121
13. เขยี นโค้ดโปรแกรมวงจรไฟว่ิงลงในพน้ื ท่ีทางานได้ครบ
14. คลกิ ที่ปุ่ม เพื่อเก็บบนั ทึก
15. คลิกที่ปุ่ม เพ่ือทาการ Build โปรแกรม
16. ถ้า Build ผ่านโปรแกรมจะขึน้ คาวา่ Success ก็เป็นอนั ใช้ได้
17. เมือ่ เขยี นโปรแกรมเสร็จแล้ว ใหเ้ ปิดวงจรไฟวิง่ ที่สร้างไว้แลว้ ขนึ้ มาดว้ ยโปรแกรม ISIS
18. คลกิ ท่ีปมุ่ และคลกิ เลือก DC เพอื่ ใช้แหล่งจ่ายไฟฟ้า DC
19. นาแหลง่ จ่าย DC มาวาง แลว้ เช่ือมสายสัญญาณตอ่ เขา้ กับ R9 กบั R10 แล้ว ดบั เบล้ิ คลิกทแี่ หล่งจ่าย
DC
122
20. ตงั้ ชอื่ ในช่อง Generator Name ตามต้องการ
21. กาหนดค่าแรงดันในชอ่ ง Voltage เทา่ กบั 5 โวลต์
22. คลิกทปี่ ุ่ม
23. จากนัน้ ดับเบ้ิลคลกิ ที่ IC PIC แลว้ คลิกท่ปี ุ่ม เพ่ือเลือก HEX File ทเี่ ราไดเ้ ขยี นโปรแกรมเก็บไว้
แลว้
24. เมื่อเลือก HEX File เสรจ็ แล้ว คลิกท่ีปุ่ม
123
25. แลว้ คลกิ ที่ปุ่ม เพือ่ ให้แสดงผลการทางานกจ็ ะเห็นว่า LED ติดเรียงกันตามทเ่ี ราได้เขียนโปรแกรม
ไว้
26. คลิกที่ปมุ่ เพื่อปิดการทางาน
27. คลกิ ทป่ี ุ่ม เพ่อื เลือกใชเ้ ครอื่ งมือวดั สโคป
28. สโคปชอ่ ง A ตอ่ กับขา 17 ของ PIC และช่อง B ตอ่ กบั สายสัญญาณ AB1
29. แลว้ คลกิ ท่ีปุม่ เพื่อให้แสดงผลการทางานอกี คร้ัง
30. สโคปก็จะแสดงรปู คลนื่ ขึ้นมา
124
NOTE
ถา้ ต้องการปรบั ความเร็วการวิ่งของ LED ในวงจร เราสามารถเปลย่ี นอุปกรณ์ VR ให้เป็นชนิดปรบั คา่ เองได้ ซ่ึงอยู่
ในไลบรารี Resistors > POT-HG
NOTE
ตัวอย่างโคด้ โปรแกรมของวงจรไฟวง่ิ สามารถดาวน์โหลดผ่านอินเตอร์เน็ตได้ที่ www.smartlearningweb.com
4.2 ดา้ นทักษะหรือปฏบิ ตั ิ
1. จาลองการทางานของวงจรตามแบบที่กาหนดไดถ้ ูกตอ้ ง (ดา้ นทกั ษะพสิ ัย)
4.3 ด้านคุณธรรม/จรยิ ธรรม/จรรยาบรรณ/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง
1. เตรียมความพร้อมของเคร่ืองมือและอุปกรณ์ในปฏบิ ตั งิ านไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง มคี วามกระตือรอื รน้ เอาใจใส่
ปฏบิ ัติงานตรงตามเวลาที่กาหนด
125
5. กิจกรรมการเรยี นการสอนหรอื การเรยี นรู้
ขนั้ ตอนการสอนหรอื กจิ กรรมครู ขั้นตอนการเรียนหรอื กจิ กรรมของผเู้ รยี น
ข้ันเตรียม(จานวน....15.....นาท)ี ข้นั เตรยี ม(จานวน....15.....นาที)
1. ผู้สอนจัดเตรียมเอกสาร พร้อมกับแนะนา 3. ผู้สอนจัดเตรียมเอกสาร พร้อมกับแนะนา
รายวิชา วิธีการให้คะแนนและการประเมินผลท่ีใช้กบั รายวิชา วิธีการให้คะแนนและการประเมินผลที่ใช้กบั
วชิ าการออกแบบวงจรอิเลก็ ทรอนิกสด์ ้วยคอมพวิ เตอร์ วชิ าการออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ดว้ ยคอมพิวเตอร์
2. ผู้สอนช้ีแจงเร่ืองที่จะศึกษาและจุดประสงค์ 4. ผู้สอนช้ีแจงเรื่องที่จะศึกษาและจุดประสงค์
เชิงพฤติกรรมประสัปดาห์ที่ 9 เร่ือง การจาลองการ เชิงพฤติกรรมประสัปดาห์ท่ี 9 เรื่อง การจาลองการ
ทางานของวงจรไฟฟ้า ทางานของวงจรไฟฟ้า
2.ข้ันการสอน(จานวน...180...นาที) 2.ขน้ั การสอน(จานวน...180...นาที)
1. ผู้สอนเปิดงานนาเสนอวิชาการออกแบบ 5. ผู้สอนเปิดงานนาเสนอวิชาการออกแบบ
วงจรอิเล็กทรอนกิ ส์ด้วยคอมพิวเตอร์ วงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ สด์ ว้ ยคอมพวิ เตอร์
2. ผู้สอนให้ผู้เรียนเปิดหนังสือเรียนวิชา 6. ผู้สอนให้ผู้เรียนเปิดหนังสือเรียนวิชา
การออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ด้วยคอมพิวเตอร์ การออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ด้วยคอมพิวเตอร์
สัปดาห์ท่ี 9 เรื่องการจาลองการทางานของวงจรไฟฟ้า สัปดาห์ที่ 9 เรื่องการจาลองการทางานของวงจรไฟฟ้า
และอธิบายเนอื้ หาใหผ้ ้เู รยี นฟงั และอธบิ ายเนือ้ หาให้ผู้เรยี นฟัง
3. ให้ผู้เรียนสร้างวงจรไฟฟ้าตามแบบต่างๆท่ี 7. ให้ผู้เรียนสร้างวงจรไฟฟ้าตามแบบต่างๆท่ี
กาหนด โดยใชโ้ ปรแกรม Proteus กาหนด โดยใชโ้ ปรแกรม Proteus
4. ให้ผู้เรียน Simulate การทางานของวงจร 8. ให้ผู้เรียน Simulate การทางานของวงจร
พร้อมสังเกตการทางานของวงจร พรอ้ มสังเกตการทางานของวงจร
ขนั้ สรปุ (จานวน...45...นาที). ขน้ั สรุป(จานวน...45...นาที).
