The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอน Step Up English ป.6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Kabo Abdulloh, 2023-07-05 19:35:45

แผนการสอน Step Up English ป.6

แผนการสอน Step Up English ป.6

กลุ่มส�ระก�รเรียนรู้ภ�ษ�ต่�งประเทศ ต�มหลักสูตรแกนกล�งก�รศึกษ�ขั้นพื้นฐ�น พุทธศักร�ช 2551 บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 ห้�มมิให้นำ�แผนก�รจัดก�รเรียนรู้นี้ ไปใช้เพื่อก�รจำ�หน่�ยหรือก�รค้�ใดๆ ในทุกรูปแบบ ไม่ว่�จะเปนหนังสือ หรือในระบบคอมพิวเตอร์ทุกชนิด แผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Step Up English ประถมศึกษ�ปีที่ 6


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 2 คำ�แนะนำ�การใช้แผนการจัดการเรียนรู้หนังสือเรียนชุด Step Up English แผนการจัดการเรียนรู้ Step Up English ชุดนี้ ออกแบบขึ้นมาเพื่อเป็นแผนการจัดการเรียนการ สอนสำ หรับหนังสือเรียนชุด Step Up English ระดับชั้นป.1-6 จุดมุ่งหมายของหนังสือเรียนชุดนี้ คือ ต้องการพัฒนานักเรียนให้สามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษ จนสามารถใช้งานได้ สื่อสารได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราระมัดระวังให้นักเรียนเรียนรู้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไม่มีการข้ามขั้นตอน แต่ละเล่มจะก้าวไปทีละขั้น (step) เราตระหนักดีว่า นักเรียนไทยเรียนภาษาอังกฤษในฐานะที่เป็นภาษาต่างประเทศ เราไม่ได้ใช้ภาษา อังกฤษเป็นภาษาที่สอง และไม่มีสิ่งแวดล้อมที่มีการใช้ภาษาอังกฤษอยู่ตามชุมชน หมู่บ้าน โรงเรียน แม้ กระทั่ง ในเมืองต่างๆ ในทศวรรษ 2560-2570 นี้ ก็ยังนับว่าใช้ภาษาอังกฤษกันน้อย แม้เราอยากให้มีการ ใช้ภาษาอังกฤษให้ได้ดีพอสมควรทั่วประเทศก็ตาม ด้วยเหตุนี้ เราจึงเขียนแผนการสอนชุดนี้ขึ้น เพื่อช่วย ให้คุณครูสอนได้ นักเรียนเรียนได้ กระบวนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นไปได้ และเราพยายามรักษาหลัก การว่า การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ควรเป็นไปเพื่อการสื่อสาร (Communicative English) คุณครู ทุกท่านที่ใช้แผนการจัดการเรียนรู้นี้ โปรดทำความเข้าใจหลักการของแผนการจัดการเรียนรู้ชุดนี้ ดังนี้ 1. กระบวนการสอน 5 ขั้น แบบ Brain-based Learning (BBL) กระบวนการสอน Step Up English ในแผนการจัดการเรียนรู้นี้ ยึดการสอนที่แบ่งออกเป็น ๕ ขั้น ดังรายละเอียดข้างล่างนี้ เพื่อประกันผลสำ เร็จ ว่านักเรียนจะสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ สื่อสารได้ พอสมควร ไม่รู้สึกกลัวภาษาอังกฤษ ไม่รู้สึกว่าภาษาอังกฤษเป็นยาขม ไม่ต่อต้านการเรียนรู้ภาษาใหม่ คือ 1.1 อุ่นเครื่อง (Warm-up) การอุ่นเครื่อง (warm-up) ในขั้นนี้ บางทีใช้คำว่า ขั้นนำ เข้าสู่บทเรียน เป็นกิจกรรมที่ทำ เพื่อให้สมองตื่นตัว เตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้บทเรียนบทใหม่ หรือระหว่างชั่วโมง ถ้าเนื้อหา ที่จะเรียนรู้นั้นค่อนข้างยาก คุณครูสังเกตว่านักเรียนเริ่มหมดความสนใจหรืออ่อนล้า ควรให้ ทำ Warm-up เพื่อกระตุ้นสมอง การ Warm-up นั้นทำ ได้ 3 วิธี คือ 1) Brain Exercise 2) การเคลื่อนไหวเป็นจังหวะ (Rhythm) อาจมีเสียงเพลงและคำกลอนประกอบ และ 3) ยืดเส้นยืดสาย (Stretching) การอุ่นเครื่อง หรือการนำ เข้าสู่บทเรียน วิธีที่ 2 มีจุดมุ่งหมายกระตุ้นให้นักเรียนอยากเรียนรู้ สนใจเนื้อหาที่กำลังจะเรียนในบทนี้ ซึ่งเชื่อมโยงมาจากบทที่แล้ว ดังนั้น จึงมักใช้เกมภาษา บทเพลง บทคล้องจอง บทสนทนาสั้นๆ ทบทวนความรู้เดิมที่เรียนมาแล้ว แต่ใช้กระบวนการ ที่สนุกสนาน ทำ ให้อยากเรียนต่อไป 1.2 ขั้นนำ�เสนอความรู้ (Presentation) นักเรียนทุกคนมีความต่างกัน มีประสบการณ์ มีพื้นฐานเฉพาะตัว ดังนั้น การนำ เสนอ ความรู้ (การสอน) จึงควรเปิดโอกาสให้เด็กทุกคนได้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย นำ เสนอความรู้ใหม่ ผ่านสื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจ เช่น สื่อของจริง บัตรภาพ บัตรคำ บัตร ตัวเลข ชาร์ตบทกลอน บทเพลง กระดานเคลื่อนที่ power point เป็นต้น


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 3 จุดมุ่งหมายสำคัญของขั้นนี้ เป็นไปเพื่อการนำ เสนอตามจุดประสงค์การเรียนรู้ เช่น สอน คำศัพท์ใหม่ สอนโครงสร้างไวยากรณ์ บทสนทนา Story Time โดยกิจกรรมจะเน้นให้ นักเรียนได้ฟังการออกเสียงที่ถูกต้อง การสนทนาที่ถูกต้อง เป็นต้น นั่นคือ ขั้น presentation นี้ ต้องให้ความรู้ภาษาที่ถูกต้องแก่นักเรียน ไม่ว่าจะเป็นการฟัง การพูด การอ่าน หรือไวยากรณ์ การนำ เสนอความรู้ โมเดลต่างๆ ในขั้นนี้มีความสำคัญ เพราะจะเป็นต้น แบบสำ หรับนักเรียนที่จะเรียนรู้ภาษาตามจุดประสงค์ในแต่ละรายชั่วโมง แม้ว่าการเรียน รู้ภาษาอังกฤษแนวใหม่นี้ เราจะเน้นภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เน้นให้นักเรียนกล้า แสดงออก กล้าพูด กล้าสนทนา แต่ไม่ได้แปลว่า เราจะทิ้งการนำ เสนอความรู้และข้อมูลที่ ถูกต้อง เกี่ยวกับคำศัพท์ การออกเสียง การสนทนา การอ่าน และการเขียน ในขั้น presentation นี้ กิจกรรมการเรียนการสอนที่นิยมใช้กันมาก ได้แก่ การสาธิตให้ดู การให้อ่านตาม หรือออกเสียงตาม การนำ เสนอด้วยตาราง Diagrams Timelines บัตร คำ บัตรภาพ แถบประโยค VDO และสื่อของจริง เป็นต้น 1.3 ขั้นลงมือเรียนรู้-ฝึกทำ�-ฝึกฝน (Learn-Practice) เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ลงมือฝึกอย่างจริงจัง ในขั้นนี้ ต้องการเน้นให้นักเรียนฝึกใช้ภาษา ตามจุดประสงค์ต่างๆ คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน ให้คล่องแคล่ว ลงมือใช้ความรู้ที่เรียนมาทำ กิจกรรมต่างๆ นักเรียนจะฝึกพูดสนทนากัน ฝึกอ่านคำและประโยค อ่าน story กิจกรรม เหล่านี้ เน้นการเรียนรู้ทั้งแบบฝึกเป็นรายกลุ่ม จับคู่กันฝึก ฝึกเดี่ยว สลับกันฝึก หรือฝึก พร้อมกันทั้งชั้นเรียน (Whole class) กิจกรรมขั้น Learn และ Practice นี้ ที่นิยมใช้กันมาก ได้แก่ การทำแบบฝึก การสนทนา การท่องบทคล้องจอง การร้องเพลงภาษาอังกฤษ การใช้เกมการศึกษา การทำ word stick การใช้ raffle ticket การ highlight การตัด การปะ การเขียนตามแนวทางที่ใบ งานกำ หนดไว้ การอ่านซํ้าๆ การทำแบบฝึกหัดท้ายบท เป็นต้น 1.4 ขั้นสรุปความรู้ (Summary) แม้ว่าการเรียนรู้จะดำ เนินมาตั้งแต่ขั้นเริ่มเรียนรู้ความรู้ใหม่ (presentation) ขั้นที่นักเรียน ได้ทดลองนำความรู้ใหม่นั้นมาลงมือปฏิบัติ ฝึกลองทำด้วยตัวเอง (learn-practice) ลงมือ ทำแบบฝึกหัดแล้วก็ตาม แต่ในที่สุด การนำ ประสบการณ์ทั้งหมดมาสรุปรวบยอด เป็น ความรู้ที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ก็มีความจำ เป็นอย่างยิ่ง ในขั้นนี้ เน้นให้นักเรียนนำความรู้ที่ เรียนและฝึกมาแล้ว เช่น คำศัพท์ ประโยคที่ฝึกฝนมา บทสนทนา Reading ... ในขั้นนี้ นักเรียนจะนำความรู้ที่ฝึกมาสรุปและผลิตออกมาเป็นกิจกรรมต่างๆ อย่างหลาก หลาย เช่น สรุปความรู้ออกมาเป็น Graphic Organizer (Window Snake Mindmap Fan Diagram Table Wheel Flip Foldable etc.) แสดงเป็นสถานการณ์ต่างๆ แบบ Role Play การทำชิ้นงาน การเล่นเกม เป็นต้น


