The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รูปเล่มนวัต14092565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by testsheet1234, 2022-09-13 23:20:46

รูปเล่มนวัต14092565

รูปเล่มนวัต14092565

นวตั กรรมประเภทสิ่งประดิษฐ์
ลำดับที่ 1

เครือ่ งมือกำรจำแนกลกั ษณะผู้ต้องขัง เพื่อวิเครำะห์กำรควบคมุ กำรพัฒนำพฤตนิ สิ ัย
และควำมเส่ยี งในกำรกระทำผิดซำของผตู้ ้องขังกอ่ นได้รบั กำรปลอ่ ยตัวให้มปี ระสทิ ธภิ ำพ

กลมุ่ งำนสง่ เสริมกำรจำแนกลกั ษณะผู้ต้องขัง กองทณั ฑปฏิบตั ิ กรมรำชทณั ฑ์

1. หลักกำรและเหตุผล

กรมราชทัณฑ์ กองทัณฑปฏิบัติ โดยกลุ่มงานส่งเสริมการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังได้ให้เรือนจา
และทัณฑสถานดาเนินการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังเป็นรายบุคคลอย่างถูกต้องและเหมาะสม ตามมาตรฐาน
เรือนจาด้านการจาแนกลักษณะผู้ต้องขัง โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกาหนดระดับความเส่ียง ( Risk)
ในการควบคุมและกาหนดแผนการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังตามความต้องการ (Need) ระหว่างคุมขังภายใน
เรือนจาและทัณฑสถาน ด้วยเคร่ืองมือการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังต่าง ๆ ท่ีมีบทบาทและความสาคัญในการ
ขับเคลื่อนภารกิจ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยแต่ละเครื่องมือการจาแนกลักษณะผู้ต้องขัง
ได้ผ่านกระบวนการคิดค้นและพัฒนาจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาชญาวิทยาและผู้ท่ีเก่ียวข้องอย่างต่อเน่ือง
ทาให้การจาแนกลักษณะผู้ต้องขังในเรือนจาและทัณฑสถาน สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และเป็นมาตรฐานเดียวกัน เช่น ทะเบียนประวัติผู้ต้องขัง (ร.ท.101), แบบจาแนกลักษณะผู้ต้องขัง (จน.1),
แผนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายบุคคล (Sentence Plan) เป็นต้น ที่จะต้องให้คณะทางานเพ่ือจาแนกลักษณะ
ผู้ต้องขังประเรือนจาและทัณฑสถาน ดาเนินการพิจารณากล่ันกรองถึงแผนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายบุคคล
(Sentence Plan) ท้งั การควบคมุ และการพัฒนาพฤตินสิ ัยได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพเป็นรายบุคคล

ด้วยเหตุนี้ กลุ่มงานส่งเสริมการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังจึงได้คิดค้นเครื่องมือที่ช่วยให้คณะทางาน

เพื่อจาแนกลักษณะผู้ต้องขังประเรือนจาและทัณฑสถาน ได้รับข้อมูลประกอบการพิจารณาและลดการใช้

ดลุ พินจิ ในการจดั ระดับของการควบคมุ และแนวทางการพฒั นาพฤตินิสัยเป็นรายบุคคลได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ

ควบคู่ไปกับข้อมูลท่ีได้จากการสัมภาษณ์ผู้ต้องขังด้วยแบบจาแนกลักษณะผู้ต้องขัง (จน.1) อยู่แล้วนั้น

คือ แบบประเมินการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังพ้ืนฐานเพื่อการควบคุม (Screening) หรือแบบจาแนก A

คือ แบบประเมินที่เป็นค่าคะแนนท่ีพัฒนาข้ึนมาจากแบบสอบถามปัจจัยที่มีผลหรือมีความสัมพันธ์กับการ

ควบคุมผู้ต้องขังในเรือนจาและทัณฑสถาน และแบบจาแนกลักษณะผู้ต้องขังเพื่อการพัฒนาพฤตินิสัย

(Rehabilitation Assessment) หรือแบบจาแนก B คือ แบบทดสอบที่จะมีส่วนสาคัญในการช่วยประเมิน

ความต้องการท่ีแท้จริงของผู้ต้องขังรายบุคคล นาไปสู่แนวทางการพัฒนาพฤตินิสัยในการจัดทาแผนการปฏิบัติ

ต่อผู้ต้องขังรายบุคคล (Sentence Plan) ท่ีตรงตามความต้องการของผู้ต้องขังแต่ละรายอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยเป็นการประมวลผลและวัดผลจากระดับค่าคะแนนในปัจจัยท่ีสาคัญด้านต่างๆของผู้ต้องขังที่ส่งผล

ต่อการกระทาผิดกฎหมาย และส่งผลต่อการกระทาผิดของผู้ต้องขัง นอกจากน้ียังรวมถึงเคร่ืองมือการจาแนก

ลักษณะผตู้ ้องขัง เพอื่ วเิ คราะหค์ วามเส่ยี งในการกระทาผิดซ้าของผตู้ อ้ งขงั กอ่ นได้รับการปล่อยตัว คอื

แบบประเมินความเส่ียงในการกระทาผิดซ้าของผู้ต้องขังก่อนได้รับการปล่อยตัว (Offender Risk Assessment:

OA) คือ เครื่องมือการประเมินความเสี่ยงในการกระทาผิดซ้าของผู้ต้องขังก่อนได้รับการปล่อยตัว โดยจะเน้นถึง

การประเมินของผู้ต้องขังในปัจจัยต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องโดยเฉพาะผู้ต้องขังท่ีมีประวัติกระทาผิดซ้า ซ่ึงเป็นกลุ่มท่ี

สังคมให้ความคาดหวังต่อการจัดทาแผนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายบุคคล (Sentence Plan) ก่อนปล่อยตัว

เท่าน้ัน ตลอดจนใช้ในกระบวนการกลั่นกรองนักโทษเด็ดขาดเพื่อปล่อยตัวพักการลงโทษ และลดวัน

ต้องโทษจาคกุ ประกอบด้วย ปัจจัยภูมหิ ลงั ส่วนบุคคล ปัจจัยการปฏบิ ตั ใิ นเรอื นจา เปน็ ตน้

/จากนวตั กรรม...

2

จากนวัตกรรมการพัฒนาเครื่องมือการจาแนกลักษณะผู้ต้องขัง เพื่อวิเคราะห์การควบคุม การพัฒนา
พฤตินิสัยและความเสี่ยงในการกระทาผิดซ้าของผู้ต้องขังก่อนได้รับการปล่อยตัวให้มีประสิทธิภาพ ถือว่าเป็น
ประโยชน์ต่อการบริหารโทษให้กับผู้ต้องขังในเรือนจาและทัณฑสถานเป็นอย่างย่ิง ตั้งแต่ต้นทางไปจนถึง
ปลายทางของกระบวนการจาแนกลักษณะผู้ต้องขัง เพราะเปรียบการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังเหมือนการ
ติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกต้องแล้วด้วยนั้น การจาแนกลักษณะผู้ต้องขังจึงจาเป็นอย่างย่ิงท่ีจะมีเครื่องมือ
หรือแบบประเมินผู้ต้องขังท่ีมีส่วนช่วยสนับสนุนการพิจารณาของคณะกรรมการจาแนกลักษณะผู้ต้องขัง
ในเรอื นจาและทัณฑสถาน ในการลดใชด้ ุลพนิ จิ ใหถ้ กู ต้อง แม่นยา และมปี ระสทิ ธภิ าพมากขึน้ ตามลาดบั

2. รำยละเอียดนวัตกรรม

กล่มุ งานส่งเสริมการจาแนกลกั ษณะผตู้ อ้ งขัง ได้พฒั นาเคร่อื งมอื การจาแนกลักษณะผู้ตอ้ งขัง เพ่ือ
วิเคราะห์การควบคุม การพัฒนาพฤตินิสัย และความเส่ียงในการกระทาผิดซาของผู้ต้องขังก่อนได้รับ
การปลอ่ ยตัวให้มปี ระสิทธิภาพ รวมทังสนิ จานวน 3 รายการ ดงั นี

2.1 แบบประเมินกำรจำแนกลักษณะผู้ต้องขังพืนฐำนเพ่ือกำรควบคุม ( Screening)
หรอื แบบประเมิน A

ปีงบประมาณ พ.ศ.2559 กองทัณฑปฏิบัติ ได้ดาเนินการพัฒนาระบบการจาแนกลักษณะผู้ต้องขัง
ตามแผนปฏิบัติงานเพื่อพัฒนาระบบการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังระยะสัน (3 เดือน) โดยดาเนินการจัดทา
แบบประเมินการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังพืนฐานเพ่ือการควบคุม (Screening) หรือแบบประเมิน A
ซึ่งเป็นแบบทดสอบที่พัฒนาขึนมาจากแบบสอบถามปัจจัยที่มีผลหรือมีความสัมพันธ์กับการควบคุมผู้ต้องขัง
ในเรอื นจาและทัณฑสถาน จานวน 21 ปัจจยั

โดยแบบประเมินการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังพืนฐานดังกล่าว มีลักษณะเป็นแบบทดสอบหรือแบบ
ประเมนิ ทใ่ี ช้รปู แบบของการให้คะแนน (Custody Rating Scale) และเปน็ เครื่องมือที่ใชป้ ระกอบการพิจารณา
ระดับของการควบคุมผู้ต้องขังแต่ละรายควบคู่ไปกับข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ผู้ต้องขังด้วยแบบจาแนก
ลักษณะผู้ต้องขัง (แบบ จน.๑) ซ่ึงแบบประเมินดังกล่าว กองทัณฑปฏิบัติ สร้างขึนนอกเหนือจากการที่กรม
ราชทัณฑ์มีแบบทดสอบความเป็นอาชญากร (Criminal Mind) อยู่แล้วเพื่อเป็นทางเลือก และได้นาแบบ
ประเมินการจาแนกดังกล่าวไปทดสอบกับผู้ต้องขัง จานวน 800 คน ในเรือนจาและทัณฑสถานเป้าหมาย 15
แหง่ แยกตามภมู ภิ าค ท่วั ประเทศ โดยแยกตามประเภทคดตี ่าง ๆ 13 ประเภท เช่น ผตู้ ้องขังกระทาผิดครังแรก
มีกาหนดโทษสูง, ผู้ต้องขังกระทาผิดเก่ียวกับทรัพย์, ผู้ต้องขังกระทาผิดเกี่ยวกับเพศ, ผู้ต้องขังปรากฏเป็นข่าว
ตามสื่อต่าง ๆ, ผตู้ อ้ งขงั ทมี่ ฐี านขอ้ มูลระบเุ ป็นผู้ตอ้ งขังรายสาคัญ (High Profiles) เปน็ ตน้

แบบประเมินการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังพืนฐานเพ่ือการควบคุม (Screening) ได้กาหนดคะแนน
ความเสี่ยงในการควบคุมสูงสุด (130 คะแนน) และแบ่งช่วงของคะแนนการแปลผล คะแนนรวม หรือสรุปผล
ความเสีย่ งในการควบคมุ ผ้ตู ้องขงั แต่ละรายเป็น 4 ระดบั ดงั นี

ช่วงคะแนนรวมทัง 21 ปัจจัย ระดับควำมเส่ียงในกำรควบคุมผูต้ อ้ งขงั
104 – 130 คะแนน มคี วามเสยี่ งสูงสุด
77 – 103 คะแนน มคี วามเส่ียงสงู
50 – 76 คะแนน มคี วามเสีย่ งปานกลาง (เฝา้ ระวัง)
49 คะแนน และต่ากวา่ มคี วามเสี่ยงตา่

/ประกอบ...

3

ประกอบด้วยปจั จัยที่มผี ลต่อการควบคุมผู้ต้องขัง จานวน 21 ปจั จยั ได้แก่

ปัจจัยที่มีผลต่อกำรควบคุมผู้ต้องขัง ค่ำคะแนนเตม็
(130 คะแนน)
1) ดา้ นการกระทาผิดวนิ ยั /กระทาผดิ ทางอาญาระหว่างคมุ ขัง 10 คะแนน
2) ด้านการมปี ระวตั ิการตอ้ งโทษซา 10 คะแนน
3) ด้านการมีประวัติ/พฤติการณ์มีส่ิงของต้องห้ามในเรอื นจา 10 คะแนน
4) ดา้ นศาลตดั สินมีกาหนดโทษสงู เมอื่ เปรียบเทยี บกับอานาจการคมุ ขงั ของเรือนจา 10 คะแนน
5) ด้านการมฐี านข้อมูลจากหนว่ ยงานรัฐทีเ่ ก่ยี วขอ้ งระบเุ ป็นผ้กู ระทาผดิ รายสาคัญ 10 คะแนน

(High Profiles) 5 คะแนน
6) ด้านผตู้ ้องขังปรากฏเป็นข่าวทางส่ือมวลชนเช่น หนงั สอื พมิ พ์ 5 คะแนน
7) ด้านการมพี ฤตกิ ารณ์การกระทาผิดใชค้ วามรุนแรงโหดร้ายทารณุ สะเทอื นขวัญ 5 คะแนน
8) ด้านการเคยมปี ระวัติ การกระทาผิดกอ่ นต้องโทษในคดีปจั จุบัน 5 คะแนน
9) ด้านการมีพฤตกิ ารณ์หัวหมอชอบยยุ งสร้างความปั่นปว่ นในเรือนจา
5 คะแนน
และทัณฑสถาน 5 คะแนน
10) ด้านการมีพฤติการณก์ ่อเหตรุ า้ ยหรอื หลบหนจี ากเรือนจา 5 คะแนน
11) ด้านการมพี ฤตกิ ารณก์ ่อจลาจลในเรอื นจา
12) ด้านการมีพฤตกิ ารณก์ ารกระทาผดิ ทเ่ี ป็นคดลี ะเอยี ดอ่อนหรอื อ่อนไหวงา่ ยต่อ 5 คะแนน
5 คะแนน
ความรสู้ ึกของประชาชน เช่น ขม่ ขืนแลว้ ฆ่า, ฆา่ บิดามารดา, ฆา่ พระสงฆ์, 5 คะแนน
ทารา้ ยผู้อ่อนแอ ฯลฯ ซึ่งมคี วามเสยี่ งจากการถูกทาร้ายจากผูต้ อ้ งขังดว้ ยกัน 5 คะแนน
13) ดา้ นการลับลอบสักลายในเรอื นจา 5 คะแนน
14) ดา้ นการมีประวตั ิใชส้ ารเสพติดหรอื แอลกอฮอล์ก่อนต้องโทษ 5 คะแนน
15) ดา้ นการมปี ัญหาสุขภาพจิต (มอี าการทางจิตเวช) 5 คะแนน
16) ดา้ นการมปี ัญหาสขุ ภาพกาย 5 คะแนน
17) ดา้ นการจาคุกมาแลว้ ระยะเวลาหนงึ่
18) ด้านอายุขณะกระทาผิดไม่สงู (18 – 25 ป)ี 5 คะแนน
19) ดา้ นการทารา้ ยร่างกายตนเอง
20) ดา้ นการมีอาการเมาสุรา พดู จาไม่รเู้ ร่อื งในวันแรกทเ่ี ข้าเรอื นจาหรอื มีความเสยี่ ง
จากการถกู ทารา้ ย จากผ้ตู ้องขังอ่ืน ๆ เม่ือคุมขังในเรือนจา/ทัณฑสถาน
21) ด้านความเสย่ี ง/การมีทัศนคติดา้ นลบกบั เจ้าหน้าทีเ่ รอื นจา/ทณั ฑสถาน

ผลการทดสอบในแต่ละปัจจัยทัง 21 ปัจจัย พบว่า มีความเหมาะสม มีความสัมพันธ์และส่งผลต่อการ
ควบคุมผู้ต้องขังในเรือนจาและทัณฑสถานอยู่ในระดับสูง ผลการทดสอบอยู่ในเกณฑ์ดีและสอดคล้องกับบรบิ ท
สภาพความเป็นจรงิ ของผ้ตู ้องขงั ทีเ่ ป็นกลุ่มตัวอย่าง และสามารถนามาใชป้ ระกอบในกระบวนการรบั ตัวผู้ต้องขัง
เมื่อแรกเขา้ คมุ ขงั และมีความสัมพันธ์ส่งผลโดยตรงตอ่ การควบคุมผู้ต้องขังในเรือนจาและทัณฑสถาน

/2.2 แบบประเมนิ ...

