พระราชบัญญัติ
ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๔๔
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๔
เป็นปีที่ ๕๖ ในรัชกาลปัจจุบัน
็
พระบาทสมเดจพระปรมินทรมหาภมิพลอดลย เดช มีพระบรมราชโองการโปรด
ู
ุ
เกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ั
ี
พระราชบัญญตนมีบทบัญญัตบางประการเกี่ยวกับการจ ากัดสิทธิและเสรภาพของ
ี้
ิ
ิ
บุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระท าได ้
โดยอาศัยอ านาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
ุ
ิ
จึงทรงพระกรณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัตขึ้นไว้โดยค าแนะนาและ
ยินยอมของรัฐสภาดังต่อไปน ี้
ี้
ิ
ี
ิ
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตนเรยกว่า “พระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทาง
้
อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔”
ั
ี่
ี้
ิ
่
้
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตนให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนดหนงรอยยสิบวันนบแตวัน
ึ่
ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
์
ี้
มาตรา ๓ พระราชบัญญัตนให้ใช้บังคับแก่ธุรกรรมในทางแพ่งและพาณิชยที่
ิ
ิ
ด าเนินการโดยใช้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่ธุรกรรมที่มีพระราชกฤษฎีกาก าหนดมิให้น าพระราชบัญญัตน ี้
ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนมาใช้บังคับ
ความในวรรคหนึ่งไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงกฎหมายหรอกฎใดที่ก าหนดขึ้นเพื่อ
ื
คุ้มครองผู้บริโภค
ั
ิ
พระราชบัญญัตนให้ใช้บังคับแก่ธุรกรรมในการดาเนนงานของรฐตามที่ก าหนดใน
ี้
ิ
หมวด ๔
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัติน ี้
“ธุรกรรม” หมายความว่า การกระท าใด ๆ ที่เกี่ยวกับกิจกรรมในทางแพ่งและ
ั
พาณิชย์ หรือในการด าเนินงานของรฐตามที่ก าหนดในหมวด ๔
ิ
“อิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า การประยุกต์ใช้วิธีการทางอเล็กตรอน ไฟฟ้าคลื่น
แม่เหล็กไฟฟ้า หรือวิธีอื่นใดในลักษณะคล้ายกัน และให้หมายความรวมถึงการประยุกต์ใช้ วิธีการทางแสง
วิธีการทางแม่เหล็ก หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้วิธีต่าง ๆ เช่นว่านั้น
“ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า ธุรกรรมที่กระท าขึ้นโดยใช้วิธีการทาง
อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
หน้า | 1
“ข้อความ” หมายความว่า เรื่องราว หรือข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะปรากฏในรูปแบบของ
ั
ตวอกษร ตวเลข เสียง ภาพ หรอรปแบบอนใดที่สื่อความหมายไดโดยสภาพของสิ่งนนเองหรอโดยผ่าน
ั้
ื
ั
ั
ื
ู
้
ื่
วิธีการใด ๆ
้
้
ั
ิ
“ข้อมูลอเล็กทรอนกส์” หมายความว่า ข้อความที่ไดสราง ส่ง รบ เก็บรกษา หรอ
ิ
ั
ื
ิ
ิ
้
ิ
ิ
ประมวลผลดวยวิธีการทางอเล็กทรอนกส์ เช่น วิธีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอเล็กทรอนกส์ จดหมาย
อิเล็กทรอนิกส์ โทรเลข โทรพิมพ์ หรือโทรสาร
ิ
ั
ิ
ั
ั
“ลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์” หมายความว่า อกษร อกขระ ตวเลข เสียงหรอ
ื
ู่
ู
้
ิ
ิ
ิ
สัญลักษณ์อนใดที่สรางขึ้นให้อยในรปแบบอเล็กทรอนกส์ซึ่งนามาใช้ประกอบกับข้อมูลอเล็กทรอนกส์
ิ
ื่
ิ
เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับข้อมูลอเล็กทรอนกส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุตวบุคคล
ิ
ั
ิ
ิ
ผู้เป็นเจ้าของลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลอเล็กทรอนกส์นน และเพื่อแสดงว่าบุคคล
ิ
ิ
ั้
ดังกล่าวยอมรับข้อความในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น
ื่
้
“ระบบข้อมูล” หมายความว่า กระบวนการประมวลผลดวยเครองมือ
อิเล็กทรอนิกส์ส าหรับสร้าง ส่ง รับ เก็บรักษา หรือประมวลผลข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
์
ื
์
ั
ื
ั
ั
“การพิสูจนและยนยนตวตน” หมายความว่า กระบวนการพิสูจนและยนยนความ
ถูกต้องของตัวบุคคล
ั
์
ื
ั
ื
“ระบบการพิสูจนและยนยนตวตนทางดจิทัล” หมายความว่า เครอข่ายทาง
ิ
่
ื
ิ
์
ั
ิ
อเล็กทรอนกส์ที่เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างบุคคลใด ๆ หรอหนวยงานของรฐเพื่อประโยชนในการพิสูจน์และ
ยืนยันตัวตน และการท าธุรกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการพิสูจน์และยืนยันตัวตน
ิ
ิ
ิ
“ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอเล็กทรอนกส์อตโนมัต” หมายความว่า โปรแกรม
ั
ื
ี
คอมพิวเตอรหรอวิธการทางอเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอัตโนมัตอน ที่ใช้เพื่อที่จะท าให้เกิดการกระท าหรือ
์
ิ
ิ
ื่
ื
่
ิ
่
ื
ิ
การตอบสนองตอข้อมูลอเล็กทรอนกส์หรอการปฏบัตการใด ๆ ตอระบบข้อมูล ไม่ว่าทั้งหมดหรอ
ิ
ิ
่
ั้
แตบางส่วน โดยปราศจากการตรวจสอบหรอการแทรกแซงโดยบุคคลธรรมดาในแตละครงที่มี
ื
่
การด าเนินการหรือแต่ละครั้งที่ระบบได้สร้างการตอบสนอง
“การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า การส่งหรือรับข้อความ
ิ
ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์โดยใช้มาตรฐานที่ก าหนดไว้ล่วงหน้า
ิ
“ผู้ส่งข้อมูล” หมายความว่า บุคคลซึ่งเป็นผู้ส่งหรอสร้างข้อมูลอิเล็กทรอนกส์ก่อน
ื
้
ื
ั
ั้
ั้
จะมีการเก็บรกษาข้อมูลเพื่อส่งไปตามวิธีการที่ผู้นนก าหนด โดยบุคคลนนอาจจะส่งหรอสรางข้อมูล
ื
อิเล็กทรอนิกส์ด้วยตนเอง หรือมีการส่งหรอสร้างข้อมูลอิเล็กทรอนกส์ในนามหรอแทนบุคคลนนก็ได้ ทั้งน ี้
ิ
ั้
ื
ไม่รวมถึงบุคคลที่เป็นสื่อกลางส าหรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น
“ผู้รับข้อมูล” หมายความว่า บุคคลซึ่งผู้ส่งข้อมูลประสงค์จะส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ให้ และได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น ทั้งนี้ ไม่รวมถึงบุคคลที่เป็นสื่อกลางส าหรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น
“บุคคลที่เป็นสื่อกลาง” หมายความว่า บุคคลซึ่งกระท าการในนามผู้อนในการส่ง
ื่
รบ หรอเก็บรกษาข้อมูลอเล็กทรอนกส์อนใดอนหนงโดยเฉพาะ รวมถึงให้บรการอนที่เกี่ยวกับข้อมูล
ั
ั
ึ่
ื่
ิ
ิ
ิ
ั
ื
ั
อิเล็กทรอนิกส์นั้น
ั
ื่
ั
ื
ื
“ใบรบรอง” หมายความว่า ข้อมูลอเล็กทรอนกส์หรอการบันทึกอนใด ซึ่งยนยน
ิ
ิ
ความเชื่อมโยงระหว่างเจ้าของลายมือชื่อกับข้อมูลส าหรับใช้สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
ั
“เจ้าของลายมือชื่อ” หมายความว่า ผู้ซึ่งถือข้อมูลส าหรบใช้สรางลายมือชื่อ
้
อิเล็กทรอนิกส์และสร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้นในนามตนเองหรือแทนบุคคลอื่น
หน้า | 2
ู่
“คู่กรณีที่เกี่ยวข้อง” หมายความว่า ผู้ซึ่งอาจกระท าการใด ๆ โดยขึ้นอยกับ
ใบรับรองหรือลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
“หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า
ี
(๑) กระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการที่เรยกชื่ออยางอนและมีฐานะเป็นกรม
่
ื่
ราชการส่วนภูมิภาค และราชการส่วนท้องถิ่น
(๒) รัฐวิสาหกิจที่ตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกา
(๓) องค์การมหาชนที่ตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกา
(๔) หน่วยงานของรัฐสภา
(๕) หน่วยงานของศาล ในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับการพิจารณาพิพากษาอรรถคด ี
(๖) องค์กรตามรัฐธรรมนูญ ในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับการวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาท
(๗) องค์กรอิสระที่ตั้งขึ้นตามกฎหมาย
(๘) นตบุคคล คณะบุคคล หรอบุคคลซึ่งมีหนาที่และอานาจในการดาเนนงานของ
้
ิ
ิ
ื
ิ
รัฐไม่ว่าในการใด ๆ
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ั
“ผู้อานวยการ” หมายความว่า ผู้อานวยการส านกงานพัฒนาธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์
ั
ั
“ส านกงาน” หมายความว่า ส านกงานพัฒนาธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ตาม
ิ
ิ
กฎหมายว่าด้วยส านกงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ั
ี
“รัฐมนตร” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติน ี้
มาตรา ๕ บทบัญญัตมาตรา ๑๓ ถึงมาตรา ๒๔ และบทบัญญัตมาตรา ๒๖ ถึง
ิ
ิ
มาตรา ๓๑ จะตกลงกันเป็นอย่างอื่นก็ได ้
มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรกษาการตาม
ั
พระราชบัญญัติน ี้
หมวด ๑
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
มาตรา ๗ ห้ามมิให้ปฏเสธความมีผลผูกพันและการบังคับใช้ทางกฎหมายของ
ิ
ข้อความใดเพียงเพราะเหตุที่ข้อความนั้นอยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
้
ิ
มาตรา ๘ ภายใตบังคับบทบัญญัตแห่งมาตรา ๙ ในกรณีที่กฎหมายก าหนดให้การ
ใดต้องท าเป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็นหนังสือหรือมีเอกสารมาแสดง หรือก าหนดผลทางกฎหมายกรณีไม่ท า
ั
ื
เป็นหนงสือ ไม่มีหลักฐานเป็นหนงสือหรอไม่มีเอกสารมาแสดง ถ้าไดมีการจัดท าข้อความขึ้นเป็นข้อมูล
้
ั
ั้
อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าถึงและน ากลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง ให้ถือว่าข้อความนนได ้
ท าเป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็นหนังสือหรือมีเอกสารมาแสดงตามที่กฎหมายก าหนด
หน้า | 3
ในกรณีที่กฎหมายก าหนดให้ต้องมีการปิดอากรแสตมป์ หากได้มีการช าระเงินแทน
ิ
่
ื
ื่
้
ิ
ิ
หรอดาเนนการอนใดดวยวิธีการทางอเล็กทรอนกส์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่หนวยงานของรฐซึ่ง
ั
เกี่ยวข้องประกาศก าหนด ให้ถือว่าหนังสือ หลักฐานเป็นหนังสือ หรือเอกสาร ซึ่งมีลักษณะเป็นตราสารนน
ั้
ได้มีการปิดอากรแสตมป์และขีดฆ่าตามกฎหมายนั้นแล้ว ในการนี้ในการก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการของ
หน่วยงานของรัฐดังกล่าว คณะกรรมการจะก าหนดกรอบและแนวทางเพื่อเป็นมาตรฐานทั่วไปไว้ด้วยก็ได ้
มาตรา ๙ ในกรณีที่กฎหมายก าหนดให้มีการลงลายมือชื่อ หรอก าหนดผลทาง
ื
กฎหมายกรณีที่ไม่มีการลงลายมือชื่อไว้ ให้ถือว่าได้มีการลงลายมือชื่อแล้ว ถ้า
ั
(๑) ใช้วิธีการที่สามารถระบุตวเจ้าของลายมือชื่อ และสามารถแสดงเจตนาของ
เจ้าของลายมือชื่อเกี่ยวกับข้อความในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และ
(๒) ใช้วิธีการในลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปน ี้
้
(ก) วิธีการที่เชื่อถือไดโดยเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการสร้างหรือ
ื
ส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยค านึงถึงพฤติการณ์แวดล้อมทั้งปวง รวมถึงข้อตกลงใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรอ
ื
ั
(ข) วิธีการอนใดที่สามารถยนยนตวเจ้าของลายมือชื่อและสามารถ
ั
ื่
แสดงเจตนาของเจ้าของลายมือชื่อตาม (๑) ได้ด้วยวิธีการนั้นเองหรือประกอบกับพยานหลักฐานอื่น
วิธีการที่เชื่อถือได้ตามวรรคหนึ่ง (๒) (ก) ให้ค านึงถึง
ั
ุ
ื
(๑) ความมั่นคงและรดกุมของการใช้วิธีการหรออปกรณ์ในการระบุตวบุคคล
ั
สภาพพร้อมใช้งานของทางเลือกในการระบุตัวบุคคล กฎเกณฑ์เกี่ยวกับลายมือชื่อที่ก าหนดไว้ในกฎหมาย
ั
ิ
ิ
ิ
ิ
ระดบความมั่นคงปลอดภยของการใช้ลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ การปฏบัตตามกระบวนการในการระบุ
ั
ั
ั
ื
ั
ั
ตวบุคคลผู้เป็นสื่อกลาง ระดบของการยอมรบหรอไม่ยอมรบ วิธีการที่ใช้ในการระบุตวบุคคลในการ
ั
ท าธุรกรรม วิธีการระบุตัวบุคคล ณ ช่วงเวลาที่มีการท าธุรกรรมและติดต่อสื่อสาร
(๒) ลักษณะ ประเภท หรือขนาดของธุรกรรมที่ท า จ านวนครั้งหรือความสม่ าเสมอ
ในการท าธุรกรรม ประเพณีทางการค้าหรือทางปฏิบัติ ความส าคัญ มูลค่าของธุรกรรมที่ท า หรือ
(๓) ความรัดกุมของระบบการติดต่อสื่อสาร
ให้น าความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับการประทับตราของนิติบุคคลด้วยวิธีการทาง
อิเล็กทรอนิกส์ด้วยโดยอนุโลม
มาตรา ๑๐ ในกรณีที่กฎหมายก าหนดให้น าเสนอหรือเก็บรักษาข้อความใดในสภาพ
ู
ิ
ั
ิ
ื
้
ที่เป็นมาแตเดมอยางเอกสารตนฉบับ ถ้าไดนาเสนอหรอเก็บรกษาในรปข้อมูลอเล็กทรอนกส์ตาม
่
่
ิ
้
หลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าได้มีการน าเสนอหรือเก็บรักษาเป็นเอกสารต้นฉบับตามกฎหมายแล้ว
้
้
(๑) ข้อมูลอเล็กทรอนกส์ไดใช้วิธีการที่เชื่อถือไดในการรกษาความถูกตองของ
ั
ิ
้
ิ
ข้อความตั้งแต่การสร้างข้อความเสร็จสมบูรณ์ และ
(๒) สามารถแสดงข้อความนั้นในภายหลังได ้
้
ความถูกตองของข้อความตาม (๑) ให้พิจารณาถึงความครบถ้วนและไม่มีการ
เปลี่ยนแปลงใดของข้อความ เว้นแตการรบรองหรอบันทึกเพิ่มเตม หรอการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่อาจจะ
่
ั
ื
ิ
ื
เกิดขึ้นได้ตามปกติในการติดต่อสื่อสาร การเก็บรักษา หรือการแสดงข้อความซึ่งไม่มีผลต่อความถูกต้องของ
ข้อความนั้น
ั
ิ
ในการวินจฉัยความนาเชื่อถือของวิธีการรกษาความถูกตองของข้อความตาม (๑)