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 4 1.5 ประยุกต์ใช้ความรู้ (Apply) ถ้าเป็นไปได้และมีเวลา กระบวนการเรียนรู้ควรทำ ไปถึงขั้นให้นักเรียนประยุกต์ใช้ความรู้ ในสถานการณ์ใหม่ๆ ในขั้นนี้ โดยมากนักเรียนจะเริ่มนำความรู้ไปสร้าง (make) หรือผลิต (produce) ชิ้นงานใหม่ๆ เช่น แต่งนิทาน ทำ หนังสือเล่มเล็ก แสดงละคร โต้วาที จัดบอร์ด ผลงาน นิทรรศการ เป็นต้น แต่งานขั้นนี้ เป็นไปได้ยากที่จะทำ ทุกชั่วโมง ทุกเนื้อหาที่เรียน เพราะเวลาเรียนไม่พอ อีกทั้ง เนื้อหาที่เรียนมีมากเกินกว่าที่จะเน้นให้นักเรียนลงมือทำ กิจกรรมต่างๆ ได้หมดสิ้น ด้วยเหตุนี้ ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ จึงอาจเลือกทำ เฉพาะหัวข้อที่ สำคัญ หรือหัวข้อที่พอจะนำ ไปประยุกต์ใช้ได้สำ หรับเด็กแต่ละวัย ในหัวข้อง่ายๆ เช่น การ ประสมพยัญชนะกับสระ อาจจะยังไม่มีความจำ เป็นที่จะต้องประยุกต์ใช้ความรู้ เป็นต้น แต่ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความรู้ ความสามารถ และความชำ นาญของผู้สอนเอง กิจกรรมที่อาจทำ ได้ในขั้นนี้ ได้แก่ การแสดงละคร การสนทนาในหัวข้อต่างๆ การแต่งเรื่อง การทำ Mini Book การทำการ์ดอวยพร การทำ หนังสือพิมพ์ การเขียนโปสเตอร์ การวาด ภาพ การสัมภาษณ์ การสำ รวจ การเขียน Chat room การเขียน E-mail และกิจกรรม บน Digital platform ต่างๆ ที่เป็นไปได้ เป็นต้น 2. วิธีการปรับแผนการจัดการเรียนรู้ในชั่วโมงการสอนจริง แม้ว่าในแผนการจัดการเรียนรู้ชุดนี้ ในทุกบทจะเสนอแนะการสอนครบ ทุกขั้นตอน แต่ในชั่วโมง การสอนจริง คุณครูอาจปรับแผนบางขั้นการสอนให้กระชับ รวดเร็ว ลัดขั้นตอนได้ตามความเหมาะสม ไม่ จำ เป็นต้องเดิน 5 ขั้นอย่างเคร่งครัด โดยตระหนักถึงจุดมุ่งหมายที่สำคัญที่สุดของการสอนภาษาอังกฤษ ก็คือ ต้องจัดกิจกรรมต่างๆ ให้นักเรียนได้สัมผัสกับการใช้ภาษาอังกฤษจริงๆ กล่าวคือ ได้ฟัง ได้ออกเสียง ได้สนทนา ได้อ่านแล้วอ่านอีก ได้นำ เอาภาษาอังกฤษมาใช้จริงในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในห้องเรียนและ นอกห้องเรียน ถ้ากระบวนการสอนเน้นขั้นตอนเกินไป แต่กลับลดทอนการได้สัมผัสกับกิจกรรมภาษา (Communicative English) ก็จะทำ ให้กระบวนการเรียนการสอนนั้น หรือแผนการสอนนั้นไม่บรรลุ เป้าหมาย แม้จะทำจนครบก็ตาม ดังนั้น คุณครูจึงต้องเป็นผู้คิดเอง ออกแบบเพิ่มเติม ดัดแปลง เพื่อให้ นักเรียนได้มีโอกาสฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษจริงๆ แม้ว่ากระบวนการสอนภาษาอังกฤษในยุคใหม่นี้ จะเน้นเรื่องการนำ ไปใช้ คือ ให้นักเรียนสื่อสาร ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า จะทิ้งความถูกต้องทางภาษาไปเลยทีเดียว นั่นคือ ความถูกต้องของการใช้คำ ศัพท์ ไวยากรณ์ การสนทนา ก็ยังคงอยู่ แต่กระบวนการเรียนการสอนต้องปรับปรน ค่อยเป็นค่อยไป เพื่อ ให้นักเรียนไม่กลัว “ผิด” จนไม่กล้าทำอะไรเลย 3. ท่านสามารถสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ที่ดีกว่า คุณครูทุกคน โรงเรียนทุกโรงเรียนล้วนมีความแตกต่างกัน ไม่มีแผนการจัดการเรียนรู้ใดใช้ได้กับ ทุกห้องเรียน 100% คุณครูที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์สูง เอาใจใส่นักเรียนมาก จะทราบดี ว่า แผนการจัดการเรียนรู้แต่ละแผนจะต้องเพิ่มหรือลด แม้กระทั่งต้องเปลี่ยนกระบวนการใดบ้าง เพื่อให้ เหมาะสมกับนักเรียนในห้องเรียนของตน ดังนั้น คุณครูสามารถนำแผนการจัดการเรียนรู้ชุดนี้ ไปพัฒนา ต่อยอด สร้างเป็นแผนการจัดการเรียนรู้ใหม่ๆ เพื่อให้เป็นประโยชน์สูงสุดต่อการเรียนรู้ของนักเรียน


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 5 4. ในกรณีที่ต้องการปรับใช้แผนการจัดการเรียนรู้นี้กับหนังสือเรียนชุดอื่นๆ ที่ไม่ใช่ หนังสือเรียนชุด Step Up English ชุดนี้ ในกรณีที่คุณครูใช้หนังสือเรียนชุดอื่นๆ ที่ไม่ใช่ชุด Step Up English ของเรา ท่านสามารถนำ แผนการจัดการเรียนรู้ชุดนี้ไปประยุกต์ใช้ได้ แม้จะไม่ครบขั้นตอน ทำ ไม่ได้ทั้งหมด และเนื้อหาของหนังสือ ไม่ตรงกัน คุณครูก็สามารถนำ เอาเทคนิคการสอนในบางขั้นตอน เข้าไปประยุกต์ใช้ในชั่วโมงการสอนของ ท่าน โดยเลือกขั้นตอนที่จะช่วยให้นักเรียนมีความสุขในการเรียนรู้ สนใจการเรียนมากขึ้น เรียนได้เร็วขึ้น มีสื่อและใบงานช่วยในการสอนตามความเหมาะสม


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 6 แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ Student’s Book ป.6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยที่ ชื่อหน่วย จำ�นวนชั่วโมง 1 Pet Week 23 2 School Concert 25 3 The Island 26 4 Nick’s Sandwich 26 5 A Big Flood 24 6 Christmas Trouble 25 7 Flying Drones 26 8 Art Festival 25 รวม 200 หมายเหตุ จำ นวนบทเรียน กิจกรรมการเรียนรู้ หรือเวลาในการสอน สามารถปรับเปลี่ยนและ ยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 7 แผนก�รจัดก�รเรียนรู้ หน่วยก�รเรียนรู้ Student’s Book กลุ่มส�ระก�รเรียนรู้ภ�ษ�ต่�งประเทศ ชั้นประถมศึกษ�ปีที่ 6 Unit 1 Pet Week (1) จำานวน 5 ชั่วโมง ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้ 1. ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่าง มีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำาไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม 2. ตัวชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.6/2 อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน มาตรฐาน ต 1.1 ป.6/3 เลือก/ระบุประโยค หรือข้อความสั้นๆ ตรงตามภาพ สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมาย ที่อ่าน มาตรฐาน ต 1.1 ป.6/4 บอกใจความสำาคัญและตอบคำาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทานง่ายๆ และเรื่องเล่า มาตรฐาน ต 1.2 ป.6/1 พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล มาตรฐาน ต 2.1 ป.6/3 กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง การเล่านิทาน วันขอบคุณพระเจ้า วันคริสต์มาส วันขึ้นปีใหม่ มาตรฐาน ต 4.1 ป.6/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา ส�ระสำ�คัญ คำาศัพท์ บทสนทนาเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง อธิบายลักษณะและนิสัยของสัตว์เลี้ยง จุดประสงค์ก�รเรียนรู้ 1. นักเรียนอ่านและพูดบทสนทนาเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง อธิบายลักษณะและนิสัยสัตว์เลี้ยงของตนเองได้ 2. นักเรียนสามารถบอกความหมายของคำาศัพท์ในบทสนทนาได้ 3. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงคำาและประโยคตามที่กำาหนดได้ 4. นักเรียนสามารถตอบคำาถามเกี่ยวกับบทสนทนาได้ ส�ระก�รเรียนรู้แกนกล�ง 1. ข้อความ นิทาน และบทกลอน / การใช้พจนานุกรม / หลักการอ่านออกเสียง เช่น การออกเสียงพยัญชนะ ต้นคำาและพยัญชนะท้ายคำา การออกเสียงเน้นหนัก-เบาในคำาและกลุ่มคำา การออกเสียงตามระดับเสียง สูง-ต่ ำาในประโยค การออกเสียงเชื่อมโยง (linking sound) ในข้อความ การออกเสียงบทกลอนตามจังหวะ


