พระราชกฤษฎีกา
ก าหนดประเภทธุรกรรมในทางแพ่งและพาณิชย์ที่ยกเว้นมิให้น า
กฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้บังคับ
พ.ศ. ๒๕๔๙
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๙
เป็นปีที่ ๖๑ ในรัชกาลปัจจุบัน
ุ
พระบาทสมเดจพระปรมินทรมหาภมิพลอดลยเดช มีพระบรมราชโองการ
ู
็
โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรก าหนดประเภทธุรกรรมในทางแพ่งและพาณิชยที่ยกเวนมิให้
์
้
น ากฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้บังคับ
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๒๒๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และ
มาตรา ๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ อันเป็นกฎหมาย
ที่มีบทบัญญัตบางประการเกี่ยวกับการจ ากัดสิทธิและเสรภาพของบุคคลซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับ
ี
ิ
ู
้
ิ
มาตรา ๕๐ ของรฐธรรมนญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัตให้กระท าไดโดยอาศัยอานาจตามบทบัญญัต ิ
ั
แห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปน ี้
ี
ี
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎกานี้เรยกว่า “พระราชกฤษฎกาก าหนดประเภทธุรกรรม
ี
ิ
ิ
้
ในทางแพ่งและพาณิชยที่ยกเว้นมิให้นากฎหมายว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์มาใช้บังคับ
์
พ.ศ. ๒๕๔๙”
ี้
ั้
่
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎกานให้ใช้บังคับตงแตวันถัดจากวันประกาศใน
ี
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
้
ิ
ิ
ิ
มาตรา ๓ มิให้นาบทบัญญัตตามกฎหมายว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์มาใช้
บังคับแก่ธุรกรรมดังต่อไปน ี้
(๑) ธุรกรรมเกี่ยวกับครอบครัว
(๒) ธุรกรรมเกี่ยวกับมรดก
มาตรา ๔ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาน ี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พันต ารวจโท ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตร ี
หน้า | 35
ั
ี้
ุ
ุ
ิ
หมายเหต :- เหตผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎกาฉบับน คือ ปัจจุบัน แม้ว่าพระราชบัญญตว่าด้วย
ี
ิ
้
ิ
ั
ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ไดบัญญัตรบรองสถานะทางกฎหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ิ
ิ
ิ
และลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ให้เท่าเทียมกับธุรกรรมที่ท าบนกระดาษและการลงลายมือชื่อไว้แล้วก็ตาม
ิ
้
้
ิ
่
ื่
ั
แตเนองจากการท าธุรกรรมบางประเภทยงไม่เหมาะสมที่จะให้กระท าไดดวยวิธีการทางอเล็กทรอนกส์
สมควรตราพระราชกฤษฎกาก าหนดประเภทธุรกรรมในทางแพ่งและพาณิชยที่ยกเว้นมิให้น ากฎหมายว่า
ี
์
ด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้บังคับ จึงจ าเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกาน ี้
หน้า | 36
ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
เรื่อง แนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ
ของหน่วยงานของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๕๓
ุ
ดวยปัญหาดานการรกษาความมั่นคงปลอดภยให้กับสารสนเทศมีความรนแรง
ั
้
ั
้
่
่
ี
ั
เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและตางประเทศ อกทั้งยงมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบตอภาครฐและภาคธุรกิจมาก
ั
ขึ้น ท าให้ผู้ประกอบการ ตลอดจนองค์กร ภาครัฐ และภาคเอกชนที่มีการด าเนนงานใด ๆ ในรูปของข้อมูล
ิ
อิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบสารสนเทศขององค์กร ขาดความเชื่อมั่นต่อการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์ใน
ิ
ทุกรูปแบบ ประกอบกับคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ตระหนักถึงความจ าเป็นที่จะส่งเสรมและ
ิ
ั
ื่
ั
ผลักดนให้ประเทศสามารถยกระดบการแข่งขันกับประเทศอน ๆ โดยการนาระบบสารสนเทศและการ
สื่อสารมาประยุกต์ใช้ประกอบการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างแพร่หลาย จึงเห็นความส าคัญที่จะน า
ิ
กฎหมาย ข้อบังคับต่าง ๆ มาบังคับใช้กับการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ทั้งในส่วนที่ตองกระท าและใน
้
ิ
้
ส่วนที่ตองงดเว้นการกระท า เพื่อช่วยให้การท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ของหนวยงานของรฐมีความ
ั
่
ิ
มั่นคงปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือ
ิ
เพื่อให้การด าเนินการใด ๆ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนกส์กับหนวยงานของรัฐ หรือ
่
โดยหน่วยงานของรัฐมีความมั่นคงปลอดภัยและเชื่อถือได้ ตลอดจนมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ิ
ิ
ั
ิ
ิ
คณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ จึงเห็นควรก าหนดแนวนโยบายและแนวปฏบัตในการรกษา
ความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศของหน่วยงานของรัฐ
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๕ มาตรา ๗ และมาตรา ๘ แห่งพระราชกฤษฎีกา
ั
ิ
ก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ภาครฐ พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะกรรมการ
ิ
้
ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์จึงไดจัดท าประกาศฉบับนี้ เพื่อเป็นแนวทางเบื้องตนให้หนวยงานของรัฐใช้ใน
่
ิ
้
ิ
้
ั
่
้
ิ
การก าหนดนโยบาย และข้อปฏบัตในการรกษาความมั่นคงปลอดภยดานสารสนเทศ ซึ่งอยางนอยตอง
ิ
ั
้
ประกอบด้วยสาระส าคัญ ดังต่อไปน ี้
ข้อ ๑ ในประกาศน ี้
ั
้
(๑) ผู้ใช้งาน หมายความว่า ข้าราชการ เจ้าหนาที่ พนกงานของรฐ ลูกจ้าง ผู้ดแล
ั
ู
ระบบ ผู้บริหารขององค์กร ผู้รับบริการ ผู้ใช้งานทั่วไป
(๒) สิทธิของผู้ใช้งาน หมายความว่า สิทธิทั่วไป สิทธิจ าเพาะ สิทธิพิเศษ และสิทธิ
อื่นใดที่เกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศของหน่วยงาน
(๓) สินทรัพย์ (asset) หมายความว่า สิ่งใดก็ตามที่มีคุณค่าส าหรับองค์กร
(๔) การเข้าถึงหรอควบคุมการใช้งานสารสนเทศ หมายความว่า การอนญาต
ื
ุ
การก าหนดสิทธิ หรือการมอบอานาจให้ผู้ใช้งาน เข้าถึงหรือใช้งานเครอข่ายหรือระบบสารสนเทศ ทั้งทาง
ื
อิเล็กทรอนิกส์และทางกายภาพ รวมทั้งการอนุญาตเช่นว่านั้นส าหรับบุคคลภายนอก ตลอดจนอาจก าหนด
ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าถึงโดยมิชอบเอาไว้ด้วยก็ได ้
หน้า | 37
้
(๕) ความมั่นคงปลอดภยดานสารสนเทศ (information security) หมายความว่า
ั
้
การธ ารงไว้ซึ่งความลับ (confidentiality) ความถูกตองครบถ้วน (integrity) และสภาพพรอมใช้งาน
้
(availability) ของสารสนเทศ รวมทั้งคุณสมบัติอื่น ได้แก่ความถูกต้องแท้จริง (authenticity) ความรับผิด
(accountability) การห้ามปฏิเสธความรับผิด (non-repudiation) และความน่าเชื่อถือ (reliability)
(๖) เหตุการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัย(information security event)
้
หมายความว่า กรณีที่ระบุการเกิดเหตุการณ์ สภาพของบริการหรือเครือข่ายที่แสดงให้เห็นความเป็นไปไดที่
ื
ั
ั
้
ื
จะเกิดการฝ่าฝืนนโยบายดานความมั่นคงปลอดภยหรอมาตรการป้องกันที่ล้มเหลว หรอเหตการณ์อนไม่
ุ
อาจรู้ได้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัย
(๗) สถานการณ์ดานความมั่นคงปลอดภยที่ไม่พึงประสงค์หรอไม่อาจคาดคิด
ื
ั
้
ั
้
(information security incident) หมายความว่า สถานการณ์ดานความมั่นคงปลอดภยที่ไม่พึงประสงค์
หรือไม่อาจคาดคิด (unwanted or unexpected) ซึ่งอาจท าให้ระบบขององค์กรถูกบุกรุกหรือโจมตี และ
ความมั่นคงปลอดภัยถูกคุกคาม
่
ข้อ ๒ หนวยงานของรฐตองจัดให้มีนโยบายในการรกษาความมั่นคงปลอดภย
ั
ั
ั
้
ด้านสารสนเทศของหน่วยงานเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วยเนื้อหา ดังต่อไปน ี้
(๑) การเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานสารสนเทศ
(๒) จัดให้มีระบบสารสนเทศและระบบส ารองของสารสนเทศซึ่งอยู่ในสภาพพรอม
้
้
ใช้งานและจัดท าแผนเตรยมความพรอมกรณีฉุกเฉินในกรณีที่ไม่สามารถดาเนนการดวยวิธีการทาง
ิ
้
ี
อิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้สามารถใช้งานสารสนเทศได้ตามปกติอย่างต่อเนื่อง
(๓) การตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงด้านสารสนเทศอย่างสม่ าเสมอ
้
ั
ข้อ ๓ หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มีข้อปฏิบัติในการรกษาความมั่นคงปลอดภยดาน
ั
สารสนเทศของหน่วยงาน ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วยกระบวนการ ดังต่อไปน ี้
ิ
ิ
ั
่
ั
้
(๑) หนวยงานของรฐตองจัดท าข้อปฏบัตที่สอดคล้องกับนโยบายการรกษาความ
มั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศของหน่วยงาน
่
ิ
(๒) หนวยงานของรฐตองประกาศนโยบายและข้อปฏบัตดงกล่าว ให้ผู้เกี่ยวข้อง
ั
ิ
ั
้
ทั้งหมดทราบเพื่อให้สามารถเข้าถึง เข้าใจ และปฏิบัติตามนโยบายและข้อปฏิบัติได ้
(๓) หน่วยงานของรัฐต้องก าหนดผู้รับผิดชอบตามนโยบายและข้อปฏิบัติดังกล่าวให้
ชัดเจน
(๔) หน่วยงานของรัฐต้องทบทวนปรับปรุงนโยบายและข้อปฏิบัติให้เป็นปัจจุบันอย ู่
เสมอ
ข้อ ๔ ข้อปฏบัตในดานการรกษาความมั่นคงปลอดภย ตองมีเนอหาอยางนอย
ื้
่
้
ิ
้
ั
ิ
ั
้
ครอบคลุมตามข้อ ๕ - ๑๕
ข้อ ๕ ให้มีข้อก าหนดการเข้าถึงและควบคุมการใช้งานสารสนเทศ
(access control) ซึ่งต้องมีเนื้อหาอย่างน้อย ดังน ี้
้
ั
ุ
(๑) หนวยงานของรฐตองมีการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลและอปกรณ์ในการ
่
ประมวลผลข้อมูลโดยค านึงถึงการใช้งานและความมั่นคงปลอดภัย
ุ
(๒) ในการก าหนดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการอนญาตให้เข้าถึง ต้องก าหนดตามนโยบาย
ที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาต การก าหนดสิทธิ หรือการมอบอ านาจของหน่วยงานของรัฐนั้น ๆ
หน้า | 38
ั
(๓) หนวยงานของรฐตองก าหนดเกี่ยวกับประเภทของข้อมูล ล าดบความส าคัญ
่
้
ั
หรือล าดับชั้นความลับของข้อมูล รวมทั้งระดับชั้นการเข้าถึง เวลาที่ได้เข้าถึง และช่องทางการเข้าถึง
ข้อ ๖ ให้มีข้อก าหนดการใช้งานตามภารกิจเพื่อควบคุมการเข้าถึงสารสนเทศ
(business requirements for access control) โดยแบ่งการจัดท าข้อปฏิบัติเป็น ๒ ส่วนคือ การควบคุม
ุ
ั
การเข้าถึงสารสนเทศ และการปรบปรงให้สอดคล้องกับข้อก าหนดการใช้งานตามภารกิจและข้อก าหนด
ด้านความมั่นคงปลอดภัย
ิ
ข้ อ ๗ ใ ห้ มี ก า ร บ ร ห า ร จั ด ก า ร ก า ร เ ข้ า ถึ ง ข อ ง ผู้ ใ ช้ ง า น
(user access management) เพื่อควบคุมการเข้าถึงระบบสารสนเทศเฉพาะผู้ที่ไดรบอนญาตแล้ว
ุ
้
ั
ื่
ั
และผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการสรางความตระหนกเรองความมั่นคงปลอดภยสารสนเทศ
้
ั
ุ
้
ั
(information security awareness training) เพื่อป้องกันการเข้าถึงจากผู้ซึ่งไม่ไดรบอนญาต โดยตองมี
้
เนื้อหาอย่างน้อย ดังน ี้
(๑) สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดความตระหนัก ความเข้าใจถึง
ั
ื
ู้
ภยและผลกระทบที่เกิดจากการใช้งานระบบสารสนเทศโดยไม่ระมัดระวังหรอรเท่าไม่ถึงการณ์ รวมถึง
ก าหนดให้มีมาตรการเชิงป้องกันตามความเหมาะสม
(๒) การลงทะเบียนผู้ใช้งาน (user registration) ตองก าหนดให้มีขั้นตอนทาง
้
ั
ิ
ิ
ุ
ั
ปฏบัตส าหรบการลงทะเบียนผู้ใช้งานเมื่อมีการอนญาตให้เข้าถึงระบบสารสนเทศ และการตดออกจาก
ทะเบียนของผู้ใช้งานเมื่อมีการยกเลิกเพิกถอนการอนุญาตดังกล่าว
้
(๓) การบรหารจัดการสิทธิของผู้ใช้งาน (user management) ตองจัดให้มีการ
ิ
ิ
ควบคุมและจ ากัดสิทธิเพื่อเข้าถึงและใช้งานระบบสารสนเทศแต่ละชนดตามความเหมาะสม ทั้งนี้ รวมถึง
สิทธิจ าเพาะ สิทธิพิเศษ และสิทธิอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึง
(๔) การบริหารจัดการรหัสผ่านส าหรับผู้ใช้งาน (user password management)
ต้องจัดให้มีกระบวนการบริหารจัดการรหัสผ่านส าหรับผู้ใช้งานอย่างรัดกุม
(๕) การทบทวนสิทธิการเข้าถึงของผู้ใช้งาน (review of user access rights) ต้อง
จัดให้มีกระบวนการทบทวนสิทธิการเข้าถึงของผู้ใช้งานระบบสารสนเทศตามระยะเวลาที่ก าหนดไว้
ข้อ ๘ ให้มีการก าหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน (user responsibilities)
ู้
ุ
เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ไดรบอนญาต การเปิดเผย การล่วงร หรอการลักลอบท าส าเนาข้อมูล
ื
้
ั
สารสนเทศและการลักขโมยอุปกรณ์ประมวลผลสารสนเทศ โดยต้องมีเนื้อหาอย่างน้อย ดังน ี้
ั
ิ
้
(๑) การใช้งานรหัสผ่าน (password use) ตองก าหนดแนวปฏบัตที่ดส าหรบ
ี
ิ
ผู้ใช้งานในการก าหนดรหัสผ่าน การใช้งานรหัสผ่าน และการเปลี่ยนรหัสผ่านที่มีคุณภาพ
ุ
ิ
(๒) การป้องกันอปกรณ์ในขณะที่ไม่มีผู้ใช้งานที่อปกรณ์ ตองก าหนดข้อปฏบัตที่
ุ
้
ิ
เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่มีสิทธิสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ของหน่วยงานในขณะที่ไม่มีผู้ดูแล
์
ั
(๓) การควบคุมสินทรพยสารสนเทศและการใช้งานระบบคอมพิวเตอร ์
้
(clear desk and clear screen policy) ตองควบคุมไม่ให้สินทรพยสารสนเทศ เช่น เอกสาร สื่อบันทึก
์
ั
ข้อมูล คอมพิวเตอร์ หรือสารสนเทศ อยู่ในภาวะซึ่งเสี่ยงตอการเข้าถึงโดยผู้ซึ่งไม่มีสิทธิ และต้องก าหนดให้
่
ผู้ใช้งานออกจากระบบสารสนเทศเมื่อว่างเว้นจากการใช้งาน
ิ
ิ
(๔) ผู้ใช้งานอาจนาการเข้ารหัส มาใช้กับข้อมูลที่เป็นความลับ โดยให้ปฏบัตตาม
ระเบียบการรักษาความลับทางราชการ พ.ศ. ๒๕๔๔
หน้า | 39
ื
ข้อ ๙ ให้มีการควบคุมการเข้าถึงเครอข่าย (network access control) เพื่อ
ป้องกันการเข้าถึงบริการทางเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยต้องมีเนื้อหาอย่างน้อย ดังน ี้
ื
(๑) การใช้งานบรการเครอข่าย ตองก าหนดให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงระบบ
ิ
้
สารสนเทศได้แต่เพียงบริการที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงเท่านั้น
( ๒ ) ก า ร ย น ย น ต ว บุ ค ค ล ส า ห ร บ ผู้ ใ ช้ ที่ อ ย ภ า ย น อ ก อ ง ค์ ก ร
ู่
ื
ั
ั
ั
ั
้
ื
ั
(user authentication for external connections) ตองก าหนดให้มีการยนยนตวบุคคลก่อนที่จะ
อนุญาตให้ผู้ใช้ที่อยู่ภายนอกองค์กรสามารถเข้าใช้งานเครือข่ายและระบบสารสนเทศขององค์กรได ้
(๓) การระบุอุปกรณ์บนเครือข่าย (equipment identification in networks) ต้อง
มีวิธีการที่สามารถระบุอุปกรณ์บนเครือข่ายได้ และควรใช้การระบุอุปกรณ์บนเครือข่ายเป็นการยืนยัน
(๔) การป้องกันพอรตที่ใช้ส าหรบตรวจสอบและปรบแตง ระบบ
ั
่
์
ั
้
์
(remote diagnostic and configuration port protection) ตองควบคุมการเข้าถึงพอรตที่ใช้ส าหรบ
ั
ตรวจสอบและปรับแต่งระบบทั้งการเข้าถึงทางกายภาพและทางเครือข่าย
ื
(๕) การแบ่งแยกเครอข่าย (segregation in networks) ตองท าการแบ่งแยก
้
เครือข่ายตามกลุ่มของบริการสารสนเทศ กลุ่มผู้ใช้งาน และกลุ่มของระบบสารสนเทศ
ื
(๖) การควบคุมการเชื่อมต่อทางเครอข่าย (network connection control) ต้อง
ควบคุมการเข้าถึงหรือใช้งานเครือข่ายที่มีการใช้ร่วมกันหรอเชื่อมต่อระหว่างหนวยงานให้สอดคล้องกับข้อ
ื
่
ปฏิบัติการควบคุมการเข้าถึง
(๗) การควบคุมการจัดเส้นทางบนเครอข่าย (network routing control) ตอง
ื
้
ี
่
ื
ื
ควบคุมการจัดเส้นทางบนเครอข่ายเพื่อให้การเชื่อมตอของคอมพิวเตอร์และการส่งผ่านหรอไหลเวยนของ
ข้อมูลหรือสารสนเทศสอดคล้องกับข้อปฏิบัติการควบคุมการเข้าถึงหรือการประยุกต์ใช้งานตามภารกิจ
ข้อ ๑๐ ให้มีการควบคุมการเข้าถึงระบบปฏิบัติการ (operating system access
control) เพื่อป้องกันการเข้าถึงระบบปฏิบัติการโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยต้องมีเนื้อหาอย่างน้อย ดังน ี้
ั
(๑) การก าหนดขั้นตอนปฏบัตเพื่อการเข้าใช้งานที่มั่นคงปลอดภย การเข้าถึง
ิ
ิ
ระบบปฏิบัติการจะต้องควบคุมโดยวิธีการยืนยันตัวตนที่มั่นคงปลอดภัย
(๒) การระบุและยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน (user identification and
้
ั
authentication) ตองก าหนดให้ผู้ใช้งานมีข้อมูลเฉพาะเจาะจงซึ่งสามารถระบุตวตนของผู้ใช้งาน และ
เลือกใช้ขั้นตอนทางเทคนิคในการยืนยันตัวตนที่เหมาะสมเพื่อรองรับการกล่าวอ้างว่าเป็นผู้ใช้งานที่ระบุถึง
ิ
้
(๓) การบรหารจัดการรหัสผ่าน (password management system) ตองจัดท า
หรอจัดให้มีระบบบรหารจัดการรหัสผ่านที่สามารถท างานเชิงโตตอบ (interactive) หรอมีการท างานใน
ื
ื
้
ิ
ลักษณะอัตโนมัติ ซึ่งเอื้อต่อการก าหนดรหัสผ่านที่มีคุณภาพ
(๔) การใช้งานโปรแกรมอรรถประโยชน์ (use of system utilities) ควรจ ากัดและ
ควบคุมการใช้งานโปรแกรมประเภทอรรถประโยชน์ เพื่อป้องกันการละเมิดหรือหลีกเลี่ยงมาตรการความ
มั่นคงปลอดภัยที่ได้ก าหนดไว้หรือที่มีอยู่แล้ว
ุ
ึ่
(๕) เมื่อมีการว่างเว้นจากการใช้งานในระยะเวลาหนงให้ยตการใช้งานระบบ
ิ
สารสนเทศนั้น (session time-out)
่
( ๖ ) ก า ร จ า กั ด ร ะ ย ะ เ ว ล า ก า ร เ ชื่ อ ม ต อ ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ
(limitation of connection time) ต้องจ ากัดระยะเวลาในการเชื่อมต่อเพื่อให้มีความมั่นคงปลอดภยมาก
ั
ยิ่งขึ้นส าหรับระบบสารสนเทศหรือแอพพลิเคชั่นที่มีความเสี่ยงหรือมีความส าคัญสูง
หน้า | 40
ุ
ข้อ ๑๑ ให้มีการควบคุมการเข้าถึงโปรแกรมประยกตหรอแอพพลิเคชั่นและ
์
ื
สารสนเทศ (application and information access control) โดยต้องมีการควบคุม ดังน ี้
(๑) การจ ากัดการเข้าถึงสารสนเทศ (information access restriction) ต้องจ ากัด
ื
ั
ุ
หรอควบคุมการเข้าถึงหรอเข้าใช้งานของผู้ใช้งานและบุคลากรฝ่ายสนบสนนการเข้าใช้งานในการเข้าถึง
ื
์
ื
ี้
่
สารสนเทศและฟังก์ชัน (functions) ตาง ๆ ของโปรแกรมประยกตหรอแอพพลิเคชั่น ทั้งน โดยให้
ุ
สอดคล้องตามนโยบายควบคุมการเข้าถึงสารสนเทศที่ได้ก าหนดไว้
่
(๒) ระบบซึ่งไวตอการรบกวน มีผลกระทบและมีความส าคัญสูงตอองค์กร
่
ั
ตองไดรบการแยกออกจากระบบอน ๆ และมีการควบคุมสภาพแวดล้อมของตนเองโดยเฉพาะ
้
ื่
้
์
ิ
ให้มีการควบคุมอปกรณ์คอมพิวเตอรและสื่อสารเคลื่อนที่และการปฏบัตงานจากภายนอกองค์กร
ุ
ิ
(mobile computing and teleworking)
้
ุ
์
(๓) การควบคุมอปกรณ์คอมพิวเตอรและสื่อสารเคลื่อนที่ ตองก าหนดข้อปฏบัต ิ
ิ
และมาตรการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องสารสนเทศจากความเสี่ยงของการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และสื่อสาร
เคลื่อนที่
ิ
ิ
้
ิ
(๔) การปฏบัตงานจากภายนอกส านกงาน (teleworking) ตองก าหนดข้อปฏบัต ิ
ั
แผนงานและขั้นตอนปฏิบัติเพื่อปรับใช้ส าหรับการปฏิบัติงานขององค์กรจากภายนอกส านักงาน
ข้อ ๑๒ หน่วยงานของรัฐที่มีระบบสารสนเทศต้องจัดท าระบบส ารอง ตามแนวทาง