้
่
ให้พิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งปวง รวมทั้งวัตถุประสงค์ของการสร้างข้อความนั้น
หน้า | 4
ิ
ิ
ในกรณีที่มีการท าสิ่งพิมพ์ออกของข้อมูลอเล็กทรอนกส์ตามวรรคหนงส าหรบใช้
ั
ึ่
้
ิ
ิ
้
ั้
ิ
อางองข้อความของข้อมูลอเล็กทรอนกส์ หากสิ่งพิมพ์ออกนนมีข้อความถูกตองครบถ้วนตรงกับข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์ และมีการรับรองสิ่งพิมพ์ออกโดยหน่วยงานที่มีอ านาจตามที่คณะกรรมการประกาศก าหนด
แล้ว ให้ถือว่าสิ่งพิมพ์ออกดังกล่าวใช้แทนต้นฉบับได ้
ั
มาตรา ๑๑ ห้ามมิให้ปฏเสธการรบฟังข้อมูลอเล็กทรอนกส์เป็นพยานหลักฐานใน
ิ
ิ
ิ
กระบวนการพิจารณาตามกฎหมายทั้งในคดแพ่ง คดอาญา หรอคดอนใด เพียงเพราะเหตว่าเป็นข้อมูล
ื่
ื
ี
ี
ี
ุ
อิเล็กทรอนิกส์
ในการชั่งน้ าหนักพยานหลักฐานว่าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์จะเชื่อถือได้หรอไม่เพียงใด
ื
้
ั้
ื
นนให้พิเคราะห์ถึงความนาเชื่อถือของลักษณะหรอวิธีการที่ใช้สราง เก็บรกษา หรอสื่อสารข้อมูล
ั
ื
่
ั
อเล็กทรอนกส์ ลักษณะหรอวิธีการเก็บรกษา ความครบถ้วน และไม่มีการเปลี่ยนแปลงของข้อความ
ื
ิ
ิ
ลักษณะ หรือวิธีการที่ใช้ในการระบุหรือแสดงตัวผู้ส่งข้อมูล รวมทั้งพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งปวง
ให้น าความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับสิ่งพิมพ์ออกของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด้วย
้
ิ
มาตรา ๑๒ ภายใตบังคับบทบัญญัตมาตรา ๑๐ ในกรณีที่กฎหมายก าหนดให้เก็บ
รักษาเอกสารหรือข้อความใด ถ้าได้เก็บรักษาในรูปข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ ให้ถือว่า
ั
ได้มีการเก็บรกษาเอกสารหรือข้อความตามที่กฎหมายต้องการแล้ว
(๑) ข้อมูลอเล็กทรอนกส์นนสามารถเข้าถึงและนากลับมาใช้ไดโดยความหมายไม่
ิ
ั้
ิ
้
เปลี่ยนแปลง
้
ิ
ั้
(๒) ได้เก็บรักษาข้อมูลอิเล็กทรอนกส์นนให้อยู่ในรูปแบบที่เป็นอยู่ในขณะที่สรางส่ง
ั
้
้
ู
ื
ู่
ั
ิ
ั้
ิ
้
หรอไดรบข้อมูลอเล็กทรอนกส์นน หรออยในรปแบบที่สามารถแสดงข้อความที่สราง ส่ง หรอไดรบให้
ื
ื
ปรากฏอย่างถูกต้องได้ และ
(๓) ไดเก็บรกษาข้อความส่วนที่ระบุถึงแหล่งก าเนด ตนทาง และปลายทางของ
้
ิ
ั
้
ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนวันและเวลาที่ส่งหรือได้รับข้อความดังกล่าว ถ้ามี
ความในวรรคหนง มิให้ใช้บังคับกับข้อความที่ใช้เพียงเพื่อวัตถุประสงค์ในการส่ง
ึ่
หรือรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบในการเก็บรักษาเอกสารหรือข้อความใด อาจก าหนด
ี่
ี
ั้
ั
้
ิ
หลักเกณฑ์รายละเอยดเพิ่มเตมเกยวกับการเก็บรกษาเอกสารหรอข้อความนนได เท่าที่ไม่ขัดหรอแย้งกับ
ื
ื
บทบัญญัติในมาตรานี้
มาตรา ๑๒/๑ ให้นาบทบัญญัตในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ และมาตรา ๑๒ มาใช้
ิ
ิ
บังคับกับเอกสารหรอข้อความที่ไดมีการจัดท าหรอแปลงให้อยในรปของข้อมูลอเล็กทรอนกส์ในภายหลัง
ื
ื
้
ิ
ู่
ู
ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ และการเก็บรักษาเอกสารและข้อความดังกล่าวด้วยโดยอนุโลม
การจัดท าหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตาม
วรรคหนึ่งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการก าหนด
มาตรา ๑๓ ค าเสนอหรือค าสนองในการท าสัญญาอาจท าเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ก็
้
ั้
ื
ิ
ุ
ได และห้ามมิให้ปฏเสธการมีผลทางกฎหมายของสัญญาเพียงเพราะเหตที่สัญญานนไดท าค าเสนอหรอ
้
ค าสนองเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
หน้า | 5
ิ
ิ
มาตรา ๑๓/๑ การเสนอเพื่อท าสัญญาผ่านการตดตอสื่อสารทางอเล็กทรอนกส์
ิ
่
่
ี
ครงเดยวหรอหลายครง ซึ่งไม่ไดส่งถึงบุคคลใดโดยเฉพาะเจาะจง แตบุคคลทั่วไปที่ใช้ระบบข้อมูลนน
ั้
ื
ั้
้
ั้
้
้
้
สามารถเข้าถึงได รวมถึงการเสนอโดยให้ระบบข้อมูลสามารถโตตอบไดโดยอตโนมัต ในการท าค าสั่งผ่าน
ิ
ั
ระบบข้อมูลให้ถือเป็นค าเชิญชวนเพื่อท าค าเสนอ เว้นแต่การเสนอเพื่อท าสัญญาระบุได้โดยแจ้งชัดถึงเจตนา
ของบุคคลที่ท าการเสนอที่จะผูกพันหากมีการสนองรับ
มาตรา ๑๓/๒ ห้ามมิให้ปฏเสธความสมบูรณ์หรอการบังคับใช้ของสัญญาที่ท าโดย
ิ
ื
ิ
ิ
การโตตอบระหว่างระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอเล็กทรอนกส์อตโนมัตกับบุคคลธรรมดา หรอระหว่าง
ื
้
ิ
ั
้
ิ
ิ
ิ
ุ
ั
ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอเล็กทรอนกส์อตโนมัตดวยกัน เพียงเพราะเหตที่ไม่มีบุคคลธรรมดาเข้าไป
เกี่ยวข้องในการดาเนนการในแตละครงที่กระท าโดยระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอเล็กทรอนกส์อัตโนมัต ิ
่
ั้
ิ
ิ
ิ
หรือในผลแห่งสัญญา
มาตรา ๑๔ ในระหว่างผู้ส่งข้อมูลและผู้รับข้อมูล การแสดงเจตนาหรือค าบอกกล่าว
อาจท าเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ก็ได ้
มาตรา ๑๕ บุคคลใดเป็นผู้ส่งข้อมูลไม่ว่าจะเป็นการส่งโดยวิธีใด ให้ถือว่าข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์เป็นของผู้นั้น
ในระหว่างผู้ส่งข้อมูลและผู้รบข้อมูล ให้ถือว่าเป็นข้อมูลอเล็กทรอนกส์ของผู้ส่ง
ิ
ั
ิ
ข้อมูล หากข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้ส่งโดย
ั้
ิ
ิ
(๑) บุคคลผู้มีอานาจกระท าการแทนผู้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลอเล็กทรอนกส์นน
หรือ
ื
(๒) ระบบข้อมูลที่ผู้ส่งข้อมูลหรอบุคคลผู้มีอานาจกระท าการแทนผู้ส่งข้อมูลได ้
ก าหนดไว้ล่วงหน้าให้สามารถท างานได้โดยอัตโนมัต ิ
ั
มาตรา ๑๖ ผู้รบข้อมูลชอบที่จะถือว่าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เป็นของผู้ส่งข้อมูลและ
ชอบที่จะด าเนินการไปตามข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้ ถ้า
ื
ั
้
(๑) ผู้รบข้อมูลไดตรวจสอบโดยสมควรตามวิธีการที่ผู้ส่งข้อมูลไดตกลงหรอผูกพัน
้
ตนไว้ว่าเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ส่งข้อมูล หรือ
ั้
ั
ิ
้
ั
ิ
(๒) ข้อมูลอเล็กทรอนกส์ที่ผู้รบข้อมูลไดรบนนเกิดจากการกระท าของบุคคลซึ่งใช้
้
ิ
ั้
ู้
วิธีการที่ผู้ส่งข้อมูลใช้ในการแสดงว่าข้อมูลอิเล็กทรอนกส์นั้นเป็นของผู้ส่งข้อมูล ซึ่งบุคคลนนไดล่วงรโดย
อาศัยความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลนั้นกับผู้ส่งข้อมูลหรือผู้มีอ านาจกระท าการแทนผู้ส่งข้อมูล
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับ ถ้า
้
ั
ั้
(๑) ในขณะนนผู้รบข้อมูลไดรบแจ้งจากผู้ส่งข้อมูลว่าข้อมูลอเล็กทรอนกส์ที่ผู้รบ
ิ
ั
ั
ิ
้
ข้อมูลไดรบนนมิใช่ของผู้ส่งข้อมูล และในขณะเดยวกันผู้รบข้อมูลมีเวลาพอสมควรที่จะตรวจสอบ
ั
ั
ี
ั้
ข้อเท็จจริงตามที่ได้รับแจ้งนั้น หรือ
้
ั
(๒) กรณีตามวรรคหนง (๒) เมื่อผู้รบข้อมูลไดรหรอควรจะไดรว่าข้อมูล
ู้
ื
้
ึ่
ู้
อิเล็กทรอนิกส์นั้นไม่ใช่ของผู้ส่งข้อมูล หากผู้รับข้อมูลได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร หรือด าเนินการตาม
วิธีการที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนแล้ว
หน้า | 6
ื
มาตรา ๑๗ ในกรณีตามมาตรา ๑๕ หรอมาตรา ๑๖ วรรคหนง ในระหว่างผู้ส่ง
ึ่
ั
ั้
้
ั
ิ
ิ
้
ั
ข้อมูลและผู้รบข้อมูล ผู้รบข้อมูลมีสิทธิถือว่าข้อมูลอเล็กทรอนกส์ที่ไดรบนนถูกตองตามเจตนาของผู้ส่ง
ู้
ข้อมูลและสามารถดาเนนการไปตามข้อมูลอิเล็กทรอนกส์นนได เว้นแตผู้รบข้อมูลไดรหรอควรจะไดรว่า
ิ
ั้
้
้
่
ั
ู้
ิ
้
ื
ิ
้
ั
ข้อมูลอเล็กทรอนกส์ที่ไดรบนนมีข้อผิดพลาดอันเกิดจากการส่ง หากผู้รบข้อมูลไดใช้ความระมัดระวังตาม
ั้
ั
ิ
้
สมควรหรือด าเนินการตามวิธีการที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนแล้ว
มาตรา ๑๗/๑ ในกรณีที่มีการลงข้อมูลผิดพลาดโดยบุคคลธรรมดาและส่งผ่าน
ื่
ั
ิ
ิ
ิ
ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอเล็กทรอนกส์อตโนมัตของผู้อน และระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทาง
ั
ั
ั้
ิ
ื
ิ
ั
ิ
อเล็กทรอนกส์อตโนมัตนนไม่มีช่องทางให้บุคคลดงกล่าวแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น บุคคลดงกล่าวหรอ
ผู้แทนมีสิทธิที่จะถอนการแสดงเจตนาในส่วนที่เกิดจากการลงข้อมูลผิดพลาดได้ หาก
้
ึ่
ั
(๑) บุคคลดงกล่าวหรอผู้แทนไดแจ้งให้อกฝ่ายหนงทราบถึงข้อผิดพลาดโดยพลัน
ี
ื
ั้
้
หลังจากที่ตนไดรถึงข้อผิดพลาดนน และแสดงให้เห็นว่าไดส่งข้อมูลผิดพลาดผ่านระบบแลกเปลี่ยนข้อมูล
้
ู้
ทางอิเล็กทรอนิกส์อัตโนมัติ และ
ื
ั
์
้
้
ื
(๒) บุคคลดงกล่าวหรอผู้แทนไม่ไดใช้หรอไดรบประโยชนใด ๆ จากสินค้า บรการ
ิ
ั
หรือสิ่งอื่นใดอย่างมีนัยส าคัญจากอีกฝ่ายหนึ่ง
่
ิ
ิ
มาตรา ๑๘ ผู้รบข้อมูลชอบที่จะถือว่าข้อมูลอเล็กทรอนกส์ที่ไดรบแตละชุดเป็น
ั
้
ั
่
ิ
ิ
้
ข้อมูลที่แยกจากกัน และสามารถดาเนนการไปตามข้อมูลอเล็กทรอนกส์แตละชุดนนได เว้นแตข้อมูล
ิ
ั้
่
ิ
ั
ื
อเล็กทรอนกส์ชุดนนจะซ้ ากับข้อมูลอเล็กทรอนิกส์อีกชุดหนึ่ง และผู้รบข้อมูลไดรหรอควรจะไดรว่าข้อมูล
ู้
้
้
ิ
ั้
ู้
ิ
อิเล็กทรอนิกส์นั้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซ้ า หากผู้รับข้อมูลได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรหรือด าเนินการ
ตามวิธีการที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนแล้ว
ิ
้
มาตรา ๑๙ ในกรณีที่ตองมีการตอบแจ้งการรบข้อมูลอเล็กทรอนกส์ ไม่ว่า
ั
ิ
ิ
ผู้ส่งข้อมูลได้ร้องขอหรือตกลงกับผู้รับข้อมูลไว้กอนหรือขณะที่ส่งข้อมูลอิเล็กทรอนกส์หรือปรากฏในข้อมูล
่
อิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปน ี้
(๑) ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลมิได้ตกลงให้ตอบแจ้งการรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบ
หรือวิธีการใดโดยเฉพาะ การตอบแจ้งการรับอาจท าได้ด้วยการติดต่อสื่อสารจากผู้รับข้อมูล ไม่ว่าโดยระบบ
ื
ข้อมูลที่ท างานโดยอัตโนมัติหรอโดยวิธอื่นใด หรือด้วยการกระท าใด ๆ ของผู้รับข้อมูลซึ่งเพียงพอจะแสดง
ี
ต่อผู้ส่งข้อมูลว่าผู้รับข้อมูลได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นแล้ว
ิ
(๒) ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลก าหนดเงื่อนไขว่าจะถือว่ามีการส่งข้อมูลอเล็กทรอนกส์
ิ
ั
ั
ิ
ตอเมื่อไดรบการตอบแจ้งการรบจากผู้รบข้อมูล ให้ถือว่ายงไม่มีการส่งข้อมูลอเล็กทรอนกส์จนกว่าผู้ส่ง
่
ั
้
ิ
ั
ข้อมูลจะได้รับการตอบแจ้งการรับแล้ว
(๓) ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลมิได้ก าหนดเงื่อนไขตามความใน (๒) และผู้ส่งข้อมูลมิไดรบ
้
ั
ื
ื
ั้
ั
การตอบแจ้งการรบนนภายในเวลาที่ก าหนดหรอตกลงกัน หรอภายในระยะเวลาอันสมควรในกรณีที่มิได ้
ก าหนดหรือตกลงเวลาไว้
้
(ก) ผู้ส่งข้อมูลอาจส่งค าบอกกล่าวไปยงผู้รบข้อมูลว่าตนยงมิไดรบการ
ั
ั
ั
ั
ตอบแจ้งการรับและก าหนดระยะเวลาอันสมควรให้ผู้รับข้อมูลตอบแจ้งการรับ และ
(ข) หากผู้ส่งข้อมูลมิได้รับการตอบแจ้งการรับภายในระยะเวลาตาม (ก)
้
ิ
ิ
เมื่อผู้ส่งข้อมูลบอกกล่าวแก่ผู้รับข้อมูลแล้ว ผู้ส่งข้อมูลชอบที่จะถือว่าข้อมูลอเล็กทรอนกส์นั้นมิไดมีการส่ง
เลยหรือผู้ส่งข้อมูลอาจใช้สิทธิอื่นใดที่ผู้ส่งข้อมูลมีอยู่ได ้
หน้า | 7
มาตรา ๒๐ ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลไดรบการตอบแจ้งการรบจากผู้รบข้อมูลให้
ั
ั
ั
้
้
ั
ั
ั
ิ
ิ
สันนษฐานว่าผู้รบข้อมูลไดรบข้อมูลอเล็กทรอนกส์ที่เกี่ยวข้องแล้ว แตข้อสันนษฐานดงกล่าวมิให้ถือว่า
ิ
ิ
่
ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้รับข้อมูลได้รับนั้นถูกต้องตรงกันกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ส่งข้อมูลได้ส่งมา
ิ
ั
ิ
ั้
มาตรา ๒๑ ในกรณีที่ปรากฏในการตอบแจ้งการรบข้อมูลอเล็กทรอนกส์นนเองว่า
้
ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้รับข้อมูลได้รับเป็นไปตามข้อก าหนดทางเทคนิคที่ผู้ส่งข้อมูลและผู้รับข้อมูลไดตกลง
ิ
้
ั้
ื
ู่
ิ
หรอระบุไว้ในมาตรฐานซึ่งใช้บังคับอย ให้สันนษฐานว่าข้อมูลอเล็กทรอนกส์ที่ส่งไปนนไดเป็นไปตาม
ิ
ข้อก าหนดทางเทคนิคทั้งหมดแล้ว
ิ
มาตรา ๒๒ การส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้ถือว่าได้มีการส่งเมื่อข้อมูลอิเล็กทรอนกส์
นั้นได้เข้าสู่ระบบข้อมูลที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของผู้ส่งข้อมูล
่
ิ
ั
ิ
มาตรา ๒๓ การรบข้อมูลอิเล็กทรอนกส์ให้ถือว่ามีผลนับแตเวลาที่ข้อมูลอเล็กทรอ
นิกส์นั้นได้เข้าสู่ระบบข้อมูลของผู้รับข้อมูล
หากผู้รับข้อมูลได้ก าหนดระบบข้อมูลที่ประสงค์จะใช้ในการรับข้อมูลอิเล็กทรอนกส์
ิ
่
ิ
ิ
ั
ั้
ไว้โดยเฉพาะให้ถือว่าการรบข้อมูลอเล็กทรอนกส์มีผลนับแตเวลาที่ข้อมูลอิเล็กทรอนกส์นนไดเข้าสู่ระบบ
้
ิ
้
ั
ข้อมูลที่ผู้รบข้อมูลไดก าหนดไว้นน แตถ้าข้อมูลอิเล็กทรอนกส์ดงกล่าวไดส่งไปยงระบบข้อมูลอื่นของผู้รับ
ั
ั
้
ิ
่
ั้
ั
ิ
่
ข้อมูลซึ่งมิใช่ระบบข้อมูลที่ผู้รบข้อมูลก าหนดไว้ ให้ถือว่าการรบข้อมูลอิเล็กทรอนกส์มีผลนบแตเวลาที่ได ้
ั
ั
เรียกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์จากระบบข้อมูลนั้น
ู่
ั้
ความในมาตรานให้ใช้บังคับแม้ระบบข้อมูลของผู้รับข้อมูลตงอยในสถานที่อีกแห่ง