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 8 2. ประโยคหรือข้อความ สัญลักษณ์ เครื่องหมาย และความหมายเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่ง แวดล้อม อาหาร เครื่องดื่ม เวลาว่างและนันทนาการ สุขภาพและสวัสดิการ การซื้อ-ขาย และลมฟ้าอากาศ เป็นวงคำศัพท์สะสมประมาณ 1,050 - 1,200 คำ (คำศัพท์ที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม) 3. ประโยค บทสนทนา นิทาน หรือเรื่องเล่า คำถามเกี่ยวกับใจความสำคัญของเรื่อง เช่น ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ทำ ไม เช่น Yes/No Question Wh-Question 4. บทสนทนาที่ใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรกอย่างสุภาพ ประโยค/ ข้อความที่ใช้แนะนำตนเอง เพื่อน และบุคคลใกล้ตัว และสำ นวนการตอบรับ 5. การใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1. ขั้นนำ�เข้าสู่บทเรียน 1. พูดคุยและทักทายกับนักเรียนด้วยการแนะนำชื่อคุณครูผู้สอน คุยกับนักเรียนเพื่อให้นักเรียนคุ้นเคย กันก่อน 2. เปิดเพลง “Ding Dong Bell” ในหนังสือ Student’s Book หน้า 10 ให้นักเรียนฟังและร้องด้วยกัน จนคล่อง แปลความหมายของเนื้อเพลง และคำศัพท์ที่ค่อนข้างยากให้นักเรียนฟัง 3. สนทนากับนักเรียนสั้นๆ เกี่ยวกับตัวละครในเนื้อเพลง โดยใช้คำถามว่า Who...? เช่น - Who was in the well? - Who was the naughty boy? - Who helped the cat out of the well? - Who killed the mice in the barn? 4. ให้นักเรียนแนะนำชื่อของตัวเองให้เพื่อนๆ ทราบด้วยการใช้ประโยค My name is ..... และ My nickname is ..... จนครบทุกคน โดยมีวิธีการคือ คุณครูเปิดเพลง “Ding Dong Bell” ไปเรื่อยๆ ใน ระหว่างนี้ให้นักเรียนเดินไปรอบๆ ห้อง เมื่อคุณครูหยุดเพลง นักเรียนต้องจับคู่กับเพื่อนคนใดคนหนึ่ง แล้วเปลี่ยนกันแนะนำชื่อของตัวเองตามประโยคที่กำ หนดให้ 5. ให้เวลานักเรียนได้แนะนำตัวซึ่งกันและกัน จากนั้น เปิดเพลงต่อไป นักเรียนออกเดินอีกครั้ง พอเพลง หยุด นักเรียนจะต้องเปลี่ยนคู่ใหม่ที่ไม่ซ้ำ เดิม และให้แนะนำตัวเองด้วยวิธีการเดิม 2. ขั้นนำ�เสนอความรู้ 1. สนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องสัตว์เลี้ยง คุณครูแสดงภาพและเล่าเรื่องสัตว์เลี้ยงของตัวเองให้นักเรียน ฟัง เช่น I have a cat. Her name is Ginger. She is very funny. She likes to sleep in the bathroom. เป็นต้น จากนั้นถามนักเรียนว่า บ้านใครเลี้ยงสัตว์อะไรบ้าง มันมีนิสัยอย่างไร โดย ใช้ประโยคคำถาม เช่น - Who has pets at home? - Who has a dog? Who has a cat? - What is your pet like? Funny? Shy? 2. คุณครูแนะนำว่า บทสนทนาในบทนี้ หัวข้อคือ Pet Week หมายถึงสัปดาห์ที่นักเรียนจะนำสัตว์เลี้ยง มาให้เพื่อนๆ ดูที่โรงเรียน ให้นักเรียนฟังเรื่อง “Pet Week” ในหนังสือ Student’s Book หน้า 8 จากแผ่น DVD จากนั้น ให้นักเรียนดูบทสนทนาบนจอ แล้วให้ นักเรียนอ่านตาม 3. สอนคำศัพท์ใหม่ในเรื่อง “Pet Week” ในหนังสือเรียนหน้า 9 โดยนำคำศัพท์ขึ้นจอพร้อมกับภาพ อ่านให้ฟังทีละคำ แล้วให้ นักเรียนอ่านตามจนคล่อง ทดลองชี้คำสลับไปมา ดูว่านักเรียน จดจำคำศัพท์ได้หรือยัง จากนั้น เอาภาพออก ให้เหลือแต่คำ ศัพท์ ชี้ให้นักเรียนอ่านทีละคำอีกครั้ง (หรือใช้คำศัพท์ทำ เป็น บัตรภาพ บัตรคำ เพื่อใช้สอนคำศัพท์ใหม่ในเรื่องก็ได้)


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 9 4. เปิดหนังสือหน้า 8 แล้วให้นักเรียนอ่านบทสนทนาจากในหนังสือ 5. คุณครูถามคำถามกับนักเรียนเกี่ยวกับเนื้อหาในบทสนทนา เพื่อสร้างความเข้าใจ เช่น - What is happening at school this week? --Pet week - Who brings the parrot? --Macy - Which pet is a lucky animal? --The goldfish - What is Toby’s pet? --The alpaca 6. ให้นักเรียนฝึกทักษะการฟัง Listening Skills จากหนังสือเรียนหน้า 11 ใช้กระดาษขาวปิดข้อความ เอาไว้ เปิด DVD ให้นักเรียนฟังเฉพาะเสียง แล้วให้นักเรียนตอบคำถามจากการฟัง จากนั้นเปิดกระดาษ แล้วเช็คดูว่าเข้าใจถูกหรือไม่ 7. เรื่องที่สองให้ทำตามขั้นตอนในลักษณะเดียวกันกับเรื่องแรก 3. ขั้นลงมือเรียนรู้ 1. นักเรียนจับคู่กับเพื่อน ดูตารางในหนังสือเรียนหน้า 9 เติมข้อมูลลงไปให้ครบ แล้วคุยกันว่าจากเรื่อง “Pet Week” ใครนำสัตว์อะไรมาในแต่ละวัน และบอกลักษณะของสัตว์ตัวนั้นให้เพื่อนฟัง โดยใช้ ข้อมูลในตาราง เช่น นักเรียนอาจพูดว่า Student A : On Monday, Macy brings a parrot to class. Her parrot is funny. It eats nuts and fruit. Student B : On Tuesday, Lisa brings a turtle to class. Her turtle is very shy. It lives in water. สลับกันพูดจนครบทุกวัน 2. จากนั้น ให้เลือกวาดภาพสัตว์ที่นักเรียนชอบหรือสนใจจากในเรื่องมา 1 ชนิดลงในสมุดของตัวเอง พร้อมทั้งเขียนลักษณะของสัตว์ตัวนั้น โดยค้น ข้อมูลเพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ต (ดังภาพ) 4. ขั้นสรุปความรู้ 1. แจกใบงาน “My pet is...” ทำ Graphic Organizer (window 5 บาน) เพื่อสรุปความเข้าใจเนื้อหาจากบทสนทนา ให้นักเรียนตัดภาพ แล้วจับคู่ข้อความติดลงในใบงาน เขียนชื่อชนิดของสัตว์ พับตามรอย แล้วติดลงในสมุดของตัวเอง (ดังภาพ) 2. ทำแบบฝึกหัดใน Workbook หน้า 4-6 5. ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 1. ให้นักเรียนถ่ายรูปกับสัตว์เลี้ยงของตัวเอง แล้วส่งภาพมาให้คุณครู 2. ในชั่วโมงเรียน คุณครูแสดงภาพของใครขึ้นจอ ให้นักเรียนเจ้าของภาพ ออกมาพูดถึงสัตว์เลี้ยงของตัวเองสั้นๆ โดยบอกข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ชนิด ของสัตว์ ชื่อ รูปร่าง สี ลักษณะนิสัย ตัวอย่างประโยค This is my ..... , Her/His name is..., He/ She is ..... , He/She likes to ..... เป็นต้น เครื่องมือ - สื่อการเรียนรู้ 1. ใบงาน “My pet is…” 2. DVD ประกอบหนังสือชุด Step Up English ป.6 3. หนังสือเรียนชุด Step Up English : Student’s Book ป.6 4. หนังสือแบบฝึกหัดชุด Step Up English : Workbook ป.6


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 10 การวัดและประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมของนักเรียน 2. ประเมินผลจากคะแนนการทำแบบฝึกหัดของนักเรียน 3. ประเมินผลจากผลงานของนักเรียน (การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความ เหมาะสม บางชั้นเรียนอาจมีการทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน การเขียนตามคำ บอก การทดสอบการ อ่าน ฯลฯ)


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 11 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 1 (1) : My pet is... ตัดภาพและข้อความตามรอยประ แล้วติดลงในใบงาน จากนั้น ติดใบงานลงในสมุดของตัวเอง It is usually friendly. It likes to eat grass. It’s a lucky animal in China. It lives in a fi shbowl. It eats nuts and fruit. It likes to sing. It sings “Cock-a-doodledo!” very loudly. It is very shy. It spends a lot of time in the water.


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 12 แผนก�รจัดก�รเรียนรู้ หน่วยก�รเรียนรู้ Student’s Book กลุ่มส�ระก�รเรียนรู้ภ�ษ�ต่�งประเทศ ชั้นประถมศึกษ�ปีที่ 6 จำานวน 7 ชั่วโมง ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้ 1. ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นำาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำาไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา 2. ตัวชี้วัด มาตรฐาน ต 1.2 ป.6/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว มาตรฐาน ต 1.3 ป.6/1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว มาตรฐาน ต 2.1 ป.6/3 เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ มาตรฐาน ต 4.1 ป.6/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา ส�ระสำ�คัญ 1. เรียนรู้การใช้คำา adjectives ในการอธิบายลักษณะของตัวเองและเพื่อน 2. เรียนรู้การใช้โครงสร้างประโยค be + adjectives 3. เรียนรู้จักการแนะนำาตนเองและผู้อื่น จุดประสงค์ก�รเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายลักษณะนิสัยภายในและลักษณะภายนอกของตนเองและผู้อื่นได้ 2. นักเรียนสามารถใช้ be + adjectives ตามโครงสร้างประโยคได้อย่างถูกต้อง 3. นักเรียนสามารถใช้ข้อมูลแนะนำาตนเองและผู้อื่นได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ส�ระก�รเรียนรู้แกนกล�ง 1. คำาศัพท์ สำานวนภาษา และประโยคที่ใช้ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว 2. ประโยคและข้อความที่ใช้ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำาวัน เพื่อน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล สิ่งต่างๆ จำานวน 1 - 1,000 ลำาดับที่ วัน เดือน ปี ฤดูกาล เวลา กิจกรรมที่ทำา สี ขนาด รูปทรง ตำาแหน่งของสิ่งต่างๆ ทิศทางง่ายๆ สภาพดินฟ้าอากาศ อารมณ์ ความรู้สึก 3. กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง การเล่านิทาน วันขอบคุณพระเจ้า วัน คริสต์มาส วันขึ้นปีใหม่ 4. การใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา Unit 1 Pet Week (2)