1. ให้ผ้เู รียนทาแบบฝึกหดั ทา้ ยสัปดาห์ 3. ใหผ้ ู้เรียนทาแบบฝึกหัดท้ายสปั ดาห์
2. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเน้ือในหน่วย 4. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อในหน่วย
เรียนที่ 4 เรื่อง การจาลองการทางานของวงจรไฟฟา้ เรยี นที่ 4 เรอื่ ง การจาลองการทางานของวงจรไฟฟ้า
126
6. สื่อการเรยี นการสอน/การเรยี นรู้
6.1 สื่อสงิ่ พิมพ์
1. เอกสารประกอบการสอนวชิ า การออกแบบวงจรอเิ ลก็ ทรอนิกสด์ ้วยคอมพวิ เตอร์ (ใช้ประกอบการ
เรยี นการสอนจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมข้อที่ 1-4
2. แบบฝึกหัดสปั ดาห์ท่ี 9 เรือ่ ง การจาลองการทางานของวงจรไฟฟ้า (ใช้ขนั้ ประยุกตใ์ ช้ ข้อ 1)
3. แบบทดสอบ สปั ดาห์ท่ี 9 (ใช้ขนั้ ประยกุ ตใ์ ช้ ขอ้ 2)
6.2 ส่อื โสตทศั น์
1. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์
2. งานนาเสนอ
6.3 สื่อของจริง
7. แหลง่ การเรียนการสอน/การเรียนรู้
7.1 ภายในสถานศกึ ษา
1. หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั
2. หอ้ งปฏิบัติการคอมพวิ เตอร์ ศกึ ษาหาขอ้ มลู ทางอินเทอร์เน็ต
7.2 ภายนอกสถานศึกษา
1. ร้านประกอบตูล้ าโพง และรับทาระบบเสยี ง
8. งานท่มี อบหมาย
8.1 ก่อนเรยี น
1. จดั เตรยี มเอกสารสัปดาหท์ ่ี 9 เรือ่ งการจาลองการทางานของวงจรไฟฟา้
2. ทาความเข้าใจเก่ยี วกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนของสปั ดาห์ท่ี 9 เร่อื งการจาลองการทางานของ
วงจรไฟฟ้า
8.2 ขณะเรยี น
1. สร้างวงจรไฟฟา้ ตามแบบท่ีกาหนด โดยใชโ้ ปรแกรม Proteus
2. จาลองการทางานของวงจรไฟฟ้า พร้อมสงั เกตการทางานของวงจร
8.3 หลังเรยี น
1. ร่วมกนั สรุปเน้ือหาท่ีได้เรียนใหม้ คี วามเข้าใจในทศิ ทางเดยี วกนั
127
9. ผลงาน/ช้นิ งาน ทีเ่ กดิ จากการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น
1. แบบฝึกหัดสปั ดาหท์ ่ี 9 เรอื่ งการจาลองการทางานวงจรไฟฟ้า
2. แบบทดสอบสปั ดาห์ท่ี 9
10. เอกสารอา้ งอิง
1. จากหนงั สอื การออกแบบวงจรอิเลก็ ทรอนิกสด์ ้วยคอมพิวเตอร์
11. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับรายวชิ าอ่นื
1. บูรณาการกับวชิ าระบบภาพ
2. บูรณาการกับวชิ างานบริการอิเล็กทรอนิกส์
12. หลักการประเมนิ ผลการเรียน
12.1ก่อนเรียน
1. ความรเู้ บ้ืองต้นก่อนการเรียนการสอน
12.2 ขณะเรียน
1. ตรวจแบบฝึกหัดสัปดาห์ที่ 9 การจาลองการทางานของวงจรไฟฟา้
12.3 หลงั เรยี น
1. ตรวจแบบทดสอบสัปดาห์ท่ี 9
128
13. รายละเอียดการประเมินผลการเรียน
จุดประสงค์ข้อที่ 1 สามารถจาลองการทางานในโปรแกรม Proteusได้
1. วิธีการประเมิน : แบบฝกึ หดั
2. เครื่องการประเมนิ : แบบฝกึ หัด
3. เกณฑ์การประเมิน : แบบฝึกหัด 1 ขอ้ ทาได้ถกู ต้องทั้ง 1
4. เกณฑ์การผ่าน : สามารถจาลองการทางานในโปรแกรม Proteusได้ จะได้ 2 คะแนน ขอ้
จดุ ประสงค์ข้อที่ 2 วิเคราะห์ผลจากการจาลองวงจรได้
1. วิธีการประเมิน : แบบฝึกหัด
2. เครอ่ื งการประเมิน : แบบฝึกหดั
3. เกณฑ์การประเมนิ : แบบฝกึ หัด 1 ขอ้ ทาได้ถูกต้องทั้ง 1 ขอ้
4. เกณฑ์การผ่าน : วเิ คราะห์ผลจากการจาลองวงจรได้ จะได้ 2 คะแนน
จุดประสงคข์ ้อที่ 3 อธบิ ายการดแู ลรกั ษาสายนาสัญญาณได้
1. วิธีการประเมนิ : แบบฝึกหดั
2. เคร่อื งการประเมิน : แบบฝกึ หัด
3. เกณฑ์การประเมนิ : แบบฝึกหัด 1 ขอ้ ทาได้ถกู ต้องท้ัง 1 ขอ้
4. เกณฑ์การผ่าน : อธบิ ายการดแู ลรกั ษาสายนาสัญญาณได้ จะได้ 1 คะแนน
จดุ ประสงคข์ ้อที่ 4 จาลองการทางานของวงจรตามแบบท่ีกาหนดได้ถูกต้อง
1. วธิ ีการประเมนิ : ใบงาน
2. เครือ่ งการประเมิน : ใบงาน
3. เกณฑ์การประเมิน : ใบงาน
4. เกณฑ์การผ่าน : จาลองการทางานของวงจรตามแบบท่ีกาหนดได้ถูกต้อง จะได้ 1 คะแนน
129
14. แบบฝกึ หัด
1. จงจาลองการทางานของวงจร
2. จากวงจรในข้อ 1 จงวคิ ราะหผ์ ลการทางานของวงจร
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................... ...
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................................... .............................
..................................................................................................... ...............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .................................................
130
15. แบบทดสอบหลงั เรยี น
ตอนท่ี 1 เขยี นเครื่องหมายกากบาท (X) ลงในข้อทถ่ี ูกต้องท่ีสดุ
1. ในวงจรขยายเสียงขนาดจวิ๋ อปุ กรณต์ ัวใดสาคัญที่สุด
ก. ไอซีออปแอมป์ ข. ตวั ต้านทาน
ค. ตวั เก็บประจุ ง. ไอซดี ิจิตอล
2. ในวงจรขยายนับ 0-9 อุปกรณต์ วั ใดสาคญั ที่สดุ
ก. ไอซีออปแอมป์ ข. ตวั ตา้ นทาน
ค. ตวั เก็บประจุ ง. ไอซีดจิ ติ อล
3. ป่มุ มีไวเ้ พื่ออะไร ข. ปิดการทางาน
ก. แสดงผลการทางาน ง. บันทกึ ไฟล์
ค. เลอื กใช้ออสซิลโลสโคป
4. ปุ่ม มไี ว้เพ่อื อะไร ข. ปดิ การทางาน
ก. แสดงผลการทางาน ง. บนั ทกึ ไฟล์
ค. เลอื กใชอ้ อสซลิ โลสโคป
5. ปมุ่ มีไว้เพือ่ อะไร ข. ปดิ การทางาน
ก. แสดงผลการทางาน ง. บนั ทึกไฟล์
ค. เลือกใชอ้ อสซิลโลสโคป
6. ปมุ่ มไี วเ้ พ่ืออะไร ข. ปดิ การทางาน
ก. แสดงผลการทางาน ง. บันทึกไฟล์
ค. เลือกใช้ออสซิลโลสโคป
16. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรแู้ บบม่งุ เน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลกั ปรชั ญา