ต่อไปน ี้
(๑) ตองพิจารณาคัดเลือกและจัดท าระบบส ารองที่เหมาะสมให้อยในสภาพพร้อม
้
ู่
ใช้งานที่เหมาะสม
ี
ิ
้
้
(๒) ตองจัดท าแผนเตรยมความพรอมกรณีฉุกเฉินในกรณีที่ไม่สามารถดาเนนการ
ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้สามารถใช้งานสารสนเทศได้ตามปกติอย่างต่อเนอง โดยตองปรับปรง ุ
ื่
้
ั
่
้
้
ั
แผนเตรยมความพรอมกรณีฉุกเฉินดงกล่าวให้สามารถปรบใช้ไดอยางเหมาะสมและสอดคล้องกับการใช้
ี
งานตามภารกิจ
ั
้
ู
้
(๓) ตองมีการก าหนดหนาที่และความรบผิดชอบของบุคลากรซึ่งดแลรบผิดชอบ
ั
ิ
ระบบสารสนเทศ ระบบส ารอง และการจัดท าแผนเตรียมพร้อมกรณีฉุกเฉินในกรณีที่ไม่สามารถด าเนนการ
ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
้
(๔) ตองมีการทดสอบสภาพพรอมใช้งานของระบบสารสนเทศ ระบบส ารองและ
้
ระบบแผนเตรียมพร้อมกรณีฉุกเฉินอย่างสม่ าเสมอ
ิ
(๕) ส าหรับความถี่ของการปฏิบัติในแต่ละข้อ ควรมีการปฏบัตที่เพียงพอต่อสภาพ
ิ
ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละหน่วยงาน
ั
้
้
่
ข้อ ๑๓ หนวยงานของรฐตองจัดให้มีการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงดาน
สารสนเทศโดยต้องมีเนื้อหาอย่างน้อย ดังน ี้
้
้
ั
(๑) หนวยงานของรฐตองจัดให้มีการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงดาน
่
สารสนเทศที่อาจเกิดขึ้นกับระบบสารสนเทศ (information security audit and assessment) อยาง
่
น้อยปีละ ๑ ครั้ง
หน้า | 41
ิ
(๒) ในการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงจะตองดาเนนการ โดยผู้ตรวจสอบ
้
้
ั
ิ
่
ภายในหนวยงานของรฐ (internal auditor) หรอโดยผู้ตรวจสอบอสระดานความมั่นคงปลอดภยจาก
ั
ื
ั
่
้
ั
ภายนอก (external auditor) เพื่อให้หนวยงานของรฐไดทราบถึงระดบความเสี่ยงและระดบความมั่นคง
ั
ปลอดภัยสารสนเทศของหน่วยงาน
้
ั
ข้อ ๑๔ หนวยงานของรฐตองก าหนดความรบผิดชอบที่ชัดเจน กรณีระบบ
่
ั
์
คอมพิวเตอรหรอข้อมูลสารสนเทศเกิดความเสียหาย หรออนตรายใด ๆ แก่องค์กรหรอผู้หนงผู้ใด
ื
ึ่
ื
ั
ื
ิ
ิ
ิ
่
ื
ิ
ั
ื่
อนเนองมาจากความบกพรอง ละเลย หรอฝ่าฝืนการปฏบัตตามแนวนโยบายและแนวปฏบัต
้
ั
ี้
่
ในการรกษาความมั่นคงปลอดภยดานสารสนเทศ ทั้งน ให้ผู้บรหารระดบสูงสุดของหนวยงาน
ิ
ั
ั
(Chief Executive Officer : CEO) เป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสี่ยง ความเสียหาย หรืออันตรายที่เกิดขึ้น
ข้อ ๑๕ หนวยงานของรฐสามารถเลือกใช้ข้อปฏบัตในการรกษาความมั่นคง
ั
ิ
ิ
่
ั
้
ิ
ั
ิ
ี้
้
่
ปลอดภยดานสารสนเทศ ที่ตางไปจากประกาศฉบับนได หากแสดงให้เห็นว่า ข้อปฏบัตที่เลือกใช้มีความ
เหมาะสมกว่าหรือเทียบเท่า
ข้อ ๑๖ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็น
ต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
์
ร้อยตรีหญิง ระนองรักษ สุวรรณฉวี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์
ิ
หน้า | 42
ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๕๙
เพื่อรักษาความมั่นคงทางการเงินและการพาณิชย์ ประโยชน์ในการเสริมสร้างความ
น่าเชื่อถือและยอมรับในระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อป้องกันความเสียหายต่อสาธารณชน ตลอดจน
เพื่อเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้เหมาะสมกับการแข่งขัน
ในปัจจุบัน ส่งเสริมให้ผู้ให้บริการมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๗ มาตรา ๙ มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๕ และมาตรา
๑๖ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑
คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์จึงก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจ
ิ
บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้ผู้ให้บริการถือปฏิบัติดังน ี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิก
(๑) ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ เรอง หลักเกณฑ์ วิธีการ
ื่
ิ
ิ
และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๒
ิ
ื่
(๒) ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ เรอง หลักเกณฑ์ วิธีการ
ิ
และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕
(๓) ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ เรอง หลักเกณฑ์ วิธีการ
ื่
ิ
ิ
และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๘
ื่
(๔) ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ เรอง หลักเกณฑ์ วิธีการ
ิ
ิ
และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘
ข้อ ๒ ในประกาศฉบับนี้ เว้นแต่จะก าหนดไว้เป็นอย่างอื่น
ิ
ิ
“ผู้ให้บรการ” หมายความว่า ผู้ประกอบธุรกิจให้บรการการช าระเงินทาง
อิเล็กทรอนิกส์ตามที่ก าหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระ
เงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ประกอบด้วยธุรกิจบรการที่ตองแจ้งให้ทราบก่อนให้บรการ (บัญชี ก)
ิ
้
ิ
ิ
ั
ิ
้
้
้
ธุรกิจบรการที่ตองขอขึ้นทะเบียนก่อนให้บรการ (บัญชี ข) และธุรกิจบรการที่ตองไดรบอนญาตก่อน
ุ
ิ
ให้บริการ (บัญชี ค)
“ธุรกิจบริการที่ต้องแจ้งให้ทราบก่อนให้บริการ” (บัญชี ก) ได้แก่ การให้บริการเงิน
อเล็กทรอนกส์ที่ใช้ซื้อสินค้าหรอรบบรการเฉพาะอยางตามรายการที่ก าหนดไว้ล่วงหนาจากผู้ขายสินค้า
ิ
ั
ื
ิ
่
ิ
้
ิ
หรอให้บรการเพียงรายเดยว ทั้งน เว้นแตการให้บรการเงินอเล็กทรอนกส์ที่ใช้จ ากัดเพื่ออานวย
ี
ิ
ื
ิ
ิ
่
ี้
ิ
้
ความสะดวกแก่ผู้บรโภคโดยมิไดแสวงหาก าไรจากการออกบัตร ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศ
ก าหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ (e-Money บัญชี ก)
หน้า | 43
“ธุรกิจบริการที่ต้องขอขึ้นทะเบียนก่อนให้บริการ” (บัญชี ข) ได้แก่
(๑) การให้บริการเครือข่ายบัตรเครดิต (Credit Card Network)
(๒) การให้บริการเครือข่ายอีดีซี (EDC Network)
(๓) การให้บริการสวิตช์ชิ่งในการช าระเงินระบบหนึ่งระบบใด
(Transaction Switching บัญชี ข)
(๔) การให้บรการเงินอเล็กทรอนกส์ที่ใช้ซื้อสินค้า และหรอรบบรการเฉพาะอย่าง
ั
ื
ิ
ิ
ิ
ิ
ตามรายการที่ก าหนดไว้ล่วงหน้าจากผู้ขายสินค้าหรือให้บริการหลายราย ณ สถานที่ที่อยู่ภายใต้ระบบการ
จัดจ าหน่ายและการให้บริการเดียวกัน (e-Money บัญชี ข)
“ธุรกิจบริการที่ต้องได้รับอนุญาตก่อนให้บริการ” (บัญชี ค) ได้แก่
(๑) การให้บริการหักบัญชี (Clearing)
(๒) การให้บริการช าระดุล (Settlement)
(๓) การให้บรการช าระเงินทางอเล็กทรอนกส์ผ่านอปกรณ์อยางหนงอยางใดหรือ
ึ่
ิ
่
ิ
่
ุ
ิ
ผ่านทางเครือข่าย
ิ
( ๔ ) ก า ร ใ ห้ บ ร ก า ร ส วิ ต ช์ ชิ่ ง ใ น ก า ร ช า ร ะ เ งิ น ห ล า ย ร ะ บ บ
(Transaction Switching บัญชี ค)
(๕) การให้บริการรับช าระเงินแทน
ิ
ิ
ิ
(๖) การให้บรการเงินอเล็กทรอนกส์ที่ใช้ซื้อสินค้า และหรอรบบรการเฉพาะอย่าง
ิ
ื
ั
ิ
้
ตามรายการที่ก าหนดไว้ล่วงหนาจากผู้ขายสินค้าหรอให้บรการหลายราย โดยไม่จ ากัดสถานที่และไม่อย ู่
ื
ภายใต้ระบบการจัดจ าหน่ายและการให้บริการเดียวกัน (e-Money บัญชี ค)
“ธปท.” หมายความว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยตามกฎหมายว่าด้วยธนาคารแห่ง
ประเทศไทย
“ผู้ว่าการ” หมายความว่า ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
“พนกงานเจ้าหนาที่” หมายความว่า ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรอผู้ซึ่ง
้
ั
ื
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยแต่งตั้งให้ปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการ
การช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑
หมวด ๑
คุณสมบัติของผู้ให้บริการ การแจ้งให้ทราบ การขอขึ้นทะเบียน และการขอรับใบอนุญาต
้
ข้อ ๓ ผู้ประสงค์จะเป็นผู้ให้บรการตามบัญชี ก บัญชี ข หรอบัญชี ค ตองมี
ิ
ื
ี
้
ิ
คุณสมบัตและไม่มีลักษณะตองห้ามตามที่ก าหนดไว้ในมาตรา ๘ และมาตรา ๙ แห่งพระราชกฤษฎกาว่า
ด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑
ิ
ิ
ื
ิ
ในกรณีผู้ประสงค์จะเป็นผู้ให้บรการเป็นนตบุคคล ให้กรรมการหรอผู้ซึ่งมีอานาจ
จัดการของนิติบุคคลต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามวรรคหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ บุคคลตามวรรคหนึ่งและวรรคสองจะต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ด้วย
(๑) เคยต้องค าพิพากษาหรือค าสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน หรือเคย
ต้องค าพิพากษาถึงที่สุดว่ากระท าความผิดฐานฟอกเงินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ
ฟอกเงิน
หน้า | 44
้
(๒) เคยเป็นบุคคลที่ถูกก าหนดหรอตองค าพิพากษาถึงที่สุดว่ากระท าความผิดฐาน
ื
สนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทาง
การเงินแก่การก่อการร้าย
ข้อ ๔ ผู้ประสงค์จะเป็นผู้ให้บริการตามบัญชี ค ในแต่ละประเภทธุรกิจ ต้องมีทุนจด
ทะเบียนซึ่งช าระแล้วดังน ี้
(๑) การให้บริการหักบัญชี (Clearing) ไม่ต่ ากว่า ๕๐ ล้านบาท
(๒) การให้บริการช าระดุล (Settlement) ไม่ต่ ากว่า ๒๐๐ ล้านบาท
(๓) การให้บริการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างหนงอย่างใด หรือ
ึ่
ผ่านทางเครือข่ายไม่ต่ ากว่า ๕ ล้านบาท
(๔) การให้บริการสวิตช์ชิ่งในการช าระเงินหลายระบบ (Transaction Switching
บัญชี ค) ไม่ต่ ากว่า ๕๐ ล้านบาท
(๕) การให้บริการรับช าระเงินแทน ไม่ต่ ากว่า ๕ ล้านบาท
(๖) การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ซื้อสินค้า และหรือรับบริการเฉพาะอย่างตาม
ื
้
รายการที่ก าหนดไว้ล่วงหนาจากผู้ขายสินค้าหรอให้บรการหลายราย โดยไม่จ ากัดสถานที่และไม่อยภายใต ้
ู่
ิ
ระบบการจัดจ าหน่ายและการให้บริการเดียวกัน (e-Money บัญชี ค) ไม่ต่ ากว่า ๒๐๐ ล้านบาท
้
ิ
ึ่
ผู้ประสงค์จะเป็นผู้ให้บรการมากกว่าหนงประเภทธุรกิจ ตองมีทุนจดทะเบียนซึ่ง
ช าระแล้วไม่ต่ ากว่าจ านวนทุนจดทะเบียนซึ่งช าระแล้วของประเภทธุรกิจที่ก าหนดไว้สูงสุด
ิ
ึ่
นอกจากตองมีคุณสมบัตตามวรรคหนงและวรรคสองแล้ว ผู้ประสงค์จะเป็นผู้
้
ให้บริการจะต้องมีคุณสมบัติโดยมีสถานภาพทางการเงินที่มั่นคง ที่แสดงให้เห็นว่าสามารถด าเนินธุรกิจและ
่
ให้บริการได้อยางตอเนอง และไม่มีความเสี่ยงที่อาจกอให้เกดความเสียหายตอผู้ใช้บรการ เช่น ฐานะและ
ิ
่
ิ
่
่
ื่
ผลการด าเนินงานที่ผ่านมา แผนการประกอบธุรกิจ โดยรวมถึงประมาณการรายได้ ค่าใช้จ่าย และงบลงทุน
ส าหรับระยะเวลา ๓ ปี
ิ
เมื่อไดรบอนญาตให้ประกอบธุรกิจแล้ว ห้ามผู้ให้บรการตามบัญชี ค ลดทุนจด
ุ
ั
้
ทะเบียนซึ่งช าระแล้วก่อนไดรับอนุญาตจาก ธปท. เว้นแต่ผู้ให้บริการที่ไดรับอนญาตตามหลักเกณฑ์ที่ออก
้
ุ
้
ภายใต้พระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ หรือประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ แล้วแต ่
กรณี
ื
ื่
้
ข้อ ๕ ผู้ประสงค์จะเป็นผู้ให้บรการตามบัญชี ก บัญชี ข หรอบัญชี ค ตองยนแบบ
ิ
้
ุ
การแจ้งให้ทราบ แบบการขอขึ้นทะเบียน หรอแบบการขอรับใบอนญาต พรอมเอกสารหลักฐาน แล้วแต ่
ื
ี้
ื
ื
ิ
่
กรณี ตามแบบแนบท้ายประกาศฉบับนหรอตามแบบที่คณะกรรมการจะแก้ไขเพิ่มเตมตอผู้ว่าการหรอ
พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ผู้ว่าการมอบหมาย
ึ่
กรณีที่ผู้ประสงค์จะประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บรการมากกว่าหนงประเภทธุรกิจ
ิ
้
ุ
ื
สามารถยนแบบการแจ้งให้ทราบ แบบการขอขึ้นทะเบียน หรอแบบการขอรบใบอนญาต พรอมเอกสาร
ั
ื่
หลักฐานตามที่ก าหนดในคราวเดียวกันได ้
ิ
ั
ผู้ประสงค์จะเป็นผู้ให้บรการตองตรวจสอบและรบรองว่ามีคุณสมบัตและไม่มี
ิ
้
ลักษณะต้องห้ามตามประกาศฉบับนี้ด้วย
หน้า | 45
ิ
ข้อ ๖ ผู้ให้บรการที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจตอไปเมื่อใบอนญาตครบก าหนด ให้
ุ
่
ื
ื่
่
่
้
ุ
ุ
ยนค าขอตออายใบอนญาต พรอมเอกสารหลักฐานตามแบบที่คณะกรรมการก าหนด ตอผู้ว่าการหรอ
้
้
่
ั
พนกงานเจ้าหนาที่ที่ผู้ว่าการมอบหมายภายในระยะเวลา ๙๐ วัน แตไม่นอยกว่า ๖๐ วัน ก่อนวันที่
ใบอนุญาตเดิมสิ้นอาย ุ
ุ
่
ิ
้
ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาไม่ตอใบอนญาต และสั่งให้ผู้ให้บรการตอง
ปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดไปจนกว่าใบอนุญาตจะสิ้นอายุ พนักงานเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ผู้ให้บริการรายนั้น
ทราบเพื่อถือปฏิบัติต่อไป
้
ข้อ ๗ ในการพิจารณาออกใบอนญาต ตองด าเนนการใหแล้วเสรจภายใน ๔๕
็
ุ
้
ิ
วันท าการ นับแต่วันที่ได้แบบการขอรับใบอนุญาตและเอกสารถูกต้องครบถ้วน
ข้อ ๘ กรณีที่ใบรับแจ้ง ใบรับขึ้นทะเบียน หรือใบอนุญาต สูญหาย ถูกท าลาย หรือ
้
ื่
ั
ุ
ช ารดเสียหายในสาระส าคัญ ให้ผู้ให้บรการยนค าขอรบใบแทน พรอมเอกสารหลักฐานตามแบบแนบท้าย
ิ
ประกาศฉบับนี้หรือตามแบบที่คณะกรรมการจะแก้ไขเพิ่มเติม ต่อผู้ว่าการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ผู้ว่าการ
ู้
ุ
ั้
ื
่
มอบหมายภายในก าหนด ๓๐ วัน นบตงแตวันที่รถึงการสูญหาย การถูกท าลาย หรอการช ารดเสียหาย
ั
แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไดตรวจสอบความครบถ้วนและถูกต้องของเอกสารหลักฐานแล้ว
้
ุ
ั
้
ให้พนกงานเจ้าหนาที่ที่ผู้ว่าการมอบหมายออกใบแทนของใบรบแจ้ง ใบรบขึ้นทะเบียนหรอใบอนญาต
ั
ื
ั
แล้วแต่กรณี
หมวด ๒
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขทั่วไปในการประกอบธุรกิจบริการการช าระเงิน
ทางอิเล็กทรอนิกส์
้
ิ
ข้อ ๙ ผู้ให้บรการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ตองประกอบธุรกิจโดยปฏิบัต ิ
ื่
้
ุ
ั
้
ตามแผน นโยบาย มาตรการ และระบบตาง ๆ ตามที่ไดยนแจ้งให้ทราบ ขึ้นทะเบียน หรอไดรบอนญาต
่
ื
แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๐ กรณีผู้ให้บริการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ได้มีการเปลี่ยนแปลงการ
ิ
ื่
ื
ื
้
ั
ุ
้
ดาเนนงานไปจากเอกสารที่ไดยนประกอบการแจ้งให้ทราบ การขึ้นทะเบียน หรอการไดรบอนญาตหรอ
หยุดให้บรการชั่วคราว ให้ผู้ให้บริการด าเนินการ ดังต่อไปน ี้
ิ
(๑) กรณีผู้ให้บริการตามบัญชี ข และบัญชี ค ย้ายส านักงานใหญ่ ให้ยื่นขออนญาต
ุ
จาก ธปท. ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน ก่อนเริ่มด าเนินการ
(๒) ผู้ให้บรการตองแจ้ง ธปท. ทราบล่วงหนาไม่นอยกว่า ๑๕ วัน ก่อนเรม
้
ิ
้
้
ิ่
ด าเนินการในกรณีดังต่อไปน ี้
(ก) ผู้ให้บริการตามบัญชี ก ย้ายส านักงานใหญ่
ิ
(ข) ผู้ให้บรการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค เปลี่ยนแปลงระบบ
สารสนเทศพร้อมทั้งแสดงแผนภาพของระบบสารสนเทศ
ิ
(ค) ผู้ให้บรการตามบัญชี ข และบัญชี ค เพิ่ม ยกเลิก หรอเปลี่ยนแปลง
ื
่
ุ
ิ
รปแบบของการให้บรการแตกตางจากที่ไดขึ้นทะเบียนหรอไดรบอนญาตไว้ แล้วแตกรณี ให้แจ้ง ธปท.
ู
้
้
ื
ั
่
ทราบพร้อมข้อมูลรายละเอียดของระบบสารสนเทศ (ถ้ามี)
หน้า | 46
(ง) ผู้ให้บริการตามบัญชี ข และบัญชี ค เปลี่ยนแปลงชื่อนิติบุคคล
ิ
ั
ิ
ุ
(จ) ผู้ให้บรการตามบัญชี ข และบัญชี ค หยดให้บรการชั่วคราวอนเกิดจาก
การเตรียมการไว้ล่วงหน้า เช่น การปิดปรับปรุงระบบงาน การปิดปรับปรุงพื้นที่ส านักงาน
(๓) ผู้ให้บริการต้องแจ้ง ธปท. ทราบภายใน ๑๕ วัน นับจากวันที่มีการเปลี่ยนแปลง
ในกรณีดังต่อไปน ี้
(ก) ผู้ให้บริการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค เปลี่ยนแปลงกรรมการหรอ ื
ผู้ซึ่งมีอ านาจจัดการของนิติบุคคล ทั้งนี้ ผู้ให้บริการจะต้องตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติของบุคคลที่เป็น
ิ
ื
้
ิ
กรรมการหรอผู้ซึ่งมีอานาจจัดการของนตบุคคลว่ามีคุณสมบัตและไม่มีลักษณะตองห้ามตามข้อ ๓ ตาม
ิ
แบบหนังสือรับรองแนบท้ายประกาศฉบับนี้ด้วย
ิ
(ข) ผู้ให้บรการตามบัญชี ข และบัญชี ค เปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียนซึ่งช าระ
แล้ว
(๔) กรณีผู้ให้บริการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค เปิดส านักงานสาขาแห่งใหม่
ยาย หรอปิดส านกงานสาขา ให้จัดท ารายงานสรปรายไตรมาส พรอมจัดส่งให้ ธปท. ภายใน ๓๐ วัน นับ
ุ
ั
้
ื
้
จากวันสิ้นไตรมาสตามแบบรายงานแนบท้ายประกาศฉบับน ทั้งน ส านกงานสาขาไม่รวมถึงจุดให้บริการ
ี้
ี้
ั
ชั่วคราว หรือส านักงานหรือจุดให้บริการของตัวแทนที่ผู้ให้บริการแต่งตั้ง
ุ
(๕) กรณีผู้ให้บรการตามบัญชี ข และบัญชี ค หยดให้บรการชั่วคราวซึ่งส่งผลกระ
ิ
ิ
ทบในวงกว้างอันเนื่องมาจากเหตุจ าเป็นหรือมีพฤติการณ์พิเศษ ซึ่งไม่ได้มีการเตรียมการไว้ล่วงหนา ให้แจ้ง
้
ฝ่ายนโยบายระบบการช าระเงิน ธปท. และแจ้งผู้ใช้บริการทราบโดยทั่วกันภายใน ๒๔ ชั่วโมง นับแต่เวลาที่
หยุดให้บริการชั่วคราว
ิ
้
้
(๖) ผู้ให้บรการตองแจ้งให้ผู้ใช้บรการทราบล่วงหนาไม่นอยกว่า ๑๕ วัน ก่อนเรม
ิ
้
ิ่
ิ
ิ
ดาเนนการอยางนอย ๒ ช่องทาง โดยอาจแจ้งข้อมูลผ่านช่องทางอเล็กทรอนกส์ หรอแจ้งเป็นลายลักษณ์
ื
้
ิ
่
ิ
ื
ั
อกษรหรอประกาศทางหนงสือพิมพ์ หรอปิดประกาศไว้ในที่เปิดเผย ณ สถานที่ท าการหรอจุดให้บรการ
ั
ื
ื
ของตัวแทนแต่ละแห่งที่ให้บริการก็ได้ ในกรณีดังต่อไปน ี้
(ก) ผู้ให้บริการตามบัญชี ข และบัญชี ค เปลี่ยนแปลงชื่อนิติบุคคล
ั
ิ
ุ
ิ
(ข) ผู้ให้บรการตามบัญชี ข และบัญชี ค หยดให้บรการชั่วคราวอนเกิดจาก
การเตรียมการไว้ล่วงหน้า เช่น การปิดปรับปรุงระบบงาน การปิดปรับปรุงพื้นที่ส านักงาน
(ค) ผู้ให้บริการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ย้าย หรือปิดส านักงานสาขา
้
ข้อ ๑๑ ผู้ให้บรการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ตองก าหนดนโยบายในการ
ิ
ิ
เก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บรการ การก าหนดชั้นความลับในการเข้าถึงข้อมูล และการระบุตัวบุคคลที่มีสิทธิ
เข้าถึงข้อมูลดงกล่าวพรอมทั้งจัดให้มีระบบการจัดเก็บข้อมูลที่ถูกตองเชื่อถือไดและป้องกันผู้ที่ไม่มีหน้าที่
้
้
ั
้
เกี่ยวข้องเข้าถึงหรือแก้ไขข้อมูลที่เก็บรักษา
ข้อ ๑๒ ผู้ให้บรการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ตองรกษาความลับข้อมูล
ั
ิ
้
ิ
ส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยจะไม่เปิดเผยข้อมูลเหล่านั้นตลอดระยะเวลาการใช้บรการและภายหลังที่เลิก
ใช้บริการแล้วเว้นแต่กรณีต่อไปน ี้
ื่
ิ
ั
ิ
้
ั
(๑) การเปิดเผยโดยไดรบความยนยอมเป็นหนงสือหรอวิธีการอนใดทางอเล็กทรอ
ื
นิกส์ตามที่ ผู้ให้บริการก าหนดจากผู้ใช้บริการ
(๒) การเปิดเผยเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวน หรือการพิจารณาคด ี
(๓) การเปิดเผยแก่ผู้สอบบัญชีของผู้ให้บริการ
หน้า | 47
(๔) การเปิดเผยเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมาย
(๕) การเปิดเผยเพื่อประโยชน์ในการก ากับดูแลระบบการช าระเงินของ ธปท.