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 13 กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1. ขั้นนำ�เข้าสู่บทเรียน 1. ให้นักเรียนเล่นเกม Guess What? แบ่งนักเรียนออกเป็น 2 ทีม (หรือตามความเหมาะสม) 2. ตัดรูปสัตว์จากใบงาน “Guess What? 1” ติดไว้บนกระดาน 9 ภาพ จากนั้น อ่านคำ ทายเกี่ยวกับ ลักษณะของสัตว์ใบงาน “Guess What? 2” เมื่อคุณครูอ่านคำ ทายจบ ให้นักเรียนแข่งกันใช้ไม้ตี แมลงวันไปตบรูปภาพที่เป็นคำตอบบนกระดาน ทีมไหนตอบถูกมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ 2. ขั้นนำ�เสนอความรู้ 1. คุณครูติดภาพบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น นักร้อง นักกีฬา ดาราภาพยนตร์ ไว้บนกระดาน จากนั้นให้นักเรียนช่วย กันคิด adjectives ที่นักเรียนรู้จัก คุณครูเขียนไว้บนกระดาน เช่น tall, handsome, beautiful, black hair คุณครูพูดประโยคที่ใช้คำ นั้น และแนะนำ นักเรียนให้นักเรียนรู้ว่า คำ adjective ใช้บรรยายบุคคล เช่น She is tall and beautiful. She has long hair. She is young. เป็นต้น 2. สอนคำศัพท์ใหม่ คือ “People Adjectives” ที่ใช้บรรยายนิสัยของบุคคล จากหนังสือ Student’s Book หน้า 12 (ล่าง) โดยคุณครูเปิด DVD ให้นักเรียนฟัง และอ่านคำศัพท์ ทวนหลายๆ รอบจนเริ่มคุ้นเคย 3. สอน Grammar โดยคุณครูเตรียมแถบประโยค และบัตร คำศัพท์ very, really, and ติดบนกระดาน หรือเปิด DVD ให้นักเรียนดู เพื่อสอนเรื่อง “Be + Adjectives” และ การใช้ “and” จากหนังสือ Student’s Book หน้า 13 คุณครูอธิบายว่า เราจะใช้ very, really เมื่อต้องการเน้น ว่า มาก หรือจริงๆ และเราจะใช้ and เมื่อต้องการเชื่อม adjective สองคำ เข้าด้วยกัน 4. คุณครูทบทวนเนื้อหาที่เรียนไปกับนักเรียน โดยสลับกันพูดข้อความ เช่น T : He always tells the best jokes. S : He is very funny. หรือ T : You like to help everyone. S : You are very nice. เป็นต้น 5. ให้นักเรียนฟัง DVD หน้า 14 คุณครูถามนักเรียนว่า เราสามารถบรรยายบุคคลได้อย่างไรบ้าง outside คืออะไร และ inside คืออะไร นักเรียนช่วยกันสรุปว่า เราสามารถพูดถึงรูปร่างหน้าตาภายนอก และ นิสัยที่อยู่ภายใน 3. ขั้นลงมือเรียนรู้ 1. แจกใบงาน “People Adjectives Puzzle” ให้นักเรียน ทุกคน ตัดใบงานตามรอยประเพื่อทำ เป็นจิ๊กซอว์ 2. เมื่อตัดเสร็จแล้ว ให้คละใบงานรวมกันไว้บนโต๊ะ เมื่อคุณครู ให้สัญญาณเริ่มทำกิจกรรม นักเรียนทุกคนจะต้องแข่งขันต่อ คำศัพท์ รูปภาพ และข้อความที่เป็นชุดเดียวกันให้ครบทุกใบ (ดังภาพ) 3. ใครเสร็จก่อนให้ตะโกนคำว่า Finish! หรือเมื่อคุณครูให้สัญญาณ ว่าหมดเวลา ใครต่อชุดคำศัพท์ได้มากที่สุดและถูกต้องจะเป็น ผู้ชนะ 4. คุณครูตัดใบงาน “People Adjectives” เตรียมไว้ แจกให้นักเรียนคนละ 1 set แต่ละคนจะได้ 6 คำ


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 14 5. รอบที่ 1 ให้นักเรียนแต่ละคน เลือกคำ 1 คำ คุณครูเขียนรูปประโยคไกด์ไว้บนกระดานว่า I am very/ really... ให้นักเรียนพูดทีละคน เช่น Student A : I am very funny. Student B : I am very polite. ไปเรื่อยๆ จนครบ 6. รอบที่ 2 ให้นักเรียนจับกลุ่ม 4 คน คุณครูเขียนประโยคไกด์ไว้บนกระดานว่า He/She is ... and ... ให้ สมาชิกในกลุ่มแต่ละคนถือคำศัพท์ไว้คนละ 2 คำ แล้วให้เพื่อนๆ ช่วยกันพูดประโยค โดยใช้คำว่า and Student A ถือคำ�ว่า nice, funny เพื่อนๆ : He is nice and funny. Student B ถือคำ�ว่า polite, quiet เพื่อนๆ : She is polite and quiet. 7. ให้คุณครูแสดงโมเดลของประโยคในหนังสือ Student’s Book หน้า 12 ไว้ที่บนจอ เพราะอาจมีนักเรียน ที่ยังจำ โมเดลของประโยคการพูดไม่ได้ 4. ขั้นสรุปความรู้ 1. คุณครูแจกใบงาน “Describing People” ให้นักเรียนคนละ 1 ใบ 2. ให้นักเรียนจับคู่กัน เปลี่ยนกันวาดรูปเพื่อน แล้วเขียนอธิบายลักษณะ ภายนอกและลักษณะภายในของเพื่อนตามที่เราคิดลงในใบงาน (ดังภาพ) 3. เสร็จแล้ว นำ ใบงานที่ทำ เสร็จแล้วอ่านให้เพื่อนฟัง จากนั้น นำ ใบ งานติดลงในสมุด 4. นักเรียนทำแบบฝึกหัดใน Workbook หน้า 7-9 5. ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 1. Scan QR code หรือถ่ายเอกสารใบงาน “My Selfie” ในหนังสือ Student’s Book หน้า 15 ฝึก Let’s Speak English เพื่อแนะนำ ตัวเองกับเพื่อน 2. นักเรียนจับคู่กับเพื่อน เปลี่ยนกันแสดงเป็น Tara และแนะนำตัวเองโดยใช้ข้อมูลจากในใบงาน 3. จากนั้น ให้เขียนข้อมูลจริงๆ ของตัวเองลงในใบงานอีกครั้งหนึ่ง ออกมาแนะนำตัวเองให้เพื่อนฟังหน้า ชั้นเรียนจนครบทุกคน เครื่องมือ - สื่อการเรียนรู้ 1. ไม้ตีแมลงวัน 2. ใบงาน “Guess What? 1-2” 3. ใบงาน “People Adjectives Puzzle” 4. ใบงาน “People Adjectives” 5. ใบงาน “Describing People” 6. ใบงาน “My Selfie” (แสกนจาก QR code ในหนังสือ Student’s Book หน้า 15) 7. DVD ประกอบหนังสือชุด Step Up English ป.6 8. หนังสือเรียนชุด Step Up English : Student’s Book ป.6 9. หนังสือแบบฝึกหัดชุด Step Up English : Workbook ป.6


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 15 การวัดและประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมของนักเรียน 2. ประเมินผลจากคะแนนการทำแบบฝึกหัดของนักเรียน 3. ประเมินผลจากผลงานของนักเรียน (การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความ เหมาะสม บางชั้นเรียนอาจมีการทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน การเขียนตามคำ บอก การทดสอบการ อ่าน ฯลฯ)


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 16 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 1 (2) : Guess What? 1 ตัดภาพตามรอยประ ใช้ติดบนกระดานหน้าชั้นเรียน


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 17 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 1 (2) : Guess What? 2 คำาทายสำาหรับคุณครูใช้ใบ้คำาให้นักเรียน ● I live in the ocean ● I have sharp teeth ● I have a green body ● I eat insects ● I have two wings but I can’t fl y ● I live in Antarctica ● I’m very slow ● I have a shell on my back ● I’m the King of the Jungle ● Everyone is afraid of me ● I am green ● I have a long body ● I am dangerous ● I have redbrown fur ● I have four legs ● I live in the forest ● I am brown ● I love honey ● I stay in a cave in winter ● I can catch mice ● I have soft fur ● People keep me as a pet


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 18 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 1 (2) : People Adjectives Puzzle ตัดใบงานตามรอยประ funny clever quiet polite nice friendly Mr Dan likes to make people laugh. He is funny. Nicky is learning English. She thinks it’s easy! She is clever. Sally doesn’t talk a lot. She is quiet. Jane likes to say thank you. She is polite. My uncle drives me home when Dad is busy. My uncle is nice. Joe and Ted make friends easily. They are friendly.


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 19 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 1 (2) : People Adjectives ตัดใบงานตามรอยประ แจกให้นักเรียนคนละ 1 ภาพ (นับจำานวนภาพกับจำานวนนักเรียน เพื่อถ่ายเอกสารให้ครบ ตามจำานวนนักเรียนที่มี) funny clever nice quiet friendly polite funny clever nice quiet friendly polite funny clever nice quiet friendly polite funny clever nice quiet friendly polite


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 20 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 1 (2) : Describing People วาดรูปเพื่อน จากนั้น เขียนอธิบายลักษณะภายนอกและลักษณะภายในของเพื่อนตามที่เราคิด OUTSIDE INSIDE draw


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 21 แผนก�รจัดก�รเรียนรู้ หน่วยก�รเรียนรู้ Student’s Book กลุ่มส�ระก�รเรียนรู้ภ�ษ�ต่�งประเทศ ชั้นประถมศึกษ�ปีที่ 6 จำานวน 6 ชั่วโมง ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้ 1. ม�ตรฐ�น มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่าง มีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นำาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำาไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ 2. ตัวชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.6/2 อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน มาตรฐาน ต 1.1 ป.6/4 บอกใจความสำาคัญและตอบคำาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทานง่ายๆ และเรื่องเล่า มาตรฐาน ต 1.2 ป.6/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว มาตรฐาน ต 1.3 ป.6/1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว มาตรฐาน ต 2.1 ป.6/3 เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ ส�ระสำ�คัญ เรียนรู้จักหลักการของการใช้คำา Plural Nouns และรู้จักนำาคำาที่กำาหนดให้มาใช้ในการเขียน จุดประสงค์ก�รเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงคำา Plural Nouns ได้อย่างถูกต้อง 2. นักเรียนสามารถใช้คำา Plural Nouns ตามหลักการที่กำาหนดไว้ได้อย่างถูกต้อง 3. นักเรียนสามารถนำาคำาที่กำาหนดให้มาใช้ในการเขียนเรื่อง เพื่อเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านการเขียนของ ตัวเองได้ ส�ระก�รเรียนรู้แกนกล�ง 1. ข้อความ นิทาน และบทกลอน / การใช้พจนานุกรม / หลักการอ่านออกเสียง เช่น การออกเสียงพยัญชนะ ต้นคำาและพยัญชนะท้ายคำา การออกเสียงเน้นหนัก-เบาในคำาและกลุ่มคำา การออกเสียงตามระดับเสียง สูง-ต่ ำาในประโยค การออกเสียงเชื่อมโยง (linking sound) ในข้อความ การออกเสียงบทกลอนตามจังหวะ 2. ประโยค บทสนทนา นิทาน หรือเรื่องเล่า คำาถามเกี่ยวกับใจความสำาคัญของเรื่อง เช่น ใคร ทำาอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ทำาไม 3. คำาศัพท์ สำานวนภาษา และประโยคที่ใช้ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว Unit 1 Pet Week (3)