ของเศรษฐกจิ พอเพียง
16.1 สรปุ ผลการจดั การเรยี นรู้
รายการ ระดบั การปฏิบตั ิ
54321
ดา้ นการเตรยี มการสอน
1.จัดหน่วยการเรียนร้ไู ดส้ อดคล้องกบั วัตถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้
2. กาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ครอบคลุมทั้งดา้ นความรู้ ด้านทกั ษะ และด้านจิตพสิ ยั
131
3. เตรียมวสั ดุ-อุปกรณ์ สอื่ นวัตกรรม กจิ กรรมตามแผนการจดั การเรยี นรกู้ ่อนเข้าสอน
ด้านการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
4. มวี ิธกี ารนาเขา้ สบู่ ทเรียนทนี่ า่ สนใจ
5. มีกจิ กรรมที่หลากหลาย เพ่อื ชว่ ยให้ผู้เรยี นเกดิ การเรยี นรู้ ความเขา้ ใจ
6. จดั กจิ กรรมทสี่ ่งเสริมใหผ้ ูเ้ รยี นค้นควา้ เพอื่ หาคาตอบด้วยตนเอง
7. นักเรียนมีส่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
8. จดั กิจกรรมทเ่ี นน้ กระบวนการคดิ ( คดิ วเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ )
9. กระตนุ้ ใหผ้ เู้ รยี นแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี
10. จดั กิจกรรมการเรียนรู้ทเ่ี ชอ่ื มโยงกับชวี ิตจรงิ โดยนาภูมิปญั ญา/บรู ณาการเข้ามามสี ว่ นร่วม
11. จดั กิจกรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม
12. มีการเสริมแรงเม่ือนักเรยี นปฏบิ ตั ิ หรือตอบถกู ต้อง
13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศกั ยภาพของผเู้ รียน
14. เอาใจใสด่ ูแลผเู้ รียน อยา่ งทัว่ ถึง
15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาทกี่ าหนด
ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหลง่ การเรียนรู้
16. ใช้สือ่ ที่เหมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผู้เรยี น
17. ใช้สอ่ื แหลง่ การเรียนรูอ้ ย่างหลากหลาย เช่น บคุ คล สถานท่ี ของจริง เอกสารสื่อ
อิเล็กทรอนิกส์ และอนิ เทอรเ์ นต็ เป็นต้น
13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผูเ้ รียน
14. เอาใจใส่ดูแลผเู้ รยี น อยา่ งทั่วถึง
15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกบั เวลาทีก่ าหนด
ดา้ นการวัดและประเมินผล
18. ผเู้ รียนมสี ว่ นรว่ มในการกาหนดเกณฑ์การวดั และประเมินผล
19. ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบทั้งดา้ นความรู้ ทกั ษะ และจิตพิสัย
20. ครู ผ้เู รียน ผู้ปกครอง หรอื ผทู้ เี่ กี่ยวข้องมีสว่ นร่วม ในการประเมิน
หมายเหตุ ระดบั การปฏบิ ตั ิ 5 = ปฏบิ ตั ิดเี ยี่ยม 4 = ปฏิบตั ดิ ี 3 = ปฏบิ ัติพอใช้ 2 = รวม
ควรปรับปรงุ 1 = ไม่มีการปฏบิ ตั ิ เฉล่ีย
16.2 ปญั หาท่ีพบ และแนวทางแก้ปญั หา แนวทางแก้ปัญหา
ปญั หาท่ีพบ ....................................................................................
....................................................................................
ด้านการเตรียมการสอน ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
....................................................................................
....................................................................................
....................................................................................
132
ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
....................................................................................
ดา้ นสือ่ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้ ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
...................................................................................
....................................................................................
ด้านการวัดประเมนิ ผล ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
....................................................................................
....................................................................................
ด้านอ่นื ๆ (โปรดระบเุ ป็นขอ้ ๆ) ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
.................................................................................
ลงชื่อ ........................................................................ ครูผสู้ อน
(....................................................................)
ตาแหนง่ .......................................................................
............../.................................../....................
แผนการจดั การเรยี นรู้ แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพ
และบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
รหัสวชิ า 2105-2107 วิชา เขียนแบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 4 ช่อื หนว่ ย การจาลองการทางานของวงจรไฟฟา้
ช่อื เรื่อง การจาลองการทางานของวงจรไฟฟ้า จานวน 4 ช่วั โมง
1. สาระสาคญั
ในเรอ่ื งน้ี จะจำลองกำรทำงำนวงจรนับ โดยใชไ้ มโครคอนโทรลเลอร์ตระกลู MCS-51 เบอร์ AT89C51 ซึง่
เขียนด้วยภำษำ C โดยใชโ้ ปรแกรม mikro C เป็นตวั เขียน แลว้ ก็ทำเป็น HEX File เพ่ือเอำมำจำลองกำรทำงำน