4

2.2 แบบจำแนกลักษณะผู้ต้องขังเพ่ือกำรพัฒนำพฤตินิสัย (Rehabilitation Assessment) หรือแบบ
ประเมนิ B

ปีงบประมาณ พ.ศ.2560 กรมราชทัณฑ์ ได้อนุมัติให้กองทัณฑปฏิบัติ ดาเนินการโครงการศึกษา
เพ่ือจัดทาแบบจาแนกลักษณะผู้ต้องขังเพ่ือการพัฒนาพฤตินิสัย (Rehabilitation Assessment) หรือแบบ
ประเมิน B เพื่อค้นคว้าสร้างเคร่ืองมือสาหรับการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังให้มีความทันสมัยสามารถวัดได้มี
ประสิทธิภาพสอดคล้องกับสภาพของเรือนจา/ทัณฑสถาน และสถานการณ์ของผู้ต้องขัง โดยแบบประเมิน
ดังกล่าวเป็นแบบจาแนกลักษณะผู้ต้องขังที่กองทัณฑปฏิบัติได้สร้างและพัฒนาขึนต่อเน่ืองจากแบบจาแนก
ลักษณะผู้ต้องขังพืนฐานเพื่อการควบคุม (Screening) ในปีงบประมาณ พ.ศ.2559 และเป็นแบบประเมินหรือ
แบบทดสอบอ่ืน ๆ เพ่ิมเติมนอกเหนือจากแบบทดสอบความเป็นอาชญากร (Criminal Mind) ซึ่งแบบจาแนก
ลักษณะผู้ต้องขังทังสองแบบดังกล่าวจะเอือประโยชน์ต่อการจัดทาแผนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายบุ คคล
(Sentence Plan) ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพทงั แผนการปฏิบตั ติ ่อผู้ต้องขังรายบุคคลดา้ นการควบคมุ และแผนการ
ปฏบิ ตั ิตอ่ ผตู้ ้องขงั รายบคุ คลด้านการพัฒนาพฤตนิ ิสัย

แบบจาแนกลักษณะผู้ต้องขังเพื่อการพัฒนาพฤตินิสัย (Rehabilitation Assessment) ที่คิดค้นขึน
ในปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ได้รบั แนวคิดและเปรยี บเป็นการสร้างสรรค์ใหเ้ ป็นนวตั กรรมใหม่ของกรมราชทัณฑ์
โดยได้มีแนวทางการศึกษาจากแบบประเมินผู้ต้องขังทังในและต่างประเทศ ประกอบด้วย แบบประเมิน
LSI-R (ประเทศแคนาดา), OHIO Risk Assessment (ประเทศสหรัฐอเมริกา), Korea Security Treatment
Classification Criterion Index (ประเทศเกาหลีใต้) และประเมินพฤติกรรมเด็กและเยาวชน (กรมพินิจ
และคุ้มครองเด็กและเยาวชน) โดยเน้นการคิดค้นให้เหมาะสมตามบริบทสภาพสังคมและงานราชทัณฑ์
ของประเทศไทยเป็นสาคัญ เพื่อที่จะมีส่วนสาคัญในการช่วยประเมินความต้องการท่ีแท้จริงของผู้ต้องขัง
รายบุคคลเพ่ือนาไปสู่การจัดทาแผนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายบุคคล ( Sentence Plan) ที่ตรงตาม
ความต้องการของผู้ต้องขังแต่ละราย โดยเป็นการประมวลผลและวัดผลจากระดับค่าคะแนนในปัจจัยที่สาคัญ
ด้านตา่ ง ๆ ของผูต้ อ้ งขงั ที่ส่งผลต่อการกระทาผิดกฎหมาย ทงั หมด 8 ปัจจัยที่สาคัญและส่งผลต่อการกระทาผิด
ของผตู้ อ้ งขัง ซง่ึ ประกอบด้วย

1) ปัจจยั สภาพครอบครวั /ความสัมพนั ธใ์ นครอบครวั (Family Bonding)
2) ปัจจัยการศึกษา/การเรียนหนงั สือ (Education)
3) ปจั จัยอาชพี และการเงิน (Occupation Income)
4) ปจั จัยด้านทอี่ ย่อู าศัย/สภาพแวดล้อม (Residence/Environment)
5) ปัจจยั การใชส้ ารเสพตดิ และภาวะทางจิตใจ (Drug Abuse/Mental Health)
6) ปจั จัยกลมุ่ เพือ่ น ( Peer Group)
7) ปจั จัยทัศนคติ/พฤติกรรม/อารมณ์ ( Attitude/ Behavior/ Emotion)
8) ปจั จัยความรู้สึกกับการกอ่ อาชญากรรม (Criminal Thought)

ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะชีให้เห็นถึงความจาเป็นในด้านต่าง ๆ ที่ผู้ต้องขังแต่ละรายบุคคลควรได้รับ
การดูแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายบุคคล (Sentence Plan) และนาไปสู่การแก้ไขพัฒนา
พฤตินิสัยที่เหมาะสม โดยปัจจัยในแต่ละด้านจะมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน ซ่ึงหากปัจจัยดังกล่าวมีคะแนนสูง
(ใกล้ 100 คะแนน) สามารถวิเคราะห์ได้ว่าผู้ต้องขังนันมีปัญหาในปัจจัยด้านนันสูง ซึ่งคณะกรรมการจาแนก
ลักษณะผู้ต้องขัง ควรนาปัจจัยด้านท่ีคะแนนสูงนัน มาพิจารณากาหนดแผนหรือจัดทาแผนการปฏิบัติ
ต่อผู้ต้องขัง (Sentence Plan) ในรายนันก่อนปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งแบบประเมินนีมีส่วนช่วยกาหนดแผนการปฏิบัติ
ต่อผู้ตอ้ งขงั รายบุคคลกอ่ นและหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยพิจารณาจากค่าคะแนนในแตล่ ะด้าน

/แบบจาแนก...

5

แบบจาแนกลักษณะผู้ต้องขังเพื่อการพัฒนาพฤตินิสัย (Rehabilitation Assessment) ได้กาหนด
คะแนนระดับความเสี่ยงหรือระดับการมีปัญหาในปัจจัยแต่ละด้านเพื่อนาไปสู่การพัฒนาพฤตินิสัย
(100 คะแนน) และแบ่งช่วงของคะแนนการแปลผลคะแนนรวมหรือสรุปผลระดับความเสี่ยง/การมีปัญหา
ในแตล่ ะปัจจัย (ด้าน) เป็น 3 ระดบั ดงั นี

ชว่ งคะแนนรวมทกุ ปัจจัย ระดับควำมเส่ียงในกำรควบคมุ ผูต้ อ้ งขัง
70 – 100 คะแนน มีความเสีย่ งสงู ในปจั จัยดงั กล่าว/ปัจจยั ดา้ นนมี ีปัญหามาก
41 – 69 คะแนน มี ค ว า ม เ สี่ ย ง ป า น ก ล า ง ใ น ปั จ จั ย ดั ง ก ล่ า ว / ปั จ จั ย ด้ า น นี มี ปั ญ ห า
ปานกลาง
40 คะแนน และต่ากว่า มีความเสย่ี งตา่ ในปจั จัยดังกลา่ ว/ปจั จยั ด้านนมี ปี ัญหาน้อย

กองทัณฑปฏิบัติ ได้ดาเนินการทดลองใช้แบบจาแนกลักษณะผู้ต้องขังเพ่ือการพัฒนาพฤตินิสัย
(Rehabilitation Assessment) กับผู้ต้องขังจานวน 500 คน ภายในเรือนจาและทัณฑสถานเป้าหมาย
จานวน 9 แห่ง แยกตามภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ เรือนจากลางขอนแก่น, เรือนจาจังหวัดตรัง, เรือนจาจังหวัด
เพชรบรู ณ์, เรอื นจาอาเภอปากพนัง, เรือนจาพิเศษพัทยา, เรือนจาพิเศษธนบรุ ี, ทณั ฑสถานหญิงธนบุรี, ทณั ฑสถาน
หญงิ เชียงใหม่ และทัณฑสถานวัยหนมุ่ นครศรีธรรมราช

โดยผลการทดสอบปรากฏว่า อยู่ในเกณฑ์ดีมีความเหมาะสม และสอดคล้องกับบริบทสภาพ
ความเป็นจริงของผตู้ ้องขังแต่ละรายที่เป็นกลุม่ ตัวอย่าง ซ่ึงแบบประเมินดงั กลา่ วสามารถนามาใช้ในการจาแนก
ลักษณะผู้ต้องขังเบืองต้นเพ่ือเป็นข้อมูลประกอบก่อนการจัดทาแผนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายบุคคล
(Sentence Plan) ในการประชุมคณะกรรมการจาแนกลกั ษณะผู้ต้องขงั ของเรือนจาและทัณฑสถาน

ประโยชน์ของแบบจำแนกลักษณะผูต้ ้องขังเพอ่ื กำรควบคุมและแบบจำแนกลกั ษณะผู้ตอ้ งขังเพอ่ื กำร
พฒั นำพฤตนิ ิสัย

แบบจาแนกลกั ษณะผตู้ ้องขงั พนื ฐานเพื่อการควบคุม แบบจาแนกลักษณะผตู้ ้องขงั เพ่อื การ

(Screening) พัฒนาพฤตินิสัย (Rehabilitation Assessment)

- เหมาะสมท่ีจะนามาใช้ในการจาแนกลักษณะ - เหมาะสมที่จะนามาใช้ในการจาแนกลักษณะ

ผู้ตอ้ งขงั เพอื่ การควบคุม ผูต้ ้องขังเพอ่ื การพัฒนาพฤตินิสัย

- สามารถนาผลคะแนนไปวิเคราะห์ระดับความเสี่ยง - ค่าคะแนนที่ได้ในแต่ละปัจจัยทัง 8 ปัจจัยจาก

ในการควบคุมของผู้ต้องขังแต่ละรายระหว่างคุมขัง แ บ บ ป ร ะ เ มิ น ดั ง ล่ า ว จ ะ เ ป็ น แ น ว ท า ง

ในเรือนจาไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ (Guidelines) เพื่อให้คณะกรรมการจาแนกฯ

- ลดการใชด้ ลุ ยพินิจของคณะกรรมการจาแนกฯ กาหนดความจาเป็นในด้านต่าง ๆ ของผู้ต้องขัง

- ผลคะแนนสามารถนาไปใช้เฝ้าระวงั ผู้ต้องขังบางราย แต่ละรายท่ีควรจะได้รับระหว่างคุมขังใน

ท่ีปรากฏเป็นข่าวทางส่ือมวลชนหรือมีพฤติการณ์ เรอื นจา ซง่ึ ผลคะแนนแต่ละปจั จัยสามารถนามา

การกระทาผิดที่เป็นคดีสะเทือนขวัญหรือเป็นท่ี จัดลาดับการให้การปฏิบัติตอ่ ผู้ต้องขังรายบคุ คล

สนใจของสังคมหรือเป็นข้อมูลประกอบการ ( Sentence Plan) ก่ อ น แ ล ะ ห ลั ง ไ ด้ อ ย่ า ง

พิจารณาการย้ายไปคุมขังยังเรือนจาความมั่นคงสูง เหมาะสม

ได้เปน็ อยา่ งดี - ใช้ระยะเวลาน้อยในการจัดทาแบบประเมินโดย

เฉล่ยี เพยี ง 7 - 10 นาทตี อ่ ผตู้ อ้ งขงั 1 คน

/2.3 แบบประเมิน ...

6

2.3 แบบประเมินควำมเส่ียงในกำรกระทำผิดซำของผู้ต้องขังก่อนได้รับกำรปล่อยตัว (Offender
Risk Assessment: OA)

ปีงบประมาณ พ.ศ.2561 กรมราชทัณฑ์ ได้เล็งเห็นถึงความสาคัญของกระบวนการกล่ันกรองผู้ต้องขัง
ตามนโยบาย 3 ส. 7 ก. ของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ (พันตารวจเอก ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์) ตังแต่การจาแนก
ลักษณะผู้ต้องขังแรกเข้าเรือนจา การจัดทาแผนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายบุคคล (Sentence Plan) รวมถึง
กระบวนการกลั่นกรอง วิเคราะห์ผู้ต้องขังก่อนการปล่อยตัวเพื่อป้องกันการประทาผิดซา ตลอดจนเป็นการนา
นโยบายของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ลงสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ซ่ึงได้ให้
ความสาคัญกับการสร้างเคร่ืองมือในการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังเพื่อเป็นแบบประเมินวัดระดั บความเส่ียงใน
การกระทาผิดซาของผู้ต้องขังก่อนได้รับการปล่อยตัว ซึ่งมีส่วนช่วยในการกลั่นกรอง วิเคราะห์ และเช่ือมโยง
ข้อมูลผู้ต้องขังในรายท่ีมีความเส่ียงในการกระทาผิดซากับงานด้านทัณฑปฏิบัติอ่ืน ๆ เช่น งานพักการลงโทษ
งานลดวันต้องโทษจาคุก เป็นต้น เพื่อให้กระบวนการกลั่นกรองผู้ต้องขังก่อนปล่อยตัวมีประสิทธิภาพมากขึน
กรมราชทัณฑ์ จึงมอบหมายให้กองทัณฑปฏิบัติ จัดทา “แบบประเมินความเสี่ยงในการกระทาผิดซาของ
ผู้ต้องขังก่อนได้รับการปล่อยตัว (Offender Risk Assessment: OA)” เพื่อให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการวดั
ระดบั ความเสย่ี งในการกระทาผิดซาของผตู้ ้องขังก่อนไดร้ ับปล่อยตัวพกั การลงโทษหรือลดวันตอ้ งโทษจาคุก

เครื่องมือการประเมินความเส่ียงในการกระทาผิดซ้าของผู้ต้องขังก่อนได้รับการปล่อยตัว ดังกล่าว
จะเน้นถึงการประเมินของผู้ต้องขังในปัจจัยต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง โดยเฉพาะผู้ต้องขังที่มีประวัติกระทาผิดซ้า
ซ่ึงเป็นกลุ่มท่ีสังคมให้ความคาดหวังต่อการจัดทาแผนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายบุคคล (Sentence Plan)
ก่อนปล่อยตัว ตลอดจนใช้ในกระบวนการกล่ันกรองนักโทษเด็ดขาดเพ่ือปล่อยตัวพักการลงโทษและลดวัน
ต้องโทษจาคุก

ปัจจุบันกองทัณฑปฏิบัติ และหน่วยงานท่ีมีส่วนเก่ียวข้องได้ขับเคล่ือนการดาเนินงานการ
โดยดาเนินการปรับปรุง “แบบประเมินความเส่ียงในการกระทาผิดซาของผู้ต้องขังก่อนได้รับการปล่อยตัว
(Offender Risk Assessment : OA)” ภายใต้คาแนะนาของอธิบดีกรมราชทัณฑ์เสร็จเรียบรอ้ ย มีรายละเอียด
พอสังเขป ดงั นี

ส่วนท่ี 1 ภูมิหลังส่วนบุคคลของผตู้ ้องขัง คะแนนเต็ม 55 คะแนน มีจานวน 8 ปัจจัย คือ เพศ
อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ ประวัติการถูกดาเนินคดีอาญา อัตราโทษสูงสุดท่ีศาลตัดสินครังแรก
และสาเหตุการกระทาผดิ จากการจาแนกลกั ษณะผ้ตู ้องขัง

ส่วนท่ี 2 การปฏิบัติในเรือนจา คะแนนเต็ม 45 คะแนน มีจานวน 5 ปัจจัย คือ การผ่าน
การอบรมหลักสูตรต่าง ๆ ที่มีใบประกาศนียบัตรในเรือนจา ชันผู้ต้องขัง การได้รับการพิจารณาประโยชน์
จากเรือนจา การถูกลงโทษทางวินัยในเรือนจา การมีประวัติกระทาผิดทางอาญาในเรือนจา ความสมัครใจ/
ยินยอมใหเ้ ก็บตัวอย่างสารพันธุกรรม (DNA)/ ลายพิมพน์ ิวมอื 10 นิว และการเปน็ ผู้ตอ้ งขงั เจบ็ ปว่ ยในเรอื นจา

การสรุปผลคะแนนความเส่ียงในการกระทาผิดซาของผู้ต้องขังก่อนได้รับการปล่อยตัวมีคะแนนเต็ม
100 คะแนน โดยนาคะแนนทงั 2 สว่ นมารวมกนั และเทียบกับเกณฑ์ระดับความเสย่ี งก่อนได้รับการปล่อยตวั 5
ระดบั เพอ่ื จาแนกระดบั ความเสยี่ งของผู้ตอ้ งขงั ก่อนได้รับการปลอ่ ยตัว คือ

/ระดับคะแนน...