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 22 4. ประโยคและข้อความที่ใช้ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน เพื่อน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล สิ่งต่างๆ จำ นวน 1 - 1,000 ลำดับที่ วัน เดือน ปี ฤดูกาล เวลา กิจกรรมที่ทำ สี ขนาด รูปทรง ตำแหน่งของสิ่งต่างๆ ทิศทางง่ายๆ สภาพดินฟ้าอากาศ อารมณ์ ความรู้สึก 5. กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง การเล่านิทาน วันขอบคุณพระเจ้า วัน คริสต์มาส วันขึ้นปีใหม่ กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1. ขั้นนำ�เข้าสู่บทเรียน 1. ให้นักเรียนเล่นเกม “Can you remember?” โดยใช้คำศัพท์หมวดเกี่ยวกับชื่อสัตว์ เช่น Student A : พูดคำ�ว่า zebra Student B : ให้พูดว่า zebra parrot Student C : ให้พูดว่า zebra parrot penguin Student D : ให้พูดว่า zebra parrot penguin moose Student E : ให้พูดว่า zebra parrot penguin moose lion 2. นักเรียนคนต่อๆ ไป ต้องจำคำศัพท์ก่อนหน้าที่เพื่อนพูดมาทั้งหมด แล้วคิดคำศัพท์ของตัวเองที่ไม่ซ้ำกับของเพื่อน หากใครจำ ไม่ได้ หรือจำสลับคำ หรือคิดนานเกินเวลาที่คุณครูกำ หนด ให้ข้ามไปหาคน ถัดไปก่อน แล้วค่อยเวียนมาใหม่ (กำ หนดเวลาการเล่นประมาณ 5 นาที) 2. ขั้นนำ�เสนอความรู้ 1. คุณครูนำรูปเม่นแคระ จาก Student’s Book หน้า 18 ติดบนกระดาน หรือแสดงบนจอ ลากเส้นชี้ที่ส่วน ต่างๆ ของเม่น บนกระดาน ได้แก่ หู ตา ฟัน เท้า หนาม คุณครูถามนักเรียนว่า มีส่วนไหนของตัวเม่นที่ มีมากกว่า 1 บ้าง และแนะนำ นักเรียนว่า ถ้ามีมากกว่า 1 เราจะต้องใช้คำ พหูพจน์ หรือ plural คุณครู เขียนคำศัพท์ plural บนกระดาน ได้แก่ ears, eyes, spikes, teeth, feet ให้นักเรียนอ่านพร้อมกัน 2. สอน Grammar กฎการเปลี่ยนคำ เอกพจน์เป็นพหูพจน์ ในหนังสือ Student’s Book หน้า 16-17 “Plural Nouns” โดยให้นักเรียนดู DVD แล้วอ่านตามทีละคำ จนนักเรียนเริ่มเข้าใจประเภทของ plural 3. ขั้นลงมือเรียนรู้ 1. คุณครูแจกใบงาน “Plural Nouns 1-2” ให้นักเรียนเขียน คำศัพท์ที่อยู่ในใบงาน ให้อยู่ในรูปของ Plural Nouns ลง ในช่องว่าง 2. ตัดใบงานตามรอยประ ติดรูปโหลในสมุดของตัวเอง โดยทา กาวเฉพาะขอบของรูป เพื่อให้โหลมีลักษณะใส่ของด้านใน ได้ จากนั้น ให้พิจารณาคำศัพท์แต่ละคำ จัดหมวดหมู่ใส่ใน โหลแต่ละโหลตามหลักของการเขียนในรูปพหูพจน์ (ดังภาพ) 3. เฉลยคำตอบพร้อมกันเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของคำศัพท์ ที่นักเรียนแยกใส่ลงในแต่ละขวดโหล หากจัดใส่ขวดโหลผิดหมวดหมู่ ให้ย้ายไปใส่กล่องใหม่ให้ถูกต้อง 4. ฝึกให้นักเรียนรู้จักสังเกตคำ plural ในเรื่องที่อ่าน ให้นักเรียนอ่านเนื้อเรื่อง “Hedgehog” ในหนังสือ Student’s Book หน้า 18 จากนั้น ใช้ปากกาเน้นข้อความ ไฮไลต์คำ ที่เป็น Plural Nouns ในเนื้อเรื่อง จนครบ นักเรียนอ่านให้คุณครูฟังพร้อมกันว่ามี plural กี่คำ มีคำว่าอะไรบ้าง 5. นักเรียนทำแบบฝึกหัดใน Student’s Book หน้า 18-19 และใน Workbook หน้า 10-14


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 23 4. ขั้นสรุปความรู้ 1. แจกใบงาน “Rules for Plural Nouns” ให้นักเรียนทุกคน ตัด ใบงานติดลงในสมุดตัวเอง ทากาวตามตำแหน่งที่กำ หนดให้ เพื่อให้ มีลักษณะเปิดปิดได้ (ดังภาพ) 2. นักเรียนเขียนกฎการเปลี่ยนคำ นามให้เป็น Plural ลงในตัว S จาก ความจำ ถ้าจำ ไม่ได้ ให้ดูหนังสือ Student’s Book หน้า 16-17 ประกอบได้ (ดังภาพ) 5. ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 1. แจกใบงาน “Label and Write” ให้นักเรียนเลือกสัตว์ที่ตัวเอง ชอบมา 1 ตัว วาดภาพแล้วขีดเส้นเขียนคำ บรรยาย (label) ส่วน ต่างๆ ของสัตว์ตัวนั้น โดยใช้คำ plural nouns (ดังภาพ) จากนั้น นำคำศัพท์ไปเขียนบรรยายเป็นประโยค 2. ติดลงในสมุดของตัวเอง แล้วนำ มาอ่านให้เพื่อนฟังหน้าชั้นเรียน เครื่องมือ - สื่อการเรียนรู้ 1. ใบงาน “Plural Nouns 1-2” 2. ใบงาน “Rules for Plural Nouns” 3. ใบงาน “Label and Write” 4. DVD ประกอบหนังสือชุด Step Up English ป.6 5. หนังสือเรียนชุด Step Up English : Student’s Book ป.6 6. หนังสือแบบฝึกหัดชุด Step Up English : Workbook ป.6 การวัดและประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมของนักเรียน 2. ประเมินผลจากคะแนนการทำแบบฝึกหัดของนักเรียน 3. ประเมินผลจากผลงานของนักเรียน (การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความ เหมาะสม บางชั้นเรียนอาจมีการทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน การเขียนตามคำ บอก การทดสอบการ อ่าน ฯลฯ)


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 24 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 1 (3) : Plural Nouns 1 เปลี่ยนคำาศัพท์ในใบงานให้เป็นคำา Plural Nouns จากนั้น ตัดใบงานตามรอยประ glass ➜ ---------------------------- dish ➜ ---------------------------- wolf ➜ ---------------------------- leaf ➜ ---------------------------- baby ➜ ---------------------------- puppy ➜ ---------------------------- day ➜ ---------------------------- key ➜ ---------------------------- foot ➜ ---------------------------- mouse ➜ ---------------------------- fox ➜ ---------------------------- watch ➜ ---------------------------- scarf ➜ ---------------------------- loaf ➜ ---------------------------- story ➜ ---------------------------- lady ➜ ---------------------------- toy ➜ ---------------------------- donkey ➜ ---------------------------- tooth ➜ ---------------------------- woman ➜ ---------------------------- sheep ➜ ---------------------------- fi sh ➜ ---------------------------- deer ➜ ---------------------------- moose ➜ ----------------------------


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 25 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 1 (3) : Plural Nouns 2 ตัดใบงานตามรอยประ ติดลงในสมุด (ทากาวเฉพาะขอบ เพื่อให้มีช่องว่าง) add -es change spelling no change f, fe v+es y i+es add -s


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 26 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 1 (3) : Rules for Plural Nouns ตัดใบงานตามรอยประ ทากาวตามตำาแหน่งที่กำาหนดให้ แล้วติดลงในสมุดของตัวเอง ทากาว ดานหลัง ทากาว ดานหลัง add -es f, fe v+es y i+es ทากาว ดานหลัง ทากาว ดานหลัง ทากาว ดานหลัง add -s change spelling no change ทากาว ดานหลัง


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 27 ---------------------------------------------- ---------------------------------------------- ---------------------------------------------- ---------------------------------------------- ---------------------------------------------- ---------------------------------------------- ---------------------------------------------- ---------------------------------------------- ---------------------------------------------- ---------------------------------------------- ---------------------------------------------- ---------------------------------------------- Topic: --------------------------------------------------------------------------------- 3 fact: ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 1 (3) : Label and Write วาดภาพสัตว์ที่สนใจ เขียนลักษณะเด่น และเขียนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสัตว์ที่วาดลงในใบงาน


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 28 แผนก�รจัดก�รเรียนรู้ หน่วยก�รเรียนรู้ Student’s Book กลุ่มส�ระก�รเรียนรู้ภ�ษ�ต่�งประเทศ ชั้นประถมศึกษ�ปีที่ 6 จำานวน 5 ชั่วโมง ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้ 1. ม�ตรฐ�น มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่าง มีเหตุผล มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำาไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ 2. ตัวชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.6/2 อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน มาตรฐาน ต 1.1 ป.6/4 บอกใจความสำาคัญและตอบคำาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทานง่ายๆ และเรื่องเล่า มาตรฐาน ต 2.1 ป.6/3 เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ ส�ระสำ�คัญ อ่านออกเสียงประโยคและข้อความ บอกใจความสำาคัญและตอบคำาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนาและ เรื่องสั้น จุดประสงค์ก�รเรียนรู้ 1. นักเรียนอ่านและเขียนตอบคำาถามเกี่ยวกับเรื่องสั้นได้ถูกต้อง 2. นักเรียนสามารถเรียงลำาดับเหตุการณ์เรื่องที่อ่านได้ 3. นักเรียนสามารถจับใจความสำาคัญของเรื่องที่อ่านได้ ส�ระก�รเรียนรู้แกนกล�ง 1. ข้อความ นิทาน และบทกลอน / การใช้พจนานุกรม / หลักการอ่านออกเสียง เช่น การออกเสียงพยัญชนะ ต้นคำาและพยัญชนะท้ายคำา การออกเสียงเน้นหนัก-เบาในคำาและกลุ่มคำา การออกเสียงตามระดับเสียง สูง-ต่ ำาในประโยค การออกเสียงเชื่อมโยง (linking sound) ในข้อความ การออกเสียงบทกลอนตามจังหวะ 2. ประโยค บทสนทนา นิทาน หรือเรื่องเล่า คำาถามเกี่ยวกับใจความสำาคัญของเรื่อง เช่น ใคร ทำาอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ทำาไม 3. กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง การเล่านิทาน วันขอบคุณพระเจ้า วัน คริสต์มาส วันขึ้นปีใหม่ กระบวนก�รจัดก�รเรียนรู้ 1. ขั้นนำ�เข้�สู่บทเรียน 1. ให้นักเรียนทำาโยคะในท่าต่างๆ โดยใช้ภาพจากใบงาน “Yoga 1-2” แสดงให้ดูบนจอทีละภาพ เพื่อให้ นักเรียนทำาตาม ให้ทำาแต่ละท่าค้างไว้ โดยนับ 1-10 (หรือตามสมควร) 2. กิจกรรมนี้ควรทำาไม่เกิน 10 นาที Unit 1 Pet Week (4)


