเดอื น 68,519 บาท จา่ ยค่าเทอมลกู ไป 15,594 บาท
ครูให้นกั เรียนทกุ คนอา่ นโพจ่อทจยะ์ปเัญหลหอื าเพงนิรอ้เทมา่กใันด แลว้ ฝกึ วเิ คราะหโ์ จทย์และหาคาตอบ
โดยให้นกั เรยี นตอบคาถาม ดงั นี้
- โจทย์ถามอะไร (พอ่ จะเหลือเงนิ เท่าใด)
- โจทยก์ าหนดอะไรให้บ้าง (พอ่ ไดร้ ับเงินเดือน 68,519 บาท จ่ายคา่ เทอมลูกไป
15,594 บาท)
ครเู ขียนภาพประกอบ

จ่ายค่าเทอมลกู 15,594 บาท พ่อเหลือเงนิ

พอ่ ไดร้ ับเงนิ เดือน 68,519 บาท

- หลังจากจ่ายค่าเทอมลูก พ่อจะมจี านวนเงินเพ่มิ ข้นึ หรือลดลง (ลดลง)
- หาจานวนเงินที่พอ่ เหลือทงั้ หมดไดอ้ ย่างไร (68,519 – 15,594 = )
- 68,519 – 15,594 ไดค้ าตอบเทา่ ใด (52,925 บาท)
- สรปุ คาตอบไดอ้ ยา่ งไร (พอ่ เหลือเงิน 52,925 บาท)
- คาตอบที่ได้สมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะเหตุใด (สมเหตุสมผล เพราะ 68,519
ประมาณ 69,000 และ 15,594 ประมาณ 16,000 ซง่ึ 69,000 – 16,000 = 53,000 ดังนน้ั พ่อเหลือ
เงินประมาณ 53,000 บาท)
2. ครูฝึกวิเคราะห์โจทยป์ ญั หาการบวกตามลักษณะกจิ กรรมท่ที ามาข้างต้นอีก 2 – 3
ตัวอย่าง
3. ครใู ห้นกั เรียนทาใบงานท่ี 23 การวเิ คราะห์โจทยป์ ญั หาการลบและหาคาตอบ เม่ือ
เสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนน้ั ครูและนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบ
งานท่ี 23
ข้นั สรปุ
1. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ ส่ิงทไ่ี ด้เรียนร้รู ่วมกนั ดังน้ี การวิเคราะหโ์ จทยป์ ญั หาการ
ลบและหาคาตอบและหาคาตอบได้ว่าการแกโ้ จทย์ปญั หามีขัน้ ตอนดังน้ี

96

1) ทาความเข้าใจโจทย์
2) วางแผนแกป้ ัญหา
3) ดาเนินการตามแผน
4) ตรวจสอบ
สอ่ื การเรียนรู้
1. แถบโจทยป์ ญั หาการลบ
2. ใบงานท่ี 23 การวเิ คราะห์โจทยป์ ญั หาการลบและหาคาตอบ

การวดั ผลและประเมนิ ผล

สิง่ ทต่ี อ้ งการวัด วิธีวัด เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน
1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 23 70% ขนึ้ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
23 การประเมนิ
2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีข้ึนไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคุณลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ
พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขน้ึ ไป
ทพ่ี ึงประสงค์ คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ คุณลักษณะ
ท่ีพึงประสงค์

2.22 การแสดงวธิ ที าโจทย์ปัญหาการลบ (1 ช่วั โมง)
กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขั้นนาเขา้ สู่บทเรียน
1. ครูทบทวนความรู้เรอ่ื ง การแกโ้ จทยป์ ญั หาการลบ จากนน้ั ครตู ิดบตั รโจทย์ปัญหา

แลว้ ครสู ุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมาแสดงข้นั ตอนการแก้โจทยป์ ัญหาหน้าชน้ั เรยี น โดยครูและนกั เรียน
ท่ีเหลือรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง

97

ขัน้ สอน
1. ครกู าหนดแถบโจทยป์ ญั หาการลบ จากนั้นครูให้นกั เรยี นวิเคราะห์โจทยต์ ามขั้น ตอน

ตอ่ ไปนี้

ต้นมเี งินในธนาคาร 98,146 บาท ถอนไปใชจ้ า่ ย 32,490 บาท
ต้นจะเหลือเงนิ ในธนาคารเท่าใด

- สง่ิ ทโี่ จทย์กาหนดให้ (ต้นมีเงนิ ในธนาคาร 98,146 บาท ถอนไปใชจ้ ่าย 32,490

บาท)

- สิ่งทโ่ี จทย์ตอ้ งการทราบ (ตน้ จะเหลือเงนิ ในธนาคารเท่าใด)

- เขยี นเป็นประโยคสัญลกั ษณ์ไดอ้ ยา่ งไร (98,146 – 32,490 = )

2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงวธิ ีทาเพือ่ หาคาตอบจากประโยคสญั ลักษณ์

ประโยคสัญลักษณ์ 98,146 – 32,490 = 

วิธที า ตน้ มเี งนิ ในธนาคาร 98146 - บาท
ถอนไปใชจ้ ่าย 32490 บาท

ต้นจะเหลือเงินในธนาคาร 65656 บาท

ตอบ ต้นจะเหลอื เงินในธนาคาร ๖๕,๖๕๖ บาท

3. ครูฝึกวิเคราะห์โจทย์ปัญหาการบวกตามลักษณะกิจกรรมทท่ี ามาข้างตน้ อกี 2 – 3

ตัวอย่าง

4. ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 24 การแสดงวธิ ที าโจทยป์ ัญหาการลบ เมื่อเสรจ็ แล้วให้

นักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนั้นครแู ละนักเรยี นร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 24

ขัน้ สรุป
1. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปสง่ิ ทีไ่ ด้เรยี นรรู้ ว่ มกนั ดังนี้ การแก้โจทย์ปัญหาการลบ ทา

ได้โดยการวเิ คราะห์โจทย์ปัญหาเพ่ือทาความเข้าใจโจทยว์ างแผนว่าจะใชว้ ิธใี ดหาคาตอบ แล้วลงมือทา
โดยการแสดงวิธีทาหาคาตอบ และตรวจสอบคาตอบ สว่ นการเขยี นขอ้ ความเพื่อสร้างโจทย์ปัญหา
จะต้องใหส้ อดคล้องกบั ท่ีโจทยก์ าหนด และมีความสมเหตุสมผล เราสามารถนาความรู้เรอื่ ง การแก้โจทย์
ปัญหาการบวก ไปใชแ้ กป้ ัญหาเก่ียวกบั จานวนต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ได้