7

ระดบั คะแนน ระดบั ความเสย่ี งของผ้ตู อ้ งขังก่อนได้รบั การปล่อยตัว
86 - 100 คะแนน มคี วามเส่ียงมาก
61 - 85 คะแนน มีความเสยี่ งคอ่ นขา้ งมาก
51 - 60 คะแนน มคี วามเสี่ยงปานกลาง
26 - 50 คะแนน มคี วามเสี่ยงคอ่ นข้างน้อย
1 - 25 คะแนน มีความเส่ยี งนอ้ ย

กองทัณฑปฏิบัติ และคณะทางานได้ดาเนินการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Work Shop) เพื่อการใช้
แบบประเมินความเส่ียงในการกระทาผิดซาของผู้ต้องขังก่อนได้รับการปล่อยตัว (Offender Risk Assessment:
OA) อย่างมีประสิทธิภาพ เม่ือวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2561 ณ โรงแรมริชมอนด์ สไตล์ริช คอนเวนช่ัน
จังหวัดนนทบุรี โดยมีข้าราชการที่ปฏิบัติงานด้านการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังจากเรือนจา/ทัณฑสถาน
ทั่วประเทศ จานวน 142 คน ตลอดจนผู้บริหาร และเจ้าหน้าท่ีจากสานัก/กองต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง วิทยากร
และเจ้าหน้าที่กองทัณฑปฏิบัติ (ผู้ดาเนินการจัดสัมมนา) รวมผู้เข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Work Shop)
ทงั สนิ 180 คน และดาเนินการทดลองใชแ้ บบประเมินดังกล่าว ในเรือนจาและทัณฑสถานตอ่ ไป

ประโยชน์ของแบบประเมินควำมเสย่ี งในกำรกระทำผิดซำของผู้ต้องขงั ก่อนไดร้ บั กำร ปล่อยตวั (OA)

ประโยชน์ของแบบประเมินความเสย่ี งในการกระทาผิดซาของผู้ต้องขงั ก่อนไดร้ ับการปล่อยตวั (OA)

1) มีประโยชน์ตอ่ 2) สามารถนามาใช้ประกอบการพจิ ารณา 3) หากใชส้ ัมภาษณผ์ ูต้ ้องขงั ใน
เรือนจาจะใชเ้ วลาการ
กระบวนการจาแนก ของคณะกรรมการพักการลงโทษ สัมภาษณโ์ ดยเฉล่ีย ไม่เกิน
10 นาทตี ่อผู้ต้องขัง 1 คน
ลกั ษณะผตู้ อ้ งขงั และคณะกรรมการลดวนั ต้องโทษได้เปน็ ทาใหไ้ ม่เปน็ ภาระงานกับ
ผู้สมั ภาษณห์ รอื ผู้จดั ทาแบบ
2) เปน็ แบบประเมินทม่ี ี อย่างดี เนื่องจาก ประเมินดงั กล่าว

ค่าคะแนนเชิงประจักษ์ 2.1 เปน็ การประเมินผลที่มคี ่าคะแนน

ซง่ึ สามารถวดั หรือ ลดการใช้ ดุลยพนิ จิ ของ

ประเมนิ ผ้ตู ้องขงั แต่ละ คณะกรรมการ

รายก่อนปล่อยตวั พัก 2.2 แบบประเมนิ ความเสีย่ งยงั จัดทาได้

การลงโทษและลดวนั งา่ ย นาค่าคะแนนในแตล่ ะปัจจัย

ตอ้ งโทษจาคกุ และ ของผตู้ ้องขังออกจากระบบ

ปลอ่ ยครบกาหนดโทษ คอมพิวเตอร์กรมราชทัณฑ์

ได้อย่างเปน็ รูปธรรม 2.3 เจ้าหน้าที่เรือนจาทุกฝ่ายสามารถ

เรอื นจาสามารถนาผล ประเมนิ หรือใชแ้ บบประเมนิ นีไดซ้ ่งึ

การประเมินใช้ไดจ้ รงิ ขนั ตอนการจดั ทาไม่ยุ่งยากเหมือน

แบบประเมินผตู้ ้องขงั อ่นื ๆ เชน่

แบบทดสอบความเปน็ อาชญากร

(Criminal Mind) ที่มีจานวนข้อ

แบบประเมนิ จานวนมาก

และใชเ้ วลานานในการจัดทา

/ตวั ชีว้ ดั ...

8

ตัวชีวัดในปีงบประมาณ พ.ศ.2562 เป็นต้นมา กรมราชทัณฑ์ได้ส่ังการให้เรือนจาและทัณฑสถาน
ใช้แบบจาแนกลักษณะผู้ต้องขังพืนฐานเพื่อการควบคุม (Screening: A) ซ่ึงใช้ประเมินผู้ต้องขังในขันตอน
ของการรบั ตัวแรกเข้าเรือนจา เพ่ือพิจารณาคา่ คะแนนความเสยี่ งในการควบคุมผ้ตู ้องขังนันในเรือนจา ตลอดจน
แบบจาแนกลักษณะผู้ต้องขังเพื่อการพัฒนาพฤตินิสัย (Rehabilitation Assessment: B) ซ่ึงใช้ประเมิน
ผู้ต้องขัง ในขันตอนระหว่างคุมขังในเรือนจา เพื่อพิจารณาค่าคะแนนปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ต้องขังแต่ละราย
เพ่ือให้ง่ายต่อการกาหนดแผนการปฏิบัติตอ่ ผู้ต้องขังเป็นรายบคุ ล (Sentence Plan) และท้ายสุดแบบประเมนิ
ความเส่ียงในการกระทาผิดซาของผู้ต้องขังก่อนได้รับการปล่อยตัว (Offender Risk Assessment: OA)
ซ่ึงใช้ประเมินผู้ต้องขังเพื่อกล่ันกรองก่อนได้รับการปล่อยตัวพักการลงโทษ ลดวันต้องโทษจาคุกและปล่อยตัว
ครบกาหนดโทษต่อไป

จากการพัฒนาเครื่องมือในการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังข้างต้นเ พ่ือเป็นการยกระดับการจา แน ก
ลักษณะผู้ต้องขังให้มีประสิทธิภาพสอดรับการพัฒนางานในยุคดิจิทัลและเพ่ือให้การจาแนกลักษณะผู้ต้องขัง
ถูกนามาใช้เป็นเคร่ืองมือในการประเมินพฤติกรรม ประเมินความต้องการท่ีแท้จริงของผู้ต้องขังแต่ละราย
ซึ่ ง เ รื อ น จ า จ ะ ใ ช้ ก า ร จ า แ น ก ลั ก ษ ณ ะ ผู้ ต้ อ ง ขั ง เ ป็ น เ ค ร่ื อ ง มื อ เ พื่ อ ก า ร ค ว บ คุ ม แ ล ะ ก า ร พั ฒ น า พ ฤ ติ นิ สั ย
โดยการวิเคราะหถ์ ึงสาเหตุของการกระทาความผดิ ของผตู้ อ้ งขัง ปจั จัยแวดล้อมตา่ ง ๆ โดยการนาขอ้ มลู ดังกล่าว
มาจัดทาเป็นแผนการปฏิบัติตอ่ ผู้ต้องขังรายบุคคล (Sentence Planning) เป็นระยะ ๆ เพ่ือใช้ในการพิจารณา
ให้ประโยชน์แก่ผู้ต้องขังในงานด้านทัณฑปฏิบัติอย่างเป็นระบบ เช่น การเลื่อนชัน การลดวันต้องโทษ
การพักการลงโทษ การย้ายผู้ต้องขัง เป็นต้น ซ่ึงจะเห็นได้ว่ากรมราชทัณฑ์ควรดาเนินการใช้เครื่องมือจาแนก
ลักษณะผู้ต้องขังดังกล่าวทัง 3 แบบ เพื่อให้สามารถกาหนดแผนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายบุคคลและประเมิน
ความเส่ียงในการกระทาผดิ ซาดงั แผนภาพนี

/แผนภาพ...

9

แผนภำพกำรพัฒนำกระบวนกำรจำแนกลกั ษณะผตู้ อ้ งขงั
เพ่อื กำหนดแผนกำรปฏิบัตติ อ่ ผ้ตู อ้ งขงั รำยบคุ คล (Sentence Plan) และกำรประเมนิ
ควำมเสี่ยงในกำรกระทำผดิ ซำของผู้ต้องขงั ก่อนได้รบั กำรปล่อยตวั อยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพ

ผูต้ อ้ งขงั แต่ละ จัดทำ จดั ทำแบบจำแนกลกั ษณะ
ประเภทคดี ผู้ตอ้ งขงั (จน.1)
ทะเบยี นประวัติ
รับตัวเข้ำคมุ ขงั ภำยใน 1 เดือน
ในเรอื นจำ/ รำยตวั ผู้ตอ้ งขัง
สำเนำคำพพิ ำกษำ จดั ทำ
ทัณฑสถำน (ร.ท.๑๐๑)
นำรอ่ งจำนวน จดั ทำ ข่ำว/สอื่ ต่ำง ๆ/นสพ. แบบจำแนกลกั ษณะผู้ต้องขังเพื่อกำรพัฒนำ
อินเตอรเ์ นต็ /DXC พฤตินสิ ยั (Rehabilitation Assessment)*
6 แหง่ แบบจำแนกลกั ษณะ
ผูต้ อ้ งขงั พืนฐำน แบบศึกษำประวตั ิผตู้ อ้ งขงั นำคำ่ คะแนนแต่ละปัจจัยหลกั ๘ ปัจจัยเพื่อ
เพ่ือกำรควบคุม เฉพำะกรณี พจิ ำรณำควำมจำเป็นแต่ละดำ้ นของผตู้ ้องขัง
(Screening) (Case Study)
แตล่ ะรำยท่ีควร จะได้รบั กำรปฏบิ ัติ
(Custody Rating และกำรพฒั นำพฤตินิสัยที่เหมำะสม
Scale)*
แบบประเมินเฉพำะทำง (ถำ้ มี) คณะกรรมกำร ตดิ ตำมผล
นำค่ำคะแนนที่ไดม้ ำ - แบบ Criminal Mind จำแนกฯ กำรจำแนกฯ
ประกอบกำรกำหนด - แบบประเมินกำรต่อต้ำนสังคม ทกุ 6 เดอื น
- แบบทดสอบทำงจติ วิทยำต่ำง ๆ พจิ ำรณำกำหนด แบบ จน.1/4
แผนกำรควบคมุ ทเี่ ก่ียวข้อง
ในแบบ จน.1 Sentence plan

แบบประเมนิ ควำมเสี่ยงในกำรกระทำผิดซำของผตู้ อ้ งขัง โปรแกรม
ก่อนไดร้ ับกำรปล่อยตวั กำรพัฒนำพฤตินสิ ัย

(Offender Risk Assessment : OA)* กำรเตรยี มควำมพรอ้ มก่อนปล่อย

กำรปลอ่ ยตวั แบบมีเงอ่ื นไข กำรปลอ่ ยตวั แบบไมม่ เี งือ่ นไข

* ใชใ้ นเรอื นจาและทัณฑสถานตังแตป่ งี บประมาณ พ.ศ.2562
ทม่ี า : มติการประชุมคณะทป่ี รกึ ษาและคณะทางานเพอื่ พฒั นาระบบการจาแนกลกั ษณะผู้ต้องขังด้าน

ทณั ฑปฏบิ ัติ ครงั ที่ 1 และครงั ท่ี 2

/3.ปัญหา...

10

3. ปญั หำอุปสรรคในกำรใชน้ วตั กรรม

เนอื่ งจากกล่มุ งานสง่ เสริมการจาแนกลักษณะผู้ต้องขัง ได้สง่ั การให้เรือนจาและทณั ฑสถาน ทัว่ ประเทศ

ดาเนินการจดั ทาเครอื่ งมือดา้ นการจาแนกลักษณะผูต้ อ้ งขังตามแบบต่าง ๆ ท่เี หมาะสม ปัญหาทพี่ บคอื การ

จดั สรรแบบพิมพ์เครื่องมือดา้ นการจาแนกลักษณะผู้ต้องขงั ตามแบบต่าง ๆ ที่กรมราชทัณฑจ์ ัดสรรให้ ไม่

เพียงพอต่อความต้องการ จึงแก้ไขด้วยการให้ไฟล์ในรูปแบบไฟล์ PDF แก่เรือนจาและทัณฑสถาน เพ่ือให้ดาเนินการ

สาเนาเอกสารให้เพียงพอต่อความต้องการและใช้ไปพลางก่อน และรอการจัดสรรแบบพิมพ์จากปีงบประมาณอ่ืน

ตอ่ ไป

4. งบประมำณในกำรจัดทำนวัตกรรม

ลำดบั รำยกำร งบประมำณ/บำท
312,710
1. แบบประเมินการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังพืนฐานเพื่อการควบคุม
(Screening) หรือแบบจาแนก A 58,420
371,130
2. แ บ บ จ า แ น ก ลั ก ษ ณ ะ ผู้ ต้ อ ง ขั ง เ พ่ื อ ก า ร พั ฒ น า พ ฤ ติ นิ สั ย
(Rehabilitation Assessment) หรอื แบบจาแนก B

3. แบบประเมินความเสี่ยงในการกระทาผิดซาของผู้ต้องขังก่อนได้รับการ
ปล่อยตัว (Offender Risk Assessment: OA)

รวมจำนวนเงิน

5. ประโยชน์ท่ีไดร้ บั จำกกำรนำนวตั กรรมมำใช้
5.1 ระบบการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์มีประสิทธิภาพ ทันสมัย สอดคล้องกับ

แผนการบริหารโทษผตู้ อ้ งขังรายบุคคล (Sentence Plan) และบริบทของเรือนจาและทัณฑสถาน และสถานการณ์
ในปัจจุบนั

5.2 มีการสร้างนวัตกรรมใหม่เพื่อใช้ในการพัฒนางานด้านการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังในเรือนจา
และทัณฑสถานทมี่ ปี ระสิทธิภาพ และสอดคลอ้ งตามหลกั อาชญาวิทยา ทณั ฑวทิ ยา

5.3 ผู้ต้องขังรายบุคลได้รับการควบคุม ได้รับการพัฒนาพฤตินิสัย และได้ทราบความเส่ียงในการกระทา
ผิดซาของผูต้ ้องขงั ก่อนได้รับการปลอ่ ยตวั และแนวทางแกไ้ ขเฉพาะด้านอย่างมีประสทิ ธิภาพ

ทังนี กลุ่มงานส่งเสริมการจาแนกลักษณะผู้ต้องขังได้กาหนดตัวชีวัดการประเมินส่วนราชการ
ตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 (ระดับเรือนจา
และทัณฑสถาน) ตัวชีวัดท่ี 6 ร้อยละของการเก็บรวบรวมและบันทึกข้อมูลเอกสารและแบบจาแนกลักษณะ
ผู้ต้องขังเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลผู้ต้องขังได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ โดยจะต้องมีการจัดทาและดาเนินการ
ในเครื่องมือนวัตกรรมทัง 3 รายการ และเคร่ืองมืออ่ืนๆท่ีเก่ียวข้องได้อย่างครบถ้วน จึงถือได้ว่าเครื่องมือ
การจาแนกลักษณะผู้ต้องขังเพ่ือวิเคราะห์การควบคุม การพัฒนาพฤตินิสัย และความเสี่ยงในการกระทาผิดซา
ของผู้ต้องขังก่อนได้รับการปล่อยตัวให้มีประสิทธิภาพ สามารถยกระดับการพัฒนางานจาแนกลักษณะผู้ต้องขัง
ได้อยา่ งเปน็ รูปธรรมเชงิ ประจักษอ์ ย่างสมบรู ณ์ยิง่

/6. การมสี ว่ นร่วม...