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 29 2. ขั้นนำ�เสนอความรู้ 1. สอนคำศัพท์ใหม่ในเรื่อง “Dr Dolittle” ในหนังสือเรียนหน้า 22 โดยนำ คำ ศัพท์ขึ้นจอพร้อมกับภาพ อ่านให้ฟังทีละคำ แล้วให้นักเรียนอ่านตามจนคล่อง ทดลองชี้คำสลับไปมา ดูว่า นักเรียนจดจำคำศัพท์ได้หรือยัง จากนั้น เอาภาพออก ให้เหลือ แต่คำศัพท์ ชี้ให้นักเรียนอ่านทีละคำอีกครั้ง (หรือใช้คำศัพท์ ทำ เป็นบัตรภาพ บัตรคำ เพื่อใช้สอนคำศัพท์ใหม่ในเรื่องก็ได้) 2. คุณครูอ่านเรื่อง “Dr Dolittle” ในหนังสือ Student’s Book หน้า 20-21 ให้นักเรียนฟัง (เปิด DVD ค้างไว้บนจอ) แล้วให้นักเรียนอ่านตาม 3. เปิดเสียง DVD เพื่อให้นักเรียนฟังการออกเสียง และอ่านพร้อมกันจนคล่อง 4. หลังจากอ่านจบ คุณครูชวนนักเรียนสนทนา ด้วยคำถามปลายปิดและปลายเปิด โดยคุณครูใช้คำถาม ต่อไปนี้ ถามนักเรียนทั้งห้อง ให้นักเรียนยกมือตอบและอธิบายคำตอบของตัวเองสั้นๆ นักเรียนอาจ ตอบเป็นภาษาไทยบ้างก็ได้ T: Do you like the story? นักเรียนชอบเรื่องนี้ไหม T: Who is your favorite character? ตัวละครที่นักเรียนชอบคือใคร T: Does the story have a happy ending? เรื่องจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งหรือไม่ อย่างไร 3. ขั้นลงมือเรียนรู้ 1. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน แจกใบงาน เรื่อง “Dr Dolittle 1-2” ให้นักเรียนตัดตาม รอยประ คละเนื้อเรื่องที่ตัดเรียบร้อยแล้วไว้กลางกลุ่ม 2. ให้นักเรียนช่วยกันเรียงลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมเขียนตัวเลขเพื่อแสดงลำดับเหตุการณ์ กำกับไว้ด้วย (คุณครูอาจกำ หนดเวลาให้ทำกิจกรรม เพื่อควบคุมไม่ให้นักเรียนเล่นกันในขณะที่ทำ กิจกรรม) 3. เมื่อนักเรียนเรียงเสร็จแล้ว สนทนากับนักเรียนเพื่อเฉลยพร้อมกันทั้งห้องว่าเหตุการณ์ไหนมาก่อนหรือ หลังอย่างไร 4. คุณครูแจกกระดาษ A3 ให้กลุ่มละ 1 แผ่น นักเรียนช่วยกันติดเรื่องราวตามลำดับเหตุการณ์ลงใน กระดาษ A3 (ดังภาพ) 4. ขั้นสรุปความรู้ 1. จับคู่กับเพื่อน เปลี่ยนกันอ่านเนื้อเรื่อง “Dr Dolittle” ให้เพื่อน ฟังคนละ 1 paragraph เมื่ออ่านจบให้แปลเป็นภาษาไทยสั้นๆ ด้วยภาษาของนักเรียนเองให้เพื่อนฟัง 2. สลับกันอ่านและแปลจนจบเรื่อง 3. ทำ แบบฝึกหัดใน Student’s Book หน้า 22-23 และใน Workbook หน้า 15-17 5. ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 1. ให้นักเรียนดูภาพยนตร์เรื่อง Dolittle (มีอยู่หลายเวอร์ชั่น คุณครู สามารถเลือกอันใดอันหนึ่งก็ได้) 2. หลังดูจบ ให้นักเรียนเปรียบเทียบเรื่องราวในภาพยนตร์ กับ เรื่องที่อ่านในหนังสือ ว่าเหมืิอนหรือต่างกันอย่างไร พูดคุย brainstorm กับเพื่อนในกลุ่ม แล้วเขียนสรุปลงในกระดาษ


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 30 เครื่องมือ - สื่อการเรียนรู้ 1. ใบงาน “Yoga 1-2” ใช้สำ หรับขึ้นจอให้นักเรียนทำกิจกรรม 2. ใบงาน “Dr Dolittle 1-2” 3. DVD ประกอบหนังสือชุด Step Up English ป.6 4. หนังสือเรียนชุด Step Up English : Student’s Book ป.6 5. หนังสือแบบฝึกหัดชุด Step Up English : Workbook ป.6 การวัดและประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมของนักเรียน 2. ประเมินผลจากคะแนนการทำแบบฝึกหัดของนักเรียน 3. ประเมินผลจากผลงานของนักเรียน (การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความ เหมาะสม บางชั้นเรียนอาจมีการทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน การเขียนตามคำ บอก การทดสอบการ อ่าน ฯลฯ)


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 31 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 1 (4) : Yoga 1 นำาภาพแต่ละท่าให้นักเรียนดูบนจอ หรือตัดตามรอยประทำาเป็นการ์ดเพื่อให้นักเรียนดูก็ได้ ·‹ÒµŒ¹äÁŒ ·‹Ò¾ÃШѹ·ÃàÊÕéÂÇ ·‹Ò¹¡ºÔ¹ ·‹ÒáÁÇ


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 32 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 1 (4) : Yoga 2 นำาภาพแต่ละท่าให้นักเรียนดูบนจอ หรือตัดตามรอยประทำาเป็นการ์ดเพื่อให้นักเรียนดูก็ได้ ·‹Ò¼ÕàÊ×éÍ ·‹ÒÊعѢÂ×´µÑÇ ·‹ÒÂ×¹¡ŒÁµÑÇ ·‹ÒÊعѢ¡ŒÁµÑÇ


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 33 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 1 (4) : Dr Dolittle 1 ตัดใบงานตามรอยประ แล้วนำาไปเรียงตามลำาดับเหตุการณ์ But his patients weren’t so happy. An old lady found a hedgehog sleeping on the sofa and never came again. Dr Dolittle’s sister, Sarah, said to him, “This house is so dirty. Your patients will not come to see you anymore, and we will be poor!” Dr Dolittle had many animals in his house. Can you imagine rabbits in your kitchen, mice in your piano, and a squirrel in your wardrobe? Well, Dr Dolittle had all of these, and he was very happy about that! Sarah was right. His patients stopped coming, and Dr Dolittle had no money to buy food for the animals. But his friend had an idea, “If you like animals, why don’t you become an animal doctor?” Dr Dolittle


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 34 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 1 (4) : Dr Dolittle 2 ตัดใบงานตามรอยประ แล้วนำาไปเรียงตามลำาดับเหตุการณ์ A long time ago, there was a man called Dr Dolittle. He was a people’s doctor in a town called Puddleby. He was a very clever and kind man. Animals loved to follow him around the town. His parrot, Polynesia, said, “I can teach you the animals’ language. And you can talk to all of them.” Dr Dolittle was excited. He started learning. In no time, he could speak the animals’ language very well. He was ready to be an animal doctor. People started to bring their animals to Dr Dolittle. They brought dogs, cows, sheep, and horses. One horse was very happy to meet Dr Dolittle. The horse said, “I’m so glad to fi nd you, Doctor. I need a pair of eyeglasses. I can’t see very well.” A few years later, Dr Dolittle became a very famous animal doctor.


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 35 แผนก�รจัดก�รเรียนรู้ หน่วยก�รเรียนรู้ Student’s Book กลุ่มส�ระก�รเรียนรู้ภ�ษ�ต่�งประเทศ ชั้นประถมศึกษ�ปีที่ 6 Unit 2 School Concert (1) ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้ 1. ม�ตรฐ�น มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่าง มีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นำาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำาไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ 2. ตัวชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.6/2 อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน มาตรฐาน ต 1.1 ป.6/4 บอกใจความสำาคัญและตอบคำาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทานง่ายๆ และเรื่องเล่า มาตรฐาน ต 1.2 ป.6/1 พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล มาตรฐาน ต 1.3 ป.6/2 เขียนภาพ แผนผัง แผนภูมิ และตารางแสดงข้อมูลต่างๆ ที่ฟังหรืออ่าน มาตรฐาน ต 2.1 ป.6/1 ใช้ถ้อยคำา น้ำาเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา มาตรฐาน ต 2.1 ป.6/3 เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ มาตรฐาน ต 4.1 ป.6/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา มาตรฐาน ต 4.2 ป.6/1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและรวบรวมข้อมูลต่างๆ ส�ระสำ�คัญ เรียนรู้คำาศัพท์ บทสนทนาเกี่ยวกับเหตุการณ์ในงานคอนเสิร์ต จุดประสงค์ก�รเรียนรู้ 1. นักเรียนอ่านและพูดบทสนทนาเกี่ยวกับงานคอนเสิร์ต และการนัดหมายได้ 2. นักเรียนสามารถบอกความหมายของคำาศัพท์ในบทสนทนาได้ 3. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงคำาและประโยคตามที่กำาหนดได้ 4. นักเรียนสามารถตอบคำาถามเกี่ยวกับบทสนทนาได้ จำานวน 5 ชั่วโมง