ข้อ ๑๓ ผู้ให้บริการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ต้องมีการก าหนดข้อตกลงใน
่
การให้บรการไว้เป็นลายลักษณ์อกษร และเปิดเผยให้ผู้ใช้บรการทราบอยางชัดเจน ซึ่งอยางนอยตอง
ิ
้
ิ
้
ั
่
ประกอบด้วย
ิ
(๑) สิทธิ หนาที่ และความรบผิดของผู้ให้บรการและผู้ใช้บรการ ทั้งในกรณีปกต ิ
ั
้
ิ
และกรณีที่เกิด เหตุฉุกเฉิน
(๒) หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีปฏิบัติในการให้บริการ
(๓) ความเสี่ยงทางการเงิน (Financial Risk) ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้บริการ (ถ้ามี)
ิ
ิ
ิ
ทั้งนี้ ผู้ให้บริการมีหน้าที่ตดตามดูแลให้ผู้ใช้บรการปฏิบัตตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขที่
ก าหนด และกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งท าให้ผู้ใช้บรการเสียประโยชน์ ผู้ให้บริการต้องแจ้งให้ผู้ใช้บรการ
ิ
ิ
ทราบล่วงหน้า โดยประกาศไว้ ณ สถานที่ท าการทุกแห่ง หรือด้วยวิธีการอื่นใดให้ผู้ใช้บริการสามารถ
ทราบได ้
ข้อ ๑๔ ผู้ให้บรการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ตองดาเนนการเกี่ยวกับการ
ิ
ิ
้
เปิดเผยค่าธรรมเนียม ดังต่อไปน ี้
ี
ี
ิ
ี
(๑) เปิดเผยรายละเอยดของค่าธรรมเนยมที่จะเรยกเก็บจากผู้ใช้บรการ โดย
ประกาศไว้ ณ สถานที่ท าการทุกแห่ง หรอดวยวิธีการอนใดให้ผู้ใช้บรการสามารถทราบได ทั้งน ในการ
้
้
ื่
ื
ิ
ี้
ี
ิ
้
ก าหนดค่าธรรมเนยมผู้ให้บรการตองก าหนดให้เป็นไปตามกลไกตลาดเพื่อให้เกิดการแข่งขันและตอง
้
ค านึงถึงความเป็นธรรมต่อผู้ใช้บริการด้วย
ี
ี
(๒) เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนยม ผู้ให้บริการจะต้องประกาศรายละเอยดไว้
ณ สถานที่ท าการทุกแห่ง โดยในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ท าให้ผู้ใช้บริการเสียประโยชน์ ผู้ให้บริการต้อง
ื่
้
แจ้งดวยวิธีการอนใด ให้ผู้ใช้บรการทราบล่วงหนาไม่นอยกว่า ๓๐ วัน ก่อนการเปลี่ยนแปลงจะมีผลใช้
้
ิ
้
บังคับ
(๓) จัดส่งประกาศค่าธรรมเนียมให้ ธปท. ทราบโดยเร็วในรูปเอกสารอิเล็กทรอนกส์
ิ
นับแต่วันที่ออกประกาศครั้งแรกและทุก ๆ ครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง
้
ิ
ข้อ ๑๕ ผู้ให้บรการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ตองดาเนนการเมื่อมีการ
ิ
ร้องเรียนหรือมี ข้อโต้แย้งจากผู้ใช้บริการ รวมทั้งก าหนดกรอบเวลาเพื่อหาข้อยุติดังน ี้
(๑) จัดให้มีช่องทางและวิธีการส าหรับการรับข้อร้องเรยนจากผู้ใช้บริการ โดยอยาง
ี
่
ิ
ั
ิ
น้อยต้องจัดให้มีหมายเลขโทรศัพท์และที่อยู่ส านกงานหรือที่อยู่ส าหรับตดต่อทางจดหมายอิเล็กทรอนกส์ที่
สามารถติดต่อได ้
ิ
ุ
ิ
(๒) ก าหนดวิธีปฏบัตเกี่ยวกับขั้นตอนและการดาเนนการเพื่อหาข้อยตเป็นลาย
ิ
ิ
ิ
ั
ลักษณ์อกษรโดยผู้ให้บรการตองดาเนนการตรวจสอบและแจ้งความคืบหนา รวมทั้งชี้แจงขั้นตอนการ
้
ิ
้
ี
ี
ด าเนินการพร้อมทั้งแจ้งก าหนดเวลาในการแก้ไขข้อร้องเรยนให้ผู้ร้องเรยนทราบภายใน ๗ วัน นับจากวันที่
ได้รับแจ้งการร้องเรียน
็
้
ิ
ี
ิ
(๓) ดาเนนการแก้ไขข้อรองเรยนให้แล้วเสรจและแจ้งผลการดาเนนการให้ผู้
ร้องเรียนทราบโดยเร็ว
หน้า | 48
ข้อ ๑๖ ผู้ให้บรการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ตองจัดท างบการเงินที่แสดง
ิ
้
ฐานะทางการเงินและผลการด าเนินงาน และจัดส่งให้ ธปท. ตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้ โดยเริ่มตั้งแต่งวดแรกที่
ได้ประกอบธุรกิจ
(๑) งวดบัญชีในรอบระยะเวลา ๖ เดือนแรกของปีบัญชี ให้ผู้ให้บริการตามบัญชี ข
และบัญชี ค จัดส่งงบการเงินงวด ๖ เดือนแรกของปีบัญชี ให้ ธปท. ภายใน ๔๕ วัน นับแต่วันสิ้นงวด
ิ
ิ
(๒) งวดประจ าปีบัญชี ให้ผู้ให้บรการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ซึ่งเป็นนต ิ
บุคคล จัดส่งงบการเงินประจ าปีที่ผ่านการรบรองของผู้สอบบัญชีรบอนญาตหรอผู้สอบบัญชี
ั
ื
ั
ุ
ี
ั
่
ิ
ภาษอากร แล้วแตกรณี ให้ ธปท. ภายใน ๙๐ วัน นบแตวันสิ้นงวด และให้ผู้ให้บรการตามบัญชี ก ที่
่
เป็นบุคคลธรรมดา จัดส่งส าเนาแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้ ธปท. ภายใน ๓๐ วัน
นับแต่วันที่ได้ยื่นเสียภาษีในแต่ละงวด
ข้อ ๑๗ ผู้ให้บริการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ต้องจัดท ารายงานที่เกี่ยวข้อง
ตามแบบและระยะเวลาที่ ธปท. ก าหนด และส่งให้ ธปท. ภายใน ๓๐ วัน นับจากวันสิ้นงวดที่ก าหนดให้
จัดท ารายงานนั้น โดยเริ่มตั้งแต่งวดระยะเวลาแรกที่ผู้ให้บริการเริ่มประกอบธุรกิจ
ทั้งนี้ ผู้ให้บริการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ทุกประเภท อาจต้องจัดท าข้อมูล
รายงานอื่นเพิ่มเติมตามที่ ธปท. ก าหนดด้วย
ิ
ข้อ ๑๘ ผู้ให้บรการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ตองจัดให้มีระบบงานที่
้
สามารถตรวจสอบรายการย้อนหลังได ้
ิ
ิ
ข้อ ๑๙ กรณีผู้ให้บรการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ให้ผู้ให้บรการรายอน
ื่
หรือบุคคลอื่น (Outsourcing) มาด าเนินการแทนในงานระบบสารสนเทศ รวมถึงงานที่มีผลกระทบอย่างมี
นัยส าคัญต่อธุรกิจผู้ให้บริการจะต้องด าเนินการ ดังต่อไปน ี้
(๑) จัดให้มีกระบวนการบริหารความเสี่ยง รวมทั้งการคัดเลือก ติดตาม ประเมินผล
และตรวจสอบการให้บรการของผู้ให้บรการรายอนหรอบุคคลอนอยางเหมาะสม โดยประเมินความเสี่ยง
ิ
่
ิ
ื
ื่
ื่
ของการใช้บริการจากผู้ให้บริการรายอื่นอย่างสม่ าเสมอ
(๒) จัดให้มีการท าสัญญาการใช้บริการ ซึ่งระบุสิทธิของผู้ตรวจสอบ
ภายใน ผู้ตรวจสอบภายนอก และ ธปท. ในการเข้าตรวจสอบการดาเนินงานและการควบคุม
ภายในของผู้ให้บริการรายอื่นหรือบุคคลอื่นนั้นได ้
ิ
่
ิ
ทั้งน ผู้ให้บรการยงคงมีความรบผิดตอผู้ใช้บรการในการให้บรการที่ตอเนอง
่
ิ
ั
ี้
ั
ื่
ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เสมือนกับการให้บริการโดยผู้ให้บริการเอง
ั
ข้อ ๒๐ กรณีผู้ให้บรการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค แตงตงตวแทน
ั้
ิ
่
้
ิ
ิ
(Agent) ให้ด าเนินการแทนในการให้บรการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ใช้บรการ ผู้ให้บริการตอง
ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ ธปท. ประกาศก าหนด
ี้
่
ทั้งน ผู้ให้บรการยงคงมีความรบผิดตอผู้ใช้บรการในการให้บรการที่ตอเนอง
ื่
ิ
ั
ิ
่
ั
ิ
ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เสมือนกับการให้บริการโดยผู้ให้บริการเอง
หน้า | 49
ิ
้
ข้อ ๒๑ ผู้ให้บรการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ตองจัดให้มีการตรวจสอบ
ระบบสารสนเทศอยางนอยปีละหนงครง โดยให้เป็นไปตามแนวนโยบายและมาตรการการรกษาความ
้
่
ึ่
ั้
ั
มั่นคงปลอดภยทางระบบสารสนเทศตามที่ ธปท. ก าหนด และจัดส่งส าเนาผลการตรวจสอบให้ ธปท.
ั
ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ท าการตรวจสอบแล้วเสร็จ
ิ
ข้อ ๒๒ ผู้ให้บรการตามบัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ที่เป็นสถาบันการเงินภายใต ้
ิ
พระราชบัญญตธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ หรือที่มิใช่สถาบันการเงินตามประกาศของคณะปฏวัต ิ
ั
ิ
้
ั
้
ฉบับที่ ๕๘ หากมิไดมีการก าหนดหลักเกณฑ์ไว้เป็นการเฉพาะภายใตกฎหมายดงกล่าวแล้ว ให้ถือปฏบัต ิ
ิ
ตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปน ี้
ุ
ั
้
(๑) การขออนญาตหรอแจ้งยายส านกงานใหญ่ ตามข้อ ๑๐ (๑) และข้อ ๑๐ (๒)
ื
(ก)
(๒) การแจ้งเปลี่ยนแปลงกรรมการหรอผู้ซึ่งมีอ านาจจัดการของนติบุคคล และการ
ิ
ื
เปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียนซึ่งช าระแล้ว ตามข้อ ๑๐ (๓)
(๓) การเปลี่ยนแปลงชื่อนิติบุคคล ตามข้อ ๑๐ (๒) (ง) และข้อ ๑๐ (๖) (ก)
ิ
(๔) การหยดให้บรการชั่วคราว ตามข้อ ๑๐ (๒) (จ) ข้อ ๑๐ (๕) และข้อ ๑๐ (๖)
ุ
(ข)
(๕) การรายงานเปิดส านักงานสาขาแห่งใหม่ หรือย้ายหรือปิดส านักงานสาขา ตาม
ข้อ ๑๐ (๔)
(๖) การจัดท าและจัดส่งงบการเงินที่แสดงฐานะทางการเงินและผลการด าเนินงาน
ตามข้อ ๑๖
(๗) การจัดท าและจัดส่งรายงานที่เกี่ยวข้องตามแบบและระยะเวลาที่ ธปท. ก าหนด
ตามข้อ ๑๗
(๘) การจัดให้มีการตรวจสอบระบบสารสนเทศและจัดส่งส าเนาผลการตรวจสอบ
ตามข้อ ๒๑
ิ
ิ
ุ
ข้อ ๒๓ ในกรณีมีเหตจ าเป็นหรอพฤตการณ์พิเศษ ที่ท าให้ผู้ให้บรการไม่สามารถ
ื
ิ
ื่
ั
่
ี้
่
้
ุ
ดาเนนการดงตอไปนไดภายในระยะเวลาที่ก าหนด ให้ผู้ให้บริการยนขออนญาตขยายระยะเวลาตอ ธปท.
พร้อมชี้แจงเหตุผลความจ าเป็นและก าหนดเวลาที่จะด าเนินการแล้วเสร็จ โดย ธปท. อาจจะพิจารณาขยาย
ื
ระยะเวลาหรอไม่ก็ได ้ ทั้งนี้ ธปท. มีอ านาจพิจารณาขยายระยะเวลาได้ไม่เกิน ๙๐ วัน นับแต่ระยะเวลาที่
ก าหนดสิ้นสุด
(๑) ยื่นขออนุญาตหรือแจ้งให้ ธปท. ทราบการเปลี่ยนแปลงการด าเนินงาน ตามข้อ ๑๐
(๒) จัดส่งงบการเงินที่แสดงฐานะทางการเงินและผลการด าเนินงาน ตามข้อ ๑๖
(๓) จัดส่งรายงานที่เกี่ยวข้องตามที่ ธปท. ก าหนด ตามข้อ ๑๗
(๔) จัดส่งส าเนาผลตรวจสอบระบบสารสนเทศ ตามข้อ ๒๑
ิ
ิ
ิ
ื
ุ
ในกรณีมีเหตจ าเป็นหรอพฤตการณ์พิเศษที่ท าให้ผู้ให้บรการไม่สามารถให้บรการ
ิ
้
ิ
ิ
การช าระเงินทางอเล็กทรอนกส์ไดตามปกตตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่ก าหนดในประกาศ
คณะกรรมการหรอประกาศของ ธปท. และอาจส่งผลกระทบในการให้บรการอยางตอเนองหรอตอความ
ื
ื
่
ื่
่
่
ิ
ื่
่
่
ิ
ิ
ิ
นาเชื่อถือของระบบการช าระเงิน ให้ผู้ให้บรการยนขออนญาตยกเว้นการปฏบัตตามหลักเกณฑ์ตอ ธปท.
ุ
พรอมชี้แจงเหตผล ความจ าเป็น โดย ธปท. อาจจะพิจารณาอนญาตหรอไม่ก็ได ้ ทั้งน ธปท. มีอานาจ
ื
ี้
ุ
ุ
้
พิจารณาอนุญาตได้ไม่เกิน ๙๐ วัน
หน้า | 50
ึ่
ในการอนญาตขยายระยะเวลาตามวรรคหนง หรออนญาตยกเว้นตามวรรคสอง
ื
ุ
ุ
ธปท. อาจก าหนดเงื่อนไขใด ๆ ไว้เป็นรายกรณีด้วยก็ได ้
้
ิ
ในกรณีที่ผู้ให้บรการเห็นว่าจะไม่สามารถปฏบัตไดภายในระยะเวลาที่ก าหนดตาม
ิ
ิ
วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ให้ผู้ให้บริการยื่นขอขยายระยะเวลา พร้อมชี้แจงเหตุผลและความจ าเป็นต่อ ธปท.
ื
และให้ ธปท. เสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ คณะกรรมการอาจพิจารณาอนุญาตหรอไม่
้
ื
้
ก็ได หรออาจพิจารณาอนญาตโดยก าหนดเงื่อนไขใด ๆ ไว้เป็นรายกรณีดวยก็ได ้ ทั้งน ธปท. และ
ี้
ุ
คณะกรรมการจะใช้เวลาในการพิจารณาให้แล้วเสรจภายใน ๔๕ วันท าการ นบแตวันที่ไดรบค าขอขยาย
ั
ั
็
้
่
ระยะเวลาและเอกสารถูกต้องครบถ้วน
หมวด ๓
ิ
หลักเกณฑ์เฉพาะส าหรับธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนกส์แต่ละประเภท
ส่วนที่ ๑
การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money)
ิ
ิ
ิ
้
ข้อ ๒๔ ผู้ให้บรการเงินอเล็กทรอนกส์บัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ตองให้บรการ
ิ
ภายใต้เงื่อนไขดังน ี้
(๑) การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ต้องบันทึกมูลค่าเป็นเงินสกุลบาท หรือเงินสกุล
ต่างประเทศ
ิ
(๒) ผู้ให้บริการตามบัญชี ข บัญชี ค ต้องก าหนดมูลค่าสูงสุดของเงินอิเล็กทรอนกส์
ที่สามารถใช้ได้ต่อบัตรหรือบัญชี โดยต้องพิจารณาตามความเหมาะสมของผู้ใช้บริการและต้องมีการบรหาร
ิ
ความเสี่ยงที่ด ี
ื่
(๓) ผู้ให้บริการตามบัญชี ข บัญชี ค ต้องจัดให้มีระบบ กระบวนการหรอเครองมือ
ื
การลงทะเบียนหรอวิธีการอนใดในการใช้บรการเงินอเล็กทรอนกส์ เพื่อดแลผู้ใช้บรการและจ ากัดความ
ิ
ื
ิ
ื่
ิ
ิ
ู
ิ
ิ
ิ
เสียหายขั้นสูงของมูลค่าเงินอเล็กทรอนกส์ หากเกิดกรณีบัตรสูญหายหรือถูกขโมย เมื่อผู้ใช้บรการร้องขอ
โดยผู้ให้บริการต้องชี้แจงระเบียบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขดังกล่าวให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า
(๔) การให้บริการต้องไม่มีลักษณะเป็นการให้สินเชื่อ
(๕) ผู้ให้บรการตองเปิดเผยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการขอแลกคืนเป็นเงินสดให้
้
ิ
ผู้ใช้บรการทราบ และหากการขอแลกคืนเป็นเงินสดเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแล้ว ผู้
ิ
้
ิ
ิ
ให้บริการตามบัญชี ค จะต้องจัดให้มีการคืนเงินภายใน ๑๕ วัน นับจากวันที่ผู้ใช้บรการไดดาเนนการขอ
แลกคืน
(๖) ผู้ให้บรการตองจัดให้มีวิธีการที่ผู้ใช้บรการสามารถตรวจสอบยอดเงินคงเหลือ
้
ิ
ิ
วันหมดอายุ และแจ้งวิธีการดังกล่าวให้ผู้ใช้บริการทราบ
้
(๗) ผู้ให้บรการตองจัดให้มีระบบงานที่สามารถป้องกันไม่ให้ผู้ใช้บรการโอนเงิน
ิ
ิ
ระหว่างกันโดยไม่ผ่านระบบของผู้ให้บริการ
ิ
้
(๘) ผู้ให้บรการเงินอเล็กทรอนกส์บัญชี ข และบัญชี ค ตองจัดท าบัญชีเงินรบ
ิ
ั
ิ
ล่วงหน้าที่ได้รับจากผู้ใช้บริการแยกไว้ต่างหากจากบัญชีอื่นของผู้ให้บริการ และแยกแสดงไว้ในงบการเงิน
ต่างหากให้ชัดเจนหรือแสดงไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินให้ชัดเจนก็ได ้
หน้า | 51
้
ิ
(๙) ผู้ให้บรการเงินอเล็กทรอนกส์บัญชี ค ที่มิไดเป็นสถาบันการเงินตาม
ิ
ิ
้
ิ
ิ
พระราชบัญญัตธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ จะประกอบธุรกิจอนเพิ่มเตมไดเฉพาะธุรกิจดงต่อไปน ี้
ั
ื่
เท่านั้น
ื
ื่
ิ
(ก) ธุรกิจที่บางส่วนหรอทั้งหมดเกี่ยวกับหรอเนองจากการให้บรการเงิน
ื
ิ
ิ
ิ
ั
ื่
อเล็กทรอนกส์โดยหากธุรกิจดงกล่าวเป็นธุรกิจบรการการช าระเงินทางอเล็กทรอนกส์ประเภทอน ให้
ิ
ิ
ด าเนินการแจ้งให้ทราบขึ้นทะเบียน หรือขอรับใบอนุญาต แล้วแต่กรณี
ิ
ิ
(ข) ธุรกิจอนที่สนบสนนธุรกิจบรการการช าระเงินทางอเล็กทรอนกส์ ตราบ
ั
ุ
ิ
ื่
เท่าที่ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงอันจะกระทบต่อการด าเนินธุรกิจหลัก และเงินที่ได้รับล่วงหน้าจากผู้ใช้บริการ
ทั้งนี้ หากผู้ให้บริการประสงค์จะประกอบธุรกิจตามข้อ (ก) และหรือข้อ (ข) ผู้
ุ
ุ
้
่
ให้บรการตองขออนญาตเป็นรายกรณี โดยชี้แจงหลักการ เหตผล และการประเมินความเสี่ยงตางๆ ที่
ิ
เกี่ยวข้อง พร้อมจัดส่งข้อมูลและเอกสารประกอบการพิจารณาให้ ธปท. โดย ธปท. จะพิจารณาให้แล้วเสร็จ
ภายใน ๔๕ วันท าการ นับแตวันที่ไดรบค าขอและเอกสารถูกตองครบถ้วน อยางไรก็ตาม ธปท. อาจ
้
ั
่
้
่
ุ
้
ื
้
พิจารณาอนญาตหรอไม่ก็ได หรออาจพิจารณาอนญาตโดยก าหนดเงื่อนไขใด ๆ ไว้เป็นรายกรณีดวยก็ได ้
ื
ุ
ั้
หรือสั่งระงับเป็นการชั่วคราว หรือยกเลิกการให้บริการนนในภายหลังด้วยก็ได้ หากพบว่ามีการด าเนนการ
ิ
ที่ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่แจ้งเมื่อขออนุญาต หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ ธปท. ก าหนด
ส่วนที่ ๒
การให้บริการเครือข่ายบัตรเครดต (Credit Card Network)
ิ
การให้บริการเครือข่ายอีดีซี (EDC Network) และ
การให้บริการสวิตช์ชิ่งในการช าระเงิน (Transaction Switching)
ี
ข้อ ๒๕ ผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรเครดต ผู้ให้บริการเครือข่ายอดีซี และผู้ให้บริการ
ิ
ิ
ื
สวิตช์ชิ่งในการช าระเงินระบบหนงระบบใดหรอผู้ให้บรการสวิตช์ชิ่งในการช าระเงินหลายระบบ ตอง
ึ่
้
่
ก าหนดวัตถุประสงค์ หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีปฏบัตในการเข้ารวมและการออกจากระบบของ
ิ
ิ
ั
่
ิ
ผู้ใช้บรการ (Access and Exit Criteria) ไว้อยางชัดเจนเป็นลายลักษณ์อกษร และเปิดเผยให้ผู้ใช้บรการ
ิ
ิ
ทราบโดยทั่วถึง เพื่อให้มั่นใจว่าการรับผู้ใช้บรการรายใหม่เพิ่มเติม จะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงและผลกระทบ
ต่อการใช้บริการของผู้ใช้บริการรายเดิม
ส่วนที่ ๓
การให้บริการหักบัญชี (Clearing)
ข้อ ๒๖ ให้น าความในข้อ ๒๕ มาใช้บังคับกับผู้ให้บริการหักบัญชีด้วย
ข้อ ๒๗ ผู้ให้บรการหักบัญชีตองจัดให้มีมาตรการจัดการความเสี่ยง เพื่อให้การ
ิ
้
ช าระดุลระหว่างผู้ใช้บริการส าเร็จลุล่วง โดยมีการช าระเงินตามภาระผูกพันภายในเวลาที่ก าหนด รวมทั้งวิธ ี
ิ
ิ
ปฏบัตที่เหมาะสมเพื่อรองรบกรณีที่ผู้ใช้บรการรายใดรายหนงไม่สามารถช าระดลได และตองเปิดเผยให้
ุ
้
ั
้
ึ่
ิ
ิ
ี
ผู้ใช้บริการทราบโดยทั่วถึง รวมทั้งมีหน้าที่ต้องติดตามดูแลให้ผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการและวิธปฏบัต ิ
ดังกล่าวด้วย
หน้า | 52
ทั้งน ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงมาตรการจัดการความเสี่ยง ผู้ให้บรการหักบัญชี
ิ
ี้
ต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า และแจ้ง ธปท. ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน ก่อนเริ่มด าเนินการ
ี
ข้อ ๒๘ ผู้ให้บริการหักบัญชีต้องแจ้งให้ ธปท. ทราบด้วยวาจาหรอโดยวิธอื่นใดโดย
ื
ทันทีเมื่อมีเหตุดังน ี้
้
(๑) กรณีที่ผู้ใช้บริการรายใดรายหนึ่งไม่สามารถช าระดุลไดด้วยวิธีการปกติและตาม
้
ั
ุ
เวลาที่ก าหนด เช่น มีเงินไม่เพียงพอส าหรบการช าระดล โดยตองใช้มาตรการจัดการความเสี่ยงและวิธี
ปฏิบัติที่ก าหนดเพื่อให้กระบวนการช าระดุลส าเร็จลุล่วง
ิ
(๒) กรณีที่ระบบของผู้ให้บรการขัดข้อง ท าให้ไม่สามารถค านวณยอดเงินแสดง
ความเป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ของผู้ใช้บริการ หรือไม่สามารถส่งข้อมูลดังกล่าวไปเพื่อท าการช าระดุลระหว่าง
เจ้าหนี้และลูกหนได้ด้วยวิธีการปกติและตามเวลาที่ก าหนด
ี้
ี้
ทั้งน ผู้ให้บรการหักบัญชีตองจัดส่งรายงานปัญหากรณีเกิดเหตขัดข้องตามแบบที่
ุ
ิ
้
ธปท. ก าหนดให้ ธปท. ภายในวันท าการถัดจากวันเกิดเหต ุ
ข้อ ๒๙ ในกรณีที่ผู้ให้บริการหักบัญชีมีการระงับการให้บริการกับผู้ใช้บริการรายใด
ิ
ื่
ิ
้
รายหนงเป็นการชั่วคราว ผู้ให้บรการตองแจ้งให้ผู้ใช้บรการรายอนทราบโดยทันที และในกรณีที่มีการ
ึ่
่
ยกเลิกการให้บริการกับผู้ใช้บรการรายใดรายหนึ่ง ให้แจ้งผู้ใช้บริการรายอนทราบล่วงหน้าไม่น้อยกวา ๑๕
ื่
ิ
วัน ทั้งนี้ ผู้ให้บริการหักบัญชีต้องแจ้ง ธปท. ทราบภายใน ๑๕ วัน นับจากวันที่มีการระงับหรือยกเลิกการ
ให้บริการ แล้วแต่กรณี
ส่วนที่ ๔
การให้บริการช าระดุล (Settlement)
ข้อ ๓๐ ให้น าความในข้อ ๒๕ มาใช้บังคับกับผู้ให้บริการช าระดุลด้วย
้
ิ
ุ
ุ
ั
ข้อ ๓๑ ผู้ให้บรการช าระดลตองจัดให้มีวิธีการช าระดลเพื่อปรบฐานะความเป็น
ิ
ี้
ื
ุ
เจ้าหนหรอลูกหนของผู้ใช้บรการที่เหมาะสม โดยค านงถึงความเสี่ยงจากการช าระดล
ึ
ี้
(Settlement Risk) ที่อาจท าให้ไม่สามารถช าระดุลได้ส าเร็จลุล่วงและส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการรายอื่น
ุ
ิ
ั
ข้อ ๓๒ ในกรณีที่ผู้ให้บรการช าระดลไม่สามารถดาเนนการปรบฐานะความเป็น
ิ
ิ
เจ้าหนหรอลูกหนของผู้ใช้บรการไดดวยวิธีการปกตและตามเวลาที่ก าหนด ให้ผู้ให้บรการช าระดุลแจ้งให้
้
ื
้
ี้
ี้
ิ
ิ
ธปท. ทราบด้วยวาจาหรือโดยวิธีอื่นใดโดยทันที และต้องจัดส่งรายงานปัญหากรณีเกิดเหตุขัดข้องตามแบบ