11

6. กำรมสี ่วนร่วมในกำรจัดทำนวตั กรรม
6.1 นายพงษอ์ ภินนั ทน์ จนั กลน่ิ ผู้อานวยการกล่มุ งานสง่ เสริมการจาแนกลักษณะผู้ตอ้ งขงั
กองทัณฑปฏบิ ตั ิ
6.2 นายนติ ริ ฐั จนั ทร์ตรี หัวหนา้ ฝา่ ยสง่ เสริมการจาแนกลักษณะผูต้ อ้ งขงั กองทัณฑปฏบิ ัติ
6.3 นางสาวเอกกมล ลวดลาย นกั ทณั ฑวทิ ยาชานาญการ กองพัฒนาพฤตินสิ ัย
6.4 นายภวสิ ร์ ทวงี าม นักทัณฑวิทยาชานาญการ กองทัณฑปฏบิ ตั ิ

นายปราโมทย์ ทองศรี
ผู้อานวยการกองทัณฑปฏิบัติ

12

นวตั กรรมประเภทส่ิงประดิษฐ์
ลำดับท่ี 2

กำรควบคุมและพัฒนำพฤตินิสยั ผู้ตอ้ งขงั แบบบูรณำกำรและมีส่วนร่วมของเรอื นจำชั่วครำวบ้ำนสงำ่ งำม
เรอื นจำชั่วครำวบำ้ นสงำ่ งำม สังกัดเรอื นจำจังหวดั บรุ ีรัมย์

1. หลกั กำรและเหตผุ ล

1) มาตรา 3/1 แห่งพระราชบญั ญตั ริ ะเบียบบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ พ.ศ.2534 ซงึ่ แกไ้ ขเพ่มิ เติม โดย
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 บัญญัติให้การกาหนดหลักเกณฑ์
และวิธีการในการปฏิบัติราชการและการสั่งการให้ส่วนราชการและข้าราชการปฏิบัติราชการเพื่อให้เกิดการ
บริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี เพ่ือให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
เกิดผลสัมฤทธ์ิต่อภารกิจของรัฐ มีประสิทธิภาพ เกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ ลดขันตอนการปฏิบัติ
ราชการที่เกินความจาเป็น และประชาชนได้รับการอานวยความสะดวกและได้รับการตอบสนองความต้องการ
รวมทังมีการประเมินผลการปฏิบัติราชกรอย่างสม่าเสมอ กระทาโดยตราพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์
และวิธีการบรหิ ารกิจการบา้ นเมืองทด่ี ี พ.ศ.2546

2) เรือนจาช่ัวคราวบ้านสง่างาม สังกัดเรือนจาจังหวัดบุรีรัมย์ มีภารกิจหลักในการควบคุมและแก้ไข
พัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ตลอดจนอบรมและฝึกวิชาชีพด้านการเกษตรให้กับผู้ต้องขังเตรียมความพร้อม
ก่อนปล่อยตัวพ้นโทษ ซ่ึงเรือนจาชั่วคราวบ้านสง่างามไม่มีรัวรอบขอบชิด การนาผู้ต้องขังมาดาเนินการ
ตามนโยบายกรมราชทัณฑ์จึงสุ่มเสี่ยงต่อผู้ต้องขังกระทาผิดกฎระเบียบของเรือนจาและอาจทาให้ผู้ต้องขัง
หลบหนีได้ เนื่องจากไม่มีกาแพงหรือรัวล้อมรอบ แล้วยังมีถนนผ่ากลางพืนที่เข้าในหมู่บ้านสง่างาม การควบคุม
และพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังในลักษณะเรือนจาเปิดแบบนี จึงเป็นอันตรายมากต่อการกระทาผิดกฎระเบียบ
ของเรือนจาสาหรับผตู้ ้องขัง เชน่ การเก่ยี วข้องกับยาเสพติดทังทางตรงและทางอ้อม การลกั ลอบมหี รือใชเ้ งินสด
การนดั แนะคนร้จู ักหรือญาติผตู้ ้องขงั เข้ามาในพนื ท่ีและกระทาผิดดว้ ยกนั ได้

3) ด้วยเหตุผลข้อ 1) และ ข้อ 2) “นวัตกรรมการควบคุมและพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังแบบมีส่วนร่วม
ของเรอื นจาช่ัวคราวบา้ นสง่างาม สงั กดั เรอื นจาจังหวัดบุรรี มั ย์” จึงเกิดขึนดว้ ยการบูรณาการแบบมสี ว่ นรว่ มของ
ญาติผู้ต้องขังและผู้นาชุมชนเข้ามาร่วมควบคุมและพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังให้เป็นไปในแนวทางที่พึงประสงค์
ของทางเรอื นจา

2. รำยละเอียดนวตั กรรม
2.1 เรือนจาช่ัวคราวบ้านสง่างามบันทึกแจ้งความประสงค์ถึงผู้บังคับบัญชากรณีผู้ต้องขังเหลือน้อย

หรอื ผ้ตู อ้ งขังประจาเรอื นจาช่ัวคราวฯ ไมเ่ พียงพอต่อภารกจิ
2.2 เรือนจาช่ัวคราวบ้านสง่างามประสานงานด้วยหนังสือตามข้อ ๑ กับฝ่ายทัณฑปฏิบัติเพ่ือแจ้ง

ความประสงค์กรณผี ู้ตอ้ งขงั เรือนจาชวั่ คราวฯ ขาดแคลนหรอื ไม่เพียงพอตอ่ ภารกจิ
2.3 ฝ่ายทัณฑปฏิบัติพิจารณาคัดเลือกผู้ต้องขังท่ีเข้าข่ายกรณีผู้ต้องขังที่โทษจาคุกคงเหลือสามารถ

คัดย้ายไปอยูเ่ รือนจาชว่ั คราวฯ ตามระเบยี บของกรมราชทณั ฑ์
2.4 ฝ่ายทัณฑปฏิบัติแต่งตังคณะกรรมการคัดเลือกผู้ต้องขังท่ีเข้าเกณฑ์ย้ายไปอยู่เรือนจาชั่วคราวฯ

โดยมีการซักประวัติท่ีเก่ียวข้อง ภูมิหลังก่อนต้องโทษ ขณะต้องโทษ ผู้อุปการะขณะต้องโทษ ความถ่ีของการ
เย่ียมญาติ สถานะทางครอบครัว สขุ ภาพ เป็นตน้

2.5 ขณะสอบถามประวัติหากผู้ต้องขังดังกล่าวมีประวัติดี บุคลิกและนิสัยที่น่าจะแก้ไขอบรมพัฒนา
พฤตินิสัยได้ ก็จะขอเบอร์โทรศัพท์ของญาติผู้อุปการะ เพ่ือนาไปพิจารณาแจ้งคณะกรรมการร่วมกันพิจารณา
คดั เลอื กอกี ครงั

/2.6 เมอ่ื คณะ...

13

2.6 เม่ือคณะกรรมการร่วมกันพิจารณาตามข้อ 5 แล้ว และระบุถึงผู้ต้องขังท่ีมีคุณสมบัติตามระเบียบ
กรมราชทัณฑ์ เรือนจาชั่วคราวฯ ก็จะประสานไปยังญาติผู้ต้องขังสอบถามประวัติผู้ต้องขังเมื่อตอนก่อนต้อง
ราชทัณฑ์ ถึงพฤตินิสัย และสอบถามถึงความประสงค์ของญาติว่าจะอนุญาตให้ผตู้ ้องขังรายนันๆ ออกมาอบรม
และฝกึ วิชาชีพในเรอื นจาชว่ั คราวฯ หรือไม่อย่างไร

2.7 หากญาติประสงค์ให้ผู้ต้องขังรายนัน ๆ ออกมาอยู่เรือนจาช่ัวคราวฯ ก็จะเชิญญาติมารับรอง
พฤติกรรม และทาสัญญาคาประกันเป็นลายลักษณ์อักษร โดยเชิญผู้นาชุมชนของผู้ต้องขังท่ีอยู่ในเขตนัน ๆ
มาร่วมรับรองพฤติกรรมและทาสัญญาคาประกันด้วยโดยผู้บัญชาการเรือนจาจังหวัดบุรีรัมย์เป็นผู้ ลงนาม
ในสัญญาคาประกันดังกล่าว หากญาติไม่ประสงค์ให้ผู้ต้องขังรายนัน ๆ ออกมาก็จะยกเลิกการเบิกผู้ต้องขัง
รายดงั กล่าวนันไป

2.8 เม่ือญาติผู้ต้องขังเดินทางมาทาสัญญาคาประกัน และรับรองพฤติกรรมของผู้ต้องขัง เรือนจา
ช่ัวคราวฯ จะนัดวันปฐมนิเทศญาติและผู้ต้องขัง ผู้นาชุมชน (กานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน)พร้อมกัน
เพ่ือให้ญาติและผู้ต้องขังย้ายมาใหม่ทาความเข้าใจในรายละเอียดในสัญญาคาประกัน ระเบียบวินัยท่ีเก่ียวข้อง
ตลอดจนแนวทางการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังของเรือนจาช่ัวคราวฯ ให้ญาติและผู้นาชุมชนทราบ และร่วมกันแก้ไข
พัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังด้วยกัน กรณีผู้ต้องขังรายดังกล่าวมีพฤติกรรมโน้มเอียงสุ่มเสี่ยงท่ีจะกระทาความผิด
กฎระเบยี บของเรือนจาชว่ั คราวฯ

3. ปัญหำอุปสรรคในกำรใช้นวัตกรรม
3.1 มคี วามย่งุ ยากในการประสานงานกบั ญาติผู้ต้องขัง
3.2 ขณะคัดเลือกผู้ต้องขังออกมาอยู่เรือนจาช่ัวคราวฯ จะต้องสอบถามภูมิหลังแบบเจาะลึก

เพือ่ คัดกรองอย่างรอบด้านก่อนต้องโทษ
3.3 ญาติผู้ต้องขังต้องเดินทางมาเรือนจาช่ัวคราวฯ 2 รอบ รอบที่ 1) ทาสัญญาคาประกัน

และรอบท่ี 2) รอบปฐมนเิ ทศ
3.4 เน่ืองจากผู้ต้องขังในเรือนจาจังหวัดบุรีรัมย์ที่เข้าเกณฑ์คัดย้ายมาอยู่เรือนจาชั่วคราวฯ มีน้อย

ตัวเลือกที่จะคัดก็มีน้อย และเรือนจาช่ัวคราวฯก็ขาดแรงงานผู้ต้องขังท่ีจะมาปฏิบัติตามภารกิจของเรือนจา
ช่ัวคราวฯ เม่ือติดต่อญาติทางโทรศัพท์ไม่ได้หรือติดต่อได้แต่ญาติไม่สามารถจะมาลงนามทาสัญญาในเรือนจา
ช่ัวคราวฯ ได้ จาเป็นต้องออกเดินทางไปยังบ้านผู้ต้องขังเพ่ือให้ญาติรับรองและทาสัญญาคาประกันท่ีบ้าน
ผู้ต้องขังและเชิญผู้นาชุมชนมาร่วมทาสัญญา และทาความเข้าใจในระเบียบต่างๆ ของเรือนจาชั่วคราวฯ
จึงเกิดความยุ่งยากเรื่องการเดินทางไปบ้านผู้ต้องขังดังกล่าว แต่ก็มีข้อดีคือ สามารถเห็นบริบทความเป็นอยู่
ของญาติผู้ต้องขังได้และสามารถตัดสินใจได้ว่า “ผู้ต้องขังรายนีมีโอกาสที่จะกระทาผิดขณะอยู่ในเรือนจา
ชั่วคราวฯมากนอ้ ยเพยี งใด สมควรทจี่ ะเบิกตัวไดห้ รือไม่”

3.5 เรื่องการทาเอกสาร เอกสารท่ีญาติผู้ต้องขังลงนามในสัญญาแล้วต้องนาเสนอผู้บัญชาการเรือนจา
จังหวัดบุรีรัมย์ลงนามด้วยอีกครัง เพื่อความสมบูรณ์ของสัญญา และนาสัญญาดังกล่าวส่งไปรษณีย์กลับไปยัง
ญาติผู้ตอ้ งขงั 1 ชดุ และเก็บไว้ที่เรือนจาช่วั คราวฯ 1 ชดุ

4. งบประมำณในกำรจัดทำนวัตกรรม
ไม่ไดใ้ ชง้ บประมาณ

/5. ประโยชน์…

14

5. ประโยชน์ท่ไี ดร้ ับจำกำรนำนวัตกรรมมำใช้
5.1 ประโยชน์ด้านราชการ

1) ในกรณีท่ีผู้ต้องขังหลบหนีในกองงานที่เจ้าหน้าท่ีรายนันควบคุมอยู่ และถูกลงโทษทางวนิ ยั
เจ้าหน้าท่ีรายนัน ๆ สามารถนาสัญญาดังกล่าวไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายชดเชยจากผู้คาประกันเพื่อชดเชย
การถกู ลงโทษทางวนิ ยั ได้

2) ผู้ต้องขังและญาติผู้ต้องขังได้รับรู้ระเบียบวินัยของผู้ต้องขังขณะอยู่ในเรือนจาชั่วคราวฯ
และจะไมส่ ่งเสรมิ ให้ผู้ต้องขงั กระทาผิดวินยั ขณะอยใู่ นเรือนจาชัว่ คราวฯ

3) ง่ายต่อการควบคุมอบรมปรับเปลี่ยนพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขัง หากมีกรณีที่ผู้ต้องขัง
กระทาผิดวินัยหรอื ระเบียบของเรือนจาช่ัวคราวฯ ตามระเบียบท่ีกาหนดไว้ เจ้าหน้าที่ก็จะเชิญญาติผตู้ ้องขังเข้า
มาร่วมอบรมพัฒนาพฤตนิ สิ ัยดว้ ย จงึ เป็นการสอดประสานรว่ มกันแก้ไขพัฒนาพฤตินสิ ัยผตู้ ้องขังรว่ มกนั ระหว่าง
เจา้ หน้าที่ราชทัณฑแ์ ละญาติของผูต้ ้องขงั

4) เจ้าหน้าที่มีความมั่นใจและกล้าตัดสินใจได้ว่าผู้ต้องขังรายนันๆ เมื่อเบิกตัวมาอยู่เรือนจา
ช่ัวคราวฯ แล้วจะไม่หลบหนี เนื่องจากรู้จักภูมิหลังของผู้ต้องขังและญาติที่มารับรอง จึงทาให้ง่ายต่อการ
ปกครองผตู้ ้องขงั ใหอ้ ยใู่ นกฎระเบยี บของเรือนจาช่ัวคราวฯ

5.2 ประโยชน์ตอ่ ญาติผตู้ ้องขงั
1) ญาติผู้ต้องขังมีความม่ันใจและสบายใจท่ีได้เข้ามาร่วมรับรู้กระบวนการพัฒนาพฤตินิสัย

ผ้ตู อ้ งขังกบั เจ้าหนา้ ท่รี าชทณั ฑ์
2) เกิดสัมพันธภาพที่ดีระหว่างญาติผู้ต้องขัง ผู้นาชุมชนที่มารับรองและคาประกัน

(กานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน) กับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และญาติ ผู้นาชุมชนเกิดความมั่นใจในการอบรม
แกไ้ ขพฒั นาพฤตินิสัยโดยการเขา้ มามสี ว่ นรว่ มในกระบวนการดงั กล่าวเพอ่ื คืนคนดีส่สู งั คม

6. กำรมสี ว่ นร่วมในกำรจัดทำนวัตกรรม

การมีส่วนร่วมในการจัดทานวัตกรรมการควบคุมและพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังแบบบูรณาการ

และการมีส่วนร่วมของเรือนจาชั่วคราวบ้านสง่างาม สังกัดเรือนจาจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นนวัตกรรมแบบบริหาร

จดั การภายในเรือนจาชว่ั คราวบ้านสง่างามด้วยการมสี ว่ นรว่ มจากญาตผิ ู้ต้องขัง ผู้นาชมุ ชนทผี่ ตู้ อ้ งขัง เคย

อาศัยอยู่เป็นการบูรณาการหลายภาคส่วนคอยช่วยเหลือและอานวยความสะดวกให้กันและกัน เพื่อ

ขับเคล่ือนนวัตกรรมดังกล่าว ซง่ึ มีผมู้ ีสว่ นรว่ มดงั นี

1) ผู้บัญชาการเรือนจาจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นผู้อานวยความสะดวกอนุญาตให้ประสานญาติ

ผู้ต้องขังกรณีมีปญั ญาทเ่ี กดิ ขึนกับผตู้ ้องขังรายนนั ๆ

2) ฝ่ายทัณฑปฏิบัติ เป็นผู้คัดรายชื่อผู้ต้องขังท่ีจะออกมาอยู่เรือนจาช่ัวคราวบ้านสง่างาม

และเอกสารต่าง ๆ เก่ียวกับผตู้ อ้ งขงั

3) เรือนจาช่ัวคราวบ้านสง่างาม เป็นผู้ควบคุมและอบรมพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง

ขณะผู้ต้องขังรายนัน ๆ อยู่เรือนจาชั่วคราวบ้านสง่างาม และรายงานพฤติกรรมหรือพฤติการณ์ที่ขัดระเบียบ

หรือพฤตนิ สิ ยั ทตี่ อ้ งพัฒนาปรบั ปรงุ ให้ดขี ึน

4) ญาติผู้ต้องขังและผู้นาชุมชนที่ผู้ต้องขังเคยอาศัยอยู่เมื่อครังยังไม่ได้กระทาผิดกฎหมาย

เป็นผู้คอยรับรายงานและให้ความร่วมมือเข้ามาร่วมอบรมพัฒนาพฤตินิสัยกรณีผู้ต้องขังรายนัน ๆ กระทาผิด

หรือมีพฤตกิ ารณ์ไมน่ า่ ไว้วางใจ โดยเจ้าหน้าทีเ่ รอื นจาฯจะเป็นผู้ประสานมายงั ญาติ