บนโปรแกรม Proteus ISIS อีกที
2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรียนรู้
ด้านความรู้
1. อธิบำยขน้ั ตอนกำรสรำ้ ง HEX File จำกโปรแกรม mikro C ได้ (ด้ำนพทุ ธิพสิ ัย)
2. สำมำรถนำ HEX File ไปใช้ในโปรแกรม Proteus ได้ (ดำ้ นพุทธพิ สิ ัย)
ด้านทักษะและการประยุกต์ใช้
1. จำลองกำรทำงำนวงจรควบคุม DC มอเตอรด์ ้วย PIC 16F628Aไดถ้ กู ต้อง (ดำ้ นทักษะพสิ ยั )
ด้านคุณธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์และบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. เตรยี มควำมพร้อมของเคร่ืองมือและอุปกรณ์ในปฏบิ ัติงำนไดอ้ ย่ำงถกู ต้อง มคี วำมกระตือรอื ร้น เอำใจใส่
ปฏิบตั งิ ำนตรงตำมเวลำที่กำหนด
121
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 จดุ ประสงค์ทั่วไป
1. เพอ่ื ใหเ้ ขำ้ ใจขัน้ ตอนกำรจำลองกำรทำงำนของวงจรนับดว้ ยไมโครคอนโทรลเลอรต์ ระกลู MCS-51
2. เพอ่ื ให้เข้ำใจขนั้ ตอนกำรจำลองกำรทำงำนกำรแสดงอักษรบนจอ LCD
3. เพื่อให้เขำ้ ใจขัน้ ตอนกำรจำลองทำงำนของไมโครคอนโทรลเลอรต์ ระกูล AVR
4. เพ่อื ใหเ้ ขำ้ ใจข้ันตอนกำรจำลองกำรควบคุม DC มอเตอร์ด้วย PIC16F628A
5. เพอ่ื ให้เขำ้ ใจขนั้ ตอนกำรจำลองกำรวงจรไฟฟกระพรบิ ดวงเดียว
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1. อธบิ ำยขนั้ ตอนกำรสรำ้ ง HEX File จำกโปรแกรม mikro C ได้ (ด้ำนพุทธิพสิ ยั )
2. สำมำรถนำ HEX File ไปใชใ้ นโปรแกรม Proteus ได้ (ด้ำนพทุ ธิพสิ ยั )
3. จำลองกำรทำงำนวงจรควบคมุ DC มอเตอร์ดว้ ย PIC 16F628Aได้ถกู ต้อง (ดำ้ นทักษะพิสัย)
122
4. เนือ้ หาสาระการสอน/การเรียนรู้
4.1 ด้านความรู้
4.9 จาลองการทางาน วงจรนบั ด้วยไมโครคอนโทรลเลอรต์ ระกูล MCS-51
ในตัวอยำ่ งนี้ จะจำลองกำรทำงำนวงจรนับ โดยใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ตระกูล MCS-51 เบอร์ AT89C51
ซ่งึ เขยี นดว้ ยภำษำ C โดยใชโ้ ปรแกรม mikro C เปน็ ตัวเขียน แลว้ กท็ ำเป็น HEX File เพอ่ื เอำมำจำลองกำรทำงำน
บนโปรแกรม Proteus ISIS อกี ที
โค้ดโปรแกรมวงจรนบั ท่เี ขียนดว้ ยโปรแกรม micro C
1. อนั ดับแรกใชน้ ำอปุ กรณ์ IC, 7segment และ RESPACK-8 มำต่อวงจรให้ไดด้ งั รูป ซึ่งอุปกรณห์ ำไดจ้ ำก
ตำรำงข้ำงล่ำงน้ี จำกน้ันดับเบ้ิลคลิกที่ AT89C51
123
2. คลิกทีป่ มุ่ เพอ่ื เลือก HEX File ท้งั นีก้ ำรสร้ำง HEX File จำกโปรแกรม mikroC ไดอ้ ธิบำยไวใ้ น
หวั ขอ้ 4.6 จะตำ่ งกันเพียงโปรแกรมทเ่ี ขยี นเทำ่ นั้น
3. เข้ำไปยังตำแหนง่ ที่เกบ็ HEX File แลว้ คลกิ ท่ีช่ือไฟล์
4. คลกิ ทปี่ ่มุ
124
5. HEX File ก็จะเข้ำมำอยู่ในชอ่ ง Program File
6. กำหนดควำมถใี่ นช่อง Clock Frequency ตำมต้องกำร ในทน่ี ี้กำหนด 20 MHz
7. คลิกทป่ี ่มุ
8. แล้วคลกิ ท่ีปมุ่ เพื่อให้แสดงผลกำรทำงำน
NOTE
ถ้าต้องการเปล่ียนการนับตวั เลข ใหไ้ ปแก้ไขโค้ดในโปรแกรมทเี่ ขียนแล้ว จึงนามาจาลองการทางานในโปรแกรม
ISIS สว่ นการใช้ micro C ดูได้จากหัวขอ้ 4.8
NOTE
ตัวอยา่ งโคด้ โปรแกรมของวงจรนับ สามารถดาวน์โหลดผา่ นอนิ เตอรเ์ น็ตได้ที่ www.smartlearningweb.com
125
4.10 จาลองการทางานแสดงอักษรบนจอ LCD
ในตวั อยำ่ งนี้ จะจำลองกำรทำงำนของไมโครคอนโทรลเลอร์ตระกลู PIC เบอร์ 16F877 โดยจะแสดง
อกั ษรบนหน้ำจอ LCD ซึ่งจะเขยี นด้วยภำษำแอสเซมบลี โดยใช้โปรแกรม MPLAB เป็นตัวเขยี น แลว้ ก็ทำเปน็ HEX
File เพ่อื เอำมำจำลองกำรทำงำนบนโปรแกรม Proteus ISIS อีกที
โคด้ โปรแกรมวงจรนับทเี่ ขยี นด้วยโปรแกรม MPLAB
126
โปรแกรม MPLAB IDE สำมำรถหำดำวนโ์ หลดไดท้ ี http://www.microchip.com แล้วทำกำรติดตั้งให้
เรียบรอ้ ย แล้วทำตำมขัน้ ตอนตอ่ ไปน้ี
1. คลกิ ที่ปุ่ม เลือก All Programs > Microchip > MPLAB IDE v8.30 > MPLAB IDE
2. คลิกที่เมนู Project > Project Wizard
3. คลกิ ทป่ี ุ่ม
127
4. คลกิ ทช่ี อ่ ง Device เลือกเบอร์ IC ให้ตรงกับอุปกรณ์ท่ใี ช้ ในทนี่ ้คี ือ PIC16F877
5. คลิกทีป่ มุ่
6. คลิกที่ช่อง Active Tool suite เลือก Microchip MPASM Toolsuite
7. คลกิ ทีป่ ุม่
8. คลกิ ทป่ี มุ่ เพอ่ื เลือกตำแหนง่ เกบ็ ไฟล์ตำมต้องกำร ในท่ีน้ีเกบ็ ท่ี C:/LCD/lc
128
9. คลิกท่ีปุ่ม
10. คลกิ ที่ปุ่ม
11. คลิกที่ป่มุ
129
12. คลกิ ท่ปี ุ่ม เพือ่ ใช้เขียนโปรแกรม
13. ทำกำรเขียนโคด้ โปรแกรมให้เสรจ็ เรยี บร้อย
14. คลกิ ท่ปี มุ่
15. เลอื กตำแหน่งเก็บในช่อง Save in ในที่น้เี กบ็ ไว้ท่ี C:\LCD
16. ต้งั ชือ่ ในชอ่ ง File name ตำมต้องกำร ในที่น้ตี ั้ง lcd.ams
17. คลิกทป่ี ุ่ม เพ่ือเก็บบนั ทึก
130
18. จำกนั้น ปิดไฟล์ท่ีเขยี นโค้ด แลว้ คลกิ ขวำที่ Source Files > Add Files
19. เข้ำไปในตำแหนง่ เกบ็ โคด้ โปรแกรม
20. คลกิ ที่ไฟล์ lcd
21. คลิกทป่ี ุ่ม
22. คลกิ ทปี่ ่มุ เพื่อทำกำร Build โปรแกรม ใหเ้ ปน็ HEX File
131
23. ถำ้ Build ผ่ำน โปรแกรมจะขึ้นคำวำ่ BUILD SUCCEEDED ก็เป็นอันใช้ได้
24. เม่ือเขยี นโปรแกรมเสรจ็ แล้ว ให้เปดิ โปรแกรม ISIS ขึ้นมำ จำกนน้ั นำอุปกรณ์ 16F877 และ LM016L
มำตอ่ วงจรให้ไดด้ งั รปู ซง่ึ อุปกรณ์หำได้จำกตำรำงข้ำงลำ่ งนี้ จำกนั้นดบั เบ้ิลคลิกท่ี 16F877
25. จำกน้ันดบั เบิ้ลคลิกที่ IC PIC แล้วคลกิ ทปี่ ุ่ม เพ่ือเลือก HEX File ท่เี รำได้เขยี นโปรแกรมเกบ็ ไว้แล้ว