98

ส่ือการเรยี นรู้
1. แถบโจทย์ปัญหาการลบ
2. ใบงานท่ี 24 การแสดงวธิ ีทาโจทยป์ ญั หาการลบ

การวดั ผลและประเมินผล

ส่งิ ที่ต้องการวดั วิธวี ัด เครื่องมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 24 70% ขนึ้ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
24 การประเมนิ
2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คุณภาพดีขึ้นไป
ทักษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ
พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี ้นึ ไป
ท่ีพึงประสงค์ คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะ
ทพ่ี ึงประสงค์

2.23 การสร้างโจทยป์ ญั หาการบวกจากภาพ (1 ชั่วโมง)
กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขัน้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน
1. ครกู ลา่ วทักทายนักเรยี นและทบทวนความรู้เร่ือง การแก้โจทยป์ ญั หาการบวก โดย

ครสู ุ่มนกั เรียน 2-3 คนออกมาจับสลากโจทย์ปญั หา แลว้ ใหน้ ักเรียนแสดงข้ันตอนการแกโ้ จทย์ปัญหา
หน้าชัน้ เรยี น จากนัน้ ครูและนักเรียนท่ีเหลอื รว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง

99

ขั้นสอน
1. ครตู ดิ บตั รภาพบนกระดาน ดงั น้ี

45,571 บาท 8,919 บาท 25,248 บาท 31,591 บาท

ครสู าธติ วธิ ีการสรา้ งโจทย์ปญั หาการบวกจากภาพทกี่ าหนด พร้อมทัง้ แสดงวธิ ีการแก้

โจทยป์ ัญหา และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบ เช่น “พอ่ ซ้ือคอมพิวเตอรร์ าคา 45,571

บาท แม่ซ้อื กระเปา๋ ราคา 8,919 บาท ตอ้ งจ่ายเงินทงั้ หมดก่ีบาท”

ประโยคสัญลกั ษณ์ 45,571 + 8,919 = 

วธิ ีทา พอ่ ซือ้ คอมพวิ เตอร์ราคา 45571 + บาท
แมซ่ อื้ กระเปา๋ ราคา 8919 บาท

ต้องจา่ ยเงนิ ท้ังหมด 54490 บาท

ตอบ ตอ้ งจ่ายเงนิ ท้ังหมด ๕๔,๔๙๐ บาท

2. ครใู ห้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน จากน้ันใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั สร้าง

โจทยป์ ญั หาการบวกจากรูปภาพทกี่ าหนดให้

3. ครใู ห้นักเรยี นแต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรยี น ครูและนักเรยี นท่เี หลือ

ร่วมกนั ตรวจผลงานและชมเชยกล่มุ ที่ทาได้ถกู ต้องและเหมาะสม ครูพิจารณาโจทย์ปัญหาในขอ้ ท่ียังไม่

ถกู ต้อง โดยใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แกไ้ ขปรับปรงุ ใหถ้ ูกตอ้ ง

4. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายและสรปุ ความรู้เก่ยี วกบั การสรา้ งโจทยป์ ัญหาว่า มี

ขน้ั ตอนอยา่ งไร และสง่ิ สาคญั ในการสร้างโจทย์ปัญหาการบวกคืออะไร

5. ครใู หน้ ักเรยี นทาใบงานท่ี 25 การสรา้ งโจทยป์ ญั หาการบวกจากภาพ เมือ่ เสรจ็ แล้ว

ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนน้ั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 25

ขั้นสรุป

1. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ส่งิ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้รว่ มกนั ดังนี้ การสรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวก

ต้องประกอบไปดว้ ย 2 สว่ นคือ สว่ นที่โจทย์กาหนดให้ กบั สว่ นทีโ่ จทย์ถาม ซงึ่ ประโยคในการสร้างควร

เปน็ เรื่องท่มี คี วามเช่ือมโยงและสัมพันธ์กันท้งั หมด และควรสร้างใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์ในชีวิต

จรงิ และสรา้ งใหค้ รบทัง้ สองสว่ น

100

สอ่ื การเรยี นรู้
1. บตั รภาพ
2. ใบงานท่ี 25 การสร้างโจทยป์ ัญหาการบวกจากภาพ

การวัดผลและประเมนิ ผล

ส่ิงทตี่ อ้ งการวดั วิธีวัด เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์การประเมิน
1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 25 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
25 การประเมนิ
2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดขี ึ้นไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ
พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป
ทพ่ี ึงประสงค์ คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ คุณลกั ษณะ
ท่ีพึงประสงค์

2.24 การสรา้ งโจทยป์ ัญหาการลบจากภาพ (1 ช่วั โมง)
กจิ กรรมการเรียนรู้

ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ครกู ล่าวทักทายนกั เรียนและทบทวนความรู้เร่อื ง การแกโ้ จทย์ปัญหาการลบ โดยครู

สมุ่ นกั เรยี น 2-3 คนออกมาจับสลากโจทย์ปัญหา แล้วให้นกั เรยี นแสดงขนั้ ตอนการแกโ้ จทยป์ ญั หาหน้า
ชัน้ เรยี น จากน้ันครูและนกั เรียนทเี่ หลือรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง

ขั้นสอน
1. ครตู ิดบัตรภาพบนกระดาน ดงั น้ี

45,571 บาท 8,919 บาท 25,248 บาท 31,591 บาท

101

ครูสาธิตวิธีการสร้างโจทย์ปัญหาการลบจากภาพทกี่ าหนด พรอ้ มท้งั แสดงวิธีการแก้

โจทยป์ ัญหา และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ เชน่ คอมพวิ เตอร์ราคา 45,571 บาท

กลอ้ งถา่ ยรปู ราคา 31,591 บาท คอมพิวเตอร์ราคาแพงกวา่ กล้องเทา่ ไร

ประโยคสัญลกั ษณ์ 45,571 - 31,591 = 

วธิ ที า คอมพิวเตอรร์ าคา 45571 - บาท
กลอ้ งถ่ายรูปราคา 31591 บาท

คอมพิวเตอรร์ าคาแพงกว่ากล้อง 13980 บาท

ตอบ คอมพวิ เตอรร์ าคาแพงกว่ากลอ้ ง ๑๓,๙๘๐ บาท

2. ครใู หน้ ักเรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 4 – 5 คน จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันสร้าง