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 36 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. ข้อความ นิทาน และบทกลอน / การใช้พจนานุกรม / หลักการอ่านออกเสียง เช่น การออกเสียงพยัญชนะ ต้นคำและพยัญชนะท้ายคำ การออกเสียงเน้นหนัก-เบาในคำและกลุ่มคำ การออกเสียงตามระดับเสียง สูง-ต่ ำ ในประโยค การออกเสียงเชื่อมโยง (linking sound) ในข้อความ การออกเสียงบทกลอนตามจังหวะ 2. ประโยค บทสนทนา นิทาน หรือเรื่องเล่า คำถามเกี่ยวกับใจความสำคัญของเรื่อง เช่น ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ทำ ไม 3. บทสนทนาที่ใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรกอย่างสุภาพ ประโยค/ ข้อความที่ใช้แนะนำตนเอง เพื่อน และบุคคลใกล้ตัว และสำ นวนการตอบรับ 4. การใช้ถ้อยคำ น้ำ เสียง และกิริยาท่าทางตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เช่น การ ขอบคุณ ขอโทษ การใช้สีหน้าท่าทางประกอบการพูดขณะแนะนำตนเอง การสัมผัสมือ การโบกมือ การ แสดงความรู้สึกชอบ/ไม่ชอบ การกล่าวอวยพร การแสดงอาการตอบรับหรือปฏิเสธ 5. กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง การเล่านิทาน วันขอบคุณพระเจ้า วัน คริสต์มาส วันขึ้นปีใหม่ 6. การใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา 7. การใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและการรวบรวมข้อมูลต่างๆ กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1. ขั้นนำ�เข้าสู่บทเรียน 1. เปิดเพลง “Cock-a-Doodle-Do” ในหนังสือ Student’s Book หน้า 26 ให้นักเรียนฟังและร้อง ด้วยกันจนคล่อง 2. นักเรียนเคลื่อนไหวประกอบบทเพลง โดยใช้ท่าทางตามความเหมาะสม แปลเนื้อเพลงและคำศัพท์ที่ ค่อนข้างยากให้นักเรียนฟัง 3. สนทนากับนักเรียนสั้นๆ เกี่ยวกับเนื้อเพลง โดยใช้คำถาม เช่น - Who said “Cock-a-doodle-do”? - What does a rooster sound like in your language? - What musical instrument do you play? - Did you enjoy the song? 2. ขั้นนำ�เสนอความรู้ 1. สนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับงานคอนเสิร์ตต่างๆ ถามว่าใครเคยไปงานคอนเสิร์ตอะไรมาบ้าง ลักษณะ คอนเสิร์ตนั้นเป็นอย่างไร 2. คุณครูอ่านบทสนทนาเรื่อง “School Concert” ในหนังสือ Student’s Book หน้า 24 ให้นักเรียน ฟัง โดยเปิด DVD ให้นักเรียนดูบทสนทนาบนจอ แล้วให้นักเรียนอ่านตาม แปลเนื้อเรื่องให้นักเรียนฟัง เพื่อช่วยให้นักเรียนมองเห็นภาพ และเข้าใจมากขึ้น 3. เปิดเสียง DVD บนจอให้นักเรียนฟังการออกเสียง แล้วให้นักเรียนฝึกออกเสียงตามอีกครั้ง 4. คุณครูแจกใบงาน “True or False Sticks” และไม้ไอศกรีมให้นักเรียนคนละ 2 อัน ตัดตามรอย ประ ระบายสี และนำ ไปติดกับไม้ไอศกรีม ให้เหลือด้ามจับไว้ (ดังภาพ) เมื่อทำ เสร็จแล้ว ใช้ในการตอบ คำถามในขั้นตอนถัดไปจากนี้ (เก็บไว้นำ ไปใช้ในกิจกรรมถามตอบ True or False ในชั่วโมงอื่นด้วย) 5. พูดข้อความให้นักเรียนฟัง นักเรียนพิจารณาว่าข้อความที่คุณครูพูดเป็นความจริงตาม conversation หรือไม่ เช่น - The concert was in the school auditorium. (true) - The concert was in the park. (false) - The students had to buy concert tickets. (true) - Toby had a stomachache. (true)


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 37 - Miss Patty was the special guest. (true) - Jane played the drums. (false) เป็นต้น 6. หากข้อความใดเป็นจริง ให้นักเรียนยกไม้ไอศกรีมเครื่องหมาย TRUE ✓ ขึ้นมา หากข้อความใดไม่จริง ให้ยกไม้ไอศกรีม FALSE ✕ ขึ้นมา พร้อมทั้ง พูดว่า True หรือ False 5. สอนคำศัพท์ใหม่ในเรื่อง “School Concert” ในหนังสือเรียน หน้า 25 โดยนำคำศัพท์ขึ้นจอพร้อมกับภาพ อ่านให้ฟังทีละคำ แล้ว ให้นักเรียนอ่านตามจนคล่อง ทดลองชี้คำสลับไปมา ดูว่านักเรียน จดจำคำศัพท์ได้หรือยัง จากนั้น เอาภาพออก ให้เหลือแต่ คำศัพท์ ชี้ให้นักเรียนอ่านทีละคำอีกครั้ง (หรือใช้คำศัพท์ ทำ เป็นบัตรภาพ บัตรคำ ติดบนกระดาน เพื่อใช้สอนคำ ศัพท์ใหม่ในเรื่องก็ได้) 6. ให้นักเรียนฝึกทักษะการฟัง Listening Skills ในหนังสือ เรียนหน้า 27 ให้นักเรียนใช้กระดาษปิดข้อความเอาไว้ ฟังเสียงจาก DVD หรือครูอ่านให้ฟัง แล้วให้นักเรียนตอบ คำถาม จากนั้นเปิดกระดาษและตรวจคำตอบ 7. เรื่องที่สองให้ทำตามขั้นตอนในลักษณะเดียวกันกับเรื่องแรก 3. ขั้นลงมือเรียนรู้ 1. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน แจกใบงาน “Who Said What? 1-3” ให้นักเรียนช่วยกันตัดตามรอยประ 2. ให้นักเรียนดูภาพ แล้วเขียนบทสนทนาในเรื่องลงไปในภาพที่ได้ 3. เมื่อเขียนเสร็จแล้ว นำ ไปเรียงเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ 4. เมื่อเรียงเสร็จแล้ว เขียนตัวเลข 1-8 กำกับไว้ในภาพ (ดังภาพ) ทุก กลุ่มอ่านบทสนทนาพร้อมกันอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่าแต่ละกลุ่ม เรียงเหตุการณ์ได้ถูกต้องหรือไม่ 4. ขั้นสรุปคว ามรู้ 1. แจกใบงาน “Missing Words” ให้นักเรียนทุกคน 2. เปิด DVD ให้นักเรียนฟังเนื้อเรื่องจนจบก่อน 1 รอบ จากนั้น ให้ นักเรียนเติมคำ ที่หายไปลงในใบงาน หากสังเกตว่านักเรียนเขียน ไม่ทัน ควรหยุดเสียง DVD เป็นระยะๆ เพื่อรอนักเรียนเขียนให้ เสร็จก่อน 3. เสร็จแล้ว ตัดใบงานติดลงในสมุดของตัวเอง 4. ทำแบบฝึกหัดใน Student’s Book หน้า 25 และ Workbook หน้า 18-19 5. ขั้นประยุกต์ใช้คว ามรู้ 1. แจกใบงาน “Music Survey” ให้นักเรียนทุกคน ให้ไปสำรวจเพื่อนๆ ในห้องว่าใครชอบเครื่องดนตรีชนิดใดบ้าง ตามรายการที่กำ หนดไว้ ในใบงาน จำ นวน 10 คน คุณครูเขียนรูปประโยคไว้บนกระดาน What musical instrument do you like? I like the... (violin / guitar / piano / trumpet / drums) 2. เขียนชื่อเพื่อนที่ไปสำรวจ และเขียนเครื่องหมาย ✓ ลงในตาราง (ดัง ภาพ) สามารถเลือกเครื่องดนตรีที่ชอบได้มากกว่า 1 ชนิด


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 38 เครื่องมือ - สื่อการเรียนรู้ 1. ใบงาน “True or False Sticks” 2. ใบงาน “Who Said What? 1-3” 3. ใบงาน “Missing Words” 4. ใบงาน “Music Survey” 5. ไม้ไอศกรีมขนาดใหญ่ 2 อัน 6. DVD ประกอบหนังสือชุด Step Up English ป.6 7. หนังสือเรียนชุด Step Up English : Student’s Book ป.6 8. หนังสือแบบฝึกหัดชุด Step Up English : Workbook ป.6 การวัดและประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมของนักเรียน 2. ประเมินผลจากคะแนนการทำแบบฝึกหัดของนักเรียน 3. ประเมินผลจากผลงานของนักเรียน (การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความ เหมาะสม บางชั้นเรียนอาจมีการทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน การเขียนตามคำ บอก การทดสอบการ อ่าน ฯลฯ)


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 39 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 2 (1) : True or False Sticks ตัดตามรอยประ นำาไปติดกับไม้ไอศกรีม TRUE ✓ FALSE ✕


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 40 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 2 (1) : Who Said What? 1 ตัดใบงานตามรอยประ แล้วเขียนบทสนทนาลงในช่องว่างตามเนื้อเรื่อง


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 41 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 2 (1) : Who Said What? 2 ตัดใบงานตามรอยประ แล้วเขียนบทสนทนาลงในช่องว่างตามเนื้อเรื่อง


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 42 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 2 (1) : Who Said What? 3 ตัดใบงานตามรอยประ แล้วเขียนบทสนทนาลงในช่องว่างตามเนื้อเรื่อง


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 43 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 2 (1) : Missing Words ฟัง conversation box จาก DVD แล้วเติมคำาที่หายไป เสร็จแล้ว ตัดใบงานติดลงในสมุดของตัวเอง Jane: Hey, Angie! Do you want to go to the this Friday? Angie: That sounds fun. I want to go. What time is the ? Jane: It’s at in the school . You can buy from the . Angie: OK! Let’s go . “ “ ” ” Jane Angie Harry: Do you want to see movie tomorrow? Nick: Sure. What time is the ? Harry: It’s at at . We can buy online. Nick: OK! Let’s do that. Harry Nick


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 44 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 2 (1) : Music Survey นำาข้อมูลในตารางไปสำารวจเพื่อนในห้องว่าชอบเครื่องดนตรีชนิดใดบ้าง Name instrument drum set guitar violin piano trumpet 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. What musical instrument do you like? drum set guitar


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 45 แผนก�รจัดก�รเรียนรู้ หน่วยก�รเรียนรู้ Student’s Book กลุ่มส�ระก�รเรียนรู้ภ�ษ�ต่�งประเทศ ชั้นประถมศึกษ�ปีที่ 6 Unit 2 School Concert (2) จำานวน 8 ชั่วโมง ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้ 1. ม�ตรฐ�น มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่าง มีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำาไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกาา ชุมชน และสังคม 2. ตัวชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.6/3 เลือก/ระบุประโยค หรือข้อความสั้นๆ ตรงตามภาพ สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมาย ที่อ่าน มาตรฐาน ต 1.2 ป.6/1 พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล มาตรฐาน ต 1.2 ป.6/3 พูด/แสดงความต้องการขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธ การให้ความช่วย เหลือในสถานการณ์ต่างๆ มาตรฐาน ต 2.1 ป.6/1 ใช้ถ้อยคำา น้ำาเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพเหมาะสม ตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา มาตรฐาน ต 2.1 ป.6/3 เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ มาตรฐาน ต 4.1 ป.6/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา ส�ระสำ�คัญ การเรียนรู้คำาศัพท์หมวด Entertainment การใช้โครงสร้างประโยคที่มี Time Prepositions เรียนรู้การใช้ ประโยคคำาถามในการชักชวนและคำาตอบรับหรือตอบปฏิเสธ จุดประสงค์ก�รเรียนรู้ 1. นักเรียนอ่านคำาศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างประโยคได้อย่างถูกต้อง 2. นักเรียนรู้จักและเข้าใจโครงสร้างประโยคที่มี Time Prepositions รู้จักใช้ประโยคคำาถามในการชักชวน และคำาตอบรับหรือตอบปฏิเสธได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม 3. นักเรียนสามารถสนทนาโดยใช้ประโยคคำาถามในการชักชวนและคำาตอบรับหรือตอบปฏิเสธได้อย่างถูก ต้องและเหมาะสม ส�ระก�รเรียนรู้แกนกล�ง 1. ประโยคหรือข้อความ สัญลักษณ์ เครื่องหมาย และความหมายเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อม อาหาร เครื่องดื่ม เวลาว่างและนันทนาการ สุขภาพและสวัสดิการ การซื้อ-ขาย และลมฟ้า