ที่ ธปท. ก าหนด ภายในวันท าการถัดจากวันเกิดเหต ุ
ิ
ข้อ ๓๓ ในกรณีที่ผู้ให้บริการช าระดุลมีการระงับการให้บรการกับผู้ใช้บรการรายใด
ิ
รายหนึ่งเป็นการชั่วคราว ผู้ให้บริการต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการรายอื่นทราบโดยทันที และในกรณีที่มีการยกเลิก
การให้บริการกับผู้ใช้บริการรายใดรายหนึ่ง ให้แจ้งผู้ใช้บริการรายอื่นทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน
ี้
ทั้งน ผู้ให้บรการช าระดลตองแจ้ง ธปท. ทราบภายใน ๑๕ วันนบจากวันที่มีการ
ุ
้
ิ
ั
ระงับหรือยกเลิกการให้บริการ แล้วแต่กรณี
หน้า | 53
ส่วนที่ ๕
การให้บริการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใดหรือผ่านทางเครือข่าย
ิ
ิ
ข้อ ๓๔ ผู้ให้บริการช าระเงินทางอเล็กทรอนกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใดหรอ
ื
ผ่านทางเครือข่ายที่มิใช่สถาบันการเงินตามพระราชบัญญตธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ต้องบันทึก
ิ
ั
ั
ั
ิ
ื
้
บัญชีเงินที่ไดรบจากการรบช าระเงินค่าสินค้า ค่าบรการ หรอค่าอนใดแยกไว้ตางหากจากบัญชีเงินทุน
่
ื่
หมุนเวียนอื่นของผู้ให้บริการและต้องจัดท าข้อมูลให้มีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
ส่วนที่ ๖
การให้บริการรับช าระเงินแทน
้
ข้อ ๓๕ ผู้ให้บริการรับช าระเงินแทนต้องออกข้อก าหนดและให้บรการภายใตเงื่อนไขดังน ี้
ิ
้
ั
่
ิ
ี้
ั
ิ
(๑) ก าหนดหนาที่และความรบผิดของผู้ให้บรการที่มีตอเจ้าหนซึ่งผู้ให้บรการรบ
ช าระเงินแทนและผู้ใช้บริการ รวมถึงหน้าที่และความรับผิดของตัวแทนที่ผู้ให้บริการแต่งตั้งด้วย
(๒) ก าหนดวิธีปฏิบัติในการส่งข้อมูลรายการรับช าระเงินให้แก่เจ้าหน ี้
(๓) ผู้ให้บริการที่มิใช่สถาบันการเงินตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ.
ั
้
่
ื่
๒๕๕๑ ตองบันทึกบัญชีเงินที่ไดรบจากการรบช าระเงินไว้ตางหากจากบัญชีเงินทุนหมุนเวียนอนของผู้
้
ั
ให้บริการและต้องจัดท าข้อมูลให้มีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
ส่วนที่ ๗
การให้บริการที่เกี่ยวข้องกับบัตรเดบิตที่ออกและมีการใช้จ่ายภายในประเทศ
ข้อ ๓๖ ในส่วนน ี้
“ผู้ออกบัตร” (Issuer) หมายความว่า สถาบันการเงินที่ตกลงและยินยอมออกบัตร
เดบิตให้แก่บุคคลที่ผูกพันตนตามสัญญาบัตรเดบิต
ิ
ิ
“ผู้ให้บรการแก่ผู้รับบัตร” (Acquirer) หมายความว่า ผู้ที่ท าหน้าที่ให้บรการรับส่ง
ข้อมูลการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์จากบัตรเดบิตไปยังผู้ออกบัตร และจะจ่ายเงินค่าสินค้าหรือค่าบริการ
ให้แก่ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการซึ่งมีสัญญาระหว่างกันว่าจะรับช าระราคาสินค้าหรือบรการ
ิ
ด้วยบัตรเดบิตตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน
“ผู้ให้บริการ” หมายความว่า
ื
(๑) ผู้ให้บริการการช าระเงินทางอเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างหนงอย่างใดหรอ
ิ
ึ่
ผ่านทางเครือข่ายตามบัญชี ค (๓) ที่เป็นผู้ออกบัตร (Issuer) และผู้ให้บริการแก่ผู้รับบัตร (Acquirer)
(๒) ผู้ให้บริการสวิตช์ชิ่งในการช าระเงินระบบหน่งระบบใดตามบัญชี ข (๓)
ึ
ื
หรอผู้ให้บริการสวิตช์ชิ่งในการช าระเงินหลายระบบตามบัญชี ค (๔)
(๓) ผู้ให้บริการหักบัญชีตามบัญชี ค (๑)
(๔) ผู้ให้บริการช าระดุลตามบัญชี ค (๒)
หน้า | 54
ื
ื
“เครอข่ายบัตรเดบิต” หมายความว่า เครอข่ายการให้บรการการช าระเงินทาง
ิ
ิ
ิ
ิ
อเล็กทรอนกส์แก่สมาชิกซึ่งเป็นผู้ออกบัตรและผู้ให้บรการแก่ผู้รบบัตร โดยอยางนอยตองท าหนาที่
้
่
้
ั
้
ให้บริการ ดังต่อไปน ี้
(๑) บริการด้านการตลาดภายใต้ชื่อทางธุรกิจของตน
(๒) บริการสวิตซ์ชิ่งในการช าระเงิน
(๓) บริการหักบัญชี
์
“มาตรฐานชิปการดกลาง” หมายความว่า มาตรฐานชิปการดที่ ธปท. ประกาศ
์
ก าหนด โดยได้หารือกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และสภาสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อ
ใช้เป็นมาตรฐานกลางในการออกบัตรเดบิตของผู้ออกบัตร
ิ
้
ี่
ข้อ ๓๗ ผู้ให้บรการที่เกยวข้องกับบัตรเดบิตที่ออกและใช้จ่ายภายในประเทศ ตอง
ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีปฏิบัติในการให้บริการ ดังต่อไปน ี้
(๑) ผู้ออกบัตร
(ก) ต้องใช้มาตรฐานชิปการ์ดกลาง
ื
(ข) ตองออกบัตรให้ใช้บรการเครอข่ายบัตรเดบิตในประเทศ เว้นแตผู้ออก
ิ
้
่
บัตรใช้ระบบการรับส่งข้อมูลภายในของตนเอง
ิ
ั้
ื
่
(ค) ในกรณีที่ออกบัตรเดบิตที่ใช้บรการเครอข่ายบัตรเดบิตตงแตสองรายขึ้น
ไปในบัตรเดบิตเดียวกัน (Multi-Brand) ต้องปฏิบัติในเรื่องตราสัญลักษณ์ที่ปรากฏบนบัตรเดบิต ให้เป็นไป
ตามข้อตกลงและค านึงถึงหลักความเท่าเทียมกัน
่
ี
้
(ง) ตองให้ข้อมูลและรายละเอยดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของบัตรเดบิตแตละ
่
้
ประเภทแก่ผู้ใช้บริการอย่างเพียงพอ ชัดเจน และถูกต้อง เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกใช้บริการไดอยาง
เหมาะสมตรงกับวัตถุประสงค์การใช้จ่ายของตนเอง
ิ
่
ในกรณีที่ผู้ออกบัตรจะออกบัตรเดบิตที่ใช้บรการเครือข่ายบัตรเดบิตตั้งแตสองราย
ี
ั
ขึ้นไปในบัตรเดบิตเดยวกัน (Multi-Brand) การออกบัตรดงกล่าวจะใช้เครอข่ายบัตรเดบิตรายใดมากกว่า
ื
หนึ่งรายก็ได้แต่อย่างน้อยรายหนึ่งต้องเป็นเครือข่ายบัตรเดบิตในประเทศ
(๒) ผู้ให้บริการแก่ผู้รับบัตร
ั
ิ
(ก) ตองจัดให้มีอปกรณ์และระบบที่สามารถรองรบบัตรเดบิตที่ใช้บรการ
้
ุ
เครือข่ายบัตรเดบิตในประเทศ และใช้มาตรฐานชิปการ์ดกลาง
(ข) ต้องไม่จ ากัดสิทธิผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการในการเลือกใช้
เครือข่ายบัตรเดบิต
(ค) ต้องให้ข้อมูลค่าธรรมเนียมและค่าบริการต่าง ๆ แก่ผู้ประกอบกิจการขาย
สินค้า หรือให้บริการในการใช้บริการอย่างเพียงพอ ชัดเจน และถูกต้อง
ุ
(๓) ผู้ให้บริการสวิตช์ชิ่งในการช าระเงิน ผู้ให้บริการหักบัญชี และผู้ให้บริการช าระดล
(ก) ตองดาเนนการให้ระบบของตนรองรบการใช้บัตรเดบิตไดทุกเครอข่าย
้
ื
ั
ิ
้
ื
บัตรเดบิตหรอจัดให้ระบบของตนสามารถเชื่อมโยงกับระบบของผู้ให้บรการสวิตช์ชิ่งในการช าระเงน
ิ
ิ
ผู้ให้บริการหักบัญชีและผู้ให้บริการช าระดุลรายอื่นได้ด้วย
ั
ิ
(ข) ตองดาเนนการให้ระบบของตนสามารถรองรบบัตรเดบิตที่ใช้บรการ
ิ
้
ี
่
เครือข่ายบัตรเดบิตตั้งแตสองรายขึ้นไปในบัตรเดบิตเดยวกัน (Multi-Brand) และต้องไม่ด าเนินการใด ๆ อันเป็น
การจ ากัดสิทธิในการเลือกเครือข่ายบัตรเดบิตของผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ
หน้า | 55
ข้อ ๓๘ ในกรณีที่ออกบัตรเดบิตที่ใช้บริการเครือข่ายบัตรเดบิตตั้งแต่สองรายขึ้นไป
ิ
ิ
ี
ื
ในบัตรเดบิตเดยวกัน (Multi-Brand) เมื่อผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรอให้บรการเลือกใช้บรการ
เครือข่ายบัตรเดบิตรายใดรายหนึ่งในการท าธุรกรรมแล้ว ผู้ให้บริการจะคิดค่าธรรมเนยมหรือค่าใช้จ่ายอน
ี
ื่
เพิ่มเติมได้เฉพาะเครือข่ายบัตรเดบิตที่ใช้เท่านั้น
ข้อ ๓๘/๑ ในการให้บรการที่เกี่ยวข้องกับบัตรเดบิตที่ออกและมีการใช้จ่าย
ิ
ภายในประเทศผู้ให้บริการต้องด าเนินการเหล่านี้ภายในประเทศเท่านั้น
ั
ิ
(๑) การรบส่งข้อมูลการใช้บัตรเดบิตระหว่างผู้ให้บรการแก่ผู้รบบัตร
ั
(Acquirer) และผู้ออกบัตร (Issuer)
(๒) การให้บริการสวิตช์ชิ่งในการช าระเงิน (Transaction Switching)
(๓) การให้บริการหักบัญชี (Clearing)
(๔) การให้บริการช าระดุล (Settlement)
ิ
ข้อ ๓๘/๒ ในกรณีที่ผู้ให้บรการรายใดเห็นว่ามีความจ าเป็นและไม่สามารถ
ด าเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ก าหนดตามข้อ ๓๗ ข้อ ๓๘ และข้อ ๓๘/๑ ได้ ให้ขอ
ี้
ุ
ิ
ิ
ุ
อนญาตขยายระยะเวลาการปฏบัตตามประกาศนเป็นการชั่วคราวจนกว่าเหตจ าเป็นจะหมดไป โดยชี้แจง
เหตุผลและความจ าเป็นต่อ ธปท. เป็นรายกรณี และให้ ธปท. มีอ านาจพิจารณาขยายระยะเวลาได้คราวละ
ไม่เกิน ๑๘๐ วัน นับแต่ระยะเวลาที่ก าหนดสิ้นสุด
่
ั
ั
้
ให้ ธปท. พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน ๔๕ วันท าการ นบแตวันที่ไดรบค าขอและ
เอกสารถูกต้องครบถ้วน
ข้อ ๓๘/๓ ในกรณีที่ผู้ให้บรการประสงค์จะใช้บรการจากผู้ให้บรการรายอนหรอ
ิ
ิ
ิ
ื่
ื
ื่
บุคคลอื่นด้านงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Outsourcing) ตามข้อ ๓๘/๑ (๑) - (๔) ให้ผู้ให้บริการยนขอ
อนุญาต ต่อ ธปท. พร้อมชี้แจงเหตุผลและความจ าเป็น
ั
ให้ ธปท. พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน ๔๕ วันท าการ นบแตวันที่ไดรบค าขอและ
ั
้
่
เอกสารถูกต้องครบถ้วน
ื่
ิ
ิ
้
การยื่นขออนญาตตามวรรคหนึ่งให้กระท าไดเฉพาะการใช้บรการจากผู้ให้บรการรายอน
ุ
หรือบุคคลอื่นด้านงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Outsourcing) ในประเทศ เว้นแต่เป็นการด าเนินการตาม
ข้อ ๓๘/๑ (๑) ผู้ให้บริการอาจขออนุญาตใช้บริการจากผู้ให้บริการรายอื่นหรือบุคคลอื่นด้านงานเทคโนโลย ี
สารสนเทศ (IT Outsourcing) ในต่างประเทศได ้
ในกรณีที่ผู้ให้บริการตามข้อ ๓๖ (๑) เป็นสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจ
ิ
ิ
้
ื่
ิ
ื่
้
ิ
สถาบันการเงินและไดปฏบัตตามหลักเกณฑ์การใช้บรการจากผู้ให้บรการรายอนหรอบุคคลอนดานงาน
ื
เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Outsourcing) ที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงินแล้ว ให ้
ถือว่าได้รับอนุญาตตามวรรคหนึ่ง
ข้อ ๓๘/๔ ในระหว่างที่ ธปท. พิจารณาตามข้อ ๓๘/๒ วรรคสอง และข้อ ๓๘/๓
วรรคสอง ให้ผู้ให้บริการยังคงให้บริการต่อไปได้ จนกว่า ธปท. จะมีค าสั่งในเรองดังกล่าว
ื่
หน้า | 56
หมวด ๔
บทเฉพาะกาล
ั
้
ื
ิ
ุ
้
ข้อ ๓๙ ผู้ให้บรการรายใดที่ไดรบอนญาต ไดขึ้นทะเบียน หรอแจ้งให้ทราบไว้อย ู่
ก่อนที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ให้ปฏิบัติดังน ี้
้
(๑) ผู้ให้บรการตองดาเนนการเกี่ยวกับคุณสมบัตและลักษณะตองห้ามของ
ิ
ิ
ิ
้
ื
กรรมการหรอผู้ซึ่งมีอ านาจจัดการของนิติบุคคลของผู้ให้บริการ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในประกาศฉบับน ี้
ภายใน ๑๘o วัน นับจากวันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ
(๒) ผู้ให้บริการต้องด าเนินการจัดท าบันทึกบัญชีเงินที่ไดรับจากการประกอบธุรกิจ
้
การรับช าระเงินแยกไว้ต่างหากจากบัญชีเงินทุนหมุนเวียนอื่นของผู้ให้บริการภายใน ๑๘๐ วัน นับจากวันที่
ประกาศมีผลใช้บังคับ
้
ิ
(๓) ผู้ให้บรการตองดาเนนการจัดให้มีระบบ กระบวนการหรอเครองมือการ
ื่
ิ
ื
ลงทะเบียนหรือวิธีการอื่นใดในการใช้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่ก าหนดไว้ในประกาศฉบับนี้ภายใน ๑
ปี นับจากวันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ
ี้
ข้อ ๔๐ ประกาศนให้ใช้บังคับนบแตวันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานเบกษา
ุ
่
ั
เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
อุตตม สาวนายน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์
ิ
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบการแจ้งให้ทราบ การประกอบธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (บัญชี ก)
๒. แบบการขอขึ้นทะเบียน การประกอบธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (บัญชี ข)
๓. แบบการขอรับใบอนุญาต การประกอบธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (บัญชี ค)
ื
ุ
ั
๔. แบบการขอรบใบแทน กรณีที่ใบรบแจ้ง ใบรบการขึ้นทะเบียน หรอใบอนญาต การประกอบธุรกิจ
ั
ั
บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ สูญหาย ถูกท าลาย หรือช ารุดเสียหายในสาระส าคัญ
ื
๕. แบบหนงสือรบรองคุณสมบัตผู้ประสงค์จะเป็นผู้ให้บรการ ผู้ให้บรการ กรรมการหรอผู้ซึ่งมีอานาจ
ิ
ิ
ั
ิ
ั
จัดการของผู้ประกอบธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
หน้า | 57
ประกาศกรมธุรกิจพลังงาน
ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่นขอความเห็นชอบสถานที่ที่ใช้เก็บส ารองน ามัน
เชื อเพลิง และการมอบหมายให้บุคคลอื่นเก็บส ารองน ามันเชื อเพลิงแทน และการรายงานปริมาณ
น ามันเชื อเพลิง
คงเหลือรายวัน โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๓
ตามที่ได้มีประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการ
ิ
ยื่นขอ ความเห็นขอบสถานที่ที่ใช้เก็บส ารองน้ ามันเชื้อเพลิง และเงื่อนไขที่ผู้ได้รับความเห็นชอบต้องปฏบัต ิ
ื่
และประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรอง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการมอบหมายให้บุคคลอน เก็บ
ื่
้
ั
้
ส ารองนามันเชื้อเพลิงแทน ซึ่งก าหนดให้ผู้ค้านามันตามมาตรา ๗ หรอผู้รบมอบหมายเก็บส ารองนามัน
ื
้
เชื้อเพลิงแทน ต้องเก็บส ารองน้ ามันเชื้อเพลิงไว้ทุกขณะในสถานที่ที่ได้รับความเห็นชอบจากอธิบดีนั้น
เพื่อเป็นการอานวยความสะดวกให้แก่ผู้ค้าน้ ามันตามมาตรา ๗ ในการยื่นขอความ
้
เห็นชอบสถานที่ ที่ใช้เก็บส ารองน้ ามันเชื้อเพลิง และ/หรือการมอบหมายให้ผู้อื่นเก็บส ารองนามันเชื้อเพลิง
ิ
แทน รวมไปถึง การรายงานปรมาณนามันเชื้อเพลิงคงเหลือรายวันในสถานที่ที่ไดรบความเห็นชอบให้ใช้
ั
้
้
้
เป็นสถานที่ เก็บส ารองนามันเชื้อเพลิงตามกฎหมาย จึงอาศัยอานาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่ง
พระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบ
บริหาร ราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ และมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรม ทาง
อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๔
ี
ประกอบมาตรา ๙ แห่งพระราชกฤษฎกาก าหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการท า
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๙ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปน ี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
ข้อ ๒ ในประกาศน ี้
็
“แบบค าขอ" หมายความว่า แบบขอความเห็นชอบสถานที่ที่ใช้เกบส ารองน้ ามันเชื้อเพลิง (ธพ.ธ
ื่
้
ื
๓๖๔) และ/หรอแบบขอความเห็นขอบการมอบหมายให้บุคคลอนเก็บส ารองนามันเชื้อเพลิงแทน (ธพ.ธ
ื่
ื่
๓๐๕) ตามที่ก าหนดไว้ในประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรอง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการยนขอ
ั
้
ความเห็นขอบสถานที่ที่ใช้เก็บส ารองนามันเชื้อเพลิง และเงื่อนไขที่ผู้ไดรบความเห็นชอบตองปฏบัตและ
้
ิ
ิ
้
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการมอบหมายให้บุคคลอื่นเกบส ารองน้ ามันเชื้อเพลิงแทน
็
“ระบบ” หมายความว่า ระบบฐานข้อมูลสถานที่เก็บและปรมาณนามันเชื้อเพลิงส ารอง
ิ
้
้
ิ
ของประเทศ โดยเป็นระบบบรการในการยนขอความเห็นชอบสถานที่ที่ใช้เก็บส ารองนามันเชื้อเพลิง
ื่
และการยนขอความเห็นชอบการมอบหมายให้บุคคลอนเก็บส ารองนามันเชื้อเพลิงแทน และรวมไปถึง
ื่
้
ื่
ั
การรายงานข้อมูลปรมาณนามันเชื้อเพลิงคงเหลือรายวันในสถานที่ที่ใช้เก็บส ารองเชื้อเพลิงที่ไดรบความ
ิ
้
้
เห็นชอบไว้แล้ว
“อธิบด” หมายความว่า อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมธุรกิจพลังงานมอบหมาย
ี
หน้า | 58
ประกาศกรมธุรกิจพลังงาน
ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยื่นแบบแจ้งทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อขอความเห็นชอบ
ลักษณะและคุณภาพของน ามันเชื อเพลิงเฉพาะส่วนที่ไม่เป็นไปตามที่กรมธุรกิจพลังงานก าหนด และ
การยื่นแบบรายงานทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแจ้งรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการจัดหา
การจ าหน่าย และยอดคงเหลือของน ามันเชื อเพลิงที่ได้รับความเห็นชอบ พ.ศ. ๒๕๒๓
ตามที่ได้มีประกาศกรมธุรกิจพลังงานก าหนดลักษณะและคุณภาพของน้ ามันเชื้อเพลิง ออกตาม
ความในมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการค้าน้ ามันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๔๓ ซึ่งก าหนดให้ การ
จ าหน่ายหรือมีไว้เพื่อจ าหนายซึ่งน้ ามันเชื้อเพลิงที่มีลักษณะและคุณภาพแตกต่างจากที่ กรมธุรกิจพลังงาน
่
ก าหนด โดยให้ผู้ค้าน้ ามันต้องยื่นแบบแจ้งเพื่อขอความเห็นชอบต่ออธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ตามหลักเกณฑ์
ั
วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดกรมธุรกิจพลังงานก าหนด และตองไดรบความเห็นชอบจาก อธิบดกรมธุรกิจ
้
ี
ี
้
พลังงานก่อน นั้น
ื่
ั
ุ
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขปรบปรงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยนแบบแจ้ง
ิ
ทางอเล็กทรอนกส์เพื่อขอความเห็นชอบลักษณะและคุณภาพของนามันเชื้อเพลิงเฉพาะส่วนที่ไม่เป็นไป
้
ิ
ื่
ิ
ตามที่กรมธุรกิจพลังงานก าหนด ให้ครอบคลุมถึงการยนแบบรายงานทางอิเล็กทรอนกส์เพื่อแจ้งรายงาน
้
ข้อมูลการจัดหา การจ าหนาย และยอดคงเหลือของนามันเชื้อเพลิงที่ไดรบความเห็นขอบ อาศัยอานาจ
ั
้
่
ตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัตระเบียบบรหารราชการแผ่นดน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไข
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
ั
เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญตระเบียบบริหารราชการแผ่นดน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ และมาตรา ๓๕ แห่ง
พระราชบัญญัตว่าด้วยธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกอบมาตรา ๘ แห่งพระราชกฤษฎกา
ิ
ิ
ี
ก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๕๔๙ อธิบดีกรมธุรกิจ
ิ
พลังงาน จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปน ี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
ข้อ ๒ ให้ยกเลิกประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรอง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข
ื่
ื่
ิ
ิ
้
ในการยนแบบแจ้งทางอเล็กทรอนกส์เพื่อขอความเห็นชอบลักษณะและคุณภาพของนามันเชื้อเพลิง
เฉพาะส่วนที่ไม่เป็นไปตามที่กรมธุรกิจพลังงานประกาศก าหนด พ.ศ. ๒๕๖๐ ลงวันที่ ๒๗ กรกฎาคม
พ.ศ. ๒๕๖๐
ข้อ ๓ ในประกาศน ี้
“แบบแจ้ง” หมายความว่า แบบแจ้งลักษณะและคุณภาพของนมันเชื้อเพลิงเฉพาะส่วนที่
ไม่เป็นไปตามที่กรมธุรกิจพลังงานก าหนดเพื่อขอความเห็นขอบ ตามที่ก าหนดไว้ในประกาศ
กรมธุรกิจพลังงานว่าดวยการก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยนขอความเห็นขอบ
ื่
้