โจทย์ปัญหาการบวกจากรปู ภาพที่กาหนดให้

3. ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหน้าชัน้ เรียน ครแู ละนกั เรียนทเี่ หลือ

รว่ มกนั ตรวจผลงานและชมเชยกลุ่มที่ทาได้ถกู ต้องและเหมาะสม ครูพิจารณาโจทยป์ ญั หาในข้อทยี่ ังไม่

ถกู ตอ้ ง โดยให้นกั เรยี นรว่ มกันแกไ้ ขปรบั ปรุงให้ถกู ตอ้ ง

4. ครใู หน้ ักเรียนทาใบงานที่ 26 การสรา้ งโจทยป์ ญั หาการลบจากภาพ เม่อื เสรจ็ แลว้ ให้

นักเรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 26

ขั้นสรุป

1. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปส่ิงทไี่ ด้เรียนรรู้ ่วมกัน ดงั นี้ การสรา้ งโจทยป์ ญั หาการลบ

ตอ้ งประกอบไปดว้ ย 2 ส่วนคอื สว่ นท่ีโจทย์กาหนดให้ กบั สว่ นทโี่ จทยถ์ าม ซึง่ ประโยคในการสรา้ งควร

เปน็ เรื่องทม่ี คี วามเชือ่ มโยงและสัมพันธ์กันทงั้ หมด และควรสร้างใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์ในชี วิต

จริง และสรา้ งให้ครบทง้ั สองสว่ น

สื่อการเรยี นรู้
1. บตั รภาพ
2. ใบงานท่ี 26 การสร้างโจทย์ปญั หาการลบจากภาพ

102

การวดั ผลและประเมนิ ผล

ส่ิงที่ตอ้ งการวดั วิธวี ดั เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 26 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
26 การประเมนิ
2. ด้านทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดขี ึ้นไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี ้ึนไป
ทพ่ี ึงประสงค์ คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ คุณลักษณะ
ทีพ่ ึงประสงค์

2.25 การสร้างโจทย์ปญั หาการบวกจากประโยคสัญลักษณ์ (1 ชั่วโมง)
กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขั้นนาเข้าสู่บทเรยี น
1. ครทู บทวนความรเู้ ร่อื ง การสร้างโจทย์ปญั หาการบวกจากภาพ โดยครูตดิ ภา พบน

กระดาน แลว้ ครูสุ่มนกั เรียนออกมา 2-3 คน ออกมาสร้างโจทย์ปัญหาการบวก
2. จากนั้นครใู ชก้ ารถาม - ตอบ เพอ่ื ให้นักเรยี นบอกส่วนท่ีโจทย์ถาม ส่วนท่ีโจทยบ์ อก

ซึ่งครคู วรเน้นย้าวา่ โจทย์ปญั หาทีส่ รา้ งมีความเป็นไปไดห้ รอื ไม่ และคาตอบเป็นเทา่ ไร
ขั้นสอน
1. ครูตดิ บัตรตวั เลขแสดงจานวนบนกระดาน แล้วครูสาธิตวธิ ีการสรา้ งโจทยป์ ัญหาการ

บวกจากประโยคสญั ลักษณ์ที่กาหนด พรอ้ มท้ังแสดงวิธีหาคาตอบและตรวจสอบความสมเหตุสมผล
ของคาตอบ เช่น

10,500 + 14,530 = 

ครูสาธิตวธิ ีการสรา้ งโจทย์ปญั หาการบวกจากประโยคสัญลักษณ์ท่กี าหนด พรอ้ มทั้ง
แสดงวิธีการแก้โจทย์ปญั หา และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ “เกษตรเลี้ยงปลานลิ
10,500 ตวั เล้ยี งปลาดกุ 14,530 ตัว เกษตรเล้ยี งปลาทงั้ หมดก่ตี ัว”

ประโยคสญั ลักษณ์ 10,500 + 14,530 = 

103

วธิ ที า เกษตรเลี้ยงปลานิล 10500 + ตัว
เล้ยี งปลาดุก 14530 ตัว
ตวั
เกษตรเลี้ยงปลาท้งั หมด 25030

ตอบ เกษตรเลยี้ งปลาทง้ั หมด ๒๕,๐๓๐ ตวั

2. ครูให้นักเรยี นแบง่ กลุม่ กลมุ่ ละ 4 – 5 คน จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันสร้าง
โจทยป์ ัญหาการบวกจากรปู ภาพท่ีกาหนดให้ ดงั นี้

60,450 + 26,920 = 

67,740 + 8803 = 

28,514 + 37,109 = 

3. ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกล่มุ ออกมานาเสนอผลงานหน้าช้ันเรยี น ครูและนกั เรยี นท่เี หลือ
ร่วมกันตรวจผลงานและชมเชยกล่มุ ที่ทาไดถ้ กู ต้องและเหมาะสม ครพู จิ ารณาโจทยป์ ัญหาในขอ้ ทย่ี งั ไม่
ถกู ตอ้ ง โดยใหน้ กั เรียนร่วมกันแก้ไขปรบั ปรุงใหถ้ ูกต้อง

4. ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานที่ 27 การสร้างโจทยป์ ญั หาการบวกจากประโยคสญั ลักษณ์
เมื่อเสร็จแลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากน้นั ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั เฉลยกจิ กรร ม
ในใบงานท่ี 27

ข้ันสรปุ
1. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ สง่ิ ท่ีไดเ้ รยี นรรู้ ่วมกัน ดงั น้ี การสร้างโจทย์ปญั หาการบวก

ตอ้ งประกอบไปด้วย 2 สว่ นคือ ส่วนทโี่ จทยก์ าหนดให้ กับส่วนท่โี จทยถ์ าม ซ่งึ ประโยคในการสร้างควร
เปน็ เรื่องทมี่ คี วามเชือ่ มโยงและสัมพันธ์กนั ทง้ั หมด และควรสรา้ งใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์ในชีวิต
จรงิ และสร้างให้ครบทงั้ สองส่วน

ส่ือการเรยี นรู้
1. บตั รภาพ
2. บัตรตัวเลข
3. ใบงานที่ 27 การสร้างโจทย์ปญั หาการบวกจากประโยคสญั ลกั ษณ์

104

การวดั ผลและประเมินผล

สง่ิ ท่ีต้องการวดั วิธวี ดั เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 27 70% ข้ึนไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
27 การประเมิน
2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี ึ้นไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดขี นึ้ ไป
ท่พี งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะ
ท่พี งึ ประสงค์

105

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3

กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 วิชาคณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค13101

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เวลา เวลาเรียน 16 ช่วั โมง

............................................................................................................................. ............................... ....