132
26. เมื่อเลือก HEX File เสรจ็ แลว้ คลิกทป่ี ุ่ม
27. แล้วคลกิ ที่ปมุ่ เพ่อื ใหแ้ สดงผลกำรทำงำน
133
NOTE
ถา้ ตอ้ งการเปล่ยี นอักษรสามารถเปลยี่ นได้ท่ีโค้ดโปรแกรม ตามตอ้ งการ
NOTE
ตวั อยา่ งโค้ดโปรแกรม แสดงอักษรบนจอ LCD สามารถดาวน์โหลดผา่ นอนิ เตอรเ์ นต็ ไดท้ ่ี
www.smartlearningweb.com
4.11 จาลองการทางานไมโครคอนโทรลเลอรต์ ระกลู AVR
AVR ยอ่ มำจำกคำว่ำ Audio Video Receiver แปลว่ำเปน็ integrated amp ทม่ี ี tuner ซง่ึ เรำสำมำรถเขำ้
ไปดูกำรทำงำนของวงจรไดจ้ ำกตัวอยำ่ ง ท่ีมอี ยู่ในโปรแกรม ISIS นี้ ตวั อย่ำงนจี้ ะมี HEX File ไวแ้ ล้วโดยมขี น้ั ตอน
ดงั น้ี
1. เปิดโปรแกรม ISIS ขนึ้ มำ แลว้ คลกิ ท่ีปุ่ม
134
2. คลกิ เลอื กทชี่ ่อง Look in จำกนัน้ เลอื กที่ C:\Program Files\Labcenter Electronics\ Proteus 7
Professional\SAMPLES
3. ดบั เบล้ิ คลกิ ทโ่ี ฟลเดอร์ VSM for AVR
135
4. ดบั เบล้ิ คลกิ ทโ่ี ฟลเดอร์ AVR and SED1520
5. แล้วดบั เบ้ลิ คลิกทไ่ี ฟล์ EW12A03GLY
6. แล้วคลิกทป่ี ุม่ เพ่ือให้แสดงผลกำรทำงำน กจ็ ะเห็นว่ำ จอ LCD มกี ำรเปลยี่ นแปลงตำมที่เขยี น
โปรกแกรมไว้
4.12 การจาลองการควบคุม DC มอเตอรด์ ้วย PIC16F628A
ตัวอย่ำงนี้ จะจำลองกำรทำงำนกำรหมนุ ของ DC มอเตอร์ โดยกำรเขยี นโปรแกรมด้วยภำษำ C ลงใน
PIC16F628A
136
โคด้ โปรแกรมควบคุม DC มอเตอร์ ท่เี ขยี นดว้ ยโปรแกรม mikroC
137
1. อันดับแรกนำอปุ กรณ์ จำกตำรำงขำ้ งลำ่ งน้ี มำตอ่ วงจรใหไ้ ดด้ ังรปู จำกนนั้ ดับเบิล้ คลกิ ท่ี PIC16F628A
2. จำกนั้นดบั เบ้ลิ คลกิ ที่ IC PIC แล้วคลกิ ท่ปี ุ่ม เพือ่ เลือก HEX File ทเ่ี รำไดเ้ ขียนโปรแกรมเกบ็ ไว้แลว้
3. เมื่อเลือก HEX File เสรจ็ แล้ว คลกิ ทีป่ ่มุ
4. แล้วคลกิ ทปี่ มุ่ 138
โปรแกรมไว้
เพ่ือใหแ้ สดงผลกำรทำงำน กจ็ ะเห็นวำ่ LED ติดเรียงกัน ตำมที่เรำได้เขียน
NOTE
การจาลองการทางาน ในงานทางไมโครคอนโทรลเลอรช์ นดิ ต่าง ๆ นอกจากท่ีภายในหนงั สอื ได้อธบิ าย
อย่างครา่ ว ๆ แล้ว ท่านสามารถเปดิ วงจรจาก SAMPLES ภายในโปรแกรม Proteus เพ่ือศึกษาเพม่ิ เติมได้อกี ดว้ ย
NOTE
ตัวอย่างโคด้ โปรแกรมการควบคุมDC มอเตอร์ สามารถดาวน์โหลดผ่านอนิ เตอร์เน็ตไดท้ ี่
www.smartlearningweb.com
4.13 การจาลองวงจรไฟกระพรบิ ดวงเดียว
ตวั อยำ่ งนี้จะจำลองกำรทำงำนวงจรไฟกระพริบดวงเดียว โดยโค้ดโปรแกรมจะถูกเขียนและแปลงเปน็ HEX
File ด้วยโปรแกรม CCS ซ่ึงข้ันตอนกำรทำมีดงั นี้
โค้ดโปรแกรมวงจรไฟกระพริบดวงเดียว ทเ่ี ขียนดว้ ยโปรแกรม
139
โปรแกรม CCS สำมำรถหำดำวนโ์ หลดไดท้ ี่ http://www.microchip.com แลว้ ทำกำรติดต้งั ใหเ้ รยี บรอ้ ย
จำกน้นั ทำตำมขน้ั ตอนต่อไปน้ี
1. คลิกทป่ี ุ่ม เลือก All Programs > PIC-C Compiler
2. กจ็ ะปรำกฏหนำ้ ตำ่ ง PCW ขน้ึ มำ ให้คลกิ ที่เมนู Project > PIC Wizard
3. เลือกตำแหนง่ เกบ็ ในชอ่ ง Save in ในที่นี้เกบ็ ไวท้ ี่ C:\EX1
4. ตั้งช่องในช่อง File name ตำมต้องกำร ในทน่ี ้ีตั้ง LED1
140
5. คลิกที่ปุ่ม เพ่ือเก็บบนั ทึก
6. ท่ชี อ่ ง Device คลกิ เลือกเบอร์ IC ทตี่ ้องกำรใช้ ในทนี่ ี้เลือก PIC16F628A
7. คลกิ ท่ีปมุ่
8. จำกนนั้ ลบโค้ดทโ่ี ปรแกรมใหม้ ำใหห้ มด แล้วพิมพโ์ คด้ โปรแกรมทเ่ี รำตอ้ งกำรลงไปใหม่
141
9. เสร็จแลว้ คลิกท่ีปุ่ม
10. คลกิ ที่เมนู Compile
11. แล้วคลิกท่ีไอคอน Compile
12. โปรแกรมก็จะทำกำร Compile ใหร้ อสกั ครู่
142
13. ถ้ำ Compile ผ่ำน โปรแกรมก็จะขน้ึ คำวำ่ 0 Error, 0 Warning ก็เปน็ อนั ใชไ้ ด้
14. เมือ่ เขียนโปรแกรมเสรจ็ แล้ว ให้เปดิ โปรแกรม ISIS ขนึ้ มำ แลว้ นำอุปกรณ์จำกตำรำงขำ้ งล่ำงนี้มำต่อ
วงจรใหไ้ ดด้ ังรปู จำกน้นั ดับเบ้ิลคลกิ ท่ี PIC16F628A
15. จำกน้นั ดับเบล้ิ คลกิ ที่ IC PIC แลว้ คลกิ ทปี่ มุ่ เพ่อื เลือก HEX File ท่ีเรำได้เขยี นโปรแกรมเก็บไว้แลว้
16. กำหนดคำ่ ควำมถี่ในชอ่ ง Processor Clock Frequency ตำมตอ้ งกำร ในที่นกี้ ำหนด 10MHz
143
17. เมอื่ เลอื ก HEX File เสร็จแลว้ คลิกทป่ี ุ่ม
18. แล้วคลิกทป่ี ุ่ม เพื่อใหแ้ สดงผลกำรทำงำน กจ็ ะเห็นว่ำ LED กระพรบิ ตำมทีเรำได้เขียน
โปรแกรมไว้
NOTE
ตัวอย่างโค้ดโปรแกรมวงจรไฟกระพริบดวงเดียว สามารถดาวน์โหลดผ่านอนิ เตอร์เน็ตไดท้ ี่
www.smartlearningweb.com
สรปุ
การวเิ คราะหจ์ าลองการทางาน ไมโครคอนโทรลเลอร์ในโปรแกรม Proteus ISIS ไม่ว่าจะเขียนโค้ด
โปรแกรมดว้ ยภาษาอะไรก็ตาม แต่วธิ ีทีจ่ ะเอามาจาลองการทางานบนโปรแกรม Proteus จะตอ้ งแปลงโค้ด
144
โปรแกรมน้นั ๆ ใหเ้ ปน็ HEX File เสียกอ่ น จึงจะสามารถทาการจาลองวงจรได้ ส่วนขน้ั ตอนการนา HEX File เข้า
มาจาลองบน Proteus กจ็ ะมีขั้นตอนดงั ท่ีได้อธบิ ายไวแ้ ล้ว ซงึ่ ภายในหนังสือเล่มนี้ จะไม่กล่าวถึงวิธกี ารเขยี นโค้ด
โปรแกรม แต่จะอธิบายการนา HEX File เขา้ มาจาลองการทางานเทา่ นน้ั
4.2 ด้านทกั ษะหรือปฏิบตั ิ
1. สำมำรถนำ HEX File ไปใชใ้ นโปรแกรม Proteus ได้ (ดำ้ นพทุ ธพิ สิ ยั )
4.3 ดา้ นคณุ ธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง
1. เตรียมควำมพร้อมของเคร่ืองมือและอปุ กรณ์ในปฏิบตั งิ ำนได้อยำ่ งถูกตอ้ ง มีควำมกระตือรือรน้ เอำใจใส่
ปฏบิ ตั ิงำนตรงตำมเวลำที่กำหนด
145
5. กิจกรรมการเรยี นการสอนหรือการเรยี นรู้
ขนั้ ตอนการสอนหรือกจิ กรรมครู ข้นั ตอนการเรยี นหรอื กจิ กรรมของผู้เรียน