ี้
หนึ่งต่างหากจากสถานที่ที่ถือว่าผู้รับข้อมูลได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรา ๒๔
มาตรา ๒๔ การส่งหรือการรับข้อมูลอิเล็กทรอนกส์ ให้ถือว่าได้ส่ง ณ ที่ท าการงาน
ิ
ของผู้ส่งข้อมูล หรือได้รับ ณ ที่ท าการงานของผู้รับข้อมูล แล้วแต่กรณี
ื
ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลหรอผู้รับข้อมูลมีที่ท าการงานหลายแห่ง ให้ถือเอาที่ท าการงาน
ั้
์
ที่เกี่ยวข้องมากที่สุดกับธุรกรรมนนเป็นที่ท าการงานเพื่อประโยชนตามวรรคหนึ่ง แต่ถ้าไม่สามารถก าหนด
ั
ได้ว่าธุรกรรมนั้นเกี่ยวข้องกับที่ท าการงานแห่งใดมากที่สุด ให้ถือเอาส านักงานใหญ่เป็นสถานที่ที่ได้รบหรอ ื
ส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น
ั
ื
ในกรณีที่ไม่ปรากฏที่ท าการงานของผู้ส่งข้อมูลหรอผู้รบข้อมูล ให้ถือเอาถิ่นที่อย ู่
ปกติเป็นสถานที่ที่ส่งหรือได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ความในมาตรานี้มิให้ใช้บังคับกับการส่งและการรับข้อมูลอิเล็กทรอนกส์โดยวิธีการ
ิ
ทางโทรเลขและโทรพิมพ์ หรือวิธีการสื่อสารอื่นตามที่ก าหนดในพระราชกฤษฎีกา
ั
ิ
ิ
้
มาตรา ๒๕ ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ใดที่ไดกระท าตามวิธีการแบบปลอดภยที่
ก าหนดในพระราชกฤษฎีกา ให้สันนิษฐานว่าเป็นวิธีการที่เชื่อถือได ้
หน้า | 8
หมวด ๒
ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
ิ
มาตรา ๒๖ ลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ที่มีลักษณะดงตอไปนให้ถือว่าเป็นลายมือชื่อ
ี้
ั
่
ิ
อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได ้
้
(๑) ข้อมูลส าหรบใช้สรางลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์นนไดเชื่อมโยงไปยงเจ้าของ
ิ
ั
้
ิ
ั้
ั
ลายมือชื่อโดยไม่เชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่นภายใต้สภาพที่น ามาใช้
ิ
(๒) ในขณะสรางลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์นน ข้อมูลส าหรบใช้สรางลายมือชื่อ
้
ิ
ั้
ั
้
อิเล็กทรอนิกส์อยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าของลายมือชื่อโดยไม่มีการควบคุมของบุคคลอื่น
ิ
้
ิ
้
(๓) การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกิดแก่ลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ นับแต่เวลาที่ไดสราง
ขึ้นสามารถจะตรวจพบได้
(๔) ในกรณีที่กฎหมายก าหนดให้การลงลายมือชื่อเป็นไปเพื่อรับรองความครบถ้วน
และไม่มีการเปลี่ยนแปลงของข้อความ การเปลี่ยนแปลงใดแก่ข้อความนั้นสามารถตรวจพบได้นับแต่เวลาที่
ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
บทบัญญัติในวรรคหนึ่ง ไม่เป็นการจ ากัดว่าไม่มีวิธีการอื่นใดที่แสดงได้ว่าเป็นลายมือ
ชื่ออเล็กทรอนกส์ที่เชื่อถือได หรอการแสดงพยานหลักฐานใดเกี่ยวกับความไม่นาเชื่อถือของลายมือชื่อ
่
ื
ิ
ิ
้
อิเล็กทรอนิกส์
มาตรา ๒๗ ในกรณีมีการใช้ข้อมูลส าหรับใช้สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อสราง
้
ิ
ลายมือชื่ออเล็กทรอนิกส์ที่จะมีผลตามกฎหมาย เจ้าของลายมือชื่อต้องด าเนินการดังต่อไปน ี้
(๑) ใช้ความระมัดระวังตามสมควรเพื่อมิให้มีการใช้ข้อมูลส าหรับใช้สร้างลายมือชื่อ
อิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต
้
ั
(๒) แจ้งให้บุคคลที่คาดหมายไดโดยมีเหตอนควรเชื่อว่าจะกระท าการใดโดยขึ้นอย ู่
ุ
กับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือให้บริการเกี่ยวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทราบโดยมิชักช้า เมื่อ
ื
ู้
้
ั
(ก) เจ้าของลายมือชื่อรหรอควรไดรว่าข้อมูลส าหรบใช้สรางลายมือชื่อ
้
ู้
ิ
ิ
อเล็กทรอนกส์นนสูญหาย ถูกท าลาย ถูกแก้ไข ถูกเปิดเผยโดยมิชอบ หรอถูกล่วงรโดยไม่สอดคล้องกับ
ื
ั้
ู้
วัตถุประสงค์
(ข) เจ้าของลายมือชื่อรจากสภาพการณ์ที่ปรากฏว่ากรณีมีความเสี่ยง
ู้
มากพอที่ข้อมูลส าหรับใช้สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ สูญหาย ถูกท าลาย ถูกแก้ไข ถูกเปิดเผยโดยมิชอบ
หรือถูกล่วงรู้โดยไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
(๓) ในกรณีมีการออกใบรับรองสนับสนุนการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนกส์ จะต้องใช้
ิ
้
่
ความระมัดระวังตามสมควรให้แนใจในความถูกตองและสมบูรณ์ของการแสดงสาระส าคัญทั้งหมด ซึ่ง
กระท าโดยเจ้าของลายมือชื่อเกี่ยวกับใบรับรองนั้นตลอดอายุใบรับรอง หรือตามที่มีการก าหนดในใบรับรอง
มาตรา ๒๘ ในกรณีมีการให้บรการออกใบรบรองเพื่อสนบสนนลายมือชื่อ
ั
ิ
ั
ุ
ิ
อเล็กทรอนกส์ให้มีผลทางกฎหมายเสมือนหนงลงลายมือชื่อ ผู้ให้บรการออกใบรบรองตองดาเนนการ
ิ
ิ
ึ่
ั
้
ิ
ดังต่อไปน ี้
(๑) ปฏิบัติตามแนวนโยบายและแนวปฏิบัติที่ตนได้แสดงไว้
หน้า | 9
(๒) ใช้ความระมัดระวังตามสมควรให้แน่ใจในความถูกตองและความสมบูรณ์ของ
้
ื
ั
ั้
ุ
ั
้
การแสดงสาระส าคัญทั้งหมดที่ตนไดกระท าเกี่ยวกับใบรบรองนนตลอดอายใบรบรอง หรอตามที่มีการ
ก าหนดในใบรับรอง
(๓) จัดให้มีวิธีการในการเข้าถึงโดยสมควร ให้คู่กรณีที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบ
ข้อเท็จจริงในการแสดงสาระส าคัญทั้งหมดจากใบรับรองได้ ในเรื่องดังต่อไปน ี้
(ก) การระบุผู้ให้บริการออกใบรับรอง
(ข) เจ้าของลายมือชื่อซึ่งระบุในใบรบรองไดควบคุมข้อมูลส าหรบใช้
้
ั
ั
สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในขณะมีการออกใบรับรอง
ิ
้
(ค) ข้อมูลส าหรบใช้สรางลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์มีผลใช้ไดในขณะ
้
ั
ิ
หรือก่อนที่มีการออกใบรับรอง
(๔) จัดให้มีวิธีการเข้าถึงโดยสมควร ให้คู่กรณีที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบกรณี
ดังต่อไปนี้จากใบรับรองหรือจากวิธีอื่น
(ก) วิธีการที่ใช้ในการระบุตัวเจ้าของลายมือชื่อ
ั
(ข) ข้อจ ากัดเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และคุณค่าที่มีการน าข้อมูลส าหรบใช้
สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับรอง
(ค) ข้อมูลส าหรบใช้สรางลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์มีผลสมบูรณ์ใช้ได ้
ั
้
ิ
ิ
และไม่สูญหาย ถูกท าลาย ถูกแก้ไข ถูกเปิดเผยโดยมิชอบ หรือถูกล่วงรู้โดยไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
(ง) ข้อจ ากัดเกี่ยวกับขอบเขตความรับผิดที่ผู้ให้บริการออกใบรับรองได ้
ระบุไว้
ุ
(จ) การมีวิธีการให้เจ้าของลายมือชื่อส่งค าบอกกล่าวเมื่อมีเหตตาม
มาตรา ๒๗ (๒)
(ฉ) การมีบริการเกี่ยวกับการเพิกถอนใบรับรองที่ทันการ
ิ
ั้
้
ิ
(๕) ในกรณีที่มีบรการตาม (๔) (จ) บรการนนตองมีวิธีการที่ให้เจ้าของลายมือชื่อ
สามารถแจ้งได้ตามหลักเกณฑ์ที่ก าหนดตามมาตรา ๒๗ (๒) และในกรณีที่มีบริการตาม (๔) (ฉ) บริการนน
ั้
ต้องสามารถเพิกถอนใบรับรองได้ทันการ
(๖) ใช้ระบบ วิธีการ และบุคลากรที่เชื่อถือได้ในการให้บริการ
มาตรา ๒๙ ในการพิจารณาความเชื่อถือไดของระบบ วิธีการ และบุคลากรตาม
้
มาตรา ๒๘ (๖) ให้ค านึงถึงกรณีดังต่อไปน ี้
(๑) สถานภาพทางการเงิน บุคลากร และสินทรัพย์ที่มีอย ู่
(๒) คุณภาพของระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร ์
ั
ั
(๓) วิธีการออกใบรบรอง การขอใบรบรอง และการเก็บรกษาข้อมูลการให้บริการ
ั
นั้น
(๔) การจัดให้มีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเจ้าของลายมือชื่อ ที่ระบุในใบรับรองและผู้ที่
อาจคาดหมายได้ว่าจะเป็นคู่กรณีที่เกี่ยวข้อง
(๕) ความสม่ าเสมอและขอบเขตในการตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบอิสระ
ั
(๖) องค์กรที่ให้การรับรองหรือให้บริการออกใบรับรองเกี่ยวกบการปฏิบัติหรอการ
ื
มีอยู่ของสิ่งที่กล่าวมาใน (๑) ถึง (๕)
(๗) กรณีใดๆ ที่คณะกรรมการประกาศก าหนด
หน้า | 10
มาตรา ๓๐ คู่กรณีที่เกี่ยวข้องต้องด าเนินการ ดังต่อไปน ี้
ิ
(๑) ดาเนนการตามสมควรในการตรวจสอบความนาเชื่อถือของลายมือชื่อ
่
อิเล็กทรอนิกส์
ั
ิ
(๒) ในกรณีลายมือชื่ออเล็กทรอนิกส์มีใบรบรอง ตองมีการดาเนนการตามสมควร
้
ิ
ดังน ี้
(ก) ตรวจสอบความสมบูรณ์ของใบรับรอง การพักใช้ หรือการเพิกถอน
ใบรับรอง และ
ั
(ข) ปฏิบัติตามข้อจ ากัดใด ๆ ที่เกี่ยวกับใบรบรอง
ิ
ิ
ั
มาตรา ๓๑ ใบรบรองหรือลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ให้ถือว่ามีผลทางกฎหมายโดย
ไม่ต้องค านึงถึง
(๑) สถานที่ออกใบรับรองหรือสถานที่สร้างหรือใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ
(๒) สถานที่ท าการงานของผู้ออกใบรับรองหรือเจ้าของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
่
ั
ใบรบรองที่ออกในตางประเทศให้มีผลตามกฎหมายในประเทศเช่นเดยวกับ
ี
ใบรับรองที่ออกในประเทศ หากการออกใบรับรองดังกล่าวได้ใช้ระบบที่เชื่อถือได้ไม่น้อยกว่าระบบที่เชื่อถือ
ได้ตามพระราชบัญญัติน ี้
ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างหรือใช้ในต่างประเทศให้ถือว่ามีผลตามกฎหมายใน
ิ
ิ
้
้
ื
ื
ประเทศ เช่นเดยวกับลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ที่สรางหรอใช้ในประเทศ หากการสรางหรอใช้ลายมือชื่อ
ี
อิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวได้ใช้ระบบที่เชื่อถือได้ไม่น้อยกว่าระบบที่เชื่อถือได้ตามพระราชบัญญัติน ี้
ิ
ื
ั
้
ิ
ในการพิจารณาว่าใบรบรองหรอลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ใดมีความเชื่อถือไดตาม
วรรคสองหรือวรรคสาม ให้ค านึงถึงมาตรฐานระหว่างประเทศและปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย
หมวด ๓
ธุรกิจบริการเกยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์
ี่
ิ
ิ
มาตรา ๓๒ บุคคลยอมมีสิทธิประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทาง
่
อเล็กทรอนกส์ แตในกรณีจ าเป็นเพื่อรกษาความมั่นคงทางการเงินและการพาณิชย หรอเพื่อประโยชน์ใน
์
ื
ั
ิ
่
ิ
่
การเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและยอมรับในระบบข้อมูลอิเล็กทรอนกส์ หรือเพื่อป้องกันความเสียหายตอ
ิ
ิ
ี
สาธารณชน ให้มีการตราพระราชกฤษฎกาก าหนดให้การประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ใดเป็นกิจการที่ต้องแจ้งให้ทราบ ต้องขึ้นทะเบียน หรือต้องได้รับใบอนุญาตก่อน แล้วแต่กรณี
้
ั
ื
้
ในการก าหนดให้กรณีใดตองแจ้งให้ทราบ ตองขึ้นทะเบียน หรอตองไดรบ
้
้
ุ
ึ่
ใบอนญาตตามวรรคหนง ให้ก าหนดโดยพิจารณาจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจนั้น
ประกอบกับความเหมาะสมในการควบคุมดแลและการป้องกันความเสียหายตามระดบความรนแรงของ
ู
ั
ุ
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจดังกล่าว
หน้า | 11
ั
ี้
ในการน จะก าหนดให้หนวยงานของรฐแห่งหนงแห่งใดเป็นผู้รบผิดชอบในการ
ั
่
ึ่
ึ่
ี
ู
ควบคุมดแลในพระราชกฤษฎกาที่ออกตามวรรคหนงก็ได หากไม่มีการก าหนดให้หนวยงานของรัฐแห่งใด
้
่
ั
ู
ู
ั
เป็นผู้รบผิดชอบในการควบคุมดแล ให้ส านกงานเป็นผู้รบผิดชอบในการควบคุมดแลการประกอบธุรกิจ
ั
บริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์ตามพระราชกฤษฎกาดังกล่าว ทั้งนี้ ให้หน่วยงานของรัฐซึ่งเป็น
ิ
ี
ผู้รับผิดชอบในการควบคุมดูแลตามพระราชกฤษฎีกาหรือส านักงาน แล้วแต่กรณี แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่
เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาด้วย
ก่อนเสนอให้ตราพระราชกฤษฎกาตามวรรคหนง ตองจัดให้มีการรบฟังความ
ี
้
ึ่
ั
คิดเห็นของประชาชนตามความเหมาะสม และน าข้อมูลที่ได้รับมาประกอบการพิจารณา
มาตรา ๓๓ ในกรณีที่พระราชกฤษฎีกาก าหนดให้การประกอบธุรกิจบริการเกยวกับ
ี่
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์ใดเป็นกิจการที่ต้องแจ้งให้ทราบ ผู้ที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจดังกล่าวต้องแจ้ง
ิ
ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนเริ่มประกอบธุรกิจนั้น ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ก าหนดในพระราช
กฤษฎีกา
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้ง ให้ออกใบรับแจ้งเพื่อเป็นหลักฐานการแจ้งในวันที่
ั
ั
้
่
้
ั้
ั้
ั้
ั
ั
ั
้
รบแจ้งนนและให้ผู้แจ้งประกอบธุรกิจนนไดตงแตวันที่ไดรบใบรบแจ้งดงกล่าว แตถ้าพนกงานเจ้าหนาที่
่
ื
ตรวจพบในภายหลังว่าการแจ้งไม่ถูกต้องหรอไม่ครบถ้วน ให้มีอ านาจสั่งผู้แจ้งแก้ไขให้ถูกต้องหรือครบถ้วน
และน าผลการแก้ไขมาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในระยะเวลาที่ก าหนด
ื
ั
ิ
ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่แก้ไขหรอไม่ปฏบัตตามค าสั่งของพนกงานเจ้าหนาที่
้
ิ
ภายในระยะเวลาที่ก าหนด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้ผู้นั้นหยุดการให้บริการในส่วนที่เกี่ยวกับธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ในการประกอบธุรกิจนั้นนับแตวันที่ครบก าหนดระยะเวลาตามวรรคสองจนกว่าจะแก้ไขให้
่
ถูกต้องและครบถ้วนตามค าสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่
ในการประกอบธุรกิจ ผู้แจ้งต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ก าหนดในพระราชกฤษฎีกา