1.สาระที่ 2 การวดั และเรขาคณติ

2. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้นื ฐานเกีย่ วกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ตอ้ งการ
วดั และนาไปใช้

3. ตวั ช้วี ัด
ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาเกยี่ วกบั เวลา และระยะเวลา

4. สาระสาคญั
นาฬิกาเปน็ เครอ่ื งมอื ทใี่ ชบ้ อกเวลาเราบอกเวลาเป็นนาฬกิ า และนาที

5. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
5.1 ด้านความรู้
1) บอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาทีได้ (K)
2) เขียนแสดงเขม็ ของนาฬกิ าตามเวลาที่กาหนดได้ (P)
3) นาความรเู้ ก่ยี วกับการบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาทีไปใช้ในชวี ิตจรงิ ได้ (A)
5.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ
1) ทกั ษะการแก้ปัญหา
2) ทักษะการส่อื สารและส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์
3) ทกั ษะการเช่ือมโยง
4) ทักษะการให้เหตุผล
5) การคดิ สรา้ งสรรค์
5.3 ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1) มวี ินยั
2) ใฝเ่ รยี นรู้
3) ม่งุ ม่นั ในการทางาน

106

6. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
6.1 ความสามารถในการส่อื สาร
6.2 ความสามารถในการคิด
6.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
6.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
6.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. การพฒั นา 3R
7.1 ทกั ษะด้านการอ่าน
7.2 ทักษะด้านการเขยี น
7.3 ทกั ษะทางคณิตศาสตร์

8. การพฒั นา 8C
8.1 ทกั ษะดา้ นการคิดอย่างมวี ิจารณญาณฯ
-
8.2 ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรคฯ์
-
8.3 ทักษะด้านความร่วมมือฯ
ความรว่ มมอื ในการทางานกลุ่ม
8.4 ทักษะด้านความเข้าใจต่างของวฒั นธรรมฯ
การทางานร่วมกนั ในการทางานกลุ่ม
8.5 ทักษะดา้ นการสอ่ื สารฯ
-
8.6 ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอรฯ์
-
8.7 ทักษะอาชีพฯ
-
8.8 ทกั ษะความมีเมตตา คณุ ธรรมฯ
การส่งงานตรงตามเวลาท่ีกาหนด

9. การบูรณาการ
-

107

3.1 การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที (1 ชั่วโมง)
กิจกรรมการเรยี นรู้

ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ครูทบทวนความรเู้ ดมิ โดยวธิ ีการซกั ถามสนทนาเกย่ี วกบั การบอกเวลาเป็นนาฬิกาท่ี

เรียนผา่ นมาแล้ว
2. ครนู านาฬิกาจาลองมาใหน้ ักเรยี นดูการเคล่ือนท่ีของเวลา โดยใหน้ ักเรยี นหัดอ่าน

เวลาเป็นนาฬกิ า
ข้นั สอน
1. ครูนานาฬกิ าจาลองชนิดทีม่ ี 2 เขม็ (เขม็ สัน้ และเข็มยาว) และแบบมี 3 เขม็ (เข็มสน้ั

เขม็ ยาว 2 เข็ม ซึ่งใช้บอกเวลาเปน็ นาที และวนิ าที) ให้นักเรียนสงั เกตวา่ มอี ะไรที่แตกตา่ งกัน และใช้
ประโยชน์อยา่ งไร

2. ครนู านาฬกิ าของจริงแบบมีเข็มและแบบตัวเลขมาให้นักเรียนดูแล้วอภิปรายควา ม
แตกต่างของนาฬกิ าแตล่ ะชนดิ

3. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายรายละเอียดบนหนา้ ปัดนาฬิกา ดงั นี้ “นาฬกิ ามขี ีด
แบ่งออกเปน็ ช่องใหญ่ 12 ชอ่ งเทา่ ๆ กนั มีตวั เลข ตั้งแต่ 1 – 12 กากบั อยู่แตล่ ะขีดใน 1 ช่องใหญ่ แต่
ละชอ่ งใหญแ่ บง่ ออกเป็น 5 ช่องเลก็ ๆ เทา่ ๆ กนั บนหน้าปัดมีเข็มสน้ั และเข็มยาว เขม็ ส้ันบอกเวลา
เป็นชั่วโมง บอกเวลาตามตัวเลขทีเ่ ข็มส้นั ไปถึงและชี้ผ่าน เข็มยาวบอกเวลาเป็นนาที บอกเวลาตาม
จานวนชอ่ งเลก็ ๆ ที่เขม็ ยาวเดินผา่ น โดยเรมิ่ นบั หนง่ึ หลังจากเขม็ ยาวเดินผา่ นเลข 12”

4. ครอู ธิบายเพ่ิมเติมว่า การเดินของเข็มนาฬิกาแต่ละชนิดเร่มิ นบั เวลา เขม็ ยาวเดิน
ผา่ นเลข 12 และผ่านชอ่ งแรก ช้ีท่ขี ดี แรกหลงั เลข 12 จะนับหนงึ่ นาที และเมื่อเดิน 12 ชอ่ งใหญ่ ซงึ่ มี
ชอ่ งเลก็ 60 ช่องหรือ 1 รอบนาฬกิ า เปน็ เวลา 60 นาที เข็มส้ันจะเดิน 1 ชอ่ งใหญ่ เปน็ เวลา 1 ชัว่ โมง
ฉะนัน้ เขม็ ยาวเดิน 12 ชอ่ งใหญ่หรอื 1 รอบนาฬกิ า เขม็ สั้นจะเดนิ ได้ 1 ชอ่ งใหญ่ เพราะฉะน้นั 1
ช่วั โมงเทา่ กบั 60 นาที

5. ครูนาเสนอการบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาทเี วลาช่วงกลางวัน โดยใช้นาฬิกาจาลอง
ประกอบ เชน่

6 นาฬิกา 5 นาที 11 นาฬิกา 35 นาที

108

6. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 1 การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที เม่ือเสร็จแลว้ ให้
นกั เรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนัน้ ครูและนกั เรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 1

ขนั้ สรุป
1. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ สงิ่ ทีไ่ ด้เรยี นรู้รว่ มกนั ดงั น้ี นาฬกิ าเป็นเคร่อื งมือทีใ่ ช้บอก