การเติมสารเติมแต่งในน้ ามันเชื้อเพลิง และการยื่นขอความเห็นขอบลักษณะและคุณภาพของ
หน้า | 59
ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
แนวทางการใช้บริการคลาวด์
พ.ศ. ๒๕๖๒
โดยที่ในปัจจุบันการให้บรการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์มีการใช้บรการคลาวด (Cloud
์
ิ
ิ
ิ
ิ
ื่
่
่
ิ
Computirg) อยางแพรหลาย อาศัยจากการให้บรการคลาวดจากผู้ประกอบการรายอน เพื่อให้บรการ
์
ิ
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้บริการคลาวด์ มีความมั่นคงปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และมาตรฐานในการ
ให้บริการ ซึ่งเป็นที่ยอมรับ ในระดับสากล
ิ
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๓๗ (๒) แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทาง
้
อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่
๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ก าหนดแนวทางการใช้บริการคลาวด์ ดังต่อไปน ี้
ิ
ข้อ ๑ กรณีที่ผู้ให้บรการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์มีการใช้บรการคลาวด ไม่ว่าจะเป็น
ิ
ิ
ิ
์
ิ
ิ
ื่
ิ
์
ื
การดาเนนการโดยผู้ให้บรการคลาวดอนหรอไม่ก็ตาม เพื่อวางมาตรฐานในการให้บรการและเป็น
ิ
ั
ิ
้
ข้อมูลอางอง การประมวลผลดงกล่าวอาจดาเนนการตามแนวทางการใช้บรการที่ก าหนดตาม
ิ
เอกสารแนบท้าย ประกาศนี้ได ้
ิ
์
ิ
ข้อ ๒ การนาแนวทางการใช้บรการคลาวดตามที่ก าหนดในข้อ ๑ มาใช้ในการให้บรการ
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น ให้ค านึงถึงหลักเกณฑ์ขั้นพื้นฐานซึ่งเป็นมาตรการขั้นต่ าในการลดความเสี่ยง
จากภยคุกคามของบรการ โดยจะตองตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงอยางสม่ าเสมอ รวมทั้งปรบปรุง
่
ิ
้
ั
ั
มาตรการเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
ข้อ ๓ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒
พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ิ
ประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์
หน้า | 60
ประกาศกรมการขนส่งทางบก
เรื่อง แนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. ๒๕๖๒
ิ
ิ
เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บรการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ใน
ิ
ภารกิจของ กรมการขนส่งทางบก อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา ๗ แห่งพระราชกฤษฎีกา
ิ
ิ
ก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ภาครฐ พ.ศ. ๒๕๔๕ อธิบดกรมการ
ี
ั
ิ
ขนส่ง ทางบกโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์จึงออกประกาศไว้
ิ
ดังต่อไปน ี้
ข้อ ๑ กรมการขนส่งทางบกมีแนวปฏบัตในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ
ิ
ิ
ผู้ใช้บริการมีดังน ี้
(๑) ข้อมูลเบื้องต้น
(ก) แนวปฏบัตในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จัดท าขึ้นเพื่อใช้บังคับ
ิ
ิ
ตามนโยบาย การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกรมการขนส่งทางบก
(ข) ก าหนดขอบเขตให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลน ใช้กับการ
ี้
ด าเนินการใด ๆ ของกรมการขนส่งทางบกต่อข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมการขนส่งทางบกรวบรวม จัดเก็บ หรือ
ได้รับมาตามวัตถุประสงค์เท่านน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวรวมถึงข้อมูลที่ผู้ใช้บรการ ให้บริการของกรมการขนส่ง
ั้
ิ
ทางบกด้วย ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล คือ ข้อมูลที่ระบุตัวบุคคลของผู้ใช้บริการได้เช่นเดียวกับชื่อ ที่อยู่ หมายเลข
ประจ าตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล์ของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลในที่นี้ไม่ได้รวมถึง
ข้อมูลที่สาธารณชนสามารถเข้าถึงได้เป็นการทั่วไป นอกจากนี้ยังได้ระบุขอบเขตของนโยบายการคุ้มครอง
ข้อมูลส่วนบุคคลของกรมการขนส่งทางบกดังกล่าวเพิ่มเติมว่าไม่ใช้กับแนวปฏิบัตตอข้อมูลส่วนบุคคลของ
่
ิ
้
้
่
ื่
หนวยงานอนที่กรมการขนส่งทางบกมิไดเกี่ยวข้องหรอสามารถควบคุมได และไม่ใช้บังคับกับแนวปฏิบัต ิ
ื
ื
ของบุคคลที่มิไดเป็นเจ้าหนาที่หรอพนกงานของกรมการขนส่งทางบก หรอที่กรมการขนส่งทางบกไม่มี
ื
้
้
ั
อ านาจควบคุมดูแล
(ค) กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ หรอนโยบายในการคุ้มครอง
ื
ิ
ิ
ข้อมูลส่วนบุคคล กรมการขนส่งทางบก จะแจ้งประกาศให้ทราบและขอความยนยอมจากผู้ใช้บรการผ่าน
้
้
์
้
ทางหนาเว็บไซตของกรมการขนส่งทางบก (https://www.dlt.go.th) ล่วงหนาเป็นเวลาไม่นอยกว่า ๓๐
วัน
ื
ั
ุ
กรมการขนส่งทางบกอาจท าการปรบปรง หรอแก้ไขนโยบายการคุ้มครอง
้
ข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหนา ทั้งนี้ เพื่อความเหมาะสมและความมีประสิทธิภาพในการ
่
ั้
ั
ั้
ให้บรการ ดงนน จึงขอแนะนาให้ผู้ใช้บรการอานนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลก่อนทุกครงที่ใช้
ิ
ิ
บริการ
(๒) การเก็บรวบรวม จัดประเภท และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
หน้า | 61
ประกาศกรมการขนส่งทางบก
เรื่อง นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. ๒๕๒๒
โดยที่การด าเนินการของกรมการขนส่งทางบกซึ่งจะต้องปฏิบัติการตามกฎหมายว่า
ด้วยรถยนต์ และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก จ าเป็นต้องมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลผู้ยืน
ิ
้
ิ
ิ
ิ
ิ
ขอดาเนนการ และบางกรณีมีความจ าเป็นตองดาเนนการทางอเล็กทรอนกส์ เพื่อให้สามารถบรการ
ประชาชนได้อย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
ิ
ั
ดงนน เพื่อให้มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บรการธุรกรรม
ั้
ทางอิเล็กทรอนิกส์ ในภารกิจของกรมการขนส่งทางบก อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา ๗
ั
แห่งพระราชกฤษฎกา ก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ภาครฐ พ.ศ.
ิ
ิ
ี
ิ
ิ
ี
๒๕๔๕ อธิบดกรมการขนส่ง ทางบกโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์จึง
ออกประกาศไว้ ดังต่อไปน ี้
ข้อ ๑ กรมการขนส่งทางบกมีนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เกี่ยวกับ
เรื่อง ดังต่อไปน ี้
(๑) การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจ ากัด
ิ
กรมการขนส่งทางบกจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บรการธุรกรรมทาง
ิ
้
อเล็กทรอนกส์ ไว้เท่าที่จ าเป็น และเป็นการจัดเก็บจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง ภายใตอานาจหนาที่และ
ิ
้
วัตถุประสงค์ ในการด าเนินงานของกรมการขนส่งทางบกตามที่กฎหมายก าหนด หรือรับรองตามมาตรา ๔
ั้
แห่งพระราชบัญญัต ข้อมูลข่าวสารราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ เท่านน ในกรณีที่กรมการขนส่งทางบกประสงค์
ิ
ื่
ิ
จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้ใช้บรการเพื่อวัตถุประสงค์อน กรมการขนส่งทางบกจะแจ้งความประสงค์ให้
ผู้ใช้บริการทราบและ ขอความยินยอมจากผู้ใช้บริการก่อน เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายก าหนด หรือในกรณี
อื่น ๆ ตามที่ ก าหนดไว้ในนโยบายฉบับน ี้
(๒) คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคล
กรมการขนส่งทางบกมีการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บรการ
ิ
ิ
ิ
ธุรกรรม ทางอเล็กทรอนกส์ โดยข้อมูลที่จัดเก็บ กรมการขนส่งทางบกจะให้ความส าคัญถึงความถูกต้อง
ครบถ้วน และเป็นปัจจุบันของข้อมูล
(๓) การระบุวัตถุประสงค์ในการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล
กรมการขนส่งทางบก มีการรวบรวม จัดเก็บ ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ
็
ิ
ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บรการผ่านอนเตอรเนต เช่น ระบบช าระภาษรถ
ี
ิ
ิ
ิ
์
ระบบจองคิวใบขับขี่ (e - Booking) ระบบประมูลเลขทะเบียนรถ ระบบจองเลขทะเบียนรถ เป็นต้น การ
ให้บรการผ่านระบบ Mobile Application เช่น Tai - OK DLT - GPS DLT - eForm - IFound DLT -
ิ
Notification DLT - OR - License DLT - Check-in - Plus DLT - Inspection DLT
หน้า | 62
ประกาศส านักงานคณะกรรมการอ้อยและน าตาลทราย
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยื่นค าร้องขอรับหนังสืออนุญาตส่งน าตาลทราย
ออกนอกราชอาณาจกร และค าขอรับใบอนุญาตส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร
ั
โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๖๑
้
้
โดยที่คณะกรรมการออยและนาตาลทรายไดออกระเบียบคณะกรรมการออยและ
้
้
้
้
์
ุ
้
้
นาตาลทรายว่าดวยการอนญาตให้ส่งออกนาตาลทราย พ.ศ. ๒๕๖๑ และกระทรวงพาณิชยไดมีค าสั่งที่
้
๕๖๙/๒๕๕๔ ลงวันที่ ๒๘ ตลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ มอบอานาจให้ข้าราชการส านกงานคณะกรรมการออย
ั
ุ
และน้ าตาลทรายมีอ านาจในการพิจารณาอนุญาตและลงนามในใบอนุญาตและหนังสือรับรอง Certificate
ิ
for Quota Eligbility ให้ส่งน้ าตาลทรายขาว น้ าตาลทรายขาวบรสุทธิ์ น้ าตาลทรายดิบ และน้ าตาลทราย
ั
แดงออกนอกราชอาณาจักร และให้มีอานาจลงนามก ากับการแก้ไขในใบอนญาตและหนงสือรบรอง
ุ
ั
ั
ิ
Certificate for Quota Eligbility เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรฐบาลในการให้บรการดวยระบบ
้
ั
อเล็กทรอนกส์ประเทศไทย ๔.๐ อนเป็นการอานวยความสะดวกทางการค้า รวมถึงการลดขั้นตอนการ
ิ
ิ
ปฏิบัติในการปฏิบัติงาน
ิ
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๘ ประกอบมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัตว่า
ิ
ิ
้
ดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ และข้อ ๖ ข้อ ๗ ข้อ ๘ ข้อ ๑๑ ข้อ ๑๒ และข้อ ๑๓ แห่ง
้
ุ
้
ระเบียบคณะกรรมการออยและนาตาลทราย ว่าดวยการอนญาตให้ส่งออกนาตาลทราย พ.ศ. ๒๕๖๑
้
้
ส านักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ าตาลทราย จึงออกประกาศไว้ดังน ี้
ข้อ ๑ ในประกาศน ี้
“ค าร้องขอรับหนังสืออนุญาตส่งน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจักร (แบบ กน.๙)
ั
ิ
ุ
ิ
และค าขอรบใบอนญาตส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ อ.๑) โดยวิธีการทางอเล็กทรอนกส์”
หมายความว่าค าร้องขอรับหนังสืออนุญาตส่งน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจักร หรือค าขอรับใบอนุญาต
ส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร ที่ได้ด าเนินการผ่านการรับส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์
ุ
ั
“หนงสืออนญาตให้ส่งนาตาลทรายออกนอกราชอาณาจักร (แบบ กน.๑๐) และ
้
ใบอนุญาตให้ส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ อ.๒) โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า
้
ั
ุ
หนงสืออนญาตให้ส่งนาตาลทรายออกนอกราชอาณาจักร หรอใบอนญาตให้ส่งสินค้าออกไปนอก
ุ
ื
ราชอาณาจักร ที่ได้ด าเนินการผ่านการรับส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์
ข้อ ๒ ให้บริษัทส่งออกที่ประสงค์จะยื่นค าร้องขอรับหนังสืออนุญาตส่งน้ าตาลทราย
ออกนอกราชอาณาจักร (แบบ กน.๙) และค าขอรับใบอนุญาตส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ อ.
๑) โดยวิธีการทางอเล็กทรอนกส์ ยนค ารองขอลงทะเบียนตามคู่มือการใช้งานเพื่อลงทะเบียนเป็นผู้ยื่นค า
ิ
้
ิ
ื่
ร้องขอส่งออกน้ าตาลทรายไปนอกราชอาณาจักร โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ แนบท้ายประกาศน ี้
หน้า | 63
้
ิ
ื่
ุ
ข้อ ๓ ให้บรษทส่งออกยนค ารองขอรบหนงสืออนญาตส่งนาตาลทรายออกนอก
ั
้
ั
ั
ั
ุ
ราชอาณาจักร (แบบ กน.๙) และค าขอรบใบอนญาตส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ อ.๑)โดย
วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามคู่มือการใช้งานระบบยื่นค าร้องขอส่งออกน้ าตาลทรายไปนอกราชอาณาจักร
โดยวิธีการทางอเล็กทรอนิกส์ แนบท้ายประกาศน ี้
ิ
้
ข้อ ๔ ให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอ านาจพิจารณาค ารองขอรับหนังสืออนุญาตส่งนาตาลทราย
้
ออกนอกราชอาณาจักร (แบบ กน.๙) และค าขอรับใบอนุญาตส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ อ.
ั
ุ
ิ
๑) โดยวิธีการทางอเล็กทรอนิกส์ พิจารณาออกหนงสืออนญาตให้ส่งน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจักร
(แบบ กน.๑๐) และใบอนญาตให้ส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ อ.๒) โดยวิธีการทาง
ุ
อิเล็กทรอนิกส์ ตามคู่มือการใช้งานระบบการพิจารณาค าร้องขอส่งน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจักรโดย
วิธีการทางอเล็กทรอนกส์ การอนมัต (แบบ กน.๑๐) และคู่มือการใช้งานระบบการพิจารณาค้ารองขอส่ง
ิ
้
ิ
ุ
ิ
น้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจักร โดยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ การอนุมัติ (แบบ อ.๒) แนบท้ายประกาศน ี้
ข้อ ๕ ให้บริษัทส่งออกที่ได้ส่งน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจักรแล้ว รายงานการ
้
้
ส่งนาตาลทรายออกนอกราชอาณาจักรตามแบบรายงานรายละเอยดการส่งออกนาตาลทรายโดยวิธีการ
ี
ทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามคู่มือการใช้งานระบบการรายงาน (แบบ กน.๑๑) แนบท้ายประกาศ
ิ
ข้อ ๖ บริษัทส่งออกที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกระบบให้บรการอเล็กทรอนิกส์ของ
ิ
ี้
้
ู่
ื่
้
้
ส านกงานคณะกรรมการออยและนาตาลทรายอยก่อนวันที่ประกาศนมีผลใช้บังคับ ให้สามารถยนค ารอง
ั
้
ั
ั
ุ
ั
ุ
ขอรบหนงสืออนญาตส่งนาตาลทรายออกนอกราชอาณาจักร (แบบ กน.๙) และค าขอรบใบอนญาตส่ง
สินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ อ.๑) โดยวิธีการทางอเล็กทรอนกส์ตามระเบียบนแตทั้งนไม่เกิน
ิ
ี้
่
ี้
ิ
สามสิบวันนับจากวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ
้
้
ื่
ข้อ ๗ การยนขอลงทะเบียนเป็นผู้ยนค ารองขอส่งออกนาตาลทรายไปนอก
ื่
ราชอาณาจักรโดยวิธีการทางอเล็กทรอนิกส์ ตามข้อ ๒ การยื่นค าร้องขอรับหนังสืออนุญาตส่งน้ าตาลทราย
ิ
ออกนอกราชอาณาจักร (แบบ กน.๙) และค าขอรับใบอนุญาตส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ อ.
๑) โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามข้อ ๓ การรายงานเมื่อได้ส่งน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจักรแล้ว
ตามข้อ ๕ บริษัทส่งออกจะต้องยื่นเอกสารหลักฐานต่าง ๆ โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ถูกต้องครบถ้วน
ตามที่ก าหนดไว้ในระเบียบคณะกรรมการออยและนาตาลทราย ว่าด้วยการอนุญาตให้ส่งออกน้ าตาลทราย
้
้
พ.ศ. ๒๕๖๑
ประกาศ ณ วันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑
วรวรรณ ชิตอรุณ
เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ าตาลทราย
หน้า | 64
ประกาศกระทรวงการคลัง
ก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการใช้ระบบบริการ Tax Single Sign On
้
เพื่อเป็นการอานวยความสะดวกแก่ผู้ที่ประสงค์จะยนค ารอง ค าขอ แบบแสดง
ื่
รายการ หรือ การด าเนินการใด ๆ ตามกฎหมายในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ อันเป็นการท าธุรกรรม ทาง
ิ
ิ
อเล็กทรอนกส์ภาครฐ กับ ๓ กรมภาษ ไดแก่ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร ซึ่งเป็น
ี
ั
้
่
หนวยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง โดยให้สามารถใช้ชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน
ี
ั
ิ
ิ
ิ
(Password) เดยวกัน ส าหรบการเข้าใช้ระบบบรการอเล็กทรอนกส์ของกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต
และกรมศุลกากร หากกระท าผ่านระบบบริการ Tax Single Sign On ของกระทรวงการคลัง
้
การท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ หน่วยงานของรัฐตองก าหนดหลักเกณฑ์
ิ
ี
และวิธีการ ตามที่ก าหนดในมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎกาก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการท า
้
ธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๕ ออกตามความในมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติว่าดวย
ิ
ิ
ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๕๔ กระทรวงการคลังจึงก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการใช้ระบบ
บริการ Tax Single Sign On ดังต่อไปน
ี้
ข้อ ๑ ในประกาศนี้
“ผู้ใช้บริการ" หมายความว่า บุคคลธรรมดา นิติบุคคล ห้างหุ้นส่วน หรือคณะบุคคล
ที่ได้ลงทะเบียนขอใช้ระบบบริการ Tax Single Sign On
“ผู้ให้บรการ” หมายความว่า กระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้ให้บรการระบบบรการ
ิ
ิ
ิ
Tax Single Sign On
“ระบบบริการ Tax Single Sign On” หมายความว่า ระบบบริการอเล็กทรอนกส์
ิ
ิ
ต้านภาษีของ ๓ กรมภาษี โดยใช้ชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password) ชุดเดียว ในการเข้า
สู่ระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ของ ๓ กรมภาษี
“๓ กรมภาษ” หมายความว่า กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร
ี
ข้อ ๒ ผู้ใช้บรการที่มีความประสงค์จะใช้ระบบบรการ Tax Single Sign On
ิ
ิ
์
ต้องลงทะเบียน โดยยื่นค าขอใช้ระบบบริการ Tax Single Sign On ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอรเน็ต ทาง
เว็บไซต (Web Site) ของกระทรวงการคลัง https://etax.mof.go.th โดยตองกรอกข้อมูลให้ถูกตอง
์
้
้
ครบถ้วน ตามความเป็นจริงทุกประการ
หน้า | 65
ประกาศส านักงานประกันสังคม
เรื่อง ขั นตอนการรับสมัครและขึ นทะเบียนผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๖๑
เพื่อให้การด าเนินการรับสมัครและขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ ผ่านระบบ
ั
้
ิ
ิ
อเล็กทรอนกส์เป็นไปตามข้อ ๕ แห่งระเบียบส านักงานประกันสังคม ว่าดวยการรบสมัครและขึ้นทะเบียน
ผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการใน
การท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ภาครฐ พ.ศ. ๒๕๔๙ ออกตามความในมาตรา ๓๕ วรรคหนง แห่ง
ิ
ั
ึ่
ิ
พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔
ิ
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัตระเบียบบรหารราชการ
ิ
แผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ.