ื่
ั
และตามประกาศที่คณะกรรมการก าหนด หลักเกณฑ์ตามพระราชกฤษฎกาดงกล่าวให้ก าหนดเรองการ
ี
ชดใช้หรือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการประกอบธุรกิจไว้ด้วย
ั
ิ
ิ
ถ้าผู้แจ้งไม่ปฏบัตตามหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจตามวรรคสี่ ให้พนกงาน
เจ้าหน้าที่มีค าสั่งห้ามมิให้ผู้นั้นให้บริการในส่วนที่เกยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ในการประกอบธุรกิจ
ิ
ี่
นั้นจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่ก าหนดดังกล่าว
ิ
ิ
ในกรณีที่ผู้แจ้งไม่แก้ไขตามวรรคสามหรอไม่ปฏบัตตามวรรคห้าภายในระยะเวลา
ื
เก้าสิบวันนับแต่วันที่หยุดหรือถูกห้ามการให้บริการ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ถอนการรับแจ้งของผู้นั้นออกจาก
สารบบการรับแจ้งและแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้นั้นทราบโดยเร็ว
มาตรา ๓๓/๑ ในกรณีที่พระราชกฤษฎกาก าหนดให้การประกอบธุรกิจบรการ
ี
ิ
เกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ใดเป็นกิจการที่ตองขึ้นทะเบียน ผู้ที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจดังกล่าว
ิ
ิ
้
ต้องขอขึ้นทะเบียนต่อพนกงานเจาหน้าที่ก่อนเริ่มประกอบธุรกิจนน ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่
ั้
้
ั
ก าหนดในพระราชกฤษฎีกา
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับค าขอขึ้นทะเบียนแล้ว ให้ออกใบรับการขอขึ้นทะเบียน
เพื่อเป็นหลักฐานการขอขึ้นทะเบียนในวันที่ยื่นค าขอนั้น และหากพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารและ
้
ั
ี
หลักฐานการขึ้นทะเบียนแล้วเห็นว่าครบถ้วนและถูกตองตามที่ก าหนดในพระราชกฤษฎกา ให้รบขึ้น
่
้
ทะเบียนและแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนทราบภายในสามสิบวันนับแตวันที่ไดรับค าขอขึ้นทะเบียน
ดังกล่าว และให้ผู้ขึ้นทะเบียนประกอบธุรกิจนั้นได้ตั้งแต่วันที่ได้รับขึ้นทะเบียน
หน้า | 12
็
้
้
หากพนกงานเจ้าหนาที่ไม่สามารถตรวจสอบให้แล้วเสรจไดภายในระยะเวลาตาม
ั
้
ั
วรรคสอง ให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนประกอบธุรกิจไปพลางก่อนได นบแตวันถัดจากวันที่ครบก าหนดระยะเวลา
่
ดังกล่าว
ในกรณีที่พนกงานเจ้าหนาที่ตรวจสอบก่อนการรบขึ้นทะเบียนตามวรรคสอง หรอ ื
้
ั
ั
ตรวจพบหลังจากที่ผู้นั้นได้ประกอบธุรกิจดังกล่าวแล้ว ว่าเอกสารและหลักฐานการขึ้นทะเบียนของผู้ขอขึ้น
ทะเบียนไม่ครบถ้วนหรอไม่ถูกตอง ให้แจ้งเป็นหนงสือแก่ผู้ขอขึ้นทะเบียนหรอผู้ขึ้นทะเบียน แล้วแต่กรณี
ื
ื
ั
้
ี้
้
ื
เพื่อแก้ไขให้ถูกตองและครบถ้วนภายในระยะเวลาที่ก าหนด ในการน ถ้าผู้ขอขึ้นทะเบียนหรอผู้ขึ้น
ิ
้
ื
ทะเบียนไม่แก้ไขให้ถูกตองและครบถ้วน หรอไม่ดาเนนการจนพ้นก าหนดระยะเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่
ก าหนดโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สิทธิในการประกอบธุรกิจของผู้ขอขึ้นทะเบียนตามวรรคสามเป็นอันระงับ
ื
และให้ถือว่าค าขอขึ้นทะเบียนนนตกไป หรอให้มีค าสั่งเพิกถอนการขึ้นทะเบียนของผู้ประกอบธุรกิจนั้น
ั้
แล้วแต่กรณี
้
ิ
ิ
ในการประกอบธุรกิจ ผู้ขึ้นทะเบียนตองปฏบัตตามหลักเกณฑ์ที่ก าหนดใน
ี
ี
ั
พระราชกฤษฎกาและตามประกาศที่คณะกรรมการก าหนด หลักเกณฑ์ตามพระราชกฤษฎกาดงกล่าวให้
ก าหนดเรื่องการชดใช้หรือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการประกอบธุรกิจไว้ด้วย
ื
ิ
ถ้าผู้ขึ้นทะเบียนฝ่าฝืนหรอไม่ปฏิบัตตามหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจตามวรรคห้า
ให้คณะกรรมการพิจารณามีค าสั่งปรับผู้นั้นไม่เกินหนึ่งล้านบาท โดยค านึงถึงความร้ายแรงแห่งพฤติกรรมที่
กระท าผิด หลักเกณฑ์ในการพิจารณาก าหนดค่าปรับให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการก าหนด และในกรณีที่
เห็นสมควรคณะกรรมการอาจมีค าสั่งให้ผู้นั้นด าเนินการใดๆ เพื่อแก้ไขให้ถูกต้องหรือเหมาะสมได ้
่
ถ้าผู้ถูกปรับตามวรรคหกไม่ช าระค่าปรับ ให้คณะกรรมการมีอานาจฟ้องคดตอศาล
ี
ี
ี้
ที่มีเขตอานาจในการพิจารณาคดอาญาเพื่อบังคับช าระค่าปรบ ในการน ถ้าศาลพิพากษาให้ช าระค่าปรับ
ั
่
หากผู้นั้นไม่ช าระค่าปรับภายในสามสิบวันนับแตวันที่ศาลมีค าพิพากษา ให้ยึดทรัพย์สินของผู้นั้นเพื่อชดใช้
แทนค่าปรับ แต่มิให้น ามาตรการกักขังแทนค่าปรับมาใช้แก่ผู้นั้น
ิ
ในกรณีที่ผู้กระท าผิดตามวรรคหกไม่ดาเนนการแก้ไขตามค าสั่งของคณะกรรมการ
หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจตามวรรคห้าซ้ าอีกภายในระยะเวลาหนึ่งปีนบแต ่
ั
วันที่คณะกรรมการมีค าสั่งปรบครงแรก คณะกรรมการอาจมีค าสั่งเพิกถอนการขึ้นทะเบียนของผู้ขึ้น
ั้
ั
ทะเบียนนั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งค าสั่งดังกล่าวให้ผู้นั้นทราบโดยเร็ว
มาตรา ๓๔ ในกรณีที่พระราชกฤษฎีกาก าหนดให้การประกอบธุรกิจบริการเกยวกับ
ี่
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ใดเป็นกิจการที่ต้องไดรับใบอนุญาต ให้ผู้ที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจดังกล่าวยน
ื่
้
ค าขอรับใบอนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่ก าหนดในพระราชกฤษฎีกา
ั
คุณสมบัตของผู้ขอรบใบอนญาต หลักเกณฑ์และวิธีการขออนญาต การออก
ิ
ุ
ุ
ื
ุ
ใบอนญาต การตออายใบอนญาต การคืนใบอนญาต และการสั่งพักใช้หรอเพิกถอนใบอนญาต ให้เป็นไป
่
ุ
ุ
ุ
ุ
ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ก าหนดในพระราชกฤษฎีกา
ิ
ในการประกอบธุรกิจ ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัตตามหลักเกณฑ์ที่ก าหนดในพระ
ี
ราชกฤษฎีกาประกาศที่คณะกรรมการก าหนด หรือเงื่อนไขในใบอนญาต หลักเกณฑ์ตามพระราชกฤษฎกา
ุ
ดังกล่าวให้ก าหนดเรื่องการชดใช้หรือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการประกอบธุรกิจไว้ด้วย
ั
ุ
้
ในกรณีที่ผู้ไดรบใบอนญาตฝ่าฝืนหรอไม่ปฏบัตตามหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจ
ิ
ิ
ื
ตามวรรคสาม ให้คณะกรรมการพิจารณามีค าสั่งปรบผู้นั้นไม่เกินสองล้านบาท และให้นาความในมาตรา
ั
๓๓/๑ วรรคหกและวรรคเจ็ด มาใช้บังคับโดยอนุโลม
หน้า | 13
ิ
ในกรณีที่ผู้กระท าผิดตามวรรคสี่ไม่ดาเนนการแก้ไขตามค าสั่งของคณะกรรมการ
ึ่
ั
หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัตตามหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจตามวรรคสามซ้ าอีกภายในระยะเวลาหนงปีนบ
ิ
ุ
่
ั้
้
ั
แตวันที่คณะกรรมการมีค าสั่งปรบครงแรก คณะกรรมการอาจมีค าสั่งเพิกถอนใบอนญาตของผู้ไดรบ
ั
ใบอนุญาตนั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งค าสั่งดังกล่าวให้ผู้นั้นทราบโดยเร็ว
ิ
ี่
มาตรา ๓๔/๑ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลการประกอบธุรกิจบรการเกยวกับ
ิ
ิ
่
ั
ื
ี้
ั
ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ตามหมวดน ให้คณะกรรมการ ส านกงานหรอหนวยงานของรฐซึ่งเป็น
ั
ิ
ู
ผู้รบผิดชอบในการควบคุมดแลตามมาตรา ๓๒ วรรคสาม ประกาศก าหนดรายละเอยดเพิ่มเตมในเรื่องที่
ี
ก าหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา ๓๒ ได้ โดยไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
มาตรา ๓๔/๒ เพื่อประโยชนในการควบคุมดแลและก ากับการประกอบธุรกิจ
์
ู
ื
ิ
ี
ิ
บรการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตนหรอตามพระราชกฤษฎกาตาม
ี้
ิ
ิ
้
้
้
ั
่
มาตรา ๓๒ ให้พนกงานเจาหนาที่ของหนวยงานของรฐหรอส านักงานที่มีหนาที่ควบคุมดแลการประกอบ
ั
ื
ู
ธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์นั้นมีหน้าที่และอ านาจ ดังต่อไปน ี้
้
ั
ื
ิ
ื
(๑) มีหนงสือแจ้งให้ผู้ให้บรการหรอเจ้าหนาที่ของผู้ให้บรการ หรอบุคคลใดมาให้
ิ
ข้อมูลหรือส่งเอกสารหรือหลักฐานใด ๆ เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจการให้บริการนั้น
ิ
(๒) ตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจรงเพื่อรายงานตอคณะกรรมการ ในกรณีที่ผู้
่
ให้บริการได้กระท าความผิดหรอท าให้เกิดความเสียหายเพราะเหตุฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัต ิ
ื
นี้หรือตามพระราชกฤษฎีกา ประกาศของคณะกรรมการ หรือเงื่อนไขในใบอนุญาต
์
ิ
(๓) เข้าไปในสถานที่ของผู้ให้บรการในระหว่างเวลาพระอาทิตยขึ้นจนถึงพระ
ั
ื
ิ
ื
์
ึ
อาทิตยตก หรอในเวลาท าการของสถานที่นน เพื่อตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจรง และยดหรออายด
ั้
เอกสารและหลักฐาน รวมถึงสิ่งอื่นใดที่เกี่ยวกับการให้บรการที่สงสัยว่ามีไว้เพื่อใช้หรอไดใช้ในการกระท า
ื
ิ
้
ความผิด
้
ี้
ในการปฏบัตหนาที่ของพนกงานเจ้าหนาที่ตามมาตราน ให้แสดงบัตรประจ าตว ั
ิ
ั
้
ิ
ู
ั
่
ั
ั
พนกงานเจ้าหนาที่ที่หนวยงานของรฐหรอส านกงานที่มีหนาที่ควบคุมดแลออกให้ และให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง
้
้
ื
อ านวยความสะดวกตามสมควร
หมวด ๓/๑
ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล
ั
ื
์
มาตรา ๓๔/๓ การพิสูจนและยนยนตวตนของบุคคลอาจกระท าผ่านระบบการ
ั
พิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลได ้
ผู้ใดประสงค์จะอาศัยการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของบุคคลอื่นผ่านระบบการพิสูจน ์
ิ
ื
ั
ั
ื
ั
และยนยนตวตนทางดจิทัลอาจแจ้งเงื่อนไขเกี่ยวกับความนาเชื่อถือของการพิสูจนและยนยนตวตนทาง
์
่
ั
ิ
้
ั้
ื่
์
้
้
ดจิทัลที่ตองใช้ให้บุคคลอนนนทราบเป็นการล่วงหนา และเมื่อไดมีการพิสูจนและยนยนตวตนทางดจิทัล
ิ
ั
ั
ื
ตามเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว ให้สันนิษฐานว่าบุคคลที่ได้รับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนเป็นบุคคลนั้นจริง
หน้า | 14
เงื่อนไขเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลตามวรรค
สองต้องมีมาตรฐานไม่ต่ ากว่าที่คณะกรรมการหรือคณะกรรมการตามมาตรา ๓๔/๔ วรรคสอง แล้วแต่กรณี
ประกาศก าหนด โดยมีหลักประกันการเข้าถึงและการใช้ประโยชนของประชาชนโดยสะดวกและไม่เลือก
์
ปฏิบัต ิ
มาตรา ๓๔/๔ ในกรณีที่จ าเป็นเพื่อรกษาความมั่นคงทางการเงินและการพาณิชย ์
ั
์
ั
ิ
้
่
ื
หรอเพื่อประโยชนในการเสรมสรางความนาเชื่อถือและยอมรบในระบบการพิสูจนและยนยนตวตนทาง
ั
ั
์
ื
่
ดิจิทัล หรือเพื่อป้องกันความเสียหายตอสาธารณชน ให้มีการตราพระราชกฤษฎกาก าหนดให้การประกอบ
ี
ธุรกิจบริการเกยวกับระบบการพิสูจน์และยนยันตวตนทางดิจิทัลใดเป็นการประกอบธุรกิจบรการเกยวกับ
ื
ั
ิ
ี่
ี่
ิ
้
ิ
ิ
้
ั
ุ
ิ
ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ที่ตองไดรบใบอนญาตก่อน และให้นาบทบัญญัตในหมวด ๓ ธุรกิจบรการ
เกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ึ่
พระราชกฤษฎกาตามวรรคหนงอาจก าหนดให้มีการจัดตงคณะกรรมการขึ้นมา
ี
ั้
คณะหนงเพื่อท าหนาที่ประกาศก าหนดหลักเกณฑ์ที่ผู้ประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกบระบบการพิสูจน์และ
้
ั
ิ
ึ่
ิ
ยืนยันตัวตนทางดิจิทัลจะต้องปฏิบัติ และให้มีอ านาจพิจารณามีค าสั่งและดาเนนการอื่นใดตามมาตรา ๓๔
ในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตฝ่าฝืนหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจก็ได ้
หมวด ๔
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ
ุ
มาตรา ๓๕ ค าขอ การอนญาต การจดทะเบียน ค าสั่งทางปกครอง การช าระเงิน
่
ั
ื
่
การประกาศหรอการดาเนนการใด ๆ ตามกฎหมายกับหนวยงานของรฐหรอโดยหนวยงานของรฐ ถ้าได ้
ั
ื
ิ
ี
กระท าในรปของข้อมูลอเล็กทรอนกส์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก าหนดโดยพระราชกฤษฎกา ให้นา
ิ
ิ
ู
ี
พระราชบัญญัตนมาใช้บังคับและให้ถือว่ามีผลโดยชอบดวยกฎหมายเช่นเดยวกับการดาเนนการตาม
้
ิ
ี้
ิ
หลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายในเรองนนก าหนด ทั้งน ในพระราชกฤษฎกาอาจก าหนดให้บุคคลที่
ั้
ี้
ื่
ี
่
ื
้
เกี่ยวข้องตองกระท าหรองดเว้นกระท าการใด ๆ หรอให้หนวยงานของรฐออกระเบียบเพื่อก าหนด
ั
ื
รายละเอียดในบางกรณีด้วยก็ได ้
ี
ึ่
ในการออกพระราชกฤษฎกาตามวรรคหนง พระราชกฤษฎกาดงกล่าวอาจ
ั
ี
ิ
้
ิ
้
ก าหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ตองแจ้งให้ทราบ ตองขึ้นทะเบียน
ิ
ุ
ั
ิ
้
่
้
้
หรอตองไดรบใบอนญาต แล้วแตกรณี ก่อนประกอบกิจการก็ได ในกรณีน ให้นาบทบัญญัตในหมวด ๓
ื
ี้
และบทก าหนดโทษที่เกี่ยวข้องมาใช้บังคับโดยอนุโลม
ื
ี
้
เมื่อไดมีการตราพระราชกฤษฎกาตามวรรคหนงแล้ว ศาลหรอองค์กรตาม
ึ่
ื่
รัฐธรรมนูญอาจพิจารณาน าหลักเกณฑ์ในเรองใดที่ก าหนดไว้ตามพระราชกฤษฎกาดังกล่าวมาใช้บังคับแก่
ี
ี
ิ
ื
ั
การดาเนนการในส่วนที่เกี่ยวกบกระบวนพิจารณาพิพากษาคดของศาลหรอในการวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาท
่
้
แล้วแตกรณี เพื่อให้เป็นไปตามความเหมาะสมกับหนาที่และอานาจของตนตามกฎหมายได รวมถึงการ
้
ก าหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
หน้า | 15
หมวด ๕
คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์
ิ
้
ิ
ิ
มาตรา ๓๖ ให้มีคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์คณะหนึ่ง ประกอบดวย
ิ
ั
ั้
่
ี
ประธานกรรมการซึ่งคณะรฐมนตรแตงตงจากผู้ทรงคุณวุฒิ ปลัดกระทรวงดจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
เป็นรองประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่นซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจ านวนแปดคน
ั
ให้ผู้อานวยการเป็นกรรมการและเลขานการ และแตงตงพนกงานของส านกงาน
ุ
ั้
ั
่
เป็นผู้ช่วยเลขานุการได้ตามความจ าเป็นแต่ไม่เกินสองคน
ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามวรรคหนง ตองเป็นบุคคลที่มี
้
ึ่
ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความสามารถเป็นที่ประจักษ์ด้านการเงิน ด้านการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ด้าน
นิติศาสตร์ ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ด้านวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรมศาสตร์ ด้านสังคมศาสตร์ หรือด้าน
ิ
่
์
อื่นใดที่เป็นประโยชนตอการดาเนนงานของคณะกรรมการ ทั้งนี้ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องประกอบดวย
้
ื
ื
่
ิ
่
ั
่
ิ
ื
บุคคลซึ่งมิใช่ข้าราชการหรอผู้ปฏบัตงานในหนวยงานของรฐที่มีตาแหนงหรอเงินเดอนประจ ารวมเป็น
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้วยไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจ านวนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมด
้
หลักเกณฑ์และวิธีการไดมาซึ่งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ให้
เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีก าหนด
มาตรา ๓๗ ให้คณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์มีหนาที่และอานาจ
ิ
้
ิ
ดังต่อไปน ี้
์
(๑) พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนยุทธศาสตรเกยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์
ิ
ี่
ที่ส านักงานเสนอตามมาตรา ๔๓ วรรคสอง
่
ุ
(๒) ส่งเสรมและสนบสนนหนวยงานของรฐ เอกชน และประชาชนให้ดาเนน
ิ
ั
ั
ิ
กิจกรรมตามแผนยุทธศาสตร์ตาม (๑)
ี
ิ
้
(๓) ก าหนดมาตรฐานดานเทคโนโลยดจิทัลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์
ิ
ุ
(๔) ก ากับและตดตามการดาเนนงานตามแผนยทธศาสตรตาม (๑) เพื่อรวบรวม
์
ิ
ิ
ิ
่
ข้อมูลและปัญหาเกี่ยวกับการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ที่ส่งผลกระทบตอการดาเนนการและพัฒนา
ิ
ทางเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาต ิ
่
ิ
(๕) เสนอแนะตอคณะกรรมการดจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตและ
ิ
ิ
ิ
ั
ื
ุ
ี
ั
คณะรฐมนตรในการจัดให้มีหรอปรบปรงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์
และการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเกี่ยวกับการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ี
ื
ั
ี
ึ
(๖) เสนอแนะหรอให้ค าปรกษาตอรฐมนตรในการตราพระราชกฤษฎกาตาม
่
พระราชบัญญัติน ี้
ื
ี้
ิ
(๗) ออกระเบียบหรอประกาศเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตน หรอเพื่อ
ื
ประโยชน์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ิ
(๘) ก ากับดแลการประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ตาม
ิ
ิ
ู
พระราชบัญญัติน ี้
(๙) ปฏิบัติการอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายอื่น
หน้า | 16
ในการปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามหน้าที่และอ านาจตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการมี
ื
ั
ิ
ื
ื
ั
่
หนงสือเรยกหนวยงานของรฐหรอบุคคลใดมาชี้แจง ให้ข้อเท็จจรง หรอมาให้ถ้อยค าหรอส่งเอกสาร
ี
หลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการด าเนินงานได ้
ิ
ิ
ในการปฏบัตการตามพระราชบัญญัตนให้คณะกรรมการเป็นเจ้าพนกงานตามประมวล
ิ
ั
ี้
กฎหมายอาญา
มาตรา ๓๘ ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการด ารงตาแหนง
่
สี่ปี
เมื่อครบก าหนดวาระตามวรรคหนึ่ง หากยังมิได้มีการแต่งตั้งประธานกรรมการและ
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่ ให้ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากต าแหน่งตามวาระ
ิ
้
่
้
ิ
ั
ั้
ู่
นนอยในตาแหนงเพื่อปฏบัตหนาที่ตอไปจนกว่าประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งไดรบ
่
้
่
ั้
ั
่
่
แตงตงใหม่เข้ารบหน้าที่ แตตองไม่เกินเก้าสิบวันนบแตวันที่ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ั
พ้นจากต าแหนงตามวาระนั้น
่
มาตรา ๓๙ นอกจากการพ้นจากตาแหนงตามวาระตามมาตรา ๓๘ ประธาน
่
กรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากต าแหน่ง เมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) คณะรัฐมนตรีให้ออกเพราะมีความประพฤตเสื่อมเสีย บกพร่องหรือไม่สุจรตตอ ่
ิ
ิ
หน้าที่หรือหย่อนความสามารถ
(๔) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
้
(๕) ได้รับโทษโดยตองค าพิพากษาถึงที่สุดให้จ าคุก เว้นแต่เป็นโทษส าหรับความผิด
ที่ได้กระท าโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
มาตรา ๔๐ ในกรณีที่ประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากต าแหนง ่
ู่
ั้
ิ
้
่
ก่อนวาระ ให้คณะกรรมการประกอบดวยกรรมการเท่าที่เหลืออย และให้ดาเนนการแตงตงประธาน
กรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตาแหน่งที่ว่างภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ต าแหน่งว่างลง เว้นแต ่
วาระของกรรมการเหลือไม่ถึงเกาสิบวัน และให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งแทนอยู่ในต าแหน่งเท่ากับ
้
วาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
มาตรา ๔๑ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากงหนง ึ่
ึ่
ของจ านวนกรรมการทั้งหมดจึงเป็นองค์ประชุม
้
ิ
ื
ิ
ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรอไม่อาจปฏบัตหนาที่ได ให้คณะกรรมการ
้
เลือกกรรมการคนหนึ่งท าหน้าที่ประธานในที่ประชุม
ิ
ึ่
การวินจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนงให้มีเสียงหนึ่ง
ในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
การประชุมของคณะกรรมการอาจกระท าโดยวิธีการทางอเล็กทรอนกส์ตามที่
ิ
ิ
คณะกรรมการก าหนดก็ได ้
หน้า | 17
่
ั้
มาตรา ๔๒ คณะกรรมการมีอานาจแตงตงคณะอนกรรมการเพื่อพิจารณาหรอ
ื
ุ
ปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดแทนคณะกรรมการก็ได ้
ให้นาความในมาตรา ๔๑ มาใช้บังคับแก่การประชุมของคณะอนกรรมการโดย
ุ
อนุโลม
ั
มาตรา ๔๒/๑ ให้คณะกรรมการไดรบเบี้ยประชุมและประโยชนตอบแทนอนตาม
ื่
์
้
หลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีก าหนด
คณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการแต่งตั้งตามมาตรา ๔๒ ให้ได้รับเบี้ยประชุมและ
ประโยชน์ตอบแทนอื่นตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการก าหนด
มาตรา ๔๓ ให้ส านักงานท าหน้าที่เป็นหน่วยงานธุรการของคณะกรรมการ
ิ
ุ
์
ั
ิ
ให้ส านกงานจัดท าแผนยทธศาสตรเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ เพื่อเสนอ
คณะกรรมการให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๓๗ (๑) และจัดส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อด าเนินการต่อไป
ุ
ั
มาตรา ๔๓/๑ แผนยทธศาสตรที่ส านกงานตองจัดท าตามมาตรา ๔๓ วรรคสอง
้
์
ต้องสอดคล้องกับนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมตามกฎหมาย
ว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยอย่างน้อยต้องก าหนดเรื่องดังต่อไปน ี้
้
้
ิ
(๑) กลไกและมาตรการดานการพัฒนาโครงสรางพื้นฐานทางเทคโนโลยดจิทัล
ี
เพื่อรองรับการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์และธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ
(๒) มาตรการการส่งเสริมและสนับสนุนการให้มีระบบการบริการในการท าธุรกรรม
ทางอิเล็กทรอนิกส์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และการให้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้เทคโนโลย ี
ดิจิทัล เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ
(๓) กระบวนการส่งเสรมให้เกิดการพัฒนามาตรฐานและกฎเกณฑ์การใช้งานทาง
ิ
เทคโนโลยีดจิทัล เพื่อให้การท างานของระบบมีการเชื่อมโยงกันอย่างมีความมั่นคงปลอดภย พร้อมใช้งาน
ิ
ั
และมีความน่าเชื่อถือในการให้บริการ
้
ิ
(๔) แนวทางและมาตรการเกี่ยวกับการส่งเสรมการผลิตและพัฒนาบุคลากรดาน
ิ
ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พาณิชยอเล็กทรอนกส์ และธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์
ิ
ิ
ิ
์
ิ
ิ
และธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ รวมทั้งการประยุกต์การใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลที่เกี่ยวข้อง
(๕) แนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา ค้นคว้า และวิจัยเทคโนโลยีดิจิทัล
ิ
ิ
ิ
ดานธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พาณิชยอเล็กทรอนกส์ และการให้บรการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์
ิ
้
ิ
ิ
ิ
์
รวมทั้งส่งเสริมให้มีการเผยแพร่ความรู้ให้แก่ประชาชนเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าว
หน้า | 18
หมวด ๖
บทก าหนดโทษ
มาตรา ๔๔ ผู้ใดประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์โดยไม่
ิ
ิ
ิ
แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่ก าหนดในพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา ๓๓ วรรคหนึ่ง โดยฝ่าฝืนค าสั่งของ
ั
้
ุ
ิ
ื
ิ
พนกงานเจ้าหนาที่ให้หยดการให้บรการหรอค าสั่งห้ามมิให้ให้บรการในส่วนที่เกี่ยวกับธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ในการประกอบธุรกิจตามมาตรา ๓๓ วรรคสาม หรือตามมาตรา ๓๓ วรรคห้า แล้วแต่กรณี
้
้
ั
ิ
หรอประกอบธุรกิจบรการเกยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ภายหลังจากพนกงานเจาหนาที่ถอนการรับ
ี่
ิ
ิ
ื
ั
แจ้งตามมาตรา ๓๓ วรรคหก ตองระวางโทษจ าคุกไม่เกินหนึ่งปี หรอปรบไม่เกนหนงแสนบาท หรอทั้งจ า
ื
ื
้
ึ่
ิ
ทั้งปรับ
มาตรา ๔๔/๑ ผู้ใดประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ โดยไม่
ิ
ขึ้นทะเบียนตอพนกงานเจ้าหนาที่ตามที่ก าหนดในพระราชกฤษฎกาตามมาตรา ๓๓/๑ วรรคหนง หรอ
้
ึ่
ื
่
ั
ี
ิ
ประกอบธุรกิจบริการเกยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ภายหลังจากมีค าสั่งเพิกถอนการขึ้นทะเบียนตาม
ี่
มาตรา ๓๓/๑ วรรคสี่ หรือวรรคแปด แล้วแตกรณี ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกนสอง
ิ
่
แสนบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ
มาตรา ๔๕ ผู้ใดประกอบธุรกิจบริการเกยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได ้
ี่
ิ
ิ
รับใบอนุญาตตามมาตรา ๓๔ หรือประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ในระหว่างที่มี
ิ
ค าสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือภายหลังจากมีค าสั่งเพิกถอนใบอนุญาตของคณะกรรมการ ต้องระวางโทษจ าคุก
ไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ
ั
ั
มาตรา ๔๕/๑ ผู้ใดประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับระบบการพิสูจน์และยืนยนตวตน
ั
ทางดจิทัลโดยไม่ไดรบใบอนญาตตามมาตรา ๓๔/๔ หรอประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับระบบการพิสูจน ์
ิ
้
ิ
ื
ุ
และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลในระหว่างที่มีค าสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือภายหลังจากมีค าสั่งเพิกถอนใบอนญาต
ุ
ของคณะกรรมการหรือคณะกรรมการตามมาตรา ๓๔/๔ วรรคสอง ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินสามปี หรือ
ปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ
ิ
มาตรา ๔๖ ในกรณีที่ผู้กระท าความผิดเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระท าความผิดของนต ิ
บุคคลนั้นเกิดจากการสั่งการหรือการกระท าของกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการ
ด าเนินงานของนิติบุคคลนั้น หรือในกรณีที่บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ตองสั่งการหรอกระท าการและละเว้นไม่
้
ื
สั่งการหรอไม่กระท าการจนเป็นเหตให้นตบุคคลนนกระท าความผิด ผู้นนตองรบโทษตามที่บัญญัตไว้
ิ
ุ
้
ั
ั้
ั้
ิ
ื
ิ
ส าหรับความผิดนั้นๆ ด้วย
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พันต ารวจโท ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตร ี
หน้า | 19
้
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่การท าธุรกรรมในปัจจุบันมีแนวโนม
่
ิ
ั
ิ
ี
ิ
ที่จะปรบเปลี่ยนวิธีการในการตดตอสื่อสารที่อาศัยการพัฒนาการเทคโนโลยทางอเล็กทรอนกส์ซึ่งมีความ