(นางกรรณิการ์ ชอนิ ทรวงศ์)
ผ้บู ัญชาการเรือนจาจงั หวัดบุรีรมั ย์

15

นวตั กรรมประเภทส่ิงประดิษฐ์
ลำดบั ที่ 3

กำรใช้โปรแกรม Thai Nutri Survey เพอ่ื กำหนดเมนูชูสุขภำพ สำหรบั ใชจ้ ดั เลียงผู้ตอ้ งขัง
ทัณฑสถำนบำบัดพเิ ศษลำปำง

1. หลกั กำรและเหตุผล

ตามที่กระทรวงยุติธรรม ได้มีนโยบายในเรื่องของหลักโภชนาการอาหารของผู้ต้องขังในเรือนจา

เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขังให้เป็นไปตามหลักโภชนาการ เพ่ือให้การดาเนินงานด้านโภชนาการ

และสุขาภิบาลอาหารในเรือนจา/ทัณฑสถาน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้กาหนดเรือนจา/ทัณฑสถาน

ใหผ้ ูม้ ีสว่ นเกีย่ วขอ้ งดาเนินการตามมาตรฐานสุขาภิบาลอาหารอยเู่ สมอ ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั กรมราชทัณฑ์ ท่ี

มีนโยบายในการพัฒนาการจดั เลยี งอาหารผู้ตอ้ งขัง และสง่ เสริมให้ผู้ตอ้ งขังทป่ี ฏิบตั งิ านในสทู กรรม และ

โรงเลียงให้มีความรใู้ นการปฏิบัติงานในดา้ นโภชนาการและสขุ าภิบาลอาหาร และกรมราชทัณฑ์ โดย

กองบริการทางการแพทย์ได้มีกาหนดการจัดทารายละเอียดคุณลักษณะ ซึ่งกองบริการทางการแพทย์ ได้

จัดทาตัวอยา่ งอาหารเมนู พรอ้ มกาหนดรายละเอยี ดคณุ ลกั ษณะเฉพาะของอาหารดิบเปน็ รายสง่ิ และ

เคร่ืองปรงุ ซงึ่ ทผ่ี ่านมาหากเรอื นจา/ทณั ฑสถานมกี ารเพิม่ รายการ หรือลดรายการของเมนอู าหาร หรือ

วัตถุดิบ ก็สามารถดาเนินการได้ตามความจาเป็นและเหมาะสม โดยคานึงถึงประโยชน์ของทางราชการ

เป็นสาคัญ และรายการที่เพ่ิมนอกเหนือจากรายการท่ีกรมราชทัณฑ์กาหนดจะต้อง ให้กองบริการ

ทางการแพทย์ กรมราชทัณฑ์หรือสานักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือโรงพยาบาล รับรองคุณค่าทางโภชนาการ

ของรายละเอียดคณุ ลักษณะเฉพาะดังกลา่ วก่อนนามาใช้ตอ่ ไป

ซ่ึงในปีงบประมาณที่ผ่านมา ทัณฑสถานบาบดั พเิ ศษลาปาง เรอื นจากลางลาปาง และสถานกกั ขงั กลาง
จังหวัดลาปาง ได้ประสาน สาธารณสุขจังหวัดลาปาง โรงพยาบาลลาปาง และโรงพยาบาล ค่ายสุรศักดิ์มนตรี
โดยขอความร่วมมือให้นักโภชนาการ ประเมินคุณค่าทางโภชนาการอาหารสาหรับจัดเลียง ผู้ต้องขังดังกล่าว
งานสูทกรรม ได้มีการปรับเปลี่ยนตามเมนูอาหารตามความเหมาะสม ตามคาแนะนาของนักโภชนาการ เพ่ือให้
คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ประกอบกับกรมราชทัณฑ์ได้มีนโยบายพัฒนาการจัดเลียงอาหาร
สาหรับผู้ต้องขังให้ได้ตาม หลักโภชนาการโดยให้ทัณฑสถานประสานบุคลากรผู้เช่ียวชาญด้านอาหาร
และโภชนาการจากหน่วยงานภายนอก แนะนาความเหมาะสมของรายการอาหารคุณลักษณะรายสิ่งของ
อาหารดิบ และคุณค่าทางโภชนาการเพื่อให้การดาเนินงานการจัดเลียงอาหารสาหรับผู้ต้องขังให้มีความ
เหมาะสมตามหลกั โภชนาการ

โปรแกรม Thai Nutri Survey เป็นโปรแกรมวิเคราะห์คุณค่าอาหาร พัฒนาขึนโดยสานักโภชนาการ
กรมอนามัย กระทรวงสาธาณสุข มีประโยชน์สาหรับการวิเคราะห์สารอาหารจากสูตรอาหารต่าง ๆ โปรแกรม
สามารถคานวณพลังงานและสารอาหารได้จานวน 34 ชนิด โปรแกรมนีวัตถุประสงค์ของสานักโภชนาการ
กรมอนามัย เพื่อช่วยผู้ประกอบการร้านอาหาร พ่อครัว แม่ครัว รวมถึงผู้รักสุขภาพ ในการปรับสูตรอาหาร
ให้เปน็ เมนูชูสขุ ภาพ

ปัจจุบันแม้เมนูอาหารที่ใช้จัดเลียงผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ ทุกเรือนจา/ทัณฑสถาน ได้ผ่านการ
รับรองด้านโภชนาการอาหาร โดยกองบริการทางการแพทย์ กรมราชทัณฑ์ รวมถึง โดยสานักงานสาธารณสุข
จังหวัด โรงพยาบาลประจาจังหวัด ในพนื ท่ีของเรือนจา/ทัณฑสถาน นนั ๆ ไปเรียบรอ้ ยแล้วแตใ่ นเมนูแตล่ ะเมนู
อาจจะยังไม่ใช่เมนูชูสุขภาพทุกเมนู อาจทาให้การกินอาหารของผู้ต้องขังไม่ได้สัดส่วน รวมถึงการกินอาหาร
หวาน มัน เค็ม มากเกินไป อาจก่อให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรืองรังต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดัน
โลหติ สูง โรคไขมันในเลอื ดสงู โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และโรคมะเร็งหลายชนิด

/ดงั นนั ...

16

ดังนัน การกาหนดเมนูจึงเป็นสิ่งจาเป็นที่เรือนจา/ทัณฑสถาน จะต้องพัฒนาให้มีรายการอาหาร
ที่เอือต่อการมีสุขภาพดีของผู้ต้องขัง ลดการเป็นโรคไม่ติดต่อเรือรังต่าง ๆ รายการเมนูประจาวันของเรือนจา/
ทัณฑสถาน จึงควรเปน็ เมนชู ูสขุ ภาพทุกเมนู ซง่ึ จะทาใหผ้ ู้ต้องขังมีคุณภาพชีวิตดี มีสขุ ภาพท่ดี ีขึน และเรอื นจา/
ทัณฑสถาน ท่ีมีเมนูชูสุขภาพทุกเมนู ก็จะมีภาพลักษณ์ท่ีดี เป็นที่ยอมรับและเป็นท่ีพึงพอใจของสังคมมากขึน
เช่นกัน

2. รำยละเอยี ดนวตั กรรม
2.1 โปรแกรม Thai Nutri Survey (Version 2.00) เป็นโปรแกรมวิเคราะห์คุณค่าอาหาร พัฒนาขึน

โดยสานักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มีประโยชน์สาหรับการวิเคราะห์สารอาหารจากสูตร
อาหารต่าง ๆ โปรแกรมสามารถคานวณพลังงานและสารอาหารได้จานวน 34 ชนิด โปรแกรมนีวัตถุประสงค์
ของสานักโภชนาการ กรมอนามัย เพื่อช่วยผู้ประกอบการร้านอาหาร พ่อครัว แม่ครัว รวมถึงผู้รักสุขภาพ
ใช้ในการปรับสูตรอาหารให้เป็นเมนูชูสุขภาพ ถ้าหากเรือนจา/ทัณฑสถาน มีเมนูทุกเมนูเป็นเมนูชูสุขภาพ
ก็จะทาให้การจัดเลียงอาหารสาหรับผู้ต้องขังของเรือนจา/ทัณฑสถาน มีการเสริมสร้างสุขภาพของผู้ต้องขัง
ทาให้ผู้ต้องขังจะมีสุขภาพดี ลดการไม่เป็นโรคไม่ติดต่อเรือรังต่างๆ และเรือนจา/ทัณฑสถาน จะมีภาพลักษณ์
ที่ดีเป็นที่ยอมรับและเป็นที่พึงพอใจของสังคม สร้างความเช่ือมั่นและความไว้วางใจของสังคม ญาติผู้ต้องขัง
รวมถงึ ผ้ตู อ้ งขงั ท่ีตอ้ งโทษอยใู่ นเรอื นจา/ทัณฑสถานด้วย

2.2 วธิ กี ารทางานของนวัตกรรมทน่ี ามาใช้ ขันตอนการผลิต รปู แบบ วิธีใช้ พร้อมภาพถ่าย ผงั งาน หรือ
ตัวอยา่ งประกอบ

1) จัดเตรียมเมนูท่ีนามาใช้กับโปรแกรม Thai Nutri Survey (ใช้เมนูของทัณฑสถานบาบัดพิเศษ
ลาปาง เรอื นจากลางลาปาง)

17

2) เปิดใช้ โปรแกรม Thai Nutri Survey ของ สานักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ซ่ึงสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมได้ในเว็บไซต์ของสานักโภชนาการ กรมอนามัย หรือ QR Code ซ่ึงมีขันตอน
การใชง้ านอย่างละเอียด

3) นาเมนูท่ีเตรียมไว้มาปรับสูตร โดยนาอัตราต่อ 1 คน มาปรับหน่วยให้เป็นกรัม เพราะหน่วยใน
โปรแกรมดงั กลา่ วมหี น่วยเปน็ กรมั และนาหนักอาหารสามารถบนั ทกึ ไดเ้ ปน็ จานวนเตม็ เทา่ นัน ไม่มีจดุ ทศนยิ ม

4) เม่อื ในรายการตามเมนทู เี่ ตรียมไว้ใสล่ งไปในโปรแกรม Thai Nutri Survey โปรแกรมกจ็ ะ
วิเคราะหพ์ ลงั งานและสารอาหาร และจะแสดงผลการวเิ คราะห์สารอาหารมาอย่างละเอียด

18

5) ซ่ึงหากพบว่าสารอาหารตัวใดไม่ผ่านเกณฑ์ ก็สามารถกลับมาตรวจสอบว่า อาหารท่ีให้พลังงาน
หรือสารอาหาร มากเกินไป คืออาหารชนิดใด สามารถทาการปรับลดหรือเพิ่มปริมาณอาหารนันลง
และใส่ข้อมูลลงโปรแกรมอกี ครัง เพ่ือตรวจสอบพลังงานและสารอาหาร จากสูตรอาหารท่ปี รับใหม่

6) เม่อื ได้เมนูตามต้องการแล้วบันทึกข้อมูล จากนนั ก็พิมพ์ออกมาแตล่ ะเมนู เขา้ รวมจัดเรยี งเลม่
7) งานสูทกรรม ฝ่ายสวัสดิการผู้ต้องขัง ส่วนสวัสดิการและสงเคราะห์ผู้ต้องขัง ทัณฑสถานบาบัด
พิเศษลาปางจะส่งเล่ม เพ่ือให้กองบริการทางการแพทย์ กรมราชทัณฑ์ สาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลจังหวัด
ตรวจสอบตามลาดับ

/8) สมคั รเพอ่ื ...

19

8) สมัครเพอื่ ขนึ ทะเบยี นรบั รองเมนชู สู ุขภาพ โดยสมคั รได้ที่ สาธารณสุขจงั หวัดหรือองคก์ รปกครอง
สว่ นทอ้ งถนิ่ ท่วั ประเทศ (ถา้ จะขึนทะเบยี นรับรองเมนูชูสุขภาพตามขนั ตอน)

/3. ปัญหา…

20

3. ปญั หำอุปสรรคในกำรใช้นวัตกรรม

การขอความร่วมมือ นักโภชนาการ จากกองบริการทางการแพทย์ กรมราชทัณฑ์ หรือสานักงาน
สาธารณสุขจังหวัดลาปาง โรงพยาบาลลาปาง และโรงพยาบาลค่ายสุรศักด์ิมนตรี เพื่อประเมินคุณค่าทาง
โภชนาการและตรวจสอบเมนูท่ีผ่านการใช้โปรแกรม Thai Nutri Survey อาจจะใช้ระยะเวลาการประเมิน
และตรวจสอบพอสมควร

แนวทำงแก้ไข
แจ้งรายละเอียดให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องทราบและเข้าใจของวั ตถุประสงค์ของการใช้โปรแกรม
Thai Nutri Survey ซึ่งเป็นโปรแกรมของกรมอนามัย ที่พัฒนาขึนมาใช้สาหรับเป็นเคร่ืองมือในการคานวณ
ปริมาณสารอาหารและพลังงานของเมนูที่ส่งให้สานักโภชนาการ กรมอนามัย โดยนาผลวิเคราะห์เมนูอาหาร
แต่ละประเภท เทียบกบั เกณฑร์ บั รองเมนชู สู ุขภาพ
ถ้ามีการใช้เมนูที่ผ่านการใช้โปรแกรม Thai Nutri Survey เป็นตัวอย่างหรือใช้สาหรับการกาหนด
เมนูอาหารจัดเลียงอาหารผู้ต้องขัง ในการเตรียมการจัดซือจัดจ้างอาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่ง
พร้อมเคร่ืองปรุง) สาหรับใช้จัดเลียงผู้ต้องขังปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ดังน้ัน ถ้าใช้เป็นตัวอย่าง อาจมีการปรับ
รายการในเมนู ซง่ึ อาจจะทาให้ผลการวเิ คราะห์เมนูอาหารเปล่ยี นไป
แนวทางแก้ไข
อาจจะต้องใชเ้ มนทู ่ีผ่านการใช้โปรแกรม Thai Nutri Survey และท่ผี า่ นการประเมนิ และตรวจสอบ
รวมถงึ ผ่านการรบั รอง สาหรับนาไปใชใ้ นการกาหนดเมนูอาหารจดั เลียงอาหารผู้ต้องขงั ในปีงบประมาณต่อไป

4. งบประมาณในการจัดทานวัตกรรม
ไมม่ ี

5. ประโยชนท์ ่ไี ด้รับจากการนานวตั กรรมมาใช้

5.1 ทาให้การปฏิบัติงานสูทกรรม ของเรือนจา/ทัณฑสถาน เกิดความสะดวกรวดเร็ว และมี
ประสิทธิภาพมากขึน กล่าวคือ สามารถนาเมนูที่ผ่านการใช้โปรแกรม Thai Nutri Survey แล้ว นาไปใช้เป็น
ตัวอย่างหรือใช้สาหรับการกาหนดเมนูอาหารจัดเลียงอาหารผู้ต้องขัง เพ่ือความสะดวกและรวดเร็วในการ
เตรียมการจัดซือจัดจ้างอาหารดิบ(อาหารดิบเป็นรายส่ิงพร้อมเคร่ืองปรุง) สาหรับใช้จัดเลียงผู้ต้องขัง
ปงี บประมาณตอ่ ๆ ไป

5.2 กรมราชทัณฑ์ และเรือนจา/ทัณฑสถาน จะมีภาพลักษณ์ท่ีดีเป็นที่ยอมรับและเป็นท่ีพึงพอใจ
ของสังคม ซ่ึงเมื่อสังคมภายนอกได้รับทราบว่า เมนูที่ใช้จัดเลียงผู้ต้องขัง ทุกเมนูเป็นเมนูชูสุขภาพก็จะสร้าง
ความเช่ือม่ันและความไวว้ างใจของสังคม ญาตผิ ู้ตอ้ งขัง รวมถงึ ผู้ตอ้ งขังทต่ี อ้ งโทษอยูใ่ นเรือนจา/ทัณฑสถาน

5.3 การใช้โปรแกรม Thai Nutri Survey เป็นเคร่ืองมือ ทาให้สามารถวิเคราะห์ คานวณปริมาณ
สารอาหารและพลงั งานของเมนู แต่ละประเภท เทยี บกบั เกณฑ์รับรองเมนชู ูสขุ ภาพ

5.4 ถ้าใช้โปรแกรม Thai Nutri Survey แล้ว ทุกเมนูมีผลการวิเคราะห์เมนูอาหารว่ามีพลังงาน
และสารอาหาร ผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานทุกข้อ ก็จะได้รับใบรับรองเมนูชูสุขภาพ จากกรมอนามัย กระทรวง
สาธารณสุข