ข้นั เตรียม(จานวน....15.....นาที) ขั้นเตรียม(จานวน....15.....นาท)ี
1. ผู้สอนจัดเตรียมเอกสำร พร้อมกับแนะนำ 3. ผู้สอนจัดเตรียมเอกสำร พร้อมกับแนะนำ
รำยวิชำ วิธีกำรให้คะแนนและกำรประเมินผลท่ีใช้กับ รำยวิชำ วิธีกำรให้คะแนนและกำรประเมินผลที่ใช้กบั
วิชำกำรออกแบบวงจรอิเลก็ ทรอนกิ สด์ ้วยคอมพิวเตอร์ วชิ ำกำรออกแบบวงจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์ด้วยคอมพิวเตอร์
2. ผู้สอนชี้แจงเร่ืองท่ีจะศึกษำและจุดประสงค์ 4. ผู้สอนช้ีแจงเรื่องท่ีจะศึกษำและจุดประสงค์
เชิงพฤติกรรมประจำสัปดำห์ที่ 10 เรื่อง กำรจำลอง เชิงพฤติกรรมประจำสัปดำห์ท่ี 10 เร่ือง กำรจำลอง
กำรทำงำนของวงจรไฟฟ้ำ กำรทำงำนของวงจรไฟฟ้ำ
2.ขั้นการสอน(จานวน...180...นาที) 2.ข้ันการสอน(จานวน...180...นาที)
1. ผู้สอนเปิดงำนนำเสนอวิชำกำรออกแบบ 5. ผู้สอนเปิดงำนนำเสนอวิชำกำรออกแบบ
วงจรอิเล็กทรอนิกสด์ ้วยคอมพวิ เตอร์ วงจรอิเลก็ ทรอนิกสด์ ว้ ยคอมพิวเตอร์
2. ผู้สอนให้ผู้เรียนเปิดหนังสือเรียนวิชำ 6. ผู้สอนให้ผู้เรียนเปิดหนังสือเรียนวิชำ
กำรออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ด้วยคอมพิวเตอร์ กำรออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ด้วยคอมพิวเตอร์
สัปดำห์ที่ 10 เร่ืองกำรจำลองกำรทำงำนของวงจรไฟฟ้ำ สัปดำห์ที่ 10 เร่ืองกำรจำลองกำรทำงำนของวงจรไฟฟ้ำ
และอธบิ ำยเนือ้ หำให้ผเู้ รยี นฟงั และอธิบำยเนอ้ื หำใหผ้ เู้ รยี นฟัง
3. ให้ผู้เรียนสร้ำงวงจรไฟฟ้ำตำมแบบต่ำงๆที่ 7. ให้ผู้เรียนสร้ำงวงจรไฟฟ้ำตำมแบบต่ำงๆที่
กำหนด โดยใช้โปรแกรม Proteus กำหนด โดยใช้โปรแกรม Proteus
4. ให้ผู้เรียน Simulate กำรทำงำนของวงจร 8. ให้ผู้เรียน Simulate กำรทำงำนของวงจร
พร้อมสังเกตกำรทำงำนของวงจร พรอ้ มสังเกตกำรทำงำนของวงจร
ขัน้ สรุป(จานวน...45...นาที). ข้นั สรุป(จานวน...45...นาที).
1. ให้ผเู้ รยี นทำแบบฝึกหัดท้ำยสปั ดำห์ที่ 10 3. ใหผ้ ู้เรียนทำแบบฝึกหดั ทำ้ ยสปั ดำหท์ ่ี 10
2. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อในสัปดำห์ 4. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อในสัปดำห์
ท่ี 10 เรื่อง กำรจำลองกำรทำงำนของวงจรไฟฟ้ำ ท่ี 10 เรอ่ื ง กำรจำลองกำรทำงำนของวงจรไฟฟำ้
146
6. สื่อการเรยี นการสอน/การเรยี นรู้
6.1 ส่ือส่ิงพิมพ์
1. เอกสำรประกอบกำรสอนวิชำ กำรออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ด้วยคอมพิวเตอร์ (ใช้ประกอบกำร
เรยี นกำรสอนจุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ท่ี 1-4
2. แบบฝึกหดั สปั ดำห์ที่ 10 เร่ือง กำรจำลองกำรทำงำนของวงจรไฟฟำ้ (ใช้ขนั้ ประยกุ ต์ใช้ ขอ้ 1)
3. แบบทดสอบสปั ดำห์ที่ 10 (ใช้ข้ันประยกุ ต์ใช้ ขอ้ 2)
6.2 สื่อโสตทัศน์
1. เครอื่ งคอมพวิ เตอร์
2. งำนนำเสนอ
6.3 ส่อื ของจริง
7. แหลง่ การเรยี นการสอน/การเรยี นรู้
7.1 ภายในสถานศกึ ษา
1. หอ้ งสมดุ วิทยำลัย
2. หอ้ งปฏบิ ตั กิ ำรคอมพวิ เตอร์ ศกึ ษำหำข้อมูลทำงอนิ เทอร์เน็ต
7.2 ภายนอกสถานศกึ ษา
8. งานทมี่ อบหมาย
8.1 กอ่ นเรียน
1. จดั เตรยี มเอกสำรสปั ดำห์ท่ี 10 เรือ่ งกำรจำลองกำรทำงำนของวงจรไฟฟำ้
2. ทำควำมเข้ำใจเกยี่ วกบั จุดประสงค์กำรเรียนของสัปดำห์ท่ี 10 เรอื่ งกำรจำลองกำรทำงำนของ
วงจรไฟฟ้ำ
8.2 ขณะเรยี น
1. สรำ้ งวงจรไฟฟ้ำตำมแบบท่ีกำหนด โดยใชโ้ ปรแกรม Proteus
2. จำลองกำรทำงำนของวงจรไฟฟำ้ พร้อมสังเกตกำรทำงำนของวงจร
8.3 หลังเรียน
1. สรปุ เนือ้ หำ
2. ทำแบบทดสอบสัปดำห์ 10
3. แบบฝกึ หดั สัปดำห์ 10
9. ผลงาน/ชิน้ งาน ที่เกดิ จากการเรียนรู้ของผเู้ รียน
1. รว่ มกนั สรปุ เนอื้ หำท่ไี ด้เรียนให้มีควำมเขำ้ ใจในทิศทำงเดียวกัน
10. เอกสารอ้างองิ
1. จำกหนังสือ
147
11. การบูรณาการ/ความสมั พนั ธ์กบั รายวิชาอน่ื
1. บรู ณำกำรกบั วิชำระบบภำพ
2. บูรณำกำรกับวชิ ำงำนบรกิ ำรอิเลก็ ทรอนิกส์
12. หลกั การประเมินผลการเรียน
12.1ก่อนเรยี น
1. ควำมรเู้ บ้ืองตน้ ก่อนกำรเรยี นกำรสอน
12.2 ขณะเรยี น
1. ตรวจแบบฝกึ หัดสปั ดำห์ที่ 10 กำรจำลองกำรทำงำนของวงจรไฟฟ้ำ
12.3 หลงั เรียน
1. ตรวจแบบทดสอบสัปดำห์ท่ี 10
148
13. รายละเอียดการประเมนิ ผลการเรยี น
จดุ ประสงคข์ ้อที่ 1 อธบิ ำยขั้นตอนกำรสร้ำง HEX File จำกโปรแกรม mikro C ได้
1. วิธีกำรประเมนิ : แบบฝึกหดั
2. เคร่อื งกำรประเมนิ : แบบฝกึ หดั
3. เกณฑ์กำรประเมิน : แบบฝกึ หดั 1 ข้อ ทำได้ถูกต้องท้ัง 1
4. เกณฑ์กำรผำ่ น : อธิบำยข้ันตอนกำรสร้ำง HEX File จำกโปรแกรม mikro C ได้ จะได้ 1 คะแนน ข้อ
จุดประสงคข์ ้อท่ี 2 สำมำรถนำ HEX File ไปใช้ในโปรแกรม Proteus ได้
1. วิธกี ำรประเมนิ : ใบงำน
2. เครื่องกำรประเมิน : ใบงำน
3. เกณฑ์กำรประเมนิ : ใบงำน
4. เกณฑ์กำรผำ่ น : สำมำรถนำ HEX File ไปใช้ในโปรแกรม Proteus ได้ จะได้ 1 คะแนน
จดุ ประสงคข์ ้อท่ี 3 จำลองกำรทำงำนวงจรควบคมุ DC มอเตอรด์ ้วย PIC 16F628Aได้
1. วิธกี ำรประเมนิ : ใบงำน
2. เคร่ืองกำรประเมนิ : ใบงำน
3. เกณฑ์กำรประเมิน : ใบงำน
4. เกณฑ์กำรผำ่ น : จำลองกำรทำงำนวงจรควบคุม DC มอเตอรด์ ว้ ย PIC 16F628Aได้ จะได้ 1 คะแนน
149
14. แบบฝกึ หดั
1. จงอธบิ ำยขนั้ ตอนกำรสรำ้ ง HEX File จำกโปรแกรม mikro C มำพอเข้ำใจ
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................................... ..........................