เวลา เข็มสน้ั บอกเวลาเป็นช่วั โมง เขม็ ยาวบอกเวลาเป็นนาที

ส่อื การเรยี นรู้
1. นาฬิกาจาลอง
2. นาฬกิ าของจริงแบบมีเขม็ และแบบตวั เลข
3. ใบงานที่ 1 การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที

การวัดผลและประเมนิ ผล

สิง่ ทตี่ อ้ งการวัด วธิ ีวัด เครอื่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน
1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 1 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
1 การประเมิน
2. ด้านทักษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดีขนึ้ ไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรียนได้คะแนนระดับ
พฤตกิ รรมด้าน คุณภาพดขี ึ้นไป
ที่พึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ คณุ ลักษณะ
ท่พี ึงประสงค์

3.2 การบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที (1 ช่ัวโมง)
กิจกรรมการเรียนรู้

ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครนู านาฬิกาหนา้ ปดั 2 ชน้ั มาใหน้ ักเรียนดู แลว้ ถามนักเรยี นวา่ เวลา 24 นาฬิกา

เป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน เข็มส้นั และเขม็ ยาว ช้ที เ่ี ลขอะไร
2. ครูหมุนเข็มนาฬิกาตามท่ีนักเรยี นบอก แล้วถามนักเรยี นว่า 1 วัน แบ่งเป็น 24

ชั่วโมง มกี ลางวันก่ีชัว่ โมง กลางคนื ก่ชี วั่ โมง เวลาที่ถือวา่ เป็นวนั ใหมค่ อื หลังจากเวลากี่นาฬิ

109

ขัน้ สอน
1. ครทู ดลองหมนุ เข็มสน้ั ช้ีท่ีเลข 9 เข็มยาวชเ้ี ลข 5 และใหน้ กั เรียนอ่านเป็นเวลาในช่วง

กลางคืน (21 นาฬกิ า 25 นาที)

21 นาฬิกา 25 นาที
2. ครถู ามนกั เรยี นว่า ถ้าเขม็ ยาวเดนิ มาคร่ึงวงกลม จะเปน็ เวลาก่นี าที (30 นาที)
3. ครหู มนุ เขม็ นาฬกิ าของนาฬิกาจาลองไปที่เลข 5, 10, 15, 20 และถามในทาน อง
เดยี วกันว่าเวลากน่ี าที ให้นกั เรยี นตอบแลว้ ย้าวา่ เข็มยาวเรยี กว่า นาที
4. ครูหมนุ เข็มนาฬกิ าเข็มสน้ั ไปที่เลข 2 เขม็ ยาวหมนุ ไปทเี่ ลข 10 และใหน้ ักเรยี นอ่าน
เป็นเวลาในช่วงกลางคืน (2 นาฬิกา 50 นาที)

2 นาฬิกา 50 นาที
5. ครหู มุนเขม็ ชั่วโมงและเข็มนาทีไปทีต่ าแหน่งต่าง ๆ เพอ่ื บอกเวลาเป็นนาฬิกา และ
นาที โดยกาหนดเวลาช่วงกลางคืน แลว้ ใหน้ กั เรยี นทั้งช้นั ชว่ ยกนั ตอบหลาย ๆ ขอ้ จนนกั เรียนเขา้ ใจ
6. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 2 การบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที เม่ือเสร็จแลว้ ให้
นักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากน้ันครูและนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 2
ข้ันสรุป

110

1. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ส่ิงทไ่ี ดเ้ รยี นร้รู ่วมกัน ดงั น้ี นาฬิกาเปน็ เครอื่ งมือทใ่ี ช้บอก
เวลา เข็มสั้นบอกเวลาเปน็ ชั่วโมง เขม็ ยาวบอกเวลาเป็นนาที

สื่อการเรียนรู้
1. นาฬิกาจาลอง
2. นาฬกิ าหนา้ ปดั 2 ชั้น
3. ใบงานที่ 2 การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที

การวัดผลและประเมินผล

สงิ่ ที่ต้องการวัด วธิ วี ดั เคร่อื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 2 70% ข้ึนไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์
2 การประเมิน
2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดีขึ้นไป
ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรียนได้คะแนนระดับ
พฤตกิ รรมดา้ น คณุ ภาพดีขึน้ ไป
ท่ีพึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ คุณลกั ษณะ
ทพี่ งึ ประสงค์

3.3 การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที (1 ชวั่ โมง)
กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกบั เวลาวา่ ในช่วงกลางวันแบ่งเป็น 12 ชั่วโมง กลางคืน 12

ชั่วโมง รวม 24 ชว่ั โมง
2. ครถู ามนักเรยี นวา่ ใน 1 ชั่วโมงน้นั เราแบง่ เปน็ กน่ี าที (60 นาท)ี ใน 1 วัน มกี ช่ี ว่ั โมง

(24 ชั่วโมง)
ขนั้ สอน
1. ครทู ดลองหมนุ เข็มส้ันช้ีที่เลข 1 เขม็ ยาวชเ้ี ลข 4 และให้นกั เรียนอา่ นเวลาในช่วง

กลางวัน คือ 13 นาฬกิ า 20 นาที เวลาในช่วงกลางคืน คือ 1 นาฬิกา 20 นาที

111

2. ครูแจกภาพหน้าปดั นาฬิกา และเวลากากับไว้ใตภ้ าพ แลว้ ให้นกั เรยี นแข่งขนั กันเติม
เข็มนาฬกิ าลงบนหนา้ ปดั นาฬกิ า

ชว่ งเวลากลางวัน

12 นาฬิกา 20 นาที 16 นาฬิกา 40 นาที 10 นาฬิกา 30 นาที

ช่วงเวลากลางคืน

19 นาฬกิ า 10 นาที 3 นาฬกิ า 30 นาที 23 นาฬกิ า 55 นาที

112

3. ครบู อกใหน้ ักเรียนทุกคนแสดงหนา้ ปัดนาฬกิ าตามเวลาท่ีครูชูบัตรเวลาน้นั ๆ เชน่
ครชู บู ัตร 15 นาฬิกา 25 นาที ก็ใหน้ กั เรียนหมนุ เขม็ สั้นชีเ้ ลข 3 เข็มยาวชเ้ี ลข 5 เปน็ ต้น

4. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 3 การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที เม่ือเสร็จแล้วให้
นักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนั้นครูและนกั เรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 3

ขนั้ สรปุ
1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ส่ิงทีไ่ ดเ้ รยี นรรู้ ่วมกัน ดังน้ี นาฬิกาเป็นเครอ่ื งมือท่ใี ช้บอก