5.5 การจัดเลียงอาหารสาหรับผู้ต้องขังของเรือนจา/ทัณฑสถาน จะเอือต่อการเสริมสร้างสุขภาพของ
ตวั ผู้ต้องขงั ทาให้ผตู้ ้องขงั จะมสี ขุ ภาพดี ลดการไมเ่ ป็นโรคไม่ติดต่อเรือรังต่าง ๆ

/6. การมีสว่ นรว่ ม…

21

6. กำรมสี ่วนรว่ มในกำรจัดทำนวัตกรรม

6.1 ท่ีปรกึ ษำ
1. นายวรพงษ์ น้อยสุขเสริม ผูอ้ านวยการทัณฑสถานบาบดั พิเศษลาปาง
2. จ.อ.ชาณุ ภู่วานชิ ผ้อู านวยการสว่ นสวัสดิการและสงเคราะห์ผู้ตอ้ งขัง
3. นายยงยุทธ กาบแก้ว ผู้อานวยการสว่ นปกครองผู้ตอ้ งขัง
4. นายนเรศ หมอ่ มศรี ผอู้ านวยการส่วนพัฒนาผู้ต้องขัง
5. นายปถั ย์ จันทะวงั หัวหน้าฝา่ ยสวัสดิการและสงเคราะห์ผูต้ ้องขัง

6.2 ผู้คิดคน้ นวัตกรรมและนำมำใช้
1. นายทนาวธุ ท่งุ พรวญ ตาแหน่ง เจา้ พนักงานราชทัณฑ์ชานาญงาน

ปฏิบตั หิ น้าทีห่ วั หนา้ งานสทู กรรม
2. นายนพดล สมบรู ณ์ ตาแหนง่ เจา้ พนักงานราชทัณฑ์ปฏิบัติงาน

ปฏบิ ัติหนา้ ที่ เจ้าหนา้ ทง่ี านสูทกรรม

6.3 คณะทำงำน
1. นางสาวอรัญญา ลบั ภู พยาบาลวชิ าชีพชานาญการ ประธานคณะทางาน
2. นางสาวภาริน อภภิ สั ร์ พยาบาลวชิ าชพี ชานาญการ คณะทางาน
3. นายพงษ์เดช กาวินชยั พยาบาลเทคนคิ ชานาญงาน คณะทางาน
4. นายทนาวุธ ทุ่งพรวญ เจา้ พนกั งานราชทัณฑช์ านาญงาน คณะทางาน
5. นายวสันต์ จนั ตาเขียว เจา้ พนกั งานราชทัณฑ์ปฏบิ ัติงาน คณะทางาน
6. นายนพดล สมบรู ณ์ เจา้ พนักงานราชทัณฑป์ ฏิบัติงาน คณะทางาน/เลขานุการ

นายวรพงษ์ น้อยสุขเสริม
ผ้อู านวยการทัณฑสถานบาบัดพเิ ศษลาปาง

22

นวัตกรรมประเภทสิ่งประดิษฐ์
ลาดบั ที่ 4

กลอ่ งเย็นใจ สำย ฉ (VacciCooler Box
งำนสง่ เสรมิ สขุ ภำพและปอ้ งกันโรค สว่ นกำรพยำบำล ทัณฑสถำนโรงพยำบำลรำชทัณฑ์

1. หลักกำรและเหตผุ ล

วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิด - 19 นับเป็นวิกฤติด้านสาธารณสุขในรูปแบบที่ไม่เคยประสบ
มาก่อนในเรือนจา/ทัณฑสถานท่ัวประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทังเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง มีเจ้าหน้าที่
และผู้ต้องขังติดเชือเป็นจานวนมาก นับตังแต่มีการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้กับเจ้าหน้าท่ีและผู้ต้องขัง
ในกรมราชทัณฑ์ ทาให้สถานการณ์เร่ิมคลี่คลาย อัตราการติดเชือและเสียชีวิตลดลง โดยงานส่งเสริมสุขภาพ
และป้องกันโรค เป็นหน่วยงานหนึง่ ในทณั ฑสถานโรงพยาบาลราชทณั ฑ์ ทมี่ หี น้าทห่ี ลกั ในการจดั บริการ ฉีด
วคั ซนี โควดิ - 19 ใหก้ ับเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง โดยดาเนินการให้ได้ตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค กระทรวง
สาธารณสุขและวัคซนี โควดิ -19 เป็นวคั ซีนชนดิ ใหม่จงึ ต้องมกี ารเตรียมความพรอ้ มก่อนใหบ้ รกิ าร ฉีดวัคซีนทัง
การจดั จุดบริการวัสดุอุปกรณ์ให้พรอ้ มเพอ่ื สร้างความเชื่อมั่นใหก้ ับผรู้ บั บริการ

จากการจัดบรกิ ารฉีดวคั ซีนโควิด - 19 ในเรือนจา/ทณั ฑสถาน ของงานสง่ เสรมิ สขุ ภาพและป้องกันโรค
ทงั ในกล่มุ เจา้ หนา้ ท่แี ละผตู้ ้องขงั ซึ่งแต่ละครังมผี เู้ ข้ารับบริการฉดี เป็นจานวนมาก โดยเฉพาะในส่วนของผ้ตู อ้ งขัง
ในเรือนจา มีการให้บริการไม่ต่ากว่า 200 คน/ครัง ทาให้ต้องทาการเตรียมวัคซีนไว้เป็นจานวนมาก
ก่อนดาเนินการให้บริการฉีดวัคซีน ระหว่างดาเนินการฉีดวัคซีน ซ่ึงอาจทาให้วัคซีนเส่ือมสภาพเน่ืองจากไม่มี
การควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานในการเก็บรักษาวัคซีน งานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค
จึงได้จัดทานวัตกรรมกล่องเย็นใจ สาย ฉ (Vaccicooler Box) ขึนเพื่อจัดเก็บวัคซีนก่อนนาฉีดให้ผู้รับบริการ
โดยวัคซีนจะได้รับการรักษาอุณหภูมิตามเกณฑ์มาตรฐานตลอดเวลา ทังขันตอนการเตรียมยาและก่อนฉีดยา
ลดระยะเวลาในการดาเนนิ งาน ทาใหผ้ ้รู บั บรกิ ารเกดิ ความเชือ่ ม่ัน ไม่มีความเคลือบแคลงใจในประสทิ ธภิ าพของ
วคั ซีน และลดอาการไม่พึงประสงค์จากการเสื่อมประสิทธิภาพของวคั ซีน

2. รำยละเอยี ดนวตั กรรม
2.1 วธิ ีการจัดทา
1) เตรียมอุปกรณ์ ในการจัดทา ประกอบด้วย กล่องลินชักพลาสติก ฉนวนกันความร้อน เจลเย็น

กรรไกร กระดาษกาวสองหน้า เทอรโ์ มมิเตอรว์ ดั อุณหภูมขิ นาดเล็ก
2) ทาการเจาะรูบริเวณกล่องลินชักพลาสติกด้านหลังเพื่อเป็นช่องใส่สายเทอร์โมมิเตอร์ บุถาดลินชัก

ดว้ ยฉนวนกันความรอ้ น นาเทอร์โมมิเตอร์ติดบรเิ วณดา้ นบนของกลอ่ ง
3) นาเจลเย็นแพคใส่ในกล่องลินชกั ทดสอบอณุ หภมู ิให้ไดต้ ามมาตรฐานก่อนนาไปใช้

2.2 วธิ ีใชน้ วัตกรรม
1) นาเจลเยน็ ใส่ในคูลล่งิ บอ๊ ก ทดสอบอณุ หภมู ิเทอร์โมมเิ ตอร์ใหอ้ ยูใ่ นระดับมาตรฐาน
2) นาวคั ซีนทผ่ี สมแล้วใส่ลงในลนิ ชกั เพอ่ื เตรยี มการฉดี วคั ซนี ใหก้ บั ผู้รบั บรกิ าร
3) ผู้ฉีดสังเกตอณุ หภูมทิ ่กี ลอ่ งให้อยใู่ นเกณฑ์มาตรฐานอยู่เสมอ

23

/ภาพประกอบ...

ภำพประกอบ

3. ปญั หำอปุ สรรคในกำรใชน้ วัตกรรม:

ระหว่างการใช้งานนวัตกรรม ผู้ฉีดยาอาจลืมสังเกตอุณหภูมิ แนวทางแก้ไข ควรติดตังเทอร์โมมิเตอร์
ทส่ี ามารถส่งสัญญาณเตือนเมอ่ื อุณหภมู ิไม่อยใู่ นเกณฑม์ าตรฐาน

4. งบประมำณในกำรจดั ทำนวัตกรรม ราคา 70 บาท
4.1 กล่องลนิ ชกั พลาสติก ราคา 80 บาท
4.2 เทอร์โมมเิ ตอรค์ วบคมุ อุณหภูมิ ราคา 40 บาท
4.3 แผ่นฉนวนกนั ความร้อน ราคา 70 บาท
4.4 กล่องลนิ ชกั พลาสตกิ ราคา 260 บาท
รวมคา่ ใช้จ่ายทังสนิ

24

/5. ประโยชน์...

5. ประโยชน์ท่ไี ด้รับจำกกำรนำนวตั กรรมมำใช้:
5.1 เพ่ิมความสะดวกในการปฏิบัติงานให้แก่เจ้าหน้าท่ี ลดระยะเวลาในการปฏิบัติงานในกรณีท่ีมี

ผ้รู บั บรกิ ารจานวนมาก
5.2 วัคซีนหรือยาทต่ี ้องอยูใ่ นการควบคมุ อณุ หภูมิคงประสิทธิภาพสงู สุด เพม่ิ ประสิทธิภาพในการ

เก็บรกั ษาวคั ซนี หรอื ยา
5.3 นวัตกรรมใช้งานง่าย ประหยัดค่าใช้จ่าย นาหนักเบา และมีภาพลักษณ์สวยงามสามารถใช้ในการ

ปฏบิ ตั หิ น้าทภี่ ายนอกหน่วยงานได้เป็นอยา่ งดี
5.4 ผู้รบั บริการเกิดความเชอ่ื มน่ั ในบรกิ าร จากการเก็บรักษาวัคซนี และยาท่ไี ด้ตามมาตรฐาน
5.5 ลดภาวะแทรกซ้อน หรืออาการไม่พึงประสงคท์ อ่ี าจเกิดจากการได้รับยาหรือวัคซนี ท่ีเสื่อมคณุ ภาพ

6. กำรมีส่วนร่วมในกำรจดั ทำนวัตกรรม
1. นางพรนิภา สักจง พยาบาลวชิ าชพี ชานาญการ สัดส่วน 80 %
2. นายวทิ ยา ใจล่วง พยาบาลวิชาชพี ชานาญการ สัดส่วน 20 %

นายแพทยว์ ัฒน์ชยั ม่ิงบรรเจิดสขุ
ผู้อานวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทณั ฑ์

25

นวัตกรรมประเภทส่ิงประดิษฐ์
ลำดับท่ี 5

เครื่องเตมิ อำกำศบ่อบำบัดนำเสยี ประสิทธภิ ำพสงู
เรอื นจำกลำงรำชบรุ ี

1. หลักกำรและเหตุผล

ตามที่ผู้บัญชาการเรือนจากลางราชบุรี ได้ทาการตรวจระบบบาบัดนาเสียของเรือนจากลางราชบุรี
จากการดาเนินการเป็นไปได้ด้วยดี และมีข้อส่ังการให้ดาเนินการเพ่ิมออกซิเจนในบ่อบาบัดนาเสีย บ่อท่ี 2
โดยแต่เดิมมีเครื่องเติมอากาศด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการเติมอา กาศด้วยกังหันตีนาซึ่งจะทางาน
ตามแสงแดดรอบช้า/เร็ว ขึนอยู่กับแสงแดดทาให้ในช่วงท่ีไม่มีแสงแดด ระบบเติมอากาศในบ่อจะไม่สามารถ
ทางานเพิม่ อากาศในนาได้เป็นสาเหตุใหน้ ามีคณุ ภาพต่า

ดังนันผู้บัญชาการเรือนจากลางราชบุรีจึงเล็งเห็นกับการเติมออกซิเจ น (Oxygenation)
หรือการเติมอากาศ (Aeration) ซ่ึงเป็นหัวใจของการทางานของระบบบาบัดนาเสีย ขาดออกซิเจนจุลินทรีย์
ทังหลายก็ไม่สามารถทางานได้ ถ้ามีปริมาณออกซิเจนละลายในนาอยู่สูงระบบก็สามารถ บาบัดนาเสียได้ดี หรือสามารถ
รับนาเสียได้ดี หรือสามารถรับนาเสียได้มากขึน แต่เน่ืองการละลายนาของออกซิเจนที่ความดันบรรยากาศมีค่า
ต่าย่อมจะทาให้มีแรงขับ (Driving Force) ต่าตามไปด้วย ดังนันการเพ่ิมอัตราการละลายนาของออกซิเจน
ที่ความดันบรรยากาศ จึงได้แก่ การเพิ่มผิวสัมผัส (InterfaciaI Area) ระหว่างอากาศกับนาให้มีค่ามากที่สุดจึง
เป็นท่ีมาของการพัฒนาต่อยอดเครื่องเติมอากาศใต้นา เป็นนวัตกรรมเคร่ืองเติมอากาศบ่อบาบัดนาเสีย
ประสิทธิภาพสูงขนึ

2. รำยละเอียดนวตั กรรม

เคร่ืองเติมอากาศประสิทธิภาพสูง เป็นการเติมอากาศท่ีมีประสิทธิภาพสูงซ่ึงเหมาะจะใช้ในระบบ
บาบดั นาเสยี ขนาดใหญ่ สามารถตดิ ตังไดห้ ลายลักษณะ เช่น ตดิ ตงั ใตน้ า ติดตังแบบทนุ่ ลอย การเตมิ อากาศจะมี
ลักษณะการทางานโดยอาศัยเครื่องสูบนา หรือป๊ัมนา เพื่อส่งมวลนาไหลผ่านท่อส่งลงสู่บ่อบาบัดโดยระหว่าง
ท่อส่งจะมีช่องท่อเปิดอีกจุดหนึ่ง ทาให้เกิดแรงดึงมวลอากาศเข้าผสมกับมวลนาได้เป็นฟองอากาศขนาดเล็ก
ที่มีความละเอียดฉีดออกทางปลายท่อ ซึ่งฟองอากาศนีจะทาให้ออกซิเจนละลายในนาได้ดีและรวดเร็ว
เพิ่มค่าออกซิเจนทันที เมื่อภายในนามีออกซิเจนมากขึน เท่ากับว่าจะได้นาท่ีมีคุณภาพดีขึน ทังยังช่วยลด
ค่าความสกปรกของนาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเครื่องเติมอากาศประสิทธิภาพสูง บ่อที่ 2 มีทังสิน 18 หัว
ซ่ึงเพยี งพอต่อการหมุนเวยี นภายในบอ่ เพื่อกระจายออกซิเจนให้ไปท่ัวถึง ประกอบดว้ ย

1) ปมั๊ นาแรงดนั (มอเตอร)์ ขนาด 2 แรง
2) ทอ่ PVC เข้าปัม้ นา ขนาด 3 นิว
3) ทอ่ PVC ออกปม้ั นา ขนาด 6 หนุ
4) ท่อ PVC เพิ่มแรงดันนา ขนาด 4 หนุ และ 3 หุน
5) ท่อ PVC ลมเขา้ (อากาศ) ขนาด 4 หนุ

/ภาพประกอบ...

26

ภาพประกอบเครื่องเตมิ อากาศประสทิ ธิภาพสงู ภาพแปลน

ท่อ PVC ขนาด 2 นิว

ทอ่ PVC ขนาด 6 หุน
ทอ่ PVC ขนาด 3 นวิ

มอเตอร์
MOTER

อากาศ อากาศ
(AIR) (AIR)

ท่อ PVC ขนาด 4 หุน ท่อ PVC ขนาด 4 หนุ
ทอ่ PVC ขนาด 6 หุน ทอ่ PVC ขนาด 6 หุน

ทอ่ ฉดี มวลนา้
ท่อ PVC ขนาด 3 หนุ

/3. ปญั หา...

