The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by paretom21, 2021-04-23 00:05:13

พระราชบัญญัติ15.5x23

พระราชบัญญัติ
ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๔๔

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๔
เป็นปีที่ ๕๖ ในรัชกาลปัจจุบัน



พระบาทสมเดจพระปรมินทรมหาภมิพลอดลย เดช มีพระบรมราชโองการโปรด


เกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์


พระราชบัญญตนมีบทบัญญัตบางประการเกี่ยวกับการจ ากัดสิทธิและเสรภาพของ
ี้


บุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระท าได ้
โดยอาศัยอ านาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย



จึงทรงพระกรณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัตขึ้นไว้โดยค าแนะนาและ
ยินยอมของรัฐสภาดังต่อไปน ี้
ี้



มาตรา ๑ พระราชบัญญัตนเรยกว่า “พระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทาง

อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔”

ี่
ี้



มาตรา ๒ พระราชบัญญัตนให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนดหนงรอยยสิบวันนบแตวัน
ึ่
ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ี้
มาตรา ๓ พระราชบัญญัตนให้ใช้บังคับแก่ธุรกรรมในทางแพ่งและพาณิชยที่


ด าเนินการโดยใช้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่ธุรกรรมที่มีพระราชกฤษฎีกาก าหนดมิให้น าพระราชบัญญัตน ี้
ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนมาใช้บังคับ
ความในวรรคหนึ่งไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงกฎหมายหรอกฎใดที่ก าหนดขึ้นเพื่อ

คุ้มครองผู้บริโภค


พระราชบัญญัตนให้ใช้บังคับแก่ธุรกรรมในการดาเนนงานของรฐตามที่ก าหนดใน
ี้


หมวด ๔
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัติน ี้
“ธุรกรรม” หมายความว่า การกระท าใด ๆ ที่เกี่ยวกับกิจกรรมในทางแพ่งและ

พาณิชย์ หรือในการด าเนินงานของรฐตามที่ก าหนดในหมวด ๔

“อิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า การประยุกต์ใช้วิธีการทางอเล็กตรอน ไฟฟ้าคลื่น
แม่เหล็กไฟฟ้า หรือวิธีอื่นใดในลักษณะคล้ายกัน และให้หมายความรวมถึงการประยุกต์ใช้ วิธีการทางแสง
วิธีการทางแม่เหล็ก หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้วิธีต่าง ๆ เช่นว่านั้น
“ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า ธุรกรรมที่กระท าขึ้นโดยใช้วิธีการทาง
อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
หน้า | 1

“ข้อความ” หมายความว่า เรื่องราว หรือข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะปรากฏในรูปแบบของ

ตวอกษร ตวเลข เสียง ภาพ หรอรปแบบอนใดที่สื่อความหมายไดโดยสภาพของสิ่งนนเองหรอโดยผ่าน
ั้






ื่
วิธีการใด ๆ




“ข้อมูลอเล็กทรอนกส์” หมายความว่า ข้อความที่ไดสราง ส่ง รบ เก็บรกษา หรอ








ประมวลผลดวยวิธีการทางอเล็กทรอนกส์ เช่น วิธีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอเล็กทรอนกส์ จดหมาย
อิเล็กทรอนิกส์ โทรเลข โทรพิมพ์ หรือโทรสาร





“ลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์” หมายความว่า อกษร อกขระ ตวเลข เสียงหรอ

ู่






สัญลักษณ์อนใดที่สรางขึ้นให้อยในรปแบบอเล็กทรอนกส์ซึ่งนามาใช้ประกอบกับข้อมูลอเล็กทรอนกส์

ื่

เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับข้อมูลอเล็กทรอนกส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุตวบุคคล




ผู้เป็นเจ้าของลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลอเล็กทรอนกส์นน และเพื่อแสดงว่าบุคคล


ั้
ดังกล่าวยอมรับข้อความในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น
ื่

“ระบบข้อมูล” หมายความว่า กระบวนการประมวลผลดวยเครองมือ
อิเล็กทรอนิกส์ส าหรับสร้าง ส่ง รับ เก็บรักษา หรือประมวลผลข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์







“การพิสูจนและยนยนตวตน” หมายความว่า กระบวนการพิสูจนและยนยนความ
ถูกต้องของตัวบุคคล





“ระบบการพิสูจนและยนยนตวตนทางดจิทัล” หมายความว่า เครอข่ายทาง







อเล็กทรอนกส์ที่เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างบุคคลใด ๆ หรอหนวยงานของรฐเพื่อประโยชนในการพิสูจน์และ
ยืนยันตัวตน และการท าธุรกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการพิสูจน์และยืนยันตัวตน



“ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอเล็กทรอนกส์อตโนมัต” หมายความว่า โปรแกรม



คอมพิวเตอรหรอวิธการทางอเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอัตโนมัตอน ที่ใช้เพื่อที่จะท าให้เกิดการกระท าหรือ



ื่






การตอบสนองตอข้อมูลอเล็กทรอนกส์หรอการปฏบัตการใด ๆ ตอระบบข้อมูล ไม่ว่าทั้งหมดหรอ



ั้
แตบางส่วน โดยปราศจากการตรวจสอบหรอการแทรกแซงโดยบุคคลธรรมดาในแตละครงที่มี


การด าเนินการหรือแต่ละครั้งที่ระบบได้สร้างการตอบสนอง
“การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า การส่งหรือรับข้อความ

ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์โดยใช้มาตรฐานที่ก าหนดไว้ล่วงหน้า

“ผู้ส่งข้อมูล” หมายความว่า บุคคลซึ่งเป็นผู้ส่งหรอสร้างข้อมูลอิเล็กทรอนกส์ก่อน




ั้
ั้
จะมีการเก็บรกษาข้อมูลเพื่อส่งไปตามวิธีการที่ผู้นนก าหนด โดยบุคคลนนอาจจะส่งหรอสรางข้อมูล

อิเล็กทรอนิกส์ด้วยตนเอง หรือมีการส่งหรอสร้างข้อมูลอิเล็กทรอนกส์ในนามหรอแทนบุคคลนนก็ได้ ทั้งน ี้

ั้

ไม่รวมถึงบุคคลที่เป็นสื่อกลางส าหรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น
“ผู้รับข้อมูล” หมายความว่า บุคคลซึ่งผู้ส่งข้อมูลประสงค์จะส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ให้ และได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น ทั้งนี้ ไม่รวมถึงบุคคลที่เป็นสื่อกลางส าหรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น
“บุคคลที่เป็นสื่อกลาง” หมายความว่า บุคคลซึ่งกระท าการในนามผู้อนในการส่ง
ื่
รบ หรอเก็บรกษาข้อมูลอเล็กทรอนกส์อนใดอนหนงโดยเฉพาะ รวมถึงให้บรการอนที่เกี่ยวกับข้อมูล


ึ่
ื่






อิเล็กทรอนิกส์นั้น

ื่



“ใบรบรอง” หมายความว่า ข้อมูลอเล็กทรอนกส์หรอการบันทึกอนใด ซึ่งยนยน


ความเชื่อมโยงระหว่างเจ้าของลายมือชื่อกับข้อมูลส าหรับใช้สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์

“เจ้าของลายมือชื่อ” หมายความว่า ผู้ซึ่งถือข้อมูลส าหรบใช้สรางลายมือชื่อ

อิเล็กทรอนิกส์และสร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้นในนามตนเองหรือแทนบุคคลอื่น
หน้า | 2

ู่
“คู่กรณีที่เกี่ยวข้อง” หมายความว่า ผู้ซึ่งอาจกระท าการใด ๆ โดยขึ้นอยกับ
ใบรับรองหรือลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
“หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า

(๑) กระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการที่เรยกชื่ออยางอนและมีฐานะเป็นกรม

ื่
ราชการส่วนภูมิภาค และราชการส่วนท้องถิ่น
(๒) รัฐวิสาหกิจที่ตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกา
(๓) องค์การมหาชนที่ตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกา
(๔) หน่วยงานของรัฐสภา
(๕) หน่วยงานของศาล ในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับการพิจารณาพิพากษาอรรถคด ี
(๖) องค์กรตามรัฐธรรมนูญ ในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับการวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาท
(๗) องค์กรอิสระที่ตั้งขึ้นตามกฎหมาย
(๘) นตบุคคล คณะบุคคล หรอบุคคลซึ่งมีหนาที่และอานาจในการดาเนนงานของ







รัฐไม่ว่าในการใด ๆ
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์



“ผู้อานวยการ” หมายความว่า ผู้อานวยการส านกงานพัฒนาธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์


“ส านกงาน” หมายความว่า ส านกงานพัฒนาธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ตาม


กฎหมายว่าด้วยส านกงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์


“รัฐมนตร” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติน ี้
มาตรา ๕ บทบัญญัตมาตรา ๑๓ ถึงมาตรา ๒๔ และบทบัญญัตมาตรา ๒๖ ถึง


มาตรา ๓๑ จะตกลงกันเป็นอย่างอื่นก็ได ้
มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรกษาการตาม

พระราชบัญญัติน ี้
หมวด ๑
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

มาตรา ๗ ห้ามมิให้ปฏเสธความมีผลผูกพันและการบังคับใช้ทางกฎหมายของ

ข้อความใดเพียงเพราะเหตุที่ข้อความนั้นอยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์


มาตรา ๘ ภายใตบังคับบทบัญญัตแห่งมาตรา ๙ ในกรณีที่กฎหมายก าหนดให้การ
ใดต้องท าเป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็นหนังสือหรือมีเอกสารมาแสดง หรือก าหนดผลทางกฎหมายกรณีไม่ท า


เป็นหนงสือ ไม่มีหลักฐานเป็นหนงสือหรอไม่มีเอกสารมาแสดง ถ้าไดมีการจัดท าข้อความขึ้นเป็นข้อมูล


ั้
อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าถึงและน ากลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง ให้ถือว่าข้อความนนได ้
ท าเป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็นหนังสือหรือมีเอกสารมาแสดงตามที่กฎหมายก าหนด


หน้า | 3

ในกรณีที่กฎหมายก าหนดให้ต้องมีการปิดอากรแสตมป์ หากได้มีการช าระเงินแทน



ื่




หรอดาเนนการอนใดดวยวิธีการทางอเล็กทรอนกส์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่หนวยงานของรฐซึ่ง

เกี่ยวข้องประกาศก าหนด ให้ถือว่าหนังสือ หลักฐานเป็นหนังสือ หรือเอกสาร ซึ่งมีลักษณะเป็นตราสารนน
ั้
ได้มีการปิดอากรแสตมป์และขีดฆ่าตามกฎหมายนั้นแล้ว ในการนี้ในการก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการของ
หน่วยงานของรัฐดังกล่าว คณะกรรมการจะก าหนดกรอบและแนวทางเพื่อเป็นมาตรฐานทั่วไปไว้ด้วยก็ได ้
มาตรา ๙ ในกรณีที่กฎหมายก าหนดให้มีการลงลายมือชื่อ หรอก าหนดผลทาง

กฎหมายกรณีที่ไม่มีการลงลายมือชื่อไว้ ให้ถือว่าได้มีการลงลายมือชื่อแล้ว ถ้า

(๑) ใช้วิธีการที่สามารถระบุตวเจ้าของลายมือชื่อ และสามารถแสดงเจตนาของ
เจ้าของลายมือชื่อเกี่ยวกับข้อความในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และ
(๒) ใช้วิธีการในลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปน ี้

(ก) วิธีการที่เชื่อถือไดโดยเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการสร้างหรือ

ส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยค านึงถึงพฤติการณ์แวดล้อมทั้งปวง รวมถึงข้อตกลงใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรอ


(ข) วิธีการอนใดที่สามารถยนยนตวเจ้าของลายมือชื่อและสามารถ

ื่
แสดงเจตนาของเจ้าของลายมือชื่อตาม (๑) ได้ด้วยวิธีการนั้นเองหรือประกอบกับพยานหลักฐานอื่น
วิธีการที่เชื่อถือได้ตามวรรคหนึ่ง (๒) (ก) ให้ค านึงถึง



(๑) ความมั่นคงและรดกุมของการใช้วิธีการหรออปกรณ์ในการระบุตวบุคคล

สภาพพร้อมใช้งานของทางเลือกในการระบุตัวบุคคล กฎเกณฑ์เกี่ยวกับลายมือชื่อที่ก าหนดไว้ในกฎหมาย





ระดบความมั่นคงปลอดภยของการใช้ลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ การปฏบัตตามกระบวนการในการระบุ






ตวบุคคลผู้เป็นสื่อกลาง ระดบของการยอมรบหรอไม่ยอมรบ วิธีการที่ใช้ในการระบุตวบุคคลในการ

ท าธุรกรรม วิธีการระบุตัวบุคคล ณ ช่วงเวลาที่มีการท าธุรกรรมและติดต่อสื่อสาร
(๒) ลักษณะ ประเภท หรือขนาดของธุรกรรมที่ท า จ านวนครั้งหรือความสม่ าเสมอ
ในการท าธุรกรรม ประเพณีทางการค้าหรือทางปฏิบัติ ความส าคัญ มูลค่าของธุรกรรมที่ท า หรือ
(๓) ความรัดกุมของระบบการติดต่อสื่อสาร
ให้น าความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับการประทับตราของนิติบุคคลด้วยวิธีการทาง
อิเล็กทรอนิกส์ด้วยโดยอนุโลม
มาตรา ๑๐ ในกรณีที่กฎหมายก าหนดให้น าเสนอหรือเก็บรักษาข้อความใดในสภาพ






ที่เป็นมาแตเดมอยางเอกสารตนฉบับ ถ้าไดนาเสนอหรอเก็บรกษาในรปข้อมูลอเล็กทรอนกส์ตาม





หลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าได้มีการน าเสนอหรือเก็บรักษาเป็นเอกสารต้นฉบับตามกฎหมายแล้ว


(๑) ข้อมูลอเล็กทรอนกส์ไดใช้วิธีการที่เชื่อถือไดในการรกษาความถูกตองของ




ข้อความตั้งแต่การสร้างข้อความเสร็จสมบูรณ์ และ
(๒) สามารถแสดงข้อความนั้นในภายหลังได ้

ความถูกตองของข้อความตาม (๑) ให้พิจารณาถึงความครบถ้วนและไม่มีการ
เปลี่ยนแปลงใดของข้อความ เว้นแตการรบรองหรอบันทึกเพิ่มเตม หรอการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่อาจจะ





เกิดขึ้นได้ตามปกติในการติดต่อสื่อสาร การเก็บรักษา หรือการแสดงข้อความซึ่งไม่มีผลต่อความถูกต้องของ
ข้อความนั้น