เวลา เขม็ ส้ันบอกเวลาเปน็ ชว่ั โมง เขม็ ยาวบอกเวลาเปน็ นาที

สื่อการเรยี นรู้
1. นาฬกิ าจาลอง
2. ภาพหน้าปดั นาฬกิ า
3. ใบงานท่ี 3 การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที

การวดั ผลและประเมนิ ผล

สง่ิ ท่ีต้องการวัด วธิ วี ัด เครือ่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมิน
1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 3 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
3 การประเมนิ
2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดขี ้ึนไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั
พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดีขน้ึ ไป
ทพี่ ึงประสงค์ คุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะ
ทพ่ี งึ ประสงค์

113

3.4 การอา่ นและเขยี นบอกเวลาทีมมี หพั ภาค (.) หรือทวิภาค (:) (1 ช่วั โมง)
กิจกรรมการเรียนรู้

ขั้นนาเข้าสูบ่ ทเรยี น
1. ครทู บทวนสงิ่ ทีไ่ ดเ้ รยี นร้ใู นชั่วโมงท่ีผ่านมา เร่ือง การบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที

โดยครูใหต้ วั แทนนกั เรยี น 1 คน ออกมาหมนุ เข็มนาฬกิ าจาลองแสดงกิจวตั รประจาวนั เช่น เขม็ ยาวชี้
เลข 6 เข็มสนั้ ชเี้ ลข 6 จากนั้นใหเ้ พ่ือนทเี่ หลือทายวา่ เวลาดงั กล่าวทตี่ ัวแทนนักเรยี นหมนุ เข็ มนาฬิกา
นนั้ ทากิจวตั รอะไร เม่อื ทายถกู ต้องแล้ว ใหน้ กั เรียนร่วมกนั อา่ นเวลาจากหนา้ ปัดนาฬกิ าพร้อมกัน เช่น
6 นาฬิกา 30 นาที ครทู าซ้าเดิม 2 – 3 ตัวอยา่ ง เพ่อื ให้นักเรียนได้ทบทวนความรู้เดมิ และกร ะตุ้น
ความสนใจของนักเรียน

2. ครูให้นกั เรียนมองไปที่นาฬิกาในห้องเรียน จากน้ันสุ่มเลอื กตัวแทนนักเรยี นชาย และ
นักเรยี นหญงิ อย่างละ 1 คน ออกมาอ่านเวลา ณ ตอนนี้

ขั้นสอน
1. ครูอธบิ ายเกย่ี วกับการเขียนบอกเวลาโดยใช้มหพั ภาค (.) หรอื ทวภิ าค (:) ว่า

ตวั เลขหนา้ มหพั ภาค (.) หรือทวิภาค (:) บอกเวลาเป็น “นาฬิกา”
ตัวเลขหลังมหพั ภาค (.) หรือทวภิ าค (:) บอกเวลาเป็น “นาที”

2. ครอู ธิบายเพม่ิ เติมให้นกั เรยี นเขา้ ใจวา่ การบอกเวลาเปน็ นาฬิกา เรมิ่ ตง้ั แต่ 0 นาฬกิ า
ถงึ 24 นาฬกิ า การบอกเวลาเปน็ นาที เรม่ิ 0 นาที ถงึ 59 นาที

3. ครูแนะนานกั เรียนเรอ่ื งการเขียนบอกเวลาโดยใช้มหัพภาค (.) หรอื ทวภิ าค (:) และ
การอ่าน โดยครูจัดเขม็ นาฬิกาจาลองใหน้ ักเรยี นบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที พร้อมทงั้ ครูเขียนบอก
เวลาแบบใชม้ หพั ภาค (.) หรือทวิภาค (:) บนกระดานและแนะนาการอ่าน เช่น

ครู : ในเวลากลางวัน นาฬิกาเรือนน้แี สดงเวลาใด
นกั เรียน : 9 นาฬิกา 10 นาที
ครู : 9 นาฬิกา 10 นาที สามารถเขียนบอกเวลา

โดยใช้มหัพภาค (.) ได้เป็น 09.10 น. อ่านวา่
เกา้ นาฬกิ าสบิ นาที
ครู : ในเวลากลางคนื นาฬกิ าเรอื นนีแ้ สดงเวลาใด
นักเรียน : 21 นาฬิกา 10 นาที

114

ครู : 21 นาฬกิ า 10 นาที สามารถเขียนบอกเวลา
โดยใชม้ หัพภาค (.) ไดเ้ ป็น 21.10 น. อ่านว่า
ยี่สิบเอ็ดนาฬิกาสบิ นาที

ครู : ในเวลากลางวัน นาฬิกาเรือนนแ้ี สดงเวลาใด
นกั เรยี น : 11 นาฬกิ า 30 นาที
ครู : 11 นาฬกิ า 30 นาที สามารถเขยี นบอกเวลา

โดยใช้ทวิภาค (:) ไดเ้ ปน็ 11:30 น. อา่ นวา่
สิบเอด็ นาฬิกาสามสิบนาที
ครู : ในเวลากลางคืน นาฬิกาเรอื นนี้แสดงเวลาใด
นักเรยี น : 23 นาฬิกา 30 นาที
ครู : 23 นาฬกิ า 30 นาที สามารถเขียนบอกเวลา
โดยใชท้ วภิ าค (:) ไดเ้ ป็น 23:30 น. อ่านว่า
ยี่สิบสามนาฬิกาสามสิบนาที

ครู : ในเวลากลางวัน นาฬิกาเรือนนแ้ี สดงเวลาใด
นักเรียน : 7 นาฬิกา
ครู : 7 นาฬิกา สามารถเขียนบอกเวลาโดยใช้

มหพั ภาค (.) ได้เปน็ 09.00 น. อา่ นว่า เก้า
นาฬิกา
ครู : ในเวลากลางคืน นาฬิกาเรือนนแ้ี สดงเวลาใด
นักเรยี น : 19 นาฬิกา
ครู : 19 นาฬกิ า สามารถเขยี นบอกเวลาโดยใช้
ทวภิ าค (:) ได้เป็น 19:00 น. อา่ นวา่ สิบเก้า
นาฬกิ า
4. ครใู หน้ กั เรียนทาใบงานที่ 4 การอ่านและเขยี นบอกเวลาทมี ีมหพั ภาค (.) หรือทวภิ าค
(:) เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลย
กิจกรรมในใบงานที่ 4