่
ิ
สะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่เนื่องจากการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวมีความแตกตาง
จากวิธีการท าธุรกรรมซึ่งมีกฎหมายรองรับอยู่ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก อันส่งผลให้ต้องมีการรองรับสถานะ
ิ
ั
ั
ื
ิ
ทางกฎหมายของข้อมูลทางอเล็กทรอนกส์ให้เสมอกับการท าเป็นหนงสือ หรอหลักฐานเป็นหนงสือ การ
ั
ิ
ั
ั
ิ
ิ
ิ
รบรองวิธีการส่งและรบข้อมูลอเล็กทรอนกส์ การใช้ลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ ตลอดจนการรบฟัง
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
พยานหลักฐานที่เป็นข้อมูลอเล็กทรอนกส์ เพื่อเป็นการส่งเสรมการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ให้
ิ
ิ
ู่
ี
ิ
นาเชื่อถือ และมีผลในทางกฎหมายเช่นเดยวกับการท าธุรกรรมโดยวิธีการทั่วไปที่เคยปฏบัตอยเดมควร
่
ิ
ิ
ก าหนดให้มีคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ท าหน้าที่วางนโยบายก าหนดหลักเกณฑ์เพื่อส่งเสรม
ิ
ู
ิ
การท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ ตดตามดแลการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์
ิ
ิ
ิ
ิ
ี
รวมทั้งมีหนาที่ในการส่งเสริมการพัฒนาการทางเทคโนโลยเพื่อตดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลย ซึ่งมี
้
ิ
ี
การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาศักยภาพตลอดเวลาให้มีมาตรฐานน่าเชื่อถือ ตลอดจนเสนอแนะแนวทางแก้ไข
ปัญหาและอุปสรรคที่เกยวข้อง อันจะเป็นการส่งเสรมการใช้ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งภายในประเทศ
ิ
ี่
และระหว่างประเทศ ดวยการมีกฎหมายรองรบในลักษณะที่เป็นเอกรป และสอดคล้องกับมาตรฐานที่
ั
้
ู
นานาประเทศยอมรับ จึงจ าเป็นต้องตราพระราชบัญญัติน ี้
*พระราชกฤษฎกาแก้ไขบทบัญญัตให้สอดคล้องกับการโอนอานาจหนาที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตาม
ี
ิ
้
พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕
ิ
มาตรา ๑๐๒ ในพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ให้
ั
ี
แก้ไขค าว่า “รฐมนตรว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร เทคโนโลยและสิ่งแวดล้อม” เป็น “รฐมนตรว่าการ
ี
์
ี
ั
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร”
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง
้
้
ิ
ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ไดบัญญัตให้จัดตงส่วนราชการขึ้นใหม่โดยมีภารกิจใหม่ ซึ่งไดมีการตราพระราช
ั้
ิ
กฤษฎกาโอนกิจการบรหารและอานาจหนาที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตปรบปรง ุ
ั
ี
ิ
้
ิ
้
กระทรวง ทบวง กรม นนแล้ว และเนองจากพระราชบัญญัตดงกล่าวไดบัญญัตให้โอนอานาจหนาที่ของ
ื่
ั
้
ิ
ั้
ส่วนราชการ รัฐมนตรีผู้ด ารงต าแหน่งหรือผู้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในส่วนราชการเดิมมาเป็นของส่วนราชการใหม่
โดยให้มีการแก้ไขบทบัญญัติต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับอ านาจหน้าที่ที่โอนไปด้วย ฉะนั้น เพื่ออนุวัติให้เป็นไป
ิ
ิ
ั
ี
ตามหลักการที่ปรากฏในพระราชบัญญัตและพระราชกฤษฎกาดงกล่าว จึงสมควรแก้ไขบทบัญญัตของ
กฎหมายให้สอดคล้องกับการโอนส่วนราชการ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องมีความชัดเจนในการใช้กฎหมายโดยไม่
ื
้
้
ตองไปค้นหาในกฎหมายโอนอานาจหนาที่ว่าตามกฎหมายใดไดมีการโอนภารกิจของส่วนราชการหรอ
้
ั
่
ั้
ิ
ผู้รบผิดชอบตามกฎหมายนนไปเป็นของหนวยงานใดหรอผู้ใดแล้ว โดยแก้ไขบทบัญญตของกฎหมายให้มี
ั
ื
ี
ั
การเปลี่ยนชื่อส่วนราชการ รฐมนตร ผู้ดารงตาแหน่งหรือผู้ซึ่งปฏบัตหน้าที่ของส่วนราชการให้ตรงกับการ
ิ
ิ
ั
โอนอานาจหน้าที่ และเพิ่มผู้แทนส่วนราชการในคณะกรรมการให้ตรงตามภารกิจที่มีการตดโอนจากส่วน
ราชการเดิมมาเป็นของส่วนราชการใหม่รวมทั้งตดส่วนราชการเดมที่มีการยบเลิกแล้ว ซึ่งเป็นการแก้ไขให้
ั
ุ
ิ
ตรงตามพระราชบัญญัติและพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว จึงจ าเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกาน ี้
หน้า | 20
พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
ี้
ิ
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตนให้ใช้บังคับตงแตวันถัดจากวันประกาศใน
่
ั้
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๑๑ ในระหว่างที่จัดตงส านักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์
ิ
ั้
ิ
ั
ิ
ตามมาตรา ๔๓ แห่งพระราชบัญญตว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเตมโดย
้
ิ
ิ
ี
็
ั
ั
ี้
พระราชบัญญัตนยงไม่แล้วเสรจ ให้ส านกงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยสารสนเทศและการสื่อสาร
รับผิดชอบท าหน้าที่หน่วยงานธุรการของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ไปพลางก่อน
ให้ปลัดกระทรวงเทคโนโลยสารสนเทศและการสื่อสารแตงตงข้าราชการซึ่งดารง
่
ี
ั้
ื
ต าแหน่งไม่ต่ ากว่าระดับแปดหรอเทียบเท่าในสังกัดส านักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่อสาร ท าหนาที่เป็นหัวหนาส านักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ไปพลางก่อนจนกวาการ
ิ
้
ิ
้
่
จัดตั้งส านักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จะแล้วเสร็จ
เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานตามวรรคหนึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลย ี
ี
สารสนเทศและการสื่อสารจะสั่งให้ข้าราชการในสังกัดกระทรวงเทคโนโลยสารสนเทศและการสื่อสารมา
ปฏิบัติงานชั่วคราวในส านักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารตามความจ าเป็นก็ได ้
ี
มาตรา ๑๒ ให้นายกรฐมนตรและรฐมนตรว่าการกระทรวงเทคโนโลยสารสนเทศ
ั
ี
ั
ี
และการสื่อสารรักษาการตามพระราชบัญญัติน ี้
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายว่าด้วยธุรกรรม
ทางอิเล็กทรอนิกส์ยังไม่มีบทบัญญัติรองรับในเรื่องตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถระบุถึงตัว
ี
ผู้ท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ไดเช่นเดยวกับลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ ท าให้เป็นอปสรรคตอการท า
้
ิ
ิ
่
ุ
ิ
ิ
้
ิ
ิ
ิ
ั
ั
ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ที่ตองมีการประทับตราในหนงสือเป็นส าคัญ รวมทั้งยงไม่มีบทบัญญัตที่
้
ิ
ก าหนดให้สามารถนาเอกสารซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ออกของข้อมูลอเล็กทรอนกส์มาใช้แทนตนฉบับหรอให้เป็น
ิ
ื
ุ
ั
พยานหลักฐานในศาลได้ และโดยที่ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างระบบราชการตามพระราชบัญญติปรบปรง
ั
กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ และก าหนดให้กระทรวงเทคโนโลยสารสนเทศและการสื่อสารเป็น
ี
ิ
่
หนวยงานที่มีอานาจหนาที่เกี่ยวกับการวางแผน ส่งเสรม พัฒนา และดาเนนกิจการเกี่ยวกับเทคโนโลย ี
้
ิ
่
สารสนเทศและการสื่อสารประกอบกับปัจจุบันธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ไดมีการใช้อยางแพรหลาย
้
่
ิ
ิ
ู
้
จ าเป็นที่จะต้องมีหน่วยงานธุรการเพื่อท าหนาที่ก ากับดแล เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายว่าดวยธุรกรรมทาง
้
ิ
ิ
ิ
ุ
ิ
อเล็กทรอนกส์และเป็นฝ่ายเลขานการของคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ โดยสมควรจัดตง ั้
ส านักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ สังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ิ
ี
ขึ้นท าหนาที่แทนศูนยเทคโนโลยอเล็กทรอนกส์และคอมพิวเตอรแห่งชาต อนจะเป็นการส่งเสรมความ
ั
้
์
์
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
เชื่อมั่นในการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ และเสรมสรางศักยภาพการแข่งขันในเวทีการค้าระหว่าง
ิ
้
ิ
้
ประเทศ สมควรแก้ไขเพิ่มเตมกฎหมายว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการ
ิ
ิ
ดังกล่าว จึงจ าเป็นต้องตราพระราชบัญญัติน ี้
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทาง
อาญาของผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๐
ิ
ี้
่
ั้
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตนให้ใช้บังคับตงแตวันถัดจากวันประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
หน้า | 21
ิ
้
ู
ุ
ุ
ี้
ั
หมายเหต :- เหตผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัตฉบับน คือ โดยที่ศาลรฐธรรมนญไดมีค าวินจฉัยว่า
ิ
พระราชบัญญัตขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๕๔ เฉพาะในส่วนที่สันนษฐานให้
ิ
ิ
กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการด าเนินงานของนติบุคคลนั้น ต้องรับโทษทาง
ิ
ิ
ิ
ั
อาญารวมกับการกระท าความผิดของนตบุคคล โดยไม่ปรากฏว่ามีการกระท าหรอเจตนาประการใดอน
ื
่
ิ
ิ
่
ั
ู
ั้
ื
้
เกี่ยวกับการกระท าความผิดของนตบุคคลนน ขัดหรอแยงตอรฐธรรมนญแห่งราชอาณาจักรไทย
ู
้
ั
ั
พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๙ วรรคสอง เป็นอนใช้บังคับไม่ไดตามรฐธรรมนญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖ และต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้มีค าวินิจฉัยในลักษณะดังกล่าวท านองเดยวกัน
ี
ิ
ิ
คือ พระราชบัญญัตลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๗๔ พระราชบัญญัตการประกอบกิจการโทรคมนาคม
พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๗๘ พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. ๒๕๐๙ มาตรา ๒๘/๔ และพระราชบัญญัติปุ๋ย
พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๗๒/๕ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา
ู
๓๙ วรรคสอง เป็นอันใช้บังคับไม่ได้ตามรัฐธรรมนญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖
ั
ี
ั
ดังนั้น เพื่อแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวและกฎหมายอื่นที่มีบทบัญญติในลักษณะเดยวกนมิให้ขัด
หรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงจ าเป็นต้องตราพระราชบัญญัติน ี้
พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
ิ
ี้
่
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตนให้ใช้บังคับตงแตวันถัดจากวันประกาศใน
ั้
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ิ
มาตรา ๒๕ ให้คณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ซึ่งด ารงตาแหน่งอยในวัน
ู่
ิ
ก่อนวันที่พระราชบัญญัตนี้ใช้บังคับ คงอยู่ในต าแหน่งต่อไป จนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการธุรกรรม
ิ
ทางอิเล็กทรอนิกส์ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติน ี้
ิ
มาตรา ๒๖ บรรดาการใด ๆ ที่คณะกรรมการธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ตาม
ิ
พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ได้ด าเนินการไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัตน ี้
ิ
ิ
ิ
ใช้บังคับและยงมีผลใช้บังคับอย ให้ยงคงใช้บังคับไดตอไป และเมื่อไดมีการแตงตงคณะกรรมการธุรกรรม
ั้
ั
ู่
้
้
่
่
ั
ทางอิเล็กทรอนิกส์ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
ั
ิ
ั้
ี้
่
ิ
ิ
็
พระราชบัญญัตน แล้ว การนนยงดาเนนการไม่แล้วเสรจ ให้การดาเนนการตอไปเป็นไปตามที่
คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์นั้นก าหนด
มาตรา ๒๗ ให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ
สังคมรักษาการตามพระราชบัญญัติน ี้
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ปัจจุบันกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทาง
ุ
ิ
ื
ิ
อเล็กทรอนกส์มีข้อจ ากัดหรออปสรรคบางประการในการบังคับใช้กฎหมาย ประกอบกับการท าสัญญาใน
ิ
รปแบบของธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์มีแนวโนมที่จะเกิดขึ้นระหว่างคู่สัญญาที่อยคนละประเทศเป็น
ู
ิ
ู่
้
จ านวนมาก เพื่อให้กฎหมายว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมทั้งปรับปรง ุ
้
ิ
ิ
ิ
กลไกในการก ากับดแลการประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ให้ชัดเจนและ
ิ
ู
ิ
สอดคล้องกับการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจึงจ าเป็นต้องตราพระราชบัญญัติน ี้
พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
หน้า | 22
ี้
ิ
ั้
่
มาตรา พระราชบัญญัตนให้ใช้บังคับตงแตวันถัดจากวันประกาศใน
๒
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ื
ั
มาตรา ๗ ผู้ประกอบธุรกิจบรการเกี่ยวกับระบบการพิสูจนและยนยนตวตนทาง
ั
์
ิ
ิ
ั
ู่
ิ
ี้
ิ
่
้
ดจิทัลซึ่งประกอบธุรกิจอยในวันก่อนวันที่พระราชบัญญตนใช้บังคับ ให้ดาเนนกิจการตอไปได และเมื่อมี
การตราพระราชกฤษฎกาตามมาตรา ๓๔/๔ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ.