ั
๒๕๔๕ เลขาธิการส านักงานประกันสังคมจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปน ี้
ข้อ ๑ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้นไป
ข้อ ๒ การรับสมัครและการตรวจสอบข้อมูลระบุตัวตน
๑) ผู้สมัครเข้าเว็บไซตของระบบลงทะเบียนผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ ผ่าน
์
ช่องทางที่ส านักงานประกันสังคมก าหนด
๒) ให้ผู้สมัครกรอกข้อมูลระบุตัวตน ได้แก่ เลขประจ าตัวประชาชน ๑๓ หลักและเลข
ควบคุมบัตรประชาชน (Laser Code) ซึ่งอย่ด้านหลังบัตรประจ าตัวประชาชน (ตัวอย่าง LAx-
ู
xxxxxxx-xx) ค านาหน้านาม ชื่อ - สกุล วันเดือนปีเกิด และ e-mail address หรือ หมายเลข
โทรศัพท์
ั
๓) เมื่อผู้สมัครกรอกข้อมูลระบุตวตนเรียบร้อยแล้ว ระบบจะด าเนินการประมวลผล
ผ่านระบบ เว็บเซอรวิส (web service) และตรวจสอบข้อมูลและคุณสมบัตของผู้สมัครตามเงื่อนไขที่
ิ
์
ิ
ุ
ิ
์
ก าหนด ไดแก่การพิสูจนตวตน การมีอายครบ ๑๕ ปีบรบูรณ์และไม่เกิน ๖๐ ปีบรบูรณ์ และไม่เป็น
ั
้
ิ
ผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๓ และมาตรา ๓๙ โดยระบบจะแจ้งผลการตรวจสอบให้ผู้สมัครทราบเพื่อด าเนนการใน
ขั้นตอนต่อไป เฉพาะกรณีที่ผู้สมัครมีคุณสมบัต ตรงตามเงื่อนไขที่ส านกงานประกันสังคมก าหนดเท่านน
ั
ั้
ิ
ทั้งนี้ หากผู้สมัครมีคุณสมบัตไม่ตรงตามเงื่อนไขที่ส านกงานประกันสังคมก าหนด ระบบ
ิ
ั
จะแจ้งผลการตรวจสอบให้ทราบ และผู้สมัครจะไม่สามารถด าเนนการในขั้นตอนต่อไปได ้
ิ
ข้อ ๓ การให้ข้อมูล
้
่
ิ
้
๑) ให้ผู้สมัครกรอกข้อมูลส่วนบุคคล ไดแก่ ที่อยที่สามารถตดตอได หมายเลข
ู่
โทรศัพท์บ้านหรือโทรศัพท์มือถือที่สามารถติดต่อได้อย่างสะดวก
่
้
ื่
๒) ให้ผู้สมัครกรอกข้อมูลอน ไดแก่ กลุ่มอาชีพ รายไดตอเดอน สภาพรางกาย
่
ื
้
(กรณีพิการให้ระบุความพิการ)
หน้า | 66
็
๓) ให้ผู้สมัครยืนยันข้อมูลการไม่เป็นสมาชิกของกองทุนบ าเหนจบ านาญข้าราชการ
กองทุนบ าเหน็จบ านาญข้าราชการกรุงเทพมหานคร กองทุนบ าเหน็จบ านาญข้าราชการท้องถิ่น หรือไม่เป็น
่
ี
ั
ื
ื่
ั
ั
็
สมาชิกกองทุนของรฐวิสาหกิจหรอหน่วยงานอนของรฐที่มีลักษณะอยางเดยวกบกองทุนบ าเหนจบ านาญ
ู่
ของส่วนราชการรวมทั้งไม่เป็นเจ้าหนาที่ของรฐที่อยภายใตบังคับตามกฎหมายว่าดวยบ าเหนจบ านาญ
้
ั
้
้
็
็
้
ื
ุ
็
้
ข้าราชการ กฎหมายว่าดวยบ าเหนจบ านาญข้าราชการกรงเทพมหานคร หรอกฎหมายว่าดวยบ าเหนจ
บ านาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น
้
ระบบจะแจ้งให้ผู้สมัครยนยนความถูกตองของข้อมูล หากภายหลังส านกงาน
ั
ื
ั
ประกันสังคมตรวจสอบพบว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นเท็จ ส านักงานประกันสังคมสามารถยกเลิกการสมัครเป็น
ผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได ้
ข้อ ๔ การยืนยันการลงทะเบียน
ั
้
เมื่อส านกงานประกันสังคมไดรบข้อมูลการสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐
ั
ั
ผ่านระบบอเล็กทรอนกส์เรยบรอยแล้ว ระบบจะแจ้งให้ผู้สมัครยนยนการลงทะเบียนผู้ประกันตนตาม
ื
ิ
ิ
้
ี
ื
ั
มาตรา ๔๐ โดยให้ผู้สมัครเลือกยนยนการลงทะเบียน หรอยกเลิกการลงทะเบียน โดยส านกงาน
ั
ื
ุ
ิ
ิ
ประกันสังคมจะอนมัตการขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ ผ่านระบบอเล็กทรอนกส์ และแจงผล
้
ิ
การพิจารณาอนุมัติให้ผู้สมัครทราบทันทีเฉพาะผู้สมัครที่ยืนยันการลงทะเบียนเท่านั้น
ข้อ ๕ การเลือกรูปแบบการจ่ายเงินสมทบ
๑) ทางเลือกที่ ๑ จ่ายเงินสมทบ ๗๐ บาท ต่อเดือน
๒) ทางเลือกที่ ๒ จ่ายเงินสมทบ ๑๐๐ บาท ต่อเดือน
๓) ทางเลือกที่ ๓ จ่ายเงินสมทบ ๓๐๐ บาท ต่อเดือน
ข้อ ๖ การช าระเงินสมทบ
ให้ผู้สมัครที่ได้รับการอนุมัติขึ้นทะเบียน ด าเนินการช าระเงินสมทบตามรูปแบบการ
จ่ายเงินสมทบที่เลือกไว้ ณ หนวยบรการรบช าระเงินที่ส านกงานประกันสังคมก าหนด โดยแจ้งเลข
ิ
ั
่
ั
ประจ าตัวประชาชน ๑๓ หลัก
ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑
สุรเดช วลีอิทธิกุล
เลขาธิการส านักงานประกันสังคม
หน้า | 67
ประกาศกรมทรัพย์สินทางปัญญา
ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขส าหรับการยื่นค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
และค าขออื่น ๆ ผ่านทางระบบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing)
เพื่อเป็นการอานวยความสะดวกในการให้บรการแก่ภาคธุรกิจเอกชนและ
ิ
ประชาชนทั่วไปในการยนค าขอจดทะเบียนเครองหมายการค้า หรือค าขออื่น ๆ กรมทรัพย์สินทางปัญญา
ื่
ื่
ื่
จึงเปิดให้บริการแก่ผู้ที่ประสงค์จะยนค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า และค าขออื่น ๆ ผ่านทางระบบ
้
การจดทะเบียนทรพยสินทางปัญญาทางอเล็กทรอนกส์ (e-Filing) แทนการมายนค าขอดวยตนเองได้อีก
ิ
ั
์
ื่
ิ
ทางหนึ่ง
ิ
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๑ วรรคหนง แห่งพระราชบัญญตเครองหมาย
ื่
ั
ึ่
การค้า พ.ศ. ๒๕๓๔ และข้อ ๒ วรรคสาม แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ. ๒๕๓๕) ออกตามความใน
ิ
พระราชบัญญัต เครองหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเตมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔
ิ
ื่
(พ.ศ. ๒๕๔๓) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครองหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๗ วรรคหนึ่งแห่ง
ื่
พระราชบัญญัติการอ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๓๕
้
ิ
ี
ิ
แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ พระราชกฤษฎกาก าหนดหลักเกณฑ์
ิ
ิ
และวิธีการในการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ภาครฐ พ.ศ. ๒๕๔๙ ประกอบกับมาตรา ๓๒ แห่ง
ั
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
พระราชบัญญัตระเบียบบรหารราชการแผ่นดน พ.ศ. ๒๕๓๔ แก้ไขเพิ่มเตมโดยพระราชบัญญัตระเบียบ
ิ
ี
บรหารราชการแผ่นดน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ อธิบดกรมทรพยสินทางปัญญาจึงออกประกาศไว้
์
ั
ิ
ดังต่อไปน ี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกาศกรมทรัพย์สินทางปัญญา เรื่อง ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขส าหรับการยื่นค าขอจดทะเบียนเครื่องหมาย และค ารองหรือค าขออื่น ๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต
้
ลงวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๙
ข้อ ๒ ในประกาศน ี้
ื่
ื่
“เครองหมายการค้า” หมายความรวมถึง เครองหมายบรการ เครองหมายรับรอง
ิ
ื่
และเครื่องหมายร่วม
“ผู้ยื่นค าขอ” หมายความว่า บุคคลที่ยื่นค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า หรือ
ค าขออน ๆ ผ่านทางระบบ e-Filing
ื่
“ค าขออื่น ๆ” หมายความว่า
(๑) ค าคัดค้านการจดทะเบียน ค าโต้แย้งค าคัดค้าน
(๒) ค าอุทธรณ์
ื
ั
ั
(๓) ค าขอโอนหรอรบมรดกสิทธิในค าขอที่ยนจดทะเบียน ค าขอโอนหรอรบมรดก
ื่
ื
สิทธิ ในเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนแล้ว
(๔) ค าขอจดทะเบียนสัญญาอนุญาตให้ใช้เครองหมายการค้า ค าขอจดทะเบียนตอ
ื่
่
อายุสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า
(๕) ค าขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน
(๖) ค าขอต่ออายุการจดทะเบียน
(๗) ค าขอให้เพิกถอนการจดทะเบียน
หน้า | 68
(๘) ค าขอถือสิทธิวนที่ยนค าขอนอกราชอาณาจักรครงแรก หรอวันที่นาสินค้าที่ใช้
ื
ั
ื่
ั้
ื
เคร่องหมายออกแสดงในงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศเป็นวันย่นค าขอในราชอาณาจักรตามมาตรา
ื
๒๘ หรอมาตรา ๒๘ ทวิ
ื
(๙) หนังสือแสดงการปฏิเสธ
(๑๐) หนังสือแจ้งฟ้องคดีต่อศาล ค าพิพากษา และผลคด ี
(๑๑) ค าขออื่น ๆ และหนังสือต่าง ๆ
โดยไม่รวมถึงค าขอตรวจดทะเบียนหรอสารบบ ค าขอคัดส าเนาเอกสาร ค าขอให้
ู
ื
รับรองส าเนาเอกสารและรายการจดทะเบียน ค าขอใบแทนหนังสือส าคัญแสดงการจดทะเบียน
์
ั
“ระบบ e-Filing” หมายความว่าระบบการจดทะเบียนทรพยสินทางปัญญาทาง
อิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing)
ข้อ ๓ ในการยนค าขอจดทะเบียนเครองหมายการค้า หรอค าขออน ๆ ผ่านทาง
ื่
ื่
ื
ื่
ิ
ิ
ระบบ e-Filing ให้ผู้ยนค าขอใช้ใบรบรองอเล็กทรอนกส์ (Electronic Certificate) ที่ไดรบจากกรม
ื่
ั
้
ั
ทรัพย์สินทางปัญญาแทนการลงลายมือชื่อในค าขอดังกล่าว
ื่
้
ิ
ข้อ ๔ ผู้ยนค าขอตองปฏบัตตามข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานตามที่
ิ
ระบบ e-Filing ก าหนด
หมวด ๑
ข้อก าหนดในการยื่นค าขอ และการส่งเอกสารหลักฐาน
ื่
ข้อ ๕ ให้ผู้ยื่นค าขอกรอกข้อมูลในค าขอจดทะเบียนเครองหมายการค้า หรือค าขอ
อื่น ๆ ที่ประสงค์จะยื่นผ่านทางระบบ e-Filing ให้ถูกต้องครบถ้วน พร้อมทั้งแนบเอกสารหลักฐานที่มีความ
ชัดเจนถูกต้อง ตามวิธีการ รูปแบบและมาตรฐานที่ระบบ e-Filing ก าหนดไว้
ี
ื่
ข้อ ๖ ภายใต้บังคับข้อ ๕ และในกรณีที่ประกาศน้มิได้ก าหนดไว้เป็นอยางอน
่
ื่
ให้ผู้ยนค าขอแนบเอกสารหลักฐานตามที่ค าขอจดทะเบียนและค าขออน ๆ ในเรองนน ๆ ก าหนดไว้ให้
ั้
ื่
ื่
ครบถ้วน (ถ้ามี) เช่น
(๑) หนังสือมอบอ านาจ
ั
ื่
(๒) ส าเนาบัตรประจ าตวประชาชนหรอบัตรประจ าตัวอน ๆ ที่ทางราชการออกให้
ื
ของบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งมิใช่ผู้ยื่นค าขอ
ื่
(๓) รายชื่อและเอกสารหรือค าชี้แจงแสดงความสัมพันธ์ของผู้มีสิทธิใช้เครองหมาย
ร่วม (กรณีค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายร่วม)
ื่
ื
(๔) ข้อบังคับหรอข้อก าหนดหลักเกณฑ์การใช้เครองหมายรบรอง (กรณีค าขอจด
ั
ทะเบียนเครื่องหมายรับรอง)
(๕) หนังสือยินยอมจากผู้โอนหรือผู้รับโอนตามมาตรา ๕๑/๑
ื่
ั
(๖) หนงสืออนญาตให้ใช้ลายมือชื่อหรอภาพของบุคคลอนเป็นเครองหมาย
ุ
ื่
ื
การค้า (กรณีเครื่องหมายการค้าที่ขอจดทะเบียนเป็นลายมือชื่อหรือภาพของบุคคลอื่น)
(๗) ภาพถ่ายใบมรณบัตร หนังสือยืนยันของทายาทผู้รับมรดก ภาพถ่ายพินัยกรรม
หรือส าเนาค าสั่งตั้งผู้จัดการมรดก พร้อมด้วยส าเนาบัตรประจ าตัวประชาชนผู้เกี่ยวข้อง (กรณีการรับมรดก)
หน้า | 69
(๘) หนังสือส าคัญแสดงกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อเครื่องหมายการค้าจากการขายทอดตลาด
ของส านักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ (กรณีการโอนโดยการขายทอดตลาด)
(๙) หนังสือแจ้งข้อเท็จจริงและเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการบังคับหลักประกันหรอ ื
ค าพิพากษาบังคับหลักประกัน (กรณีการโอนโดยกฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจ)
ื
(๑๐) หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุล หรอเอกสารหลักฐานประกอบการแก้ไข
เปลี่ยนแปลง (กรณีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน)
ั
(๑๑) ส าเนาค าขอจดทะเบียนนอกราชอาณาจักร หนงสือรบรองการจัดงานแสดง
ั
ื่
้
สินค้าระหว่างประเทศ เอกสารแสดงว่าผู้ขอไดนาสินค้าที่ใช้เครองหมายออกแสดงในงานแสดงสินค้า
ู่
ระหว่างประเทศ เอกสารแสดงว่านตบุคคลที่ยนค าขอจดทะเบียนครงแรกมีส านกงานแห่งใหญ่อยใน
ั
ื่
ิ
ิ
ั้
ประเทศไทย เอกสารที่แสดงว่าผู้ขอมีภูมิล าเนาหรือประกอบอตสาหกรรมหรือพาณิชยกรรมอย่างจริงจังใน
ุ
ื
ื
ั
ั
ั้
ิ
ประเทศไทย หนงสือรบรองที่แสดงว่าค าขอจดทะเบียนครงแรกไม่เคยถูกปฏเสธหรอถอนคืนหรอละทิ้ง
ั
่
ื
ื
ื
ิ
ิ
หรอถูกปฏเสธหรอถอนคืนหรอละทิ้ง แตยงไม่เคยขอใช้สิทธิและไม่อาจดาเนนการใดตามกฎหมายของ
ประเทศนนและไม่ไดมีการเปิดเผยตอสาธารณชน ค าแปลเป็นภาษาไทย (กรณีขอถือสิทธิวันที่ยนค าขอ
่
ั้
้
ื่
ื
นอกราชอาณาจักรเป็นครงแรกหรอวันที่นาสินค้าที่ใช้เครองหมายออกแสดงในงานแสดงสินค้าระหว่าง
ั้
ื่
ประเทศเป็นวันยื่นค าขอในราชอาณาจักร)
ื
ั
(๑๒) ส าเนาค าฟ้องหรอส าเนาค าพิพากษาฉบับที่ศาลรบรอง หรอส าเนาหนงสือ
ื
ั
รับรองคดีถึงที่สุด (กรณีแจ้งการฟ้อง หรือค าพิพากษาและผลคดี)
ื่
ข้อ ๗ ในกรณีที่เครองหมายการค้าที่ขอจดทะเบียนเป็นเสียงหรอประกอบดวย
้
ื
ื่
ื่
เสียง ให้ผู้ยนค าขอแนบเครองหมายเสียงตามวิธีการ รปแบบ และมาตรฐานที่ระบบ e-Filing ก าหนดไว้
ู
และให้ถือว่าได้ส่งสิ่งบันทึกเสียงที่ขอจดทะเบียนให้แก่นายทะเบียนแล้ว
้
้
ข้อ ๘ ในกรณีการคัดค้านการจดทะเบียนและการโตแยงค าคัดค้าน ให้ถือว่าการ
ยื่นค าคัดค้านการจดทะเบียน หรือค าโต้แย้งค าคัดค้านผ่านทางระบบ e-Filing เป็นการแนบส าเนา
ค าคัดค้านหรอส าเนาค าโตแยงให้แก่นายทะเบียนแล้ว
ื
้
้
ข้อ ๙ ในกรณีการโอนสิทธิในค าขอจดทะเบียนหรอโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้า
ื
ให้ผู้ยนค าขอแนบสัญญาโอนในระบบ e-Filing พรอมกับค าขอ และให้ถือว่าเป็นการส่งสัญญาโอนให้แก่
ื่
้
นายทะเบียนแล้ว
ข้อ ๑๐ ในกรณีการโอนสิทธิในเครองหมายการค้า ให้เจ้าของเครื่องหมายการค้า
ื่
ส่งหนังสือส าคัญแสดงการจดทะเบียนหรอใบแทนหนังสือส าคัญแสดงการจดทะเบียน ให้แก่นายทะเบียน
ื
ั
์
ั
ื่
้
ณ กรมทรพยสินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย ภายในสิบห้าวันนบถัดจากวันที่ไดยนค าขอผ่านทาง
์
ระบบ e-Filing
ในกรณีการขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของตนเอง ให้เจ้าของ
เครื่องหมายการค้าส่งหนังสือส าคัญแสดงการจดทะเบียน ใบแทนหนังสือส าคัญแสดงการจดทะเบียน หรือ
ั
ื่
ื
หนงสือยนยนจากเจ้าของเครองหมายการค้าหรอตวแทนว่าหนงสือส าคัญสูญหาย ให้แก่นายทะเบียน ณ
ั
ื
ั
ั
ั
กรมทรพยสินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย ภายในสิบห้าวันนบถัดจากวันที่ไดยนค าขอผ่านทาง
ั
์
้
ื่
์
ระบบ e-Filing
หน้า | 70
หากเจ้าของเครองหมายการค้าไม่ส่งเอกสารภายในระยะเวลาที่ก าหนดในวรรค
ื่
ึ่
ื
ิ
ื่
ื่
หนงหรอวรรคสอง ให้ถือว่าเจ้าของเครองหมายการค้าไม่ประสงค์จะดาเนนการโอนสิทธิในเครองหมาย
ื่
การค้าหรอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครองหมายการค้า และให้นายทะเบียนมีค าสั่งไม่อนญาตค าขอ
ุ
ื
ดังกล่าว
ื่
ข้อ ๑๑ ในกรณีการขอจดทะเบียนสัญญาอนญาตให้ใช้เครองหมายการค้า การ
ุ
ุ
แก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการการจดทะเบียนสัญญาอนญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า และการขอเพิกถอนการ
ุ
จดทะเบียนสัญญาอนญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า ให้เจ้าของเครื่องหมายการค้าหรือผู้ขอจดทะเบียนเป็น
ผู้ได้รับอนุญาตแนบสัญญาอนุญาต สัญญาอนุญาตซึ่งมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือเอกสารที่แสดงว่าสัญญา
อนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าสิ้นสุดแล้ว แล้วแต่กรณี มาพร้อมกับค าขอ และให้ถือว่าเป็นการส่งเอกสาร
ดังกล่าวให้แก่นายทะเบียนแล้ว
ข้อ ๑๒ ในกรณีการอุทธรณ์ค าสั่งหรือค าวินิจฉัยของนายทะเบียน หรือขอให ้
ื่
ื
ื่
เพิกถอนการจดทะเบียนเครองหมายการค้าของบุคคลอน ให้ถือว่าการอทธรณ์หรอการยนค าขอให้เพิก
ื่
ุ
ถอนการจดทะเบียนเครองหมายการค้าผ่านทางระบบ e-Filing เป็นการแนบส าเนาค าอทธรณ์หรอค า
ุ
ื
ื่
ขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าด้วยแล้ว
ื่
ข้อ ๑๓ ในกรณีที่ผู้ยนค าขอประสงค์ส่งเอกสารหลักฐานอน ๆ เพิ่มเตมเพื่อ
ิ
ื่
ื่
ประกอบการพิจารณาของนายทะเบียนหรอคณะกรรมการเครองหมายการค้า เช่น เอกสารหลักฐานการ
ื
น าสืบลักษณะบ่งเฉพาะที่เกดจากการใช้เครองหมายการค้า เอกสารหลักฐานประกอบค าขอถือสิทธิวันที่ยน
ื่
ิ
ื่
ค าขอนอกราชอาณาจักรครงแรกหรอวันที่น าสินค้าที่ใช้เครองหมายออกแสดงในงานแสดงสินค้าระหว่าง
ื
ื่
ั้
ุ
ื
้
้
ประเทศเอกสารประกอบค าคัดค้านหรอค าโตแยง เอกสารหลักฐานประกอบอทธรณ์หรอขอให้เพิกถอน
ื
ื่
ื่
ั
การจดทะเบียนเครองหมายการค้าของบุคคลอน ให้ส่งเอกสารหลักฐานดงกล่าวภายในสิบห้าวันนับถัด
จากวันที่ได้ย่นค าขอจดทะเบียนหรือค าขออ่น ๆ ผ่านทางระบบ e-Filing เว้นแตผู้ยนค าขอจะไดมี
ื
ื่
่
้
ื
ั
ื่
ั
หนงสือขอผ่อนผันการส่งเอกสารหลักฐานดงกล่าวไว้ ให้ผู้ยนค าขอส่งเอกสารหลักฐานดงกล่าวภายใน
ั
ระยะเวลาที่ขอผ่อนผันไว้
ื่
ในกรณีที่ผู้ยนค าขอไม่ส่งเอกสารหลักฐานภายในระยะเวลาที่ก าหนดในวรรคหนึ่ง
ั
และมิไดมีหนงสือขอผ่อนผันไว้ ให้ถือว่าผู้ยนค าขอไม่ประสงค์จะส่งเอกสารหลักฐานนั้น และค าขอนนจะ
ั้
้
ื่
ได้รับการพิจารณาโดยไม่มีเอกสารหลักฐานดังกล่าว
ื
ื
ข้อ ๑๔ ให้ผู้ย่นค าขอเก็บรักษาเอกสารหลักฐานต่างๆ ซึ่งได้ย่นผ่านทาง
ระบบ e-Filing ไว้เพื่อตรวจสอบในกรณีนายทะเบียนหรอคณะกรรมการเครองหมายการค้าเห็นว่า
ื่
ื
เอกสารหลักฐานต่างๆ ไม่ชัดเจน ไม่ครบถ้วน หรือไม่ถูกต้อง
ข้อ ๑๕ การส่งเอกสารหลักฐานตามข้อ ๑๐ และข้อ ๑๓ ให้ใช้แบบหนงสือนาส่ง
ั
ั
เอกสารหลักฐานและค าชี้แจง (แบบ ก. ๒๐) โดยทางไปรษณียลงทะเบียนตอบรบถึงนายทะเบียน หรอ ื
์
น าส่งด้วยตนเอง ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย ์
์
ในกรณีส่งทางไปรษณียลงทะเบียนตอบรบ ให้ถือวันที่ประทับตราไปรษณียเป็น
ั
์
ส าคัญ
้
ั
ในกรณีการนาส่งดวยตนเอง ให้ถือวันที่กรมทรพยสินทางปัญญาไดรบเอกสาร
ั
้
์
หลักฐานเป็นส าคัญ
หน้า | 71
หมวด ๒
การได้รับเลขที่ค าขอและวันยื่นค าขอรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