27

3. ปัญหำอปุ สรรคในกำรใชน้ วัตกรรม

เนื่องจากเคร่ืองเติมอากาศใต้นาประสิทธิภาพสูง วางท่ออยู่ในนาตลอดเวลาทาให้มี
ตะไครส่ าหรา่ ย และส่ิงสกปรกเกาะทท่ี ุ่นลอย จงึ จาเปน็ ต้องมกี ารดูแลรักษา และทาความสะอาดสม่าเสมอ

4. งบประมำณในกำรจดั ทำนวตั กรรม

ที่ รำยกำร จำนวน หน่วย หน่วยละ จำนวนเงิน
(บำท)
1. ท่อพวี ซี ี 3 นิวชัน 8.5 บานหัว 10 เสน้ 340.00 3,400.00
145.00 2,320.00
2. ท่อพวี ีซี 2 นวิ ชนั 8.5 บานหวั 16 เสน้ 35.00 210.00
60.00 120.00
3 ข้องอ 45 บาง 3 นวิ 6 ตวั 150.00 150.00
30.00 60.00
4. ต่อตรงเกลียวนอก พวี ีซี 3 นวิ 2 ตวั 25.00 50.00
50.00 800.00
5. สามทางลด 3 x 2 นิว หนา 1 ตวั 95.00 95.00
5,400.00 5,400.00
6. ขอ้ งอ พวี ีซี หนา 2 นิว 2 ตวั 420.00 420.00
245.00 245.00
7 ต่อตรงลด 2 x 3/4 นิว หนา 2 ตวั 40.00
20.00 50.00
8. สามทางลด 2 x 3/4 นวิ 16 ตวั 50.00 400.00
80.00 150.00
9. บอลวาลว์ พีวีซี 2 นวิ 1 ตวั 75.00 120.00
120.00 112.00
10. ป๊มั นา 3 x 3 นิว Hp (แปลน) 1 ตวั 7.00

11. หัวกะโหลก พีวซี ี แบบสวม 3 นวิ มีลินสปรงิ 1 ตวั

12. กาวทาท่อ 500 กรัม นาไทย 1 กระป๋อง

13. เทปพันเกลยี ว 12 เมตร 2 ม้วน

14. ทอ่ พวี ซี ี 3/4 นิวชนั 8.5 1 เส้น

15. ขอ้ งอ พวี ซี ี 3 นวิ 5 ตวั

16. ต่อตรงลด 3 x 2 นิว หนา 2 ตวั

17. สามทาง พวี ีซี หนา 3 นวิ 1 ตวั

18. สามทาง พีวซี ี 3/4 นวิ 16 ตวั

กาหนดการส่งของ รวม 28

กาหนดการชาระเงิน ส่วนลดพเิ ศษ 14,142.00
0.00
กาหนดการยืนราคา ราคาไมร่ วมภาษีมูลคา่ เพิ่ม
14,142.00
กาหนดการรบั ประกนั ภาษมี ลู คา่ เพ่ิม 7 % 989.94

(หนึ่งหมื่นห้าพนั หนึ่งรอ้ ยสามสิบเอด็ บาทเกา้ สิบสส่ี ตางค์) รวมทังสิน 15,131.94

5. ประโยชนท์ ไ่ี ด้รบั จำกกำรนำนวัตกรรมมำใช้

5.1 ค่าใช้จ่ายในการติดตังน้อย เม่ือเทียบกับเคร่ืองเติมในนาแอร์เจ็ท ซ่ึงมีค่าติดตังสูง
เป็นจานวนเงนิ 37,878 บาท เครื่องเติมอากาศบ่อบาบดั นาเสียประสิทธภิ าพสูง จานวนเงิน 15,131.94 บาท

5.2 เคร่ืองเติมอากาศประสิทธิภาพสูงสามารถนามาดัดแปลง และติดตังได้ง่าย เน่ืองจาก
มีอปุ กรณท์ ไ่ี มซ่ บั ซอ้ น

5.3 มปี ระสิทธภิ าพสูง สามารถดึงอากาศ ได้ถงึ 30% เพอ่ื เข้าไปผสมในนาทีอ่ ุณหภูมปิ กตไิ ด้
5.4 ให้การถ่ายเทออกซิเจน และทาให้อากาศผสมกับนาได้ดีกว่า ดังนันจึงสามารถ
ลดค่าพลังงานได้มาก เม่ือเทยี บกบั การเตมิ อากาศแบบดังเดิม
5.5 สามารถบารุงรักษาได้งา่ ย
5.6 การทางานของระบบเงียบ ไม่มีการกระจายของนา และลดผลจากการเกิดสิ่งที่ตกค้างในนา
เพิ่มออกซเิ จนในนาทาให้มีคณุ ภาพดีขึน

6. กำรมสี ว่ นร่วมในกำรจัดทำนวัตกรรม

การจัดทานวัตกรรมเครื่องเติมอากาศบ่อบาบัดนาเสียประสิทธิภาพสูง เป็นการบูรณาการทางาน
ร่วมกันทังหน่วยงานภายในเรือนจากลางราชบุรี ตลอดจนหน่วยงานภายนอกเป็นอย่างดี โดยมีรายละเอียด
ดงั นี

6.1 นายเกยี รตกิ ร ปทั มทัตต์ ผู้บัญชาการเรือนจากลางราชบรุ ี
เป็นผ้สู นับสนนุ ชแี นะทงั หลกั ทฤษฎี และหลกั ปฏบิ ตั ิ

6.2 นายธรรมนญู นพคุณ ผู้อานวยการส่วนพฒั นาผตู้ ้องขงั และนายไพรัช ดว้ งเฮียม หวั หนา้ ฝ่ายฝกึ
วชิ าชีพผู้ตอ้ งขัง เป็นผู้ให้คาปรกึ ษา

6.3 นายสง่ เสริม พทิ ักษธ์ รรม หัวหนา้ เรือนจาช่ัวคราวเขาบิน
พร้อมด้วยเจ้าหน้าท่ีเรือนจาช่ัวคราวเขาบิน ได้แก่ นายอาชวิน มาสระ ตาแหน่งเจ้าพนักงงาน
ราชทัณฑ์ปฏิบัติงาน, นายเฉลิมพงษ์ วงษ์สุขะ ตาแหน่งนักทัณฑวิทยาปฏิบัติการ ตลอดจน
นายพสธร เพชรโกมล ตาแหน่งนักทัณฑวิทยาชานาญการ ซ่ึงเป็นเจ้าหน้าท่ีประจาฝ่ายสวัสดิการ
ผตู้ ้องขัง ซ่ึงไดร้ ่วมกนั ประดษิ ฐ์เครอ่ื งเติมอากาศบ่อบาบัดนาเสียประสทิ ธภิ าพสูง

6.4 เจ้าหนา้ ทีจ่ ากสานกั งานส่ิงแวดลอ้ มภาคที่ 8 ราชบุรี ซ่งึ เป็นหน่วยงานภายนอก
ไดเ้ ข้าตรวจสอบคุณภาพนา โดยผลการตรวจสอบคณุ ภาพนาปรากฏวา่ “ผ่านเกณฑม์ าตรฐาน”

นายเกียรติกร ปัทมทตั ต์
ผบู้ ัญชาการเรือนจากลางราชบรุ ี

29

นวัตกรรมประเภทส่ิงประดิษฐ์
ลำดบั ท่ี 6

ท่อแปบ๊ เหล็กดัดสปริงต้มนำร้อนในเตำหงุ ตม้
เรือนจำกลำงรำชบุรี

1. หลักกำรและเหตุผล

เนื่องด้วย เรือนจากลางราชบุรี ได้มีการใช้ก๊าซหุงต้มในการประกอบอาหารเพื่อจัดเลียงผู้ต้องขัง

ซึ่งแต่ละครังการเปิดใช้ก๊าซหุงต้มจานวนมากและหลายถังทาให้เกิดการแข็งตัวของก๊าซภายในถัง จึงจาเป็น

ต้องต้มนาร้อนมาแช่ถังก๊าซ ลดการเกาะถังของก๊าซ และเพิ่มแรงดันและในการนีมีการปรับขึนราคาก๊าซหุงต้ม

ติดต่อกัน 3 เดือน เดือนละ 50 บาทต่อถัง ซึ่งงบประมาณค่าก๊าซหุงต้มในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ให้ค่าก๊าซ

ไม่เกิน 2 บาทต่อคนต่อวัน เมื่อเทียบกับราคาก๊าซอาจไม่เพียงพอในการหุงต้ม ดังนันงานสูทกรรมจึงได้จัดทา

โครงการการติดตังท่อต้มนาร้อนในเตาแก๊ส เพ่ือลดการใช้ก๊าซในการต้มนาร้อนเพื่อลดการเกาะถังของก๊าซ

และเพ่ิมแรงดัน โดยหลักการทางานของทอ่ ต้มนารอ้ น คอื การใชท้ อ่ เหล็กแป๊บนาขนาด 1 นวิ ม้วน ขด

เป็นวงกลมภายในเตาประมาณ 5 ขด และใช้ความร้อนจากเตาหุงต้มทาความร้อน แล้วปล่อยนาให้ไหลผ่าน

เพ่อื นานาไปแช่ถังก๊าซ เพอ่ื ลดการเกาะถังของกา๊ ซ และเพ่ิมแรงดนั และเป็นการบริหารงบประมาณให้เพียงพอ

กบั ภารกิจ และเป็นการนาพลงั งานความรอ้ นมาใช้ให้เกิดประโยชน์

2. รำยละเอียดนวัตกรรม
2.1 ดดั เหลก็ แป๊บนา ขนาด 1 นวิ เปน็ วงกลม จานวนประมาณ 5

ขด 2.2 ตดิ ตงั แป๊บนาท่ีม้วนเปน็ ขดสปรงิ ในเตาหงุ
ตม้ 2.3 ปล่อยให้นาไหลผ่านภายในทอ่ ที่ขดมว้ น จานวน 6
เตา 2.4 เปิดเตาหุงต้มเพื่อปรุงอาหารผู้ต้องขัง ทาให้เกิดความร้อนจากเตาไปสัมผัสกับท่อที่ขดไว้ในเตาทา
ใหเ้ กดิ ความร้อนภายในท่อ และนาท่ผี ่านในท่อเกดิ ความ
ร้อน 2.5 นานาทผี่ า่ นท่อในเตาหุงต้มมาปล่อยไวใ้ นอ่างแชถ่ งั แกส๊ เพอ่ื ลดการเกาะตวั ของแกส๊ ในถังและเพ่ิม
ความดันของ
แก๊ส 2.6 นาท่มี ีความร้อนนามาใชใ้ นการหงุ ตม้ ได้ เน่อื งจากมีความรอ้ นจะทาใหล้ ด
ระยะเวลาและปรมิ าณแก๊สในการทาให้นาเดอื ดเร็วขึน

รปู แบบวธิ ีการใช้งาน

1. เปิดวำล์วนำต้นทำง เพ่ือใหน้ ำไหลผ่ำนทอ่ ขดสปริงที่อยู่ในเตำ

วาล์วนาปดิ วาลว์ นาเปิด

/2. จดุ เตำ...

30

2. จุดเตำ เพื่อให้ท่อขดสปริงโดนควำมร้อน

3. เปดิ วำล์วนำปลำยทำง เพ่ือให้นำไหลมำแชไ่ ว้ที่ถงั ก๊ำซ

3. ปัญหำอุปสรรคในกำรใช้นวัตกรรม
ต้องตรวจดูตลอดเวลาไมใ่ หน้ าขาดภายในท่อ

4. งบประมำณในกำรจดั ทำนวตั กรรม

4.1 ทอ่ เหลก็ แป๊บ ขนาด 1 นิว จานวน 20 เส้น ราคา 8,800

บาท 4.2 ขอ้ ต่อตรงเหลก็ ขนาด 1 นิว จานวน 10 ตวั ราคา 313

บาท 4.3 ข้องอเหล็ก ขนาด 1 นิว จานวน 10 ตวั ราคา 320

บาท 4.4 สามทางเหล็ก ขนาด 1 นวิ จานวน 5 ตวั ราคา 250

บาท 4.5 ประตนู าทองเหลอื ง ขนาด 1 นวิ จานวน 3 ตวั ราคา 1,050

บาท 4.6 เกลยี วเหลก็ ขนาด 1 นิว จานวน 15 ตวั ราคา 435

บาท ราคาสินคา้ +ภาษีมลู คา่ เพิม่ รวมทังสนิ 11,950 บาท

/5. ประโยขน์...

31

5. ประโยชน์ทไ่ี ด้รบั จำกกำรนำนวัตกรรมมำใช้
5.1 ทาใหล้ ดการสนิ เปลอื งก๊าซหุงตม้
5.2 ลดขนั ตอนการทางาน สามารถทางานได้สะดวกขึนรวดเรว็ ขนึ
5.3 ประหยดั งบประมาณในการจดั ซือก๊าซหงุ ตม้
5.4 ทาให้เกิดภาพลักษณ์ท่ีดีต่อเรือนจา ในด้านการนานวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ

สูงสดุ ตอ่ องคก์ ร
5.5 ใช้บุคลากรในการทางานนอ้ ยลง

6. กำรมสี ่วนรว่ มในกำรจดั ทำนวตั กรรม
6.1 นายเกยี รติกร ปัทมทตั ต์ ผบู้ ัญชาการเรอื นจากลางราชบรุ ี
ผ้อู นุมัติ /ผูส้ นบั สนุนนวัตกรรม

สิง่ ประดษิ ฐ์
6.2 นายไพโรจน์ สุนทรพรม ผ้อู านวยการส่วนสวสั ดิการและสงเคราะห์

ผูต้ ้องขงั ผู้พิจารณานวัตกรรมสิง่ ประดิษฐ์
6.3 นายพสธร เพชรโกมล หวั หนา้ งานสทู กรรม และผู้บงั คับแดน

2 ผู้เสนอนวัตกรรมสง่ิ ประดิษฐ์
6.4 ผตู้ ้องขงั สังกัดกองชา่ ง ประจางานสูทกรรม ภายในแดน

2

(นายเกียรติกร ปัทมทตั ต์)
ผบู้ ัญชาการเรือนจากลางราชบุรี

32

นวัตกรรมประเภทสิ่งประดิษฐ์
ลำดับที่ 7

พัฒนำระบบสำรสนเทศ โปรแกรมคำนวณอภยั โทษ ประจำปงี บประมำณ พ.ศ.2565
เรอื นจำกลำงบำงขวำง

1. หลักกำรและเหตุผล

เรือนจากลางบางขวาง ดาเนินการตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ทัง
ปล่อยตวั และลดโทษแล้วแต่กรณี โดยปัจจบุ ันเรือนจากลางบางขวางมผี ู้ต้องขังในการควบคุมมากกวา่ ห้าพันคน
ซึ่งในการจัดทาอภัยโทษในแต่ละครัง ใช้เครื่องคิดเลขในการคานวณ แล้วบันทึกลงแบบรายงานอภัยโทษ (อ.2)
จึงประสบปัญหาในการคานวณคลาดเคล่ือนและไม่สามารถเก็บข้อมูลไว้เป็นฐานข้อมูลท่ีสามารถใช้งาน
ในอนาคตได้ เรือนจาได้เล็งเห็นในการส่งเสริมนวัตกรรมและนาเทคโนโลยีมาสนับสนุนในกระบวนการทางาน
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน และสามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันผ่านฐานข้อมูลท่ีเป็นระบบเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ร่วมกันเฉพาะพืนที่ จึงจัดทาโปรแกรมคานวนอภัยโทษขึน โดยนาความรู้ในการใช้โปรแกรม
Microsoft Access มาประยุกต์ใช้เพื่อปรับปรุงระบบการปฏิบัติงานของส่วนทัณฑปฏิบัติ เพื่อให้เรือนจา
มีโปรแกรมคานวณอภัยโทษ คานวณได้อย่างมีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาข้อผิดพลาดใน
การปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดทาอภัยโทษและการกระจัดกระจายของข้อมูล มีระบบข้อมูลการอภัยโทษท่ี
ถูกต้อง สามารถตรวจสอบและแก้ไขได้และมีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านสารสนเทศให้เอือประโยชน์ต่อการใช้
งานในทุกดา้ นของเรือนจาฯ

2. รายละเอยี ดนวัตกรรม
2.1 หน้าจอโปรแกรมคานวณอภัยโทษ

2.2 รายละเอยี ดโปรแกรมประกอบด้วย
2.2.1 บนั ทกึ ข้อมลู อภัยโทษ

/2.2.2 ออกแบบ...

33

2.2.2 ออกแบบรายงาน อ.2 / อ.4

/2.2.3 ออกรายงาน…

34

2.2.3 ออกรายงานงบหน้าคัดทะเบียนรายตัวผู้ต้องขัง/ออกรายงานหน้ามัด/ออกรายงาน
บนั ทกึ คานวณการพระราชทานอภยั โทษใหแ้ กผ่ ูต้ อ้ งขงั

/2.2.4 ออกรายงาน...

35

5.2.4 ออกรายงาน หมายอภัยโทษ/หมายปลอ่ ย/ใบบริสุทธ์ิ

/แผนผงั ...

36

แผนผงั ระบบเครือข่าย

Database Server (access)
Switch HUB

Access GUI for Client Access GUI for Client Access GUI for Client

37

38

39

ค่มู ือการใชง้ านเบืองตน้

40

12
3
4

41

42

/3. ปัญหา...