ในการวินจฉัยความนาเชื่อถือของวิธีการรกษาความถูกตองของข้อความตาม (๑)


ให้พิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งปวง รวมทั้งวัตถุประสงค์ของการสร้างข้อความนั้น
หน้า | 4



ในกรณีที่มีการท าสิ่งพิมพ์ออกของข้อมูลอเล็กทรอนกส์ตามวรรคหนงส าหรบใช้

ึ่




ั้

อางองข้อความของข้อมูลอเล็กทรอนกส์ หากสิ่งพิมพ์ออกนนมีข้อความถูกตองครบถ้วนตรงกับข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์ และมีการรับรองสิ่งพิมพ์ออกโดยหน่วยงานที่มีอ านาจตามที่คณะกรรมการประกาศก าหนด
แล้ว ให้ถือว่าสิ่งพิมพ์ออกดังกล่าวใช้แทนต้นฉบับได ้

มาตรา ๑๑ ห้ามมิให้ปฏเสธการรบฟังข้อมูลอเล็กทรอนกส์เป็นพยานหลักฐานใน



กระบวนการพิจารณาตามกฎหมายทั้งในคดแพ่ง คดอาญา หรอคดอนใด เพียงเพราะเหตว่าเป็นข้อมูล
ื่





อิเล็กทรอนิกส์
ในการชั่งน้ าหนักพยานหลักฐานว่าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์จะเชื่อถือได้หรอไม่เพียงใด


ั้

นนให้พิเคราะห์ถึงความนาเชื่อถือของลักษณะหรอวิธีการที่ใช้สราง เก็บรกษา หรอสื่อสารข้อมูล




อเล็กทรอนกส์ ลักษณะหรอวิธีการเก็บรกษา ความครบถ้วน และไม่มีการเปลี่ยนแปลงของข้อความ



ลักษณะ หรือวิธีการที่ใช้ในการระบุหรือแสดงตัวผู้ส่งข้อมูล รวมทั้งพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งปวง
ให้น าความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับสิ่งพิมพ์ออกของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด้วย


มาตรา ๑๒ ภายใตบังคับบทบัญญัตมาตรา ๑๐ ในกรณีที่กฎหมายก าหนดให้เก็บ
รักษาเอกสารหรือข้อความใด ถ้าได้เก็บรักษาในรูปข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ ให้ถือว่า

ได้มีการเก็บรกษาเอกสารหรือข้อความตามที่กฎหมายต้องการแล้ว
(๑) ข้อมูลอเล็กทรอนกส์นนสามารถเข้าถึงและนากลับมาใช้ไดโดยความหมายไม่

ั้



เปลี่ยนแปลง


ั้
(๒) ได้เก็บรักษาข้อมูลอิเล็กทรอนกส์นนให้อยู่ในรูปแบบที่เป็นอยู่ในขณะที่สรางส่ง





ู่


ั้


หรอไดรบข้อมูลอเล็กทรอนกส์นน หรออยในรปแบบที่สามารถแสดงข้อความที่สราง ส่ง หรอไดรบให้


ปรากฏอย่างถูกต้องได้ และ
(๓) ไดเก็บรกษาข้อความส่วนที่ระบุถึงแหล่งก าเนด ตนทาง และปลายทางของ




ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนวันและเวลาที่ส่งหรือได้รับข้อความดังกล่าว ถ้ามี
ความในวรรคหนง มิให้ใช้บังคับกับข้อความที่ใช้เพียงเพื่อวัตถุประสงค์ในการส่ง
ึ่
หรือรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบในการเก็บรักษาเอกสารหรือข้อความใด อาจก าหนด
ี่

ั้



หลักเกณฑ์รายละเอยดเพิ่มเตมเกยวกับการเก็บรกษาเอกสารหรอข้อความนนได เท่าที่ไม่ขัดหรอแย้งกับ


บทบัญญัติในมาตรานี้
มาตรา ๑๒/๑ ให้นาบทบัญญัตในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ และมาตรา ๑๒ มาใช้



บังคับกับเอกสารหรอข้อความที่ไดมีการจัดท าหรอแปลงให้อยในรปของข้อมูลอเล็กทรอนกส์ในภายหลัง




ู่

ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ และการเก็บรักษาเอกสารและข้อความดังกล่าวด้วยโดยอนุโลม
การจัดท าหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตาม
วรรคหนึ่งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการก าหนด
มาตรา ๑๓ ค าเสนอหรือค าสนองในการท าสัญญาอาจท าเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ก็

ั้



ได และห้ามมิให้ปฏเสธการมีผลทางกฎหมายของสัญญาเพียงเพราะเหตที่สัญญานนไดท าค าเสนอหรอ

ค าสนองเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
หน้า | 5



มาตรา ๑๓/๑ การเสนอเพื่อท าสัญญาผ่านการตดตอสื่อสารทางอเล็กทรอนกส์




ครงเดยวหรอหลายครง ซึ่งไม่ไดส่งถึงบุคคลใดโดยเฉพาะเจาะจง แตบุคคลทั่วไปที่ใช้ระบบข้อมูลนน
ั้

ั้

ั้



สามารถเข้าถึงได รวมถึงการเสนอโดยให้ระบบข้อมูลสามารถโตตอบไดโดยอตโนมัต ในการท าค าสั่งผ่าน


ระบบข้อมูลให้ถือเป็นค าเชิญชวนเพื่อท าค าเสนอ เว้นแต่การเสนอเพื่อท าสัญญาระบุได้โดยแจ้งชัดถึงเจตนา
ของบุคคลที่ท าการเสนอที่จะผูกพันหากมีการสนองรับ
มาตรา ๑๓/๒ ห้ามมิให้ปฏเสธความสมบูรณ์หรอการบังคับใช้ของสัญญาที่ท าโดย




การโตตอบระหว่างระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอเล็กทรอนกส์อตโนมัตกับบุคคลธรรมดา หรอระหว่าง










ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอเล็กทรอนกส์อตโนมัตดวยกัน เพียงเพราะเหตที่ไม่มีบุคคลธรรมดาเข้าไป
เกี่ยวข้องในการดาเนนการในแตละครงที่กระท าโดยระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอเล็กทรอนกส์อัตโนมัต ิ

ั้




หรือในผลแห่งสัญญา
มาตรา ๑๔ ในระหว่างผู้ส่งข้อมูลและผู้รับข้อมูล การแสดงเจตนาหรือค าบอกกล่าว
อาจท าเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ก็ได ้
มาตรา ๑๕ บุคคลใดเป็นผู้ส่งข้อมูลไม่ว่าจะเป็นการส่งโดยวิธีใด ให้ถือว่าข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์เป็นของผู้นั้น

ในระหว่างผู้ส่งข้อมูลและผู้รบข้อมูล ให้ถือว่าเป็นข้อมูลอเล็กทรอนกส์ของผู้ส่ง



ข้อมูล หากข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้ส่งโดย
ั้


(๑) บุคคลผู้มีอานาจกระท าการแทนผู้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลอเล็กทรอนกส์นน

หรือ

(๒) ระบบข้อมูลที่ผู้ส่งข้อมูลหรอบุคคลผู้มีอานาจกระท าการแทนผู้ส่งข้อมูลได ้

ก าหนดไว้ล่วงหน้าให้สามารถท างานได้โดยอัตโนมัต ิ

มาตรา ๑๖ ผู้รบข้อมูลชอบที่จะถือว่าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เป็นของผู้ส่งข้อมูลและ
ชอบที่จะด าเนินการไปตามข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้ ถ้า



(๑) ผู้รบข้อมูลไดตรวจสอบโดยสมควรตามวิธีการที่ผู้ส่งข้อมูลไดตกลงหรอผูกพัน

ตนไว้ว่าเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ส่งข้อมูล หรือ
ั้





(๒) ข้อมูลอเล็กทรอนกส์ที่ผู้รบข้อมูลไดรบนนเกิดจากการกระท าของบุคคลซึ่งใช้


ั้
ู้
วิธีการที่ผู้ส่งข้อมูลใช้ในการแสดงว่าข้อมูลอิเล็กทรอนกส์นั้นเป็นของผู้ส่งข้อมูล ซึ่งบุคคลนนไดล่วงรโดย
อาศัยความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลนั้นกับผู้ส่งข้อมูลหรือผู้มีอ านาจกระท าการแทนผู้ส่งข้อมูล
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับ ถ้า


ั้
(๑) ในขณะนนผู้รบข้อมูลไดรบแจ้งจากผู้ส่งข้อมูลว่าข้อมูลอเล็กทรอนกส์ที่ผู้รบ





ข้อมูลไดรบนนมิใช่ของผู้ส่งข้อมูล และในขณะเดยวกันผู้รบข้อมูลมีเวลาพอสมควรที่จะตรวจสอบ



ั้
ข้อเท็จจริงตามที่ได้รับแจ้งนั้น หรือ


(๒) กรณีตามวรรคหนง (๒) เมื่อผู้รบข้อมูลไดรหรอควรจะไดรว่าข้อมูล
ู้


ึ่
ู้
อิเล็กทรอนิกส์นั้นไม่ใช่ของผู้ส่งข้อมูล หากผู้รับข้อมูลได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร หรือด าเนินการตาม
วิธีการที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนแล้ว
หน้า | 6


มาตรา ๑๗ ในกรณีตามมาตรา ๑๕ หรอมาตรา ๑๖ วรรคหนง ในระหว่างผู้ส่ง
ึ่

ั้






ข้อมูลและผู้รบข้อมูล ผู้รบข้อมูลมีสิทธิถือว่าข้อมูลอเล็กทรอนกส์ที่ไดรบนนถูกตองตามเจตนาของผู้ส่ง
ู้
ข้อมูลและสามารถดาเนนการไปตามข้อมูลอิเล็กทรอนกส์นนได เว้นแตผู้รบข้อมูลไดรหรอควรจะไดรว่า

ั้





ู้






ข้อมูลอเล็กทรอนกส์ที่ไดรบนนมีข้อผิดพลาดอันเกิดจากการส่ง หากผู้รบข้อมูลไดใช้ความระมัดระวังตาม
ั้



สมควรหรือด าเนินการตามวิธีการที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนแล้ว
มาตรา ๑๗/๑ ในกรณีที่มีการลงข้อมูลผิดพลาดโดยบุคคลธรรมดาและส่งผ่าน
ื่




ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอเล็กทรอนกส์อตโนมัตของผู้อน และระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทาง


ั้





อเล็กทรอนกส์อตโนมัตนนไม่มีช่องทางให้บุคคลดงกล่าวแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น บุคคลดงกล่าวหรอ
ผู้แทนมีสิทธิที่จะถอนการแสดงเจตนาในส่วนที่เกิดจากการลงข้อมูลผิดพลาดได้ หาก

ึ่

(๑) บุคคลดงกล่าวหรอผู้แทนไดแจ้งให้อกฝ่ายหนงทราบถึงข้อผิดพลาดโดยพลัน


ั้

หลังจากที่ตนไดรถึงข้อผิดพลาดนน และแสดงให้เห็นว่าไดส่งข้อมูลผิดพลาดผ่านระบบแลกเปลี่ยนข้อมูล

ู้
ทางอิเล็กทรอนิกส์อัตโนมัติ และ






(๒) บุคคลดงกล่าวหรอผู้แทนไม่ไดใช้หรอไดรบประโยชนใด ๆ จากสินค้า บรการ


หรือสิ่งอื่นใดอย่างมีนัยส าคัญจากอีกฝ่ายหนึ่ง



มาตรา ๑๘ ผู้รบข้อมูลชอบที่จะถือว่าข้อมูลอเล็กทรอนกส์ที่ไดรบแตละชุดเป็น







ข้อมูลที่แยกจากกัน และสามารถดาเนนการไปตามข้อมูลอเล็กทรอนกส์แตละชุดนนได เว้นแตข้อมูล


ั้




อเล็กทรอนกส์ชุดนนจะซ้ ากับข้อมูลอเล็กทรอนิกส์อีกชุดหนึ่ง และผู้รบข้อมูลไดรหรอควรจะไดรว่าข้อมูล
ู้



ั้
ู้

อิเล็กทรอนิกส์นั้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซ้ า หากผู้รับข้อมูลได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรหรือด าเนินการ
ตามวิธีการที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนแล้ว


มาตรา ๑๙ ในกรณีที่ตองมีการตอบแจ้งการรบข้อมูลอเล็กทรอนกส์ ไม่ว่า



ผู้ส่งข้อมูลได้ร้องขอหรือตกลงกับผู้รับข้อมูลไว้กอนหรือขณะที่ส่งข้อมูลอิเล็กทรอนกส์หรือปรากฏในข้อมูล

อิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปน ี้
(๑) ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลมิได้ตกลงให้ตอบแจ้งการรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบ
หรือวิธีการใดโดยเฉพาะ การตอบแจ้งการรับอาจท าได้ด้วยการติดต่อสื่อสารจากผู้รับข้อมูล ไม่ว่าโดยระบบ

ข้อมูลที่ท างานโดยอัตโนมัติหรอโดยวิธอื่นใด หรือด้วยการกระท าใด ๆ ของผู้รับข้อมูลซึ่งเพียงพอจะแสดง

ต่อผู้ส่งข้อมูลว่าผู้รับข้อมูลได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นแล้ว

(๒) ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลก าหนดเงื่อนไขว่าจะถือว่ามีการส่งข้อมูลอเล็กทรอนกส์




ตอเมื่อไดรบการตอบแจ้งการรบจากผู้รบข้อมูล ให้ถือว่ายงไม่มีการส่งข้อมูลอเล็กทรอนกส์จนกว่าผู้ส่ง





ข้อมูลจะได้รับการตอบแจ้งการรับแล้ว
(๓) ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลมิได้ก าหนดเงื่อนไขตามความใน (๒) และผู้ส่งข้อมูลมิไดรบ




ั้

การตอบแจ้งการรบนนภายในเวลาที่ก าหนดหรอตกลงกัน หรอภายในระยะเวลาอันสมควรในกรณีที่มิได ้
ก าหนดหรือตกลงเวลาไว้

(ก) ผู้ส่งข้อมูลอาจส่งค าบอกกล่าวไปยงผู้รบข้อมูลว่าตนยงมิไดรบการ




ตอบแจ้งการรับและก าหนดระยะเวลาอันสมควรให้ผู้รับข้อมูลตอบแจ้งการรับ และ
(ข) หากผู้ส่งข้อมูลมิได้รับการตอบแจ้งการรับภายในระยะเวลาตาม (ก)