ิ
ิ
้
ิ
ี
ี้
ิ
ิ
๒๕๔๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเตมโดยพระราชบัญญัตน ก าหนดให้เป็นธุรกิจบรการเกี่ยวกับธุรกรรมทาง
ิ
้
ิ
ุ
้
ั
อเล็กทรอนกส์ที่ตองไดรบใบอนญาต ให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกบระบบการพิสูจน์และยนยนตวตน
ิ
ื
ั
ั
ั
่
ทางดิจิทัลนั้นยื่นค าขอรับใบอนุญาตภายในเก้าสิบวันนับแตวันที่พระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับ และเมื่อได ้
ยื่นค าขอรับใบอนุญาตแล้ว ให้ด าเนินกิจการต่อไปจนกว่าจะมีค าสั่งไม่อนุญาต
้
มาตรา ๘ บรรดาระเบียบที่ออกตามพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทาง
ิ
ี้
ู่
ั
ิ
อเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ที่ใช้บังคับอยในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตนใช้บังคับ ให้ยงคงใช้บังคับได ้
ิ
ิ
ิ
ิ
ื
่
ตอไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดหรอแยงกับพระราชบัญญัตน จนกว่าจะมีระเบียบตามพระราชบัญญัตว่าดวย
ี้
้
้
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา ๙ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรกษาการตาม
ั
พระราชบัญญัติน ี้
ั
ื
ั
ิ
ี้
ุ
ุ
หมายเหต :- เหตผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัตฉบับน คือ โดยที่การยนยนตวตนของบุคคลเป็น
่
ิ
ขั้นตอนส าคัญในการท าธุรกรรมในระบบเศรษฐกิจ แตที่ผ่านมาผู้ที่ประสงค์จะขอรบบรการจาก
ั
ั
ั
ิ
่
ผู้ประกอบการหรอหนวยงานใด ๆ จะตองท าการพิสูจนและยนยนตวตนโดยการแสดงตนตอผู้ให้บรการ
์
้
่
ื
ื
พรอมกับตองส่งเอกสารหลักฐาน ซึ่งเป็นภาระตอผู้ใช้บรการและผู้ให้บรการ สมควรก าหนดให้บุคคล
ิ
้
้
่
ิ
์
ั
ั
ื
์
้
สามารถพิสูจนและยนยนตวตนผ่านระบบการพิสูจนและยนยนตวตนทางดจิทัลได โดยมีกลไกการ
ั
ื
ั
ิ
ควบคุมดแลผู้ประกอบธุรกิจบรการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ระบบดงกล่าวมีความนาเชื่อถือและปลอดภย จึง
ิ
ั
ู
่
ั
จ าเป็นต้องตราพระราชบัญญัติน ี้
หน้า | 23
พระราชกฤษฎีกา
ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุม
ดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของ
สถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙
พ.ศ. ๒๕๖๑
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
เป็นปีที่ ๓ ในรัชกาลปัจจุบัน
สมเดจพระเจ้าอยหัวมหาวชิราลงกรณ บดนทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการ
ิ
็
ู่
โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
้
ี
โดยที่เป็นการสมควรยกเลิกพระราชกฤษฎกาว่าดวยการควบคุมดแลธุรกิจบรการ
ู
ิ
การช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๗๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ิ
้
และมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ จึงทรงพระกรณา
ุ
ิ
ิ
โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปน ี้
ี
ี
ี
ี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎกานเรยกว่า “พระราชกฤษฎีกายกเลิกพระราชกฤษฎกา
ว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๑”
ี
ี้
่
ั้
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎกานให้ใช้บังคับตงแตวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑
เป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎกาว่าดวยการควบคุมดแลธุรกิจบรการ
ี
ู
ิ
้
การช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙
ั
มาตรา ๔ บรรดาการกระท าที่เป็นความผิดตามพระราชบัญญติว่าดวยธุรกรรมทาง
้
อเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ในส่วนที่เกี่ยวกับธุรกิจบรการการช าระเงินทางอเล็กทรอนกส์ตาม
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
ี
ิ
พระราชกฤษฎกาว่าดวยการควบคุมดแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอเล็กทรอนกส์ของสถาบันการเงิน
ู
้
เฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนวันที่พระราชกฤษฎกานใช้บังคับ ให้เป็นหนาที่ของผู้มีหนาที่ตาม
้
ี
้
ี้
กฎหมายหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายที่จะด าเนินการเกี่ยวกับความผิดนั้นต่อไปจนแล้วเสร็จ
ี้
มาตรา ๕ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาน
ผู้รับสนองพระราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตร ี
หน้า | 24
ิ
ี
ี้
ุ
หมายเหต :- เหตผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎกาฉบับน คือ โดยที่พระราชบัญญัตระบบการช าระ
ุ
เงิน พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งตราขึ้นเพื่อก าหนดกลไกและมาตรการในการก ากับดูแลระบบการช าระเงินและบรการ
ิ
การช าระเงินของประเทศเป็นการเฉพาะจะมีผลใช้บังคับในวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑ สมควร
ั
ู
ื่
ยกเลิกกลไกและมาตรการดงกล่าวที่มีความซ้ าซ้อนในกฎหมายฉบับอน เพื่อให้การก ากับดแลระบบการ
ู่
ี
ิ
ช าระเงินและบรการการช าระเงินอยภายใต้บังคับของกฎหมายฉบับเดยวกัน อันจะเป็นประโยชน์ในการ
้
ก ากับดูแลอย่างเป็นระบบ มีความเป็นเอกภาพ และมีประสิทธิภาพมากย่งขึ้น จึงจ าเป็นตองตรา
ิ
พระราชกฤษฎีกาน ี้
หน้า | 25
พระราชกฤษฎีกา
ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุม
ดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของ
สถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙
พ.ศ. ๒๕๖๑
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
เป็นปีที่ ๓ ในรัชกาลปัจจุบัน
ู่
สมเดจพระเจ้าอยหัวมหาวชิราลงกรณ บดนทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการ
็
ิ
โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
ิ
โดยที่เป็นการสมควรยกเลิกพระราชกฤษฎกาว่าดวยการควบคุมดแลธุรกิจบรการ
้
ี
ู
การช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๗๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
และมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ จึงทรงพระกรณา
ิ
ิ
้
ิ
ุ
โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปน ี้
ี้
ี
ี
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎกานเรยกว่า “พระราชกฤษฎีกายกเลิกพระราชกฤษฎกา
ี
ว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๑”
ี
ี้
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎกานให้ใช้บังคับตงแตวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑
่
ั้
เป็นต้นไป
ี
มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระ
เงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙
ิ
้
มาตรา ๔ บรรดาการกระท าที่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรม
ิ
ทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ในส่วนที่เกี่ยวกับธุรกิจบรการการช าระเงินทางอเล็กทรอนกส์ตาม
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
พระราชกฤษฎกาว่าดวยการควบคุมดแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอเล็กทรอนกส์ของสถาบันการเงิน
้
ี
ู
้
เฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนวันที่พระราชกฤษฎกานใช้บังคับ ให้เป็นหนาที่ของผู้มีหนาที่ตาม
ี
ี้
้
กฎหมายหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายที่จะด าเนินการเกี่ยวกับความผิดนั้นต่อไปจนแล้วเสร็จ
มาตรา ๕ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาน ี้
ผู้รับสนองพระราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตร ี
หน้า | 26
ุ
ุ
ิ
ี
ี้
หมายเหต :- เหตผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎกาฉบับน คือ โดยที่พระราชบัญญัตระบบการช าระ
ิ
เงิน พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งตราขึ้นเพื่อก าหนดกลไกและมาตรการในการก ากับดูแลระบบการช าระเงินและบรการ
การช าระเงินของประเทศเป็นการเฉพาะจะมีผลใช้บังคับในวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑ สมควรยกเลิก
ื่
กลไกและมาตรการดังกล่าวที่มีความซ้ าซ้อนในกฎหมายฉบับอน เพื่อให้การก ากับดูแลระบบการช าระเงิน
ู
์
และบริการการช าระเงินอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายฉบับเดียวกัน อันจะเป็นประโยชนในการก ากับดแล
ิ
อย่างเป็นระบบ มีความเป็นเอกภาพ และมีประสิทธิภาพมากย่งขึ้น จึงจ าเป็นตองตราพระราช
้
กฤษฎีกาน ี้
หน้า | 27
พระราชกฤษฎีกา
ว่าด้วยวิธีการแบบปลอดภัยในการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๕๓
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
เป็นปีที่ ๖๕ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเดจพระปรมินทรมหาภมิพลอดลยเดช มีพระบรมราชโองการ
ู
ุ
็
โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรก าหนดวิธีการแบบปลอดภยในการท าธุรกรรมทาง
ั
อิเล็กทรอนิกส์
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และ
ิ
ิ
ิ
้
ั
มาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ อนเป็นกฎหมาย
ิ
ที่มีบทบัญญัตบางประการเกี่ยวกับการจ ากัดสิทธิและเสรภาพของบุคคลซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับ
ี
ั
ิ
้
มาตรา ๔๓ ของรฐธรรมนญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัตให้กระท าไดโดยอาศัยอานาจตามบทบัญญัต ิ
ู
แห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปน ี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎกานเรยกว่า “พระราชกฤษฎกาว่าดวยวิธีการแบบ
้
ี
ี้
ี
ี
ปลอดภัยในการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๓”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนดหนึ่งรอยแปดสิบวันนบแต ่
้
ั
วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ในพระราชกฤษฎีกาน ี้
“วิธีการแบบปลอดภัย” หมายความว่า วิธีการแบบปลอดภัยในการท าธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์
“ทรัพย์สินสารสนเทศ” หมายความว่า
์
ื
(๑) ระบบเครอข่ายคอมพิวเตอร ระบบคอมพิวเตอร ระบบงานคอมพิวเตอร์ และ
์
ระบบสารสนเทศ
ุ
ื่
์
ื่
ั
(๒) ตวเครองคอมพิวเตอร อปกรณ์คอมพิวเตอร เครองบันทึกข้อมูล และอปกรณ์
์
ุ
อื่นใด
(๓) ข้อมูลสารสนเทศ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และข้อมูลคอมพิวเตอร ์
“ความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ” (information security) หมายความ
ว่า การป้องกันทรัพย์สินสารสนเทศจากการเข้าถึง ใช้ เปิดเผย ขัดขวาง เปลี่ยนแปลงแก้ไข ท าให้สูญหาย
ท าให้เสียหาย ถูกท าลาย หรือล่วงรู้โดยมิชอบ
หน้า | 28
“ความมั่นคงปลอดภัยด้านบริหารจัดการ” (administrative security) หมายความ
ั
ื
ิ
ว่า การกระท าในระดบบรหารโดยการจัดให้มีนโยบาย มาตรการ หลักเกณฑ์ หรอกระบวนการใด ๆ เพื่อ
ั
ุ
ั
ื
นามาใช้ในกระบวนการคัดเลือก การพัฒนา การนาไปใช้ หรอการบ ารงรกษาทรพยสินสารสนเทศให้มี
์
ความมั่นคงปลอดภัย
้
“ความมั่นคงปลอดภยดานกายภาพ” (physical security) หมายความว่า การจัด
ั
ให้มีนโยบาย มาตรการ หลักเกณฑ์ หรือกระบวนการใด ๆ เพื่อน ามาใช้ในการป้องกันทรัพย์สินสารสนเทศ
สิ่งปลูกสร้าง หรือทรัพย์สินอื่นใดจากการคุกคามของบุคคล ภัยธรรมชาติ อุบัติภัย หรือภัยทางกายภาพอื่น
“การรักษาความลับ” (confidentiality) หมายความว่า การรักษาหรือสงวนไว้เพื่อ
ื
์
ป้องกันระบบเครอข่ายคอมพิวเตอร ระบบคอมพิวเตอร ระบบงานคอมพิวเตอร ระบบสารสนเทศ ข้อมูล
์
์
สารสนเทศ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์จากการเข้าถึง ใช้ หรือเปิดเผยโดยบุคคลซึ่งไม่ได ้
รับอนุญาต
“การรักษาความครบถ้วน” (integrity) หมายความว่า การด าเนินการเพื่อให้ข้อมูล
ิ
์
ู่
สารสนเทศ ข้อมูลอเล็กทรอนกส์ หรอข้อมูลคอมพิวเตอรอยในสภาพสมบูรณ์ขณะที่มีการใช้งาน
ิ
ื
ื
ั
ประมวลผล โอน หรอเก็บรกษา เพื่อมิให้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข ท าให้สูญหาย ท าให้เสียหาย หรอถูก
ื
ท าลายโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือโดยมิชอบ
“การรกษาสภาพพรอมใช้งาน” (availability) หมายความว่า การจัดท าให้
้
ั
ทรัพย์สินสารสนเทศสามารถท างาน เข้าถึง หรือใช้งานได้ในเวลาที่ต้องการ
้
“โครงสรางพื้นฐานส าคัญของประเทศ” (critical infrastructure) หมายความว่า
่
ื
บรรดาหนวยงานหรอองค์กร หรอส่วนงานหนงส่วนงานใดของหนวยงานหรอองค์กร ซึ่งธุรกรรมทาง
ื
ึ่
่
ื
ื
อิเล็กทรอนิกส์ของหนวยงานหรอองค์กร หรือส่วนงานของหน่วยงานหรอองค์กรนน มีผลเกี่ยวเนื่องส าคัญ
ั้
ื
่
ต่อความมั่นคงหรือความสงบเรียบร้อยของประเทศ หรือต่อสาธารณชน
ั
มาตรา ๔ วิธีการแบบปลอดภัยมีสามระดบ ดังต่อไปน ี้
(๑) ระดับเคร่งครัด
(๒) ระดับกลาง
(๓) ระดับพื้นฐาน
ั
ั
มาตรา ๕ วิธีการแบบปลอดภยตามมาตรา ๔ ให้ใช้ส าหรบการท าธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ ดังต่อไปน ี้
่
ื
(๑) ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ซึ่งมีผลกระทบตอความมั่นคงหรอความสงบ
ิ
ิ
เรียบร้อยของประเทศ หรือต่อสาธารณชน
(๒) ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ของหนวยงานหรอองค์กร หรอส่วนงานของ
ื
ิ
ื
่
ิ
หน่วยงานหรือองค์กรที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานส าคัญของประเทศ
มาตรา ๖ ให้คณะกรรมการประกาศก าหนดประเภทของธุรกรรมทางอเล็กทรอ
ิ
นิกส์ หรือหลักเกณฑ์การประเมินระดับผลกระทบของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรา ๕ (๑) ซึ่งต้อง
ั
กระท าตามวิธีการแบบปลอดภยในระดับเคร่งครด ระดับกลาง หรือระดับพื้นฐาน แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ โดย
ั
่
ให้ค านงถึงระดบความเสี่ยงตอความมั่นคงปลอดภยของระบบสารสนเทศ ผลกระทบตอมูลค่าและความ
ั
ึ
่
ั
เสียหายที่ผู้ใช้บริการอาจได้รับ รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
หน้า | 29
ให้คณะกรรมการประกาศก าหนดรายชื่อหรอประเภทของหนวยงานหรอองค์กร