115

ข้ันสรปุ
1. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ ส่ิงที่ได้เรียนรู้รว่ มกัน ดงั นี้ การเขยี นบอกเวลาโดยใช้

มหัพภาค (.) หรือทวภิ าค (:) แบ่งออกเปน็ 2 สว่ น คอื
- ตัวเลขหนา้ มหัพภาค (.) หรือทวภิ าค (:) บอกเวลาเปน็ “นาฬกิ า” การบอกเวลา

เป็นนาฬิกา เร่มิ ตง้ั แต่ 0 นาฬกิ า ถึง 24 นาฬิกา
- ตัวเลขหลังมหัพภาค (.) หรือทวภิ าค (:) บอกเวลาเปน็ “นาที” การบอกเวลา

เปน็ นาที เริ่มต้ังแต่ 0 นาที ถงึ 59 นาที

สือ่ การเรียนรู้
1. นาฬกิ าจาลอง
2. ใบงานที่ 4 การอ่านและเขยี นบอกเวลาทีมีมหัพภาค (.) หรอื ทวิภาค (:)

การวดั ผลและประเมนิ ผล

สง่ิ ทีต่ อ้ งการวดั วิธีวดั เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์การประเมิน
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 4 70% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
4 การประเมิน
2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คุณภาพดีขึน้ ไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นักเรียนได้คะแนนระดับ
พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดขี นึ้ ไป
ทพี่ งึ ประสงค์ คุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะ
ทพี่ งึ ประสงค์

116

3.5 การอ่านและเขียนบอกเวลาทมี ีมหพั ภาค (.) หรือทวิภาค (:) (1 ช่วั โมง)
กิจกรรมการเรียนรู้

ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครทู บทวนการบอกเวลาโดยใชม้ หัพภาค (.) หรอื ทวภิ าค (:) โดยให้เขียนเวลาตอ่ ไปน้ี

บนกระดาน โดยสุ่มนกั เรยี นออกมา 4 คน ดงั น้ี

9 นาฬกิ า 35 นาที 09.30 น. หรือ 09:30 น.
22 นาฬิกา 5 นาที 22.05 น. หรือ 22:05 น.
12.00 น. หรอื 12:00 น.
12 นาฬิกา 00.15 น. หรอื 00:15 น.
0 นาฬิกา 15 นาที

ข้ันสอน
1. ครูให้ตัวแทนนักเรียนออกมาเขียนเวลาโดยใช้มหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) ให้

นกั เรียนทัง้ ห้องช่วยกนั อา่ นเวลาทตี่ วั แทน นักเรียนเขยี นบนกระดาน เชน่ นักเรียนออกมาเขยี น 10.20
น. นกั เรยี นท้งั หอ้ งอา่ นวา่ 10 นาฬิกา 20 นาที หลงั จากน้ันครูนานาฬิกาจาลองมาหมนุ เข็มสัน้ เขม็
ยาว แสดงเวลา 10.20 น. แล้วถามวา่ เข็มยาวอยู่ท่ีตวั เลขใด (4) เข็มส้ันอยรู่ ะหวา่ งตัวเลขใด (ระหวา่ ง
ตัวเลข 10 กบั 11) ครใู ห้นักเรียนสังเกตวา่ 10.20 น. ใกล้ 10.30 น. ดังนน้ั เข็มส้ันจะอยู่ปร ะมา ณ
ก่ึงกลางของตวั เลข 10 กับ 11

2. ครทู ากิจกรรมทานองเดียวกบั ข้อ 2 อีกหลายๆ ตัวอย่าง ใหน้ กั เรียนออกมาหมุนเข็ม
สัน้ เข็มยาวให้ตรงกับเวลาท่ีเพอ่ื นกาหนด โดยย้าใหน้ ักเรียนสังเกตตาแหน่งของเข็มส้ันว่า ควรอยู่
ประมาณกึ่งกลาง นอ้ ยกว่ากึ่งกลาง หรือมากกวา่ ก่งึ กลางระหว่างตัวเลข 2 ตวั ทีแ่ สดงเวลา ตา มท่ี
กาหนด

117

3. ครใู ห้นักเรียนทาใบงานท่ี 5 การอา่ นและเขียนบอกเวลาทม่ี ีมหพั ภาค (.) หรือทวภิ าค
(:) เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลย
กิจกรรมในใบงานท่ี 5

ขนั้ สรุป
1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ ส่ิงที่ได้เรยี นรู้ร่วมกัน ดังนี้ การเขียนบอกเวลาโดยใช้

มหพั ภาค (.) หรือทวิภาค (:) แบ่งออกเปน็ 2 ส่วน คอื
- ตัวเลขหนา้ มหพั ภาค (.) หรอื ทวิภาค (:) บอกเวลาเปน็ “นาฬิกา” การบอกเวลา

เป็นนาฬิกา เริ่มตั้งแต่ 0 นาฬิกา ถงึ 24 นาฬกิ า
- ตวั เลขหลงั มหัพภาค (.) หรอื ทวิภาค (:) บอกเวลาเปน็ “นาที” การบอกเวลา

เปน็ นาที เริ่มตั้งแต่ 0 นาที ถึง 59 นาที

สอ่ื การเรียนรู้
1. นาฬกิ าจาลอง
2. ใบงานท่ี 5 การอ่านและเขียนบอกเวลาทมี่ มี หพั ภาค (.) หรอื ทวิภาค (:)

การวัดผลและประเมินผล

ส่ิงที่ต้องการวดั วิธวี ัด เครอื่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน
1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 5 70% ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์
5 การประเมิน
2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดขี ึ้นไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดบั
พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขนึ้ ไป
ท่พี งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ คุณลักษณะ
ทีพ่ งึ ประสงค์

118

3.6 การบอกระยะเวลาเป็นช่ัวโมงและนาที (1 ชว่ั โมง)

กิจกรรมการเรยี นรู้

ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน

1. ครทู บทวนการอ่านเวลาชว่ งกลางวนั และกลางคืนโดยครูหมุนเข็มชั่วโมงและเข็มนาที

ไปทตี่ าแหน่งต่าง ๆ เพ่ือบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที โดยกาหนดเวลาท้ังกลางวันและกลางคืน แล้ว

ใหน้ ักเรยี นทั้งช้นั ช่วยกนั ตอบหลาย ๆ ข้อ จนนกั เรยี นเขา้ ใจ

ขั้นสอน

1. ครูให้นักเรียนเล่ากิจวัตรประจาวันของตนว่า วันหน่ึง ๆ นักเรียนปฏิบัติกิจวัตร

อะไรบ้าง

2. ครเู ขยี นกิจวัตรทนี่ กั เรียนบอกบนกระดาน โดยเรียงลาดบั ตามลาดับเหตกุ ารณ์พร้อม