15. แบบทดสอบหลงั เรียน
ตอนท่ี 1 เขยี นเครื่องหมำยกำกบำท (X) ลงในข้อท่ีถูกตอ้ งทส่ี ดุ
1. ในกำรกำหนดควำมถี่ใหว้ งจรนบั จะตอ้ งกำหนดคำ่ ในชอ่ งใด
ก. HEX File ข. Mikro c
ค. Clock Frequency ง. Proteus
2. กำรสร้ำง HEX File จำกโปรแกรม Microchip เสร็จแลว้ โปรแกรมจะแสดงข้อควำมอย่ำงไร
ก. OK ข. Yes
ค. Build ง. Build Succeeded
150
16. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรูแ้ บบมุ่งเนน้ สมรรถนะอาชพี และบูรณาการตามหลักปรชั ญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
16.1 สรุปผลการจัดการเรียนรู้
รายการ ระดบั การปฏบิ ตั ิ
54321
ด้านการเตรียมการสอน
1.จดั หน่วยกำรเรียนรู้ไดส้ อดคล้องกบั วัตถปุ ระสงค์กำรเรียนรู้
2. กำหนดเกณฑก์ ำรประเมนิ ครอบคลุมท้งั ด้ำนควำมรู้ ด้ำนทักษะ และดำ้ นจติ พสิ ยั
3. เตรยี มวสั ดุ-อุปกรณ์ ส่ือ นวตั กรรม กิจกรรมตำมแผนกำรจดั กำรเรยี นร้กู ่อนเข้ำสอน
ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
4. มวี ิธกี ำรนำเข้ำส่บู ทเรยี นทน่ี ่ำสนใจ
5. มกี จิ กรรมท่หี ลำกหลำย เพอ่ื ชว่ ยใหผ้ ู้เรยี นเกิดกำรเรยี นรู้ ควำมเขำ้ ใจ
6. จดั กิจกรรมที่สง่ เสริมใหผ้ ูเ้ รยี นค้นคว้ำเพือ่ หำคำตอบดว้ ยตนเอง
7. นกั เรยี นมสี ว่ นร่วมในกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้
8. จัดกจิ กรรมทเี่ นน้ กระบวนกำรคดิ ( คิดวเิ ครำะห์ คดิ สังเครำะห์ คดิ สรำ้ งสรรค์ )
9. กระตนุ้ ให้ผเู้ รียนแสดงควำมคดิ เห็นอยำ่ งเสรี
10. จัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ท่ีเชื่อมโยงกับชีวิตจรงิ โดยนำภมู ปิ ญั ญำ/บรู ณำกำรเข้ำมำมสี ว่ นรว่ ม
11. จัดกิจกรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
12. มกี ำรเสริมแรงเม่ือนักเรยี นปฏิบัติ หรือตอบถกู ตอ้ ง
13. มอบหมำยงำนใหเ้ หมำะสมตำมศกั ยภำพของผ้เู รียน
14. เอำใจใสด่ แู ลผเู้ รียน อยำ่ งท่วั ถงึ
15. ใช้เวลำสอนเหมำะสมกบั เวลำที่กำหนด
ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหลง่ การเรียนรู้
16. ใช้ส่ือที่เหมำะสมกบั กจิ กรรมและศักยภำพของผูเ้ รยี น
17. ใชส้ ่ือ แหลง่ กำรเรียนรอู้ ยำ่ งหลำกหลำย เชน่ บุคคล สถำนที่ ของจริง เอกสำรส่ือ
อเิ ล็กทรอนกิ ส์ และอินเทอรเ์ นต็ เปน็ ตน้
13. มอบหมำยงำนใหเ้ หมำะสมตำมศกั ยภำพของผ้เู รียน
14. เอำใจใส่ดูแลผเู้ รยี น อยำ่ งท่ัวถงึ
15. ใช้เวลำสอนเหมำะสมกับเวลำท่กี ำหนด
ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล
18. ผู้เรียนมสี ่วนร่วมในกำรกำหนดเกณฑ์กำรวัดและประเมินผล
19. ประเมินผลอย่ำงหลำกหลำยและครบท้ังด้ำนควำมรู้ ทกั ษะ และจติ พสิ ัย
20. ครู ผู้เรียน ผูป้ กครอง หรือ ผทู้ เ่ี กยี่ วข้องมสี ่วนรว่ ม ในกำรประเมิน
หมายเหตุ ระดบั กำรปฏิบตั ิ 5 = ปฏิบัตดิ เี ยยี่ ม 4 = ปฏิบตั ดิ ี 3 = ปฏิบัตพิ อใช้ 2 = รวม
ควรปรับปรุง 1 = ไมม่ กี ำรปฏบิ ตั ิ เฉล่ีย
151
16.2 ปัญหาทีพ่ บ และแนวทางแก้ปัญหา แนวทางแกป้ ัญหา
ปญั หาท่ีพบ ....................................................................................
....................................................................................
ดา้ นการเตรียมการสอน ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
....................................................................................
....................................................................................
....................................................................................
ดา้ นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
....................................................................................
ด้านสื่อ นวัตกรรม แหล่งการเรียนรู้ ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
...................................................................................
....................................................................................
ด้านการวดั ประเมนิ ผล ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
....................................................................................
....................................................................................
ดา้ นอืน่ ๆ (โปรดระบุเปน็ ขอ้ ๆ) ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
.................................................................................... ....................................................................................
.................................................................................
ลงชือ่ ........................................................................ ครผู ู้สอน
(....................................................................)
ตำแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................