เมื่อผู้ส่งข้อมูลบอกกล่าวแก่ผู้รับข้อมูลแล้ว ผู้ส่งข้อมูลชอบที่จะถือว่าข้อมูลอเล็กทรอนกส์นั้นมิไดมีการส่ง
เลยหรือผู้ส่งข้อมูลอาจใช้สิทธิอื่นใดที่ผู้ส่งข้อมูลมีอยู่ได ้
หน้า | 7

มาตรา ๒๐ ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลไดรบการตอบแจ้งการรบจากผู้รบข้อมูลให้










สันนษฐานว่าผู้รบข้อมูลไดรบข้อมูลอเล็กทรอนกส์ที่เกี่ยวข้องแล้ว แตข้อสันนษฐานดงกล่าวมิให้ถือว่า



ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้รับข้อมูลได้รับนั้นถูกต้องตรงกันกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ส่งข้อมูลได้ส่งมา



ั้
มาตรา ๒๑ ในกรณีที่ปรากฏในการตอบแจ้งการรบข้อมูลอเล็กทรอนกส์นนเองว่า

ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้รับข้อมูลได้รับเป็นไปตามข้อก าหนดทางเทคนิคที่ผู้ส่งข้อมูลและผู้รับข้อมูลไดตกลง


ั้

ู่

หรอระบุไว้ในมาตรฐานซึ่งใช้บังคับอย ให้สันนษฐานว่าข้อมูลอเล็กทรอนกส์ที่ส่งไปนนไดเป็นไปตาม

ข้อก าหนดทางเทคนิคทั้งหมดแล้ว

มาตรา ๒๒ การส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้ถือว่าได้มีการส่งเมื่อข้อมูลอิเล็กทรอนกส์
นั้นได้เข้าสู่ระบบข้อมูลที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของผู้ส่งข้อมูล




มาตรา ๒๓ การรบข้อมูลอิเล็กทรอนกส์ให้ถือว่ามีผลนับแตเวลาที่ข้อมูลอเล็กทรอ
นิกส์นั้นได้เข้าสู่ระบบข้อมูลของผู้รับข้อมูล
หากผู้รับข้อมูลได้ก าหนดระบบข้อมูลที่ประสงค์จะใช้ในการรับข้อมูลอิเล็กทรอนกส์





ั้
ไว้โดยเฉพาะให้ถือว่าการรบข้อมูลอเล็กทรอนกส์มีผลนับแตเวลาที่ข้อมูลอิเล็กทรอนกส์นนไดเข้าสู่ระบบ




ข้อมูลที่ผู้รบข้อมูลไดก าหนดไว้นน แตถ้าข้อมูลอิเล็กทรอนกส์ดงกล่าวไดส่งไปยงระบบข้อมูลอื่นของผู้รับ





ั้



ข้อมูลซึ่งมิใช่ระบบข้อมูลที่ผู้รบข้อมูลก าหนดไว้ ให้ถือว่าการรบข้อมูลอิเล็กทรอนกส์มีผลนบแตเวลาที่ได ้


เรียกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์จากระบบข้อมูลนั้น
ู่
ั้
ความในมาตรานให้ใช้บังคับแม้ระบบข้อมูลของผู้รับข้อมูลตงอยในสถานที่อีกแห่ง
ี้
หนึ่งต่างหากจากสถานที่ที่ถือว่าผู้รับข้อมูลได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรา ๒๔
มาตรา ๒๔ การส่งหรือการรับข้อมูลอิเล็กทรอนกส์ ให้ถือว่าได้ส่ง ณ ที่ท าการงาน

ของผู้ส่งข้อมูล หรือได้รับ ณ ที่ท าการงานของผู้รับข้อมูล แล้วแต่กรณี

ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลหรอผู้รับข้อมูลมีที่ท าการงานหลายแห่ง ให้ถือเอาที่ท าการงาน
ั้

ที่เกี่ยวข้องมากที่สุดกับธุรกรรมนนเป็นที่ท าการงานเพื่อประโยชนตามวรรคหนึ่ง แต่ถ้าไม่สามารถก าหนด

ได้ว่าธุรกรรมนั้นเกี่ยวข้องกับที่ท าการงานแห่งใดมากที่สุด ให้ถือเอาส านักงานใหญ่เป็นสถานที่ที่ได้รบหรอ ื
ส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น


ในกรณีที่ไม่ปรากฏที่ท าการงานของผู้ส่งข้อมูลหรอผู้รบข้อมูล ให้ถือเอาถิ่นที่อย ู่
ปกติเป็นสถานที่ที่ส่งหรือได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ความในมาตรานี้มิให้ใช้บังคับกับการส่งและการรับข้อมูลอิเล็กทรอนกส์โดยวิธีการ

ทางโทรเลขและโทรพิมพ์ หรือวิธีการสื่อสารอื่นตามที่ก าหนดในพระราชกฤษฎีกา




มาตรา ๒๕ ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ใดที่ไดกระท าตามวิธีการแบบปลอดภยที่
ก าหนดในพระราชกฤษฎีกา ให้สันนิษฐานว่าเป็นวิธีการที่เชื่อถือได ้




หน้า | 8

หมวด ๒
ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์



มาตรา ๒๖ ลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ที่มีลักษณะดงตอไปนให้ถือว่าเป็นลายมือชื่อ
ี้



อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได ้

(๑) ข้อมูลส าหรบใช้สรางลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์นนไดเชื่อมโยงไปยงเจ้าของ




ั้

ลายมือชื่อโดยไม่เชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่นภายใต้สภาพที่น ามาใช้

(๒) ในขณะสรางลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์นน ข้อมูลส าหรบใช้สรางลายมือชื่อ


ั้


อิเล็กทรอนิกส์อยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าของลายมือชื่อโดยไม่มีการควบคุมของบุคคลอื่น




(๓) การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกิดแก่ลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ นับแต่เวลาที่ไดสราง
ขึ้นสามารถจะตรวจพบได้
(๔) ในกรณีที่กฎหมายก าหนดให้การลงลายมือชื่อเป็นไปเพื่อรับรองความครบถ้วน
และไม่มีการเปลี่ยนแปลงของข้อความ การเปลี่ยนแปลงใดแก่ข้อความนั้นสามารถตรวจพบได้นับแต่เวลาที่
ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
บทบัญญัติในวรรคหนึ่ง ไม่เป็นการจ ากัดว่าไม่มีวิธีการอื่นใดที่แสดงได้ว่าเป็นลายมือ
ชื่ออเล็กทรอนกส์ที่เชื่อถือได หรอการแสดงพยานหลักฐานใดเกี่ยวกับความไม่นาเชื่อถือของลายมือชื่อ





อิเล็กทรอนิกส์
มาตรา ๒๗ ในกรณีมีการใช้ข้อมูลส าหรับใช้สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อสราง


ลายมือชื่ออเล็กทรอนิกส์ที่จะมีผลตามกฎหมาย เจ้าของลายมือชื่อต้องด าเนินการดังต่อไปน ี้
(๑) ใช้ความระมัดระวังตามสมควรเพื่อมิให้มีการใช้ข้อมูลส าหรับใช้สร้างลายมือชื่อ
อิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต


(๒) แจ้งให้บุคคลที่คาดหมายไดโดยมีเหตอนควรเชื่อว่าจะกระท าการใดโดยขึ้นอย ู่

กับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือให้บริการเกี่ยวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทราบโดยมิชักช้า เมื่อ

ู้


(ก) เจ้าของลายมือชื่อรหรอควรไดรว่าข้อมูลส าหรบใช้สรางลายมือชื่อ

ู้


อเล็กทรอนกส์นนสูญหาย ถูกท าลาย ถูกแก้ไข ถูกเปิดเผยโดยมิชอบ หรอถูกล่วงรโดยไม่สอดคล้องกับ

ั้
ู้
วัตถุประสงค์
(ข) เจ้าของลายมือชื่อรจากสภาพการณ์ที่ปรากฏว่ากรณีมีความเสี่ยง
ู้
มากพอที่ข้อมูลส าหรับใช้สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ สูญหาย ถูกท าลาย ถูกแก้ไข ถูกเปิดเผยโดยมิชอบ
หรือถูกล่วงรู้โดยไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
(๓) ในกรณีมีการออกใบรับรองสนับสนุนการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนกส์ จะต้องใช้



ความระมัดระวังตามสมควรให้แนใจในความถูกตองและสมบูรณ์ของการแสดงสาระส าคัญทั้งหมด ซึ่ง
กระท าโดยเจ้าของลายมือชื่อเกี่ยวกับใบรับรองนั้นตลอดอายุใบรับรอง หรือตามที่มีการก าหนดในใบรับรอง
มาตรา ๒๘ ในกรณีมีการให้บรการออกใบรบรองเพื่อสนบสนนลายมือชื่อ






อเล็กทรอนกส์ให้มีผลทางกฎหมายเสมือนหนงลงลายมือชื่อ ผู้ให้บรการออกใบรบรองตองดาเนนการ


ึ่



ดังต่อไปน ี้
(๑) ปฏิบัติตามแนวนโยบายและแนวปฏิบัติที่ตนได้แสดงไว้
หน้า | 9

(๒) ใช้ความระมัดระวังตามสมควรให้แน่ใจในความถูกตองและความสมบูรณ์ของ



ั้



การแสดงสาระส าคัญทั้งหมดที่ตนไดกระท าเกี่ยวกับใบรบรองนนตลอดอายใบรบรอง หรอตามที่มีการ
ก าหนดในใบรับรอง
(๓) จัดให้มีวิธีการในการเข้าถึงโดยสมควร ให้คู่กรณีที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบ
ข้อเท็จจริงในการแสดงสาระส าคัญทั้งหมดจากใบรับรองได้ ในเรื่องดังต่อไปน ี้
(ก) การระบุผู้ให้บริการออกใบรับรอง
(ข) เจ้าของลายมือชื่อซึ่งระบุในใบรบรองไดควบคุมข้อมูลส าหรบใช้



สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในขณะมีการออกใบรับรอง


(ค) ข้อมูลส าหรบใช้สรางลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์มีผลใช้ไดในขณะ



หรือก่อนที่มีการออกใบรับรอง
(๔) จัดให้มีวิธีการเข้าถึงโดยสมควร ให้คู่กรณีที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบกรณี
ดังต่อไปนี้จากใบรับรองหรือจากวิธีอื่น
(ก) วิธีการที่ใช้ในการระบุตัวเจ้าของลายมือชื่อ

(ข) ข้อจ ากัดเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และคุณค่าที่มีการน าข้อมูลส าหรบใช้
สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับรอง
(ค) ข้อมูลส าหรบใช้สรางลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์มีผลสมบูรณ์ใช้ได ้




และไม่สูญหาย ถูกท าลาย ถูกแก้ไข ถูกเปิดเผยโดยมิชอบ หรือถูกล่วงรู้โดยไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
(ง) ข้อจ ากัดเกี่ยวกับขอบเขตความรับผิดที่ผู้ให้บริการออกใบรับรองได ้
ระบุไว้

(จ) การมีวิธีการให้เจ้าของลายมือชื่อส่งค าบอกกล่าวเมื่อมีเหตตาม
มาตรา ๒๗ (๒)
(ฉ) การมีบริการเกี่ยวกับการเพิกถอนใบรับรองที่ทันการ

ั้


(๕) ในกรณีที่มีบรการตาม (๔) (จ) บรการนนตองมีวิธีการที่ให้เจ้าของลายมือชื่อ
สามารถแจ้งได้ตามหลักเกณฑ์ที่ก าหนดตามมาตรา ๒๗ (๒) และในกรณีที่มีบริการตาม (๔) (ฉ) บริการนน
ั้
ต้องสามารถเพิกถอนใบรับรองได้ทันการ
(๖) ใช้ระบบ วิธีการ และบุคลากรที่เชื่อถือได้ในการให้บริการ
มาตรา ๒๙ ในการพิจารณาความเชื่อถือไดของระบบ วิธีการ และบุคลากรตาม

มาตรา ๒๘ (๖) ให้ค านึงถึงกรณีดังต่อไปน ี้
(๑) สถานภาพทางการเงิน บุคลากร และสินทรัพย์ที่มีอย ู่
(๒) คุณภาพของระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร ์


(๓) วิธีการออกใบรบรอง การขอใบรบรอง และการเก็บรกษาข้อมูลการให้บริการ

นั้น
(๔) การจัดให้มีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเจ้าของลายมือชื่อ ที่ระบุในใบรับรองและผู้ที่
อาจคาดหมายได้ว่าจะเป็นคู่กรณีที่เกี่ยวข้อง
(๕) ความสม่ าเสมอและขอบเขตในการตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบอิสระ

(๖) องค์กรที่ให้การรับรองหรือให้บริการออกใบรับรองเกี่ยวกบการปฏิบัติหรอการ

มีอยู่ของสิ่งที่กล่าวมาใน (๑) ถึง (๕)
(๗) กรณีใดๆ ที่คณะกรรมการประกาศก าหนด

หน้า | 10

มาตรา ๓๐ คู่กรณีที่เกี่ยวข้องต้องด าเนินการ ดังต่อไปน ี้


(๑) ดาเนนการตามสมควรในการตรวจสอบความนาเชื่อถือของลายมือชื่อ

อิเล็กทรอนิกส์


(๒) ในกรณีลายมือชื่ออเล็กทรอนิกส์มีใบรบรอง ตองมีการดาเนนการตามสมควร



ดังน ี้
(ก) ตรวจสอบความสมบูรณ์ของใบรับรอง การพักใช้ หรือการเพิกถอน
ใบรับรอง และ

(ข) ปฏิบัติตามข้อจ ากัดใด ๆ ที่เกี่ยวกับใบรบรอง



มาตรา ๓๑ ใบรบรองหรือลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ให้ถือว่ามีผลทางกฎหมายโดย
ไม่ต้องค านึงถึง
(๑) สถานที่ออกใบรับรองหรือสถานที่สร้างหรือใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ
(๒) สถานที่ท าการงานของผู้ออกใบรับรองหรือเจ้าของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์


ใบรบรองที่ออกในตางประเทศให้มีผลตามกฎหมายในประเทศเช่นเดยวกับ

ใบรับรองที่ออกในประเทศ หากการออกใบรับรองดังกล่าวได้ใช้ระบบที่เชื่อถือได้ไม่น้อยกว่าระบบที่เชื่อถือ
ได้ตามพระราชบัญญัติน ี้
ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างหรือใช้ในต่างประเทศให้ถือว่ามีผลตามกฎหมายใน






ประเทศ เช่นเดยวกับลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ที่สรางหรอใช้ในประเทศ หากการสรางหรอใช้ลายมือชื่อ

อิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวได้ใช้ระบบที่เชื่อถือได้ไม่น้อยกว่าระบบที่เชื่อถือได้ตามพระราชบัญญัติน ี้