กับเขยี นเวลาที่นักเรียนกระทากิจวตั รประจาวันจะได้ ดังนี้

ตนื่ นอน เวลา 6 นาฬิกา

พกั กลางวัน เวลา 12 นาฬกิ า

อ่านหนงั สือ เวลา 18 นาฬกิ า

เขา้ นอน เวลา 20 นาฬกิ า

3. ครตู ิดภาพแสดงเวลาในการทากจิ วัตร ให้นักเรียนร่วมกันสังเกตและตอบคาถา ม

ดงั นี้

ต่นื นอน เวลา 6 นาฬิกา พกั กลางวัน เวลา 12 นาฬิกา

119

อ่านหนงั สือ เวลา 18 นาฬิกา เขา้ นอน เวลา 20 นาฬกิ า

- จากเวลาที่นักเรียนตน่ื นอนตอนเช้าถึงเวลาพกั กลางวัน เปน็ ระยะเวลา 6 ช่วั โมง
- จากเวลาทนี่ ักเรยี นพักกลางวันถึงเวลาอ่านหนงั สอื เปน็ ระยะเวลา 6 ชวั่ โมง
- จากเวลาทนี่ กั เรยี นอา่ นหนงั สือถงึ เวลาเขา้ นอน เป็นระยะเวลา 2 ช่ัวโมง
- จากเวลาท่ีนักเรียนต่ืนนอนตอนเช้าถงึ เวลาอ่านหนงั สือ เป็นระยะเวลา 12
ชัว่ โมง
- จากเวลาทน่ี กั เรียนพักกลางวนั ถงึ เวลาเข้านอน เป็นระยะเวลา 8 ชัว่ โมง
4. ครสู นทนากับนักเรยี นวา่ การบันทกึ กิจกรรมทีป่ ฏิบัติประจา โดยดเู วลาจากนาฬิกา
จะทาใหป้ ฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ ง ๆ ไดต้ รงเวลา และชว่ ยเตอื นความจาได้
5. ครใู หน้ กั เรยี นทาใบงานที่ 6 การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาที เมอื่ เสรจ็ แลว้ ให้
นักเรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากน้นั ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 6
ขน้ั สรุป
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งท่ไี ด้เรยี นรู้รว่ มกนั ดงั น้ี การบอกระยะเวลาเปน็ ชั่วโมง
นาที และวธิ ีบอกระยะเวลาเป็นช่ัวโมง นาทโี ดยใช้แผนภมู ขิ อ้ มลู ของเส้นเวลา

สือ่ การเรียนรู้
1. นาฬิกาจาลอง
2. ใบงานท่ี 6 การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาที

120

การวัดผลและประเมินผล

สิ่งท่ีต้องการวัด วธิ วี ัด เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 6 70% ขนึ้ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
6 การประเมนิ
2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดีขน้ึ ไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ
พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขน้ึ ไป
ท่พี ึงประสงค์ คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ คุณลกั ษณะ
ท่พี งึ ประสงค์

3.7 การบอกระยะเวลาเป็นชวั่ โมงและนาที (1 ช่ัวโมง)
กิจกรรมการเรยี นรู้

ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครนู าบัตรภาพนาฬิกาทบ่ี อกเวลาต่าง ๆ ตดิ บนกระดาน (ทีละภาพ) แลว้ ถามวา่ เป็น

เวลาก่นี าฬกิ า กนี่ าที (ให้นกั เรียนอ่านเวลาในช่วงกลางวันและช่วงกลางคืน)
ขนั้ สอน
1. ครนู านาฬิกาจาลองแสดงเวลา 9 นาฬิกามาใหน้ กั เรยี นดู และอธบิ ายเพ่มิ เตมิ วา่ เขม็

ยาวเดินตอ่ จาก 9 นาฬกิ าไปอกี 10 นาที นน่ั คอื 9 นาฬิกา 10 นาที ครูใหน้ ักเรียนสังเกตว่า การอ่าน
เวลาเริ่มอ่านเขม็ ที่บอกช่วั โมงก่อน แล้วจงึ อ่านเขม็ ทบี่ อกนาที

2. ครูติดภาพแสดงเวลาในการทากจิ วตั รประจาวันตา่ ง ๆ ให้นกั เรยี นรว่ มกนั สงั เกตและ
ตอบคาถาม ดังนี้

พี่อาบน้าเวลา 7 นาฬกิ า ถงึ เวลา 7 นาฬิกา 10 นาที

121

แม่ทาอาหารเวลา 18 นาฬิกา 30 นาที ถึงเวลา 19 นาฬกิ า
- พี่ใช้เวลาอาบนา้ เปน็ ระยะเวลา 10 นาที
- แมใ่ ชเ้ วลาทาอาหาร เปน็ ระยะเวลา 30 นาที
3. ครูสนทนากับนกั เรียนวา่ การบนั ทกึ กจิ กรรมทปี่ ฏบิ ัตปิ ระจา โดยดเู วลาจากนาฬิกา
จะทาให้ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่าง ๆ ไดต้ รงเวลา และช่วยเตือนความจาได้
4. ครใู ห้นักเรยี นทาใบงานท่ี 7 การบอกระยะเวลาเปน็ ช่วั โมงและนาที เม่อื เสรจ็ แล้วให้
นักเรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากนัน้ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 7
ขน้ั สรปุ
1. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ สง่ิ ทไ่ี ดเ้ รียนร้รู ว่ มกัน ดังน้ี การบอกระยะเวลาเปน็ ชั่วโมง
นาที และวธิ ีบอกระยะเวลาเปน็ ชว่ั โมง นาทโี ดยใชแ้ ผนภมู ขิ อ้ มูลของเส้นเวลา

ส่ือการเรยี นรู้
1. นาฬิกาจาลอง
2. ใบงานท่ี 7 การบอกระยะเวลาเป็นชว่ั โมงและนาที

การวัดผลและประเมินผล

ส่งิ ท่ีตอ้ งการวดั วิธวี ัด เครื่องมอื วดั เกณฑ์การประเมิน
1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 7 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
7 การประเมนิ
2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดขี น้ึ ไป
ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ
พฤตกิ รรมด้าน คุณภาพดีขึน้ ไป
ทพ่ี งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ คุณลักษณะ
ที่พึงประสงค์


Click to View FlipBook Version