แผนการจัดการเรียนรู้ แบบม่งุ เน้นสมรรถนะอาชพี
และบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
รหัสวิชา 2105-2107 วิชา เขียนแบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ด้วยคอมพิวเตอร์
หนว่ ยท่ี 5 ช่ือหน่วย เร่ิมตน้ สรา้ งลายวงจรพมิ พ์
ช่ือเรื่อง เริ่มตน้ สรา้ งลายวงจรพิมพ์ จานวน 4 ชัว่ โมง
1. สาระสาคัญ
ในการออกแบบลายวงจรพิมพ์น้ัน สิ่งทจี่ ะหลีกเลยี่ งไปไม่ได้กค็ ือ ตาแหน่งของอุปกรณ์ท่ีอยู่ในลกั ษณะแนวนอนหรือ
แนวตั้ง ดงั นั้นการวางอุกรณ์จึงมีความจาป็นต่อการออกแบบลายวงจรพมิ พ์ จากที่วางอปุ กรณแ์ ละจัดเรียงอุปกรณ์
ขัน้ ตอนต่อไปป็นการเดนิ ลายทองแดงดว้ ยตนเองและแบบอตั โนมตั ิ แบบหน้าเดยี วและสองหนา้
2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้
ดา้ นความรู้
1. สามารถเดินลายทองแดงด้วยตวั เองได้
2. สามารถลบลายทองแดงที่ไมต่ ้องการได้
ดา้ นทักษะและการประยกุ ตใ์ ช้
3. สรา้ งการเดนิ ลายทองแดงชนดิ หน้าเดียวตามแบบได้
ดา้ นคุณธรรม/ จริยธรรม/ และคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์และบูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
1. เตรียมความพร้อมของเคร่ืองมือและอปุ กรณใ์ นปฏบิ ตั ิงานได้อยา่ งถกู ต้อง มคี วามกระตอื รอื ร้น เอาใจใส่
ปฏบิ ตั ิงานตรงตามเวลาท่ีกาหนด
146
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 จุดประสงค์ท่ัวไป
1. เพอ่ื ใหม้ ีความรเู้ ก่ยี วกับการหมนุ ของอุปกรณ์
2. เพอ่ื ใหม้ ที กั ษะในการเดินลายทองแดง
3. เพื่อให้เหน็ ความสาคญั ของงานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
3.2 จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. สามารถเดนิ ลายทองแดงดว้ ยตวั เองได้ (พทุ ธพิ ิสัย)
2. สามารถลบลายทองแดงทไ่ี มต่ ้องการได้ (พทุ ธิพิสยั )
3. สร้างการเดินลายทองแดงชนดิ หนา้ เดียวตามแบบได้ (ทกั ษะพสิ ยั )
4. เนอื้ หาสาระการสอน/การเรยี นรู้
4.1 ดา้ นความรู้
.6 การหมุน
การออกแบบลายวงจรพมิ พน์ ั้น ส่ิงท่ีจะหลีกเล่ียงไปไมไ่ ด้กค็ ือ ตาแหนง่ ของอุปกรณ์ท่ีอย่ใู นลกั ษณะ
แนวนอนหรอื แนวตงั้ เราก็สามารถหมุนไดด้ ้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
1. คลิกขวาที่อุปกรณเ์ ลือก > Rotate.......(ตามมุมทเี่ ราต้องการ)
2. อปุ กรณ์กจ็ ะหมนุ ไปตามที่เรากาหนด
147
5.7 การเดนิ ลายทองแดงด้วยตนเอง
หลงั จากท่ีวางอปุ กรณ์และจัดเรยี งอปุ กรณ์เป็นที่พอใจแลว้ ตอ่ ไปเปน็ ข้นั ตอนการเดินลายทองแดงด้วย
ตนเอง แบบหนา้ เดียวและสองหนา้
5.7.1 ชนิดลายทองแดงหน้าเดยี ว
การออกแบบลายทองแดงหนา้ เดยี ว จะใช้เลเยอร์ทเี่ รียกว่า Bottom Copper ในการเดนิ ลายทองแดง
เทา่ น้ัน ซึ่งมขี ัน้ ตอนการสร้างดังน้ี
1. คลกิ ท่ีชอ่ งเลเยอรเ์ ลือก Bottom Copper เพื่อเดนิ ลายทองแดงด้านล่าง
2. คลกิ ทป่ี ่มุ เพือ่ ใช้เดนิ ลายทองแดง
3. คลิกทเี่ ลือกขนาดเสน้ ทองแดงตามต้องการ
4. คลิกท่จี ดุ บัดกรี เพื่อทาการเช่อื มต่อ
5. ลากเสน้ ทองแดงจนไดร้ ะยะที่ต้องการ แล้วคลิกเมาส์หนึ่งครั้งเพื่อวางลายทองแดงลงไป
6. หกั มมุ แล้วนามาเชื่อมตอ่ กับจดุ บัดกรที ่มี ชี ื่อเหมือนกนั ก็จะไดล้ ายทองแดงระหว่าง Net ทส่ี มบูรณ์ จากนัน้ ก็
เดินลายทองแดงให้ครบทุก Net ตามต้องการ
148
5.7.2 ชนดิ ลายทองแดงสองหน้า
การออกแบบลายทองแดงสองหน้า จะใช้เลเยอร์ท่ีเรยี กวา่ Bottom Copper กบั Top Copper ในการ
เดนิ ลายทองแดง ซึ่งมีข้นั ตอนการสรา้ งดงั น้ี
1. คลกิ ที่ชอ่ งเลเยอร์เลอื ก Bottom Copper เพื่อเดินลายทองแดงด้านลา่ ง
2. คลกิ ทป่ี ่มุ เพื่อใชเ้ ดนิ ลายทองแดง
3. คลิกท่เี ลอื กขนาดเส้นทองแดงตามต้องการ
4. คลิกที่จุดบัดกรี เพือ่ ทาการเชื่อมตอ่
5. ลากเส้นทองแดงจนไดร้ ะยะทต่ี ้องการแล้วดับเบล้ิ คลิก จะสังเกตเห็นว่า มรี ูเวยี ปรากฎข้ึนมา ถา้ คลิกเมาส์ไป
เรื่อย ๆ จะเห็นว่าในชอ่ งเลเยอร์ จะเปลีย่ นสลับไปมาระหว่าง Top Copper กบั Bottom Copper ให้เลอื ก Top
Copper
149
6. แลว้ นามาเชอ่ื มต่อกับจุดบัดกรีทีม่ ชี ื่อเหมือนกนั กจ็ ะได้ลายทองแดงที่เปน็ 2 เลเยอร์ระหวา่ ง Net ทส่ี มบูรณ์
จากนัน้ ก็เดินลายทองแดงให้ครบทุก Net ตามตอ้ งการ
5.8 การเดินลายทองแดงอัตโนมตั ิ
เปน็ วธิ ที ส่ี ะดวกและง่าย เหมาะกับวงจรที่มคี วามซับซอ้ นมาก ๆ โดยในตัวอย่างน้จี ะเดินแบบ Single
Layer (ชนิดหนา้ เดียว) และแบบ Two Layer Plated Through Hole (ชนิดสองหนา้ PTH) ซึง่ มีขน้ั ตอนดงั น้ี
5.8.1 ชนิดลายทองแดงสองหนา้
การเดนิ ลายทองแดงสองหนา้ แบบอตั โนมตั ิ เหมาะมากสาหรับวงจรทีม่ ีอุปกรณ์จานวน มาก ๆ เพราะ
ประหยดั เวลาการออแบบได้มากทีเดยี ว ส่วนข้ันตอนมดี ังนี้
1. คลิกท่เี มนู Tools > Auto Router
150
2. เลอื กกริดในช่อง Grid ตามตอ้ งการ
3. คลกิ ที่ปุ่ม
4. กจ็ ะไดล้ ายทองแดงแบบสองหน้าตามต้องการ สว่ นรูเวยี (Plated Through Hole) น้นั โปรแกรมจะคานวณเอง
วา่ สมควรใชห้ รอื ไม่ ซง่ึ ขึน้ อยู่กับความซับซอ้ นของวงจร
NOTE
ลายทองแดงจะออกมาสวยหรือไมน่ ้ัน ข้นึ อยู่กบั การวางอุปกรณ์