ในการพิจารณาว่าใบรบรองหรอลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ใดมีความเชื่อถือไดตาม
วรรคสองหรือวรรคสาม ให้ค านึงถึงมาตรฐานระหว่างประเทศและปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย
หมวด ๓
ธุรกิจบริการเกยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์
ี่



มาตรา ๓๒ บุคคลยอมมีสิทธิประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทาง

อเล็กทรอนกส์ แตในกรณีจ าเป็นเพื่อรกษาความมั่นคงทางการเงินและการพาณิชย หรอเพื่อประโยชน์ใน







การเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและยอมรับในระบบข้อมูลอิเล็กทรอนกส์ หรือเพื่อป้องกันความเสียหายตอ



สาธารณชน ให้มีการตราพระราชกฤษฎกาก าหนดให้การประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ใดเป็นกิจการที่ต้องแจ้งให้ทราบ ต้องขึ้นทะเบียน หรือต้องได้รับใบอนุญาตก่อน แล้วแต่กรณี




ในการก าหนดให้กรณีใดตองแจ้งให้ทราบ ตองขึ้นทะเบียน หรอตองไดรบ



ึ่
ใบอนญาตตามวรรคหนง ให้ก าหนดโดยพิจารณาจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจนั้น
ประกอบกับความเหมาะสมในการควบคุมดแลและการป้องกันความเสียหายตามระดบความรนแรงของ



ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจดังกล่าว




หน้า | 11


ี้
ในการน จะก าหนดให้หนวยงานของรฐแห่งหนงแห่งใดเป็นผู้รบผิดชอบในการ


ึ่
ึ่


ควบคุมดแลในพระราชกฤษฎกาที่ออกตามวรรคหนงก็ได หากไม่มีการก าหนดให้หนวยงานของรัฐแห่งใด






เป็นผู้รบผิดชอบในการควบคุมดแล ให้ส านกงานเป็นผู้รบผิดชอบในการควบคุมดแลการประกอบธุรกิจ

บริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์ตามพระราชกฤษฎกาดังกล่าว ทั้งนี้ ให้หน่วยงานของรัฐซึ่งเป็น


ผู้รับผิดชอบในการควบคุมดูแลตามพระราชกฤษฎีกาหรือส านักงาน แล้วแต่กรณี แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่
เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาด้วย
ก่อนเสนอให้ตราพระราชกฤษฎกาตามวรรคหนง ตองจัดให้มีการรบฟังความ


ึ่

คิดเห็นของประชาชนตามความเหมาะสม และน าข้อมูลที่ได้รับมาประกอบการพิจารณา
มาตรา ๓๓ ในกรณีที่พระราชกฤษฎีกาก าหนดให้การประกอบธุรกิจบริการเกยวกับ
ี่
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์ใดเป็นกิจการที่ต้องแจ้งให้ทราบ ผู้ที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจดังกล่าวต้องแจ้ง

ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนเริ่มประกอบธุรกิจนั้น ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ก าหนดในพระราช
กฤษฎีกา
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้ง ให้ออกใบรับแจ้งเพื่อเป็นหลักฐานการแจ้งในวันที่





ั้
ั้
ั้




รบแจ้งนนและให้ผู้แจ้งประกอบธุรกิจนนไดตงแตวันที่ไดรบใบรบแจ้งดงกล่าว แตถ้าพนกงานเจ้าหนาที่


ตรวจพบในภายหลังว่าการแจ้งไม่ถูกต้องหรอไม่ครบถ้วน ให้มีอ านาจสั่งผู้แจ้งแก้ไขให้ถูกต้องหรือครบถ้วน
และน าผลการแก้ไขมาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในระยะเวลาที่ก าหนด



ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่แก้ไขหรอไม่ปฏบัตตามค าสั่งของพนกงานเจ้าหนาที่


ภายในระยะเวลาที่ก าหนด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้ผู้นั้นหยุดการให้บริการในส่วนที่เกี่ยวกับธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ในการประกอบธุรกิจนั้นนับแตวันที่ครบก าหนดระยะเวลาตามวรรคสองจนกว่าจะแก้ไขให้

ถูกต้องและครบถ้วนตามค าสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่
ในการประกอบธุรกิจ ผู้แจ้งต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ก าหนดในพระราชกฤษฎีกา
ื่

และตามประกาศที่คณะกรรมการก าหนด หลักเกณฑ์ตามพระราชกฤษฎกาดงกล่าวให้ก าหนดเรองการ

ชดใช้หรือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการประกอบธุรกิจไว้ด้วย



ถ้าผู้แจ้งไม่ปฏบัตตามหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจตามวรรคสี่ ให้พนกงาน
เจ้าหน้าที่มีค าสั่งห้ามมิให้ผู้นั้นให้บริการในส่วนที่เกยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ในการประกอบธุรกิจ

ี่
นั้นจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่ก าหนดดังกล่าว


ในกรณีที่ผู้แจ้งไม่แก้ไขตามวรรคสามหรอไม่ปฏบัตตามวรรคห้าภายในระยะเวลา

เก้าสิบวันนับแต่วันที่หยุดหรือถูกห้ามการให้บริการ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ถอนการรับแจ้งของผู้นั้นออกจาก
สารบบการรับแจ้งและแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้นั้นทราบโดยเร็ว
มาตรา ๓๓/๑ ในกรณีที่พระราชกฤษฎกาก าหนดให้การประกอบธุรกิจบรการ


เกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ใดเป็นกิจการที่ตองขึ้นทะเบียน ผู้ที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจดังกล่าว



ต้องขอขึ้นทะเบียนต่อพนกงานเจาหน้าที่ก่อนเริ่มประกอบธุรกิจนน ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่
ั้


ก าหนดในพระราชกฤษฎีกา
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับค าขอขึ้นทะเบียนแล้ว ให้ออกใบรับการขอขึ้นทะเบียน
เพื่อเป็นหลักฐานการขอขึ้นทะเบียนในวันที่ยื่นค าขอนั้น และหากพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารและ



หลักฐานการขึ้นทะเบียนแล้วเห็นว่าครบถ้วนและถูกตองตามที่ก าหนดในพระราชกฤษฎกา ให้รบขึ้น


ทะเบียนและแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนทราบภายในสามสิบวันนับแตวันที่ไดรับค าขอขึ้นทะเบียน
ดังกล่าว และให้ผู้ขึ้นทะเบียนประกอบธุรกิจนั้นได้ตั้งแต่วันที่ได้รับขึ้นทะเบียน
หน้า | 12




หากพนกงานเจ้าหนาที่ไม่สามารถตรวจสอบให้แล้วเสรจไดภายในระยะเวลาตาม



วรรคสอง ให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนประกอบธุรกิจไปพลางก่อนได นบแตวันถัดจากวันที่ครบก าหนดระยะเวลา

ดังกล่าว
ในกรณีที่พนกงานเจ้าหนาที่ตรวจสอบก่อนการรบขึ้นทะเบียนตามวรรคสอง หรอ ื



ตรวจพบหลังจากที่ผู้นั้นได้ประกอบธุรกิจดังกล่าวแล้ว ว่าเอกสารและหลักฐานการขึ้นทะเบียนของผู้ขอขึ้น
ทะเบียนไม่ครบถ้วนหรอไม่ถูกตอง ให้แจ้งเป็นหนงสือแก่ผู้ขอขึ้นทะเบียนหรอผู้ขึ้นทะเบียน แล้วแต่กรณี




ี้


เพื่อแก้ไขให้ถูกตองและครบถ้วนภายในระยะเวลาที่ก าหนด ในการน ถ้าผู้ขอขึ้นทะเบียนหรอผู้ขึ้น




ทะเบียนไม่แก้ไขให้ถูกตองและครบถ้วน หรอไม่ดาเนนการจนพ้นก าหนดระยะเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่
ก าหนดโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สิทธิในการประกอบธุรกิจของผู้ขอขึ้นทะเบียนตามวรรคสามเป็นอันระงับ

และให้ถือว่าค าขอขึ้นทะเบียนนนตกไป หรอให้มีค าสั่งเพิกถอนการขึ้นทะเบียนของผู้ประกอบธุรกิจนั้น
ั้
แล้วแต่กรณี



ในการประกอบธุรกิจ ผู้ขึ้นทะเบียนตองปฏบัตตามหลักเกณฑ์ที่ก าหนดใน



พระราชกฤษฎกาและตามประกาศที่คณะกรรมการก าหนด หลักเกณฑ์ตามพระราชกฤษฎกาดงกล่าวให้
ก าหนดเรื่องการชดใช้หรือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการประกอบธุรกิจไว้ด้วย


ถ้าผู้ขึ้นทะเบียนฝ่าฝืนหรอไม่ปฏิบัตตามหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจตามวรรคห้า
ให้คณะกรรมการพิจารณามีค าสั่งปรับผู้นั้นไม่เกินหนึ่งล้านบาท โดยค านึงถึงความร้ายแรงแห่งพฤติกรรมที่
กระท าผิด หลักเกณฑ์ในการพิจารณาก าหนดค่าปรับให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการก าหนด และในกรณีที่
เห็นสมควรคณะกรรมการอาจมีค าสั่งให้ผู้นั้นด าเนินการใดๆ เพื่อแก้ไขให้ถูกต้องหรือเหมาะสมได ้

ถ้าผู้ถูกปรับตามวรรคหกไม่ช าระค่าปรับ ให้คณะกรรมการมีอานาจฟ้องคดตอศาล




ี้
ที่มีเขตอานาจในการพิจารณาคดอาญาเพื่อบังคับช าระค่าปรบ ในการน ถ้าศาลพิพากษาให้ช าระค่าปรับ


หากผู้นั้นไม่ช าระค่าปรับภายในสามสิบวันนับแตวันที่ศาลมีค าพิพากษา ให้ยึดทรัพย์สินของผู้นั้นเพื่อชดใช้
แทนค่าปรับ แต่มิให้น ามาตรการกักขังแทนค่าปรับมาใช้แก่ผู้นั้น


ในกรณีที่ผู้กระท าผิดตามวรรคหกไม่ดาเนนการแก้ไขตามค าสั่งของคณะกรรมการ
หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจตามวรรคห้าซ้ าอีกภายในระยะเวลาหนึ่งปีนบแต ่

วันที่คณะกรรมการมีค าสั่งปรบครงแรก คณะกรรมการอาจมีค าสั่งเพิกถอนการขึ้นทะเบียนของผู้ขึ้น
ั้

ทะเบียนนั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งค าสั่งดังกล่าวให้ผู้นั้นทราบโดยเร็ว
มาตรา ๓๔ ในกรณีที่พระราชกฤษฎีกาก าหนดให้การประกอบธุรกิจบริการเกยวกับ
ี่
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ใดเป็นกิจการที่ต้องไดรับใบอนุญาต ให้ผู้ที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจดังกล่าวยน
ื่

ค าขอรับใบอนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่ก าหนดในพระราชกฤษฎีกา

คุณสมบัตของผู้ขอรบใบอนญาต หลักเกณฑ์และวิธีการขออนญาต การออก





ใบอนญาต การตออายใบอนญาต การคืนใบอนญาต และการสั่งพักใช้หรอเพิกถอนใบอนญาต ให้เป็นไป





ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ก าหนดในพระราชกฤษฎีกา

ในการประกอบธุรกิจ ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัตตามหลักเกณฑ์ที่ก าหนดในพระ

ราชกฤษฎีกาประกาศที่คณะกรรมการก าหนด หรือเงื่อนไขในใบอนญาต หลักเกณฑ์ตามพระราชกฤษฎกา

ดังกล่าวให้ก าหนดเรื่องการชดใช้หรือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการประกอบธุรกิจไว้ด้วย



ในกรณีที่ผู้ไดรบใบอนญาตฝ่าฝืนหรอไม่ปฏบัตตามหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจ




ตามวรรคสาม ให้คณะกรรมการพิจารณามีค าสั่งปรบผู้นั้นไม่เกินสองล้านบาท และให้นาความในมาตรา

๓๓/๑ วรรคหกและวรรคเจ็ด มาใช้บังคับโดยอนุโลม
หน้า | 13


ในกรณีที่ผู้กระท าผิดตามวรรคสี่ไม่ดาเนนการแก้ไขตามค าสั่งของคณะกรรมการ
ึ่

หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัตตามหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจตามวรรคสามซ้ าอีกภายในระยะเวลาหนงปีนบ



ั้


แตวันที่คณะกรรมการมีค าสั่งปรบครงแรก คณะกรรมการอาจมีค าสั่งเพิกถอนใบอนญาตของผู้ไดรบ

ใบอนุญาตนั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งค าสั่งดังกล่าวให้ผู้นั้นทราบโดยเร็ว

ี่
มาตรา ๓๔/๑ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลการประกอบธุรกิจบรการเกยวกับ





ี้

ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ตามหมวดน ให้คณะกรรมการ ส านกงานหรอหนวยงานของรฐซึ่งเป็น



ผู้รบผิดชอบในการควบคุมดแลตามมาตรา ๓๒ วรรคสาม ประกาศก าหนดรายละเอยดเพิ่มเตมในเรื่องที่

ก าหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา ๓๒ ได้ โดยไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
มาตรา ๓๔/๒ เพื่อประโยชนในการควบคุมดแลและก ากับการประกอบธุรกิจ






บรการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตนหรอตามพระราชกฤษฎกาตาม
ี้







มาตรา ๓๒ ให้พนกงานเจาหนาที่ของหนวยงานของรฐหรอส านักงานที่มีหนาที่ควบคุมดแลการประกอบ



ธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์นั้นมีหน้าที่และอ านาจ ดังต่อไปน ี้





(๑) มีหนงสือแจ้งให้ผู้ให้บรการหรอเจ้าหนาที่ของผู้ให้บรการ หรอบุคคลใดมาให้

ข้อมูลหรือส่งเอกสารหรือหลักฐานใด ๆ เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจการให้บริการนั้น

(๒) ตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจรงเพื่อรายงานตอคณะกรรมการ ในกรณีที่ผู้

ให้บริการได้กระท าความผิดหรอท าให้เกิดความเสียหายเพราะเหตุฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัต ิ

นี้หรือตามพระราชกฤษฎีกา ประกาศของคณะกรรมการ หรือเงื่อนไขในใบอนุญาต


(๓) เข้าไปในสถานที่ของผู้ให้บรการในระหว่างเวลาพระอาทิตยขึ้นจนถึงพระ






อาทิตยตก หรอในเวลาท าการของสถานที่นน เพื่อตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจรง และยดหรออายด
ั้
เอกสารและหลักฐาน รวมถึงสิ่งอื่นใดที่เกี่ยวกับการให้บรการที่สงสัยว่ามีไว้เพื่อใช้หรอไดใช้ในการกระท า