่
ื
ื
หรือส่วนงานของหน่วยงานหรือองค์กรที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานส าคัญของประเทศตามมาตรา ๕ (๒) ซึ่ง
ต้องกระท าตามวิธีการแบบปลอดภัยในระดับเคร่งครัด ระดับกลาง หรือระดับพื้นฐาน แล้วแต่กรณี
ั
มาตรา ๗ วิธีการแบบปลอดภยตามมาตรา ๔ ในแตละระดบ ให้มีมาตรฐานการ
่
ั
รกษาความมั่นคงปลอดภยของระบบสารสนเทศตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศก าหนดโดย
ั
ั
มาตรฐานดังกล่าวส าหรับวิธีการแบบปลอดภัยในแต่ละระดับนั้น อาจมีการก าหนดหลักเกณฑ์ที่แตกต่างกัน
ตามความจ าเป็น แต่อย่างน้อยตองมีการก าหนดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ ดังต่อไปน ี้
้
(๑) การสร้างความมั่นคงปลอดภัยด้านบริหารจัดการ
(๒) การจัดโครงสรางดานความมั่นคงปลอดภยของระบบสารสนเทศ ในส่วนการ
้
้
ั
บริหารจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ ทั้งภายในและภายนอกหน่วยงานหรือองค์กร
(๓) การบริหารจัดการทรัพย์สินสารสนเทศ
(๔) การสร้างความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศด้านบุคลากร
(๕) การสร้างความมั่นคงปลอดภัยด้านกายภาพและสภาพแวดล้อม
(๖) การบรหารจัดการดานการสื่อสารและการดาเนนงานของระบบเครอข่าย
้
ื
ิ
ิ
คอมพิวเตอรระบบคอมพิวเตอร์ ระบบงานคอมพิวเตอร์ และระบบสารสนเทศ
์
์
(๗) การควบคุมการเข้าถึงระบบเครอข่ายคอมพิวเตอร ระบบคอมพิวเตอร ์
ื
ระบบงานคอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศ ข้อมูลสารสนเทศ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และข้อมูลคอมพิวเตอร ์
ื
ั
ุ
(๘) การจัดหาหรอจัดให้มี การพัฒนา และการบ ารงรกษาระบบเครอข่าย
ื
์
คอมพิวเตอรระบบคอมพิวเตอร์ ระบบงานคอมพิวเตอร์ และระบบสารสนเทศ
(๙) การบริหารจัดการสถานการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยที่ไม่พึงประสงค์ หรือไม่
อาจคาดคิด
ื
ิ
้
ิ
่
ื
(๑๐) การบรหารจัดการดานการบรการหรอการดาเนนงานของหนวยงานหรอ
ิ
องค์กรเพื่อให้มีความต่อเนื่อง
ิ
ิ
(๑๑) การตรวจสอบและการประเมินผลการปฏบัตตามนโยบาย มาตรการ
หลักเกณฑ์หรือกระบวนการใด ๆ รวมทั้งข้อก าหนดด้านความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ
ั
มาตรา ๘ เพื่อประโยชนในการเป็นแนวทางส าหรบการจัดท านโยบายหรอแนว
์
ื
ั
ั
่
ิ
ปฏบัตในการรกษาความมั่นคงปลอดภยของระบบสารสนเทศของหนวยงานหรอองค์กร คณะกรรมการ
ิ
ื
อาจระบุหรอแสดงตวอยางมาตรฐานทางเทคโนโลยซึ่งเป็นที่ยอมรบเป็นการทั่วไปว่าเป็นมาตรฐานทาง
ื
่
ั
ี
ั
เทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ไว้ในประกาศตามมาตรา ๗ ด้วยก็ได ้
ั
้
ิ
มาตรา ๙ ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ใดไดกระท าโดยวิธีการที่มีการรกษาความ
ิ
ั
ื
มั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศในระดับที่เทียบเท่าหรอไม่ต่ ากว่ามาตรฐานความมั่นคงปลอดภยของ
ั
ระบบสารสนเทศตามประกาศตามมาตรา ๗ ซึ่งได้ก าหนดไว้ส าหรับระดับของวิธีการแบบปลอดภยในการ
ท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น ให้ถือว่าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวไดกระท าตามวิธีการที่เชื่อถือ
้
ได้ตามมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔
หน้า | 30
ั
ิ
ิ
มาตรา ๑๐ ในการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ตามวิธีการแบบปลอดภยตาม
ี้
ี
ึ
ั
พระราชกฤษฎกานผู้กระท าตองค านงถึงหลักการพื้นฐานของการรกษาความลับ การรกษาความครบถ้วน
ั
้
ิ
ิ
ั
ิ
้
และการรกษาสภาพพรอมใช้งาน รวมทั้งตองปฏบัตตามนโยบายและแนวปฏบัตในการควบคุมการ
ิ
้
ปฏิบัติงานและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศของหน่วยงานหรือองค์กรนั้นด้วย
ื
่
มาตรา ๑๑ ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นว่าหนวยงานหรอองค์กรใด หรอส่วนงาน
ื
ิ
ิ
ื
ึ่
ั
หนงส่วนงานใดของหน่วยงานหรอองค์กรใด มีการจัดท านโยบายและแนวปฏบัตในการรกษาความมั่นคง
ี
ั
ปลอดภยของระบบสารสนเทศโดยสอดคล้องกับวิธีการแบบปลอดภยตามพระราชกฤษฎกาน ี้
ั
่
คณะกรรมการอาจประกาศเผยแพรรายชื่อหนวยงานหรอองค์กร หรอส่วนงานของหนวยงานหรอองค์กร
่
ื
ื
่
ื
นั้นเพื่อให้สาธารณชนทราบเป็นการทั่วไปก็ได ้
มาตรา ๑๒ ให้คณะกรรมการพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์เกี่ยวกับวิธีการแบบ
ี
ี
ั
ปลอดภยตามพระราชกฤษฎกานและประกาศที่ออกตามพระราชกฤษฎกาน รวมทั้งกฎหมายอนที่
ื่
ี้
ี้
ี
เกี่ยวข้อง อย่างน้อยทุกรอบระยะเวลาสองปีนับแต่วันที่พระราชกฤษฎกานี้ใช้บังคับ ทั้งนี้ โดยพิจารณาถึง
ความเหมาะสมและความสอดคล้องกับเทคโนโลยที่ไดมีการพัฒนาหรอเปลี่ยนแปลงไป และจัดท าเป็น
ื
้
ี
รายงานเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป
มาตรา ๑๓ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาน ี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตร ี
ุ
ี
หมายเหต : เหตผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎกาฉบับน คือ เนองจากในปัจจุบันเทคโนโลย ี
ุ
ื่
ี้
่
สารสนเทศและการสื่อสารได้เข้ามามีบทบาทส าคัญตอการด าเนินการของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยมี
ั
่
ิ
ิ
ิ
การท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์กันอยางแพรหลาย จึงสมควรส่งเสรมให้มีการบรหารจัดการและรกษา
่
ิ
ั
ิ
ั
ั
ความมั่นคงปลอดภยของทรพยสินสารสนเทศในการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ เพื่อให้มีการยอมรบ
์
และเชื่อมั่นในข้อมูลอิเล็กทรอนกส์มากยิ่งขึ้น ประกอบกับมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรม
ิ
้
ิ
ทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ บัญญัตให้ธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ใดที่ไดกระท าตามวิธีการแบบ
ิ
ิ
ิ
ิ
ปลอดภัยที่ก าหนดในพระราชกฤษฎีกาแล้ว ให้สันนิษฐานว่าเป็นวิธีการที่เชื่อถือได ้ จึงจ าเป็นต้องตราพระ
ราชกฤษฎีกาน ี้
หน้า | 31
พระราชกฤษฎีกา
ก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ
พ.ศ. ๒๕๔๙
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๙
เป็นปีที่ ๖๑ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด
เกล้าฯให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการท าธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๖ ของรฐธรรมนญแห่งราชอาณาจักรไทย
ั
ู
(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ และมาตรา ๓๕ วรรคหนง แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทาง
้
ิ
ึ่
อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปน ี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎกานเรยกว่า “พระราชกฤษฎกาก าหนดหลักเกณฑ์และ
ี้
ี
ี
ี
วิธีการในการ ท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๙”
่
ุ
ั้
ี
ี้
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎกานให้ใช้บังคับตงแตวันประกาศในราชกิจจานเบกษา
เป็นต้นไป
มาตรา ๓ ในการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มี
ระบบเอกสารที่ท าในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในลักษณะ ดังต่อไปน ี้
(๑) เอกสารที่ท าในรปของข้อมูลอเล็กทรอนกส์นนตองอยในรปแบบที่เหมาะสม
ู
ิ
้
ิ
ู่
ั้
ู
โดยสามารถแสดงหรออ้างอิงเพื่อใช้ในภายหลังและยังคงความครบถ้วนของข้อความในรูปแบบของข้อมูล
ื
อิเล็กทรอนิกส์
(๒) ต้องก าหนดระยะเวลาเริ่มตนและสิ้นสุดในการยื่นเอกสารที่ท าในรูปของข้อมูล
้
ั้
่
อิเล็กทรอนิกส์ โดยปกติให้ยึดถือวันเวลาของการปฏบัติงานหนวยงานของรัฐนนเป็นหลัก และอาจก าหนด
ิ
ระยะเวลาในการด าเนินการพิจารณาของหน่วยงานของรัฐด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ไว้ด้วยก็ได้ เว้นแต ่
จะมีกฎหมายในเรื่องนั้นก าหนดไว้เป็นอย่างอื่น
(๓) ต้องก าหนดวิธีการที่ท าให้สามารถระบุตวเจ้าของลายมือชื่อ ประเภท ลักษณะ
ั
หรอรปแบบของลายมือชื่ออเล็กทรอนกส์ และสามารถแสดงไดว่าเจ้าของลายมือชื่อรบรองข้อความใน
้
ู
ื
ิ
ิ
ั
ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
้
ิ
ิ
ื
ั
้
(๔) ตองก าหนดวิธีการแจ้งการตอบรบดวยวิธีการทางอเล็กทรอนกส์หรอดวย
้
วิธีการอื่นใดเพื่อเป็นหลักฐานว่าได้มีการด าเนินการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ไปยังอีกฝ่ายหนึ่งแล้ว
ิ
มาตรา ๔ นอกจากที่บัญญัตไว้ในมาตรา ๓ ในกรณีที่หนวยงานของรฐจัดท า
่
ั
ู
ิ
กระบวนการพิจารณาทางปกครองโดยวิธีการทางอเล็กทรอนกส์ ระบบเอกสารที่ท าในรปของข้อมูล
ิ
อิเล็กทรอนิกส์ต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้ด้วย เว้นแต่จะมีกฎหมายในเรื่องนั้นก าหนดไว้เป็นอยางอื่น
่
หน้า | 32
ื
ื่
(๑) มีวิธีการสื่อสารกับผู้ยนค าขอในกรณีที่เอกสารมีข้อบกพรองหรอมีข้อความที่
่
ิ
ื่
้
ั
ิ
ู้
ื
ื
ผิดหลงอนเห็นไดชัดว่าเกดจากความไม่รหรอความเลินเล่อของผู้ยนค าขอ หรอการขอข้อเท็จจรงเพิ่มเติม
รวมทั้งมีวิธีการแจ้งสิทธิและหนาที่ในกระบวนการพิจารณาทางปกครองตามความจ าเป็นแก่กรณีในกรณี
้
ที่กฎหมายก าหนดให้ต้องแจ้ง ให้คู่กรณีทราบ
ิ
(๒) ในกรณีมีความจ าเป็นตามลักษณะเฉพาะของธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์
ิ
ั
่
ภาครฐใด หนวยงานของรฐนนอาจก าหนดเงื่อนไขว่าคู่กรณียนยอมตกลงและยอมรบการดาเนนการ
ั้
ิ
ิ
ั
ั
พิจารณาทางปกครองของหน่วยงานของรัฐโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
่
ิ
ั
มาตรา ๕ หนวยงานของรฐตองจัดท าแนวนโยบายและแนวปฏบัตในการรกษา
ั
้
ิ
้
ิ
ิ
้
ความมั่นคงปลอดภยดานสารสนเทศ เพื่อให้การดาเนนการใด ๆ ดวยวิธีการทางอเล็กทรอนกส์กับ
ั
ิ
หน่วยงานของรัฐหรือโดยหน่วยงานของรัฐมีความมั่นคงปลอดภัยและเชื่อถือได ้
ิ
แนวนโยบายและแนวปฏิบัตอย่างน้อยต้องประกอบด้วยเนื้อหา ดังต่อไปน ี้
(๑) การเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานสารสนเทศ
(๒) การจัดให้มีระบบสารสนเทศและระบบส ารองของสารสนเทศซึ่งอยในสภาพ
ู่
้
ิ
ี
้
้
พรอมใช้งานและจัดท าแผนเตรยมพรอมกรณีฉุกเฉินในกรณีที่ไม่สามารถดาเนนการดวยวิธีการทาง
อิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้สามารถใช้งานสารสนเทศได้ตามปกติอย่างต่อเนื่อง
(๓) การตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงด้านสารสนเทศอย่างสม่ าเสมอ
ิ
มาตรา ๖ ในกรณีที่มีการรวบรวม จัดเก็บ ใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูล หรือข้อเท็จจรงที่
ั
ท าให้สามารถระบุตวบุคคล ไม่ว่าโดยตรงหรอโดยออม ให้หนวยงานของรฐจัดท าแนวนโยบายและแนว
ื
้
ั
่
ปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้วย
ิ
ิ
มาตรา ๗ แนวนโยบายและแนวปฏบัตตามมาตรา ๕ และมาตรา ๖ ให้หนวยงาน
่
ของรัฐจัดท าเป็นประกาศ และต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการหรือหน่วยงานที่คณะกรรมการ
มอบหมาย จึงมีผลใช้บังคับได ้
่
หนวยงานของรฐตองปฏบัตตามแนวนโยบายและแนวปฏบัตที่ไดแสดงไว้ และให้
้
ิ
ิ
้
ิ
ิ
ั
จัดให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติตามแนวนโยบายและแนวปฏิบัติที่ก าหนดไว้อย่างสม่ าเสมอ
่
มาตรา ๘ ให้คณะกรรมการหรอหนวยงานที่คณะกรรมการมอบหมายจัดท า
ื
ี
่
ื่
ี่
ิ
แนวนโยบายและแนวปฏิบัติหรือการอนอนเกยวกับการด าเนนการตามพระราชกฤษฎกานี้ ไว้เป็นตัวอยาง
ั
ิ
่
ี
้
เบื้องตนส าหรบการดาเนนการของหนวยงานของรฐในการปฏบัตตามพระราชกฤษฎกาน และหาก
ี้
ั
ั
ิ
ิ
่
หนวยงานของรฐแห่งใดมีการปฏบัตงานตามกฎหมายที่แตกตางเป็นการเฉพาะแล้ว หนวยงานของรฐ
่
ั
ิ
ิ
ั
่
ิ
แห่งนนอาจเพิ่มเตมรายละเอยดการปฏบัตงานตามกฎหมายที่แตกตางนนไดโดยออกเป็นระเบียบ ทั้งน ี้
ั้
้
ิ
ี
ั้
่
ิ
โดยให้ค านึงถึงความถูกต้องครบถ้วน ความน่าเชื่อถือ สภาพความพร้อมใช้งาน และความมั่นคงปลอดภย
ั
ของระบบและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
มาตรา ๙ การท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกส์ภาครัฐตามหลักเกณฑ์และวิธการตาม
ิ
ี
ี
พระราชกฤษฎีกานี้ไม่มีผลเป็นการยกเว้นกฎหมายหรือหลักเกณฑ์และวิธการที่กฎหมายในเรื่องนั้นก าหนด
ไว้เพื่อการอนุญาต อนุมัติ การให้ความเห็นชอบ หรือการวินิจฉัย
มาตรา ๑๐ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาน ี้
หน้า | 33
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
นายกรัฐมนตร ี
ุ
ุ
้
ิ่
ื่
ี
ี้
หมายเหต :- เหตผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎกาฉบับน คือ เนองจากประเทศไทยไดเรมเข้าสู่ยุค
่
สังคมสารสนเทศซึ่งมีการท าธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ภาครัฐมากขึ้น สมควรสนับสนุนให้หนวยงานของ
ิ
ิ
ิ
รัฐมีระบบการบริการของตนโดยการประยกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้สามารถบรการประชาชนได ้
ุ
ั
่
็
่
อยางทั่วถึง สะดวก และรวดเรว อันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของหนวยงานของรฐ
พร้อมกับให้หน่วยงานของรัฐสามารถพัฒนาการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐภายใต้มาตรฐานและ
่
ิ
เป็นไปในทิศทางเดยวกัน และสรางความเชื่อมั่นของประชาชนตอการดาเนนกิจกรรมของรฐดวย
้
ี
ั
้
ิ
ึ่
ิ
ิ
้
วิธีการทางอเล็กทรอนกส์ ประกอบกับมาตรา ๓๕ วรรคหนงแห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรม
ิ
ทางอเล็กทรอนกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ บัญญัตว่า ค าขอ การอนญาต การจดทะเบียน ค าสั่งทางปกครอง
ิ
ุ
ิ
ื
ั
การช าระเงิน การประกาศหรือการดาเนินการใด ๆ ตามกฎหมายกับหน่วยงานของรฐหรอโดยหน่วยงาน
ู
้
ั
ของรฐ ถ้าไดกระท าในรปของข้อมูลอเล็กทรอนกส์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก าหนดโดย
ิ
ิ
พระราชกฤษฎกาแล้ว ให้ถือว่ามีผลโดยชอบด้วยกฎหมายเช่นเดยวกับการดาเนนการตามหลักเกณฑ์และ
ิ
ี
ี
วิธีการที่กฎหมายในเรื่องนั้นก าหนด จึงจ าเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกาน ี้
หน้า | 34