และการได้รับวันยื่นค าขออื่น ๆ
้
ื่
ื่
ข้อ ๑๖ ผู้ยนค าขอจะไดรบเลขที่ค าขอและวันยนค าขอจดทะเบียนเครองหมาย
ื่
ั
การค้าในวันที่ผู้ยื่นค าขอได้ส่งข้อมูลของค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเข้าสู่ระบบ e-Filing แล้ว
ื่
ในกรณีค าขออื่น ๆ ผู้ยื่นค าขอจะได้รับวันยื่นค าขออน ๆ เมื่อผู้ยื่นค าขอได้ส่งข้อมูล
ของค าขออื่น ๆ เข้าสู่ระบบ e-Filing แล้ว
หมวด ๓
การช าระค่าธรรมเนียมการยื่นค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า หรือค าขออื่น ๆ
และการช าระค่าธรรมเนยมตามการแจ้งหรือค าสั่งของนายทะเบียน
ี
ื่
ข้อ ๑๗ ผู้ยนค าขอสามารถเลือกช าระค่าธรรมเนยมการยนค าขอจดทะเบียน
ื่
ี
เครื่องหมายการค้าหรือค าขออื่น ๆ ในคราวเดียวกัน โดยวิธีการและระยะเวลาที่ก าหนด ดังต่อไปน ี้
ิ
ี
(๑) กรณีช าระค่าธรรมเนยมผ่านผู้ให้บรการรบช าระค่าธรรมเนียมที่กรมทรพย์สิน
ั
ั
ทางปัญญาได้ท าความตกลงไว้ ให้ช าระภายใน ๒๒.๐๐ นาฬิกา ของวันถัดไปของวันที่ได้ย่นค าขอจด
ื
ื
ื่
ทะเบียนเครองหมายการค้า หรอค าขออน ๆ แล้วแตกรณี
ื่
่
ั
์
ั
ื
(๒) กรณีช าระค่าธรรมเนยม ณ กรมทรพยสินทางปัญญา หรอส านกงานพาณิชย ์
ี
จังหวัด ให้ช าระภายใน ๑๕.๓๐ นาฬิกา ของวันท าการถัดไปของวันที่ไดยื่นค าขอจดทะเบียนเครื่องหมาย
้
การค้าหรือค าขออื่นๆ
ี
ื
ื่
ในกรณีที่ผู้ยนค าขอไม่ช าระค่าธรรมเนยมภายในก าหนดเวลาตาม (๑) หรอ (๒)
หรือช าระไม่ครบถ้วน ให้ถือว่าผู้ยื่นค าขอไม่ประสงค์จะด าเนินการกับค าขอจดทะเบียนเครองหมายการค้า
ื่
ื่
ื
ื่
ี้
ื่
ื
หรอค าขออน ๆ หรอละทิ้งค าขอจดทะเบียนเครองหมายการค้า หรอค าขออนๆ แล้วแตกรณี ทั้งน นาย
ื
่
ทะเบียนจะจ าหน่ายค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า หรือค าขออื่นๆ ออกจากระบบ e-Filing ต่อไป
้
ิ
ี
การขอคืนค่าธรรมเนยมซึ่งช าระไม่ครบถ้วน สามารถดาเนนการได ณ
ื่
ั
ื่
่
ื
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ภายใน ๓๐ วันนบแตวันยนค าขอจดทะเบียนเครองหมายการค้า หรอค าขอ
่
ื่
อนๆ แล้วแตกรณี
ื่
ื
ข้อ ๑๘ กรณีที่นายทะเบียนแจ้งหรอมีค าสั่งให้ผู้ยนค าขอช าระค่าธรรมเนยม
ี
ื
ื่
ื่
การจดทะเบียนเครองหมายการค้า การจดทะเบียนสัญญาอนญาตให้ใช้เครองหมายการค้า หรอช าระ
ุ
ี
ี
ื่
ค่าธรรมเนยมอนใดเพิ่มเตม ผู้ยนค าขอสามารถเลือกช าระค่าธรรมเนยมภายในก าหนดเวลาการแจ้งหรือ
ิ
ื่
ค าสั่งของนายทะเบียนในคราวเดียวกัน โดยวิธีการและระยะเวลาที่ก าหนด ดังต่อไปน ี้
ั
ั
(๑) กรณีช าระค่าธรรมเนยมผ่านผู้ให้บรการรบช าระค่าธรรมเนยมที่กรมทรพย์สิน
ี
ิ
ี
ทางปัญญาได้ท าความตกลงไว้ หากช าระในวันสุดท้ายของวันครบก าหนดเวลาการแจ้งหรอค าสั่งของนาย
ื
ทะเบียนให้ช าระภายใน ๒๒.๐๐ นาฬิกา ของวันดังกล่าว
หน้า | 72
์
ื
ั
(๒) กรณีช าระค่าธรรมเนยม ณ กรมทรพยสินทางปัญญา หรอส านกงานพาณิชย ์
ี
ั
ื
จังหวัด หากช าระในวันสุดท้ายของวันครบก าหนดเวลาการแจ้งหรอค าสั่งของนายทะเบียน ให้ช าระภายใน
๑๕.๓๐ นาฬิกา ของวันดังกล่าว
ื
ึ่
ในกรณีที่ผู้ยนค าขอไม่ช าระค่าธรรมเนยมภายในก าหนดเวลาตามวรรคหนง หรอ
ี
ื่
ื่
ช าระไม่ครบถ้วน ให้ถือว่าผู้ยื่นค าขอไม่ประสงค์จะด าเนินการกับค าขอจดทะเบียนเครองหมายการค้า หรือ
ื่
่
่
ค าขออนๆ ตอไป และถือว่าเป็นการละทิ้งค าขอนน ทั้งน นายทะเบียนจะจ าหนายค าขอจดทะเบียน
ี้
ั้
เครื่องหมายการค้าหรือค าขออื่น ๆ ออกจากระบบ e-Filing ต่อไป
การขอคืนค่าธรรมเนยมซึ่งช าระไม่ครบถ้วน สามารถดาเนนการได ณ กรม
ิ
้
ี
ี
ทรัพย์สินทางปัญญา ภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้ช าระค่าธรรมเนยมตามวรรคหนึ่ง
หมวด ๔
การแจ้งค าสั่ง ค าวินิจฉัยของนายทะเบียนหรือเจ้าหน้าที่
ข้อ ๑๙ การแจ้งค าสั่ง ค าวินิจฉัยของนายทะเบียนที่เกี่ยวกับการพิจารณาค าขอที่ได ้
ิ
ื่
ื
ั
ี้
ยนตามประกาศฉบับน ให้นายทะเบียนแจ้งให้ผู้ยนค าขอทราบหรอดาเนนการเป็นหนงสือทางไปรษณีย ์
ื่
ลงทะเบียนตอบรับ โดยให้แจ้งไปยังสถานที่ติดต่อที่ผู้ยื่นค าขอได้ให้ไว้ในค าขอนั้น
ในกรณีที่ไม่สามารถส่งหนังสือตามวรรคหนึ่งได้ ให้นายทะเบียนส่งหนังสือแจ้งค าสั่ง
ื่
้
์
่
ื่
ทางไปรษณียลงทะเบียนตอบรบไปยงสถานที่ตดตอที่ผู้ยนค าขอไดให้ไว้ในค าขอจดทะเบียนเครองหมาย
ิ
ั
ั
ื่
การค้าหรือค าขออน ๆ อีกครั้งหนึ่ง เมื่อได้ส่งหนังสือดังกล่าวและเวลาได้ล่วงพ้นไปเจ็ดวันแล้ว ให้ถือว่าผู้ยน
ื่
ค าขอนั้นได้รับหนังสือนั้นแล้ว
หมวด ๕
บทเฉพาะกาล
ข้อ ๒๐ ให้การด าเนินการเกี่ยวกับค าขอจดทะเบียนเครองหมายการค้า หรือค าขอ
ื่
อื่นๆ ที่ได้ยื่นผ่านทางอินเทอร์เนต (e-Trademark filing) ก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ อยู่ภายใต้ประกาศ
็
์
ื่
ื่
กรมทรพยสินทางปัญญา เรอง ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขส าหรบการยนค าขอจดทะเบียน
ั
ั
ื่
้
ื
ื่
์
็
เครองหมาย และค ารองหรอค าขออน ๆ ผ่านทางอนเทอรเนต ลงวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๙ จนกว่าจะถึง
ิ
ที่สุด
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
ทศพล ทังสุบุตร
อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา
หน้า | 73
ประกาศกรมทรัพย์สินทางปัญญา
ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขส าหรับการยื่นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรค าร้องหรือค า
ขออื่น ๆ ผ่านทางระบบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing)
ิ
เพื่อเป็นการอานวยความสะดวกในการให้บรการภาคธุรกิจเอกชนและประชาชน
ื
ทั่วไปในการย่นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร ค าร้องหรือค าขออ่น ๆ กรมทรัพย์สินทางปัญญาจึง
ื
ื่
ิ
้
ุ
ื
ื่
เปิดให้บรการแก่ผู้ที่ประสงค์จะยนค าขอรบสิทธิบัตรหรออนสิทธิบัตร ค ารองหรอค าขออน ๆ ผ่านระบบ
ั
ื
ื่
ั
ิ
ิ
์
้
การจดทะเบียนทรพยสินทางปัญญาทางอเล็กทรอนกส์ (e-Filing) แทนการมายนค าขอดวยตนเองได้อีก
ทางหนึ่ง
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๒๘ (๒) มาตรา ๓๓ มาตรา ๖๕ มาตรา ๖๕
ิ
เบญจมาตรา ๖๕ ทศ และมาตรา ๗๔ แห่งพระราชบัญญตสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติมข้อ
ั
๔ วรรคสอง และข้อ ๙ วรรคสองแห่งกฎกระทรวงฉบับที่ ๒๒ (พ.ศ. ๒๕๔๒) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๗ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติการอ านวยความสะดวกใน
ุ
การพิจารณาอนญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทาง
ิ
้
ิ
ิ
อเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ พระราชกฤษฎกาก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการท าธุรกรรมทาง
ี
อเล็กทรอนกส์ภาครฐ พ.ศ. ๒๕๔๙ ประกอบกับมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัตระเบียบบรหารราชการ
ิ
ิ
ั
ิ
ิ
ิ
แผ่นดน พ.ศ. ๒๕๓๔ แก้ไขเพิ่มเตมโดยพระราชบัญญตระเบียบบรหารราชการแผ่นดน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ.
ั
ิ
ิ
ิ
ิ
๒๕๔๕ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปน ี้
ั
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกาศกรมทรพย์สินทางปัญญา เรื่อง ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขส าหรับการยื่นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร ค าร้องหรือค าขออื่น ๆ ผ่านทางอินเทอร์เนต
็
ลงวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๘
ข้อ ๒ ในประกาศน ี้
ั
ื
ุ
้
“ผู้ยนค าขอ” หมายความว่า ผู้ยนค าขอรบสิทธิบัตรหรออนสิทธิบัตร ค ารองหรอ ื
ื่
ื่
ค าขออน ๆ ผ่านทางระบบ e-Filing
ื่
“ค าร้องหรือค าขออื่น ๆ” หมายความว่า
(๑) ค าขอรับความคุ้มครองการประดิษฐ์ในประเทศไทย
(๒) ค ารับรองเกี่ยวกับสิทธิขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรและ Statement
of Applicant’s Right to Apply for a Patent/ Petty Patent
ื่
่
ื่
ั้
(๓) ค าขอถือสิทธิให้ถือวันยนค าขอในตางประเทศเป็นครงแรกเป็นวันยนค าขอใน
ไทย
(๔) ค าขอแก้ไขเพิ่มเติมค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร
(๕) ค าขอเปลี่ยนแปลงประเภทของสิทธิ
(๖) ค าขอให้ตรวจสอบการประดิษฐ์
(๗) ค าขอตรวจค้นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร และคัดส าเนาเอกสาร
(๘) ค าคัดค้าน
(๙) ค าโต้แย้ง
(๑๐) ค าขอน าพยานหลักฐานมาแสดงหรือแถลงเพิ่มเติม
หน้า | 74
(๑๑) ค าอุทธรณ์
(๑๒) ค าขอช าระค่าธรรมเนียมรายปี/คราวเดียว/ต่ออาย ุ
(๑๓) ค าขออื่น ๆ
(๑๔) ค าขอคืนสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรหรือเลิกข้อถือสิทธิบางข้อ
(๑๕) ค าขอใบแทนสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร หรือใบแทนใบอนุญาตให้ใช้สิทธิตาม
สิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร
(๑๖) ค าขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตให้เป็นตัวแทนสิทธิบัตร
(๑๗) ค าขอรับใบแทนใบอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนเป็นตัวแทนสิทธิบัตร
(๑๘) ค าขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนหรือใบอนุญาตให้เป็นตัวแทนสิทธิบัตรใหม่
(๑๙) ค าขอมีบัตร ค าขอมีบัตรใหม่และค าขอเปลี่ยนบัตรตัวแทนสิทธิบัตร
(๒๐) ค าขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตฯ (กรณีใบเดิมถูกเพิกถอน)
(๒๑) ค าขอบันทึกค ายินยอมให้บุคคลอื่นใช้สิทธิตามสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร
(๒๒) ค าขออนุญาตใช้สิทธิตามสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร
(๒๓) ค าขอให้ยกเลิกใบอนุญาตให้ใช้สิทธิตามสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร
(๒๔) ค าขอจดทะเบียนการอนุญาตให้ใช้สิทธิตามสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร
ื
(๒๕) ค าขอจดทะเบียนการโอนสิทธิบัตรหรออนุสิทธิบัตร และการรับโอนสิทธิบัตร
หรืออนุสิทธิบัตรโดยทางมรดก
(๒๖) ค าขอรับบ าเหน็จพิเศษ
(๒๗) ค าร้องเพื่อขอฟื้นสิทธิให้ค าขอระหว่างประเทศยังคงมีผลในประเทศไทย
(๒๘) ค าร้องขอให้ทบทวนผลการพิจารณาค าขอระหว่างประเทศ
(๒๙) ค าร้องขอให้ด าเนินการกับค าขอระหว่างประเทศก่อนครบก าหนด ๓๐ เดือน
(๓๐) แบบค าร้องขอให้หน่วยงานอื่นตรวจสอบการประดิษฐ์
(๓๑) จดหมายชี้แจง
“ระบบ e-Filing” หมายความว่าระบบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาทาง
อิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing)
ข้อ ๓ ในการยื่นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร ค าร้องหรือค าขออื่น ๆ
ั
ผ่านทางระบบ e-Filing ให้ผู้ยนค าขอใช้ใบรบรองอเล็กทรอนกส์ (Electronic Certificate) ที่ไดรบจาก
ิ
ั
ิ
ื่
้
กรมทรัพย์สินทางปัญญาแทนการลงลายมือชื่อในค าขอหรือค าร้องดังกล่าว
ข้อ ๔ ผู้ยื่นค าขอต้องปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานตามที่ระบบ
e-Filing ก าหนด
ิ
ื่
้
ข้อ ๕ ผู้ยนค าขอมีหนาที่ตดตามและตรวจสอบ สถานะค าขอ การแจ้งค าสั่งค าวินจฉัย
ิ
ของพนักงานเจ้าหน้าที่ อธิบดี หรือคณะกรรมการสิทธิบัตร
ื
ื
ั
ุ
้
ื่
ข้อ ๖ เมื่อผู้ยนค าขอไดยนค าขอรบสิทธิบัตรหรออนสิทธิบัตรค ารอง หรอค าขอ
ื่
้
้
ิ
ื่
อน ๆ ตามประกาศฉบับนแล้ว ให้ถือว่าผู้ยนค าขอมีความประสงค์ที่จะให้พนกงานเจ้าหนาที่ดาเนนการ
ี้
ั
ื่
ี่
ี้
ั
เกยวกบค าขอตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ก าหนดไว้ตามประกาศฉบับนทุกประการแม้ภายหลัง
ผู้ยื่นค าขอจะไม่ได้ด าเนินการยื่นค าขอดังกล่าวผ่านทางระบบ e-Filing
หน้า | 75
หมวด ๑
ข้อก าหนดในการยื่นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร ค าร้องหรือค าขออื่น ๆ
และการส่งเอกสารหลักฐาน
ข้อ ๗ ให้ผู้ยื่นค าขอกรอกข้อมูลในค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร ค าร้องหรือค า
ขออื่นๆ ที่ประสงค์จะยื่นต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญาผ่านทางระบบ e-Filing ให้ถูกต้องครบถ้วน พร้อมทั้ง
แนบเอกสารหลักฐานตามที่พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ และอนุบัญญัติก าหนดไว้ในรูปของข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความชัดเจน ถูกต้องตามวิธีการ รูปแบบและมาตรฐานที่ระบบ e-Filing ก าหนดไว้
ั
ข้อ ๘ ในการยนเอกสารหลักฐานส าหรบประกอบการพิจารณาของพนกงาน
ื่
ั
เจ้าหน้าที่ อธิบดีหรือคณะกรรมการสิทธิบัตรตามข้อ ๗ ที่ไม่สามารถท าให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
้
ื่
ั
ได้ให้ผู้ยื่นค าขอยนเอกสารหลักฐานดังกล่าวต่อพนกงานเจาหน้าที่ ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวง
พาณิชย หรอส่งทางไปรษณียซึ่งจะถือตราประทับไปรษณียเป็นส าคัญ ทั้งน ภายในระยะเวลาที่
์
ี้
ื
์
์
พระราชบัญญัติสิทธิบัตรพ.ศ. ๒๕๒๒ และอนุบัญญัติก าหนดให้ต้องยื่นค าร้องหรือค าขออื่นๆ นั้นไว้
ื่
ื
ื
ุ
้
ั
ื่
ื
ข้อ ๙ การยนค าขอรบสิทธิบัตรหรออนสิทธิบัตร ค ารองหรอค าขออนๆ หรอ
เอกสารหลักฐานผ่านทางระบบ e-Filing ให้ถือเป็นการยื่นค าขอ เอกสารหลักฐาน และส าเนาเพื่อประกอบ
ื
้
ื
ิ
ค าขอรบสิทธิบัตรหรออนสิทธิบัตร ค ารองหรอค าขออนๆ ตามที่พระราชบัญญัตสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒
ื่
ั
ุ
และอนุบัญญัติก าหนดแล้ว
ั
ื
้
ข้อ ๑๐ ในกรณีที่พนกงานเจ้าหนาที่ หรอคณะกรรมการสิทธิบัตร เห็นว่าเอกสาร
ิ
ื
้
ื
หรอหลักฐานที่อยในรปของข้อมูลอเล็กทรอนกส์ไม่ถูกตองครบถ้วนหรอไม่ชัดเจน พนกงานเจ้าหนาที่
ู่
้
ิ
ู
ั
ี
จะเรยกให้ผู้ยนค าขอมาให้ถ้อยค าชี้แจง หรอให้ส่งเอกสาร หรอสิ่งใดเพิ่มเตมตามมาตรา ๒๗ แห่ง
ิ
ื
ื่
ื
ื
ื่
พระราชบัญญัตสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ หรอคณะกรรมการสิทธิบัตรจะให้ผู้ยนค าขอนาพยานหลักฐานมา
ิ
แสดงหรือแถลงเพิ่มเติมตามมาตรา ๗๓ แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ ก็ได ้
หมวด ๒
การได้รับเลขที่ค าขอและวันยื่นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร
และการได้รับวันยื่นค ารองหรือค าขออื่นๆ
้
ข้อ ๑๑ ผู้ยื่นค าขอจะได้รับเลขที่ค าขอและวันยื่นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร
ในวันที่ผู้ยื่นค าขอได้ส่งข้อมูลของค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรเข้าสู่ระบบ e-Filing แล้ว
ในกรณีค าร้องหรือค าขออื่นๆ ผู้ยื่นค าขอจะได้รับวันยื่นค าร้องหรือค าขออื่นๆ เมื่อผู้
ยื่นค าขอไดส่งข้อมูลของค าร้องหรือค าขออื่นๆ เข้าสู่ระบบ e-Filing แล้ว
้
หน้า | 76
หมวด ๓
การช าระค่าธรรมเนียมการยื่นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร ค าร้องหรือค าขออื่น ๆ
ี
และการช าระค่าธรรมเนยมตามการแจ้งหรือค าสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่
ี
ื่
ข้อ ๑๒ ผู้ยนค าขอสามารถเลือกช าระค่าธรรมเนยมการยนค าขอรบสิทธิบัตรหรือ
ื่
ั
อนุสิทธิบัตรค าร้องหรือค าขออื่น ๆ ในคราวเดียวกัน โดยวิธีการและระยะเวลาที่ก าหนด ดังต่อไปน ี้
ั
ี
ิ
ั
(๑) กรณีช าระค่าธรรมเนยมผ่านผู้ให้บรการรบช าระค่าธรรมเนียมที่กรมทรพย์สิน
ทางปัญญาได้ท าความตกลงไว้ ให้ช าระภายใน ๒๒.๐๐ นาฬิกา ของวันถัดไปของวันยนค าขอรับสิทธิบัตร
ื่
หรืออนุสิทธิบัตรหรือของวันที่ได้รับวันยื่นค าร้องหรือค าขออื่น ๆ แล้วแต่กรณี
(๒) กรณีช าระค่าธรรมเนยม ณ กรมทรพยสินทางปัญญาหรอส านกงานพาณิชย ์
ื
ั
์
ี
ั
ื่
จังหวัด ให้ช าระภายใน ๑๕.๓๐ นาฬิกา ของวันท าการถัดไปของวันที่ได้รับเลขที่ค าขอและวันยนค า
ื่
ั
ขอรบสิทธิบัตรหรออนสิทธิบัตร หรอของวันที่ไดรบวันยนค ารองหรอค าขออน ๆ แล้วแตกรณี
ื
ื
้
่
ื่
ื
้
ั
ุ
ี
ื
ื่
ในกรณีที่ผู้ยนค าขอไม่ช าระค่าธรรมเนยมภายในก าหนดเวลาตาม (๑) หรอ (๒)
ื
ื่
ั
ุ
ิ
หรอช าระไม่ครบถ้วน ให้ถือว่าผู้ยนค าขอไม่ประสงค์จะดาเนนการกับค าขอรบสิทธิบัตรหรออนสิทธิบัตร
ื
ื่
หรือละทิ้งค าร้องหรือค าขออน ๆ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่จะจ าหน่ายค าขอรับสิทธิบัตรหรอ
ื
อนุสิทธิบัตรค าร้องหรือค าขออื่น ๆ ออกจากระบบ e-Filing ต่อไป
ี
การขอคืนค่าธรรมเนยมซึ่งช าระไม่ครบถ้วน สามารถดาเนนการได ณ กรม
้
ิ
ื
์
้
ุ
ั
ื่
ั
ทรพยสินทางปัญญา ภายใน ๓๐ วันนบแตวันที่ไดเลขค าขอและวันยนค าขอรับสิทธิบัตรหรออนสิทธิบัตร
่
หรือนับแต่วันที่ได้รับวันยื่นค าร้องหรือค าขออื่น ๆ แล้วแต่กรณี
ั
ื
ข้อ ๑๓ กรณีที่พนกงานเจาหนาที่แจ้งหรอมีค าสั่งให้ผู้ยนค าขอช าระค่าธรรมเนียม
้
้
ื่
้
การประกาศโฆษณาค าขอรบสิทธิบัตรตามมาตรา ๒๘ (๒) หรอมาตรา ๖๕ ประกอบดวยมาตรา ๒๘ (๒)
ั
ื
ี
ี
ค่าธรรมเนยมการออกอนสิทธิบัตรและค่าธรรมเนยมประกาศโฆษณาตามมาตรา ๖๕ เบญจ (๒)
ุ
ื
ี
้
ค่าธรรมเนยมการออกสิทธิบัตรตามมาตรา ๓๓ หรอมาตรา ๖๕ ประกอบดวยมาตรา ๓๓ แห่ง
พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ ผู้ยื่นค าขอสามารถเลือกช าระค่าธรรมเนยมภายในก าหนดเวลาการ
ี
แจ้งหรือค าสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ในคราวเดียวกัน โดยวิธีการและระยะเวลาที่ก าหนดดังต่อไปน ี้
ั
ี
ิ
(๑) กรณีช าระค่าธรรมเนยมผ่านผู้ให้บรการรบช าระค่าธรรมเนียมที่กรมทรพย์สิน
ั
ื