ความผิด

ี้
ในการปฏบัตหนาที่ของพนกงานเจ้าหนาที่ตามมาตราน ให้แสดงบัตรประจ าตว ั









พนกงานเจ้าหนาที่ที่หนวยงานของรฐหรอส านกงานที่มีหนาที่ควบคุมดแลออกให้ และให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง



อ านวยความสะดวกตามสมควร
หมวด ๓/๑
ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล




มาตรา ๓๔/๓ การพิสูจนและยนยนตวตนของบุคคลอาจกระท าผ่านระบบการ

พิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลได ้
ผู้ใดประสงค์จะอาศัยการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของบุคคลอื่นผ่านระบบการพิสูจน ์






และยนยนตวตนทางดจิทัลอาจแจ้งเงื่อนไขเกี่ยวกับความนาเชื่อถือของการพิสูจนและยนยนตวตนทาง





ั้
ื่



ดจิทัลที่ตองใช้ให้บุคคลอนนนทราบเป็นการล่วงหนา และเมื่อไดมีการพิสูจนและยนยนตวตนทางดจิทัล




ตามเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว ให้สันนิษฐานว่าบุคคลที่ได้รับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนเป็นบุคคลนั้นจริง


หน้า | 14

เงื่อนไขเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลตามวรรค
สองต้องมีมาตรฐานไม่ต่ ากว่าที่คณะกรรมการหรือคณะกรรมการตามมาตรา ๓๔/๔ วรรคสอง แล้วแต่กรณี
ประกาศก าหนด โดยมีหลักประกันการเข้าถึงและการใช้ประโยชนของประชาชนโดยสะดวกและไม่เลือก

ปฏิบัต ิ

มาตรา ๓๔/๔ ในกรณีที่จ าเป็นเพื่อรกษาความมั่นคงทางการเงินและการพาณิชย ์







หรอเพื่อประโยชนในการเสรมสรางความนาเชื่อถือและยอมรบในระบบการพิสูจนและยนยนตวตนทาง





ดิจิทัล หรือเพื่อป้องกันความเสียหายตอสาธารณชน ให้มีการตราพระราชกฤษฎกาก าหนดให้การประกอบ

ธุรกิจบริการเกยวกับระบบการพิสูจน์และยนยันตวตนทางดิจิทัลใดเป็นการประกอบธุรกิจบรการเกยวกับ



ี่
ี่









ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ที่ตองไดรบใบอนญาตก่อน และให้นาบทบัญญัตในหมวด ๓ ธุรกิจบรการ
เกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ึ่
พระราชกฤษฎกาตามวรรคหนงอาจก าหนดให้มีการจัดตงคณะกรรมการขึ้นมา

ั้
คณะหนงเพื่อท าหนาที่ประกาศก าหนดหลักเกณฑ์ที่ผู้ประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกบระบบการพิสูจน์และ



ึ่


ยืนยันตัวตนทางดิจิทัลจะต้องปฏิบัติ และให้มีอ านาจพิจารณามีค าสั่งและดาเนนการอื่นใดตามมาตรา ๓๔
ในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตฝ่าฝืนหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจก็ได ้
หมวด ๔
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ


มาตรา ๓๕ ค าขอ การอนญาต การจดทะเบียน ค าสั่งทางปกครอง การช าระเงิน





การประกาศหรอการดาเนนการใด ๆ ตามกฎหมายกับหนวยงานของรฐหรอโดยหนวยงานของรฐ ถ้าได ้




กระท าในรปของข้อมูลอเล็กทรอนกส์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก าหนดโดยพระราชกฤษฎกา ให้นา




พระราชบัญญัตนมาใช้บังคับและให้ถือว่ามีผลโดยชอบดวยกฎหมายเช่นเดยวกับการดาเนนการตาม



ี้

หลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายในเรองนนก าหนด ทั้งน ในพระราชกฤษฎกาอาจก าหนดให้บุคคลที่
ั้
ี้
ื่




เกี่ยวข้องตองกระท าหรองดเว้นกระท าการใด ๆ หรอให้หนวยงานของรฐออกระเบียบเพื่อก าหนด


รายละเอียดในบางกรณีด้วยก็ได ้

ึ่
ในการออกพระราชกฤษฎกาตามวรรคหนง พระราชกฤษฎกาดงกล่าวอาจ






ก าหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ตองแจ้งให้ทราบ ตองขึ้นทะเบียน









หรอตองไดรบใบอนญาต แล้วแตกรณี ก่อนประกอบกิจการก็ได ในกรณีน ให้นาบทบัญญัตในหมวด ๓

ี้
และบทก าหนดโทษที่เกี่ยวข้องมาใช้บังคับโดยอนุโลม



เมื่อไดมีการตราพระราชกฤษฎกาตามวรรคหนงแล้ว ศาลหรอองค์กรตาม
ึ่
ื่
รัฐธรรมนูญอาจพิจารณาน าหลักเกณฑ์ในเรองใดที่ก าหนดไว้ตามพระราชกฤษฎกาดังกล่าวมาใช้บังคับแก่






การดาเนนการในส่วนที่เกี่ยวกบกระบวนพิจารณาพิพากษาคดของศาลหรอในการวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาท



แล้วแตกรณี เพื่อให้เป็นไปตามความเหมาะสมกับหนาที่และอานาจของตนตามกฎหมายได รวมถึงการ

ก าหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา



หน้า | 15

หมวด ๕
คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์






มาตรา ๓๖ ให้มีคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์คณะหนึ่ง ประกอบดวย


ั้


ประธานกรรมการซึ่งคณะรฐมนตรแตงตงจากผู้ทรงคุณวุฒิ ปลัดกระทรวงดจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
เป็นรองประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่นซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจ านวนแปดคน

ให้ผู้อานวยการเป็นกรรมการและเลขานการ และแตงตงพนกงานของส านกงาน

ั้



เป็นผู้ช่วยเลขานุการได้ตามความจ าเป็นแต่ไม่เกินสองคน
ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามวรรคหนง ตองเป็นบุคคลที่มี

ึ่
ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความสามารถเป็นที่ประจักษ์ด้านการเงิน ด้านการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ด้าน
นิติศาสตร์ ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ด้านวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรมศาสตร์ ด้านสังคมศาสตร์ หรือด้าน




อื่นใดที่เป็นประโยชนตอการดาเนนงานของคณะกรรมการ ทั้งนี้ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องประกอบดวย











บุคคลซึ่งมิใช่ข้าราชการหรอผู้ปฏบัตงานในหนวยงานของรฐที่มีตาแหนงหรอเงินเดอนประจ ารวมเป็น
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้วยไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจ านวนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมด

หลักเกณฑ์และวิธีการไดมาซึ่งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ให้
เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีก าหนด
มาตรา ๓๗ ให้คณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์มีหนาที่และอานาจ




ดังต่อไปน ี้

(๑) พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนยุทธศาสตรเกยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์

ี่
ที่ส านักงานเสนอตามมาตรา ๔๓ วรรคสอง


(๒) ส่งเสรมและสนบสนนหนวยงานของรฐ เอกชน และประชาชนให้ดาเนน





กิจกรรมตามแผนยุทธศาสตร์ตาม (๑)



(๓) ก าหนดมาตรฐานดานเทคโนโลยดจิทัลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์


(๔) ก ากับและตดตามการดาเนนงานตามแผนยทธศาสตรตาม (๑) เพื่อรวบรวม







ข้อมูลและปัญหาเกี่ยวกับการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ที่ส่งผลกระทบตอการดาเนนการและพัฒนา

ทางเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาต ิ


(๕) เสนอแนะตอคณะกรรมการดจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตและ








คณะรฐมนตรในการจัดให้มีหรอปรบปรงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์
และการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเกี่ยวกับการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์





(๖) เสนอแนะหรอให้ค าปรกษาตอรฐมนตรในการตราพระราชกฤษฎกาตาม

พระราชบัญญัติน ี้

ี้

(๗) ออกระเบียบหรอประกาศเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตน หรอเพื่อ

ประโยชน์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

(๘) ก ากับดแลการประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ตาม



พระราชบัญญัติน ี้
(๙) ปฏิบัติการอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายอื่น
หน้า | 16

ในการปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามหน้าที่และอ านาจตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการมี







หนงสือเรยกหนวยงานของรฐหรอบุคคลใดมาชี้แจง ให้ข้อเท็จจรง หรอมาให้ถ้อยค าหรอส่งเอกสาร

หลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการด าเนินงานได ้


ในการปฏบัตการตามพระราชบัญญัตนให้คณะกรรมการเป็นเจ้าพนกงานตามประมวล


ี้
กฎหมายอาญา
มาตรา ๓๘ ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการด ารงตาแหนง


สี่ปี
เมื่อครบก าหนดวาระตามวรรคหนึ่ง หากยังมิได้มีการแต่งตั้งประธานกรรมการและ
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่ ให้ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากต าแหน่งตามวาระ






ั้
ู่

นนอยในตาแหนงเพื่อปฏบัตหนาที่ตอไปจนกว่าประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งไดรบ



ั้



แตงตงใหม่เข้ารบหน้าที่ แตตองไม่เกินเก้าสิบวันนบแตวันที่ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

พ้นจากต าแหนงตามวาระนั้น

มาตรา ๓๙ นอกจากการพ้นจากตาแหนงตามวาระตามมาตรา ๓๘ ประธาน


กรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากต าแหน่ง เมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) คณะรัฐมนตรีให้ออกเพราะมีความประพฤตเสื่อมเสีย บกพร่องหรือไม่สุจรตตอ ่


หน้าที่หรือหย่อนความสามารถ
(๔) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ


(๕) ได้รับโทษโดยตองค าพิพากษาถึงที่สุดให้จ าคุก เว้นแต่เป็นโทษส าหรับความผิด
ที่ได้กระท าโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
มาตรา ๔๐ ในกรณีที่ประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากต าแหนง ่

ู่
ั้



ก่อนวาระ ให้คณะกรรมการประกอบดวยกรรมการเท่าที่เหลืออย และให้ดาเนนการแตงตงประธาน

กรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตาแหน่งที่ว่างภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ต าแหน่งว่างลง เว้นแต ่
วาระของกรรมการเหลือไม่ถึงเกาสิบวัน และให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งแทนอยู่ในต าแหน่งเท่ากับ

วาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
มาตรา ๔๑ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากงหนง ึ่
ึ่
ของจ านวนกรรมการทั้งหมดจึงเป็นองค์ประชุม




ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรอไม่อาจปฏบัตหนาที่ได ให้คณะกรรมการ

เลือกกรรมการคนหนึ่งท าหน้าที่ประธานในที่ประชุม

ึ่
การวินจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนงให้มีเสียงหนึ่ง
ในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
การประชุมของคณะกรรมการอาจกระท าโดยวิธีการทางอเล็กทรอนกส์ตามที่


คณะกรรมการก าหนดก็ได ้
หน้า | 17


ั้
มาตรา ๔๒ คณะกรรมการมีอานาจแตงตงคณะอนกรรมการเพื่อพิจารณาหรอ



ปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดแทนคณะกรรมการก็ได ้
ให้นาความในมาตรา ๔๑ มาใช้บังคับแก่การประชุมของคณะอนกรรมการโดย


อนุโลม

มาตรา ๔๒/๑ ให้คณะกรรมการไดรบเบี้ยประชุมและประโยชนตอบแทนอนตาม
ื่


หลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีก าหนด
คณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการแต่งตั้งตามมาตรา ๔๒ ให้ได้รับเบี้ยประชุมและ
ประโยชน์ตอบแทนอื่นตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการก าหนด
มาตรา ๔๓ ให้ส านักงานท าหน้าที่เป็นหน่วยงานธุรการของคณะกรรมการ





ให้ส านกงานจัดท าแผนยทธศาสตรเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ เพื่อเสนอ
คณะกรรมการให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๓๗ (๑) และจัดส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อด าเนินการต่อไป


มาตรา ๔๓/๑ แผนยทธศาสตรที่ส านกงานตองจัดท าตามมาตรา ๔๓ วรรคสอง


ต้องสอดคล้องกับนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมตามกฎหมาย
ว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยอย่างน้อยต้องก าหนดเรื่องดังต่อไปน ี้



(๑) กลไกและมาตรการดานการพัฒนาโครงสรางพื้นฐานทางเทคโนโลยดจิทัล

เพื่อรองรับการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์และธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ
(๒) มาตรการการส่งเสริมและสนับสนุนการให้มีระบบการบริการในการท าธุรกรรม
ทางอิเล็กทรอนิกส์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และการให้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้เทคโนโลย ี
ดิจิทัล เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ
(๓) กระบวนการส่งเสรมให้เกิดการพัฒนามาตรฐานและกฎเกณฑ์การใช้งานทาง

เทคโนโลยีดจิทัล เพื่อให้การท างานของระบบมีการเชื่อมโยงกันอย่างมีความมั่นคงปลอดภย พร้อมใช้งาน


และมีความน่าเชื่อถือในการให้บริการ


(๔) แนวทางและมาตรการเกี่ยวกับการส่งเสรมการผลิตและพัฒนาบุคลากรดาน

ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พาณิชยอเล็กทรอนกส์ และธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์






และธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ รวมทั้งการประยุกต์การใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลที่เกี่ยวข้อง
(๕) แนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา ค้นคว้า และวิจัยเทคโนโลยีดิจิทัล



ดานธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พาณิชยอเล็กทรอนกส์ และการให้บรการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์






รวมทั้งส่งเสริมให้มีการเผยแพร่ความรู้ให้แก่ประชาชนเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าว








หน้า | 18

หมวด ๖
บทก าหนดโทษ



มาตรา ๔๔ ผู้ใดประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์โดยไม่



แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่ก าหนดในพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา ๓๓ วรรคหนึ่ง โดยฝ่าฝืนค าสั่งของ






พนกงานเจ้าหนาที่ให้หยดการให้บรการหรอค าสั่งห้ามมิให้ให้บรการในส่วนที่เกี่ยวกับธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ในการประกอบธุรกิจตามมาตรา ๓๓ วรรคสาม หรือตามมาตรา ๓๓ วรรคห้า แล้วแต่กรณี




หรอประกอบธุรกิจบรการเกยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ภายหลังจากพนกงานเจาหนาที่ถอนการรับ
ี่




แจ้งตามมาตรา ๓๓ วรรคหก ตองระวางโทษจ าคุกไม่เกินหนึ่งปี หรอปรบไม่เกนหนงแสนบาท หรอทั้งจ า