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 46 อากาศ เป็นวงคำาศัพท์สะสมประมาณ 1,050 - 1,200 คำา (คำาศัพท์ที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม) 2. บทสนทนาที่ใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรกอย่างสุภาพ ประโยค/ ข้อความที่ใช้แนะนำาตนเอง เพื่อน และบุคคลใกล้ตัว และสำานวนการตอบรับ 3. คำาศัพท์ สำานวนภาษา และประโยคที่ใช้บอกความต้องการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ ความช่วยเหลือ 4. การใช้ถ้อยคำา น้ำาเสียง และกิริยาท่าทางตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เช่น การ ขอบคุณ ขอโทษ การใช้สีหน้าท่าทางประกอบการพูด ขณะแนะนำาตนเอง การสัมผัสมือ การโบกมือ การ แสดงความรู้สึกชอบ/ไม่ชอบ การกล่าวอวยพร การแสดงอาการตอบรับหรือปฏิเสธ 5. กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง การเล่านิทาน วันขอบคุณพระเจ้า วัน คริสต์มาส วันขึ้นปีใหม่ 6. การใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา กระบวนก�รจัดก�รเรียนรู้ 1. ขั้นนำ�เข้�สู่บทเรียน 1. ให้นักเรียนเล่นเกม โดย แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน และแจกใบงาน “Word race 3” ที่ตัดเรียบร้อยแล้วให้แต่ละกลุ่ม 2. คุณครูโชว์คำาศัพท์ให้ดูทีละคำา อาจโชว์ภาพให้ดูบนจอ หรือใช้บัตรภาพ บัตรคำาจากใบงาน “Word race 1-2” ก็ได้ (ดังภาพ) กำาหนดเวลา ให้ดูภาพประมาณ 3-5 วินาที จากนั้น ต้องรีบปิดจอหรือเก็บบัตรภาพ บัตรคำา แต่ละกลุ่มจะต้องแข่งกันเรียงตัวอักษรที่มีให้ถูกต้อง 3. คำาศัพท์ที่จะโชว์ให้นักเรียนดูใช้คำาว่า concert, crowd, auditorium, drummer, club, guest, stomachache, ticket 4. กลุ่มไหนเรียงคำาสุดท้ายเสร็จก่อน ให้ตะโกนคำาว่า Finish! ดังๆ ตรวจสอบความถูกต้องของทุกกลุ่มพร้อมกัน (เรียงถูก ต้องจะได้คำาละ 5 คะแนน) กลุ่มไหนได้คะแนนมากที่สุดเป็น ผู้ชนะ 2. ขั้นนำ�เสนอคว�มรู้ 1. สอนคำาศัพท์หมวด “Entertainment” ในหนังสือ Student’s Book หน้า 28 โดยเปิด DVD ค้างไว้ให้นักเรียนดูบนจอ หรือทำาเป็นบัตรภาพ บัตรคำา ติดบน กระดานหน้าชั้นเรียนก็ได้ 2. ชี้อ่านให้นักเรียนฟังทีละคำา แล้วให้นักเรียนอ่านตาม จากนั้น เปิดเสียง DVD ให้นักเรียนฟังสำาเนียง และฝึกอ่านออกเสียงคำาศัพท์ 3. สอน grammar เรื่อง Time Prepositions : in, on, at และ From ... to / From ... till ในหนังสือ Student’s Book หน้า 29-30 โดยเปิด DVD ค้างไว้บนจอให้นักเรียนดู อธิบาย ถึงหลักการใช้ in, on, at และ From ... to / From ... till 4. สอน grammar เกี่ยวกับการใช้ประโยคชักชวน Do you want to...? และ Would you like to...? และการตอบตกลงหรือ ปฏิเสธ (Ways to say yes or no) ในหนังสือ Student’s Book หน้า 31-32 โดยเปิด DVD ค้างไว้บนจอ อธิบายให้ นักเรียนฟังว่า เราใช้ Do you like...? เพื่อชวนเพื่อน แต่ใช้ Would you like...? กับผู้ใหญ่หรือคนที่ ไม่สนิทด้วย (หน้า 31) และมีหลายวิธีที่เราจะสามารถตอบตกลงหรือปฏิเสธได้ 5. คุณครูถามนักเรียน โดยใช้คำาถามจากหน้า 32 ให้นักเรียนแต่ละคนตอบตกลงหรือปฏิเสธ (yes/no) โดย 1. ให้นักเรียนเล่นเกม โดย แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน และแจกใบงาน 2. คุณครูโชว์คำาศัพท์ให้ดูทีละคำา อาจโชว์ภาพให้ดูบนจอ หรือใช้บัตรภาพ ให้ดูภาพประมาณ 3-5 วินาที จากนั้น ต้องรีบปิดจอหรือเก็บบัตรภาพ concert, crowd, auditorium,


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 47 ไม่ให้คำตอบซ้ำกับคนก่อนหน้า คุณครูจะถามเรียงลำดับไปจนครบทุกคนในห้อง โดยใช้ความเร็ว เช่น Teacher: Would you like to go to the concert? Student A: Yes, please! Student B: I’m sorry. I have to go to the dentist. Student C: I’m afraid I can’t go. 3. ขั้นลงมือเรียนรู้ 1. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน (หรือตามความเหมาะสม) แจกใบงาน “Time Prepositions Board Game” ลูกเต๋า 1 ลูก และตัวเบี้ยเพื่อใช้เป็นตัวแทนของแต่ละคน (เลือกใช้เบี้ยได้ตามต้องการ) 2. เปลี่ยนกันโยนลูกเต๋า เดินในช่อง Board Game ตามจำ นวนแต้มที่โยนได้ ให้ผู้เล่นอ่านคำ ที่อยู่ในช่องนั้น แล้วให้บอกว่าใช้คำ บอก Time Preposition อะไร (in, on หรือ at) ใครถึงจุด Finish ก่อน คนนั้นชนะ 3. ให้นักเรียนทำกิจกรรม “Let’s Speak English” ในหนังสือ Student’s Book หน้า 33 โดย scan QR code ใบงานแจกให้นักเรียนทุกคน ตัดทำ เป็น Mini Conversation Card เลือกกิจกรรมและข้อมูลต่างๆ เขียน ลงในช่อง Plan และช่อง Question 4. นักเรียนจับคู่กัน คนหนึ่งชวนเพื่อนไปทำ กิจกรรมที่ตัวเอง เลือกไว้ อีกคนหนึ่งตอบรับหรือปฏิเสธ โดยใช้ข้อความจาก Mini Conversation Card 5. นักเรียนใช้ Mini Conversation Card เปลี่ยนคู่ ไปชวนเพื่อน ในห้องอีก 3 คน เพื่อฝึกพูดและสนทนาให้คล่อง 6. ทำแบบฝึกหัดใน Workbook หน้า 20-24 4. ขั้นสรุปความรู้ 1. แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่มละ 4 คน แจกกระดาษ A4 จำ นวน 3 แผ่น และใบงาน “Time Prepositions” ให้แต่ละกลุ่ม เขียนหัวข้อ ในกระดาษ A 4 ตัวใหญ่ๆ ว่า in, on, at เขียนคำอธิบายการใช้เป็น ภาษาไทยกำกับไว้สั้นๆ จากนั้นให้นักเรียนตัดคำ บอกเวลาในใบงานออก เป็นชิ้นๆ แยกติดบนกระดาษ A4 ให้ถูกต้อง ว่าคำ ไหนใช้ in, on หรือ at เสร็จแล้วสลับกระดาษกับกลุ่มข้างๆ เพื่อตรวจคำตอบ 2. แจกกระดาษโพสต์อิทให้นักเรียนคนละ 2 แผ่น แผ่นแรกเขียนว่า Ways to say yes แผ่นที่สองเขียนว่า Ways to say no ติดลงในสมุด แล้ว ให้นักเรียนเขียนข้อความที่ใช้ตอบตกลงและปฏิเสธ ไว้ใต้โพสต์อิท ใน สมุดของนักเรียน 5. ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 1. แจกใบงาน “Do you want to...? or Would you like to...? ให้นักเรียนดูภาพในใบงาน แล้วเลือกเขียนประโยค Do you want to...? หรือ Would you like to...? ให้เหมาะสม กับบุคคลนั้นๆ และเขียนคำตอบที่เหมาะสมโดยไม่ซ้ำกัน มา 4 ประโยค (นักเรียนสามารถเปิดหนังสือเพื่อทบทวนเนื้อหาได้) 2. เสร็จแล้ว ตัดใบงานติดลงในสมุดของตัวเอง (ดังภาพ) เครื่องมือ - สื่อการเรียนรู้ 1. ใบงาน “Word Race 1-3” 2. ใบงาน “Time Prepositions Board Game” 3. ใบงาน “Time Prepositions”


บริษัทธารปัญญา จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 48 4. ใบงาน “Do you want to...? or Would you like to...?” 5. DVD ประกอบหนังสือชุด Step Up English ป.6 6. หนังสือเรียนชุด Step Up English : Student’s Book ป.6 7. หนังสือแบบฝึกหัดชุด Step Up English : Workbook ป.6 การวัดและประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมของนักเรียน 2. ประเมินผลจากคะแนนการทำแบบฝึกหัดของนักเรียน 3. ประเมินผลจากผลงานของนักเรียน (การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม บางชั้นเรียนอาจมี การทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน การเขียนตามคำ บอก การทดสอบ การอ่าน ฯลฯ)


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 49 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 2 (2) : Word Race 1 ตัดใบงานตามรอยประ เพื่อใช้ในการเล่นเกม (ควรถ่ายเอกสารขยายให้มีขนาดใหญ่พอที่นักเรียนจะมองเห็นได้ชัดเจน) stomachache drummer crowd ticket


บริษัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 50 ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ Unit 2 (2) : Word Race 2 ตัดใบงานตามรอยประ เพื่อใช้ในการเล่นเกม (ควรถ่ายเอกสารขยายให้มีขนาดใหญ่พอที่นักเรียนจะมองเห็นได้ชัดเจน) concert club auditorium guest


Click to View FlipBook Version