ทางปัญญาไดท าความตกลงไว้ หากช าระในวันสุดท้ายของวันครบก าหนดเวลาการแจ้งหรอค าสั่งของ
้
พนักงานเจ้าหน้าที่ให้ช าระภายใน ๒๒.๐๐ นาฬิกา ของวันดังกล่าว
์
(๒) กรณีช าระค่าธรรมเนยม ณ กรมทรพยสินทางปัญญาหรอส านกงานพาณิชย ์
ั
ั
ี
ื
ั
จังหวัด หากช าระในวันสุดท้ายของวันครบก าหนดเวลาการแจ้งหรอค าสั่งของพนกงานเจาหนาที่ ให้ช าระ
ื
้
้
ภายใน ๑๕.๓๐ นาฬิกา ของวันดังกล่าว
ื
ึ
ในกรณีที่ผู้ย่นค าขอไม่ช าระค่าธรรมเนียมภายในก าหนดเวลาตามวรรคหน่ง
ื
ุ
หรือไม่ช าระให้ครบถ้วน ให้ถือว่าผู้ยนค าขอละทิ้งค าขอรบสิทธิบัตรหรออนสิทธิบัตรตามมาตรา ๒๘ (๒)
ั
ื่
มาตรา ๖๕ ประกอบด้วยมาตรา ๒๘ (๒) มาตรา ๖๕ เบญจ (๒) มาตรา ๓๓ หรือมาตรา ๖๕ ประกอบด้วย
มาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ แล้วแต่กรณี
การขอคืนค่าธรรมเนียมซึ่งช าระไม่ครบถ้วน สามารถด าเนินการได้ ณ กรม
์
ทรัพยสินทางปัญญา ภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้ช าระค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่ง
หน้า | 77
หมวด ๔
การแจ้งค าสั่ง ค าวินิจฉัยของพนักงานเจ้าหน้าที่ อธิบดี หรือคณะกรรมการสิทธิบัตร
ข้อ ๑๔ การแจ้งค าสั่ง ค าวินิจฉัยของพนักงานเจ้าหน้าที่ อธิบดี หรือคณะกรรมการ
ื
ื
สิทธิบัตรที่เกี่ยวกับการพิจารณาค าขอรบสิทธิบัตรหรออนสิทธิบัตร ค ารองหรอค าขออน ๆ ที่ไดยนตาม
ื่
ื่
ุ
้
้
ั
ื
ประกาศฉบับน้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งผู้ย่นค าขอผ่านทางระบบ e-Filing และแจ้งเตือนทาง E-
ี
ิ
ิ
ื่
mail address ของผู้ยนค าขอตามที่ระบุไว้ในใบรบรองอเล็กทรอนกส์ (Electronic Certificate)
ั
ิ
การแจ้งโดยวิธีการตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าผู้ยื่นค าขอได้รับแจ้งค าสั่งหรือค าวินจฉัย
ี
ู
ื
ิ
ื
ั
เมื่อผู้ยนค าขอเรยกดค าวินจฉัยหรอค าสั่งผ่านทางระบบ e-Filing หรอเมื่อพ้นก าหนดเจ็ดวันนบแตวันที ่
่
ื่
พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งผ่านทางระบบ e-Filing และแจ้งเตือนทาง E-mail address ของผู้ย่นค าขอ
ื
แล้วแตระยะเวลาใดจะสิ้นสุดลงก่อน
่
ั
้
้
ในกรณีที่พนกงานเจ้าหนาที่มีความจ าเป็นจะตองท าหนงสือเพื่อแจ้งค าสั่ง ค า
ั
ื
้
ั
์
ี
วินิจฉัยของพนกงานเจ้าหนาที่ อธิบด หรอคณะกรรมการสิทธิบัตร โดยทางไปรษณียลงทะเบียนตอบ
รบ ให้แจ้งไปยงที่อยที่ผู้ยนค าขอไดให้ไว้ในแบบพิมพ์ค าขอรบสิทธิบัตรหรออนสิทธิบัตร
้
ั
ู่
ั
ุ
ื
ั
ื่
ั
ั
ข้อ ๑๕ ในกรณีที่พนกงานเจ้าหนาที่ไม่สามารถแจ้งค าสั่ง ค าวินจฉัยของพนกงาน
ิ
้
เจ้าหน้าที่ อธิบดี หรือคณะกรรมการสิทธิบัตร ให้ผู้ยื่นค าขอทราบหรือด าเนินการผ่านทาง ระบบ e-Filing และ
แจ้งเตือน ทาง E-mail address ของผู้ยื่นค าขอตามที่ผู้ยื่นค าขอได้ให้ไว้ อันเนื่องมาจากความขัดข้องของ
ิ
ื
ั
ระบบส่งข้อมูลระบบรบข้อมูล หรือเหตอนใด ให้พนักงานเจ้าหนาที่แจ้งค าสั่งหรอค าวินจฉัยดังกล่าวไปยงผู้
ั
ื่
้
ุ
ยื่นค าขอเป็นหนังสือโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับแทนการแจ้งผ่านทางระบบ e-Filing
หมวด ๕
บทเฉพาะกาล
ข้อ ๑๖ ค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร ค าร้องหรือค าขออื่น ๆ ที่ได้ยื่นผ่านทาง
ระบบ e-Filing ตามประกาศกรมทรัพย์สินทางปัญญา เรื่อง ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขส าหรบ
ั
ิ
ื
ื่
ั
์
การยน ค าขอรบสิทธิบัตรหรออนสิทธิบัตร ค ารองหรอค าขออน ๆ ผ่านทางอนเทอรเนต ลงวันที่ ๒๒
็
ุ
ื่
้
ื
มิถุนายน ๒๕๕๘ ก่อนวันที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ และอธิบดียังไม่มีค าสั่งตามมาตรา ๓๓ มาตรา ๖๕
ื
ประกอบมาตรา ๓๓ หรอมาตรา ๖๕ เบญจ แห่งพระราชบัญญัตสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ ให้ถือว่าเป็น
ิ
ิ
ี้
ค าขอที่ไดยนตามประกาศฉบับนโดยอนโลม ให้ดาเนนการขอใบรบรองอิเล็กทรอนิกส์ตามวรรคหน่ง
ุ
ั
ึ
้
ื่
เพื่อใช้ดาเนินการกับค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร ค าร้องหรือค าขออ่น ๆ ของตนผ่านทาง
ื
ระบบ e-Filing ตามประกาศฉบับน ี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
ทศพล ทังสุบุตร
อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา
หน้า | 78
ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
หลักเกณฑ์การพิจารณาลงโทษปรับทางปกครอง
ส าหรับผู้ประกอบธุรกิจให้บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๐
ิ
้
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวย
ี
ิ
ิ
ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ประกอบมาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ แห่งพระราชกฤษฎกาว่า
ด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ คณะกรรมการธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ได้ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการพิจารณาลงโทษปรับทางปกครองดังน ี้
่
ิ
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกวา “ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์เรอง
ื่
ิ
ั
ั
หลักเกณฑ์การพิจารณาลงโทษปรบทางปกครองส าหรบผู้ประกอบธุรกิจให้บรการการช าระเงินทาง
อิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐”
ข้อ ๒ ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง หลักเกณฑ์
ั
ั
การพิจารณาลงโทษปรบทางปกครองส าหรบผู้ประกอบธุรกิจให้บรการการช าระเงินทางอเล็กทรอนิกส์
ิ
ิ
พ.ศ. ๒๕๕๔
ข้อ ๓ ให้ประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์เป็นผู้รักษาการตามประกาศน ี้
ิ
หมวด ๑
บททั่วไป
ข้อ ๔ ในประกาศน ี้
“การพิจารณาลงโทษปรบทางปกครอง” หมายความว่าการดาเนนการที่เกี่ยวกับ
ิ
ั
การพิจารณาลงโทษปรับทางปกครองส าหรับผู้ประกอบธุรกิจให้บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ื
ั
“พนกงานเจ้าหนาที่” หมายความว่า ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยหรอผู ้
้
ิ
้
ี
ู
ซึ่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยแตงตงให้ปฏบัตการตามพระราชกฤษฎกาว่าดวยการควบคุมดแล
่
ั้
ิ
ธุรกิจบริการการ ช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑
“ผู้ถูกกล่าวหา” หมายความว่า ผู้ให้บริการตามที่ก าหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาว่าดวย
้
ิ
ิ
การควบคุมดูแลธุรกิจบรการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณา
ในเบื้องต้นแล้วเห็นว่ามีการกระท าที่มีมูลเข้าข่ายเป็นการกระท าผิดที่มีโทษปรับทางปกครอง
“ผู้ถูกสั่งปรบ” หมายความว่า ผู้กระท าการฝ่าฝืนพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรม
้
ิ
ั
ทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ที่คณะกรรมการมีค าสั่งปรับ
“ค่าปรบ” หมายความว่า เงินค่าปรบทางปกครองที่คณะกรรมการก าหนดให้
ั
ั
ิ
ิ
้
ผู้กระท าการฝ่าฝืนพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ช าระให้แก่
ิ
คณะกรรมการ
หน้า | 79
ั
ข้อ ๕ ในการพิจารณาและมีค าสั่งลงโทษปรบทางปกครอง และการพิจารณา
ุ
ั
้
ี้
ิ
ิ
อทธรณ์ค าสั่งดงกล่าว นอกจากที่ก าหนดไว้ในประกาศนให้นากฎหมายว่าดวยวิธีปฏบัตราชการทาง
ปกครองมาใช้บังคับโดยอนุโลม
ั
ข้อ ๖ การแจ้งข้อกล่าวหา การแจ้งก าหนดนด การแจ้งค าสั่งลงโทษปรบทาง
ั
ปกครอง หรือการอย่างอื่นให้กระท าเป็นหนังสือ
ข้อ ๗ ในกรณีมีเหตุจ าเป็นเร่งด่วนหรือผู้ให้บริการได้แสดงความจ านงให้แจ้งดวยวิธี
้
อื่นการแจ้งข้อกล่าวหา การแจ้งก าหนดนัด การแจ้งค าสั่งลงโทษปรับทางปกครอง หรือการอย่างอื่น จะใช้
วิธีส่งทางโทรสาร จดหมายอเล็กทรอนกส์ หรอวิธีอนตามที่ผู้ให้บรการไดแจ้งความจ านงไว้ก็ได แตตองมี
ิ
ิ
ื่
้
ื
่
้
้
ิ
้
้
ี้
ิ
หลักฐานการส่ง และตองจัดส่งหนงสือแจ้งให้แก่ผู้ให้บรการในทันทีที่อาจกระท าได ในกรณีนให้ถือว่าผู้
ั
ั้
ให้บริการได้รับแจ้งตามวัน เวลาที่ปรากฏในหลักฐานการส่งโทรสาร จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นนน
เว้นแต่จะมีการพิสูจน์ได้ว่าไม่มีการได้รับหรือได้รับก่อนหรือหลังจากนั้น
หมวด ๒
การพิจารณาและการมีค าสั่งลงโทษปรับทางปกครอง
้
ั
้
ข้อ ๘ เมื่อพนกงานเจ้าหนาที่รวบรวมข้อเท็จจรงและพิจารณาในเบื้องตนแล้วเห็น
ิ
ั
ว่าผู้ถูกกล่าวหาใดมีการกระท าที่มีมูลควรจะไดรบโทษปรบทางปกครอง ให้รายงานข้อเท็จจรงพรอมทั้ง
ิ
้
ั
้
เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาตามความในหมวดนี้ต่อไป
ส่วนที่ ๑
การพิจารณาทางปกครอง
ข้อ ๙ การพิจารณาทางปกครองให้รวมถึงการด าเนินการ ดังต่อไปน ี้
(๑) การแสวงหาพยานหลักฐานที่เห็นว่าจ าเป็นแก่การพิสูจน์ข้อเท็จจริง
ั
(๒) การรบฟังพยานหลักฐาน ค าชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหา ความเห็นของพนกงาน
ั
ั
เจ้าหน้าที่คณะกรรมการ หรือพยานบุคคลหรือพยานผู้เชี่ยวชาญที่พนกงานเจ้าหน้าที่ คณะกรรมการ หรือ
ผู้ถูกกล่าวหากล่าวอ้าง
(๓) การขอข้อเท็จจริงหรือความเห็นจากพยานบุคคล หรือพยานผู้เชี่ยวชาญ
(๔) การขอให้ผู้ครอบครองเอกสารส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง
(๕) การออกไปตรวจสถานที่
้
้
ั
่
ผู้ถูกกล่าวหาตองให้ความรวมมือกับพนกงานเจ้าหนาที่และคณะกรรมการในการ
พิสูจน์ข้อเท็จจริงและมีหน้าที่แจ้งพยานหลักฐานที่ตนทราบแก่พนักงานเจ้าหน้าที่และคณะกรรมการ
หน้า | 80
ข้อ ๑๐ เมื่อคณะกรรมการได้รับรายงานจากพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว หากพิจารณา
เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้กระท าผิดให้คณะกรรมการมีค าสั่งยกข้อกล่าวหาแต่ถ้าพิจารณาเห็นว่ามีมูลที่ผู้ถูก
้
ั
ั
กล่าวหาควรจะไดรบโทษปรบทางปกครองให้คณะกรรมการแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบเพื่อ
โต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานของตน
ู่
ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานที่มีอยไม่เพียงพอจะ
ั
พิจารณาให้คณะกรรมการแจ้งให้พนกงานเจ้าหนาที่แสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเตมและรายงานตอ
้
ิ
่
คณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป
ื่
่
้
ั
เมื่อไดรบแจ้งข้อกล่าวหาผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิยนค าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตอ
คณะกรรมการภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
ื่
สิทธิยนค าชี้แจงตามวรรคสามมิให้นามาใช้บังคับในกรณีดงตอไปนเว้นแต ่
ั
ี้
่
คณะกรรมการจะเห็นสมควรปฏิบัติเป็นอย่างอื่น
่
ิ่
่
(๑) เมื่อมีความจ าเป็นเรงดวนหากปล่อยให้เนนช้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหาย
อย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือจะกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ
ิ
(๒) เมื่อเป็นข้อเท็จจรงที่ผู้ถูกกล่าวหาเองไดให้ไว้ในค าชี้แจงหรอในการให้ถ้อยค า
้
ื
ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
(๓) เมื่อโดยสภาพเห็นได้ชัดในตัวว่าการให้โอกาสดังกล่าวไม่อาจกระท าได ้
ข้อ ๑๑ ภายใต้บังคับข้อ ๗ ในการแจ้งข้อกล่าวหา ให้คณะกรรมการแจ้งค าสั่งโดย
ท าเป็นหนังสือโดยมีสาระส าคัญ ดังต่อไปน ี้
(๑) ชื่อผู้ถูกกล่าวหา
้
(๒) การกระท าทั้งหลายที่เข้าข่ายเป็นความผิดที่มีโทษปรับทางปกครอง พรอมทั้ง
ข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ตามสมควรเกี่ยวกับการกระท าดังกล่าว
้
ื
ิ
(๓) บทบัญญัต ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรอข้อก าหนดตามกฎหมายว่าดวย
การควบคุมดแลการประกอบธุรกิจบรการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนกส์ที่เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาฝ่าฝืนไม่
ู
ิ
ิ
ปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ถูกต้อง
ข้อ ๑๒ เมื่อคณะกรรมการได้แจ้งข้อกล่าวหาแล้วผู้ถูกกล่าวหาไม่ชี้แจงข้อกล่าวหา
ิ
ภายในก าหนดเวลา ตามข้อ ๑๐ วรรคสาม หรอเป็นกรณีที่คณะกรรมการเห็นสมควรปฏบัตตามวรรคสี่ให้
ื
ิ
คณะกรรมการพิจารณาพยานหลักฐานประกอบกับค าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา (ถ้ามี) ถ้าเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหา
ไม่ไดกระท าผิด ให้คณะกรรมการมีค าสั่งยกข้อกล่าวหา แตถ้าเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหากระท าผิดให้พิจารณา
่
้
ก าหนดโทษปรับทางปกครองแล้วมีค าสั่งลงโทษปรับทางปกครองต่อไป
ให้คณะกรรมการแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบโดยเร็ว
ข้อ ๑๓ การประชุมของคณะกรรมการตองมีกรรมการมาประชุมอย่างนอยกึ่งหนง ึ่
้
้
จึงจะเป็นองค์ประชุม
ิ
ึ่
การลงมตของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนงให้มีหนงเสียงในการ
ึ่
ี
ลงคะแนน ทั้งน้ ในกรณีที่ไม่ใช่การวินิจฉัยชี้ขาดเพื่อพิจารณาก าหนดโทษปรับทางปกครอง ถ้า
ปรากฏว่าคะแนนเสียงเท่ากันประธานในที่ประชุมอาจออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
หน้า | 81
ส่วนที่ ๒
การก าหนดลงโทษปรับทางปกครอง
ั
ข้อ ๔ ในการพิจารณาโทษปรบทางปกครองที่จะใช้กับผู้ถูกกล่าวหา
๑
คณะกรรมการต้องค านึงถึงปัจจัย ดังต่อไปน ี้
้
(๑) ความผิดเกิดขึ้นโดยความจงใจ หรอความประมาทเลินเล่ออยางรายแรงหรือ
ื
่
ขาดความระมัดระวังตามสมควร
ื
(๒) ประโยชน์ที่ผู้ถูกกล่าวหาหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระท าผิดหรอบุคคลอน
ื่
ได้รับหรือจะได้รับจากการกระท านั้น
(๓) ความเสียหายที่เกิดจากการกระท านั้น
(๔) ระดับโทษปรับทางปกครองที่เคยใช้กับผู้ถูกกล่าวหารายอื่นในความผิดท านอง
เดียวกัน (ถ้ามี)
(๕) ประวัติการถูกลงโทษทางปกครองของผู้ถูกกล่าวหา หรือในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหา
เป็นนิติบุคคล ให้หมายความรวมถึงประวัติการถูกลงโทษปรับทางปกครองของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการ
กระท าของนิติบุคคลที่ถูกกล่าวหานั้น
(๖) ข้อเท็จจริงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ส่วนที่ ๓
ค าสั่งลงโทษปรับทางปกครอง
ข้อ ๑๕ ค าสั่งลงโทษปรับทางปกครองให้ท าเป็นหนังสือระบุ วัน เดอน ปี ที่ท าค าสั่ง
ื
โทษปรับทางปกครองที่ลง รวมทั้งชื่อ ลายมือชื่อประธานกรรมการ
ข้อ ๑๖ ค าสั่งลงโทษปรบทางปกครองตองจัดให้มีเหตผลไว้ดวย และเหตผลนน
ั
ั้
ุ
ุ
้
้
อย่างน้อยต้องประกอบด้วย
(๑) ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระส าคัญ
(๒) ข้อกฎหมายที่อ้างอิง
ุ
ิ
(๓) ข้อพิจารณาและข้อสนบสนนในการใช้ดลพินจ ความในวรรคหนงไม่ใช้บังคับ
ึ่
ุ
ั
กับกรณี ดังต่อไปน ี้
(๑) เหตุผลนั้นเป็นที่รู้กันอยู่แล้วโดยไม่จ าเป็นต้องระบุอีก
(๒) เป็นกรณีที่ต้องรักษาไว้เป็นความลับ
ั
่
่
(๓) เป็นกรณีเรงดวน แตตองให้เหตผลเป็นลายลักษณ์อกษรในเวลาอันควรหากผู้
่
ุ
้
ถูกลงโทษร้องขอค าสั่งลงโทษปรับทางปกครองให้ใช้ตามแบบ ทปค. ๑ ท้ายประกาศน ี้
ข้อ ๑๗ การออกค าสั่งลงโทษปรบทางปกครอง คณะกรรมการอาจมีค าสั่งให้ผู้ถูก
ั
ลงโทษด าเนินการใด ๆ เพื่อแก้ไขให้ถูกต้องหรือเหมาะสมได ้
หน้า | 82
ั้
ข้อ ๑๘ ค าสั่งลงโทษปรับทางปกครองให้มีผลใช้ยันต่อผู้ถูกลงโทษตั้งแต่ขณะที่ผู้นน
ได้รับแจ้งเป็นต้นไป
ส่วนที่ ๔
การอุทธรณ์
ั
ุ
ข้อ ๑๙ การอทธรณ์ค าสั่งลงโทษปรบทางปกครองของคณะกรรมการตามมาตรา
๓๓ มาตรา ๓๔ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ให้ผู้อุทธรณ์ยื่นฟ้องต่อ
ศาลปกครอง
ส่วนที่ ๕
การบังคับโทษปรับทางปกครอง
ั
ข้อ ๒๐ เมื่อถึงก าหนดให้ช าระค่าปรบตามค าสั่งลงโทษปรบทางปกครองแล้วไม่มี
ั
ื
การช าระโดยถูกต้องครบถ้วน ให้หัวหน้าส านักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีหนังสือเตอน
ื
้
ให้ผู้ถูกสั่งปรบช าระภายในเวลาที่ก าหนดแตตองไม่นอยกว่าเจ็ดวัน หนงสือแจ้งเตอนให้ช าระค่าปรับทาง
ั
่
ั
้
ปกครองให้ใช้ตามแบบ ทปค. ๒ ท้ายประกาศน ี้
เมื่อครบก าหนดเวลาให้นาเงินมาช าระตามหนังสือแจ้งเตือนแล้ว ถ้าผู้ถูกสั่งปรับไม่
ื
่
ช าระหรอช าระค่าปรบไม่ครบถ้วน ให้คณะกรรมการฟ้องคดตอศาลปกครอง เพื่อบังคับช าระค่าปรับทาง
ี
ั
ปกครอง
บทเฉพาะกาล
ข้อ ๒๑ บรรดาการด าเนินการเพื่อลงโทษปรับทางปกครองใดที่ได้ด าเนินการไปแล้ว
ิ
ื่
ั
ตามประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ เรอง หลักเกณฑ์การพิจารณาลงโทษปรบทาง
ิ
ปกครองส าหรับผู้ประกอบธุรกิจให้บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้ด าเนินการต่อไป
ตามประกาศฉบับดังกล่าวจนเสร็จสิ้น เว้นแต่การอุทธรณ์ค าสั่งลงโทษปรับทางปกครองและการบังคับโทษ
ปรับทางปกครอง
ั
ี้
่
ข้อ ๒๒ ประกาศนให้ใช้บังคบตงแตวันถัดจากวันประกาศใน ราช
ั้
้
กิจจานเบกษา เป็นตนไป
ุ
ประกาศ ณ วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๐
พิเชฐ ดุรงคเวโรจน ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์
ิ
หน้า | 83
[เอกสารแนบท้าย]
๑. ค าสั่งคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง โทษปรับทางปกครอง (แบบ ทปค.๑)
๒. หนังสือแจ้งเตือนให้ช าระค่าปรับทางปกครอง (แบบ ทปค. ๒)
หน้า | 84