ึ่

ทั้งปรับ
มาตรา ๔๔/๑ ผู้ใดประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ โดยไม่

ขึ้นทะเบียนตอพนกงานเจ้าหนาที่ตามที่ก าหนดในพระราชกฤษฎกาตามมาตรา ๓๓/๑ วรรคหนง หรอ

ึ่





ประกอบธุรกิจบริการเกยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ภายหลังจากมีค าสั่งเพิกถอนการขึ้นทะเบียนตาม
ี่
มาตรา ๓๓/๑ วรรคสี่ หรือวรรคแปด แล้วแตกรณี ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกนสอง


แสนบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ
มาตรา ๔๕ ผู้ใดประกอบธุรกิจบริการเกยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได ้
ี่


รับใบอนุญาตตามมาตรา ๓๔ หรือประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ในระหว่างที่มี

ค าสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือภายหลังจากมีค าสั่งเพิกถอนใบอนุญาตของคณะกรรมการ ต้องระวางโทษจ าคุก
ไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ


มาตรา ๔๕/๑ ผู้ใดประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับระบบการพิสูจน์และยืนยนตวตน

ทางดจิทัลโดยไม่ไดรบใบอนญาตตามมาตรา ๓๔/๔ หรอประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับระบบการพิสูจน ์





และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลในระหว่างที่มีค าสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือภายหลังจากมีค าสั่งเพิกถอนใบอนญาต

ของคณะกรรมการหรือคณะกรรมการตามมาตรา ๓๔/๔ วรรคสอง ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินสามปี หรือ
ปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ

มาตรา ๔๖ ในกรณีที่ผู้กระท าความผิดเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระท าความผิดของนต ิ
บุคคลนั้นเกิดจากการสั่งการหรือการกระท าของกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการ
ด าเนินงานของนิติบุคคลนั้น หรือในกรณีที่บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ตองสั่งการหรอกระท าการและละเว้นไม่


สั่งการหรอไม่กระท าการจนเป็นเหตให้นตบุคคลนนกระท าความผิด ผู้นนตองรบโทษตามที่บัญญัตไว้




ั้
ั้



ส าหรับความผิดนั้นๆ ด้วย

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พันต ารวจโท ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตร ี

หน้า | 19


หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่การท าธุรกรรมในปัจจุบันมีแนวโนม






ที่จะปรบเปลี่ยนวิธีการในการตดตอสื่อสารที่อาศัยการพัฒนาการเทคโนโลยทางอเล็กทรอนกส์ซึ่งมีความ


สะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่เนื่องจากการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวมีความแตกตาง
จากวิธีการท าธุรกรรมซึ่งมีกฎหมายรองรับอยู่ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก อันส่งผลให้ต้องมีการรองรับสถานะ





ทางกฎหมายของข้อมูลทางอเล็กทรอนกส์ให้เสมอกับการท าเป็นหนงสือ หรอหลักฐานเป็นหนงสือ การ







รบรองวิธีการส่งและรบข้อมูลอเล็กทรอนกส์ การใช้ลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ ตลอดจนการรบฟัง





พยานหลักฐานที่เป็นข้อมูลอเล็กทรอนกส์ เพื่อเป็นการส่งเสรมการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ให้


ู่


นาเชื่อถือ และมีผลในทางกฎหมายเช่นเดยวกับการท าธุรกรรมโดยวิธีการทั่วไปที่เคยปฏบัตอยเดมควร



ก าหนดให้มีคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ท าหน้าที่วางนโยบายก าหนดหลักเกณฑ์เพื่อส่งเสรม



การท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ ตดตามดแลการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์





รวมทั้งมีหนาที่ในการส่งเสริมการพัฒนาการทางเทคโนโลยเพื่อตดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลย ซึ่งมี



การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาศักยภาพตลอดเวลาให้มีมาตรฐานน่าเชื่อถือ ตลอดจนเสนอแนะแนวทางแก้ไข
ปัญหาและอุปสรรคที่เกยวข้อง อันจะเป็นการส่งเสรมการใช้ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งภายในประเทศ

ี่
และระหว่างประเทศ ดวยการมีกฎหมายรองรบในลักษณะที่เป็นเอกรป และสอดคล้องกับมาตรฐานที่



นานาประเทศยอมรับ จึงจ าเป็นต้องตราพระราชบัญญัติน ี้
*พระราชกฤษฎกาแก้ไขบทบัญญัตให้สอดคล้องกับการโอนอานาจหนาที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตาม




พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕

มาตรา ๑๐๒ ในพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ให้


แก้ไขค าว่า “รฐมนตรว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร เทคโนโลยและสิ่งแวดล้อม” เป็น “รฐมนตรว่าการ




กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร”
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง



ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ไดบัญญัตให้จัดตงส่วนราชการขึ้นใหม่โดยมีภารกิจใหม่ ซึ่งไดมีการตราพระราช
ั้


กฤษฎกาโอนกิจการบรหารและอานาจหนาที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตปรบปรง ุ






กระทรวง ทบวง กรม นนแล้ว และเนองจากพระราชบัญญัตดงกล่าวไดบัญญัตให้โอนอานาจหนาที่ของ
ื่




ั้
ส่วนราชการ รัฐมนตรีผู้ด ารงต าแหน่งหรือผู้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในส่วนราชการเดิมมาเป็นของส่วนราชการใหม่
โดยให้มีการแก้ไขบทบัญญัติต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับอ านาจหน้าที่ที่โอนไปด้วย ฉะนั้น เพื่ออนุวัติให้เป็นไป




ตามหลักการที่ปรากฏในพระราชบัญญัตและพระราชกฤษฎกาดงกล่าว จึงสมควรแก้ไขบทบัญญัตของ
กฎหมายให้สอดคล้องกับการโอนส่วนราชการ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องมีความชัดเจนในการใช้กฎหมายโดยไม่




ตองไปค้นหาในกฎหมายโอนอานาจหนาที่ว่าตามกฎหมายใดไดมีการโอนภารกิจของส่วนราชการหรอ



ั้

ผู้รบผิดชอบตามกฎหมายนนไปเป็นของหนวยงานใดหรอผู้ใดแล้ว โดยแก้ไขบทบัญญตของกฎหมายให้มี




การเปลี่ยนชื่อส่วนราชการ รฐมนตร ผู้ดารงตาแหน่งหรือผู้ซึ่งปฏบัตหน้าที่ของส่วนราชการให้ตรงกับการ





โอนอานาจหน้าที่ และเพิ่มผู้แทนส่วนราชการในคณะกรรมการให้ตรงตามภารกิจที่มีการตดโอนจากส่วน

ราชการเดิมมาเป็นของส่วนราชการใหม่รวมทั้งตดส่วนราชการเดมที่มีการยบเลิกแล้ว ซึ่งเป็นการแก้ไขให้



ตรงตามพระราชบัญญัติและพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว จึงจ าเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกาน ี้


หน้า | 20

พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑

ี้

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตนให้ใช้บังคับตงแตวันถัดจากวันประกาศใน

ั้
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๑๑ ในระหว่างที่จัดตงส านักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์

ั้



ตามมาตรา ๔๓ แห่งพระราชบัญญตว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเตมโดย







ี้
พระราชบัญญัตนยงไม่แล้วเสรจ ให้ส านกงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยสารสนเทศและการสื่อสาร
รับผิดชอบท าหน้าที่หน่วยงานธุรการของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ไปพลางก่อน

ให้ปลัดกระทรวงเทคโนโลยสารสนเทศและการสื่อสารแตงตงข้าราชการซึ่งดารง


ั้

ต าแหน่งไม่ต่ ากว่าระดับแปดหรอเทียบเท่าในสังกัดส านักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่อสาร ท าหนาที่เป็นหัวหนาส านักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ไปพลางก่อนจนกวาการ





จัดตั้งส านักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จะแล้วเสร็จ
เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานตามวรรคหนึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลย ี

สารสนเทศและการสื่อสารจะสั่งให้ข้าราชการในสังกัดกระทรวงเทคโนโลยสารสนเทศและการสื่อสารมา
ปฏิบัติงานชั่วคราวในส านักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารตามความจ าเป็นก็ได ้

มาตรา ๑๒ ให้นายกรฐมนตรและรฐมนตรว่าการกระทรวงเทคโนโลยสารสนเทศ




และการสื่อสารรักษาการตามพระราชบัญญัติน ี้
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายว่าด้วยธุรกรรม
ทางอิเล็กทรอนิกส์ยังไม่มีบทบัญญัติรองรับในเรื่องตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถระบุถึงตัว

ผู้ท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ไดเช่นเดยวกับลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ ท าให้เป็นอปสรรคตอการท า













ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ที่ตองมีการประทับตราในหนงสือเป็นส าคัญ รวมทั้งยงไม่มีบทบัญญัตที่



ก าหนดให้สามารถนาเอกสารซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ออกของข้อมูลอเล็กทรอนกส์มาใช้แทนตนฉบับหรอให้เป็น




พยานหลักฐานในศาลได้ และโดยที่ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างระบบราชการตามพระราชบัญญติปรบปรง

กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ และก าหนดให้กระทรวงเทคโนโลยสารสนเทศและการสื่อสารเป็น





หนวยงานที่มีอานาจหนาที่เกี่ยวกับการวางแผน ส่งเสรม พัฒนา และดาเนนกิจการเกี่ยวกับเทคโนโลย ี



สารสนเทศและการสื่อสารประกอบกับปัจจุบันธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ไดมีการใช้อยางแพรหลาย






จ าเป็นที่จะต้องมีหน่วยงานธุรการเพื่อท าหนาที่ก ากับดแล เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายว่าดวยธุรกรรมทาง






อเล็กทรอนกส์และเป็นฝ่ายเลขานการของคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ โดยสมควรจัดตง ั้
ส านักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ สังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร


ขึ้นท าหนาที่แทนศูนยเทคโนโลยอเล็กทรอนกส์และคอมพิวเตอรแห่งชาต อนจะเป็นการส่งเสรมความ










เชื่อมั่นในการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ และเสรมสรางศักยภาพการแข่งขันในเวทีการค้าระหว่าง




ประเทศ สมควรแก้ไขเพิ่มเตมกฎหมายว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการ


ดังกล่าว จึงจ าเป็นต้องตราพระราชบัญญัติน ี้
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทาง
อาญาของผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๐

ี้

ั้
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตนให้ใช้บังคับตงแตวันถัดจากวันประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
หน้า | 21






ี้

หมายเหต :- เหตผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัตฉบับน คือ โดยที่ศาลรฐธรรมนญไดมีค าวินจฉัยว่า

พระราชบัญญัตขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๕๔ เฉพาะในส่วนที่สันนษฐานให้


กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการด าเนินงานของนติบุคคลนั้น ต้องรับโทษทาง




อาญารวมกับการกระท าความผิดของนตบุคคล โดยไม่ปรากฏว่ามีการกระท าหรอเจตนาประการใดอน







ั้


เกี่ยวกับการกระท าความผิดของนตบุคคลนน ขัดหรอแยงตอรฐธรรมนญแห่งราชอาณาจักรไทย




พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๙ วรรคสอง เป็นอนใช้บังคับไม่ไดตามรฐธรรมนญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖ และต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้มีค าวินิจฉัยในลักษณะดังกล่าวท านองเดยวกัน



คือ พระราชบัญญัตลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๗๔ พระราชบัญญัตการประกอบกิจการโทรคมนาคม
พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๗๘ พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. ๒๕๐๙ มาตรา ๒๘/๔ และพระราชบัญญัติปุ๋ย
พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๗๒/๕ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา

๓๙ วรรคสอง เป็นอันใช้บังคับไม่ได้ตามรัฐธรรมนญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖



ดังนั้น เพื่อแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวและกฎหมายอื่นที่มีบทบัญญติในลักษณะเดยวกนมิให้ขัด
หรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงจ าเป็นต้องตราพระราชบัญญัติน ี้
พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒

ี้

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตนให้ใช้บังคับตงแตวันถัดจากวันประกาศใน
ั้
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป


มาตรา ๒๕ ให้คณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ซึ่งด ารงตาแหน่งอยในวัน
ู่

ก่อนวันที่พระราชบัญญัตนี้ใช้บังคับ คงอยู่ในต าแหน่งต่อไป จนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการธุรกรรม

ทางอิเล็กทรอนิกส์ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติน ี้

มาตรา ๒๖ บรรดาการใด ๆ ที่คณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ตาม

พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ได้ด าเนินการไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัตน ี้



ใช้บังคับและยงมีผลใช้บังคับอย ให้ยงคงใช้บังคับไดตอไป และเมื่อไดมีการแตงตงคณะกรรมการธุรกรรม
ั้

ู่





ทางอิเล็กทรอนิกส์ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย



ั้
ี้





พระราชบัญญัตน แล้ว การนนยงดาเนนการไม่แล้วเสรจ ให้การดาเนนการตอไปเป็นไปตามที่
คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์นั้นก าหนด
มาตรา ๒๗ ให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ
สังคมรักษาการตามพระราชบัญญัติน ี้
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ปัจจุบันกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทาง




อเล็กทรอนกส์มีข้อจ ากัดหรออปสรรคบางประการในการบังคับใช้กฎหมาย ประกอบกับการท าสัญญาใน

รปแบบของธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์มีแนวโนมที่จะเกิดขึ้นระหว่างคู่สัญญาที่อยคนละประเทศเป็น


ู่

จ านวนมาก เพื่อให้กฎหมายว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมทั้งปรับปรง ุ




กลไกในการก ากับดแลการประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ให้ชัดเจนและ



สอดคล้องกับการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจึงจ าเป็นต้องตราพระราชบัญญัติน ี้
พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
หน้า | 22

ี้

ั้

มาตรา พระราชบัญญัตนให้ใช้บังคับตงแตวันถัดจากวันประกาศใน

ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป


มาตรา ๗ ผู้ประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับระบบการพิสูจนและยนยนตวตนทาง






ู่

ี้



ดจิทัลซึ่งประกอบธุรกิจอยในวันก่อนวันที่พระราชบัญญตนใช้บังคับ ให้ดาเนนกิจการตอไปได และเมื่อมี
การตราพระราชกฤษฎกาตามมาตรา ๓๔/๔ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ.