43

3. ปัญหาอุปสรรคในการใชน้ วตั กรรม
ปัจจุบันเรือนจาฯ ประสบปัญหาเครื่องแม่ข่ายมีประสิทธิภาพต่า เคร่ืองลูกข่ายมีประสิทธิภาพต่า

ซ่งึ สง่ ผลกระทบในการปฏบิ ตั งิ านมีความล่าชา้ รวมทงั การดาเนนิ งานด้านงานอภยั โทษท่ไี ม่มฐี านข้อมลู สง่ ผลให้
ข้อมูลกระจัดกระจายไม่สามารถตรวจสอบกลั่นกรองได้ทันทวงที เรือนจาเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงจัดทา
โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศ โปรแกรมคานวณอภัยโทษ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ขึน
เพื่อให้เรือนจามีโปรแกรมคานวณอภัยโทษได้อย่างมีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาล่าช้า
และมกี ารพฒั นาเทคโนโลยีด้านสารสนเทศใหเ้ อือประโยชนต์ ่อการใชง้ านของเรอื นจา

4. งบประมำณในกำรจดั ทำนวัตกรรม
วงเงินงบประมาณ 10,000 บาท รายละเอียด ดังนี
อุปกรณ์สาหรับเพิ่มประสิทธิภาพคอมพิวเตอร์เพื่อรองรับการทางานของโปรแกรมร่วมถึงจัดเก็บ

ฐานข้อมูลทังหมด และเพ่ิมประสิทธิภาพคอมพิวเตอร์ภายในส่วนทัณฑ์เพ่ือให้รองรับต่อการใช้งาน
เชน่ แรม (Random Access Memory), เอสเอสดี (Solid State Drive), ฮาร์ดดิส (Hard disk) เปน็ ต้น

5. ประโยชน์ทไ่ี ด้รับจำกกำรนำนวัตกรรมมำใช้
5.1 มีโปรแกรมคานวณอภัยโทษ เพิ่มประสิทธิภาพการทางาน สามารถตรวจสอบ กล่ันกรองการ

ดาเนนิ งานทเ่ี ปน็ ระบบ ได้มาตรฐาน
5.2 เรือนจาสามารถออกแบบรายงาน อ.2 แบบรายงาน อ.4 แบบรายงานคานวณอภัยโทษ

แบบรายงานงบหนา้ ทะเบยี น แบบรายงานหน้ามดั ออกหมายศาล ออกหมายปล่อย ร่วมทงั ออกใบบรสิ ทุ ธ์ิ
5.3 สามารถใช้ข้อมูลร่วมกับฐานข้อมูลเครือข่ายเดียวกันช่วยลดปัญหาข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงาน

เก่ยี วกับการจัดทาอภยั โทษและการกระจดั กระจายของข้อมลู
5.4 ช่วยลดเวลาในการดาเนนิ งานอภยั โทษ รวมทังลดขอ้ ผดิ พลาดในการคานวณอภัยโทษ

6. กำรมีส่วนรว่ มในกำรจดั ทำนวัตกรรม
เจ้าหน้าท่ีส่วนทัณฑปฏิบตั ิ เรือนจากลางบางขวาง ได้ร่วมแสดงความคิดเหน็ ร่วมเสนอปัญหาประเดน็

สาคัญ ร่วมคดิ หาแนวทางการแกไ้ ขปญั หา ร่วมตัดสนิ ใจและร่วมกนั พฒั นา โดยยดึ หลกั 5 D ประกอบดว้ ย
6.1 Define - การค้นควา้ หาขอ้ มลู เพอื่ กาหนดเปา้ หมายรว่ มกัน
6.2 Design - การออกแบบให้สอดคลอ้ งกบั ความต้องการรว่ มกนั
6.3 Develop - การพฒั นาแนวคดิ เพอ่ื ความสาเรจ็ รว่ มกนั
6.4 Deploy - การปรบั ใชร้ ว่ มกนั
6.5 Deliver - การพัฒนาเพ่ือส่งมอบสู่ผู้ใช้อนื่ ๆ

นายยุทธนา นาคเรืองศรี
ผบู้ ญั ชาการเรือนจากลางบางขวาง

44

นวตั กรรมประเภทสิ่งประดิษฐ์
ลำดับที่ 8

ประตูอจั ฉรยิ ะ
เรือนจำกลำงคลองไผ่

1. หลักกำรและเหตุผล

เรือนจากลางคลองไผ่เป็นเรือนจาความมั่นคงสูงสุด ท่ีรับย้ายผู้ต้องขังท่ีมีอัตราโทษสูง คือ โทษตังแต่
15 ปีขนึ ไป จนถงึ โทษประหารชีวิต ซึ่งเป็นผูต้ ่องขังที่มีอัตราโทษสูง ผู้ตอ้ งขังท่ีเป็นผู้คา้ รายสาคัญ ผู้มอี ิทธิพลทาง
การเงิน และผู้ต้องขังในคดีอ่ืน ๆ ที่ต้องรับย้ายมาจากเรือนจาทัณฑสถานจากท่ัวประเทศ ดังนันงานการควบคุม
ผู้ต้องขังจึงเป็นสิ่งสาคัญอย่างย่ิงท่ีจะต้องยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยมีองค์ประกอบต่าง ๆ ทังทางด้าน
บุคลากร อุปกรณ์ เคร่ืองมือต่าง ๆ ท่ีต้องใช้ในการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าหน้าท่ีผปู้ ฏิบัติงานภายในเรอื นจา รวมถึง
ความมั่นคงแข็งแรงของห้องควบคุมผู้ต้องขัง ประตู ลวดหีบเพลง ลูกกรงในห้องต่าง ๆ อันเป็นการป้องกันเหตุ
ต่าง ๆ ท่ีอาจจะเกิดขึนได้ เช่น กรณีที่ผู้ต้องขังก่อเหตุแหกหัก หลบหนีออกจากห้องควบคุมผู้ต้องขัง เป็นต้น
อีกทังภายในเรือนจากลางคลองไผ่ได้มีการจัดแบ่งการควบคุมผู้ต้องขังออกเป็นแดนควบคุมในแต่ละแดน
การควบคุม และในแต่ละแดนการควบคุมผู้ต้องขงั ก็จะแบ่งออกเปน็ โซน แต่ละโซน และในแตล่ ะโซนจะประกอบ
ไปด้วยแนวรัวตาข่ายกันแบ่งเขตพนื ทีเ่ พื่อใช้ประโยชนต์ ่าง ๆ ภายในเรือนจา โดยมปี ระตูเข้า – ออก ในแตล่ ะเขต
ในแต่ละโซน อย่างน้อย 1 – 2 ประตู และด้วยประตูเขา้ – ออกในแตล่ ะโซนนันมหี ลายประตู เจา้ หนา้ ทีจ่ งึ ต้องมี
การตรวจเช็คความมั่นคงแข็งแรงของประตูอยู่เสมอ เนื่องจากมีการใช้งานประตูอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องมีคนคอย
เปิด - ปิด ประตูโดยเฉพาะเวลาเข้า ซ่ึงโดยปกติประตูทุก ๆ ประตูจะมีการออกแบบให้ผลักเข้าด้านในเหมือนกัน
หมดในทกุ ๆ แดน เพ่อื ใหเ้ ป็นรปู แบบเดียวกันทงั เรือนจา อันเปน็ การสะดวกในการซ่อมบารุง และการดูแลรักษา
แต่ทังนีด้วยบุคลากรของทางเรือนจาที่มีค่อนข้างจากัด จึงทาให้มีอัตรากาลังไม่เพียงพอต่อการการเฝา้ ดแู ลประตู
ตามโซนตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งทัว่ ถึง ทาใหใ้ นบางจุดต้องแก้ไขปัญหาด้วยการใช้กุญแจคล้องและทาการล๊อกประตูนัน ๆ
เอาไว้ เมอ่ื มีการใช้งานจงึ จะเปิดประตูนนั ๆ ซ่ึงทาให้ต้องใชเ้ วลาในการรอใหบ้ คุ คลมาเปิดประตูใหพ้ อสมควร

ดังนัน ทางเรือนจากลางคลองไผ่ จึงได้แก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการคิดค้นนวัตกรรมเป็นอุปกรณ์ที่มา
ช่วยผ่อนแรงบุคลากร และปัญหาดังกล่าว คือ ประตูอัจฉริยะขึนมา โดยเน้นความปลอดภัยของบุคลากร
ผู้ปฏิบัติงาน และความม่ันคงแข็งแรงของระบบการล๊อกประตูในโซนต่าง ๆ กล่าวคือ เม่ือติดตังกลอนประตู
อัจฉริยะเสร็จสินเป็นท่ีเรียบร้อยพร้อมใช้งานแล้ว ผู้ที่อยู่ด้านในจะเป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถจะเปิดประตู
ใหเ้ ทา่ นัน บุคคลทอ่ี ยู่ภายนอกห้อง ภายนอกโซนนนั ๆ จะไมส่ ามารถเปิดประตเู ข้าด้านในได้ โดยทีไ่ ม่ต้องมีการ
ใช้กญุ แจในการล๊อกแต่อย่างใด เพราะระบบล๊อกท่ีออกแบบมาจะทาการล๊อกประตโู ดยอัตโนมัติทันทเี มื่อได้ปิด
ประตสู นทิ แลว้ แต่เม่อื ต้องการเปดิ ประตูผู้ทีอ่ ยู่ในห้องหรืออยใู่ นโซนนนั ๆ เพียงแต่ใชม้ ือผลักกลอนประตูเบา ๆ
ประตูก็จะเปิดได้อย่างง่ายดาย อันเป็นการอานวยความสะดวกในการใช้งานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานภายใน
เรือนจา หรือหากเกิดกรณีการก่อจลาจล การก่อเหตุทะเลาะวิวาทในเรือนจา ประตูอัจฉริยะนีจะสามารถ
สกดั กนั เหตุการณ์นนั ๆ ใหอ้ ยู่ในโซนที่จากัด และเปน็ การชะลอเวลาให้เจ้าหนา้ ที่สามารถเข้าระงับเหตุการณ์ได้
อย่างทันท่วงที ป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ท่ีอาจลุกลามบานปลาย และสร้างความเสียหายแก่ทางเรือนจาได้
อันจะส่งผลดีต่องานการควบคุมผู้ต้องขังภายในเรือนจา ส่งเสริมการปฏิบัติงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
มคี วามเปน็ มอื อาชพี มากย่งิ ขึน อันจะเกดิ ภาพลักษณ์ทีด่ ีตอ่ หน่วยงานราชการ และกรมราชทัณฑ์

2. รำยละเอียด นวตั กรรม ภำพประกอบ

2.1 วสั ดุ อุปกรณใ์ นกำรจดั ทำ
1) เหล็กเส้น RB. ขนาด 12 มิลลิเมตร และ 16 มลิ ลิเมตร
2) เหลก็ แบน ขนาดหนา้ กวา้ ง 50 มลิ ลิเมตร หนา 6 มลิ ลิเมตร

/3) ลวดเช่ือม…

45

3) ลวดเช่ือม ขนาด 2.6 หรอื 3.2 มิลลิเมตร
4) เคร่ืองเชือ่ มเหล็กไฟฟา้
5) เครื่องเจยี เหลก็ ขนาด 4 นวิ
6) เคร่ืองตัดเหล็ก ขนาด 14 นวิ
2.2 ขนั ตอนกำรเตรยี มอปุ กรณ์
1) ใช้เหล็กเส้น RB. ขนาด 12 มิลลิเมตร ตัดให้ได้ความยาว 12 มิลลิเมตร นามาดัดโค้งให้เป็นรูปตัวยู
เพ่ือใช้เป็นกลอนประตู

2) ใช้เหล็กเส้น RB. ขนาด 12 มิลลิเมตร ตัดให้ได้ความยาว 5 เซนติเมตร เพ่ือใช้เชื่อมติดกันกับ
เหล็กเสน้ ทีโ่ ค้งเปน็ รปู ตวั ยู (ขอ้ ท่ี 1)

/3) ใช้เหลก็ เส้น...

46

3) ใช้เหล็กเส้น RB. ขนาด 16 มิลลิเมตร ตัดให้ได้ความยาว 6.5 เซนติเมตร เพื่อนามาเป็นแกนยึด
กลอนประตู (ขอ้ ที่ 2)

4) ใช้เหล็กเสน้ RB. ขนาด 12 มลิ ลเิ มตร หรือ 16 มลิ ลิเมตร ตามความตอ้ งการ ตัดให้ได้ความยาว 2.5
เซนตเิ มตร เพอ่ื ใชเ้ ปน็ แกนยดึ เหลก็ แบน

5) ใชเ้ หลก็ แบน เหลก็ แผน่ ทั่วไป กว้าง 4 เซนตเิ มตร
(ตดั ให้ไดต้ ามภาพ) หนา 6 มลิ ลิเมตร
ยาว 8 เซนตเิ มตร

/6) นาเหลก็ แบบ...

47

6) นาเหล็กแบนมาตัดตามภาพท่ีสเก็ตไว้ และนาเหล็กเส้นดัดโค้งเป็นรูปตัวเอสมาเช่ือมติดกับเหล็ก
แผ่นที่ได้ตัดไว้แล้ว ในที่นีขออนุญาตเรียกว่า เหล็กแบนรูปช้างชูงวง เพื่อให้เข้าใจง่ายในการอธิบาย
(ดังภาพ)

7) ตดั เหล็กกลอ่ ง ขนาดกว้าง 2.5 เซนตเิ มตร ยาว 10 เซนตเิ มตร จานวน 2 ชิน

8) เจาะรูเหล็กกล่องที่ 1 ขนาดรูที่เจาะ 12 มิลลิเมตร เพื่อใช้ใส่เหล็กที่เป็นแกนยึดเหล็กแบนรูปช้างชู
งวง (เหล็กแบนตามขอ้ ที่ 6)

/9) บากร่อง...

48

9) บากร่องเหล็กกล่องท่ี 1 ให้ได้ขนาดความยาวประมาณ 5 เซนติเมตร โดยบากร่องให้มีขนาดใหญ่
กว่า 12 มิลลิเมตร เล็กน้อย เพ่ือให้ใส่กลอนได้สะดวก หรือตามขนาดท่ีต้องการ และทาการบากร่องซ้าย -
ขวา ดงั ภาพ

10) เหล็กกล่องท่ี 2 (ฝาครอบด้านบน) ทาการบากร่องด้านกว้างเพียงด้านเดียว ขนาดกว้าง 12
มิลลิเมตร ยาว 5 เซนติเมตร แล้วเชื่อมปิดด้วยแผ่นเหล็กบางขนาดกว้าง 2 เซนติเมตร ยาว 2 เซนติเมตร
เพ่ือปอ้ งกนั การใชน้ ิวมอื ลว้ งกดเปิดประตไู ด้

/2.3 วิธกี าร...

49

2.3 วิธกี ำรประกอบชินงำน และกำรใช้งำนประตูอจั ฉริยะ
1) นาแผ่นเหล็กที่ตัดเป็นรูปช้างชูงวง สอดเข้าไปในเหล็กกล่องท่ีทาการบากร่องไว้เรียบร้อยแล้ว
พร้อมกับการสอดเดือยเหล็กขนาด 12 มิลลิเมตร ท่ีได้ตัดเอาไว้แล้ว เข้าไปในเหล็กกล่องท่ี 1
และเชอื่ มติดให้เรียบรอ้ ยทงั 2 ดา้ น

/2) ทาการ...

50

2) ทาการทดสอบตัวแกนแผ่นเหล็กรูปช้างชูงวง โดยใช้มือทดสอบขยับไป ขยับมา เพ่ือสังเกตกลอน
ประตูว่าสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ไม่ฝืด หรือไม่ติดขัด หากตรวจพบว่ามีการติดขัดในชินส่วน
อุปกรณ์ตรงจุดใด ก็ให้หยอดจาระบี หรือนามัน หรือใช้ตะไบเหล็ก ตะไบอีกครังให้ใช้งานได้คล่องตัว และ
เพ่ือป้องกันสนมิ ไปในตัวในขณะนาไปใชง้ านจริง

3) นาเหล็กกล่องตัวท่ี 2 ท่ีได้เชื่อมปิดด้วยแผ่นเหล็กบางที่ได้เตรียมเอาไว้แล้ว นามาประกบด้านบนกับ
เหล็กกล่องตัวท่ี 1 และทดสอบการใช้งานเม่ือคาดว่าสามารถใช้งานได้ดีแล้ว ทาการเช่ือมเหล็กกล่องทัง
2 ชิน ตดิ กัน พร้อมทดสอบความแขง็ แรงอีกครัง

/4) นาเหลก็ ...


Click to View FlipBook Version