ี้


๒๕๔๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเตมโดยพระราชบัญญัตน ก าหนดให้เป็นธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทาง






อเล็กทรอนกส์ที่ตองไดรบใบอนญาต ให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกบระบบการพิสูจน์และยนยนตวตน






ทางดิจิทัลนั้นยื่นค าขอรับใบอนุญาตภายในเก้าสิบวันนับแตวันที่พระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับ และเมื่อได ้
ยื่นค าขอรับใบอนุญาตแล้ว ให้ด าเนินกิจการต่อไปจนกว่าจะมีค าสั่งไม่อนุญาต

มาตรา ๘ บรรดาระเบียบที่ออกตามพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทาง

ี้
ู่


อเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ที่ใช้บังคับอยในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตนใช้บังคับ ให้ยงคงใช้บังคับได ้






ตอไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดหรอแยงกับพระราชบัญญัตน จนกว่าจะมีระเบียบตามพระราชบัญญัตว่าดวย
ี้


ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา ๙ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรกษาการตาม

พระราชบัญญัติน ี้




ี้


หมายเหต :- เหตผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัตฉบับน คือ โดยที่การยนยนตวตนของบุคคลเป็น


ขั้นตอนส าคัญในการท าธุรกรรมในระบบเศรษฐกิจ แตที่ผ่านมาผู้ที่ประสงค์จะขอรบบรการจาก





ผู้ประกอบการหรอหนวยงานใด ๆ จะตองท าการพิสูจนและยนยนตวตนโดยการแสดงตนตอผู้ให้บรการ





พรอมกับตองส่งเอกสารหลักฐาน ซึ่งเป็นภาระตอผู้ใช้บรการและผู้ให้บรการ สมควรก าหนดให้บุคคล











สามารถพิสูจนและยนยนตวตนผ่านระบบการพิสูจนและยนยนตวตนทางดจิทัลได โดยมีกลไกการ




ควบคุมดแลผู้ประกอบธุรกิจบรการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ระบบดงกล่าวมีความนาเชื่อถือและปลอดภย จึง





จ าเป็นต้องตราพระราชบัญญัติน ี้















หน้า | 23

พระราชกฤษฎีกา
ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุม
ดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของ
สถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙
พ.ศ. ๒๕๖๑


สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
เป็นปีที่ ๓ ในรัชกาลปัจจุบัน

สมเดจพระเจ้าอยหัวมหาวชิราลงกรณ บดนทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการ


ู่
โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า


โดยที่เป็นการสมควรยกเลิกพระราชกฤษฎกาว่าดวยการควบคุมดแลธุรกิจบรการ


การช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙

อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๗๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย


และมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ จึงทรงพระกรณา



โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปน ี้



ี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎกานเรยกว่า “พระราชกฤษฎีกายกเลิกพระราชกฤษฎกา
ว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๑”

ี้

ั้
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎกานให้ใช้บังคับตงแตวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑
เป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎกาว่าดวยการควบคุมดแลธุรกิจบรการ




การช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙

มาตรา ๔ บรรดาการกระท าที่เป็นความผิดตามพระราชบัญญติว่าดวยธุรกรรมทาง

อเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ในส่วนที่เกี่ยวกับธุรกิจบรการการช าระเงินทางอเล็กทรอนกส์ตาม








พระราชกฤษฎกาว่าดวยการควบคุมดแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอเล็กทรอนกส์ของสถาบันการเงิน


เฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนวันที่พระราชกฤษฎกานใช้บังคับ ให้เป็นหนาที่ของผู้มีหนาที่ตาม



ี้
กฎหมายหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายที่จะด าเนินการเกี่ยวกับความผิดนั้นต่อไปจนแล้วเสร็จ
ี้
มาตรา ๕ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาน
ผู้รับสนองพระราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตร ี


หน้า | 24



ี้

หมายเหต :- เหตผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎกาฉบับน คือ โดยที่พระราชบัญญัตระบบการช าระ

เงิน พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งตราขึ้นเพื่อก าหนดกลไกและมาตรการในการก ากับดูแลระบบการช าระเงินและบรการ

การช าระเงินของประเทศเป็นการเฉพาะจะมีผลใช้บังคับในวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑ สมควร


ื่
ยกเลิกกลไกและมาตรการดงกล่าวที่มีความซ้ าซ้อนในกฎหมายฉบับอน เพื่อให้การก ากับดแลระบบการ
ู่


ช าระเงินและบรการการช าระเงินอยภายใต้บังคับของกฎหมายฉบับเดยวกัน อันจะเป็นประโยชน์ในการ

ก ากับดูแลอย่างเป็นระบบ มีความเป็นเอกภาพ และมีประสิทธิภาพมากย่งขึ้น จึงจ าเป็นตองตรา

พระราชกฤษฎีกาน ี้
































หน้า | 25

พระราชกฤษฎีกา
ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุม
ดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของ
สถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙
พ.ศ. ๒๕๖๑


สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
เป็นปีที่ ๓ ในรัชกาลปัจจุบัน

ู่
สมเดจพระเจ้าอยหัวมหาวชิราลงกรณ บดนทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการ


โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรยกเลิกพระราชกฤษฎกาว่าดวยการควบคุมดแลธุรกิจบรการ



การช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๗๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

และมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ จึงทรงพระกรณา





โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปน ี้
ี้


มาตรา ๑ พระราชกฤษฎกานเรยกว่า “พระราชกฤษฎีกายกเลิกพระราชกฤษฎกา

ว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๑”

ี้
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎกานให้ใช้บังคับตงแตวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑

ั้
เป็นต้นไป

มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระ
เงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙


มาตรา ๔ บรรดาการกระท าที่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรม

ทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ในส่วนที่เกี่ยวกับธุรกิจบรการการช าระเงินทางอเล็กทรอนกส์ตาม






พระราชกฤษฎกาว่าดวยการควบคุมดแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอเล็กทรอนกส์ของสถาบันการเงิน




เฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนวันที่พระราชกฤษฎกานใช้บังคับ ให้เป็นหนาที่ของผู้มีหนาที่ตาม

ี้

กฎหมายหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายที่จะด าเนินการเกี่ยวกับความผิดนั้นต่อไปจนแล้วเสร็จ
มาตรา ๕ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาน ี้
ผู้รับสนองพระราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตร ี


หน้า | 26





ี้
หมายเหต :- เหตผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎกาฉบับน คือ โดยที่พระราชบัญญัตระบบการช าระ

เงิน พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งตราขึ้นเพื่อก าหนดกลไกและมาตรการในการก ากับดูแลระบบการช าระเงินและบรการ
การช าระเงินของประเทศเป็นการเฉพาะจะมีผลใช้บังคับในวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑ สมควรยกเลิก
ื่
กลไกและมาตรการดังกล่าวที่มีความซ้ าซ้อนในกฎหมายฉบับอน เพื่อให้การก ากับดูแลระบบการช าระเงิน


และบริการการช าระเงินอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายฉบับเดียวกัน อันจะเป็นประโยชนในการก ากับดแล

อย่างเป็นระบบ มีความเป็นเอกภาพ และมีประสิทธิภาพมากย่งขึ้น จึงจ าเป็นตองตราพระราช

กฤษฎีกาน ี้

































หน้า | 27

พระราชกฤษฎีกา
ว่าด้วยวิธีการแบบปลอดภัยในการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๕๓


ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
เป็นปีที่ ๖๕ ในรัชกาลปัจจุบัน


พระบาทสมเดจพระปรมินทรมหาภมิพลอดลยเดช มีพระบรมราชโองการ



โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรก าหนดวิธีการแบบปลอดภยในการท าธุรกรรมทาง

อิเล็กทรอนิกส์
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และ





มาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ อนเป็นกฎหมาย

ที่มีบทบัญญัตบางประการเกี่ยวกับการจ ากัดสิทธิและเสรภาพของบุคคลซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับ





มาตรา ๔๓ ของรฐธรรมนญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัตให้กระท าไดโดยอาศัยอานาจตามบทบัญญัต ิ

แห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปน ี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎกานเรยกว่า “พระราชกฤษฎกาว่าดวยวิธีการแบบ


ี้


ปลอดภัยในการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๓”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนดหนึ่งรอยแปดสิบวันนบแต ่


วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ในพระราชกฤษฎีกาน ี้
“วิธีการแบบปลอดภัย” หมายความว่า วิธีการแบบปลอดภัยในการท าธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์
“ทรัพย์สินสารสนเทศ” หมายความว่า


(๑) ระบบเครอข่ายคอมพิวเตอร ระบบคอมพิวเตอร ระบบงานคอมพิวเตอร์ และ

ระบบสารสนเทศ

ื่

ื่

(๒) ตวเครองคอมพิวเตอร อปกรณ์คอมพิวเตอร เครองบันทึกข้อมูล และอปกรณ์


อื่นใด
(๓) ข้อมูลสารสนเทศ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และข้อมูลคอมพิวเตอร ์
“ความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ” (information security) หมายความ
ว่า การป้องกันทรัพย์สินสารสนเทศจากการเข้าถึง ใช้ เปิดเผย ขัดขวาง เปลี่ยนแปลงแก้ไข ท าให้สูญหาย
ท าให้เสียหาย ถูกท าลาย หรือล่วงรู้โดยมิชอบ



หน้า | 28

“ความมั่นคงปลอดภัยด้านบริหารจัดการ” (administrative security) หมายความ



ว่า การกระท าในระดบบรหารโดยการจัดให้มีนโยบาย มาตรการ หลักเกณฑ์ หรอกระบวนการใด ๆ เพื่อ






นามาใช้ในกระบวนการคัดเลือก การพัฒนา การนาไปใช้ หรอการบ ารงรกษาทรพยสินสารสนเทศให้มี

ความมั่นคงปลอดภัย

“ความมั่นคงปลอดภยดานกายภาพ” (physical security) หมายความว่า การจัด

ให้มีนโยบาย มาตรการ หลักเกณฑ์ หรือกระบวนการใด ๆ เพื่อน ามาใช้ในการป้องกันทรัพย์สินสารสนเทศ
สิ่งปลูกสร้าง หรือทรัพย์สินอื่นใดจากการคุกคามของบุคคล ภัยธรรมชาติ อุบัติภัย หรือภัยทางกายภาพอื่น
“การรักษาความลับ” (confidentiality) หมายความว่า การรักษาหรือสงวนไว้เพื่อ


ป้องกันระบบเครอข่ายคอมพิวเตอร ระบบคอมพิวเตอร ระบบงานคอมพิวเตอร ระบบสารสนเทศ ข้อมูล


สารสนเทศ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์จากการเข้าถึง ใช้ หรือเปิดเผยโดยบุคคลซึ่งไม่ได ้
รับอนุญาต
“การรักษาความครบถ้วน” (integrity) หมายความว่า การด าเนินการเพื่อให้ข้อมูล


ู่
สารสนเทศ ข้อมูลอเล็กทรอนกส์ หรอข้อมูลคอมพิวเตอรอยในสภาพสมบูรณ์ขณะที่มีการใช้งาน




ประมวลผล โอน หรอเก็บรกษา เพื่อมิให้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข ท าให้สูญหาย ท าให้เสียหาย หรอถูก

ท าลายโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือโดยมิชอบ
“การรกษาสภาพพรอมใช้งาน” (availability) หมายความว่า การจัดท าให้


ทรัพย์สินสารสนเทศสามารถท างาน เข้าถึง หรือใช้งานได้ในเวลาที่ต้องการ

“โครงสรางพื้นฐานส าคัญของประเทศ” (critical infrastructure) หมายความว่า


บรรดาหนวยงานหรอองค์กร หรอส่วนงานหนงส่วนงานใดของหนวยงานหรอองค์กร ซึ่งธุรกรรมทาง

ึ่



อิเล็กทรอนิกส์ของหนวยงานหรอองค์กร หรือส่วนงานของหน่วยงานหรอองค์กรนน มีผลเกี่ยวเนื่องส าคัญ
ั้


ต่อความมั่นคงหรือความสงบเรียบร้อยของประเทศ หรือต่อสาธารณชน

มาตรา ๔ วิธีการแบบปลอดภัยมีสามระดบ ดังต่อไปน ี้
(๑) ระดับเคร่งครัด
(๒) ระดับกลาง
(๓) ระดับพื้นฐาน


มาตรา ๕ วิธีการแบบปลอดภยตามมาตรา ๔ ให้ใช้ส าหรบการท าธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ ดังต่อไปน ี้


(๑) ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ซึ่งมีผลกระทบตอความมั่นคงหรอความสงบ


เรียบร้อยของประเทศ หรือต่อสาธารณชน
(๒) ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ของหนวยงานหรอองค์กร หรอส่วนงานของ





หน่วยงานหรือองค์กรที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานส าคัญของประเทศ
มาตรา ๖ ให้คณะกรรมการประกาศก าหนดประเภทของธุรกรรมทางอเล็กทรอ

นิกส์ หรือหลักเกณฑ์การประเมินระดับผลกระทบของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรา ๕ (๑) ซึ่งต้อง

กระท าตามวิธีการแบบปลอดภยในระดับเคร่งครด ระดับกลาง หรือระดับพื้นฐาน แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ โดย


ให้ค านงถึงระดบความเสี่ยงตอความมั่นคงปลอดภยของระบบสารสนเทศ ผลกระทบตอมูลค่าและความ




เสียหายที่ผู้ใช้บริการอาจได้รับ รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
หน้า | 29

ให้คณะกรรมการประกาศก าหนดรายชื่อหรอประเภทของหนวยงานหรอองค์กร



หรือส่วนงานของหน่วยงานหรือองค์กรที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานส าคัญของประเทศตามมาตรา ๕ (๒) ซึ่ง
ต้องกระท าตามวิธีการแบบปลอดภัยในระดับเคร่งครัด ระดับกลาง หรือระดับพื้นฐาน แล้วแต่กรณี

มาตรา ๗ วิธีการแบบปลอดภยตามมาตรา ๔ ในแตละระดบ ให้มีมาตรฐานการ


รกษาความมั่นคงปลอดภยของระบบสารสนเทศตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศก าหนดโดย


มาตรฐานดังกล่าวส าหรับวิธีการแบบปลอดภัยในแต่ละระดับนั้น อาจมีการก าหนดหลักเกณฑ์ที่แตกต่างกัน
ตามความจ าเป็น แต่อย่างน้อยตองมีการก าหนดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ ดังต่อไปน ี้

(๑) การสร้างความมั่นคงปลอดภัยด้านบริหารจัดการ
(๒) การจัดโครงสรางดานความมั่นคงปลอดภยของระบบสารสนเทศ ในส่วนการ



บริหารจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ ทั้งภายในและภายนอกหน่วยงานหรือองค์กร
(๓) การบริหารจัดการทรัพย์สินสารสนเทศ
(๔) การสร้างความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศด้านบุคลากร
(๕) การสร้างความมั่นคงปลอดภัยด้านกายภาพและสภาพแวดล้อม

(๖) การบรหารจัดการดานการสื่อสารและการดาเนนงานของระบบเครอข่าย




คอมพิวเตอรระบบคอมพิวเตอร์ ระบบงานคอมพิวเตอร์ และระบบสารสนเทศ


(๗) การควบคุมการเข้าถึงระบบเครอข่ายคอมพิวเตอร ระบบคอมพิวเตอร ์

ระบบงานคอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศ ข้อมูลสารสนเทศ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และข้อมูลคอมพิวเตอร ์



(๘) การจัดหาหรอจัดให้มี การพัฒนา และการบ ารงรกษาระบบเครอข่าย


คอมพิวเตอรระบบคอมพิวเตอร์ ระบบงานคอมพิวเตอร์ และระบบสารสนเทศ
(๙) การบริหารจัดการสถานการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยที่ไม่พึงประสงค์ หรือไม่
อาจคาดคิด







(๑๐) การบรหารจัดการดานการบรการหรอการดาเนนงานของหนวยงานหรอ

องค์กรเพื่อให้มีความต่อเนื่อง


(๑๑) การตรวจสอบและการประเมินผลการปฏบัตตามนโยบาย มาตรการ
หลักเกณฑ์หรือกระบวนการใด ๆ รวมทั้งข้อก าหนดด้านความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ

มาตรา ๘ เพื่อประโยชนในการเป็นแนวทางส าหรบการจัดท านโยบายหรอแนว






ปฏบัตในการรกษาความมั่นคงปลอดภยของระบบสารสนเทศของหนวยงานหรอองค์กร คณะกรรมการ


อาจระบุหรอแสดงตวอยางมาตรฐานทางเทคโนโลยซึ่งเป็นที่ยอมรบเป็นการทั่วไปว่าเป็นมาตรฐานทาง





เทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ไว้ในประกาศตามมาตรา ๗ ด้วยก็ได ้



มาตรา ๙ ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ใดไดกระท าโดยวิธีการที่มีการรกษาความ



มั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศในระดับที่เทียบเท่าหรอไม่ต่ ากว่ามาตรฐานความมั่นคงปลอดภยของ

ระบบสารสนเทศตามประกาศตามมาตรา ๗ ซึ่งได้ก าหนดไว้ส าหรับระดับของวิธีการแบบปลอดภยในการ
ท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น ให้ถือว่าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวไดกระท าตามวิธีการที่เชื่อถือ

ได้ตามมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔

หน้า | 30




มาตรา ๑๐ ในการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ตามวิธีการแบบปลอดภยตาม
ี้



พระราชกฤษฎกานผู้กระท าตองค านงถึงหลักการพื้นฐานของการรกษาความลับ การรกษาความครบถ้วน







และการรกษาสภาพพรอมใช้งาน รวมทั้งตองปฏบัตตามนโยบายและแนวปฏบัตในการควบคุมการ


ปฏิบัติงานและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศของหน่วยงานหรือองค์กรนั้นด้วย


มาตรา ๑๑ ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นว่าหนวยงานหรอองค์กรใด หรอส่วนงาน




ึ่

หนงส่วนงานใดของหน่วยงานหรอองค์กรใด มีการจัดท านโยบายและแนวปฏบัตในการรกษาความมั่นคง


ปลอดภยของระบบสารสนเทศโดยสอดคล้องกับวิธีการแบบปลอดภยตามพระราชกฤษฎกาน ี้


คณะกรรมการอาจประกาศเผยแพรรายชื่อหนวยงานหรอองค์กร หรอส่วนงานของหนวยงานหรอองค์กร





นั้นเพื่อให้สาธารณชนทราบเป็นการทั่วไปก็ได ้
มาตรา ๑๒ ให้คณะกรรมการพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์เกี่ยวกับวิธีการแบบ



ปลอดภยตามพระราชกฤษฎกานและประกาศที่ออกตามพระราชกฤษฎกาน รวมทั้งกฎหมายอนที่
ื่
ี้
ี้

เกี่ยวข้อง อย่างน้อยทุกรอบระยะเวลาสองปีนับแต่วันที่พระราชกฤษฎกานี้ใช้บังคับ ทั้งนี้ โดยพิจารณาถึง
ความเหมาะสมและความสอดคล้องกับเทคโนโลยที่ไดมีการพัฒนาหรอเปลี่ยนแปลงไป และจัดท าเป็น



รายงานเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป
มาตรา ๑๓ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาน ี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตร ี


หมายเหต : เหตผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎกาฉบับน คือ เนองจากในปัจจุบันเทคโนโลย ี

ื่
ี้

สารสนเทศและการสื่อสารได้เข้ามามีบทบาทส าคัญตอการด าเนินการของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยมี





การท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์กันอยางแพรหลาย จึงสมควรส่งเสรมให้มีการบรหารจัดการและรกษา






ความมั่นคงปลอดภยของทรพยสินสารสนเทศในการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ เพื่อให้มีการยอมรบ

และเชื่อมั่นในข้อมูลอิเล็กทรอนกส์มากยิ่งขึ้น ประกอบกับมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรม



ทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ บัญญัตให้ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ใดที่ไดกระท าตามวิธีการแบบ




ปลอดภัยที่ก าหนดในพระราชกฤษฎีกาแล้ว ให้สันนิษฐานว่าเป็นวิธีการที่เชื่อถือได ้ จึงจ าเป็นต้องตราพระ
ราชกฤษฎีกาน ี้










หน้า | 31

พระราชกฤษฎีกา
ก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ
พ.ศ. ๒๕๔๙


ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๙
เป็นปีที่ ๖๑ ในรัชกาลปัจจุบัน


พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด
เกล้าฯให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการท าธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๖ ของรฐธรรมนญแห่งราชอาณาจักรไทย



(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ และมาตรา ๓๕ วรรคหนง แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทาง


ึ่
อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปน ี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎกานเรยกว่า “พระราชกฤษฎกาก าหนดหลักเกณฑ์และ
ี้



วิธีการในการ ท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๙”


ั้

ี้
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎกานให้ใช้บังคับตงแตวันประกาศในราชกิจจานเบกษา
เป็นต้นไป
มาตรา ๓ ในการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มี
ระบบเอกสารที่ท าในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในลักษณะ ดังต่อไปน ี้
(๑) เอกสารที่ท าในรปของข้อมูลอเล็กทรอนกส์นนตองอยในรปแบบที่เหมาะสม




ู่
ั้

โดยสามารถแสดงหรออ้างอิงเพื่อใช้ในภายหลังและยังคงความครบถ้วนของข้อความในรูปแบบของข้อมูล

อิเล็กทรอนิกส์
(๒) ต้องก าหนดระยะเวลาเริ่มตนและสิ้นสุดในการยื่นเอกสารที่ท าในรูปของข้อมูล

ั้

อิเล็กทรอนิกส์ โดยปกติให้ยึดถือวันเวลาของการปฏบัติงานหนวยงานของรัฐนนเป็นหลัก และอาจก าหนด

ระยะเวลาในการด าเนินการพิจารณาของหน่วยงานของรัฐด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ไว้ด้วยก็ได้ เว้นแต ่
จะมีกฎหมายในเรื่องนั้นก าหนดไว้เป็นอย่างอื่น
(๓) ต้องก าหนดวิธีการที่ท าให้สามารถระบุตวเจ้าของลายมือชื่อ ประเภท ลักษณะ

หรอรปแบบของลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ และสามารถแสดงไดว่าเจ้าของลายมือชื่อรบรองข้อความใน






ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์






(๔) ตองก าหนดวิธีการแจ้งการตอบรบดวยวิธีการทางอเล็กทรอนกส์หรอดวย

วิธีการอื่นใดเพื่อเป็นหลักฐานว่าได้มีการด าเนินการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ไปยังอีกฝ่ายหนึ่งแล้ว


มาตรา ๔ นอกจากที่บัญญัตไว้ในมาตรา ๓ ในกรณีที่หนวยงานของรฐจัดท า




กระบวนการพิจารณาทางปกครองโดยวิธีการทางอเล็กทรอนกส์ ระบบเอกสารที่ท าในรปของข้อมูล

อิเล็กทรอนิกส์ต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้ด้วย เว้นแต่จะมีกฎหมายในเรื่องนั้นก าหนดไว้เป็นอยางอื่น

หน้า | 32


ื่
(๑) มีวิธีการสื่อสารกับผู้ยนค าขอในกรณีที่เอกสารมีข้อบกพรองหรอมีข้อความที่


ื่



ู้


ผิดหลงอนเห็นไดชัดว่าเกดจากความไม่รหรอความเลินเล่อของผู้ยนค าขอ หรอการขอข้อเท็จจรงเพิ่มเติม
รวมทั้งมีวิธีการแจ้งสิทธิและหนาที่ในกระบวนการพิจารณาทางปกครองตามความจ าเป็นแก่กรณีในกรณี

ที่กฎหมายก าหนดให้ต้องแจ้ง ให้คู่กรณีทราบ

(๒) ในกรณีมีความจ าเป็นตามลักษณะเฉพาะของธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์




ภาครฐใด หนวยงานของรฐนนอาจก าหนดเงื่อนไขว่าคู่กรณียนยอมตกลงและยอมรบการดาเนนการ
ั้




พิจารณาทางปกครองของหน่วยงานของรัฐโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์



มาตรา ๕ หนวยงานของรฐตองจัดท าแนวนโยบายและแนวปฏบัตในการรกษา








ความมั่นคงปลอดภยดานสารสนเทศ เพื่อให้การดาเนนการใด ๆ ดวยวิธีการทางอเล็กทรอนกส์กับ


หน่วยงานของรัฐหรือโดยหน่วยงานของรัฐมีความมั่นคงปลอดภัยและเชื่อถือได ้

แนวนโยบายและแนวปฏิบัตอย่างน้อยต้องประกอบด้วยเนื้อหา ดังต่อไปน ี้
(๑) การเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานสารสนเทศ
(๒) การจัดให้มีระบบสารสนเทศและระบบส ารองของสารสนเทศซึ่งอยในสภาพ
ู่






พรอมใช้งานและจัดท าแผนเตรยมพรอมกรณีฉุกเฉินในกรณีที่ไม่สามารถดาเนนการดวยวิธีการทาง
อิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้สามารถใช้งานสารสนเทศได้ตามปกติอย่างต่อเนื่อง
(๓) การตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงด้านสารสนเทศอย่างสม่ าเสมอ

มาตรา ๖ ในกรณีที่มีการรวบรวม จัดเก็บ ใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูล หรือข้อเท็จจรงที่

ท าให้สามารถระบุตวบุคคล ไม่ว่าโดยตรงหรอโดยออม ให้หนวยงานของรฐจัดท าแนวนโยบายและแนว




ปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้วย


มาตรา ๗ แนวนโยบายและแนวปฏบัตตามมาตรา ๕ และมาตรา ๖ ให้หนวยงาน

ของรัฐจัดท าเป็นประกาศ และต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการหรือหน่วยงานที่คณะกรรมการ
มอบหมาย จึงมีผลใช้บังคับได ้

หนวยงานของรฐตองปฏบัตตามแนวนโยบายและแนวปฏบัตที่ไดแสดงไว้ และให้







จัดให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติตามแนวนโยบายและแนวปฏิบัติที่ก าหนดไว้อย่างสม่ าเสมอ

มาตรา ๘ ให้คณะกรรมการหรอหนวยงานที่คณะกรรมการมอบหมายจัดท า



ื่
ี่

แนวนโยบายและแนวปฏิบัติหรือการอนอนเกยวกับการด าเนนการตามพระราชกฤษฎกานี้ ไว้เป็นตัวอยาง





เบื้องตนส าหรบการดาเนนการของหนวยงานของรฐในการปฏบัตตามพระราชกฤษฎกาน และหาก
ี้






หนวยงานของรฐแห่งใดมีการปฏบัตงานตามกฎหมายที่แตกตางเป็นการเฉพาะแล้ว หนวยงานของรฐ







แห่งนนอาจเพิ่มเตมรายละเอยดการปฏบัตงานตามกฎหมายที่แตกตางนนไดโดยออกเป็นระเบียบ ทั้งน ี้
ั้



ั้


โดยให้ค านึงถึงความถูกต้องครบถ้วน ความน่าเชื่อถือ สภาพความพร้อมใช้งาน และความมั่นคงปลอดภย

ของระบบและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
มาตรา ๙ การท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์ภาครัฐตามหลักเกณฑ์และวิธการตาม



พระราชกฤษฎีกานี้ไม่มีผลเป็นการยกเว้นกฎหมายหรือหลักเกณฑ์และวิธการที่กฎหมายในเรื่องนั้นก าหนด
ไว้เพื่อการอนุญาต อนุมัติ การให้ความเห็นชอบ หรือการวินิจฉัย
มาตรา ๑๐ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาน ี้
หน้า | 33

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
นายกรัฐมนตร ี





ิ่
ื่

ี้
หมายเหต :- เหตผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎกาฉบับน คือ เนองจากประเทศไทยไดเรมเข้าสู่ยุค

สังคมสารสนเทศซึ่งมีการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ภาครัฐมากขึ้น สมควรสนับสนุนให้หนวยงานของ



รัฐมีระบบการบริการของตนโดยการประยกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้สามารถบรการประชาชนได ้





อยางทั่วถึง สะดวก และรวดเรว อันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของหนวยงานของรฐ
พร้อมกับให้หน่วยงานของรัฐสามารถพัฒนาการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐภายใต้มาตรฐานและ



เป็นไปในทิศทางเดยวกัน และสรางความเชื่อมั่นของประชาชนตอการดาเนนกิจกรรมของรฐดวย





ึ่



วิธีการทางอเล็กทรอนกส์ ประกอบกับมาตรา ๓๕ วรรคหนงแห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรม

ทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ บัญญัตว่า ค าขอ การอนญาต การจดทะเบียน ค าสั่งทางปกครอง






การช าระเงิน การประกาศหรือการดาเนินการใด ๆ ตามกฎหมายกับหน่วยงานของรฐหรอโดยหน่วยงาน



ของรฐ ถ้าไดกระท าในรปของข้อมูลอเล็กทรอนกส์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก าหนดโดย


พระราชกฤษฎกาแล้ว ให้ถือว่ามีผลโดยชอบด้วยกฎหมายเช่นเดยวกับการดาเนนการตามหลักเกณฑ์และ




วิธีการที่กฎหมายในเรื่องนั้นก าหนด จึงจ าเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกาน ี้























หน้า | 34


Click to View FlipBook Version